00:00:00 → 00:00:02 นั่งกินนอนกินไม่มีการขยับร่างกายมากๆจะ
00:00:02 → 00:00:05 นำพาไปสู่ภาวะโรคเรื้อหลังร่างกายของเรา
00:00:05 → 00:00:08 ถูกออกแบบมาให้นั่งหลังตรงคอตรงศีรษะตรง
00:00:08 → 00:00:11 คนนั่งหน้าคอมนานๆไลฮอคอยื่นแล้วส่งผลทำ
00:00:11 → 00:00:13 ให้กล้ามเนื้อของเรามีการตึงตัวสิ่งเมา
00:00:13 → 00:00:15 จากพฤติกรรมเพราะฉะนั้นการรักษาต้องไป
00:00:15 → 00:00:18 รักษาที่พฤติกรรมก่อนพฤติกรรมที่ทำให้มัน
00:00:18 → 00:00:20 เสื่อมก่อนไวได้ความเชินกับพฤติกรรมหรือ
00:00:20 → 00:00:23 ว่าท่านั้นนานๆบ่อยๆก้มเกินไปหรือว่ายื่น
00:00:23 → 00:00:26 หน้าไปจ้องจอคอมนานๆก็จะทำให้สมองเรา
00:00:26 → 00:00:28 เนี่ยเรียนรู้ในท่านั้นๆประมาณ 1-2
00:00:28 → 00:00:31 ช่วโมงถ้าเราทำงานต่อเนื่องกันแล้วก็ควร
00:00:31 → 00:00:34 มีเวลาที่เราลุกไปพักอย่างน้อย 10-15
00:00:34 → 00:00:37 นาทีปวดบ่อยๆปวดทีๆปวดมากเราจะต้องไป
00:00:37 → 00:00:39 ปรึกษาคุณหมอละกระดูกสลันคตนะครับส่วน
00:00:39 → 00:00:41 ใหญ่เขาจะแบ่งอยู่ทั้งหมด 2 อย่างอย่าง
00:00:41 → 00:00:44 แรกคือเกิดตั้งแต่ตอนที่เรากำเนิดมาเลย
00:00:44 → 00:00:46 และอีกส่วนหนึ่งก็เกิดจากการที่กล้าม
00:00:46 → 00:00:48 เนื้อของเราไม่สมดุลส่วนใหญ่กระดูกสนันคด
00:00:48 → 00:00:51 อ่ะไม่ทำให้เกิดอาการยกเว้นกระดูกสนันคด
00:00:51 → 00:00:54 ที่เกิดจากความเสื่อมปัญหาหลังค่อมนะครับ
00:00:54 → 00:00:56 เกิดได้หลักๆ 2 อย่างคือปัญหาจากกระดูก
00:00:56 → 00:00:57 หรือว่ากล้ามเนื้อการแก้เบื้องต้นอาจจะ
00:00:57 → 00:00:59 เป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อนี้ก็จะช่วยทำ
00:00:59 → 00:01:01 ให้กระดูกสายหลังในเอาเนี่ยตรงมากขึ้น
00:01:01 → 00:01:03 แล้วก็มีบุคภาพที่ดีมากขึ้นการออกกำลัง
00:01:03 → 00:01:05 กายไม่มีข้อแม้นะครับการออกกำลังกายเนี่ย
00:01:05 → 00:01:07 เป็นการรักษาหรือเป็นยาที่สามารถทำได้ใน
00:01:07 → 00:01:09 ออฟฟิศเป็นยาประจำออฟฟิศเลยครับและแก้ที่
00:01:09 → 00:01:11 ต้นเหตุด้วยเราต้องกนิสัยตัวเองเนี่ยมี
00:01:11 → 00:01:13 พฤติกรรมนิสัยการออกกำลังกายที่ 1 ถูก
00:01:14 → 00:01:18 ต้อง 2 ปลอดภัย 3 คือความสม่ำเสมอเกลาแก้
00:01:18 → 00:01:22 โรคเกลานิสัยห่างไก
00:01:22 → 00:01:25 โรคสวัสดีค่ะกลับมาพบกันอีกแล้วนะคะกับ
00:01:25 → 00:01:28 รายการเกาแก้โลกค่ะซึ่งวันนี้นะคะเราก็
00:01:28 → 00:01:31 อยู่กันกับคุณหมอเฟมค่ะครับสวัสดีครับหมอ
00:01:31 → 00:01:34 เฟรมครับค่ะสวัสดีค่ะคุณหมอซึ่งวันนี้นะ
00:01:34 → 00:01:36 คะทอิหรือหัวข้อที่เราจะมาคุยกันนั้นนะคะ
00:01:36 → 00:01:37 เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับทุกๆคนอย่างแน่
00:01:37 → 00:01:40 นอนค่ะเพราะว่าคนวัยทำงานหรือแม้กระทั่ง
00:01:40 → 00:01:42 ไม่ใชทำงานเนี่ยก็ต้องเคยพบเจออาการปวด
00:01:42 → 00:01:43 เมื่อยเหล่านี้มาก่อนแน่นอนซึ่งหัวข้อที่
00:01:43 → 00:01:46 เราจะมาคุยกันในวันนี้แก้อาการออฟฟิศรม
00:01:46 → 00:01:49 ค่ะปวดเมื่อยคอบ่าไหล่โรคคิไวทำงานค่ะการ
00:01:49 → 00:01:51 ที่แบบว่าเราเล่นโทรศัพท์เล่น iPad หรือ
00:01:51 → 00:01:53 ว่าเล่นคอมเอาคอมวางไว้บนตักแล้วก็เล่น
00:01:53 → 00:01:56 นานๆหรือว่าใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน
00:01:56 → 00:01:58 ๆเทำให้เกิดอาการนิ้วล็อคหรือปวดเมื่อย
00:01:58 → 00:02:00 เนื้อตัวได้มากน้อยขนาดไหนคะร่างกายของ
00:02:00 → 00:02:03 เราถูกออกแบบมาให้นั่งหลังตรงคอตรงศีรษะ
00:02:03 → 00:02:05 ตรงเราลองสังเกตดูทางด้านข้างนะครับหูหัว
00:02:05 → 00:02:08 ไรสะโพกเราควรอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน
00:02:08 → 00:02:10 อันนี้เราเรียกว่า neutral Position
00:02:10 → 00:02:12 neutral Position คือท่าทางธรรมชาติที่
00:02:12 → 00:02:14 ออกแบบมาเคยสงสัยมั้ยครับทำไมธรรมชาติถึง
00:02:14 → 00:02:16 ออกแบบมาแบบนี้อ้าสงสัยค่ะเพราะอะไรคะอ่า
00:02:17 → 00:02:19 เพราะว่าธรรมชาติของเราออกแบบมาให้มีความ
00:02:19 → 00:02:21 ยาวของกล้ามเนื้อและน้ำหนักที่ลงที่
00:02:21 → 00:02:24 กระดูกที่พอดีครับเมื่อไรก็ตามนะครับที่
00:02:24 → 00:02:26 เรามีท่าทางที่ผิดไปจาก neutral Position
00:02:26 → 00:02:29 จะเกิดการทำงานของกล้ามเนื้อที่ผิดปกติละ
00:02:29 → 00:02:31 กล้ามเนื้อเราอาจจะมีการทนทานได้น้อยลงก็
00:02:31 → 00:02:33 ส่งผลทำให้เมื่อกล้ามเนื้อทำงานไปสักพัก
00:02:33 → 00:02:36 นึงอาจจะมีอาการล้าอาการเมื่อยรวมถึง
00:02:36 → 00:02:38 กระดูกและข้อต่ออาจจะมีการรับน้ำหนักที่
00:02:38 → 00:02:40 ผิดปกติก็อาจจะทำให้กระดูกไเข้าต่อของเรา
00:02:40 → 00:02:42 ได้รับความผิดปกติได้อยากให้ทุกท่านรู้
00:02:42 → 00:02:45 จักกับ neutral Position ก่อนแล้วเราเอา
00:02:45 → 00:02:47 มาปรับใช้อย่างเช่นการเล่นคอมพิวเตอร์เรา
00:02:47 → 00:02:51 ก็ควรจะนั่งหลังตรงคอตรงซึ่งจะลดโอกาสใน
00:02:51 → 00:02:53 การเจ็บของเราได้คือทุกคนจะต้องทำท่านี้
00:02:53 → 00:02:55 เหมือนกันหมดคมันเป็นท่าสนารที่ดีสำหรับ
00:02:55 → 00:02:58 การใช้ชีวิตใช่ครับมันคือท่าที่ร่างกาย
00:02:58 → 00:03:01 ของเราถูกออกแบบมาเนาะเป็นท่าอธรซึ่งสมัย
00:03:01 → 00:03:03 ก่อพฤติกรรมในการทำงานของเราก็มักจะไม่
00:03:03 → 00:03:05 ใช่การนั่งนานแบบนี้แต่ในปัจจุบันเนี่ย
00:03:05 → 00:03:07 เราเริ่มมีพฤติกรรมในการทำงานที่เปลี่ยน
00:03:07 → 00:03:09 ไปอืคือเป็นยุคใหม่เนาะเพราะฉะนั้นการทำ
00:03:09 → 00:03:12 งานของเราก็จะทำให้เรามีโอกาสที่จะไม่ทำ
00:03:12 → 00:03:14 neutral Position หรือธ่าธรรมชาตินั่น
00:03:14 → 00:03:16 แหละก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้คนยุคปัจจุบัน
00:03:16 → 00:03:19 อาจจะมีโรคจากการทำงานได้มากขึ้นรวมไปถึง
00:03:19 → 00:03:21 โรค Office Syndrome นะครับแล้วอยากรู้
00:03:21 → 00:03:24 ว่าสมมุติว่าคนมีอาการแบบปวดเมื่อยออฟิ SR
00:03:24 → 00:03:26 หรือว่าแบบมีการเปิดเมเนื้อตัวบ่อยๆเงี้ย
00:03:26 → 00:03:27 ค่ะแต่ว่าเาไม่ปรับพฤติกรรมเลยก็จะนั่งทำ
00:03:27 → 00:03:30 งานท่าเฉันจะอยู่ท่าเยระยะยาวค่ะมันส่งผล
00:03:30 → 00:03:32 กระทบอะไรต่อร่างกายบ้างมันทำให้เราแบบ
00:03:32 → 00:03:34 เป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้ถึงขั้นนั้นมั้ยโห
00:03:34 → 00:03:36 อันนี้ดีมากเลยครับจริงๆแล้วอยากให้มอง
00:03:36 → 00:03:38 เป็นสเต็ป็ปไปนะครับการที่เราไม่ปรับ
00:03:39 → 00:03:41 พฤติกรรมเนี่ยอันที่ 1 เลยร่างกายของเรา
00:03:41 → 00:03:43 ก็จะทนทานได้น้อยลงดังนั้นโอกาสที่เราจะ
00:03:43 → 00:03:46 ปวดมากขึ้นบ่อยขึ้นก็จะมีโอกาสมากขึ้นละ
00:03:46 → 00:03:48 อันนี้คือระยะสั้นผมเชื่อว่าถ้าเกิดในวัย
00:03:48 → 00:03:50 ทำงานเนี่ยก็อาจจะไม่ค่อยดีแล้วเพราะว่า
00:03:50 → 00:03:53 พอมีปวดบ่อยๆปวดถี่ๆปวดมากก็อาจจะส่งผล
00:03:53 → 00:03:56 ให้ 1 เราจะต้องไปปรึกษาคุณหมอละอันที่ 2
00:03:56 → 00:03:58 เราอาจจะมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ลดลง
00:03:58 → 00:04:00 และอันที่ 3 เนี่ยที่ผมเป็นห่วงเลยก็คือ
00:04:00 → 00:04:03 ว่าเรามักจะมีอาการปวดเรื้อรังปวดเรื้อ
00:04:03 → 00:04:05 รังใช่ครับเพราะอาการปวดเรื้อรังเนี่ยมัน
00:04:05 → 00:04:07 เริ่มจะไปสัมพันธ์กับจิตใจของเราละสิ่ง
00:04:07 → 00:04:10 นี้เองถ้าในมุมของหมอนะครับก็จะเป็นสิ่ง
00:04:10 → 00:04:13 ที่เริ่มรักษายากเพราะว่าคนไข้อาจจะเริ่ม
00:04:13 → 00:04:16 มีปัญหาด้านจิตใจด้วยส่งผลทำให้อาการปวด
00:04:16 → 00:04:18 กับการรักษาเนี่ยทำได้ยากขึ้นทีนี้อยาก
00:04:18 → 00:04:20 รู้ว่านอกจากการปรับพฤติกรรมแล้วปรับ
00:04:20 → 00:04:22 พฤติกรรมการใช้ชีวิตการนั่งการเดินการยืน
00:04:22 → 00:04:25 ให้มันถูกท่าถูกทางถูกวิธีค่ะมันมีวิธี
00:04:25 → 00:04:27 การรักษาอาการอิ sindrome หรือว่าปวด
00:04:27 → 00:04:29 เมื่อยเนื้อตัวเงี้ยยังไงได้บ้างอย่างแรก
00:04:29 → 00:04:31 เลยนะครับคือเราต้องรู้ก่อนว่าสิ่งเนี้ย
00:04:31 → 00:04:33 มาจากพฤติกรรมเพราะฉะนั้นการรักษาต้องไป
00:04:33 → 00:04:36 รักษาที่พฤติกรรมก่อนพฤติกรรมแรกก็คือเรา
00:04:36 → 00:04:38 อาจจะต้องมานั่งคุยกันเราว่าอะไรเป็น
00:04:38 → 00:04:40 สาเหตุที่ทำให้เรามีอาการแบบนี้อย่างบาง
00:04:40 → 00:04:43 คนนั่งหน้าคอมนานๆอาจจะมีไลฮอคอยื่นแล้ว
00:04:43 → 00:04:45 ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อของเรามีการตึงตัว
00:04:45 → 00:04:48 ถ้าสมมุติว่าเราสามารถเช็คได้ด้วยตัวเอง
00:04:48 → 00:04:49 เราก็ปรับพฤติกรรมของเราก่อนเพื่อเป็นการ
00:04:50 → 00:04:51 รักษาตัวเองเบื้องต้นนะครับแต่ถ้าเราทำ
00:04:51 → 00:04:53 ไม่ได้จริงๆเราค่อยไปปรึกษากับผู้เชี่ยว
00:04:53 → 00:04:56 ชาญก็ได้อย่างที่ 2 ที่สำคัญที่สุดเลย
00:04:56 → 00:04:58 แล้วผมคิดว่าในสมัยก่อนอาจจะขาดหายไปนะ
00:04:58 → 00:05:00 ครับคือเรื่องของการการออกกำลังกายที่ถูก
00:05:00 → 00:05:03 ต้องสมัยก่อนเราจะมีการออกกำลังกายเพียง
00:05:03 → 00:05:07 เพื่ออะ 1 สุขภาพแข็งแรงอันที่ 2 คือปุก
00:05:07 → 00:05:10 ิภพดีขึ้นอันที่ 3 คือเพื่อรูปร่างเพื่อ
00:05:10 → 00:05:12 ความสวยงามแต่จริงๆแล้วในปัจจุบันการออก
00:05:12 → 00:05:14 กำลังกายก็ถูกเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
00:05:14 → 00:05:16 ในการดูแลตัวเองในการรักษาเหมือนกันนะ
00:05:16 → 00:05:18 ครับสมมุติว่าเรามีอาการปวดคอบ่าไหล่มากๆ
00:05:18 → 00:05:21 กลไกของเราก็คือกล้ามเนื้อบางมัดของเรา
00:05:21 → 00:05:23 อาจจะมีการตึงมากเกินไปกล้ามเนื้อบางมัด
00:05:23 → 00:05:25 ของเราอาจจะหย่อนมากเกินไปจนทำให้เรามี
00:05:25 → 00:05:27 บุคลิกที่ผิดท่าไหล่ห่อคอยื่นรวมไปถึงมี
00:05:27 → 00:05:30 การปวดเหลือรังดังนั้นเองการออกที่ถูก
00:05:30 → 00:05:32 ต้องก็จะต้องมาปรับสมดุลของกล้ามเนื้อให้
00:05:32 → 00:05:35 ดีกล้ามเนื้อไหนตึงก็ต้องหย่อนกล้ามเนื้อ
00:05:35 → 00:05:37 ไหนหย่อนก็ต้องตึงสิ่งนี้ก็จะทำให้แก้
00:05:37 → 00:05:39 ปัญหาที่ตัวโรคโรคมันเกิดจากกล้ามเนื้อ
00:05:39 → 00:05:41 เราก็จะแก้ที่กล้ามเนื้อเพราะฉะนั้นผม
00:05:41 → 00:05:43 อยากให้มองว่าการออกกำลังกายเนี่ยเป็นการ
00:05:43 → 00:05:45 รักษาหรือเป็นยาที่สามารถทำได้ในออฟฟิศ
00:05:45 → 00:05:47 เป็นยาประจำออฟฟิศเลยครับและแก้ที่ต้น
00:05:47 → 00:05:49 เหตุด้วยแต่เมื่อใดก็ตามที่แบบเราทำกับ
00:05:49 → 00:05:51 ตัวเองแล้วมันไม่ค่อยดีหรือไม่ไหวเราก็จะ
00:05:51 → 00:05:53 ต้องไปที่โรงพยาบาลละตัวเรื่องในการรักษา
00:05:53 → 00:05:56 ก็จะเป็นการกินยาหรือบางคนอาจจะมีแพร่ทาง
00:05:56 → 00:05:59 เลือกนะก็อาจจะไปฝังเข็มหรือบางคนอาจจะไป
00:05:59 → 00:06:02 พบนักกายภาพก็ได้รับการช็อเวฟได้รับการทำ
00:06:02 → 00:06:04 ออาซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ก็จะเป็นการ
00:06:04 → 00:06:06 บรรเทาปวดผมอยากให้มอง 2 อย่างนะครับแก้
00:06:06 → 00:06:09 โรคกับบรเทาปวดอ่าแก้โลคกับบรรทบวดคือถ้า
00:06:09 → 00:06:10 อยากแก้แบบยั่งยืนเราก็ต้องปรับที่
00:06:10 → 00:06:12 พฤติกรรมและการใช้ชีวิตของเราแต่ว่าถ้า
