00:00:00 → 00:00:03 การแช่น้ำแข็งแบบ w h me ไม่ใช่เฮ้ยฉัน
00:00:03 → 00:00:05 จะแช่ได้กี่นาทีฉันจะอยู่ได้แบบนานเท่า
00:00:05 → 00:00:09 ไหร่เราจะแช่แค่ 0 องศาแค่ 2 นาทีในการ
00:00:09 → 00:00:11 ศึกษา 2 นาทีเราได้รับประโยชน์หมดแล้ว
00:00:11 → 00:00:14 ทั้งร่างกายจิตใจเราได้รับหมดแล้วค่ะเกิน
00:00:14 → 00:00:16 มาจากนั้นก็คือ
00:00:16 → 00:00:21 เสี่ยงเราทนได้เหรอค่ะ 99% ทำได้หมดแล้ว
00:00:21 → 00:00:23 1% ที่ทำไม่ได้นี่คืออะไร 1% ที่ทำไม่
00:00:23 → 00:00:26 ได้นี่เลยล้วนๆไม่ได้แล้วเก็จะขึ้นมาขึ้น
00:00:26 → 00:00:29 มาเสร็จเขก็เตะอ่างน้ำแข็งเราอ๊แล้วก็แบบ
00:00:29 → 00:00:33 ลงไปใหม่ใจเย็นๆอยู่ต้องแบบเปลี่ยนตรงนี้
00:00:33 → 00:00:35 ก่อนเราจะไม่คิดถึงเรื่องอื่นจะไม่สนใจ
00:00:35 → 00:00:38 เรื่องอื่นมันก็ไม่น่าจะคิดได้นะมันคิด
00:00:38 → 00:00:41 ไม่ออกแต่แต่ว่าพอในในนั้น 0 องศาหัวทุก
00:00:41 → 00:00:44 คนจะไปที่อื่นหมดเลยจริงหรอจริงคือบางคน
00:00:44 → 00:00:47 แบบเฮ้ยลืมปิดแก๊สที่บ้านหรือเปล่าอย่าง
00:00:47 → 00:00:49 เงี้ยคือมันจะอยากจะคิดไปเรื่องอื่นทันที
00:00:49 → 00:00:54 เออแปลกเพราะว่าแกมวิสดาผู้สอนวิธีการหาย
00:00:54 → 00:00:58 ใจที่ผสมผสานกับความเย็นตามหลักมคนไทยคน
00:00:58 → 00:01:00 เดียวในโลก
00:01:00 → 00:01:03 ไปเนกับคุณบมเจ้าของหลักสูตรหลายครั้งมี
00:01:03 → 00:01:06 นักเพงกว่า 3,000 คนในไทยสอนมานานกว่า 5
00:01:06 → 00:01:09 ปีการหายใจเราจะหายใจเข้าออกเอ่ะ 30 ลม
00:01:09 → 00:01:12 หายใจแล้วเราก็จะกลั้นหายใจแล้วเราก็จะ
00:01:12 → 00:01:14 ฟื้นลมหายใจตอนที่เราหายใจแบบเนี้ยคุณชม
00:01:14 → 00:01:17 คิดว่าตอนไหนที่เรามีออกซิเจนในเซลล์ของ
00:01:17 → 00:01:20 เราน้อยที่สุดตอนกั้นหายใจใช่ไหมทุกคนจะ
00:01:20 → 00:01:22 คิดว่าแบบเวลาที่เรากั้นหายใจเราจะไม่มี
00:01:22 → 00:01:23 ออกซิเจนไป
00:01:23 → 00:01:27 เรียถูกแต่ว่าไม่ใช่ตอนที่เรากลั้นหายใจ
00:01:27 → 00:01:29 เป็นตอนที่ออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ในร่าง
00:01:29 → 00:01:32 กายได้ดีที่สุดเพราะอะไรอ่ะเวลาที่เราฝึก
00:01:32 → 00:01:34 หายใจไปเป็นพอารีนของเราจะหลั่งเยอะมาก
00:01:34 → 00:01:38 แบบจะปุมรอบแรกของการหายใจอ่ะค่ะแล้วการ
00:01:38 → 00:01:40 หายใจหัวใจของเราอ่ะจะเต้นเร็วมากกว่าคน
00:01:40 → 00:01:43 ที่กระโดดจิจำครั้งแรกในชีวิตจริงหรอคือ
00:01:43 → 00:01:45 แบบมันปุ๊บๆๆอย่างงี้เลยอ่ะนี่รู้ตัวว่า
00:01:45 → 00:01:50 เดี๋ยวต้องทำลังจนี้กลัวเลยนะ
00:01:51 → 00:01:54 เนี่ย Boost Year MC mix and match
00:01:54 → 00:01:58 1 แถม 1 พละได้จะวิตามินหรือสกินแครก็ 1
00:01:58 → 00:02:02 แถม 1 พละได้คละได้กว่า 1,500 รายการลด
00:02:02 → 00:02:04 ครั้งใหญ่ส่งท้ายปีที่ OST ทุกสาขาหรือ
00:02:04 → 00:02:07 Boost ออนไลน์ถึง 8 มกราคมนี้ on the
00:02:07 → 00:02:08 way with Home EP นี้นะคะเราจะมาคุย
00:02:08 → 00:02:11 กันเรื่อง wm Hop method ค่ะซึ่งเอ่อใน
00:02:11 → 00:02:14 หมู่สายคนรักสุขภาพเนะคะเชื่อว่าหลายๆคน
00:02:14 → 00:02:16 ก็คงจะเห็นนะคะมีการแชร์กันเยอะแยะเลยนะ
00:02:16 → 00:02:18 คะเรื่องของสาสตรของการใช้ความเย็นการลง
00:02:18 → 00:02:20 ไปแช่ในน้ำเย็นนะคะซึ่ง wm Hop method
00:02:20 → 00:02:23 เนี่ยนะคะมันมีอะไรมากกว่าการแค่เอาตัวลง
00:02:23 → 00:02:25 ไปแช่ในน้ำแข็งนะคะแต่ยังมีเรื่องของการ
00:02:25 → 00:02:28 ฝึกการหายใจนะคะแล้วก็การปรับ mind เซต
00:02:28 → 00:02:30 ปรับความคิดต่างๆนะคะแล้วก็ก็ยังมีคุณ
00:02:30 → 00:02:32 ประโยชน์ต่างๆมากมายเลยค่ะซึ่งวันนี้นะคะ
00:02:32 → 00:02:35 เราจะมาคุยเรื่องนี้กันค่ะไปชมกันเลยค่ะ
00:02:35 → 00:02:37 ดีเลยค่ะวันนี้ได้มาคุยกับคุณแก้มเพราะ
00:02:37 → 00:02:42 ว่าเป็นเรื่องที่สนใจอืมาสักพักนึงแล้ว
00:02:42 → 00:02:46 แล้วก็จริงๆอ่ะแอบซื้อหนังสือม Hop เมอมา
00:02:46 → 00:02:49 ด้วยนะแต่ยังไม่มีเวลาอ่านก็เลยคิดว่า
00:02:49 → 00:02:52 เดี๋ยววันเนี้ยไม่ต้องอ่านละเดี๋ยวให้คุณ
00:02:52 → 00:02:54 เออเดี๋ยวให้คุณแก้มแบบช่วยถ่ายทอดให้ฟัง
00:02:54 → 00:02:57 นะคะคร่าวๆก่อนเลย wm hof method คือ
00:02:57 → 00:03:00 อะไรคะ wm hof method ก็คือ
00:03:00 → 00:03:03 วิธีการของฮอเนาะคุณฮอเขาเป็นคนคิดค้น
00:03:03 → 00:03:06 วิธีการนี้ขึ้นมาอย่างเงี้ยเขาก็เลยแบบก็
00:03:06 → 00:03:08 เรียกวิธีการของ wm hof เลยแล้วกันก็เลย
00:03:08 → 00:03:11 เป็น wm hof method อืในวิธีการของเรา
00:03:11 → 00:03:14 ก็จะประกอบไปด้วย 3 เสาหลักค่ะที่แบบเป็น
00:03:14 → 00:03:17 การฝึกหายใจแบบ wmh ค่ะการใช้น้ำแข็งหรือ
00:03:17 → 00:03:19 ว่า co exposure เราจะใช้เป็นการสัมผัส
00:03:19 → 00:03:22 ความเย็นอืแล้วก็เป็นการฝึก mindset หรือ
00:03:22 → 00:03:25 ว่าฝึกความคิดพอรวมกันทั้ง 3 อย่างเขด้วย
00:03:25 → 00:03:27 กันก็คือวิธีการของฮอมันควรจะต้องเริ่ม
00:03:27 → 00:03:30 จากตรงไหนดีคะเริ่มจากตรงไหน
00:03:31 → 00:03:33 สิ่งที่สำคัญที่สุดในวิธีการของฮอคือการ
00:03:33 → 00:03:35 ฝึกความคิดคือแบบเราต้องเตรียมความคิด
00:03:35 → 00:03:37 เตรียมแบบ mindset ของเรามาตั้งแต่แรก
00:03:37 → 00:03:40 อะไรเงี้ยบางคนแบบต้องเตรียมตัวยังไงต้อง
00:03:40 → 00:03:43 อะไรบ้างถ้าเราสุขภาพดีอยู่แล้วอะไรเงี้ย
00:03:43 → 00:03:45 ไม่ได้มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบเส้น
00:03:45 → 00:03:47 เลือดอย่างเงี้ยค่ะเราสามารถฝึกได้แต่คน
00:03:47 → 00:03:49 ใหญ่ต้องใช้แบบความคิดก้าวข้ามความคิดของ
00:03:49 → 00:03:51 ตัวเองมาก่อนถึงเราจะถึงกระทำได้อะไร
00:03:52 → 00:03:56 อย่างเงี้ยเหมือนเปิดเปิดใจค่ะอืก็อย่าง
00:03:56 → 00:03:58 ที่บอกคุณแก้มนะว่าสนใจเลยแหละสนใจอยู่
00:03:58 → 00:04:01 แล้วแล้วก็แต่ว่าสิ่งนสำหรับชมอนะที่รู้
00:04:01 → 00:04:03 สึกว่ายังแบบยังเป็นอุปสรรคที่แบบยังไม่
00:04:03 → 00:04:05 สามารถที่จะไปไปลองได้ซักทีอะไรอย่าง
00:04:05 → 00:04:09 เงี้ยก็คือก็ยังไม่สามารถที่จะปรับให้มัน
00:04:09 → 00:04:12 เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้คเออตอนนี้ก็เลยใช้
00:04:12 → 00:04:16 วิธีไปเข้าตู้เข้าตู้อ่าเอ่าก็ไปเข้าตู้
00:04:16 → 00:04:19 เอาซึ่งก็รู้สึกว่าคือหลายๆคนที่เคยทำมา
00:04:19 → 00:04:23 ทั้ง 2 แบบนะก็จะบอกว่าเฮ้ยยังไงแช่ไปเลย
00:04:23 → 00:04:27 นี่คือมันแบบว่ามันพีคกว่ามันแบบไอ้นี่
00:04:27 → 00:04:30 กว่าแต่ว่าสำหรับชมมันยังไม่แคอ่ะคือเออ
00:04:30 → 00:04:33 คือตบางคนอาจจะไม่มีเวลาอย่าเงี้ยเพราะ
00:04:33 → 00:04:35 ว่าแบบข้าตู้มมัน convenient กว่ามันแบบ
00:04:35 → 00:04:38 สะดวกสบายกว่าถูซึ่งแค่เนี้ยสำหรับชงก็
00:04:38 → 00:04:41 รู้สึกว่าเฮ้ย Before After มันก็แบบเออ
00:04:41 → 00:04:45 ความรู้สึกก็อาจจะต่างกันใช่เพราะว่าน้ำ
00:04:45 → 00:04:48 เนาะมันคuได้ดีกว่าอย่าเงี้เวลาที่เราลง
00:04:48 → 00:04:52 ปุ๊บเราก็ใช่ๆคือแบบร่างกายของเรา dir
00:04:52 → 00:04:55 โดยตรงเลยอย่างเงี้ยค่ะจริงๆแล้วประโยชน์
00:04:55 → 00:04:58 จากการใช้ขคือแบบเกิดจากการได้แบบโชอ
00:04:58 → 00:05:00 โปรตีนเนาะแบบเราได้รับตั้งแต่แบบตอนที่
00:05:00 → 00:05:02 เราลงค่ะแล้วเราก็จะได้อะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:05:02 → 00:05:08 อือทีเนี้ยก็พยายามคิดว่าเอ๊ะหรือว่าเรา
00:05:08 → 00:05:11 จะทำเองเราก็เกิดความสงสัยว่าเอาจริงๆ
00:05:11 → 00:05:13 สำหรับคนที่แบบเ้ยเราไม่เคยทำเลยอย่าง
00:05:13 → 00:05:17 เงี้ยคะอเราจะเริ่มต้นเริ่มเองได้มยที่
00:05:17 → 00:05:19 บ้านแบบสั่งน้ำแข็งมาแล้วก็เอ้ยเอาแล้ว
00:05:19 → 00:05:21 เว้ยแบบว่าลงไปเลยอะไรอย่าเงี้ยแต่แกต้อง
00:05:21 → 00:05:24 บอกก่อนว่าการแช่น้ำแข็งแบบฮอมันคือการ
00:05:24 → 00:05:27 ฝึกอย่างหนึงเราได้รับประโยชน์จากเขาเรา
00:05:27 → 00:05:29 ต้องฝึกในด้วยวิธีการที่ถูกต้องอืเราถึง
00:05:30 → 00:05:32 จะได้รับความปลอดภัยจากตรงนั้นอย่างเงี้ย
00:05:32 → 00:05:35 บางทีแบบเราลงเลยเราก็อาจจะไม่รู้ว่าแบบ
00:05:35 → 00:05:37 เราต้องลงยังไงหรือว่าอะไรอย่างเงี้ใช่มย
00:05:37 → 00:05:40 คะการแค่แบบร่างกายเราเปลี่ยนการหายใจของ
00:05:40 → 00:05:43 เราเปลี่ยนเมื่อไหร่อ่ะมันก็อาจจะอันตราย
00:05:43 → 00:05:45 ก็มีอย่างเงี้ยออือเท่าที่เคยได้ยินมาก็
00:05:45 → 00:05:49 คือว่ามันต้องมีการหายใจด้วยขณะที่โอเค
00:05:49 → 00:05:52 อาจจะ even Before แล้วก็ตอนที่อยู่ใน
00:05:52 → 00:05:55 น้ำอยู่ในนั้นแล้วก็จะใช้แบบการควบคุมการ
00:05:55 → 00:05:58 หายใจแบบอื่นแปลว่าที่เราเห็นที่คนเลงกัน
00:05:58 → 00:06:00 ตามโซเชียลดียตามอะไรงี้คือแปลว่าว่าเคก็
00:06:00 → 00:06:01 ต้องมีการฝึกแบบอย่างน้อยก็คือเบื้องต้น
00:06:01 → 00:06:04 ก่อนถูกมั้ยคะใช่หรือว่าตามโซเชียล Media
00:06:04 → 00:06:06 ที่เราเห็นเขาอาจจะแช่เหมือนเราเห็นนัก
00:06:06 → 00:06:09 กีฬาเนาะเดี๋ยวนี้แบบทีมฟุตบอลเขาแช่กัน
