พฤติกรรมใดทำลายความสามารถในการโฟกัส

กำจัดขยะสมองเพิ่มคุณภาพชีวิต! | เกลาแก้โรค EP.42 หมอฟ้า สมาธิศาสตร์ @morfah.samadhi

จากช่อง : Klaoshow


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 สมองเขาไม่ได้เกิดมาเพื่อสขยะคือสิ่งที่

00:00:0300:00:05 เรารับมาและทำให้เราเป็นทุกข์เพราะเราคิด

00:00:0500:00:08 เยอะเราพักไม่เป็นเราคิดตลอดเวลาเพราะว่า

00:00:0800:00:11 เรากำลังเสพติดความเครียดอยู่เรากำลังสอน

00:00:1100:00:14 ร่างกายเรากำลังสอนสมองให้ชินกับความ

00:00:1400:00:17 เครียดช่วงไหนที่รู้สึกเครียดกังวลเยอะๆ

00:00:1700:00:19 ข้อมูลที่เข้ามาเข้ามาที่หัวแต่มันมีความ

00:00:1900:00:22 รู้สึกที่ใจอะไรที่ทำให้เรารู้สึกที่มัน

00:00:2200:00:24 ไม่ดีอ่ะถึงเวลาที่เราจะต้องเที่ยวการ

00:00:2400:00:26 เล่นโซเชียลmedเดียที่น่ากลัวคือการสไลด์

00:00:2600:00:29 เร็วๆบ่อยๆมันทำให้โดปามีนของเราอ่ะมัน

00:00:2900:00:32 หลั่งง่ายเกินไปเราแทบจะไม่ต้องทำอะไร

00:00:3200:00:35 เยอะเราก็ถูกสนองความต้องการมาแล้วเฮ้ย

00:00:3500:00:38 เราไม่โอเคอ่ะเฮ้ยไม่ชอบคลิปนี้อ่ะดูไป 3

00:00:3800:00:42 นาทีเราก็ปัดมันทำให้เราอ่ะอดทนในโลกแห่ง

00:00:4200:00:44 ความเป็นจริงได้น้อยลงเพราะในโลกแห่ง

00:00:4500:00:47 โซเชียลมีดีเราไม่ต้องทนอะไรเลยการใช้

00:00:4700:00:50 ออนไลน์อ่ะไม่ได้เป็นแบบผู้ร้ายการใช้

00:00:5000:00:52 โซเชียลมีดีก็ไม่ใช่ผู้ร้ายแต่เราต้องมี

00:00:5200:00:55 เวลาพักเพื่อให้เรากลับมาถามตัวเองว่า

00:00:5500:00:57 อะไรเป็นสิ่งที่ฉันต้องการถึงจะรู้ว่าเรา

00:00:5700:01:00 จะโฟกัสที่ไหนถ้าวันนี้เรารู้สึกว่าเรา

00:01:0000:01:03 อยากเป็นคนใหม่เปลี่ยนนิสัยใหม่เราต้องมี

00:01:0300:01:04 การ

00:01:0400:01:10 โฟกัสเกลาแก้โรคเกลานิสัยห่างไกล

00:01:1000:01:14 โรคสวัสดีค่ะยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ

00:01:1400:01:16 เกลาแก้โรคค่ะวันนี้แพนด้าอยากจะพาทุก

00:01:1600:01:19 ท่านนะคะมาดูแลสมองของเราค่ะเพราะว่าสมอง

00:01:1900:01:22 เนี่ยเป็นอวัยวะนึงที่สำคัญมากๆแล้วก็

00:01:2200:01:24 อยู่กับเราตั้งแต่เกิดจนวันสุดท้ายของ

00:01:2400:01:26 ชีวิตเลยแล้วสมองเนี่ยเราต้องดูแลยังไง

00:01:2600:01:28 บอกก่อนเลยนะคะว่า EP นี้เนี่ยเราจะพาทุก

00:01:2800:01:31 ท่านเนี่ยมาเพิ่มพลังโฟกัสด้วยสมาธิกัน

00:01:3100:01:33 ค่ะแล้วจะเป็นใครไม่ได้นะคะที่จะให้คำตอบ

00:01:3300:01:36 เรื่องนี้ได้ดีนั่นก็คือคุณหมอฟ้าจากเพจ

00:01:3600:01:39 หมอฟ้าสมาธิศาสตร์สวัสดีค่ะคุณหมอสวัสดี

00:01:3900:01:43 ค่ะอ่าวันนี้เจอกันอีกแล้วนะคะค่ะอยากชวน

00:01:4300:01:45 คุยในเรื่องของการที่เราจะเพิ่มพลังโฟกัส

00:01:4500:01:48 ค่ะด้วยการทำสมาธิก่อนอื่นแพนด้าอยากถาม

00:01:4800:01:51 ก่อนว่าอย่างสมองของเราเนี่ยค่ะแพนด้าก็

00:01:5100:01:53 จะรู้ว่าสมองของเราเนี่ยก็จะมีบางอย่าง

00:01:5300:01:56 ที่เป็นขยะเนาะเออแล้วอะไรบ้างที่ถือเป็น

00:01:5600:01:59 ขยะสมองคะอขยะสมองในที่เนี้ยอ่ะขยะเวลา

00:01:5900:02:01 เรานึกถึงขยะก็คือสิ่งที่เราไม่ต้องการ

00:02:0100:02:03 หรือว่าเราต้องการที่จะทิ้งใช่มั้คะสมอง

00:02:0400:02:06 คือสิ่งที่อยู่ในความคิดเราอาจจะต้องกลับ

00:02:0600:02:09 มาคิดว่าเอ้ยอันไหนที่เราคิดวนแล้วทำให้

00:02:0900:02:11 เรารู้สึกเป็นทุกข์แล้วเราอยากจะกำจัดออก

00:02:1100:02:14 อันนั้นน่ะถือว่าเป็นขยะเออคือเหมือนคิด

00:02:1400:02:16 แล้วมันแบบไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมาหรือว่า

00:02:1600:02:18 อยู่ตรงนี้แล้วทำให้เราเป็นทุกข์อ่ะค่ะ

00:02:1800:02:21 เออนั้นคือขยะที่เราแบบค่อยๆเคลียร์ออกไป

00:02:2100:02:24 รวมถึงสิ่งที่เราสะสมมาโดยที่เราไม่รู้

00:02:2400:02:26 ตัวด้วยมั้คะใช่เพราะว่าเวลาที่เราออกไป

00:02:2600:02:28 ใช้ชีวิตอ่ะค่ะสื่อที่เราเซฟสิ่งที่เรา

00:02:2800:02:31 เห็นโดยที่เราเข้ามาสิ่งนั้นน่ะพอเข้ามา

00:02:3100:02:33 ที่สมองก็เข้าไปสู่จิตใต้สำนึกหรือว่าตัว

00:02:3300:02:35 เราเหมือนกันอันนั้นก็ถือว่าเป็นขยะถ้า

00:02:3500:02:38 เป็นสิ่งที่เราแบบไม่ต้องการหรือว่าไม่

00:02:3800:02:40 ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้นแล้วอย่างเงี้ยค่ะ

00:02:4000:02:43 เราจะสามารถสังเกตร่างกายหรือว่ามีเอฟเฟค

00:02:4300:02:45 ทางร่างกายอะไรบ้างที่จะทำให้เรารู้ว่า

00:02:4500:02:48 เฮ้ยตอนเนี้ยสมองของเราเนี่ยมีขยะมากเกิน

00:02:4800:02:51 ไปอันนี้อาจจะแชร์จากประสบการณ์ของพี่

00:02:5100:02:53 แล้วกันนะคะเพราะฉะนั้นขยะคือสิ่งที่เรา

00:02:5300:02:56 รับมาและทำให้เราเป็นทุกข์เออสำหรับพี่

00:02:5600:02:58 อ่ะถ้าเกิดว่าเราเช็คก็คือพี่จะเช็คว่า

00:02:5800:03:00 ช่วงนั้นน่ะพี่มีความเครียดหรือว่าวิตก

00:03:0000:03:04 กังวลเยอะไหมหรือว่าทำอะไรแล้วแบบรีบๆลนๆ

00:03:0400:03:07 โฟกัสไม่ได้แล้วรู้สึกแบบไม่สุขสบายอ่ะ

00:03:0800:03:09 รู้สึกโฟกัสไม่ได้เพราะถ้าเกิดโฟกัสไม่

00:03:0900:03:12 ได้มันเกิดแบบผลงานไม่ได้ไงคะเพราะฉะนั้น

00:03:1200:03:15 ช่วงไหนที่รู้สึกเครียดเยอะๆกังวลเยอะๆ

00:03:1500:03:18 คิดมากๆคิดในสิ่งที่ยังไม่เกิดแล้วทำให้

00:03:1800:03:21 เรากลับมาวนๆอะไรอย่างเงี้ยคือให้รู้ว่า

00:03:2100:03:23 เออตรงนั้นถึงเวลาที่เราจะต้องแบบมา

00:03:2300:03:26 เคลียร์ละเราได้รับข้อมูลที่มากเกินไป

00:03:2600:03:29 เพราะว่าข้อมูที่เข้ามาเข้ามาที่หัวแต่

00:03:2900:03:31 มันมีความรู้สึกที่ใจไงเข้ามาแล้วมันทำ

00:03:3100:03:33 ให้เรารู้สึกอะไรที่ทำให้เรารู้สึกที่มัน

00:03:3300:03:36 ไม่ดีอ่ะคือนั่นแหละถึงเวลาที่เราจะต้อง

00:03:3600:03:38 เที่ยวออค่ะแล้วอย่างถ้าสมมุติการนอนไม่

00:03:3800:03:40 หลับอ่าอาการนอนไม่หลับที่เกิดขึ้นกับ

00:03:4000:03:43 ร่างกายเนี่ยค่ะสามารถสะท้อนกับสุขภาพ

00:03:4300:03:45 สมองของเราได้มั้คะโอแน่นอนเพราะเราคิด

00:03:4500:03:49 เยอะเราพักไม่เป็นเราคิดตลอดเวลาค่ะเพราะ

00:03:4900:03:52 ฉะนั้นเราก็ชินกับความคิดติดอยู่ที่หัว

00:03:5200:03:53 เพราะฉะนั้นเวลาที่เรารู้สึกว่าเราจะต้อง

00:03:5300:03:55 พักอ่ะเขารู้สึกว่าโหมดพักเป็นโหมดที่เขา

00:03:5600:03:59 ไม่ชินเขาก็เลยนอนเองไม่ได้หรือบางคนแบบ

00:03:5900:04:01 ไปเที่ยวเออเหมือนจะไปพักเตก็กลับมาคิด

00:04:0100:04:03 อีกอะไรเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นการคิดบนเป็น

