00:00:06 → 00:00:10 เป็นการปรุงประกอบอาหารให้สุกโดยใช้ความ
00:00:10 → 00:00:13 ร้อนจากไอน้ำจะช่วยคงคุณค่าของสารอาหาร
00:00:13 → 00:00:17 ไว้เนี่ยได้ดีกว่าการต้มสงวนคุณค่าทาง
00:00:17 → 00:00:19 อาหารหรือทางสารอาหารได้ดีกว่าการต้มแต่
00:00:19 → 00:00:23 ถ้านึ่งนานบางทีก็จะสูญเสียไปมากมันขึ้น
00:00:23 → 00:00:26 อยู่กับระยะเวลาการนึ่งด้วยถ้าต้มเนี่ย
00:00:26 → 00:00:29 มันจะทำให้สารอาหารถูกละลายออกไปถ้าทอด
00:00:29 → 00:00:33 นี่ยิ่งไปใหญ่เลยนะนึกออกไหมบางคนชอบแต่
00:00:33 → 00:00:35 สารอาหารที่ถูกทำลายถูกละลายไปแล้วกระบวน
00:00:35 → 00:00:39 การนึ่งเนี่ยจะสงวนคุณค่าคงคุณค่าของสาร
00:00:39 → 00:00:41 อาหารไว้ได้มากที่สุด
00:00:41 → 00:00:45 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:45 → 00:00:51 การโรงหมอดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:51 → 00:00:55 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:55 → 00:00:57 การโรงหมอทาง Thai PBS podcast ค่ะวัน
00:00:57 → 00:01:00 นี้เรามาพบกันเช่นเคยติดตามสาระวันนี้เรา
00:01:00 → 00:01:02 จะคุยกันถึงเรื่องของการปรุงอาหารอย่างไร
00:01:02 → 00:01:06 ให้สารอาหารยังคงอยู่นะคะเดี๋ยวคุยกับผู้
00:01:06 → 00:01:09 ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชจาก
00:01:09 → 00:01:11 วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัย
00:01:11 → 00:01:14 ธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะครับ
00:01:14 → 00:01:17 สวัสดีครับผมวันนี้คุยกันถึงเรื่องของการ
00:01:17 → 00:01:19 ปรุงอาหารยังไงให้สารอาหารยังคงอยู่เพราะ
00:01:19 → 00:01:21 ว่าเคยคุยกับอาจารย์มาหลายต่อหลายครั้ง
00:01:21 → 00:01:24 บางทีก็ลงๆลืมๆบ้างแหละอาจารย์ว่าเอ๊ะ
00:01:24 → 00:01:28 อาหารบางอย่างถ้าเอาไปปรุงประกอบอาหารโดย
00:01:28 → 00:01:32 ใช้ความร้อนสูงๆแร่ทานวิตามินอะไรก็จะสูญ
00:01:32 → 00:01:34 เสียไปได้ง่ายหรือบางอย่างแค่ยังไม่ได้
00:01:34 → 00:01:37 ปรุงเลยเธอก็สามารถมาลายหายไปได้พร้อมกับ
00:01:37 → 00:01:41 แสงที่แต่อย่างแสงแดดอย่างนี้หรือความ
00:01:41 → 00:01:44 ร้อนอะไรอย่างนี้หายไปได้ก็เลยไม่แน่ใจ
00:01:44 → 00:01:46 ว่าเอ๊ะเอาอย่างนี้ดีกว่าเรื่องนี้น่าคุย
00:01:46 → 00:01:49 มากเพราะว่าถ้าจะปรุงประกอบอาหารจะผัดต้ม
00:01:49 → 00:01:52 นึ่งทอดหรืออะไรก็แล้วแต่นะคะหรือจะรูป
00:01:52 → 00:01:54 แบบอะไรก็แล้วแต่เนี่ยทำยังไงให้สารอาหาร
00:01:54 → 00:01:57 มันยังคงอยู่คือเราจะต้องทำอย่างถูกวิธี
00:01:57 → 00:02:02 ไหนๆก็จะกินแล้วก็ต้องกินอย่างดีถูกวิธี
00:02:02 → 00:02:05 ในอาจารย์เพราะกระบวนการปรุงประกอบอาหาร
00:02:05 → 00:02:08 มีความสำคัญมากอาจารย์ต้องบอกก่อนว่าต่อ
00:02:08 → 00:02:12 ให้อาหารคุณเนี่ยดีแค่ไหนแต่กระบวนการ
00:02:12 → 00:02:15 องค์ประกอบเนี่ยมันไปทำลายคุณค่าทางสาร
00:02:15 → 00:02:18 อาหารทั้งโภชนาการ
00:02:18 → 00:02:21 กลายเป็นว่าร่างกายของเราเนี่ยแทนที่จะ
00:02:21 → 00:02:23 ได้ประโยชน์เต็มที่มันก็ไม่เต็มที่แล้ว
00:02:23 → 00:02:28 ถ้าคุณมองง่ายๆเนาะอาหารอย่างนี้คุณค่า
00:02:28 → 00:02:31 ทางโภชนาการสูงแต่องค์ประกอบไปทำลายเรา
00:02:31 → 00:02:34 ได้รับก็ไม่ดีแล้วในขณะเดียวกันต่อให้
00:02:34 → 00:02:40 อาหารดีนะองค์ประกอบดีแต่การย่อยการดูด
00:02:40 → 00:02:41 ซึมเราไม่ดี
00:02:41 → 00:02:45 เป็นไงครับมันก็เข้าสู่ร่างกายไม่ดีถูก
00:02:45 → 00:02:49 ไหมแล้วมันก็หลายปัจจัยต่อให้อาหารดีปรุง
00:02:49 → 00:02:52 ประกอบดีการย่อยการดูดซึมดีแต่เซลล์ใน
00:02:52 → 00:02:56 ร่างกายเอาไปใช้ได้ไม่ดีแม้แต่ไม่ดีเห็น
00:02:56 → 00:02:58 ไหมมันเป็นทั้งกระบวนการถูกต้องฉะนั้น
00:02:58 → 00:03:01 แล้วอีกหนึ่งจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญก็คือ
00:03:01 → 00:03:04 เรื่องของการปรุงประกอบอาหารไม่ว่าจะเป็น
00:03:04 → 00:03:10 การนึ่งการต้มการตุ๋นนะการรั่วการผัดการ
00:03:10 → 00:03:13 ทอดเยอะมากหลายกระบวนการประกอบแน่นอน
00:03:13 → 00:03:18 เรื่องของความร้อนเรื่องของแสงนะครับมัน
00:03:18 → 00:03:21 มีผลต่อคุณค่าทางโภชนาการที่ลดน้อยลงอยู่
00:03:21 → 00:03:25 แล้วนะแต่เราจะทำยังไงให้มันลดน้อยลงน้อย
00:03:25 → 00:03:28 ที่สุดคงคุณค่าทางโภชนาการไว้ให้ได้มาก
00:03:28 → 00:03:31 ที่สุดอย่างที่คุณรีบบอกเนาะว่าแต่ละ
00:03:31 → 00:03:36 กระบวนการเนี่ยมันก็จะมีผลต่อการเอ่อทำ
00:03:36 → 00:03:39 ให้คุณค่าทางผู้ชนะการเนี่ยลดน้อยลงอ่า
00:03:39 → 00:03:42 แต่ทำไงให้มันคงคุณค่ารถน้อยที่สุดนะครับ
00:03:42 → 00:03:45 ถ้าดูกระบวนการแรกสุดเลยก็คือเรื่องของ
