00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับผมเพิ่งจะทำคลิปเรื่องของ
00:00:02 → 00:00:05 ไมโครเวฟเสร็จประโยคๆนะครับแต่ผมทำนายไว้
00:00:05 → 00:00:07 เลยนะครับว่าจะต้องมีคนสงสัยเรื่องของ
00:00:07 → 00:00:10 หม้อทอดไร้น้ำมันหรือ Air frer อย่างแน่
00:00:10 → 00:00:13 นอนดังนั้นผมเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จผมก็เลยทำ
00:00:13 → 00:00:15 คลิปนี้ต่อเลยนะครับเพื่อจะตอบข้อสงสัย
00:00:15 → 00:00:19 อันนี้และผมเข้าใจครับว่าจะต้องมีคนจำนวน
00:00:19 → 00:00:22 ไม่น้อยที่ไปฟังมาว่าหม้อทอดไร้น้ำมัน
00:00:22 → 00:00:26 เนี่ยมันทำให้เกิดสารก่อมะเร็งได้เอ้อ
00:00:26 → 00:00:28 เรื่องนี้มันมีความจริงเท็จประการใดนะ
00:00:28 → 00:00:31 ครับแล้วสารก่อมะเร็งนั้นมันน่ากลัวอย่าง
00:00:31 → 00:00:34 นั้นจริงหรือเปล่าถ้าเราจะใช้หม้อทอดไร้
00:00:34 → 00:00:36 น้ำมันนี้เราจะทำยังไงได้บ้างให้มันปลอด
00:00:36 → 00:00:39 ภัยที่สุดเดี๋ยววันนี้ผมเล่าให้ฟังนะครับ
00:00:39 → 00:00:41 พบกับผมนะครับนายแพทย์ธนีธนียวันเป็น
00:00:41 → 00:00:43 อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
00:00:43 → 00:00:45 เชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและวิกฤต
00:00:45 → 00:00:49 บำบัดนะครับเรื่องของหม้อทอดไร้น้ำมันนะ
00:00:49 → 00:00:52 ครับตอนแรกที่ออกมาเนี่ยนะฮะเขาก็เพื่อ
00:00:52 → 00:00:55 ที่จะตอบโจทย์คนที่ชอบของที่มันทอดนี่
00:00:55 → 00:00:58 แหละแต่ไม่อยากจะอ้วนเพราะว่าการที่เรา
00:00:58 → 00:01:01 กินของทอดเนี่ยเนี่ยแน่นอนครับมันต้องทอด
00:01:01 → 00:01:04 ในน้ำมันแล้วน้ำมันพวกเนี้ยมีแคลอรีที่
00:01:04 → 00:01:07 สูงกลายไปเป็นไขมันทรานได้ซึ่งไขมันทราน
00:01:07 → 00:01:11 เนี่ยก็จะทำให้ร่างกายของเรานะครับมี ldl
00:01:11 → 00:01:14 หรือ low density Lip โรตีนคอเลสเตอที่
00:01:14 → 00:01:18 สูงขึ้นแล้วก็นำไปสู่โรคที่มีไขมันอุดตัน
00:01:18 → 00:01:20 ตามหลอเลือดต่างๆไม่ว่าจะเป็นโรคหลอด
00:01:20 → 00:01:22 เลือดหัวใจโรคหลอเลือดสมองโรคหลอเลือด
00:01:22 → 00:01:24 ส่วนปลายหรืออะไรก็แล้วแต่โรคอ้วนอย่าง
00:01:24 → 00:01:27 เงี้ยนะครับเพราะว่าไขมันเนี่ยต้องอย่า
00:01:27 → 00:01:30 ลืมนะครับว่าแคลอรีของเค้าสูงกว่าโปรตีน
00:01:30 → 00:01:34 แล้วก็สูงกับคาร์โบไฮเดรตประมาณ 2 เท่านะ
00:01:34 → 00:01:37 แน่นอนครับถ้าเราไม่ใช้น้ำมันเลยเออมัน
00:01:37 → 00:01:39 ต้องดีที่สุดแต่เราก็อยากได้ของอร่อยแล้ว
00:01:39 → 00:01:41 Air frer หรือหม้อท่อไร้น้ำมันมาตอบ
00:01:41 → 00:01:46 โจทย์ข้อนี้นะครับทีนี้ครับก็เริ่มมีคน
00:01:46 → 00:01:48 สงสัยว่าเอ๊มันดีจงงั้นจริงหรือเปล่านะ
00:01:48 → 00:01:51 มันทำให้เกิดสารกองมะเร็งได้ยังไงบ้าง
00:01:51 → 00:01:54 จริงหรือเปล่าก็ต้องขอเริ่มจากการที่เรา
00:01:54 → 00:01:57 มาเข้าใจก่อนว่าไอ้หม้อท่อไร้น้ำมันเนี่ย
00:01:57 → 00:02:01 มันทำงานยังไงนะครับบอกเลยนะครับว่ามัน
00:02:01 → 00:02:04 ไม่ใช้รังสีอะไรแต่อย่างใดนะครับไม่ใช้
00:02:04 → 00:02:07 คลื่นเอ่ออิเล็กโทรนิกหรือคลื่นแม่เหล็ก
00:02:07 → 00:02:09 ไฟฟ้าเหมือนกับไมโครเวฟนะครับแต่หลักการ
00:02:10 → 00:02:14 ของมันก็คือจะมีไฟฟ้าผ่านขดลวดแล้วขดลวด
00:02:14 → 00:02:16 ตัวเนี้ยก็จะร้อนขึ้นมาและความร้อนตเนี้
00:02:17 → 00:02:20 ก็จะถูกพัดลมที่อยู่ในนเป่าไปทั่วนะฮะ
00:02:20 → 00:02:22 อาหารที่วางไว้ตรงกลางก็จะได้ความร้อน
00:02:22 → 00:02:24 เหมือนกับคุณเอาเครื่องเป่าผมที่มันร้อน
00:02:25 → 00:02:28 มากๆเนี่ยเป่าจ่ออาหารและอาหารก็จะสุกจาก
