00:00:00 → 00:00:01 พี่รู้สึกว่าข้าวแช่มันเป็นอาหารที่ควรจะ
00:00:01 → 00:00:04 กินได้อย่างมีความสุขในแต่ละฤดูกาลการมี
00:00:04 → 00:00:06 กฎเกณฑ์พอประมาณน่ะได้แหละแต่ว่าถ้ามันมี
00:00:06 → 00:00:09 เยอะเกินไปมันจะทำให้คนรุ่นใหม่อ่ะเกร็ง
00:00:09 → 00:00:11 ช่วงนี้เป็นฤดูกาลเข้าแช่พอดีครับอาหาร
00:00:11 → 00:00:14 ประจำฤดูร้อนที่หลายๆคนสงสัยว่าวิธีกิน
00:00:14 → 00:00:16 ข้าวแช่จะต้องกินแบบไหนเริ่มกินอะไรก่อน
00:00:16 → 00:00:18 แล้วทำไมต้องประดิษประดอยขนาดนี้แล้วที่
00:00:18 → 00:00:21 สำคัญคือมันอร่อยยังไง Eat Direction EP
00:00:21 → 00:00:24 นี้มาคุยกับครูแตงหรือพี่แตงจากสตูดิโอ
00:00:24 → 00:00:26 จันทร์ที่สอนทำข้าวแช่พร้อมกับเครื่อง
00:00:26 → 00:00:29 ข้าวแช่กว่า 40 ชนิดถ้าอยากรู้ว่าแต่ละ
00:00:29 → 00:00:31 ชนิดมีอะไรบ้างและกินข้าวแช่ต้องเริ่มกิน
00:00:31 → 00:00:34 ยังไงติดตามได้ใน EP นี้เลย
00:00:34 → 00:00:38 ครับ Eat Direction คุยกับคนในวงการ
00:00:38 → 00:00:43 อาหารว่าเราควรกินอะไรถึงจะ
00:00:43 → 00:00:46 ดีสวัสดีครับ Eat Direction EP นี้เรา
00:00:46 → 00:00:49 มาที่สตูดิโอจันทร์ซอยจรซนิบง 46 นะครับ
00:00:49 → 00:00:51 ช่วงนี้เป็นฤดูกาลของข้าวแช่ครับแล้วก็มี
00:00:51 → 00:00:53 คำถามมากมายเกี่ยวกับข้าวแช่เชื่อว่ามี
00:00:53 → 00:00:55 หลายคนที่ชอบกินข้าวแช่แต่ก็มีหลายคนที่
00:00:55 → 00:00:58 อาจจะยังไม่รู้จักมันดีมากนะครับแล้วก็
00:00:58 → 00:01:00 วันนี้เรามาที่สตูดิโอจันท์หาพี่แตงเนี่ย
00:01:00 → 00:01:03 เพราะว่าเราอยากจะรู้คำตอบหลายๆคำสอบหลาย
00:01:03 → 00:01:07 ๆคำของคำถามที่ทุกคนสงสัยนะครับก็เลยมาหา
00:01:07 → 00:01:08 พี่แตงวันนี้นะครับพี่แตงสวัสดีนะค่ะ
00:01:08 → 00:01:11 สวัสดีค่ะพี่แตงอยากให้พี่แตงแนะนำตัว
00:01:11 → 00:01:14 หน่อยครับว่าค่ะที่่าพี่แตงเป็นใครแล้วก็
00:01:14 → 00:01:16 สตูดิโอจันทร์เนี่ยทำอะไรค่ะพี่ชื่อ
00:01:16 → 00:01:19 จันทรัตน์เหมเวทนะคะอ่าอาชีพหลังเนี่ย
00:01:19 → 00:01:21 เป็นมรรทนากรแต่ว่ามีความสนใจในเรื่อง
00:01:21 → 00:01:24 อาหารไทยโบราณแล้วก็งานฝีมืออื่นๆด้วยค่ะ
00:01:24 → 00:01:26 เปิดสตูดิโอจันทร์ขึ้นมาเพราะว่ามีจุด
00:01:26 → 00:01:28 ประสงค์เรื่องแบบทางเราเราอยากแบบช่วย
00:01:28 → 00:01:31 เหลือเกิดเด็กที่แบบต้องการงานพิเศษอะไร
00:01:31 → 00:01:34 อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็เรามีส่งนักเรียนอ่า
00:01:34 → 00:01:36 เรียนแล้วก็บริจาคอุปกรณ์การแพทย์แล้วก็
00:01:36 → 00:01:39 มีช่วยหมาแมวแล้วแต่วาระที่พวกเราเลือก
00:01:39 → 00:01:42 กันโดยที่เราต่างคนต่างก็ใช้เ่อเวลาใน
00:01:42 → 00:01:45 ช่วงเสาร์อาทิตย์หรือเ่อเวลาต่างๆที่แบบ
00:01:45 → 00:01:47 เรานัดกันได้แล้วก็จะมาช่วยกันทำค่ะอืแต่
00:01:47 → 00:01:50 ว่าที่นี่ก็สอนอาหารไทยเลยใช่มั้ครับสอน
00:01:50 → 00:01:52 อาหารไทยแต่อย่าบอกว่าอาหารไทยอย่างเดียว
00:01:52 → 00:01:54 เลยเรามีสอนโมทกะลาดูขนมอินเดียเนลิกิริ
00:01:55 → 00:01:57 ขนมญี่ปุ่นด้วยทำไมตังค์ถึงรู้เรื่อง
00:01:57 → 00:02:00 อาหารเยอะค่ะเ่อพี่เป็นคนชอบกินพี่โตมาใน
00:02:00 → 00:02:03 ครอบครัวที่คุณแม่จบฆาตกรรมแล้วคุณแม่ชอบ
00:02:03 → 00:02:05 ทำอาหารอแล้วก็เพราะฉะนั้นเนี่ยตัวเอง
00:02:05 → 00:02:07 เข้าใจว่าตัวเองกินอะไรปกติมาตั้งแต่เด็ก
00:02:07 → 00:02:10 เลยแต่พอโตขึ้นมาไปกินข้าวกับเพื่อนถึง
00:02:10 → 00:02:13 รู้ว่าตัวเองเนี่ยเรื่องมากๆเรื่องกินค่ะ
00:02:13 → 00:02:16 แล้วก็สรรกินมากแล้วเวลาที่เนื่องจากเรา
00:02:16 → 00:02:18 ทำอาชีพันทนากรเนี่ยบางทีเราต้องเดินทาง
00:02:18 → 00:02:21 อย่างเราไปญี่ปุ่นเราก็เรียนทำขนมใน
00:02:21 → 00:02:23 ลิกิริก็คือมีความเชื่อในเรื่องการไป
00:02:24 → 00:02:25 ประเทศไหนแล้วก็เรียนออริจินอของประเทศ
00:02:25 → 00:02:28 นั้นๆค่ะเพราะเชื่อว่าอาหารเนี่ยคือตัว
00:02:28 → 00:02:30 ที่บ่งบอกวัฒนธรรมและวิธีการคิดของคนใน
00:02:31 → 00:02:35 สังคมนั้นน่ะได้ดีที่สุดอย่างหนึ่ง
00:02:35 → 00:02:38 ทีนี้มาถึงจุดประสงค์หลักที่มารอบนี้เลย
00:02:38 → 00:02:41 ครับได้ยินมาว่าพี่แตงเนี่ยตอนทำข้าวแช่
00:02:41 → 00:02:43 ใช่มั้ฮะค่ะใช่ค่ะแล้วก็นับว่าเป็นข้าว
00:02:43 → 00:02:47 แช่ที่น่าจะมีเครื่องที่ยากที่เคยไปกินมา
00:02:47 → 00:02:49 ในคิดว่าอย่างงั้นค่ะตอนนี้พี่แตงมี
00:02:49 → 00:02:52 เครื่องในข้าวแชกี่ชนิดเอที่ตามตำรับเก่า
00:02:52 → 00:02:55 ที่ศึกษามานะคะจากหลายวังหลายบ้านแล้วก็
00:02:55 → 00:02:57 ยังไม่ได้คิดกับอะไรใหม่เองเลยเนี่ยของ
00:02:57 → 00:03:00 พี่อยู่ที่ประมาณ 40 นิดๆค่ะโอ้ใช่ค่ะ
00:03:01 → 00:03:04 เพราะว่าแต่ละบ้านแต่ละวังเนี่ยจะมีเบสิค
00:03:04 → 00:03:07 เบสที่มันเหมือนกันอยู่ประมาณ 7-9 อย่าง
00:03:07 → 00:03:09 แล้วก็นอกนั้นแต่ละวังเค้าก็จะมีรสนิยม
00:03:09 → 00:03:11 หรือว่ามีวิธีการหรือมีของชอบของเป็นของ
00:03:11 → 00:03:14 พิเศษพอเรารวบรวมมาจากหลายๆที่เนี่ยค่ะ
00:03:14 → 00:03:16 จริงๆหลายๆอย่างอาจจะคล้ายกันแต่มันทดลด
00:03:16 → 00:03:20 กันน่ะค่ะในสำรับพอรวบรวมมาจริงๆเลยเยอะ
00:03:20 → 00:03:24 มากๆแค่เมนูปลาแล้วก็อย่างอย่างเมนูไชโป
00:03:24 → 00:03:26 นี่ก็มีเข้าไป 4 และคือพี่มองว่าการทำ
00:03:26 → 00:03:29 ข้าวแช่เนี่ยมันคือการบริหารต้องบริหาร
00:03:29 → 00:03:31 จัดการดีมันคือการบริหารของเหลือจากอย่าง
00:03:31 → 00:03:35 นึงไปทำอีกอย่างนึงเหมือนเหมือนกลบทอะไร
00:03:35 → 00:03:37 ที่แบบใช้คำพันกันไปเรื่อยๆอย่างเงี้ยค่ะ
00:03:37 → 00:03:39 คือมันจะไม่มีของเหลือเลยถ้าเราทำข้าวแช่
00:03:39 → 00:03:43 เป็นแล้ววางแผนดีอืแล้วมันก็เลยสนุกทีนี้
00:03:43 → 00:03:45 คำถามที่ทุกคนสงสัยมากว่าข้าวแช่เนี่ยมัน
00:03:45 → 00:03:47 มันมาจากอะไรมันเกิดเพราะอะไรขึ้นมาเพราะ
00:03:47 → 00:03:50 อะไรค่ะคือเท่าที่พี่ศึกษามานะคะมันก็
00:03:50 → 00:03:52 เป็นการคิดวิธีการกินอาหารในหน้าร้อนของ
00:03:52 → 00:03:54 คนในภูมิภาคเราก็คือหน้าร้อนเราก็ไม่ได้
00:03:54 → 00:03:57 อยากจะกินของร้อนเนแต่เราก็ยังหิวไงยัง
00:03:57 → 00:04:00 อยากกินอะไรที่แบบเอ้ยตื่นเต้นดูหลากหลาย
00:04:00 → 00:04:03 แล้วหน้าร้อนเนี่ยเเรามีมีเสน่ห์ของ
00:04:03 → 00:04:05 ฤดูกาลที่ดอกไม้แล้วก็เอาน้ำดอกไม้เนี่ย
00:04:05 → 00:04:08 มาอยู่ในข้าวแช่ด้วยแล้วก็พี่มองว่ากับ
00:04:08 → 00:04:11 ข้าวแช่เนี่ยเนื่องจากว่าพอมันร้อนปุ๊บ
00:04:11 → 00:04:13 อาหารแต่ละอย่างมันเก็บไม่ได้นานแต่กับ
00:04:13 → 00:04:15 ข้าวแช่เนี่ยมันจะเหมาะกับกับเรื่องนี้
00:04:15 → 00:04:18 เพราะว่าหลายอย่างเนี่ยอ่าอย่างหมูฝอย
00:04:18 → 00:04:20 เนื้อฝอยเนี่ยมันเป็นส่วนนึงของการถนอม
00:04:20 → 00:04:23 อาหารอยู่แล้วค่ะแล้วก็อย่างพวกปลาเค็ม
00:04:23 → 00:04:27 ปลาเค็มชุบไข่ทอดปลาเค็มกินทอดเนี่ยเราก็
00:04:27 → 00:04:29 เก็บได้นานอยู่แล้วคือวันนึงแม่บ้านอาจจะ
00:04:29 → 00:04:30 ไม่ต้องทำหลายครั้งอะไรอย่างเงี้ยค่ะบาง
00:04:30 → 00:04:33 อย่างมันก็เป็นพอเหลือจากข้าวแช่มันไปทำ
00:04:33 → 00:04:35 อย่างอื่นได้อีกอย่างผัดเงี้ยค่ะก็ไปทำ
00:04:35 → 00:04:38 เป็นปลาแห้งแตงโมต่อได้มันก็จะเป็นอาหาร
00:04:38 → 00:04:41 ที่แบบกินแล้วสดชื่นในหน้าร้อนค่ะมันก็จะ
00:04:41 → 00:04:44 เป็นอาหารที่ค่อนข้างอิงกับฤดูกาลใช่ค่ะ
00:04:44 → 00:04:46 แล้วก็การทำข้าวแช่นี่จากเรารู้สึกว่าการ
00:04:46 → 00:04:49 ทำข้าวแช่เนี่ยมันใช้ขั้นตอนวิธีการเยอะ
00:04:49 → 00:04:51 มันไม่ใช่แค่รสอย่างเดียวมันไม่ใช่อาหาร
00:04:51 → 00:04:53 ปากอย่างเดียวมันต้องเป็นอาหารตาด้วยแล้ว
00:04:53 → 00:04:55 พี่มองว่าเมื่อเราทำ 2 อย่างนี้ครบสิ่ง
00:04:55 → 00:04:58 ที่ได้ต่อมาคืออาหารใจเพราะว่าคนที่ได้
00:04:58 → 00:05:00 รับจากเราไปเขาจะรู้สึกว่าเเป็นคนพิเศษ
00:05:00 → 00:05:03 เพราะเราใช้ทั้งเวลาทั้งฝีมือเนี่ยในการ
00:05:03 → 00:05:06 ตั้งใจทำให้เขาทีนี้ของมันมีเยอะมากเลย
00:05:06 → 00:05:10 พี่แตงแต่ละอย่างมันก็คือผมจะได้ยินเอา
00:05:10 → 00:05:11 เรื่องที่มาของเแชร์เนี่ยไม่รู้พี่แตงเค
00:05:11 → 00:05:15 จะได้ยินเป่าว่ามันจะมีคนชอบพูดให้ผมฟัง
00:05:15 → 00:05:17 ว่าเราอยากกินข้าวต้มแบบคนจีนแต่ว่าเรา
00:05:18 → 00:05:19 กินร้อนกันไม่เป็นอ๋อไม่รู้เรื่องนั้นมัน
00:05:19 → 00:05:22 จริงรือเปล่าพี่ว่าไม่นะคือคนไทยเนี่ยเอา
00:05:22 → 00:05:25 จริงๆแล้วกินได้หลากหลายมากคือไม่ว่าเรา
00:05:25 → 00:05:27 ไปอยู่ที่ไหนหรือใครมาอยู่บ้านเราถ้าเมี
00:05:27 → 00:05:29 ของกินแบบที่เอ้ยเราชอบเราพร้อมจะรับ
00:05:29 → 00:05:32 พร้อมจะรับแลกวัฒนธรรมการกินเนี่ยได้ตลอด
00:05:32 → 00:05:35 เวลาอ่าถ้าแบบอย่างดูมาเนี่ยข้าวแช่เวลา
00:05:35 → 00:05:38 เราศึกษาเข้ามาจริงๆอ่ะเราก็รู้ว่าอ่า
00:05:38 → 00:05:40 ข้าวแช่เนี่ยก็คนมอญกินกันก่อนเนาะกินกัน
00:05:40 → 00:05:43 มาตั้งนานแล้วแล้วก็พอมันมีการย้ายถิ่น
00:05:43 → 00:05:45 ฐานหรือใดๆก็ตามเนี่ยคนไทยเนี่ยในช่วง
00:05:45 → 00:05:48 ระยะเวลาตอนช่วงประมาณเดือนเมษายนซึ่ง
00:05:48 → 00:05:50 เป็นช่วงสงกรานต์เนี่ยเค้าก็จะทำข้าวแช่
00:05:50 → 00:05:52 กันแต่ว่าเท่าที่พี่ชิมมากับข้าวแช่มอ
00:05:52 → 00:05:55 เนี่ยก็จะไม่ถึงกับหวานมากเนาะจะเป็นแบบ
00:05:55 → 00:05:58 หลายอย่างเนาะกินครั้งแรกของกับข้าวแช่
00:05:58 → 00:06:00 มอญพี่กินที่วัดขนอนค่ะพอดีตอนนั้นเอิ่ม
00:06:00 → 00:06:03 อยู่คณะมทนศิลป์แล้วทำงานกับอาจารย์ทำ
00:06:03 → 00:06:05 เรื่องหนังใหญ่วัดขนอนแล้วก็ไปที่วัดอ
00:06:05 → 00:06:08 เอิ่มวัดขนอนแล้วก็มีคนมอญเอามาให้ตอน
00:06:08 → 00:06:10 นั้นก็เป็นครั้งแรกที่ยิงข้าวแช่แต่ก็ยัง
00:06:10 → 00:06:13 รู้สึกว่าเออะแปลกๆอืเริ่มชอบแล้วแหละ
00:06:13 → 00:06:15 ข้าวแช่ที่เราเห็นแบบไม่ใช่เข้าแช่แบบนี้
00:06:15 → 00:06:19 ค่ะอันนี้คือมีการปรับมาพอสมควรละแล้วก็
00:06:19 → 00:06:21 เอิ่มพี่ก็เลยไปศึกษาเรื่องข้าวแช่อ๋อ
00:06:21 → 00:06:24 ข้าวแช่มันก็มีมานานแต่ว่ามันก็มีเริ่ม
