ทำไมข้าวในสมัยก่อนถึงมีลักษณะต่างจากข้าวในปัจจุบัน

Eat Direction | EP. 21 วิธีการทำงานของนักโบราณพฤกษคดีที่ศึกษาเรื่องอาหารในอดีต

จากช่อง : The Cloud


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:00 อื

00:00:0000:00:02 >> อดีตเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม

00:00:0300:00:04 >> ของกินก็เป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ความ

00:00:0400:00:07 เป็นตัวตนคนไทยจะโมโหกันมากเลย

00:00:0700:00:09 >> ถ้ามีคนมาว่าแกงไตปลาหรืออาหารไทยที่เขา

00:00:0900:00:10 ชอบ

00:00:1000:00:10 >> ออ

00:00:1000:00:12 >> เพราะว่าอาหารมันไม่ได้เป็นแค่อาหารมัน

00:00:1200:00:13 คือส่วนหนึ่งของตัวเ้า

00:00:1300:00:16 >> ไอ้สิ่งเนี้ยมันถูกมันจะถูกพูดถึงพร้อม

00:00:1600:00:18 กับอีกเรื่องนึงคือเรื่องความแท้ของอาหาร

00:00:1800:00:21 ที่คุยนั่นแหละเข้าใจว่าได้ยินเรื่องนี้

00:00:2100:00:22 มาเยอะมากะ

00:00:2200:00:23 >> ความแท้คืออะไรก่อน

00:00:2300:00:24 >> มันก็ใช่

00:00:2400:00:25 >> ความอร่อยมันไม่ได้อยู่ที่ความแท้ไม่แท้

00:00:2600:00:28 ถูกป่ะเพราะว่า innovation น่ะมันสามารถ

00:00:2800:00:30 ทำอาหารที่อร่อยอร่อยโดยไม่ต้องแท้ก็ได้

00:00:3000:00:33 เราจะมาทำตัวเป็นตำรวจเพื่อแบบว่า

00:00:3300:00:34 >> หาความแท้กันไปทำไม

00:00:3400:00:36 >> นอกจากหาความแท้เรื่องปิดโอกาสตัวเองใน

00:00:3600:00:38 การได้กินของอร่อย

00:00:3800:00:38 >> ก็จริง

00:00:3800:00:39 >> ด้วยอ่ะ

00:00:3900:00:41 >> เราไม่ได้กินเพื่ออยู่แต่เราอยู่เพื่อกิน

00:00:4100:00:43 แล้วก็เรียนรู้

00:00:4300:00:46 [เพลง]

00:00:4600:00:48 >> E Direction EP นี้ชวนคุณโจ้นัถานัก

00:00:4800:00:50 โบราณคดีที่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์อาหาร

00:00:5000:00:53 เป็นพิเศษมาคุยกันเรื่องวิธีการทำงานของ

00:00:5300:00:55 นักโบราณคดีและการสืบค้นประวัติศาสตร์ของ

00:00:5500:00:58 อาหารไทยครับและคำถามที่ว่าเราจะตามหา

00:00:5800:01:00 ความแท้ของอาหารได้จากประวัติศาสตร์หรือ

00:01:0000:01:02 ไม่แล้วคนธรรมดาอย่างผมที่ไม่ใช่นัก

00:01:0200:01:04 โบราณคดีเราจะรู้เรื่องประวัติศาสตร์

00:01:0400:01:06 อาหารไปเพื่ออะไรทั้งหมดติดตามได้ใน EP

00:01:0600:01:08 นี้ครับ

00:01:0800:01:11 Eat Direction คุยกับคนในวงการอาหารว่า

00:01:1100:01:14 เราควรกินอะไรถึงจะดี

00:01:1400:01:17 [เพลง]

00:01:1700:01:20 ที่ชวนคุณโจ้มาคุยเนี่ยเพราะว่าจริงๆแล้ว

00:01:2000:01:23 คุณโจ้เขียนคอลัมน์ให้ The Cาเยอะมากที่

00:01:2300:01:25 ผ่านมาเนี่ยแล้วผมก็ชอบทุกอันเลย

00:01:2500:01:28 >> ชอบโดยเฉพาะเรื่องที่แบบเขียนเรื่อง

00:01:2800:01:30 ประวัติศาสตร์ของอาหารผมพยายามจะชวนคุณ

00:01:3000:01:32 โจ้มาคุยหลายทีแล้วก็แบบไม่มีโอกาสสักที

00:01:3200:01:34 เพราะว่าจริงๆแล้วคุณโจ้ก็ไม่ได้อยู่

00:01:3400:01:35 เมืองไทยเป็นหลักใช่มั้ครับ

00:01:3500:01:36 >> ค่ะใช่ค่ะ

00:01:3600:01:38 >> ครับตอนนี้คือคุณโจ้อยู่ที่ไหนนะฮะ

00:01:3800:01:40 >> ตอนนี้อยู่ที่โตลอนโต้แคนาดา

00:01:4000:01:42 >> เออฮะที่คุณโจ้ทำอยู่นะตอนเนี้ยหมายถึง

00:01:4200:01:44 ว่าที่ทำที่แคนาดานี่คือทำอะไรบ้างครับ

00:01:4400:01:47 >> ตอนนี้เหรอคะหลังจากเรียนจบจากมหาลัย

00:01:4700:01:50 โตลอนโต้แล้วก็ตอนนี้ก็ยังว่างอยู่พออยาก

00:01:5000:01:53 จะพักกลับมาเมืองไทยแล้วก็ใช้เวลา

00:01:5300:01:53 >> อ

00:01:5300:01:56 >> กับเอ่อกับครอบครัวที่เมืองไทยอ่ะค่ะแล้ว

00:01:5700:02:00 ก็ในการศึกษาหลักฐานทางเอกสาร

00:02:0000:02:00 >> อื

00:02:0000:02:04 >> เกี่ยวกับอาหารในเมืองไทยให้มากขึ้นด้วย

00:02:0400:02:06 เพราะว่าไม่ได้กลับมาเมืองไทยนานมากแล้ว

00:02:0600:02:10 ก็ใช้เวลากับวัตถุดิบต่างๆในเมืองไทยที่

00:02:1000:02:12 ออกมาตามฤดูกาลอะไรอย่างี้ด้วยอ่ะค่ะ

00:02:1200:02:12 >> อื

00:02:1200:02:15 >> ก็เลยก็เลยตัดสินใจกลับมาคราวนี้อาจจะใช้

00:02:1500:02:17 เวลานานกว่าทุกคราว

00:02:1700:02:20 >> แล้วสิ่งที่คุณโจ้นิยามว่าตัวเองเอ่อเป็น

00:02:2000:02:23 เนี่ยในทั้งชีวิตเนี่ยที่ผ่านมาในการ

00:02:2300:02:26 เรียนเนียน

00:02:2600:02:28 รีเสิร์ชต่างๆเนี่ยเรียกว่าเป็นนัก

00:02:2800:02:30 ประวัติศาสตร์หรือนักโบราณคดีมั้ยครับ

00:02:3000:02:32 >> เป็นนักวิชาการอิสระก็แล้วกันนะคะ

00:02:3200:02:34 >> นักวิชาการอิสระ

00:02:3400:02:35 >> อิสระ

00:02:3500:02:36 >> ที่สนใจเรื่องอาหาร

00:02:3600:02:38 >> ที่สนใจเรื่องอาหารในอดีต

00:02:3800:02:41 >> ทำไมคุณโจ้สนใจเรื่องอาหารดีกว่าในอดีต

00:02:4100:02:46 >> เอาจริงๆก็คือตอนเรียนโบราณคดีเนี่ยมัน

00:02:4600:02:48 ถึงแม้ว่ามันจะสนุกก็จริงเนาะในการที่เรา

00:02:4800:02:51 ได้ค้นพบหลักฐานอะไรใหม่ๆที่ไม่ได้ถูก

00:02:5100:02:54 บันทึกไว้ในเอ่อเอกสารหรือว่าเป็นรายละ

00:02:5400:02:57 อกษรนะคะอย่างที่บอกว่าโบราณคดีเนี่ย

00:02:5700:03:00 เนี่ยศึกษาหลักฐานจากเอกสารก็คือตัว

00:03:0000:03:03 หนังสือจารึกและสิ่งต่างๆแล้วก็หลักฐาน

00:03:0300:03:06 ที่ไม่ใช่เอกสารทางประวัติศาสตร์ตัวอักษร

00:03:0600:03:09 ก็เช่นการขุดค้นหลักฐานทางโบราณคดีในหลวง

00:03:0900:03:09 ขุดค้น

00:03:0900:03:10 >> อื

00:03:1000:03:13 >> ก็จะเจอหลักฐานนั่นนี่นู่นแบบที่เขาไม่

00:03:1300:03:15 ได้พูดถึงมาก่อนอะไรเงี้ยมันจะมีแง่มุม

00:03:1500:03:17 ต่างๆจากการขุดค้นทุกครั้งเนี่ยทำให้เรา

00:03:1700:03:18 รู้สึกสนุก

00:03:1800:03:19 >> อือ

00:03:1900:03:22 >> แต่ในขณะเดียวกันนะฮวิชาบรังคดีมันก็มี

00:03:2200:03:26 ธรรมชาติบางอย่างของตัวเองมันมีความ

00:03:2600:03:29 หยุดนิ่งของหลักฐานบางอย่างอ่ะมันดูแห้ง

00:03:2900:03:33 แล้งมากเลยเราต้องนั่งดูแบบเศษพืชโครง

00:03:3300:03:36 กระดูกคนวิเคราะห์แบบเศษหม้อไหแตกอะไร

00:03:3600:03:38 เงี้ยซึ่งมันสนุกนะคะแต่บางทีเรารู้สึก

00:03:3800:03:41 ว่าด้วยความที่เราเป็นคนชอบกินน่ะ

00:03:4100:03:42 >> อือๆ

00:03:4200:03:45 >> แล้วก็มีความอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคน

00:03:4500:03:47 อื่นซึ่งเป็นธรรมชาติของนักมนุษย์วิทยา

00:03:4700:03:48 อย่างนึงเหมือนกันนะ

00:03:4800:03:49 >> ออครับ

00:03:4900:03:53 >> เราก็เลยรู้สึกว่าเออลองเอาเรื่องอาหารมา

00:03:5300:03:55 ดูมั้งดีแล้วใช้แล้วใช้วิธีการคิดแบบ

00:03:5500:03:59 โบราณคดีในการ apply ดูดิว่ามันจะเป็นไง

00:03:5900:03:59 มั่ง

00:03:5900:04:00 >> อื

00:04:0000:04:04 >> ก็ลองทำดูอย่างนั้นมาอย่างแบบว่าเป็น

00:04:0400:04:07 งานอดิเรกแล้วกันค่ะเป็นแบบฝึกหัด

00:04:0700:04:09 >> ถ้าเห็นใน Facebook ของคุณโจ้เนี่ยจะเห็น

00:04:0900:04:10 ว่าคุณโจ้

00:04:1000:04:12 >> ทำอาหารไทยเยอะมาก

00:04:1200:04:13 >> อ่ะ

00:04:1300:04:14 >> ที่แคนาดา

00:04:1400:04:15 >> ค่ะ

00:04:1500:04:17 >> ครับคือไอ้สิ่งเนี้ยมันคือสิ่งที่เอาไว้

00:04:1700:04:20 ศึกษาเพื่อจะมาใช้กับงานเกี่ยวกับ

00:04:2000:04:22 ประวัติศาสตร์โบราคดีด้วยมั้ฮะ

00:04:2200:04:24 >> ไม่มันคือการหาทำล้วนๆ

00:04:2400:04:27 >> คือน่าตกใจที่แบบว่าคุณโจ้ชอบถ่ายรูป

00:04:2700:04:29 อาหารที่ทำเอง

00:04:2900:04:29 >> ค่ะ

00:04:2900:04:30 >> ใช่มั้ฮะ

00:04:3000:04:30 >> ค่ะ

00:04:3000:04:33 >> ซึ่งทุกอย่างเป็นอาหารไทยที่ในเมืองไทย

00:04:3300:04:35 เองยังทำได้ไม่สมบูรณ์ขนาดนั้นน่ะทั้งๆ

00:04:3500:04:39 ที่อยู่แคนาดานะที่แคนาดานี่มีมีวัตถุดิบ

00:04:3900:04:40 ในการทำอาหารไทยเยอะขนาดนั้นเลย

00:04:4000:04:42 >> มีค่ะแต่เราต้องหาทำพอสมควรเสร็จแล้วมัน

00:04:4200:04:46 ก็ค่อยๆแปลเป็นการทำอาหาร 300 อย่างเนี่ย

00:04:4600:04:49 เวลา 1 ปี 1 หรือ 2 ปีทำทุกวันใช่มั้ฮ

00:04:4900:04:50 >> ทำทุกวัน

00:04:5000:04:55 >> แล้วก็ 300 อย่าง 200 300 อย่างเนี่ยก็

00:04:5500:04:57 นั่นขั้นที่แค่สำเร็จนะที่ไม่สำเร็จอีก

00:04:5700:04:58 เยอะมาก

00:04:5800:04:59 >> ไม่สำเร็จนี้เป็นยังไง

00:04:5900:05:01 >> คือไม่ถ่ายรูปลงแย่มาก

00:05:0100:05:02 >> หน้าตาหรือว่าอันรสชาติ

00:05:0200:05:03 >> ทุกอย่าง

00:05:0400:05:07 >> คือแบบว่าไม่ได้สำเร็จทุกอย่างแต่ว่าทำ

00:05:0700:05:10 ทุกวันเราก็เลยเอาการทำอาหารและการทำความ

00:05:1000:05:12 เข้าใจวัตถุดิบผ่านการทำอาหารแต่ละชนิด

00:05:1200:05:13 ตัวเอาตัวเราเข้าไปอยู่ในนั้นน่ะ

00:05:1300:05:14 >> ครับ

00:05:1400:05:18 >> เป็นลักษณะของการเรียนรู้ในแบบหนึ่ง

00:05:1800:05:18 >> อื

00:05:1800:05:23 >> เพราะว่าเวลาเราเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์เนาะ

00:05:2300:05:25 กับวัตถุดิบในแต่ละอย่างในอาหารแต่ละชนิด

00:05:2500:05:27 เนี่ยมันจะมีสิ่งที่เราเรียกว่าไวยากรณ์

00:05:2700:05:29 ของรสชาติเนี่ย

00:05:2900:05:32 [เพลง]

00:05:3200:05:35 ไวยากรณ์ของรสชาติก็คือการจัดวางรสชาติ

00:05:3500:05:38 และวัตถุดิบของอาหารในแต่วัฒนธรรมอ่ะมัน

00:05:3800:05:40 จะมีไม่เหมือนกันของไทยก็เปรี้ยวหวานมัน

00:05:4000:05:43 เค็มยำก็ต้องเผ็ดก่อนแล้วค่อยบางทีถ้า

00:05:4300:05:46 เป็นภาคกลางก็จะหวานแล้วก็เค็มเปรี้ยว

00:05:4600:05:48 เค็มเปรี้ยวอะไรเงี้ยแล้วแต่ที่เนาะ

00:05:4800:05:48 >> อครับ

00:05:4800:05:51 >> หรือว่าถ้าเป็นที่อื่นก็จะมีความมันมา

00:05:5100:05:53 ก่อนไหล่วัฒนธรรมของจีนก็จะมีความเค็ม

00:05:5400:05:58 ความเซวี่ความนัวความคาวอะไรอย่างเงี้ย

00:05:5800:05:59 ที่มันจะบาanceซกันอ

00:05:5900:06:02 >> เสี่ยงไฮก็จะกินหวาน

00:06:0200:06:05 >> แล้วก็จะใช้วัตถุดิบท้องถิ่นในแต่ละแบบ

00:06:0500:06:08 >> เขาก็จะมีการตีความวัตถุดิบ

00:06:0800:06:10 >> ในความเข้าใจแต่ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับ

00:06:1000:06:13 วัฒนธรรมการทำอาหารของเขาที่ต่างกันออกไป

00:06:1300:06:17 ทีนี้เวลาเราศึกษาตำราอาหารโบราณเนี่ย

00:06:1700:06:20 ต้องเข้าใจว่าเค้าถูกตำราอาหารเหล่าเนี้ย

00:06:2000:06:22 มันถูกเขียนขึ้นมาในช่วงเวลาที่ต่างจาก

00:06:2200:06:23 เรา

00:06:2300:06:24 >> อือือ

00:06:2400:06:26 >> พอเป็นช่วงเวลาที่ต่างจากเราเนี่ย

00:06:2600:06:29 เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหารสภาพ

00:06:2900:06:32 สังคมวัฒนธรรมรวมทั้งการผลิตวัตถุดิบใน

00:06:3200:06:35 แต่ละชนิดก็ไม่เหมือนกับปัจจุบัน

00:06:3500:06:36 >> ใช่สิ่งเนี้ย

00:06:3600:06:39 >> มันจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับรสชาติและคุณภาพ

