00:00:00 → 00:00:03 ปรับสมดุลก็คือถ้าโดพามีนมันเยอะนะครับ
00:00:03 → 00:00:05 เมื่อกี้เป็นสารที่แบบแฮปปี้มากๆเลยถ้า
00:00:05 → 00:00:07 มันติดสุขมันก็จะเริ่มมีตัวอื่นมาทดแทน
00:00:08 → 00:00:11 ลองกอดตัวเองลองรักตัวเองลองลองแบบมีคน
00:00:11 → 00:00:14 ใกล้ๆตัวให้เราแบบขอความช่วยเหลือบ้างก็
00:00:14 → 00:00:24 ได้เราไม่ได้แข็งแกร่งตลอดเวลาเนี่ย
00:00:24 → 00:00:26 อ่ายินดีต้อนรับเข้าสู่พcastของ T
00:00:27 → 00:00:29 Academy นะครับผมหมอหนุ่มนะครับนายแพทย์
00:00:29 → 00:00:31 นันธวัฒสิทธิรักษ์นะครับผู้อำนวยการ
00:00:31 → 00:00:34 สถาบันการเรียนรู้การสร้างเสริมสุขภาพวัน
00:00:34 → 00:00:36 นี้เนื่องจากเป็นเดือนพฤษภาคมนะครับแล้ว
00:00:36 → 00:00:39 ก็วันสำคัญในวันนี้ที่สำคัญทั่วโลกคือวัน
00:00:39 → 00:00:43 แรงงานนะครับนะวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่อง
00:00:43 → 00:00:47 work life สมดุลใจให้โดสนะครับวันนี้นะ
00:00:47 → 00:00:49 ครับเราได้รับเกียรติจากอาจารย์ป๊อบนะ
00:00:49 → 00:00:52 ครับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.นักกิจกรรม
00:00:52 → 00:00:54 บำบัดศุภลักษ์เข็มทองนะครับอาจารย์ป๊อบ
00:00:54 → 00:00:56 เนี่ยเป็นอาจารย์อยู่ที่คณะกายภาพบำบัด
00:00:56 → 00:00:59 มหาวิทยาลัยมหิดลนะครับวันนี้เราก็จะคุย
00:00:59 → 00:01:01 กันเรื่องที่ที่กล่าวไปนะครับเรื่อง work
00:01:01 → 00:01:05 life ปรับสมดุลให้โดสนะครับก็เนื่องจาก
00:01:05 → 00:01:08 เป็นวันแรงงานนะครับนะอาจารย์ป๊อบเราจะ
00:01:08 → 00:01:10 คุยกันเรื่องว่าเออประชากรวัยแรงงานของ
00:01:10 → 00:01:13 ประเทศไทยเนี่ยเกิน 50% ของประชากรนะครับ
00:01:13 → 00:01:17 ที่ต้องทำงานนอกนั้นเขายังต้องดูแลคนรุ่น
00:01:17 → 00:01:20 หลังคือลูกหลานแล้วก็ผู้สูงอายุพ่อแม่พี่
00:01:20 → 00:01:22 น้องเขาอีกนะครับครับภาคแรงงานตอนนี้นะ
00:01:22 → 00:01:24 ครับพี่หมอหนุ่มครับแล้วก็ท่านผู้ชมครับ
00:01:24 → 00:01:27 ก็คือเรามีอยู่ 3 ประเด็นด้วยกันครับอัน
00:01:27 → 00:01:31 ที่ 1 คือเค้าพักผ่อนไม่เพียงพออืนะทำงาน
00:01:31 → 00:01:34 เนี่ยบางทีทำงาน 5 วันก็แล้วหรือทำพารท
00:01:34 → 00:01:36 Time ไปอีกอือเกือบทั้งอาทิตย์เลยครับ
00:01:36 → 00:01:40 เป็น 7 วันต่อสัปดาห์หรือบางท่านก็คือใน 1
00:01:40 → 00:01:43 วันเนี่ยตามกฎหมายแรงงานเนี่ยก็แรกๆก็
00:01:43 → 00:01:46 เหมือนจะควบคุมได้แต่ตอนหลังงานมันงอก
00:01:46 → 00:01:49 ขึ้นเยอะสตาฟน้อยลงเศรษฐกิจก็แย่ลงเงี้ย
00:01:49 → 00:01:52 ครับก็คือคนๆนึงเนี่ยทำงานหลายๆชิ้นมากก็
00:01:52 → 00:01:55 เลยเวลาที่กำหนดไปเผลอๆเป็น 18:00 น. 19
00:01:55 → 00:01:58 น.อืยังไม่กลับบ้านเลยอันนี้ประเด็นแรก
00:01:58 → 00:02:01 คือพักผ่อนไม่ได้เลยไม่เต็มที่นอนไม่พอนะ
00:02:01 → 00:02:04 ครับอันที่ 2 ก็คือนั่งอยู่บนโต๊ะนานมาก
00:02:05 → 00:02:08 ครับภาคแรงงานที่นั่งบนโต๊ะไม่ได้มีแบบ
00:02:08 → 00:02:11 การเคลื่อนไหวร่างกายหรือขยับร่างกายเลย
00:02:11 → 00:02:14 เนี่ยมีปัญหาตามมาทางสุขภาพเยอะมาก Office
00:02:14 → 00:02:16 syndrome นี่เป็นกว้างๆนะครับพี่หมอ
00:02:16 → 00:02:17 หนุ่มแต่ว่าจริงๆแล้วมันมีเรื่องของ
00:02:17 → 00:02:21 Vision Syrนปัญหาเรื่องสุขภาพปลาแล้วก็
00:02:21 → 00:02:24 บางท่านเนี่ยก็ใส่หูฟังด้วยปัญหาเรื่องหู
00:02:24 → 00:02:27 ก็มีผลด้วยออือืถ้าภาคเกษตรหรือภาค
00:02:27 → 00:02:29 อุตสาหกรรมก็จะเป็นอีกแบบนึงไม่ได้นั่ง
00:02:29 → 00:02:31 โต๊ะแต่ก็ต้องทำงานซ้ำๆอยู่เป็นเวลานาน
00:02:31 → 00:02:34 มากใช่คราวนี้ความน่าสนใจของบ้านเราโดย
00:02:34 → 00:02:36 เฉพาะประเทศไทยเลยนะครับถ้าออกไปโซนชาน
00:02:36 → 00:02:39 เมืองผู้สูงอายุเนี่ยยังอยากทำงานอยู่
00:02:39 → 00:02:41 ครับเพราะลูกหลานเนี่ยเข้าเมืองไปทำงาน
00:02:41 → 00:02:45 ออฟฟิศแต่ผู้สูงอายุเนี่ยจะทำเกษตรกรทำ
00:02:45 → 00:02:50 ไร่ทำสวนก็ทำในแง่ของผิดท่าอืนั่งยองเอย
00:02:50 → 00:02:53 ก้มอะไรเยอะๆเร็วๆกล้ามเนื้อกับไขสันหลัง
00:02:53 → 00:02:56 อะไรบิดไปหมดเลยครับปวดเมื่อยล้าเกินหมด
00:02:56 → 00:02:59 เลยอืมแต่ว่าเรื่องคือ 2 ประเด็นที่
00:02:59 → 00:03:01 อาจารย์ป๊อบพูดยังมีอีกประเด็นนึงคืออะไร
00:03:01 → 00:03:04 นะครับ 3 3 ด้านประเด็นอีกด้านนึงก็คือ
00:03:04 → 00:03:07 เราเรียกว่าโรคเรื้อรังครับเช่นเราเรียก
00:03:07 → 00:03:11 ว่ากล้ามเนื้อปวดเรื้อรังอืครับซึ่งมัน
00:03:11 → 00:03:14 เป็นไปได้ก็คือมันไม่หายซะทีอือนะครับมัน
00:03:14 → 00:03:16 ไม่ใช่แค่ออฟฟิศsydrมครับมันมีหลายอย่าง
00:03:16 → 00:03:19 มากแต่คราวนี้มันเป็นมากเกินปี 2 ปีก็
00:03:19 → 00:03:22 เริ่มมีปัญหาซึมเศร้าตามเป็นเงามาด้วย
00:03:22 → 00:03:25 ครับอออหลายเรื่องนะตั้งแต่หลายเรื่องเลย
00:03:25 → 00:03:29 อดนอนน้อยทำงานนานอยู่ในท่าซ้ำๆนานๆแล้ว
00:03:29 → 00:03:32 ก็มีเรื่องโรคเรื้อรังนะนี่เฉพาะพูดแค่
00:03:32 → 00:03:35 เรื่องงานนะครับเพราะว่าจริงๆแล้วคนแรง
00:03:35 → 00:03:37 วัยแรงงานเนี่ยยังมีภาระซ่อนเร้นอย่าง
00:03:37 → 00:03:41 อื่นเช่นครอบครัวต้องดูแลผู้สูงอายุเน
00:03:41 → 00:03:44 แล้วที่สำคัญคือการดูแลตัวเองโดยเพราะถ้า
00:03:44 → 00:03:46 เขาล้มเนี่ยคนล้มกับเขาเนี่ยเยอะแยะไปหมด
00:03:46 → 00:03:50 ตั้งแต่ลูกเล็กเด็กแดงพูดง่ายๆนะครับนะ
00:03:50 → 00:03:52 คู่สมรสครอบครัวหรือกระทั่งพ่อแม่พี่น้อง
00:03:52 → 00:03:56 ที่ต้องเคือเค้าซัพพอร์ตคนเหล่านั้นอยู่
00:03:56 → 00:04:00 นะครับอืคราวนี้ที่อาจารย์ป๊อบเอ่อช่วย
00:04:00 → 00:04:02 เราหลายๆครั้งไปดูหลายๆครั้งเนี่ยประเด็น
00:04:02 → 00:04:05 ที่ว่าเนี่ยแรงงานทำงานเยอะแล้วก็พักผ่อน
00:04:05 → 00:04:08 น้อยเนี่ยมันส่งผลยังไงครับทำไมต้องนอน
00:04:08 → 00:04:11 ไม่พอเนี่ยทำไมต้องนอนให้พอครับออ่าโจทย์
00:04:11 → 00:04:14 นี้ดีมากนะครับเวลาบอกว่าทำไมต้องนอนให้
