00:00:00 → 00:00:04 ถามที่ว่าหลายคนพอจะรู้นะว่ากินอะไรแล้ว
00:00:04 → 00:00:08 ชะลอวัยอย่างวิตามินซีอย่างผักผลไม้กิน
00:00:08 → 00:00:12 น้ำเยอะๆพักผ่อนให้เพียงพออ่าอาหารอะไรก็
00:00:12 → 00:00:16 ตามที่ให้ไฟเบอร์สูงผักผลไม้ที่มีวิตามิน
00:00:16 → 00:00:20 สูงๆก็จะช่วยชะลอไวทำให้คุณแกะช้าลงแล้ว
00:00:20 → 00:00:23 อะไรบ้างล่ะที่ไม่ควรทานหรือที่หมอเฟิร์น
00:00:23 → 00:00:26 บอกว่ากินเข้าไปเยอะๆแล้วกระตุ้นให้ร่าง
00:00:26 → 00:00:28 กายอักเสบแล้วแก่เร็ววันนี้หมอเฟิร์นเอา
00:00:28 → 00:00:31 มาฝากคุณ 7 อย่างซึ่งถ้าคุณหลีกเลี่ยง
00:00:31 → 00:00:34 หรือลดละเลิกได้หมอเฟิร์นเชื่ออย่างยิ่ง
00:00:34 → 00:00:37 ว่าคุณจะน่าเด็กลงเด็กลงทุกวันเหมือนกับ
00:00:37 → 00:00:40 หมอเฟิร์นเนี่ยเองแหละอ่าซึ่งอะต้องบอก
00:00:40 → 00:00:43 ก่อนว่า 7 สิ่งนี้ถ้าคุณฟังจนจบแล้วคุณ
00:00:43 → 00:00:45 หลีกเลี่ยงได้นะไม่เพียงแต่คุณจะหน้าเด็ก
00:00:45 → 00:00:50 หลงแต่ยังไปช่วยให้คุณเนี่ยแข็งแรงลดความ
00:00:50 → 00:00:53 เสี่ยงที่คุณจะเป็นโรคร้ายอย่างโรคเรื้อ
00:00:53 → 00:00:55 รังต่างๆอย่างเช่นพวกอะไรบ้างเบาหวานความ
00:00:55 → 00:00:59 ดันหัวใจมะเร็งโอ้โหเยอะแยะเลยมาข้อแรก
00:00:59 → 00:01:02 เลยวันนี้เราจะไม่มีหัวข้อแต่เราจะขึ้น
00:01:02 → 00:01:05 ให้เป็นภาพเนาะให้คุณทายข้อแรกก็คือสิ่ง
00:01:05 → 00:01:09 นี้สิ่งที่อยู่ในภาพนี้แน่นอนว่าข้อ 1 นะ
00:01:09 → 00:01:12 ของทอดใครเข้าใจพิมพ์ของทอดมาไว้รอเลย
00:01:12 → 00:01:15 เดี๋มาเฟิร์นจะอธิบายให้ฟังช้าๆง่ายๆเอา
00:01:15 → 00:01:18 ให้เข้าใจง่ายที่สุดคุณจะได้เอาไปปฏิบัติ
00:01:18 → 00:01:22 ตามได้ง่ายที่สุดก็คือของทอดเนี่ยเวลาที่
00:01:22 → 00:01:26 เรากินเข้าไปบ่อยๆกินเข้าไปซ้ำๆกินเข้าไป
00:01:26 → 00:01:29 อย่างสม่ำเสมอสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือมัน
00:01:29 → 00:01:34 จะค่อยๆไปสะสมอยู่ตามลำไส้ของคุณคุณรู้ม
00:01:34 → 00:01:37 ว่าลำไส้ของเรายาวมากถ้าเปรียบเทียบพื้น
00:01:37 → 00:01:41 ที่ก็คือเทียบเท่ากับสนามเทนนิส 2 สนาม
00:01:41 → 00:01:47 ซึ่งพื้นที่มันใหญ่และยาวมากๆพอมันเหล่า
00:01:47 → 00:01:50 เนี้ยที่เป็นไขมันไม่ดีเนี่ยไปสะสมอยู่ใน
00:01:50 → 00:01:53 ลำไส้ของคุณทำให้ลำไส้ของคุณไม่สะอาดไม่
00:01:53 → 00:01:56 เพียงแต่จะทำให้คุณแก่เร็วยังทำให้คุณไม่
00:01:57 → 00:02:00 แข็งแรงกระตุ้นให้ร่างกายอักเสบเพิ่มขึ้น
00:02:00 → 00:02:03 อีกซึ่งยิ่งไปกว่านั้นน้ำมันเนี่ยไม่
00:02:03 → 00:02:07 เพียงแต่อุดตันที่ลำไส้นะยังไปอุดตันตาม
00:02:07 → 00:02:11 หลอดเลือดของคุณได้ด้วยพอมันไปเกาะอยู่
00:02:11 → 00:02:14 ตามหลอดเลือดเยอะๆเนี่ยเลยทำให้บางคนเป็น
00:02:14 → 00:02:18 โรคหลอดเลือดตยิบแตกตันอ่ามาครบเลยซึ่ง
00:02:18 → 00:02:22 ถ้าคุณสังเกตดีๆนะรอบตัวรอบข้างของคุณ
00:02:22 → 00:02:27 เนี่ยถ้าคุณดูดีๆสังเกตง่ายๆคนที่เขา้า
00:02:27 → 00:02:31 รักสุขภาพคนที่เค้าหน้าเด็กเค้าจะแทบไม่
00:02:31 → 00:02:35 กินของเหล่านี้เลยคุณลองสังเกตเพื่อนคุณ
00:02:35 → 00:02:37 ที่หน้าเด็กๆหรือใครก็ตามที่ดูแข็งแรง
00:02:37 → 00:02:40 อายุยืนเขาจะแทบไม่กินสิ่งเหล่านี้เลย
00:02:40 → 00:02:44 ซึ่งแนะนำง่ายๆก็คือให้คุณหลีกเลี่ยง
00:02:45 → 00:02:48 อาหารประเภททอดหรืออาหารที่ใช้ความร้อน
00:02:48 → 00:02:54 สูงให้เปลี่ยนไปเป็นประเภทต้มตุ๋นนึ่งอ่ะ
00:02:54 → 00:02:59 ใครเข้าใจพิมพ์ต้มตุ๋นนึ่งอ่าซึ่งมันไม่
00:02:59 → 00:03:03 แค่มันไม่ใช่แค่จะทำให้คุณแกนเร็วมันยัง
00:03:03 → 00:03:06 ทำให้คุณเสี่ยงโรคร้ายอย่างโรคหลอดเลือด
00:03:06 → 00:03:10 สมองหัวใจสโตรกที่เรารู้กันเนาะแล้วก็ยัง
00:03:10 → 00:03:13 นำพาคุณไปสู่โรคมดริงได้ด้วยถ้าคุณกินของ
00:03:13 → 00:03:17 ทอดสิ่งใดก็ตามที่นำไปผ่านความร้อนสูงจะ
00:03:17 → 00:03:21 เกิดสารผิดขึ้นซึ่งเป็นสารที่ทำให้ไปก่อ
00:03:21 → 00:03:25 มะเร็งในอนาคตอันนี้อันตรายมากๆถึงแม้ว่า
00:03:25 → 00:03:28 ของทอดเนี่ยจะเป็นของชอบของหลายๆคนแต่หมอ
00:03:28 → 00:03:31 เฟิร์นก็ไม่ได้บอกให้คุณห้ามกินนะให้กิน
00:03:32 → 00:03:35 ให้น้อยที่สุดอ่ะหรือเลิกได้ก็เลิกลดละ
00:03:35 → 00:03:38 เลิกค่อยๆเลิกทีละนิดทีละหน่อยคุณก็จะทำ
00:03:38 → 00:03:40 ได้เองเนาะข้อที่
00:03:40 → 00:03:45 2 ชูของอร่อยมาก่อนเลยข้อแรกข้อที่ 2 ก็
00:03:45 → 00:03:51 คือสิ่งนี้เองกรดไขมันไม่อิ่มตัวอย่าง
00:03:51 → 00:03:55 โอเมก้า 6 อ้าจริงๆแล้วต้องบอกนะว่า
00:03:55 → 00:03:59 โอเมก้า 6 เนี่ยมีประโยชน์ต่อร่างกายถ้า
00:03:59 → 00:04:04 คุณทานหรือกินในปริมาณที่น้อยในปริมาณที่
00:04:04 → 00:04:07 พอดีแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไปกินเยอะจน
00:04:07 → 00:04:10 เกินไปเนี่ยมันจะไม่ดีต่อร่างกายแล้วอะไร
00:04:10 → 00:04:13 ที่เยอะเกินไปเนี่ยมันจะไปกระตุ้นให้ร่าง
00:04:13 → 00:04:16 กายของคุณอักเสบเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนั่น
00:04:16 → 00:04:21 เองซึ่งอ่ะเหมือนในภาพนี้เนาะโอเมก้า 6
00:04:21 → 00:04:23 พบจากไหนบ้างล่ะหมอเฟิร์นโอเมก้า 6 ส่วน
00:04:23 → 00:04:27 ใหญ่แล้วจะอยู่ในน้ำมันพืชยืดที่พบเยอะๆ
00:04:27 → 00:04:32 เลยนะก็คือน้ำมันถั่วเหลืองที่ยุคนี้เนาะ
00:04:32 → 00:04:35 ก่อนต้องเล่าอย่างงี้หมอ
00:04:35 → 00:04:40 เฟิร์นเช็คสถิติมาว่าก่อนหน้าเนี้ยผล
00:04:40 → 00:04:44 สำรวจย้อนหลังเนาะเค้ามีการนำน้ำมันถั่ว
00:04:44 → 00:04:46 เหลืองเนี่ยมาใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นคน
00:04:46 → 00:04:49 เราก็มาทอดเอามาอะไรอย่างเงี้ยเพราะว่า
00:04:49 → 00:04:52 มันน่าจะมีหลายอย่างช่วยทั้งประหยัดช่วย
00:04:53 → 00:04:55 ผลิตอะไรเยอะแยะอ่ะแต่
00:04:55 → 00:04:59 ว่าคุณต้องรู้ข้อนี้ต้องเอายิ่งต้องยิ่ง
00:04:59 → 00:05:02 ต้องเอามาเตือนว่าผลของมันน่ะร้ายแรงมาก
00:05:02 → 00:05:06 แต่ก่อนน่ะคนเรากินโอเมก้า 6 ในสัดส่วน
00:05:06 → 00:05:09 ต่อโอเมก้า 3 นะเพียงแค่ 4:1 หรือ 1: 4
00:05:09 → 00:05:14 เท่านั้นเองซึ่งปัจจุบันถ้านับย้อนไปก็
00:05:14 → 00:05:18 หลายปีนะอัตราการบริโภคโอเมก้า 6 เนี่ย
00:05:18 → 00:05:23 สูงขึ้นมากถึง 200% นะอ่ะหรือพูดง่ายๆก็
00:05:23 → 00:05:27 คือ 3 เท่านั่นเองซึ่งมันมีผลไปกระตุ้น
00:05:27 → 00:05:31 ให้เกิดโรคหัวใจมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
00:05:31 → 00:05:36 ต้องพูดแบบนี้ซึ่งวิธีแก้ก็ง่ายมากๆก็คือ
00:05:36 → 00:05:40 ให้คุณเนี่ยไปลดปริมาณการบริโภคโอเมก้า 6
00:05:40 → 00:05:43 ลดลงแล้วไปเพิ่มปริมาณโอเมก้า 3 เพิ่ม
00:05:43 → 00:05:46 ขึ้นซึ่งที่ปริมาณที่เขาแนะนำนะก็คือ
00:05:46 → 00:05:50 โอเมก้า 6 4/ โอเมก้า 3 1 อ่าถ้าอัตรา
00:05:50 → 00:05:53 ส่วนง่ายๆแบบนี้แล้วแล้วเราจะรู้ได้ยังไง
00:05:53 → 00:05:53 อ่ะ
00:05:53 → 00:05:55 เดี๋ยวหมอเฟิร์นยกตัวอย่างอาหารที่
00:05:55 → 00:06:00 โอเมก้า 6 กับ 3 6 สูงๆให้คุณดูก่อนปิด
00:06:00 → 00:06:04 ภาพนี้ก่อนเนาะก็คือภาพนี้เลยหลายคนไม่
00:06:04 → 00:06:08 รู้มันแฝงมาอย่างอันนี้มาการีนจริงๆไม่
00:06:08 → 00:06:10 ควรไม่ควรกินอยู่แล้วเนาะมากีนเนี่ย
00:06:10 → 00:06:12 โอเมก้า 6 ถึง
00:06:12 → 00:06:16 14 เป 14 ส่วนต่อโอเมก้า 31 ส่วนนี้ก็
00:06:16 → 00:06:21 แฝงอยู่ในพวกขนมเอยในเนื้ออ่ามีเยอะแยะ
00:06:21 → 00:06:24 เลยคุณดูจากภาพเอาละกันแล้วอาหารชนิดไหน
00:06:24 → 00:06:29 ลาที่ควรกินเป็นไขมันดีขอเฟิร์นขึ้นภาพ
00:06:29 → 00:06:32 ให้อ่ะอันนี้สังเกตง่ายๆเลยน้ำมันที่เรา
00:06:32 → 00:06:38 ควรกินดูได้จากสีอะไรเอ่ยโอเมก้า 3 สีฟ้า
00:06:38 → 00:06:42 โอเมก้า 6 สีม่วงอ่ะน้ำมันอ่ะให้ดูจากภาพ
00:06:42 → 00:06:45 เลยโอเมก้า 3 ในน้ำมันชนิดไหนเยอะที่สุด
00:06:45 → 00:06:50 ให้สังเกตสีฟ้าเฉลยแล้วะกันก็คือแฟกseีed
00:06:50 → 00:06:52 oil ก็คือน้ำมันเมร็ดแฟกเนาะอันนี้ก็ที่
00:06:52 → 00:06:58 หมอเฟิร์นกินอยู่ซึ่งน้ำมันที่คนที่มัก
00:06:58 → 00:07:00 ใช้กันเลยนะน้ำ
00:07:00 → 00:07:05 มันอะไรเอ่ยเนี่ยข้างบนสุดแล้วก็น้ำมัน
00:07:05 → 00:07:10 คาโนล่าเนาะน้ำมันดอกทานตะวันน้ำมันข้าว
00:07:10 → 00:07:14 โพดซอยบีนอ่าคุณลองเทียบเอาเองแล้วกัน
00:07:14 → 00:07:17 ซึ่งถ้าถ้าถามหมอเฟิร์นนะตรงนี้เลยนะถ้า
00:07:17 → 00:07:19 ที่หมอเฟิร์นแนะนำที่สุดน้ำมันที่ควรทาน
00:07:19 → 00:07:23 ก็คือแฟกseีedแต่ข้อเสียของมันก็คือไม่
00:07:23 → 00:07:26 ควรนำไปประกอบอาหารโดยใช้ความร้อนสูง
00:07:26 → 00:07:30 เพราะว่ามันมีจุดที่ทำให้เกิดควันเนี่ย
00:07:30 → 00:07:33 ต่ำค่อนข้างต่ำก็คือใช้กับความร้อนไม่ได้
00:07:33 → 00:07:36 แนะนำให้กินแบบเพียวๆหรือว่ากินกับสลัด
00:07:36 → 00:07:39 โดยที่ไม่ผ่านความร้อนเนาะถ้าเลือกได้
00:07:39 → 00:07:43 แล้วต้องนำไปทอดไปผัดเล็กๆน้อยๆเนี่ยให้
00:07:43 → 00:07:48 พิจารณาเป็นโอลิฟออยแบบนี้ก็ได้
00:07:48 → 00:07:50 อ่าขอบคุณ
00:07:51 → 00:07:55 คุณดวงพลเนาะโอเคถ้าอ่านผิดขออภัยด้วยนะ
00:07:55 → 00:07:59 คะตุ๋นต้มตุ๋นนึ่งถูกต้องมากๆโอเคอ่ะสรุป
00:07:59 → 00:08:02 ง่ายๆอย่างงี้น้ำมันโอเมก้า 6 เนี่ยพบมาก
00:08:02 → 00:08:05 ในไหนบ้างพบมากในน้ำมันถั่วเหลืองน้ำมัน
00:08:06 → 00:08:09 ข้าวโพดน้ำมันดอกทานตะวันอ่าอันนี้ก็ให้
00:08:09 → 00:08:11 คุณใช้ให้น้อยที่สุดถ้าไม่จำเป็นหรือถ้า
00:08:11 → 00:08:15 จำเป็นจริงๆก็ให้ใช้น้อยที่สุดอ่ะเอาง่าย
00:08:15 → 00:08:18 ๆแล้วก็โอเมก้า 3 แนะนำเป็นโอเมก้า 3 แทน
00:08:18 → 00:08:22 ก็คือพวกน้ำมันปลาเปลาทะเลปลาแซลมอนน้ำ
00:08:22 → 00:08:27 มันวอนัน้ำมันเมล็ดเซียเมล็ดแฟลกน้ำมัน
00:08:27 → 00:08:29 มะกอกน้ำมันมะพร้าวอย่างนี้ก็ได้อย่างที่
00:08:29 → 00:08:34 หมอเฟิร์นทานประจำก็คือน้ำมันแฟกseีed
00:08:34 → 00:08:42 เนาะนี่ก็คือภาพในดังนี้เองที่แนะนำเนาะ
00:08:42 → 00:08:45 โอเคมาถึงตรงนี้แล้วทำไมต้อง 5 โอเมก้า 6
00:08:45 → 00:08:48 นักหนาอ่ะขึ้นรูปนี้ให้ก่อนแล้วกันบางคน
00:08:48 → 00:08:49 อาจ
00:08:49 → 00:08:54 จะไม่เข้าใจอ่ะพอเวลาหลอดเลือดเราอักเสบ
00:08:54 → 00:08:57 คุณดูอย่างี้หลอดโอเมก้า 3 เนี่ยมีส่วน
00:08:57 → 00:09:00 ช่วยให้หลอดเลือดอันนี้สีแดงๆเนี่ยภาพนี้
00:09:00 → 00:09:03 ก็คือหลอดเลือดข้างในของเราโอเมก้า 3 มี
00:09:03 → 00:09:07 ส่วนช่วยให้หลอดเลือดของเราเนี่ยขยายตัว
00:09:07 → 00:09:11 มากขึ้นแล้วก็ส่วนโอเมก้า 6 เนี่ยทำให้
00:09:11 → 00:09:14 หลอดเลือดของเราเนี่ยเหมือนอย่างี้เลย
00:09:14 → 00:09:18 เกิดการหดตัวเกิดการแข็งตัวได้ดังนั้นก็
00:09:18 → 00:09:22 เป็นเหตุผลหนึ่งที่หมอเฟิร์นเชียร์ให้ลด
00:09:22 → 00:09:26 การบริโภคโอเมก้า 6 ลงกินได้นะแต่ว่าให้