00:03:45 → 00:03:48 การนึ่งนึ่งเนี่ยเป็นการปรุงประกอบอาหาร
00:03:48 → 00:03:52 ให้สุกโดยใช้ความร้อนจากไอน้ำ
00:03:52 → 00:03:57 นึกออกใช่ไหมครับ
00:03:57 → 00:04:01 อันนี้เนี่ยจะช่วยคงคุณค่าของสารอาหารไว้
00:04:01 → 00:04:05 เนี่ยได้ดีกว่าการต้มถูกต้องครับเพราะการ
00:04:05 → 00:04:11 นึ่งมันใช้ไอน้ำร้อนๆโดนตัวมันโดยลงไปแช่
00:04:11 → 00:04:14 โดยตรงเลยสารอาหารก็โดนทำลายโดนละลายออก
00:04:14 → 00:04:16 ไปด้วยนึกภาพออกใช่ไหมครับอันนี้ก็จะเป็น
00:04:16 → 00:04:20 ความร้อนเหมือนเรานึ่ง
00:04:20 → 00:04:24 อ่าหม้อนึ่งนึกนึกถึงซึ้งนึ่งทีไรก็จะนึก
00:04:24 → 00:04:29 ถึงไงติ่มซำทุกทีทุกทีสารภาพ
00:04:29 → 00:04:34 จริงๆก็จะใช้ความร้อนที่ทำให้สุกเนี่ยจาก
00:04:34 → 00:04:37 ไอน้ำก็จะช่วยในการที่จะสงวนคุณค่าทาง
00:04:37 → 00:04:40 อาหารหรือทางสารอาหารได้ดีกว่าการต้มแต่
00:04:40 → 00:04:43 ถ้านึ่งนานบางทีก็จะสูญเสียไปมากมันขึ้น
00:04:43 → 00:04:47 อยู่กับระยะเวลาการนึ่งด้วยนะข้อดีของการ
00:04:47 → 00:04:49 นึ่งคือมันทำให้อ่อนนุ่มเพราะไอน้ำมันก็
00:04:49 → 00:04:52 จะแทรกซึมเข้าไปนึกออกใช่ไหมครับเนื้อ
00:04:52 → 00:04:55 สัมผัสมันก็จะนุ่มเพราะมันจะมีน้ำเนี่ย
00:04:55 → 00:04:58 แทรกซึมเข้าไปด้วยมันคนละเรื่องกับเอาไป
00:04:58 → 00:05:01 อบในไมโครเวฟ
00:05:01 → 00:05:07 ปลานึ่งนุ่มถูกไหมครับอ่าถ้าต้มมันก็อีก
00:05:07 → 00:05:10 อย่างนึงนะถ้าต้มเนี่ยมันจะทำให้สารอาหาร
00:05:10 → 00:05:14 เนี่ยถูกละลายออกไปถูกไหมครับนึกออกใช่
00:05:14 → 00:05:17 มั้ยครับอ่าถ้าทอดนี่ยิ่งไปใหญ่เลยนะนึก
00:05:17 → 00:05:20 ออกมั้ยแข็งด้วยอย่างเงี้ยแต่ก็ชอบมัน
00:05:20 → 00:05:23 กรอบไงบางคนชอบแบบกรอบแต่สารอาหารมันถูก
00:05:23 → 00:05:26 ทำลายถูกละลายไปแล้วกระบวนการนึ่งเนี่ยจะ
00:05:26 → 00:05:29 ทำลายเอ่อสงวนคุณค่าคงคุณค่าของสารอาหาร
00:05:29 → 00:05:31 ไว้ได้มากที่สุด
00:05:31 → 00:05:35 แต่ถ้าอาหารนึ่งบางอย่างมันไม่เหมาะกับ
00:05:35 → 00:05:37 การเอามานึ่งนะอาจารย์ถูกต้องมันจะไม่สุก
00:05:37 → 00:05:40 เอาอดีตมันก็จะขึ้นอยู่กับระยะเวลาด้วยไง
00:05:40 → 00:05:43 ครับวันหนึ่งยังไงแบบว่าให้สุกนะครับคน
00:05:43 → 00:05:45 ส่วนใหญ่ก็เลยอ่ะงั้นถ้าไม่นึ่งล่ะก็ไม่
00:05:45 → 00:05:48 นึ่งก็เอามาลวกไหมหรือเอามาต้มแล้วเนี่ย
00:05:48 → 00:05:51 ถ้าจะลวกจะต้มเนี่ยต้องน้ำน้อยๆพอแค่ท่วม
00:05:51 → 00:05:54 วัตถุดิบแล้วรอให้น้ำเดือดก่อนนะครับถึง
00:05:54 → 00:05:57 จะใส่วัตถุดิบลงไปเราไม่ชอบถูกต้องไม่ใช่
00:05:57 → 00:06:02 เฮ้ยฉันแบบจะแบบแช่วัตถุดิบไปพร้อมกับน้ำ
00:06:02 → 00:06:06 เลยแล้วก็ต้มมันก็ถูกสูญสลายเลย
00:06:06 → 00:06:08 ไปนึกออกไหมครับแล้วการต้มเนี่ยเราต้อง
00:06:08 → 00:06:11 ใช้น้ำน้อยน้ำแค่พอท่วมแล้วใช้เวลาอย่าง
00:06:11 → 00:06:13 รวดเร็วน้ำเดือดปุ๊บรีบลงไปรั่วรีบลงไป
00:06:13 → 00:06:17 ต้มเหมือนผักรวกผักต้มนึกออกไหมครับอ่าพอ
00:06:17 → 00:06:19 ทำให้สุกสมมุติว่าเป็นวัตถุดิบสมมุติว่า
00:06:19 → 00:06:22 เฮ้ยเราต้องการที่จะแบบต้มอย่างเงี้ยครับ
00:06:22 → 00:06:25 เหลือสัตว์ชิ้นใหญ่ก็ให้ใส่เข้าไปเลยทั้ง
00:06:25 → 00:06:27 ชิ้นนะครับแล้ว
00:06:27 → 00:06:30 นำขึ้นมาหั่นเป็นชิ้นเล็กเพื่อคงคุณค่า
00:06:30 → 00:06:33 แล้วค่อยดูว่าเฮ้ยไอ้ชิ้นเล็กเนี่ยมันสุก
00:06:33 → 00:06:36 ดีหรือยังข้างในสุกยังถ้ายังไม่สุกลงไป
00:06:36 → 00:06:43 รั่วอ๋อจากการที่จะแบบว่าเป็นที่จริง
00:06:44 → 00:06:47 แหละถูกต้องสมมุติว่าเอาง่ายๆเนื้อหมู
00:06:47 → 00:06:49 เนื้อปลาถ้าหั่นเป็นชิ้นแล้วลงไปเลยที
00:06:49 → 00:06:54 เดียวความสัมพันธ์กูรีนึกออกมั้ยพื้นผิว
00:06:54 → 00:06:59 ในการสัมผัสมันก็ความร้อนแล้วสลายสาร
00:06:59 → 00:07:04 อาหารและน้ำที่มันมาละลายไปหมดออกไปหมด
00:07:04 → 00:07:08 วิตามงวิตามิน 3 อาหารและธาตุละลายไปหมด
00:07:08 → 00:07:10 เพราะฉะนั้นจะลวกหรือต้มต้องน้ำเดือดก่อน
00:07:10 → 00:07:14 น้ำเดือดแล้วทิ้งใหญ่ๆลงไปแล้วค่อยเอามา
00:07:14 → 00:07:16 หั่นถ้าหั่นปุ๊บแล้วแบบว่ามันยังไม่สุกดี
00:07:16 → 00:07:22 ก็เป็นรั่วถูกต้อง
00:07:22 → 00:07:26 มันก็จะคงคุณค่าของสารอาหารไว้ดีกว่านะ
00:07:26 → 00:07:29 ครับอ่าทั้งเนื้อสัตว์ทั้งผักทั้งหลาย
00:07:29 → 00:07:30 แหล่แต่
00:07:30 → 00:07:33 ไอ้น้ำที่เราต้มเนี่ย
00:07:33 → 00:07:37 สารอาหารคืออยู่ในน้ำซุปแล้วถึงเห็นไอ้
00:07:37 → 00:07:40 ซุปหมูซุปไก่ซุปโค้งอะไรทั้งหลายแหล่
00:07:40 → 00:07:43 เนี่ยโอ้โหคุณค่ามันสูงไงเค้าถึงมาทำน้ำ
00:07:43 → 00:07:47 สต๊อกน้ำซุปขายกันราคาสูงสุดอ่ะเพราะคุณ
00:07:47 → 00:07:49 ค่าทางโภชนาการสูงนะครับแร่ธาตุเนี่ยมี