00:04:14 → 00:04:18 พอเนี่ยเพราะว่าโทสฮอร์โมนครับอนะครับโท
00:04:18 → 00:04:19 ฮอร์โมนเนี่ยเป็นฮอร์โมนที่เราต้องซ่อม
00:04:19 → 00:04:22 แซมส่วนที่สึกหลอของร่างกายซึ่งเขาก็จะ
00:04:22 → 00:04:25 เริ่มทำงานเนี่ยประมาณจริงๆ 23 น.ก็เริ่ม
00:04:25 → 00:04:27 ลงมาหน่อยละแล้วก็พอเราเริ่มหลับสนิท
00:04:27 → 00:04:30 เนี่ยสักเที่ยงคืนไปถึง 1 เนี่ยนะครับ
00:04:30 → 00:04:32 ชั่วโมงเเป็นชั่วโมงที่แบบร่างกายก็ต้อง
00:04:32 → 00:04:36 รู้ตัวและตรงไหนมันสึกหล่อตรงไหนปวดมาก
00:04:36 → 00:04:39 ตรงไหนเมื่อยมากและรวมทั้งใจด้วยนะครับใจ
00:04:39 → 00:04:41 ตรงไหนเนี่ยมีอะไรที่เขาก็ระบายโดยความ
00:04:42 → 00:04:44 ฝันเนาะก็คือใจที่มันแบบกังวลมากๆก็เริ่ม
00:04:44 → 00:04:47 แบบก่อร่างสร้างตัวคิดบวกคิดอะไรอย่าง
00:04:47 → 00:04:50 เงี้ยครับแต่จริงๆแล้วถ้าบางคนนอนดึกเกิน
00:04:50 → 00:04:53 ไปเท่าที่ฟังก็คือพอกลับบ้านดึกทานะอาหาร
00:04:53 → 00:04:56 อีกหลับๆตื่นเพราะอาหารมันยังไม่ย่อยใช่
00:04:56 → 00:04:59 มั้ครับก็ปาไป 1:00 น. 2:00 น.อ่ะครับอื
00:04:59 → 00:05:04 ก็นอนหลับๆตื่นโรสฮอร์โมนก็ไม่ได้มาทำงาน
00:05:04 → 00:05:07 ซ่อมแซมจริงๆตื่นมาก็ปวดเมื่อยก็ไม่อยาก
00:05:07 → 00:05:10 จะไปทำงานอแล้วพอนอนไม่พอก็ส่งผลต่อ
00:05:10 → 00:05:12 ประสิทธิภาพในการทำงานอีกใช่เลยครับตัว
00:05:12 → 00:05:15 คอร์ดิเซอลพอนอนไม่พอคอร์ดิเซอลมันออกมา
00:05:15 → 00:05:17 ตอนเช้าๆอยู่แล้วยิ่งตอน 5:00 น.อ่ะ 5:00
00:05:17 → 00:05:20 น.มันก็งัวเงียไม่ออกมาพระอาทิตย์ตอนนี้
00:05:20 → 00:05:23 ก็หลับๆตื่นๆนะครับขึ้นมาไม่ได้ตรงเวลา
00:05:23 → 00:05:27 เท่าไหร่ขึ้นมาดูมืดๆมีฝุ่นเยอะแยะโอไม่
00:05:27 → 00:05:29 อยากตื่นไปไหนเลย
00:05:29 → 00:05:31 แต่พอนี้พอไปทำงานสมมุติว่าเอาล่ะมันก็
00:05:31 → 00:05:34 ตื่นสุดท้ายก็ต้องตื่นต้องไปทำงานแม้
00:05:34 → 00:05:36 กระทั่งนอนไม่พอเนาะมีภาระต้องเคลียร์ที่
00:05:36 → 00:05:39 บ้านก่อนไปพอไปถึงที่ทำงานประเด็นที่ 2
00:05:39 → 00:05:42 ที่อาจารย์ป๊อบพูดถึงคืออยู่ในท่าใดท่า
00:05:42 → 00:05:47 หนึ่งนานยาวนานจนเกินไปเกินไปคำว่านาน
00:05:47 → 00:05:50 เกินคือนานแค่ไหนครับว่าเกินไปครับโดย
00:05:50 → 00:05:52 ทั่วไปเนี่ยตัวกล้ามเนื้อนะครับโดยเฉพาะ
00:05:52 → 00:05:55 กล้ามเนื้อโครงร่างของร่างกายเรานะครับ
00:05:55 → 00:05:57 เขาจะต้องนั่งตรงเนี่ยนั่งตรงสุดเนี่ยเา
00:05:57 → 00:06:01 เคยจับเวลาบันทึกไว้ก็คือ 20 นาทีเนี่ย
00:06:01 → 00:06:04 ถือว่าสุดๆละอืแต่ 20 นาทีก็คือเป็นคนที่
00:06:04 → 00:06:07 แบบขยับร่างกายบ่อยๆกล้ามเนื้อก็จะทรงตัว
00:06:08 → 00:06:10 ได้นานแล้วก็ไม่ปวดเมื่อยอะไรแต่คราวนี้
00:06:10 → 00:06:14 บางคนก็นั่งนานเกินไปออาจจะติดพันโดยส่วน
00:06:14 → 00:06:16 ใหญ่เท่าที่ถามนะครับไม่ได้นั่งนานเพราะ
00:06:16 → 00:06:19 จดจ่อในการทำงานนะครับนั่นก็คืองานนี้น่า
00:06:19 → 00:06:23 เบื่อก็ไปฟังเปิด YouTube เล่นเมลเช็คเมล
00:06:23 → 00:06:26 ออมีมีส่วนที่ไม่ใช่งานเนี่ยเยอะมากเลย
00:06:26 → 00:06:29 แต่ก็อยู่ในท่านั่งแต่ก็อยู่ในท่านั่งไม่
00:06:29 → 00:06:32 ได้ลุกเลยครับผมแล้วก็ชิดแชทกันอยู่ข้างๆ
00:06:32 → 00:06:35 ทุกคนก็นั่งยิ่งคุยยิ่งเพลินบางทีก็เอา
00:06:35 → 00:06:37 อาหารมาทานด้วยแล้วถ้าเป็นแรงงานภาค
00:06:37 → 00:06:41 อุตสาหกรรมหรือภาคอ่าเกษตรกรรมหรือมันมัน
00:06:41 → 00:06:43 อยู่นานๆคือเป็นยังไงนะครับอันนี้จะหนัก
00:06:43 → 00:06:45 กว่าครับเนื่องจากว่าตรงนั้นเนี่ยถ้าเป็น
00:06:45 → 00:06:47 ออฟฟิศโหลดงานไม่ค่อยเยอะแต่ว่าถ้าเป็น
00:06:47 → 00:06:51 ที่ต้องใช้แรงงานหรืออยู่บนอุตสาหกรรมมี
00:06:51 → 00:06:54 สายพานมีอะไรอย่างงี้เนาะตรงเการผิดท่า
00:06:54 → 00:06:57 การบิดบิดกล้ามเนื้อครับแล้วก็การใช้มือ
00:06:57 → 00:07:00 โดยเฉพาะมือส่วนเล็กๆเนี่ยถึงแม้จะสวมถุง
00:07:00 → 00:07:02 มือนะครับแล้วก็เหมือนหุ่นยนต์น่ะครับก็
00:07:02 → 00:07:05 คือคนจะต้องทำงานให้เร็วให้มากปริมาณมาก
00:07:06 → 00:07:08 พร้อมกับหุ่นยนต์ดังนั้นมือเขาจะใช้เยอะ
00:07:08 → 00:07:11 เกินไปซึ่งเกิดการบาดเจ็บระหว่างการทำงาน
00:07:11 → 00:07:15 อ๋อมีโหลดมีเวิร์คโหลดด้วยต้องขยับต้องยก
00:07:15 → 00:07:17 ต้องก้มต้องอะไรเงี้ยครับตรงนี้ลำบากมาก
00:07:17 → 00:07:20 เพราะยังไงก็คือเอ่อได้รายได้น้อยแล้ว
00:07:20 → 00:07:23 ต้องแข่งกับเวลาแล้วก็ทำหามรุ่งหามค่ำอัน
00:07:23 → 00:07:26 นี้อันนี้จะเครียดมากกว่าเราครับพอเวลา
00:07:26 → 00:07:29 ผ่านมา 4-5 ปีหรือมากกว่านั้นอาจารย์ป๊อบ
00:07:29 → 00:07:31 ก็จะมาถึงประเด็นที่ 3 ที่อาจารย์ป๊อบบอก
00:07:31 → 00:07:34 คือมันมีความเรื้อรังเกิดมานานเกิดโรค
00:07:34 → 00:07:37 เรื้อรังใช่ใช่โรคที่พบบ่อยในคนทำงานนานๆ
00:07:37 → 00:07:41 ล้าๆนอนไม่พอท่าเดิมนานๆซ้ำๆเนี่ยอคือ
00:07:41 → 00:07:44 อะไรครับครับเราจะเรียกว่าความเจ็บปวด
00:07:44 → 00:07:47 ครับครับแต่ว่าแบงเป็น 3 อย่างด้วยกันอัน
00:07:47 → 00:07:50 ที่ 1 คือถ้ากล้ามเนื้อส่วนนส่วนมัดนั้น
00:07:50 → 00:07:53 ทำงานมากๆเราเรียกว่ากล้ามเนื้อเกรงบิด
00:07:54 → 00:07:57 แล้วก็เจ็บปวดอย่างฉับพันออืนะครับอันที่
00:07:57 → 00:07:59 2 เนี่ยมันไม่ใช่กล้ามเนื้อเฉพาะและมัน
00:07:59 → 00:08:02 ขึ้นไปถึงต้องคิดด้วยอือต้องคิดอะไรหลายๆ
00:08:02 → 00:08:05 อย่างโดยเฉพาะคิดเรื่องกังวลเรื่องเงิน
00:08:05 → 00:08:07 ครับเท่าที่เราสำรวจมาในคนไทยคือกังวล
00:08:07 → 00:08:10 เรื่องเงินสูงมากแล้วก็หาทางออกไม่ได้ก็
00:08:10 → 00:08:13 กลายเป็นปวดหัวเพราะความเครียดอือันนี้
00:08:13 → 00:08:16 ความเครียดทางกายพอไม่เคยได้พักษาเลยนะ
00:08:16 → 00:08:18 ครับแล้วก็ไม่กล้าไปคุยกับจิตแพทย์นะครับ
00:08:18 → 00:08:22 ก็กลายเป็นเรื้อรางใจด้วยอืครับต่อมา
