00:00:00 → 00:00:02 คือจากสถิติที่ผมจดมานะฮะประเทศไทยเนี่ย
00:00:02 → 00:00:07 ปัจจุบันเนี่ยเราเข้าสู่เ่อสังคมเราเรียก
00:00:07 → 00:00:10 สังคมผู้สูงอายุเพราะว่าประชากรผู้สูง
00:00:10 → 00:00:12 อายุเราเนี่ยเกิน 10% ละของคนไทยเนี่ย
00:00:12 → 00:00:13 ประมาณ
00:00:13 → 00:00:17 16% จากสถิติที่ผมมีข้อมูลนะฮะเราคาด
00:00:17 → 00:00:20 คะเนว่าภายในอีกเนี่ย
00:00:20 → 00:00:24 2568 เราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่าง
00:00:24 → 00:00:27 สมบูรณ์เราเรียก Age Society ก็คือจะมี
00:00:27 → 00:00:34 สัดส่วนสูงถึง 20% และในอนาคตคาดคะเนในปี
00:00:34 → 00:00:39 2574 เราจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุด
00:00:39 → 00:00:42 ยอดนะผมพยายามแปลภาษาไทยมาให้ก็คือจะสูง
00:00:42 → 00:00:44 ถึง 28%
00:00:44 → 00:00:48 อ่ะเราทุกคนเตรียมพร้อมหรือยังครับเตรียม
00:00:48 → 00:00:51 พร้อมสำหรับสิ่งที่เรากำลังจะเห็นในอนาคต
00:00:51 → 00:00:55 คือปรากฏการณ์นอกเหนือจากโรคนะฮะที่ตามมา
00:00:55 → 00:00:56 กับ
00:00:56 → 00:01:01 เอ่อภาวะอายุก็คือเส้นเลือดสมองตีบนะฮะ
00:01:01 → 00:01:05 หลงลืมนะฮะโรคหัวใจเบาหวานโรคปอดแต่อีก
00:01:05 → 00:01:09 กลุ่มโรคนึงคือกลุ่มโรคกล้ามเนื้อนะครับ
00:01:09 → 00:01:13 ปัญหากล้ามเนื้อเนี่ยจริงๆพบมากก็คือถ้า
00:01:13 → 00:01:16 ภาษาอังกฤษเราเรียกโคเนียนะภาษาไทยเรา
00:01:16 → 00:01:19 เรียกภาวะมวลกล้ามเนื้อ
00:01:19 → 00:01:22 น้อยเดี๋ยวเราจะไปขยายความกันแต่อยากให้
00:01:22 → 00:01:26 รู้ว่ามีตัวเลขไม่ไม่น้อยนะครับล่าสุดก็
00:01:26 → 00:01:29 มีการเก็บตัวเลขในเมืองไทยนะฮะสัดส่วน
00:01:29 → 00:01:33 ส่วนภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยเนี่ยพบมากใน
00:01:33 → 00:01:37 ชนบทนะฮะในกรุงเทพฯมีถึง 10% แล้วแต่ตัว
00:01:37 → 00:01:40 เลขนะฮะต่างจังหวัดอาจจะสูงถึง 15
00:01:40 → 00:01:43 -20% ภาวะนี้เกิดจากอะไรเรามาค่อยๆเก็บ
00:01:44 → 00:01:47 กันนะแล้วมีอะไรที่ผมอยากจะแนะนำเราให้
00:01:47 → 00:01:49 ความรู้เราได้ดีมากกว่าผมนะฮะก็คือวันนี้
00:01:49 → 00:01:52 ผมเชิญเอ่อเจ้าของเพจนะฮะครูสุขที่มีคน
00:01:52 → 00:01:56 ติดตามเป็นแสนนะครับปัจจุบันครูสุขเนี่ย
00:01:56 → 00:01:58 นอกจากจะเป็นเจ้าของเพจแล้วยังเป็น
00:01:58 → 00:02:01 mobility โค้ชนะฮะเป็นวิทยากรนะฮะแล้ว
00:02:01 → 00:02:04 เป็นเจ้าของ Academy นะฮะสวัสดีครับคุณ
00:02:04 → 00:02:06 หมอครับสวัสดีครับผมอยากได้คำขยายความ
00:02:07 → 00:02:08 กว่านี้อกนิดนึงใช่มั้ยคุณหมอคือเราอาจจะ
00:02:08 → 00:02:11 เปลี่ยนจับ mobility เป็น movement อ่า
00:02:11 → 00:02:13 ครับ movement โค้ชจริงๆในภาษาไทยคือถ้า
00:02:13 → 00:02:16 เราแปลตรงๆเนี่ยก็คือโค้ชหรือผู้เชี่ยว
00:02:16 → 00:02:18 ชาญด้านการเคลื่อนไหวอืนะครับพอเราพูดถึง
00:02:18 → 00:02:21 การออกกำลังกายสิ่งที่เราจะต้องพูดก่อน
00:02:21 → 00:02:24 เลยก่อนเราจะออกกำลังกายได้เราต้องเดิน
00:02:24 → 00:02:27 เป็นเราต้องนั่งเป็นเราต้องยืนเป็นฉะนั้น
00:02:27 → 00:02:30 ทักษะเหล่าเนี้ยมันคือการเคลื่อนไหวถ้า
00:02:30 → 00:02:32 เรามีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีการออกกำลัง
00:02:32 → 00:02:36 กายก็จะดีตามแต่ถ้าการเคลื่อนไหวเรายัง
00:02:36 → 00:02:38 ไม่ดีการไปออกกำลังกายมันยังจะไม่ตอบ
00:02:38 → 00:02:41 โจทย์ทุกมุมครับซึ่งครูสุกำลังจะบอกว่า
00:02:41 → 00:02:45 ปัจจุบันเทรนด์คือการออกกำลังกายแต่คนลืม
00:02:45 → 00:02:47 มองการเคลื่อนไหวซึ่งจริงๆการเคลื่อนไหว
00:02:47 → 00:02:50 จริงๆเป็นภาพที่ใหญ่กว่าใช่การออกกำลัง
00:02:50 → 00:02:54 กายเป็นแค่ส่วนเล็กๆผมเองเนี่ยก็ก็พอไป
00:02:54 → 00:02:57 อยู่ต่างจังหวัดตอนไปอยู่นครไปอยู่ท่า
00:02:57 → 00:03:00 ศาลาเนี่ยสัดส่วนผู้สูงอายุเยอะแล้วก็ 80
00:03:01 → 00:03:04 990 ตัวเล็กแต่แข็งแรงครับเค้าไม่เคย
00:03:04 → 00:03:08 ต้องมานั่งตื่นวิ่งตอนเช้าเไม่ต้องมานั่ง
00:03:08 → 00:03:13 พิถีพิถันครับคีโตไดเอทโลขาบไฮโปรตีนเกน
00:03:13 → 00:03:17 ไม่มีครับเกินง่ายแต่ movement เาเยอะมาก
00:03:17 → 00:03:19 ครับแล้วเขาอยู่กันถึง 90 เฉลี่ยเยอะมาก
00:03:19 → 00:03:22 เลยครับกระดูกแข็งแรงกล้ามเนื้ออาจจะบาง
00:03:22 → 00:03:25 ตามอายุแต่แข็งแรงไม่ค่อยป่วยอย่างมากก็
00:03:25 → 00:03:29 ความดันตามอายุครับนะครับอันเนี้ยครับผม
00:03:29 → 00:03:32 เห็นว่ากระแส movement เราเนี่ยเรามักจะ
00:03:32 → 00:03:35 ถูกลืมไปครับเราไปให้ค่านิยมกับกระแส
00:03:35 → 00:03:38 Fitness จนลืม movement ไปอยากให้ทุกคน
00:03:38 → 00:03:41 นึกถึงนึกภาพตามนะครับักอ่าัก 2,000 ปี
00:03:42 → 00:03:44 ก่อนอ่าสมัยก่อนคนกลุ่มนั้นยุคนั้นก็คือ
00:03:45 → 00:03:48 ล่าสัตว์เราจะเคลื่อนไหวก็มีแค่กรณีเดียว
00:03:48 → 00:03:51 ละครับหิวอืแล้วเราก็จะเคลื่อนไหวแปลว่า
00:03:52 → 00:03:54 ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมา 2 อย่างแน่ๆคือ
00:03:54 → 00:03:58 1 จะต้องมีเติมพลังงานคืออาหารกับ 2 จะ
00:03:58 → 00:04:01 ต้องมีการเคลื่อนไหวเพื่อไปหาออืนะกับ 3
00:04:01 → 00:04:03 อาจจะต้องวิ่งหนีเพราะไม่อยากเป็นอาหาร
00:04:03 → 00:04:06 ใครนั่นแปลว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเรา
00:04:06 → 00:04:09 ถูกออกแบบว่าการเคลื่อนไหวเราไม่ได้ถูก
00:04:09 → 00:04:12 ออกแบบมาว่าจะต้องทำ 3 เซตเราไม่ได้ถูก
00:04:12 → 00:04:14 ออกแบบมาว่าวออกกำลังกายวันละกี่นาทีเรา
00:04:14 → 00:04:16 ไม่ได้ถูกออกแบบว่าเราจะต้องล่าสัตว์วละ
00:04:16 → 00:04:19 กี่นาทีเริ่มเห็นภาพเริ่มเห็นภาพใช่มครับ
00:04:19 → 00:04:22 เราจะไม่มีกรอบอะไรเลยแต่สิ่งที่มันไดฟ
00:04:22 → 00:04:24 เราคือบริสุทธิ์ใจของเราคือเราอยากไปเรา
00:04:24 → 00:04:27 อยากเดินใช่มครับแต่สิ่งที่เกิดขึ้นใน
00:04:27 → 00:04:31 ปัจจุบันคือหิวข้าวคุณหมอทำไงก็กินลายแมน
00:04:31 → 00:04:33 อลาย Food มาแล้วครับตั้งแต่โควิดอาหารมา
00:04:33 → 00:04:36 ถึงโต๊ะแล้ว delivery าย Food แพนฉะนั้น
00:04:36 → 00:04:39 สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือไม่มีการเคลื่อนไหว
00:04:39 → 00:04:41 เพื่อไปหาอาหารแหละอื movement หายไป
00:04:41 → 00:04:44 แล้วะแต่ Food มาแล้วนะออพอคุณหมอทาน Food
00:04:44 → 00:04:47 เสร็จปุ๊บช่วงปีใหม่ทานเยอะรู้สึกผิดมั้ย
00:04:47 → 00:04:50 ฮะอรู้สึกผิดครับปีใหม่นี้ฉันจะต้องมี New
00:04:50 → 00:04:53 Body New you ฉันต้องออกกำลังกาย
00:04:53 → 00:04:55 ฉะนั้นสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือคุณหมอกำลัง
00:04:55 → 00:04:59 จะ Exercise เพื่อชดเชยในสิ่งที่คุณหมอ
00:04:59 → 00:05:02 รู้สึกผิดอือหรือกำลังชดเชยในสิ่งที่เรา
00:05:02 → 00:05:05 ขาดฉะนั้น Exercise ของคนยุคนี้เกิดจาก
00:05:05 → 00:05:08 การชดเชยอือเกิดจากเงื่อนไขบางอย่างเลยทำ
00:05:08 → 00:05:09 ให้เราจะต้อง
00:05:10 → 00:05:13 Exercise ครูสุขกำลังจะบอก
00:05:13 → 00:05:17 ว่ากระแสหรือ mindset ที่คิดว่าถ้าจะทำ
00:05:18 → 00:05:21 ให้สุขภาพดีต้องไปออกกำลังกายอาจจะไม่ถูก
00:05:21 → 00:05:24 ซะทีเดียวถ้าเราลืมการเคลื่อนไหวใช่ครับ
00:05:24 → 00:05:27 ในชีวิตประจำวันใช่ครับครูสุกำลังบอกว่า
00:05:27 → 00:05:30 แทนที่เราจะไปนั่งโฟกัสเรื่องการเอกำลัง
00:05:30 → 00:05:32 กายก่อนจะไปถึงจุดนั้นกลับมาโฟกัสที่การ
00:05:32 → 00:05:35 เคลื่อนไหวก่อนใช่ครับให้น้ำหนักกับการ
00:05:35 → 00:05:38 เคลื่อนไหวให้มากที่สุดและถูกวิธีถูกต้อง
00:05:38 → 00:05:41 ใช่มครับจริงๆคนเราถูกออกแบบนะครับให้เรา
00:05:41 → 00:05:44 เคลื่อนไหวเนี่ยประมาณ 3,000 นาทีต่อ
00:05:44 → 00:05:47 อาทิตย์เพราะว่าเราเคยเป็นคนนักล่าเราเคย
00:05:47 → 00:05:49 จะต้องหาอาหารเราเลยต้องทำสวนทำไร่ใช่มั้
00:05:49 → 00:05:52 ครับแต่ปัจจุบันเนี่ยคนพยายามจะออกกำลัง
00:05:52 → 00:05:55 กายแลเซเฉลี่ยนะครับอาทิตย์ละ 300 นาที
00:05:55 → 00:05:58 คุณหมอเห็นความแตกต่างยังอเราถูกออกแบบมา
00:05:58 → 00:06:01 ให้ 3,000 นาทีอือแต่เรา
00:06:01 → 00:06:04 อียนาทีต่อให้คุณหมอเป็นคขยันนะอหายไป 10
00:06:04 → 00:06:08 เท่านะอือๆพอมันหายไป 10 เท่าสิ่งแรกเลย
00:06:08 → 00:06:10 ทุกคนจะพยายามจะบอกว่าการออกกำลังกายทำ
00:06:10 → 00:06:13 ให้สุขภาพดีจริงๆเราต้องมองกลับไปครับ
00:06:13 → 00:06:15 จริงๆแล้วเราถูกออกแบบให้เป็น 3,000 นาที
00:06:15 → 00:06:18 เราไม่ได้ถูกออกแบบให้ทำแค่ 300 นาทีอื
00:06:18 → 00:06:21 แทนที่เราแล้วเราจะทำไงให้จาก 3,000 เป็น
00:06:21 → 00:06:23 3 300 เป็น 3,000 ใช่ป่ะไลฟ์สไตล์ไง
00:06:23 → 00:06:26 ครับเิคุณต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ก่อนเช่นผม
00:06:26 → 00:06:28 ยกตัวอย่างง่ายๆแค่ขึ้น BTS อ่ะครับคุณ
00:06:28 → 00:06:31 เห็นบันไดเลื่อนอืมันมีบันไดด้วยนะอือ่า
00:06:31 → 00:06:33 อย่างวันนี้ก่อนมาหาคุณหมอผมก็เลือกที่จะ
00:06:33 → 00:06:35 เดินผมไม่เลือกที่จะขึ้นลิฟต์อือผมตั้งใจ
00:06:36 → 00:06:38 เป็นไงเพราะว่าเรารู้สึกว่าก็เนี่ยแหละ
00:06:38 → 00:06:41 Extra Time ที่เราจะได้ movement เพราะ
00:06:41 → 00:06:44 ถ้าเรามัวแต่ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกใน
00:06:44 → 00:06:46 ปัจจุบันมันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ไงงที่จะอยาก
00:06:46 → 00:06:49 ให้ทุกคนเปลี่ยนจริงๆไสตล์เราอ่ะคือมัน
00:06:49 → 00:06:51 ต้องเปลี่ยนเช่นคุณไปเซเว่นเอาจริงๆอ่ะ
00:06:51 → 00:06:53 คุณก็เดินได้จากหมู่บ้านคุณเดินออกไป
00:06:53 → 00:06:55 ประมาณ 600 เมตรอ่ะทำไมคุณึงจะต้องขับรถ