00:06:09 → 00:06:12 หรือว่านักวิ่งเขาจะมีแช่น้ำแข็งตามส่วน
00:06:12 → 00:06:13 เงี้ยค่ะอันนั้นเขาจะแช่เพื่อแบบลดการ
00:06:13 → 00:06:16 อักเสบบ้างหรือว่าช่วยแบบฟื้นฟูกล้าม
00:06:16 → 00:06:19 เนื้ออย่างเงี้ยก็ได้แต่ว่าแบบเขาอาจจะ
00:06:19 → 00:06:22 ไม่ได้แช่ด้วยวิธีการที่ถูกต้องแต่สำหรับ
00:06:22 → 00:06:24 เราที่เวลาเราฝึกเงี้ยค่ะเราจะสอนว่าเวลา
00:06:24 → 00:06:27 ที่เราแช่น้ำแข็งอ่ะเราทำยังไงกับร่างกาย
00:06:27 → 00:06:30 ของเราเราทำยังไงกับความคิดของเราอือแล้ว
00:06:30 → 00:06:32 เราจะได้รับประโยชน์จากตรงนั้นอีกทีนึงก็
00:06:32 → 00:06:35 คือเราจะได้มากกว่าลด information มาก
00:06:35 → 00:06:38 กว่าการแบบว่าซ่อมแซมการหิวร่างกายซึ่ง
00:06:38 → 00:06:40 อย่างที่คุณแก้มบอกก็คือว่า wm hof
00:06:40 → 00:06:43 method นี่ก็คือเริ่มจากปรับ mindset
00:06:43 → 00:06:47 ก่อนใช่เตรียมพร้อมเออมันต้องเตรียมมัน
00:06:47 → 00:06:49 ต้องเตรียมใจยังไงคะเหมือนที่แก้มบอกวิธี
00:06:49 → 00:06:51 การคพร้อมคือ 3 เสาหลักแก้มจะให้ทุกคนมา
00:06:52 → 00:06:54 ปรับ mind เซตตัวเองก่อนค่ะมาก่อนว่าแบบ
00:06:54 → 00:06:57 หลายคนมาด้วยแบบเหตุผลต่างกันบางคนอยากจะ
00:06:57 → 00:07:00 มาใช้น้ำแข็งบางคนอยากจะมาฝึกหายใจอยาก
00:07:00 → 00:07:02 รู้ว่าการหายใจกับแบบบีมฮอปอ่ะมันเป็นยัง
00:07:02 → 00:07:05 ไงอือแบบอะไรใหม่ๆอย่างงี้เนาะการฝึก
00:07:05 → 00:07:07 mindset มันช่วยเรื่อง mindset ของตัว
00:07:07 → 00:07:09 เองยังไงเ้าก็จะมาถามเราอย่างเงี้ยค่ะแต่
00:07:09 → 00:07:11 เราก็จะปรับตั้งแต่แรกเลยเราจะฝึกเรื่อง
00:07:11 → 00:07:14 ไซตฝึกให้เขารู้ว่าวันนี้เขาจะต้องเจอ
00:07:14 → 00:07:16 อะไรบ้างอือย่างเงี้ยแล้วค่อยๆเปลี่ยนไป
00:07:17 → 00:07:20 แล้วก็จะใช้เวลาเรียนเแบบเชอของแก้มปกติ
00:07:20 → 00:07:22 เนาะจะ 6 ช่วโมงโอ 6 ช่วโมงเลยเหรอใช่
00:07:22 → 00:07:24 เนี่ยทุกคนก็จะแบบเฮ้ย 6 ช่มทำอะไรบ้าง
00:07:24 → 00:07:28 แต่คือจุ่มแค่ 2 นาทีเออแต่คือจุ่มอ่ะเรา
00:07:28 → 00:07:30 จะจุ่มแบบสุดท้ายของวันค่ะเพราะว่าเราจะ
00:07:30 → 00:07:33 ต้องแบบเตรียมพร้อมเตรียมกายเตรียมใจตั้ง
00:07:33 → 00:07:36 แต่แรกเราจะมาเรียนรู้กันว่าเราแช่เพราะ
00:07:36 → 00:07:38 อะไรค่ะแก้มจะได้บอกว่าสมมุติว่าอยาก
00:07:38 → 00:07:41 อย่างคุณชมอยากแช่เพื่อแบบอยากลองดูอย่าง
00:07:41 → 00:07:43 เงี้ยเราก็จะรู้ว่าแบบเออเวลาเราลองแล้ว
00:07:43 → 00:07:46 เรารู้สึกยังไงชอบมยเรารู้สึกดีทางไหน
00:07:46 → 00:07:49 อะไรอย่างเงี้ยแล้วก็บางคนก็จะมาแบบช่วย
00:07:49 → 00:07:51 Recover บางคนแบบนักกีฬาอย่างเงี้ยเขา
00:07:51 → 00:07:53 อยากรู้ว่าแบบเขาแช่ถูกต้องหรือเปล่าเขา
00:07:53 → 00:07:55 ต้องแช่นานเท่าไหร่อะไรอย่างเงี้ยเริ่ม
00:07:55 → 00:07:58 เรียนรู้กันก่อนแล้วก็แจะบอกว่าเวลาที่
00:07:58 → 00:08:00 เราลงในน้ำแข็งเราต้องหายใจยังไงแล้วต้อง
00:08:00 → 00:08:03 ทำร่างกายเรายังไงอือือถ้าอย่างงั้นอยาก
00:08:03 → 00:08:06 ให้เท้าความไปดีกว่าว่าฮอปเนี่ยค่ะที่
00:08:06 → 00:08:09 เป็นที่เเรียกเราเรียกเบไ Man เนี่ยเนาะอ
00:08:09 → 00:08:13 คืออะไรโดนบันดาล inspire ให้เาแบบว่าเออ
00:08:13 → 00:08:17 มาค้นหาวิธีนี้อแล้วก็อยากที่จะเอาชนะแบบ
00:08:18 → 00:08:20 ว่าลิมิตของร่างกายของตัวเองขนาดเยคือที่
00:08:20 → 00:08:24 มาที่ไปของอของเค้าใช่มเอจริงๆแล้วอ่ะคุณ
00:08:24 → 00:08:27 ฮอปอ่ะเขาคิดค้นวิธีการเนี้ยด้วยตัวเอง
00:08:27 → 00:08:30 เขาเป็นคนดัชค่ะอยู่ที่เนเธอร์แลนแล้วเก็
00:08:30 → 00:08:34 จะแบบว่าเจะชอบไปลงแบบดิฟในน้ำแข็งแบบที่
00:08:34 → 00:08:37 ที่แม่น้ำแถวๆบ้านเอะไรอย่างเงี้ยแต่เขบบ
00:08:37 → 00:08:40 พอพอเลงอ่ะเขารู้สึกดีการแชกเจอความเย็น
00:08:40 → 00:08:42 น่ะมันทำให้เขารู้สึกดีแต่เขาก็ยังไม่รู้
00:08:42 → 00:08:44 ว่ามันคืออะไรแต่เขาชอบความรู้สึกเนี่ย
00:08:44 → 00:08:47 เขาก็ทำมันเรื่อยๆเป็นกิจวัตรประจำวันของ
00:08:47 → 00:08:51 เขาจนแบบว่าคนเริ่มเห็นแล้วก็แบบเฮ้ยคุณ
00:08:51 → 00:08:54 ทำอะไรอะไรเงี้ยก็จะมีแบบหนังสือพิมพ์ไป
00:08:54 → 00:08:56 สัมภาษณ์เทีวีอะไรอย่างงี้เนาะเสร็จแล้ว
00:08:56 → 00:08:58 คุณิมก็แบบว่าอธิบายไม่ถูกหรอกว่ามันคือ
00:08:58 → 00:09:00 อะไรแต่เก็แบบเขาสามารถทำได้อะไรอย่าง
00:09:01 → 00:09:04 เงี้ยอทีก็จะแบบยูทำแบบนี้ซิยูลงน้ำแข็ง
00:09:04 → 00:09:06 ซิอะไรอย่างเงี้ยูเดินเท้าเปล่าบนหิมะซิ
00:09:06 → 00:09:08 อย่างงี้เนาะก็แบบเหมือนกับว่าก็มีคน
00:09:08 → 00:09:11 challeng ให้เาเนี่ยเอาชนะขีดขีดจำกัด
00:09:11 → 00:09:14 เดิมของตัวเองตลอดเวลาอคุณบิมเฝึกเป็น
00:09:14 → 00:09:16 ประจำอยู่แล้วทีนี้พอถึงช่วงนึงที่แบบ
00:09:16 → 00:09:18 เกิดเหตุการณ์ที่ว่าภรรยาของเขาอ่ะฆ่าตัว
00:09:19 → 00:09:22 ตายเนาะจาก deess เขาเสียใจมากเขาคิดว่า
00:09:22 → 00:09:24 วิธีการที่อะไรที่เขาทำอยู่ตอนเอาจจะช่วย
00:09:24 → 00:09:27 เขาได้หรือว่าอย่างงี้เนาะเขาก็เลยแบบแช่
00:09:27 → 00:09:30 น้ำแข็งแล้วก็ฝึกหายใจของเขาอ่ะเพื่อทน
00:09:30 → 00:09:32 ทานแบบเพื่อจะรับมือกับความเสียใจของเขา
00:09:32 → 00:09:34 นั้นได้อืแล้วเขาก็เลยทำมาเรื่อยๆเพราะ
00:09:34 → 00:09:36 เขาต้องใช้ชีวิตอยู่เพื่อลูกลูกของมันก็
00:09:36 → 00:09:38 คล่ายๆ Meditation เหมือนกันคล้ายๆใช่คือ
00:09:38 → 00:09:41 ที่เป็นไไปเพราะเขาแบบโบกเรคคอร์ดของเขา
00:09:41 → 00:09:43 ใช่่แบบเดินใส่เดินแบบใส่แข้กางเกงว่าย
00:09:43 → 00:09:47 น้ำกันรองเท้าแตะเดินขึเขา Everest อืเออ
00:09:47 → 00:09:50 แล้วแบบทุกคนก็แบบเฮ้ยอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:09:50 → 00:09:54 อือแล้วก็แบบวิ่งมาราธอนเท้าเปล่าที่แบบ
00:09:54 → 00:09:57 Arctic Circle แช่ตัวอยู่ในกล่องที่จะ
00:09:57 → 00:09:59 เติมน้ำแข็งลงไปอ่ะค่ะเรคคอร์ดของคุณวิม
00:09:59 → 00:10:02 ประมาณ 1 ชม 50 นาที Oh my god ทุกคน
00:10:02 → 00:10:06 คิดว่าแบบเเแบบประหลาดอือืแต่จริงๆแล้ว
00:10:06 → 00:10:08 คุณวิมฮอปคือเาฝึกตัวเขาเองเขาฝึกทั้ง
00:10:08 → 00:10:11 ความคิดแล้วก็ร่างกายของเขาคุณิมเขาจะบอก
00:10:11 → 00:10:14 ว่าอะไรที่เขาทำได้อ่ะค่ะทุกคนทำได้หมด
00:10:14 → 00:10:17 อยู่ที่การฝึกฝนของเราคุณมพอนี่เขาแบบว่า
00:10:17 → 00:10:21 นะเป็นฮจริงๆนะเาแบบว่า challeng ตัวเอง
00:10:21 → 00:10:24 ตลอดแล้วก็เห็นว่ามีการแบบ challeng พวก
00:10:24 → 00:10:25 แบบนักวิจัย researcher อะไรอย่าเงี้ยว่า
00:10:25 → 00:10:28 แบบเ้ยมันทำอย่างงั้นอย่างงี้กับฉันสิ
00:10:28 → 00:10:30 อะไรอย่างเงี้ยทุกคนจะคิดว่าแบบเอ้ยยู
00:10:30 → 00:10:33 ประหลาดยูไม่เหมือนคนอื่นเขหรือว่าเมี
00:10:33 → 00:10:35 จีเนติกที่ไม่เหมือนคนอื่นอแต่จริงๆแล้ว
00:10:35 → 00:10:38 คุณแพอ่ะเหมือนเราเหมือนคนทั่วไปค่ะเขาจะ
00:10:38 → 00:10:41 มีแบบคนคพรเพราะว่าคุณบิมเมีแฝดหมอก็จะ
00:10:41 → 00:10:44 แบบจะเทสทั้งคู่แล้วก็แบบเอ้ยยูก็ปกติ
00:10:44 → 00:10:46 เหมือนคนทั่วไปพี่ชายหรือน้องชายก็คงเซ็ง
00:10:46 → 00:10:48 เหมือนกันเนาะชายพี่ชายใช่ก็คือแบบปต้อง
00:10:49 → 00:10:51 มาเทสฉันด้วยฉันโดนเทสด้วยตลอดแล้วพี่ชาย
00:10:51 → 00:10:54 เก็แบบเป็นแค่คนขับหลุปถุกแค่เคือแบบไม่
00:10:54 → 00:10:57 ได้แบบเตมอะไรเลยทีนี้แบบเขาก็เลยแบบ
00:10:57 → 00:11:01 วิทยาศาสตร์เก็จะพิสูว่าแบบเฮ้ยทำไมยูถึง
00:11:01 → 00:11:04 ทำได้อแล้วตอนที่เขาทำอยู่มีอะไรบ้างอะไร
00:11:04 → 00:11:06 เงี้ยนักวิทยาศาสเคก็จะพิสูจน์ที่แบบทำ
00:11:06 → 00:11:10 ให้แบบวิธีการของฮอมาปปูแล้วก็แบบเอามา
00:11:10 → 00:11:12 สอนทุกคนได้ว่าเนี่ยมันเวิร์คหรือว่ามัน
00:11:12 → 00:11:16 แบบที่ทำให้คนทำให้คงใช่อันนี้เป็นการ
00:11:16 → 00:11:19 ศึกษาของมหาวิทยาลัยรัฐบาวที่
00:11:19 → 00:11:23 เนเธอร์แลนด์เขาก็จะฉีดเเจะมีเชื้อเอนที
00:11:23 → 00:11:26 เช้อแบคทีเรียแล้วเก็จะฉีดเข้าไปกเวลาที่
00:11:26 → 00:11:29 ฉีดเข้าไปในบุคคลทั่วไปอย่างเงี้ยค่ะเก็
00:11:29 → 00:11:32 ก็จะแบบทุกคนก็จะมีอาการอาเจียนตัวร้อน
00:11:32 → 00:11:35 เป็นไข้สั่นปวดหัวอย่างรุนแรงอันนี้คือ
00:11:35 → 00:11:36 เอฟเฟคเวลาที่ร่างกายของเราป่วยหรือได้
00:11:36 → 00:11:38 รับเชื้อโลคเข้าไปใช่ไหมมคะแต่ทีเนี้ยพอ
00:11:38 → 00:11:41 เขาฉีดคุณบีมฮอฟอ่ะคุณบีมฮอก็แบบเขาให้
00:11:41 → 00:11:44 หายใจด้วยหายใจแบบบีมฮอฟอือเขาก็หายใจของ
00:11:44 → 00:11:47 เขาไปตอนที่เทสอ่ะคุณฮอฟไม่เป็นอะไรเลย
00:11:47 → 00:11:50 เชื้อโรคกระเด็นออกมาเลยเชื้อโรคอยู่ไหน
00:11:50 → 00:11:53 ก็ไม่รู้แต่แบบว่าคุมคุ้มกันของเขาอ่ะน่า
00:11:53 → 00:11:56 จะดีขึ้นคุณบีมฮอปไม่มีอาการนั้นเลยไม่มี
00:11:56 → 00:12:00 อาการแบบว่าปวดหัวอาเจียนหมอก็ถามว่ายู
00:12:00 → 00:12:03 เป็นอะไรมั้ยเแบบอโอเคอย่างเงี้ยเเแบบเ
00:12:03 → 00:12:05 ไม่ไม่มีอาการอย่างนั้นเลยทุกคนหมอก็แบบ
00:12:05 → 00:12:09 อ่ะยูไม่เหมือนคนอื่นแหละยูปลาดอคุณเพ่อ