00:02:28 → 00:02:31 ข้างนอกเข้าไปข้างในดังนั้นเนี่ยจึงทำให้
00:02:31 → 00:02:34 ตรงผิวของอาหารเนี่ยมีความกรอบส่วนข้างใน
00:02:34 → 00:02:36 ก็จะนุ่มๆนะครับก็แน่นอนครับหลายคนก็มาทำ
00:02:36 → 00:02:40 เฟรนช์ฟรายและอร่อยแน่นอนนะอ่านี่คือหลัก
00:02:40 → 00:02:42 การการทำงานของมันดังนั้นมันไม่มีรังสี
00:02:42 → 00:02:44 อะไรแต่อย่างใดนะครับมันใช้หลักการเอา
00:02:44 → 00:02:48 ความร้อนไปเป่าโดนนะเรื่องของมะเร็งเออ
00:02:49 → 00:02:53 มันมาจากไหนมันมาจากงานวิชาการที่ฮ่องกง
00:02:53 → 00:02:55 งานนึงครับที่เขาไป
00:02:55 → 00:02:59 ศึกษายี่ห้อต่างๆของ Air fryer นี่แหละ
00:02:59 → 00:03:02 แล้วก็ก็ปรากฏว่าเค้าไปเจอนะฮะว่าการที่
00:03:02 → 00:03:04 เอามันฝรั่งเข้าไปใส่ข้างในไปทำ
00:03:04 → 00:03:07 เฟรนช์ฟรายนี่แหละมันทำให้เกิดสารพิษตัว
00:03:07 → 00:03:10 นึงชื่อว่าลาไมสารพิษตัวเนี้เป็นสารก่อ
00:03:10 → 00:03:14 มะเร็งครับอ่าเป็นสารก่อมะเร็งและแน่นอน
00:03:14 → 00:03:17 ครับพองานตัวนี้ออกมาแล้วคนเห็นก็เป็นไง
00:03:17 → 00:03:22 ครับแชร์กันออกไปพอแชร์เสร็จปุ๊บเอ่อเรา
00:03:22 → 00:03:24 มีเครื่อง Air Flyer อยู่ในมือเราเราไม่
00:03:24 → 00:03:26 ใช้ดีกว่าถ้าเราใช้เดี๋ยวเรากลายไปเป็น
00:03:26 → 00:03:30 มะเร็งเอ้ยแน่นอนเลยเป็นมะเร็งแน่นอนเลย
00:03:30 → 00:03:32 แต่คุณไม่ได้เข้าไปดูรายละเอียดของงานตัว
00:03:32 → 00:03:38 นี้ครับงานตัวนี้เนี่ยเค้าทำออกมาแล้วเจอ
00:03:38 → 00:03:43 สารเอิลเอิลนี่เจอได้ยังไงต้องบอกว่ามัน
00:03:43 → 00:03:46 เกิดจากปฏิกิริยาอันนึงเรียกว่า mard
00:03:46 → 00:03:50 reaction นะครับ mard reaction คืออะไร
00:03:50 → 00:03:54 มันคือการที่มีการรวมกรดอะมิโนหรือโปรตีน
00:03:54 → 00:03:57 เข้ากับน้ำตาลเชิงเดี่ยวครับเกิดเป็นสาร
00:03:57 → 00:04:00 ตัวหนึ่งชื่อ melanoidin นะครับสารตัว
00:04:00 → 00:04:03 เนี้ยมันจะทำให้สิ่งที่เราเ่าใช้ความร้อน
00:04:03 → 00:04:05 หรืออะไรพวกเนี้ยออกเป็นสีน้ำตาลน้ำตาลนะ
00:04:05 → 00:04:09 ครับอ่าอันเนี้ยคือสารตัวนี้สารเจริงๆมัน
00:04:09 → 00:04:12 มีข้อดีนะครับคือตัวมันเองเนี่ยมันเป็น
00:04:12 → 00:04:16 สารต้านอนุมูลอิสระได้มันเป็นพรีไบโอติก
00:04:16 → 00:04:19 ได้เพื่อที่จะให้พวกอ่าแบคทีเรียตัวดีใน
00:04:19 → 00:04:22 ลำไส้ของเราเนี่ยกินเข้าไปแล้วมันก็ทำงาน
00:04:22 → 00:04:24 ได้ดีมันเหมือนเป็นอาหารของพวกแบคทีเรีย
00:04:24 → 00:04:27 ตัวดีในลำไส้ของเรานะครับแล้วก็มีผลดี
00:04:27 → 00:04:29 อย่างอื่นอีกเยอะแยะแต่ปัญหามันอยู่ตรง
00:04:29 → 00:04:33 นี้ครับครับการที่เกิด malas Reaction
00:04:33 → 00:04:37 เนี่ยมากๆมันจะมีสารพิษอีกตัวนึงซึ่งเกิด
00:04:37 → 00:04:41 ควบคู่มาด้วยสารตัวนี้ก็คือ
00:04:41 → 00:04:45 ลไครับอ่ามันเกิดคู่กันนะฮะ
00:04:45 → 00:04:50 เอลแล้วถ้าสมมุติว่าเราเอาของอย่างนึง
00:04:50 → 00:04:52 ซึ่งมันเกิด mad reaction ไปเรื่อยๆ
00:04:52 → 00:04:55 เนี่ยใช้ความร้อนมากๆมันก็จะเกิดเยอะขึ้น
00:04:55 → 00:04:57 เยอะขึ้นยิ่งมันน้ำตาลมากขึ้นมากขึ้นเท่า
00:04:57 → 00:05:00 ไหร่เคลมก็มากขึ้นตามนั้นครับ
00:05:00 → 00:05:03 ดังนั้นถ้าเราฟังแบบนี้แล้วเนี่ยวิธีใน
00:05:03 → 00:05:07 การลดเอิลก็ไม่ได้ยากอะไรนะครับอย่างแรก
00:05:07 → 00:05:10 ครับคืออะคริลาไมด์เนี่ยมันจะต้องมี
00:05:10 → 00:05:14 โปรตีนหรือกรดอะมิโนบวกกับน้ำตาลและไอ้
00:05:14 → 00:05:16 มันสัมปะหลังนี่แหละตัวดีเลยเพราะดนั้นมี
00:05:16 → 00:05:20 กรดอมิโนแปจีแล้วก็มีน้ำตาลด้วยนะฮะถ้า
00:05:20 → 00:05:23 เกิดคุณเอาไปให้ความร้อนโดยเฉพาะเกิน 120