00:09:26 → 00:09:29 กินน้อยลงให้กินอัตราส่วนที่มันสมดุลกัน
00:09:29 → 00:09:32 หน่อยโอเมก้า 3 4/ โอเมก้า 6 เอ้ย
00:09:32 → 00:09:34 โอเมก้า 6 4/ โอเมก้า 3 1 ส่วนเพราะ
00:09:34 → 00:09:39 ปัจจุบันนี้คนกินแบบว่าโอเมก้า 6 16 12
00:09:39 → 00:09:42 ส่วนโอเมก้า 3 1 ส่วนแบบเนี้ยมันเริ่มจะ
00:09:42 → 00:09:44 ผิดเพี้ยนขึ้นไปเรื่อยๆแล้วในยุคนี้เนาะ
00:09:44 → 00:09:45 ในยุค
00:09:45 → 00:09:50 อุตสาหกรรมข้อถัดไปก็คือขึ้นรูปให้คุณทาย
00:09:51 → 00:09:53 ดีกว่าข้อที่ 3 สิ่งที่ควรหลีกหนีถ้าคุณ
00:09:53 → 00:09:56 ไม่อยากน่าแก่กว่าเพื่อนๆเนาะก็คือสิ่ง
00:09:56 → 00:10:00 นี้นั่นเองพูดง่ายๆสิ่งนี้ก็คือเครื่อง
00:10:00 → 00:10:04 ดื่มที่ให้สารคาเฟอีนซึ่งมักพบในบ้างมัก
00:10:05 → 00:10:11 พบมากในกาแฟในเครื่องดื่มชูกำลังในชาอ่า
00:10:11 → 00:10:15 นั่นแหละตามภาพเลยยิ่งมีคาเฟอีนสูงก็ยิ่ง
00:10:15 → 00:10:18 ไปกระตุ้นให้แก่แต่เร็วแต่เรามีทิกนะไม่
00:10:18 → 00:10:21 ใช่ว่าหลายคนจริงอยู่ที่หลายคนอาจจะเถียง
00:10:21 → 00:10:24 ว่าชายกาแฟเนี่ยมันมีสารต่อต้านอนุมูล
00:10:24 → 00:10:27 อิสระไม่ใช่หรอเหมืนใช่คุณพูดถูกแต่เมื่อ
00:10:27 → 00:10:32 ไหร่ที่คุณดื่มเยอะจนเกินไปและคุณไม่ดื่ม
00:10:33 → 00:10:36 น้ำไปทดแทนเลยเนี่ยต้องบอกก่อนว่าคาเฟอีน
00:10:37 → 00:10:41 เนี่ยมีผลไปกระตุ้นมีส่วนชวยอ่ะพูดอย่าง
00:10:41 → 00:10:45 งี้มีส่วนไปกระตุ้นขับปัสสาวะอ่อนๆดัง
00:10:45 → 00:10:47 นั้นสังเกตได้ชัดชัดเลยเวลาที่คุณดื่ม
00:10:47 → 00:10:50 กาแฟเอยดื่มชาเอยดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง
00:10:50 → 00:10:54 เอยคุณจะปวดปัสสาวะบ่อยมากวันนั้นดังนั้น
00:10:54 → 00:10:57 ทริกง่ายๆก็คือให้คุณถ้าดื่มกาแฟ 1 แก้ว
00:10:57 → 00:11:01 ให้ดื่มน้ำทดแทนไปด้วยเพิ่มอีก 1 แก้วจาก
00:11:01 → 00:11:04 ปกติคุณดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตรอยู่แล้วถ้า
00:11:04 → 00:11:07 ดื่มชาเขียว 1 แก้วก็ดื่มเพิ่มเข้าไปอีก 1
00:11:07 → 00:11:09 ดื่มน้ำเปล่าเพิ่มเข้าไปอีก 1 แก้วเพราะ
00:11:09 → 00:11:12 อะไรเพราะเวลาที่ร่างกายถูกกระตุ้นคุณไป
00:11:12 → 00:11:15 ปวดปัสสาวะคุณไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆเนี่ย
00:11:15 → 00:11:19 ร่างกายกายขับน้ำออกจะมีผลทำให้ร่างกาย
00:11:19 → 00:11:22 เนี่ยสูญเสียน้ำเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมซึ่ง
00:11:22 → 00:11:25 เวลาที่ร่างกายเราสูญเสียน้ำเนี่ยแน่นอน
00:11:25 → 00:11:28 มันมีผลต่อผิวของเราจะทำให้ผิวของเราแห้ง
00:11:28 → 00:11:32 พอผิวเราแห้งจะทำให้เราเนี่ยผิวเหี่ยว
00:11:32 → 00:11:36 แล้วก็หน้าแก่ไวนั่นเองดัง
00:11:36 → 00:11:40 นั้นทิกที่บอกไปก็คือให้ดื่มน้ำตามเพิ่ม
00:11:40 → 00:11:44 ขึ้นด้วยใครเข้าใจถึงตรงนี้ให้พิมพ์มาว่า
00:11:44 → 00:11:48 ดื่มน้ำเทียบเท่าอ่ะยาวไปดื่มน้ำเพิ่ม
00:11:48 → 00:11:51 พิมพ์แค่ว่าดื่มน้ำเพิ่มก็พอเนาะโอเคทิก
00:11:51 → 00:11:54 ง่ายๆคือไม่ได้ห้ามว่าคุณดื่มไม่ได้นะมัน
00:11:54 → 00:11:56 มีประโยชน์ก็จริงแต่ว่าเราต้องรู้ด้วยว่า
00:11:56 → 00:12:00 ควรดื่มยังไงให้หน้าเราไม่แก่ได้ประโยชน์
00:12:00 → 00:12:03 เยอะที่สุดได้ข้อเสียน้อยที่สุดโอเคเนาะ
00:12:03 → 00:12:07 ซึ่งอีกอย่างหนึ่งที่ต้องเตือนเลยหลายคน
00:12:07 → 00:12:10 ดื่มกาแฟกาแฟมีประโยชน์ชามมีประโยชน์ก็
00:12:10 → 00:12:14 ดื่มนั่นแหละแต่คุณดันไปใส่พวกน้ำตาล
00:12:14 → 00:12:18 นมครีมเทียมอ่าอันนี้พูดถึงแค่ 3 ตัวเยัง
00:12:18 → 00:12:22 ไม่รวมกับสารอื่นๆที่ปนมาใน
00:12:22 → 00:12:26 พวกกาแฟหรือว่าเครื่องดื่ม inone ต่างๆนะ
00:12:26 → 00:12:29 อันนี้พูดถึงแค่พวกน้ำตาลกับครีมทีมกับนม
00:12:29 → 00:12:32 นะซึ่งสิ่งเหล่าเนี้ยของแถมที่คุณจะต้อง
00:12:32 → 00:12:34 ได้ก็
00:12:34 → 00:12:38 คือคุณจะทำให้คุณเนี่ยอ้วนขึ้นในอนาคตได้
00:12:38 → 00:12:41 แล้วก็นำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆในอนาคตได้
00:12:41 → 00:12:46 นั่นเองซึ่งแน่นอนถ้าเราเลือกที่จะกิน
00:12:46 → 00:12:52 แล้วเนี่ยเราก็ต้องยอมรับผลตามมาจริงๆไม่
00:12:52 → 00:12:55 หมอเฟิร์นไม่เคยห้ามเลยว่าคุณจะกินกาแฟ
00:12:55 → 00:12:58 ใส่อะไรใส่ได้หมดคุณจะกินชาอะไรใส่ได้หมด
00:12:58 → 00:13:01 แต่คุณต้องรู้อย่างนี้ว่าข้อดีมันมีแต่
00:13:01 → 00:13:03 ถ้าคุณไปใส่อย่างอื่นที่มันเป็นข้อเสีย
00:13:03 → 00:13:06 คุณก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะเกิดสิ่งนี้ใน
00:13:06 → 00:13:09 อนาคตได้ดังนั้นเลือกตั้งแต่วันนี้ถ้าจะ
00:13:09 → 00:13:12 ดื่มกาแฟให้ดื่มกาแฟดำถ้าจะดื่มพวกชาก็
00:13:12 → 00:13:16 ให้ดื่มดื่มชาเขียวใสไม่ใส่อะไรเลยจะดี
00:13:16 → 00:13:18 ที่สุดเนาะ
00:13:18 → 00:13:23 โอเคต่อไปข้อต่อไปข้อที่ 4 โอเคค่ะคุณดวง
00:13:23 → 00:13:28 พลบอกว่าดื่มน้ำเพิ่มโอเคมีคนเข้าใจแล้ว
00:13:28 → 00:13:32 ขอบคุณมากๆที่พิมพ์อ่ะเนาะข้อที่ 4 ข้อ
00:13:32 → 00:13:35 ที่ 4 หลุดพูดออกไปละเมื่อกี้ก็คือ
00:13:35 → 00:13:38 เครื่องดื่มที่เครื่องดื่ม
00:13:38 → 00:13:43 ที่เป็นน้ำอัดลมแล้วก็มีน้ำตาลสูง
00:13:43 → 00:13:48 สูงสิ่งใดก็ตามที่ใส่น้ำตาลเข้าไปเยอะๆ
00:13:48 → 00:13:51 สิ่งนั้นแหละที่จะไปกระตุ้นให้เราแก่เร็ว
00:13:51 → 00:13:54 เพราะอะไรหมอเฟิร์นอธิบายอย่างี้เพราะ
00:13:54 → 00:13:57 อะไรเพราะว่าเวลาที่เราทานพวกน้ำหวานเข้า
00:13:58 → 00:14:00 ไปเยอะๆน้ำหวานที่เขา้าใส่พวกน้ำตาลหรือ
00:14:00 → 00:14:04 ว่าใส่น้ำเชื่อมเข้าไปเนี่ยมันจะไปส่งผล
00:14:04 → 00:14:07 ให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเนี่ยสูงปี๊ด
00:14:07 → 00:14:10 ขึ้นมาเลยพอน้ำระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ
00:14:10 → 00:14:12 สูงปี๊ดเนี่ยมันจะเกิดสารตัวหนึ่งที่ชื่อ
00:14:12 → 00:14:16 ว่า A Ges สารตัวนี้ชื่อยาวมากเอาแค่
00:14:16 → 00:14:19 ชื่อย่อก็พอเนาะ A Ges มันแล้วมันส่งผล
00:14:19 → 00:14:21 ยังไงล่ะหมอเฟิร์นขึ้นภาพให้อย่างงี้เวลา
00:14:21 → 00:14:25 ที่สารตัวเนี้ยเกิดขึ้นมาจากการที่เราไป
00:14:25 → 00:14:28 บริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเยอะๆเนี่ย
00:14:28 → 00:14:32 มันจะไปทำให้อวัยวะของเราเนี่ยถูกทำลาย
00:14:32 → 00:14:35 แล้วก็เสื่อมลงพูดง่ายๆคุณจะแกะขึ้นจาก
00:14:35 → 00:14:38 ไอ้สารตัวนี้แหละเพราะว่าเนี่ยถ้าคุณดู
00:14:38 → 00:14:42 ภาพผิวที่สุขภาพดีกับผิวที่โดนน้ำตาล
00:14:42 → 00:14:47 ทำร้ายนะ 2 ภาพนี้มันจะไปทำให้พอน้ำตาล
00:14:47 → 00:14:51 มันไปทำปฏิกิริยาอะไรกับโปรตีนในชั้นผิว
00:14:51 → 00:14:53 ของเราเนี่ยมันจะไปทำให้ผิวหนังของเรา
00:14:53 → 00:14:56 เนี่ยเกิดภาพเป็นอย่างนี้เหมือนถูกทำลาย
00:14:56 → 00:15:01 ผลมันก็คือหน้าของเราผิวของเราจะเหี่ยวจะ
00:15:01 → 00:15:04 แกนเร็วแล้วก็ไปทำร้ายคอลลาเจนในนั้นทำ
00:15:04 → 00:15:07 ให้พอผิวเราไม่แข็งแรงเนี่ยเวลาโดนแดดโดน
00:15:07 → 00:15:11 อะไรก็จะเกิดspปอง่ายมากๆซึ่ง Sport
00:15:11 → 00:15:15 ถ้าให้เข้าใจง่ายๆก็คือพวกจุดดั่งดำรอย
00:15:15 → 00:15:17 กระรอยฝ้าเกิดขึ้นง่ายมากๆถ้าผิวไม่แข็ง
00:15:17 → 00:15:23 แรงอันนี้ตัวร้ายสุดๆเลยเป็นไปได้ลดละ
00:15:23 → 00:15:26 เลิกหรือหลีกเลี่ยงน้ำตาลให้มากที่สุดโดย
00:15:26 → 00:15:29 เฉพาะน้ำหวานที่เราไม่ทราบว่าเขา้าใส่มา
00:15:29 → 00:15:33 เท่าไหร่ถ้าเราพลิกข้างขวดหรือข้างกล่อง
00:15:33 → 00:15:37 เนี่ยเราพอรู้ไงแต่พอเราไปซื้อตามร้านค้า
00:15:37 → 00:15:40 ทั่วไปเวลาเขาใส่น้ำตาลเ้าไม่บอกเราไงว่า
00:15:40 → 00:15:42 เขาใส่ไปเท่าไหร่หรือเค้าใส่น้ำเชื่อมไป
00:15:42 → 00:15:45 เท่าไหร่อันนี้ก็ให้ระวังให้ดีถ้าคุณไม่
00:15:45 → 00:15:47 อยากแก่ไวกว่าเพื่อนให้หลีกเลี่ยงไปเลย
00:15:47 → 00:15:51 พวกน้ำอัดลมน้ำตาลอ่ะแล้วมันก็จะเป็น
00:15:51 → 00:15:54 อย่างงี้บางคนก็บอกว่าโอเคฉันหลีกเลี่ยง
00:15:54 → 00:15:57 น้ำตาลละฉันไม่กินน้ำตาลเพราะเครื่องดื่ม
00:15:57 → 00:15:58 สมัยนี้
00:15:58 → 00:16:01 ก็ค่อนข้างเอาใจผู้บริโภคนะบอกว่าไม่มี
00:16:01 → 00:16:04 น้ำตาลน้ำตาล 0% แต่ว่ากินเข้าไปทำไมมัน
00:16:04 → 00:16:08 ยังหวานอยู่อ่ะแน่นอนว่าเค้าใส่สารทด
00:16:08 → 00:16:11 แทนทดแทนแทนน้ำตาล่ะสารให้ความหวานแทนน้ำ
00:16:11 → 00:16:16 ตาลซึ่งต้องย้ำก่อนว่าสารให้ความหวานแทน
00:16:16 → 00:16:21 น้ำตาลเนี่ยเค้าผลิตขึ้นมาจากสารเคมีแน่
00:16:21 → 00:16:24 นอนหมอเฟิร์นมีความเชื่อว่าร่างกายของเรา
00:16:24 → 00:16:25 ไม่ต้องการสาร
00:16:25 → 00:16:32 เคมีกินเข้าไปถึงแม้มันไม่ได้มีผลไปทำให้
00:16:33 → 00:16:35 ร่างกายของคุณเลือดของคุณเนี่ยน้ำตาลใน
00:16:35 → 00:16:39 เลือดสูงแต่มันมีผลกระทบหลังจากนั้นหลัง
00:16:40 → 00:16:42 จากนั้นคืออะไรพอคุณกินสิ่งนี้เข้าไป
00:16:42 → 00:16:45 เนี่ยมันจะทำให้ร่างกายของคุณติดหวานมาก
00:16:45 → 00:16:49 ขึ้นมากขึ้นมากขึ้นคุณอาจจะไม่ได้รับน้ำ
00:16:49 → 00:16:53 ตาลจากเครื่องดื่มชนิดนี้แต่พอวันถัดไป
00:16:53 → 00:16:56 หรือมื้อถัดไปคุณจะหวานอยากน้ำตาลมากขึ้น
00:16:56 → 00:16:58 คุณอาจจะไปกินข้าวเพิ่มขึ้นแทนคุณอาจจะไป
00:16:58 → 00:17:00 กินแป้งเพิ่มขึ้นแทนอันนี้เราก็ไม่สามารถ
00:17:00 → 00:17:04 ตอบได้ไงนี่คือผลกระทบหลังจากนี้ดังนั้น
00:17:04 → 00:17:08 ถ้าจะเลือกจริงๆนะถ้าสุดท้ายฉันไม่สามารถ
00:17:08 → 00:17:11 กินจึกได้ฉันต้องการความหวานให้เลือกสาร
00:17:11 → 00:17:13 ทดแทนความหวานแทนน้ำตาลเนี่ยจากธรรมชาติ
00:17:13 → 00:17:17 อย่างพวกหญ้าหวานหล่อฮังก๋๊วยเนาะมันก็มี
00:17:17 → 00:17:19 หลายอย่างแต่ให้เน้นมาจากธรรมชาติให้มาก
00:17:19 → 00:17:22 ที่สุดหรือจริงๆแล้วไม่ใส่เลยก็ได้ค่อยๆ
00:17:22 → 00:17:25 ปรับไปตอนแรกมันจะไม่ชินหมอเฟิร์นก็เคย
00:17:25 → 00:17:29 เป็นคนที่ติดหวานมากๆแต่พอเราค่อยๆลดทีละ
00:17:29 → 00:17:32 นิดทีละนิดจากปกติหวานปกติก็ลดเป็นหวาน
00:17:32 → 00:17:35 น้อยพอหวานน้อยแล้วก็ลดเป็นหวานน้อยมากๆ
00:17:35 → 00:17:38 พอหวานน้อยมากๆเราลิ้นเราเริ่มชินเราก็
00:17:38 → 00:17:42 กินแบบไม่หวานได้เลยไม่ใส่เลยก็ได้
00:17:42 → 00:17:46 อ่ะกาแฟดำขมไปค่ะคุณหมอมีคนบอกกาแฟดำขมไป
00:17:47 → 00:17:51 ค่ะโอเคถ้ากาแฟดำขมไปนะแนะนำแบบนี้อ่ะ
00:17:51 → 00:17:53 อย่างบางคนซื้อกาแฟออร์แกนิคของหมอเฟิร์น
00:17:53 → 00:17:57 ไปนะบอกขมก็จะให้ยอมให้ใส่น้ำผึ้งเข้าไป 1
00:17:57 → 00:18:00 ช้อนชาแบบนี้ก็ได้ก็จะทำให้รสขมเนี่ยน้อย
00:18:00 → 00:18:06 ลงหรือกาแฟดำวิธีถ้าไม่ชอบดื่มแบบขมนะให้
00:18:06 → 00:18:09 คุณเลือกแบบขั้วอ่อนเพราะขั้วอ่อนจะไม่ขม
00:18:09 → 00:18:12 แต่จะเปรี้ยวความขมจะน้อยเพราะหมอเฟินก็