00:12:09 → 00:12:14 ก็บอกไม่ๆฉันน่ะสามารถฝึกคนอื่นได้ให้ทำ
00:12:14 → 00:12:17 เหมือนเขาได้ค่ะแล้วหมอก็แบบจะใช้เวลากี่
00:12:17 → 00:12:21 ปี 10 ปี 20 ปีหรออย่างเงี้ยเบอกไม่
00:12:21 → 00:12:24 เดี๋ยวจะพาไปเลยอย่างเงี้ยแล้วเขาก็แบบ
00:12:24 → 00:12:27 ใช้เวลาตั้งหลังจากนั้นน่ะค่ะอีกประมาณ 2
00:12:27 → 00:12:30 ปีเขาก็จะเทสทำการเทสครั้งยิ่งใหญ่ทีนี้
00:12:30 → 00:12:33 ตอนที่เส่งเป็นแบบศิษย์เอกไปศิษ์ใช่แล้ว
00:12:33 → 00:12:35 เขก็จะมีแบบนักศึกษาเก็จะเอามามาแบบว่ามี
00:12:35 → 00:12:38 2 กลุ่มกลุ่มนึงก็คือไม่ได้ไปแต่อีกอีก
00:12:38 → 00:12:41 กลุ่มนึงก็คือไปฝึกกับครูบิมฮออไปแบบแช่
00:12:41 → 00:12:44 น้ำแข็งไปเดินขึ้นภูเขาหิมะใส่แค่แบบ
00:12:44 → 00:12:46 บิกินนี่กับเกขาสั้นใส่กางเกงว่ายน้ำเดิน
00:12:46 → 00:12:49 ขึ้นอะไรอย่างเงี้ยอุณหภูมิติดรบแบบ 40
00:12:49 → 00:12:54 องศาแล้วก็ฝึกหายใจแล้วก็ฝึก mindset ค่ะ
00:12:54 → 00:12:56 แบบทำอย่างงั้นน่ะเป็นกิจวัตรทุกวันไปฝึก
00:12:56 → 00:12:59 4 วันไปฝึกที่โปแลนด์พอไปฝึกเสร็จเขกลับ
00:13:00 → 00:13:02 มากลับมาที่เทสอ่ะเขคก็ฉีดเสื้ออีลายเข้า
00:13:02 → 00:13:04 ไปกลุ่มที่ไม่ได้ไปฝึกกับคุณิมฮอฟเลยอ่ะ
00:13:04 → 00:13:07 ค่ะทุกคนมีอาการหมดแบบปวดหัวตัวร้อน
00:13:07 → 00:13:10 อาเจียนอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็กลุ่มที่ไปไป
00:13:10 → 00:13:12 ฝึกกับคุณิพอฉีดเสร็จเขาคก็ให้ฝึกหายใจไป
00:13:12 → 00:13:16 ด้วยเนาะกลุ่มที่ไปทั้งหมดน่ะทุกคนไม่
00:13:16 → 00:13:20 เป็นอะไรเลยอืแล้วเแบบเฮ้ยเแบบมันคือ
00:13:20 → 00:13:22 เซอร์ไพรสนักวิทยาศาสตร์แล้วก็คุณหมอมาก
00:13:22 → 00:13:25 ว่าแบบเอ้เราสามารถควบคุมระบบประสาทใน
00:13:25 → 00:13:28 ร่างกายของเราได้เราสามารถแบบช่วยให้ร่าง
00:13:28 → 00:13:30 กายของเราแบบควบคุมอมน System เนาะทำให้
00:13:30 → 00:13:33 ร่างกายของเราดีขึ้นอะไรอย่างเงี้ยอือัน
00:13:33 → 00:13:37 นั้นก็คือเป็นตัวที่แบบว้าวทุกคนแล้วก็พ
00:13:37 → 00:13:39 หลังจากนั้นมาก็เลยกลายแบบกลายเป็นศาสตร
00:13:39 → 00:13:41 ของฮอเที่เอามาสอนทุกคนในปัจจุบันนี้ยค่ะ
00:13:41 → 00:13:45 อือันนั้นคุณฮอแต่อย่างเราๆปุถุชน
00:13:45 → 00:13:49 ธรรมดาถ้าเราจะไอบาสเนี่ยค่ะคือเราต้อง
00:13:49 → 00:13:51 แช่ยังไงอุณหภูมิเท่าไหร่ชมได้ยินมาบาง
00:13:51 → 00:13:55 ที่ก็บอก 13 องศาบางที่ก็บอก 0 องศา 0 อง
00:13:55 → 00:14:00 อืในในการศึกษามาค่ะวิทยาศาสตร์คือไอป
00:14:01 → 00:14:02 หรือว่าการสัมผัสความเย็นแช่ตัวในน้ำเย็น
00:14:02 → 00:14:06 น่ะต่ำกว่า 15 องศาเราได้รับประโยชน์แล้ว
00:14:06 → 00:14:10 เราไม่ต้องให้มันแบบูองศาแบบนั้นก็ได้
00:14:10 → 00:14:13 แล้วก็แบบอยากให้ได้ผลดีที่สุดก็คือต่ำ
00:14:13 → 00:14:15 กว่า 9 องศาอือันนี้คือเราก็จะรับ
00:14:15 → 00:14:19 ประโยชน์หมดแล้วค่ะแต่ว่าในการฝึกของเรา
00:14:19 → 00:14:21 อ่ะค่ะเพราะมันเป็นการฝึกมันคือการเทรน
00:14:21 → 00:14:24 ร่างกายเนาะเราก็จะใช้แบบความเย็นจัดเรา
00:14:24 → 00:14:27 ก็จะใช้เป็น 0 องศาแล้วเอาจริงๆเราทนได้
00:14:27 → 00:14:32 หรอคะได้ร่างกายของเราอ่ะเขาฉลาดเารู้ว่า
00:14:32 → 00:14:34 เขาต้องทำยังไงเวลาที่เขาเผชิญหน้ากับ
00:14:34 → 00:14:37 ความเครียดต่างๆเขาสามารถรับมือได้แต่
00:14:37 → 00:14:40 สิ่งที่เราต้องสู้อ่ะคือความคิดล้วนๆเลย
00:14:40 → 00:14:43 อือแล้วมันเคยมีเคสที่แบบมันเกิดเป็น
00:14:43 → 00:14:46 อันตรายหรือว่าเกิดอะไรเงี้ยไม่มีเลยเรา
00:14:46 → 00:14:50 สอนวิธีการเนี้ยในไทยมา 5 ปีค่ะสอนคนที่
00:14:50 → 00:14:54 ไทยในไทยเยค่ะมาเกือบ 3,000 คนค่ะ 99% ทำ
00:14:54 → 00:14:58 ได้หมดอืทำได้ดีด้วยแล้ว 1% ที่ทำไม่ได้
00:14:58 → 00:15:01 นี่คือคืออะไร 1% นี่ทำได้นี่เลยล้วนๆ
00:15:01 → 00:15:04 เพราะว่าเขาเป็นนักกีฬาเป็นนักมวยออเป็น
00:15:04 → 00:15:06 นักกีฬาด้วยใช่แล้วทีเนี้ยเวลาที่นักมวย
00:15:06 → 00:15:10 เนาเขาจะแบบกริบอะไรที่มาชนเขาจะสู้กับ
00:15:10 → 00:15:13 การ resp ของเขาเถูกสุดกอะไรที่มันมาปุ๊บ
00:15:13 → 00:15:16 เขาก็จะแบบเอ้ยฉันก็จะสู้กับทีเนี้พอเขา
00:15:16 → 00:15:18 เจอการใช้น้ำแข็งปุ๊บเขาจะสู้เขาจะสู้หมด
00:15:18 → 00:15:20 เลยหมายถึงว่าร่างกายเขาก็จะไม่ยอมอยู่
00:15:20 → 00:15:23 เฉยๆใช่แต่พอเขาสู้ปุ๊บเขาจะแบบไม่ได้
00:15:23 → 00:15:25 แล้วเก็จะขึ้นมาขึ้นมาเสร็จเขก็เตะอ่าง
00:15:25 → 00:15:29 น้ำแข็งเราอ๊แล้วก็แบบลงไปใหม่ค่ะอย่าง
00:15:29 → 00:15:31 เงี้ยแล้วเราก็จะแบบใจเย็นๆอยู่ต้องแบบ
00:15:31 → 00:15:34 เปลี่ยนตรงนี้ก่อนอะไรอย่างเงี้ยอืแค่
00:15:34 → 00:15:36 นั้นเลยแต่ที่เหลือก็คือได้หมดอย่างงี้
00:15:36 → 00:15:38 แปลว่าเราซื้อมาแช่เองที่บ้านไม่ได้ใช่ม
00:15:38 → 00:15:40 ไม่แนะนำถ้าเรายังไม่มีความรู้เลยว่าเรา
00:15:40 → 00:15:43 แช่แล้วอันตรายอะไรอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง
00:15:43 → 00:15:46 อีกอย่างนึงการแช่น้ำแข็งแบบ w h เ me
00:15:46 → 00:15:49 ไม่ใช่การที่แบบว่าเฮ้ยฉันจะแช่ได้กี่
00:15:49 → 00:15:52 นาทีค่ะฉันจะทำได้ฉันจะอยู่ได้แบบนานเท่า
00:15:52 → 00:15:55 ไหร่ค่ะแต่การแช่น้ำแข็งเบบีพอปเราจะแช่
00:15:55 → 00:15:59 แค่ 2 นาทีเท่านั้นที่ที่อุณหภูมิ 0 อง
00:15:59 → 00:16:02 แค่ 2 นาทีในการศึกษา 2 นาทีเราได้รับ
00:16:02 → 00:16:04 ประโยชน์หมดแล้วค่ะทั้งร่างกายจิตใจเรา
00:16:04 → 00:16:08 ได้รับหมดแล้วค่ะเกินมาจากนั้นก็คือ
00:16:08 → 00:16:11 เสี่ยงเสี่ยงภาวะตัวเย็นฉับพันธ์
00:16:11 → 00:16:13 ไฮเปอร์เทอเมียหลังจาก 2 นาทีขึ้นไปเริ่ม
00:16:13 → 00:16:16 เสี่ยงแล้วแล้วระหว่างที่แช่มันต้องทำยัง
00:16:16 → 00:16:19 ไง่ะคะคืออย่างชมอย่าเงี้ยชมเข้าตู้ใช่ม
00:16:19 → 00:16:22 อืมันไม่ได้ dir Contact อ่ะเนาะเออมัน
00:16:22 → 00:16:24 เป็นไนโตรเจนเป็นอะไรเงี้ยใช่เขาก็จะบอก
00:16:24 → 00:16:27 ว่าอุณหภูมิเรานั้นก็จะประมาณแบบลบ 100
00:16:27 → 00:16:30 กว่าแล้วแต่ใครใจะเลือกแต่ว่ามันก็พีคสุด
00:16:30 → 00:16:34 ได้ที่-บ 140 เราก็ไม่สามารถยืนเฉยๆได้ก็
00:16:34 → 00:16:37 จะต้องขยับนิดเออมันต้องขยับนิดนึงคือโชม
00:16:37 → 00:16:39 ก็แบบว่าพวกที่แบบว่ามันแช่น้ำแข็งอ่ะคือ
00:16:39 → 00:16:42 เขาอยู่เฉยๆเนาะแล้วเขาก็อยู่กับตัวเอง
00:16:42 → 00:16:44 แล้วเขาก็แบบหายใจแต่ในขณะที่แบบเวลาเรา
00:16:44 → 00:16:46 ทำแบบนั้นเนี่ยเราก็จะอยู่กับเพลงแหกปาก
00:16:46 → 00:16:49 ร้องเพลงไปหรือว่าบางทีก็มีใครว่าหลังๆก็
00:16:49 → 00:16:53 เลยพยายามแบบว่านิ่งขึ้นลองดูซิก็ลองก็ก็
00:16:53 → 00:16:56 ถามแบบว่าถามพนักงานบมีใครที่เขาเข้าไป
00:16:56 → 00:16:58 แล้วแบบว่าเขาไม่เต้นเก็อ๋อมีค่ะบางคนก็
00:16:58 → 00:17:00 ไม่เปิดอะไอะไรเลยแล้วก็ยืนเฉยๆบางคนก็
00:17:00 → 00:17:03 สวดมนต์บางคนก็แบบเเททอะไรเงี้ยบอกว่าเออ
00:17:03 → 00:17:06 เออแต่ว่าจริงๆก็คือมันยากเนาะที่เราจะ
00:17:06 → 00:17:09 อยู่เฉยๆขณะตั้งใจว่าจะไม่กระโดดจะไม่
00:17:09 → 00:17:11 เต้นจะอะไรมันก็ยังแบบมันก็อยากขยับตัว
00:17:11 → 00:17:13 นิดนึงเออขอขยับนิดนึงอะไรอย่างเงี้ยซึ่ง
00:17:13 → 00:17:16 อยู่ในน้ำเท่าที่ชมเห็นก็คือทุกคนก็คือ
00:17:16 → 00:17:20 ต้องแบบนิ่งต้องนิ่งมันต้องต้องหายใจหรือ
00:17:20 → 00:17:22 ว่าต้องคิดหรือว่าต้องอะไรหรือว่าต้องสวด
00:17:22 → 00:17:24 มนต์หรือต้องนึกถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือ
00:17:24 → 00:17:27 ยังไงไม่เลยค่ะไม่เวลาที่เราแช่น้ำแข็งใน
00:17:27 → 00:17:30 ศาสตรของเราเนาะค่ะการแช่น้ำแข็งคือ
00:17:30 → 00:17:32 เครื่องมืออย่างหนึ่งเพื่อ Connect กับ
00:17:32 → 00:17:36 ร่างกายของเราอืล้วนๆเลยดังนั้นที่แบบว่า
00:17:36 → 00:17:38 เวลาทำไมแช่น้ำแข็งเราสามารถรับมือกับ
00:17:38 → 00:17:40 ความคิดได้ดีขึ้นเพราะมันไม่คิดเรื่อง
00:17:40 → 00:17:43 อื่นเลยใช่เราต้องอยากคิดเรื่องอื่นในส
00:17:43 → 00:17:46 ที่ใช่ค่ะแก้มจะให้แบบอย่าคิดว่าลงแช่น้ำ
00:17:46 → 00:17:48 แข็งเสร็จแล้วแบบโอ๊ยฉันแบบอาบแดดอยู่
00:17:48 → 00:17:51 เกาะสมุยหรืออะไรอย่างเงี้ยเออแบบต้องดึง
00:17:51 → 00:17:54 ตัวเองกลับมาเราจะไม่ distraction อืมัน
00:17:54 → 00:17:56 ก็เหมือนมัน Bring awareness กลับมาที่
00:17:56 → 00:17:59 ตัวเราอ่ะเนาะใช่ค่ะใช่ให้ร่างกายเทำงาน
00:17:59 → 00:18:02 ของเขาเองเรารีกเรา Connect กับร่างกาย
00:18:02 → 00:18:04 อีกอย่างนึงเวลาที่เราใช้น้ำแข็งหรือว่า
00:18:04 → 00:18:07 เราฝึกฮออ่ะค่ะ mindset เนาะที่แก้มบอก
00:18:07 → 00:18:10 มันเป็นการฝึก Inception ล้วนๆ Inception
00:18:11 → 00:18:15 คือการรับรู้จากภายในล้วนๆเลยเราจะไม่คิด
00:18:15 → 00:18:18 ถึงเรื่องอื่นจะไม่สนใจเรื่องอื่นอืในตอน
00:18:18 → 00:18:20 ที่เราฝึกมันก็ไม่น่าจะคิดได้นะมันคิดไม่
00:18:20 → 00:18:24 ออกอแต่ว่าพอในในนั้น 0 องศาหัวทุกคนจะไป