00:06:12 → 00:06:15 แบบว่าช่วงแรกๆมันไม่ไหวเราก็ต้องไปหาหมอ
00:06:15 → 00:06:17 ก่อนเพื่อจะบรรเทาอาการให้มันดีขึ้นใช่
00:06:17 → 00:06:20 ครับแล้วทีนี้อย่างที่คุณหมอบอกว่าในยุค
00:06:20 → 00:06:22 ปัจจุบันเนี้ยคนทำงานแบบว่าเราไม่ค่อยได้
00:06:22 → 00:06:24 ออกไปขยับร่างกายกันเท่าไหร่เพราะเรานั่ง
00:06:24 → 00:06:26 หน้าคอมใช้ชีวิตอยู่แบบว่าอยู่กับที่นานๆ
00:06:26 → 00:06:29 แต่ทสมมุติคนที่แบบว่าเขาต้องทำงานออฟฟิ
00:06:29 → 00:06:33 หรืออยู่ตามเ่าในคอนโดในห้องเล็กๆเขาจะมี
00:06:33 → 00:06:34 วิธีการออกกำลังกายแบบไหนได้บ้างที่มัน
00:06:34 → 00:06:37 แบบว่าเหมาะสมแล้วก็ช่วยให้เขาแบบว่าได้
00:06:37 → 00:06:39 ขยับร่างกายมากขึ้นนะค่ะอันเนี้ยเราเป็น
00:06:39 → 00:06:41 การปรับ mindset ของเรานะครับเป็นการเกรา
00:06:41 → 00:06:44 นิสัยของเราคือนิสัยของเราอาจจะบอกว่าเรา
00:06:44 → 00:06:46 มีข้อแม้ในการออกกำลังกายแต่จริงๆแล้วอ่ะ
00:06:47 → 00:06:49 การออกกำลังกายไม่มีข้อแม้นะครับเพราะว่า
00:06:49 → 00:06:51 อย่างที่ผมบอกไปว่าการออกกำลังกายที่ถูก
00:06:51 → 00:06:52 ต้องเนาะคือเราจะต้องออกกกายทั้งหมดอยู่ 5
00:06:52 → 00:06:55 อย่าง 5 แบบนะครับอย่างแรกคือการ Aerobic
00:06:55 → 00:06:57 Exercise ขยับตัวต่อเนื่องเราลองนึกถ้า
00:06:57 → 00:06:59 สมมุติในห้องเรามีเก้าอี้ตัวเดียวอเรา
00:07:00 → 00:07:02 สามารถเอาเก้าอี้มาวางแล้วก็ขยับแขนขยับ
00:07:02 → 00:07:04 ขาให้ต่อเนื่อง 30 นาทีอันนี้ก็ถือว่า
00:07:04 → 00:07:06 เป็นการออกกำลังกายอันที่ 2 คือการยืด
00:07:06 → 00:07:08 เหยียดกล้ามเนื้อการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
00:07:08 → 00:07:09 ก็คือการทำให้เส้นเลือดพยายามไปเลี้ยง
00:07:09 → 00:07:11 กล้ามเนื้อมีการซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่ดี
00:07:11 → 00:07:13 การที่เรายืดเหยียดกล้ามเนื้อเรานั่ง
00:07:13 → 00:07:15 เก้าอี้ตัวเดียวเราก็ทำได้เกือบทุกส่วนละ
00:07:15 → 00:07:17 ยังไงคะคือแบบว่ามันต่างกับการออกกำลัง
00:07:17 → 00:07:19 กายยังไงยืดเหยียดกล้ามเนื้ออ่ายืดเหยียด
00:07:19 → 00:07:21 กล้ามเนื้อเนี่ยจะเป็นการที่ 1 ทำให้
00:07:21 → 00:07:23 กล้ามเนื้อเราอยู่ในความยาวที่พอดีครับ
00:07:23 → 00:07:25 มันก็จะพร้อมในการทำงานได้อันที่ 2 คือ
00:07:25 → 00:07:27 เป็นการฝึกจิตใจของเราด้วยให้มีการผ่อน
00:07:27 → 00:07:30 คลายและอันที่ 3 สิ่งที่สำคัก็คือทำให้
00:07:30 → 00:07:32 ข้อต่อของเราดีครับคือหลายๆครั้งเนี่ยถ้า
00:07:32 → 00:07:34 เรามีอาการปวดตึงไม่ว่าจะอายุน้อยอายุ
00:07:34 → 00:07:36 เยอะอ่ะเราลองดูนะครับถ้าเรามีปวดคอ
00:07:36 → 00:07:38 อะไหล่นานๆอ่ะการที่เราหมุนคอการที่เรา
00:07:38 → 00:07:40 ขยับร่างกายอ่ะมันไม่สุดนะครับอ้ามันไม่
00:07:40 → 00:07:42 สุดหรอคมันไม่สุดนะครับมันจะแบบไม่สามารถ
00:07:42 → 00:07:44 ขยับได้สุดแบบนี้มันจะขยับได้ไม่สุดเพราะ
00:07:44 → 00:07:46 ว่ากล้ามเนื้อของเรามันตึงทำให้ข้อต่อของ
00:07:46 → 00:07:49 เรามีการขยับที่ไม่ไม่ 100% แล้วกันดัง
00:07:49 → 00:07:51 นั้นเองการที่เราจะทำให้ข้อต่อของเราดี
00:07:51 → 00:07:53 เราจำเป็นต้องมีการฝึกยืดอิยกรรมเนที่ดี
00:07:53 → 00:07:56 ด้วยโดยเฉพาะคนที่สูงอายุเนี่ยเขามักจะมี
00:07:56 → 00:07:59 ปัญหานี้เลยบางคนข้อติดบางคนกล้ามเนื้อ
00:07:59 → 00:08:00 ไม่แข็งแรงไม่ยืดหยุ่นนะครับเพราะฉะนั้น
00:08:01 → 00:08:03 น่ะอันที่ 2 ก็คือการยืดกล้ามเนื้อก็เป็น
00:08:03 → 00:08:04 สิ่งที่สำคัญมากๆอันต่อมาคือการสร้าง
00:08:05 → 00:08:06 กล้ามเนื้อการสร้างกล้ามเนื้อก็คือการใช้
00:08:06 → 00:08:09 แรงต้านเราก็ชินอยู่แล้วการยกเทแต่ถ้า
00:08:09 → 00:08:11 สมมุติว่าเราไม่มีเวทเราใช้อะไรได้บ้าง
00:08:11 → 00:08:14 เราก็ใช้บอเทก็ได้หรือว่าใช้ขวดน้ำก็ได้
00:08:14 → 00:08:16 ซึ่งถ้าเรามีเก้าอี้ตัวเดียวหรือเรามีแค่
00:08:16 → 00:08:18 พื้นมีแมทเราก็สร้างกล้ามเนื้อได้ผมอยาก
00:08:18 → 00:08:20 ให้ความสัมพันธ์ของวัยทำงานว่าการสร้าง
00:08:20 → 00:08:21 กล้ามเนื้อเนี่ยอย่างที่บอกไม่ใช่เพื่อ
00:08:21 → 00:08:23 รูปร่างอย่างเดียวนะครับแต่เพื่อเพิ่ม
00:08:23 → 00:08:26 ความอึดความทนของกล้ามเนื้อสมมุติว่าเรา
00:08:26 → 00:08:28 ทำงาน 1 ชั่วโมงแต่กล้ามเนื้อเราแข็งแรง
00:08:28 → 00:08:30 แค่ครึ่งชั่วโมงเพราะฉะนั้น 1
00:08:30 → 00:08:32 เราจะเหนื่อยง่ายจะทำงานเราจะเมื่อยง่าย
00:08:32 → 00:08:34 ยิ่งปัจจุบันเรามีสมาธิมากๆเราจะไม่รู้
00:08:34 → 00:08:37 เลยว่ากล้ามเนื้อเราอ่ะมีขอบเขดเท่าไหร่
00:08:37 → 00:08:38 เมื่อไหร่เราจะเมื่อยเพราะฉะนั้นเราก็
00:08:38 → 00:08:41 สร้างกล้ามเนื้อไว้ก่อนให้มันอึดให้มันทน
00:08:41 → 00:08:42 ทานเพราะฉะนั้นสมมุติเพื่อนทำงานได้ครึ่ง
00:08:43 → 00:08:44 ชั่วโมงกล้ามเนื้อเราอาจจะ 2 ชั่วโมง
00:08:44 → 00:08:47 เพื่อนปวดเราไม่ปวดอันนี้คือความสำคัญคือ
00:08:47 → 00:08:49 อยากรู้ค่ะว่าเออบางทีบางคนที่เขามีอาการ
00:08:49 → 00:08:51 ปวดเมื่อยเนี่ยเขาอาจจะยังไม่ไปหาหมอหรอก
00:08:51 → 00:08:53 แต่เขาจะไปร้านนวดก่อนเพราะว่าเวลาไปร้าน
00:08:53 → 00:08:55 นวดเนี่ยหมอนวดก็จะบอกว่าเอ้ยมันมีพังผืด
00:08:55 → 00:08:56 เยอะนะหรือแบบว่าเนี่ยเส้นมันยึดเงี้ยค่ะ
00:08:56 → 00:08:58 อยากรู้ว่าไอ้อาการนวดเนี่ยมันช่วยบรรเทา
00:08:58 → 00:09:02 อาการปวดแล้วก็ลดไอ้พังผืดจากอาการออฟิรม
00:09:02 → 00:09:04 เหล่านี้ได้มากน้อยแค่ไหนคะได้ครับอาการ
00:09:04 → 00:09:06 นวดจริงๆอ่ะช่วยได้นะครับเป็นการเาเรียก
00:09:06 → 00:09:10 ว่านวดกดจุดนวดกดจุดนวดกดจุดใช่เดี๋ยวเรา
00:09:10 → 00:09:12 มาเรียนรู้ก่อนว่าที่เขาบอกว่าเป็นพังืด
00:09:12 → 00:09:14 มันตึงเกิดจากอะไรนะครับอย่างที่เรารู้ไป
00:09:14 → 00:09:16 ข้างต้นแล้วว่ากล้ามเนื้อเมื่อเราทำงาน
00:09:16 → 00:09:19 เกินขนาดอ่ะครับมันมักจะไม่ค่อยคลายตัว
00:09:19 → 00:09:20 ดังนั้นเองมันจะมีกล้ามเนื้ออยู่บาง
00:09:20 → 00:09:23 บริเวณครับที่มันไม่คลายตัวซึ่งเราเช็ค
00:09:23 → 00:09:26 กันได้นะครับอ่ะเราลองเอามือขึ้นมาอันนึง
00:09:26 → 00:09:28 ครับแล้วลองคลำไปบริเวณบ่าของเราครับมัน
00:09:28 → 00:09:31 จะมีส่วนนึงนะครับที่ได้เป็นก้อนๆอ่าอาจ
00:09:31 → 00:09:33 จะไม่มีทุกคนนะครับแล้วพอเราเจอก้อนนะ
00:09:33 → 00:09:36 ครับให้เราใช้ 1 นิ้วของเราลองกดเข้าไป
00:09:36 → 00:09:39 เนี่ยถ้าสมมุติว่าเรามีปมกล้ามเนื้ออยู่
00:09:39 → 00:09:42 ครับที่ที่หมอนวดบอกอ่ะมันจะมีลักษณะปวด
00:09:42 → 00:09:45 ร้าวไปตามบริเวณบาตามบริเวณสะบักได้นะ
00:09:45 → 00:09:47 ครับนี่อันนี้เขาเรียกว่า Trigger Point
00:09:47 → 00:09:49 Trigger Point ก็คือปมกล้ามเนื้อที่ไม่
00:09:49 → 00:09:51 ได้คลายตัวบางบริเวณที่กล้ามเนื้อของเรา
00:09:51 → 00:09:54 ทำงานมากเกินไปครับดังนั้นเองที่หมอนวด
00:09:54 → 00:09:56 บอกก็ถูกนะครับก็คือเหมือนกับว่าเขาไปคำ
00:09:56 → 00:09:58 เจอตัว tricker Point ของเราหรือป้้ม
00:09:58 → 00:10:01 กล้ามเนื้อเราอืออ่าซึ่งการรักษาอย่างนึง
00:10:01 → 00:10:04 ที่สามารถทำได้นะครับก็คือการกดจุดคือ
00:10:04 → 00:10:06 หลายๆครั้งเราอาจจะใช้แบบความร้อนประคบ
00:10:06 → 00:10:09 หรือเจลร้อนประคบก่อนหลังจากนั้นเราใช้ 1
00:10:09 → 00:10:13 นิ้วของเราค่อยๆกดคลึงไปบริเวณก้อนหรือปม
00:10:13 → 00:10:15 นั้นเบาๆครับเราเชื่อว่ามันอาจจะช่วยคลาย
00:10:15 → 00:10:17 ปมนั้นได้ทั้งนี้ทั้งนั้นการนวดก็ต้อง
00:10:17 → 00:10:20 ระวังนะครับคนที่มีความผิดปกติบางอย่างมี
00:10:20 → 00:10:23 รูปประจำตัวมียาบางอย่างหรือผู้สูงอายุ
00:10:23 → 00:10:26 บางรายอก็ควรหลีกเลี่ยงการนวดนะครับรวมไป
00:10:26 → 00:10:30 ถึงการนวดก็ต้องเป็นนวดที่มีความพอดีไม่
00:10:30 → 00:10:32 นวดแรงจนเกินไปนะครับซึ่งอันนี้ก็อาจจะ
00:10:32 → 00:10:35 ไม่ได้ส่งผลดีอาจจะส่งผลให้เกิดการอักเสบ
00:10:35 → 00:10:38 มากขึ้นการนวดก็อาจจะเหมาะกับการนวดกล้าม
00:10:38 → 00:10:40 เนื้อบางระยะเท่านั้นอ่าบางระยะเท่านั้น
00:10:41 → 00:10:43 บางระยะที่แบบเรามีการอักเสบมากๆการนวดก็
00:10:43 → 00:10:45 จะทำให้เรายิ่งอักเสบแต่การที่เรามีการ
00:10:45 → 00:10:48 อักเสบเรื้อรังหรือเราเจอปมการนวดก็อาจจะ
00:10:48 → 00:10:50 ได้ผลนะครับซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเกิด
00:10:50 → 00:10:52 เราไม่มั่นใจไม่ชวยจริงๆไปหาหมอดีกว่าไป
00:10:52 → 00:10:55 หาหมอก่อนใช่ครับค่ะไหนๆวันนี้นะคะเราก็
00:10:55 → 00:10:57 คุยกันถึงเรื่องการแก้อาการออฟฟิ Syndrome
00:10:57 → 00:10:59 การออกกำลังกายเพื่อแก้อาการกวดเมื่อย
00:10:59 → 00:11:02 ร่างกายแล้วอยากให้คุณหมอสาธิตวิธีการอ่า
00:11:02 → 00:11:04 แก้ออฟฟิสนรมเนี่ยค่ะง่ายๆสัก 3-4 ท่าก็
00:11:04 → 00:11:06 ได้ค่ะที่แบบว่าคนทางบ้านดูแล้วก็ทำตาม
00:11:06 → 00:11:08 ได้เลยค่ะโอเคครับอย่างแรกนะครับในการแก้
00:11:09 → 00:11:11 ออฟิ Syndrome เราเอาที่ปัญหาที่เราเจอ
00:11:11 → 00:11:14 บ่อยได้มั้ครับก็คือปัญหาคอบาลคอบาลแล้ว
00:11:14 → 00:11:17 ก็ปัญหาชามือหรือว่านิ้วล็อใช่มั้ยครับ
00:11:17 → 00:11:19 อ่ะอย่างแรกที่เราต้องทำคือต้องมีการขยับ
00:11:19 → 00:11:21 อย่างที่เบอกเป็นการยืดเหยียดก้ามเนื้อ
00:11:21 → 00:11:24 อย่างนึงนะครับการขยับซ้ายขยับขวาอ่าเอา
00:11:24 → 00:11:27 ให้สุดนะครับเอาให้สุดเอาพยายามให้สุดอ่า
00:11:27 → 00:11:29 อันนี้ก็จะเป็นการขยับ 1 คือเป็นการกระ
00:11:29 → 00:11:31 ตุ้นกล้ามเนื้อเป็นการยืดกล้ามเนื้อเพิ่ม
00:11:31 → 00:11:32 การไหลเวียนกล้ามเนื้อที่ดีใช่มั้ยครับ
00:11:32 → 00:11:34 อันที่ 2 คือการยืดเหยียดละการยืดเหยียด
00:11:34 → 00:11:37 ก็คืออ่าอย่างเช่นเราเอามือไขว้หลังครับ
00:11:37 → 00:11:41 อ่าหลังจากนั้นนะครับค่อยๆเอนศีรษะให้เรา
00:11:41 → 00:11:44 รู้สึกตึงมากๆบริเวณคอนะครับค้างไว้สัก 10
00:11:44 → 00:11:48 วินาทีโคแล้วค่อยๆคลายนะครับอ่าลองสลับ
00:11:48 → 00:11:52 ข้างกันดูอ่าคางไว้ 10 วินาที
00:11:52 → 00:11:56 อ่าอ่าแล้วก็คลายนะครับอ่าอันนี้ก็จะเป็น
00:11:56 → 00:11:58 การยืดกล้ามเนื้อคอบาลการยืดกล้ามเนื้อก็
00:11:58 → 00:12:01 จะมีทั้งการขยับแล้วก็การยืดนะครับต่อไป
00:12:01 → 00:12:03 ปัญหามือก็สำคัญใช่มั้ยครับบางครั้งเรา
00:12:03 → 00:12:06 ใช้เมาส์แล้วทำให้เราปวดนิ้วปวดข้อมือนะ
00:12:06 → 00:12:09 ครับอ่าเดี๋ยวผมจะสอนก็คือ 1 ครับเป็นการ
00:12:09 → 00:12:13 ยืดเส้นเอ็นนะครับหยิกนิ้วลงมากำอือฮึทำ
00:12:13 → 00:12:18 เป็นโต๊ะครับแล้วก็ตบลงอ่าแล้วก็เหยียด
00:12:18 → 00:12:23 ออกมาหยีกนิ้วเหมือนเดิมกำทำเป็นโต๊ะตกลง
00:12:23 → 00:12:26 โอเคอันนี้นะครับก็จะเป็นการยืดเหยียด
00:12:26 → 00:12:28 เส้นเอ็นบริเวณมือนะครับเพื่อทำให้เส้น
00:12:28 → 00:12:30 เอ็นเคลื่อนดีขึ้นอาการนิ้วล็อคก็จะลดลง
00:12:30 → 00:12:33 นะครับรวมไปถึงอาการปวดเส้นเอ็นปวดข้อมือ
00:12:33 → 00:12:35 เนี่ยก็จะลดลงด้วยเนาะอีกท่านึงนะครับผม
00:12:35 → 00:12:37 คิดว่าถ้าถ้าหลายๆคนทำน่าจะรู้สึกเลยลอง
00:12:38 → 00:12:40 เหยียดแขนออกมานะครับกระดกมือลงครับผม
00:12:40 → 00:12:43 กระดกมือลงอุ๊ยอ่าแล้วกางนิ้วโป้งออกให้