00:05:23 → 00:05:27 องศเซซนะครับโอกาสเกิดอะคริลาไมด์จะสูง
00:05:27 → 00:05:30 ขึ้นครับอ่าไม่ลารีแอคชันเนี่ยมันจะต้อง
00:05:30 → 00:05:33 ใช้ความร้อนนะฮะในการรวม 2 โมเลกุลเข้า
00:05:33 → 00:05:36 กันนะแล้วก็เกิดเอิมเนี่ยเป็นส่วนหนึ่ง
00:05:36 → 00:05:38 ของมันด้วยซึ่งเป็นสารกอมะเร็งดังนั้นถ้า
00:05:38 → 00:05:41 เกิดคุณให้ความร้อนน้อยกว่า 120 องศโอกาส
00:05:41 → 00:05:46 เกิดเอคลามีมั้ยมีแต่ต่ำครับมีแต่ต่ำและ
00:05:46 → 00:05:49 ผมจะบอกนะครับว่าไม่ว่าคุณจะทำอาหารด้วย
00:05:49 → 00:05:54 วิธีไหนนะครับปิ้งย่างทอดอบหรืออะไรก็
00:05:54 → 00:05:57 แล้วแต่นะครับถ้าความร้อนมากพอ Mage
00:05:57 → 00:06:00 reaction เกิดแน่ๆครับนั่นหมายความว่า
00:06:00 → 00:06:03 ถ้าเราเทียบกันแล้วเนี่ยนะฮะ Air fryer
00:06:03 → 00:06:07 หรือหม้อท่อไรน้ำมันนั้นจะเกิด
00:06:07 → 00:06:10 เคลน้อยกว่าวิธีอื่นครับเพราะวิธีอื่นใช้
00:06:10 → 00:06:13 ความร้อนมักจะมากกว่าแล้วมักจะทำนานกว่า
00:06:13 → 00:06:16 เสียด้วยดังนั้นโอกาสจะเกิดเอไลในการทำ
00:06:16 → 00:06:21 วิธีอื่นจึงมากกว่าการใช้หม้อทอดไร้น้ำ
00:06:21 → 00:06:25 มันครับนี่เป็นสิ่งที่ควรรู้นะบางคนถาม
00:06:25 → 00:06:29 ว่าเฮ้ยแล้วอย่างนี้เราจะสามารถที่จะลด
00:06:29 → 00:06:31 ไอ้เอคลาได้อีกมถ้าเราบอกว่าเราไม่เอา
00:06:31 → 00:06:36 ความร้อนเกิน 120 องศาได้ครับมันเนี่ยคุณ
00:06:36 → 00:06:39 เอาไปแช่น้ำไว้ก่อนหั่นๆๆๆแล้วเอาไปแช่
00:06:39 → 00:06:41 น้ำไว้ก่อนสักครึ่งชั่วโมงมันจะลดกรด
00:06:41 → 00:06:46 อะมิโนแปจีโอกาสการเกิดเอมก็จะลดลงครับ
00:06:46 → 00:06:49 อีกอย่างนึงซึ่งคุณไม่ควรทำก็คือการเอา
00:06:49 → 00:06:52 มันฝรั่งไปแช่ตู้เย็นนะครับเพราะการแช่
00:06:52 → 00:06:54 ตู้เย็นเนี่มันจะเป็นการเพิ่มน้ำตาลที่
00:06:54 → 00:06:57 อยู่ในนั้นนะฮะแล้วเมื่อกี้เราบอกแล้วว่า
00:06:57 → 00:07:00 Mage reaction ก็คือการที่มีการควบรวม
00:07:00 → 00:07:04 ระหว่างอะมิโนแอซิดกับน้ำตาลถ้าคุณมีน้ำ
00:07:04 → 00:07:06 ตาลเยอะมันก็ควบรวมเยอะมันก็มีปัญหานะ
00:07:07 → 00:07:10 งั้นอย่าเอามันไปแช่ตู้เย็นนะครับอันนี้
00:07:10 → 00:07:12 ก็เป็นวิธีในการลดสารกร่อมะเร็งถามว่ามัน
00:07:12 → 00:07:14 เกิดสารก่อมะเร็งจริมั้ยจริงครับแต่มัน
00:07:14 → 00:07:16 น้อยกว่าเวิธีอื่นแล้วคุณก็มีวิธีป้องกัน
00:07:16 → 00:07:20 ไม่ให้มันเกิดเยอะเสียด้วยนะฮะเ reaction
00:07:20 → 00:07:23 เนี่ยก็จะเกิดขึ้นกับพวกนี่แหละแป้งนะฮะ
00:07:23 → 00:07:26 เศษขนมปังพวกนี้เกิดได้จริงๆกาแฟก็เกิด
00:07:26 → 00:07:29 ได้เหมือนกันนะครับแล้วก็สเต็กตรงที่มัน
00:07:29 → 00:07:31 ตรงผิวๆของมันเก็สามารถเกิดได้เหมือนกัน
00:07:31 → 00:07:33 โดยเฉพาะถ้าใครใช้พวกสเตกรับบางอย่าง
00:07:33 → 00:07:36 เนี่ยก็จะเกิดแบบนั้นขึ้นมาได้นะ
00:07:36 → 00:07:41 ครับอย่างไรก็ตามนะครับอันนี้เป็นกรณีของ
00:07:41 → 00:07:44 มันนะฮะแต่ก็จะมีสารกรองมะเร็งชนิดอื่น
00:07:44 → 00:07:47 ซึ่งยังไม่ได้พูดถึงนะครับสารกองแมรงชนิด
00:07:47 → 00:07:49 อื่นผมต้องขอบอกไว้ก่อนนะครับไม่ว่าคุณจะ
00:07:49 → 00:07:53 ทำอ่าการทำให้มันสุกด้วยวิธีอะไรก็แล้ว
00:07:53 → 00:07:56 แต่ถ้าเมื่อไหร่เนี่ยอาหารนั้นมีรอยไหม้
00:07:56 → 00:07:58 นั่นแหละครับสารกอมะเร็งมันเกิดขึ้นแล้ว
00:07:59 → 00:08:02 มันเกิดเกิดขึ้นได้ทุกวิธีด้วยนะครับ Air
00:08:02 → 00:08:04 Flyer หรือหม้อทอดไร้น้ำมันเนี่ยก็เกิด
00:08:05 → 00:08:07 ขึ้นได้เช่นกันนะครับแต่ว่ามันอาจจะน้อย
00:08:07 → 00:08:09 กว่าหน่อยนึงถามว่าสารอะไรที่เกิดขึ้นได้