00:06:24 → 00:06:26 เข้าแช่เริ่มเข้าวังอย่างชัดเจนเนี่ยก็
00:06:26 → 00:06:28 คือเจ้าจอมมารดาสั้นกลิ่นในสมัยรัชกาลที่
00:06:28 → 00:06:31 4 ท่านเป็นผู้ที่มีเชื้อสายมอญแล้วก็นำ
00:06:31 → 00:06:35 ข้าวแช่มาอ่าจับในวังแล้วก็หลังจากนั้นก็
00:06:35 → 00:06:38 มีการพัฒนาปรับปรุงมาให้ถูกปากถูกลิ้นคน
00:06:38 → 00:06:41 ไทยทั่วไปมากขึ้นก็เผยแพร่จากวังมาสู่
00:06:41 → 00:06:43 ข้างนอกอย่างเงี้ยค่ะอืก็คือเขาแช่ตอนแรก
00:06:43 → 00:06:46 ก็คือมาจากมอญจริงๆเลยก็เข้าวังโดยเจ้า
00:06:46 → 00:06:49 จอมใช่ใช่ค่ะคิดว่าจริงๆแล้วคิดว่ามัน
00:06:49 → 00:06:51 เป็นหมุดที่แบบมีการบันทึกแต่ถ้าถามพี่
00:06:51 → 00:06:53 มันอาจจะเข้ามาก่อนหน้านั้นแหละแต่ว่า
00:06:53 → 00:06:55 ท่านเนี้ยเป็นการแบบทำให้เข้ามาแบบชัดเจน
00:06:55 → 00:06:58 แล้วก็หลังจากนั้นก็มีทั้งตำรับตำราเก่า
00:06:58 → 00:07:00 พูดถึงการทำข้าวแช่ในแต่ละช่วงอย่าง
00:07:00 → 00:07:03 เหมือนแบบถ้าเป็นรุ่นแรกๆเนี่ยค่ะก็จะมี
00:07:03 → 00:07:06 บันทึกของเอ่อท่านผู้หญิงเปลี่ยนภาษกร
00:07:06 → 00:07:08 วงศ์เนาะอย่างก็จะระบุเรื่องชนิดของข้าว
00:07:08 → 00:07:11 เป็นข้าวนาสของท่านผู้หญิงกรีกมหีธรใน
00:07:11 → 00:07:13 ช่วงเวลาไล่ๆกันก็บอกใช้ข้าวนาสวนแต่ณ
00:07:13 → 00:07:16 ปัจจุบันเนี้ยเรามีข้าวหอมมะลิข้าวนาสวน
00:07:16 → 00:07:18 คืออะไรข้าวนาสวนเป็นชนิดของพันธุ์ข้าว
00:07:18 → 00:07:22 ที่นี่มีนะคะถ้าจะดูมีเพราะว่าเราน่ะชอบ
00:07:22 → 00:07:25 แบบพวกสะสมพวกแบบวัตถุดิบแปลกๆอย่าง
00:07:25 → 00:07:29 เหมือนข้าวนี่เราก็สนใจครับค่ะที่ทำโครง
00:07:29 → 00:07:31 การผูกปิ่นโตข้าวอินทรีย์ให้แบบชาวนากับ
00:07:31 → 00:07:34 ชาวเมืองรู้จักกันผูกข้าวกันโดยตรงด้วย
00:07:34 → 00:07:36 เราก็จะมีข้อมูลเรื่องพวกข้าวเนี่ยค่อน
00:07:36 → 00:07:38 ข้างเยอะค่ะแล้วความเปลี่ยนแปลงจากที่
00:07:38 → 00:07:42 เป็นเอ่อข้าวแช่แบบมอมาสู่มาสู่ในวังมี
00:07:42 → 00:07:44 อะไรที่มันเปลี่ยนแปลงบ้างค่ะคือพี่มอง
00:07:44 → 00:07:46 ว่ามันมีความวิจิตรมากขึ้นเนาะเพราะว่า
00:07:46 → 00:07:49 อย่างชาววังก็จะแบบไม่ใช่แค่คือคนสมัย
00:07:49 → 00:07:52 ก่อนจะมีบางคนพูดว่าเฮ้ยไม่เห็นต้องทำ
00:07:52 → 00:07:54 อะไรให้วิจิตรพิสดารเลยเพราะว่าเดี๋ยวก็
00:07:54 → 00:07:56 เดี๋ยวก็กินแต่ว่าคุณลืมอะไรไปบางอย่าง
00:07:57 → 00:07:59 เมื่อเราเนี่ยอยู่กับของสวยของงามจิตใจ
00:07:59 → 00:08:01 เราจะดูยกระดับขึ้นเนาะเวลาเราเห็นของสวย
00:08:01 → 00:08:04 มีใครไม่ดีใจมีใครไม่ชื่นใจเหมือนกันแต่
00:08:04 → 00:08:07 จริงๆแล้วมันไม่ใช่มันไม่ใช่ดีใจหรือชอบ
00:08:07 → 00:08:09 ใจตอนได้รับตั้งแต่เราเริ่มคิดจะทำคือเรา
00:08:09 → 00:08:13 คิดดีพอเราคิดดีเรามีความสุขอ่ะเหมือนแบบ
00:08:13 → 00:08:17 ในมงคล 38 ประการในศาสนาพุทธก็มีบอกนะคะ
00:08:17 → 00:08:20 ข้อ 8 คือใช้ชีวิตให้มีสุนทรียะ
00:08:20 → 00:08:22 ไม่งั้นทำไมเวลาเราไปวัดเรามีความสุขโหย
00:08:22 → 00:08:25 ในวัดมีของสวยๆเต็มเลยก็เป็นการดึงจิตใจ
00:08:25 → 00:08:28 คนให้เข้าไปในที่ที่แบบที่ดีงามเงี้มันก็
00:08:29 → 00:08:31 เป็นเรื่องสนยในการใช่ค่ะอ้าวแล้วแบบเวลา
00:08:31 → 00:08:34 เรากินแล้วแบบถ้ามันไม่สวยกับมันสวยอ่ะ
00:08:34 → 00:08:37 เราดูออกเนาะอืถ้ามันอร่อยเหมือนกันน่ะ
00:08:37 → 00:08:39 อือแต่ว่าอันนี้สวยอันนี้ไม่สวยแล้วเรา
00:08:39 → 00:08:41 เลือกได้อ่ะเราก็ต้องเลือกกินอันสวยป่ะก็
00:08:41 → 00:08:45 จริงเราก็ต้องเอาอันสวยก่อนใช่ค่ะแล้วที
00:08:45 → 00:08:48 นี้มันมีถ้ามันมีวังต่างๆแล้วเนี่ยเอ่อ
00:08:48 → 00:08:50 มันมีวังไหนที่เราควรรู้จักมั้ยครับว่า
00:08:51 → 00:08:53 เป็นแบบหมุดหมายของการทำข้าวแช่ในสมัยคือ
00:08:53 → 00:08:56 คือตัวพี่นะเอิ่มมีหลายสายนะเรื่องเรื่อง
00:08:56 → 00:08:59 แบบข้าวแช่ชาววังเนี่ยแต่วังหลังสุดที่
00:08:59 → 00:09:03 พี่ไปเนี่ยคือวังนนท์ของหม่อมเจ้าหญิงอ่า
00:09:03 → 00:09:06 พระจงและจิตกีดากรสายเนี้ยเป็นสายของเจ้า
00:09:06 → 00:09:09 จอมมารดาซ่อนกลิ่นเลยก็คือท่านมีต้นต้น
00:09:09 → 00:09:11 สกุลท่านมีเชื้อสายมอญเนาะเท่าที่พี่ชิม
00:09:11 → 00:09:13 มาคือคนบอกว่าข้าวแช่มันต้องหวานต้อง
00:09:13 → 00:09:15 อย่างงั้นต้องงี้ไม่นะมันเป็นการแบบถ้า
00:09:15 → 00:09:18 เกิดกลับในสำลับมีอันนึงเค็มอันนึงมัน
00:09:18 → 00:09:20 ต้องหวานแต่มันไม่จำเป็นต้องหวานทั้งหมด
00:09:20 → 00:09:23 ที่เนี่ยเป็นที่ที่ทำให้พี่รู้สึกว่ารส
00:09:23 → 00:09:26 ชาติพอเหมาะเนี่ยเป็นยังไงอืค่ะแต่ก็คือ
00:09:26 → 00:09:29 กับกับของที่ที่วังของหม่อมจิ๋พจงและจิต
00:09:29 → 00:09:31 เนี่ยมีจำนวน 5 อย่างไม่เยอะแต่รสชาติกลม
00:09:32 → 00:09:33 กล่อมพี่ชอบของสายนี้ที่สุดเลยตั้งแต่พี่
00:09:33 → 00:09:36 เรียนมาอือแต่ว่าถ้ากับพิเศษๆเศษอย่าง
00:09:36 → 00:09:39 เงี้ยค่ะยังเหมือนเ่อเขาจะบอกว่าของพิเศษ
00:09:39 → 00:09:42 ของข้าวแช่เนี่ยที่ทำยากและทำนานน่ะคือ
00:09:42 → 00:09:44 ลูกกะปิลูกกะปิของแต่ละวังอ่ะค่ะส่วนมาก
00:09:45 → 00:09:47 เนี่ยจะเป็นปลาดุกเนาะแต่ก็จะมีวังของวัง
00:09:47 → 00:09:50 บ้านพระอาทิตย์นะคะที่เป็นปลาช่อน
00:09:50 → 00:09:52 อืค่ะแต่แล้วก็จะมีของท่านผู้หญิง
00:09:53 → 00:09:55 ปริมหิธรเนี่ยเป็นปลาสลาดแล้วก็อย่างที่
00:09:55 → 00:09:59 พี่บอกว่าอย่างปลาสลาดเนี่ยเป็นลูกกะปิ
00:09:59 → 00:10:02 แล้วเขาก็เอาไส้ของลูกกะปิเนี่ยครับไปสอด
00:10:02 → 00:10:04 ไส้หัวหอมได้ด้วยอย่างตำรับที่พี่เลือกทำ
00:10:04 → 00:10:07 มาเนี่ยไส้ของลูกกะปิตัวลูกกะปิเนี่ยเป็น
00:10:07 → 00:10:10 ปลาดุกอย่างเดียวเลยที่เป็นปลาดุกให้เป็น
00:10:10 → 00:10:13 นางเอกไปเลยส่วนอันอื่นเนี่ยสอดไส้หัวหอม
00:10:13 → 00:10:15 เนี่ยเป็นปลาช่อนแล้วเราก็เอาส่วนปลาช่อน
00:10:15 → 00:10:18 ที่เหลือเนี่ยจากสอดไส้หัวหอมเนี่ยมาทำ
00:10:18 → 00:10:21 เป็นปลาช่อนฟูปลาช่อนผัดหวานได้อีกอย่าง
00:10:21 → 00:10:23 เงี้ยค่ะแล้วถ้าเหลือสุดๆละก็ไปเป็นของ
00:10:24 → 00:10:26 ว่างเลยไปเป็นของหวานเลยก็คือเป็นปลาแห้ง
00:10:26 → 00:10:29 แตงโมอืค่ะก็คือที่แตงบอกว่าถ้าทำเป็นมัน
00:10:29 → 00:10:31 จะไม่เหลือไม่เหลือค่ะมันจะพันไปเรื่อยๆ
00:10:31 → 00:10:34 คือแบบอย่างบางบางปีที่พี่สอนน่ะที่ที่
00:10:34 → 00:10:36 กลับมันได้จำนวนเยอะเพราะว่าปริมาณของที่
00:10:37 → 00:10:39 เหลือน่ะมันเยอะมันก็จะพันไปเรื่อยๆอย่าง
00:10:39 → 00:10:42 เงี้ยค่ะตอนนี้มี 40 32 วันเนี้ยมี 32
00:10:42 → 00:10:46 วันนี้มี 32 จริงๆพี่แตงมีถึง 40 นับกัน
00:10:46 → 00:10:49 ถ้วนๆแล้วก็ประมาณ 43 ค่ะ 43 ด้วยใช่
00:10:49 → 00:10:51 เยี่ยมมากแต่ทั้งหมดเนี่ยก็คือมาจากแต่ละ
00:10:51 → 00:10:55 ตำรับแต่ละวังใช่มั้ยใช่ค่ะก็มีแต่ละบ้าน
00:10:55 → 00:10:58 ก็มีด้วยค่ะเพราะว่าอย่างพี่ๆที่รู้จัก
00:10:58 → 00:11:01 กันก็คุณย่าเป็นแบบสาวชาววังเก่าท่านมาทำ
00:11:01 → 00:11:03 ที่บ้านแล้วก็ปรับบางอย่างมาเพราะอาจจะ
00:11:03 → 00:11:04 แบบวัตถุดิบอย่างนั้นหายากอะไรอย่างเงี้ย
00:11:04 → 00:11:09 ค่ะก็ปรับมาก็มีเหมือนกันค่ะ
00:11:09 → 00:11:12 อีกคำถามนึงแบบคือคนก็จะบอกว่าข้าวแช่มัน
00:11:12 → 00:11:14 อร่อยยังไงครับอันนี้มันก็เป็นเรื่องของ
00:11:14 → 00:11:17 แบบมันก็ครบรสนะคะจะมีคนบอกว่าข้าวแช่
00:11:17 → 00:11:20 หวานไม่จริงนะในข้าวแช่เนี่ยรสเผ็ดก็มีก็
00:11:20 → 00:11:23 คือมีมาจากพริกหยวกแล้วก็พริกแห้งสอดไส้
00:11:23 → 00:11:27 ปลาตัวนี้ค่ะตัวเนี้ยเผ็ดมันตัดรสกันรส
00:11:27 → 00:11:30 เปรี้ยวก็มีเพราะว่าในตำรับอ่ามันก็มีของ
00:11:30 → 00:11:34 แนมเนาะเป็นมะม่วงมันอมเปรี้ยวนะคะแล้วก็
00:11:34 → 00:11:37 มันก็มีบางตำรับที่เอามะม่วงมายำด้วยตอน
00:11:37 → 00:11:39 แรกเใช้เท่าที่ผมเข้าใจก็คือคนจะรู้สึก
00:11:39 → 00:11:41 ว่าเป็นรสหวานจริงๆเลยแหละเครื่องต่างๆ
00:11:41 → 00:11:43 แต่ว่าแล้วก็จะบอกว่าไม่ค่อยมีรสเปรี้ยว
00:11:43 → 00:11:47 ในตำในสำรับข้าวแช่แต่จริงๆมันมีเพราะว่า
00:11:47 → 00:11:49 ความรู้สึกของเรานะอย่างที่พี่แบบไม่ไม่
00:11:49 → 00:11:51 อยากให้เครียดในการกินข้าวแช่เพราะว่า
00:11:51 → 00:11:54 ความรู้สึกของเราที่เป็นคนไทยอ่ะเรามอง
00:11:54 → 00:11:56 เข้าไปอย่างเงี้ยเรารู้อยู่แล้วว่าผักแน
00:11:56 → 00:11:59 มีมันมีรสอะไรบ้างและคาดเดาความน่าจะเป็น
00:11:59 → 00:12:01 ของรสแต่ละอย่างได้อย่างเช่นเราเห็นแบบ
00:12:01 → 00:12:03 ฉาบน้ำตาลเนี่ยรู้แล้วว่าหวานพอเรากินอัน
00:12:03 → 00:12:06 หวานปุ๊บเวลาเราจะกินอะไรตัดรสอันต่อไป
00:12:06 → 00:12:09 อ่ะเราก็คงจะไม่กินไม่เลือกหวานเหมือนกัน
00:12:09 → 00:12:10 อย่างเงี้ยค่ะเราก็คงจะไปเลือกของอม
00:12:10 → 00:12:12 เปรี้ยวหน่อยหรือว่ารสชาติสดชื่นหน่อย
00:12:12 → 00:12:15 อย่างเงี้ยค่ะอืความรู้สึกเราอ่ะบอกเองนะ
00:12:15 → 00:12:17 อืเป็นเหมือนกินของว่าง
00:12:17 → 00:12:19 หรือเปล่าหรือมันเป็นของหลักเป็นมื้อหลัก
00:12:19 → 00:12:23 เลยเป็นมื้อหลักเลยก็ได้ใช่จริงๆเดี๋ยว
00:12:23 → 00:12:25 นี้เราแยกกันยากนะระหว่างของว่างกับกับ
00:12:25 → 00:12:27 อาหารหลักเนี่ยมีกรอบเงี้ยบางคนก็บอกเอ้ย
00:12:27 → 00:12:30 เป็นของว่างไม่มันก็เป็นกับข้าวได้ด้วยนะ
00:12:30 → 00:12:32 อย่างเงี้ยค่ะทีนี้ส่วนสำคัญสุดเลยที่แบบ
00:12:32 → 00:12:35 ของข้าวแช่มันคือข้าวแช่ก่อนเนาะค่ะตัว
00:12:35 → 00:12:38 ข้าวครับค่ะตัวข้าวเนี่ยถ้าวิธีในการทำ
00:12:38 → 00:12:41 เนี่ยแบบดั้งเดิมเลยก็คือเอิ่มเราเอาข้าว
00:12:41 → 00:12:44 เนี่ยมาขัดมาล้างขัดให้สะอาดก่อนนะคะแล้ว
00:12:44 → 00:12:46 ก็เอาไปต้มประมาณ 3 นาทีต้มในน้ำเดือด
00:12:46 → 00:12:51 เดือดจัด 3 นาทีเอาขึ้นมาอ่าขัดขัดเอาแบบ
00:12:52 → 00:12:53 ให้ตอนนึ่งเนี่ยให้เป็นเอ่อตอนต้มเนี่ย
00:12:54 → 00:12:56 ให้เป็นแค่ตากบก็คือข้างในยังเป็นเม็ด
00:12:56 → 00:12:59 อยู่เป็นตากบอยู่แล้วก็เอาขึ้นมาขัดผิว
00:12:59 → 00:13:02 ออกขัดสีผิวออกโดยอาจจะใช้สารส้มร่วมด้วย
00:13:02 → 00:13:04 เพื่อให้แบบตัวฝุ่นข้าวมันตกตะกอนเร็ว