00:18:24 → 00:18:27 ที่อื่นหมดเลยจริงหรอจริงทุกคนแบบบางคือ
00:18:27 → 00:18:30 บางคนแบบเมื่อจตรนี้ลงแชเสร็จแล้วแบบว่า
00:18:31 → 00:18:33 เฮ้ยลืมปิดแก๊สที่บ้านือเปล่าอย่างเงี้
00:18:33 → 00:18:36 คือแบบแก้มก็ถามว่าทำไมความคิดนั้นถึง
00:18:36 → 00:18:38 เข้ามาอะไเงี้ยคือมันจะอยากจะคิดไปเรื่อง
00:18:38 → 00:18:41 อื่นทันทีเออแปลกเพราะว่าการฝึกฮอแต่จริง
00:18:41 → 00:18:44 ๆแล้วอ่ะมันคือความเครียด H medic
00:18:44 → 00:18:46 stress คือความเครียดโดสที่เราได้รับใน
00:18:46 → 00:18:48 ปริมาณที่เหมาะสมเวลาที่เรากลับไปบ้านพัก
00:18:48 → 00:18:50 ผ่อนฟื้นฟูร่างกายเราจะได้รับประโยชน์จาก
00:18:50 → 00:18:53 ตรงนั้นอืแค่นั้นเลยคือเราแบบได้รับโดส
00:18:53 → 00:18:55 ของความเครียดทีเนี้การใช้น้ำแข็งมันคือ
00:18:55 → 00:18:58 ความเครียดอืเวลาที่คนเราเจอความเครียดทำ
00:18:58 → 00:19:01 ยังไงค่ะเราดึงความใสใจไปที่อื่นอืบางคน
00:19:01 → 00:19:04 แบบโดนเจ้านายบ่นเราก็แบบอยู่ตรงนั้นแหละ
00:19:04 → 00:19:06 แต่เราไม่ฟังหัวเราจะไปคิดถึงเรื่องอื่น
00:19:06 → 00:19:08 เราจะไม่อยากฟังว่าเาบ่นเรื่องอะไรเวลา
00:19:08 → 00:19:09 ที่เราเจอความเครียดเมื่อไหร่เราจะดึง
00:19:09 → 00:19:12 โฟกัสไปที่อื่นการใช้น้ำแข็งเวลาที่เราลง
00:19:12 → 00:19:15 อ่ะมันคือความเครียดอย่างมากพอลงเสร็จทุก
00:19:15 → 00:19:18 คนดึงความสนใจไปที่อื่นหมดเออก็มันคง
00:19:18 → 00:19:20 เหมือนเราร้องเพลงอยู่ในตู้ใช่ๆการร้อง
00:19:20 → 00:19:23 เพลงแบบเราคิดถึงเรื่องอื่นจะอีกกี่หน้า
00:19:23 → 00:19:25 ที่ีอย่างเงี้ยคือการ distract ตัวเองหมด
00:19:25 → 00:19:28 เลยอืเราดึงจุดสนใจไปที่อื่นแต่ชีวิต
00:19:28 → 00:19:30 ประจำวันของเราอ่ะเราไม่โฟกัสอยู่แล้วเรา
00:19:30 → 00:19:33 ดึงจุดสนใจง่ายคโทรศัพท์อย่างเงี้ยเรา
00:19:33 → 00:19:35 อยู่กับโทรศัพท์ตลอดเวลาเราไม่ได้แบบไม่
00:19:35 → 00:19:38 มีใครจะแบบกลับมานั่งคิดว่าตอนนี้เรารู้
00:19:38 → 00:19:42 สึกอะไรตอนเเรารู้สึกยังไงมากไปกว่าการ
00:19:42 → 00:19:45 แค่จัลงไปแช่ในน้ำแข็งมันก็คือเรื่องก็
00:19:45 → 00:19:48 คือสมาธิแะเนเออแล้วมีข้อห้ามอะไรมั้ยคะ
00:19:48 → 00:19:52 สำหรับการทำไอซบาสมีข้อห้ามหลักๆเพราะว่า
00:19:52 → 00:19:54 เราเวลาเราลงแช่เนาะเราเอฟเฟคกับเส้น
00:19:54 → 00:19:56 เลือดของเราโดยตรงค่ะคนที่ฝึกไม่ได้เลยก็
00:19:56 → 00:19:59 จะเป็นคนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบ
00:19:59 → 00:20:03 เส้นเลือดค่ะความดันสูงจนควบคุมไม่ได้อัน
00:20:03 → 00:20:04 นี้ก็คือเกี่ยวกับเส้นเลือดหมดเลยโรคหัว
00:20:04 → 00:20:09 ใจอลิ่มเลือดคโรคเส้เรือในสมองแตกคนท้อง
00:20:09 → 00:20:12 ก็ฝึกไม่ได้อคนที่เป็น Panic อทคอ่าวิตก
00:20:12 → 00:20:15 กังวลเพราะว่าอย่าลืมว่ามันคือความเครียด
00:20:15 → 00:20:18 ค่ะแล้วเวลาที่คนที่เป็นวิตกมลหรือพานิก
00:20:18 → 00:20:20 เวลาที่เราเจอการหายใจแล้วก็แช่แผบีกมัน
00:20:20 → 00:20:25 ยิ่งกระตุ้นอืพอกระตุ้นปุ๊บเขาจะแบบมันจะ
00:20:25 → 00:20:27 โอเวอรไปเลยต่อให้ฝึกกับมาสเตอร์ก็ไม่ได้
00:20:27 → 00:20:30 เหรอไม่ได้เลยเพราะว่าเราต้องเจอทุกคน
00:20:30 → 00:20:32 ต้องโดนโดสตรงนี้หมดบางคนที่แบบพอดีๆ
00:20:32 → 00:20:35 เรียนหลังปุ๊บเจอการสสร่างกายปุ๊บอ่ะค่ะ
00:20:35 → 00:20:39 เขาจะแบบไปแล้วแบบอย่างเงี้ยอืแล้วมีอะไร
00:20:39 → 00:20:42 อีกมั้ยคะที่ห้ามทำห้ามหายใจในน้ำหรือว่า
00:20:43 → 00:20:46 ใกล้น้ำเด็ดขาดควรหายใจในที่ที่ปลอดภัย
00:20:46 → 00:20:49 เท่านั้นควรหายใจในท่านอนอ๋อหมายถึงว่า
00:20:49 → 00:20:52 ห้ามฝึกหายใจแบบบีมหอตอนที่อยู่ในน้ำใช่
00:20:52 → 00:20:56 ห้ามเอาไปใช้ในนั้นอืบางคนแบบการหายใจแบอ
00:20:57 → 00:20:59 ช่วยให้เราใช้น้ำแข็งได้นานขึ้นแต่จริงๆ
00:20:59 → 00:21:01 เราไม่ใช่ทำในน้ำไปเลยแล้วเวลาที่เราอยู่
00:21:01 → 00:21:04 ในน้ำก็คือควรหายใจแบบปกติคอนโทรลการหาย
00:21:04 → 00:21:06 ใจเพราะว่าการหายใจแบบฮออาจจะเป็นการหาย
00:21:06 → 00:21:09 ใจคล้ายๆแบบ hyperventilation เหมือนเรา
00:21:09 → 00:21:13 หายใจเร็วกว่าปกติหรือเราหายใจมากกว่า
00:21:13 → 00:21:17 ปกติทีนี้การหายใจแบพมาเราจะหายใจแบบค่อน
00:21:17 → 00:21:20 ข้างหนักคือการออกกำลังกายอย่างนึงอืดัง
00:21:20 → 00:21:22 นั้นเราต้องฝืนเราจะไม่แบบเราจะไม่ไปนั่ง
00:21:22 → 00:21:25 แล้วก็แบบอย่างเงี้ยเพราะว่าการหายใจแบบ W
00:21:25 → 00:21:27 Hop มันก็คือเป็นสสอยู่แล้วถูกมยคะ str
00:21:27 → 00:21:30 ใช่ค่ะลงก็สสอีกแล้วทีนี้เวลาที่เรา
00:21:30 → 00:21:32 เปลี่ยนเปลี่ยนกาสในร่างกายของเราหรือการ
00:21:32 → 00:21:34 หายหายใจเป็น hyperventilation น่ะมันอาจ
00:21:34 → 00:21:38 จะทำให้เราแบบชึบหลับไปได้อืกลัดหลุดหลับ
00:21:38 → 00:21:41 ไปได้เป็นไปได้มยคะที่สำสำหรับบางคนที่
00:21:41 → 00:21:44 ตอนที่ฝึกหายใจอยู่บนบกอย่างเงี้ยตุ๊บไป
00:21:44 → 00:21:46 เลยอะไรอย่าเงี้ยหหลับไปเลยอะไรเงี้ยเป็น
00:21:46 → 00:21:48 ไปได้ดังนั้นแกถึงหายใจในท่านอนเท่านั้น
00:21:48 → 00:21:50 นอนไปเลยบางคนคิดว่าแบบว่าโฮ้ยเรานั่ง
00:21:50 → 00:21:53 สมาธิเราฝึกโยคะเราสามารถนั่งขัดสมัสแล้ว
00:21:53 → 00:21:55 ก็ฝึกหายใจได้อะไรอย่างเงี้ยแต่ถ้าเราแบบ
00:21:55 → 00:21:59 จะวึบหลับไปอย่างเงี้ยถ้านั่งก็อันตรายอว
00:21:59 → 00:22:03 หปใช่เฟี้ไว้ก่อนควรหายใจในท่านอนเท่า
00:22:03 → 00:22:05 นั้นเห็นบอกว่าห้ามเอาศีรษะจุ่มน้ำด้วย
00:22:05 → 00:22:08 ใช่มั้ยคะอันนี้คือแบบปูล่ามากเดี๋ยวนี้
00:22:08 → 00:22:12 คือแบบคือแบบว่าต้องลงลงไปใช่แล้วเราก็
00:22:12 → 00:22:15 แบบห้ามเด็ดขาดแล้วพแบบคือเวลาสอนแล้วก็
00:22:15 → 00:22:18 ก็จะแบบว่าอันนี้คือข้อห้ามนะคะแล้วคคทุก
00:22:18 → 00:22:20 คนแบบทำไมถึงห้ามวันนี้ก็แบบก็ต้องอธิบาย
00:22:20 → 00:22:23 อะไรเงี้ยเพราะว่าเดี๋ยวนี้มันปปูจนจนทุก
00:22:23 → 00:22:26 คนเห็นแล้วทุกคนก็คิดว่ามันมันโอเคใครๆก็
00:22:26 → 00:22:29 ทำได้ใช่มยคะอแต่ว่าจริงๆแล้วลึกๆแล้วมัน
00:22:29 → 00:22:31 อันตรายมากเหมือนจริงๆแบบเหมือนพอทำได้
00:22:32 → 00:22:33 แล้วก็แบบเต้องมีคั่นกว่าอย่าเงี้ยต้อง
00:22:33 → 00:22:36 จุมลงไปทั้งตัวคนแบบอยากรรชอะไรอย่าง
00:22:36 → 00:22:39 เงี้ยแล้วก็แบบไม่ได้ห้ามกลั้นหายใจแล้ว
00:22:39 → 00:22:42 ดำลงไปใต้น้ำแข็งหรือว่าน้ำเย็นเด็ดขาดออ
00:22:42 → 00:22:45 เพราะว่าน้ำแข็งมันคือความเครียดเนาะระบบ
00:22:45 → 00:22:47 ประสาทของเราจะมีอยู่ 2 ฝั่งใช่ไหมมคะ
00:22:47 → 00:22:51 ฝั่งาติคือฝั่งที่เครียดค่ะระบบพาติคือ
00:22:51 → 00:22:54 ฝั่งที่ชอือเราต้องแบบดึงตัวเองมาเวลาที่
00:22:54 → 00:22:56 เราต้อง Active อะไรสักอย่างเราก็ึงมาฝัง
00:22:56 → 00:22:59 เครียดให้ได้มเวลาที่เราลงไปใต้น้ำอ่ะค่ะ
00:22:59 → 00:23:01 ตรงหน้าของเราจะบีเาเรียกว่า tral nerve
00:23:01 → 00:23:04 ตรงเนี้ยที่แบบเวลานักฟีเเอิหน้าลงเพราะ
00:23:04 → 00:23:06 เวลาที่หน้าเราจุบน้ำเมื่อไหร่ระบบประสาท
00:23:06 → 00:23:09 ของเราจะไปทางพาราซิมพาเทติกทำให้เรารีก
00:23:09 → 00:23:12 ดังนั้นเขาสามารถกั้นหายใจได้ดาดขึ้นอออื
00:23:12 → 00:23:15 ทีนี้เวลาที่เราเจอน้ำแข็งน้ำแข็งคือความ
00:23:15 → 00:23:18 เครียดแล้วเราเอาหน้าลงเอาทั้งหัวลงระบบ
00:23:18 → 00:23:21 ประสาท 2 ฝั่งของเราเขาชนกันเขาเรียกว่า
00:23:21 → 00:23:23 autonomic nervous System Crash ออ
00:23:23 → 00:23:26 ระบบประสาท 2 ฝั่งชนกันอาจจะทำให้หัวใจ
00:23:26 → 00:23:29 ของเราหยุดเต้นได้ค่ะพอดีว่ามีมีเป็นสอร์
00:23:29 → 00:23:32 คนนึงแชมตามเฟ asb เได้ยินชื่อมคะก็คือ
00:23:32 → 00:23:35 เขาบอกว่าสำหรับคนที่อาจจะแบบไม่ค่อย
00:23:35 → 00:23:38 practical เท่าไหร่ที่จะแบบว่าลงไปจุ่ม
00:23:38 → 00:23:42 แบบทั้งตัวอะไรเขาบอกว่าสามารถเอาน้ำแข็ง
00:23:42 → 00:23:47 เนี่ยใส่ชามใหญ่ๆแล้วก็จุ่มลงไปแต่หน้าก็
00:23:47 → 00:23:55 ได้ประโยชน์เหมือนกันจริงไจริงมหันไป
00:23:55 → 00:24:10 ถังอือฮึ
00:24:10 → 00:24:13 benefit Face
00:24:13 → 00:24:25 To So It's Not
00:24:25 → 00:24:30 comparable On fl
00:24:30 → 00:24:33 R ian in workshops People put
00:24:33 → 00:24:36 the There's always That
00:24:36 → 00:24:40 risk reward Ra Yeah He saying a
00:24:40 → 00:24:43 lot of Crazy
00:24:43 → 00:24:45 Stuff got a of Blood vessels
00:24:45 → 00:24:47 Close To the Skin So this will
00:24:47 → 00:24:50 Cool Down the quicker So going to
00:24:50 → 00:24:52 Put Your face in need Like 20
00:24:52 → 00:24:55 Seconds doing it separately Never
00:24:55 → 00:24:58 sub The Head If in the i
00:24:58 → 00:25:02 อือืซึ่งคุณจ๊ก็บอกว่าผลประโยชน์ที่ได้
00:25:02 → 00:25:05 ต่างกันแบบเทียบกันไม่ได้แล้วก็ถือว่ายัง
00:25:05 → 00:25:07 เสี่ยงอยู่ดีเงเพราะว่ามันก็ยังสามารถ
00:25:07 → 00:25:09 แครชได้อยู่ดีใช่อีกอย่างนึงหน้าเราอ่ะ
00:25:09 → 00:25:12 ตรงหน้าเราอ่ะเส้นเลือดของเราอยู่ใกล้