00:07:49 → 00:07:52 อยู่สูงมากอยู่ในนั้นอยู่ในพวกน้ำเหล่า
00:07:52 → 00:07:55 เนี้ยอ่าไอน้ำซุปทั้งหลายแหล่เนี่ยแล้ว
00:07:55 → 00:07:58 เนี่ยเวลาเราทำอาหารเนี่ยบางทีเราแบบแต่
00:07:58 → 00:08:01 ถ้าเราใส่น้ำซุปเอ่อ
00:08:01 → 00:08:03 น้ำเยอะอ่ะมันก็ละลายเยอะบางทีเรากินกิน
00:08:03 → 00:08:07 ไม่หมดอ๋อก็คือเค้าถึงบอกว่าให้แบบว่าเออ
00:08:07 → 00:08:11 แค่ปริ้นๆใช่พอแค่ท่วมอ่าไม่งั้นเนี่ย
00:08:11 → 00:08:16 โอ้โหแบบละลายเยอะมากนะครบทั้งหม้อไม่หมด
00:08:16 → 00:08:21 ก็เอาให้มันแบบน้อยหน่อยพอดีแล้วสารอาหาร
00:08:21 → 00:08:25 คุณค่าทางโภชนาการมันก็อยู่น้ำซุปด้วยแต่
00:08:25 → 00:08:27 ไม่ใช่ว่ามันจะอยู่ครบทั้งร้อยนะส่วน
00:08:27 → 00:08:30 หนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าความร้อนน่ะมันไป
00:08:30 → 00:08:32 มีผลทำลาย
00:08:32 → 00:08:35 พวกสารอาหารต่างๆแต่สารอาหารหลักยังอยู่
00:08:35 → 00:08:38 คาร์โบไฮเดรตยังอยู่โปรตีนยังอยู่ไขมัน
00:08:38 → 00:08:42 ยังอยู่ความร้อนไม่ไม่มาทำลายไม่เหมือน
00:08:42 → 00:08:43 กับ
00:08:43 → 00:08:49 วิตามินวิตามินจะมีความไวนะต่อพวกแสงความ
00:08:49 → 00:08:52 ร้อนนะครับทั้งหลายแหล่มันก็จะมีผลทำให้
00:08:52 → 00:08:54 สูญสลายไปนะครับบางตัวก็อาจจะสูญสลายไป
00:08:54 → 00:09:00 เออ 50% บางตัวอาจจะ 70% โอ้
00:09:00 → 00:09:03 แต่ก็ยังดีมันก็ยังได้นึกออกมั้ยดีกว่า
00:09:03 → 00:09:06 ไม่ได้เลยแต่ดีกว่ากินเข้าไปแล้วเป็น
00:09:06 → 00:09:08 วิญญาณอย่างเงี้ยแต่มันก็ได้น้อยไปหน่อย
00:09:08 → 00:09:13 นะคะอาจารย์ก็ต้องกินให้เยอะขึ้นค่ะ
00:09:13 → 00:09:17 อันนี้เป็นวิธีการแบบว่าเอ้ยที่เราเอามา
00:09:17 → 00:09:20 ร่วมมาต้มอะไรอย่างเงี้ยอ่าแต่ถ้าเกิดผัด
00:09:20 → 00:09:22 ควรจะหั่นเพื่อให้สุกเร็วไม่ใช้เวลานาน
00:09:22 → 00:09:25 เพราะความร้อนมันจะแบบว่าขึ้นมาสูงแล้ว
00:09:25 → 00:09:28 ส่วนใหญ่เนี่ยผัดเหมือนเราผัดผักบุ้งไฟ
00:09:28 → 00:09:31 แดงผัดอะไรพวกนี้ครับอ่าคือร้อนแล้วก็
00:09:31 → 00:09:33 เร็วแป๊บเดียวพรึบขึ้นมาเลยอย่างเงี้ย
00:09:33 → 00:09:36 ครับอ่าหรือบางคนก็อาจจะใช้วิธีแบบให้สุก
00:09:36 → 00:09:40 เร็วขึ้นนะฮะก็เอาฝามาปิดไว้นะครับไม่ให้
00:09:40 → 00:09:43 มันแบบว่าใช้เวลานานนะใช้เวลานานมันแบบ
00:09:43 → 00:09:46 กว่าจะสุกมันก็กลายเป็นว่าทำลายคุณค่าไป
00:09:46 → 00:09:49 แบบว่าเยอะด้วยนะครับฉะนั้นแล้วเนี่ยเอ่อ
00:09:49 → 00:09:53 วิธีการผัดเนี่ยมันก็มันก็ต้องแบบว่าร้อน
00:09:53 → 00:09:59 และก็ไม่นานมากอืมอ่าคือนานมากเนี่ยมันก็
00:09:59 → 00:10:02 จะมีผลบางทีน้ำมุงน้ำมันที่เราเลือกใช้ก็
00:10:02 → 00:10:04 มีความสำคัญนะครับในการผัดกำลังจะถาม
00:10:04 → 00:10:05 อาจารย์อยู่เลยว่าถ้าเกิดจะผัดเนี่ยต้อง
00:10:05 → 00:10:08 เป็นน้ำมันต้องเป็นน้ำมันในกลุ่มของไขมัน
00:10:08 → 00:10:12 ที่เอ่อไม่อิ่มตัวอ่าไขมันที่ไม่อิ่มตัว
00:10:12 → 00:10:14 ตำแหน่งอย่างเดียวนะครับพวกนี้ก็จะมีพวก
00:10:14 → 00:10:20 ในน้ำมันรำข้าวน้ำมันเมล็ดชานะครับน้ำมัน
00:10:20 → 00:10:24 คาโนล่าแต่ถ้าเอาง่ายสุดบ้านเราก็คือน้ำ
00:10:24 → 00:10:28 มันรำข้าวดีแหละนะครับจะเป็นไขมันที่เป็น
00:10:28 → 00:10:31 แหล่งของพวกโอเมก้า 9 เนาะน้ำมันมะกอกก็
00:10:31 → 00:10:34 ผัดได้แต่ไม่ควรจะโดนความร้อนนาน
00:10:34 → 00:10:38 แล้วมันมากรอกก็จะเป็นแหล่งของไขมันที่ดี
00:10:38 → 00:10:41 นะครับพวกนี้ก็จะมีผลครับเพราะว่าไอ้น้ำ
00:10:41 → 00:10:43 มันเนี่ยบางอย่างเนี่ยผักบางอย่างเนี่ย
00:10:43 → 00:10:45 มันจะมีพวก
00:10:45 → 00:10:47 สาร
00:10:47 → 00:10:50 อาหารหรือสารพฤกษศาสตร์เคมีที่มันละลาย
00:10:50 → 00:10:53 ได้ในไขมัน
00:10:53 → 00:10:55 แล้วการปรุงประกอบเนี่ย
00:10:55 → 00:10:58 มันมีผลในการที่ทำให้ร่างกายของเราเนี่ย
00:10:58 → 00:11:00 ดูดซึมเราเอาไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้นเช่น
00:11:00 → 00:11:02 ในกลุ่มของ
00:11:02 → 00:11:04 แคโรทีนอยด์ในกลุ่มของวิตามินเออย่าง
00:11:04 → 00:11:09 เบต้าแคโรทีนพวกนี้ครับผมมากในผักบุ้งเรา
00:11:09 → 00:11:11 บอกว่าเฮ้ยเราเอาผักบุ้งไปลวกกับผักบุ้ง
00:11:11 → 00:11:13 ไปผ่าผัก
00:11:13 → 00:11:16 ผักบุ้งผัดเนี่ยร่างกายดูดซึมแล้วเอาไป
00:11:16 → 00:11:17 ใช้ประโยชน์
00:11:17 → 00:11:21 ไอ้เจ้าเบต้าแคโรทีนหรือวิตามินเอได้สูง
00:11:21 → 00:11:25 กว่านะครับเพราะมันมีน้ำมันไงเราได้รับไป
00:11:25 → 00:11:28 พร้อมน้ำมันวิตามินเอเนี่ยสารอาหารที่
00:11:28 → 00:11:32 อยู่ในผักบุ้งเนี่ยมันจะหรือตำลึงอย่าง
00:11:32 → 00:11:35 นี้มันก็จะมีน้ำมัน
