00:00:00 → 00:00:02 Longtivity ไม่ใช่ศาสตร์ของการทำอะไร
00:00:02 → 00:00:05 เป็นครั้งแต่มันคือศาสตร์ของการใช้ชีวิต
00:00:05 → 00:00:07 >> ใหญ่ปัญหาของคนไทยเนี่ยเรื่องของ
00:00:07 → 00:00:09 longevity คือเรื่องอะไรบ้างล่ะคะ
00:00:09 → 00:00:11 >> ความจำเริ่มแย่ลงฮอร์โมนเสียสมดุลอ่อน
00:00:12 → 00:00:15 เพลียเข้าวัท้องนอนไม่หลับลำไส้แปรปรวนผม
00:00:15 → 00:00:17 อยากจะบอกว่าไม่มีอาหารชนิดไหนที่เหมาะ
00:00:17 → 00:00:19 กับคนๆนึงไปตลอดชีวิต
00:00:19 → 00:00:22 >> น้ำตาลกับสารให้ความหวานจริงๆแล้วอะไรมัน
00:00:22 → 00:00:24 ดีกว่ากัน
00:00:24 → 00:00:27 >> ตอนนี้สิ่งแวดล้อมเนี่ยเป็นปัญหาหลักเลย
00:00:27 → 00:00:29 ทุกอวัยวะในร่างกายเนี่ยถ้าตรวจไปเนี่ย
00:00:29 → 00:00:31 เจอไมโครพลาสติกก็คือเวลาที่เราเครียด
00:00:31 → 00:00:33 เนี่ยเราจะกลั้นหายใจไม่รู้ตัวเลยหายใจ
00:00:33 → 00:00:38 เข้า 1 2 3 4 ดีมั้ยฮะ
00:00:38 → 00:00:41 >> ที่มันช่วยให้เราโฟกัสกับตรงหน้าอือแล้ว
00:00:41 → 00:00:44 ก็ลืมทุกอย่างเลยใช่
00:00:44 → 00:00:48 [เพลง]
00:00:48 → 00:00:51 [ปรบมือ]
00:00:51 → 00:00:53 >> ขอต้อนรับทุกคนนะคะเข้าสู่ Longity Laab
00:00:53 → 00:00:58 พcสของคนเมืองสำหรับ EP นี้นะคะเราจะมา
00:00:58 → 00:01:00 คุยกันเรื่อง Longivity หรือว่าศาสตร์ของ
00:01:00 → 00:01:02 การดูแลตัวเองอย่างยั่งยืนนะคะหลายคนพอ
00:01:02 → 00:01:04 ได้ยินคำว่า Longbity แล้วเนี่ยรู้สึกสน
00:01:04 → 00:01:07 ใจอยากที่จะเริ่มหันมาดูแลตัวเองบ้างแต่
00:01:07 → 00:01:10 ก็ไม่แน่ใจว่าเอ๊ะเราจะเริ่มต้นแบบไหนดี
00:01:10 → 00:01:12 บวกกับอีกกลุ่มนึงนะคะที่รู้สึกว่าเราดู
00:01:12 → 00:01:15 แลตัวเองมาสักระยะนึงแล้วอยากที่จะดูแล
00:01:15 → 00:01:17 ตัวเองมากขึ้นหรือไม่แน่ใจว่าเอ๊ะเรามา
00:01:17 → 00:01:20 ถูกทางหรือเปล่านะดังนั้นนะคะ EP นี้เรา
00:01:20 → 00:01:23 ก็เลยอยากจะชวนคุณหมออั๋นนะคะนายแพทย์นะ
00:01:23 → 00:01:25 คะที่มีความสนใจทางด้านนี้นะคะมาร่วมพูด
00:01:25 → 00:01:29 คุยกันสวัสดีคุณหมออันะคะโอเคค่ะจริงๆ
00:01:29 → 00:01:31 ต้องบอกว่าหมออั๋นู่นก็แอบเป็นแฟนตัวโยง
00:01:31 → 00:01:33 ของคุณหมออั๋นอยู่นะคะเพราะว่าชื่อหมอ
00:01:33 → 00:01:35 อั๋นเนี่ยแทบจะเป็นนามสกุลLongจityอยู่
00:01:35 → 00:01:36 แล้ว
00:01:36 → 00:01:39 >> อ่าคุณหมออ่ะน่าจะเป็นอันดับต้นๆนะช่วง
00:01:39 → 00:01:42 แรกๆในเมืองไทยที่ศึกษาแล้วก็สนใจเรื่อง
00:01:42 → 00:01:43 Longivity
00:01:43 → 00:01:45 >> แล้วก็ปัจจุบันคุณหมอก็เปิดคลินิกของตัว
00:01:45 → 00:01:49 เองด้วยชื่อ The Longจินะแล้วก็มีเพจของ
00:01:49 → 00:01:51 ตัวเองด้วยทำคentให้ความรู้มากมายรวมถึง
00:01:51 → 00:01:53 เป็นเจ้าของหนังสือด้วย Long Givity by
00:01:53 → 00:01:56 Design จริงๆคุณหมอเริ่มสนใจด้านนี้ตั้ง
00:01:56 → 00:01:56 แต่เมื่อไหร่อ่ะ
00:01:56 → 00:01:59 >> จริงๆย้อนกลับไปเลยนะฮะผมเริ่มงานหมอ
00:01:59 → 00:02:01 เนี่ยอยู่ห้องฉุกเฉินนะครับ
00:02:01 → 00:02:03 >> คือขึ้นรถแอมบูแลนซ์ไปรับคนไข้กลับมา
00:02:03 → 00:02:05 เนี่ยอยู่หลายปีเหมือนกันแล้วก็สุดท้าย
00:02:05 → 00:02:09 มันรู้สึกว่ามันไม่ใช่อ่ะฮะมันป้องกันได้
00:02:09 → 00:02:11 หลายๆโรคที่เข้ามาโรงพยาบาลหัวใจวายเส้น
00:02:11 → 00:02:14 เลือดสมองแตกน้ำตาลสูงจนช็อกอย่างเงี้ยนะ
00:02:14 → 00:02:16 ครับเราก็เริ่มมาสนใจด้านเ Wellness จริง
00:02:16 → 00:02:18 ๆคำว่า Longtivity เนี่ยเพิ่งมีคำบัญญัติ
00:02:18 → 00:02:21 คำนี้ไม่ถึง 10 ปีนะฮะมันเริ่มต้นจากการ
00:02:21 → 00:02:25 ที่มีการค้นพบกลไกการแก่ชราในระดับเซลล์
00:02:25 → 00:02:27 พอเรารู้ว่ากลไกการแก่ชรามันเกิดจากอะไร
00:02:27 → 00:02:30 เนี่ยมันก็เลยสามารถทำให้ไปยับยั้งกลไก
00:02:30 → 00:02:32 พวกนั้นก็เลยเกิดเป็นเรื่องของ Longity
00:02:32 → 00:02:33 ขึ้นมา
00:02:33 → 00:02:36 >> อืแล้วเราต้องดูแลตัวเองอย่างไรเพื่อให้
00:02:36 → 00:02:37 เข้าถึงสิ่งนั้น
00:02:37 → 00:02:40 >> ครับคือจริงๆ Longity เนี่ยก็ต้องมาดู
00:02:40 → 00:02:41 เรื่องเกี่ยวกับคุณภาพชีวิต
00:02:41 → 00:02:44 >> นะครับเพราะว่าเอ่อ Longtivity เฉยๆเนี่ย
00:02:44 → 00:02:45 มันคือการที่มีอายุยืนยาว
00:02:46 → 00:02:46 >> อือ
00:02:46 → 00:02:48 >> แต่ว่าสิ่งที่เราอยากจะได้เนี่ยเราอยากจะ
00:02:48 → 00:02:49 ได้คุณภาพชีวิตที่ดี
00:02:49 → 00:02:50 >> อือ
00:02:50 → 00:02:52 >> แล้วคุณภาพชีวิตที่ดีเราวัดจากอะไรนะตัว
00:02:52 → 00:02:55 ชี้วัดคุณภาพชีวิตที่ดีอันที่ 1 ก็คือการ
00:02:55 → 00:02:58 เดินเหินการช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำ
00:02:58 → 00:03:00 วันบิดจับเปิดขวดน้ำอะไรเงี้ยทำได้ก็คือ
00:03:00 → 00:03:03 เรื่องของความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต่างๆ
00:03:03 → 00:03:05 อันที่ 2 เนี่ยคือระบบประสาทสัมผัส
00:03:05 → 00:03:06 >> อือ
00:03:06 → 00:03:09 >> นะตามองเห็นชัดเจนหูได้ยินชัดเจนจมูกได้
00:03:09 → 00:03:11 กลิ่นลิ้นได้รสกายรู้สัมผัสไม่ไม่ชามือชา
00:03:11 → 00:03:14 เท้านะครับอันที่ 3 เนี่ยคือเรื่องของ
00:03:14 → 00:03:15 ความจำ
00:03:16 → 00:03:18 >> นะฮะเรื่องของอัลไซเมอร์ความจำเสื่อมช่วง
00:03:18 → 00:03:20 นี้เป็นปัญหาที่เยอะมากแล้วก็เรื่องที่ 4
00:03:20 → 00:03:23 อันนี้สำคัญสุดเลยคือเรื่องของจิตใจคือ
00:03:23 → 00:03:27 การที่มีความสุขนะไม่ซึมเศร้าไม่เป็นแพิ
00:03:27 → 00:03:27 อื
00:03:27 → 00:03:30 >> นะถ้าได้ 4 อย่างเนี้ยโอเคเราจะนับว่านี่
00:03:30 → 00:03:32 คือการมี Health Span ที่ดีการมีคุณภาพ
00:03:32 → 00:03:33 ชีวิตที่ดี
00:03:33 → 00:03:36 >> อืโอเคส่วนใหญ่ปัญหาของคนไทยเนี่ยเรื่อง
00:03:36 → 00:03:39 ของ Longivity อ่ะค่ะที่เจอกันนี่คือ
00:03:39 → 00:03:40 เรื่องอะไรบ้างล่ะคะ
00:03:40 → 00:03:43 >> ก็มีตั้งแต่คนที่เริ่มมีความจำเริ่มแย่ลง
00:03:43 → 00:03:46 เริ่มมีปัญหาอาการอ่อนเพลียแล้วก็หา
00:03:46 → 00:03:49 สาเหตุไม่ได้มีเรื่องของฮอร์โมนเสียสมดุล
00:03:49 → 00:03:52 นะเข้าวัยทองแล้วอยากจะปรับฮอร์โมนให้ดี
00:03:52 → 00:03:55 ขึ้นมีเรื่องลำไส้แปรปรวนนะมีเรื่องนอน
00:03:55 → 00:03:57 ไม่หลับอะไรอย่างเงี้ยต่างต่างๆเนี่ยนะ
00:03:57 → 00:03:57 ครับ
00:03:57 → 00:03:59 >> คนที่ไม่เคยดูแลตัวเองมาก่อนเลยแต่อยากจะ
00:03:59 → 00:04:02 เริ่มเนี่ยเริ่มจากตรงไหนดีที่แบบถูกต้อง
00:04:02 → 00:04:02 ที่สุด
00:04:02 → 00:04:05 >> ผมพยายามทำให้คนไข้เข้าใจง่ายขึ้นแล้วก็
00:04:05 → 00:04:07 พยายามทำให้สื่อสารให้คนเห็นภาพมากขึ้น
00:04:07 → 00:04:09 เนี่ยผมก็เลยแบ่ง longivity เนี่ยเป็น 5
00:04:09 → 00:04:10 เลเวลอ
00:04:10 → 00:04:12 >> นะเพื่อจะได้ดูว่าเอ๊ะตัวเราเองเนี่ยตอน
00:04:12 → 00:04:15 นี้เราทำเลเวลไหนไปแล้วบ้างแล้วตอนนี้เรา
00:04:15 → 00:04:17 เป้าหมายของเราคืออะไรเลเวล 1 เนี่ยคือ
00:04:17 → 00:04:19 longtivity แบบ 0 บาทก็คือเรื่องของ
00:04:19 → 00:04:24 ไestyleก็มีเรื่องอาหารออกกำลังกายการนอน
00:04:24 → 00:04:25 นะฮะการจัดการความเครียด
00:04:25 → 00:04:28 >> อือนะการมี relationhip ที่ดีงดบุหรี่งด
00:04:28 → 00:04:30 เหล้างดสารเสพติดแต่ว่าเดี๋ยวนี้ต้อง
00:04:30 → 00:04:32 เปลี่ยนใหม่แล้วเป็นไestyle Plus
00:04:32 → 00:04:33 >> อื
00:04:33 → 00:04:35 >> นะคำว่า Plus คือ Plus อะไรคือ Plus การ
00:04:35 → 00:04:37 จัดการเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม
00:04:37 → 00:04:38 >> อื
00:04:38 → 00:04:41 >> PM 2.5 5 เอ่อน้ำดื่มที่ปนปนเปื้อนนะ
00:04:42 → 00:04:44 ครับไมโครพลาสติกโลหะหนักทั้งหลายพวก
00:04:44 → 00:04:47 เนี้ยก็มีผลต่อเอ่อlongชivityทั้งหมดเลย
00:04:47 → 00:04:47 อือฮึ
00:04:47 → 00:04:49 >> อาจจะให้คุณหมอลองไล่ไปทีละข้อได้มั้ยคะ
00:04:49 → 00:04:52 ว่าแต่ละอย่างอ่ะถ้าทำให้ดีทำให้ถูกอ่ะ
00:04:52 → 00:04:53 มันควรเป็นยังไงบ้าง
00:04:53 → 00:04:55 >> ตอนนี้สิ่งแวดล้อมเนี่ยเป็นปัญหาหลักเลย
00:04:55 → 00:04:57 อย่างแค่เรื่อง air pollution เรื่อง
00:04:57 → 00:04:58 เดียวนะครับเพิ่มความเสี่ยงเป็น
00:04:58 → 00:05:01 อัลไซเมอร์นะประมาณ 3% เอ่อไมโครพลาสติก
00:05:01 → 00:05:03 ตอนนี้เราเจอว่าทุกอวัยวะในร่างกายเนี่ย
00:05:03 → 00:05:06 ถ้าตรวจไปเนี่ยเจอไมโครพลาสติกแม้กระทั่ง
00:05:06 → 00:05:07 ตำแหน่งที่มีเส้นเลือดอุดตันลิ่มเลือด