00:18:12 → 00:18:15 ชอบคั่วอ่อนเพราะว่าวิตามินแร่ธาตุอยู่
00:18:15 → 00:18:17 เยอะเพราะว่ามันใช้เวลาในการคั่วน้อยไง
00:18:17 → 00:18:21 เราก็เลือกกาแฟแบบนี้แต่ว่ารสชาติก็จะโดด
00:18:21 → 00:18:24 ออกไปทางเปรี้ยวออกออกผลไม้หน่อยแล้วก็จะ
00:18:24 → 00:18:27 ไม่ขมหรือถ้าใครที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวของ
00:18:28 → 00:18:31 กาแฟก็ขึ้นมาอีกระดับนึงเป็นกาแฟขั้วกลาง
00:18:31 → 00:18:34 แบบนี้ก็ได้โดยดื่มแบบดิฟแล้วดิฟแล้วใส่
00:18:35 → 00:18:37 น้ำแข็งเข้าไปความเย็นจะทำให้ความห่มน้อย
00:18:37 → 00:18:40 ลงไงอันนี้เป็นทริกเล็กๆน้อยๆสำหรับคน
00:18:40 → 00:18:42 ดื่มกาแฟเนาะเพราะหมอเฟิร์นก็ชอบดื่ม
00:18:42 → 00:18:45 เหมือนกันผลิตหมอเฟิร์นก็ผลิตกาแฟเหมือน
00:18:45 → 00:18:48 กันซึ่งขายหมดไปและแล้วก็ยังไม่มีล็อต
00:18:48 → 00:18:51 ใหม่สักทีอ่าเพราะว่ายังหาซัพพลerที่
00:18:51 → 00:18:55 ต้องการไม่ได้เนาะอ่าไว้ถ้ามีเราจะรีบเอา
00:18:55 → 00:18:57 มา
00:18:57 → 00:19:01 บอกข้อถัดไปอ่ะอันนี้จบแล้วเนาะเรื่องน้ำ
00:19:01 → 00:19:04 อัดลมน้ำตาลเนี่ยเข้าใจละว่าทำไมถึงควรลด
00:19:05 → 00:19:07 ละเลิกถ้าไม่อยากหน้าแก่เพราะว่ามันจะไป
00:19:07 → 00:19:12 ทำร้ายผิวของคุณได้นั่นเองโอเคข้อที่ 5
00:19:12 → 00:19:15 ข้อที่ 5 ขึ้นรูปมาให้คุณทายแล้วกันว่า
00:19:15 → 00:19:18 คืออะไรข้อที่ 5 อ่ะพวก
00:19:18 → 00:19:20 เนี้ยพวกนี้ก็
00:19:21 → 00:19:26 คือเกลือหรือโซเดียมทำไมถึงขึ้นแบบนี้
00:19:26 → 00:19:29 เพราะบางคนก็จะบอกว่าเกลือเนี่ยฉันจำกัด
00:19:29 → 00:19:32 แล้วนะฉันใส่นิดเดียวแต่ละครั้งที่ปรุง
00:19:32 → 00:19:34 ไม่ใส่เกลือเพิ่มเลยแต่ว่าสิ่งที่คุณกิน
00:19:34 → 00:19:38 เนี่ยมันคือสิ่งเหล่านี้ไงมันคือพวกอาหาร
00:19:38 → 00:19:44 แปรรูปอย่างพวกพิซซ่าขนมปังขนมถุง
00:19:44 → 00:19:47 แฮมเบอร์เกอร์ชีสอ่าพวกเนี้ยที่อยู่ในภาพ
00:19:47 → 00:19:51 เนี้ยมันคือโซเดียมแอบแฝงทั้งนั้นอย่าง
00:19:51 → 00:19:54 พวกผงชูรสอย่างี้ก็เป็นโซเดียมอย่างหนึ่ง
00:19:54 → 00:19:56 เนาะซึ่งเป็นโซเดียมที่อาจจะไม่ได้ลดเค็ม
00:19:57 → 00:19:59 เหมือนเกลือแต่ว่าเป็นโซเดียมเหมือนกัน
00:19:59 → 00:20:02 ดังนั้นบางคนตกมาตายเรื่องนี้บอกว่าไม่
00:20:02 → 00:20:04 ได้ใส่เกลือแต่คุณกินโซเดียมจากแรงอื่น
00:20:04 → 00:20:07 นั่นเองซึ่งเกลือโซเดียมเนี่ยต้องบอกก่อน
00:20:07 → 00:20:10 ว่าคุณรู้อยู่แล้วแหละว่าถ้ากินเข้าไป
00:20:10 → 00:20:14 เยอะๆเนี่ยไตคุณแน่นอนล่ะทำงานหนักแล้วก็
00:20:14 → 00:20:18 เสื่อมเร็วแล้วพอร่างกายไตเสื่อมเสื่อมไป
00:20:18 → 00:20:21 แล้วขับของเสียได้ไม่ดีทำให้บางคนเนี่ยมี
00:20:21 → 00:20:25 อาการบวมน้ำโดยที่ไม่รู้ตัวนั่นเองแต่พูด
00:20:25 → 00:20:29 ถึงในเรื่องของชะลอไวก็คือถ้าคุณทานเข้า
00:20:29 → 00:20:34 ไปเยอะๆเนี่ยมันทำร้ายข้างในอ่ะถ้าข้างใน
00:20:34 → 00:20:37 คุณเสียข้างนอกของคุณมันก็จะไม่สดใสมันก็
00:20:37 → 00:20:41 จะไม่เพราะสุขภาพที่ดีเนี่ยมันจะออกมาจาก
00:20:41 → 00:20:46 ภายในสู่ภายนอกพูดง่ายๆแบบนี้ลดละเลิกได้
00:20:46 → 00:20:50 ยิ่งดีอ่าส่วนใครที่เป็นโรคไตไม่ต้องพูด
00:20:50 → 00:20:54 ถึงเลยเกลือทานทานไม่ได้ทำทานได้จำกัดมาก
00:20:54 → 00:20:56 ๆแล้วก็พวกเนี้ยให้หลีกเลี่ยงให้จะดีที่
00:20:56 → 00:21:00 สุดอันนี้แค่พูดถึงในเรื่องของโซเดียมนะ
00:21:00 → 00:21:03 แต่จริงๆแล้วพวกเนี้ยมันยังมีสารเคมีใน
00:21:03 → 00:21:05 นั้นอยู่อีกเยอะซึ่งเดี๋ไปข้อถัดไปเลยละ
00:21:05 → 00:21:09 กันก็ก็คือสารข้อ 6 ที่จะต้องบอกก็คือสาร
00:21:09 → 00:21:14 เคมีที่เค้าเติมเข้าไปในอาหารเนาะอ่า
00:21:14 → 00:21:19 คุณพัหรือเปล่าชื่อชื่อเล่นชื่ออะไรเนาะ
00:21:19 → 00:21:22 บางทีหมอเฟิร์นก็ไม่กล้าอ่านกลัวอ่านผิด
00:21:22 → 00:21:25 ไงบอกของโปรดเลยจริงๆพวกเนี้ยของโปรดหมอ
00:21:25 → 00:21:27 เฟิร์นเหมือนกันนะตอนที่ไปเรียนอ๊อดอ่ะ
00:21:27 → 00:21:31 โอ้โหอร่อยมากพิซซ่าที่เมลเบิ้ลเนี่ยแต่
00:21:31 → 00:21:34 ก็ต้องยับยังช่างใจถ้าจะกินก็กินเฉพาะแบบ
00:21:34 → 00:21:37 นานๆทีแบบให้รางวัลตัวเองเพราะว่าไปอยู่
00:21:37 → 00:21:40 ถึงนู่นแล้วไม่กินมันก็ยังไงอยู่เนาะก็
00:21:40 → 00:21:42 กินบ้างแล้วก็เน้นไปกินผักผลไม้มื้ออื่น
00:21:42 → 00:21:47 เอาข้อต่อไปก็คือสารเคมีต่างๆที่เติมลงไป
00:21:47 → 00:21:51 ในอาหารนั่นเองอ่ะลองขึ้นรูปมาปิดรูปนี้
00:21:51 → 00:21:57 ก่อนเนาะอ่ะนี่ไงแน่นอนว่ามีเยอะมากๆที่
00:21:57 → 00:22:00 ถ้าคุณพลิกดูข้างกล่องข้างถุงดูคุณจะพบ
00:22:00 → 00:22:04 ว่ามันมีสารปรุงแต่งหรือวัตถุเจือปนใน
00:22:04 → 00:22:07 อาหารอยู่ในนั้นเยอะมากอย่างเช่นพวกสาร
00:22:07 → 00:22:10 แต่งสีแต่งกลิ่นแต่งรสอ่าเมื่อกี้เราก็
00:22:10 → 00:22:14 พูดไปเนาะสารทดแทนความหวานแทนน้ำตาลสาร
00:22:14 → 00:22:17 แยกป้องกันการจับตัวเป็นก้อนเนาะหรือว่า
00:22:17 → 00:22:21 สารที่ยืดอายุให้อาหารนั้นน่ะขายได้นาน
00:22:21 → 00:22:24 ขึ้นพูดง่ายๆข้อนี้หลีกเลี่ยงง่ายมากให้
00:22:24 → 00:22:28 คุณกินอาหารจริงอาหารอะไรที่ผ่านกระบวน
00:22:28 → 00:22:32 การมาเยอะๆเยอะๆเนี่ยให้นานๆทีอ่ะไม่ได้
00:22:32 → 00:22:36 ห้ามมาแล้วกันเผื่อบางคนชอบเนาะโอเคคุณ
00:22:36 → 00:22:41 ปัดให้นานๆทีไม่กินได้จะดีมากๆแต่หมอเพิน
00:22:41 → 00:22:42 ก็ไม่ได้ห้ามไงเพราะหมอเฟินก็เป็นคนนึง
00:22:42 → 00:22:45 ที่ถ้าบางทีอยากกินก็กินเพราะยิ่งห้าม
00:22:45 → 00:22:48 เหมือนยิ่งยุใครเป็นอย่างี้บ้างยิ่งยิ่ง
00:22:48 → 00:22:50 ห้ามตัวเองแบบอยากกินไม่กินยิ่งอยากกิน
00:22:50 → 00:22:54 เลยนึกถึงตลอดเลยดังนั้นปตัดไปเลยกินได้
00:22:54 → 00:23:00 แต่กินนิดเดียวแล้วอย่าห้ามตัวเองอ่ะอ่า
00:23:00 → 00:23:02 เมื่อกี้บอกว่าอะไรบ้างนะมีหลายตัวในนี้
00:23:02 → 00:23:04 อันนี้แค่ยกตัวอย่างเนาะจริงๆมันมีหลาย
00:23:04 → 00:23:08 ชื่อมากให้ดูภาพคุณจะตกใจอ่ะในใน 1 สิ่ง
00:23:08 → 00:23:10 เนี่ยเค้าใส่สารเข้าไปเยอะมากที่จะไปถนอม
00:23:10 → 00:23:14 อาหารที่จะไปให้ทำให้สีมันดูน่ากินที่จะ
00:23:14 → 00:23:17 ทำให้รสชาติมันดีขึ้น
00:23:17 → 00:23:21 โอ้โหก็คือหมอเฟิร์นเคยพูดเรื่องนี้ไว้ใน
00:23:21 → 00:23:24 หนังสือเสียงที่อัดไว้เนาะซึ่งมีคนลง
00:23:24 → 00:23:27 เรียนเยอะมากพูดไว้ละว่ามันมีข้อดีข้อ
00:23:27 → 00:23:30 เสียยังไงแล้วทำไมเราถึงไม่ควรกินพูดถึง
00:23:30 → 00:23:33 งานวิจัยเยอะเลยแต่วันนี้พูดพูดพูดคร่าวๆ
00:23:33 → 00:23:36 แล้วกันว่าไม่ควรกินถ้ากินเข้าไปแล้ว
00:23:36 → 00:23:40 เนี่ยจะไปกระตุ้นให้ร่างกายอักเสบเยอะมาก
00:23:40 → 00:23:43 ๆหลีกเลี่ยงได้จะช่วยทำให้คุณเนี่ยหน้า
00:23:43 → 00:23:47 เด็กกว่าเพื่อนได้แน่นอนสารพวกนี้พูดรวมๆ
00:23:47 → 00:23:49 เลยกันว่าสารพวกนี้ที่เขา้าใส่เข้าไป
00:23:49 → 00:23:53 เพื่อถนอมอาหารเนี่ยมันจะเป็นตัวนึงที่
00:23:53 → 00:23:57 เป็นสารพิษที่ไปเพิ่มอนุมูลอิสระในร่าง
00:23:57 → 00:24:01 กายของเราอนุมูลอิสระก็คือตัวนึงไงที่ไป
00:24:01 → 00:24:04 กระตุ้นให้ร่างกายคนอักเสบแน่นอนว่าพอมี
00:24:04 → 00:24:07 อนุมูลอิสระเยอะๆเนี่ยร่างกายอักเสบเยอะๆ
00:24:07 → 00:24:10 ก็จะทำให้ร่างกายคุณเสื่อมเร็วพอเสื่อม
00:24:10 → 00:24:14 เร็วอ่าบางคนอายุ 50 ละแต่หน้าไป 60-70
00:24:14 → 00:24:17 ละอ่าเนี่ยนี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำไมบางคน
00:24:17 → 00:24:20 คุณลุงคุณป้าบางคนอายุแค่ 50 เองแต่ทำไม
00:24:20 → 00:24:23 ดูแก่เหมือน 60 70 อันนี้ขออภัยนะคะแต่
00:24:23 → 00:24:27 บางคนเนี่ยอายุ 60 แต่ทำไมบางคนอายุ 60
00:24:27 → 00:24:30 ใช่มั้ยแต่ว่าทำไมดูเด็กจังทำไมเหมือนแบบ
00:24:30 → 00:24:32 40 50 เองนี่แหละเป็นเหตุผลที่คนนึงแตก
00:24:32 → 00:24:37 ต่างกันเพราะว่าอยู่ที่การกินของเค้าซึ่ง
00:24:37 → 00:24:40 แต่ก็ไม่ได้บอกว่าวิธีการกิน 100% นะยัง
00:24:40 → 00:24:44 อยู่ที่วิธีการคิดด้วยวิธีการออกกำลังกาย
00:24:44 → 00:24:48 วิธีการพักผ่อนมันมาจากหลายปัจจัยแต่ที่
00:24:48 → 00:24:51 หมอเพลินหมอเฟิร์นพูดในวันนี้ก็คืออาหาร
00:24:51 → 00:24:53 เนาะซึ่งอาหารนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำ
00:24:53 → 00:24:57 ให้คนเราเนี่ยแก่เร็วหรือแก่ช้าก็ว่าได้
00:24:57 → 00:25:00 ข้อถัดไปก็คือข้อถัดไปเลยะกันข้อสุดท้าย
00:25:00 → 00:25:04 ละข้อสุดท้ายเป็นสิ่งที่หลายคนรู้ดีอยู่
00:25:04 → 00:25:07 แล้วอ่าเราขึ้นรูปก็คือเครื่องดื่มเหล่า
00:25:07 → 00:25:10 นี้นั่นเองเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่มีชื่อ
00:25:10 → 00:25:14 แต่คุณน่าจะทายถูกก็คือแอลกอฮอล์พูดตาม
00:25:14 → 00:25:17 ตรงเลยว่าแอลกอฮอล์ดื่มเข้าไปเนี่ยไป
00:25:17 → 00:25:21 กระตุ้นให้คุณเนี่ยขับปัสสาวะบ่อยใครเคย
00:25:21 → 00:25:23 ถืมจะรู้ว่าคุณจะเข้าห้องน้ำบ่อยมากแน่
00:25:23 → 00:25:26 นอนพอคุณเข้าห้องน้ำบ่อยพอร่างกายขับน้ำ
00:25:26 → 00:25:29 ผิวของคุณก็จะแห้งทำให้ผิวเหี่ยวผิวแก่
00:25:29 → 00:25:33 ง่ายไม่พอยังไปรบกวนการทำงานของคอลลาเจน
00:25:33 → 00:25:37 ในร่างกายด้วยซึ่งคอลลาเจนพอมันถูกรบกวน
00:25:37 → 00:25:40 หรือถูกทำลายบ่อยๆสะสมเนี่ยแน่นอนทำให้
00:25:40 → 00:25:44 ผิวของคุณไม่เต่งตึงไม่ชุ่มชื้นนั่นเลย
00:25:44 → 00:25:48 เป็นสาเหตุที่คนที่ติดแอลกอฮอล์จะดูแก่ไว
00:25:48 → 00:25:52 กว่าเพื่อนจะดูผิวเหี่ยวดูหน้าตาไม่สดใส
00:25:52 → 00:25:55 เหฮี่ยวย่นกว่าคนอื่นอ่ะผิวจะแก่เร็วนั่น
00:25:55 → 00:25:59 เองดังนั้นข้อนี้ก็สรุปง่ายมากๆว่า
00:25:59 → 00:26:03 แอลกอฮอล์เนี่ยไม่ดื่มดีกว่าดื่มอยู่แล้ว
00:26:03 → 00:26:06 เนาะหรือถ้าใครที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
00:26:06 → 00:26:08 หมอเฟิร์นให้ทริกแล้วะกันว่าถ้าจะต้อง
00:26:08 → 00:26:11 ดื่มเพื่อเข้าสังคมหรืออะไรก็ตามเนี่ยถ้า
00:26:11 → 00:26:14 แอลกอฮอล์ที่ดูเหมือนจะมีประโยชน์ที่สุด
00:26:14 → 00:26:18 เลยนะมีข้อเสียบ้างมีข้อเสียแต่ก็ได้ข้อ
00:26:18 → 00:26:21 ดีบ้างก็คือวายแดงอ่ะเพราะว่าวายแดงเนี่ย
00:26:21 → 00:26:24 มีแอนตี้ออกซิเดนอย่างมีสารต้านอนุมูล
00:26:24 → 00:26:28 อิสระอยู่ในนั้นดังนั้นแต่ว่าเอาตามความ
00:26:28 → 00:26:30 เป็นจริงเลยก็คือไม่ดื่มดีที่สุดดื่มน้ำ
00:26:30 → 00:26:33 เปล่าเนาะ
00:26:33 → 00:26:37 โอเคข้อถัดไปหมดละ 7 อาหารนี้ถ้าคุณหลีก
00:26:37 → 00:26:41 เลี่ยงได้จะช่วยทำให้คุณเนี่ยแก่ช้ากว่า
00:26:41 → 00:26:44 เพื่อนสรุปแล้วกันว่า 7 ข้อมีอะไรบ้าง 7
00:26:44 → 00:26:49 ข้อแรกเลยนะก็คือของทอดข้อ 2 ก็คือ
00:26:49 → 00:26:52 โอเมก้า 6 ที่มักพบในน้ำมันพืชที่เขา้า
