00:00:00 → 00:00:04 ถ้าเกิดว่าเาโปรตีนน้อยนะคะเาจะสามารถที่
00:00:04 → 00:00:09 จะสลายกล้ามเนื้อของเขาอ่ะค่ะออกมาใช้ได้
00:00:09 → 00:00:12 กลุ่มคนไข้โรคไตนะคะเป็นกลุ่มที่มีความ
00:00:12 → 00:00:16 สับสนในด้านการกินโปรตีนอย่างมากสุขภาพ
00:00:16 → 00:00:20 กายสุขภาพใจคุยกันได้ใน Health
00:00:20 → 00:00:23 topic สวัสดีค่ะขอต้อนรับเข้าสู่รายการ
00:00:23 → 00:00:27 ชีวจิต podcast นะคะวันนี้เราร่วมพูดคุย
00:00:27 → 00:00:30 กันในหัวข้อที่น่าสนใจมากเลยค่ะคือเรื่อง
00:00:30 → 00:00:33 ของโปรตีน 101 ค่ะมาทราบเคล็ดลับการกิน
00:00:33 → 00:00:37 โปรตีนนะคะทั้งเด็กผู้ใหญ่วัยทำงานรวม
00:00:37 → 00:00:40 ทั้งผู้ที่มีปัญหาสุขภาพนะคะแน่นอนค่ะวัน
00:00:40 → 00:00:43 นี้ไม่ได้มาคนเดียวค่ะมาพร้อมกับแขกรับ
00:00:43 → 00:00:46 เชิญคนพิเศษทั้ง 2 ท่านค่ะสวยทั้ง 2 ท่าน
00:00:46 → 00:00:49 เลยนะคะท่านแรกค่ะขอแนะนำตัวนิดนึงค่ะป้า
00:00:49 → 00:00:53 ยุงคนสวยค่ะจากนิตยสารชีวจิตค่ะค่ะค่ะหมอ
00:00:53 → 00:00:55 จ๋านะคะแพทย์หญิงอัญญาวีเกียรติอภิพงษ์
00:00:55 → 00:00:58 แพทย์เวชศาสตร์ป้องกันและการชะลอวัยค่ะ
00:00:58 → 00:01:01 วันนี้ต้องได้ความรู้เยอะมากแน่เลยใช่
00:01:01 → 00:01:04 มั้ยคะป้ายุงเพราะว่าตัวป้ายุงเองเนี่ยก็
00:01:04 → 00:01:07 ดูแลสุขภาพโดยผ่านอาหารการกินเพราะฉะนั้น
00:01:07 → 00:01:09 วันนี้เลยจะเป็นบรรยากาศที่เราต้องบอกว่า
00:01:09 → 00:01:12 เราแชร์กันเนาะแชร์ทั้งประสบการณ์แชร์
00:01:12 → 00:01:15 ทั้งความรู้ใช่มั้ยคะคุณหมอแน่นอนว่า
00:01:15 → 00:01:18 อันดับแรกเลยที่คนตั้งคำถามใช่มั้ยคะป้า
00:01:18 → 00:01:21 ยุงว่าเวลากินเนี่ยเรานึกถึงสารอาหาร
00:01:21 → 00:01:24 กลุ่มหลักโดยเฉพาะเรื่องของโปรตีนใช่มั้ย
00:01:24 → 00:01:26 คะป้าตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะป้าใชใช่
00:01:26 → 00:01:29 โปรตีนเป็นสิ่งที่เป็นสารอาหารที่เสริม
00:01:29 → 00:01:32 สร้างร่างกายใช่มคะแล้วก็สร้างกล้ามเนื้อ
00:01:32 → 00:01:35 สร้างกระดูกประการสำคัญที่สุดคือมันเสริม
00:01:35 → 00:01:37 ภูมิต้านทานให้เราอันนี้ที่ป้าเรียนรู้
00:01:37 → 00:01:41 น่ะมาในแนวแนวทางของชีวจิตนะคะก็จะประมาณ
00:01:41 → 00:01:44 นี้แต่วันเนี้ยดีใจมากเลยว่าอยากมีปัญหา
00:01:44 → 00:01:46 เยอะแยะจะถามคุณหมอมากเลยว่าไอ้โปรตีน
00:01:46 → 00:01:49 เนี่ยมันสำคัญมากกว่าที่ป้ารู้อีกเยอะมาก
00:01:49 → 00:01:52 เลยวันนี้เลยอยากจะถามคุณหมอล่ะค่ะโอ้ได้
00:01:52 → 00:01:55 เลยค่ะเรารู้กันดีอยู่แล้วนะคะว่าร่างกาย
00:01:55 → 00:01:59 ของเราเนี่ยประมาณ 60-70 เพคือน้ำอือแล้ว
00:01:59 → 00:02:03 ที่เหลือค่ะ 20% คือโปรตีนนะคะแสดงว่ามัน
00:02:03 → 00:02:06 เป็นสารชีวภาพที่มีปริมาณสูงสุดในร่างกาย
00:02:06 → 00:02:09 เลยแล้วจำเป็นที่สุดใช่มั้ในในร่างกายคน
00:02:09 → 00:02:12 เราอ่ะคือโปรตีนจำเป็นที่สุดใช่มั้ยคะใช่
00:02:12 → 00:02:15 ค่ะเนื่องจากหน้าที่ของมันเยอะมากนะคะ
00:02:15 → 00:02:17 เริ่มตั้งแต่เป็นโครงสร้างของเซลล์ทุกๆ
00:02:17 → 00:02:20 เซลล์เลยนะคะทำให้เราเนี่ยมีความแข็งแรง
00:02:20 → 00:02:24 นะคะแล้วก็ซ่อมแซมเป็นอะไหล่อาไปซ่อมเวลา
00:02:24 → 00:02:26 ที่มีส่วนที่สึกหรอนะคะนอกจากนั้นมันยัง
00:02:26 → 00:02:30 เป็นเอนไซม์ค่ะนะคะเอาไว้ย่อยอาหารอยู่ใน
00:02:30 → 00:02:34 กระบวนการเบิมต่างๆนะคะแล้วมันก็ยังเป็น
00:02:34 → 00:02:37 ฮอร์โมนนะคะในการที่จะทำให้การทำงานของ
00:02:37 → 00:02:40 ร่างกายทุกระบบเนี่ยเป็นไปอย่างสมดุลแล้ว
00:02:40 → 00:02:44 ก็ราบรื่นนะคะยังไม่พอค่ะป้ายุงมันยัง
00:02:44 → 00:02:47 เป็นตัวที่ช่วยในการเคลื่อนไหวการยืดการ
00:02:47 → 00:02:51 หดการแบ่งเซลล์โอ้โหเยอะแล้วนะคะเมเหมือน
00:02:51 → 00:02:54 กันที่ที่ทำให้เรามีแรงแข็งขันยทุกันนี้
00:02:54 → 00:02:58 ขยับได้นะคะโปีนใช่ค่ะแล้วมันก็ยังเป็น
00:02:58 → 00:03:02 ส่วนที่ใช้ขนส่งอีกนะคะหน้าที่ของมัน
00:03:02 → 00:03:04 อย่างตัวเนี้ยอย่างเช่นฮีโมโกบินค่ะที่
00:03:04 → 00:03:06 อยู่ในเม็ดเลือดเนี่ยนะคะมันจะทำหน้าที่
00:03:06 → 00:03:10 ขนส่งออกซิเจนจากที่นึงไปยังอีกที่นึงทำ
00:03:10 → 00:03:12 ให้เซลล์ของเราเนี่ยได้รับออกซิเจนไปทั่ว
00:03:12 → 00:03:15 ร่างกายก็ใช้โปรตีนอีกโอ้โหป้าว่าโปรตีน
00:03:15 → 00:03:17 นี่มันแบบสุดยอดมากเลยนะใช่แล้วก็อย่าง
00:03:17 → 00:03:20 ที่ป้ายุงบอกค่ะมันเป็นภูมิคุ้มกันนะคะ
00:03:20 → 00:03:22 โปรตีนที่ทำหน้าที่เป็นภูมิคุ้มกันก็คือ
00:03:22 → 00:03:25 อิมมูโนโกลบูลินอนะคะมันก็จะเป็นทหารที่
00:03:25 → 00:03:28 คอยตรวจจับสิ่งแปลกปลอมที่มารุกรันร่าง
00:03:28 → 00:03:31 กายเรียกว่าจับผู้รักแหละใช่นะคะเพราะ
00:03:31 → 00:03:33 ฉะนั้นที่เรารู้มาทั้งหมดเนี่ยโหหน้าที่
00:03:33 → 00:03:37 ของมันเยอะขนาดนี้ถ้าเราขาดโปรตีนหน้าที่
00:03:37 → 00:03:40 ต่างๆเหล่านี้ก็จะเสียหายไปด้วยนั่นเอง
00:03:40 → 00:03:42 ค่ะป้ายูสรุปว่าเราไม่เราขาดโปรตีนไม่ได้
00:03:42 → 00:03:46 เลยน้อยก็ไม่ได้แล้วถ้ามากเกินไปล่ะคะ
00:03:46 → 00:03:48 โอ้โหมากเกินไปเนี่ยนะคะถือว่าเป็นสิ่ง
00:03:48 → 00:03:52 ที่พบได้น้อยมากอ้านะคะส่วนมากจะเป็นใน
00:03:52 → 00:03:56 ทิศทางขาดแต่จะเล่าให้ป้าฟังว่าอ่าลักษณะ
00:03:56 → 00:03:58 ที่มีโปรตีนมากเกินไปหรือว่ากินมากเกินไป
00:03:58 → 00:04:00 นะคะเรียกว่า
00:04:00 → 00:04:04 โนะคะซึ่งมักจะเกิดกับคนที่กินโปรตีน
00:04:04 → 00:04:07 อย่างเดียวเลยโดยที่ไม่กินสารอาหารอื่นๆ
00:04:07 → 00:04:11 คาร์โบไฮเดรตไม่กินเลยไข่มันไม่กินเลยนะ
00:04:11 → 00:04:14 คะพวกนี้เนี่ยนะคะจะต้องกินมากกว่าประมาณ
00:04:14 → 00:04:18 175 กรัมต่อวันว่าอยากรู้ที่เากล้ามใหญ่
00:04:18 → 00:04:21 ๆบึกบักเนี่ยเากินโปรตีนเยอะใช่เขากิน
00:04:21 → 00:04:24 โปรตีนเยอะแต่เขาจำเป็นที่จะต้องคำนวณค่ะ
00:04:24 → 00:04:28 ให้เหมาะสมแล้วก็กินอาหารอื่นๆร่วมด้วย
00:04:28 → 00:04:31 อ่าจะเกิดเปิดพิษจากโปรตีนได้เนี่ยก็คือ
00:04:31 → 00:04:34 กินโปรตีนอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้รับสาร
00:04:34 → 00:04:37 อาหารอย่างอื่นเข้าไปเลยเพราะฉะนั้นนะคะ
00:04:37 → 00:04:41 ร่างกายจะใช้ไตจะใช้ตับในการเมตาโบไลท์
00:04:41 → 00:04:45 แล้วก็ทำให้เกิดสารพิษจากการเมตาโบไลท์ใน
00:04:45 → 00:04:49 กลุ่มยูเรียนะคะแล้วก็ทำให้เกิดอาการ
00:04:49 → 00:04:53 เวียนศีรษะคลื่นไส้อาเจียนปวดศีรษะได้อ
00:04:53 → 00:04:57 ป้าเคยมีครั้งนึงที่ป่วยคือด้วยสภาพอากาศ
00:04:57 → 00:05:00 บ้านเราเนาะป้าก็เรมู้สึเอ้ยไอเบคออะไร
00:05:00 → 00:05:03 อย่างเงี้ยซึ่งปกติเี่มันชีวจิตเี่เป็น
00:05:03 → 00:05:06 แล้วหายไวปรากฏครั้งนี้มันไม่หายไวมัน
00:05:06 → 00:05:08 เป็นยืดยาวคราวนี้เวลาเป็นเนี่ยเราก็จะ
00:05:08 → 00:05:13 แบบทานไม่ลงแบบมันเอ่อไม่อยากทานอะไรแต่
00:05:13 → 00:05:16 ปกติป้าเป็น 2 2 วันเนี่ยอย่างมากป้า
00:05:16 → 00:05:18 ต้องหายแต่คราวนี้ทำไมเฮ้ยเป็นอาทิตย์ป้า
00:05:18 → 00:05:21 ทำไมไม่หายคือรู้ว่ากินน้อยลงเพราะว่าเรา
00:05:21 → 00:05:23 รู้สึกว่าเวลาไม่สบายอ่ะเราก็ทานได้น้อย
00:05:23 → 00:05:25 ลงเพราะฉะนั้นอยากถามคุณหว่าเอ๊ะทำไมป้า
00:05:25 → 00:05:28 ถึงหายช้านี่ล่ะค่ะเป็นสัญญาณอย่างหนึ่ง
00:05:28 → 00:05:32 ที่บอกว่าร่าร่างกายอาจจะขาดโปรตีนนั่น
00:05:32 → 00:05:34 เองนะคะเพราะว่าอย่างที่เราคุยกันในช่วง
00:05:34 → 00:05:38 แรกก็คือว่าโปรตีนนะคะมีส่วนที่ทำให้
00:05:38 → 00:05:40 เพิ่มภูมิคุ้มกันนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:05:40 → 00:05:43 เวลาเรากินได้น้อยนะคะแถมร่างกายเรายัง
00:05:43 → 00:05:46 ป่วยอีกนะคะแปลว่าเราเนี่ยต้องการสาร
00:05:46 → 00:05:49 อาหารที่มากขึ้นต้องการโปรตีนที่มากขึ้น
00:05:49 → 00:05:52 เพื่อที่จะไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันพอเรากิน
00:05:52 → 00:05:56 ได้น้อยนะคะแล้วก็ป่วยด้วยนะคะเราก็จะ
00:05:56 → 00:06:00 ยิ่งอยู่ในภาวะที่โปรตีนต่ำแล้วก็คุมคุม
00:06:00 → 00:06:02 กันตกลงนั่นเองค่ะโดยทั่วไปนะคะเขาก็จะ
00:06:02 → 00:06:05 บอกว่าอ่ะกินให้มันแบบพอดีพอดีกันให้ครบ 5
00:06:06 → 00:06:08 หมู่นะคะแต่สมัยนี้นะคะคำว่า 5 หมู่เนี่ย
00:06:08 → 00:06:11 ไม่พอและเราจะเห็นว่าทุกคนที่อยู่ในโรง
00:06:11 → 00:06:14 พยาบาลก็กินครบ 5 หมู่กันทั้งนั้นนะคะแต่
00:06:14 → 00:06:17 ว่าเราอาจจะต้องปรับสัตส่วนให้เหมาะสม
00:06:17 → 00:06:19 หลายๆครั้งเนี่ยเรารู้สึกว่าเราก็กินนะ
00:06:19 → 00:06:22 แต่อาจจะกินไม่เพียงพอโดยเฉพาะในช่วงที่
00:06:23 → 00:06:25 เราป่วยและต้องการการฟื้นฟูร่างกายนะคะ
00:06:25 → 00:06:27 เรามีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มปริมาณ
00:06:27 → 00:06:32 โปรตีนต่อวันเข้าไปด้วยค่ะเข้าใจและค่ะ
00:06:32 → 00:06:35 ทำไมป้าอย่างั้นป้าพูดถึงว่าแต่ละคนเนี่ย
00:06:35 → 00:06:39 มีเอ่อร่างกายแตกต่างกันนะคะบางคนป่วยแต่
00:06:39 → 00:06:42 บางคนก็ไม่ได้ป่วยก็แข็งแรงดีเพราะฉะนั้น
00:06:42 → 00:06:46 คำถามต่อมาที่ทุกคนอยากรู้คือแล้วแต่ละคน
00:06:46 → 00:06:49 ค่ะไม่ว่าจะเป็นวัยเด็กวัยรุ่นวัยทำงาน
00:06:49 → 00:06:54 ผู้สูงอายุเราควรกินโปรตีนวันละเท่าไหร่
00:06:54 → 00:06:57 คะโอเคคิดง่ายๆเลยนะคะถ้าเป็นเบบีถึง 6
00:06:57 → 00:07:00 เดือนกินนมอย่างเดียวนี้ออทนมแม่อย่าง
00:07:00 → 00:07:03 เดียวในน้ำนมแม่มีเท่าไหร่ก็เท่านั้นนะคะ
00:07:03 → 00:07:06 เพียงพอไม่ต้องกินน้ำด้วยนะคะกินนมอย่าง
00:07:06 → 00:07:10 เดียวเลยเพียงพอพอถึง 6 ขวบค่ะนะคะเราจะ
00:07:10 → 00:07:13 เริ่มคำนวณปริมาณโปรตีนที่ต้องการเนี่ย
00:07:13 → 00:07:17 ตามน้ำหนักตัวนะคะแล้วเราก็จะเริ่มเห็น
00:07:17 → 00:07:20 แล้วว่าอ้าแต่ละคนที่น้ำหนักตัวไม่เท่า
00:07:20 → 00:07:22 กันนะคะก็จะมีความต้องการโปรตีนที่ไม่
00:07:22 → 00:07:25 เท่ากันด้วยจริงๆแล้วมันมีสูตรคำนวณที่
00:07:25 → 00:07:28 ค่อนข้างซับซ้อนนิดนึงแต่ถ้าเอาง่ายๆจำ
00:07:28 → 00:07:32 ง่ายๆนะคะก็คือคือน้ำหนักตัวเนี่ยนะคะจะ
00:07:32 → 00:07:35 ต้องการโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กล
00:07:36 → 00:07:39 อ๋อต่อวันป้าหนักเท่าไหร่คะเดี๋ยวป้าถาม
00:07:39 → 00:07:42 แล้วโดยอายุมันต้องสัดส่วนอย่างที่คุณหมอ
00:07:42 → 00:07:46 พูดมคะว่าประมาณนี้เลยประประมาณนี้เลย
00:07:46 → 00:07:50 ทั่วๆกันตั้งแต่ 6 ขวบขึ้นไปทีนี้ก็คือ 1
00:07:50 → 00:07:52 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กลต่อวันป้ายุงน้ำ
00:07:52 → 00:07:55 หนักเท่าไหร่คะป้าในวล 54 อ่า 54 แปลว่า
00:07:55 → 00:08:00 ป้าต้องการโปรตีน 54 กรัมต่อวัน
00:08:00 → 00:08:02 แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่ารับประทานเนื้อ
00:08:02 → 00:08:05 ปลา 54 กรัมแล้วจะได้โปรตีน 54 กรัมนะคะ
00:08:05 → 00:08:08 นะคะจริงๆแล้วมันมีวิธีคิดในแต่ละอาหาร
00:08:08 → 00:08:12 ของมันเช่นเนื้อปลานะคะเอาแบบไม่ติดมัน
00:08:12 → 00:08:16 เลยนะคะเอามาสับๆๆๆแล้วตักขึ้นมา 2 ช้อน
00:08:16 → 00:08:20 โต๊ะได้โปรตีน 7 กรัมค่ะ 2 ช้อนโต๊ะคือ 7
00:08:20 → 00:08:22 กรัมอันนี้ยังไม่ได้ปรุงใช่มยคะยังเลยค่ะ
00:08:22 → 00:08:25 เอาแบบสดๆไม่ติดมันด้วยนะคะ 2 ช้อนเท่า
00:08:25 → 00:08:28 กับ 7 กเนื้อไก่เนื้อหมูก็เหมือนกันต้อง
