00:00:00 → 00:00:03 ทำอะไรหายใจก็กูก็หายใจอยู่แล้วอ่ะทำไมจะ
00:00:03 → 00:00:06 ต้องใส่ใจสนใจมันอีกด้วยหรอศึกษาไปศึกษา
00:00:06 → 00:00:09 ไปก็เลยค้นพบว่าลมหายใจกับจิตใจเชื่อมโยง
00:00:09 → 00:00:13 กันมันทำยังไงคะหายใจอย่างผ่อนคลายเนี่ย
00:00:13 → 00:00:15 พื้นที่ทั้งหมดที่พี่ต้องสนใจคือพื้นที่
00:00:15 → 00:00:19 แค่นี้ทีนี้ขอให้เริ่มจากการหายใจเข้าลึก
00:00:19 → 00:00:24 และหายใจออกยาวโอเคความคิดเราก็คือว่าไหน
00:00:24 → 00:00:26 อ่ะลมหายใจที่มากระทบตรงเนี้ยอยู่ไหนอ่ะ
00:00:26 → 00:00:28 มึงอยู่ไหนอ่ะโอเคหน้าที่คุณไม่ได้
00:00:28 → 00:00:30 หงุดหงิดหน้าที่คุณคือสังเกตเพราะว่ามัน
00:00:30 → 00:00:32 เจอด้วยประสบการณ์ตรงแล้วว่าอาการคุ้ม
00:00:32 → 00:00:34 คั่งเป็นยังไงอาการผ่อนคลายเป็นยังไง
00:00:34 → 00:00:37 อย่างคุณเคยคุ้มคั่งด้วยเหรอดรโจเนี่ย
00:00:37 → 00:00:40 เป็นคนที่โดนรถชนแล้วกระดูกแตกละเอียดเลย
00:00:40 → 00:00:43 ข้างหลังอืตัดสินใจไม่ไปหาหมอฮีลตัวเอง
00:00:43 → 00:00:45 ด้วยการทำสมาธิจนกระดูกทั้งหมดกลับมา
00:00:45 → 00:00:49 ประสานอันนี้ฮาร์ดคอร์นะใช่หายใจผิดเนี่ย
00:00:49 → 00:00:52 ชีวิตพังได้มย
00:00:52 → 00:00:56 เอ่ออาจจะพังได้จับหัวใจตัวเองแล้วส่ง
00:00:56 → 00:01:01 ความรักเข้าไปจับหัวใจตอนนี้เป็นยังไงคะ
00:01:01 → 00:01:04 ถอดเสื้อรอ
00:01:04 → 00:01:07 [เพลง]
00:01:07 → 00:01:11 เลยแถบรับชมของเราในวันนี้นะคะก็เป็นนัก
00:01:11 → 00:01:15 แสดงท่านนึงค่ะซึ่งชมก็มีโอกาสได้เจอแก
00:01:15 → 00:01:19 บ้างนะตามงานนะคะก็เป็นคนที่รูบหล่อแล้ว
00:01:19 → 00:01:23 ก็มีรอยยิ้มแล้วก็แววตาที่มีเสน่ห์มากๆนะ
00:01:23 → 00:01:25 คะแต่ในขณะเดียวกันเนี่ยก็ค่อนข้างจะขึ้น
00:01:25 → 00:01:29 ชื่อเรองของความความติ๊ดนะความ Abstract
00:01:29 → 00:01:32 ของแกเลยอะไเงี้ยแล้วก็เอ่อเมื่อรู้ว่า
00:01:32 → 00:01:34 วันเนี้ยจะต้องมานั่งคุยด้วยกันอะไรเงี้ย
00:01:34 → 00:01:38 ก็ชมเองก็แอบมีความกังวลนิดนึงเหมือนกัน
00:01:39 → 00:01:41 ว่าเอ๊ะจะคุยกันรู้เรื่องมั้ยอะไรเงี้ย
00:01:41 → 00:01:44 แต่ว่าจริงๆแล้วเมื่อมีโอกาสได้นั่งคุย
00:01:44 → 00:01:47 กันก็รู้สึกว่าเคก็เป็นคนที่มีความลึก
00:01:47 → 00:01:52 ซึ้งนะแล้วเอาจริงๆก็คุยรู้เรื่องนะนะคะ
00:01:52 → 00:01:56 วันนี้หัวข้อที่เราจะนำมาคุยกันเนี่ยก็
00:01:56 → 00:02:01 เป็นเรื่องที่แกก็สนใจแล้วก็ศึกษาเรื่อง
00:02:01 → 00:02:04 นี้มาก็ร่วม 10 ปีะก็คือเรื่องของลมหายใจ
00:02:04 → 00:02:08 การได้เอ่อฝึกลมหายใจหรือว่าการได้หายใจ
00:02:08 → 00:02:09 อย่างถูกต้องเพื่อให้ตัวเองเนี่ยผ่อนคลาย
00:02:09 → 00:02:11 เนี่ยก็จะทำให้เรามีสภาพจิตใจที่มันมัน
00:02:11 → 00:02:15 เคลียร์ขึ้นนะพร้อมที่จะไปเจออะไรต่อไป
00:02:16 → 00:02:19 หรือว่าไปตัดสินใจเอ่อใช้ชีวิตได้อย่างมี
00:02:19 → 00:02:22 ประสิทธิภาพนะคะและนอกเหนือไปกว่านั้น
00:02:22 → 00:02:24 เนี่ยในกลุ่มที่มีการศึกษาเรื่องนี้อย่าง
00:02:24 → 00:02:29 จริงจังเนี่ยก็พบว่าการฝึกลมหายใจอย่าง
00:02:29 → 00:02:32 ลึกซึ้งเ็มคนเนี่ยสามารถ Heal สามารถ
00:02:32 → 00:02:35 รักษาอาการบาดเจ็บหรือว่าโรคบางอย่างได้
00:02:35 → 00:02:38 นะคะก็เดี๋ยวเราไปลองคุยกับเาดูนะคะว่า
00:02:39 → 00:02:41 เออไอ้สิ่งง่ายๆที่มันอยู่กับเราอย่าง
00:02:41 → 00:02:43 เอ่ออย่างลมหายใจเนี่ยที่อยู่กับชีวิตเรา
00:02:43 → 00:02:46 ตลอดเวลาเนี่ยมันจะสามารถทำให้เราดีขึ้น
00:02:46 → 00:02:49 ได้ยังไงบ้างเดี๋ยวไปคุยกับเา้าเลยค่ะอย
00:02:49 → 00:02:53 จะบอกว่าตอนแรกเลยอ่ะที่แบบว่าเหมือนอ่ะ
00:02:53 → 00:02:56 เรามี assign มาจากทีมงานว่าจะแบบว่าจะ
00:02:56 → 00:03:02 เป็นจะเป็นก็อใช่ป่ะแล้วแบบชิบหายแล้ว
00:03:02 → 00:03:04 จะพูดอะไรกับมันวะกูจะคุยกับเค้ารู้
00:03:04 → 00:03:07 เรื่องมั้ยเนี่ยเออดูติ๊ดๆด้วยอืออ่ะ
00:03:07 → 00:03:10 รู้ตัวใช่มั้รู้ตัวใช่ป่ะ
00:03:10 → 00:03:12 ครับไม่หรอกแต่ว่าก็ด้วยความที่แบบว่าเออ
00:03:13 → 00:03:15 จริงๆอ่ะเราก็เคยเจอกันมาบ้างตามงงตามงาน
00:03:15 → 00:03:17 อะไรอย่างเงี้ยครับมันก็เป็นคนคุยรู้
00:03:17 → 00:03:20 เรื่องแหละครับเออแต่ว่ารู้ว่าเรื่องที่
00:03:20 → 00:03:24 กอตศึกษามันแบบว่าคือมันลึกซึ้งแล้วก็มัน
00:03:24 → 00:03:26 เอาจริงๆคือมันก็ไม่ใช่เรื่องที่คนส่วน
00:03:26 → 00:03:28 ใหญ่อ่ะเค้า
00:03:28 → 00:03:32 จะสนใจเออเขาจะสนใจอะไรเงี้ยซึ่งมันก็อาจ
00:03:32 → 00:03:34 จะมาเป็นอาจจะอาจจะเป็นเพราะโมเดิรน Life
00:03:34 → 00:03:36 หรือว่าเพราะความยุ่งเหยิงอะไรอย่างเงี้ย
00:03:36 → 00:03:39 มันก็เลยทำให้คนเรามันหันมาหาอะไรแบบ
00:03:39 → 00:03:42 เนี้ยน้อยแล้วก็บางทีก็เลยกลายเป็นว่า
00:03:42 → 00:03:44 เหมือนกับสิ่งที่ก็อตพูดหรือว่าสิ่งที่ก็
00:03:44 → 00:03:46 communicate ออกไปอะไรเงี้ยมันเหมือนคน
00:03:46 → 00:03:49 มันแบบว่ามันเหมือนมันมันมันแตะไม่ได้
00:03:49 → 00:03:52 อะไรอย่าเงี้ยซึ่งเราเองก็รู้ตัวว่าเราก็
00:03:52 → 00:03:53 แบบ
00:03:53 → 00:03:57 ว่าอ่อนยิ่งนักในในสนามนี้อะไรเงี้ก็เลย
00:03:57 → 00:04:00 แบบว่าเฮ้ยจะเอาอะไรวคุยกับก็อวะอะไรเงี้
00:04:00 → 00:04:03 ก็เลยเอาเป็นว่าวันนี้ก็คือขอคุยแบบว่า
00:04:03 → 00:04:07 แบบคนที่ไม่มีพื้นฐานไม่มีเอาเป็นว่าแบบ
00:04:07 → 00:04:12 อ่อนสุดๆละกันโอเคเออโปรดชี้แนะด้วยโอโหย
00:04:12 → 00:04:15 ใช้คำนั้นเลยคือต้องบอกงี้ก่อนว่าทำไมผม