00:04:0300:04:05 เรื่องสำคัญมากเพราะว่ามันเกี่ยวข้องกับ

00:04:0500:04:08 การเปลี่ยนแปลงสมองด้วยคุณหมอบอกแพนด้า

00:04:0800:04:10 ว่าจริงๆสมองของคนเราเนี่ยสามารถเปลี่ยน

00:04:1000:04:13 ได้เปลี่ยนเส้นทางได้ด้วยเอ้ามันคืออะไร

00:04:1300:04:15 อ่ะคะอเอ่ออันเนี้ยเขาเรียกว่าเป็น neur

00:04:1500:04:19 plasticity ne คือสมองพลาสติกคือยืด

00:04:1900:04:22 หยุ่นเปลี่ยนเส้นทางได้พี่พูดอย่างงี้

00:04:2300:04:25 เวลาที่อ่ะพี่คุยกับแพนด้าอย่างเงี้ยมี

00:04:2500:04:27 เสียงเข้ามาหรือว่าเราเห็นอะไรอ่ะค่ะมัน

00:04:2700:04:30 จะเกิดสัญญาณขึ้นในสมองแล้วเวลาสมองเคย

00:04:3000:04:32 เห็นที่เขา้าเป็นโครงข่ายมั้ยค่ะเออเขาจะ

00:04:3200:04:35 เกิดการคุยกันด้วยสารเคมีคือเขาจะแบบ

00:04:3600:04:38 อย่างเงี้ยแล้วเขาจะคุยกันด้วยสารเคมีเขา

00:04:3800:04:40 เรียกกระบวนการเว่าเป็นการไซapอ่ามันเป็น

00:04:4000:04:42 ศัพท์การแพทย์แบบไม่ต้องสนใจหรอกพูดง่ายๆ

00:04:4200:04:45 คือทุกครั้งที่เราได้รับอะไรมาเขาจะคุย

00:04:4500:04:47 กันแล้วเขาเกิดการเชื่อมกันเพราะฉะนั้น

00:04:4700:04:50 เนี่ยสิ่งที่เราทำซ้ำๆจะกลายเป็นสิ่งที่

00:04:5000:04:52 เขาคุยกันและเชื่อมกันแบบนี้อืแล้วมันจะ

00:04:5200:04:55 ถูกเซตอ่ะเป็นแบบเหมือนกับเชื่อมแข็งไป

00:04:5500:04:58 แล้วอ่ะในตอนที่อายุ 25 สังเกตว่าหลังอาย

00:04:5800:05:00 25 เราจะแบบเปลี่ยนแปลงได้ยากเพราะว่า

00:05:0000:05:03 มันถูกเซตอ่ะค่ะสมองที่ถูกเซ็ตคือตัวเรา

00:05:0300:05:06 ที่ถูกเซตทีนี้เคยเห็นคนที่เป็นอัมพฤก์

00:05:0600:05:09 อัมพาตมั้ยที่บางทีเขาเป็นสโตกสตกคือเส้น

00:05:0900:05:11 เลือดในสมองตีบถูกมั้คะและตอนแรกเขาอาจจะ

00:05:1200:05:14 แบบยังเดินไม่ได้สักพักเขาเริ่มเดินได้

00:05:1400:05:16 มันอาจจะไม่ได้กลับมา 100% แต่ว่าเขาจะ

00:05:1600:05:19 กลับมาเดินได้นั่นแหละเกิดจากการที่สมอง

00:05:1900:05:22 เขาสามารถซ่อมสร้างตัวเองได้ทีเนี้ยจุด

00:05:2200:05:24 สำคัญก็คือว่าเขาเคยเชื่อมกันอย่างเงี้ย

00:05:2400:05:28 มา 25 ปีจุดสำคัญคือถ้าวันนี้เรารู้สึก

00:05:2800:05:30 ว่าเราอยากเป็นคนใหม่เราจะเปลี่ยนแปลง

00:05:3000:05:34 สมองอ่ะมันเลยต้องกลับมาที่การโฟกัสมัน

00:05:3400:05:36 คือกลับมาจุดของปัจจุบันขณะแล้วเกิดการ

00:05:3600:05:39 โฟกัสก่อนเพราะว่าเวลาเขาเชื่อมกันอย่าง

00:05:3900:05:41 เงี้ยเขาเชื่อมเป็นออโตแมติเขาเชื่อมเป็น

00:05:4100:05:43 ระบบประสาทอัตโนมัติไปแล้วเคยทำแบบนี้มา

00:05:4300:05:46 ตั้ง 25 ปีเขาทำแบบนี้ซ้ำๆอ่ะค่ะงั้นการ

00:05:4600:05:49 ที่เราจะเปลี่ยนนิสัยใหม่เป็นคนใหม่เรา

00:05:4900:05:52 เลือกเส้นทางใหม่เราต้องมีการโฟกัสอื

00:05:5200:05:56 เพราะถ้าไม่โฟกัสเราจะกลับไปที่ร่องสมอง

00:05:5600:05:58 เดิมงั้นเนี่ยสมองสามารถเปลี่ยนแปลงได้

00:05:5800:06:01 แต่คุณสมบัติสำคัญคือเราจะต้องกลับมาที่

00:06:0100:06:04 จุดของการโฟกัสก่อนอืเออเพื่อรู้ก่อนว่า

00:06:0400:06:07 เฮ้ยเนี่ยมันเป็นแบบตัวเก่าของฉันนะฉันจะ

00:06:0700:06:10 เป็นคนใหม่มันต้องรู้ตัวกลับมาจุดตรงนี้

00:06:1000:06:14 ก่อนอืคือสมองจะเปลี่ยนได้เราต้องมีโฟกัส

00:06:1400:06:18 ใช่อ่าถามต่อค่ะว่าแล้วพฤติกรรมอะไรบ้าง

00:06:1800:06:21 ที่ทำลายโฟกัสของเราอ่ะอย่างแบบมากสุด

00:06:2100:06:25 ทำลายโฟกัสโฟกัสคือแสงเลเซอร์อคือทำสิ่ง

00:06:2600:06:29 หนึ่งในครั้งนึงอ่าให้นึกถึงเคยเล่นเกม

00:06:2900:06:32 แบบตอนเด็กๆคะที่เราเอาแว่นขยายมาคือแสง

00:06:3200:06:34 แดดมันก็แค่ร้อนใช่ป่ะแต่ถ้าเราเอาแว่น

00:06:3500:06:37 ขยายมาเขาสามารถโฟกัสแล้วมันทำให้กระดาษ

00:06:3700:06:41 ไหม้ได้อ่ะโฟกัสคือทำ 1 อย่างณชั่วขณะ

00:06:4100:06:44 นั้นจนเป็นแสงเลเซอร์เลยเพราะฉะนั้นเนี่ย

00:06:4400:06:46 ตรงข้ามกับการทำโฟกัสคือทำมันทุกอย่าง

00:06:4600:06:49 เพราะฉะนั้นพอทำทุกอย่างเราไม่สามารถใส่

00:06:4900:06:52 โฟกัสไปในอะไรได้อ่ะค่ะถามว่ามันเกิดงาน

00:06:5200:06:55 มั้อ่ะเกิดงานแต่ว่าถามว่าคุณภาพจะเป็น

00:06:5500:06:57 แบบไหนอ่ะอันนี้อีกเรื่องนึงแต่ไม่ดีกับ

00:06:5700:07:00 สมองแน่ๆเพราะว่าสมองเขาแบบไม่ได้เกิดมา

00:07:0000:07:03 เพื่อมันทสอ่ะขนาดเขาจะเปลี่ยนเขายังต้อง

00:07:0300:07:05 โฟกัสเลยอ่ะเขาถึงจะเปลี่ยนได้เพราะมัน

00:07:0500:07:07 เป็นธรรมชาติของเขาอะไรเงี้ยออืคือทำอะไร

00:07:0800:07:11 ทำทีละอย่างก่อนทีละอย่างอ่าค่ะแต่ว่าใน

00:07:1100:07:14 ปัจจุบันเนี้ยค่ะโลกมันหมุนไวมากเนาะแล้ว

00:07:1400:07:17 ก็เราต้องใช้ชีวิตให้มันทันกับโรคที่หมุน

00:07:1700:07:21 ไวอ่าก็จะมีเรื่องของการบริหารเวลาเกิด

00:07:2100:07:24 ขึ้นเช่นบางคนรู้สึกว่าใน 1 ชั่วโมงเฉัน

00:07:2400:07:26 ต้องทำอะไรให้มันได้เยอะๆถึงจะแบบรู้สึก

00:07:2600:07:30 ว่าเป็นคนโปรดักเป็นคนที่แบบเออมีคุณภาพ

00:07:3000:07:32 เงี้ยอ่าจริงๆสิ่งนี้มันดีหรือไม่ดียังไง

00:07:3200:07:35 คะแบบไม่ได้อยากบอกว่าแบบดีไม่ดีเลยเพราะ

00:07:3500:07:39 ว่าแต่ละคนเขาก็จะมีแบบสไตล์ของเขาพี่อาจ

00:07:3900:07:41 จะแชร์ในมุมของพี่แล้วกันว่าในสำหรับพี่

00:07:4100:07:44 อ่ะค่ะที่แบบเออเราฝึกสมาธิมาแล้วก็เราทำ

00:07:4400:07:46 งานแบบหลายอย่างด้วยอ่ะการโฟกัสอ่ะเป็น

00:07:4600:07:50 สิ่งที่พี่ทำเสมอคือทำได้แค่ 1 อย่างณ

00:07:5000:07:53 ชั่วขณะนั้นนะคะแล้วสิ่งสำคัญคือมันไม่

00:07:5300:07:55 เครียดอ่ะสมมุติว่าอันนั้นเราก็ต้องทำอัน

00:07:5600:07:58 นี้ก็ต้องทำอ่ะค่ะมากกว่าสมองเครียดอ่ะ

00:07:5800:08:01 คือร่างกายเราเครียดนะสังเกตมว่าทำอะไร

00:08:0100:08:03 เราก็จะแบบรีบไปหมดอ่ะเพราะว่าเรากำลัง

00:08:0400:08:06 เสพติดความเครียดอยู่อ่ะค่ะเรากำลังสอน

00:08:0600:08:09 ร่างกายเรากำลังสอนสมองให้ชินกับความ

00:08:0900:08:12 เครียดเพราะฉะนั้นน่ะสำหรับพี่อ่ะการ

00:08:1200:08:15 โฟกัสอ่ะเป็นสิ่งที่เราทำแล้วมันได้ผลน่ะ

00:08:1500:08:19 ถ้ามันมัลติสองเราจะใช้พลังงานเยอะเพราะ

00:08:1900:08:22 ฉะนั้นเขาก็จะเหนื่อยเขาก็จะล้าอาจจะลอง

00:08:2200:08:25 ดูก็ได้ค่ะวันที่เราโฟกัสอาจจะ 1 อย่าง

00:08:2500:08:27 กับวันที่เราแบบทำทุกอย่างลองดูว่าผลงาน

00:08:2700:08:30 มันเป็นยังไงอืลองค่อยๆชั่งน้ำหนักแล้วก็

00:08:3000:08:33 บาลานซเอาอ่าแล้วถ้าสมมุติบางคนที่เ้าไม่

