ถุงซีลสูญยากาศเก็บอาหารได้นานแค่ไหน

ตอบหลายคำถามเรื่อง Food Safety กับเชฟทักษ์ | Eat Direction | EP. 20

จากช่อง : The Cloud


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 เนื้อที่แช่ช่องฟริเก็บได้นานแค่ไหนครับ

00:00:0200:00:05 แล้วจริงมที่มันเก็บไว้ได้ตลอดไป

00:00:0500:00:06 >> เก็บไว้เป็น 10 ปีก็ได้ไม่มีปัญหา

00:00:0600:00:07 >> จริงป่ะเนี่ย

00:00:0700:00:10 >> เชื้อไม่โตแต่กินได้หรือเปล่าเพราะมันหืน

00:00:1000:00:13 >> อ๋ออาหารที่มีเชื้อราขึ้นถ้าตัดส่วนที่มี

00:00:1300:00:15 เชื้อออกยังสามารถกินส่วนที่เหลือได้มั้ย

00:00:1500:00:18 >> โอขึ้นอยู่กับอาหารถ้าเป็นอาหารเนื้อแข็ง

00:00:1800:00:21 ควานได้ถ้าอาหารเนื้อนิ่มมันจะชอนลงไป

00:00:2100:00:23 คว้านยังไงก็ยังอยู่ข้างในอาหารเนื้อนิ่ม

00:00:2400:00:25 ใช้อะไรอ่ะขนมปัง

00:00:2500:00:28 >> เค้กอน้ำกระป๋องที่เปิดฝาแล้วเก็บในตู้

00:00:2800:00:30 เย็นได้มั้ครับเราเก็บนานได้แค่แค่ไหน

00:00:3000:00:32 >> มันมันจะไม่เสียเชิงเชื้อนะเพราะน้ำ

00:00:3200:00:34 กระป๋องส่วนใหญ่เขาใส่วัตถุกันเสียส่วน

00:00:3400:00:36 ใหญ่ใส่โซเดียมเบนโซลเอateแต่ไอ้พวกน้ำ

00:00:3600:00:39 กระป๋องอ่ะขอร้องหลายคนมองข้ามก่อนกินน่ะ

00:00:3900:00:39 >> ครับ

00:00:3900:00:40 >> เช็ด

00:00:4000:00:42 >> เออเรื่องนี้อีกเรื่องนึงที่

00:00:4200:00:43 >> ต้องเช็ดนะ

00:00:4300:00:46 >> มันมีเคสเมืองนอกอ่ะกินเข้าไปติดเชื้อโรค

00:00:4600:00:48 จากฉี่หนูตายเพราะบางทีกระป๋องอยู่ในโรง

00:00:4800:00:50 งานน่ะไม่รู้อะไรมาเราไม่รู้ว่าโรงงาน

00:00:5000:00:51 สะอาดแค่ไหนหรือมีฝุ่นน่ะ

00:00:5200:00:54 >> ครับอยากรู้มั้ครับว่านมที่เลยวันที่

00:00:5400:00:56 กำหนดไว้ข้างกล่องไปแล้วยังกินต่อได้ไหม

00:00:5600:00:59 ของที่ตกพื้น 5 วินาทียังกินได้หรือเปล่า

00:00:5900:01:01 คนไทยทนต่อเชื้อโรคได้มากกว่าชาวต่างชาติ

00:01:0100:01:04 จริงมยแล้วเนื้อที่เก็บไว้ในตู้เย็นอยู่

00:01:0400:01:06 ได้ตลอดไปจริงเหรอผมไปรวบรวมคำถามเกี่ยว

00:01:0600:01:08 กับความปลอดภัยในอาหารเหล่านี้มาตั้งแต่

00:01:0800:01:11 แม่บ้านยัน AI เลยครับเพื่อเอามาสุ่มให้

00:01:1100:01:14 เชฟทักเจ้าของเพจทัก The SHฟต่อและคำตอบ

00:01:1400:01:15 ของคำถามมากมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัย

00:01:1600:01:18 ของอาหารเหล่านี้ติดตามชมได้ใน E

00:01:1800:01:23 Direction EP นี้ครับ

00:01:2400:01:27 Eat Direction คุยกับคนในวงการอาหารว่า

00:01:2700:01:30 เราควรกินอะไรถึงจะดี

00:01:3000:01:32 เชฟทักมาคุยกับเราเรื่องโคล่ารอบนึงแล้ว

00:01:3200:01:32 นะ

00:01:3200:01:33 >> ตอนนี้แบบ

00:01:3300:01:36 >> กลับมาอีกรอบนึงชวนมาอีกรอบนึงเพราะว่า

00:01:3700:01:38 จากเพจเชฟนั่นแหละ

00:01:3800:01:40 >> เพราะว่าหลายๆอย่างที่แบบจะอ่านจากเพจเชฟ

00:01:4000:01:42 เนี่ยมันเป็นเรื่องของ

00:01:4200:01:44 >> เรื่องของความอันตรายกับไม่อันตรายในใน

00:01:4400:01:45 อาหารใช่มั้ฮะ

00:01:4500:01:48 >> ทีนี้มันมีคำถามเยอะมากจากตัวผมเองเนาะ

00:01:4800:01:49 จากคนรอบข้าง

00:01:5000:01:52 >> แล้วก็จากลูกเพจเชฟเองด้วยอะไรอย่างเงี้ย

00:01:5200:01:54 เรื่อง Food Safety

00:01:5400:01:54 >> ฮะ

00:01:5400:01:57 >> ก็เลยเป็นที่มาของ EP นี้

00:01:5700:02:00 >> ครับว่าอยากคุยเรื่องความปลอดภัยของอาหาร

00:02:0000:02:04 ที่มันโดยเฉพาะในบ้านเนาะคือผมรู้สึกว่า

00:02:0400:02:06 ตอนนี้มันมีความไม่เข้าใจอยู่หลายๆอย่าง

00:02:0600:02:07 >> อื

00:02:0700:02:10 >> เอาผมเองนะคือแบบว่าของในตู้เย็นเนี่ยมัน

00:02:1000:02:13 มันดูแบบสามารถเก็บเข้าไปในตู้เย็นแล้ว

00:02:1300:02:15 มันแบบปลอดภัยขนาดนั้นเลยเหรออะไรอย่าง

00:02:1500:02:15 เงี้ย

00:02:1500:02:16 >> เรียกว่าตู้แช่แข็งใช่มั้

00:02:1600:02:18 >> เออตู้แช่แข็งผมก็แบบทุกอย่างยัดใส่ช่อง

00:02:1900:02:21 ฟิตแล้วสามารถแบบอยู่เป็นอมตะได้ขนาดนั้น

00:02:2100:02:23 หรือเปล่าวะอะไรอย่างเงี้ย

00:02:2300:02:27 >> ก็เลยไปถามคนรอบตัวหาข้อมูลมาจากเอ่อเอ่อ

00:02:2700:02:32 หลายๆเพจหลายๆข้อหลายๆข้อมูลรวมถึงถาม AI

00:02:3200:02:35 ด้วยว่าอยากดูอะไรจากเชฟทีนี้มันจะมีคำ

00:02:3500:02:37 ถามมาประมาณแบบก็เยอะเหมือนกันในชุดแรก

00:02:3700:02:41 เนาะผมเอามาใส่ในนี้ไว้ให้แล้วเชฟ

00:02:4100:02:43 >> โอ๊ยวันนี้เหมือนมาทำอะไรนะข้อสอบ

00:02:4300:02:46 >> ใช่เป็น Food Safety ก็เลยแบบวันนี้ก็

00:02:4600:02:48 เลยใส่กล่องแก้วนี้มาเลย

00:02:4800:02:50 >> เป็นแนวถามไวตอบไว

00:02:5000:02:52 >> ถามไวตอบไวแต่ตอบนานก็ได้ครับแต่ทีนี้แบบ

00:02:5200:02:55 มันจะเป็นคำถามแบบหลายๆหลายๆ

00:02:5500:02:57 >> หลายๆประเด็นมากครับผมก็ก็เลยแบบว่าโอเค

00:02:5700:03:00 งั้นผมไม่เรียงประเด็นแล้วกันใช้วิธีสุ่ม

00:03:0000:03:03 >> สุ่มเอาสนุกกว่าเออคล้ายๆกิริ๊งอน

00:03:0300:03:04 >> เหมือนเล่นเออแลบกิง

00:03:0400:03:06 >> เก็บเศรษฐี

00:03:0600:03:08 >> เชฟจับเองดีกว่าแล้วเดี๋ผมอ่านจะอ่านอัน

00:03:0800:03:09 แรกนะครับ

00:03:0900:03:10 >> ได้

00:03:1000:03:10 >> มา

00:03:1000:03:12 >> อ่ะ

00:03:1200:03:16 >> คำถามแรกคือเออเนี้ย

00:03:1600:03:18 >> ถ้าไม่แน่ใจว่าอาหารเสียหรือยัง

00:03:1800:03:19 >> อือ

00:03:1900:03:21 >> นำมาอุ่นร้อนอีกครั้งจะกินได้ปลอดภัยขึ้น

00:03:2100:03:22 มั้ย

00:03:2200:03:24 >> ขึ้นอยู่กับอาหาร

00:03:2400:03:24 >> อือ

00:03:2400:03:27 >> บางถ้าไม่มั่นใจแสดงว่ามันเริ่มมีกลิ่น

00:03:2700:03:28 ตุ่

00:03:2800:03:30 >> ใช่มั้ครับบางทีกลิ่นตุนั้นมันมาจากเชื้อ

00:03:3000:03:32 จุลินทรีย์ที่ไม่ได้อันตรายแต่มันทำให้

00:03:3200:03:34 อาหารเสียคือจุลินทรีย์แบ่งเป็น 2 ประเภท

00:03:3400:03:37 ก่อโรคกับไม่ก่อโรคถ้ามันถ้ามันกินตุ

00:03:3700:03:41 เพราะตัวไม่ก่อโรคเอามาอุ่นสามารถฆ่ามัน

00:03:4100:03:42 ได้

00:03:4200:03:42 >> อือ

00:03:4200:03:44 >> ก็ปลอดภัยแต่เราจะกล้ากินหรือเปล่าเพราะ

00:03:4400:03:46 กลิ่นมันเพี้ยนไปแล้ว

00:03:4600:03:47 >> มันสามารถมีกลิ่นได้ทั้งดีและไม่ดีใช่

00:03:4700:03:49 มั้ยหมายถึงจุลินทรีย์เนี่ย

00:03:4900:03:51 >> ไม่ถ้าเป็นสปอยอ่ะกลิ่นไม่ดีหมด

00:03:5100:03:54 >> มันก็จะตุหมดไงกลิ่นออกเปรี้ยวๆแต่บางที

00:03:5400:03:56 กลิ่นออกเปรี้ยวๆมันเกิดจากแลกโตบาซิั

00:03:5600:03:56 อย่างเงี้ย

00:03:5600:03:58 >> อือ

00:03:5800:04:00 >> มันไม่ได้สร้างสารพิษแต่มันให้กลิ่น

00:04:0000:04:01 เปรี้ยวเราก็ไม่กินแต่สมมุติว่าเราจะไป

00:04:0100:04:03 อุ่น

00:04:0300:04:07 >> เชื้อตายไม้ตายกินก็ปลอดภัยแต่ว่าลักษณะ

00:04:0700:04:07 มันไม่ควรจะกิน

00:04:0700:04:08 >> ไม่ควรจะกิน

00:04:0800:04:10 >> แต่บางอันเช่นเอ่อ

00:04:1000:04:13 >> เช่นอะไรดีอ่ะเช่นสมมุติ AC ตามตลาด

00:04:1300:04:13 >> ครับ

00:04:1300:04:15 >> แล้วมันไม่เสียเลยนะ

00:04:1500:04:16 >> อือ

00:04:1600:04:19 >> แต่มันอยู่นานถ้าเอาไปส่องกล้องเสียแล้ว

00:04:1900:04:21 แล้วเกิดจากเชื้อที่เกิดจากมือแม่ค้าเขา

00:04:2100:04:23 เรียกว่าstaffคั

00:04:2300:04:26 >> Arious ตัวเสร้างสารพิษที่ทนความร้อนมาก

00:04:2600:04:28 เอาไปให้ความร้อนยังไงก็ไม่ตายกินก็ท้อง

00:04:2800:04:28 เสีย

00:04:2800:04:28 >> ออ

00:04:2800:04:30 >> สมมุติเอาข้าวตาอบอีกรอบนึงอุ่นแต่ความ

00:04:3000:04:32 จริงไม่มีใครเอาไอใครเข้าตาอบแต่สมมุติ

00:04:3200:04:33 ว่าอ

00:04:3300:04:35 >> เอาข้าวตาอบจนแบบอุณหภูมิสูงกว่า 100

00:04:3500:04:36 >> อือ

00:04:3600:04:38 >> สารพิษตัวนี้ทนได้เกิน 100 องศาเรากินยัง

00:04:3800:04:39 ไงก็ก็ดี

00:04:3900:04:41 >> แล้วทนได้แค่ไหนครับหมายถึงเกิน 100

00:04:4100:04:41 เนี่ย

00:04:4100:04:45 >> โอเกิน 130 150 ต้องไปเข้าแบบตู้สเตอรี่

00:04:4500:04:47 แบบนั้นน่ะซึ่งมันไม่มีใครทำ

00:04:4700:04:48 >> เออคือ

00:04:4800:04:48 >> อื

00:04:4800:04:51 >> ถามแบบโง่ๆแบบผมเลยผมก็จะรู้สึกว่ามันจะ

00:04:5100:04:55 มีแบบเรียกว่าอะไรดีถ้าไม้ตายในการแบบกิน

00:04:5500:04:58 ก็คืออ่าไหนๆฆ่าเชื้อด้วยความร้อนใช่มั้ย

00:04:5800:05:00 ชาเชื้อตายทุกอันกินได้หมดแน่ๆอันไหนที่

00:05:0000:05:01 แบบ

00:05:0100:05:04 >> รู้สึกว่ามันมีกลิ่นนิดหน่อยคือยังไม่ทัน

00:05:0400:05:07 มีกลิ่นด้วยแต่ว่าข้ามคืนมาทั้งคืนแล้ว

00:05:0700:05:09 แล้วก็แบบไม่แน่ใจว่ากินได้หรือเปล่า

00:05:0900:05:10 >> ต้มให้ร้อนก่อนเลย

00:05:1000:05:11 >> ต้มให้ร้อนก่อน

00:05:1100:05:12 >> แล้วกิน

00:05:1200:05:14 >> แต่ความจริงถ้าถ้าชัวร์สุดนะอะไรในโลกเ

00:05:1400:05:16 ไม่ใช่แค่อาหารอะไรที่เราไม่ชัวร์

00:05:1600:05:18 >> อย่าไปฝืนมันเสี่ยง

00:05:1800:05:20 >> แต่จริงๆบางเคสแบบหน่อไม้อย่างเงี้ยครับ

00:05:2000:05:23 หน่อไม้เก็บมานานๆกินตุความจริงเชื้อ

00:05:2300:05:24 สมมุติว่าเชื้อตัวนึงเเรียกว่า

00:05:2400:05:27 crอสiuminัมตัวนี้อันตรายมากนะแต่บังเอิ้

00:05:2800:05:29 สารพิษที่มันสร้างในหน่อไม้อ่ะอ

00:05:3000:05:32 >> ไม่ทนความร้อนสมมุติเอาไปผัดก็กินปลอดภัย

00:05:3200:05:34 >> แล้วหน่อไม้มันมีกลิ่นตุกๆเป็นเอกลักษณ์

00:05:3400:05:35 ของมันอยู่แล้ว

00:05:3500:05:35 >> อือ

00:05:3500:05:39 >> อืแต่ถ้าตักมาจากปี๊บแล้วกินเลยตายเลยนะ

00:05:3900:05:40 >> เพราะว่าไม่

00:05:4000:05:42 >> สารพิษนั้นมันยังอยู่ไงครับแล้วมันส่งผล

00:05:4200:05:43 ต่อระบบประสาทอยู่

00:05:4300:05:44 >> ไม่ผ่านความร้อน

00:05:4400:05:44 >> อือๆ

00:05:4400:05:45 >> อือ

00:05:4500:05:46 >> แต่โดยสรุปอ่ะถ้าฟังเผินๆถ้าอันไหนไม่

00:05:4600:05:47 ชัวร์อย่าไปกินเลย

00:05:4700:05:50 >> แล้วกะทิอ่ะครับพวกแกงกะทิต่างๆ

00:05:5000:05:53 >> แกงกะทินี่ตุง่ายมากแต่แกงกะทิเนี่ยคล้าย

00:05:5300:05:57 ๆหน่อส่วนใหญ่แกงกะทิอ่ะจะพอตุแล้วเขายัง

00:05:5700:05:59 เอาไปผัดใช่มั้เพราะมันผ่านความร้อน

00:05:5900:06:02 >> เพราะเชื้อส่วนใหญ่ในกะทิเป็นกลุ่มสอยไม่

00:06:0200:06:04 ใช่เป็นกลุ่มเชื้อก่อโรค

00:06:0400:06:07 >> ส่วนใหญ่เป็นพวกอีคอลไรอีคอลไรมาจากไหน

00:06:0700:06:11 >> ผิวหนังแม่ค้าความไม่สะอาดของเครื่องคั้น

00:06:1100:06:13 >> อุจจาระอะไรพวกนี้พูดเหมือนน่ากลัวแต่

00:06:1300:06:16 ความจริงอีคอลไรด์อ่ะสายพันธุ์ส่วนใหญ่อ

00:06:1600:06:17 >> ไม่ทนความร้อน

00:06:1700:06:18 >> อื

00:06:1800:06:20 >> พอเอาไปผัดเอาไปอะไรแล้วมีเครื่องเรื่มมี

00:06:2000:06:23 กลิ่นพริกแกงมากลบก็กินได้

00:06:2300:06:24 >> อืออือ

00:06:2400:06:27 >> และอีกอันนึงคืออันนี้ถามเผื่อเลยมันมี

00:06:2700:06:29 อาหารคุณแม่เช่นจับฉ่ายแกงส้ม

00:06:3000:06:33 >> ที่จะอยู่แบบ 4 วัน 7 วันอะไรอย่างเงี้ย

00:06:3300:06:36 ไอ้การทำวันแรกทิ้งไว้คืนนึงตื่นเช้ามา

00:06:3600:06:39 อุ่นกินยังไม่หมดพรุ่งนี้อุ่นอีกทีนึง

00:06:3900:06:41 เงี้ยมันมันปลอดภัยมั้ยครับ

00:06:4100:06:43 >> มันเสี่ยงความจริงไม่ควร

00:06:4300:06:45 >> อาหารพวกเนี้ยอาหารที่ปรุงสำเร็จควรแช่

00:06:4500:06:46 เย็นครับ

00:06:4600:06:48 >> แต่บางทีหลายคนก็ถามว่าเฮ้ยทำไมเก็บ

00:06:4800:06:50 >> ไว้ในหม้อเราไม่เสียมันขึ้นอยู่กับหลาย

00:06:5000:06:51 ปัจจัยมาก

00:06:5100:06:51 >> อ

00:06:5200:06:54 >> เขาอาจจะทำสะอาดมากหรือต้มจนแบบเค้าเรียก

00:06:5400:06:57 ต้มในระบบปิดคือถ้าคือเข้าใจบางคนต้มหม้อ

00:06:5700:06:58 ใหญ่แล้วไม่มีตู้เย็นอยากเก็บเค้าก็ต้ม

00:06:5800:07:00 หม้อใหญ่แต่วิธีการที่ดีคือต้องปิดฝาแล้ว

00:07:0000:07:01 ต้ม

00:07:0100:07:02 >> อ

00:07:0200:07:03 >> แล้วห้ามเปิดเลยนะแล้วห้ามคนเพราะฉะนั้น

00:07:0300:07:06 ระบบมันจะเป็นระบบปิดที่เชื้อฆ่าตลอดใช่

00:07:0600:07:09 มั้ยเชื้อเชื้อใหม่จะเข้าไปไม่ได้

00:07:0900:07:11 >> แล้วต้องแช่น้ำเย็นด้วยให้อุณหภูมิมันหลบ

00:07:1100:07:13 danger zone มันก็มีสิทธิ์อ

00:07:1300:07:17 >> รอดได้แต่มันไม่ใช่อ่าลักษณะพฤติกรรมที่

00:07:1700:07:19 ถูกต้องซะทีเดียวแลที่ผมพูดคือเชิง

00:07:2000:07:22 ปฏิบัติความจริงทำเสร็จต้องแช่เย็นให้ไว

00:07:2200:07:23 ที่สุดแล้วเอามาอุ่น

00:07:2300:07:25 >> อ๋อโอเคนั่นคือคำถามแรก

00:07:2500:07:26 >> ยาวมาก

00:07:2600:07:29 >> ยาวมากลองดูครับอันที่ 2

00:07:2900:07:32 >> อ่าไม่ใช่ good practice นะครับทำไว้

00:07:3200:07:34 ข้ามคืน

00:07:3400:07:38 >> คำถามที่ 2 ครับเออเป็นเรื่องเล่าเหล้า

00:07:3800:07:41 เก็บไว้นานยิ่งดีจริงมยแล้วถ้าหมดอายุยัง

00:07:4100:07:43 กินได้อยู่หรือเปล่าเหล้าหมดอายุมั้เชิ

00:07:4300:07:45 >> หมดอายุมี 2 แบบ Best before กับ expire

00:07:4500:07:48 ใช่มั้ XP คือหมดอายุเชิงเชื้อคือกินแล้ว

00:07:4800:07:50 ไม่ปลอดภัย Best before คือไม่ได้หมด

00:07:5000:07:52 เชิงเชื้อหมดเชิงเคมีกายภาพกลิ่นเปลี่ยน

00:07:5200:07:54 กินเหม็นหืนแต่ยังกินได้อยู่ไม่ได้เกี่ยว

00:07:5400:07:56 กับเชื้ออะไรเหล้าเราเกิดมาไม่เคยเห็น

00:07:5600:07:57 เหล้าที่

00:07:5700:07:58 >> อ

00:07:5800:08:00 >> เชื้อขึ้นเชื้อราขึ้นเพราะเหล้าแอลกอฮอล์

00:08:0000:08:00 สูง

00:08:0000:08:03 >> เพงั้นเหล้าส่วนใหญ่มันจะเป็นเชิงของ

00:08:0300:08:05 ลักษณะทาง best before มากกว่า

00:08:0500:08:07 >> เพราะฉะนั้นเหล้าที่หมดอายุอ่ะ

00:08:0700:08:10 >> มันจะยังกินได้

00:08:1000:08:12 >> ปลอดภัยเพราะแอลกอฮอล์มันเยอะมากเชื้อที่

00:08:1200:08:14 ไหนมันโตไม่ได้แต่กลิ่นมันอาจจะเพี้ยนอ

00:08:1400:08:16 >> แต่มันจะมีแอลกอฮอล์บางตัวที่มันถึงจุด

00:08:1600:08:19 พีคแล้วแบบสมมุติวายเก็บไว้ 4-5 ปีแล้วดี

00:08:1900:08:19 สุด

00:08:1900:08:20 >> อื

00:08:2000:08:22 >> ที่หลายคนที่พวกซอมเียเค้าบอกถึงจุดพีค

00:08:2200:08:23 มันน่ะ

00:08:2300:08:25 >> แล้วพอเลยจุดพีคของปีนี้มันก็จะดรอปลงคือ

00:08:2500:08:27 กลิ่นจะแย่ลงแย่ลงไอ้ที่กลิ่นแย่ลงไม่ใช่

00:08:2700:08:28 เรื่องเชื้อ

00:08:2800:08:30 >> แต่เป็นกลิ่นของลักษณะ

00:08:3000:08:33 >> อ่า sensory หรือว่ากลิ่นเคมีกลิ่นสาร

00:08:3300:08:34 เคมีในนั้น

00:08:3500:08:37 >> ที่มันระเหยออกไปทำให้กินแล้วไม่อร่อย

00:08:3700:08:38 เหมือนเดิม

00:08:3800:08:40 >> ออแต่เอาไปทำอย่างอื่นได้ทำอาหาร

00:08:4000:08:41 >> ได้ทำทำอาหารก็ได้

00:08:4100:08:41 >> อ

00:08:4100:08:43 >> มันจะมีคำว่าแบบ

00:08:4300:08:46 >> บางคนเขาเรียกว่าหรือเหล้ามันออกซิไidiz

00:08:4600:08:47 ใช่มั้ย

00:08:4700:08:50 >> มันออกซิไซไปเยอะๆไอ้พวกไวนที่มันออกซิได

00:08:5000:08:52 อ่ะยังกินได้ปลอดภัยอยู่เค้ามันมีเปเปอร์

00:08:5200:08:54 นึงเค้าบอกว่าสารที่เกิดจากการออกซิไid

00:08:5500:08:56 ของไวไม่ได้ไม่ได้อันตราย

00:08:5600:08:57 >> อือ

00:08:5700:08:59 >> ไม่เหมือนใน

00:08:5900:09:02 พวกของแห้งที่มันเหม็นหื่นเดี๋เราค่อยคุย

00:09:0200:09:03 กันอีกที

00:09:0300:09:03 >> ได้

00:09:0300:09:04 >> อันนั้นอันนั้นไม่ควรกิน

00:09:0400:09:05 >> โอเค

00:09:0500:09:07 >> มาอันต่อไปครับเชฟ

00:09:0700:09:09 >> ไวพอมั้

00:09:0900:09:10 >> ยังยาวอยู่เหรอ

00:09:1000:09:13 >> ไม่ยาวแล้วก็โอเคนะเป็นเรื่องเนื้อสัตว์

00:09:1300:09:13 ครับ

00:09:1300:09:14 >> โอ้

00:09:1400:09:17 >> เนื้อสัตว์ที่ดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบกิน

00:09:1700:09:17 ได้หรือเปล่า

00:09:1700:09:20 >> ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเนื้อวัวหรือเนื้อหมู

00:09:2000:09:21 ถ้าปัจจุบันเนี้ยเนื้อหมูเนี่ยเนี่ยใน

00:09:2100:09:24 เมืองไทยค่อนข้างอันตรายเพราะมันมีเชื้อ

00:09:2400:09:25 โรคหูดับ

00:09:2500:09:25 >> อื

00:09:2500:09:27 >> แต่ก่อนมีหูดับมันก็มีพยาธตัวกลมไอ้

00:09:2700:09:29 ไตรคีนสปalิอันนั้นน่ะครับ

00:09:2900:09:33 >> ที่เป็นแบคทีเรียที่บ่งชี้ว่าทำไมหมูต้อง

00:09:3300:09:36 กินสุกทำไมเนื้อกินดิบได้เพราะวัวไม่มี

00:09:3600:09:37 พยาธตัวนี้

00:09:3700:09:37 >> อ๋อ

00:09:3700:09:39 >> แต่หมูมันดันมีเพราะงั้นหมูต้องกินสุก

00:09:3900:09:40 กว่าเนื้อ

00:09:4000:09:41 >> เพราะต้องทำลายพยาธตัวนี้ก่อนที่

00:09:4100:09:43 >> ต้องทำลายพยาธตัวนี้ถูกต้องครับ

00:09:4300:09:45 >> แต่วัวไม่มีโอกาสที่จะมีเลยใช่มั้ยครับ

00:09:4500:09:46 >> มันมีพยาธตัวอื่นซึ่งมันไม่ได้อันตราย

00:09:4600:09:49 เท่าพยาธตัวกลมที่มีในหมูเพราะหมูอย่าลืม

00:09:4900:09:51 มันตัวมันเตี้ยมันใช้มันขุดดินอะไรอย่าง

00:09:5100:09:52 เงี้ย

00:09:5200:09:54 >> แต่วัวมันเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องที่ค่อน

00:09:5400:09:56 ข้างอยู่สูงกว่าดินเพราะฉะนั้นเชื้อพวก

00:09:5600:09:58 นี้ในร่างกายมันอ

00:09:5800:10:00 >> มีน้อยเพราะฉะนั้นอันนี้คือสาเหตุที่ว่า

00:10:0000:10:02 ทำไมสเต็กกิน rare กินmediมได้กิน rare

00:10:0200:10:04 ได้แต่หมูต้องกิน

00:10:0400:10:05 >> เวลดันขึ้นไป

00:10:0500:10:07 >> อืแล้วถ้าเราพูดถึงพวกไก่หรือซีฟุ

00:10:0700:10:10 >> ไก่ไม่ควรเลยเพราะว่าไก่มีเชื้อของมันน่ะ

00:10:1000:10:11 เค้าเรียกซาโมเดล่า

00:10:1200:10:14 >> อันนี้มีไม่ว่าจะเลี้ยงสะอาดแค่ไหนก็ยัง

00:10:1400:10:14 มี

00:10:1400:10:18 >> เพราะฉะนั้นไก่เนื้อไก่เขาไม่นิยมทานดิบ

00:10:1800:10:20 >> อยู่ในเนื้อหรือว่าอยู่ที่ผิว

00:10:2000:10:21 >> อยู่เนื้อไก่ของมันอยู่แล้ว

00:10:2100:10:24 >> อ๋อเพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าเชื้อโรคจะเกิด

00:10:2400:10:26 ที่ผิวเท่านั้นมันมีอยู่ในเนื้อ

00:10:2600:10:28 >> ถูกต้องถูกต้องถูกต้อง

00:10:2800:10:29 >> ก็ควรทำให้สุก 100%

00:10:2900:10:32 >> ควรทำให้สุกไก่ควรสุก 100% สุก 100% คือ

00:10:3200:10:34 ชัวร์ๆคืออุณหภูมิ

00:10:3400:10:36 จุดที่เย็นที่สุดหรือจุดที่ลึกที่สุดของ

00:10:3600:10:38 เหลือไก่ที่คุต้องเกิน 72

00:10:3800:10:40 >> ความจริงเกิน 70 ก็รอดแล้วแต่หลายคนบอก 70

00:10:4000:10:42 72 เพราะให้มันชัวร์ว่ามันเกินกว่า 70

00:10:4200:10:42 แน่ๆ

00:10:4200:10:43 >> เอๆ

00:10:4300:10:46 >> นั่นแหละครับเพราะงั้นไก่หมูควรกิน

00:10:4600:10:47 >> สุก

00:10:4700:10:47 >> ครับ

00:10:4700:10:51 >> อืแล้วเนื้อวัวควรกินควรกินสุกหมดทุก

00:10:5100:10:53 อย่างแต่เนื้อวัวมันเป็นอะไรที่สามารถกิน

00:10:5300:10:56 กึ่งสุกกึ่งดิบได้ครับ

00:10:5600:10:57 >> แต่กินสุกก็จะดีที่สุด

00:10:5700:10:59 >> ใช่แต่เนื้อวัวกินสุกก็ไม่อร่อยไงเวลดัน

00:10:5900:11:00 มันก็จะแห้ง

00:11:0000:11:02 >> อ่าก็แล้วแต่อืแล้วแต่คนชอบด้วยนะแล้วก็

00:11:0200:11:04 ผมไม่แน่ใจว่าเค้าจะถามครอบคลุมไปถึงพวก

00:11:0400:11:06 ซีฟู้ดหรือเปล่า

00:11:0600:11:06 >> กึ่งสุกกึ่งดิบ

00:11:0600:11:09 >> ซีฟู้ดซีฟู้ดนี่แล้วแต่ช่วงเวลาเลยหอยนาง

00:11:0900:11:12 รมความจริงมันกินดิบได้แต่บางช่วง

00:11:1200:11:15 >> อ่าน้ำทะเลมันเกิดโรคระบาดอะไรขึ้นก็มี

00:11:1500:11:16 บางช่วงที่เขาออกข่าวว่าช่วงนี้อย่าเพิ่ง

00:11:1600:11:19 กินหอยนางรมดิบนะอะไรประมาณเนี้ยส่วน

00:11:1900:11:22 เนื้อปลามันก็มีหลายหลายทฤษฎีมาก

00:11:2200:11:23 >> อ

00:11:2300:11:25 >> เขาบอกไอ้เนื้อปลาเกดซาซิมิอ่ะที่บอกว่า

00:11:2500:11:27 เกดซาซิมิเพราะมันมีการไล่เลือดไล่คาวออก

00:11:2700:11:30 มันถึงกินได้ทำไมแซลมอนบัง

00:11:3000:11:31 >> บัง

00:11:3100:11:33 >> คุณภาพไม่สามารถกินดิบได้ทำไมกินดิบได้

00:11:3300:11:36 มันอยู่ที่กระบวนการไล่เลือดหลังที่เอา

00:11:3600:11:38 >> ปลาขึ้นมาเพราะส่วนใหญ่พยาธอะไรพวกนี้มัน

00:11:3800:11:39 อยู่ในในเลือดใช่

00:11:3900:11:40 >> เลือดเลือดอ๋อ

00:11:4000:11:44 >> ที่เขาใช้อคจgเมะชินเคมนเนี่ยไล่เลือดของ

00:11:4400:11:44 ปลา

00:11:4400:11:46 >> อะไรประมาณนั้นแต่กระบวนการไล่เลือดส่วน

00:11:4600:11:47 ตัวผมก็ทำไม่เป็นนะ

00:11:4700:11:47 >> อือๆ

00:11:4700:11:50 >> แต่เคยเคยชาวประมงอ่ะที่เขาจัดการปลาที่

00:11:5000:11:51 ทำเกดซาซิมิของเขา

00:11:5100:11:53 >> ดึงเลือดอยู่เหมือนตัดเส้นเลือดตรง

00:11:5300:11:55 ตำแหน่งนึงอ่ะแล้วก็พืชออกมาเลยอ่ะ

00:11:5500:11:56 >> อือๆ

00:11:5600:11:59 >> ก็คือการไม่ให้มีเชื้อโรคในเลือดในตัวปลา

00:11:5900:12:00 ให้มากที่สุดโอเค

00:12:0000:12:01 >> ใช่ๆ

00:12:0100:12:03 >> อ่ะต่อไปเลยครับเชฟ

00:12:0300:12:05 >> อื

00:12:0500:12:07 >> ดีนะมันก็สุ่มๆดีนะเนี่ยชอบอย่างงั้น

00:12:0700:12:10 >> สสลับสมองไม่ทันล่ะ

00:12:1000:12:14 >> อันนี้คลาสสิคเหมือนกันครับของตกพื้น 5

00:12:1400:12:15 วินาทีกินได้จริงมั้ย

00:12:1500:12:16 >> ไม่จริง

00:12:1700:12:18 >> เชื้อโรคมันไม่ได้มีตาที่บอกว่าเฮ้ย 10

00:12:1800:12:21 วินาทีกำลังจะเกาะนะหรือ 1 วินาทีเกาะไม่

00:12:2100:12:24 ทันเปล่าครับตกแค่เสี้ยววินาทีมัน att ลง

00:12:2400:12:26 ไปมันเกาะขึ้นมาเลย

00:12:2600:12:26 >> อื

00:12:2600:12:28 >> มันไม่จำเป็นมันไม่ได้มีหลักวินาทีตก

00:12:2800:12:30 เสี้ยววินาทีถ้าโดนพื้นเชื้อโรคก็เกาะ

00:12:3000:12:32 อาหารขึ้นมาทันที

00:12:3200:12:34 >> อยู่ที่ว่าจะได้สุ่มได้เชื้อโรคอะไรมา

00:12:3400:12:36 >> เชื้อโรคอะไรมาพื้นสะอาดมั้ยพื้นสกปรก

00:12:3600:12:39 มั้ยถ้าเป็นโต๊ะนี้ถ้าตกผมอาจจะกิน

00:12:3900:12:40 >> อ๋อ

00:12:4000:12:42 >> เพราะเค้าเช็ดแอลกอฮอล์ตลอดใช่มั้แต่ถ้า

00:12:4200:12:44 เป็นพื้นที่แบบเนี่ยพื้นเนี้ย

00:12:4400:12:46 >> ที่มีรองเท้าจากข้างนอกมาก็ไม่กิน

00:12:4600:12:47 >> อืครับ

00:12:4700:12:51 >> แล้วมันมีอีกอันนึงคือแบบเราทำทำลูกอมตก

00:12:5100:12:55 ล้างน้ำให้มันแบบสักพักนึงแล้วอมต่อได้

00:12:5500:12:55 มั้

00:12:5500:12:56 >> เป็นผมผมอมนะ

00:12:5600:12:57 >> เออ

00:12:5700:12:59 >> เพราะว่าเชื้อโรคมันเกาะอยู่แค่ผิวนอก

00:12:5900:12:59 >> ผิวนอก

00:12:5900:13:01 >> ใช่มั้พอล้างไอ้น้ำตาลที่มันอยู่ข้างนอก

00:13:0100:13:02 มันก็ค่อยๆละลายออก

00:13:0200:13:04 >> สิ่งที่ผมทำบ่อยสุดอ่ะคือน้ำแข็ง

00:13:0400:13:06 >> อ่าๆใช่ๆน้ำแข็งอันนึง

00:13:0600:13:08 >> บางทีตกไปตรงโต๊ะปึ๊บขอไปล้างน้ำให้ให้

00:13:0800:13:10 ข้างนอกออกนิดนึงละลายไป

00:13:1000:13:12 >> แต่ที่สุดจะทำตกเลย

00:13:1200:13:13 >> จะทำตกเลย

00:13:1300:13:14 >> หรือไม่ก็ต้องเสียได้ขนาดนั้น

00:13:1400:13:15 >> ใช่หรืออาหารไหนที่มันไม่สามารถล้างแล้ว

00:13:1500:13:17 ละลายได้เหมือนน้ำแข็งหรือลูกอมก็ก็ไม่

00:13:1700:13:18 ขวดอือ

00:13:1800:13:20 >> เฉือนเฉือนออกเฉือนออก

00:13:2000:13:21 >> อ๋อ

00:13:2100:13:22 >> แต่ใครจะจำได้ตกพื้นตกด้านไหน

00:13:2200:13:24 >> ตกด้านไหนแต่น้ำแข็งมันล้างได้

00:13:2400:13:25 >> ใช่

00:13:2500:13:26 >> แต่ก็อย่าเสียดายเลยครับน้ำแข็งแค่นิด

00:13:2600:13:27 เดียวเอง

00:13:2700:13:28 >> เอาทิ้งไปเหอะ

00:13:2800:13:30 >> อย่าไปเสี่ยงกับพื้นรองเท้าเลยครับ

00:13:3000:13:32 >> ครับ

00:13:3200:13:35 ข้อต่อไปครับอ่าอันนี้ก็คำถามคลาสสิก

00:13:3500:13:39 เหมือนกันน้ำผึ้งเก็บไว้นานๆได้จริงมั้ย

00:13:3900:13:40 แล้วมันไม่เสียจริงหรึเปล่าน้ำ

00:13:4000:13:42 >> เสียได้น้ำผึ้งเสียได้หลายคนน่ะคิดว่าน้ำ

00:13:4200:13:43 ผึ้งเป็นของอมตะ

00:13:4300:13:45 >> เก็บไว้นานๆไม่เสียความจริงมันมีเชื้อตัว

00:13:4500:13:47 นึงเ้าเรียกว่าไซโกไซ

00:13:4700:13:50 คือยีสที่ทนน้ำตาลสูงๆได้

00:13:5000:13:50 >> ออฮะ

00:13:5000:13:52 >> นะครับหลายหลายครั้งลองสังเกตดิน้ำผึ้ง

00:13:5200:13:55 เวลาเก็บไว้นานๆเปิดมามันจะมีแก๊สใช่มั้ย

00:13:5500:13:56 มันจะมีเสียงแก๊สนิดหน่อย

00:13:5600:13:57 >> อือ

00:13:5700:14:00 >> อันนั้นน่ะคือยีสมันโตแล้วมันผลิตแก๊ส

00:14:0000:14:01 คาร์บอนไดออกไซด์อยู่

00:14:0100:14:03 >> แล้วมีอันตรายกับร่างกายยังไง

00:14:0300:14:05 >> ไม่ได้มีไม่ได้มีอันตรายแค่แค่คุณสมบัติ

00:14:0500:14:07 ของน้ำผึ้งมันเสียไปกลิ่นมันเพี้ยนหรือ

00:14:0700:14:09 ว่ามันมีกลิ่นหมักนิดหน่อย

00:14:0900:14:13 >> อืถามอ่ะถ้าถามว่าเสียได้มั้ยเสียได้

00:14:1300:14:14 >> แต่โอกาสเสียได้น้อย

00:14:1400:14:16 >> อ่ากินได้อาจจะไม่อันตรายแต่แค่ลดชาติ

00:14:1600:14:17 เปลี่ยนไปเฉยๆ

00:14:1700:14:18 >> ใช่อ

00:14:1800:14:20 >> แต่โอกาสเสียน้อยครับเจอแบบ 1 ใน 100 ขวด

00:14:2000:14:21 อะไรประมาณเนี้ย

00:14:2100:14:21 >> อือ

00:14:2100:14:23 >> คือมันต้องได้แจ็คพอตที่เชื้อนั้นมันปี

00:14:2300:14:25 จากอากาศลงน้ำผึ้ง

00:14:2500:14:25 >> เออ

00:14:2500:14:26 >> มันต้องแบบนั้น

00:14:2600:14:29 >> คือถ้าห้องมันสะอาดมากกระบวนการบรรจุน้ำ

00:14:2900:14:30 ผึ้งสะอาด

00:14:3000:14:32 >> ก็มีโอกาสอยู่ได้ตลอดไปเพราะน้ำผึ้งน้ำ

00:14:3200:14:34 ตาลน้ำตาลมันสูงมาก

00:14:3400:14:36 >> อืยกเว้นว่าสมมุติว่ามันมีเชื้ออะไรบาง

00:14:3700:14:39 ตัวมามาอยู่บนพื้นผิวของน้ำผึ้งแล้วเรา

00:14:3900:14:42 กินเชื้อตัวนั้นไปโดยตรงเงี้ยก็อันตรายม

00:14:4200:14:45 สมมุติว่าเปิดฝาขวดน้ำผึ้งทิ้งไว้มีเชื้อ

00:14:4500:14:46 มาเกาะอยู่บนพื้นผิวมันจะอยู่

00:14:4700:14:50 >> อ๋อใช่เช่นแบบสมมุตินะน้ำผึ้งเปิดฟ้าขวด

00:14:5000:14:51 สมมุตินี่เป็นขวดน้ำผึ้ง

00:14:5100:14:53 >> แล้วแม่สับไก่ดิบ

00:14:5300:14:54 >> เออใช่อะไร

00:14:5400:14:54 >> ก็มีสิทธิ์

00:14:5500:14:56 >> แต่มันไม่ใช่เสียเพราะพอน้ำผึ้งมันเสีย

00:14:5600:14:57 จากเชื้อจากไก่กระเด็น

00:14:5700:14:58 >> นั่นแหละ

00:14:5800:15:00 >> อือก็มีความเป็นปนเปื้อนได้อยู่

00:15:0100:15:02 >> เป็นเเรียกว่า cross contaminate ไม่ได้

00:15:0200:15:04 ไม่ได้สปอยโดยตรง

00:15:0400:15:07 >> อโอเคฮะคำถามที่เท่าไหร่นะเนี่ยไม่รู้

00:15:0700:15:07 แล้วไม่นับแล้ว

00:15:0700:15:10 >> ทำเวลามาก

00:15:1000:15:14 >> อ่าโอเคภาชนะอย่างกาน้ำชาครับลวกร้อนก่อน

00:15:1400:15:16 ใช้ค่าเชื้อได้แค่แค่ไหน

00:15:1600:15:17 >> มันขึ้นอยู่กับว่าลวกยังไงสมมุติว่ามีน้ำ

00:15:1800:15:20 เดือดอยู่แล้วเอา

00:15:2000:15:23 ทั้งการน้ำชาทั้งเซตอ่ะลงไปต้มมันก็ตาย

00:15:2300:15:23 หมดอือ

00:15:2400:15:26 >> ตายเกือบหมดดีกว่ายกเว้นมีสปอก็จะไม่ตาย

00:15:2600:15:27 แต่ว่าอ

00:15:2700:15:30 >> ถ้าแค่กินหลายๆปากใช่มั้ยแล้วมีเป็นชุด

00:15:3000:15:33 น้ำชาหยุดแล้วเทราดโอกาสฆ่าเชื้อมันไม่

00:15:3300:15:35 100% เพราะเราไม่รู้ว่าราดมันทั่วหรือ

00:15:3500:15:37 เปล่าแต่การที่มีน้ำร้อนอยู่แล้วจุ่มลงไป

00:15:3700:15:39 เลยมันโดนทุกพื้นผิวอ

00:15:3900:15:39 >> อื

00:15:3900:15:42 >> อันนี้น่าจะเป็นเคสที่แบบคนสมัยก่อนที่

00:15:4200:15:45 ไม่อยากล้างกาน้ำชาด้วยน้ำยาชาหลังจานแน่

00:15:4500:15:48 >> อ่าใช่อันเนี้ยมันได้มาจากเอ่อเพื่อนที่ช

00:15:4800:15:52 ดื่มชาครับแล้วก็คำถามเขาก็คือเค้าก็บอก

00:15:5200:15:54 ว่าส่วนใหญ่เขาจะไม่ค่อยใช้น้ำยาล้างจาน

00:15:5400:15:58 ล้างน้ำชากันเพราะว่ามันจะมีการแบบบ่มชา

00:15:5800:16:01 ที่เคยกินแล้วอะไรมาอยู่ซึ่งลวกน้ำร้อนผม

00:16:0100:16:04 ก็เข้าใจว่าได้แต่มันมีมันอาจจะมีพวกเศษ

00:16:0400:16:06 ใบช้าเก่าอะไรอย่างงี้ติดอยู่

00:16:0600:16:09 >> เศษใบช้าไม่ซีเรียสเท่ากับโรคติดต่อทาง

00:16:0900:16:11 น้ำลายยุคนี้มากกว่าเชื้อในน้ำลายนี่เยอะ

00:16:1100:16:14 กว่าเชื้อใบชาเยอะมากแต่ผมเข้าใจว่าไอ้

00:16:1400:16:16 ที่ถ้วยน้ำชาที่เขาไม่อยากให้ล้างคือ

00:16:1600:16:18 เมื่อก่อนน่าจะเป็นถ้วยดินเผาที่มันมีการ

00:16:1800:16:21 ดูดซึมกลิ่นชาแต่หลังๆมันเป็นถ้วยเคลือบ

00:16:2100:16:21 ถ้วยเซรามิกอ่ะ

00:16:2100:16:22 >> อือ

00:16:2200:16:23 >> กลิ่นชาไม่ติดอยู่แล้ว

00:16:2400:16:24 >> ออ

00:16:2400:16:26 >> น้ำยาล้างจานล้างได้ไม่เกี่ยวกับความ

00:16:2600:16:26 อร่อยเลย

00:16:2600:16:30 >> อืแต่ว่าแต่ว่าพวกดินเผานี่ก็น่าสนใจไอ้

00:16:3000:16:32 รูพรุนของดินเนี่ยมันสามารถกักเก็บใช้โรค

00:16:3200:16:32 อะไรได้

00:16:3200:16:35 >> ก็มีสิทธิ์มีสิทธิ์มีสิทธิ์แต่การลวกน้ำ

00:16:3500:16:37 ร้อนหรือต้มก็ช่วยได้เพราะว่าน้ำร้อนมัน

00:16:3700:16:38 ก็

00:16:3800:16:39 >> ซึมเข้าไปใน

00:16:3900:16:42 >> ดินเผาได้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยฆ่า

00:16:4200:16:42 เชื้อได้

00:16:4200:16:45 >> ก็คือน้ำเดือดปกติ้ำปอ

00:16:4500:16:48 >> แต่ควรมั่นใจว่ามันจมจริงๆอ่ะไม่ใช่แค่

00:16:4800:16:49 ราดใช่

00:16:4900:16:52 >> เอครับอ่ะต่อครับ

00:16:5200:16:55 >> ต้องคนมั้ยเนี่ยไม่ผมว่าคนไม่คนมีค่าเท่า

00:16:5500:16:57 กัน

00:16:5700:17:00 อันนี้น่าจะเป็นเออเหมือนกันคนไทยทนเชื้อ

00:17:0000:17:04 โรคได้มากกว่าชาวต่างชาติจริงมั้ย

00:17:0400:17:07 >> เหมือนจะจริงนะแต่ผมว่าเราทนกับเชื้อที่

00:17:0700:17:08 เราคุ้นเคยมากกว่าไง

00:17:0800:17:10 >> สมมุติเรา

00:17:1000:17:12 >> เราก็จะทนสมมุติว่าอาหารเราเป็นอย่างข้าว

00:17:1200:17:14 ข้าวผัดกะเพราส้มตำลาบครับเราก็จะทนกับ

00:17:1400:17:16 เชื้อที่ปกติมันอยู่ในอาหาร 3 จานนี้

00:17:1600:17:18 เพราะมันเป็นอาหารที่เรากินบ่อย

00:17:1800:17:20 >> แต่สมมุติเราไปต่างประเทศเราไปเจอเชื้อ

00:17:2000:17:22 สมมุติเจอเชื้อในชีสที่เราไม่คุ้นเขาอาจ

00:17:2200:17:25 จะทนเชื้อในชีสแต่เราไม่ทนเพราะงั้นเราผม

00:17:2500:17:26 ไม่อยากบอกว่า

00:17:2600:17:28 >> เราแข็งแรงมากกว่าต่างประเทศเราแค่แข็ง

00:17:2800:17:32 แรงกับเชื้อที่อยู่ในอาหารไทยคุ้นกับ

00:17:3200:17:33 เชื้อนี้มากกว่า

00:17:3300:17:35 >> ซึ่งมันเยอะกว่าในต่างประเทศหรือเปล่า

00:17:3500:17:36 >> ส่วนใหญ่จะโหลดเยอะกว่าเพราะว่าเราเป็น

00:17:3600:17:38 อาหารที่

00:17:3800:17:40 >> อุณหภูมิห้องอ่ะเชื้อมันโตได้ไวกว่าอัน

00:17:4100:17:43 นี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมคนต่างประเทศบางที

