00:00:00 → 00:00:04 The beds ThaiPBS คาสวีเวิลด์ ys
00:00:04 → 00:00:06 boice
00:00:06 → 00:00:09 กับข้อมูลสำรวจนะครับตัวเลขโซเดียมปริมาณ
00:00:09 → 00:00:11 โซเดียมในขนมปังยังมีตั้งแต่ 100 จนถึง
00:00:11 → 00:00:14 400 กว่า 10 500 mg เลยปริมาณโซเดียม
00:00:14 → 00:00:17 ที่แฝงซึ่งวันนึงนะครับคุณมีวันนึงเนี่ย
00:00:17 → 00:00:20 เราแนะนำเลยว่าปริมาณโซเดียมที่เราควรได้
00:00:20 → 00:00:23 รับในแต่ละวันนี้ไม่ควรเกิน 2,000 กรัม
00:00:23 → 00:00:27 ต่อวันจำไว้ในใจถูกต้องครับ 2,000 กรัม
00:00:27 → 00:00:29 [เพลง]
00:00:29 → 00:00:33 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคไทยฟังราย
00:00:33 → 00:00:38 การโรงหมอกับอิฉันสุรีย์พรวงศ์สถิตพรค่ะ
00:00:38 → 00:00:41 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังค่ะขอต้อนรับสู่รายการ
00:00:41 → 00:00:45 โรงหมอทางไทย th ทอดข้าววันนี้พบกันเช่น
00:00:45 → 00:00:48 เคยนะคะเราจะคุยกันถึงเรื่องของอาหารไม่
00:00:48 → 00:00:52 เค็มมากแต่โซเดียมสูงมากนะอันนี้คืออะไร
00:00:52 → 00:00:54 นะเดี๋ยววันนี้เราจะคุยกับผู้ช่วย
00:00:54 → 00:00:57 ศาสตราจารย์ดร.เอกราชบำรุงพืชจากวิทยาลัย
00:00:57 → 00:00:59 การแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัยธุรกิจ
00:00:59 → 00:01:02 บัณฑิตย์ก็สวัสดีหาอาจารย์คะครับสวัสดี
00:01:02 → 00:01:04 ครับผมหัวข้อมาวันนี้นี่คือแบบว่าเอ๊ะ
00:01:04 → 00:01:09 อาหารไม่เค็มมากแต่โซเดียมสูงมากคือเราจะ
00:01:09 → 00:01:11 รู้อยู่แล้วว่าอาหารบางประเภทเช่นบะหมี่
00:01:11 → 00:01:14 กึ่งสำเร็จรูปจะมีโซเดียมเยอะอ่ะอันนี้
00:01:14 → 00:01:17 เราก็อาจจะหลีกเลี่ยงกันได้บ้างหรือบางคน
00:01:17 → 00:01:21 นานๆทีกินทีนึงไม่เป็นไรครับอ้าอาหารบาง
00:01:21 → 00:01:25 อย่างมันไม่เค็มมากแต่มีโซเดียมสูงมากที่
00:01:25 → 00:01:27 มันแฝงอยู่ในนั้นซึ่งบางทีเราไม่ทันได้
00:01:27 → 00:01:30 เอกใจหรือไม่รู้ด้วยซ้ำครับผมไม่คิดว่า
00:01:30 → 00:01:33 อาหารประเภทนี้จะโซเดียมถูกต้องครับเข็ม
00:01:33 → 00:01:37 ขัดสั้นคาดไม่ถึงฆาตไหมคะขึ้นใช่ไหมถูก
00:01:37 → 00:01:40 ต้องกลับมาทำให้บวมขึ้นไงเฮ้ยตัวนี้ที่
00:01:40 → 00:01:42 มวลเนี่ยอาจจะเป็นเพราะว่าโซเดียมก็มี
00:01:42 → 00:01:47 โอกาสที่โอกาสไม่ใช่ว่าพอกินเยอะนะอ่าได้
00:01:47 → 00:01:51 อะไรที่เข้าข้างตัวเองอยู่ด้านแต่ว่าคือ
00:01:51 → 00:01:55 นึกไม่ออกอ่ะอาหารที่แบบไม่เค็มมากคือเรา
00:01:55 → 00:01:58 กินก็ไปเรารู้ว่ามันไม่เค็มนะครับแล้วก็
00:01:58 → 00:02:01 เราจะรู้สึกว่าเฮ้ยโซเดียมมีเยอะเออกิน
00:02:01 → 00:02:05 ได้พวกเนี้ยมันมีอะไรบ้างอาจารย์ครับผม
00:02:05 → 00:02:07 โอนจริงๆแล้วในกลุ่มของอาหารที่มีโซเดียม
00:02:07 → 00:02:11 แขวงนี่ต้องใช้คำว่ามันแฝงเนาะหน้าก็คือ
00:02:11 → 00:02:15 พวกเอ่อกลุ่มแรกเลยก็คือพวกเบเกอรี่ขนม
00:02:15 → 00:02:21 ปังจ้ามันพูดก็เข้าใจขนมปังเฮ้ยทำไมเรา
00:02:21 → 00:02:24 กินอยู่มันมีตัวเดียวแฝงอยู่เหรอ
00:02:24 → 00:02:27 จัดจากข้อมูลสำรวจนะครับตัวเลขโซเดียม
00:02:27 → 00:02:29 ปริมาณโซเดียมเลยขนมปังมีตั้งแต่ 100 จน
00:02:29 → 00:02:33 ถึง 400 กว่า 500 mg เลยปริมาณโซเดียม
00:02:33 → 00:02:35 ที่แฝงซึ่งวันนึงนะครับคุณมีวันนึงเนี่ย
00:02:35 → 00:02:39 เราแนะนำเลยว่าปริมาณโซเดียมที่เราควรได้
00:02:39 → 00:02:42 รับในแต่ละวันเนี่ยไม่ควรเกิน 2,000 กรัม
00:02:42 → 00:02:46 ต่อวันนำไว้ในใจถูกต้องครับ 2000 mg จำ
00:02:46 → 00:02:49 ไว้ในใจหรือว่าต่อวันเอาวาน่านรกเราก็
00:02:49 → 00:02:53 ต้องมาดูวันนึงเราไม่ได้กินแค่เกลือน้ำ
00:02:53 → 00:02:55 ปลาแล้วรู้แล้วไอ้เกลือน้ำปลาเครื่องปรุง
00:02:55 → 00:02:59 รสพวกเนี้ยมีโซเดียมอยู่เพราะมันเค็มแต่
00:02:59 → 00:03:03 ให้อันอารายการอาหารอื่นๆที่มันแฝงอยู่
00:03:03 → 00:03:05 เนี่ยเราอาจจะไม่รู้อย่างที่เราคิดไม่ถึง
00:03:05 → 00:03:08 ว่าเฮ้ยขนมปังมันมีด้วยเหรออ้าวพวก
00:03:08 → 00:03:11 เบเกอรีมันมีด้วยเหรอเพราะว่ามันไปแฝง
00:03:11 → 00:03:16 อยู่ในองค์ประกอบของผงฟูที่เราใช้ทำขนม
00:03:16 → 00:03:18 ปังถูกต้องครับผงฟูนี้มันมีส่วนประกอบของ
00:03:18 → 00:03:22 Baking Soda เนาะอามีส่วนไปส่วนประกอบ
00:03:22 → 00:03:27 ของโซเดียมไบคาร์บอเนตอยู่ด้วยงานยัง
00:03:27 → 00:03:29 โซเดียมไบคาร์บอเนตแต่ไม่ครับมีคำว่า
00:03:29 → 00:03:32 โซเดียมอยู่แล้วมันก็มีแสงอยู่ตรงนั้น
00:03:32 → 00:03:35 ด้วยที่ทำให้มีโอกาสที่ทำให้เราได้รับ
00:03:35 → 00:03:38 ปริมาณโซเดียมเนี่ยเข้ามาอยู่ด้วยโหโหวัน
00:03:38 → 00:03:40 นี้เป็นอะไรที่เป็นความรู้เพิ่มเติมนะ
00:03:40 → 00:03:43 ครับคุณมาฟังคำว่าผงฟูโซเดียมไบคาร์บอเนต
00:03:43 → 00:03:46 ใช่ไหมครับผมเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วยมัน
00:03:46 → 00:03:48 ไม่ได้รู้สึกถึงความเค็มอะไรได้แต่อาจจะ
00:03:48 → 00:03:51 อาจจะมีบ้างที่บางบางๆที่แบบไม่รู้คุณมา
00:03:51 → 00:03:54 ฟังเป็นไหมละมาทันขนมปังไปเนี่ยมีติดเค็ม