00:04:15 → 00:04:19 ถึงสนใจเรื่องพวกนี้อือโอเคในไทยมันอาจจะ
00:04:19 → 00:04:20 ไม่ใช่
00:04:20 → 00:04:23 กระแสแต่จริงๆก็แปลกนะเพราะว่าเราก็เป็น
00:04:23 → 00:04:25 เมืองพุทธเนศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
00:04:26 → 00:04:29 อะไเงี้ยครับเอ่อเราก็พูดถึงเรื่องของการ
00:04:29 → 00:04:32 ทำสมาธิเรื่องการกำหนดลมหายใจเรื่องอะไร
00:04:32 → 00:04:35 อย่าเงี้ยแต่ทำไมเอ้อมันดูเหมือนไกลตัว
00:04:36 → 00:04:40 พวกเราจังเลยอ่ะเอ่อข้อ 1 ก็คือบางทีเรา
00:04:40 → 00:04:43 ได้รับวัฒนธรรมมาเราได้รับมาในลักษณะการ
00:04:43 → 00:04:47 แบบการทำตามอืแต่ไม่ได้เข้าใจแก่นสารของ
00:04:47 → 00:04:50 มันว่าจุดประสงค์มันทำไปเพื่ออะไรออือแต่
00:04:50 → 00:04:53 ผมอ่ะเป็นเด็กช่างสงสัยตั้งแต่เด็กอือถาม
00:04:53 → 00:04:57 แม่ตลอดทำไปเพื่ออะไรทำทำไมทำแล้วมันได้
00:04:57 → 00:05:00 ประโยชน์ตรงไหนออือะไรอย่างเงี้ยแม่ก็จะ
00:05:00 → 00:05:03 ตอบได้บ้างไม่ได้บ้างจนมันทำให้เราศึกษา
00:05:03 → 00:05:06 เองจากรอบนอกอืพอเราศึกษาเองจากรอบนอกเรา
00:05:06 → 00:05:09 ก็ตื่นเต้นอุ้ยโอ้โหความรู้ของฝรั่งมัน
00:05:09 → 00:05:12 เวิร์คจังอือพอเรากลับมาศึกษาความรู้ของ
00:05:12 → 00:05:14 ไทยอ้าวมีอยู่แล้วนี่หว่าพูดเรื่อง
00:05:14 → 00:05:16 เดียวกันพูดเรื่องเดียวกันแต่แบบอาจจะพูด
00:05:16 → 00:05:20 คนละแบบใช่แต่ทำไมมันถึงทำไมมันถึงดูดู
00:05:20 → 00:05:22 ไม่น่าสนใจจังอะไรอย่างเงี้ยสุดท้ายผมก็
00:05:22 → 00:05:24 ได้ข้อสรุปของตัวผมเองก็คือมันเป็นเรื่อง
00:05:24 → 00:05:27 ของภาษาอืเมื่อไหร่ที่เราเพิกเฉยเรื่อง
00:05:27 → 00:05:30 ของภาษาได้อย่างเช่น
00:05:30 → 00:05:33 สมมุติเราพูดคำว่าสมาธิอืเราก็ตรวจสอบใจ
00:05:33 → 00:05:36 เราเอ้ยมันพาจิตใจไปทางเรื่องไหนวะเรื่อง
00:05:36 → 00:05:41 น่าเบื่ออือืออ่ะแล้วถ้าพูดเรื่องเอ่อ
00:05:41 → 00:05:43 เข้าวัดเราก็เอ้ยมันพาจิตใจไปทางเรื่อง
00:05:43 → 00:05:47 ไหนวะเรื่องบางทีก็เรื่องไหนก็ไม่รู้เต็ม
00:05:47 → 00:05:49 ไปหมดเลยดีบ้างไม่ดีบ้างเออดีบ้างไม่ดี
00:05:49 → 00:05:53 บ้างแต่พอผมมาเปลี่ยนคำว่าโอเคงั้นๆช่าง
00:05:53 → 00:05:55 มันช่างมันเรื่องของ
00:05:55 → 00:06:00 ภาษาทำอะไรหายใจอืก็กูก็หายหายใจอยู่แล้ว
00:06:00 → 00:06:04 อ่ะทำไมจะต้องใส่ใจสนใจมันอีกด้วยหรอออื
00:06:04 → 00:06:08 ศึกษาไปศึกษาไปก็เลยค้นพบว่าอ๋อลมหายใจ
00:06:08 → 00:06:11 กับจิตใจเชื่อมโยงกันอืแล้วผมเป็นคนอยาก
00:06:11 → 00:06:14 แก้ไขจิตใจตัวเองให้มันมีความสุขขึ้นอือ
00:06:14 → 00:06:17 ้ามันไม่มีความสุขอือก็เลยพุ่งประเด็นไป
00:06:17 → 00:06:22 ที่โอเคลองลองแก้ไขเรื่องอืฝึกสังเกตดูซิ
00:06:22 → 00:06:26 อยากรู้ว่ามันจะเจออะไรอืแค่นั้นก่อนอะไ
00:06:26 → 00:06:29 อย่างเงี้คืออย่างอ่าหลายๆคนที่เเข้าหา
00:06:29 → 00:06:33 อะไรแบบเยก็ครับเอ่อบางทีก็อาจจะไปเคยเจอ
00:06:33 → 00:06:36 อะไรมาหรือบางคนก็อาจจะรู้สึกว่าทุกข์มาก
00:06:36 → 00:06:38 ฉันอยากจะจัดการกับความทุก็ก็เลยเริ่ม
00:06:39 → 00:06:41 เข้าหาแล้วก็ของก็อตมันเป็นอย่างนี้มั้ย
00:06:41 → 00:06:44 หรือว่ามันก็สงสัยกึ่งนึงอยากอยากซ่อม
00:06:44 → 00:06:47 กึ่งหรือหรือเป็นเป็นฟิไหนผมเกิดขึ้นจาก
00:06:47 → 00:06:51 ความรู้สึกดีด้วยแล้วก็ทุกข์ด้วยพร้อมควบ
00:06:51 → 00:06:53 คู่กันแต่ระยะเวลาไม่เหมือนกันตอนแรกที่
00:06:53 → 00:06:56 รู้สึกดีครั้งแรกเนี่ยทำสมาธิจากการเรียน
00:06:56 → 00:07:00 acting Class อืแล้วก็คอเอ่อคาสนั้น
00:07:00 → 00:07:03 เป็นคอรสเอ่อ relaxation อืก็คือเขาคก็
00:07:03 → 00:07:07 ให้ผ่อนคลายร่างกายแล้วเราก็แบบอ๋อเข้าใจ
00:07:07 → 00:07:09 แล้วว่าความผ่อนคลายมันมันอาการมันเป็น
00:07:09 → 00:07:12 อย่างงนี้มันสบายอย่างนี้เพราะว่าเราเนชั
00:07:12 → 00:07:15 เครียดมาตลอดเลยตอนนั้นช่วงกำลังแบบอทำมา
00:07:15 → 00:07:19 หากินด้วยแล้วก็แบบอือ๋อมันมันบีบคั้นแต่
00:07:19 → 00:07:23 พอ relaxation มันกลายเป็นว่า 40 นาทีฉัน
00:07:23 → 00:07:25 ไม่มีตัวฉันเลยอืนั่นเป็นความประทับใจ
00:07:25 → 00:07:29 ครั้งแรกความประทับใจครั้งที่ 2 ก็คือ
00:07:29 → 00:07:32 เริ่มทำโยคะแล้วก็พร้อมกับหายใจแบบ
00:07:32 → 00:07:34 relaxation ไปพร้อมๆกันหมายถึงว่าที่เรา
00:07:34 → 00:07:37 จำมาจาก acting Class อ่ะนะใช่ๆเอามัน
00:07:37 → 00:07:38 เป็นนักเรียนที่ดีมากเลยเนาะเอามันมารวม
00:07:39 → 00:07:42 กันเอามันมารวมกันที่บอกว่าทั้งสุขทั้ง
00:07:42 → 00:07:45 ทุกขรู้สึกอยากมีความสุขขึ้นตอนนั้นทุกข์
00:07:45 → 00:07:49 จากอะไรตอนนั้นทุกข์จากตอนอายุ 29 อื
00:07:49 → 00:07:54 29 ช่วงนั้นได้ชื่อเสียงมาจากปุพเพได้
00:07:54 → 00:07:58 เงินได้ทุกอย่างมาอแล้วมันใจมันหายตรงที่
00:07:58 → 00:07:59 ว่า
00:08:00 → 00:08:03 ทุกอย่างที่เราอยากได้เราติ๊กเยดหมดเลยอื
00:08:03 → 00:08:06 แต่ไม่มีความสุขเพราะเราเคยคิดว่า
00:08:06 → 00:08:08 อันเนี้ยจะต้องเป็นความสุขใช่เราคิดว่า
00:08:08 → 00:08:10 ได้เงินเราคิดว่าได้งานเราคิดว่าได้ชื่อ
00:08:10 → 00:08:12 เสียงเราคิดว่าได้ Position ที่เราอยาก
00:08:12 → 00:08:15 ได้จะจะนำมาซึ่งความสุขแต่มันกลายเป็นว่า
00:08:15 → 00:08:17 จิตใจเราคุ้นชินกับการมองว่าความสุขอยู่
00:08:17 → 00:08:21 ข้างหน้ามันไม่มีอะไรให้มองอยู่ตงนี้มัน
00:08:21 → 00:08:23 เหมือนคนที่มันขึ้นไปถึงยอดเขาแล้วแบบยไง
00:08:23 → 00:08:26 ต่อวะเออนั่นแหละแล้วมันก็กลายเป็นแบบ