00:17:4300:17:45 อยู่เมืองบ้านเขาไม่เป็นไรมาบ้านเรากิน

00:17:4500:17:46 อาหารมื้อเดียวอ

00:17:4600:17:46 >> ท้องเสียเลย

00:17:4600:17:47 >> ท้องเสีย

00:17:4700:17:47 >> เออ

00:17:4700:17:48 >> อื

00:17:4800:17:51 >> เป็นเพราะว่าใช้โรคมันโตในอากาศแบบบ้าน

00:17:5100:17:51 เรา

00:17:5100:17:55 >> มัน 2 อย่างโหลดเยอะกว่าปริมาณเยอะกว่า

00:17:5500:17:56 กับเป็นเชื้อที่เขาไม่คุ้น

00:17:5600:17:56 >> อื

00:17:5600:17:59 >> เพราะเค้าเชุเคุ้นกับเชื้อบ้านเขาไง

00:17:5900:18:02 >> อ๋อโหลดเยอะกว่านี่หมายถึงว่าเราเราใส่ใน

00:18:0200:18:04 หลายๆอย่างในอาหารไทยอย่างงี้เหรอ

00:18:0400:18:07 >> จำนวนไม่โหลดก็คือว่าตอนแรกทำมาใหม่ๆก็

00:18:0700:18:09 อาจจะยังไม่มีแต่น้อยคนที่จะกินอาหารที่

00:18:0900:18:11 ปรุงสุกใหม่บางทีเเก็บไว้ 2-3 ชั่วโมง

00:18:1100:18:13 เชื้อที่จากน้อยๆค่อยค่อยๆโตค่อยๆโตมันโต

00:18:1300:18:16 ไวกว่าไงเพราะว่าอุณหภูมิบ้านเรามันอุ่น

00:18:1600:18:16 กว่าอ

00:18:1600:18:17 >> อือ

00:18:1700:18:18 >> โอเค

00:18:1800:18:18 >> นั่นแหละครับ

00:18:1800:18:21 >> งั้นถ้ามีเพื่อนฝรั่งมาก็ควรที่จะ

00:18:2100:18:22 >> อุ่น

00:18:2200:18:22 >> อุ่นทุกอย่าง

00:18:2300:18:25 >> ทำไมบ้านยูกินอาหารร้อนตลอดเวลา

00:18:2500:18:27 >> อ

00:18:2700:18:30 >> คำถามต่อไปครับอันเนี้ยก็คลาสสิคครับ

00:18:3000:18:34 คลาสสิกทุกอันน่ะกระป๋องเออได้ยินบ่อยๆใน

00:18:3400:18:36 เรื่องกระป๋องบุบแล้วก็เกิดแบบความเน่า

00:18:3600:18:36 เสีย

00:18:3600:18:37 >> อือ

00:18:3700:18:39 >> กระป๋องที่บุบเพราะแรงกระแทกกับกระป๋อง

00:18:3900:18:40 ที่เสียเนี่ยมันดูออกมั้ครับว่ามันต่าง

00:18:4100:18:42 กันยังไง

00:18:4200:18:44 >> หลักๆไม่ว่าจะบุบยังไงไม่ไม่ควรไปกินมัน

00:18:4400:18:46 แต่ถ้าแบบถ้าอยากเลือกจริงๆอ่ะส่วนใหญ่

00:18:4600:18:48 ถ้าบุบเพราะแรงกระแทกแล้วยังกินได้มันจะ

00:18:4800:18:50 บุบตรงบอดี้มันสมมุติว่านี่นี่คือกระป๋อง

00:18:5000:18:50 เงี้ย

00:18:5000:18:51 >> ครับ

00:18:5100:18:54 >> บุบตรงเไม่เป็นไรแสดงว่าบุบเข้าอ่ะบุบ

00:18:5400:18:57 เข้าคือโดนแรงกระแทกจากการขนส่ง

00:18:5700:19:00 >> แต่พองออกคือมาจากเชื้อที่หายใจแล้วเกิด

00:19:0000:19:02 แก๊สในนี้ความจริงการเสียของอาหารกระป๋อง

00:19:0200:19:05 มีหลายแบบมากบางทีไม่ต้องผ่องเลย

00:19:0500:19:06 >> อื

00:19:0600:19:08 >> เรียบทุกอย่างถ้าเป็นศัพท์เ้าเรียกว่า

00:19:0800:19:11 แฟลชาวด์คือข้างในเปรี้ยวแต่กระป๋องไม่

00:19:1100:19:13 บวมแฟลชไงแบ่ง

00:19:1300:19:14 >> ก็เสียได้

00:19:1400:19:17 >> แต่เราไม่รู้แต่ถ้ามันพองออกมาเนี่ยไม่

00:19:1700:19:20 ควรกินนะหรือถ้ามันบุบเข้าบุบเข้าตรงนี้

00:19:2000:19:21 ไม่เป็นไรใช่มั้ย

00:19:2100:19:22 >> แต่ถ้าบุบเข้าตรง

00:19:2200:19:23 >> ขอบ

00:19:2300:19:23 >> อ๋อ

00:19:2300:19:26 >> อันตรายเพราะตรงนี้มันเป็นส่วนเขาเรียก

00:19:2600:19:29 ว่าส่วนรอยต่อระหว่างฝากับแคนเพราะปกติ

00:19:2900:19:32 เวลาผลิตกระป๋องมันจะมีส่วนบอดี้กับส่วน

00:19:3200:19:33 แคน

00:19:3300:19:35 >> แต่เขาจะมาเชื่อมกันด้วยเ้าเรียกว่าซีม

00:19:3500:19:36 ซีมตรงขอบมันน่ะ

00:19:3600:19:38 >> ถ้าบุบตรงขอบมีโอกาสที่เชื้อข้างนอกจะ

00:19:3900:19:40 เข้าไปได้อ

00:19:4000:19:41 >> อ๋อ

00:19:4100:19:43 >> แต่ถ้าบุบตรงเนี้ยส่วนใหญ่ไม่เป็นไรอาจจะ

00:19:4300:19:44 เกิดการกระแทกอ

00:19:4400:19:46 >> แต่ถ้าพองไม่ควรกินเลย

00:19:4600:19:49 >> แล้วถ้าถ้ากระแทกเนี่ยมันจะทำให้เกิดการ

00:19:4900:19:51 เสียของกระป๋องนั้นง่ายขึ้นอีกป่ะ

00:19:5100:19:53 >> ง่ายขึ้นง่ายขึ้นง่ายขึ้นโดยเฉพาะตรงตรง

00:19:5300:19:55 ขอบจะยิ่งง่ายเพราะมันเป็นรอยต่อมันมี

00:19:5500:19:56 โอกาสมีรูเยอะ

00:19:5600:19:59 >> แต่ตรงนี้ถามว่าก็มีมั้ยมีแต่น้อยกว่า

00:19:5900:20:01 >> เพราะตรงนี้มันไม่ใช่เป็น

00:20:0100:20:03 >> ตรงบอดี้มันไม่ใช่ตรงรอยต่ออะไร

00:20:0300:20:04 >> อือๆ

00:20:0400:20:04 >> อื

00:20:0400:20:06 >> คือมันไม่เกิดจากข้างในอยู่แล้วแต่มัน

00:20:0600:20:07 เกิดจากเชื้อที่จะเข้าไป

00:20:0700:20:09 >> ใช่เพราะข้างในอาหารกระป๋องทุกที่ข้างใน

00:20:0900:20:11 เขาเรียกว่า commmercial story

00:20:1200:20:14 ที่แปลว่าเกือบจะพูดอพูดง่ายๆแทบไม่มี

00:20:1500:20:16 เชื้อเหลืออยู่เลยเพราะฉะนั้นอาหารข้างใน

00:20:1600:20:17 มันเลยอ

00:20:1700:20:18 >> ปลอดภัยมาก

00:20:1800:20:19 >> ยกเว้น

00:20:1900:20:21 >> โดนกระแทกจนเชื้อข้างนอกเข้า

00:20:2100:20:22 >> อ

00:20:2200:20:25 >> หรือเปิดแล้วเปิดแล้วปิดแล้วเก็บไม่ดีแต่

00:20:2500:20:28 เปิดครั้งนึงที่เปิดเชื้อเข้าทันทีไม่ว่า

00:20:2800:20:30 จะอยู่ในห้องสะอาดแค่ไหนอ

00:20:3000:20:32 >> ยกเว้นต้องไปอยู่ในห้องผ่าตัดที่เป็นแบบ

00:20:3200:20:33 มากๆ

00:20:3300:20:34 >> ใช่

00:20:3400:20:35 >> โอเคครับ

00:20:3500:20:36 >> จะหมดแล้วล้อเล่น

00:20:3600:20:40 >> ยังครับยังไม่ถึงครึ่งเลยมั้งครับเนี่ย

00:20:4000:20:42 การล้างจานด้วยฟองฟองน้ำที่ใช้ซ้ำๆมัน

00:20:4200:20:43 สะอาดได้จริงหรือเปล่า

00:20:4300:20:46 >> ไม่ฟองน้ำเป็นตัวที่เก็บเชื้อโรคเยอะมาก

00:20:4700:20:47 ใน

00:20:4700:20:49 >> เพราะมันมีรูพรุนเยอะ

00:20:4900:20:51 >> ใช่มั้ยมันมีรูพุนเยอะยกเว้นโหถ้าใคร

00:20:5100:20:54 สะอาดจัดใช้ครั้งนึงอ่ะราดน้ำร้อนทีนึง

00:20:5400:20:55 พ่นแอลกอฮอล์ทีนึง

00:20:5500:20:58 >> ฟองน้ำคุณเปลี่ยนครับพอมันเริ่มแบบเก่าๆ

00:20:5800:21:01 สมมุติว่าใช้อาทิตย์นึงงี้เริ่มเริ่ดำๆ

00:21:0100:21:03 แล้วควรควรเปลี่ยนเพราะมันเป็นแหล่งสะสม

00:21:0300:21:04 เชื้อ

00:21:0400:21:06 >> เราจัดการกับฟองน้ำในครัวเรายังไงครับทุก

00:21:0600:21:08 วันที่เราใช้เสร็จอ่ะ

00:21:0800:21:10 >> พอล้างเสร็จอ่ะหลายคนคิดว่ามันมีฟองแล้ว

00:21:1000:21:12 คือสะอาดความจริงไม่ใช่

00:21:1200:21:12 >> ออ

00:21:1200:21:16 >> สมมุติล้างสมมุติว่านี่คือแก้ว

00:21:1600:21:18 >> ล้างล้างแก้วเสร็จ

00:21:1800:21:20 >> แก้วสะอาดฟองน้ำมีฟองวางทิ้งไว้เนี่ยไม่

00:21:2000:21:21 ควร

00:21:2100:21:21 >> อ๋อ

00:21:2100:21:23 >> ควรปีบฟองทั้งหมดออกก่อน

00:21:2300:21:26 >> แล้วใส่ไอ้น้ำยาล้างจานอีกรอบแล้วขยำอีก

00:21:2600:21:28 รอบนึงแล้วบีบอีกครั้งนึง

00:21:2800:21:30 >> เพื่อเหมือนเป็นการทำความสะอาดฟองน้ำใน

00:21:3000:21:31 ตัวอ

00:21:3100:21:33 >> คือหลายคนล้างจานเสร็จปุ๊บล้างจานล้าง

00:21:3300:21:36 แก้วเสร็จปุ๊บเห็นว่าฟองน้ำยังมีฟองอยู่

00:21:3600:21:37 ไม่ยอมบีบคั้นออก

00:21:3700:21:39 >> วางไว้คิดว่ามีฟองแล้วสะอาดแต่ความจริง

00:21:4000:21:40 มันไม่ใช่ใช่

00:21:4000:21:43 >> ก็คือเชื้อที่เราไปเช็ดแหละมันก็ยังอยู่

00:21:4300:21:45 แล้วมันก็ไปโตในฟองน้ำ

00:21:4500:21:46 >> แล้วโตครั้งนึง

00:21:4600:21:48 >> ล้างอีกครั้งถัดไปก็จะยากแล้วเพราะว่าฟอง

00:21:4800:21:49 น้ำมันลึก

00:21:4900:21:49 >> อื

00:21:4900:21:53 >> แล้วคงไม่มีใครแบบเทน้ำร้อนราดอ่ะ

00:21:5300:21:54 >> แต่ถ้าเทน้ำร้อนราดก็จะดี

00:21:5400:21:55 >> ก็ช่วยก็ช่วยก็ช่วย

00:21:5500:21:58 >> แปลว่าเราควรทำความสะอาดฟองน้ำทุกวันนะ

00:21:5800:22:00 >> ทุกครั้งแต่ไม่ต้องถึงขนาดน้ำเดือดราดก็

00:22:0000:22:03 ได้แต่อย่างน้อยแบบพอใช้เสร็จครั้งนึงก็

00:22:0300:22:06 บีบออกให้หมดแล้วใส่น้ำยาล้างจันทอีกรอบ

00:22:0600:22:08 ขยับเหมือนซักผ้าอืเหมือนซักผ้าแค่นั้น

00:22:0800:22:09 แหละ

00:22:0900:22:11 >> ก็จะสาคือจะต้องบีบให้แห้งพอมีน้ำอยู่

00:22:1100:22:12 เชื้อก็โตได้อ

00:22:1200:22:12 >> อ๋อ

00:22:1200:22:13 >> ต้องบีบให้แห้งมาก

00:22:1300:22:15 >> แห้งแล้วก็วางไว้ตรงที่แห้ง

00:22:1500:22:17 >> วางไว้ตรงที่ระบายอากาศได้

00:22:1700:22:18 >> เพราะว่าคนก็จะใส่เข้าไปในกระป๋องที่มี

00:22:1800:22:19 น้ำยาอยู่

00:22:1900:22:22 >> อืก็ก็หมักหมมต่อ

00:22:2200:22:25 >> โอเคอันนี้ดีครับมีประโยชน์เห็นชัดที่

00:22:2500:22:26 บ้านใช้

00:22:2600:22:29 >> แต่มันจะมีร้านอาหารที่เขาแช่ไว้ใน

00:22:2900:22:31 คอนเทนเนอร์ที่มีน้ำอยู่ตลอดเวลา

00:22:3100:22:32 >> นั่นแหละอันนั้นแหละ

00:22:3300:22:34 >> มันหลายปัจจัยมาก

00:22:3400:22:37 >> ถ้าน้ำยาล้างจานเข้มข้นพอเชื้อก็ไม่โตแต่

00:22:3700:22:39 หลายที่มันเจือจางมันก็โตได้

00:22:3900:22:40 >> ชอบเติมน้ำลงไปในน้ำยา

00:22:4000:22:43 >> นั่นแหละจงแบบกลัวอะไรนะกลัวเปิแต่ Best

00:22:4300:22:46 Practice อ่ะต้องบีบให้แห้งแล้วผึ่งไว้

00:22:4600:22:47 >> อันนั้นชัวร์สุด

00:22:4700:22:47 >> อื

00:22:4700:22:48 >> ดูน่ากลัวจริงๆ

00:22:4800:22:49 >> นั่นแหละครับ

00:22:4900:22:53 >> โอเคครับ

00:22:5300:22:57 >> คำอย่างอ่าอันนี้เป็นเรื่องจากผมว่ายุค

00:22:5700:22:59 โควิดเนี่ยล้างมือก่อนกินช่วยลดเชื้อโรค

00:22:5900:23:00 ได้จริงมั้

00:23:0000:23:02 >> ลดจริงลดจริงแต่ต้องล้างล้างมือยังถูก

00:23:0200:23:04 วิธีไงผมก็จำไม่ได้หรอกว่ามันมีขั้นตอน

00:23:0400:23:07 ไหนมาแต่จำได้ว่าอย่างน้อยขั้นตอนนึงคือ

00:23:0700:23:09 ต้องถูกสบู่คงที่ไว้อย่างน้อย 20 วินาที

00:23:0900:23:11 ซึ่งหลายคนมันแค่ 5 วินาทีปัจจุบันผมก็

00:23:1100:23:13 เป็นบางที 5 วินาขี้เขียนอ

00:23:1300:23:16 >> 20 วินาทีคือลดเชื้อได้ชัดเจนที่สุด

00:23:1600:23:17 >> อือ

00:23:1700:23:19 >> มี 2 ปัจจัยถ้าอยากล้างมือให้สะอาดคือ

00:23:1900:23:21 ล้างนานพอและล้างถูกวิธีไงมันมี

00:23:2100:23:23 >> มันมีวิธีอยู่

00:23:2300:23:24 >> ช่วงโควิดเราน่าจะเห็นบ่อย

00:23:2400:23:26 >> ใช่หลายคนถูกแค่เนี้ยแล้วคงไว้ 20 วินาท

00:23:2600:23:26 >> เออ

00:23:2600:23:28 >> อ้าวไอ้ตรงข้อก็ไม่โดน

00:23:2800:23:28 >> อ

00:23:2800:23:31 >> ก็ต้องมีท่าของเขาแล้วต้องคงไว้ 20

00:23:3100:23:31 วินาทีด้วย

00:23:3100:23:32 >> น้ำเปล่าก็ไม่รอด

00:23:3200:23:33 >> น้ำเปล่าไม่รอด

00:23:3300:23:34 >> อื

00:23:3400:23:37 >> หลักการ sanitation ในอุตสาหกรรมอาหาร

00:23:3700:23:39 จริงๆอ่ะความจริงอ่ะมันมีทั้ง 3 ขั้นตอน

00:23:3900:23:42 ขั้นแรกล้างน้ำเปล่าเพื่อล้างส่วนใหญ่ออก

00:23:4200:23:44 ไปก่อนขั้นที่ 2 คือ cleaning ใช้น้ำยา

00:23:4400:23:45 ล้างจาน

00:23:4500:23:45 >> อ

00:23:4500:23:47 >> น้ำยาล้างจานคือเอาไขมันโปรตีนออกแต่

00:23:4700:23:50 เชื้อยังอยู่อันที่ 3 คือ disinfection

00:23:5000:23:51 ใช้แอลกอฮอล์

00:23:5100:23:52 >> แล้วต้องเรียงแบบนี้ด้วยนะ

00:23:5200:23:54 >> ถ้ามาถึงเอาแอลกอฮอล์ก่อนแล้ว cleaning

00:23:5400:23:57 ก็ใช่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

00:23:5700:23:59 >> ต้องเอาน้ำเปล่า

00:23:5900:24:02 >> น้ำยาล้างจานก็หรือสบู่ถ้าเป็นมือแล้วก็

00:24:0200:24:05 disinfection ก็คือแอลกอฮอล์

00:24:0500:24:05 >> ออ

00:24:0500:24:07 >> หรือว่าหรือว่าสารฆ่าเชื้ออย่างอื่นก็ได้

00:24:0700:24:11 >> อืแล้วอีกอันนี้ถามต่อเลยล้างมือก่อนกิน

00:24:1100:24:13 ข้าวเนี่ยกับเราไม่มีที่ล้างมือฉีด

00:24:1300:24:14 แอลกอฮอล์เนี่ย

00:24:1500:24:16 >> ฉีดแอลกอก็ยังดี

00:24:1600:24:16 >> ดีกว่า

00:24:1600:24:19 >> ดีกว่าคือแม้ว่าเราจะข้ามตัวคลีนingไอ้ 3

00:24:1900:24:21 อันเนี้ยคือทำให้ประสิทธิภาพมันเกือบเต็ม

00:24:2100:24:24 100% เลยแต่สมมุติเราข้ามน้ำเปล่ามาแล้ว

00:24:2400:24:26 มาแอลกอฮอล์เลยประสิทธิภาพการฆ่าเชื้ออาจ

00:24:2600:24:29 จะเหลือแค่ 70% แต่ยังดีกว่าไม่ได้ฆ่าเลย

00:24:2900:24:32 >> แต่ประสิทธิภาพมันน้อยลงเพราะมันมี dirt

00:24:3200:24:35 มีคือศัพทเขาเรียกว่าซอย s o ที่แปลว่า

00:24:3500:24:38 ดินๆซอยในที่เคือสิ่งที่ไม่ควรอยู่

00:24:3800:24:38 >> อื

00:24:3800:24:41 >> ไขมันบางทีมันไม่ควรอยู่บนมือเราแต่ถ้า

00:24:4100:24:43 มันมีไขมันการฆ่าเชื้อจะลดลงเพราะว่าไข

00:24:4300:24:45 มันมันไปปกป้องไม่ให้เชื้อโดนแอลกอฮอล์

00:24:4500:24:46 >> ออ

00:24:4600:24:49 >> อแต่ถ้าไม่มีที่ล้างมือเลยอ่ะอย่างน้อย

00:24:4900:24:51 แอลกอฮอล์ก็ดีกว่านอตติ้ง

00:24:5100:24:51 >> อ

00:24:5100:24:52 >> ครับ

00:24:5200:24:54 >> มันอันตรายแค่ไหนครับเชื้อจากมือเราไม่

00:24:5400:24:54 รู้เลย

00:24:5400:24:58 >> โอ้โหเชื้อเชื้อจากมือเราอ่ะเค้าเชื้อจาก

00:24:5800:25:00 เค้าเรียกว่า Normal Flora เนาะเชื้อจาก

00:25:0000:25:03 ผิวหนังคนเ้าเรียกว่าSTPฟิโลคอก Aus มี

00:25:0300:25:03 อยู่แล้ว

00:25:0300:25:04 >> อือ

00:25:0400:25:06 >> ไม่ว่าเราจะอาบน้ำแค่ไหนแล้วเชื้อตัว

00:25:0600:25:08 เนี้ยดันสั้นๆดันสร้างสารพิษที่ทนความ

00:25:0900:25:10 ร้อนด้วยโ

00:25:1000:25:12 >> อือันเนี้คือ

00:25:1200:25:14 เทพเจ้าสร้างมา

00:25:1400:25:16 >> ก็คือเราชะล้างเชื้อออกจากมือเราให้มาที่

00:25:1600:25:17 สุดก่อน

00:25:1700:25:19 >> ใช่เพื่อพอมันไม่มีเชื้อตัวเชื้อไม่มีพอ

00:25:1900:25:20 ไปจับอาหาร

00:25:2000:25:21 >> อ

00:25:2100:25:23 >> เชื้อก็ไม่สามารถโตบนอาหารได้เพราะไม่มี

00:25:2300:25:24 เชื้อไงอ

00:25:2400:25:27 >> มันก็สร้างสารพิษไม่ได้อาหารก็จะปลอดภัย

00:25:2700:25:27 เออโอเค

00:25:2700:25:30 >> อืก็ล่าสุดไงเคส 2 สัปดาห์ที่แล้วไงข้าว

00:25:3000:25:32 มันข้าวมันไก่มันไก่

00:25:3200:25:32 >> มีแผล

00:25:3200:25:33 >> อื

00:25:3300:25:37 >> แผลเป็นอะไรที่เชื้อปกติเชื้อสมมุติที่

00:25:3700:25:39 อย่างเชื้อที่ผิวอ่ะสมมุติมี 10 ตัวต่อ

00:25:3900:25:39 ตารางเซม

00:25:3900:25:40 >> ค่ะ

00:25:4000:25:43 >> แผลมันจะหัวเป็นพันเป็นหมื่นเท่าแล้วพอ

00:25:4300:25:47 สับเข้ามันไก่แม้ว่ามันจะติดตรงหนังไก่

00:25:4700:25:47 >> อ

00:25:4700:25:50 >> แล้วโรงเรียนนั้นสมมุติเอาไปไมโครเวฟ

00:25:5000:25:52 >> ก็ยังไม่รอดเพราะเชื้อทนความหลอน

00:25:5200:25:52 >> อ๋อ

00:25:5200:25:53 >> อือ

00:25:5300:25:55 >> คือป้องกันไม่ให้เชื้อมันมีก่อนดีกว่า

00:25:5500:25:57 >> ถูกต้องลดโหลดดีกว่า

00:25:5700:25:57 >> อือๆ

00:25:5800:26:01 >> โอเคครับอ่ะต่อไปครับ

00:26:0100:26:04 อาหารที่หมดอายุ Best before ยังกินได้

00:26:0400:26:06 อยู่มั้ครับที่มันเขียนว่า Best before

00:26:0600:26:07 เนากินได้

00:26:0700:26:07 >> เออๆ

00:26:0700:26:10 >> คำว่า best before นิยามคือมันมันหมด

00:26:1000:26:12 อายุเชิงเคมีกายภาพคือลักษณะมันมัน

00:26:1200:26:15 เปลี่ยนไปเช่นไม่กรอบเม้นหืนแต่ไม่ได้

00:26:1500:26:16 เกี่ยวกับเชื้อ

00:26:1600:26:17 >> อือ

00:26:1700:26:19 >> อาหารไหนที่ขึ้น Best before คือเสียไม่

00:26:1900:26:22 เกี่ยวกับเชื้อเลยแต่อาหารไหนที่ขึ้นว่า X

00:26:2200:26:23 expirate

00:26:2300:26:24 >> ครับ

00:26:2400:26:28 >> มันจะเสียเชิงเชื้อก่อนเสียเชิงคุณภาพ

00:26:2800:26:29 >> คือมันจะมีตัวเชื้อเกิดขึ้นมา

00:26:2900:26:30 >> เกิดขึ้นก่อน

00:26:3000:26:31 >> อื

00:26:3100:26:34 >> อืเกิดขึ้นก่อนเช่นแน่ๆนมสด

00:26:3400:26:34 >> อ่า

00:26:3500:26:36 >> นมพัจจอไรอย่างเงี้ยครับ

00:26:3600:26:38 >> ปูดก่อนเหม็นหืนแน่นอน

00:26:3800:26:40 >> เพราะฉะนั้นเเลยใช้ expire แต่สมมุติน้ำ

00:26:4000:26:42 ปลาเนยถั่ว

00:26:4200:26:42 >> อือ

00:26:4200:26:45 >> เชื้อไม่ทันได้โตครับแต่สีเปลี่ยนเหม็น

00:26:4500:26:48 หืนแล้วจะใช้ Best before อันนี้คือวิธี

00:26:4800:26:51 การจำแนกเพราะฉะนั้นถ้าเป็น Best before

00:26:5100:26:55 แค่สีมันเข้มขึ้นก็ไม่ได้อันตรายอะไรแค่

00:26:5500:26:57 ถ้าเอาไปปรุงอาหารนั้นอาจจะอ

00:26:5700:27:00 >> ไม่เหมือนเดิมเพราะสีอาจจะเข้มขึ้น

00:27:0000:27:02 >> อืเพราะฉะนั้นทุกคนไม่ใช่แค่ดูแค่วันที่

00:27:0200:27:04 เนาะควรจะดูว่ามันคือ best before หรือ x

00:27:0400:27:05 >> ใช่

00:27:0600:27:08 แต่ถ้าทำอุตสาหกรรมอาหารหรือร้านอาหาร

00:27:0800:27:08 จริงๆอ่ะ

00:27:0800:27:09 >> ครับ

00:27:0900:27:10 >> Best before ก็ไม่ควรแตะเพราะอย่าลืม

00:27:1000:27:13 ว่าเวลาทำเราทำอาหารให้ลูกค้าคุณภาพต้อง

00:27:1300:27:16 คงที่คุณภาพในที่นี้คือทั้งเชื้อและ

00:27:1600:27:16 >> รสชาติ

00:27:1600:27:19 >> รสชาติด้วยแต่ถ้าทำเองที่บ้านแล้วแบบโห

00:27:1900:27:21 ซื้อมาตั้งเยอะแล้ว Best before เพิ่ง

00:27:2100:27:23 เมื่อวานอย่างเงี้ยใช้ได้ไม่มีปัญหา

00:27:2300:27:24 >> อือๆ

00:27:2400:27:24 >> ครับ

00:27:2400:27:27 >> คือหลายคนก็คงแบบดูแค่วันที่เนาะโดยที่

00:27:2700:27:28 ไม่รู้อ่ะ

00:27:2800:27:30 >> แล้วก็แบบอุ้ยมัน best before แล้วก็หมด

00:27:3000:27:31 ไปแล้วเมื่อวานนี้

00:27:3100:27:33 >> ก็กินไม่ได้แล้วสิอะไรอย่างเงี้ยแต่จริงๆ

00:27:3300:27:34 มันยังกินได้อยู่

00:27:3400:27:36 >> กินได้แล้วส่วนส่วนใหญ่อ่าผลิตภัณฑ์อาหาร

00:27:3600:27:38 ที่เป็น Best before พวกนี้เขาจะตั้ง

00:27:3800:27:39 เผื่อไว้

00:27:3900:27:40 >> นานแค่ไหนครับ

00:27:4000:27:44 >> แล้วแต่ผลิตภัณฑ์เลยบางทีเขาทดสอบว่าเฮ้ย

00:27:4400:27:46 2 ปีเหม็นหืน

00:27:4600:27:47 >> เ้าอาจจะตั้ง Best before เป็น 1 ปี

00:27:4700:27:49 ครึ่งเผื่อไว้

00:27:4900:27:49 >> อื

00:27:4900:27:51 >> ก็ก็มีโอกาส

00:27:5100:27:53 >> เอ้ยอยากรู้เลยครับว่าเวลาเ้าทำผลิตภัณฑ์

00:27:5300:27:55 กันเนี่ยเค้าไปทดสอบ Best before กันยัง

00:27:5500:27:56 ไง

00:27:5600:28:00 >> โหมันมันลึกมากคือไม่มีใครตั้งไว้ 1 ปี

00:28:0000:28:02 เต็มเขาจะมีเรียกว่า Accelerate Shelf

00:28:0300:28:05 life คือสมมุติว่าเรู้ว่าเวลาลูกค้าเอา

00:28:0500:28:08 ไปเก็บวางไว้ที่อุณหภูมิ 25 องศาถึงจะหมด

00:28:0800:28:09 2 ปี

00:28:0900:28:12 >> แต่ถ้ารอหมด 2 ปีผลิตภัณฑ์ไม่ได้ทันออก

00:28:1200:28:13 >> เก็จะเร่งเจะเร่ง

00:28:1300:28:13 >> อ๋อ

00:28:1300:28:15 >> เช่นเพิ่มอุณหภูมิไปบ่มไปที่อุณหภูมิ

00:28:1600:28:17 40-50 องศาซิ

00:28:1700:28:17 >> อ

00:28:1800:28:19 >> เพราะงั้น Best before มันจะเร็วขึ้น

00:28:1900:28:21 แล้วเขาจะมีสมการของเขาอ่ะถ้าจำไม่ผิดนะ

00:28:2100:28:25 จะมั้งเ้าบอกว่าถ้าอุณหภูมิเท่านี้เสีย

00:28:2500:28:26 ภายใน 2 อาทิตย์

00:28:2700:28:29 >> ถ้า 25 เสียภายในกี่ปีมันเทียบได้

00:28:2900:28:31 >> อือ๋อมันก็จะมีการเทียบกันอยู่

00:28:3200:28:34 >> ใช่ของของพวกผมก็แบบเข้าใจพวกฟุไ 2 ปีมัน

00:28:3400:28:37 ต้องรอ 2 ปีเลยถึงแต่ expire เดไม่ค่อย

00:28:3700:28:38 เพราะ expire มันสั้นไง

00:28:3800:28:38 >> ใช่

00:28:3800:28:41 >> 14 วันใช่มั้ยก็รอ 14 วันแป๊บเดียวไม่

00:28:4100:28:42 ต้องไป accelerate ก็ได้อ

00:28:4200:28:43 >> อื

00:28:4300:28:43 >> อือ

00:28:4300:28:45 >> แล้วอ่ะอีกคำถามนึง Best before มัน

00:28:4500:28:47 สามารถ

00:28:4700:28:49 >> เอ่อเรียกว่าอะไรยืนระยะของมันในตู้เย็น

00:28:4900:28:50 ได้มั้ยฮะ

00:28:5000:28:52 >> ยืดได้ยืดได้เพราะส่วนใหญ่ Best best

00:28:5200:28:54 before ส่วนใหญ่เขาจะเขาจะทดลองที่เขียน

00:28:5400:28:56 ไว้คืออุณหภูมิห้อง

00:28:5600:28:56 >> อือ

00:28:5600:28:59 >> แต่ถ้าเราไปแช่เย็นกระบวนการเหม็นหืน

00:28:5900:29:01 กระบวนการที่สีจะเปลี่ยนก็จะช้าลงเพราะ

00:29:0100:29:04 ปฏิกิริยาส่วนใหญ่ในโลกเนี้ยพออุณหภูมิลด

00:29:0400:29:05 มันจะเกิดช้าลง

00:29:0500:29:05 >> อื

00:29:0500:29:06 >> ครับ

00:29:0600:29:10 >> โอเคต่อเลยครับ

00:29:1000:29:14 >> โอเคข้าวครับข้าวสารเนาะเก็บไว้นานแค่ไหน

00:29:1400:29:16 ถึงจะควรทิ้งฮะ

00:29:1600:29:16 >> ข้าวสาร

00:29:1700:29:18 >> ตามฉลากเลยครับ

00:29:1800:29:21 >> เพราะตามฉลากเขาจะเขียนเเหมือนเขาจะระบุ

00:29:2100:29:25 ไว้พอมันพอมันเกินที่เขาเขียนน่ะส่วนใหญ่

00:29:2500:29:28 สิ่งที่ที่สิ่งที่เสียคือมันมอดขึ้น

00:29:2800:29:30 >> มอดขึ้นถือว่าเป็นข้าวเสียเหรอ

00:29:3000:29:33 >> มันไม่ควรกินเพราะว่ามอดคือในข้าวอ่ะมัน

00:29:3400:29:36 จะมีไข่มอดมาตามธรรมชาติอยู่แล้วถ้าเก็บ

00:29:3600:29:38 ไม่ดีหรือมีออกซิเจนเยอะมันก็จะฟักเป็น

00:29:3800:29:40 ตัวแล้วมอดมันก็จะไปกินข้าวคือข้าวมันก็

00:29:4000:29:44 จะเหมือนข้าวที่โดนหมอดกิน 1 นอกจากเม็ด

00:29:4400:29:47 หักไม่พอบางทีเราไม่รู้ว่ามอดมันมีเชื้อ

00:29:4700:29:50 ถ้ามอดโตได้มีโอกาสที่จุลินทรีย์ก็โตได้

00:29:5000:29:52 ด้วยแล้วบางทีหมอดมันเป็นสัตว์ใช่มั้ย

00:29:5200:29:54 >> กินข้าวเสร็จมันก็ต้องขี้ออก

00:29:5400:29:56 >> อจะกินขี้มอด

00:29:5600:30:00 >> ไม่ควรข้าวที่ข้าวที่มอดขึ้นน่ะไม่ควรกิน

00:30:0000:30:01 แต่บางทีถ้ามันเริ่มขึ้นแล้วหลายคนบอก

00:30:0100:30:04 เฮ้ยเอาไปล้างก็ยังใช้ได้อยู่

00:30:0400:30:06 >> ก็ใช่เพราะเชื้ออาจจะหล่นไม่เยอะพอไปหุง

00:30:0600:30:07 มันก็ลดลง

00:30:0700:30:09 >> แต่สมมุติถ้ามันเราไม่มีทางรู้เราไม่เรา

00:30:0900:30:11 ไม่มีห้องแลบในการวัดถ้ามันขึ้นเยอะแล้ว

00:30:1100:30:14 เชื้อมันโหลดมากบางทีเอาไปหุง

00:30:1400:30:16 >> เชื้อตายไม่หมดอ

00:30:1600:30:18 >> แล้วก็อาจจะเกิดปัญหาเกิดโรคได้อ

00:30:1800:30:22 >> อืข้าวนี่เป็น best before หรือ expire

00:30:2200:30:22 นะ

00:30:2200:30:23 >> ข้าวใช่มั้ย

00:30:2300:30:23 >> ใช่ข้าวสาร

00:30:2400:30:25 >> พี่คิดว่าเป็น best before หรือ expire

00:30:2500:30:27 >> ผมน่าผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น best before

00:30:2700:30:32 นะเพราะมันน่าจะมีเรื่องของกายภาพมากกว่า

00:30:3200:30:34 >> ไม่รู้เหมือนกัน

00:30:3400:30:37 >> ไม่ชัวร์มาเปล่าที่บอกว่าข้าวอ่ะ

00:30:3700:30:39 >> มันแล้วแต่ยี่ห้อบางยี่ห้อก็ Best before

00:30:3900:30:42 บางยี่ห้อก็ expired เพราะหลายหลายเจ้า

00:30:4200:30:45 เ้าเเห็นว่ามอดคือสิ่งมีชีวิตบางทีมันมา

00:30:4600:30:48 ก่อนที่จะหืนหรือกลิ่นหายเขาก็จะไปใช้

00:30:4800:30:51 expiry dead มันแล้วแต่เลย

00:30:5100:30:53 >> อืมันแล้วแต่แต่หลังๆมันมีเทคโนโลยีข้าว

00:30:5300:30:55 ไงคือเก็บไว้ในถุงที่

00:30:5500:30:56 >> ซีลไว้แบบ

00:30:5600:30:58 >> ซีลแล้วแบบเอาอากาศออกแล้วflัชแก๊ส

00:30:5800:30:59 ไนโตรเจนอย่างเงี้ย

00:30:5900:31:01 >> อยู่ได้นานขึ้นมันช่วยเลย

00:31:0100:31:02 >> พอไม่มีออกซิเจนไนโตรเจนเข้าไปแทน

00:31:0200:31:04 ออกซิเจนไม่มีอ

00:31:0400:31:05 >> ไข่มอดก็ฟักไม่ได้

00:31:0500:31:05 >> อ๋อ

00:31:0500:31:08 >> แล้วกลิ่นกลิ่นหอมๆของข้าวก็จะยังอยู่นาน

00:31:0800:31:11 >> ก็ต้องดูว่าซื้อแบบไหนไปใช้ที่บ้านมั้

00:31:1100:31:13 >> ใช่ๆแต่พูดตรงๆถ้ามอดขึ้นก็ไม่ไม่ควร

00:31:1400:31:15 เสี่ยงครับ

00:31:1500:31:17 >> อืโอเคครับ

00:31:1700:31:20 เพราะว่าเราก็จะแบบรู้จักการซาวข้าวเอา

00:31:2000:31:21 มอดออกไง

00:31:2100:31:22 >> อ๋อ

00:31:2200:31:24 >> ฝุ่นมอดอะไรอย่างเงี้ยแล้วแบบเออถ้ามอด

00:31:2400:31:26 โอเคเข้าใจมอดมันเกิดได้ก็แปลว่าเชื้อโรค

00:31:2600:31:28 เกิดได้อ

00:31:2800:31:30 >> คำถามต่อไปฮะอาหารที่มีเชื้อราขึ้นถ้าตัด

00:31:3100:31:33 ส่วนที่มีชราออกยังสามารถกินส่วนที่เหลือ

00:31:3300:31:33 ได้มั้ย

00:31:3300:31:37 >> โอเคยทำเรื่องนี้อยู่ขึ้นอยู่กับอาหาร

00:31:3700:31:39 >> อันนี้ความจริง WHO มีเขียนไว้ชัดถ้าเป็น

00:31:3900:31:41 อาหารเนื้อแข็งควานได้ถ้าเป็นอาหารเนื้อ

00:31:4100:31:43 อ่อนเมื่อไหร่หมายความว่าเชื้อราวเวลามัน

00:31:4300:31:46 เกิดมันจะมีรากของมันเค้าเรียกว่าไฮฟี่

00:31:4600:31:48 อะไรพวกเนี้ยสัตว์เชื้อเชื้อราเอ

00:31:4800:31:51 >> ถ้าอาหารเนื้อนิ่มมันจะชอนลงไปคว้านยังไง

00:31:5100:31:53 ก็ยังอยู่ข้างในอาหารเนื้อนิ่มเช่นอะไร

00:31:5300:31:55 อ่ะขนมปังเค้ก

00:31:5500:31:55 >> อ

00:31:5500:31:56 >> เยลลี่

00:31:5600:31:56 >> อือ

00:31:5600:31:59 >> แต่ถ้าเป็นอาหารเนื้อแข็ง

00:31:5900:32:02 WHO น่าจะยกตัวอย่างหอมใหญ่แครอทอะไรพวก

00:32:0200:32:05 เนี้ยที่มันค่อนข้างแข็งแล้วมีราคว้าออก

00:32:0500:32:05 ได้

00:32:0500:32:06 >> ออ

00:32:0600:32:08 >> เพราะว่า

00:32:0800:32:11 >> รากของรามันใช้ลงไปไม่ได้

00:32:1100:32:12 >> แล้วพวกชีสอ่ะชีสมันมีเชื้อ

00:32:1200:32:15 >> อ๋อ WHO ก็แบ่งเหมือนกัน

00:32:1500:32:17 >> ชีสมีแบบเป็นฮาร์ดชีสกับซอชีส

00:32:1700:32:18 >> ฮารชีส

00:32:1800:32:21 >> ฮารชีสเช่นอะไรอ่ะไม่ออกซอตชีสพวกบรี

00:32:2100:32:23 กมองแบอะไรพวกเยเป็นชีสเนื้อนิ่ม

00:32:2300:32:24 >> อือ

00:32:2400:32:27 >> ถ้าขึ้นลาควรทิ้งเพราะมันไม่มีโอกาสลงซาน

00:32:2700:32:30 อย่างเงี้ยควานได้เพราะมันมันแข็งอยู่อัน

00:32:3000:32:32 นี้เขียนไว้ชัดไม่ได้คิดเองเขียนไว้ชัดใน

00:32:3200:32:33 องค์การอนามัยโลกครับ

00:32:3300:32:34 >> อื

00:32:3400:32:36 >> แต่เวลาคว้านเค้าบอกให้ควานลึกนิดนึง

00:32:3600:32:36 >> ลึกกว่าที่มันขึ้น

00:32:3600:32:39 >> ลึกกว่าที่มันขึ้นลึกลงไปสัก

00:32:3900:32:40 >> ครึ่งนิ้วอย่างเงี้ยโอเคอยู่

00:32:4000:32:44 >> เออก็คือแต่ว่าโดยชีสเองอ่ะผมคุยกับพี่ทำ

00:32:4400:32:46 ชีสเขาก็บอกว่าบางทีเค้าก็ไม่ได้กินไอ้

00:32:4600:32:47 พวกที่มันเป็นแบบเชื้อราดีนะ

00:32:4700:32:51 >> อ่ามันจะมีมันจะมีชีสบางตัวที่รักบลูชีส

00:32:5100:32:52 ไง

00:32:5200:32:54 >> เออใช่บูชีสนี่คือราก

00:32:5400:32:56 >> อันนั้นเป็นเชื้อราที่เขา้ารู้อยู่แล้ว

00:32:5600:32:57 ว่ามันกินได้

00:32:5700:32:57 >> อื

00:32:5700:32:59 >> เพนิซีเลียม

00:32:5900:33:01 รุฟอร์ดอ่ะชื่อนี้แหละ

00:33:0100:33:04 >> คือสีเขียวมันกินได้แต่ถ้าชีสที่มันไม่

00:33:0400:33:05 ควรจะมีรา

00:33:0500:33:05 >> อือ

00:33:0500:33:08 >> เช่นพาเมซานมันไม่ควรจะมีราแล้วมันเกิด

00:33:0800:33:09 ปุยดำขึ้นมา

00:33:0900:33:11 >> อันนั้นก็ควรควายเพราะรู้ว่าไอ้ปุยดำนั้น

00:33:1100:33:13 มันไม่ใช่ราที่ใช้ผลิตชีส

00:33:1300:33:13 >> ออือ

00:33:1300:33:17 >> มันมีราที่แบบราศีเนี่ยมันมันมีสีไหนที่

00:33:1700:33:18 แบบกินไม่ได้แน่ๆอย่าไปกินเลย

00:33:1800:33:20 >> ส่วนใหญ่เป็นสีดำ

00:33:2000:33:20 >> ดำเหรอ

00:33:2000:33:22 >> ส่วนใหญ่สีดำจะไม่ควรกิน

00:33:2200:33:22 >> อือ

00:33:2300:33:25 >> แต่ผมจำไม่ได้นะว่าจะมีราสีดำบางตัวที่

00:33:2500:33:28 เขา้าเอาไปผลิตเต้าหขนมันจำไม่ได้อ่ะที่

00:33:2800:33:31 ที่เายังเถียงกันอยู่ว่ามันกินได้หรือไม่

00:33:3100:33:32 ได้ผมก็ไม่อยากสรุป

00:33:3200:33:32 >> อื

00:33:3200:33:34 >> เพราะนักวิทยาศาสตร์บางคนก็บอกอย่าไปกิน

00:33:3400:33:36 มันเลยบางคนก็บอกว่าโหเค้ากินมาเป็น 1000

00:33:3600:33:38 ปีแล้วยังอะไรที่อะไรที่ยังสรุปไม่ได้ผม

00:33:3800:33:41 ก็ยังไม่อยากสรุปแต่ให้โน้มน้าวไปในทาง

00:33:4100:33:43 >> ไม่ปลอดภัยก่อนดีกว่า

00:33:4300:33:46 >> เพราะฉะนั้นแล้วก็ขูดให้มันลึกกว่าที่

00:33:4600:33:47 เป็น

00:33:4700:33:48 >> ใช่ถ้าเป็นอาหารเนื้อแข็งถ้าอาหารเนื้อ

00:33:4800:33:50 นิ่มทิ้งเลยนะครับ

00:33:5000:33:51 >> ทิ้งเลยโอเคครับ

00:33:5100:33:53 >> อ่ะครับคำตอบยังไม่ทันจบอ่ะผมหยิบแล้ว

00:33:5300:33:54 เนี่ย

00:33:5400:33:56 >> ไม่เป็นไร

00:33:5600:33:59 คำถามต่อไปครับ

00:33:5900:34:02 ตับที่ยังแดงๆอยู่กินได้ไหมผมไม่รู้ตับ

00:34:0200:34:03 อะไรบ้างเนอ

00:34:0300:34:05 >> อ๋อหลังๆช่วงนี้มันช่วงหลังๆปีเนี้ยปี

00:34:0500:34:09 2565 มันมีกระแสตับเนื้อคัสตารดที่ใช้

00:34:0900:34:10 อุณหภูมิไม่สูงในการต้มไว้แล้วไปกินกับ

00:34:1000:34:11 ข้าวมันไก่

00:34:1100:34:11 >> อื

00:34:1200:34:14 >> อืถ้ายังชมพูผมไม่อยากบอกว่าสีไหนเพราะ

00:34:1400:34:15 มันดูยาก

00:34:1500:34:16 >> อือ

00:34:1600:34:18 >> ชัวร์สุดคือเอาเทอร์โมอมิเตอร์

00:34:1800:34:19 จิ้มเลยครับ

00:34:1900:34:20 >> คนทำหรือคนกิน

00:34:2000:34:21 >> ควรคนทำ

00:34:2100:34:23 >> คนทำคนทำ

00:34:2300:34:26 >> เพื่อให้รู้ว่ามันเซฟสุดจิ้มชิ้นที่ใหญ่

00:34:2600:34:28 ที่สุดถ้าอุณหภูมิเกิน 70 ปลอดภัยแน่นอน

00:34:2800:34:29 >> อือ

00:34:2900:34:32 >> อือถ้าชมพูชมพูระ

00:34:3200:34:35 เจลที่มันเป็นแบบส่วนตับดิบอ่ะอันนั้นน่ะ

00:34:3500:34:37 ส่วนใหญ่เกิน 70 ส่วนใหญ่ปลอดภัยครับ

00:34:3700:34:38 >> อื

00:34:3800:34:42 >> แต่หลายร้านคิดว่าอุณหภูมิยิ่งต่ำตับยิ่ง

00:34:4200:34:42 นุ่ม

00:34:4200:34:43 >> เออ

00:34:4300:34:46 >> ก็ไปจิ้มอ่ะ 65 เอาขึ้นเลย

00:34:4600:34:46 >> โห

00:34:4600:34:47 >> ดิบ

00:34:4700:34:47 >> อือ

00:34:4700:34:50 >> ข้างในมันจะเป็นเนื้อเจลแบบเยี่ยนะคือ

00:34:5000:34:50 เนื้อตับดิบนะ

00:34:5100:34:52 >> อือๆ

00:34:5200:34:54 >> อันนี้เราพูดถึงตับไก่เนาะ

00:34:5400:34:56 >> ตับไก่หมูด้วยหมูก็เป็นหมูหมูหมูควรสุก

00:34:5600:34:58 อยู่แล้วไม่ว่าอะไรก็ตาม

00:34:5800:35:00 >> หมูคนสุกอยู่แล้วถูกต้อง

00:35:0000:35:01 >> อแล้ววัวครับ

00:35:0100:35:02 >> ตับวัวไม่เคยกินเลยอ่ะ

00:35:0200:35:05 >> ตับวัวเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะกินแบบดิบกันนะ

00:35:0500:35:06 ถ้าอีสานนะ

00:35:0600:35:07 >> โห

00:35:0700:35:09 >> ตับหวานเนี่ยผมว่ามันก็จะมีความแบบ

00:35:0900:35:11 >> แต่ความจริงผมว่าอย่าพึ่งดีกว่าเพราะว่า

00:35:1100:35:14 ปีนี้มันมีโรคแractแล้วเราไม่รู้ว่าตับ

00:35:1400:35:16 วัวนั้นมันมาจากวัวที่

00:35:1600:35:18 >> เชือด properly หรือว่าเชือดในกระบวนการ

00:35:1800:35:19 ที่ถูกต้องหรือเปล่า

00:35:1900:35:19 >> อือ

00:35:1900:35:22 >> ถ้าตายเพราะว่าไม่รู้สาเหตุอ่ะไม่ควรกิน

00:35:2200:35:23 ดิบเลย

00:35:2300:35:23 >> อือ

00:35:2300:35:26 >> และไม่ควรกินสุกด้วยเพราะเชื้อแackแตกทน

00:35:2600:35:27 ความร้อน

00:35:2700:35:27 >> อือ

00:35:2700:35:30 >> ถ้ามันสร้างถ้ามันสร้างสปอแล้วค่อนข้างทน

00:35:3000:35:31 ความร้อน

00:35:3100:35:34 >> ถ้าแนะนำคนทำก็คือวัดอุณหภูมิ

00:35:3400:35:35 >> วัดอุณหภูมิควรเกิน 70

00:35:3500:35:39 >> ควรเกิน 70 แต่ถ้าแนะนำคนกินสุขดีกว่า

00:35:3900:35:42 >> สุกดีกว่าแต่เข้าใจถ้าสุกมากๆสมมุติ 90

00:35:4200:35:43 ขึ้นมันแข็งไง

00:35:4300:35:44 >> ใช่

00:35:4400:35:45 >> มันแข็งมันแข็ง

00:35:4500:35:47 >> เออแล้วเราก็มาติดตับนุ่มๆกันซะแล้วด้วย

00:35:4700:35:48 นะตอนนี้

00:35:4800:35:50 >> ใช่ถ้าใครอยากเรียนทำตับนุ่มทักทักเพจทัก

00:35:5000:35:51 the เชฟมา

00:35:5100:35:52 >> มีมีสอน

00:35:5200:35:52 >> ดีครับ

00:35:5300:35:54 >> มีสอนมีสอน

00:35:5400:35:55 >> ตับนุ่มโดยที่สุขด้วย

00:35:5500:35:55 >> สุข

00:35:5500:35:56 >> เออเอ

00:35:5600:35:59 >> แล้ววิธีการล้างตับล้างยังไงให้แบบให้

00:35:5900:36:00 เลือดออกให้หมดเพื่อให้มันนุ่มเหมือน

00:36:0000:36:01 คัตตารด

00:36:0100:36:02 >> อ่า

00:36:0200:36:02 >> ขายของอีกล่ะ

00:36:0200:36:04 >> โอเคครับมาเลยครับ

00:36:0400:36:05 >> โอเคครับต่อไปครับ

00:36:0500:36:06 >> จะหมดแล้วจะหมดแล้ว

00:36:0600:36:10 >> อือหืออ้าโอเคถ้ากินอาหารที่ไม่สะอาดเรา

00:36:1000:36:12 จะมีอาการภายในกี่ชั่วโมงครับ

00:36:1200:36:14 >> อาหารเป็นพิษมีมีหลักๆมันมี 2 แบบ

00:36:1400:36:15 >> ครับ

00:36:1500:36:17 >> ติดเชื้อเพราะสารพิษมันเหมือน

00:36:1700:36:19 สตฟิโลคอกคัสตะกี้ในถ้าติดเชื้อเพราะสาร

00:36:1900:36:22 พิษมันน่ะจะออกการภายใน 2 ไม่เกิน 6 ช่มง

00:36:2200:36:22 >> อือ

00:36:2200:36:24 >> แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 4-6 ช่มงแต่ถ้า