00:03:54 → 00:03:58 นี่อ้านสึกว่าแหละค่ะมิตรนึงอันนั้นอ่ะ
00:03:58 → 00:04:03 คือคือเออตัวอย่าลืมเองที่มันมีผลแต่ว่า
00:04:03 → 00:04:06 ขนมปังเนี่ยเวลาเขาทำมาทำเป็นเป็นแถวๆต้น
00:04:06 → 00:04:10 ๆใหญ่ๆอ่านแล้วจะมาตัดแบ่งกับทรงตัดไทย
00:04:10 → 00:04:13 ว่าไปแต่คือมันอยู่ในนั้นแล้วถูกต้องใช้
00:04:13 → 00:04:16 แล้วฉลาดผู้ชนะการแต่ละยี่ห้อก็จะมีต่าง
00:04:16 → 00:04:19 กันนะครับบางยี่ห้อ Pan นึงก็ร้อยนึงก็มี
00:04:19 → 00:04:24 ร้อยร้อย mg 200 mg 300 mg นะวันนึง
00:04:24 → 00:04:26 กินกี่แผ่นยังไม่ได้ 1 แผ่นแน่ๆต้องครับ
00:04:26 → 00:04:29 ผมแล้วมันก็จะแฝงอยู่โดยที่เราได้รับโดย
00:04:29 → 00:04:33 ไม่รู้ตัวอ่าขนมปังเป็นอะไรไม่ค่อยอ่าน
00:04:33 → 00:04:36 ฉลากโภชนาการเลยเอาจริงๆเรามองแต่เรื่อง
00:04:36 → 00:04:40 ของคาร์โบไฮเดรตถูกไหมครับใช่ล่างกินขนม
00:04:40 → 00:04:43 ปังคะอุ้ยเขาไปเดทจะตื่นนะอ้าวันนึง
00:04:43 → 00:04:46 คาร์บอเนตเติบที่เรากินเนี่ยควรจะจำกัด
00:04:46 → 00:04:49 ยิ่งคนยิ่งอ้วนฮ่าาาหรือเป็นเบาหวานเขาก็
00:04:49 → 00:04:52 จะจำกัดคาร์บอเนตที่กินจำกัดข่าบหาแล้ว
00:04:52 → 00:04:56 หนมปัง 1 แผ่นเนี่ยให้คำเรทเนี่ยประมาณ 15
00:04:56 → 00:04:59 กรัมหรือ 1 ข่าบเขาก็จะดูและขนมปัง 1
00:04:59 → 00:05:02 แผ่นเท่ากับข้าวสวยหมอผีแต่ว่าลืมไปดู
00:05:02 → 00:05:04 องค์ประกอบของโซเดียมด้วยโดยเฉพาะคนที่
00:05:04 → 00:05:08 ความดันโลหิตสูงค่ะอ่าแล้วต้องพึงระวัง
00:05:08 → 00:05:10 เนาะเพราะว่าไม่งั้นโซเดียมเข้าไปเยอะๆ
00:05:10 → 00:05:13 เนี่ยร่างกายก็ต้องเอ่อตายเองก็ต้องทำงาน
00:05:13 → 00:05:18 หนักในการที่จะขับโซเดียมออกไปห่าเราความ
00:05:18 → 00:05:23 ดันก็ขึ้นนะซะทัพกินปริมาณเยอะเกินแล้วก็
00:05:23 → 00:05:26 ต้องพึงระวังพวกเนี้ยมันก็แฝงอยู่โดยที่
00:05:26 → 00:05:29 เราเราไม่รู้ตัวถ้าคือถ้าเกิดสมุดว่าโอเค
00:05:29 → 00:05:32 ว่า 1 วันกินไม่เกิน 2000 กรัมต่อวัน
00:05:32 → 00:05:34 อย่างที่อาจารย์บอกครับแต่ว่าด้วยความที่
00:05:34 → 00:05:37 มันมีแฝงจะๆมันจากอาหารประเภทอื่นหรือไม่
00:05:37 → 00:05:41 รีบเครื่องปรุงอื่นๆที่มันเรากินกันอยู่
00:05:41 → 00:05:44 แล้วเนี่ยแต่อันนี้ถ้าเกิดสมมติว่าเรากิน
00:05:44 → 00:05:49 ไม่เกิน 2,000 กรัมต่อวันแต่เราบริโภคทุก
00:05:49 → 00:05:52 วันเลยโซเดียมเนี่ยดวงดูกันนะวันนี้ค่ะ
00:05:52 → 00:05:55 สะสมในทุกวันมันมีปัญหาไหมหรือว่าร่างกาย
00:05:55 → 00:05:58 ของเราจะมาสามารถที่จะขับโซเดียมเนี่ยออก
00:05:58 → 00:06:01 ไปได้บ้างถูกต้องครับก็คือถ้าเรากินใน
00:06:01 → 00:06:03 ปริมาณที่ไม่เกิน 2,000 จริงแล้วมันเป็น
00:06:03 → 00:06:05 สารอาหารที่จำเป็นนะครับโซเดียมเนี่ย
00:06:05 → 00:06:09 กำลังกายจำเป็นถูกต้องครับในการปรับสมดุล
00:06:09 → 00:06:12 ของร่างกายทั้งหลายแหล่หรือแม้กระทั่งการ
00:06:12 → 00:06:15 ดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายเพื่อใช้เป็น
00:06:15 → 00:06:17 พลังงานก็ต้องอาศัยโซเดียมงั้นฉันและ
00:06:17 → 00:06:20 โซเดียมมาไม่มีบทบาทที่สำคัญจำเป็นสำหรับ
00:06:20 → 00:06:24 ร่างกายเอาจริงๆไม่ใช่ผู้ร้ายนะแต่คุณกิน
00:06:24 → 00:06:27 เกินความพอดีจนมันกลายเป็นผู้ร้ายเลยคน
00:06:27 → 00:06:32 เลยกลัวแค่ส้มตำเข้าไปหาส้มตำ 1 ครกเยอะ
00:06:32 → 00:06:34 มันแสงอยู่โดนที่เราแบบนี้เราก็ไม่ได้
00:06:34 → 00:06:38 อะไรเยอะมากส้มตำเนี่ยแต่ข้อมูลการสำรวจ
00:06:38 → 00:06:41 นะครับปริมาณโซเดียมที่แฝงอยู่ในส้มตำ
00:06:41 → 00:06:44 เนี่ยตั้งแต่ 1,200 มิลลิกรัมถึง 1,500
00:06:44 → 00:06:48 กรัมต่อ 1 ครกหรือ 1 จานโห
00:06:48 → 00:06:52 ที่เหลือมานั้นไม่ต้องโควต้าจะหมดแล้วนะ
00:06:52 → 00:06:54 อ้ำเลยนะอ่ะเพิ่มทั้งหมดเลยกินส้มตำมา
00:06:54 → 00:06:57 เนี่ยเนี่ยแล้วนอกเว้นไว้เสียแต่ว่าเราทำ
00:06:57 → 00:07:02 เองถ้าถ้าเราทำเองและควบคุมได้เนาะอ่ะมัน
00:07:02 → 00:07:05 มาจากไหนบ้างส้มตำปูปูดองอ้ามีอารออยู่ใน
00:07:05 → 00:07:10 นั้นเคมี่ทวิตน้ำไอ้ปุ๊น้ำปลาที่มาปูใส่
00:07:10 → 00:07:13 อีกค่ะน้ำมันรู้ว่าเงี้ยส้มตำปลาร้าปลา
00:07:13 → 00:07:16 ร้าโซเดียมสูงค่าส้มตำไทยมีอะไรครับกุ้ง
00:07:16 → 00:07:21 แห้งใช่นี่แหละพี่ก็เลยมันก็เลยแขวงอยู่
00:07:21 → 00:07:26 ค่ะในสิ่งเหล่าเนี้ยนะอาหารแปรรูปเนี่ย
00:07:26 → 00:07:29 ถึงอยู่นะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่สำคัญที่
00:07:29 → 00:07:31 ที่มีโซเดียมแสงอยู่โดยที่เราไม่รู้ตัว
00:07:31 → 00:07:35 เลยถ้าพวกอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์แปรรูปใส่
00:07:35 → 00:07:42 กรอบหมูยอกุนเชียงลูกชิ้นอาจารย์แชร์ให้
00:07:42 → 00:07:46 ฟังอิเคสอาจารย์ไปไปกินสุกี้ตี๋น้อยสุกี้
00:07:46 → 00:07:49 สุกี้นี่แหละอ่าสุกี้ที่เป็นสิ่งที่ผมที่
00:07:49 → 00:07:53 แหละแล้วไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะคือมันขึ้น
00:07:53 → 00:07:57 อยู่กับการสั่งของเราด้วยยังไงคะอาจารย์