00:26:52 → 00:26:55 เอามาทอดกันนั่นแหละให้คุณลดลงลดโอเมก้า 6
00:26:55 → 00:27:00 แล้วก็ไปเพิ่มโอเมก้า 3 ข้อที่ 3 ก็คือ
00:27:00 → 00:27:03 อะไรเอ่ยหมอเฟิร์ก็จำไม่ได้แล้วข้อที่ 3
00:27:03 → 00:27:06 ก็คือชากาแฟเนาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
00:27:06 → 00:27:10 ให้ลดลงถ้าดื่มดื่มได้แต่ว่าต้องดื่มน้ำ
00:27:10 → 00:27:13 ทดแทนด้วยถ้า 1 ถ้าดื่มกาแฟ 1 แก้วก็ดื่ม
00:27:13 → 00:27:16 น้ำเพิ่มเข้าไปอีก 1 แก้วข้อ 4 ก็คือน้ำ
00:27:16 → 00:27:17 อัดลมหรือน้ำ
00:27:17 → 00:27:20 หวานหรือน้ำตาลนั่นแหละพูดง่ายๆข้อ 5 ก็
00:27:21 → 00:27:25 คือเกลือโซเดียมที่มักพบในอาหารแปรรูปข้อ
00:27:25 → 00:27:29 6 ก็คือสารเคมีต่างๆที่เค้าเติมแต่งเข้า
00:27:29 → 00:27:31 ไปในอาหารหรือเรียกว่าวัตถุเจือปนอาหาร
00:27:31 → 00:27:36 อย่างพวกสารทดแทนความหวานแทนน้ำตาลสาร
00:27:36 → 00:27:39 วัตถุการเสียวัตถุแต่งรสแต่งสีแต่งกิน
00:27:39 → 00:27:42 ทั้งหลายนั่นแหละข้อ 7 ก็คือแอลกอฮอล์
00:27:42 → 00:27:47 นั่นเองโอเคจบ 7 ข้อละอ่ะอย่างที่บอกไป
00:27:47 → 00:27:51 คุณรู้ละว่า 7 ข้อเนี้ยยิ่งกินน้อยยิ่งแก
00:27:52 → 00:27:56 ช้ายิ่งหน้าเด็กแล้วบางคนมีคำถามสงสัยหมอ
00:27:56 → 00:28:00 เฟิร์นเหมือนกันว่าแล้วหมอเฟิร์นเนี่ยกิน
00:28:00 → 00:28:03 อะไรบ้างถ้าเกิดว่าเราอยากจะแข็งแรงอายุ
00:28:03 → 00:28:07 ยืนหน้าเด็กวิตามินอะไรบ้างที่หมอเฟิร์น
00:28:07 → 00:28:11 กินเพราะหมอเฟิร์นเนี่ยเน้นมาตลอดเนาะว่า
00:28:11 → 00:28:13 ให้คุณกินอาหารเป็นยาแล้วอย่างหมอเฟิร์น
00:28:13 → 00:28:15 เนี่ยกินวิตามินเสริมบ้างมยบอกเลยตรงนี้
00:28:16 → 00:28:21 เลยนะกินแต่เลือกที่ดีที่สุดเอาว่าเอางี้
00:28:21 → 00:28:24 เพราะว่าเราต้องการประโยชน์บางอย่างที่
00:28:24 → 00:28:27 เพิ่มขึ้นซึ่งหมอเฟิร์น 1 ใน 1 วันเนี่ย
00:28:27 → 00:28:29 หมอเฟิร์นกินเพิ่มแค่ 2 ตัวเพราะรู้สึก
00:28:29 → 00:28:32 รู้สึกว่าเราขาดเราไม่ได้กินจากอาหารเยอะ
00:28:32 → 00:28:34 ขนาดนั้นในปริมาณที่เราต้องการเราก็เลือก
00:28:34 → 00:28:38 วิตามินจากธรรมชาติให้มากที่สุดก็คือตัว
00:28:38 → 00:28:40 แรกเลยนะก็คือวิตามินซีอย่างที่บอกว่า
00:28:41 → 00:28:43 วิตามินซีเนี่ยเป็นสุดยอดสารต้านอนุมูล
00:28:43 → 00:28:47 อิสระเลยหมอเฟิร์นกินตัวนี้อยู่ซึ่งทริก
00:28:47 → 00:28:49 ของหมอเฟิร์นก็คือจะพลิกดูข้างขวดอ่ะตัว
00:28:49 → 00:28:52 นี้เลยไม่รู้จะเห็นไหมนะเพราะว่ามันมี
00:28:52 → 00:28:54 กรีนgreีนสกรีนอยู่ข้างหลังเเป็นตัวนี้
00:28:54 → 00:28:57 ที่รับรองออร์แกนิคชัดเจนแล้วถ้าพลิกดู
00:28:57 → 00:29:00 ที่ข้างหลังเนี่ยเค้าจะเขียนชัดเจนเลยว่า
00:29:00 → 00:29:03 สกัดมาจากอะไรบ้างอย่างตัวนี้ที่หมอ
00:29:03 → 00:29:05 เฟิร์นเลือกก็คือเป็นวิตามินซีออร์แกนิค
00:29:05 → 00:29:10 ที่สกัดมาจากผลไม้ทั้งหมดหลายชนิดมาก
00:29:10 → 00:29:14 อย่างเช่นมะนาวส้มเชอรรี่คามูคามูอ่าพวก
00:29:14 → 00:29:18 นี้แหละซึ่งปริมาณที่กินน่ะก็ตัวเนี้ย 2
00:29:18 → 00:29:22 เม็ดให้วิตามินซี 250 มกัปกติแล้วถ้ากิน
00:29:22 → 00:29:27 วิตามินซีไม่ให้ขาดเนี่ยวันนึงเฉลี่ยควร
00:29:27 → 00:29:31 กิน 90 มลกรัต่อวันซึ่งอันเนี้ยใน 1 2
00:29:31 → 00:29:34 เม็ดก็ให้แล้ว 250 มกัที่เรากินเยอะกว่า
00:29:34 → 00:29:37 90 มกัเพราะอะไรเพราะวิตามินซีเนี่ยมัน
00:29:37 → 00:29:43 มีส่วนที่ถ้ากินประจำจะช่วยลดก็คือพูด
00:29:43 → 00:29:46 ง่ายๆช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้คุณเนี่ย
00:29:46 → 00:29:48 แข็งแรงมากขึ้นคือไม่ได้บอกว่ากินวิตามิน
00:29:48 → 00:29:50 ซีแล้วจะไม่เป็นไข้หวัดนะถ้าคุณได้รับ
00:29:50 → 00:29:53 เชื้อยังไงคุณก็เป็นแต่ถ้าคุณกินมีร่าง
00:29:53 → 00:29:56 กายมีปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอจะทำให้
00:29:56 → 00:29:59 อาการหวัดที่คุณเป็นเนี่ยหายเร็วขึ้น
00:29:59 → 00:30:03 อาการที่เป็นจะน้อยกว่าปกติแล้วก็วิตามิน
00:30:03 → 00:30:05 ซีเนี่ยยังมีส่วนไปกระตุ้นการสร้าง
00:30:05 → 00:30:08 คอลลาเจนใหม่ข้อนี้ชอบเป็นพิเศษเพราะว่า
00:30:08 → 00:30:11 เราเป็นสายชาลวัเราก็อายุจะ 30 แล้วไงเรา
00:30:11 → 00:30:14 ก็อยากจะหน้าเด็กไปตลอดเพื่อเป็นบุคคลตัว
00:30:14 → 00:30:18 อย่างให้กับทุกคนด้วยเนาะว่าโอเคเราทำได้
00:30:18 → 00:30:22 นะเาจะได้รู้ว่าออเฟิร์นทำได้คุณก็ทำได้
00:30:22 → 00:30:25 เหมือนกันอ่าเพียงแค่กินวิตามินซีวันละ
00:30:25 → 00:30:28 250 มกั 500 มกัก็พอแล้วคุณอย่าไปกิน
00:30:28 → 00:30:32 เยอะกว่านี้นะเปลืองบอกเลยว่าเปลืองเพราะ
00:30:32 → 00:30:34 ว่าในแต่ละครั้งที่เรากินวิตามินซีเข้าไป
00:30:34 → 00:30:38 เนี่ยร่างกายเอาไปดูดซึมใช้เนี่ยได้แค่
00:30:38 → 00:30:41 250-500 มลกรัเท่านั้นถ้าคุณไปกิน 1,000
00:30:41 → 00:30:45 ไปกิน 2,000 ก็ขับออกทางปัสสาวะเาใช้ได้
00:30:45 → 00:30:47 นิดเดียวดังนั้นหมอเฟิร์นเลยเลือกกินแค่
00:30:47 → 00:30:50 ปริมาณเท่านี้ไงใครที่อยากกินเหมือนหมอ
00:30:50 → 00:30:52 เฟิร์นก็พิมพ์ว่าวิตามินซีได้เดี๋ยวให้
00:30:53 → 00:30:55 ทีมงานส่งรายละเอียดไปให้ดูแล้วคุณก็ไป
00:30:55 → 00:30:58 เทียบกับของคุณว่าเป็นยังไงหรือถ้าอยาก
00:30:58 → 00:31:01 สั่งซื้อก็สั่งผ่านทีมงานคนสวยได้เลยอัน
00:31:01 → 00:31:04 แต่อันเนี้ยเป็นวิตามินซีที่ต้องนำเข้ามา
00:31:04 → 00:31:08 เนาะใครสั่งก็รอประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็ได้
00:31:08 → 00:31:11 ละโอเคคุณบุญเเหลือบอกไม่ชอบดื่มครับโอเค
00:31:12 → 00:31:15 ครับไม่ชอบดื่มต่อไปอีกสิ่งหนึ่งที่อัน
00:31:15 → 00:31:18 นี้แอบบอกเลยนะเนี่ยอีกอย่างหนึ่งที่หมอ
00:31:18 → 00:31:22 เฟิร์นกินประจำก็คือน้ำมันโอเมก้า 3 นั่น
00:31:22 → 00:31:25 เองเพราะอะไรเพราะว่าเรารู้ตัวว่าบางที
00:31:25 → 00:31:28 เรากินผักกินผลไม้กินข้าวน้ำมันกดไขมัน
00:31:29 → 00:31:31 จำเป็นเนี่ยร่างกายผลิตเองไม่ได้เราต้อง
00:31:31 → 00:31:34 กินเพิ่มซึ่งมันไม่ถึงแน่นอนเราก็เลย
00:31:34 → 00:31:38 เลือกกินเป็นน้ำมันแฟกออยอย่างที่บอกว่า
00:31:39 → 00:31:41 น้ำมันเมล็ดแฟกเนี่ยมีโอเมก้า 3 สูงที่
00:31:41 → 00:31:44 สุดโอเมก้า 6 น้อยโอเมก้า 9 น้อยเนาะก็
00:31:44 → 00:31:48 คือตัวนี้นี่เองที่เราเลือกกินใครที่อยาก
00:31:48 → 00:31:52 กินเหมือนหมอเฟิร์นนะอันนี้เดี๋ยวเดี๋ยว
00:31:52 → 00:31:54 จะมีคนถามมาเยอะไงว่าเฟิร์นกินตัวไหนแล้ว
00:31:54 → 00:31:56 ใครอยากกินเหมือนต้องไปซื้อที่ไหนซึ่งตัว
00:31:56 → 00:31:59 ที่หมอเบิร์นกินเนี่ยเป็นสินค้าที่สั่งมา
00:31:59 → 00:32:02 จากต่างประเทศทั้งหมดเพราะก็หาที่ไทย
00:32:02 → 00:32:05 เหมือนกันแต่ว่ามันไม่ได้มาตรฐานเราเรา
00:32:05 → 00:32:07 อยากกินอันที่เราแบบต้องการจริงๆแล้วได้
00:32:07 → 00:32:11 คุณภาพนี้จริงๆตามเช็ดเช็คลิสไงซึ่งสั่ง
00:32:11 → 00:32:13 มาจากต่างประเทศอ่ะก็รอ 2-3 สัปดาห์เท่า
00:32:13 → 00:32:16 นั้นแต่ถ้าคุณอยากกินเหมือนกันเนี่ยก็ลอง
00:32:16 → 00:32:19 ไปถามข้อมูลจากรายละเอียดจากทีมงานได้เลย
00:32:20 → 00:32:23 ซึ่งราคาปกติวิตามินซีที่หมอเฟิร์นกิน
00:32:23 → 00:32:28 เนี่ยกระปุกเนี่ย 990 บาทมีกี่เม็ดนะ 990
00:32:28 → 00:32:31 บาทมี 60 เม็ดก็กินได้ 1 เดือนเนาะกระปุก
00:32:31 → 00:32:34 เนี้ยแล้วอย่างน้ำมันเมื่อกี้น้ำมันเมล็ด
00:32:35 → 00:32:38 แฟกที่ให้โอเมก้า 3 ก็กินได้ครึ่งเดือน
00:32:38 → 00:32:43 กับขวดนี้ก็ 890 แต่ถ้าคุณสนใจรับ 2
00:32:43 → 00:32:47 อย่างนี้นะ 2 อย่างนี้ราคาพิเศษแล้วกัน 10
00:32:47 → 00:32:51 คนนะ 10 คนจากปกติเนี่ย 2 อย่างเนี้ย
00:32:51 → 00:32:54 ประมาณเกือบ 2,000 แต่ถ้า 10 คนแรกหมอ
00:32:54 → 00:32:56 เฟิร์นให้พิเศษเลย
00:32:56 → 00:33:01 1,55 บาทใครสนใจพิมพ์แพ็คคู่มาอ่าโอเค
00:33:02 → 00:33:04 พิมพ์แพ็คคู่เนโอเคจบละเรื่องนี้หรือคุณ
00:33:04 → 00:33:09 จะไปหาซื้อกินตามก็ได้ที่เจ้าอื่นๆแบรนด์
00:33:09 → 00:33:11 อื่นๆขอดูรายละเอียดข้างหลังกล่องข้าง
00:33:11 → 00:33:13 หลังขวดก็ได้ว่าหมอเฟิร์นกินแบบไหนแล้ว
00:33:13 → 00:33:15 คุณก็ไปเทียบเอาหรือใครอยากกินเหมือนก็
00:33:15 → 00:33:19 ถามทีมงานได้เลยซึ่งให้แค่ 10 คนเพราะว่า
00:33:19 → 00:33:22 สินค้าเป็นมาจากต่างประเทศมีน้อยมากๆต่อ
00:33:22 → 00:33:25 ไปไม่มีอะไร
00:33:25 → 00:33:28 ใครที่เป็นสายกินอาหารจริงไม่เน้นอาหาร
00:33:28 → 00:33:32 เสริมสิ่งหนึ่งที่ถ้าคุณมีความรู้เหล่า
00:33:32 → 00:33:35 เนี้ยติดตัวไว้จะช่วยคุณได้เยอะมากๆก็คือ
00:33:35 → 00:33:38 สิ่งที่หมอเฟิร์นเคยทำไว้ก็เป็นหนังสือ
00:33:38 → 00:33:41 เสียงวิชามารหน้าเด็กเนาะไม่ค่อยได้
00:33:41 → 00:33:44 โปรโมทเลยเพราะว่านั่นแหละบางทีก็ไม่ค่อย
00:33:45 → 00:33:49 มีเวลาไงแต่จริงๆมันดีมากๆขายดีมากๆเล่ม
00:33:49 → 00:33:51 เนี้ยคุณสามารถฟังผ่าน YouTube ก็ได้ฝาก
00:33:51 → 00:33:53 ผ่าน Facebook ก็ได้ฟังผ่านออนไลน์เนาะ
00:33:53 → 00:33:55 เนาะถ้าเพียงแค่คุณมีโทรศัพท์มี
00:33:55 → 00:33:57 คอมพิวเตอร์เนี่ยคุณฟังทุกที่ไม่มีหมด
00:33:57 → 00:34:01 อายุซึ่งต้องบอกก่อนทอปิวันนี้ถ้าคุณไม่
00:34:01 → 00:34:04 อยากแก่เร็วเล่มนี้ช่วยคุณได้คุณไม่
00:34:04 → 00:34:06 จำเป็นต้องป่วยแล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องแก่
00:34:06 → 00:34:09 มันเหมือนเป็นแก่นของการมีสุขภาพดีแล้ว
00:34:09 → 00:34:12 หน้าเด็กถ้าคุณปฏิบัติตามกฎทั้ง 17 ข้อใน
00:34:12 → 00:34:15 นี้นะเหมือนเป็นคอร์สออนไลน์คอร์สเล็กๆ
00:34:15 → 00:34:20 เลยอ่ะจริงๆราคาเล่มเนี้ยไปที่ 2,990 บาท
00:34:20 → 00:34:22 ละแต่ถ้าใครที่มาฟังไลฟ์นี้หมอเฟิร์นให้
00:34:22 → 00:34:25 พิเศษเลยละกันก็คือ
00:34:25 → 00:34:29 1,999 บาทซึ่งเดี๋หมอเฟิร์นจะให้โบนัส
00:34:29 → 00:34:32 พิเศษเดี๋ยวใส่เนื้อหาเพิ่มเข้าไปอีกถ้า
00:34:32 → 00:34:36 ใครที่ซื้อวันนี้นะได้ราคาพิเศษอ่าสวัสดี
00:34:36 → 00:34:40 ค่ะพี่ปาเนาะแล้วก็ใบไผ่อ้าใบไผ่ถามคำถาม
00:34:40 → 00:34:42 เลยถ้ากินให้ผิวใสต้องกินเท่าไหร่อ้อตอบ
00:34:42 → 00:34:46 ไปแล้วโอเคไปย้อนฟังได้ว่ากินให้ผิวสวยใส
00:34:46 → 00:34:49 เท่าไหร่โอเควันนี้ก็ถ้ามีคำถามไม่มีคำ
00:34:50 → 00:34:52 ถามเพิ่มเติมหมอเฟิร์นก็จะไปแล้วเนาะไลฟ์
00:34:52 → 00:34:56 นานแล้วถ้าหรือถ้าใครมีคำถามมาฟังไลฟ์
00:34:56 → 00:34:59 ย้อนหลังก็พิมพ์ไว้ที่คอมเมนต์ได้เลยแล้ว
00:34:59 → 00:35:01 คราวหน้าหมอเฟิร์นจะเอาคำถามนั้นมาตอบ
00:35:01 → 00:35:04 หรือเอามาไลฟ์เอามาทำคลิปให้คุณก็พิมพ์
00:35:04 → 00:35:07 ส่งคำถามไว้ได้ขอบคุณทุกคนที่มาฟังไลฟ์ใน
00:35:07 → 00:35:10 วันนี้แล้วก็มาฟังย้อนหลังเนาะวันนี้ก็ขอ
00:35:10 → 00:35:13 อวยพรให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและน่าเด็ก