00:36:2400:36:26 ติดตัวเชื้อมันเลยไม่ใช่สารพิษมานะตัว

00:36:2600:36:27 เชื้อ

00:36:2700:36:27 >> อือ

00:36:2800:36:30 >> ตัวเค้าเรียกว่า vegetative cell อ่ะจะ

00:36:3000:36:31 เกิน 6 ขึ้นไป

00:36:3100:36:33 >> ก็ต้องให้มันมีระยะเวลาเพาะเชื้อ

00:36:3300:36:35 >> ถูกต้องแต่ถ้าเชื้อมันถ้าสารพิษมันน่ะลง

00:36:3500:36:37 ไปแล้วมันดูซึมเลยไง

00:36:3700:36:39 >> มันจะเร็วมากบางที 2 ชั่วโมงมาแล้ว

00:36:3900:36:42 >> อาการของการโดนสารพิษมัน 2 ชั่วโมงเนี่ย

00:36:4200:36:44 เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้างครับ

00:36:4400:36:46 >> ส่วนใหญ่มันจะติดเชื้อทางด้านอาหารส่วนบน

00:36:4600:36:47 มันจะอ้วกก่อน

00:36:4700:36:48 >> อ

00:36:4800:36:51 >> มันจะอ้วกสักพักมันลงไปลึกใช่มั้ยมันจะ

00:36:5100:36:52 เป็นท้องเสีย

00:36:5200:36:54 >> แต่ส่วนใหญ่อเฟกชน่ะอ

00:36:5400:36:56 >> แบบแรกที่เป็นสารพิษเค้าเรียกว่า

00:36:5600:36:58 intoxication ก็คือ toxic แต่แบบหลังที่

00:36:5800:37:02 ติดเชื้อที่เป็นตัวมันน่ะต้องใช้เวลานาน

00:37:0200:37:04 กว่ามันจะเพาะเชื้อส่วนใหญ่มันจะไปติดทาง

00:37:0400:37:06 เดินอาหารส่วนปลาย

00:37:0600:37:06 >> อื

00:37:0600:37:08 >> ก็คือส่วนใหญ่จะท้องเสียก่อนแต่ก็มีหลาย

00:37:0800:37:10 เคสที่ท้อง

00:37:1000:37:13 >> พุ่ง 2 ทางท้องเสียกับอ้วกพร้อมกัน

00:37:1300:37:16 >> แปลว่าถ้าวันไหนเรารู้สึกอาหารเป็นพิษ

00:37:1600:37:19 แล้วเราอ้วกเนี่ยเป็นไปได้ว่าย้อนกลับไป

00:37:1900:37:20 แค่ 2 ชั่วโมงก็รู้ว่า

00:37:2000:37:22 >> ลองดูใช่ส่วนใหญ่อาหารที่เราตั้งข้อสงสัย

00:37:2200:37:25 เช่นเรากินซีฟู้ดมาแล้วกินตุตุลองย้อน

00:37:2500:37:27 กลับไปมันจะประมาณ 2-4

00:37:2700:37:28 >> อื 2-4 ช่วง

00:37:2800:37:30 >> ใช่เหมือนล่าสุดพ่อผมอย่างเงี้ยไปกิน

00:37:3000:37:33 ซีฟู้ดเมื่อตอนเที่ยน 1600 นอาเจียนมั่น

00:37:3300:37:34 ใจมากว่าสารพิษ

00:37:3400:37:35 >> ว่ามื้อนั้นนั่นแหละ

00:37:3500:37:36 >> มื้อนั้นแหละอิxicationแน่นอน

00:37:3600:37:40 >> โอเคแต่ถ้าเกิดเราไม่มีอาการอ้วกท้องเสีย

00:37:4000:37:43 เฉยๆเนี่ยต้องดูว่ามื้อ 2 ชั่วโมง

00:37:4300:37:44 >> มื้อไหนมื้อไหนที่เป็นมื้อเสี่ยง

00:37:4400:37:45 >> อาจจะเป็นมื้อเช้าก็ได้

00:37:4500:37:45 >> มีสิทธิ์

00:37:4500:37:46 >> อ่าฮะ

00:37:4600:37:49 >> บางทีเราท้องเสีย 16:00 น.อื

00:37:4900:37:52 >> เราอาจจะมโนไปเองว่าเป็นมื้อเที่ยงแต่

00:37:5200:37:54 ความจริงตอนเช้าอาจจะเป็นอะไรอ่ะ

00:37:5400:37:57 >> โจ๊กปลาต้องโก๋ที่มันมีสิทธิ์ก็ก็ได้

00:37:5700:37:58 เหมือนกัน

00:37:5800:38:00 >> แต่การระบุอย่างเงี้ยความจริงอย่าไปเดา

00:38:0000:38:03 เลยครับบอกยากคนที่คนที่ระบุไว้เก่งจริงๆ

00:38:0300:38:05 คือหมอเพราะหมอเขาจะมีการซักประวัติ 24

00:38:0500:38:08 ช่โมงหลังการท้องเสียครั้งแรกแล้วเขาจะ

00:38:0800:38:09 วิเคราะห์แม่นกว่าอ

00:38:0900:38:09 >> เออ

00:38:0900:38:12 >> ไม่เพราะว่ามันเกิดแบบอาการที่แบบว่าไป

00:38:1200:38:16 กินมาแล้วก็ไปด่าร้านนั้นเลยครับว่าอาหาร

00:38:1600:38:17 เขาไม่ดีอ่ะ

00:38:1700:38:19 >> บางทีเป็นมื้อก่อน

00:38:1900:38:21 >> เป็นมื้อก่อนหน้านั้นอะไรอย่างเงี้ยก็มี

00:38:2100:38:24 >> ยกเว้นว่าไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน

00:38:2400:38:24 >> อือ

00:38:2400:38:26 >> แล้วกินมื้อเที่ยน

00:38:2600:38:26 >> มื้อแรก

00:38:2600:38:28 >> เออ

00:38:2800:38:30 >> แล้ว 17:00 น.ท้องเสีย

00:38:3000:38:31 >> อาเจียน

00:38:3100:38:33 >> มีโอกาสเป็นมื้อเที่ยงสูงมาก

00:38:3300:38:34 >> ก็มือนั้นแหละเพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันไม่

00:38:3400:38:38 ได้กินอะไรก็ใช่ๆจะย้อนไปมื้อเย็นวันก่อน

00:38:3800:38:39 ก็ไกลไป

00:38:3900:38:42 >> ก็ได้ออกอ๋อไม่ไม่ถ้าเกิดเลยไปสัก 12

00:38:4200:38:43 ชั่วโมงนี่ถือว่าไม่ใช่มื้อนั้นแล้วป่ะ

00:38:4300:38:46 >> ไม่ค่อยไม่โอกาสน้อยมากโอกาสน้อยมากแต่มี

00:38:4600:38:48 มั้ยมีบางทีแบบเชื้อมันน้อยมากอ่ะเชื้อ

00:38:4800:38:51 มันน้อยมากเพราะฉะนเพาะเชื้อนานกว่า

00:38:5100:38:54 >> นานกว่า 12 ก็ก็มีเหมือนกันก็

00:38:5400:38:56 >> สุดท้ายมันจะรู้ตรงที่ว่าอ่ะเก็บอุจจาระ

00:38:5600:38:58 ไปเพาะเชื้อแล้วสมมุติเชื้อตัวนี้ออกมา

00:38:5800:38:59 รู้เลยว่าเชื้อตัวนี้อยู่ในไหนๆสมมุติออก

00:38:5900:39:02 มาเป็นริบริโบส่วนใหญ่เจอในสัตว์ทะเลไม่

00:39:0200:39:03 เจอในหมูไก่อะไรแบบเนี้ย

00:39:0300:39:06 >> อ๋อก็ต้องไปเช็คให้ชัวร์ก่อนแล้วค่อยไป

00:39:0600:39:07 เคมร้านเนาะ

00:39:0700:39:09 >> ถูกเพราะงั้นร้านเขาจะชอบถามไงว่าไปหาหมอ

00:39:0900:39:11 หรือยังมีผลเพาะเชื้อมั้ยมันจะมันจะทวน

00:39:1100:39:13 สอบได้ว่ามาจากวัตถุดิบตัวไหน

00:39:1300:39:15 >> พอพูดอย่างงั้นก็โดนด่าอีกครับบอกว่าคุณ

00:39:1500:39:17 จะไม่รับผิดชอบอะไรเหรอไม่เป็นไรอันนี้

00:39:1700:39:17 อินส่วนตัว

00:39:1800:39:19 >> อินใช่มั้ยแสดงว่าเพิ่งโดนมา

00:39:1900:39:22 >> ผมเห็นคนชอบไปเคมร้านก่อนทั้งๆที่แบบจะ

00:39:2200:39:23 ไม่รู้ว่ามื้อไหน

00:39:2300:39:24 >> อาจจะเป็นมื้อที่ตัวเองทำก็ได้

00:39:2400:39:30 >> เออต่อไปซื้อของสดที่ต้องแช่เย็นแต่ว่า

00:39:3000:39:32 เก็บไว้ในรถที่เปิดแอร์อยู่ได้นานกี่

00:39:3200:39:35 ชั่วโมงแล้วควรเอาเข้าตู้เย็นโหยาวเหมือน

00:39:3500:39:37 กันนะแล้วควรเอาเข้าตู้เย็นภายในกี่

00:39:3700:39:38 ชั่วโมงถึงจะปลอดภัย

00:39:3800:39:40 >> ความจริงตามกฎหมายอ่ะเอาออกมาข้างนอกถ้า

00:39:4000:39:41 ไม่ใช่อุณหภูมิตู้เย็นนะเอ้ยถ้าไม่ใช่

00:39:4100:39:44 อุณหภูมิตู้เย็นที่ช่วง 0-4 องศครับไม่

00:39:4400:39:46 ว่าจะเป็นในรถหรืออุณหภูมิห้องเ้าไม่ให้

00:39:4600:39:48 เกิน 2 ช่โมงแต่อันนี้คือตามกฎหมายมัน

00:39:4800:39:49 เป็นไปไม่ได้

00:39:4900:39:49 >> เออ

00:39:4900:39:51 >> 2 ช่โมงคือ best practice

00:39:5100:39:51 >> อือ

00:39:5100:39:53 >> ครับแต่ถ้าอยู่ในตู้เย็นน่ะ

00:39:5300:39:57 >> มันอาจจะยาวไปอีกได้ถึง 3 ได้ถึง 4 ช่โมง

00:39:5700:40:00 แต่ทางที่ดีคือควรเก็บแช่ตู้เย็นให้ได้

00:40:0000:40:01 เร็วที่สุด

00:40:0100:40:04 >> ผมลองนึกสถานการณ์ดูสมมุติว่าผมไป

00:40:0400:40:05 จันทบุรีแล้วกัน

00:40:0500:40:05 >> อื

00:40:0500:40:09 >> ผมไปซื้ออาหารทะเลสดมาแล้วผมก็แพ็คน้ำ

00:40:0900:40:12 แข็งแล้วก็กลับมากรุงเทพฯยังรอดอยู่มั้ฮะ

00:40:1200:40:15 >> รอดๆแพ็คน้ำแข็งอ่ะมันจะไม่ถึงกับตู้เย็น

00:40:1500:40:17 หรอกครับมันจะต่ำกว่า 10 องศหน่อย

00:40:1700:40:18 >> อ

00:40:1800:40:20 >> แต่จากจันทบุรีมากรุงเทพฯ 4 ชมงใช่มั้ย

00:40:2000:40:21 ได้อยู่ได้อยู่ได้อยู่

00:40:2100:40:23 >> แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อโหลดเยอะแค่

00:40:2300:40:26 ไหนสมมุติว่าได้ของไม่สดมาจะเก็บเย็นแค่

00:40:2600:40:28 ไหนเชื้อก็โตได้กลับมาก็ท้องเสียอยู่ดี

00:40:2800:40:29 แต่ถ้ามันสดมาก

00:40:2900:40:31 >> อือ

00:40:3100:40:34 >> บางทีเย็นไม่ได้มากก็อยู่ถึง 5-6 ชม.ก็

00:40:3400:40:35 ได้เหมือนกัน

00:40:3500:40:35 >> อือ

00:40:3500:40:38 >> แต่ Best Practice อ่ะคือเลข 2 แต่ใน

00:40:3800:40:41 เชิงปฏิบัติจริงๆอ่ะผมว่าได้ถึง 3-4

00:40:4100:40:41 ชั่วโมงอ

00:40:4100:40:42 >> อื

00:40:4200:40:43 >> ครับไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรือว่าอาหาร

00:40:4300:40:46 พร้อมปรุงเอ้ยอาหารไม่ใช่อาหารที่ปรุง

00:40:4600:40:48 เสร็จแล้วเราพร้อมรับประทานอ่า Ready to

00:40:4800:40:49 Eat พวกเนี้ยอ

00:40:4900:40:50 >> เค้าเขียนไว้ชัดเลยว่าอาหารพร้อมทานไม่

00:40:5000:40:52 ควรวางไว้อุณหภูมิห้องเกิน 2

00:40:5200:40:53 >> อือือ

00:40:5300:40:55 >> ถ้าเกิน 2 ควรควรเวฟ

00:40:5500:41:00 >> อีกสถานการณ์นึงผมไปจังหวัดไกลๆ 4 ช่โมง

00:41:0000:41:01 เหมือนกัน

00:41:0100:41:01 >> ครับ

00:41:0100:41:02 >> ซื้อกับข้าวมาจะฝากที่บ้าน

00:41:0200:41:03 >> อือ

00:41:0300:41:06 >> แล้วทิ้งไว้ในรถที่แบบขับรถกลับนะมีแอร์

00:41:0600:41:09 มีอะไรอย่างเงี้ยถึงบ้าน 4 ช่โมงยังรอด

00:41:0900:41:09 อยู่

00:41:0900:41:10 >> ขึ้นอยู่กับอาหารอีก

00:41:1000:41:11 >> เหรอ

00:41:1100:41:13 >> ถ้าเป็นข้าวผัดชื้นๆแล้วเครื่องปรุงไม่

00:41:1300:41:16 ได้เยอะมากก็มีโอกาสเสียได้ถ้ามันอับมาก

00:41:1600:41:18 อ่ะสมมุติว่าข้าวผัดซ้อนกันเยอะๆใช่มั้

00:41:1800:41:18 ครับ

00:41:1800:41:22 >> อุณหภูมิแอร์เย็นแค่ไหนแต่ในถุงนั้นมัน

00:41:2200:41:25 อุ่นมันชื้นอ่ะก็มีโอกาสได้แล้วถ้าเขาใช้

00:41:2500:41:26 ข้าวเก่ามาที่มันมีเชื้ออยู่แล้วก็มี

00:41:2600:41:27 โอกาส

00:41:2700:41:27 >> ครับ

00:41:2700:41:29 >> แต่ถ้ามันเป็นอะไรที่เครื่องปรุงเยอะเช่น

00:41:2900:41:32 น้ำพริกกะปิไข่พะโล้หรืออะไรที่มีแบบน้ำ

00:41:3200:41:35 ส้มใสชูปูยำที่มีรสเปรี้ยว

00:41:3500:41:37 >> ถ้ามีเปรี้ยวถ้ามีเครื่องปรุงเยอะโอกาส

00:41:3700:41:39 เสียก็จะช้าลงเพราะเชื้อโตยากขึ้น

00:41:3900:41:41 >> ออมันมีการคลุมเชื้อของมันอยู่

00:41:4100:41:43 >> แต่ถ้ากุ้งนึ่งปูนึ่งอะไรเงี้ยอับๆอ่ะมัน

00:41:4300:41:45 ไม่มีเครื่องปรุงมีโอกาสเสียไว

00:41:4500:41:45 >> ครับ

00:41:4500:41:49 >> อือีกสถานการณ์นึงผมแบบผมอินอันนี้เหมือน

00:41:4900:41:52 กันไปซื้อนมพัไลท

00:41:5200:41:53 >> อื

00:41:5300:41:56 >> แล้วผมต้องจอดรถกลางแดดร้อนๆทิ้งไว้ 2

00:41:5600:41:58 ช่โมงยังรอดมั้ย

00:41:5800:42:00 >> ขึ้นอยู่อีกว่านมยี่ห้ออะไรบางยี่ห้อพูด

00:42:0000:42:01 ตามตรงใส่วัตถุกันเสีย

00:42:0100:42:02 >> ออ

00:42:0200:42:04 >> บางยี่ห้อใช้อุณหภูมิในการฆ่าเชื้อค่อน

00:42:0400:42:07 ข้างสูงก็จะเก็บได้ค่อนข้างนานแต่กลิ่นรส

00:42:0700:42:08 ก็จะไม่อร่อยเท่า

00:42:0900:42:09 >> ออ

00:42:0900:42:12 >> บางยี่ห้อไม่ใส่วัตถุกันเสียเลยอุณหภูมิ

00:42:1200:42:14 การฆ่าเชื้อไม่ได้สูงมากเพื่อให้นมมี

00:42:1400:42:16 บอดี้ค่อนข้างแน่น

00:42:1600:42:16 >> อื

00:42:1600:42:18 >> ก็จะเสียง่ายกว่า

00:42:1800:42:21 >> แต่ความร้อนร้อนจัดในรถเนี่ยมันอาจจะไม่

00:42:2100:42:24 ได้ทำอะไรกับนมพระชลัยมากเท่าไหร่

00:42:2400:42:26 >> ไม่ควรไม่ความจริงก็ไม่ควรไม่ควรดี

00:42:2600:42:29 >> นมเป็นอะไรที่บูดง่ายเพราะว่า

00:42:2900:42:31 >> เครื่องปรุงไม่เยอะไงไม่มีเกลือไม่มีน้ำ

00:42:3100:42:33 ตาลแล้วสารอาหารครบเพราะฉะนั้นเชื้อโต

00:42:3300:42:34 ง่ายโอเค

00:42:3400:42:37 >> แล้วคำว่านมเนี่ยยังมีเชื้ออยู่ครับไม่

00:42:3700:42:40 ใช่นมสตไม่ใช่นม UHT ที่

00:42:4000:42:43 >> เชื้อมันแทบแตะสูงนมพัจอไลเชื้อยังมีนะ

00:42:4300:42:43 ครับ

00:42:4400:42:46 >> แต่ก็ยังไม่ได้เปิดขวดเปิดฝาเลยนะ

00:42:4600:42:47 >> เชื้อก็ยังมีไง

00:42:4700:42:48 >> อ๋อมันมีเชื้ออยู่แล้วอุณหภูมิมันพอเหมาะ

00:42:4800:42:49 ที่จะเข้าด้วย

00:42:4900:42:51 >> ใช่แต่เชื้อที่มีในนมพัจลเค้าเรียกว่า

00:42:5100:42:53 เชื้อ

00:42:5300:42:56 spoilage คือทำให้นมบูดนมเปรี้ยวแต่ไม่

00:42:5700:42:58 ได้ก่อโรคอ

00:42:5800:43:00 >> หลักการพาเจคือพาโทเจนหรือเชื้อก่อโรคอ่ะ

00:43:0000:43:01

00:43:0100:43:02 >> แต่เชื้อที่ทำให้นม

00:43:0200:43:04 บูดเช็ดแลคโตบาซิัสยังมีอยู่

00:43:0400:43:07 >> โอเคเพียใครมีคำถามเผื่อคอมเมนต์มานะครับ

00:43:0800:43:09 เพิ่มเติมจากนี้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่

00:43:0900:43:10 แบบใกล้

00:43:1000:43:12 >> มันกว้างมาแล้วมันแบ่งมันแบ่งได้เป็นหลาย

00:43:1200:43:14 หลายเคสมากครับ

00:43:1400:43:17 >> อุ่นอาหารในไมโครเวฟต้องอุณหภูมิเท่าไหร่

00:43:1700:43:18 ถึงจะปลอดภัยมันมีอุณหภูมิมั้ครับ

00:43:1800:43:21 >> ไม่มีไมโครเวฟเป็นกำลังหวัตต์

00:43:2100:43:21 >> อือ

00:43:2100:43:23 >> กำลังหวัตถ้าถามเรื่องอุณหภูมิคือ

00:43:2300:43:24 อุณหภูมิอาหารครับ

00:43:2400:43:24 >> อ๋อ

00:43:2500:43:28 >> อืการอุ่นความจริงอ่ะต้องไมโครเวฟอ่ะการ

00:43:2800:43:30 อุ่นครั้งนึงอ่ะแล้วอาหารมันร้อนจัดมัน

00:43:3000:43:32 เกิน 70 องศอยู่แล้วเชื้ออือือ

00:43:3200:43:35 >> อย่างที่ผมบอกเกิน 70 เชื้อลดลงแล้ว

00:43:3500:43:36 >> อือ

00:43:3600:43:39 >> ทีเนี้ยถ้ามาพูดถึงกำลังหวัตต์อาหารที่

00:43:3900:43:42 ชิ้นใหญ่ควรใช้วัตต์ต่ำอาหารชิ้นเล็กใช้

00:43:4200:43:43 วัตต์สูงได้

00:43:4300:43:46 >> อาหารชิ้นใหญ่ใช้วัตต์ต่ำเพราะอะไรครับ

00:43:4600:43:48 >> อาหารชิ้นใหญ่ถ้าใช้วัตต์สูงมันจะร้อน

00:43:4800:43:51 เป็นจุดๆยิ่งหวัตต์สูงอำนาจการทะลุทะลวง

00:43:5100:43:53 ของคลื่นไมโครเวฟจะสั้น

00:43:5300:43:53 >> ออ

00:43:5300:43:54 >> เพราะมันถี่แบบนี้ไง

00:43:5400:43:54 >> อ

00:43:5400:43:56 >> มันก็ร้อนอยู่แค่ข้างนอก

00:43:5600:43:57 >> ข้างในบางทียังเป็นน้ำแข็ง

00:43:5700:44:00 >> สังเกตมั้อ่าโหมดละลายน้ำแข็งอ่ะครับต่ำ

00:44:0000:44:04 >> ส่วนใหญ่วัตต่ำอารทะลุทะลวงไปถึง

00:44:0400:44:04 >> ข้างใน

00:44:0400:44:06 >> ข้างในใช่

00:44:0600:44:09 >> ไมโครเวฟนี่คือมันไม่ใช่อุ่นจากข้างในออก

00:44:0900:44:11 มาข้างนอกใช่มั้ยผมเข้าใจถูกป่ะ

00:44:1100:44:13 >> มันทิศทางประมาณนั้นจากข้างในมาข้างนอก

00:44:1300:44:16 แต่มันขึ้นอยู่กับกำลังกำลังหวัตด้วย

00:44:1600:44:17 >> อาหารชิ้นใหญ่

00:44:1700:44:20 >> แล้วไปใช้วัตต์สูงสังเกตในข้างในก็แข็ง

00:44:2000:44:20 >> เออ

00:44:2000:44:23 >> อืเพราะฉะนั้นการบอกว่าไมโครเวฟร้อนจาก

00:44:2300:44:25 ข้างในมาข้างนอกสซักที่เดียวก็ก็ไม่ได้

00:44:2500:44:28 ไม่ได้ถูกต้องมันขึ้นอยู่กับทิศทางของ

00:44:2800:44:30 ไมโครเวฟที่มันมากับชิ้นอาหารกับกำลัง

00:44:3000:44:32 หวัดถ้าชิ้นเล็กใช้วัตต์

00:44:3200:44:34 >> ใช้วัตต์สูงได้เช่นขนมปังแผ่นบางๆอย่าง

00:44:3400:44:34 เงี้ย

00:44:3400:44:35 >> อ

00:44:3500:44:39 >> 850 วัตต์ได้วัตต์สูงคือ 850 600 ขึ้น

00:44:3900:44:41 นะวัตต์ต่ำคือพวก 2-300

00:44:4100:44:44 >> 850 บางที 10 วินาทีก็อุ่นแล้ว 5 วินาที

00:44:4400:44:46 ก็ร้อนแล้ว

00:44:4600:44:47 >> แต่ลองเอา

00:44:4800:44:50 >> อะไรอ่ะเนื้อแช่แข็งชิ้นใหญ่ใช้วัดสูง

00:44:5000:44:52 ละลายแต่ข้างนอกข้างในยังไม่ละลายผมเลย

00:44:5200:44:54 บอกไม่ได้ว่าไมโครเวฟร้อนจากข้างนอกมา

00:44:5400:44:56 ข้างในเอ้ยข้างในมาข้างนอก

00:44:5600:44:56 >> อ

00:44:5600:44:59 >> แล้วมีวิธีละลายเนื้อมั้ยครับแถมละลาย

00:44:5900:45:01 เนื้อให้เร็วประมาณไมโครเวฟมันมีมั้

00:45:0100:45:03 >> อ๋อละลายเนื้อให้เร็วต้องเก็บให้ถูกต้อง

00:45:0300:45:05 ก่อนอย่าเก็บทั้งชิ้นเวลาซื้อเนื้อมาจาก

00:45:0600:45:08 ตลาดอย่างเงี้ยครับควรตัดให้ชิ้นบางที่

00:45:0800:45:08 สุด

00:45:0800:45:09 >> อือ

00:45:0900:45:11 >> หมูสับก็ไม่ควรเก็บเป็นถ่วงกระปุกแบบนี้

00:45:1100:45:14 ควรรีดให้แบนพอมันแช่แข็งไวมันก็จะละลาย

00:45:1400:45:14 ไวเช่นเดียวกัน

00:45:1400:45:17 >> ออก็คือแบบแยกให้มัน

00:45:1700:45:18 >> แยกให้เป็น

00:45:1900:45:22 >> แล้วแช่น้ำจะละลายไวมากกว่าการวางไว้

00:45:2200:45:24 >> อ๋อกับโต๊ะโต๊ะแช่น้ำจะไวเพราะน้ำมันมี

00:45:2400:45:26 สัมประสิทธิ์การถ่ายโอนความร้อนค่อนข้าง

00:45:2600:45:27 ดี

00:45:2700:45:29 >> น้ำไม่ต้องอุ่นก็ได้น้ำสังเกตน้ำประปลา

00:45:2900:45:30 จากก๊อกอ่ะอื

00:45:3000:45:32 >> ใส่ไว้แล้วหย่อนถุงลงไปแป๊บเดียวละลาย

00:45:3200:45:32 แล้วครับ

00:45:3200:45:33 >> อื

00:45:3300:45:35 >> เร็วกว่าที่วางไว้อุณหภูมิวางไว้บนโต๊ะ

00:45:3500:45:36 แห้งๆ

00:45:3600:45:37 >> แต่ไอ้การวางไว้บนโต๊ะแห้งๆเนี่ยมันใช้

00:45:3700:45:40 เวลาน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงชั่วโมงนึง

00:45:4000:45:41 บางมันจะละลายหมด

00:45:4100:45:43 >> ใช่ถ้าลงน้ำแป๊บเดียว 10 นาที

00:45:4300:45:45 >> แล้วถ้ามันถ้ามันวางไว้อย่างงั้นน่ะมัน

00:45:4500:45:46 โอกาสที่เชื้อมันจะโต

00:45:4600:45:48 >> ใช่ก็ถึงบอกมันมันก็วนกลับไปเรื่องเชื้อ

00:45:4800:45:49 ด้วยถ้าอาหารมันชิ้นใหญ่มากอย่างเงี้ย

00:45:4900:45:50 ครับ

00:45:5000:45:51 >> อือ

00:45:5100:45:54 >> กว่าข้างในจะละลายข้างนอกอาจจะเกินไอ้ 2

00:45:5400:45:55 ชั่วโมงที่ผมบอกไปแล้ว

00:45:5500:45:57 >> ก็เกิดจะเกิดเชื้อแล้วเพราะงั้นการทำให้

00:45:5800:46:01 อาหารแบนก่อนเก็บมันดีทั้งเรื่องคุณภาพ

00:46:0100:46:03 ด้วยแช่ถ้าแช่แข็งไวละลายไว

00:46:0300:46:03 >> อ

00:46:0300:46:06 >> มันจะโปรตีนมันจะไม่เสียสภาพเยอะ

00:46:0600:46:06 >> อือ

00:46:0600:46:09 >> แล้วก็ปลอดภัยเรื่องเชื้อด้วยงั้นการพอ

00:46:0900:46:11 การพอการทำพอชั่นสำคัญมากอ

00:46:1100:46:11 >> อือ

00:46:1100:46:12 >> ครับ

00:46:1200:46:13 >> โอเคต่อเลยครับ

00:46:1300:46:15 >> แล้วมันทำให้เราทำอาหารได้เร็วด้วยไม่

00:46:1500:46:17 ต้องมานั่งรอสมมุติเรา 17:00 น.จะกิน

00:46:1700:46:19 18:00 น.ก็ก็ละลายไว

00:46:1900:46:20 >> ถ้าทำให้ทุกอย่างแบ่ง

00:46:2000:46:20 >> ครับ

00:46:2000:46:23 >> ในครัวฮะมีดที่ใช้หั่นผักกับเนื้อสัตว์

00:46:2300:46:25 ใช้ร่วมกันได้มั้ครับ

00:46:2500:46:26 >> มีดหรือเขียง

00:46:2600:46:26 >> มีด

00:46:2600:46:28 >> เอออันนี้คำถามมันมีดนะจริงๆมันเป็น

00:46:2800:46:30 เรื่องเขียงเนาะผมผมเคยเห็นว่าในในครัว

00:46:3000:46:32 เชฟที่เป็นแ่งสี

00:46:3200:46:34 >> ใช่ถ้าในร้านอาหารที่ซีเรียสบางทีเขามี

00:46:3400:46:36 การแบ่ง

00:46:3600:46:38 เขียงมันแบ่งอยู่แล้วแต่บางร้านที่เขา

00:46:3900:46:41 ต้องการแบบสตริกมาก

00:46:4100:46:43 >> มีดเขาก็แบ่งมีด้ามเขียวแต่ส่วนใหญ่น้อย

00:46:4300:46:45 ที่จะแบ่งสีมีดอ

00:46:4500:46:45 >> อือ

00:46:4500:46:47 >> ใช่น้อยที่จะแบ่งสีมีดคืออย่างน้อยอ่ะการ

00:46:4700:46:50 แบ่งชีวิตมันช่วยให้สมมุติว่ามีดสีแดง

00:46:5000:46:52 หั่นเนื้อเสร็จใช่มั้ย

00:46:5200:46:55 แล้วจะไปหั่นผักที่จะโรยหน้าไม่ผ่านความ

00:46:5500:46:58 ร้อนแล้วแล้วดันหยิบมีดที่ไม่รู้สีมาที่

00:46:5800:47:00 มันโดนเนื้อมาแล้วเราไปหั่นผักก็มีโอกาส

00:47:0000:47:01 ที่เค้าเรียกว่า crost contaminate ก็

00:47:0100:47:03 ได้อันนี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมต้อง

00:47:0300:47:05 >> แบ่งทั้งมีดทั้ง

00:47:0500:47:07 >> ทั้งเขียงแต่ถ้าทำอาหารที่บ้าน

00:47:0700:47:08 >> อือ

00:47:0800:47:11 >> หลายผมมั่นใจทุกบ้านแทบไม่ได้แบ่งสีเรา

00:47:1100:47:14 ต้องมีสติมากพอแต่การทำอาหารที่บ้านมัน

00:47:1400:47:14 โฟกัสไง

00:47:1500:47:16 >> มันไม่ต้องแบบโหออเดอร์มาไม่ต้องไปฟังคน

00:47:1600:47:19 นู้นคนงั้นการโฟกัสทำให้เราแบบเขียงส่วน

00:47:1900:47:21 ใหญ่เราที่บ้านเป็นมีดเอ้ยเขียงไม้กับ

00:47:2100:47:24 เขียงสีขาวใช่มั้ใช่มันก็จะมีสติไงว่าหัน

00:47:2400:47:26 เนื้อสัตว์เสร็จเฮ้ยจะพอจะมาหั่นผักชีโร

00:47:2600:47:27 หน้าก็เอาไปล้างก่อน

00:47:2700:47:28 >> อือ

00:47:2800:47:30 >> ก็โอเคแต่ในร้านอาหารมันยุ่งมากบางทีมัน

00:47:3000:47:32 ไม่ได้มีเวลาโฟกัสขนาดแบบ

00:47:3200:47:35 >> ขนาดนั้นเขาก็เลยต้องแก้ปัญหาโดยการแบ่ง

00:47:3500:47:37 สีเขียวเพื่อความปลอดภัย

00:47:3700:47:39 >> แล้วแล้วผมถามเล่นๆว่าผมทำอาหารที่บ้าน

00:47:3900:47:41 อย่างเงี้ยผมหั่นไก่

00:47:4100:47:44 >> แล้วผมก็หั่นผักชีต่อแต่ผมก็เอาไปผัด

00:47:4400:47:47 พร้อมกันไม่นานนะก็ได้อยู่ในร้านทหารก็

00:47:4700:47:50 โดนเชฟเฮเชฟด่าเลยเพราะมันเป็นมันเป็น

00:47:5000:47:53 ลักษณะที่ไม่ควรจะทำมันจะติดเป็นนิสัยออ

00:47:5300:47:55 >> เพราะเราไม่รู้ว่ามีอยู่วันนึงเราอาจจะ

00:47:5500:47:58 ที่บอกเอาผักไปผัดต่อแต่บางวันอาจจะไม่

00:47:5800:47:59 ได้เอาผัดไปผักต่อก็ได้

00:48:0000:48:01 >> อ๋อต้องไปเก็บไว้อะไรอย่างงี้

00:48:0100:48:03 >> แต่ที่บ้านน่ะทำได้

00:48:0300:48:05 >> เพราะสุดท้ายผักมันก็โดน

00:48:0500:48:06 >> ความร้อนก็นั่นอยู่ดีใช่

00:48:0600:48:08 >> ยกเว้นว่าเราจะหั่นผักเพื่อไปเก็บในตู้

00:48:0800:48:09 เย็นเนาะ

00:48:0900:48:12 >> อ่าอันนั้นที่โดนเนื้อสัถูก

00:48:1200:48:12 >> ครับ

00:48:1200:48:12 >> โอเคครับ

00:48:1200:48:14 >> พูดง่ายๆอยู่ที่บ้านมันจะมีสติมากกว่า

00:48:1400:48:17 ร้านอาหารการแยกสีเขียวกับมีดที่

00:48:1700:48:20 >> สีเขียงสีเขียงนี่เชฟพอแบ่งให้ได้ง่ายๆ

00:48:2000:48:21 ป่ามันมีอะไรบ้าง

00:48:2100:48:24 >> แบ่งสีน้ำเงินก็ซีฟู้ดดิบสีแดงก็เนื้อ

00:48:2400:48:25 สัตว์ดิบ

00:48:2500:48:25 >> ออ

00:48:2500:48:28 >> สีขาวก็พวกdaี่ produc พวกชีสพวกนมสีน้ำ

00:48:2800:48:30 ตาลก็เป็นเนื้อสัตว์สุกอย่างเงี้ยครับ

00:48:3000:48:31 แบ่งประมาณนี้

00:48:3100:48:31 >> อื

00:48:3100:48:32 >> สีเขียวก็ผัก

00:48:3200:48:34 >> น้ำกระป๋องที่เปิดฝ่าแล้วเก็บในตู้เย็น

00:48:3400:48:37 ได้มั้ครับเราเก็บนานได้แค่ไหน

00:48:3700:48:39 >> มันมันจะไม่เสียเชิงเชื้อนะเพราะน้ำ

00:48:3900:48:40 กระป๋องส่วนใหญ่เขาใส่วัตถุกันเสียส่วน

00:48:4000:48:42 ใหญ่ใส่โซเดียมเบนโซเอateแล้วอยู่ในตู้

00:48:4200:48:45 เย็นก็มีอุณหภูมิเย็นอีกแต่ส่วนใหญ่มันจะ

00:48:4500:48:48 เสียเชิงอย่างอื่นมากกว่าแก๊สออกไปก็

00:48:4800:48:50 >> ก็ไม่ซ่า

00:48:5000:48:52 >> นะครับแต่ถ้ากินไม่หมดจริงๆอ่ะแนะนำ

00:48:5200:48:55 สมมุติแกะป๊อกแล้วกินเหลือครึ่งกระป๋อง

00:48:5500:48:56 ควรเอาพลาสติกอ

00:48:5600:48:57 >> ปิดหน่อย

00:48:5700:48:58 >> อื

00:48:5800:49:00 >> เพราะตู้เย็นเป็นอะไรที่กลิ่นทุกอย่างมัน

00:49:0000:49:02 อวนมากอ่ะบางทีมันดูดกลิ่นเนื้อสัตว์

00:49:0200:49:05 กลิ่นอะไรไปกลิ่นก็จะเพี้ยน

00:49:0500:49:06 >> เออ

00:49:0600:49:08 >> อืคนแลปพลาสติกแรปพลาพาตินิดนึง

00:49:0800:49:09 >> แค่เรื่องกลิ่นเลยใช่มั้ฮ

00:49:0900:49:10 >> แค่เรื่องกลิ่น

00:49:1000:49:12 >> ใช้โรคจากตู้เย็นอื่นๆผสม

00:49:1200:49:14 >> ถ้าถ้าซวยก็มีสิทธิ์สมมุติสมมุตินี่

00:49:1400:49:16 สมมุติอันนี้เป็นน้ำอัดลม

00:49:1600:49:17 >> อื

00:49:1700:49:18 >> แล้วเปิดไว้ไม่ได้มีพลาสติกแรป

00:49:1900:49:20 >> ครับ

00:49:2000:49:21 >> เนื้อไก่ดิบอยู่ข้างบน

00:49:2100:49:22 >> อือๆ

00:49:2200:49:23 >> ก็มีสิทธิ์

00:49:2300:49:23 >> อ่า

00:49:2400:49:26 >> แล้วถ้าคนที่กินไปภูมิไม่ดี

00:49:2600:49:26 >> ครับ

00:49:2600:49:30 >> ก็จะติดเชื้อได้แต่ถ้าภูมิดีก็อาจจะรอด

00:49:3000:49:31 มันมันนานาจิตตังมาก

00:49:3100:49:33 >> อก็คือเหมือนที่เราคุยเรื่องน้ำผึ้งเมื่อ

00:49:3300:49:36 กี้ว่าถ้าไปโดนเชื้ออื่นมาอยู่บนพื้นผิว

00:49:3600:49:37 น้ำผึ้งที่มันไม่เสียเลยเนี่ย

00:49:3700:49:37 >> ใช่

00:49:3700:49:40 >> แล้วไปกินเข้าไปก็ซวยถือว่าซวยเอาแต่ไอ้

00:49:4000:49:43 พวกน้ำกระป๋องอ่ะขอร้องหลายคนมองข้าม

00:49:4300:49:43 >> อื

00:49:4300:49:45 >> ช่วยก่อนกินน่ะครับ

00:49:4500:49:46 >> เช็ด

00:49:4600:49:48 >> เออเรื่องนี้อีกเรื่องนึงที่

00:49:4800:49:49 >> ต้องเช็ดนะ

00:49:4900:49:52 >> มันมีเคสเมืองนอกอ่ะกินเข้าไปติดเชื้อโรค

00:49:5200:49:54 จากฉี่หนูตายเพราะบางทีกระป๋องอยู่ในโรง

00:49:5400:49:56 งานน่ะไม่รู้อะไรมาเราไม่รู้ว่าโรงงาน

00:49:5600:49:58 สะอาดแค่ไหนหรือมีฝุ่นน่ะ

00:49:5800:49:58 >> ครับ

00:49:5800:50:00 >> แล้วหลายๆคนคิดว่ากระป๋องสะอาด

00:50:0000:50:01 >> ป๊ะ

00:50:0100:50:01 >> ดื่มเลย

00:50:0100:50:04 >> ดื่มหรือปอ้าไม่ดื่มปากไม่โดนแต่ใช้หลอด

00:50:0400:50:07 แต่อย่าลืมว่าเวลาลงไปครั้งนึงอ่ะมันมี

00:50:0700:50:08 ส่วนโลหะที่มันลงไปในน้ำ

00:50:0800:50:09 >> ครับ

00:50:0900:50:10 >> เพราะงั้นเช็ดหน่อย

00:50:1000:50:12 >> เช็ดด้วยอะไรครับ

00:50:1200:50:14 >> ก็ดีที่สุดก็แอลกอฮอล์

00:50:1400:50:15 >> ถ้ามีซิงก็ล้างหน่อย

00:50:1500:50:16 >> อ

00:50:1600:50:18 >> worst casสก็ทิชชู่แห้งก็ได้อย่างน้อยอื

00:50:1800:50:20 >> แค่ล้างนี่ถือว่าโอเคแล้วป่ะฮะ

00:50:2000:50:21 >> โอเคโอเคโอเค

00:50:2100:50:22 >> ล้างด้วยน้ำเปล่าเฉยๆ

00:50:2200:50:23 >> ได้ครับได้

00:50:2300:50:26 >> เช็ดด้วยเสื้อผมส่วนใหญ่ผมก็จะกลัวผมก็

00:50:2600:50:26 เช็ดด้วยเสื้อ

00:50:2600:50:29 >> ก็ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

00:50:2900:50:31 >> มันคือโรคฉี่หนูนะผมก็เคยได้ยินเรื่องนี้

00:50:3100:50:31 เหมือนกัน

00:50:3100:50:34 >> ใช่มีๆคือโรงงานเขาอาจจะสะอาดแต่บางที

00:50:3400:50:37 ร้านขายของชำมาตั้งไว้แล้วมูอ่ะอ่าหมูมัน

00:50:3700:50:39 ก็วิ่งมาบึดตั้งไว้

00:50:3900:50:39 >> อื

00:50:4000:50:42 >> ตอนกลางคืนตอนตอนเช้ามาเราก็ไม่รู้เพราะ

00:50:4200:50:44 ว่ารอยเท้าน้องหนูเ้าไม่ได้เห็นอะไรอ่ะ

00:50:4500:50:47 >> อืคือมันเท่แบบไม่ใช่เท่หรอกมันมันเป็น

00:50:4700:50:50 ภาพจำเราก็จะเปิดป๊อกแล้วก็ดื่ม

00:50:5000:50:50 >> อือๆ

00:50:5000:50:54 >> ถ้ามันใส่โอกาสเอ้ยถ้ามีโอกาสโฆษณาเนี่ย

00:50:5400:50:55 ใส่ช่วงเช็ดเข้าไปหน่อยเนี่ย

00:50:5500:50:55 >> ใช่

00:50:5500:50:56 >> น่าจะทำให้คนแบบ

00:50:5600:50:59 >> ดีกว่าดีกว่าปลอดภัยกว่าแต่หลังๆเคสไม่

00:50:5900:51:02 ค่อยมีละน่าจะเ้าน่าจะ

00:51:0200:51:05 >> โรงงานเ้าแก้ปัญหาตรงที่มาว่าแลบแลบไอ้

00:51:0500:51:06 ฟิล์มมาเลยไง

00:51:0600:51:06 >> อื

00:51:0600:51:09 >> จะกินทีนึงก็ต้องมานั่งแกะอืไม่ค่อยมี

00:51:0900:51:11 กระป๋องเดี่ยวๆยกเว้นว่าร้านขายของชำมัน

00:51:1100:51:13 เอามาแกะ

00:51:1300:51:14 >> มันอยู่ที่การเก็บ

00:51:1400:51:16 >> ใช่

00:51:1600:51:17 เลย 1 ช่โมงแน่เลยไม่

00:51:1700:51:20 >> เป็นไรล้างมือด้วยสบู่กับเชื้อมือด้วย

00:51:2000:51:22 อกฮออะไรปลอดภัยของกันอันนี้ถามไปแล้ว

00:51:2200:51:24 >> ถามไปแล้วถามไปแล้วล้างมือด้วยสบู่ไม่ได้

00:51:2400:51:25 เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อเกี่ยวกับยกเว้นยก

00:51:2500:51:28 เว้นสบู่นั้นเผสมสารฆ่าเชื้อมานะแต่ส่วน

00:51:2800:51:31 ใหญ่อ่ะสบู่มันแค่เอาคราบสกปรกออกถ้าฆ่า

00:51:3100:51:33 เชื้อต้องไปถึงแอลกอฮอล์

00:51:3300:51:34 >> แอลกอฮอล์

00:51:3400:51:34 >> อื

00:51:3400:51:37 >> แอลกอฮอล์เวลาฆ่าเชื้อเนี่ยมันก็จะตาย

00:51:3700:51:39 อยู่บนมือเราถูกมั้ฮะ

00:51:3900:51:41 >> ใช่ๆแต่ซากเชื้อที่ตายไม่มีปัญหาอะไรครับ

00:51:4100:51:44 ปัญหาอะไรไม่มีปัญหาไม่ไม่ได้ก่อให้เกิด

00:51:4400:51:44 โรค

00:51:4400:51:47 >> มันชุบชีวิตขึ้นมาไม่ได้มันเป็นซากเชื้อ

00:51:4700:51:47 ไปแล้ว

00:51:4700:51:48 >> อ๋อ

00:51:4800:51:51 >> ครับเซลล์ผนังเซลล์มันระเบิดอะไรมันหดหมด

00:51:5100:51:52 แล้วไม่ไม่ได้เกิดปัญหาอะไร

00:51:5200:51:54 >> ไอ้พวกนี้มันเป็นพรีไบโอติกมั้ครับ

00:51:5400:51:56 >> ไม่เป็นนึกว่ามันจะไปช่วยอะไร

00:51:5600:51:58 >> ไม่เป็นไม่เป็นมันจะมีอีกศัพท์นึงที่เป็น

00:51:5800:52:01 เชื้อโปรไบโอติกซากของโปรไบโอติกที่ตาย

00:52:0100:52:03 แล้วอะไรประมาณเนี้ยเขาจะมีอีกศัพท์นึง

00:52:0300:52:06 ที่ว่าโพสไบโอติกที่เขา้าค้นพบว่ามันมี

00:52:0600:52:07 ประโยชน์

00:52:0700:52:08 >> ในบางแง่มุม

00:52:0800:52:08 >> อ๋อ

00:52:0800:52:09 >> อือ

00:52:0900:52:11 >> แต่เชื้อก่อโรคไม่นับ

00:52:1100:52:12 >> อันนั้นเชื้อดี

00:52:1200:52:13 >> อืออืครับ

00:52:1300:52:17 >> โอเค

00:52:1700:52:20 ถั่วพริกของแห้งควรเก็บในตู้เย็นตู้เย็น

00:52:2000:52:21 หรือเก็บไว้ข้างนอกดีกว่ากัน

00:52:2100:52:24 >> ตู้เย็นครับหลายคนเข้าใจว่าไว้ข้างนอก

00:52:2400:52:26 แล้วจะปลอดภัยแต่ถั่วถ้าขั้วไม่ดีมีความ

00:52:2700:52:29 ชื้นพริกขั่้วไม่ดีมีความชื้นแล้วจะเกิด

00:52:2900:52:30 เชื้อรา

00:52:3000:52:32 >> นั้นแล้วเชื้อรานั้นสร้างสารพิษที่ทนความ

00:52:3200:52:33 ร้อนมากแล้วทำให้เกิดมะเร็งตับหรือตับ

00:52:3400:52:35 อักเสเขาเรียกalฟ่าท็อกซิน

00:52:3500:52:36 >> อื

00:52:3600:52:36 >> ครับ

00:52:3600:52:37 >> อันตรายยังไงกันเราครับ

00:52:3700:52:40 >> โอถ้าท็อกซินมาเอาไปคั่วไปผัดก็ไม่สลาย

00:52:4100:52:43 ครับแล้วมันทำให้เกิดตับอักเสบแล้ว

00:52:4300:52:46 เหนี่ยวนำทำให้เกิดมะเร็งตับในอนาคตได้

00:52:4600:52:49 >> โอกาสเกิดขึ้นง่ายหรือยากครับมันหมายถึง

00:52:4900:52:49 ว่า

00:52:4900:52:51 >> ถ้ากินสะสมไปนานๆมีโอกาส

00:52:5100:52:52 >> ต้องเกิดจากการสะสมก่อนใช่มั้ฮะ

00:52:5200:52:53 >> กินบ่อยๆ

00:52:5300:52:53 >> เออ

00:52:5300:52:58 >> กินก๋วยเตี๋ยวหรือกินอะไรที่ใช้พริกแห้ง

00:52:5800:53:01 หรือถั่วลิสงแห้งที่ชื้นๆเก่าๆบ่อยๆก็มี

00:53:0100:53:02 โอกาส

00:53:0200:53:04 >> เราสมมุติว่าเราไม่ได้ชอบกินถั่วหรือพริก

00:53:0400:53:07 อะไรมาก่อนเนี่ยแล้วเรามีโอกาสซวยขนาดแบบ

00:53:0700:53:08 ไปกินมาแค่ครั้ง 2 ครั้งแล้ว

00:53:0800:53:09 >> ออไม่ๆๆ

00:53:0900:53:10 >> ต้องสะสม

00:53:1000:53:10 >> พวกนี้ต้องสะสม

00:53:1100:53:11 >> เออ

00:53:1100:53:13 >> พวกนี้สะสมผสมถ้าคนที่กินก๋วยเตี๋ยวครั้ง

00:53:1300:53:15 นึงอาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้งไม่เป็นไร

00:53:1500:53:15 >> อื

00:53:1500:53:19 >> แต่มันจะมีกลุ่มคนบางคนที่กินเกือบทุกวัน

00:53:1900:53:19 ไง

00:53:2000:53:23 >> แล้วกินถั่วเก่าพริกเก่ามันก็จะทำให้ตับ

00:53:2300:53:27 การอักเสบของตับซ้ำๆซๆซๆก็จะมีโอกาสเป็น

00:53:2700:53:29 มะเร็งตับในอนาคต

00:53:2900:53:30 >> เก็บในตู้เย็นช่วย

00:53:3000:53:32 >> เพราะพอเก็บในตู้เย็นน่ะครับเชื้อราจะโต

00:53:3200:53:34 แต่ต้องเก็บให้ถูกต้อง

00:53:3400:53:34 >> อืยังไงครับ

00:53:3400:53:36 >> ความจริงตู้เย็นมันค่อนข้างชื้นนะถ้าเก็บ

00:53:3600:53:38 เปิดไว้มันก็ชื้นเหมือนกัน

00:53:3800:53:40 >> ควรเก็บแบบปิดฝาให้สนิท

00:53:4000:53:41 >> อือ

00:53:4100:53:43 >> หรือถ้าเป็นพริกแห้งควรอยู่ในถุงที่ความ

00:53:4300:53:45 ชื้นเข้าไม่ได้แล้วควรมีทิชชู่เข้าไปสัก

00:53:4500:53:47 แผ่น 2 แผ่นเพราะทิชชู่มันดูความชื้นเก่ง

00:53:4700:53:47 มาก

00:53:4700:53:47 >> อือ

00:53:4800:53:51 >> พริกแห้งจะแห้งแต่สมมุติถ้ามันกลับมาชื้น

00:53:5100:53:54 นะเชื้อก็จะโตยากขึ้นเพราะอุณหภูมิต่ำ

00:53:5400:53:55 เชื้อโตยาก

00:53:5500:53:57 >> อ๋อทิชชู่ที่บอกใส่เข้าไปนี่คือทิชชู่

00:53:5700:53:57 แห้งเลยเหรอ

00:53:5800:53:59 >> ทิชู่แห้งทิชชู่ครัวอย่างเงี้ยครับ

00:53:5900:54:01 Kitchen Toown อย่างเงี้ยพวกเนี้ย

00:54:0100:54:04 >> ใส่เข้าไปรวมกับตัวตัวพริกหรือถั่วนี่

00:54:0400:54:04 อะไร

00:54:0400:54:06 >> พริกหรือถั่วไม่ต้องก็ได้เพราะมันแห้ง

00:54:0600:54:09 อยู่แล้วไงแล้วถ้าใส่ไปมันก็แบบเป็นเศษๆ

00:54:0900:54:11 >> แต่เวลาพริกแห้งอ่ะเก็บเข้าไปได้กระเทียม

00:54:1100:54:13 กับหอมใหญ่หอมแดงก็ก็ช่วยได้เหมือนกัน

00:54:1300:54:14 เก็บเหมือนกัน

00:54:1400:54:14 >> อื

00:54:1400:54:17 >> เก็บในถุงปิดสนิทแล้วก็ใส่ทิชชู่ไปมันจะ

00:54:1700:54:18 อยู่ได้นานเลย

00:54:1800:54:20 >> อถามในฐานะคนชอบกินถั่วครับผมกลัวalฟ่า

00:54:2000:54:21 ท็อกซินมากนะ

00:54:2100:54:22 >> อือ

00:54:2200:54:25 >> แล้วแบบมันโอกาสจะเกิดในถั่วที่เราไปซื้อ

00:54:2500:54:27 ตามถุง

00:54:2700:54:29 >> ตามถุงไม่ค่อยเพราะตามถุงส่วนใหญ่มันผลิต

00:54:2900:54:31 มาจากโรงงานเขาจะมีค่ามาตรฐานmoอยสเจอร์

00:54:3100:54:33 หรือค่าความชื้นอยู่ว่าต้องต่ำกว่านี้ถึง

00:54:3300:54:34 จะปลอดภัยอ

00:54:3400:54:34 >> ออือ

00:54:3400:54:36 >> ยกเว้นไปซื้อถั่วที่ส่งตามท้องตลาดที่

00:54:3600:54:39 เขา้าแบบอาแพไว้อย่างเงี้ยก็มีโอกาสอ

00:54:3900:54:39 >> อื

00:54:3900:54:42 >> แต่อย่างน้อยอะไรที่มีฉลากมียี่ห้อมีอย.