00:08:09 → 00:08:12 บ้างตัวแรกก็คือ polycyclic aromatic
00:08:12 → 00:08:17 ไฮโดรคาร์บอนหรือ pah นะครับตัวนี้เนี่ย
00:08:17 → 00:08:19 ก็ไอ้พวกไม้เกรียมทั้งหลายแหละเนี่ยครับ
00:08:19 → 00:08:21 ก็เกิดพวกนี้ได้คือพวกนี้เกิดกับเนื้อซะ
00:08:21 → 00:08:23 ส่วนใหญ่นะครับแล้วก็จะมีอีกตัวนึงก็คือ
00:08:24 → 00:08:28 เป็นอ่าเทรซคลิกเอมีนนะครับเทรซคลิกเอมีน
00:08:28 → 00:08:30 ก็เป็นสารก่อมะเร็งอีกอีกอย่างนึงเหมือน
00:08:30 → 00:08:31 กันซึ่งเกิดขึ้นกับอะไรก็ได้ที่มันมี
00:08:31 → 00:08:34 โปรตีนอยู่ข้างในนะครับเนื้อปลาหรืออะไร
00:08:34 → 00:08:38 พวกเก็เกิดได้นะฮะและตัวสุดท้ายก็เป็นอ่า
00:08:38 → 00:08:40 cholesterol oxidized product นะครับ
00:08:40 → 00:08:42 cholesterol oxidize product เนี่ยมี
00:08:42 → 00:08:44 งานศึกษาว่ามันเกิดจากปลาโดยเฉพาะปลายที่
00:08:44 → 00:08:47 มันมีไขมันพวกนี้ออกมาได้นะครับก็เกิดการ
00:08:47 → 00:08:49 ออกซิไดซ์ถามว่าพวกนี้ทั้งหมดเนี่ยมัน
00:08:49 → 00:08:52 เป็นสารกองมะเร็งเฮ้ยแล้วเราป้องกันมัน
00:08:52 → 00:08:56 ได้ไงป้องกันได้ครับได้ดีซะด้วยอย่างแรก
00:08:56 → 00:08:59 นะครับถ้าคุณลดปริมาณไขมันที่ที่มีอยู่ใน
00:08:59 → 00:09:02 อาหารที่เอาไปทำเนี่ยมันจะลดเรื่องนี้ให้
00:09:02 → 00:09:05 ดีมากขึ้นเช่นถ้าเกิดว่าคุณมีมันอยู่ก้อน
00:09:05 → 00:09:07 นึงแล้วมันติดอยู่กับเนื้อเนี่ยคุณตัดมัน
00:09:07 → 00:09:09 ออกเนี่ยโอกาสเกิดพวกเนี้ยก็จะลดลงเพราะ
00:09:09 → 00:09:12 ว่าอย่างนึงซึ่งเกิดขึ้นได้นะครับคือไข
00:09:12 → 00:09:14 มันที่อยู่ในสัตว์เนี่ยเวลามันโดนความ
00:09:14 → 00:09:18 ร้อนมันเป็นไงมันกลายไปเป็นของเหลวนะครับ
00:09:18 → 00:09:22 ของเหลวแล้วตกไปข้างล่างเนี่ยนะฮะหลังจาก
00:09:22 → 00:09:24 ของเหลวตกไปข้างล่างปุ๊บมันก็กลายมาเป็น
00:09:24 → 00:09:27 ควันสีดำขึ้นมาเคลือบอาหารนั่นแหละครับ
00:09:27 → 00:09:31 คือสารกองมะเร็งชังชนิดนึงนะฮะไม่ว่าคุณ
00:09:31 → 00:09:36 จะไปกินหมูปิ้งปลาดุกย่างอ่าไก่ย่างน้ำ
00:09:37 → 00:09:39 มันที่อยู่ในของพวกเนี้ยมันหล่นลงไปข้าง
00:09:39 → 00:09:41 ล่างแล้วมันก็ลอยเป็นความดำขึ้นมาเกาะ
00:09:41 → 00:09:43 นั่นก็คือสารกร่อมะเร็งเช่นกันในเครื่อง
00:09:43 → 00:09:45 airfryer นี่ก็คือปัญหาถ้าเกิดคุณตัดไอ้
00:09:45 → 00:09:48 ตัวไขมันมันออกก็จะลดปริมาณการเกิดสารกอ
00:09:48 → 00:09:51 มะเร็งได้นะครับอย่างที่ 2 ที่ทำได้ก็คือ
00:09:51 → 00:09:54 มันจะมีกระดาษที่เอาไว้ซับมันของพวกเนี้ย
00:09:54 → 00:09:56 แต่ต้องเป็นกระดาษพิเศษของเขาคนะครับไม่
00:09:56 → 00:09:58 ใช่ว่ากระดาษซ้ำมันหน้าแล้วใส่เข้าไปไม่
00:09:58 → 00:10:01 ได้นะฮะแล้วก็เอาใส่เข้าไปข้างในนะพอเอา
00:10:01 → 00:10:04 ใส่เข้าไปข้างในปุ๊บมันที่มันมาจากสั่น
00:10:04 → 00:10:06 เนี่ยก็จะตกลงไปข้างล่างอยู่ในกระดาษนี้
00:10:06 → 00:10:10 ก็จะโดนซับไว้มันจะไม่กลายมาเป็นควันสีดำ
00:10:10 → 00:10:12 เราก็จะไม่มีปัญหานะครับอันนี้คือวิธีการ
00:10:12 → 00:10:16 หลีกเลี่ยงในสิ่งที่ทำให้ก่อมะเร็งได้นะ
00:10:16 → 00:10:20 ครับต่อมาแน่นอนครับหม้อทอดไร้น้ำมัน
00:10:20 → 00:10:23 เนี่ยมันไม่ได้แปลว่ามันไร้น้ำมันตลอดไป
00:10:23 → 00:10:25 นะครับคืออาจจะมีการเติมน้ำมันเข้าไปบ้าง
00:10:26 → 00:10:28 นิดๆหน่อยๆก็ได้นะครับน้ำมันที่เราเติม
00:10:28 → 00:10:30 เข้าไปจะต้องเลือกอันที่มันไม่ค่อยกลายไป
00:10:30 → 00:10:32 เป็นควันได้นะครับก็คือเลือกที่จุดกำเนิด
00:10:33 → 00:10:35 ควันเนี่ยมันอยู่ที่อุณหภูมิสูงๆนะครับ