00:11:35 → 00:11:40 เป็นตัวช่วยในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
00:11:40 → 00:11:44 แต่ถ้าเรากินผักบุ้งเฉยๆผักบุ้งลวกอย่าง
00:11:44 → 00:11:47 นี้มันก็ได้แหละอารมณ์ฟิลใส่ในก๋วยเตี๋ยว
00:11:47 → 00:11:50 ถูกต้องแต่จะได้น้อยกว่าไงก๋วยเตี๋ยวเขา
00:11:50 → 00:11:55 ก็เลยมีน้ำมันเจียว
00:11:55 → 00:11:59 มากเลย
00:11:59 → 00:12:02 ไขมันไงมันก็ช่วยในการดูดซึมแสดงว่าเรา
00:12:02 → 00:12:04 กินถูกมาตลอดเออ
00:12:04 → 00:12:08 มิติของการดูดซึมสารอาหาร
00:12:08 → 00:12:12 ผัดมีน้ำมันแล้วไขมันที่ดีมาช่วยในการดูด
00:12:12 → 00:12:16 ซึมวิตามินที่ละลายในน้ำเอ่อ a d e k
00:12:16 → 00:12:18 ทั้งหลายแหล่เนี่ยจะดูดซึมแล้วเอาไปใช้
00:12:18 → 00:12:21 ได้ดีแต่กว่าที่ไม่มีไขมัน
00:12:21 → 00:12:24 แตกแคลอรี่มันจะสูงแต่ก็ไม่ได้หมายความ
00:12:24 → 00:12:26 ว่าพ่อค้าแม่คายนะคะทำกับข้าวแต่น้ำมัน
00:12:26 → 00:12:30 เยิ้มนะคะจะเยอะเลยอยากเยิ้มหยุดย้อยเลย
00:12:30 → 00:12:32 เดี๋ยวแบบคุณหมอเข้าไปด้วยเอาน้ำมันเข้า
00:12:32 → 00:12:35 ไปด้วยนี่ไงช่วยดูดซึมวิตามินแต่พุงพลุ้ย
00:12:35 → 00:12:38 เลยทีนี้นะจริงๆกันแบบว่าอ้วนพีมีพุงก็
00:12:38 → 00:12:42 ไม่ได้ก็ไม่ได้แนะนำเลือกชนิดของน้ำมัน
00:12:42 → 00:12:45 ที่ดีแล้วก็เอ้ยกินน้อยแต่มันกินได้นะน้ำ
00:12:45 → 00:12:46 มันน่ะ
00:12:46 → 00:12:50 เข้าใจคือนี่ขนาดคุยกับอาจารย์มาหลายปีดี
00:12:50 → 00:12:52 มากๆนะยังกินผิดกินถูกอยู่เลยทุกวันนี้
00:12:52 → 00:12:53 เนี่ย
00:12:53 → 00:12:56 พยายามเรียกน้ำมันดิเอาแต่เขาเรียกว่า
00:12:56 → 00:13:00 อะไรนะแบบบีบน้ำมันออกอันนี้จะดีกว่า
00:13:00 → 00:13:03 เลี่ยงเลยเพราะวันนึงยังไงเขาก็แค่กินได้
00:13:03 → 00:13:05 ครับวันนึงอ่ะ 6 ช้อนชาน้ำมันเนี่ย
00:13:05 → 00:13:07 อาจารย์แล้วถ้าเกิดสมมุติเราไปใช้น้ำมัน
00:13:07 → 00:13:11 ที่ไม่ได้เหมาะกับการเอามาทอดอ่ะเอามาผัด
00:13:11 → 00:13:14 อ่ะมีปัญหาอะไรไหมคะแล้วมันบางชนิดมันไม่
00:13:14 → 00:13:16 เหมาะสำหรับการเอามาผัดคือผัดแล้วจะทำให้
00:13:16 → 00:13:17 เกิด
00:13:17 → 00:13:21 อนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นอย่างนี้เกิดสาร
00:13:21 → 00:13:25 ที่แบบเพราะว่ามันมันเป็นน้ำมันที่ถ้าเรา
00:13:25 → 00:13:29 มองสารพวกก่อมะเร็งอย่างเงี้ยสมมุตินะไม่
00:13:29 → 00:13:31 เหมาะอ่ะมันทนความร้อนได้ไม่ดีแล้วคุณมา
00:13:31 → 00:13:33 ผัด
00:13:33 → 00:13:36 มะเร็งหรือคุณเอาน้ำมันทอดซ้ำอ่ะเฉยๆเอา
00:13:36 → 00:13:37 ท่อไปแล้วเนี่ยฉันทอดไปแล้วเป็น 10 รอบ
00:13:37 → 00:13:40 แล้วเดี๋ยวชั้นเอามาผัดให้ลูกค้ายาเลยนะ
00:13:40 → 00:13:45 คุณป้อนสารก่อมะเร็งพูดง่ายๆอ่ะโอ้โหคุณ
00:13:45 → 00:13:48 เหมือนป้อนกำลังป้อนสารก่อมะเร็งสารพิษ
00:13:48 → 00:13:50 ให้กับลูกค้าโดยไม่รู้ตัวเค้ากินของคุณ
00:13:50 → 00:13:52 ชามนึงเขาไม่เป็นไรหรอกหมอไม่เห็นเป็นราย
00:13:52 → 00:13:53 ละเอียดอีกวันก็มาสั่งชั้นเหมือนเดิม
00:13:53 → 00:13:56 เหมือนเดิม
00:13:56 → 00:13:59 หมูกรอบเหมือนเดิมกระเพราหมูกรอบเหมือน
00:13:59 → 00:14:02 เดิมนะหมูกรอบเหมือนเดิมฉันก็เอาน้ำมัน
00:14:02 → 00:14:04 ที่มันทอดหมูกรอบมาแล้วเนี่ยมาผัดให้ลูก
00:14:04 → 00:14:08 ค้าเหมือนดูเหมือนวางยานะเราไม่อยากวางยา
00:14:08 → 00:14:11 ให้ลูกค้าเราเราไม่อยากวางยาให้ตัวเราเอง
00:14:11 → 00:14:14 โดยที่ไม่รู้ตัวหรือคนที่เรารักมันไม่มัน
00:14:14 → 00:14:17 เป็นลูกหรือเรามันเป็นสะสมมากใช่ๆวันนี้
00:14:17 → 00:14:19 คุณกินวันสองวันก็ไม่เห็นเป็นไรเลยอ่ะอีก
00:14:19 → 00:14:24 เดือนไม่เป็นไรแต่ผ่านเข้าไปปี 2 ปี 3 ปี
00:14:24 → 00:14:27 โดยเฉพาะผู้สูงอายุ
00:14:27 → 00:14:29 เซลล์มันเสื่อมแก่ตายมันกลายพันธุ์ได้
00:14:29 → 00:14:30 ง่าย
00:14:30 → 00:14:33 อยู่แล้วด้วยเขาก็เสี่ยงเป็นมะเร็งเพราะ
00:14:33 → 00:14:39 คุณกินน้ำมันที่ทอดซ้ำใช้ซ้ำถึงบอกว่ามัน
00:14:39 → 00:14:42 มีผลถ้าเกิดโรคมะเร็งและอีกโรคนึงก็คือ
00:14:42 → 00:14:45 ถ้าใช้น้ำมันที่มันมีไขมันอิ่มตัวในการ
00:14:45 → 00:14:49 ปรุงประกอบอาหารเยอะมากเกินเช่นน้ำมัน
00:14:49 → 00:14:52 ปาล์มอย่างเงี้ยเรากินเยอะไม่ได้ไม่ใช่
00:14:52 → 00:14:54 ว่ากินไม่ได้เลยนะเดี๋ยวจะบอกโอ้ยอาจารย์
00:14:54 → 00:14:57 ทำไมไม่ให้กินน้ำมันปาล์มเดี๋ยวขายไม่ได้
00:14:57 → 00:15:01 ไม่ใช่คือกินได้แต่ว่าปริมาณเนี่ยมันไม่
00:15:01 → 00:15:04 ควรเยอะมันไม่ใช่กินเป็นสรณะกินแต่ของทอด
00:15:04 → 00:15:06 ๆแล้วใช้ตามท่อเนี่ยมันกระตุ้นให้เกิดการ
00:15:06 → 00:15:09 อักเสบเรื้อรังแล้วหลอดเลือดเราก็อักเสบ