00:08:28 → 00:08:31 เอาแบบไม่ติดมันนะกินสุดๆเลยนะคะเอามาสับ
00:08:31 → 00:08:34 ตัดขึ้นมา 2 ชนโต๊ะได้ 7 กรัม 7 กรัมโอเค
00:08:34 → 00:08:39 7 กรไข่ไก่ 1 ฟองขนาดกลางถ้ากินทั้งฟอง
00:08:39 → 00:08:43 เลยได้ 7 กรัมอาฮะแต่บางคนไม่กินไข่แดง
00:08:43 → 00:08:46 เออใช่ป้านี่แหละกินครึ่งนึงใช่กิเหลือ
00:08:46 → 00:08:49 3.5 กรัมแล้วค่ะป้าอ๋อเหลือ 3.5 เหลือ
00:08:49 → 00:08:52 ครึ่งเดียวหรือบางคนดื่มนมนะคะนมประมาณ
00:08:52 → 00:08:57 240-250 ML เนี่ยนะคะได้โปรตีน 8 กรัม
00:08:57 → 00:09:00 หรือบางคนไม่กินนมน้ำเต้าหู้กินน้ำ
00:09:00 → 00:09:03 เต้าหู้นมถั่วเหลืองนะคะแก้วนึงก็จะได้
00:09:03 → 00:09:06 โปรตีนประมาณ 5 กรัม 5 กรัมเพราะฉะนั้น
00:09:06 → 00:09:09 ป้ายุงต้องลองคำนวณดูมีพิมพ์เขียวในใจ
00:09:10 → 00:09:15 เล่นๆว่าดูซิ 54 กรัมโปรตีนต่อวันป้ายุง
00:09:15 → 00:09:20 ต้องกินป้าต้องกินอะไรบ้างให้แต่คือควรจะ
00:09:20 → 00:09:23 เกินไม่ควรขาดถูกต้องค่ะอย่างน้อยก็คือ 1
00:09:23 → 00:09:27 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กลกต่อวันทีนี้ถ้า
00:09:27 → 00:09:30 ป้ายุงป่วยแบบเมื่อกี้นะคะป้ายุงจะต้อง
00:09:30 → 00:09:34 เพิ่มขึ้นอีกเป็น 1.2 ถึง
00:09:34 → 00:09:38 1.55 อ๋อต้องเพิ่มกว่าเดิมซึ่งเวลาป่วย
00:09:38 → 00:09:41 เนี่ยนะป้าจะบอกว่ามันไม่อยากกินไงอ่ะเรา
00:09:41 → 00:09:44 ควรจะกินอะไรที่มันแต่ต้องกินเพื่อให้มัน
00:09:44 → 00:09:47 หายไวใช่มั้ยอุ้ยป้าเพิรู้ไม่งั้นป้าไม่
00:09:47 → 00:09:50 เป็น 3-4 วันหรอกป้าน่าจะเป็นวันเดียวหาย
00:09:50 → 00:09:52 นี่จริงค่ะจริงถ้าเกิดว่าภูมิคุ้มกันเรา
00:09:52 → 00:09:55 สู้ได้นะคะเจอกับอะไรร่างกายเราก็สู้ไหว
00:09:56 → 00:09:58 อ่าคุณหมอจ๋าคะนอกจากนี้ค่ะยังมีกลุ่ม
00:09:58 → 00:10:03 เฉพาะมคะที่เขาต้องการโปรตีนเพิ่มจาก 1.2
00:10:03 → 00:10:05 หรือ 1 เอ่อ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัวมีกลุ่ม
00:10:06 → 00:10:09 ไหนที่เฉพาะอีกมคะกลุ่มที่ต้องเน้นย้ำเลย
00:10:09 → 00:10:13 นะคะก็คือกลุ่มที่ต้องการฟื้นฟูร่างกาย
00:10:13 → 00:10:17 อย่างยิ่งยวดนะคะเช่นกำลังป่วยนะคะหรือ
00:10:17 → 00:10:21 ว่าได้รับอุบัติเหตุมีแผลนะคะต้องเข้ารับ
00:10:21 → 00:10:27 การผ่าตัดนะคะหรือว่ามีกระดูกหักออ่านะคะ
00:10:27 → 00:10:31 หรือสร้างกล้ามเนื้อออกลุ่มนี้เนี่ยเขาจะ
00:10:31 → 00:10:34 ต้องเพิ่มเลยค่ะอาจจะต้องเพิ่มเป็น 1.5 -
00:10:34 → 00:10:38 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กลต่อวันนะคะหลาย
00:10:38 → 00:10:40 ๆครั้งถ้าเกิดว่าเราสังเกตนะคะถ้ามีญาติ
00:10:40 → 00:10:43 ของเราอยู่ในโรงพยาบาลแล้วมีอ่าต้องผ่า
00:10:43 → 00:10:47 ตัดนะคะมีแผลใหญ่ที่จำเป็นที่จะต้องรับ
00:10:47 → 00:10:51 การรักษาจนแผลหายดีก่อนนะคะจะมีการสั่ง
00:10:51 → 00:10:54 เลยค่ะว่าต้องการโปรตีนวันละกี่กรัมคุณ
00:10:54 → 00:10:58 หมอจะเขียนเลยว่าโปรตีน 150 กรัมแบบนี้
00:10:58 → 00:11:01 เป็นต้นนะคะก็จะทำให้แผลหายเร็วขึ้นนะคะ
00:11:01 → 00:11:04 ฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วขึ้นแล้วก็สามารถ
00:11:04 → 00:11:07 กลับบ้านได้รวดเร็วขึ้นอเพิ่งรู้นะเนี่ย
00:11:07 → 00:11:09 ใช่ใช่มั้ยคะพ้าเราเพิ่งรู้เนาะว่าเราอ่ะ
00:11:09 → 00:11:12 บางทีเราป่วยเราก็จะรู้สึกว่าเอ๊ะเราก็
00:11:12 → 00:11:15 ไม่ค่อยอยากกินอะไรก็ทานน้ำหวานๆให้ร่าง
00:11:15 → 00:11:17 กายสดชืดแต่จริงๆแล้วไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ
00:11:17 → 00:11:20 คือโปรตีนใช่ใช่โปรตีนสำคัญที่สุดอุป้า
00:11:20 → 00:11:24 เพิรู้นะเนี่ยะเอ่อเราพูดถึงเรื่องของ
00:11:24 → 00:11:27 ปริมาณโปรตีนที่ควรจะทานในแต่ละวันเนาะ
00:11:27 → 00:11:29 เอ่อคราวนี้ค่ะเมื่อกี้หมอพูดไปแล้วว่า
00:11:29 → 00:11:33 มันมีอาหารมีเนื้อเอ่อเนื้อสัตว์มีเนื้อ
00:11:33 → 00:11:36 ปลานอกจากเนี้ยค่ะหลายๆคนยังสงสัยว่าเ้ย
00:11:36 → 00:11:40 จริงๆแล้วเนี่ยโปรตีนในโลกกล้าใบเนี้ยเรา
00:11:40 → 00:11:45 พบจากอาหารชนิดไหนบ้างในเห็ดมีมั้ยในถั่ว
00:11:45 → 00:11:48 มีมั้ยแลปริมาณของโปรตีนในอาหารแต่ละชนิด
00:11:48 → 00:11:51 เนี่ยมันมีคุณค่าแตกต่างกันยังไงคะหมอ
00:11:52 → 00:11:54 เล่าให้ฟังค่ะหลักๆเลยนะคะแหล่งที่มาของ
00:11:54 → 00:11:57 โปรตีนก็มาจาก 2 แหล่งนะคะง่ายๆเลยก็คือ
00:11:57 → 00:11:59 กลุ่มนึงมาจากสัตว์กลุ่มนึงมาจากพืชนะคะ
00:11:59 → 00:12:02 โปรตีนที่มาจากสัตว์นะคะนับว่าเป็น
00:12:02 → 00:12:05 compete โปรตีนหรือว่าโปรตีนสมบูรณ์นะคะ
00:12:05 → 00:12:08 นั่นหมายถึงว่าโปรตีน 1 ชนิดจากสัตว์ 1
00:12:08 → 00:12:11 ชนิดเนี่ยนะคะมีกรดอะมิโนจำเป็นอยู่ในตัว
00:12:11 → 00:12:13 เองครบถ้วนดีอยู่แล้วเพราะฉะนั้นถ้าใคร
00:12:13 → 00:12:16 ที่กินเนื้อสัตว์ได้ใครที่กินโปรตีนจาก
00:12:16 → 00:12:19 สัตว์ได้หมอไม่ค่อยห่วงเลยนะคะส่วนอีก
00:12:19 → 00:12:22 กลุ่มนึงก็คือโปรตีนจากพืชนะคะกลุ่มนี้
00:12:22 → 00:12:24 เนี่ยก็จะมีแหล่งที่มาจากกลุ่มทัวว์
00:12:24 → 00:12:28 ธัญญพืชต่างๆนะคะเห็ดก็มีนะคะหรือว่าจะ
00:12:28 → 00:12:32 เป็นักทองนะคะแอลมอนนะคะก็จะเป็นกลุ่มที่
00:12:32 → 00:12:35 ให้โปรตีนจากพืชค่อนข้างสูงแต่อย่างไรก็
00:12:35 → 00:12:38 ตามโปรตีนจากพืชเป็น incomplete โปรตีน
00:12:38 → 00:12:41 หรือว่าโปรตีนไม่สมบูรณ์ค่ะก็คือ 1
00:12:41 → 00:12:44 โปรตีนจากพืช 1 ชนิดเนี่ยนะคะเขามีกรด
00:12:44 → 00:12:47 อะมิโนจำเป็นไม่ครบถ้วนดังนั้นเราจึงมี
00:12:47 → 00:12:50 ความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องกินโปรตีนจาก
00:12:50 → 00:12:54 พืชหลายชนิดร่วมกันอเพื่อให้ได้กรดอะมิโน
00:12:54 → 00:12:58 จำเป็นครบถ้วนนะคะนอกจากนั้นเนี่ยโปรตีน
00:12:58 → 00:13:01 จากพืชบางชนนะคะอาจจะมีโซเดียมสูงเช่น
00:13:01 → 00:13:06 โปรตีนจากถั่วเขียวถั่ว P ค่ะป้าอ่านะคะ
00:13:06 → 00:13:10 แล้วก็ในพืชเนี่ยไม่มีวิตามิน B12 นะคะ
00:13:10 → 00:13:13 ดังนั้นใครที่ปฏิเสธการกินเนื้อสัตว์เลย
00:13:13 → 00:13:16 นะคะไม่กินผลิตพันธุ์จากสัตว์เลยมีความ
00:13:16 → 00:13:19 จำเป็นที่จะต้องเสริมวิตามิน B12 เข้าไป
00:13:19 → 00:13:22 นะคะเพื่อให้การกินโปรตีนนั้นได้ครบถ้วน
00:13:22 → 00:13:25 นะคะแล้วก็ดูแลร่างกายอย่างปมรวมมากขึ้น
00:13:25 → 00:13:29 ค่ะน่าจะตรงกับที่ป้าทานอยู่ทุกวี่วันเออ
00:13:29 → 00:13:34 ใช่เหมือนปปป้าๆๆเอย่างเงี้ยตลอดเลยนะว่า
00:13:34 → 00:13:37 กินจากถั่วต่างๆเอออีกอันนึงถั่วไอ้ชิกผี
00:13:37 → 00:13:40 เนี่ยค่ะถั่วลูกไก่เนี่ยมันมีโปรตีนมาก
00:13:40 → 00:13:43 กว่าถั่วชนิดอื่นมั้ยคะอ้าก็ถือว่าเป็น
00:13:43 → 00:13:47 กลุ่มที่มีโปรตีนสูงนะคะแต่ว่าถ้าเราจะมา
00:13:47 → 00:13:50 ดูกันว่าคุณสมบัตินะคะของการเป็นโปรตีน
00:13:50 → 00:13:53 ที่มีคุณภาพสูงเนี่ยเขาดูจากค่าที่เรียก
00:13:53 → 00:13:58 ว่า pdc นะคะซึ่ง pdc สูงสุดมีค่าเท่ากับ
00:13:58 → 00:14:02 1 ค่ะอาฮะนะคะตัวที่เป็นไ pdc เท่ากับ 1
00:14:02 → 00:14:06 เลยเนี่ยคือเวโปรตีนอ่าหลังจากนั้นเป็น
00:14:06 → 00:14:09 ไข่ค่ะไข่ก็มี PD แสเท่ากับ 1 ทีนี้พอ
00:14:09 → 00:14:12 เริ่มลงมาเป็นถั่วถั่วที่มีโปรตีนสูงสุด
00:14:12 → 00:14:16 และมีคุณภาพโปรตีนสูงสุดคือถั่วเหลืองอ
00:14:16 → 00:14:20 อ้าลดลงมาหน่อยจะเป็นถั่ว P ลค่ะอ่าแล้ว
00:14:20 → 00:14:23 ก็ค่อยๆลดหลังกันลงมาถั่วเหลืองมากที่สุด
00:14:23 → 00:14:26 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราชอบนะคะถั่วบางชนิด
00:14:26 → 00:14:28 นะคะซึ่งเราก็รู้แหละว่ามันอาจจะโปรตีน
00:14:28 → 00:14:31 น้อยหน่อยคุณภาพโปรตีนน้อยหน่อยก็อาจจะ
00:14:31 → 00:14:35 เพิ่มปริมาณหรือขยับไปกินถั่วเหลืองที่
00:14:35 → 00:14:39 เขามีค่าความเป็นคุณภาพของโปรตีนสูงสัก
00:14:39 → 00:14:42 หน่อยสักวันละเล็กละน้อยอย่างโปรตีนจาก
00:14:42 → 00:14:44 ถั่วเหลืองเนี่ยถ้าป้าไม่ไม่กินในรูปของ
00:14:44 → 00:14:48 ถั่วเหลืองป้ามาเป็นเต้าหู้ป้ามาเป็น
00:14:48 → 00:14:51 เปลี่ยนเป็นเต้าหู้แทนอย่างเงี้ยมันได้ม
00:14:51 → 00:14:55 คะได้เลยนะคะก็เราอาจจะใส่ใจกับกระบวนการ
00:14:55 → 00:14:58 ที่มาของเต้าหู้นิดนึงนะคะว่าเขาทำมา
00:14:58 → 00:15:01 อย่างไรและมีการใส่สารอื่นๆองค์ประกอบ
00:15:01 → 00:15:05 อื่นๆเพิ่มหรือไม่เช่นถ้าเป็นเต้าหู้แล้ว
00:15:05 → 00:15:09 เอาไปชุบแป้งนิดนึงทอดอีกนิดนึงนะคะนอก
00:15:09 → 00:15:12 จากที่เราจะได้โปรตีนมาเราก็อาจจะได้ของ
00:15:12 → 00:15:15 แถบเป็นส่วนอื่นๆด้วยเป็นต้นค่ะเข้าใจ
00:15:15 → 00:15:18 แล้วเข้าใจแล้วอืก็เพราะเราใช้เต้าหู้
00:15:18 → 00:15:20 เป็นหลักอยู่อ่ะคใช่ป้าใช้เต้าหู้แต่ว่า
00:15:20 → 00:15:23 เต้าหู้ของเราถ้าให้ healy ก็คือเราใช้
00:15:23 → 00:15:26 กระบวนการ1ึอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยค่ะที่ไม่
00:15:26 → 00:15:30 ได้รับเอาไขมันส่วนเกินมาแต่ทุกวันนี้ป้า
00:15:30 → 00:15:33 ก็ทานแล้วแค่จี่นิดๆอ่ะคะก็เพื่อความ
00:15:33 → 00:15:36 อร่อยก็ได้อยู่นะคะอาจจะเลือกชนิดของน้ำ
00:15:36 → 00:15:39 มันค่ะนะคะให้มีโอเมก้า 6 ที่น้อยมี
00:15:39 → 00:15:42 โอเมก้า 9 ที่เยอะขึ้นอ๋ในส่วนของอาหารพอ
00:15:42 → 00:15:45 จะเห็นภาพแล้วใช่มั้ยคะคุณหมอว่ามีทั้ง
00:15:45 → 00:15:48 ที่เป็นโปรตีนจากพืชโปรตีนที่เป็นจาก
00:15:49 → 00:15:52 สัตว์เนาะคราวนี้ค่ะสำหรับคนที่ทาน
00:15:52 → 00:15:55 มังสวิรัตหรือทานเจอ่ะค่ะที่ไม่ทานเนื้อ
00:15:55 → 00:15:58 สัตว์เลยทานแต่ถั่วแล้วเาควรจะทานถั่วยัง
00:15:58 → 00:16:01 ไงเพื่อให้ได้รับโปรตีนครบถ้วนแล้วก็ไม่
00:16:01 → 00:16:05 ทำลายสุขภาพค่ะค่ะอย่างน้อยๆนะคะใน 1 วัน
00:16:05 → 00:16:09 เนี่ยให้เลือกทานธัญญพืชถั่วนะคะหรือว่า
00:16:09 → 00:16:12 พืชที่มีโปรตีนเนี่ยนะคะอย่างน้อย 5 ชนิด
00:16:12 → 00:16:15 5 ชนิดที่หลากหลายนะคะต้อง 5 คือถ้าให้
00:16:15 → 00:16:18 ดีเนี่ยคือคือเราเนี่ยก็ควรจะไปเปิดดู
00:16:18 → 00:16:21 แหละว่ามันให้อะมิโนแอซิดอะไรแต่มันจะใช้
00:16:21 → 00:16:24 ชีวิตยากไปค่ะบ้านะคะเอาเป็นว่ากินให้
00:16:24 → 00:16:28 หลากหลายอย่ากินของอย่างเดียวซ้ำๆซ้ำๆทุก
00:16:28 → 00:16:31 วันอนะคะหรือว่าไม่ใช่ว่าใน 1 วันกินแต่
00:16:31 → 00:16:34 ถั่วเหลืองอย่างเดียวเลยนะคะให้พยายามิ
00:16:34 → 00:16:37 กินให้หลากหลายนะคะเพราะว่าแต่ละอันเนี่ย
00:16:37 → 00:16:40 เขาก็จะขาดอมินแอซิดบางตัวบางตัวบางตัว
00:16:40 → 00:16:43 ที่อาจจะไม่เหมือนกันแล้วอีกอย่างนึงที่
00:16:43 → 00:16:46 ป้าชอบทานแล้วคิดว่าน่าจะมีโปรตีนเช่นกัน
00:16:46 → 00:16:49 คือมิกนัคุณหมอบางทีพี่ไปที่เ่อในห้าง
00:16:49 → 00:16:52 สรรพสินค้าเราก็จะเห็นโหถั่ว 10 ชนิดอยู่
00:16:52 → 00:16:56 ในช่องแล้วก็ให้เราตักสนุกเลยนะมิกแอลมอน
00:16:56 → 00:16:59 มาคาเดเมียพิตาชิโออันนี้ก็คือคือเป็น
00:16:59 → 00:17:02 โปรตีนที่มีคุณภาพมคะถือว่าเป็นทางเลือก
00:17:02 → 00:17:06 ที่ดีเลยเป็นโปรตีนที่หลากหลายนะคะอย่าง
00:17:06 → 00:17:08 ที่บอกว่าถ้าเขามีให้เราเลือกหลายอย่าง
00:17:08 → 00:17:11 อย่างน้อยๆเราเลือกสัก 5 ชนิดค่ะนะคะทำ
00:17:11 → 00:17:13 ให้เราแบบมีความหลากหลายในสารอาหารที่เรา
00:17:13 → 00:17:16 ได้รับนะคะอะมิโนแอิก็ได้รับหลากหลายพอ