00:12:43 → 00:12:48 สุดครับอุ๊ยกดไหลลงนะครับกดไหลลงอ่าตึง
00:12:48 → 00:12:50 มั้ยครับตึงแล้วใช่มั้ยครับตึงหลังจาก
00:12:50 → 00:12:53 นั้นนะครับเอนศีรษะไปทางด้านมือก่อนนะ
00:12:53 → 00:12:56 ครับเบาลงมั้ยครับอาการเบาลงมั้ยอื้อมัน
00:12:56 → 00:12:58 รู้สึกผ่อนคลายนิดนึงผ่อนคลายนะครับหลัง
00:12:58 → 00:13:01 จากนั้นเราเอนไปอีกข้างนึงช้าๆครับช้าๆ
00:13:01 → 00:13:03 เอนอีกข้างนึงครับออนี้เริ่มตึงแล้วะตึง
00:13:03 → 00:13:06 มั้ยครับตึงตึงใช่มั้ยครับอ่ะปล่อยลงครับ
00:13:06 → 00:13:08 อันนี้ก็จะเป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อแขน
00:13:08 → 00:13:10 นะครับรวมไปถึงยืดเหยียดเส้นประสาททำให้
00:13:10 → 00:13:13 การเคลื่อนที่ของเส้นประสาทดีขึ้นก็จะ
00:13:13 → 00:13:15 ช่วยลดอาการชาอาการกดทับเส้นประสาทที่พัง
00:13:15 → 00:13:18 ฝืดข้อมือได้ด้วยผมคิดว่าหลายๆคนเนี่ยก็
00:13:18 → 00:13:20 ทำแล้วจะรู้สึกใช่ไหมมครับแสดงว่าเราก็
00:13:20 → 00:13:23 ควรจะฝึกออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อเส้น
00:13:23 → 00:13:25 ประซาเส้นเอ็นบ่อยๆเพื่อที่ทำให้เราห่าง
00:13:25 → 00:13:27 ไกลจากอฟฟิศ Syndrome นะครับอย่างงี้คน
00:13:27 → 00:13:29 ที่แบบว่านั่งทำงานไปนานนานแล้วรู้สึกว่า
00:13:29 → 00:13:31 เอ้ยฉันเริ่แบบตึงๆะก็คือทำท่าที่คุณหมอ
00:13:32 → 00:13:34 สอนไปเมื่อสักครู่นี้ได้เลยถูกมั้ยคะใช่
00:13:34 → 00:13:37 ครับจริงๆแล้วอยากให้เริ่มจาก 1 คือลุก
00:13:37 → 00:13:38 เปลี่ยนอริยบทก่อนอันนี้ง่ายที่สุดหลัง
00:13:39 → 00:13:41 จากนั้นก็ค่อยๆมาบริหารในการยืดเหยียด
00:13:41 → 00:13:43 กล้ามเนื้อก่อนที่เราจะไปยืดเหยียดกล้าม
00:13:43 → 00:13:44 เนื้อเนี่ยถ้าเรารู้สึกว่าเราทำงานมานาน
00:13:44 → 00:13:46 แล้วรู้สึกเริ่มตึงๆละเราควรจะแบบเปลี่ยน
00:13:46 → 00:13:48 อิริยาบถบ่อยแค่ไหนในการทำงานค่ะแบบทำงาน
00:13:49 → 00:13:51 สักครึ่งชั่วโมงแล้วก็ควรจะเปลี่ยนท่าทาง
00:13:51 → 00:13:52 หรือว่าสัก 1 ชั่วโมงอะไรเงี้ยครับจริงๆ
00:13:53 → 00:13:55 แล้วมันก็ขึ้นกับความแข็งแรงหรือความทน
00:13:55 → 00:13:57 ทานกล้ามเนื้อแต่ละคนนะครับแต่โดยรวมเรา
00:13:57 → 00:14:00 จะแนะนำว่าประมาณ 1-2 ชั่วโมงถ้าเราทำงาน
00:14:00 → 00:14:02 ต่อเนื่องกันแล้วอ่ะก็ควรมีเวลาที่เราลุก
00:14:02 → 00:14:05 ไปพักอย่างน้อย 10-15 นาทีก็จะช่วยทำให้
00:14:05 → 00:14:07 กล้ามเนื้อของเราผ่อนคลายมากขึ้นรวมไปถึง
00:14:07 → 00:14:09 จิตใจหรือความพร้อมในการทำงานของเราก็จะ
00:14:09 → 00:14:11 ดีมากขึ้นด้วยลองตั้งเวลาก็ได้ครับถ้า
00:14:11 → 00:14:13 สมมุติว่าเรารู้สึกว่าเวลาประมาณนี้แล้ว
00:14:13 → 00:14:15 เรารู้สึกตึงรู้สึกเมื่อยก็ออกไปยึดเส้น
00:14:15 → 00:14:17 ยึดสายหน่อยแล้วอีกอย่างนึงที่ผมอาจจะยัง
00:14:17 → 00:14:19 ไม่ได้สาธิตก็คือการสร้างกล้ามเนื้อเราจะ
00:14:19 → 00:14:22 หยิบหดน้ำขึ้นมาแล้วก็เอวางไว้ข้างลำตัว
00:14:22 → 00:14:26 ยักไต่ขึ้นมาใช่มครับยักไหลขึ้นมาอ่า
00:14:26 → 00:14:28 อย่างเงี้ครับก็จะเป็นการฝึกกล้ามเนื้อ
00:14:28 → 00:14:30 บ่าของเราให้แข็งแรงและถนทานมากขึ้นถ้า
00:14:30 → 00:14:32 เราทำบ่อยๆการที่เรามานั่งทำงานก็จะลด
00:14:32 → 00:14:34 โอกาสที่จะบาดเจ็บได้อันนี้แบบว่าถ้าเล่น
00:14:34 → 00:14:37 โทรศัพท์นานๆนิ้วล็อก็คือถ้ายึดหย็ดกล้าม
00:14:37 → 00:14:38 เนื้อเมื่อกี้ก็ช่วยได้เหมือนกันถูกมั้ย
00:14:38 → 00:14:40 คะใช่ครับคือนิ้วล็อจะมีอยู่หลายระยะมากๆ
00:14:40 → 00:14:43 เนาะแต่ในระยะแรกๆถ้าเราเริ่มมีอาการปวด
00:14:43 → 00:14:45 นะครับ 1 การพักการใช้งานก็เป็นสิ่งที่
00:14:45 → 00:14:48 สำคัญมากๆถ้าเรารู้พฤติกรรมนั้นแล้วเรา
00:14:48 → 00:14:50 หยุดอันนี้ก็จะช่วยได้ละอย่างที่ 2 ก็คือ
00:14:50 → 00:14:52 เราอาจจะต้องมาฝึกเรื่องของการยืดเหยียด
00:14:52 → 00:14:54 กล้ามเนื้อยืดเหยียดเส้นเอ็นนะครับสิ่ง
00:14:54 → 00:14:56 เหล่านี้ก็จะช่วยบรรเทาอาการนิวล็อคหรือ
00:14:56 → 00:14:59 อาการปวดได้นะครับที่อยากจะถามคุณคุณหมอเ
00:14:59 → 00:15:01 หน่อยว่าไอ้การออกกำลังกายเนี่ยนอกจากจะ
00:15:01 → 00:15:03 มันจะช่วยให้เราสุขภาพดีขึ้นแล้วเนี่ยมัน
00:15:03 → 00:15:05 ช่วยให้เราอายุยืนขึ้นจริงหรือเปล่าคะ
00:15:05 → 00:15:07 จริงแน่นอนครับทีเนี้ยเราอาจจะต้องรู้
00:15:07 → 00:15:09 ก่อนนะครับว่าจริงๆแล้วร่างกายของเราอ่ะ
00:15:09 → 00:15:12 ถูกออกแบบมาให้มีอายุ 100 ปี 100 ปีใช่
00:15:13 → 00:15:15 ครับธรรมชาติเพิสูจน์แล้วนักวิทยาศาสตร์
00:15:15 → 00:15:16 เขาพิสูจน์มาแล้วครับแต่ว่าทีเนี้ยการที่
00:15:16 → 00:15:19 เรามีอายุไม่ถึง 100 ปีส่วนนึงอ่ะเกิดจาก
00:15:19 → 00:15:22 การที่เรามีภาวะแก่ก่อนวัยอันควรอ้าซึ่ง
00:15:23 → 00:15:24 พฤติกรรมอะไรบ้างที่มันทำให้เราแก่ก่อน
00:15:24 → 00:15:26 วัยแนควรคะพฤติกรรมแรกเลยนะครับที่
00:15:26 → 00:15:28 ปัจจุบันเราพบเยอะมากที่สุดก็คือการอยู่
00:15:28 → 00:15:31 อยู่เฉยๆการอยู่นิ่งๆการมีวิถีชีวิตที่
00:15:31 → 00:15:34 แบบนั่งกินนอนกินไม่มีการขยับร่างกายมากๆ
00:15:34 → 00:15:37 ครับซึ่งอันเนี้ยจะนำพาไปสู่ภาวะโรคเหลือ
00:15:37 → 00:15:39 หลังภาวะโรคเหลือหลังก็จะทำให้เรารู้สึก
00:15:39 → 00:15:41 แก่ก่อนไว้เราจะสังเกตเห็นเวลาเราไป
00:15:41 → 00:15:43 เที่ยวงานเลี้ยงรุ่นครับโดยเฉพาะผู้สูง
00:15:43 → 00:15:45 อายุอ่ะหลายคนอายุเท่ากันนะครับบางคนดู
00:15:45 → 00:15:47 หนุ่มบางคนดูแก่แปลว่าบางคนอาจจะมีภาวะ
00:15:47 → 00:15:50 แก่ก่อนวยหรือเปล่าหรือบางคนอาจจะหนุ่ม
00:15:50 → 00:15:52 กว่าวยหรือเปล่าซึ่งเคล็ดลับนึงของการแก้
00:15:52 → 00:15:54 ปัญหานี้คือการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์หรือ
00:15:54 → 00:15:56 พฤติกรรมนะครับและสิ่งที่สำคัญมากก็คือ
00:15:56 → 00:15:58 เรื่องของการออกกำลังกายเพราะว่าพิสูจน์
00:15:58 → 00:16:00 มาแล้วว่าทำให้ร่างกายเรากลับมาให้ดู
00:16:00 → 00:16:03 หนุ่มให้ดูอ่อนกว่าวยได้รวมถึงป้องกันโลก
00:16:03 → 00:16:05 เรือหลังที่จะทำให้เราแก่ก่อนไวได้ด้วย
00:16:05 → 00:16:07 อันนี้ก็จะเป็นคำตอบนะครับว่าทำไมการออก
00:16:07 → 00:16:09 กำลังกายถึงทำให้เราอายุยืนสำหรับบางคน
00:16:09 → 00:16:11 น่ะค่ะที่เขาออกกำลังกายอย่างดีเลยดูแล
00:16:11 → 00:16:13 ตัวเองอย่างดีกินดีอยู่ดีออกกำลังกายดี
00:16:13 → 00:16:16 นอนดีมาทั้งชีวิตแต่จู่ๆก็เป็นโรคร้าย
00:16:16 → 00:16:18 แล้วก็ตายซะงั้นในขณะที่บางคนก็ใช้ชีวิต
00:16:18 → 00:16:20 มาแบบว่าใช้ชีวิตทั่วไปไม่ได้ซีเรียส
00:16:21 → 00:16:22 เรื่องการออกกำลังกายมากนักแต่ก็ยัง
00:16:22 → 00:16:24 สุขภาพแข็งแรงอยู่ค่ะอย่างเนี้ยค่ะคุณหมอ
00:16:24 → 00:16:25 มีความคิดเห็นยังไงบ้างคือบางคนเาอาจจะ
00:16:25 → 00:16:27 รู้สึกว่าออกกำลังกายไปทำไมฉันก็ใช้ชีวิต
00:16:27 → 00:16:28 เรื่อยๆก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่เราจะเข้า
00:16:28 → 00:16:30 เข้าใจอยู่แล้วนะครับว่าชีวตประจำวันเรา
00:16:30 → 00:16:32 จะมีทั้งสิ่งที่เราควบคุมได้และสิ่งที่
00:16:32 → 00:16:34 เราควบคุมไม่ได้เรื่องสุขภาพก็เช่นเดียว
00:16:34 → 00:16:37 กันทุกๆคนอาจจะมีภาวะที่เราควบคุมไม่ได้
00:16:37 → 00:16:40 อยู่แล้วบางคนอาจจะมีพันธุกรรมบางคนอาจจะ
00:16:40 → 00:16:42 มีความผิดปกติตั้งแต่โครโมโซมมาอยู่แล้ว
00:16:42 → 00:16:45 ก็อาจจะมีโอกาสที่จะได้รับข่าวร้ายหรือ
00:16:45 → 00:16:47 ว่ามีการป่วยก่อนวัยแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นใน
00:16:47 → 00:16:49 ส่วนนี้เองเราก็ยังป้องกันได้นะครับโดย
00:16:49 → 00:16:51 การที่เราสามารถเข้าถึงกระบวนการรักษาได้
00:16:51 → 00:16:54 ตั้งแต่เนิ่นๆมีการคัดกรองมีการตรวจเช็ค
00:16:54 → 00:16:57 ตั้งแต่แรกถ้าเรายังปุกติดกับระบบการคัด
00:16:57 → 00:16:59 กรองการดูแลตัวเองผมเชื่อว่าสิ่งนี้ก็จะ
00:16:59 → 00:17:01 แก้ได้อันที่ 2 คือปัจจัยที่เราคิดว่าเรา
00:17:02 → 00:17:04 แก้ได้แน่นอนหรือเราปรับได้เรากำหนดได้ก็
00:17:04 → 00:17:07 คือเรื่องของพฤติกรรมสุขภาพครับซึ่งถ้า
00:17:07 → 00:17:09 เรามีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีส่วนใหญ่แล้วก็
00:17:09 → 00:17:12 จะนำมาให้เราไปถึงจุดที่เราไม่ป่วยหรือ
00:17:12 → 00:17:14 ว่าการป้องกันโรคนั่นเองเพราะฉะนั้นผมคิด
00:17:14 → 00:17:16 ว่าการที่เรามีปัจจัยทั้ง 2 อย่างอยู่
00:17:16 → 00:17:18 แล้วในชีวิตประจำวันน่ะเราสามารถเลือกได้
00:17:18 → 00:17:21 ว่าเราจะแก้หรือเราป้องกันก็คือการออก
00:17:21 → 00:17:22 กำลังกายก็เป็นหนึ่งในทางป้องกันคือเรา
00:17:22 → 00:17:24 ไม่รู้หรอกว่าอนาคตเราจะเป็นโรคอะไรมแต่
00:17:24 → 00:17:26 การป้องกันไว้ก่อนก็ย่อมดีกว่าเสมอถูก
00:17:26 → 00:17:28 มั้ยคะใช่แล้วครับเราไม่รู้หรอกว่าเราจะ
00:17:28 → 00:17:31 ต้องใช้ร่างกายมากๆตอนไหนอย่างผมจะอธิบาย
00:17:31 → 00:17:33 ให้ฟังว่าบางครั้งเรารักษาผู้ป่วยนะครับ
00:17:33 → 00:17:36 อายุเท่ากันป่วยโรคเดียวกันแต่บางคนรักษา
00:17:36 → 00:17:39 แล้วหายบางคนอยู่โรงพยาบาลนานขึ้นหรือบาง
00:17:39 → 00:17:41 คนอาจจะเสียชีวิตถ้าเรามาย้อนดูจริงๆอ่ะ
00:17:41 → 00:17:43 คนที่รักษาและหายอ่ะเขาจะต้องมีกำลังใจ
00:17:43 → 00:17:45 แล้วก็มีสุขภาพที่ฟิตที่แข็งแรงอันนี้ก็
00:17:45 → 00:17:47 จะเป็นเคล็ดลับที่เราไม่รู้หรอกว่าเราจะ
00:17:47 → 00:17:49 ได้ใช้ความฟิตหรือความแข็งแรงของเราเมื่อ
00:17:49 → 00:17:52 ไหร่ครับแต่วันนึงอ่ะผมคิดว่าคนที่สะสม
00:17:52 → 00:17:54 ไว้เราจะได้รับผลกำไรตอนที่เราต้องใช้
00:17:54 → 00:17:56 ครับมันก็จะมีบางคนที่เรู้สึกว่าเคออก
00:17:56 → 00:17:58 กำลังกายเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ลดสักทีก็
00:17:58 → 00:18:00 เลยอยากถามว่าเออแล้วมันมันเป็นเพราะอะไร
00:18:00 → 00:18:02 มันเป็นเพราะว่าฮอร์โมนด้วยหรือเปล่าหรือ
00:18:02 → 00:18:03 เป็นเพราะว่าพฤติกรรมการกินอย่างอื่นของ
00:18:04 → 00:18:05 เขาด้วยมั้ยหรืออะไรเงี้ยค่ะใช่ครับก็
00:18:06 → 00:18:08 แล้วแต่บุคคลนะครับบางคนก็อาจจะมีเรื่อง
00:18:08 → 00:18:10 ของภาวะอ้วนง่ายอยู่แล้วอันที่ 2 คือ
00:18:10 → 00:18:14 พฤติกรรมการกินก็ส่งผลครับการนอนก็ส่งผล
00:18:14 → 00:18:16 การที่เรานอนไม่ดีก็จะทำให้กระบวนการเผ่า
00:18:16 → 00:18:19 ผลาญในร่างกายเราแย่อันนี้ก็ส่งผลทำมอ้วน
00:18:19 → 00:18:20 ได้ด้วยเหมือนกันนะครับอันต่อมาก็คือ
00:18:20 → 00:18:23 พฤติกรรมในการรักษาสุขภาพหรือการออกกำลัง
00:18:23 → 00:18:25 กายบางคนออกกำลังกายจริงนะครับแต่ออกแต่
00:18:25 → 00:18:27 คาร์ดิโออย่างเดียวแต่ว่าเราไม่มีมวล
00:18:27 → 00:18:29 กล้ามเนื้อที่เพียงพอสมมุติว่าเรามีมมล
00:18:29 → 00:18:30 กล้ามเนื้อพเพียงพอบางครั้งเราอาจจะเรียก
00:18:30 → 00:18:32 ว่า basal metabolic Rate หมายความว่า
00:18:32 → 00:18:34 อะไรหมายความว่าตอนที่เราอยู่เฉยๆเรายัง
00:18:34 → 00:18:36 มีการใช้พลังงานครับคนที่มีกล้ามเนื้อ
00:18:36 → 00:18:38 เยอะเวลาเราอยู่เฉยๆเนี่ยการใช้พลังงาน
00:18:38 → 00:18:40 ของเราจะมากแต่ถ้าคนที่มวลกล้ามเนื้อน้อย