00:08:26 → 00:08:30 เอ้านี่แสดงว่าจิตใจเราคุ้นชินการอมีความ
00:08:30 → 00:08:33 สุขกับการหาความสุขแต่พอได้ความสุขมาสึก
00:08:33 → 00:08:37 ไม่มีความสุขอือๆๆนั่นแหละจุดเปลี่ยนถ้า
00:08:37 → 00:08:40 ให้บอกคนดูบอกคนที่เรารักบอกอะไรเงี้ยเรา
00:08:40 → 00:08:43 ทำไมเราถึงอยากให้เขาฝึกหายใจอ่ะแล้วทำ
00:08:43 → 00:08:44 แล้วมันได้ประโยชน์
00:08:44 → 00:08:50 อะไรโอเคอย่างแรกอธิบายอย่างนี้ก่อนว่าอื
00:08:50 → 00:08:54 การกลับมาหายใจมันต้องใช้ความตั้งใจ
00:08:54 → 00:08:58 อืโดยปกติแล้วความตั้งใจของคนทั่วไปก็คือ
00:08:58 → 00:09:02 ออกไปทำทำมาหากินอืหาเงินอือเพื่อที่จะ
00:09:02 → 00:09:07 ดำรงชีวิตทีนี้เนี่ยเท่ากับว่าจิตใจของ
00:09:07 → 00:09:10 เรามันออกไปข้างนอกตลอดอือออกไปเรื่องทำ
00:09:10 → 00:09:12 เรื่อง 1 ทำเรื่อง 2 ทำเรื่อง 3 ทำเรื่อง
00:09:12 → 00:09:14 4 ทำเรื่อง 5 ทำเรื่อง 6
00:09:14 → 00:09:18 อืประเด็นก็คือถ้าเรากลับมาอยู่ที่ลมหาย
00:09:19 → 00:09:20 ใจ 1 เราจะได้ช่วงเวลา
00:09:20 → 00:09:24 พักพักจากการคิดอืเหมือนมอต้มันรันอยู่
00:09:24 → 00:09:27 ตลอดแล้วเราหยุดมันพักมันแป๊บนึงคูลดาวน์
00:09:28 → 00:09:31 มันแป๊บนึงอือแล้วพอถอยออกมามองบ่อยๆมัน
00:09:31 → 00:09:34 จะเริ่มเห็นสิ่งที่เราทำอยู่แล้วรู้จุด
00:09:34 → 00:09:37 ประสงค์ว่าทำไปเพื่ออะไรทำอย่างนี้ดีหรือ
00:09:37 → 00:09:41 ไม่ดีพูดง่ายๆตั้งสติออือแล้วจิตใจมันจะ
00:09:41 → 00:09:44 ได้พักอือหลายครั้งที่เวลาเราทำงานรันต่อ
00:09:44 → 00:09:49 เนื่องทำๆๆๆๆๆๆแล้วมันจะมีช่วงแว๊บนึงที่
00:09:49 → 00:09:51 แต่ละวันน่ะอาจจะมีความคิดเข้ามากูทำไป
00:09:51 → 00:09:53 ทำไมวะ
00:09:53 → 00:09:56 อืเพราะเหมือนเราลืมจุดประสงค์ของมันแล้ว
00:09:56 → 00:09:59 ก็มัวแต่ทำใช่ใช่เราแล้วเราคลุกอยู่กับ
00:09:59 → 00:10:02 มันชนิดที่แบบตื่นมาเอาละอืลงๆแต่ถ้าเรา
00:10:02 → 00:10:06 ได้อยู่สักแป๊บนึง 5 นาที 10 นาทีเราแบบ
00:10:06 → 00:10:10 อืไม่ต้องไปคิดด้วยว่าทำไปทำไมแค่หายใจ
00:10:10 → 00:10:11 อย่างเดียว
00:10:11 → 00:10:15 อืกลับมาหายใจเหมือนตอนที่เราเป็นเด็กๆอื
00:10:15 → 00:10:17 ตอนที่เรายังไม่รู้ภาษาตอนที่เรายังไม่
00:10:17 → 00:10:20 รู้ว่าต้องทำงานไปทำไมอเราเป็นแค่เด็กที่
00:10:20 → 00:10:23 นั่งหายใจ Enjoy กับใบไม้ Enjoy กับเสียง
00:10:23 → 00:10:25 Enjoy กับตรงนั้นแล้วเราใช้เวลาตรงนั้น
00:10:25 → 00:10:29 แค่ 5 นาทีพออือืมันจะเป็นการพักใจที่
00:10:29 → 00:10:32 วิ่งไม่เคยหยุดออกจากบ้านไม่เคยหยุดอือๆ
00:10:32 → 00:10:36 ผมเจอผู้ชายคนนึงที่เชียงใหม่เป็น
00:10:36 → 00:10:38 เศรษฐีเราก็เข้ามาคุยกับผมโดยตรงเลยบอก
00:10:39 → 00:10:42 ว่าก็อตพี่ได้ทุกอย่างะพี่อยากปล่อยวางลง
00:10:42 → 00:10:45 อืทำยังไงพี่ถึงจะปล่อยวางได้แล้วไม่ว่า
00:10:45 → 00:10:48 ก็อจะบอกอะไรพี่ทำตามหมดอืแล้วทำตามจริง
00:10:48 → 00:10:53 มั้ยทำตามอืผมก็ให้เา้าทำสมาธิง่ายๆอืบอก
00:10:53 → 00:10:54 ว่า
00:10:54 → 00:10:59 พี่พื้นที่ที่พี่ต้องสนใจอืมีแค่นี้อืออื
00:10:59 → 00:11:00 ๆๆ
00:11:00 → 00:11:05 ๆความตลกเค้าคือเค้าก็จับแล้วไงวะแล้วไง
00:11:05 → 00:11:09 ต่ออผมก็ให้เค้าเอามือขึ้นมาแล้วเป่าอื
00:11:09 → 00:11:14 ลองเป่ามือดูเค้าก็เป่าแล้วไงต่อวะอืเห็น
00:11:14 → 00:11:18 มั้ยว่ามันมีลมผ่านมืออืลมนั้นน่ะรู้สึก
00:11:18 → 00:11:22 ได้มั้ยอือรู้สึกได้เออไอ้ตรงเนี้ยอมีลม
00:11:22 → 00:11:29 เข้าออกตลอดเวลารู้สึกถึงมันอืเค้าก็นั่ง
00:11:29 → 00:11:33 เออรู้สึกแล้วรู้สึกะแล้วผมก็ถามวินาที
00:11:33 → 00:11:37 นั้นน่ะพี่ไม่คิดใช่มั้ยอืบอกเออใช่ไม่
00:11:37 → 00:11:42 คิดนั่นน่ะวางไปโดยปริยายออือคือบางทีเ
00:11:42 → 00:11:45 ไม่คุ้นชินกับการกลับมารู้สึกอือแต่คุ้น
00:11:45 → 00:11:49 ชินกับการคิดออกตลอดอืแล้วผมก็แนะนำให้
00:11:49 → 00:11:51 เขาคเข้มข้นขึ้นเข้มข้นขึ้นเพราะรู้ว่า
00:11:51 → 00:11:54 เขาเอาจริงอือพอเขาได้ 5 นาทีเตื่นเต้นเ
00:11:54 → 00:11:58 ดีใจพอเคทำไปสัก 10 นาที 20 นาทีเรู้สึก
00:11:58 → 00:12:01 แบบเฮ้ยพี่รู้สึกว่าหูมันดับว่ะอือาการ
00:12:01 → 00:12:04 ต่างๆผมบอกไม่ต้องตื่นเต้นพอบอกพี่ลองทำ
00:12:04 → 00:12:08 ครึ่งชั่วโมงอีกครึ่งชั่วโมงกลัวอืทำ
00:12:08 → 00:12:10 สมาธิไปถึงจุดๆนึงได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง
00:12:10 → 00:12:15 เต้นอืบอกไอ้ก็ดีแล้วดีกว่าไม่
00:12:15 → 00:12:18 เต้นดีกว่าไม่เต้นอะไรเงี้ยสุดท้ายเขาก็
00:12:18 → 00:12:22 เลยเข้าใจว่าการทำสมาธิมันทำให้จิตใจเา
00:12:22 → 00:12:25 มันละเอียดขึ้นอืจนสามารถรับรู้ถึงชีพจร
00:12:25 → 00:12:29 จนสามารถรับรู้ถึงการเต้นของหัวใจจนสมา
00:12:29 → 00:12:32 รับู้ถึงลมหายใจที่มันบางเบาแล้วความ
00:12:32 → 00:12:35 ละเอียดอ่อนตรงเนี้ยมันทำให้เาเห็น
00:12:35 → 00:12:38 ว่าระหว่างทางที่เขาพยายามโฟกัสพื้นที่
00:12:38 → 00:12:42 แค่เนี้ยมีความคิดมาดึงเขาออกไปตลอดอื
00:12:43 → 00:12:45 แล้วความคิดที่ดึงเออกไปตลอดมีแค่ 4
00:12:45 → 00:12:49 เรื่องอือเรื่องในอดีตเรื่องในอนาคตอือ
00:12:49 → 00:12:54 เรื่องที่ชอบเรื่องที่ไม่ชอบอืมีแค่นี้
00:12:54 → 00:12:58 เขาก็เลยบอกอ๋อพี่เข้าใจและพี่แค่โดน
00:12:58 → 00:13:01 เรื่องพวกเนี้ยอืทำร้ายพี่อืถ้าให้เวลา
00:13:01 → 00:13:05 กับมันสักวันละสีซะ 5 นาทีเนี่ยอ่าคิดว่า
00:13:05 → 00:13:08 วิถีชีวิตประจำวันจะเปลี่ยนไปยังง
00:13:08 → 00:13:12 โหอย่างแรกเลยเค้าจะเริ่มต้นวันใหม่ด้วย