00:13:04 → 00:13:08 เนาะแล้วก็เสร็จแล้วก็เอาไปนึ่งต่ออีกสัก
00:13:08 → 00:13:10 5 นาทีเพื่อให้ข้าวสุกตลอดเม็ดแต่จริงๆ
00:13:10 → 00:13:12 แล้วคนโบราณน่ะเท่าที่พี่ถามครูผู้เฒ่า
00:13:12 → 00:13:17 พี่นะท่านก็กินแบบเอาดังเต้นะก็ก็คือที่
00:13:17 → 00:13:19 บอกว่าเป็นนิดนึงอ่าใช่แล้วก็นึ่งแค่นิด
00:13:19 → 00:13:21 เดียวเองอ่ะแต่คนเดี๋ยวนี้ก็คืออยากให้
00:13:21 → 00:13:24 สุกตลอดเม็ดเพราะว่ามีลูกศิษย์มาเรียน
00:13:24 → 00:13:27 โอ๊ยครูคะไม่ไหวอ่ะค่ะเดี๋ยวท้องอืดเออๆ
00:13:27 → 00:13:29 แต่ก็ถ้าคนสมัยโบราณมีกินทั้ง 2 แบบนะก็
00:13:29 → 00:13:32 คือนึ่งสุกเลยกับกินเอาดังเต้เลยอ่ะค่ะก็
00:13:32 → 00:13:35 มีกินฝรั่งค่ะใช่แต่ว่าถ้าแบบรุ่นใหม่
00:13:35 → 00:13:37 เนี่ยบางคนอาจจะอยากได้ข้าวหนึบพี่ก็จะมา
00:13:37 → 00:13:40 เปลี่ยนเป็นข้าวหอมมะลิเก่าอย่างเงี้ยค่ะ
00:13:40 → 00:13:43 เราก็ต้องเลือกข้าวเพราะว่าเอิ่มพอใช้
00:13:43 → 00:13:45 เป็นข้าวเก่าอย่างน้อยมันดีตรงที่มันแบบ
00:13:45 → 00:13:48 ระยะการขัดน่ะน้อยเพราะว่ามันไม่มีเมือก
00:13:48 → 00:13:50 เยอะอย่างเงี้ยค่ะแล้วแต่ชอบแต่ช่วงหลัง
00:13:50 → 00:13:53 ก็มีแบบใช้ข้าวเสาให้เก่าก็มีค่ะคือเหตุ
00:13:53 → 00:13:57 ที่ข้าวหอมมะลิมันเพิ่งเกิดอืครับใช่ค่ะ
00:13:57 → 00:14:00 ออเราก็ปรับไปได้นะพี่มองว่าเพราะว่าข้าว
00:14:00 → 00:14:02 บางอย่างมันก็หายากแล้วอย่างเงี้ยค่ะแต่
00:14:02 → 00:14:05 อย่างข้าวนาสวนยังมีบางยี่ห้อขายอยู่อืผม
00:14:05 → 00:14:07 ว่าความยากอันนึงที่แบบคนไม่ค่อยคุ้น
00:14:07 → 00:14:08 เพราะว่าเดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยกินข้าวที่
00:14:09 → 00:14:12 อยู่ในน้ำมันเป็นข้าวสวยที่เรากินกับข้าว
00:14:12 → 00:14:15 แล้วก็ใช่อูยจริงๆแล้วในเอเชียเนี่ยมันมี
00:14:15 → 00:14:17 กลุ่มข้าวที่แบบอยู่ในน้ำแล้วน้ำไม่ร้อน
00:14:17 → 00:14:19 เยอะอยู่เหมือนกันนะข้าวจานน้ำก็มีหรือ
00:14:19 → 00:14:22 ว่าทางของฝั่งอินโดนีเซียเค้าก็มีค่ะอมัน
00:14:22 → 00:14:24 ก็เป็นวัฒนธรรมร่วมนะเพราะว่าพี่มองว่า
00:14:24 → 00:14:27 อาหารน่ะมันไม่มีแยกด้วยอาณาเขตอ่ะครับ
00:14:27 → 00:14:29 มันไปของมันได้เรื่อยๆตามความชอบแล้วก็
00:14:29 → 00:14:32 ความมีวัตถุดิบที่คล้ายกันอืมันช่วยให้
00:14:32 → 00:14:35 แบบมีผลอะไรกับร่างกายใครร้อนหรืออะไรก็
00:14:35 → 00:14:38 เอิ่มพี่มองว่าคือแบบถ้าเรากินของร้อนน่ะ
00:14:38 → 00:14:41 มันก็ดูเป็นการซ้ำเติมซ่อมเติมตัวเองเลย
00:14:41 → 00:14:43 นิดนึงนะใช่ค่ะแล้วก็เวลาที่เรากินข้าว
00:14:43 → 00:14:45 แช่เนี่ยพี่ก็มองว่ากินกลับเยอะๆอ่ะเรา
00:14:45 → 00:14:48 กินข้าวน้อยอ๋อครับแต่อย่าไปคิดว่าจะผอม
00:14:48 → 00:14:52 นะเพราะว่าเรามีน้ำตาลก็เป็นของทอดเลยนะ
00:14:52 → 00:14:55 ครับใช่ค่ะคือกับเนี่ยมันจะคละกันระหว่าง
00:14:55 → 00:14:58 เค็มอ่าเค็มกับหวานคือสมมุติว่าเราเรากิน
00:14:58 → 00:15:01 กัปที่หวานๆเราก็คงจะไม่กินเค็มต่อเรา
00:15:01 → 00:15:03 เอ่อเราคเราคงจะไม่กินหวานเป็นคำที่ 3
00:15:03 → 00:15:06 เราก็ต้องตัดด้วยเค็มหรือว่าเผ็ดอะไร
00:15:06 → 00:15:08 อย่างเงี้ยค่ะอจริงๆแล้วเนี่ยมันมีอันนึง
00:15:08 → 00:15:11 ที่พิเศษก็คือพี่คุยกับคุณตาปฐมครูพี่
00:15:11 → 00:15:14 เนาะรสขมอ่ะมันเป็นรสที่ช่วยชูรสอื่นๆ
00:15:14 → 00:15:17 เพราะฉะนั้นในอันที่เราทำกันเมันก็จะมี
00:15:17 → 00:15:20 ชมนาถสอดไส้ทอดชมนาที่เหลือจากที่เราลอย
00:15:20 → 00:15:23 น้ำดอกไม้มาค่ะสอดไส้ก็คือใช้ส่วนที่
00:15:23 → 00:15:26 เหลือของตัวไส้พริกหยวค่ะมันก็จะเป็นรสขม
00:15:26 → 00:15:28 เพราะว่าแม้กระทั่งในการกินอาหารแบบ
00:15:28 → 00:15:31 วัฒนธรรมฝรั่งอ่ะเราก็เอารสขมเนี่ยเป็นรส
00:15:31 → 00:15:33 นำอย่างเช่นกินซุปผักก่อนอย่างอื่นใช่มั้
00:15:33 → 00:15:37 คะหรือเอ่อก๋วยเตี๋ยวไก่มะระไมต้องมีมะระ
00:15:37 → 00:15:40 อ่ะอเพราะมะระมันจะทำให้รสหวานน่ะมันดึง
00:15:40 → 00:15:42 ขึ้นมาอย่างเงี้ยค่ะคนไทยเราก็ใช้รสแบบ
00:15:42 → 00:15:44 นี้แต่ว่าจริงจริงๆแล้วสำหรับของข้าวแช่
00:15:44 → 00:15:47 เนี่ยค่อนข้างครบรสใช่ค่ะเหมือนกันกระชาย
00:15:47 → 00:15:50 อ่ะมันฝาดนะออ่าถ้าเกิดว่าเรากินหวานๆ
00:15:50 → 00:15:53 แล้วตัดกับกระชายมันก็ดีนะคะสดชื่นดีมี
00:15:53 → 00:15:56 ความซ่าด้วยอืค่ะแล้วก็เมื่อกี้พี่พี่แตง
00:15:56 → 00:15:59 บอกเรื่องว่ามันมีการลอยน้ำดอกไม้ก่อนใช่
00:15:59 → 00:16:01 มั้คือน้ำนี่ไม่ใช่น้ำเปล่าใช่ค่ะไม่สิ
00:16:02 → 00:16:05 เราต้องแบบเราต้องเก๋กว่านั้นคือปกติผมจะ
00:16:05 → 00:16:08 รู้จักว่ามันเป็นน้ำลอยดอกมะลิแต่จริงๆ
00:16:08 → 00:16:10 มันมีเยอะกว่านั้น่ะคือน้ำลอยดอกมะลินี่
00:16:10 → 00:16:12 คือเบสิคนะเพราะบ้านส่วนใหญ่มีมะลิแต่ว่า
00:16:12 → 00:16:15 หลายวังท่านก็ใช้แบบมะลิอย่างเดียวเป็น
00:16:15 → 00:16:18 ความชอบนะแต่ว่าถ้าแบบครบเลยอ่ะ 4 อย่าง
00:16:18 → 00:16:21 เท่าที่มีปรากฏว่าใช้รอยมาเนี่ยก็คือมี
00:16:21 → 00:16:24 ชมนาถมะลิกุหลาบมอญแล้วก็กระดังงาไทย
00:16:24 → 00:16:26 อย่างที่พี่เน้นว่าทุกวันเนี้ยคนแยก
00:16:26 → 00:16:29 กระดังงาไทยกับกระดังงาสงขลาไม่ออกก็เยอะ
00:16:29 → 00:16:31 ส่วนมากหากระดังงาไทยไม่ได้ก็ใช้กระดังงา
00:16:31 → 00:16:34 สงขลาจุดสังเกตง่ายๆก็คือกระดังงาไทย
00:16:34 → 00:16:38 เนี่ยมันหอมมันหอมทุ้มแล้วมันก็มีแค่ 6
00:16:38 → 00:16:41 กลีบถ้าเป็นกลีบจำนวนมากกว่า 6 แล้วบิดๆ
00:16:41 → 00:16:43 พริ้วๆเนี่ยมันคือกระดังงาสงขลามันให้
00:16:43 → 00:16:46 กลิ่นหอมต่างกันแต่พอจะใช้แทนกันได้แต่
00:16:47 → 00:16:49 ถ้าได้กระดังงาไทยคือเต็มที่ค่ะหอมมากมัน
00:16:49 → 00:16:52 เป็นตัวดึงกลิ่นอื่นด้วยแต่ต้องเป็นกระดา
00:16:52 → 00:16:55 แล้วก็ลนไฟให้ถูกต้องก็คือเราลนเพื่อที่
00:16:55 → 00:16:59 จะเร่งต่อมน้ำมันมันให้กลิ่นมันกระจายหอม
00:16:59 → 00:17:02 มากขึ้นอค่ะเวลาลอยอ่ะก็สำคัญก็คือเรา
00:17:02 → 00:17:04 ต้องเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับเอ่อดอกไม้แล้ว
00:17:04 → 00:17:06 ก็เรื่องพืชด้วยถึงพี่ถึงบอกว่าข้าวแช่
00:17:06 → 00:17:09 เนี่ยมันไม่ใช่แค่ทำอาหารอย่างเดียวมัน
00:17:09 → 00:17:13 ผสานแบบหลายเป็นสหวิทยาน่ะหลายอย่างคือ
00:17:13 → 00:17:15 ปกติแล้วคนทำอาหารทำอาหารอย่างเดียวอัน
00:17:15 → 00:17:18 นี้เราต้องแกะสลักด้วยเราต้องรู้เรื่อง
00:17:18 → 00:17:20 คือพี่น่ะต้องปลูกดอกไม้เองด้วยเพราะก็
00:17:20 → 00:17:23 ไม่ไม่แน่ใจดอกไม้ในตลาดแต่ทำข้อแช่เรา
00:17:23 → 00:17:26 ต้องรู้ถึงการปลูกดอกไม้ใช่ค่ะอย่างชมนาถ
00:17:26 → 00:17:29 มันต้องช่อนึงมันมีแบบสัก 30 ดอกแต่มัน
00:17:30 → 00:17:32 บานไม่พร้อมกันเงี้ยค่ะเวลาเก็บพี่ต้อง
00:17:32 → 00:17:35 เก็บดอกที่บานแล้วปิดจากขั้วดอกเพื่อถ้า
00:17:35 → 00:17:38 เกิดว่าพี่หักทั้งช่อเนี่ยพี่เสียไปทั้ง
00:17:38 → 00:17:41 30 พี่ต้องมานั่งเด็ดทีละดอกอ่ะอย่าง
00:17:41 → 00:17:42 ทะนุถนอม
00:17:42 → 00:17:44 เพราะมันไม่ค่อยมีขายคือรู้แล้วจะไม่ได้
00:17:44 → 00:17:47 เสียมันเปล่าๆใช่ค่ะเราก็ตอนเช้าเ่อเรา
00:17:47 → 00:17:49 ลอยไปตอนหัวค่ำใช่มั้คะอย่างมะลิเราก็ลอย
00:17:49 → 00:17:51 ตอนแค่มันตอนเริ่มแย้มๆตอนประมาณ 19:00
00:17:51 → 00:17:54 นึงเพื่อให้มันไปบานต่อในโถแล้วช่วงที่
00:17:54 → 00:17:56 มันกำลังบานน่ะมันจะได้กลิ่นที่ดีมากที่
00:17:56 → 00:18:00 สุดของมันถ้าเราลอยกะทิที่บานแล้วอ่ะไม่
00:18:00 → 00:18:03 ไม่ค่อยกลิ่นน่ะได้แค่ประมาณนึงไม่สุดอื
00:18:03 → 00:18:05 แล้วก็ควรจะลอยตั้งแต่ประมาณอย่างี้ตมๆ
00:18:05 → 00:18:08 หน่อยใช่ค่ะเมื่อกี้เราบอกว่ามีมะลิมี
00:18:08 → 00:18:10 เอ่อกระดังงาไทยใช่มั้ครับใช่ค่ะมี
00:18:10 → 00:18:12 ชมนาถ่ะค่ะแล้วมีกุหลาบมอนค่ะกุหลาบกัน
00:18:13 → 00:18:15 กุหลาบมอนเนี่ยมันก็มีหลายสายพันธุ์เนาะ
00:18:15 → 00:18:17 แต่มันก็ให้กลิ่นที่เราใช้ทำอาหารกันมาใน
00:18:17 → 00:18:20 อาหารไทยโบราณนานแล้วกุหลาบมอนมันก็จะมี
00:18:20 → 00:18:23 ทั้งแดงประเสริฐครับเอิ่มมีกุหลาบมอนไกล
00:18:23 → 00:18:27 กังวลกุหลาบมอญจุฬาลงกรณ์มีหลายสายพันธุ์
00:18:27 → 00:18:29 แต่ทั้งหมดอาจใช้ได้เพียงแต่ว่าสีอาจจะ
00:18:29 → 00:18:31 ต่างกันกุหลาบมอนสุโขทัยเนี่ยสำหรับพี่
00:18:32 → 00:18:35 พี่ว่าหอมที่สุดอืเราก็ลอยเข้าไปบนน้ำ
00:18:35 → 00:18:38 อะไรงี้ล่ะครับเอ่อพี่จะแยกนะกุหลาบกับ
00:18:38 → 00:18:41 กระดังงาพี่จะใส่จอกครับเพราะว่าพวกพวก
00:18:41 → 00:18:43 นี้มันเป็นออยเฟสกพี่ไม่อยากให้น้ำพี่
00:18:43 → 00:18:45 ขุ่นถ้าเกิดว่าลอยลงไปในน้ำเลยทำได้แต่
00:18:45 → 00:18:48 น้ำมันจะขุ่นเพราะมันมีน้ำมันออกมาได้
00:18:48 → 00:18:50 อย่างเงี้ยค่ะถ้าอย่างมะลิกับชมนาพี่ใช้
00:18:50 → 00:18:53 จิ้มลงไปตรงๆทีละดอกเรียงทีละดอกไม่มีการ
00:18:53 → 00:18:57 ฟาดลงไปถ้าดอกไม้ช้ำน้ำก็ฉุนค่ะก็ไม่ได้
00:18:57 → 00:19:00 แต่ละวันเนี่ยใช้เวลาใช้เวลาทำน้ำดอกไม้
00:19:00 → 00:19:05 ไม่ต่ำกว่า 2 ช่โมงค่ะเก็บเอามาลอยปิดฝา
00:19:05 → 00:19:07 แล้วพอตอนเช้าประมาณช่วง 7:00 น.เอาดอก
00:19:07 → 00:19:10 ไม้ออกครับตอนเอาดอกไม้ออกก็ต้องรีบทำ
00:19:10 → 00:19:12 เพราะว่าเดี๋ยวกลิ่นที่เราอบไว้อ่ะหายหมด
00:19:12 → 00:19:15 อ๋อคือปิดไว้แล้วก็ใช้ได้เลยใช่มั้ฮะวัน
00:19:15 → 00:19:17 เดียวพี่ทำ 3 วันต้องทำอย่างเงี้ยซ้ำๆ 3
00:19:17 → 00:19:21 วันซ้ำๆ 3 วันค่ะเพราะว่าอะไรครับกลิ่น
00:19:21 → 00:19:23 มันน่ะค่ะมันจะชัดเจนขึ้นคือเราไม่ได้
00:19:23 → 00:19:25 ต้องการกลิ่นที่ฉุนมากแต่เราต้องการกลิ่น
00:19:25 → 00:19:28 ที่เหมือนเราดมเสร็จแล้วเราอมเข้าไปแล้ว
00:19:28 → 00:19:31 กลืนกลิ่นมันจะติดอยู่ในคอในปากอืมันก็สด
00:19:31 → 00:19:33 ชื่นเนาะเพราะว่ามันร้อนนี่เราก็ควรจะได้
00:19:33 → 00:19:37 กลิ่นอะไรหอมอือๆค่ะผมก็เคยเคยได้ยินว่า
00:19:37 → 00:19:39 น้ำดอกไม้มันมีผลทางยาอยู่กันใช่ค่ะอย่าง
00:19:39 → 00:19:42 กุหลาบมันก็จะบำรุงหัวใจดอกไม้ต้นไม้แต่