00:15:09 → 00:15:11 มันก็เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอย่างนี้
00:15:11 → 00:15:14 แล้วน้ำมันกับสุขภาพร่างกายมีผลโดยตรงเลย
00:15:14 → 00:15:17 ถ้าเราเลือกน้ำมันดีนะ
00:15:17 → 00:15:20 มีชัยไปกว่าครึ่งในสุขภาพร่างกายของเรา
00:15:20 → 00:15:23 บางทีเราไปกินโยงกินยาอะไรนึกออกไหมครับ
00:15:23 → 00:15:26 แล้วก็ผลข้างเคียงตามมากินยาลดไขมันทำไม
00:15:26 → 00:15:28 ล่ะทุกวันนี้งานวิจัยออกมาชัดเจนและกินยา
00:15:28 → 00:15:31 ลดไขมันเยอะๆสมองเสื่อมอุ้ยกินยาลดไขมัน
00:15:31 → 00:15:33 เยอะๆเป็นเบาหวานแล้วพอไปกินยาเบาหวาน
00:15:33 → 00:15:36 เอ้าเดี๋ยวก็เป็นอีกโรคนึงอีกข้างบนเป็น
00:15:36 → 00:15:38 มือกินหากินยากันเป็นกำๆนึกออกมั้ยก็เป็น
00:15:38 → 00:15:41 กรรมของคนกินนะแล้ว
00:15:41 → 00:15:43 ตับไตก็ไปกันหมดเลย
00:15:43 → 00:15:46 แต่ละอย่างอาจารย์เพราะฉะนั้นเราก็เลือก
00:15:46 → 00:15:49 ให้เหมาะเลือกให้สมต่อสิ่งที่เราคิดถึง
00:15:49 → 00:15:52 แบบเฮ้ยฉันต้องอยู่กับคนที่ฉันรักอยู่กับ
00:15:52 → 00:15:54 ครอบครัวคุณเป็นพ่อเป็นแม่อย่างนี้เพราะ
00:15:54 → 00:15:57 มีลูกปุ๊บเราก็แบบว่าอยากอยู่กับลูกนานๆ
00:15:57 → 00:16:00 แล้วก็อยู่อยากอยู่กับคนที่เรารักนานๆใช่
00:16:00 → 00:16:04 ก็ต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดีนะให้มันไปนานๆ
00:16:04 → 00:16:08 อย่าคิดว่าแบบเฮ้ยไม่เป็นไรหรอกวันนี้แค่
00:16:08 → 00:16:09 วันเดียว
00:16:09 → 00:16:12 เหมือนที่เราชอบคิดว่าไม่เป็นไรหรอก
00:16:12 → 00:16:14 เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยลดรู้อะไรไม่เท่ารู้
00:16:14 → 00:16:16 เท่ารู้
00:16:16 → 00:16:20 งี้รู้งี้อย่างเงี้ยมันก็มันมันก็ไม่โอเค
00:16:20 → 00:16:23 งั้นแล้วไอ้น้ำมันที่ใช้ในการผัดไงมันก็
00:16:23 → 00:16:26 สำคัญถ้าเลือกได้เนี่ยเราก็เลือกน้ำมัน
00:16:26 → 00:16:30 ที่ดีอ่าอะไรนะมีน้ำมันรำข้าว
00:16:30 → 00:16:35 น้ำมันมาได้ชาอ่าน้ำมันคาโนล่าอย่างเงี้ย
00:16:35 → 00:16:38 ครับน้ำมันอะโวคาโดก็มีนะอ๋อ
00:16:38 → 00:16:42 ทานตะวันอ่าฮะ
00:16:42 → 00:16:45 แต่ว่ามันก็จะเป็นแหล่งของโอเมก้า 6 อยู่
00:16:45 → 00:16:49 ด้วยโอเมก้า 6 เนี่ยร่างกายจำเป็นแต่ทุก
00:16:49 → 00:16:51 วันเนี้ยบางทีคุณกินเยอะเกินความจำเป็น
00:16:51 → 00:16:54 เพราะเขาช่วยเขาผัดเนี่ยทุกวันนี้ทั่วไป
00:16:54 → 00:16:56 นะชอบใช้น้ำมันถั่วเหลือง
00:16:56 → 00:16:59 ซึ่งน้ำมันถั่วเหลืองเนี่ยกินเยอะก่อให้
00:16:59 → 00:17:01 เกิดการอักเสบได้
00:17:01 → 00:17:05 แล้วถั่วเหลืองเนี่ยคนชอบใช้ผัดน้ำมัน
00:17:05 → 00:17:09 ปาล์มส่วนใหญ่ชอบใช้ทอดเพราะมันทำให้ถูก
00:17:09 → 00:17:11 ต้องซึ่งทั้งสองอย่างนี้มันกระตุ้นให้
00:17:11 → 00:17:13 เกิดการอักเสบเรื้อรังได้
00:17:13 → 00:17:18 คือกินได้แหละแต่เบาลงหน่อยถูกต้องกิน
00:17:18 → 00:17:22 อยู่ตลอดคุณก็กินแบบซ้ำเติมผัดผัก
00:17:22 → 00:17:25 ทอดอยู่อย่างเงี้ยแล้วก็ใช้น้ำมันที่ไม่
00:17:25 → 00:17:28 ดีมันก็เลยกลายเป็นฆาตกรเงียบไงถึงเงียบ
00:17:28 → 00:17:31 คือมันค่อยๆทำให้เราไขมันสูงด้วยไม่รู้
00:17:31 → 00:17:33 ตัวค่อยๆทำให้เราหลอดเลือดอักเสบโดยไม่
00:17:33 → 00:17:36 รู้ตัวแล้วเราก็มากินยาลดไขมันอย่างที่
00:17:36 → 00:17:39 บอกมันก็ส่งผลปัญหาต่างๆตามมาผลข้างเคียง
00:17:39 → 00:17:42 ตามมาแม้กระทั่งแบบปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
00:17:42 → 00:17:43 อย่างเงี้ย
00:17:43 → 00:17:45 แล้วเราก็ต้องไปกินยาแก้ปวดเมื่อยกล้าม
00:17:45 → 00:17:48 เนื้อตับแล้วก็พังอย่างเงี้ยกินต่อเนื่อง
00:17:48 → 00:17:50 แบบโอ้ยนี่ก็ปวดเดี๋ยวก็ปวดเดี๋ยวก็
00:17:50 → 00:17:53 เมื่อยอะไรเงี้ยเพราะมันอาจจะผลักจากยาลด
00:17:53 → 00:17:56 ไขมันที่มันมีมีข้อมูลการศึกษาที่จะเออ
00:17:56 → 00:17:59 มันเป็นหนึ่งในผลข้างเคียงถ้าเราดีดูแล
00:17:59 → 00:18:03 สุขภาพดีตั้งแต่แรกอ่ะนึกออกไหมครับอ่า
00:18:03 → 00:18:07 มันก็ไม่ต้องลดการใช้ยาไงแล้วมันก็ลดผล
00:18:07 → 00:18:10 ข้างเคียงไม่งั้นใช้ยามีผลข้างเคียงก็เอา
00:18:10 → 00:18:13 ยาอีกตัวมาลดผลข้างเคียงแต่มันก็มีผลข้าง
00:18:13 → 00:18:16 เคียงมันก็จะกลายเป็นงูกินหางกินยาเต็มไป
00:18:16 → 00:18:20 หมดเลยแล้วมันก็เกิดผลกระทบตามมา
00:18:20 → 00:18:24 ต้องรักษาอาจารย์เน้นย้ำเสมอว่าการรักษา
00:18:24 → 00:18:27 ที่ดีคือการรักษาสุขภาพไม่ใช่รักษาโรคเรา
00:18:27 → 00:18:29 ก็ต้องรักษาสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆแต่มันก็
00:18:30 → 00:18:33 สุขภาพในที่นี้มันก็ต้องทั้งกายดีและจิต
00:18:33 → 00:18:36 ดีด้วยอาจารย์ยังย้ำใน Concept อาจารย์
