00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:18 คุณหมอครับสวัสดีครับสวัสดีครับครับโอเค
00:00:18 → 00:00:21 ต่อจากเมื่อวานเลยครับพี่หมอวันนี้เราต่อ
00:00:21 → 00:00:24 เรื่องต่อไป
00:00:24 → 00:00:28 วันนี้น่าจะเป็นเรื่องที่
00:00:28 → 00:00:31 ที่ก็คนเริ่มต้นหรือว่าคนทั่วๆไปเขาอยาก
00:00:31 → 00:00:34 รู้ว่าในแนวทางของการกินอาหารแบบ low
00:00:34 → 00:00:36 carp High Fat หรือว่า High Good Fat
00:00:36 → 00:00:39 ที่เราย้ำนักย้ำหนา
00:00:39 → 00:00:42 ประเด็นของกลุ่มเราก็จะเน้นเรื่องของพลัง
00:00:42 → 00:00:44 งานหลักที่มาจาก High Good Fat ก็คือ
00:00:44 → 00:00:47 มันต้อง High High High จริงๆเน้นคำว่า
00:00:47 → 00:00:49 High เลย
00:00:49 → 00:00:52 เราก็จะกินกันยังไงเราก็จะกินเงินยังไงนะ
00:00:52 → 00:00:55 วันนี้ก็จะมีทั้งลูกมีทั้ง
00:00:55 → 00:00:58 ข้อความอะไรต่างๆเยอะพอสมควรนะ
00:00:58 → 00:01:01 เดี๋ยวหมอคุยให้ฟัง
00:01:01 → 00:01:04 อันนี้สไลด์แรกเนี่ยก็ดูเรื่องเนี้ยนะฮะ
00:01:04 → 00:01:09 ระหว่างโภชนาการกับการกินยานะอันนี้มันก็
00:01:09 → 00:01:12 มันก็ชัดเจนแบบที่หมอสรุปมาอย่างนี้
00:01:12 → 00:01:17 โภชนาการดียาก็มีความจำเป็นน้อยกว่าจาก
00:01:17 → 00:01:22 การไม่ดีนะก็คงต้องใช้ยา
00:01:22 → 00:01:26 ก็เหมือนเดิมนะโภชนาการเป็นพื้นฐานสุขภาพ
00:01:26 → 00:01:30 และคุณภาพของชีวิตขณะเดียวกันเนี่ยการ
00:01:30 → 00:01:34 รักษาทางการแพทย์ถ้าไม่มีหลักการทางด้าน
00:01:34 → 00:01:49 โภชนาการมาเสริมนะ
00:01:49 → 00:01:50 อาหารเนี่ย
00:01:50 → 00:01:54 อาหารรายละเอียดของอาหารนะหมอให้หลักการ
00:01:54 → 00:01:58 ไว้เรื่องอันนี้ตลอดเลย What to eat นะ
00:01:58 → 00:02:01 ฮะ How to eat
00:02:01 → 00:02:03 แล้วก็
00:02:03 → 00:02:06 กินอย่างไรกินอย่างไรก็เรียก
00:02:06 → 00:02:08 เอ่อ
00:02:08 → 00:02:16 มี How Much
00:02:16 → 00:02:20 ก็ตามเนี้ย
00:02:20 → 00:02:24 เราดูเรื่องของ
00:02:24 → 00:02:27 วิธีการกิน low Cup High Fat หรือ High
00:02:27 → 00:02:29 Good Fat
00:02:29 → 00:02:33 ในหลักการของเราเนี่ยพลังงานจากอาหารชนิด
00:02:33 → 00:02:36 ไหนดีที่สุดนะที่เราจะเอามาเป็นพลังงาน
00:02:36 → 00:02:38 หลัก
00:02:38 → 00:02:41 พลังงานก็มาจากสามเรื่องแป้งหรือ
00:02:41 → 00:02:44 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
00:02:44 → 00:02:47 แต่โดยส่วนใหญ่เราเน้นที่เรื่องของ
00:02:47 → 00:02:50 คาร์โบไฮเดรตกับไขมันที่จะมาเป็นพลังงาน
00:02:50 → 00:02:53 เพราะร่างกายจะมีการตอบสนองต่ออาหารใน 2
00:02:53 → 00:02:57 กลุ่มนี้ในแง่ของพลังงานนะส่วนโปรตีน
00:02:57 → 00:03:01 เนี่ยมันเป็นเรื่องของสารอาหารนะยกเว้น
00:03:01 → 00:03:05 แต่ว่ามันมันมีความจำเป็นบางสิ่งบางอย่าง
00:03:05 → 00:03:08 ที่ต้องใช้โปรตีนเป็นพลังงานแต่ก็ค่อน
00:03:08 → 00:03:09 ข้างยาก
00:03:09 → 00:03:13 นะก็นะยิ่งในสังคมปัจจุบันนี้
00:03:13 → 00:03:15 เอ่อเรื่องของ
00:03:15 → 00:03:18 Craft กับ Fat เนี่ยเป็นเรื่องที่มันมี
00:03:18 → 00:03:21 อยู่ทุกที่ทุกทางทุกหย่อมหญ้าเนี่ยนะ
00:03:21 → 00:03:24 โอกาสยากมากนะฮะแล้วก็มันก็มีแต่เรื่อง
00:03:24 → 00:03:26 ของ Over
00:03:26 → 00:03:29 เป็นหลัก
00:03:29 → 00:03:34 อ่ะเราดูเป็นหัวข้อไปก็ได้นะฮะนะเนี่ย 4
00:03:34 → 00:03:37 หลักการนะของพลังงานว่าเราจะเรียกยังไงดี
00:03:37 → 00:03:41 ที่สุดนะครับนะเรามาดูพลังงานต่อหน่วย
00:03:41 → 00:03:45 ในแง่ของแป้งหรือกลูโคสเนี่ยนะ
00:03:45 → 00:03:48 ก็ประมาณ 4 กิโลแคลอรี่ต่อหน่วยต่อกรัมนะ
00:03:48 → 00:03:50 โปรตีน
00:03:50 → 00:03:53 หน่วยย่อยคือกรดอะมิโนก็จะให้พลังงาน 4
00:03:53 → 00:03:56 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 กรัม
00:03:56 → 00:03:58 ส่วน Fat หรือ
00:03:58 → 00:04:03 1 กรัมก็ 9 กิโลแคลอรี่ 2 เท่านะของแป้ง
00:04:03 → 00:04:08 กับโปรตีน
00:04:08 → 00:04:11 มีการสร้างได้สร้างไม่ได้อย่างไรบ้างนะ
00:04:11 → 00:04:14 กับอาหารทั้ง 3 กลุ่ม
00:04:14 → 00:04:17 ในแง่ของกลูโคสเนี่ยร่างกายสามารถสร้าง
00:04:17 → 00:04:18 ได้ดี
00:04:18 → 00:04:21 สิ่งที่ร่างกายเอามาสร้างกลูโคสได้ก็คือ
00:04:21 → 00:04:25 กฎมีโนจากโปรตีน
00:04:25 → 00:04:28 จาก fathysis
00:04:28 → 00:04:32 จากไตรกลีเซอไรด์อ่ะโทษที
00:04:32 → 00:04:34 อันนี้เราสร้างได้นะครับเพราะฉะนั้นกู
00:04:34 → 00:04:41 โค้ดเนี่ยถือว่าไม่ใช่สารอาหารที่จำเป็น
00:04:41 → 00:04:45 ก็อันนี้ร่างกายมีอยู่ 9 ชนิด
00:04:45 → 00:04:48 essentialist ร่างกายก็สร้างไม่ได้ต้อง
00:04:48 → 00:04:49 ได้รับจากอาหาร
00:04:49 → 00:04:52 ส่วนที่ Asics หรือกรดไขมันประเภทกรดไข
00:04:52 → 00:04:55 มันจำเป็นจะมี 2 ชนิดโอเมก้า 3 กับ 6 อัน
00:04:55 → 00:04:59 นี้ก็สร้างไม่ได้เราต้องได้จากอาหารหลัก
00:04:59 → 00:05:02 การของการกินอาหารก็คือกินเพื่อให้ได้
00:05:02 → 00:05:05 สิ่งที่เราสร้างไม่ได้เนี่ย
00:05:05 → 00:05:08 ส่วนบทบาทหรือความสำคัญของ
00:05:08 → 00:05:12 กลูโคสเนี่ยมันก็จะน้อยลงน้อยลง
00:05:12 → 00:05:16 จนเป็นที่มาของคำว่าลงครับหรือ very low
00:05:16 → 00:05:21 carte หรือคีโตเจนิคไดเอท
00:05:21 → 00:05:24 ทีนี้เกี่ยวกับอาหารเนี่ยมันก็ต้องพูดถึง
00:05:24 → 00:05:27 ฮอร์โมนนะที่จะมาคู่กัน
00:05:27 → 00:05:30 ฮอร์โมนหลักเลยที่เขาขึ้นอยู่กับอาหารก็
00:05:30 → 00:05:34 คืออินซูลินนะฮะ
00:05:34 → 00:05:38 ดูก่อนว่าเขานั้นมีหน้าที่หลักๆอะไรบ้าง
00:05:38 → 00:05:41 ที่สุรินทร์ก็สร้างจากเบต้าเซลล์ของตับ
00:05:41 → 00:05:43 ออกมา
00:05:43 → 00:05:47 หลักการก็คือเขามีหน้าที่สะสมพลังงานนะฮะ
00:05:47 → 00:05:52 เป็นฮอร์โมนในฝั่งของการสะสมนะฮะ
00:05:52 → 00:05:54 เออมีการสร้างกล้ามเนื้อเอ่อการสร้าง
00:05:54 → 00:05:57 กล้ามเนื้อก็ต้องอาศัยอินซูลินอาศัย Ghost
00:05:57 → 00:06:02 Hormone ในรูปของ igf1 แล้วอาศัยเทสต์
00:06:02 → 00:06:06 อินซูลินต้องมีนะฮะไม่มีไม่ได้
00:06:06 → 00:06:09 อือในการสร้างกล้ามเนื้อ
00:06:09 → 00:06:12 อินซูลินก็ทำหน้าที่เอาน้ำตาลเข้าเซลล์
00:06:12 → 00:06:16 แล้วก็เข้าสู่วงจรเข็บไซเคิลกลายเป็นพลัง
00:06:16 → 00:06:20 งานถ้ามีน้ำตาลเหลือนะเขาก็จะเปลี่ยนเป็น
00:06:20 → 00:06:22 แป้งเชิงซ้อนไกลโคเจน
00:06:22 → 00:06:24 แล้วถ้ายังเหลืออีกก็เปลี่ยนเป็นไขมัน
00:06:24 → 00:06:27 ไตรกลีเซอไรด์สะสมที่
00:06:27 → 00:06:29 เนื้อเยื่อไขมัน
00:06:29 → 00:06:33 อีกอันหนึ่งก็คืออินซูลินทำหน้าที่ในการ
00:06:33 → 00:06:37 กระตุ้น M ทองในการแบ่งตัวของโครงสร้าง
00:06:37 → 00:06:39 ที่อยู่ภายในเซลล์
00:06:39 → 00:06:43 เพราะฉะนั้นการแบ่งตัวของเซลล์
00:06:43 → 00:06:46 รวมทั้งปฏิกิริยาการอักเสบเรื้อรังภายใน
00:06:46 → 00:06:47 เซลล์
00:06:47 → 00:06:52 ก็เป็นผลมาจากอินซูลิน
00:06:52 → 00:06:55 ทีนี้อาหารแต่ละอย่างเนี่ยเอ่อมันมีการ
00:06:55 → 00:06:58 กระตุ้นอินซูลินกันยังไง
00:06:58 → 00:07:03 จากระดับอินซูลินพื้นฐานนะฮะนะกลูโคส
00:07:03 → 00:07:04 เนี่ย
00:07:04 → 00:07:08 นะจากอาหารกระตุ้นอินซูลินจากค่า
00:07:08 → 00:07:12 พื้นฐานปกติคือ 10 เท่านะฮะส่วนกฎมีน้อย
00:07:12 → 00:07:16 จะโปรตีนนี่ก็ประมาณ 3 เท่าแล้วก็ไขมัน
00:07:16 → 00:07:19 หรือกรดไขมันเนี่ยนะก็ 0.5 นิ้ว 1 เท่า
00:07:19 → 00:07:21 อันนี้เราพอรู้แล้ว
00:07:21 → 00:07:22 [เพลง]
00:07:22 → 00:07:26 ในแง่ของพลังงานเนี่ยนะเมื่อเกิดการเผา
00:07:26 → 00:07:27 ผลาญ
00:07:27 → 00:07:32 จะมีผลที่ตามมาแล้วกลายเป็นของไม่ดีนะ
00:07:32 → 00:07:37 อะไรบ้างก็แล้วแต่ดีหรือไม่ดีแล้วแต่
00:07:37 → 00:07:42 กลูโคสต์ก็คือน้ำทรายแล้วก็กรดแลคติก
00:07:42 → 00:07:46 แต่ถ้ากดอะมิโนก็มียูเรียแอมโมเนียแล้วจะ
00:07:46 → 00:07:48 creatinine
00:07:48 → 00:07:53 แต่ถ้าเกิดเป็นไขมันนะก็เป็นน้ำกับทราย
00:07:53 → 00:07:56 เพราะเสียในแง่ของไขมันเราเห็นว่ามันก็
00:07:56 → 00:08:00 เป็นแบบน้ำกับ
00:08:00 → 00:08:03 เพราะฉะนั้นทั้งหมดเนี่ยถ้ารวมความใน 4
00:08:03 → 00:08:05 เรื่องแล้วเนี่ยนะ
00:08:05 → 00:08:08 ถ้าจะพิจารณาเลือกพลังงานจากอาหารชนิดใด
00:08:08 → 00:08:13 ว่าดีที่สุดนะฮะนะก็ก็น่าจะเลือกไขมัน
00:08:13 → 00:08:17 เป็นพลังงานหลัก
00:08:17 → 00:08:21 อันนี้เป็นข้อสรุปนะฮะ
00:08:21 → 00:08:24 ทีนี้ในเรื่องของโรคาฟ High Set หรือ
00:08:24 → 00:08:27 High Good Fat เนี่ยอืม
00:08:27 → 00:08:29 ถ้าเราตัดสินใจในแง่ของการใช้ไขมันเป็น
00:08:29 → 00:08:31 พลังงานหลักแล้ว
00:08:31 → 00:08:35 เขาบอกพลังงานคือชีวิตการกำหนดพลังงานคือ
00:08:35 → 00:08:38 การกำหนดชีวิต
00:08:38 → 00:08:42 พลังงานเนี่ยมันเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของ
00:08:42 → 00:08:47 กายละเอียดหรือกายแห่งจิต
00:08:47 → 00:08:49 แล้วพลังงาน
00:08:49 → 00:08:54 จะเป็นสิ่งแรกนะที่ร่างกายจะเกิดการตอบ
00:08:54 → 00:08:55 สนอง
00:08:55 → 00:08:58 ว่าพอไม่พอ
00:08:58 → 00:09:03 ได้ตามความต้องการอะไรแค่ไหน
00:09:03 → 00:09:05 มากกว่าสารอาหาร
00:09:05 → 00:09:08 การตอบสนองต่อสารอาหารมันเป็นเรื่องของ
00:09:08 → 00:09:10 กายเนื้อหรือกายหยาบ
00:09:10 → 00:09:14 แต่การตอบสนองของเขาเนี่ยเขามีช่วงเวลา
00:09:14 → 00:09:18 เขาเรียกว่า summation นะในแต่ละช่วง
00:09:18 → 00:09:23 เนี่ยก็ประมาณ 10 วันประมาณนี้นะ
00:09:23 → 00:09:26 แต่ว่าในเรื่องของพลังงานเนี่ยมันเป็นการ
00:09:26 → 00:09:28 ตอบสนองวันต่อวัน
00:09:28 → 00:09:33 ว่าวันเนี้ยได้พลังงานพอไหมนะขาดพลังงาน
00:09:33 → 00:09:37 หรือเปล่านะหรือ Over นะครับพลังงานมัน
00:09:37 → 00:09:38 เกิน
00:09:38 → 00:09:43 ไปเปิดโหมดสะสมพลังงานเนี่ยนะ
00:09:43 → 00:09:46 ทีนี้ในแง่เกี่ยวกับรายละเอียดของพลังงาน
00:09:46 → 00:09:50 เนี่ยเราก็จะมีว่าถ้าเกิดเราปรับเป็นใน
00:09:50 → 00:09:53 เรื่องของ low carp High Good Fat 1
00:09:53 → 00:09:56 ฐานพลังงานฐานพลังงานเราจะเปลี่ยนจาก
00:09:56 → 00:09:58 ชูก้าเบสมาเป็น
00:09:58 → 00:10:02 Fat Base หรือ ketone Base
00:10:02 → 00:10:06 ถ้าทั่วไปเนี่ยในปิรามิดอาหารเราเป็น
00:10:06 → 00:10:09 Sugar Blade นะเขาก็แนะนำในเรื่องของ
00:10:09 → 00:10:11 การกินค้าประมาณครึ่งหนึ่งนะของพลังงาน
00:10:11 → 00:10:13 ทั้งวันคือ 50%
00:10:13 → 00:10:17 แต่ในกรณีที่เราจะเปลี่ยนมาเป็น High Fat
00:10:17 → 00:10:20 High
00:10:20 → 00:10:24 เราต้องกินไขมันให้มากขึ้นไปกว่าครึ่งนึง
00:10:24 → 00:10:28 ก็คืออยู่ในสัดส่วนประมาณเนี้ย 60%
00:10:28 → 00:10:32 แล้วในโลกบางโลกหรือในสถานการณ์ของร่าง
00:10:32 → 00:10:35 กายบางอย่างนะที่เราจะต้องอ่าตัดเรื่อง
00:10:36 → 00:10:38 ของ Craft ลงเยอะๆ
00:10:38 → 00:10:43 เราอาจจะสวิงหรือปรับนะฮะพลังงานจากไขมัน
00:10:43 → 00:10:46 เนี่ยบางคนต้องขึ้นไปถึง 80% ยังมีนะหรือ
00:10:46 → 00:10:48 เกือบๆ 80% นะ
00:10:48 → 00:10:53 เพราะฉะนั้น 60 70 นะถึง 80% เนี่ยนะมัน
00:10:53 → 00:10:58 ก็จะขึ้นๆลงๆอยู่ในระดับนี้นะครับนะช่วง
00:10:58 → 00:11:01 แรกนี่ก็ต้องเยอะนะถ้าจะเปลี่ยนมาเป็น low
00:11:01 → 00:11:03 cap High Fat ไง
00:11:03 → 00:11:07 เพราะว่าเราจะลดการกระตุ้นฮอร์โมน
00:11:07 → 00:11:11 อินซูลินที่มันออกมาแล้วมันมีผลต่อร่าง
00:11:11 → 00:11:15 กายที่ทำให้เกิดว่าดื้ออินซูลินหรือไปถึง
00:11:15 → 00:11:17 การเกิดโรคภัยไข้เจ็บ
00:11:18 → 00:11:19 [เพลง]
00:11:19 → 00:11:22 เราจะต้องมีการเปลี่ยนชนิดของอาหารนะ
00:11:22 → 00:11:27 จากส่วนใหญ่นะที่มันเป็น Craft
00:11:27 → 00:11:30 โดยเฉพาะครับ
00:11:30 → 00:11:35 ก็คือน้ำตาลข้าวแป้งทานยาพืชตระกูลข้าว
00:11:35 → 00:11:39 ผักหัวบางอย่างถั่วเมล็ดแห้งผลไม้