00:18:40 → 00:18:42 ๆเราอยู่เฉยๆเนี่ยเราอาจจะไม่ได้ใช้พลัง
00:18:43 → 00:18:45 งานอันนี้ก็จะส่งผลต่อภาวะอ้วนหรือน้ำ
00:18:45 → 00:18:47 หนักเกินได้ด้วยอยากจะบอกว่าจริงๆแล้วการ
00:18:47 → 00:18:49 ที่เราตั้งใจลดน้ำหนักอ่ะเป็นสิ่งที่ดี
00:18:49 → 00:18:52 อยู่แล้วนะครับแต่ให้เรามามองในภาพรวม
00:18:52 → 00:18:54 อย่างเช่นพฤติกรรมเรามีภาวะเสี่ยงต่อความ
00:18:54 → 00:18:57 อ้วนมั้ยอันที่ 2 การออกกำกายเราเพียงพอ
00:18:57 → 00:18:59 หรือเปล่าและอันสุดท้ายก็คือคือการนอนของ
00:18:59 → 00:19:02 เราอ่ะดีหรือเปล่าสุดท้ายแล้วต่อให้เราลด
00:19:02 → 00:19:04 น้ำหนักได้หรือไม่ได้นะครับแต่ผมเชื่อว่า
00:19:04 → 00:19:06 จะทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นดังนั้น
00:19:06 → 00:19:07 อย่าไปโฟกัสที่น้ำหนักมากบางครั้งเราออก
00:19:07 → 00:19:09 กำลังกายเพื่อลดน้ำหนักแล้วเราชั่งน้ำ
00:19:09 → 00:19:11 หนักบ่อยๆเราก็จะท้อแต่จริงๆระหว่างทาง
00:19:11 → 00:19:14 นั้นเราได้อะไรมาเยอะะไม่ว่าจะสุขภาพการ
00:19:14 → 00:19:16 ปรับพฤติกรรมหรือการป้องกันโรคที่มันควร
00:19:16 → 00:19:18 จะเกิดแล้วแต่เราไม่ได้เกิดการออกกำลัง
00:19:18 → 00:19:20 กายของคนในแต่ละช่วงวัยอ่ะค่ะไม่ว่าจะ
00:19:20 → 00:19:22 เป็นในเด็กในวัยรุ่นแล้วก็ในวัยสูงอายุ
00:19:22 → 00:19:24 หรือวัยคนแบบอายุเยอะๆแล้วอย่าเงี้ยค่ะ
00:19:24 → 00:19:26 ว่ามันมีความแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน
00:19:26 → 00:19:28 แล้วก็ควรจะออกแบบไหนให้มันเหมาะสมกับแต่
00:19:28 → 00:19:31 ละวัยค่ะได้ครับแตกต่างกันสุดๆเลยครับผม
00:19:31 → 00:19:33 เพราะว่าในวัยเด็กหรือว่าวัยทำงานอย่าง
00:19:33 → 00:19:36 พวกเราอ่ะครับมักจะไม่มีโรคประจำตัวและ
00:19:36 → 00:19:39 ไม่มีข้อจำกัดทางสุขภาพดังนั้นเองเราจะ
00:19:39 → 00:19:41 ออกกำลังกายได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นเราก็
00:19:41 → 00:19:43 สามารถทำได้หลายท่าทางไม่ว่าจะเป็นการ
00:19:43 → 00:19:46 วิ่งหรือว่าการกระโดดเพราะว่าข้อต่อของ
00:19:46 → 00:19:48 เรายังดีเนาะแต่ในผู้สูงอายุกลับกันเลย 1
00:19:48 → 00:19:51 คือผู้สูงอายุมักจะมีปัญหาสุขภาพมักมีข้อ
00:19:51 → 00:19:53 จำกัดสุขภาพครับรวมถึงกระดูกข้าต่อกล้าม
00:19:54 → 00:19:55 เนื้อมักจะเปลี่ยนไปละซึ่งหลายๆครั้งเรา
00:19:56 → 00:19:58 จะแนะนำว่าผู้สูงอายุอ่ะจะมีความเปลี่ยน
00:19:58 → 00:20:00 แปลงที่เกิดตามธรรมชาติอยู่แล้วซึ่งเรา
00:20:00 → 00:20:02 ควรจะรู้ด้วยอย่างแรกก็คือหัวใจของเราจะ
00:20:02 → 00:20:06 บีบตัวลดลงพอหัวใจบีบตัวลดลงเลือดก็จะไหล
00:20:06 → 00:20:08 เวียนได้ไม่ค่อยดีก็ส่งผลทำให้เลือดอาจจะ
00:20:08 → 00:20:10 ไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆไม่เพียงพออันที่ 2
00:20:10 → 00:20:13 ปอดทำงานลดลงการแลกเปลี่ยนออกซิเจนก็จะ
00:20:13 → 00:20:15 แย่ลงเราอาจจะเหนื่อยง่ายมากขึ้นนะครับ
00:20:15 → 00:20:17 อันต่อมาคือกระดูกข้อตอของเราอาจจะเสื่อม
00:20:18 → 00:20:20 ถอยท่าบางท่าเด็กทำได้ผู้ใหญ่ทำแล้วอาจจะ
00:20:20 → 00:20:22 เจ็บอาจจะปวดใช่มั้ยครับสุดท้ายคือเรื่อง
00:20:23 → 00:20:24 ของกล้ามเนื้อเรื่องของกล้ามเนื้อเอง
00:20:24 → 00:20:26 เนี่ยในคนที่อายุน้อยๆอย่างพวกเราครับ
00:20:26 → 00:20:28 กล้ามเนื้อของเราจะยืดหยุ่นเหมือนยางเลย
00:20:28 → 00:20:30 ทำเท่าไหร่ก็อาจจะไม่ค่อยเจ็บครับแต่ของ
00:20:30 → 00:20:33 ผู้สูงอายุอ่ะมักจะแข็งเหมือนเชือกแข็งๆ
00:20:33 → 00:20:35 อ่ะครับเพราะฉะนั้นเรากระตุกนิดหน่อยอาจ
00:20:35 → 00:20:37 จะขาดได้อ่านั่นแหละครับก็คือความเสี่ยง
00:20:37 → 00:20:39 ของการบาดเจ็บในแต่ละช่วงวัยดังนั้นเอง
00:20:39 → 00:20:41 อยากจะแนะนำอย่างงี้ครับว่าในวัยเด็กวัย
00:20:42 → 00:20:44 ทำงานอ่ะเราลองออกกายเองก็อาจจะทำได้แต่
00:20:44 → 00:20:46 ในผู้สูงอายุถ้าอยากให้ปลอดภัยอ่ะเราควร
00:20:46 → 00:20:49 อยู่ภายใต้ความเชี่ยวชาญหรือว่าคนที่เขา
00:20:49 → 00:20:52 มีประสบการณ์แต่ถ้าเราสะสมมาตั้งแต่เด็กๆ
00:20:52 → 00:20:54 ตอนสูงอายุมากขึ้นเนี่ยเราก็จะมีทักษะการ
00:20:54 → 00:20:55 ออกกำลังกายะแล้วผมเชื่อว่าอันนี้อาจจะ
00:20:56 → 00:20:58 ช่วยลดปัญหาแล้วก็เพิ่มสักยภาพในการออก
00:20:58 → 00:20:59 กำลังกายได้ได้อย่างเมื่อกี้ที่คุณหมอพูด
00:20:59 → 00:21:01 อ่ะค่ะว่าเออพอเราอายุเยอะขึ้นพวกกระดูก
00:21:01 → 00:21:03 ข้อต่อของเรามันก็จะไม่ค่อยดีแล้วะแล้ว
00:21:03 → 00:21:05 อันเนี้บางทีบางคนยังอายุน้อยๆอยู่เลย
00:21:05 → 00:21:06 หรือยังแบบเป็นวัยรุ่นอยู่แต่เวลาขยับ
00:21:06 → 00:21:09 ร่างกายนิดหน่อยกระดูกมันก็ดังก๊บๆบบแๆไง
00:21:09 → 00:21:10 ค่ะอยากรู้ว่าเออสาเหตุมันมาจากอะไรแล้ว
00:21:10 → 00:21:13 มันอันตรายมยโออันเนี้ยผมชอบมากเลยครับ
00:21:13 → 00:21:15 เพราะว่าจริงๆแล้วเวลาคนไข้ส่วนหนึ่งนะมา
00:21:15 → 00:21:18 โรงพยาบาลครับเขามักจะมาด้วยแบบก๊อบแก๊บ
00:21:18 → 00:21:20 ก๊บแก๊บ 30 40 แล้วบอกว่าเข่าเสื่อมแล
00:21:20 → 00:21:22 เข่าเสื่อมแล้วเงี้ยครับจริงๆแล้วผมอยาก
00:21:22 → 00:21:23 ให้แบ่งอย่างนี้ก่อนครับเสียงก๊อปแก๊ป
00:21:24 → 00:21:26 เกิดจากอะไรได้บ้างอย่างแรกก็อาจจะเป็น
00:21:26 → 00:21:28 การที่เราขยับข้อต่อแล้วในข้อต่อของเราก็
00:21:28 → 00:21:30 จะมีน้ำแล้วก็มีอากาศอยู่ใช่มั้ยครับบาง
00:21:31 → 00:21:33 ครั้งอากาศแตกตัวก็อาจจะทำให้เกิดเสียง
00:21:33 → 00:21:35 ได้อันที่ 2 ก็คืออาจจะเกิดจากเส้นเอ็น
00:21:35 → 00:21:38 เสียดสีกับปุ่มกระดูกต่างๆสิ่งนี้เองก็
00:21:38 → 00:21:40 อาจจะเกิดเมื่อ 1 กล้ามเนื้อเราไม่แข็ง
00:21:40 → 00:21:42 แรงกล้ามเนื้อเราไม่ถูกบริหารเลยก็อาจจะ
00:21:42 → 00:21:44 ทำให้เกิดเสียงได้ครับดังนั้นเองอยากให้
00:21:44 → 00:21:47 สังเกตอย่างงี้ครับถ้ามีเสียงแล้วไม่เจ็บ
00:21:47 → 00:21:50 อันเนี้ยถือว่ายังปลอดภัยอยู่ก็คือปกติ
00:21:50 → 00:21:52 อ่าทุกคนก็มีเสียงอยู่ะแต่ทีนี้ถ้ามี
00:21:53 → 00:21:55 เสียงแล้วเจ็บอันเนี้ยไม่ปกติแน่นอนจะ
00:21:55 → 00:21:57 เป็นโรคอะไรได้บ้างคะอาจจะเกิดได้จากหลาย
00:21:57 → 00:21:59 อย่างเลยครับอย่างแรกก็คือเป็นโรคของ
00:21:59 → 00:22:03 เกี่ยวกับข้อข้อมีปัญหามอันที่ 2 กล้าม
00:22:03 → 00:22:05 เนื้อหรือว่าอันที่ 3 คืออาจจะเป็นท่าทาง
00:22:05 → 00:22:07 ของเราต่างๆเนี่ยที่มันผิดถ้าผิดทางหรือ
00:22:07 → 00:22:09 เปล่าก็จะทำให้เกิดเสียงได้สังเกตตัวเอง
00:22:09 → 00:22:13 ง่ายๆถ้ามีเสียงแล้วปวดผิดปกติละอาจจะ
00:22:13 → 00:22:15 ต้องมีการปรึกษาคนที่มีความรู้อย่างที่
00:22:15 → 00:22:17 คุณหมอบอกว่าเ่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติที่
00:22:17 → 00:22:19 มันจะมีเสียงก๊อบแก๊บบแก๊บอย่าเงี้ยค่ะ
00:22:19 → 00:22:21 บางคนชอบหักนิ้วชอบสะบัดข้อมือให้มัน
00:22:21 → 00:22:23 เสียงดังอย่างเงี้ยคือเป็นพฤติกรรมที่เรา
00:22:23 → 00:22:25 ไม่ควรจะทำถูกมั้ยคะหลายครั้งความรู้สึก
00:22:25 → 00:22:27 ของเราอาจจะขัดกับระบบสุขภาพอันนี้เรา
00:22:27 → 00:22:29 ต้องเข้าใจก่อนนะครับครับการที่เราหัก
00:22:29 → 00:22:31 นิ้วเนี่ยโอเคเรารู้สึกว่ามันสบายจริงๆ
00:22:31 → 00:22:33 หรือว่าอาจจะมีความเชื่อจากโบราณมาว่าการ
00:22:33 → 00:22:36 หักนิ้วอ่ะจะเป็นการยืดเยียดเป็นการทำให้
00:22:36 → 00:22:38 ข้อต่อดีขึ้นแต่จริงๆแล้วการหักนิ้วเรา
00:22:38 → 00:22:40 อาจจะไม่ได้ประโยชน์อะไรนอกจากความรู้สึก
00:22:40 → 00:22:43 ของเรานะครับแต่ข้อเสียก็จะตามมาในเมื่อ
00:22:43 → 00:22:45 บางครั้งที่เราหักนิ้วผิดปกติหักนิ้วแรง
00:22:45 → 00:22:48 ไปผิดท่าผิดทางเนี่ยอาจจะทำให้เกิดข้อ
00:22:48 → 00:22:51 อักเสบได้หรือพฤติกรรมนี้ถ้าทำบ่อยๆเสพ
00:22:51 → 00:22:54 ติดบ่อยๆอย่างบางคนชอบหักคอก๊อกแก๊กก๊
00:22:54 → 00:22:56 แก๊กใช่มั้ยครับสิ่งนี้เองอาจจะทำให้สุด
00:22:56 → 00:22:59 ท้ายแล้วข้ออาจจะมีปัญหาได้ดังนั้นเองก็
00:22:59 → 00:23:02 ไม่แนะนำครับถ้าเรามีสติเรารู้ตัวปรับได้
00:23:02 → 00:23:04 ก็ดีกว่าแล้วก็อันนี้คืออยากรู้นะค่ะว่า
00:23:04 → 00:23:07 เออแล้วคนเราเนี่ยควรจะออกกำลังกายทุกวัน
00:23:07 → 00:23:09 มยอย่างที่คุณหมอเคยบอกว่ามันควรจะสม่ำ
00:23:09 → 00:23:12 เสมอสม่ำเสมอเนี่ยความถี่มันคือเท่าไหร่
00:23:12 → 00:23:14 เช่นแบบเ่ออย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง
00:23:14 → 00:23:16 มั้ยหรือว่าอาทิตย์ละ 2 วัน 3 วันความถี่
00:23:16 → 00:23:19 คือเท่าไหร่คะจริงๆแล้วการออกกำลังกายควร
00:23:19 → 00:23:21 จะมีช่วงที่ออกกำลังกายหนักช่วงที่ออก
00:23:21 → 00:23:24 กำลังกายเบาออคือควรจะแบบหรือมีช่วงสลับ
00:23:24 → 00:23:27 กันักใช่ครับดังนั้นผมจะแนะนำเอาตามที่
00:23:27 → 00:23:29 องค์การอันมัยโลกเแนะนำเลยะกันครับอย่าง
00:23:29 → 00:23:32 แรกก็คือการ Aerobic Exercise คือการ
00:23:32 → 00:23:35 ขยับตัวต่อเนื่องให้มีอย่างน้อย 150 นาที
00:23:35 → 00:23:38 ต่อสัปดาห์อ่าต่อสัปดาห์ต่อสัปดาห์ไหว
00:23:38 → 00:23:40 อยู่นะครับคิดว่าต่อวันต่อวันอาจจะนาน
00:23:40 → 00:23:42 เกินไปนะครับซึ่งสิ่งนี้เองเราจะสะสมก็
00:23:42 → 00:23:45 ได้อ่าสมมุติ 30 นาที 5 วันก็ได้แหละแต่
00:23:45 → 00:23:48 ถ้าอยากให้ดีมากขึ้นควรจะถึง 300 นาทีต่อ
00:23:48 → 00:23:50 สัปดาห์อันที่ 2 คือการฝึกยืดเหยียดกล้าม
00:23:51 → 00:23:53 เนื้อการยืดเหยียดกล้ามเนื้อควรทำทุกวัน
00:23:53 → 00:23:55 เพราะเราใช้กล้ามเนื้อทุกวันใช้ตลอดเวลา
00:23:55 → 00:23:57 อันที่ 3 คือการสร้างกล้ามเนื้อการสร้าง
00:23:57 → 00:23:59 กล้ามเนื้อเนี่ยถ้าเราเราต้องการจะยังคง
00:23:59 → 00:24:01 รักษากล้ามเนื้อของเราไว้อย่างน้อย
00:24:01 → 00:24:03 สัปดาห์ละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อยนะครับใน
00:24:03 → 00:24:06 กล้ามเนื้อมัดต่างๆโดยที่สมมุติว่าเราออก
00:24:06 → 00:24:08 กำลังกายกล้ามเนื้อช่วงบนออกกกายกล้าม
00:24:08 → 00:24:10 เนื้อขาช่วงล่างก็อาจจะสลับวันก็ได้แต่
00:24:10 → 00:24:11 อย่างน้อยกล้ามเนื้อแต่ละส่วนควรได้รับ
00:24:11 → 00:24:13 การบริหารอย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์
00:24:13 → 00:24:15 แล้วกล้ามเนื้อมันมีทั้งหมดกี่มัดกี่ส่วน
00:24:15 → 00:24:18 กันคะโอ้โหกล้ามเนื้อมีเยอะมากๆเลยครับ
00:24:18 → 00:24:20 แต่ว่าจริงๆแล้วเราอยากให้โดยเฉพาะผู้สูง
00:24:20 → 00:24:23 อายุนะครับโฟกัสกล้ามเนื้อมัดใหญ่ไว้ซึ่ง
00:24:23 → 00:24:25 อยู่ส่วนไหนของร่างกายอ่ากล้ามเนื้อมัด
00:24:25 → 00:24:27 ใหญ่มัดแรกที่เราคิดว่าสำคัญมากๆคือกล้าม
00:24:27 → 00:24:29 เนื้อแกนกลางลำตัวก็จะมีกล้ามเนื้อท้อง
00:24:29 → 00:24:31 กล้ามเนื้อด้านข้างกล้ามเนื้อหลังใช่มั้
00:24:31 → 00:24:33 ครับซึ่งสิ่งนี้เองอ่ะจะเป็นเหมือนเกราะ
00:24:33 → 00:24:35 ป้องกันกระดูกสันหลังใครที่มีปัญหากระดูก
00:24:35 → 00:24:37 สันหลังเนี่ยส่วนใหญ่เราจะแนะนำให้ไป
00:24:37 → 00:24:39 สร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวนอกจากนั้นนะ
00:24:39 → 00:24:41 ครับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวยังส่งผลต่อ