00:06:55 → 00:06:58 ไปถ้าเราเปลี่ยนลองลองนึกภาพตามนะครับถ้า
00:06:58 → 00:07:01 เราเดินวละ 600 เมตไปกลับใช่มั้ยครับ
00:07:01 → 00:07:03 1,200 แล้วเนาะถ้าวันนึงคุณไป 4-5 รอบ
00:07:03 → 00:07:07 นี่เกือบ 5 6,900 แล้วนะออื 5 6,900
00:07:07 → 00:07:09 แล้วนะคือผมกำลังจะบอกว่าให้เรากลับไป you
00:07:09 → 00:07:12 have to move for your Food อ่ะอ่า
00:07:12 → 00:07:15 ๆเริ่มขยับมากขึ้นใช่ขยับมากขึ้นเพื่อจะ
00:07:15 → 00:07:17 ไปทำในสิ่งที่คุณต้องการก็ได้แต่ผมอยาก
00:07:17 → 00:07:21 ให้คุณขยับไปไม่ใช่แบบโอเคฉันไปถึงปุ๊บ
00:07:21 → 00:07:23 ฉันก็ฉันก็รอแบมาฉันรอนี่มาฉันรอ
00:07:23 → 00:07:26 มอเตอร์ไซค์วินมาออกจากปักซอยมันก็เลยทำ
00:07:26 → 00:07:30 ให้เราไม่ไดู้อือย่าเพิ่งโฟกัสที่ฟิตเนส
00:07:30 → 00:07:33 ใช่โฟกัสที่การเคลื่อนไหวใช่ฟิตเนสจะมา
00:07:33 → 00:07:35 ตอนหลังใช่ฟิตเนสยังไงจำเป็นนะผมไม่ได้
00:07:35 → 00:07:38 บอกไม่ดีนะมันมันมามันมีสำคัญแน่นอนเพียง
00:07:38 → 00:07:41 แต่ว่าเริ่มเราต้องเริ่มอะไรที่เป็นโกที่
00:07:41 → 00:07:44 เซตง่ายๆก่อนอคือปรากฏการณ์ทุกที่นะครับ
00:07:44 → 00:07:47 ช่วงปีใหม่ก็จะมีคนสมัครฟิตเนสเยอะใช่เขา
00:07:47 → 00:07:49 บอกว่าปรากฏการณ์เดือนกุมภาพันธ์ก็จะ Drop
00:07:49 → 00:07:52 Out กันเยอะเพราะว่าจีใช่ new year
00:07:52 → 00:07:54 resolution ปุ๊บทุกอย่างทุกคนก็อยากจะ
00:07:54 → 00:07:57 เริ่มทำอะไรใหม่ๆใช่เลยใช่เลยแต่ไปผมคิด
00:07:57 → 00:08:01 ว่าแทนที่เราจะไปกระโดดไปที่ฟิตเนสเริ่ม
00:08:01 → 00:08:04 ที่ movement ใช่เริ่มจากการเดิน movement
00:08:04 → 00:08:08 ที่ถูกวิธีอ่าอ่าอันเนี้ยครับอะไรฮะมีมี
00:08:08 → 00:08:10 มั้ยฮะมีคำว่า movement ถูกวิธีมั้ยว่า
00:08:10 → 00:08:13 การเคลื่อนไหวถูกวิธีไม่มันไม่มีคำว่าถูก
00:08:13 → 00:08:16 ต้องเพราะว่า The มันจะมีฟังมันจะมีคำนึง
00:08:16 → 00:08:18 ของของทางตะวันตกอ่ะผมชอบมาก quotation
00:08:18 → 00:08:19 นี้เขาบอกว่า what is the best
00:08:20 → 00:08:22 movement อื The Best movement is
00:08:22 → 00:08:25 next movement อืมแปลว่าการเคลื่อนไหว
00:08:26 → 00:08:28 ที่ดีก็คือการเคลื่อนไหวท่าต่อไปใช่มั้
00:08:28 → 00:08:30 สมมุติว่าผมนั่งเงยครับธาุที่ดีที่สุด
00:08:30 → 00:08:32 สำหรับผมหลังจากที่นั่งนานๆคือธาตุต่อไป
00:08:32 → 00:08:35 ที่ผมจะทำอ่ะคือลุกขึ้นยืนอ่าฉะนั้นเรา
00:08:35 → 00:08:37 กำลังจะบอกมันไม่มีธาตุที่ดีที่สุดเพราะ
00:08:37 → 00:08:40 อะไรเพราะว่าถึงจุดๆนึงเราจะต้องยอมรับ
00:08:40 → 00:08:43 ก่อนว่าโลกนี้มีแรงน้มถ่วงอ gforce เกิด
00:08:43 → 00:08:45 ขึ้นเสมอเมื่อ G Force เกิดขึ้นกับคุณ
00:08:45 → 00:08:47 หมอแปลว่าอะไรแรงน้มถ่วงแปลว่าถ้าเราอยู่
00:08:47 → 00:08:49 กับที่แป๊บนึงอ่ะแรงมันจะตกอยู่ที่นั่น
00:08:49 → 00:08:51 น่ะเป็นเวลานานๆอือร่างกายก็พยายามจะ
00:08:52 → 00:08:54 สร้างขบวนการทำไงก็ได้ให้เรานั่งได้นานๆเ
00:08:54 → 00:08:57 ก็เลยเริ่มทำให้ร่างกายตึงขึ้นอือซึ่งไม่
00:08:57 → 00:08:59 ความตึงไม่ได้ผิดนะผมรู้สึกว่าความตึงถูก
00:08:59 → 00:09:01 ตีค่าให้เป็น Bad C ไปแล้วอ่ะจริงๆความ
00:09:01 → 00:09:04 ตึงมันมีเหตุผลเพราะว่าก็คุณหมออยากนั่ง
00:09:04 → 00:09:06 ไงร่างกายก็เลยพยายามสิฟให้อ่ะถ้าไม่สิฟ
00:09:06 → 00:09:09 มันก็ไม่ไหวไงใช่มั้ครับฉะนั้นท่าที่ดี
00:09:09 → 00:09:12 ที่สุดถ้าถามผมนะคือ่าต่อไปคือพยายาม
00:09:12 → 00:09:14 movement แบบไหนก็ได้ให้หลากหลายไวก่อน
00:09:14 → 00:09:17 เดี๋ยวผมจะอธิบายเหตุผมว่าทำไมนะครับอ
00:09:17 → 00:09:20 สิ่งที่เป็นตัวแปรทำให้คนเคลื่อนไหวน้อย
00:09:20 → 00:09:23 ที่สุดคือสมองครับเพราะสมองเนี่ยถ้าเรา
00:09:23 → 00:09:26 พูดแบบภาษาคนทั่วไปให้เห็นเป็น ler สมอง
00:09:26 → 00:09:29 เราถูกแบ่งออกเป็น 4 ชั้นนึกถึงห้างห้างๆ
00:09:29 → 00:09:31 มี 4 ชั้นชั้นแรกเลยคือ
00:09:31 → 00:09:34 อารมณ์ชั้นแรกเลยนะชั้นที่อยู่ระดับล่าง
00:09:34 → 00:09:36 สุดเนี่ยคืออารมณ์ชั้นที่ 2 เนี่ยจะเป็น
00:09:37 → 00:09:39 เรื่องของ Logic เรื่องของ movement ชั้น
00:09:39 → 00:09:42 ที่ 3 คือเอา 1 กับ 2 เนี่ยมาคิดเป็น
00:09:42 → 00:09:45 Logic คิดเป็นตรรกะจริงๆแล้วสุดท้ายคือ
00:09:45 → 00:09:47 vdom ซึ่งยากมากๆที่ควรจะอยู่ระดับ 4 นะ
00:09:47 → 00:09:49 ครับส่วนใหญ่เนี่ยสิ่งที่มันทำให้เราไม่
00:09:49 → 00:09:52 เคลื่อนไหวจริงๆคุณหมอเคยสังเกตมยครับถ้า
00:09:52 → 00:09:54 วันนี้คุณหมอ
00:09:54 → 00:09:57 เอ่ออาจจะมีความเครียดอะไรบางอย่างจากการ
00:09:57 → 00:10:00 ทำงานนะครับหรืออาจจะเกิดสภาว่าทะเลาะกับ
00:10:00 → 00:10:02 อ่าหรือมีปัญหาอะไรกับครอบครัวแบบมีกัน
00:10:02 → 00:10:05 ไม่เข้าใจกันมันจะมีความรู้สึกดาวๆในร่าง
00:10:05 → 00:10:08 กายอคุณหมอสังเกตมั้ยทุกครั้งที่เรารู้
00:10:08 → 00:10:10 สึกดาวเราจะไม่อยากทำอะไรนอกจากนั่งเฉยๆอ
00:10:10 → 00:10:13 อืใช่มครับมันเกิดอะไรขึ้นเพราะว่าสมอง
00:10:13 → 00:10:15 เนี่ยมันไปใช้เรื่องของ emotional หรือ
00:10:15 → 00:10:18 ความรู้สึกเราเยอะพอ emotional มันรู้สึก
00:10:18 → 00:10:20 เยอะมันจะทำให้ร่างกายไม่สามารถเป็น Level
00:10:20 → 00:10:23 2 คือ movement ได้เลยฉะนั้นคนที่ไม่
00:10:23 → 00:10:27 เคลื่อนไหวไม่ใช่ว่าเขาไม่แข็งแรงแต่มัน
00:10:27 → 00:10:29 มีหลายอย่างมีข้อมูลหลายอย่างอยู่ในหัว
00:10:29 → 00:10:31 โดยที่เขไม่รู้ตัวผมยกตัวอย่างเช่นคุณหมอ
00:10:31 → 00:10:34 อาจจะไม่ได้เป็นคนเครียดแต่คุณหมอเป็นคน
00:10:34 → 00:10:38 ดูข่าวรงวัอืนะครับหรือคุณหมอไม่ได้เป็น
00:10:38 → 00:10:40 คนที่เครียดไม่ได้ดูข่าวแต่คุณหมออาจจะ
00:10:40 → 00:10:43 เป็นคนชอบอ่านหนังสือชอบดู IG แล้วก็โหลด
00:10:43 → 00:10:47 ข้อมูลมาอโหลดมาโหลดมาโหลดมาโหลดมามัน
00:10:47 → 00:10:50 overload ครับสมองมัน overload capacity
00:10:50 → 00:10:52 สมองมันเท่าเดิมนะครับแต่มัน overload
00:10:52 → 00:10:55 มันเหมือนคอมที่โหลดโหลลๆลทีนี้พอสมอง
00:10:55 → 00:10:58 โหลดเยอะๆมันจะทำให้บอดี้เราเนี่ยจะไม่
00:10:58 → 00:11:00 อยากทำอะไรนอกจากน
00:11:00 → 00:11:04 อืนอกจากคือฉันต้องพักท้าจริงๆคุณไม่ได้
00:11:04 → 00:11:07 ออกแรงอะไรเลยจริงๆคุณไม่ต้องพักแต่ที่
00:11:07 → 00:11:09 คุณอยากพักเพราะว่าสมองมันโหลดอ่าอันนี้
00:11:09 → 00:11:13 จริงครับอันนี้อันนี้โดนกับตัวเลยฮะอ้าพอ
00:11:13 → 00:11:17 พอนะครับพอสมองมันโหลดจัดเนี่ยมันก็เลยทำ
00:11:17 → 00:11:19 ให้หลายๆคนเนี่ยอย่างที่คุณหมอพูดอ่ะครับ
00:11:19 → 00:11:22 เออกลับมาบ้านก็อมันก็เหนื่อยมาทั้งวัน
00:11:22 → 00:11:24 แล้วมันไม่อยากทำซึ่งไม่ใช่เป็นคุณหมอคน
00:11:24 → 00:11:28 เดียวผมว่าผมก็เป็นอืผมก็เป็นทุกคนก็ใน
00:11:28 → 00:11:31 โลกนี้เป็นเพราะว่านี่คือ DNA เรา DNA
00:11:31 → 00:11:34 เราถูกถูก Level เนี้ยมานะครับก็คือมี
00:11:34 → 00:11:37 emotional มี stress โดยที่เราไม่รู้ตัว
00:11:37 → 00:11:40 ทีนี้แล้วเราจะทำังไงให้สสเหล่านี้หายไป
00:11:40 → 00:11:43 แอมันจะมีคำนึงที่ผมตอนเผมกำลังเล่นกับคำ
00:11:43 → 00:11:46 นี้อยู่เขาเรียกว่านบิ neurobic คืออะไร
00:11:46 → 00:11:49 นบิก็คือระบบประสาทกับอบิมารวมกันคือการ
00:11:49 → 00:11:51 ฝึกสมอง
00:11:51 → 00:11:54 ให้เบรค habit หรือเบรคนิสัยที่เป็นอยู่
00:11:54 → 00:11:56 ปัจจุบันสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือทุกวัน
00:11:56 → 00:11:59 เนี้ยพวกเราทุกคนเครับทำงานกันเป็น loop
00:11:59 → 00:12:01 เราจะมีเวลาของมันสมองมันถูกใช้เป็น Loop
00:12:01 → 00:12:04 เตลอดเวลาอืสิ่งแรกที่เราต้องเบค Down
00:12:04 → 00:12:06 ก่อน movement คือ Break Down Loop ของ
00:12:06 → 00:12:10 สมองครับอืคุณหมอตอนคุณหมอเคยทำแล้วเชื่อ
00:12:10 → 00:12:13 ป่ะสิ่งเหล่า
00:12:13 → 00:12:17 เนี้ยหมักเก็บอืออะไรที่เป็นมือเล่นลูก
00:12:17 → 00:12:20 แก้วตอนเด็กเราเล่นอะไรที่เป็น finger
00:12:20 → 00:12:23 เยอะมากนะอือจำได้มั้ยครับแลๆแล้วเราก็
00:12:23 → 00:12:26 ลืมมันไปแล้วเราก็ไม่ได้ใช้จริงๆหลายๆคน
00:12:26 → 00:12:28 ไม่รู้ว่า po perception คืออะไรคือตัว
00:12:28 → 00:12:31 รับรู้ประในร่างกายเรานะตัวที่จะเป็นตัว
00:12:31 → 00:12:33 บอกข้อมูลให้เราอ่ะคุณหมอคือร่างกายเรา
00:12:33 → 00:12:35 ก่อนที่จะสั่งงานมันจะมีตัวแบบเเรียกว่า
00:12:35 → 00:12:38 ตัวสแกนที่บอกข้อมูลไปยังสมองสมองเก็จะ
00:12:38 → 00:12:40 สั่งงานไปยังกล้ามเนื้อที่มือเราเยอะที่
00:12:40 → 00:12:44 สุดอืสิ่งแรกที่เราควรจะฝึกเบนที่ทำให้
00:12:44 → 00:12:46 มันรีโหลดได้คืออันโหลดเข้าไปเลยคือการ
00:12:46 → 00:12:50 เล่นกับนิ้วครับอันนี้อันนี้อันนี้เป็น
00:12:50 → 00:12:53 เป็นวิชาการนะอันนี้ไม่ได้แผมพูดเล่นๆนะ
00:12:53 → 00:12:56 คือครูสุกกำลังจะพูดทั้งหมดที่ผมพยายาม
00:12:56 → 00:13:01 จับประเด็นก็คือคนกลับมาเหนื่อยไม่มีแรง
00:13:01 → 00:13:03 ที่จะออกกำลังกายหรือใช้คำว่าขี้เกียจที่
00:13:03 → 00:13:06 จะออกกำลังกายก็เพราะว่าสมองเรามันโหลด
00:13:06 → 00:13:09 ใช่โหลดจากการทำงานเป็นแบบแผนทุกๆวันใช่
00:13:09 → 00:13:13 ครับซึ่งไอ้ 4 ขั้นในสมองเนี่ยกำลังจะบอก
00:13:13 → 00:13:16 ว่าถ้าอารมณ์หรือความรู้สึกมันไม่ผ่านมัน
00:13:16 → 00:13:19 จะไม่กระตุ้นเข้าสู่ระยะ 2 ก็คือระยะอยาก
00:13:19 → 00:13:21 เคลื่อนไหวเคลื่อนไหวระดับที่เริ่มคุสุก
00:13:21 → 00:13:24 กำลังจะย้ำว่าก่อนที่เราอยากจะเคลื่อนไหว
00:13:24 → 00:13:28 เราต้องกลับไปแก้ความรู้สึกและโหลดในสมอง
00:13:28 → 00:13:31 เราก่อนคือมันเริ่มที่สมองเราก่อนใช่อ๋อ