00:05:07 → 00:05:09 อุดตันเนี่ยเอาลิ่มเลือดไปตรวจดูก็เจอว่า
00:05:10 → 00:05:12 มีไมโครพลาสติกอยู่ 80% เหมือนกันถ้าเป็น
00:05:12 → 00:05:15 พวกเ่อโลหะหนักนะอย่างเช่นแคเมียมในควัน
00:05:15 → 00:05:18 บุหรี่นะแคเมียมอยู่ใน PM 2.5 5 ด้วย
00:05:18 → 00:05:20 เป็นต้นเหตุของมะเร็งปอดนะมะเร็งต่อมลูก
00:05:20 → 00:05:23 หมากนะโรคหัวใจโรคปอดโรคกระดูกอย่างเงี้ย
00:05:23 → 00:05:27 นะครับฉะนั้นเมีงานวิจัยอันนึงเขาเอาน้ำ
00:05:27 → 00:05:29 ขวดพลาสติกเนี่ยจากหลายๆยี่ห้อนะครับแล้ว
00:05:29 → 00:05:32 มาทำการทดลองดูว่าในแต่ละยี่ห้อเนี่ยมัน
00:05:32 → 00:05:34 มีไมโครพลาสติกมากน้อยแค่ไหน
00:05:34 → 00:05:36 >> ยังไม่ผ่านความร้อนเลยนะยังไม่ได้อยู่ใน
00:05:36 → 00:05:37 รถนะเจอแล้ว
00:05:37 → 00:05:38 >> ออ
00:05:38 → 00:05:40 >> อฉะนั้นเนี่ยในขวดพลาสติกเนี่ยเจอ
00:05:40 → 00:05:41 ไมโครพลาสติกอยู่แล้ว
00:05:41 → 00:05:41 >> อ
00:05:41 → 00:05:44 >> นะครับแต่ว่าถ้ายิ่งผ่านความร้อนยิ่งตาก
00:05:44 → 00:05:46 แดดนานๆเนี่ยก็มีโอกาสที่จะทำให้พวกเนี้ย
00:05:46 → 00:05:47 มันออกมามากขึ้น
00:05:47 → 00:05:48 >> ออ
00:05:48 → 00:05:50 >> นะรวมถึงที่พวกไมโครพลาสติกหรือภาชนะ
00:05:50 → 00:05:52 พลาสติกที่ไปเข้าไมโครเวฟ
00:05:52 → 00:05:52 >> อ
00:05:52 → 00:05:55 >> ทาถุงที่เรานึกว่ามันห่อกระดาษเนี่ยมี
00:05:55 → 00:05:58 ไมโครพลาสติกด้วยกระทะเทฟลอนเขียงพลาสติก
00:05:58 → 00:06:00 พวกนี้คือแหล่งที่ทำให้เราได้รับ
00:06:00 → 00:06:02 ไมโครพลาสติกอยู่แล้วหรือว่าการไปดื่มน้ำ
00:06:02 → 00:06:06 เนี่ยก็เป็นไปได้ก็พกน้ำไปจากที่บ้านเป็น
00:06:06 → 00:06:08 เอ่อStล steel เข้าไปอย่างเงี้ยนะฮะอัน
00:06:08 → 00:06:11 นี้ก็เป็นการช่วยลดได้การล้างผักแทนที่จะ
00:06:11 → 00:06:13 เลือกผักทั่วๆไปก็เลือกผักออร์แกนิค
00:06:13 → 00:06:15 >> ล้างผักเนี่ยก็แช่เบกิ้งโซดาสัก 10 นาที
00:06:15 → 00:06:18 15 นาทีแล้วก็ล้างแบบน้ำไหลผ่านอย่าง
00:06:18 → 00:06:19 เงี้ยก็จะเป็นตัวช่วยได้
00:06:19 → 00:06:22 >> อือแต่ฟังแล้วน่ากลัวมากนะคือถ้าเกิดว่า
00:06:22 → 00:06:25 คนฟังแล้วตื่นตกใจว่าเอ๊ะยังไงอาหารมัน
00:06:25 → 00:06:27 หนีไม่พ้นที่การต้องกินข้าวนอกบ้านหรือ
00:06:27 → 00:06:28 ใช้ชีวิตนอกบ้านน่ะ
00:06:28 → 00:06:31 >> ครับเอาเป็นว่าเราอยู่ในสังคมแบบนี้ใน
00:06:31 → 00:06:33 สิ่งแวดล้อมแบบเนี้ยใช้ชีวิตไปไม่ต้อง
00:06:33 → 00:06:36 กังวลจนเกินเหตุแต่ว่าอะไรที่พอจะปรับพอ
00:06:36 → 00:06:38 จะเปลี่ยนได้ก็ระวังในส่วนนั้น
00:06:38 → 00:06:40 >> ไม่ต้องไปถึงกับแพนิคเกินไป
00:06:40 → 00:06:42 >> อ่าโอเคแล้วถ้ามันอยู่ในร่างกายเราแล้ว
00:06:42 → 00:06:44 เราต้องไปเอามันออกเท่านั้นมั้คะหรือมัน
00:06:44 → 00:06:47 ก็สามารถเติมของดีเข้าไปแล้วมันก็จะหายไป
00:06:47 → 00:06:47 เอง
00:06:47 → 00:06:49 >> เราสามารถเคลียร์มันออกไปได้มันก็มีวิธี
00:06:49 → 00:06:51 การทางด้านทางการแพทย์
00:06:51 → 00:06:51 >> อ
00:06:52 → 00:06:53 >> นะหรือแม้กระทั่งง่ายๆคือการไปออกกำลัง
00:06:54 → 00:06:56 กายหรือการกินอาหารที่มันช่วยในการ
00:06:56 → 00:06:59 ดีท็อกซ์อย่างเช่นกระเทียมหัวหอมทำซาว
00:06:59 → 00:07:02 หน้านะครับซึ่งจริงๆการทำซาวหน้าเนี่ยก็
00:07:02 → 00:07:04 มีหลายงานวิจัยว่ามันช่วยในการดีท็อกซ์
00:07:04 → 00:07:06 ขับสารพิษขับอะไรออกจากร่างกายได้
00:07:06 → 00:07:09 >> อ๋อโอเคโอ๊ฟังแล้วอุ่นใจเพราะถ้าเกิดชอบ
00:07:09 → 00:07:11 ออกกำลังกายแล้วเลือกกินประมาณนึงก็จะ
00:07:11 → 00:07:14 ช่วยดีท็อกซ์ออกไปได้เข้าสู่อันที่ 2 ดี
00:07:14 → 00:07:15 กว่าเมื่อกี้คุณหมอเกิดมาน่าจะเป็นเรื่อง
00:07:15 → 00:07:16 ของการกิน
00:07:16 → 00:07:19 >> ผมอยากจะบอกว่าไม่มีอาหารชนิดไหนที่เหมาะ
00:07:19 → 00:07:21 กับคนๆนึงไปตลอดชีวิต
00:07:21 → 00:07:21 >> อื
00:07:21 → 00:07:24 >> นะบางช่วงเราอาจจะต้องไปปรับเป็นอาหารอีก
00:07:24 → 00:07:26 แบบนึงอะไรเงี้ยนะฮะแต่ว่าถ้าเอาโดยคน
00:07:26 → 00:07:28 ทั่วๆไปเนี่ยอาหารที่ได้รับการยอมยอมรับ
00:07:28 → 00:07:30 ที่สุดในเรื่องของ Longivity เนี่ยคือ
00:07:30 → 00:07:31 MediterิเตอรเรaniเaniนanDietอต
00:07:31 → 00:07:32 >> ออ
00:07:32 → 00:07:34 >> ถ้าไปดูปีระมิดของเขานะฮะเขาจะเริ่มต้น
00:07:34 → 00:07:36 พื้นฐานเนี่ยไม่ใช่อาหารครับ
00:07:36 → 00:07:39 >> คือการมี relationhip การเข้าสังคมการไป
00:07:39 → 00:07:41 เต้นรำออกกำลังกาย
00:07:41 → 00:07:43 >> แล้วขยับขึ้นมาเนี่ยก็คือเป็นผักเป็น
00:07:43 → 00:07:45 ธัญพืชตามฤดูกาลอืออือ
00:07:45 → 00:07:47 >> แล้วขยับขึ้นมาเนี่ยเป็นโปรตีน
00:07:47 → 00:07:47 >> อือ
00:07:47 → 00:07:50 >> ซึ่งโปรตีนที่ได้เนี่ยก็เน้นโปรตีนจาก
00:07:50 → 00:07:53 อาหารทะเลขยับขึ้นไปเป็นไข่กับไก่
00:07:53 → 00:07:53 >> อื
00:07:53 → 00:07:55 >> แล้วก็เนื้อแดงเนี่ยเขาแนะนำให้ทานแค่
00:07:55 → 00:07:58 ประมาณสักสัปดาห์ละครั้งนะ 1-2 ครั้งแค่
00:07:58 → 00:08:01 นี้ในMedิเตอร์เรนียนDiวาย 1 แก้วด้วยแต่
00:08:01 → 00:08:03 ว่าปัจจุบันต้องบอกว่าไม่มีระดับ
00:08:03 → 00:08:06 แอลกอฮอล์ที่ทำให้ดีต่อสุขภาพแล้วนะครับ
00:08:06 → 00:08:08 มันทำให้ตับทำงานหนักทำให้เกิดความเสื่อม
00:08:08 → 00:08:11 ในระดับเซลล์บางคนอ้างว่ากินวายแดง
00:08:11 → 00:08:18 >> อยากจะได้สารสกัดที่เรียกว่าเรatalค่ะ
00:08:18 → 00:08:20 125 นะครับ
00:08:20 → 00:08:23 >> มันได้มาจากประมาณ 10 ลิตร
00:08:23 → 00:08:25 >> ฉะนั้นมันไม่มีไวแบบวันละแก้วเพื่อจะได้
00:08:25 → 00:08:26 สารตัวนี้แบบเพียงพอ
00:08:26 → 00:08:28 >> ใช่คือพอต้องกินอาหารที่เป็นเมดเรนไดเอต
00:08:28 → 00:08:31 เนาะบางทีคนไทยยากนิดนึงถ้าอาหารไทยจริงๆ
00:08:31 → 00:08:34 แบบร้านตามสั่งหรือร้านข้าวแกงง่ายๆเนี่ย
00:08:34 → 00:08:37 มันมีเมนูที่แบบเอ้ยเป็นอาหารไทยที่ให้
00:08:37 → 00:08:38 ผ่านมั้คะอนุ
00:08:38 → 00:08:40 >> ให้ผ่านเนี่ยจริงๆก็แกงส้มแกงเรียงแกงจืด
00:08:40 → 00:08:43 พวกนี้ได้หมดเลยโอเคส้มแกงเรียงแกงจืดน้ำ
00:08:43 → 00:08:43 พริก
00:08:43 → 00:08:45 >> น้ำพริกที่ทานกับพวกพวกผักลวกทั้งหลายอัน
00:08:45 → 00:08:49 นี้พวกนี้ก็ได้นะครับแล้วก็เอ่อข้าวยำได้
00:08:49 → 00:08:52 ข้าว 1 จานเนี่ยเรามีข้าวไม่เกิน 1 ทัพี
00:08:52 → 00:08:55 >> โปรตีนเนี่ยให้ขนาดพอๆกับข้าวเลย
00:08:55 → 00:08:57 >> นะแล้วก็มีผักเกือบครึ่งจานคนสูงอายุ
00:08:57 → 00:08:59 เนี่ยมักจะกินโปรตีนไม่ค่อยพอ
00:09:00 → 00:09:00 >> อือๆ
00:09:00 → 00:09:03 >> นะซึ่งจริงๆแล้วเอากะด้วยสายตาง่ายๆเนี่ย
00:09:03 → 00:09:05 คือโปรตีนเนี่ยชิ้นนึงเท่ากับ 1 ฝ่ามือ
00:09:05 → 00:09:05 >> อือ
00:09:05 → 00:09:08 >> นะแต่ว่าถ้าคำนวณแบบลึกๆเลยนะครับก็ต้อง
00:09:08 → 00:09:11 เท่ากับ 1 กรัมของโปรตีนต่อน้น้ำหนักตัว 1
00:09:12 → 00:09:12 กกั
00:09:12 → 00:09:15 >> ขอกลับไปตอนแรกเลยคุณหมอเปิดเลยว่าไม่มี
00:09:15 → 00:09:20 การกินแบบไหนที่ดีที่สุดกับเราตลอดไปอ่ะ
00:09:20 → 00:09:21 ทำไมคุณหมอเชื่อแบบนั้นคะ
00:09:21 → 00:09:23 >> อ่ะบางช่วงเราน้ำหนักตัวเยอะเกินไปบาง
00:09:23 → 00:09:27 ช่วงเราเอ่อมีการอักเสบขึ้นมาในร่างกายนะ
00:09:27 → 00:09:29 หรือว่าบางช่วงเรามีโรคสมองขึ้นมาแล้ว
00:09:29 → 00:09:31 เนี่ยมันต้องเปลี่ยนอาหารหมดเลยแต่ละคนใน
00:09:31 → 00:09:33 แต่ละช่วงเวลาเนี่ยอาจจะต้องการอาหารที่
00:09:33 → 00:09:35 แตกต่างกัน
00:09:35 → 00:09:38 >> เราสามารถเจาะเลือดดูเลยนะว่าวิตามินแร่
00:09:38 → 00:09:39 ธาตุตัวไหนเราขาด
00:09:39 → 00:09:41 >> นะหรือว่าสารอาหารตัวไหนที่เราไม่ดีซึ่ง
00:09:42 → 00:09:44 พอเรามีการเจาะลึกไปแบบนี้เรื่อยๆเนี่ย
00:09:44 → 00:09:46 อาหารของแต่ละคนเนี่ยก็จะมีการเปลี่ยน
00:09:46 → 00:09:49 แปลงไปอีกอันนึงที่เป็นแนวทางอาหารของ
00:09:49 → 00:09:51 ด้าน longevity คือ IF
00:09:51 → 00:09:55 >> ทำกันง่ายๆก็คือทัน 8 ชมงแล้วก็งด 16 ชมง
00:09:55 → 00:09:58 >> นะครับแต่ว่าผมอยากจะปรับนิดนึงก็คือว่า
00:09:58 → 00:10:01 อยากจะให้มันล้อเลียนกับนาฬิกาชีวิตของ
00:10:01 → 00:10:01 เราด้วย
00:10:01 → 00:10:02 >> โอ
00:10:02 → 00:10:04 >> ก็คือต้องควรจะทานมื้อเช้าด้วย
00:10:04 → 00:10:04 >> อือฮึ
00:10:04 → 00:10:06 >> นะคือการทาน 8 ช่มงเนี่ยดีละ
00:10:06 → 00:10:09 >> แต่ถ้าไปทานเริ่มทาน 8:00 น. - 10:00 น.