00:08:3300:08:35 สามารถวันนึงทำแค่อย่างเดียวได้ด้วยหน้า

00:08:3500:08:38 ที่การงานหรือด้วยอ่ะสมมุตินะคะเช่นเป็น

00:08:3900:08:42 คุณแม่อ่าต้องดูแลลูกด้วยต้องทำงานด้วย

00:08:4200:08:45 ต้องดูแลบ้านต้องดูแลสามีอ่ามันคงเป็นไป

00:08:4500:08:48 ไม่ได้หรอกที่เราจะเลือกทำแค่สิ่งที่ที่

00:08:4800:08:51 อยากทำแล้วเขาจะทำยังไงให้เยังต้องทำสิ่ง

00:08:5100:08:55 หลายๆอย่างเนี้ยแล้วเป็นผลดีต่อสมองใช่

00:08:5500:08:58 เป็นผลดีต่อคนรอบตัวความสัมพันธ์แล้วก็

00:08:5800:09:01 สมองของตัวเองออโอเคสำหรับพี่นะงั้นงั้น

00:09:0100:09:04 แชร์แล้วกันเพราะว่าพี่ก็แบบทำหมอฟันด้วย

00:09:0400:09:07 เป็นแม่ด้วยอะไรอย่างเงี้ยค่ะให้ดูว่า

00:09:0700:09:10 กิจกรรมไหนที่มันไม่ต้องใช้โฟกัสเยอะเช่น

00:09:1000:09:14 การกวาดบ้านถ้ากวาดบ้านแล้วเอาลูกเข้ามา

00:09:1400:09:16 เป็นส่วนหนึ่งของการกวาดบ้านการกวาดบ้าน

00:09:1600:09:19 อาจจะไม่ใช่การกวาดบ้านะเราสามารถแบบใช้

00:09:1900:09:21 เวลานั้นกับลูกอันนี้ถือว่าเป็นแมนติ

00:09:2100:09:24 ส่วนหนึ่งที่แบบดีอาจจะดูว่ากิจกรรมไหน

00:09:2400:09:27 ที่เราไม่ต้องใช้ความคิดเยอะขับรถหรือฟัง

00:09:2700:09:31 พcสก็ได้นะอ้าหรือเนี่ยแบบฟังเกาอะไร

00:09:3100:09:33 อย่างเงี้ยเพราะว่าการขับรถมันถูกเซตเป็น

00:09:3300:09:36 ออโต้ไปแล้วและเราไม่จำเป็นที่จะต้อง

00:09:3600:09:38 เปลี่ยนแต่ถ้าอะไรที่เราจำเป็นที่จะต้อง

00:09:3800:09:41 เปลี่ยนใช้พลังโฟกัสเยอะเป็นงานที่เราจะ

00:09:4100:09:43 ต้อง concentrate อันนั้นน่ะต้องทำ 1

00:09:4300:09:46 อย่างแต่่งงานไปเลไปเรื่อยอ่ะเออแบบว่า

00:09:4600:09:49 เรื่องปกติทั่วไปที่ไม่ใช้พลังงานเยอะไม่

00:09:4900:09:52 จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอาจจะเอาสิ่งอื่น

00:09:5200:09:54 เล็กๆน้อยๆเข้ามาแทรกได้อาจจะทำให้เรา

00:09:5400:09:56 balance ได้เพราะฉะนั้นสรุปก็คือถ้าเป็น

00:09:5600:09:58 งานที่เราต้องโฟกัสช่วงที่พี่จะต้องทำ

00:09:5800:10:00 คลิปช่วงจะต้องเขียนสิปเรา concentrate

00:10:0000:10:03 เราไม่สามารถทำกับอันอื่นได้เลยแต่แบบ

00:10:0300:10:05 เอ้ยบางอันที่เราจะต้องแบบอ่าล้างจานเรา

00:10:0500:10:08 ก็ทำกับอย่างอื่นได้ลองดูความสำคัญดูค่ะ

00:10:0800:10:10 อืแสดงว่าจริงๆแล้วแต่ละท่านเนี่ยไม่ได้

00:10:1000:10:13 เหมือนกันเลยอาจจะต้องดูว่ากิจกรรมอะไร

00:10:1300:10:15 ที่เอ้ยเราทำจนมันเป็นกิจวัตรจนทำจนแบบ

00:10:1600:10:18 เป็นสิ่งที่ทำได้อย่างอัตโนมัติแล้วเรา

00:10:1800:10:20 อาจจะเพิ่มสิ่งอื่นเข้ามาได้จริงๆเกณฑ

00:10:2000:10:23 หรือว่าสิ่งที่ทำให้เราดูได้คือตัวเราเอง

00:10:2300:10:26 ไม่ได้รู้สึกว่ามันมากระทบหรือเปล่าคะไม่

00:10:2600:10:29 ได้รู้สึกว่าสิ่งนี้มาขัดมารู้สึกหงุด

00:10:2900:10:32 หยิบอะไรอย่างเงี้ยใช่แล้วก็ว่าสำคัญน่ะ

00:10:3200:10:35 คือจับความรู้สึกตัวเราเองค่ะแบบมันไม่

00:10:3500:10:38 ได้มีถูกว่าเอ้ยโฟกัสดีหรือว่าเป็น

00:10:3800:10:40 multิทestดีเราก็โฟกัสในบางงานเพียงแต่

00:10:4000:10:43 ว่าถ้าเราทำให้เราค่อยๆปรับในขอบเขตที่

00:10:4300:10:45 เรารู้สึกว่ามันโอเคแล้วไม่กดดันตัวเอง

00:10:4500:10:48 เกินไปเราเคยมัลติสอย่างวันนี้ปั๊บอกให้

00:10:4800:10:51 ทำ 1 อย่างมันก็เยอะไปอ่ะค่ะให้เราค่อยๆ

00:10:5100:10:54 ปรับไปทีละนิดตามไลฟ์สไตล์ออืที่สำคัญก็

00:10:5400:10:56 คือเรื่องของความเครียดในระหว่างที่ทำ

00:10:5600:10:59 เนาะว่าบางคนอาจจะทำได้หลายอย่างแต่ว่าเา

00:10:5900:11:01 ทำได้ flow ไม่ได้เครียดอันนี้ก็ไม่ได้

00:11:0100:11:04 ไม่ได้มีปัญหาอะไรอใช่ๆค่ะสุดท้ายถ้าเขา

00:11:0400:11:06 แบบสามารถไปต่อได้นี่เป็นไลฟ์สไตล์ที่เรา

00:11:0600:11:09 รู้สึกว่าเราโอเคก็ถือว่าแบบดีตามนั้นเลย

00:11:0900:11:11 อแต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มันหนักไปอ่ะ

00:11:1100:11:14 เดี๋ร่างกายเขาจะบอกเราเองใช่ให้กลับมา

00:11:1400:11:17 เช็คผ่านร่างกายเยอะๆเช่นแบบเราเริ่มแบบ

00:11:1700:11:20 นอนไม่หลับละเราเริ่มกังวลคนกระวายเรา

00:11:2000:11:22 เริ่มหายใจไม่โอเคร่างกายเรามันไม่ดีอ่ะ

00:11:2200:11:25 ค่ะอันนั้นเป็นลักษณะที่ว่าเฮ้ยจริงๆอ่ะ

00:11:2500:11:27 คำว่า multitest มันอาจจะหมายถึงการที่

00:11:2700:11:29 เราเสพติดคอติซอลหรือว่าฮอร์โมความเครียด

00:11:2900:11:32 ก็ได้ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราจะต้องทำ

00:11:3200:11:34 เยอะกว่านี้มากกว่านี้เราถึงจะโอเคได้รับ

00:11:3500:11:37 การยอมรับเราอาจจะต้องเช็คกายเป็นหลัก

00:11:3700:11:39 เพราะว่ากายจะบอกถึงภาวะของใจหรือว่าความ

00:11:3900:11:42 รู้สึกทุกวันเนี้ค่ะเราทุกคนก็ใช้โซเชียล

00:11:4200:11:44 เนาะใช้โทรศัพท์ใช้เครื่องมือสื่อสารใน

00:11:4400:11:47 การที่จะสื่อสารกันเป็นยุคของการที่แบบ

00:11:4700:11:50 ออนไลน์อืออ่าทีนี้แพนด้าอยากรู้ว่าการ

00:11:5000:11:53 ใช้ออนไลน์เยอะๆหรือว่าการใช้โทรศัพท์

00:11:5300:11:55 เครื่องมือสื่อสารเยอะๆเนี่ยค่ะเยอะแค่

00:11:5500:11:58 ไหนที่มันเริ่มจะส่งผลต่อร่างกายของเรา

00:11:5800:12:01 เราจะสามารถดูร่างกายได้ยังไงว่าเฮ้ยขณะเ

00:12:0100:12:05 เราใช้โซเชียลมากเกินไปนะคือเช็คความเป็น

00:12:0500:12:07 ธรรมชาติถ้าสมมุติว่าเล่นโทรศัพท์แล้วแบบ

00:12:0700:12:10 ทำให้เราตื่นกลางคืนเช้ามาไม่สดชื่นปวด

00:12:1000:12:13 ค้อบลัยอะไรอย่างเงี้ยคือเช็คฐานกายไปเลย

00:12:1300:12:15 ว่ามีตรงไหนที่เขาปวดมยมีตรงไหนที่แบบ

00:12:1500:12:18 เฮ้ยฉันเคยแบบสมองปอดโป่งอ่ะตอนนี้มันไม่

00:12:1800:12:19 ได้เป็นเหมือนเดิมแล้วอะไรอย่างเงี้ยค่ะ

00:12:1900:12:22 แล้วก็มีอย่างนึงก็คือระหว่างการใช้

00:12:2200:12:24 ออนไลน์กับการใช้โซเชียล Media ไม่เหมือน

00:12:2400:12:28 กันนะอือ่าเพราะว่าสมมุติว่าอ่ะทุกคนนั่ง

00:12:2800:12:31 ดูเกลาค่ะนั่งดูแบบ 1 ชมงอ่ะจริงๆเรา

00:12:3100:12:34 concrate เราอาจจะขับรถไปด้วยแต่มันคือ

00:12:3400:12:37 การเปิดยาว 1 ชมงแต่การเล่นโซเชียลmedดia

00:12:3700:12:41 ที่น่ากลัวคือการสไลด์เร็วๆบ่อยๆอือืหรือ

00:12:4100:12:44 ว่าเราทำงานแล้วเราเปิดคอมที่เราต้องใช้

00:12:4400:12:46 อินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูลแต่เรา