00:13:31 → 00:13:35 ซึ่งวิธีเทคนิคอันนึงก็คือวิธีการอหดใช่
00:13:35 → 00:13:38 อหดก็คือเอาเอาของที่หนักในหัวออกให้หมด
00:13:39 → 00:13:41 โดยการเล่นกับนิ้วใช่ใช่เล่นกับนิ้วนี่
00:13:41 → 00:13:44 คือพวกนี่เดี๋ยวผมยกตัวอย่างแต่ว่าพอดี
00:13:44 → 00:13:46 ไม่มนี้คุณหมอพูดจำได้มั้ผมบอกว่าคนเรา
00:13:47 → 00:13:49 ปัจจุบันเราออกกำลังกายเพราะเรามีโกลเนอะ
00:13:49 → 00:13:52 หลายๆคนผมเชื่อว่าเราเครียดเราทำอะไรครับ
00:13:52 → 00:13:55 เราก็ไปดู IG สิออ่าไปดู tiktok อมครับ
00:13:55 → 00:13:58 หรือเราไปดูข่าวสิเราไปดู netflix สินั่น
00:13:58 → 00:14:01 ก็เป็นวิธีการโหลดแบบนึงอ่าโหลดข้อมูลที่
00:14:01 → 00:14:03 จริงๆมันเป็นจังอ่ะมันไม่ได้เป็นข้อมูล
00:14:03 → 00:14:05 ที่ร่างกายจะต้องรู้หรือสมองเราต้องรู้
00:14:05 → 00:14:08 แต่เราก็ไปโหลดพวกนี้เป็นขยะมันก็คือขยะ
00:14:08 → 00:14:10 แบบนึงมันก็คือขยะแบบนึงแต่เราไม่ได้บอก
00:14:10 → 00:14:13 ว่ามันไม่ดีนะแต่ว่าสำหรับร่างกายบาง
00:14:13 → 00:14:14 อย่างบางอย่างเนี่ยเราไม่จำเป็นต้องรู้
00:14:14 → 00:14:18 จริงๆใช่มั้ยครับฉะนั้นถ้าเราต้องการที่
00:14:18 → 00:14:21 จะแก้เราก็ต้องการเอาเอาอันโหลดสิ่งเหล่า
00:14:21 → 00:14:24 เไปแทนที่เราจะไปพึ่งกับเทคโนโลยีแทนที่
00:14:25 → 00:14:26 เราจะไปพึ่งกับ
00:14:26 → 00:14:30 อ่าโซเชียลอ่ากลับมาที่ร่างกายตัวเองแล้ว
00:14:30 → 00:14:32 เล่นกับนิ้วผมยกตัวอย่างง่ายๆลองเล่นกัน
00:14:32 → 00:14:35 ดูมั้ยอ่ะเราลองเล่นกันดูมยโอเคทุกคนลอง
00:14:35 → 00:14:39 ทำท่านี้นะทำท่านี้นะอ่าทุกคนทำท่านี้นะ
00:14:39 → 00:14:44 ด้วยนะออ่าช้าๆนะ Sor ปึ๊บอ่าอ่าโอเคช้าๆ
00:14:44 → 00:14:50 นะเร็วขึ้นครับเดี๋ยวนะอ่าโอเคเห็นมั้ย
00:14:50 → 00:14:53 เห็นมอ่ะโอเคคุณหมอลองทำช้าๆเห็นมั้ยครับ
00:14:53 → 00:14:55 เห็นมั้ยครับ ordinate มันจะไม่ไปใช่มั้ย
00:14:55 → 00:14:56 ครับอ
00:14:56 → 00:15:00 โอเคใช่ทำไปเรื่อยๆแบบง่ายๆใช่ๆมันจะ
00:15:00 → 00:15:04 เริ่มขี้โกงเนาะอ่าโอเคอันนี้เล่นกับนิ้ว
00:15:04 → 00:15:06 โอเคพอย์มันไม่ใช่ว่าโอ้โหทำแค่นี้มันทำ
00:15:06 → 00:15:08 ให้คุณรักการเคลื่อนไหวหรอกถ้าคุณสังเกต
00:15:08 → 00:15:10 จริงๆตอนที่เราเล่นอย่างเงี้ยเราจิตเรา
00:15:10 → 00:15:13 เริ่มมาอยู่กับตรงเนี้ยอือมากขึ้นถูกมยอ
00:15:13 → 00:15:15 นี่คือการอันโหลดแบบนึงะเราจะบอกว่าบาง
00:15:15 → 00:15:18 ครั้งการบริหารอะไรเหล่าเนี้ยการเคลื่อน
00:15:18 → 00:15:20 ไหวร่างกายไม่ได้แปลว่าเราจะต้องแข็งแรง
00:15:20 → 00:15:23 ในแง่ของกล้ามเนื้อไงอืเรากำลังเทรน
00:15:23 → 00:15:25 เรื่องนี้อยู่สิ่งที่จำเป็นมากๆเราต้อง
00:15:25 → 00:15:27 เทรนสมองก่อนก่อนจะเคลื่อนไหวคุณต้องทำ
00:15:27 → 00:15:30 ให้เบนเราแข็งแรงก่อน
00:15:30 → 00:15:34 โห้ผมเนี่ยนะเวลากลับบ้านหลังจากเสร็จงาน
00:15:34 → 00:15:40 20:00 นเนี่ยช่วงนึงจะพอดีติดระบายวาด
00:15:40 → 00:15:44 ภาพพอดีเริ่มไว้ละก็ต้องทำให้
00:15:44 → 00:15:47 จบเป็นช่วงที่รู้สึกว่าสมองโล่งมาก
00:15:47 → 00:15:49 เหนื่อยแค่ไหนก็ตามนะแต่ได้กลับบ้านเปิด
00:15:49 → 00:15:53 เพลงแล้วก็เพนนะเพนไนัมันโล่งเหตุการณ์
00:15:53 → 00:15:56 ที่ 2 คือต่อเลโก้กับลูกอืรู้สึกได้ช่วย
00:15:56 → 00:15:59 เขาต่อเพียงครึ่งชั่วโมงเนี่ยผมรู้สึกผม
00:15:59 → 00:16:03 กลับมาชาร์จเป็นเกือบ 100% เลยนะใช่อืก็
00:16:03 → 00:16:06 คือเราใช้มือมากขึ้นใช่ 2 คือเราใช้มือ
00:16:06 → 00:16:09 มากขึ้นกับ 2 คือเราเบรค habit ตัวเองคือ
00:16:09 → 00:16:10 เราเริ่มทำอะไรที่เราไม่ค่อยได้ทำเป็น
00:16:10 → 00:16:14 ประจำอ่ะเช่นวิธีง่ายๆอีกอันนึงสมมุติหมอ
00:16:14 → 00:16:17 เป็นคนอ่าแปลงฟันด้วยมือขวาเออ Let Say
00:16:17 → 00:16:20 ทำด้วยมือซ้ายดูสิอืแปลงฟันด้วยมือซ้าย
00:16:20 → 00:16:22 เคยมั้ยไม่เคยลองดูสิแค่เนี้ยเบรนมันก็
00:16:22 → 00:16:25 แบบอ้าวพวเปลี่ยนละออแค่เราทำไงก็ได้ให้
00:16:25 → 00:16:28 สมองเเปลี่ยนอ่ะครับแล้วเ้าแบบอ้าวเต้อง
00:16:28 → 00:16:30 แบบตั้งใจใหม่เพื่อที่จะทำกิจกรรมใหม่ๆ
00:16:30 → 00:16:32 แค่เนี้ยมันจะพักสมองไปในตัวใช่มันคือการ
00:16:32 → 00:16:35 อันโหลดอ๋อมันทำให้สมองเราอันโหลดไปเลย
00:16:35 → 00:16:39 ครับโอเคผ่านกับชีวิตมาบ้างนะแต่ไม่เคย
00:16:39 → 00:16:44 รู้ว่ามันเป็นเทคนิคอันนึงโอเคงั้นสรุป
00:16:44 → 00:16:46 ครูสุขถึงจุดนี้นะครับก่อนที่เราจะไป
00:16:46 → 00:16:48 เริ่มเรื่อง movement เราเข้าใจก่อนว่า
00:16:48 → 00:16:52 movement มีความสำคัญเป็นจุดเริ่มต้น
00:16:52 → 00:16:54 ก่อนที่เราจะไปฟิตเนสซึ่งครูสุก็ไม่ได้
00:16:54 → 00:16:59 ไม่ได้ค้านของการฟิตเนสนะครับแต่ว่าแกจะย
00:16:59 → 00:17:02 ว่าเราเริ่มที่การเคลื่อนไหวก่อน 2 คือ
00:17:02 → 00:17:06 มันไม่มีคำว่าเคลื่อนไหวที่ถูกหรือผิดนะ
00:17:06 → 00:17:09 ฮะแต่เคลื่อนไหวที่ดีที่สุดคือเราตั้งใจ
00:17:09 → 00:17:13 จะเคลื่อนไหวในสเต็ปต่อไปอันที่ 3 ที่
00:17:13 → 00:17:16 สำคัญที่สุดคือมนุษย์ที่ไม่ยอมเคลื่อนไหว
00:17:16 → 00:17:20 ก็เพราะว่าขี้เกียจแต่เหตุผลที่ขี้เกียจ
00:17:20 → 00:17:23 ไม่ใช่ว่าเผิดนะฮะเหตุผลก็คือในสมองเขา
00:17:23 → 00:17:26 เต็มไปด้วยข้อมูลอาจจะใช้คำว่าขยะก็ได้
00:17:26 → 00:17:29 ครับเป็นข้อมูลที่เคสะสมไว้ทั้งวันไม่ว่า
00:17:29 → 00:17:32 จะเป็นเรื่องเครียดเรื่องข่าวเรื่องงาน
00:17:32 → 00:17:35 เรื่องส่วนตัวอะไรก็ตามมันทำให้เราไม่
00:17:35 → 00:17:38 อยากเคลื่อนไหวพอเราไม่อยากเคลื่อนไหวเรา
00:17:38 → 00:17:41 ก็เดินหน้าต่อไม่ได้ซึ่งครูสุขพยายามจะ
00:17:41 → 00:17:44 ย้ำอีกทีว่าคนๆนึงจะอยากเคลื่อนไหวได้ก็
00:17:44 → 00:17:48 ต่อเมื่อเราเอาสิ่งที่มันเป็นเป็นขยะอยู่
00:17:48 → 00:17:51 ในหัวเนี่ยเอาออกซึ่งเทคนิคง่ายที่สุดก็
00:17:51 → 00:17:55 คือ 2 เทคนิคที่เสนอคือทำกิจกรรมที่
00:17:55 → 00:18:00 เกี่ยวข้องกับมือนะฮะอะไรก็ได้ฮะบใบสี
00:18:00 → 00:18:03 เย็บอะไรก็ได้ครับเกมความจำครับเกมความจำ
00:18:03 → 00:18:07 หรืออันที่ 2 คือทำยังไงให้เราเราหลอก
00:18:07 → 00:18:12 สมองทำในสิ่งใหม่ๆเช่นแปรงฟันเช่นจากเดิน
00:18:12 → 00:18:15 กลับบ้านเปลี่ยนทางเดินหรืออะไรก็ได้ครับ
00:18:15 → 00:18:17 ที่มัน challeng สมองมันทำให้สมองพักแล้ว
00:18:17 → 00:18:21 ก็ได้ใช้อีกซีกนึงของสมองหรือครูสุกใช้คำ
00:18:21 → 00:18:26 ว่านโรนบินบิก็คือนูโรระบบประสาทบิก็คือ
00:18:26 → 00:18:30 จริงๆมาจากอบิออก็คือรวมเป็นนบิครับนะ
00:18:30 → 00:18:33 ครับ
00:00:00 → 00:00:02 คือจากสถิติที่ผมจดมานะฮะประเทศไทยเนี่ย
00:00:02 → 00:00:07 ปัจจุบันเนี่ยเราเข้าสู่เ่อสังคมเราเรียก
00:00:07 → 00:00:10 สังคมผู้สูงอายุเพราะว่าประชากรผู้สูง
00:00:10 → 00:00:12 อายุเราเนี่ยเกิน 10% ละของคนไทยเนี่ย
00:00:12 → 00:00:13 ประมาณ
00:00:13 → 00:00:17 16% จากสถิติที่ผมมีข้อมูลนะฮะเราคาด
00:00:17 → 00:00:20 คะเนว่าภายในอีกเนี่ย
00:00:20 → 00:00:24 2568 เราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่าง
00:00:24 → 00:00:27 สมบูรณ์เราเรียก Age Society ก็คือจะมี
00:00:27 → 00:00:34 สัดส่วนสูงถึง 20% และในอนาคตคาดคะเนในปี
00:00:34 → 00:00:39 2574 เราจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุด
00:00:39 → 00:00:42 ยอดนะผมพยายามแปลภาษาไทยมาให้ก็คือจะสูง
00:00:42 → 00:00:44 ถึง 28%
00:00:44 → 00:00:48 อ่ะเราทุกคนเตรียมพร้อมหรือยังครับเตรียม
00:00:48 → 00:00:51 พร้อมสำหรับสิ่งที่เรากำลังจะเห็นในอนาคต
00:00:51 → 00:00:55 คือปรากฏการณ์นอกเหนือจากโรคนะฮะที่ตามมา
00:00:55 → 00:00:56 กับ
00:00:56 → 00:01:01 เอ่อภาวะอายุก็คือเส้นเลือดสมองตีบนะฮะ
00:01:01 → 00:01:05 หลงลืมนะฮะโรคหัวใจเบาหวานโรคปอดแต่อีก
00:01:05 → 00:01:09 กลุ่มโรคนึงคือกลุ่มโรคกล้ามเนื้อนะครับ
00:01:09 → 00:01:13 ปัญหากล้ามเนื้อเนี่ยจริงๆพบมากก็คือถ้า
00:01:13 → 00:01:16 ภาษาอังกฤษเราเรียกโคเนียนะภาษาไทยเรา
00:01:16 → 00:01:19 เรียกภาวะมวลกล้ามเนื้อ
00:01:19 → 00:01:22 น้อยเดี๋ยวเราจะไปขยายความกันแต่อยากให้
00:01:22 → 00:01:26 รู้ว่ามีตัวเลขไม่ไม่น้อยนะครับล่าสุดก็
00:01:26 → 00:01:29 มีการเก็บตัวเลขในเมืองไทยนะฮะสัดส่วน
00:01:29 → 00:01:33 ส่วนภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยเนี่ยพบมากใน
00:01:33 → 00:01:37 ชนบทนะฮะในกรุงเทพฯมีถึง 10% แล้วแต่ตัว
00:01:37 → 00:01:40 เลขนะฮะต่างจังหวัดอาจจะสูงถึง 15
00:01:40 → 00:01:43 -20% ภาวะนี้เกิดจากอะไรเรามาค่อยๆเก็บ
00:01:44 → 00:01:47 กันนะแล้วมีอะไรที่ผมอยากจะแนะนำเราให้
00:01:47 → 00:01:49 ความรู้เราได้ดีมากกว่าผมนะฮะก็คือวันนี้
00:01:49 → 00:01:52 ผมเชิญเอ่อเจ้าของเพจนะฮะครูสุขที่มีคน
00:01:52 → 00:01:56 ติดตามเป็นแสนนะครับปัจจุบันครูสุขเนี่ย
00:01:56 → 00:01:58 นอกจากจะเป็นเจ้าของเพจแล้วยังเป็น
00:01:58 → 00:02:01 mobility โค้ชนะฮะเป็นวิทยากรนะฮะแล้ว
00:02:01 → 00:02:04 เป็นเจ้าของ Academy นะฮะสวัสดีครับคุณ
00:02:04 → 00:02:06 หมอครับสวัสดีครับผมอยากได้คำขยายความ
00:02:07 → 00:02:08 กว่านี้อกนิดนึงใช่มั้ยคุณหมอคือเราอาจจะ
00:02:08 → 00:02:11 เปลี่ยนจับ mobility เป็น movement อ่า
00:02:11 → 00:02:13 ครับ movement โค้ชจริงๆในภาษาไทยคือถ้า
00:02:13 → 00:02:16 เราแปลตรงๆเนี่ยก็คือโค้ชหรือผู้เชี่ยว
00:02:16 → 00:02:18 ชาญด้านการเคลื่อนไหวอืนะครับพอเราพูดถึง
00:02:18 → 00:02:21 การออกกำลังกายสิ่งที่เราจะต้องพูดก่อน
00:02:21 → 00:02:24 เลยก่อนเราจะออกกำลังกายได้เราต้องเดิน
00:02:24 → 00:02:27 เป็นเราต้องนั่งเป็นเราต้องยืนเป็นฉะนั้น
00:02:27 → 00:02:30 ทักษะเหล่าเนี้ยมันคือการเคลื่อนไหวถ้า