00:17:16 → 00:17:19 มันผสมกันแล้วก็ครบถ้วนจนเป็น compte
00:17:19 → 00:17:22 โปรตีนจากการผสมผสานในที่สุดค่ะแล้วถ้า
00:17:23 → 00:17:26 เรากินถั่วเหล่านี้มากเกินไปจะเกิดอะไร
00:17:26 → 00:17:29 ขึ้นค่ะอส่วนมากถั่วเนี่ยนะคะจะมีมีใย
00:17:29 → 00:17:32 อาหารเยอะนะคะคนสูงอายุหรือว่าคนที่มี
00:17:32 → 00:17:34 ปัญหาเรื่องการย่อยเนี่ยคะอาจจะท้องอืด
00:17:34 → 00:17:38 น่านะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าใครจะต้องการ
00:17:38 → 00:17:41 รับโปรตีนจากถั่วนะคะแนะนำให้ค่อยๆกินกิน
00:17:41 → 00:17:45 ทีละน้อยๆแบ่งเป็นหลายๆมื้อนะคะแทนที่จะ
00:17:45 → 00:17:49 กินทีเดียวเยอะๆนะคะเช้านิดนะคะระหว่าง
00:17:49 → 00:17:53 มื้อหน่อยนะคะกลางวันอีกหน่อยไม่ใช่ทานที
00:17:53 → 00:17:56 เดียวเยอะๆเลยใช่ก็อาจจะทำให้ท้องอึดย่อย
00:17:56 → 00:17:59 ยากนะคะแล้วก็อาจจะทำให้ผายลมด้วยค่ะออื
00:17:59 → 00:18:01 สนุกเลยค่ะป้าที
00:18:01 → 00:18:06 นี้สนุกค่ะป้ายุงได้เทคนิคการกินโปรตีน
00:18:06 → 00:18:09 เยอะมากเลยแต่ว่ายังไม่พอค่ะอยากให้ป้า
00:18:09 → 00:18:12 ยุงเป็นตัวแทนหมู่บ้านในกลุ่ม aging ที่
00:18:12 → 00:18:15 ยัง Healthy มากๆยังแข็งแรงอยู่ป้ายุง
00:18:15 → 00:18:18 อยากถามคุณหมอจ่าใช่มั้ยคะว่าวิธีการทาน
00:18:18 → 00:18:21 โปรตีนที่เฉพาะในกลุ่มแบบผู้สูงอายุ
00:18:21 → 00:18:24 เดี๋ยวเก๋จะถามในส่วนคนทำงานของเก๋ป้าป้า
00:18:24 → 00:18:28 ยุงเออที่ป้าอยากถามคือสำหรับกลุ่มอายุ
00:18:28 → 00:18:32 เยอะกว่าคุณหมอหน่อยเยทานโปรตีนอย่างที่
00:18:32 → 00:18:35 ป้าทานเนี่ยเพียงพอมอ่ะสมมุติป้าดื่มน้ำ
00:18:35 → 00:18:38 เต้าหู้ค่ะป้าโยเกิตป้ากินโยเกิร์ตกับ
00:18:38 → 00:18:41 ข้าวโอ๊ตอ่าแล้วป้าก็อะไรอีกอ่ะมิกนัชคือ
00:18:41 → 00:18:44 ถั่วต่างๆไอ้ 5 ชนิดเนี่ยนะแล้วก็ข้าว
00:18:44 → 00:18:47 ไรเบอร์รี่หรือข้าวกล้องอ่าประมาณเนี้ย
00:18:47 → 00:18:49 ที่ป้าทานอยู่แล้วก็ป้าไม่ทานเนื้อสัตว์
00:18:49 → 00:18:52 ใหญ่ก็จะเป็นปลาเป็นปลาเป็นกุ้งอะไรเหล่า
00:18:52 → 00:18:56 เแทนแล้วก็ผักสลัดผักแล้วก็ผักน้ำพริกผัก
00:18:56 → 00:18:59 ต้มผักลวกเหล่าเนี้ยคิดว่าเพียงพอสำหรับ
00:18:59 → 00:19:04 วัยอย่างบ้ามยคะอ่าอย่างไรก็ตามสวแล้วกัน
00:19:04 → 00:19:08 นะคะอ่าน่ารักมากสวก็ยังต้องการโปรตีน 1
00:19:08 → 00:19:11 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กลเหมือนกันต่อวัน
00:19:11 → 00:19:15 เช่นกันนะคะแต่ทีนี้เนี่ยนะคะมันจะมี
00:19:15 → 00:19:18 ปัญหาสุภาพนิดนึงที่สำคัญมากๆนะคะก็คือ
00:19:18 → 00:19:22 กลุ่มสวเนี่ยนะคะจะมีตุ่มรับรถที่ทำหน้า
00:19:22 → 00:19:28 ที่น้อยลงทุกรสเลยยกเว้นตุ่มรับรสหวานอื
00:19:28 → 00:19:32 กินอาหารแล้วจัดขึ้นเราจะกินของหวานออ
00:19:32 → 00:19:37 แล้วอร่อยกว่าคนวัยอื่นๆอออ้านะคะเพราะ
00:19:37 → 00:19:41 ฉะนั้นในอาหารที่สวกินแล้วอร่อยอ่ะค่ะมัน
00:19:41 → 00:19:45 ก็มักจะหวานนะคะกินแล้วรู้สึกว่าแบบมัน
00:19:45 → 00:19:49 แบบสดชื่นที่สุดนะคะอร่อยที่สุดนะคะดัง
00:19:49 → 00:19:53 นั้นถ้าเราจะเลือกนะคะกินโปรตีนนะคะเรา
00:19:53 → 00:19:56 อาจจะเลือกหลากหลายอย่างที่ป้าบอกแล้วก็
00:19:56 → 00:19:59 อย่าลืมคำนวณค่ะคำนวณให้ได้ได้โปรตีนต่อ
00:19:59 → 00:20:03 วันเนี่ย 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กลต่อวัน
00:20:03 → 00:20:06 แลก็กินหลากหลายอย่างป้าที่ป้าบอกมาถ้า
00:20:06 → 00:20:09 ป้ายังกินเนื้อปลาอยู่หมอไม่ห่วงและอย่าง
00:20:09 → 00:20:12 น้อยๆได้คพตโปรตีนเข้าไปและนะคะแต่ระมัด
00:20:12 → 00:20:15 ระวังในการเลือกกินโปรตีนที่มันมีการปรุง
00:20:15 → 00:20:20 แต่งที่ทำให้มันหวานขึ้นอร่อยขึ้นนะคะใน
00:20:20 → 00:20:22 กลุ่มนี้เนี่ยก็จะทำให้สวเนี่ยชื่นชอบ
00:20:22 → 00:20:25 เป็นพิเศษนะคะลูกหลานเนี่ยมักจะรู้สึกว่า
00:20:25 → 00:20:29 โอแม่กินอะไรได้กินเถอะกินเถอะแเห็นก็ดี
00:20:29 → 00:20:31 ใจแล้วนะคะแต่บางครั้งเนี่ยพฤติกรรมเล็กๆ
00:20:31 → 00:20:34 ที่เราทำต่อเนื่องทุกวันเนี่ยค่ะอาจจะนำ
00:20:34 → 00:20:38 ไปสู่ปัญหาสุขภาพบางอย่างนะคะรวมถึงสว
00:20:38 → 00:20:42 เนี่ยนะคะเคลื่อนไหวน้อยลงอ่านะคะเผาผลาญ
00:20:42 → 00:20:46 น้อยลงดังนั้นบางครั้งป้ายุงจะรู้สึกว่า
00:20:46 → 00:20:49 กินนิดเดียวเองอ่ะน้ำขึ้ป้าเคยไปหาคุณหมอ
00:20:49 → 00:20:51 ที่โรงพยาบาลว่าเฮ้ยพักนี้เราก็ทานเหมือน
00:20:51 → 00:20:55 เดิมนะทานแบบสุขภาพแบบเเหมือนเดิมทำไมน้ำ
00:20:55 → 00:20:58 หนักมันจะเริ่มขึ้นนิดๆคุณมบอกอ๋อไวบ้าน
00:20:58 → 00:21:03 นี่นะแค่ดมอ่ะน้ำหนักก็ขึ้นแล้วเลยเริ่มง
00:21:03 → 00:21:06 ทำไงวะเอจีดเลยจี๊ดใจจี๊ดใจมากเลยรวมไป
00:21:06 → 00:21:10 ถึงฮอร์โมนนะคะการเผาผลาญที่ลดลงนะคะแล้ว
00:21:10 → 00:21:12 ก็ activity ต่างๆที่ลดลงเนี่ยก็ยิ่งทำ
00:21:12 → 00:21:17 ให้การเผาผลาญมันน้อยนะคะดังนั้นนะคะถ้า
00:21:17 → 00:21:19 สวกินแต่ของอร่อยกินแต่ของที่ชอบนะคะแล้ว
00:21:19 → 00:21:21 ก็ไม่มีพิมพ์เขียวในใจในเรื่องของการกิน
00:21:21 → 00:21:25 โปรตีนให้พอเป็นไปได้ยากมากที่จะกิน
00:21:25 → 00:21:29 โปรตีนต่อวันเพียงพอออคะแล้วก็จะทำให้
00:21:29 → 00:21:32 อ้วนง่ายนะคะใช่น้ำหนักขึ้นง่ายมากน้ำ
00:21:32 → 00:21:35 หนักขึ้นง่ายนะคะแล้วก็จะมีภาวะที่พบมาก
00:21:35 → 00:21:39 ในสวก็คือ sarcopenia obesity นะคะก็คือ
00:21:39 → 00:21:44 ภาวะมวลกล้ามเนื้อน้อยแต่อ้วนออ้าบางคนจะ
00:21:44 → 00:21:47 รู้สึกว่าก็ตัวใหญ่ดีนะคะน่าจะแข็งแรงแต่
00:21:47 → 00:21:50 จริงๆแล้วในความตัวโตตัวอ้วนนั้นนะคะม้วล
00:21:50 → 00:21:54 กล้ามเนื้อบางมากน้อยมากอืก็จะส่งผลกระทบ
00:21:54 → 00:21:59 ไปสู่การทรงตัวการช่วยเหลือตัวเองออืนะคะ
00:21:59 → 00:22:02 โดยเฉพาะการเปลี่ยนนแปลงชีวิตครั้งยิ่ง
00:22:02 → 00:22:06 ใหญ่ของสวก็คือการล้มค่ะการล้ม 1 ครั้งออ
00:22:06 → 00:22:10 นะคะเปลี่ยนชีวิตสวไปตลอดกาลรวมถึง
00:22:10 → 00:22:13 เปลี่ยนบรรยากาศในครอบครัวโดยรวมไปด้วยนะ
00:22:13 → 00:22:16 คะเพราะฉะนั้นโปรตีนในผู้สูงวัยไม่ได้แค่
00:22:16 → 00:22:19 ช่วยเรื่องภาวะโภชนาการเท่านั้นนะคะแต่
00:22:19 → 00:22:22 ยังช่วยในเรื่องของการทรงตัวคุณภาพชีวิต
00:22:22 → 00:22:24 และการช่วยเหลือตัวเองในระยะยาวของผู้สูง
00:22:24 → 00:22:27 อายุด้วยคคือเสริมสร้างมวลกระดูกด้วยใช่
00:22:27 → 00:22:32 มั้ยคะกล้ามเนื้อมวกระดูกนะคะแล้วก็ทำให้
00:22:32 → 00:22:34 ช่วยเหลือตัวเองได้มีความมั่นใจในการใช้
00:22:34 → 00:22:37 ชีวิตประจำวันทำให้ผู้สูงอายุเนี่ยรู้สึก
00:22:37 → 00:22:41 ว่าออกไปไหนนะคะพอไปพบเจอใครทำกิจกรรม
00:22:41 → 00:22:45 อะไรก็รู้สึกมั่นใจนะคะอันเนี้ยก็จะเป็น
00:22:45 → 00:22:48 สิ่งที่มากไปกว่าเรื่องของภาวะโภชนาการ
00:22:48 → 00:22:51 คือนอกจากอ่าเรื่องเรื่องโภชนาการอย่าง
00:22:51 → 00:22:53 ที่คุณหมอบอกเนี่ยการออกกำลังกายนี่มัน
00:22:53 → 00:22:57 ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อมวลกระดูกค่ะ
00:22:57 → 00:23:00 ได้บ้างมคะการออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย
00:23:00 → 00:23:04 นะคะแนะนำเป็นการออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน
00:23:04 → 00:23:08 อ้านะคะอาจจะไม่ได้ถึงกับไปจ๊อกกิ้งเร็วๆ
00:23:08 → 00:23:12 แต่มีแรงต้านนั้นหมายถึงว่ามีเวทมีน้ำ
00:23:12 → 00:23:17 หนักต้านการทำงานของกล้ามเนื้อนะคะก็จะทำ
00:23:17 → 00:23:21 ให้กล้ามเนื้อเนี่ยได้มีการขยับและนำ
00:23:21 → 00:23:25 โปรตีนที่เรากินเนี่ยเข้าไปเสริมอ๋อใน
00:23:25 → 00:23:28 กล้ามเนื้อโอ๊เพิ่งรู้ค่ะเดี๋ยวขอน่าเจอ
00:23:28 → 00:23:32 กันนะป้าจะเป็นคนใหม่นี่ป้าจะต้องยังไงนะ
00:23:33 → 00:23:38 ป้าน้ำหนักลด้วนกันัวเยอะมากแข็งแรงป้าจะ
00:23:38 → 00:23:42 ต้องเดินแบบได้หากหลายรอบใช่จะตัวเ่าหมอ
00:23:42 → 00:23:46 จ๋านี่แหละค่ะอันนี้ก็คือเทคนิคการทาน
00:23:46 → 00:23:51 โปรตีนสำหรับสผู้สูงอายุอ่าสวเนาะคราวนี้
00:23:51 → 00:23:55 ค่ะอยากถามในตัวแทนหมู่บ้านของคนวัยทำงาน
00:23:55 → 00:23:57 เรารู้แหละว่าวัยทำงานเนี่ยนอกจากต้องดู
00:23:58 → 00:24:00 แลเขครอบครัวดูแลตัวเองดูแลคุณพ่อคุณแม่
00:24:00 → 00:24:03 สวของเราแล้วเนี่ยค่ะเอ่อเวลาทำงานเต้อง
00:24:03 → 00:24:07 ใช้สมองเยอะมากเลยเพราะฉะนั้นวิธีการทาน
00:24:07 → 00:24:11 โปรตีนที่ดีต่อสุขภาพของคนวัยทำงานนะคะ
00:24:11 → 00:24:16 หมอจ๋ามีคำแนะนำไโปรตีนสำหรับวัยทำงานนะ
00:24:16 → 00:24:22 คะจะบอกว่าหาง่ายหง่ากินได้มีเงินซื้อนะ
00:24:22 → 00:24:27 คะแล้วก็มีเวลาที่จะเตรียมแต่ว่ามักจะถูก
00:24:27 → 00:24:32 บั่นทอนโดยการการเร่งรีบอ่านะคะคนกลุ่ม
00:24:32 → 00:24:35 นี้เนี่ยนะคะต้องการการกินโปรตีนที่ง่าย
00:24:35 → 00:24:37 ดังนั้นโปรตีนสำหรับวัยทำงานนะคะก็ควรจะ
00:24:37 → 00:24:40 เป็นโปรตีนที่รับประทานง่ายเตรียมได้
00:24:40 → 00:24:44 สะดวกรวดเร็วนะคะเรียกว่า 1 แก้ว 1 มื้อ 1
00:24:44 → 00:24:46 คอชั่น 1 จ่านเนี่ยนะคะควรจะสามารถที่จะ
00:24:46 → 00:24:50 รับประทานได้หมดในเวลาไม่นานนะคะเตรียมไว
00:24:50 → 00:24:55 ๆกินได้ง่ายๆเร็วๆนะคะแล้วก็เหมาะกับการ
00:24:56 → 00:24:59 ที่จะนำไปใช้อย่างรวดเร็วนะคะเพิ่มความจำ
00:25:00 → 00:25:03 เพิ่มสมาธิในการทำงานและสิ่งที่ต้องระวัง
00:25:03 → 00:25:07 ก็คือการกินเลี้ยงในตอนเย็นออ่านะคะ
00:25:07 → 00:25:11 เลี้ยงยากมาในบางบางกลุ่มกลุ่มวัยทำงานก็
00:25:11 → 00:25:14 จะเป็นกลุ่มที่รู้สึกว่าจะต้องแบบให้
00:25:14 → 00:25:17 รางวัลตัวเองนะคะหรือว่าพบปสังสรรค์ใน
00:25:17 → 00:25:20 มื้อเย็นนะคะก็จะกลายเป็นมื้อที่ท่วมท้น
00:25:20 → 00:25:24 ไปด้วยสารอาหารซึ่งอาจจะรวมทั้งอาหารที่
00:25:24 → 00:25:27 ดีและอาหารที่ไม่ดีนะคะอันนี้แหละค่ะก็จะ
00:25:27 → 00:25:31 เป็นสิ่งที่จะต้องระมัดระวังแล้วก็ควบคุม
00:25:31 → 00:25:35 นะคะเช่นไปได้นะแต่ว่าอย่าไปทุกวันค่ะใจ
00:25:35 → 00:25:38 เย็นๆก่อนนะคะอาทิตย์นึงนะคะอาจจะกำหนด
00:25:38 → 00:25:41 ไว้ว่าเราจะไปไม่เกินอาทิตย์ละ 1 ครั้งนะ
00:25:41 → 00:25:43 คะเพื่อที่จะทำให้เราเนี่ยดูแลร่างกายได้
00:25:44 → 00:25:46 ง่ายขึ้นนะคะแล้วก็ไม่ได้ประสบกับภาวะ
00:25:46 → 00:25:51 โภชนาการเกินนะคะมากเกินไปค่ะถามเทคนิค
00:25:51 → 00:25:55 ค่ะเมื่อกี้หมอบอกว่าเราต้องทานโปรตีนที่
00:25:55 → 00:25:58 เเรียกอะไรใช้เวลาในการทานแบบแเดียวเนอ
00:25:58 → 00:26:00 เพราะว่าส่วนใหญ่ก็ต้องตื่นเช้าก็ต้องรีบ
00:26:00 → 00:26:04 ไปทำงานแล้วเนอะส่งลูกหรืออะไรก็ตามอยาก
00:26:04 → 00:26:07 ให้คุณหมอแนะนำค่ะอาหารที่เหมาะกับวัยทำ
00:26:07 → 00:26:10 งานที่โอชีวิตต้องเร่งรีบมีเวลาน้อยเหลือ
00:26:10 → 00:26:13 เกินเาควรจะทานอะไรเพื่อให้เอ่อได้รับ
00:26:13 → 00:26:17 โปรตีนแงพอคะถ้ายังพอมีเวลาอยู่บ้างแล้ว
00:26:17 → 00:26:19 อยากจะปรุงเล็กๆน้อยๆนะคะอย่างเช่นเมื่อ
00:26:20 → 00:26:23 กี้พ้ายุงบอกว่าแซลมอนสักชิ้นนึงนะคะอาจ
00:26:23 → 00:26:26 จะเอามาจี่ในน้ำมันมะกอกน้อยๆนะคะอาจจะมี
00:26:26 → 00:26:29 ส่วนที่แบบสุกบ้างดิบบ้างนิดหน่อยคะแล้ว
00:26:29 → 00:26:32 ก็ทานได้เลยในตอนเช้านะคะเท่านี้ก็จะแบบ
00:26:32 → 00:26:35 อ่ะทำได้สดวกรวดเร็วนะคะแล้วก็ได้โปรตีน
00:26:35 → 00:26:38 ไปเต็มๆแต่ถ้าบางคนไม่มีเวลาเลยอย่างน้อย