00:25:12 → 00:25:14 ใกล้ผิวเรามากเวลาที่เราหน้าเราเจอความ
00:25:14 → 00:25:16 เย็นปุ๊บเราสามารถคูลดาวน์ร่างกายของ
00:25:16 → 00:25:19 คูลดาวน์แบบแกนกลางของเราได้ได้เร็วอื
00:25:19 → 00:25:21 เหมือนเวลาที่เราเป็นไข้เราจะแปะเจลเย็น
00:25:22 → 00:25:24 เนาะก็คือเหมือนกับว่าเขาจะไปสู่จุดนั้น
00:25:24 → 00:25:26 ได้แบบเร็วกว่าใช่ดังนั้นอาจจะเสี่ยงมาก
00:25:26 → 00:25:29 กว่าเพราะว่าอเกิดภาวะตัวเย็นได้เร็วก็
00:25:29 → 00:25:31 คือเหมือนร่างกายมันไม่ค่อยๆปรับตัวมัน
00:25:31 → 00:25:33 ไม่ได้ค่อยๆปรับตัวใช่ใช่ใช่ใช่อีกอย่าง
00:25:33 → 00:25:36 นึงประโยชน์ที่ได้อาจจะแบบไม่คุ้มเสียง
00:25:36 → 00:25:39 อือหรือว่าอาจจะไม่ได้อะไรเลยเพราะว่าแบบ
00:25:39 → 00:25:41 เอาหน้าจุ่มแต่แบบเรื่องผิวเเดี๋ยวนี้
00:25:41 → 00:25:43 เทรนผู้หญิงเาจะแบบน้ำแข็งถูหน้าหรือเอา
00:25:43 → 00:25:45 หน้าจุ่มในน้ำแข็งอะไรอย่างเงี้ยแต่
00:25:45 → 00:25:47 เหมือนอย่างที่คุณจูบอกเวลาที่จุ่มอ่ะ
00:25:47 → 00:25:50 ต้องหายใจออกเราจะไม่กลั้นหายใจเด็ดขาด
00:25:50 → 00:25:52 การแช่น้ำแข็งดีต่อร่างกายเรายังไงคะเอา
00:25:52 → 00:25:53 แบบตามหลักเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์เลย
00:25:54 → 00:25:55 ประโยชน์โดยรวมของ wm hof method ดี
00:25:55 → 00:25:58 กว่าค่ะเวลาที่เราฝึก wm hof meth อ่ะ
00:25:58 → 00:26:00 ค่ะร่างกายของเราก็จะแบบเป็นการเทรนเส้น
00:26:00 → 00:26:03 เลือดทั้งตัวทั้งการหายใจแล้วก็การใช้น้ำ
00:26:03 → 00:26:05 แข็งเป็นการเทรนเส้นเลือดถ้าเส้นเลือดเรา
00:26:05 → 00:26:09 ดีร่างกายของเราก็จะดีใช่มั้ยคะใช่ช่วยลด
00:26:09 → 00:26:11 การอักเสบซึ่งมันก็เป็นผลพวงมาจากการที่
00:26:11 → 00:26:13 เส้นเลือดมันมันดีถูกมั้ยคะลำเลียง
00:26:14 → 00:26:16 ออกซิเจนได้ดีขึ้นเวลาเราหายใจฝึกหายใจ
00:26:17 → 00:26:18 ร่างกายของเราก็จะสั่งแบบหลังเซลล์ไม่ม
00:26:19 → 00:26:21 เลือดขาวที่ออกมาค่าเชื้อโลกค่ะใช่ภูมิ
00:26:21 → 00:26:23 คุ้มกันของเราก็จะดีขึ้นปรับภูมิคุ้มกัน
00:26:23 → 00:26:26 ของเราให้เหมาะสมบางคนภูมิคุ้มกันต่ำก็
00:26:26 → 00:26:28 ปรับขึ้นมาให้มันอยู่ในระดับที่เหมาะสมมค
00:26:28 → 00:26:30 กันสูงเกินไปเก็ปรับให้มันอยู่ในระดับที่
00:26:30 → 00:26:33 เหมาะสมอืเวลาที่เราเทรนเส้เลือดความดัน
00:26:33 → 00:26:35 ของเราก็จะปรับให้มันอยู่ในระดับที่มัน
00:26:35 → 00:26:37 เหมาะสมอือช่วยให้นอนการนอนหลับของเราดี
00:26:38 → 00:26:41 ขึ้นช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย
00:26:41 → 00:26:43 บางคนสามารถฝึกหายใจแล้วก็ใช้น้ำไขเสร็จ
00:26:43 → 00:26:45 แล้วก็สามารถแบบรู้สึกว่าตัวเองแข็งแรง
00:26:45 → 00:26:47 ขึ้นเวลาที่เราออกกำลังกายอึดขึ้นอึดขึ้น
00:26:47 → 00:26:50 ถึกขึ้นฟิตขึ้นเอออ่ะพูดถึงเรื่องการออก
00:26:50 → 00:26:53 กำลังกายอันนี้จริงมยซึ่งชมก็ค่อนข้าง
00:26:53 → 00:26:55 เชื่อว่าจริงนะแต่ก็ยังทำอยู่ดีก็คือเขา
00:26:55 → 00:26:57 บอกว่าให้ทำก่อนออกกำลังกายจะดีกว่าใช่
00:26:57 → 00:27:00 มั้ยคะหรือว่าหลังออกกำลังกายออกกำลังกาย
00:27:01 → 00:27:03 ต้องแบบไหนด้วยถ้าแบบออกกำลังกายเพื่อแบบ
00:27:03 → 00:27:06 ว่าอย่างเวทเนาะอือเพิ่มเพิ่มกล้ามเนื้อ
00:27:06 → 00:27:07 หรือว่าเกน Strength อะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:27:07 → 00:27:10 นักกีระปีนผาเขาจะต้องแบบเพิ่มกล้ามเนื้อ
00:27:10 → 00:27:12 ความแข็งแกร่งอย่างเงี้ยอันเนี้ยห้ามแช่
00:27:12 → 00:27:16 น้ำแข็งหลังจากออกกำลังกาย 4-6 ชมฉันแช่
00:27:16 → 00:27:17 ทันทีเลยยกเสร็จไปแช่
00:27:18 → 00:27:21 เลยอันนี้ถึงว่าทำไมถึงไม่ถึงก้มถึงไม่โต
00:27:21 → 00:27:24 ซักทีอะไรเงี้ถึงหยถึงแบบเอ่อเพราะคทุกคน
00:27:24 → 00:27:26 คิดว่าแบบการใช้น้ำแข็งช่วยลดการอักเสบ
00:27:26 → 00:27:28 ช่วยฟื้นฟืกล้ามเนื้อทำเสร็จแช่เลยดีกว่า
00:27:28 → 00:27:31 อย่างงี้ใช่มั้คะแต่จริงๆแล้วอ่ะเหมือน
00:27:31 → 00:27:33 เราออกกำลังกายร่างกายของเราต้องได้รับสส
00:27:33 → 00:27:36 ก่อนค่ะทีนี้เรากลับไปฟื้นฟูเราถึงจะได้
00:27:36 → 00:27:39 รับประโยชน์แต่พอเราออกกำลังกายเสร็จแล้ว
00:27:39 → 00:27:41 อ่ะค่ะเราไปจับมันทำคเราไปแช่เยอะไปแช่
00:27:41 → 00:27:47 เลยทีเนี้ยความเย็นน่ะไปไปบล็อกนโรพาวที่
00:27:47 → 00:27:50 จะต้องส่งสารดีๆไปส่งไปที่กล้ามเหนือเขา
00:27:50 → 00:27:53 จะหยุดไปเลยอค่ะสีเนี้ยเราก็เลยแบบจากที่
00:27:53 → 00:27:55 เราจะต้องแบบแข็งแรงขึ้นกล้ามตัวขึ้นเก็
00:27:55 → 00:27:58 จะหยุดอือันนี้ก็อาจจะเป็นอันนึงที่ชม
00:27:58 → 00:28:00 ต้องปรับให้ได้อ่ะต้องปรับใช่ 4-6 ช่วโมง
00:28:00 → 00:28:02 สมมุติว่าไปฝึกตอนเช้าอย่างเงี้ยใช่น้ำ
00:28:02 → 00:28:05 แข็งตอนเย็นก็ได้แต่ถ้าออกกำลังกายที่
00:28:05 → 00:28:08 เป็นแบบว่าคาร์ดิโอสามารถแช่ได้เลยแต่ถ้า
00:28:08 → 00:28:11 ยกเวทเนี่ยไม่ควรฟุตบอลมวยหรืออะไรอย่าง
00:28:11 → 00:28:13 เงี้ยค่ะที่แบบคาร์ดิโอหรือว่าต้อง
00:28:13 → 00:28:16 Recover อทำได้เลยอแต่ถ้าเวทเกกล้าม
00:28:16 → 00:28:19 เหนือการใช่น้้ำแข็งไม่ต้องแช่ทุกวันก็
00:28:19 → 00:28:22 ได้อย่าลืมว่าการแช่น้ำแข็งหรือว่าการฝึก
00:28:22 → 00:28:24 ฮอมันคือความเครียดวันนั้นเราเครียดกับ
00:28:24 → 00:28:26 ร่างกายของเราเครียดกับชีวิตประจำวันของ
00:28:26 → 00:28:27 เราอยู่แล้วอย่าเงี้ก็พอแล้วก็ไม่ต้อง
00:28:27 → 00:28:30 คิดดอาจจะไม่ต้องไปรับโดสตรงนั้นมาแล้วก็
00:28:30 → 00:28:33 ได้ข้ามไปอีกอย่างนึงการแช่น้ำแข็งไม่
00:28:33 → 00:28:36 ต้องแช่ทั้งตัวก็ได้ลองแช่มืออืลองแช่
00:28:36 → 00:28:39 เท้าแต่ไม่ใช่แช่หนแช่ลงไปอย่าแต่อย่าแช่
00:28:39 → 00:28:42 หน้าแต่อย่าเอาหน้าลงเด็ดแช่มือ 2 นาที
00:28:42 → 00:28:45 แช่เท้า 2 นาทีฝึกดึงตัวเองกลับมาก่อนอื
00:28:45 → 00:28:48 คุณแก้มนี่เมื่อก่อนเอ่อเป็นครูโยคะใช่
00:28:48 → 00:28:51 มั้ยคะใช่ค่ะเออทีเนี้ยพอมาเรียนรู้
00:28:51 → 00:28:54 เรื่องวิม H method อย่างเงี้ยค่ะมันมัน
00:28:54 → 00:28:56 เหมือนหรือว่ามันต่างกันตรงไหนมเพราะว่า
00:28:56 → 00:28:59 เอ้ยมันก็สอนเรื่องการหายใจเหมือนกันอือๆ
00:28:59 → 00:29:01 การหายใจแบบโยคะเนาะพนายามอย่างเงี้ยค่ะ
00:29:01 → 00:29:05 เค้าแบบเมีมาเป็นแบบเป็นพันๆปีเขาจะแบบ
00:29:05 → 00:29:08 เค้าก็มีหลายเทคนิคแบบหายใจทั้งจมูกหายใจ
00:29:08 → 00:29:11 ทั้งปากหายใจเร็วๆช้าๆนานๆอย่างเงี้ยเรา
00:29:11 → 00:29:15 มีพื้นฐานการหายใจการแบบฝึกของเราอยู่
00:29:15 → 00:29:17 แล้วอย่างเงี้ยค่ะแค่เปลี่ยนความคิดตงนิด
00:29:18 → 00:29:19 นึงอะไรอย่างเงี้ยแบบเพราะว่าการหายใจแบบ
00:29:19 → 00:29:23 ฮเราจะหายใจแบบเต็มเต็มขึ้นมาถึงอกอืแบบ
00:29:23 → 00:29:26 ต้องแบบอย่างงี้เลยอ่ะในโยคะบางทีเราต้อง
00:29:26 → 00:29:28 หายใจแค่เป็นส่วนบางทีเราหายใจทางปากไม่
00:29:28 → 00:29:31 อืาที่ฝึแบบอุใจยเนาะหายใจทางจมูกอย่าง
00:29:31 → 00:29:35 เงี้ยอืเราก็จะไม่เปลี่ยนลแต่เหมือนเรา
00:29:35 → 00:29:37 เรียนใหม่พอเราเข้าใจเทคนิคแล้วเราก็
00:29:37 → 00:29:40 สามารถทำได้อืเห็นเขาบอกว่าจะช่วยให้เรา
00:29:40 → 00:29:43 กลั้นหายใจได้นานขึ้นช่วยให้เรากลั้นไม่
00:29:43 → 00:29:47 ใช่ไม่ได้ช่วยแต่จริงๆแล้วแบบเวลาที่เรา
00:29:47 → 00:29:50 หายใจแบบิมพอปใช่ไหมมคะเวลาที่เราหายใจ
00:29:50 → 00:29:53 มันจะมีการกลั้นหายใจควบคู่ด้วยอแค่นั้น
00:29:53 → 00:29:56 เองก็คือหมายความว่าในคนที่ฝึกมามากก็จะ
00:29:56 → 00:30:00 ก็จะกลั้นได้นานกว่าอืมไม่เกี่ยวหรอคะใช่
00:30:00 → 00:30:02 เนี่ยอันนี้คืออันอันอย่างนึงที่แบบทุกคน
00:30:02 → 00:30:05 คิดว่าการฝึกหายใจแบบฮอคือการฝึกให้เรา
00:30:05 → 00:30:07 สามารถกั้นหายใจได้นานขึ้นแต่จริงๆแล้ว
00:30:07 → 00:30:10 อ่ะโกลของการกั้นหายใจไม่ใช่ว่าเรากั้น
00:30:10 → 00:30:13 หายใจได้นานเท่าไหร่ระยะการของการกั้นหาย
00:30:13 → 00:30:15 ใจขึ้นอยู่กับร่างกายของเราในตอนนั้นด้วย
00:30:15 → 00:30:17 เพราะฉะนั้นถ้าเราไปฝึกแล้วเรากั้นหายใจ
00:30:17 → 00:30:19 ได้ไม่นาไม่ต้องเสียเซลล์ไม่ต้องเสีย
00:30:19 → 00:30:22 เซลล์บางคนแบบอือโกรธตัวเองใชคนอื่นแบบคน
00:30:22 → 00:30:24 อื่นยังไม่หายใจเลยเราหายใจก่อนแล้วอย่าง
00:30:24 → 00:30:26 เงี้ยเออเราจะบอกว่าแบบมันไม่ใช่
00:30:26 → 00:30:30 compition อืคือ awareness ของตัวเองอื
00:30:30 → 00:30:33 เราต้องแบบเข้าใจตัวเองอะไรอย่างเงี้ย
00:30:33 → 00:30:35 เพราะว่าเวลาที่เราหายใจใช่มยคะเราฝึกหาย
00:30:35 → 00:30:37 ใจแบบบมฮอปมันเป็นการแลกเปลี่ยนก๊าซใน
00:30:37 → 00:30:40 ร่างกายการหายใจเราจะหายใจหายใจเข้าออก
00:30:40 → 00:30:43 เงี้ยอ่ะ 30 ลมหายใจแล้วเราก็จะกลั้นหาย
00:30:43 → 00:30:47 ใจแล้วเราก็จะฟื้นลมหายใจทีนี้ตอนที่เรา
00:30:47 → 00:30:50 หายใจแบบเนี้ยคุณชมคิดว่าตอนไหนที่เรามี
00:30:50 → 00:30:52 ออกซิเจนในเซลล์ของเราน้อยที่