00:54:4200:54:45 พอมีบาร์โคดพวกนี้มันจะมีมาตรฐานจากโรง

00:54:4500:54:45 งานมา

00:54:4500:54:45 >> อ

00:54:4600:54:48 >> จะค่อนข้างชัวร์แล้วถ้าซื้อแบบนั้นมาคั่ว

00:54:4800:54:51 เองแล้วใช้ใหม่ๆโอกาสเจอ

00:54:5100:54:51 >> น้อยมาก

00:54:5100:54:53 >> น้อยมากแทบไม่เจอเลย

00:54:5300:54:54 >> โอเคครับ

00:54:5400:54:57 >> ครับ

00:54:5700:54:59 >> ล้างผักผลไม้ก่อนกินใช้น้ำประปาอย่าง

00:54:5900:55:01 เดียวพอมั้ยครับ

00:55:0100:55:02 >> พอกับอะไร

00:55:0200:55:05 >> พอกับความปลอดภัยไม่รู้เหมือนกัน

00:55:0500:55:07 >> ส่วนใหญ่ความอ่าส่วนใหญ่ความไม่ปลอดภัยใน

00:55:0700:55:10 ผักผลไม้ส่วนใหญ่มาจากพวกพยาธกับยาฆ่า

00:55:1000:55:12 แมลงน้ำเปล่าไม่พอนะครับ

00:55:1200:55:12 >> อือ

00:55:1300:55:15 >> ต้องเป็นเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งน้ำส้มสาย

00:55:1500:55:18 ชูก็ได้เกลือก็ได้เบกิ้งโซดาก็ได้

00:55:1800:55:19 เบกingโซดาค่อนข้างเวิร์ค

00:55:1900:55:22 >> หลังๆมันมีเบกโซดาเกรดที่ใช้ล้างล้างผัก

00:55:2200:55:23 ผลไม้

00:55:2300:55:26 >> คือมันจะไม่บริสุทธิ์เท่าเกรดที่ใช้ทำขนม

00:55:2600:55:27 ซึ่งมันก็ถูกกว่าอ

00:55:2700:55:28 >> เอาไว้ล้างได้

00:55:2800:55:28 >> อือ

00:55:2800:55:31 >> แล้วอย่างหลักการล้างผักผลไม้ที่ถูกต้อง

00:55:3100:55:33 อ่ะต้องล้างน้ำแรกอ่ะไม่จำเป็นต้อง

00:55:3300:55:36 เบกิ้งโซดาน้ำแรกเป็นน้ำประปาไหลผ่านตลอด

00:55:3600:55:37 เวลาแต่ต้องไหลด้วยนะ

00:55:3800:55:38 >> ต้องไหลด้วย

00:55:3800:55:42 >> เพราะมีเป็นกะละมังไปแช่สารเคมีมันก็อยู่

00:55:4200:55:43 กับผักอย่างงั้น

00:55:4300:55:43 >> อือ

00:55:4300:55:47 >> อืตามหลักการล้างที่ถูกต้องควรน้ำไหลผ่าน

00:55:4700:55:49 แต่กี่นาทีจำไม่ได้แล้วอ่ะ 2-3 นาทีมั้ง

00:55:4900:55:51 พอน้ำไหลผ่านเสร็จปุ๊บค่อยไปแช่

00:55:5100:55:54 เบกิ้งโซดาแล้วน้ำไหลผ่านอีกทีนึง

00:55:5400:55:54 >> อื

00:55:5400:55:55 >> จะปลอดภัย

00:55:5500:55:57 >> คือผมอจะชอบเจอสมมุติว่าผมไปเอาไปจาก

00:55:5700:56:00 ตะกร้าของขวัญปีใหม่อะไรอย่างเงี้ย

00:56:0000:56:04 >> ผมก็จะแบบอยากกินน่ะก็จะล้างน้ำเปล่า

00:56:0400:56:05 >> อื

00:56:0500:56:07 >> ไม่รู้ว่ามันพอหรือเปล่าไม่น่าพอละแต่ว่า

00:56:0700:56:09 มันจะมีแวกอีกเรื่องแวกที่มันอยู่

00:56:0900:56:11 >> ความจริงแวกไม่ใช่เป็นตัวคอนเซิร์นมัน

00:56:1100:56:13 เป็นแความจริงแพวกนี้เป็น edible

00:56:1300:56:15 >> มันกินได้แต่มันแค่ความรู้สึกว่าแบบมัน

00:56:1500:56:17 มันอะไรก็ไม่รู้อ่ะ

00:56:1700:56:19 >> แวกต้องล้างน้ำร้อนแล้วมันจะลอยขึ้นมา

00:56:1900:56:20 ข้างบนเลย

00:56:2000:56:21 >> คือการล้างน้ำเปล่าเนี่ย

00:56:2100:56:22 >> แวกก็ไม่หาย

00:56:2200:56:25 >> ไม่หายเพราะแวกละลายได้แวกเป็นไขมันชนิด

00:56:2500:56:27 นึงเป็นลิพIDชนิดนึงละลายได้ดีที่ความ

00:56:2700:56:27 ร้อนสูงครับ

00:56:2700:56:28 >> ออือๆ

00:56:2800:56:31 >> แล้วถึงทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยเบกิ้งโซดา

00:56:3100:56:34 หรือน้ำส้มสายชูอ่ะที่ผมเล่ามาทั้งหมดอ่ะ

00:56:3400:56:37 มันล้างได้แค่ยาฆ่าแมลงด้านนอกนะมันจะมี

00:56:3700:56:40 ยาฆ่าแมลงที่มันดูดชนิดดูดซึมที่ดูดตั้ง

00:56:4000:56:42 แต่รากแล้วฝังอยู่ในนั้นน่ะ

00:56:4300:56:43 >> เออ

00:56:4300:56:45 >> ล้างงี้ก็ล้างไม่ออกอ

00:56:4500:56:47 >> อันนี้ก็ต้องรู้ต้นต่อว่าต้น

00:56:4700:56:48 >> ผลไม้มาจากไหนนะ

00:56:4800:56:50 >> ใช่แต่ล้างก็ยังดีกว่าไม่ล้างเ้าผมไปดู

00:56:5000:56:54 ตัวเล็กเปเปอร์มานะสมมุติเอ๊สดีไซน์หรือ

00:56:5400:56:55 ยาฆ่าแมลงมันมี 100% อ่ะการล้างด้วย

00:56:5500:56:58 เบกิ้งโซดาล้างแค่ข้างนอกออกอ่ะอย่างน้อย

00:56:5800:57:00 มันลดไป 30% แล้วก็เหลือ 70 ก็ยังโอเค

00:57:0000:57:03 กว่าเหลือ 100 แต่ 70 มันก็ยังยังสูงอ

00:57:0300:57:04 >> อือๆ

00:57:0400:57:07 >> เลี่ยงยากพูดตามตรงๆสมัยนี้ยังยกเว้นไป

00:57:0700:57:08 เลือกซื้อออร์แกนิค

00:57:0800:57:09 >> แพงอีก

00:57:0900:57:13 >> ครับแต่ก็แล้วแต่คนอยากปลอดภัยก็ยอมใจ

00:57:1300:57:14 หน่อย

00:57:1400:57:16 >> ทางที่ดีที่สุดกินหมุนเวียนครับเราหนีสาร

00:57:1600:57:18 พิษไม่ได้ในโลกนี้

00:57:1800:57:18 >> เออ

00:57:1800:57:21 >> แต่อย่าไปกินส้มซ้ำๆเราก็จะได้ยาค่าแมลง

00:57:2100:57:24 จากส้มซ้ำๆมันก็จะไปเหนี่ยวนำให้เกิดโรค

00:57:2400:57:25 ใดโรคหนึ่ง

00:57:2500:57:26 >> อื

00:57:2600:57:29 >> ตอนนี้กินส้ม 2 วันอีกวันไปกินแตงโม

00:57:2900:57:31 >> กินสับปะรดการหมุนเวียนสารพิษทุกงาน

00:57:3100:57:33 ประชุมเขาพยายามพูดเราเลี่ยงไม่ได้แต่เรา

00:57:3300:57:35 หมุนเวียนสารพิษได้

00:57:3500:57:38 >> แต่ว่าสารพิษถ้ามันไม่ถึงขั้นใช้เรียกว่า

00:57:3800:57:40 ซ้ำๆไปเรื่อยๆเนี่ยมันจะมีการจัดการกับ

00:57:4000:57:41 ร่างกาย

00:57:4100:57:42 >> ใช่ร่างกายมันหาวิธีการจัดการของมันเอง

00:57:4200:57:44 แต่พอซ้ำไปเยอะๆอ่ะอ

00:57:4400:57:47 >> มันจะเหนี่ยวนำให้เกิดโรคใดโรคหนึ่งได้อื

00:57:4700:57:49 >> ก็คือกินให้หลากหลายขึ้น

00:57:4900:57:50 >> กินให้หลากหลายคือคำตอบ

00:57:5000:57:51 >> อืครับ

00:57:5100:57:53 >> โอเคครับ

00:57:5300:57:54 >> เหนื่อยมั้ยครับ

00:57:5400:57:56 >> อีกนิดจะหอบแล้วไม่ใช่แล้วได้อยู่ได้อยู่

00:57:5600:57:57 ได้อยู่

00:57:5700:58:00 >> ข้าวในหม้อหุงข้าวที่เปิดอุ่นโหมดอุ่น

00:58:0000:58:01 ตลอดเวลาครับอยู่ได้นานแค่ไหน

00:58:0100:58:04 >> โหอันตรายมากมีเคสแบบนี้เยอะมากหลายคนคิด

00:58:0400:58:07 ว่าอุ่นตลอดเวลาจะปลอดภัยเพราะมันอุ่น

00:58:0700:58:08 >> แต่ความจริงคำว่าอุ่นของข้าวอ่ะคือ

00:58:0800:58:09 อุณหภูมิอยู่ช่วง

00:58:0900:58:12 50 กว่าองศาเองนะยังไม่พ้น Danger Zone

00:58:1200:58:13 Danger Zซนคืออุณหภูมิที่มันอันตรายคือ

00:58:1400:58:16 5-60 องศา

00:58:1600:58:17 >> แล้วสังเกตข้าวที่อุ่นตลอดเวลา

00:58:1700:58:20 >> บูดไวกว่าข้าวที่ไม่อุ่นตลอดเวลา

00:58:2000:58:22 >> จริงหรอเออนึกไม่ออก

00:58:2200:58:26 >> เจอหลายเคอุ่นคือหลายคนอุ่นแล้วแบบทิ้ง

00:58:2600:58:29 ไว้พอมาเปิดอีกทีนึงโอ้โหเป็นยางมันเกิด

00:58:2900:58:32 จากเชื้อตัวนึงที่ทนความร้อนสูงมากคือสปอ

00:58:3200:58:34 ของบซิัส

00:58:3400:58:35 >> อ

00:58:3500:58:36 >> อันนี้เชื่ออีกตัวละตะกี้เราพูดถึงตัว

00:58:3600:58:39 อื่นเนาะบซิัสมันสร้างสปอ

00:58:3900:58:41 แล้วสปอมันทนความร้อนสูงมาก

00:58:4100:58:42 >> ครับ

00:58:4200:58:44 >> แล้วพอมาถึงอุณหภูมินึงเช่น 40 อุ่นๆน่ะ

00:58:4400:58:46 สปอจะจะงอก

00:58:4600:58:46 >> อ

00:58:4600:58:49 >> พองอกสร้างสารพิษคนกินเข้าไปก็ก็ท้องเสีย

00:58:4900:58:50 >> อื

00:58:5000:58:54 >> ข้าวดีที่สุดหุงเสร็จควรเอามาผึ่งให้มัน

00:58:5400:58:55 หายระอุ

00:58:5500:58:56 >> อื

00:58:5600:58:59 >> แล้วแช่เย็นจะกินค่อยเอาข้าวเย็นมาเวฟ

00:58:5900:59:01 แล้วข้าวเย็นมีประโยชน์กว่าด้วยเพราะว่า

00:59:0100:59:03 คาร์โบไฮเดรตมันลดลงนะ

00:59:0300:59:03 >> อ้าเหรอครับ

00:59:0300:59:06 >> แป้งมันลดลงมันจะมีแป้งหยตกผลึกแม้เอามา

00:59:0600:59:09 อุ่นมันก็ยังเป็นข้าวที่ตกผลึกอยู่

00:59:0900:59:10 >> อื

00:59:1000:59:12 >> G หรือค่าดัชนีน้ำตาลมันจะลด

00:59:1200:59:12 >> อ๋อ

00:59:1200:59:14 >> แต่ไม่ใช่ลดจากหลายคนนะชอบเข้าใจผิดว่า

00:59:1400:59:16 จาก 100 เหลือ 0 มันจาก 100 เหลือแค่

00:59:1600:59:19 ประมาณ 70-80 ประมาณนั้นนิดหน่อย

00:59:1900:59:20 >> ก็ลดลงนิดหน่อยแต่ก็ยังดี

00:59:2100:59:23 >> แล้วเราเก็บข้าวไว้ในหม้ออุ่นเนี่ยได้นาน

00:59:2300:59:25 มากที่สุดแค่ไหนเพราะร้านอาหารส่วนใหญ่ก็

00:59:2500:59:26 จะแบบทำอย่างนั้นอยู่นะ

00:59:2600:59:27 >> อุ่นไว้นานใช่มั้ครับ

00:59:2800:59:30 >> โหความจริงไม่ควรไม่ควรเกิน 4-6 ชั่วโมง

00:59:3000:59:30 4-6

00:59:3000:59:31 >> 4-6 ชม

00:59:3100:59:32 >> อือ

00:59:3200:59:35 >> แต่มันมีทริกอยู่ถ้าอยากอุ่นจริงๆเพราะคง

00:59:3500:59:37 แบบไม่คงไม่สะดวกแช่เย็น่

00:59:3700:59:40 >> หรือว่าเอามาเวฟตอนหุงอ่ะครับให้ใส่น้ำ

00:59:4000:59:43 ส้มสายชูไปซักสมมุติหม้อหม้อหม้อหม้อปกติ

00:59:4300:59:45 อ่ะครับใส่ไป 1 ช้อนฉ่า

00:59:4500:59:45 >> อือ

00:59:4500:59:48 >> น้ำส้มสายชูเป็นตัวที่ป้องกันไม่ให้สปอ

00:59:4800:59:50 ของบาซิรัสมันงอกได้

00:59:5000:59:53 >> อืเหมือนเป็นยาสารพัดประโยชน์เหมือนกันนะ

00:59:5300:59:54 น้ำน้ำส้มสารพัดประโยชน์มาก

00:59:5400:59:56 >> น้ำส้มสายชูอยู่ในหลายๆข้อที่เราใช้

00:59:5600:59:59 >> หลายๆข้อผมก็ใช้แล้วข้าวจะหนึบขึ้นด้วย

00:59:5901:00:01 ไม่รู้ทำไมเหมือนกันมันจะเงาหนึบๆ

01:00:0101:00:01 >> อื

01:00:0101:00:03 >> คือ texture มันจะมันจะดีขึ้นเมื่อขุงกับ

01:00:0301:00:05 กรดนิดนแต่จะไซสเยอะนะมันจะเหม็น

01:00:0501:00:06 >> อ่า

01:00:0601:00:08 >> แล้วลองดูครับไม่มีวันเสีย

01:00:0801:00:08 >> อื

01:00:0801:00:10 >> ข้ามคืนยังไม่เสียเลยขนาดนี้น้ำส้มใส่ชู

01:00:1001:00:12 แล้วหลายร้านอาหารเช็คทริกนี้

01:00:1201:00:15 >> ข้ามคืนไม่เสียคืออยู่ในตู้เย็น

01:00:1501:00:15 >> อยู่ข้างนอก

01:00:1601:00:17 >> อยู่ข้างนอกก็ไม่เสีย

01:00:1701:00:19 >> จริงๆมันมันมหัศจรรย์มาก

01:00:1901:00:22 >> น้ำส้มสายชูทุกประเภทในโลกเลยป่าครับ

01:00:2201:00:23 >> ความจริงทุกประเภทแต่ส่วนใหญ่ที่ใช้คือ

01:00:2301:00:25 น้ำส้มใสชูกลั่นสีใสเพราะไม่งั้นกลิ่นมัน

01:00:2501:00:28 จะมีกลิ่นหมักกลิ่นแอปเปิ้ลกลิ่น

01:00:2801:00:28 >> อือๆ

01:00:2801:00:30 >> สับปะรดมากวนคาวสีด้วย

01:00:3001:00:32 >> อือๆยกเว้นว่าเราต้องการ

01:00:3201:00:34 >> ใช่หลายหลายร้านใช้เพื่อประหยัดไม่ต้อง

01:00:3401:00:35 ไม่ต้องแชร์เย็นไม่ต้องอะไรแบบนี้

01:00:3501:00:38 >> เอ

01:00:3801:00:41 โอเคอันนี้ไม่รู้จะตอบเถั่วมีถั่วที่

01:00:4101:00:44 เริ่มมีกลิ่นหืนยังกินได้อยู่หรือเปล่า

01:00:4401:00:45 เหมือนเมื่อกี้เราถามเรื่อง

01:00:4501:00:47 >> อู้อ้าที่บอกว่าเดี๋ยวกลับมาใช่มั้ย

01:00:4701:00:50 เรื่องถั่วมีกลิ่นหืนมันปลอดภัยเชิงเชื้อ

01:00:5001:00:52 นะครับเพราะการที่กลิ่นเหม็นหืนมาจากไข

01:00:5201:00:54 มันเปลี่ยนเป็นสารอื่นมันออกซิไซด้วย

01:00:5401:00:56 ออกซิเจนจากอากาศเปลี่ยนเป็นสารอื่นปลอด

01:00:5601:00:58 ภัยเชิงเชื้อ

01:00:5801:01:00 >> แต่พูดตรงๆไม่ควรกินเพราะสารที่ทำให้

01:01:0001:01:02 เหม็นหืนเป็นสารออกซิไiz

01:01:0201:01:02 >> อ

01:01:0201:01:05 >> มันจะมันจะเหมือนเป็นพูดง่ายๆเป็นอนุมูล

01:01:0501:01:06 อิสระอในร่างกาย

01:01:0601:01:08 >> อนุมูลอิสระคืออะไรครับ

01:01:0801:01:10 >> กินเข้าไปแล้วทำให้ร่างกายอักเสบอะไร

01:01:1001:01:11 ประมาณเนี้ยครับอ

01:01:1101:01:12 >> อ

01:01:1201:01:15 >> สารอนุมูลอิสระเมื่อร่างกายได้ดับมากๆ

01:01:1501:01:17 อักเสบเยอะอักเสบเยอะมีโอกาสเป็นมะเร็ง

01:01:1701:01:18 ได้ในอนาคต

01:01:1801:01:19 >> อือ

01:01:1901:01:21 >> สารอนุิสระเช่นเดินตามท้องถนนแล้วมีกลิ่น

01:01:2101:01:24 มีจากการเผาไหม้อ่ะจากควันรถยนต์นะครับ

01:01:2401:01:27 ไอ้พวกนี้ก็เป็นอนุมูลอิสระ UV ก็เป็น

01:01:2701:01:29 อนุมูลอิสระได้การกินอาหารปิ้งย่างก็เป็น

01:01:2901:01:32 อนุมูลอิสระได้กลิ่นเหม็นหืนจากถั่ว

01:01:3201:01:33 >> อือ

01:01:3301:01:35 >> ก็เป็นสารตั้งต้นในการทำให้เกิดอนุม

01:01:3501:01:36 อนุมูลอิสระได้

01:01:3601:01:38 >> เอไม่ควรกินเพราะมันมีอนุมูลอิสระ

01:01:3901:01:41 >> ใช่มันไม่ดีระยะยาวแต่มันไม่ทำให้ท้อง

01:01:4101:01:42 เสียเพราะมันไม่ใช่เชื้ออ

01:01:4201:01:42 >> ออ

01:01:4201:01:44 >> ครับมันเป็นไขมันที่เปลี่ยนเป็นสารเหม็น

01:01:4501:01:45 หื่นแล้ว

01:01:4501:01:48 >> โอเคถ้าเหม็นหื่นแล้วก็ไม่ต้องกินมันก็

01:01:4801:01:49 ได้

01:01:4901:01:52 >> ใช่แต่บางแต่หลายครั้งอ่ะถ้ายอมรับตามตรง

01:01:5201:01:55 เราต้องใช้ถั่วนั้นเลยอ่ะแล้วมันเหม็นหืน

01:01:5501:01:58 แบบนิดเดียวอ่ะเอาไปอบหรือเอาไปคั่วหายนะ

01:01:5801:01:59 >> อ๋อ

01:01:5901:02:00 >> กลิ่นเหม็นหัวเพราะกลิ่นเหม็นหืนส่วนใหญ่

01:02:0001:02:02 แล้วเหยได้ดีในความร้อน

01:02:0201:02:03 >> มันก็คือไขมัน

01:02:0301:02:05 >> ใช่มันคือมันคือไขมันที่เปลี่ยนฟอร์มไป

01:02:0501:02:05 แล้ว

01:02:0501:02:06 >> เสียดายไปแล้ว

01:02:0601:02:09 >> แต่ต้องระวังว่าต้องแค่เหม็นหื่นนะ

01:02:0901:02:10 >> อื

01:02:1001:02:13 >> ถ้าส่วนใหญ่กากถั่วที่เหม็นหืนคือถั่ว

01:02:1301:02:16 เก่าแล้วถั่วเก่าอ่ะalฟ่าท็อกซินมันก็ตาม

01:02:1601:02:16 มาด้วยไง

01:02:1601:02:17 >> นั่นดิ

01:02:1701:02:20 >> มันก็มาเป็นแพ็คคือทางที่ดีอ่ะทิ้งเหอะ

01:02:2001:02:20 >> เออๆ

01:02:2001:02:21 >> อทิ้งเหอะ

01:02:2101:02:25 >> โอเคแต่ถ้าเกิดเรามั่นใจว่าเราคั่วเอง

01:02:2501:02:26 แล้วทิ้งไว้วันเดียวมีกลิ่นหินนิดเดียว

01:02:2701:02:28 อะไรอย่างเงี้ยโอกาสที่แบบ

01:02:2801:02:28 >> อื

01:02:2801:02:30 >> ปลอดภัยมันก็จะมีมากกว่าแต่ก็ทิ้งดีกว่า

01:02:3101:02:32 ทิ้งทิ้งดีกว่าทิ้งดีกว่าเพื่อ

01:02:3201:02:32 >> ความปลอดภัยนะครับ

01:02:3201:02:34 >> หลายคนเก็บถั่วที่ส่งแช่แข็ง

01:02:3401:02:35 เออ

01:02:3501:02:38 >> แต่หลายคนเข้าใจผิดเก็บแช่แข็งเชื้อไม่มี

01:02:3801:02:40 วันโต 100% รามไม่มาแน่นอน

01:02:4101:02:43 >> แต่แช่แข็งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าจะหยุด

01:02:4301:02:44 ได้ทุกปฏิกิริยา

01:02:4401:02:45 >> อือ

01:02:4501:02:47 >> ยกเว้นปฏิกิริยาเดียวที่หยุดไม่ได้คือ

01:02:4701:02:48 ปฏิกิริยาการเหม็นหืน

01:02:4901:02:49 >> อ

01:02:4901:02:50 >> แช่แข็งจะหืน

01:02:5001:02:51 >> อ๋อ

01:02:5101:02:53 >> หืนจะไม่หยุดจะหยุดไม่ได้จะมาเรื่อยๆ

01:02:5301:02:53 >> อือ

01:02:5401:02:56 >> หมู 3 ชั้นเก็บแช่แข็งสมมุติเก็บเป็นปี

01:02:5601:02:57 ไม่เสียนะ

01:02:5701:02:59 >> แต่กลิ่นเพี้ยนแล้วครับกลิ่นหืนหมดแล้วอ

01:02:5901:03:00 >> เออ

01:03:0001:03:02 >> เพราะเป็นปฏิยาเดียวในโลกที่เกิดได้ตอน

01:03:0201:03:03 แช่แข็ง

01:03:0301:03:03 >> โอ

01:03:0301:03:04 >> อืออื

01:03:0401:03:06 >> ความรู้ใหม่ตู้เย็นไม่ได้ช่วยตลอดเวลา

01:03:0601:03:08 >> ไม่ๆ

01:03:0901:03:11 >> โอเคเอ้อพูดถึงเรื่องออกซิไดต่อเลยครับ Y

01:03:1101:03:15 ที่ออกซิไดแล้วอันตรายมั้ยเอาไปทำอาหาร

01:03:1501:03:16 >> ดื่มได้

01:03:1601:03:17 >> อือ

01:03:1701:03:19 >> ถ้าไม่คเซิร์นเรื่องรสชาติไอออกซิไดกับ

01:03:1901:03:22 ถั่วออกซิไดต่างกันถั่วออกซิไซสารมันเป็น

01:03:2201:03:26 มาโนมาโลนดีไฮด์อะไรพวกเนี่ยมันจะเป็นอ่า

01:03:2601:03:27 อนุมูลอิสระ

01:03:2701:03:27 >> อ

01:03:2801:03:30 >> แต่โักจากไที่ออกซิไซไม่ได้อันตรายครับ

01:03:3101:03:32 >> เป็นสารที่ยังกินได้อยู่แค่กลิ่นมัน

01:03:3201:03:33 เพี้ยน

01:03:3301:03:33 >> อืออ

01:03:3301:03:36 >> ถ้าไม่อยากดื่มก็เอาไปคุกิได้ไม่มีปัญหา

01:03:3601:03:38 ไปทำขนมเอาไปอะไรก็ได้ครับอครับ

01:03:3801:03:40 >> อื

01:03:4001:03:42 >> ไวออกซิไซ

01:03:4201:03:43 เปิดไวกินไม่จบ

01:03:4401:03:48 >> กลิ่นกลิ่นมันไม่เชิงกลิ่นหืนนะแต่มัน

01:03:4801:03:50 กลิ่นfrรุตตี้กลิ่น floral กลิ่นสปiceมัน

01:03:5001:03:51 มันหายละ

01:03:5101:03:51 >> อื

01:03:5101:03:52 >> ครับ

01:03:5201:03:52 >> อือ

01:03:5201:03:54 >> โอเค

01:03:5401:03:56 นมที่ดูแล้วเป็นปกติแต่เลย One Best

01:03:5601:03:58 before มาแล้วยังดื่มได้มย

01:03:5801:04:00 >> นมนม UHT

01:04:0001:04:01 >> ครับ

01:04:0101:04:03 >> มันจะเป็น Best before เพราะว่ามันไม่

01:04:0301:04:05 มันแทบไม่มีวันเสียเชิงเชื้อยกเว้นว่า

01:04:0501:04:06 กล่องมันบุก

01:04:0601:04:07 >> เออ

01:04:0701:04:10 >> สมมุติฟมันคือ 1 ปีหลังวันผลิตอ่ะครับ

01:04:1001:04:10 >> ครับ

01:04:1001:04:13 >> พูดตามตรงนะเก็บไว้ 2 ปีกินก็ไม่ท้องเสีย

01:04:1301:04:13 >> อื

01:04:1301:04:15 >> แต่กลิ่นเพี้ยนหมดแล้ว

01:04:1501:04:15 >> อื

01:04:1501:04:18 >> เพราะมันเสียเชิงเคมีสีเปลี่ยนกลิ่นเหม็น

01:04:1801:04:19 หืนกลิ่นอะไร

01:04:1901:04:20 >> อ

01:04:2001:04:22 >> เพราะฉะนั้นมันเสียเชิงเคมีกายภาพมันเลย

01:04:2201:04:23 ใช้คำว่า best before

01:04:2301:04:24 >> อือ

01:04:2501:04:28 >> นมกระป๋องถ้ามันเลยมาซักแบบวัน 2 วันหรือ

01:04:2801:04:29 อาทิตย์ 2 อาทิตย์ Best before นะครับ

01:04:2901:04:30 >> ครับ Best before

01:04:3001:04:33 >> ยังๆยังยังดื่มได้ไม่ได้มีปัญหาอืแต่ต้อง

01:04:3301:04:35 แยกว่ามันมี Best before กับ expireate

01:04:3501:04:36 จริงๆนะ

01:04:3601:04:38 >> ใช่ถ้า expireate เลยแล้วไม่ควร

01:04:3801:04:39 >> เออ

01:04:3901:04:43 >> แล้วบอกเฮ้ยดื่มนมเกิน expiry date กิน

01:04:4301:04:46 เข้าไปแล้วไม่เปรี้ยวแต่การเสียของนมอ่ะ

01:04:4601:04:47 มันไม่ได้มีแค่เชื้อที่ให้เปรี้ยวบาง

01:04:4701:04:50 เชื้อโตแต่ไม่ให้รสเปรี้ยวมันก็มีเหมือน

01:04:5001:04:50 กัน

01:04:5001:04:51 >> เราก็ไม่รู้ตัว

01:04:5101:04:53 >> เราไม่รู้สมมุติสมมุติมีลิสเตอรียอย่าง

01:04:5301:04:56 เงี้ยลิซอรียmonโนซogenสไม่ได้ให้เปรี้ยว

01:04:5601:04:58 >> แต่ถ้ามันโตแล้วแล้วเราดื่มเข้าไปเอ้ยไม่

01:04:5801:05:00 เปรี้ยวนี่อีก 6 ชมง

01:05:0001:05:03 >> อือถ่ายท้องก็มีเหมือนกัน

01:05:0301:05:07 >> อ่ะถามต่อว่านมเปรี้ยวนมบูดกับโยเกิร์ต

01:05:0701:05:08 มันต่างกันตรงตรงไหนครับ

01:05:0801:05:09 >> คนละเชื้อเลยครับนม

01:05:0901:05:10 >> อ

01:05:1001:05:13 >> นมเปรี้ยว UHT ที่ไม่ได้บูดนะโยเกิร์ตมัน

01:05:1301:05:17 มาจากเชื้อ 2 ตัวแคโตบาซิัสกับสตปโตคอกคั

01:05:1701:05:18 เทอรโมฟิัส 2 ตัวนี้

01:05:1801:05:19 >> อือฮึ

01:05:1901:05:21 >> 2 ตัวนี้เป็นเชื้อปลอดภัย

01:05:2101:05:22 >> อือคือการตั้งใจให้เป็น

01:05:2201:05:25 >> ใช่ตั้งใจให้เป็นแต่ถ้านมที่ไม่ได้ใส่ 2

01:05:2501:05:27 ตัวนี้แล้วมันเปรี้ยวเองอาจจะเป็น

01:05:2701:05:30 แลคโตบาซิลัสตัวอื่นหรืออีคลอไรด์ตัวอื่น

01:05:3001:05:32 ที่สร้างกรดแล้วทำให้เราท้องเสียได้

01:05:3201:05:34 >> อืเพราะฉะนั้นอย่าคิดว่า

01:05:3401:05:36 >> ถ้าทิ้งนมไว้แล้วเปรี้ยวก็จะเป็นนม

01:05:3601:05:37 เปรี้ยวโยเกิร์ตไม่ใช่

01:05:3701:05:40 >> ไม่ใช่ไม่ใช่ยกเว้นแล้วจะทำโยเกิร์ตจากนม

01:05:4001:05:42 ใหญ่แล้วก็ตักโยเกิร์ตมา 1 ช้อนใส่ลงใน

01:05:4201:05:44 ขวดนี้บ่มทิ้งไว้แล้วเปรี้ยว

01:05:4401:05:47 >> อันนี้เราตั้งใจเพราะเราบังคับให้เชื้อ 2

01:05:4701:05:49 ตัวที่ปลอดภัยลงไปเพราะฉะนั้นเชื้อที่ไม่

01:05:4901:05:50 ปลอดภัยก็โตไม่ได้อ

01:05:5001:05:50 >> ครับ

01:05:5001:05:52 >> ก็ปลอดภัยก็กลายเป็นโยเกิร์ตใหม่อือ

01:05:5301:05:53 >> อ

01:05:5301:05:54 >> แต่ถ้าทิ้งไว้อย่างเงี้ยไม่ได้ใส่อะไรลง

01:05:5501:05:56 ไปอ่ะ

01:05:5601:05:56 >> เออ

01:05:5601:05:56 >> ก็ไม่ควร

01:05:5701:05:59 >> เมื่อกี้เชฟก็เลยให้คอร์สทำโยเกิร์ต 30

01:05:5901:06:03 วินาทีมาแล้วหมายทำได้ใช่คือเทนมออกนิด

01:06:0301:06:04 นึงก่อน

01:06:0401:06:06 >> จะได้มีแล้วก็ใส่เนี่ยแกลอนนึงก็ใส่

01:06:0601:06:08 โยเกิร์ตลงไป 2 ช้อนโต๊ะ

01:06:0801:06:10 >> โยเกิร์ตอะไรก็ได้เหรอครับ

01:06:1001:06:12 >> ความจริงมันควรเลือกโยเกิร์ตที่เชื้อยัง

01:06:1201:06:15 มีชีวิตบางทีโยเกิร์ตมันไม่มี

01:06:1501:06:17 >> เชื้อมันตายแล้วใส่ลงไปก็ไม่มีประโยชน์

01:06:1701:06:17 >> อือ

01:06:1701:06:19 >> แล้วก็ไว้อุณหภูมิห้อง

01:06:1901:06:19 >> อือ

01:06:1901:06:22 >> พันผ้าอุ่นๆไว้ก็คืนนึงก็ได้โยเกิร์ต

01:06:2201:06:24 >> อแต่ถ้าเกิดเป็นนมพวกอย่างเงี้ยนมแบบพอไร

01:06:2401:06:27 เนี่ยใส่โยเชื้อโยเกิร์ตเข้าไปก็ไม่เป็น

01:06:2701:06:28 ไรไม่เป็นแล้วใช่มั้

01:06:2801:06:30 >> เกิดโยเกิร์ตได้แต่เนื้อจะไม่ดีเพราะว่า

01:06:3001:06:33 โครงสร้างโปรตีนมันเสียสภาพมากกว่า

01:06:3301:06:35 พจอร์ไลแต่ถามว่าทำได้มั้ทำได้เหมือนกัน

01:06:3501:06:37 แต่เนื้อมันจะไม่เท่าที่เคยทำมันจะไม่มัน

01:06:3701:06:38 จะไม่ข้นมันจะไม่เนียนมาก

01:06:3801:06:39 >> อืออือ

01:06:3901:06:40 >> โอเค

01:06:4001:06:40 >> อ

01:06:4001:06:44 >> อ่ะต่อครับให้โยเกิร์ตพอดีเลย

01:06:4401:06:44 >> อ้าว

01:06:4401:06:45 >> โยเกิร์ต

01:06:4501:06:47 >> นี่นี่ผมไม่ได้ตั้งใจนะโยเกิร์ตหรืออาหาร

01:06:4701:06:50 ที่มีรสเปรี้ยวถ้าหมดอายุควรทิ้งได้มั้ย

01:06:5001:06:51 >> ควร

01:06:5101:06:53 >> โยเกิร์ตมันจะเปรี้ยวได้มากกว่านั้นอีก

01:06:5301:06:54 เหรอครับ

01:06:5401:06:59 >> ที่มันหมดอายุอ่ะคือเชื้อมันในตู้เย็นน่ะ

01:06:5901:07:00 แม้ว่าจะเป็นเชื้อ 2 ตัวนั้นใช่มั้ย

01:07:0001:07:03 แobบซิัสกับสปคอกคัเทอรโมฟิัสอ่ะ

01:07:0301:07:05 >> มันจะยังทำงานอยู่แต่ทำงานช้าๆ

01:07:0501:07:05 >> อือ

01:07:0601:07:08 >> บางทีเพื่อนที่ผมอยู่ในเพื่อนผมที่อยู่ใน

01:07:0801:07:10 โรงงานนมเอ้ยโยเกิร์ตอ่ะเขาบอกว่า expiry

01:07:1001:07:13 day คือเชื้อมันโตเยอะเกินไปจนมัน

01:07:1401:07:17 เปรี้ยวมากเกินไปคือพีมันลงเยอะเกินไป

01:07:1701:07:17 >> ครับ

01:07:1701:07:19 >> ก็ไม่ควรกินคือรสมันจะเพี้ยนไปจากเดิม

01:07:1901:07:20 >> แค่เรื่องรสป่ะ

01:07:2001:07:21 >> แค่เรื่องรถ

01:07:2101:07:22 >> แต่ไม่อันตรายเลย

01:07:2201:07:23 >> ไม่ได้อันตรายอะไรแต่เชื้อมันบางทีอ่ะ

01:07:2401:07:26 เชื้อเชื้อ 2 ตัวนั้นมันมันโหลดมากกว่า

01:07:2601:07:28 เดิมใช่มั้ยบางทีกินเข้าไปมันไม่ได้ท้อง

01:07:2801:07:30 เสียแบบอาหารเป็นผิดอ่ะแต่อู้ถ่ายท้อง

01:07:3001:07:32 เพราะว่าความเป็นกรดมันมันเยอะไปเฉยๆ

01:07:3201:07:33 >> อือๆ

01:07:3301:07:34 >> พูดตามตรงโยเกิร์ต

01:07:3401:07:37 >> หรือว่านมเปรี้ยวที่มันเลยวันหมดอายุมา

01:07:3701:07:40 1-2 วันผมก็กินบ่อยนะ

01:07:4001:07:42 >> ก็ไม่ได้ไม่ได้มีปัญหาอะไรอย่างที่บอก

01:07:4201:07:45 expดเขาจะตั้งมาเผื่อ

01:07:4501:07:46 >> เผื่อไว้นิดนึง

01:07:4601:07:46 >> ครับ

01:07:4601:07:49 >> แต่ทางที่ดีอ่ะถ้าเราถ้าเราไม่ได้มีความ

01:07:4901:07:50 รู้อะไรเลยนะ

01:07:5001:07:50 >> เออ

01:07:5001:07:53 >> อะไรที่เกิน expirate มาแล้วไม่ควรกินก็

01:07:5301:07:56 >> แต่บางบังเอิญผมอ่ะรู้ว่าเออบางบางตัวมัน

01:07:5601:07:58 comomise ได้ก็ก็ยังกินได้

01:07:5801:07:58 >> อือ

01:07:5901:07:59 >> อือือ

01:07:5901:08:01 >> เค้าเค้าพูดถึงอาหารที่มีรสเปรี้ยวด้วยผม

01:08:0101:08:06 เลยนึกถึงแหนมแหนมเนี่ยมันกินได้จนแค่ไหน

01:08:0601:08:09 ถึงจะรู้สึกว่าอย่ากินเลย

01:08:0901:08:13 >> แหนมหรอครับโหแหนมมันหลายเคสมากเอ่อหมาย

01:08:1301:08:14 ความว่าไงนะกินได้เยอะ

01:08:1401:08:16 >> หมายถึงว่าแบบอ่ะโยเกิร์ตคือเรื่องนึงแต่

01:08:1601:08:18 ว่าแหนมเนี่ยเราก็ไม่รู้คือแหนมมัน

01:08:1801:08:19 เปรี้ยวอยู่แล้ว

01:08:1901:08:21 >> แล้วเราก็กินแช่ไว้ในตู้เย็น

01:08:2101:08:23 >> แล้วแบบมันก็เปรี้ยวอยู่ดีอ่ะแต่เราไม่

01:08:2301:08:25 รู้ว่าอันไหนคือแหนมเสียมันมีมั้ฮะ

01:08:2501:08:27 >> แหนมส่วนใหญ่ความจริงควรผ่านความร้อน

01:08:2801:08:30 >> อือืแหนมเวลาเค้าเรียกว่าอะไรครับโดย

01:08:3101:08:34 เฉพาะแหนมถ้าแหนมที่ออกสีชมพูมพูนิดนึง

01:08:3401:08:37 อ่ะส่วนใหญ่กินดิบได้แต่เรื่องนี้มันค่อน

01:08:3701:08:38 ข้างลึกเพราะเขาจะใส่ตัวนึงที่เรียกว่า

01:08:3801:08:41 ไนไตรท์ลงไปไนไตรท์มันจะไปกดเชื้อตัวเลว

01:08:4101:08:44 ก็คือไอ้กดคอสตเรียมโทิัไม่ให้มันโต

01:08:4401:08:45 >> อื

01:08:4501:08:49 >> ถ้าไม่ใส่สารตัวนี้มีโอกาสที่เชื้อจะโต

01:08:4901:08:50 ได้เค้าเลยบอกว่าสารเคมีทุกชนิดในโลก

01:08:5001:08:52 เนี้ยไม่ใช่เลวเสมอไป

01:08:5201:08:52 >> อ

01:08:5201:08:56 >> กินสารเคมียังเสี่ยงน้อยกว่ากลิ่นเชื้อ

01:08:5601:08:57 กลิ่นเชื้อเหลว

01:08:5701:08:59 >> เชื้ออันเนี้คือประโยชน์ของ Food

01:08:5901:09:01 Additive ในบางเคสครับ

01:09:0101:09:05 >> เพราะงั้นถ้าแหนมผมเลือกที่จะกินแหนมที่

01:09:0501:09:06 >> ถ้าจะกินดิบนะ

01:09:0601:09:06 >> อือ

01:09:0601:09:09 >> เลือกแหนมที่ใส่ไนไตรท์ปลอดภัยกว่า

01:09:0901:09:12 >> ปลอดภัยกว่าเพราะฉะนไปเจอไอ้เชื้อ

01:09:1201:09:15 คอสซิเดียมแล้วไม่ผ่านความร้อนไอ้สารพิษ

01:09:1501:09:16 นั้นคือสารพิษโบท็อก

01:09:1601:09:17 >> เออ

01:09:1701:09:19 >> โบทูมท็อกซินไง

01:09:1901:09:22 >> โบท็อกทำให้ระบบประสาทน็อคได้แล้วก็มี

01:09:2201:09:24 โอกาสเสียชีวิตได้

01:09:2401:09:24 >> ครับ

01:09:2401:09:26 >> โอเคครับ

01:09:2601:09:28 >> เป็นเรื่องซับซ้อนนะครับ

01:09:2801:09:31 >> ผมเหมือนเรียนเคมีเลยเนี่ย

01:09:3101:09:33 >> ไม่ใช่ไม่ใช่เรียนชีวะเหรอ

01:09:3301:09:36 >> เออมันมีทั้งชีวะและเคมี

01:09:3601:09:39 ถุงซีลสูญยากาศซิปล็ออ่ะเนาะเก็บอาหารได้

01:09:4001:09:43 นานแค่ไหนเอ้อสุนซีลโทษทีครับถุงซีล

01:09:4301:09:47 สูญยากาศเก็บอาหารได้นานแค่ไหนครับ

01:09:4701:09:49 >> อ๋อซิบลองไม่สูญยากาศสิ

01:09:4901:09:50 >> ไม่ๆอันนี้คือ

01:09:5001:09:52 >> อ๋อแบบเอาอากาศออกใช่มั้ยมันจะยืดได้คือ

01:09:5201:09:55 พอดึงอากาศออกหมดออกซิเจนต่ำ

01:09:5501:09:58 >> เชื้อโตยากขึ้นเชื้อเชื้อที่ส่วนใหญ่เป็น

01:09:5801:10:01 เชื้อสปอยเชื้อที่ทำให้เสียโต๊ะยากขึ้น

01:10:0101:10:03 >> ออกซิเจนไม่มีกลิ่นหื่นก็จะน้อยลงมันขึ้น

01:10:0301:10:04 อยู่กับอาหารด้วยครับ

01:10:0401:10:05 >> อือ

01:10:0501:10:07 >> ถ้าเป็นถั่วลิสง์สมมุติว่าไม่ได้ดึงอากาศ

01:10:0701:10:08 ออกอย่างเงี้ย

01:10:0801:10:10 >> อาจจะอยู่แค่อาทิตย์นึงเริ่มผืนแต่ถ้าดึง

01:10:1001:10:12 อากาศออกหมดแล้วเลือกแพคเagingที่ดีที่

01:10:1201:10:14 ออกซิเจนผ่านเข้าไปไม่ได้อาจจะได้ถึง

01:10:1401:10:15 เดือน

01:10:1501:10:15 >> อื

01:10:1501:10:17 >> โดยที่โดยที่ไม่หืน

01:10:1701:10:20 >> เหมือนข้าวที่เชฟบอกแต่เขาก็จะใส่เอ่อบาง

01:10:2001:10:22 ตัวเข้าไปแทนออกซิเจนป่ะฮะ

01:10:2201:10:23 >> ตัวไหนนะฮ

01:10:2301:10:25 >> ไม่รู้มันมีไนโตรเจนอะไรเข้าไปแทน

01:10:2501:10:26 >> อ๋อflัชไนโตรเจนใช่

01:10:2601:10:27 >> ใช่มั้ฮะ

01:10:2701:10:30 >> ถ้าไม่ดึงสูญยากาศแล้วถุงพองก็สามารถ

01:10:3001:10:33 flลัชไนโตรเจนเข้าไปได้เช่นอาหารขบเคี้ยว

01:10:3301:10:34 ขนมขบเคี้ยวเคี้ยว

01:10:3401:10:36 >> ดึงสูญชาไม่ได้ไม่งั้นแหลกหมดใช่มั้ยเก็

01:10:3601:10:39 จะflัชไนโตรเจนเข้าไปแทนเพื่อแทนออกซิเจน

01:10:3901:10:40 >> ออือ

01:10:4001:10:43 >> แต่เข้าใจว่าส่วนใหญ่การดึงอากาศออกทำใน

01:10:4301:10:45 ครัวเรดือนแล้วก็ในร้านอาหาร

01:10:4501:10:46 >> อ

01:10:4601:10:48 >> พอไม่มีร้านไหนคงฟลัชไนโตรเจนเข้าไปน้อย

01:10:4801:10:50 ล้านอืมันมันคือมันต้องซื้อแก๊ส

01:10:5001:10:52 >> คือหลักการคืออย่าให้มีออกซิเจนใน

01:10:5201:10:55 >> ใช่ดึงออกก็ได้หรือแทนที่ด้วยแก๊สอื่นก็

01:10:5501:11:00 ได้ผมว่าใกล้เคียง

01:11:0001:11:02 น้ำปลาซีอิ๊วซอสมะเขือเทศควรเก็บในตู้

01:11:0201:11:05 เย็นหรือข้างนอกถ้าใช้แล้วถ้าเปิดใช้แล้ว

01:11:0501:11:08 เก็บได้นานแค่ไหน

01:11:0801:11:10 >> อู้คำถามนี้ซับซ้อนอีกแล้ว

01:11:1001:11:11 >> เออ

01:11:1101:11:13 >> น้ำปลาอะไรซอสมะเขือเทศ

01:11:1301:11:14 >> อซ้อนมะเขือเทศ

01:11:1501:11:15 >> ซีอิ๊ว

01:11:1501:11:19 >> อ๋อส่วนใหญ่อ่ะเปิดไว้แล้ววางไว้อุณหภูมิ

01:11:1901:11:22 ห้องได้ไม่เสียไม่เสียเชิงเชื้อ

01:11:2201:11:24 >> เพราะ 1 ซ้อนมะเขือเทศมีน้ำส้มสายชูเยอะ

01:11:2401:11:25 มากอืออื

01:11:2501:11:28 >> น้ำส้มใสชูนี่ทำให้ซอสมะเขือเทศไม่เคย

01:11:2801:11:31 เสียเชิงไม่เคยขึ้นลาไม่เคยเห็นใช่มั้

01:11:3101:11:32 ครับน้ำปลาก็ไม่เสียแต่มันจะเสียเชิง

01:11:3201:11:34 อย่างอื่นเช่นสีค้ำขึ้นกลิ่นเพี้ยนอะไร

01:11:3401:11:37 ประมาณเนี้ยสีเสียเชิงเคมีกายภาพ

01:11:3701:11:39 >> มันเลยเขียนว่า best before ไงน้ำปลา

01:11:3901:11:39 >> ออ

01:11:3901:11:41 >> แต่ถามว่าต้องใช้ถ้าแช่เย็นได้ก็จะดี

01:11:4101:11:44 เพื่อคงไม่ให้สีมันเพี้ยนไม่ให้กลิ่นมัน

01:11:4401:11:44 เพี้ยน

01:11:4401:11:45 >> ออือ

01:11:4501:11:45 >> ครับ

01:11:4501:11:48 >> ยกเว้นเครื่องปรุงรสโซเดียม

01:11:4801:11:50 >> ที่เปิดแล้วพอโซเดียมมันต่ำใช่มั้ยไว้

01:11:5001:11:53 อุณหภูมิห้องมีโอกาสเสียได้

01:11:5301:11:55 >> มีโอกาสเป็นฟองได้เครื่องปรุงรสโซเดียม

01:11:5601:11:57 ควรแช่เย็นหลังเปิด

01:11:5701:11:59 >> พวกหมายถึงน้ำปลาด้วยป่ะฮะ

01:11:5901:12:01 >> น้ำปลาลดโซเดียม C ลดโซบางทีมันลดโซเดียม

01:12:0101:12:01 มาจน

01:12:0101:12:03 >> หมอที่ลดหมายถึงจำนวนโซเดียมมันน้อยลง

01:12:0301:12:05 >> ใช่เชื้อก็โตได้ไงเพราะโซเดียมมัน

01:12:0501:12:07 >> เกลือลดลงอะไรแบบเนี้ย

01:12:0701:12:09 >> เชื้อก็จะโตได้ง่ายขึ้น

01:12:0901:12:09 >> อื

01:12:0901:12:12 >> อืก็ควรหลายๆหลายอันครับเครื่องปรุงรส

01:12:1201:12:14 โซเดียมที่เขาพยายามเขียนตรงว่าเปิดฝาด

01:12:1401:12:15 แล้วแช่เย็นหน่อยนะ

01:12:1501:12:19 >> อือแล้วโทษทีแล้วเป็นถ้ามันเป็นแบบเอ่อ

01:12:1901:12:21 น้ำปลาหมักธรรมชาติไม่ได้เป็นแบบ

01:12:2101:12:23 อุตสาหกรรมมา

01:12:2301:12:25 >> อ๋อไว้อุณหภูมภูมิห้องได้ครับแต่อย่างที่

01:12:2501:12:27 ผมบอกมันจะเพี้ยนตรงแค่เรื่องสีแค่นั้น

01:12:2701:12:27 เอง

01:12:2701:12:27 >> เหมือนกัน

01:12:2701:12:28 >> อื

01:12:2801:12:30 >> หมักธรรมชาติส่วนใหญ่เกลือเยอะมาก

01:12:3001:12:31 >> อ่าๆ

01:12:3101:12:32 >> อืเชื้อไม่โตอยู่แล้วครับ

01:12:3201:12:32 >> อือ

01:12:3201:12:34 >> แช่เย็นครบเพราะเหตุผลเดียวอยากให้กลิ่น

01:12:3401:12:36 มันอยู่นานแล้วก็ไม่อยากให้

01:12:3701:12:37 >> สีเพี้ยนแค่นั้นเอง

01:12:3701:12:38 >> ก็คือ best before

01:12:3801:12:39 >> ครับ

01:12:3901:12:44 >> นี่ไง BBF เนี่ยชัดเจนน้ำปลาเป็น B4

01:12:4501:12:46 >> เขียนว่าโปรดเก็บในตู้เย็นด้วยนะครับ

01:12:4601:12:49 ยี่ห้อนี้ผมไม่บอกยี่ห้อแล้วกัน

01:12:4901:12:52 >> เพราะว่าถ้าน้ำปลาหลายยี่ห้อพอมันมีน้ำ

01:12:5201:12:53 ตาลนะครับน้ำตาลน้ำตาล

01:12:5301:12:56 อุณหภูมิห้องอ่ะน้ำตาลมันทำปยากับโปรตีน

01:12:5601:12:57 >> อือ

01:12:5701:12:58 >> แล้วเ้าเรียกปฏิยาเมลา

01:12:5801:13:02 >> สีจะเข้มขึ้นอืสีมันจะค้ำๆค้ำขึ้นพอเอามา

01:13:0201:13:04 ปรุงอาหารบางทีอาหารดำขึ้น

01:13:0401:13:06 >> ไม่ต้องใส่สีดำเลยอ

01:13:0601:13:07 >> สิวเป็นบ่อยอื

01:13:0701:13:08 >> ครับ

01:13:0801:13:10 >> สารกันบูด

01:13:1001:13:12 มันอันตรายยังไงครับ

01:13:1201:13:16 >> อ่าส่วนใหญ่นะเบนโซเอateซอเbตถ้ากินอ

01:13:1601:13:19 >> เกินที่กฎหมายกำหนดแล้วกินระยะเวลานานไป

01:13:1901:13:22 ตับตับจะโหลดเพราะมันไปกำจัดที่ตับ

01:13:2201:13:23 >> อ๋อก็คือกินเกิน

01:13:2301:13:24 >> กินเกิน

01:13:2401:13:26 >> เพราะมันมีมันมีปริมาณที่เหมาะสมอยู่

01:13:2601:13:29 >> มีๆๆมีกำหนดอาหารส่วนใหญ่นะผมจำไม่ได้น่า

01:13:2901:13:33 จะไม่เกิน 1,000 มลกรัมต่ออาหาร 1 กก.ตาม

01:13:3301:13:36 กฎหมายอาหารส่วนใหญ่ก็คือ 1,000 ppm อ

01:13:3601:13:37 >> อือ

01:13:3701:13:39 >> คืออาหาร 1 กไม่ควรห้ามใส่เกิน 1 กรัมพูด

01:13:4001:13:42 ง่ายๆอาหาร 1 ก.ไม่ควรใส่สังการเสียเกิน 1

01:13:4201:13:42 กรัม

01:13:4201:13:43 >> ครับ

01:13:4301:13:45 >> แต่ส่วนใหญ่ที่ตรวจเกิน

01:13:4501:13:46 >> อื

01:13:4601:13:49 >> เพราะตั้งทดลองถ้าใส่น้อยกว่า 1 กรัมไม่

01:13:4901:13:50 ช่วยช่วยได้นิดเดียว

01:13:5001:13:53 >> อืสั่งให้บุดมันคืออะไรครับ

01:13:5301:13:55 >> สารเคมีสารสังเคราะห์เลยครับสังเคราะห์

01:13:5501:13:59 ขึ้นมาแบบเพื่อทำให้อาหารเพื่อทำให้เชื้อ

01:13:5901:14:02 >> โตยากขึ้นสารการบูดมันจะเข้าไปในเซลล์

01:14:0201:14:03 เชื้อแล้วเชื้อก็จะตาย

01:14:0301:14:04 >> อ๋อ

01:14:0401:14:05 >> แต่ต้องเข้มข้นมากพอ

01:14:0501:14:06 >> โอ

01:14:0601:14:08 >> หลายเคสเวลาเค้าไปสุ่มตรวจเส้นก๋วยเตี๋ยว

01:14:0801:14:10 ตามท้องตลาดเลยเจอเกิน

01:14:1001:14:13 >> อืตามกฎหมายกำหนดไม่ใช่แค่ 2 เท่านะเกิน 4

01:14:1301:14:14 5 6 เท่า

01:14:1501:14:16 >> ก็คือกินเข้าไปก็เกินที่

01:14:1601:14:17 >> ใช่

01:14:1701:14:19 >> กำหนดแล้วแหละ

01:14:1901:14:20 >> แต่นานๆทีได้

01:14:2001:14:23 >> นานากินได้ที่มีปัญหาคือกินทุกวัน

01:14:2301:14:25 >> อ่ะโอเคกลับมาที่เรื่องเดิมก็คือกินให้พอ

01:14:2501:14:26 ดีหมุนเวียนกินหมุนเวียน

01:14:2601:14:30 >> กินหมุนเวียนแล้วก็กินให้พอดี

01:14:3001:14:33 >> ผลิตภัณฑ์อย่างอาหารหรือภาชนะบรรจุต้อง

01:14:3301:14:36 ผ่านหน่วยงานอะไรบ้างถึงจะมั่นใจว่าปลอด

01:14:3601:14:36 ภัยครับ

01:14:3601:14:36 >> อย.

