สารต้านอนุมูลอิสระในบรอกโคลีช่วยลดความเสี่ยงโรคอะไรได้บ้าง

5 สุดยอดอาหาร เพิ่มภูมิต้านทาน ชะลอวัย ไกลโรค by หมอแอมป์ [Dr. Amp Guide👨‍⚕️ & Dr.Amp Podcast]

จากช่อง : DrAmp Team


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:1200:00:14 สวัสดีครับท่านผู้ฟังทุกท่านครับ

00:00:1400:00:16 พบกับรายการ Dr.Amp Podcast

00:00:1600:00:19 กับผม หมอแอมป์ นะครับ

00:00:1900:00:22 วันนี้เราจะมาคุยกันในชื่อตอนว่า

00:00:2200:00:26 5 สุดยอดอาหาร ชะลอวัย ไกลโรค

00:00:2600:00:30 ดูสิครับว่าวันนี้เราจะมาพูดถึงอาหารชนิดใดบ้าง

00:00:3000:00:34 ขึ้นชื่อว่าอาหารที่มีประโยชน์ก็มีหลากหลายมากมาย

00:00:3400:00:40 คงจะสรุปมาพูดคุยกันว่าตัวนั้นดีกว่าตัวนี้ไม่ได้

00:00:4000:00:44 เพราะว่าอาหารหลายๆ อย่างก็มีดีกันคนละแบบ

00:00:4400:00:48 แต่วันนี้หมอจะลองคัดเลือกมาสัก 5 อาหาร

00:00:4800:00:51 ที่หมอคิดเห็นกับทีมงานแล้วว่า

00:00:5100:00:54 น่าจะมีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพ

00:00:5400:00:57 แล้วก็เพิ่มภูมิต้านทานให้ท่านผู้ฟังทุกท่านได้

00:00:5700:01:00 ในช่วงเวลาที่เรา อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

00:01:0000:01:04 แล้วต่อสู้กับเชื้อไวรัสโควิด-19

00:01:0400:01:07 ตัวที่ 1 เรามาเริ่มกันเลย กับ "ขมิ้นชัน"

00:01:0700:01:13 ขมิ้นชัน ภาษาอังกฤษ คือ Curcuma longa เป็นภาษาละติน

00:01:1300:01:15 ชื่อจริงๆ เรียกว่า Curcumin

00:01:1500:01:21 C-U-R-C-U-M-I-N แปลว่า ขมิ้นชัน

00:01:2100:01:25 บางพื้นที่เรียกขมิ้นแกง บางพื้นที่เรียก ขมิ้นหยอก หรือขมิ้นหัว

00:01:2500:01:27 แล้วแต่ศัพท์แต่ละภาค

00:01:2700:01:32 ในขมิ้นชันก็จะมีส่วนประกอบหลักๆ ออกเป็น 2 ส่วน

00:01:3200:01:35 ส่วนที่ 1 เราเรียกว่า ส่วนน้ำมันหอมระเหย

00:01:3500:01:38 ส่วนนี้เรียกว่า Essential oil

00:01:3800:01:42 ส่วนที่ 2 เป็นสารออกฤทธิ์ทางวิทยาศาสตร์ที่มีประโยชน์มากๆ

00:01:4200:01:44 ชื่อว่า Curcuminoid

00:01:4400:01:48 C-U-R-C-U-M-I-N-O-I-D

00:01:4800:01:51 Curcuminoid จำชื่อนี้ให้ดี

00:01:5100:01:58 สารตัวนี้แหละ ที่เป็นเคล็ดลับความพิเศษที่ซ่อนอยู่ในขมิ้นชัน

00:01:5800:02:03 ก็จะมีฤทธิ์ในการช่วยบำรุงร่างกายหลายๆ อย่าง

00:02:0300:02:05 สรุปได้ประมาณสัก 5 หัวข้อ

00:02:0500:02:09 Curcuminoid มีฤทธิ์อย่างแรก คือ

00:02:0900:02:14 มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ หรือที่เรียกว่า Antioxidant