00:08:22 → 00:08:24 เรื่องสายตาเป็นอันดับ 3 ครับเราเรียกว่า
00:08:24 → 00:08:27 Vision Syr ครับแล้วจริงๆแล้วเป็นตั้ง
00:08:27 → 00:08:30 แต่ก่อน 25 ปีแล้วนะครับปัจจุบันเพราะว่า
00:08:30 → 00:08:33 ติดกับมือถือเยอะมากใช้แสงสีความนิดนึง
00:08:33 → 00:08:35 Vision Syrม Vision Syrมเนี่ยมันจะแสบตา
00:08:35 → 00:08:39 บ่อยๆน้ำตาน้ำตาเนี่ยมันจะแห้งนะครับแล้ว
00:08:39 → 00:08:42 ก็กระพริบตาก็แล้วมันก็จะตึงๆตื้อๆนะครับ
00:08:42 → 00:08:46 เนาะแล้วก็ตาเจะเริ่มช้ำอนะครับมีบวมบ้าง
00:08:46 → 00:08:50 บางครั้งถ้าเกิดนอนดึกด้วยอครับอืมาครบ
00:08:50 → 00:08:53 ใช่มมาครบเลยครับพี่
00:08:53 → 00:08:56 คราวนี้สิ่งนึงที่เราเจอในในคนทำงานพอนาน
00:08:56 → 00:08:59 ๆนะครับมันก็อเหมือนที่บอกนะครับช่วงแรกๆ
00:08:59 → 00:09:02 ก็มีความกระตือรือล้นล่ะมีความตั้งใจที่
00:09:02 → 00:09:05 จะทำนะแต่พอมาเจอสิ่งเหล่าเนี้ยซ้ำๆไม่
00:09:05 → 00:09:08 ทราบจะหาทางออกยังไงมันก็แต่ก็มันก็มี
00:09:08 → 00:09:11 ความจำเป็นจะต้องทำต้องทำงานเกินเวลามี
00:09:11 → 00:09:14 หลายงานมีหลายภาระหน้าที่ต้องแบ่งร่าง
00:09:14 → 00:09:17 เป็นหลายๆอย่างเลยแล้วสุดท้ายกับประเด็น
00:09:17 → 00:09:19 สุดท้ายของอาจารย์ป๊อบก็คือนอนไม่พอใช่
00:09:19 → 00:09:22 ครับซ่อมแซมก็ไม่ได้นะเราก็ต้องทำอะไรซ้ำ
00:09:22 → 00:09:25 ๆแล้วก็เรื้อรังนานๆเนี่ยอืทางด้านจิตใจ
00:09:25 → 00:09:27 เมื่อกี้อาจารย์ป๊อบแตะไว้นิดนึงแล้วแหละ
00:09:27 → 00:09:30 คือคนเราตอนแรกก็มาด้วยความอฮึกเเหิมพูด
00:09:30 → 00:09:34 ง่ายๆแล้วมีไฟนะครับนะอยากมาทำนั่นทำนี่
00:09:34 → 00:09:37 สักพักมันก็มาเจอว่าเนี่ยมันมีความขัด
00:09:37 → 00:09:39 แย้งในความเค้าเรียกอะไรเความเรียกร้อง
00:09:39 → 00:09:42 มันขัดกันเองนะเคือเค้าคงจะอยากพักนั่น
00:09:42 → 00:09:45 แหละแต่จำเป็นก็ต้องหาเงินเงินไม่พอเนาะ
00:09:45 → 00:09:48 พ่อแม่ก็ต้องดูแลลูกต้องไปโรงเรียนค่าใช้
00:09:48 → 00:09:51 จ่ายผ่อนบ้านเดินทางอะไรก็ตามเป็นค่า
00:09:51 → 00:09:54 เฝือนฝืนฝนเหมือนฝืนอเค้าก็เค้าก็จะเริ่ม
00:09:54 → 00:09:57 เออมันมันเริ่มเ้าเริ่มตระหนักแล้วว่า
00:09:57 → 00:10:00 เฮ้ยบางอย่างมันเกิดขึ้นนะสิ่งที่เราพูด
00:10:00 → 00:10:02 กันเยอะๆคือคนจำนวนมากเดี๋ยวเนี้ยมีเค้า
00:10:02 → 00:10:04 เรียกมีภาวะเค้าเรียกอ่า burn out นะ
00:10:04 → 00:10:08 ครับหมดไฟหมดไฟเนาะพี่อืภาวะหมดไฟเนี่ย
00:10:08 → 00:10:12 อาจารย์ป๊อบขยายนิดนึงอะไรคือหมดไฟนะครับ
00:10:12 → 00:10:14 ในความในความคิดของผมทางกิจกรรมบำบัด
00:10:14 → 00:10:17 เนี่ยพอหมดไฟเนี่ยเรามองว่าเ้ามี 3 ทักษะ
00:10:17 → 00:10:20 ที่ลดลงครับอันที่ 1 เนี่ยเราเรียกว่า
00:10:20 → 00:10:23 ทักษะทางร่างกายอร่างกายก็เริ่มแบบขี้
00:10:23 → 00:10:25 เกียจเนาะเริ่มที่แบบไม่อยากจะขยับ
00:10:26 → 00:10:29 เขยื้อนเลยอยากจะอยากจะติดสุขอืติดสุขก็
00:10:29 → 00:10:32 คือฉันขอนอนได้มั้อ่ะมีเวลาก็ขอนอนนะเวลา
00:10:33 → 00:10:36 หายากจังเลยขอนอนให้รู้สึกสบายเนอันเนี้ย
00:10:36 → 00:10:39 เราเรียกว่าติดโดพามีนโดพามีนคือสารเคมี
00:10:39 → 00:10:42 ที่ขอให้มันมีความสุขไว้ก่อนทำอะไรก็ได้
00:10:42 → 00:10:47 อันที่ 2 เนี่ยตามมาด้วยเรื่องของแบบเอ่อ
00:10:47 → 00:10:49 งานมันล้นน่ะครับงานมันล้นเดี๋ยวเดี๋ยว
00:10:49 → 00:10:52 ค่อยทำเดี๋ยวค่อยทำเดี๋ค่อยทำกลายเป็นดิน
00:10:52 → 00:10:55 พอกหางหมูอ่ะครับซึ่งแล้วตอนหลังก็ทำไม่
00:10:55 → 00:10:58 ได้เสร็จสักอย่างเลยอันนี้ก็ผมก็คิดว่าทำ
00:10:58 → 00:11:01 ให้เราหมดไฟได้อันที่ 3 ผลว่าเป็นปัจจัย
00:11:01 → 00:11:03 จากภายนอกเมื่อกี้ที่พี่หมอหนุ่มแตะไว้ก็
00:11:03 → 00:11:06 คือเรารู้สึกว่ามันเป็นภาระเป็นเสาหลัก
00:11:06 → 00:11:09 ของบ้านต้องทำนู่นทำนี่เยอะแยะแต่เราไม่
00:11:09 → 00:11:12 เคยเรียงลำดับความสำคัญทุกอย่างรุมมาดูมา
00:11:12 → 00:11:16 ตุ้มที่ตัวเราสุดท้ายก็หมดไฟทำไม่ได้จริง
00:11:16 → 00:11:19 ๆหมดไฟเหนื่อยเหลือเกินที่อาจารย์พอพูด
00:11:19 → 00:11:22 คือมันมีอาการทางกายนะเกิดขึ้นความล้า
00:11:22 → 00:11:24 ความปวดความอะไรขึ้นมาแล้วก็ทางด้าน
00:11:24 → 00:11:29 อารมณ์มันคือรู้สึกแบบครับอะไรล่ะล้นเต็ม
00:11:29 → 00:11:32 จัดการไม่ได้เกินเกินขีดความสามารถแล้ว
00:11:32 → 00:11:36 มันก็มาส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานใน
00:11:36 → 00:11:38 การใช้ชีวิตแล้วดีไม่ดีมันสะท้อนกลับไป
00:11:38 → 00:11:41 ที่ความสัมพันธ์ในครอบครัวในอะไรอย่าง
00:11:41 → 00:11:44 งั้นด้วยนะครับโอ้มากมายเลยครับเพราะว่า
00:11:44 → 00:11:46 แล้วปัจจุบันนี้ก็คือถ้าเรามีลูกใช่มั้ย
00:11:46 → 00:11:49 ครับทั้งคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นวัยทำงานทั้ง
00:11:49 → 00:11:51 คู่อือลูกก็ต้องการความรักความเข้าใจจาก
00:11:51 → 00:11:54 พ่อแม่ซึ่งหายากมากเลยนะครับอกิจกรรม
00:11:54 → 00:11:57 ครอบครัวหรือในวัยทำงานตอนนี้ต้องดูแลคุณ
00:11:57 → 00:12:00 พ่อคุณแม่ซึ่งเป็นผู้สูงอายุอือย่างเงี้ย
00:12:00 → 00:12:03 ครับก็ลำบากเหลือเกินนะครับครับเมื่อกี้
00:12:03 → 00:12:05 อาจารย์ป๊อบพูดตัวดีขึ้นมาตัวนึงนะวันนี้
00:12:05 → 00:12:08 เราชื่อเรื่องของเราคือ work life สมดุล
00:12:08 → 00:12:12 ใจนะครับเมื่อกี้คำว่าตัว B เนี่ยโดน
00:12:12 → 00:12:15 โดพามีนใช่มั้ครับอาจารย์ป๊อบขยายอีกคำ
00:12:15 → 00:12:17 ว่าโดเนี่ยมาจากคำว่าอะไรผมจะกลับมาคำว่า
00:12:17 → 00:12:18 burn out อีกทีนึงครับมันจะอย่างงี้
00:12:18 → 00:12:21 ครับก็คือถ้าเราหมดไฟเนี่ยเราจริงๆหมดไฟ
00:12:21 → 00:12:24 อาจจะมีหลายระยะใช่มั้ครับเดี๋ยวพี่มดอาจ
00:12:24 → 00:12:27 จะขยายความแต่ว่าโดพามีนเนี่ยมันจะขึ้นลง
00:12:27 → 00:12:30 ๆถ้าเรารู้สึกมีความสุขมากโดพามีนก็จะ
00:12:30 → 00:12:33 ขึ้นมาแต่ว่าถ้าเกิดมีความสุขและมีเป้า