00:30:52 → 00:30:56 สุดตอนกั้นหายใจใช่มมทุกคนจะคิดว่าแบบ
00:30:56 → 00:30:58 เวลาที่เรากั้นหายใจเราจะไม่มีอิเจนไป
00:30:58 → 00:31:03 เรียวถูกถูกเข้าใจถูกแต่ว่าไม่ใช่ออตอน
00:31:04 → 00:31:06 ที่เรากล่นหายใจเป็นตอนที่ออกซิเจนไป
00:31:06 → 00:31:08 เลี้ยงเซลล์ในร่างกายได้ดีที่สุดเพราะ
00:31:08 → 00:31:10 อะไรอ่ะเพราะว่าเหมือนที่แกบอกเวลาที่เรา
00:31:10 → 00:31:13 หายใจใช่ไหมยคะเราแพ็คร่างกายเนาะเวลาที่
00:31:13 → 00:31:14 เราหายใจอ่ะเราจะหายใจออก
00:31:14 → 00:31:16 คาร์บอนไดออกไซด์แล้วออกซิเจนของเราก็จะ
00:31:16 → 00:31:18 แพ็คไปในเซลล์เมดเลดแดงอือมันจะอยู่ใน
00:31:18 → 00:31:21 เซลล์เมเลือดแดงมันก็จะไหลไปทั่วนร่างกาย
00:31:21 → 00:31:23 ก่อนแต่เขาออกมาไม่ได้ออกมาเลี้ยงเซลล์
00:31:23 → 00:31:26 ของเราไม่ได้เมื่อเรายังไม่มีปริมาณ Co2
00:31:26 → 00:31:29 หรือว่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่ที่เหมาะสมให้
00:31:29 → 00:31:32 เขาออกมาเวลาที่เราหายใจอย่างเงี้ยคือเรา
00:31:32 → 00:31:34 หายใจออกคาร์บอนไดออกไซด์
00:31:34 → 00:31:36 คาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายของเราจะต่ำค่ะ
00:31:36 → 00:31:38 พอต่ำเสร็จเขาคก็จะอยู่ตรงนั้นแล้ว
00:31:38 → 00:31:41 ออกซิเจนของเราก็จะสูงแต่เขาออกมาไม่ได้
00:31:41 → 00:31:43 แต่ทีนี้พอเรากั้นหายใจปุ๊บระดับ
00:31:43 → 00:31:45 คาร์บอนไดออกไซด์ในร่างกายของเราจะค่อยๆ
00:31:45 → 00:31:48 เพิ่มขึ้นพอเค่อยเพิ่มขึ้นจุดนึงถึงจุด
00:31:48 → 00:31:50 ที่นถึงนั้นน่ะออกซิเจนของเราสามารถออกมา
00:31:50 → 00:31:53 เลี้ยงเซลล์ในร่างกายของเราได้อันนั้นคือ
00:31:53 → 00:31:55 ตอนที่เรากลั้นหายใจอืแปลว่า
00:31:55 → 00:31:58 คาร์บอนไดออกไซด์ก็มีความจำเป็นกับเราคิด
00:31:58 → 00:32:00 ว่าคาร์บอนไดออกไซด์คือเป็นเวสแก๊สเป็น
00:32:00 → 00:32:02 แกสที่แบบไม่มีประโยชน์แต่จริงๆแล้วอ่ะ
00:32:02 → 00:32:05 คาร์บอนไดออกไซด์อ่ะเป็นตัวที่แบบถึง
00:32:05 → 00:32:07 เลเวลนึงักออกซิเจนสามารถมาเลี้ยงร่างกาย
00:32:07 → 00:32:10 ของเราได้ดีขึ้นอืเวลาที่เราแบบเวลาได้
00:32:10 → 00:32:13 ยินว่าแบบถอนหายใจไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยแบบ
00:32:13 → 00:32:15 แต่จริงๆแล้วอ่ะการถอดหายใจก็เป็นการ
00:32:15 → 00:32:18 เปลี่ยนกาสในร่างกายเหมือนเราหาวใช่เวลา
00:32:18 → 00:32:22 เราหาวอย่างเงี้ยก็ใช่เป็นการเปลี่ยนหมด
00:32:22 → 00:32:26 เลยทีนี้ตอนที่เรากลั้นหายใจใช่ไมั้ยคะ
00:32:26 → 00:32:28 ออกซิเจนสามารถไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกของ
00:32:28 → 00:32:31 เราได้มากขึ้นอืเบอกว่าช่วยทำให้เลือด
00:32:31 → 00:32:33 เป็นด่างด้วยใช่ค่ะเพราะเราเปลี่ยนการเซ
00:32:33 → 00:32:36 ร่างกายอืเราจะแบบการหายใจแบบฮอคือการ
00:32:36 → 00:32:39 เข้าออกออกซิเจนเข้าออกคาร์บอนไดออกไซด์
00:32:39 → 00:32:42 อืแบบเป็น extrem เวลาที่เราเปลี่ยนการ
00:32:42 → 00:32:44 เซ้นร่างกายเลือดของเราก็จะเป็นด่าพอ
00:32:44 → 00:32:46 เลือดของเราเป็นด่างเสร็จเอฟเฟคต่างๆก็จะ
00:32:46 → 00:32:49 มาแบบบางคนก็จะมีแบบเอฟเฟคในร่างกายรู้
00:32:49 → 00:32:53 สึกชาอย่างเงี้ยก็คือปกติใช่แบบชาจึ๊ดๆๆ
00:32:53 → 00:32:55 อะไรอย่างเงี้ยบางคนตอนที่เรากั้นหายใจ
00:32:55 → 00:32:57 ออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกายของเรามาก
00:32:57 → 00:33:00 กว่าปกติไปเลี้ยงในสมองมากขึ้นกว่าเดิม
00:33:00 → 00:33:04 15% อืบางคนคือแบบสมองคือไลอ่ะแบบคือแบบ
00:33:04 → 00:33:08 ปิ๊งบางคนคือแบบว่าเฮ้ยมีไอเดียขึ้นมาตอน
00:33:08 → 00:33:10 หายใจอะไรอย่างเงี้ยค่ะดังนั้นแบบการหาย
00:33:10 → 00:33:12 ใจนอกจากได้รับประโยชน์จากทางร่างกายแล้ว
00:33:12 → 00:33:15 อ่ะก็คือจิตใจเยอะมากแล้วการศึกษาการ
00:33:15 → 00:33:18 ศึกษาล่าสุดของฮอออกมาอันนี้เพึ่งออกมาปี
00:33:18 → 00:33:22 ที่แล้วออกมาบอกว่าเเทสคนเนาะที่แบบกลุ่ม
00:33:22 → 00:33:25 ที่แช่ทำไซบัสค่ะกลุ่มที่ฝึกหายใจแบบบมฮอ
00:33:25 → 00:33:27 แล้วก็ฝึกทั้งคู่พร้อมกันหายใจแบบบิฮแล้ว
00:33:27 → 00:33:31 ก็ทำไอบาสทีนี้กลุ่มที่ทำแค่ใช้น้ำแข็ง
00:33:31 → 00:33:33 หรือว่าทำไปาสอย่างเดียวค่ะตัวที่ลดการ
00:33:34 → 00:33:36 อักเสบอ่ะโปรตีนที่ลดการอักเสบลดไปแค่ตัว
00:33:36 → 00:33:40 เดียวอืแต่กลุ่มที่ฝึกหายใจแบมพ็ออ่ะตัว
00:33:40 → 00:33:43 นั้นลดมากกว่าเดิมแล้วก็มาคของตัวอื่นที่
00:33:43 → 00:33:45 เป็นการอักเบถึงแกงที่หายใจอย่างเดียวแต่
00:33:45 → 00:33:48 ว่าไม่ไม่ได้ไม่ได้แช่ไม่ได้แช่ใช่ค่ะแค่
00:33:48 → 00:33:50 ฝึกหายใจอย่างเดียวเลยแล้วเก็เทสอย่าง
00:33:50 → 00:33:52 เงี้ยกับโปรตีนการอักเสบเนาะตัวการอักเสบ
00:33:52 → 00:33:55 ลดไปมากกว่าการใช้น้ำแข็งอย่างเดีวค่ะแต่
00:33:55 → 00:33:58 กลุ่มที่ทำทั้ง 2 อย่างทำทั้ง 2 อย่างฝึก
00:33:58 → 00:34:01 หายใจแล้วก็ใช่น้ำแข็งคือนอกจากมากลดแบบ
00:34:01 → 00:34:04 มากเปอร์เซ็นต์ลดมากกว่าเดิมตัวที่แบบ
00:34:04 → 00:34:07 โปรตีนที่เอ่อ Pro information น่ะค่ะ
00:34:07 → 00:34:09 คือตัวที่หลั่งออกมายับยั้งการอักเสบเ
00:34:09 → 00:34:11 หลั่งด้วยต้องทำทั้ง 2 อย่างทำทั้ง 2
00:34:11 → 00:34:15 อย่างวิธีเราจะได้รับประโยชน์สูงสุดอือื
00:34:15 → 00:34:17 แต่เหมือนบางคนคิดว่าใช้น้ำแข็งลดการ
00:34:17 → 00:34:19 อักเสบแต่จริงๆแล้วการฝึกหายใจแบบฮอลดการ
00:34:19 → 00:34:22 อักเสบมากกว่าการใช้น้ำแข็งอีกอืนอกจาก
00:34:22 → 00:34:27 นี้ก็คือเอ่ออะดรีนาลีนโดพามีนฉ่ำฉ่ำใช่
00:34:27 → 00:34:30 เวลาที่เราฝึกหายใจไปเป็นพฮอารีนของเราจะ
00:34:30 → 00:34:34 หลัเยอะมากแบบจะปุมบอกเห็นบอกว่าออกมาก
00:34:34 → 00:34:36 กว่าอเอ่อเวลาที่เราออกกำลังกายด้วยซ้ำ
00:34:36 → 00:34:38 ใช่ทีนี้เวลาที่เราหายใจไปพเราจะหายใจ
00:34:38 → 00:34:41 ทั้งหมด 4 รอบรอบแรกของการหายใจค่ะแล้วก็
00:34:41 → 00:34:44 หายใจรอบแรกหัวใจของเราอ่ะจะเต้นเร็วมาก
00:34:44 → 00:34:47 กว่าคนที่กระโดดจี้จำครั้งแรกในชีวิตจริง
00:34:47 → 00:34:49 หรอคือแบบมันปุ๊บๆๆอย่างงี้เลยอ่ะเพราะ
00:34:49 → 00:34:51 ว่าอดีของเรามันปุนี่รู้ตัวว่าเดี๋ยวต้อง
00:34:51 → 00:34:53 ทำหลังจากนี้กลัวเลยนะ
00:34:53 → 00:34:56 เนี่ยเดี๋ยวจะให้ลองอันนี้ก็เลยบอกก่อน
00:34:56 → 00:34:58 ว่าพอหัวใจเราเต้นน่ะเต้นเร็ว่ะอันนั้นก็
00:34:58 → 00:35:01 คือปกติไม่ผิดนะไม่ต้องเสียเซล์ไม่ผิดไม่
00:35:01 → 00:35:04 ไม่ต้องแบบฉันเป็นอะไรเนี่ยอย่างเงี้ยเอ
00:35:04 → 00:35:06 แต่พอแบบพอเรารอบต่อไปที่เราเริ่มฝึกหาย
00:35:06 → 00:35:09 ใจแล้วกั้นหายใจต่อไปอ่ะค่ะค่ะหัวใจของ
00:35:09 → 00:35:12 เราค่อยๆเต้นช้าลงช้าลงช้าลงมันก็จะแบบ
00:35:12 → 00:35:16 อยู่ในระดับที่มันโอเคอืโดพามีนก็โดปามีน
00:35:16 → 00:35:19 เวลาที่เราใช้น้ำแข็งเนาะระดับโดปามีนของ
00:35:19 → 00:35:21 เราหลังมากกว่าปกติ
00:35:21 → 00:35:25 250% แล้วเขาจะอยู่แบบ 2-4 ชมงอืแล้วคือ
00:35:25 → 00:35:28 แบบจะรู้สึกแฮปปี้ดี
00:35:28 → 00:35:32 อย่างงี้ก็ติดเนาะติดชงก็ว่าติดแก้มติด
00:35:32 → 00:35:34 แต่แบบติดความรู้สึกหลังจากนั้นเวลาที่
00:35:34 → 00:35:37 เราหาจะฝึกหายใจแบบฮอแล้วอ่ะค่ะอันนี้ใน
00:35:37 → 00:35:39 การศึกษาของเขาเนาะเขาถึงเรียกว่าแบบ
00:35:39 → 00:35:42 Brain Over Body mind Over matter
00:35:42 → 00:35:44 คือแบบความคิดของเราอ่ะอยู่เหนือทุกอย่าง
00:35:44 → 00:35:47 แล้วก็เวลาที่เราฝึกหายใจไปบพอปค่ะเราพลี
00:35:47 → 00:35:50 ร่างกายเขาเรียกว่าพมร่างกายก่อนอือารีน
00:35:50 → 00:35:53 หลังร่างกายของเราแบบพร้อมที่จะรับมือกับ
00:35:53 → 00:35:55 ความเครียดแล้วความเครียดต่อไปนก็คือการ
00:35:55 → 00:35:58 แช่น้ำแข็งออืพเราฝึกหจะเสร็จแล้วเราลง
00:35:58 → 00:36:00 แช่น้ำแข็งร่างกายของเราได้รับประโยชน์
00:36:00 → 00:36:02 จากตรงนั้นสมองของเราอ่ะค่ะเขาจะหลั่ง
00:36:02 → 00:36:06 โอบอยกับคาบอยออกมาสารที่เจอในฝิกับกญชา
00:36:06 → 00:36:10 ฟังฟังดูนอยๆเลยอนอยๆใช่มอะไรมีสารที่แบบ
00:36:10 → 00:36:13 โอบอยคือสารที่เจอในฝิ่นอแล้วก็สารอคาบี
00:36:13 → 00:36:16 น้อยที่จะเจอในกัญชาโอเคเป็นสารที่แบบ
00:36:16 → 00:36:19 ช่วยลดความเจ็บปวดแล้วก็ช่วยให้เราคนแบบ
00:36:19 → 00:36:21 หายเก็ดหายได้ถือบอกว่าใช่แต่มันว่าวัน
00:36:21 → 00:36:24 มันมันเบาๆอ่ะมันแบบว่ามันบรึๆบางคนคือ
00:36:24 → 00:36:28 แบบอรู้สึกดีลอยลอยลอยไปไหนอันนี้ก็คือ
00:36:28 → 00:36:30 แบบเขคก็แบบนักวิทยาศาสตร์เคก็พุบออกมา
00:36:30 → 00:36:33 แล้วว่าสมองของเราหลังสารนี้ออกมาโดยโดย
00:36:33 → 00:36:35 อัตโนมัติโดยธรรมชาติอแล้วมันมีแบบว่าชิน
00:36:35 → 00:36:39 มก็แบบเหมือนแช่บ่อยอ่ะแล้วแบบเฮ้ยไม่
00:36:39 → 00:36:42 High แล้วว่ะอะไรเงี้ยมีมแล้วแต่วันไม่
00:36:42 → 00:36:44 ใช่ว่ามันจะไม่ High แต่แบบอาจจะวันนี้
00:36:44 → 00:36:47 อาจจะรู้สึกน้อยกว่าวันนี้อาจจะรู้สึกออ