00:35:13 → 00:35:18 ลงเด็กลงทุกวันรักทุกคนค่ะสวัสดี
00:00:00 → 00:00:04 ถามที่ว่าหลายคนพอจะรู้นะว่ากินอะไรแล้ว
00:00:04 → 00:00:08 ชะลอวัยอย่างวิตามินซีอย่างผักผลไม้กิน
00:00:08 → 00:00:12 น้ำเยอะๆพักผ่อนให้เพียงพออ่าอาหารอะไรก็
00:00:12 → 00:00:16 ตามที่ให้ไฟเบอร์สูงผักผลไม้ที่มีวิตามิน
00:00:16 → 00:00:20 สูงๆก็จะช่วยชะลอไวทำให้คุณแกะช้าลงแล้ว
00:00:20 → 00:00:23 อะไรบ้างล่ะที่ไม่ควรทานหรือที่หมอเฟิร์น
00:00:23 → 00:00:26 บอกว่ากินเข้าไปเยอะๆแล้วกระตุ้นให้ร่าง
00:00:26 → 00:00:28 กายอักเสบแล้วแก่เร็ววันนี้หมอเฟิร์นเอา
00:00:28 → 00:00:31 มาฝากคุณ 7 อย่างซึ่งถ้าคุณหลีกเลี่ยง
00:00:31 → 00:00:34 หรือลดละเลิกได้หมอเฟิร์นเชื่ออย่างยิ่ง
00:00:34 → 00:00:37 ว่าคุณจะน่าเด็กลงเด็กลงทุกวันเหมือนกับ
00:00:37 → 00:00:40 หมอเฟิร์นเนี่ยเองแหละอ่าซึ่งอะต้องบอก
00:00:40 → 00:00:43 ก่อนว่า 7 สิ่งนี้ถ้าคุณฟังจนจบแล้วคุณ
00:00:43 → 00:00:45 หลีกเลี่ยงได้นะไม่เพียงแต่คุณจะหน้าเด็ก
00:00:45 → 00:00:50 หลงแต่ยังไปช่วยให้คุณเนี่ยแข็งแรงลดความ
00:00:50 → 00:00:53 เสี่ยงที่คุณจะเป็นโรคร้ายอย่างโรคเรื้อ
00:00:53 → 00:00:55 รังต่างๆอย่างเช่นพวกอะไรบ้างเบาหวานความ
00:00:55 → 00:00:59 ดันหัวใจมะเร็งโอ้โหเยอะแยะเลยมาข้อแรก
00:00:59 → 00:01:02 เลยวันนี้เราจะไม่มีหัวข้อแต่เราจะขึ้น
00:01:02 → 00:01:05 ให้เป็นภาพเนาะให้คุณทายข้อแรกก็คือสิ่ง
00:01:05 → 00:01:09 นี้สิ่งที่อยู่ในภาพนี้แน่นอนว่าข้อ 1 นะ
00:01:09 → 00:01:12 ของทอดใครเข้าใจพิมพ์ของทอดมาไว้รอเลย
00:01:12 → 00:01:15 เดี๋มาเฟิร์นจะอธิบายให้ฟังช้าๆง่ายๆเอา
00:01:15 → 00:01:18 ให้เข้าใจง่ายที่สุดคุณจะได้เอาไปปฏิบัติ
00:01:18 → 00:01:22 ตามได้ง่ายที่สุดก็คือของทอดเนี่ยเวลาที่
00:01:22 → 00:01:26 เรากินเข้าไปบ่อยๆกินเข้าไปซ้ำๆกินเข้าไป
00:01:26 → 00:01:29 อย่างสม่ำเสมอสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือมัน
00:01:29 → 00:01:34 จะค่อยๆไปสะสมอยู่ตามลำไส้ของคุณคุณรู้ม
00:01:34 → 00:01:37 ว่าลำไส้ของเรายาวมากถ้าเปรียบเทียบพื้น
00:01:37 → 00:01:41 ที่ก็คือเทียบเท่ากับสนามเทนนิส 2 สนาม
00:01:41 → 00:01:47 ซึ่งพื้นที่มันใหญ่และยาวมากๆพอมันเหล่า
00:01:47 → 00:01:50 เนี้ยที่เป็นไขมันไม่ดีเนี่ยไปสะสมอยู่ใน
00:01:50 → 00:01:53 ลำไส้ของคุณทำให้ลำไส้ของคุณไม่สะอาดไม่
00:01:53 → 00:01:56 เพียงแต่จะทำให้คุณแก่เร็วยังทำให้คุณไม่
00:01:57 → 00:02:00 แข็งแรงกระตุ้นให้ร่างกายอักเสบเพิ่มขึ้น
00:02:00 → 00:02:03 อีกซึ่งยิ่งไปกว่านั้นน้ำมันเนี่ยไม่
00:02:03 → 00:02:07 เพียงแต่อุดตันที่ลำไส้นะยังไปอุดตันตาม
00:02:07 → 00:02:11 หลอดเลือดของคุณได้ด้วยพอมันไปเกาะอยู่
00:02:11 → 00:02:14 ตามหลอดเลือดเยอะๆเนี่ยเลยทำให้บางคนเป็น
00:02:14 → 00:02:18 โรคหลอดเลือดตยิบแตกตันอ่ามาครบเลยซึ่ง
00:02:18 → 00:02:22 ถ้าคุณสังเกตดีๆนะรอบตัวรอบข้างของคุณ
00:02:22 → 00:02:27 เนี่ยถ้าคุณดูดีๆสังเกตง่ายๆคนที่เขา้า
00:02:27 → 00:02:31 รักสุขภาพคนที่เค้าหน้าเด็กเค้าจะแทบไม่
00:02:31 → 00:02:35 กินของเหล่านี้เลยคุณลองสังเกตเพื่อนคุณ
00:02:35 → 00:02:37 ที่หน้าเด็กๆหรือใครก็ตามที่ดูแข็งแรง
00:02:37 → 00:02:40 อายุยืนเขาจะแทบไม่กินสิ่งเหล่านี้เลย
00:02:40 → 00:02:44 ซึ่งแนะนำง่ายๆก็คือให้คุณหลีกเลี่ยง
00:02:45 → 00:02:48 อาหารประเภททอดหรืออาหารที่ใช้ความร้อน
00:02:48 → 00:02:54 สูงให้เปลี่ยนไปเป็นประเภทต้มตุ๋นนึ่งอ่ะ
00:02:54 → 00:02:59 ใครเข้าใจพิมพ์ต้มตุ๋นนึ่งอ่าซึ่งมันไม่
00:02:59 → 00:03:03 แค่มันไม่ใช่แค่จะทำให้คุณแกนเร็วมันยัง
00:03:03 → 00:03:06 ทำให้คุณเสี่ยงโรคร้ายอย่างโรคหลอดเลือด
00:03:06 → 00:03:10 สมองหัวใจสโตรกที่เรารู้กันเนาะแล้วก็ยัง
00:03:10 → 00:03:13 นำพาคุณไปสู่โรคมดริงได้ด้วยถ้าคุณกินของ
00:03:13 → 00:03:17 ทอดสิ่งใดก็ตามที่นำไปผ่านความร้อนสูงจะ
00:03:17 → 00:03:21 เกิดสารผิดขึ้นซึ่งเป็นสารที่ทำให้ไปก่อ
00:03:21 → 00:03:25 มะเร็งในอนาคตอันนี้อันตรายมากๆถึงแม้ว่า
00:03:25 → 00:03:28 ของทอดเนี่ยจะเป็นของชอบของหลายๆคนแต่หมอ
00:03:28 → 00:03:31 เฟิร์นก็ไม่ได้บอกให้คุณห้ามกินนะให้กิน
00:03:32 → 00:03:35 ให้น้อยที่สุดอ่ะหรือเลิกได้ก็เลิกลดละ
00:03:35 → 00:03:38 เลิกค่อยๆเลิกทีละนิดทีละหน่อยคุณก็จะทำ
00:03:38 → 00:03:40 ได้เองเนาะข้อที่
00:03:40 → 00:03:45 2 ชูของอร่อยมาก่อนเลยข้อแรกข้อที่ 2 ก็
00:03:45 → 00:03:51 คือสิ่งนี้เองกรดไขมันไม่อิ่มตัวอย่าง
00:03:51 → 00:03:55 โอเมก้า 6 อ้าจริงๆแล้วต้องบอกนะว่า
00:03:55 → 00:03:59 โอเมก้า 6 เนี่ยมีประโยชน์ต่อร่างกายถ้า
00:03:59 → 00:04:04 คุณทานหรือกินในปริมาณที่น้อยในปริมาณที่
00:04:04 → 00:04:07 พอดีแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณไปกินเยอะจน
00:04:07 → 00:04:10 เกินไปเนี่ยมันจะไม่ดีต่อร่างกายแล้วอะไร
00:04:10 → 00:04:13 ที่เยอะเกินไปเนี่ยมันจะไปกระตุ้นให้ร่าง
00:04:13 → 00:04:16 กายของคุณอักเสบเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นนั่น
00:04:16 → 00:04:21 เองซึ่งอ่ะเหมือนในภาพนี้เนาะโอเมก้า 6
00:04:21 → 00:04:23 พบจากไหนบ้างล่ะหมอเฟิร์นโอเมก้า 6 ส่วน
00:04:23 → 00:04:27 ใหญ่แล้วจะอยู่ในน้ำมันพืชยืดที่พบเยอะๆ
00:04:27 → 00:04:32 เลยนะก็คือน้ำมันถั่วเหลืองที่ยุคนี้เนาะ
00:04:32 → 00:04:35 ก่อนต้องเล่าอย่างงี้หมอ
00:04:35 → 00:04:40 เฟิร์นเช็คสถิติมาว่าก่อนหน้าเนี้ยผล
00:04:40 → 00:04:44 สำรวจย้อนหลังเนาะเค้ามีการนำน้ำมันถั่ว
00:04:44 → 00:04:46 เหลืองเนี่ยมาใช้ในอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นคน
00:04:46 → 00:04:49 เราก็มาทอดเอามาอะไรอย่างเงี้ยเพราะว่า
00:04:49 → 00:04:52 มันน่าจะมีหลายอย่างช่วยทั้งประหยัดช่วย
00:04:53 → 00:04:55 ผลิตอะไรเยอะแยะอ่ะแต่
00:04:55 → 00:04:59 ว่าคุณต้องรู้ข้อนี้ต้องเอายิ่งต้องยิ่ง
00:04:59 → 00:05:02 ต้องเอามาเตือนว่าผลของมันน่ะร้ายแรงมาก
00:05:02 → 00:05:06 แต่ก่อนน่ะคนเรากินโอเมก้า 6 ในสัดส่วน
00:05:06 → 00:05:09 ต่อโอเมก้า 3 นะเพียงแค่ 4:1 หรือ 1: 4
00:05:09 → 00:05:14 เท่านั้นเองซึ่งปัจจุบันถ้านับย้อนไปก็
00:05:14 → 00:05:18 หลายปีนะอัตราการบริโภคโอเมก้า 6 เนี่ย
00:05:18 → 00:05:23 สูงขึ้นมากถึง 200% นะอ่ะหรือพูดง่ายๆก็
00:05:23 → 00:05:27 คือ 3 เท่านั่นเองซึ่งมันมีผลไปกระตุ้น
00:05:27 → 00:05:31 ให้เกิดโรคหัวใจมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
00:05:31 → 00:05:36 ต้องพูดแบบนี้ซึ่งวิธีแก้ก็ง่ายมากๆก็คือ
00:05:36 → 00:05:40 ให้คุณเนี่ยไปลดปริมาณการบริโภคโอเมก้า 6
00:05:40 → 00:05:43 ลดลงแล้วไปเพิ่มปริมาณโอเมก้า 3 เพิ่ม
00:05:43 → 00:05:46 ขึ้นซึ่งที่ปริมาณที่เขาแนะนำนะก็คือ
00:05:46 → 00:05:50 โอเมก้า 6 4/ โอเมก้า 3 1 อ่าถ้าอัตรา
00:05:50 → 00:05:53 ส่วนง่ายๆแบบนี้แล้วแล้วเราจะรู้ได้ยังไง
00:05:53 → 00:05:53 อ่ะ
00:05:53 → 00:05:55 เดี๋ยวหมอเฟิร์นยกตัวอย่างอาหารที่
00:05:55 → 00:06:00 โอเมก้า 6 กับ 3 6 สูงๆให้คุณดูก่อนปิด
00:06:00 → 00:06:04 ภาพนี้ก่อนเนาะก็คือภาพนี้เลยหลายคนไม่
00:06:04 → 00:06:08 รู้มันแฝงมาอย่างอันนี้มาการีนจริงๆไม่
00:06:08 → 00:06:10 ควรไม่ควรกินอยู่แล้วเนาะมากีนเนี่ย
00:06:10 → 00:06:12 โอเมก้า 6 ถึง
00:06:12 → 00:06:16 14 เป 14 ส่วนต่อโอเมก้า 31 ส่วนนี้ก็
00:06:16 → 00:06:21 แฝงอยู่ในพวกขนมเอยในเนื้ออ่ามีเยอะแยะ
00:06:21 → 00:06:24 เลยคุณดูจากภาพเอาละกันแล้วอาหารชนิดไหน
00:06:24 → 00:06:29 ลาที่ควรกินเป็นไขมันดีขอเฟิร์นขึ้นภาพ
00:06:29 → 00:06:32 ให้อ่ะอันนี้สังเกตง่ายๆเลยน้ำมันที่เรา
00:06:32 → 00:06:38 ควรกินดูได้จากสีอะไรเอ่ยโอเมก้า 3 สีฟ้า
00:06:38 → 00:06:42 โอเมก้า 6 สีม่วงอ่ะน้ำมันอ่ะให้ดูจากภาพ
00:06:42 → 00:06:45 เลยโอเมก้า 3 ในน้ำมันชนิดไหนเยอะที่สุด
00:06:45 → 00:06:50 ให้สังเกตสีฟ้าเฉลยแล้วะกันก็คือแฟกseีed
00:06:50 → 00:06:52 oil ก็คือน้ำมันเมร็ดแฟกเนาะอันนี้ก็ที่
00:06:52 → 00:06:58 หมอเฟิร์นกินอยู่ซึ่งน้ำมันที่คนที่มัก
00:06:58 → 00:07:00 ใช้กันเลยนะน้ำ
00:07:00 → 00:07:05 มันอะไรเอ่ยเนี่ยข้างบนสุดแล้วก็น้ำมัน
00:07:05 → 00:07:10 คาโนล่าเนาะน้ำมันดอกทานตะวันน้ำมันข้าว
00:07:10 → 00:07:14 โพดซอยบีนอ่าคุณลองเทียบเอาเองแล้วกัน
00:07:14 → 00:07:17 ซึ่งถ้าถ้าถามหมอเฟิร์นนะตรงนี้เลยนะถ้า
00:07:17 → 00:07:19 ที่หมอเฟิร์นแนะนำที่สุดน้ำมันที่ควรทาน
00:07:19 → 00:07:23 ก็คือแฟกseีedแต่ข้อเสียของมันก็คือไม่
00:07:23 → 00:07:26 ควรนำไปประกอบอาหารโดยใช้ความร้อนสูง
00:07:26 → 00:07:30 เพราะว่ามันมีจุดที่ทำให้เกิดควันเนี่ย
00:07:30 → 00:07:33 ต่ำค่อนข้างต่ำก็คือใช้กับความร้อนไม่ได้
00:07:33 → 00:07:36 แนะนำให้กินแบบเพียวๆหรือว่ากินกับสลัด
00:07:36 → 00:07:39 โดยที่ไม่ผ่านความร้อนเนาะถ้าเลือกได้
00:07:39 → 00:07:43 แล้วต้องนำไปทอดไปผัดเล็กๆน้อยๆเนี่ยให้
00:07:43 → 00:07:48 พิจารณาเป็นโอลิฟออยแบบนี้ก็ได้
00:07:48 → 00:07:50 อ่าขอบคุณ
00:07:51 → 00:07:55 คุณดวงพลเนาะโอเคถ้าอ่านผิดขออภัยด้วยนะ
00:07:55 → 00:07:59 คะตุ๋นต้มตุ๋นนึ่งถูกต้องมากๆโอเคอ่ะสรุป
00:07:59 → 00:08:02 ง่ายๆอย่างงี้น้ำมันโอเมก้า 6 เนี่ยพบมาก
00:08:02 → 00:08:05 ในไหนบ้างพบมากในน้ำมันถั่วเหลืองน้ำมัน
00:08:06 → 00:08:09 ข้าวโพดน้ำมันดอกทานตะวันอ่าอันนี้ก็ให้
00:08:09 → 00:08:11 คุณใช้ให้น้อยที่สุดถ้าไม่จำเป็นหรือถ้า
00:08:11 → 00:08:15 จำเป็นจริงๆก็ให้ใช้น้อยที่สุดอ่ะเอาง่าย
00:08:15 → 00:08:18 ๆแล้วก็โอเมก้า 3 แนะนำเป็นโอเมก้า 3 แทน
00:08:18 → 00:08:22 ก็คือพวกน้ำมันปลาเปลาทะเลปลาแซลมอนน้ำ
00:08:22 → 00:08:27 มันวอนัน้ำมันเมล็ดเซียเมล็ดแฟลกน้ำมัน
00:08:27 → 00:08:29 มะกอกน้ำมันมะพร้าวอย่างนี้ก็ได้อย่างที่
00:08:29 → 00:08:34 หมอเฟิร์นทานประจำก็คือน้ำมันแฟกseีed
00:08:34 → 00:08:42 เนาะนี่ก็คือภาพในดังนี้เองที่แนะนำเนาะ
00:08:42 → 00:08:45 โอเคมาถึงตรงนี้แล้วทำไมต้อง 5 โอเมก้า 6
00:08:45 → 00:08:48 นักหนาอ่ะขึ้นรูปนี้ให้ก่อนแล้วกันบางคน
00:08:48 → 00:08:49 อาจ
00:08:49 → 00:08:54 จะไม่เข้าใจอ่ะพอเวลาหลอดเลือดเราอักเสบ
00:08:54 → 00:08:57 คุณดูอย่างี้หลอดโอเมก้า 3 เนี่ยมีส่วน
00:08:57 → 00:09:00 ช่วยให้หลอดเลือดอันนี้สีแดงๆเนี่ยภาพนี้
00:09:00 → 00:09:03 ก็คือหลอดเลือดข้างในของเราโอเมก้า 3 มี
00:09:03 → 00:09:07 ส่วนช่วยให้หลอดเลือดของเราเนี่ยขยายตัว
00:09:07 → 00:09:11 มากขึ้นแล้วก็ส่วนโอเมก้า 6 เนี่ยทำให้
00:09:11 → 00:09:14 หลอดเลือดของเราเนี่ยเหมือนอย่างี้เลย
00:09:14 → 00:09:18 เกิดการหดตัวเกิดการแข็งตัวได้ดังนั้นก็