00:13:12 → 00:13:16 การมีทางเลือกอืพอเาทำสมาธิแล้วเนิ่งแล้ว
00:13:16 → 00:13:18 เขาจะเลือกได้ว่าเขาจะให้วันนี้เป็นยังไง
00:13:18 → 00:13:22 อืปกติคนไม่เลือกก็จะดุยๆๆๆไปเลยใช่จะให้
00:13:22 → 00:13:24 ทั้งวันเป็นยังไงไม่เลือกอืแล้วแต่
00:13:24 → 00:13:27 สถานการณ์จะประเคนให้กูอืแต่ถ้าตั้งหลัก
00:13:27 → 00:13:30 แล้ว
00:13:30 → 00:13:32 หายใจนิ่งจนนถึงจุดๆนึงรู้ว่าต้องทำการ
00:13:32 → 00:13:35 งานอะไรบ้างทีนี้เป็นผู้เลือกจะทำมันยัง
00:13:35 → 00:13:39 ไงอืไม่ได้ไปตามยถากรรมเปล่าไม่ให้ไม่ให้
00:13:39 → 00:13:43 ข้างนอกกำหนดเราเราเป็นตัวที่จะสร้างสนาม
00:13:43 → 00:13:46 พลังของเราไว้แล้วก็ออะไรเข้ามาก็ก็จะแปร
00:13:46 → 00:13:50 เปลี่ยนให้มันเป็นอย่างงั้นน่ะอือทีนี้
00:13:50 → 00:13:56 วิถีอืของก็อตเนี่ยอื 11 ปีที่แบบว่าทั้ง
00:13:56 → 00:13:58 ศึกษาทั้งลองผิดลองถูกทั้งอะไรมาเนี่ย
00:13:58 → 00:13:59 ครับ
00:13:59 → 00:14:02 มันต่างจากการหายใจแบบ
00:14:02 → 00:14:09 ปกติยังไง How to อ่ะอ่ะอ๋อการหายใจปกติ
00:14:09 → 00:14:12 มันไม่มีความรู้ตัวอยู่ในนั้นอืมันไม่รู้
00:14:12 → 00:14:15 ว่ากำลังหายใจอยู่มันไม่รู้ว่ากำลังนั่ง
00:14:15 → 00:14:17 มันไม่รู้ว่ากำลังอุณหภูมิในร่างกายเป็น
00:14:17 → 00:14:21 ยังไงแต่มันรู้เรื่องข้างนอกหมดอืคุยกับ
00:14:21 → 00:14:24 ใครอยู่แสงเป็นยังไงนั่ง Position ไหนเ
00:14:24 → 00:14:27 นั่งท่าไหนเแต่งตัวยังไงเทำผมยังไงมันรู้
00:14:27 → 00:14:30 เรื่องข้างนอกแต่พอเป็นรรู้เรื่องข้างใน
00:14:30 → 00:14:33 มันกลับเป็นการรู้แบบคลุมเครือ
00:14:33 → 00:14:36 อืตัวเองคิดอะไรก็ไม่ชัดเจนออย่างเงี้ย
00:14:36 → 00:14:39 มันเป็นการรู้แบบคลุมเครือแต่การทำสมาธิ
00:14:39 → 00:14:43 เยอะขึ้นมันทำให้ 1 รู้ตัวรู้ตัวว่ากำลัง
00:14:43 → 00:14:46 มองอะไรอืแล้วก็รู้ตัวเข้าไปอีกว่ากำลัง
00:14:46 → 00:14:49 คิดยังไงกับสิ่งที่มองอืแล้วก็รู้ตัวไป
00:14:49 → 00:14:53 อีกว่าอาการตอนนี้มันเป็นยังไงอืไม่ต้อง
00:14:53 → 00:14:56 ไปแปะป้ายให้กับมันนะดีไม่ดีไม่ต้องสนใจ
00:14:56 → 00:14:59 แค่รู้ตัวเฉยๆอนั่นแหละอันอันนั้นคือ
00:14:59 → 00:15:02 benefit ของผมเพราะผมทำวันละประมาณ 2
00:15:02 → 00:15:06 ชมงเช้า 1 ชมงเย็น 1 ช่มอ่ะเมื่อกี้ที่
00:15:06 → 00:15:08 คุยกันในห้องก็คือว่าก็อตเปรียบเทียบ
00:15:08 → 00:15:11 เรื่องของการฝึกหายใจนะครับที่เราทำเป็น
00:15:11 → 00:15:14 รูทีนเป็นประจำวันว่าว่ามันมันเหมือนกับ
00:15:14 → 00:15:18 การอาบน้ำเวลาพูดคำว่าทำสมาธิอ่ะมันก็จะ
00:15:18 → 00:15:21 เป็นเหมือนการลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อ
00:15:21 → 00:15:24 ได้อะไรบางอย่างออือแต่ในมุมผมคือการทำ
00:15:24 → 00:15:28 สมาธิ 1 เป็นเรื่องของการสังเกตตัวเอง 2
00:15:29 → 00:15:31 2 เป็นเรื่องผ่อนคลายอือความตึงจากความ
00:15:31 → 00:15:36 คิดอือ 3 เป็นเรื่องคือพาใจกลับมาบ้านอื
00:15:36 → 00:15:38 ไม่ว่าความคิดอะไรจะเข้ามาสะกิดให้ออกนอก
00:15:38 → 00:15:41 จากบ้านร่างกายตัวเองไม่ออกอืจะเป็นความ
00:15:41 → 00:15:43 คิดดีความคิดไม่ดีก็คือช่วงเวลานึงคือฉัน
00:15:43 → 00:15:47 ขออยู่ตรงเนี้ยอืผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่
00:15:47 → 00:15:50 เป็นกิจกรรมที่ต้องฝืนทำแต่มันเป็น
00:15:50 → 00:15:53 กิจกรรมทางจิตใจไม่ต่างอะไรจากอาบน้ำปกติ
00:15:53 → 00:15:57 แล้วอ่ะเราจะใส่ใจแค่ร่างกายเราอืสตาร์ท
00:15:57 → 00:16:00 วันใหม่ด้วยร่างกายหอาบน้ำให้ดีแต่งตัว
00:16:00 → 00:16:03 ให้ดีทำไปเพื่อที่จะ 1 ทำให้ตัวเองรู้สึก
00:16:03 → 00:16:07 ดี 2 ไม่เป็นที่น่ารังเกียจสำหรับประชาชน
00:16:07 → 00:16:10 อืทีนี้ผมก็แค่เพิ่มไปอีกแค่ 1 อย่างก็
00:16:10 → 00:16:13 คือเคลียร์ใจให้ดีด้วยอืในส่วนที่มันมอง
00:16:13 → 00:16:16 ไม่เห็นเนี่ยแหละอืมันอาจจะไม่ได้ออกมา
00:16:16 → 00:16:18 ทางเสื้อผ้าแต่เรารู้อยู่แก่ใจแล้วก็ชำระ
00:16:18 → 00:16:22 ล้างมันซะหน่อยออ่ะมันทำยังไงคะหายใจ
00:16:22 → 00:16:25 อย่างผ่อนคลายเนี่ยโอเคงั้นลองสัก 2 นาที
00:16:25 → 00:16:31 ก็ได้ฝากทีมงานจับเวลา 2 นาทีอย่ากลนนะ
00:16:31 → 00:16:34 โอเคแต่พี่ชมปกติก็ meditate มาบ้างโอ๊ย
00:16:34 → 00:16:39 อ่อนมากอ๋อโดยส่วนตัวผมผมจะเริ่มจากการทำ
00:16:39 → 00:16:42 ตัวให้สบายที่สุดอืทีนี้ผมแค่นี้ก็ยาก
00:16:42 → 00:16:45 แล้วนะทำตัวให้สบายอ่ะอ่าทีนี้ผมจะกำหนด
00:16:45 → 00:16:48 อืตรงนี้ area แค่นี้
00:16:48 → 00:16:52 area พื้นที่ทั้งหมดที่พี่ต้องสนใจคือ
00:16:52 → 00:16:53 พื้นที่แค่
00:16:53 → 00:16:56 นี้ใช่
00:16:56 → 00:16:59 อืลองดูซัก
00:16:59 → 00:17:15 30 วิ
00:17:15 → 00:17:17 ก่อน
00:17:17 → 00:17:21 โอเคเอาแค่ 30 วีแรกเป็นไงบ้างครับเอา
00:17:21 → 00:17:26 จริงๆป่ะอืคือความเป็นคอโลีอ่ะนะความเพะ
00:17:26 → 00:17:30 ก็บอกว่าให้แบบว่าสนใจแค่ตรงเนี้ยเรา
00:17:30 → 00:17:34 พยายามหาลมหายใจเราตรงเนี้ยก็แบบทำไมแก
00:17:34 → 00:17:37 ไม่มาโดนเราตรงนี้วะเข้าใจป่ะแต่เราอ่ะ
00:17:37 → 00:17:41 รู้สึกทั้งหมดรู้สึกเาจากอย่างเงี้ยแต่
00:17:41 → 00:17:44 ว่าแล้วทีเนี้ยความคิดเราก็คือว่าไหนอ่ะ
00:17:44 → 00:17:46 ลมหายใจที่มากระทบตรงเนี้ยอยู่ไหนอ่ะมึง
00:17:46 → 00:17:49 อยู่ไหนอ่ะโอเคโอเเข้าใจป่ะดีดีเหรอข้อดี
00:17:49 → 00:17:54 ของมันก็คือข้อดีของมันก็คือจิตใจมันจิต
00:17:54 → 00:17:58 ใจเห็นตัวเองไงอือว่าจิตใจกำลังควานหาอือ