00:02:30 → 00:02:32 เรามีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีการออกกำลัง
00:02:32 → 00:02:36 กายก็จะดีตามแต่ถ้าการเคลื่อนไหวเรายัง
00:02:36 → 00:02:38 ไม่ดีการไปออกกำลังกายมันยังจะไม่ตอบ
00:02:38 → 00:02:41 โจทย์ทุกมุมครับซึ่งครูสุกำลังจะบอกว่า
00:02:41 → 00:02:45 ปัจจุบันเทรนด์คือการออกกำลังกายแต่คนลืม
00:02:45 → 00:02:47 มองการเคลื่อนไหวซึ่งจริงๆการเคลื่อนไหว
00:02:47 → 00:02:50 จริงๆเป็นภาพที่ใหญ่กว่าใช่การออกกำลัง
00:02:50 → 00:02:54 กายเป็นแค่ส่วนเล็กๆผมเองเนี่ยก็ก็พอไป
00:02:54 → 00:02:57 อยู่ต่างจังหวัดตอนไปอยู่นครไปอยู่ท่า
00:02:57 → 00:03:00 ศาลาเนี่ยสัดส่วนผู้สูงอายุเยอะแล้วก็ 80
00:03:01 → 00:03:04 990 ตัวเล็กแต่แข็งแรงครับเค้าไม่เคย
00:03:04 → 00:03:08 ต้องมานั่งตื่นวิ่งตอนเช้าเไม่ต้องมานั่ง
00:03:08 → 00:03:13 พิถีพิถันครับคีโตไดเอทโลขาบไฮโปรตีนเกน
00:03:13 → 00:03:17 ไม่มีครับเกินง่ายแต่ movement เาเยอะมาก
00:03:17 → 00:03:19 ครับแล้วเขาอยู่กันถึง 90 เฉลี่ยเยอะมาก
00:03:19 → 00:03:22 เลยครับกระดูกแข็งแรงกล้ามเนื้ออาจจะบาง
00:03:22 → 00:03:25 ตามอายุแต่แข็งแรงไม่ค่อยป่วยอย่างมากก็
00:03:25 → 00:03:29 ความดันตามอายุครับนะครับอันเนี้ยครับผม
00:03:29 → 00:03:32 เห็นว่ากระแส movement เราเนี่ยเรามักจะ
00:03:32 → 00:03:35 ถูกลืมไปครับเราไปให้ค่านิยมกับกระแส
00:03:35 → 00:03:38 Fitness จนลืม movement ไปอยากให้ทุกคน
00:03:38 → 00:03:41 นึกถึงนึกภาพตามนะครับักอ่าัก 2,000 ปี
00:03:42 → 00:03:44 ก่อนอ่าสมัยก่อนคนกลุ่มนั้นยุคนั้นก็คือ
00:03:45 → 00:03:48 ล่าสัตว์เราจะเคลื่อนไหวก็มีแค่กรณีเดียว
00:03:48 → 00:03:51 ละครับหิวอืแล้วเราก็จะเคลื่อนไหวแปลว่า
00:03:52 → 00:03:54 ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมา 2 อย่างแน่ๆคือ
00:03:54 → 00:03:58 1 จะต้องมีเติมพลังงานคืออาหารกับ 2 จะ
00:03:58 → 00:04:01 ต้องมีการเคลื่อนไหวเพื่อไปหาออืนะกับ 3
00:04:01 → 00:04:03 อาจจะต้องวิ่งหนีเพราะไม่อยากเป็นอาหาร
00:04:03 → 00:04:06 ใครนั่นแปลว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเรา
00:04:06 → 00:04:09 ถูกออกแบบว่าการเคลื่อนไหวเราไม่ได้ถูก
00:04:09 → 00:04:12 ออกแบบมาว่าจะต้องทำ 3 เซตเราไม่ได้ถูก
00:04:12 → 00:04:14 ออกแบบมาว่าวออกกำลังกายวันละกี่นาทีเรา
00:04:14 → 00:04:16 ไม่ได้ถูกออกแบบว่าเราจะต้องล่าสัตว์วละ
00:04:16 → 00:04:19 กี่นาทีเริ่มเห็นภาพเริ่มเห็นภาพใช่มครับ
00:04:19 → 00:04:22 เราจะไม่มีกรอบอะไรเลยแต่สิ่งที่มันไดฟ
00:04:22 → 00:04:24 เราคือบริสุทธิ์ใจของเราคือเราอยากไปเรา
00:04:24 → 00:04:27 อยากเดินใช่มครับแต่สิ่งที่เกิดขึ้นใน
00:04:27 → 00:04:31 ปัจจุบันคือหิวข้าวคุณหมอทำไงก็กินลายแมน
00:04:31 → 00:04:33 อลาย Food มาแล้วครับตั้งแต่โควิดอาหารมา
00:04:33 → 00:04:36 ถึงโต๊ะแล้ว delivery าย Food แพนฉะนั้น
00:04:36 → 00:04:39 สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือไม่มีการเคลื่อนไหว
00:04:39 → 00:04:41 เพื่อไปหาอาหารแหละอื movement หายไป
00:04:41 → 00:04:44 แล้วะแต่ Food มาแล้วนะออพอคุณหมอทาน Food
00:04:44 → 00:04:47 เสร็จปุ๊บช่วงปีใหม่ทานเยอะรู้สึกผิดมั้ย
00:04:47 → 00:04:50 ฮะอรู้สึกผิดครับปีใหม่นี้ฉันจะต้องมี New
00:04:50 → 00:04:53 Body New you ฉันต้องออกกำลังกาย
00:04:53 → 00:04:55 ฉะนั้นสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือคุณหมอกำลัง
00:04:55 → 00:04:59 จะ Exercise เพื่อชดเชยในสิ่งที่คุณหมอ
00:04:59 → 00:05:02 รู้สึกผิดอือหรือกำลังชดเชยในสิ่งที่เรา
00:05:02 → 00:05:05 ขาดฉะนั้น Exercise ของคนยุคนี้เกิดจาก
00:05:05 → 00:05:08 การชดเชยอือเกิดจากเงื่อนไขบางอย่างเลยทำ
00:05:08 → 00:05:09 ให้เราจะต้อง
00:05:10 → 00:05:13 Exercise ครูสุขกำลังจะบอก
00:05:13 → 00:05:17 ว่ากระแสหรือ mindset ที่คิดว่าถ้าจะทำ
00:05:18 → 00:05:21 ให้สุขภาพดีต้องไปออกกำลังกายอาจจะไม่ถูก
00:05:21 → 00:05:24 ซะทีเดียวถ้าเราลืมการเคลื่อนไหวใช่ครับ
00:05:24 → 00:05:27 ในชีวิตประจำวันใช่ครับครูสุกำลังบอกว่า
00:05:27 → 00:05:30 แทนที่เราจะไปนั่งโฟกัสเรื่องการเอกำลัง
00:05:30 → 00:05:32 กายก่อนจะไปถึงจุดนั้นกลับมาโฟกัสที่การ
00:05:32 → 00:05:35 เคลื่อนไหวก่อนใช่ครับให้น้ำหนักกับการ
00:05:35 → 00:05:38 เคลื่อนไหวให้มากที่สุดและถูกวิธีถูกต้อง
00:05:38 → 00:05:41 ใช่มครับจริงๆคนเราถูกออกแบบนะครับให้เรา
00:05:41 → 00:05:44 เคลื่อนไหวเนี่ยประมาณ 3,000 นาทีต่อ
00:05:44 → 00:05:47 อาทิตย์เพราะว่าเราเคยเป็นคนนักล่าเราเคย
00:05:47 → 00:05:49 จะต้องหาอาหารเราเลยต้องทำสวนทำไร่ใช่มั้
00:05:49 → 00:05:52 ครับแต่ปัจจุบันเนี่ยคนพยายามจะออกกำลัง
00:05:52 → 00:05:55 กายแลเซเฉลี่ยนะครับอาทิตย์ละ 300 นาที
00:05:55 → 00:05:58 คุณหมอเห็นความแตกต่างยังอเราถูกออกแบบมา
00:05:58 → 00:06:01 ให้ 3,000 นาทีอือแต่เรา
00:06:01 → 00:06:04 อียนาทีต่อให้คุณหมอเป็นคขยันนะอหายไป 10
00:06:04 → 00:06:08 เท่านะอือๆพอมันหายไป 10 เท่าสิ่งแรกเลย
00:06:08 → 00:06:10 ทุกคนจะพยายามจะบอกว่าการออกกำลังกายทำ
00:06:10 → 00:06:13 ให้สุขภาพดีจริงๆเราต้องมองกลับไปครับ
00:06:13 → 00:06:15 จริงๆแล้วเราถูกออกแบบให้เป็น 3,000 นาที
00:06:15 → 00:06:18 เราไม่ได้ถูกออกแบบให้ทำแค่ 300 นาทีอื
00:06:18 → 00:06:21 แทนที่เราแล้วเราจะทำไงให้จาก 3,000 เป็น
00:06:21 → 00:06:23 3 300 เป็น 3,000 ใช่ป่ะไลฟ์สไตล์ไง
00:06:23 → 00:06:26 ครับเิคุณต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ก่อนเช่นผม
00:06:26 → 00:06:28 ยกตัวอย่างง่ายๆแค่ขึ้น BTS อ่ะครับคุณ
00:06:28 → 00:06:31 เห็นบันไดเลื่อนอืมันมีบันไดด้วยนะอือ่า
00:06:31 → 00:06:33 อย่างวันนี้ก่อนมาหาคุณหมอผมก็เลือกที่จะ
00:06:33 → 00:06:35 เดินผมไม่เลือกที่จะขึ้นลิฟต์อือผมตั้งใจ
00:06:36 → 00:06:38 เป็นไงเพราะว่าเรารู้สึกว่าก็เนี่ยแหละ
00:06:38 → 00:06:41 Extra Time ที่เราจะได้ movement เพราะ
00:06:41 → 00:06:44 ถ้าเรามัวแต่ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกใน
00:06:44 → 00:06:46 ปัจจุบันมันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ไงงที่จะอยาก
00:06:46 → 00:06:49 ให้ทุกคนเปลี่ยนจริงๆไสตล์เราอ่ะคือมัน
00:06:49 → 00:06:51 ต้องเปลี่ยนเช่นคุณไปเซเว่นเอาจริงๆอ่ะ
00:06:51 → 00:06:53 คุณก็เดินได้จากหมู่บ้านคุณเดินออกไป
00:06:53 → 00:06:55 ประมาณ 600 เมตรอ่ะทำไมคุณึงจะต้องขับรถ
00:06:55 → 00:06:58 ไปถ้าเราเปลี่ยนลองลองนึกภาพตามนะครับถ้า
00:06:58 → 00:07:01 เราเดินวละ 600 เมตไปกลับใช่มั้ยครับ
00:07:01 → 00:07:03 1,200 แล้วเนาะถ้าวันนึงคุณไป 4-5 รอบ
00:07:03 → 00:07:07 นี่เกือบ 5 6,900 แล้วนะออื 5 6,900
00:07:07 → 00:07:09 แล้วนะคือผมกำลังจะบอกว่าให้เรากลับไป you
00:07:09 → 00:07:12 have to move for your Food อ่ะอ่า
00:07:12 → 00:07:15 ๆเริ่มขยับมากขึ้นใช่ขยับมากขึ้นเพื่อจะ
00:07:15 → 00:07:17 ไปทำในสิ่งที่คุณต้องการก็ได้แต่ผมอยาก
00:07:17 → 00:07:21 ให้คุณขยับไปไม่ใช่แบบโอเคฉันไปถึงปุ๊บ
00:07:21 → 00:07:23 ฉันก็ฉันก็รอแบมาฉันรอนี่มาฉันรอ
00:07:23 → 00:07:26 มอเตอร์ไซค์วินมาออกจากปักซอยมันก็เลยทำ
00:07:26 → 00:07:30 ให้เราไม่ไดู้อือย่าเพิ่งโฟกัสที่ฟิตเนส
00:07:30 → 00:07:33 ใช่โฟกัสที่การเคลื่อนไหวใช่ฟิตเนสจะมา
00:07:33 → 00:07:35 ตอนหลังใช่ฟิตเนสยังไงจำเป็นนะผมไม่ได้
00:07:35 → 00:07:38 บอกไม่ดีนะมันมันมามันมีสำคัญแน่นอนเพียง
00:07:38 → 00:07:41 แต่ว่าเริ่มเราต้องเริ่มอะไรที่เป็นโกที่
00:07:41 → 00:07:44 เซตง่ายๆก่อนอคือปรากฏการณ์ทุกที่นะครับ
00:07:44 → 00:07:47 ช่วงปีใหม่ก็จะมีคนสมัครฟิตเนสเยอะใช่เขา
00:07:47 → 00:07:49 บอกว่าปรากฏการณ์เดือนกุมภาพันธ์ก็จะ Drop
00:07:49 → 00:07:52 Out กันเยอะเพราะว่าจีใช่ new year
00:07:52 → 00:07:54 resolution ปุ๊บทุกอย่างทุกคนก็อยากจะ
00:07:54 → 00:07:57 เริ่มทำอะไรใหม่ๆใช่เลยใช่เลยแต่ไปผมคิด
00:07:57 → 00:08:01 ว่าแทนที่เราจะไปกระโดดไปที่ฟิตเนสเริ่ม
00:08:01 → 00:08:04 ที่ movement ใช่เริ่มจากการเดิน movement
00:08:04 → 00:08:08 ที่ถูกวิธีอ่าอ่าอันเนี้ยครับอะไรฮะมีมี
00:08:08 → 00:08:10 มั้ยฮะมีคำว่า movement ถูกวิธีมั้ยว่า
00:08:10 → 00:08:13 การเคลื่อนไหวถูกวิธีไม่มันไม่มีคำว่าถูก
00:08:13 → 00:08:16 ต้องเพราะว่า The มันจะมีฟังมันจะมีคำนึง
00:08:16 → 00:08:18 ของของทางตะวันตกอ่ะผมชอบมาก quotation
00:08:18 → 00:08:19 นี้เขาบอกว่า what is the best
00:08:20 → 00:08:22 movement อื The Best movement is
00:08:22 → 00:08:25 next movement อืมแปลว่าการเคลื่อนไหว
00:08:26 → 00:08:28 ที่ดีก็คือการเคลื่อนไหวท่าต่อไปใช่มั้
00:08:28 → 00:08:30 สมมุติว่าผมนั่งเงยครับธาุที่ดีที่สุด
00:08:30 → 00:08:32 สำหรับผมหลังจากที่นั่งนานๆคือธาตุต่อไป
00:08:32 → 00:08:35 ที่ผมจะทำอ่ะคือลุกขึ้นยืนอ่าฉะนั้นเรา
00:08:35 → 00:08:37 กำลังจะบอกมันไม่มีธาตุที่ดีที่สุดเพราะ
00:08:37 → 00:08:40 อะไรเพราะว่าถึงจุดๆนึงเราจะต้องยอมรับ
00:08:40 → 00:08:43 ก่อนว่าโลกนี้มีแรงน้มถ่วงอ gforce เกิด
00:08:43 → 00:08:45 ขึ้นเสมอเมื่อ G Force เกิดขึ้นกับคุณ
00:08:45 → 00:08:47 หมอแปลว่าอะไรแรงน้มถ่วงแปลว่าถ้าเราอยู่
00:08:47 → 00:08:49 กับที่แป๊บนึงอ่ะแรงมันจะตกอยู่ที่นั่น
00:08:49 → 00:08:51 น่ะเป็นเวลานานๆอือร่างกายก็พยายามจะ
00:08:52 → 00:08:54 สร้างขบวนการทำไงก็ได้ให้เรานั่งได้นานๆเ
00:08:54 → 00:08:57 ก็เลยเริ่มทำให้ร่างกายตึงขึ้นอือซึ่งไม่
00:08:57 → 00:08:59 ความตึงไม่ได้ผิดนะผมรู้สึกว่าความตึงถูก
00:08:59 → 00:09:01 ตีค่าให้เป็น Bad C ไปแล้วอ่ะจริงๆความ