00:10:35 → 00:10:38 อ่าน้ำมันอะโวคาโดน้ำมันคาโนล่าอะไรพวก
00:10:38 → 00:10:41 เนี้ยได้นะฮะถ้าเราใช้อันที่มันเป็นจุด
00:10:41 → 00:10:44 เกิดควันที่อุณหภูมิต่ำใส่เข้าไปปุ๊บควัน
00:10:44 → 00:10:46 ดำอ่านั่นแหละเสร็จเลยครับก็เกิดมะเร็ง
00:10:46 → 00:10:49 ขึ้นมาได้นะดังนั้นเราต้องมีการเลือกน้ำ
00:10:49 → 00:10:51 มันให้ดีด้วยนะครับไม่งั้นมันจะกลายไป
00:10:52 → 00:10:53 เป็นแบบนี้ขึ้นมา
00:10:53 → 00:10:57 นะทีนี้ถามว่ามีอย่างอื่นอะไรบ้างที่เรา
00:10:57 → 00:10:59 ต้องเข้าใจเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้อีก
00:10:59 → 00:11:01 นะนะครับก็คือสมมุติว่าเราใส่พวกอาหารที่
00:11:01 → 00:11:05 มันมีไขมันเข้าไปเนี่ยเราเข้าใจละโอเคเรา
00:11:05 → 00:11:07 ตัดไขมันออกไปเรามีกระดาษซับมันเราไม่
00:11:07 → 00:11:09 เลือกน้ำมันที่มันก่อมะเร็งอะไรพวกนี้
00:11:09 → 00:11:13 แล้วนะฮะเวลาทำความสะอาดเครื่องครับทำ
00:11:13 → 00:11:15 ความสะอาดให้ดีเพราะว่าพวกนี้มันชอบแบบมี
00:11:15 → 00:11:18 เศษอะไรไปหล่นอยู่ข้างล่างมีมันอยู่ข้าง
00:11:18 → 00:11:20 ล่างและไอ้พวกเศษพวกมันเนี่แหละถ้าเกิด
00:11:20 → 00:11:24 คุณล้างมันออกไม่หมดเนี่ยนะครับมันรอบต่อ
00:11:24 → 00:11:26 ไปที่คุณเอาไปทำอาหารเนี่ยพวกเยมันโดนเผา
00:11:26 → 00:11:28 ไหม้มาแล้วรอบนึงมันโดนอีกรอบนึงมันจะ
00:11:28 → 00:11:30 กลายไปเป็นควันดำเกเกิดสารก่อมะเร็งขึ้น
00:11:30 → 00:11:33 มาเกาะที่อาหารคุณนั่นแหละครับดังนั้นจึง
00:11:33 → 00:11:35 มีความจำเป็นจะต้องทำความสะอาดให้ดีครับ
00:11:35 → 00:11:38 และถ้าให้แนะนำนะครับรีบทำความสะอาดตั้ง
00:11:38 → 00:11:40 แต่คุณทำอาหารเสร็จใหม่ๆแล้วเครื่องมัน
00:11:40 → 00:11:43 เริ่มหายร้อนตอนนั้นนะครับเพราะถ้าเกิด
00:11:43 → 00:11:45 คุณทิ้งไว้ข้ามคืนเนี่ยนะครับมันขัดออก
00:11:45 → 00:11:50 ยากมากยากมากๆเลยนะฮะมันจะเหนียวติด
00:11:50 → 00:11:52 ตะแกรงที่อยู่ข้างในแล้วไม่รู้จะแกะออกมา
00:11:52 → 00:11:53 ได้ยังไงแล้วมันล้างยากนะครับดังนั้น
00:11:54 → 00:11:56 เนี่ยเสร็จปุ๊บเนี่ยเอามาแช่ไว้ในน้ำสบู่
00:11:56 → 00:11:59 เอ่อน้ำล้างจานอะไรให้เรียบร้อยตั้งแต่
00:11:59 → 00:12:01 แต่แรกๆเลยอย่าจะอย่ารอให้มันข้ามคืนแล้ว
00:12:01 → 00:12:04 มันเหนียวติดอย่างนั้นเลยนะครับอ่าไม่
00:12:04 → 00:12:06 งั้นจะเกิดปัญหาขึ้นมาได้
00:12:06 → 00:12:11 อ้อก็จริงๆมันมีเรื่องที่อ่าตลกๆอยู่
00:12:11 → 00:12:15 อย่างนึงนะครับเมื่อกี้พูดถึงเรื่องของ
00:12:15 → 00:12:17 ฮ่องกงที่เขามีงานวิชาการออกมาใช่มั้ย
00:12:17 → 00:12:19 ครับแล้วผมพูดถึงเรื่องของ mard reaction
00:12:19 → 00:12:21 mard reaction เนี่ยเวลาที่เราเอาแฟน
00:12:21 → 00:12:24 เข้าไปทำเนี่ยมันจะเปลี่ยนจากสีเหลืองถ้า
00:12:24 → 00:12:26 เราเกิดปฏิกิริยานี้มากขึ้นๆขึ้นมันจะ
00:12:26 → 00:12:28 กลายไปเป็นสีน้ำตาลอสารเมลานอยดินเนี่ย
00:12:28 → 00:12:30 มันเป็นสีน้ำตาลนะครับแล้วปล่อยไปเรื่อย
00:12:30 → 00:12:34 มันจะกลายเป็นสีน้ำตาลผมย้ำคำว่าสีน้ำตาล
00:12:34 → 00:12:37 เพราะว่าอะไรรู้มั้ยเพราะว่างานวิจัยชนิด
00:12:37 → 00:12:41 นี้มาจากฮ่องกงมีใครคิดความเชื่อมโยงของ 2
00:12:41 → 00:12:42 อย่างนี้ได้มั้ย
00:12:42 → 00:12:46 ฮะถ้าไม่มีผมจะบอกคุณอย่างนึงถ้าคุณไป
00:12:46 → 00:12:49 เที่ยฮ่องกงนะครับกรุณาอย่าพูดกับคน
00:12:49 → 00:12:53 ฮ่องกงว่าสีน้ำตาลนะครับสีน้ำตาลคุณพูด
00:12:53 → 00:12:56 ไม่ได้นะเอ่อผมจะไม่บอกหรอกครับว่ามันแปล
00:12:56 → 00:12:59 ว่าอะไรนะครับแต่ว่าคุณอย่าไปพูดแล้วกัน
00:12:59 → 00:13:02 นะฮะถ้าเกิดคนไหนที่รู้ความหมายของอันนี้