00:17:58 → 00:18:01 อย่างงี้เราเราเหมือนจะหาารมแต่เราเจอจิต
00:18:01 → 00:18:05 อืเราเจอจิตใจตัวที่เอ๊ะกูกำลังหาอยู่นี่
00:18:05 → 00:18:08 หว่าทั้งๆที่กูต้องการยอุ๊ยปลอบใจเก่ง
00:18:08 → 00:18:10 เหมือนกันนะเนี่ยตงนี้นๆๆไม่ปลอบใจเลย
00:18:10 → 00:18:13 เพราะว่ามันเป็นกระบวนการเรียนรู้อือมัน
00:18:13 → 00:18:15 เป็นกระบวนการเรียนรู้เราไม่ได้ทำสมาธิ
00:18:16 → 00:18:18 เพื่อที่จะแค่หายใจอย่างเดียวอือเราทำ
00:18:18 → 00:18:20 เพื่อที่จะเรียนรู้ว่าอ๋อลักษณะจิตใจเป็น
00:18:20 → 00:18:23 แบบนั้นนะอือ 5 วินแรกเป็นยังไง 5 วินาที
00:18:23 → 00:18:28 แรกก็คือพุ่งความสนใจมาทั้งหมดอืหาไม่เจอ
00:18:28 → 00:18:29 แต่
00:18:29 → 00:18:32 การความสนใจทั้งหมดดันไปกระจายการรับรู้
00:18:32 → 00:18:35 อืนี่แสดงว่าจิตใจมันไม่ได้เป็นไปแบบที่
00:18:35 → 00:18:40 เราบังคับหรือคลอืมันเมีการทำงานของเขาใน
00:18:40 → 00:18:43 แบบระบบอัตโนมัติอยู่อือๆๆแต่เราต้องการ
00:18:43 → 00:18:47 ฝึกเาอเปรียบเสมือนการฝึกม้าคอกของเธอมี
00:18:47 → 00:18:51 แค่นี้อืคอกของเธอมีแค่นี้เธอจะไปรับรู้
00:18:51 → 00:18:53 ตรงนี้ฉันจะกระตุกเธอให้กลับมาอยู่ที่คอก
00:18:53 → 00:19:00 ฉันอืแล้วถ้าได้รู้สึกอย่างไงถ้าไม่ได้ใจ
00:19:00 → 00:19:04 รู้สึกยังไงอืสังเกตหมดเลยอ๋อพอมันรู้สึก
00:19:04 → 00:19:07 ได้ใจเป็นยังไงพอมันรู้สึกไม่ได้มันเป็น
00:19:07 → 00:19:10 ยังไงบ้างอือบางคนจับลมหายใจไม่ได้
00:19:10 → 00:19:13 หงุดหงิดแล้วผมก็ต้องถามเห็นความหงุดหงิด
00:19:13 → 00:19:14 หรือเปล่า
00:19:14 → 00:19:17 อือหน้าที่คุณไม่ได้หงุดหงิดหน้าที่คุณ
00:19:17 → 00:19:20 คือสังเกตอือๆๆอะไรอย่างเงี้ยแล้วกระบวน
00:19:20 → 00:19:22 การเรียนรู้พวกเนี้ยพอทำบ่อยๆทำบ่อยๆ
00:19:22 → 00:19:26 เดี๋ยวเขาจะเจอเองว่าอ๋อจุดนี้เป็นจุดที่
00:19:26 → 00:19:29 ผ่อนคลายอือันนี้เป็นจุดที่กำลังกลังมอง
00:19:29 → 00:19:32 หานะไม่ใช่จุดที่รู้สึกออืเพราะจุดที่รู้
00:19:32 → 00:19:36 สึกมันจะรู้สึกจริงๆมันจะไม่มีการมองจะ
00:19:36 → 00:19:42 รู้สึกอืลองอีกทีนึงอีกสัก 30 วินาอืแต่
00:19:42 → 00:19:45 ผมเห็นลมหายใจพี่คือผ่อนมากนะรีกอืจริง
00:19:46 → 00:19:50 เหรอใช่รีกโอเค 30 วินีทีนี้ขอให้เริ่ม
00:19:50 → 00:19:52 จากการหายใจเข้า
00:19:52 → 00:19:56 ลึกและหายใจออกยาวหายใจเข้าแรงนิดนึงให้
00:19:56 → 00:20:00 ลมผ่านช่องจมูก
00:20:00 → 00:20:04 ไปแล้วจับความรู้สึกที่ลมผ่านตรงนั้น
00:20:04 → 00:20:15 อย่างธรรมชาติ
00:20:15 → 00:20:19 ดูยโอเค
00:20:20 → 00:20:26 ครับนิดหน่อยนิดหน่อยออกมาทั้งหัว
00:20:26 → 00:20:30 ไหล่เออออกมาหมดเลยร่างกายมันจะเออ
00:20:30 → 00:20:34 respond ตามจิตใจหมดอือือแต่เมื่อกี้ที่
00:20:34 → 00:20:36 ที่ที่กอดพูดของเราอ่ะตอนที่นั่งแบบรอบ
00:20:36 → 00:20:41 รอบแรกอ่ะก็คือจริงสิ่งที่เห็นก็คือว่า
00:20:41 → 00:20:42 อี
00:20:42 → 00:20:47 ชนีเห็นคนนึงเห็นเด็กคนนึงที่แบบว่า
00:20:47 → 00:20:51 เหมือนอยากจะทำให้มันถูกอ่ะออเออออยากจะ
00:20:51 → 00:20:54 แบบว่าอยากจะทำให้มันแบบ correctly อยาก
00:20:54 → 00:20:57 จะทำให้มัน correct อะไรอย่างเงี้ยเอมัน
00:20:57 → 00:21:00 ถูกออะไรพวกนี้มันก็แบบมันก็มันก็บล็อก
00:21:00 → 00:21:03 เรานะบใช่อือบางทีมันต้องทิ้งคำว่าถูกกับ
00:21:03 → 00:21:06 ผิดไปก่อนอแล้วหันมาสนใจแค่คำเดียวรู้สึก
00:21:06 → 00:21:10 อะไรอืรู้สึกอะไรบ้างตรงนี้เอาจริงๆนะ
00:21:10 → 00:21:14 หยาบๆเลยถ้าไม่รู้สึกเคาะเลยอืเคาะแล้ว
00:21:14 → 00:21:17 วางเลยอ่ารู้สึกเก็ concentrate ความรู้
00:21:18 → 00:21:19 สึกนั้นต่อไป
00:21:19 → 00:21:25 ออือแล้วพอเริ่มเก่งขึ้นลืมตาทำในเวล
00:21:25 → 00:21:27 เนี้ยมีบ้างมั้ยบางวันที่แบบหลับตาแล้ว
00:21:27 → 00:21:32 แบบโอ้โหฝุ่นตลกทุกวันพี่อืมมันเป็น
00:21:32 → 00:21:34 เรื่องปกติทุกวันมันเรื่องปกติมันเรื่อง
00:21:35 → 00:21:38 ปกติเพราะอะไรเพราะว่าเอางี้เราสะสมอะไร
00:21:38 → 00:21:42 มาบ้างตั้งแต่เด็กสมมุติผมหันซ้ายคือภาพ
00:21:42 → 00:21:45 นึง 1 วินีเท่ากับว่าเมมรี่ผมบันทึกไว้
00:21:46 → 00:21:49 ภาพนี้แล้วนะวินาทีนึงอืภาพนี้อีก 1 วินี
00:21:49 → 00:21:53 2 ภาพะ 1 ช่วโมงเอ้ย 1 นาทีผมบันทึกไว้
00:21:53 → 00:21:56 60 ภาพอื 1 สัปดาห์ผมบันทึกไว้กี่ภาพอัน
00:21:56 → 00:21:59 นี้แค่ประสาทตานะยังไม่รู้ประสาทเสียงอีก
00:21:59 → 00:22:03 อืผมบันทึกอะไรไว้เต็มไปหมดเลยแล้วมันก็
00:22:03 → 00:22:06 กวนกันในแก้วน้ำของจิตใจผมอ่ะไอ้การที่ผม
00:22:06 → 00:22:10 นั่งก็คือกูหยุดกวนมึงอือกูแค่วางมึงให้
00:22:10 → 00:22:15 นิ่งแล้วให้ตะกอนมันตกๆๆๆออแล้วผมก็ Enjoy
00:22:15 → 00:22:18 แล้วก็ไปใช้ชีวิตแล้วก็กวนต่อ
00:22:18 → 00:22:21 อืมันเป็นอย่างงั้นจริงๆเนาะไ Goes on
00:22:21 → 00:22:23 ใช่มันยังไงก็ต้องดำเนินชีวิตแต่มันมี
00:22:23 → 00:22:26 ช่วงนึงที่วางแก้วไว้เฉยๆให้ทุกอย่างมัน
00:22:26 → 00:22:30 ตะกอนนิ่งเพื่อที่จะได้อืเป็นผู้ดูว่าอ๋อ
00:22:30 → 00:22:32 อันนี้อย่างงี้อันนี้มันอย่างงี้อันนี้
00:22:32 → 00:22:34 มันอย่างงี้นะอันนี้มันอย่างงี้นะแล้วก็
00:22:34 → 00:22:37 ใช้ชีวิตต่อเห็นบอกว่าตอนทำครับมีเครื่อง
00:22:37 → 00:22:41 วัดอะไรนะเอ่าผมใช้เครื่องวใช่ผมใช้
00:22:41 → 00:22:44 เครื่องวัดออยากพิสูจน์ให้มันเป็นแบบ
00:22:44 → 00:22:46 รูปธรรมอย่างเงี้หรือยังไงคือเวลาเอาไป
00:22:47 → 00:22:50 แชร์คนน่ะเขาจะเชื่อมากกว่าคือคุยกับคน