00:26:38 → 00:26:42 ๆเนี่ยนะคะขอให้คว้านมสักแก้วนึงโยเกิร์ต
00:26:42 → 00:26:45 สักถ้วยนึงขึ้นล้นไปนะคะอย่างน้อยๆเนี่ย
00:26:45 → 00:26:48 ตอนเช้าเนี่ยเป็นช่วงที่เราต้องการโปรตีน
00:26:48 → 00:26:51 เพื่อปลุกร่างกายนะคะทำให้โดปามีนเนี่ย
00:26:51 → 00:26:54 ถูกบูสขึ้นมานะคะแล้วก็ทำให้เรามีความ
00:26:54 → 00:26:57 กระฉับกระเฉงในการเริ่มต้นวันใหม่นะคะก็
00:26:57 → 00:26:59 จะง่ายขึ้น
00:26:59 → 00:27:02 ใช่หรือบางคนบอกว่าขอเป็นโปรตีนเชคก็ได้
00:27:03 → 00:27:06 เหมือนกันนะคะเลือกในวิถีชีวิตที่เรา
00:27:06 → 00:27:09 เหมาะนะคะชอบแล้วรู้สึกว่าสามารถที่จะทำ
00:27:09 → 00:27:12 ได้อย่างมีความสุขนะคะไม่ต้องฝืนจนเกินไป
00:27:12 → 00:27:15 ก็จะเป็นการที่ทำให้เราได้รับโปรตีนอย่าง
00:27:15 → 00:27:21 ครบถ้วนเพียงพอแล้วก็ไม่ฝืนใจเาฝืค่ะขอ
00:27:21 → 00:27:24 อีกกลุ่มนึงค่ะเป็นตัวแทนคุณแม่ตัวแทนคุณ
00:27:24 → 00:27:28 แม่เด็กๆวัยรุ่นหรือว่ากำลังเ่ออยู่มอ
00:27:28 → 00:27:30 ปลายเตรียมเข้ามหาลัยกลุ่มนี้ก็มีความ
00:27:31 → 00:27:34 ต้องการโปรตีนค่ะสูงอยู่เหมือนกันใช่มั้ย
00:27:34 → 00:27:37 คะแล้วเขาควรจะเลือกยังไงให้เขากลายเป็น
00:27:37 → 00:27:40 แบบได้รับโปรตีนที่เพียงพอและดีต่อสุขภาพ
00:27:40 → 00:27:43 กลุ่มนี้นะคะจะเป็นกลุ่มที่มีการเจริญ
00:27:43 → 00:27:46 เติบโตแบบก้าวกระโดดนะคะจะสังเกตเห็นว่า
00:27:46 → 00:27:50 น้องๆที่อยู่ประมาณม 2 ม 3 14-1 เนี่ยนะ
00:27:50 → 00:27:53 คะเผลอแป๊บเดียวค่ะปิดเทอมเดียวเสูง
00:27:53 → 00:27:56 กระโดดขึ้นมาเลยนะคะซึ่งกลุ่มนี้ก็จะเป็น
00:27:56 → 00:28:01 กลุ่มที่ activity ก็สูงดอชบกีาดทุกอย่า
00:28:01 → 00:28:04 เข้ากลุ่มกับเพื่อนนะคะแล้วก็อาจจะมีการ
00:28:04 → 00:28:07 แข่งกันสูงอ่าแข่งสูงเดี๋ยวนี้แข่งกล้าม
00:28:07 → 00:28:10 ด้วยค่ะต้องกินโปรตีนต้องเพิ่มก้าม
00:28:10 → 00:28:13 ประสบการณ์ตรงของคุณแม่แม่คุณแม่รูวัย
00:28:13 → 00:28:17 รุ่นนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยนอกจากโปรตีนตาม
00:28:17 → 00:28:20 ปกติที่ต้องการต่อวันถ้าน้องๆมีกิจกรรม
00:28:20 → 00:28:23 เพิ่มขึ้นจำเป็นที่จะต้องเพิ่มขึ้นด้วยนะ
00:28:23 → 00:28:26 คะโดยเฉพาะในช่วงของการยืดกระดูกนะคะ
00:28:26 → 00:28:29 กระดูกที่ยืดเร็วเนี่ยกล้ามเนื้อก็ต้อง
00:28:29 → 00:28:32 ยืดตามค่ะนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยอย่างน้อยๆ
00:28:32 → 00:28:34 โปรตีนสำหรับกลุ่มนี้ควรจะเพิ่มเป็น
00:28:34 → 00:28:39 ประมาณ 1.5 กัต่อน้ำหนักตัว 1 กลต่อวันนะ
00:28:39 → 00:28:43 คะส่วนน้องๆที่เขาแบบว่าอาจจะแบบ activity
00:28:43 → 00:28:45 น้อยหน่อยนะคะก็อาจจะไม่ได้ซีเรียสใน
00:28:45 → 00:28:48 เรื่องโปรตีนมากนักนะคะอเป็นเคล็ดลับเนคะ
00:28:48 → 00:28:50 ป้าเนอะเพราะฉะนั้นเราก็กลับมาดูที่
00:28:50 → 00:28:54 ไลฟ์สไตล์เราไลฟ์สไตล์ลูกเราแล้วก็คนใน
00:28:54 → 00:28:56 ครอบครัวเราต้องประกอบกันเนาะเพื่อจะให้
00:28:56 → 00:29:00 รู้ว่าเราควรจะทานโโตีนแค่ไหนให้เพียงพอ
00:29:00 → 00:29:02 ค่ะเมื่อกี้คุณหมอพูดเลยอยากถามต่อเลยค่ะ
00:29:02 → 00:29:04 ว่าเราพูดถึงแล้วว่าเนี่ยถ้าเป็นลูกวัย
00:29:05 → 00:29:07 รุ่นแล้วเมีต้องแอคทีฟเนาะเล่นกีฬาเต้อง
00:29:07 → 00:29:11 ได้โปรตีนเพิ่มขึ้นแต่กรณีว่าเฮ้ยจริงๆ
00:29:11 → 00:29:14 แล้วมันขาดน่ะเพราะว่าทานไม่ถึงแต่ก็คือ
00:29:14 → 00:29:18 ทานยังทานปกติเราจะทราบหรือว่าจะรู้ได้
00:29:18 → 00:29:22 ยังไงคะว่าลูกเราตัวเราเองหรือว่าคุณพ่อ
00:29:22 → 00:29:26 คุณแม่เราเนี่ยมีอาการสะภาวะขาดโปรตีน
00:29:26 → 00:29:29 อยากให้คุณหมอยังอีกรอบนึงอือสัญญาณการ
00:29:29 → 00:29:33 ขาดีนนะคะกว้างมากเนื่องจากว่าโปรตีนมัน
00:29:33 → 00:29:36 หน้าที่เยอะใช่มคะเพราะฉะนั้นเขจะบ่งบอก
00:29:36 → 00:29:40 สัญญาณออกมาเนี่ยในหลากหลายภาวะสุขภาพ
00:29:40 → 00:29:45 เริ่มจากอ่อนเพลียตื่นมาไม่สดชื่นเลยนะคะ
00:29:45 → 00:29:49 ป่วยบ่อยค่ะเป็นหวัดง่ายแถมยังหายช้าอีก
00:29:49 → 00:29:54 นะคะถ้ามีแผลมีสิวก็หายช้าอเด็กๆอย่าง
00:29:54 → 00:29:56 เงี้ยค่ะนะคะจะเห็นเลยว่าพอเาเป็นแผลเป็น
00:29:56 → 00:29:59 สิวเนี่ยนะคะกลุ่มที่ไม่ค่อยกินโปรตีนกิน
00:30:00 → 00:30:04 แต่ขนมเนี่ยแผหายช้ามากอออ่านะคะหรือบาง
00:30:04 → 00:30:07 คนรู้สึกอ่อนเพลียง่ายนะคะรู้สึกว่าทำ
00:30:07 → 00:30:10 อะไรก็ไม่ค่อยมีแรงกล้ามเนื้อน้อยๆพร้อม
00:30:11 → 00:30:15 แห้งนะคะแต่ในช่วงวัยเด็กค่ะเขาจะเก่งตรง
00:30:15 → 00:30:19 ที่ถ้าเกิดว่าเขาโปรตีนน้อยนะคะเขาจะ
00:30:19 → 00:30:20 สามารถที่จะ
00:30:20 → 00:30:25 สลายกล้ามเนื้อของเขาอ่ะค่ะออกมาใช้ได้
00:30:25 → 00:30:28 อ่าแต่ว่าก็ไม่ได้เป็นผล
00:30:28 → 00:30:31 สู้กินให้พอตั้งแต่แรกนะคะก็จะมีประโยชน
00:30:31 → 00:30:34 มากกว่าหมายความว่าเฉพาะเด็กใช่ไหคะถ้า
00:30:34 → 00:30:37 พี่หรือว่าป้ายุงไม่สามารถสลายออกมาใช้้า
00:30:37 → 00:30:41 สของที่เก็บอยู่มันก็ไม่เยอะอยู่แล้วทำ
00:30:41 → 00:30:44 ดีเพราะฉะนั้นเราต้องทานให้พอเพราะเรา
00:30:44 → 00:30:47 สลายไม่ได้เราไม่ใช่เด็ก
00:30:47 → 00:30:50 ๆรู้แล้วรคลังของเราเริ่มร่อยหรอแล้วค่ะ
00:30:51 → 00:30:54 เราเริ่มร่อยหรอนะคะนอกจากนั้นก็ยังมีอีก
00:30:54 → 00:30:57 กลุ่มนึงนะคะเป็นปัญหาในเรื่องของความจำ
00:30:57 → 00:31:02 สธิไม่ค่อยดีนะคะหลงๆลืมๆนะคะคิดคำนวณนะ
00:31:02 → 00:31:06 คะตัดสินใจช้ากลุ่มนี้ก็ทำให้เราสงสัยได้
00:31:06 → 00:31:10 นะคะว่าอาจจะขาดโปรตีนนะคะรวมไปถึงนะคะ
00:31:10 → 00:31:14 กลุ่มที่ทำให้เรารู้สึกว่าฮอร์โมนมีปัญหา
00:31:14 → 00:31:19 นะคะเช่นอ้วนง่ายค่ะมีริ้วรอยง่ายแก่เร็ว
00:31:19 → 00:31:21 อืมองทาง
00:31:21 → 00:31:24 อื่นนะคะกลุ่มอาการเหล่านี้นะคะก็จะเป็น
00:31:25 → 00:31:28 สัญญาณที่บอกเราแล้วนะคะว่าเราอาจจะมี
00:31:28 → 00:31:32 ภาวะขาดโปรตีนนั่นเองค่ะอืเช็คุรูนะเนี่ย
00:31:32 → 00:31:34 มันความจริงมันก็ไม่ยากนะเมื่อก่อนป้านึก
00:31:34 → 00:31:36 ว่ามันยากๆนะในการเช็คว่าเราขาดหรือไม่
00:31:36 → 00:31:39 ขาดแต่ฟังคุณหมอพูดเนี่ยรู้และแต่บาง
00:31:39 → 00:31:42 อย่างเราก็ไม่รู้ว่ามันมาจากการขาดโปรตีน
00:31:42 → 00:31:45 หเรื่องความจำริ้วลอยหรืออะไรอย่างเงี้นะ
00:31:45 → 00:31:47 แล้วก็อ่อนเพียเออไม่รู้นะเนี่ยอ่อนเพีย
00:31:47 → 00:31:51 ง่วงกลางวันมั้ยคะเออปกติป้าไม่เคยแต่บาง
00:31:51 → 00:31:53 มันแค่บางช่วงเท่านเท่านั้นเองที่เรารู้
00:31:53 → 00:31:56 สึกว่าเฮ้ยเรากลางวันทำไมรู้สึกง่วงแต่
00:31:56 → 00:31:59 ป้าไม่เคยนอนนะแต่รู้สึกว่ามันไม่สดช่น
00:31:59 → 00:32:02 มันไม่แจ่มใสเหมือนตอนเช้าๆอะไรอย่าเงี้
00:32:02 → 00:32:04 ันนี้รู้แล้วโดยเฉพาะกลุ่มที่กิน
00:32:04 → 00:32:08 มังสวิรัสนะคะเขาก็จะขาดตัววิตามิน B12
00:32:08 → 00:32:11 นะคะซึ่งมันทำงานร่วมกันกับโปรตีนในการ
00:32:11 → 00:32:15 สร้างเม็ดเลือดคนกลุ่มนี้ก็จะมีปัญหานะคะ
00:32:15 → 00:32:20 ที่อาจจะนำไปสู่อาการซีดโลหิตจางได้นะคะอ
00:32:20 → 00:32:22 เพราะฉะนั้นต้องกลับมาเรื่องของการทานให้
00:32:22 → 00:32:26 หลากหลายนะคะป้าถ้าเราทานถั่วเราก็หลาย
00:32:26 → 00:32:29 ชนิดกินวิตามิน B12 เพื่อเพิ่มเติมใน
00:32:30 → 00:32:32 เรื่องภาวะที่เราอาจจะมีความเสี่ยงในการ
00:32:32 → 00:32:35 ขาดเมื่อสักครู่นี้คุณหมออธิบายเรื่องของ
00:32:35 → 00:32:37 การกินโปรตีนสำหรับทุกช่วงวัยไปแล้วคราว
00:32:37 → 00:32:39 นี้พี่อยากให้พูดถึงการกินโปรตีนเพื่อ
00:32:40 → 00:32:42 สุขภาพโดยเฉพาะเรื่องของการลดน้ำหนักค่ะ
00:32:42 → 00:32:46 หลายคนยังสงสัยฉันควรกินโปรตีนมากหรือฉัน
00:32:46 → 00:32:48 ควรจะลดโปรตีนเพื่อการลดน้ำหนักดีคุณหมอ
00:32:48 → 00:32:51 เล่าให้ฟังหน่อยค่ะโอเคเริ่มต้นทำความ
00:32:51 → 00:32:55 เข้าใจกันก่อนนะคะว่าปกติแล้วนะคะร่างกาย
00:32:55 → 00:32:58 ของเรามีเตาเผาตามธรรมชาตินั่นนั่นก็คือ
00:32:58 → 00:33:01 มวลกล้ามเนื้อคนที่มีมวลกล้ามเนื้อเยอะนะ
00:33:01 → 00:33:03 คะก็จะมีการเผาผลาญได้มากกว่าคนที่มีมวล
00:33:03 → 00:33:07 กล้ามเนื้อน้อยนะคะบางคนบอกว่าแค่นั่งเฉย
00:33:07 → 00:33:11 ๆก็อ้วนแล้วนะคะนั่นแหละแปลว่าเขามีมวล
00:33:11 → 00:33:15 กล้ามเนื้อที่น้อยนะคเาเผน้อยใช่นะคะหรือ
00:33:15 → 00:33:19 บางคนบอกว่าแค่หายใจก็เขาได้แล้วอ้าแปล
00:33:19 → 00:33:22 ว่าเขามีมวลกล้ามเนื้อที่เยอะนะคะอะไรล่ะ
00:33:22 → 00:33:25 ที่เป็นตัวที่เพิ่มมนกล้ามเนื้อได้นะคะ
00:33:25 → 00:33:28 นั่นก็คือโปรตีนนั่นเองนะคะเวลาที่เห็น
00:33:28 → 00:33:30 หลายๆคนบอกว่าจะลดน้ำหนักนะแล้วก็ไปซื้อ
00:33:30 → 00:33:34 โปรตีนมากินเพิ่มนะคะบางคนเนี่ยซื้อไม่
00:33:34 → 00:33:37 ถูกต้องไปเลือกโปรตีนที่แบบมี
00:33:37 → 00:33:40 คาร์โบไฮเดรตสูงด้วยมีการปรุงรสเติมน้ำ
00:33:40 → 00:33:44 ตาลนะคะทำให้มันอร่อยกินไปกินมาอ้วนกว่า
00:33:44 → 00:33:47 เดิมอ๋อก็มีนะคะดังนั้นเนี่ยนะคะเรา
00:33:47 → 00:33:50 จำเป็นที่จะต้องเลือกโปรตีนนะคะที่คุณภาพ
00:33:50 → 00:33:53 สูงด้วยเพราะว่ากลุ่มคนลดน้ำหนักเนี่ย
00:33:53 → 00:33:58 ต้องกินโปรตีนประมาณ 1.5 - 2 เท่าโของ
00:33:58 → 00:34:02 คนปกติออ่านะคะแสดงว่าถ้าน้ำหนักสมมุติ
00:34:02 → 00:34:06 น้ำหนักเยอะอยู่แล้วนะคะ 70 อืต้องกิน
00:34:06 → 00:34:10 เยอะเลยนะคะต้องกินเป็นรอย 140 ถ้าเกิด
00:34:10 → 00:34:12 กิน 2 ใช่มั้ยคะใช่ค่ะเพราะฉะนั้นถ้ากิน
00:34:12 → 00:34:15 โปรตีนที่มันมีการปรุงเยอะมีน้ำตาลเยอะ
00:34:15 → 00:34:18 เขาก็จะได้รับส่วนเกินเหล่าเยไปเต็มๆ
00:34:18 → 00:34:22 เลยยหนโปรจีนขึ้นไปอีกเหอพี่เกใช่ค่ะนะคะ
00:34:22 → 00:34:25 ดังนั้นเคล็ดลับเนี่ย 1 ก็คือเลือกนะคะ
00:34:25 → 00:34:29 โปรตีนที่โปรตีนความบริสุสูงนะคะไม่เติม
00:34:29 → 00:34:32 แป้งไม่เติมน้ำตาลนะคะหรือบางคนนะคะบอก
00:34:32 → 00:34:35 ว่าน้ำหนักเยอะมากเลยค่ะนะจะให้คิดแบบ
00:34:35 → 00:34:37 โอ้โห 2 เท่าของน้ำหนักตัวเนี่มันโหดร้าย
00:34:37 → 00:34:41 เกินไปนะคะก็ให้เรามากลับมาสู่ idal body
00:34:41 → 00:34:44 weight ค่ะนะคะเช่นในผู้ชายายนะคะเอา
00:34:44 → 00:34:48 ส่วนสูงเป็นเซนติเมตรลบด้วย 100 นะก็จะ
00:34:48 → 00:34:51 ได้เป็นน้ำหนักที่เป็นในอุดมคติแล้วค่อย
00:34:51 → 00:34:56 เอาไปคำนวณปริมาณโปรตีนอย่างผู้ชายสูง 180
00:34:56 → 00:35:03 ซม - 100 ก็จะเป็น 80 ก็ก็เป็น 80 อแล้ว
00:35:03 → 00:35:07 เอา 80 นี้เอาไปคูณ 1.5 หรือ 2 ออแล้วแต่
00:35:07 → 00:35:10 กำลังใจของเราในการกิน
00:35:10 → 00:35:14 โปรตีนจะเป็นจำนวนโปรตีนที่เควรจะทานใช่
00:35:14 → 00:35:17 ค่ะหรือในผู้หญิงนะคะ ID body weight
00:35:17 → 00:35:21 ก็คือเอาความสูงเป็นเซนติเมตรลบด้วย 110
00:35:21 → 00:35:25 100 ค้าทายกว่านิดนึงของผู้หญิง 160 -
00:35:25 → 00:35:29 110 110 ใช่ค่ะเหลือเหลือ 1 เอ้ยเหลือ
00:35:29 → 00:35:34 50 เหลือ 50 55 อ่านะคะแต่ว่าถ้าเกิด
00:35:34 → 00:35:38 ว่าเ่อเราน้ำหนักไม่ได้เยอะมากค่ะให้ใช้
00:35:38 → 00:35:41 น้ำหนักนะคะอ่านะคะไม่อย่างั้นโปรตีนอาจ
00:35:41 → 00:35:43 จะดูน้อยเกินไปอย่างเมื่อกี้นี้ป้าให้ตัว
00:35:43 → 00:35:46 อย่างมานะคะว่าเอามาลบปุ๊บเห็นมั้ยคะว่า
00:35:46 → 00:35:51 ได้เท่ากับปริมาณโปรตีนที่ป้าต้องการต่อ
00:35:51 → 00:35:56 แต่ให้เอาไปคูณ 1.5 หรือคูณ 2 อ๋อค่ะร่วม