00:06:3900:06:41 รสสัมผัสของวัตถุดิบในอดีต

00:06:4100:06:42 >> อื

00:06:4200:06:43 >> ซึ่งบางทีเราไม่รู้

00:06:4300:06:44 >> ครับ

00:06:4400:06:48 >> ดังนั้นการพยายามทำความเข้าใจอาหารของเรา

00:06:4900:06:51 เนี่ยโดยใช้วัตถุดิบต่างๆหลากหลายที่มา

00:06:5100:06:54 หลากหลายคุณภาพภาพทำอาหารทุกวันเพื่อที่

00:06:5400:06:56 จะ

00:06:5600:06:59 ดูดซับข้อมูลอันนี้เข้าไปเนี่ยมันจึงเป็น

00:06:5900:07:01 เรื่องจำเป็นสำหรับเรานะคะในการทำความ

00:07:0100:07:05 เข้าใจตำราอาหารโบราณแล้วก็ความหมายที่

00:07:0500:07:07 มันถูกซ่อนไว้ระหว่างบรรทัดอ

00:07:0700:07:10 >> ของตำราอาหารโบราณเหล่านั้นน่ะถ้าเราไม่

00:07:1000:07:12 มีความรู้ในการทำอาหารแล้วก็วัฒนธรรมและ

00:07:1300:07:16 บริบทของอดีตในช่วงเวลานั้นน่ะเราจะพลาด

00:07:1600:07:17 ไปได้ง่าย

00:07:1700:07:18 >> เออ

00:07:1800:07:21 >> เอออย่างเช่นสมัยก่อนอาหารจะมีความมัน

00:07:2100:07:22 ความเค็ม

00:07:2200:07:24 เพราะว่า 1 เไม่มีตู้เย็นอากาศร้อน

00:07:2400:07:25 >> อือ

00:07:2500:07:27 >> ถ้าวางแกงทิ้งไว้ไม่เค็มพอบูด

00:07:2700:07:28 >> อ๋อ

00:07:2800:07:32 >> อ่าหรือว่าในสมัยก่อนตำราอาหารเขาก็จะ

00:07:3200:07:35 เขียนว่าวิธีการจัดการเนื้อที่เขียวและ

00:07:3500:07:36 เหม็น

00:07:3600:07:38 >> จะต้องทำอย่างเขียวและเหม็นเหม็น

00:07:3800:07:40 >> ใช่ค่ะแต่ว่า

00:07:4000:07:42 >> เข้าใจต้องเข้าใจว่าในสมัยก่อนเนี่ยเนื้อ

00:07:4200:07:44 สัตว์เป็นของที่มีราคาเนาะ

00:07:4400:07:45 >> ครับ

00:07:4500:07:46 >> ตู้เย็นไม่มี

00:07:4600:07:46 >> อื

00:07:4700:07:49 >> น้ำแข็งยิ่งไม่ต้องพูดถึงมีบางคนเท่านั้น

00:07:4900:07:52 ที่สามารถเข้าถึงการเทคโนโลยีความเย็นใน

00:07:5200:07:53 สมัยก่อนครับ

00:07:5300:07:56 >> เขาจะไม่มานั่งกระมิดกระเมี้ยนว่าเนื้อ

00:07:5600:07:57 คุณเขี่ยวเราต้องทิ้ง

00:07:5700:07:58 >> อ๋อ

00:07:5800:08:00 >> แต่มันคือการจัดการทรัพยากรที่มีอยู่

00:08:0000:08:07 อย่างจำกัดให้ได้เกิดผลอะไรล่ะผลดีให้ให้

00:08:0700:08:09 ได้คุ้มค่าที่สุดไม่มีเวสอ่ะไม่มีของเสีย

00:08:0900:08:10 ทิ้ง

00:08:1100:08:13 >> แม่บ้านสมัยก่อนเนี่ยเขาก็จะไม่มานั่งแบบ

00:08:1300:08:15 ว่าเอาเนื้อเขียวทิ้งไม่ได้ฉันต้องทำยัง

00:08:1500:08:18 ไงก็ได้ให้มันพอกินได้แล้วปลอดภัยก็จะมี

00:08:1800:08:21 การใช้บอแรกินปสิวอะไรหรือว่าการทำอะไร

00:08:2100:08:23 ที่มันดูแบบว่าไม่ปลอดภัยในสมัยนี้

00:08:2300:08:23 >> ครับ

00:08:2300:08:25 >> แต่ว่ามันก็เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์

00:08:2500:08:26 >> อื

00:08:2600:08:28 >> แล้วก็สะท้อนมุมมองของเขาว่าการมอง

00:08:2800:08:31 ทรัพยากรอย่างเช่นเนื้อสัตว์ในอดีตเนี่ย

00:08:3100:08:33 มันจะต้องจัดการน่ะ

00:08:3300:08:33 >> ครับ

00:08:3300:08:35 >> คุณเป็นแม่บ้านน่ะคุณต้องทำทุกอย่างให้

00:08:3500:08:36 มันคุ้มค่าคุณไม่สามารถโยนทิ้งได้ถ้าเป็น

00:08:3700:08:39 สมัยนี้การเกษตรอุตสาหกรรม

00:08:3900:08:40 >> เรามีบริษัท

00:08:4000:08:43 >> อุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่เรามีตู้แช่แข็ง

00:08:4300:08:45 ที่ดี

00:08:4500:08:48 >> เนื้อแบบนี้เราทิ้งได้แต่ในสมัยก่อนทำไม่

00:08:4800:08:48 ได้

00:08:4800:08:50 >> ก็คือจัดการให้มันคุ้มค่าที่จัดการให้

00:08:5000:08:53 คุ้มค่าด้วยแล้วก็มุมมองของสิ่งที่เขา

00:08:5300:08:54 เรียกว่าของเสีย

00:08:5400:08:56 >> ไม่เหมือนกับปัจจุบัน

00:08:5600:08:57 >> อื

00:08:5700:08:58 >> อย่างเช่นอะไรครับ

00:08:5800:09:00 >> ก็อย่างเนี่ยเนื้อเขียว

00:09:0000:09:00 >> เนื้อเขียวเนี่ย

00:09:0000:09:01 >> อือ

00:09:0100:09:03 >> เนื้อเขียวที่กลายเป็นป่าไปแล้วเราก็

00:09:0300:09:06 สามารถทำให้มันกลับมาพอกินได้

00:09:0600:09:06 >> ออ

00:09:0600:09:10 >> โดยไม่เหลือทิ้ง

00:09:1000:09:13 >> อันนี้เป็นคำถามผมสงสัยว่าแบบการขุดไซส์

00:09:1300:09:17 งานไซส์นึงเนี่ยคนที่ขุดเนี่ยเป็นหลายๆคน

00:09:1700:09:20 ที่สนใจในแต่ละเรื่องมาขุดด้วยกันมั้ฮะ

00:09:2000:09:24 ส่วนมากในเมืองไทยจะเป็นนักโบราณคดีจาก

00:09:2400:09:25 ราชการนะคะ

00:09:2500:09:26 >> อื

00:09:2600:09:28 >> แล้วคนที่อนุมัติเนี่ยก็คือกรมศิลปากร

00:09:2800:09:29 >> ครับ

00:09:2900:09:32 >> แล้วเขาก็ต้องจัดการให้แน่ใจว่าไม่มีคน

00:09:3200:09:34 อื่นทำงานที่ไซส์นี้อยู่

00:09:3400:09:37 >> เอ่อนักโบราณคดีที่ทำเนี่ยมีคุณสมบัติไม่

00:09:3700:09:39 มีเรื่องเสียหายอะไรเขาก็จะให้อนุมัติให้

00:09:4000:09:40 ทำ

00:09:4000:09:41 >> อือ

00:09:4100:09:44 >> พอขุดลงไปแล้วเนี่ยถ้านักวิจัยเฉพาะทาง

00:09:4400:09:47 ต้องการจะเอาตัวอย่างไปเขาก็จะต้องประสาน

00:09:4700:09:50 กับนักโบราณคดีเจ้าของไซส์เจ้าของไซส์

00:09:5000:09:54 >> เจ้าของไซส์ที่อาจจะเป็นคนหางบประมาณลง

00:09:5400:09:57 ทุนลงแรงหาคนงานมาทำการขุด

00:09:5700:09:57 >> อื

00:09:5700:09:59 >> ว่าจะต้องการเก็บตัวอย่างแบบไหนอย่างเรา

00:09:5900:10:03 เนี่ยก็คือต้องใช้ตัวอย่างดินเอามาร่อน

00:10:0300:10:06 ผ่านน้ำเพื่อแยกเอาเศษพืชที่เป็นถ่าน

00:10:0600:10:08 เนี่ยออกมาที่เป็นเท่าถ่านแล้วออกมานะฮะอ

00:10:0800:10:10 >> แล้วก็มาวิเคราะห์ในกล้องไมโครสโคปอีกที

00:10:1000:10:12 หลังจากแห้งแล้ว

00:10:1200:10:16 >> อืเมื่อกี้ที่บอกว่าเป็นเรื่องของพืช

00:10:1600:10:18 >> แปลว่าส่วนใหญ่หลักฐานที่มันจะอยู่ในชั้น

00:10:1800:10:21 ดินเนี่ยมันจะเป็นพืชใช่มั้ยครับที่เราจะ

00:10:2100:10:23 เห็นเรื่องอาหารเรื่องการกินได้

00:10:2300:10:25 >> ไม่ไม่ๆอย่างที่อย่างที่บอกค่ะสมมุติห้อง

00:10:2500:10:28 เนี้ยเป็นแหล่งโบราณคดีนะที่อยู่ดีๆก็

00:10:2800:10:31 >> เราก็เป็นหลักฐานทำโบราณคดีเรา 2 คนก็จะ

00:10:3100:10:32 เป็นโครงกระดูก

00:10:3200:10:32 >> อือ

00:10:3200:10:35 >> ไมค์เนี่ยที่เป็นเหล็กเนี่ยก็จะหลงเหลือ

00:10:3500:10:35 อยู่

00:10:3500:10:36 >> เออ

00:10:3600:10:38 >> สมมุติผ่านไปสัก 100 ปีเนี่ยเหล็กนี่ก็จะ

00:10:3800:10:39 ขึ้นสนิ่มหมดแล้ว

00:10:3900:10:40 >> ครับ

00:10:4000:10:43 >> โครงสร้างของตึกที่เป็นอิฐซีเมนต์ต่างๆ

00:10:4300:10:44 เนี่ยก็ยังจะหลงเหลืออยู่

00:10:4500:10:46 >> อ

00:10:4600:10:48 >> ของเหล่าเนี้ยค่ะมันจะไม่ถูกกระบวนการทาง

00:10:4800:10:50 ธรรมชาติทำให้เสื่อมสลายไปได้โดยง่าย

00:10:5000:10:51 >> อ่าๆ

00:10:5100:10:53 >> แต่ในขณะเดียวกันเสื้อผ้า

00:10:5300:10:54 >> ครับ

00:10:5400:10:58 >> ผมหรือว่าเนื้อหนังของเราเนี่ยมันก็จะหาย

00:10:5800:11:00 ไปเพราะว่าเป็น

00:11:0000:11:03 วัตถุที่เสื่อมสลายเนาะไปได้โดยง่าย

00:11:0300:11:04 >> อือ

00:11:0400:11:08 >> พืชก็เหมือนกันค่ะถ้าไม่ได้ถูกไหม้เป็น

00:11:0800:11:12 เท่าถ่านเนี่ยโอกาสในการ

00:11:1200:11:14 ถูกสงวนรักษาไว้เนี่ยแทบไม่มีเลย

00:11:1400:11:16 >> เพราะมันนั้นจะย่อยสลายไปก่อนทุกอย่าง

00:11:1600:11:16 แล้ว

00:11:1600:11:16 >> ใช่

00:11:1600:11:20 [เพลง]