01:14:3701:14:39 >> แต่ถ้าเป็นของน้ำเข้าผ่านศูนย์ด้วยและอย.

01:14:3901:14:40 ด้วยอครับ

01:14:4001:14:42 >> ต้องผ่านออเพราะอยเค้าดูทั้งอาหารที่อยู่

01:14:4201:14:44 ในนั้นแล้วก็ดูว่าบรรจุพันธุ์มันปลอดภัย

01:14:4401:14:46 เหมาะสมหรือเปล่าอ

01:14:4601:14:48 >> อืแต่เกณฑ์ผมไม่รู้นะเพราะมันบางทีเ้า

01:14:4801:14:51 ต้องไปตรวจเค้าเรียกว่าการไมเกรชัของ

01:14:5101:14:54 พลาสติกอ่ะเพราะบางทีพลาสติกใส่เนยถั่ว

01:14:5401:14:56 หรือมีไขมันแบบเนี้ย

01:14:5601:14:58 >> บางทีเก็บไว้นานๆหรือความร้อนพลาสติกบาง

01:14:5801:14:59 ส่วนก็มีสิทธิ์

01:14:5901:15:00 >> ออกมา

01:15:0001:15:02 >> อ๋อแล้วก็เค้าก็เช็ค

01:15:0201:15:05 >> คือผ่านอยมาเนี่ยรับรองว่ามันน่าจะปลอด

01:15:0501:15:06 ภัยได้ประมาณนึงแล้ว

01:15:0601:15:08 >> เกินโหยเกิน 80-90%

01:15:0801:15:09 >> เพราะเก็สิอยู่

01:15:0901:15:09 >> ครับ

01:15:1001:15:12 >> แต่บางบางทีมันก็มีหลุดบ้าง

01:15:1201:15:13 >> เพราะผลิตภัณฑ์มันเยอะมากแล้วอย.มีอยู่

01:15:1301:15:14 ไม่กี่คน

01:15:1401:15:17 >> ก็ต้องคอยซูมตรวจกันทีนี้ผู้ประกอบการก็

01:15:1701:15:18 ต้องอ

01:15:1801:15:20 >> มีความซื้อสัตว์กับผู้บริโภคอ่ะว่าแบบไม่

01:15:2001:15:22 ได้ใส่สารอะไรแปลกปลอมอ่ะอ

01:15:2201:15:23 >> อื

01:15:2301:15:25 >> ครับ

01:15:2501:15:28 >> อันต่อไปครับเอ่อออร์แกนิคอาหารออร์แกนิค

01:15:2801:15:31 ที่ปลอดสารเคมีกินเลยทันทีได้มั้ยครับ

01:15:3101:15:34 >> ไม่ได้ต้องดูนิยามออร์แกนิคออร์แกนิคคือ

01:15:3401:15:36 ไม่ใช้สารเคมีตลอดห่วงโซ่อาหาร

01:15:3601:15:37 >> อือ

01:15:3701:15:39 >> แต่สมมุติเลอะดินอ

01:15:3901:15:41 >> ที่เขาใช้ปลูกมันไม่มีสารเคมีนะแต่อย่า

01:15:4101:15:44 ลืมว่าในดินมีเชื้อมีสปอ

01:15:4401:15:45 >> ออ

01:15:4501:15:46 >> ก็ต้องล้าง

01:15:4601:15:49 >> ครับล้างเพื่อลดจำนวนเชื้อไม่ให้มันโหลด

01:15:4901:15:50 มากเกินไป

01:15:5001:15:50 >> อือ

01:15:5001:15:53 >> หรือระหว่างที่เค้าขนส่งมีฝุ่นมาเกาะล้าง

01:15:5301:15:54 ก็ยังดีกว่า

01:15:5401:15:55 >> อ่า

01:15:5501:15:56 >> นิยามออร์แกนิคมันอยู่แค่นี้เอง

01:15:5601:15:58 >> โอเคไม่ใช่แบบออร์แกนิคปลอดภัยทุกอย่างนะ

01:15:5801:16:00 แบบไปเอามาจากเชลกัดเลยนี่แบบ

01:16:0001:16:03 >> ปลอดภัยจากสารเคมีเชิงเชิงสารเคมีเชิง

01:16:0301:16:04 เคมี

01:16:0401:16:04 >> อครับ

01:16:0401:16:05 >> แต่ไม่ได้ปอดเชื้อ

01:16:0501:16:08 >> เออมีเชื้อจากดินใช่เพราะนึกไม่คนไม่ค่อย

01:16:0801:16:10 นึกถึงเรื่องดินเรื่องอะไร

01:16:1001:16:10 >> ครับ

01:16:1001:16:13 >> เพราะเข้าใจว่าออร์แกนิคปุ๊บฉันสบายมาก

01:16:1301:16:15 >> ออย่าไปจำสลับกับไฮโดรโปนิคนะครับ

01:16:1501:16:17 >> ไฮโดรโปนิคอื

01:16:1701:16:19 >> อันนั้นก็ใช้สารเคมีในการปลูก

01:16:1901:16:19 >> อ่า

01:16:1901:16:23 >> บางคนบอกหลายคนน่ะเชฟหลายคนไปใช้ผัก

01:16:2301:16:24 ไฮโดรโปนิค

01:16:2401:16:27 >> แล้วเคลมว่าเป็นออร์แกนิคผิดกฎหมายนะครับ

01:16:2701:16:28 ไม่ได้

01:16:2801:16:30 >> ใช่แล้วจะเคลมอะไรออร์แกนิคมันต้องมี

01:16:3001:16:31 ใบเซอร์

01:16:3101:16:32 >> จากเกษตรอินทรีย์

01:16:3201:16:34 >> จากจากของทางรัฐ

01:16:3401:16:34 >> อื

01:16:3401:16:36 >> เพราะเต้องมาตรวจตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ

01:16:3601:16:37 >> อือๆ

01:16:3701:16:38 >> เคลมเองไม่ได้ครับ

01:16:3801:16:41 >> อือโอเคฮะเมื่อกี้ผมพูดเรื่องถุงซิล็อกไป

01:16:4101:16:44 ผิดอันนี้คือถุงซิปล็อจริงๆละถุงซิปล็อ

01:16:4401:16:46 ล้างแล้วใช้ซ้ำได้มั้ครับ

01:16:4601:16:48 >> เอ่อขึ้นอยู่กับอาหารครับถ้าเป็นอาหาร

01:16:4801:16:51 แห้งๆหรืออาหารที่ไม่มีไขมันใช้แล้วใช้

01:16:5101:16:53 แล้วทำแล้วใช้แล้วล้างแล้วซ้ำได้แต่ต้อง

01:16:5301:16:56 เช็ดให้แห้งก่อนเพราะว่าการที่

01:16:5601:16:58 >> จะใช้ซ้ำได้หรือใช้ซ้ำไม่ได้มันขึ้นอยู่

01:16:5801:17:01 กับว่าบรรจุอาหารอะไรแล้วสิ่งที่เขา

01:17:0101:17:04 concern คือพลาสติกส่วนใหญ่มันคือ LDPE

01:17:0401:17:07 นะ Low Density Low Density Poly

01:17:0701:17:08 Eทine

01:17:0801:17:08 >> อือ

01:17:0801:17:11 >> มันจะถ้าเจอความร้อนกับเจอไขมันพลาสติก

01:17:1101:17:12 มันจะแพร่ออกมาอยู่ที่อาหารเป็น

01:17:1201:17:13 ไมโครพลาสติก

01:17:1301:17:15 >> แล้วก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้

01:17:1501:17:18 >> ถ้าใส่แกงร้อนๆอย่างเงี้ยแพร่ออกมาแน่นอน

01:17:1801:17:19 แล้วควรใช้ครั้งเดียวทิ้ง

01:17:1901:17:20 >> เนื้อสัตว์

01:17:2001:17:22 >> ก็ครั้งเดียวทิ้ง

01:17:2201:17:24 >> แต่ถั่วแห้งผักสลัดอย่างเงี้ยครับ

01:17:2401:17:26 >> ได้ถึง 3-4 ครั้งไม่มีปัญหา

01:17:2601:17:27 >> ครับ

01:17:2701:17:28 >> แต่ต้องล้างแล้วก็ทำให้แห้ง

01:17:2801:17:29 >> ล้างแล้วทำให้แห้ง

01:17:2901:17:30 >> อื

01:17:3001:17:32 >> ก็ระวังถุงซิปล็อคกันครับหมายถึงว่าต้อง

01:17:3301:17:33 เช็คให้ดี

01:17:3301:17:35 >> อจะใช้ใหม่ทุกครั้งมันก็ไม่ตรงกับความ

01:17:3501:17:37 เป็นจริงตรงที่ว่ามันก็เปลือง

01:17:3701:17:37 >> เปลือง

01:17:3701:17:39 >> ครับอาหารแห้งๆใช้ซ้ำได้

01:17:3901:17:39 >> อื

01:17:3901:17:40 >> ครับ

01:17:4001:17:42 >> เนื้อที่แช่แค่ช่องฟิกเก็บได้นานแค่ไหน

01:17:4201:17:44 ครับแล้วจริงมั้ที่มันเก็บไว้ได้ตลอดไป

01:17:4401:17:44 อันนี้

01:17:4401:17:46 >> ใช่เก็บไว้ได้เก็บไว้ได้เก็บไว้เป็น 10

01:17:4601:17:47 ปีก็ได้ไม่มีปัญหา

01:17:4701:17:48 >> จริงป่ะเนี่ย

01:17:4801:17:51 >> เชื้อไม่โตแต่กินได้หรือเปล่าเพราะมันหืน

01:17:5101:17:55 >> อ๋อคือผมก็แบบเป็นคนเป็นคนแบบ

01:17:5501:17:56 >> เรียกว่าหงุดหงิดกับ

01:17:5601:17:57 >> ครับ

01:17:5701:17:59 >> ของในช่องฟิตตัวเองเหมือนกันคือมันแบบ

01:17:5901:18:01 โอโหตั้งแต่เมื่อไหร่เราก็ไม่รู้เนี่ยไม่

01:18:0101:18:01 กล้ากินหรอก

01:18:0101:18:04 >> เชื้อๆมันปลอดภัยเชิงเชื้อเชื้อโตไม่ได้

01:18:0401:18:05 ครับ

01:18:0501:18:05 >> ออ

01:18:0501:18:08 >> แต่ว่ามันจะรับกับเนื้อสัมผัสได้หรือ

01:18:0801:18:10 เปล่าเพราะยิ่งเก็บไว้นานๆเปิดปิดเปิดปิด

01:18:1001:18:12 อุณหภูมิขึ้นลงใช่มั้ครับ

01:18:1201:18:15 >> อ่าผลึกน้ำแข็งมันจะยิ่งแทงๆตัวมัดกล้าม

01:18:1501:18:15 เนื้อสัตว์

01:18:1501:18:18 >> เอามากินอีกทีมันอาจจะแห้งไม่มีความจูซี่

01:18:1801:18:19 >> หรือตะกี้ที่ผมบอกปฏิกิริยาเดียวที่

01:18:1901:18:22 สามารถเกิดในตู้แช่แข็งได้คือปฏิกิริยา

01:18:2201:18:23 การเหม็นหืน

01:18:2301:18:27 >> ลิปออกซิเดชมันอาจจะเหม็นหืนไขมันหมู 3

01:18:2701:18:29 ชั้นอาจจะหืนไปแล้วไม่หอมหมูแล้วก็ได้

01:18:2901:18:29 >> อ

01:18:2901:18:32 >> ถามว่ากินได้มั้ปลอดภัยเชิงเชื้อ

01:18:3201:18:36 แต่ลักษณะมันไม่พึงประสงค์ที่จะกิน

01:18:3601:18:40 >> โอแล้วแล้วพวกเอ่อแกงที่กินเหลือแล้วผม

01:18:4001:18:42 ยัดใส่ซองฟิตเลยครับ

01:18:4201:18:42 >> ก็ได้ก็ได้

01:18:4201:18:44 >> ก็ยังก็ยังเก็บมากินได้อยู่พนี้มัน

01:18:4401:18:46 >> มันมันปลอดภัยเชิงเชิงเชื้ออยู่แล้วแหละ

01:18:4701:18:49 แต่วิตามินแร่ธาตุสารอาหารที่มีประโยชน์

01:18:4901:18:52 บางตัวที่มันอยู่ได้นานๆไม่ได้มันก็อาจจะ

01:18:5201:18:53 ลด

01:18:5301:18:55 >> วิตามินซีไม่เสถียรก็อาจจะลดๆแต่โปรตีน

01:18:5501:18:56 มันยังอยู่อย่างนั้นน่ะ

01:18:5601:18:57 >> อือ

01:18:5701:18:59 >> โปรตีนมันยังอยู่แต่เนื้ออาจจะยุ่ยเละ

01:18:5901:19:00 แห้งไปแล้วก็ได้โอเค

01:19:0001:19:03 >> ถ้าเป็นแกงกะทิอาจจะเหม็นหืน

01:19:0301:19:04 >> ไม่หอมพริกแกงแล้วก็ได้

01:19:0401:19:05 >> อือ

01:19:0501:19:05 >> ครับ

01:19:0501:19:09 >> คือถ้าเราไม่อยู่ในภาวะสงครามจริงๆเราก็

01:19:0901:19:11 >> ไม่กลัวควร

01:19:1101:19:14 >> maximumันะเดือนเดียวทิ้งเหอะ

01:19:1401:19:17 >> ของผมมันก็แบบไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่

01:19:1701:19:19 >> เว้นอาหารแช่แข็งไงที่ที่เราซื้อเป็น Fen

01:19:1901:19:21 Food ที่เป็น Ready to Eat อ่ะอันนั้น

01:19:2101:19:24 โหเามีเทคโนโลยีในการแพ็คดึงอากาศออก

01:19:2401:19:26 >> ก็อยู่ได้ตามที่เขาระบุไว้

01:19:2601:19:27 >> อ่า

01:19:2701:19:28 >> ประมาณเท่าไหร่ปีนึงใช่มั้ย

01:19:2801:19:29 >> อือๆ

01:19:2901:19:29 >> อยู่ได้ไม่มี

01:19:2901:19:31 >> ปีนึงนี่คือ best before

01:19:3101:19:33 >> best before ใช่ๆเพราะอาหารใช้แข็งเสีย

01:19:3301:19:34 เชิง

01:19:3401:19:35 >> เชื้อไม่ได้เชื้อ

01:19:3501:19:36 >> เออ

01:19:3601:19:38 >> อืก็เป็น Best Before

01:19:3801:19:39 >> อืครับ

01:19:3901:19:41 >> แต่เดี๋ยวนี้มันก็มีเทคโนโลยีเยอะจริงคือ

01:19:4101:19:44 อาหารใช้แข็งที่ไม่ได้แบบเป็นอุตสาหกรรม

01:19:4401:19:46 >> แล้วเขาแบบเหมือนคลุกเสร็จแล้วเนี่ยเขาก็

01:19:4601:19:49 ทำแช่เย็นทันทีบัสิเซอร์ฟิเซอร์ครับ

01:19:4901:19:52 >> แล้วก็แช่ทิ้งไว้เนี่ยมันก็ยังใช้ได้อยู่

01:19:5201:19:53 แล้วคุณภาพมันอาจจะแบบ

01:19:5301:19:54 >> ดีกว่า

01:19:5401:19:56 >> ดีกว่าเพราะมันเร็วยิ่งแช่แข็งเร็วผลึก

01:19:5601:19:59 น้ำแข็งยิ่งมีขนาดเล็กพอมีขนาดเล็กมันก็

01:19:5901:20:02 ทิ่มเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อสัตว์น้อยลง

01:20:0201:20:03 >> อ

01:20:0301:20:05 >> พอเอามาละลายมันก็ยังฉ่ำอยู่

01:20:0501:20:06 >> มากกว่าการแช่

01:20:0701:20:09 >> แข็งตามครัวเรือนผมเลยบอกไงว่าถ้าจะแช่

01:20:0901:20:12 แข็งตามครัวเรือนแล้วคุณภาพใกล้เคียง

01:20:1201:20:12 >> อ

01:20:1201:20:15 >> Blast ทำยังไงก็ได้ให้มัน

01:20:1501:20:17 >> แข็งไวที่สุด

01:20:1701:20:18 >> ให้มันแบนให้มันน้อยสุด

01:20:1801:20:19 >> อือ

01:20:1901:20:21 >> ครับมันก็จะโรเzenไวผลึกน้ำแพงก็จะเล็กอ

01:20:2101:20:22 >> อือ

01:20:2201:20:25 >> แล้วอีกอันนึงสมมุติว่าผมกินกับข้าวแล้ว

01:20:2501:20:28 ผมก็ทิ้งเอาไว้ในช่วงที่กินประมาณชั่วโมง

01:20:2801:20:30 นึง 2 ชั่วโมงเนี่ยเอาสิ่งเนี้ยไปแช่ให้

01:20:3101:20:31 แข็งได้อยู่มั้ครับ

01:20:3101:20:32 >> ได้แช่ได้

01:20:3201:20:33 >> มันก็จะคุมเชื้อเท่านั้นอยู่

01:20:3301:20:35 >> มันก็มามันก็จะนิ่งอยู่แค่นั้น

01:20:3501:20:37 >> ออโอเคอ

01:20:3701:20:40 >> ได้อยู่ครับแต่ช่วยวอร์มจนร้อนอีกทีนึง

01:20:4001:20:42 เพราะเราไม่รู้ว่าไอ้ตอนที่เรารอก่อนแช่

01:20:4201:20:44 แขงเชื้อมันโตไปแล้วมากแค่ไหนอ

01:20:4401:20:47 >> แต่ 2 ชั่วโมงไม่มีปัญหา 3 ก็ยังพอได้แต่

01:20:4701:20:48 เลย 4 ไปแล้วอ่ะ

01:20:4801:20:51 >> เสี่ยงเพราะมันเป็นช่วงที่เชื้อกำลังขึ้น

01:20:5101:20:51 แบบเร็ว

01:20:5101:20:52 >> อื

01:20:5201:20:56 >> โอเคอย่าให้เกิดใกล้แล้วครับ

01:20:5601:20:57 อันนี้ก็น่าสนใจครับเป็นเรื่องเนื้อ

01:20:5801:21:00 เหมือนกันหมักเนื้อนานๆแล้วเนื้อจะนุ่ม

01:21:0001:21:03 ขึ้นจริงมยแล้วก็หมักไว้นานแค่ไหนมันถึง

01:21:0301:21:04 จะเริ่มเน่า

01:21:0401:21:07 >> นานไว้นุ่มจริงเพราะเกลือมันซึมเข้าไปถึง

01:21:0701:21:08 เหนือในสุดแล้วมันก็เปลี่ยนโครงสร้าง

01:21:0801:21:12 โปรตีนนิดนึงแต่คำว่านานคือ 12 ชมงเห็นผล

01:21:1201:21:15 24 ชมงก็ยิ่งนานกว่า 12

01:21:1501:21:16 >> ไม่ใช่แค่เครื่องปรุงอย่างเดียวมันจะมี

01:21:1601:21:19 เอนไซม์ในเนื้อที่มันย่อยเนื้อไปเรื่อยๆ

01:21:1901:21:20 >> แต่นานสุดอ่ะ

01:21:2001:21:20 >> อ

01:21:2001:21:23 >> ตามที่ WHO เค้าเขียนไว้อ่ะเนื้อสดเนื้อ

01:21:2301:21:25 หมักอย่างเงี้ยครับไม่ควรเกิน 3 วันหรือ

01:21:2501:21:26 ไม่ควรเกิน 72

01:21:2601:21:27 >> ออ

01:21:2701:21:31 >> นักเรียนผมในคลาสในคลาสหมูแดงขายของอีก

01:21:3101:21:36 แล้วผมมีคลาสหมูแดงฮ่องกงหมัก 3 ชมงอร่อย

01:21:3601:21:39 สุดแต่เคยเกิน 3 ช่ม 3 ชั่วโมงคือ 24 *

01:21:3901:21:40 3 72 ใช่มั้ยครับ

01:21:4001:21:42 >> 72 อร่อยสุดเลย

01:21:4201:21:43 >> 3 ชั่วโมงคือ 3 วัน

01:21:4301:21:45 >> เอ้ย 3 วันขอโทษ 3 วัน 3 วัน

01:21:4501:21:49 >> 3 วัน 72 ชมอร่อยสุดเคยเกิน 3 แล้วแตะ 4

01:21:4901:21:50 >> อือ

01:21:5001:21:52 >> เชื้อราขึ้น

01:21:5201:21:53 มันตรงกับที่ WHO เขียนเลย

01:21:5401:21:54 >> เออ

01:21:5401:21:57 >> อยู่ได้ตู้เย็นอยู่ในตู้เย็นไม่ควรเกิน 3

01:21:5701:21:58 วัน

01:21:5801:21:58 >> อื

01:21:5801:21:59 >> อ

01:22:0001:22:02 >> พอเกิน 3 เริ่มมีโอกาสเชื้อราขึ้น

01:22:0201:22:03 >> แล้วทำไมเชื้อรามันขึ้นได้ถ้าอยู่ในตู้

01:22:0301:22:06 เย็นถ้าถ้าแช่ช่องฟีมันจะเป็นการหมักอยู่

01:22:0601:22:06 มั้ครับ

01:22:0601:22:07 >> ไม่หมักไม่หมัก

01:22:0701:22:12 >> ช่องช่องช่องฟรีอุณหภูมิติดลบการแพร่ของ

01:22:1201:22:14 เกลือน้ำตาลมันจะเข้าเนื้อสัตว์ได้ช้า

01:22:1401:22:17 หรือแทบไม่ได้เลยเพราะมันแข็งไง

01:22:1701:22:19 >> เครื่องปรุงมันแข็งแต่ตู้เย็นน่ะ

01:22:1901:22:20 >> อือ

01:22:2001:22:21 >> เครื่องปรุงมันยังเป็นของเหลียวอยู่

01:22:2101:22:22 >> อือ

01:22:2201:22:24 >> การฟิสู่เนื้อสัตว์มันยังมีได้

01:22:2401:22:25 >> ออ

01:22:2501:22:27 >> แต่แน่นอนช้ากว่าอุณหภูมิห้องแต่อุณหภูมิ

01:22:2701:22:29 ห้องเราไม่หมักอยู่แล้วเพราะมันจะบูด

01:22:2901:22:29 >> ใช่

01:22:2901:22:30 >> ใช่มั้ยครับอื

01:22:3001:22:32 >> ในตู้เย็นพอวันที่ 4 เริ่มมีเชื้อราแล้ว

01:22:3201:22:34 >> มีเชื้อราแล้วแล้วเชื้อราโตขึ้นได้ไง

01:22:3401:22:39 เชื้อราเชื้อราชอบโตในสภาวะที่กึ่งกึ่ง

01:22:3901:22:41 กึ่งเปียกกึ่งแห้ง

01:22:4101:22:41 >> อือๆ

01:22:4101:22:44 >> ซึ่งน้ำหมักมันเปียกนะแต่อย่าลืมว่าเกลือ

01:22:4401:22:46 กับน้ำตาลมันเยอะ

01:22:4601:22:46 >> อ่า

01:22:4601:22:49 >> อสังเกตเชื้อราจะชอบโตอะไรในที่อะไรที่

01:22:4901:22:53 แบบเค็มจัดหวานจัดแยมอย่างเงี้ยบางทีลาก็

01:22:5301:22:54 ขึ้นตรงผิวหน้า

01:22:5401:22:54 >> อือ

01:22:5401:22:57 >> แต่แบคทีเรียไม่โตแบคทีเรียชอบอะไรที่แบบ

01:22:5701:22:59 เนี่ยไข่สดนมสด

01:22:5901:23:01 >> แต่อะไรที่มีเครื่องปรุงเยอะๆ

01:23:0101:23:06 >> เนี่ยอ่าอะไรอ่ะสเปรย์ช็อกโกแลตแยมที่

01:23:0601:23:07 กึ่งเปียกกึงแห้งอ่ะครับเชื้อราจะขึ้น

01:23:0701:23:09 >> โอ

01:23:0901:23:12 โอเคแปลว่าก็ดูเชื้อราเชื้อรานี่ก็ไม่ควร

01:23:1201:23:13 กินเข้าไปแล้วเนาะ

01:23:1301:23:15 >> อื

01:23:1501:23:17 >> พูดตามตรงบางตัวมันก็ไม่ได้มี

01:23:1701:23:17 >> ผลอะไรฮะ

01:23:1701:23:19 >> ผลอะไรแต่เราเราไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ที่

01:23:2001:23:22 จะไปสามารถเห็นโคโลนีแล้วบอกได้ว่ามัน

01:23:2201:23:23 เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เป็นไร

01:23:2301:23:26 >> คือจริงๆมันก็ไม่ก็เซ้นคนปกติเห็นเชื้อรา

01:23:2601:23:26 ก็ทิ้งแล้วอ่ะ

01:23:2601:23:28 >> ใช่ๆทิ้งเหอะครับ

01:23:2801:23:28 >> ครับ

01:23:2901:23:29 >> โอ้

01:23:2901:23:33 >> ยกเว้นเชื้อราในบลูชีสเนาะที่กินได้เพราะ

01:23:3301:23:34 นั้นชัวร์ว่ากินได้

01:23:3401:23:37 >> ผมกลัวอีกอันนึงบููชีสขึ้นล้าอื่นจะรู้

01:23:3701:23:38 มั้ย

01:23:3801:23:40 >> ก็ถ้ามันขึ้นปุยขาวๆหรือสีอื่นที่ไม่ใช่

01:23:4001:23:42 สีเขียวที่ไม่ได้มาจากไอ้ิซิเลiมรุฟอร์ด

01:23:4201:23:43 ก็ทิ้ง

01:23:4301:23:44 >> อือ

01:23:4401:23:45 >> ทิ้งครับ

01:23:4501:23:50 >> เออ Food GRดมันคืออะไรครับ

01:23:5001:23:53 >> Food GRดคือคุณภาพอาหารที่บริสุทธิ์

01:23:5301:23:55 เพียงพอที่คนสามารถกินได้มันจะมีหลายเกรด

01:23:5601:24:00 มาก Cosmetic GRด Food GRด Analytical

01:24:0001:24:01 GRดมันจะยิ่งเพียว Analytical GR คือ

01:24:0101:24:04 ยิ่งเพียวเลยเช่นเกลือที่เป็น

01:24:0401:24:05 >> Analytical

01:24:0501:24:08 ถ้าเป็น analical

01:24:0801:24:10 ยิ่งเพียวกับ Food Gดยิ่งยิ่งกินได้แต่

01:24:1001:24:12 มันไม่มีความจำเป็นเพราะมันเพียวเกินไป

01:24:1201:24:15 >> เอาไว้วิเคราะห์ในพวกเครื่องมืออะไรพวก

01:24:1501:24:17 เนี้ยครับเพราะถ้ามันไม่เพียวแล้วเอา Food

01:24:1701:24:19 Gสไปยิงเข้าเครื่องมือมันจะรบกวน

01:24:1901:24:19 >> อือ

01:24:1901:24:21 >> ความ Imperiority ความไม่บริสุทธิ์จะรบ

01:24:2101:24:21 กวน

01:24:2101:24:22 >> อือ

01:24:2201:24:23 >> เพราะงั้นอะไรที่เขียนว่า Food GRดคือ

01:24:2301:24:25 เกรดที่

01:24:2501:24:29 สารเจือปนไม่ได้เยอะเกินไปที่จะส่งผล

01:24:2901:24:31 อันตรายต่อมนุษย์ได้

01:24:3101:24:31 >> อืออ

01:24:3101:24:34 >> อย่างเช่นแบบได้ยินบ่อยๆเรื่องพวกภาชนะ

01:24:3401:24:36 ต่างๆที่เป็น Food GR เนี่ยมันคือ

01:24:3601:24:36 >> อ

01:24:3601:24:38 >> อาจจะมีการเจอปนแต่ไม่มีป

01:24:3801:24:41 >> มีแต่เค้าทดลองแล้วว่าถ้าใช้ในลักษณะที่

01:24:4101:24:43 สมมุติเป็นพลาสติก

01:24:4301:24:44 >> Food GRด

01:24:4401:24:47 >> เค้าทดลองแล้วว่าเอาอาหารไปวางแล้วเอาไป

01:24:4701:24:48 ไมโครเวฟอ

01:24:4801:24:51 >> แล้วอแล้วเกิดการแพร่ของชีนพลาสติกน้อย

01:24:5101:24:53 กว่า

01:24:5301:24:54 ที่กฎหมายกำหนด

01:24:5401:24:54 >> อือ

01:24:5401:24:56 >> ก็ถือว่าเป็น Food GR ได้แต่สมมุติว่าไป

01:24:5601:24:59 ทดสอบแล้วโอ้โหไมโครพลาสติกเต็มอาหารเลย

01:24:5901:25:00 >> เออ

01:25:0001:25:01 >> ก็

01:25:0101:25:01 >> ก็ไม่ใช่ Food GR

01:25:0101:25:04 >> ใช่ก็ไปใส่อย่างอื่นเถอะ

01:25:0401:25:06 มันจะมีประเด็นเรื่องถุงแกงใส่แกงร้อนนี่

01:25:0601:25:09 แหละที่แบบไม่รู้ food เกรดแค่ไหน

01:25:0901:25:12 >> แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นถุงร้อนส่วนใหญ่อ่ะมัน

01:25:1201:25:13 เป็นเกรดอยู่ละ

01:25:1301:25:15 >> แล้วมันความร้อนได้แค่ไหนครับ

01:25:1501:25:15 >> มันแล้วแต่ชนิด

01:25:1601:25:16 >> เออ

01:25:1601:25:19 >> ถ้าเป็น PP ก็โหเกินไปตั้ง 130

01:25:1901:25:21 >> อ๋อโอเคเพราะว่าแกง

01:25:2101:25:23 >> ใช่ถ้าถุงเย็นก็ได้ไม่เยอะ

01:25:2301:25:23 >> อื

01:25:2301:25:24 >> ครับ

01:25:2401:25:28 >> สุดท้ายครับผมหยิบให้เลย

01:25:2801:25:31 >> เรื่องอะไรเนี่ยคำถามสุดท้าย

01:25:3101:25:31 >> เออ

01:25:3101:25:32 >> ยากแน่

01:25:3201:25:36 ซอสปลาไหลที่เก็บซ้ำๆกันมาแบบ 40 ปี 60

01:25:3601:25:39 ปี 100 ปีเนี่ยมันกินได้จริงมั้ยอ่ะ

01:25:3901:25:41 >> มันปลอดภัยเชิงเชื้อ

01:25:4101:25:41 >> อือ

01:25:4101:25:44 >> คือซอสปลาไหลส่วนใหญ่มันมาจากสิวขาวน้ำ

01:25:4401:25:46 ตาลมันเยอะมากครับ

01:25:4601:25:50 >> แล้วเวลาเขาเอามาบางร้านเค้าก็มาให้ความ

01:25:5001:25:52 ร้อนอีกหน่อยให้ความร้อนทุกวันน่ะ

01:25:5201:25:52 >> อือๆ

01:25:5201:25:55 >> จนเชื้อสมมุติเชื้อจะแต่พูดตรงๆเชื้อโต

01:25:5501:25:58 ยากมากแหละเพราะว่าเค็มจัดหวานจัดใช่มั้ย

01:25:5801:26:01 แต่ถึงเชื้อกำลังจะโตพอมาผ่านความร้อนอีก

01:26:0101:26:03 ทีนึงเชื้อมันก็กลับไปลดลงที่เดิม

01:26:0301:26:03 >> อือ

01:26:0301:26:07 >> ก็ค่อนข้างปลอดภัยเชิงเชื้อแต่ต้องมั่นใจ

01:26:0701:26:09 ว่า

01:26:0901:26:10 เพราะทุกครั้งในการชุบปลาไหลอ่ะ

01:26:1001:26:11 >> ครับ

01:26:1101:26:14 >> มันแล้วแต่ร้านบางร้านเอาปลาไหลจุ่มลงไป

01:26:1401:26:17 เพราะฉะนั้นน้ำจากปลาไหลก็แพร่ไปโดน

01:26:1701:26:20 >> แพร่ออกมาเจือจางทำให้ซอสปลาไหลมันไม่

01:26:2101:26:21 เข้มข้นเท่าเดิม

01:26:2101:26:22 >> อ

01:26:2201:26:23 >> พอไม่เข้มข้นเท่าเดิม

01:26:2301:26:25 >> มีโอกาสละมาละเชื้อราแบคทีเรีย

01:26:2501:26:26 >> อ

01:26:2601:26:31 >> แต่ถ้าเขาจุ่มซอสแล้วทาข้างบนโดยที่ไม่

01:26:3101:26:34 ได้เราปลาไหลจุ่มก็มีโอกาสที่มันจะไม่โดน

01:26:3401:26:34 ไดรูท

01:26:3401:26:35 >> อื

01:26:3501:26:36 >> มันมันไหลปัจจัยมาก

01:26:3701:26:39 >> แล้วมันต้องเก็บในตัวเย็นด้วยมั้มัน

01:26:3901:26:40 >> ไม่ไม่จำเป็น

01:26:4001:26:42 >> ถ้ามันเค็มจัดหวานจัดเหมือนน้ำปลาเหมือน

01:26:4201:26:44 ซีอิ๊วก็วางเอาไว้ข้างนอกได้

01:26:4401:26:47 >> แล้วการใช้ซอสปลาไหลแบบ 30-40 ปีส่วนใหญ่

01:26:4701:26:48 มันคือคนญี่ปุ่นโบราณน่ะสมัยก่อนมันยัง

01:26:4801:26:49 ไม่มีตู้เย็น

01:26:4901:26:50 >> ออ

01:26:5001:26:51 >> นะครับแล้วบ้านเค้าก็ไม่ได้เย็นทั้งปี

01:26:5101:26:54 ด้วยบางทีเข้าหน้าร้อนเดือนไหนนะสิงหาคม

01:26:5401:26:55 ใช่มั้ย

01:26:5501:26:56 >> กรกฎาคมมันก็กลับมาร้อนเหมือนเดิม

01:26:5601:27:00 >> อืเพราะอุณหภูมิอุณหภูมิห้องเนี่ยมันมี

01:27:0001:27:03 อุณหภูมช่วงที่มันแบบปลอดภัยกับไม่ปลอด

01:27:0301:27:03 ภัย

01:27:0301:27:04 >> อ่าเค้าเรียก dan zone

01:27:0401:27:05 >> dan zone คืออะไรครับ

01:27:0501:27:07 >> Dananger Zone คือช่วงที่อันตรายคือ

01:27:0701:27:08 ช่วงที่เชื้อโตได้

01:27:0801:27:09 >> ออ

01:27:0901:27:12 >> เชื้อตัวได้คือ 5-60 องศอันเนี้คือช่วง

01:27:1201:27:14 ที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารไม่ให้อยู่ตรงช่วงเ

01:27:1401:27:16 นานเกินไป

01:27:1601:27:17 >> อื

01:27:1701:27:19 >> เพราะฉะนั้นถ้าให้ความร้อนเกิน 60 เชื้อ

01:27:1901:27:20 โตไม่ได้แล้วโดนฆ่าด้วย

01:27:2001:27:22 >> ต่ำกว่า 5 เชื้อไม่โดนฆ่าแต่เชื้อโตไม่

01:27:2201:27:22 ได้

01:27:2201:27:23 >> อือ

01:27:2301:27:27 >> 5-60 เนี่ย 15 20 25 30 35 40 55

01:27:2701:27:30 เนี่ยเชื้อโตได้หมดแต่ช่วงที่เชื้อโตได้

01:27:3001:27:33 ดีที่สุดแจคือ 5-60 ใช่มั้ยครับ

01:27:3301:27:35 >> แต่ช่วงที่ควรเลี่ยงแบบมากๆอ่ะคือช่วงที่

01:27:3501:27:35

01:27:3601:27:38 >> เชื้อรักแฮปปี้มากคือช่วงประมาณ 30-35

01:27:3901:27:39 ช่วงนี้

01:27:3901:27:40 >> ก็คืออุณหภูมิห้องกับร่างกายเราเน

01:27:4101:27:42 >> นั่นแหละนั่นแหละนั่นแหละนั่นแหละครับ

01:27:4201:27:44 >> อก็คืออันตรายตรงนี้แหละอื

01:27:4401:27:49 >> อับๆเนี่ยข้าวผัดปูหรือว่าเส้นใหญ่มาอับๆ

01:27:4901:27:52 วิ่งอยู่ 35 40 โหเ้าเรียกว่า Danger

01:27:5201:27:53 อันนี้ผมเรียกเองนะ

01:27:5301:27:56 >> Super Danger Zone เลยคือเชื้อโตไวมาก

01:27:5601:27:59 >> 5-60 คือเชื้อโตได้แต่ไม่ได้แฮปปี้ทั้ง

01:27:5901:28:00 ช่วงครับ

01:28:0101:28:04 >> เชื้อบางตัวเชื้อส่วนใหญ่ที่ก่อโรคด้วยนะ

01:28:0401:28:06 แฮปปี้ช่วง 30-35 อ

01:28:0601:28:06 >> อื

01:28:0601:28:07 >> นั่นแหละครับ

01:28:0701:28:07 >> อื

01:28:0701:28:10 >> โอเคเพราะฉะนั้นพยายามจะเก็บทุกอย่างไว้

01:28:1001:28:12 ในอุณหภูมิห้อง

01:28:1201:28:12 >> อ่า

01:28:1201:28:13 >> อุณหภูมิห้องไทย

01:28:1301:28:15 >> อุณหภูมิห้องไทยเออ

01:28:1501:28:16 >> เพราะว่าอุณหภูมิห้องแต่ละประเทศไม่

01:28:1601:28:17 เหมือนกันอีก

01:28:1701:28:17 >> ใช่

01:28:1701:28:20 >> เลี่ยงได้เลี่ยงคือ 30-35

01:28:2001:28:21 >> หลบมา 10 ก็ยังดี

01:28:2101:28:21 >> อ

01:28:2201:28:23 >> ใช่มั้ครับแต่ยังไม่ปลอดภัย 100% ถ้าอยาก

01:28:2301:28:25 ปลอดภัยต้องต่ำกว่า 5

01:28:2501:28:25 >> อื

01:28:2501:28:27 >> เช่น 4 ลงมา 4 3 2 1

01:28:2701:28:28 >> อ

01:28:2801:28:30 >> แช่เย็นหรือทำให้รอร้อน

01:28:3001:28:31 >> ทำให้ร้อน

01:28:3101:28:31 >> มากๆ

01:28:3101:28:32 >> เกินไปเลย

01:28:3201:28:33 >> เออปลอดภัยสุด

01:28:3301:28:33 >> ปลอดภัยสุด

01:28:3301:28:36 >> โอเควันนี้เราคุยกันมาเป็นชั่วโมงเลยครับ

01:28:3601:28:38 เชฟได้ความรู้มากเหมือนผมกลับไปเรียนเคมี

01:28:3801:28:42 ชีวะใหม่หมดเลยเนาะแล้วก็แบบวันนี้เชฟแบบ

01:28:4201:28:44 เนี่ย 40 50 คำถามเนี่ย

01:28:4401:28:44 >> อ

01:28:4401:28:48 >> ไม่ผมว่ามันไม่จบแค่นี้มันจะมีต่อเออแล้ว

01:28:4801:28:48 ก็เยอะ

01:28:4801:28:51 >> วันนี้แบบเชฟน่าจะแบบสมองบวมอ่ะผมอ่ะผม

01:28:5101:28:54 อ่ะสมองบวมแน่นอนเพราะแบบรับเยอะมากอะไร

01:28:5401:28:55 อย่างเงี้ยแต่ว่าคนที่เก่งกับพวกเราเนี่ย

01:28:5601:28:58 ผมนับถือก็คือคนดูที่ดูมาจนถึงนาทีนี้

01:28:5801:28:58 เนาะ

01:28:5801:29:01 >> ถ้าดูจบถ้าดูจบคือแบบคุณดูจบได้ยังไงเจ๋ง

01:29:0101:29:04 มากแต่ว่าผมคิดว่าทุกคนน่าจะมีคำถามอ่ะ

01:29:0401:29:08 สามารถถามเข้ามาได้ในเอ่อช่องคอมเมนต์ของ

01:29:0801:29:11 รายการนี้หรือจะเข้าไปถามที่เชฟโดยตรงที่

01:29:1101:29:13 เพจทักtheชฟ

01:29:1301:29:14 >> ใช่นะครับถามได้ครับ

01:29:1401:29:17 >> ก็คิดว่าถ้ามีคำถามที่น่าสนใจอีกเราอาจจะ

01:29:1701:29:20 มีซีซีซันี้อีกสัก EP นึงก็ได้อีกัก EP

01:29:2001:29:22 >> ใช่ฮะก็จะคราวหน้า

01:29:2201:29:24 >> อาจจะเป็นคำถามจากคอมเมนต์ F นี้

01:29:2401:29:29 >> ใช่ๆหรือมีอะไรที่คิดว่าอยากถกเถียงหรือ

01:29:2901:29:30 ไม่ถูกต้อง

01:29:3001:29:31 >> อ๋อก็คอมเมนต์มาบอก

01:29:3101:29:32 >> ก็คอมเมนต์มาบอกก็ได้ครับ

01:29:3201:29:33 >> ใช่เพราะวันนี้มันเป็นคำถามสดแล้วผมก็

01:29:3401:29:36 ต้องดึงความรู้ออกจากสมองสดๆบางทีมันอาจ

01:29:3601:29:38 จะมีบางคำที่

01:29:3801:29:40 >> เค้าเรียกว่ามิสลหรือผิดพลาดไปก็ช่วย

01:29:4001:29:42 คอมเมนต์มาบอกได้เพราะผมก็ไม่ได้เชี่ยว

01:29:4201:29:43 ชาญทุกๆแขนง

01:29:4301:29:45 >> ใช่แล้ววันนี้ผมก็หาเรื่องให้เชฟเองอ่ะ

01:29:4501:29:47 คือเหมือนแบบจับปุ๊บตอบเลย

01:29:4701:29:48 >> ไม่ได้เตรียมเลย

01:29:4801:29:51 >> เออไม่ได้เตรียมก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะ

01:29:5101:29:54 ครับถ้ามันมีอะไรผิดก็คอมเมนต์กันมาดีๆ

01:29:5401:29:57 ครับก็ตอบถกเถียงกันได้ครับวันนี้ขอบคุณ

01:29:5701:29:59 เชฟมากครับที่อุตส่าห์เสียเวลามันให้ความ

01:30:0001:30:01 รู้เยอะมากครับขอบคุณมาก

01:30:0101:30:03 >> ขอบคุณพี่มีครับขอบคุณ

01:30:0301:30:13 [เพลง]

ตอบหลายคำถามเรื่อง Food Safety กับเชฟทักษ์ | Eat Direction | EP. 20

จากช่อง : The Cloud


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 เนื้อที่แช่ช่องฟริเก็บได้นานแค่ไหนครับ