00:12:4600:12:47 concentrate อันนั้นอันนี้ก็ถือว่าเป็น

00:12:4700:12:50 อะไรที่ที่โอเคนะคะเพราะฉะนั้นการใช้

00:12:5000:12:52 ออนไลน์อ่ะไม่ได้เป็นแบบผู้ร้ายแม้

00:12:5200:12:54 กระทั่งการใช้โซเชียลmedเดียก็ไม่ใช่ผู้

00:12:5400:12:57 ร้ายค่ะแต่ให้ระวังตรงที่เวลาที่เราแบบ

00:12:5700:12:59 ใช้บ่อยๆเลื่อนบ่อยๆเพราะว่าอันนี้มันนำ

00:12:5900:13:03 ไปเกี่ยวข้องกับสารเคมีในสมองเราอืเกี่ยว

00:13:0300:13:05 ข้องยังไงคะการเลื่อนบ่อยๆเพราะว่ามันไป

00:13:0500:13:07 เกี่ยวกับสารเคมีตัวนึงที่เราเรียกว่า

00:13:0700:13:11 โดปามีนจริงๆโดปามินก็ไม่ใช่ผู้ร้ายจริงๆ

00:13:1100:13:14 เขาเป็นฮอร์โมนของแรงบันดาลใจเคยมั้ที่

00:13:1400:13:17 แบบว่ามีแรงบันดาลใจในการทำสิ่งอื่นหรือ

00:13:1700:13:20 ว่าเวลาเราอยากทำความฝันให้เป็นจริงเรา

00:13:2000:13:23 ใช้โดมีนะมันเป็นฮมของการขับเคลื่อนแต่

00:13:2300:13:26 ว่าจุดก็คือว่าฮอร์โมนโดปามีนจะเกิดขึ้น

00:13:2600:13:29 เมื่อเราลงมือทำฮอร์โมนหลั่งแล้วทำให้

00:13:2900:13:32 เกิดการเสพติดเวลาที่เราแบบเคยชนะอะไร

00:13:3200:13:35 เล่นเกมอะไรแล้วชนะเราจะอยากชนะแต้มใหญ่

00:13:3500:13:39 ไปอีกเออหรือว่าเล่นเกมเลเวลต่อไปเออหรือ

00:13:3900:13:41 ว่าถ้าเราติดอะไรในเชิงไม่ดีก็อย่างเช่น

00:13:4100:13:44 แบบติดการพนันน่ะสังเกตมั้ยพอเราได้อัน

00:13:4400:13:47 นึงอ่ะเราจะอยากได้ใหญ่ไปอีกเเรียกเรียก

00:13:4700:13:49 ว่าเป็นวงจรของการ addict หรือว่าวงจรของ

00:13:4900:13:53 การเสพติดค่ะคือลงมือทำแล้วก็จะหลั่งสาร

00:13:5300:13:56 เกิดการเสพติดแล้วเกิดทำให้เราอ่ะอยากทำ

00:13:5600:13:58 สิ่งนั้นไปเรื่อยๆอันนี้เป็นเรื่องปกติ

00:13:5800:14:01 ของธรรมชาติที่ทำให้มนุษย์เราขับเคลื่อน

00:14:0100:14:03 แต่ว่าจุดก็คือว่าเวลาที่เราเล่น

00:14:0300:14:06 โซเชียลมีดีที่เราสไลด์เร็วๆอ่ะมันทำให้

00:14:0600:14:09 โดปามีนของเราอ่ะมันหลั่งง่ายเกินไปเค้า

00:14:0900:14:11 เรียกว่าเป็น sheepat โดปามีนก็คือว่าเรา

00:14:1100:14:14 แทบจะไม่ต้องทำอะไรเยอะเราก็ถูกสนองความ

00:14:1400:14:17 ต้องการแล้วเช่นถ้าเรารู้สึกไม่สบายใจอ่ะ

00:14:1700:14:19 เมื่อก่อนถ้าเราไม่ได้มีโซเชียลมีเดียเรา

00:14:1900:14:22 อาจจะมีกระบวนการที่มันแบบเอ้ยเราต้อง

00:14:2200:14:24 เคลื่อนย้ายตัวเองออกไปเดินจะต้องไปคุย

00:14:2400:14:27 กับเพื่อนไปทำอะไรที่มันแบบมีความพยายาม

00:14:2700:14:28 นิดนึงอ่ะค่ะแต่เวลาที่เราเล่น

00:14:2800:14:31 โซเชียลมีเดียเฮ้ยเราไม่โอเคอ่ะไม่โอเค

00:14:3100:14:34 เราก็ปัดเฮ้ยไม่ชอบคลิปนี้อ่ะดูไป 3 นาที

00:14:3400:14:37 เราก็ปัดเพราะฉะนั้นน่ะมันทำให้เราอ่ะคะ

00:14:3700:14:40 มีความอดทนน้อยลงเราอดทนในโลกแห่งความ

00:14:4100:14:44 เป็นจริงได้น้อยลงเพราะในโลกแห่งโซเชียล

00:14:4400:14:46 medดีiaเราไม่ต้องทนอะไรเลยแล้วมันแบบมัน

00:14:4700:14:49 ล็อคเราไว้ด้วยสารเคมีเพราะว่าพอเราพึงพอ

00:14:4900:14:52 ใจอ่ะเราเลื่อนแล้วเราพึงพอใจใช่มั้ยคะ

00:14:5200:14:55 พึงพอใจปุ๊บหลั่งโดปามีนพอหลั่งโดปามีน

00:14:5500:14:58 ปุ๊บเกิดการติดสังเกตมยเวลาที่เราเล่น

00:14:5800:15:00 โซเชียลmedมีเดียเรากะจะเล่นแบบ 15 นาที

00:15:0000:15:03 มันไม่เคย 15 นาทีเพราะมันเกิดการไหล

00:15:0300:15:06 สังเกตเวลาเราเล่นโซเชียลมีดีเนี่ยเรารู้

00:15:0600:15:09 ตัวน้อยมากเราไหลไปกับสิ่งที่อยู่ข้างนอก

00:15:0900:15:12 ค่ะแล้วเราโฟกัสน้อยมากมันคือการทำงานที่

00:15:1200:15:14 แบบเราไม่เหลือความแบบปัจจุบันขณะหรือว่า

00:15:1400:15:17 สติรู้ตัวเลยอ่ะมันก็คือเรื่องเดียวกัน

00:15:1700:15:19 กับที่เราแบบมีนิสัยทุกวันนี้เพราะเราเซฟ

00:15:1900:15:22 ออโต้ไงอมันเป็นเรื่องเดียวกันน่ะค่ะมัน

00:15:2200:15:24 ทำให้จิตเราไม่มีกำลังในการที่เราจะแบบ

00:15:2400:15:27 สร้างชีวิตที่ดีหรือมีอะไรอย่างเงี้ยอื

00:15:2700:15:30 ค่ะโอการสไลด์บ่อยๆคือทำให้เรารู้สึกว่า

00:15:3000:15:33 สำเร็จละสำเร็จละมันคือการเพิ่มขึ้นของ

00:15:3300:15:38 จำนวนสะสมที่มากขึ้นอืแต่ว่าไอ้ความว่าพอ

00:15:3800:15:41 ใจและสำเร็จนั้นน่ะมันดันไม่ใช่ความ

00:15:4100:15:44 สำเร็จในชีวิตจริงไงอืค่ะเพราะเวลาสมมุติ

00:15:4400:15:47 ว่าเราจะทำอะไรใหม่แม้กระทั่งเราจะแบบมี

00:15:4700:15:50 สุขภาพที่ดีเราจะมีซแพคอ่ะมันไม่ได้ง่าย

00:15:5000:15:53 ขนาดนั้นน่ะเราต้องแบบมีความช่วงเวลาที่

00:15:5300:15:56 เราต้องอดทนมีช่วงเวลาของการพ้นผ่านอะไร

00:15:5600:16:00 อย่างเงี้ยค่ะแต่เราดันไปติดความง่ายที่

00:16:0000:16:02 มันถูกตอบสนองมันทำให้เวลาที่เราไปใช้

00:16:0200:16:06 ชีวิตจริงอ่ะเราปรับตัวไม่ได้อืเออเราทน

00:16:0600:16:09 ไม่ได้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆเพราะว่าใน