00:35:56 → 00:35:59 กับการออกกำลังกายแบบมีแรงต้านเพื่อเพิ่ม
00:35:59 → 00:36:02 มวลกล้างเนื้อนั่นเองค่ะก็คือเราไม่
00:36:02 → 00:36:04 สามารถทานโปรตีนอย่างเดียวได้ใช่ไหมมคะ
00:36:04 → 00:36:07 เราต้องออกกำลังกายด้วยเพื่อเพิ่มมวล
00:36:07 → 00:36:09 กล้ามเนื้อที่เป็นเตาเผาของเราขอเรียกว่า
00:36:09 → 00:36:13 ไปเสริมกันดีกว่าค่ะ 80% คือเรื่องของอาร
00:36:13 → 00:36:18 ของอาหารอ่านะคะอีก 20% ก็คือการออกกำลัง
00:36:18 → 00:36:21 แบบมีแรงต้านเพราะฉะนั้นจะเห็นว่าคนที่
00:36:21 → 00:36:25 ออกกำลังสุดๆไปเลยแต่ไม่คุมอาหารเลยลดนัง
00:36:25 → 00:36:29 สเอืใช่คค่ะนะคะเพราะฉะนั้นขอให้เริ่มต้น
00:36:29 → 00:36:32 ด้วยการควบคุมอาหารก่อนนะคะแล้วจึงเสริม
00:36:32 → 00:36:35 ด้วยการออกกำลังกายค่ะได้เคลดลับแล้วใช่
00:36:35 → 00:36:38 มยคะป้าว่าเพราะน้ำหนักเราเยอะเพราะ
00:36:38 → 00:36:40 ฉะนั้นเราก็มีเทคนิคในการที่เราจะกิน
00:36:40 → 00:36:44 โปรตีนรู้กันวิธีการคำนวณหาโปรตีนและแล้ว
00:36:44 → 00:36:47 ก็เลือกโปรตีนที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ที่
00:36:47 → 00:36:50 ไม่ปรุงแต่งเยอะๆไม่มีน้ำตาลเนอะเพราะ
00:36:50 → 00:36:53 ยิ่งทานเข้าไปแล้วก็ยิ่งอ้วนนอกจากนี้ค่ะ
00:36:53 → 00:36:55 ชนิดอาหารเก๋อยากให้คุณหมอแนะนำนิดนึงว่า
00:36:55 → 00:36:59 อุ๊ยชนิดอาหารที่มันเหมาะกับเรื่องของการ
00:36:59 → 00:37:03 ลดน้ำหนักอ่ะค่ะในกลุ่มโปรตีนเนี่ยค่ะคุณ
00:37:03 → 00:37:06 หมอแนะนำเพื่อเป็นเอ่อตัวอย่างคร่าวๆให้
00:37:06 → 00:37:09 คนเอากลับไปใช้ที่บ้านหน่อยค่ะกลุ่มคนที่
00:37:09 → 00:37:12 ลดน้ำหนักนะคะขอรวมไปในกลุ่มเพิ่มกล้าม
00:37:12 → 00:37:14 เนื้อด้วยเลยละกันนะคะเป็นกลุ่มเดียวกัน
00:37:14 → 00:37:17 กลุ่มนี้เนี่ยนะคะเขาก็มักจะเลือกอะไรที่
00:37:17 → 00:37:21 กินง่ายเช่นไข่ขาวอือนะคะบางคนคำนวณออกมา
00:37:21 → 00:37:24 เลยว่าวันนี้ต้องกินไข่ 20 ฟอรแต่ไม่เอา
00:37:24 → 00:37:28 ไข่แดงใช่อาจจะกินไข่แดงแค่ 1-2
00:37:28 → 00:37:32 อวอ่ะมาคิดกันเร็วๆ 20 ฟองไข่ขาว 20 ฟอง
00:37:32 → 00:37:38 คูณ 3.5 ค 3.5 อู้ได้นิดเดียวเองนโอได้
00:37:38 → 00:37:41 นิดเดียวเองอิ่มไปเลยอ่าแต่ว่ายากนะคะถาม
00:37:41 → 00:37:45 ว่าทำได้มทำได้แต่ว่าอาจจะยากถ้าเราลอง
00:37:45 → 00:37:47 คิดว่าเราต้องกินไข่เยอะขนาดนั้นก็คือ
00:37:47 → 00:37:50 มื้อนึงประมาณ 7 ฟองค่ะอืไม่ธรรมดามื้อละ
00:37:50 → 00:37:53 7 ฟองใช่มั้ยคะถ้าเราต้องกิน 20
00:37:53 → 00:37:57 ฟองยากอยู่นะคะหรือเดี๋ยวนี้มีทางเลือกเช
00:37:57 → 00:38:00 เช่นอกไก่ซึ่งมีการเตรียมออกมาในหลาย
00:38:00 → 00:38:03 ลักษณะเลยบางคนก็คือกินสลัดอกไก่ออกมาเลย
00:38:03 → 00:38:07 นะคะหรือว่ามีการทำแบบปั่นเพื่อให้กิน
00:38:07 → 00:38:10 ง่ายขึ้นนะคะอาจจะมีการปรุงรสนิดหน่อย
00:38:10 → 00:38:12 เพื่อเพิ่มความสุขในการกินนะคะอันนี้ก็
00:38:12 → 00:38:16 ได้เหมือนกันหรือถ้าเป็นสายมังนะคะก็อาจ
00:38:16 → 00:38:20 จะเพิ่มการรับประทานนมที่มาจากถั่วเหลือง
00:38:20 → 00:38:24 นะคะกินเต้าหู้นะคะเห็ดนะคะถั่วต่างๆให้
00:38:24 → 00:38:29 มากขึ้นคเลือกตามไสตของเราเนาะถ้าเราเป็น
00:38:29 → 00:38:32 คนทานเนื้อเราก็ทานเนื้อสระอไกถ้าเราเป็น
00:38:32 → 00:38:36 มังสวิรัตเนาะเราก็ทานเต้าหู้อ่ะแต่ว่า
00:38:36 → 00:38:38 ชีวจิตเราทานเนื้อปลาได้อยู่แล้วเนื้อปลา
00:38:38 → 00:38:43 ได้อยู่แล้วทานทะเลได้อยู่แล้วค่ะออก็ไม่
00:38:43 → 00:38:46 ยากเนาะแต่ว่าต้องมีกำลังใจใช่มั้ยคะต้อง
00:38:46 → 00:38:49 มีกำลังใจและมีวิวินัยอย่างมากที่สำคัญ
00:38:49 → 00:38:52 คือต้องมีวินัยคือฟังคุณหมอพูดรู้สึกว่า
00:38:52 → 00:38:55 เราดูแลตัวเองได้ง่ายขึ้นเยอะเลยคือรู้
00:38:55 → 00:38:58 วิธีในการดูแลตัวเองไม่ให้ป่วยไม่ให้อ่อน
00:38:58 → 00:39:02 เพลียแล้วก็ให้อัลไซเมอร์ช้า
00:39:02 → 00:39:07 หน่อยค่ะอ่อพี่ถามเพิ่มเติมในกรณีคนที่
00:39:07 → 00:39:10 เขาเป็นโรคอ้วนแบบอ้วนแบบเป็นโรคเลยที่
00:39:10 → 00:39:13 ต้องเข้าสู่ขบวนการผ่าตักระเพาะหรืออะไร
00:39:13 → 00:39:17 อย่างเงี้ยค่ะกลุ่มเนี้ยเวลาต้องมาดูแล
00:39:17 → 00:39:20 เรื่องของการลดน้ำหนักเนี่ยค่ะเาควรจะ
00:39:20 → 00:39:23 ต้องทำยังไงในกลุ่มนี้นะคะก็จะเรียกว่า
00:39:23 → 00:39:24 เป็น
00:39:24 → 00:39:28 obesity ในแบบที่เป็นบิดออือก็คือถ้า
00:39:28 → 00:39:31 ปล่อยให้อ้วนไปมากกว่านี้จะมีอัตราเสี่ยง
00:39:31 → 00:39:35 ต่อความตายสูงออ่านะคะเพราะฉะนั้นคนกลุ่ม
00:39:35 → 00:39:37 นี้เนี่ยค่ะก็จะได้รับคำแนะนำให้ไปตัด
00:39:37 → 00:39:40 กระเพาะนะนั่นก็คือการตัดส่วนหนึ่งของ
00:39:40 → 00:39:44 กระเพาะออกไปเลยนะคะแล้วก็ทำให้ทางเดิน
00:39:44 → 00:39:47 อาหารเนี่ยมันสั้นนะคะแต่ในกลุ่มนี้ค่ะจะ
00:39:47 → 00:39:51 มีปัญหาอย่างมากในการที่จะต้องรับประทาน
00:39:51 → 00:39:55 โปรตีนมากขึ้นโอนะคะโดยเฉพาะในช่วงหลัง
00:39:55 → 00:40:00 ผ่าตัดออเป็นระยะเวลาต่อหลดนะคะเพื่อให้
00:40:00 → 00:40:04 รงกายสาที่จะทต่อภาวะที่มีการดูดซึมสาร
00:40:04 → 00:40:07 อาหารที่น้อยลงนะคะเพราะฉะนั้นกลุ่มนี้
00:40:07 → 00:40:10 เนี่ยถือว่าเป็น challeng เป็นความท้าทาย
00:40:10 → 00:40:12 อย่างมากเลยที่จะต้องดูแลตัวเองหลังการ
00:40:12 → 00:40:16 ผ่าตัเพราะถ้าไม่ดูแลตัวเองกลับมาอ้วนได้
00:40:16 → 00:40:19 อีกแน่นโอหแสดงว่าถึงแม้ผ่าตัดแล้วก็อ้วน
00:40:19 → 00:40:22 ได้เพราะฉะนั้นป้าเราต้องไม่ควรไปถึงจุด
00:40:22 → 00:40:26 นั้นเนาะป้องกันก่อนที่เราจะอ้วนดีกว่า
00:40:26 → 00:40:29 เนี่ยพอฟังฟังแล้วเรามีความรู้ในการเอ่อ
00:40:29 → 00:40:34 คุมค่ะคุมน้ำหนักหรือคุมโรคภัยได้โดยการ
00:40:34 → 00:40:38 กินโปรตีนค่ะเมื่อกี้เราพูดถึงปัญหาของคน
00:40:38 → 00:40:42 ที่มีน้ำหนักเกินซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของคนใน
00:40:42 → 00:40:45 สังคมนี้แต่ยังมีกลุ่มประชากรเล็กๆค่ะคุณ
00:40:45 → 00:40:48 หมอที่ทานเท่าไหร่ก็น้ำหนักไม่ขึ้น
00:40:48 → 00:40:51 อันเนี้ยเขาควรจะกินโปรตีนยังไงคะเพื่อ
00:40:51 → 00:40:54 ให้น้ำหนักเขากลับมาสมดุลโอบางคนจะบอกว่า
00:40:54 → 00:40:58 นี่คือของของขวัญกจริงๆนะที่กินเท่าไหร่
00:40:58 → 00:41:01 ก็ไม่อ้วนนะคะแต่ว่าปัญหาของเขคือเขก็อาจ
00:41:01 → 00:41:04 จะมีกล้ามเนื้อที่น้อยค่ะมีมนกล้ามเนื้อ
00:41:04 → 00:41:07 ที่น้อยดูผอมแห้งดูไม่ค่อยมีแรงนะคะอาจจะ
00:41:07 → 00:41:10 เจ็บป่วยง่ายนะคะดังนั้นนะคะคนในกลุ่มนี้
00:41:10 → 00:41:13 ก็สามารถที่จะรับประทานโปรตีนตามน้ำหนัก
00:41:13 → 00:41:16 ตัวได้เลยก็คือ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก
00:41:16 → 00:41:18 ต่อวันแต่สิ่งที่อาจจะต้องทำเพิ่มหน่อย
00:41:19 → 00:41:22 ขยันหน่อยนะคะก็คือการออกกำลังกายแบบมี
00:41:22 → 00:41:25 แรงต้านเพื่อสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาให้เขา
00:41:25 → 00:41:28 เนี่ยมีแหล่งสะสมพลังงานเก็บไว้บ้างนะคะ
00:41:28 → 00:41:32 ไม่อย่างงั้นคนกลุ่มเนี้ยก็จะป่วยง่ายนะ
00:41:32 → 00:41:35 คะเนื่องจากว่าไม่มีโปรตีนสะสมอยู่ในตัว
00:41:35 → 00:41:38 เองเลยนั่นเองค่ะก็เท่ากับว่าทั้งคนที่
00:41:38 → 00:41:40 ต้องการลดน้ำหนักแล้วก็เพิ่มน้ำหนักเนี่ย
00:41:40 → 00:41:43 จำเป็นต้องทานโปรตีนให้เพียงพอที่สำคัญ
00:41:43 → 00:41:46 ต้องออกกำลังกายด้วยเนาะประกอบคู่กันใช่
00:41:46 → 00:41:50 มั้ยคะถูกต้องค่ะอีกกลุ่มนึงค่ะที่มีคำ
00:41:50 → 00:41:53 ถามเยอะเลยก็คือเรื่องของคุ้มต้านทานค่ะ
00:41:53 → 00:41:56 คุณน้องคะโดยเฉพาะในช่วงที่เราผ่านวิกฤต
00:41:56 → 00:41:59 โควิดกันมาเนี่ยทุกคนรู้สึกว่าฉันอยากมี
00:41:59 → 00:42:02 ภูมิต้านทานที่สูงส่งเพื่อว่าฉันจะกันโรค
00:42:03 → 00:42:06 ภัยทั้งหลายการทานโปรตีนเพื่อทำให้เรามี
00:42:06 → 00:42:08 ภูมิคุ้มกันนะคะเราควรจะทานแบบไหนค่ะคุณ
00:42:08 → 00:42:11 หมอแนะนำหน่อยค่ะแน่นอนว่าโปรตีนนะคะมี
00:42:11 → 00:42:14 ความสำคัญในการช่วยสร้างอิมมูโนโกลบูลิน
00:42:14 → 00:42:17 นะคะที่เป็นทหารของร่างกายช่วยเพิ่มภูมิ
00:42:17 → 00:42:20 คุ้มกันให้เราอยู่แล้วแต่มันจะมีตัวช่วย
00:42:20 → 00:42:23 มากกว่านั้นนะคะก็คือวิตามินและเกลือแร่
00:42:23 → 00:42:26 ที่กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันให้
00:42:26 → 00:42:29 เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมาก
00:42:29 → 00:42:32 ขึ้นตัวแรกค่ะก็คือวิตามิน D3 นะคะต้อง
00:42:32 → 00:42:35 เป็น D3 ด้วยนะคะ D1 และ d2 เนี่ยเขาก็จะ
00:42:35 → 00:42:38 มีหน้าที่อื่นๆนะคะแต่พอเป็น D3 ปุ๊บ
00:42:38 → 00:42:41 เนี่ยจะเริ่มเข้ามาสู่อ่าระบบภูมิคุ้มกัน
00:42:41 → 00:42:45 แล้วก็ป้องกันโรคต่างๆได้หลากหลายเลยนะคะ
00:42:45 → 00:42:48 ต่อมาก็คือซิงคค่ะซิงคหรือว่าสังกสีเนี่ย
00:42:48 → 00:42:53 นะคะที่เราอ่ารับประทานกันเพื่อบำรุงผิว
00:42:53 → 00:42:56 นะคะรักษาสิวต่างๆตัวนี้แหละนะคะก็สามารถ
00:42:56 → 00:42:59 ที่ช่วยเพิ่มภูมคุ้งกันได้อีกตัวนึงที่
00:42:59 → 00:43:02 มักจะถูกลืมไปนะคะนั่นก็คือ
00:43:02 → 00:43:06 ซีลีเนียมนะคะซึ่งดังขึ้นมาตอนโควิดนี่ละ
00:43:06 → 00:43:09 ค่ะพี่เก๋นะคะเป็นอีกตัวนึงนะคะที่ได้รับ
00:43:09 → 00:43:12 การวิจัยแล้วว่าช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันทำ
00:43:12 → 00:43:16 ให้เราเนี่ยมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสก่อโรค
00:43:16 → 00:43:19 ได้มากขึ้นนะคะซึ่งซีลีเนียมนะคะก็มักจะ
00:43:19 → 00:43:24 พบในกลุ่มพวกนมพวกเวโปรตีนปริมาณสูง
00:43:24 → 00:43:28 มากดังนั้นการเพิ่มภูมคุ้มกันก็ควรได้รับ
00:43:28 → 00:43:31 โปรตีนร่วมกับวิตามินและเกลือแร่นะคะ
00:43:31 → 00:43:36 วิตามิน D3 ซิงค์และซีเนมคซซีเนมป 3 ถ้า
00:43:36 → 00:43:38 อยู่ในอาหารธรรมชาติแล้วพบในที่ไหนบ้าง
00:43:38 → 00:43:43 อ่ะคะคุณหมอส่วนมากมักจะพบอยู่ในสิ่งที่
00:43:43 → 00:43:47 ละลายในไขมันสิ่งที่อะไรปเชละลายในไขมัน
00:43:47 → 00:43:52 ปลานะคะหนังปลาปลหรือว่าปลาที่มีไขมัน
00:43:52 → 00:43:58 แทรกเช่นแซลมอนเช่นแซลมอนนะคะในบ้านเราก็
00:43:58 → 00:44:01 จะเป็นพวกปลาดุกอ๋อปลาดุกที่เขามีแบบไข
00:44:01 → 00:44:05 มันสีเหลืองๆอยู่ที่หนังสักนิดนึงที่เรา
00:44:05 → 00:44:09 เคยลอกออกไปก็กินสักนิดนึงคะกินกับน้ำปลา
00:44:09 → 00:44:12 หวานสะเดาใช่มั้ยคะปหาดาปลา
00:44:12 → 00:44:16 ดดดใชก็จะได้วิตามิน B3 ธรรมชาติถูกต้อง
00:44:16 → 00:44:20 ค่ะค่ะคราวนี้พี่สงสัยต่ออีกนิดนึงในส่วน
00:44:20 → 00:44:24 ของเอ่อเซเลเนียมค่ะหลายคนก็บอกว่า
00:44:24 → 00:44:27 เซเลเนียมช่วยในเรื่องของแบบระบบสืบด้วใน
00:44:27 → 00:44:29 ความเป็นจริงคุณหบอกว่าช่วยในเรื่องภูม
00:44:29 → 00:44:32 คุ้มกันแล้วถ้าเป็นเซเลเนียมในอาหาร
00:44:32 → 00:44:36 ธรรมชาติเราเจอที่ไหนบมีอยู่ในคะไข่ไข่
00:44:36 → 00:44:40 อุยง่ายมากเลย่าง่ายมากใช่มคะแต่อาจจะฝืน
00:44:40 → 00:44:44 ใจสักนิดเพราะไข่แดงมีเยอะกว่าไข่ขาวอ่า
00:44:44 → 00:44:48 หัวใจป้านิดนึงกินนิดนึงนะคะแล้วก็พวกหอย
00:44:48 → 00:44:52 นางรมค่ะอาหารทะเลหอยนางลมไและหอยนางลม
00:44:52 → 00:44:57 ไข่แดงและหอยนางลมในเซเลเนียมก็คือไม่ยาก
00:44:57 → 00:45:01 เนาะหาไม่ยากแล้วก็เลือกวัตถุดิบที่สด