00:12:33 → 00:12:36 หมายที่เกี่ยวกับการทำงานนะครับโดพามีนก็
00:12:36 → 00:12:39 จะขึ้นมาระดับหนึ่งแต่ถ้าเราอยากสบายมาก
00:12:39 → 00:12:42 ไม่อยากทำงานเลยอยากไปช้อปปิ้งอยากไปนู่น
00:12:42 → 00:12:46 นี่กลายเป็นว่าหรือเราอยากไปติดสารเสพติด
00:12:46 → 00:12:48 สูบุหรี่อย่างเงี้ยนะครับหรือว่าติดโล่ง
00:12:48 → 00:12:50 ติดเหล้าเพื่อแบบแก้เครียดเนี่ยโดปามีน
00:12:50 → 00:12:53 ขึ้นมากเกินไปครับมันทำให้เราไม่อยากทำ
00:12:53 → 00:12:57 งานแล้วก็อาจจะไม่ไปทำงานก็ได้ออือัน
00:12:57 → 00:13:00 หนึ่งนะโดปามินมาอันนั้นก่อนอันนั้นเลย
00:13:00 → 00:13:02 ใช่ครับส่วนเมื่อกี้บอกว่าเรื่องเบิร์น
00:13:02 → 00:13:04 out มันก็เป็นภาวะที่คล้ายๆเ้าเรียกว่า
00:13:04 → 00:13:08 ภาวะหมดไฟนะครับนะมันก็ล้ามีอาการทางกาย
00:13:08 → 00:13:11 จิตใจก็เปรี้ยเพลียเสียไม่มีอารมณ์มีความ
00:13:11 → 00:13:14 รู้สึกไม่ดีไม่มีความสุขนะครับนะก็ที่บอก
00:13:14 → 00:13:17 ว่าส่งผลกระทบต่อครับการงานกระบกระบต่อ
00:13:17 → 00:13:21 ความสัมพันธ์เนาะคราวนี้เนี่ยถ้าถามว่าก็
00:13:21 → 00:13:23 คงไม่มีใครอยากให้เกิดภาวะ burn out มัน
00:13:23 → 00:13:26 จะมีอะไรที่มาเตือนเราก่อนเบื้องต้นมั้
00:13:26 → 00:13:28 ครับมันมีศัพท์คำว่าบราว out เพราะว่าไฟ
00:13:28 → 00:13:31 ตกนะคือตอนแรกผมบอกว่ามันมีพลังอยากจะทำ
00:13:31 → 00:13:34 งานพอสักพักเริ่มเอ้ยมันจัดการความ
00:13:34 → 00:13:37 สัมพันธ์จัดการอะไรล่ะความเรียกร้องไม่
00:13:37 → 00:13:39 ว่าจะเป็นเรื่องงานเรื่องเวลาเรื่องภาระ
00:13:39 → 00:13:40 เรื่องเงินทองเรื่องครอบครัวมันเริ่มไม่
00:13:40 → 00:13:43 ลงตัวเสร็จแล้วจะมีภาวะเรียกว่าไฟตก
00:13:43 → 00:13:46 อาจารย์อาจารย์ป๊อบช่วยขยายคำว่าไฟตกภาษา
00:13:46 → 00:13:48 อังกฤษเรียกว่าบาว out เนี่ยสักนิดนึง
00:13:48 → 00:13:52 ครับในไฟตกเนี่ยจริงๆมันจะถ้าในในอ่าเท่า
00:13:52 → 00:13:54 ที่ประสบการณ์ที่ผ่านมาผมคิดว่ามันจะ
00:13:54 → 00:13:56 เริ่มจากความล้าอยู่ 3 แบบเลยนะครับอัน
00:13:56 → 00:13:59 ที่ 1 เนี่ยออกมาง่ายมากคือนอนไม่พอร่าง
00:13:59 → 00:14:02 กายก็ล้าครับนะยิงยิ่งออกแรงมากๆมันเริ่ม
00:14:02 → 00:14:05 เหนื่อยง่ายมากหัวใจเริ่มเต้นเร็วมากคือ
00:14:05 → 00:14:08 ไม่ฟิตนะครับอันที่ 2 เนี่ยพอร่างกาย
00:14:08 → 00:14:11 เริ่มไม่ฟิตมันก็จะกังวลพอกังวลเนี่ยหลาย
00:14:11 → 00:14:13 เรื่องมีเหตุผลบางเรื่องก็ไม่มีเหตุผล
00:14:13 → 00:14:16 กังวลเกินไปอันนี้ก็เป็นเรื่องของความรัก
00:14:16 → 00:14:19 ทางอารมณ์นะครับพอต่อมาก็เป็นเรื่องจิตใจ
00:14:19 → 00:14:22 นะครับเราก็แบบเริ่มแย่และเริ่มมีอะไรที่
00:14:23 → 00:14:25 เริ่มเศร้าเศร้ากับตัวเองว่าทำไมเราทำไม่
00:14:25 → 00:14:27 ได้เหมือนเดิมนอกจากกังวลแล้วยังเศร้า
00:14:27 → 00:14:29 แล้วก็โกรธหงุดหงิดกับตัวเองด้วยนะครับ
00:14:29 → 00:14:32 อารมณ์แปรปรวนผมคิดว่าอันนี้ก็เป็นระยะ
00:14:32 → 00:14:34 นึงที่ต้องระวังพูดง่ายๆคือเพราะว่าไฟตก
00:14:34 → 00:14:37 เพราะว่าเป็นสัญญาณเตือนนะไฟมันกระพริบ
00:14:37 → 00:14:39 แล้วมันเริ่มตกนะแต่ก็บางบางคนออกก็เป็น
00:14:39 → 00:14:42 หงุดหงิดบางคนออกมาเป็นล้าบางคนก็ออกมา
00:14:42 → 00:14:45 เป็นไปกินโล่งกินเหล้าหรืออะไรเงี้ยซึ่ง
00:14:45 → 00:14:48 จริงๆแล้วมันอาจจะเหมือนกับระบายชั่วคราว
00:14:48 → 00:14:50 แต่ส่งระยะยาวเนี่ยสักพักมันจะเข้าภาวะ
00:14:51 → 00:14:54 ถัดไปคือภาวะ burn out มันไฟตกถาวรมอด
00:14:55 → 00:14:57 ไหม้และถาวรเนี่ยมันต่างกันยังไงอาจารย์
00:14:57 → 00:15:00 ปราวา out เบิร์น out ไฟตกกับระยะหมดไฟนะ
00:15:00 → 00:15:02 ครับผมก็มีประสบการณ์เองด้วยนะพี่หมอ
00:15:02 → 00:15:05 หนุ่มจริงๆแล้วก็คือมันแต่จริงๆแล้ว
00:15:05 → 00:15:07 นาฬิกาชีวิตของสมองเราเนี่ยมันก็คอยเตือน
00:15:07 → 00:15:11 เราตลอดว่าครับเฮ้ยอย่านอนนานนะนอนนาน
00:15:11 → 00:15:13 แล้วมันหิวอ่ะคือเขาจะส่งไปที่กระเพาะ
00:15:13 → 00:15:16 ครับกระเพาะอาหารเนี่ยเป็นตัวนึงที่สมอง
00:15:16 → 00:15:20 เาบอกว่าคุณต้องหาอะไรทานนะจะได้มีแรงนะ
00:15:20 → 00:15:22 แล้วเดี๋ไปทำงานต่อนะครับมันจะมีท้องร้อง
00:15:22 → 00:15:25 บ่อยมากครับแล้วก็ขับถ่ายเนี่ยมันเริ่ม
00:15:25 → 00:15:27 แปรปรวนลำไส้ดังนั้นเนี่ยสัญญาณตัวเนี้ย
00:15:27 → 00:15:29 มันเริ่มทำให้เรารู้แล้วว่าไม่เหมือนเดิม
00:15:30 → 00:15:32 อืครับอันที่ 2 ก็คือเราต้องดูจากเวลา
00:15:32 → 00:15:35 ครับเนาะว่าตอนช่วง 7:00 น- 9:00 น.เนี่ย
00:15:35 → 00:15:38 เราทานอาหารเช้าหรือเปล่าบางท่านเนี่ย
00:15:38 → 00:15:42 อาหารเช้าไปทานตอนเที่ยนนอนไม่พอสักนอน
00:15:42 → 00:15:45 ไม่พอข้ามมื้อเช้าไปเลยตข้ามไปใช่ร่างกาย
00:15:45 → 00:15:48 มันจำได้อมันไปทั้งระบบเลยครับก็คือพอมัน
00:15:48 → 00:15:51 ผิดเวลาปุ๊บมันไม่ได้ละนะครับร่างกายได้
00:15:51 → 00:15:53 สารอาหารแล้วการเผาผลาอาหารก็พลังงานก็
00:15:53 → 00:15:56 ไม่ได้ละนะครับแต่ส่วนเรื่องจิตใจต้องอาจ
00:15:56 → 00:15:59 จะต้องถามทางคุณหมอหนุ่มครับมันจะมีผล
00:15:59 → 00:16:01 เยอะมั้ครับในช่วงหมดไฟเครับมันก็จะเค้า
00:16:01 → 00:16:04 เรียกหมดหวังท้อแท้หงุดหงิดแล้วมันจะส่ง
00:16:04 → 00:16:07 ผลกับคนอื่นเยอะครับสิ่งจะเห็นก็คือว่าพอ
00:16:07 → 00:16:10 ความสัมพันธ์มันจะจะเสียไม่ว่ากับเพื่อน
00:16:10 → 00:16:14 ร่วมงานกับออ่าลูกค้ากับคนที่มารับบริการ
00:16:14 → 00:16:17 เเราจะคล้ายๆเราจะล้นไปที่ที่คนเหล่า
00:16:17 → 00:16:20 เนี้ยนะครับมันจะส่งผลทางจิตใจเจ้าตัวเอง
00:16:20 → 00:16:22 ก็ไม่ได้มีความสุขนักแล้วทำให้
00:16:22 → 00:16:24 ประสิทธิภาพการทำงานแล้วภาพรวมขององค์กร
00:16:25 → 00:16:28 เนี่ยมันเสียนะครับเมื่อกี้อาจารย์ป๊อบ
00:16:28 → 00:16:30 ตอนแรกบอกว่านอนไม่พอเมื่อกี้อาจารย์ป๊อบ