00:36:47 → 00:36:49 อยู่ที่ว่าร่างกายของเราด้วยทุกอย่างที่
00:36:49 → 00:36:52 เราฝึกอย่างเงี้ยค่ะความรู้สึกหรือว่าใน
00:36:52 → 00:36:54 วันนั้นๆหรือว่าตอนที่เราฝึกอ่ะอยู่ที่
00:36:54 → 00:36:56 ว่าร่างกายของเราเป็นแบบไหนการนอนหลับของ
00:36:56 → 00:36:59 เราเป็นแบบไหนไดเอทของเราช่วงนั้นการออก
00:36:59 → 00:37:01 กำลังกายของเราอาจจะหนักไปอย่างเงี้ยมัน
00:37:01 → 00:37:04 เอฟเฟคทั้งการหายใจแล้วก็ทั้งการใช่น้ำ
00:37:04 → 00:37:06 แข็งเลยมอไม่ตอนเนี่ยยก็คือจะได้รับความ
00:37:06 → 00:37:10 นิยมในเรื่องของการช่วยบรรเทาอาการต่างๆ
00:37:10 → 00:37:13 ด้วยถูกมั้คะคนป่วยที่เป็นโรคต่างๆอะไร
00:37:14 → 00:37:16 เงี้ยค่ะพูดถึงแบบหลักศาสตร์ของฮอ me เลย
00:37:16 → 00:37:20 อ่ะค่ะเราจะไม่เคลมว่าฮอช่วยรักษาให้หาย
00:37:20 → 00:37:23 จากโรคต่างๆมันเป็นการฝึกอย่างนึงเท่า
00:37:23 → 00:37:25 นั้นแล้วเวลาที่เราฝึกอย่างเงี้ยค่ะเรา
00:37:25 → 00:37:27 ได้รับประโยชน์จากเขาแต่ประโยชน์ตรงนั้น
00:37:27 → 00:37:29 น่ะอาจจะจะไปช่วยอย่างเช่นรดการอักเสบก็
00:37:29 → 00:37:32 อาจจะช่วยให้อะไรอะไๆมันฟังชั้นได้ดีขึ้น
00:37:32 → 00:37:35 ช่ใช่เหมือนแบบควมคุ้มกันของเราที่มันแบบ
00:37:35 → 00:37:37 ต่ำหรือว่าสูงเกินไปเขาก็จะช่วยให้ดีขึ้น
00:37:37 → 00:37:40 คุณพ่อคุณสจอย่างเงี้ยค่ะเขาคเป็นรูมาตอย
00:37:40 → 00:37:43 เป็นเกาขมู่แล้วเขาแบบไม่สามารถแบบแตะ
00:37:43 → 00:37:44 นิ้วมืออย่างเงี้ยนิ้วก้อยกับนิ้วโป้ง
00:37:45 → 00:37:47 ด้วยกันได้เพราะแบบเแบบแค่นี้เลยอ่ะมัน
00:37:47 → 00:37:50 ยึดมันยึดอือแล้วโลกข้อเนาะมันก็แทคข้อ
00:37:50 → 00:37:53 อะไรอย่างเงี้ยทีนี้เขาก็แบบบอกคุณพ่อเขา
00:37:53 → 00:37:57 ว่ายูเอามือแบบแช่น้ำแข็งอ่ะทุกวันลองดู
00:37:57 → 00:38:00 อะไรอย่างเงี้ยทุกวัน 2 นาทีคุณพอเก็ทำ
00:38:00 → 00:38:03 ค่ะทำเ้าก็ทำบ้างไม่ทำบ้างแต่ก็ทำเป็น
00:38:03 → 00:38:07 ประจำค่ะทีนี้เบอกเเถ่ายรูปมาให้ลูกเดูเเ
00:38:08 → 00:38:11 บอกว่าดูสิฉันแตะมือได้แล้วอย่างเงี้ยคือ
00:38:11 → 00:38:13 เา้าเหมือนกับมันเป็นการเทรนเนาะแล้วที
00:38:13 → 00:38:16 เนี้ยไอ้พวกโรคุมต่ออย่างเงี้ยมันเป็น
00:38:16 → 00:38:19 ภูมิคุ้มกันสูงเกินไปเแทคแทคข้อของเราตรง
00:38:19 → 00:38:22 นั้นมันช่วยให้เราดีขึ้นเวลาที่เราขยับ
00:38:22 → 00:38:24 เส้นเลือดของเราทางร่างกายอย่างเงี้ยค่ะ
00:38:24 → 00:38:27 อืเราจะไม่ได้แบบว่ามันหายจากโลกนะเพราะ
00:38:27 → 00:38:29 เค้าก็ยังเป็นอยู่ใช่มั้ยคะถ้าเกิดเ้าไม่
00:38:29 → 00:38:30 ได้ฝึกเคกลับไปอีกเพียงแต่ว่าอาจจะบันเทา
00:38:30 → 00:38:34 อาการบางอย่างที่มาจากโรคได้ใช่อือ wm H
00:38:34 → 00:38:36 method เนี่ยค่ะเราต้องฝึกฝนหรือว่าต้อง
00:38:36 → 00:38:40 ให้เวลากับเค้านานแค่ไหนหรือว่าความถี่
00:38:40 → 00:38:43 ต่อซัดหรือว่าคือควรจะฝึกเท่าไหร่ถึงจะ
00:38:43 → 00:38:46 เห็นผลว่าเอ้ยสุขภาพดีขึ้นมันอยู่ที่ว่า
00:38:46 → 00:38:50 การฝึกวิธีการของฮออ่ะค่ะเราต้องฝึกอย่าง
00:38:50 → 00:38:54 ตอนได้เป็นประจำสม่ำเสมออย่างถูกต้องค่ะ
00:38:54 → 00:38:57 แล้วเราจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเขาอืก็
00:38:57 → 00:39:00 เหมือนกับการออกกำลังกายเนาใช่่ค่ะเรา
00:39:00 → 00:39:02 ต้องแบบค่อยๆฝึกเแล้วไม่ใช่แบางทีเหมือน
00:39:02 → 00:39:04 เราออกกำลังกายครั้งเนี้ยเราก็ได้รับ
00:39:04 → 00:39:06 ประโยชน์อยู่แล้วครั้งแรกเลยเราก็ได้รับ
00:39:06 → 00:39:08 ประโยชน์แล้วแต่ว่าพอเราค่อยๆฝึกไปเรื่อย
00:39:08 → 00:39:10 ๆอย่าเงี้ค่ะเราก็จะรับประโยชน์ไปเรื่อยๆ
00:39:10 → 00:39:12 อือมันก็คือควรจะเป็นไลฟ์สไตล์อ่ะเนาะมัน
00:39:13 → 00:39:14 ก็คงต้องทำต่อเนื่องอ่ะมันต้องเป็น
00:39:14 → 00:39:17 ไลฟ์สไตล์แต่บางคนก็คือแบบกลับไปบ้านแล้ว
00:39:17 → 00:39:22 ก็แบบแกิเลยอืติดใจบใช่การหายใจแบบมหอ
00:39:22 → 00:39:25 เนี่ยค่ะที่คุณแก้มบอกว่ามันจะต้องทำทั้ง
00:39:25 → 00:39:28 หมด 4 รอบใช่มั้ยคะทีนี้การหาเฮอคือทำไม
00:39:28 → 00:39:30 ถึงเป็น 4 รอบหายใจแบบไหนใช่ไหมยคะการหาย
00:39:30 → 00:39:34 ใจแบบฮอก็คือเราจะหายใจเข้าแล้วก็ออกเข้า
00:39:34 → 00:39:37 ออก 1 ครั้งเรียกว่า 1 ลมหายใจโอเคแล้ว
00:39:37 → 00:39:40 แล้วเราทำแบบนี้ 30 รอบ 30 ลมหายใจ 30 ลม
00:39:40 → 00:39:43 หายใจอย่างเงี้ย 30 ครั้งต้องออกเสียง
00:39:43 → 00:39:47 ด้วยก็ออกนะโออีกอย่างหนึงเราจะใช้ปากหาย
00:39:47 → 00:39:50 ใจอ้าเพราะว่าเราจะต้องดับโดสของความ
00:39:50 → 00:39:54 เครียดใช่มั้คะโอเคอึทีเนี้ยหายใจเข้าออก
00:39:54 → 00:39:56 1 ครั้งเรียกว่า 1 ลมหายใจเราจะหายใจ
00:39:56 → 00:40:00 ทั้งหมด 30 ครั้งค่ะ 30 ครั้งปุ๊บเราก็จะ
00:40:00 → 00:40:03 กลั้นหายใจแล้วก็จะรีแลกตอนเรากลั้นหายใจ
00:40:03 → 00:40:06 นี่เรารีแลกหรอคะรีกแล้วก็จะปล่อยออกอ๋อ
00:40:06 → 00:40:10 แล้วเราก็กลั้นกลั้นไว้เวลาไม่สำคัญคุณิม
00:40:10 → 00:40:12 จะบอกว่ากลั้นจนกว่าเราจะไม่ไหวจริงๆพอ
00:40:12 → 00:40:15 เราไม่ไหวปุ๊บให้เราหายใจเข้าลึกๆแล้วก็
00:40:15 → 00:40:18 กลั้นอันนั้นน่ะเรียกว่าการฟื้นลมหายใจ
00:40:18 → 00:40:21 อันนี้กี่รอบคะทั้งหมดนี้เรียกว่า 1 รอบ
00:40:21 → 00:40:24 ของการหายใจเดี๋ยวก่อนนะกั้นแล้วก็ปล่อย
00:40:24 → 00:40:27 อันนี้คือ 1 รอบเข้าออก 30 ครั้งอาฮะนะ
00:40:27 → 00:40:31 ปล่อยแล้วก็กลั้นอีก 30 ครั้งหรอคะไม่ค่ะ
00:40:31 → 00:40:34 30 ลมหายใจใช่มั้ยแบบเข้าออกอ่าเรียกว่า
00:40:34 → 00:40:36 1 ลมหายใจหายทำทั้งหมด 30
00:40:36 → 00:40:40 ครั้งไปพอถึงรอบกั้นหายใจให้หายใจเข้าลึก
00:40:40 → 00:40:42 ๆแล้วก็
00:40:42 → 00:40:45 รีกอ้าแล้วเรากลั้นตอนไหนอ่ะปล่อยปล่อย
00:40:45 → 00:40:48 ปล่อยก่อนแล้วก็กลั้นแล้วเราก็กลั้นอ๋อ
00:40:48 → 00:40:50 ไม่ให้เราเก็บไม่ให้เราเก็บไว้เก็บอะไร
00:40:50 → 00:40:53 เลยใช่อย่าแอบเดี๋ยวอย่าคิดว่าแบบเฮ้ย
00:40:53 → 00:40:56 เดี๋ยวจะกั้นหายใจไม่นานบางคนแบบว่ามีแอบ
00:40:56 → 00:40:58 ปล่อยแล้วก็แบบแล้วก็ซ่อนไว้อะไรอย่า
00:40:58 → 00:41:00 เงี้ยอเราจะต้องแบบไม่เกกไม่กักเเพราะว่า
00:41:00 → 00:41:04 ร่างกายของเราเาจะทำงานเองอยู่แล้วออือือ
00:41:04 → 00:41:08 พอแบบเรากั้นเสร็จกั้นไว้จนกว่าจะไม่ไหวเ
00:41:08 → 00:41:10 จะแบบอุ้ยไม่ไหวละอย่างเงี้ยพอเราเริ่ม
00:41:10 → 00:41:12 รู้สึกไม่ไหวจนกว่าเราจะก่อนที่เราจะ
00:41:12 → 00:41:14 เกร็งร่างกายอ่ะก็ไปต่ออีก 30 เซตแล้วก็
00:41:14 → 00:41:17 หายใจเข้าฟื้นลมหายใจก่อนอ๋อเรามาฟื้น
00:41:17 → 00:41:20 ก๊าซใหม่เปลี่ยนก๊าซใหม่หายใจเข้าลึกๆ
00:41:20 → 00:41:23 แล้วก็กลั้นอีกหรอแค่นี้อันเนี้ยพอกั้น
00:41:23 → 00:41:24 เสร็จแล้วให้เรา
00:41:25 → 00:41:30 รีกทอนฟังอ่ะมันจะแบบะจะจำได้ยนะอะไร
00:41:30 → 00:41:33 อย่างเงี้ยแต่พอตอนที่เราฝึกไปอ่ะค่ะอ
00:41:33 → 00:41:34 ร่างกายของเรามันจะแบบจำแพทเทิร์นได้มัน
00:41:34 → 00:41:38 จะจำแพทมันจะวไปเองแล้วก็มันก็จะง่ายอ
00:41:38 → 00:41:43 โอเคเคแล้วก็จะทำทั้งหมด 4 รอบอ่ะสิ่งที่
00:41:43 → 00:41:44 กลัวมา
00:41:44 → 00:41:49 นานในที่สุดเพื่อรายการเพื่อตัวเราเอง
00:41:49 → 00:41:53 ด้วยเออไม่ต้องไปถึงต้องเออมันทำเหมือน
00:41:53 → 00:41:56 ตรงเแหละเดี๋ยวเราลองทำกันดูวันนี้โอเค
00:41:56 → 00:41:58 ค่ะคุณจมเอามือวางงนึงท้องบางนึงวางอกเรา
00:41:58 → 00:42:00 จะได้รู้เพราะว่าการหายใจเราจะหายใจเต็ม
00:42:00 → 00:42:04 ท้องแล้วก็เต็มอกเนาะโอเคหายใจเข้าทำปาก
00:42:04 → 00:42:06 ลึกๆใช่่มับตาเลยลืมตาลืมตาก่อนก็ได้แก้ม
00:42:07 → 00:42:10 จะได้ดูเวลาที่เราหายใจเข้าให้หายใจลึก
00:42:10 → 00:42:13 ๆอย่างงี้ให้เต็มท้องเต็มอบหายใจออกให้
00:42:14 → 00:42:17 รแค่นี้ต้องเร็วๆแบบนั้นเหรอแก้มจะจับ
00:42:17 → 00:42:19 จังหวะให้เอา
00:42:19 → 00:42:22 โอเคทีนี้หายใจให้เยเชื่อป่ะมันเต้นเร็ว
00:42:22 → 00:42:25 ขึ้นแล้วอ่ะใช่โอเคให้เต็มท้องก่อนเต็ม
00:42:25 → 00:42:29 ท้องเต็มอบแล้วก็
00:42:29 → 00:42:35 รีกให้ใหญ่ๆอีกทีเต็มท้องเต็มอบแล้วก็รีก
00:42:35 → 00:42:38 อันนี้เป็นรอบเทสก่อนนะคะให้ใหญ่ๆทีนี้
00:42:38 → 00:42:41 ดันท้องขึ้นมาอบขยายสูงถึงไหปลาร้านั่น
00:42:41 → 00:42:42 แหละแล้วก็
00:42:42 → 00:42:45 รีกใช่ไม่มีกลั้นระหว่างนั้นพอจบเสร็จ
00:42:45 → 00:42:46 เข้ามา
00:42:46 → 00:42:50 เข้าแล้วก็ออกรีกเข้าออกให้เป็นวงกลมหาย
00:42:50 → 00:42:51 ใจ
00:42:51 → 00:42:55 เข้าออกรีก
00:42:55 → 00:42:58 โอเคเข้า
00:42:58 → 00:43:04 ออกใช่ค่ะให้ลึกๆหาใจออก
00:43:04 → 00:43:07 รีกอีกทีให้ใหญ่
00:43:07 → 00:43:10 ๆหายจร
00:43:10 → 00:43:14 แเก่งมากอีกทีค่ะลึก
00:43:14 → 00:43:19 ๆแล้วก็หายใจออกรีกเราต้องแพ็คตัวเองแพ็ค
00:43:19 → 00:43:21 ร่างกายหายใจเข้าลึก
00:43:21 → 00:43:24 ๆหายใจออก
00:43:24 → 00:43:30 รีกหายใจเข้าลึกๆปืหายใจออกรีกเก่งมากรอบ
00:43:30 → 00:43:33 แรกอีของเราจะหลังเยอะมากค่ะหายใจเข้าไป
00:43:33 → 00:43:35 เรื่อยๆแล้วก็