00:24:41 → 00:24:43 การเดินที่ดีขึ้นด้วยเพราะว่ามันอยู่ตรง
00:24:43 → 00:24:45 กลางใช่ไหมมครับมันก็จะเชื่อมระหว่างแขน
00:24:45 → 00:24:47 กับขาด้วยดังนั้นการใช้แขนใช้ขาของเราก็
00:24:47 → 00:24:50 จะมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นแล้วมันก็จะยัน
00:24:50 → 00:24:52 ตัวของเราให้ตั้งตรงการเดินการทำกิจวัตร
00:24:52 → 00:24:54 ต่างๆมันจะดีขึ้นครับอย่างต่อมาถ้าโดย
00:24:54 → 00:24:56 เฉพาะผู้สูงอายุคือกล้ามเนื้อขากล้าม
00:24:56 → 00:24:59 เนื้อขากล้ามเนื้อขาเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
00:24:59 → 00:25:01 เพราะว่าเราใช้ขาตลอดเวลาหลายครั้งเรามี
00:25:01 → 00:25:04 ปัญหาลุกนั่งเดินขึ้นบันไดลำบากอันนี้อาจ
00:25:04 → 00:25:05 จะเกิดจากกล้ามเนื้อขาไม่แข็งแรงรวมถึง
00:25:05 → 00:25:08 ข้อต่อที่เข่าก็อาจจะไม่แข็งแรงด้วยก็
00:25:08 → 00:25:10 เริ่มเสื่อมแล้วค่ะใช่ครับดังนั้นเองอยาก
00:25:10 → 00:25:12 ให้โฟกัสมีสิ่งที่น่าสนใจก็คือผู้สูงอายุ
00:25:12 → 00:25:14 ส่วนใหญ่จะบ่นว่าตัวเองเหนื่อยง่ายแต่
00:25:14 → 00:25:16 จริงๆแล้วการที่เหนื่อยง่ายอ่ะเกิดจาก
00:25:16 → 00:25:18 กล้ามเนื้อขาไม่แข็งแรงออคือมันคือกล้าม
00:25:18 → 00:25:20 เนื้อขาของเขคไม่แข็งแรงมันทำให้เขครู้
00:25:20 → 00:25:22 สึกว่าเออมันเหนื่อยง่ายใช่ครับเขาบอกว่า
00:25:22 → 00:25:25 กล้ามเนื้อขาเป็นตัวที่ทำให้เพิ่มภาระไป
00:25:25 → 00:25:27 ที่ปอดถ้ากล้ามเนื้อขาไม่แข็งแรงเมื่อ
00:25:27 → 00:25:29 ไหร่อ่ะจะทำให้ปอดของเราอ่ะต้องทำงานหนัก
00:25:29 → 00:25:30 ขึ้นเพราะฉะนั้นเองก็จะทำให้เรารู้สึก
00:25:30 → 00:25:32 เหนื่อยมากกว่าคนที่มีกล้ามเนื้อขาแข็ง
00:25:32 → 00:25:34 แรงมันช่วยทำให้ปอดทำงานหนักขึ้นยังไงนะ
00:25:34 → 00:25:37 แบบเราต้องหายใจแรงขึ้นถี่ขึ้นอย่างเงี้ย
00:25:37 → 00:25:39 หรอคะใช่ครับอย่างเช่นเราขึ้นลงบันไดการ
00:25:39 → 00:25:41 ที่เรามีกล้ามเนื้อขาที่แข็งแรงก็จะทำให้
00:25:41 → 00:25:43 การใช้พลังงานของเราไม่มากการใช้ออกซิเจน
00:25:43 → 00:25:45 ของเราจะไม่มากแต่ถ้าเรามีกล้ามเนื้อขา
00:25:45 → 00:25:47 ไม่แข็งแรงเราอาจจะต้องใช้พลังงานมากขึ้น
00:25:47 → 00:25:49 ใช้ออกซิเจนมากขึ้นอย่างเงี้ยครับปอดของ
00:25:49 → 00:25:51 เราก็จะทำงานหนักมากขึ้นมันก็ส่งผลกระทบ
00:25:51 → 00:25:53 ไปสู่อวัยวะอื่นๆในร่างกายของเราด้วยใช่
00:25:53 → 00:25:55 ครับเมื่อกี้พูดถึงเรื่องการออกกำลังกาย
00:25:55 → 00:25:57 เรื่องความถี่ละที่คุณหมอบอกว่าเออควรจะ
00:25:57 → 00:26:00 เป็น 150 10 นาทีต่อวทีนี้อยากรู้ว่าการ
00:26:00 → 00:26:02 ออกกำลังกายเช้ากับเย็นเนี่ยมันต่างกัน
00:26:02 → 00:26:04 ยังไงแบบว่ามันกระตุ้นสารฮอร์โมนอะไรใน
00:26:04 → 00:26:06 ร่างกายของเราบ้างดีมากครับจริงๆคำถามก็
00:26:06 → 00:26:08 คือว่าเราจะออกกำลังกายช่วงไหนดีกว่ากัน
00:26:08 → 00:26:10 ใช่มั้ครับจริงๆแล้วช่วงที่ดีที่สุดเนี่ย
00:26:10 → 00:26:13 มันขึ้นกับวิถีชีวิตของแต่ละคนบางคนสะดวก
00:26:13 → 00:26:16 ช่วงไหนก็ออกช่วงนั้นนะครับจริงๆช่วงไหน
00:26:16 → 00:26:18 ก็ได้แต่ถ้าถามว่าโดยหลักการแพทย์แล้ว
00:26:18 → 00:26:20 เนี่ยในช่วงเช้าอ่ะเราจะมีฮอร์โมนพวก
00:26:20 → 00:26:22 คอร์ติซอลฮอร์โมนที่กระตุ้นให้เราแบบมี
00:26:22 → 00:26:24 การแคทีเยอะครับเพราะฉะนั้นเองเราก็ควรจะ
00:26:24 → 00:26:27 ออกกำลังกายในเชิงแบบคาร์ดิโอการขยับร่าง
00:26:27 → 00:26:29 กายนะครับก็จะทำให้เรามี Energy มีพลัง
00:26:29 → 00:26:31 มากขึ้นก็อาจจะออกกำลังกายได้ดีได้นาน
00:26:31 → 00:26:33 ขึ้นแล้วก็จะส่งผลให้ทั้งวันน่ะเราจะมี
00:26:33 → 00:26:36 ความสดชื่นกระปี้กระเป๋่าในขณะที่ตอนเย็น
00:26:36 → 00:26:38 นะครับตอนเย็นเนี่ยเราจะมีเรื่องของ
00:26:38 → 00:26:40 เทสโทสเตอโรนที่ค่อนข้างสูงขึ้นซึ่งตัว
00:26:40 → 00:26:42 เนี้ยจะเป็นการที่มาซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
00:26:42 → 00:26:44 ต่างๆของเราใช่มั้ครับเราทำงานทั้งวันเรา
00:26:44 → 00:26:46 ต้องการซ่อมแซมกล้ามเนื้ออยู่และแต่การ
00:26:46 → 00:26:49 ที่เรามาออกกำลังกายก็จะเป็นการช่วยในการ
00:26:49 → 00:26:51 เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแล้ว
00:26:51 → 00:26:53 ได้รับฮอร์โมนในการซ่อมแซ้มกล้ามเนื้อ
00:26:53 → 00:26:55 ด้วยเพราะฉะนั้นส่วนใหญ่ตอนเย็นเราก็แนะ
00:26:55 → 00:26:58 นำให้เท Training หลังจากการทำงานนะนะ
00:26:58 → 00:27:00 ครับแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือใครสะดวกตอน
00:27:00 → 00:27:01 ไหนอ่ะออกกำลังกายดีที่สุดอยู่แล้วครับ
00:27:01 → 00:27:04 ออกตอนไหนก็ได้บางคนเทำงานกะดึกหรือบางที
00:27:04 → 00:27:06 แบบทำงานเลิกมืดเลิกดึกหรือทำงานต้องแบบ
00:27:06 → 00:27:08 ทำงานตอนกลางคืนแล้วก็ต้องมานอนกลางวัน
00:27:08 → 00:27:10 แทนเงี้ยค่ะแล้วเขาจะปรับยังไงดีให้ออก
00:27:10 → 00:27:12 กำลังกายเหมาะสมกับวิถีชีวิตของตัวเองอ่ะ
00:27:12 → 00:27:14 ค่ะอันนี้อาจจะต้องดูก่อนว่าอะไรเป็นข้อ
00:27:14 → 00:27:16 จำกัดของการออกกำลังกายครับอย่างเช่น
00:27:16 → 00:27:19 สมมุติว่าเราตื่นช่วงบ่ายแล้วเรารู้สึก
00:27:19 → 00:27:21 ว่าตอนตื่นมาแล้วเรารู้สึกสดชื่นเราพร้อม
00:27:21 → 00:27:23 เรามีเวลาว่างก็สามารถออกกำลังกายช่วง
00:27:23 → 00:27:25 นั้นได้เลยครับหรือเอาเวลาที่สะดวกเป็น
00:27:25 → 00:27:27 สิ่งที่ดีที่สุดนั่นแหละครับมันจะมีบางคน
00:27:27 → 00:27:29 น่ะค่ะที่เขาอายุยังแบบน้อยๆอยู่เลยยัง
00:27:29 → 00:27:31 ไม่ใช่ผู้สูงอายุด้วยซ้ำอายุแบบยังเป็น
00:27:31 → 00:27:33 วัยรุ่นวัยทำงานบางคนเแบบว่าเนั่งทำงาน
00:27:34 → 00:27:35 โดยเฉพาะพวกสายตัดต่อสายอะไรเงี้ยค่ะแล้ว
00:27:35 → 00:27:38 เครู้สึกว่าเขาปวดหลังแล้วก็บางทีเป็น
00:27:38 → 00:27:40 เด็กแล้วเขาก็รู้สึกแบบมีอาการปวดหลังพอ
00:27:40 → 00:27:42 ไปเช็คดูหมอบอกว่าเฮ้ยเป็นโรคกระดูกสัน
00:27:42 → 00:27:44 หลังคดนะก็เลยอยากถามว่าเออสาเหตุมันเกิด
00:27:44 → 00:27:46 จากอะไรได้บ้างนอกจากการนั่งตัดงานนานๆ
00:27:46 → 00:27:48 แล้วการสที่เราสะพายกระเป๋าข้างเดียวค่ะ
00:27:48 → 00:27:50 เด็กๆชอบสะพายกันน่ะมันส่งผลมั้ยกระดูก
00:27:50 → 00:27:52 สลันคตนะครับส่วนใหญ่เขจะแบ่งอยู่ทั้งหมด
00:27:52 → 00:27:55 2 อย่างอย่างแรกคือเกิดตั้งแต่ตอนที่เรา
00:27:55 → 00:27:57 กำเนิดมาเลยเป็นสิ่งที่เกิดมาแล้วเป็น
00:27:57 → 00:27:59 ความผกติประจำของเราอยู่แล้วมันจะเป็น
00:27:59 → 00:28:02 องศาที่ไม่เยอะส่วนใหญ่หมอจะดูว่าองศา
00:28:02 → 00:28:04 เยอะหรือน้อยยังไงเนาะถ้าองศาเยอะก็จะมี
00:28:04 → 00:28:06 วิธีว่าต้องออกกำลังกายต้องใส่ชุดเกราะ
00:28:06 → 00:28:08 หรือต้องผ่าตัดและอีกส่วนหนึงก็เกิดจาก
00:28:08 → 00:28:11 การที่กล้ามเนื้อของเราไม่สมดุลกล้าม
00:28:11 → 00:28:12 เนื้อของเราเนี่ยจะมีจุดเกราะอยู่ที่
00:28:12 → 00:28:14 กระดูกอยู่แหละทีเนี้ยถ้ากล้ามเนื้อเรา
00:28:14 → 00:28:16 ไม่สมดุลข้างนึงตึงไปอีกข้างนึงหย่อนไป
00:28:16 → 00:28:18 ใช่มั้ยครับก็อาจจะทำให้เกิดภาวะของ
00:28:18 → 00:28:21 กระดูกสนทดได้อย่างเช่นไหล่ไม่เท่ากันดัง
00:28:21 → 00:28:24 นั้นเองก็ให้มาลองดูก่อนว่า 1 มันเกิดจาก
00:28:24 → 00:28:26 พฤติกรรมมหรืออัน 2 เราอาจจะมีอยู่แล้ว
00:28:26 → 00:28:29 ซึ่งถ้าเกิดจากพฤติกรรมก็ต้องไปแก้ที่การ
00:28:29 → 00:28:31 บริหารการสร้างกล้ามเนื้อให้สมดุลสมมุติ
00:28:31 → 00:28:35 บางคนไหล่เอียงข้างที่สูงแปลว่าบ่าจะตึง
00:28:35 → 00:28:37 แต่กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างจะหย่อนแต่อีก
00:28:37 → 00:28:39 ข้างนึงก็จะต่างกันกล้ามเนื้อบ่าจะหย่อน
00:28:39 → 00:28:40 แต่กล้ามเนื้อหลังส่วนล่างจะตึงเพราะ
00:28:40 → 00:28:42 ฉะนั้นก็จะทำให้บุคลิกของเราก็จะเอียง
00:28:42 → 00:28:44 อย่างเงี้ยอ๋อบุคลิกมันก็ไม่ดีใช่ครับก็
00:28:44 → 00:28:47 อาจจะมีภาวะที่คล้ายๆกระดูกสลังคดได้ดัง
00:28:47 → 00:28:49 นั้นเองเราก็ต้องมาปรับสมดุลของกล้าม
00:28:49 → 00:28:50 เนื้อครับการถือของก็เหมือนกันแปลว่าเรา
00:28:50 → 00:28:52 ใช้กล้ามเนื้อด้านนึงเยอะก้าเหด้านนึง
00:28:52 → 00:28:54 น้อยดังนั้นเราก็ต้องมาปรับให้ทั้ง 2
00:28:54 → 00:28:57 ด้านน่ะานหลักๆคือเราก็ต้องสำรวจตัวเอง
00:28:57 → 00:28:58 ก่อนแล้วถ้ายังไม่มั่นใจก็ค่อยไปตรวจเช็ค
00:28:59 → 00:29:01 ว่าเอ้ยเราเป็นมาตั้งแต่แรกหรือเปล่าส่วน
00:29:01 → 00:29:04 ใหญ่กระดูกสนังคดอ่ะไม่ทำให้เกิดอาการอ๋อ
00:29:04 → 00:29:05 ไม่เกิดอาการเราไม่รู้ด้วยเหรอคะ่ใหญ่ส่ว
00:29:05 → 00:29:06 ใหญ่เราก็ไม่รู้หรอกครับเราจะเจอโดย
00:29:06 → 00:29:09 บังเอิญมากกว่าอย่างเช่นไปเซเรย์ปอดแล้ว
00:29:09 → 00:29:11 เจอหรือว่าแบบไปตรวจร่างกายประจำปีแล้ว
00:29:11 → 00:29:13 เจอแต่จริงๆแล้วกระดูกสันหลันโคดไม่ได้
00:29:13 → 00:29:15 เกิดอาการถ้ามันไม่มากพอครับแต่ส่วนใหญ่
00:29:16 → 00:29:18 ถ้ามันมากพอเนี่ยเราจะแค่มองแล้วก็รู้ละ
00:29:18 → 00:29:20 ถ้ามันไม่เกิดอาการก็แสดงว่ามันไม่ได้ส่ง
00:29:20 → 00:29:22 ผลเสียต่อร่างกายเราหรือเปล่าคะจริงๆแล้ว
00:29:22 → 00:29:25 มันไม่ได้ส่งผลเสียต่อร่างกายเราเท่าไหร่
00:29:25 → 00:29:28 ครับยกเว้นกระดูกสคตที่เกิดจากความเสื่อม
00:29:28 → 00:29:31 ที่เราใช้งานกันมานานละบางคนผู้สูงอายุ
00:29:31 → 00:29:33 อ่ะตอนเด็กๆตรงเลยนะครับแต่พอมันเสื่อม
00:29:33 → 00:29:36 เนี่ยมันหลวมมันก็เลยคดซึ่งอันนี้อาจจะ
00:29:36 → 00:29:38 เป็นคนและกรณีละอันนี้อาจจะเกิดปัญหาได้
00:29:38 → 00:29:40 อย่างงี้เราก็ต้องไปรักษาหรือว่าปรับ
00:29:40 → 00:29:42 พฤติกรรมยังไงบ้างคะถ้าอย่างนี้เองเราก็
00:29:42 → 00:29:45 จะรักษาเหมือนคนที่เป็นโรคกระดูกสหลัง
00:29:45 → 00:29:46 เสื่อมเพราะฉะนั้นเราก็ต้องมาเข้าสู่
00:29:46 → 00:29:48 กระบวนการรักษาการดูแลล่ะแต่ว่าในเด็กวัย
00:29:48 → 00:29:51 รุ่นส่วนใหญ่อ่ะที่กระดูกสหลังคดอ่ะมักจะ
00:29:51 → 00:29:53 ไม่ได้มีปัญหาครับส่วนใหญ่อาจจะเจอโดย
00:29:53 → 00:29:55 บังเอิญหรือว่าแบบเรารู้สึกกังวลแล้วไป
00:29:55 → 00:29:57 ตรวจมากกว่าอย่างคนที่เป็นมาตั้งแต่
00:29:57 → 00:29:59 กำเนิดอ่ะค่ะเป็นกระดูกสคตมาตั้งแต่เกิด
00:29:59 → 00:30:01 เลยอย่าเงี้ยเราจะมีวิธีการแบบว่ารักษา
00:30:01 → 00:30:03 หรือปรับแห้งกลับมาเป็นปกติได้มมคะ 1 คือ
00:30:03 → 00:30:05 เราจะดูก่อนว่ากระดูกสนังคตนั้นน่ะมันมี
00:30:05 → 00:30:08 การคดแบบยึดติดหรือว่ายึดหยุ่นครับอ๋อมัน
00:30:08 → 00:30:11 ก็มีอีกหลายแบบอีกใช่ซึ่งถ้ามันยึดติด
00:30:11 → 00:30:12 แล้วเนี่ยอันนี้ก็จะอาจจะแก้ยากแต่ว่า
00:30:12 → 00:30:14 ส่วนใหญ่ถ้ามันยึดหยุ่นน่ะครับการออก
00:30:14 → 00:30:16 กำลังกายการบริหารก็คือหนึ่งในกระบวนการ
00:30:16 → 00:30:19 รักษาอยู่แล้วโดยเฉพาะคนที่กระดูกสนังคด
00:30:19 → 00:30:21 ไม่เยอะเราก็จะแนะนำให้ไปออกกำลังกายให้
00:30:22 → 00:30:24 กล้ามเนื้อมันสมดุลก็จะมีโอกาสช่วยให้
00:30:24 → 00:30:26 กระดูกสคตดีขึ้นส่วนใหญ่หลังค่อมอ่ะไม่
00:30:26 → 00:30:28 ค่อยเกิดในเด็กเท่าไหร่ครับใหหลังค่อมน่ะ
00:30:28 → 00:30:30 จะเกิดในผู้สูงอายุมากกว่ามักจะเกิดาก