00:11:39 → 00:11:43 สิ่งเหล่านี้เราถือว่าเป็นชนิดของอาหาร
00:11:43 → 00:11:46 ที่มีความหนาแน่นหนาหรือนิวเอี้ยน
00:11:46 → 00:11:48 เดนซิตี้เนี่ย
00:11:48 → 00:11:53 นะฮะเราถือว่าต่ำนะพลังงานมันเยอะนะฮะนะ
00:11:53 → 00:11:56 นิวตรอนต่างๆ
00:11:56 → 00:11:58 เราจะเปลี่ยนจากสิ่งเหล่านี้เนี่ยมาเป็น
00:11:58 → 00:12:01 เนี่ยกลุ่มอาหารประเภทโปรตีนไขมันอ่า
00:12:01 → 00:12:05 เหล่านี้นะฮะนะซึ่งจะมีความหนาแน่นของสาร
00:12:05 → 00:12:07 อาหารสูงกว่านะ
00:12:07 → 00:12:13 กลุ่มเนื้อสัตว์นะไข่นมเนยโยเกิร์ตชีส
00:12:13 → 00:12:16 แล้วก็กลุ่มพวกไขมันคงรูปก็ประเภทถั่ว
00:12:16 → 00:12:22 เปลือกแข็งอ่ามะพร้าวประกอบอะโวคาโด
00:12:22 → 00:12:25 ซึ่งการเปลี่ยน
00:12:25 → 00:12:28 เราจะยิ่งได้
00:12:28 → 00:12:32 นิวตรอนเดนซิตี้ที่จำเป็นนะ
00:12:32 → 00:12:33 และ
00:12:33 → 00:12:37 อยู่ในปริมาณหรือในเลเวลระดับที่สูงขึ้น
00:12:37 → 00:12:41 สูงขึ้นกว่าที่เราเคยกินในกลุ่มของ Craft
00:12:41 → 00:12:43 ทั่วไป
00:12:43 → 00:12:46 มีวิตามินละลายในไขมันมีกรดอะมิโนจำเป็น
00:12:46 → 00:12:48 มีกรดไขมันจำเป็น
00:12:48 → 00:12:51 อันนี้ก็อยู่ในกลุ่มของ
00:12:51 → 00:12:56 High โปรตีน
00:12:56 → 00:13:00 ต่อไปก็คือกลุ่มสารอาหารร่วมที่จะมีการ
00:13:00 → 00:13:02 เปลี่ยน
00:13:02 → 00:13:06 ก็เรื่องของข้าวธัญพืชผักหัวนะถั่วเมล็ด
00:13:06 → 00:13:09 แห้งหรือผลไม้เนี่ยแล้วถือว่าเป็นกลุ่ม
00:13:09 → 00:13:15 หรือเป็นหมวดของอาหารที่มีพวกเกลือแร่
00:13:15 → 00:13:18 ต่ำน้ำตาลสูง
00:13:18 → 00:13:21 แล้วเกลือแร่พวกนี้นะมันเป็นเกลือแร่ที่
00:13:21 → 00:13:25 เข้าสู่เซลล์ได้ไม่ดีเพราะว่าเมื่อแป้ง
00:13:25 → 00:13:28 หรือน้ำตาลที่มีเยอะมันกระตุ้นสุรินทร์นะ
00:13:28 → 00:13:32 ฮะอินซูลินก็จะกรีดกันนะการเข้าสู่เซลล์
00:13:32 → 00:13:35 ของทั้งเกลือแร่และวิตามินต่างๆ
00:13:35 → 00:13:43 ยิ่งในปัจจุบัน
00:13:43 → 00:13:50 อะไรต่างๆมันค่อนข้างจะแปรรูปเยอะมาก
00:13:50 → 00:13:53 มันไม่ใช่ที่เป็นแบบดั้งเดิมแบบธรรมชาติ
00:13:53 → 00:13:55 แต่ก่อนนะ
00:13:55 → 00:13:59 เพราะฉะนั้นก็ธรรมดานะความเป็น Craft
00:13:59 → 00:14:02 หรือการกระตุ้นอินซูลินเนี่ยมันเยอะในตัว
00:14:02 → 00:14:04 ของมันเองอยู่แล้ว
00:14:04 → 00:14:07 น้ำตาลมันก็จะเยอะมันมาก
00:14:07 → 00:14:10 โอกาสที่ร่างกายจะได้พวกเกลือแร่
00:14:10 → 00:14:14 มันก็พอได้แต่มันก็น้อยแล้วมันก็ต้องกิน
00:14:14 → 00:14:16 เยอะๆ
00:14:16 → 00:14:20 นี่ถ้ากรณีเราเปลี่ยนมาเป็นประเภท locus
00:14:20 → 00:14:22 เนี่ย
00:14:22 → 00:14:25 เราก็จะมีกลุ่มอาหารที่มีเกลือแร่สูงน้ำ
00:14:25 → 00:14:27 ตาลต่ำ
00:14:27 → 00:14:29 ก็คือพวกผักหัวผักใบ
00:14:29 → 00:14:30 เอ่อ
00:14:30 → 00:14:33 เราอาจจะมีการใช้พวกน้ำซุปต้มกระดูกกิน
00:14:33 → 00:14:36 ทุกวันทุกมื้อกินเกลือธรรมชาติที่เป็น
00:14:36 → 00:14:40 เกลือสีๆเกลือชมพูเกลือดำ
00:14:40 → 00:14:43 เพราะฉะนั้นหมวดการเปลี่ยนแปลงของสาร
00:14:43 → 00:14:44 อาหารอะไรต่างๆเนี่ย
00:14:44 → 00:14:48 นะเราทำแบบเนี้ยนะเราก็สามารถที่จะ
00:14:48 → 00:14:51 เปลี่ยนแล้วก็เข้าสู่เรื่องของ low carft
00:14:51 → 00:14:53 High Fat ได้
00:14:53 → 00:14:57 ค่อนข้างดีนะ
00:14:57 → 00:14:59 ทุกอย่างเนี่ยนะฮะมันเป็นการควบคุมตัว
00:14:59 → 00:15:04 ฮอร์โมนสะสมพลังงานก็คืออินซูลินเป็นหลัก
00:15:04 → 00:15:08 รองลงมาก็คือเป็นคอติซอลแล้วก็ sogen
00:15:08 → 00:15:11 แล้วก็ขณะเดียวกันเราก็จะเปิดโอกาสให้
00:15:11 → 00:15:14 ฮอร์โมนในฝั่งสลายหรือเผาผลาญพลังงาน
00:15:14 → 00:15:17 ได้ทำงานทั้งวันทั้งคืน
00:15:17 → 00:15:20 เราลดบทบาทของอินซูลินก่อน
00:15:20 → 00:15:23 เปิดโอกาสให้ Fat Burning Hormone เขา
00:15:23 → 00:15:25 ทำงาน
00:15:25 → 00:15:28 แบบนี้นะครับ
00:15:28 → 00:15:32 อินซูลินเปลี่ยนแปลงยังไงเนี่ยสรุปไปละนะ
00:15:32 → 00:15:35 แล้วก็อาหารมีบทบาทมากที่สุดนะฮะ
00:15:35 → 00:15:38 เอ่อพวกกลุ่มฮอร์โมนที่จะมีผลต่ออินซูลิน
00:15:38 → 00:15:41 สุรินทร์เนี่ยก็คือพวกคอติซอลนะเป็นรอง
00:15:41 → 00:15:46 เนี่ยที่เขาจะออกมาบาลานซ์กันนะฮะแล้วลอง
00:15:46 → 00:15:48 มาก็เป็นเอสโตรเจนนะแล้วก็เป็น Good ของ
00:15:48 → 00:15:49 หมู่
00:15:49 → 00:15:50 ครับ
00:15:50 → 00:15:53 กทมนมันมีโครงสร้างก็คล้ายๆกันน่ะฮะโดย
00:15:53 → 00:15:56 เฉพาะมันถูกเปลี่ยนเป็น IG F1 แล้วมันก็
00:15:56 → 00:15:58 คืออินซูลินประเภทหนึ่งอ่ะแต่เป็น
00:15:58 → 00:16:02 อินซูลินที่ดีที่ดี
00:16:03 → 00:16:09 ไม่เหมือนกับอินซูลินจากตับอ่อน
00:16:09 → 00:16:13 ทีนี้คำว่านิวเจี้ยนเดนซิตี้
00:16:13 → 00:16:16 คือเราก็คงพอรู้แล้วเรื่องของแคลอรี่
00:16:16 → 00:16:19 เดนซิตี้หรือ Energy dentity อันนั้นก็
00:16:19 → 00:16:23 คือพวก Craft กับไขมัน
00:16:23 → 00:16:25 เรื่อง Craft เลยยังไม่ได้พูดถึงเท่าไหร่
00:16:25 → 00:16:29 แต่เรื่องไขมันเราก็พูดไปมากนะ
00:16:29 → 00:16:32 ส่วนใหญ่อันนี้มันจะหมายถึงเรื่องของ
00:16:32 → 00:16:35 โปรตีน
00:16:35 → 00:16:39 ก็มีจากสัตว์พืช
00:16:39 → 00:16:42 แล้วก็ในการกินแบบ Low Class เนี่ย
00:16:42 → 00:16:46 ถ้าเขาเรียกว่า Pai Online หรือใครให้
00:16:46 → 00:16:49 ความสำคัญกับโปรตีนมาแบบแรก
00:16:49 → 00:16:52 ก็เหมือนเราให้ความสำคัญกับการได้รับสาร
00:16:52 → 00:16:54 อาหารนะ
00:16:54 → 00:16:58 เป็นสำคัญอ่าก็คือเป็นเด็กซิตี้เนี่ยนะ
00:16:58 → 00:17:01 ครับระหว่างสัตว์กับพืชเนี่ยสัตว์จะมี
00:17:01 → 00:17:05 นิวเคลเด้นท์หนาแน่นมากกว่าพืชเยอะมากนะ
00:17:06 → 00:17:11 ฮะก็ด้วยเหตุผลต่างๆพวกนี้
00:17:11 → 00:17:16 อันนี้เวลากินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ต่างๆ
00:17:16 → 00:17:19 ในส่วนของศาสตร์ที่จะให้นิวเทรียนท์เนี่ย
00:17:19 → 00:17:22 มึงก็ไม่ได้มีอะไรเยอะนะมีสัตว์บกสัตว์
00:17:22 → 00:17:23 น้ำ
00:17:23 → 00:17:30 แล้วก็มีไข่มีเครื่องในแล้วก็มีพวก
00:17:30 → 00:17:31 อะไรอีก
00:17:31 → 00:17:37 พวกเครื่องในเลือดใช่ไหม
00:17:37 → 00:17:41 ที่เรากินอยู่ก็ประมาณนี้
00:17:41 → 00:17:46 ที่พูดไปเนี่ยก็คือสูงถ้าเทียบกับพืชถ้า
00:17:46 → 00:17:48 เทียบกับพืช
00:17:48 → 00:17:52 New เข้าสู่แต่แคลอรี่เขาไม่เยอะนะฮะนะ
00:17:52 → 00:17:55 ในกรณีของพวกกลุ่มเนื้อสัตว์หรือพวก
00:17:55 → 00:17:57 Animal Protein ต่างๆ
00:17:57 → 00:18:05 เมื่อเทียบกับ Plant โปรตีน
00:18:05 → 00:18:07 ก็ตามที่ว่านะ
00:18:07 → 00:18:10 ในปัจจุบันเนี่ยเรากินแบบเขาเรียก Over
00:18:10 → 00:18:12 Energy นะครับ
00:18:12 → 00:18:14 overy ก็มี 2 ความหมายนะฮะ
00:18:14 → 00:18:17 ก็คือมันเป็น Over Craft นะ
00:18:17 → 00:18:19 แล้วก็
00:18:19 → 00:18:23 ขาดไขมันนะเราไม่ได้กินน้ำมันสกัดเย็นที่
00:18:23 → 00:18:27 ถูกต้องเออนะครับ
00:18:27 → 00:18:30 ความหมายของ Huawei need มันจะมี 2
00:18:30 → 00:18:35 เรื่องมันคือ Over Craft กับ Land of
00:18:35 → 00:18:40 Fat และ Good fat
00:18:40 → 00:18:43 ในแง่ของโปรตีนส่วนใหญ่
00:18:43 → 00:18:46 เวลาที่คนเราเขาเรียกว่า heronic eating
00:18:46 → 00:18:52 คือถ้าเรากินพวกพวกค้าบกับไขมัน
00:18:52 → 00:18:54 ในแบบแปรรูป
00:18:54 → 00:18:58 นี่มันจะเร้าให้สมองให้ร่างกายเนี่ยเขา
00:18:58 → 00:19:01 เรียกติดยึดติดอย่างคือมันกระตุ้นอินโดนี
00:19:01 → 00:19:04 กลับมา
00:19:04 → 00:19:08 อันนี้ตัวแสบเอองั้นเราเราก็จะ
00:19:08 → 00:19:11 เราก็จะอย่างเงี้ยอยู่ในวงจรอุบาทนะที่จะ
00:19:11 → 00:19:17 กินวันละหลายๆมื้ออ่านะกินแล้วไม่อิ่มเออ
00:19:17 → 00:19:18 ครับ
00:19:18 → 00:19:20 เนี่ยเป็นเบญจมมักจะเป็นเหตุผลที่ทำให้
00:19:20 → 00:19:23 เรื่องของไอ้
00:19:23 → 00:19:25 ความต้องการหรือการได้รับโปรตีนของเรา
00:19:25 → 00:19:41 เนี่ยน้อยลงไปด้วยโดยปริยาย
00:19:41 → 00:19:46 ก็คือมี Over Craft ขาดไขมันที่ดีนะแล้ว
00:19:46 → 00:19:50 ก็มีขาดโปรตีน
00:19:50 → 00:19:53 อันนี้ก็ดูแล้วกันว่าโปรตีนจริงๆแล้วที่
00:19:53 → 00:19:56 บอกว่านิวเจี้ยนๆเขาดี
00:19:56 → 00:20:00 เราจะโปรตีนที่แล้วเนี่ยไอ้พวกสารอาหาร
00:20:00 → 00:20:03 ต่างๆเนี่ยเพราะพวกเกลือแร่แล้วก็วิตามิน
00:20:03 → 00:20:09 ก็ไม่น้อยนะ
00:20:09 → 00:20:12 โปรตีนแล้วก็มีไขมัน
00:20:12 → 00:20:15 แต่จริงๆแล้วเนี่ยสารอาหารรองต่างๆที่แวด
00:20:15 → 00:20:17 ล้อมของเขา
00:20:17 → 00:20:19 ก็มี
00:20:19 → 00:20:24 มีไม่น้อยเลยไม่น้อยกว่าพืชอะไรเลย
00:20:24 → 00:20:27 เพราะฉะนั้นในการแนวใหม่เนี่ย
00:20:27 → 00:20:33 ก็ก็จะต้องล้างข้อมูลเดิมๆอ่ะออกไปตาม
00:20:33 → 00:20:34 ไม่งั้นแล้ว
00:20:34 → 00:20:39 เราก็เราก็ยังวนเวียนที่จะไปหาพืชต่างๆมา
00:20:39 → 00:20:41 กินเอ่อเกะกะท้อง
00:20:41 → 00:20:44 คือเค้ากินได้นะฮะแต่ว่าไม่ต้องเยอะมาก
00:20:44 → 00:20:46 มายอะไร
00:20:46 → 00:20:49 แล้วก็ไปคนละใช้โปรตีนก็คือเนี่ยโปรตีน
00:20:49 → 00:20:55 ที่อิ่มให้ได้พอกินให้เกินอยากกินให้ขาด
00:20:55 → 00:20:58 เรื่องของโปรตีนล้นเกิน
00:20:58 → 00:21:02 อันนี้ฝากไว้นิดนึงเขาก็บอกว่าโปรตีนชนิด
00:21:02 → 00:21:05 ที่มีกรดอะมิโนแบบ 2 อะตอม
00:21:05 → 00:21:09 มันจะเปลี่ยนเป็น 3 คีโตน
00:21:09 → 00:21:11 แต่ถ้า 3 อะตอมขึ้นไปส่วนใหญ่มันจะ
00:21:11 → 00:21:23 เปลี่ยนเป็น
00:21:23 → 00:21:26 เขาบอกเกิน 70% เนี่ยมันเป็นกลุ่มกฎ
00:21:26 → 00:21:28 อะมิโน 3 อะตอมที่มันจะเปลี่ยนเป็นกลูโคส
00:21:28 → 00:21:31 แต่กินมาก
00:21:31 → 00:21:35 [เพลง]
00:21:35 → 00:21:39 ลักษณะเป็นแบบ 2 อะตอมเนี่ยนะที่มันจะ
00:21:39 → 00:21:42 เป็นคีโตเนี่ยมันก็
00:21:42 → 00:21:46 ส่วนใหญ่มันก็จะเป็นคีโตนประเภทแอลฟาคีโต
00:21:46 → 00:21:50 ร่างกายก็เอาไปสะสมอยู่ดีนะฮะ
00:21:50 → 00:21:53 มันเป็นกรด
00:21:53 → 00:21:56 เป็น Over ปกติก็เลยดูแล้วมัน
00:21:56 → 00:21:59 มันก็ได้นิดหน่อยอ่ะนะถ้าโอเวอร์มากๆ
00:21:59 → 00:22:07 เนี่ยนะมันก็จะเป็นกลูโคสเป็นส่วนใหญ่
00:22:07 → 00:22:09 เปรียบเทียบ
00:22:09 → 00:22:14 Animal Protein โปรตีนซอสก็จะมีทั้ง
00:22:14 → 00:22:18 ในวงกลมที่เราเคยเสนอไป
00:22:18 → 00:22:22 ไขมันสูงไขมันปานกลางไขมันต่ำต่ำมาก
00:22:22 → 00:22:27 แล้วก็มีโปรตีนที่มาจากการหมักพวกถั่ว
00:22:27 → 00:22:32 เหลืองร่วมด้วย
00:22:32 → 00:22:34 มีอะไรบ้างนะ
00:22:34 → 00:22:37 พวกสัตว์ปีก
00:22:37 → 00:22:39 [เพลง]
00:22:39 → 00:22:42 ข้างล่างเนี่ยมันก็สู้ข้างบนไม่ได้ในความ
00:22:42 → 00:22:46 เป็นนิวเคลียร์เดนซิตี้
00:22:46 → 00:22:48 สารอาหารต่างๆ
00:22:48 → 00:22:53 ยิ่งสัตว์ที่ใหญ่นะพอๆกับคนเราเนี่ยนะฮะ
00:22:53 → 00:22:57 ทุกอย่างนะฮะทั้งโปรตีนทั้งไขมันทั้งแร่
00:22:57 → 00:23:00 ธาตุวิตามินอะไรต่างๆมันก็ครบเครื่องครบ
00:23:00 → 00:23:01 ครันมากกว่า
00:23:01 → 00:23:04 นะมากกว่าสัตว์เล็กๆที่มันห่างจากคนเราไป
00:23:04 → 00:23:08 โดยเฉพาะสัตว์ที่อยู่ในน้ำ
00:23:08 → 00:23:11 แล้วยิ่งพืชนี่ก็ยิ่งไปกันใหญ่เลยอ่ะ
00:23:11 → 00:23:12 นะ
00:23:12 → 00:23:16 เออหายห่วงไปเลยนะ
00:23:16 → 00:23:18 ถ้ากินในขณะที่จะได้โปรตีนเท่ากันเนี่ย
00:23:18 → 00:23:22 ปรากฏว่าในพืชแคลอรี่มันจะพุ่งขึ้นไปเยอะ
00:23:22 → 00:23:23 มาก
00:23:23 → 00:23:27 แล้วก็สารอาหารก็จะไม่ได้เยอะเท่ากับได้
00:23:27 → 00:23:28 จากสัตว์
00:23:28 → 00:23:32 อย่างยกตัวอย่างเรื่องของเหล็กธาตุเหล็ก
00:23:32 → 00:23:36 ที่มากับถ้าธาตุเหล็กที่มากับเนื้อสัตว์
00:23:36 → 00:23:40 มันเยอะมากแต่ถ้ามากับพืชเนี่ยมันแค่นี้
00:23:40 → 00:23:47 1.7% กับ 20% คนละเรื่องกัน
00:23:48 → 00:23:52 ต้องกินผักมากเท่าไหร่เนี่ย