00:19:42 → 00:19:45 ละอย่างอ่ะมีคุณสมบัติทางยาทั้งนั้นเลย
00:19:45 → 00:19:47 ให้แบบเราใช้ให้เป็นค่ะสิ่งที่เราต้อง
00:19:47 → 00:19:49 ระวังคือยางมันเพราะมันเกิดการระคายเคือง
00:19:50 → 00:19:52 ขึ้นมาได้อย่างเหมือนแบบดอกลั่นธมสอดไส้
00:19:52 → 00:19:55 เนี่ยเราก็ต้องเอ่อถ้าไม่เก็บแบบร่วงแล้ว
00:19:55 → 00:19:57 เราก็ต้องเก็บแบบสมมุติเราเก็บวันนี้เก็บ
00:19:57 → 00:20:00 จากต้นเราต้องก่อนที่จะสอดไส้วันรุ่งขึ้น
00:20:00 → 00:20:02 เนี่ยเราต้องทิ้งไว้ให้ยางตกก่อนให้หมด
00:20:02 → 00:20:06 อือค่ะ
00:20:06 → 00:20:09 ทีนี้มาถึงตัวเอ่อเรียกว่าเหมือนเป็นพระ
00:20:09 → 00:20:12 เอกเหมือนกันเนาะของคือเครื่องทั้งหมด
00:20:12 → 00:20:15 ทั้งหมดนี้มี 32 อย่างใช่มั้ฮะค่ะทีนี้
00:20:15 → 00:20:17 อยากรู้ว่าพระเอกของมันจริงๆอ่ะมันคือ
00:20:17 → 00:20:21 อะไรอืมเราว่าตัวเอกนะถ้าสำหรับในเรื่อง
00:20:21 → 00:20:24 รถให้ลูกกะปิถ้านางเอกในเรื่องรูปลักษณ์
00:20:24 → 00:20:28 เนี่ยคือพริกหยวกห่อแพไข่รังบวกค่ะที่
00:20:28 → 00:20:31 จริงแล้วเราก็จะเจอว่าเอ่อข้าวแช่ที่ขาย
00:20:31 → 00:20:35 กันอยู่ในอยู่ในชุทุกวันเนี้ยฮะก็จะมีกัป
00:20:35 → 00:20:37 ที่ไม่เหมือนกันดีกว่าหลายๆหลายๆหลายๆ
00:20:37 → 00:20:39 ตำราหลายๆวังหลายๆบ้านก็จะไม่เหมือนกัน
00:20:39 → 00:20:42 แต่ว่าเหมือนจะมีจุดร่วมอยู่มั้ฮะว่าแต่
00:20:42 → 00:20:44 ละที่เนี่ยเขาจะมีอะไรที่แบบทำร่วมกัน
00:20:44 → 00:20:47 อยู่คล้ายๆกันอืถ้าทำร่วมกันอยู่นะก็มี
00:20:47 → 00:20:51 ลูกกะปิครับพริกหยวกห่อแพไข่นะคะแล้วก็
00:20:51 → 00:20:55 ไชโผัดหวานแล้วก็เอิ่เนื้อฝอยหมูฝอยครับ
00:20:55 → 00:20:58 อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็พวกปลาฉาบอืเนี่ยค่ะ
00:20:58 → 00:21:02 ต้องมีอือต้องมีบังคับเลยในสำหรับข้าวแช่
00:21:02 → 00:21:04 ครับชาววังนะคะที่เหลือก็คือแล้วแต่ว่า
00:21:04 → 00:21:06 วังทำอะไรใช่ค่ะอย่างเหมือนบางวังเป็นปลา
00:21:06 → 00:21:10 ช่อนฉาบบางวังเป็นปลาสลิดเป็นปลาสลิดฉาบ
00:21:10 → 00:21:13 บางวังก็เป็นปลากระบอกแดดเดียวแต่วิธีการ
00:21:13 → 00:21:15 ใช้ปลาน้ำจืดกับปลาน้ำเค็มก็ไม่เหมือนกัน
00:21:15 → 00:21:17 อีกเนาะเพราะว่าปลาน้ำเค็มอ่ะปลากระบอก
00:21:17 → 00:21:19 มันมีความคาวมากกว่ามันก็ต้องใส่สมุนไพร
00:21:19 → 00:21:21 บางอย่างเข้าไปช่วยลดกลิ่นคาวอย่างเช่น
00:21:21 → 00:21:25 ข่าหรือเปราะหอมครับแล้วทำไมลูกกะปิจึง
00:21:25 → 00:21:27 เป็นพระเอกของเครื่องมันเตรียมเครื่อง
00:21:27 → 00:21:30 เยอะเนาะคือแบบลูกกะปิเนี่ยใช้เวลากวน
00:21:30 → 00:21:32 เนี่ยนานมากประมาณ 3 ชั่วโมงเพราะเราใช้
00:21:32 → 00:21:35 ไฟอ่อนแล้วก็ใช้ต้องใช้กระชายอ่ะเป็นตัว
00:21:35 → 00:21:39 นำกลิ่นกระชายต้องนำมีทั้งกระชายปลาดุก
00:21:39 → 00:21:44 เอิ่มตะไคร้หอมกระเทียมอือพี่ใส่ผิว
00:21:44 → 00:21:48 มะกรูดด้วยนิดนึงแล้วก็พวกเนี้ยต้องแบบ
00:21:48 → 00:21:50 ค่อยๆทำแล้วก็มีมะพร้าวคั่วมะพร้าวคั่วก็
00:21:50 → 00:21:53 หอมอืกว่าจะคั่วมะพร้าวก็ต้องคั่วไฟอ่อน
00:21:53 → 00:21:56 อีกจนกว่าสีมันจะได้ที่แล้วก็แห้งเต็มที่
00:21:56 → 00:22:00 แล้วก็เอาไปตำแล้วปลาดุกแกะเสร็จท้องไม่
00:22:00 → 00:22:04 เอาหัวไม่เอาหนังไม่เอาอะไรเงี้ยค่ะเอา
00:22:04 → 00:22:06 แต่เนื้อไปตำให้ปุยฟูเงี้ยค่ะแล้วก็มาตำ
00:22:06 → 00:22:10 รวมกันซึ่งใช้แรงงานน่ะเยอะอือใช่ค่ะ
00:22:10 → 00:22:12 เพราะอย่างแบบแกะกระเทียมเราก็ใช้
00:22:12 → 00:22:13 กระเทียมไทยอีกกระเทียมไทยแบบเม็ดเล็กๆ
00:22:13 → 00:22:16 อ่ะไม่ได้ใช้กระเทียมจีนก็ดูมันใช้ของ
00:22:16 → 00:22:19 เยอะมากแล้วก็ใช้คนทำใช่ค่ะกะทิก็ใช้กะทิ
00:22:19 → 00:22:21 สดอ๋อมีกะทิอยู่ในนี้มีกะทิด้วยกะทิต้อง
00:22:21 → 00:22:24 เป็นตัวที่แบบประสานทุกอย่างใช่ค่ะ
00:22:24 → 00:22:27 เครื่องปรุงอ่ะมีแค่ใส่เกลือไปนิดนึงแล้ว
00:22:27 → 00:22:29 ก็น้ำตาลปี๊บหรือน้ำตาลน้ำตาลตะโนดน้ำตาล
00:22:29 → 00:22:32 มะพร้าวแค่นั้นเองอือออค่ะก็คือมันดูเป็น
00:22:32 → 00:22:35 ลูกเล็กๆเรแต่จริงๆมันคือเหมือนเป็นยา
00:22:35 → 00:22:38 กลอนอะไรสักอย่างใช่ค่ะแล้วแล้วปรากฏว่า
00:22:38 → 00:22:41 บางทีกวนๆไปเสร็จปุ๊บอ้าเราใช้กระชายตาม
00:22:41 → 00:22:43 สูตรแต่กระชายส่วนเนี้ยไม่ค่อยหอมเราก็
00:22:43 → 00:22:46 ต้องมาเพิ่มกระชายทีหลังวิธีการเพิ่มเข้า
00:22:46 → 00:22:48 ไปทีหลังในขณะที่ตัวอื่นมันสุกแล้วอ่ะเรา
00:22:48 → 00:22:50 ก็ต้องมีวิธีเพิ่มเข้าไปอย่างเช่นก็ต้อง
00:22:50 → 00:22:53 เอาไปกระชายให้ทำให้สุกก่อนแล้วค่อยเอามา
00:22:53 → 00:22:56 รวมถ้าเอากระชายสดมาเติมก็พังทั้งกระทะ
00:22:56 → 00:22:59 อีกเหมือนกันอค่ะต้องมีสติเยอะมากค่ะความ
00:22:59 → 00:23:02 เป็นพระเอกของมันก็คือความยากแล้วก็ใช่
00:23:02 → 00:23:04 ค่ะหลักความหลากหลายของมันในการคือจะรู้
00:23:04 → 00:23:07 สึกว่าอย่างกับอื่นๆน่ะเรายังเห็นในแบบ
00:23:07 → 00:23:10 หมูฝอยเนื้อฝอยปลาเนี่ยมันยังไปอยู่ในเซต
00:23:10 → 00:23:13 ข้าวขวัญหรืออาหารกับน้ำพริกอื่นๆได้เรา
00:23:13 → 00:23:15 ยังพอเห็นแต่ลูกกะปิมันไม่อยู่ในอันไหน
00:23:15 → 00:23:17 เลยก็จะอยู่ในข้าวแช่อย่างเดียวเท่านั้น
00:23:17 → 00:23:20 ใช่ค่ะถ้าอย่างพี่นะลูกกะปิจะเป็นแบบนี้
00:23:20 → 00:23:22 ค่ะอแล้วก็มีนางเอกคือตัวพิกตัวนี้ค่ะ
00:23:22 → 00:23:26 เป็นคนสวยคนสวยข้างนอกเนี่ยจะเห็นว่าเป็น
00:23:26 → 00:23:28 เอกลักษณ์คือได้เป็นไข่อย่างเดียวป่ะครับ
00:23:28 → 00:23:31 พี่ค่ะเอิ่มก็จะมีไข่มีกะทิคือบางทีเรา
00:23:31 → 00:23:33 ต้องดูไข่ให้เป็นด้วยนะคือไข่เดี๋ยวนี้
00:23:33 → 00:23:35 เวลาเราไปซื้ออ่ะเป็นไข่ที่เลี้ยงในระบบ
00:23:35 → 00:23:38 อุตสาหกรรมบางทีน้ำต้อยอ่ะคือตัวที่แบบ
00:23:38 → 00:23:40 เวลาเราดึงขึ้นมาเส้นขาดหรือเวลาเราไป
00:23:40 → 00:23:43 ซื้อแม่ค้าบอกไข่ใหม่จริงๆแล้วมันเก่าพอ
00:23:43 → 00:23:44 ได้มาแล้วเราจะแก้ไขยังไงคือเราต้อง
00:23:44 → 00:23:46 เรื่องนี้เราต้องเข้าใจเรื่องวิทยาศาสตร์
00:23:46 → 00:23:48 ด้วยว่าไม่งั้นเราต้องทดแทนเข้าไปด้วยไข
00:23:48 → 00:23:52 มันไขมันชนิดไหนมันแก้ไปทีละอย่างถ้าเกิด
00:23:52 → 00:23:56 ว่าไข่แบบเนื้อบางมากบางคนเ้าเติมแป้งแต่
00:23:56 → 00:23:58 ว่าพี่ไมค์พี่เติมกะทิอืพี่เติมหัวกะทิ
00:23:58 → 00:24:00 อันนี้คือเพิ่มในส่วนไขมันแล้วเพิ่มตัว
00:24:00 → 00:24:03 เนื้อมันหรือว่าถ้าเกิดว่าดึงขึ้นมาเส้น
00:24:03 → 00:24:06 มันไม่ต่อเนื่องกันเนาะมันน้ำต้อยของไข่
00:24:06 → 00:24:08 มันน้อยพี่เติมน้ำมันชนิดที่จะใช้ทอดไป
00:24:08 → 00:24:12 นิดนึงอืเพื่อให้เส้นน่ะมันยืดได้ต่อ
00:24:12 → 00:24:14 เนื่องหมายถึงไข่ที่ตีแล้วเพื่อจะเตรียม
00:24:14 → 00:24:17 แล้วตัวไข่เองอ่ะการที่มันเป็นเส้นมันฟู
00:24:17 → 00:24:19 อย่างเงี้ยโดยที่เส้นมันไม่ขาดอย่างนึงก็
00:24:19 → 00:24:22 คือมันไม่มีฟองอากาศตอนที่ตอนที่เราเอา
00:24:22 → 00:24:25 ไข่ทั้งไข่ขาวและไข่แดงมารวมกันเราจะต้อง
00:24:25 → 00:24:28 รู้ว่าไข่เนี่ยมันเป็นโครงสร้างที่รับ
00:24:28 → 00:24:31 อาการอากาศได้แค่ครั้งเดียวเพราะฉะนั้น
00:24:31 → 00:24:34 เราต้องพยายามให้มันเกิดฟองอากาศถ้าเราตี
00:24:34 → 00:24:36 แบบตีไข่เจียวมันมีฟองอากาศเส้นมันก็จะ
00:24:36 → 00:24:39 ไม่ต่อเนื่องเวลาเราเอามันมาโรยมันก็จะ
00:24:39 → 00:24:42 เป็นเส้นขาดๆอเพราะฉะนั้นวิธีการทำให้ไข่
00:24:43 → 00:24:46 มันประสานกันเนี่ยเราไม่ทำอย่างงี้ไม่ตี
00:24:46 → 00:24:48 อย่างี้เราเอามือลงไปแล้วเราก็ขยำโดยที่
00:24:48 → 00:24:51 ไม่ปั๊มอากาศลงไปเลยคือพยายามให้อากาศ
00:24:51 → 00:24:53 เข้าไปน้อยที่สุดใช่ค่ะให้มันเป็นเนื้อ
00:24:53 → 00:24:55 เดียวกันใช่ค่ะโอหแล้ววิธีการหยอดก็มี
00:24:55 → 00:24:58 เทคนิคอีกใช่มั้เทคนิคมันน่ะก็คือแบบเรา
00:24:58 → 00:25:00 ต้องรู้จังจังหวะมือของเราเองเนาะว่าเรา
00:25:00 → 00:25:02 สะบัดยังไงน้ำมันที่ใช้ทอดน้ำมันอะไรน้ำ
00:25:02 → 00:25:05 มันปาล์มต้องปาล์มเท่านั้นด้วยใช่ค่ะอัน
00:25:05 → 00:25:07 นี้เราก็ต้องรู้เรื่องแฟช point ของน้ำ
00:25:07 → 00:25:09 มันแต่ละอย่างเนาะอืเพราะมันเป็นการทอด
00:25:09 → 00:25:12 ที่ต่อเนื่องถ้าเราใช้น้ำมันที่แบบเอ่อ
00:25:12 → 00:25:15 มันไหม้เร็วอือแฟช point มันต่ำๆเงี้ยมัน
00:25:15 → 00:25:17 ก็จะใช้ได้แป๊บเดียวมันเปลืองอืน้ำมัน
00:25:17 → 00:25:19 ปาล์มก็เลยเป็นน้ำมันที่เหมาะกับการทอด
00:25:19 → 00:25:22 ครับค่ะก็มีเทคนิคในการหยอดเพื่อให้เป็น
00:25:22 → 00:25:24 แพใช่ค่ะต้องทำให้เป็นแพต้องประสานเส้น
00:25:24 → 00:25:26 กันเหมือนสมมุติเราทำเป็นวงไปก่อนแล้วมัน
00:25:26 → 00:25:29 ก็ยุบตัวเข้าหากันปุ๊บเราก็ต้องสารมันให้
00:25:29 → 00:25:31 มันตรงไหนโหว่แล้วก็ซ่อมอะไรอย่างเงี้ย
00:25:31 → 00:25:35 ค่ะใช่ค่ะค่อยๆซ่อมไปซ่อมแล้วมันจะมีเม็ด
00:25:35 → 00:25:37 ๆเม็ดๆเนี่ยครับอันนี้เม็ดนี่เค้าเรียก
00:25:37 → 00:25:40 ว่าเม็ดไข่แมงดาเล็กๆมันเกิดจากการสะบัด
00:25:40 → 00:25:43 มือเหวี่ยงอ่าเหวี่ยงมือบางที่มีบางที่
00:25:43 → 00:25:45 ไม่มีนะครับก็คือถ้าเกิดว่าบางที่อ่ะเขา
00:25:45 → 00:25:47 ก็ใช้แบบง่ายแล้วก็เส้นเท่าๆกันเค้าก็
00:25:48 → 00:25:51 เจาะรูกับถุงพลาสติกแล้วบีบโรยอย่างเงี้ย
00:25:51 → 00:25:54 ค่ะเม็ดมันจะไม่ค่อยเกิดอืค่ะมันมีเทคนิค
00:25:54 → 00:25:56 ทำให้เกิดเม็ดโอ๊ยมี
00:25:56 → 00:26:00 ค่ะบางคนก็วนมือไปจนกว่าจะแบบพี่ว่าง่าย
00:26:00 → 00:26:02 ที่สุดก็คือไปตามจังหวะของข้อมือเราอ่ะ
00:26:02 → 00:26:05 ค่ะแล้วอะไรที่มันทำนอกจากลูกกะปิกับการ
00:26:05 → 00:26:10 ทำไข่ค่ะแพใช่มั้ฮะแล้วก็พริกโยไส้เนี่ย
00:26:10 → 00:26:13 มันมีอะไรที่ทำยากอีกอันนึงนะที่เป็นตัว
00:26:14 → 00:26:17 วัดฝีมือเลยก็คือทำใช้โป๊ยังไงให้ใสโป๊
00:26:17 → 00:26:20 เนี่ยนะครับไชโป๊ดูก่อนใช่ค่ะโอ๊ยคือแบบ
00:26:21 → 00:26:23 ถ้าผัดธรรมดามันก็จะดูฝ้าเนาะอ๋อแต่จริงๆ
00:26:23 → 00:26:26 แล้วอ่ะต้องเข้าใจก่อนว่าทำใช้โป๊เนี่ย