00:30:30 → 00:30:32 กระดูกสันหลังยุบกระดูกสั่นหลังพุนมาละ
00:30:32 → 00:30:35 นานๆแล้วไม่รู้ตัวไปประสบอุบัติเหตุก็ทำ
00:30:35 → 00:30:36 ให้กระดูกสันหลังยุบครับซึ่งอันเนี้ยหลัง
00:30:37 → 00:30:39 ค่อมแบบเนี้ยส่วนใหญ่จะแก้ยากละเพราะมัน
00:30:39 → 00:30:41 เกิดที่กระดูกแล้วก็เกิดจากแบบความชรา
00:30:41 → 00:30:43 เนาะแต่หลังค่อมอย่างที่บอกไปอีกอย่างนึง
00:30:43 → 00:30:45 ก็คือเกิดจากพฤติกรรมของเราที่มีกล้าม
00:30:45 → 00:30:48 เนื้อด้านหน้าตึงกล้ามเนื้อด้านหลังหย่อน
00:30:48 → 00:30:50 ก็เลยห่อมาทำให้เหมือนหลังคอมอันนี้ก็จะ
00:30:50 → 00:30:52 เป็นอีกกรณีนึงนะครับก็จะเป็นหลังค่อมจาก
00:30:52 → 00:30:54 การทำงานเท่าที่ฟังคุณหมอพูดมาเนี่ยก็คือ
00:30:54 → 00:30:57 จะเห็นถึงความสำคัญของการดูแลรักษาร่าง
00:30:57 → 00:30:58 กายในเรื่องของการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
00:30:59 → 00:31:00 กับกระดูกมากเลยรู้สึกว่ามันต้องเป็นอะไร
00:31:00 → 00:31:03 ที่เราต้องดูแลไปควบคู่กันมากๆเลยใช่มั้ย
00:31:03 → 00:31:04 งั้นถ้าสมมติคุณหมออยากจะแนะนำคนทางบ้าน
00:31:04 → 00:31:06 หรือว่าแนะนำคุณผู้ฟังที่ฟังอยู่เนี่ยค่ะ
00:31:06 → 00:31:09 ว่าเอองั้นเราควรสมมุติว่าเราจะเริ่มใน
00:31:09 → 00:31:11 การดูแลสุขภาพเราแหละควรจะเน้นที่กล้าม
00:31:11 → 00:31:13 เนื้อมัดไหนเป็นพิเศษก่อนสำหรับการเริ่ม
00:31:13 → 00:31:16 ต้นได้ครับจริงๆแล้วอยากแนะนำว่าควรออก
00:31:16 → 00:31:19 กำลังกายทุกมัดนะครับแต่หลายๆคนเนี่ยอาจ
00:31:19 → 00:31:21 จะทำได้ยากแนะนำท่านึงถ้าสมมุติเป็นผู้
00:31:22 → 00:31:23 สูงอายุนะครับหรือว่าเราดูแลผู้สูงอายุ
00:31:23 → 00:31:25 อยู่อ่ะครับผมมีท่านึงที่ผมคิดว่าสำคัญ
00:31:26 → 00:31:28 แล้วก็ได้กล้ามเนื้อเยอะอ่าก็คือสมสมมุติ
00:31:28 → 00:31:29 ว่าเรานั่งเก้าอี้อยู่นะครับเราเอามือจับ
00:31:29 → 00:31:32 โต๊ะไว้แค่นี้นะครับแล้วเราค่อยๆให้ผู้
00:31:32 → 00:31:36 สูงอายุยืนขึ้นช้าๆครับหลังจากนั้นเราหาย
00:31:36 → 00:31:38 ใจเข้าหายใจออกก่อนเพื่อป้องกันหน้ามืดนะ
00:31:38 → 00:31:41 ครับแล้วหลังจากนั้นค่อยๆย่อก้นลงไปให้
00:31:41 → 00:31:43 ให้ใกล้เก้าอี้นะครับแต่ยังไม่ลงนะครับ
00:31:43 → 00:31:45 แล้วก็ค่อยๆปล่อยเรื่อยๆแล้วค่อยๆนั่งลง
00:31:45 → 00:31:48 เราจะสังเกตเห็นนะครับว่าตอนเเราใช้กล้าม
00:31:48 → 00:31:50 เนื้อ 1 คือใช้กล้ามเนื้อท้องกล้ามเนื้อ
00:31:50 → 00:31:52 แกนกลางลำตัวเพื่อทำให้ตัวตั้งตรงอันที่ 2
00:31:52 → 00:31:55 ใช้กล้ามเนื้อก้นกล้ามเนื้อสะโพกกล้าม
00:31:55 → 00:31:57 เนื้อขาในการยันตัวขึ้นแล้วตอนที่เราเก็ง
00:31:57 → 00:31:59 ตัวลงมาแล้วก็ใช้กล้ามเนื้อขาเหมือนกันใน
00:31:59 → 00:32:02 การค่อยๆทำให้ก้นลงมาหย่อนอันนี้มันก็คือ
00:32:02 → 00:32:04 เราได้ใช้กล้ามเนื้อเกือบทุกมัดของร่าง
00:32:04 → 00:32:06 กายเลยเกือบทุกดใช่ครับซึ่งผมคิดว่าในผู้
00:32:06 → 00:32:08 สูงอายุอ่ะถ้าคิดท่าออกกำลังกายไม่ออก
00:32:08 → 00:32:11 อย่างน้อยทำท่านี้เพราะมันปลอดภัยแล้วมัน
00:32:11 → 00:32:13 ได้บริหารกล้ามเนื้อไหลมัดครับก็คือลุก
00:32:13 → 00:32:16 นั่งลุกนั่งแต่ว่าทำช้าๆใช่ใช่สำคัญคือ
00:32:16 → 00:32:19 ต้องทำช้าๆจะได้กล้ามเนื้อครับสำหรับบาง
00:32:19 → 00:32:21 คนน่ะค่ะที่แบบว่าเอ่อมีผู้สูงอายุหรือมี
00:32:21 → 00:32:23 ผู้ป่วยที่บ้านเป็นพวกแบบประเภทกล้าม
00:32:23 → 00:32:25 เนื้ออ่อนแรงหรืออะไเงี้ยค่ะคำว่าออก
00:32:25 → 00:32:26 กำลังกายในความหมายของเขาเนี่ยมันก็คือ
00:32:26 → 00:32:29 การที่เราทำกายภาพบำบัติให้ถูกมั้ยคะ
00:32:29 → 00:32:31 คล้ายๆกันครับแต่ว่าไม่เหมือนกันนะครับ
00:32:31 → 00:32:33 ถ้าคุณไม่ออกกำลังกายสุดท้ายต้องไปกายภาพ
00:32:33 → 00:32:36 บำบัดอ่ามันมันไม่เหมือนกันยังไงคะอ่า
00:32:36 → 00:32:39 จริงๆแล้วการกายภาพบำบัดอ่ะครับเป็นการเา
00:32:39 → 00:32:41 เรียกว่าการฟื้นฟูสมมุติว่าร่างกายคนเรา
00:32:41 → 00:32:44 อ่ะคือปกติคือ0นถ้าเราร่างกายแข็งแรงคือ
00:32:44 → 00:32:46 เราบวกใช่มั้ยครับ + 5 + 10 เนาะแต่
00:32:46 → 00:32:48 วันที่เราป่วยหรือเรามีปัญหาสุขภาพเราจะ
00:32:48 → 00:32:50 ติดลบการกายภาพบำบัดส่วนใหญ่เราจะเน้น
00:32:50 → 00:32:52 เพื่อให้เรากลับมาอยู่ที่ 0 ได้คือกลับไป
00:32:52 → 00:32:55 ใช้ชีวิตปกติได้แต่การออกกำลังกายเนี่ยจะ
00:32:55 → 00:32:57 เป็นการที่ไม่ใช่แค่ 0 แต่จะไปถึงบวกคือ
00:32:57 → 00:33:00 คือคุณจะต้องมีสุขภาพที่ดีกว่าปกติดัง
00:33:00 → 00:33:02 นั้นเองอันเนี้ยคือเรื่องของการออกกำลัง
00:33:02 → 00:33:04 กายคือการที่ทั้งป้องกันโรคส่งเสริม
00:33:04 → 00:33:06 สุขภาพถ้าจะพูดง่ายๆก็คือการกายภาพคือการ
00:33:06 → 00:33:09 ฟื้นฟูครับแต่ว่าการออกกำลังกายเนี่ยจะ
00:33:09 → 00:33:11 เป็นการสร้างเสริมแต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้น
00:33:11 → 00:33:13 ก็จะมีคำใหม่นะครับก็คือ medical
00:33:13 → 00:33:15 Exercise อันเนี้ยเราจะมองในมุมของการ
00:33:15 → 00:33:18 ปิด Gap ระหว่างการกายภาพกับการออกกำลกาย
00:33:18 → 00:33:20 ก็คือเราจะต้องมาฟื้นฟูได้แล้วก็ไปสร้าง
00:33:20 → 00:33:23 เสริมอีกอ๋อก็คือเป็นทั้งกระบวนการเลย
00:33:23 → 00:33:24 เป็นทั้งกระบวนการครับอันนี้คือ medical
00:33:24 → 00:33:26 Exercise แล้วก็เป็นจุดที่ทำให้เห็นความ
00:33:26 → 00:33:29 แตกต่างของกายภาพกับการออกกำลังกายที่มาก
00:33:29 → 00:33:32 ขึ้นแล้วอย่างเงี้ค่ะช่องของคุณหมอค่ะมี
00:33:32 → 00:33:35 วิธีการสอนกายภาพง่ายๆหรือว่าการ่าขยับ
00:33:35 → 00:33:37 ร่างกายออกกำลังกายง่ายๆของผู้สูงอายุ
00:33:37 → 00:33:39 ด้วยยคะอ๋อแน่นอนเลยครับเพราะว่าจริงๆ
00:33:39 → 00:33:41 แล้วเราตั้งใจทำมาเพื่อผู้สูงอายุเป็น
00:33:41 → 00:33:43 หลักครับทีนี้คือเราอ่ะต้องการทำให้ผู้
00:33:43 → 00:33:46 สูงอายุในยุคต่อไปอ่ะเป็นผู้สูงอายุยุค
00:33:46 → 00:33:48 ใหม่ครับเพราะว่าทุกวันนี้เราเป็นเด็ก
00:33:48 → 00:33:50 รุ่นใหม่ใช่ไหมมครับเราก็อยากทำอะไรใหม่ๆ
00:33:50 → 00:33:52 แต่ว่าในอดีตที่ผ่านมาเราไม่เคยเห็นคนที่
00:33:52 → 00:33:55 สูงอายุแล้วมีความฟิตมีความแข็งแรงเลยแต่
00:33:55 → 00:33:57 ความเป็นจริงอ่ะผมมองว่าในอนาคตอ่ะถ้าเรา
00:33:57 → 00:34:00 สามารถช่วยกระจายความรู้ให้คนอรวมถึงผม
00:34:00 → 00:34:02 เองก็พยายามจะเอาการออกกำลังกายที่เป็น
00:34:02 → 00:34:04 เหมือนช่องว่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนมา
00:34:04 → 00:34:06 ทำให้กับผู้สูงอายุครับเพื่อสุดท้ายแล้ว
00:34:06 → 00:34:08 อ่ะผู้สูงอายุยุคใหม่ในอนาคตอ่ะจะมี
00:34:08 → 00:34:10 สุขภาพที่แข็งแรงกว่าที่เขาเคยเห็นบางที
00:34:11 → 00:34:13 เราอาจจะเห็นคนอายุ 90 ปีมาโหนบามาแพลงค์
00:34:13 → 00:34:15 ให้ดูก็ได้นะครับซึ่งตรงเนี้ยสมัยก่อนเรา
00:34:15 → 00:34:18 ทำไม่ได้แน่นอนแต่ปัจจุบันน่ะด้วยทุกคน
00:34:18 → 00:34:20 ช่วยกันด้วยความรู้ด้วยนวัตกรรมอ่ะครับผม
00:34:20 → 00:34:22 คิดว่าในอนาคตอ่ะเราจะได้เห็นแล้วถ้าวัน
00:34:22 → 00:34:25 เนี้ยเราเป็นคนที่อายุน้อยแลยังไม่ได้ใส่
00:34:25 → 00:34:28 ใจสุขภาพอ่ะครับระวังเราจะสู้คนยุคเก่า
00:34:28 → 00:34:30 ที่อายุเยอะขึ้นแต่เขาหันมาใส่ใจสุขภาพ
00:34:30 → 00:34:32 ไม่ได้นะครับอ่าอันนี้เองก็จะเป็นจุดนึง
00:34:32 → 00:34:34 ที่เราคิดว่าเป็นสิ่งที่เราอยากให้เกิด
00:34:34 → 00:34:36 ขึ้นเพราะฉะนั้นเองในช่องของเราอ่ะก็จะ
00:34:36 → 00:34:39 พยายามทำเรื่องของการออกกำังกายเพื่อแก้
00:34:39 → 00:34:40 โรคด้วยอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็นการออกกำลัง
00:34:40 → 00:34:42 กายเพื่อทำให้ร่างกายเราแข็งแรงแลเราก็
00:34:42 → 00:34:45 ต้องการจะแก้สมการว่าคนที่ออกกำลังกาย
00:34:45 → 00:34:47 เนี่ยอยากให้ถึง 100 ปีได้จริงเอาจริงๆ
00:34:47 → 00:34:48 เด็กในวันนี้ไวรุในวันนี้เดี๋ยวก็กลายไป
00:34:49 → 00:34:50 เป็นคนแก่ในวันข้างหน้าเหมือนกันนั่นแหละ
00:34:50 → 00:34:52 ก็เลยแบบควรจะใส่ใจเรื่องสุขภาพเป็นหลัก
00:34:52 → 00:34:54 นะคะเด็กรุ่นใหม่ในวันนี้ก็ต้องเป็นผู้
00:34:54 → 00:34:56 สูงอายุยุคใหม่ในวันข้างหน้าด้วยครับใช่
00:34:56 → 00:34:58 สักวันเราก็ต้องแก่แต่ว่าแกะยังไงให้มี
00:34:58 → 00:35:00 คุณภาพอันนั้นคือคีย์เวิร์ดใช่ใช่ครับ
00:35:00 → 00:35:02 เพราะว่าชีวิตจริงสมมุติเราถามว่าคนอยาก
00:35:02 → 00:35:06 อายุถึง 80 90 100 มั้ยผมเชื่อเลย 99%
00:35:06 → 00:35:08 นะครับถ้าเราไปถามอ่ะไม่มีใครยกมือเพราะ
00:35:08 → 00:35:11 ว่าเข้ายังติดภาพว่า 90 เป็นอัลไซเมอร์จะ
00:35:11 → 00:35:13 กินก็ไม่ได้กินจะนอนก็ไม่ได้นอนแต่ผมมอง
00:35:13 → 00:35:15 ว่าจริงๆแล้วถ้าเรามีตัวอย่างให้เห็นเยอะ
00:35:15 → 00:35:17 ขึ้นเยะขึ้นในอนาคตอ่ะครับอีก 10 ปี 20
00:35:17 → 00:35:20 ปีข้างหน้าคนจะยกมือที่จะอยู่ 90 -1 โดย
00:35:20 → 00:35:22 ที่เขาจะเห็นว่ามีสุขภาพที่ดีขึ้นพอ
00:35:22 → 00:35:24 สุขภาพมันดีแล้วมันก็อยากจะมีชีวิตอยู่ไป
00:35:24 → 00:35:26 ยาวๆเพื่อทำสิ่งที่มีประโยชน์ถูกมั้ยคะ
00:35:26 → 00:35:28 แต่ถ้าสมมุติว่าแก่แล้วป่วยง่ายนู่นนี่
00:35:28 → 00:35:30 นั่นก็คงไม่มีใครอยากอยู่ถึงอายุ 100 ปี
00:35:30 → 00:35:32 ใช่ครับสิ่งที่ผู้สูงอายุกลัวมากที่สุด
00:35:32 → 00:35:34 คือกลัวเป็นภาระลูกหลานเราสามารถไม่เป็น
00:35:34 → 00:35:37 ภาระได้นะครับแลเราอาจจะช่วยดูแลลูกหลาน
00:35:37 → 00:35:38 ได้ด้วยนะครับเพราะฉะนั้นเองผมอยากให้มอง
00:35:38 → 00:35:40 ว่าตรงเนี้ยมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีคือคน
00:35:40 → 00:35:42 สมัยเนี้ยจะสังเกตได้ว่าเวลาที่เรามี
00:35:42 → 00:35:44 อาการแพนิคหรือว่าเราตกใจหรือเรากลัวอะไร
00:35:44 → 00:35:46 มากๆเราจะหายใจสั้นเราจะหายใจแล้วมันก็จะ
00:35:46 → 00:35:48 เหนื่อยง่ายทีนคุณหมอมีวิธีการฝึกการหาย
00:35:48 → 00:35:50 ใจยังไงบ้างเพื่อให้แบบมันหายใจได้ยาว
00:35:50 → 00:35:52 ขึ้นลึกขึ้นแล้วดีต่อสุขภาพมากขึ้นอ่ะค่ะ
00:35:52 → 00:35:55 จริงๆแล้วการฝึกการหายใจอ่ะเป็นกระบวนการ
00:35:55 → 00:35:57 นึงที่สำคัญมากๆนะครับคือหลายๆครั้งพานิค
00:35:57 → 00:35:59 เนี่ยเนี่ยเกิดจากความเครียดหรือว่าภาวะ
00:35:59 → 00:36:02 ทางจิตนะจริงๆแล้วมันอาจจะต้องมาแก้ที่
00:36:02 → 00:36:05 จิตใจของเราเช่นการทำสมาธิก็จะเป็นการแก้
00:36:05 → 00:36:07 ที่จิตใจอย่างนึงแต่การทำสมาธิร่วมกับการ
00:36:07 → 00:36:10 ฝึกการหายใจก็จะได้ทั้งเรื่องของการฝึก
00:36:10 → 00:36:13 สมาธิแล้วก็ได้เรื่องสุขภาพด้วยเราก็จะ
00:36:13 → 00:36:15 แนะนำว่าให้เริ่มจากการยืนหลังตรงอยู่ใน
00:36:15 → 00:36:18 ท่าสบายนะครับหลังจากนั้นเราหายใจเข้าลึก
00:36:18 → 00:36:21 ๆเอามือวางไว้ที่พุงก็ได้ครับให้พ้องป่อง
00:36:21 → 00:36:24 ข้นมาหลังจากนั้นหายใจออกอืยาวๆนะครับทาง
00:36:24 → 00:36:28 จมูกนะครับทำอย่างนี้บ่อยๆก็จะช่วทั้งฝึก
00:36:28 → 00:36:31 การหายใจก็ฝึกสมาธิด้วยซึ่งการฝึกการหาย
00:36:31 → 00:36:33 ใจอนอกจากจะทำให้ปอดของเราขยายมากขึ้น
00:36:33 → 00:36:35 แล้วยังส่งผลทำให้การแลกเปลี่ยนออกซิเจน