00:23:52 → 00:23:56 ส่วนใหญ่ก็ไม่เกินครึ่งกิโล
00:23:56 → 00:24:01 ไม่เกินน้อยกว่าได้นะเกินไปมากก็ไม่ดีบาง
00:24:01 → 00:24:04 ทีเนี่ย
00:24:04 → 00:24:07 ก็ไม่เกิน 300 กรัม
00:24:07 → 00:24:11 อันนี้ก็เป็นรายละเอียดของชนิดของโปรตีน
00:24:11 → 00:24:14 นะฮะที่เราไปคนละใช้เนี่ยนะฮะ
00:24:14 → 00:24:18 นะจากวัวจากไก่จากปลาอะไรต่างๆนะแล้วก็
00:24:18 → 00:24:21 ตัวกรดอะมิโนจำเป็น
00:24:21 → 00:24:23 ยิ่ง
00:24:23 → 00:24:26 ใกล้เคียงกับคนเรามากเท่าไหร่นะครับนะก็
00:24:26 → 00:24:30 สารอาหารเพียบพร้อมเต็มที่นะและไม่ต้อง
00:24:30 → 00:24:33 กินเยอะแล้วแคลอรี่ก็ไม่มากไม่มาก
00:24:33 → 00:24:37 แต่ถ้ามันไกลตัวเราไปเนี่ยสารอาหารต่างๆ
00:24:37 → 00:24:48 ลดลงนะฮะแล้วแคลอรี่ก็จะเพิ่มขึ้น
00:24:48 → 00:24:50 หรือรูปนี้
00:24:50 → 00:24:54 โปรตีนไขมันสูงไขมันปานกลางนะก็จะมีผลต่อ
00:24:54 → 00:24:57 ระดับของน้ำตาลแล้วก็อินซูลิน
00:24:57 → 00:25:02 พวกนี้มันทำให้ต่ำและเสถียรไม่วูบวาบ
00:25:02 → 00:25:05 แต่ถ้ากลุ่มโปรตีนที่มีไขมันต่ำหรือต่ำ
00:25:05 → 00:25:09 มากระดับน้ำตาลมันจะมีการพุ่งสวิง
00:25:09 → 00:25:12 มันจะเยอะกว่า
00:25:12 → 00:25:15 เพราะฉะนั้นในการกิน Local ส่วนใหญ่เราก็
00:25:15 → 00:25:18 จะมาเน้นเรื่องของโปรตีนหลักที่เป็นสัตว์
00:25:18 → 00:25:22 บกขนาดใหญ่เนื้อแดงๆ
00:25:22 → 00:25:26 มากกว่า
00:25:26 → 00:25:30 ก็ตามเนี้ยนะเราก็เคยเอามาลงให้ดูเวลานะ
00:25:30 → 00:25:32 ครับ
00:25:32 → 00:25:35 ทีนี้ความรู้ความเข้าใจในเรื่อง low cap
00:25:35 → 00:25:38 High Fat ที่จะช่วยพิชิตอินซูลินแล้วทำ
00:25:38 → 00:25:42 ให้สุขภาพดีเนี่ยมันก็จะมีหลักการนะอยู่ 3
00:25:42 → 00:25:44 เรื่องนะฮะนะ
00:25:45 → 00:25:55 มีเข้าถึงเอ้ยเข้าใจเข้าถึงแล้วก็เข้าทาง
00:25:55 → 00:25:58 ท่านต้องมีความเข้าใจ
00:25:58 → 00:26:01 ใน 2 เรื่องนี้เรื่อง
00:26:01 → 00:26:04 พลังงานเรื่องสารอาหารแล้วก็สัดส่วนสาร
00:26:04 → 00:26:04 อาหาร
00:26:04 → 00:26:07 เวลาในทางปฏิบัตินะ
00:26:07 → 00:26:10 พลังงานสารอาหารสัดส่วนสารอาหาร
00:26:10 → 00:26:14 พลังงานต้องเพียงพอต้องได้ถึง
00:26:14 → 00:26:20 สารอาหารต้องครบแล้วก็สัดส่วนต้องเหมาะสม
00:26:20 → 00:26:22 มีการกระจายเป็นมื้อ
00:26:22 → 00:26:25 ของเราเป็น 2 มื้อก็คือมื้อแรกกับมื้อ
00:26:25 → 00:26:27 เย็น
00:26:27 → 00:26:29 ก็มีเหตุผลละ
00:26:29 → 00:26:33 มีมื้อแรกเนี่ยกินพลังงานเท่าไหร่ก็ให้
00:26:33 → 00:26:37 เกินครึ่งหนึ่งของวันนะประมาณ 50-60 เลย
00:26:37 → 00:26:38 นะฮะ
00:26:38 → 00:26:42 พลังงานในมื้อแรกนะคือกินให้มันถึงกินให้
00:26:42 → 00:26:46 มันแบบได้เต็มๆอ่ะนะฮะนะแล้วพลังงานใน
00:26:46 → 00:26:49 มื้อนี้ส่วนใหญ่ก็จะมาจากน้ำมันสกัดเย็น
00:26:49 → 00:26:53 ซึ่งเป็นไขมันแต่ลูกนะฮะแต่เป็นไขมันแปร
00:26:53 → 00:26:56 รูปที่ดีแล้วก็มีศาลยานหรือสารพิษสารเคมี
00:26:56 → 00:27:00 อีกตัวเซลล์ตัวไมโตคอนเดรียเนี่ยอ่าเขา
00:27:00 → 00:27:04 ต้องการจะเอาเข้าไปเพิ่มประสิทธิภาพ
00:27:04 → 00:27:08 ส่วนมื้อเย็นเนี่ยนะพลังงานก็จะอยู่ใน
00:27:08 → 00:27:11 ช่วงประมาณไม่เกินครึ่งหนึ่งอาจจะ 30 40
00:27:11 → 00:27:15 หรือ 50 ก็ต้องน้อยกว่ามื้อแรกนะเพราะว่า
00:27:15 → 00:27:18 มื้อนี้เราไม่ได้เน้นพลังงาน
00:27:18 → 00:27:21 เราเน้นเรื่องของความครบครันของสารอาหาร
00:27:21 → 00:27:24 แต่มื้อแรกเราเน้นเรื่อง Energy เรื่อง
00:27:24 → 00:27:28 ของแคลอรี่
00:27:28 → 00:27:32 ก็สัดส่วนสัดส่วนในการกระจายเป็นมื้อ
00:27:32 → 00:27:37 ก็ 70% ต้องมาจากพืชในรูปของน้ำมันน้ำมัน
00:27:37 → 00:27:40 น้ำมันพืชซึ่งเป็นแหล่งการให้พลังงาน
00:27:40 → 00:27:43 มากกว่า
00:27:43 → 00:27:53 มากกว่าไขมันคงรูปและต้องมากกว่าครับ
00:27:53 → 00:27:56 อีกส่วนหนึ่งของสัดส่วนของอาหารและของ
00:27:56 → 00:27:59 พลังงานและสารอาหารเนี่ยก็มาจากสัตว์นะ
00:27:59 → 00:28:01 ในสัตว์ก็ไม่ได้เยอะนะฮะอยู่ในรูปผมปกติ
00:28:01 → 00:28:07 อยู่กับแฟนที่เป็นเรียวฟู้ดครับ
00:28:07 → 00:28:09 อันนี้ลองอ่านดู
00:28:09 → 00:28:11 ต่อมาก็คือการเข้าถึงเข้าถึงหมายถึงวิธี
00:28:11 → 00:28:13 การปรุงเอ่อ
00:28:13 → 00:28:16 และความอร่อย
00:28:16 → 00:28:22 เราก็ไม่ได้เราก็ปรุงแบบกินสดได้ก็กินต้ม
00:28:22 → 00:28:27 ตุ๋นลวกนึ่งอบไฟอ่อนในช่วงเวลาไม่นานนัก
00:28:27 → 00:28:31 แล้วก็จี่ผัด
00:28:31 → 00:28:34 ก็ใช้น้ำมันที่พอเหมาะนะเลือกน้ำมันให้
00:28:34 → 00:28:38 ถูกให้เป็นนะหรือบางทีผัดน้ำแล้วคลุกน้ำ
00:28:38 → 00:28:39 มัน
00:28:39 → 00:28:43 การทอดก็สัปดาห์ละประมาณ 2-3 วันหรือสอง
00:28:43 → 00:28:49 สามครั้งพอไม่ต้องเน้นนะเรื่องไขมันที่ไป
00:28:49 → 00:28:51 โดนความร้อนนานๆ
00:28:51 → 00:28:54 ก็แล้วแต่นะ
00:28:54 → 00:28:58 ความหวานส่วนใหญ่เราไม่เติมจากสารทดแทน
00:28:58 → 00:29:01 ความหวานไม่แนะนำนะให้เป็นความหวานจาก
00:29:01 → 00:29:04 ธรรมชาติตัวอาหารเองนะส่วนจะเค็มจะ
00:29:04 → 00:29:07 เปรี้ยวนะจะมีอ่า
00:29:07 → 00:29:11 มีซอสอะไรอย่างเงี้ยก็
00:29:11 → 00:29:15 ให้น้อยที่สุดให้น้อยที่สุด
00:29:15 → 00:29:17 ส่วนการชูรสพวกสมุนไพรเครื่องเทศอะไรต่าง
00:29:17 → 00:29:19 ๆนะ
00:29:19 → 00:29:23 ก็แล้วแต่นะฮะก็เลือกได้เลือกได้
00:29:23 → 00:29:27 อันนี้ก็ปุ่มให้กินได้นะให้อร่อยเฉพาะ
00:29:27 → 00:29:29 บุคคล
00:29:29 → 00:29:33 เครื่องปรุงเนี่ยไม่ต้องเยอะนะไม่ต้อง
00:29:33 → 00:29:36 เยอะบ้านไหนที่มีเครื่องปรุงเครื่องปรุง
00:29:36 → 00:29:38 ที่เป็นขวดๆนะ
00:29:38 → 00:29:40 เกิน 3 ชนิดขึ้นไป
00:29:40 → 00:29:44 สมาชิกในบ้านจะต้องมีโรคประมาณ 1 โรค
00:29:44 → 00:29:46 [เสียงหัวเราะ]
00:29:46 → 00:29:48 3 ขวดขึ้นไป
00:29:48 → 00:29:58 3 ขวดขึ้นไปเอาพอดีพอดี 3 ขวด 3
00:29:58 → 00:30:02 หรือมีซีอิ๊วธรรมชาติที่หมักธรรมชาติสัก
00:30:02 → 00:30:23 ขวดนึงก็พอแล้ว
00:30:23 → 00:30:27 ก็ส่วนใหญ่ก็คือการปรับให้หายเป็นการหา
00:30:27 → 00:30:33 จุดสมดุลของแต่ละบุคคลนะ
00:30:33 → 00:30:37 สามารถใช้มีการแลกเปลี่ยนหมุนเวียนอ่า
00:30:37 → 00:30:41 อยู่บ่อยๆนะไม่ได้กินซ้ำๆ
00:30:41 → 00:30:46 แล้วก็มีความยืดหยุ่นได้นะไม่ต้องไปยึด
00:30:46 → 00:30:50 ติดหรืออาจจะมีการหลุดอะไรต่างๆพวกนี้ก็
00:30:50 → 00:30:53 ไม่ต้องไปชนิดคิดมาก
00:30:53 → 00:30:57 ก็รีบรู้ตัวแล้วก็รู้มีองค์ความรู้ที่จะ
00:30:57 → 00:31:00 รู้ว่าหลุดแล้วอ่ะนะเพราะว่าบางครั้งบาง
00:31:00 → 00:31:03 วันบางสถานการณ์บางโอกาสมันก็มีผิดพลาด
00:31:03 → 00:31:07 กันไปได้ซึ่งอันนี้เดี๋ยวตอนหลังเราจะพูด
00:31:07 → 00:31:12 ถึงกฎ 80 20 นะให้เข้าใจ
00:31:12 → 00:31:17 ส่วนเทคนิคนะเทคนิคก็แล้วแต่คน
00:31:17 → 00:31:19 ก็ปรับ
00:31:19 → 00:31:23 เป็น 1 มื้อ 2 มื้อหรือ 2 มื้อแต่มีอาหาร
00:31:23 → 00:31:27 ระหว่างมื้อก็ได้หมดนะฮะเป็นการยืดหยุ่น
00:31:27 → 00:31:29 เดินหน้าถอยหลัง
00:31:29 → 00:31:33 ไม่งั้นแล้วเรื่องอาหารมันก็จะเครียดเกิน
00:31:33 → 00:31:34 ไป
00:31:34 → 00:31:37 หลายคนกินวันละมื้อก็ฟิกอยู่วันละมื้อ
00:31:37 → 00:31:40 แล้วอาหารก็มีแต่
00:31:40 → 00:31:46 มีแต่หมูมีแต่ไก่มีแต่ไข่
00:31:46 → 00:31:51 ก็ไม่รู้ว่าดูแล้วแบบมันเบื่อมันเบื่อ
00:31:51 → 00:31:55 บางทีหมอดูคนไข้ที่เขาส่งส่งรายการอาหาร
00:31:55 → 00:31:58 มาให้ดูอ่ะเราก็สงสารนะ
00:31:58 → 00:32:02 แต่ก็จนกว่านะจนกว่าเบาหวานจะ remission
00:32:02 → 00:32:08 กลัวก่อนก็ให้กำลังใจไปแบบนั้น
00:32:08 → 00:32:11 โอเค
00:32:11 → 00:32:15 ทีนี้ในเรื่องของ
00:32:15 → 00:32:17 หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเรื่องอาหารที่กิน
00:32:17 → 00:32:20 ก็จะเป็นตารางที่หมอแยกแยะมาแบบนี้
00:32:20 → 00:32:25 อันไหนที่ไม่ควรจะกินอันไหนที่ควรจะกิน
00:32:25 → 00:32:30 แต่ถ้ามีโอกาสที่เกิดการหลุดนะหรือเกิด
00:32:30 → 00:32:34 การต้มกินหรือเลี่ยงไม่ได้ก็กินนะ
00:32:34 → 00:32:37 ไม่ได้ถึงขนาดที่จะต้องร้อยเปอร์เซ็นต์นะ
00:32:37 → 00:32:39 เอ่อ
00:32:39 → 00:32:43 มันจะช็อคมันจะมีอันเป็นไป
00:32:43 → 00:32:47 โดนเมื่อกินของที่ต้องหลีกเลี่ยงไม่ควร
00:32:47 → 00:32:51 กินมันก็ไม่ใช่อย่างนั้นครับผมดึงสติกลับ
00:32:51 → 00:32:54 มาเนี่ยให้กินในส่วนนี้
00:32:54 → 00:33:01 ให้ได้แล้วกันนะฮะ
00:33:01 → 00:33:07 มีเทคนิคบางอย่างที่เอามาเสนอนะฮะ
00:33:07 → 00:33:12 โดยเฉพาะบางคนเนี่ยคือที่เขากินโอแมส
00:33:12 → 00:33:25 การกินก็ถือว่ามีความพยายามสูง
00:33:25 → 00:33:28 เลือกเนื้อสัตว์บกขนาดใหญ่เลี้ยงลูกด้วย
00:33:28 → 00:33:29 นม
00:33:29 → 00:33:32 เป็น Main cost เป็นเมนหลัก
00:33:32 → 00:33:34 ปริมาณก็แล้วแต่
00:33:34 → 00:33:38 ก็เรียกว่ากินให้อิ่ม
00:33:38 → 00:33:42 ทีนี้อาจจะมีการเสริมอะไรได้บ้างนะ
00:33:42 → 00:33:46 ส่วนใหญ่ที่คนทำงานก็คือไข่
00:33:46 → 00:33:48 เพราะว่าไข่เนี่ยอ่าจะเป็นแหล่งของ
00:33:48 → 00:33:50 คอเลสเตอรอลที่ดี
00:33:50 → 00:33:53 ที่ร่างกายมีแนวโน้มจะได้เป็นอะไรอ่ะเป็น
00:33:54 → 00:33:57 เป็นไทยอ่ะนะฮะ
00:33:57 → 00:34:00 มีโอเมก้า 3 ในขายแล้วมีโคลีน
00:34:00 → 00:34:02 เอ่อโคลีนนี่มันเป็น
00:34:02 → 00:34:05 โคลีนเนี่ยมันมีลักษณะโครงสร้างที่เป็น 3
00:34:05 → 00:34:07 สารอาหารเลยนะฮะ
00:34:07 → 00:34:08 นะ
00:34:08 → 00:34:09 เออ
00:34:09 → 00:34:11 ก็คือเป็น
00:34:11 → 00:34:15 เป็น Craft ก็ได้เป็นเป็น Craft ก็เป็น
00:34:15 → 00:34:19 เป็น Craft เป็น Fat เป็นกรดอะมิโน
00:34:19 → 00:34:24 โครงสร้างเขาเขาชื่อโคลีนเรียกว่าวิตามิน
00:34:24 → 00:34:28 บี 4 บี 4 มันอยู่ในไข่แดง
00:34:28 → 00:34:32 มันอยู่ในไข่แดงนะอันนี้เป็นตัวหลักเลยใน
00:34:32 → 00:34:43 การสร้างตัวน้ำดีน้ำดีบ่ายสอง
00:34:43 → 00:34:45 ค่อนข้างมาก
00:34:45 → 00:34:48 เพราะฉะนั้นใครอ่ะมันเป็นเมนูที่เราจะ
00:34:48 → 00:34:55 ต้องกินนะเสมอ
00:34:55 → 00:34:59 ตาแซลมอนอันนี้ก็เป็นช้อยส์ในการเลือกที่
00:34:59 → 00:35:03 จะเอามาเสริมนะในการกิน
00:35:03 → 00:35:05 โอเมก้า 3
00:35:05 → 00:35:06 แล้วมันมากกว่าใคร
00:35:06 → 00:35:07 นะ
00:35:07 → 00:35:10 แล้วก็ตัวโปรตีนนะ
00:35:10 → 00:35:13 นะหรือศาลทหารเนี่ยเขาจะทำให้เกิดความไว
00:35:13 → 00:35:16 ต่ออินซูลินนะและทำให้เราอิ่มอิ่มเร็ว
00:35:16 → 00:35:20 อิ่มนานนะ
00:35:20 → 00:35:22 อีกอันนึงก็คือพวกตับเครื่องในแล้วก็
00:35:22 → 00:35:26 เลือกนะฮะนะอันนี้ก็คือมีโปรตีนที่ดีมีไข
00:35:26 → 00:35:31 มันต่ำนะฮะแต่ก็มีคอเลสเตอรอลอันนี้มันจะ
00:35:31 → 00:35:33 เด่นในเรื่องของการสร้างมวลกล้ามเนื้อโดย
00:35:33 → 00:35:36 เฉพาะในมื้อเย็นมื้อเย็น
00:35:36 → 00:35:41 แต่ว่าในการกินเสริมเนี่ยมันก็กินได้นะ
00:35:41 → 00:35:43 ทั้งมื้อแรกแล้วก็มื้อเย็น
00:35:43 → 00:35:46 ซึ่งคุณกินโอแมสแล้วก็คุณกินสัตว์ใหญ่
00:35:46 → 00:35:51 เป็นหลักแล้วเนี่ยนะเอาไข่มามาเคียงสลับ
00:35:51 → 00:35:56 ปลาแซลมอนสลับตับเครื่องในเลือด
00:35:56 → 00:36:00 ก็วนกันอย่างนี้นะ
00:36:00 → 00:36:01 ส่วนไข่
00:36:02 → 00:36:05 คนที่ดีอินทรีย์ดินเยอะๆหรือคนที่อ้วน
00:36:05 → 00:36:08 หรือคนที่เป็นเบาหวานเนี่ย
00:36:08 → 00:36:11 มันมีคำว่าไข่ปั่น
00:36:11 → 00:36:12 ไข่ปั่น
00:36:12 → 00:36:16 ที่เรามากินเนี่ยเท่าที่หมอเห็นนะคนส่วน
00:36:16 → 00:36:18 ใหญ่ก็มาทอดมาเกี่ยว
00:36:18 → 00:36:20 อ่า
00:36:20 → 00:36:24 แต่ถ้าเกิดในช่วงแรกๆถ้าจะให้แนะนำนะฮะ
00:36:24 → 00:36:28 แนะนำให้กินไข่ใน 3 รูปแบบนะก็คือไอ้รั่ว
00:36:28 → 00:36:32 ไข่ออนเซ็นแล้วก็ไข่ต้ม
00:36:32 → 00:36:35 ไข่ต้มเนี่ยจะดีที่สุดแล้วเสร็จแล้วเอามา
00:36:35 → 00:36:36 ทำไข่ปั่น