00:22:50 → 00:22:53 ไทยต้องใช้พวกนี้อืแต่คุยกับฝรั่งพวกคุย
00:22:53 → 00:22:55 กับฝรั่งเเ Enjoy เรื่องพวกนี้อยู่แล้วเข
00:22:55 → 00:22:58 ชอบที่จะพูดเรื่องพวกนี้คนที่สนใจนะออือ
00:22:58 → 00:23:00 พอคนไทยเนี่ยพอมีหลักฐานมีอะไรว่าแบบเฮ้ย
00:23:00 → 00:23:02 นี่นะคลื่นมันเป็นอย่างงี้นะมันเป็นอย่าง
00:23:02 → 00:23:05 งี้นะในทางวิทยาศาสตร์มันเป็นอย่างงี้อ
00:23:05 → 00:23:09 มันสามารถทำให้ผมดึงคนหลายคนที่ไม่เห็น
00:23:09 → 00:23:12 ความสำคัญมาเห็นความสำคัญได้อืออือก็จริง
00:23:12 → 00:23:16 ดึงบางคนเค้าก้าวเข้ามาขานึงะแต่เขาแค่
00:23:16 → 00:23:19 อยากได้วิทยาศาสตร์พิสูจน์หน่อยอือๆไม่
00:23:19 → 00:23:22 ให้สิ่งที่เราบอกมันเป็นความงมงายอะไรผม
00:23:22 → 00:23:24 ก็ต้องเอา information หรือข้อมูลต่างๆ
00:23:24 → 00:23:26 ที่แบบมาจากทั่วโลกมาให้ดูว่ามันเป็น
00:23:26 → 00:23:28 อย่างงี้นะมันเป็นอย่างงี้นะมันเป็นอย่าง
00:23:28 → 00:23:31 งี้นะอือถามว่าตัวผมเองต้องเอาเรื่องพวก
00:23:31 → 00:23:33 นี้มาพิสูจน์หรือเปล่าไม่เพราะว่ามันเจอ
00:23:33 → 00:23:35 ด้วยประสบการณ์ตรงแล้วว่าอาการคุ้มคั่ง
00:23:35 → 00:23:38 เป็นยังไงอาการผ่อนคลายเป็นยังไงอือย่าง
00:23:38 → 00:23:41 คุณเคยคุ้มคั่งด้วยเหรอโอ้โหประจำพี่ทุก
00:23:41 → 00:23:43 วันนี้ยังเป็นอยู่เลยจริงเหรอึกภาพไม่ออก
00:23:43 → 00:23:46 เลยเป็นดึกๆออจริงๆเออเป็นดึกๆแล้วพอเป็น
00:23:46 → 00:23:50 ดึกๆผมก็ใช้ชี้กงเลยช่วยเออมันมีมันมี
00:23:50 → 00:23:52 คลื่นอะไรบ้างแล้วแบบปรากฏการณ์ที่มัน
00:23:52 → 00:23:56 เกิดขึ้นเวลาที่เราแบบไม่ได้อยู่ในสมาธิ
00:23:56 → 00:23:59 หรือว่าเวลาที่เราคิดบวกคิดลบหรือเวลาที่
00:23:59 → 00:24:00 เราผ่อนคลายอะไรอย่าเงี้ยมันมันเป็นยังไง
00:24:00 → 00:24:04 อ่ะครับเอางี้ก่อนโดยปกติเนี่ยความคิดคน
00:24:04 → 00:24:06 เรามันจะอยู่ที่ประมาณคลื่นเบต้ามันก็คือ
00:24:06 → 00:24:09 การทำงานตลอดเวลาใช่มอือฮึ Alpha ก็จะ
00:24:09 → 00:24:12 เป็นเรื่องของความผ่อนคลายคือเบต้าเนี่ย
00:24:12 → 00:24:15 แปลว่าเรากำลังคิดวิเคราะห์ใช่คิด
00:24:15 → 00:24:17 วิเคราะห์ดำเนินชีวิตต่างๆก็เส้นนี้มันก็
00:24:17 → 00:24:22 จะ Active ใช่ Active แต่พอเรารีกพยายาม
00:24:22 → 00:24:24 หายใจหรือไปวาดรูปหรือทำอะไรก็แล้วแต่ที่
00:24:24 → 00:24:29 มันเพหลับหลับเป็นเดต้าอืออ่าแล้วถ้าสูง
00:24:29 → 00:24:34 มากเป็นแกมม่าอือ่าเป็นพวกแบบโหแบบฮิ่ง
00:24:34 → 00:24:36 สุดๆหลับลึกอย่างเงี้ยเหรอไม่หลับลึกมัน
00:24:36 → 00:24:40 เป็นเดลต้าอ๋อแกมม่ามันคือมันคือคลื่นที่
00:24:40 → 00:24:44 มันอย่างเช่นที่อเมริกาตอนนี้ดรโที่เขา
00:24:44 → 00:24:47 รักษาคนด้วยหลักการ plb เขาก็จะพาคนไป
00:24:47 → 00:24:50 Stage ให้คลื่นสมองมันเป็นแกมม่าให้ได้
00:24:50 → 00:24:54 เพื่อให้ร่างกายมัน healing ตัวเองอืดรโจ
00:24:54 → 00:24:57 น่าสนใจตรงที่ว่าดรโจเนี่ยเป็นคนที่โดนรถ
00:24:57 → 00:25:01 ชนแล้วกระดูกแตกละเอียดเลยข้างหลังอืตัด
00:25:01 → 00:25:04 สินใจไม่ไปหาหมอฮีลตัวเองด้วยการทำสมาธิ
00:25:04 → 00:25:07 จนกระดูกทั้งหมดกลับมาประสาน
00:25:07 → 00:25:11 อือันนี้ฮาร์ดคอร์นะใช่แล้วผมชอบเสพอะไร
00:25:11 → 00:25:14 ฮาร์ดคอร์ฮาร์ดคอร์อย่างเงี้ยแล้วแล้วคุณ
00:25:14 → 00:25:18 ไปแบบไปสกรผ่านดรโจนส์ได้ไงดรโจเนี่ยผม
00:25:18 → 00:25:24 อ่านมาตั้งนานและคนแรกผมชอบดรนนฮิดรนโน
00:25:24 → 00:25:28 ฮิลดรโจเอ่อ
00:25:28 → 00:25:31 Bruce lipton ที่พูดเรื่องเซลล์อืว่า
00:25:31 → 00:25:35 เซลล์มนุษย์ไม่ได้ถูกกำหนดโดย DNA ตัวเอง
00:25:35 → 00:25:39 มนุษย์เปลี่ยน DNA ได้ถ้าสามารถที่จะอ
00:25:39 → 00:25:43 เปลี่ยนสิ่งแวดล้อมให้กับ DNA นั้นๆอื
00:25:43 → 00:25:46 อย่างเงี้ยเราก็แบบ
00:25:46 → 00:25:50 โอ้คนที่ฟังอยู่เนี่ยผมอยากให้ไปศึกษาใน
00:25:50 → 00:25:54 เคสของดรโจแล้วก็เคสของลูกศิษย์ดรโจหลายๆ
00:25:54 → 00:25:57 คนเพราะว่าอย่างเช่นเป็นพาร์กินสันก็หาย
00:25:57 → 00:26:00 เป็นอะไรพวกนี้อือเราก็ไม่ต้อง
00:26:00 → 00:26:05 เชื่ออย่าเชื่อออันแรกคืออย่าเชื่อให้เรา
00:26:05 → 00:26:08 เข้าไปดูว่าอ่ากระบวนการเขเป็นยังไงลอง
00:26:08 → 00:26:12 ศึกษาเดูแล้วลองมานั่งทำหายใจดูง่ายๆอัน
00:26:12 → 00:26:15 ที่จะดีที่สุดคือทำโดยไม่เชื่อนี่แหละ
00:26:15 → 00:26:18 เพราะผมมันไม่มี B แสใช่ผมเป็นแบบนั้นเลย
00:26:18 → 00:26:20 ผมเป็นมนุษย์ไม่เชื่ออะไรทั้งสิ้นเลยแล้ว
00:26:20 → 00:26:23 แบบเป็นประเภทสุดโต่งด้วยออือใครบอกอะไร
00:26:23 → 00:26:26 ไม่เชื่อขอลองก่อนอือขอลองก่อนถ้าทำแล้ว
00:26:26 → 00:26:29 รู้เดี๋ยวบอกเองอือะไรอย่างเงี้ยแล้วพอไป
00:26:29 → 00:26:32 ศึกษาเรื่องพวกนี้เราจะเห็นว่าเอ่อหลัก
00:26:32 → 00:26:35 การ plb เนี่ยมันเกิดขึ้นจากตอนที่ผมจำ
00:26:35 → 00:26:38 ช่วงเวลาไม่ได้นะอือก็คือหมอเนี่ยไม่มี
00:26:38 → 00:26:41 มอร์ฟีนในการฉีดให้คนหายเจ็บอือก็เลยเอา
00:26:41 → 00:26:45 น้ำกงน้ำเกลือฉีดแทนอือคนไข้ก็นึกว่า
00:26:45 → 00:26:49 มอร์ฟีนมอร์ฟีนกูหายเจ็บซะนั้นอือมันก็
00:26:49 → 00:26:52 เลยเกิดการค้นหามาว่าเพราะอะไรทำไมคนไข้
00:26:53 → 00:26:56 ถึงหายเจ็บชั้งั้นที่ฉันแค่ฉีดน้ำเกลือเย
00:26:56 → 00:26:59 อือไม่จิตใจอือแล้วมันก็เลยเกิดการศึกษา
00:27:00 → 00:27:02 ต่อยอดต่อยอดต่อยอดต่อยอดขึ้นมาซึ่งในยุค
00:27:02 → 00:27:04 นี้มันเป็นยุคอินเทอร์เน็ตเป็นยุคที่การ