00:02:1400:02:16 จำได้ในหลายๆ ตอนใช่ไหมครับ

00:02:1600:02:18 เวลามนุษย์เราเครียด เวลาเรานอนน้อย

00:02:1800:02:20 เวลาเรารับประทานอาหารไม่ดี

00:02:2000:02:24 เราเป็นโรคอ้วน เราเจอฝุ่นควัน เราเจอควันพิษ

00:02:2400:02:28 แล้วจะก่อให้เกิดสารขึ้นมาในร่างกายตัวหนึ่ง ทำลายเซลล์เรา

00:02:2800:02:32 ชื่อว่า สารอนุมูลอิสระ หรือที่เรียกว่า Free radicals

00:02:3200:02:35 ตัวที่ต่อต้าน หรือตัวที่ปัดกวาดต่อสู้

00:02:3500:02:38 สารไม่ดีให้ออกไปจากร่างกายเรา

00:02:3800:02:40 ให้ทำลายร่างกายเราน้อยๆ

00:02:4000:02:45 มีชื่อว่า Antioxidant หรือสารต้านอนุมูลอิสระ

00:02:4500:02:49 Curcuminoid นี่แหละครับ ที่เป็นตัวเพิ่มการทำงาน

00:02:4900:02:52 มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ

00:02:5200:02:57 มากกว่านั้นเขายังเข้าไปช่วยร่างกายใน 2-3 หัวข้อ

00:02:5700:03:01 หัวข้อที่ 1 ครับ ช่วยเรื่อง SOD

00:03:0100:03:03 หรือว่า Superoxide dismutase

00:03:0300:03:05 คิดภาพง่ายๆ ครับ

00:03:0500:03:07 ช่วยในการเพิ่มพลังงานในเซลล์ร่างกาย

00:03:0700:03:11 ในการชะล้างของเสียออกไป

00:03:1100:03:14 ส่วนที่ 2 เข้าไปช่วยเพิ่มการทำงานของ

00:03:1400:03:16 Glutathione Peroxidase (GPx)

00:03:1600:03:20 เป็นตัวที่ช่วยล้างตับ

00:03:2000:03:22 เรียกว่า Detoxification

00:03:2200:03:26 ตับก็คืออวัยวะในการล้างพิษที่ใหญ่มากๆ ในร่างกาย

00:03:2600:03:29 คิดภาพเป็นโรงงานกำจัดของเสีย

00:03:2900:03:33 Curcumin จะเข้าไปกระตุ้นเอนไซม์ SOD

00:03:3300:03:35 เข้าไปกระตุ้นสารกลูตาไธโอนในร่างกาย

00:03:3500:03:39 ให้ทำงานได้ดี และชะล้างสารพิษ

00:03:3900:03:41 หรือสารที่ทำให้เราเกิดโรคภัยไข้เจ็บ

00:03:4100:03:46 ให้ล้างออกไปจากร่างกายได้ไวกว่าเดิม

00:03:4600:03:48 อีกส่วนคือช่วยกระตุ้น Lipid peroxidation

00:03:4800:03:51 มีแต่ศัพท์ยากๆ แต่อย่างน้อยๆ ฟังไว้ก่อนครับ

00:03:5100:03:56 เพื่อเราจะไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน

00:03:5600:03:59 Lipid peroxidation ก็คือกระบวนการชะล้าง

00:03:5900:04:03 และเพิ่มการเผาผลาญไขมันในร่างกาย

00:04:0300:04:05 อันนี้ฤทธิ์ข้อที่ 1

00:04:0500:04:06 ฟังแล้วอยากทานเลยใช่ไหมครับ

00:04:0600:04:10 แค่ข้อที่ 1 ก็ช่วยชะล้างสารพิษ ชะลอแก่ ชะลอวัยแล้ว

00:04:1000:04:12 ข้อที่ 2

00:04:1200:04:15 มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ หรือ Anti-inflammatory

00:04:1500:04:21 ขมิ้นชันก็จะมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบในร่างกาย

00:04:2100:04:24 ไม่ว่าจะเป็นการลดค่า CRP หรือสารการอักเสบในเลือด

00:04:2400:04:28 การลด NF-kappa B คือการอักเสบในเลือดเช่นกัน

00:04:2800:04:32 ฉะนั้นเวลาเราทานขมิ้นชันเข้าไป

00:04:3200:04:34 ก็จะบรรเทาอาการอักเสบได้นะครับ

00:04:3400:04:36 ยกตัวอย่างในการวิจัย เช่น

00:04:3600:04:40 ภาวะปวดหัวเข่า หัวเข่าปวด บวม แดงร้อน

00:04:4000:04:44 หัวเข่าเสื่อม ตัว Curcumin อาจจะช่วยบรรเทาอาการได้

00:04:4400:04:49 ข้อที่ 3 มีฤทธิ์ต้านไวรัส ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

00:04:4900:04:51 อันนี้ก็มีการวิจัยไว้พอสมควร

00:04:5100:04:56 ว่าขมิ้นชันมีสารที่ช่วยในการต้านเชื้อ E. coli

00:04:5600:04:59 ใครเคยได้ยินบ้างครับ เวลาไปตรวจกระเพาะ

00:04:5900:05:01 เวลาเป็นโรคในกระเพาะอาหาร

00:05:0100:05:03 จะมีเชื้อแบคทีเรียตัวหนึ่งชื่อ E. coli

00:05:0300:05:07 ขมิ้นชันไปช่วยต่อต้านเชื้อ E. coli ได้

00:05:0700:05:10 ก็เลยลดอาการโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้