00:13:02 → 00:13:04 ก็เก็บไว้ในใจแล้วกันนะครับแต่เอาเป็นว่า
00:13:04 → 00:13:06 ถ้าเกิดคุณไปฮ่องกงก็อย่าไปพูดกับคนอื่น
00:13:06 → 00:13:08 ว่าสีน้ำตาลแล้วกันนะครับผมเตือนคุณแล้ว
00:13:08 → 00:13:10 นะมันแปลว่าอะไรนั้นเป็นหน้าที่ของคุณที่
00:13:11 → 00:13:13 จะต้องไปหาเอาเองแล้วล่ะครับนะฟังให้แบบ
00:13:13 → 00:13:18 ขำๆไว้นะดังนั้นเนี่ยตอนนี้คือเราน่าจะ
00:13:18 → 00:13:21 เข้าใจบ้างละอีกอย่างนึงซึ่งผมอยากจะ
00:13:21 → 00:13:23 เตือนเกี่ยวข้องกับเรื่องของการใช้หม้อ
00:13:23 → 00:13:27 ทอดไรน้ำมันก็คือถึงแม้ว่ามันจะเป็นวิธี
00:13:27 → 00:13:32 ในการทำให้อาหารสุขที่มันดูมีคุณค่าทาง
00:13:32 → 00:13:34 โภชนาการเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆนะครับถึง
00:13:34 → 00:13:38 แม้ว่าจะเป็นอย่างงั้นอ่ะมันมันลดคุณค่า
00:13:38 → 00:13:40 ทางโภชนาการลดได้มยลดได้อ่าแต่มันอาจจะ
00:13:40 → 00:13:43 ไม่ได้ลดได้มากไม่มากเท่ากันอย่างอื่น
00:13:43 → 00:13:44 เพราะความร้อนเราให้มันแป๊บเดียวเหมือน
00:13:44 → 00:13:46 กรณีไมโครเวฟล่ะครับเราให้แป๊บเดียวความ
00:13:46 → 00:13:48 ร้อนก็ไม่ได้สูงมากถ้าเราจำกัดความร้อน
00:13:48 → 00:13:51 ไม่ให้สูงเกิน 120 องศาเนี่ยมันก็จะไม่มี
00:13:51 → 00:13:53 ปัญหาอะไรนะฮะอันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดีนะฮะ
00:13:53 → 00:13:56 การทำอ่าสเตกหรือว่าการทำเนื้อที่อยู่
00:13:56 → 00:13:59 ข้างในเนี่ยนะครับหรือปลาอะไรก็แล้วแต่
00:13:59 → 00:14:01 มันเกิดสารที่มันเป็นสารออกซิไดซ์ซึ่ง
00:14:01 → 00:14:04 เป็นเกิดไปเป็นตัวพวกสารกองมะเร็งได้เรา
00:14:04 → 00:14:07 จะลดมันได้อีกวิธีนึงก็คือใส่พวกอ่าผัก
00:14:07 → 00:14:11 เข้าไปในนั้นน่าผักหรือพวก herbs นะครับ
00:14:11 → 00:14:13 หรือสมุนไพรต่างๆเพราะว่าของพวกเนี้ยมัน
00:14:13 → 00:14:16 มีสารแอนติออกซิแดนท์หรือสารต้านอนุมูล
00:14:16 → 00:14:19 อิสระดังนั้นก็จะลดการเกิดอนุมูลอิสระ
00:14:19 → 00:14:21 ขึ้นมาเช่นเมื่อตะกี้ผมบอกว่าอ่ามีงานทด
00:14:21 → 00:14:23 ลองอันนึงที่เขาเอาปลาเข้าไปใส่ใน Air
00:14:23 → 00:14:26 frer แล้วถ้าเจอความร้อนมากๆเนี่ยมันจะ
00:14:26 → 00:14:29 เกิดเป็นตัวนึงเป็นเคอเลสตอรอลออกซิ
00:14:29 → 00:14:31 produc ขึ้นมานะครับตัวเถ้าเกิดคุณเอา
00:14:31 → 00:14:35 ปลาไปทำคู่กับอ่าพวก herbs ต่างๆนะครับ
00:14:35 → 00:14:38 หรือสมุนไพรเนี่ยมันจะลดการเกิดอันนี้ได้
00:14:38 → 00:14:42 เยอะมากนะครับลดได้เยอะมากเลยทีเดียวนะ
00:14:42 → 00:14:47 แล้วอิมอ้อเมื่อกี้ผมลืมพูดไปอย่างนึงที่
00:14:47 → 00:14:51 ผมบอกว่าอิลานเนี่ยมันเกิดขึ้นได้ในทุกๆ
00:14:52 → 00:14:55 วิธีในการทำให้อาหารสุกถ้าคุณใช้ Air
00:14:55 → 00:14:58 frer อย่างถูกวิธีนะสารเอลาที่เกิดขึ้น
00:14:58 → 00:15:01 ได้เนี่ยมันน้อยกว่าเวทีอื่นประมาณ 90%
00:15:01 → 00:15:04 ครับแล้วผมมีงานวิจัยตรงนี้เดี๋ยวผมจะแปะ
00:15:04 → 00:15:06 ให้คุณไปอ่านเอาเองด้วยนะฮะจะได้รู้ว่า
00:15:06 → 00:15:08 มันมีที่มาที่ไปไม่ได้กลัวอย่างเดียวว่า
00:15:08 → 00:15:11 เ้ยมันมีขสารกร่อมะเร็งเออมันก็มีได้ครับ
00:15:11 → 00:15:13 แต่มันน้อยกว่าวิธีอื่นๆแล้วกันนะครับน่า
00:15:13 → 00:15:15 นี้เราจะได้ฉลาดขึ้นมาแล้วครับเราจะรู้
00:15:16 → 00:15:17 ที่มาที่ไปเราจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ
00:15:18 → 00:15:20 ของคนที่เขาคอยพูดให้เรากลัวนะ
00:15:20 → 00:15:24 ครับอีกอย่างที่ต้องเข้าใจเลยคือถึงแม้
00:15:24 → 00:15:28 Air fryer เนี่ยมันจะเป็นสิ่งที่เราใช้