00:10:09 → 00:10:11 กับไปเริ่มทานตอนเที่ยนแล้วไปเลิก 20:00
00:10:11 → 00:10:13 น.เนี่ยผลลัพธ์ต่างกัน
00:10:13 → 00:10:13 >> โอ้ค่ะ
00:10:13 → 00:10:16 >> นะมีบางงานวิจัยบอกว่าถ้าอยากจะลดน้ำหนัก
00:10:16 → 00:10:19 แต่ไปกินเที่ยนเลิก 20:00 น.เนี่ยน้ำหนัก
00:10:19 → 00:10:19 จะไม่ค่อยลง
00:10:19 → 00:10:20 >> อื
00:10:20 → 00:10:23 >> แต่ถ้าอยากจะแบบ longity แบบซีเรียสก็
00:10:23 → 00:10:24 ต้องฉันมื้อเดียว
00:10:24 → 00:10:24 >> อื
00:10:24 → 00:10:27 >> นะการฉันมื้อเดียวเนี่ยพระพุทธเจ้าบอกว่า
00:10:27 → 00:10:28 มีกายเบา
00:10:28 → 00:10:29 >> อ่า
00:10:29 → 00:10:33 >> อยู่สำราญอาพาธน้อยไม่ฟุ้งซ่าน
00:10:33 → 00:10:33 >> โอ้
00:10:33 → 00:10:36 >> นะฮะฉะนั้นเนี่ยถ้าทานแบบมื้อเดียวเนี่ย
00:10:36 → 00:10:39 มันจะกระตุ้นกระบวนการที่เรียกว่าออโตฟี้
00:10:39 → 00:10:40 >> อื
00:10:40 → 00:10:42 >> คือกระบวนการที่เซลล์แก่ชราเนี่ยมัน
00:10:42 → 00:10:44 โปรแกรมให้กลืนกินตัวมันเอง
00:10:44 → 00:10:44 >> อ
00:10:44 → 00:10:46 >> มันเข้าสู่รีไซเคิ mode ของร่างกาย
00:10:46 → 00:10:49 >> อซึ่งเป็นกลไกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
00:10:49 → 00:10:49 โอดีมากเลยนะ
00:10:49 → 00:10:52 >> แล้วป้องกันมะเร็งด้วยลดน้ำตาลลดไขมัน
00:10:52 → 00:10:55 ด้วยทำให้แบคทีเรียในลำไส้ดีขึ้นลดความ
00:10:55 → 00:10:55 ดันด้วยอ
00:10:55 → 00:10:58 >> อ๋อโอเคประโยชน์มากมายแล้วก็นอกเหนือจาก
00:10:58 → 00:11:00 เรื่อง IF เรื่องการกินโปรตีนให้ถึงอ่ะ
00:11:00 → 00:11:02 มันก็จะมีเรื่องข้อถกเถียงเรื่องน้ำตาล
00:11:02 → 00:11:03 อ่า
00:11:03 → 00:11:06 >> น้ำตาลกับสารให้ความหวานจริงๆแล้วอะไรมัน
00:11:06 → 00:11:07 ดีกว่ากัน
00:11:07 → 00:11:10 >> ตอบทั้งหมดคือแย่ทั้งคู่แย่ทั้งคู่คือตัว
00:11:10 → 00:11:12 น้ำตาลเองเนี่ยพอเรากินเข้าไปเนี่ยมัน
00:11:12 → 00:11:14 กระตุ้นให้ร่างกายสร้างอินซูลินขึ้นอย่าง
00:11:14 → 00:11:15 รวดเร็ว
00:11:15 → 00:11:15 >> อ
00:11:15 → 00:11:17 >> แล้วมันก็ตกลงอย่างรวดเร็วคนกินน้ำตาลตา
00:11:17 → 00:11:18 ก็จะหิวบ่อย
00:11:18 → 00:11:19 >> อือๆ
00:11:19 → 00:11:21 >> มันทำให้ร่างกายเนี่ยพยายามจะรีบสะสมไข
00:11:21 → 00:11:24 มันสะสมทุกอย่างเข้ามาแล้วก็เกิดการ
00:11:24 → 00:11:25 อักเสบขึ้นมาได้
00:11:25 → 00:11:27 >> ฉะนั้นน้ำตาลไม่ดีแน่ๆ
00:11:27 → 00:11:29 >> แต่ว่าเรายังต้องการคาร์โบไฮเดรตอยู่
00:11:29 → 00:11:31 >> จากพวกข้าวกล้อง
00:11:31 → 00:11:31 >> โอเค
00:11:31 → 00:11:35 >> อ่าจากพวกธัญพืชอะไรยังจำเป็นอยู่แต่ว่า
00:11:35 → 00:11:38 สารให้ความหวานเอ่อสตีเวียนี่ยังจะยังพอ
00:11:38 → 00:11:40 จะโอเคเพราะว่าเป็นหญ้าหวานเป็นธรรมชาติ
00:11:40 → 00:11:42 นะแต่ว่าถ้าเป็นพวกกลูดาเมจหรืออะไรพวก
00:11:42 → 00:11:45 เนี้ยมันจะทำให้เกิดการอักเสบในร่างกาย
00:11:45 → 00:11:46 ได้
00:11:46 → 00:11:49 >> ถ้าปริมาณสูงเนี่ยมันทำให้ความจำเสื่อม
00:11:49 → 00:11:51 ถอยลงเร็วกว่าเพิ่มความเสี่ยงในการเป็น
00:11:51 → 00:11:53 มะเร็งด้วยแต่ว่าอันนั้นก็เป็นปริมาณที่
00:11:53 → 00:11:56 สูงแต่ว่าดีสุดก็คือเราธรรมชาติดีกว่านะ
00:11:56 → 00:11:58 โดยทั่วไปใน 1 วันเนี้ยน้ำตาล
00:11:58 → 00:12:00 >> ผู้หญิงไม่ให้เกิน 6 ช้อนชา
00:12:00 → 00:12:01 >> อือฮึ
00:12:01 → 00:12:02 >> ผู้ชายไม่ให้เกิน 8 ช้อนชา
00:12:02 → 00:12:05 >> โอเคถ้าเกิดกลุ่มที่กินคีโตนะคะคือสาย
00:12:06 → 00:12:08 คีโตเขาจะงดน้ำตาลแทบจะ 100%
00:12:08 → 00:12:11 >> ก็ถ้าสารให้ความหวานก็จะเป็นพวกสตีเวีย
00:12:11 → 00:12:14 หญ้าหวานอ่าหล่อฮั้งกล้วยอะไรเงี้ยก็จะ
00:12:14 → 00:12:15 เป็นธรรมชาติหน่อย
00:12:15 → 00:12:17 >> อ่าข้อถัดไปคุยเรื่องการนอนนอนบ้างดีกว่า
00:12:17 → 00:12:20 อ่าการนอนก็เป็นทปิสำคัญค่ะนอนยังไงดีคะ
00:12:20 → 00:12:21 คุณหมออัน
00:12:21 → 00:12:23 >> จำนวนชั่วโมงที่ดีสุดนี่คือ 7 ชม
00:12:23 → 00:12:23 >> ค่ะ
00:12:23 → 00:12:26 >> นะแต่ถ้านอนน้อยกว่า 5 หรือนอนมากกว่า 9
00:12:26 → 00:12:29 ช่มงเนี่ยอัตราการเสียชีวิตอัตราการเกิด
00:12:29 → 00:12:32 โรคทางจิตใจโรคสมองโรคทางด้านเมบลิึมก็
00:12:32 → 00:12:34 สูงขึ้นมันเป็น Curve ค่ะ
00:12:34 → 00:12:36 >> ดีสุดอยู่ที่ 7 ชมง
00:12:36 → 00:12:36 >> โอเค
00:12:36 → 00:12:39 >> นะ 7 ชมงถ้าเป็น 7 ชมงที่นอน 23:00 น.ไม่
00:12:39 → 00:12:40 เกินเที่ยงคืน
00:12:40 → 00:12:41 >> อือฮึ
00:12:41 → 00:12:43 >> กับ 7 ช่มงที่ไปเริ่มนอนตอน 3:00 น.เนี่ย
00:12:43 → 00:12:45 ผลลัพธ์ในร่างกายก็ต่างกัน
00:12:45 → 00:12:45 >> อือๆ
00:12:45 → 00:12:47 >> นะแต่ถ้าคนไหนต้องทำงานประจำต้องติดต่อ
00:12:47 → 00:12:49 กับต่างประเทศอันนั้นก็อีกเรื่องนึงนะ
00:12:49 → 00:12:51 ต้องมีวิธีไปดูแลพิเศษ
00:12:51 → 00:12:51 >> อื
00:12:51 → 00:12:54 >> แต่ถ้าทั่วๆไปทำงานออฟฟิศธรรมดาเนี่ยนะ
00:12:54 → 00:12:57 ครับขอนอนก่อนเที่ยงคืนเรทสุดะอ่าเวลาก็
00:12:57 → 00:12:59 ยังไม่พอนะฮะต้องมาดูเรื่องเกี่ยวกับ
00:12:59 → 00:13:02 quality ของการนอนด้วย sleep น้อยเนี่ย
00:13:02 → 00:13:05 >> เขาจะมีบอกว่าตื่นมาแล้วไม่ค่อยเฟรช
00:13:05 → 00:13:07 >> ตื่นมาแล้วเพลียเนี่ยแปลว่าหลับไม่ค่อย
00:13:07 → 00:13:09 ลึกควรจะหลับลึกให้ได้อย่างน้อยชั่วโมง
00:13:09 → 00:13:10 ครึ่ง
00:13:10 → 00:13:10 >> โอเค
00:13:10 → 00:13:12 >> ถ้าใครได้ 2 ชั่วโมงนี่แบบตื่นมานี่จะแบบ
00:13:12 → 00:13:15 โอหวันนี้สดชื่นมากย้อนกลับไปว่าทำไมถึง
00:13:15 → 00:13:15 หลับไม่ดี
00:13:15 → 00:13:16 >> อือ
00:13:16 → 00:13:18 >> ก็กลับมาเรื่องเกี่ยวกับสลepไฮยีน
00:13:18 → 00:13:20 สุขอนามัยของการนอน
00:13:20 → 00:13:20 >> อ๋อ
00:13:20 → 00:13:23 >> ง่ายๆครับประมาณ 3-4 ช่วงก่อนนอนเนี่ยไม่
00:13:23 → 00:13:25 กินอะไรแล้วสักประมาณ 3 หรือ 2 ชั่วโมง
00:13:25 → 00:13:26 ก่อนนอนเนี่ย
00:13:26 → 00:13:26 >> โอเค
00:13:26 → 00:13:29 >> เริ่มหรี่ไฟในห้องให้มันสลัวลงหน่อยอ
00:13:29 → 00:13:29 >> อือ
00:13:29 → 00:13:32 >> นะชั่วโมงนึงก่อนนอนเนี่ยขอวางมือถือได้
00:13:32 → 00:13:32 แล้ว
00:13:32 → 00:13:33 >> อือ
00:13:33 → 00:13:35 >> เพราะว่าแสงสีฟ้าจากมือถือจากหน้าจอต่างๆ
00:13:35 → 00:13:37 เนี่ยมันจะกดการสร้างเมลาโทนิน
00:13:37 → 00:13:38 >> อ
00:13:38 → 00:13:39 >> นะทำให้เราหลับไม่ดี
00:13:39 → 00:13:42 >> อ่างดการใช้มือถือดูทีวีเนี่ยยากมาก
00:13:42 → 00:13:44 >> อันนี้ยอมรับตัวเองก็ยังทำได้ไม่ไม่ได้
00:13:44 → 00:13:44 ทุกวัน
00:13:44 → 00:13:47 >> ใช่มั้คะโดยเฉพาะคนเมืองที่ติดทีวีติดมือ
00:13:47 → 00:13:50 ถือเนี่ยเราแทบจะนอนหลับคามือถือเลยอ่ะ
00:13:50 → 00:13:52 เอออันเนี้ยข้อนี้ยากจริงๆคุณหมอ
00:13:52 → 00:13:55 >> แต่มันเป็นปัญหาที่เอ่ออธิบายเหมือนกันนะ
00:13:55 → 00:13:57 ว่าทำไมทุกวันนี้มีคนที่เป็นแพนิคเยอะ
00:13:57 → 00:13:58 ขึ้น
00:13:58 → 00:13:58 >> อ
00:13:58 → 00:14:01 >> คนที่เป็นซึมเศร้าเยอะขึ้นคนที่รู้สึก
00:14:01 → 00:14:03 เปรียบเทียบกับตัวเองแล้วรู้สึกว่าเราไม่
00:14:03 → 00:14:04 มีคุณค่าเนี่ย
00:14:04 → 00:14:06 >> ต้นเหตุมันมาจากพวกคเทพวกนี้เลยนะครับที่
00:14:06 → 00:14:08 เราเสพมันเยอะเกินไป
00:14:08 → 00:14:10 >> อันนึงที่ช่วยได้เนี่ยคือแทนที่จะดูมือ
00:14:10 → 00:14:12 ถือในช่วง 1 ชั่วโมงก่อนนอนเนี่ย
00:14:12 → 00:14:13 >> เรามา Jouring
00:14:14 → 00:14:17 >> คือจดบันทึกใครที่มีงานเยอะๆก็มาวางแผน
00:14:17 → 00:14:19 ว่าอ่ะวันนี้ทำอะไรไปแล้วพรุ่งนี้ต้องทำ
00:14:19 → 00:14:21 อะไรเพราะไม่งั้นบางคนจะมีปัญหาแบบหัว
00:14:21 → 00:14:23 หมุนตลอดเวลานอนไปแล้วก็ยังคิดเรื่องงาน
00:14:23 → 00:14:24 อย่างเงี้ยนะฮะโอเค
00:14:24 → 00:14:27 >> แล้วก็อีกอันนึงที่ผมอยากจะให้ทำก็คือนึก
00:14:27 → 00:14:29 ถึงสิ่งดีๆที่เกิดขึ้น
00:14:29 → 00:14:30 >> ในวันนี้สัก 3 บulลet
00:14:30 → 00:14:30 >> อือ
00:14:31 → 00:14:33 >> นะมีงานศึกษาเลยบอกว่าถ้าทำแบบเนี้ยต่อ
00:14:33 → 00:14:34 เนื่องสัก 2 อาทิตย์ขึ้นไปเนี่ยเรื่องมูด
00:14:34 → 00:14:36 เรื่องอารมณ์จะดีขึ้น
00:14:36 → 00:14:36 >> อ๋อโอเค
00:14:36 → 00:14:39 >> แล้วก็สุดท้ายคือนั่งสมาธิก่อนนอนฝึกการ
00:14:39 → 00:14:40 หายใจอ
00:14:40 → 00:14:42 >> โอเคแล้วถ้าเกิดว่าทำทุกอย่างแล้วอะไร
00:14:42 → 00:14:43 แล้วก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดีอ่ะ