00:16:0900:16:11 โซเชียลmedเดียเราไม่ต้องทนอเราไม่ชอบเรา

00:16:1100:16:14 ก็แค่เลื่อนผ่านแต่ในชีวิตจริงอ่ะมันเป็น

00:16:1400:16:16 ไปไม่ได้ไงเรามีเรื่องที่เราต้องทนหรือ

00:16:1600:16:18 ว่ามีเรื่องที่เราต้องผ่านแต่เราไม่ได้

00:16:1800:16:21 ฝึกค่ะว่าแต่จริงๆคือการใช้โซเชียล

00:16:2100:16:23 medเดียถ้าใช้อย่างไม่ได้มีสติใช้อย่าง

00:16:2300:16:25 ไหลตามคือบางครั้งเราก็รู้สึกว่ามันไม่

00:16:2500:16:27 ได้มีอะไรแต่จริงๆแล้วมันเปลี่ยนนิสัยของ

00:16:2700:16:32 เราไปเลยอมากอืมากเลยเปลี่ยนเป็นคนที่จาก

00:16:3200:16:35 คนที่อาจจะเคยมีความพยายามก็อาจจะรู้สึก

00:16:3500:16:37 ว่าอันนี้มันง่ายคือมันดูไม่มีอะไรมันดู

00:16:3700:16:39 แค่สิ่งที่อยู่ในมือเนาะแต่มันเอฟเฟคกับ

00:16:3900:16:42 จิตใจความสมองของเราใช่ใช่อีกอย่างนึงที่

00:16:4300:16:45 พี่ว่าสำคัญคือเวลาที่เราเสพโซเชียล

00:16:4500:16:48 medดีiaทุกคนก็จะโพสต์ด้านที่ดูดีเพราะ

00:16:4800:16:50 ว่ามันเป็นด้านที่เขาต้องการจะโชว์ใช่ม

00:16:5000:16:52 เพราะฉะนั้นน่ะมันยิ่งทำให้เรากลับมารู้

00:16:5200:16:54 สึกว่าแบบเอ้อตัวฉันไม่เห็นดีอย่างเขาเลย

00:16:5400:16:56 เขาไปเที่ยวต่างประเทศตลอดเลยเขาขับรถ

00:16:5600:16:58 นั่นรถนี่อ่ะแต่จริงๆแล้วความเป็นมนุษย์

00:16:5800:17:01 อ่ะมันก็มีด้านที่ดีด้านที่ไม่ดีแต่เรา

00:17:0100:17:03 ได้เสพเฉพาะด้านเดียวที่เขาต้องการให้เรา

00:17:0300:17:06 รับรู้ไงมันยิ่งทำให้เรากลับมายิ่งแบบรู้

00:17:0600:17:08 สึกแย่งกับตัวเองอีกเออเพราะฉะนั้นแบบสาร

00:17:0800:17:11 เคมีก็ถูกล็อคคเทนพิเศษก็ทำให้เรากลับมา

00:17:1100:17:14 แบบไม่ได้ดูแลหัวใจเราอีกอะไรอย่างเงี้ย

00:17:1400:17:17 ค่ะตอนที่เราได้คุยกันค่ะคุณหมอพูดถึงว่า

00:17:1700:17:20 จริงๆแล้วเนี่ยคนเราอ่ะคนเนี่ยถูกกำหนด

00:17:2000:17:24 ให้เป็นอิสระอือ่าแต่ว่าด้วยหลายๆอย่างทำ

00:17:2400:17:27 ให้เราอ่ะไปยึดไปบล็อกตัวเองอยากให้คุณ

00:17:2700:17:30 หมอช่วยอธิบายเรื่องนี้มั้คะคำว่าอิสระ

00:17:3000:17:33 คือสมมุติว่าถ้าเราย้อนกลับไปที่ manifest

00:17:3300:17:37 อ่ะเราสามารถตั้งความฝันอะไรก็ได้และถ้า

00:17:3700:17:39 เราลงมือทำสอดคล้องอ่ะสิ่งนั้นจะเกิด

00:17:3900:17:42 เพียงแต่ว่าเราอาจจะรอไม่ได้เราอยากให้

00:17:4200:17:45 มันเกิดขึ้นเร็วกว่าอืแต่จริงๆมันเกิดแต่

00:17:4500:17:47 เราอยากให้มันเร็วกว่านี้ค่ะความอดทนเรา

00:17:4800:17:51 ไม่ได้เพียงพอแต่เวลาที่เราอยู่ในโลกของ

00:17:5100:17:54 โซเชียลมีดียหรือว่าโลกที่เราอยู่ปกตินี่

00:17:5400:17:58 แหละมันแบบเออ้ยคนนั้นก็ดีคนนี้ก็ดีอะไร

00:17:5800:17:59 อย่างเงี้ยค่ะคนนั้นก็มีรถคนนี้ก็

00:17:5900:18:02 อันเนี้ยมันทำให้ความอิสระหรือว่าตัวเรา

00:18:0200:18:05 อ่ะมันน้อยตรงที่บางทีเราไปตั้งความฝัน

00:18:0500:18:08 หรือว่าสิ่งที่เราต้องการตามสังคมอ่ะโดย

00:18:0800:18:09 ที่เราไม่ได้กลับมาถามว่าอันนี้มันเป็น

00:18:0900:18:12 ความฝันของฉันจริงๆใช่มยอะไรอย่างเงี้ย

00:18:1200:18:14 ค่ะเคยมีช่วงนึงนึงที่พี่เคยตั้งว่าแบบ

00:18:1400:18:16 อุ้ยต้องไปเที่ยวต่างประเทศทุกปีกับพ่อ

00:18:1600:18:18 แม่เว้ยแล้วก็กลับไปถามพ่อว่าเออเนี่ยเรา

00:18:1800:18:21 จะไปญี่ปุ่นด้วยกันนะอะไรอย่างเงี้ยเพราะ

00:18:2100:18:23 ว่าเรารู้สึกว่ามันเป็นความฝันแล้วพ่อพี่

00:18:2300:18:25 ก็บอกพี่ว่าแบบเอ้ยจริงๆเขาไม่ได้อยากไป

00:18:2500:18:28 เขาไม่ได้อยากแบบนั่งเครื่องบินเขาไม่ได้

00:18:2800:18:30 อยากไปญี่ปุ่นที่มันหนาวอะไรอย่างเงี้ย

00:18:3000:18:33 มันเลยทำให้เราเข้าใจว่าเออว่ะภาพของ

00:18:3300:18:36 สังคมอ่ะที่อาจจะบอกว่าการทำสิ่งนี้คือ

00:18:3600:18:38 ประสบความสำเร็จอ่ะแต่ถ้าเราไม่เงียบฟัง

00:18:3800:18:40 ตัวเองอ่ะเราจะรู้สึกว่าเราไปยึดติดกับ

00:18:4000:18:42 สิ่งเนี้ยว่าคือความสำเร็จแต่มันอาจอาจจะ

00:18:4200:18:45 ไม่ใช่ความสำเร็จสำหรับเราก็ได้คนที่เรา

00:18:4500:18:47 รักอาจจะไม่ได้ต้องการสิ่งนั้นก็ได้อื

00:18:4700:18:51 แล้วการที่เราพอใจในชีวิตของเราอ่ะค่ะมัน

00:18:5100:18:54 มีผลดีกับการพัฒนาตัวเองมั้คะเพราะว่าบาง

00:18:5400:18:57 ครั้งคือแพนด้าจะเคยได้ยินมาแล้วว่าจริงๆ

00:18:5700:18:59 มันต้องกลับมาพอใจแล้วมันจะรู้สึกคือหลาย

00:18:5900:19:02 ๆอย่างมันจะดีขึ้นอ่าแต่ถ้าสมมุติเราพอใจ

00:19:0200:19:05 จนเราแบบไม่พัฒนาเลยอ๋ออันนี้เป็นคำถาม

00:19:0500:19:07 inside ที่คนผ่านการทำงานกับตัวเองมา

00:19:0700:19:11 แล้วคือแบบนี้จริงๆแล้วการ manifest อ่ะ

00:19:1100:19:13 ค่ะเท้าต้องแน่นหมายความว่าแบบนี้ลอง

00:19:1300:19:16 จินตนาการว่าเรายืนอยู่อ่ะค่ะแล้วเราแบบ

00:19:1600:19:19 ส่งไปว่าเราต้องการอะไรใช่ป่ะแต่สิ่งนั้น

00:19:1900:19:22 จะเกิดขึ้นได้เมื่อเรายอมรับหรือว่าพอใจ

00:19:2200:19:25 ในสิ่งที่เรามีแล้วเพราะว่าเวลาที่เราพอ

00:19:2500:19:29 ใจเราจะสามารถขอบคุณในสิ่งที่เรามีได้พอ

00:19:2900:19:31 เราขอบคุณในสิ่งที่เรามีได้เราจะเกิดการ

00:19:3100:19:33 เชื่อมต่อหรือว่า connect the dog และ

00:19:3300:19:37 ก้าวไปเรื่อยๆพอเราขอบคุณปุ๊บจะมีโอกาส

00:19:3700:19:39 เข้ามาตามการ manifest แล้วเราก็จะแบบ

00:19:3900:19:42 โอเคเติบโตไปตามจังหวะค่ะมันเหมือนตัวเรา

00:19:4200:19:46 แน่นน่ะนั่นคือความพอใจแต่ถ้าลิงก์กับสาร

00:19:4600:19:48 เคมีในสมองจริงๆแล้วอ่ะการพอใจไปเชื่อม

00:19:4800:19:52 โยงกับสารซิโลโตนินมันคนละโหหมวดกัน

00:19:5200:19:54 ซิโลตนินเนี่ยเป็นสารที่เป็น Fundamental

00:19:5400:19:58 ก็คือเป็นฐานใหญ่มากเป็นฮอร์โมนที่หลัง

00:19:5800:20:02 โดยที่ไม่ต้องทำอะไรโดปามีนเนี่ยนะต้องทำ

00:20:0200:20:04 เป็นฮอร์โมนแห่งการวิ่งต้องทนกับความ

00:20:0400:20:07 ลำบากและได้รับส่วนซีโรโตนินน่ะเป็น

00:20:0700:20:10 ฮอร์โมนของความพึงพอใจถ้าวันนี้เราสามารถ

00:20:1000:20:13 ยืนอยู่แล้วเราสามารถขอบคุณชีวิตได้

00:20:1300:20:16 ขอบคุณโลกใบเนี้ยโดยที่เราไม่ต้องทำอะไร

00:20:1700:20:20 อ่ะค่ะมันเป็นฮอร์โมนของการรับรู้ว่ามี

00:20:2000:20:22 อันนั้นน่ะถึงจะทำให้เราอ่ะเป็นต้นกำเนิด

00:20:2200:20:25 ของการ manifest เพราะรู้ว่ามีอ่ะมัน

00:20:2500:20:27 เหมือนว่าเราได้รับไปแล้วไงเพราะฉะนั้น

00:20:2700:20:30 มันไม่เหมือนกันตรงที่ว่าเวลาที่เรารับ

00:20:3000:20:33 รู้ได้ว่ามีอ่ะมันคือการที่เราไม่วิ่งไม่

00:20:3300:20:36 ไล่ล่าเราถึงดึงดูดหรือว่า manifest แต่

00:20:3600:20:38 เวลาที่เราแบบอยากไปอีกแล้วไม่สามารถรับ

00:20:3800:20:41 รู้ได้ถึงการมีเรากำลังวิ่งตลอดตลอดเวลา

00:20:4100:20:44 เราอยู่ในเลนสไล่ล่าตลอดเวลามันจะไม่ใช่

00:20:4400:20:47 การดึงดุทีนี้ถ้าเรากลับมาที่เรื่องของ

00:20:4700:20:50 อ่าชีปโดูปามีนที่เราเสพติดจากการไถฟีด

00:20:5000:20:54 ต่างๆเนี่ยค่ะเอิ่มแน่นอนว่าณขณะนั้นที่

00:20:5400:20:57 เรากำลังอยู่ในวงจรเนี้ยมันแdมันติดน่ะ

00:20:5700:21:00 คือมันค่อนข้างจะยากเหมือนกันนะที่จะถอน

00:21:0000:21:04 ตัวเองออกมาอ่าเราจะมีวิธีการในการหยุดวง

00:21:0400:21:07 จรนี้ได้ยังไงบ้างคะที่แบบคุณหมออยากแนะ

00:21:0700:21:10 นำแล้วเราก็เอาไปทำได้จริงอถ้าจะหยุดวงจร

00:21:1000:21:14 นี้คือมันจะกลับไปที่วิธีการสร้าง

00:21:1400:21:17 พฤติกรรมใหม่เราอาจจะต้องใช้สิ่งแวดล้อม

00:21:1700:21:20 ในการช่วยสร้างเช่นเราอาจจะแบบเอา

00:21:2100:21:24 โทรศัพท์วางไว้นอกห้องก่อนที่จะนอนถ้าเรา

00:21:2400:21:26 เป็นคนตื่นมาแล้วชอบหยิบโทรศัพท์อ่ะจัด

00:21:2600:21:29 การสิ่งแวดล้อมง่ายกว่าจัดการใจเพราะว่า

00:21:2900:21:32 จัดการสิ่งแวดล้อมอ่ะมันง่ายอ่ะใจมันใช้

00:21:3200:21:34 Wel Power หรือว่ากำลังของจิตเยอะถ้า

00:21:3400:21:36 เรารู้เป็นคนตื่นมาแล้วเราแบบชอบจับ

00:21:3600:21:38 โทรศัพท์เอาเ้าไปไว้ที่อื่นหรือบอกกับตัว

00:21:3800:21:42 เองว่ากินข้าวไม่จับโทรศัพท์ถ้าจะเข้าไป

00:21:4200:21:44 กินข้าวเอาโทรศัพท์ไปไว้ที่อื่นเคลียร์

00:21:4400:21:46 แบบนี้ก่อนค่ะแล้วเวลาที่เราจะเกิด

00:21:4600:21:50 พฤติกรรมได้คือหลังจากที่ทำให้กลับมา

00:21:5000:21:52 รีวอร์ดก็คือจะต้องให้รางวัลตัวเองในวัน

00:21:5200:21:55 ที่ทำได้จะต้องกลับมาแบบเออเธอทำได้แล้ว

00:21:5500:21:58 นะคือต้องกลับมาให้เหมือนชื่นชมด้วยอ่ะ

00:21:5800:22:00 มันถึงจะเกิดวงจรของโดปามีนอีกอันนึงมัน

00:22:0100:22:04 คือทำหลั่งโดปามีนแล้วได้รางวัลมันถึงจะ

00:22:0400:22:07 เกิดการทำซ้ำเราแค่ต้องทำพฤติกรรมใหม่ใน

00:22:0700:22:10 อีกวงจรนึงถ้าสมมุติว่าเราอ่ะอ่ะตื่นมา

00:22:1000:22:12 แล้วเราไม่ได้จับโทรศัพท์กลับมาชมตัวเอง

00:22:1200:22:14 ด้วยเพื่อให้เกิดรางวัลกับตัวเราเองแล้ว

00:22:1400:22:17 เราอยากจะทำเส้นใหม่เนี้ยซ้ำอ่ะเพราะว่า

00:22:1700:22:19 อันนี้เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดีมันเกิดจาก

00:22:1900:22:21 โดปามีนหลูปนี้แหละแต่เราต้องไปสร้าง

00:22:2100:22:25 พฤติกรรมใหม่ด้วยการทำให้รางวัลตัวเอง

00:22:2500:22:28 แล้วกลับมาทำซ้ำๆมันจะอยากเสกซ้ำๆอ่ะค่ะ

00:22:2800:22:31 เอออก็เป็นเหมือนการสร้างเส้นทางใหม่ใน

00:22:3100:22:34 สมองของเราใช่วิธีการสร้างพฤติกรรมใหม่

00:22:3400:22:36 หรือว่าเปลี่ยนเส้นทางอ่ะทำแบบนี้อาจจะ

00:22:3600:22:39 เชื่อมโยงกับพี่ยกตัวอย่างแบบลูกพี่คือ

00:22:3900:22:41 ลูกพี่อ่ะ 3 ขวบเพราะฉะนั้นเป็นช่วงที่

00:22:4100:22:44 เขาปรับพฤติกรรมเช่นถ้าเราอยากให้เขากิน

00:22:4400:22:48 ข้าวเองเขาไปกินข้าวเองเราชมแบบตบมือเล่น

00:22:4800:22:51 ใหญ่เขาจะทำอีกมันเหมือนเด็กที่แบบบ้ายอ

00:22:5100:22:55 อ่ะตัวเราเองอ่ะก็บ้ายอเราชอบได้ยินคำชม

00:22:5500:22:58 เราชอบการที่คนมองเห็นความสำคัญเหมือนกัน

00:22:5800:23:01 ค่ะถ้าทำอะไรสำเร็จในการแบบปรับพฤติกรรม

00:23:0100:23:03 เล็กๆน้อยๆกลับมาชมตัวเองด้วยอือเออแล้ว

00:23:0300:23:06 เราจะอยากทำสิ่งนั้นมากขึ้นไปอีกอือแล้ว

00:23:0600:23:09 ถ้าเป็นการให้รางวัลตัวเองแบบนี้นะคะเช่น

00:23:0900:23:12 อ่าเราไม่เล่นโทรศัพท์ตอนนี้เราตั้งใจจะ

00:23:1200:23:14 โซเชียลดีท็อกซ์ห่างโทรศัพท์อือๆอ่าแล้ว

00:23:1400:23:17 ก็อ่ะเดี๋ยวทำซักครึ่งวันแล้วพอหลังครึ่ง

00:23:1700:23:20 วันทำได้อ่ะทำได้แล้วนั้นเล่นให้รางวัล

00:23:2000:23:22 ด้วยการเล่นโทรศัพท์อันนี้การให้รางวัล

00:23:2200:23:26 ต้องไม่ใช่แบบสิ่งนั้นแล้วก็สิ่งสำคัญก็

00:23:2600:23:29 คือว่าระหว่างแบบดีท็อกซ์ยาวๆอ่ะกับฝึก

00:23:2900:23:33 เล็กๆอ่ะฝึกเล็กๆมีผลกว่าอืพฤติกรรมให้

00:23:3300:23:36 เอาแบบเหมือนเอาจิ๊กซอมาต่อทีละนิดอ่ะค่ะ

00:23:3600:23:38 มากกว่าการที่แบบฉันเลิกเล่น 3 วันเหมือน

00:23:3800:23:41 คนจะลดน้ำหนักแล้วกลับมาโยโยอ่ะให้พยายาม

00:23:4100:23:44 พฤติกรรมอยู่ในชีวิตปรับจากชีวิตค่ะ

00:23:4400:23:48 เหมือนความถี่อย่างงี้ใช่มั้คะใช่ใช่

00:23:4800:23:50 เหมือนความถี่ในเมื่อเราติดจากความถี่ที่

00:23:5000:23:52 มากขึ้นเราต้องสร้างเส้นทางใหม่จากความ

00:23:5200:23:57 ถี่ทำบ่อยสำคัญกว่าทำนานทีเดียวอ่ะอ๋อ

00:23:5700:23:59 เหมือนกับการที่อย่างที่เราคุยกันตอนแรก

00:23:5900:24:02 ว่าจริงๆเราเปลี่ยนสมองได้คือเราสร้าง

00:24:0200:24:04 เส้นทางใหม่ได้คือเหมือนการขุดร่องใหม่

00:24:0400:24:07 เนี่ยคือทำซ้ำๆยิ่งทำก็ยิ่งขุดยิ่งทำนั่น

00:24:0700:24:08 ใช่

00:24:0800:24:12 ใช่มันก็เหมือนขุดวางขุดวางแต่มันก็ยัง

00:24:1200:24:15 ไม่เกิดร่องใหม่ใช่ค่ะอย่างที่คุณหมอบอก

00:24:1500:24:18 ว่าจริงๆแล้วการที่เราจะเปลี่ยนอะไรสัก

00:24:1800:24:20 อย่างเนี่ยอย่างเมื่อกี้ความถี่ก็คือเป็น

00:24:2000:24:22 เป็นสิ่งนึงที่ช่วยให้เปลี่ยนสำเร็จแต่

00:24:2200:24:24 ว่าก่อนที่เราจะเปลี่ยนมันต้องมีโฟกัส

00:24:2400:24:28 ก่อนอ่าแล้วทีเนี้ยค่ะเราจะทำยังไงได้

00:24:2800:24:30 บ้างให้เราแบบมีโฟกัสมากขึ้นหรือว่าอะไร

00:24:3000:24:32 ที่จะช่วยเปลี่ยนให้เราเป็นคนที่มีโฟกัส

00:24:3200:24:36 ได้ดีขึ้นจริงๆโฟกัสอ่ะมันคือการที่เรา

00:24:3600:24:39 รู้มันจะพุ่งไปโฟกัสไปที่ไหนคำว่าโฟกัส

00:24:3900:24:41 มันต้องมีจุดหมายปลายทางค่ะเพราะฉะนั้น

00:24:4200:24:44 น่ะการที่ทำให้เรามีโฟกัสอ่ะมันการคือการ

00:24:4400:24:48 ที่เรากลับมาอยู่ตรงนี้มันคือการที่เรา

00:24:4800:24:52 ให้เสียงในตัวเรามันชัดขึ้นไม่ใช่หมาย

00:24:5200:24:54 ความว่าการเสพโซเชียลมีดีไม่ดีแต่เราต้อง

00:24:5400:24:57 มีเวลาพักเพื่อให้เรากลับมาถามตัวเองว่า

00:24:5700:25:00 อะไรเป็นสิ่งที่ฉันต้องการชีวิตฉัน

00:25:0000:25:03 ต้องการอะไรเป้าหมายของฉันคืออะไรเพราะ

00:25:0300:25:06 นั่นน่ะถึงจะรู้ว่าเราจะโฟกัสที่ไหนถ้า

00:25:0600:25:08 เราแบบมีเป้าหมายที่จะอ่ะฉันจะมีอายุยืน

00:25:0800:25:11 ยาวถึง 80 อันนี้คือจุดโฟกัสแล้วนะคะเรา

00:25:1100:25:14 ถึงจะทำอะไรให้มันสอดคล้องได้อ่ะแต่ถ้า

00:25:1400:25:16 เกิดว่าเสียงข้างนอกมันดังไปหมดเลยอ่ะเรา

00:25:1600:25:18 จะวิ่งทุกอย่างเนี่ยจนเราไม่รู้ว่าจริงๆ

00:25:1800:25:20 แล้วความต้องการมันคืออะไรเพราะฉะนั้น

00:25:2000:25:24 โฟกัสอ่ะมาหลังจากการที่เรากลับมาที่ตัว

00:25:2400:25:27 เองเราต้องกลับมาที่ตัวเองก่อนเราถึงจะ

00:25:2700:25:30 เข้าใจตัวเองแล้วเราถึงจะรู้ว่าเราจะ

00:25:3000:25:33 โฟกัสอะไรเราต้องรู้ก่อนที่จะโฟกัสไม่

00:25:3300:25:37 งั้นมันไม่เกิดจุดโฟกัสได้อเออเราจะกลับ

00:25:3700:25:39 มาที่ตัวเองมีวิธียังไงบ้างคะที่กลับมา

00:25:3900:25:43 ที่ตัวเองให้เวลาตัวเองอืแต่บางคนคือให้

00:25:4300:25:45 เวลาตัวเองก็ให้นะคะแต่คือเขาก็อาจจะแบบ

00:25:4500:25:48 สมมุตินะวันนี้ตั้งใจลาหยุด 1 วันอยากให้