00:16:30 → 00:16:33 พูดว่านอนมากเกินไปใช่มันก็ไม่ดีเหมือน
00:16:33 → 00:16:35 กันเหรอครับไม่ดีครับผมผมเคยลองมองนอนมาก
00:16:35 → 00:16:38 เกินไปนะครับสุดๆเนี่ยมันอยู่ที่จริตของ
00:16:38 → 00:16:40 เราอ่ะถ้าเกิดจริงๆเราเนี่ยถ้าเป็นคนตื่น
00:16:40 → 00:16:43 เช้าอยู่แล้วแล้วก็ตอนไม่หมดไฟเนี่ยเรา
00:16:43 → 00:16:46 ตื่นเช้าเราขยันคิดอะไรดีๆแต่พอเราหมดไฟ
00:16:46 → 00:16:50 เนี่ยมันมันสมองมันย้อนคืนไปความทรงจำที่
00:16:50 → 00:16:52 ดีๆเหมือนกันนะครับว่าเฮ้ยเป็นคนตื่นเช้า
00:16:52 → 00:16:54 นะทำอะไรดีๆอะไรอย่างเงี้ยมันจะมีฉุดคิด
00:16:54 → 00:16:57 บ้างเหมือนกันครับเป็นช่วงๆแต่บางทีเรา
00:16:57 → 00:17:00 ล้าเราทำงานนานเราก็อยากจะเอนหลังอยากจะ
00:17:00 → 00:17:03 นอนอือไอ้นอนอย่างนั้นกับนอนมากเกินไปมัน
00:17:03 → 00:17:05 ต่างกันยังไงต่างกันครับก็คือเราจะมีวิธี
00:17:05 → 00:17:08 การผ่อนคลายแบบนึงที่ตอนก่อนนอนเนี่ยถ้า
00:17:09 → 00:17:11 เราได้มีการแลกเปลี่ยนออกซิเจนกับ
00:17:11 → 00:17:13 คาร์บอนไดออกไซด์ที่มันเยอะเกินไปโดย
00:17:13 → 00:17:15 เฉพาะมันสะสมเป็นกดแลคตินะครับที่กล้าม
00:17:15 → 00:17:17 เนื้อที่ใช้งานเยอะเนี่ยถ้าเราหัดเป่าลม
00:17:17 → 00:17:21 ออกยาวๆบ้างเท่าที่วิจัยวิจัยมานะครับเขา
00:17:21 → 00:17:24 บอกว่าให้เป่าประมาณ 30 นะครับนะครับและ
00:17:24 → 00:17:27 ยิ่งคิดเยอะๆมากก็ให้นับถอยหลังเช่นเป่า
00:17:27 → 00:17:31 30 29 มาเรื่อยๆจนถึง 1 ให้กล้ามเนื้อ
00:17:31 → 00:17:32 มันผ่อนคลายมันผ่อนคลายและไม่ได้กล้าม
00:17:32 → 00:17:34 เนื้ออย่างเดียวด้วยครับมันทำให้ตัวสมอง
00:17:34 → 00:17:37 ของเราได้ออกซิเจนเต็มที่ด้วยอือฮึครับ
00:17:37 → 00:17:42 น้อยไปก็ไม่ดีก็ไม่ดีนะจริงๆแล้วเหมือน
00:17:42 → 00:17:45 ทางจิตเวทนะครับจิตวิทยาก็บอกร่างกายไม่
00:17:45 → 00:17:48 ค่อยโกหกนะครับมันจะส่งสัญญาณเตือนที่
00:17:48 → 00:17:51 อาจารย์ป๊อบบอกมันล้ามันเหนื่อยมันปวดมัน
00:17:51 → 00:17:54 อ่อนเพลียไม่มีแรงเนาะแต่ว่าสัญญาณแรกที่
00:17:54 → 00:17:57 มันเตือนนคือให้ปรับสมดุลนะแต่บางทีพอเรา
00:17:57 → 00:18:00 รับสัญญาณแล้วเราไปทำอย่างอื่นเช่นไปกิน
00:18:00 → 00:18:02 เหล้าไปใช้สารเสพติดหรือไปทำอะไรที่มัน
00:18:03 → 00:18:05 ยิ่งเพี้ยนไปฉันว่าไปนอนนานเกินไปมันทำ
00:18:05 → 00:18:07 ให้ระบบเนี่ยหนี้รวนแล้วคือมันเริ่มส่ง
00:18:07 → 00:18:10 สัญญาณมาละคราวนี้ภาวะ burn out เนี่ย
00:18:10 → 00:18:13 สมมุติว่าเราเอาทั้งไฟตกนะbrบ outurn out
00:18:13 → 00:18:17 หมดไฟเนาะมันสามารถกลับมาได้มั้ครับมัน
00:18:17 → 00:18:19 สามารถฟื้นตัวกลับได้หรือว่าไหม้แล้วก็
00:18:19 → 00:18:22 ไหม้หรือมันสามารถย้อนกลับมาได้ฟื้นตัว
00:18:22 → 00:18:24 เป็นไปได้มั้ครับอาจารย์ปเป็นไปได้ครับ
00:18:24 → 00:18:26 โชคดีเหลือเกินที่ร่างกายของเราเนี่ยมัน
00:18:26 → 00:18:29 มีการปรับสมดุลนะครับปรับสมดุลก็คือถ้า
00:18:29 → 00:18:31 โดพามีนมันเยอะนะครับเมื่อกี้เป็นสารที่
00:18:31 → 00:18:34 แบบแฮปปี้มากๆเลยถ้ามันติดสุขมันก็จะ
00:18:34 → 00:18:36 เริ่มมีตัวอื่นมาทดแทนนะครับเมื่อกี้ก็
00:18:36 → 00:18:39 คือโดสใช่มั้ยครับจะมีออกซิโตซินครับ
00:18:39 → 00:18:43 ออกซิโตซินเนี่ยก็คือเขาจะต้องได้การรัก
00:18:43 → 00:18:46 ความรักความเข้าใจในตัวเองนะครับลองกอด
00:18:46 → 00:18:50 ตัวเองลองรักตัวเองลองลองแบบมีคนใกล้ๆตัว
00:18:50 → 00:18:52 ให้เราแบบขอความช่วยเหลือบ้างก็ได้เราไม่
00:18:52 → 00:18:54 ได้แข็งแกร่งตลอดเวลาเนี่ยออกซิโตซินการ
00:18:54 → 00:18:57 กอดจับมือกับคนที่เรารักเนาะจับมือกับ
00:18:57 → 00:19:00 เพื่อนร่วมงานบ้างเขาก็ช่วยเราได้นะครับ
00:19:00 → 00:19:03 งานมันเยอะเกินไปเนาะอีกตัวนึงสำคัญซึ่ง
00:19:03 → 00:19:04 พี่หมอหนูอาจจะช่วยขยายก็ได้ครับ
00:19:04 → 00:19:07 ซีโรโตนินครับซิโลโตนินก็คือให้รู้สึกว่า
00:19:07 → 00:19:11 เราเคยทำงานได้ดีนะเราเคยขยันทำงานนะแล้ว
00:19:11 → 00:19:14 เรารู้สึกภูมิใจในตัวเองแค่ภูมิใจในตัว
00:19:14 → 00:19:16 เองและหาสิ่งดีๆแต่ละวันเนี่ยมันก็ดีมาก
00:19:16 → 00:19:19 เลยครับนะครับและสุดท้ายมันไว้สุดท้าย
00:19:19 → 00:19:21 ครับก็เป็นเรื่องของคล้ายๆยาแก้ปวดนะครับ
00:19:21 → 00:19:24 จนกล้ามเนื้อมันไม่ไหวและใจสู้นะแต่กล้าม
00:19:24 → 00:19:27 เนื้อไม่ไหวก็ต้องมาออกกำลังกายอืครับก็
00:19:27 → 00:19:29 ได้
00:19:29 → 00:19:32 โดสนะครับได้ตัวดีก็โดปามีนใช่ตัว O ก็
00:19:32 → 00:19:36 ออกซิโตซินตัว S ก็ซีโรโตนินนะตัว E ก็
00:19:36 → 00:19:39 เอนโดฟีนถ้าฟังอาจารย์พูดเนี่ยอาจจะ
00:19:39 → 00:19:42 เหมือนเป็นศัพท์เฉพาะเทคนิคalแต่ฟังดีๆ
00:19:42 → 00:19:46 คือการใช้ชีวิตให้สมดุลไม่มากเกินไปไม่
00:19:46 → 00:19:48 น้อยเกินไปไม่ติดสุขหรือว่าพอล้าเป็น
00:19:48 → 00:19:51 ทุกข์แล้วเนี่ยอย่าไปเติมความทุกข์นะคำ
00:19:51 → 00:19:53 ว่าเติมความทุกข์คือจัดการกับความเหนื่อย
00:19:53 → 00:19:56 ความล้าไม่เป็นนี่ไม่ทำให้มันแย่ลงเช่น
00:19:56 → 00:19:58 ยิ่งไม่นอนยิ่งไปนอนเยอะเกินไปเมื่อกี้
00:19:58 → 00:20:01 อาจารย์ป๊อบพูดถึงเรื่องการกินเหล้าสูบ
00:20:01 → 00:20:03 บุหรี่หรือการไปใช้สารเสพติดแล้วมันทำ
00:20:03 → 00:20:05 เหมือนกับเป็นสุขชั่วคราวเอาก็จริงๆแล้ว
00:20:05 → 00:20:08 เนี่ยมันส่งผลกระทบอาจารย์ปบอกว่าการมี
00:20:09 → 00:20:11 ความสัมพันธ์ที่ดีก่อตัวเองมีความ
00:20:11 → 00:20:13 สัมพันธ์กับคนอื่นรักษาอารมณ์ตัวเองให้ดี
00:20:13 → 00:20:16 ผ่อนคลายให้เป็นนะแล้วก็ครับจัดการตัวเอง
00:20:16 → 00:20:19 มีความสุขบ้างเนี่ยก็เป็นการคล้ายๆถ้า
00:20:19 → 00:20:23 เหมือนแนวของส.ส.คือรักษาสุขภาวะทั้ง 4
00:20:23 → 00:20:27 ด้านกายใจสังคมแล้วก็ปัญญานะไปด้วยกัน
00:20:27 → 00:20:29 ทั้งหมดอะไรเงี้ยให้มันมีความให้สมดุลให้