00:09:01 → 00:09:04 ตึงมันมีเหตุผลเพราะว่าก็คุณหมออยากนั่ง
00:09:04 → 00:09:06 ไงร่างกายก็เลยพยายามสิฟให้อ่ะถ้าไม่สิฟ
00:09:06 → 00:09:09 มันก็ไม่ไหวไงใช่มั้ครับฉะนั้นท่าที่ดี
00:09:09 → 00:09:12 ที่สุดถ้าถามผมนะคือ่าต่อไปคือพยายาม
00:09:12 → 00:09:14 movement แบบไหนก็ได้ให้หลากหลายไวก่อน
00:09:14 → 00:09:17 เดี๋ยวผมจะอธิบายเหตุผมว่าทำไมนะครับอ
00:09:17 → 00:09:20 สิ่งที่เป็นตัวแปรทำให้คนเคลื่อนไหวน้อย
00:09:20 → 00:09:23 ที่สุดคือสมองครับเพราะสมองเนี่ยถ้าเรา
00:09:23 → 00:09:26 พูดแบบภาษาคนทั่วไปให้เห็นเป็น ler สมอง
00:09:26 → 00:09:29 เราถูกแบ่งออกเป็น 4 ชั้นนึกถึงห้างห้างๆ
00:09:29 → 00:09:31 มี 4 ชั้นชั้นแรกเลยคือ
00:09:31 → 00:09:34 อารมณ์ชั้นแรกเลยนะชั้นที่อยู่ระดับล่าง
00:09:34 → 00:09:36 สุดเนี่ยคืออารมณ์ชั้นที่ 2 เนี่ยจะเป็น
00:09:37 → 00:09:39 เรื่องของ Logic เรื่องของ movement ชั้น
00:09:39 → 00:09:42 ที่ 3 คือเอา 1 กับ 2 เนี่ยมาคิดเป็น
00:09:42 → 00:09:45 Logic คิดเป็นตรรกะจริงๆแล้วสุดท้ายคือ
00:09:45 → 00:09:47 vdom ซึ่งยากมากๆที่ควรจะอยู่ระดับ 4 นะ
00:09:47 → 00:09:49 ครับส่วนใหญ่เนี่ยสิ่งที่มันทำให้เราไม่
00:09:49 → 00:09:52 เคลื่อนไหวจริงๆคุณหมอเคยสังเกตมยครับถ้า
00:09:52 → 00:09:54 วันนี้คุณหมอ
00:09:54 → 00:09:57 เอ่ออาจจะมีความเครียดอะไรบางอย่างจากการ
00:09:57 → 00:10:00 ทำงานนะครับหรืออาจจะเกิดสภาว่าทะเลาะกับ
00:10:00 → 00:10:02 อ่าหรือมีปัญหาอะไรกับครอบครัวแบบมีกัน
00:10:02 → 00:10:05 ไม่เข้าใจกันมันจะมีความรู้สึกดาวๆในร่าง
00:10:05 → 00:10:08 กายอคุณหมอสังเกตมั้ยทุกครั้งที่เรารู้
00:10:08 → 00:10:10 สึกดาวเราจะไม่อยากทำอะไรนอกจากนั่งเฉยๆอ
00:10:10 → 00:10:13 อืใช่มครับมันเกิดอะไรขึ้นเพราะว่าสมอง
00:10:13 → 00:10:15 เนี่ยมันไปใช้เรื่องของ emotional หรือ
00:10:15 → 00:10:18 ความรู้สึกเราเยอะพอ emotional มันรู้สึก
00:10:18 → 00:10:20 เยอะมันจะทำให้ร่างกายไม่สามารถเป็น Level
00:10:20 → 00:10:23 2 คือ movement ได้เลยฉะนั้นคนที่ไม่
00:10:23 → 00:10:27 เคลื่อนไหวไม่ใช่ว่าเขาไม่แข็งแรงแต่มัน
00:10:27 → 00:10:29 มีหลายอย่างมีข้อมูลหลายอย่างอยู่ในหัว
00:10:29 → 00:10:31 โดยที่เขไม่รู้ตัวผมยกตัวอย่างเช่นคุณหมอ
00:10:31 → 00:10:34 อาจจะไม่ได้เป็นคนเครียดแต่คุณหมอเป็นคน
00:10:34 → 00:10:38 ดูข่าวรงวัอืนะครับหรือคุณหมอไม่ได้เป็น
00:10:38 → 00:10:40 คนที่เครียดไม่ได้ดูข่าวแต่คุณหมออาจจะ
00:10:40 → 00:10:43 เป็นคนชอบอ่านหนังสือชอบดู IG แล้วก็โหลด
00:10:43 → 00:10:47 ข้อมูลมาอโหลดมาโหลดมาโหลดมาโหลดมามัน
00:10:47 → 00:10:50 overload ครับสมองมัน overload capacity
00:10:50 → 00:10:52 สมองมันเท่าเดิมนะครับแต่มัน overload
00:10:52 → 00:10:55 มันเหมือนคอมที่โหลดโหลลๆลทีนี้พอสมอง
00:10:55 → 00:10:58 โหลดเยอะๆมันจะทำให้บอดี้เราเนี่ยจะไม่
00:10:58 → 00:11:00 อยากทำอะไรนอกจากน
00:11:00 → 00:11:04 อืนอกจากคือฉันต้องพักท้าจริงๆคุณไม่ได้
00:11:04 → 00:11:07 ออกแรงอะไรเลยจริงๆคุณไม่ต้องพักแต่ที่
00:11:07 → 00:11:09 คุณอยากพักเพราะว่าสมองมันโหลดอ่าอันนี้
00:11:09 → 00:11:13 จริงครับอันนี้อันนี้โดนกับตัวเลยฮะอ้าพอ
00:11:13 → 00:11:17 พอนะครับพอสมองมันโหลดจัดเนี่ยมันก็เลยทำ
00:11:17 → 00:11:19 ให้หลายๆคนเนี่ยอย่างที่คุณหมอพูดอ่ะครับ
00:11:19 → 00:11:22 เออกลับมาบ้านก็อมันก็เหนื่อยมาทั้งวัน
00:11:22 → 00:11:24 แล้วมันไม่อยากทำซึ่งไม่ใช่เป็นคุณหมอคน
00:11:24 → 00:11:28 เดียวผมว่าผมก็เป็นอืผมก็เป็นทุกคนก็ใน
00:11:28 → 00:11:31 โลกนี้เป็นเพราะว่านี่คือ DNA เรา DNA
00:11:31 → 00:11:34 เราถูกถูก Level เนี้ยมานะครับก็คือมี
00:11:34 → 00:11:37 emotional มี stress โดยที่เราไม่รู้ตัว
00:11:37 → 00:11:40 ทีนี้แล้วเราจะทำังไงให้สสเหล่านี้หายไป
00:11:40 → 00:11:43 แอมันจะมีคำนึงที่ผมตอนเผมกำลังเล่นกับคำ
00:11:43 → 00:11:46 นี้อยู่เขาเรียกว่านบิ neurobic คืออะไร
00:11:46 → 00:11:49 นบิก็คือระบบประสาทกับอบิมารวมกันคือการ
00:11:49 → 00:11:51 ฝึกสมอง
00:11:51 → 00:11:54 ให้เบรค habit หรือเบรคนิสัยที่เป็นอยู่
00:11:54 → 00:11:56 ปัจจุบันสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือทุกวัน
00:11:56 → 00:11:59 เนี้ยพวกเราทุกคนเครับทำงานกันเป็น loop
00:11:59 → 00:12:01 เราจะมีเวลาของมันสมองมันถูกใช้เป็น Loop
00:12:01 → 00:12:04 เตลอดเวลาอืสิ่งแรกที่เราต้องเบค Down
00:12:04 → 00:12:06 ก่อน movement คือ Break Down Loop ของ
00:12:06 → 00:12:10 สมองครับอืคุณหมอตอนคุณหมอเคยทำแล้วเชื่อ
00:12:10 → 00:12:13 ป่ะสิ่งเหล่า
00:12:13 → 00:12:17 เนี้ยหมักเก็บอืออะไรที่เป็นมือเล่นลูก
00:12:17 → 00:12:20 แก้วตอนเด็กเราเล่นอะไรที่เป็น finger
00:12:20 → 00:12:23 เยอะมากนะอือจำได้มั้ยครับแลๆแล้วเราก็
00:12:23 → 00:12:26 ลืมมันไปแล้วเราก็ไม่ได้ใช้จริงๆหลายๆคน
00:12:26 → 00:12:28 ไม่รู้ว่า po perception คืออะไรคือตัว
00:12:28 → 00:12:31 รับรู้ประในร่างกายเรานะตัวที่จะเป็นตัว
00:12:31 → 00:12:33 บอกข้อมูลให้เราอ่ะคุณหมอคือร่างกายเรา
00:12:33 → 00:12:35 ก่อนที่จะสั่งงานมันจะมีตัวแบบเเรียกว่า
00:12:35 → 00:12:38 ตัวสแกนที่บอกข้อมูลไปยังสมองสมองเก็จะ
00:12:38 → 00:12:40 สั่งงานไปยังกล้ามเนื้อที่มือเราเยอะที่
00:12:40 → 00:12:44 สุดอืสิ่งแรกที่เราควรจะฝึกเบนที่ทำให้
00:12:44 → 00:12:46 มันรีโหลดได้คืออันโหลดเข้าไปเลยคือการ
00:12:46 → 00:12:50 เล่นกับนิ้วครับอันนี้อันนี้อันนี้เป็น
00:12:50 → 00:12:53 เป็นวิชาการนะอันนี้ไม่ได้แผมพูดเล่นๆนะ
00:12:53 → 00:12:56 คือครูสุกกำลังจะพูดทั้งหมดที่ผมพยายาม
00:12:56 → 00:13:01 จับประเด็นก็คือคนกลับมาเหนื่อยไม่มีแรง
00:13:01 → 00:13:03 ที่จะออกกำลังกายหรือใช้คำว่าขี้เกียจที่
00:13:03 → 00:13:06 จะออกกำลังกายก็เพราะว่าสมองเรามันโหลด
00:13:06 → 00:13:09 ใช่โหลดจากการทำงานเป็นแบบแผนทุกๆวันใช่
00:13:09 → 00:13:13 ครับซึ่งไอ้ 4 ขั้นในสมองเนี่ยกำลังจะบอก
00:13:13 → 00:13:16 ว่าถ้าอารมณ์หรือความรู้สึกมันไม่ผ่านมัน
00:13:16 → 00:13:19 จะไม่กระตุ้นเข้าสู่ระยะ 2 ก็คือระยะอยาก
00:13:19 → 00:13:21 เคลื่อนไหวเคลื่อนไหวระดับที่เริ่มคุสุก
00:13:21 → 00:13:24 กำลังจะย้ำว่าก่อนที่เราอยากจะเคลื่อนไหว
00:13:24 → 00:13:28 เราต้องกลับไปแก้ความรู้สึกและโหลดในสมอง
00:13:28 → 00:13:31 เราก่อนคือมันเริ่มที่สมองเราก่อนใช่อ๋อ
00:13:31 → 00:13:35 ซึ่งวิธีเทคนิคอันนึงก็คือวิธีการอหดใช่
00:13:35 → 00:13:38 อหดก็คือเอาเอาของที่หนักในหัวออกให้หมด
00:13:39 → 00:13:41 โดยการเล่นกับนิ้วใช่ใช่เล่นกับนิ้วนี่
00:13:41 → 00:13:44 คือพวกนี่เดี๋ยวผมยกตัวอย่างแต่ว่าพอดี
00:13:44 → 00:13:46 ไม่มนี้คุณหมอพูดจำได้มั้ผมบอกว่าคนเรา
00:13:47 → 00:13:49 ปัจจุบันเราออกกำลังกายเพราะเรามีโกลเนอะ
00:13:49 → 00:13:52 หลายๆคนผมเชื่อว่าเราเครียดเราทำอะไรครับ
00:13:52 → 00:13:55 เราก็ไปดู IG สิออ่าไปดู tiktok อมครับ
00:13:55 → 00:13:58 หรือเราไปดูข่าวสิเราไปดู netflix สินั่น
00:13:58 → 00:14:01 ก็เป็นวิธีการโหลดแบบนึงอ่าโหลดข้อมูลที่
00:14:01 → 00:14:03 จริงๆมันเป็นจังอ่ะมันไม่ได้เป็นข้อมูล
00:14:03 → 00:14:05 ที่ร่างกายจะต้องรู้หรือสมองเราต้องรู้
00:14:05 → 00:14:08 แต่เราก็ไปโหลดพวกนี้เป็นขยะมันก็คือขยะ
00:14:08 → 00:14:10 แบบนึงมันก็คือขยะแบบนึงแต่เราไม่ได้บอก
00:14:10 → 00:14:13 ว่ามันไม่ดีนะแต่ว่าสำหรับร่างกายบาง
00:14:13 → 00:14:14 อย่างบางอย่างเนี่ยเราไม่จำเป็นต้องรู้
00:14:14 → 00:14:18 จริงๆใช่มั้ยครับฉะนั้นถ้าเราต้องการที่
00:14:18 → 00:14:21 จะแก้เราก็ต้องการเอาเอาอันโหลดสิ่งเหล่า
00:14:21 → 00:14:24 เไปแทนที่เราจะไปพึ่งกับเทคโนโลยีแทนที่
00:14:25 → 00:14:26 เราจะไปพึ่งกับ
00:14:26 → 00:14:30 อ่าโซเชียลอ่ากลับมาที่ร่างกายตัวเองแล้ว
00:14:30 → 00:14:32 เล่นกับนิ้วผมยกตัวอย่างง่ายๆลองเล่นกัน
00:14:32 → 00:14:35 ดูมั้ยอ่ะเราลองเล่นกันดูมยโอเคทุกคนลอง
00:14:35 → 00:14:39 ทำท่านี้นะทำท่านี้นะอ่าทุกคนทำท่านี้นะ
00:14:39 → 00:14:44 ด้วยนะออ่าช้าๆนะ Sor ปึ๊บอ่าอ่าโอเคช้าๆ
00:14:44 → 00:14:50 นะเร็วขึ้นครับเดี๋ยวนะอ่าโอเคเห็นมั้ย
00:14:50 → 00:14:53 เห็นมอ่ะโอเคคุณหมอลองทำช้าๆเห็นมั้ยครับ
00:14:53 → 00:14:55 เห็นมั้ยครับ ordinate มันจะไม่ไปใช่มั้ย
00:14:55 → 00:14:56 ครับอ
00:14:56 → 00:15:00 โอเคใช่ทำไปเรื่อยๆแบบง่ายๆใช่ๆมันจะ
00:15:00 → 00:15:04 เริ่มขี้โกงเนาะอ่าโอเคอันนี้เล่นกับนิ้ว
00:15:04 → 00:15:06 โอเคพอย์มันไม่ใช่ว่าโอ้โหทำแค่นี้มันทำ
00:15:06 → 00:15:08 ให้คุณรักการเคลื่อนไหวหรอกถ้าคุณสังเกต
00:15:08 → 00:15:10 จริงๆตอนที่เราเล่นอย่างเงี้ยเราจิตเรา
00:15:10 → 00:15:13 เริ่มมาอยู่กับตรงเนี้ยอือมากขึ้นถูกมยอ
00:15:13 → 00:15:15 นี่คือการอันโหลดแบบนึงะเราจะบอกว่าบาง
00:15:15 → 00:15:18 ครั้งการบริหารอะไรเหล่าเนี้ยการเคลื่อน
00:15:18 → 00:15:20 ไหวร่างกายไม่ได้แปลว่าเราจะต้องแข็งแรง
00:15:20 → 00:15:23 ในแง่ของกล้ามเนื้อไงอืเรากำลังเทรน
00:15:23 → 00:15:25 เรื่องนี้อยู่สิ่งที่จำเป็นมากๆเราต้อง
00:15:25 → 00:15:27 เทรนสมองก่อนก่อนจะเคลื่อนไหวคุณต้องทำ
00:15:27 → 00:15:30 ให้เบนเราแข็งแรงก่อน
00:15:30 → 00:15:34 โห้ผมเนี่ยนะเวลากลับบ้านหลังจากเสร็จงาน
00:15:34 → 00:15:40 20:00 นเนี่ยช่วงนึงจะพอดีติดระบายวาด
00:15:40 → 00:15:44 ภาพพอดีเริ่มไว้ละก็ต้องทำให้
00:15:44 → 00:15:47 จบเป็นช่วงที่รู้สึกว่าสมองโล่งมาก
00:15:47 → 00:15:49 เหนื่อยแค่ไหนก็ตามนะแต่ได้กลับบ้านเปิด
00:15:49 → 00:15:53 เพลงแล้วก็เพนนะเพนไนัมันโล่งเหตุการณ์