00:14:43 → 00:14:45 >> อตัวช่วยอย่างอื่นเนี่ยนอกจากปรับพวกนี้
00:14:46 → 00:14:47 ก็คือตอนมื้อค่ำ
00:14:47 → 00:14:50 >> นะฮะหลังอาหารเนี่ยก็จิบชาคาโมไมลซะหน่อย
00:14:50 → 00:14:51 >> โอเค
00:14:51 → 00:14:54 >> นะฮะที่หมอนเราก็ฉีดสเปรย์กลิ่นลาเวนเอร์
00:14:54 → 00:14:55 อันนี้ช่วยได้
00:14:55 → 00:14:58 >> นะฮะแล้วก็การอาบน้ำอุ่นน้ำร้อนนะครับมัน
00:14:58 → 00:15:00 ก็จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราเนี่ย
00:15:00 → 00:15:02 พยายามลดอุณหภูมิลง
00:15:02 → 00:15:02 >> อือ
00:15:02 → 00:15:04 >> หลี่แอร์ให้มันหนาวขึ้น
00:15:04 → 00:15:04 >> อือ
00:15:04 → 00:15:07 >> นะครับทำให้แอร์จาก 24 เนี้ยอ่ะเปิดมา
00:15:07 → 00:15:09 เป็น 23 ก็ได้บางคนก็จะหลับดีขึ้นจากอัน
00:15:09 → 00:15:09 นี้
00:15:09 → 00:15:12 >> อือฮึคำถามจากทางบ้านอ่ะถามมาแน่นอน
00:15:12 → 00:15:14 เรื่องการติดซีรียส์ก่อนนอนคนเป็นประจำ
00:15:14 → 00:15:17 อยู่แล้วอยากรู้ว่าการดูซีรีส์ก่อนนอนน่ะ
00:15:17 → 00:15:19 นอกจากจะบ่อนทอนอ่าสุขภาพจิตอย่างที่คุณ
00:15:19 → 00:15:22 หมอบอกมันทำให้เราตื่นกลางดึกมั้ยเกี่ยวม
00:15:22 → 00:15:25 >> เป็นเป็นได้ครับก็ 1 มาจากแสงสีฟ้าอันที่
00:15:25 → 00:15:27 2 เนี่ยคือบางเนื้อหาบางเรื่องบางตอนบาง
00:15:27 → 00:15:31 คนเก็บไปฝันแต่ว่าที่ผมไม่ชอบที่สุดเนี่ย
00:15:31 → 00:15:33 คือพวกคเทนแบบสั้นๆแบบช็อต
00:15:33 → 00:15:34 >> ออเหรอคะ
00:15:34 → 00:15:36 >> มันโหลดdata้าเข้าไปในสมองเราเยอะมาก
00:15:36 → 00:15:37 >> อ
00:15:37 → 00:15:38 >> แล้วก็บางครั้งที่เราดูคทentพวกเนี้ยเรา
00:15:39 → 00:15:40 เรากลั้นหายใจดูไปด้วย
00:15:40 → 00:15:41 >> เออ
00:15:41 → 00:15:43 >> มันเพิ่มstressสกับร่างกายของเราทั้ง
00:15:43 → 00:15:46 emotional stress physical stress
00:15:46 → 00:15:47 >> สังเกตตัวเองเหมือนกันว่าเวลาดูซีรียส์
00:15:47 → 00:15:50 ยาวๆบางทีเราเคลิ้มหลับดูแล้วง่วงนอนอ่ะ
00:15:50 → 00:15:54 ดูแล้วนอนแต่เวลาไถฟีดอ่ะโอถึงไหนถึงกัน
00:15:54 → 00:15:55 เป็นชั่วโมงเรื่อใช่แล้วเวลาผ่านไปเร็ว
00:15:55 → 00:15:56 มาก
00:15:56 → 00:15:58 >> เปลี่ยนมาเป็นอ่านหนังสือก็ดีนะตอนนี้เรา
00:15:58 → 00:16:00 จับหนังสือกันน้อยลงมากนะ
00:16:00 → 00:16:01 >> อข้อที่ 4 บ้างดีกว่าเรื่องของการออก
00:16:01 → 00:16:04 กำลังกายมั้คะการเคลื่อนไหวทางกายอ่าข้อ
00:16:05 → 00:16:05 นี้
00:16:05 → 00:16:07 >> ตัวชี้วัดหลังว่ามี longevity หรือเปล่า
00:16:07 → 00:16:09 จากการออกกำลังกายเนี่ยคือสิ่งที่เรียก
00:16:09 → 00:16:12 ว่า B2 Max แปลว่าประสิทธิภาพการใช้
00:16:12 → 00:16:14 ออกซิเจนของร่างกายนะมันบอกสมรรถภาพของ
00:16:14 → 00:16:17 ปอดกับหัวใจนะฉะนั้นเมื่อก่อนเราจะบอกว่า
00:16:17 → 00:16:20 ให้ออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ 300
00:16:20 → 00:16:22 นาทีต่อสัปดาห์แล้วจบแต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว
00:16:22 → 00:16:24 นะฮะเราต้องออกกำลังกายเพื่อให้มันเพิ่ม
00:16:24 → 00:16:25 VO2 Max
00:16:25 → 00:16:26 >> ออโอเค
00:16:26 → 00:16:28 >> อ่าทีนี้จะเพิ่ม VO2 Max ออกกำลังกายแบบ
00:16:28 → 00:16:30 ไหนก็มีงานวิจัยอันนึงเขาแบ่งเป็น 3
00:16:30 → 00:16:31 กลุ่ม
00:16:31 → 00:16:34 >> ออกกำลังกายแบบธรรมดาเดินหรือว่าเดินใน
00:16:34 → 00:16:37 ส่วนธรรมดาเป็นแบบโซน 2 exer์cise
00:16:37 → 00:16:39 >> โซน 2 คืออ่าหัวใจช้าๆไปเรื่อยๆคุยกันไป
00:16:39 → 00:16:42 ได้แบบที่ 2 เนี่ยคือออกแบบ high
00:16:42 → 00:16:45 intensity interval exercise คือหนัก
00:16:45 → 00:16:46 เป็นช่วง
00:16:46 → 00:16:49 >> ก็คือหนัก 4 นาทีแล้วก็ผ่อนลงมา 3 นาที
00:16:49 → 00:16:51 กลุ่มเนี้ย VO2 Max จะเพิ่มขึ้นได้ดี
00:16:52 → 00:16:52 กว่ากลุ่มแรก
00:16:52 → 00:16:53 >> อื
00:16:53 → 00:16:55 >> แล้วก็กลุ่มที่ 3 เนี่ยคือ Splint
00:16:55 → 00:16:57 Exercise วิ่งเร็วๆ 1 รอบสนามฟุตบอล
00:16:57 → 00:16:59 อย่างเงี้ยแล้วก็พักอย่างเงี้ยอ
00:16:59 → 00:16:59 >> อือ
00:16:59 → 00:17:02 >> สรintเนี่ยชนะสุดเลยในการเพิ่ม VO2 Max
00:17:02 → 00:17:03 อโอเค
00:17:03 → 00:17:05 >> แต่ว่าใครจะไปสิต้องตรวจหัวใจก่อนนะ
00:17:05 → 00:17:08 >> เราจำเป็นต้องทำทั้ง 3 อย่างมั้ยหรือเรา
00:17:08 → 00:17:10 เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้หรือเปล่า
00:17:10 → 00:17:12 >> ผมแนะนำให้ใช้เป็นแบบโซน 2 เนี่ยประมาณ
00:17:12 → 00:17:15 สัก 80% ของการออกกำลังกายอย่างเช่นเรา
00:17:15 → 00:17:17 ออกกำลังกาย 5 วันเนี่ยอาจจะเดินธรรมดา
00:17:17 → 00:17:19 วิ่งธรรมดาเนี่ยประมาณสัก 4 วัน
00:17:19 → 00:17:20 >> ค่ะ
00:17:20 → 00:17:21 >> แล้วเหลืออีกวันนึงเนี่ยมาทำ High
00:17:21 → 00:17:23 Intensity Interval Exercise มาวิ่ง
00:17:23 → 00:17:25 เร็วสลับชาร์จอย่างเงี้ยแต่อันนี้แค่
00:17:25 → 00:17:26 คาร์ดิโอไม่พอนะฮะ
00:17:26 → 00:17:30 >> ปัจจุบันเนี้ยเรื่องของการทำเทรนingการ
00:17:30 → 00:17:32 สร้างกล้ามเนื้ออันนี้สำคัญมาก
00:17:32 → 00:17:32 >> อื
00:17:32 → 00:17:34 >> คือทุกๆ 1 ปีเนี่ยถ้าเราไม่ออกกำลังกาย
00:17:34 → 00:17:37 แบบสร้างกล้ามเนื้อเลยเนี่ยกล้ามเนื้อเรา
00:17:37 → 00:17:38 จะหายไปปีละ 1%
00:17:38 → 00:17:39 >> อืออืออือ
00:17:39 → 00:17:43 >> อ่าแล้วอันเนี้ยมันเหมือนกับเราต้องสะสม
00:17:43 → 00:17:45 กล้ามเนื้อเราไว้เหมือนเรากำลังสะสมกอง
00:17:45 → 00:17:46 ทุนสำรองเลี้ยงชีพเลย
00:17:46 → 00:17:46 >> อ
00:17:46 → 00:17:49 >> นะฮะคือสะสมตอนนี้เพื่อไปใช้ตอนอายุ 60
00:17:49 → 00:17:50 70 80 นะ
00:17:50 → 00:17:52 >> แล้ววิธีสะสมเนี่ยก็คือต้องมาเท training
00:17:52 → 00:17:53 อ
00:17:53 → 00:17:55 >> นะครับประมาณสัก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์
00:17:55 → 00:17:56 >> โอเค
00:17:56 → 00:17:58 >> แล้วก็โฟกัสกล้ามเนื้อทั้งตัวนะครับไม่
00:17:58 → 00:17:59 ใช่ยกดำเบลอย่างเดียวแล้วจบ
00:18:00 → 00:18:00 >> อ
00:18:00 → 00:18:02 >> ต้องดูทั้งกล้ามอกกล้ามหลังบนหลังล่าง
00:18:02 → 00:18:05 กล้ามท้องตรงขาหน้าขาหลังอะไรอย่างเงี้ย
00:18:05 → 00:18:07 นะครับก็ต้องดูให้ครบซึ่งอันนี้ก็ถ้าตรวจ
00:18:07 → 00:18:09 ละเอียดเนี่ยเนี่ยเราก็จะตรวจเรียกว่า
00:18:09 → 00:18:12 Dexa สแกนนะคือตรวจดูว่ามวลไขมันเท่า
00:18:12 → 00:18:14 ไหร่มวลกล้ามเนื้อเท่าไหร่แล้วก็มอนิตอร์
00:18:14 → 00:18:15 ไปอ
00:18:15 → 00:18:17 >> นะอีกอันนึงก็คือตรวจพวกฟังก์ชal test
00:18:17 → 00:18:17 >> อ่าฮะ
00:18:18 → 00:18:22 >> เช่น sit to standนนั่งอยู่แล้วก็กอดอก
00:18:22 → 00:18:24 แล้วก็ลุกขึ้นนั่งลงลุกขึ้นนั่งลงภายใน 1
00:18:24 → 00:18:26 นาทีเนี่ยว่าทำได้กี่ครั้ง
00:18:26 → 00:18:28 >> อยิ่งเยอะยิ่งดีอย่างเงี้นะครับ
00:18:28 → 00:18:30 >> อืโอเคจำนวนที่เหมาะสมควรเท่าไหร่คะ
00:18:30 → 00:18:32 >> ถ้าถ้าเป็นผู้สูงอายุเนี่ยใน 1 นาทีเนี่ย
00:18:33 → 00:18:35 ถ้าได้เกิน 12 ครั้งผมว่าถือว่าอ่าแข็ง
00:18:35 → 00:18:36 แรงพอใช้ได้ละ
00:18:36 → 00:18:38 >> โอเคแล้วถ้าเป็นวัยเราวัยทำถ้าแบบนี้
00:18:38 → 00:18:39 อย่างน้อยต้อง 30 ครั้งอ
00:18:39 → 00:18:41 >> อ๋อโอเคอ่ะ
00:18:41 → 00:18:42 >> ก็ต้องค่อยๆฝึกไปดูฮะ
00:18:42 → 00:18:45 >> อ่าโอเคค่ะแต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือ 1 ขอ
00:18:45 → 00:18:48 ทั้งเรื่องคาร์ดิโอปอดแล้วหัวใจแล้วก็
00:18:48 → 00:18:50 เรื่องของสร้างกล้ามเนื้อแล้วถ้าอายุเกิน
00:18:50 → 00:18:54 50 เนี่ยขออย่าลืมเรื่องบาanceซา
00:18:54 → 00:18:55 เดียวให้ได้
00:18:55 → 00:18:58 >> มีงานวิจัยนึงบอกว่าถ้ายืนขาเดียวได้ไม่
00:18:58 → 00:18:59 ถึง 10 วินาที
00:18:59 → 00:18:59 >> อ
00:18:59 → 00:19:01 >> อัตราการเสียชีวิตในอีก 10 ปีข้างหน้า
00:19:01 → 00:19:02 เนี่ยเพิ่มเป็น 2 เท่า
00:19:02 → 00:19:05 >> ออถ้าเกิดนุ่นคุยเนี่ยในกลุ่มคนทำงานเรา
00:19:05 → 00:19:08 ก็มักจะได้ยินคำพูดที่แบบไม่มีเวลาเวลา
00:19:08 → 00:19:10 น้อยพักผ่อนทำงานก็แทบจะไม่ไหวแล้วอะไร
00:19:10 → 00:19:13 เงี้ยคุณหมอมีเทคนิคหรือว่าวิธีการดูแล
00:19:13 → 00:19:15 ตัวเองออกกำลังกายง่ายๆสำหรับคนทำงานที่
00:19:16 → 00:19:17 เวลาน้อยมั้คะอ
00:19:17 → 00:19:20 >> อันนี้มาจากเปเปอร์งานวิจัยนะครับอ่ามี 2
00:19:20 → 00:19:22 อย่างอย่างแรกเนี่ยเราเรียกว่า weekend