00:45:01 → 00:45:04 สะอาดเพราะว่าส่วนใหญ่พวกอาหารทะเลบางที
00:45:04 → 00:45:07 ถ้ามันแบบมันไม่สะอาดก็มีโอกาสที่ท้อง
00:45:07 → 00:45:12 เสียได้เนาะถ้าให้ดีก็คือไปกินในแหล่งอ
00:45:12 → 00:45:15 อ่านะคะที่มีอาหารทะเลจำพวกนี้นะคะก็จะมี
00:45:15 → 00:45:18 ความมั่นใจมากขึ้นนะคะว่าสดแล้วก็ไม่ผ่าน
00:45:18 → 00:45:22 การเคลื่อนย้ายนะคะที่ใช้เวลานานเกินไป
00:45:22 → 00:45:24 งั้นเราต้องไปกินบ้านคุณหมอศีราชาถูกต้อง
00:45:24 → 00:45:25 ยินดี
00:45:25 → 00:45:30 ค่ะใชค่ะอ่าคราวนี้มาสู่ในกลุ่มที่ต้อง
00:45:30 → 00:45:33 บอกว่าค่อนข้าง sensitive ในเรื่องของการ
00:45:33 → 00:45:37 ดูแลสุขภาพก็คือกลุ่มผู้ป่วยค่ะมีหลายโรค
00:45:37 → 00:45:41 หลายอาการมากเลยที่ยังมีข้อสงสัยว่าตกลง
00:45:41 → 00:45:44 บางกลุ่มบางคนบางโรคจะบอกว่าไม่แนะนำให้
00:45:44 → 00:45:47 กินโปรตีนบางโรคบอกว่าให้แนะนำให้กิน
00:45:47 → 00:45:50 โปรตีนค่ะก็เลยเกิดข้อสงสัยเกิดคำถามเยอะ
00:45:50 → 00:45:53 แยะมากมายเลยใช่มั้ยคะป้าโดยเฉพาะโรคที่
00:45:53 → 00:45:57 เกี่ยวกับมะเร็งที่ต้องบอกว่าสถิติของผู้
00:45:57 → 00:46:00 ป่วยเนี่ยพบสูงขึ้นสูงขึ้นจริงๆแล้วการ
00:46:00 → 00:46:04 กินโปรตีนกับผู้ป่วยมะเร็งอ่ะค่ะเคคควรจะ
00:46:04 → 00:46:07 ต้องทานหรือไม่ทานหรือว่าควรจะทานปริมาณ
00:46:07 → 00:46:10 แค่ไหนเพื่อสุดท้ายแล้วจะได้ทำให้ร่างกาย
00:46:10 → 00:46:14 เนี่ยแข็งแรงเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ค่ะ
00:46:14 → 00:46:17 ค่ะคนไข้มะเร็งกับโปรตีนนะคะเรียกว่าเป็น
00:46:17 → 00:46:21 ข้อถกเถียงกันอย่างมากนะคะมีหลายคนก็คือ
00:46:21 → 00:46:24 งดโปรตีนไปเลยไม่กินเนื้อสัตว์ไม่กินนม
00:46:25 → 00:46:28 ไม่กินถั่วกลัวไปหมดนะคะเจ้าฝั่งเนื้อ
00:46:28 → 00:46:32 สัตว์ก็กลัวว่าจะทำให้ได้รับอ่าฮอร์โมนนะ
00:46:32 → 00:46:35 คะจากการเลี้ยงสัตว์นะคะจากฝั่งถั่วก็
00:46:35 → 00:46:37 กลัวว่าจะได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ไป
00:46:37 → 00:46:41 กระตุ้นอ่ามะเร็งบางชนิดนะคะทีนี้เนี่ย
00:46:41 → 00:46:45 กลับมาก่อนนะคะว่าจริงๆแล้วมะเร็งนะคะพอ
00:46:45 → 00:46:48 เริ่มต้นที่ผู้ป่วยมีมะเร็งอยู่ในร่างกาย
00:46:48 → 00:46:51 นะคะเจ้ามะเร็งเนี่ยค่ะเามีความสามารถ
00:46:51 → 00:46:54 พิเศษในการหลัสารบางอย่างในกลุ่มของไซโต
00:46:54 → 00:46:58 คายนะคะออกมาทำให้ผู้ป่วยมะเร็งอือเบื่อ
00:46:58 → 00:46:59 อาหาร
00:46:59 → 00:47:04 อ๋อไม่อยากกินไม่อยากทานอืค่ะในขณะที่ตัว
00:47:04 → 00:47:07 มะเร็งเองนะคะมีการแบ่งตัวสูงมากมะเร็ง
00:47:08 → 00:47:11 มันถึงได้โตเร็วใช่มั้ยคะอ่าะเป็นเซลล์
00:47:11 → 00:47:14 ที่ไม่ตายมีความสามารถในการแบบเติบโต
00:47:14 → 00:47:20 อย่างยิ่งยวดไวมากเ้าใช้พลังงานใช้น้ำตาล
00:47:20 → 00:47:24 ในขณะที่กินได้น้อยด้วยเพราะฉะนั้นเราจะ
00:47:24 → 00:47:29 เห็นว่าคนที่เป็นมะเร็งมีภาวะขอมขอมอหรือ
00:47:29 → 00:47:33 หนังหุ้มกระดูกอือจากการที่เอาโปรตีนใน
00:47:33 → 00:47:37 ร่างกายเนี่ยล่ะค่ะออกมาใช้นะคะอย่างไรก็
00:47:37 → 00:47:42 ตามค่ะโปรตีนเองก็ถือว่าเป็นอินดิชอย่าง
00:47:42 → 00:47:47 นึงที่คุณหมอจะพิจารณาว่าคนนี้พร้อมรับ
00:47:47 → 00:47:51 การรักษาหรือไม่อืดังนั้นที่พูดมาทั้งหมด
00:47:51 → 00:47:55 นั่นแปลว่าคนไข้จำเป็นที่จะต้องกินโปรตีน
00:47:55 → 00:47:58 มากกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำอ๋อต้องทารมากใช
00:47:58 → 00:48:01 จาก 1 1.5 ควรมันควรจะเพิ่มขึ้นใช่มั้ค
00:48:01 → 00:48:03 เป็น 1.5 ถ
00:48:03 → 00:48:06 2 นะคะดังนั้นจึงเป็นความท้าทายอย่างมาก
00:48:06 → 00:48:09 จริงๆเลยค่ะในกลุ่มผู้ป่วยมะเร็งนะคะที่
00:48:09 → 00:48:11 ตัวเองก็กินได้ยากอยู่แล้วแต่ต้องกินมาก
00:48:11 → 00:48:15 กว่าคนร่วไปค่ะนะคะเพราะว่าเวลาที่เริ่ม
00:48:15 → 00:48:19 ต้นรับการรักษาคุณหมอจะตรวจเลือดค่ะตรวจ
00:48:19 → 00:48:23 ค่าความสมบูรณ์ของเลือดและตรวจภาวะโปรตีน
00:48:23 → 00:48:27 ในร่างกายถ้าพบว่าคุณมีความสมบูรณ์ของ
00:48:27 → 00:48:31 เลือดไม่พอโปรตีนในร่างกายต่ำคุณหมอจะไม่
00:48:31 → 00:48:34 เริ่มต้นรักษารักใชเนื่องจากว่าจะถูก
00:48:34 → 00:48:40 พิจารณาว่าร่างกายคุณแข็งแรงไม่พออนะคะ
00:48:40 → 00:48:44 พวกเ่อเคมีบำบัดพวกฉายแสงเนี่ยบอกตรงๆว่า
00:48:44 → 00:48:47 มันเป็นการทำลายเซลล์มะเร็งก็จริงแต่
00:48:47 → 00:48:51 เซลล์ปกติก็มักจะถูกทำลายไปด้วยค่ะเหมือน
00:48:51 → 00:48:54 ร่างกายเนี่ยได้รับระเบิดปรมณูตู้มอตาย
00:48:54 → 00:48:58 ทั้งหมดเลยเซดีเซลไม่ดีเพราะฉะนั้นเราเลย
00:48:58 → 00:49:02 ต้องการอะไหล่ค่ะอืเข้าไปซ่อมแซมโปรตีน
00:49:02 → 00:49:06 จึงเป็นพื้นฐานสำคัญของสารอาหารที่ผู้
00:49:06 → 00:49:12 ป่วยมะเร็งต้องการอืนะคะปกติแล้วคนไข้จะ
00:49:12 → 00:49:15 ถูกแนะนำให้กินไข่ขาวอีกแล้วกลับมาที่ไข่
00:49:15 → 00:49:19 ขาวอีกแล้วนะคะขวเช่นถ้าเกิดว่าน้ำหนัก 50
00:49:19 → 00:49:22 นะคะเบื้องต้นเลยต้องกิน 75 กรัมถูกมั้ย
00:49:22 → 00:49:28 คะอือ่า 1.5 1.5 ไข่ 1 ฟองเอาให 3.5 3.5
00:49:28 → 00:49:31 ใครานฟอง 3.5 ก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 20 ฟอง
00:49:32 → 00:49:35 ต่อวันคนเป็นมะเร็งควรจะกิน 20 ฟองต่อวัน
00:49:35 → 00:49:39 เพื่อให้เพื่อให้ได้โปรตีนพออแต่ 20 ฟอง
00:49:40 → 00:49:44 ต่อวันป้าไหวมั้ยป้าไม่ไหวก็ก็นี่ไงมัน
00:49:44 → 00:49:46 ถึงโยงกลับมาว่าเออป้าเป็นคนชอบทำอาหาร
00:49:46 → 00:49:49 ชีวจิตใช่มั้อาหารสุขภาพป้าก็เลยบอกเอ๊ะ
00:49:49 → 00:49:52 ถ้าคนไข้กินไข่ขาวเยอะๆมันน่าเบื่อนะป้า
00:49:52 → 00:49:55 ก็เลยบอกเฮ้ยป้าเอามาทำเมนูไข่ขาวเช่นป้า
00:49:55 → 00:49:59 เอาไข่ขาวมาผัดเอามาทำไข่ขาวผัดกะเพราทำ
00:49:59 → 00:50:03 ไข่ขาวตุ๋นอะไรเอาไข่ขาวเนี่ยมาปรุงให้
00:50:03 → 00:50:07 เป็นเมนูอันนี้ดีมากเลยหรือบางคนเอาไปทำ
00:50:07 → 00:50:11 โจ๊กอ่าๆโจ๊กไขขาวใช่ๆนะคะก็จะเป็นรูปแบบ
00:50:11 → 00:50:14 การรับประทานที่รู้สึกว่าไม่ใช่มานั่งแบบ
00:50:14 → 00:50:17 กินไข่ขาวต้มอย่างดีอเราสามารถเอาไปปรุง
00:50:17 → 00:50:20 เป็นอย่างอื่นได้โอเคได้เลยค่ะนะคะก็เจอย
00:50:21 → 00:50:24 กับการทานมากขึ้นแต่ทานทุกวันก็คงจะไม่ว
00:50:24 → 00:50:28 นะคะปาเพนั้นกลุ่มนี้เนี่ยคะก็จะเป็น
00:50:28 → 00:50:33 กลุ่มหนึ่งนะคะที่จากการศึกษาพบว่าเกือบ
00:50:33 → 00:50:37 100% หาตัวช่วยหาตัวช่วยหาตัวช่วยในการ
00:50:37 → 00:50:40 เพิ่มโปรตีนนะคะไม่ว่าจะเป็นจากอาหาร
00:50:40 → 00:50:44 เสริมอาหารทางการแพทย์ต่างๆโปรตีนเสริม
00:50:44 → 00:50:49 ต่างๆนะคะซึ่งก็มีข้อควรระวังนะคะในการ
00:50:49 → 00:50:53 เลือกคือไม่ควรเป็นโปรตีนที่เติมแป้งและ
00:50:53 → 00:50:56 น้ำตาลย้อนกลับไปที่คุณหมอบอกไม่ว่าจะ
00:50:56 → 00:50:58 เป็นกลุ่มไหนก็ควรทานโปรตีนโปรตีน
00:50:58 → 00:51:02 บริสุทธิ์เนาะโปรตีนที่ไม่ใส่น้ำตาลเพราะ
00:51:02 → 00:51:06 ยิ่งทานเยอะแล้วก็จะอ้วนอ่าแต่กลุ่มคนไข้
00:51:06 → 00:51:09 มะเร็งไม่ค่อยห่วงเรื่องอ้วนเท่าไหร่แต่
00:51:09 → 00:51:15 ห่วงว่าเซลล์มะเร็งใช้น้ำตาลเป็นพลังงานอ
00:51:15 → 00:51:19 หยวดนะคะเขาชอบมากอันนี้ก็เป็นสิ่งที่อาจ
00:51:19 → 00:51:23 จะต้องใส่ใจในการเลือกนะคะชนิดของโปรตีน
00:51:23 → 00:51:26 ที่รับประทานอย่างยิ่งค่ะอก็คือว่าผู้
00:51:26 → 00:51:30 ป่วยมะเร็งจำเป็นต้องทานโปรตีนแล้วก็ต้อง
00:51:30 → 00:51:32 ทานในปริมาณที่สูงขึ้น
00:51:32 → 00:51:36 ด้วยอแล้วก็วิธีการเลือกถ้าจะอาศัยตัว
00:51:36 → 00:51:40 ช่วยก็ควรจะเลือกโปรตีนที่บริสุทธิ์แต่
00:51:40 → 00:51:43 ว่าถ้ายังคงทานอาหารทั่วไปได้ก็ทานจาก
00:51:43 → 00:51:46 อาหารจากธรรมชาติเนาะได้เลยไข่ขาวที่ป้า
00:51:46 → 00:51:50 บอกว่าป้าก็ไปทำเมนูนู่นนี่นะคะถั่วก็ยัง
00:51:50 → 00:51:55 ทานได้อยู่ใช่มปลาก็ได้หทกได้ทกอย่าหนะคะ
00:51:55 → 00:52:00 ขอแค่ปรุงสุกปรุงสะอาดนะคะอเนื่องจากว่า
00:52:00 → 00:52:05 ถ้าคนไข้โปรตีนไม่พอค่าเลือดไม่ผ่านสิ่ง
00:52:05 → 00:52:07 ที่เกิดขึ้นคือคุณหมอจะให้กลับมาที่บ้าน
00:52:07 → 00:52:12 เพื่อบำรุงร่างกายค่ะหยุดการรักษาหุใช่ใน
00:52:12 → 00:52:16 ครั้งนั้นไปก่อนไม่ให้ไม่ให้เคโมให้ต่อ
00:52:16 → 00:52:18 ไม่ได้เพราะว่าโปรตีนไม่พอใชถูกต้องนะคะ
00:52:18 → 00:52:21 ค่าเลือดไม่ผ่านค่าเลือดไม่โปรตีนในร่าง
00:52:21 → 00:52:26 กายไม่พอถ้าฝืนให้เออถ้าฝืนให้คนไข้อาจจะ
00:52:26 → 00:52:31 ทรุดโทรมจนไม่สามารถทนต่อการรักษาได้นะคะ
00:52:31 → 00:52:32 เพราะฉะนั้นในช่วงที่คุณหมอให้พักการ
00:52:32 → 00:52:36 รักษานี่แหละอเป็นโอกาสทองของมะเร็งเลย
00:52:36 → 00:52:41 ที่จะโตต่อไปค่ะนะคะดังนั้นโปรตีนก็จะ
00:52:41 → 00:52:45 ช่วยให้ภาวะโภชนาการของคนไข้มะเร็งเนี่ย
00:52:45 → 00:52:48 นะคะเรียกว่าพร้อมที่จะรับการรักษาอย่าง
00:52:48 → 00:52:53 ต่อเนื่องม้วนเดียวจบอืไม่ต้องเว้นการ
00:52:53 → 00:52:56 รักษาเลยนะคะป้าถามอีกนิดนึงสำหรับผู้
00:52:56 → 00:52:58 ป่วยมะเร็งที่หายแล้วคิดว่าหายแล้วเนี่ย
00:52:58 → 00:53:03 เคเควรจะดูแลตัวเองแบบไหนต่อไปค่ะอ่าผู้
00:53:03 → 00:53:05 ป่วยกลุ่มนี้นะคะจำเป็นที่จะต้องอยู่ใกล้
00:53:05 → 00:53:07 คุณหมอไว้ก่อนนะคะโดยเฉพาะหลังการรักษาใน
00:53:07 → 00:53:10 ช่วงแรกๆเนี่ยคุณหมอจะนัดกลับมา Follow
00:53:10 → 00:53:14 up นะคะเพื่อดูว่ายังมีเชื้อมะเร็งเหลือ
00:53:14 → 00:53:17 อยู่มยนะคะอาจจะมีการตรวจเลือดนะคะดูทูมอ
00:53:18 → 00:53:20 มาเกอร์ต่างๆนะคะซึ่งโดยทั่วไปคนไข้
00:53:21 → 00:53:23 มะเร็งเนี่ยนะคะหลังจากที่ได้ฝึกฝนการดู
00:53:23 → 00:53:26 แลตัวเองอย่างยิ่งยในช่วงรักษาเนี่ยเาจะ
00:53:27 → 00:53:30 มีความระมัดระวังในการดูแลสุขภาพอย่างต่อ
00:53:30 → 00:53:33 เนื่องถ้าพูดในเรื่องโปรตีนอย่างน้อยๆนะ
00:53:33 → 00:53:37 คะเขาก็ควรจะกลับมารับประทานโปรตีนเท่า
00:53:37 → 00:53:41 กับคนปกติทั่วไปนะคะก็คือ 1 กรัมต่อน้ำ
00:53:41 → 00:53:44 หนักตัว 1 กลต่อวันนะคะแล้วก็หลีกเลี่ยง
00:53:44 → 00:53:47 พฤติกรรมเสี่ยงต่างๆนะคะที่อาจจะทำให้
00:53:47 → 00:53:50 เกิดโรคกลับขึ้นมาได้อีกค่ะโอเคอันนี้พี่
00:53:50 → 00:53:54 ถามเผื่อสำหรับคนที่เป็นมะเร็งแต่ว่าก็
00:53:54 → 00:53:58 ยังดูแลตัวเองแบบเป็นแนวทางมังสวิรัตทาน
00:53:58 → 00:54:02 เจงี้คมันยากมยในการที่จะร่างกายจะได้รับ
00:54:02 → 00:54:05 โปรตีนเพียงพอคุณหมอคิดว่าควรจะต้องปรับ
00:54:05 → 00:54:08 อะไรยังไงบ้างค่ะต้องยอมรับว่าโปรตีนจาก
00:54:08 → 00:54:11 พืชเนี่ยนะคะถ้าจะให้ได้เพียงพอเหมือน
00:54:11 → 00:54:13 โปรตีนจากสัตว์เนี่ยต้องกินในปริมาณที่
00:54:13 → 00:54:17 เยอะหน่อยอือเยอะในที่นี้คือทั้งเยอะใน
00:54:17 → 00:54:21 ด้านปริมาณและเยอะในด้านของชนิดอืหักหลาย
00:54:21 → 00:54:25 อ่าเป็นไปได้นะคะทำได้เหมือนกันนะคะที่จะ
00:54:25 → 00:54:29 ลดละเลิกนะคะอ่าโปรตีนจากสัตว์ไปเลยแต่
00:54:29 → 00:54:33 เราต้องรู้ว่าเราจะต้องพิถีพิถันแล้วก็
00:54:33 → 00:54:36 จริงจังมากขึ้นนะคะในการคำนวณปริมาณ
00:54:36 → 00:54:39 โปรตีนให้ถึงเพราะว่าจะต้องกินเยอะขึ้น
00:54:39 → 00:54:42 ต้องกินเยอะขึ้นกว่าโปรตีนจากสัตว์ค่ะออ
00:54:42 → 00:54:45 แล้วทุกวันนี้มีโปรตีนที่เป็นโปรตีนจาก
00:54:45 → 00:54:47 พืชที่เป็นทางเลือกอย่างนี้ก็มีอยู่ใช่