00:05:1000:05:14 หรือว่าโรคกระเพาะนี่แหละครับ ช่วยบรรเทาอาการได้

00:05:1400:05:19 มีการวิจัยอีกว่า สามารถช่วยต่อสู้กับเชื้อราแคนดิดา

00:05:1900:05:23 ก็คือการอักเสบเชื้อราในผิวหนัง ในช่องคลอด

00:05:2300:05:26 ขมิ้นชันก็ช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้

00:05:2600:05:28 ข้อที่ 4

00:05:2800:05:32 มีการวิจัยไว้ว่าขมิ้นชันมีส่วนช่วยเรื่องของ

00:05:3200:05:36 Metabolic syndrome ก็คือภาวะโรคอ้วนนั่นเอง

00:05:3600:05:37 ภาวะโรคอ้วน

00:05:3700:05:42 สาร Curcuminiod สามารถเพิ่มการทำงานของอินซูลิน

00:05:4200:05:48 ในการเอาน้ำตาลไปใช้ ไปทำลายออกจากร่างกายเรา

00:05:4800:05:52 แสดงว่าขมิ้นชัน มีส่วนช่วยในเรื่องเบาหวาน

00:05:5200:05:56 ในเรื่องโรคอ้วน ในเรื่องไขมันในเลือด นี่คือส่วนหนึ่ง

00:05:5600:05:58 แล้วก็ลดการอักเสบด้วย

00:05:5800:06:00 ถ้าใครฟังในตอนก่อนๆ

00:06:0000:06:03 เวลาเราเป็นโรคอ้วนแล้วมีเซลล์ไขมันเยอะจะเป็นอย่างไรครับ

00:06:0300:06:06 จะปล่อยสารอักเสบออกมาในร่างกายเรา

00:06:0600:06:10 เพราะฉะนั้นขมิ้นชันสามารถบรรเทาสารเหล่านี้ได้

00:06:1000:06:14 และข้อสุดท้ายที่มีการวิจัยไว้ คือ ขมิ้นชัน

00:06:1400:06:19 สามารถต้านหรือลดการสร้าง เบต้า-อะไมลอยด์ในสมอง

00:06:1900:06:23 เบต้า-อะไมลอยด์ในสมอง ถ้ามีเยอะจะไปขัดขวาง

00:06:2300:06:26 แล้วก่อให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม

00:06:2600:06:29 ขมิ้นชันสามารถบรรเทา หรือช่วยลดสารเหล่านี้ได้

00:06:2900:06:32 ก็คือบำรุงสมองในอีกทางหนึ่ง

00:06:3200:06:36 นี่คือ 4-5 ข้อที่เป็นประโยชน์ของขมิ้นชัน

00:06:3600:06:38 นี่เพิ่งตัวแรกนะครับ

00:06:3800:06:39 ข้อควรระวังครับ

00:06:3900:06:43 การทานขมิ้นชันหรืออาหารอะไรก็ตาม

00:06:4300:06:45 ต้องยึดหลักทางสายกลาง

00:06:4500:06:48 ที่ว่าดีแล้วทานมากเกินไปก็เป็นพิษ

00:06:4800:06:50 อาจจะเป็นพิษกับตับ เป็นพิษกับไต

00:06:5000:06:54 ดีไม่ดีต้องตรวจสอบด้วยว่ามีสารโลหะปนเปื้อนไหม

00:06:5400:06:58 พืชประเภทหัวต้องระวัง บางทีมีสารหนู บางทีมีปรอท

00:06:5800:07:01 บางทีมีตะกั่ว การจะรับประทานต้องปรึกษาแพทย์

00:07:0100:07:05 หรือการรับประทานนานๆ ควรไปตรวจเลือดดูโลหะหนักด้วย

00:07:0500:07:08 และอาจจะมีผลกับยาที่ทำงานเมตาบอลิซึม

00:07:0800:07:11 ผ่าน Cytochrome P450

00:07:1100:07:15 เอาเป็นว่าถ้าเราทานอย่างเหมาะสมก็โอเค

00:07:1500:07:19 ล้างให้สะอาด ทานกับน้ำพริก ทานกับแกง

00:07:1900:07:21 ทานแบบที่อาการไทยเราทาน

00:07:2100:07:26 ขมิ้นชันก็ถือว่าเป็นยาชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย

00:07:2600:07:28 จบตัวที่ 1 นะครับ

00:07:2800:07:33 ตัวที่ 2 ที่เป็นอาหารที่สุดยอดในการบำรุงสุขภาพ

00:07:3300:07:37 ที่หมอแอมป์อยากแนะนำ ก็คือ ปลา

00:07:3700:07:38 ปลานี่กว้างๆ เลยนะครับ

00:07:3800:07:42 ไม่ว่าจะเป็นปลาทะเล ปลาน้ำจืด ปลาน้ำลึก

00:07:4200:07:46 ปลาอะไรก็ตามแต่ มีของดีอยู่เยอะ

00:07:4600:07:48 เราไปไล่สรรพคุณกันเลย

00:07:4800:07:51 ปลา ถือว่าเป็นโปรตีนคุณภาพดี

00:07:5100:07:55 ประกอบไปด้วยไอโอดีน วิตามิน เกลือแร่

00:07:5500:07:59 โอเมกา 3 วิตามินดี และอื่นๆ อีกมากมาย

00:07:5900:08:02 โดยเฉพาะปลาน้ำลึก ที่จะมันหน่อย

00:08:0200:08:07 ปลาที่อยู่ทะเลหนาวๆ ปลาที่อยู่น้ำลึก ก็จะมีไขมันดีอยู่เยอะ

00:08:0700:08:12 ไขมันในปลานี่แหละ ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงหัวใจ

00:08:1200:08:15 แต่บางทีไม่ต้องน้ำลึกก็มีนะครับ

00:08:1500:08:18 เช่นปลาดุก ปลาดุกจะมีไขมันอยู่เยอะ แล้วแต่พันธุ์

00:08:1800:08:20 สารโอเมกา 3 นี่แหละครับ

00:08:2000:08:23 O-M-E-G-A-3

00:08:2300:08:27 เป็นน้ำมันที่ดีชนิดหนึ่ง ที่ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ

00:08:2700:08:30 มีการวิจัยไว้เยอะมากว่า

00:08:3000:08:35 การรับประทานปลามีส่วนช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด

00:08:3500:08:37 American Journal of Clinical Nutrition

00:08:3700:08:41 ก็คือสมาคมโภชนาการของสหรัฐอเมริกา

00:08:4100:08:43 เขาวิจัยไว้ในปี ค.ศ. 2008 ว่า

00:08:4300:08:45 ในคนอเมริกัน 40,000 กว่าคน

00:08:4500:08:48 ที่ทานปลาอย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

00:08:4800:08:51 ลดอัตราการเป็นโรคหัวใจได้ถึง 15%

00:08:5100:08:53 อันนี้ตัวอย่างนะครับ

00:08:5300:08:57 สารโอเมกา 3 ก็จะมีสารย่อยอยู่ในนั้น ขื่อว่า

00:08:5700:09:00 EPA และ DHA

00:09:0000:09:05 ใครเคยดูโฆษณาก็จะได้ยินว่าน้ำมันตับปลามี EPA + DHA

00:09:0500:09:10 ตัวนี้แหละครับ สำคัญในการพัฒนาสมองและดวงตาของเรา

00:09:1000:09:14 บำรุงหัวใจ บำรุงสมอง บำรุงสายตา

00:09:1400:09:17 ก็จะมีส่วนช่วยจากปลานี่แหละครับ มาช่วยเราได้เยอะ

00:09:1700:09:20 มีการวิจัยอีกครั้บ อันนี้วิจัยไว้ใน

00:09:2000:09:23 The American Journal of Preventive Medicine

00:09:2300:09:27 ก็คือสมาคมเวชศาสตร์ป้องกันของสหรัฐอเมริกา

00:09:2700:09:30 ในปี ค.ศ. 2014

00:09:3000:09:34 การรับประทานปลาทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง

00:09:3400:09:37 สามารถเพิ่มการบำรุง

00:09:3700:09:40 Grey matter ในสมอง หรือว่าสมองส่วนสีเทา

00:09:4000:09:43 มีส่วนช่วยในการบำรุงความจำ

00:09:4300:09:46 แหล่งอาหารที่มีอยู่เยอะในปลา มีอะไรอีกครับ

00:09:4600:09:49 วิตามินทั้งหลาย เช่น วิตามิน D

00:09:4900:09:52 ในปลาแซลมอน 1 ขีด

00:09:5200:09:56 มีวิตามิน D เท่ากับที่มนุษย์ต้องการต่อวัน

00:09:5600:09:59 แสดงว่าการกินปลาแซลมอน 1 ขีด

00:09:5900:10:02 ก็ได้วิตามิน D เท่าที่ร่างกายต้องการต่อวันแล้ว

00:10:0200:10:04 วิตามิน D สำคัญนะครับ

00:10:0400:10:08 เราเคยเรียนว่าวิตามิน D คือการโดนแดดอ่อนๆ ในตอนเช้า

00:10:0800:10:12 เข้าไปบำรุงร่างกาย บำรุงภูมิต้านทาน

00:10:1200:10:17 แต่พอปัจจุบัน สังคมสมัยใหม่ ชอบผิวขาว

00:10:1700:10:20 ก็เลยไม่อยากโดนแสงแดด

00:10:2000:10:23 เลยทำให้คนบางส่วนขาดวิตามิน D

00:10:2300:10:27 เพราะฉะนั้นการทานปลา ก็จะช่วยชดเชยสิ่งเหล่านั้น

00:10:2700:10:31 สารโอเมกา 3 ที่หมอบอกไปมี DHA มี EPA

00:10:3100:10:35 เป็นสารช่วยต้านการอักเสบ หรือลดการอักเสบ

00:10:3500:10:38 เพราะฉะนั้นบางครั้งมีการใช้ในคนไข้ที่ปวดข้อรูมาตอยด์

00:10:3800:10:42 ปวดเข่า กระดูก ไปเสียดสีเกิดการอักเสบ

00:10:4200:10:46 การทานพวกกลุ่มโอเมกา 3 ก็จะมีส่วนช่วย

00:10:4600:10:48 สรุปโดยรวมครับ

00:10:4800:10:51 ปลาก็คือโปรตีนคุณภาพดี

00:10:5100:10:54 ทานแล้วมีไขมันดีเยอะ มีไขมันไม่ดีน้อย

00:10:5400:10:59 ทานแล้วไม่อ้วน เป็นโปรตีนที่ทานแล้วดีต่อสุขภาพที่สุด

00:10:5900:11:01 ถ้าเปรียบเทียบกับเนื้ออื่นๆ

00:11:0100:11:03 เพราะฉะนั้นตัวนี้คือตัวสำคัญครับ

00:11:0300:11:07 ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนัก หรือการรักษาภาวะ NCDs

00:11:0700:11:10 ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโรคอ้วน

00:11:1000:11:13 หมอเลยขอเลือกปลา มาเป็นสุดยอดอาหารตัวที่ 2

00:11:1300:11:15 ระวังไว้นิดหนึ่งนะครับ

00:11:1500:11:22 ปัจจุบันโรงงานอุตสาหกรรมก่อให้เกิดการปนเปื้อนในทะเล

00:11:2200:11:28 การทานปลานานๆ เข้า อาจจะจำเป็นต้องเจาะเลือดดูโลหะหนัก

00:11:2800:11:31 บางคนมาถูกทางแล้ว ทานปลาเพื่อสุขภาพ

00:11:3100:11:33 แต่ไปเจาะเลือดเจอปรอทขึ้น

00:11:3300:11:38 เพราะว่าในน้ำ ในปลา บางทีมีปรอทปนเปื้อนอยู่

00:11:3800:11:42 ถ้ามีอาการเช่น เป็นผื่นแปลกๆ มีภูมิแพ้แปลกๆ

00:11:4200:11:44 เหนื่อยง่ายหรือเพลียง่าย

00:11:4400:11:47 อาจจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจสอบดู

00:11:4700:11:51 ว่าในเลือดเรามีโลหะหนัก หรือสารปรอทปนเปื้อนหรือเปล่า

00:11:5100:11:56 อันนี้ก็กระซิบบอกไว้นะครับว่าทุกอย่างทางสายกลาง

00:11:5600:11:59 ทานเยอะเกินไม่ดี ทานน้อยเกินก็ไม่ดี

00:11:5900:12:02 เราไปต่อครับ ตัวที่ 3 ของวันนี้

00:12:0200:12:04 บรอกโคลี

00:12:0400:12:08 บรอกโคลี จะเรียกว่าเป็นสุดยอดผักอีก 1 ชนิดก็ได้

00:12:0800:12:12 ถือเป็นเครือญาติกับกะหล่ำดอก หรือกะหล่ำปลีบ้านเรา

00:12:1200:12:15 แต่บรอกโคลี มีสารองค์ประกอบเยอะ

00:12:1500:12:20 บรอกโคลีเป็นสุดยอดพืชชะลอวัย เพราะมีวิตามินเยอะ

00:12:2000:12:23 มีเกลือแร่เยอะ มีไฟเบอร์ และเส้นใยเยอะ

00:12:2300:12:26 มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะ

00:12:2600:12:29 และที่สำคัญมีโปรตีนด้วย

00:12:2900:12:32 หลายๆ คนสงสัยว่าถ้าเรากินมังสวิรัส

00:12:3200:12:34 เราเป็นวีแกน เราจะขาดโปรตีนไหม

00:12:3400:12:38 จริงๆ ในผักหลายชนิดและในถั่วมีโปรตีนเยอะนะครับ

00:12:3800:12:42 สามารถใช้ทดแทนเนื้อสัตว์ได้เลย

00:12:4200:12:44 บรอกโคลีก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ

00:12:4400:12:48 ในบรอกโคลี 1 ถ้วย หรือ 90 กรัม

00:12:4800:12:50 มีโปรตีนประมาณ 2.6 กรัม

00:12:5000:12:54 มีไฟเบอร์ หรือเส้นใยประมาณ 2.4 กรัม

00:12:5400:12:58 มีวิตามิน C มีวิตามิน A มีวิตามิน K

00:12:5800:13:01 มีวิตามิน B9 หรือว่า กรดโฟลิก

00:13:0100:13:05 มีโพแทสเซียม มีฟอสฟอรัส มีซีลีเนียม มีแคลเซียม

00:13:0500:13:06 เยอะนะครับ

00:13:0600:13:08 ชนิดเดียวนี่มีเพียบเลย

00:13:0800:13:11 ในบรอกโคลียังมีสารมากกว่านั้นอีกครับ

00:13:1100:13:14 ในบรอกโคลีมีสารตัวหนึ่งชื่อว่า Glucoraphanin

00:13:1400:13:18 สารตัวนี้จะเปลี่ยนไปเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญ

00:13:1800:13:21 ที่ชื่อว่า Sulforaphane

00:13:2100:13:27 สะกดว่า S-U-L-F-O-R-A-P-H-A-N-E

00:13:2700:13:31 Sulforaphane เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:13:3100:13:35 เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ก็คือช่วยชะลอวัย

00:13:3500:13:37 บำรุงผิว บำรุงร่างกาย

00:13:3700:13:40 ทำให้ร่างกายเราป่วยช้าลง

00:13:4000:13:42 เขามีสารตัวนี้เยอะเลยในบรอกโคลี

00:13:4200:13:46 เพิ่มเติมยังมีสาร Lutein และ Zeaxanthin

00:13:4600:13:49 ที่เป็นสารสำหรับบำรุงสุขภาพสายตา

00:13:4900:13:52 สารอีก 1 ตัวในบลอกโคลี ชื่อ Kaempferol

00:13:5200:13:56 เป็น Flavonoid ชนิดหนึ่ง ช่วยลดการอักเสบ

00:13:5600:14:02 จำชื่อสารไม่ได้ไม่เป็นไร อย่างน้อยๆ รู้ว่ามีคุณสมบัติอย่างไร

00:14:0200:14:05 ก็ถือว่าตรงตามที่หมออยากสื่อสารแล้ว

00:14:0500:14:07 ช่วยลดการอักเสบครับ

00:14:0700:14:10 อาหารที่มีไฟเบอร์เยอะ ไม่ใช่แค่บรอกโคลี

00:14:1000:14:14 เป็นผักคะน้า ผักกระเฉด ถั่วพลูเองก็ตาม

00:14:1400:14:16 จะช่วยลดน้ำตาลในเลือด

00:14:1600:14:19 ช่วยดูดซึมไขมันส่วนเกินในลำไส้

00:14:1900:14:21 เพิ่มการทำงานของอินซูลิน

00:14:2100:14:24 ช่วยเรื่องเบาหวานก็ได้ ช่วยเรื่องน้ำหนักก็ได้

00:14:2400:14:26 ทานผักเยอะไม่อ้วน

00:14:2600:14:31 ทุกๆ มื้ออาหาร ผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง ท่องไว้นะครับ

00:14:3100:14:34 เพราะฉะนั้นการทานพืชเยอะนี่ช่วยเรื่องน้ำหนัก

00:14:3400:14:38 ช่วยเรื่องเบาหวาน เรื่องไขมัน เรื่องสุขภาพทางเดินอาหาร

00:14:3800:14:40 เพิ่มอาหารให้แบคทีเรียชนิดดี

00:14:4000:14:42 หรือ Probiotic ในลำไส้เรา

00:14:4200:14:44 นี่คือสรรพคุณของบรอกโคลี

00:14:4400:14:46 แล้วยังเต็มไปด้วยวิตามิน C ด้วยนะครับ

00:14:4600:14:51 ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในการต่อสู้กับเชื้อไวรัส

00:14:5100:14:54 เราไปกันต่อ สุดยอดอาหารตัวที่ 4 ในวันนี้ คือ

00:14:5400:14:55 มะขามป้อม

00:14:5500:15:00 ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus Emblica

00:15:0000:15:03 มะขามป้อม หมอเลือกมาให้ติดอันดับเพราะ

00:15:0300:15:05 มีวิตามิน C สูงมาก

00:15:0500:15:10 ในมะขามป้อม 4 ผลเล็กๆ มีวิตามิน C สูงถึง 100 มิลิกรัม

00:15:1000:15:12 เท่ากับส้ม 6 ผล

00:15:1200:15:17 หลายคนทราบว่าการสู้กับเชื้อไวรัสเราต้องได้วิตามิน C

00:15:1700:15:19 วิตามิน C จะไปเพิ่มการทำงานของเม็ดเลือดขาว

00:15:1900:15:23 หน่วย NK Cell ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสได้ดี