00:11:2000:11:22 เวลาจะหาอะไรเราไม่ได้เราไม่ได้ตั้งเป้า

00:11:2200:11:24 ว่าเราจะหาพืชชนิดไหน

00:11:2400:11:25 >> ครับ

00:11:2500:11:27 >> เราดูก่อนว่ามันเหลือพืชให้เราศึกษามั้

00:11:2700:11:30 เพราะว่าแค่แค่มีก็ดีแล้ว

00:11:3000:11:33 >> แค่มีเราก็จะรู้สึกดีมากแต่บางทีบางไซส์

00:11:3300:11:36 เงี้ยที่เราไปทำงานมาในภาคกลางของไทยเจอ

00:11:3600:11:40 เม็ดข้าว 2 เม็ดจากหลักฐาน 2 เม็ด

00:11:4000:11:43 >> เอ้ยเม็ดข้าวนี่มันต้องผ่านการเผามาก่อน

00:11:4300:11:45 ด้วยมั้ฮะที่บอกว่ามันจะอยู่ได้เผ

00:11:4500:11:47 >> จะถูกเผามากจะถูกเผา

00:11:4700:11:50 >> เออเป็นหลักฐานที่จะอยู่ได้นานกว่าอย่าง

00:11:5000:11:50 อื่น

00:11:5100:11:52 >> เพราะมันกลายเป็นคาร์บอนได้แล้ว

00:11:5200:11:54 >> คาร์บอนเราเจอพวกพืชเหล่าเนี้ยครับแล้ว

00:11:5400:11:57 มันจะเกิดอะไรขึ้นฮะหลังจากนั้นเรา

00:11:5700:11:58 >> มันจะเกิดอะไรขึ้น

00:11:5800:12:01 >> เราจะเอาไปใช้มันจะมีประโยชน์อะไรกับคน

00:12:0100:12:04 ทั่วไปบ้างหรือว่านักโบราณคดีเอาไปใช้

00:12:0400:12:06 อะไรต่อครับจากหลักฐานนี้

00:12:0600:12:08 >> อ๋อจริงๆมันก็ไม่ค่อยมีประโยชน์สำหรับคน

00:12:0800:12:10 ทั่วไปสักเท่าไหร่

00:12:1000:12:13 >> เพราะว่าอ่านักโบราณพฤศักดคดีเนาะที่เรา

00:12:1300:12:16 แปลมาจากคำว่าอาคิโอโบตานี่นี่นะ

00:12:1600:12:17 อาคิโอโบตานิส

00:12:1700:12:18 >> ครับ

00:12:1800:12:23 >> เราก็จะเอาไปวิเคราะห์เชิงสถิติดูก่อนอัน

00:12:2300:12:25 1 เราต้องบอกว่าพืชนั้นเป็นอะไร 2 มาจาก

00:12:2500:12:27 ชั้นวัฒนธรรมไหนอายุเท่าไหร่

00:12:2700:12:29 >> ดูจากชั้นดินที่บอกนี่

00:12:2900:12:32 >> ดูจากชั้นดินแล้วบางครั้งเราก็ค่าอายุ

00:12:3200:12:36 เอ่อจากการกำหนดอายุโดย AMS ว่าอายุเท่า

00:12:3600:12:38 ไหร่มาจากชั้นดินแบบไหนอ

00:12:3800:12:40 >> อยู่ในบริบทอะไร

00:12:4000:12:42 >> คุณโจมีไซส์เอ้มีมีเคสตัวอย่างมั้ครับว่า

00:12:4200:12:45 เคยเจอที่ไหนบ้างแล้วต้องทำงานกับมันยัง

00:12:4500:12:48 ไงบ้างเคสตัวอย่างเราในจีนก็แล้วกันนะคะ

00:12:4800:12:50 >> อันนี้บอกว่าก็ทำงานร่วมกับนักโบราณคดี

00:12:5000:12:51 จีนเนาะ

00:12:5100:12:53 >> เาก็ให้

00:12:5300:12:57 >> ภาชนะดินเผามาแล้วก็ดูลักษณะข้าวในนั้น

00:12:5700:12:59 >> อื

00:12:5900:13:02 >> เขาก็คิดว่าช่วงเนี้ยมันเป็นวัฒนธรรมช่าง

00:13:0200:13:04 ชานเนาะที่ตอนนี้เขาบอกเป็นข้าวหลักฐาน

00:13:0400:13:07 ของข้าวที่เป็นเมล็ดข้าวจริงๆเนี่ยที่

00:13:0700:13:09 เก่าแก่ที่สุดแห่งนึงในโลกเนี่ยประมาณ

00:13:0900:13:10 10,000 กว่าปีมาแล้ว

00:13:1000:13:11 >> ออฮะ

00:13:1100:13:14 >> เราก็ดูเมื่อส่องกล้อง SEM อ่ะค่ะกำลัง

00:13:1500:13:17 ขยายสูงจะเห็นว่ามีหนวดในข้าวเนี่ยเยอะ

00:13:1700:13:20 มากแล้วก็มีหางซึ่งเป็นลักษณะที่ใกล้

00:13:2000:13:25 เคียงกับข้าวที่ยังไม่ได้ถูกนำมาดัดแปลง

00:13:2500:13:26 สายพันธุ์อะไรอย่างเงี้ยค่ะ

00:13:2600:13:27 >> อ

00:13:2700:13:30 >> แล้วลักษณะของปริมาณที่มันปรากฏในภาชนะ

00:13:3000:13:32 ดินเผ่าอ่ะก็หนาแน่นมาก

00:13:3200:13:32 >> อือ

00:13:3300:13:35 >> จนนักวิชาการนักโบราณคดีหลายๆคนน่ะนัก

00:13:3500:13:39 โบราณคดีจีนด้วยเชื่อว่าถึงแม้ว่าข้าวจะ

00:13:3900:13:43 ไม่ได้บ่งบอกถึงลักษณะของความเป็นข้าว

00:13:4300:13:45 ปลูกอย่างชัดเจนน่ะ

00:13:4500:13:48 มันก็มีปฏิสัมพันธ์กับคน

00:13:4800:13:51 อย่างแน่นแฟ้นแล้วพอที่เราจะเอามาทำอะไร

00:13:5100:13:52 แบบเนี้ย

00:13:5200:13:55 >> แล้วปรากฏกับหลักฐานทางโบราณคดีในจำนวน

00:13:5500:13:58 ขนาดนี้ได้ซึ่งในช่วงหลังเนี่ยเขาก็มีการ

00:13:5800:14:01 อ่าดูลักษณะฐานรองเมล็ดด้วยนะคะคือข้าว

00:14:0100:14:03 เนี่ยเวลาเมล็ดข้าวติดอยู่กับกั้นมันใช่

00:14:0300:14:04 มั้ย

00:14:0400:14:04 >> ครับ

00:14:0400:14:07 >> มันจะมีฐานรองเมล็ดกลมๆเล็กๆอยู่

00:14:0700:14:08 >> อื

00:14:0800:14:11 >> ถ้าเป็นข้าวป่าเนี่ยหรือว่าข้าวที่ไม่ได้

00:14:1100:14:14 ผ่านการปรับปรุงพันธุ์เนี่ยถ้าขยับนิด

00:14:1400:14:15 เดียวข้าวมันก็จะร่วงลงพื้น

00:14:1500:14:16 >> อฮะ

00:14:1600:14:19 >> แต่ถ้าเราทำให้เราทำให้เมล็ดเนี่ยงอกเป็น

00:14:1900:14:21 ต้นข้าวใหม่ได้ง่ายขึ้น

00:14:2100:14:22 >> อื

00:14:2200:14:25 >> แต่ว่าถ้าเป็นข้าวปลุกเนี่ยไอ้การที่ถูก

00:14:2500:14:26 เมล็ดถูกสั่นไหว

00:14:2600:14:27 >> มันจะไม่ร่วง

00:14:2700:14:30 >> มันก็จะร่วงทำให้เสียผลผลิต

00:14:3000:14:32 >> เงี้ยคะดังนั้นเราก็เลยมีการปรับปรุง

00:14:3200:14:33 พันธุว่า

00:14:3300:14:33 >> ปรับปรุงพันธอครับ

00:14:3300:14:35 >> ให้ข้าวเนี่ยอยู่กับฐาน

00:14:3500:14:36 >> อือ

00:14:3600:14:39 >> ฐานรองเมล็ดได้แน่นหนามากขึ้นแล้วก็ไม่

00:14:3900:14:40 ร่วงตอนที่ข้าวสุก

00:14:4100:14:41 >> อื

00:14:4100:14:44 >> แต่ว่าใช้เคี้ยวเกี่ยวมือหยิบ

00:14:4400:14:44 แรงๆ

00:14:4400:14:45 >> อือ

00:14:4600:14:48 >> ข้าวในสมัยปัจจุบันเนี่ยก็เลยมีลักษณะ

00:14:4800:14:52 นั้นแล้วลักษณะทางกายภาพของข้าวเนี่ย

00:14:5200:14:54 อันเนี้ก็เป็นจุดสำคัญที่เขาจะใช้

00:14:5400:14:56 วิเคราะห์ว่าเป็นข้าวป่าหรือข้าวปลุกแล้ว

00:14:5600:14:58 นักโบราณคดีจีนน่ะฮ

00:14:5800:15:01 >> เค้าก็ศึกษาเข้าจากแหล่งโบราณคดีใน

00:15:0100:15:04 วัฒนธรรมช่างฌานน่ะเขาก็บอกว่าฐานรอง

00:15:0400:15:07 เมล็ดเนี่ยเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง

00:15:0700:15:07 >> อือ

00:15:0700:15:08 >> แล้ว

00:15:0800:15:08 >> ครับ

00:15:0800:15:10 >> ถึงแม้ว่ามันจะมีฐานรองเมล็ดที่ร่วงง่าย

00:15:1100:15:11 อยู่

00:15:1100:15:12 >> อือฮึ

00:15:1200:15:15 >> เค้าก็เลยสรุปว่าเนี่ยแหละคนเราเริ่มแบบ

00:15:1500:15:17 ว่าเอาข้าวมาใช้ประโยชน์แล้วปรับปรุง

00:15:1700:15:19 พันธุ์ให้เป็นแบบที่ตัวเองต้องการละ

00:15:1900:15:20 >> เออ

00:15:2000:15:24 >> อันนี้ก็คือแบบว่าที่เคยไปมาทำมาอย่าง

00:15:2400:15:25 เงี้ยนะคะแล้ว

00:15:2500:15:27 >> แต่ว่ามันไม่ใช่แค่เราไปเห็นหลักฐานนั้น

00:15:2700:15:30 น่ะมันต้องมาศึกษาเรื่องข้าวให้มัน

00:15:3000:15:32 ละเอียดอีกทีนึงได้ป่ะฮะ

00:15:3200:15:35 >> คือเราศึกษาข้าวแบบทั้งต้นเลยอ่ะค่ะคือ

00:15:3500:15:38 กว่าจะมองเมล็ดได้เนี่ยคือเราก็แค่แค่มอง

00:15:3800:15:41 ดูเนาะแต่ว่าก่อนที่เราจะแค่มองดูแล้วบอก

00:15:4100:15:43 ได้ว่าเมล็ดเป็นแบบนี้สันสฐานแบบนี้น่าจะ

00:15:4300:15:46 เป็นข้าวอะไรอย่างเงี้ยแต่จริงๆจะบอกได้

00:15:4600:15:47 ว่าเป็นข้าวอะไรเราต้องเอามาวัดอย่าง

00:15:4700:15:49 ละเอียดนะฮะเทียบกับถังข้อมูล

00:15:4900:15:50 >> อ

00:15:5000:15:54 >> เราศึกษาทั้งต้นข้าวเคยปลูกข้าวที่แคนาดา

00:15:5400:15:56 ด้วยข้าวป่าเนี่ยแหละ

00:15:5600:15:57 >> มันดูแบบต้องทำหลายๆอย่าง

00:15:5700:15:59 >> ปลูกแล้วก็แบบว่านั่งมองมัน

00:15:5900:15:59 >> อือ

00:15:5900:16:03 >> แล้วนับเม็ดว่าเม็ดนี้อ่ะผสมติดเม็ดนี้

00:16:0300:16:06 ไม่ติดอ้าทำไมต้นนี้ไม่ติดล่ะแล้วทำไมมัน

00:16:0600:16:08 ถึงเป็นอย่างี้นับกอนับอะไรอย่าเงี้ยคือ

00:16:0800:16:11 เราเราทำมาทุกอย่างแล้วเกี่ยวกับข้าวอ่ะ

00:16:1100:16:13 >> ในเวลาที่มันนานมากจนแบบว่า

00:16:1300:16:14 >> อ

00:16:1400:16:16 >> เราคิดว่ามันเข้าใจมันพอสมควร

00:16:1600:16:17 >> ครับ

00:16:1700:16:18 >> แล้วก็เป็นพืชที่ซับซ้อนจัง

00:16:1800:16:21 >> อื

00:16:2100:16:24 [เพลง]