00:27:05 → 00:27:07 ศึกษามันไม่ได้ถูกปิดแล้วมันเลยทำให้เห็น
00:27:07 → 00:27:10 ว่าคนอีกซีกโลกนึงอหายเป็นพาร์กินสันหาย
00:27:10 → 00:27:11 เป็น
00:27:11 → 00:27:14 อัลไซเมอร์สามารถ Connect กระดูกตัวเอง
00:27:14 → 00:27:17 ให้ติดกลับมาได้อีกคนนึงเครื่องบินตกอหมอ
00:27:17 → 00:27:21 บอกว่าเดินไม่ได้แล้วตลอดชีวิตอือเค้าฝึก
00:27:21 → 00:27:24 เดินในจิตใจเ้าตลอด 1 เดือนในโรงพยาบาล
00:27:24 → 00:27:26 คล้าๆ manifest มั้ยใช่ manifest
00:27:26 → 00:27:28 attraction จะเรียกว่าอะไรก็แล้วแต่อือ
00:27:28 → 00:27:31 อยากให้มองข้ามเรื่องภาษาไปอือแล้วให้
00:27:31 → 00:27:35 พุ่งไปที่แก่นสารของมันว่าคืออ๋อแก่นของ
00:27:35 → 00:27:37 มันคือพาจิต
00:27:37 → 00:27:42 ใจกลับมาเป็นเจ้านายร่างกายอืแล้วสะพาน
00:27:42 → 00:27:46 ระหว่างจิตใจก็คือล้มหายใจลมหายใจแค่นั้น
00:27:46 → 00:27:48 เลยรู้สึก
00:27:48 → 00:27:53 ว่าชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้างคะหลังจาก
00:27:54 → 00:27:57 ที่มันอย่างงี้อย่างงี้เลยมั้ยหรือว่า
00:27:57 → 00:28:00 เอ้ยอย่างงี้อย่างงี้เหรอใช่ผมว่าข้อดี
00:28:00 → 00:28:04 ที่สุดของผมหลังจากที่ผมทำไปเรื่อยๆนะ
00:28:04 → 00:28:08 อืแล้วผมภูมิใจสุดๆเลยนะอืผมกลับไปเป็น
00:28:08 → 00:28:11 เด็กได้ไวขึ้นผมสามารถตื่นเต้นกับแบบ
00:28:11 → 00:28:15 เรื่องเล็กๆได้เหมือนที่เด็กตื่นเต้นอือๆ
00:28:15 → 00:28:19 ๆแล้วผมสามารถแบบแค่กล้วยใบนึงอ่ะผม Enjoy
00:28:19 → 00:28:22 ที่จะเห็นมันแบบสวยงามไปหมดเลยอะไร
00:28:22 → 00:28:26 อย่าเงี้ยอืแล้วมันเหมือนกับว่าพอเราทำ
00:28:26 → 00:28:29 สมาธิไปเรื่อยๆแล้วเราเพิกเฉยต่อความทรง
00:28:29 → 00:28:33 จำสิ่งที่เา้าอัดเราหล่อหลอมเรามาแล้วเรา
00:28:33 → 00:28:35 ทิ้งมันไปเรื่อยๆทิ้งมันไปเรื่อยๆมันไม่
00:28:35 → 00:28:39 ได้เกิดขึ้นใน 5 ปีแรก 5 ปีแรกผมก็ยังมอง
00:28:39 → 00:28:42 หาอยู่พอทำมาเรื่อยๆผมค่อยๆทิ้งค่อยๆทิ้ง
00:28:42 → 00:28:46 คำว่าก็อจิรายุออกไปอืทิ้งๆๆทิ้ออกไปตัด
00:28:46 → 00:28:48 แม่ออกไปตัดพ่อออกไปตัดศาสนาออกไปตัด
00:28:48 → 00:28:51 ประเทศชาติออกไปตัดความเป็นเพศออกไปตัด
00:28:51 → 00:28:54 อายุออกไปตัดไปวันละนิดวันละนิดวันละนิด
00:28:54 → 00:28:57 วันละนิดมันไม่ต่างอะไรจากการถอดเสื้อออก
00:28:57 → 00:28:59 แป๊บนึงอือืเพราะรู้ว่ายังไงก็ต้องใส่
00:28:59 → 00:29:02 ใหม่อยู่ดีอืๆแต่พอมันถอดออกบ่อยๆมันเลย
00:29:02 → 00:29:05 กลายเป็นแบบเออก็อยากแก้ผ้าตลอดแล้วนะ
00:29:05 → 00:29:10 อะไรี้ย่อมอ่ะใช่คือแบบคือแบบ Enjoy ฝนตก
00:29:10 → 00:29:14 ผมออกไปวิ่งเล่นฝนน่ะเออผมแบบฝนตกผมออกไป
00:29:14 → 00:29:18 วิ่งเล่นฝนเห็นดินผมออกไปขุดดินผมแบบกลาย
00:29:18 → 00:29:21 เป็นใช้ชีวิตแบบนี้แล้วแบบผมเคยได้ความ
00:29:21 → 00:29:24 สุขจากการได้รางวัลอเคได้ความสุขจากการ
00:29:24 → 00:29:27 ออกอีวนจากการได้เงินแต่มันไม่เหมือนความ
00:29:27 → 00:29:30 สุขแบบเนี้ยอือมันคนละแบบอ่ะมันเป็นความ
00:29:30 → 00:29:31 สุขของ
00:29:31 → 00:29:34 แบบโคตรเรียบง่ายเลยว่ะความสุขแบบ
00:29:34 → 00:29:38 เด็กๆอ่ะออือแล้วก็ก็เชื่อว่าการหายใจ
00:29:38 → 00:29:40 เนี่ยก็จะสามารถเปลี่ยนชีวิตคนอื่นได้
00:29:40 → 00:29:40 เหมือน
00:29:41 → 00:29:44 กันการหายใจอย่างตั้งใจเออการหายเออการ
00:29:44 → 00:29:47 ฝึกการหายใจอืเปลี่ยนได้แน่ๆเปลี่ยนได้
00:29:47 → 00:29:51 แน่ๆแต่อย่าอย่าให้ใช้คำนี้นะอย่าฝึก 10
00:29:51 → 00:29:55 วันแล้วบอกว่ามันไม่เปลี่ยนอือย่าฝึกปี
00:29:55 → 00:29:59 นึงแล้วบอกว่ามันไม่ช่วยอะไรอือืลองทำ
00:29:59 → 00:30:03 เหมือนที่เราอาบน้ำอ่ะอาบทุกวันอืแล้วทำ
00:30:03 → 00:30:07 ไปเรื่อยๆผมให้แค่ 3 เดือนก็จะเห็นละ
00:30:07 → 00:30:11 ทางความคิดแน่ๆอือทางความคิดมาแน่ๆ
00:30:11 → 00:30:14 เพราะว่ามันมีช่วงเงียบออือพอมันมีช่วง
00:30:14 → 00:30:18 เงียบเท่ากับว่ามันมีทางเลือกพอมันมีทาง
00:30:18 → 00:30:20 เลือกจิตใจที่มันฉลาดที่อยู่ในตัวเรามัน
00:30:20 → 00:30:24 จะเลือกทางที่ดีเสมออือ่ะบทสรุปวันนี้บท
00:30:24 → 00:30:29 สรุปวันนี้หายใจผิดเนี่ยชีวิตพังได้
00:30:29 → 00:30:32 มั้ยหายใจผิดชีวิตพังได้มั้ยจริงๆทุกคน
00:30:32 → 00:30:36 หายใจกันตามธรรมชาติอยู่แล้วนะอืแต่ใช้คำ
00:30:36 → 00:30:40 ว่าไม่ใส่ใจลมหายใจเลยอาจจะพังได้ออืออัน
00:30:40 → 00:30:44 นี้ดีกว่าอืเพราะว่าลมหายใจเป็นสิ่งที่
00:30:44 → 00:30:47 บางเบาแล้วปราณีตติดตัวเราอืเมื่อไหร่ที่
00:30:48 → 00:30:50 เรากลับมาที่ลมหายใจบ่อยๆเราจะค่อยๆค้น
00:30:50 → 00:30:54 เจอตัวเราในมุมที่ปราณีตขึ้นเราไม่ได้มี
00:30:54 → 00:30:57 เท่าที่เราเห็นอืเรามีอะไรซับซ้อนอยู่ใน
00:30:57 → 00:31:00 จิตใจเต็มไปหมดเพียงแต่ว่าจิตใจจเราไม่
00:31:00 → 00:31:03 นิ่งพอจนเราเจออืพอเราไม่เจอตรงนั้นเท่า
00:31:03 → 00:31:08 กับว่าเราแก้ปัญหาด้วยวิธีพื้นๆกับปัญหา
00:31:08 → 00:31:12 ที่มันลึกๆอือืปัญหาส่วนใหญ่มันอยู่ลึก
00:31:12 → 00:31:15 เข้าไปในจิตใจเราแต่เราใช้วิธีพื้นๆเท่า
00:31:15 → 00:31:17 ที่เราเคยเรียนรู้มาแก้แล้วมันแก้ไม่มี
00:31:17 → 00:31:20 วันจบออืมันไม่มีวันจบมัน
00:31:20 → 00:31:25 เหมือนเหมือนคนติดกระดุมมเม็ดแรกผิดอืแก้
00:31:25 → 00:31:27 ให้ตายมันก็ไม่จบแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่ม
00:31:27 → 00:31:28 หายใจ
00:31:28 → 00:31:31 มันจะนำตามมาซึ่งความรู้จักตัวเองแล้ว