00:36:36 → 00:36:40 ไข่สัก 3 ชนิดเนี่ยเอามาทำไข่ปั่น
00:36:40 → 00:36:46 ทานร่วมในมื้ออ่าวหรือจะทานเป็นระหว่าง
00:36:46 → 00:36:49 มื้อก็ได้นะหรือกินนมแม้ก็จริงแต่คุณทำ
00:36:49 → 00:36:57 ไข่ปั่นกินเป็นเป็นสแน็คเป็นสแน็คได้ได้
00:36:57 → 00:37:01 ไข่ปั่นก็แล้วแต่เราจะสรรสร้างเมนูแต่
00:37:01 → 00:37:04 ลักษณะไข่ที่จะเอามาปั่นขอให้เป็นไข่ลวก
00:37:04 → 00:37:06 ไข่ออนเซ็นและไข่ต้ม
00:37:06 → 00:37:09 แล้วเอาอะไรมาปั่นคู่กับไข่ได้บ้าง
00:37:09 → 00:37:13 อะโวคาโดก็ได้โกโก้ก็ได้ใส่มะเขือเทศก็
00:37:13 → 00:37:15 ได้
00:37:15 → 00:37:21 ใส่นมก็ได้ใส่กะทิก็ได้
00:37:21 → 00:37:25 ต้องสร้างสรรค์เมนูเอาหรือจะเอาสมุนไพรชา
00:37:25 → 00:37:31 เขียวอะไร
00:37:31 → 00:37:34 ต้องสร้างสรรค์เมนูด้วย
00:37:34 → 00:37:39 แล้วถ้ากินไข่ปั่นแบบเย็นนะก็ใช้น้ำเย็น
00:37:39 → 00:37:42 ปั่นกับน้ำแข็ง
00:37:42 → 00:37:46 สามารถกินแบบเย็นก็ได้หรือแบบไม่เย็นอะไร
00:37:46 → 00:37:47 อย่างเงี้ย
00:37:47 → 00:37:48 นะ
00:37:48 → 00:37:52 ก็แล้วแต่จะปรุงรสหน่อย
00:37:52 → 00:37:54 [เสียงหัวเราะ]
00:37:54 → 00:37:58 นะเพราะว่าสารอาหารที่เราเอามาใส่กับปั่น
00:37:58 → 00:37:59 กับไข่อ่ะ
00:37:59 → 00:38:03 มันก็ดีทั้งนั้นเลยอ่ะนะ
00:38:03 → 00:38:10 ก็ได้เนื้อมะพร้าวก็ได้
00:38:10 → 00:38:13 ชาเขียว
00:38:13 → 00:38:17 อย่าเอามาปั่นพร้อมกับไข่นะครับใช่ฮะเอา
00:38:17 → 00:38:21 มาปั่นพร้อมกับไข่ออนเซ็นหรือไข่ลวกไข่
00:38:21 → 00:38:22 ต้ม
00:38:22 → 00:38:25 เพราะบางครั้งการที่เรากินไข่ดาวไข่เจียว
00:38:25 → 00:38:27 มันก็ต้องเอาไข่
00:38:27 → 00:38:31 เหมือนเอาไข่ไปทอดมันก็จะดูแห้งๆมันก็จะ
00:38:31 → 00:38:34 ดูบางทีทอดใช้น้ำมันไม่ถูกต้องมึงก็
00:38:34 → 00:38:38 พอไข่มันโดนความร้อนเยอะๆเนี่ยมันก็สาร
00:38:38 → 00:38:41 อาหารต่างๆมันลดลงแต่ถ้าเป็นไข่ลวกไข่
00:38:41 → 00:38:47 ออนเซ็นไข่ต้มนี่สารอาหารยังเกือบ 80%
00:38:47 → 00:38:50 แล้วก็ไข่ก็คือโปรตีนอันดับ 1 นะครับของ
00:38:50 → 00:38:52 มนุษย์นะ
00:38:52 → 00:38:55 ปกติอันดับ 1 ของคนเราไม่ใช่เนื้อสัตว์นะ
00:38:55 → 00:39:00 ไข่นะฮะไข่เป็นโปรตีนแบบหนึ่งนะอันดับ 2
00:39:00 → 00:39:02 ถึงจะเป็นเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อสัตว์
00:39:02 → 00:39:03 ใหญ่สัตว์โบกนะ
00:39:03 → 00:39:08 อันดับ 3 ก็จะเป็นนมนะ
00:39:08 → 00:39:13 นมนมเต็มรูปอ่ะนมเต็มรูป
00:39:13 → 00:39:15 อันดับ 4 ก็เป็นชีส
00:39:15 → 00:39:19 โปรตีนใน 4 อันดับไขอันดับ 1
00:39:20 → 00:39:25 เวลากินไข่เราไม่ได้กินเป็นเมนูหลักนะกิน
00:39:25 → 00:39:29 เป็นเมนูเสริมแต่ควรจะมี
00:39:29 → 00:39:32 แล้วก็ความถี่บ่อยเนี่ยไข่ต้องบ่อยๆหลายๆ
00:39:32 → 00:39:36 วันนะสลับด้วยปลาแซลมอนสลับด้วยเครื่องใน
00:39:36 → 00:39:40 สัตว์หรือเลือด
00:39:40 → 00:39:42 ยังจะสร้างกล้ามเนี่ยนะ
00:39:42 → 00:39:45 มื้อเย็นเนี่ยก็ต้องกินต้มเลือดหมู
00:39:45 → 00:39:46 นะ
00:39:46 → 00:39:49 หรือพวกเครื่องในสัตว์ทำคล้ายๆต้มเลือด
00:39:49 → 00:39:51 หมูกิน
00:39:51 → 00:39:59 แต่จะเอามากินมื้อแรกก็ได้
00:40:00 → 00:40:04 ไม่งั้นมันจะมันจะอิ่มเยอะมากเกินไป
00:40:04 → 00:40:07 อีกอันนึงที่ลืมไม่ได้นะฮะสำหรับคนที่กิน
00:40:07 → 00:40:11 แบบ old man นะแล้วก็แนะนำเทคนิคเสริม
00:40:11 → 00:40:13 เนี่ยนะครับก็คือพวก previces กับ
00:40:13 → 00:40:16 probiotic
00:40:16 → 00:40:19 พวกเนี้ยหลายคนเนี่ยบางทีกินแล้วมันยิ่ง
00:40:19 → 00:40:21 กินโอแมสด้วยเนี่ย
00:40:21 → 00:40:24 เอ่อเราก็มากินอิ่มแล้วอ่ะนะแต่ถ้า
00:40:24 → 00:40:28 จุลินทรีย์มันยังไม่ไม่ไม่ไม่ไม่เข้าข้าง
00:40:28 → 00:40:33 เราอ่ะนะฮะก็จะมีโอกาสที่จะเกิดการไปบอก
00:40:33 → 00:40:37 สมองว่ามันยังไม่อิ่มยังไม่ถึงยังไม่พอ
00:40:37 → 00:40:45 แล้วเราก็ไม่กล้ากินเพราะเรากินสูตร
00:40:45 → 00:40:47 เพราะฉะนั้นตัวนึงเนี่ยที่จะต้องมีในมือ
00:40:47 → 00:40:51 เนี่ยก็คือของดองของหมักของดอง
00:40:51 → 00:40:54 เพราะฉะนั้นหมอก็เลยแนะนำว่าจะมีกิมจิมี
00:40:54 → 00:40:56 ผักดอง
00:40:56 → 00:41:01 หรือพวกถั่วเน่าอะไรพวกนี้วนๆการวนๆกัน
00:41:01 → 00:41:05 กินผักดองกินกิมจิก็ต้องกินน้ำไปด้วย
00:41:06 → 00:41:14 กินเนื้อไปเท่าไหร่ก็เพิ่มน้ำไป 2 เท่า
00:41:15 → 00:41:20 อันนี้ก็เป็นข้อสรุปนะฮะที่เรายังงงๆ
00:41:20 → 00:41:23 กับหลายๆข้อมูลน่ะนะฮะ
00:41:23 → 00:41:25 โดยเฉพาะข้อมูลที่บอกว่า
00:41:25 → 00:41:27 เอาล่ะเราเน้น
00:41:27 → 00:41:30 สารอาหารเราไม่เน้นพลังงานเราไม่นับแคล
00:41:30 → 00:41:32 อ่ะอะไรอย่างเงี้ยอ่าครับแต่จริงๆในวิชา
00:41:32 → 00:41:36 หาย Fat เนี่ยนะฮะนะเขาต้องให้ความสำคัญ
00:41:36 → 00:41:40 คู่เคียงกันไปนะฮะทั้งเรื่องของสารอาหาร
00:41:40 → 00:41:43 และพลังงานนะ
00:41:43 → 00:41:46 เพราะฉะนั้นนิวเจี้ยนก็ดีแคลอรี่ Dance
00:41:46 → 00:41:52 ก็ดีมีความสำคัญพอๆกันมีวิธีเลือกนะที่จะ
00:41:52 → 00:41:56 เอามานำเสนอนะแล้วมาเป็นตัวตัดสินมันก็จะ
00:41:56 → 00:42:01 เป็นตาราง 4 หมวดนี้เขาเรียกว่า
00:42:01 → 00:42:05 เขาเรียกว่า
00:42:05 → 00:42:09 highnessy ratio ใดอื่น
00:42:09 → 00:42:12 ที่เราจะเลือกเราก็สามารถเลือกได้หมดนะฮะ
00:42:12 → 00:42:15 แต่จะเลือกอันไหนมากกว่ากัน
00:42:15 → 00:42:18 หลักการในการเลือกเนี่ยนะ
00:42:18 → 00:42:21 สารอาหารที่จะต้องเลือกเป็นหลักเลยก็คือ
00:42:21 → 00:42:24 ค่าของสารอาหารต่อพลังงานเนี่ยอัตราส่วน
00:42:24 → 00:42:27 จะต้องสูงก็คือสารอาหารต้องสูงพลังงาน
00:42:27 → 00:42:30 ต้องปรับ
00:42:30 → 00:42:33 สารอาหารสูงพลังงานต่ำก็มีอะไรบ้างมีผัก
00:42:33 → 00:42:34 ใบ
00:42:34 → 00:42:37 ที่มันมีเส้นใยไม่ละลายน้ำ
00:42:37 → 00:42:43 แล้วก็มีโปรตีนไขมันต่ำ
00:42:43 → 00:42:48 ไข่พวกเครื่องในพวกปลานะอกไก่หรือว่าพวก
00:42:48 → 00:42:53 เนื้อสัตว์ประเภทสัตว์
00:42:53 → 00:42:56 อันนี้ต้องเลือกต้องเลือกเป็นหลักแล้วก็
00:42:56 → 00:42:59 น้ำเขาบอกว่าให้เลือกทุกครั้งนะเพราะเป็น
00:42:59 → 00:43:03 สิ่งที่ยอดเยี่ยมมากสารอาหารสูงพลังงาน
00:43:03 → 00:43:04 ต่ำ
00:43:04 → 00:43:08 นะเขาเรียกไฮเนิสภายในต่อมาก็คือกลุ่มสาร
00:43:08 → 00:43:10 อาหารสูงพลังงานสูง
00:43:10 → 00:43:11 นะ
00:43:11 → 00:43:13 อันนี้ก็เลือก
00:43:13 → 00:43:17 ได้บ่อยครั้งนะ
00:43:17 → 00:43:18 แต่ต้องให้
00:43:18 → 00:43:21 ให้ตารางอันแรกก่อนนะ
00:43:21 → 00:43:26 พรุ่งนี้ได้แก่โปรตีนที่มีไขมันสูงซึ่ง
00:43:26 → 00:43:32 อันนี้เราก็กินได้ทุกวันวันละไม่เกิน 10%
00:43:32 → 00:43:34 แต่ส่วนใหญ่เราจะมาเน้นโปรตีนไขมันปาน
00:43:34 → 00:43:36 กลางก็ไขมันต่ำ
00:43:36 → 00:43:38 90%
00:43:39 → 00:43:41 นะครับ
00:43:41 → 00:43:42 แต่โปรตีน
00:43:42 → 00:43:45 ที่มีขายไขมันสูงเนี่ยนะก็สารอาหารสูง
00:43:45 → 00:43:48 พลังงานมันสูงไปด้วยนะมันต้องมีเยอะเกิน
00:43:48 → 00:43:49 ไปไม่เยอะเกินไป
00:43:49 → 00:43:54 [เพลง]
00:43:54 → 00:43:58 ถือว่าสารอาหารสูงพลังงานสูง
00:43:58 → 00:44:01 ผลักใบนี้พลังงานต่ำ
00:44:01 → 00:44:05 พวกครัวฝากธัญพืชข้าวไม่ขัดสีอันนี้คือ
00:44:05 → 00:44:09 แป้งถึงสอนนะ
00:44:09 → 00:44:11 แล้วก็ผลไม้บางอย่าง
00:44:11 → 00:44:15 ผลไม้บางอย่างก็คือที่เรารู้ว่านะเนื้อ
00:44:15 → 00:44:23 มะพร้าวอะโวคาโดมาเกาะ
00:44:23 → 00:44:25 ทีนี้ที่เราจะต้องไม่พยายามเลือกนะไม่
00:44:25 → 00:44:30 พยายามเลือกนะแต่ถ้าจำเป็นจริงๆก็พอได้
00:44:30 → 00:44:34 ก็คือสารอาหารต่ำพลังงานต่ำ
00:44:34 → 00:44:37 ของแปรรูปทั้งนั้นเลย
00:44:37 → 00:44:40 หรือสารอาหารต่ำแล้วพลังงานสูง
00:44:40 → 00:44:44 พวกน้ำตาลแป้งพวกเส้น
00:44:45 → 00:44:46 เส้นแป้งต่างๆ
00:44:46 → 00:44:51 ขนมปัง
00:44:51 → 00:44:53 พวกเบเกอรี่
00:44:53 → 00:44:55 อันนี้
00:44:55 → 00:45:00 แต่ถ้าจำเป็นเนี่ยก็พอได้นะในกฎ 80 20
00:45:00 → 00:45:01 นะฮะ
00:45:01 → 00:45:05 แต่ฝั่งนี้ไม่ควรนะฮะไม่เอา
00:45:05 → 00:45:10 ให้เลือก 2 ฝั่งด้านเนี้ยนะฮะ
00:45:10 → 00:45:13 งั้นสรุปวิธีการเลือกนะฮะเนี่ย
00:45:13 → 00:45:17 สารอาหารต้องสูงอ่าพลังงานต่ำดีกว่าสูง
00:45:17 → 00:45:19 เออ
00:45:19 → 00:45:22 สามารถกินได้ทุกๆวันทุกๆมื้อนี้ก็สามารถ
00:45:22 → 00:45:25 กินได้ทุกวันและบางมื้อ
00:45:25 → 00:45:30 ส่วนสารอาหารต่ำพลังงานตัดสูงนะก็กินได้
00:45:30 → 00:45:34 บางวันนะถ้าต่ำทั้งสองอย่างไม่เลือก
00:45:34 → 00:45:35 มันก็จะเห็นว่า
00:45:35 → 00:45:38 สารอาหาร
00:45:38 → 00:45:41 มันมีอิทธิพลมากกว่าเรื่องพลังงานอยู่ดี
00:45:41 → 00:45:45 ตามตารางของคำว่า High
00:45:45 → 00:45:49 มันก็แล้วแต่จะเราจะพูดหรืออธิบาย
00:45:49 → 00:45:51 อย่างอันนี้ทัศน์เคยเห็นไหมล่ะเรื่อง
00:45:51 → 00:45:53 เนิร์ด
00:45:53 → 00:45:58 ยังไม่เคยเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเลยครับ
00:45:58 → 00:46:01 แต่เวลาเขาเอาไปสรุปกันเนี่ยเขาก็บอกว่า
00:46:01 → 00:46:03 อะไรอ่ะนะ
00:46:03 → 00:46:07 เขาเรียกให้ไพรอรทัย
00:46:07 → 00:46:11 ไม่ต้องไปนับแคลตัดเรื่องการคำนวณแคลอรี่
00:46:11 → 00:46:14 เรื่องอะไรต่างๆแต่จริงๆนะมันก็มีความ
00:46:14 → 00:46:18 สำคัญอยู่นะฮะนะเพราะถ้าพลังงานเกินพลัง
00:46:18 → 00:46:23 งานหรือพลังงานมันขาดไปนะฮอร์โมนมันก็มัน
00:46:23 → 00:46:25 ก็เพี้ยนน่ะ
00:46:25 → 00:46:28 เขาก็มีความสำคัญอยู่แต่ว่าเขาจะลองๆ
00:46:28 → 00:46:30 เรื่องของสารอาหาร
00:46:30 → 00:46:33 แล้วพลังงานเนี่ยเป็นเรื่องของกายอะไรสาร
00:46:33 → 00:46:35 อาหารเรื่องไก่หยาบ
00:46:35 → 00:46:41 ร่างกายสำคัญที่สุด
00:46:41 → 00:46:46 อันนี้ก็เป็นหลักการที่หมอเคยทำไว้
00:46:46 → 00:46:51 เราให้ความสำคัญกับโปรตีนอันดับ 1 นะรอง
00:46:51 → 00:46:55 ลงมาก็คือ Fat แล้วก็จะมาถึงครับ
00:46:55 → 00:46:59 โปรตีนนี่ก็ต้องเป็นโปรตีนคุณภาพนะ
00:46:59 → 00:47:03 แล้วก็มากหรือเกิน
00:47:03 → 00:47:09 [เพลง]
00:47:09 → 00:47:21
00:47:21 → 00:47:29 อัตราส่วนเรื่องโปรตีนเนี่ยสัตว์
00:47:29 → 00:47:33 13 30 นะแต่ในเรื่องของพลังงานหลักก็
00:47:33 → 00:47:37 คือ Fat เนี่ยนะพืชต้องมากกว่าศาล
00:47:38 → 00:47:41 พืช 80 สัตว์ 20 20
00:47:41 → 00:47:45 อันนี้ลืมเขียนไว้นะฮะ
00:47:45 → 00:47:49 เราต้องเลือกอิ่มเดี๋ยวซ้อนนะตามสัดส่วน
00:47:49 → 00:47:52 ที่ให้ไว้
00:47:52 → 00:47:55 ส่วนในเรื่องของ good toget Craft หรือ
00:47:55 → 00:47:56 Craft เนี่ย
00:47:56 → 00:48:01 นะเราก็เลือกชนิดที่มันเป็นเชิงซ้อนมัน
00:48:01 → 00:48:03 เป็น Real Food Natural
00:48:03 → 00:48:07 แล้วปริมาณเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในแง่ของ
00:48:07 → 00:48:11 Craft ซึ่งเน็ตช้าก็แล้วแต่ต้องไม่เกิน
00:48:11 → 00:48:14 20 กรัมไม่เกิน 50 กรัมหรือไม่เกิน 100
00:48:14 → 00:48:16 กรัมไม่เกิน 100 กรัม
00:48:16 → 00:48:22 ก็แล้วแต่ว่าจะ low cap ขนาดไหน
00:48:22 → 00:48:25 น่าจะพอเข้าใจ
00:48:25 → 00:48:28 โปรตีนเป็นเรื่องสำคัญที่สุดคำว่าภัย
00:48:28 → 00:48:30 อรทัยโปรตีน
00:48:30 → 00:48:33 ต้องมาก่อน
00:48:33 → 00:48:35 เพราะมันจะมีความเกี่ยวข้องกับความหิว
00:48:35 → 00:48:38 ความอิ่ม
00:48:38 → 00:48:40 โปรตีน
00:48:40 → 00:48:43 อันนี้อันนี้ก็เป็นเรื่องของข้ออธิบายนะ
00:48:43 → 00:48:46 เขาก็บอกว่าถ้าเราทานอาหารจริงๆทำตาม
00:48:46 → 00:48:50 ธรรมชาติเนี่ยนะความหิวความอิ่มจากเรื่อง
00:48:50 → 00:48:53 ของโปรตีนและไขมันดี
00:48:53 → 00:48:57 จะทำให้การทานมากทานน้อยเกินไปไม่เกิด
00:48:57 → 00:49:01 ขึ้น
00:49:01 → 00:49:06 เหมือนกันนะฮะอาหารโปรตีนสูงนะในการช่วย