00:07:57 → 00:08:00 ภาพถ้าเราสั่งเพราะเซลล์ฟู้ดหมดเลยคือ
00:08:00 → 00:08:04 4ชิ้นหนอนึกออกใช่ไหมครับนี้น้ำปลาสวรรค์
00:08:04 → 00:08:08 เต้าหู้เนื้อปลาลูกชิ้นมันหมดเลยที่เป็น
00:08:08 → 00:08:11 อาหารแปรรูปหรืออาหารแต่รู้คือเรามองดู
00:08:11 → 00:08:13 ด้วยสายตาเราไม่สามารถรู้ว่ามันคืออะไร
00:08:13 → 00:08:16 ถ้าเราเห็นปุ๊บเนื้อปลาแล้วก็รู้แล้ว
00:08:16 → 00:08:20 เนี่ยปลาอันเนี้ยไก่อันนี้หมูแต่ถ้ามัน
00:08:20 → 00:08:22 เป็นพอ Safe Food คือสิ่งที่เรามองด้วย
00:08:22 → 00:08:24 สายตาแต่เราไม่สามารถที่จะรับรู้ได้ว่า
00:08:25 → 00:08:28 อ้ะมันคืออะไรนี่มันคือลูกชิ้นอะไรนี่คือ
00:08:28 → 00:08:31 อะพวกเนี่ยครับที่ไม่ใช่อาหารตามธรรมชาติ
00:08:31 → 00:08:35 โนมัติจะมีโซเดียมแสงอยู่สูงเนาะอาจารย์
00:08:35 → 00:08:37 กินเสร็จปุ๊บเขาก็คำนวณนะคำนวณแคลอรี่
00:08:38 → 00:08:41 คำนวณอะไรมากอ่าพอจะรู้นะไม่ใช่ว่ามันไม่
00:08:41 → 00:08:43 ดีนะถ้ามันเป็นเมนูที่ดีเหมือนส้มตำมาก
00:08:43 → 00:08:48 แต่ส้มตำทำบวมทำอ้วนหมอโซเดียมอาสูงด้วย
00:08:48 → 00:08:51 กันสุกี้แล้วก็แบบพื้นมันฮิวตี้นะใช่
00:08:51 → 00:08:54 เพราะมันมีค่าอะไรอยู่ยังหม้อไม่ได้มัน
00:08:54 → 00:08:58 เลยสายแบบใสครีมเลยจริงนะแป้งก็น้อยไม่มี
00:08:58 → 00:09:01 ถ้าไม่มีแป้งหรือฉันจะไปทำบุญมาสู้ดิ
00:09:01 → 00:09:04 สุกี้ก็ไปดิเมนูหนึ่งที่ที่มันดีแต่ว่า
00:09:04 → 00:09:08 ถ้าเราสั่งพวกพอเสร็จ Food มาเยอะในรูปมา
00:09:08 → 00:09:12 เยอะนะครับพวกนี้เพราะคิดเสร็จปุ๊บพันธุ์
00:09:12 → 00:09:16 982 อาจารย์กรรมตัวเลขได้เลยต่อคนหูจะ
00:09:16 → 00:09:19 หมดโควต้าแล้ววันนั้นน่ะที่มื้อเดียวนะ
00:09:19 → 00:09:24 จำได้เลยตอนนั้นเราก็ต้องซดน้ำซุปด้วยนะ
00:09:24 → 00:09:27 ถูกทิ้งครับอ่าซึ่งเขาจะเขียนเรียกว่าทุก
00:09:27 → 00:09:32 อะไรนะไม่ได้มีผงชูรสผมจะลดมันไม่มีในน้ำ
00:09:32 → 00:09:37 ซุปในน้ำจิ้มแต่เอาไม่มีผงชูรสแต่ในลูก
00:09:37 → 00:09:41 ชิ้นในพรุ่งนี้มีหน้าไส้กรอกหรือแปรรูป
00:09:41 → 00:09:45 อ่ะเต้าหู้เนื้อปลาอะไรนะเห็ดอะไรสารพัด
00:09:45 → 00:09:48 มันเยอะอ่ะส่วนใหญ่เฉพาะเศษ Food เยอะมาก
00:09:48 → 00:09:51 แปรรูปเดี๋ยวมากอะแล้วเนี่ยกินได้แต่เรา
00:09:51 → 00:09:55 ก็ต้องเวทเอาอยากจะสั่งเนื้อเอ่อเนื้อหมู
00:09:55 → 00:10:00 เนื้อไก่เนื้อปลานะกุ้งมือกะไรก็แล้วช่วง
00:10:00 → 00:10:03 เนี้ยสักครึ่งหนึ่งอีกครึ่งนึงก็ไปพอเศษ
00:10:03 → 00:10:06 Food ไปก็ได้นะห้องเธอไม่ใช่ว่าแบบสั่ง
00:10:06 → 00:10:08 หมดเลยนะอันนี้จะให้คนที่บ้านสั่งก็สั่ง
00:10:08 → 00:10:11 พอเศษ Food มันม่วงอ่ะมันกินแล้วมันแบบ
00:10:11 → 00:10:15 อร่อยมันหนูมาอุมามิรสชาติแบบอร่อยก็เลย
00:10:15 → 00:10:18 มื้อนั้นกินใบฟ้าไป
00:10:18 → 00:10:21 1982 นั่นแหละโอ้โหต่อคุณเราจริงสองคน
00:10:21 → 00:10:25 ยังงงฮือทำไมยุขนาดนี้เห็นไหมครับโดยที่
00:10:25 → 00:10:28 เราไม่รู้ตัวเลยว่าเราได้โซเดียมแฝงมา
00:10:28 → 00:10:29 เยอะ
00:10:29 → 00:10:32 แต่มันจำเป็นนะมันจำเป็นสำหรับร่างกายไม่
00:10:32 → 00:10:34 ใช่ว่าเราไม่รับเลยเหมือนน้ำตาลอย่างนี้
00:10:34 → 00:10:36 เราก็ไม่จำเป็นเขาไปเดทก็จำเป็นแต่ทุกวัน
00:10:36 → 00:10:39 นี้เรากินเกินจำเป็นไงอ่ะอันนี้เดี้ยมก็
00:10:39 → 00:10:40 เหมือนกันเรากินเกินจะเป็นเท่าตัวเลยนะ
00:10:40 → 00:10:44 ค่ะจากข้อมูลการสำรวจและศึกษาวิจัยเนี่ย
00:10:44 → 00:10:47 คนไทยกินโซเดียมเนี่ยว่าหนึ่งประมาณ 4000
00:10:47 → 00:10:49 มิลลิกรัมโมโหเท่าตัวจริงๆแล้วตัวเลยครับ
00:10:49 → 00:10:52 น้ำตานิ่งเกินหลายเท่าตัวเลยค่ะน้ำตาลไม่
00:10:52 → 00:10:56 เกิน 6 ช้อนชาต่อวันที่ท้ายแล้วฝ้าไปวัน
00:10:56 → 00:10:58 ละ 20 8 ช้อนชา
00:10:58 → 00:11:02 ไม่เหลือก็มาเลย 0-0 กรรมเกินไม่แปลกใจ
00:11:02 → 00:11:05 อาหารเพราะว่าที่บ้านขายผงชูรสเหมือนกัน
00:11:05 → 00:11:10 อ่ะขายดีมาวันหนึ่งออกเป็นหลังๆได้เขาชอบ
00:11:10 → 00:11:13 ยิ่งส้มตำบางที่น่าวิสัยเลยครับต้องใช้คำ
00:11:13 → 00:11:15 ว่า Witch แต่ตอนนั้นที่เรากลัวเนี่ยที่
00:11:15 → 00:11:18 เห็นว่าเขาตักใส่เยอะๆเนี่ยเราไปคิดถึง
00:11:18 → 00:11:22 เรื่องของผงชูรสจะทำให้ผมร่วงแนะครับคุณ
00:11:22 → 00:11:24 ก็กลัวแบบเอ้ยเดี๋ยวผมร่วงผมบางอย่าง
00:11:24 → 00:11:26 เงี้ยไม่ได้นะถึงหรือว่าโซเดียมในร่างกาย
00:11:26 → 00:11:29 จะเยอะไม่ถึงตรงนั้นใช่ใช่คนก็จะห่วงควง
00:11:29 → 00:11:34 สวยวงผมรวยหวยอาจารย์จริงๆถ้าหมดพอดีฟัง
00:11:34 → 00:11:37 ดูเนี่ยอย่างขนมปังไม้เองก็แล้วแต่เนี่ย
00:11:37 → 00:11:41 ครับคือทำให้กลายเป็นรู้สึกว่ามีความ
00:11:41 → 00:11:45 ระแวดระวังมากขึ้นในการที่จะหาอะไรมาเข้า
00:11:45 → 00:11:49 ปากเอาล่ะอ้าเพราะว่าขนมปังอ้ะมันก็ดีให้
00:11:49 → 00:11:52 พลังงานใช่ไหมคะคือบางคนอาจจะเบื่อข้าว
00:11:52 → 00:11:54 เบื่อก๋วยเตี๋ยวเบื่ออะไรก็เปลี่ยนมาเป็น
00:11:54 → 00:11:58 ขนมปังบ้างหรือว่าความสะดวกครับผมจะถ่าย