00:25:4800:25:51 เวลาตัวเองอ่ะแต่ไม่รู้ว่าไอ้ 1 วันเนี้ย

00:25:5100:25:54 ต้องทำอะไรหรอคืออะไรคือที่จะจะทำให้แบบ

00:25:5400:25:57 เนี่ยคือให้เวลาตัวเองแล้วอ่ะสำหรับพี่นะ

00:25:5700:26:01 อาจจะไม่ต้องแบบลา 1 วันแต่ขอลองดูว่าภาย

00:26:0100:26:05 ใน 1 วันน่ะมีเวลาโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย

00:26:0500:26:08 ซัก 5 5 นาทีหรือ 10 นาทีได้ไหมอยากคิด

00:26:0800:26:11 ว่าเป็นเรื่องแบบสั้นๆนะเรื่องเนี้ยแบบ

00:26:1100:26:13 เป็นเรื่องยิ่งใหญ่มากเพราะว่าหลายคนติด

00:26:1400:26:16 เพราะว่าเรารู้สึกกับการติดในการที่จะทำ

00:26:1600:26:20 ลงมือทำให้ฉันรู้สึกดีการลงมือทำให้ฉัน

00:26:2000:26:22 รู้สึกว่าฉันมีค่าทำให้ฉันรู้สึกว่าฉัน

00:26:2200:26:25 โปรtiveแต่เวลาที่เราอยู่นิ่งๆอ่ะเรารู้

00:26:2500:26:28 สึกว่าแบบบางคนจะรู้สึกว่าโอ้ฉันแบบไร้

00:26:2800:26:31 ค่ามากเลยทั้งๆที่ถ้าเราไม่เงียบอ่ะเรา

00:26:3100:26:34 ไม่ได้ยินแล้วเสียงข้างนอกอ่ะมันดังกว่า

00:26:3400:26:36 เสียงข้างในเราอยู่แล้วเพราะฉะนั้นน่ะค่ะ

00:26:3600:26:39 ให้เวลาตัวเองอาจจะแค่ 5 นาทีต่อวันที่จะ

00:26:3900:26:42 วางทุกอย่างแล้วลองอยู่เงียบๆแล้วลองดู

00:26:4200:26:45 ว่าในตอนที่มันไม่ได้ทำอะไรเลยอ่ะมันมี

00:26:4500:26:48 อะไรขึ้นมาแล้วเราจะค่อยๆกลับไปทำความรู้

00:26:4800:26:51 จักตัวเองครั้งนึงอ่ะถ้าไม่เงียบอ่ะไปต่อ

00:26:5100:26:54 ไม่ได้เหมือนมันมันดังไปหมดอ่ะทำไปหมดอ่ะ

00:26:5400:26:57 มันไม่มีช่องว่างเลยอ่ะค่ะอืแต่ว่าคือทุก

00:26:5800:27:00 คนก็จะเป็นอย่างี้ใช่มั้ยคะคือแค่เรา

00:27:0000:27:03 เงียบเราปิดการรับรู้จากคนอื่นบ้างใช่อ่า

00:27:0300:27:05 แล้วเสียงเรามันจะดังขึ้นมาจริงเลยใช่

00:27:0500:27:07 เพราะว่าจริงๆเขาบอกเราอยู่แล้วเสื่อสาร

00:27:0700:27:10 กับเราอยู่แล้วเในที่นี้คือร่างกายค่ะเออ

00:27:1000:27:12 อยู่แล้วแต่เราแบบไม่ได้ยินเหมือนเรื่อง

00:27:1200:27:15 ป่วยอ่ะก่อนที่พี่จะเป็นภาวะซึมเศร้าอ่ะ

00:27:1500:27:17 มันไม่ได้อยู่ดีๆเป็นนะคือเราแบบไม่มี

00:27:1700:27:21 ความสุขกับการทำงานพี่ปวดคอจนแบบไม่

00:27:2100:27:24 สามารถหันซ้ายหันขวาได้เป็นหลักเดือนไม่

00:27:2400:27:27 สามารถนอนเองได้เพราะว่าปวดทางร่างกายแต่

00:27:2700:27:30 เราไม่ได้ยินไงเราไม่ได้ยินเราเพิกเฉย

00:27:3000:27:32 สิ่งที่มันเป็นเรื่องเล็กๆมันก็เลยเป็น

00:27:3200:27:34 เรื่องที่ยิ่งใหญ่เขาแค่ตะโกนบอกแล้วว่า

00:27:3400:27:36 เค้าไม่ไหวแล้วเพราะฉะนั้นน่ะทุกอย่างที่

00:27:3600:27:38 เกิดขึ้นน่ะมันเกิดจากการที่เราไม่หยุด

00:27:3800:27:41 ฟังเราแบบเสียงดังไปหมดอ่ะเพราะฉะนั้นถ้า

00:27:4100:27:44 เราหยุดฟังอ่ะเราจะได้ยินเค้าแน่นอนค่ะ

00:27:4400:27:46 อยู่นิ่งๆหรือว่าอยู่เงียบๆกับตัวเองอ่ะ

00:27:4600:27:50 อันนี้สำคัญมากพี่มีแบบเคสนึงเนาะเขาแบบ

00:27:5000:27:51 ได้เข้ามาเรียนหรือว่าได้คุยกันอะไรอย่าง

00:27:5100:27:56 เงี้ยค่ะเขาเป็นคุณหมอที่ยุ่งมากแล้วก็มี

00:27:5600:27:59 ภาวะ SL SLE คือภาวะภูมิคุ้มกันเขาทำลาย

00:27:5900:28:02 ตัวเองค่ะเป็นเลือดเพราะฉะนั้นเนี่ยเขาก็

00:28:0200:28:04 เลยไม่สามารถมีลูกได้คุณหมอเนี่ยก็บอกว่า

00:28:0400:28:06 เอ้ยมีลูกยากนะไม่ได้หมายความว่าแบบไม่มี

00:28:0600:28:09 ได้เลยมียากทีเนี้ยพอมันยุ่งไปหมดอ่ะเขา

00:28:0900:28:13 ไม่ได้มีเวลากลับมาให้ตัวเองเชื่อมว่าแค่

00:28:1300:28:15 แบบมีเวลาให้ตัวเองนะมันเหมือนได้กลับมา

00:28:1600:28:18 เชื่อมโยงกับตัวเองอ่ะตอนหลังครั้งล่าสุด

00:28:1800:28:21 อ่ะคือเค้าแบบไปเช็คอ่ะเลือด SLE อ่ะกลับ

00:28:2100:28:24 มาปกติอีกสักพักนึงอ่ะเขาสามารถกลับมามี

00:28:2400:28:27 ลูกได้แล้วตอนนี้เขาท้องแบบน่าจะ 5 เดือน

00:28:2700:28:29 แล้วอ่ะเออแล้วเขาก็กลับมาบอกพี่ว่าเออ

00:28:2900:28:32 หมอฟ้ารู้มว่าไอ้การที่แบบกลับมาอยู่กับ

00:28:3200:28:35 ตัวเองบ้างอ่ะมันทำให้เค้าอ่ะได้กลับมา

00:28:3500:28:38 เชื่อมโยงกับตัวเองแล้วแบบพลังงานในตัว

00:28:3800:28:41 เราอ่ะมันจะค่อยๆดีขึ้นน่ะค่ะเออแล้วเขา

00:28:4100:28:43 ก็แบบสุดท้ายก็ได้มีลูกแล้วพยายามมาแบบ

00:28:4300:28:46 หลายปีมาก 4-5 ปีอย่างที่คุณหมอบอกว่า

00:28:4600:28:49 จริงๆแล้วการให้เวลากับตัวเองอะไรอย่าง

00:28:4900:28:52 เงี้ยมันไม่ได้จำเป็นว่าเราจะต้องลา 1

00:28:5200:28:55 วันหรือเป็นกิจลักษณะหรือแบบเอ้ยเดี๋ยว

00:28:5500:28:57 เดี๋ยวทริปหน้านะเดี๋ยวจะให้เวลากับตัว

00:28:5700:29:00 เองอันนี้ไม่ใช่แต่เราควรจะทำให้มันเป็น

00:29:0000:29:02 กิจวัตรคือทำให้มันอยู่ในชีวิตประจำวัน

00:29:0200:29:07 ใช่อ่าอืทุกวันสำคัญกว่าลานานๆเพราะว่า

00:29:0700:29:10 สิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันจะกลายเป็นกิจวัตร