00:09:18 → 00:09:22 เป็นเหตุผลหนึ่งที่หมอเฟิร์นเชียร์ให้ลด
00:09:22 → 00:09:26 การบริโภคโอเมก้า 6 ลงกินได้นะแต่ว่าให้
00:09:26 → 00:09:29 กินน้อยลงให้กินอัตราส่วนที่มันสมดุลกัน
00:09:29 → 00:09:32 หน่อยโอเมก้า 3 4/ โอเมก้า 6 เอ้ย
00:09:32 → 00:09:34 โอเมก้า 6 4/ โอเมก้า 3 1 ส่วนเพราะ
00:09:34 → 00:09:39 ปัจจุบันนี้คนกินแบบว่าโอเมก้า 6 16 12
00:09:39 → 00:09:42 ส่วนโอเมก้า 3 1 ส่วนแบบเนี้ยมันเริ่มจะ
00:09:42 → 00:09:44 ผิดเพี้ยนขึ้นไปเรื่อยๆแล้วในยุคนี้เนาะ
00:09:44 → 00:09:45 ในยุค
00:09:45 → 00:09:50 อุตสาหกรรมข้อถัดไปก็คือขึ้นรูปให้คุณทาย
00:09:51 → 00:09:53 ดีกว่าข้อที่ 3 สิ่งที่ควรหลีกหนีถ้าคุณ
00:09:53 → 00:09:56 ไม่อยากน่าแก่กว่าเพื่อนๆเนาะก็คือสิ่ง
00:09:56 → 00:10:00 นี้นั่นเองพูดง่ายๆสิ่งนี้ก็คือเครื่อง
00:10:00 → 00:10:04 ดื่มที่ให้สารคาเฟอีนซึ่งมักพบในบ้างมัก
00:10:05 → 00:10:11 พบมากในกาแฟในเครื่องดื่มชูกำลังในชาอ่า
00:10:11 → 00:10:15 นั่นแหละตามภาพเลยยิ่งมีคาเฟอีนสูงก็ยิ่ง
00:10:15 → 00:10:18 ไปกระตุ้นให้แก่แต่เร็วแต่เรามีทิกนะไม่
00:10:18 → 00:10:21 ใช่ว่าหลายคนจริงอยู่ที่หลายคนอาจจะเถียง
00:10:21 → 00:10:24 ว่าชายกาแฟเนี่ยมันมีสารต่อต้านอนุมูล
00:10:24 → 00:10:27 อิสระไม่ใช่หรอเหมืนใช่คุณพูดถูกแต่เมื่อ
00:10:27 → 00:10:32 ไหร่ที่คุณดื่มเยอะจนเกินไปและคุณไม่ดื่ม
00:10:33 → 00:10:36 น้ำไปทดแทนเลยเนี่ยต้องบอกก่อนว่าคาเฟอีน
00:10:37 → 00:10:41 เนี่ยมีผลไปกระตุ้นมีส่วนชวยอ่ะพูดอย่าง
00:10:41 → 00:10:45 งี้มีส่วนไปกระตุ้นขับปัสสาวะอ่อนๆดัง
00:10:45 → 00:10:47 นั้นสังเกตได้ชัดชัดเลยเวลาที่คุณดื่ม
00:10:47 → 00:10:50 กาแฟเอยดื่มชาเอยดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง
00:10:50 → 00:10:54 เอยคุณจะปวดปัสสาวะบ่อยมากวันนั้นดังนั้น
00:10:54 → 00:10:57 ทริกง่ายๆก็คือให้คุณถ้าดื่มกาแฟ 1 แก้ว
00:10:57 → 00:11:01 ให้ดื่มน้ำทดแทนไปด้วยเพิ่มอีก 1 แก้วจาก
00:11:01 → 00:11:04 ปกติคุณดื่มน้ำวันละ 2-3 ลิตรอยู่แล้วถ้า
00:11:04 → 00:11:07 ดื่มชาเขียว 1 แก้วก็ดื่มเพิ่มเข้าไปอีก 1
00:11:07 → 00:11:09 ดื่มน้ำเปล่าเพิ่มเข้าไปอีก 1 แก้วเพราะ
00:11:09 → 00:11:12 อะไรเพราะเวลาที่ร่างกายถูกกระตุ้นคุณไป
00:11:12 → 00:11:15 ปวดปัสสาวะคุณไปเข้าห้องน้ำบ่อยๆเนี่ย
00:11:15 → 00:11:19 ร่างกายกายขับน้ำออกจะมีผลทำให้ร่างกาย
00:11:19 → 00:11:22 เนี่ยสูญเสียน้ำเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมซึ่ง
00:11:22 → 00:11:25 เวลาที่ร่างกายเราสูญเสียน้ำเนี่ยแน่นอน
00:11:25 → 00:11:28 มันมีผลต่อผิวของเราจะทำให้ผิวของเราแห้ง
00:11:28 → 00:11:32 พอผิวเราแห้งจะทำให้เราเนี่ยผิวเหี่ยว
00:11:32 → 00:11:36 แล้วก็หน้าแก่ไวนั่นเองดัง
00:11:36 → 00:11:40 นั้นทิกที่บอกไปก็คือให้ดื่มน้ำตามเพิ่ม
00:11:40 → 00:11:44 ขึ้นด้วยใครเข้าใจถึงตรงนี้ให้พิมพ์มาว่า
00:11:44 → 00:11:48 ดื่มน้ำเทียบเท่าอ่ะยาวไปดื่มน้ำเพิ่ม
00:11:48 → 00:11:51 พิมพ์แค่ว่าดื่มน้ำเพิ่มก็พอเนาะโอเคทิก
00:11:51 → 00:11:54 ง่ายๆคือไม่ได้ห้ามว่าคุณดื่มไม่ได้นะมัน
00:11:54 → 00:11:56 มีประโยชน์ก็จริงแต่ว่าเราต้องรู้ด้วยว่า
00:11:56 → 00:12:00 ควรดื่มยังไงให้หน้าเราไม่แก่ได้ประโยชน์
00:12:00 → 00:12:03 เยอะที่สุดได้ข้อเสียน้อยที่สุดโอเคเนาะ
00:12:03 → 00:12:07 ซึ่งอีกอย่างหนึ่งที่ต้องเตือนเลยหลายคน
00:12:07 → 00:12:10 ดื่มกาแฟกาแฟมีประโยชน์ชามมีประโยชน์ก็
00:12:10 → 00:12:14 ดื่มนั่นแหละแต่คุณดันไปใส่พวกน้ำตาล
00:12:14 → 00:12:18 นมครีมเทียมอ่าอันนี้พูดถึงแค่ 3 ตัวเยัง
00:12:18 → 00:12:22 ไม่รวมกับสารอื่นๆที่ปนมาใน
00:12:22 → 00:12:26 พวกกาแฟหรือว่าเครื่องดื่ม inone ต่างๆนะ
00:12:26 → 00:12:29 อันนี้พูดถึงแค่พวกน้ำตาลกับครีมทีมกับนม
00:12:29 → 00:12:32 นะซึ่งสิ่งเหล่าเนี้ยของแถมที่คุณจะต้อง
00:12:32 → 00:12:34 ได้ก็
00:12:34 → 00:12:38 คือคุณจะทำให้คุณเนี่ยอ้วนขึ้นในอนาคตได้
00:12:38 → 00:12:41 แล้วก็นำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆในอนาคตได้
00:12:41 → 00:12:46 นั่นเองซึ่งแน่นอนถ้าเราเลือกที่จะกิน
00:12:46 → 00:12:52 แล้วเนี่ยเราก็ต้องยอมรับผลตามมาจริงๆไม่
00:12:52 → 00:12:55 หมอเฟิร์นไม่เคยห้ามเลยว่าคุณจะกินกาแฟ
00:12:55 → 00:12:58 ใส่อะไรใส่ได้หมดคุณจะกินชาอะไรใส่ได้หมด
00:12:58 → 00:13:01 แต่คุณต้องรู้อย่างนี้ว่าข้อดีมันมีแต่
00:13:01 → 00:13:03 ถ้าคุณไปใส่อย่างอื่นที่มันเป็นข้อเสีย
00:13:03 → 00:13:06 คุณก็ต้องยอมรับว่ามันอาจจะเกิดสิ่งนี้ใน
00:13:06 → 00:13:09 อนาคตได้ดังนั้นเลือกตั้งแต่วันนี้ถ้าจะ
00:13:09 → 00:13:12 ดื่มกาแฟให้ดื่มกาแฟดำถ้าจะดื่มพวกชาก็
00:13:12 → 00:13:16 ให้ดื่มดื่มชาเขียวใสไม่ใส่อะไรเลยจะดี
00:13:16 → 00:13:18 ที่สุดเนาะ
00:13:18 → 00:13:23 โอเคต่อไปข้อต่อไปข้อที่ 4 โอเคค่ะคุณดวง
00:13:23 → 00:13:28 พลบอกว่าดื่มน้ำเพิ่มโอเคมีคนเข้าใจแล้ว
00:13:28 → 00:13:32 ขอบคุณมากๆที่พิมพ์อ่ะเนาะข้อที่ 4 ข้อ
00:13:32 → 00:13:35 ที่ 4 หลุดพูดออกไปละเมื่อกี้ก็คือ
00:13:35 → 00:13:38 เครื่องดื่มที่เครื่องดื่ม
00:13:38 → 00:13:43 ที่เป็นน้ำอัดลมแล้วก็มีน้ำตาลสูง
00:13:43 → 00:13:48 สูงสิ่งใดก็ตามที่ใส่น้ำตาลเข้าไปเยอะๆ
00:13:48 → 00:13:51 สิ่งนั้นแหละที่จะไปกระตุ้นให้เราแก่เร็ว
00:13:51 → 00:13:54 เพราะอะไรหมอเฟิร์นอธิบายอย่างี้เพราะ
00:13:54 → 00:13:57 อะไรเพราะว่าเวลาที่เราทานพวกน้ำหวานเข้า
00:13:58 → 00:14:00 ไปเยอะๆน้ำหวานที่เขา้าใส่พวกน้ำตาลหรือ
00:14:00 → 00:14:04 ว่าใส่น้ำเชื่อมเข้าไปเนี่ยมันจะไปส่งผล
00:14:04 → 00:14:07 ให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณเนี่ยสูงปี๊ด
00:14:07 → 00:14:10 ขึ้นมาเลยพอน้ำระดับน้ำตาลในเลือดของคุณ
00:14:10 → 00:14:12 สูงปี๊ดเนี่ยมันจะเกิดสารตัวหนึ่งที่ชื่อ
00:14:12 → 00:14:16 ว่า A Ges สารตัวนี้ชื่อยาวมากเอาแค่
00:14:16 → 00:14:19 ชื่อย่อก็พอเนาะ A Ges มันแล้วมันส่งผล
00:14:19 → 00:14:21 ยังไงล่ะหมอเฟิร์นขึ้นภาพให้อย่างงี้เวลา
00:14:21 → 00:14:25 ที่สารตัวเนี้ยเกิดขึ้นมาจากการที่เราไป
00:14:25 → 00:14:28 บริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเยอะๆเนี่ย
00:14:28 → 00:14:32 มันจะไปทำให้อวัยวะของเราเนี่ยถูกทำลาย
00:14:32 → 00:14:35 แล้วก็เสื่อมลงพูดง่ายๆคุณจะแกะขึ้นจาก
00:14:35 → 00:14:38 ไอ้สารตัวนี้แหละเพราะว่าเนี่ยถ้าคุณดู
00:14:38 → 00:14:42 ภาพผิวที่สุขภาพดีกับผิวที่โดนน้ำตาล
00:14:42 → 00:14:47 ทำร้ายนะ 2 ภาพนี้มันจะไปทำให้พอน้ำตาล
00:14:47 → 00:14:51 มันไปทำปฏิกิริยาอะไรกับโปรตีนในชั้นผิว
00:14:51 → 00:14:53 ของเราเนี่ยมันจะไปทำให้ผิวหนังของเรา
00:14:53 → 00:14:56 เนี่ยเกิดภาพเป็นอย่างนี้เหมือนถูกทำลาย
00:14:56 → 00:15:01 ผลมันก็คือหน้าของเราผิวของเราจะเหี่ยวจะ
00:15:01 → 00:15:04 แกนเร็วแล้วก็ไปทำร้ายคอลลาเจนในนั้นทำ
00:15:04 → 00:15:07 ให้พอผิวเราไม่แข็งแรงเนี่ยเวลาโดนแดดโดน
00:15:07 → 00:15:11 อะไรก็จะเกิดspปอง่ายมากๆซึ่ง Sport
00:15:11 → 00:15:15 ถ้าให้เข้าใจง่ายๆก็คือพวกจุดดั่งดำรอย
00:15:15 → 00:15:17 กระรอยฝ้าเกิดขึ้นง่ายมากๆถ้าผิวไม่แข็ง
00:15:17 → 00:15:23 แรงอันนี้ตัวร้ายสุดๆเลยเป็นไปได้ลดละ
00:15:23 → 00:15:26 เลิกหรือหลีกเลี่ยงน้ำตาลให้มากที่สุดโดย
00:15:26 → 00:15:29 เฉพาะน้ำหวานที่เราไม่ทราบว่าเขา้าใส่มา
00:15:29 → 00:15:33 เท่าไหร่ถ้าเราพลิกข้างขวดหรือข้างกล่อง
00:15:33 → 00:15:37 เนี่ยเราพอรู้ไงแต่พอเราไปซื้อตามร้านค้า
00:15:37 → 00:15:40 ทั่วไปเวลาเขาใส่น้ำตาลเ้าไม่บอกเราไงว่า
00:15:40 → 00:15:42 เขาใส่ไปเท่าไหร่หรือเค้าใส่น้ำเชื่อมไป
00:15:42 → 00:15:45 เท่าไหร่อันนี้ก็ให้ระวังให้ดีถ้าคุณไม่
00:15:45 → 00:15:47 อยากแก่ไวกว่าเพื่อนให้หลีกเลี่ยงไปเลย
00:15:47 → 00:15:51 พวกน้ำอัดลมน้ำตาลอ่ะแล้วมันก็จะเป็น
00:15:51 → 00:15:54 อย่างงี้บางคนก็บอกว่าโอเคฉันหลีกเลี่ยง
00:15:54 → 00:15:57 น้ำตาลละฉันไม่กินน้ำตาลเพราะเครื่องดื่ม
00:15:57 → 00:15:58 สมัยนี้
00:15:58 → 00:16:01 ก็ค่อนข้างเอาใจผู้บริโภคนะบอกว่าไม่มี
00:16:01 → 00:16:04 น้ำตาลน้ำตาล 0% แต่ว่ากินเข้าไปทำไมมัน
00:16:04 → 00:16:08 ยังหวานอยู่อ่ะแน่นอนว่าเค้าใส่สารทด
00:16:08 → 00:16:11 แทนทดแทนแทนน้ำตาล่ะสารให้ความหวานแทนน้ำ
00:16:11 → 00:16:16 ตาลซึ่งต้องย้ำก่อนว่าสารให้ความหวานแทน
00:16:16 → 00:16:21 น้ำตาลเนี่ยเค้าผลิตขึ้นมาจากสารเคมีแน่
00:16:21 → 00:16:24 นอนหมอเฟิร์นมีความเชื่อว่าร่างกายของเรา
00:16:24 → 00:16:25 ไม่ต้องการสาร
00:16:25 → 00:16:32 เคมีกินเข้าไปถึงแม้มันไม่ได้มีผลไปทำให้
00:16:33 → 00:16:35 ร่างกายของคุณเลือดของคุณเนี่ยน้ำตาลใน
00:16:35 → 00:16:39 เลือดสูงแต่มันมีผลกระทบหลังจากนั้นหลัง
00:16:40 → 00:16:42 จากนั้นคืออะไรพอคุณกินสิ่งนี้เข้าไป
00:16:42 → 00:16:45 เนี่ยมันจะทำให้ร่างกายของคุณติดหวานมาก
00:16:45 → 00:16:49 ขึ้นมากขึ้นมากขึ้นคุณอาจจะไม่ได้รับน้ำ
00:16:49 → 00:16:53 ตาลจากเครื่องดื่มชนิดนี้แต่พอวันถัดไป
00:16:53 → 00:16:56 หรือมื้อถัดไปคุณจะหวานอยากน้ำตาลมากขึ้น
00:16:56 → 00:16:58 คุณอาจจะไปกินข้าวเพิ่มขึ้นแทนคุณอาจจะไป
00:16:58 → 00:17:00 กินแป้งเพิ่มขึ้นแทนอันนี้เราก็ไม่สามารถ
00:17:00 → 00:17:04 ตอบได้ไงนี่คือผลกระทบหลังจากนี้ดังนั้น
00:17:04 → 00:17:08 ถ้าจะเลือกจริงๆนะถ้าสุดท้ายฉันไม่สามารถ
00:17:08 → 00:17:11 กินจึกได้ฉันต้องการความหวานให้เลือกสาร
00:17:11 → 00:17:13 ทดแทนความหวานแทนน้ำตาลเนี่ยจากธรรมชาติ
00:17:13 → 00:17:17 อย่างพวกหญ้าหวานหล่อฮังก๋๊วยเนาะมันก็มี
00:17:17 → 00:17:19 หลายอย่างแต่ให้เน้นมาจากธรรมชาติให้มาก
00:17:19 → 00:17:22 ที่สุดหรือจริงๆแล้วไม่ใส่เลยก็ได้ค่อยๆ
00:17:22 → 00:17:25 ปรับไปตอนแรกมันจะไม่ชินหมอเฟิร์นก็เคย
00:17:25 → 00:17:29 เป็นคนที่ติดหวานมากๆแต่พอเราค่อยๆลดทีละ
00:17:29 → 00:17:32 นิดทีละนิดจากปกติหวานปกติก็ลดเป็นหวาน
00:17:32 → 00:17:35 น้อยพอหวานน้อยแล้วก็ลดเป็นหวานน้อยมากๆ
00:17:35 → 00:17:38 พอหวานน้อยมากๆเราลิ้นเราเริ่มชินเราก็
00:17:38 → 00:17:42 กินแบบไม่หวานได้เลยไม่ใส่เลยก็ได้
00:17:42 → 00:17:46 อ่ะกาแฟดำขมไปค่ะคุณหมอมีคนบอกกาแฟดำขมไป
00:17:47 → 00:17:51 ค่ะโอเคถ้ากาแฟดำขมไปนะแนะนำแบบนี้อ่ะ
00:17:51 → 00:17:53 อย่างบางคนซื้อกาแฟออร์แกนิคของหมอเฟิร์น
00:17:53 → 00:17:57 ไปนะบอกขมก็จะให้ยอมให้ใส่น้ำผึ้งเข้าไป 1
00:17:57 → 00:18:00 ช้อนชาแบบนี้ก็ได้ก็จะทำให้รสขมเนี่ยน้อย
00:18:00 → 00:18:06 ลงหรือกาแฟดำวิธีถ้าไม่ชอบดื่มแบบขมนะให้
00:18:06 → 00:18:09 คุณเลือกแบบขั้วอ่อนเพราะขั้วอ่อนจะไม่ขม
00:18:09 → 00:18:12 แต่จะเปรี้ยวความขมจะน้อยเพราะหมอเฟินก็