00:11:58 → 00:12:02 เราถามนึงขนมปังอ่า cov หาอะไรพวกนี้ล่ะ
00:12:02 → 00:12:05 คะมีมั้ยมีมั้ยมีหมดเลยครับที่ใช้แต่ว่า
00:12:05 → 00:12:07 ปริมาณมากน้อยต่างกันหน่อยแอร์อยู่ที่เรา
00:12:07 → 00:12:10 ต้องระวังที่บอกเนี่ยคือระวังมันอาจจะไม่
00:12:10 → 00:12:14 ได้เยอะก็ได้แต่มันก็มีการใช้อยู่แต่ข้อ
00:12:14 → 00:12:17 ดีคือดีส่วนดีชั่วส่วนทั่วดูก็ไม่ถ่ายให้
00:12:18 → 00:12:20 แยกกันใช่ไหมคะแยกกันเหมือนเราบอกว่าให้
00:12:20 → 00:12:23 เรากินโยเกิร์ตดีมากเลยทีโหลดกับสุขภาพ
00:12:23 → 00:12:26 น้ำตาลสูงอย่างเงี้ยมันก็มันก็ต่างกันนะ
00:12:26 → 00:12:29 ใช่ใช่กรรมดีส่วนกรรมดีกรรมชั่วส่วนเกือบ
00:12:29 → 00:12:33 ชั่วก็แป๊บกินได้ก็กินได้ยินและก็จะ
00:12:33 → 00:12:37 สังเกตคือคือมันดีในแง่ของว่าอุ๊ยน้ำตาล
00:12:37 → 00:12:41 มันเอ่อตามมีไฟเบอร์สูงค่ะค่าดัชนีน้ำตาล
00:12:41 → 00:12:44 ต่ำโฮลวีตแต่ก็ต้องดูเองมันมีโซเดียมแสง
00:12:44 → 00:12:48 อยู่เท่าไหร่อ่าอันนี้คือสิ่งที่เราต้อง
00:12:48 → 00:12:51 ต้องพึงระวังคืออาหารทุกสิ่งทุกอย่างแหละ
00:12:51 → 00:12:53 มันไม่ได้แบบดีไปหมดซะทุกอย่างมันก็ต้อง
00:12:53 → 00:12:56 มีสิ่งที่เราแบบต้องระมัดระวังอยู่แต่
00:12:56 → 00:13:00 อาจารย์ถ้าอย่างมีฉลากโภชนาการที่ถ้าเป็น
00:13:00 → 00:13:02 แพ็คเกจจิ้งยองเห็นจะอยู่อันเนี่ยเราดู
00:13:02 → 00:13:05 ได้ถูกต้องแต่บางร้านจะเป็นลักษณะที่เรา
00:13:05 → 00:13:09 ต้องไปคีบโอเองเรามาใส่กรองหรืออะไรก็ว่า
00:13:09 → 00:13:12 ไปอันนั้นดูไม่ได้เลยไม่จริงเลยทำยังไง
00:13:12 → 00:13:16 ว่าเท่าไหร่ก็ระวังในกันกินเองแล้วกันจะ
00:13:16 → 00:13:20 ใช่ก็ต้องดูว่าปริมาตรเอ้แหล่งความน่า
00:13:20 → 00:13:22 เชื่อถือเหมือนกันครับเหมือนที่เราเจอว่า
00:13:22 → 00:13:25 วิสารบอแรกซ์มันปนเปื้อนอยู่ในพวกลูกชิ้น
00:13:25 → 00:13:28 ถ้าไส้กรอก
00:13:28 → 00:13:32 แม้กระทั่งทับทิมกรอกก็มี Black
00:13:32 → 00:13:36 อย่าลืมน้ำประสานทองนะครับที่เขาใช้ซึ่ง
00:13:36 → 00:13:38 อันตรายมากเลยนะกฎหมายอาหารห้ามใช้นะครับ
00:13:38 → 00:13:41 อาจารย์ใช้ชื่อน้ำประสานทองนี้ลืมชื่อนี้
00:13:41 → 00:13:45 เวลานั้นซิตั้งทองเข้าใจภาษาทองไงเออแต่
00:13:45 → 00:13:47 เราเอามาใช้อยู่ในพวกนี้มันก็เป็นอาหาร
00:13:47 → 00:13:50 ที่แบบแปรรูปส่วนใหญ่มาแฝงมาด้วยเรื่อง
00:13:50 → 00:13:52 ของบอแรกซ์อีกที่ค่าอาหารมาที่มีข่าวคน
00:13:52 → 00:13:55 เอา Black มากินกันน่ะถ้าแก้นู่นแก้นี่
00:13:55 → 00:13:58 รักษาอะไรอย่างนี้ครับอ่าจริงๆแล้วก็จะ
00:13:58 → 00:14:02 เสียชีวิตด้วยที่อยู่ติดไตวายไม่ไม่ต้อง
00:14:02 → 00:14:05 กลัวโลกคนอื่นแล้วก็ไม่ไม่เป็นเราอื่นเอา
00:14:05 → 00:14:08 เอาแบบไม่ต้องตื่นมาเลยอย่างนี้เฮ้ยจะดี
00:14:08 → 00:14:10 เหรอแหละมันก็มันก็แฝงอยู่ถึงบอกว่าอาหาร
00:14:10 → 00:14:14 แปรรูปเราก็ควรจะจำกัดในปริมาณที่รับ
00:14:14 → 00:14:18 ประทานด้วยไม่งั้นครับไม่งั้นมันมีแสง
00:14:18 → 00:14:22 อยู่โดยที่เราไม่รู้ตัวถ้าอ๋อแต่ที่ที่
00:14:22 → 00:14:27 เจอบ่อยๆอาจารย์ที่เวลาเราไป
00:14:27 → 00:14:30 ทานก๋วยเตี๋ยวหรือว่าจะเป็นพวกนำส่งน้ำ
00:14:30 → 00:14:33 ซุปเลยเงี้ยดูเป็นคนที่ชอบน้ำสุกอะหน้า
00:14:33 → 00:14:37 ชอบสดมันอร่อยนี่ไม่วิธีเราก็ไม่รู้ไงแต่
00:14:37 → 00:14:40 บางทีก็เจอแบบคนมองเนี่ยสนว่าเราไปร้าน
00:14:40 → 00:14:43 แบบใกล้หมดแล้วอ่ะทีมกูรู้
00:14:43 → 00:14:48 โอ้โหแล้วจะเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวเนี่ยไป
00:14:48 → 00:14:53 สะบัดน้ำใหม่ใช่น้ำน้ำส้มไม่ไหวอยู่มาก
00:14:53 → 00:14:58 น้ำราดน้ำซุปทั้งหลายแหล่น้ำแกงแพะเพราะ
00:14:58 → 00:15:01 ว่าบางทีเราแบบไปร้านถ้าฉันฆ่าแกอย่าง
00:15:01 → 00:15:04 เงี้ยนาทีวิดน้ำแกงมาใส่อย่างนี้ครับค่ะ
00:15:04 → 00:15:07 อันนั้นก็โซเลี่ยมไปอยู่สูงนะไม่ได้ไม่
00:15:07 → 00:15:09 นานรอยนะอาจารย์จะพูดทำไมทั้งหมดนี้จริงๆ
00:15:09 → 00:15:12 น่ะมันอร่อยทั้งนั้นแหละก็หวานมันเค็มมา
00:15:12 → 00:15:15 มันอร่อยอยู่แล้วน้องความหวานคนไทยก็ชอบ
00:15:15 → 00:15:19 ความซิมมันก็หัวนมวัวอ่อนกินข้าวจัดอะไร
00:15:19 → 00:15:22 นะคะน้ำแกงไปแล้วใช่ไหมครับตกลงทิ้งน้ำ
00:15:22 → 00:15:24 ปลาหรือน้ำปลาพริก
00:15:24 → 00:15:27 น้ำปลาพริกก็ได้พี่กัมปาก็ได้แต่จะเรียก
00:15:27 → 00:15:31 เลยก็สาดก็ไปอีกควายต้องมีมองน้ำพริกเป็น
00:15:31 → 00:15:35 คู่กันของคู่กรรมแล้วแกเสียบปุ๊บก็ตัดน้ำ
00:15:35 → 00:15:38 ปลาพริกลาดเข้าไปอีกมันจะมีโซเดียมแฝง
00:15:38 → 00:15:41 อยู่ในสูงเอ่อเข้ามาในอาหารนั้นสูงฉะนั้น
00:15:41 → 00:15:44 ไม่ต้องสำสุงใสหรือว่าไอ้ทำไมทุกวันเนี้ย
00:15:44 → 00:15:48 คนไทยเป็นความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่มีทุก
00:15:48 → 00:15:53 บ้านความดันโลหิตหูนะครับก็จับพฤติกรรม
00:15:53 → 00:15:56 การบริโภคด้วยค่ะอ่าจากตรงนี้เป็นปัจจัย
00:15:56 → 00:16:00 สำคัญเลยที่ทำให้เกิดโรคเรื้อรังท่านพว่า
00:16:00 → 00:16:05 มันมันก็มาจากนี่แหละกรรมของเราเองผลของ