00:16:2400:16:26 >> อันนี้เป็นคำถามค่อนข้างคลาสสิคสำหรับคน

00:16:2600:16:30 ดูตำราโบราณเนาะว่าของในโบราณกับของใน

00:16:3000:16:33 ปัจจุบันเนี่ยมันค่อนข้างแตกต่างกันชัด

00:16:3300:16:34 เจนอยู่แล้ว

00:16:3400:16:36 >> อย่างเช่นข้าวในสมัยก่อนกับข้าวในสมัย

00:16:3600:16:39 ปัจจุบันเนี่ย texture หรือว่ารสชาติน่า

00:16:3900:16:41 จะต่างกันไปเลย

00:16:4100:16:42 >> อันนี้ไม่สามารถรู้ได้เลยนะ

00:16:4200:16:45 >> ผมก็เลยจะถามต่อว่าจริงๆแล้วเวลาคุณโจ้

00:16:4500:16:48 ใช้มุมมองของแบบคนที่มีความรู้ชอบศึกษา

00:16:4800:16:50 เรื่องประวัติศาสตร์

00:16:5000:16:53 >> ตจจินตนาการในการช่วยด้วยมั้ว่าเมื่อก่อน

00:16:5300:16:56 น่าจะใช้ข้าว texture ประมาณนี้มยหรือใช้

00:16:5600:16:59 เครื่องแกงที่มีรสชาติที่มีกลิ่นมากกว่า

00:16:5900:17:00 นี้หรือเปล่า

00:17:0000:17:04 >> มันจะต้องพูดจากหลักฐานทางโบราณคดีอ่ะถ้า

00:17:0400:17:06 สมมุติเราเจอเศษพืช

00:17:0600:17:08 >> ที่มันมีลักษณะอะไรบางอย่างที่ทำให้เรา

00:17:0800:17:12 คิดที่ทำให้เราสรุปได้ว่ามันมีความฉุน

00:17:1200:17:15 ความจัดจ้างของรสชาติอะไรเงี้ยแต่ว่าเรา

00:17:1500:17:17 ไม่สามารถที่จะ

00:17:1700:17:18 ประเมินได้นะ

00:17:1800:17:19 >> ครับ

00:17:1900:17:21 >> ในปัจจุบันเนี่ยเราไม่สามารถประเมินได้

00:17:2100:17:21 ขนาดนั้น

00:17:2100:17:22 >> อื

00:17:2200:17:24 >> อ่า

00:17:2400:17:26 อย่าง texture อย่างเงี้ยเรายังพอประเมิน

00:17:2700:17:28 ได้เช่นไก่อ่ะ

00:17:2800:17:29 >> อื

00:17:2900:17:32 >> ไก่ป่าไก่บ้านเงี้ยไก่ป่าจะตัวเล็กเขาจะ

00:17:3200:17:37 วิ่งเยอะจะต้องเอาชีวิตรอดในป่าจากนักล่า

00:17:3700:17:37 และคนด้วย

00:17:3800:17:38 >> อ

00:17:3800:17:39 >> ก็จะมีความลีน

00:17:3900:17:42 >> อ่าของของเนื้อมากกว่าไก่เลี้ยว

00:17:4200:17:44 >> ใช่หรือแม้ว่าเป็นไก่บ้านแล้วบางทีก่อน

00:17:4400:17:48 ที่จะมีบัญัติทางการเกษตรที่มีการเลี้ยง

00:17:4800:17:49 ในระบบปิดขนาดใหญ่เนี่ยอ

00:17:4900:17:51 >> เขาก็จะมีเนื้อที่เหนียวที่เรียกว่าไก่

00:17:5100:17:53 เหนียวที่อาจารย์ทเนศเคยเขียนถึงเนาะ

00:17:5300:17:54 อือฮึ

00:17:5400:17:56 >> แล้วก็ปัจจุบันเนี่ยก็จะเป็นไก่แบบ

00:17:5600:17:57 >> สมบูรณ์

00:17:5700:17:58 >> ไก่เนื้อแบบ

00:17:5800:18:01 >> ไก่เนื้อสมบูรณ์แบบล่ำๆแบบว่าทุกอย่างนี่

00:18:0100:18:03 คือเต็มหมดเนื้อนุ่มๆ

00:18:0300:18:06 >> เนี่ย texture เนี้ยเรายังพอประเมินได้

00:18:0600:18:08 หรือว่าหมูป่ากับหมูเลี้ยง

00:18:0800:18:08 >> ครับ

00:18:0800:18:10 >> ที่ปรับปรุงพันธุ์

00:18:1000:18:14 ขนาดของมันมันก็จะหนาบางไม่เหมือนกัน

00:18:1400:18:15 ประเมินได้

00:18:1500:18:15 >> อ

00:18:1500:18:17 >> แต่เรื่องพืชเนี่ยประเมินยาก

00:18:1700:18:17 >> อื

00:18:1800:18:20 >> ประเมินยากบางทีประเมินไม่ได้

00:18:2000:18:20 >> อื

00:18:2000:18:24 >> เพราะว่าตอนเราทำทเรื่องข้าวในสมัยปโท

00:18:2400:18:27 พยายามหาวิธีว่าเราจะแยกได้มั้ว่าข้าว

00:18:2700:18:29 เจ้ากับข้าวเหนียวในแหล่งโบราณคดีเนี่ย

00:18:2900:18:29 แยกได้เปล่า

00:18:2900:18:30 >> ได้มั้ยครับ

00:18:3000:18:34 >> มันตอนนั้นคิดว่าได้แต่ตอนนี้คิดว่ากลุ่ม

00:18:3400:18:38 ตัวอย่างเล็กเกินไปมันมันคลุมเครือเกินไป

00:18:3800:18:38 >> อื

00:18:3800:18:40 >> มันก็ยังยากอยู่ดีแต่เราบอกได้ว่าเม็ด

00:18:4000:18:43 ข้าวนั้นเป็นเมล็ดข้าวแบบไหนนะ

00:18:4300:18:44 >> อื

00:18:4400:18:46 >> ข้าวกลมเมล็ดกลมเมล็ดยาวอะไรอย่างเงี้ย

00:18:4700:18:47 ค่ะ

00:18:4700:18:50 >> อืเรมรวมถึงการปรุงรสด้วยมั้ครับไม่แน่ใจ

00:18:5000:18:51 ตามตำรา

00:18:5100:18:53 >> การปรุงรสมันจะไม่เหลือแล้วมันเป็นเท่า

00:18:5300:18:54 หมดแล้ว

00:18:5400:18:57 >> เออโทษทีอันนี้คือพูดถึงตัวตำทำตามอาหาร

00:18:5700:18:59 ตามตำราครับว่าเราสามารถ

00:18:5900:19:03 >> คะเนการรสนิยมของการกินในยุคสมัยนั้นได้

00:19:0300:19:05 ไหมว่าเค้ากินเค็มกินหวานกว่าปัจจุบัน

00:19:0500:19:06 หรือเปล่า

00:19:0600:19:09 >> อ๋อในสูตรเขาบอกเบอกชัดเจนอยู่แล้วบางที

00:19:0900:19:11 สูตรของแมคโครโหป่านี่ก็เค็มนะ

00:19:1100:19:14 >> เออเพราะว่าเพราะว่าเคยได้ยินมาหลายที

00:19:1400:19:17 เหมือนกันครับว่าถ้าให้เราทำอาหารตามตำรา

00:19:1700:19:19 โบราณคนปัจจุบันอาจจะไม่กินไม่ได้

00:19:1900:19:23 >> โหอันนี้เคยเขียนไว้หลายปีละตอนทำอาหาร

00:19:2300:19:25 ของชาวบาบิโลเนียนน่ะค่ะ

00:19:2500:19:26 >> เออ

00:19:2600:19:29 >> ก็อร่อยดีนะแต่ไม่เก็ทเลยอ่ะจริงๆแบบว่า

00:19:2900:19:30 >> เค้าทำอะไรครับ

00:19:3000:19:32 >> เ้าทำซุปแกะ

00:19:3200:19:34 >> ใส่หัวบีดสีแดง

00:19:3400:19:34 >> ครับ

00:19:3500:19:38 >> แล้วก็กินกับแฟชเบรสเหมือนเป็นขนมปังฟัง

00:19:3800:19:39 แผ่นแบนๆ

00:19:3900:19:40 >> อื

00:19:4000:19:44 >> เราก็ปรุงตามที่เขาบอกตามที่มีคนปริวัติ

00:19:4400:19:45 ก็คือแปลไว้อ่ะ

00:19:4500:19:46 >> อ่าฮะ

00:19:4600:19:49 >> มันมันจะไปทางไหนเนี่ยมัน

00:19:4900:19:49 >> มันเป็นยังไงครับ

00:19:5000:19:53 >> มันอะไรยังไงวะมันก็เป็นเนื้อแกะค่ะเราก็

00:19:5300:19:54 ใช้แบบ

00:19:5400:19:56 >> ของทุกอย่างอ่ะเราซื้อมาจากตลาดปัจจุบัน

00:19:5600:19:57 นะเราไม่สามารถอ

00:19:5800:20:00 >> รู้ได้เลยว่าแกะในสมัยก่อนมันจะตัวเล็ก

00:20:0000:20:01 ตัวใหญ่ขนาดไหนอ่ะ

00:20:0100:20:01 >> ครับ

00:20:0200:20:05 >> แล้วหัวบีทที่ใช้เราก็เป็นหัวบีดแบบหวานๆ

00:20:0500:20:08 แบบในปัจจุบันเราก็ไม่รู้ว่าในอดีตเนี่ย

00:20:0800:20:10 หัวบีดติดมันจะเป็นหัวเล็กหัวใหญ่รสชาติ

00:20:1000:20:11 หวานแบบนี้มั้ยได้นะ

00:20:1100:20:14 >> ก็แบบกินเข้าไปแล้วมันก็แบบอ

00:20:1400:20:16 >> รสชาติพูดยากเลยมันไม่ไปไหนเลยสักทางแบบ

00:20:1600:20:20 ความเป็น

00:20:2000:20:23 จะเป็นอิรักเหรอตะวันออกกลางเราก็ยังไม่

00:20:2300:20:25 เก็ตอ่ะ

00:20:2500:20:27 >> เราก็เลยไม่รู้ว่าแบบว่า

00:20:2700:20:30 >> ความอร่อยมันเป็นมันเป็นเรื่องที่คงอยู่

00:20:3000:20:31 ในช่วงเวลาหนึ่ง

00:20:3100:20:32 >> ครับ

00:20:3200:20:35 >> มันอาจจะรสชาติโบราณไม่ได้แปลว่าอร่อย

00:20:3500:20:36 เสมอไปนะคะ

00:20:3600:20:36 >> อื

00:20:3600:20:38 >> มันอาจจะกินไม่ได้ก็ใช่แล้วมันเป็น

00:20:3800:20:39 มายาคติจริงๆ

00:20:3900:20:44 >> จริง

00:20:4400:20:47 >> ไอ้สิ่งเนี้ยมันจะถูกมันจะถูกพูดถึงพร้อม

00:20:4700:20:49 กับอีกเรื่องนึงคือเรื่องความแท้ของอาหาร

00:20:4900:20:52 ที่ไปคุยนั่นแหละเข้าใจเข้าใจว่าเข้าใจ

00:20:5200:20:54 ว่าได้ยินเรื่องนี้มาเยอะมากแล้ว

00:20:5400:20:55 >> เราต้องพูดเรื่องนี้กันทุกปีเลยเหรอ

00:20:5500:20:59 >> ใช่คือคือเรื่องเนี้ยเป็นเรื่องที่แบบใคร

00:20:5900:21:01 ก็ตามตั้งกระทู้ขึ้นมาตั้งโพสต์ขึ้นมา

00:21:0100:21:04 เนี่ยจะได้รับการคอมเมนต์อย่างล้นหลาม

00:21:0400:21:05 ขึ้นมาสักทีอะไรอย่างเงี้ย

00:21:0600:21:08 >> ความแท้ความแท้คืออะไรก่อน

00:21:0800:21:10 >> ใช่คือเมื่อกี้ที่เราคุยกันน่ะเรื่องถ้า

00:21:1000:21:14 เราทำอาหารตามแบบที่เราบอกว่าเป็นการแท

00:21:1400:21:15 ความแท้ระดับนึง

00:21:1500:21:16 >> อือฮึ

00:21:1600:21:18 >> ผมว่าบางคนก็ไม่ได้เก็ทกับรถนี้มันก็เป็น

00:21:1900:21:21 เรื่องของการเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย

00:21:2100:21:22 ปัจจุบันนั่นแหละ

00:21:2200:21:24 >> คือเราบอกว่าอาจจะมีคนบอกว่าอาหารไทยแท้

00:21:2400:21:27 จะต้องเป็นแบบนี้แต่ว่าเข้าใจป่ะถ้าเราทำ

00:21:2700:21:30 อาหารไทยแท้สมัยทุยาคุณจะไม่มีส้มตำนะ

00:21:3000:21:33 แล้วคุณจะไม่มีพริกในอาหารใดๆเลย

00:21:3300:21:34 >> ครับอื

00:21:3400:21:37 >> คุณจะอยู่ได้มั้ยคน

00:21:3700:21:39 จะอยู่ได้มั้ยไม่มีพลิกอ่ะ

00:21:3900:21:40 >> เหมือนกันเลยฮะล่าสุดที่คุยกับอาจารย์

00:21:4000:21:42 ทเนศเนี่ยซีรียส์เรื่องความแท้เนี่ย

00:21:4200:21:42 >> อือฮึ

00:21:4200:21:44 >> อาจารย์ทเนศก็พูดแบบเดียวกันเลยคือแบบถ้า

00:21:4400:21:47 คุณจะเอาคุณก็ต้องเอาพริกออกไปก่อนเพราะ

00:21:4700:21:50 ว่าบ้านเราก็ไม่ได้กินแบบนั้นแล้วอะไรคือ

00:21:5000:21:52 ความแท้แท้คือยุคไหนอะไรอย่างเงี้ยฮะ

00:21:5200:21:56 >> ใช่ความแท้มันมันเป็นไอ้นี่มากเลยนะมัน

00:21:5600:22:00 เป็นปัจเจกแล้วมันก็ไม่ได้เป็นอนัตไม่ได้

00:22:0000:22:03 เป็นแบบว่าสิ่งที่คงอยู่ตลอดไปอ่ะมันเกิด

00:22:0300:22:05 ขึ้นตลอดเวลาแล้วมันก็หายไปตลอดเวลา

00:22:0500:22:07 >> มันถูกแปรสภาพไปได้ตลอดเวลา

00:22:0700:22:08 >> อือ

00:22:0800:22:11 >> ถ้าสมมุติว่าเราบอกว่าเราต้องการทำอาหาร

00:22:1100:22:15 ไทยในสมัยอยุธยาตอนปลายถ้าคิดว่าเก่าแก่

00:22:1500:22:17 คือแท้ที่สุดเนี่ยยิ่งเก่าแก่ที่แท้ที่

00:22:1700:22:19 สุดเนี่ยอย่างที่บอกก็คือคุณจะต้องกิน

00:22:1900:22:21 อาหารที่มีแต่รสเผ็ดพริกไทยหรือว่าดีปลี

00:22:2100:22:21 อ่ะ

00:22:2100:22:22 >> อือ

00:22:2200:22:27 >> คุณจะไม่มีพริกแล้วการปรุงรสแกงหรือกับ

00:22:2700:22:29 ข้าวในแบบนั้นเนี่ยลิ้นคนปัจจุบันก็ไม่

00:22:2900:22:32 เก็ตเพราะว่าลิ้นของเราถูกแปรสภาพด้วยการ

00:22:3200:22:34 ครัวแบบปัจจุบันไปแล้ว

00:22:3400:22:35 >> ครับ

00:22:3500:22:38 >> ดังนั้นการเป็นอาหารโบราณเนี่ยไม่ดีที่

00:22:3800:22:40 สุดเสมอไปเพราะว่าแม้แต่ตัวเราเองอ่ะเรา

00:22:4000:22:42 ก็ถูกก่อร่างมาด้วยวัฒนธรรมอาหารใน

00:22:4200:22:43 ปัจจุบัน

00:22:4300:22:44 >> อื

00:22:4400:22:46 >> ไม่เกิน 50 ปีอันสมมุติในช่วงชีวิตเรานะ

00:22:4600:22:49 ไม่เกิน 50 ปีซึ่งไม่ใช่อาหารในช่วง 4-500

00:22:4900:22:50 ปีก่อนแน่นอนน่ะ

00:22:5000:22:51 >> อือฮึ

00:22:5100:22:55 >> เราก็เลยคิดว่าการแท้หรือไม่แท้เนี่ยมัน

00:22:5500:22:57 ขึ้นอยู่กับว่าเป็นนิยามของใครพูดแล้ว

00:22:5700:22:58 เพื่อประโยชน์อะไร

00:22:5800:22:59 >> อ่า

00:22:5900:23:01 >> เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจหรือเปล่า

00:23:0100:23:02 >> อื

00:23:0200:23:05 >> ที่เราสามารถผูกขาดนิยามและกึ่งๆที่ที่มี

00:23:0500:23:08 ความพยายามจะแช่แข็งวัฒนธรรมอาหารในแบบ

00:23:0800:23:08 นี้เอาไว้

00:23:0800:23:09 >> อือ

00:23:0900:23:11 >> เพื่อที่ตัวเองจะสามารถพูดได้ว่าถ้าแท้จะ

00:23:1100:23:14 ต้องเป็นแบบฉันแล้วก็ใช้วัตถุดิบของฉันใน

00:23:1400:23:15 การทำอาหาร

00:23:1500:23:17 >> นั่นก็คือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจอ

00:23:1700:23:17 >> อื

00:23:1700:23:21 >> หรือว่าคุณแท้

00:23:2100:23:23 เพื่อที่คุณจะสร้างโรงเรียนสอนทำอาหาร

00:23:2300:23:26 ขึ้นมาว่าแท้แบบนี้ต้องมาเรียนกับเราต้อง

00:23:2600:23:26 ทำแบบนี้

00:23:2600:23:27 >> อือ

00:23:2700:23:30 >> ในลักษณะของการส่งต่อความรู้อะไรอย่าง

00:23:3000:23:32 เงี้ยค่ะถ้าถ้ามองในแง่นั้นน่ะมันก็ไม่

00:23:3200:23:34 ผิดนะเพราะว่าการเรียนเ่ะมันจะต้องมีแบบ

00:23:3400:23:36 ขึ้นมาก่อนไม่ใช่ว่าแบบอยากทำอะไรก็ทำ

00:23:3600:23:36 อะไรเงี้ย

00:23:3600:23:37 >> อื

00:23:3700:23:39 >> ยิ่งเป็นการทำอาหารมันก็ต้องมีการเรียน

00:23:3900:23:42 รู้ขึ้นมาก่อนนั่นก็ไม่ผิดแต่ว่าถ้าจะทำ

00:23:4200:23:45 ตัวไปเป็นตำรวจอาหารว่าฉันแท้กว่าเธอ

00:23:4600:23:46 >> เออ

00:23:4600:23:47 >> เธอไม่แท้

00:23:4700:23:48 >> เออ

00:23:4800:23:50 >> น้ำมันอาหารต่ำชั้นไม่ใช่ของแท้อะไรเงี้ย

00:23:5000:23:53 เราคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอ่ะ

00:23:5300:23:54 >> เออ

00:23:5400:23:57 >> มันไม่ทำให้เกิดการพัฒนาใดๆเลยแล้วมันก็

00:23:5700:24:01 ทำให้เราแบบไม่ได้กินอาหารใหม่ๆ

00:24:0100:24:01 >> อื

00:24:0100:24:04 >> หรือว่าทำให้อาหารใหม่ๆกำเนิดขึ้นมาได้

00:24:0400:24:06 อีกเราไปคุงกำเนิดมันด้วยความแท้หรือไม่

00:24:0600:24:07 แท้

00:24:0700:24:07 >> อื

00:24:0700:24:10 >> จริงๆอ่ะในในต่างประเทศเนี่ยความแท้ไม่

00:24:1000:24:11 แท้มันก็เชยมากแล้วนะ

00:24:1200:24:12 >> ครับ

00:24:1200:24:14 >> เค้าไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้แล้วอ่ะ

00:24:1400:24:14 >> อื

00:24:1400:24:16 >> เพราะว่า Innovation น่ะมันสามารถทำอาหาร

00:24:1600:24:19 ที่อร่อยอร่อยโดยไม่ต้องแท้ก็ได้

00:24:1900:24:20 >> มันก็ใช่

00:24:2000:24:21 >> ความอร่อยมันไม่ได้อยู่ที่ความแท้ไม่แท้

00:24:2100:24:22 ถูกป่ะ

00:24:2200:24:24 >> ถ้าแท้ที่ตอนปลายคนสมัยนี้ก็มองว่าไม่

00:24:2400:24:25 อร่อยอ่ะ

00:24:2500:24:26 >> เออ

00:24:2600:24:28 >> แล้วสุดท้ายเนี่ยความเป็นอาหารเนี่ยมันก็

00:24:2800:24:30 เปิดกว้างมากๆเพราะทุกคนมีลิ้นสามารถกิน

00:24:3000:24:33 และรับรู้ได้เหมือนๆกันหมดมันเป็นอะไรที่

00:24:3300:24:34 ผูกขาดยากยากมาก

00:24:3400:24:36 >> อือๆ

00:24:3600:24:38 >> เราจะมาทำตัวเป็นตำรวจเพื่อแบบว่า

00:24:3800:24:40 >> หาความแท้กันไปทำไม

00:24:4000:24:42 >> นอกจากหาความแท้เรื่องปิดโอกาสตัวเองใน

00:24:4200:24:43 การได้กินของอร่อย

00:24:4300:24:44 >> ก็จริง

00:24:4400:24:45 >> ด้วยอ่ะ

00:24:4500:24:48 >> เราจะตัดขาตัวเองแบบนั้นไปทำไมเราเราก็ทำ

00:24:4800:24:51 ของอร่อยไปดิอร่อยก็จบไม่อร่อยก็นั่นความ

00:24:5100:24:53 แท้เราไม่ต้องกอดเอาไว้ก็ได้

00:24:5300:24:53 >> อื

00:24:5300:24:55 >> มันเปลี่ยนไปตลอดอยู่แล้ว

00:24:5500:24:56 >> อื

00:24:5600:25:00 [เพลง]

00:25:0000:25:03 >> แล้วมันต่างกันกับเราจะรู้เรื่องอดีตไป

00:25:0300:25:04 ทำไม

00:25:0400:25:06 เพราะว่าเราก็สามารถพัฒนาอาหารไปได้

00:25:0600:25:08 เรื่อยๆไปข้างหน้าเนี่ยครับ

00:25:0800:25:10 >> ที่จริงไม่ต้องรู้ก็ได้

00:25:1000:25:10 >> ไม่ต้องรู้ก็ได้

00:25:1000:25:12 >> ไม่ต้องรู้ก็ได้เพราะว่าจริงๆอ่ะถ้าพูด

00:25:1200:25:14 ถึงแบบว่า

00:25:1400:25:17 >> ยังไงดีล่ะเรื่องอดีตเนี่ยมันไม่ได้มี

00:25:1700:25:20 ความจำเป็นกับอะไรนะที่เ้าที่รัฐบาลชอบ

00:25:2000:25:24 พูดกันว่าเอ่อเรื่องอดีตวัฒนธรรม

00:25:2400:25:27 มนุษยวิทยาสังคมวิทยา

00:25:2700:25:29 Humanity ไม่จำเป็นต่อการพัฒนาชาติเท่า

00:25:2900:25:31 กับวิทยาศาสตร์อะไรอย่างเงี้ยวิทยาศาสตร์

00:25:3200:25:34 เทคโนโลยีนวัตกรรมกรรมเราไม่เห็นด้วย

00:25:3400:25:37 เพราะคิดว่ามันเป็นการแบ่งเทียนไปวิชาทุก

00:25:3700:25:38 วิชามีความจำเป็น

00:25:3800:25:39 >> ครับอื

00:25:3900:25:41 >> แล้ว

00:25:4100:25:45 วิชาวิทยาศาสตร์ Science เนี่ยมันก็มี

00:25:4500:25:48 ความจำเป็นกับอ่ะสุขภาพ

00:25:4800:25:49 >> อื

00:25:4900:25:53 >> การที่เรามานั่งคุยผ่านพcสแล้วมีคนได้ฟัง

00:25:5300:25:55 สิ่งที่เราพูดกันผ่านการอัดเนี่ยนะ

00:25:5500:25:55 >> อือฮึ

00:25:5500:25:59 >> มันก็คือความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์