00:20:29 → 00:20:32 สมดุลให้พอดีนะครับผมเองเป็นจิตแพทย์แต่
00:20:32 → 00:20:35 ว่าทางใจแต่เอาจริงๆเนี่ยทางกายก็สำคัญ
00:20:35 → 00:20:38 มากทางกิจทางกิจกรรมทางกายเนี่ยสำคัญมาก
00:20:38 → 00:20:42 นะครับว่าต้องล้าไปก็ไม่ดีนะอาจารย์ป๊อบ
00:20:42 → 00:20:45 ผมพูดว่านอนไม่น้อยนอนน้อยไปก็ไม่ดีมากไป
00:20:45 → 00:20:48 ก็ไม่ดีนะเมื่อกี้อาจารย์ป๊อบแตะมาใน
00:20:48 → 00:20:51 เรื่องจังหวะของชีวิต
00:20:51 → 00:20:55 อนอนเป็นเวลาเตือนเป็นเวลากินเป็นเวลา
00:20:55 → 00:20:57 เพราะว่าอาจารย์ปบอกว่าร่างกายมันมีการ
00:20:57 → 00:21:01 การจำจังหวะได้แล้วพอสมดุลมันเสียเนี่ย
00:21:01 → 00:21:04 มันก็เกิดบ่อยนะครับว่าเราก็รีบไปทำงาน
00:21:04 → 00:21:06 ไม่กินเดี๋ค่อยกินมื้อถัดไปหรือว่าทำไป
00:21:06 → 00:21:10 กินไปร่างกายมันงงว่าทำอะไรกันแน่และบาง
00:21:10 → 00:21:13 คนเท่านั้นไม่พออาจารย์ป๊อบเอามางานมาทำ
00:21:13 → 00:21:16 บนเตียงโออันนี้ไม่ใช่เรื่องเลยนะเช็ค
00:21:16 → 00:21:18 message ทำอะไรก็ไม่รู้สมองก็คิดว่างั้น
00:21:18 → 00:21:21 เตียงนี้เป็นที่ทำงานอ่าอ่ามันก็จะรวนกัน
00:21:21 → 00:21:24 ไปหมดคราวเนี้ยจากไฟตกพอสักพักตกนานๆมัน
00:21:24 → 00:21:28 ก็มอดไหม้ไฟมั้ฮะหลักการในการฟื้นฟูตัว
00:21:28 → 00:21:30 เองเนี่ยนะครับนะที่เรียกมาอีกอันนึงก็
00:21:30 → 00:21:33 คือจริงๆมันมีศัพท์เรียกเค้าเรียกว่าเอ่อ
00:21:33 → 00:21:35 ฟีนิกซ์นะครับนกฟีนิกซ์มันเป็นเท่าแล้ว
00:21:35 → 00:21:38 ใช่มั้เบิร์นเอาแล้วมันก็กลับขึ้นมาเนี่ย
00:21:38 → 00:21:41 อาจารย์ป๊อบจะแนะว่าถ้าเราเริ่มเอาล่ะ
00:21:41 → 00:21:44 เริ่มรู้สึกว่าเราเริ่มมีความตระหนักว่า
00:21:44 → 00:21:47 เราเริ่มจะเหนื่อยล้านะมีไฟตกนิดๆหน่อยๆ
00:21:47 → 00:21:50 อาจจะแตะไปถึงเบิร์นอัเ้าเล็กๆมีอาการทาง
00:21:50 → 00:21:53 อารมณ์ทางกายเริ่มกระทบต่อประสิทธิภาพใน
00:21:53 → 00:21:56 การทำงานความสัมพันธ์แล้วเนี่ยตอนฟื้นน่ะ
00:21:56 → 00:21:59 จะฟื้นยังไงอาจารย์ป๊อบอันนี้ผมก็ไปถึง
00:21:59 → 00:22:00 ขั้นเบิร์น out หน่อยๆแล้วเนาะให้กลาย
00:22:00 → 00:22:02 เป็นนกฟีนิกซ์อ่าแล้วจะกลับมายังไงได้
00:22:02 → 00:22:05 ครับโหน่าสนใจนี่เห็นภาพตามแล้วผมก็ปิ๊ง
00:22:05 → 00:22:09 แว๊บว่าตอนผมตอนผมหมดหมดไฟเสร็จแล้วมัน
00:22:09 → 00:22:11 ฟื้นยังไงด้วยครับจริงๆร่างกายของเรา
00:22:11 → 00:22:14 เนี่ยมันมาจากไฟฟ้าสถิตนะครับอือในร่าง
00:22:14 → 00:22:17 กายของเราจริงๆวัดพลังงานไฟฟ้าได้นะวิธี
00:22:17 → 00:22:21 การที่ตอนนั้นผมจำได้ว่าจำได้ว่าคือจาก
00:22:21 → 00:22:24 การฟังเนี่ยมันจะเริ่มก่อนเลยเราต้องฟัง
00:22:24 → 00:22:27 ในสิ่งที่เป็นแบบกำลังใจนะครับฟังจากคน
00:22:27 → 00:22:29 ที่เรารักก็ได้นะครับถ้าถ้าในครอบครัวของ
00:22:29 → 00:22:33 เราเจอใครที่แบบรู้สึกหมดไฟเรานั่นแหละ
00:22:33 → 00:22:36 ครับน้ำเสียงของเราเนี่ยช่วยได้การที่แบบ
00:22:36 → 00:22:39 ไปปลุกเค้านะครับไปให้กำลังใจเธอทำได้นะ
00:22:39 → 00:22:42 ไปลองไปทำอะไรกันบางอย่างแค่ลองง่ายสุด
00:22:42 → 00:22:45 คือลองไปทำอาหารให้ตัวเองกินนะครับอือัน
00:22:45 → 00:22:48 นี้เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจมากผมหิวนะครับ
00:22:48 → 00:22:51 แล้วผมก็ไม่อยากตื่นสายแล้วเราแล้วมีคนมา
00:22:51 → 00:22:54 ชวนเราอ่ะอืแล้วเป็นคนที่เรารักด้วยเนาะ
00:22:54 → 00:22:58 ก็ไปนะอาหารง่ายๆแค่ประมาณ 3 คำมันจะ
00:22:58 → 00:22:59 เริ่มกินไม่ลงจริงๆนะครับเพราะว่ารู้สึก
00:22:59 → 00:23:02 แบบรู้สึกผิดน่ะรู้สึกผิดเฮ้ยมีคนให้
00:23:02 → 00:23:05 กำลังใจว่าเราต้องมีชีวิตใหม่สิวะอะไร
00:23:05 → 00:23:08 อย่างเงี้ยหูเนี่ยเป็นอะไรที่สำคัญมาก
00:23:08 → 00:23:11 ครับอันดับ 1 การได้ยินเสียงบวกๆและให้
00:23:11 → 00:23:15 เรากลับมาคิดทบทวนบวกๆเป็นไฟฟ้าสถิตที่
00:23:15 → 00:23:17 เราสัมผัสได้พี่หมอหนุ่มเคยมั้ยครับท่าน
00:23:17 → 00:23:19 ผู้ชมครับก็คือเนี่ยแค่เราคิดอะไรดีๆเรา
00:23:20 → 00:23:22 แตะแค่ผมเราเนี่ยแล้วลองรูบไปนะครับหรือ
00:23:22 → 00:23:25 เอาหวีเราเนี่ยครับเอาหวีมาแตะมันจะมีไฟ
00:23:25 → 00:23:28 ฟ้าสถิตแล้วเราสามารถเป็นแม่เหล็กดูด
00:23:28 → 00:23:30 กระดาษได้เนี่ยไฟฟ้าสถิตมาแรงมากถ้าเรา
00:23:30 → 00:23:34 คิดบวกอครับนะก็ต้องสัญญาณดีๆที่บอกว่า
00:23:34 → 00:23:38 ร่างกายเริ่มล้าหงุดเริ่มหงุดหงิดหรือ
00:23:38 → 00:23:40 เริ่มอะไรก็อาการทางการแสดงออกมาแล้วก็
00:23:40 → 00:23:42 ตามด้วยทางจิตใจทางอารมณ์นะครับแต่ว่า
00:23:42 → 00:23:45 อาจารย์ป้าบอกว่าหยุดดูแลตัวเองด้วยคือ
00:23:45 → 00:23:48 ต้องต้องตระหนักว่าเราเอ้ยเริ่มจะเสีย
00:23:48 → 00:23:50 สมดุละนะกลับมาดูแลตัวเองง่ายๆอาจารย์
00:23:50 → 00:23:53 ป๊อบบอกว่าคำพูดบวกกับตัวเองก็ได้หรือให้
00:23:53 → 00:23:56 คนอื่นพูดก็เลยกับคนที่เรารู้สึกว่าปลอด
00:23:56 → 00:23:59 ภัยให้เขาพูดกับเราดีๆหรือเราให้กำลังใจ
00:23:59 → 00:24:02 ตัวเองก็ก็นับแล้วก็หันมาดูแลตัวเองตลก
00:24:02 → 00:24:04 อาจารย์ป๊อบพูดง่ายสุดก็คือกินอะไรดีๆให้
00:24:04 → 00:24:06 ให้รางวัลตัวเองให้รางวัลตัวเองเนาะแต่
00:24:06 → 00:24:09 เช้าก็ได้ค่ะอแล้วจะรู้สึกว่าเฮ้ยเช้านี้
00:24:09 → 00:24:11 เราเปลี่ยนไปแล้วเราไม่ได้นอนตื่นสายไม่
00:24:11 → 00:24:14 ได้หมดไฟแล้วนะเรากำลังจะเริ่มมีชีวิต
00:24:14 → 00:24:17 ใหม่ที่ขยันขึ้นออือๆอันเริ่มเริ่อันแรก
00:24:17 → 00:24:20 เลยครับก็ดูแลร่างกายใช่ครับอ่าคนที่เรา
00:24:20 → 00:24:22 ไว้ใจคนที่เราคุยได้ปลอดภัยมีอย่างอื่น
00:24:22 → 00:24:24 มั้ครับถ้าเรารู้สึกเราเริ่มจะเบิร์น out
00:24:24 → 00:24:26 แล้วเนี่ยออันที่ 2 เนี่ยเราต้องนึกถึง
00:24:26 → 00:24:29 ภาพความทรงจำนะครับไม่แน่ใจว่าทุกๆท่าน
00:24:29 → 00:24:31 เนี่ยโดยเฉพาะถ้ามือถือเราเนี่ยลองกลับไป
00:24:31 → 00:24:33 ดูครับคนที่ระหว่างคนที่หมดไฟกับคนที่มี