00:15:53 → 00:15:56 ที่ 2 คือต่อเลโก้กับลูกอืรู้สึกได้ช่วย
00:15:56 → 00:15:59 เขาต่อเพียงครึ่งชั่วโมงเนี่ยผมรู้สึกผม
00:15:59 → 00:16:03 กลับมาชาร์จเป็นเกือบ 100% เลยนะใช่อืก็
00:16:03 → 00:16:06 คือเราใช้มือมากขึ้นใช่ 2 คือเราใช้มือ
00:16:06 → 00:16:09 มากขึ้นกับ 2 คือเราเบรค habit ตัวเองคือ
00:16:09 → 00:16:10 เราเริ่มทำอะไรที่เราไม่ค่อยได้ทำเป็น
00:16:10 → 00:16:14 ประจำอ่ะเช่นวิธีง่ายๆอีกอันนึงสมมุติหมอ
00:16:14 → 00:16:17 เป็นคนอ่าแปลงฟันด้วยมือขวาเออ Let Say
00:16:17 → 00:16:20 ทำด้วยมือซ้ายดูสิอืแปลงฟันด้วยมือซ้าย
00:16:20 → 00:16:22 เคยมั้ยไม่เคยลองดูสิแค่เนี้ยเบรนมันก็
00:16:22 → 00:16:25 แบบอ้าวพวเปลี่ยนละออแค่เราทำไงก็ได้ให้
00:16:25 → 00:16:28 สมองเเปลี่ยนอ่ะครับแล้วเ้าแบบอ้าวเต้อง
00:16:28 → 00:16:30 แบบตั้งใจใหม่เพื่อที่จะทำกิจกรรมใหม่ๆ
00:16:30 → 00:16:32 แค่เนี้ยมันจะพักสมองไปในตัวใช่มันคือการ
00:16:32 → 00:16:35 อันโหลดอ๋อมันทำให้สมองเราอันโหลดไปเลย
00:16:35 → 00:16:39 ครับโอเคผ่านกับชีวิตมาบ้างนะแต่ไม่เคย
00:16:39 → 00:16:44 รู้ว่ามันเป็นเทคนิคอันนึงโอเคงั้นสรุป
00:16:44 → 00:16:46 ครูสุขถึงจุดนี้นะครับก่อนที่เราจะไป
00:16:46 → 00:16:48 เริ่มเรื่อง movement เราเข้าใจก่อนว่า
00:16:48 → 00:16:52 movement มีความสำคัญเป็นจุดเริ่มต้น
00:16:52 → 00:16:54 ก่อนที่เราจะไปฟิตเนสซึ่งครูสุก็ไม่ได้
00:16:54 → 00:16:59 ไม่ได้ค้านของการฟิตเนสนะครับแต่ว่าแกจะย
00:16:59 → 00:17:02 ว่าเราเริ่มที่การเคลื่อนไหวก่อน 2 คือ
00:17:02 → 00:17:06 มันไม่มีคำว่าเคลื่อนไหวที่ถูกหรือผิดนะ
00:17:06 → 00:17:09 ฮะแต่เคลื่อนไหวที่ดีที่สุดคือเราตั้งใจ
00:17:09 → 00:17:13 จะเคลื่อนไหวในสเต็ปต่อไปอันที่ 3 ที่
00:17:13 → 00:17:16 สำคัญที่สุดคือมนุษย์ที่ไม่ยอมเคลื่อนไหว
00:17:16 → 00:17:20 ก็เพราะว่าขี้เกียจแต่เหตุผลที่ขี้เกียจ
00:17:20 → 00:17:23 ไม่ใช่ว่าเผิดนะฮะเหตุผลก็คือในสมองเขา
00:17:23 → 00:17:26 เต็มไปด้วยข้อมูลอาจจะใช้คำว่าขยะก็ได้
00:17:26 → 00:17:29 ครับเป็นข้อมูลที่เคสะสมไว้ทั้งวันไม่ว่า
00:17:29 → 00:17:32 จะเป็นเรื่องเครียดเรื่องข่าวเรื่องงาน
00:17:32 → 00:17:35 เรื่องส่วนตัวอะไรก็ตามมันทำให้เราไม่
00:17:35 → 00:17:38 อยากเคลื่อนไหวพอเราไม่อยากเคลื่อนไหวเรา
00:17:38 → 00:17:41 ก็เดินหน้าต่อไม่ได้ซึ่งครูสุขพยายามจะ
00:17:41 → 00:17:44 ย้ำอีกทีว่าคนๆนึงจะอยากเคลื่อนไหวได้ก็
00:17:44 → 00:17:48 ต่อเมื่อเราเอาสิ่งที่มันเป็นเป็นขยะอยู่
00:17:48 → 00:17:51 ในหัวเนี่ยเอาออกซึ่งเทคนิคง่ายที่สุดก็
00:17:51 → 00:17:55 คือ 2 เทคนิคที่เสนอคือทำกิจกรรมที่
00:17:55 → 00:18:00 เกี่ยวข้องกับมือนะฮะอะไรก็ได้ฮะบใบสี
00:18:00 → 00:18:03 เย็บอะไรก็ได้ครับเกมความจำครับเกมความจำ
00:18:03 → 00:18:07 หรืออันที่ 2 คือทำยังไงให้เราเราหลอก
00:18:07 → 00:18:12 สมองทำในสิ่งใหม่ๆเช่นแปรงฟันเช่นจากเดิน
00:18:12 → 00:18:15 กลับบ้านเปลี่ยนทางเดินหรืออะไรก็ได้ครับ
00:18:15 → 00:18:17 ที่มัน challeng สมองมันทำให้สมองพักแล้ว
00:18:17 → 00:18:21 ก็ได้ใช้อีกซีกนึงของสมองหรือครูสุกใช้คำ
00:18:21 → 00:18:26 ว่านโรนบินบิก็คือนูโรระบบประสาทบิก็คือ
00:18:26 → 00:18:30 จริงๆมาจากอบิออก็คือรวมเป็นนบิครับนะ
00:18:30 → 00:18:33 ครับ
00:00:00 → 00:00:02 คือจากสถิติที่ผมจดมานะฮะประเทศไทยเนี่ย
00:00:02 → 00:00:07 ปัจจุบันเนี่ยเราเข้าสู่เ่อสังคมเราเรียก
00:00:07 → 00:00:10 สังคมผู้สูงอายุเพราะว่าประชากรผู้สูง
00:00:10 → 00:00:12 อายุเราเนี่ยเกิน 10% ละของคนไทยเนี่ย
00:00:12 → 00:00:13 ประมาณ
00:00:13 → 00:00:17 16% จากสถิติที่ผมมีข้อมูลนะฮะเราคาด
00:00:17 → 00:00:20 คะเนว่าภายในอีกเนี่ย
00:00:20 → 00:00:24 2568 เราจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่าง
00:00:24 → 00:00:27 สมบูรณ์เราเรียก Age Society ก็คือจะมี
00:00:27 → 00:00:34 สัดส่วนสูงถึง 20% และในอนาคตคาดคะเนในปี
00:00:34 → 00:00:39 2574 เราจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดับสุด
00:00:39 → 00:00:42 ยอดนะผมพยายามแปลภาษาไทยมาให้ก็คือจะสูง
00:00:42 → 00:00:44 ถึง 28%
00:00:44 → 00:00:48 อ่ะเราทุกคนเตรียมพร้อมหรือยังครับเตรียม
00:00:48 → 00:00:51 พร้อมสำหรับสิ่งที่เรากำลังจะเห็นในอนาคต
00:00:51 → 00:00:55 คือปรากฏการณ์นอกเหนือจากโรคนะฮะที่ตามมา
00:00:55 → 00:00:56 กับ
00:00:56 → 00:01:01 เอ่อภาวะอายุก็คือเส้นเลือดสมองตีบนะฮะ
00:01:01 → 00:01:05 หลงลืมนะฮะโรคหัวใจเบาหวานโรคปอดแต่อีก
00:01:05 → 00:01:09 กลุ่มโรคนึงคือกลุ่มโรคกล้ามเนื้อนะครับ
00:01:09 → 00:01:13 ปัญหากล้ามเนื้อเนี่ยจริงๆพบมากก็คือถ้า
00:01:13 → 00:01:16 ภาษาอังกฤษเราเรียกโคเนียนะภาษาไทยเรา
00:01:16 → 00:01:19 เรียกภาวะมวลกล้ามเนื้อ
00:01:19 → 00:01:22 น้อยเดี๋ยวเราจะไปขยายความกันแต่อยากให้
00:01:22 → 00:01:26 รู้ว่ามีตัวเลขไม่ไม่น้อยนะครับล่าสุดก็
00:01:26 → 00:01:29 มีการเก็บตัวเลขในเมืองไทยนะฮะสัดส่วน
00:01:29 → 00:01:33 ส่วนภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยเนี่ยพบมากใน
00:01:33 → 00:01:37 ชนบทนะฮะในกรุงเทพฯมีถึง 10% แล้วแต่ตัว
00:01:37 → 00:01:40 เลขนะฮะต่างจังหวัดอาจจะสูงถึง 15
00:01:40 → 00:01:43 -20% ภาวะนี้เกิดจากอะไรเรามาค่อยๆเก็บ
00:01:44 → 00:01:47 กันนะแล้วมีอะไรที่ผมอยากจะแนะนำเราให้
00:01:47 → 00:01:49 ความรู้เราได้ดีมากกว่าผมนะฮะก็คือวันนี้
00:01:49 → 00:01:52 ผมเชิญเอ่อเจ้าของเพจนะฮะครูสุขที่มีคน
00:01:52 → 00:01:56 ติดตามเป็นแสนนะครับปัจจุบันครูสุขเนี่ย
00:01:56 → 00:01:58 นอกจากจะเป็นเจ้าของเพจแล้วยังเป็น
00:01:58 → 00:02:01 mobility โค้ชนะฮะเป็นวิทยากรนะฮะแล้ว
00:02:01 → 00:02:04 เป็นเจ้าของ Academy นะฮะสวัสดีครับคุณ
00:02:04 → 00:02:06 หมอครับสวัสดีครับผมอยากได้คำขยายความ
00:02:07 → 00:02:08 กว่านี้อกนิดนึงใช่มั้ยคุณหมอคือเราอาจจะ
00:02:08 → 00:02:11 เปลี่ยนจับ mobility เป็น movement อ่า
00:02:11 → 00:02:13 ครับ movement โค้ชจริงๆในภาษาไทยคือถ้า
00:02:13 → 00:02:16 เราแปลตรงๆเนี่ยก็คือโค้ชหรือผู้เชี่ยว
00:02:16 → 00:02:18 ชาญด้านการเคลื่อนไหวอืนะครับพอเราพูดถึง
00:02:18 → 00:02:21 การออกกำลังกายสิ่งที่เราจะต้องพูดก่อน
00:02:21 → 00:02:24 เลยก่อนเราจะออกกำลังกายได้เราต้องเดิน
00:02:24 → 00:02:27 เป็นเราต้องนั่งเป็นเราต้องยืนเป็นฉะนั้น
00:02:27 → 00:02:30 ทักษะเหล่าเนี้ยมันคือการเคลื่อนไหวถ้า
00:02:30 → 00:02:32 เรามีทักษะการเคลื่อนไหวที่ดีการออกกำลัง
00:02:32 → 00:02:36 กายก็จะดีตามแต่ถ้าการเคลื่อนไหวเรายัง
00:02:36 → 00:02:38 ไม่ดีการไปออกกำลังกายมันยังจะไม่ตอบ
00:02:38 → 00:02:41 โจทย์ทุกมุมครับซึ่งครูสุกำลังจะบอกว่า
00:02:41 → 00:02:45 ปัจจุบันเทรนด์คือการออกกำลังกายแต่คนลืม
00:02:45 → 00:02:47 มองการเคลื่อนไหวซึ่งจริงๆการเคลื่อนไหว
00:02:47 → 00:02:50 จริงๆเป็นภาพที่ใหญ่กว่าใช่การออกกำลัง
00:02:50 → 00:02:54 กายเป็นแค่ส่วนเล็กๆผมเองเนี่ยก็ก็พอไป
00:02:54 → 00:02:57 อยู่ต่างจังหวัดตอนไปอยู่นครไปอยู่ท่า
00:02:57 → 00:03:00 ศาลาเนี่ยสัดส่วนผู้สูงอายุเยอะแล้วก็ 80
00:03:01 → 00:03:04 990 ตัวเล็กแต่แข็งแรงครับเค้าไม่เคย
00:03:04 → 00:03:08 ต้องมานั่งตื่นวิ่งตอนเช้าเไม่ต้องมานั่ง
00:03:08 → 00:03:13 พิถีพิถันครับคีโตไดเอทโลขาบไฮโปรตีนเกน
00:03:13 → 00:03:17 ไม่มีครับเกินง่ายแต่ movement เาเยอะมาก
00:03:17 → 00:03:19 ครับแล้วเขาอยู่กันถึง 90 เฉลี่ยเยอะมาก
00:03:19 → 00:03:22 เลยครับกระดูกแข็งแรงกล้ามเนื้ออาจจะบาง
00:03:22 → 00:03:25 ตามอายุแต่แข็งแรงไม่ค่อยป่วยอย่างมากก็
00:03:25 → 00:03:29 ความดันตามอายุครับนะครับอันเนี้ยครับผม
00:03:29 → 00:03:32 เห็นว่ากระแส movement เราเนี่ยเรามักจะ
00:03:32 → 00:03:35 ถูกลืมไปครับเราไปให้ค่านิยมกับกระแส
00:03:35 → 00:03:38 Fitness จนลืม movement ไปอยากให้ทุกคน
00:03:38 → 00:03:41 นึกถึงนึกภาพตามนะครับักอ่าัก 2,000 ปี
00:03:42 → 00:03:44 ก่อนอ่าสมัยก่อนคนกลุ่มนั้นยุคนั้นก็คือ
00:03:45 → 00:03:48 ล่าสัตว์เราจะเคลื่อนไหวก็มีแค่กรณีเดียว
00:03:48 → 00:03:51 ละครับหิวอืแล้วเราก็จะเคลื่อนไหวแปลว่า
00:03:52 → 00:03:54 ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมา 2 อย่างแน่ๆคือ
00:03:54 → 00:03:58 1 จะต้องมีเติมพลังงานคืออาหารกับ 2 จะ
00:03:58 → 00:04:01 ต้องมีการเคลื่อนไหวเพื่อไปหาออืนะกับ 3
00:04:01 → 00:04:03 อาจจะต้องวิ่งหนีเพราะไม่อยากเป็นอาหาร
00:04:03 → 00:04:06 ใครนั่นแปลว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือเรา
00:04:06 → 00:04:09 ถูกออกแบบว่าการเคลื่อนไหวเราไม่ได้ถูก
00:04:09 → 00:04:12 ออกแบบมาว่าจะต้องทำ 3 เซตเราไม่ได้ถูก
00:04:12 → 00:04:14 ออกแบบมาว่าวออกกำลังกายวันละกี่นาทีเรา
00:04:14 → 00:04:16 ไม่ได้ถูกออกแบบว่าเราจะต้องล่าสัตว์วละ
00:04:16 → 00:04:19 กี่นาทีเริ่มเห็นภาพเริ่มเห็นภาพใช่มครับ
00:04:19 → 00:04:22 เราจะไม่มีกรอบอะไรเลยแต่สิ่งที่มันไดฟ
00:04:22 → 00:04:24 เราคือบริสุทธิ์ใจของเราคือเราอยากไปเรา
00:04:24 → 00:04:27 อยากเดินใช่มครับแต่สิ่งที่เกิดขึ้นใน
00:04:27 → 00:04:31 ปัจจุบันคือหิวข้าวคุณหมอทำไงก็กินลายแมน
00:04:31 → 00:04:33 อลาย Food มาแล้วครับตั้งแต่โควิดอาหารมา
00:04:33 → 00:04:36 ถึงโต๊ะแล้ว delivery าย Food แพนฉะนั้น
00:04:36 → 00:04:39 สิ่งแรกที่เกิดขึ้นคือไม่มีการเคลื่อนไหว
00:04:39 → 00:04:41 เพื่อไปหาอาหารแหละอื movement หายไป
00:04:41 → 00:04:44 แล้วะแต่ Food มาแล้วนะออพอคุณหมอทาน Food
00:04:44 → 00:04:47 เสร็จปุ๊บช่วงปีใหม่ทานเยอะรู้สึกผิดมั้ย