00:19:22 → 00:19:24 warrior คืออ่ะวันธรรมดาไม่ทำเลยไม่ว่า
00:19:24 → 00:19:26 กันแต่เสาร์อาทิตย์เนี้ยให้ได้ 150 นาที
00:19:26 → 00:19:29 ก็ได้ผลใกล้เคียงกับออกกำลังกายเหมือนคน
00:19:29 → 00:19:32 ทั่วไปนะก็ดีกว่าไม่ออกอที่ 2 คนที่นั่ง
00:19:32 → 00:19:34 ทำงานอยู่กับออฟฟิศทั้งวันเนี่ยทุกๆ 45
00:19:34 → 00:19:37 นาทีนะครับลุกขึ้นมาสquอ
00:19:37 → 00:19:38 นะฮะ 1 เซต
00:19:38 → 00:19:38 >> อ
00:19:38 → 00:19:40 >> อันเนี้ก็ได้ประโยชน์ในการช่วยลดอัตราการ
00:19:40 → 00:19:43 เกิดโรคเบาหวานหัวใจความดันอีกอันนึงก็
00:19:43 → 00:19:45 คือเรื่องของก้าวเดินเมื่อก่อนเขาบอกว่า
00:19:45 → 00:19:46 ต้องเดิน 19,000
00:19:46 → 00:19:48 >> อ่างานวิจัยใหม่ล่าสุดออกมาเนี่ยบอกว่า
00:19:48 → 00:19:51 เดินอย่างน้อยแค่ 7,900 เนี่ยก็เพียงพอ
00:19:51 → 00:19:51 แล้ว
00:19:51 → 00:19:54 >> ข้อที่ 6 เรื่องของความเครียดเออเพราะคน
00:19:54 → 00:19:57 ยุคเนี้ยเครียดเยอะมากอย่างที่คุณหมอเรา
00:19:57 → 00:19:59 บอกเลยเครียดทั้งเรื่องของการทำงานความ
00:19:59 → 00:20:02 สัมพันธ์เรื่องปัญหาในครอบครัวเรื่องการ
00:20:02 → 00:20:02 เงิน
00:20:02 → 00:20:05 >> เจอตลอดแล้วก็คนไข้มาทุกคนก็จะพ่วงมาด้วย
00:20:05 → 00:20:08 ความเครียดแต่ความเครียดในระดับน้อยๆคือ
00:20:08 → 00:20:09 ความเครียดที่ดี
00:20:09 → 00:20:09 >> อือ
00:20:09 → 00:20:11 >> แล้วก็ความเครียดเนี่ยเขาแบ่งเป็น Toxic
00:20:11 → 00:20:14 Stress คือความเครียดที่เป็นพิษกับร่าง
00:20:14 → 00:20:14 กายเรา
00:20:14 → 00:20:15 >> อือ
00:20:15 → 00:20:18 >> กับ stress คือความเครียดที่มากระตุ้นให้
00:20:18 → 00:20:20 ร่างกายเรามาฟื้นฟูและซ่อมแซม
00:20:20 → 00:20:21 >> อ่า
00:20:21 → 00:20:24 >> งั้นอย่างอะไรที่เป็น Toxic Stress นะ
00:20:24 → 00:20:27 งาน burn out ในงานนะการกินของหวานกิน
00:20:27 → 00:20:30 น้ำตาลก็เป็น Toxic Strสกับร่างกาย
00:20:30 → 00:20:31 >> ออ
00:20:31 → 00:20:34 >> การนอนไม่พอการใช้สารเสพติดนะพวกนี้เป็น
00:20:34 → 00:20:38 Toxic Stress หมดอือส่วน
00:20:38 → 00:20:41 อะไรที่ทำให้ร่างกายเราฟื้นฟูเราขึ้นการ
00:20:41 → 00:20:44 ออกกำลังกายก็ใช่นะการตั้งเป้าหมายอะไร
00:20:44 → 00:20:46 เล็กๆแล้วเราทำสำเร็จการทำ IF การอด
00:20:46 → 00:20:47 อาหารโอ
00:20:47 → 00:20:50 >> จำกัดแคลอรี่นิดหน่อยอย่างเงี้ยนะการแช่
00:20:50 → 00:20:50 ไอบาส
00:20:51 → 00:20:51 >> อ
00:20:51 → 00:20:54 >> การเข้าซาวหน้าอันนี้พวกนี้เป็นstressส
00:20:54 → 00:20:57 ที่ดีหมดมันมีอีกคำนึงคือคำว่าเอ่อ stress
00:20:57 → 00:20:58 perception
00:20:58 → 00:20:59 >> อื
00:20:59 → 00:21:01 >> เหตุการณ์เดียวกันแต่ว่าเกิดขึ้นกับคน 2
00:21:01 → 00:21:04 คนทำไมคน 2 คนตอบสนองไม่เหมือนกัน
00:21:04 → 00:21:05 >> อ่าใช่
00:21:05 → 00:21:07 >> งั้นสิ่งนึงที่ผมบอกคนไข้อยู่เรื่อยๆก็
00:21:07 → 00:21:10 คือว่าให้ถามว่า how แทนที่จะถามว่า why
00:21:10 → 00:21:11 >> อือ
00:21:11 → 00:21:13 >> ถามว่า why ทำไมฉันเป็นอย่างี้ทำไมเขา
00:21:13 → 00:21:15 ต้องทำอย่างงั้นกับฉันไม่เอาแล้ว
00:21:15 → 00:21:16 >> อือ
00:21:16 → 00:21:19 >> แต่ถ้าถามว่าฮาวเอ่อเหตุการณ์นี้มาเดี๋ยว
00:21:19 → 00:21:20 เราจะทำอย่างไรดี
00:21:20 → 00:21:20 >> อ
00:21:21 → 00:21:23 >> อแล้วมันจะนำไปสู่คำตอบนะอันนี้ก็คือวิธี
00:21:24 → 00:21:25 คิดง่ายๆที่เปลี่ยนถ้าเราบอกว่าความ
00:21:25 → 00:21:28 เครียดเป็นเรื่องของไลฟ์สไตล์เนี่ยเรา
00:21:28 → 00:21:30 สามารถเลือกได้ผมบอกตลอดเลยว่าทุก
00:21:31 → 00:21:33 สถานการณ์เราเลือกได้เราเลือกได้แม้
00:21:33 → 00:21:36 กระทั่งว่าเราจะทานอาหารอะไรเราเลือกได้
00:21:36 → 00:21:39 ว่าเราจะจัดเวลาไปออกกำลังกายยังไงเรา
00:21:39 → 00:21:41 เลือกได้ว่าเราจะทำงานถึง 2:00 น.หรือว่า
00:21:41 → 00:21:43 จริงๆเราทำงานถึง 23:00 น.เที่ยงคืนแล้ว
00:21:43 → 00:21:44 เราพักก่อน
00:21:44 → 00:21:44 >> อือ
00:21:44 → 00:21:46 >> แล้วเช้าเราค่อยมาทำต่ออย่างเงี้ยทุก
00:21:46 → 00:21:49 อย่างเราเลือกได้หมดเลย Longtivity
00:21:49 → 00:21:52 >> ไม่ใช่ศาสตร์ของการที่มาทำอะไรเป็นครั้ง
00:21:52 → 00:21:52 >> อือ
00:21:52 → 00:21:54 >> แต่มันคือศาสตร์ของการใช้ชีวิต
00:21:54 → 00:21:55 >> อือ
00:21:55 → 00:21:57 >> แต่ว่าเราจะเลือกว่าใช้ชีวิตที่มันแมตช
00:21:57 → 00:21:59 กับเราได้แค่ไหนเนี่ยเราก็สามารถเลือกได้
00:21:59 → 00:21:59 อีก
00:21:59 → 00:22:01 >> แต่นู่นถามนิดนึง 10 มันอาจจะย้อนแย้งกับ
00:22:01 → 00:22:04 สิ่งที่คุณหมอเล่ามานะคือบางทีมันเครียดๆ
00:22:04 → 00:22:06 อ่ะมันอยากดูซีรียส์อ่ะเออมันอยากดูละคร
00:22:07 → 00:22:09 อยากผ่อนคลายอ่ะอย่างเงี้ยมันนับมั้ยคะ
00:22:09 → 00:22:10 มันช่วยมั้ย
00:22:10 → 00:22:14 >> มีสิ่งที่เรียกว่า Healthy โดปามีน
00:22:14 → 00:22:15 อ
00:22:15 → 00:22:18 >> เวลาที่เครียดมากๆเนี่ยเวลาเท่าเราได้
00:22:18 → 00:22:20 reวอร์ดอะไรบางอย่างได้รางวัลอะไรบาง
00:22:20 → 00:22:20 อย่าง
00:22:20 → 00:22:22 >> การกินของหวานก็เป็นรางวัล
00:22:22 → 00:22:23 >> โอ้ใช่
00:22:23 → 00:22:26 >> การดูมือถือการติดเกมก็ร่างกายก็รู้สึก
00:22:26 → 00:22:29 ว่าได้รางวัลรางวัลที่unhealthตี้แย่ๆเลย
00:22:29 → 00:22:31 ติดบุหรี่ติดเหล้าติดยา
00:22:31 → 00:22:32 >> อ่า
00:22:32 → 00:22:35 >> อันนี้คือไปทำให้เลเวลของโดปามีนมันสูง
00:22:35 → 00:22:35 ขึ้น
00:22:35 → 00:22:37 >> อืโดพามีนคือสารโดปามิน
00:22:37 → 00:22:39 >> สารสื่อประสารสื่อประสาทในสมองที่ทำให้
00:22:39 → 00:22:41 เรารู้สึกมีความสุขเวลาที่เราได้รับ
00:22:41 → 00:22:43 รางวัลอะไรบางอื
00:22:43 → 00:22:46 >> นะแต่ว่าถ้าเราหา Healthy โดปามินเราไป
00:22:46 → 00:22:48 ออกกำลังกายมันก็ได้โดปามิน
00:22:48 → 00:22:48 >> โอเค
00:22:48 → 00:22:51 >> เราไปเรียนทำอาหารแล้วทันทำอาหารสุขภาพมา
00:22:52 → 00:22:54 กินแล้วเรารู้สึกว่าทำได้อร่อยอันนี้ก็
00:22:54 → 00:22:55 เป็น Healthy โดปามิน
00:22:55 → 00:22:58 >> ฉะนั้นเนี่ยเราสามารถเลือกได้ว่า
00:22:58 → 00:23:00 >> ในสถานการณ์เดียวกันเนี่ย
00:23:01 → 00:23:01 >> อ
00:23:01 → 00:23:04 >> เราจะจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ยังไงและ
00:23:04 → 00:23:06 เรารับผิดชอบกับการเลือกของเราเอง
00:23:06 → 00:23:09 >> แต่วิธีการง่ายๆผมสอนคนไข้ก็คือสอนหายใจ
00:23:09 → 00:23:10 >> ออ
00:23:10 → 00:23:12 >> นะฮะก็คือเวลาที่เราเครียดเนี่ยเราจะ
00:23:12 → 00:23:14 กลั้นหายใจไม่รู้ตัวเลย
00:23:14 → 00:23:14 >> อ่าจริง
00:23:14 → 00:23:16 >> นะหรือว่าจะหายใจสั้น
00:23:16 → 00:23:16 >> อือ
00:23:16 → 00:23:19 >> เราจะมารู้ตัวอีกทีตอน
00:23:19 → 00:23:22 นี้เรารู้ตัวแปลว่าก่อนหน้าเเราหายใจผิด
00:23:22 → 00:23:23 มาตลอดเลย
00:23:23 → 00:23:25 >> อือๆอุ้ยอันนี้น่าสนใจนะเป็นเทคนิคที่
00:23:25 → 00:23:27 เฮ้ยน่าจะทำได้ที่โต๊ะทำงาน
00:23:27 → 00:23:28 >> เออมันยังไงอ่ะ
00:23:28 → 00:23:36 >> ประชุมไปก็ทำได้อะไรก็ทำได้
00:23:36 → 00:23:37 >> คุณหมออั๋นลองสอนดูหน่อยได้มั้คะว่าเรา
00:23:37 → 00:23:40 ควรที่จะหายใจแบบไหนที่ทำให้เรานั้นแบบ
00:23:40 → 00:23:41 สงบลง
00:23:41 → 00:23:43 >> อ่าถ้าเอาแบบเทคนิคที่เขาใช้กันอยู่นะ
00:23:43 → 00:23:46 ครับก็เอาแบบอันแรกก่อน 446 เริ่มต้นก็
00:23:46 → 00:23:49 >> นั่งให้สบายนะครับเปิดไหล่ให้กว้างนะครับ
00:23:49 → 00:23:51 แล้วก็เวลาเราหายใจเนี่ยจะจะลองเอามือวาง
00:23:52 → 00:23:53 ไว้ที่ท้องก็ได้
00:23:53 → 00:23:55 >> ถ้าหายใจถูกวิธีเนี่ยท้องก็จะป่อง
00:23:55 → 00:23:55 ขึ้นโอเค
00:23:55 → 00:23:58 >> เราจะหายใจเข้า 4 วินาที
00:23:58 → 00:24:00 >> แล้วก็กลั้นไว้ 4 วินาทีแล้วก็หายใจออก 6
00:24:00 → 00:24:02 วินาทีอาจจะลองทำสัก 2 รอบ
00:24:02 → 00:24:05 >> เดี๋ถ้าผู้ชมถ้าอยากจะลองฝึกตามก็ฝึกตาม
00:24:05 → 00:24:07 ไปได้อ่ะงั้นเตรียมตัวนะครับโอเค
00:24:07 → 00:24:11 >> เดี๋ยวผมจะนับเลขกำกับไปด้วยนะฮะอ่ะ 1 2
00:24:11 → 00:24:16 หายใจเข้า 1 2 3 4 กั้นไป 4 วินาทีนะ
00:24:16 → 00:24:25 ฮะ 2 3 4 หายใจหอก 2 3 4 5 6 หายใจ
00:24:25 → 00:24:34 เข้า 1 2 3 4 กั้นไหว 2 3 4 ได้ออก
00:24:34 → 00:24:40 นะฮะ 2 3 4 5 6
00:24:40 → 00:24:42 ดีมั้ยฮะ
00:24:42 → 00:24:42 >> ดี
00:24:42 → 00:24:44 >> มันรีแลกมันผ่อนคลาย