00:15:28 → 00:15:31 แล้วมันเอ่อดูเหมือนจะดีต่อสุขภาพแต่มัน
00:15:31 → 00:15:33 อยู่ที่อาหารที่คุณใส่เข้าไปด้วยครับถ้า
00:15:33 → 00:15:35 อาหารที่คุณใส่เข้าไปมันเป็นอาหารที่ไม่
00:15:35 → 00:15:38 ดีต่อสุขภาพตั้งแต่แรกเช่นคุณเอาไส้กรอก
00:15:38 → 00:15:40 ใส่เข้าไปอ่ะมันผ่านกรรมวิธีอะไรมันมี
00:15:40 → 00:15:42 โซเดียมในนั้นเยอะเอาเข้า Air fer
00:15:42 → 00:15:44 โซเดียมก็ไม่ได้หายไปไหนครับมันก็อยู่ที่
00:15:44 → 00:15:48 เดิมนะฮะคุณเอาอ่าอนน Ring ซึ่งทำสำเร็จ
00:15:48 → 00:15:50 รูปมาแล้วแล้วก็ใส่มาในแพ็คที่เอาไปใส่
00:15:50 → 00:15:53 ช่องแข็งอย่าเงี้ยแล้วคุณเอาออกมาอ่ะ
00:15:53 → 00:15:55 ละลายแล้วก็ใส่เข้าไปใน Air frer เออ
00:15:55 → 00:15:58 หวังว่ามันจะมันจะไม่ต้องใช้น้ำมันเออมัน
00:15:58 → 00:16:02 กรอบมันอร่อยไม่ใช่หล่ะครับเพราะว่าการ
00:16:02 → 00:16:04 ที่เาทำอ Ring ออกมาเนี่ยเค้าผ่าน
00:16:04 → 00:16:06 กรรมวิธีทุกอย่างมาเรียบร้อยแล้วเค้าทอด
00:16:06 → 00:16:08 เค้าทุกอย่างมันเรียบร้อยแล้วและในนั้น
00:16:08 → 00:16:09 คือมีน้ำมันเรียบร้อยแล้วครับมีน้ำมันมี
00:16:09 → 00:16:12 โซเดียมมีของที่คุณไม่อยากได้แล้วคุณแค่
00:16:12 → 00:16:14 เอามาเข้า Air frer เพื่อให้มันกรอบอีก
00:16:14 → 00:16:17 รอบนึงคือของที่มันไม่ดีมันอยู่ในนั้น
00:16:17 → 00:16:20 อยู่แล้วมันไม่ได้ทำให้มันหายไปไหนครับนะ
00:16:20 → 00:16:22 งั้นคุณต้องเข้าใจด้วยว่ามันไม่ได้ทำให้
00:16:22 → 00:16:27 อาหารที่ไม่ดีกลายไปเป็นดีได้ส่วนของที่
00:16:27 → 00:16:30 มันเสียไปแล้วเนี่ยอย่าเอามาทำครับเช่น
00:16:30 → 00:16:32 บางคนเคยถามนะครับเรื่องของไมโครเวฟเนี่ย
00:16:33 → 00:16:35 บอกว่าเอ๊เราไม่ควรกินอาหารค้างคืนจริง
00:16:35 → 00:16:38 หรือเปล่าคือถ้าอาหารค้างคืนเนี่ยแล้ว
00:16:38 → 00:16:40 เข้าไมโครเวฟนะครับถ้าอาหารยังไม่เสียนะ
00:16:40 → 00:16:42 คุณไม่เป็นไรแต่ถ้ามันเสียไปแล้วเข้า
00:16:42 → 00:16:45 ไมโครเวฟมันไม่ได้ทำให้มันดีขึ้นนะครับ
00:16:45 → 00:16:46 เชื้อโรคเนี่ยมันตายได้ด้วยความร้อนก็
00:16:46 → 00:16:49 จริงแต่พิษจากเชื้อโรคมันไม่ตายครับมัน
00:16:49 → 00:16:52 ไม่หายไปไหนคุณเจอความร้อนหวังว่าเชื้อ
00:16:52 → 00:16:54 โรคตายเออเชื้อโรคตายจริงๆครับแต่พิษของ
00:16:54 → 00:16:56 เชื้อโรคมันยังอยู่ที่เดิมคุณกินเข้าไป
00:16:56 → 00:16:59 คุณก็ขึ้นไส้อเจนท้องเสียอาหารเป็นพิษได้
00:16:59 → 00:17:02 ังนั้นตรงเนี้ยจะต้องมีความเข้าใจอย่างนึ
00:17:02 → 00:17:04 ว่าอะไรที่มันเสียแล้วก็อย่าเอาไปใส่ครับ
00:17:05 → 00:17:09 มันมันไม่ควรนะฮะอ่าแต่ไม่ใช่ว่าโอ๊อาหาร
00:17:09 → 00:17:11 ทิ้งข้ามคืนไปแล้วมันจะเกิดสารหนูอะไร
00:17:11 → 00:17:13 อย่างงี้ไม่มีทางมันเป็นไปไม่ได้นะครับ
00:17:13 → 00:17:15 ดังนั้นอันนี้ไม่ต้องไปเชื่ออะไรนะครับ
00:17:15 → 00:17:19 งั้นผมจะสรุปให้ฟังว่าถ้าเราจะใช้ Air
00:17:19 → 00:17:21 frer ให้ปลอดภัยจริงๆข้อแรกนะครับอย่า
00:17:21 → 00:17:25 ใช้อุณหภูมิเกิน 120 องศนะครับเราพยายาม
00:17:25 → 00:17:27 ลดปริมาณมันที่เข้าไปในนั้นให้เหลือน้อย
00:17:27 → 00:17:29 ที่สุดถ้าเราตัดมันออกไปจากอาหารไม่ได้
00:17:29 → 00:17:31 เราก็เอากระดาษที่ใช้ซ้ำมันแบบพิเศษเนี่ย
00:17:31 → 00:17:34 ใส่เข้าไปข้างในนะครับเราทำอาหารคู่ไปกับ
00:17:34 → 00:17:37 พวกอ่า herbs ต่างๆหรือสมุนไพรก็ได้มันจะ
00:17:37 → 00:17:41 มีตัวลดออกซิเดชั่นแล้วก็ทำให้สารกอ
00:17:41 → 00:17:44 มะเร็งเนี่ยมันลดน้อยลงได้นะครับอ่าแล้ว
00:17:44 → 00:17:47 ก็อย่าใส่จนมันอัดแน่นข้างในนั้นเพราะว่า