00:24:34 → 00:24:36 ไฟอ่ะครับภาพในนั้นเนี่ยจะมีอารมณ์ต่าง
00:24:36 → 00:24:39 กันอภาพที่เรามีความทรงจำหรือเราเคยจับ
00:24:39 → 00:24:42 ภาพสิ่งดีๆสมมุติว่าเพื่อนที่ทำงานเลี้ยง
00:24:42 → 00:24:44 วันเกิดเราอย่าเงี้ยเพื่อนแบบคุยดีๆมี
00:24:44 → 00:24:47 ถ่ายรูปมีแฮปปี้มากเลยแฮปี้ Workplace
00:24:47 → 00:24:50 ประมาณนี้ภาพมันจะต่างกันเราเก็บภาพได้
00:24:50 → 00:24:52 ครับครับเราเริ่มเก็บภาพความทรงจำใหม่ๆ
00:24:52 → 00:24:55 เพื่อบูทตัวเองให้พลังงานบวกอือและพลัง
00:24:55 → 00:24:58 งานกายมันจะมาเองครับเชื่อมั้ยครับว่าเรา
00:24:58 → 00:25:00 จับชีพจรเนี่ยครับและแค่เห็นภาพความสุขใน
00:25:00 → 00:25:03 ที่ทำงานเนี่ยชีพจรก็เต้นดีขึ้นและยิ่ง
00:25:03 → 00:25:07 เราเริ่มขยับร่างกายเนาะเดินบ่อยขึ้นเดิน
00:25:07 → 00:25:10 ก่อนครับง่ายๆเดินบ่อยขึ้น 10 นาที 15
00:25:10 → 00:25:14 นาที 20 นาทีเริ่มเดินไปทำงานบ้างก็ได้
00:25:14 → 00:25:16 เนาะก็ได้ออกกำลังใช่และงานที่สำคัญมาก
00:25:16 → 00:25:18 ครับพี่หมอหนุ่มคืองานอะไรรู้มั้ยครับงาน
00:25:18 → 00:25:20 ที่มนุษย์ต้องการทำมากและเป็นงานที่ดีที่
00:25:20 → 00:25:25 สุดในชีวิตเราก็คืองานบ้านคืองานบ้าน
00:25:25 → 00:25:27 งานบ้านจริงๆครับงานอะไรก็ตามที่เราอยาก
00:25:28 → 00:25:31 ทำให้ห้องเราไม่รกนะแม้แต่เตียงนอนของเรา
00:25:31 → 00:25:33 เนี่ยเราเคยได้ปัดทำความสะอาดบ้างมั้ย
00:25:33 → 00:25:37 สมองของเราเเอยากให้ทำมันสดชื่นครับ
00:25:37 → 00:25:39 เหมือนจะถามอาจารย์ป๊อบกลับนิดนึงตกลงคำ
00:25:39 → 00:25:42 ว่าพักผ่อนเนี่ยแปลว่าอะไรอะไรคือคำว่า
00:25:42 → 00:25:45 พักผ่อนอาจารย์บอกว่าเพราะว่านอนมากไปก็
00:25:45 → 00:25:50 ไม่ดีเนอะไปเค้าเรียกอ่ะสปอยตัวเองไป
00:25:50 → 00:25:53 เพิ่มโดปามีนกินเหล้าเมายาทำอะไรเพื่อให้
00:25:53 → 00:25:55 ตัวเองรู้สึกดีก็ไม่ดีคือคนส่วนหนึ่งจะ
00:25:55 → 00:25:58 เข้านั่นคือการพักผ่อนอาจารย์ป๊อปพวกคำ
00:25:58 → 00:26:01 ว่าพักผ่อนคือกินให้พอนอนให้เป็นครับ
00:26:01 → 00:26:03 เกี่ยวว่าเดินแล้วก็อาจจะทำงานบ้านด้วย
00:26:04 → 00:26:05 นี่นับเป็นการพักผ่อนด้วยหรือเปล่าเมื่อ
00:26:05 → 00:26:08 กี้อาจารย์พักถ้าผมขอคำจำกัดว่าพักผ่อน
00:26:08 → 00:26:11 ที่ถูกวิธีหรือที่ควรจะเป็นจริงๆเนี่ยพอ
00:26:11 → 00:26:14 เราเริ่มรู้สึกลาควรจะพักยังไงครับอการ
00:26:14 → 00:26:16 พักผ่อนเนี่ยเราว่าเราเรียกว่าเรสเนี่ยนะ
00:26:16 → 00:26:20 ครับเนาะการเรสเนี่ยมันมาจากอ่าเราเรียก
00:26:20 → 00:26:23 ว่าเรารู้ตัวนะอว่าเราเหนื่อยอ่าแล้วก็
00:26:23 → 00:26:26 หยุดนิ่งสักพักนึงอครับหยุดนิ่งเพื่อให้
00:26:26 → 00:26:30 ออกซิเจนในร่างกายเนี่ยได้แลกเปลี่ยนกับ
00:26:30 → 00:26:32 คาร์บอนไดออกไซด์ที่มันเยอะเกินไปวิธีการ
00:26:32 → 00:26:34 พักผ่อนง่ายสุดเลยนะครับก็คือถ้าเรา
00:26:34 → 00:26:37 เหนื่อยเราเป่าปากยาวๆเป่าลมหายใจออกทาง
00:26:37 → 00:26:41 ปากยาวๆจนเราหายเหนื่อยอแล้วเราก็มาจับ
00:26:41 → 00:26:43 ชีปจรอาจจะต้องรู้จักแบบเรียนรู้ว่าจับ
00:26:43 → 00:26:46 ชีพจรตรงไหนเต้นตรงไหนเนาะชิพจรก็จะเบา
00:26:46 → 00:26:52 สบายอนั่งเฉยๆเป่าลมหายใจยาวๆเบาสบายอือ
00:26:52 → 00:26:54 อันดับที่ 2 ก็คือเราเรียกว่าการผ่อนพัก
00:26:54 → 00:26:58 ตระหนักรู้อก็คือลองมาดูซิว่ามีส่วนใดๆ
00:26:58 → 00:27:02 ของร่างกายตั้งแต่หัวตาจมูกปากไล่ไป
00:27:02 → 00:27:05 เรื่อยๆจนถึงนิ้วเท้าเลยมีอะไรที่มันตึง
00:27:05 → 00:27:08 เจ็บปวดเมื่อยมั้ยอืออันนี้แสดงว่าเราก็
00:27:08 → 00:27:10 ต้องขยับร่างกายให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น
00:27:10 → 00:27:13 แหละอือันต่อมาก็คือไม่ใช่แค่ขยับร่างกาย
00:27:13 → 00:27:16 กายธรรมดาและเปลี่ยนสถานที่บ้างนะอสถาน
00:27:17 → 00:27:18 ที่ที่บ้านออกกำลังกายที่บ้านก็เหม็น
00:27:18 → 00:27:21 เหมือกับออกกำลังกายกับคนที่เรารักที่สวน
00:27:21 → 00:27:24 สาธารณะเนาะอะไรอย่างเงี้ยครับแล้วก็ที่
00:27:24 → 00:27:27 ทำงานล่ะเราก็หัดขยับร่างกายมากขึ้นแทน
00:27:27 → 00:27:30 ที่จะนั่งบนโต๊ะทำงานอืมันจะเริ่มมีการมี
00:27:30 → 00:27:32 ปัญญาเกิดขึ้นแล้วครับมันก็ต้องอาศัยความ
00:27:33 → 00:27:35 เท่าทันใช่ครับส่วนหนึ่งด้วยนะใช่ครับ
00:27:35 → 00:27:38 จริงๆอีกประเด็นนึงจะมีคนสงสัยกันหลายคน
00:27:38 → 00:27:40 นะอาจารย์ป๊อบจริงๆผมอาจจะช่วยตอบตัวนั้น
00:27:40 → 00:27:43 ด้วยอย่างได้เลยคำว่าอืภาวะหมดไฟกับภาวะ
00:27:43 → 00:27:46 สึซึมเศร้าเนี่ยมันเหมือนหรือต่างกันยัง
00:27:46 → 00:27:48 ไงถามถามทางอาจารย์ป๊อบเป็นนักกิจกรรม
00:27:48 → 00:27:50 บำบัดนิดนึงก่อนเดี๋ผมช่วยเติมตรงนั้น
00:27:50 → 00:27:53 ครับได้ครับเท่าที่เท่าที่ตามมาเนี่ยส่วน
00:27:53 → 00:27:56 ใหญ่เนี่ยก็ถ้าเคสของผมเนี่ยก็จะมาด้วย
00:27:56 → 00:27:59 อาการออฟฟิศsydrมอืเสร็จแล้วมันก็ปวด
00:27:59 → 00:28:02 เรื้อรังจนไม่หายซักทีเขาก็เริ่มซึมเศร้า
00:28:02 → 00:28:05 เรู้สึกว่าเป็นภาวะซึมเศร้าที่คิดว่าจะ
00:28:05 → 00:28:07 ไม่หายอือและก็จะบ่นกับตัวเองบ่อยๆว่า
00:28:08 → 00:28:10 ทำไมมันไม่หายอมันก็จะหมกมุ่นแต่เรื่อง
00:28:10 → 00:28:14 ของอดีตที่ผ่านมาแต่อีกเคสนึงก็คือเาซึม
00:28:14 → 00:28:19 เศร้าแล้วเขาก็ไม่อยากไปที่ทำงานอืแต่ก็
00:28:19 → 00:28:22 ต้องเป็นเสาหลักของบ้านอมันก็เริ่มเป็น
00:28:22 → 00:28:24 ห่วงครอบครัวละอันนี้เป็นซึมเศร้าเรื้อ
00:28:24 → 00:28:27 รังตามมาร่างกายก็ปรับตัวไม่ดีและไม่ชอบ
00:28:27 → 00:28:31 ออกกำลังกายอือมีอยู่ 2 สถานะเลยครับอือ
00:28:31 → 00:28:34 โดยหลักๆก็จริงเบิร์นเอายังไม่ใช่โรคซึม
00:28:34 → 00:28:35 เศร้าพูดง่ายไอ้ภาวะซึมเศร้าที่อาจารย์
00:28:35 → 00:28:39 ป๊อบพูดแล้วมันรู้สึกจิตตกอ่อนล้าหมด
00:28:39 → 00:28:42 กำลังใจนะแต่พอเป็นโรคซึมเศร้ามันจะเป็น