00:25:5900:26:00 และเทคโนโลยี

00:26:0000:26:01 ถูกมั้ยคะ

00:26:0100:26:05 >> ครับแต่ว่าในความเป็นมนุษย์เนี่ยที่

00:26:0500:26:06 ปัจจุบันเราจะต้องสู้กับ AI เนี่ย

00:26:0600:26:08 >> อื

00:26:0800:26:11 >> Humanity วัฒนธรรมและอดีตเป็นสิ่งจำเป็น

00:26:1100:26:12 นะ

00:26:1200:26:13 >> อื

00:26:1300:26:15 >> มันทำให้คนเป็นคนน่ะ

00:26:1500:26:17 >> อ่าฮะคนมันมีอดีต

00:26:1700:26:20 >> คนมีวัฒนธรรมวัฒนธรรมที่ผ่านมา

00:26:2000:26:22 >> คนเราอยากรู้ว่าเราเป็นใคร

00:26:2200:26:22 >> อื

00:26:2200:26:24 >> มาจากไหน

00:26:2400:26:27 >> รู้ทำไมนะครับอ่ะถ้าถามว่าอ่ะคุณหมีให้

00:26:2700:26:29 คุณมาสมัครงานเอ่ะสัมภาษณ์คุณหมี

00:26:2900:26:30 >> สัมภาษณ์คุณหมี

00:26:3000:26:31 >> โอเค

00:26:3100:26:34 >> อ่ะน้องน้องลองฝึกงานช่วยเล่าถึงตัวเอง

00:26:3400:26:37 หน่อยค่ะว่ามาจากไหนอะไรยังไงคุณจะเล่า

00:26:3700:26:37 ยังไงล่ะ

00:26:3700:26:39 >> อันนี้ก็จะเล่าตั้งแต่ผมผมเกิดมายังไง

00:26:3900:26:42 อยู่ที่ไหนชีวิตเป็นยังไงทำงานอะไรมาบ้าง

00:26:4200:26:44 มีประสบการณ์อะไรบ้างถูกมั้ยอันนั้นเพื่อ

00:26:4400:26:46 ให้คุณโจ้รู้ว่าผมเป็นใคร

00:26:4600:26:47 >> อ่ะ

00:26:4700:26:47 >> เออ

00:26:4700:26:49 >> ไม่แต่ว่าถ้าคุณเมียจะเล่าให้คนอื่นฟัง

00:26:4900:26:53 เงี้ยอ่ะคุณหมีจะเล่าว่ายังไงคุณน้องฝึก

00:26:5300:26:55 งานจะเล่าว่ายังไงคะ

00:26:5500:26:59 >> ผมเป็นเอ่อเคยทำงานเป็นเ่อเรียกว่าอะไร

00:26:5900:27:01 กราฟฟิกมาก่อนทำงานเกี่ยวกับอาร์ทมาก่อน

00:27:0100:27:04 ครับแล้วก็ตอนปัจจุบันก็คือเริ่มสนใจ

00:27:0400:27:07 เรื่องอาหารเริ่มสนใจเรื่องงานเขียนก็เลย

00:27:0700:27:10 มาพัฒนามาเป็นแบบนักเขียนที่แบบเขียน

00:27:1000:27:12 เรื่องอาหารอะไรเงี้ยฮะอ่ะประมาณนี้

00:27:1200:27:14 >> อ่าคุณหมีเกิดที่ไหนคะ

00:27:1400:27:16 >> เกิดที่นครสวรรค์ครับ

00:27:1600:27:18 >> แล้วชอบอาหารอะไร

00:27:1800:27:19 >> ชอบเหรอครับ

00:27:1900:27:20 >> มากที่สุดชอบ

00:27:2000:27:23 >> เออถ้าปัจจุบันน่าจะชอบอาหารไทยครับ

00:27:2300:27:24 >> ไม่เป็นจานสิ

00:27:2400:27:28 >> อ๋อเป็นจานใช่มั้ยเอ่อแกง

00:27:2800:27:31 แกงแกงเผ็ดเป็ดย่าง

00:27:3100:27:34 อ่ารสชาติเปรี้ยวหวานมันเค็ม

00:27:3400:27:36 >> รสชาติมันเอ่อ

00:27:3600:27:37 >> กินแบบไหน

00:27:3700:27:38 >> กินกับอะไร

00:27:3800:27:39 >> กินแบบไหนอ้อ

00:27:3900:27:42 >> เอ่อเป็นแกงเผ็ดเป็ดย่างที่ใส่ผลไม้

00:27:4300:27:46 เปรี้ยวมะเขือเทศก็ได้ครับกินกับข้าวสวย

00:27:4600:27:49 >> เป็นลักษณะเฉพาะของท้องที่มั้ย

00:27:4900:27:50 >> เอออันนี้ผมไม่แน่ใจ

00:27:5000:27:51 >> นั่นดิ

00:27:5100:27:51 >> เออ

00:27:5100:27:54 >> เวลาคุณหมีไปกินข้าวรวมโต๊ะกับคนอื่นๆใน

00:27:5400:27:55 ในออฟฟิศก็ได้

00:27:5500:27:56 >> ครับ

00:27:5600:27:58 >> ถ้าสมมุติเค้าให้ทำพอรักอ่ะ

00:27:5800:27:58 >> อือ

00:27:5800:28:00 >> แล้วเอาอาหารที่ตัวเองชอบแต่ละชนิดเรากิน

00:28:0000:28:04 แบบที่ตัวเองกินมาคุณหมีคิดว่าจะเห็นความ

00:28:0400:28:06 หลากหลายขนาดไหน

00:28:0600:28:07 >> คงหลากหลายมาก

00:28:0700:28:09 >> เอออันนั้นแหละมันคือความเป็นมนุษย์ไง

00:28:0900:28:10 >> ออ

00:28:1000:28:13 >> มันคือความเป็นมนุษย์มันคือการบอกว่าตัว

00:28:1300:28:15 เราเนี่ยมันอยู่ที่ไหนในสังคม

00:28:1500:28:16 >> อื

00:28:1600:28:18 >> นั้นหรือว่าอยู่ที่ไหนแห่งหนี้ย

00:28:1800:28:19 >> อื

00:28:1900:28:21 >> AI มันไม่มีอะไรแบบนี้นะ

00:28:2100:28:22 >> ครับ

00:28:2200:28:24 >> AI มันก็เลยไม่มีชีวิตแล้วมันก็ไม่มี

00:28:2400:28:26 อะไรแบบนี้สิ่งที่จะทำให้เราต่างจาก AI

00:28:2600:28:27 หรือว่าอ

00:28:2700:28:29 >> พัฒนาการ

00:28:3000:28:32 ที่มันจะท้าทายถึงความเป็นมนุษย์

00:28:3200:28:33 >> ออฮะ

00:28:3300:28:36 >> เนี่ยสิ่งที่ทำให้เราดำรงความเป็นมนุษย์

00:28:3600:28:38 อยู่ได้ไม่ทำให้เราเป็นบ้าไปซะก่อนน่ะอือ

00:28:3800:28:40 >> คือการรู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน

00:28:4000:28:43 >> มีรากเหง้าและอดีตวัฒนธรรมยังไง

00:28:4300:28:44 >> อื

00:28:4400:28:47 >> ถ้าไม่มีของอะไรแบบเนี้ยเนี่ยเราจะรู้สึก

00:28:4700:28:48 ว้าเหวมาก

00:28:4800:28:48 >> อือ

00:28:4800:28:50 >> คือพูดไปอย่างเงี้ยไม่รู้หรอกเพราะว่าคุณ

00:28:5000:28:52 หมีมีไงเราก็มี

00:28:5200:28:53 >> เออเออ

00:28:5300:28:57 >> แต่ว่าถ้าลองเอาดึงตรงนี้ขาดไปเนี่ย

00:28:5700:28:58 >> ความจำหายไป

00:28:5800:29:00 >> ไม่ใช่ความจำหายไปความเป็นมนุษย์หายไปเลย

00:29:0000:29:02 >> ไม่หมายถึงว่าเราไม่รู้ว่าเราเป็นใครใน

00:29:0200:29:04 อดีตขึ้นมานะเราไม่ได้สนใจเนี่ยมันก็จะ

00:29:0400:29:07 แบบความเป็นมนุษย์จะหายไปเลยเหรอ

00:29:0700:29:10 >> ไม่นะคือรากเหง้าเนี่ยมันเกี่ยวกับการ

00:29:1000:29:12 สร้างอัตลักษณ์ตัวตนขึ้นมาอย่างเช่นแบบ

00:29:1200:29:13 ว่าอ่ะเราเป็นคนไทย

00:29:1300:29:14 >> เราพูดภาษาไทย

00:29:1400:29:15 >> อือ

00:29:1500:29:17 >> ประวัติศาสตร์ชาติไทยเราเป็นประมาณนี้

00:29:1700:29:18 >> อือ

00:29:1800:29:20 >> เราก็ลงลึกไปในท้องถิ่นว่าเราเติมมาจาก

00:29:2000:29:23 ท้องถิ่นนี้มีความเป็นอะไรแบบนี้แล้วพอมา

00:29:2300:29:25 อยู่ในกรุงเทพฯเงี้ยมีคนมาหลากหลาย

00:29:2600:29:26 >> อือ

00:29:2600:29:29 >> เวลาเราพบเจอจากคนหลายพื้นที่เจะมีความ

00:29:2900:29:32 เป็นตัวของตัวเองในแบบต่างๆกันไปเพราะเโต

00:29:3200:29:33 มาในคนละแบบเนาะสังคมคนละแบบ

00:29:3300:29:35 >> อครับ

00:29:3500:29:37 >> การที่เรารู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหนอ่ะมัน

00:29:3700:29:40 จะทำให้เราดำรงอยู่ในพื้นที่นั้นได้อย่าง

00:29:4000:29:41 เข้มแข็งแข็งแรงมากขึ้น

00:29:4100:29:42 >> อื

00:29:4200:29:44 >> อย่างน้อยก็ไม่เป็นเหงาเปล่าเปรี่ยว

00:29:4400:29:45 >> อื

00:29:4500:29:49 >> รู้ว่าแบบมี existential crisis มีวิกฤต

00:29:4900:29:50 ไปซะก่อนอะไรเงี้ย

00:29:5000:29:51 >> อ

00:29:5100:29:53 >> มันสำคัญกับความเป็นมนุษย์

00:29:5300:29:56 >> มากๆเรื่องอดีตและวัฒนธรรมเนี่ยอ

00:29:5600:29:58 >> อดีตเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมนะ

00:29:5800:30:00 >> ครับของกินก็เป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์

00:30:0000:30:01 ความเป็นตัวตน

00:30:0100:30:02 >> อื

00:30:0200:30:04 >> ของเราเหมือนกันเวลาคนพูดถึงของกินน่ะคน

00:30:0400:30:07 ไทยจะโมโหกันมากเลยถ้ามีคนมาว่าแกงไตปลา

00:30:0700:30:08 หรืออาหารไทยที่เขาชอบ

00:30:0800:30:09 >> เออ

00:30:0900:30:11 >> เพราะว่าอาหารมันไม่ได้เป็นแค่อาหารมัน

00:30:1100:30:12 คือส่วนหนึ่งของตัวเค้า

00:30:1200:30:13 >> อ๋อโอเค

00:30:1300:30:18 >> เขาก็เลยรู้สึกอนโมโหมากว่ามาด่าเค้าทำไม

00:30:1800:30:19 >> มันก็เลยรู้สึกอย่างงั้นไงคะ

00:30:1900:30:22 >> ในขณะเดียวกันเราก็ไปด่าอาหารคนอื่นกัน

00:30:2200:30:23 เยอะนะครับ

00:30:2400:30:26 >> อันนี้ก็ก็ไม่ควร

00:30:2600:30:26 >> เออ

00:30:2600:30:28 >> แต่ว่าก็ทำกันมันเหมือนกับเป็นการโต้กลับ

00:30:2800:30:30 ว่าแกด่าฉันฉันก็ด่าแก

00:30:3000:30:30 >> ออฮ

00:30:3000:30:32 >> บางทีมันก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้แต่

00:30:3200:30:33 ว่า

00:30:3300:30:35 >> เราก็ต้องรู้เท่าทันอะไรในเกมแบบนี้ด้วย

00:30:3600:30:38 อ่ะเราด่าเค้ามันก็ไม่เหมาะหรอก

00:30:3800:30:39 >> อื

00:30:3900:30:41 >> แต่จริงๆก็ไม่ได้สร้างความชอบธรรมให้เขา

00:30:4100:30:44 เนอะแต่อะไรแบบนี้ในสงครามออนไลน์อ่ะ

00:30:4400:30:45 >> อือ

00:30:4500:30:47 >> บางทีมันก็เกิดขึ้นได้แต่ว่าเราก็ไม่ควร

00:30:4700:30:48 >> ไม่ควรไปบullลี่เค้า

00:30:4800:30:51 >> เมื่อกี้ตอนตอนแรกที่ถามคุณโจ้ว่าเราเรา

00:30:5100:30:53 งั้นเราจำเป็นต้องรู้เรื่องประวัติศาสตร์

00:30:5300:30:55 มั้แล้วคุณโจ้บอกว่าจริงๆก็ไม่ต้องจำเป็น

00:30:5500:30:58 แต่จริงๆมันดูจำเป็นนะฮะที่บอกว่าเราทำ

00:30:5800:31:01 ให้เรามีตัวตนและอยู่ในสังคมได้จริงๆ

00:31:0100:31:04 >> คือต้องขยายความนิดนึงว่าไม่ได้จำเป็นใน

00:31:0400:31:08 แง่การดำรงอยู่ของชีวิตในแบบimmมีediate

00:31:0800:31:09 อ่ะคือแบบ

00:31:0900:31:09 >> ทันทีทันใด

00:31:0900:31:13 >> ทันทีทันใดอ่ะว่าแบบว่าสมมุติถ้าเราติด

00:31:1300:31:17 โรคระบาดบางอย่างไม่ได้รับการรักษาเราก็

00:31:1700:31:19 จะตายอันเนี้ยวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี

00:31:1900:31:20 สาธารณสุขจำเป็นกับเราเนาะ

00:31:2000:31:21 >> อือฮะ

00:31:2100:31:24 >> แต่พอเรารอดมาแล้วล่ะเรามีชีวิตอยู่แล้ว

00:31:2400:31:28 อ่ะเราถึงต้องมีบทกวีมีหนังสือมีอะไรตั้ง

00:31:2800:31:31 หลายอย่างอ่ะอ่ะอย่างที่คุณหมีในเซตคำถาม

00:31:3100:31:33 ที่ถามมานะว่าพนักงานออฟฟิศ

00:31:3300:31:36 >> ใช่อันนี้ผมแบบมันมีคำถามที่ไม่ต้อง

00:31:3600:31:38 พนักงานออฟฟิจริงๆคือผมนี่แหละอร

00:31:3800:31:41 >> เออคือคำถามมันคือ

00:31:4100:31:43 >> เรื่องประวัติศาสตร์ที่เราต้องรู้เนี่ย

00:31:4300:31:46 เราจะไปรู้เรื่องอาหารทำไมมากมายไอ้สิ่ง

00:31:4600:31:48 เนี้ยมันสามารถเชื่อมโยงกับความเป็นคนที่

00:31:4800:31:50 มันจะไม่จำเป็นจะต้องรู้อะไรอย่างผมเลย

00:31:5000:31:53 มั้ยแบบผมแค่เป็นพนักงานออฟฟิศเขียนงาน

00:31:5300:31:56 ถ่ายทอดคนไปเรื่อยๆอย่างเงี้ยหรือทำงาน

00:31:5600:31:57 วันๆนึง

00:31:5700:32:00 >> แค่แค่เป็นพนักงานออฟฟิศเนี่ย

00:32:0000:32:02 คุณก็ไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศตลอดเวลาถูก

00:32:0200:32:02 ป่ะ

00:32:0300:32:03 >> อื

00:32:0300:32:07 >> แล้วการที่คุณหมีคิดว่าเรื่อง

00:32:0700:32:10 ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับ

00:32:1000:32:13 การดำรงชีวิตในประจำวันของคุณหมีน่ะ

00:32:1300:32:14 >> อือ

00:32:1400:32:17 >> อยากจะบอกว่าเราเรารู้สึกแปลกใจมากตอนเจอ

00:32:1700:32:20 คำถามนี้เพราะว่าในที่ที่เราใช้ชีวิตอยู่

00:32:2000:32:22 ในโลกตะวันตกอ่ะเนาะประวัติศาสตร์มันเป็น

00:32:2200:32:24 เรื่องของทุกคนน่ะดังนั้นเราจะไม่มีคำถาม

00:32:2400:32:25 นี้เลย

00:32:2500:32:25 >> ว่าแบบ

00:32:2600:32:26 >> อื

00:32:2600:32:28 >> ทำไมพนักงานออฟฟิศต้องรู้เรื่อง

00:32:2800:32:31 ประวัติศาสตร์ด้วยเพราะว่า

00:32:3100:32:33 มันประวัติศาสตร์มันไม่เคยเป็นอึดสำหรับ

00:32:3300:32:35 คนธรรมดาแต่ในเมืองไทยไม่ใช่

00:32:3500:32:35 >> อื

00:32:3500:32:39 >> ประวัติศาสตร์มันในในทางประวัติศาสตร์ของ

00:32:3900:32:41 องค์ความรู้เนี่ยประวัติศาสตร์ของวิชา

00:32:4100:32:44 ประวัติศาสตร์และการศึกษาอดีตโบราณคดี

00:32:4400:32:45 เนี่ย

00:32:4500:32:47 >> มัน

00:32:4700:32:49 ไม่ได้เป็นเรื่องของคนทั่วไปมาตั้งแต่แรก

00:32:4900:32:50 >> อื

00:32:5000:32:52 >> แล้วมันก็จะถูกเล่าด้วยจริตบางอย่างที่ทำ

00:32:5200:32:54 ให้ห่างไกลจากคนทั่วไป

00:32:5400:32:54 >> อือ

00:32:5400:32:56 >> เราก็เลยรู้สึกว่าเราเข้าไม่ถึงแล้วมัน

00:32:5600:32:57 ไม่จำเป็นสำหรับเรา

00:32:5700:32:58 >> อื

00:32:5800:33:01 >> แต่จริงๆอ่ะเราสามารถเปลี่ยนให้ทุกคนเข้า

00:33:0100:33:03 ถึงมันได้แต่ว่าโอเคเมืองไทยมันยังไม่ได้

00:33:0300:33:07 เป็นอย่างนั้นในตอนนี้เราก็เลยคิดว่า

00:33:0800:33:10 ประวัติศาสตร์มันจำเป็นสำหรับการมีอยู่

00:33:1000:33:11 ของทุกคนนะ

00:33:1100:33:12 >> อื

00:33:1200:33:16 >> เรารู้ว่าใครเป็นอะไรที่ไหนมาอะไรถ้าจะ

00:33:1600:33:19 หว่านล้อมนะผู้มีอำนาจว่าเราสามารถเอา

00:33:1900:33:21 องค์ความรู้ทางประวัติศาสตร์เนี่ยมาสร้าง

00:33:2100:33:23 เป็นแรงบันดาลใจแรงบันดาลใจในการทำ

00:33:2300:33:27 เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ได้ใช้คำใหญ่นะ