00:31:31 → 00:31:34 ความรู้จักตัวเองจะเริ่มทำให้จัดการตัว
00:31:34 → 00:31:36 เองได้ดีขึ้นทั้งในทาง physical และทาง
00:31:36 → 00:31:40 จิตใจอืแล้วพอดีขึ้นแล้วก็จะเป็นผู้รู้
00:31:40 → 00:31:43 เองว่าดีขึ้นจริงอืไม่ต้องมีใครมาบอก
00:31:43 → 00:31:46 เมื่อกี้มีพูดแตะๆเรื่องชี่กงนิดนึงครับ
00:31:46 → 00:31:48 ชี่กง
00:31:48 → 00:31:51 เออมันเป็นยังไงอ่ะมันเหมือนที่เราเห็น
00:31:51 → 00:31:55 ที่ส่วนลุ่มมั้ยมันยังไงแรกๆผมก็คิดว่า
00:31:55 → 00:31:58 มันไม่มีอะไรอือจนกระทั่งผมไปเรียนอืออื
00:31:58 → 00:32:03 แล้วผมชอบมากอืผมชอบตรงที่ว่าความใส่ใจ
00:32:03 → 00:32:07 ทั้งหมดอยู่ที่ตัวเองอือเอ่อผมชอบเทคนิค
00:32:07 → 00:32:11 ที่เขาเรียกว่า Inner Smile อื Inner
00:32:11 → 00:32:16 Smile ก็คือสัมผัสอืร่างกายตัวเองจับหัว
00:32:16 → 00:32:19 ใจตัวเองแล้วส่งความรักเข้าไป
00:32:19 → 00:32:23 อืเห็นหัวใจตัวเองมีความรัก
00:32:23 → 00:32:24 อื
00:32:24 → 00:32:32 ตับกระเพาะอืหลำไส้เล็กลำไส้ใหญ่ปอด
00:32:32 → 00:32:36 ไต่อืเราไม่เคยส่งความรักเข้าไปในตัวเอง
00:32:36 → 00:32:39 แบบนี้เลยอืแล้วพอผมไปเรียนผมก็เลยแบบอ๋อ
00:32:39 → 00:32:42 มันคือการรวบรวมจิตใจและร่างกายให้กลับมา
00:32:42 → 00:32:44 สนใจตัวเองนั่นเอง
00:32:44 → 00:32:49 อืแค่นั้นเลยจับหัวใจตอนนี้เป็นยังไง
00:32:49 → 00:32:54 คะหัวใจตอนนี้เหรอตอนนี้ผมลิงโรดไปกับ
00:32:54 → 00:32:59 อยู่กับครอบครัวอืผมทำงานถ่ายละครมา
00:32:59 → 00:33:04 จนช่วงหลังๆผมไม่แฮปปี้เลยอืผมไม่ได้อยู่
00:33:04 → 00:33:08 กับพ่อกับแม่เลยอืปีที่ผ่านมาปีเนี้ยอยู่
00:33:08 → 00:33:11 กับพ่อแม่เยอะมากอที่ี่ก็เพิ่งพาพ่อไป
00:33:11 → 00:33:15 หัวหินออือนอนเตียงเดียวกับเค้าพาแม่ไป
00:33:15 → 00:33:18 นู่นไปนี่ไปนั่นแล้วก็แบบออาจจะเป็นอะไร
00:33:18 → 00:33:21 ที่ผมมองหาแต่ไม่เคยที่จะพาตัวเองเข้าไป
00:33:21 → 00:33:26 ใกล้มั้งอือหัวใจตอนนี้ก็เลยอยู่บ้านอื
00:33:26 → 00:33:29 ชิลอยู่บ้านจริงๆอยู่บ้านจริงๆอยู่บ้าน
00:33:29 → 00:33:32 แบบอยู่บ้านจริงๆอือๆพ่อก็จะรู้แล้วะบ่าย
00:33:32 → 00:33:35 ก็จะเข้ามาที่สตูวาดรูปอือแม่ก็จะรู้แล้ว
00:33:35 → 00:33:38 เย็นก็จะทำอาหารมาให้ลูกอืแล้วกลายเป็น
00:33:38 → 00:33:41 แบบวาดรูปอยู่บ้านพ่อมาหากลางวันเย็นแม่
00:33:41 → 00:33:45 เอาข้าวมาให้อือย่างงี้มุมมองความรัก
00:33:45 → 00:33:47 อย่างเงี้ยคิดว่าเปลี่ยนไปมั้ยเปลี่ยนไป
00:33:47 → 00:33:50 เยอะอือแล้วตอนนี้พอคุณเป็นหหมดเยแบบหัว
00:33:50 → 00:33:52 ใจอยู่บ้านอย่างเงี้ยวาดรูกอยู่กับพ่อกับ
00:33:52 → 00:33:56 แม่อะไรเงี้ยมันก็เหมือนเราก็ไม่ได้ออกไป
00:33:56 → 00:33:59 หาเนาะพะมันเติมเต็มอยู่ที่นี่อ่ะ
00:33:59 → 00:34:03 อือใครที่จะเข้ามาก็ต้องไม่ทำให้ความเติม
00:34:03 → 00:34:05 เต็มตรงนี้แหว่งไป
00:34:05 → 00:34:10 อืแค่นั้นเองไม่ว่าจะเป็นเพื่อนอไม่ว่าจะ
00:34:10 → 00:34:14 ผู้หญิงผู้ชายเพื่อนจากใกล้หรือไกลถ้า
00:34:14 → 00:34:16 เข้ามาอยู่ในโซนนี้ที่เรากำลังเติมเต็ม
00:34:16 → 00:34:18 อยู่ด้วยความสุขตรงนี้ถ้าเขาคเข้ามาแล้ว
00:34:18 → 00:34:22 ปัญหามันเยอะอคือเนี่ยคือมบอกว่าคือชมเอง
00:34:22 → 00:34:25 ก็มีเพื่อนบางคนที่ชมรู้สึกว่าอุ๊ยเขาแบบ
00:34:25 → 00:34:29 เหมือนเาเต็มมากๆอะไแล้ว
00:34:29 → 00:34:31 ก็กลายเป็น
00:34:31 → 00:34:35 ว่ามันก็เลยไม่ออกไปหาอีกครึ่งนึงอ่ะนึก
00:34:35 → 00:34:40 ออกว่าอือก็จะกลายเป็นว่า 1 ก็คือยูก็จะ
00:34:41 → 00:34:44 ไม่มีอือหรือว่าถ้ามีมันก็จะเป็นฝ่ายที่
00:34:44 → 00:34:51 แบบเหมือนเป็นผู้ให้มากๆอะไรอย่าง
00:34:51 → 00:34:56 เงี้ยของก็อตมันจะยังไงวะในมุมผมนะเออผม
00:34:56 → 00:34:59 เหมือนเป็นคนเล่นดนตรีอยู่ที่บ้านอื
00:34:59 → 00:35:01 สมมุติว่าวันนี้ผมเป็นกอง
00:35:01 → 00:35:04 แบบอือถ้าใครที่จะเข้า
00:35:04 → 00:35:08 มาคุณจะมาตีกองกับผมก็ได้แต่อย่ามา
00:35:08 → 00:35:12 ปงๆงๆๆๆอืใครเข้ามาก็มาเล่นดนตรีด้วยกัน
00:35:12 → 00:35:14 โดนคิ My vibe เออใช่ก็คือแบบคุณเข้ามา
00:35:14 → 00:35:18 แล้วถ้าคุณเป็นเมโลดี้ที่แบบแตดดแตแตแตทำ
00:35:18 → 00:35:22 ให้ไวฟของสถานที่มันดีขึ้นมาออืถ้าคุณ
00:35:22 → 00:35:25 เข้ามาอีกคนนึงคุณเป็นขลุ่ยแต่คุณเข้ากับ
00:35:25 → 00:35:29 ผมได้มาอืเข้ามาแล้วเป็นสำเนียงที่มันไม่
00:35:29 → 00:35:31 ได้สอดคล้องไปกับเมโลดี้ของผมหรือ
00:35:31 → 00:35:35 ครอบครัวผมอ่ะอผมแค่รู้สึกว่าอโอไม่เป็น
00:35:35 → 00:35:37 ไรก็แปลว่าตอนนี้ไม่ออกไปหาเลยอยู่บ้าน
00:35:37 → 00:35:40 อ้าแล้วถ้ามีคนแบบว่าเดินมาสมัครเข้าวง
00:35:40 → 00:35:45 อย่างเงี้ยถอดเสื้อรอ
00:35:45 → 00:35:51 เลยแต่ทรงแบบก็อตอ่ะอือก็ตกคนได้เยอะจริง
00:35:51 → 00:35:55 เหรอพี่จริงฉันเห็นคนแบบเนี่ยก็เข้าใจป่ะ
00:35:55 → 00:35:58 แบบเหมือนแบบอแล้วแล้วทำไม่ไปแบบว่าไป
00:35:58 → 00:36:02 สร้างร่งสร้างเรื่องให้คนเ้าแบบ
00:36:02 → 00:36:10 ว่าเฮ้มีบ้างมยมนุษย์น่ะมีบ้างใช่ปะอย่าง
00:36:10 → 00:36:13 ที่บอกแหละถ้ามันไม่ได้ขึ้นความถี่ใกล้ๆ
00:36:13 → 00:36:17 กันก็อืไม่เป็นไรฝากติดตาม on the way
00:36:17 → 00:36:19 with ชมด้วยนะคะแล้วก็อย่าลืมกดไลคกด
00:36:20 → 00:36:22 แชร์กด Subscribe นะคะทั้งทาง YouTube
00:36:22 → 00:36:24 แล้วก็ Facebook นะคะแล้วก็อย่าลืมกด
00:36:24 → 00:36:26 กระดิ่งแจ้งเตือนด้วยนะคะจะได้ไม่พลาด
00:36:26 → 00:36:31 สาระดีๆจากทางไ doot ค่ะขอไลกรัวๆเลยนะคะ
00:36:31 → 00:36:36 [เพลง]