00:26:26 → 00:26:28 เราทำพี่พี่อ่ะอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ได้
00:26:28 → 00:26:32 ก็คือการทำให้เป็นอ่า saturate ก็คือพี่
00:26:32 → 00:26:34 ค่อยๆใส่น้ำตาลให้มันอิ่มตัวเต็มที่เลย
00:26:34 → 00:26:37 ให้น้ำตาลมันเข้าไปแทนที่เซลล์ของผัก
00:26:37 → 00:26:40 ผลไม้อย่างเงี้ยค่ะอเหมือนมันจะได้ใส่
00:26:40 → 00:26:42 เหมือนมันมีห้องอยู่ห้องนึงแล้วก็เรา
00:26:42 → 00:26:44 ต้องการมันมีคนอยู่ในห้องอยู่อ่ะแล้วเรา
00:26:44 → 00:26:46 จะเอาคนข้างนอกเข้าไปอยู่ให้เต็มพื้นที่
00:26:46 → 00:26:49 อ่ะอแล้วพอมันเข้าไปอยู่เต็มแล้วอ่ะถ้า
00:26:49 → 00:26:52 มันล้นน่ะประตูมันยังเปิดอยู่อ่ะค่ะน้ำ
00:26:52 → 00:26:55 ตาลมันก็จะไหลออกอ๋อมันก็แหละเพราะฉะนั้น
00:26:55 → 00:26:57 เราต้องปิดยังไงอะไรอย่างเงี้ยเงี้ยค่ะ
00:26:57 → 00:27:01 หรือบางคนไปแล้วมันเปลี่ยนเป็นของแข็งอ
00:27:01 → 00:27:03 มันเปลี่ยนสภาพเพราะน้ำตาลน่ะมันจะมาถึง
00:27:03 → 00:27:05 จุดอิ่มตัวในจุดที่ว่ามันต้องเลือกว่ามัน
00:27:05 → 00:27:08 จะเป็นของแข็งหรือมันจะเป็นของเหลวเรา
00:27:08 → 00:27:10 ต้องรู้ให้ทันมันเพราะเราไม่ต้องการแข็ง
00:27:10 → 00:27:12 อย่างเงี้ยค่ะเจือมันยังไงหรือว่าเราจะ
00:27:12 → 00:27:15 ใส่กดซิติกคือน้ำมะนาวเข้าไปเพื่อให้มัน
00:27:15 → 00:27:18 แบบหยุดการเป็นของแข็งอย่างเงี้ยค่ะต้อง
00:27:18 → 00:27:20 ไล่ให้ทันที่ทำอาหารโบราณมาอะไรที่มัน
00:27:20 → 00:27:23 เครื่องปรุงน้อยเทคนิคมันจะเยอะแล้วครู
00:27:23 → 00:27:26 พี่บอกว่าแตงสอนได้แล้วลูกเพราะแตงผิดมา
00:27:26 → 00:27:28 แล้วทุกอย่างเลยอ๋อ
00:27:28 → 00:27:31 ทำผิดมาครบแล้วออเราก็จะรู้แล้วว่าอะไร
00:27:31 → 00:27:32 ใช่ค่ะเราหาวิธีแก้วแล้วแต่อย่างเพราะ
00:27:32 → 00:27:34 ฉะนั้นถ้านักเรียนบอกว่านักเรียนทำอันนี้
00:27:34 → 00:27:38 ผิดไม่ต้องกังวลค่ะพี่ทำผิดมาก่อนแล้วเออ
00:27:38 → 00:27:42 ก็จะมีเมื่อกี้มีไซโปแล้วมียกกะปิมีพริก
00:27:42 → 00:27:46 จะไส้มีหมูหวานใช่มั้หมูหมูหวานหมูฝอยกับ
00:27:46 → 00:27:49 เนื้อฝอยเนี่ยที่เราอ่ะจะต้องฝอยจริงๆคือ
00:27:49 → 00:27:52 ฉีกเล็กและจะต้องไม่เสียรสชาติความเป็น
00:27:52 → 00:27:55 เนื้อของทั้ง 2 ชนิดเอ่อวิธีการทำของเรา
00:27:55 → 00:27:58 เนี่ยอย่างทั่วไปเนี่ยเจะต้มเนาะแล้วริน
00:27:58 → 00:28:00 น้ำออกเทน้ำออกต้มไปจนมันเปื่อยแล้วก็
00:28:00 → 00:28:03 เพื่อให้แบบแล้วมันก็จะได้ฉีกง่ายแต่ของ
00:28:03 → 00:28:04 เราเนี่ยใช้วิธีเอาไปทำเป็นเนื้อแดดเดียว
00:28:04 → 00:28:07 ก่อนทำเป็นเนื้อแดดเดียวเสร็จปุ๊บแล้วก็
00:28:07 → 00:28:10 เอามาจี่กับกระทะหรือย่างไฟถ้าย่างไฟ
00:28:11 → 00:28:12 เนี่ยมันจะเสี่ยงตรงที่พอมันโดนบางทีพลาด
00:28:13 → 00:28:15 มันโดนไฟตรงมันต้องมาขูดไอ้ตรงผมออกแล้ว
00:28:15 → 00:28:19 ก็เลยใช้จี่บนกระทะอครับพอสุกละเราก็ไป
00:28:19 → 00:28:22 ทุบให้มันนิ่มหน่อยแล้วก็ฉีกเป็นเส้นเล็ก
00:28:22 → 00:28:25 ๆฝอยแล้วหลังจากนั้นน่ะค่อยไปคลุกกับน้ำ
00:28:25 → 00:28:28 ตาลครับส่วนเนื้อเนี่ยเราจะใส่เอ่อลูกผัก
00:28:28 → 00:28:31 ชีลูกยี่หล่าเพื่อแยกมันให้มันชัดเจนขึ้น
00:28:31 → 00:28:34 ส่วนหมูฝอยเนื้อฝอยอ่ะบางทีก็ใส่หอมเจียว
00:28:34 → 00:28:37 บางทีก็ไม่ใส่ออออืออย่างเงี้ยค่ะแล้วก็
00:28:37 → 00:28:40 การที่เราใส่น้ำตาลทรายเอ่อทีหลังเนี่ย
00:28:40 → 00:28:42 ตัวน้ำตาลทรายมันเป็นผลึกเนาะมันก็จะทำ
00:28:42 → 00:28:45 ให้เป็นตัวรัดเป็นตัวไปเคลือบให้มันกรอบ
00:28:45 → 00:28:48 ได้นานขึ้นค่ะอันนี้ต้องใช้น้ำตาลทราย
00:28:48 → 00:28:50 เท่านั้นใช่ค่ะเพราะว่าน้ำตาลทรายมันทำ
00:28:50 → 00:28:53 ให้เงาแล้วให้มันแข็งมันกรอบได้มันเป็น
00:28:53 → 00:28:56 ผลึกอยู่แล้วด้วยธรรมชาติของคือสูตรนี้ก็
00:28:56 → 00:28:58 มาตั้งแต่สมัยใช่ค่ะถ้าไปถ้าเป็นสมัยก่อน
00:28:58 → 00:29:01 คือน้ำตาลทรายเอาจริงมันมีขายมานานมาก
00:29:01 → 00:29:02 แล้วนะเพียงแต่ว่ามันแพงอันนี้มันอาจจะ
00:29:02 → 00:29:05 เป็นข้อจำกัดที่แบบว่าคนรวยก็จะแบบเข้า
00:29:05 → 00:29:09 ถึงสูตรนี้มาอยู่ในวัง 500 ใช่ค่ะเออรวม
00:29:09 → 00:29:12 ถึงปลาฉาบที่บอกเลยปลาฉาบปลาฉาบเนี่ยพี่
00:29:12 → 00:29:15 บอกว่าในสูตรเนี้ยส่วนมากเนี่ยมันเป็นปลา
00:29:15 → 00:29:18 แดดเดียวเพราะว่ามันมีการขนส่งมาพี่ถือ
00:29:18 → 00:29:20 ว่าการทำข้าวแช่เพราะเราอยากได้ของดีที่
00:29:20 → 00:29:23 สุดก็จะมีการวัตถุคัดวัตถุดิบจากแต่ละที่
00:29:23 → 00:29:26 ที่ดีอย่างปลาช่อนเราใช้รอบนี้ใช้ของ
00:29:26 → 00:29:29 สุพรรณค่ะใช้ของ 2 พี่น้องอำเภอแล้วก็
00:29:29 → 00:29:30 สมัยก่อนเวลาส่งเข้ามามันต้องส่งเข้ามา
00:29:30 → 00:29:33 เป็นปลาแดดเดียวส่งเข้ามาเป็นปลาสดมันก็
00:29:33 → 00:29:37 หลายวันนะคะปลาอาจจะหัวโตอยู่ในคล่องอ๋อ
00:29:37 → 00:29:40 ค่ะแล้วก็กุ้งเนี่ยสมัยก่อนเขาเรียกเมนู
00:29:40 → 00:29:42 นี้ว่ากุ้งไม้ผัดอเพราะว่ากุ้งมันเป็น
00:29:42 → 00:29:44 กุ้งเสียบแหละแต่มันตัวใหญ่มันเสียบไม้
00:29:44 → 00:29:46 เวลาตากเขาใช้พริกแต่เดี๋ยวนี้กุ้งมันตัว
00:29:46 → 00:29:49 เล็กลงอ่ะมันก็เป็นกุ้งเสียบธรรมดาไปอัน
00:29:49 → 00:29:52 นี้เราใช้ของสิงหานครของสงขลาค่ะอ๋อเราจะ
00:29:52 → 00:29:56 รวบรวมมาหลายๆที่มากเลยค่ะก็ครบหลายหลาย
00:29:56 → 00:29:59 ภาคเหมือนกันนะใช่ค่ะอันนี้ก็เป็นของไชยา
00:29:59 → 00:30:01 ไข่เค็มใช่มั้ใช่ค่ะตัวไข่แดงเค็มอ่ะของ
00:30:01 → 00:30:06 ไชยาส่วนอันเนี้ยสีแยกรุนมารินค่ะอันไหน
00:30:06 → 00:30:10 ดอกดอกลีลาวดีชุบไข่เนี่ยค่ะดอกลีราาวี
00:30:10 → 00:30:12 ใช่ค่ะแล้วก็เอ่อสวนสาธารณะตรงเชิงสพัน์
00:30:12 → 00:30:16 พระราม 8 ค่ะเก็บเลยไปบอกยามหน่อยสิคะของ
00:30:17 → 00:30:19 ที่นี่ไม่พอค่ะเหมือนอย่างทั่วไปเนี่ยเรา
00:30:19 → 00:30:22 ใช้ดอกลีลาวดีที่เป็นดอกสีขาวคือจากขาว
00:30:22 → 00:30:24 พวงเนาะชนิดใบ
00:30:24 → 00:30:26 แต่ว่าอย่างของเ่อพระพงเจ้าจุเรัตน
00:30:26 → 00:30:29 สิริมานน่ะของทางบอกว่าตำรับของวัง
00:30:29 → 00:30:32 มหุนพรหมน่ะใช้ดอกชมพูเหลืองสีชมพูเหลือง
00:30:32 → 00:30:35 ใช่ค่ะส่วนของพี่แตนครูเราอีกท่านนึงก็
00:30:35 → 00:30:39 คือหม่อมหลวงอาชวรวันใช้ดอกลั่นที่ดอกตูม
00:30:39 → 00:30:42 แล้วก็สอดไส้เข้าไปส่วนของแตงรอบนี้จะใช้
00:30:42 → 00:30:44 เป็นดอกบานห่อแล้วหุบเข้าอย่างี้แต่ว่า
00:30:44 → 00:30:46 ของพี่แตนหม่อมหลวงอัชวะใช้ดอกตูมอย่าง
00:30:46 → 00:30:48 งี้เลยสอดไส้แล้วก็ไม่ต้องเสียบไม้กัดตอน
00:30:49 → 00:30:51 ทอดเลยก็คือเป็นทรงอย่างงี้เลยค่ะอืก็
00:30:51 → 00:30:53 เป็นเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์ของแต่ใช่ค่ะ
00:30:53 → 00:30:56 ของพี่แตนก็จะเป็นของเอ่อวังแพ่งนาราค่ะ
00:30:56 → 00:31:00 เป็นราชสุกวรวันค่ะค่ะงั้นไล่ไล่ไปเลยก็
00:31:00 → 00:31:02 ได้ครับพี่มีอะไรบ้างเมื่อกี้เราพูดถึง
00:31:02 → 00:31:05 นี้เป็นไข่เค็มห่อไข่ฝอยนะคะแล้วก็ปลา
00:31:05 → 00:31:08 หวานปลาช่อนหวานธรรมดาแล้วก็เป็นปลาช่อน
00:31:08 → 00:31:11 หวานที่ใส่น้ำพริกเผาปลาช่อนหวานนี่ทำยัง
00:31:11 → 00:31:13 ไงครับปลาช่อนหวานก็คือเอาปลาช่อนที่
00:31:13 → 00:31:17 เหลือจากไส้ของไส้ของหอมมาผัดให้หวานขึ้น
00:31:18 → 00:31:20 ใส่น้ำตาลใส่น้ำตาลให้เหนียวขึ้นน่ะค่ะ
00:31:20 → 00:31:22 อันนั้นก็เป็นแบบหนึ่งแล้วก็ถ้าเราเอาปลา
00:31:22 → 00:31:26 ช่อนหวานเนี่ยไปใส่เอ่อเอ่อไปใส่พวกหอม
00:31:26 → 00:31:29 เจียวเพิ่มกระเทียมเจียวเพิ่มมันก็จะเป็น
00:31:29 → 00:31:33 ไส้ตัวพริกพริกแห้งตัวนี้ใช่ค่ะพริกสอด
00:31:33 → 00:31:36 ไส้เนี่ยบางทีก็ใช้เป็นพริกบางช้างบางที
00:31:36 → 00:31:38 ก็ใช้เป็นพริกหัวเรือบางทีก็ใช้เป็นพริก
00:31:38 → 00:31:40 ชี้ฟ้าดอกเล็กแล้วแต่ค่ะแต่จะพยายามเลือก
00:31:40 → 00:31:44 ให้ดอกตรงๆเวลาทอดจะได้สวยจะได้เหยียดตรง
00:31:44 → 00:31:46 ค่ะผมได้ยินบางช้างบ่อยมากทำไมต้องเป็น
00:31:46 → 00:31:49 พริกบางช้างพริกบางช้างเนี่ยพี่ว่าฉุนหอม
00:31:49 → 00:31:53 ฉุนเป็นหอมฉุนแล้วก็เวลาเผ็ดจะไม่เผ็ดแบบ
00:31:53 → 00:31:57 เผ็ดจี๊ดจ๊ดอ่ะเผ็ดแบบเผ็ดแบบนวลน่ะอ๋อ
00:31:57 → 00:31:59 ใช่ค่ะแต่ก็คือหลักการก็คือพริกแห้งที่
00:31:59 → 00:32:01 ยัดไส้ปลาใช่มั้ครับใช่ค่ะแล้วก็ทอดแล้ว
00:32:01 → 00:32:06 ก็ทอดบางบ้านใช้ลูกกะปิที่เหลือรัดไส้อ
00:32:06 → 00:32:09 และบางที่อย่างของอย่างของเอิ่มอย่างพูด
00:32:09 → 00:32:11 ถึงถ้าพูดถึงหอมสอดไส้เนี่ยอันนี้เป็นไส้
00:32:11 → 00:32:15 ปลาเนาะเป็นไส้ปลาเป็นไส้ปลาช่อนตัวตั้ง
00:32:15 → 00:32:17 ต้นเลยก่อนที่จะมาเป็นตัวนี้แต่ของท่าน
00:32:17 → 00:32:21 ผู้หญิงกรีมมคีธรน่ะค่ะใช้เป็นหัวหอมใหญ่
00:32:21 → 00:32:24 ใส่หมูกุ้งสับผ่าเอ่อเอาหัวหอมใหญ่เป็น
00:32:25 → 00:32:28 หัวอย่างเงี้ยค่ะผ่าเป็นเสี้ยวๆแล้วก็เอา
00:32:28 → 00:32:32 หมูกับกุ้งเนี่ยใส่เข้าไปตามรอยผ่าอืงั้น
00:32:32 → 00:32:34 ก็เป็นอีกแบบนึงซึ่งหัวหอมใหญ่มันก็มี
00:32:34 → 00:32:37 ตั้งแต่สมัยนู้นล่ะค่ะก็ใช้ได้ค่ะความ
00:32:37 → 00:32:40 อร่อยของหัวหอมไส้นี่มันคืออะไรอุ๊ยพี่
00:32:40 → 00:32:42 ว่ามันจะมีความแบบหัวหอมเนี่ยพอมันโดน
00:32:43 → 00:32:45 ความร้อนแล้วมันจะมีอมเปรี้ยวนิดๆเนาะเออ
00:32:45 → 00:32:47 ใช่ค่ะมันก็จะมีความเป็นคาราเมลใช่ค่ะมัน
00:32:47 → 00:32:50 แล้วก็ตัวไส้เนี่ยเท่าที่พี่ศึกษามาเนี่ย
00:32:50 → 00:32:53 มันมีทั้งปลาปลาผัดที่แบบเป็นหวานนะเอาไป
00:32:53 → 00:32:55 สอดไส้ตัวนี้กับบางคนเขาบอกว่ามันเลี่ยน
00:32:55 → 00:32:58 เพราะหัวหอมมันก็ดูแฉะๆเ้าก็เอาน้ำมัน
00:32:58 → 00:33:01 พริกอ่ะมาผัดกับปลาอีกทีนึงเวลาเรากัด
00:33:01 → 00:33:03 เข้าไปมันจะมีกลิ่นของน้ำมันพริกอันนี้ก็
00:33:03 → 00:33:06 เป็นอีกสูตรนึงอืเหมือนกันแต่หลักๆก็คือ
00:33:06 → 00:33:10 หอมสอดไส้ปลาไส้ปลาใช่ค่ะอืมีอะไรอีกบ้าง
00:33:10 → 00:33:13 ครับทีอันนี้ก็จะเป็นอันนี้เป็นอันเนี้ย
00:33:13 → 00:33:15 เป็นสมัยประมาณรัชกาลที่ 6 เป็นตามชื่อ
00:33:15 → 00:33:19 ของวรรณคดีก็คือเป็นเอ่อวิวาภสมุทรก็คือ