00:33:2700:33:28 >> เออๆ

00:33:2800:33:30 >> ซึ่งมันก็เป็นได้จริงๆเช่นแบบว่าที่เค้า

00:33:3000:33:32 พยายามทำกันในกรมส่งเสริมวัฒนธรรมอาหาร

00:33:3200:33:33 ไทยที่หายไป

00:33:3300:33:33 >> อ

00:33:3300:33:35 >> เค้าก็จะได้รู้ว่ามีไวยากรณ์แห่งรสชาติ

00:33:3600:33:38 เนี่ยจากอาหารโบราณหลายๆอย่างหรือว่า

00:33:3800:33:41 วัตถุดิบที่เกือบๆจะหายไปแล้วเพราะว่า

00:33:4100:33:43 สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอะไรตั้งหลายอย่าง

00:33:4300:33:46 >> ที่เราสามารถนำมาเป็นแรงบันดาลใจหรือว่า

00:33:4600:33:49 เป็นจุดเริ่มต้นในการฟื้นฟูธรรมชาติ

00:33:4900:33:49 >> อื

00:33:4900:33:50 >> ได้อือ

00:33:5000:33:53 >> ให้กลับมาดีขึ้นหรือว่าสร้างสมดุล

00:33:5300:33:58 ธรรมชาติให้มันดีขึ้นได้มันก็จะดีกับสภาพ

00:33:5800:33:59 แวดล้อมแล้วก็สังคมโดยรวมด้วย

00:34:0000:34:00 >> อื

00:34:0000:34:04 >> ทีนี้ในเมื่อเรามองว่าการศึกษาอดีตอ่ะมัน

00:34:0500:34:07 ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับพนักงานออฟฟิศก็

00:34:0700:34:10 เดาว่าเป็นคนในเขตเมืองเนาะที่มีความ

00:34:1000:34:11 >> เร่งรีบ

00:34:1100:34:11 >> ครับ

00:34:1100:34:13 >> ในการทำงานรับความเครียดสูง

00:34:1300:34:15 >> เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนแล้ว

00:34:1500:34:18 >> เอาชีวิตตัวเองให้รอดก่อนแต่ว่าก็อย่าง

00:34:1800:34:20 ที่บอกไม่ได้เป็นพนักงานออฟฟิศตลอดเวลา

00:34:2000:34:25 เนาะหลายคนเขาก็พอจบงานปุ๊บเาก็หาความ

00:34:2500:34:27 บันเทิงโดยการถ่ายฟิ

00:34:2700:34:28 >> ครับ

00:34:2800:34:32 >> แล้วฟิบางอย่างเนี่ยก็คืออาหารแน่นอน

00:34:3200:34:33 >> อื

00:34:3300:34:35 >> เพราะว่าคนที่ทำเรื่องอาหารเนี่ยแบบว่ามี

00:34:3500:34:37 ยอดวิวอะไร engagement เยอะ

00:34:3700:34:39 >> มันเป็นเรื่องที่รีเลทกับคนได้ง่ายที่สุด

00:34:3900:34:39 >> ใช่

00:34:3900:34:41 >> ด้วยครับอย่างนึง

00:34:4100:34:43 >> เพราะว่าทุกคนสามารถรับรถได้ทุกคนเป็นนัก

00:34:4300:34:44 ชิมได้หมด

00:34:4400:34:45 >> ใช่

00:34:4500:34:48 >> แล้วพอสื่ออย่างเช่นแบบว่าในอินเทอร์เน็ต

00:34:4800:34:51 เนี่ยตอนแรกการเป็นนักชิมจำกัดอยู่กับคน

00:34:5100:34:53 แค่ไม่กี่คนนะ Authority Figer

00:34:5300:34:54 >> อือื

00:34:5400:34:56 >> แค่ไม่กี่คนแต่ตอนนี้ทุกคนเป็นได้หมด

00:34:5600:34:56 >> อือ

00:34:5600:34:59 >> แล้วทุกคนก็เหมือนกับปล่อยของกันเต็มที่

00:34:5900:35:00 เลยแล้วก็จะมีสไตล์ที่ต่างกัน

00:35:0000:35:02 >> อครับ

00:35:0200:35:04 >> มีลักษณะการบรรยายอะไรต่างกันในช่วงแรก

00:35:0400:35:07 เนี่ยคุณแม่ช้อยนางรำและคุณหม่อมถนัดสี

00:35:0700:35:09 เนี่ยท่านเอ่อคุณชายน่ะ

00:35:0900:35:10 >> อ

00:35:1000:35:12 >> เกิดขึ้นในช่วงที่สังคมไทยเปลี่ยนแปลง

00:35:1200:35:13 >> อื

00:35:1300:35:16 >> เรายังไม่มี

00:35:1600:35:20 ไกด์ไลน์ในการบอกว่าร้านอาหารร้านไหน

00:35:2000:35:24 สะอาดปลอดภัยแล้วก็มีสุขลักษณะที่ดีกิน

00:35:2500:35:27 แล้วนอกจากสะอาดแล้วเนี่ยก็ยังมีรสชาติ

00:35:2700:35:28 ที่ดีด้วย

00:35:2800:35:30 >> ครับ

00:35:3000:35:34 >> คือคอลัมน์เชลชวนชิมแล้วก็เปิดพิสดารเกิด

00:35:3400:35:35 ขึ้นในช่วงนั้น

00:35:3600:35:38 >> ที่สังคมไทยมีความเปลี่ยนแปลง

00:35:3800:35:38 >> อื

00:35:3800:35:41 >> แล้วก็พร้อมๆกับคุณชายถนัดสีเขียนไว้ด้วย

00:35:4100:35:45 ว่าตอนเนี้ยอ่าทางการได้เข้มงวดกดขาด

00:35:4500:35:47 เรื่องสาธารณสุขแล้วก็ร้านอาหารมากขึ้น

00:35:4700:35:48 >> อือ

00:35:4800:35:50 >> การมีอยู่ของคอลัมน์

00:35:5100:35:53 กินอาหารชวนชิมอาหารเนี่ยก็คือว่าร้าน

00:35:5300:35:54 เนี้ยทำได้มาตรฐาน

00:35:5400:35:55 >> ออ

00:35:5500:35:57 >> มันก็เหมือนกับเป็นการหวานล้อมคนด้วยว่า

00:35:5700:36:00 เรามาทำอาหารดีๆกันเถอะที่สะอาดได้

00:36:0000:36:02 มาตรฐานเพราะว่าสมัยก่อนมาตรฐานในการ

00:36:0200:36:04 เตรียมอาหารก็ไม่ค่อยเหมือนปัจจุบันเนี้ย

00:36:0400:36:05 ค่ะ

00:36:0500:36:07 >> มันก็มันก็เกิดขึ้น

00:36:0700:36:09 >> ได้ด้วยหลายอย่าง

00:36:0900:36:10 >> อื

00:36:1000:36:12 >> เหมือนกันน่ะเออมันไม่ได้เกิดขึ้นได้

00:36:1200:36:16 เพราะว่าท่านอยากจะไปชิมแล้วก็ไปแต่มันมี

00:36:1600:36:16 บท

00:36:1600:36:17 >> มันมีจุดประสงค์บางอย่าง

00:36:1700:36:18 >> ใช่

00:36:1800:36:21 >> มันมีบางอย่างที่อยากจะบอกสังคมว่าเอ่อ

00:36:2100:36:24 ฉันฉันชวนคนคุณไปกินอาหารเพื่ออะไรบาง

00:36:2400:36:24 อย่างใช่มั้ฮะ

00:36:2400:36:25 >> อือฮึ

00:36:2500:36:27 >> อย่างมิชลินเนี่ยก็คือให้คนขับรถ

00:36:2700:36:28 >> ให้คนขับรถ

00:36:2800:36:29 >> ใช้ยางเยอะๆ

00:36:2900:36:33 >> แต่ของของไทยเนี่ยเชลชวนชิมก็คือน้ำมัน

00:36:3300:36:33 >> ครับ

00:36:3300:36:36 >> ก็คงจะขับรถเหมือนกันอันเหตุผลเดียวกัน

00:36:3600:36:39 >> เหตุผลเดียวกันใกล้เคียงกันแต่ว่ามันจะมี

00:36:3900:36:40 agเจน้าของ

00:36:4000:36:43 >> ของรัฐในช่วงนั้นที่เข้าไปสอดรับด้วยก็

00:36:4300:36:46 คือการโปรโมทมาตรฐานการกินของคนให้สูง

00:36:4700:36:47 ขึ้นน่ะ

00:36:4700:36:48 >> ออ

00:36:4800:36:50 >> อ่าสุขลักษณะของร้านอาหาร

00:36:5000:36:50 >> ครับ

00:36:5000:36:51 >> ให้สูงขึ้น

00:36:5100:36:51 >> อื

00:36:5100:36:54 >> แล้วร้านที่มาอยู่ในเปิดพิสดารแล้วก็

00:36:5400:36:57 เชียวชวนชิมเนี่ยเป็นร้านที่มีความสะอาด

00:36:5700:36:58 แล้วห้องน้ำก็สะอาด

00:36:5800:36:58 >> เออๆ

00:36:5800:37:00 >> อ่าอันนี้เป็นเรื่องสำคัญเลยนะเพราะเมื่อ

00:37:0000:37:02 ก่อนกว่าที่ห้องน้ำจะเป็นอย่างเงี้ยก็แบบ

00:37:0200:37:03 ผ่านมาเยอะเหมือนกัน

00:37:0300:37:04 >> อื

00:37:0400:37:06 >> ทีเนี้ยมันก็เป็นมันก็เป็นเรื่องของอาหาร

00:37:0600:37:08 การกินและสุขลักษณะมันก็สอนรับไปกับ

00:37:0800:37:10 ประวัติศาสตร์ร่วมสมัยในตอนนั้นด้วย

00:37:1000:37:11 >> อื

00:37:1100:37:11 >> อ่าฮะ

00:37:1100:37:14 >> แต่ในยุคนี้มันน่าจะเป็นยุคที่เหมือนมี

00:37:1400:37:16 ความเป็นเป็นตัวตนของคนมากครับเพราะว่า

00:37:1600:37:17 >> ใช่

00:37:1700:37:20 >> ฉันอยากชิมฉันรู้สึกว่าอยากจะบอกต่อว่า

00:37:2000:37:21 สิ่งนี้ฉันชอบ

00:37:2100:37:21 >> อืออือ

00:37:2100:37:22 >> นี้อร่อย

00:37:2200:37:25 >> แต่ว่าถ้ามันมีอะไรที่เป็นเป้าหมายที่

00:37:2500:37:27 ใหญ่กว่านั้นได้อาจจะแบบมีประโยชน์กับคน

00:37:2700:37:27 อื่น

00:37:2700:37:30 >> คิดว่าเวลาทำที่มันสื่อหรือเกิดอะไรแบบ

00:37:3000:37:34 นี้ขึ้นมาเนี่ยอะไรที่มันไปได้ฮิตและคน

00:37:3400:37:37 นิยมเนี่ยมักจะสอดรับของมักจะสอดรับกับ

00:37:3700:37:39 ประเด็นสำคัญของยุคสมัย

00:37:3900:37:39 >> อื

00:37:3900:37:42 >> ในช่วงนั้นน่ะคือคนต้องการกินในที่ที่ดี

00:37:4200:37:44 และสะอาด

00:37:4400:37:47 >> อืมคอลัมน์เชียวชนชิมอะไรอย่างเงี้ยก็เลย

00:37:4700:37:51 รับได้รับความนิยมแต่ในปัจจุบันเนี้ย

00:37:5100:37:54 ประเด็นของยุคสมัยคืออะไรถามคุณหมีดีกว่า

00:37:5400:37:57 เพราะว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญคร่ำหวอดแล้ว

00:37:5700:38:00 เป็นนักชิมเรามองไม่ออกเลยว่าประเด็นของ

00:38:0000:38:04 ยุคสมัยสำหรับสื่อนักชิมอาหารในปัจจุบัน

00:38:0400:38:07 ของไทยที่มีมากมายเนี่ยคืออะไร

00:38:0700:38:10 >> แต่ผมมองว่าเป็นเรื่องตัวตนนะทั้งตัวตน

00:38:1000:38:11 ของคนที่ไปชิม

00:38:1100:38:12 >> ตัวตน

00:38:1200:38:14 >> และตัวตนของคนที่เสพเรื่องนี้ด้วย

00:38:1400:38:14 >> อือฮึ

00:38:1400:38:18 >> ว่าคุณสามารถมีความคิดเห็นต่ออาหารได้

00:38:1800:38:19 >> ไม่ว่าคุณเป็นใครก็ตาม

00:38:1900:38:20 >> ออฮะ

00:38:2000:38:22 >> เป็นคนที่จะเล่าเป็นคนที่จะฟัง

00:38:2200:38:22 >> อือฮึ

00:38:2200:38:25 >> ก็จะมีความไม่งั้นมันก็จะแบบอย่างที่เห็น

00:38:2500:38:27 นะครับมันก็จะมีปัญหาเรื่องคนมาด่าอาหาร

00:38:2700:38:28 ไทย

00:38:2800:38:28 >> อ่ะ

00:38:2800:38:31 >> คนไทยทุกคนก็จะพร้อมที่จะสู้รบในเรื่อง

00:38:3100:38:33 นี้หมดะผมว่ามันเป็นยุคนั้นน่ะมันเป็นยุค

00:38:3300:38:34 เนี้ย

00:38:3400:38:37 >> เป็นเรื่องของการแสดงตัวตนแสดงจุดยืนของ

00:38:3700:38:38 ตัวเองมากกว่า

00:38:3800:38:39 >> อือฮึ

00:38:3900:38:40 >> อือ

00:38:4000:38:43 >> อยากจะมีแบบพื้นที่ในการแสดงตัวตนของตัว

00:38:4300:38:43 เอง

00:38:4300:38:45 >> ใช่ผมว่าเป็นเรื่องนั้นนะผมก็ไม่แน่ใจว่า

00:38:4500:38:48 มันถูกหรือเปล่าแต่ผมคิดว่าประเด็นของยุค

00:38:4800:38:51 มันคือเรื่องนั้นเพราะว่าทุกคนเอ่อน่าจะ

00:38:5100:38:54 ต้องมีตัวตนของตัวเอง

00:38:5400:38:54 >> อื

00:38:5500:38:58 >> ถูกบีบบังคับให้มีตัวตนของตัวเอง

00:38:5800:38:59 >> ถูกบีบบังคับด้วย

00:38:5900:39:02 >> ด้วยความไม่รู้ตัวนะหมายถึงว่าเอ่อ

00:39:0200:39:05 >> คนนั้นก็เป็นเกอร์คนนี้ก็เป็นบ็อกเกอร์คน

00:39:0500:39:07 นั้นก็เป็นเอ่อ Celebrity คนนี้ก็เป็น

00:39:0700:39:09 Influencer

00:39:0900:39:12 เค้ามีจุดเด่นอะไรบางอย่างคนที่เสพก็คง

00:39:1200:39:14 รู้สึกว่าเอ้ยจริงๆแล้วฉันก็มีตัวตนของ

00:39:1400:39:16 ฉันอะไรอย่างเงี้ย

00:39:1600:39:19 >> ออดังนั้นร้านอาหารก็จะต้องทำอาหารที่มัน

00:39:1900:39:21 ถ่ายรูปสวยออกมา

00:39:2100:39:24 >> ก็ไม่แน่ใจคำตอบที่จริงเหมือนกันแต่ผมก็

00:39:2400:39:27 รู้สึกว่าเออมันมันก็มีเรื่องของความมัน

00:39:2700:39:29 อาจจะส่งผลกับร้านอาหารด้วยแหละว่าร้าน

00:39:2900:39:32 อาหารนี้จะต้องมีความเฉพาะตัวของฉันเท่า

00:39:3200:39:34 นั้นที่แตกต่างจากคนอื่นร้านอื่นๆอะไร

00:39:3400:39:35 อย่างเงี้ย

00:39:3500:39:35 >> อ

00:39:3500:39:36 >> อื

00:39:3600:39:39 >> อืเพราะเราก็เฝ้ามองมาตลอดนะด้วยความที่

00:39:3900:39:42 แบบว่ามองตำราอาหารในอดีตคอลัมน์การชิม

00:39:4200:39:45 อาหารในอดีตแล้วก็เห็นปรากฏการณ์ที่มัน

00:39:4500:39:46 เกิดขึ้นในปัจจุบันอย่างเงี้ย

00:39:4600:39:47 >> อือ

00:39:4700:39:49 >> เราก็รู้สึกว่าเรายังไม่เข้าใจว่าจริงๆ

00:39:4900:39:52 แล้วมันประเด็นของยุคสมัยเนี่ยเนี่ยบอก

00:39:5200:39:52 อะไร

00:39:5200:39:53 >> มันบอกอะไรเรา

00:39:5300:39:56 >> คือ 20 ปีหลังจากนี้ตอนที่แก่แล้วลิ้น

00:39:5600:39:59 เพียรแล้วชิมไม่ไหวแล้วอาจจะเห็นก็ได้นะ

00:39:5900:40:00 >> แต่ตอนนี้เหมือนกับว่าเรายังคลุกอยู่ใน

00:40:0000:40:02 นั้นกับมันยังมองไม่เห็นเลย

00:40:0200:40:02 >> อือๆ

00:40:0200:40:05 >> แต่ก็น่าสนใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