00:17:47 → 00:17:49 มันจะต้องอาศัยลมร้อนใช่มั้ยถ้าคุณใส่ของ
00:17:49 → 00:17:52 อัดแน่นเข้าไปแล้วมันก็ไม่สุกสิครับถูก
00:17:52 → 00:17:54 มั้ยมันก็ไม่สุกแล้วเราใช้ความร้อนนาน
00:17:54 → 00:17:56 เป็นไงผิวไม้เกรียมเลยครับส่วนข้างในยัง
00:17:56 → 00:17:59 ไม่สุกเลยนั่นแหละนะก็จะต้องมีการเลือก
00:17:59 → 00:18:02 แบบนี้ถ้าเราจะใส่น้ำมันลงไปในนั้นเพื่อ
00:18:02 → 00:18:05 ให้มันกรอบได้มากขึ้นคุณก็เลือกน้ำมันใส่
00:18:06 → 00:18:08 เข้าไปเล็กน้อยเลือกน้ำมันที่มีจุดกำเนิด
00:18:08 → 00:18:11 ควันสูงนะหมายความว่าจุดกำเนิดควันอยู่
00:18:11 → 00:18:13 ที่อุณหภูมิสูงๆไม่ใช่อุณหภูมิต่ำๆเพราะ
00:18:13 → 00:18:17 ถ้าต่ำปุ๊บมันเกิดควันอ่ะเสร็จนะครับกิน
00:18:17 → 00:18:19 ไม่ได้เหมือนกันเกิดสารกอมะเร็งชนิดต่างๆ
00:18:19 → 00:18:22 ได้นะฮะงั้นวันนี้ก็หวังว่าหลายคนคงจะ
00:18:22 → 00:18:24 คลายความกังวลเกี่ยวข้องกับเรื่องของการ
00:18:24 → 00:18:26 ใช้ Air Flyer ไปได้พอสมควรนะครับเวลา
00:18:26 → 00:18:29 ที่เราได้ยินข้อมูลอะไรแปลกๆมาจากไหนไม่
00:18:29 → 00:18:31 ว่าจากอะไรก็แล้วแต่นะครับขอให้ฟังหน่วย
00:18:31 → 00:18:33 งานที่เกี่ยวข้องว่าเค้าออกมาพูดว่าอะไร
00:18:33 → 00:18:36 อย่าเพิ่งตื่นตกใจไปมากกว่านั้นนะครับ
00:18:36 → 00:18:39 อย่างถ้าเกิดคุณไปดูเนี่ยงานศึกษาของทาง
00:18:39 → 00:18:41 ฮ่องกงคุณอ่านเข้าไปจริงๆแล้วนะครับก็จะ
00:18:41 → 00:18:42 พบ
00:18:42 → 00:18:45 ว่าหม้อทอดไร้น้ำมันหลายๆยี่ห้อที่เเอามา
00:18:45 → 00:18:49 ทำเนี่ยแล้วเจอสารเอิลโอเคมันเจอนะแต่มัน
00:18:50 → 00:18:52 ไม่ได้เจอเยอะมันจะมีแค่บางยี่ห้อเท่า
00:18:52 → 00:18:55 นั้นน่ะที่มันเจอเยอะซึ่งผมก็ไม่สันทัดใน
00:18:55 → 00:18:58 เรื่องของยี่ห้อว่าเออยี่ห้อไหนมันทำให้
00:18:58 → 00:19:00 มันมีปัญหาอะไรอย่างนั้นแต่อย่างใดนะครับ
00:19:00 → 00:19:02 คุณาจจะต้องไปศึกษาด้วยตัวเองว่าเออ
00:19:02 → 00:19:04 ยี่ห้อไหนที่คุณคิดว่ามันได้มาตรฐานก็เอา
00:19:04 → 00:19:07 ยี่ห้อนั้นมาใช้นะครับสำหรับผมเนี่ยคือผม
00:19:07 → 00:19:09 ก็ไม่ได้รู้จักหลายแบรนด์แต่ถามว่าผมมี
00:19:09 → 00:19:13 ใช้มั้ยก็มีที่อเมริกาใช้ยี่ห้อเ่าบม้า
00:19:13 → 00:19:15 เพราะว่าอืชื่อมันเหมือนสามเหลี่ยมเบอร์ม
00:19:15 → 00:19:18 ดีแล้วมันก็สีดำมันสวยมันสวยผมก็ซื้อก็ก็
00:19:18 → 00:19:22 ง่ายๆก็มีไว้ใช้อันนึงนะครับอ่ะวันนี้ก็
00:19:22 → 00:19:24 เข้าใจทุกอย่างดีแล้วเนาะของที่ใส่เข้าไป
00:19:24 → 00:19:26 จะต้องเป็นของที่ปลอดภัยนะครับอย่าใช้
00:19:26 → 00:19:29 ความร้อนสูงเกิน 120 องศาอย่าใช้เป็นเวลา
00:19:29 → 00:19:31 นานอย่าให้มันกำเนิดควันอย่าให้มันเป็น
00:19:31 → 00:19:33 ไันดำๆอยู่ข้างรอบรอบๆพวกนั้นคือสารกอง
00:19:33 → 00:19:36 มะเร็งเอามันไปทิ้งซะทำความสะอาดให้ดี
00:19:36 → 00:19:38 อย่าให้มีอะไรตกหลงเหลืออยู่ในนั้นมิ
00:19:38 → 00:19:40 ฉะนั้นจะมีปัญหาถ้าจะทำความสะอาดพอมัน
00:19:40 → 00:19:42 เครื่องมันเย็นแล้วรีบทำตั้งแต่ตอนนั้น
00:19:42 → 00:19:44 อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะไม่ใช่งั้นมันล้าง
00:19:44 → 00:19:46 ออกยากมากแล้วอย่าหาว่าผมไม่เตือนเพราะ
00:19:46 → 00:19:48 มันล้างยากออกจริงๆยากมากๆเลยด้วยซ้ำไป
00:19:48 → 00:19:51 ถ้าคุณทิ้งมันไว้นานๆนะครับและสุดท้ายนี้
00:19:51 → 00:19:53 ไปฮ่องกงอย่าพูดคำว่าสีน้ำตาลนะครับผม
00:19:53 → 00:19:55 เตือนคุณแล้วนะครับอ่ะเล่าให้ฟังเล่นๆ
00:19:55 → 00:19:57 เท่านี้แะครับวันนี้เท่านี้นะครับขอบคุณ
00:19:57 → 00:20:01 มากครับสวัสดีครับ M