00:00:0200:00:05 แล้วจริงมที่มันเก็บไว้ได้ตลอดไป

00:00:0500:00:06 >> เก็บไว้เป็น 10 ปีก็ได้ไม่มีปัญหา

00:00:0600:00:07 >> จริงป่ะเนี่ย

00:00:0700:00:10 >> เชื้อไม่โตแต่กินได้หรือเปล่าเพราะมันหืน

00:00:1000:00:13 >> อ๋ออาหารที่มีเชื้อราขึ้นถ้าตัดส่วนที่มี

00:00:1300:00:15 เชื้อออกยังสามารถกินส่วนที่เหลือได้มั้ย

00:00:1500:00:18 >> โอขึ้นอยู่กับอาหารถ้าเป็นอาหารเนื้อแข็ง

00:00:1800:00:21 ควานได้ถ้าอาหารเนื้อนิ่มมันจะชอนลงไป

00:00:2100:00:23 คว้านยังไงก็ยังอยู่ข้างในอาหารเนื้อนิ่ม

00:00:2400:00:25 ใช้อะไรอ่ะขนมปัง

00:00:2500:00:28 >> เค้กอน้ำกระป๋องที่เปิดฝาแล้วเก็บในตู้

00:00:2800:00:30 เย็นได้มั้ครับเราเก็บนานได้แค่แค่ไหน

00:00:3000:00:32 >> มันมันจะไม่เสียเชิงเชื้อนะเพราะน้ำ

00:00:3200:00:34 กระป๋องส่วนใหญ่เขาใส่วัตถุกันเสียส่วน

00:00:3400:00:36 ใหญ่ใส่โซเดียมเบนโซลเอateแต่ไอ้พวกน้ำ

00:00:3600:00:39 กระป๋องอ่ะขอร้องหลายคนมองข้ามก่อนกินน่ะ

00:00:3900:00:39 >> ครับ

00:00:3900:00:40 >> เช็ด

00:00:4000:00:42 >> เออเรื่องนี้อีกเรื่องนึงที่

00:00:4200:00:43 >> ต้องเช็ดนะ

00:00:4300:00:46 >> มันมีเคสเมืองนอกอ่ะกินเข้าไปติดเชื้อโรค

00:00:4600:00:48 จากฉี่หนูตายเพราะบางทีกระป๋องอยู่ในโรง

00:00:4800:00:50 งานน่ะไม่รู้อะไรมาเราไม่รู้ว่าโรงงาน

00:00:5000:00:51 สะอาดแค่ไหนหรือมีฝุ่นน่ะ

00:00:5200:00:54 >> ครับอยากรู้มั้ครับว่านมที่เลยวันที่

00:00:5400:00:56 กำหนดไว้ข้างกล่องไปแล้วยังกินต่อได้ไหม

00:00:5600:00:59 ของที่ตกพื้น 5 วินาทียังกินได้หรือเปล่า

00:00:5900:01:01 คนไทยทนต่อเชื้อโรคได้มากกว่าชาวต่างชาติ

00:01:0100:01:04 จริงมยแล้วเนื้อที่เก็บไว้ในตู้เย็นอยู่

00:01:0400:01:06 ได้ตลอดไปจริงเหรอผมไปรวบรวมคำถามเกี่ยว

00:01:0600:01:08 กับความปลอดภัยในอาหารเหล่านี้มาตั้งแต่

00:01:0800:01:11 แม่บ้านยัน AI เลยครับเพื่อเอามาสุ่มให้

00:01:1100:01:14 เชฟทักเจ้าของเพจทัก The SHฟต่อและคำตอบ

00:01:1400:01:15 ของคำถามมากมายที่เกี่ยวกับความปลอดภัย

00:01:1600:01:18 ของอาหารเหล่านี้ติดตามชมได้ใน E

00:01:1800:01:23 Direction EP นี้ครับ

00:01:2400:01:27 Eat Direction คุยกับคนในวงการอาหารว่า

00:01:2700:01:30 เราควรกินอะไรถึงจะดี

00:01:3000:01:32 เชฟทักมาคุยกับเราเรื่องโคล่ารอบนึงแล้ว

00:01:3200:01:32 นะ

00:01:3200:01:33 >> ตอนนี้แบบ

00:01:3300:01:36 >> กลับมาอีกรอบนึงชวนมาอีกรอบนึงเพราะว่า

00:01:3700:01:38 จากเพจเชฟนั่นแหละ

00:01:3800:01:40 >> เพราะว่าหลายๆอย่างที่แบบจะอ่านจากเพจเชฟ

00:01:4000:01:42 เนี่ยมันเป็นเรื่องของ

00:01:4200:01:44 >> เรื่องของความอันตรายกับไม่อันตรายในใน

00:01:4400:01:45 อาหารใช่มั้ฮะ

00:01:4500:01:48 >> ทีนี้มันมีคำถามเยอะมากจากตัวผมเองเนาะ

00:01:4800:01:49 จากคนรอบข้าง

00:01:5000:01:52 >> แล้วก็จากลูกเพจเชฟเองด้วยอะไรอย่างเงี้ย

00:01:5200:01:54 เรื่อง Food Safety

00:01:5400:01:54 >> ฮะ

00:01:5400:01:57 >> ก็เลยเป็นที่มาของ EP นี้

00:01:5700:02:00 >> ครับว่าอยากคุยเรื่องความปลอดภัยของอาหาร

00:02:0000:02:04 ที่มันโดยเฉพาะในบ้านเนาะคือผมรู้สึกว่า

00:02:0400:02:06 ตอนนี้มันมีความไม่เข้าใจอยู่หลายๆอย่าง

00:02:0600:02:07 >> อื

00:02:0700:02:10 >> เอาผมเองนะคือแบบว่าของในตู้เย็นเนี่ยมัน

00:02:1000:02:13 มันดูแบบสามารถเก็บเข้าไปในตู้เย็นแล้ว

00:02:1300:02:15 มันแบบปลอดภัยขนาดนั้นเลยเหรออะไรอย่าง

00:02:1500:02:15 เงี้ย

00:02:1500:02:16 >> เรียกว่าตู้แช่แข็งใช่มั้

00:02:1600:02:18 >> เออตู้แช่แข็งผมก็แบบทุกอย่างยัดใส่ช่อง

00:02:1900:02:21 ฟิตแล้วสามารถแบบอยู่เป็นอมตะได้ขนาดนั้น

00:02:2100:02:23 หรือเปล่าวะอะไรอย่างเงี้ย

00:02:2300:02:27 >> ก็เลยไปถามคนรอบตัวหาข้อมูลมาจากเอ่อเอ่อ

00:02:2700:02:32 หลายๆเพจหลายๆข้อหลายๆข้อมูลรวมถึงถาม AI

00:02:3200:02:35 ด้วยว่าอยากดูอะไรจากเชฟทีนี้มันจะมีคำ

00:02:3500:02:37 ถามมาประมาณแบบก็เยอะเหมือนกันในชุดแรก

00:02:3700:02:41 เนาะผมเอามาใส่ในนี้ไว้ให้แล้วเชฟ

00:02:4100:02:43 >> โอ๊ยวันนี้เหมือนมาทำอะไรนะข้อสอบ

00:02:4300:02:46 >> ใช่เป็น Food Safety ก็เลยแบบวันนี้ก็

00:02:4600:02:48 เลยใส่กล่องแก้วนี้มาเลย

00:02:4800:02:50 >> เป็นแนวถามไวตอบไว

00:02:5000:02:52 >> ถามไวตอบไวแต่ตอบนานก็ได้ครับแต่ทีนี้แบบ

00:02:5200:02:55 มันจะเป็นคำถามแบบหลายๆหลายๆ

00:02:5500:02:57 >> หลายๆประเด็นมากครับผมก็ก็เลยแบบว่าโอเค

00:02:5700:03:00 งั้นผมไม่เรียงประเด็นแล้วกันใช้วิธีสุ่ม

00:03:0000:03:03 >> สุ่มเอาสนุกกว่าเออคล้ายๆกิริ๊งอน

00:03:0300:03:04 >> เหมือนเล่นเออแลบกิง

00:03:0400:03:06 >> เก็บเศรษฐี

00:03:0600:03:08 >> เชฟจับเองดีกว่าแล้วเดี๋ผมอ่านจะอ่านอัน

00:03:0800:03:09 แรกนะครับ

00:03:0900:03:10 >> ได้

00:03:1000:03:10 >> มา

00:03:1000:03:12 >> อ่ะ

00:03:1200:03:16 >> คำถามแรกคือเออเนี้ย

00:03:1600:03:18 >> ถ้าไม่แน่ใจว่าอาหารเสียหรือยัง

00:03:1800:03:19 >> อือ

00:03:1900:03:21 >> นำมาอุ่นร้อนอีกครั้งจะกินได้ปลอดภัยขึ้น

00:03:2100:03:22 มั้ย

00:03:2200:03:24 >> ขึ้นอยู่กับอาหาร

00:03:2400:03:24 >> อือ

00:03:2400:03:27 >> บางถ้าไม่มั่นใจแสดงว่ามันเริ่มมีกลิ่น

00:03:2700:03:28 ตุ่

00:03:2800:03:30 >> ใช่มั้ครับบางทีกลิ่นตุนั้นมันมาจากเชื้อ

00:03:3000:03:32 จุลินทรีย์ที่ไม่ได้อันตรายแต่มันทำให้

00:03:3200:03:34 อาหารเสียคือจุลินทรีย์แบ่งเป็น 2 ประเภท

00:03:3400:03:37 ก่อโรคกับไม่ก่อโรคถ้ามันถ้ามันกินตุ

00:03:3700:03:41 เพราะตัวไม่ก่อโรคเอามาอุ่นสามารถฆ่ามัน

00:03:4100:03:42 ได้

00:03:4200:03:42 >> อือ

00:03:4200:03:44 >> ก็ปลอดภัยแต่เราจะกล้ากินหรือเปล่าเพราะ

00:03:4400:03:46 กลิ่นมันเพี้ยนไปแล้ว

00:03:4600:03:47 >> มันสามารถมีกลิ่นได้ทั้งดีและไม่ดีใช่

00:03:4700:03:49 มั้ยหมายถึงจุลินทรีย์เนี่ย

00:03:4900:03:51 >> ไม่ถ้าเป็นสปอยอ่ะกลิ่นไม่ดีหมด

00:03:5100:03:54 >> มันก็จะตุหมดไงกลิ่นออกเปรี้ยวๆแต่บางที

00:03:5400:03:56 กลิ่นออกเปรี้ยวๆมันเกิดจากแลกโตบาซิั

00:03:5600:03:56 อย่างเงี้ย

00:03:5600:03:58 >> อือ

00:03:5800:04:00 >> มันไม่ได้สร้างสารพิษแต่มันให้กลิ่น

00:04:0000:04:01 เปรี้ยวเราก็ไม่กินแต่สมมุติว่าเราจะไป

00:04:0100:04:03 อุ่น

00:04:0300:04:07 >> เชื้อตายไม้ตายกินก็ปลอดภัยแต่ว่าลักษณะ

00:04:0700:04:07 มันไม่ควรจะกิน

00:04:0700:04:08 >> ไม่ควรจะกิน

00:04:0800:04:10 >> แต่บางอันเช่นเอ่อ

00:04:1000:04:13 >> เช่นอะไรดีอ่ะเช่นสมมุติ AC ตามตลาด

00:04:1300:04:13 >> ครับ

00:04:1300:04:15 >> แล้วมันไม่เสียเลยนะ

00:04:1500:04:16 >> อือ

00:04:1600:04:19 >> แต่มันอยู่นานถ้าเอาไปส่องกล้องเสียแล้ว

00:04:1900:04:21 แล้วเกิดจากเชื้อที่เกิดจากมือแม่ค้าเขา

00:04:2100:04:23 เรียกว่าstaffคั

00:04:2300:04:26 >> Arious ตัวเสร้างสารพิษที่ทนความร้อนมาก

00:04:2600:04:28 เอาไปให้ความร้อนยังไงก็ไม่ตายกินก็ท้อง

00:04:2800:04:28 เสีย

00:04:2800:04:28 >> ออ

00:04:2800:04:30 >> สมมุติเอาข้าวตาอบอีกรอบนึงอุ่นแต่ความ

00:04:3000:04:32 จริงไม่มีใครเอาไอใครเข้าตาอบแต่สมมุติ

00:04:3200:04:33 ว่าอ

00:04:3300:04:35 >> เอาข้าวตาอบจนแบบอุณหภูมิสูงกว่า 100

00:04:3500:04:36 >> อือ

00:04:3600:04:38 >> สารพิษตัวนี้ทนได้เกิน 100 องศาเรากินยัง

00:04:3800:04:39 ไงก็ก็ดี

00:04:3900:04:41 >> แล้วทนได้แค่ไหนครับหมายถึงเกิน 100

00:04:4100:04:41 เนี่ย

00:04:4100:04:45 >> โอเกิน 130 150 ต้องไปเข้าแบบตู้สเตอรี่

00:04:4500:04:47 แบบนั้นน่ะซึ่งมันไม่มีใครทำ

00:04:4700:04:48 >> เออคือ

00:04:4800:04:48 >> อื

00:04:4800:04:51 >> ถามแบบโง่ๆแบบผมเลยผมก็จะรู้สึกว่ามันจะ

00:04:5100:04:55 มีแบบเรียกว่าอะไรดีถ้าไม้ตายในการแบบกิน

00:04:5500:04:58 ก็คืออ่าไหนๆฆ่าเชื้อด้วยความร้อนใช่มั้ย

00:04:5800:05:00 ชาเชื้อตายทุกอันกินได้หมดแน่ๆอันไหนที่

00:05:0000:05:01 แบบ

00:05:0100:05:04 >> รู้สึกว่ามันมีกลิ่นนิดหน่อยคือยังไม่ทัน

00:05:0400:05:07 มีกลิ่นด้วยแต่ว่าข้ามคืนมาทั้งคืนแล้ว

00:05:0700:05:09 แล้วก็แบบไม่แน่ใจว่ากินได้หรือเปล่า

00:05:0900:05:10 >> ต้มให้ร้อนก่อนเลย

00:05:1000:05:11 >> ต้มให้ร้อนก่อน

00:05:1100:05:12 >> แล้วกิน

00:05:1200:05:14 >> แต่ความจริงถ้าถ้าชัวร์สุดนะอะไรในโลกเ

00:05:1400:05:16 ไม่ใช่แค่อาหารอะไรที่เราไม่ชัวร์

00:05:1600:05:18 >> อย่าไปฝืนมันเสี่ยง

00:05:1800:05:20 >> แต่จริงๆบางเคสแบบหน่อไม้อย่างเงี้ยครับ

00:05:2000:05:23 หน่อไม้เก็บมานานๆกินตุความจริงเชื้อ

00:05:2300:05:24 สมมุติว่าเชื้อตัวนึงเเรียกว่า

00:05:2400:05:27 crอสiuminัมตัวนี้อันตรายมากนะแต่บังเอิ้

00:05:2800:05:29 สารพิษที่มันสร้างในหน่อไม้อ่ะอ

00:05:3000:05:32 >> ไม่ทนความร้อนสมมุติเอาไปผัดก็กินปลอดภัย

00:05:3200:05:34 >> แล้วหน่อไม้มันมีกลิ่นตุกๆเป็นเอกลักษณ์

00:05:3400:05:35 ของมันอยู่แล้ว

00:05:3500:05:35 >> อือ

00:05:3500:05:39 >> อืแต่ถ้าตักมาจากปี๊บแล้วกินเลยตายเลยนะ

00:05:3900:05:40 >> เพราะว่าไม่

00:05:4000:05:42 >> สารพิษนั้นมันยังอยู่ไงครับแล้วมันส่งผล

00:05:4200:05:43 ต่อระบบประสาทอยู่

00:05:4300:05:44 >> ไม่ผ่านความร้อน

00:05:4400:05:44 >> อือๆ

00:05:4400:05:45 >> อือ

00:05:4500:05:46 >> แต่โดยสรุปอ่ะถ้าฟังเผินๆถ้าอันไหนไม่

00:05:4600:05:47 ชัวร์อย่าไปกินเลย

00:05:4700:05:50 >> แล้วกะทิอ่ะครับพวกแกงกะทิต่างๆ

00:05:5000:05:53 >> แกงกะทินี่ตุง่ายมากแต่แกงกะทิเนี่ยคล้าย

00:05:5300:05:57 ๆหน่อส่วนใหญ่แกงกะทิอ่ะจะพอตุแล้วเขายัง

00:05:5700:05:59 เอาไปผัดใช่มั้เพราะมันผ่านความร้อน

00:05:5900:06:02 >> เพราะเชื้อส่วนใหญ่ในกะทิเป็นกลุ่มสอยไม่

00:06:0200:06:04 ใช่เป็นกลุ่มเชื้อก่อโรค

00:06:0400:06:07 >> ส่วนใหญ่เป็นพวกอีคอลไรอีคอลไรมาจากไหน

00:06:0700:06:11 >> ผิวหนังแม่ค้าความไม่สะอาดของเครื่องคั้น

00:06:1100:06:13 >> อุจจาระอะไรพวกนี้พูดเหมือนน่ากลัวแต่

00:06:1300:06:16 ความจริงอีคอลไรด์อ่ะสายพันธุ์ส่วนใหญ่อ

00:06:1600:06:17 >> ไม่ทนความร้อน

00:06:1700:06:18 >> อื

00:06:1800:06:20 >> พอเอาไปผัดเอาไปอะไรแล้วมีเครื่องเรื่มมี

00:06:2000:06:23 กลิ่นพริกแกงมากลบก็กินได้

00:06:2300:06:24 >> อืออือ

00:06:2400:06:27 >> และอีกอันนึงคืออันนี้ถามเผื่อเลยมันมี

00:06:2700:06:29 อาหารคุณแม่เช่นจับฉ่ายแกงส้ม

00:06:3000:06:33 >> ที่จะอยู่แบบ 4 วัน 7 วันอะไรอย่างเงี้ย

00:06:3300:06:36 ไอ้การทำวันแรกทิ้งไว้คืนนึงตื่นเช้ามา

00:06:3600:06:39 อุ่นกินยังไม่หมดพรุ่งนี้อุ่นอีกทีนึง

00:06:3900:06:41 เงี้ยมันมันปลอดภัยมั้ยครับ

00:06:4100:06:43 >> มันเสี่ยงความจริงไม่ควร

00:06:4300:06:45 >> อาหารพวกเนี้ยอาหารที่ปรุงสำเร็จควรแช่

00:06:4500:06:46 เย็นครับ

00:06:4600:06:48 >> แต่บางทีหลายคนก็ถามว่าเฮ้ยทำไมเก็บ

00:06:4800:06:50 >> ไว้ในหม้อเราไม่เสียมันขึ้นอยู่กับหลาย

00:06:5000:06:51 ปัจจัยมาก

00:06:5100:06:51 >> อ

00:06:5200:06:54 >> เขาอาจจะทำสะอาดมากหรือต้มจนแบบเค้าเรียก

00:06:5400:06:57 ต้มในระบบปิดคือถ้าคือเข้าใจบางคนต้มหม้อ

00:06:5700:06:58 ใหญ่แล้วไม่มีตู้เย็นอยากเก็บเค้าก็ต้ม

00:06:5800:07:00 หม้อใหญ่แต่วิธีการที่ดีคือต้องปิดฝาแล้ว

00:07:0000:07:01 ต้ม

00:07:0100:07:02 >> อ

00:07:0200:07:03 >> แล้วห้ามเปิดเลยนะแล้วห้ามคนเพราะฉะนั้น

00:07:0300:07:06 ระบบมันจะเป็นระบบปิดที่เชื้อฆ่าตลอดใช่

00:07:0600:07:09 มั้ยเชื้อเชื้อใหม่จะเข้าไปไม่ได้

00:07:0900:07:11 >> แล้วต้องแช่น้ำเย็นด้วยให้อุณหภูมิมันหลบ

00:07:1100:07:13 danger zone มันก็มีสิทธิ์อ

00:07:1300:07:17 >> รอดได้แต่มันไม่ใช่อ่าลักษณะพฤติกรรมที่

00:07:1700:07:19 ถูกต้องซะทีเดียวแลที่ผมพูดคือเชิง

00:07:2000:07:22 ปฏิบัติความจริงทำเสร็จต้องแช่เย็นให้ไว

00:07:2200:07:23 ที่สุดแล้วเอามาอุ่น

00:07:2300:07:25 >> อ๋อโอเคนั่นคือคำถามแรก

00:07:2500:07:26 >> ยาวมาก

00:07:2600:07:29 >> ยาวมากลองดูครับอันที่ 2

00:07:2900:07:32 >> อ่าไม่ใช่ good practice นะครับทำไว้

00:07:3200:07:34 ข้ามคืน

00:07:3400:07:38 >> คำถามที่ 2 ครับเออเป็นเรื่องเล่าเหล้า

00:07:3800:07:41 เก็บไว้นานยิ่งดีจริงมยแล้วถ้าหมดอายุยัง

00:07:4100:07:43 กินได้อยู่หรือเปล่าเหล้าหมดอายุมั้เชิ

00:07:4300:07:45 >> หมดอายุมี 2 แบบ Best before กับ expire

00:07:4500:07:48 ใช่มั้ XP คือหมดอายุเชิงเชื้อคือกินแล้ว

00:07:4800:07:50 ไม่ปลอดภัย Best before คือไม่ได้หมด

00:07:5000:07:52 เชิงเชื้อหมดเชิงเคมีกายภาพกลิ่นเปลี่ยน

00:07:5200:07:54 กินเหม็นหืนแต่ยังกินได้อยู่ไม่ได้เกี่ยว

00:07:5400:07:56 กับเชื้ออะไรเหล้าเราเกิดมาไม่เคยเห็น

00:07:5600:07:57 เหล้าที่

00:07:5700:07:58 >> อ

00:07:5800:08:00 >> เชื้อขึ้นเชื้อราขึ้นเพราะเหล้าแอลกอฮอล์

00:08:0000:08:00 สูง

00:08:0000:08:03 >> เพงั้นเหล้าส่วนใหญ่มันจะเป็นเชิงของ

00:08:0300:08:05 ลักษณะทาง best before มากกว่า

00:08:0500:08:07 >> เพราะฉะนั้นเหล้าที่หมดอายุอ่ะ

00:08:0700:08:10 >> มันจะยังกินได้

00:08:1000:08:12 >> ปลอดภัยเพราะแอลกอฮอล์มันเยอะมากเชื้อที่

00:08:1200:08:14 ไหนมันโตไม่ได้แต่กลิ่นมันอาจจะเพี้ยนอ

00:08:1400:08:16 >> แต่มันจะมีแอลกอฮอล์บางตัวที่มันถึงจุด

00:08:1600:08:19 พีคแล้วแบบสมมุติวายเก็บไว้ 4-5 ปีแล้วดี

00:08:1900:08:19 สุด

00:08:1900:08:20 >> อื

00:08:2000:08:22 >> ที่หลายคนที่พวกซอมเียเค้าบอกถึงจุดพีค

00:08:2200:08:23 มันน่ะ

00:08:2300:08:25 >> แล้วพอเลยจุดพีคของปีนี้มันก็จะดรอปลงคือ

00:08:2500:08:27 กลิ่นจะแย่ลงแย่ลงไอ้ที่กลิ่นแย่ลงไม่ใช่

00:08:2700:08:28 เรื่องเชื้อ

00:08:2800:08:30 >> แต่เป็นกลิ่นของลักษณะ

00:08:3000:08:33 >> อ่า sensory หรือว่ากลิ่นเคมีกลิ่นสาร

00:08:3300:08:34 เคมีในนั้น

00:08:3500:08:37 >> ที่มันระเหยออกไปทำให้กินแล้วไม่อร่อย

00:08:3700:08:38 เหมือนเดิม

00:08:3800:08:40 >> ออแต่เอาไปทำอย่างอื่นได้ทำอาหาร

00:08:4000:08:41 >> ได้ทำทำอาหารก็ได้

00:08:4100:08:41 >> อ

00:08:4100:08:43 >> มันจะมีคำว่าแบบ

00:08:4300:08:46 >> บางคนเขาเรียกว่าหรือเหล้ามันออกซิไidiz

00:08:4600:08:47 ใช่มั้ย

00:08:4700:08:50 >> มันออกซิไซไปเยอะๆไอ้พวกไวนที่มันออกซิได

00:08:5000:08:52 อ่ะยังกินได้ปลอดภัยอยู่เค้ามันมีเปเปอร์

00:08:5200:08:54 นึงเค้าบอกว่าสารที่เกิดจากการออกซิไid

00:08:5500:08:56 ของไวไม่ได้ไม่ได้อันตราย

00:08:5600:08:57 >> อือ

00:08:5700:08:59 >> ไม่เหมือนใน

00:08:5900:09:02 พวกของแห้งที่มันเหม็นหื่นเดี๋เราค่อยคุย

00:09:0200:09:03 กันอีกที

00:09:0300:09:03 >> ได้

00:09:0300:09:04 >> อันนั้นอันนั้นไม่ควรกิน

00:09:0400:09:05 >> โอเค

00:09:0500:09:07 >> มาอันต่อไปครับเชฟ

00:09:0700:09:09 >> ไวพอมั้

00:09:0900:09:10 >> ยังยาวอยู่เหรอ

00:09:1000:09:13 >> ไม่ยาวแล้วก็โอเคนะเป็นเรื่องเนื้อสัตว์

00:09:1300:09:13 ครับ

00:09:1300:09:14 >> โอ้

00:09:1400:09:17 >> เนื้อสัตว์ที่ดิบหรือกึ่งสุกกึ่งดิบกิน

00:09:1700:09:17 ได้หรือเปล่า

00:09:1700:09:20 >> ขึ้นอยู่กับว่าเป็นเนื้อวัวหรือเนื้อหมู

00:09:2000:09:21 ถ้าปัจจุบันเนี้ยเนื้อหมูเนี่ยเนี่ยใน

00:09:2100:09:24 เมืองไทยค่อนข้างอันตรายเพราะมันมีเชื้อ

00:09:2400:09:25 โรคหูดับ

00:09:2500:09:25 >> อื

00:09:2500:09:27 >> แต่ก่อนมีหูดับมันก็มีพยาธตัวกลมไอ้

00:09:2700:09:29 ไตรคีนสปalิอันนั้นน่ะครับ

00:09:2900:09:33 >> ที่เป็นแบคทีเรียที่บ่งชี้ว่าทำไมหมูต้อง

00:09:3300:09:36 กินสุกทำไมเนื้อกินดิบได้เพราะวัวไม่มี

00:09:3600:09:37 พยาธตัวนี้

00:09:3700:09:37 >> อ๋อ

00:09:3700:09:39 >> แต่หมูมันดันมีเพราะงั้นหมูต้องกินสุก

00:09:3900:09:40 กว่าเนื้อ

00:09:4000:09:41 >> เพราะต้องทำลายพยาธตัวนี้ก่อนที่

00:09:4100:09:43 >> ต้องทำลายพยาธตัวนี้ถูกต้องครับ

00:09:4300:09:45 >> แต่วัวไม่มีโอกาสที่จะมีเลยใช่มั้ยครับ

00:09:4500:09:46 >> มันมีพยาธตัวอื่นซึ่งมันไม่ได้อันตราย

00:09:4600:09:49 เท่าพยาธตัวกลมที่มีในหมูเพราะหมูอย่าลืม

00:09:4900:09:51 มันตัวมันเตี้ยมันใช้มันขุดดินอะไรอย่าง

00:09:5100:09:52 เงี้ย

00:09:5200:09:54 >> แต่วัวมันเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้องที่ค่อน

00:09:5400:09:56 ข้างอยู่สูงกว่าดินเพราะฉะนั้นเชื้อพวก

00:09:5600:09:58 นี้ในร่างกายมันอ

00:09:5800:10:00 >> มีน้อยเพราะฉะนั้นอันนี้คือสาเหตุที่ว่า

00:10:0000:10:02 ทำไมสเต็กกิน rare กินmediมได้กิน rare

00:10:0200:10:04 ได้แต่หมูต้องกิน

00:10:0400:10:05 >> เวลดันขึ้นไป

00:10:0500:10:07 >> อืแล้วถ้าเราพูดถึงพวกไก่หรือซีฟุ

00:10:0700:10:10 >> ไก่ไม่ควรเลยเพราะว่าไก่มีเชื้อของมันน่ะ

00:10:1000:10:11 เค้าเรียกซาโมเดล่า

00:10:1200:10:14 >> อันนี้มีไม่ว่าจะเลี้ยงสะอาดแค่ไหนก็ยัง

00:10:1400:10:14 มี

00:10:1400:10:18 >> เพราะฉะนั้นไก่เนื้อไก่เขาไม่นิยมทานดิบ

00:10:1800:10:20 >> อยู่ในเนื้อหรือว่าอยู่ที่ผิว

00:10:2000:10:21 >> อยู่เนื้อไก่ของมันอยู่แล้ว

00:10:2100:10:24 >> อ๋อเพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าเชื้อโรคจะเกิด

00:10:2400:10:26 ที่ผิวเท่านั้นมันมีอยู่ในเนื้อ

00:10:2600:10:28 >> ถูกต้องถูกต้องถูกต้อง

00:10:2800:10:29 >> ก็ควรทำให้สุก 100%

00:10:2900:10:32 >> ควรทำให้สุกไก่ควรสุก 100% สุก 100% คือ

00:10:3200:10:34 ชัวร์ๆคืออุณหภูมิ

00:10:3400:10:36 จุดที่เย็นที่สุดหรือจุดที่ลึกที่สุดของ

00:10:3600:10:38 เหลือไก่ที่คุต้องเกิน 72

00:10:3800:10:40 >> ความจริงเกิน 70 ก็รอดแล้วแต่หลายคนบอก 70

00:10:4000:10:42 72 เพราะให้มันชัวร์ว่ามันเกินกว่า 70

00:10:4200:10:42 แน่ๆ

00:10:4200:10:43 >> เอๆ

00:10:4300:10:46 >> นั่นแหละครับเพราะงั้นไก่หมูควรกิน

00:10:4600:10:47 >> สุก

00:10:4700:10:47 >> ครับ

00:10:4700:10:51 >> อืแล้วเนื้อวัวควรกินควรกินสุกหมดทุก

00:10:5100:10:53 อย่างแต่เนื้อวัวมันเป็นอะไรที่สามารถกิน

00:10:5300:10:56 กึ่งสุกกึ่งดิบได้ครับ

00:10:5600:10:57 >> แต่กินสุกก็จะดีที่สุด

00:10:5700:10:59 >> ใช่แต่เนื้อวัวกินสุกก็ไม่อร่อยไงเวลดัน

00:10:5900:11:00 มันก็จะแห้ง

00:11:0000:11:02 >> อ่าก็แล้วแต่อืแล้วแต่คนชอบด้วยนะแล้วก็

00:11:0200:11:04 ผมไม่แน่ใจว่าเค้าจะถามครอบคลุมไปถึงพวก

00:11:0400:11:06 ซีฟู้ดหรือเปล่า

00:11:0600:11:06 >> กึ่งสุกกึ่งดิบ

00:11:0600:11:09 >> ซีฟู้ดซีฟู้ดนี่แล้วแต่ช่วงเวลาเลยหอยนาง

00:11:0900:11:12 รมความจริงมันกินดิบได้แต่บางช่วง

00:11:1200:11:15 >> อ่าน้ำทะเลมันเกิดโรคระบาดอะไรขึ้นก็มี

00:11:1500:11:16 บางช่วงที่เขาออกข่าวว่าช่วงนี้อย่าเพิ่ง

00:11:1600:11:19 กินหอยนางรมดิบนะอะไรประมาณเนี้ยส่วน

00:11:1900:11:22 เนื้อปลามันก็มีหลายหลายทฤษฎีมาก

00:11:2200:11:23 >> อ

00:11:2300:11:25 >> เขาบอกไอ้เนื้อปลาเกดซาซิมิอ่ะที่บอกว่า

00:11:2500:11:27 เกดซาซิมิเพราะมันมีการไล่เลือดไล่คาวออก

00:11:2700:11:30 มันถึงกินได้ทำไมแซลมอนบัง

00:11:3000:11:31 >> บัง

00:11:3100:11:33 >> คุณภาพไม่สามารถกินดิบได้ทำไมกินดิบได้

00:11:3300:11:36 มันอยู่ที่กระบวนการไล่เลือดหลังที่เอา

00:11:3600:11:38 >> ปลาขึ้นมาเพราะส่วนใหญ่พยาธอะไรพวกนี้มัน

00:11:3800:11:39 อยู่ในในเลือดใช่

00:11:3900:11:40 >> เลือดเลือดอ๋อ

00:11:4000:11:44 >> ที่เขาใช้อคจgเมะชินเคมนเนี่ยไล่เลือดของ

00:11:4400:11:44 ปลา

00:11:4400:11:46 >> อะไรประมาณนั้นแต่กระบวนการไล่เลือดส่วน

00:11:4600:11:47 ตัวผมก็ทำไม่เป็นนะ

00:11:4700:11:47 >> อือๆ

00:11:4700:11:50 >> แต่เคยเคยชาวประมงอ่ะที่เขาจัดการปลาที่

00:11:5000:11:51 ทำเกดซาซิมิของเขา

00:11:5100:11:53 >> ดึงเลือดอยู่เหมือนตัดเส้นเลือดตรง

00:11:5300:11:55 ตำแหน่งนึงอ่ะแล้วก็พืชออกมาเลยอ่ะ

00:11:5500:11:56 >> อือๆ

00:11:5600:11:59 >> ก็คือการไม่ให้มีเชื้อโรคในเลือดในตัวปลา

00:11:5900:12:00 ให้มากที่สุดโอเค

00:12:0000:12:01 >> ใช่ๆ

00:12:0100:12:03 >> อ่ะต่อไปเลยครับเชฟ

00:12:0300:12:05 >> อื

00:12:0500:12:07 >> ดีนะมันก็สุ่มๆดีนะเนี่ยชอบอย่างงั้น

00:12:0700:12:10 >> สสลับสมองไม่ทันล่ะ

00:12:1000:12:14 >> อันนี้คลาสสิคเหมือนกันครับของตกพื้น 5

00:12:1400:12:15 วินาทีกินได้จริงมั้ย

00:12:1500:12:16 >> ไม่จริง

00:12:1700:12:18 >> เชื้อโรคมันไม่ได้มีตาที่บอกว่าเฮ้ย 10

00:12:1800:12:21 วินาทีกำลังจะเกาะนะหรือ 1 วินาทีเกาะไม่

00:12:2100:12:24 ทันเปล่าครับตกแค่เสี้ยววินาทีมัน att ลง

00:12:2400:12:26 ไปมันเกาะขึ้นมาเลย

00:12:2600:12:26 >> อื

00:12:2600:12:28 >> มันไม่จำเป็นมันไม่ได้มีหลักวินาทีตก

00:12:2800:12:30 เสี้ยววินาทีถ้าโดนพื้นเชื้อโรคก็เกาะ

00:12:3000:12:32 อาหารขึ้นมาทันที

00:12:3200:12:34 >> อยู่ที่ว่าจะได้สุ่มได้เชื้อโรคอะไรมา

00:12:3400:12:36 >> เชื้อโรคอะไรมาพื้นสะอาดมั้ยพื้นสกปรก

00:12:3600:12:39 มั้ยถ้าเป็นโต๊ะนี้ถ้าตกผมอาจจะกิน

00:12:3900:12:40 >> อ๋อ

00:12:4000:12:42 >> เพราะเค้าเช็ดแอลกอฮอล์ตลอดใช่มั้แต่ถ้า

00:12:4200:12:44 เป็นพื้นที่แบบเนี่ยพื้นเนี้ย

00:12:4400:12:46 >> ที่มีรองเท้าจากข้างนอกมาก็ไม่กิน

00:12:4600:12:47 >> อืครับ

00:12:4700:12:51 >> แล้วมันมีอีกอันนึงคือแบบเราทำทำลูกอมตก

00:12:5100:12:55 ล้างน้ำให้มันแบบสักพักนึงแล้วอมต่อได้

00:12:5500:12:55 มั้

00:12:5500:12:56 >> เป็นผมผมอมนะ

00:12:5600:12:57 >> เออ

00:12:5700:12:59 >> เพราะว่าเชื้อโรคมันเกาะอยู่แค่ผิวนอก

00:12:5900:12:59 >> ผิวนอก

00:12:5900:13:01 >> ใช่มั้พอล้างไอ้น้ำตาลที่มันอยู่ข้างนอก

00:13:0100:13:02 มันก็ค่อยๆละลายออก

00:13:0200:13:04 >> สิ่งที่ผมทำบ่อยสุดอ่ะคือน้ำแข็ง

00:13:0400:13:06 >> อ่าๆใช่ๆน้ำแข็งอันนึง

00:13:0600:13:08 >> บางทีตกไปตรงโต๊ะปึ๊บขอไปล้างน้ำให้ให้

00:13:0800:13:10 ข้างนอกออกนิดนึงละลายไป

00:13:1000:13:12 >> แต่ที่สุดจะทำตกเลย

00:13:1200:13:13 >> จะทำตกเลย

00:13:1300:13:14 >> หรือไม่ก็ต้องเสียได้ขนาดนั้น

00:13:1400:13:15 >> ใช่หรืออาหารไหนที่มันไม่สามารถล้างแล้ว

00:13:1500:13:17 ละลายได้เหมือนน้ำแข็งหรือลูกอมก็ก็ไม่

00:13:1700:13:18 ขวดอือ

00:13:1800:13:20 >> เฉือนเฉือนออกเฉือนออก

00:13:2000:13:21 >> อ๋อ

00:13:2100:13:22 >> แต่ใครจะจำได้ตกพื้นตกด้านไหน

00:13:2200:13:24 >> ตกด้านไหนแต่น้ำแข็งมันล้างได้

00:13:2400:13:25 >> ใช่

00:13:2500:13:26 >> แต่ก็อย่าเสียดายเลยครับน้ำแข็งแค่นิด

00:13:2600:13:27 เดียวเอง

00:13:2700:13:28 >> เอาทิ้งไปเหอะ

00:13:2800:13:30 >> อย่าไปเสี่ยงกับพื้นรองเท้าเลยครับ

00:13:3000:13:32 >> ครับ

00:13:3200:13:35 ข้อต่อไปครับอ่าอันนี้ก็คำถามคลาสสิก

00:13:3500:13:39 เหมือนกันน้ำผึ้งเก็บไว้นานๆได้จริงมั้ย

00:13:3900:13:40 แล้วมันไม่เสียจริงหรึเปล่าน้ำ

00:13:4000:13:42 >> เสียได้น้ำผึ้งเสียได้หลายคนน่ะคิดว่าน้ำ

00:13:4200:13:43 ผึ้งเป็นของอมตะ

00:13:4300:13:45 >> เก็บไว้นานๆไม่เสียความจริงมันมีเชื้อตัว

00:13:4500:13:47 นึงเ้าเรียกว่าไซโกไซ

00:13:4700:13:50 คือยีสที่ทนน้ำตาลสูงๆได้

00:13:5000:13:50 >> ออฮะ

00:13:5000:13:52 >> นะครับหลายหลายครั้งลองสังเกตดิน้ำผึ้ง

00:13:5200:13:55 เวลาเก็บไว้นานๆเปิดมามันจะมีแก๊สใช่มั้ย

00:13:5500:13:56 มันจะมีเสียงแก๊สนิดหน่อย

00:13:5600:13:57 >> อือ

00:13:5700:14:00 >> อันนั้นน่ะคือยีสมันโตแล้วมันผลิตแก๊ส

00:14:0000:14:01 คาร์บอนไดออกไซด์อยู่

00:14:0100:14:03 >> แล้วมีอันตรายกับร่างกายยังไง

00:14:0300:14:05 >> ไม่ได้มีไม่ได้มีอันตรายแค่แค่คุณสมบัติ

00:14:0500:14:07 ของน้ำผึ้งมันเสียไปกลิ่นมันเพี้ยนหรือ

00:14:0700:14:09 ว่ามันมีกลิ่นหมักนิดหน่อย

00:14:0900:14:13 >> อืถามอ่ะถ้าถามว่าเสียได้มั้ยเสียได้

00:14:1300:14:14 >> แต่โอกาสเสียได้น้อย

00:14:1400:14:16 >> อ่ากินได้อาจจะไม่อันตรายแต่แค่ลดชาติ

00:14:1600:14:17 เปลี่ยนไปเฉยๆ

00:14:1700:14:18 >> ใช่อ

00:14:1800:14:20 >> แต่โอกาสเสียน้อยครับเจอแบบ 1 ใน 100 ขวด

00:14:2000:14:21 อะไรประมาณเนี้ย

00:14:2100:14:21 >> อือ

00:14:2100:14:23 >> คือมันต้องได้แจ็คพอตที่เชื้อนั้นมันปี

00:14:2300:14:25 จากอากาศลงน้ำผึ้ง

00:14:2500:14:25 >> เออ

00:14:2500:14:26 >> มันต้องแบบนั้น

00:14:2600:14:29 >> คือถ้าห้องมันสะอาดมากกระบวนการบรรจุน้ำ

00:14:2900:14:30 ผึ้งสะอาด

00:14:3000:14:32 >> ก็มีโอกาสอยู่ได้ตลอดไปเพราะน้ำผึ้งน้ำ

00:14:3200:14:34 ตาลน้ำตาลมันสูงมาก

00:14:3400:14:36 >> อืยกเว้นว่าสมมุติว่ามันมีเชื้ออะไรบาง

00:14:3700:14:39 ตัวมามาอยู่บนพื้นผิวของน้ำผึ้งแล้วเรา

00:14:3900:14:42 กินเชื้อตัวนั้นไปโดยตรงเงี้ยก็อันตรายม

00:14:4200:14:45 สมมุติว่าเปิดฝาขวดน้ำผึ้งทิ้งไว้มีเชื้อ

00:14:4500:14:46 มาเกาะอยู่บนพื้นผิวมันจะอยู่

00:14:4700:14:50 >> อ๋อใช่เช่นแบบสมมุตินะน้ำผึ้งเปิดฟ้าขวด

00:14:5000:14:51 สมมุตินี่เป็นขวดน้ำผึ้ง

00:14:5100:14:53 >> แล้วแม่สับไก่ดิบ

00:14:5300:14:54 >> เออใช่อะไร

00:14:5400:14:54 >> ก็มีสิทธิ์

00:14:5500:14:56 >> แต่มันไม่ใช่เสียเพราะพอน้ำผึ้งมันเสีย

00:14:5600:14:57 จากเชื้อจากไก่กระเด็น

00:14:5700:14:58 >> นั่นแหละ

00:14:5800:15:00 >> อือก็มีความเป็นปนเปื้อนได้อยู่

00:15:0100:15:02 >> เป็นเเรียกว่า cross contaminate ไม่ได้

00:15:0200:15:04 ไม่ได้สปอยโดยตรง

00:15:0400:15:07 >> อโอเคฮะคำถามที่เท่าไหร่นะเนี่ยไม่รู้

00:15:0700:15:07 แล้วไม่นับแล้ว

00:15:0700:15:10 >> ทำเวลามาก

00:15:1000:15:14 >> อ่าโอเคภาชนะอย่างกาน้ำชาครับลวกร้อนก่อน

00:15:1400:15:16 ใช้ค่าเชื้อได้แค่แค่ไหน

00:15:1600:15:17 >> มันขึ้นอยู่กับว่าลวกยังไงสมมุติว่ามีน้ำ

00:15:1800:15:20 เดือดอยู่แล้วเอา

00:15:2000:15:23 ทั้งการน้ำชาทั้งเซตอ่ะลงไปต้มมันก็ตาย

00:15:2300:15:23 หมดอือ

00:15:2400:15:26 >> ตายเกือบหมดดีกว่ายกเว้นมีสปอก็จะไม่ตาย

00:15:2600:15:27 แต่ว่าอ

00:15:2700:15:30 >> ถ้าแค่กินหลายๆปากใช่มั้ยแล้วมีเป็นชุด

00:15:3000:15:33 น้ำชาหยุดแล้วเทราดโอกาสฆ่าเชื้อมันไม่

00:15:3300:15:35 100% เพราะเราไม่รู้ว่าราดมันทั่วหรือ

00:15:3500:15:37 เปล่าแต่การที่มีน้ำร้อนอยู่แล้วจุ่มลงไป

00:15:3700:15:39 เลยมันโดนทุกพื้นผิวอ

00:15:3900:15:39 >> อื

00:15:3900:15:42 >> อันนี้น่าจะเป็นเคสที่แบบคนสมัยก่อนที่

00:15:4200:15:45 ไม่อยากล้างกาน้ำชาด้วยน้ำยาชาหลังจานแน่

00:15:4500:15:48 >> อ่าใช่อันเนี้ยมันได้มาจากเอ่อเพื่อนที่ช

00:15:4800:15:52 ดื่มชาครับแล้วก็คำถามเขาก็คือเค้าก็บอก

00:15:5200:15:54 ว่าส่วนใหญ่เขาจะไม่ค่อยใช้น้ำยาล้างจาน

00:15:5400:15:58 ล้างน้ำชากันเพราะว่ามันจะมีการแบบบ่มชา

00:15:5800:16:01 ที่เคยกินแล้วอะไรมาอยู่ซึ่งลวกน้ำร้อนผม

00:16:0100:16:04 ก็เข้าใจว่าได้แต่มันมีมันอาจจะมีพวกเศษ

00:16:0400:16:06 ใบช้าเก่าอะไรอย่างงี้ติดอยู่

00:16:0600:16:09 >> เศษใบช้าไม่ซีเรียสเท่ากับโรคติดต่อทาง

00:16:0900:16:11 น้ำลายยุคนี้มากกว่าเชื้อในน้ำลายนี่เยอะ

00:16:1100:16:14 กว่าเชื้อใบชาเยอะมากแต่ผมเข้าใจว่าไอ้

00:16:1400:16:16 ที่ถ้วยน้ำชาที่เขาไม่อยากให้ล้างคือ

00:16:1600:16:18 เมื่อก่อนน่าจะเป็นถ้วยดินเผาที่มันมีการ

00:16:1800:16:21 ดูดซึมกลิ่นชาแต่หลังๆมันเป็นถ้วยเคลือบ

00:16:2100:16:21 ถ้วยเซรามิกอ่ะ

00:16:2100:16:22 >> อือ

00:16:2200:16:23 >> กลิ่นชาไม่ติดอยู่แล้ว

00:16:2400:16:24 >> ออ

00:16:2400:16:26 >> น้ำยาล้างจานล้างได้ไม่เกี่ยวกับความ

00:16:2600:16:26 อร่อยเลย

00:16:2600:16:30 >> อืแต่ว่าแต่ว่าพวกดินเผานี่ก็น่าสนใจไอ้

00:16:3000:16:32 รูพรุนของดินเนี่ยมันสามารถกักเก็บใช้โรค

00:16:3200:16:32 อะไรได้

00:16:3200:16:35 >> ก็มีสิทธิ์มีสิทธิ์มีสิทธิ์แต่การลวกน้ำ

00:16:3500:16:37 ร้อนหรือต้มก็ช่วยได้เพราะว่าน้ำร้อนมัน

00:16:3700:16:38 ก็

00:16:3800:16:39 >> ซึมเข้าไปใน

00:16:3900:16:42 >> ดินเผาได้ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยฆ่า

00:16:4200:16:42 เชื้อได้

00:16:4200:16:45 >> ก็คือน้ำเดือดปกติ้ำปอ

00:16:4500:16:48 >> แต่ควรมั่นใจว่ามันจมจริงๆอ่ะไม่ใช่แค่

00:16:4800:16:49 ราดใช่

00:16:4900:16:52 >> เอครับอ่ะต่อครับ

00:16:5200:16:55 >> ต้องคนมั้ยเนี่ยไม่ผมว่าคนไม่คนมีค่าเท่า

00:16:5500:16:57 กัน

00:16:5700:17:00 อันนี้น่าจะเป็นเออเหมือนกันคนไทยทนเชื้อ

00:17:0000:17:04 โรคได้มากกว่าชาวต่างชาติจริงมั้ย

00:17:0400:17:07 >> เหมือนจะจริงนะแต่ผมว่าเราทนกับเชื้อที่

00:17:0700:17:08 เราคุ้นเคยมากกว่าไง

00:17:0800:17:10 >> สมมุติเรา

00:17:1000:17:12 >> เราก็จะทนสมมุติว่าอาหารเราเป็นอย่างข้าว

00:17:1200:17:14 ข้าวผัดกะเพราส้มตำลาบครับเราก็จะทนกับ

00:17:1400:17:16 เชื้อที่ปกติมันอยู่ในอาหาร 3 จานนี้

00:17:1600:17:18 เพราะมันเป็นอาหารที่เรากินบ่อย

00:17:1800:17:20 >> แต่สมมุติเราไปต่างประเทศเราไปเจอเชื้อ

00:17:2000:17:22 สมมุติเจอเชื้อในชีสที่เราไม่คุ้นเขาอาจ

00:17:2200:17:25 จะทนเชื้อในชีสแต่เราไม่ทนเพราะงั้นเราผม

00:17:2500:17:26 ไม่อยากบอกว่า

00:17:2600:17:28 >> เราแข็งแรงมากกว่าต่างประเทศเราแค่แข็ง

00:17:2800:17:32 แรงกับเชื้อที่อยู่ในอาหารไทยคุ้นกับ

00:17:3200:17:33 เชื้อนี้มากกว่า

00:17:3300:17:35 >> ซึ่งมันเยอะกว่าในต่างประเทศหรือเปล่า

00:17:3500:17:36 >> ส่วนใหญ่จะโหลดเยอะกว่าเพราะว่าเราเป็น

00:17:3600:17:38 อาหารที่

00:17:3800:17:40 >> อุณหภูมิห้องอ่ะเชื้อมันโตได้ไวกว่าอัน

00:17:4100:17:43 นี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมคนต่างประเทศบางที