00:33:19 → 00:33:21 เป็นหมูหวานผัดแห้งแห้งๆแล้วก็คลุกกุ้ง
00:33:21 → 00:33:25 แห้งค่ะแล้วก็มีเอ่อกูเราพี่ใช้กูเราของ
00:33:25 → 00:33:29 ป้าเองที่ตักใบค่ะกูเลาตักใบอืออ่าหั่น
00:33:29 → 00:33:32 เต๋าแล้วก็ชุบไข่ทอดนะคะแล้วก็อันนี้ก็
00:33:32 → 00:33:35 คือจะเป็นดอกชมนาถสอดไส้แล้วก็ชุบไข่ทอด
00:33:35 → 00:33:37 เหมือนกันดอกเล็กเราก็อุตส่าห์สอดไส้เข้า
00:33:38 → 00:33:41 ไปได้นะคือถ้าปกติเห็นๆมองเนี่ยมันก็เป็น
00:33:41 → 00:33:44 การปั้นกลมหมดเลยอันเนี้ยมีก้านมีมีราย
00:33:44 → 00:33:46 ละเอียดก็คือเราจะเห็นเลยว่าเห็นเป็นก้าน
00:33:46 → 00:33:49 ดอกไม้อยู่ค่ะแล้วก็ตัวนี้ก็คือกุเลานี่
00:33:49 → 00:33:51 ใช่มั้ย
00:33:51 → 00:33:54 มันตอนที่เราหั่นก็มาคุกกับหมูที่เป็นไส้
00:33:54 → 00:33:58 อันนี้ก็คือียกว่ากูหรูอค่ะก็คือเป็นหมู
00:33:58 → 00:34:01 คุกกุเลเอาไปนึ่งหั่นเป็นชิ้นแล้วเอามา
00:34:01 → 00:34:05 ห่อแพ่ที่เหลือจากตัวนี้อ๋อโอเคก็คือมัน
00:34:05 → 00:34:08 ไม่ได้เป็นสิ่งที่แบบเราทำเพิ่มขึ้นนอก
00:34:08 → 00:34:11 เหนือจากที่มีในสูตรมีตัวที่เพิ่มขึ้นก็
00:34:11 → 00:34:14 มีแต่น้อยส่วนใหญ่ก็เป็นการแบบพันหางไป
00:34:14 → 00:34:16 เรื่อยๆอย่างเงี้ยค่ะกลุ่มดอกไม้เนี่ยมี
00:34:16 → 00:34:20 ชมนาถมีดอกลีลาวดีแล้วก็มีดอกขจจรดอกขจร
00:34:20 → 00:34:22 ก็อยู่ใกล้ๆกันเนี่ยค่ะจะอยู่ประมาณตรง
00:34:22 → 00:34:26 นี้
00:34:26 → 00:34:28 เมื่อกี้ที่ฟังๆดูสึกว่ามันจะแบ่งเป็น
00:34:28 → 00:34:32 กลุ่มของสำรับได้อยู่พอสมควรนะค่ะมันแปลก
00:34:32 → 00:34:35 เป็นอะไรได้บ้างครับเอิ่มถ้าอย่างถ้า
00:34:35 → 00:34:40 อย่างแบ่งนะคะเอ่อตัวนี้อันนี้จะเป็นตัว
00:34:40 → 00:34:43 แม่ใช่มั้ยคะก็คือจะเป็นไส้หมูครับแล้วก็
00:34:43 → 00:34:46 มันก็จะมาเป็นเอ่ออันนี้กูหรูนะคะอันนี้
00:34:46 → 00:34:49 ก็เป็นหมูอืนะคะแล้วก็ตัวนี้ก็จะเป็นแก๊ง
00:34:49 → 00:34:52 หมูซ่อนรักก็คือเป็นหมูใช่ค่ะถ้าเป็นหมู
00:34:52 → 00:34:56 ตาถั่วก็คือหมูห่อข้างในเป็นถั่วลิสงคั่ว
00:34:57 → 00:35:00 เต็มเม็ดอนะคะถ้าเป็นหมูเอ่อซ่อนรักก็คือ
00:35:00 → 00:35:03 ข้างในเป็นชิ้นกุ้งพวกนี้จะเอาไปนึ่งก่อน
00:35:03 → 00:35:05 แล้วก็เอามาทอดอีกทีนึงอืก็คือเป็น
00:35:05 → 00:35:09 อิทธิพลอาหารจีนแหละที่เข้ามาเป็นแบบสมัย
00:35:09 → 00:35:10 รุ่นพวกกุ๊กชออะไรเงี้ยพวกนี้ก็จะมีมา
00:35:11 → 00:35:13 ประมาณสมัยรัชกาลที่ 6 อ่าเป็นแก๊งหมู
00:35:13 → 00:35:15 แล้วก็ค่ะถ้าเป็นแก๊งปลาเนี่ยมันก็จะมา
00:35:15 → 00:35:18 จากตัวตั้งต้นเลยคือหอมแดงตัวนี้คือตัว
00:35:18 → 00:35:22 ใช่ค่ะตัวหอมแดงนะคะแล้วก็จะไปที่เอ่อตัว
00:35:22 → 00:35:26 ปลาปลาฟูแล้วก็ตัวปลาทรงเครื่องแล้วก็
00:35:26 → 00:35:29 อย่างอันที่เป็นใช้โป๊ตัวนี้คือตัวตั้ง
00:35:29 → 00:35:31 ต้นแล้วก็มาเป็นไชโป๊สสามเหลี่ยมของ
00:35:31 → 00:35:34 ราชสกุลวรวันะคะไชโปสามเหลี่ยมนี่คือข้าง
00:35:34 → 00:35:37 ในเป็นไชโป๊แล้วก็ห่อด้วยอ่าแป้งที่คล้าย
00:35:37 → 00:35:40 ๆแป้งโรตีสายไหมอ่ะเพราะว่ามีพี่แตนน่ะ
00:35:41 → 00:35:43 หม่อมหลวงอาชวะวรวัท่านเล่าว่าเหมือนแบบ
00:35:43 → 00:35:46 รัชกาลที่ 4 มาเสวยข้าวแช่มาเสวยพระ
00:35:46 → 00:35:50 กยาหารเย็นที่วางแพ่งนาราแล้วก็เอ่อเวลา
00:35:50 → 00:35:53 ลูกสาวอ่ะค่ะที่บ้านก็คือแบบเป็นพระธิดา
00:35:53 → 00:35:55 เนาะมานั่งก็เลยไม่อยากจะให้กินไชโปแล้ว
00:35:55 → 00:35:57 แบบเส้นยาวแล้วสะบัดก็เลยคิดวิธีนี้ขึ้น
00:35:57 → 00:36:01 มาเอาแป้งมาห่อเส้นชัโปแล้วมันได้ฟลิ่ง
00:36:01 → 00:36:03 ที่แบบกัดเข้าไปแล้วกรอบด้วยค่ะมันก็น่า
00:36:03 → 00:36:05 สนใจเพราะไม่งั้นในกลับเข้าแช่เดี๋มันไม่
00:36:05 → 00:36:07 มีอะไรกรอบเลยมันก็มีตัวเนี้ยกรอบขึ้นมา
00:36:07 → 00:36:09 เป็นความเรียบร้อยในการซึ่งใช่ค่ะแล้วก็
00:36:09 → 00:36:11 แบบของกรอบเนี่ยอีกอันนึงที่น่าสนใจก็คือ
00:36:11 → 00:36:15 เป็นอ่าถั่วถั่วทองทอดของวังบ้านหม้อค่ะ
00:36:15 → 00:36:17 ก็จะเป็นกรอบอร่อยมากเหมือนกันถั่วทองทอด
00:36:17 → 00:36:20 จะทำยังไงล่ะครับถั่วทองทอดเท่าที่เ่ออาจ
00:36:20 → 00:36:22 จะมีแบบไปปรับกันของแต่ละบ้านนะคะตำรับ
00:36:23 → 00:36:26 ที่เราเรียนมาเนี่ยก็จะใช้แบบอ่าแป้งแป้ง
00:36:26 → 00:36:29 สาลีแล้วก็ไข่ไก่กะทิเนาะแล้วก็มีน้ำปูน
00:36:29 → 00:36:33 ใสเอาถั่วเนี่ยไปนึ่งก่อนแล้วก็อ่ามาขึ้น
00:36:33 → 00:36:35 รูปอ่ะค่ะก่อนในกระทะแบนๆแล้วหลังจากนั้น
00:36:35 → 00:36:39 เอาไปทอดอีกทีนึงอย่างเงี้ยค่ะก็มีสายหมู
00:36:39 → 00:36:43 ค่ะมีแก๊งปลาแล้วก็มีเชโปที่เป็นหลักๆ
00:36:43 → 00:36:45 กลุ่มหลักๆใช่มั้ใช่ค่ะแก๊งปลาเนี่ยถ้า
00:36:45 → 00:36:47 เราใช้ตัวปลาช่อนเนี่ยมันก็จะมีอีกก็คือ
00:36:47 → 00:36:49 ปลาสลิดถ้ากลุ่มปลาฉาบก็จะมีปลาช่อนฉาบ
00:36:49 → 00:36:52 สลิดฉาบกระบอกฉาบแต่ในเนี้ยไม่มีกระบอกอ
00:36:52 → 00:36:55 อือนะคะแล้วก็พอเป็นกลุ่มหมูเสร็จอันนั้น
00:36:55 → 00:36:58 เป็นหมูบดกลุ่มนี้เป็นหมูบดแต่มีกลุ่มหมู
00:36:58 → 00:37:01 ชิ้นแล้วก็กลุ่มมันหมูเพราะเมื่อก่อนเวลา
00:37:01 → 00:37:04 ซื้อหมูมามันไม่ได้แล่ให้เป็นแบบสันในสัน
00:37:04 → 00:37:06 นอกอะไรอย่างเงี้ยค่ะเขาจะซื้อมาแบบมี
00:37:06 → 00:37:09 ชั้นบนชั้นล่างเนาะอันนี้ก็จะเป็นหมูชิ้น
00:37:09 → 00:37:12 ก็คือเป็นอ่าเหมือนหมูหวานน่ะค่ะแล้วก็
00:37:12 → 00:37:14 ผัดให้แห้งเพราะว่าเบสิคของทุกบ้านสมัย
00:37:14 → 00:37:16 ก่อนอันเนี้ยจะมีหมูหวานกับน้ำพริกเป็น
00:37:16 → 00:37:19 แบบมีให้กินตลอดน้ำพริกเผาเงี้จะมีแล้วก็
00:37:19 → 00:37:21 ไปคลุกกุ้งแห้งอย่างเงี้ยอนี้คือหมูหวาน
00:37:21 → 00:37:24 ที่คลุกกุ้งแห้งใช่ค่ะเป็นหมูหวานผัดแห้ง
00:37:24 → 00:37:27 แล้วก็คลุกกุ้งแห้งแล้วก็ส่วนตัวกากหมู
00:37:27 → 00:37:29 ที่เราเอาน้ำมันมาใช้อ่ะค่ะตัวนี้ก็จะไป
00:37:29 → 00:37:32 ผัดกับเกลือน้ำตาลน้ำปานนิดหน่อยและ
00:37:32 → 00:37:36 กระเทียมแล้วก็คลุกถั่วอืคลุกถั่วลิสง
00:37:36 → 00:37:39 คั่วหรือบางบ้านแบบรวยหน่อยก็เป็นถั่ว
00:37:39 → 00:37:42 อามมันก็คือถั่วอัลมอนนั่นเองค่ะอันนี้
00:37:42 → 00:37:44 เขาก็จะเรียกเป็นถั่วโลสงก็คือเป็นถั่ว
00:37:44 → 00:37:47 ลิสงออันนี้ก็จะเป็นพวกพวกไข่เค็มก็จะ
00:37:47 → 00:37:50 เป็นไข่เค็มเสี้ยวห่อแผ่ไข่เนาะแล้วก็นี้
00:37:50 → 00:37:52 ก็จะเป็นไข่เค็มตัวไข่เค็มดิบอ่ะค่ะเอามา
00:37:52 → 00:37:55 ปั้นนวดกับน้ำมันแล้วก็ปั้นก้อนแล้วก็ชุบ
00:37:55 → 00:37:58 ไข่ทอดนะคะอ๋อไข่เค็มดิบที่มันจะเป็น
00:37:58 → 00:38:01 เนื้อๆยางๆหน่อยใช่มคุกกับน้ำมัน่ะคุกกับ
00:38:01 → 00:38:02 คุกกับน้ำมันแล้วนวดให้เนียนเป็นเนื้อ
00:38:02 → 00:38:05 เดียวกันแล้วปั้นก้อนเป็นเม็ดซึ่งเวลาที่
00:38:05 → 00:38:07 เราทำข้าวขวัญน่ะเราก็ใช้ตัวที่เป็นปลาย
00:38:07 → 00:38:09 ยอดใบายสีเราก็ใช้วิธีนี้เหมือนกันแล้วก็
00:38:09 → 00:38:11 กลุ่มที่เป็นดอกไม้สอดไส้ก็จะมีดอก
00:38:11 → 00:38:16 ลีลาวดีเนาะดอกชมนาถแล้วก็ดอกขจรสำรับ
00:38:16 → 00:38:17 เนี่ยยังขาดอีกหนึ่งก็คือซ่อนกลิ่นพอดี
00:38:18 → 00:38:20 ช่วงนี้เราหาซ่อนกลิ่นสอดไส้เอามาสอดไส้
00:38:20 → 00:38:22 ไม่ได้ถ้าเป็นซ่อนกลิ่นน่ะเวลากัดเข้าไป
00:38:22 → 00:38:27 ก็จะหอมดอกไม้ด้วยค่ะออค่ะแล้วก็เอิ่มตัว
00:38:27 → 00:38:29 ที่เป็นปลาชิ้นก็จะมีปลากุเลาชิ้นเมื่อ
00:38:29 → 00:38:32 กี้ไปแล้วนะคะปลากุลาชิ้นปลากระบอกชิ้นมี
00:38:33 → 00:38:35 นะคะแล้วก็ปลาช่อนเนี่ยจะมีปลาช่อนผัด
00:38:35 → 00:38:38 หวาน 2 แบบเอ่อปลาช่อนผัดหวานที่เป็นน้ำ
00:38:38 → 00:38:40 ตาลกรอบๆจะอยู่ตรงนี้แล้วก็น้ำตาลที่เป็น
00:38:41 → 00:38:43 น้ำตาลเคลือบหวานๆเหนียวๆมันใช้น้ำตาลคน
00:38:43 → 00:38:46 ละอย่างอ๋อคนละแบบกันก็จะออกมารสชาติต่าง
00:38:46 → 00:38:49 กันแต่เป็นปลาแต่เป็นปลาชนิดเดียวกันใช่
00:38:49 → 00:38:53 ค่ะแล้วตัวกุ้งไม้ผัดก็คือบางทีอ่ะบาง
00:38:53 → 00:38:55 ตำรับบอกว่ากุ้งไม้ผัดใส่รากผักชี
00:38:55 → 00:38:57 กระเทียมใช่มั้ยแต่ถ้าเกิดมันไปอยู่กับใน
00:38:57 → 00:38:59 สำลับที่มันมีรากผักชีกระเทียมกับตัวอื่น
00:38:59 → 00:39:01 อยู่แล้วอ่ะตัวนี้ก็ใช้กระเทียมอย่าง
00:39:01 → 00:39:03 เดียวอหรือรากผักชีอย่างเดียวเพื่อไม่ให้
00:39:03 → 00:39:06 มันเหมือนกันหมดเลยอย่างเงี้ยค่ะเพราะว่า
00:39:06 → 00:39:08 ก็มีความแตกพยายามทำให้มันแตกต่างใช่ค่ะ
00:39:08 → 00:39:11 เหมือนอย่างเหมือนอย่างถ้าเกิดว่ามีปลา
00:39:11 → 00:39:13 สลาดหวานอยู่ก็ไม่ต้องมียี่สนสำหรับเรา
00:39:13 → 00:39:16 ไม่ได้ทำยี่สนเออไฟที่ส่วนในผมได้ยินบ่อย
00:39:16 → 00:39:18 แต่ว่าที่นี่ก็ดูไม่ที่นี่เราใช้เพราะว่า
00:39:18 → 00:39:21 เรามีตัวหวานก็คือเป็นปลาสลาดหวานมาแทน
00:39:21 → 00:39:24 แล้วเราใช้ปลาสลาดหวานแทนเอิ่มเพราะว่า
00:39:24 → 00:39:26 เราเคยคุยกับพี่คนนึงก็บอกมันออกลูกยากนะ
00:39:26 → 00:39:29 มันดูแบบอืปลายิสนใช่มั้ปลายี่สนคือปลา
00:39:29 → 00:39:32 กระเบนอ่าคือปลากระเบนก็เลยพยายามไม่ใช้
00:39:32 → 00:39:33 มันใช่พยายามไม่ใช้เพราะเรามั่นใจว่าเรา
00:39:33 → 00:39:36 ทำอร่อยมากเดี๋มันจะตายอีกเยอะเลยไปตัด
00:39:36 → 00:39:40 เอาเองนะใช่ก็จะมีกลุ่มยำที่เห็นกลุ่มยำ
00:39:40 → 00:39:42 ที่เห็นเนี่ยอันนี้มาจากตำรับของเ่ออย่าง
00:39:43 → 00:39:45 ที่บอกว่ามันมาจากสำลับของมอญเนาะครับใน
00:39:45 → 00:39:47 ข้าวแช่ชาวังก็มีบ้างแต่ว่าบันทึกเห็นชัด
00:39:47 → 00:39:50 เจนเนี่ยคืออยู่ในหนังสือของคุณจอมสุกรี
00:39:50 → 00:39:53 ก็จะมียำมะม่วงยำมะม่วงเนี่ยถ้าในหนังสือ
00:39:53 → 00:39:56 คุณจอมสุกรีจะมีแบบนี้ก็คือเป็นเอ่อน้ำ
00:39:56 → 00:40:00 ปลาน้ำตาลน้ำมะขามอแล้วก็เราขยำมะม่วงให้
00:40:00 → 00:40:03 มันคลายเปรี้ยวก่อนแล้วก็น้ำยำขลุกขลิก
00:40:03 → 00:40:07 นิดหน่อยแล้วก็เอ่อพริกแห้งซอยคั่วแค่
00:40:07 → 00:40:09 นั้นเองเป็นยำแบบโบราณแต่ว่าชนิดเดียวกัน
00:40:09 → 00:40:12 เนี่ยพอมาเพิ่มมะพร้าวขั่วก็จะเป็นแบบนี้