00:36:35 → 00:36:37 ในปอดดีขึ้นด้วยก็จะทำให้เรามีพลังงานมาก
00:36:37 → 00:36:39 ขึ้นด้วยนะครับซึ่งเราพบว่าหลายๆครั้งผู้
00:36:39 → 00:36:43 สูงอายุอ่ะมักจะมีภาวะปอดแฟบอ๋อปอดแฟบอ่า
00:36:43 → 00:36:45 ก็คือปอดไม่ถูกขยายเพียงพอเนื่องด้วย
00:36:45 → 00:36:48 กล้ามเนื้อรอบปอดของเราเนี่ยอ่อนแอลงอ่อน
00:36:48 → 00:36:50 แอลงตามอายุก็จะทำให้ปอดของเราก็ทำงานได้
00:36:50 → 00:36:52 ไม่ดีอยู่แล้วดังนั้นการที่เรามาฝึกทุก
00:36:52 → 00:36:54 อย่างไปด้วยกันเนี่ยผมเชื่อว่ากายก็ดีใจ
00:36:54 → 00:36:57 ก็ดีนะครับสุขภาพก็ดีก็ส่งผลดีต่อชีวิตใน
00:36:57 → 00:37:01 ระยะยาวแน่นอนใช่ครับส่งผลทำให้เราก็ทำ
00:37:01 → 00:37:03 อะไรก็ไม่มีอุปสรรคครับคือเราก็จะอายุยืน
00:37:03 → 00:37:05 100 ปีไปด้วยกันนะคะคือการที่เราแบบว่า
00:37:05 → 00:37:07 ยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนนอนแล้วก็ฝึก
00:37:07 → 00:37:09 กำหนดลมหายใจของเราอย่างเงี้ค่ะแบบว่า
00:37:09 → 00:37:11 ก่อนที่เราจะนอนหลับไปมันช่วยให้เราตื่น
00:37:11 → 00:37:13 มาด้วยความรู้สึกที่มันรีเฟรชแล้วก็สด
00:37:13 → 00:37:16 ชื่นมากขึ้นมยคะเวลาที่เรายืดเกียดกล้าม
00:37:16 → 00:37:19 เนื้อจะทำให้ 1 เราผ่อนคลายอันที่ 2 คือ
00:37:19 → 00:37:21 สติของเราก็มาสมาธิของเราก็มานะครับนั่น
00:37:21 → 00:37:24 ก็ส่งผลให้การนอนหลับของเราอ่ะมีคุณภาพ
00:37:24 → 00:37:26 มากขึ้นร่างกายเราถูกใช้งานทั้งวันกล้าม
00:37:26 → 00:37:28 เนื้อเราก็ตึงหมดเลยยืดเหกำนนก่อนนอนก็ทำ
00:37:28 → 00:37:30 ให้เรานอนหลับได้สบายมากขึ้นเราก็มีโอกาส
00:37:30 → 00:37:33 ที่จะหลับลึกหรือว่าหลับได้มีคุณภาพที่ดี
00:37:33 → 00:37:35 ขึ้นนั่นก็ส่งผลทำให้ตอนที่เราตื่นเช้ามา
00:37:35 → 00:37:37 ก็จะทำให้ร่างกายของเราน่าจะสดชื่นขึ้น
00:37:37 → 00:37:39 ถ้าไม่มีเวลาทั้งวันเลยแบบอยากทำสมาธิแต่
00:37:39 → 00:37:42 ไม่มีเวลาก็ทำก่อนนอนได้เช่นกันใช่ครับมา
00:37:42 → 00:37:44 ทำก่อนนอนก็ได้แล้วก็การยึดเหยียดก็ควรทำ
00:37:44 → 00:37:47 ทั้งก่อนนอนแล้วตื่นเช้ามาก็ทำอีกรอบนึง
00:37:47 → 00:37:49 ครับเพราะว่าระหว่างที่เรานอนบางครั้งเรา
00:37:49 → 00:37:51 ก็อาจจะมีท่าทางที่ไม่ถูกต้องกล้ามเนื้อ
00:37:51 → 00:37:53 ของเราก็อาจจะไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับวัน
00:37:53 → 00:37:55 ใหม่สมมุติว่าเราทำงานมาทั้งวันเรา
00:37:55 → 00:37:57 เหนื่อยมากแล้วแล้วก็ไม่มีเวลากำลังกาย
00:37:57 → 00:37:59 เลยแล้วเราแบบควรจะยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
00:37:59 → 00:38:02 ก่อนนอนมยหรือยังไงบ้างแล้วก็เวลาเราตื่น
00:38:02 → 00:38:04 นอนตอนเช้าเค่ะบางทีเราไม่สดชื่นเราก็จะ
00:38:04 → 00:38:06 งัวเงียไปทั้งวันเลยในการทำงานคุณหมอมี
00:38:06 → 00:38:08 วิธีแนะนำยังไงบ้างเพื่อให้เราแบบสดชื่น
00:38:08 → 00:38:11 ขึ้นหลังจากที่เราตื่นนอนมาบ้างคะสำหรับ
00:38:11 → 00:38:13 คนที่ไม่มีเวลานะครับผมอยากให้ทุกคนมีการ
00:38:14 → 00:38:16 ชาร์จพลังหลังจากทำงานและเติมพลังก่อน
00:38:16 → 00:38:18 เริ่มทำงานตอนที่เราทำงานมาทั้งวันหรือทำ
00:38:18 → 00:38:21 กิจกรรต่างๆอครับเราอาจจะเจอปัญหาศัก
00:38:21 → 00:38:23 พรรดิเนผมแนะนำว่าตอนก่อนนอนหรือใกล้นอน
00:38:23 → 00:38:26 น่ะให้ออกกำลังกายเบาๆโดยเฉพาะการยืด
00:38:26 → 00:38:28 เหยียดก้ามเนื้อการเยยกล้ามเนื้อก็จะเป็น
00:38:28 → 00:38:31 ทั้งการผ่อนคลายแล้วก็การทำให้จิตใจเราดี
00:38:31 → 00:38:33 ขึ้นด้วยก็เหมือนการชาร์จพลังมาจากที่เ
00:38:33 → 00:38:35 เหนื่อยมาทั้งวันแล้วตอนตื่นเช้าเราต้อง
00:38:35 → 00:38:37 พร้อมที่จะออกไปทำกิจกรรมใหม่ๆซึ่งเราอาจ
00:38:37 → 00:38:38 จะเจอปัญหาหรืออุปสรรคอย่างไรก็แล้วแต่
00:38:39 → 00:38:40 แต่ถ้าเราเตรียมตัวให้เราดีและเรามั่นใจ
00:38:41 → 00:38:42 และเราสดชื่นน่ะผมเชื่อว่าเราจะผ่านสิ่ง
00:38:42 → 00:38:45 ต่างๆได้ผมก็จะแนะนำว่าตอนเช้าๆขอให้มี
00:38:45 → 00:38:47 การขยับร่างกายสักเล็กน้อยให้มีการ
00:38:47 → 00:38:49 กระตุ้นให้มีการไหลเวียนเลือดที่ดีครับ
00:38:49 → 00:38:52 แล้วผมเชื่อว่าทุกท่านจะสดชื่นมากขึ้นและ
00:38:52 → 00:38:54 มีพลังงานที่จะพร้อมที่จะไปรับมือกับ
00:38:54 → 00:38:56 กิจวัตรประจำวันของเราแน่นอนครับซึ่งวัน
00:38:56 → 00:38:59 นี้นะคะเราก็ก็อยู่กันกับคุณหมอเคนค่ะ
00:38:59 → 00:39:02 สวัสดีค่ะคุณหมอสวัสดีครับสวัสดีครับค่ะ
00:39:02 → 00:39:04 ซึ่งคุณหมอเคนนะคะก็เป็นหมอจากเพจหมอชวน
00:39:04 → 00:39:06 ฟิตเช่นเดียวกับคุณหมอเฟมเมื่อ Ep ที่
00:39:06 → 00:39:09 แล้วนะคะคนแต่ละช่วงวัยอ่ะค่ะไม่ว่าจะ
00:39:09 → 00:39:11 เป็นเด็กวัยรุ่นหรือว่าผู้สูงอายุเงี้ย
00:39:11 → 00:39:14 ค่ะแต่ละคนมีวิธีการออกกำลังกายหรือว่าดู
00:39:14 → 00:39:16 แลบุคลิกภาพที่แตกต่างกันมากน้อยยังไงคะ
00:39:16 → 00:39:19 จริงๆต้องบอกก่อนว่าในแต่ละวัยก็มีช่วง
00:39:19 → 00:39:21 อายุที่แตกต่างกันออกไปก็จะสัมพันธ์กับ
00:39:21 → 00:39:24 อ่ากิจวัตรประจำวันที่เราทำกันตั้งแต่วัย
00:39:24 → 00:39:25 เด็กวัยรุ่นวัยทำงานหรือว่าผู้สูงอายุ
00:39:25 → 00:39:28 เนาะเพราะฉะนั้นจะทำให้บุคภาพในแต่ละวัย
00:39:28 → 00:39:30 เนี่ยแตกต่างกันอยู่แล้วครับแล้วก็มีข้อ
00:39:30 → 00:39:31 ควรระวังที่แตกต่างกันออกไปยกตัวอย่าง
00:39:32 → 00:39:33 เช่นวัยเด็กตั้งแต่เริ่มตั้งแต่วัยทารก
00:39:33 → 00:39:35 เลยแล้วกันครับหมอกุมารเวชหลายๆท่านอาจจะ
00:39:35 → 00:39:38 ไม่แนะนำให้ใช้ล้อฝึกเดินก่อนวัยอันควร
00:39:38 → 00:39:40 เพราะเหล่านี้ก็อาจจะทำให้มีอาการขาโกง
00:39:40 → 00:39:42 ก่อนวัยอันควรได้เหมือนกันนะครับก็ส่งผล
00:39:42 → 00:39:45 ต่อบุคภาพในอนาคตส่วนในวัยรุ่นวัยทำงานสน
00:39:45 → 00:39:48 มักจะเป็นพฤติกรรมอย่างเช่นเรานั่งเรียน
00:39:48 → 00:39:50 นั่งอ่านหนังสือนั่งทำงานออฟฟิศนานๆนะ
00:39:50 → 00:39:52 ครับหรือว่าต้องทำงานเป็นประจำอยู่ละมี
00:39:52 → 00:39:54 อาการปวดเมื่อยคอบาลหรือว่า Office
00:39:54 → 00:39:56 syndrome จะทำให้บุคลิภาพเนี่ยไม่ดีตาม
00:39:56 → 00:39:59 มาได้เช่นการไหล่ห่อคอยื่นหรือว่าหลังคด
00:39:59 → 00:40:02 หลังงออันเนี้ยก็ส่งผลต่ออาชีพการงานหรือ
00:40:02 → 00:40:04 ว่าอาการปวดเมื่อยเรื้อรังได้แน่นอนอยู่
00:40:04 → 00:40:05 ละวัยเด็กวัยรุ่นวัยทำงานเนี่ยอันนี้หลัก
00:40:05 → 00:40:08 ๆจะเป็นกล้ามเนื้อเป็นหลักนะแต่อาจจะเป็น
00:40:08 → 00:40:10 ส่วนน้อยที่มีปัญหาเรื่องกระดูกแต่ว่าใน
00:40:10 → 00:40:12 ผู้สูงอายุจะมีแถมขึ้นมาก็คือกระดูกครับ
00:40:12 → 00:40:14 ผมเพราะว่าเราใช้กล้ามเนื้อมาเป็นระยะ
00:40:14 → 00:40:17 เวลานานนะครับทำให้กระดูกเหล่าเนี้ยมัน
00:40:17 → 00:40:19 เสื่อมตามวัยร่วมกับกล้ามเนื้อเนี่ยที่
00:40:19 → 00:40:21 เป็นมาเดิมอยู่แล้วครับเหล่านี้ก็จะมี
00:40:21 → 00:40:23 ปัญหาทั้งกระดูกแล้วก็กล้ามเนื้ออ่ะก็จะ
00:40:23 → 00:40:25 ส่งผลให้บุคลิภาพไม่ดีอย่างเช่นกระดูก
00:40:25 → 00:40:27 สัตวหลังทรุดกระดูกสัตวหลังเสื่อมกระดูก
00:40:28 → 00:40:30 ส่างโคดงอก็จะส่งผลในการใช้ชีวิตประจำวัน
00:40:30 → 00:40:33 หรือว่าการนั่งการเดินอย่างแน่นอนแล้วควร
00:40:33 → 00:40:35 จะมีการระมัดระวังยังไงได้บ้างค่ะในผู้
00:40:35 → 00:40:38 สูงอายุที่แบบว่ามีปัญหามากกว่าวัยอื่นๆ
00:40:38 → 00:40:40 วิธีการป้องกันระมัดระวังหรือว่าการตรวจ
00:40:40 → 00:40:42 เช็คเนาะก็จะยังมีมีหลายวิธีนะครับถ้า
00:40:43 → 00:40:46 ระมัดวังง่ายๆครับก็อาจจะเช็คก่อนว่าโอเค
00:40:46 → 00:40:48 เราเนี่ยมีอาการเหล่าที่ผมกล่าวไปก่อนนี้
00:40:48 → 00:40:50 หรือเปล่าเช่นปวดผิดปกติหรือเปล่าอะไร
00:40:50 → 00:40:52 เงี้เนาะถ้ามีอาการเหล่านั้นหรือว่าสรี
00:40:52 → 00:40:55 ระะร่างกายที่มันผิดไปจากปกติก็อาจจะเช็ค
00:40:55 → 00:40:57 แล้วก็ไปตรวจกับผู้เชี่ยวชาไม่ว่าจะเป็น
00:40:57 → 00:41:01 คุณหมเฉาะทางหรือว่าผู้เชวชาด้านสรวิทยา
00:41:01 → 00:41:04 ตรวจพบความปกติแล้วนะครับเราก็ควรจะแก้ไข
00:41:04 → 00:41:06 หรือว่ารักษาปัญหาไหนที่สามารถแก้ไขด้วย
00:41:06 → 00:41:08 ตัวเองได้ต้องมีความสม่ำเสมอในการรักษา
00:41:08 → 00:41:10 สิ่งเหล่านั้นเนาะหรือว่าถ้าปัญหาที่ไม่
00:41:10 → 00:41:13 สามารถแก้ไขได้ก็อาจจะให้คุณหมอเขาช่วย
00:41:13 → 00:41:16 วินิจฉัยแล้วก็แก้ไขช่วยๆกันนะครับค่ะที
00:41:16 → 00:41:18 ถ้าการนั่งการนั่งที่ถูกวิธีเนี่ยควร
00:41:18 → 00:41:20 ประมาณไหนยังไงครับก็จริงๆการนั่งที่ถูก
00:41:20 → 00:41:22 วิธีเนาะเราก็อาจจะคล้ายๆนั่งในท่า
00:41:22 → 00:41:25 neutral Position อ่าสงสัยมว่า neutral
00:41:25 → 00:41:28 Position คืออะไรก็อาจะเป็น Position
00:41:28 → 00:41:30 หรือว่าท่าทางนานๆที่กล้ามเนื้อเหล่านั้น
00:41:30 → 00:41:32 เนี่ยทำงานสมดุลหรือว่า Balance กันทำให้
00:41:32 → 00:41:34 เราเนี่ยไม่ส่งผลต่อการปวดเมื่อยตามมา
00:41:34 → 00:41:36 เรื้อลังได้นะครับซึ่งถ้า neutral
00:41:36 → 00:41:39 Position ในท่านั่งนะครับก็จะสังเกตเช่น
00:41:39 → 00:41:44 บริเวณหูหัวไหล่ข้อศอกสะโพกตรงเป็นเส้น
00:41:44 → 00:41:46 ตรงในแนวเดียวกันนะอนคนจะอยู่ในลหน้าเป็น
00:41:46 → 00:41:49 เส้นตรงใช่ครับหรือว่าบริเวณสะโพกหัวเข่า
00:41:49 → 00:41:52 แล้วก็หน้าแข้งเนี่ยมีตั้งฉากกัน 90 องศ
00:41:52 → 00:41:54 อือนะแต่ในบางท่านที่นั่งทำงานออฟฟิศนานๆ
00:41:54 → 00:41:57 อาจจะมีที่พักรองบริเวณเท้าอืสูงขึ้นมา
00:41:57 → 00:42:00 ประมาณ 15-20 องศก็จะช่วยเรื่องสุขภาพให้
00:42:00 → 00:42:02 ดีขึ้นใช่ครับก็จะลดปัญหาพวกอาการเกิด
00:42:02 → 00:42:05 Office syndrome ตามมาได้เนาะแล้วก็ะ
00:42:05 → 00:42:08 ระยะห่างระหว่างหน้าเรากับบริเวณหน้าจอ
00:42:08 → 00:42:10 หรือว่าบริเวณหนังสือก็ควรจะห่างประมาณ
00:42:10 → 00:42:13 25-30 ซมอันเนี้ยคิดว่าหลายคนน่าจะเป็น
00:42:13 → 00:42:15 โดยเฉพาะคนที่แบบทำงานหรือแม้กระทั่งวัย
00:42:15 → 00:42:17 เด็กทุกวันนี้ก็เริ่มเป็นแล้วเพราะว่า
00:42:17 → 00:42:19 เล่นแท็บเล็ตเล่น iPad แบบจ้องจอนานๆแบบ
00:42:19 → 00:42:22 นั่งแล้วแบบหลังค่อมไอ้สาเหตุที่มันทำให้
00:42:22 → 00:42:24 คนแบบมีอาการหลังคอมเงี้มันเกิดได้จาก
00:42:24 → 00:42:26 อะไรบ้างแล้วเราจะปรับพฤติกรรมได้ยังไง
00:42:26 → 00:42:28 บ้างคะครับปัญหาหลังค่อมนะครับเกิดได้
00:42:28 → 00:42:30 หลักๆ 2 อย่างคือปัญหาจากกระดูกหรือว่า
00:42:30 → 00:42:32 กล้ามเนื้อถ้าปัญหาจากกระดูกเนี่ยในบาง
00:42:32 → 00:42:34 โรคสามารถแก้ได้แต่ว่าในบางโรคไม่สามารถ
00:42:34 → 00:42:36 แก้ได้อย่างเช่นเป็นกระดูกสัตวหลังเสื่อม
00:42:36 → 00:42:38 ทำให้มีการคดหรือว่าคร่อมตามมาได้เนี่ย
00:42:38 → 00:42:40 บางครั้งสามารถแก้ด้วยการออกกำลังกายหรือ
00:42:40 → 00:42:42 ว่า medical Exercise ได้นะครับแต่ว่าใน
00:42:42 → 00:42:44 บางท่านที่กระดูกสลังค่อมที่เกิดจาก
00:42:44 → 00:42:46 กระดูกสลังมันทรุดอันนี้อาจจะต้องปรึกษา
00:42:46 → 00:42:48 ผู้เชี่ยวชาญเนาะแต่ว่าอันนี้อาจจะยากไป
00:42:48 → 00:42:50 สำหรับคนทั่วไปปัญหากระดูกสลังค่อมที่
00:42:50 → 00:42:52 เกิดจากกล้ามเนื้อที่หลายๆคนอาจจะเป็น