00:49:06 → 00:49:10 ซ่อมแซมฟื้นฟูอะไรต่างๆจะทำให้เราอิ่มได้
00:49:10 → 00:49:15 ในระยะยาวแต่ก็ต้องคู่คู่กันไปกับไขมัน
00:49:15 → 00:49:18 เพราะโปรตีนก็เลือกข้างกับไขมัน
00:49:18 → 00:49:24 เป็นมื้อแรกมื้อลอง
00:49:24 → 00:49:26 โดยเฉพาะมื้อแรก
00:49:26 → 00:49:30 โปรตีนสูงน้ำตาลต่ำ
00:49:30 → 00:49:36 มื้อแรกนี่แทบจะตัดครับแต่มือมือเย็น
00:49:36 → 00:49:41 มา
00:49:41 → 00:49:45 โปรตีนที่เรากิน
00:49:45 → 00:49:53 พวกนี้
00:49:53 → 00:50:18 หรือไม่ครับ
00:50:18 → 00:50:23 ก็ดูหรือโฟกัสหลักการกินนะอาหารที่ช่วยลด
00:50:23 → 00:50:28 ปัญหาการดื้ออินซูลินในลักษณะนี้
00:50:28 → 00:50:31 ส่วนผักก็เอามาเสริมเป็นผักใบผักหัวใน
00:50:31 → 00:50:33 มื้อเย็นไป
00:50:33 → 00:50:38 ส่วนน้ำมันอันนี้เราพูดไปเยอะแล้วนะ
00:50:38 → 00:50:42 มื้อแรกกินน้ำมันสกัดเย็นมื้อเย็นกินไข
00:50:42 → 00:50:46 มันคงลูกกะทิมะพร้าว
00:50:46 → 00:50:50 มะกอกอโวคาโด
00:50:51 → 00:50:55 ไปทบทวนเอานะการทำน้ำสลัดทีออยในเรื่อง
00:50:55 → 00:51:00 ของการกินน้ำมันสกัดเย็นในมื้อแรกเพราะ
00:51:00 → 00:51:06 อะไรมีเหตุผลอะไร
00:51:06 → 00:51:10 ส่วนไขมันที่จะเอามาโดนความร้อนในการผัด
00:51:10 → 00:51:12 ทอดอาหาร
00:51:12 → 00:51:15 เราก็ใช้เรื่องของเนยใสนะ
00:51:15 → 00:51:20 น้ำมันสัตว์น้ำมันสัตว์ใหญ่น้ำมันวัวที่
00:51:20 → 00:51:25 มันหมูแล้วก็น้ำมันเป็ด
00:51:25 → 00:51:27 พอหาได้ไหมฮะ
00:51:27 → 00:51:31 มีคนเอาน้ำมันเป็ดมาให้เราดูอ่ะ
00:51:31 → 00:51:34 [เสียงหัวเราะ]
00:51:34 → 00:51:37 แต่ละอย่างนี้ไม่ค่อยมีขาย
00:51:37 → 00:51:39 เรื่องครับ
00:51:39 → 00:51:43 เนี่ยมันก็มีเลเวลต่างๆ
00:51:43 → 00:51:47 ในให้ความสำคัญที่ปริมาณ
00:51:47 → 00:51:51 และโฟกัสเอาเป็นเอาตายเลยกับปริมาณนะต่อ
00:51:51 → 00:52:00 วันถ้าเราจะกินแบบ Local
00:52:00 → 00:52:03 จะต้องไม่เกิน 20 กรัมต่อวันอันนี้หมาย
00:52:03 → 00:52:06 ถึงเน็ตช้า
00:52:06 → 00:52:09 แล้วถ้าเกิดเป็น low carp ทั่วๆไปก็จะ
00:52:09 → 00:52:11 ไม่เกิน 50 กรัมต่อวัน
00:52:11 → 00:52:15 อยู่ในช่วงนี้ 20 25 ถึงไม่เกิน 50
00:52:15 → 00:52:19 แต่ถ้าเป็นโรคที่สูงขึ้นไปหน่อยนะฮะ
00:52:19 → 00:52:22 ส่วนใหญ่ก็จะไม่เกิน 100 กรัม
00:52:22 → 00:52:22 นะ
00:52:23 → 00:52:26 ครับประเภทนี้ก็เป็นโรคคนที่มักจะออก
00:52:26 → 00:52:30 กำลังกายนะฮะยังไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
00:52:30 → 00:52:33 ยังไม่ดื้ออินซูลิน
00:52:33 → 00:52:36 พวกนี้จะเติมคลาสได้เยอะกว่านะฮะแล้วก็มี
00:52:36 → 00:52:39 วินัยมีความสม่ำเสมอในเรื่องการออกแรงออก
00:52:39 → 00:52:42 กำลังหนึ่งต่างๆนะ
00:52:42 → 00:52:46 นะคุณสามารถเติมครับขึ้นไปได้นะถึงประมาณ
00:52:46 → 00:52:49 นี้แหละประมาณ 100 ไม่เกิน 120 130 ก็
00:52:49 → 00:52:56 ได้เด็ดขาด
00:52:56 → 00:52:59 ถ้าเป็นเบาหวานนะอ้วนเยอะๆด้วยสุรินทร์
00:53:00 → 00:53:01 เรื้อรังนะ
00:53:01 → 00:53:06 ก็ขอให้อยู่ที่ไม่เกิน 20-30 กรัมหรือ 25
00:53:06 → 00:53:10 กรัม
00:53:10 → 00:53:13 เพราะว่าลุงครับทั่วๆไปอ่ะนะก็คือไม่เกิน
00:53:13 → 00:53:17 50 กรัม
00:53:17 → 00:53:20 ครับ
00:53:20 → 00:53:22 มันก็มีความสำคัญของมันเนี่ยนะฮะแต่
00:53:22 → 00:53:24 เดี๋ยวเราจะพูดเรื่องนี้อย่างละเอียดอีก
00:53:24 → 00:53:27 ทีนึงอันนี้เอามาดูให้คร่าวๆนะฮะ
00:53:27 → 00:53:29 สิ่งที่เราต้องการจะค้าบเนี่ยเราไม่ได้
00:53:29 → 00:53:33 ต้องการน้ำตาลเราไม่ได้ต้องการอ่ากลูโคส
00:53:33 → 00:53:36 นะหรือฟลุ๊คโต๊ดอะไรทั้งสิ้นนะฮะ
00:53:36 → 00:53:39 คือสิ่งที่เราต้องการจะคลาสจริงๆเนี่ยก็
00:53:39 → 00:53:43 คือไฟเบอร์วิตามินเกลือแร่สารเคมีฮอร์โมน
00:53:43 → 00:53:46 เอนไซม์แล้วก็น้ำ
00:53:46 → 00:53:51 อันนี้คือคือหัวใจที่เราต้องการจะการได้
00:53:51 → 00:53:55 จาก Craft ในการกินครับนะครับ
00:53:55 → 00:53:59 ผักใบผักหัวแป้งเชิงซ้อนหรือผลไม้
00:53:59 → 00:54:02 หรือแม้แต่นม
00:54:02 → 00:54:05 แต่ว่ามันมีสิ่งเหล่านี้แค่ไหน
00:54:05 → 00:54:11 เราก็มาจับปริมาณที่ควรจะได้
00:54:11 → 00:54:13 กินเกลือ
00:54:13 → 00:54:17 กินเด็ดครับเกินนะก็ดื้ออินซูลินแล้วก็
00:54:17 → 00:54:19 เจ็บป่วย
00:54:19 → 00:54:21 แต่ถ้าไม่กิน
00:54:21 → 00:54:23 ครับเลย
00:54:23 → 00:54:25 เราจะขาดสารอาหาร
00:54:25 → 00:54:27 ก็คือสารอาหารที่บอก
00:54:27 → 00:54:36 ในแถบสีเขียว
00:54:36 → 00:54:44 ใครมาแม่มา
00:54:45 → 00:54:49 เพราะฉะนั้นการตัดขาหรือการ very low
00:54:49 → 00:54:52 Cash นานเกินไป
00:54:52 → 00:54:57 บางครั้งเนี่ยร่างกายเสียสมดุลนะ
00:54:57 → 00:55:04 [เพลง]
00:55:04 → 00:55:06 หรือนานเกิน
00:55:06 → 00:55:11 ก็มีผลหมดก็ต้องมีความพอดีนะแต่จะดีแบบ
00:55:11 → 00:55:15 เด็ดขาด 20 25 หรือควรจะพอดีแบบไม่เกิน
00:55:15 → 00:55:18 50 หรืออาจจะพอดีไปที่เน็ตครับประมาณ
00:55:18 → 00:55:22 ร้อย 120 เนี่ยก็แล้วแต่จะระบุคนนะ
00:55:23 → 00:55:25 ปรับตามความเหมาะสม
00:55:25 → 00:55:28 มีความสำคัญ
00:55:28 → 00:55:33 ไม่งั้นแล้วไตเอยไทรอยด์เอย
00:55:33 → 00:55:38 ต่อมหมวกไตนะมันจะเพี้ยนไปหมด
00:55:38 → 00:55:41 อันนี้เราก็รู้แล้วนะอันนี้เป็นข้อสรุปนะ
00:55:41 → 00:55:45 ฮะนะว่าแนวทางในการกินของการกินแบบ low
00:55:45 → 00:55:46 carft
00:55:46 → 00:55:50 น้อย Project คุณภาพไขมันดีเยอะโดยเฉพาะ
00:55:50 → 00:55:53 ในมื้อแรกเป็นพลังงานแล้วก็มีไฟเบอร์
00:55:53 → 00:55:58 นะแต่คนปัจจุบันเป็นไงส่วนใหญ่ก็เนี่ย
00:55:58 → 00:56:02 เอ่อมันขาดๆเกินๆนะเพราะความไม่รู้ไม่
00:56:02 → 00:56:08 เข้าใจ
00:56:08 → 00:56:12 ก็จะมีเอ่อรายงานเนี่ยพวกเนี้ยนะ
00:56:12 → 00:56:17 ว่าการกินที่จะไปช่วยในเรื่องของผลดีต่อ
00:56:17 → 00:56:21 การปรับเปลี่ยนภาวะ metabolic Syndrome
00:56:21 → 00:56:26 มันก็จะมีตามนี้ว่าถ้าเรากินโลทูเวรี่
00:56:26 → 00:56:29 โลคราฟนะคือโฟกัสที่เรื่องคาร์โบไฮเดรต
00:56:29 → 00:56:31 ให้ต่ำ
00:56:31 → 00:56:34 ส่วนโปรตีนคุณภาพไขมันอะไรอย่างนี้นะ
00:56:34 → 00:56:37 มันจะเกิดอะไรขึ้นนะ
00:56:37 → 00:56:42 ค่าต่างๆคือสีชมพูหรือสีแดงอันนี้หมายถึง
00:56:42 → 00:56:45 การกินแบบ
00:56:45 → 00:56:50 ส่วนสีฟ้าสีฟ้าก็คือการกินแบบ low Fat
00:56:50 → 00:56:53 Diet
00:56:53 → 00:56:57 อันนี้ก็จะมีข้อเปรียบเทียบน่าจะพอเคย
00:56:57 → 00:57:03 เห็นตารางนี้เนาะ
00:57:03 → 00:57:08 ก็มาถึงเรื่องการกินใน 1 วัน
00:57:08 → 00:57:12 หลักการก็คือกินเร็ว Food มื้อแรกพลังงาน
00:57:12 → 00:57:14 มากหน่อย
00:57:14 → 00:57:15 อ่าเน้น
00:57:15 → 00:57:19 พลังงานนะฮะมื้อเย็นเน้นความครบถ้วนของ
00:57:19 → 00:57:21 สารอาหาร
00:57:21 → 00:57:25 เพื่อควบคุมอินซูลินและคอติซอล
00:57:25 → 00:57:27 นะครับทั้งวันทั้งคืน
00:57:27 → 00:57:28 นะ
00:57:29 → 00:57:32 คือช่วงมื้อแรกหรือช่วงกลางวันเราจะคุม
00:57:32 → 00:57:37 อินซูลินช่วงกลางคืนเนี่ยเรากินเพื่อจะ
00:57:37 → 00:57:38 คุมคอติซอล
00:57:38 → 00:57:41 อันนี้คือความแตกต่างของมื้อแรกกับมื้อ
00:57:41 → 00:57:42 เย็น
00:57:42 → 00:57:46 ในแบบของการกินที่ถูกต้องใน 1 วัน
00:57:46 → 00:57:48 เพราะพลังงานในมื้อแรกเนี่ยถ้ามันมาจาก
00:57:48 → 00:57:55 Fat มาจาก Good Fat เนี่ย
00:57:55 → 00:57:58 ไม่มีการตอบสนองอะไรที่มากมายนักเขาก็
00:57:58 → 00:58:08 เขาก็พักอยู่นะ
00:58:08 → 00:58:13 ก็สามารถที่จะปฏิบัติงานดำเนินชีวิตอะไร
00:58:13 → 00:58:16 ต่างๆนะเพราะมีพลังงานแล้วนะฮะ
00:58:16 → 00:58:18 นะแล้วพลังงานแบบนี้ก็เป็นพลังงานที่
00:58:18 → 00:58:24 เสถียร
00:58:24 → 00:58:27 ร่างกายก็ค่อนข้างสมองอะไรต่างๆมันก็ดี
00:58:27 → 00:58:29 อ่ะนะ
00:58:29 → 00:58:33 แต่เราก็ไม่รู้ก็ไม่ได้ทำอย่างนั้นนะ
00:58:33 → 00:58:36 ตื่นขึ้นมาก็กินผิดไปแล้วลำบาก
00:58:36 → 00:58:41 ครับส่วนมื้อเย็นเนี่ยเราควบคุมคอยล์ไม่
00:58:41 → 00:58:42 ให้แม่มา
00:58:42 → 00:58:47 นำครบถ้วนของสารอาหารนะที่จะส่งผ่านไปยัง
00:58:47 → 00:58:50 ตับและสมอง
00:58:50 → 00:58:54 ก็จะทำให้คอติซอลสบายใจเขาก็จะไม่ได้ออก
00:58:54 → 00:58:56 มาเพื่อห่วงหา
00:58:56 → 00:59:00 การจัดหาพลังงานอะไรต่างๆ
00:59:00 → 00:59:05 พอมันครบสมองก็หลับนะตับมันมีไกลโคเจน
00:59:05 → 00:59:12 เพียงพอสำหรับวันรุ่งขึ้นนะ
00:59:12 → 00:59:15 หลังจากนั้นก็เป็นการดำเนินการเผาผลาญ
00:59:15 → 00:59:20 พลังงานไปโดยฮอร์โมนลูกเทพต่างๆ
00:59:21 → 00:59:25 ก็แล้วแต่ทั้งไทยลอยกูคากล้อน
00:59:25 → 00:59:29 จนกระทั่งจะเป็นเริ่มเช้าวันใหม่ข้อที่
00:59:29 → 00:59:33 เฝ้าค่อยๆมาตามปกติ
00:59:33 → 00:59:37 ไม่ดูเดือดเลือดพล่านนะฮะนะ
00:59:37 → 00:59:44 เค้ามีใครเคยเจอมาให้เรียบร้อยแล้ว
00:59:44 → 00:59:47 เออเขาก็เรียกว่าการกินใน 1 วันเนี่ยเป็น
00:59:47 → 00:59:51 การกินเพื่อจะควบคุมพ่อแม่นะฮะ
00:59:51 → 00:59:54 อินซูลินข้อที่ 2 นะครับกลางวันกลางคืน
00:59:54 → 01:00:04 เนาะ
01:00:04 → 01:00:07 ทีถ้าเกิดเรากินโยคะ High Fat เนี่ย
01:00:07 → 01:00:14 เราไม่นับแคลอรี่ได้นะก็ไม่จำเป็นอ่ะ
01:00:14 → 01:00:18 เข้าใจในเนื้อหาสาระของการกิน
01:00:18 → 01:00:26 เราก็ใช้หิวกินอิ่มอยู่
01:00:26 → 01:00:28 เป็นการนับสารอาหารของร่างกายโดย
01:00:28 → 01:00:33 อัตโนมัติ
01:00:33 → 01:00:40 กินยังไงเพราะอะไร
01:00:40 → 01:00:43 นะ
01:00:43 → 01:00:48 ไม่เข้าใจอย่างเงี้ยนะ
01:00:48 → 01:00:53 ฮะ
01:00:53 → 01:00:56 อันนี้หมอก็จะมีรายละเอียดเอ่อสำหรับ
01:00:56 → 01:00:58 เบื้องต้นนะฮะสำหรับเบื้องต้นของคนที่ยัง
01:00:58 → 01:01:02 ไม่เข้าใจหรือจะมีแนวทางยังไงในภาค
01:01:02 → 01:01:06 ปฏิบัติของการจีนนะแบบ
01:01:06 → 01:01:10 นะแบบนี้เลยนะฮะนะลองอ่านดูนะ
01:01:10 → 01:01:15 ทีนี้เราจะมาดูภาพรวมๆนะครับ
01:01:15 → 01:01:18 ครับกินให้เป็นกินให้ถูกอย่ากินมั่วอย่า
01:01:18 → 01:01:23 กินผิดอาหารมื้อแรกเขากินกันอย่างนี้ฮะ
01:01:23 → 01:01:27 กิน low carft High Fat มื้อแรกจัด
01:01:27 → 01:01:30 อย่างนี้นะ
01:01:30 → 01:01:32 มีภาพประกอบแล้ว
01:01:32 → 01:01:36 เป็นอะไรบ้างแล้วก็มีนอกเฟรมอีกนิดหน่อย
01:01:36 → 01:01:42 นะ
01:01:42 → 01:01:59 มันสกัดเย็น
01:01:59 → 01:02:03 นี้ดูหลักๆก่อนหลักๆก็คือโปรตีน
01:02:03 → 01:02:07 เอ่อโปรตีนน่ะภัยโปรตีนกับไขมัน
01:02:07 → 01:02:09 พวกนี้ก็
01:02:09 → 01:02:11 เอ่อ
01:02:11 → 01:02:15 เนี่ย
01:02:15 → 01:02:18 ไข่ขาวนะฮะไข่ขาว
01:02:18 → 01:02:22 เลยดูผ่านไข่ขาวเนี่ยเราทำได้ 6 เลเวลนะ
01:02:22 → 01:02:25 ฮะเราทำได้ 6 เลเวล
01:02:25 → 01:02:29 ที่หมอแนะนำคนไข้อยู่ตลอดเลยก็คือต้มน้ำ
01:02:29 → 01:02:32 ให้เดือดเอาน้ำซุปต้มกระดูกก็ได้ต้มให้
01:02:32 → 01:02:35 มันเดือดแล้วราไฟอ่อนๆแล้วคุณก็เทไข่ขาว
01:02:35 → 01:02:37 ลงไปนะ
01:02:37 → 01:02:41 ส่วนใหญ่ก็ประมาณ 3-4 หรือถึง 6 ฟองแล้ว
01:02:41 → 01:02:44 แต่ต่อคนนะคนตัวใหญ่ตัวเล็กอะไรอย่างนี้
01:02:44 → 01:02:47 นะจะกินเท่าไหร่ถึงจะอิ่มนะพอคุณเทไข่ขาว
01:02:47 → 01:02:51 ลงไปเนี่ยคุณก็เอาช้อนเนี่ยมีคนกวนๆกวนๆ
01:02:51 → 01:02:54 จะให้มันเหลวขนาดไหนหรือจะให้มันแข็งขึ้น
01:02:54 → 01:02:58 มาขนาดไหนมันทำได้ 6 ระดับนะฮะพอดีไม่ได้
01:02:58 → 01:03:01 เอารูปมาลงนะแล้วระดับที่ 6 นี่ก็คือเป็น
01:03:01 → 01:03:04 เหมือนข้าวตังอ่ะเรารู้จักเค้าตั้งมั้ย
01:03:04 → 01:03:08 แต่เอ็งเข้าตรังที่มาจากไข่ขาวนะครับ
01:03:08 → 01:03:13 ก็ตามกรอบๆอ่ะเอออ่าง่ายนะ
01:03:13 → 01:03:17 อันนี้ก็เป็นอ่าระดับไข่ขาวเลเวลที่ 3
01:03:17 → 01:03:24 ที่ 4 นะฮะนะที่มันๆติดตั้งเหมือนกับข้าว
01:03:24 → 01:03:26 แล้วก็มีอะไร
01:03:26 → 01:03:29 อันนี้เป็นไข่ทอดมีน้ำจิ้ม