00:18:12 → 00:18:15 ชอบคั่วอ่อนเพราะว่าวิตามินแร่ธาตุอยู่
00:18:15 → 00:18:17 เยอะเพราะว่ามันใช้เวลาในการคั่วน้อยไง
00:18:17 → 00:18:21 เราก็เลือกกาแฟแบบนี้แต่ว่ารสชาติก็จะโดด
00:18:21 → 00:18:24 ออกไปทางเปรี้ยวออกออกผลไม้หน่อยแล้วก็จะ
00:18:24 → 00:18:27 ไม่ขมหรือถ้าใครที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวของ
00:18:28 → 00:18:31 กาแฟก็ขึ้นมาอีกระดับนึงเป็นกาแฟขั้วกลาง
00:18:31 → 00:18:34 แบบนี้ก็ได้โดยดื่มแบบดิฟแล้วดิฟแล้วใส่
00:18:35 → 00:18:37 น้ำแข็งเข้าไปความเย็นจะทำให้ความห่มน้อย
00:18:37 → 00:18:40 ลงไงอันนี้เป็นทริกเล็กๆน้อยๆสำหรับคน
00:18:40 → 00:18:42 ดื่มกาแฟเนาะเพราะหมอเฟิร์นก็ชอบดื่ม
00:18:42 → 00:18:45 เหมือนกันผลิตหมอเฟิร์นก็ผลิตกาแฟเหมือน
00:18:45 → 00:18:48 กันซึ่งขายหมดไปและแล้วก็ยังไม่มีล็อต
00:18:48 → 00:18:51 ใหม่สักทีอ่าเพราะว่ายังหาซัพพลerที่
00:18:51 → 00:18:55 ต้องการไม่ได้เนาะอ่าไว้ถ้ามีเราจะรีบเอา
00:18:55 → 00:18:57 มา
00:18:57 → 00:19:01 บอกข้อถัดไปอ่ะอันนี้จบแล้วเนาะเรื่องน้ำ
00:19:01 → 00:19:04 อัดลมน้ำตาลเนี่ยเข้าใจละว่าทำไมถึงควรลด
00:19:05 → 00:19:07 ละเลิกถ้าไม่อยากหน้าแก่เพราะว่ามันจะไป
00:19:07 → 00:19:12 ทำร้ายผิวของคุณได้นั่นเองโอเคข้อที่ 5
00:19:12 → 00:19:15 ข้อที่ 5 ขึ้นรูปมาให้คุณทายแล้วกันว่า
00:19:15 → 00:19:18 คืออะไรข้อที่ 5 อ่ะพวก
00:19:18 → 00:19:20 เนี้ยพวกนี้ก็
00:19:21 → 00:19:26 คือเกลือหรือโซเดียมทำไมถึงขึ้นแบบนี้
00:19:26 → 00:19:29 เพราะบางคนก็จะบอกว่าเกลือเนี่ยฉันจำกัด
00:19:29 → 00:19:32 แล้วนะฉันใส่นิดเดียวแต่ละครั้งที่ปรุง
00:19:32 → 00:19:34 ไม่ใส่เกลือเพิ่มเลยแต่ว่าสิ่งที่คุณกิน
00:19:34 → 00:19:38 เนี่ยมันคือสิ่งเหล่านี้ไงมันคือพวกอาหาร
00:19:38 → 00:19:44 แปรรูปอย่างพวกพิซซ่าขนมปังขนมถุง
00:19:44 → 00:19:47 แฮมเบอร์เกอร์ชีสอ่าพวกเนี้ยที่อยู่ในภาพ
00:19:47 → 00:19:51 เนี้ยมันคือโซเดียมแอบแฝงทั้งนั้นอย่าง
00:19:51 → 00:19:54 พวกผงชูรสอย่างี้ก็เป็นโซเดียมอย่างหนึ่ง
00:19:54 → 00:19:56 เนาะซึ่งเป็นโซเดียมที่อาจจะไม่ได้ลดเค็ม
00:19:57 → 00:19:59 เหมือนเกลือแต่ว่าเป็นโซเดียมเหมือนกัน
00:19:59 → 00:20:02 ดังนั้นบางคนตกมาตายเรื่องนี้บอกว่าไม่
00:20:02 → 00:20:04 ได้ใส่เกลือแต่คุณกินโซเดียมจากแรงอื่น
00:20:04 → 00:20:07 นั่นเองซึ่งเกลือโซเดียมเนี่ยต้องบอกก่อน
00:20:07 → 00:20:10 ว่าคุณรู้อยู่แล้วแหละว่าถ้ากินเข้าไป
00:20:10 → 00:20:14 เยอะๆเนี่ยไตคุณแน่นอนล่ะทำงานหนักแล้วก็
00:20:14 → 00:20:18 เสื่อมเร็วแล้วพอร่างกายไตเสื่อมเสื่อมไป
00:20:18 → 00:20:21 แล้วขับของเสียได้ไม่ดีทำให้บางคนเนี่ยมี
00:20:21 → 00:20:25 อาการบวมน้ำโดยที่ไม่รู้ตัวนั่นเองแต่พูด
00:20:25 → 00:20:29 ถึงในเรื่องของชะลอไวก็คือถ้าคุณทานเข้า
00:20:29 → 00:20:34 ไปเยอะๆเนี่ยมันทำร้ายข้างในอ่ะถ้าข้างใน
00:20:34 → 00:20:37 คุณเสียข้างนอกของคุณมันก็จะไม่สดใสมันก็
00:20:37 → 00:20:41 จะไม่เพราะสุขภาพที่ดีเนี่ยมันจะออกมาจาก
00:20:41 → 00:20:46 ภายในสู่ภายนอกพูดง่ายๆแบบนี้ลดละเลิกได้
00:20:46 → 00:20:50 ยิ่งดีอ่าส่วนใครที่เป็นโรคไตไม่ต้องพูด
00:20:50 → 00:20:54 ถึงเลยเกลือทานทานไม่ได้ทำทานได้จำกัดมาก
00:20:54 → 00:20:56 ๆแล้วก็พวกเนี้ยให้หลีกเลี่ยงให้จะดีที่
00:20:56 → 00:21:00 สุดอันนี้แค่พูดถึงในเรื่องของโซเดียมนะ
00:21:00 → 00:21:03 แต่จริงๆแล้วพวกเนี้ยมันยังมีสารเคมีใน
00:21:03 → 00:21:05 นั้นอยู่อีกเยอะซึ่งเดี๋ไปข้อถัดไปเลยละ
00:21:05 → 00:21:09 กันก็ก็คือสารข้อ 6 ที่จะต้องบอกก็คือสาร
00:21:09 → 00:21:14 เคมีที่เค้าเติมเข้าไปในอาหารเนาะอ่า
00:21:14 → 00:21:19 คุณพัหรือเปล่าชื่อชื่อเล่นชื่ออะไรเนาะ
00:21:19 → 00:21:22 บางทีหมอเฟิร์นก็ไม่กล้าอ่านกลัวอ่านผิด
00:21:22 → 00:21:25 ไงบอกของโปรดเลยจริงๆพวกเนี้ยของโปรดหมอ
00:21:25 → 00:21:27 เฟิร์นเหมือนกันนะตอนที่ไปเรียนอ๊อดอ่ะ
00:21:27 → 00:21:31 โอ้โหอร่อยมากพิซซ่าที่เมลเบิ้ลเนี่ยแต่
00:21:31 → 00:21:34 ก็ต้องยับยังช่างใจถ้าจะกินก็กินเฉพาะแบบ
00:21:34 → 00:21:37 นานๆทีแบบให้รางวัลตัวเองเพราะว่าไปอยู่
00:21:37 → 00:21:40 ถึงนู่นแล้วไม่กินมันก็ยังไงอยู่เนาะก็
00:21:40 → 00:21:42 กินบ้างแล้วก็เน้นไปกินผักผลไม้มื้ออื่น
00:21:42 → 00:21:47 เอาข้อต่อไปก็คือสารเคมีต่างๆที่เติมลงไป
00:21:47 → 00:21:51 ในอาหารนั่นเองอ่ะลองขึ้นรูปมาปิดรูปนี้
00:21:51 → 00:21:57 ก่อนเนาะอ่ะนี่ไงแน่นอนว่ามีเยอะมากๆที่
00:21:57 → 00:22:00 ถ้าคุณพลิกดูข้างกล่องข้างถุงดูคุณจะพบ
00:22:00 → 00:22:04 ว่ามันมีสารปรุงแต่งหรือวัตถุเจือปนใน
00:22:04 → 00:22:07 อาหารอยู่ในนั้นเยอะมากอย่างเช่นพวกสาร
00:22:07 → 00:22:10 แต่งสีแต่งกลิ่นแต่งรสอ่าเมื่อกี้เราก็
00:22:10 → 00:22:14 พูดไปเนาะสารทดแทนความหวานแทนน้ำตาลสาร
00:22:14 → 00:22:17 แยกป้องกันการจับตัวเป็นก้อนเนาะหรือว่า
00:22:17 → 00:22:21 สารที่ยืดอายุให้อาหารนั้นน่ะขายได้นาน
00:22:21 → 00:22:24 ขึ้นพูดง่ายๆข้อนี้หลีกเลี่ยงง่ายมากให้
00:22:24 → 00:22:28 คุณกินอาหารจริงอาหารอะไรที่ผ่านกระบวน
00:22:28 → 00:22:32 การมาเยอะๆเยอะๆเนี่ยให้นานๆทีอ่ะไม่ได้
00:22:32 → 00:22:36 ห้ามมาแล้วกันเผื่อบางคนชอบเนาะโอเคคุณ
00:22:36 → 00:22:41 ปัดให้นานๆทีไม่กินได้จะดีมากๆแต่หมอเพิน
00:22:41 → 00:22:42 ก็ไม่ได้ห้ามไงเพราะหมอเฟินก็เป็นคนนึง
00:22:42 → 00:22:45 ที่ถ้าบางทีอยากกินก็กินเพราะยิ่งห้าม
00:22:45 → 00:22:48 เหมือนยิ่งยุใครเป็นอย่างี้บ้างยิ่งยิ่ง
00:22:48 → 00:22:50 ห้ามตัวเองแบบอยากกินไม่กินยิ่งอยากกิน
00:22:50 → 00:22:54 เลยนึกถึงตลอดเลยดังนั้นปตัดไปเลยกินได้
00:22:54 → 00:23:00 แต่กินนิดเดียวแล้วอย่าห้ามตัวเองอ่ะอ่า
00:23:00 → 00:23:02 เมื่อกี้บอกว่าอะไรบ้างนะมีหลายตัวในนี้
00:23:02 → 00:23:04 อันนี้แค่ยกตัวอย่างเนาะจริงๆมันมีหลาย
00:23:04 → 00:23:08 ชื่อมากให้ดูภาพคุณจะตกใจอ่ะในใน 1 สิ่ง
00:23:08 → 00:23:10 เนี่ยเค้าใส่สารเข้าไปเยอะมากที่จะไปถนอม
00:23:10 → 00:23:14 อาหารที่จะไปให้ทำให้สีมันดูน่ากินที่จะ
00:23:14 → 00:23:17 ทำให้รสชาติมันดีขึ้น
00:23:17 → 00:23:21 โอ้โหก็คือหมอเฟิร์นเคยพูดเรื่องนี้ไว้ใน
00:23:21 → 00:23:24 หนังสือเสียงที่อัดไว้เนาะซึ่งมีคนลง
00:23:24 → 00:23:27 เรียนเยอะมากพูดไว้ละว่ามันมีข้อดีข้อ
00:23:27 → 00:23:30 เสียยังไงแล้วทำไมเราถึงไม่ควรกินพูดถึง
00:23:30 → 00:23:33 งานวิจัยเยอะเลยแต่วันนี้พูดพูดพูดคร่าวๆ
00:23:33 → 00:23:36 แล้วกันว่าไม่ควรกินถ้ากินเข้าไปแล้ว
00:23:36 → 00:23:40 เนี่ยจะไปกระตุ้นให้ร่างกายอักเสบเยอะมาก
00:23:40 → 00:23:43 ๆหลีกเลี่ยงได้จะช่วยทำให้คุณเนี่ยหน้า
00:23:43 → 00:23:47 เด็กกว่าเพื่อนได้แน่นอนสารพวกนี้พูดรวมๆ
00:23:47 → 00:23:49 เลยกันว่าสารพวกนี้ที่เขา้าใส่เข้าไป
00:23:49 → 00:23:53 เพื่อถนอมอาหารเนี่ยมันจะเป็นตัวนึงที่
00:23:53 → 00:23:57 เป็นสารพิษที่ไปเพิ่มอนุมูลอิสระในร่าง
00:23:57 → 00:24:01 กายของเราอนุมูลอิสระก็คือตัวนึงไงที่ไป
00:24:01 → 00:24:04 กระตุ้นให้ร่างกายคนอักเสบแน่นอนว่าพอมี
00:24:04 → 00:24:07 อนุมูลอิสระเยอะๆเนี่ยร่างกายอักเสบเยอะๆ
00:24:07 → 00:24:10 ก็จะทำให้ร่างกายคุณเสื่อมเร็วพอเสื่อม
00:24:10 → 00:24:14 เร็วอ่าบางคนอายุ 50 ละแต่หน้าไป 60-70
00:24:14 → 00:24:17 ละอ่าเนี่ยนี่เลยเป็นเหตุผลที่ทำไมบางคน
00:24:17 → 00:24:20 คุณลุงคุณป้าบางคนอายุแค่ 50 เองแต่ทำไม
00:24:20 → 00:24:23 ดูแก่เหมือน 60 70 อันนี้ขออภัยนะคะแต่
00:24:23 → 00:24:27 บางคนเนี่ยอายุ 60 แต่ทำไมบางคนอายุ 60
00:24:27 → 00:24:30 ใช่มั้ยแต่ว่าทำไมดูเด็กจังทำไมเหมือนแบบ
00:24:30 → 00:24:32 40 50 เองนี่แหละเป็นเหตุผลที่คนนึงแตก
00:24:32 → 00:24:37 ต่างกันเพราะว่าอยู่ที่การกินของเค้าซึ่ง
00:24:37 → 00:24:40 แต่ก็ไม่ได้บอกว่าวิธีการกิน 100% นะยัง
00:24:40 → 00:24:44 อยู่ที่วิธีการคิดด้วยวิธีการออกกำลังกาย
00:24:44 → 00:24:48 วิธีการพักผ่อนมันมาจากหลายปัจจัยแต่ที่
00:24:48 → 00:24:51 หมอเพลินหมอเฟิร์นพูดในวันนี้ก็คืออาหาร
00:24:51 → 00:24:53 เนาะซึ่งอาหารนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำ
00:24:53 → 00:24:57 ให้คนเราเนี่ยแก่เร็วหรือแก่ช้าก็ว่าได้
00:24:57 → 00:25:00 ข้อถัดไปก็คือข้อถัดไปเลยะกันข้อสุดท้าย
00:25:00 → 00:25:04 ละข้อสุดท้ายเป็นสิ่งที่หลายคนรู้ดีอยู่
00:25:04 → 00:25:07 แล้วอ่าเราขึ้นรูปก็คือเครื่องดื่มเหล่า
00:25:07 → 00:25:10 นี้นั่นเองเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่มีชื่อ
00:25:10 → 00:25:14 แต่คุณน่าจะทายถูกก็คือแอลกอฮอล์พูดตาม
00:25:14 → 00:25:17 ตรงเลยว่าแอลกอฮอล์ดื่มเข้าไปเนี่ยไป
00:25:17 → 00:25:21 กระตุ้นให้คุณเนี่ยขับปัสสาวะบ่อยใครเคย
00:25:21 → 00:25:23 ถืมจะรู้ว่าคุณจะเข้าห้องน้ำบ่อยมากแน่
00:25:23 → 00:25:26 นอนพอคุณเข้าห้องน้ำบ่อยพอร่างกายขับน้ำ
00:25:26 → 00:25:29 ผิวของคุณก็จะแห้งทำให้ผิวเหี่ยวผิวแก่
00:25:29 → 00:25:33 ง่ายไม่พอยังไปรบกวนการทำงานของคอลลาเจน
00:25:33 → 00:25:37 ในร่างกายด้วยซึ่งคอลลาเจนพอมันถูกรบกวน
00:25:37 → 00:25:40 หรือถูกทำลายบ่อยๆสะสมเนี่ยแน่นอนทำให้
00:25:40 → 00:25:44 ผิวของคุณไม่เต่งตึงไม่ชุ่มชื้นนั่นเลย
00:25:44 → 00:25:48 เป็นสาเหตุที่คนที่ติดแอลกอฮอล์จะดูแก่ไว
00:25:48 → 00:25:52 กว่าเพื่อนจะดูผิวเหี่ยวดูหน้าตาไม่สดใส
00:25:52 → 00:25:55 เหฮี่ยวย่นกว่าคนอื่นอ่ะผิวจะแก่เร็วนั่น
00:25:55 → 00:25:59 เองดังนั้นข้อนี้ก็สรุปง่ายมากๆว่า
00:25:59 → 00:26:03 แอลกอฮอล์เนี่ยไม่ดื่มดีกว่าดื่มอยู่แล้ว
00:26:03 → 00:26:06 เนาะหรือถ้าใครที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ
00:26:06 → 00:26:08 หมอเฟิร์นให้ทริกแล้วะกันว่าถ้าจะต้อง
00:26:08 → 00:26:11 ดื่มเพื่อเข้าสังคมหรืออะไรก็ตามเนี่ยถ้า
00:26:11 → 00:26:14 แอลกอฮอล์ที่ดูเหมือนจะมีประโยชน์ที่สุด
00:26:14 → 00:26:18 เลยนะมีข้อเสียบ้างมีข้อเสียแต่ก็ได้ข้อ
00:26:18 → 00:26:21 ดีบ้างก็คือวายแดงอ่ะเพราะว่าวายแดงเนี่ย
00:26:21 → 00:26:24 มีแอนตี้ออกซิเดนอย่างมีสารต้านอนุมูล
00:26:24 → 00:26:28 อิสระอยู่ในนั้นดังนั้นแต่ว่าเอาตามความ
00:26:28 → 00:26:30 เป็นจริงเลยก็คือไม่ดื่มดีที่สุดดื่มน้ำ
00:26:30 → 00:26:33 เปล่าเนาะ
00:26:33 → 00:26:37 โอเคข้อถัดไปหมดละ 7 อาหารนี้ถ้าคุณหลีก
00:26:37 → 00:26:41 เลี่ยงได้จะช่วยทำให้คุณเนี่ยแก่ช้ากว่า
00:26:41 → 00:26:44 เพื่อนสรุปแล้วกันว่า 7 ข้อมีอะไรบ้าง 7
00:26:44 → 00:26:49 ข้อแรกเลยนะก็คือของทอดข้อ 2 ก็คือ
00:26:49 → 00:26:52 โอเมก้า 6 ที่มักพบในน้ำมันพืชที่เขา้า
00:26:52 → 00:26:55 เอามาทอดกันนั่นแหละให้คุณลดลงลดโอเมก้า 6