00:24:44 → 00:24:45 >> ได้อยู่กับตัวเอง
00:24:45 → 00:24:46 >> ใช่
00:24:46 → 00:24:48 >> แล้วใจมันจะไม่ไปคิดเรื่องอื่นเลย
00:24:48 → 00:24:51 >> ใช่มันช่วยให้เราโฟกัสกับตรงหน้า
00:24:51 → 00:24:54 >> ได้มากขึ้นกับปัจจุบันได้มากขึ้นอืแล้วก็
00:24:54 → 00:24:55 ลืมทุกอย่างเลย
00:24:55 → 00:24:57 >> แล้วก็ถ้าคนที่แวานซขึ้นเนี่ยเขาก็จะเป็น
00:24:57 → 00:24:58
00:24:58 → 00:24:59 >> 478
00:24:59 → 00:25:02 >> ซึ่งถ้ายิ่งกั้นหายใจนานขึ้นเนี่ยมันคน
00:25:02 → 00:25:04 ถ้าถ้ามีความเครียดอยู่เยอะๆเนี่ยเขาจะ
00:25:04 → 00:25:05 กั้นหายใจนานๆไม่ไหว
00:25:05 → 00:25:06 >> อ
00:25:06 → 00:25:07 >> มันก็จะยิ่งอึดอัดหน่อย
00:25:07 → 00:25:09 >> อืองั้นถ้า 446 ยังไม่คล่องเนี่ยก็ยังไม่
00:25:09 → 00:25:11 ต้องไปข้ามเป็น 478
00:25:11 → 00:25:12 >> ออโอเค
00:25:12 → 00:25:14 >> อยากลอง 478 มั้ฮะรอบนึงแล้วกันนะครับอ่า
00:25:14 → 00:25:15 ได้ๆ
00:25:15 → 00:25:18 >> เตรียมตัวเหมือนเดิมนะครับอ่ะหายใจเข้า 1
00:25:18 → 00:25:22 2 3 4
00:25:22 → 00:25:29 กั้นไว้ 3 4 5 6 7 หายใจออกนะครับ 2
00:25:29 → 00:25:38 3 4 5 6 7 8
00:25:38 → 00:25:40 >> อื
00:25:40 → 00:25:41 >> ดีนะฮะดี
00:25:41 → 00:25:42 >> อ่าแล้วก็
00:25:42 → 00:25:44 >> ส่วนตัวที่ผมใช้เองเวลาผมแบบมีงานประชุม
00:25:44 → 00:25:48 หรือมีอะไรนะผมไม่ได้หายใจแบบมีไม่มีไม่
00:25:48 → 00:25:49 มีช่วงกลั้น
00:25:49 → 00:25:49 >> อ
00:25:49 → 00:25:51 >> แต่แค่กลับมาแตะความรู้สึกว่าเอ้ยตอนนี้
00:25:51 → 00:25:53 หายใจยังไงอยู่แล้วก็หายใจเบาๆแล้วก็มี
00:25:53 → 00:25:56 แบบที่แปลกกว่านี้อีกนะคือของแrew
00:25:56 → 00:25:59 hubberman เขาจะหายใจแบบเข้า 2 สเต็ปแบบ
00:25:59 → 00:26:05 นี้นะฮะ
00:26:05 → 00:26:07 [เพลง]
00:26:07 → 00:26:09 เนี่ยทำแบบนี้ 4 รอบอันนี้แบบแ Andrew
00:26:09 → 00:26:12 Huberman มันกดกระบังลมลงไปแล้วมันจะไป
00:26:12 → 00:26:14 ลดกระตุ้นระบบประสาทVegัเนิฟอย่างเงี้ย
00:26:14 → 00:26:16 ครับแต่ถ้าเราฝึกแบบเป็นประจำทุกวันนะมัน
00:26:16 → 00:26:18 แทบจะไม่กระเพื่อมเลยอ่ะอ
00:26:18 → 00:26:20 >> อะไรเข้ามากระทบเนี่ยมันก็อ่ะนิดนึงแล้ว
00:26:20 → 00:26:22 เราก็อ่ะกลับมาหายใจอย่างเงี้ยชีวิตจะดี
00:26:23 → 00:26:23 ขึ้นเยอะเลย
00:26:23 → 00:26:26 >> โอเคเมื่อกี้เราจบเลเวลหรือว่าลำดับขั้น
00:26:26 → 00:26:29 ที่ 1 ไปแล้วโอยาวมากเลยโอเคมาถึงขั้น 2
00:26:29 → 00:26:31 บ้างดีอ่ะค่ะขั้น 2 ที่เราจะเริ่มดูแลตัว
00:26:31 → 00:26:33 เองเราจะเรียกขั้นนี้ว่าอะไรคะ
00:26:33 → 00:26:36 >> ผมเรียกว่าเป็นเอ่อ Longity Biomarker
00:26:36 → 00:26:38 นะครับคือการตรวจ
00:26:38 → 00:26:40 >> ดูว่าสภาพของร่างกายตอนเเป็นยังไงบ้าง
00:26:41 → 00:26:42 เริ่มต้องมีค่าใช้จ่ายมานิดนึง
00:26:43 → 00:26:45 >> แต่ว่าผมก็จะแบ่งระดับนะฮะว่ามันมีการ
00:26:45 → 00:26:47 ตรวจอะไรบ้างถ้าอยากจะให้เริ่มต้นจริงๆ
00:26:47 → 00:26:50 เนี่ยผมว่าทุกคนมาตรฐานเนี่ยขอตรวจสุขภาพ
00:26:50 → 00:26:51 ประจำปีก่อน
00:26:51 → 00:26:51 >> อ
00:26:51 → 00:26:54 >> เรื่องของการตรวจน้ำตาลการตรวจไขมันตรวจ
00:26:54 → 00:26:57 ตับตรวจไตนะการตรวจค่าของมะเร็งนะตามเกณฑ
00:26:57 → 00:27:00 อายุที่เหมาะสมมะเร็งปากมดลูกส่องกล้อง
00:27:00 → 00:27:02 มะเร็งลำไส้อะไรพวกเนี้ยอันนี้คือมาตรฐาน
00:27:02 → 00:27:03 ที่ทุกคนควรจะทำอยู่แล้ว
00:27:03 → 00:27:06 >> อ่าประจำปีเนี่ยที่มีแพ็คเกจให้ก็จะตรวจ
00:27:06 → 00:27:09 ธรรมดาที่คุณหมอบอกเลยน้ำตาลไขมันตรวจตัด
00:27:10 → 00:27:10 ไต
00:27:10 → 00:27:13 >> มันจะมีแอดเพิ่มอ่ะแอดเพิ่มเนี่ยมีอะไร
00:27:13 → 00:27:16 แอดที่คุณหมออยากแนะนำให้คนทำงานแอดตรวจ
00:27:16 → 00:27:18 เพิ่มมั้คะเพราะมันจ่ายเพิ่มไม่เท่าไหร่
00:27:18 → 00:27:20 อ่ะเออแต่มันครอบคลุมกว่าอัน
00:27:20 → 00:27:22 >> อันอันนึงที่ขอให้ตรวจเลยคือวิตามินดี
00:27:23 → 00:27:23 >> อ่ะวิตามินดี
00:27:23 → 00:27:26 >> นะเพราะว่าวิตามินดีเนี่ย 70- 80% ของคน
00:27:26 → 00:27:29 ไทยเนี่ยขาดวิตามินดีสัมพันธ์เกี่ยวกับ
00:27:29 → 00:27:31 เรื่องของภูมิคุ้มกันในร่างกาย
00:27:31 → 00:27:31 >> อ
00:27:31 → 00:27:33 >> หรือแม้กระทั่งคนเป็นภูมิแพ้มันก็จะช่วย
00:27:33 → 00:27:34 เรื่องภูมิแพ้ได้ดีขึ้น
00:27:34 → 00:27:37 >> อวิตามินดีอ่ะที่ได้จากแสงแดดถูกมั้ย
00:27:37 → 00:27:40 >> คนเราเข้าใจว่าคนไทยแดดเยอะ
00:27:40 → 00:27:42 >> อาจจะไม่ต้องกินวิตามินดีเพิ่มก็ออกไปจาก
00:27:43 → 00:27:44 บ้านไปรับแสงก็ได้แล้ว
00:27:45 → 00:27:47 >> แต่เราไม่ค่อยออกกันนะครับเราออกไปตอนพัก
00:27:47 → 00:27:48 เที่ยงพร้อมกับร่ม 1 คัน
00:27:48 → 00:27:49 >> ใช่ๆๆๆ
00:27:49 → 00:27:51 >> อ่าแล้วก็ทากันแดดด้วยเพราะว่าเดี๋ยวฟาก
00:27:51 → 00:27:54 ขึ้นเให้ใส่เสื้อแขนสั้นกางเกงขาสั้นแล้ว
00:27:54 → 00:27:56 ก็โดนแดดประมาณ 20 นาที
00:27:56 → 00:27:59 >> ถ้าเป็นกลุ่มนักวิ่งตอนเช้ารอดมั้ยน่าจะ
00:27:59 → 00:28:02 รอดแต่ว่าบางทีพอบางคนที่อายุมากขึ้น
00:28:02 → 00:28:04 เนี่ยหรือบางพันธุกรรมเนี่ยการสังเคราะห์
00:28:04 → 00:28:07 วิตามินดีที่ผิวหนังก็ทำได้ไม่ค่อยดี
00:28:07 → 00:28:10 >> อ่าโอเคค่ะอ่ะมีตรวจวิตามินดีคุณหมอแนะนำ
00:28:10 → 00:28:12 แล้วอย่างอื่นมีอีกมั้คะอันอื่นถ้าจะตรวจ
00:28:13 → 00:28:15 เพิ่มเนี่ยก็อาจจะตรวจค่าการอักเสบแบบ
00:28:15 → 00:28:17 ง่ายๆหรือค่าการอักเสบแบบเบื้องต้น
00:28:17 → 00:28:17 >> อื
00:28:17 → 00:28:19 >> นะอย่างเช่นค่า CRP
00:28:19 → 00:28:20 >> CRP
00:28:20 → 00:28:22 >> หรือว่าโฮโมซิอินซึ่งมันจะเป็นค่าการ
00:28:22 → 00:28:24 อักเสบที่ราคาไม่แพงมาก
00:28:24 → 00:28:26 >> แต่มันบอกถึงความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
00:28:26 → 00:28:29 หรือว่าการอักเสบแฝงในร่างกายเราได้
00:28:29 → 00:28:32 >> โอเคอ่ะอันนี้ถ้าเกิดว่าใครสนใจก็สามารถ
00:28:32 → 00:28:32 แอดเพิ่มได้
00:28:33 → 00:28:34 >> ก็ขอคุณหมอเ้าตรวจเพิ่ม
00:28:34 → 00:28:36 >> แล้วคุณหมอเริ่มพูดถึงเรื่องที่มันแฟนซี
00:28:36 → 00:28:38 ขึ้นใช้คำนี้แล้วกันเออมันมีอะไรบ้างคะ
00:28:38 → 00:28:41 ย้ำอีกทีได้มั้เอาที่แบบถ้ากำลังทรัพย์
00:28:41 → 00:28:43 เราไหวก็อยากให้ได้ลองตรวจดูอ
00:28:43 → 00:28:45 >> อ่าก็อันที่ 1 คือตรวจรหัสพันธุกรรมของ
00:28:45 → 00:28:46 ตัวเอง
00:28:46 → 00:28:46 >> โอเค
00:28:46 → 00:28:49 >> ว่าเรามีความเสี่ยงในการเกิดโรคอะไรมั้ย
00:28:49 → 00:28:51 >> มีโรคอะไรที่เราจะถ่ายทอดไปยังลูกหรือ
00:28:51 → 00:28:52 เปล่า
00:28:52 → 00:28:54 >> นะมีพฤติกรรมของไลฟ์สไตล์ของเราเนี่ยเรา
00:28:54 → 00:28:57 มีแนวโน้มจะขาดอาหารตัวไหนมั้ยแนวโน้ม
00:28:57 → 00:29:00 อ้วนง่ายหรือเปล่าแล้วถ้าเราออกกำลังกาย
00:29:00 → 00:29:02 เนี่ยเราเหมาะกับออกกำลังกายแบบไหนเสี่ยง
00:29:02 → 00:29:03 กับการบาดเจ็บหรือเปล่า
00:29:03 → 00:29:04 >> อ
00:29:04 → 00:29:07 >> ยาที่เรากินเนี่ยตัวไหนเป็นยาที่เหมาะกับ
00:29:07 → 00:29:09 เรากินไปแล้วไม่มีผลข้างเคียงมี
00:29:09 → 00:29:10 ประสิทธิภาพดี
00:29:10 → 00:29:12 >> อันเนี้ยประโยชน์จากการตรวจพันธุกรรม
00:29:12 → 00:29:12 >> Genetic Test
00:29:12 → 00:29:14 >> Genetic Testing นะตรวจแค่ครั้งเดียวใน
00:29:14 → 00:29:17 ชีวิตแล้วมันไม่เปลี่ยนแล้วฉะนั้นอันเนี้
00:29:17 → 00:29:19 ผมถ้าให้ให้ดาวเยผมให้อันนี้ 5 ดาว
00:29:19 → 00:29:19 >> อือๆ
00:29:19 → 00:29:22 >> พอรู้อดีตเสร็จปุ๊บตอนนี้อยากรู้ปัจจุบัน
00:29:22 → 00:29:24 แล้วว่าปัจจุบันของเขาตอนเเป็นยังไงบ้าง
00:29:24 → 00:29:27 มันมีการตรวจที่เรียกว่าEpิ Genetic
00:29:27 → 00:29:30 >> อ่าอหรือว่า Biological AG คือตรวจอายุ
00:29:30 → 00:29:31 ในระดับเซลล์
00:29:31 → 00:29:32 >> อ
00:29:32 → 00:29:34 >> นะอย่างผมเองผมไปตรวจละนะผม 49 ปีนี้
00:29:34 → 00:29:37 กำลังจะ 50 เนี่ยอายุในระดับเซลล์ผมเท่า
00:29:37 → 00:29:37 กับ 45
00:29:37 → 00:29:39 >> โอ
00:29:39 → 00:29:39 >> หนุ่ม
00:29:39 → 00:29:42 >> ไม่หรอกครับยังรู้สึกว่าน่าจะต้องทำได้ดี
00:29:42 → 00:29:43 กว่านี้อายุจริง
00:29:43 → 00:29:46 >> มันสามารถบอกได้ถึงว่าอายุในระดับของแต่
00:29:46 → 00:29:49 ละอวัยวะผมเนี่ยอวัยวะไหนแย่ไม่แย่
00:29:49 → 00:29:50 >> โอ
00:29:50 → 00:29:53 >> ผมมีอายุของไตกับอายุของปอดเนี่ยที่ขึ้น
00:29:53 → 00:29:56 ไป 51 ปีแล้วนะแต่โชคดีอายุของกล้ามเนื้อ