00:16:05 → 00:16:08 การกระทำที่เราที่เรากินกินเกินไม่ใช่ว่า
00:16:08 → 00:16:12 กินไม่ได้เลยอ่าแต่มันเกินมันแสงอยู่พวก
00:16:12 → 00:16:16 นี้ห่าแล้วยังมีอะไรที่แบบคาดไม่ถึงอีก
00:16:16 → 00:16:18 ไหมคะถ้าไม่ถึงอีกเหรอนอกจากอาหารแปร
00:16:18 → 00:16:22 อาหารพวกเนื้อสัตว์แปรรูปเนาะก็พวก pizza
00:16:22 → 00:16:26 อย่างนี้ครับหน้าพิซซ่าถูกต้องใช่ครับ
00:16:26 → 00:16:29 แล้วอย่าลืมบางทีแป้งบางกรอบแป้งฟูอะไร
00:16:29 → 00:16:32 พวกนี้ถ้าอ่าจะได้แล้วส่วนประกอบองค์
00:16:32 → 00:16:35 ประกอบของมันนี่แหละที่จะทำให้โซเดียม
00:16:35 → 00:16:37 เนี่ยมันมีแฝงมาอยู่สูงโดยที่เราไม่รู้
00:16:37 → 00:16:40 เลยนะครับแล้วเปล่าอีกหนึ่งสิ่งที่คนนิยม
00:16:40 → 00:16:44 กันมากเลยเพราะมันสะดวกก็คืออาหารแช่แข็ง
00:16:44 → 00:16:48 อ๋ออันนี้คุณเยี่ยมสูงมากเลยน่าจะบอกเลย
00:16:48 → 00:16:51 อาหารสำเร็จรูปแช่แข็งเนี่ยนานๆกินทีได้
00:16:51 → 00:16:53 แต่อย่ากินถี่หรือเสียแต่มันมีทางเลือกนะ
00:16:53 → 00:16:56 ทุกวันนี้เขาก็พยายามที่จะแบบรถปริมาณ
00:16:56 → 00:16:59 โซเดียมลงแล้วก็ต้องสังเกตสลากโฆษณาตาล
00:16:59 → 00:17:01 โอ้โหนะครับเพราะบางทีเรากินทีนึงโอ้โห
00:17:01 → 00:17:05 เดี๋ยวแฝงอยู่ 5 600 มิลลิกรัม
00:17:05 → 00:17:09 โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยว่าโหอันเนี้ยถ้า
00:17:09 → 00:17:12 เราก็อีกจะกินข้าวกับเรา
00:17:12 → 00:17:17 มันก็มีโซเดียมแฝงอยู่ถ้าเออเนอะบางทีก็
00:17:17 → 00:17:20 ไม่ค่อยได้ใส่ใจอะไรขนาดนั้นนะเวลาหิวมัน
00:17:20 → 00:17:24 ก็หิวหน้ามืดตามัวกินปุ๊บนี่แบบว่าโอ้โห
00:17:24 → 00:17:28 แล้วก็พวกเบเกอรีพวกคับคายเลยพวกเนี้ย
00:17:28 → 00:17:32 เสียใจเคยเคยแบบว่าเอ๊ยเบรคช่วงช่วงเบรค
00:17:32 → 00:17:35 อาหารเบรคเขาก็เสิร์ฟเป็นพวกภาพพวกพาย
00:17:35 → 00:17:38 เนาะแล้วก็ขนมจีบติ่มซำ
00:17:38 → 00:17:42 ก็กินเข้าไปไม่จะไม่เท่าไหร่นะ
00:17:42 → 00:17:45 เธอเคาะแบบอย่างดีน้ำจะหายน้ำเลยเพราะ
00:17:45 → 00:17:48 โซเดียมมันข้างสูงมันก็ต้องการเอาน้ำมา
00:17:48 → 00:17:51 ได้รู้เจอทางแล้วก็ค่าออกไปแต่มันเข้าไป
00:17:51 → 00:17:54 ไม่ได้หมดเพราะมันเยอะเกินใช่ร่างใครมา
00:17:54 → 00:17:57 แล้วอะแล้วไปได้ไหมได้แต่ว่าก็ต้องอาศัย
00:17:57 → 00:18:00 น้ำเข้าไปแล้วก็จะมันก็จะไปกระตุ้นให้เรา
00:18:00 → 00:18:03 เกิดความกระหายน้ำและเวลาเรากินโซเดียม
00:18:03 → 00:18:06 สูงๆๆอ่าเพราะว่ามันจะได้ขับออกไปปัสสาวะ
00:18:06 → 00:18:10 ไปแต่ตายเราจะทำงานหนักนะครับอ่อใน
00:18:10 → 00:18:14 ระหว่างที่ขับออกไปทำงานแล้วถูกต้องเป็น
00:18:14 → 00:18:16 ตัวปลอมทั้งหลายแหล่เนี่ยเรายิ่งเกิด 11
00:18:16 → 00:18:20 ใกล้อื่นความต้องการของร่างขายได้ไม่มาก็
00:18:20 → 00:18:23 ต้องขับออกไปถ้าเราก็อย่าที่กินน้ำมาก
00:18:23 → 00:18:26 ขึ้นก็จะมีอาการบวมน้ำขึ้นมาอาบน้ำหนัก
00:18:26 → 00:18:29 ตัวก็เพิ่มมากขึ้นจะได้แล้วอ้ะ
00:18:29 → 00:18:32 โดยโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยพอซ้ายที่สุด
00:18:32 → 00:18:35 ความดันสูงมากๆมันก็อันตรายถึงกับชีวิต
00:18:35 → 00:18:38 ได้เลยนะอ้าผมมันก็จะเวลาความดันสูงนะ
00:18:38 → 00:18:41 ครับมันก็จะทำให้หลอดเลือดเนี่ยครับมัน
00:18:41 → 00:18:44 บีบไม่ใช่ไหมครับความดันก็สูงขึ้นเหมือน
00:18:44 → 00:18:46 กับเราบีบสายยางน้ำเอาไปแล้วรดน้ำต้นไม้
00:18:46 → 00:18:50 เรามีสายยางใช่ไหมมันก็พุ่งแรงฮะเพราะ
00:18:50 → 00:18:52 ความดันมันพุ่งแรงปุ๊บสูงปุ๊บเนี่ยมันก็
00:18:52 → 00:18:55 เอาพวกตะกันของไขมันในเลือดของเราเนี่ย
00:18:55 → 00:18:58 หลุดออกมาได้ส่งผลให้ตการไขมันในเรื่อง
00:18:58 → 00:19:03 ของเราในรูดค่ะแล้วก็อาจจะไปติดค้างนะ
00:19:03 → 00:19:07 อยู่ที่หลอดเลือดที่สมองก็ทำให้เกิด
00:19:07 → 00:19:12 สัตว์รุปค่ะหรือหลอดเลือดสมองอุดตัน 5 ทำ
00:19:12 → 00:19:15 ให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาตแบบเฉียบพลันก็มี
00:19:15 → 00:19:17 ต้องใช่ครับแต่ความดันโลหิตที่สูงขึ้นนี่
00:19:17 → 00:19:20 แหละมันก็ไปดันเอาตะกันของไขมันที่อยู่
00:19:20 → 00:19:26 ที่ผนังหลอดเลือดออกมาอ่ายิ่งสูงมากมันก็
00:19:26 → 00:19:30 ยิ่งดันแรงไอ้พวกเศษเขาเรียก Task ประกัน
00:19:30 → 00:19:33 ไขมันที่ผนังเลื่อนรูดออกมาลูกออกมานิด
00:19:33 → 00:19:35 นึงมันเป็นครั้งที่หลอดเลือดฝอยหลอดเลือด
00:19:35 → 00:19:38 เล็กๆที่สมองแล้วก็ออกซิเจนก็ไม่ไปเลี้ยง
00:19:38 → 00:19:41 ที่ในเซลล์สมองและฮะก็เกิดอัมพฤกษ์อัมพาต
00:19:41 → 00:19:44 ขึ้นมาเนื้อหาแต่มันไม่ได้กินไปโป้วันนี้
00:19:44 → 00:19:46 กินไปปุ๊บไม่เห็นเป็นไรเลยฉันไม่เห็นเป็น
00:19:46 → 00:19:49 ไรเลยวันดีคืนร้ายมันถึงจะเกิดหน้านะสิฮะ
00:19:49 → 00:19:52 มาดูวันไหนด้วยไงมันไม่บอกเอาล่วงหน้าได้
00:19:52 → 00:19:56 ด้วยต้องใช่อันนี้คือสิ่งที่มันเกิดมัน
00:19:57 → 00:20:00 ถึงสะสมไงห่าทำให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ
00:20:00 → 00:20:04 ตามมาซึ่งมาเป็นอันตรายโดยที่เราเราไม่
00:20:04 → 00:20:06 รู้เลยนะจะได้แล้วการอ่านฉลาดทั้งหลาย
00:20:06 → 00:20:10 แหล่นัยสำคัญเลยค่ะอ่าแต่เข้าใจนะคนไทย
00:20:10 → 00:20:12 เราก็อยากที่จะแบบชอบหวานมันเค็มก็จะไป
00:20:12 → 00:20:16 กินอาหารพวกเนี้ยเยอะโดยที่โซเดียมแสงโดย
00:20:16 → 00:20:20 ที่ที่เราไม่รู้ตัวถ้าอาจารย์แต่ว่าบางที
00:20:20 → 00:20:22 นั้นด้วยความดีนั่นแหละได้ความรู้จัก
00:20:22 → 00:20:25 อาจารย์มาเยอะหลังอ่านฉลากโภชนาการบาง
00:20:25 → 00:20:28 อย่างนะบางอย่างที่เราไม่คิดว่ามันจะเค็ม
00:20:28 → 00:20:30 เราจะไม่อ่านอ่าเอ่อหรือว่าถ้าเราสมมติ
00:20:30 → 00:20:34 ว่าจะแบบอันนี้แป้งเยอะดูสิคะบ่อยเด็ด
00:20:34 → 00:20:36 เยอะแค่ไหนหรืออะไรเงี้ยก็ตามความหวาน
00:20:36 → 00:20:39 แล้วก็จะเป็นประเภทประเภทไปว่าเราระวัง
00:20:39 → 00:20:42 อะไรอยู่แล้วก็จะไม่เน้นๆใครเหมือนและรบ
00:20:42 → 00:20:44 กวนเราเห็นโยเกิร์ตว่าเขียนว่าศูนย์
00:20:44 → 00:20:47 เปอร์เซ็นต์ไขมัน 0% แฟลชศูนย์
00:20:47 → 00:20:50 เปอร์เซ็นต์คนที่เศร้าในโยเกิร์ตนะแต่เรา
00:20:50 → 00:20:53 ไม่ดูน้ำตาลนั่นแหละเราถูกผู้ประกอบการตบ
00:20:53 → 00:20:55 ตาด้วยศูนย์เปอร์เซ็นต์แฟลตเพราะเรากลัว
00:20:55 → 00:21:00 อ้วนไงตัวแป๊บลืมไปว่าให้มันมีน้ำตาลแสง
00:21:00 → 00:21:04 อยู่นี่แหละเหมือนกันปัญหาตรงนี้แต่ว่า
00:21:04 → 00:21:07 บางอย่างเนี่ยคือไม่น่าเชื่อเพราะไปดู
00:21:07 → 00:21:11 ตารางโภชนาการบางทีแบบเฮ้ยทำไมโซเชียลมัน
00:21:11 → 00:21:16 เยอะอ่ะทำไมมันสูงมันแบบไม่น่าเชื่อยัง
00:21:16 → 00:21:19 บางทีคือคำว่าสูงของเราเนี่ยอาจจะไม่ได้
00:21:19 → 00:21:22 ขึ้นหลักเป็นหลายร้อยเหรอเนี้ยจะมีความ
00:21:22 → 00:21:26 ใช่ว่ามันไม่ควรจะมีคือเราคาดหวังว่าตัว
00:21:26 → 00:21:29 เลขที่ปรากฏบนฉลากโซเชียลเนี่ยช่องนะ
00:21:29 → 00:21:33 เนี่ยควรจะเป็นศูนย์อาหารมันจะมีไหมจะไม่
00:21:33 → 00:21:35 มีครับน้อยมากเลยเรากินข้าวแล้วยังมี
00:21:35 → 00:21:37 โซเดียมเลยครับข้าว 1 ทัพพีให้โซเดียม 20
00:21:37 → 00:21:40 mg เลยแต่มันไม่ได้เยอะไง
00:21:40 → 00:21:44 ไม่ค่อยรู้แต่ว่ามาได้ชิมว่ามันน้อยมัน
00:21:44 → 00:21:46 ไม่ได้แบบเยอะมากก็อีกหนึ่งสิ่งที่กำลัง
00:21:46 → 00:21:49 เป็นทุเรียนทอดเลยนะจานฝากไว้เลยต้องอ่าน
00:21:49 → 00:21:51 ฉลากโภชนาการให้ดีเพราะถือว่าเป็นอาหาร
00:21:51 → 00:21:53 แปรรูปภาพเซพูดเหมือนกันก็คือ
00:21:53 → 00:21:58 แผน Bass mid เฮ้ยอาจารย์อดุลเดชที่
00:21:58 → 00:22:00 กำลังฮอตกันเนี่ยอ้ะโปรตีนพืชนี่แหละใช่
00:22:00 → 00:22:02 เอามาทำ
00:22:02 → 00:22:06 เรียนแบบเนื้อสัตว์เนี่ยมันแฝงไปด้วย
00:22:06 → 00:22:09 โซเดียมสูงเพราะมันไปแปลรูปมันเป็นอาหาร
00:22:09 → 00:22:13 แปรรูปอ่าพวกแผนโปรตีนแทนเบสสังเกตฉลาก
00:22:13 → 00:22:16 โภชนาการให้ดีเลยเพราะเราก็ไม่ได้โฟกัส
00:22:16 → 00:22:18 เนี่ยเรามองโฟกัสแต่ว่าเคยโปรตีนพืชดีกับ
00:22:18 → 00:22:22 สุขภาพนะฮะดีกว่ากินเนื้อแดงอะดีกว่ากิน
00:22:22 → 00:22:26 เนื้อสัตว์ใหญ่ที่มันมีไขมันแสงมาอยู่ไข
00:22:26 → 00:22:29 มันที่ไม่ดีกับมันอีกตัวแฝงมาอยู่นะก็กิน
00:22:29 → 00:22:31 เยอะก็เสี่ยงต่อโรคเรื้อรังกลายเป็นว่า
00:22:31 → 00:22:34 เราลืมดูว่าโซเดียมสูงโปรตีนพืชแต่เรา
00:22:34 → 00:22:37 สังเกตใครกินแทนโปรตีนเนี่ยมาดูฉลาก
00:22:37 → 00:22:40 โภชนาการให้ดีเลยนะบังห้อแบบอุ้ยแก้วนึง
00:22:40 → 00:22:44 ตั้ง 400 mg 500 มิลลิกรัมของโซเดียม
00:22:44 → 00:22:47 โดยที่เราไม่ได้ไม่ไม่ได้สังเกตเพราะเรา
00:22:47 → 00:22:50 ดูแต่ฮู้จะเอาโปรตีนสูงๆอาจจะมีไฟเบอร์
00:22:50 → 00:22:53 มุ้งไฟเบอร์เอ้ยพืชเป็นออแกนิค non-gmo
00:22:53 → 00:22:59 ดูนี่นั่นเราจะถูกภาพลวงตาทำให้เราว่าลืม
00:22:59 → 00:23:02 ในบางสิ่งตาได้ว่าเรารับพิจารณาก็ต้อง
00:23:02 → 00:23:07 พิจารณาให้ให้รอบด้านนอนในแง่ของอาหารเรา
00:23:07 → 00:23:10 ดูได้ทั้ง Food Safety แล้วก็เรื่องของ
00:23:10 → 00:23:12 คุณค่าทางโภชนาการเรื่องความปลอดภัยของ
00:23:12 → 00:23:14 อาหารนะเพื่อความปลอดภัยของอาหารแล้วก็ดู
00:23:14 → 00:23:17 เอ้ยมันมีสารเคมีตกค้างมั้ยมันมี
00:23:17 → 00:23:22 จุลินทรีย์ไหมหามันความสะอาดอ่าในงานของ
00:23:22 → 00:23:24 คุณค่าทางโภชนาการแล้วก็ดูว่าเอ๊ยไม่ได้
00:23:24 → 00:23:28 ดูว่าว่าสารอาหารที่เราอยากได้สูงเสมอไป
00:23:28 → 00:23:32 แล้วอ่ะแสงอ่ะอ่าน้ำตาลแสงเยอะไหมถ้าหา
00:23:32 → 00:23:36 โซเดียมแพงเยอะไหมอ่ะอันนี้ 2 4 เนี้ย
00:23:36 → 00:23:39 ท่าเรือลำน้ำตาลแสงเยอะไหมแค่นั้นเองคือ
00:23:39 → 00:23:40 อันนี้หลักการพิจารณา
00:23:40 → 00:23:44 ได้ง่ายๆเลยโดยที่เราแบบที่จะได้รอบด้าน
00:23:44 → 00:23:46 ไม่งั้นเราจะได้ไม่คุ้มเสีย
00:23:46 → 00:23:49 แต่ไม่ใช่ว่าเรากินไม่ได้เลยนะครับคุณ
00:23:49 → 00:23:51 แล้วกินได้แต่เราก็ไป Control อุ่นเอาค่ะ
00:23:51 → 00:23:54 อ่าในบริบทอ่ะแต่ Concept อาจารย์อยากกิน