00:43:35 → 00:43:41 ออกหายใจเข้าออกให้ลึกๆเข้าแล้วก็ออกนั่น
00:43:41 → 00:43:45 แหละหายไปอีกเข้าแล้วก็ออกนั่นแหละค่ะ
00:43:45 → 00:43:49 เข้าหัวใจเต้นเร็วปกติค่ะหายใจออก
00:43:50 → 00:43:51 รีกใหญ่
00:43:51 → 00:43:57 ๆแล้วก็ออกนี่ละะใหญ่กว่านี้อีก
00:43:57 → 00:44:01 หใจอรีกนั่นแหละอีกที
00:44:01 → 00:44:05 นึงนั่นแหละค่ะเก่งมากคุณชมหายใจเข้าลึกๆ
00:44:05 → 00:44:06 หใจออก
00:44:06 → 00:44:12 แลกแพ็คร่างกายเข้าออกเราเปลี่ยนกาซใน
00:44:12 → 00:44:15 ร่างกายหายใจเข้านึกๆขายจะออกึ
00:44:15 → 00:44:17 แ
00:44:18 → 00:44:19 เข้า
00:44:19 → 00:44:24 ออกใหญ่กว่านี้เต็มท้องเต็มอก
00:44:24 → 00:44:30 รีกเต็มท้องเต็มอกรีกใหญ่กว่านี้ดันท้อง
00:44:30 → 00:44:35 อกขยายแล้วก็รีกเก่งมากอีกทีนึงเต็มท้อง
00:44:35 → 00:44:39 เต็มอกรีกเก่งมากต้องให้ได้รับรู้ความ
00:44:39 → 00:44:44 เครียดเข้าแล้วก็ออกเก่งมากอีกนิดนึง
00:44:44 → 00:44:47 เข้าวแล้วก็ออกทุกครั้งที่หายใจออกรีกให้
00:44:47 → 00:44:48 หมด
00:44:48 → 00:44:54 ข้าวออกเก่งมากหายใจเข้าลึกๆหายใจออกรีก
00:44:54 → 00:44:58 รีกแล้วก็กลั้นหายใจแล้วก็
00:44:58 → 00:45:04 รีกแล้วก็กลั้นค่ะกลั้นไว้กั้นหายใจอยู่
00:45:04 → 00:45:08 นิ่งๆไม่มีลมเข้าไม่มีลมออกรอบแรกของการ
00:45:09 → 00:45:11 หายกั้นหายใจหัวใจเราอาจจะเต้นเร็วมาก
00:45:11 → 00:45:11 กว่า
00:45:12 → 00:45:17 ปกติแล้วเดี๋ยวเขาจะค่อยๆช้าลงกันไว้นะ
00:45:17 → 00:45:21 [เพลง]
00:45:21 → 00:45:25 คะอยู่นิ่งๆตอนนี้เป็นตอนที่ออกซิเจนเข้า
00:45:25 → 00:45:28 ไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกายของเราถ้าพอไม่ไหว
00:45:28 → 00:45:30 เราให้ฟื้นลงหายใจให้หายใจเข้าลึกๆแล้วก็
00:45:30 → 00:45:34 กลั้นกไว้ก้า
00:45:34 → 00:45:40 ไว้ 3 2 1 หายใจเข้าลึกๆแล้วก็กลั้นรอบ
00:45:40 → 00:45:45 นี้กลั้นไว้แค่ 15 วินาเราฟื้นลมหายใจเรา
00:45:45 → 00:45:50 เปลี่ยนกซในร่างกายของเราใหม่กไ้
00:45:50 → 00:45:58 วีกค่ะ 3 2 1 แล้วก็รีก
00:45:58 → 00:46:01 เกร่งมากอันนี้คือเรียกว่า 1 รอบไปรอบต่อ
00:46:01 → 00:46:07 ไปมนี่พึงจะ 1 รอบใช่ไปอีก 2 รอบ
00:46:07 → 00:46:12 โอเคเต็มท้องเต็มบ
00:46:12 → 00:46:14 รีกใหญ่
00:46:14 → 00:46:18 ๆแล้วก็รีกหายใจให้ใหญ่กว่านี้คุณ
00:46:18 → 00:46:24 ชมหายใจออกได้แกเก่งมากอีกทีรู้สึกชารู้
00:46:24 → 00:46:27 สึกแบบจึ๊ดๆอันเนี้ยปกติหมดเลย
00:46:27 → 00:46:34 เ้อนั่นแหละค่ะเต็มท้องเต็มอกแล้วก็
00:46:34 → 00:46:37 รีกไปหายใจ
00:46:37 → 00:46:39 เข้า
00:46:39 → 00:46:41 ออก
00:46:42 → 00:46:43 เข้า
00:46:43 → 00:46:47 ออกรู้สึกจิ๊ดๆหูอื้อๆนี้ปกติหมดเลยค่ะ
00:46:47 → 00:46:53 หายใจเข้าลึกๆลึกๆหายใจออกรีแลกให้หมดฮ
00:46:53 → 00:47:00 แล้วก็กั้นหายใจเก่งมามากค่ะกหายใจ
00:47:00 → 00:47:04 ไว้รู้สึกชาเป็นปกติหมดเลยนะ
00:47:04 → 00:47:09 คะรอบนี้กลั้นหายใจไว้ให้นานที่สุดเท่า
00:47:09 → 00:47:10 ที่จะนาน
00:47:10 → 00:47:14 ได้ถ้าไม่ไหวจริงๆให้ฟื้นลมหายใจหายใจ
00:47:14 → 00:47:17 เข้าลึกๆแล้วก็กลั้นไว้ให้นานที่สุดเท่า
00:47:17 → 00:47:21 ที่จะนานได้นะ
00:47:21 → 00:47:26 คะหายใจเข้าลึกๆฟืนลมหายใจแล้วก็กลั้น
00:47:26 → 00:47:29 กลั้นให้นานที่สุดเท่าที่จะนานได้ตอนนี้
00:47:29 → 00:47:32 เราฟื้นลมหายใจเราฟื้นก๊าซในร่างกายของ
00:47:32 → 00:47:34 เราใหม่มต้อง
00:47:34 → 00:47:44 รีบกลับมาหเจเป็น
00:47:44 → 00:47:51 ปกติใ่ๆขยับนิ้วมือขยับนิ้ว
00:47:51 → 00:47:53 เท้านั่น
00:47:53 → 00:47:59 แหละค่อยๆพาเตงกลับมา
00:47:59 → 00:48:02 กลับมาโลกนี้
00:48:02 → 00:48:06 ก่อนขอแห้งใช่มยคะคอแห้งอุปสรรคคือคอแห้ง
00:48:06 → 00:48:09 แล้วก็น้ำลายไหลลงคอนิดหน่อยอือแต่สามารถ
00:48:09 → 00:48:11 กลืนน้ำลายตอนที่เราฝึกอ่ะเราสามารถกลืน
00:48:11 → 00:48:14 น้ำลายได้ค่ะถ้ากลับทำเองที่บ้านอ่ะทำ
00:48:15 → 00:48:17 สบายๆได้เลยเอ่อไม่กล้าทำเองที่บ้านค่ะ
00:48:17 → 00:48:21 พูดเลยค่ะตัวนี้ไม่กล้าค่ะเพราะว่าคือพอ
00:48:21 → 00:48:23 รอบ 2 มันเริ่มชาแล้วใช่มั้ยคะอือเรานั่ง
00:48:23 → 00:48:25 เราจะไม่ตายใช่มั้ยตอนนี้ลุกขึ้นนั่งได้
00:48:25 → 00:48:28 มั้ยคะได้ค่ะโอเคค่ะขยับไม่ต้องรีบไม่
00:48:28 → 00:48:30 ค่อยนั่งอธิบายตอนนี้เรากลับมาแล้วตอนนี้
00:48:30 → 00:48:31 เรากลับมา
00:48:31 → 00:48:35 แล้วเป็นยังไงก็คือพอรอบ 2 เี่มันเริ่มฉา
00:48:35 → 00:48:39 อืแต่รอบสุดท้ายอ่ะเอ่อรู้สึกว่าลูกกตา
00:48:39 → 00:48:41 มันหมุนอย่างเงี้เลยอ่ะค่ะแล้วก็มือรู้
00:48:41 → 00:48:45 สึกตั้งแต่ครั้งแรกรอบแรกก็คือว่ามือหงิก
00:48:45 → 00:48:48 มือซึ่งโชมามือชี้ขึ้นมาใช่ซึ่งโชมา
00:48:48 → 00:48:50 เนื่องจากว่าสมัยก่อนน่ะเป็นแชมป์เป็นลม
00:48:50 → 00:48:52 เก่งสมัยสมัยตั้งแต่ยังไม่เคยออกกำลังกาย
00:48:52 → 00:48:55 อะไเงี้ยก็จะรู้ว่าก่อนที่จะไปหรือว่าบาง
00:48:56 → 00:48:58 ทีเวลาที่เราแบบว่าเหมือนมีสติครึ่งนึง
00:48:58 → 00:49:01 ไม่มีสติครึ่งนึงอ่ะอมือจะเป็นอย่าง
00:49:01 → 00:49:05 งี้มือจะแบบก็เลยเมื่อกี้พอรู้ว่ามือไป
00:49:05 → 00:49:08 อย่างเงี้ยคือนึกถึงตอนที่ตัวเองจะหมดสติ
00:49:08 → 00:49:11 เลยอ่ะอืไม่รู้ว่ามันอธิบายแบบทางแบบ
00:49:11 → 00:49:14 scientific ได้ยังไงใช่ปเวลาที่เรา
00:49:14 → 00:49:16 เปลี่ยนกัสในร่างกายอย่างเงี้ค่ะมันก็จะ
00:49:16 → 00:49:19 ที่คนที่แบบมือเกร็งอย่าเงี้ก็เขาเรียก
00:49:19 → 00:49:22 ว่าเนีคือแบบมันเปลี่ยนแบบแซแคลเซียมไออน
00:49:22 → 00:49:27 ในร่างกายของเราทำให้แบบรู้สึกชาคใช่ปกติ
00:49:27 → 00:49:29 เลยทุกคนจะต้องแบบไม่ใช่ว่าทุกคนคนรู้สึก
00:49:29 → 00:49:31 แต่แบบเหตุการณ์ที่ครู้สึกใช่ขึ้นอย่าง
00:49:31 → 00:49:32 งี้
00:49:32 → 00:49:36 เลยเห็นขึ้นมาอย่างงี้เลยเิจังเลย
00:49:36 → 00:49:40 อ่ะคิดแบบชมชี้แล้วนะชี้ขึ้นมาแล้วอย่าง
00:49:40 → 00:49:44 เงี้ยแต่อันนี้ก็คือปกติรู้สึกกลัวแบบเย
00:49:44 → 00:49:48 ก็เนเวอย่างเงี้ยอันนี้ก็คือปกติอือๆๆ
00:49:48 → 00:49:50 อย่าลืมว่ามันคือความเครียดแต่เมื่อกี้ช
00:49:50 → 00:49:52 แบไม่รู้นะลึกๆอาจจะกลัวแต่ว่าไม่ได้รู้
00:49:52 → 00:49:54 สึกว่ากลัวเพราะว่ารู้ว่าอยู่กับรู้ว่า
00:49:54 → 00:49:58 อยู่กับครูอะไรอย่างเงี้ยคะเออแต่ว่ารอบ
00:49:58 → 00:50:02 สุดท้ายอ่ะรู้ว่าอ๋อถ้ามันไปถึงจุดนึงอ่ะ
00:50:02 → 00:50:06 มันมันหลุดมันสมันสามารถหลุดไปได้ซึ่งก็
00:50:06 → 00:50:10 แบบเอ้ยแบบทำเองที่บ้านจะดีหรอถ้าหลุดเอง
00:50:10 → 00:50:12 ที่บ้านอ่ะเขาก็จะหลับไปเองอ๋อหลับแต่ไม่
00:50:12 → 00:50:16 ตุใช่เราไม่ตุรอีกอย่างนึงเวลาบางคนคิด
00:50:16 → 00:50:19 ว่าเฮ้ยเราหลุดไปตอนที่เรากลั้นหายใจแล้ว
00:50:19 → 00:50:21 จะเป็นอะไรมั้ยแต่ร่างกายของเราอ่ะมันจะ
00:50:22 → 00:50:24 ไม่ยอมให้เราใชเจะไม่แค่แบบเราหลุดไปแค่
00:50:24 → 00:50:27 แบบหลุดหลับไปแค่ไม่กี่วิค่ะเจะกลับมาหาย
00:50:27 → 00:50:29 ใจเองเลยฉะนั้นไม่มีใช่มฉันจะกั้นใจตาย
00:50:29 → 00:50:32 อย่าเงี้ยไม่มีไม่ได้เลยอ่ะอันนั้นคือ
00:50:32 → 00:50:35 เก่งมากแล้วนะไม่มีจะแปลกมากเมื่อกี้ลูก
00:50:35 → 00:50:38 ตาชมิ movement ป่ะเมื่อกี้เมีเพราเห็น
00:50:38 → 00:50:40 แบบขยรู้สึกว่ามันเป็นแบบเยทำไมแบบเหมือน
00:50:40 → 00:50:42 มันมันมันบังคับไม่ได้อ่ะเหมือนมันแบบมัน
00:50:42 → 00:50:44 หมุนมันมันหมุนเออแล้วมันโลมันแล้วมันไม่
00:50:44 → 00:50:46 ได้รู้สึกว่ามันโลแบบนี้ด้วยนะคือมัน
00:50:46 → 00:50:52 เหมือนมันอืเออคุณบิเจะบอกว่าเราอ่ะโตมา
00:50:52 → 00:50:55 ดยที่เราแบบทับถมความรู้สึกของเรานั้นไว้
00:50:55 → 00:50:58 อืหน้าที่การงานการเงินเการใช้ชีวิตเนาะ
00:50:58 → 00:51:00 มีลูกอย่างเงี้เราต้องแบบเก็บความรู้สึก
00:51:00 → 00:51:02 ของเราไว้ตลอดอย่างเงี้ยค่ะแต่พอแบบเรา
00:51:02 → 00:51:05 ฝึกหายใจอ่ะมันเป็นการเคลียร์อืเคลียร์
00:51:05 → 00:51:08 ความคิดเคลียร์สิ่งต่างๆที่มันทับถมอยู่
00:51:08 → 00:51:09 ตรงนั้นน่ะแล้วความรู้สึกที่แท้จริงของ
00:51:09 → 00:51:12 เรามันจะผุดขึ้นมาอแต่เมื่อกี้ที่รู้สึก
00:51:13 → 00:51:17 ก็คือว่ามันวิงแล้วมันดับมันดับจริงบางคน
00:51:17 → 00:51:20 คือหูอ่ะแบบจะอื้อแบบอึเออดับจริหรือว่าบ
00:51:20 → 00:51:23 คไม่ได้ยินไม่ได้ยินอะไรเลยเออไม่ได้ยิน
00:51:23 → 00:51:26 อะไรเลยก็ต้องขอบคุณมากๆเลยนะคะสำหรับทุก
00:51:26 → 00:51:28 ๆคนนะคะตอนนี้ไ doot ของเราเนี่ยก็มี
00:51:28 → 00:51:31 subscriber นะคะถึง 100,000 ซับแล้วนะคะ
00:51:31 → 00:51:34 ก็ขอบคุณค่ะทุกคนที่ติดตามนะคะอยากจะให้
00:51:34 → 00:51:37 บอกต่อแบบนี้กันไปนะคะให้กับเพื่อนๆทุกคน
00:51:37 → 00:51:39 นะคะให้มาติดตามกดไลค์กดแชร์กดสกระดิ่งกด
00:51:39 → 00:51:41 ทุกอย่างเลยนะคะเพื่อที่เป็นกำลังใจให้
00:51:41 → 00:51:44 กับพวกเรานะคะทีมงานทุกๆคนนะคะจะได้ผลิต
00:51:44 → 00:51:49 คทนดีๆมีคุณภาพแบบนี้ต่อไปอย่าลืมนะคะ
00:51:49 → 00:51:52 [เพลง]