00:17:4300:17:45 อยู่เมืองบ้านเขาไม่เป็นไรมาบ้านเรากิน

00:17:4500:17:46 อาหารมื้อเดียวอ

00:17:4600:17:46 >> ท้องเสียเลย

00:17:4600:17:47 >> ท้องเสีย

00:17:4700:17:47 >> เออ

00:17:4700:17:48 >> อื

00:17:4800:17:51 >> เป็นเพราะว่าใช้โรคมันโตในอากาศแบบบ้าน

00:17:5100:17:51 เรา

00:17:5100:17:55 >> มัน 2 อย่างโหลดเยอะกว่าปริมาณเยอะกว่า

00:17:5500:17:56 กับเป็นเชื้อที่เขาไม่คุ้น

00:17:5600:17:56 >> อื

00:17:5600:17:59 >> เพราะเค้าเชุเคุ้นกับเชื้อบ้านเขาไง

00:17:5900:18:02 >> อ๋อโหลดเยอะกว่านี่หมายถึงว่าเราเราใส่ใน

00:18:0200:18:04 หลายๆอย่างในอาหารไทยอย่างงี้เหรอ

00:18:0400:18:07 >> จำนวนไม่โหลดก็คือว่าตอนแรกทำมาใหม่ๆก็

00:18:0700:18:09 อาจจะยังไม่มีแต่น้อยคนที่จะกินอาหารที่

00:18:0900:18:11 ปรุงสุกใหม่บางทีเเก็บไว้ 2-3 ชั่วโมง

00:18:1100:18:13 เชื้อที่จากน้อยๆค่อยค่อยๆโตค่อยๆโตมันโต

00:18:1300:18:16 ไวกว่าไงเพราะว่าอุณหภูมิบ้านเรามันอุ่น

00:18:1600:18:16 กว่าอ

00:18:1600:18:17 >> อือ

00:18:1700:18:18 >> โอเค

00:18:1800:18:18 >> นั่นแหละครับ

00:18:1800:18:21 >> งั้นถ้ามีเพื่อนฝรั่งมาก็ควรที่จะ

00:18:2100:18:22 >> อุ่น

00:18:2200:18:22 >> อุ่นทุกอย่าง

00:18:2300:18:25 >> ทำไมบ้านยูกินอาหารร้อนตลอดเวลา

00:18:2500:18:27 >> อ

00:18:2700:18:30 >> คำถามต่อไปครับอันเนี้ยก็คลาสสิคครับ

00:18:3000:18:34 คลาสสิกทุกอันน่ะกระป๋องเออได้ยินบ่อยๆใน

00:18:3400:18:36 เรื่องกระป๋องบุบแล้วก็เกิดแบบความเน่า

00:18:3600:18:36 เสีย

00:18:3600:18:37 >> อือ

00:18:3700:18:39 >> กระป๋องที่บุบเพราะแรงกระแทกกับกระป๋อง

00:18:3900:18:40 ที่เสียเนี่ยมันดูออกมั้ครับว่ามันต่าง

00:18:4100:18:42 กันยังไง

00:18:4200:18:44 >> หลักๆไม่ว่าจะบุบยังไงไม่ไม่ควรไปกินมัน

00:18:4400:18:46 แต่ถ้าแบบถ้าอยากเลือกจริงๆอ่ะส่วนใหญ่

00:18:4600:18:48 ถ้าบุบเพราะแรงกระแทกแล้วยังกินได้มันจะ

00:18:4800:18:50 บุบตรงบอดี้มันสมมุติว่านี่นี่คือกระป๋อง

00:18:5000:18:50 เงี้ย

00:18:5000:18:51 >> ครับ

00:18:5100:18:54 >> บุบตรงเไม่เป็นไรแสดงว่าบุบเข้าอ่ะบุบ

00:18:5400:18:57 เข้าคือโดนแรงกระแทกจากการขนส่ง

00:18:5700:19:00 >> แต่พองออกคือมาจากเชื้อที่หายใจแล้วเกิด

00:19:0000:19:02 แก๊สในนี้ความจริงการเสียของอาหารกระป๋อง

00:19:0200:19:05 มีหลายแบบมากบางทีไม่ต้องผ่องเลย

00:19:0500:19:06 >> อื

00:19:0600:19:08 >> เรียบทุกอย่างถ้าเป็นศัพท์เ้าเรียกว่า

00:19:0800:19:11 แฟลชาวด์คือข้างในเปรี้ยวแต่กระป๋องไม่

00:19:1100:19:13 บวมแฟลชไงแบ่ง

00:19:1300:19:14 >> ก็เสียได้

00:19:1400:19:17 >> แต่เราไม่รู้แต่ถ้ามันพองออกมาเนี่ยไม่

00:19:1700:19:20 ควรกินนะหรือถ้ามันบุบเข้าบุบเข้าตรงนี้

00:19:2000:19:21 ไม่เป็นไรใช่มั้ย

00:19:2100:19:22 >> แต่ถ้าบุบเข้าตรง

00:19:2200:19:23 >> ขอบ

00:19:2300:19:23 >> อ๋อ

00:19:2300:19:26 >> อันตรายเพราะตรงนี้มันเป็นส่วนเขาเรียก

00:19:2600:19:29 ว่าส่วนรอยต่อระหว่างฝากับแคนเพราะปกติ

00:19:2900:19:32 เวลาผลิตกระป๋องมันจะมีส่วนบอดี้กับส่วน

00:19:3200:19:33 แคน

00:19:3300:19:35 >> แต่เขาจะมาเชื่อมกันด้วยเ้าเรียกว่าซีม

00:19:3500:19:36 ซีมตรงขอบมันน่ะ

00:19:3600:19:38 >> ถ้าบุบตรงขอบมีโอกาสที่เชื้อข้างนอกจะ

00:19:3900:19:40 เข้าไปได้อ

00:19:4000:19:41 >> อ๋อ

00:19:4100:19:43 >> แต่ถ้าบุบตรงเนี้ยส่วนใหญ่ไม่เป็นไรอาจจะ

00:19:4300:19:44 เกิดการกระแทกอ

00:19:4400:19:46 >> แต่ถ้าพองไม่ควรกินเลย

00:19:4600:19:49 >> แล้วถ้าถ้ากระแทกเนี่ยมันจะทำให้เกิดการ

00:19:4900:19:51 เสียของกระป๋องนั้นง่ายขึ้นอีกป่ะ

00:19:5100:19:53 >> ง่ายขึ้นง่ายขึ้นง่ายขึ้นโดยเฉพาะตรงตรง

00:19:5300:19:55 ขอบจะยิ่งง่ายเพราะมันเป็นรอยต่อมันมี

00:19:5500:19:56 โอกาสมีรูเยอะ

00:19:5600:19:59 >> แต่ตรงนี้ถามว่าก็มีมั้ยมีแต่น้อยกว่า

00:19:5900:20:01 >> เพราะตรงนี้มันไม่ใช่เป็น

00:20:0100:20:03 >> ตรงบอดี้มันไม่ใช่ตรงรอยต่ออะไร

00:20:0300:20:04 >> อือๆ

00:20:0400:20:04 >> อื

00:20:0400:20:06 >> คือมันไม่เกิดจากข้างในอยู่แล้วแต่มัน

00:20:0600:20:07 เกิดจากเชื้อที่จะเข้าไป

00:20:0700:20:09 >> ใช่เพราะข้างในอาหารกระป๋องทุกที่ข้างใน

00:20:0900:20:11 เขาเรียกว่า commmercial story

00:20:1200:20:14 ที่แปลว่าเกือบจะพูดอพูดง่ายๆแทบไม่มี

00:20:1500:20:16 เชื้อเหลืออยู่เลยเพราะฉะนั้นอาหารข้างใน

00:20:1600:20:17 มันเลยอ

00:20:1700:20:18 >> ปลอดภัยมาก

00:20:1800:20:19 >> ยกเว้น

00:20:1900:20:21 >> โดนกระแทกจนเชื้อข้างนอกเข้า

00:20:2100:20:22 >> อ

00:20:2200:20:25 >> หรือเปิดแล้วเปิดแล้วปิดแล้วเก็บไม่ดีแต่

00:20:2500:20:28 เปิดครั้งนึงที่เปิดเชื้อเข้าทันทีไม่ว่า

00:20:2800:20:30 จะอยู่ในห้องสะอาดแค่ไหนอ

00:20:3000:20:32 >> ยกเว้นต้องไปอยู่ในห้องผ่าตัดที่เป็นแบบ

00:20:3200:20:33 มากๆ

00:20:3300:20:34 >> ใช่

00:20:3400:20:35 >> โอเคครับ

00:20:3500:20:36 >> จะหมดแล้วล้อเล่น

00:20:3600:20:40 >> ยังครับยังไม่ถึงครึ่งเลยมั้งครับเนี่ย

00:20:4000:20:42 การล้างจานด้วยฟองฟองน้ำที่ใช้ซ้ำๆมัน

00:20:4200:20:43 สะอาดได้จริงหรือเปล่า

00:20:4300:20:46 >> ไม่ฟองน้ำเป็นตัวที่เก็บเชื้อโรคเยอะมาก

00:20:4700:20:47 ใน

00:20:4700:20:49 >> เพราะมันมีรูพรุนเยอะ

00:20:4900:20:51 >> ใช่มั้ยมันมีรูพุนเยอะยกเว้นโหถ้าใคร

00:20:5100:20:54 สะอาดจัดใช้ครั้งนึงอ่ะราดน้ำร้อนทีนึง

00:20:5400:20:55 พ่นแอลกอฮอล์ทีนึง

00:20:5500:20:58 >> ฟองน้ำคุณเปลี่ยนครับพอมันเริ่มแบบเก่าๆ

00:20:5800:21:01 สมมุติว่าใช้อาทิตย์นึงงี้เริ่มเริ่ดำๆ

00:21:0100:21:03 แล้วควรควรเปลี่ยนเพราะมันเป็นแหล่งสะสม

00:21:0300:21:04 เชื้อ

00:21:0400:21:06 >> เราจัดการกับฟองน้ำในครัวเรายังไงครับทุก

00:21:0600:21:08 วันที่เราใช้เสร็จอ่ะ

00:21:0800:21:10 >> พอล้างเสร็จอ่ะหลายคนคิดว่ามันมีฟองแล้ว

00:21:1000:21:12 คือสะอาดความจริงไม่ใช่

00:21:1200:21:12 >> ออ

00:21:1200:21:16 >> สมมุติล้างสมมุติว่านี่คือแก้ว

00:21:1600:21:18 >> ล้างล้างแก้วเสร็จ

00:21:1800:21:20 >> แก้วสะอาดฟองน้ำมีฟองวางทิ้งไว้เนี่ยไม่

00:21:2000:21:21 ควร

00:21:2100:21:21 >> อ๋อ

00:21:2100:21:23 >> ควรปีบฟองทั้งหมดออกก่อน

00:21:2300:21:26 >> แล้วใส่ไอ้น้ำยาล้างจานอีกรอบแล้วขยำอีก

00:21:2600:21:28 รอบนึงแล้วบีบอีกครั้งนึง

00:21:2800:21:30 >> เพื่อเหมือนเป็นการทำความสะอาดฟองน้ำใน

00:21:3000:21:31 ตัวอ

00:21:3100:21:33 >> คือหลายคนล้างจานเสร็จปุ๊บล้างจานล้าง

00:21:3300:21:36 แก้วเสร็จปุ๊บเห็นว่าฟองน้ำยังมีฟองอยู่

00:21:3600:21:37 ไม่ยอมบีบคั้นออก

00:21:3700:21:39 >> วางไว้คิดว่ามีฟองแล้วสะอาดแต่ความจริง

00:21:4000:21:40 มันไม่ใช่ใช่

00:21:4000:21:43 >> ก็คือเชื้อที่เราไปเช็ดแหละมันก็ยังอยู่

00:21:4300:21:45 แล้วมันก็ไปโตในฟองน้ำ

00:21:4500:21:46 >> แล้วโตครั้งนึง

00:21:4600:21:48 >> ล้างอีกครั้งถัดไปก็จะยากแล้วเพราะว่าฟอง

00:21:4800:21:49 น้ำมันลึก

00:21:4900:21:49 >> อื

00:21:4900:21:53 >> แล้วคงไม่มีใครแบบเทน้ำร้อนราดอ่ะ

00:21:5300:21:54 >> แต่ถ้าเทน้ำร้อนราดก็จะดี

00:21:5400:21:55 >> ก็ช่วยก็ช่วยก็ช่วย

00:21:5500:21:58 >> แปลว่าเราควรทำความสะอาดฟองน้ำทุกวันนะ

00:21:5800:22:00 >> ทุกครั้งแต่ไม่ต้องถึงขนาดน้ำเดือดราดก็

00:22:0000:22:03 ได้แต่อย่างน้อยแบบพอใช้เสร็จครั้งนึงก็

00:22:0300:22:06 บีบออกให้หมดแล้วใส่น้ำยาล้างจันทอีกรอบ

00:22:0600:22:08 ขยับเหมือนซักผ้าอืเหมือนซักผ้าแค่นั้น

00:22:0800:22:09 แหละ

00:22:0900:22:11 >> ก็จะสาคือจะต้องบีบให้แห้งพอมีน้ำอยู่

00:22:1100:22:12 เชื้อก็โตได้อ

00:22:1200:22:12 >> อ๋อ

00:22:1200:22:13 >> ต้องบีบให้แห้งมาก

00:22:1300:22:15 >> แห้งแล้วก็วางไว้ตรงที่แห้ง

00:22:1500:22:17 >> วางไว้ตรงที่ระบายอากาศได้

00:22:1700:22:18 >> เพราะว่าคนก็จะใส่เข้าไปในกระป๋องที่มี

00:22:1800:22:19 น้ำยาอยู่

00:22:1900:22:22 >> อืก็ก็หมักหมมต่อ

00:22:2200:22:25 >> โอเคอันนี้ดีครับมีประโยชน์เห็นชัดที่

00:22:2500:22:26 บ้านใช้

00:22:2600:22:29 >> แต่มันจะมีร้านอาหารที่เขาแช่ไว้ใน

00:22:2900:22:31 คอนเทนเนอร์ที่มีน้ำอยู่ตลอดเวลา

00:22:3100:22:32 >> นั่นแหละอันนั้นแหละ

00:22:3300:22:34 >> มันหลายปัจจัยมาก

00:22:3400:22:37 >> ถ้าน้ำยาล้างจานเข้มข้นพอเชื้อก็ไม่โตแต่

00:22:3700:22:39 หลายที่มันเจือจางมันก็โตได้

00:22:3900:22:40 >> ชอบเติมน้ำลงไปในน้ำยา

00:22:4000:22:43 >> นั่นแหละจงแบบกลัวอะไรนะกลัวเปิแต่ Best

00:22:4300:22:46 Practice อ่ะต้องบีบให้แห้งแล้วผึ่งไว้

00:22:4600:22:47 >> อันนั้นชัวร์สุด

00:22:4700:22:47 >> อื

00:22:4700:22:48 >> ดูน่ากลัวจริงๆ

00:22:4800:22:49 >> นั่นแหละครับ

00:22:4900:22:53 >> โอเคครับ

00:22:5300:22:57 >> คำอย่างอ่าอันนี้เป็นเรื่องจากผมว่ายุค

00:22:5700:22:59 โควิดเนี่ยล้างมือก่อนกินช่วยลดเชื้อโรค

00:22:5900:23:00 ได้จริงมั้

00:23:0000:23:02 >> ลดจริงลดจริงแต่ต้องล้างล้างมือยังถูก

00:23:0200:23:04 วิธีไงผมก็จำไม่ได้หรอกว่ามันมีขั้นตอน

00:23:0400:23:07 ไหนมาแต่จำได้ว่าอย่างน้อยขั้นตอนนึงคือ

00:23:0700:23:09 ต้องถูกสบู่คงที่ไว้อย่างน้อย 20 วินาที

00:23:0900:23:11 ซึ่งหลายคนมันแค่ 5 วินาทีปัจจุบันผมก็

00:23:1100:23:13 เป็นบางที 5 วินาขี้เขียนอ

00:23:1300:23:16 >> 20 วินาทีคือลดเชื้อได้ชัดเจนที่สุด

00:23:1600:23:17 >> อือ

00:23:1700:23:19 >> มี 2 ปัจจัยถ้าอยากล้างมือให้สะอาดคือ

00:23:1900:23:21 ล้างนานพอและล้างถูกวิธีไงมันมี

00:23:2100:23:23 >> มันมีวิธีอยู่

00:23:2300:23:24 >> ช่วงโควิดเราน่าจะเห็นบ่อย

00:23:2400:23:26 >> ใช่หลายคนถูกแค่เนี้ยแล้วคงไว้ 20 วินาท

00:23:2600:23:26 >> เออ

00:23:2600:23:28 >> อ้าวไอ้ตรงข้อก็ไม่โดน

00:23:2800:23:28 >> อ

00:23:2800:23:31 >> ก็ต้องมีท่าของเขาแล้วต้องคงไว้ 20

00:23:3100:23:31 วินาทีด้วย

00:23:3100:23:32 >> น้ำเปล่าก็ไม่รอด

00:23:3200:23:33 >> น้ำเปล่าไม่รอด

00:23:3300:23:34 >> อื

00:23:3400:23:37 >> หลักการ sanitation ในอุตสาหกรรมอาหาร

00:23:3700:23:39 จริงๆอ่ะความจริงอ่ะมันมีทั้ง 3 ขั้นตอน

00:23:3900:23:42 ขั้นแรกล้างน้ำเปล่าเพื่อล้างส่วนใหญ่ออก

00:23:4200:23:44 ไปก่อนขั้นที่ 2 คือ cleaning ใช้น้ำยา

00:23:4400:23:45 ล้างจาน

00:23:4500:23:45 >> อ

00:23:4500:23:47 >> น้ำยาล้างจานคือเอาไขมันโปรตีนออกแต่

00:23:4700:23:50 เชื้อยังอยู่อันที่ 3 คือ disinfection

00:23:5000:23:51 ใช้แอลกอฮอล์

00:23:5100:23:52 >> แล้วต้องเรียงแบบนี้ด้วยนะ

00:23:5200:23:54 >> ถ้ามาถึงเอาแอลกอฮอล์ก่อนแล้ว cleaning

00:23:5400:23:57 ก็ใช่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

00:23:5700:23:59 >> ต้องเอาน้ำเปล่า

00:23:5900:24:02 >> น้ำยาล้างจานก็หรือสบู่ถ้าเป็นมือแล้วก็

00:24:0200:24:05 disinfection ก็คือแอลกอฮอล์

00:24:0500:24:05 >> ออ

00:24:0500:24:07 >> หรือว่าหรือว่าสารฆ่าเชื้ออย่างอื่นก็ได้

00:24:0700:24:11 >> อืแล้วอีกอันนี้ถามต่อเลยล้างมือก่อนกิน

00:24:1100:24:13 ข้าวเนี่ยกับเราไม่มีที่ล้างมือฉีด

00:24:1300:24:14 แอลกอฮอล์เนี่ย

00:24:1500:24:16 >> ฉีดแอลกอก็ยังดี

00:24:1600:24:16 >> ดีกว่า

00:24:1600:24:19 >> ดีกว่าคือแม้ว่าเราจะข้ามตัวคลีนingไอ้ 3

00:24:1900:24:21 อันเนี้ยคือทำให้ประสิทธิภาพมันเกือบเต็ม

00:24:2100:24:24 100% เลยแต่สมมุติเราข้ามน้ำเปล่ามาแล้ว

00:24:2400:24:26 มาแอลกอฮอล์เลยประสิทธิภาพการฆ่าเชื้ออาจ

00:24:2600:24:29 จะเหลือแค่ 70% แต่ยังดีกว่าไม่ได้ฆ่าเลย

00:24:2900:24:32 >> แต่ประสิทธิภาพมันน้อยลงเพราะมันมี dirt

00:24:3200:24:35 มีคือศัพทเขาเรียกว่าซอย s o ที่แปลว่า

00:24:3500:24:38 ดินๆซอยในที่เคือสิ่งที่ไม่ควรอยู่

00:24:3800:24:38 >> อื

00:24:3800:24:41 >> ไขมันบางทีมันไม่ควรอยู่บนมือเราแต่ถ้า

00:24:4100:24:43 มันมีไขมันการฆ่าเชื้อจะลดลงเพราะว่าไข

00:24:4300:24:45 มันมันไปปกป้องไม่ให้เชื้อโดนแอลกอฮอล์

00:24:4500:24:46 >> ออ

00:24:4600:24:49 >> อแต่ถ้าไม่มีที่ล้างมือเลยอ่ะอย่างน้อย

00:24:4900:24:51 แอลกอฮอล์ก็ดีกว่านอตติ้ง

00:24:5100:24:51 >> อ

00:24:5100:24:52 >> ครับ

00:24:5200:24:54 >> มันอันตรายแค่ไหนครับเชื้อจากมือเราไม่

00:24:5400:24:54 รู้เลย

00:24:5400:24:58 >> โอ้โหเชื้อเชื้อจากมือเราอ่ะเค้าเชื้อจาก

00:24:5800:25:00 เค้าเรียกว่า Normal Flora เนาะเชื้อจาก

00:25:0000:25:03 ผิวหนังคนเ้าเรียกว่าSTPฟิโลคอก Aus มี

00:25:0300:25:03 อยู่แล้ว

00:25:0300:25:04 >> อือ

00:25:0400:25:06 >> ไม่ว่าเราจะอาบน้ำแค่ไหนแล้วเชื้อตัว

00:25:0600:25:08 เนี้ยดันสั้นๆดันสร้างสารพิษที่ทนความ

00:25:0900:25:10 ร้อนด้วยโ

00:25:1000:25:12 >> อือันเนี้คือ

00:25:1200:25:14 เทพเจ้าสร้างมา

00:25:1400:25:16 >> ก็คือเราชะล้างเชื้อออกจากมือเราให้มาที่

00:25:1600:25:17 สุดก่อน

00:25:1700:25:19 >> ใช่เพื่อพอมันไม่มีเชื้อตัวเชื้อไม่มีพอ

00:25:1900:25:20 ไปจับอาหาร

00:25:2000:25:21 >> อ

00:25:2100:25:23 >> เชื้อก็ไม่สามารถโตบนอาหารได้เพราะไม่มี

00:25:2300:25:24 เชื้อไงอ

00:25:2400:25:27 >> มันก็สร้างสารพิษไม่ได้อาหารก็จะปลอดภัย

00:25:2700:25:27 เออโอเค

00:25:2700:25:30 >> อืก็ล่าสุดไงเคส 2 สัปดาห์ที่แล้วไงข้าว

00:25:3000:25:32 มันข้าวมันไก่มันไก่

00:25:3200:25:32 >> มีแผล

00:25:3200:25:33 >> อื

00:25:3300:25:37 >> แผลเป็นอะไรที่เชื้อปกติเชื้อสมมุติที่

00:25:3700:25:39 อย่างเชื้อที่ผิวอ่ะสมมุติมี 10 ตัวต่อ

00:25:3900:25:39 ตารางเซม

00:25:3900:25:40 >> ค่ะ

00:25:4000:25:43 >> แผลมันจะหัวเป็นพันเป็นหมื่นเท่าแล้วพอ

00:25:4300:25:47 สับเข้ามันไก่แม้ว่ามันจะติดตรงหนังไก่

00:25:4700:25:47 >> อ

00:25:4700:25:50 >> แล้วโรงเรียนนั้นสมมุติเอาไปไมโครเวฟ

00:25:5000:25:52 >> ก็ยังไม่รอดเพราะเชื้อทนความหลอน

00:25:5200:25:52 >> อ๋อ

00:25:5200:25:53 >> อือ

00:25:5300:25:55 >> คือป้องกันไม่ให้เชื้อมันมีก่อนดีกว่า

00:25:5500:25:57 >> ถูกต้องลดโหลดดีกว่า

00:25:5700:25:57 >> อือๆ

00:25:5800:26:01 >> โอเคครับอ่ะต่อไปครับ

00:26:0100:26:04 อาหารที่หมดอายุ Best before ยังกินได้

00:26:0400:26:06 อยู่มั้ครับที่มันเขียนว่า Best before

00:26:0600:26:07 เนากินได้

00:26:0700:26:07 >> เออๆ

00:26:0700:26:10 >> คำว่า best before นิยามคือมันมันหมด

00:26:1000:26:12 อายุเชิงเคมีกายภาพคือลักษณะมันมัน

00:26:1200:26:15 เปลี่ยนไปเช่นไม่กรอบเม้นหืนแต่ไม่ได้

00:26:1500:26:16 เกี่ยวกับเชื้อ

00:26:1600:26:17 >> อือ

00:26:1700:26:19 >> อาหารไหนที่ขึ้น Best before คือเสียไม่

00:26:1900:26:22 เกี่ยวกับเชื้อเลยแต่อาหารไหนที่ขึ้นว่า X

00:26:2200:26:23 expirate

00:26:2300:26:24 >> ครับ

00:26:2400:26:28 >> มันจะเสียเชิงเชื้อก่อนเสียเชิงคุณภาพ

00:26:2800:26:29 >> คือมันจะมีตัวเชื้อเกิดขึ้นมา

00:26:2900:26:30 >> เกิดขึ้นก่อน

00:26:3000:26:31 >> อื

00:26:3100:26:34 >> อืเกิดขึ้นก่อนเช่นแน่ๆนมสด

00:26:3400:26:34 >> อ่า

00:26:3500:26:36 >> นมพัจจอไรอย่างเงี้ยครับ

00:26:3600:26:38 >> ปูดก่อนเหม็นหืนแน่นอน

00:26:3800:26:40 >> เพราะฉะนั้นเเลยใช้ expire แต่สมมุติน้ำ

00:26:4000:26:42 ปลาเนยถั่ว

00:26:4200:26:42 >> อือ

00:26:4200:26:45 >> เชื้อไม่ทันได้โตครับแต่สีเปลี่ยนเหม็น

00:26:4500:26:48 หืนแล้วจะใช้ Best before อันนี้คือวิธี

00:26:4800:26:51 การจำแนกเพราะฉะนั้นถ้าเป็น Best before

00:26:5100:26:55 แค่สีมันเข้มขึ้นก็ไม่ได้อันตรายอะไรแค่

00:26:5500:26:57 ถ้าเอาไปปรุงอาหารนั้นอาจจะอ

00:26:5700:27:00 >> ไม่เหมือนเดิมเพราะสีอาจจะเข้มขึ้น

00:27:0000:27:02 >> อืเพราะฉะนั้นทุกคนไม่ใช่แค่ดูแค่วันที่

00:27:0200:27:04 เนาะควรจะดูว่ามันคือ best before หรือ x

00:27:0400:27:05 >> ใช่

00:27:0600:27:08 แต่ถ้าทำอุตสาหกรรมอาหารหรือร้านอาหาร

00:27:0800:27:08 จริงๆอ่ะ

00:27:0800:27:09 >> ครับ

00:27:0900:27:10 >> Best before ก็ไม่ควรแตะเพราะอย่าลืม

00:27:1000:27:13 ว่าเวลาทำเราทำอาหารให้ลูกค้าคุณภาพต้อง

00:27:1300:27:16 คงที่คุณภาพในที่นี้คือทั้งเชื้อและ

00:27:1600:27:16 >> รสชาติ

00:27:1600:27:19 >> รสชาติด้วยแต่ถ้าทำเองที่บ้านแล้วแบบโห

00:27:1900:27:21 ซื้อมาตั้งเยอะแล้ว Best before เพิ่ง

00:27:2100:27:23 เมื่อวานอย่างเงี้ยใช้ได้ไม่มีปัญหา

00:27:2300:27:24 >> อือๆ

00:27:2400:27:24 >> ครับ

00:27:2400:27:27 >> คือหลายคนก็คงแบบดูแค่วันที่เนาะโดยที่

00:27:2700:27:28 ไม่รู้อ่ะ

00:27:2800:27:30 >> แล้วก็แบบอุ้ยมัน best before แล้วก็หมด

00:27:3000:27:31 ไปแล้วเมื่อวานนี้

00:27:3100:27:33 >> ก็กินไม่ได้แล้วสิอะไรอย่างเงี้ยแต่จริงๆ

00:27:3300:27:34 มันยังกินได้อยู่

00:27:3400:27:36 >> กินได้แล้วส่วนส่วนใหญ่อ่าผลิตภัณฑ์อาหาร

00:27:3600:27:38 ที่เป็น Best before พวกนี้เขาจะตั้ง

00:27:3800:27:39 เผื่อไว้

00:27:3900:27:40 >> นานแค่ไหนครับ

00:27:4000:27:44 >> แล้วแต่ผลิตภัณฑ์เลยบางทีเขาทดสอบว่าเฮ้ย

00:27:4400:27:46 2 ปีเหม็นหืน

00:27:4600:27:47 >> เ้าอาจจะตั้ง Best before เป็น 1 ปี

00:27:4700:27:49 ครึ่งเผื่อไว้

00:27:4900:27:49 >> อื

00:27:4900:27:51 >> ก็ก็มีโอกาส

00:27:5100:27:53 >> เอ้ยอยากรู้เลยครับว่าเวลาเ้าทำผลิตภัณฑ์

00:27:5300:27:55 กันเนี่ยเค้าไปทดสอบ Best before กันยัง

00:27:5500:27:56 ไง

00:27:5600:28:00 >> โหมันมันลึกมากคือไม่มีใครตั้งไว้ 1 ปี

00:28:0000:28:02 เต็มเขาจะมีเรียกว่า Accelerate Shelf

00:28:0300:28:05 life คือสมมุติว่าเรู้ว่าเวลาลูกค้าเอา

00:28:0500:28:08 ไปเก็บวางไว้ที่อุณหภูมิ 25 องศาถึงจะหมด

00:28:0800:28:09 2 ปี

00:28:0900:28:12 >> แต่ถ้ารอหมด 2 ปีผลิตภัณฑ์ไม่ได้ทันออก

00:28:1200:28:13 >> เก็จะเร่งเจะเร่ง

00:28:1300:28:13 >> อ๋อ

00:28:1300:28:15 >> เช่นเพิ่มอุณหภูมิไปบ่มไปที่อุณหภูมิ

00:28:1600:28:17 40-50 องศาซิ

00:28:1700:28:17 >> อ

00:28:1800:28:19 >> เพราะงั้น Best before มันจะเร็วขึ้น

00:28:1900:28:21 แล้วเขาจะมีสมการของเขาอ่ะถ้าจำไม่ผิดนะ

00:28:2100:28:25 จะมั้งเ้าบอกว่าถ้าอุณหภูมิเท่านี้เสีย

00:28:2500:28:26 ภายใน 2 อาทิตย์

00:28:2700:28:29 >> ถ้า 25 เสียภายในกี่ปีมันเทียบได้

00:28:2900:28:31 >> อือ๋อมันก็จะมีการเทียบกันอยู่

00:28:3200:28:34 >> ใช่ของของพวกผมก็แบบเข้าใจพวกฟุไ 2 ปีมัน

00:28:3400:28:37 ต้องรอ 2 ปีเลยถึงแต่ expire เดไม่ค่อย

00:28:3700:28:38 เพราะ expire มันสั้นไง

00:28:3800:28:38 >> ใช่

00:28:3800:28:41 >> 14 วันใช่มั้ยก็รอ 14 วันแป๊บเดียวไม่

00:28:4100:28:42 ต้องไป accelerate ก็ได้อ

00:28:4200:28:43 >> อื

00:28:4300:28:43 >> อือ

00:28:4300:28:45 >> แล้วอ่ะอีกคำถามนึง Best before มัน

00:28:4500:28:47 สามารถ

00:28:4700:28:49 >> เอ่อเรียกว่าอะไรยืนระยะของมันในตู้เย็น

00:28:4900:28:50 ได้มั้ยฮะ

00:28:5000:28:52 >> ยืดได้ยืดได้เพราะส่วนใหญ่ Best best

00:28:5200:28:54 before ส่วนใหญ่เขาจะเขาจะทดลองที่เขียน

00:28:5400:28:56 ไว้คืออุณหภูมิห้อง

00:28:5600:28:56 >> อือ

00:28:5600:28:59 >> แต่ถ้าเราไปแช่เย็นกระบวนการเหม็นหืน

00:28:5900:29:01 กระบวนการที่สีจะเปลี่ยนก็จะช้าลงเพราะ

00:29:0100:29:04 ปฏิกิริยาส่วนใหญ่ในโลกเนี้ยพออุณหภูมิลด

00:29:0400:29:05 มันจะเกิดช้าลง

00:29:0500:29:05 >> อื

00:29:0500:29:06 >> ครับ

00:29:0600:29:10 >> โอเคต่อเลยครับ

00:29:1000:29:14 >> โอเคข้าวครับข้าวสารเนาะเก็บไว้นานแค่ไหน

00:29:1400:29:16 ถึงจะควรทิ้งฮะ

00:29:1600:29:16 >> ข้าวสาร

00:29:1700:29:18 >> ตามฉลากเลยครับ

00:29:1800:29:21 >> เพราะตามฉลากเขาจะเขียนเเหมือนเขาจะระบุ

00:29:2100:29:25 ไว้พอมันพอมันเกินที่เขาเขียนน่ะส่วนใหญ่

00:29:2500:29:28 สิ่งที่ที่สิ่งที่เสียคือมันมอดขึ้น

00:29:2800:29:30 >> มอดขึ้นถือว่าเป็นข้าวเสียเหรอ

00:29:3000:29:33 >> มันไม่ควรกินเพราะว่ามอดคือในข้าวอ่ะมัน

00:29:3400:29:36 จะมีไข่มอดมาตามธรรมชาติอยู่แล้วถ้าเก็บ

00:29:3600:29:38 ไม่ดีหรือมีออกซิเจนเยอะมันก็จะฟักเป็น

00:29:3800:29:40 ตัวแล้วมอดมันก็จะไปกินข้าวคือข้าวมันก็

00:29:4000:29:44 จะเหมือนข้าวที่โดนหมอดกิน 1 นอกจากเม็ด

00:29:4400:29:47 หักไม่พอบางทีเราไม่รู้ว่ามอดมันมีเชื้อ

00:29:4700:29:50 ถ้ามอดโตได้มีโอกาสที่จุลินทรีย์ก็โตได้

00:29:5000:29:52 ด้วยแล้วบางทีหมอดมันเป็นสัตว์ใช่มั้ย

00:29:5200:29:54 >> กินข้าวเสร็จมันก็ต้องขี้ออก

00:29:5400:29:56 >> อจะกินขี้มอด

00:29:5600:30:00 >> ไม่ควรข้าวที่ข้าวที่มอดขึ้นน่ะไม่ควรกิน

00:30:0000:30:01 แต่บางทีถ้ามันเริ่มขึ้นแล้วหลายคนบอก

00:30:0100:30:04 เฮ้ยเอาไปล้างก็ยังใช้ได้อยู่

00:30:0400:30:06 >> ก็ใช่เพราะเชื้ออาจจะหล่นไม่เยอะพอไปหุง

00:30:0600:30:07 มันก็ลดลง

00:30:0700:30:09 >> แต่สมมุติถ้ามันเราไม่มีทางรู้เราไม่เรา

00:30:0900:30:11 ไม่มีห้องแลบในการวัดถ้ามันขึ้นเยอะแล้ว

00:30:1100:30:14 เชื้อมันโหลดมากบางทีเอาไปหุง

00:30:1400:30:16 >> เชื้อตายไม่หมดอ

00:30:1600:30:18 >> แล้วก็อาจจะเกิดปัญหาเกิดโรคได้อ

00:30:1800:30:22 >> อืข้าวนี่เป็น best before หรือ expire

00:30:2200:30:22 นะ

00:30:2200:30:23 >> ข้าวใช่มั้ย

00:30:2300:30:23 >> ใช่ข้าวสาร

00:30:2400:30:25 >> พี่คิดว่าเป็น best before หรือ expire

00:30:2500:30:27 >> ผมน่าผมเข้าใจว่าน่าจะเป็น best before

00:30:2700:30:32 นะเพราะมันน่าจะมีเรื่องของกายภาพมากกว่า

00:30:3200:30:34 >> ไม่รู้เหมือนกัน

00:30:3400:30:37 >> ไม่ชัวร์มาเปล่าที่บอกว่าข้าวอ่ะ

00:30:3700:30:39 >> มันแล้วแต่ยี่ห้อบางยี่ห้อก็ Best before

00:30:3900:30:42 บางยี่ห้อก็ expired เพราะหลายหลายเจ้า

00:30:4200:30:45 เ้าเเห็นว่ามอดคือสิ่งมีชีวิตบางทีมันมา

00:30:4600:30:48 ก่อนที่จะหืนหรือกลิ่นหายเขาก็จะไปใช้

00:30:4800:30:51 expiry dead มันแล้วแต่เลย

00:30:5100:30:53 >> อืมันแล้วแต่แต่หลังๆมันมีเทคโนโลยีข้าว

00:30:5300:30:55 ไงคือเก็บไว้ในถุงที่

00:30:5500:30:56 >> ซีลไว้แบบ

00:30:5600:30:58 >> ซีลแล้วแบบเอาอากาศออกแล้วflัชแก๊ส

00:30:5800:30:59 ไนโตรเจนอย่างเงี้ย

00:30:5900:31:01 >> อยู่ได้นานขึ้นมันช่วยเลย

00:31:0100:31:02 >> พอไม่มีออกซิเจนไนโตรเจนเข้าไปแทน

00:31:0200:31:04 ออกซิเจนไม่มีอ

00:31:0400:31:05 >> ไข่มอดก็ฟักไม่ได้

00:31:0500:31:05 >> อ๋อ

00:31:0500:31:08 >> แล้วกลิ่นกลิ่นหอมๆของข้าวก็จะยังอยู่นาน

00:31:0800:31:11 >> ก็ต้องดูว่าซื้อแบบไหนไปใช้ที่บ้านมั้

00:31:1100:31:13 >> ใช่ๆแต่พูดตรงๆถ้ามอดขึ้นก็ไม่ไม่ควร

00:31:1400:31:15 เสี่ยงครับ

00:31:1500:31:17 >> อืโอเคครับ

00:31:1700:31:20 เพราะว่าเราก็จะแบบรู้จักการซาวข้าวเอา

00:31:2000:31:21 มอดออกไง

00:31:2100:31:22 >> อ๋อ

00:31:2200:31:24 >> ฝุ่นมอดอะไรอย่างเงี้ยแล้วแบบเออถ้ามอด

00:31:2400:31:26 โอเคเข้าใจมอดมันเกิดได้ก็แปลว่าเชื้อโรค

00:31:2600:31:28 เกิดได้อ

00:31:2800:31:30 >> คำถามต่อไปฮะอาหารที่มีเชื้อราขึ้นถ้าตัด

00:31:3100:31:33 ส่วนที่มีชราออกยังสามารถกินส่วนที่เหลือ

00:31:3300:31:33 ได้มั้ย

00:31:3300:31:37 >> โอเคยทำเรื่องนี้อยู่ขึ้นอยู่กับอาหาร

00:31:3700:31:39 >> อันนี้ความจริง WHO มีเขียนไว้ชัดถ้าเป็น

00:31:3900:31:41 อาหารเนื้อแข็งควานได้ถ้าเป็นอาหารเนื้อ

00:31:4100:31:43 อ่อนเมื่อไหร่หมายความว่าเชื้อราวเวลามัน

00:31:4300:31:46 เกิดมันจะมีรากของมันเค้าเรียกว่าไฮฟี่

00:31:4600:31:48 อะไรพวกเนี้ยสัตว์เชื้อเชื้อราเอ

00:31:4800:31:51 >> ถ้าอาหารเนื้อนิ่มมันจะชอนลงไปคว้านยังไง

00:31:5100:31:53 ก็ยังอยู่ข้างในอาหารเนื้อนิ่มเช่นอะไร

00:31:5300:31:55 อ่ะขนมปังเค้ก

00:31:5500:31:55 >> อ

00:31:5500:31:56 >> เยลลี่

00:31:5600:31:56 >> อือ

00:31:5600:31:59 >> แต่ถ้าเป็นอาหารเนื้อแข็ง

00:31:5900:32:02 WHO น่าจะยกตัวอย่างหอมใหญ่แครอทอะไรพวก

00:32:0200:32:05 เนี้ยที่มันค่อนข้างแข็งแล้วมีราคว้าออก

00:32:0500:32:05 ได้

00:32:0500:32:06 >> ออ

00:32:0600:32:08 >> เพราะว่า

00:32:0800:32:11 >> รากของรามันใช้ลงไปไม่ได้

00:32:1100:32:12 >> แล้วพวกชีสอ่ะชีสมันมีเชื้อ

00:32:1200:32:15 >> อ๋อ WHO ก็แบ่งเหมือนกัน

00:32:1500:32:17 >> ชีสมีแบบเป็นฮาร์ดชีสกับซอชีส

00:32:1700:32:18 >> ฮารชีส

00:32:1800:32:21 >> ฮารชีสเช่นอะไรอ่ะไม่ออกซอตชีสพวกบรี

00:32:2100:32:23 กมองแบอะไรพวกเยเป็นชีสเนื้อนิ่ม

00:32:2300:32:24 >> อือ

00:32:2400:32:27 >> ถ้าขึ้นลาควรทิ้งเพราะมันไม่มีโอกาสลงซาน

00:32:2700:32:30 อย่างเงี้ยควานได้เพราะมันมันแข็งอยู่อัน

00:32:3000:32:32 นี้เขียนไว้ชัดไม่ได้คิดเองเขียนไว้ชัดใน

00:32:3200:32:33 องค์การอนามัยโลกครับ

00:32:3300:32:34 >> อื

00:32:3400:32:36 >> แต่เวลาคว้านเค้าบอกให้ควานลึกนิดนึง

00:32:3600:32:36 >> ลึกกว่าที่มันขึ้น

00:32:3600:32:39 >> ลึกกว่าที่มันขึ้นลึกลงไปสัก

00:32:3900:32:40 >> ครึ่งนิ้วอย่างเงี้ยโอเคอยู่

00:32:4000:32:44 >> เออก็คือแต่ว่าโดยชีสเองอ่ะผมคุยกับพี่ทำ

00:32:4400:32:46 ชีสเขาก็บอกว่าบางทีเค้าก็ไม่ได้กินไอ้

00:32:4600:32:47 พวกที่มันเป็นแบบเชื้อราดีนะ

00:32:4700:32:51 >> อ่ามันจะมีมันจะมีชีสบางตัวที่รักบลูชีส

00:32:5100:32:52 ไง

00:32:5200:32:54 >> เออใช่บูชีสนี่คือราก

00:32:5400:32:56 >> อันนั้นเป็นเชื้อราที่เขา้ารู้อยู่แล้ว

00:32:5600:32:57 ว่ามันกินได้

00:32:5700:32:57 >> อื

00:32:5700:32:59 >> เพนิซีเลียม

00:32:5900:33:01 รุฟอร์ดอ่ะชื่อนี้แหละ

00:33:0100:33:04 >> คือสีเขียวมันกินได้แต่ถ้าชีสที่มันไม่

00:33:0400:33:05 ควรจะมีรา

00:33:0500:33:05 >> อือ

00:33:0500:33:08 >> เช่นพาเมซานมันไม่ควรจะมีราแล้วมันเกิด

00:33:0800:33:09 ปุยดำขึ้นมา

00:33:0900:33:11 >> อันนั้นก็ควรควายเพราะรู้ว่าไอ้ปุยดำนั้น

00:33:1100:33:13 มันไม่ใช่ราที่ใช้ผลิตชีส

00:33:1300:33:13 >> ออือ

00:33:1300:33:17 >> มันมีราที่แบบราศีเนี่ยมันมันมีสีไหนที่

00:33:1700:33:18 แบบกินไม่ได้แน่ๆอย่าไปกินเลย

00:33:1800:33:20 >> ส่วนใหญ่เป็นสีดำ

00:33:2000:33:20 >> ดำเหรอ

00:33:2000:33:22 >> ส่วนใหญ่สีดำจะไม่ควรกิน

00:33:2200:33:22 >> อือ

00:33:2300:33:25 >> แต่ผมจำไม่ได้นะว่าจะมีราสีดำบางตัวที่

00:33:2500:33:28 เขา้าเอาไปผลิตเต้าหขนมันจำไม่ได้อ่ะที่

00:33:2800:33:31 ที่เายังเถียงกันอยู่ว่ามันกินได้หรือไม่

00:33:3100:33:32 ได้ผมก็ไม่อยากสรุป

00:33:3200:33:32 >> อื

00:33:3200:33:34 >> เพราะนักวิทยาศาสตร์บางคนก็บอกอย่าไปกิน

00:33:3400:33:36 มันเลยบางคนก็บอกว่าโหเค้ากินมาเป็น 1000

00:33:3600:33:38 ปีแล้วยังอะไรที่อะไรที่ยังสรุปไม่ได้ผม

00:33:3800:33:41 ก็ยังไม่อยากสรุปแต่ให้โน้มน้าวไปในทาง

00:33:4100:33:43 >> ไม่ปลอดภัยก่อนดีกว่า

00:33:4300:33:46 >> เพราะฉะนั้นแล้วก็ขูดให้มันลึกกว่าที่

00:33:4600:33:47 เป็น

00:33:4700:33:48 >> ใช่ถ้าเป็นอาหารเนื้อแข็งถ้าอาหารเนื้อ

00:33:4800:33:50 นิ่มทิ้งเลยนะครับ

00:33:5000:33:51 >> ทิ้งเลยโอเคครับ

00:33:5100:33:53 >> อ่ะครับคำตอบยังไม่ทันจบอ่ะผมหยิบแล้ว

00:33:5300:33:54 เนี่ย

00:33:5400:33:56 >> ไม่เป็นไร

00:33:5600:33:59 คำถามต่อไปครับ

00:33:5900:34:02 ตับที่ยังแดงๆอยู่กินได้ไหมผมไม่รู้ตับ

00:34:0200:34:03 อะไรบ้างเนอ

00:34:0300:34:05 >> อ๋อหลังๆช่วงนี้มันช่วงหลังๆปีเนี้ยปี

00:34:0500:34:09 2565 มันมีกระแสตับเนื้อคัสตารดที่ใช้

00:34:0900:34:10 อุณหภูมิไม่สูงในการต้มไว้แล้วไปกินกับ

00:34:1000:34:11 ข้าวมันไก่

00:34:1100:34:11 >> อื

00:34:1200:34:14 >> อืถ้ายังชมพูผมไม่อยากบอกว่าสีไหนเพราะ

00:34:1400:34:15 มันดูยาก

00:34:1500:34:16 >> อือ

00:34:1600:34:18 >> ชัวร์สุดคือเอาเทอร์โมอมิเตอร์

00:34:1800:34:19 จิ้มเลยครับ

00:34:1900:34:20 >> คนทำหรือคนกิน

00:34:2000:34:21 >> ควรคนทำ

00:34:2100:34:23 >> คนทำคนทำ

00:34:2300:34:26 >> เพื่อให้รู้ว่ามันเซฟสุดจิ้มชิ้นที่ใหญ่

00:34:2600:34:28 ที่สุดถ้าอุณหภูมิเกิน 70 ปลอดภัยแน่นอน

00:34:2800:34:29 >> อือ

00:34:2900:34:32 >> อือถ้าชมพูชมพูระ

00:34:3200:34:35 เจลที่มันเป็นแบบส่วนตับดิบอ่ะอันนั้นน่ะ

00:34:3500:34:37 ส่วนใหญ่เกิน 70 ส่วนใหญ่ปลอดภัยครับ

00:34:3700:34:38 >> อื

00:34:3800:34:42 >> แต่หลายร้านคิดว่าอุณหภูมิยิ่งต่ำตับยิ่ง

00:34:4200:34:42 นุ่ม

00:34:4200:34:43 >> เออ

00:34:4300:34:46 >> ก็ไปจิ้มอ่ะ 65 เอาขึ้นเลย

00:34:4600:34:46 >> โห

00:34:4600:34:47 >> ดิบ

00:34:4700:34:47 >> อือ

00:34:4700:34:50 >> ข้างในมันจะเป็นเนื้อเจลแบบเยี่ยนะคือ

00:34:5000:34:50 เนื้อตับดิบนะ

00:34:5100:34:52 >> อือๆ

00:34:5200:34:54 >> อันนี้เราพูดถึงตับไก่เนาะ

00:34:5400:34:56 >> ตับไก่หมูด้วยหมูก็เป็นหมูหมูหมูควรสุก

00:34:5600:34:58 อยู่แล้วไม่ว่าอะไรก็ตาม

00:34:5800:35:00 >> หมูคนสุกอยู่แล้วถูกต้อง

00:35:0000:35:01 >> อแล้ววัวครับ

00:35:0100:35:02 >> ตับวัวไม่เคยกินเลยอ่ะ

00:35:0200:35:05 >> ตับวัวเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะกินแบบดิบกันนะ

00:35:0500:35:06 ถ้าอีสานนะ

00:35:0600:35:07 >> โห

00:35:0700:35:09 >> ตับหวานเนี่ยผมว่ามันก็จะมีความแบบ

00:35:0900:35:11 >> แต่ความจริงผมว่าอย่าพึ่งดีกว่าเพราะว่า

00:35:1100:35:14 ปีนี้มันมีโรคแractแล้วเราไม่รู้ว่าตับ

00:35:1400:35:16 วัวนั้นมันมาจากวัวที่

00:35:1600:35:18 >> เชือด properly หรือว่าเชือดในกระบวนการ

00:35:1800:35:19 ที่ถูกต้องหรือเปล่า

00:35:1900:35:19 >> อือ

00:35:1900:35:22 >> ถ้าตายเพราะว่าไม่รู้สาเหตุอ่ะไม่ควรกิน

00:35:2200:35:23 ดิบเลย

00:35:2300:35:23 >> อือ

00:35:2300:35:26 >> และไม่ควรกินสุกด้วยเพราะเชื้อแackแตกทน

00:35:2600:35:27 ความร้อน

00:35:2700:35:27 >> อือ

00:35:2700:35:30 >> ถ้ามันสร้างถ้ามันสร้างสปอแล้วค่อนข้างทน

00:35:3000:35:31 ความร้อน

00:35:3100:35:34 >> ถ้าแนะนำคนทำก็คือวัดอุณหภูมิ

00:35:3400:35:35 >> วัดอุณหภูมิควรเกิน 70

00:35:3500:35:39 >> ควรเกิน 70 แต่ถ้าแนะนำคนกินสุขดีกว่า

00:35:3900:35:42 >> สุกดีกว่าแต่เข้าใจถ้าสุกมากๆสมมุติ 90

00:35:4200:35:43 ขึ้นมันแข็งไง

00:35:4300:35:44 >> ใช่

00:35:4400:35:45 >> มันแข็งมันแข็ง

00:35:4500:35:47 >> เออแล้วเราก็มาติดตับนุ่มๆกันซะแล้วด้วย

00:35:4700:35:48 นะตอนนี้

00:35:4800:35:50 >> ใช่ถ้าใครอยากเรียนทำตับนุ่มทักทักเพจทัก

00:35:5000:35:51 the เชฟมา

00:35:5100:35:52 >> มีมีสอน

00:35:5200:35:52 >> ดีครับ

00:35:5300:35:54 >> มีสอนมีสอน

00:35:5400:35:55 >> ตับนุ่มโดยที่สุขด้วย

00:35:5500:35:55 >> สุข

00:35:5500:35:56 >> เออเอ

00:35:5600:35:59 >> แล้ววิธีการล้างตับล้างยังไงให้แบบให้

00:35:5900:36:00 เลือดออกให้หมดเพื่อให้มันนุ่มเหมือน

00:36:0000:36:01 คัตตารด

00:36:0100:36:02 >> อ่า

00:36:0200:36:02 >> ขายของอีกล่ะ

00:36:0200:36:04 >> โอเคครับมาเลยครับ

00:36:0400:36:05 >> โอเคครับต่อไปครับ

00:36:0500:36:06 >> จะหมดแล้วจะหมดแล้ว

00:36:0600:36:10 >> อือหืออ้าโอเคถ้ากินอาหารที่ไม่สะอาดเรา

00:36:1000:36:12 จะมีอาการภายในกี่ชั่วโมงครับ

00:36:1200:36:14 >> อาหารเป็นพิษมีมีหลักๆมันมี 2 แบบ

00:36:1400:36:15 >> ครับ

00:36:1500:36:17 >> ติดเชื้อเพราะสารพิษมันเหมือน

00:36:1700:36:19 สตฟิโลคอกคัสตะกี้ในถ้าติดเชื้อเพราะสาร

00:36:1900:36:22 พิษมันน่ะจะออกการภายใน 2 ไม่เกิน 6 ช่มง

00:36:2200:36:22 >> อือ

00:36:2200:36:24 >> แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 4-6 ช่มงแต่ถ้า

00:36:2400:36:26 ติดตัวเชื้อมันเลยไม่ใช่สารพิษมานะตัว

00:36:2600:36:27 เชื้อ

00:36:2700:36:27 >> อือ

00:36:2800:36:30 >> ตัวเค้าเรียกว่า vegetative cell อ่ะจะ

00:36:3000:36:31 เกิน 6 ขึ้นไป

00:36:3100:36:33 >> ก็ต้องให้มันมีระยะเวลาเพาะเชื้อ

00:36:3300:36:35 >> ถูกต้องแต่ถ้าเชื้อมันถ้าสารพิษมันน่ะลง

00:36:3500:36:37 ไปแล้วมันดูซึมเลยไง

00:36:3700:36:39 >> มันจะเร็วมากบางที 2 ชั่วโมงมาแล้ว

00:36:3900:36:42 >> อาการของการโดนสารพิษมัน 2 ชั่วโมงเนี่ย

00:36:4200:36:44 เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเราบ้างครับ

00:36:4400:36:46 >> ส่วนใหญ่มันจะติดเชื้อทางด้านอาหารส่วนบน

00:36:4600:36:47 มันจะอ้วกก่อน

00:36:4700:36:48 >> อ

00:36:4800:36:51 >> มันจะอ้วกสักพักมันลงไปลึกใช่มั้ยมันจะ

00:36:5100:36:52 เป็นท้องเสีย

00:36:5200:36:54 >> แต่ส่วนใหญ่อเฟกชน่ะอ

00:36:5400:36:56 >> แบบแรกที่เป็นสารพิษเค้าเรียกว่า

00:36:5600:36:58 intoxication ก็คือ toxic แต่แบบหลังที่

00:36:5800:37:02 ติดเชื้อที่เป็นตัวมันน่ะต้องใช้เวลานาน

00:37:0200:37:04 กว่ามันจะเพาะเชื้อส่วนใหญ่มันจะไปติดทาง

00:37:0400:37:06 เดินอาหารส่วนปลาย

00:37:0600:37:06 >> อื

00:37:0600:37:08 >> ก็คือส่วนใหญ่จะท้องเสียก่อนแต่ก็มีหลาย

00:37:0800:37:10 เคสที่ท้อง

00:37:1000:37:13 >> พุ่ง 2 ทางท้องเสียกับอ้วกพร้อมกัน

00:37:1300:37:16 >> แปลว่าถ้าวันไหนเรารู้สึกอาหารเป็นพิษ

00:37:1600:37:19 แล้วเราอ้วกเนี่ยเป็นไปได้ว่าย้อนกลับไป

00:37:1900:37:20 แค่ 2 ชั่วโมงก็รู้ว่า

00:37:2000:37:22 >> ลองดูใช่ส่วนใหญ่อาหารที่เราตั้งข้อสงสัย

00:37:2200:37:25 เช่นเรากินซีฟู้ดมาแล้วกินตุตุลองย้อน

00:37:2500:37:27 กลับไปมันจะประมาณ 2-4

00:37:2700:37:28 >> อื 2-4 ช่วง

00:37:2800:37:30 >> ใช่เหมือนล่าสุดพ่อผมอย่างเงี้ยไปกิน

00:37:3000:37:33 ซีฟู้ดเมื่อตอนเที่ยน 1600 นอาเจียนมั่น

00:37:3300:37:34 ใจมากว่าสารพิษ

00:37:3400:37:35 >> ว่ามื้อนั้นนั่นแหละ

00:37:3500:37:36 >> มื้อนั้นแหละอิxicationแน่นอน

00:37:3600:37:40 >> โอเคแต่ถ้าเกิดเราไม่มีอาการอ้วกท้องเสีย

00:37:4000:37:43 เฉยๆเนี่ยต้องดูว่ามื้อ 2 ชั่วโมง

00:37:4300:37:44 >> มื้อไหนมื้อไหนที่เป็นมื้อเสี่ยง

00:37:4400:37:45 >> อาจจะเป็นมื้อเช้าก็ได้

00:37:4500:37:45 >> มีสิทธิ์

00:37:4500:37:46 >> อ่าฮะ

00:37:4600:37:49 >> บางทีเราท้องเสีย 16:00 น.อื

00:37:4900:37:52 >> เราอาจจะมโนไปเองว่าเป็นมื้อเที่ยงแต่

00:37:5200:37:54 ความจริงตอนเช้าอาจจะเป็นอะไรอ่ะ

00:37:5400:37:57 >> โจ๊กปลาต้องโก๋ที่มันมีสิทธิ์ก็ก็ได้

00:37:5700:37:58 เหมือนกัน

00:37:5800:38:00 >> แต่การระบุอย่างเงี้ยความจริงอย่าไปเดา

00:38:0000:38:03 เลยครับบอกยากคนที่คนที่ระบุไว้เก่งจริงๆ

00:38:0300:38:05 คือหมอเพราะหมอเขาจะมีการซักประวัติ 24

00:38:0500:38:08 ช่โมงหลังการท้องเสียครั้งแรกแล้วเขาจะ

00:38:0800:38:09 วิเคราะห์แม่นกว่าอ

00:38:0900:38:09 >> เออ

00:38:0900:38:12 >> ไม่เพราะว่ามันเกิดแบบอาการที่แบบว่าไป

00:38:1200:38:16 กินมาแล้วก็ไปด่าร้านนั้นเลยครับว่าอาหาร

00:38:1600:38:17 เขาไม่ดีอ่ะ

00:38:1700:38:19 >> บางทีเป็นมื้อก่อน

00:38:1900:38:21 >> เป็นมื้อก่อนหน้านั้นอะไรอย่างเงี้ยก็มี

00:38:2100:38:24 >> ยกเว้นว่าไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน

00:38:2400:38:24 >> อือ

00:38:2400:38:26 >> แล้วกินมื้อเที่ยน

00:38:2600:38:26 >> มื้อแรก

00:38:2600:38:28 >> เออ

00:38:2800:38:30 >> แล้ว 17:00 น.ท้องเสีย

00:38:3000:38:31 >> อาเจียน

00:38:3100:38:33 >> มีโอกาสเป็นมื้อเที่ยงสูงมาก

00:38:3300:38:34 >> ก็มือนั้นแหละเพราะว่าก่อนหน้านี้ฉันไม่

00:38:3400:38:38 ได้กินอะไรก็ใช่ๆจะย้อนไปมื้อเย็นวันก่อน

00:38:3800:38:39 ก็ไกลไป

00:38:3900:38:42 >> ก็ได้ออกอ๋อไม่ไม่ถ้าเกิดเลยไปสัก 12

00:38:4200:38:43 ชั่วโมงนี่ถือว่าไม่ใช่มื้อนั้นแล้วป่ะ

00:38:4300:38:46 >> ไม่ค่อยไม่โอกาสน้อยมากโอกาสน้อยมากแต่มี

00:38:4600:38:48 มั้ยมีบางทีแบบเชื้อมันน้อยมากอ่ะเชื้อ

00:38:4800:38:51 มันน้อยมากเพราะฉะนเพาะเชื้อนานกว่า

00:38:5100:38:54 >> นานกว่า 12 ก็ก็มีเหมือนกันก็

00:38:5400:38:56 >> สุดท้ายมันจะรู้ตรงที่ว่าอ่ะเก็บอุจจาระ

00:38:5600:38:58 ไปเพาะเชื้อแล้วสมมุติเชื้อตัวนี้ออกมา

00:38:5800:38:59 รู้เลยว่าเชื้อตัวนี้อยู่ในไหนๆสมมุติออก

00:38:5900:39:02 มาเป็นริบริโบส่วนใหญ่เจอในสัตว์ทะเลไม่

00:39:0200:39:03 เจอในหมูไก่อะไรแบบเนี้ย

00:39:0300:39:06 >> อ๋อก็ต้องไปเช็คให้ชัวร์ก่อนแล้วค่อยไป

00:39:0600:39:07 เคมร้านเนาะ

00:39:0700:39:09 >> ถูกเพราะงั้นร้านเขาจะชอบถามไงว่าไปหาหมอ

00:39:0900:39:11 หรือยังมีผลเพาะเชื้อมั้ยมันจะมันจะทวน

00:39:1100:39:13 สอบได้ว่ามาจากวัตถุดิบตัวไหน

00:39:1300:39:15 >> พอพูดอย่างงั้นก็โดนด่าอีกครับบอกว่าคุณ

00:39:1500:39:17 จะไม่รับผิดชอบอะไรเหรอไม่เป็นไรอันนี้

00:39:1700:39:17 อินส่วนตัว

00:39:1800:39:19 >> อินใช่มั้ยแสดงว่าเพิ่งโดนมา

00:39:1900:39:22 >> ผมเห็นคนชอบไปเคมร้านก่อนทั้งๆที่แบบจะ

00:39:2200:39:23 ไม่รู้ว่ามื้อไหน

00:39:2300:39:24 >> อาจจะเป็นมื้อที่ตัวเองทำก็ได้

00:39:2400:39:30 >> เออต่อไปซื้อของสดที่ต้องแช่เย็นแต่ว่า

00:39:3000:39:32 เก็บไว้ในรถที่เปิดแอร์อยู่ได้นานกี่

00:39:3200:39:35 ชั่วโมงแล้วควรเอาเข้าตู้เย็นโหยาวเหมือน

00:39:3500:39:37 กันนะแล้วควรเอาเข้าตู้เย็นภายในกี่

00:39:3700:39:38 ชั่วโมงถึงจะปลอดภัย

00:39:3800:39:40 >> ความจริงตามกฎหมายอ่ะเอาออกมาข้างนอกถ้า

00:39:4000:39:41 ไม่ใช่อุณหภูมิตู้เย็นนะเอ้ยถ้าไม่ใช่

00:39:4100:39:44 อุณหภูมิตู้เย็นที่ช่วง 0-4 องศครับไม่

00:39:4400:39:46 ว่าจะเป็นในรถหรืออุณหภูมิห้องเ้าไม่ให้

00:39:4600:39:48 เกิน 2 ช่โมงแต่อันนี้คือตามกฎหมายมัน

00:39:4800:39:49 เป็นไปไม่ได้

00:39:4900:39:49 >> เออ

00:39:4900:39:51 >> 2 ช่โมงคือ best practice

00:39:5100:39:51 >> อือ

00:39:5100:39:53 >> ครับแต่ถ้าอยู่ในตู้เย็นน่ะ

00:39:5300:39:57 >> มันอาจจะยาวไปอีกได้ถึง 3 ได้ถึง 4 ช่โมง

00:39:5700:40:00 แต่ทางที่ดีคือควรเก็บแช่ตู้เย็นให้ได้

00:40:0000:40:01 เร็วที่สุด

00:40:0100:40:04 >> ผมลองนึกสถานการณ์ดูสมมุติว่าผมไป

00:40:0400:40:05 จันทบุรีแล้วกัน

00:40:0500:40:05 >> อื

00:40:0500:40:09 >> ผมไปซื้ออาหารทะเลสดมาแล้วผมก็แพ็คน้ำ

00:40:0900:40:12 แข็งแล้วก็กลับมากรุงเทพฯยังรอดอยู่มั้ฮะ

00:40:1200:40:15 >> รอดๆแพ็คน้ำแข็งอ่ะมันจะไม่ถึงกับตู้เย็น

00:40:1500:40:17 หรอกครับมันจะต่ำกว่า 10 องศหน่อย

00:40:1700:40:18 >> อ

00:40:1800:40:20 >> แต่จากจันทบุรีมากรุงเทพฯ 4 ชมงใช่มั้ย

00:40:2000:40:21 ได้อยู่ได้อยู่ได้อยู่

00:40:2100:40:23 >> แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อโหลดเยอะแค่