00:23:54 → 00:23:56 ต้องได้กินอย่างที่บอกนั้นมีความสุขในการ
00:23:56 → 00:23:59 กินก็กินบายที่ใส่แค่ว่าบริบทว่าละว่าไง
00:23:59 → 00:24:02 มึงก็กินตรงนี้โซเดียมสูงแล้วเราก็ต้องไป
00:24:02 → 00:24:03 ควบคุมอันอื่นอ่า
00:24:03 → 00:24:07 กำลังคิดอยู่จริงที่อาจารย์คุยมาตั้งแต่
00:24:07 → 00:24:09 ตอนต้นเลยค่ะคุณมาฟังอันนี้ที่ฟังแล้วก็
00:24:09 → 00:24:12 รู้สึกว่าเราควรจะใส่ใจเพิ่มขึ้นจากเดิม
00:24:12 → 00:24:14 ที่เราจะเน้นแค่ว่าอ่าตอนนี้เราไม่อยากจะ
00:24:14 → 00:24:19 เน้นความหวานเยอะก็ดูแต่ช่องของน้ำตาลใช่
00:24:19 → 00:24:21 แล้วส่งเงินมาจะไม่ค่อยได้สนใจหรือว่า
00:24:21 → 00:24:23 คาร์โบไฮเดรตอะไรพวกนี้เป็นกลายเป็นว่า
00:24:23 → 00:24:26 วันนี้คือสิ่งที่อาจารย์บอกก็คือให้เราดู
00:24:26 → 00:24:30 ฉลามกลการให้ครบถ้วนเพราะมันมีแสงมันมี
00:24:30 → 00:24:34 อะไรอยู่ในนั้นอยู่แล้วนะคะแล้วก็บาง
00:24:34 → 00:24:36 อย่างถ้าเกิดจะหมดไม่มีฉลากโภชนาการมีการ
00:24:36 → 00:24:39 อ่านไม่เป็นไรแต่ถ้าเกิดว่าคุณฟังรับ
00:24:39 → 00:24:41 ประทานไปแล้วรู้สึกว่าให้มันเค็มอ้ะหือ
00:24:41 → 00:24:44 สุดถ้าคนกินเค็มเขาจะรู้สึกไม่เค็มใช่
00:24:44 → 00:24:47 มั้ยฮะหากินเค็มนิดนึงก็เรื่องโหอย่าง
00:24:47 → 00:24:50 เต็มเลยเนี้ยเพราะฉะนั้นก็คือเอาเป็นทหาร
00:24:50 → 00:24:54 เรารู้ว่าถ้ามันเค็มวันนั้นก็ไม่เปลี่ยน
00:24:54 → 00:24:58 ประหารประเภทเป็นจืดบ้างเป็นอะไรบ้างหรือ
00:24:58 → 00:25:01 ว่าระวังเรื่องการแสงของโซเดียมพวกนี้ใช่
00:25:01 → 00:25:04 กำลังดับนั้นไปถ้าไม่มีฉลากโภชนาการรู้
00:25:04 → 00:25:07 แล้วว่าเห้ยวันนี้กินเยอะและสมุดอย่างที่
00:25:07 → 00:25:10 จะถามไปเจอกูยิ่งทุกข์กี้ไปเป็นพันๆไม่
00:25:10 → 00:25:12 ได้รับไปเป็นพันแล้วเอาก็ต้องควบคุมไม่
00:25:12 → 00:25:15 ใช่มื้อถัดไปก็อยากไปกินอาหารหมักดอง
00:25:15 → 00:25:19 อาหารแปรรูปอีกอย่างเงี้ยโจ๊ก 2 ซองก็
00:25:19 → 00:25:23 เหมือนกันอ่าเนี่ยบางคนแบบชอบหรือว่าร่ำ
00:25:23 → 00:25:26 รวยใกล้สิ้นเดือนจริงโจ๊กและ
00:25:26 → 00:25:30 พวกนี้มันก็มันก็จะแฝงอยู่ค่ะโดยที่เรา
00:25:30 → 00:25:33 แบบไม่รู้ตัวแล้วก็มาอ้ะมันไม่ได้เค็มนะ
00:25:33 → 00:25:35 แต่สังเกตุสลับผู้ชนะการบางทีโจ๊ก 1 ซอง
00:25:35 → 00:25:38 1500 เต็มที่กรรมไม่เลี่ยมก็ไม่ไม่ค่อย
00:25:38 → 00:25:41 กล้าอยากจะกินนะแต่ว่ามันที่สะดวกมัน
00:25:41 → 00:25:44 จำเป็นต้องมีอะไรรองท้องอ่ะค่ะถ้าแยะเรา
00:25:44 → 00:25:47 เอาเราก็ต้องดูไอ้ปริมาณให้เหมาะสมหรือ
00:25:47 → 00:25:49 ว่านั้นกินไปแล้วไม่ใช่ว่าตรงนี้โจ๊กและ
00:25:49 → 00:25:53 ต้องวันกินก๋วยเตี๋ยวยังไปสั่งเส้นบะหมี่
00:25:53 → 00:25:56 กึ่งสำเร็จรูปนึกออกไหมคำตอบมันก็เลยกลาย
00:25:56 → 00:25:59 เป็นว่าอุ๊ยมันเกินแต่ละวันเกินแล้วเราก็
00:25:59 → 00:26:02 บวมขึ้นถ้านะแต่ก็ทำงานหนักความดันเราก็
00:26:02 → 00:26:06 สูงน้อยใช้แล้วการอ่านฉลากโภชนาการนี่
00:26:06 → 00:26:08 แหละเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ทำให้เรา
00:26:08 → 00:26:11 เนี่ยควบคุมปริมาณโซเดียมในแต่ละวันได้
00:26:11 → 00:26:14 อย่างเหมาะสมเพราะฉะนั้นก็ลองนะคะคุณมา
00:26:14 → 00:26:18 ฟังคือย้ำว่าเราไม่ได้ห้ามบางคนชอบมากหู
00:26:18 → 00:26:21 ไม่เค็มมันไม่ได้อ้ะมันไม่อร่อยหรืออะไร
00:26:21 → 00:26:24 เงี้ยแต่ไม่เป็นไรเอาอย่างอื่นเบาๆ
00:26:24 → 00:26:27 เปลี่ยนเป็นผักผลไม้อย่างอื่นที่รู้นะว่า
00:26:27 → 00:26:30 ไม่เค็มอ่ะเพราะพูดถึงผลไม้มาฝากอีกนิด
00:26:30 → 00:26:33 นึงอะไรฮะอาจารย์ก่อนจบคล้ายน้ำผลไม้แปร
00:26:33 → 00:26:36 รูปสังเกตปริมาณโซเดียมด้วยอุ๊ย
00:26:36 → 00:26:39 ก็ไม่เคยดูเลยอ่ะเนี่ยก็ขึ้นชื่อว่าผลไม้
00:26:39 → 00:26:42 อ้าน้ำผลไม้แปรรูปก็ต้องสังเกตปริมาณ
00:26:42 → 00:26:45 โซเดียมเนาะเพราะว่ามันก็มีแฝงอยู่เช่น
00:26:45 → 00:26:49 เดียวกันโอ๊ยแสดงว่ามีลูกยางถัง
00:26:49 → 00:26:52 จะหลีกเลี่ยงยังไงอ่าแต่ปริมาณก็อย่าเยอะ
00:26:52 → 00:26:55 เกินไปก็แล้วกันต้องใส่หน้านะวันนี้ก็ได้
00:26:55 → 00:26:59 แนวทางสำหรับในการที่เราจะได้รู้ว่าอาหาร
00:26:59 → 00:27:01 บางอย่างมันไม่เค็มอ่ะแต่ว่ามันมีโซเดียม
00:27:01 → 00:27:04 สูงก็ระวังดูแลสุขภาพด้วยนะเราเป็นห่วง
00:27:04 → 00:27:06 ไม่อยากให้มีใครต้องมาเสี่ยงกับความดัน
00:27:06 → 00:27:08 โลหิตสูงนะคะวันนี้ขอบคุณอาจารย์เอกราช
00:27:08 → 00:27:13 ค่าสวัสดีค่ะสวัสดีครับผมหมดเวลาแล้วค่ะ
00:27:13 → 00:27:15 คุณผู้ฟังครับพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะ
00:27:15 → 00:27:17 ขอบคุณที่ติดตามรับฟังรายการค่ะแล้วก็จะ
00:27:17 → 00:27:20 รักดีดีเราจะมีมาฝากกันต่อไปนะคะวันนี้
00:27:20 → 00:27:22 เราไปก่อนค่ะสวัสดีค่ะ
00:27:22 → 00:27:26 เพี๊ยซขาดระหว่างความสวยกับตอนมีเสน่ห์
00:27:26 → 00:27:29 คุณคิดว่าอะไรดีกว่ากันที่สำคัญเราจะรู้
00:27:29 → 00:27:32 ว่าต่างกันอย่างไรผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.