00:15:2300:15:25 หลายท่านทานผลไม้

00:15:2500:15:29 หมอเลยอยากเลือกผลไม้ 1 ชนิดขึ้นมาช่วยคุณผู้ชม

00:15:2900:15:31 ก็คือมะขามป้อมนี่แหละครับ

00:15:3100:15:35 ในมะขามป้อมมีสารออกฤทธิ์พิเศษอีกหลายตัว

00:15:3500:15:37 ตัวต่อไปก็คือ แทนนิน

00:15:3700:15:41 แทนนิน เป็นสารที่ทำให้มะขามป้อมมีรสฝาด

00:15:4100:15:43 เป็นสาร Polyphenol กลุ่มหนึ่ง

00:15:4300:15:47 ขึ้นชื่อว่าเป็น Polyphenol ก็คือเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:15:4700:15:50 ช่วยชะลอวัย ให้เราห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ

00:15:5000:15:55 สารแทนนินก็จะมีองค์ประกอบเป็นตัวช่วยต้านอนุมูลอิสระ

00:15:5500:16:00 ก็คือสาร Emblicanin A, Emblicanin B

00:16:0000:16:04 Pedunculagin, Penigluconin

00:16:0400:16:08 เหล่านี้เป็นชื่อของสารที่วิจัยมาแล้วว่าช่วยบำรุงร่างกาย

00:16:0800:16:12 ในมะขามป้อมยังมีสารพิเศษอีก เช่น

00:16:1200:16:17 กรดกลูตามิก กรดแอสปาร์ติก อะลานีน ไลซีน

00:16:1700:16:20 เควอซิติน นี่ก็เป็นสารออกฤทธิ์ที่ดี

00:16:2000:16:23 ฟลาโวนอยด์ กรดแกลลิก กรดเอลลาจิก

00:16:2300:16:26 ทั้งหมดนี้เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:16:2600:16:30 ช่วยต่อต้านและต่อสู้กับสารที่ไม่ดี ที่เข้ามาทำร้ายร่างกายเรา

00:16:3000:16:34 ในวิตามิน C ที่สูง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ NK Cell

00:16:3400:16:36 หรือเซลล์เพชรฆาต

00:16:3600:16:39 เพิ่มภูมิต้านทานเรา ช่วยต่อสู้กับเชื้อไวรัส

00:16:3900:16:41 ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ

00:16:4100:16:44 อันนี้คือสรรพคุณของมะขามป้อม

00:16:4400:16:47 และอาหารอย่างสุดท้ายของวันนี้

00:16:4700:16:51 ไม่ได้เรียงลำดับตามความเจ๋ง หรือความดีนะครับ

00:16:5100:16:54 เป็นการรวบรวมมาให้เห็นภาพคร่าวๆ

00:16:5400:16:58 5 อาหารที่หมอแอมป์เลือกมา ที่เราจะรับประทานเพิ่มเติม

00:16:5800:17:00 เพื่อเสริมเกราะป้องกันร่างกายเรา

00:17:0000:17:02 ตัวสุดท้ายของวันนี้ คือ

00:17:0200:17:03 มะละกอ

00:17:0300:17:05 ภาษาอังกฤษเรียก Papaya

00:17:0500:17:09 ชื่อทางวิทยาศาสตร์เรียก Carica papaya

00:17:0900:17:10 พันกว่าปีแล้วนะครับ

00:17:1000:17:15 ที่มนุษย์เราใช้มะละกอหมักเนื้อสัตว์ให้นุ่มก่อนรับประทาน

00:17:1500:17:20 หลายๆ คนเคยเรียนว่ามีเอนไซม์หรือน้ำย่อยอยู่ในมะละกอ

00:17:2000:17:21 ที่ชื่อว่าปาเปน

00:17:2100:17:23 P-A-P-A-I-N

00:17:2300:17:25 ช่วยย่อยเนื้อสัตว์

00:17:2500:17:27 ในมะละกอมีวิตามิน C

00:17:2700:17:32 มีวิตามิน A มีวิตามิน B9 หรือว่ากรดโฟลิก

00:17:3200:17:36 มีโพแทสเซียม มีแมกนีเซียม มีวิตามิน B1

00:17:3600:17:41 วิตามิน B3 วิตามิน B5 วิตามิน E มีแคลเซียม

00:17:4100:17:43 เยอะไหมครับ เพียบเลย

00:17:4300:17:47 มีสารตัวหลักๆ อีก เช่น แคโรทีนอยด์

00:17:4700:17:51 แคโรทีนอยด์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:17:5100:17:53 หรือที่เรียกว่า Antioxidant

00:17:5300:17:58 ก็ช่วยชะลอวัย ให้เราห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ

00:17:5800:18:01 อีก 1 ตัวในมะละกอ คือ ไลโคปีน

00:18:0100:18:04 L-Y-C-O-P-E-N-E

00:18:0400:18:07 ไลโคปีนเป็นตัวบำรุงร่างกาย ต้านการอักเสบ

00:18:0700:18:10 ต้านอนุมูลอิสระ อันนี้ก็เป็นประโยชน์

00:18:1000:18:13 วิตามิน C ครับ ไลโคปีน + วิตามิน C

00:18:1300:18:16 มีการวิจัยว่าบำรุงสุขภาพหัวใจ

00:18:1600:18:19 บำรุงสุขภาพผิว อันนี้สาวๆ ชอบ

00:18:1900:18:22 การทานมะละกอมีทั้งวิตามิน C ที่สูง

00:18:2200:18:24 มีไลโคปีนบำรุงผิวพรรณ

00:18:2400:18:27 ชะลอรอยย่น ชะลอตีนตา

00:18:2700:18:30 มีเอนไซม์ปาเปนช่วยย่อยโปรตีน ช่วยย่อยเนื้อสัตว์

00:18:3000:18:34 เวลาทานเนื้อสัตว์เข้าไป ทานมะละกอไปด้วย

00:18:3400:18:38 ก็ช่วยย่อยให้กระเพาะทำงานไม่หนักเกินไป

00:18:3800:18:40 มีสารไคโมปาเปนอยู่ในนั้น

00:18:4000:18:44 โดยเฉพาะเรื่องผิว มีการวิจัยในตอนหลังๆ ออกมามากขึ้น

00:18:4400:18:50 ว่าช่วยบำรุงผิว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิวพรรณให้ไม่เหี่ยว

00:18:5000:18:51 ช่วยลดการอักเสบ

00:18:5100:18:56 หลายบริษัทก็เลยนำมะละกอไปผสม

00:18:5600:19:01 นำวัตถุดิบออกมาแล้วไปทำที่ทาหน้า หรือครีมทาหน้า

00:19:0100:19:05 เนื่องด้วยมีฤทธิ์ในการลดความมัน มีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ

00:19:0500:19:08 มีฤทธิ์ในการบำรุงผิวหน้า

00:19:0800:19:11 แต่ก็อย่าเพิ่งเอามะละกอมาทาหน้าเลยนะครับ

00:19:1100:19:14 อาจจะต้องเป็นการวิจัยว่าเอาไปเป็นวัตถุดิบในการทำครีม

00:19:1400:19:16 อันนี้หมอมาเล่าให้ฟัง

00:19:1600:19:17 เราเอาแค่กินก่อนนะวันนี้

00:19:1700:19:19 เพราะฉะนั้นวันนี้ครับทุกท่าน

00:19:1900:19:23 5 สุดยอดอาหารที่หมอแอมป์เลือกมา

00:19:2300:19:26 หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้ฟังทุกท่านไม่มากก็น้อย

00:19:2600:19:29 แน่นอนครับก่อนจะลากันไปวันนี้

00:19:2900:19:33 ทางสายกลาง ไม่รับประทานจนมากเกิน

00:19:3300:19:37 ขอนะครับ ไม่ใช่หมอบอกไป แล้วทานแค่ 5 อย่างนี้แทนอาหาร

00:19:3700:19:40 แทนข้าวเช้า กลางวัน เย็น ไม่ได้นะครับ

00:19:4000:19:45 เรายังต้องรับประทานอาหารให้เป็นปกติ

00:19:4500:19:48 แล้วสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราเลือก คัดสรร

00:19:4800:19:51 ใส่เติมเข้าไปในอาหารเราได้ทั้ง 5 ตัว

00:19:5100:19:54 มีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพ

00:19:5400:19:56 และแน่นอนครับ ผักครึ่งหนึ่ง

00:19:5600:20:00 อีก 1 ใน 4 เป็นโปรตีนคุณภาพดี เช่น ปลา เช่นถั่ว

00:20:0000:20:03 อีก 1 ใน 4 เป็นแป้ง

00:20:0300:20:06 แล้วที่เหลือเป็นผักครึ่งหนึ่ง

00:20:0600:20:07 ขอฝากทุกท่านไว้เท่านี้

00:20:0700:20:11 หวังว่าตอนหน้าๆ เราจะมีเรื่องดีๆ มาคุยกันอีก

00:20:1100:20:15 ขอให้พวกเราทุกคนฟันฝ่าวิกฤตโควิดไปด้วยกัน

00:20:1500:20:17 อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

00:20:1700:20:21 ดูแลสุขภาพกาย ดูแลสุขภาพจิตใจ

00:20:2100:20:23 แล้วเดี๋ยวหมอจะกลับมาเจอทุกท่านใหม่

00:20:2300:20:27 ใครมีไอเดียดีๆ หรือเรื่องที่อยากรู้ ฝากไว้ในคอมเมนท์ได้

00:20:2700:20:31 หมอจะได้มาเรียนจากทุกท่านด้วย แลกเปลี่ยนกัน

00:20:3100:20:35 สร้างสังคมสุขภาพดี อายุยืนยาว อย่างมีคุณภาพไปด้วยกัน

00:20:3500:20:38 วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