01:03:29 → 01:03:30 นะ
01:03:30 → 01:03:34 ตำมีผักอะไรอีกจานนึงก็มีน้ำสลัดนะฮะหรือ
01:03:34 → 01:03:37 จะเอาน้ำสลัดมาราดนี่เลยก็ได้นะฮะแล้วผัก
01:03:37 → 01:03:39 กินนิดๆหน่อยๆ
01:03:39 → 01:03:47 น้ำซุปต้มกระดูกทำเป็นแกงจืดหมูสับ
01:03:47 → 01:03:53 เบรคฟาสมื้อแรกนะเน้นเรื่องเนื้อตาไข่
01:03:53 → 01:03:58 เขาบอกว่าดีที่สุดนะ on the planet
01:03:59 → 01:04:04 นะฮะ
01:04:04 → 01:04:07 ในทางปฏิบัติอันนี้ก็พวกนี้ใช้หม้อทอด
01:04:07 → 01:04:18 แล้วก็มีเนื้อด้วย
01:04:18 → 01:04:21 กินอลังการหน่อย
01:04:21 → 01:04:25 อันนี้ของคุณ
01:04:25 → 01:04:30 ไม่หมอไม่ได้กินเนื้อวัว
01:04:30 → 01:04:33 ไม่ๆผมกำลังว่าเอ้ยคุณหมอกินเยอะเยอะถือ
01:04:33 → 01:04:36 ว่าเยอะนะเนี่ยถือว่าเยอะนะถือว่าเยอะนะ
01:04:36 → 01:04:40 ในภาพนะเออ
01:04:40 → 01:04:40 เนี่ย
01:04:40 → 01:04:43 อะไรบ้างเนื้อสัตว์ใหญ่คือเกลือไข่น้ำมัน
01:04:43 → 01:04:46 สกัดเย็นบนบอร์ดเนี่ยน้ำจิ้มพวกนี้ก็ทำมา
01:04:46 → 01:04:50 จากน้ำมันสกัดเย็นก็ได้นะฮะมีวิธีการทำ
01:04:50 → 01:04:54 มีตัวอย่างให้เห็นภาพเห็นภาพ
01:04:54 → 01:04:57 พิซซ่าไข่เจียวอันนี้ก็ไข่กับชีส
01:04:57 → 01:05:03 นะอบในหม้อทอดในหม้อทอดหม้อทอดไร้น้ำมัน
01:05:03 → 01:05:06 น้ำซุปต้มกระดูกนะหรือจะเป็นแบบนี้เนี่ย
01:05:06 → 01:05:08 มีสลัด
01:05:08 → 01:05:12 โรยเกลือเหยาะเกลือเพราะว่า
01:05:12 → 01:05:26 อย่างนี้นะ
01:05:26 → 01:05:29 พลังงานกับสารอาหารมันต้องถึง
01:05:29 → 01:05:33 นะถ้ามันจะเกิดการคัด Off ว่าจบและมื้อ
01:05:33 → 01:05:37 นี้จบพอแล้วนะฮะมื้อเย็นๆเนี่ยเราก็กิน
01:05:37 → 01:05:40 เสริมเป็น snack นิดๆหน่อยๆกินพวกไข่ปั่น
01:05:40 → 01:05:43 ลูกนึงก็ได้นะเออ
01:05:43 → 01:05:47 ๆให้มันให้มันมีสารอาหารโปรตีน
01:05:47 → 01:05:52 คาร์โบไฮเดรตไขมันแล้วก็นอนเนี่ย
01:05:52 → 01:05:54 แต่มื้อแรกเนี่ยต้องอย่างเงี้ยฮะให้มัน
01:05:54 → 01:06:08 ถึงอ่ะฮะให้ถึงนะฮะ
01:06:08 → 01:06:18 อันนี้คนเดียวกินเข้าไป
01:06:18 → 01:06:22 จานผักแล้วแต่
01:06:22 → 01:06:25 น้ำสลัด
01:06:25 → 01:06:30 แบบไหนแบบไหนครีมข้นซีฟู้ดงานญี่ปุ่นอะไร
01:06:30 → 01:06:34 ต่างๆนะครับพวกนี้เราก็มีน้ำมันนะตามสัด
01:06:34 → 01:06:37 ส่วนที่เราควรจะได้ก็คือประมาณ 5-7 ช้อน
01:06:37 → 01:06:41 โต๊ะ
01:06:41 → 01:06:46 ให้มันเป็นเนื้อเนียนกันเข้าไปทำน้ำสลัด
01:06:47 → 01:06:50 ในผักก็ได้หรือราดในจานเนื้อจานไข่อะไร
01:06:50 → 01:06:51 ได้หมดแหละนะฮะ
01:06:51 → 01:06:56 [เพลง]
01:06:56 → 01:07:00 ทีนี้มื้อแรกเนี่ยลำดับการกินนะอันนี้ก็
01:07:00 → 01:07:03 ต้องต้องมีความต้องมีความสำคัญนะฮะนะคือ
01:07:03 → 01:07:06 ระบบการย่อยนะหรือการย่อยดีไม่ดีอะไรต่าง
01:07:06 → 01:07:08 ๆเนี่ยนะฮะ
01:07:09 → 01:07:10 ร่างกายเนี่ย
01:07:10 → 01:07:14 เขาจะให้ความสำคัญอันดับแรกเลยในเรื่อง
01:07:14 → 01:07:17 ของเวลากินเนี่ยคือการเคี้ยวฮะ
01:07:17 → 01:07:22 นะเขาเรียกว่าเหลวก็คือเคี้ยวให้มากที่
01:07:22 → 01:07:24 สุดเคี้ยวจนกระทั่ง
01:07:24 → 01:07:29 คำข้าวหรือคำอาหารในปากเนี่ยมันเหลวอ่ะ
01:07:29 → 01:07:32 มันเหลวได้ยิ่งดี
01:07:32 → 01:07:36 จงเคี้ยวอาหารในทุกๆคำข้าวอย่างช้าๆและ
01:07:36 → 01:07:39 นานจนเหลวนะ
01:07:39 → 01:07:43 น้ำย่อยต่างๆแล้วการเคี้ยวในปากก็จะ
01:07:43 → 01:07:51 กระตุ้นในน้ำย่อยลำไส้ในกระเพาะด้วยก่อน
01:07:51 → 01:07:54 ขั้นตอนในการกินเนี่ยเราก็จะกินโปรตีนจาก
01:07:54 → 01:07:56 สัตว์ก่อนนะ
01:07:56 → 01:08:00 ถึงจะตามด้วยผักใบนะไข่ชีสซึ่งเป็นอาหาร
01:08:00 → 01:08:05 ตัวเสริมอ่ะนะกับน้ำสลัด
01:08:05 → 01:08:08 แต่ถ้าไอ้พวกกลุ่มเนื้อสัตว์กับไข่เนี่ย
01:08:08 → 01:08:12 เราอาจจะราดน้ำสลัดก่อนแต่พวกค้าบที่มา
01:08:12 → 01:08:15 จากผักใบผักหัวนะ
01:08:15 → 01:08:20 พวกนี้ก็กินตามทีหลังสุด
01:08:20 → 01:08:24 อันนี้พอเข้าใจเนาะ
01:08:24 → 01:08:27 การกินอาหารกระตุ้นน้ำย่อยและช่วยเรื่อง
01:08:27 → 01:08:31 การดูดซึมที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพก็ทำ
01:08:31 → 01:08:35 อย่างเงี้ยนะแต่การเคี้ยวขอให้เคี้ยวเหลว
01:08:35 → 01:08:36 เลยนะ
01:08:36 → 01:08:40 ชีสอย่างมื้อเย็นมื้อเย็นก็กินอย่างนี้
01:08:40 → 01:08:43 กินกันอย่างนี้
01:08:43 → 01:08:46 คือมื้อเย็นเราไม่เน้นเนื้อสัตว์ใหญ่
01:08:46 → 01:08:50 เราเน้นเป็นเนื้อสัตว์เล็กเนื้อสัตว์น้ำ
01:08:50 → 01:08:54 แล้วก็อาจจะมีไขมันคงลูกอะโวคาโดมีถั่ว
01:08:54 → 01:08:55 อะไรอย่างนี้
01:08:55 → 01:08:58 มีไข่ก็ได้นะฮะเพราะเป็นโปรตีนไขมันปาน
01:08:58 → 01:08:59 กลาง
01:08:59 → 01:09:07 นะเนี่ยมีปลาอาจจะมีครับ
01:09:07 → 01:09:10 สีเข้มๆเพราะว่า
01:09:10 → 01:09:13 เพราะว่าร่างกายเนี่ยในแง่ของความเป็น
01:09:13 → 01:09:17 Craft หรือเป็นพืชผักหรือเป็นผลไม้เนี่ย
01:09:17 → 01:09:20 ที่จะเข้าสู่ร่างกายแล้วเกิดประโยชน์แม้
01:09:20 → 01:09:23 ว่าร่างกายจะต้องการไม่เยอะก็ตาม
01:09:23 → 01:09:27 จะต้องมีสีเข้มๆรู้ไหมเพราะอะไร
01:09:27 → 01:09:31 ทุกอย่างได้ Craft สีเข้มๆ
01:09:31 → 01:09:32 ครับ
01:09:32 → 01:09:34 สารอาหารสูงครับ
01:09:34 → 01:09:40 เพราะว่าดวงอาทิตย์สีแดงเข้ม
01:09:40 → 01:09:44 มันมาจากเป็นพลังงานที่มาจากดวงอาทิตย์
01:09:44 → 01:09:49 พนักงานและสารอาหารเนี่ยที่โทนสีแดงๆอ่ะ
01:09:49 → 01:09:53 แดงๆสีเลือดหมูสีน้ำตาลสี
01:09:53 → 01:09:57 อย่างกาแฟหรือชาเขียวหรือโกโก้
01:09:57 → 01:10:02 ครับ
01:10:02 → 01:10:07 เพราะว่า Craft ที่บวกกับโทนสีจัดๆสีเข้ม
01:10:07 → 01:10:14 ๆออกมาทางแดงๆดำๆอย่างนี้
01:10:14 → 01:10:17 นะแล้วก็มีสารอะไรต่างๆอีกไม่รู้เยอะแยะ
01:10:17 → 01:10:22 เลยนี่มันแปลงสภาพมาจากพลังงานจากดวง
01:10:22 → 01:10:26 อาทิตย์แล้วก็จากดินจากน้ำที่จะมาให้เข้า
01:10:26 → 01:10:28 สู่ร่างกายเรา
01:10:28 → 01:10:33 ไม่ใช่ว่าไปกินค้าประเภทเขาขาวเขียวอ่อนๆ
01:10:33 → 01:10:37 เหลืองอ่อนๆนะหรือใสใสหรืออะไรพวกนี้อ่า
01:10:37 → 01:10:41 อันนี้อ๋อ
01:10:41 → 01:10:43 สารอาหาร
01:10:43 → 01:10:46 ด้อยคุณภาพเยอะมาก
01:10:46 → 01:10:48 จัดๆไปเลย
01:10:48 → 01:10:50 เอออย่างเช่นกาแฟเป็น Craft แล้วก็กิน
01:10:50 → 01:10:55 กาแฟกาแฟสีอะไรอ่ะเออนั่นแหละ
01:10:55 → 01:10:59 อย่างเงี้ยนะแล้วในกาแฟมีอะไรอ่ะมี Police
01:10:59 → 01:11:01 24 No
01:11:01 → 01:11:02 มีสาร
01:11:02 → 01:11:06 โอ่งสารต้านอนุมูลอิสระแรงๆทั้งนั้นเลย
01:11:06 → 01:11:32 อันนี้มื้อเย็นมื้อเย็นนะ
01:11:32 → 01:11:36 น้ำผักปั่น
01:11:36 → 01:11:38 รูปมันเล็กไปไหม
01:11:38 → 01:11:42 นี่แบบคนอยากสร้างกล้ามมื้อเย็นเนี่ยให้
01:11:42 → 01:11:45 เป็นแบบนี้ให้เป็นพวกต้มเครื่องในนะฮะต้ม
01:11:45 → 01:11:48 เครื่องในต้มเลือดหมูอะไรพวกนี้นะ
01:11:48 → 01:11:50 มันต่ำ
01:11:50 → 01:11:55 มีคอเลสเตอรอลเยอะนะ
01:11:55 → 01:11:59 ที่ในมื้อเย็นน่ะฮะถ้าเราออกกำลังกายมา
01:11:59 → 01:12:01 แล้วเนี่ยร่างกายจะเอาตัวจริงพวกเนี้ย
01:12:01 → 01:12:03 กล้ามเนื้อจะกินพวกเนี้ย
01:12:03 → 01:12:06 อ่าเข้าไปสร้างเข้าไปซ่อมได้ดี
01:12:06 → 01:12:10 นะอ๋อเหมือนกล้ามเนื้อจะเพิ่มนะฮะ
01:12:10 → 01:12:13 แล้วก็ร่วมกับอะไรอ่ะร่วมกับการกินพวก
01:12:13 → 01:12:32 สัตว์น้ำสัตว์ปีกอะไรอย่างนี้สลับกันไปนะ
01:12:32 → 01:12:35 อันนี้มื้อเย็นมื้อเย็น
01:12:35 → 01:12:36 ยำ
01:12:36 → 01:12:41 เนื้อไก่มั้งเนื้อไก่ฉีก
01:12:41 → 01:12:43 เป็นพืชผัก
01:12:43 → 01:12:47 แล้วก็เป็นอาหารประเภทเนี่ยมีทั้งปูกุ้ง
01:12:47 → 01:12:48 หอย
01:12:48 → 01:12:53 แล้วก็เนื้อปลานะมีข้าวนิดนึง
01:12:53 → 01:12:56 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน
01:12:56 → 01:12:59 ง่ายๆก็อันนี้
01:12:59 → 01:13:00 นะ
01:13:00 → 01:13:03 ใส่ไข่ขาวแทนข้าวก็ได้นะฮะ
01:13:03 → 01:13:04 นะ
01:13:04 → 01:13:08 จะใส่ข้าวก็ได้แต่ไม่ต้องเยอะนะ
01:13:08 → 01:13:14 เนี่ยๆข้าวต้มปลาเนี่ยง่ายๆนะครับ
01:13:14 → 01:13:17 ทีนี้ลำดับการกินในมื้อเย็นก็เหมือนกันนะ
01:13:17 → 01:13:18 ฮะต้องเคี้ยวเหลว
01:13:18 → 01:13:22 นะเคี้ยวช้าๆเนื้อเคี้ยวนานๆจนเหลวนะฮะ
01:13:22 → 01:13:25 เออตั้งสติด้วยนะ
01:13:25 → 01:13:29 แล้วการกินก็เหมือนกัน
01:13:29 → 01:13:32 โปรตีนนำก่อนเลยนะ
01:13:32 → 01:13:36 แล้วก็ตามด้วยไขมันแล้วถึงจะเป็นอับไปปิด
01:13:36 → 01:13:39 ท้าย
01:13:39 → 01:13:48 เกาะโปรตีนกับคาร์ฟหัวนะไขมัน
01:13:48 → 01:13:54 ทีนี้มันจะมี 2 คำว่ากินให้พอให้พอคือให้
01:13:54 → 01:13:56 ได้ครบทั้งพลังงานกับสารอาหาร
01:13:56 → 01:13:59 กับกินให้อิ่ม
01:13:59 → 01:14:04 เพราะว่าบางครั้งกินแค่อิ่มแต่มันไม่พอนะ
01:14:04 → 01:14:07 ถ้ากินพอเนี่ย
01:14:07 → 01:14:10 พลังงานสารอาหารก็มาเต็ม
01:14:10 → 01:14:12 แต่อิ่มเนี่ย
01:14:12 → 01:14:16 บางทีมันยังไม่พอมันอาจจะพลังงานเกินเรา
01:14:16 → 01:14:18 ขาดสารอาหาร
01:14:18 → 01:14:22 แต่มันก็อิ่มได้นะ
01:14:22 → 01:14:27 อันนี้ก็ลองดูความหมายนะ
01:14:27 → 01:14:32 รู้ได้ยังไงว่ากินพอแล้วนะฮะรู้ได้ยังไง
01:14:32 → 01:14:37 เราจะอิ่มนะอิ่มยาวอ่ะ
01:14:37 → 01:14:41 มีพละกำลังมีเรี่ยวแรง
01:14:41 → 01:14:53 ทั้งวันเลยนะ
01:14:53 → 01:14:55 มีแรง
01:14:55 → 01:14:58 แล้วกลางคืนหลับดี
01:14:58 → 01:15:02 อิ่มข้ามวันข้ามคืนกลางวันมีเรี่ยวแรงดี
01:15:02 → 01:15:08 นะกลางคืนหลับดีมีคุณภาพลึกสนิทยาวนาน
01:15:08 → 01:15:13 อันนี้ในฝั่งที่ว่าอินพอหรือคบ
01:15:13 → 01:15:17 ส่วนกินไม่พอไม่ครบ
01:15:17 → 01:15:21 ก็สัญญาณก็คือหิวโหยอยาก
01:15:21 → 01:15:27 อยากหวานๆ
01:15:27 → 01:15:30 ไม่มีแรงอ่อนเพลียหน่อย
01:15:30 → 01:15:32 เมื่อยล้า
01:15:32 → 01:15:36 หลับไม่ดี
01:15:36 → 01:15:39 เนี่ยแล้วลำดับขั้นในการกินก่อนหลังนะฮะ
01:15:39 → 01:15:44 ก็โปรตีนมาก่อนนะเพราะเราถือว่านะ
01:15:44 → 01:15:47 อยู่ในโปรตีนเป็นหลักเพราะฉะนั้นการกิน
01:15:47 → 01:15:51 เนื้อเกลือไข่เครื่องในอ่าเราจัดโปรตีน
01:15:51 → 01:15:57 ก่อนเลยนะฮะนึกถึงตามมาด้วยไขมัน
01:15:57 → 01:16:01 ที่แรกก็เป็นน้ำมันไม่หลังก็เป็นไขมันคง
01:16:01 → 01:16:02 ไม่
01:16:02 → 01:16:07 แล้วพวก Craft ต่างๆนะปิดท้ายจะเป็นผักใบ
01:16:07 → 01:16:10 ผักหัวผักดองหรืออาจจะมีผลไม้ไม่หวานนาน
01:16:10 → 01:16:16 ชนิด
01:16:16 → 01:16:21 บางครั้งเนี่ยเราจะต้องมีมื้อแซ่บ
01:16:21 → 01:16:24 นี่หลักการของอาหารมื้อแซ่บอาจจะเป็นมื้อ
01:16:24 → 01:16:26 2 มื้อ 3 หรือถ้ากิน
01:16:26 → 01:16:29 มีมื้อแทรกเป็น Snack
01:16:29 → 01:16:33 นะทีนี้ลักษณะอาหารมื้อแรก
01:16:33 → 01:16:35 ก็คือแบบนี้
01:16:35 → 01:16:39 ขยายให้ดู
01:16:39 → 01:16:47 หรือก็พอเห็นมั้ง
01:16:47 → 01:16:51 ที่มีเส้นใยสูงๆก็คือเราเน้นที่ไฟเบอร์
01:16:51 → 01:16:53 จะเป็นผักใบผักหัว
01:16:53 → 01:16:54 นะ
01:16:54 → 01:16:58 หรือจะเป็นพืชสมุนไพรชากาแฟโกโก้
01:16:58 → 01:17:02 รองลงมาก็คือพวกโปรตีนที่มีไขมันปานกลาง
01:17:02 → 01:17:05 ก็คือพวกไข่อ่ะหรือไม่ก็กลุ่มเนื้อสัตว์
01:17:05 → 01:17:10 หรือเนื้อปลาปลายตัวใหญ่ๆปลาแซลมอน
01:17:10 → 01:17:13 หรือไม่ก็เป็นโปรตีนพืช
01:17:13 → 01:17:14 แต่ก็
01:17:14 → 01:17:19 เน็ตโปรตีนไม่เกิน 20 กรัมต่อมื้อ
01:17:19 → 01:17:22 ส่วนไขมันต้องเป็นไขมันคงลูกพวกกะทินะ
01:17:22 → 01:17:28 หรือจะมีเนื้อมะพร้าวกระปุก
01:17:28 → 01:17:33 ปริมาณเทียบเท่าน้ำมัน
01:17:33 → 01:17:39 2 ช้อน
01:17:39 → 01:17:45 จะเป็นทางออกที่ดีที่สุดนะของมือถือ
01:17:45 → 01:17:47 ใครเป็นโปรตีน
01:17:47 → 01:17:51 หาโกโก้อ่าหาไอ้พวกเอ่อ
01:17:51 → 01:17:55 กาแฟชาสมุนไพรชาเขียวอะไรอย่างเงี้ยนะ