00:29:56 → 00:29:57 ผมเนี่ยยัง 35 อยู่
00:29:57 → 00:29:59 >> เพราะว่าต้นทุนออกกำลังกายมาเยอะอย่าง
00:29:59 → 00:30:02 เงี้ยมันก็ยืนยันแบบนี้แล้วก็อีกอันนึง
00:30:02 → 00:30:05 ที่มันบอกซึ่งดีมากก็คือว่าใน 1 ปีปฏิทิน
00:30:05 → 00:30:06 ที่ผ่านไปแต่ละปีเนี้ย
00:30:06 → 00:30:09 >> เราจะแก่ขึ้นมากกว่า 1 ปีหรือน้อยกว่า 1
00:30:09 → 00:30:10 ปี
00:30:10 → 00:30:10 >> อ่า
00:30:10 → 00:30:12 >> อ่าอย่างของผมเนี่ยตรวจได้ประมาณ 0.7 17
00:30:12 → 00:30:13 >> โอเค
00:30:13 → 00:30:17 >> ผ่านไป 1 ปีสมมุติปีหน้าผมอายุ 50 นะฮะ
00:30:17 → 00:30:19 แต่ว่าอายุในระดับเซลล์ของผมเนี่ยจะแก่
00:30:19 → 00:30:20 ขึ้นแค่ 7 เดือน
00:30:21 → 00:30:21 >> อ่า
00:30:21 → 00:30:23 >> เทสนี้ผมจะให้ประมาณสัก 4 ดาวเลยอีกอัน
00:30:23 → 00:30:26 นึงก็จะตรวจในการดูว่ามีความเสี่ยงในการ
00:30:27 → 00:30:30 เกิดโรคอะไรในอนาคตทำนายล่วงหน้า 5 ปี 10
00:30:30 → 00:30:31 ปี
00:30:31 → 00:30:33 >> เมื่อกี้มันตรวจตรวจอายุ
00:30:33 → 00:30:35 >> อันนี้จะตรวจโรคโดยการที่เขาตรวจเรียกว่า
00:30:35 → 00:30:36 โปรตีโอมิค
00:30:36 → 00:30:36 >> อื
00:30:36 → 00:30:39 >> คือตรวจดูโปรตีนที่มันเปลี่ยนแปลงไปจะบอก
00:30:39 → 00:30:41 ความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์บอกความเสี่ยง
00:30:41 → 00:30:44 เรื่องโรคหัวใจโรคไขมันพอกตับนะฉะนั้นพวก
00:30:44 → 00:30:46 นี้เนี่ยก็จะเป็นอีกหนึ่งการตรวจที่เอา
00:30:46 → 00:30:49 ไว้รู้ล่วงหน้าว่าอีก 5 ปี 10 ปีข้างหน้า
00:30:49 → 00:30:50 จะเป็นโรคนี้แล้วนะ
00:30:50 → 00:30:50 >> อือ
00:30:50 → 00:30:52 >> แล้วมันแม่นยำมากมั้คะ
00:30:52 → 00:30:55 >> องค์นี้เอ่อตัวของโปรตีนเนี่ยมันจะมี
00:30:55 → 00:30:57 ไดนามิของมันพอสมควรมันก็จะมีการเปลี่ยน
00:30:57 → 00:30:58 แปลงค่อนข้างเร็ว
00:30:58 → 00:30:58 >> อือ
00:30:58 → 00:31:00 >> ถือว่าผมจะให้แค่ 3 ดาว
00:31:00 → 00:31:01 >> อ
00:31:01 → 00:31:03 >> ข้อมูลที่ได้เนี่ยมันอาจจะได้โรคไม่ค่อย
00:31:03 → 00:31:05 ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ไม่กี่โรคเทียบกับ
00:31:05 → 00:31:06 ราคาที่เสียไปนะครับ
00:31:06 → 00:31:09 >> อโอเคโออัน 2 นี่ก็คือลึกลงไปอีกอ่าตอน
00:31:09 → 00:31:11 แรกมันแตะแค่เรื่องไลฟ์สไตลอันนี้เรื่อง
00:31:11 → 00:31:14 การตรวจและแล้วก็แน่นอนมันมาพร้อมค่าใช้
00:31:14 → 00:31:16 จ่ายอ่ะดังนั้นคุณหมอก็แนะนำว่าก็ไม่ต้อง
00:31:16 → 00:31:18 ตรวจหมดที่พูดมาก็ได้
00:31:18 → 00:31:20 >> หลักๆตรวจสุขภาพประจำปีต้องมี
00:31:20 → 00:31:21 >> ต้องมีจำเป็นเลยจำเป็น
00:31:21 → 00:31:23 >> ใช่มั้คะขั้นถัดไปล่ะคะ
00:31:23 → 00:31:25 >> ครับก็จะเป็น Longivity Level 3
00:31:25 → 00:31:26 >> อื
00:31:26 → 00:31:28 >> ซึ่งมันจะเป็นการที่เราเอาข้อมูลจาก
00:31:28 → 00:31:30 Longivity Level 1 กับ Level 2 เนี่ย
00:31:30 → 00:31:34 มาวางแผนว่าเราจะต้องใช้อาหารเสริมตัวไหน
00:31:34 → 00:31:35 ที่มันจะมาช่วยทำให้
00:31:36 → 00:31:38 >> สุขภาพของเราดีขึ้น Heth span ดีขึ้น
00:31:38 → 00:31:41 >> นะฮะแต่ว่าส่วนใหญ่แล้วงานวิจัยณปัจจุบัน
00:31:41 → 00:31:43 เนี่ยเนี่ยมันเป็นการดูไลฟ์สแตนด์ในสัตว์
00:31:43 → 00:31:44 ทดลอง
00:31:44 → 00:31:45 >> อื
00:31:45 → 00:31:47 >> อ่าในคนเนี้ยอาจจะยังมีแค่บางตัวหรือว่า
00:31:47 → 00:31:51 ยังทำงานวิจัยอยู่อย่างเช่นเอ่อตัวที่ดัง
00:31:51 → 00:31:53 ๆตอนนี้ก็คืออย่างเช่น NAD Plus
00:31:53 → 00:31:54 >> อ่า
00:31:54 → 00:31:56 >> ถ้าเป็นในงานวิจัยเนี่ยเขาจะให้เป็นแบบ
00:31:56 → 00:31:57 กินก็คือตัว NMN
00:31:57 → 00:31:58 >> อื
00:31:58 → 00:32:01 >> นะหรือว่าเอ่อกลุ่มอะมิโนอซิด
00:32:01 → 00:32:01 >> อ่า
00:32:01 → 00:32:04 >> นะฮะก็จะมีตัวของไกลซีน
00:32:04 → 00:32:09 >> กับเอ่อNCEISอีนทานคู่กันไกลมีตัวทอรีน
00:32:09 → 00:32:11 >> ทอรีนที่อยู่ในเครื่องดื่มบำรุงกำลัง
00:32:11 → 00:32:13 เนี่ยนะครับเอ่อสัตว์ทดลองที่ได้ทอรีน
00:32:13 → 00:32:14 เนี่ย
00:32:14 → 00:32:15 >> ก็อายุยืนขึ้น
00:32:15 → 00:32:18 >> อื NAD แนทนี่คืออะไรคะช่วยเรื่องอะไรคะ
00:32:18 → 00:32:20 >> แนทเนี่ยคือเอ่อโมเลกุลตัวนึงที่ปกติใน
00:32:20 → 00:32:22 ร่างกายของเรามีอยู่แล้ว
00:32:22 → 00:32:22 >> อ
00:32:22 → 00:32:24 >> แต่พอโมเลกุลตัวเนี้ยต่ำไปเรื่อยๆเนี่ย
00:32:24 → 00:32:27 มันจะทำให้การสร้างพลังงานในระดับเซลล์
00:32:27 → 00:32:29 ของเราเนี่ยมีปัญหานะเขาก็ไปเจอทดลองเจอ
00:32:29 → 00:32:32 ว่าถ้าสามารถเพิ่มระดับ NAD Plus ใน
00:32:32 → 00:32:36 เลือดได้เนี่ยนะมันจะทำให้ตัวของการเผา
00:32:36 → 00:32:39 ผลาญการสร้างพลังงานการเสื่อมถอยในเซลล์
00:32:39 → 00:32:42 เนี่ยช้าลงนะแต่ว่างานวิจัยตอนเนี้ยส่วน
00:32:42 → 00:32:44 ใหญ่แล้วยังเป็นงานวิจัยในสัตว์ทดลอง
00:32:44 → 00:32:47 >> ในคนเนี้ยมีงานวิจัยเรื่องของความsaซฟตี้
00:32:47 → 00:32:48 อันนี้ผ่านละ
00:32:48 → 00:32:50 >> นะแต่ว่าเรื่องของประสิทธิภาพเนี่ยอาจจะ
00:32:50 → 00:32:52 ได้บางอย่างตามมาตรฐานจากงานวิจัยเขาใช้
00:32:52 → 00:32:53 การกิน
00:32:53 → 00:32:55 >> การกิน NMN
00:32:55 → 00:32:56 >> NMN หรือว่า NR
00:32:56 → 00:32:58 >> โอเคกินเป็นเม็ดหรือว่า
00:32:58 → 00:33:00 >> กินเป็นเม็ดแคปซูลนะฮะใช่แล้วก็ในแบบฉีด
00:33:00 → 00:33:02 แบบกินของในเมืองไทยเนี่ยก็ยังไม่มีตัว
00:33:02 → 00:33:05 ไหนที่ผ่านอย.อืโอเคนุ่นอยากรู้นิดนึงคือ
00:33:05 → 00:33:08 คุณหมอพูดว่าใดๆเหล่าเนี้ยมันผ่านการทด
00:33:08 → 00:33:11 สอบในสัตว์ไม่ใช่คนเรื่องผลลัพธ์ที่ได้นะ
00:33:11 → 00:33:14 >> แต่ทำไมเรายังใช้อ่ะเราถึงกล้าที่จะใช้
00:33:14 → 00:33:17 >> ก็มันมีsaฟetyเอ่อผลงานวิจัยในญี่ปุ่นมา
00:33:18 → 00:33:19 ออกมาแล้วว่าเรื่องตับเรื่องไตเรื่องเม็ด
00:33:19 → 00:33:21 เลือดขาวภูมิคุ้มกันอะไรเนี้ยมันโอเค
00:33:21 → 00:33:22 >> อ่า
00:33:22 → 00:33:23 >> คือต้องต้องยอมรับอย่างนึงเรื่องของ
00:33:23 → 00:33:26 Longivity ตอนเนี้ยมันยังเป็นศาสตร์ที่
00:33:26 → 00:33:28 ค่อนข้างใหม่เพิ่ง 10 ปีเอง
00:33:28 → 00:33:29 >> นะฉะนั้นเนี่ย
00:33:29 → 00:33:32 >> เอ่อหลักการอะไรที่เราจะเอามาใช้ในแต่ละ
00:33:32 → 00:33:34 ช่วงเนี้ยมันอาจจะมีงานวิจัยใหม่ๆอีก 3
00:33:34 → 00:33:37 ปี 5 ปี 10 ปีขึ้นมาเราต้องพร้อมที่จะ
00:33:37 → 00:33:38 ปรับตัวแล้วก็เปลี่ยน
00:33:38 → 00:33:41 >> ตัวที่ศึกษามาและตัวที่ทดลองมาใช้เนี่ยก็
00:33:41 → 00:33:42 คือรับรองเรื่องsaซฟตี้มาหมดแล้วอะไร
00:33:42 → 00:33:44 อย่างเงี้ยนะแต่ว่าเราก็จะเลือกให้เหมาะ
00:33:45 → 00:33:48 ว่าอ่าตามผลเลือดตามไลฟ์สไตล์แล้วก็ตาม
00:33:48 → 00:33:49 บัdจetด้วย
00:33:49 → 00:33:51 >> เพราะบางตัวมันก็แพงเกินไปแล้วก็
00:33:51 → 00:33:54 >> ไม่ใช่มาถึงวันนึงกินวิตามิน 20 30 40
00:33:54 → 00:33:56 เม็ดเราไม่ได้อยากไม่ได้อยากใช้ชีวิตแบบ
00:33:56 → 00:33:57 นั้น
00:33:57 → 00:33:59 >> นะผมเองเนี่ยผมกินวันวันละประมาณ 10 กว่า
00:33:59 → 00:34:00 เม็ดผมก็ว่าเยอะละ
00:34:00 → 00:34:01 >> อ่า
00:34:01 → 00:34:03 >> อ่าสำคัญก็คือว่าระวังว่าอย่ากินไปแล้ว
00:34:04 → 00:34:05 มันมีป่างกาย
00:34:05 → 00:34:06 >> อืโอเค
00:34:06 → 00:34:08 >> เอ่อเรื่องตับเรื่องไต
00:34:08 → 00:34:10 >> บางตัวงานวิจัยมันบอกว่าตอนนี้ดีแต่ว่า
00:34:10 → 00:34:13 อีกสักปี 2 ปีงานวิจัยบอกว่าเอ่อมีผลเสีย
00:34:13 → 00:34:15 ก็ต้องอัปเดตเหมือนกันนะครับพวกนี้ก็ต้อง
00:34:15 → 00:34:16 คอยตามดู
00:34:16 → 00:34:17 >> ออโอเค
00:34:17 → 00:34:19 >> แต่ว่าตัวที่เป็นเบสิคที่ทุกคนทานได้
00:34:19 → 00:34:21 เนี่ยผมคิดว่าเริ่มต้นจากอาหารก่อน
00:34:21 → 00:34:22 >> อ่าโอเค
00:34:22 → 00:34:25 >> ทานอาหารทานธัญพืชทานโปรตีนทานผักผลไม้
00:34:25 → 00:34:25 ให้พอ
00:34:25 → 00:34:26 >> อือ
00:34:26 → 00:34:28 >> แล้วก็วิตามินดีอันนี้สำคัญ
00:34:28 → 00:34:28 >> อือ
00:34:28 → 00:34:30 >> นะครับโอเมก้า 3 ผมว่าตัวนี้เป็นตัวที่
00:34:30 → 00:34:31 สำคัญน้ำมันปลา
00:34:31 → 00:34:32 >> อื
00:34:32 → 00:34:34 >> นะฮะยกเว้นว่ากินปลาได้สัปดาห์ละ 5 มื้อ
00:34:34 → 00:34:37 เลยหรือว่ากินอะโวคาโดได้ทุกวันเลยอะไร
00:34:37 → 00:34:39 อย่างเงี้ยอ่าอันนั้นอาจจะไม่ขาดโอเมก้า 3
00:34:39 → 00:34:42 >> อคำถามถัดไปอันนี้หลายคนสงสัยเช่นกันการ