00:42:52 → 00:42:54 อยู่ะอย่างเช่นอ C Syndrome Office
00:42:54 → 00:42:57 syndrome อันนี้ครับสามารถแก้ได้ซึ่งการ
00:42:57 → 00:42:59 แก้เบื้องต้นอาจจะเป็นการยึดเหยียดกล้าม
00:42:59 → 00:43:01 เนื้อการทำกายภาพการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
00:43:01 → 00:43:04 บริเวณหน้าอกหรือว่าสะบักด้านหลังนะครับ
00:43:04 → 00:43:06 อันนี้ก็จะช่วยทำให้กระดูกสายหลังแนว
00:43:06 → 00:43:08 เนี่ยตรงมากขึ้นแล้วก็มีบุคภาพที่ดีมาก
00:43:08 → 00:43:10 ขึ้นเหมือนกันครับการนั่งก็มีผลถูกมั้ยคะ
00:43:10 → 00:43:12 ในการใช่อย่างที่ผมกล่าวไปกนอันนี้คือการ
00:43:12 → 00:43:14 นั่งที่ถูกต้องใช่มครับควรจะนั่งเป็นแนว
00:43:14 → 00:43:16 เส้นตรงเดียวกันถ้าสมมุติว่าเราก้มเกินไป
00:43:16 → 00:43:19 หรือว่ายื่นหน้าไปจ้องขอจอคอนานๆก็จะทำ
00:43:19 → 00:43:22 ให้สมองเราเนี่ยเรียนรู้ในท่านั้นๆแล้วก็
00:43:22 → 00:43:24 จะเคยชินกับท่านั้นๆเราก็ต้องมีการกลับมา
00:43:24 → 00:43:27 สอนสมองใหม่ว่าเราควรจะนั่งท่าไหนที่อ
00:43:27 → 00:43:29 แล้วอย่างเงี้ค่ะเอาที่เห็นได้ง่ายๆชัดๆ
00:43:29 → 00:43:32 สมมุติคนผอมกับคนอ้วนวิธีการออกกำลังกาย
00:43:32 → 00:43:34 หรือความหนักในการออกกำลังกายก็ต้องต่าง
00:43:34 → 00:43:36 กันถูกมั้ยคะคุณหมอช่วยยกตัวอย่างใช่นก็
00:43:36 → 00:43:38 คืออย่างเช่นออกกำลังกาย 5 ด้านอย่างที่
00:43:38 → 00:43:40 ผมกล่าวไปก่อนหน้านี้เนาะเราอาจจะเน้นคน
00:43:40 → 00:43:42 ละอย่างคนที่อ้วนเราอาจะเน้นการเบิร์น
00:43:42 → 00:43:44 หรือว่าเพิ่ม metabolism ของเรานะครับก็
00:43:44 → 00:43:47 คืออาจจะเน้นคิวคู Fitness หรือว่าเน้น
00:43:47 → 00:43:49 คาร์ดิโอบ่อยๆนะครับเพื่อเพิ่มการเผ่า
00:43:50 → 00:43:51 ผลาญของทั้งไขมันนะครับหรือว่า
00:43:51 → 00:43:53 คาร์โบไฮเดรตในร่างกายของเราที่มันเป็น
00:43:53 → 00:43:56 ส่วนเกินแต่ว่าในคนที่ผอมเกินไปนะครับอาจ
00:43:56 → 00:43:58 จะต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อก็คือข้อ 3
00:43:58 → 00:44:01 ใช่มั้ยครับให้มันสมดุลมากขึ้นนะครับมี
00:44:01 → 00:44:03 มวลกล้ามเนื้อที่มันเพิ่มมากขึ้นยิ่งโดย
00:44:03 → 00:44:06 เฉพาะผู้สูงอายุมีความผอมผิดปกติเนี่ยบาง
00:44:06 → 00:44:08 ครั้งอาจจะมีความเสี่ยงต่อโรคกระดูกพุ่น
00:44:08 → 00:44:09 แล้วก็มักจะมีกล้ามเนื้อที่รีบหรือว่า
00:44:09 → 00:44:12 ภาวะโคพีเพราะฉะนั้นเนี่ยเราต้องเสริม
00:44:12 → 00:44:14 สร้างกล้ามเนื้ออย่างหนักเลยครับมันจะ
00:44:14 → 00:44:16 เสริมสร้างได้ยังไงบ้างคะนอกจากยืดเหยียด
00:44:16 → 00:44:18 กล้ามเนื้อแล้วอยากรู้สมมุติเรื่องอาหาร
00:44:18 → 00:44:20 ในผู้สูงอายุเราจะกินอะไรดีเพื่อเสริม
00:44:20 → 00:44:21 สร้างกล้ามเนื้อให้มันมากขึ้นครับสิ่งที่
00:44:21 → 00:44:24 สำคัญเลยเนาะในภาวะที่กล้ามเนื้อมันรีบนะ
00:44:24 → 00:44:27 ครับหรือว่าโคเนียเนี่ยคณจะเสริมโปรตีนนะ
00:44:27 → 00:44:29 ครับผมจริงๆเนี่ยโปรตีนควรจะเสริมตั้งแต่
00:44:29 → 00:44:31 ทุกวัยเลยตั้งแต่วัยเด็กวัยรุ่นวัยทำงาน
00:44:31 → 00:44:34 รวไปถึงวัยผู้สูงอายุโปรตีนต่อน้ำหนักตัว
00:44:34 → 00:44:35 ในแต่ละวัยก็จะแตกต่างกันออกไปเนาะอย่าง
00:44:36 → 00:44:38 เช่นไวคนทั่วไปอาจจะแนะนำ 1 กรัมต่อกลนะ
00:44:38 → 00:44:40 ครับบางคนที่เป็นโรคไตต้องลดปริมาณโปรตีน
00:44:40 → 00:44:43 ลงหรือว่าในบางคนเนี่ยที่มีอาการป่วยหนัก
00:44:43 → 00:44:44 ก็อาจจะต้องเพิ่มโปรตีนที่มากกว่าคนทั่ว
00:44:44 → 00:44:46 ไปอาจจะต้องไปปรึกษาแพทผู้เชี่ยวชาเนาะ
00:44:46 → 00:44:49 ว่าเราควรจะกินโปรตีนเสริมหรือเปล่าแล้ว
00:44:49 → 00:44:51 ก็ปริมาณเท่าไหร่ต่อวันออ่าอยากทราบว่า
00:44:51 → 00:44:53 แล้วอย่างเงี้ยค่ะพฤติกรรมหรือว่านิสัย
00:44:53 → 00:44:55 อะไรที่ทำให้คนเราเนี่ยมีกระดูกสลังหรือ
00:44:55 → 00:44:58 คอหรือค้อต่อที่ที่มันเสื่อมได้เร็วกว่า
00:44:58 → 00:45:00 คนปกติพฤติกรรมที่ทำให้มันเสื่อมก่อนไว
00:45:00 → 00:45:03 ได้อาจจะเป็นเรื่องความเคยชินละกันความ
00:45:03 → 00:45:05 เคยชิความเคยชินกับพฤติกรรมหรือว่าท่า
00:45:05 → 00:45:08 นั้นนานๆบ่อยๆเนาะหรือว่าการทำซ้ำๆเพราะ
00:45:08 → 00:45:10 ว่าความเสื่อมเนี่ยเกิดจากการที่เราทำซ้ำ
00:45:10 → 00:45:12 ๆบ่อยๆเป็นระยะเวลานานๆก็อย่างเช่นผม
00:45:12 → 00:45:14 กล่าวไปกนอันนี้คือการที่มีกระดูกผิวข้อ
00:45:14 → 00:45:16 มันมาเสียสีกันบ่อยๆอันนี้คือทำท่านั้น
00:45:16 → 00:45:19 ซ้ำๆนานๆเป็นแบบระยะเวลานานๆเนาอย่างเช่น
00:45:19 → 00:45:22 การก้มเงยใช่มั้ครับหรือว่านั่งผิดท่านี้
00:45:22 → 00:45:25 ก็จะทำให้กระดูกคอเนี่ยมันรับน้ำหนักที่
00:45:25 → 00:45:29 ไม่บมใช่ครับหรือว่ารวมไปถึงหลังหรือว่า
00:45:29 → 00:45:31 เข่าใช่มครับถ้าเราต้องงอเข่าบ่อยๆเดิน
00:45:31 → 00:45:33 ขึ้นลงไปบบ่อยๆอะไรเงี้ยครับบางครั้ง
00:45:33 → 00:45:35 เนี่ยก็จะทำให้ผิวข้อที่เข่าเนี่ยเสื่อม
00:45:35 → 00:45:37 ก่อนไวได้เหมือนกันการลุกนั่งที่ถูกวิธี
00:45:37 → 00:45:39 สำหรับคนที่เป็นเข่าเสื่อมในช่องผมก็มี
00:45:39 → 00:45:41 แนะนำอยู่แล้วแต่ว่าถ้าเบื้องต้นหลักการ
00:45:41 → 00:45:44 นะครับก็คือการที่เราลุกนั่งหรือว่ายืน
00:45:44 → 00:45:45 เดินเนี่ยน้ำหนักจะลงที่เข่าอย่างที่ผม
00:45:45 → 00:45:47 กล่าวไปก่อนหน้านี้เนาะเพะฉะนั้นการออก
00:45:47 → 00:45:48 กำลังกายก็จะตรงข้ามกันนะครับเราจะไม่
00:45:48 → 00:45:51 โหลดน้ำหนักที่เข่าเราจะใช้การนั่งแล้วก็
00:45:51 → 00:45:53 เหยียดเข่าเอาสลับกันทีละข้างแต่ว่า
00:45:53 → 00:45:55 คีย์เวิร์ดคือยิ่งทำช้ายิ่งได้
00:45:55 → 00:45:57 ประสิทธิภาพนะครับอยิ่งทำช้าเนี่ยอาจจะ
00:45:57 → 00:46:00 โฟกัสที่จำนวนครั้งใช่อ่าแต่ว่าจริงๆแล้ว
00:46:00 → 00:46:02 ต้องเราลองทำอยู่ที่บ้านก็ได้ครับว่าการ
00:46:02 → 00:46:05 ที่เรายกยกช้าๆแล้วก็นับไปช้าๆเนี่ยมันจะ
00:46:05 → 00:46:08 ยิ่งปวดหรือว่าตึงกล้ามเนื้อไปต้นขามาก
00:46:08 → 00:46:09 กว่าเพราะเพราะอะไรคะเพราะมันทำให้เรา
00:46:09 → 00:46:11 เกร็งกล้ามเนื้อใช่เพราะว่ากล้ามเนื้อ
00:46:11 → 00:46:13 เนี่ยมันมีการค่อยๆหดแล้วก็เกร็งนะครับ
00:46:13 → 00:46:15 แต่ว่ายิ่งทำเร็วเนี่ยบางครั้งมันเลยจุด
00:46:15 → 00:46:18 ที่กล้ามเนื้อมันเกร็งไปละอ๋อมันก็จะได้
00:46:18 → 00:46:20 บริหารไม่ได้ช่วยอะไรอย่างงี้การออกกำลัง
00:46:20 → 00:46:22 กายวิธีไหนบ้างที่จะช่วยเรื่องเรื่องพวก
00:46:22 → 00:46:24 นี้ได้ค่ะเช่นแบบเ่อคาร์ดิโอมยหรือว่า
00:46:24 → 00:46:27 โยคะหรือว่าอะไรย้อนกลับไปเข้าสู่เเอไซก็
00:46:27 → 00:46:29 คือมี 5 อย่างจริงๆอย่างที่ผมกล่าวไปก่อน
00:46:29 → 00:46:31 นี้อาจจะไม่ได้บอกว่าวิธีไหนสามารถแก้ได้
00:46:31 → 00:46:34 ทุกโรคในคนที่โอเคร่างกายยังปกติแข็งแรง
00:46:34 → 00:46:37 อยู่นะครับก็ควรจะแบ่งสม่ำเสมอทำครบ 5
00:46:37 → 00:46:40 อย่างอย่างเช่นวันนี้ช่วงแรกทำคาร์ดิโอ
00:46:40 → 00:46:42 แล้วก็ไปยืดเหยียดกล้ามเนื้อต่อเสื่อม
00:46:42 → 00:46:45 สร้างกล้ามเนื้อฝึกการบริหารสมองแล้วก็
00:46:45 → 00:46:47 ฝึกบาานอาจจะทำวันนึงให้ครบเลยก็ได้หรือ
00:46:47 → 00:46:50 ว่าจะแบ่งจันทร์พุธศุกร์เงี้ยครับให้มัน
00:46:50 → 00:46:52 มีความสม่ำเสมอให้ร่างกายเราได้เรียนรู้
00:46:52 → 00:46:54 แต่ว่าก็ต้องทำให้ครบอยู่ดีครับคือหลักๆ
00:46:54 → 00:46:56 ก็คือเราต้องทำให้มันครบองค์ให้มันครบ 5
00:46:56 → 00:46:58 อย่างนี้ใช่ครับใช่ครับเพราะว่าจริงๆเวลา
00:46:58 → 00:47:01 ผมอยู่งไพบ้านเนี่ยมีผู้ป่วยหลายๆท่านอาจ
00:47:01 → 00:47:03 จะเข้าใจผิดเช่นคุณหมอป้าเดินประจำทุกวัน
00:47:03 → 00:47:05 อยู่ละแต่ว่าการเดินเป็นประจำทุกวันเนี่ย
00:47:05 → 00:47:08 บางครั้งก็จะได้แค่คาร์ดิโอเนาะฟิเนสหรือ
00:47:08 → 00:47:10 ว่าได้กล้ามเนื้อแค่บริเวณหน้าแข้งหรือ
00:47:10 → 00:47:12 ว่าขาน่องแต่ว่าบางครั้งเนี่ยเขาเป็น
00:47:12 → 00:47:14 อาการปวดหลังเพราะฉะนั้นการเดินก็จะไม่
00:47:14 → 00:47:16 ได้ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังเนี่ยมันก็
00:47:16 → 00:47:18 ไม่ได้ช่วยเรื่องที่ใช่ครับเพราะฉะนั้นผม
00:47:18 → 00:47:20 บอกว่าจริงความหมายของการออกกำลังกาย
00:47:20 → 00:47:22 เนี่ยค่อนข้างลึกซึ้งมันมีรายละเอียดค่อน
00:47:22 → 00:47:24 ข้างเยอะมันอาจจะไม่ใช่แบบแค่เราเดินไป
00:47:24 → 00:47:26 ว่ายน้ำถือว่าเราออกกำลังกายเราก็รักษา
00:47:26 → 00:47:28 โรคนั่นแหละหลักๆคือเราต้องทำให้มันครบ 5
00:47:28 → 00:47:30 อย่างแล้วก็เลือกวิธีที่มันเหมาะสมกับเรา
00:47:30 → 00:47:32 ใช่ครับในบางคนที่เป็นแต่ละโรคเนี่ยอาจจะ
00:47:32 → 00:47:35 เน้นบางอย่างที่มันมากกว่าคนทั่วไปออย่าง
00:47:35 → 00:47:37 เช่นกล้ามเนื้อรีบหลังเสื่อมเขาเสื่อมก็
00:47:37 → 00:47:39 อาจจะต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อยืดยกล้าม
00:47:39 → 00:47:41 เนื้อหรือว่าบางคนที่อเสเลื่อนในสมองที่
00:47:41 → 00:47:43 มันตีหรือว่าแตกหรือว่าการมีการทรงตัวที่
00:47:43 → 00:47:46 ผิดปกติก็ต้องฝึกการทรงตัวฝึกสมองมากกว่า
00:47:46 → 00:47:48 คนทั่ไปค่ะอันนี้ก็เลยอยากรู้นิดนึงย้อน
00:47:48 → 00:47:50 กลับมาที่เ่อช่วงแรกเกี่ยวกับหัวข้อของ
00:47:50 → 00:47:52 เราถ้าสมมุติว่าเราออกกำลังกายครบ 5
00:47:52 → 00:47:54 อย่างตามที่คุณหมอแนะนำะเราสร้างกล้าม
00:47:54 → 00:47:55 เนื้อหยีกล้ามเนื้อได้ดีแล้วพฤติกรรม
00:47:55 → 00:47:57 เหล่าเนี้ยการออกกำลังกายมันช่วยส่งเสริม
00:47:57 → 00:47:59 ให้เรามีบุคลิกภาพที่ดีขึ้นถูกมั้ยคะ
00:47:59 → 00:48:01 อย่างแน่นอนครับผมผมว่าคีย์เวิร์ดสำคัญ
00:48:01 → 00:48:03 เลยคือความสม่ำเสมอไม่ใช่ตั้งแต่วัยที่
00:48:04 → 00:48:05 เรามีอาการนะครับจริงๆต้องฝึกตั้งแต่เรา
00:48:05 → 00:48:07 ยังไม่มีอาการอะไนะครับเราต้องฝึกกานิสัย
00:48:07 → 00:48:10 ตัวเองเนี่ยให้เราสามารถมีพฤติกรรมนิสัย
00:48:10 → 00:48:13 การออกกำลังกายที่ 1 ถูกต้อง 2 ปลอดภัย 3
00:48:13 → 00:48:15 คือความสม่ำเสมออืต้องเป็นประจำต่อเนื่อง
00:48:16 → 00:48:18 ต้องมีวินัยใช่ครับอ่าอสำหรับวันนี้นะคะ
00:48:18 → 00:48:21 ก็ได้รับความรู้จากคุณหมอเยอะแยะมากมาย
00:48:21 → 00:48:23 เลยนะคะทั้งในเรื่องการเสริมสร้างกล้าม
00:48:23 → 00:48:24 เนื้อต่างๆแล้วก็การปรับภาพนะคะเชื่อว่า
00:48:25 → 00:48:27 คลิปนี้นะคะเป็นประโยชน์ต่อคนดูทุกคน
00:48:27 → 00:48:30 อย่างมากแน่นอนค่ะซึ่งถ้าใครสนใจนะคะแล้ว
00:48:30 → 00:48:32 ก็อยากหาท่าออกกำลังกายดีๆแต่ไม่รู้ว่า
00:48:32 → 00:48:34 เฮ้ยฉันจะเริ่มยังไงนะฉันเริ่มไม่ถูกฉัน
00:48:34 → 00:48:36 เริ่มไม่เป็นเลยไปติดตามได้ที่ช่องหมอชวน
00:48:36 → 00:48:39 ฟิครับหมอชวนฟิเลยนะคะแล้วก็นี้นะคะทาง
00:48:39 → 00:48:42 กราวมีของมามอบให้คุณหมอด้วยค่ะ
00:48:42 → 00:48:45 อโอเคครับขอบคุณครับค่ะเป็นกระเป๋าผ้านะ
00:48:45 → 00:48:48 คะใครที่มีคำถามอะไรนะคะอยากจะถามหรือว่า
00:48:48 → 00:48:50 สงสัยนะคะก็คอมเมนต์ไว้ที่ใต้คลิปด้าน
00:48:50 → 00:48:52 ล่างได้เลยนะคะสำหรับวันนี้พวกเรา 2 คน
00:48:52 → 00:48:56 ต้องขอตัวลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:48:56 → 00:49:17 [เพลง]