01:17:55 → 01:17:58 แล้วก็มีเนี่ยกะทิเนื้อมะพร้าวโอคาโดนะ
01:17:58 → 01:18:02 แบบธรรมดาหรือปั่นแบบใส่น้ำแข็งน้ำเย็น
01:18:02 → 01:18:13 อันนี้มื้อแซ่บทำอย่างนี้น่ะฮะนะ
01:18:13 → 01:18:19 ทีนี้ก็มาเรื่องกฎ 80 20 นะฮะ
01:18:19 → 01:18:21 ร่างกายในแง่ของ
01:18:21 → 01:18:24 ของโภชนาการเขาจะมีกฎเลข 3
01:18:24 → 01:18:27 กับมีกฎอีกกฎหนึ่งเขาเรียกว่ากฎ 80 20
01:18:27 → 01:18:32 อันนี้เป็นกฎธรรมชาติทางชีววิทยาของของ
01:18:32 → 01:18:34 ร่างกายนะ
01:18:34 → 01:18:37 มันมีอยู่ 3 ข้อ
01:18:37 → 01:18:40 ร่างกายต้องเป็น Fat burner ตั้งแต่มื้อ
01:18:40 → 01:18:44 แรกของวันให้ได้ทุกๆแต่ใน 10 วัน
01:18:44 → 01:18:47 เป็นอีก 2 วันเนี่ย
01:18:47 → 01:18:50 คุณก็ชี้ติ่งไปนะ
01:18:50 → 01:18:53 อาจจะเป็น
01:18:53 → 01:19:00 sheeting ครับ
01:19:00 → 01:19:06 ได้กินข้าวได้นะกินผลไม้ได้นะกินครับเชิง
01:19:06 → 01:19:11 ซ้อนอะไรได้หมดนะฮะกินแป้งได้
01:19:11 → 01:19:13 ถ้าเกิดเรายังเราอยู่ในเกณฑ์สุขภาพที่ดี
01:19:13 → 01:19:15 แล้วนะถ้าเป็นเบาหวานก็ต้อง remission
01:19:15 → 01:19:19 ขึ้นมาเยอะๆ
01:19:19 → 01:19:24 มากมายอะไรอย่างเงี้ยนะฮะอ่า
01:19:24 → 01:19:26 การดำเนินชีวิต
01:19:26 → 01:19:29 1 เรื่องของ Fat เนี่ย
01:19:29 → 01:19:34 ในตลอด 10 วันอันที่ 2 ก็คือต้องมีการ
01:19:34 → 01:19:37 กระตุ้นกล้ามเนื้อแบบ Active Exercise
01:19:37 → 01:19:40 หรือ movement
01:19:40 → 01:19:42 ก่อนที่จะกินอาหารมื้อแรก
01:19:42 → 01:19:46 ทุกๆ 8 วันใน 10 วัน
01:19:46 → 01:19:52 จะไปเวทจะไป Cardio จะไปเดินอะไรต่างๆ
01:19:52 → 01:19:55 ได้ผลได้หมด
01:19:55 → 01:20:00 ที่จะทำก่อนอาหารก็ต้องทำหลังอาหาร
01:20:00 → 01:20:01 แต่ผล
01:20:01 → 01:20:08 ของการทำแบบก่อนอาหารจะดีกว่า
01:20:08 → 01:20:13 แล้วถ้าไม่สะดวกในมื้อแรกก็มื้อเย็น
01:20:13 → 01:20:21 ก็ได้หลังจากผลมันก็จะลดลงเรื่อยๆ
01:20:21 → 01:20:23 การกำหนดน้ำหนักโดยเฉพาะคนที่อยากจะเพิ่ม
01:20:24 → 01:20:27 มวลกล้ามเนื้อนะ
01:20:27 → 01:20:30 ก็จะต้องกินพลังงานและสารอาหารให้ได้มาก
01:20:30 → 01:20:33 กว่าที่เราต้องการเนี่ยประมาณ
01:20:33 → 01:20:35 เอ่อประมาณ
01:20:35 → 01:20:36 8 วัน
01:20:36 → 01:20:39 ใน 10 วันน่ะนะครับ
01:20:39 → 01:20:41 คือต้องกินค่อนข้างโอเวอร์
01:20:41 → 01:20:44 พลังงานแล้วก็สารอาหาร
01:20:44 → 01:20:48 ขึ้นไป 8 วันนะใน 10 วัน
01:20:48 → 01:20:49 ทุกๆ 10 วัน
01:20:49 → 01:20:53 อันนี้ถ้าเกิดจะสร้างกล้ามเนื้อ
01:20:53 → 01:20:56 เนี่ยส่วนใหญ่เราก็เน้นโปรตีนการโอเวอร์
01:20:56 → 01:20:58 โปรตีน
01:20:58 → 01:21:04 ก็ทำได้นะมีการผ่อนปรนสัก 2 วัน
01:21:04 → 01:21:11 ก็เหมือนกับเหมือนกับชะลอ
01:21:11 → 01:21:15 ก็อันนี้ก็จะเป็นหลักการพวกนี้นะอันนี้
01:21:15 → 01:21:18 เป็นหลักการของ 80 20
01:21:18 → 01:21:20 นะอีกเรื่องนึงก็คือเป็นเรื่องที่ว่ากิน
01:21:20 → 01:21:22 ถูกกินผิด
01:21:22 → 01:21:24 ก็คล้ายๆกับว่า
01:21:24 → 01:21:27 ทุก 10 วันเนี่ยนะเราต้องกินถูกต้องอย่าง
01:21:27 → 01:21:31 น้อย 80% หรือ 8 วันนะฮะอีก 2 วันเนี่ย
01:21:31 → 01:21:32 เอ่อ
01:21:32 → 01:21:34 กิน
01:21:34 → 01:21:36 ปล่อยปลาล้านเลยได้นะ
01:21:36 → 01:21:39 แต่ว่าก็ไม่ควรล่ะไม่ควรที่จะเป็นแบบ
01:21:39 → 01:21:43 โอ้ประเภทที่แปรรูปสูงสุดอะไรอย่างนั้นนะ
01:21:43 → 01:21:47 ฮะนะอันนั้นให้มันเป็นแบบระดับเป็นเดือนๆ
01:21:47 → 01:21:49 จะดีกว่านะฮะ
01:21:49 → 01:21:52 ตามความจำเป็น
01:21:52 → 01:21:55 [เพลง]
01:21:55 → 01:22:00 อันนี้ลองไปอ่านรายละเอียดด้วย
01:22:00 → 01:22:02 เห็นหลักการของโรค High Fat ของเราก็จะ
01:22:02 → 01:22:07 เป็นแบบนี้นะ
01:22:07 → 01:22:11 ใครจะทำเนี่ยก็คือก็คือเขาเรียกเปิดใจรับ
01:22:11 → 01:22:20 ปรับใจทำนะ
01:22:20 → 01:22:25 มันไม่ได้มันไม่ได้มันต้องเหมือนหักดิบ
01:22:25 → 01:22:38 อันนี้ก็
01:22:38 → 01:22:41 เมื่อวานนี้ก็คือหัวไวใจสู้รอดูทีท่า
01:22:42 → 01:22:49 เบิ่งตาลังเลหันเหหัวดื้อก็มือ
01:22:49 → 01:22:51 เพราะฉะนั้นเนี่ยที่จะประสบความสำเร็จก็
01:22:51 → 01:22:58 คือนี่แหละหัวไวใจสู้
01:22:58 → 01:23:01 เท่านั้นนะ
01:23:01 → 01:23:02 ผลดีเนี่ย
01:23:02 → 01:23:05 ผลดีมันก็ดีอยู่แล้วอ่ะฮะ
01:23:05 → 01:23:11 เรากล้าแค่ไหนเราเปิดใจแค่ไหน
01:23:11 → 01:23:14 แล้วก็บางคนเนี่ยเรื่องของทฤษฎีเรื่องของ
01:23:14 → 01:23:18 องค์ความรู้อะไรต่างๆก็ยังไม่ต้องวาดผมจะ
01:23:18 → 01:23:21 ต้องให้รู้ให้ละเอียดรอบด้าน
01:23:21 → 01:23:26 รู้ไส้ในครบก่อนแล้วค่อยจะไปทำนะ
01:23:26 → 01:23:30 คืออาหารเนี่ยจะผิดจะถูกอะไรต่างๆมันไม่
01:23:30 → 01:23:35 ถึงขนาดคอขาดบาดตาย
01:23:35 → 01:23:38 เราก็คงพอรู้ว่าเนี่ยอย่างเช่นกฎธรรมชาติ
01:23:38 → 01:23:42 เขายังมีกฎ 80 20 เลยนะแต่คนส่วนใหญ่มัน
01:23:42 → 01:23:49 กินไม่ถูก 80 มันกินถูกแค่ไม่เกิน 20 อ่ะ
01:23:49 → 01:23:52 นะ
01:23:52 → 01:23:57 ยุคสมัยนี้หรือคนเจ็บใหม่มีอยู่ก็ยิ่งรู้
01:23:57 → 01:24:01 สึกว่าไงอ่ะเออคือหมอตรวจคนไข้อ่ะ
01:24:01 → 01:24:06 ก็มันก็แล้วแต่นะว่าใครจะเอาไม่เอาหรือ
01:24:06 → 01:24:09 ไงอ่ะนะ
01:24:09 → 01:24:13 ครับแต่ส่วนใหญ่เขาบอกเลยฮะ
01:24:13 → 01:24:16 เกิน 90% เนี่ยเขาก็ไม่โอเคด้วยอ่ะนะเค้า
01:24:16 → 01:24:19 ก็ฟังรับฟังผ่านหูผ่าน
01:24:19 → 01:24:24 หูไม่ผ่านผ่านหูไม่เข้าหัวนะ
01:24:24 → 01:24:27 เพราะตกเป็นทาสของนิสัยพี่หมอเขากินแบบ
01:24:27 → 01:24:29 นั้นมาทั้งชีวิตอ่ะ
01:24:29 → 01:24:32 เออมันต้องกินข้าว
01:24:32 → 01:24:35 ก็ตามที่บอกไม่งั้นก็คือต้องหาเงินไว้
01:24:35 → 01:24:36 เยอะๆ
01:24:36 → 01:24:39 แค่นั้นแหละ
01:24:39 → 01:24:47 มันมาแน่โรคภัยไข้เจ็บ
01:24:47 → 01:24:49 โอเคมีสงสัยอะไรไหมวันนี้
01:24:49 → 01:24:52 คือวันนี้ส่วนใหญ่องค์ความรู้ก็จะเป็น
01:24:52 → 01:24:56 เรื่องราวที่ว่าแล้วจะกิน low Cup High
01:24:56 → 01:24:57 fat
01:24:57 → 01:24:59 ที่ถูกต้องเหมาะสมเนี่ย
01:24:59 → 01:25:03 เขามีแนวทางแบบไหนมีแนวทางมีรายละเอียดใน
01:25:03 → 01:25:04 แบบไหน
01:25:04 → 01:25:08 ที่จะนำไปสู่การปฏิบัตินะฮะนะ
01:25:08 → 01:25:14 ว่าถ้ากินกินแบบนี้กินแบบถูกต้องใน 1 วัน
01:25:14 → 01:25:16 กินมื้อแรกกินมื้อเย็น
01:25:16 → 01:25:20 ก็จะมีหลักการแบบนี้ที่เห็นโดยเฉพาะรูป
01:25:20 → 01:25:23 ต่างๆนะที่เขากินกันมาแล้วก็เขาได้ผลนะ
01:25:24 → 01:25:32 ครับ
01:25:32 → 01:25:34 ครับผม
01:25:34 → 01:25:37 วันนี้ก็วันนี้เห็นเป็นตัวอย่างเห็นเห็น
01:25:37 → 01:25:40 ภาพชัดขึ้นครับพี่หมอว่ามื้อแรกควรกิน
01:25:40 → 01:25:43 อะไรมื้อที่ 2 คนกินอะไรมันพอมันมีภาพ
01:25:43 → 01:25:47 แล้วมันเออมันเออมันเห็นภาพ
01:25:47 → 01:25:51 เขาบอกว่าเอาน้ำมันมาผสมที่ผมตอนแรกนะ
01:25:51 → 01:25:56 มันจัดไปผสมกับอะไรวะ
01:25:56 → 01:25:58 เออแล้วกินโปรตีนต้องกินเยอะแค่ไหนอะไร
01:25:58 → 01:26:14 อย่างนี้
01:26:14 → 01:26:18 แต่ว่าของพี่หมอเนี่ยให้กินแบบพวกอาหาร
01:26:18 → 01:26:20 ที่มันมีคอเลสเตอรอลเยอะๆเช่นพวกอาหาร
01:26:20 → 01:26:31 ทะเลหอยทะเล
01:26:31 → 01:26:35 เนี่ยส่วนใหญ่
01:26:35 → 01:26:51 คือสายพุงตับกับไฮโลอ่ะ
01:26:51 → 01:26:53 คนพวกนั้นน่ะเขาก็จะกินเนื้อเป็นหลักอยู่
01:26:53 → 01:26:56 แล้วเขาได้โปรตีนอยู่แล้วแต่สายแป้งเนี่ย
01:26:56 → 01:27:00 ส่วนใหญ่เขายังเขายังโปรตีนไม่ค่อยถึงดี
01:27:00 → 01:27:01 นะ
01:27:01 → 01:27:04 ครับเพราะฉะนั้นการเน้นการสร้างกล้าม
01:27:04 → 01:27:07 เนื้อในสายแป้งคือพวกพุงตับโดยเฉพาะภูมิ
01:27:07 → 01:27:10 ตับจะสร้างยากนะ
01:27:10 → 01:27:14 เพราะฉะนั้นสารอาหารหลักในการสร้าง
01:27:14 → 01:27:20 ก็คือโปรตีนโปรตีน
01:27:20 → 01:27:24 ครับโปรตีน
01:27:24 → 01:27:27 แล้วก็เงื่อนไขที่จะสร้างเราก็ต้องไป
01:27:27 → 01:27:30 Workout ไปเวทไปออกกำลังกายไปทำให้กล้าม
01:27:30 → 01:27:31 เนื้อมันบาดเจ็บก่อน
01:27:31 → 01:27:35 แล้วกล้ามเนื้อเกิดในขณะพอดีๆนะไม่ได้ทำ
01:27:36 → 01:27:37 อย่างนั้นท่านจนแบบ
01:27:37 → 01:27:41 เอ่อบาดเจ็บเจ็บปวดรวดร้าวเป็นด่อมเอฟเฟค
01:27:41 → 01:27:43 ใหม่ไม่ใช่นะ
01:27:43 → 01:27:44 คนนี้
01:27:44 → 01:27:47 คือฮอร์โมนเครียดเข้ามาปุ๊บเนี่ยมันก็จะ
01:27:47 → 01:27:49 สร้างไม่ได้อ่ะนะฮะมันจะสร้างกล้ามอะไร
01:27:49 → 01:27:51 ไม่ได้
01:27:51 → 01:27:56 เพราะว่าการออกกำลังกาย
01:27:56 → 01:27:58 ถ้าไม่ออกมึงก็สร้างไม่ได้อีกทำไมไม่มี
01:27:58 → 01:28:03 ตัวกระตุ้นน่ะไม่มีแรงกระตุ้นต้องพอดีๆนะ
01:28:03 → 01:28:06 พี่หมอก็ต้องพอดีแล้วก็ต้องถูกชนิดของ
01:28:06 → 01:28:08 ประเภทกีฬา
01:28:08 → 01:28:11 ส่วนใหญ่ก็คือเวทรีซิสแตนท์
01:28:11 → 01:28:14 [เพลง]
01:28:14 → 01:28:18 กับโปรตีนแต่ทีนี้โปรตีนที่จะเอามาสร้าง
01:28:18 → 01:28:22 กล้ามเนื้อได้ดีๆในคนสายแป้งนะก็คือพวก
01:28:22 → 01:28:24 พุงตับกับไทรอยด์
01:28:24 → 01:28:28 มันไม่ใช่โปรตีนจากเนื้อสัตว์เพียวๆ
01:28:28 → 01:28:32 มันต้องเป็นโปรตีนที่เป็นการคอมบายเขา
01:28:33 → 01:28:36 เรียกโปรตีนคุณภาพจากสัตว์และพืช
01:28:36 → 01:28:40 จากสัตว์และพืชส่วนอัตราส่วนข้อเคาะก็ยัง
01:28:40 → 01:28:44 พูดกันกว้างๆว่าให้พืชมากกว่าสัตว์
01:28:44 → 01:28:46 มากกว่าพืช
01:28:46 → 01:28:53 บางทีเนี่ยสัตว์อาจจะต้อง 60% พืช 40
01:28:53 → 01:28:58 ต้องมีความหลากหลายและมีคุณภาพที่กล้าม
01:28:58 → 01:29:01 เนื้อมันจะลับไปแล้วก็ไปสร้างได้นะฮะ
01:29:01 → 01:29:05 เพราะฉะนั้นแนวทางก็คือเป็นทั้งโปรตีนที่
01:29:05 → 01:29:07 มาจากทั้งสัตว์ทั้งพืช
01:29:07 → 01:29:11 เนี่ยมันจะค่อนข้างหลากหลายและจะเกิด
01:29:11 → 01:29:14 ความพอดีอ่ะที่กล้ามเนื้อเขาจะเอาไปสร้าง
01:29:14 → 01:29:18 ได้แล้วขณะเดียวกันโปรตีนพืชเนี่ยมันจะมี
01:29:18 → 01:29:21 การกระตุ้นอินซูลินทางอ้อม
01:29:21 → 01:29:24 ซึ่งการกระตุ้นอินซูลินของโปรตีนพืชใน
01:29:24 → 01:29:26 มื้อเย็นและมีการ Work out และออกกำลัง
01:29:26 → 01:29:31 กายกล้ามเนื้อมาก่อนมันจะเป็นอินซูลิน
01:29:31 → 01:29:36 ที่ที่มันจะมันจะพยายามเอาสารอาหารทุก
01:29:36 → 01:29:39 อย่างเข้ากล้ามเนื้อเป็นหลัก
01:29:39 → 01:29:43 เป็นอินซูลินประเภทที่จะไปไปทำงานได้ดี
01:29:43 → 01:29:47 เข้ากันได้ดีกับกล้ามเนื้อ
01:29:47 → 01:29:51 เนี่ยโปรตีนพืชตัวนี้สำคัญ
01:29:51 → 01:29:53 [เพลง]
01:29:53 → 01:29:58 อะไรนะถั่วเหลืองน็อตโตะอะไรพวกนี้
01:29:58 → 01:30:02 แต่เราก็ต้องมีโปรตีนผงอยู่ด้วยนะฮะปกติ
01:30:02 → 01:30:05 ผมที่ดีก็จะเป็นโปรตีนดาวอินคา
01:30:05 → 01:30:09 แล้วก็โปรตีนจากจากเมล็ดการโชว์นะแล้วก็
01:30:09 → 01:30:12 อาจจะเป็นโปรตีนผงประเภทที่เป็นโปรตีนรวม
01:30:12 → 01:30:16 ๆอ่ะนะจาก P โปรตีนหรือโปรตีนผงประเภท
01:30:16 → 01:30:18 ถั่วลันเตา
01:30:18 → 01:30:21 โปรตีนจากข้าว
01:30:21 → 01:30:25 แล้วก็โปรตีนจากถั่วเหลืองออแกนิค
01:30:25 → 01:30:27 โปรตีนเหล่านี้
01:30:27 → 01:30:30 อาจจะบวกเวรก็ได้นะฮะเวย์โปรตีน
01:30:30 → 01:30:34 ด้วยก็ได้นะแต่ไม่ต้องเยอะไม่ต้องเยอะมัน
01:30:34 → 01:30:37 เป็นตัวเสริมแล้วเราต้องกินพร้อมกับใน
01:30:37 → 01:30:38 มื้ออาหาร
01:30:38 → 01:30:43 โดยที่จะต้องมีโปรตีนสัตว์เป็นตัวนำ
01:30:43 → 01:30:46 แต่โปรตีนสัตว์ที่จะเอาไปสร้างกล้ามเนื้อ
01:30:46 → 01:30:49 ในกลุ่มคนที่หมอบอกพวกนี้
01:30:49 → 01:30:51 มันจะไม่ใช่โปรตีนสัตว์ใหญ่มันต้องเป็น
01:30:51 → 01:30:55 โปรตีนที่มีคอเลสเตอรอลเยอะๆและมีโอเมก้า
01:30:55 → 01:30:57 3 เยอะๆ
01:30:57 → 01:31:00 เป็นโปรตีนพวกนี้ก็จะอยู่ในสัตว์เล็กอยู่
01:31:00 → 01:31:04 ในไข่อยู่ในสัตว์ปีและส่วนใหญ่อยู่ใน
01:31:04 → 01:31:06 สัตว์น้ำ