00:54:47 → 00:54:50 มั้ยคะถ้าจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วย
00:54:50 → 00:54:53 มะเร็งที่เขาไม่ได้ทานเนื้อสัตว์อมีให้
00:54:53 → 00:54:55 เลือกเท่าที่เห็นในตลาดค่อนข้างเยอะเลยนะ
00:54:55 → 00:54:59 คะค่ะอย่างที่บอกอย่าลืมดูที่สูตรด้วยว่า
00:54:59 → 00:55:02 น้ำตาลน้ำตาลใส่อะไรมีน้ำตาลมั้ยมีแป้ง
00:55:02 → 00:55:07 มั้นะคะหรือมีอ่าสารเพิ่มรสชาติอื่นๆนะคะ
00:55:07 → 00:55:10 ที่อาจจะกระทบต่อการรักษาในช่วงเหล่านั้น
00:55:10 → 00:55:14 ค่ะอแสดงว่าก็สบายใจได้สำหรับผู้ป่วย
00:55:14 → 00:55:17 มะเร็งในวันนี้เนาะว่าถ้าเกิดพูดถึง
00:55:17 → 00:55:19 โปรตีนเนี่ยเขามีทางเลือกในการกินโปรตีน
00:55:19 → 00:55:23 ค่อนข้างหลากหลายทั้งอาหารธรรมชาติก็มี
00:55:23 → 00:55:26 แต่ถ้าอาหารธรรมชาติไม่ไหวก็มีผลิต
00:55:26 → 00:55:30 ผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งจากสัตว์กับพืชเนาะก็
00:55:30 → 00:55:33 คือแล้วแต่ว่าเราจะดูแลตัวเองแบบไหนแต่ก็
00:55:33 → 00:55:35 ต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็งเนาะสำหรับผู้
00:55:35 → 00:55:38 ป่วยมะเร็งค่ะต่อไปค่ะเป็นอีกกลุ่มนึงคือ
00:55:38 → 00:55:43 ผู้ป่วยโรคไอ้าอกลุ่มนี้ก็แบบว่าค่อนข้าง
00:55:43 → 00:55:46 จะเยอะเนาะแล้วก็บางคนเข้าสู่กระบวนการ
00:55:46 → 00:55:50 ฟอกไปแล้วใช้ชีวิตลำบากมากเลยเขาก็จะ
00:55:50 → 00:55:53 สงสัยว่าอุ๊ยตกลงโปรตีนได้แค่ไหนอืคุณหมอ
00:55:53 → 00:55:57 อธิบายให้ฟังนิดค่ะกลุ่มคนไขโรคไตนะคะ
00:55:57 → 00:55:59 เป็นกลุ่มที่มีความสับสนในด้านการกิน
00:56:00 → 00:56:03 โปรตีนอย่างมากต้องบอกอย่างนี้ค่ะว่าโรค
00:56:03 → 00:56:07 ไตมีหลายชนิดมากเริ่มง่ายๆก่อน 1 โรคไต
00:56:07 → 00:56:12 วายเรือรังนะคะก็คือเป็นโรคที่มีการทำงาน
00:56:12 → 00:56:16 ของไตลดลงนะคะอาจจะเกิดตามอายุนะคะหรือ
00:56:16 → 00:56:20 ว่าเป็นโรคที่แทรกซ้อนมาจากโรคอื่นๆเช่น
00:56:20 → 00:56:24 เบาหวานนะคะเป็นต้นคนไข้กลุ่มนี้ค่ะมี
00:56:24 → 00:56:27 ความจำเป็นที่จะต้องควบคุมปริมาณโปรตีนนะ
00:56:27 → 00:56:30 คะเพราะว่าสารพิษหรือว่าสิ่งที่เกิดจาก
00:56:30 → 00:56:35 การเมตาโบไลท์ของโปรตีนเนี่ยขับออกทางไตอ
00:56:35 → 00:56:38 ดังนั้นถ้าเขามีการทำงานของไตที่ลดลงนะคะ
00:56:38 → 00:56:41 จึงต้องควบคุมโปรตีนแต่ก็ยังต้องงาน
00:56:41 → 00:56:45 โปรตีนอยู่นะคะไม่ใช่ไม่กินเลยนะคะคนไข้
00:56:45 → 00:56:48 ที่เป็นระยะ 1 ระยะ 2 เนี่ยค่ะยังต้องการ
00:56:48 → 00:56:51 โปรตีน 0.8 ถึง 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 ก
00:56:51 → 00:56:55 ต่อนนกว่าธดก็คือไม่ไม่ได้ลดลงมากเท่า
00:56:55 → 00:56:59 ไหร่นิดนึงนิดแต่พอถึงระยะหนึ่งที่มีค่า
00:56:59 → 00:57:03 การกรองของไตหรือว่าคนไข้จะเห็นในผลแลบ
00:57:03 → 00:57:04 ว่าค่า
00:57:04 → 00:57:08 GFR นะคะน้อยกว่า 60 เมื่อไหร่ขอขยับลง
00:57:08 → 00:57:12 มาอีกอืเป็น 0.6 - 0.8 กรัมตอนน้ำหนัก
00:57:12 → 00:57:16 ตัว 1 กลต่อวันอืสำหรับคนที่เป็นโรคเป็น
00:57:16 → 00:57:22 โรคไตวหรือังนะคะทีนี้พอมาถึงระยะฟอกไต
00:57:22 → 00:57:25 ที่พี่เก๋บอกระยะนี้เนี่ยนะคะจะมีการสูญ
00:57:25 → 00:57:28 เสียโปรตีนอย่างมากมายไปกับการฟอกไตดัง
00:57:28 → 00:57:32 นั้นพอฟอกไตแล้วต้องกินโปรตีนเพิ่มขึ้นออ
00:57:32 → 00:57:36 ต้องกินเพิ่มขึ้นไม่ใช่ลดลงอใช่ค่ะไม่
00:57:36 → 00:57:38 อย่างงั้นอาจจะตัวบวมเพราะว่าเวลาที่ร่าง
00:57:38 → 00:57:42 กายเราอ่ะค่ะเสียโปรตีนออกไปร่างกายเราจะ
00:57:42 → 00:57:45 ไม่มีสารอัลบูมินที่เป็นตัวอุ้มน้ำเก็บ
00:57:45 → 00:57:48 น้ำเข้าไปไว้ในเส้นเลือดเขาจะเกิดอาการกด
00:57:48 → 00:57:53 บุ๋มค่ะบวมแบบกดน้ำใช่กกดลงไปใช่ค่ะที่
00:57:53 → 00:57:56 หน้าแข้งหรือว่าที่เท้านะคะเทกดลงไปแล้ว
00:57:56 → 00:57:59 มันไม่ดีดกลับขึ้นมาอันนี้ก็คืออาการบวม
00:57:59 → 00:58:03 จากภาวะขาดโปรตีนออ๋อนะคะอีกอย่างนึงคือ
00:58:03 → 00:58:07 โรคไตรั่วค่ะค่ะหรือว่า nephrotic
00:58:07 → 00:58:10 Syndrome เกิดได้เกิดในเด็กก็ได้ในคนทำ
00:58:10 → 00:58:14 งานก็ได้ในคนสูงไว้ก็ได้นะคะได้หมดเลยนะ
00:58:14 → 00:58:17 คะอาจจะเกิดจากมีเชื้อโรคเข้าไปแทคนะคะ
00:58:17 → 00:58:22 ตัวกรองของไตนะคะทำให้ปกติเขาจะไม่ปล่อย
00:58:22 → 00:58:25 โปรตีนออกมาในปัสสาวะแต่คนกลุ่มนี้ปล่อย
00:58:25 → 00:58:30 โปรตีนอปัสสาวะเป็นฟองนะคะแล้วก็มีอาการ
00:58:30 → 00:58:34 บวมบวมแบบกดบุ๋งอย่างที่หมอเลให้ฟังคนไข้
00:58:34 → 00:58:37 กลุ่มไตรั่วจึงมีความจำเป็นต้องเสริม
00:58:37 → 00:58:40 โปรตีนอีกแล้วค่ะต้องเสริมโปรตีนนะคะดัง
00:58:40 → 00:58:42 นั้นกลุ่มคนไข้โรคไตค่ะก็เลยมีความสับสน
00:58:42 → 00:58:45 ตรงนี้แหละว่าจะกินน้อยลงหรือจะกินเพิ่ม
00:58:46 → 00:58:48 ขึ้นดีนะคะก็จะต้องมาทำความเข้าใจใน
00:58:48 → 00:58:50 เรื่องนี้แหละว่าตกลงคุณเป็นโรคไตวายเรื
00:58:50 → 00:58:55 รังอ่าหรือว่าไตรั่วไตรั่วหรือว่าไตวาย
00:58:55 → 00:58:59 แล้วแต่ฟอกไปอนะคะกลุ่มนึงก็จะต้องควบคุม
00:58:59 → 00:59:02 นะคะกลุ่มนึงก็ต้องเพิ่มกลุ่มที่ควบคุม
00:59:02 → 00:59:05 ยังต้องกินอยู่นะนะคะเพราะถ้าไม่กินเลย
00:59:05 → 00:59:10 กลุ่มนี้จะกลายเป็นคนที่ภูมิตกติดเชื้อ
00:59:10 → 00:59:12 ง่ายนะคะอ่อนเคลียช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
00:59:12 → 00:59:15 าดโปรตีนไม่ได้เลยใช่แล้วก็นำไปสู่การติด
00:59:15 → 00:59:19 เตียงการต้องใช้ชีวิตใน ICU นะคะทีนี้พอ
00:59:19 → 00:59:22 ยิ่งเข้าโรงพยาบาลบ่อยก็จะติดเชื้อในโรง
00:59:22 → 00:59:26 พยาบาลซึ่งมักจะเป็นเชื้อที่ดื้อยาดื้อยา
00:59:26 → 00:59:29 ก็รักษายาค่ะเป็นกระบวนการเลยนะคะเป็นลูก
00:59:29 → 00:59:31 โซ่เลยเพราะฉะนั้นต้องย้อนกลับมาที่ว่า
00:59:31 → 00:59:35 เราป่วยอยู่ในระยะไหนแต่ที่สำคัญต้องทาน
00:59:35 → 00:59:40 โปรตีนให้เหมาะสมกับสภาวะโรคอีกโรคนึงค่ะ
00:59:40 → 00:59:44 คุณหมอที่คนสงสัยเราก็เอ่อมีการเค้าเรียก
00:59:44 → 00:59:47 อะไรนะสอบถามกันเข้ามาพอสมควรคือโรคที่
00:59:47 → 00:59:49 เกี่ยวกับหลอดเลือดไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือด
00:59:49 → 00:59:52 หัวใจกับหลอดเลิศสมองสตกที่นำไปสู่
00:59:52 → 00:59:56 อัมพฤกษ์อัมพาตเรื่องราวของการทานโปโปีน
00:59:56 → 00:59:59 สำหรับกลุ่มคนไข้เนี่ยค่ะเราควรจะทานยัง
00:59:59 → 01:00:02 ไงดีค่ะกลุ่มคนไข้หลอดเลือดหัวใจนะคะก็
01:00:02 → 01:00:05 เป็นอีกกลุ่มนึงที่ถ้าได้รับการผ่าตัดแน่
01:00:05 → 01:00:08 นอนว่าในช่วงเนี้ยในช่วงฟื้นฟูเขาก็จะ
01:00:08 → 01:00:12 ต้องได้รับโปรตีนเพิ่มขึ้นนะคะส่วนกลุ่ม
01:00:12 → 01:00:15 ที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองกลุ่มนี้มักจะมี
01:00:16 → 01:00:20 ผลลัพธผลพวงจากการเกิดโรคแค่ 1 ครั้ง
01:00:20 → 01:00:25 เนี่ยนะคะตามมาก็คือมีภาวะแขนขาอ่อนแรงนะ
01:00:25 → 01:00:27 คะหรือมีเรื่องเรื่องของการพูดที่ผิดปกติ
01:00:27 → 01:00:31 ไปมีบุคคลิกภาพที่เปลี่ยนไปนะคะการฟื้นฟู
01:00:31 → 01:00:34 สำหรับคนไข้กลุ่มนี้นะคะก็มักจะต้องเริ่ม
01:00:34 → 01:00:38 จากการทำกายภาพบำบัดนะคะฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
01:00:38 → 01:00:42 ในส่วนที่มีความเชื่อมโยงของสมองในส่วน
01:00:42 → 01:00:45 ที่เสียหายไปนะคะซึ่งการทำกายภาพบำบัด
01:00:45 → 01:00:49 เนี่ยนะคะมันก็จำเป็นที่จะต้องเสริมด้วย
01:00:49 → 01:00:52 โปรตีนนะคะเพราะว่าเาไม่สามารถขยับร่าง
01:00:52 → 01:00:54 กายเองได้ถูกมั้ยคะเวลาที่ร่างกายอยู่
01:00:55 → 01:00:58 นิ่งๆกล้ามเนืไม่ขยับมันก็รีบฝ่อมันไม่
01:00:58 → 01:01:02 ได้ใช้นะคะร่างกายก็จะรู้ตัวเลยว่ามันไม่
01:01:02 → 01:01:05 ต้องมีก็ได้อ๋ออ่านะคะเพราะฉะนั้นเวลาไป
01:01:05 → 01:01:09 ทำกายภาพบำบัดค่ะถ้าทำอย่างเดียวแต่ไม่มี
01:01:09 → 01:01:13 อะไหล่เข้าไปซ่อมนะคะอกล้ามเนื้อก็จะฟื้น
01:01:13 → 01:01:17 ฟูช้าอก็ต้องเติมโปต้องเติมเข้าไปอค่ะอัน
01:01:17 → 01:01:20 นี้ก็คือกลุ่มที่เป็นโรคเกี่ยวกับเอ่อ
01:01:20 → 01:01:24 หลอดเลือดหัวใจแล้วก็สตกนะคะ้าสงสัยอื่นๆ
01:01:24 → 01:01:27 เพิ่มเติมมั้ยคะไม่ป้าอยากถามอ่ะอย่างคนน
01:01:27 → 01:01:30 ไข้เบาหวานซึ่งมันจะมันจะตามไปถึงโรคไต
01:01:30 → 01:01:33 ได้ง่ายๆเนี่ยเราควรดูแลยังไงสมมุติเยัง
01:01:33 → 01:01:36 ไม่ถึงไตเแค่เบาหวานค่ะก็โปรตีนเหมือนคน
01:01:36 → 01:01:41 ปกติหรือหรือต้องเพิ่มขึ้นเริ่มต้นด้วย 1
01:01:41 → 01:01:44 น้ำหนักเกินมั้ยค่ะอ่าถ้าเกินถ้าเกินต้อง
01:01:44 → 01:01:48 จริงจังละอาจจะต้องเพิ่มขึ้นเพื่อการควบ
01:01:48 → 01:01:51 คุมน้ำหนักอนะคะทีนี้เนี่ยพอมาถึงเรื่อง
01:01:51 → 01:01:55 เบาหวานนะเราต้องคุยกันอีก 2 วันโอเคเป็น
01:01:55 → 01:01:56 เรื่องใหญ่
01:01:56 → 01:01:59 เนื่องจากว่าเอาเอาสั้นๆเนาะนะคะเบาหวาน
01:01:59 → 01:02:02 เนี่ยนะคะมันเป็นเรื่องของการที่มีน้ำตาล
01:02:02 → 01:02:05 ในเลือดสูงพอมันสูงอย่างต่อเนื่องค่ะน้ำ
01:02:05 → 01:02:08 ตาลมันจะมีความสามารถที่จะเปลี่ยนตัวเอง
01:02:09 → 01:02:13 นะคะเป็น AG produc Advance gated End
01:02:13 → 01:02:16 product ซึ่งเจ้าโปักตัวนี้นะคะเก่งเกิน
01:02:16 → 01:02:20 ไปนะคะเขาจะไปจับกับโปรตีนค่ะโปรตีนใน
01:02:20 → 01:02:24 ร่างกายที่เราบอกค่ะเยอะมากจริงๆถ้าจับ
01:02:24 → 01:02:27 กับคอลลาเจนเป็นไงคะคอลลาเจนเสื่อมหน้า
01:02:27 → 01:02:30 เหี่ยวแก่เร็วอ่ะทำไมคนชอบกินของหวานถึง
01:02:30 → 01:02:34 หน้าเหี่ยวดูุขนก้างเพราะว่า AG มันไป
01:02:34 → 01:02:38 เกาะกับคอลลาเจนหรือมันไปโรคไตได้ยังไง
01:02:39 → 01:02:42 เพราะว่ามันไปเกาะกับตัวกรองค่ะมันไปเกาะ
01:02:42 → 01:02:46 กับเส้นเลือดออที่มันอยู่ที่ไตที่ไตเส้น
01:02:46 → 01:02:49 เลือดเยอะมากค่ะแล้วเป็นเส้นเลือดฝอยๆ
01:02:49 → 01:02:51 เพราะฉะนั้นเกาะนิดเดียวเส้นเลือดแข็ง
01:02:51 → 01:02:56 เส้นเลือดตีบอ่าก็เลยนำไปสู่โรคไตวายเรือ
01:02:56 → 01:03:00 หรังนะคะดังนั้นถ้าเกิดไปตรวจสุขภาพนะคะ
01:03:00 → 01:03:05 บางคนขี้โกงค่ะนะอดน้ำตาลแบบอดอดข้าอด
01:03:05 → 01:03:08 ข้าวอดข้าววันนึง 2 3 วันอะไรอย่างเงี้
01:03:08 → 01:03:12 พบหน้าคุณหมอนะคะเพื่อให้ฟาติัชูก้ามันดู
01:03:12 → 01:03:15 ดีนะมันต่ำกว่า 100 แต่สิ่งที่ควรตรวจ
01:03:16 → 01:03:18 เพิ่มนะคะถึงแม้ว่าคุณจะไม่เป็นเบาหวานก็
01:03:18 → 01:03:21 ตามควรจะตรวจสิ่งที่เรียกว่าฮีโมโกลบิน
01:03:21 → 01:03:25 a1c อืนะคะหลายๆคนจะบอกไม่เป็นเบาหวาน
01:03:25 → 01:03:26 ต้องตรวจทำ
01:03:26 → 01:03:30 อ่าจริงๆแล้วฮีโมโกลบิน a1c ก็คือตัว N
01:03:31 → 01:03:34 produc ตัว AG produc เนี่ยค่ะที่มันไป
01:03:34 → 01:03:37 เกาะกับฮีโมโกลบินเพราะฮีโมโกลบินก็เป็น
01:03:37 → 01:03:40 โปรตีนใช่ไหมยคะอันนี้แหละมันจะเป็นตัว
01:03:40 → 01:03:45 บ่งบอกว่าในช่วงอายุของเม็ดเลือดแดงนะ 3
01:03:45 → 01:03:49 เดือนเนี้ยคุณควบคุมน้ำตาลได้ดีหรือไม่นะ
01:03:49 → 01:03:53 คะเป็นประวัติยาวนานอันนี้โกหกกันไม่ได้
01:03:53 → 01:03:56 ใช่ๆค่ะส่วนตัวแล้วเนี่ยตัวสารเยังไม่ได้
01:03:56 → 01:04:00 มีความเสี่ยงแต่ชอบไปตรวจเพราะว่ามันเป็น
01:04:00 → 01:04:03 อินดิชของความแก่ระดับ
01:04:03 → 01:04:09 เซอ่าใครอยากรู้ว่าเซลล์เราแก่ไปถึงไต้อง
01:04:09 → 01:04:12 ไปแล้วนะคะป้าเราต้องไปดูแล้วแหละว่าเรา