00:18:36 → 00:18:38 เสมอว่าอยากกินต้องได้กินนะไม่ใช่พูด
00:18:38 → 00:18:40 อย่างนี้แล้วแบบเอ้ยไม่ให้กินเลยเหรอไม่
00:18:40 → 00:18:42 ได้กินได้คุณอยากกินกล้วยทอดคุณก็กินได้
00:18:42 → 00:18:46 แต่ว่าคุณไม่ได้ว่าฟาดทีนึงเยอะแล้วคุณ
00:18:46 → 00:18:49 กินเสร็จปุ๊บโอ้โหกินกล้วยทอดทีนึงแบบ
00:18:49 → 00:18:52 หลายชิ้นกินกากมันอีกน้ำมันเยิ้มเลยมัน
00:18:52 → 00:18:54 กรอบอร่อยแล้วกินตอนเย็นกินเสร็จไปนอน
00:18:54 → 00:18:58 อื่นผึ่งพุงไขมันพอกตับมันเป็นแบบนั้น
00:18:58 → 00:19:02 เลือกมื้อเช้ามื้อกลางวันนะวันนั้นกิน
00:19:02 → 00:19:05 กล้วยทอดไปแล้วมันไม่ไปแล้วเนี่ยส่วนใหญ่
00:19:05 → 00:19:09 ก็ใช้น้ำมันตามทอดอ่ะ
00:19:09 → 00:19:13 แล้วก็ไม่หืนเพราะมันเป็นไขมันอิ่มตัวไง
00:19:13 → 00:19:14 มันเสถียรไง
00:19:14 → 00:19:17 อุตสาหกรรมอาหารเขาเลยใช้เยอะไงครับแล้ว
00:19:17 → 00:19:20 เนี่ยก็ก็เลือกกินมื้อเช้ามื้อกลางวันกิน
00:19:20 → 00:19:23 น้อยหน่อยแล้วก็กินไข่กินผักกินผลไม้ไม่
00:19:24 → 00:19:27 หวานเนี่ยเอาไปดักจับไขมันลดการดูดซึมไข
00:19:27 → 00:19:29 มันอย่างเงี้ยก็กินก่อนเลยฉันอยากกิน
00:19:29 → 00:19:31 กล้วยทอดเหรอฉันฟาดฝรั่งลูกนึงแอปเปิ้ล
00:19:31 → 00:19:34 ลูกนึงหรือชมพู่ซะหน่อยนึงก่อนสัก 2-3
00:19:34 → 00:19:37 รูปเสร็จแล้วก็กินกล้วยทอดก็ได้อ่าซัก
00:19:37 → 00:19:41 ชิ้น 2 ชิ้นนะพอแล้วพอเป็นกระสัยแน่นอน
00:19:41 → 00:19:44 อาจารย์ให้ 3 ชิ้นเลยแต่โควต้าวันนั้น
00:19:44 → 00:19:46 เนี่ยจะต้องกินอาหารที่ทำลายสุขภาพอื่นๆ
00:19:46 → 00:19:50 ให้น้อยลงอุ๊ยแน่นอนแต่เดี๋ยวนี้เขามีเขา
00:19:50 → 00:19:52 เรียกอะไรนะอ่าทางเลือกนะไม่ว่าจะเป็น
00:19:52 → 00:19:54 กล้วยทอดหรือปาท่องโก๋ที่โอ๋เห็นใน
00:19:54 → 00:19:56 โซเชียลนะถูกต้อง
00:19:56 → 00:20:00 อ่ะสลัดน้ำมันโอลูกสีพึ่งซื้อไปต่อคิว
00:20:00 → 00:20:05 ซื้อมา 5 ถุงนะคะแบบดูแล้วแบบเฮ้ยไปซื้อ
00:20:05 → 00:20:09 ทำไมแล้วทำไมไม่มาฝากอาจารย์
00:20:09 → 00:20:12 ถ้าอย่างนี้ได้ใช่ไหมคะได้ครับผมสลัดน้ำ
00:20:12 → 00:20:14 มันเนี่ยมันก็จะพูดง่ายๆว่าเลวน้อยหน่อย
00:20:14 → 00:20:18 เร็วน้อยลงหรือถ้าพูดในข้อดีคือมันดี
00:20:18 → 00:20:21 เพิ่มขึ้นมัน Healthy ขึ้นนะเพราะน้ำมัน
00:20:21 → 00:20:23 เนี่ยปาท่องโก๋นี่อาจารย์บอกเลยนะว่า
00:20:23 → 00:20:27 ปาท่องโก๋นี่ตัวดีเลยตัวดีคืออะไรน้ำมัน
00:20:27 → 00:20:33 ทอดซ้ำเยอะสารก่อมะเร็งพวกสารโพล่าทั้ง
00:20:33 → 00:20:35 หลายแหล่สารก่อมะเร็งทั้งหลายแหล่เพียบ
00:20:35 → 00:20:39 เลยนะครับเพราะปาท่องโก๋เนี่ยมันคือแป้ง
00:20:39 → 00:20:41 แล้วมันก็จะมีพวก
00:20:41 → 00:20:43 โปรตีนอยู่ด้วย
00:20:43 → 00:20:48 แล้วก็จะทำสัญญากับน้ำมันแล้วก็ทอดซ้ำๆๆ
00:20:48 → 00:20:52 บางทีเขาไปกองเอาเศษออกแล้วก็มาใช้อีกอ๋อ
00:20:52 → 00:20:56 ต้องแบบระมัดระวังสมัยก่อน
00:20:56 → 00:21:00 มีอาจารย์ทางด้านโภชนาการนี่แหละเวลาไป
00:21:00 → 00:21:01 ซื้อปาท่องโก๋นะ
00:21:01 → 00:21:04 ซื้อแป้งหรือจบไม่ต้องไปต่อคิวซื้อไอ้นี่
00:21:04 → 00:21:07 แล้วกลับมาทอดเองที่บ้านใช้น้ำมันรำข้าว
00:21:07 → 00:21:10 ทอดอยากกินสบายใจแล้วคุณก็ซับของคุณเอง
00:21:10 → 00:21:14 ได้มันดีในแง่ของการที่เขาใช้เครื่อง
00:21:14 → 00:21:18 เนี่ยคือดีจริงอาจารย์อาจารย์ยอมรับคือดี
00:21:18 → 00:21:20 จริงในแง่ของการที่มันทำให้ได้รับน้ำมัน
00:21:20 → 00:21:24 น้อยลงแคลอรี่อาจจะลดลงน้ำมันน้อยลงแต่
00:21:24 → 00:21:27 ถ้าคุณกินเยอะมันก็ได้เยอะนะมันขึ้นอยู่
00:21:27 → 00:21:29 กับจำนวนตัวที่กินด้วยถูกมั้ยมันอารมณ์
00:21:29 → 00:21:30 รู้สึกว่าผิดน้อยลง
00:21:30 → 00:21:34 มันก็ดีต่อสุขภาพมากขึ้นนะฮะคือทำลาย
00:21:34 → 00:21:37 สุขภาพน้อยลงก็บอกอย่างนี้อ่าแต่อย่าลืม
00:21:37 → 00:21:41 ว่ายังไงมันก็ใช้น้ำมันทอดซ้ำอยู่
00:21:41 → 00:21:44 อ่าหรือน้ำมันชนิดของน้ำมันที่ใช้อย่าง
00:21:44 → 00:21:47 เงี้ยก็มีผลอยู่อาจจะแบบว่าไม่ได้กินกัน
00:21:47 → 00:21:50 ทุกวันขนาดนั้นถ้าเราไม่ได้กินทุกวันก็
00:21:50 → 00:21:52 กินได้ทำไมจะกินไม่ได้หรอกไม่กินทุกวัน
00:21:52 → 00:21:55 คุณจะฟาด 3 ตัว 5 ตัวก็อ่ะ
00:21:55 → 00:22:00 สังขยาเข้าไปอีกไม่ใช่ว่ากินทุกเช้ากิน
00:22:00 → 00:22:04 ทุกวันอะไรอย่างนี้ฉะนั้นพวกทอดๆเนี่ยบอก
00:22:04 → 00:22:07 เลยว่าคุณค่าทางโภชนาการเนี่ยมันก็จะลด
00:22:07 → 00:22:10 น้อยลงสารอาหารนะแล้วก็น้ำมันที่ใช้ด้วย
00:22:10 → 00:22:13 พวกนี้มันคงจะมาปลาทอดอย่างนี้นึกออกไหม
00:22:13 → 00:22:17 ครับโอเมก้า 3 ไขมันดีแล้วมันก็จะละลาย
00:22:17 → 00:22:21 อยู่เหนือมันแต่การที่มันมีน้ำมันกลับมา