00:26:55 → 00:27:00 แล้วก็ไปเพิ่มโอเมก้า 3 ข้อที่ 3 ก็คือ
00:27:00 → 00:27:03 อะไรเอ่ยหมอเฟิร์ก็จำไม่ได้แล้วข้อที่ 3
00:27:03 → 00:27:06 ก็คือชากาแฟเนาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
00:27:06 → 00:27:10 ให้ลดลงถ้าดื่มดื่มได้แต่ว่าต้องดื่มน้ำ
00:27:10 → 00:27:13 ทดแทนด้วยถ้า 1 ถ้าดื่มกาแฟ 1 แก้วก็ดื่ม
00:27:13 → 00:27:16 น้ำเพิ่มเข้าไปอีก 1 แก้วข้อ 4 ก็คือน้ำ
00:27:16 → 00:27:17 อัดลมหรือน้ำ
00:27:17 → 00:27:20 หวานหรือน้ำตาลนั่นแหละพูดง่ายๆข้อ 5 ก็
00:27:21 → 00:27:25 คือเกลือโซเดียมที่มักพบในอาหารแปรรูปข้อ
00:27:25 → 00:27:29 6 ก็คือสารเคมีต่างๆที่เค้าเติมแต่งเข้า
00:27:29 → 00:27:31 ไปในอาหารหรือเรียกว่าวัตถุเจือปนอาหาร
00:27:31 → 00:27:36 อย่างพวกสารทดแทนความหวานแทนน้ำตาลสาร
00:27:36 → 00:27:39 วัตถุการเสียวัตถุแต่งรสแต่งสีแต่งกิน
00:27:39 → 00:27:42 ทั้งหลายนั่นแหละข้อ 7 ก็คือแอลกอฮอล์
00:27:42 → 00:27:47 นั่นเองโอเคจบ 7 ข้อละอ่ะอย่างที่บอกไป
00:27:47 → 00:27:51 คุณรู้ละว่า 7 ข้อเนี้ยยิ่งกินน้อยยิ่งแก
00:27:52 → 00:27:56 ช้ายิ่งหน้าเด็กแล้วบางคนมีคำถามสงสัยหมอ
00:27:56 → 00:28:00 เฟิร์นเหมือนกันว่าแล้วหมอเฟิร์นเนี่ยกิน
00:28:00 → 00:28:03 อะไรบ้างถ้าเกิดว่าเราอยากจะแข็งแรงอายุ
00:28:03 → 00:28:07 ยืนหน้าเด็กวิตามินอะไรบ้างที่หมอเฟิร์น
00:28:07 → 00:28:11 กินเพราะหมอเฟิร์นเนี่ยเน้นมาตลอดเนาะว่า
00:28:11 → 00:28:13 ให้คุณกินอาหารเป็นยาแล้วอย่างหมอเฟิร์น
00:28:13 → 00:28:15 เนี่ยกินวิตามินเสริมบ้างมยบอกเลยตรงนี้
00:28:16 → 00:28:21 เลยนะกินแต่เลือกที่ดีที่สุดเอาว่าเอางี้
00:28:21 → 00:28:24 เพราะว่าเราต้องการประโยชน์บางอย่างที่
00:28:24 → 00:28:27 เพิ่มขึ้นซึ่งหมอเฟิร์น 1 ใน 1 วันเนี่ย
00:28:27 → 00:28:29 หมอเฟิร์นกินเพิ่มแค่ 2 ตัวเพราะรู้สึก
00:28:29 → 00:28:32 รู้สึกว่าเราขาดเราไม่ได้กินจากอาหารเยอะ
00:28:32 → 00:28:34 ขนาดนั้นในปริมาณที่เราต้องการเราก็เลือก
00:28:34 → 00:28:38 วิตามินจากธรรมชาติให้มากที่สุดก็คือตัว
00:28:38 → 00:28:40 แรกเลยนะก็คือวิตามินซีอย่างที่บอกว่า
00:28:41 → 00:28:43 วิตามินซีเนี่ยเป็นสุดยอดสารต้านอนุมูล
00:28:43 → 00:28:47 อิสระเลยหมอเฟิร์นกินตัวนี้อยู่ซึ่งทริก
00:28:47 → 00:28:49 ของหมอเฟิร์นก็คือจะพลิกดูข้างขวดอ่ะตัว
00:28:49 → 00:28:52 นี้เลยไม่รู้จะเห็นไหมนะเพราะว่ามันมี
00:28:52 → 00:28:54 กรีนgreีนสกรีนอยู่ข้างหลังเเป็นตัวนี้
00:28:54 → 00:28:57 ที่รับรองออร์แกนิคชัดเจนแล้วถ้าพลิกดู
00:28:57 → 00:29:00 ที่ข้างหลังเนี่ยเค้าจะเขียนชัดเจนเลยว่า
00:29:00 → 00:29:03 สกัดมาจากอะไรบ้างอย่างตัวนี้ที่หมอ
00:29:03 → 00:29:05 เฟิร์นเลือกก็คือเป็นวิตามินซีออร์แกนิค
00:29:05 → 00:29:10 ที่สกัดมาจากผลไม้ทั้งหมดหลายชนิดมาก
00:29:10 → 00:29:14 อย่างเช่นมะนาวส้มเชอรรี่คามูคามูอ่าพวก
00:29:14 → 00:29:18 นี้แหละซึ่งปริมาณที่กินน่ะก็ตัวเนี้ย 2
00:29:18 → 00:29:22 เม็ดให้วิตามินซี 250 มกัปกติแล้วถ้ากิน
00:29:22 → 00:29:27 วิตามินซีไม่ให้ขาดเนี่ยวันนึงเฉลี่ยควร
00:29:27 → 00:29:31 กิน 90 มลกรัต่อวันซึ่งอันเนี้ยใน 1 2
00:29:31 → 00:29:34 เม็ดก็ให้แล้ว 250 มกัที่เรากินเยอะกว่า
00:29:34 → 00:29:37 90 มกัเพราะอะไรเพราะวิตามินซีเนี่ยมัน
00:29:37 → 00:29:43 มีส่วนที่ถ้ากินประจำจะช่วยลดก็คือพูด
00:29:43 → 00:29:46 ง่ายๆช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้คุณเนี่ย
00:29:46 → 00:29:48 แข็งแรงมากขึ้นคือไม่ได้บอกว่ากินวิตามิน
00:29:48 → 00:29:50 ซีแล้วจะไม่เป็นไข้หวัดนะถ้าคุณได้รับ
00:29:50 → 00:29:53 เชื้อยังไงคุณก็เป็นแต่ถ้าคุณกินมีร่าง
00:29:53 → 00:29:56 กายมีปริมาณวิตามินซีที่เพียงพอจะทำให้
00:29:56 → 00:29:59 อาการหวัดที่คุณเป็นเนี่ยหายเร็วขึ้น
00:29:59 → 00:30:03 อาการที่เป็นจะน้อยกว่าปกติแล้วก็วิตามิน
00:30:03 → 00:30:05 ซีเนี่ยยังมีส่วนไปกระตุ้นการสร้าง
00:30:05 → 00:30:08 คอลลาเจนใหม่ข้อนี้ชอบเป็นพิเศษเพราะว่า
00:30:08 → 00:30:11 เราเป็นสายชาลวัเราก็อายุจะ 30 แล้วไงเรา
00:30:11 → 00:30:14 ก็อยากจะหน้าเด็กไปตลอดเพื่อเป็นบุคคลตัว
00:30:14 → 00:30:18 อย่างให้กับทุกคนด้วยเนาะว่าโอเคเราทำได้
00:30:18 → 00:30:22 นะเาจะได้รู้ว่าออเฟิร์นทำได้คุณก็ทำได้
00:30:22 → 00:30:25 เหมือนกันอ่าเพียงแค่กินวิตามินซีวันละ
00:30:25 → 00:30:28 250 มกั 500 มกัก็พอแล้วคุณอย่าไปกิน
00:30:28 → 00:30:32 เยอะกว่านี้นะเปลืองบอกเลยว่าเปลืองเพราะ
00:30:32 → 00:30:34 ว่าในแต่ละครั้งที่เรากินวิตามินซีเข้าไป
00:30:34 → 00:30:38 เนี่ยร่างกายเอาไปดูดซึมใช้เนี่ยได้แค่
00:30:38 → 00:30:41 250-500 มลกรัเท่านั้นถ้าคุณไปกิน 1,000
00:30:41 → 00:30:45 ไปกิน 2,000 ก็ขับออกทางปัสสาวะเาใช้ได้
00:30:45 → 00:30:47 นิดเดียวดังนั้นหมอเฟิร์นเลยเลือกกินแค่
00:30:47 → 00:30:50 ปริมาณเท่านี้ไงใครที่อยากกินเหมือนหมอ
00:30:50 → 00:30:52 เฟิร์นก็พิมพ์ว่าวิตามินซีได้เดี๋ยวให้
00:30:53 → 00:30:55 ทีมงานส่งรายละเอียดไปให้ดูแล้วคุณก็ไป
00:30:55 → 00:30:58 เทียบกับของคุณว่าเป็นยังไงหรือถ้าอยาก
00:30:58 → 00:31:01 สั่งซื้อก็สั่งผ่านทีมงานคนสวยได้เลยอัน
00:31:01 → 00:31:04 แต่อันเนี้ยเป็นวิตามินซีที่ต้องนำเข้ามา
00:31:04 → 00:31:08 เนาะใครสั่งก็รอประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็ได้
00:31:08 → 00:31:11 ละโอเคคุณบุญเเหลือบอกไม่ชอบดื่มครับโอเค
00:31:12 → 00:31:15 ครับไม่ชอบดื่มต่อไปอีกสิ่งหนึ่งที่อัน
00:31:15 → 00:31:18 นี้แอบบอกเลยนะเนี่ยอีกอย่างหนึ่งที่หมอ
00:31:18 → 00:31:22 เฟิร์นกินประจำก็คือน้ำมันโอเมก้า 3 นั่น
00:31:22 → 00:31:25 เองเพราะอะไรเพราะว่าเรารู้ตัวว่าบางที
00:31:25 → 00:31:28 เรากินผักกินผลไม้กินข้าวน้ำมันกดไขมัน
00:31:29 → 00:31:31 จำเป็นเนี่ยร่างกายผลิตเองไม่ได้เราต้อง
00:31:31 → 00:31:34 กินเพิ่มซึ่งมันไม่ถึงแน่นอนเราก็เลย
00:31:34 → 00:31:38 เลือกกินเป็นน้ำมันแฟกออยอย่างที่บอกว่า
00:31:39 → 00:31:41 น้ำมันเมล็ดแฟกเนี่ยมีโอเมก้า 3 สูงที่
00:31:41 → 00:31:44 สุดโอเมก้า 6 น้อยโอเมก้า 9 น้อยเนาะก็
00:31:44 → 00:31:48 คือตัวนี้นี่เองที่เราเลือกกินใครที่อยาก
00:31:48 → 00:31:52 กินเหมือนหมอเฟิร์นนะอันนี้เดี๋ยวเดี๋ยว
00:31:52 → 00:31:54 จะมีคนถามมาเยอะไงว่าเฟิร์นกินตัวไหนแล้ว
00:31:54 → 00:31:56 ใครอยากกินเหมือนต้องไปซื้อที่ไหนซึ่งตัว
00:31:56 → 00:31:59 ที่หมอเบิร์นกินเนี่ยเป็นสินค้าที่สั่งมา
00:31:59 → 00:32:02 จากต่างประเทศทั้งหมดเพราะก็หาที่ไทย
00:32:02 → 00:32:05 เหมือนกันแต่ว่ามันไม่ได้มาตรฐานเราเรา
00:32:05 → 00:32:07 อยากกินอันที่เราแบบต้องการจริงๆแล้วได้
00:32:07 → 00:32:11 คุณภาพนี้จริงๆตามเช็ดเช็คลิสไงซึ่งสั่ง
00:32:11 → 00:32:13 มาจากต่างประเทศอ่ะก็รอ 2-3 สัปดาห์เท่า
00:32:13 → 00:32:16 นั้นแต่ถ้าคุณอยากกินเหมือนกันเนี่ยก็ลอง
00:32:16 → 00:32:19 ไปถามข้อมูลจากรายละเอียดจากทีมงานได้เลย
00:32:20 → 00:32:23 ซึ่งราคาปกติวิตามินซีที่หมอเฟิร์นกิน
00:32:23 → 00:32:28 เนี่ยกระปุกเนี่ย 990 บาทมีกี่เม็ดนะ 990
00:32:28 → 00:32:31 บาทมี 60 เม็ดก็กินได้ 1 เดือนเนาะกระปุก
00:32:31 → 00:32:34 เนี้ยแล้วอย่างน้ำมันเมื่อกี้น้ำมันเมล็ด
00:32:35 → 00:32:38 แฟกที่ให้โอเมก้า 3 ก็กินได้ครึ่งเดือน
00:32:38 → 00:32:43 กับขวดนี้ก็ 890 แต่ถ้าคุณสนใจรับ 2
00:32:43 → 00:32:47 อย่างนี้นะ 2 อย่างนี้ราคาพิเศษแล้วกัน 10
00:32:47 → 00:32:51 คนนะ 10 คนจากปกติเนี่ย 2 อย่างเนี้ย
00:32:51 → 00:32:54 ประมาณเกือบ 2,000 แต่ถ้า 10 คนแรกหมอ
00:32:54 → 00:32:56 เฟิร์นให้พิเศษเลย
00:32:56 → 00:33:01 1,55 บาทใครสนใจพิมพ์แพ็คคู่มาอ่าโอเค
00:33:02 → 00:33:04 พิมพ์แพ็คคู่เนโอเคจบละเรื่องนี้หรือคุณ
00:33:04 → 00:33:09 จะไปหาซื้อกินตามก็ได้ที่เจ้าอื่นๆแบรนด์
00:33:09 → 00:33:11 อื่นๆขอดูรายละเอียดข้างหลังกล่องข้าง
00:33:11 → 00:33:13 หลังขวดก็ได้ว่าหมอเฟิร์นกินแบบไหนแล้ว
00:33:13 → 00:33:15 คุณก็ไปเทียบเอาหรือใครอยากกินเหมือนก็
00:33:15 → 00:33:19 ถามทีมงานได้เลยซึ่งให้แค่ 10 คนเพราะว่า
00:33:19 → 00:33:22 สินค้าเป็นมาจากต่างประเทศมีน้อยมากๆต่อ
00:33:22 → 00:33:25 ไปไม่มีอะไร
00:33:25 → 00:33:28 ใครที่เป็นสายกินอาหารจริงไม่เน้นอาหาร
00:33:28 → 00:33:32 เสริมสิ่งหนึ่งที่ถ้าคุณมีความรู้เหล่า
00:33:32 → 00:33:35 เนี้ยติดตัวไว้จะช่วยคุณได้เยอะมากๆก็คือ
00:33:35 → 00:33:38 สิ่งที่หมอเฟิร์นเคยทำไว้ก็เป็นหนังสือ
00:33:38 → 00:33:41 เสียงวิชามารหน้าเด็กเนาะไม่ค่อยได้
00:33:41 → 00:33:44 โปรโมทเลยเพราะว่านั่นแหละบางทีก็ไม่ค่อย
00:33:45 → 00:33:49 มีเวลาไงแต่จริงๆมันดีมากๆขายดีมากๆเล่ม
00:33:49 → 00:33:51 เนี้ยคุณสามารถฟังผ่าน YouTube ก็ได้ฝาก
00:33:51 → 00:33:53 ผ่าน Facebook ก็ได้ฟังผ่านออนไลน์เนาะ
00:33:53 → 00:33:55 เนาะถ้าเพียงแค่คุณมีโทรศัพท์มี
00:33:55 → 00:33:57 คอมพิวเตอร์เนี่ยคุณฟังทุกที่ไม่มีหมด
00:33:57 → 00:34:01 อายุซึ่งต้องบอกก่อนทอปิวันนี้ถ้าคุณไม่
00:34:01 → 00:34:04 อยากแก่เร็วเล่มนี้ช่วยคุณได้คุณไม่
00:34:04 → 00:34:06 จำเป็นต้องป่วยแล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องแก่
00:34:06 → 00:34:09 มันเหมือนเป็นแก่นของการมีสุขภาพดีแล้ว
00:34:09 → 00:34:12 หน้าเด็กถ้าคุณปฏิบัติตามกฎทั้ง 17 ข้อใน
00:34:12 → 00:34:15 นี้นะเหมือนเป็นคอร์สออนไลน์คอร์สเล็กๆ
00:34:15 → 00:34:20 เลยอ่ะจริงๆราคาเล่มเนี้ยไปที่ 2,990 บาท
00:34:20 → 00:34:22 ละแต่ถ้าใครที่มาฟังไลฟ์นี้หมอเฟิร์นให้
00:34:22 → 00:34:25 พิเศษเลยละกันก็คือ
00:34:25 → 00:34:29 1,999 บาทซึ่งเดี๋หมอเฟิร์นจะให้โบนัส
00:34:29 → 00:34:32 พิเศษเดี๋ยวใส่เนื้อหาเพิ่มเข้าไปอีกถ้า
00:34:32 → 00:34:36 ใครที่ซื้อวันนี้นะได้ราคาพิเศษอ่าสวัสดี
00:34:36 → 00:34:40 ค่ะพี่ปาเนาะแล้วก็ใบไผ่อ้าใบไผ่ถามคำถาม
00:34:40 → 00:34:42 เลยถ้ากินให้ผิวใสต้องกินเท่าไหร่อ้อตอบ
00:34:42 → 00:34:46 ไปแล้วโอเคไปย้อนฟังได้ว่ากินให้ผิวสวยใส
00:34:46 → 00:34:49 เท่าไหร่โอเควันนี้ก็ถ้ามีคำถามไม่มีคำ
00:34:50 → 00:34:52 ถามเพิ่มเติมหมอเฟิร์นก็จะไปแล้วเนาะไลฟ์
00:34:52 → 00:34:56 นานแล้วถ้าหรือถ้าใครมีคำถามมาฟังไลฟ์
00:34:56 → 00:34:59 ย้อนหลังก็พิมพ์ไว้ที่คอมเมนต์ได้เลยแล้ว
00:34:59 → 00:35:01 คราวหน้าหมอเฟิร์นจะเอาคำถามนั้นมาตอบ
00:35:01 → 00:35:04 หรือเอามาไลฟ์เอามาทำคลิปให้คุณก็พิมพ์
00:35:04 → 00:35:07 ส่งคำถามไว้ได้ขอบคุณทุกคนที่มาฟังไลฟ์ใน
00:35:07 → 00:35:10 วันนี้แล้วก็มาฟังย้อนหลังเนาะวันนี้ก็ขอ
00:35:10 → 00:35:13 อวยพรให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นและน่าเด็ก
00:35:13 → 00:35:18 ลงเด็กลงทุกวันรักทุกคนค่ะสวัสดี