00:29:1000:29:13 สิ่งที่เป็นกิจวัตรจะกลายเป็นนิสัยและสุด

00:29:1300:29:16 ท้ายมันจะกลายเป็นตัวตนของเราเออเพราะ

00:29:1600:29:20 ฉะนั้นน่ะทำทุกวันสำคัญกว่าหยุด 3 วัน 5

00:29:2000:29:22 วันหรือว่าหยุดเดือนนึงอะไรอย่างเงี้ยค่ะ

00:29:2200:29:26 เอออค่ะแล้วการที่เราให้เวลาตัวเองเป็น

00:29:2600:29:30 ประจำทุกวันอย่างเงี้ยค่ะมันขุดร่องใหม่

00:29:3000:29:33 อะไรในสมองของเราหรือเปล่าคะเวลาที่เราจะ

00:29:3300:29:36 เปลี่ยนสมองนะ 1 คือเราต้องมีโฟกัสว่าเรา

00:29:3600:29:39 จะไปที่ไหนแต่การที่จะเปลี่ยนได้อ่ะคือ

00:29:3900:29:42 ต้องผ่อนคลายเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลง

00:29:4200:29:45 ชีวิตในขณะที่เรารีบไปหมดได้ลองสังเกตใน

00:29:4500:29:48 เวลาที่เช้าสายบที่นเราแบบสเกลเต็มไปหมด

00:29:4800:29:52 อ่ะเราจะคิดอะไรออกมยไม่เพราะเราจะทำทุก

00:29:5200:29:55 อย่างตามสกดuleคือทำแล้วไหลเพราะฉะนั้นใน

00:29:5600:29:57 การที่เราจะเปลี่ยนอะไรใหม่เราต้องผ่อน

00:29:5700:30:00 คลายการที่เรามีเวลาให้ตัวเองได้ผ่อนคลาย

00:30:0000:30:03 อ่ะมันคือช่วงเวลาที่ที่ทำให้เราอ่ะเซ็ต

00:30:0300:30:05 เส้นทางใหม่เวลาจะเปลี่ยนสมองเวลาจะ

00:30:0500:30:08 โปรแกรมอะไรทำอะไรที่เกี่ยวกับจิตอ่ะค่ะ

00:30:0800:30:10 ต้องผ่อนคลายเออสมาธิเลยกลายเป็น

00:30:1000:30:13 คีย์เวิร์ดนึงเพราะว่าสมาธิทำให้คลื่น

00:30:1300:30:15 สมองเราอ่ะอยู่ในคลื่นผ่อนคลายเราเลย

00:30:1500:30:18 สามารถ manifest ก็คือการที่เรามีภาพใช่

00:30:1800:30:20 มยมีภาพแล้วใส่เข้าไปเลยทำตอนทำสมาธิ

00:30:2000:30:23 เพราะว่ามันผ่อนคลายค่ะในภาวะปกติเราแบบ

00:30:2300:30:25 โอ้โหเครียดอ่ะความเครียดในคลื่นสมองเขา

00:30:2500:30:27 จะเป็นเบต้าหรือว่าคลื่นเร็วเพราะฉะนั้น

00:30:2700:30:31 น่ะมันไม่ผ่อนคลายเขาจะเขาจะรับไม่ได้เขา

00:30:3100:30:33 จะเอาถ้าสมมุติเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน

00:30:3400:30:36 ได้ก็เช่นไม่ต้องรอเวลาพักไม่ต้องรอตอน

00:30:3600:30:40 เย็นหรืออะไรเรารู้ตัวตอนไหนเราก็พักสัก

00:30:4000:30:44 นิดนึงออฮะค่ะแล้วมีวิธีที่จะช่วยรีเซต

00:30:4400:30:47 ได้ในขณะนั้นเลยมั้ยคะสำหรับพี่ก็ยังกลับ

00:30:4700:30:49 ไปที่ลมหายใจอยู่เพราะว่าลมหายใจเป็นสิ่ง

00:30:4900:30:52 ที่เราไม่ต้องมีกระบวนการเยอะถ้าเราจะ

00:30:5200:30:54 เปลี่ยนอะไรอ่ะมันต้องไม่มีกระบวนการเยอะ

00:30:5400:30:58 ขอแค่โอเครู้ตัวปุ๊บอ่ะหายใจไปที่ท้องนะ

00:30:5800:31:01 หายใจช้าลงก็ได้ถ้าตอนนี้ยังท้องไม่ได้

00:31:0100:31:03 ฉันยังหายหายใจที่อกก็ไม่เป็นไรค่ะขอช้า

00:31:0300:31:06 ลงหน่อยได้มแค่นั้นเองถ้าหายใจช้าไม่ได้

00:31:0700:31:10 รู้ตัวก่อนได้มทำอะไรก็ได้ค่ะให้เริ่ม

00:31:1000:31:14 น้อยที่สุดแต่ทำไปเลยอือืทีละเล็กๆแต่ว่า

00:31:1400:31:18 ทำเลยทำเลยทำตอนนั้นเลยไม่งั้นจะเปลี่ยน

00:31:1800:31:20 ไม่ได้แล้วก็แบบการเปลี่ยนมันต้องแบบทำ

00:31:2000:31:23 ทันทีอ่ะขอแค่รู้ตัวค่ะมันก็เป็นจุดที่

00:31:2300:31:26 แบบหัวใจเราก็จะแบบแข็งแรงขึ้นและเริ่ม

00:31:2600:31:28 เปลี่ยนได้แล้วโหจากที่เราคุยกันมาทั้ง

00:31:2800:31:29 หมดของวันนี้เนาะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ

00:31:2900:31:32 ที่เราอ่ะจะเปลี่ยนชีวิตของเราก็คือต้อง

00:31:3200:31:35 เปลี่ยนสมองอ่าซึ่งจะเปลี่ยนสมองได้ก็

00:31:3500:31:37 ต้องเปลี่ยนนิสัยแล้วก็ไอ้นิสัยเจะ

00:31:3700:31:39 เปลี่ยนได้ก็ต้องมีโฟกัสเมื่อทำ 1 อ่ะ

00:31:3900:31:42 เดี๋ยวมันจะกระชบชิ่งไปเองอ่าแต่ต้อง

00:31:4200:31:44 เริ่มให้ถูกก่อนแล้วก็สิ่งที่สำคัญมากๆ

00:31:4400:31:47 คือเรื่องของโฟกัสที่ว่าอะไรบ้างทุกวัน

00:31:4700:31:49 นี้ที่แบบทำลายโฟกัสเราอยู่เราจำเป็นต้อง

00:31:5000:31:52 รู้เพื่อที่เราจะต้องหลีกเลี่ยงแล้วก็ลด

00:31:5200:31:54 แล้วก็รวมถึงโดปามีนที่เราเสพติดชีป

00:31:5500:31:58 โดปามีนด้วยว่าเฮ้ยจริงๆแล้วถ้าเรารู้ตัว

00:31:5800:32:06 แล้วเราก็ลองเปลี่ยนอีกแผนนึง

00:32:0600:32:10 ชำลังทำโดยใช้ความพยายามมากขึ้นก็จะทำให้

00:32:1000:32:13 เรามีโดปามีนที่เป็นโดปามีนราคาแพงมาก

00:32:1300:32:16 ขึ้นซึ่งมันก็จะดีต่อร่างกายของเราซึ่ง

00:32:1600:32:18 ทั้งหมดที่คุยมาแพนด้าว่าดีมากๆแล้วก็น่า

00:32:1800:32:21 จะช่วยให้หลายๆท่านเนี่ยมีแนวทางในการที่

00:32:2100:32:24 จะไปเปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วก็พอเปลี่ยนนิด

00:32:2400:32:26 นึงก็อย่างที่บอกเนาะเดี๋ยวชีวิตเราก็จะ

00:32:2600:32:28 ค่อยๆดีขึ้นเองแล้ววันนี้ค่ะเราคุยกัน

00:32:2800:32:30 เรื่องสมองเนาะอ่า

00:32:3000:32:33 แพนด้าก็เลยมีสิ่งนึงค่ะช่วยปกป้องสมอง

00:32:3300:32:34 ของ

00:32:3400:32:38 เราหมวกเกลาค่ะอันนี้มามอบให้คุณหมอนะคะ

00:32:3800:32:41 จริงๆข้างในเป็นสีดำอ่าสามารถใส่ได้ 2

00:32:4100:32:44 ด้านเลยพริกด้านไหนก็ใส่ได้เหมือนกันค่ะ

00:32:4400:32:46 แล้วก็ถ้าท่านไหนสนใจหมวกแบบนี้นะคะรับ

00:32:4600:32:49 รองว่าหูใส่แล้วชิกมากใส่แล้วดีแล้วก็อาจ

00:32:4900:32:51 จะได้เตือนให้เราแบบเอ่อปกป้องสมองของเรา

00:32:5100:32:54 ด้วยก็ฝากอุดหนุนได้นะคะที่ใต้

00:32:5400:32:56 description นี้นะคะแล้วก็ยังมีเสื้อ

00:32:5600:32:58 เกลานะคะแล้วก็กระเป๋าผ้าเกาด้วยค่ะยังไง

00:32:5800:33:00 ก็เป็นเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะอัน

00:33:0000:33:03 นี้ให้คุณหมอเลยค่ะขอบคแล้วก็ดูคลิปนี้

00:33:0300:33:05 แล้วนะคะได้ประโยชน์ยังไงบ้างหรือว่าอยาก

00:33:0500:33:07 แชร์อะไรประสบการณ์ส่วนตัวนี้เราก็ยินดี

00:33:0700:33:10 รับฟังนะคะคอมเมนต์บอกกันเอาไว้ได้นะคะ

00:33:1000:33:12 แล้วก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์แล้วก็กด

00:33:1200:33:14 Subscribe เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะคะ

00:33:1400:33:17 รวมถึงตามไปกดไลก์กดแชร์ช่องคุณหมอช่อง

00:33:1700:33:20 ไหนคะหมอฟ้าสมาธิศาสตร์ค่ะอ่าไปติดตามกัน

00:33:2000:33:22 ได้คุณหมอจะมีไลฟ์ประจำวันไหนคะทุกวัน

00:33:2200:33:25 อังคารค่ะอ่าทุกวันอังคารก็ไปติดตามไลฟ์

00:33:2500:33:27 ช่องคุณหมอได้ค่ะสำหรับวันนี้ก็ต้องขอ

00:33:2700:33:33 ขอบคุณมากๆเลยนะคะขอบคุณค่ะ

00:33:3300:33:52 [เพลง]