00:40:12 → 00:40:14 แล้วก็ใช่ค่ะแล้วก็มีกลุ่มที่เป็นมะปราง
00:40:14 → 00:40:17 อ่อนอ่อนครับมะปรางมะปรางอ่อนทำเหมือนกัน
00:40:17 → 00:40:20 แล้วนี่ก็คือมะขามอ่อนอ๋อนี่คือมะขามใช่
00:40:20 → 00:40:23 ค่ะก็จะเป็นผลไม้รสเปรี้ยวอใช่ค่ะแต่ว่า
00:40:23 → 00:40:25 เราก็ไม่ได้ใช้แบบเปรี้ยวจี๊ดจ๊ดก็คือเรา
00:40:25 → 00:40:28 เอาไปแช่ในน้ำเกลือแล้วก็บีบให้มันคลาย
00:40:28 → 00:40:30 เปรี้ยวก่อนออันนี้คือสิ่งที่บอกว่าไม่มี
00:40:30 → 00:40:33 รสเปรี้ยวในตำรับไม่เปรี้ยวจี๊ดแต่มัน
00:40:33 → 00:40:36 เปรี้ยวนะแต่มันมีต้องมีคืออาหารชาววัง
00:40:36 → 00:40:38 น่ะมันเป็นอาหารที่ต้องครบรสเนาะครับแต่
00:40:38 → 00:40:40 มันจะอยู่ที่ว่าอะไรนำอะไรเท่านั้นเองใน
00:40:40 → 00:40:43 ความรู้สึกพี่นะแต่ถ้าเราบริหารมันให้แบบ
00:40:43 → 00:40:45 คือให้รสมันไม่โดดมันก็เป็นอาหารรสกล่อมๆ
00:40:46 → 00:40:49 อ่ะกินแล้วแบบไม่ทรมานไม่ทรมานเราเองอือ
00:40:49 → 00:40:53 ค่ะมีผักที่เป็นทุกสำรัจะเห็นว่ามีผักมี
00:40:53 → 00:40:55 ผักค่ะผักตัวหลักเนี่ยก็จะเป็นเอ่อมะม่วง
00:40:55 → 00:40:59 นะคะมะม่วงเอิ่แตงกวามะม่วงก็จะเป็น
00:40:59 → 00:41:02 เปรี้ยวอืเปรี้ยวนิดๆแล้วก็แตงกวาก็ชัด
00:41:02 → 00:41:04 ให้สดชื่นส่วนกระชายเนี่ยก็จะไว้กินแบบ
00:41:04 → 00:41:07 เวลาที่เรากินอะไรแล้วรู้สึกคาวๆเพราะว่า
00:41:07 → 00:41:09 ความซ่าของกระชายจะทำให้เรารู้สึกว่าเฮ้ย
00:41:09 → 00:41:12 สดชื่นสดชื่นแล้วก็รู้สึกเอาจริงๆก็คือ
00:41:12 → 00:41:16 รู้สึกปากสะอาดขึ้นนิดนึงออแล้วก็แล้วก็
00:41:16 → 00:41:19 มีต้นหอมอย่างตัวอย่างในลำพันพิราบของ
00:41:19 → 00:41:22 สุนทรผู้อ่ะค่ะจะมีบอกว่ากระชายทำเช่น
00:41:22 → 00:41:25 จำปาก็คือเนี่ยค่ะเราก็ทำเราทำอันนี้คือ
00:41:25 → 00:41:28 ดอกกระชายเอ้ต้นกระชายค่ะกระชายกระชายอัน
00:41:28 → 00:41:31 นี้ไปแช่น้ำขมิ้นค่ะให้เป็นดอกจำปาถ้าเรา
00:41:31 → 00:41:33 ไม่แช่มันก็เป็นดอกจำปี่เป็นสีของกระชาย
00:41:33 → 00:41:36 ธรรมชาติค่ะแล้วก็พริกชี้ฟ้าเนี่ยต้องเ
00:41:36 → 00:41:39 ต้องมีตัดรสกับรสเผ็ดนิดนึงเหมือนกันออ
00:41:39 → 00:41:43 ค่ะแล้วก็มีต้นหอมนะคะแล้วก็ในลำพันพิราบ
00:41:43 → 00:41:46 ก็จะบอกว่างามจนเช่นกระชายทำเช่นจำปา
00:41:46 → 00:41:49 มะม่วงดิบหยิบดูจึงรู้จักทำเป็นเช่น
00:41:49 → 00:41:52 นักจฉาก็คือเราก็ทำเป็นตัวนี้ก็คือรูปปลา
00:41:52 → 00:41:54 ใช่ค่ะแล้วก็แล้วก็บอกว่าเป็นแบบดอกจอก
00:41:55 → 00:41:57 เช่นดอกจันท์แล้วก็เป็นมะม่วงเป็นรูปดอก
00:41:57 → 00:42:00 จอกหรือดอกจันทร์เงี้ยค่ะอประมาณนั้นมี
00:42:00 → 00:42:02 ความประดิษฐประดอยใช่คือแบบเราแบบเรารู้
00:42:02 → 00:42:05 สึกว่าด้วยธรรมชาติเป็นคนที่เรียนศิลปะไง
00:42:05 → 00:42:09 คะพอเราทำแล้วเรามีความสุขอ่ะอืๆโอแต่มัน
00:42:09 → 00:42:12 เนื้อให้เหนื่อยเราก็เลยรู้สึกว่าเออแบบ
00:42:12 → 00:42:14 เราต้องระดเราต้องสอนคนเยอะๆมาเพื่อที่
00:42:14 → 00:42:17 priority เราจะได้มีคนไว้ใช้ช่วยกันทำ
00:42:17 → 00:42:20 แล้วก็เป็นสำรับที่ทำร่วมกันค่ะฮะแต่ของ
00:42:20 → 00:42:23 หลายๆอย่างเนี่ยก็รู้สึกว่าไม่ได้มี
00:42:23 → 00:42:26 กระบวนการในการเอาไปเอ่อทำเยอะมากไม่มี
00:42:26 → 00:42:29 การเป็นหลักการยำเป็นหลักใช่ค่ะแล้วก็
00:42:29 → 00:42:33 นึ่งอ่ามีนึ่งด้วยใช่ค่ะแล้วก็เรารู้สึก
00:42:33 → 00:42:36 ว่าเนี่ยค่ะตัวอย่างของอาหารโบราณที่แบบ
00:42:36 → 00:42:38 รสชาติมันแบบไม่โดดมากเกินไปอ่ะเพราะว่า
00:42:38 → 00:42:41 แบบบางอย่างกินแล้วรสจัดมันก็เป็นภาระกับ
00:42:41 → 00:42:43 ท้องเราในระบบการย่อยซึ่งเราต้องใช้พลัง
00:42:43 → 00:42:45 งานในการสู้กับความร้อนเยอะมากอยู่แล้วนะ
00:42:45 → 00:42:49 หน้าร้อนน่ะมันจะดูเหนื่อยใช่ค่ะอันนี้ก็
00:42:49 → 00:42:55 กินเบาๆแต่กินเข้าไปเยอะก็หนักได้ค่ะ
00:42:55 → 00:42:58 แค่พอพี่แตงพูดถึงแผมเลยนึกถึงเรื่องนึง
00:42:58 → 00:43:02 คือก็จะมีคนบอกว่าวิธีการกินควรจะกินสิ่ง
00:43:02 → 00:43:04 นี้ก่อนนะแล้วก็กินผักนั้นแทนผักคือถาม
00:43:04 → 00:43:07 พี่พี่เคยได้ยินมาเหมือนกันนะที่บอกว่า
00:43:07 → 00:43:09 the mus ก็คืออย่างแรกต้องกินคือลูก
00:43:09 → 00:43:14 กะปิอืแต่สำหรับพี่อ่ะพี่พี่ว่าพี่กินที่
00:43:14 → 00:43:16 พี่ชอบหรือหลายคนก็บอกเไม่ได้ฟิกหรอกนะ
00:43:16 → 00:43:18 เพียงแต่ว่ารู้สึกว่าลูกกะปิอย่างที่เรา
00:43:18 → 00:43:20 คุยกันว่าเป็นพระเอกเพราะว่ามันเป็นของ
00:43:20 → 00:43:23 พิเศษที่มีในข้าวแช่ก็เลยเขาจะชิงดำกัน
00:43:24 → 00:43:26 ที่ลูกกะปิบ้านไหนอร่อยไม่อร่อยทำแล้ว
00:43:26 → 00:43:28 เหม็นคาวมั้ยบางคนก็เลยอยากจะชิมตัวนั้น
00:43:28 → 00:43:31 ก่อนแต่ว่าสำหรับพี่อ่ะพี่เป็นคนกินเนื้อ
00:43:31 → 00:43:34 ฝอยก่อนอ๋อก็แล้วแต่พี่ว่าแล้วก็แล้วก็
00:43:34 → 00:43:36 พี่ก็คิดว่าไม่ได้จำเป็นต้องฟิกด้วยว่า
00:43:36 → 00:43:38 กินของทอดจะต้องตามด้วยแตงกวาหรืออะไร
00:43:39 → 00:43:41 อย่างเงี้ยในความรู้สึกพี่พี่รู้สึกว่ารส
00:43:41 → 00:43:43 นิยมของเราอ่ะความเป็นคนไทยของเราเรารู้
00:43:43 → 00:43:46 อยู่แล้วว่ากินอะไรตัดรสอะไรถึงจะดีร่าง
00:43:46 → 00:43:48 กายเราอ่ะโดยธรรมชาติจะบอกอยู่แล้วว่าเรา
00:43:48 → 00:43:51 ต้องการอะไรนะอือ้าหิวน้ำก็แสดงว่าร่าง
00:43:51 → 00:43:53 กายขาดน้ำอยู่แล้วก็ไปกินน้ำอย่างเงี้ย
00:43:53 → 00:43:57 ค่ะแล้วก็พี่ไม่ได้กินเรียงหรือไม่ได้คิด
00:43:57 → 00:43:59 ว่าจะต้องกินอะไรก่อนหลังแต่ว่าคิดว่าอ๊
00:43:59 → 00:44:01 อันนี้น่ากินจังเลยกินอันนี้ก่อนพี่รู้
00:44:01 → 00:44:03 สึกว่านี่คือธรรมชาติการกินของคนไทยอ่ะอ
00:44:03 → 00:44:05 แล้วก็รู้สึกว่าไอ้การที่มันมีกฎเกณฑ์
00:44:05 → 00:44:08 อะไรมากมายเนี่ยมันจะทำให้เราเกร็งอ่ะ
00:44:08 → 00:44:10 แล้วพอเราเริ่มด้วยความรู้สึกต้องระวัง
00:44:10 → 00:44:13 อ่ะมันจะไม่มีความสุขนะเหมือนแบบกินแล้ว
00:44:13 → 00:44:16 จะผิดเป่าวะเราว่าเสน่ห์อย่างนึงของการ
00:44:16 → 00:44:19 กินข้าวแบบคนไทยก็คือการกินเป็นสำรับร่วม
00:44:19 → 00:44:22 กันนะอืเพราะว่าเราจะสังเกตว่าเวลาเราไป
00:44:22 → 00:44:25 บ้านเพื่อนน่ะถ้าเราสนิทอ่ะเราไม่ได้อยาก
00:44:25 → 00:44:26 เจอกันที่โต๊ะรับแขกเราอยากเจอกันที่โต๊ะ
00:44:27 → 00:44:30 กินข้าวเพราะการคุยกันไปกินกันไปจริงๆเขา
00:44:30 → 00:44:31 บอกเสียมารยาทใช่มั้แต่ว่ามันได้อรรถรส
00:44:31 → 00:44:34 ที่สุดแล้วแล้วมันนั่งนานอย่างี้ก็เหมือน
00:44:34 → 00:44:38 กันกินไปคุยกันไปไม่ต้องเกร็งสบายๆครับ
00:44:38 → 00:44:41 ที่การกินข้าวแช่เนี่ยเบสิคเลยมันคือข้าว
00:44:41 → 00:44:44 ที่ต้องเอาน้ำมาเทใส่ใช่มค่ะเอิ่มคือ
00:44:44 → 00:44:46 เนื่องจากว่าน้ำเราทำยากเนาะแล้วเราอยาก
00:44:46 → 00:44:48 จะให้กลิ่นทุกกลิ่นน่ะมันอยู่ให้มันคุ้ม
00:44:48 → 00:44:51 กับที่เราตั้งใจทำมาเอิ่การกินข้าวแช่แช่
00:44:51 → 00:44:53 มันก็มีแบบแผนของมันนิดนึงคือเราไม่ได้
00:44:53 → 00:44:55 กบฏอะไรซะทีเดียวก็คือเรารู้สึกว่าตัวที่
00:44:55 → 00:44:58 มันยังต้องรักษามันมีข้อดีของมันอยู่แล้ว
00:44:58 → 00:45:02 ก็คือเอ่อเวลากินข้าวแช่เนี่ยเริ่มต้นกับ
00:45:02 → 00:45:05 น้ำกับข้าวก่อนแล้วค่อยกินกลับที่เราอยาก
00:45:05 → 00:45:08 กินน่ะไปพอกินกลับเสร็จแล้วอ่ะเ่อถ้าเรา
00:45:08 → 00:45:10 รู้สึกว่าอยากมีผักแนมคือผักผักแนมมันไม่
00:45:10 → 00:45:13 ได้ฟิกว่ามันจะต้องกินทุกคำนะไม่ต้องแบบ
00:45:13 → 00:45:15 ว่ากินทุกคำอ่าไม่ใช่ 1 2 3 แล้วก็ 1 2
00:45:15 → 00:45:17 3 อะไรอย่างเงี้ยก็คืออ่ะฉันอยากกินอัน
00:45:17 → 00:45:19 อื่นต่อก็กินไปก่อนแล้วก็อยากจะกินผักแนม
00:45:19 → 00:45:22 ก็ค่อยกินอย่างเงี้ยค่ะรูปแบบของมันคือ
00:45:22 → 00:45:26 การกินข้าวก่อนข้าวเอ่อกินน้ำกินน้ำข้าว
00:45:26 → 00:45:29 แช่ก็คืออ่ะมามาเสิร์ฟปุ๊บมาเสิร์ฟปุ๊บ
00:45:29 → 00:45:31 น้ำเพียงใส่ไปอแล้วก็ตักข้าวตักน้ำใส่
00:45:32 → 00:45:34 ช้อนกินข้าวกินน้ำเข้าไปก่อนแล้วก็ตัก
00:45:34 → 00:45:37 กลับมากินกับเราไม่เอากลับใส่ลงไปในถ้วย
00:45:37 → 00:45:40 ข้าวเนาะเพราะว่าจะทำให้น้ำมันขุ่นแล้วรส
00:45:40 → 00:45:42 ชาติของอาหารแต่ละอย่างอ่ะมันจะลงไปรวม
00:45:42 → 00:45:46 อยู่ในอยู่ในถ้วยถ้วยข้าวและน้ำของเราเรา
00:45:46 → 00:45:48 ต้องการให้กินแล้วแบบรสชาติของแต่ละคำมัน
00:45:49 → 00:45:51 ชัดถามลึกนิดนึงเพราะว่าการตักข้าวและน้ำ
00:45:52 → 00:45:53 เข้ามาเนี่ยเราควรกินข้าวกับน้ำให้หมด
00:45:53 → 00:45:55 ก่อนมั้ครับถึงจะตักกลับหรือว่ามันสามารถ
00:45:55 → 00:45:58 ผสมในในปากได้เลยโยมันก็ดูมันก็ดูมุมมาม
00:45:58 → 00:46:00 กินเร็วไปเนาะถ้าเกิดเคี้ยวไม่หมดแล้วเรา
00:46:00 → 00:46:02 ก็ตักอันนี้เข้าไปในขณะที่ในปากมันยังมี
00:46:02 → 00:46:04 น้ำอยู่มันก็ไม่ควรนะกลืนกลืนก่อนกลืน
00:46:04 → 00:46:08 ก่อนคือมันควรกินแยกกันจริงๆใช่ค่ะเออ
00:46:08 → 00:46:10 ด้วยด้วยวิธีการกินเหมือนกันนะข้าวกับน้ำ
00:46:10 → 00:46:12 อยู่ในปากอ่ะเราจะอ้าปากยังไงอ่ะคุณเมย์
00:46:12 → 00:46:14 มันบางคนก็กินน้ำเข้าไปแล้วแต่ว่ามันยัง
00:46:14 → 00:46:17 มีข้าวอยู่แล้วคือการผมถามเพราะว่าบางคน
00:46:17 → 00:46:20 ก็รู้สึกว่ากับข้าวมันควรจะข้าวพร้อมกัน
00:46:20 → 00:46:24 อืไม่นะอันนี้พอมันเป็นกับข้าวมันเป็นมัน
00:46:24 → 00:46:26 เป็นข้าวลักษณะเนี้ยพี่รู้สึกว่ากินแยก
00:46:26 → 00:46:28 อ่ะดีแล้วถูกต้องแล้ววิธีการแบบนี้วิธี
00:46:28 → 00:46:32 การกินแบบนี้คือถูกต้องะก็คือข้าวน้ำข้าว
00:46:32 → 00:46:34 ที่มันอยู่ในช้อนเดียวกันเนี่ยกินไปก่อน
00:46:34 → 00:46:38 กลืนไปแล้วก็กลับกลืนไปแล้วจะกินผักแนม
00:46:38 → 00:46:40 ตามด้วยคำนั้นหรือจะเป็นอีก 2 คำถัดไปก็
00:46:40 → 00:46:43 อีกเรื่องนึงแต่ว่าอห้ามเลยก็คือไม่อยาก
00:46:43 → 00:46:45 ให้ตักครับแล้วผู้หลักผู้ใหญ่ก็บอกมาว่า
00:46:45 → 00:46:47 ไม่อยากให้ตักกลับลงไปในในชามข้าวเพราะ
00:46:47 → 00:46:51 ว่าน้ำมันจะขุ่นแล้วก็รสชาติความพิเศษของ
00:46:51 → 00:46:54 แต่ละอย่างมันก็จะลงไปรวมอยู่ในน้ำนั้น