00:28:42 → 00:28:45 คำว่าโรคมันจะเป็นอีกแบบนารมณ์ตกติด
00:28:45 → 00:28:48 กระดานแล้วมันจะมีคำว่าคล้ายๆตำหนิตัวเอง
00:28:48 → 00:28:51 โทษตัวเองมองตัวเองในแง่ลบนะครับนะมอง
00:28:51 → 00:28:54 อนาคตในแง่ลบว่ามันหมดหวังสิ้นหวังไม่มี
00:28:54 → 00:28:57 ทางออกเจะล็อคตัวเองด้วยภาพนั้นแล้วมอง
00:28:57 → 00:29:00 ว่าโลกมันดูไม่น่าอยู่หรืออะไรเงี้ยที่
00:29:00 → 00:29:03 อาจารย์ปว่าอาจจะแก้ได้ตอนแรกคือพูดดีกับ
00:29:03 → 00:29:07 ตัวเองให้กำลังใจตัวเองหาคนช่วยรีเช็คให้
00:29:07 → 00:29:09 กำลังใจเราถ้าเป็นไปได้อะไรเงี้ยนะครับนะ
00:29:09 → 00:29:12 ครับก็แสดงว่ามันคนละอันเลยเนาะหมอคนละ
00:29:12 → 00:29:12 อัน
00:29:12 → 00:29:14 มันก็อาจเกิดด้วยได้นะครับแต่ว่าแต่ว่า
00:29:14 → 00:29:17 โรคซึมเศร้าเนี่ยมันต้องเป็นยาวนานแบบ
00:29:17 → 00:29:21 เป็นอาทิตย์อาทิตย์จิตตกดึงไม่ขึ้นหรือ
00:29:21 → 00:29:23 อะไรอย่างงั้นเลยนะครับอันนี้จริงๆน่า
00:29:23 → 00:29:26 ห่วงทั้งคู่แต่ว่าภาวะซึมเศร้ามันก็เกิด
00:29:26 → 00:29:28 ขึ้นได้นะครับภาวะกับโรคไม่เหมือนกันนะ
00:29:28 → 00:29:31 หรือว่าที่ถอยมาเป็นเบn out ถอยมาเป็นไฟ
00:29:32 → 00:29:35 ตก out นะถอยมาเป็นเริ่มเฮ้ยเราสตาร์ท
00:29:35 → 00:29:37 ด้วยพลังเยอะแต่ต้องเริ่มเจอความขัดแย้ง
00:29:37 → 00:29:39 ในที่ทำงานนะครับนะซึ่งสิ่งเหล่าเนี้ย
00:29:39 → 00:29:41 อาจารย์ป๊อบพูดค่อนข้างชัดว่าต้องอาศัย
00:29:41 → 00:29:44 ความตระหนักรู้ส่วนหนึ่งด้วยแล้วก็สกัด
00:29:44 → 00:29:47 มันถ้ามันเริ่มนั่นก็เริ่มถอยลงมาถอยลงมา
00:29:47 → 00:29:49 ถ้าให้ดีอาจจะต้องออกแบบป้องกันไว้ให้ดี
00:29:49 → 00:29:54 ว่าควรจะนอนให้พอใช้ชีวิตยังไงอยู่ยังไง
00:29:54 → 00:29:57 ทานให้ตรงเวลาออกกำลังกายให้ดีครับเหมือน
00:29:57 → 00:30:00 กับสส.พูดนะครับคือเน้นเรื่องสร้างก่อนมา
00:30:00 → 00:30:02 ซ่อมนะถ้าสร้างไว้ได้ก่อนเนี่ยมันก็จะดี
00:30:02 → 00:30:06 กว่ามาตามซ่อมนะครับนะแต่ว่าถ้ามันเริ่ม
00:30:06 → 00:30:09 ไปเริ่มเค้าเรียกอะไรเจอทางตันเริ่มให้
00:30:09 → 00:30:12 ออกก็หาคนปรึกษาอาจจะเป็นคนที่ที่เรารู้
00:30:12 → 00:30:14 สึกปลอดภัยไว้ใจก่อนนะหรือไม่งั้นก็ถ้า
00:30:14 → 00:30:16 มันเริ่มจะเอ๊ะไม่ไหวแล้วก็อาจจะต้อง
00:30:16 → 00:30:19 ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญซึ่งอาจจะมีในทุกที่นะ
00:30:19 → 00:30:23 ครับในระดับออฟฟิศในระดับโรงงานรุ่นพ่ง
00:30:23 → 00:30:24 รุ่นพี่อะไรก็ได้เบื้องต้นแล้วถ้ามัน
00:30:24 → 00:30:28 จำเป็นจริงๆก็เป็นมืออาชีพก็อาจจะช่วยตรง
00:30:28 → 00:30:30 นั้นได้นะครับถามแพทย์ถามนักจิตวิทยาหรือ
00:30:30 → 00:30:33 อะไรเงี้ยเบื้องต้นนะแต่ส่วนใหญ่เมันจะมี
00:30:33 → 00:30:36 ภาวะที่แล้วมันสามารถฟื้นตัวกลับมาได้ถ้า
00:30:36 → 00:30:39 เราตระหนักรู้ในตัวตระหนักรู้แล้วไม่ไป
00:30:39 → 00:30:41 ซ้ำเติมคำว่าไปซ้ำเติมที่อาจารย์ป๊อพูด
00:30:41 → 00:30:45 ยิ่งนอนไม่พอไปทำอะไรเสียหายมากโดยไม่โดย
00:30:45 → 00:30:49 ไม่ไม่ดีนะมากขึ้นดูหนังโดยไม่หลับไม่นอน
00:30:49 → 00:30:51 ไปกินเหล้าเมายาอะไรเงี้อาจจะเป็นสิ่งที่
00:30:51 → 00:30:55 ทำให้ร่างกายมันแย่ลงด้วยซ้ำไปมันได้ผล
00:30:55 → 00:30:57 สั้นๆชั่วคราวนะเพิ่มโดปามีนที่อาจารย์
00:30:57 → 00:30:59 ป๊อบชอบพูดเนาะแต่ระยะยาวเนี่ยร่างกายมัน
00:30:59 → 00:31:03 ล้าอาจารย์กอล์ฟพูดตลกดีว่าให้พูดให้ตัว
00:31:03 → 00:31:06 เองแล้วเดินแล้วก็ทำงานบ้านนี่เป็นการพัก
00:31:06 → 00:31:09 ผ่อนแบบนึงด้วยนะครับก็จริงๆแล้วนะวันนี้
00:31:09 → 00:31:12 เราก็คุยกันมาระดับนึงนะครับหัวข้อคือ
00:31:12 → 00:31:15 work life นะสมดุลใจแล้วก็โดสนะครับเรา
00:31:15 → 00:31:18 ก็จะแตะ 3-4 เรื่องนี้ไว้ด้วยกันนะครับนะ
00:31:18 → 00:31:21 ซึ่งก็เป็นอะไรที่สำคัญนะครับเนื่องจากใน
00:31:21 → 00:31:25 เดือนพฤษภาคมเป็นวันแรงงานนะวันนี้ก็ต้อง
00:31:25 → 00:31:26 ขอบคุณอาจารย์ป๊อบนะแล้วก็แตะแตะกัน
00:31:26 → 00:31:30 เรื่องว่าเอ๊ะอะไรคือการนะทำงานที่ดีคือ
00:31:30 → 00:31:33 อะไรการล้าคืออะไรความเครียดคืออะไรแล้ว
00:31:33 → 00:31:36 เอ๊ะเราก็เริ่มมาแตะเรื่องการทำงานนะครับ
00:31:36 → 00:31:38 ว่ามันมีความเครียดเราจะจัดการกับมันยัง
00:31:38 → 00:31:42 ไงภาวะไฟตกภาวะหมดไฟคือยังไงจะฟื้นตัวยัง
00:31:42 → 00:31:45 ไงแล้วก็บางอย่างที่อาจารย์ป๊อบพูดนะว่า
00:31:45 → 00:31:47 ถ้าตระหนักเท่าทันรู้จักจัดการเนี่ยมันก็
00:31:48 → 00:31:51 จะช่วยให้มันไม่แย่ลงไปมากนะครับนะสามารถ
00:31:51 → 00:31:55 ฟื้นได้จัดการได้แล้วก็คือภาวะงานมันก็
00:31:55 → 00:31:58 ยังทำงานเรายังต้องทำงานเรามีภาระต้องดู
00:31:58 → 00:32:01 ทั้งคนรุ่นหลังนะคือคนเยาวชนแล้วก็รุ่น
00:32:01 → 00:32:03 พ่อแม่เราแล้วก็งานเราต้องรับผิดชอบนะ
00:32:03 → 00:32:06 ครับแล้วก็อาจจะต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ
00:32:06 → 00:32:10 นะดูแลตัวเองดีๆแล้วก็สำคัญว่าสร้างก่อน
00:32:10 → 00:32:13 ซ่อมนะครับนะอย่ารอให้เจ็บให้ปวดก่อนแล้ว
00:32:13 → 00:32:16 มาจัดการอาจจะยังช้าไปถ้าให้ดีคือป้องกัน
00:32:16 → 00:32:19 ไว้ก่อนแต่ว่าถ้าเริ่มมีอาการก็ดูแลตัว
00:32:19 → 00:32:22 เองให้เร็วก็เป็นสิ่งที่สำคัญนะครับนะวัน
00:32:22 → 00:32:24 นี้ก็ขอบคุณอาจารย์ป๊อบมากอีก
00:32:24 → 00:32:26 นะครับนะระหว่างเราอาจจะได้คุยในเรื่อง
00:32:26 → 00:32:28 นี้เป็นเรื่องที่เจอบ่อยพบบ่อยเหมือนที่
00:32:28 → 00:32:31 ผมพูดแล้วว่าวัยแรงงานของทุกประเทศ่ะมัน
00:32:31 → 00:32:34 อยู่ในช่วงเนี้ยค่อนข้างเยอะแล้วก็ความ
00:32:34 → 00:32:36 เรียกร้องของนะต้องรับผิดชอบมันเยอะขึ้น
00:32:36 → 00:32:38 นะครับก็ขอบคุณอาจารย์ป๊อบอีกทีครับ
00:32:38 → 00:32:46 ขอบคุณครับสวัสดีครับสวัสดีครับสวัสดี
00:32:46 → 00:32:49 [เพลง]