00:34:42 → 00:34:44 กินวิตามินเยอะๆมันทำลายตับมั้ยคะจริงๆ
00:34:44 → 00:34:47 แล้วเราควรกินปริมาณเท่าไหร่เท่าไหร่ถึง
00:34:47 → 00:34:48 เยอะเกินไป
00:34:48 → 00:34:51 >> มีหลายตัวที่อาจจะมีผลข้างเคียงกับกับตับ
00:34:51 → 00:34:54 ได้อย่างเช่นกลุ่มของสมุนไพร
00:34:54 → 00:34:57 >> เอ่อวิตามินเอวิตามินอีอ่า 2 ตัวนี้เป็น
00:34:57 → 00:34:59 วิตามินที่ละลายในไขมันถ้ามันละลายในไข
00:34:59 → 00:35:01 มันเนี่ยมันมีการสะสมในร่างกายได้
00:35:02 → 00:35:04 >> อืมาถึงสเต็ปถัดไปดีกว่าเรากำลังขึ้นสูง
00:35:04 → 00:35:07 ขึ้นเรื่อยๆละโอเคอ่ะถัดไปเป็นเรื่องอะไร
00:35:07 → 00:35:10 >> Level 4 ก็คือเรื่องของ intervent ต่าง
00:35:10 → 00:35:11 ๆที่เราใช้นะครับ
00:35:11 → 00:35:12 >> นวัตกรรม
00:35:12 → 00:35:16 >> อ่าอย่างเช่นการใช้แสงสีแดง Red Lightery
00:35:16 → 00:35:18 >> นะการใช้ไบส
00:35:18 → 00:35:21 >> หรือการเข้าไคโอซา่าหรือว่าจะใช้เอ่อ
00:35:22 → 00:35:24 ออกซิเจนเทรปีต่างๆอย่างเงี้ยนะครับพวก
00:35:24 → 00:35:26 นี้เนี่ยมันจะไปช่วยในเรื่องของการลดการ
00:35:26 → 00:35:29 อักเสบในร่างกายอย่างไบบาส
00:35:29 → 00:35:31 >> หรือไโอซา่าเนี่ยเนี่ยมันจะไปช่วยกระตุ้น
00:35:31 → 00:35:33 การสร้าง brown fat มันมี white fat
00:35:33 → 00:35:36 คือไขมันของคนอ้วนๆทั่วๆไปแล้ว brown
00:35:36 → 00:35:38 fฟatเนี่ยจริงๆเป็นไขมันที่เจอในเด็กแต่
00:35:38 → 00:35:40 ว่าไขมันแบบ brown fat เนี่ยมันจะช่วยใน
00:35:40 → 00:35:43 การเผาผลาญได้ดีกว่าช่วยลดctic acid ทำ
00:35:43 → 00:35:46 ให้recoverอของกล้ามเนื้อได้เร็วขึ้นแต่
00:35:46 → 00:35:49 ว่ามันมีบางวิงวิจัยเหมือนกันว่า
00:35:49 → 00:35:53 >> ในผู้หญิงที่ไปแช่ไiceบาสนะครับอาจจะทำ
00:35:53 → 00:35:56 ให้การสร้างกล้ามเนื้อมันสร้างได้ไม่เต็ม
00:35:56 → 00:35:56 ที่
00:35:56 → 00:35:57 >> อื
00:35:57 → 00:35:59 >> อันนี้ก็ต้องดูว่าเราจุดจุดประสงค์เราคือ
00:35:59 → 00:36:01 เรื่องอะไรตัวที่ผมชอบที่สุดเนี่ยคือการ
00:36:02 → 00:36:05 ใช้ความร้อนคือเข้าซาวหน้าซาวหน้าเนี่ย
00:36:05 → 00:36:06 มันมีงานวิจัยค่อนข้างชัดเลยแล้วก็เป็น
00:36:06 → 00:36:10 งานวิจัยที่ติดตามมาเป็นหลายปีนะบอกว่า
00:36:10 → 00:36:12 สามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้ประมาณสัก
00:36:12 → 00:36:13 40%
00:36:13 → 00:36:16 >> สามารถลดอัตราการเกิดโรคหัวใจได้ประมาณ
00:36:16 → 00:36:17 สัก 50%
00:36:17 → 00:36:19 >> นะโดยที่จะต้องเข้าที่อุณหภูมิประมาณสัก
00:36:19 → 00:36:24 70-80 องศนะ 15-20 นาที 3-4 ครั้งต่อ
00:36:24 → 00:36:27 สัปดาห์ก็อีกอันนึงที่คนใช้กันบ่อยๆก็คือ
00:36:27 → 00:36:29 HyperBIC oอก Chamber
00:36:29 → 00:36:31 >> อือันนี้คือเป็นตู้ใหญ่ๆ
00:36:31 → 00:36:33 >> ที่เราเข้าไปนั่งหรือไปนอนอยู่ในตู้นั้น
00:36:33 → 00:36:35 แล้วก็อัดความดันของออกซิเจนให้มันสูง
00:36:35 → 00:36:38 ขึ้นเป็นแบบ 1.5 5 บรรยากาศ 2 เท่าของ
00:36:38 → 00:36:41 บรรยากาศก็มีงานวิจัยว่าภายใน 90 วันนะ
00:36:41 → 00:36:44 ครับถ้าเข้าไปในตู้พวกเนี้ยประมาณสัก 60
00:36:44 → 00:36:45 ครั้งเนี่ยอ
00:36:45 → 00:36:47 >> มันจะช่วยเรื่องของการลดค่าการอักเสบใน
00:36:47 → 00:36:48 ร่างกายได้
00:36:48 → 00:36:50 >> ออแต่ใดๆคือการจะใช้บริการเหล่าเนี้ยควร
00:36:50 → 00:36:55 ทำสม่ำเสมอแล้วก็ 3-4 ครั้งถึงจะเห็นผล
00:36:55 → 00:36:56 >> อ่าโอเค
00:36:56 → 00:36:59 >> อ่ะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆโอเคอันดับสุดท้าย
00:36:59 → 00:37:00 แล้วค่ะ
00:37:00 → 00:37:02 >> ก็เป็นเป็น Longivity Level 5 นะฮะ
00:37:02 → 00:37:05 เลเวล 5 เนี่ยคือสิ่งที่เราจับตามองแล้ว
00:37:05 → 00:37:08 ก็กำลังทำอยู่ในงานวิจัยเราต้องพยายามดู
00:37:08 → 00:37:11 แลสุขภาพเราเพื่อให้เราไม่ป่วยก่อนที่
00:37:11 → 00:37:12 เลเวล 5 จะสำเร็จ
00:37:12 → 00:37:13 >> อื
00:37:13 → 00:37:15 >> เพราะถ้าเป็นเลเวล 5 สำเร็จแล้วเราเริ่ม
00:37:15 → 00:37:17 ป่วยตอนนั้นน่ะเราจะมีการรักษา
00:37:17 → 00:37:20 >> นะอย่างเช่นเรื่องของการตัดต่อยีนตัดต่อ
00:37:20 → 00:37:23 พันพันธุกรรมด้วยคริสเปอร์นะครับก็มีโรค
00:37:23 → 00:37:26 ทางพันธุกรรมที่เป็นโรคหายากนะเขาเริ่มมี
00:37:26 → 00:37:28 การตัดต่อยีนได้แล้วเพื่อทำให้หายจากโรค
00:37:28 → 00:37:29 นั้นได้เด็ดขาดอ
00:37:29 → 00:37:30 >> โอ
00:37:30 → 00:37:34 >> นะฮะเอ่อมีเรื่องของการใช้คาทีเซลล์อ
00:37:34 → 00:37:36 >> นะฮะใช้โปรแกรมเม็ดเลือดขาวของเราเนี่ย
00:37:36 → 00:37:39 ให้ไปจัดการกับเซลล์ผิดปกติในร่างกายซึ่ง
00:37:39 → 00:37:41 >> จริงๆแล้วในเรื่องของมะเร็งเนี้ยมีการใช้
00:37:41 → 00:37:42 แล้ว
00:37:42 → 00:37:42 >> อือ
00:37:42 → 00:37:45 >> นะแล้วก็เรื่องของซีโนไolติอ่าคือยาหรือ
00:37:45 → 00:37:48 อาหารเสริมที่จะไปจัดการกับเซลล์ผิดปกติ
00:37:48 → 00:37:50 >> อ่าตอนนี้ก็มีอยู่ในแบบอยู่ใน clinical
00:37:50 → 00:37:52 tr เป็น 10 ตัวเลย
00:37:52 → 00:37:55 >> อืงั้นถ้าอยากทำเงินถึงอยากจะเข้าไปสู่
00:37:55 → 00:37:56 เลเวล 5
00:37:56 → 00:37:57 >> ครับ
00:37:57 → 00:37:58 >> แนะนำมั้คะ
00:37:58 → 00:38:00 >> เลเวล 5 ผมไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่นะครับยก
00:38:00 → 00:38:03 เว้นว่าคุยกันแบบละเอียดมากๆแล้วก็รู้
00:38:03 → 00:38:05 ความเสี่ยงกันแบบชัดเจนยอมรับความเสี่ยง
00:38:05 → 00:38:08 ได้มันคือการเอาตัวเองเป็นหนูทดลองนะ
00:38:08 → 00:38:11 >> อ่าเราจะรับความเสี่ยงอันนั้นมั้ยถ้าเอ่อ
00:38:12 → 00:38:14 เราไม่ได้มีโรคอะไรที่มันแบบฉุกเฉินเร่ง
00:38:14 → 00:38:17 ด่วนที่จะต้องไปทำอย่างงั้นเนี่ยเอาเลเวล
00:38:17 → 00:38:18 1 ให้ดีก่อนมั้ย
00:38:18 → 00:38:18 >> อื
00:38:18 → 00:38:21 >> อันนั้นน่าจะเป็นตัวพื้นฐานที่ดีผมก็อยาก
00:38:21 → 00:38:24 จะค่อยๆให้ไต่มาทีละทีละเลเวลนะครับ
00:38:24 → 00:38:26 >> อ่าโอเคแล้วถ้าเราอยากจะทำแล้วมันจำเป็น
00:38:26 → 00:38:28 ต้องไล่ระดับมั้ยคะเช่นต้อง 1 นะแล้วค่อย
00:38:28 → 00:38:31 ไป 2 แล้วค่อยไป 3 เราสามารถ 1 แล้วก็ 3
00:38:31 → 00:38:34 ได้มั้ยหรือ 1 แล้ว 2 แล้วค้างอยู่แค่
00:38:34 → 00:38:37 นั้นอือ 1 2 ได้ครับค้างอยู่แค่นั้น
00:38:37 → 00:38:39 เนี่ยแค่นั้นก็สุขภาพดีได้แล้วนะครับ
00:38:39 → 00:38:41 >> แต่ว่าถ้าใครจะ 1 แล้ว 4 ด้วย
00:38:41 → 00:38:44 >> ก็ได้ 1 แล้วจะ 3 ด้วยก็ได้ไม่มีปัญหาแต่
00:38:44 → 00:38:46 ว่า 1 กับ 2 เนี่ยเป็น the mus ที่ต้อง
00:38:46 → 00:38:47 ทำ
00:38:47 → 00:38:49 >> อแต่ว่า 2 จะลึกแค่ไหนอันนี้ก็แล้วแต่
00:38:49 → 00:38:52 >> ฉะนั้นเนี่ยสิ่งที่อยากจะเริ่มให้ทุกคน
00:38:52 → 00:38:54 เห็นคุณค่าก่อนเนี่ยก็คือเลเวล 1
00:38:54 → 00:38:54 >> อือ
00:38:55 → 00:38:56 >> ไลฟ์สไตล์เนี่ยสำคัญมาก
00:38:56 → 00:38:56 >> อ
00:38:56 → 00:38:59 >> ไม่จำเป็นต้องเสียเงินเลยแล้วก็ถ้าทำได้
00:38:59 → 00:39:01 นะครับผมว่าระบบสาธารณสุขบ้านเราเนี่ยจะ
00:39:01 → 00:39:03 ดูแลคนไข้ได้ง่ายขึ้นเยอะเลย
00:39:03 → 00:39:06 >> อืถ้าเกิดอยากให้คุณหมอฝากนะคะฝากอะไรถึง
00:39:06 → 00:39:09 คนแล้วกันกลุ่มคนทำงานทำงานหนักที่อยากจะ
00:39:09 → 00:39:12 เริ่มต้นดูแลตัวเองอ่าให้เค้าหันมาเริ่ม
00:39:12 → 00:39:15 ต้นตัวเองเนี่ยมากขึ้นคุณหมออยากจะฝาก
00:39:15 → 00:39:16 อะไรให้เค้าหน่อยมั้คะ
00:39:16 → 00:39:18 >> คือเอาแบบสิ่งทุกอย่างที่เราคุยกันมาทั้ง
00:39:18 → 00:39:21 หมดเนี่ยสิ่งที่ทำได้เลยคือเรื่องหายใจ
00:39:22 → 00:39:22 >> ออ
00:39:22 → 00:39:24 >> เป็นเรื่องที่อยากจะให้ทุกคนเริ่มทำอัน
00:39:24 → 00:39:26 นี้ให้ได้ก่อนเลยแค่หายใจได้เรื่องนึง
00:39:26 → 00:39:28 เนี้ยเดี๋ยวเรื่องอื่นจะดีตามมา
00:39:28 → 00:39:29 >> อือ
00:39:29 → 00:39:32 >> แล้วก็เริ่มดูแลเลเวล 1 ให้ดีเนื่องจาก
00:39:32 → 00:39:35 มันมีสิ่งที่ให้ทำเยอะมากเลย 1 สัปดาห์
00:39:35 → 00:39:37 จากเนี้ยขอเรื่องนึงที่ลงมือทำเลยได้มั้ย
00:39:37 → 00:39:38 >> อื
00:39:38 → 00:39:40 >> คุยกับตัวเองเลยว่าอ่ะสัปดาห์นี้จะนอนให้
00:39:40 → 00:39:43 ดีขึ้นอ่าสัปดาห์นี้จะเริ่มคุมอาหารขอทำ
00:39:43 → 00:39:45 สักเรื่องนึงใน 1 สัปดาห์
00:39:45 → 00:39:47 >> แล้วถ้าปลดล็อคได้เดี๋ยวมันจะมี Domin
00:39:47 → 00:39:49 ของมันตามมาเองที่เราจะดูแลด้านอื่นๆตาม
00:39:49 → 00:39:53 มา
00:39:53 → 00:40:03 ا
00:40:03 → 00:40:07 [เพลง]