00:40:0500:40:09 >> ครับกลับมาที่ไทยได้ไปชิมอาหารที่ไหนแล้ว

00:40:0900:40:10 บ้างแล้วมั้ยครับเนี่ย

00:40:1000:40:11 >> โหตลาดคลองเตย

00:40:1100:40:12 >> ตลาดคองเตย

00:40:1200:40:15 >> ตลาดคลองเตยพอเดินตลาดคลองเตยแล้วก็แบบ

00:40:1500:40:18 เห็นวัตถุดิบสดๆถูกๆหลายบอกว่าอ

00:40:1800:40:23 >> เราได้ตารางการทำอาหารละประมาณ 80 100

00:40:2400:40:24 อย่าง

00:40:2400:40:24 >> เออ

00:40:2500:40:29 >> แล้วก็กินแต่ร้านข้าวต้มร้านอาหารไทยร้าน

00:40:2900:40:30 อาหารจีนอะไรอย่างเงี้ยค่ะ

00:40:3000:40:31 >> ครับ

00:40:3100:40:33 >> จะไม่ไปกินร้านอาหารตะวันตกเลยเพราะรู้

00:40:3300:40:34 สึกเบื่อแล้ว

00:40:3400:40:34 >> เบื่อแล้ว

00:40:3400:40:37 >> กินมาเยอะแล้วไม่ไหวแล้วแล้วก็แบบตอนที่

00:40:3700:40:40 อยู่แคนาดาอาหารตะวันตกก็ถูก

00:40:4000:40:40 >> ถูกกว่า

00:40:4000:40:42 >> ถูกกว่าแล้วก็คุณภาพดีแต่

00:40:4200:40:46 >> ที่ตกใจอย่างนึงคืออาหารไทยและค่าครองชีพ

00:40:4600:40:47 ในไทยแพงขึ้นมาก

00:40:4700:40:48 >> อืม

00:40:4800:40:51 >> แพงขึ้นมากๆเลยแบบน่าตกใจ

00:40:5100:40:51 >> ครับ

00:40:5100:40:56 >> แล้วก็ร้านอาหารเก่าแก่บางร้านเนี้ยค่ะดู

00:40:5600:40:59 เหมือนว่าจะ

00:40:5900:41:01 น่าจะอยู่ยากซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย

00:41:0100:41:03 เพราะวันก่อนไปกินอ

00:41:0300:41:05 >> ข้าวเฉโปง

00:41:0500:41:05 >> พระสี

00:41:0500:41:06 >> พรามสี

00:41:0600:41:08 >> ที่เป็นอาซิ่ม

00:41:0800:41:09 >> อื

00:41:0900:41:13 >> เหล็กก็คือเป็นร้านข้าวเฉโปเก่าแก่เลยอ่ะ

00:41:1300:41:13 >> ครับ

00:41:1300:41:17 >> เราก็ลองสั่งข้าวเฉโปกินดูพอกินดูแล้วก็

00:41:1700:41:21 จะวงวนไปถึงเรื่องรสชาติว่าคนสมัยนี้จะ

00:41:2100:41:22 เข้าใจมั้อ่ะ

00:41:2200:41:23 >> อ่า

00:41:2300:41:26 >> ข้าวเฉยโปรตรงพระเนี่ยเป็นร้านโบราณมากๆ

00:41:2600:41:26 >> ครับ

00:41:2600:41:28 >> รสชาติก็โบราณมาก

00:41:2800:41:28 >> เออ

00:41:2800:41:30 >> คือรสชาติไม่จัด

00:41:3000:41:30 >> เออ

00:41:3000:41:33 >> จะเน้นถึงความสดของวัตถุดิบ

00:41:3300:41:33 >> อือ

00:41:3300:41:35 >> เขาก็จะสับเนื้อสัตว์เป็นเป็ดย่าง

00:41:3500:41:36 >> ครับ

00:41:3600:41:39 >> หมูย่างเนาะแล้วก็อีกอย่างนึงจำไม่ได้

00:41:3900:41:42 แล้วว่าเป็นอะไรมาบนจานแล้วก็ราดน้ำซึ่ง

00:41:4200:41:44 เป็นน้ำจากตัวเป็ดเนี่ยแล้วก็เอามาปรุงรส

00:41:4400:41:46 ใส่โต๊เจี้ยวใส่ขิงใส่เครื่องเทศเฉพาะ

00:41:4600:41:48 อะไรของเขาตามสูตรเขานะที่อุ่นให้ร้อน

00:41:4800:41:49 ตลอดเวลา

00:41:4900:41:53 >> เราก็วางบนข้าวที่เป็นเม็ดแข็งหน่อย

00:41:5300:41:53 >> อื

00:41:5300:41:58 >> ราดน้ำมีผักกินเข้าไปก็มันเป็นรสชาติที่

00:41:5800:41:59 คลาสสิคมาก

00:41:5900:42:00 >> อื

00:42:0000:42:02 >> ความสดของวัตถุดิบนี่คือดีเป็ดย่างเนี่ย

00:42:0200:42:06 ดีทุกอย่างดีแต่มันอ่อนรสชาติอ่อนสำหรับ

00:42:0600:42:07 คนปัจจุบัน

00:42:0700:42:08 >> เออ

00:42:0800:42:11 >> แล้วพอกินไปปุ๊บเราเข้าใจนะว่านี่มันคือ

00:42:1100:42:12 รสชาติของประวัติศาสตร์อ่ะ

00:42:1200:42:14 >> ใช่

00:42:1400:42:17 >> แต่คิดแต่หลังจากเราไปกินตอนเที่ยนวัน

00:42:1700:42:21 เสาร์ริมถนมพระรามสิมีเราคนเดียวอ่ะซึ่ง

00:42:2100:42:23 มันน่าใจหายมากอ่ะว่าแบบว่าถ้าเป็น

00:42:2300:42:25 อย่างี้ต่อไปเคงอยู่ไม่ได้แน่เลยอ่ะ

00:42:2500:42:28 >> ดังนั้นก็ผู้ชมคะไปช่วย

00:42:2800:42:28 >> ชิม

00:42:2800:42:29 >> ร้านเฉโปที่พระราม 4

00:42:2900:42:32 >> ร้านเฉพที่พระราม 4 ก็อย่างที่บอกวนกลับ

00:42:3200:42:34 ไปตอนแรกก็คือรสชาติที่มันเป็นอดีตน่ะ

00:42:3400:42:34 >> ครับ

00:42:3400:42:37 >> พวกคำปัจจุบันก็ไม่เข้าใจแต่ว่าเรายัง

00:42:3700:42:39 เห็นถึงความจำเป็นนะที่จะอนุรักษ์อันเนี้

00:42:3900:42:42 ไว้เป็นเหมือนกับหนังสืออ้างอิงหรือจุด

00:42:4200:42:44 อ้างอิงว่าก่อนที่จะเป็นอย่างปัจจุบัน

00:42:4400:42:47 เนี่ยเราเคยมีรสชาติแบบนี้มาก่อนดังนั้น

00:42:4700:42:49 เราคิดว่าการอนุรักษ์ร้านอาหารเก่าแก่

00:42:4900:42:51 เนี่ยมีความจำเป็นมากๆ

00:42:5100:42:51 >> อ

00:42:5100:42:55 >> แล้วก็ร้านเฉโปพระราม 4 นี่ด้วยเป็นแค่ 1

00:42:5500:42:56 ในเคสที่เราพบแค่นั้นเอง

00:42:5600:42:58 >> 1 ในเคสครับเรื่องนี้เรื่องเนี้ยถ้าเกิด

00:42:5800:43:01 ทุกคนไปฟังรายการ in relationhip ของ

00:43:0100:43:04 อาจารย์ทเนศกับผมเนี่ยกับพี่ช้างเนี่ยก็

00:43:0400:43:05 จะคุยประเด็นนี้กันเยอะเหมือนกันครับ

00:43:0500:43:08 เรื่องคืออาจารย์ทเนก็จะพูดถึงข้าวมันไก่

00:43:0900:43:09 >> อือฮึ

00:43:0900:43:12 >> ข้าวมันไก่ในยุคของที่แกกินตอนเด็กๆ

00:43:1200:43:13 >> อือๆไก่เหนียว

00:43:1300:43:14 >> ไก่เหนียว

00:43:1400:43:15 แล้วก็สับติดกระดูก

00:43:1500:43:16 >> ออาฮะ

00:43:1600:43:20 >> เดี๋ยวนี้ก็คือเลาะไก่นุ่มเป็นชั้น

00:43:2000:43:23 >> แล้วก็มีมีเจลเจลลี่ตรงกลางคือมันเป็นแบบ

00:43:2300:43:25 มันเป็นแบบข้าวมันไก่ยุคใหม่ใช่

00:43:2600:43:26 >> ซึ่ง

00:43:2600:43:29 >> ร้านข้าวมันไก่ยุคเก่าเนี่ยแทบก็จะค่อยๆ

00:43:2900:43:30 หายไปจริงๆ

00:43:3000:43:30 >> ใช่

00:43:3000:43:33 >> แล้วก็มีอีกหลายอย่างครับราดหน้า

00:43:3300:43:35 >> ที่ปัจจุบันน้ำเจิงอือฮึ

00:43:3500:43:39 >> เมื่อก่อนนี้จะเป็นน้ำที่แบบหมาดๆงวดๆนิด

00:43:3900:43:40 นึง

00:43:4000:43:42 >> แกก็บอกว่าเออสิ่งนี้มันหายไปแต่แกก็ไม่

00:43:4200:43:45 ได้ต่อต้านนะแต่แกก็แบบหมายถึงอาจารย์

00:43:4500:43:47 ทเนศนะฮะแกก็บอกว่าเออมันก็เปลี่ยนไปตาม

00:43:4700:43:49 ยุคสมัยแหละมันก็ไม่ได้มีความแท้อะไร

00:43:4900:43:52 อย่างที่ว่ากันน่ะคือแบบถ้าคุณจะกินแท้

00:43:5200:43:54 คุณจะไปกินเอ่อข้าวมันไก่เหนียวๆอย่าง

00:43:5400:43:55 งั้นหรออะไรอย่างเงี้ย

00:43:5500:43:57 >> อันเนี้ยมีมุมมองนิดนึง

00:43:5700:43:58 >> ครับ

00:43:5800:44:00 >> ตอนอาจารย์ทเนศเล่าให้ฟังอาจารย์บอกมว่า

00:44:0000:44:01 ทำไมเขาถึงต้องสับติดกระดูก

00:44:0100:44:06 >> อ่ะก็บอกเรื่องบอกเรื่องความรดของน้ำน้ำ

00:44:0600:44:08 ในกระดูกรสของความชุ่มชื้นที่มันต้องเก็บ

00:44:0800:44:09 ไว้ในไก่อะไรอย่างเงี้ยฮะ

00:44:0900:44:10 >> อ๋อ

00:44:1000:44:10 >> ครับ

00:44:1000:44:11 >> นี้เรามองอีกอย่างนึง

00:44:1100:44:12 >> ครับ

00:44:1200:44:13 >> เพราะว่าไก่สมัยก่อนตัวเล็ก

00:44:1400:44:14 >> ออ

00:44:1400:44:15 >> เนื้อน้อย

00:44:1500:44:15 >> ครับ

00:44:1500:44:17 >> ถ้าสับแยกเนื้อเนี่ยทำไม่ได้

00:44:1700:44:18 >> อ๋อ

00:44:1800:44:20 >> ขาดทุนมันจะมีเวสเยอะ

00:44:2000:44:22 >> ถึงแม้ปัจจุบันเนี้ยคุณลองเทียบขนาดไก่ใน

00:44:2200:44:25 อดีตกับไก่ไก่เหนียวในอดีตกับไก่ฟาร์มใน

00:44:2500:44:25 ปัจจุบันดู

00:44:2500:44:26 >> อ

00:44:2600:44:28 >> เทียบกันไม่ได้เลยนะขนาดเนื้อปริมาณของ

00:44:2800:44:29 เนื้อกับกระดูกเนี่ย

00:44:2900:44:33 >> เราคิดว่าเค้าสาเหตุที่เขาต้องสับกระดูก

00:44:3300:44:34 ลงไปด้วย 1 เป็นเพราะความจำเป็นในทาง

00:44:3400:44:35 เศรษฐกิจด้วย

00:44:3500:44:36 >> ออฮะ

00:44:3600:44:38 >> แล้วเรื่องของจูซในกระดูกเนี่ยมันเป็น

00:44:3800:44:41 เหตุผลที่เขาอาจจะคิดขึ้นมาทีหลังก็ได้

00:44:4100:44:42 >> แต่ว่า

00:44:4200:44:45 >> ในทางเศรษฐกิจเนี่ยสับเนื้อและกระดูกลงไป

00:44:4500:44:48 เลยให้คนกินแท้เองเนี่ยไม่เสียเวลามากเรา

00:44:4900:44:51 ก็ได้เนื้อครบ

00:44:5100:44:51 >> อื

00:44:5200:44:53 >> ไม่ได้หายไปไหนไม่ได้ไปลูก

00:44:5300:44:55 >> ไม่ได้หายไปไหนแล้วพอมาในสมัยปัจจุบัน

00:44:5500:44:59 เนี้ยลักษณะการสับไก่ที่เปลี่ยนไปเนี่ย

00:44:5900:45:02 เป็นเพราะว่าตัวไก่ปริมาณ proportion กับ

00:45:0200:45:05 เรชสัดส่วนของเนื้อกับกระดูก

00:45:0500:45:06 >> มันต่างกันไปแล้ว

00:45:0600:45:08 >> ต่างกันด้วยเ้าถึงสามารถทำอย่างนั้นได้

00:45:0800:45:11 >> ถ้าในอดีตทำอย่างงั้นไม่ได้อันเนี้ย

00:45:1100:45:13 >> เพราะว่าเราลองทำไก่แบบด้วย

00:45:1300:45:15 >> ก็เลยเข้าใจว่า

00:45:1500:45:17 >> เนี่ยมันน่าจะมีเหตุผลบางอย่างเกิดขึ้น

00:45:1700:45:19 เบื้องหลังเทคนิคการทำครัวที่เปลี่ยนไป

00:45:1900:45:21 เนี่ยที่เราได้เรียนรู้จากการทำกับข้าว

00:45:2100:45:24 แล้วก็แบบไก่ทำไมมันตัวเล็กจัง

00:45:2400:45:24 >> อือ

00:45:2400:45:25 >> อะไรอย่างเงี้ย

00:45:2500:45:26 >> เออ

00:45:2600:45:27 >> มันต้องทำอย่างเงี้ยอะไรอย่างเงี้ยค่ะเรา

00:45:2700:45:29 ก็เลยคิดว่านี่แหละ

00:45:2900:45:29 >> อื

00:45:2900:45:33 >> นี่แหละมันเลยทำได้แต่ว่าไปกินเฉยโปรกัน

00:45:3300:45:33 นะทุกคน

00:45:3300:45:36 >> มีเนี่ยพูดถึงเฉยโปรผมก็เลยนึกถึงอีกอัน

00:45:3600:45:38 นึงที่ผมเป็นคนเริ่มสังเกตด้วยตัวเองด้วย

00:45:3900:45:40 เหมือนกันหมายถึงว่ากินเองแล้วก็รู้สึก

00:45:4000:45:44 ว่าเอ้ยปัจจุบันเนี้ยเนี่ยบางทีแบบผมไปหา

00:45:4400:45:45 ร้านหมูแดงเก่าๆ

00:45:4500:45:46 >> กิน

00:45:4600:45:46 >> อ่ะ

00:45:4600:45:50 >> เค้าก็จะเป็นหมูที่แบบโอเวอร์คุสุดๆเลย

00:45:5000:45:50 >> อือ

00:45:5000:45:51 >> แห้ง

00:45:5100:45:51 >> อือ

00:45:5100:45:54 >> แล้วก็หั่นแบบบาง

00:45:5400:45:54 >> อือๆ

00:45:5400:45:57 >> เออหั่นแบบหมูแดงแบบบางแล้วก็จะราดน้ำ

00:45:5700:45:59 ซึ่งเด็กๆอ่ะผมชอบแบบนี้มากเลย

00:45:5900:45:59 >> ค่ะ

00:45:5900:46:02 >> แต่ปัจจุบันเนี่ยการกินหมูแดงมันถูกเอ่อ

00:46:0200:46:05 น่าจะมีอิทธิพลจากอาหารฮ่องกงมั้งในการ

00:46:0500:46:07 ที่แบบสับหมูแดงชิ้นหนาๆ

00:46:0700:46:09 >> อือฮึ

00:46:0900:46:10 >> ใช้หมูที่มีมันเยอะ

00:46:1000:46:11 >> อือฮึ

00:46:1100:46:13 >> แล้วก็นุ่มอือฮึ

00:46:1300:46:15 >> เพราะว่าฉะนั้นร้านที่แบบคนก็จะนิยมไอ้

00:46:1500:46:17 ความนุ่มความหนาเนี่ย

00:46:1700:46:17 >> อือ

00:46:1700:46:21 >> ร้านไหนที่ให้นุ่มให้หนาก็จะเลงในโซเชียล

00:46:2100:46:24 เยอะมากบล็อกเกอร์ลงเยอะมากแต่ว่ากลับไป

00:46:2400:46:27 กินร้านที่เป็นหมูแดงแบบเก่าๆเนี่ยโหบาง

00:46:2700:46:29 ทีเราก็รู้สึกแบบมันไม่ใช่ยุคสมัยของเค้า

00:46:2900:46:30 เลยเนาะ

00:46:3000:46:30 >> อื

00:46:3000:46:33 >> เออแล้วการที่แบบว่าจะให้เค้าคงอยู่เนี่ย

00:46:3300:46:35 ก็

00:46:3500:46:37 >> มันก็ยากอ่ะแต่ว่า

00:46:3700:46:39 >> แต่ว่าเรามันเป็นมันเป็นเหมือนกัน

00:46:3900:46:42 อนุรักษ์แหล่งโบราณคดีเหมือนกันด้วยแต่ก็

00:46:4200:46:46 เค้าก็อาจจะมีปัญหาเรื่องไม่มีคนกิน

00:46:4600:46:49 >> ไม่มีคนเก็ตไงเพราะมันเป็นรสชาติที่โบราณ

00:46:4900:46:51 จริงๆอ่ะเราบอกอีกอย่างนึงอันนี้ขออนุญาต

00:46:5100:46:53 แบบว่าแทรกตัวเข้าไปในเรื่องเล่าเนาะ

00:46:5300:46:55 >> ครับ

00:46:5500:46:57 >> ไอ้ที่เขาต้องหั่นบางๆอ่ะแล้วที่คุณหมี

00:46:5700:46:58 บอกว่าโอเวอร์คุอ่ะ

00:46:5800:46:59 >> เออ

00:46:5900:47:01 >> เพราะว่าหมูมันสุกมากๆเลยใช่ป่ะ

00:47:0100:47:01 >> ใช่

00:47:0100:47:03 >> การทำเนื้อสัตว์สมัยก่อนน่ะมันต้องทำให้

00:47:0300:47:07 สุกเกินไปกว่านั้นนิดนึงเพราะว่าเพื่อ

00:47:0700:47:07 ความปลอดภัย

00:47:0700:47:08 >> อครับ

00:47:0800:47:10 >> แล้วก็เก็บได้นานแล้วพอมันค่อนข้างแห้ง

00:47:1000:47:12 เนี่ยเนี่ยคุณไม่สามารถหั่นชิ้นหนาได้

00:47:1300:47:14 เพราะมันเหนียว

00:47:1400:47:16 >> ออมันต้องหันชิ้นบางๆ

00:47:1600:47:17 >> ไม่งั้นควรจะเคี้ยว

00:47:1700:47:20 >> ใช่ดังนั้นมันก็เห็นมั้ยทุกอย่างมัน

00:47:2000:47:21 เกี่ยวข้องกัน

00:47:2100:47:21 >> อืๆ

00:47:2100:47:24 >> เออพอหั่นชิ้นบางๆปุ๊บน้ำก็ราดไปได้แล้ว

00:47:2400:47:26 คุณก็จะทานได้แล้วคุณก็จะ appreciate แต่

00:47:2600:47:29 ถ้าหั่นหนากว่านั้นนิดนึงคุณก็จะคิดว่า

00:47:2900:47:31 นี่มันคือรองเท้าแตะหรือเปล่าใช่มั้คะ

00:47:3100:47:32 เพราะว่า

00:47:3200:47:35 >> เพราะว่าการทำอาหารและการเสิร์ฟอ่ะมันถูก

00:47:3500:47:39 ดีไซน์ขึ้นมาให้คนกินได้รับรู้รสชาติที่

00:47:3900:47:40 มัน optimal

00:47:4000:47:42 ที่สุดของจานนั้นแล้วอ่ะ

00:47:4200:47:43 >> อครับอื

00:47:4300:47:44 >> อื

00:47:4400:47:47 >> ฟังแล้วจนถึงตอนเนี้ยก็เริ่มได้คำตอบสิ่ง

00:47:4700:47:49 ที่แบบต้องอยากรู้เหมือนกันครับว่าคนที่

00:47:4900:47:53 เป็นพนักงานออฟฟิศกิแบบผมเนี่ยทำไมต้อง

00:47:5300:47:56 รู้เรื่องประวัติศาสตร์เป็นเพราะว่าถ้า

00:47:5600:47:57 เราไม่รู้เลย

00:47:5700:48:00 >> เราก็จะไม่เห็นว่าทำไมเราต้องกิน

00:48:0000:48:03 >> เอ่อหมูแดงแบบแบบบางๆแห้งๆวะ

00:48:0300:48:04 >> อืออือๆ

00:48:0400:48:06 >> แล้วเราก็รู้ว่าอ้าในในสมัยนั้นเค้าเกิด

00:48:0600:48:09 อะไรขึ้นแล้วเราถ้าเรารู้สิ่งเนี้ยมันก็

00:48:0900:48:11 จะทำให้ efficiate ได้มากขึ้นหน่อยว่า

00:48:1100:48:13 เค้าเมื่อก่อนเค้ากินกันอย่างงั้นเพราะ

00:48:1300:48:15 อะไรแล้วความอร่อยของมันอยู่ตรงไหน

00:48:1500:48:16 >> อือ

00:48:1600:48:18 >> ในขณะเดียวกันเราอยากจะกินข้าวหมูแดงแบบ

00:48:1800:48:20 ปัจจุบันเนี่ยเราก็กินได้เราก็จะ

00:48:2000:48:22 appreciate ของมันอีกแบบนึง

00:48:2200:48:24 >> ผมว่ามันก็เป็นประโยชน์นะที่เรา

00:48:2400:48:26 >> ได้รู้ว่าเอ้ยสิ่งที่มันเกิดขึ้นในเมื่อ

00:48:2600:48:29 ก่อนเนี้ยมันเกิดขึ้นอะไรบ้าง

00:48:2900:48:34 >> จริงๆอ่ะแค่รู้ไปแบบที่ว่ามันก็ทำให้เรา

00:48:3400:48:35 กินข้าวอร่อยขึ้นน่ะ

00:48:3500:48:36 >> อือๆ

00:48:3600:48:37 >> เพราะว่ามันมีสอี่ไง

00:48:3700:48:41 >> สตอี่ผมว่าในยุคเนี่ยสัก 5 ปี 10 ปีที่

00:48:4100:48:44 ผ่านมาสอี่เป็นเรื่องสำคัญมากในการเป็น

00:48:4400:48:48 ส่วนหนึ่งของอาหารเนาะคนเอามาเล่าเพื่อ

00:48:4800:48:52 ให้รู้สึกว่าเอ่อมันได้รู้เรื่องราวของ

00:48:5200:48:52 อาหารนั้น

00:48:5200:48:53 >> อือ

00:48:5300:48:55 >> บางคนก็ใช้สอี่จนแบบโอเวอร์มันก็มีเข้าใจ

00:48:5500:48:56 แต่ว่า

00:48:5600:48:56 >> อ

00:48:5700:49:01 >> ผมว่าบางบางสตอี่อ่ะมันก็ค่อนข้างสร้าง

00:49:0100:49:05 เรียกว่าอะไรดีเอ่อสิ่งที่ทำให้เราน่าจะ

00:49:0600:49:08 เอ่ออร่อยกับมันได้มากขึ้นน่ะจริง

00:49:0800:49:11 >> มันบางทีมันมันไม่ไม่ไม่ใช่แค่นั้นนะเรา

00:49:1100:49:14 คิดว่าแต่ว่า

00:49:1400:49:18 ด้วยความที่eคologyอ่ะหรือระบบนิเวศการ

00:49:1800:49:19 รับรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์การเข้า

00:49:1900:49:25 ถึงอดีตของคนทั่วไปโดยเฉพาะแบบคนทำงานที่

00:49:2500:49:27 มีความเครียดแล้วก็เวลาว่างน้อยอ่ะมันก็

00:49:2700:49:31 เลยคิดว่าเราทำสิ่งที่จำเป็นกับชีวิต

00:49:3100:49:34 เฉพาะหน้าของเราก็พอเราก็เลยบางทีเรามอง

00:49:3400:49:34 ไม่ถึง

00:49:3400:49:35 >> อ

00:49:3500:49:36 >> ไปถึงเรื่องอดีตเกี่ยวกับอาหารอะไรพวก

00:49:3600:49:38 นั้นแต่เราคิดว่าอ

00:49:3800:49:41 >> น้อยที่ที่สุดอ่ะเราทำให้อาหารอร่อยอร่อย

00:49:4100:49:41 ขึ้น

00:49:4100:49:42 >> อื

00:49:4200:49:45 >> แล้วมันอาจจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเราใน

00:49:4500:49:46 เรื่องต่างๆที่เรายังไม่รู้ก็ได้

00:49:4700:49:47 >> อือ

00:49:4700:49:49 >> สิ่งที่เรารู้ไปอาจจะยังไม่มีประโยชน์ตอน

00:49:4900:49:51 นี้คุณเก็บขึ้นหิ้งไว้ก่อนก็ได้อยู่ในกอง

00:49:5100:49:53 ดองอะไรสักอย่าง

00:49:5300:49:54 >> สักวันนึงอาจจะมีประโยชน์สำหรับคุณก็ได้

00:49:5400:49:56 แต่ว่าอ

00:49:5600:49:59 >> ในในในเรื่องเนี้ยในเรื่องของ Story เรา

00:49:5900:50:00 ว่ามันเป็นเรื่องจำเป็นเพราะคนมัน

00:50:0000:50:01 discอnect

00:50:0100:50:02 >> อื

00:50:0200:50:05 >> คนมันdiscอnectกับสิ่งต่างๆมากขึ้นเพราะ

00:50:0500:50:08 ว่าเนี่ยแหละมันไม่มีเวลาเราไม่มีเวลาใน

00:50:0800:50:12 การทำอะไรต่างๆมากพอเราไม่มีเวลาที่จะ

00:50:1200:50:14 เอ่อ

00:50:1400:50:17 นั่งมองหน้าต่างหรือว่ากินอาหารแบบเรื่อย

00:50:1700:50:20 ๆไม่ต้องไปไหนก็ได้อยากจะกินเพื่ออยากจะ

00:50:2000:50:22 กินแล้วก็ริมรสมันอะไรเงี้ยไม่ต้องกิน

00:50:2200:50:25 เพื่อแบบว่าหาวิธีเทคนิคการทำอาหารจริงๆ

00:50:2500:50:27 อ่ะ

00:50:2700:50:29 >> ประโยชน์พวกนั้นน่ะเราก็เพิ่งมารู้ทีหลัง

00:50:2900:50:31 นะคะแต่จริงๆเริ่มทำอาหารเพราะชอบ

00:50:3100:50:32 >> อื

00:50:3200:50:33 >> แล้วมันก็จำเป็น

00:50:3300:50:33 >> อือ

00:50:3300:50:37 >> คือเราไม่ต้องไปหาเหตุผลอะไรมากก็ได้

00:50:3700:50:39 >> จริงๆอ่ะ Enjoy กับมันก่อนเรื่องอาหารน่ะ

00:50:3900:50:40 มันต้องจอยก่อน

00:50:4000:50:40 >> ครับ

00:50:4000:50:42 >> อาหารเป็น nourishment เนาะ

00:50:4200:50:43 >> ฮะ

00:50:4300:50:46 >> ในขั้นพื้นฐานที่สุดอาหารมันทำให้เราอิ่ม

00:50:4600:50:48 มันทำให้เรามีชีวิตมันทำให้เรามีลมหายใจ

00:50:4800:50:51 มันทำให้เรามีสารอาหารไปหล่อเลี้ยงตัว

00:50:5100:50:53 >> อย่างที่ 2 ก็คือมีรสชาติที่ดี

00:50:5300:50:53 >> ครับ

00:50:5300:50:56 >> อย่างที่ 3 คือสร้างตัวตนของเรา

00:50:5600:50:57 >> อื

00:50:5700:50:59 >> ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไรเรากินอาหารกับคน

00:50:5900:51:02 นี้ได้มั้ยถ้าเขากินปลาร้าเยอะเราไม่ชอบ

00:51:0200:51:04 เราจะไปร่วมโต๊ะกับเขาได้มั้ยหรือถ้าไม่

00:51:0400:51:05 ได้เราจะมีวิธีการต่อรองยังไง

00:51:0500:51:06 >> อือ

00:51:0600:51:08 >> มันก็เป็นเรื่องของสังคมอื

00:51:0800:51:12 >> อาหารมันเป็นแค่ประตูในการมองสังคมและคน

00:51:1200:51:13 นึง

00:51:1300:51:13 >> อื

00:51:1300:51:15 >> เราใช้มันเป็นเครื่องมือนะฮะ

00:51:1500:51:15 >> ครับ

00:51:1500:51:19 >> ในการมองสังคมโดยรวมมากกว่าเนี่ยมันทำให้

00:51:1900:51:23 เราสนใจแต่จริงๆก็คือชอบกินค่ะอยู่เพื่อ

00:51:2300:51:24 กิน

00:51:2400:51:26 >> ทุกคนน่าจะเริ่มจากการชอบกินน่ะแหละแล้ว

00:51:2600:51:29 ก็อยากจะรู้เรื่องอะไรเดี๋ก็จะไปหาจาก

00:51:2900:51:30 สิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ดี

00:51:3000:51:32 >> ใช่แค่นั้นพอแล้วพอมาถึงตอนนั้นน่ะเราจะ

00:51:3200:51:35 ไม่มานั่งหาเหตุผลว่าอดีตมันสำคัญยังไง

00:51:3500:51:37 เรื่องราวอาหารแบบนี้มันสำคัญกับเรายังไง

00:51:3700:51:39 เพราะว่ามันจำเป็นกับเราไปแล้ว

00:51:3900:51:41 >> มันเป็นเรื่องที่เราสนใจพอเราสนใจไปแล้ว

00:51:4100:51:41 ปุ๊บ

00:51:4100:51:44 >> อื

00:51:4400:51:45 >> Doesn't matter

00:51:4500:51:48 >> ครับวันนี้ได้เรื่องเยอะมากฮะตั้งแต่ตอน

00:51:4800:51:51 แรกเรื่องประวัติศาสตร์เรื่องโบราณคดี

00:51:5100:51:54 อาหารจนมาถึงเรื่องความแท้ของอาหารมา

00:51:5400:51:55 เรื่องซึ่งไม่มีจริง

00:51:5500:51:58 >> ไม่มีจริงอ่ะมาเรื่มาจนถึงเรื่องความสนใจ

00:51:5800:52:01 แล้วเราจะเชื่อมโยงกับตัวประวัติศาสตร์

00:52:0100:52:03 หรืออดีตของเราไปเพื่ออะไร

00:52:0300:52:03 >> อือฮึ

00:52:0300:52:06 >> วันเนี้ยก็ได้มุมมองจากคุณโต้เยอะมากครับ

00:52:0600:52:10 แล้วก็คิดว่าต่อจากนี้ก็คงใครที่ยังไม่

00:52:1000:52:12 เคยอ่านบทความก็สามารถไปอ่านบทความของคุณ

00:52:1200:52:14 โจ้ได้ที่เอ่อเว็บไซต์ The Cloud ครับก็

00:52:1400:52:18 เสิร์ชของชื่อคุณโจ้นัถาชื่นวัฒนาครับก็

00:52:1800:52:22 จะมีหลายอันเลยมีผมชอบเรื่องเอ่อศูนย์

00:52:2200:52:26 อาหารที่เจอในบันทึกโบราณอ

00:52:2600:52:29 >> ชอบเรื่องนั้นมากก็ก็ไปดูระหวังว่าต่อไป

00:52:2900:52:32 จะมีบทความจากคุณโจ้มาอีกเรื่อยๆนะครับ

00:52:3200:52:33 >> ขอบคุณมากเลยค่ะ

00:52:3300:52:34 >> จริงๆยังมีเรื่องอีกหลายเรื่องที่อยากคุย

00:52:3400:52:37 กันมากถ้ามีโอกาสรอบหน้าก็จะชวนมาคุยด้วย

00:52:3700:52:39 กันอีกครับคุณโชวันนี้ขอบคุณมากๆเลยนะ

00:52:3900:52:39 ครับ

00:52:3900:52:40 >> ขอบคุณมากค่ะ

00:52:4000:52:40 >> ขอบคุณนะครับ

00:52:4100:52:41 >> ขอบคุณค่ะ

00:52:4100:52:42 >> สวัสดีครับ

00:52:4200:52:49 [เพลง]