00:27:32 → 00:27:34 จันทร์วิภาดีหรอกสัมพันธ์ผู้จัดการได้
00:27:34 → 00:27:37 ความสัมพันธ์และครอบครัวมาบอกนะครับเวลา
00:27:37 → 00:27:40 ที่เรามองเห็นอะไรปั๊บเนี่ยสิ่งแรกที่มัน
00:27:40 → 00:27:44 จะมาปะทะก็คือทางสายตาถูกไหมคะค่ะหน้าที่
00:27:44 → 00:27:46 มันจะดึงดูดสายตาเราเนี่ยอะไรที่ดึงดูด
00:27:46 → 00:27:49 สายตาเราคะในเรื่องของความสวยความหล่อมัน
00:27:49 → 00:27:53 จะมาก่อนจะถูกไหมลูกเพราะว่าตาเราพอมันไป
00:27:53 → 00:27:55 ประทับมันก็เห็นรูปลักษณ์ภายนอกก่อนว่า
00:27:55 → 00:27:58 สวยหรอเพราะฉะนั้นความสวยความหล่อเนี่ย
00:27:58 → 00:28:01 มันเป็นลักษณะของการอาจเป็นสิ่งที่ดึงดูด
00:28:01 → 00:28:04 สายตาเราได้มากกว่านะคะแต่แต่พอดึงดูด
00:28:04 → 00:28:07 เข้าไปใกล้ๆแล้วเนี่ยนะ 5 ได้พูดคุยได้
00:28:07 → 00:28:10 สัมผัสกันทางปฏิสัมพันธ์อะไรก็ตามเนี่ย
00:28:10 → 00:28:14 เคยได้ยินคำพูดในโลกว่าสวยแต่รูปจูบไม่
00:28:14 → 00:28:17 หอมโหนี้ได้ยินมานะนะคะนั่นก็หมายความว่า
00:28:17 → 00:28:21 บางคนในสวยแต่ไม่มีเสน่ห์นะคะก็คือหมาย
00:28:21 → 00:28:23 ความว่าไม่ได้มีเสน่ห์ให้คนติดตามหรือ
00:28:23 → 00:28:27 อยากเข้าใกล้หรืออยากที่จะพูดคุยด้วยหรือ
00:28:27 → 00:28:32 อยากคบหาต่อกันไปยาวๆนะฮะเพราะฉะนั้นหนู
00:28:32 → 00:28:36 ดูตัวอย่างก็ได้ค่ะในทุกวันเนี้ยดารานัก
00:28:36 → 00:28:40 ร้องนักแสดงในทีวีเนี่ยหลายคนที่อุสวยนะ
00:28:40 → 00:28:43 คนเนี้ยแต่พอเล่นละครแล้วคนไม่ติดอ่ะเขา
00:28:43 → 00:28:47 ก็มีความสามารถนะเขาก็สวยนะแต่ทำไมไปต่อ
00:28:47 → 00:28:51 ไม่ได้อ่ะแต่บางคนน่ะหน้าตามีตำหนินะอาจ
00:28:51 → 00:28:54 จะไม่ได้เลยเวอร์เลยสวยทั้งหมดอ้ะเช่นอ้ะ
00:28:54 → 00:28:58 ทำมาดูกันเป็นส่วนส่วนเนี่ยแต่ก็ตีไปนิด
00:28:58 → 00:29:01 นึงปากหนาไปหน่อยจมูกล้านไปนิดนึงแต่ทำไม
00:29:01 → 00:29:05 โดยรวมแล้วก็มันเป็นคนมีเสน่ห์ซึ่งคนอยาก
00:29:05 → 00:29:08 ติดตามอย่างดูอยากอะไรอย่างนี้นะคะเพราะ
00:29:08 → 00:29:11 ฉะนั้นตรงนี้น่าจะเห็นเลยว่าในแง่ของความ
00:29:11 → 00:29:13 สวยความหล่อเนี่ยมันก็เป็นปัจจัยที่จะดึง
00:29:13 → 00:29:16 ดูดคนเข้ามาหาเราให้ความสนใจแต่ในขณะ
00:29:16 → 00:29:19 เดียวกันถ้าไม่มีเสน่ห์มาปรุงแต่งเนี่ย
00:29:19 → 00:29:22 มันก็จะเหมือนกับเหมือนกับเราเอารูปภาพมา
00:29:22 → 00:29:26 ติดอ่ะคนที่ถ่ายรูปสวยอโรมาแปะติดไว้แต่
00:29:26 → 00:29:28 ว่าในแง่ของการที่จะมีความสัมพันธ์ที่ดี
00:29:28 → 00:29:32 กับผู้คนนั้นไม่มีเพราะฉะนั้นเนี่ยโดยรวม
00:29:32 → 00:29:34 เนี่ยเขาจึงบอกว่าเสน่ห์ที่จะดึงดูดจิตใจ
00:29:34 → 00:29:36 คนได้นะคะ
00:29:36 → 00:29:39 ถ้าไม่บุคคลอยากเข้ามาใกล้อย่าพูดคุยยาคบ
00:29:39 → 00:29:42 หาอะไรต่างๆเนี่ยถ้าจะให้แบ่งเนี่ยแบ่ง
00:29:42 → 00:29:45 ได้เป็น 3 ส่วนด้วยกันก็คือเสน่ห์ทางกาย
00:29:45 → 00:29:48 นะฮะเราเรียกว่าเสน่ห์ทางภาษากายอันที่
00:29:48 → 00:29:51 สองคือเสน่ห์ด้านความฉลาดทันคนข้างหน้า
00:29:51 → 00:29:54 ปฏิภาณไหวพริบและเนี่ยนะคะและที่ 3 ก็คือ
00:29:54 → 00:29:57 เป็นชั้นเอกทางด้านความเป็นตัวของตัวเอง
00:29:57 → 00:29:59 [เพลง]
00:29:59 → 00:30:04 wes ไทยพีบีเอสคาร์ส
00:30:04 → 00:30:07 ที่ตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
00:30:07 → 00:30:11 ของไทยที่บช.ปสคาส spotify soundcloud
00:30:11 → 00:30:15 Google พ็อดคาสท์ Apple ชาร์จละ YouTube
00:30:15 → 00:30:18 Channel Thai PBS สด Task ท้ายพีเรียด
00:30:18 → 00:30:21 ถอดขาด you the world's เกียร์เทอร์โบ
00:30:21 → 00:30:23 อีกอ่ะ
00:30:23 → 00:30:27 [เพลง]