01:31:06 → 01:31:08 เป็นมื้อเย็นจึงต้องกิน
01:31:08 → 01:31:14 หอยกินกุ้งกินปูแล้วกินปลาตัวใหญ่ๆที่มี
01:31:14 → 01:31:18 สีเข้มๆ
01:31:18 → 01:31:20 เราก็จะได้
01:31:20 → 01:31:22 ทั้ง
01:31:22 → 01:31:25 กฎอะมิโนในสัตว์กรดอะมิโนในพืชทั้ง
01:31:25 → 01:31:29 คอเลสเตอรอลทั้งแร่ธาตุสารอาหารที่มาจาก
01:31:29 → 01:31:33 Craft
01:31:33 → 01:31:37 พวกนี้มันก็จะเป็นสารอาหารน่ะนะทั้งไปที่
01:31:37 → 01:31:40 สมองในทางพระพุทธทั้งไปที่กล้ามเนื้อแล้ว
01:31:40 → 01:31:42 ก็ไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
01:31:42 → 01:31:46 แต่การสร้างกล้ามเนื้อจะเกิดขึ้นได้ต่อ
01:31:46 → 01:31:51 เมื่อมีการฟีลไกลโคเจนที่ตับให้เต็มเรียบ
01:31:51 → 01:31:52 ร้อยแล้ว
01:31:52 → 01:31:56 หลังจากนั้นถึงจะไปฟิวไกลโคเจนที่กล้าม
01:31:56 → 01:32:00 เนื้อหรือไปสร้างกล้ามเนื้อ
01:32:00 → 01:32:01 [เพลง]
01:32:01 → 01:32:07 ตับต้องมาก่อนนะครับพอตับ
01:32:07 → 01:32:10 พอตับเนี่ยเขาฟิวส์ไก่โคเจนเรียบร้อยแล้ว
01:32:10 → 01:32:13 เนี่ยข้อที่ซ่อนเนี่ยเขาก็จะไม่วุ่นวาย
01:32:13 → 01:32:16 เขาจะไม่มาบล็อกหรือมายับยั้งหรือมาขัด
01:32:16 → 01:32:19 ขวางการสร้างกล้ามเนื้อเพราะว่า
01:32:19 → 01:32:26 เขาแรงกับโปรตีนจากกล้ามเนื้อ
01:32:26 → 01:32:30 แต่ว่าตัวที่จะไปสร้างก็คืออินซูลินนะ
01:32:30 → 01:32:35 แล้วก็โกสฮอร์โมนอินซูล
01:32:35 → 01:32:37 แล้วก็ Test
01:32:37 → 01:32:42 การที่เรากินสัตว์ทะเลการที่เรากินหอยการ
01:32:42 → 01:32:46 ที่เรากินกุ้งการที่เรากินไข่ในมื้อเย็น
01:32:46 → 01:32:51 พวกนี้มันสร้างเทสโซโลนได้เยอะฮะนะมันจะ
01:32:51 → 01:32:53 มีศาล
01:32:53 → 01:32:56 อะไรต่างๆที่เป็นองค์ประกอบในการกระตุ้น
01:32:56 → 01:33:03 การสร้างฮอร์โมนที่จะไปสร้างกล้ามเนื้อ
01:33:03 → 01:33:06 อันนี้พอเข้าใจไหมเออพอเข้าใจครับพี่หมอ
01:33:06 → 01:33:08 เราว่าไอ้พวก
01:33:08 → 01:33:11 อย่างซอยโปรตีนจากถั่วเหลืองอะไรอย่างนี้
01:33:11 → 01:33:14 มันมัน Organic แต่ว่าทั่วไปอันนี้ไม่น่า
01:33:14 → 01:33:16 ใช่ใช่ไหมไม่ใช่ครับ
01:33:16 → 01:33:20 ถ้าจะหาจริงๆต้องหาโปรตีนผงดาวอินคา
01:33:20 → 01:33:24 มีขายใน shopee Lazada บอกจะแน่นกว่า
01:33:24 → 01:33:30 ดีที่สุดเพราะว่าเป็นโปรตีนนะที่มีกรด
01:33:30 → 01:33:35 อะมิโนดีๆในการที่จะเป็นร้าน chain amino
01:33:35 → 01:33:37 Acid
01:33:37 → 01:33:40 ที่จะไปสร้างกล้ามเนื้อนี่แหละนะแล้วมี
01:33:40 → 01:33:43 โอเมก้า 3 dose
01:33:43 → 01:33:47 หมายถึงโปรตีน
01:33:47 → 01:33:53 ส่วนใหญ่ถ้าเป็นโปรตีนผงก็ประมาณ 30 กรัม
01:33:53 → 01:33:56 30-60 กรัม
01:33:56 → 01:33:59 แล้วแต่สภาพร่างกายก็ประมาณ 1 ส่วนหนึ่ง
01:33:59 → 01:34:07 ถึงสองส่วนนะฮะปกติผมโปรตีนพืชเนี่ย
01:34:07 → 01:34:09 แต่ว่าเราเน้นโปรตีนสัตว์เป็นหลัก
01:34:09 → 01:34:13 ก็
01:34:13 → 01:34:17 ก็พวกเนี้ย
01:34:17 → 01:34:20 สัตว์ทะเลข้างในเมื่อกี้ที่เห็นในรูป
01:34:20 → 01:34:24 อยากจ้างกล้ามเนื้อใช่ไหมก็นี่ต้มเลือด
01:34:24 → 01:34:27 หมูนะต้มต้มเครื่องในสัตว์
01:34:27 → 01:34:34 อะไรก็ได้ที่เป็นเครื่องในคอเลส
01:34:34 → 01:34:36 เครื่องในเนี่ยก็คือโปรตีนกับคอเลสเตอรอล
01:34:36 → 01:34:41 ที่มันลื่นๆน่ะที่มันลื่นๆ
01:34:41 → 01:34:43 พวกไส้พวกอะไรพวกนี้
01:34:43 → 01:34:46 โปรตีนพวกนี้เป็นโปรตีนในการสร้างอวัยวะ
01:34:46 → 01:34:47 ของเรา
01:34:47 → 01:34:52 โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ
01:34:52 → 01:34:55 ตอนนั้นผมก็ไปอัดในโปรตีนถั่วเหลืองบ้าง
01:34:55 → 01:34:58 ไปอัดอย่างเงี้ยมันก็ไม่ขึ้นนะพี่หมอ
01:34:58 → 01:35:02 คือเรายิ่งเล่นยิ่งดอมด้วยดอมทุกวันปกติ
01:35:02 → 01:35:05 พืชมันไม่มีคอเลสเตอรอลนะครับโปรตีนพืช
01:35:05 → 01:35:09 ไม่มีคอเลสเตอรอลแล้วก็ไม่มีไขมัน
01:35:09 → 01:35:13 ไขมันดีอ่ะไขมันดีไม่มี
01:35:13 → 01:35:16 โปรตีนพืชไม่มีโอเมก้า 3 อ่ะเราไปอัดถั่ว
01:35:16 → 01:35:18 เหลืองมันก็จะเป็นโอเมก้า 6 คอเลสเตอรอล
01:35:18 → 01:35:22 ก็ไม่มีโอเมก้า 6 ก็ก็ไม่ช่วยไม่ช่วยใน
01:35:22 → 01:35:24 การสร้างอ่ะครับนะ
01:35:24 → 01:35:27 โปรตีนที่มันขายทั่วไปไงแล้วก็ไปฟังหมอ
01:35:27 → 01:35:29 เบิร์ด
01:35:29 → 01:35:32 เขาบอกว่าแบบมันทำให้ตัดมีปัญหาอะไรอย่าง
01:35:32 → 01:35:33 เงี้ยผมก็เลย
01:35:33 → 01:35:35 เออออฟออกไป
01:35:35 → 01:35:38 โปรตีนถั่วเหลืองเนี่ยปัจจุบันต้องเลี่ยง
01:35:38 → 01:35:42 โดยเฉพาะช่วงกินเจ
01:35:42 → 01:35:45 แล้วทีนี้ทำไมมื้อเย็นเนี่ย
01:35:45 → 01:35:49 ต้องกินสิ่งที่หรือสัตว์ที่มีคอเลสเตอรอล
01:35:49 → 01:35:51 เข้าไปเยอะๆเพื่อจะไปสร้างกล้ามเนื้อล่ะ
01:35:51 → 01:35:54 รู้ไหม
01:35:54 → 01:35:57 นั่นสิครับ
01:35:57 → 01:36:00 เพราะว่ากล้ามเนื้อเนี่ยนะ
01:36:00 → 01:36:04 เวลาที่อินซูลินเอาโปรตีนเข้ากล้ามเนื้อ
01:36:04 → 01:36:05 เพื่อจะไปสร้างกล้ามเนี่ย
01:36:05 → 01:36:08 นะ
01:36:08 → 01:36:10 กล้ามเนื้อเขาจะไม่สร้างคอเลสเตอรอลขึ้น
01:36:10 → 01:36:12 มานะเซลล์กล้ามเนื้อก็จะไม่สร้าง
01:36:12 → 01:36:14 คอเลสเตอรอลขึ้นมา
01:36:14 → 01:36:16 เพราะฉะนั้นเราต้องอาศัยคอเลสเตอรอลจาก
01:36:16 → 01:36:19 อาหารจากจาก
01:36:19 → 01:36:23 ไดเอทรี่คอเลสเตอรอลเนี่ยเข้าไปเป็นตัว
01:36:23 → 01:36:30 เป็นตัวเพิ่มที่จะสร้างเซลล์กล้ามเนื้อ
01:36:30 → 01:36:32 [เพลง]
01:36:32 → 01:36:34 คือในเรื่องของกล้ามเนื้อเนี่ย
01:36:34 → 01:36:39 มันมีทริกอยู่บางอย่างนะฮะเอ่อ
01:36:39 → 01:36:41 อย่างว่าเซลล์กล้ามเนื้อเนี่ย
01:36:41 → 01:36:44 เวลาที่เขาจะแพ็คไกลโคเจน
01:36:44 → 01:36:48 นะเค้าไม่ต้องการอินซูลินนะฮะ
01:36:48 → 01:36:50 ภาพ
01:36:50 → 01:36:51 หลุดพอรู้ไหม
01:36:51 → 01:36:54 สมมุติว่าเรามื้อเย็นเนี่ยเราฟิวส์
01:36:54 → 01:36:59 ไกลโคเจนที่ที่ตับเรียบร้อยแล้วนะ
01:36:59 → 01:37:02 แต่มันมันก็จะมีน้ำตาล
01:37:02 → 01:37:05 ที่เหลือนะที่เราอยากจะไปสร้างกล้ามเนื้อ
01:37:05 → 01:37:06 เนี่ย
01:37:06 → 01:37:09 ไอ้น้ำตาลที่จะไปเป็นไกโคเจนที่อยู่ใน
01:37:09 → 01:37:12 กล้ามเนื้อเนี่ยเขาไม่ต้องการอินซูลินพา
01:37:12 → 01:37:15 เข้านะ
01:37:15 → 01:37:20 อินซูลิน
01:37:20 → 01:37:23 ที่จะพา
01:37:23 → 01:37:27 พาสารอาหารเข้ากล้ามเนี่ยนะ
01:37:27 → 01:37:31 เข้าไป
01:37:31 → 01:37:33 เป็นหลักเลยเพราะฉะนั้นเราก็ต้องจับ
01:37:33 → 01:37:36 โปรตีนทั้งพืชทั้งสัตว์โปรตีนคุณภาพที่
01:37:36 → 01:37:40 หมอบอกไปเมื่อกี้แต่
01:37:40 → 01:37:43 นะต้องพ่วงคอเลสเตอรอลเข้าไปด้วย
01:37:43 → 01:37:45 คือเป็นคอเลสเตอรอลจากอาหาร
01:37:45 → 01:37:48 เพราะว่าเซลล์ของกล้ามเนื้อเวลาที่เขาใช้
01:37:48 → 01:37:52 พลังงานแล้วแล้วเวลาเขาจะสร้างเนี่ยนะเขา
01:37:52 → 01:37:55 จะไม่ผลิตคอเลสเตอรอลด้วยตัวเขาเองขึ้นมา
01:37:55 → 01:37:59 ต้องมีคอเลสข้างนอกอ๋อ
01:37:59 → 01:38:01 ครับ
01:38:01 → 01:38:05 สำหรับเกี่ยวกับกล้ามเนื้อที่เขาจะดูแปลก
01:38:05 → 01:38:08 ๆไม่เหมือนใครใช่ผมก็เพิ่งได้ยินเนี่ยฮ่า
01:38:08 → 01:38:12 ๆๆผมได้ยินแต่อัดโป๊วตีนอัดตูดตัวผมก็อัด
01:38:12 → 01:38:15 ใหญ่เลยเช้าเช้าเย็นเช้าเย็น
01:38:15 → 01:38:20 เพราะฉะนั้นอัดได้โปรตีนเนี่ยแต่คุณต้อง
01:38:20 → 01:38:26 มีโปรตีนพื้นฐานจากสัตว์ที่มีคอเลสเตอรอล
01:38:26 → 01:38:29 [เพลง]
01:38:29 → 01:38:32 แล้วก็เราไม่ได้กินเป็นเนื้อสัตว์ใหญ่พอ
01:38:32 → 01:38:36 เนื้อสัตว์ใหญ่มันมีไขมันสูง
01:38:36 → 01:38:41 เราก็ไปกินเนื้อสัตว์สัตว์เล็กหรือสัตว์
01:38:41 → 01:38:42 น้ำแบบที่บอก
01:38:42 → 01:38:46 [เพลง]
01:38:46 → 01:38:51 ไขมันสูงก็ไปกินมื้อแรก
01:38:51 → 01:38:59 ก็ต่างกันน่ะมื้อแรกกับมื้อเย็นนะ
01:38:59 → 01:39:03 ผมทำกับการให้หมอเราไปกินเนื้อสัตว์ใหญ่
01:39:03 → 01:39:05 ในมื้อเย็นผลสุดท้ายนอนไม่หลับพี่หมอแล้ว
01:39:05 → 01:39:09 ก็เล่นก็เล่นจนดอมนะคือเราก็เข้าใจว่าดอม
01:39:09 → 01:39:12 นี่มันคือกล้ามเนื้อมันมันน่าจะเสียหาย
01:39:12 → 01:39:16 เนอะ
01:39:16 → 01:39:19 ที่ไหนได้ยิ่งกินสัตว์ใหญ่ในมื้อเย็น
01:39:19 → 01:39:24 โอกาสที่จะได้ 46 พามิติแล้วไปกระตุ้น
01:39:24 → 01:39:43 คอติซอลเยอะนั่นแหละ
01:39:43 → 01:39:46 เอาไปปิ้งด้วยนะ
01:39:46 → 01:39:52 เอ่อริดสีดวงเลย
01:39:52 → 01:39:57 นะหมายถึงเราก็บุฟเฟ่ต์ตอนเย็นนะ
01:39:57 → 01:40:01 กินไม่เป็นกินมั่วเออ
01:40:01 → 01:40:06 จัดเต็มเลย
01:40:06 → 01:40:10 ก็ต้องมารื้อรื้อระบบความคิดรื้อรูปแบบ
01:40:10 → 01:40:12 การกินอะไรกันใหม่อะไรเงี้ยแล้วผมก็ไม่
01:40:12 → 01:40:14 ได้วันมีวันละ
01:40:14 → 01:40:42 ไม่พอ
01:40:42 → 01:40:47 ถ้าเกิดว่าเราเพิ่งเข้ามาใหม่ๆหรือเรายัง
01:40:47 → 01:40:50 มีอะไรบางสิ่งบางอย่างที่มันไม่ถูกต้อง
01:40:50 → 01:40:55 ไม่เหมาะสมหรือยังราคาอยู่ในใจละอธิบาย
01:40:55 → 01:41:01 ดูไปนะแล้วก็ดูตามสื่อการสอนที่เอามานำ
01:41:01 → 01:41:03 เสนอพวกนี้
01:41:03 → 01:41:07 ก็ชัดขึ้นเรื่อยๆนะครับแต่ตอนอ่านจากอ่า
01:41:07 → 01:41:10 ที่คุณหมอเขียนอ่ะนะตอนนี้พอเริ่มมีภาพ
01:41:10 → 01:41:13 เริ่มมีเสียงผมว่าน่าจะเข้าใจกันง่ายแล้ว
01:41:13 → 01:41:16 ก็มากขึ้นนะครับ
01:41:16 → 01:41:19 ที่มีแนวโน้มที่จะต้องทำอีกเรื่องนึงก็
01:41:19 → 01:41:22 คือพวกการกินอาหารนิดนึงวันน่ะเรื่องมื้อ
01:41:22 → 01:41:25 แรกกับมื้อเย็นนะฮะ
01:41:25 → 01:41:30 แล้วก็ความสำคัญของ Craft ต่างๆนะว่าแม้
01:41:30 → 01:41:33 ว่าจะ low cap เราก็ตามเนี่ย
01:41:33 → 01:41:35 แต่ Craft เนี่ย
01:41:35 → 01:41:36 เขา
01:41:36 → 01:41:41 ในระยะยาวเนี่ยเขาเขาก็ต้องมีอ่ะต้องได้
01:41:41 → 01:41:46 เออต้องได้นะตัดครับนานๆร่างกายขาด
01:41:46 → 01:41:48 คาร์ฟอร์ฮอร์โมนบางอย่างมันก็รวน
01:41:48 → 01:41:52 ที่เราก็รู้ว่าไทรอยด์โปรเจสเตอโรน
01:41:52 → 01:41:57 แล้วก็เล็บที่
01:41:57 → 01:42:04 ส่วนหนึ่งของความไม่อิ่มนะ
01:42:04 → 01:42:07 เยื่อไขมันเนี่ยมันจะสร้างฮอร์โมนเล็บตีน
01:42:07 → 01:42:08 ออกมา
01:42:08 → 01:42:11 แล้วทำให้เรารู้สึกอิ่ม
01:42:11 → 01:42:14 การกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนและดินของนี้ไข
01:42:14 → 01:42:22 มันมันต้องมี cap เป็นตัวเป็นจุดประกาศ
01:42:22 → 01:42:26 ก่อนแล้วถึงจะตามด้วยเล็บอ่ะ
01:42:26 → 01:42:29 มันก็ต้องมี Craft นิดๆหน่อยๆนิดๆหน่อยๆ
01:42:29 → 01:42:34 อ่ะนะฮะไปแอดบางสิ่งบางอย่างในปฏิกิริยา
01:42:34 → 01:42:38 เอ่อของฮอร์โมนของร่างกายเรา
01:42:38 → 01:42:42 ไม่ต้องเยอะแต่จุดประกายพอใช่คืออินซูลิน
01:42:42 → 01:42:43 เนี่ย
01:42:43 → 01:42:49 มันมีผลต่อในในทุกอย่างนะฮะเราถึงได้ยก
01:42:49 → 01:42:51 ย่องเค้าว่ามันเป็นอะไรอ่ะ King of
01:42:51 → 01:42:55 hormone น่ะหรือเป็นพ่อบ้านเนอะเขาก็
01:42:55 → 01:42:57 เข้าไปอยู่ในทุกปฏิกิริยาที่เกี่ยวกับ
01:42:57 → 01:43:00 เรื่องฮอร์โมนนะ
01:43:00 → 01:43:04 ก็เลยมีความสำคัญมากๆนะฮอร์โมนอื่นๆ
01:43:04 → 01:43:07 ฮอร์โมนที่มีความสำคัญรองๆไปจากอินซูลิน
01:43:07 → 01:43:09 กับคอร์ติซอล
01:43:09 → 01:43:11 ก็ยังต้องขึ้นอยู่กับพ่อขึ้นอยู่กับ
01:43:11 → 01:43:15 อินซูลินอยู่ดี
01:43:15 → 01:43:22 แล้วก็รู้จักที่จะใช้ให้เป็น
01:43:22 → 01:43:27 ความเข้าใจ
01:43:27 → 01:43:35 มันๆมันมันก็ต้องมีความละเอียด
01:43:35 → 01:43:38 วันนี้ก็คงจะประมาณนี้เนอะ
01:43:38 → 01:43:42 เราทบทวนกันดูนะเป็นเรื่องที่จะต้อง
01:43:42 → 01:43:44 เกี่ยวเนื่องกันนะ
01:43:45 → 01:43:47 ก็ดูให้เข้าใจฟังให้เข้าใจ
01:43:47 → 01:43:51 นะโอเคสวัสดีนะทุกคนสวัสดีครับ
01:43:51 → 01:43:54 สวัสดีครับ
01:43:54 → 01:44:14 [เพลง]
01:44:14 → 01:44:24