00:22:21 → 00:22:24 ผมน้ำมันมันก็จะเรียกคืนกลับมาจากการอม
00:22:24 → 00:22:27 น้ำมันนึกออกไหมครับมันก็ยังได้ประโยชน์
00:22:27 → 00:22:30 นี่แหละแต่เราก็แบบว่าเออกินนึ่งกิน
00:22:30 → 00:22:33 ลวกอะไรอย่างนี้ก็จะโอเคกว่า
00:22:33 → 00:22:37 อีก 1 วิธีคือ
00:22:37 → 00:22:41 ปิ้งย่างอ่าอันนี้สารอาหารก็อาจจะออกไป
00:22:41 → 00:22:44 แบบว่าไม่ได้ไม่ได้เยอะมากแต่ถ้าปิ้งงาน
00:22:44 → 00:22:49 ย่างงานความร้อนสูงอันนี้มันก็ทำให้คุณ
00:22:49 → 00:22:51 ค่าทางโภชนาการสูญเสียไปแต่ปิ้งย่างเนี่ย
00:22:51 → 00:22:54 มันจะไม่มีเรื่องของน้ำมัน
00:22:54 → 00:22:58 แต่มันจะมีสารก่อมะเร็งถ้าเราปิ้งไหม
00:22:58 → 00:23:01 น่านึกออกมั้ยจะเอาอะไรจะเอาอะไรระหว่าง
00:23:01 → 00:23:04 หัวใจกับมะเร็งชีวิตเราแต่เรื่องแบบไหน
00:23:04 → 00:23:07 เมื่อไม่นานมานี้ไปกินกันปิ้งย่างนี่แหละ
00:23:07 → 00:23:12 ค่ะที่มันจะมีตรงขอบปิ้งเตาปิ้งย่างเราจะ
00:23:12 → 00:23:15 แบบเราใส่น้ำซุปใส่ผักแต่ปิ้งย่างไปอ่ะ
00:23:15 → 00:23:19 ด้วยเนื้อมันดิบใช่ไหมคะหมูอะไรก็แล้วแต่
00:23:19 → 00:23:23 วางทั้งหมดมันก็ไหลลงน้ำซุปซึ่งเราก็รู้
00:23:23 → 00:23:26 แล้วเราก็ไปซดน้ำซุปเมื่อก่อนเมื่อก่อน
00:23:26 → 00:23:28 เลยค่ะอาจารย์เดี๋ยวนี้พอวันนั้นไปเห็น
00:23:28 → 00:23:31 เฮ้ยโซนน้ำซุปไม่ได้เลย
00:23:31 → 00:23:34 แต่ลองลองชิมดูช้อนนึงแล้วอยากรู้ว่ารส
00:23:34 → 00:23:36 ชาติมันเป็นยังไงอย่างเงี้ย
00:23:36 → 00:23:38 เค็ม
00:23:38 → 00:23:42 เค้าก็เลยเป็นที่ถกเถียงกันไงว่าระหว่าง
00:23:42 → 00:23:46 ปิ้งย่างกับอะไรนะชาบูหรออ่าน้ำอ่ะอันไหน
00:23:46 → 00:23:50 ที่ทำลายสุขภาพก็การกินแบบไหนดีกว่า
00:23:50 → 00:23:52 ระหว่างปิ้งย่างกับไอ้ชาบูเนี่ยจริงๆแล้ว
00:23:52 → 00:23:56 จะบอกว่าปิ้งย่างมันก็มีมันก็มีมันก็มี
00:23:56 → 00:23:58 ข้อดีข้อจำกัดและต่างกันไงนึกออกมั้ยครับ
00:23:58 → 00:24:01 คือชาบูคุณซดน้ำอ่ะโซเดียมผมก็สูงความดัน
00:24:01 → 00:24:04 ก็ขึ้นใจก็ทำงานหนักอย่างเงี้ยอ่าส่วนไอ้
00:24:04 → 00:24:08 ปิ้งย่างคุณก็ไม่มันก็มีข้อจำกัดต่างกัน
00:24:08 → 00:24:11 ฉะนั้นนานๆกินทีแล้วก็ปิ้งให้ไม่ๆไม่ๆไม่
00:24:11 → 00:24:14 ใช่
00:24:14 → 00:24:17 ถูกต้องไม่ใช่นี่รอด
00:24:17 → 00:24:21 เลยอย่างงั้นก็ไม่ได้แล้วก็กินผักให้มัน
00:24:21 → 00:24:24 เยอะหน่อยแม้แต่ว่าถ้าปิ้งย่างอ่ะเวลาเอา
00:24:24 → 00:24:27 ลงไปปุ๊บมันจะชอบบอกให้เราสู้ๆ
00:24:27 → 00:24:30 สู้ๆทีนี้เราก็สั่งใหญ่เลยจวกใหญ่เลยใช่
00:24:30 → 00:24:33 ไหมก็มันก็เกิดสารก่อมะเร็ง
00:24:33 → 00:24:36 แล้วเนี่ยจากวิธีการปรุงประกอบไหนก็ตาม
00:24:36 → 00:24:40 แต่เนาะก็เลือกให้เหมาะสมอย่างที่บอกว่า
00:24:40 → 00:24:45 เอ้ยอาจารย์เข้าใจว่าเรากินอาหารการปิ้ง
00:24:45 → 00:24:47 ย่างมันก็ต่างกันนะการนึ่งอย่างเงี้ยเอา
00:24:47 → 00:24:51 ง่ายๆนะแม่บ้านอาจารย์น่ะทำข้าวโพดชอบกิน
00:24:51 → 00:24:56 ข้าวโพดนึ่งเนี่ยมันก็มันก็โอเคคือไม่มี
00:24:56 → 00:25:02 ความไม่ไหม้เกรียมแต่มันหอมของข้าวโพด
00:25:02 → 00:25:06 ปิ้งเนี่ยเฮ้ยมันหอมมันดัง
00:25:06 → 00:25:07 [เพลง]
00:25:07 → 00:25:12 มันก็นานๆกินทีได้แล้วเราก็เฉือนที่ไหม้
00:25:12 → 00:25:15 เกรียมทั้งหลายแหล่เนี่ยทิ้งไปถ้าเป็น
00:25:15 → 00:25:20 เด็กๆกินหมดนะคะกินไปเถอะไม่เป็นไรยัง
00:25:20 → 00:25:23 เด็กอยู่นะ
00:25:23 → 00:25:27 เราก็พยายามที่จะแบบเฮ้ยเลือกวิธีการปรุง
00:25:27 → 00:25:32 ประกอบก็ให้แบบอาราธรไอ้พวกต้มตุ๋นนึ่ง
00:25:32 → 00:25:36 ลวกอันนี้จะทำลายคุณค่าทางโภชนาการน้อย
00:25:36 → 00:25:39 หน่อยอ่าแล้วก็มันก็ไม่ต้องแบบมาใช้ไขมัน
00:25:39 → 00:25:42 เหมือนผัดเหมือนทอดแต่ผัดทอดไม่ใช่ว่ามัน
00:25:42 → 00:25:45 มันไม่ดีนะมันก็ความผ่านมันก็ให้น้ำมัน
00:25:45 → 00:25:48 ที่ช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ LINE ในไข
00:25:48 → 00:25:52 มันอ่าแต่ว่าก็ต้องผัดที่แบบว่าเฮ้ย
00:25:52 → 00:25:54 เรื่องน้ำมันที่ดีหาการท่อก็เช่นเดียวกัน
00:25:54 → 00:25:58 นะครับก็อยากกินให้มันให้มันบ่อยแต่ความ
00:25:58 → 00:26:02 สุขของเราคือการกินเข้าใจก็กินได้แต่กิน
00:26:02 → 00:26:04 ให้มันให้มันแบบว่าเฮ้ยไม่บอยน้อยหน่อย
00:26:04 → 00:26:07 ยังไงทางสายกลางก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ใช่วัน
00:26:07 → 00:26:12 ๆกินแต่นึ่งๆๆนึกออกไหมครับมันก็เบื่อ
00:26:12 → 00:26:16 ชีวิตมันมันทำได้ไม่มั่นคงและยั่งยืน
00:26:16 → 00:26:19 อาจารย์บอกเลยถ้าใช้ชีวิตแบบอย่างนั้นน่ะ
00:26:19 → 00:26:22 มันมันไม่ได้ยั่งยืนนะถ้าให้คุณรีกินแบบ
00:26:22 → 00:26:26 อาหารนกทุกวันอ่ะไม่ไหวได้ไหมล่ะแต่ถ้า