00:04:47 → 00:04:50 ฮะอรู้สึกผิดครับปีใหม่นี้ฉันจะต้องมี New
00:04:50 → 00:04:53 Body New you ฉันต้องออกกำลังกาย
00:04:53 → 00:04:55 ฉะนั้นสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือคุณหมอกำลัง
00:04:55 → 00:04:59 จะ Exercise เพื่อชดเชยในสิ่งที่คุณหมอ
00:04:59 → 00:05:02 รู้สึกผิดอือหรือกำลังชดเชยในสิ่งที่เรา
00:05:02 → 00:05:05 ขาดฉะนั้น Exercise ของคนยุคนี้เกิดจาก
00:05:05 → 00:05:08 การชดเชยอือเกิดจากเงื่อนไขบางอย่างเลยทำ
00:05:08 → 00:05:09 ให้เราจะต้อง
00:05:10 → 00:05:13 Exercise ครูสุขกำลังจะบอก
00:05:13 → 00:05:17 ว่ากระแสหรือ mindset ที่คิดว่าถ้าจะทำ
00:05:18 → 00:05:21 ให้สุขภาพดีต้องไปออกกำลังกายอาจจะไม่ถูก
00:05:21 → 00:05:24 ซะทีเดียวถ้าเราลืมการเคลื่อนไหวใช่ครับ
00:05:24 → 00:05:27 ในชีวิตประจำวันใช่ครับครูสุกำลังบอกว่า
00:05:27 → 00:05:30 แทนที่เราจะไปนั่งโฟกัสเรื่องการเอกำลัง
00:05:30 → 00:05:32 กายก่อนจะไปถึงจุดนั้นกลับมาโฟกัสที่การ
00:05:32 → 00:05:35 เคลื่อนไหวก่อนใช่ครับให้น้ำหนักกับการ
00:05:35 → 00:05:38 เคลื่อนไหวให้มากที่สุดและถูกวิธีถูกต้อง
00:05:38 → 00:05:41 ใช่มครับจริงๆคนเราถูกออกแบบนะครับให้เรา
00:05:41 → 00:05:44 เคลื่อนไหวเนี่ยประมาณ 3,000 นาทีต่อ
00:05:44 → 00:05:47 อาทิตย์เพราะว่าเราเคยเป็นคนนักล่าเราเคย
00:05:47 → 00:05:49 จะต้องหาอาหารเราเลยต้องทำสวนทำไร่ใช่มั้
00:05:49 → 00:05:52 ครับแต่ปัจจุบันเนี่ยคนพยายามจะออกกำลัง
00:05:52 → 00:05:55 กายแลเซเฉลี่ยนะครับอาทิตย์ละ 300 นาที
00:05:55 → 00:05:58 คุณหมอเห็นความแตกต่างยังอเราถูกออกแบบมา
00:05:58 → 00:06:01 ให้ 3,000 นาทีอือแต่เรา
00:06:01 → 00:06:04 อียนาทีต่อให้คุณหมอเป็นคขยันนะอหายไป 10
00:06:04 → 00:06:08 เท่านะอือๆพอมันหายไป 10 เท่าสิ่งแรกเลย
00:06:08 → 00:06:10 ทุกคนจะพยายามจะบอกว่าการออกกำลังกายทำ
00:06:10 → 00:06:13 ให้สุขภาพดีจริงๆเราต้องมองกลับไปครับ
00:06:13 → 00:06:15 จริงๆแล้วเราถูกออกแบบให้เป็น 3,000 นาที
00:06:15 → 00:06:18 เราไม่ได้ถูกออกแบบให้ทำแค่ 300 นาทีอื
00:06:18 → 00:06:21 แทนที่เราแล้วเราจะทำไงให้จาก 3,000 เป็น
00:06:21 → 00:06:23 3 300 เป็น 3,000 ใช่ป่ะไลฟ์สไตล์ไง
00:06:23 → 00:06:26 ครับเิคุณต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ก่อนเช่นผม
00:06:26 → 00:06:28 ยกตัวอย่างง่ายๆแค่ขึ้น BTS อ่ะครับคุณ
00:06:28 → 00:06:31 เห็นบันไดเลื่อนอืมันมีบันไดด้วยนะอือ่า
00:06:31 → 00:06:33 อย่างวันนี้ก่อนมาหาคุณหมอผมก็เลือกที่จะ
00:06:33 → 00:06:35 เดินผมไม่เลือกที่จะขึ้นลิฟต์อือผมตั้งใจ
00:06:36 → 00:06:38 เป็นไงเพราะว่าเรารู้สึกว่าก็เนี่ยแหละ
00:06:38 → 00:06:41 Extra Time ที่เราจะได้ movement เพราะ
00:06:41 → 00:06:44 ถ้าเรามัวแต่ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกใน
00:06:44 → 00:06:46 ปัจจุบันมันไม่ใช่ไลฟ์สไตล์ไงงที่จะอยาก
00:06:46 → 00:06:49 ให้ทุกคนเปลี่ยนจริงๆไสตล์เราอ่ะคือมัน
00:06:49 → 00:06:51 ต้องเปลี่ยนเช่นคุณไปเซเว่นเอาจริงๆอ่ะ
00:06:51 → 00:06:53 คุณก็เดินได้จากหมู่บ้านคุณเดินออกไป
00:06:53 → 00:06:55 ประมาณ 600 เมตรอ่ะทำไมคุณึงจะต้องขับรถ
00:06:55 → 00:06:58 ไปถ้าเราเปลี่ยนลองลองนึกภาพตามนะครับถ้า
00:06:58 → 00:07:01 เราเดินวละ 600 เมตไปกลับใช่มั้ยครับ
00:07:01 → 00:07:03 1,200 แล้วเนาะถ้าวันนึงคุณไป 4-5 รอบ
00:07:03 → 00:07:07 นี่เกือบ 5 6,900 แล้วนะออื 5 6,900
00:07:07 → 00:07:09 แล้วนะคือผมกำลังจะบอกว่าให้เรากลับไป you
00:07:09 → 00:07:12 have to move for your Food อ่ะอ่า
00:07:12 → 00:07:15 ๆเริ่มขยับมากขึ้นใช่ขยับมากขึ้นเพื่อจะ
00:07:15 → 00:07:17 ไปทำในสิ่งที่คุณต้องการก็ได้แต่ผมอยาก
00:07:17 → 00:07:21 ให้คุณขยับไปไม่ใช่แบบโอเคฉันไปถึงปุ๊บ
00:07:21 → 00:07:23 ฉันก็ฉันก็รอแบมาฉันรอนี่มาฉันรอ
00:07:23 → 00:07:26 มอเตอร์ไซค์วินมาออกจากปักซอยมันก็เลยทำ
00:07:26 → 00:07:30 ให้เราไม่ไดู้อือย่าเพิ่งโฟกัสที่ฟิตเนส
00:07:30 → 00:07:33 ใช่โฟกัสที่การเคลื่อนไหวใช่ฟิตเนสจะมา
00:07:33 → 00:07:35 ตอนหลังใช่ฟิตเนสยังไงจำเป็นนะผมไม่ได้
00:07:35 → 00:07:38 บอกไม่ดีนะมันมันมามันมีสำคัญแน่นอนเพียง
00:07:38 → 00:07:41 แต่ว่าเริ่มเราต้องเริ่มอะไรที่เป็นโกที่
00:07:41 → 00:07:44 เซตง่ายๆก่อนอคือปรากฏการณ์ทุกที่นะครับ
00:07:44 → 00:07:47 ช่วงปีใหม่ก็จะมีคนสมัครฟิตเนสเยอะใช่เขา
00:07:47 → 00:07:49 บอกว่าปรากฏการณ์เดือนกุมภาพันธ์ก็จะ Drop
00:07:49 → 00:07:52 Out กันเยอะเพราะว่าจีใช่ new year
00:07:52 → 00:07:54 resolution ปุ๊บทุกอย่างทุกคนก็อยากจะ
00:07:54 → 00:07:57 เริ่มทำอะไรใหม่ๆใช่เลยใช่เลยแต่ไปผมคิด
00:07:57 → 00:08:01 ว่าแทนที่เราจะไปกระโดดไปที่ฟิตเนสเริ่ม
00:08:01 → 00:08:04 ที่ movement ใช่เริ่มจากการเดิน movement
00:08:04 → 00:08:08 ที่ถูกวิธีอ่าอ่าอันเนี้ยครับอะไรฮะมีมี
00:08:08 → 00:08:10 มั้ยฮะมีคำว่า movement ถูกวิธีมั้ยว่า
00:08:10 → 00:08:13 การเคลื่อนไหวถูกวิธีไม่มันไม่มีคำว่าถูก
00:08:13 → 00:08:16 ต้องเพราะว่า The มันจะมีฟังมันจะมีคำนึง
00:08:16 → 00:08:18 ของของทางตะวันตกอ่ะผมชอบมาก quotation
00:08:18 → 00:08:19 นี้เขาบอกว่า what is the best
00:08:20 → 00:08:22 movement อื The Best movement is
00:08:22 → 00:08:25 next movement อืมแปลว่าการเคลื่อนไหว
00:08:26 → 00:08:28 ที่ดีก็คือการเคลื่อนไหวท่าต่อไปใช่มั้
00:08:28 → 00:08:30 สมมุติว่าผมนั่งเงยครับธาุที่ดีที่สุด
00:08:30 → 00:08:32 สำหรับผมหลังจากที่นั่งนานๆคือธาตุต่อไป
00:08:32 → 00:08:35 ที่ผมจะทำอ่ะคือลุกขึ้นยืนอ่าฉะนั้นเรา
00:08:35 → 00:08:37 กำลังจะบอกมันไม่มีธาตุที่ดีที่สุดเพราะ
00:08:37 → 00:08:40 อะไรเพราะว่าถึงจุดๆนึงเราจะต้องยอมรับ
00:08:40 → 00:08:43 ก่อนว่าโลกนี้มีแรงน้มถ่วงอ gforce เกิด
00:08:43 → 00:08:45 ขึ้นเสมอเมื่อ G Force เกิดขึ้นกับคุณ
00:08:45 → 00:08:47 หมอแปลว่าอะไรแรงน้มถ่วงแปลว่าถ้าเราอยู่
00:08:47 → 00:08:49 กับที่แป๊บนึงอ่ะแรงมันจะตกอยู่ที่นั่น
00:08:49 → 00:08:51 น่ะเป็นเวลานานๆอือร่างกายก็พยายามจะ
00:08:52 → 00:08:54 สร้างขบวนการทำไงก็ได้ให้เรานั่งได้นานๆเ
00:08:54 → 00:08:57 ก็เลยเริ่มทำให้ร่างกายตึงขึ้นอือซึ่งไม่
00:08:57 → 00:08:59 ความตึงไม่ได้ผิดนะผมรู้สึกว่าความตึงถูก
00:08:59 → 00:09:01 ตีค่าให้เป็น Bad C ไปแล้วอ่ะจริงๆความ
00:09:01 → 00:09:04 ตึงมันมีเหตุผลเพราะว่าก็คุณหมออยากนั่ง
00:09:04 → 00:09:06 ไงร่างกายก็เลยพยายามสิฟให้อ่ะถ้าไม่สิฟ
00:09:06 → 00:09:09 มันก็ไม่ไหวไงใช่มั้ครับฉะนั้นท่าที่ดี
00:09:09 → 00:09:12 ที่สุดถ้าถามผมนะคือ่าต่อไปคือพยายาม
00:09:12 → 00:09:14 movement แบบไหนก็ได้ให้หลากหลายไวก่อน
00:09:14 → 00:09:17 เดี๋ยวผมจะอธิบายเหตุผมว่าทำไมนะครับอ
00:09:17 → 00:09:20 สิ่งที่เป็นตัวแปรทำให้คนเคลื่อนไหวน้อย
00:09:20 → 00:09:23 ที่สุดคือสมองครับเพราะสมองเนี่ยถ้าเรา
00:09:23 → 00:09:26 พูดแบบภาษาคนทั่วไปให้เห็นเป็น ler สมอง
00:09:26 → 00:09:29 เราถูกแบ่งออกเป็น 4 ชั้นนึกถึงห้างห้างๆ
00:09:29 → 00:09:31 มี 4 ชั้นชั้นแรกเลยคือ
00:09:31 → 00:09:34 อารมณ์ชั้นแรกเลยนะชั้นที่อยู่ระดับล่าง
00:09:34 → 00:09:36 สุดเนี่ยคืออารมณ์ชั้นที่ 2 เนี่ยจะเป็น
00:09:37 → 00:09:39 เรื่องของ Logic เรื่องของ movement ชั้น
00:09:39 → 00:09:42 ที่ 3 คือเอา 1 กับ 2 เนี่ยมาคิดเป็น
00:09:42 → 00:09:45 Logic คิดเป็นตรรกะจริงๆแล้วสุดท้ายคือ
00:09:45 → 00:09:47 vdom ซึ่งยากมากๆที่ควรจะอยู่ระดับ 4 นะ
00:09:47 → 00:09:49 ครับส่วนใหญ่เนี่ยสิ่งที่มันทำให้เราไม่
00:09:49 → 00:09:52 เคลื่อนไหวจริงๆคุณหมอเคยสังเกตมยครับถ้า
00:09:52 → 00:09:54 วันนี้คุณหมอ
00:09:54 → 00:09:57 เอ่ออาจจะมีความเครียดอะไรบางอย่างจากการ
00:09:57 → 00:10:00 ทำงานนะครับหรืออาจจะเกิดสภาว่าทะเลาะกับ
00:10:00 → 00:10:02 อ่าหรือมีปัญหาอะไรกับครอบครัวแบบมีกัน
00:10:02 → 00:10:05 ไม่เข้าใจกันมันจะมีความรู้สึกดาวๆในร่าง
00:10:05 → 00:10:08 กายอคุณหมอสังเกตมั้ยทุกครั้งที่เรารู้
00:10:08 → 00:10:10 สึกดาวเราจะไม่อยากทำอะไรนอกจากนั่งเฉยๆอ
00:10:10 → 00:10:13 อืใช่มครับมันเกิดอะไรขึ้นเพราะว่าสมอง
00:10:13 → 00:10:15 เนี่ยมันไปใช้เรื่องของ emotional หรือ
00:10:15 → 00:10:18 ความรู้สึกเราเยอะพอ emotional มันรู้สึก
00:10:18 → 00:10:20 เยอะมันจะทำให้ร่างกายไม่สามารถเป็น Level
00:10:20 → 00:10:23 2 คือ movement ได้เลยฉะนั้นคนที่ไม่
00:10:23 → 00:10:27 เคลื่อนไหวไม่ใช่ว่าเขาไม่แข็งแรงแต่มัน
00:10:27 → 00:10:29 มีหลายอย่างมีข้อมูลหลายอย่างอยู่ในหัว
00:10:29 → 00:10:31 โดยที่เขไม่รู้ตัวผมยกตัวอย่างเช่นคุณหมอ
00:10:31 → 00:10:34 อาจจะไม่ได้เป็นคนเครียดแต่คุณหมอเป็นคน
00:10:34 → 00:10:38 ดูข่าวรงวัอืนะครับหรือคุณหมอไม่ได้เป็น
00:10:38 → 00:10:40 คนที่เครียดไม่ได้ดูข่าวแต่คุณหมออาจจะ
00:10:40 → 00:10:43 เป็นคนชอบอ่านหนังสือชอบดู IG แล้วก็โหลด
00:10:43 → 00:10:47 ข้อมูลมาอโหลดมาโหลดมาโหลดมาโหลดมามัน
00:10:47 → 00:10:50 overload ครับสมองมัน overload capacity
00:10:50 → 00:10:52 สมองมันเท่าเดิมนะครับแต่มัน overload
00:10:52 → 00:10:55 มันเหมือนคอมที่โหลดโหลลๆลทีนี้พอสมอง
00:10:55 → 00:10:58 โหลดเยอะๆมันจะทำให้บอดี้เราเนี่ยจะไม่
00:10:58 → 00:11:00 อยากทำอะไรนอกจากน
00:11:00 → 00:11:04 อืนอกจากคือฉันต้องพักท้าจริงๆคุณไม่ได้
00:11:04 → 00:11:07 ออกแรงอะไรเลยจริงๆคุณไม่ต้องพักแต่ที่
00:11:07 → 00:11:09 คุณอยากพักเพราะว่าสมองมันโหลดอ่าอันนี้
00:11:09 → 00:11:13 จริงครับอันนี้อันนี้โดนกับตัวเลยฮะอ้าพอ