00:46:54 → 00:46:57 ใช่ค่ะออข้าวแช่นี่ปกติเากินกันช่วงไหนนะ
00:46:57 → 00:46:59 ครับพี่แบงเอิ่มกินช่วงหน้าร้อนตอนเที่ยง
00:46:59 → 00:47:01 ๆบ่ายๆค่ะช่วงบ่ายๆใช่มั้เป็นแบบเหมือน
00:47:01 → 00:47:03 เป็นมื้อหลักพี่บอกใช่ค่ะเป็นมื้อหลักก็
00:47:03 → 00:47:06 ได้ค่ะครับ่ะแล้วก็แบบก็จะจัดสำรับใหญ่ๆ
00:47:06 → 00:47:09 มานั่งกินกันใช่ค่ะก็จะเป็นแบบจัดกลับมา
00:47:09 → 00:47:12 รวมกันแล้วก็ทุกคนก็จะมีจานแบ่งเนาะแล้ว
00:47:12 → 00:47:14 จะตักกับที่ตัวเองชอบเนี่ยใส่จานแบ่งแล้ว
00:47:14 → 00:47:16 ก็เป็นชามข้าวของตัวเองก็จะเป็นลักษณะ
00:47:16 → 00:47:21 อย่างงี้นะคะแล้วก็ตักกลับเนี่ยตักกลับมา
00:47:21 → 00:47:24 อย่างเราชอบอันนี้เราก็จะตักมาที่จานของ
00:47:24 → 00:47:26 ตัวเองแค่แบบพอกินเอามาวางไว้ตักหลายๆ
00:47:26 → 00:47:30 อย่างก็ได้ค่ะแล้วก็แล้วก็เราก็กินกับของ
00:47:30 → 00:47:32 เราตรงหน้าเราไปอย่างเงี้ยค่ะว่าเป็น
00:47:32 → 00:47:34 อย่างงี้อ่ามาเรียง
00:47:34 → 00:47:40 ไว้นะคะแล้วก็ผักแนมที่เราชอบจะไม่ไปรวม
00:47:40 → 00:47:42 ไม่กินตรงกลางหยิบไปกับตรงกลางมากินใช่
00:47:42 → 00:47:45 มั้ไม่ค่ะอเพราะจริงๆแล้วการกินโดยที่ยัง
00:47:45 → 00:47:47 ให้สำลับอ่ะยังสวยอยู่อ่ะก็เป็นอย่างนึง
00:47:47 → 00:47:50 เหมือนกันที่แบบว่ามันน่ารักดีสมมุติว่า
00:47:50 → 00:47:52 พอเรากินพอเรากินแต่ละคำแล้วก็อ่าแต่งใจ
00:47:53 → 00:47:55 ให้ก็ดูแสดงความรับผิดชอบกับเพื่อนร่วมวง
00:47:55 → 00:47:59 ดีนะคะเงี้ยค่ะก็บอกว่าอย่างบางท่านพระ
00:47:59 → 00:48:02 วิาเนี่ยค่ะท่านจะเสวยไปทุกคำออกจากสำลับ
00:48:02 → 00:48:04 โดยที่ท่านก็แต่งจานไปเรื่อยๆโดยที่คนก็
00:48:04 → 00:48:06 จะไม่รู้โดยว่าตรงนี้แหว่งไปแล้วอะไร
00:48:06 → 00:48:08 อย่างเงี้ยค่ะอันนี้เราก็ให้จานมันแบบดู
00:48:08 → 00:48:10 เรียบร้อยนะคะก็คือเราจะแบ่งอยากกินอะไร
00:48:11 → 00:48:14 ก็ตักมาเล็กก่อนใช่ค่ะแล้วอย่างนึงก็คือ
00:48:14 → 00:48:16 เราจะกะปริมาณความต้องการของเราอ่ะพอดีพอ
00:48:16 → 00:48:20 ๆมันก็จะได้ไม่มีอาหารเหลือออะครับแล้วก็
00:48:20 → 00:48:23 เอ่อข้าวก็คือเราจะเอาน้ำตักข้าวใช่ค่ะก็
00:48:23 → 00:48:27 คือเราก็ตักข้าวกับน้ำกินก่อนเสร็จแล้วนะ
00:48:27 → 00:48:31 คะเราก็จะตักกลับครับเข้าไปแล้วก็ถ้าเรา
00:48:31 → 00:48:34 อยากกินผักแนมเราก็ตักผักแนมอย่างเราก็จะ
00:48:34 → 00:48:37 จิ้มผักแนมตามไปอย่างเงี้ยค่ะอเนี่ยค่ะ
00:48:37 → 00:48:42 ครับทีนี้แบบเครื่องถ้วยชามเนี่ยมันมีมัน
00:48:42 → 00:48:45 เห็นหลายๆที่มันก็จะแบบแล้วแต่บ้านเลยนะ
00:48:45 → 00:48:48 มีผลกับของมีผลกับการกินข้าวแช่คือการกิน
00:48:48 → 00:48:51 อาหารสวยๆอร่อยๆจากจานสวยเนี่ยมันเป็น
00:48:51 → 00:48:53 ความสุขเนาะมันเป็นความสุขเฮ้ยพอเราจัด
00:48:53 → 00:48:56 เสร็จมันสวยหรือว่าแบบบางทีเราก็อยากจะ
00:48:56 → 00:49:00 ให้แบบดูต่างๆกันไปในแต่ละวันอย่างเอิ่ม
00:49:00 → 00:49:03 ก็จะมีบางคนบอกว่ามันเหมาะจัดกับบางบ้าน
00:49:03 → 00:49:06 ชอบจัดกับเครื่องถ้วยขาวบางวังจัดกับ
00:49:06 → 00:49:09 เครื่องถ้วยขาบางวังก็ใช้เครื่องแก้วแต่
00:49:09 → 00:49:10 อย่างในหนังสือของท่านผู้หญิงเปลี่ยน
00:49:10 → 00:49:12 ภาสกรวงบอกว่าเวลาเราหุงข้าวแช่เสร็จ
00:49:12 → 00:49:15 เขียนมาเลยว่าให้เอาข้าวแช่เนี่ยใส่ในโหล
00:49:15 → 00:49:18 แก้วใบขนาดใหญ่อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็ที่แตง
00:49:18 → 00:49:20 สอบถามมาอย่างแตงถามพี่ป้อมหม่อมหลวงขวัญ
00:49:20 → 00:49:23 ทิพย์นะคะพี่ป้อมก็บอกว่าเอิ่เครื่องขาว
00:49:23 → 00:49:25 เป็นเครื่องที่แบบมีมีกันแต่ละบ้านอยู่
00:49:25 → 00:49:29 แล้วก็คือก็จะใช้จานชามสีขาวแต่ว่าถามพี่
00:49:29 → 00:49:32 นิวคุณจารวีพี่นิวก็บอกว่าแล้วแต่ได้ตาม
00:49:32 → 00:49:34 รสนิยมแล้วก็ของที่แบบรู้สึกว่ามีตอนนั้น
00:49:34 → 00:49:37 แต่ว่าถามพี่แตนหมอหลวงอัชวรวัพี่แตนก็
00:49:37 → 00:49:40 บอกว่าเ่อมีบันทึกนะของที่วังของพี่แตน
00:49:40 → 00:49:43 น่ะบอกว่ารัชกาลที่ 6 เสด็จมาเสวยข้าวแช่
00:49:43 → 00:49:47 ที่เ่อโรงละครปีลัยก็มีการจัดข้าวแช่ถวาย
00:49:47 → 00:49:52 ท่านก็ใส่โถเครื่องแก้วเป็นชามฝาบางทีก็
00:49:52 → 00:49:53 เป็นชามฝามีฝาปิดหรือว่าจะเป็นเครื่อง
00:49:53 → 00:49:56 แก้วไม่มีฝาปิดก็ได้นะพี่มองว่าบางทีมัน
00:49:56 → 00:49:59 แบบช่วงนั้นได้อะไรมาใหม่หรืออยากจะใช้
00:49:59 → 00:50:02 ถ้ามันดูเข้ากันก็ใช้ได้ค่ะอย่างวันนี้
00:50:02 → 00:50:04 เราใช้เป็นเครื่องแก้วจริงๆแล้วเราจะใช้
00:50:04 → 00:50:07 เป็นแบบเครื่องขาวอย่างี้ก็ได้ก็มีเราก็
00:50:07 → 00:50:10 เราก็มีหลายๆแบบเวลาเราจัดบางวันเราก็จัด
00:50:10 → 00:50:12 เครื่องขาวบางวันเราก็จัดเครื่องแก้ว
00:50:12 → 00:50:16 เอิ่มสำหรับพี่พี่ไม่ได้ฟิกว่าของหวานจะ
00:50:16 → 00:50:18 ต้องเป็นแบบเครื่องแก้วเท่านั้นเนาะหรือ
00:50:18 → 00:50:20 อย่างแบบพี่ก็ถามไปที่น้องอีกคนที่สนิท
00:50:20 → 00:50:23 กันเา้าก็เล่นของเก่าเขาก็บอกว่าใช้ได้
00:50:23 → 00:50:27 ทั้ง 2 แบบอือืก็ไม่ได้แบบต้องฟิกละเอียด
00:50:27 → 00:50:30 ขนาดนั้นมีอะไรก็ใช้ใช่ค่ะแต่ว่าบางคนอาจ
00:50:30 → 00:50:33 จะบอกว่าเออถ้าใส่เครื่องแก้วดูเบากว่า
00:50:33 → 00:50:35 สวยกว่าบางคนอาจจะบอกว่าใช้เครื่องขาว
00:50:35 → 00:50:38 แล้วมันดูแบบดูสะอาดๆดูคลีนๆอะไรอย่าง
00:50:38 → 00:50:40 เงี้ยค่ะแล้วแต่แต่พี่อ่ะชอบทั้ง 2 อย่าง
00:50:40 → 00:50:43 พี่ก็จัด 2 อย่างแล้วเท่าที่อ่านมาเนี่ย
00:50:43 → 00:50:45 เอิ่มตามในวังเขาก็ไม่ได้มีการฟิกอะไร
00:50:46 → 00:50:47 เรื่องแบบนี้เลยเท่าที่เราถามมาหลายๆวัง
00:50:47 → 00:50:51 เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้ติดไม่ได้ระบุว่าต้อง
00:50:51 → 00:50:54 ใช้นี้เท่านั้นใช่ค่ะมันไม่มีคำว่าอันนี้
00:50:54 → 00:50:56 เท่านั้นหรอกเพราะว่ามันไม่ใช่เป็นอยู่ใน
00:50:56 → 00:50:59 พิธีการอะไรขนาดนั้นที่จำเป็นจะต้องมีการ
00:50:59 → 00:51:02 ระบุพี่คิดว่าอย่างงั้นนะแล้วก็ตอนแรกพี่
00:51:02 → 00:51:06 ก็เกรงเอ๊ะเข้าแช่เราทำซะสวยขนาดนี้เรา
00:51:06 → 00:51:08 ต้องมีการแบบ
00:51:08 → 00:51:11 ฐานะเนาะเอ่อตามฐานะแบบนั้นหรือเปล่าอะไร
00:51:11 → 00:51:14 อย่างเงี้ยค่ะก็เท่าที่ถามมาพี่ก็มั่นใจ
00:51:14 → 00:51:16 ว่าพี่ใช้ทั้ง 2 แบบเดี๋ยวนี้น่าจะง่าย
00:51:16 → 00:51:22 กว่านั้นอีกใช่ค่ะอครับลำดับนี่ไม่เกี่ยว
00:51:22 → 00:51:24 เลยไม่นะพี่รู้สึกว่าข้าวแช่มันเป็นอาหาร
00:51:24 → 00:51:26 ที่ควรจะกินได้อย่างมีความสุขในแต่ละ
00:51:26 → 00:51:29 ฤดูกาลแล้วถ้าเกิดเราอยากจะแบบว่าให้มัน
00:51:29 → 00:51:31 อยู่ยั้งยืนยงไปเนี่ยในสังคมไทยเนี่ยการ
00:51:31 → 00:51:35 มีกฎเกณฑ์มากมันทำให้มันทำให้มันมีพอ
00:51:35 → 00:51:36 ประมาณน่ะได้แหละแต่ว่าถ้ามันมีเยอะเกิน
00:51:36 → 00:51:39 ไปมันจะทำให้คนรุ่นใหม่อ่ะเกร็งเอออ่าว่า
00:51:39 → 00:51:42 อ้าวกลัวกินแล้วไม่ถูกอ่ะเกิดไปลง
00:51:42 → 00:51:45 Facebook ไปลง IG แล้วมีผู้ใหญ่มาว่าเธอ
00:51:45 → 00:51:47 เธอกินข้าวอย่างี้ได้ยังไงคือพี่นะอยาก
00:51:47 → 00:51:49 ให้คนน่ะกินแล้วแบบรู้สึกชอบก่อนครับแล้ว
00:51:49 → 00:51:52 พอชอบแล้วเราก็จะได้ไปหาความรู้กับมันน่ะ
00:51:52 → 00:51:54 ว่าอ้ากินยังไงกินยังไงให้สวยเ้าอุตส่าห์
00:51:54 → 00:51:58 ทำมาเป็นคำเล็กก็กรุณาอย่าตักช้อนนึงหลาย
00:51:58 → 00:52:01 กัปตักคำเล็กๆอ้าปักน้อยๆค่อยๆละเมียด
00:52:01 → 00:52:05 ละไมกินไปอย่างเงี้ยค่ะเออก็ก็จะมีวัย
00:52:05 → 00:52:08 รุ่นก็บอกว่าเออฉันไม่ค่อยเข้าใจเข้าแช่
00:52:08 → 00:52:11 ไผ่ดูมันยากดูมันแบบต้องมีวิธีที่วิธีใน
00:52:11 → 00:52:14 การพี่อ่ะใช้วิธีล่อลวงคนนะให้แบบเหมือน
00:52:14 → 00:52:17 อย่างให้แบบมาเรียนอาหารไทยโบราณเด็กวัย
00:52:17 → 00:52:19 รุ่นน่ะพี่ชอบมากพี่บอกเลยว่าสอนฟรีจ้ะ
00:52:19 → 00:52:22 หรือไม่ก็ให้มากินฟรีก่อนค่ะให้กินให้แบบ
00:52:22 → 00:52:24 ชอบก่อนนะแล้วเดี๋ยวเธอก็จะอยากรู้ขั้น
00:52:24 → 00:52:26 ต่อไปเองอาจจะอยากรู้ว่าอยากกินเจ้าอื่น
00:52:26 → 00:52:28 ต่อหรือว่าอยากจะอยากรู้ด้วยการแบบว่า
00:52:28 → 00:52:31 อยากทำเป็นอยากไปทำไปให้คนอื่นคนพิเศษของ
00:52:31 → 00:52:33 ตัวเองเป็นอะไรอย่างเงี้ยค่ะพี่ที่รู้สึก
00:52:33 → 00:52:35 ว่าอย่าเพิ่งไปสกัดดาวรุ่งด้วยกันบอกว่า
00:52:35 → 00:52:39 อันนั้นผิดอันนี้ถูกให้เค้าลองกินกัด
00:52:39 → 00:52:42 โอเควันนี้เรื่องข้าวแช่น่าจะแบบครบถ้วน
00:52:42 → 00:52:45 นะครับพี่แล้วก็ดูมันก็เข้าถึงน่าจะเข้า
00:52:45 → 00:52:48 ถึงง่ายนะสำหรับคนทั่วไปนะดูมันไม่ได้กิน
00:52:48 → 00:52:50 ยากแล้วอ่ะบอกว่าเ้าแช่บอกคนรุ่นใหม่ต้อง
00:52:50 → 00:52:53 บอกว่าถ่ายรูปสวยนะคะแล้วกินแล้วดูแบบ
00:52:53 → 00:52:56 เป็นแบรนด์ royalty นะแบบดูมีวัฒนธรรมนะ
00:52:56 → 00:52:58 กรุณาไปกินแล้วก็ถ่ายรูปโชว์กันเยอะๆเลย
00:52:58 → 00:53:02 ค่ะแต่ว่าก็ต้องหาที่แบบตอนนี้ก็ทำข้าว
00:53:02 → 00:53:06 แช่กันหลายหลายบ้านแต่ก็คิดว่าคนกินไม่
00:53:06 → 00:53:08 รู้น้อยลงหรือมากขึ้นแหละแต่ว่าอยากให้
00:53:08 → 00:53:10 กินกันมากขึ้นเนาะเพื่อจะให้แบบให้มัน
00:53:10 → 00:53:13 อยู่ได้นานๆใช่เหมือนแบบเด็กรุ่นเนี้ยบาง
00:53:13 → 00:53:15 ทีเราก็บอกว่าเอ่อเหมือนอย่างเราชวนเด็ก
00:53:15 → 00:53:17 นุ่งผ้าสิ้นน่ะว่าเธอนุ่งเาก็จะไม่รู้ว่า
00:53:17 → 00:53:20 จะยังไงแต่ว่าถ้าเกิดเราจัดไปให้เลยนะแบบ
00:53:20 → 00:53:23 ประมาณว่าป่ะเพื่อนเธอบวชเดี๋ยวอาจารย์
00:53:23 → 00:53:25 เตรียมผ้าถุงไปให้เลยที่วัดพอเขานุ่งแล้ว
00:53:25 → 00:53:27 แล้วมีคนชมเ้าอ่ะต่อไปก็ติดใจเองแหละ
00:53:27 → 00:53:30 เหมือนๆกันไม่งั้นอาจจะเป็นหน้าที่ผู้
00:53:30 → 00:53:34 ใหญ่ในบ้านนะพาไปแนะนำกินก่อนครับอืโอเค
00:53:34 → 00:53:36 ครับวันนี้ได้ความรู้เรื่องเข้าจากพี่แตง
00:53:36 → 00:53:38 เยอะมากครับก็ขอบคุณพี่แตงมากๆค่ะยินดี
00:53:39 → 00:53:42 ค่ะขอบคุณมากครับค่ะยินดีค่ะ
00:53:42 → 00:53:58 [เพลง]