00:26:26 → 00:26:29 เกิดวันนึงเกิดอะไรขึ้นมากับชีวิตอันนั้น
00:26:29 → 00:26:32 แหละจะรู้เลยว่าถูกต้องฉันกินแบบนี้แหละ
00:26:32 → 00:26:33 ดี
00:26:33 → 00:26:36 กินแบบนี้ดีแล้วแต่มันก็ความสุขของคนส่วน
00:26:36 → 00:26:38 ใหญ่คือการกินฉะนั้นแล้วก็แบบว่าเลือก
00:26:38 → 00:26:42 วิธีการปรุงประกอบนะให้มันแบบว่าเออหลาก
00:26:42 → 00:26:45 หลายอ่าให้มันแบบคงคุณค่าทางโภชนาการไว้
00:26:45 → 00:26:48 ก็อย่าพยายามอย่าแบบว่าให้ใช้ความไม่ใช้
00:26:48 → 00:26:50 ความร้อนสูงมากนะครับแต่ทั้งนี้ทั้งต้อง
00:26:50 → 00:26:52 สุขด้วยนะไม่งั้นเชื้อก่อโรคยังอยู่กลาย
00:26:52 → 00:26:55 เป็นแบบว่าโอ้โหท้องร่วง
00:26:55 → 00:27:00 ท้องเสียมันก็ไม่ได้อีกไม่มีความดีซึ่งสด
00:27:00 → 00:27:04 ใหม่สุกสะอาดอ่าถูกต้องครับผมนะคะอู้วัน
00:27:04 → 00:27:06 นี้ได้แนวทางแล้วนะเราจะได้ทำมันได้ถูก
00:27:06 → 00:27:08 ต้องนะคะคุณค่าทางโภชนาการจะได้ยังอยู่
00:27:08 → 00:27:11 ราคาสารอาหารก็จะได้ยังอยู่ครบถ้วนด้วยนะ
00:27:11 → 00:27:14 คะอ่าได้แนวทางไปแล้วนะคะขอบคุณอาจารย์
00:27:14 → 00:27:17 เอกราชสวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมด
00:27:17 → 00:27:19 เวลาแล้วนะคะพบกันใหม่ครั้งหน้าค่ะขอบคุณ
00:27:19 → 00:27:22 ที่ติดตามรับฟังสวัสดีค่ะ This Is
00:27:22 → 00:27:25 Choice PBS อาการผื่นคันที่เกิดขึ้น
00:27:25 → 00:27:27 บริเวณต่างๆของร่างกายมีสาเหตุมาจากอะไร
00:27:27 → 00:27:30 สามารถติดต่อแพร่ไปอย่างคนอื่นได้หรือไม่
00:27:30 → 00:27:34 แพทย์หญิงกิตติยาศรีเลิศฟ้าถ้าอายุรศิลปะ
00:27:34 → 00:27:36 การแพทย์ AIA มาเล่าให้ฟังครับ
00:27:36 → 00:27:40 ท่านผู้ฟังในชีวิตหนึ่งน่าจะเคยมีผื่นคัน
00:27:40 → 00:27:44 ตามผิวหนังบ้างอาจจะเป็นผื่นแดงตามข้อพับ
00:27:44 → 00:27:49 ไหมข้อพับแขนข้อพับขาคอรักแร้ขาหนีบหรือ
00:27:49 → 00:27:52 ว่ามีตุ่มคันตามแขนขา 2 ข้างหรือข้าง
00:27:52 → 00:27:54 เดียวอะไรแบบนี้
00:27:54 → 00:27:58 ส่วนใหญ่ผื่นพวกนี้จะเกิดจากผื่นแพ้ผิว
00:27:58 → 00:28:01 หนังเราเรียกว่าอะโทปิเดินมาไตรติกโรคผิว
00:28:01 → 00:28:04 หนังอักเสบเรื้อรังที่พบบ่อยเลยทั้งใน
00:28:04 → 00:28:07 เด็กแล้วก็ในผู้ใหญ่เป็นโรคผิวหนังที่มี
00:28:07 → 00:28:10 การอักเสบเรื้อรังเกิดจากปฏิกิริยาทาง
00:28:10 → 00:28:14 ภูมิแพ้นะมันไม่ใช่โรคติดต่อย้ำว่าไม่ใช่
00:28:14 → 00:28:17 โรคติดต่อหรือเกิดจากความสกปรกของเราเกิด
00:28:17 → 00:28:20 มาจากร่างกายของผู้ป่วยเนี่ยนะที่มีภูมิ
00:28:20 → 00:28:24 วัยต่อการตอบสนองต่อปัจจัยกระตุ้นต่างๆ
00:28:24 → 00:28:27 มากเกินไปผิวหนังก็จะไวต่อสิ่งกระตุ้นภาย
00:28:27 → 00:28:30 นอกนะคะทำให้มีผื่นขึ้นแล้วก็มีอาการ
00:28:30 → 00:28:34 กำเริบเป็นระยะๆผู้ป่วยที่มีอาการภูมิแพ้
00:28:34 → 00:28:37 ผิวหนังเนี่ยนะจะมีอาการภูมิแพ้อื่นๆร่วม
00:28:37 → 00:28:41 ด้วยนะสังเกตดูอาจจะมีอาการแพ้อากาศเยื่อ
00:28:41 → 00:28:45 บุจมูกเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้บางคนก็
00:28:45 → 00:28:48 อาจจะมีหอบหืดร่วมด้วยซึ่งผู้ป่วยจะมีการ
00:28:48 → 00:28:52 ตอบสนองที่ผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของ
00:28:52 → 00:28:55 ผิวหนังแล้วก็จะมีสิ่งแวดล้อมเป็นตัว
00:28:55 → 00:28:58 กระตุ้นให้ผื่นรุนแรงขึ้นเชื่อว่าเกิดมา
00:28:58 → 00:29:01 จากหลายสาเหตุรวมกันนะโดยสาเหตุหลักสำคัญ
00:29:01 → 00:29:04 ที่สุดก็คือปัจจัยทางด้านพันธุกรรมของตัว
00:29:04 → 00:29:05 ผู้ป่วย
00:29:05 → 00:29:08 หรือบุคคลในครอบครัวนะที่มีประวัติภูมิ
00:29:09 → 00:29:12 แพ้ซึ่งมีภูมิที่ไวต่อสิ่งกระตุ้นเด็กที่
00:29:12 → 00:29:15 ป่วยหรือผู้ใหญ่ที่ป่วยมักจะมีพ่อแม่หรือ
00:29:15 → 00:29:17 ญาติใกล้ชิดเนี่ยเป็นโรคในกลุ่มภูมิแพ้
00:29:17 → 00:29:21 เช่นหอบหืดแพ้อากาศผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
00:29:21 → 00:29:23 อยู่แล้วแหละการกำเริบของผื่นที่เห่อลุก
00:29:23 → 00:29:26 ลามส่วนใหญ่มาจากการเกาเนื่องจากผื่นที่
00:29:26 → 00:29:30 เกิดเนี่ยจะมีอาการเด่นคือคั้นคันจริงๆ
00:29:30 → 00:29:33 การเกาจะทำให้โรคที่เกิดเนี่ยลุกลามแล้ว
00:29:33 → 00:29:38 ก็การเห่อของผื่นเนี่ยมากขึ้น
00:29:38 → 00:29:43 Yes is Thai PBS
00:29:43 → 00:29:46 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:46 → 00:29:48 ของไทย
00:29:48 → 00:29:51 spotify Sound Cloud Google podcast
00:29:51 → 00:29:53 Apple ผ่อนคลายและ YouTube Channel
00:29:54 → 00:29:56 Thai PBS ผ่อน
00:29:56 → 00:30:01 ค่ะ beautiful
00:30:01 → 00:30:06 [เพลง]