01:04:12 → 01:04:15 มีเซลล์เราแกะระดับไหนแล้วนะคะก็จะเป็น
01:04:15 → 01:04:18 การไปตรวจโปรตีนเจ้าฮีโมโกลบิน a1c นี่
01:04:18 → 01:04:23 แหละนะคะเพื่อได้ทราบภาวะที่ซ่อนอยู่ของต
01:04:23 → 01:04:26 ที่ไม่ได้เกี่ยวกับเบาหวานอย่างเดียวอ
01:04:26 → 01:04:29 เป็นไงค่ะป้าเรื่องเบาหวานได้ความรู้แล้ว
01:04:29 → 01:04:33 นะเรากลับไปดูแลคนใกล้ตัวพคุณหมอพูดมาแบบ
01:04:33 → 01:04:36 นี้ว่าเอ้ยคุณหมอก็มีเคล็ดลับในการไปตรวจ
01:04:36 → 01:04:39 ร่างกายเลยอยากทราบเลยแหละว่าวิธีการกิน
01:04:39 → 01:04:43 โปรตีนในแบบของคุณหมอจ๋าแล้วป้านเลยอยาก
01:04:43 → 01:04:45 รู้เลยว่าคุณหมอจ๋าทานโปรตีนยังไงถึงได้
01:04:45 → 01:04:48 แบบแข็งแรงแล้วก็สวยขนาดนี้ค่ะอย่างที่
01:04:48 → 01:04:51 บอกค่ะจ๋าจะมีพิมพ์เขียวของตัวเองเราต้อง
01:04:51 → 01:04:54 รู้ก่อนว่าจริงๆแล้วเราควรจะกินอะไรบ้าง
01:04:54 → 01:04:57 ประมาณไหนค่ะเขียนเอาไว้เลยนะคะเป็น
01:04:57 → 01:05:00 คัมภีร์ส่วนตัวว่าเราน้ำหนักเท่านี้นะ
01:05:00 → 01:05:02 โปรตีนที่เราต้องกินต่อวันต้องเท่านี้
01:05:02 → 01:05:03 เท่านี้นะนะคะเพราะฉะนั้นเราจะมี mind
01:05:03 → 01:05:06 เซตละวันนี้เช้าเรากินอันนี้ไปแล้วได้มา
01:05:06 → 01:05:09 กี่กรัมมื้อกลางวันเรากินอันนี้ได้มากี่
01:05:09 → 01:05:13 กรัมนะคะแต่สิ่งที่สำคัญคือยังเป็นคนติด
01:05:13 → 01:05:17 สุขในการกินอยู่ค่ะนะคะเพราะฉะนั้นจ๋าก็
01:05:17 → 01:05:20 จะเลือกกินโปรตีนที่หลากหลายอ่าเปลี่ยน
01:05:20 → 01:05:23 ชนิดของโปรตีนไปเรื่อยๆทั้งโปรตีนจากพืช
01:05:23 → 01:05:26 โปรตีนจากสัตว์สิ่งที่อาจจะย้อนแย้งนิด
01:05:26 → 01:05:30 นึงก็คืออะไรที่ชอบอยากกินเยอะอือะไรที่
01:05:30 → 01:05:34 ไม่ชอบพยายามกินเข้าไปหน่อยกินเยอะๆอ่า
01:05:34 → 01:05:37 อะไรที่ไม่ชอบและมีประโยชน์นะคะพยายามกิน
01:05:37 → 01:05:40 เข้าไปหน่อยหรือกินผสมกับสิ่งที่ชอบค่ะ
01:05:40 → 01:05:43 เพื่อให้มันได้ความหลากหลายแล้วก็ได้สาร
01:05:43 → 01:05:46 อาหารที่ที่แถบมากับความหลากหลายนั้นนะคะ
01:05:47 → 01:05:50 ครบถ้วนมากขึ้นนะคะมันก็จะทำให้เรามีความ
01:05:50 → 01:05:52 สุขด้วยนะคะแล้วก็ได้รับโปรตีนที่เพียงพอ
01:05:52 → 01:05:56 ด้วยค่ะอือเราได้เคลดลับแล้ว่ะเขียวของ
01:05:56 → 01:05:59 ป้าด้วยพิมพ์เขียวของป้าเนี่ยก็มี
01:05:59 → 01:06:02 ประโยชน์กับผู้ติดตามแน่นอนค่ะเพราะว่า
01:06:02 → 01:06:04 พิมพ์เขียวของป้าเนี่ยเชื่อว่าทุกวันนี้
01:06:04 → 01:06:07 ป้าทานอาหารหลากหลายอยู่แล้วแต่ว่าเรารู้
01:06:07 → 01:06:10 ว่าโปรตีนเราทั้งเก๋และป้ารู้ว่าโปรตีน
01:06:10 → 01:06:12 ที่เราต้องทานในแต่ละวันเนี่ย 1 วันเนี่ย
01:06:13 → 01:06:15 ประกอบไปด้วยกี่กรัคราวนี้เราก็ไปเซ็ต
01:06:15 → 01:06:18 พิมพ์เขียวของเราได้แล้วใช่มยป้าลองเล่า
01:06:18 → 01:06:21 พิมพ์เขียวของป้าในแส่วนตัวป้านะของป้าก็
01:06:21 → 01:06:24 จะมีเช้าขึ้นมาแต่ละวันน่ะป้าจะมีน้ำ
01:06:24 → 01:06:28 เต้าหู้ 1 แก้วแล้วโยตโยเกิร์ตกลีกแบบไม่
01:06:28 → 01:06:32 หวานเลยเดี๋ยวหมอช่วยบวกมเดี๋ยวหมอบตัวเ
01:06:32 → 01:06:35 บวกนะน้ำตู้ 1 แก้ว 1 แก้วอโยเกิร์ตกรีก
01:06:35 → 01:06:38 อ่าโยเกิร์ตกรีกโยเกิร์ตเอาเล่นๆนะสัก 5
01:06:38 → 01:06:41 กรัม 5 กรัแล้วป้าก็แถมเข้าโอ๊ตค่ะมี
01:06:41 → 01:06:44 โปรตีนใช่มั้ยนิดหน่อยแล้วกันนอ่าเขอ่า
01:06:44 → 01:06:48 ไม่เกี่ยวข้าอดประมาณ 2 ช้อนเล็กๆอ่ะแค่
01:06:48 → 01:06:50 เนี้ยคือ 1 มื้อเช้าโอเคได้ 10 แล้วค่ะป
01:06:50 → 01:06:53 อ่า 1 มื้อเช้ากลางวันก็อาจจะเป็นอันนี้
01:06:53 → 01:06:56 พวกอ่าอาจจะผสมแปแล้วอ่ะเข้ากล้องอาจจะ
01:06:56 → 01:07:00 เข้ากล้องหรือก๋วยเตี๋ยวอะไรก็แล้วแต่อ
01:07:00 → 01:07:02 ก๋วยเตี๋ยวมีเนื้อสัตว์มั้ยคะก๋วยเตี๋ยว
01:07:02 → 01:07:05 มีเนื้อสัตว์มีลูกชิ้นมีปลามีอ่า
01:07:05 → 01:07:09 ก๋วยเตี๋ยวมีเนื้อสัตว์ลูกชิ้นอ่ะลูกชิ้น
01:07:09 → 01:07:12 ลูกชิ้นหรือปลาเพะชอบกินลูกชิ้นปลางโอเค
01:07:12 → 01:07:15 ลูกชิ้นปลาซักประมาณ 1 กำมือนะคะใหญ่ๆ
01:07:15 → 01:07:19 หน่อยให้โปรตีน 7 กรัมป้าขาได้ 1 ละกืน
01:07:19 → 01:07:22 น้ำลายแล้วลูกชิ้นปลา 2 ลูกชิ้น 2 เม็ด
01:07:22 → 01:07:24 ลูกชิ้น2มลูกช 2
01:07:24 → 01:07:27 เม็ดค่ะแล้วก็อ่ะอันนี้ส่วนตัวคือเริ่ม
01:07:27 → 01:07:30 เริ่มาดูแลตัวเองมากขึ้นก็เราจะไม่กินอ่ะ
01:07:30 → 01:07:31 สมมติเป็นก๋วยเตี๋ยวก็ไม่ไม่ทาน
01:07:31 → 01:07:34 ก๋วยเตี๋ยวแห้งต้องเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำที่
01:07:34 → 01:07:37 ไม่ซดน้ำอือ่ะก็ประมาณเนี้ยค่ะแล้วก็
01:07:38 → 01:07:40 ผลไม้ที่ถาดไม่ได้คือผลไม้เอมื้อเช้าป้า
01:07:40 → 01:07:43 ลืมเติมเพราะจะมีพวกเบอร์รี่ทั้งหลายอยู่
01:07:43 → 01:07:46 ในโยเกิร์ตโอเคกลุ่มพวกนี้จะให้วิตามิน
01:07:46 → 01:07:49 แต่ว่าอาจจะไม่ได้เกไม่ได้โปรตีนอ่ะก็
01:07:49 → 01:07:52 ประมาณอันเนี้ยอ่ะมื้อมื้อเย็นก็อาจจะ
01:07:52 → 01:07:56 สลัดอ่าอาจจะสลัดหรือผักน้ำพริกค่ะปลาทู
01:07:56 → 01:07:59 อะไรจะประมาณอ่ะให้ 1 ตัวเลยโปรตีนขนาด
01:07:59 → 01:08:04 กลางได้โปรตีน 7 กรัมโอเค 1077 107 7
01:08:04 → 01:08:08 24 ก 24 กรั 24 อุยได้ครึ่งนึงยังไม่ได้
01:08:08 → 01:08:12 เลยไม่พออ่ะนี่แหลถอกินไข่ต้มอ่าได้อีก 7
01:08:12 → 01:08:16 อกินไข่ต้มมากิน 2 ฟองโอเคได้ 14 ละอ่าก็
01:08:16 → 01:08:20 จะเป็น 21 + 14 เป็นเท่าไหร่ 21 14 30
01:08:20 → 01:08:24 35 อ 35 ปประมาณ
01:08:24 → 01:08:28 นี้ 20 11 + 14 ถูกต้อง 3 ก็ยังขาด 15
01:08:28 → 01:08:30 อีกหน่อยขาดอีก 15 เอองั้นสรุปว่าทุกวัน
01:08:31 → 01:08:33 นี้ป้าขาดโปรตีนถ้าป้ากินเท่านี้นะถูก
01:08:33 → 01:08:35 ต้องเออเดี๋ยวเราต้องไปเขียนพิมพ์เขียว
01:08:35 → 01:08:38 ใหม่ค่ะซึ่งพิมพ์เขียวของยุงก็อาจจะเขียว
01:08:38 → 01:08:41 เขียวหน่อยเพราะเป็นสายมังสายมังเ้ยป้า
01:08:41 → 01:08:45 กินถั่วด้วยอโอคมิกนัดมิกนัดในกระเป๋ามี
01:08:45 → 01:08:48 จาลอดจะเห็นว่าขนาดเราเนี่ยเป็นคนที่แบบ
01:08:48 → 01:08:52 จริงจังกับการแบบกินเนาะยังขาพอเพราะ
01:08:52 → 01:08:54 ฉะนั้นถ้าเราไม่เคยเขียนไว้นะคะยากมากเออ
01:08:54 → 01:08:58 งงยากมากที่จะกินถึงก็มีมินัสอีกกำมือนึง
01:08:58 → 01:09:00 ถูกต้องดีค่ะนี่แหละที่อย่าอย่างงี้ทุก
01:09:00 → 01:09:04 วันนะอ่ะประมาณเนี้ยอ่าเกือบแล้วค่ะเกือบ
01:09:04 → 01:09:07 แล้วเกือบแล้วพามมากเลยถ้าสมมุติว่าเรา
01:09:07 → 01:09:10 กินอาหารที่มีฉลากโภชนาการนะคะเราจะง่าย
01:09:10 → 01:09:14 ขึ้นอ๋อเขาก็จะบอกใช่มั้ยคะว่าใน 1 ซองมี
01:09:14 → 01:09:18 โปรตีนกี่กงอ๋อรู้เลยไม่ต้องทำพิมเขียว
01:09:18 → 01:09:21 ใช่อ่ามิกนัเนี่ยสมมุติว่าถุงใหญ่ๆเขาอาจ
01:09:21 → 01:09:26 จะเขียนว่าอ่า 1 ถุงแบ่งรับประทาน 5
01:09:26 → 01:09:30 ครั้งอ๋ออ่าใน 1 หน่วยบริโภคได้โปรตีน
01:09:30 → 01:09:35 ตึ๊กๆกรัอ่าเพราะฉะนั้นแปลว่า 1 ใน 5 ของ
01:09:35 → 01:09:40 ถุงนั้นได้โปรตีนตามที่เขาบอกโอเคค่ะอื
01:09:40 → 01:09:43 เข้าใจและเข้าใจมั้ยคะป้าเนาะเข้าใจมันก็
01:09:43 → 01:09:48 ไม่ได้ยากนะงแต่ว่าเราไม่เคยคำนวนเยากไม่
01:09:48 → 01:09:50 ยากไม่ยากเออต่อไปต้องคำนวณแลต้องมีพิมพ์
01:09:50 → 01:09:55 เขียวแลอืแล้วมาดูซิว่าสดชื่นขึ้นมาอ่า
01:09:55 → 01:09:58 ง่วงกลางวันน้อยลงมเป็นหวัดแล้วหายเร็วมย
01:09:58 → 01:10:01 ใช่ป้าเคยนี่ไงง่วงบางทีมีบางมีบางครั้ง
01:10:01 → 01:10:05 ที่รู้สึกสมองมันล้ามันแบบเหนื่อยอ่ะ
01:10:05 → 01:10:07 เหนื่อยบางครั้งนะจะโดยอายุหรือโดยอะไร
01:10:07 → 01:10:10 ไม่รู้แต่รู้แล้วตอนเนี้ยอาจจะขาดโปรตีน
01:10:10 → 01:10:13 เพราะเราไม่ทันโปรตีนจากเนื้อสัตว์อ่าอื
01:10:13 → 01:10:16 นะคะคุณหมอพูดมาเยอะแยะมากเลยเชื่อว่าผู้
01:10:16 → 01:10:18 ติดตามเนี่ยสามารถนำความรู้เหล่าเนี้ยไป
01:10:18 → 01:10:21 ปรับใช้ได้อย่างแฮปปี้แล้วก็ Healthy
01:10:21 → 01:10:24 ด้วยเนาะแต่แต่ยังไม่หมดค่ะอยากให้คุณหมอ
01:10:24 → 01:10:28 ฝากฝากทิ้งท้ายอีกนิดนึงเพื่อว่าสุดท้าย
01:10:28 → 01:10:31 แล้วเนี่ยเ่อผู้ติดตามเนาะของชีวจิตเนี่ย
01:10:31 → 01:10:35 จะได้เกิดกำลังใจในการดูแลสุขภาพให้ตัว
01:10:35 → 01:10:39 เองเนี่ย Healthy ทั้งร่างกายและจิตใจออ
01:10:39 → 01:10:43 ให้หมอฝากนิดนึงค่ะได้ค่ะต้องบอกว่าคำว่า
01:10:43 → 01:10:45 you are what you eat ยังเป็นจริง
01:10:45 → 01:10:49 เสมอแต่ว่าในเรื่องของสุขภาพจิตนะคะขอ
01:10:49 → 01:10:51 เพิ่มคำว่า you are what you think
01:10:51 → 01:10:54 เข้าไปอีกคำนึงนะคะการที่เราคิดดีนะคะคิด
01:10:54 → 01:10:58 บวกนะคะจัดการกับความเครียดได้ดีเนี่ยก็
01:10:58 → 01:11:01 จะทำให้เรามีสุขภาพจิตนะคะที่เชื่อมโยงไป
01:11:01 → 01:11:05 กับสุขภาพกายที่ดีร่วมกันด้วยนะคะอาหารก็
01:11:05 → 01:11:07 เป็นอีกสิ่งนึงที่มีแต่เราเท่านั้นที่
01:11:07 → 01:11:11 ต้องทำให้ตัวเราเองนะคะถ้าวันไหนเรารู้
01:11:11 → 01:11:14 สึกว่าวันเนี้ยพิจารณาตัวเองแล้วกินไม่ดี
01:11:15 → 01:11:18 เลยพรุ่งนี้เริ่มต้นใหม่เริ่มต้นใหม่นะคะ
01:11:18 → 01:11:23 เริ่มต้นใหม่เริ่มกินอาหารนะคะให้เป็นยา
01:11:23 → 01:11:26 เพื่อฟื้นฟูร่างกายป้องกันโรคตั้งแต่วัน
01:11:26 → 01:11:29 นี้ดีกว่าที่เราจะต้องไปกินยาให้เป็น
01:11:29 → 01:11:33 อาหารในวันหน้านั่นเองค่ะอืใช่เลยค่ะเป็น
01:11:33 → 01:11:37 ประโยคที่เป็นอมตะเลยใช่มยคะว่ากินอาหาร
01:11:37 → 01:11:40 เพื่อดูแลตัวเองดีกว่ากินยามาเป็นอาหาร
01:11:40 → 01:11:43 ใช่มคะป้าแล้วส่วนป้าล่ะคะป้าอยากฝากอะไร
01:11:43 → 01:11:46 กับผู้ติดตามของชีวจิตบ้างป้าบอกว่าในการ
01:11:46 → 01:11:49 ดูแลตัวเองเนี่ยอย่างที่คุณหมอบอกใช่มั้ย
01:11:49 → 01:11:52 คะ 1 คือต้องผสมการออกกำลังกายด้วยกับ
01:11:52 → 01:11:54 เรื่องอาหารด้วยแต่วันนี้เราได้รู้เยอะ
01:11:54 → 01:11:57 มากเลยเกี่ยวกับโปรตีนซึ่งตลอดมาเนี่ยเรา
01:11:57 → 01:12:00 เป็นแนวชีวจิตใช่มยก็อาจจะเอ่ออย่างที่
01:12:00 → 01:12:03 ป้าบอกอาจจะขาดโปรตีนบ้างแต่ว่าตอนเเรา
01:12:03 → 01:12:05 รู้แล้วว่าเราจะเสริมอะไรเข้าไปเพื่อให้
01:12:05 → 01:12:09 เราสดชื่นแข็งแรงเอ๊ะทำไมเราเพลียทำไมเรา
01:12:09 → 01:12:11 ง่วงนอนหรือทำไมเราวันนี้อ่อนแรงเนี่ย
01:12:11 → 01:12:14 เพราะอะไรตอนนี้รู้แล้วค่ะอืค่ะต้องบอก
01:12:14 → 01:12:17 ว่าวันนี้นะคะเราได้เค้าเรียกอะไรนะเคล็ด
01:12:17 → 01:12:21 ลับในการกินโปรตีนที่ต้องบอกว่าทำง่าย
01:12:21 → 01:12:24 เพียงแต่ว่าเราต้องมีเค้าเรียกกำลังใจ
01:12:24 → 01:12:28 เนาะค่ะแล้วก็มีการฉลาดเลือดนิดนึงเนาะ
01:12:28 → 01:12:32 ฉลาดที่จะดูเค้าเรียกว่าอะไรนะคะอ่านฉลาด
01:12:32 → 01:12:35 อ่าโฆษนาการดูว่าพลิกมาดูซิว่ามีส่วนผสม
01:12:35 → 01:12:38 ของอะไรบ้างเพื่อว่าสุดท้ายเราจะได้เลือก
01:12:38 → 01:12:41 ดักที่ดีต่อสุขภาพจริงๆค่ะเชื่อว่าวันนี้
01:12:42 → 01:12:45 นะคะผู้ติดตามชีวจิตจะได้ทราบเคล็ดลับการ
01:12:45 → 01:12:47 ดูแลสุขภาพโดยเฉพาะเรื่องของการกินโปรตีน
01:12:48 → 01:12:51 นะคะฉบับครบถ้วนมากเลยค่ะแล้วเรามาพบกับ
01:12:51 → 01:12:54 ชีวจิตพแสในครั้งต่อไปสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ
01:12:54 → 01:12:56 สวัสดี
01:12:57 → 01:13:01 คสุขภาพกายสุขภาพใจคุยกันได้ใน Health
01:13:01 → 01:13:04 topic