00:11:13 → 00:11:17 พอนะครับพอสมองมันโหลดจัดเนี่ยมันก็เลยทำ
00:11:17 → 00:11:19 ให้หลายๆคนเนี่ยอย่างที่คุณหมอพูดอ่ะครับ
00:11:19 → 00:11:22 เออกลับมาบ้านก็อมันก็เหนื่อยมาทั้งวัน
00:11:22 → 00:11:24 แล้วมันไม่อยากทำซึ่งไม่ใช่เป็นคุณหมอคน
00:11:24 → 00:11:28 เดียวผมว่าผมก็เป็นอืผมก็เป็นทุกคนก็ใน
00:11:28 → 00:11:31 โลกนี้เป็นเพราะว่านี่คือ DNA เรา DNA
00:11:31 → 00:11:34 เราถูกถูก Level เนี้ยมานะครับก็คือมี
00:11:34 → 00:11:37 emotional มี stress โดยที่เราไม่รู้ตัว
00:11:37 → 00:11:40 ทีนี้แล้วเราจะทำังไงให้สสเหล่านี้หายไป
00:11:40 → 00:11:43 แอมันจะมีคำนึงที่ผมตอนเผมกำลังเล่นกับคำ
00:11:43 → 00:11:46 นี้อยู่เขาเรียกว่านบิ neurobic คืออะไร
00:11:46 → 00:11:49 นบิก็คือระบบประสาทกับอบิมารวมกันคือการ
00:11:49 → 00:11:51 ฝึกสมอง
00:11:51 → 00:11:54 ให้เบรค habit หรือเบรคนิสัยที่เป็นอยู่
00:11:54 → 00:11:56 ปัจจุบันสิ่งที่มันเกิดขึ้นคือทุกวัน
00:11:56 → 00:11:59 เนี้ยพวกเราทุกคนเครับทำงานกันเป็น loop
00:11:59 → 00:12:01 เราจะมีเวลาของมันสมองมันถูกใช้เป็น Loop
00:12:01 → 00:12:04 เตลอดเวลาอืสิ่งแรกที่เราต้องเบค Down
00:12:04 → 00:12:06 ก่อน movement คือ Break Down Loop ของ
00:12:06 → 00:12:10 สมองครับอืคุณหมอตอนคุณหมอเคยทำแล้วเชื่อ
00:12:10 → 00:12:13 ป่ะสิ่งเหล่า
00:12:13 → 00:12:17 เนี้ยหมักเก็บอืออะไรที่เป็นมือเล่นลูก
00:12:17 → 00:12:20 แก้วตอนเด็กเราเล่นอะไรที่เป็น finger
00:12:20 → 00:12:23 เยอะมากนะอือจำได้มั้ยครับแลๆแล้วเราก็
00:12:23 → 00:12:26 ลืมมันไปแล้วเราก็ไม่ได้ใช้จริงๆหลายๆคน
00:12:26 → 00:12:28 ไม่รู้ว่า po perception คืออะไรคือตัว
00:12:28 → 00:12:31 รับรู้ประในร่างกายเรานะตัวที่จะเป็นตัว
00:12:31 → 00:12:33 บอกข้อมูลให้เราอ่ะคุณหมอคือร่างกายเรา
00:12:33 → 00:12:35 ก่อนที่จะสั่งงานมันจะมีตัวแบบเเรียกว่า
00:12:35 → 00:12:38 ตัวสแกนที่บอกข้อมูลไปยังสมองสมองเก็จะ
00:12:38 → 00:12:40 สั่งงานไปยังกล้ามเนื้อที่มือเราเยอะที่
00:12:40 → 00:12:44 สุดอืสิ่งแรกที่เราควรจะฝึกเบนที่ทำให้
00:12:44 → 00:12:46 มันรีโหลดได้คืออันโหลดเข้าไปเลยคือการ
00:12:46 → 00:12:50 เล่นกับนิ้วครับอันนี้อันนี้อันนี้เป็น
00:12:50 → 00:12:53 เป็นวิชาการนะอันนี้ไม่ได้แผมพูดเล่นๆนะ
00:12:53 → 00:12:56 คือครูสุกกำลังจะพูดทั้งหมดที่ผมพยายาม
00:12:56 → 00:13:01 จับประเด็นก็คือคนกลับมาเหนื่อยไม่มีแรง
00:13:01 → 00:13:03 ที่จะออกกำลังกายหรือใช้คำว่าขี้เกียจที่
00:13:03 → 00:13:06 จะออกกำลังกายก็เพราะว่าสมองเรามันโหลด
00:13:06 → 00:13:09 ใช่โหลดจากการทำงานเป็นแบบแผนทุกๆวันใช่
00:13:09 → 00:13:13 ครับซึ่งไอ้ 4 ขั้นในสมองเนี่ยกำลังจะบอก
00:13:13 → 00:13:16 ว่าถ้าอารมณ์หรือความรู้สึกมันไม่ผ่านมัน
00:13:16 → 00:13:19 จะไม่กระตุ้นเข้าสู่ระยะ 2 ก็คือระยะอยาก
00:13:19 → 00:13:21 เคลื่อนไหวเคลื่อนไหวระดับที่เริ่มคุสุก
00:13:21 → 00:13:24 กำลังจะย้ำว่าก่อนที่เราอยากจะเคลื่อนไหว
00:13:24 → 00:13:28 เราต้องกลับไปแก้ความรู้สึกและโหลดในสมอง
00:13:28 → 00:13:31 เราก่อนคือมันเริ่มที่สมองเราก่อนใช่อ๋อ
00:13:31 → 00:13:35 ซึ่งวิธีเทคนิคอันนึงก็คือวิธีการอหดใช่
00:13:35 → 00:13:38 อหดก็คือเอาเอาของที่หนักในหัวออกให้หมด
00:13:39 → 00:13:41 โดยการเล่นกับนิ้วใช่ใช่เล่นกับนิ้วนี่
00:13:41 → 00:13:44 คือพวกนี่เดี๋ยวผมยกตัวอย่างแต่ว่าพอดี
00:13:44 → 00:13:46 ไม่มนี้คุณหมอพูดจำได้มั้ผมบอกว่าคนเรา
00:13:47 → 00:13:49 ปัจจุบันเราออกกำลังกายเพราะเรามีโกลเนอะ
00:13:49 → 00:13:52 หลายๆคนผมเชื่อว่าเราเครียดเราทำอะไรครับ
00:13:52 → 00:13:55 เราก็ไปดู IG สิออ่าไปดู tiktok อมครับ
00:13:55 → 00:13:58 หรือเราไปดูข่าวสิเราไปดู netflix สินั่น
00:13:58 → 00:14:01 ก็เป็นวิธีการโหลดแบบนึงอ่าโหลดข้อมูลที่
00:14:01 → 00:14:03 จริงๆมันเป็นจังอ่ะมันไม่ได้เป็นข้อมูล
00:14:03 → 00:14:05 ที่ร่างกายจะต้องรู้หรือสมองเราต้องรู้
00:14:05 → 00:14:08 แต่เราก็ไปโหลดพวกนี้เป็นขยะมันก็คือขยะ
00:14:08 → 00:14:10 แบบนึงมันก็คือขยะแบบนึงแต่เราไม่ได้บอก
00:14:10 → 00:14:13 ว่ามันไม่ดีนะแต่ว่าสำหรับร่างกายบาง
00:14:13 → 00:14:14 อย่างบางอย่างเนี่ยเราไม่จำเป็นต้องรู้
00:14:14 → 00:14:18 จริงๆใช่มั้ยครับฉะนั้นถ้าเราต้องการที่
00:14:18 → 00:14:21 จะแก้เราก็ต้องการเอาเอาอันโหลดสิ่งเหล่า
00:14:21 → 00:14:24 เไปแทนที่เราจะไปพึ่งกับเทคโนโลยีแทนที่
00:14:25 → 00:14:26 เราจะไปพึ่งกับ
00:14:26 → 00:14:30 อ่าโซเชียลอ่ากลับมาที่ร่างกายตัวเองแล้ว
00:14:30 → 00:14:32 เล่นกับนิ้วผมยกตัวอย่างง่ายๆลองเล่นกัน
00:14:32 → 00:14:35 ดูมั้ยอ่ะเราลองเล่นกันดูมยโอเคทุกคนลอง
00:14:35 → 00:14:39 ทำท่านี้นะทำท่านี้นะอ่าทุกคนทำท่านี้นะ
00:14:39 → 00:14:44 ด้วยนะออ่าช้าๆนะ Sor ปึ๊บอ่าอ่าโอเคช้าๆ
00:14:44 → 00:14:50 นะเร็วขึ้นครับเดี๋ยวนะอ่าโอเคเห็นมั้ย
00:14:50 → 00:14:53 เห็นมอ่ะโอเคคุณหมอลองทำช้าๆเห็นมั้ยครับ
00:14:53 → 00:14:55 เห็นมั้ยครับ ordinate มันจะไม่ไปใช่มั้ย
00:14:55 → 00:14:56 ครับอ
00:14:56 → 00:15:00 โอเคใช่ทำไปเรื่อยๆแบบง่ายๆใช่ๆมันจะ
00:15:00 → 00:15:04 เริ่มขี้โกงเนาะอ่าโอเคอันนี้เล่นกับนิ้ว
00:15:04 → 00:15:06 โอเคพอย์มันไม่ใช่ว่าโอ้โหทำแค่นี้มันทำ
00:15:06 → 00:15:08 ให้คุณรักการเคลื่อนไหวหรอกถ้าคุณสังเกต
00:15:08 → 00:15:10 จริงๆตอนที่เราเล่นอย่างเงี้ยเราจิตเรา
00:15:10 → 00:15:13 เริ่มมาอยู่กับตรงเนี้ยอือมากขึ้นถูกมยอ
00:15:13 → 00:15:15 นี่คือการอันโหลดแบบนึงะเราจะบอกว่าบาง
00:15:15 → 00:15:18 ครั้งการบริหารอะไรเหล่าเนี้ยการเคลื่อน
00:15:18 → 00:15:20 ไหวร่างกายไม่ได้แปลว่าเราจะต้องแข็งแรง
00:15:20 → 00:15:23 ในแง่ของกล้ามเนื้อไงอืเรากำลังเทรน
00:15:23 → 00:15:25 เรื่องนี้อยู่สิ่งที่จำเป็นมากๆเราต้อง
00:15:25 → 00:15:27 เทรนสมองก่อนก่อนจะเคลื่อนไหวคุณต้องทำ
00:15:27 → 00:15:30 ให้เบนเราแข็งแรงก่อน
00:15:30 → 00:15:34 โห้ผมเนี่ยนะเวลากลับบ้านหลังจากเสร็จงาน
00:15:34 → 00:15:40 20:00 นเนี่ยช่วงนึงจะพอดีติดระบายวาด
00:15:40 → 00:15:44 ภาพพอดีเริ่มไว้ละก็ต้องทำให้
00:15:44 → 00:15:47 จบเป็นช่วงที่รู้สึกว่าสมองโล่งมาก
00:15:47 → 00:15:49 เหนื่อยแค่ไหนก็ตามนะแต่ได้กลับบ้านเปิด
00:15:49 → 00:15:53 เพลงแล้วก็เพนนะเพนไนัมันโล่งเหตุการณ์
00:15:53 → 00:15:56 ที่ 2 คือต่อเลโก้กับลูกอืรู้สึกได้ช่วย
00:15:56 → 00:15:59 เขาต่อเพียงครึ่งชั่วโมงเนี่ยผมรู้สึกผม
00:15:59 → 00:16:03 กลับมาชาร์จเป็นเกือบ 100% เลยนะใช่อืก็
00:16:03 → 00:16:06 คือเราใช้มือมากขึ้นใช่ 2 คือเราใช้มือ
00:16:06 → 00:16:09 มากขึ้นกับ 2 คือเราเบรค habit ตัวเองคือ
00:16:09 → 00:16:10 เราเริ่มทำอะไรที่เราไม่ค่อยได้ทำเป็น
00:16:10 → 00:16:14 ประจำอ่ะเช่นวิธีง่ายๆอีกอันนึงสมมุติหมอ
00:16:14 → 00:16:17 เป็นคนอ่าแปลงฟันด้วยมือขวาเออ Let Say
00:16:17 → 00:16:20 ทำด้วยมือซ้ายดูสิอืแปลงฟันด้วยมือซ้าย
00:16:20 → 00:16:22 เคยมั้ยไม่เคยลองดูสิแค่เนี้ยเบรนมันก็
00:16:22 → 00:16:25 แบบอ้าวพวเปลี่ยนละออแค่เราทำไงก็ได้ให้
00:16:25 → 00:16:28 สมองเเปลี่ยนอ่ะครับแล้วเ้าแบบอ้าวเต้อง
00:16:28 → 00:16:30 แบบตั้งใจใหม่เพื่อที่จะทำกิจกรรมใหม่ๆ
00:16:30 → 00:16:32 แค่เนี้ยมันจะพักสมองไปในตัวใช่มันคือการ
00:16:32 → 00:16:35 อันโหลดอ๋อมันทำให้สมองเราอันโหลดไปเลย
00:16:35 → 00:16:39 ครับโอเคผ่านกับชีวิตมาบ้างนะแต่ไม่เคย
00:16:39 → 00:16:44 รู้ว่ามันเป็นเทคนิคอันนึงโอเคงั้นสรุป
00:16:44 → 00:16:46 ครูสุขถึงจุดนี้นะครับก่อนที่เราจะไป
00:16:46 → 00:16:48 เริ่มเรื่อง movement เราเข้าใจก่อนว่า
00:16:48 → 00:16:52 movement มีความสำคัญเป็นจุดเริ่มต้น
00:16:52 → 00:16:54 ก่อนที่เราจะไปฟิตเนสซึ่งครูสุก็ไม่ได้
00:16:54 → 00:16:59 ไม่ได้ค้านของการฟิตเนสนะครับแต่ว่าแกจะย
00:16:59 → 00:17:02 ว่าเราเริ่มที่การเคลื่อนไหวก่อน 2 คือ
00:17:02 → 00:17:06 มันไม่มีคำว่าเคลื่อนไหวที่ถูกหรือผิดนะ
00:17:06 → 00:17:09 ฮะแต่เคลื่อนไหวที่ดีที่สุดคือเราตั้งใจ
00:17:09 → 00:17:13 จะเคลื่อนไหวในสเต็ปต่อไปอันที่ 3 ที่
00:17:13 → 00:17:16 สำคัญที่สุดคือมนุษย์ที่ไม่ยอมเคลื่อนไหว
00:17:16 → 00:17:20 ก็เพราะว่าขี้เกียจแต่เหตุผลที่ขี้เกียจ
00:17:20 → 00:17:23 ไม่ใช่ว่าเผิดนะฮะเหตุผลก็คือในสมองเขา
00:17:23 → 00:17:26 เต็มไปด้วยข้อมูลอาจจะใช้คำว่าขยะก็ได้
00:17:26 → 00:17:29 ครับเป็นข้อมูลที่เคสะสมไว้ทั้งวันไม่ว่า
00:17:29 → 00:17:32 จะเป็นเรื่องเครียดเรื่องข่าวเรื่องงาน
00:17:32 → 00:17:35 เรื่องส่วนตัวอะไรก็ตามมันทำให้เราไม่
00:17:35 → 00:17:38 อยากเคลื่อนไหวพอเราไม่อยากเคลื่อนไหวเรา
00:17:38 → 00:17:41 ก็เดินหน้าต่อไม่ได้ซึ่งครูสุขพยายามจะ
00:17:41 → 00:17:44 ย้ำอีกทีว่าคนๆนึงจะอยากเคลื่อนไหวได้ก็
00:17:44 → 00:17:48 ต่อเมื่อเราเอาสิ่งที่มันเป็นเป็นขยะอยู่
00:17:48 → 00:17:51 ในหัวเนี่ยเอาออกซึ่งเทคนิคง่ายที่สุดก็
00:17:51 → 00:17:55 คือ 2 เทคนิคที่เสนอคือทำกิจกรรมที่
00:17:55 → 00:18:00 เกี่ยวข้องกับมือนะฮะอะไรก็ได้ฮะบใบสี
00:18:00 → 00:18:03 เย็บอะไรก็ได้ครับเกมความจำครับเกมความจำ
00:18:03 → 00:18:07 หรืออันที่ 2 คือทำยังไงให้เราเราหลอก
00:18:07 → 00:18:12 สมองทำในสิ่งใหม่ๆเช่นแปรงฟันเช่นจากเดิน
00:18:12 → 00:18:15 กลับบ้านเปลี่ยนทางเดินหรืออะไรก็ได้ครับ
00:18:15 → 00:18:17 ที่มัน challeng สมองมันทำให้สมองพักแล้ว
00:18:17 → 00:18:21 ก็ได้ใช้อีกซีกนึงของสมองหรือครูสุกใช้คำ
00:18:21 → 00:18:26 ว่านโรนบินบิก็คือนูโรระบบประสาทบิก็คือ
00:18:26 → 00:18:30 จริงๆมาจากอบิออก็คือรวมเป็นนบิครับนะ
00:18:30 → 00:18:33 ครับ