00:40:2300:40:26 ไหนสมมุติว่าได้ของไม่สดมาจะเก็บเย็นแค่

00:40:2600:40:28 ไหนเชื้อก็โตได้กลับมาก็ท้องเสียอยู่ดี

00:40:2800:40:29 แต่ถ้ามันสดมาก

00:40:2900:40:31 >> อือ

00:40:3100:40:34 >> บางทีเย็นไม่ได้มากก็อยู่ถึง 5-6 ชม.ก็

00:40:3400:40:35 ได้เหมือนกัน

00:40:3500:40:35 >> อือ

00:40:3500:40:38 >> แต่ Best Practice อ่ะคือเลข 2 แต่ใน

00:40:3800:40:41 เชิงปฏิบัติจริงๆอ่ะผมว่าได้ถึง 3-4

00:40:4100:40:41 ชั่วโมงอ

00:40:4100:40:42 >> อื

00:40:4200:40:43 >> ครับไม่ว่าจะเป็นอาหารสดหรือว่าอาหาร

00:40:4300:40:46 พร้อมปรุงเอ้ยอาหารไม่ใช่อาหารที่ปรุง

00:40:4600:40:48 เสร็จแล้วเราพร้อมรับประทานอ่า Ready to

00:40:4800:40:49 Eat พวกเนี้ยอ

00:40:4900:40:50 >> เค้าเขียนไว้ชัดเลยว่าอาหารพร้อมทานไม่

00:40:5000:40:52 ควรวางไว้อุณหภูมิห้องเกิน 2

00:40:5200:40:53 >> อือือ

00:40:5300:40:55 >> ถ้าเกิน 2 ควรควรเวฟ

00:40:5500:41:00 >> อีกสถานการณ์นึงผมไปจังหวัดไกลๆ 4 ช่โมง

00:41:0000:41:01 เหมือนกัน

00:41:0100:41:01 >> ครับ

00:41:0100:41:02 >> ซื้อกับข้าวมาจะฝากที่บ้าน

00:41:0200:41:03 >> อือ

00:41:0300:41:06 >> แล้วทิ้งไว้ในรถที่แบบขับรถกลับนะมีแอร์

00:41:0600:41:09 มีอะไรอย่างเงี้ยถึงบ้าน 4 ช่โมงยังรอด

00:41:0900:41:09 อยู่

00:41:0900:41:10 >> ขึ้นอยู่กับอาหารอีก

00:41:1000:41:11 >> เหรอ

00:41:1100:41:13 >> ถ้าเป็นข้าวผัดชื้นๆแล้วเครื่องปรุงไม่

00:41:1300:41:16 ได้เยอะมากก็มีโอกาสเสียได้ถ้ามันอับมาก

00:41:1600:41:18 อ่ะสมมุติว่าข้าวผัดซ้อนกันเยอะๆใช่มั้

00:41:1800:41:18 ครับ

00:41:1800:41:22 >> อุณหภูมิแอร์เย็นแค่ไหนแต่ในถุงนั้นมัน

00:41:2200:41:25 อุ่นมันชื้นอ่ะก็มีโอกาสได้แล้วถ้าเขาใช้

00:41:2500:41:26 ข้าวเก่ามาที่มันมีเชื้ออยู่แล้วก็มี

00:41:2600:41:27 โอกาส

00:41:2700:41:27 >> ครับ

00:41:2700:41:29 >> แต่ถ้ามันเป็นอะไรที่เครื่องปรุงเยอะเช่น

00:41:2900:41:32 น้ำพริกกะปิไข่พะโล้หรืออะไรที่มีแบบน้ำ

00:41:3200:41:35 ส้มใสชูปูยำที่มีรสเปรี้ยว

00:41:3500:41:37 >> ถ้ามีเปรี้ยวถ้ามีเครื่องปรุงเยอะโอกาส

00:41:3700:41:39 เสียก็จะช้าลงเพราะเชื้อโตยากขึ้น

00:41:3900:41:41 >> ออมันมีการคลุมเชื้อของมันอยู่

00:41:4100:41:43 >> แต่ถ้ากุ้งนึ่งปูนึ่งอะไรเงี้ยอับๆอ่ะมัน

00:41:4300:41:45 ไม่มีเครื่องปรุงมีโอกาสเสียไว

00:41:4500:41:45 >> ครับ

00:41:4500:41:49 >> อือีกสถานการณ์นึงผมแบบผมอินอันนี้เหมือน

00:41:4900:41:52 กันไปซื้อนมพัไลท

00:41:5200:41:53 >> อื

00:41:5300:41:56 >> แล้วผมต้องจอดรถกลางแดดร้อนๆทิ้งไว้ 2

00:41:5600:41:58 ช่โมงยังรอดมั้ย

00:41:5800:42:00 >> ขึ้นอยู่อีกว่านมยี่ห้ออะไรบางยี่ห้อพูด

00:42:0000:42:01 ตามตรงใส่วัตถุกันเสีย

00:42:0100:42:02 >> ออ

00:42:0200:42:04 >> บางยี่ห้อใช้อุณหภูมิในการฆ่าเชื้อค่อน

00:42:0400:42:07 ข้างสูงก็จะเก็บได้ค่อนข้างนานแต่กลิ่นรส

00:42:0700:42:08 ก็จะไม่อร่อยเท่า

00:42:0900:42:09 >> ออ

00:42:0900:42:12 >> บางยี่ห้อไม่ใส่วัตถุกันเสียเลยอุณหภูมิ

00:42:1200:42:14 การฆ่าเชื้อไม่ได้สูงมากเพื่อให้นมมี

00:42:1400:42:16 บอดี้ค่อนข้างแน่น

00:42:1600:42:16 >> อื

00:42:1600:42:18 >> ก็จะเสียง่ายกว่า

00:42:1800:42:21 >> แต่ความร้อนร้อนจัดในรถเนี่ยมันอาจจะไม่

00:42:2100:42:24 ได้ทำอะไรกับนมพระชลัยมากเท่าไหร่

00:42:2400:42:26 >> ไม่ควรไม่ความจริงก็ไม่ควรไม่ควรดี

00:42:2600:42:29 >> นมเป็นอะไรที่บูดง่ายเพราะว่า

00:42:2900:42:31 >> เครื่องปรุงไม่เยอะไงไม่มีเกลือไม่มีน้ำ

00:42:3100:42:33 ตาลแล้วสารอาหารครบเพราะฉะนั้นเชื้อโต

00:42:3300:42:34 ง่ายโอเค

00:42:3400:42:37 >> แล้วคำว่านมเนี่ยยังมีเชื้ออยู่ครับไม่

00:42:3700:42:40 ใช่นมสตไม่ใช่นม UHT ที่

00:42:4000:42:43 >> เชื้อมันแทบแตะสูงนมพัจอไลเชื้อยังมีนะ

00:42:4300:42:43 ครับ

00:42:4400:42:46 >> แต่ก็ยังไม่ได้เปิดขวดเปิดฝาเลยนะ

00:42:4600:42:47 >> เชื้อก็ยังมีไง

00:42:4700:42:48 >> อ๋อมันมีเชื้ออยู่แล้วอุณหภูมิมันพอเหมาะ

00:42:4800:42:49 ที่จะเข้าด้วย

00:42:4900:42:51 >> ใช่แต่เชื้อที่มีในนมพัจลเค้าเรียกว่า

00:42:5100:42:53 เชื้อ

00:42:5300:42:56 spoilage คือทำให้นมบูดนมเปรี้ยวแต่ไม่

00:42:5700:42:58 ได้ก่อโรคอ

00:42:5800:43:00 >> หลักการพาเจคือพาโทเจนหรือเชื้อก่อโรคอ่ะ

00:43:0000:43:01

00:43:0100:43:02 >> แต่เชื้อที่ทำให้นม

00:43:0200:43:04 บูดเช็ดแลคโตบาซิัสยังมีอยู่

00:43:0400:43:07 >> โอเคเพียใครมีคำถามเผื่อคอมเมนต์มานะครับ

00:43:0800:43:09 เพิ่มเติมจากนี้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่

00:43:0900:43:10 แบบใกล้

00:43:1000:43:12 >> มันกว้างมาแล้วมันแบ่งมันแบ่งได้เป็นหลาย

00:43:1200:43:14 หลายเคสมากครับ

00:43:1400:43:17 >> อุ่นอาหารในไมโครเวฟต้องอุณหภูมิเท่าไหร่

00:43:1700:43:18 ถึงจะปลอดภัยมันมีอุณหภูมิมั้ครับ

00:43:1800:43:21 >> ไม่มีไมโครเวฟเป็นกำลังหวัตต์

00:43:2100:43:21 >> อือ

00:43:2100:43:23 >> กำลังหวัตถ้าถามเรื่องอุณหภูมิคือ

00:43:2300:43:24 อุณหภูมิอาหารครับ

00:43:2400:43:24 >> อ๋อ

00:43:2500:43:28 >> อืการอุ่นความจริงอ่ะต้องไมโครเวฟอ่ะการ

00:43:2800:43:30 อุ่นครั้งนึงอ่ะแล้วอาหารมันร้อนจัดมัน

00:43:3000:43:32 เกิน 70 องศอยู่แล้วเชื้ออือือ

00:43:3200:43:35 >> อย่างที่ผมบอกเกิน 70 เชื้อลดลงแล้ว

00:43:3500:43:36 >> อือ

00:43:3600:43:39 >> ทีเนี้ยถ้ามาพูดถึงกำลังหวัตต์อาหารที่

00:43:3900:43:42 ชิ้นใหญ่ควรใช้วัตต์ต่ำอาหารชิ้นเล็กใช้

00:43:4200:43:43 วัตต์สูงได้

00:43:4300:43:46 >> อาหารชิ้นใหญ่ใช้วัตต์ต่ำเพราะอะไรครับ

00:43:4600:43:48 >> อาหารชิ้นใหญ่ถ้าใช้วัตต์สูงมันจะร้อน

00:43:4800:43:51 เป็นจุดๆยิ่งหวัตต์สูงอำนาจการทะลุทะลวง

00:43:5100:43:53 ของคลื่นไมโครเวฟจะสั้น

00:43:5300:43:53 >> ออ

00:43:5300:43:54 >> เพราะมันถี่แบบนี้ไง

00:43:5400:43:54 >> อ

00:43:5400:43:56 >> มันก็ร้อนอยู่แค่ข้างนอก

00:43:5600:43:57 >> ข้างในบางทียังเป็นน้ำแข็ง

00:43:5700:44:00 >> สังเกตมั้อ่าโหมดละลายน้ำแข็งอ่ะครับต่ำ

00:44:0000:44:04 >> ส่วนใหญ่วัตต่ำอารทะลุทะลวงไปถึง

00:44:0400:44:04 >> ข้างใน

00:44:0400:44:06 >> ข้างในใช่

00:44:0600:44:09 >> ไมโครเวฟนี่คือมันไม่ใช่อุ่นจากข้างในออก

00:44:0900:44:11 มาข้างนอกใช่มั้ยผมเข้าใจถูกป่ะ

00:44:1100:44:13 >> มันทิศทางประมาณนั้นจากข้างในมาข้างนอก

00:44:1300:44:16 แต่มันขึ้นอยู่กับกำลังกำลังหวัตด้วย

00:44:1600:44:17 >> อาหารชิ้นใหญ่

00:44:1700:44:20 >> แล้วไปใช้วัตต์สูงสังเกตในข้างในก็แข็ง

00:44:2000:44:20 >> เออ

00:44:2000:44:23 >> อืเพราะฉะนั้นการบอกว่าไมโครเวฟร้อนจาก

00:44:2300:44:25 ข้างในมาข้างนอกสซักที่เดียวก็ก็ไม่ได้

00:44:2500:44:28 ไม่ได้ถูกต้องมันขึ้นอยู่กับทิศทางของ

00:44:2800:44:30 ไมโครเวฟที่มันมากับชิ้นอาหารกับกำลัง

00:44:3000:44:32 หวัดถ้าชิ้นเล็กใช้วัตต์

00:44:3200:44:34 >> ใช้วัตต์สูงได้เช่นขนมปังแผ่นบางๆอย่าง

00:44:3400:44:34 เงี้ย

00:44:3400:44:35 >> อ

00:44:3500:44:39 >> 850 วัตต์ได้วัตต์สูงคือ 850 600 ขึ้น

00:44:3900:44:41 นะวัตต์ต่ำคือพวก 2-300

00:44:4100:44:44 >> 850 บางที 10 วินาทีก็อุ่นแล้ว 5 วินาที

00:44:4400:44:46 ก็ร้อนแล้ว

00:44:4600:44:47 >> แต่ลองเอา

00:44:4800:44:50 >> อะไรอ่ะเนื้อแช่แข็งชิ้นใหญ่ใช้วัดสูง

00:44:5000:44:52 ละลายแต่ข้างนอกข้างในยังไม่ละลายผมเลย

00:44:5200:44:54 บอกไม่ได้ว่าไมโครเวฟร้อนจากข้างนอกมา

00:44:5400:44:56 ข้างในเอ้ยข้างในมาข้างนอก

00:44:5600:44:56 >> อ

00:44:5600:44:59 >> แล้วมีวิธีละลายเนื้อมั้ยครับแถมละลาย

00:44:5900:45:01 เนื้อให้เร็วประมาณไมโครเวฟมันมีมั้

00:45:0100:45:03 >> อ๋อละลายเนื้อให้เร็วต้องเก็บให้ถูกต้อง

00:45:0300:45:05 ก่อนอย่าเก็บทั้งชิ้นเวลาซื้อเนื้อมาจาก

00:45:0600:45:08 ตลาดอย่างเงี้ยครับควรตัดให้ชิ้นบางที่

00:45:0800:45:08 สุด

00:45:0800:45:09 >> อือ

00:45:0900:45:11 >> หมูสับก็ไม่ควรเก็บเป็นถ่วงกระปุกแบบนี้

00:45:1100:45:14 ควรรีดให้แบนพอมันแช่แข็งไวมันก็จะละลาย

00:45:1400:45:14 ไวเช่นเดียวกัน

00:45:1400:45:17 >> ออก็คือแบบแยกให้มัน

00:45:1700:45:18 >> แยกให้เป็น

00:45:1900:45:22 >> แล้วแช่น้ำจะละลายไวมากกว่าการวางไว้

00:45:2200:45:24 >> อ๋อกับโต๊ะโต๊ะแช่น้ำจะไวเพราะน้ำมันมี

00:45:2400:45:26 สัมประสิทธิ์การถ่ายโอนความร้อนค่อนข้าง

00:45:2600:45:27 ดี

00:45:2700:45:29 >> น้ำไม่ต้องอุ่นก็ได้น้ำสังเกตน้ำประปลา

00:45:2900:45:30 จากก๊อกอ่ะอื

00:45:3000:45:32 >> ใส่ไว้แล้วหย่อนถุงลงไปแป๊บเดียวละลาย

00:45:3200:45:32 แล้วครับ

00:45:3200:45:33 >> อื

00:45:3300:45:35 >> เร็วกว่าที่วางไว้อุณหภูมิวางไว้บนโต๊ะ

00:45:3500:45:36 แห้งๆ

00:45:3600:45:37 >> แต่ไอ้การวางไว้บนโต๊ะแห้งๆเนี่ยมันใช้

00:45:3700:45:40 เวลาน่าจะประมาณครึ่งชั่วโมงชั่วโมงนึง

00:45:4000:45:41 บางมันจะละลายหมด

00:45:4100:45:43 >> ใช่ถ้าลงน้ำแป๊บเดียว 10 นาที

00:45:4300:45:45 >> แล้วถ้ามันถ้ามันวางไว้อย่างงั้นน่ะมัน

00:45:4500:45:46 โอกาสที่เชื้อมันจะโต

00:45:4600:45:48 >> ใช่ก็ถึงบอกมันมันก็วนกลับไปเรื่องเชื้อ

00:45:4800:45:49 ด้วยถ้าอาหารมันชิ้นใหญ่มากอย่างเงี้ย

00:45:4900:45:50 ครับ

00:45:5000:45:51 >> อือ

00:45:5100:45:54 >> กว่าข้างในจะละลายข้างนอกอาจจะเกินไอ้ 2

00:45:5400:45:55 ชั่วโมงที่ผมบอกไปแล้ว

00:45:5500:45:57 >> ก็เกิดจะเกิดเชื้อแล้วเพราะงั้นการทำให้

00:45:5800:46:01 อาหารแบนก่อนเก็บมันดีทั้งเรื่องคุณภาพ

00:46:0100:46:03 ด้วยแช่ถ้าแช่แข็งไวละลายไว

00:46:0300:46:03 >> อ

00:46:0300:46:06 >> มันจะโปรตีนมันจะไม่เสียสภาพเยอะ

00:46:0600:46:06 >> อือ

00:46:0600:46:09 >> แล้วก็ปลอดภัยเรื่องเชื้อด้วยงั้นการพอ

00:46:0900:46:11 การพอการทำพอชั่นสำคัญมากอ

00:46:1100:46:11 >> อือ

00:46:1100:46:12 >> ครับ

00:46:1200:46:13 >> โอเคต่อเลยครับ

00:46:1300:46:15 >> แล้วมันทำให้เราทำอาหารได้เร็วด้วยไม่

00:46:1500:46:17 ต้องมานั่งรอสมมุติเรา 17:00 น.จะกิน

00:46:1700:46:19 18:00 น.ก็ก็ละลายไว

00:46:1900:46:20 >> ถ้าทำให้ทุกอย่างแบ่ง

00:46:2000:46:20 >> ครับ

00:46:2000:46:23 >> ในครัวฮะมีดที่ใช้หั่นผักกับเนื้อสัตว์

00:46:2300:46:25 ใช้ร่วมกันได้มั้ครับ

00:46:2500:46:26 >> มีดหรือเขียง

00:46:2600:46:26 >> มีด

00:46:2600:46:28 >> เอออันนี้คำถามมันมีดนะจริงๆมันเป็น

00:46:2800:46:30 เรื่องเขียงเนาะผมผมเคยเห็นว่าในในครัว

00:46:3000:46:32 เชฟที่เป็นแ่งสี

00:46:3200:46:34 >> ใช่ถ้าในร้านอาหารที่ซีเรียสบางทีเขามี

00:46:3400:46:36 การแบ่ง

00:46:3600:46:38 เขียงมันแบ่งอยู่แล้วแต่บางร้านที่เขา

00:46:3900:46:41 ต้องการแบบสตริกมาก

00:46:4100:46:43 >> มีดเขาก็แบ่งมีด้ามเขียวแต่ส่วนใหญ่น้อย

00:46:4300:46:45 ที่จะแบ่งสีมีดอ

00:46:4500:46:45 >> อือ

00:46:4500:46:47 >> ใช่น้อยที่จะแบ่งสีมีดคืออย่างน้อยอ่ะการ

00:46:4700:46:50 แบ่งชีวิตมันช่วยให้สมมุติว่ามีดสีแดง

00:46:5000:46:52 หั่นเนื้อเสร็จใช่มั้ย

00:46:5200:46:55 แล้วจะไปหั่นผักที่จะโรยหน้าไม่ผ่านความ

00:46:5500:46:58 ร้อนแล้วแล้วดันหยิบมีดที่ไม่รู้สีมาที่

00:46:5800:47:00 มันโดนเนื้อมาแล้วเราไปหั่นผักก็มีโอกาส

00:47:0000:47:01 ที่เค้าเรียกว่า crost contaminate ก็

00:47:0100:47:03 ได้อันนี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมต้อง

00:47:0300:47:05 >> แบ่งทั้งมีดทั้ง

00:47:0500:47:07 >> ทั้งเขียงแต่ถ้าทำอาหารที่บ้าน

00:47:0700:47:08 >> อือ

00:47:0800:47:11 >> หลายผมมั่นใจทุกบ้านแทบไม่ได้แบ่งสีเรา

00:47:1100:47:14 ต้องมีสติมากพอแต่การทำอาหารที่บ้านมัน

00:47:1400:47:14 โฟกัสไง

00:47:1500:47:16 >> มันไม่ต้องแบบโหออเดอร์มาไม่ต้องไปฟังคน

00:47:1600:47:19 นู้นคนงั้นการโฟกัสทำให้เราแบบเขียงส่วน

00:47:1900:47:21 ใหญ่เราที่บ้านเป็นมีดเอ้ยเขียงไม้กับ

00:47:2100:47:24 เขียงสีขาวใช่มั้ใช่มันก็จะมีสติไงว่าหัน

00:47:2400:47:26 เนื้อสัตว์เสร็จเฮ้ยจะพอจะมาหั่นผักชีโร

00:47:2600:47:27 หน้าก็เอาไปล้างก่อน

00:47:2700:47:28 >> อือ

00:47:2800:47:30 >> ก็โอเคแต่ในร้านอาหารมันยุ่งมากบางทีมัน

00:47:3000:47:32 ไม่ได้มีเวลาโฟกัสขนาดแบบ

00:47:3200:47:35 >> ขนาดนั้นเขาก็เลยต้องแก้ปัญหาโดยการแบ่ง

00:47:3500:47:37 สีเขียวเพื่อความปลอดภัย

00:47:3700:47:39 >> แล้วแล้วผมถามเล่นๆว่าผมทำอาหารที่บ้าน

00:47:3900:47:41 อย่างเงี้ยผมหั่นไก่

00:47:4100:47:44 >> แล้วผมก็หั่นผักชีต่อแต่ผมก็เอาไปผัด

00:47:4400:47:47 พร้อมกันไม่นานนะก็ได้อยู่ในร้านทหารก็

00:47:4700:47:50 โดนเชฟเฮเชฟด่าเลยเพราะมันเป็นมันเป็น

00:47:5000:47:53 ลักษณะที่ไม่ควรจะทำมันจะติดเป็นนิสัยออ

00:47:5300:47:55 >> เพราะเราไม่รู้ว่ามีอยู่วันนึงเราอาจจะ

00:47:5500:47:58 ที่บอกเอาผักไปผัดต่อแต่บางวันอาจจะไม่

00:47:5800:47:59 ได้เอาผัดไปผักต่อก็ได้

00:48:0000:48:01 >> อ๋อต้องไปเก็บไว้อะไรอย่างงี้

00:48:0100:48:03 >> แต่ที่บ้านน่ะทำได้

00:48:0300:48:05 >> เพราะสุดท้ายผักมันก็โดน

00:48:0500:48:06 >> ความร้อนก็นั่นอยู่ดีใช่

00:48:0600:48:08 >> ยกเว้นว่าเราจะหั่นผักเพื่อไปเก็บในตู้

00:48:0800:48:09 เย็นเนาะ

00:48:0900:48:12 >> อ่าอันนั้นที่โดนเนื้อสัถูก

00:48:1200:48:12 >> ครับ

00:48:1200:48:12 >> โอเคครับ

00:48:1200:48:14 >> พูดง่ายๆอยู่ที่บ้านมันจะมีสติมากกว่า

00:48:1400:48:17 ร้านอาหารการแยกสีเขียวกับมีดที่

00:48:1700:48:20 >> สีเขียงสีเขียงนี่เชฟพอแบ่งให้ได้ง่ายๆ

00:48:2000:48:21 ป่ามันมีอะไรบ้าง

00:48:2100:48:24 >> แบ่งสีน้ำเงินก็ซีฟู้ดดิบสีแดงก็เนื้อ

00:48:2400:48:25 สัตว์ดิบ

00:48:2500:48:25 >> ออ

00:48:2500:48:28 >> สีขาวก็พวกdaี่ produc พวกชีสพวกนมสีน้ำ

00:48:2800:48:30 ตาลก็เป็นเนื้อสัตว์สุกอย่างเงี้ยครับ

00:48:3000:48:31 แบ่งประมาณนี้

00:48:3100:48:31 >> อื

00:48:3100:48:32 >> สีเขียวก็ผัก

00:48:3200:48:34 >> น้ำกระป๋องที่เปิดฝ่าแล้วเก็บในตู้เย็น

00:48:3400:48:37 ได้มั้ครับเราเก็บนานได้แค่ไหน

00:48:3700:48:39 >> มันมันจะไม่เสียเชิงเชื้อนะเพราะน้ำ

00:48:3900:48:40 กระป๋องส่วนใหญ่เขาใส่วัตถุกันเสียส่วน

00:48:4000:48:42 ใหญ่ใส่โซเดียมเบนโซเอateแล้วอยู่ในตู้

00:48:4200:48:45 เย็นก็มีอุณหภูมิเย็นอีกแต่ส่วนใหญ่มันจะ

00:48:4500:48:48 เสียเชิงอย่างอื่นมากกว่าแก๊สออกไปก็

00:48:4800:48:50 >> ก็ไม่ซ่า

00:48:5000:48:52 >> นะครับแต่ถ้ากินไม่หมดจริงๆอ่ะแนะนำ

00:48:5200:48:55 สมมุติแกะป๊อกแล้วกินเหลือครึ่งกระป๋อง

00:48:5500:48:56 ควรเอาพลาสติกอ

00:48:5600:48:57 >> ปิดหน่อย

00:48:5700:48:58 >> อื

00:48:5800:49:00 >> เพราะตู้เย็นเป็นอะไรที่กลิ่นทุกอย่างมัน

00:49:0000:49:02 อวนมากอ่ะบางทีมันดูดกลิ่นเนื้อสัตว์

00:49:0200:49:05 กลิ่นอะไรไปกลิ่นก็จะเพี้ยน

00:49:0500:49:06 >> เออ

00:49:0600:49:08 >> อืคนแลปพลาสติกแรปพลาพาตินิดนึง

00:49:0800:49:09 >> แค่เรื่องกลิ่นเลยใช่มั้ฮ

00:49:0900:49:10 >> แค่เรื่องกลิ่น

00:49:1000:49:12 >> ใช้โรคจากตู้เย็นอื่นๆผสม

00:49:1200:49:14 >> ถ้าถ้าซวยก็มีสิทธิ์สมมุติสมมุตินี่

00:49:1400:49:16 สมมุติอันนี้เป็นน้ำอัดลม

00:49:1600:49:17 >> อื

00:49:1700:49:18 >> แล้วเปิดไว้ไม่ได้มีพลาสติกแรป

00:49:1900:49:20 >> ครับ

00:49:2000:49:21 >> เนื้อไก่ดิบอยู่ข้างบน

00:49:2100:49:22 >> อือๆ

00:49:2200:49:23 >> ก็มีสิทธิ์

00:49:2300:49:23 >> อ่า

00:49:2400:49:26 >> แล้วถ้าคนที่กินไปภูมิไม่ดี

00:49:2600:49:26 >> ครับ

00:49:2600:49:30 >> ก็จะติดเชื้อได้แต่ถ้าภูมิดีก็อาจจะรอด

00:49:3000:49:31 มันมันนานาจิตตังมาก

00:49:3100:49:33 >> อก็คือเหมือนที่เราคุยเรื่องน้ำผึ้งเมื่อ

00:49:3300:49:36 กี้ว่าถ้าไปโดนเชื้ออื่นมาอยู่บนพื้นผิว

00:49:3600:49:37 น้ำผึ้งที่มันไม่เสียเลยเนี่ย

00:49:3700:49:37 >> ใช่

00:49:3700:49:40 >> แล้วไปกินเข้าไปก็ซวยถือว่าซวยเอาแต่ไอ้

00:49:4000:49:43 พวกน้ำกระป๋องอ่ะขอร้องหลายคนมองข้าม

00:49:4300:49:43 >> อื

00:49:4300:49:45 >> ช่วยก่อนกินน่ะครับ

00:49:4500:49:46 >> เช็ด

00:49:4600:49:48 >> เออเรื่องนี้อีกเรื่องนึงที่

00:49:4800:49:49 >> ต้องเช็ดนะ

00:49:4900:49:52 >> มันมีเคสเมืองนอกอ่ะกินเข้าไปติดเชื้อโรค

00:49:5200:49:54 จากฉี่หนูตายเพราะบางทีกระป๋องอยู่ในโรง

00:49:5400:49:56 งานน่ะไม่รู้อะไรมาเราไม่รู้ว่าโรงงาน

00:49:5600:49:58 สะอาดแค่ไหนหรือมีฝุ่นน่ะ

00:49:5800:49:58 >> ครับ

00:49:5800:50:00 >> แล้วหลายๆคนคิดว่ากระป๋องสะอาด

00:50:0000:50:01 >> ป๊ะ

00:50:0100:50:01 >> ดื่มเลย

00:50:0100:50:04 >> ดื่มหรือปอ้าไม่ดื่มปากไม่โดนแต่ใช้หลอด

00:50:0400:50:07 แต่อย่าลืมว่าเวลาลงไปครั้งนึงอ่ะมันมี

00:50:0700:50:08 ส่วนโลหะที่มันลงไปในน้ำ

00:50:0800:50:09 >> ครับ

00:50:0900:50:10 >> เพราะงั้นเช็ดหน่อย

00:50:1000:50:12 >> เช็ดด้วยอะไรครับ

00:50:1200:50:14 >> ก็ดีที่สุดก็แอลกอฮอล์

00:50:1400:50:15 >> ถ้ามีซิงก็ล้างหน่อย

00:50:1500:50:16 >> อ

00:50:1600:50:18 >> worst casสก็ทิชชู่แห้งก็ได้อย่างน้อยอื

00:50:1800:50:20 >> แค่ล้างนี่ถือว่าโอเคแล้วป่ะฮะ

00:50:2000:50:21 >> โอเคโอเคโอเค

00:50:2100:50:22 >> ล้างด้วยน้ำเปล่าเฉยๆ

00:50:2200:50:23 >> ได้ครับได้

00:50:2300:50:26 >> เช็ดด้วยเสื้อผมส่วนใหญ่ผมก็จะกลัวผมก็

00:50:2600:50:26 เช็ดด้วยเสื้อ

00:50:2600:50:29 >> ก็ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

00:50:2900:50:31 >> มันคือโรคฉี่หนูนะผมก็เคยได้ยินเรื่องนี้

00:50:3100:50:31 เหมือนกัน

00:50:3100:50:34 >> ใช่มีๆคือโรงงานเขาอาจจะสะอาดแต่บางที

00:50:3400:50:37 ร้านขายของชำมาตั้งไว้แล้วมูอ่ะอ่าหมูมัน

00:50:3700:50:39 ก็วิ่งมาบึดตั้งไว้

00:50:3900:50:39 >> อื

00:50:4000:50:42 >> ตอนกลางคืนตอนตอนเช้ามาเราก็ไม่รู้เพราะ

00:50:4200:50:44 ว่ารอยเท้าน้องหนูเ้าไม่ได้เห็นอะไรอ่ะ

00:50:4500:50:47 >> อืคือมันเท่แบบไม่ใช่เท่หรอกมันมันเป็น

00:50:4700:50:50 ภาพจำเราก็จะเปิดป๊อกแล้วก็ดื่ม

00:50:5000:50:50 >> อือๆ

00:50:5000:50:54 >> ถ้ามันใส่โอกาสเอ้ยถ้ามีโอกาสโฆษณาเนี่ย

00:50:5400:50:55 ใส่ช่วงเช็ดเข้าไปหน่อยเนี่ย

00:50:5500:50:55 >> ใช่

00:50:5500:50:56 >> น่าจะทำให้คนแบบ

00:50:5600:50:59 >> ดีกว่าดีกว่าปลอดภัยกว่าแต่หลังๆเคสไม่

00:50:5900:51:02 ค่อยมีละน่าจะเ้าน่าจะ

00:51:0200:51:05 >> โรงงานเ้าแก้ปัญหาตรงที่มาว่าแลบแลบไอ้

00:51:0500:51:06 ฟิล์มมาเลยไง

00:51:0600:51:06 >> อื

00:51:0600:51:09 >> จะกินทีนึงก็ต้องมานั่งแกะอืไม่ค่อยมี

00:51:0900:51:11 กระป๋องเดี่ยวๆยกเว้นว่าร้านขายของชำมัน

00:51:1100:51:13 เอามาแกะ

00:51:1300:51:14 >> มันอยู่ที่การเก็บ

00:51:1400:51:16 >> ใช่

00:51:1600:51:17 เลย 1 ช่โมงแน่เลยไม่

00:51:1700:51:20 >> เป็นไรล้างมือด้วยสบู่กับเชื้อมือด้วย

00:51:2000:51:22 อกฮออะไรปลอดภัยของกันอันนี้ถามไปแล้ว

00:51:2200:51:24 >> ถามไปแล้วถามไปแล้วล้างมือด้วยสบู่ไม่ได้

00:51:2400:51:25 เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อเกี่ยวกับยกเว้นยก

00:51:2500:51:28 เว้นสบู่นั้นเผสมสารฆ่าเชื้อมานะแต่ส่วน

00:51:2800:51:31 ใหญ่อ่ะสบู่มันแค่เอาคราบสกปรกออกถ้าฆ่า

00:51:3100:51:33 เชื้อต้องไปถึงแอลกอฮอล์

00:51:3300:51:34 >> แอลกอฮอล์

00:51:3400:51:34 >> อื

00:51:3400:51:37 >> แอลกอฮอล์เวลาฆ่าเชื้อเนี่ยมันก็จะตาย

00:51:3700:51:39 อยู่บนมือเราถูกมั้ฮะ

00:51:3900:51:41 >> ใช่ๆแต่ซากเชื้อที่ตายไม่มีปัญหาอะไรครับ

00:51:4100:51:44 ปัญหาอะไรไม่มีปัญหาไม่ไม่ได้ก่อให้เกิด

00:51:4400:51:44 โรค

00:51:4400:51:47 >> มันชุบชีวิตขึ้นมาไม่ได้มันเป็นซากเชื้อ

00:51:4700:51:47 ไปแล้ว

00:51:4700:51:48 >> อ๋อ

00:51:4800:51:51 >> ครับเซลล์ผนังเซลล์มันระเบิดอะไรมันหดหมด

00:51:5100:51:52 แล้วไม่ไม่ได้เกิดปัญหาอะไร

00:51:5200:51:54 >> ไอ้พวกนี้มันเป็นพรีไบโอติกมั้ครับ

00:51:5400:51:56 >> ไม่เป็นนึกว่ามันจะไปช่วยอะไร

00:51:5600:51:58 >> ไม่เป็นไม่เป็นมันจะมีอีกศัพท์นึงที่เป็น

00:51:5800:52:01 เชื้อโปรไบโอติกซากของโปรไบโอติกที่ตาย

00:52:0100:52:03 แล้วอะไรประมาณเนี้ยเขาจะมีอีกศัพท์นึง

00:52:0300:52:06 ที่ว่าโพสไบโอติกที่เขา้าค้นพบว่ามันมี

00:52:0600:52:07 ประโยชน์

00:52:0700:52:08 >> ในบางแง่มุม

00:52:0800:52:08 >> อ๋อ

00:52:0800:52:09 >> อือ

00:52:0900:52:11 >> แต่เชื้อก่อโรคไม่นับ

00:52:1100:52:12 >> อันนั้นเชื้อดี

00:52:1200:52:13 >> อืออืครับ

00:52:1300:52:17 >> โอเค

00:52:1700:52:20 ถั่วพริกของแห้งควรเก็บในตู้เย็นตู้เย็น

00:52:2000:52:21 หรือเก็บไว้ข้างนอกดีกว่ากัน

00:52:2100:52:24 >> ตู้เย็นครับหลายคนเข้าใจว่าไว้ข้างนอก

00:52:2400:52:26 แล้วจะปลอดภัยแต่ถั่วถ้าขั้วไม่ดีมีความ

00:52:2700:52:29 ชื้นพริกขั่้วไม่ดีมีความชื้นแล้วจะเกิด

00:52:2900:52:30 เชื้อรา

00:52:3000:52:32 >> นั้นแล้วเชื้อรานั้นสร้างสารพิษที่ทนความ

00:52:3200:52:33 ร้อนมากแล้วทำให้เกิดมะเร็งตับหรือตับ

00:52:3400:52:35 อักเสเขาเรียกalฟ่าท็อกซิน

00:52:3500:52:36 >> อื

00:52:3600:52:36 >> ครับ

00:52:3600:52:37 >> อันตรายยังไงกันเราครับ

00:52:3700:52:40 >> โอถ้าท็อกซินมาเอาไปคั่วไปผัดก็ไม่สลาย

00:52:4100:52:43 ครับแล้วมันทำให้เกิดตับอักเสบแล้ว

00:52:4300:52:46 เหนี่ยวนำทำให้เกิดมะเร็งตับในอนาคตได้

00:52:4600:52:49 >> โอกาสเกิดขึ้นง่ายหรือยากครับมันหมายถึง

00:52:4900:52:49 ว่า

00:52:4900:52:51 >> ถ้ากินสะสมไปนานๆมีโอกาส

00:52:5100:52:52 >> ต้องเกิดจากการสะสมก่อนใช่มั้ฮะ

00:52:5200:52:53 >> กินบ่อยๆ

00:52:5300:52:53 >> เออ

00:52:5300:52:58 >> กินก๋วยเตี๋ยวหรือกินอะไรที่ใช้พริกแห้ง

00:52:5800:53:01 หรือถั่วลิสงแห้งที่ชื้นๆเก่าๆบ่อยๆก็มี

00:53:0100:53:02 โอกาส

00:53:0200:53:04 >> เราสมมุติว่าเราไม่ได้ชอบกินถั่วหรือพริก

00:53:0400:53:07 อะไรมาก่อนเนี่ยแล้วเรามีโอกาสซวยขนาดแบบ

00:53:0700:53:08 ไปกินมาแค่ครั้ง 2 ครั้งแล้ว

00:53:0800:53:09 >> ออไม่ๆๆ

00:53:0900:53:10 >> ต้องสะสม

00:53:1000:53:10 >> พวกนี้ต้องสะสม

00:53:1100:53:11 >> เออ

00:53:1100:53:13 >> พวกนี้สะสมผสมถ้าคนที่กินก๋วยเตี๋ยวครั้ง

00:53:1300:53:15 นึงอาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้งไม่เป็นไร

00:53:1500:53:15 >> อื

00:53:1500:53:19 >> แต่มันจะมีกลุ่มคนบางคนที่กินเกือบทุกวัน

00:53:1900:53:19 ไง

00:53:2000:53:23 >> แล้วกินถั่วเก่าพริกเก่ามันก็จะทำให้ตับ

00:53:2300:53:27 การอักเสบของตับซ้ำๆซๆซๆก็จะมีโอกาสเป็น

00:53:2700:53:29 มะเร็งตับในอนาคต

00:53:2900:53:30 >> เก็บในตู้เย็นช่วย

00:53:3000:53:32 >> เพราะพอเก็บในตู้เย็นน่ะครับเชื้อราจะโต

00:53:3200:53:34 แต่ต้องเก็บให้ถูกต้อง

00:53:3400:53:34 >> อืยังไงครับ

00:53:3400:53:36 >> ความจริงตู้เย็นมันค่อนข้างชื้นนะถ้าเก็บ

00:53:3600:53:38 เปิดไว้มันก็ชื้นเหมือนกัน

00:53:3800:53:40 >> ควรเก็บแบบปิดฝาให้สนิท

00:53:4000:53:41 >> อือ

00:53:4100:53:43 >> หรือถ้าเป็นพริกแห้งควรอยู่ในถุงที่ความ

00:53:4300:53:45 ชื้นเข้าไม่ได้แล้วควรมีทิชชู่เข้าไปสัก

00:53:4500:53:47 แผ่น 2 แผ่นเพราะทิชชู่มันดูความชื้นเก่ง

00:53:4700:53:47 มาก

00:53:4700:53:47 >> อือ

00:53:4800:53:51 >> พริกแห้งจะแห้งแต่สมมุติถ้ามันกลับมาชื้น

00:53:5100:53:54 นะเชื้อก็จะโตยากขึ้นเพราะอุณหภูมิต่ำ

00:53:5400:53:55 เชื้อโตยาก

00:53:5500:53:57 >> อ๋อทิชชู่ที่บอกใส่เข้าไปนี่คือทิชชู่

00:53:5700:53:57 แห้งเลยเหรอ

00:53:5800:53:59 >> ทิชู่แห้งทิชชู่ครัวอย่างเงี้ยครับ

00:53:5900:54:01 Kitchen Toown อย่างเงี้ยพวกเนี้ย

00:54:0100:54:04 >> ใส่เข้าไปรวมกับตัวตัวพริกหรือถั่วนี่

00:54:0400:54:04 อะไร

00:54:0400:54:06 >> พริกหรือถั่วไม่ต้องก็ได้เพราะมันแห้ง

00:54:0600:54:09 อยู่แล้วไงแล้วถ้าใส่ไปมันก็แบบเป็นเศษๆ

00:54:0900:54:11 >> แต่เวลาพริกแห้งอ่ะเก็บเข้าไปได้กระเทียม

00:54:1100:54:13 กับหอมใหญ่หอมแดงก็ก็ช่วยได้เหมือนกัน

00:54:1300:54:14 เก็บเหมือนกัน

00:54:1400:54:14 >> อื

00:54:1400:54:17 >> เก็บในถุงปิดสนิทแล้วก็ใส่ทิชชู่ไปมันจะ

00:54:1700:54:18 อยู่ได้นานเลย

00:54:1800:54:20 >> อถามในฐานะคนชอบกินถั่วครับผมกลัวalฟ่า

00:54:2000:54:21 ท็อกซินมากนะ

00:54:2100:54:22 >> อือ

00:54:2200:54:25 >> แล้วแบบมันโอกาสจะเกิดในถั่วที่เราไปซื้อ

00:54:2500:54:27 ตามถุง

00:54:2700:54:29 >> ตามถุงไม่ค่อยเพราะตามถุงส่วนใหญ่มันผลิต

00:54:2900:54:31 มาจากโรงงานเขาจะมีค่ามาตรฐานmoอยสเจอร์

00:54:3100:54:33 หรือค่าความชื้นอยู่ว่าต้องต่ำกว่านี้ถึง

00:54:3300:54:34 จะปลอดภัยอ

00:54:3400:54:34 >> ออือ

00:54:3400:54:36 >> ยกเว้นไปซื้อถั่วที่ส่งตามท้องตลาดที่

00:54:3600:54:39 เขา้าแบบอาแพไว้อย่างเงี้ยก็มีโอกาสอ

00:54:3900:54:39 >> อื

00:54:3900:54:42 >> แต่อย่างน้อยอะไรที่มีฉลากมียี่ห้อมีอย.

00:54:4200:54:45 พอมีบาร์โคดพวกนี้มันจะมีมาตรฐานจากโรง

00:54:4500:54:45 งานมา

00:54:4500:54:45 >> อ

00:54:4600:54:48 >> จะค่อนข้างชัวร์แล้วถ้าซื้อแบบนั้นมาคั่ว

00:54:4800:54:51 เองแล้วใช้ใหม่ๆโอกาสเจอ

00:54:5100:54:51 >> น้อยมาก

00:54:5100:54:53 >> น้อยมากแทบไม่เจอเลย

00:54:5300:54:54 >> โอเคครับ

00:54:5400:54:57 >> ครับ

00:54:5700:54:59 >> ล้างผักผลไม้ก่อนกินใช้น้ำประปาอย่าง

00:54:5900:55:01 เดียวพอมั้ยครับ

00:55:0100:55:02 >> พอกับอะไร

00:55:0200:55:05 >> พอกับความปลอดภัยไม่รู้เหมือนกัน

00:55:0500:55:07 >> ส่วนใหญ่ความอ่าส่วนใหญ่ความไม่ปลอดภัยใน

00:55:0700:55:10 ผักผลไม้ส่วนใหญ่มาจากพวกพยาธกับยาฆ่า

00:55:1000:55:12 แมลงน้ำเปล่าไม่พอนะครับ

00:55:1200:55:12 >> อือ

00:55:1300:55:15 >> ต้องเป็นเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งน้ำส้มสาย

00:55:1500:55:18 ชูก็ได้เกลือก็ได้เบกิ้งโซดาก็ได้

00:55:1800:55:19 เบกingโซดาค่อนข้างเวิร์ค

00:55:1900:55:22 >> หลังๆมันมีเบกโซดาเกรดที่ใช้ล้างล้างผัก

00:55:2200:55:23 ผลไม้

00:55:2300:55:26 >> คือมันจะไม่บริสุทธิ์เท่าเกรดที่ใช้ทำขนม

00:55:2600:55:27 ซึ่งมันก็ถูกกว่าอ

00:55:2700:55:28 >> เอาไว้ล้างได้

00:55:2800:55:28 >> อือ

00:55:2800:55:31 >> แล้วอย่างหลักการล้างผักผลไม้ที่ถูกต้อง

00:55:3100:55:33 อ่ะต้องล้างน้ำแรกอ่ะไม่จำเป็นต้อง

00:55:3300:55:36 เบกิ้งโซดาน้ำแรกเป็นน้ำประปาไหลผ่านตลอด

00:55:3600:55:37 เวลาแต่ต้องไหลด้วยนะ

00:55:3800:55:38 >> ต้องไหลด้วย

00:55:3800:55:42 >> เพราะมีเป็นกะละมังไปแช่สารเคมีมันก็อยู่

00:55:4200:55:43 กับผักอย่างงั้น

00:55:4300:55:43 >> อือ

00:55:4300:55:47 >> อืตามหลักการล้างที่ถูกต้องควรน้ำไหลผ่าน

00:55:4700:55:49 แต่กี่นาทีจำไม่ได้แล้วอ่ะ 2-3 นาทีมั้ง

00:55:4900:55:51 พอน้ำไหลผ่านเสร็จปุ๊บค่อยไปแช่

00:55:5100:55:54 เบกิ้งโซดาแล้วน้ำไหลผ่านอีกทีนึง

00:55:5400:55:54 >> อื

00:55:5400:55:55 >> จะปลอดภัย

00:55:5500:55:57 >> คือผมอจะชอบเจอสมมุติว่าผมไปเอาไปจาก

00:55:5700:56:00 ตะกร้าของขวัญปีใหม่อะไรอย่างเงี้ย

00:56:0000:56:04 >> ผมก็จะแบบอยากกินน่ะก็จะล้างน้ำเปล่า

00:56:0400:56:05 >> อื

00:56:0500:56:07 >> ไม่รู้ว่ามันพอหรือเปล่าไม่น่าพอละแต่ว่า

00:56:0700:56:09 มันจะมีแวกอีกเรื่องแวกที่มันอยู่

00:56:0900:56:11 >> ความจริงแวกไม่ใช่เป็นตัวคอนเซิร์นมัน

00:56:1100:56:13 เป็นแความจริงแพวกนี้เป็น edible

00:56:1300:56:15 >> มันกินได้แต่มันแค่ความรู้สึกว่าแบบมัน

00:56:1500:56:17 มันอะไรก็ไม่รู้อ่ะ

00:56:1700:56:19 >> แวกต้องล้างน้ำร้อนแล้วมันจะลอยขึ้นมา

00:56:1900:56:20 ข้างบนเลย

00:56:2000:56:21 >> คือการล้างน้ำเปล่าเนี่ย

00:56:2100:56:22 >> แวกก็ไม่หาย

00:56:2200:56:25 >> ไม่หายเพราะแวกละลายได้แวกเป็นไขมันชนิด

00:56:2500:56:27 นึงเป็นลิพIDชนิดนึงละลายได้ดีที่ความ

00:56:2700:56:27 ร้อนสูงครับ

00:56:2700:56:28 >> ออือๆ

00:56:2800:56:31 >> แล้วถึงทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยเบกิ้งโซดา

00:56:3100:56:34 หรือน้ำส้มสายชูอ่ะที่ผมเล่ามาทั้งหมดอ่ะ

00:56:3400:56:37 มันล้างได้แค่ยาฆ่าแมลงด้านนอกนะมันจะมี

00:56:3700:56:40 ยาฆ่าแมลงที่มันดูดชนิดดูดซึมที่ดูดตั้ง

00:56:4000:56:42 แต่รากแล้วฝังอยู่ในนั้นน่ะ

00:56:4300:56:43 >> เออ

00:56:4300:56:45 >> ล้างงี้ก็ล้างไม่ออกอ

00:56:4500:56:47 >> อันนี้ก็ต้องรู้ต้นต่อว่าต้น

00:56:4700:56:48 >> ผลไม้มาจากไหนนะ

00:56:4800:56:50 >> ใช่แต่ล้างก็ยังดีกว่าไม่ล้างเ้าผมไปดู

00:56:5000:56:54 ตัวเล็กเปเปอร์มานะสมมุติเอ๊สดีไซน์หรือ

00:56:5400:56:55 ยาฆ่าแมลงมันมี 100% อ่ะการล้างด้วย

00:56:5500:56:58 เบกิ้งโซดาล้างแค่ข้างนอกออกอ่ะอย่างน้อย

00:56:5800:57:00 มันลดไป 30% แล้วก็เหลือ 70 ก็ยังโอเค

00:57:0000:57:03 กว่าเหลือ 100 แต่ 70 มันก็ยังยังสูงอ

00:57:0300:57:04 >> อือๆ

00:57:0400:57:07 >> เลี่ยงยากพูดตามตรงๆสมัยนี้ยังยกเว้นไป

00:57:0700:57:08 เลือกซื้อออร์แกนิค

00:57:0800:57:09 >> แพงอีก

00:57:0900:57:13 >> ครับแต่ก็แล้วแต่คนอยากปลอดภัยก็ยอมใจ

00:57:1300:57:14 หน่อย

00:57:1400:57:16 >> ทางที่ดีที่สุดกินหมุนเวียนครับเราหนีสาร

00:57:1600:57:18 พิษไม่ได้ในโลกนี้

00:57:1800:57:18 >> เออ

00:57:1800:57:21 >> แต่อย่าไปกินส้มซ้ำๆเราก็จะได้ยาค่าแมลง

00:57:2100:57:24 จากส้มซ้ำๆมันก็จะไปเหนี่ยวนำให้เกิดโรค

00:57:2400:57:25 ใดโรคหนึ่ง

00:57:2500:57:26 >> อื

00:57:2600:57:29 >> ตอนนี้กินส้ม 2 วันอีกวันไปกินแตงโม

00:57:2900:57:31 >> กินสับปะรดการหมุนเวียนสารพิษทุกงาน

00:57:3100:57:33 ประชุมเขาพยายามพูดเราเลี่ยงไม่ได้แต่เรา

00:57:3300:57:35 หมุนเวียนสารพิษได้

00:57:3500:57:38 >> แต่ว่าสารพิษถ้ามันไม่ถึงขั้นใช้เรียกว่า

00:57:3800:57:40 ซ้ำๆไปเรื่อยๆเนี่ยมันจะมีการจัดการกับ

00:57:4000:57:41 ร่างกาย

00:57:4100:57:42 >> ใช่ร่างกายมันหาวิธีการจัดการของมันเอง

00:57:4200:57:44 แต่พอซ้ำไปเยอะๆอ่ะอ

00:57:4400:57:47 >> มันจะเหนี่ยวนำให้เกิดโรคใดโรคหนึ่งได้อื

00:57:4700:57:49 >> ก็คือกินให้หลากหลายขึ้น

00:57:4900:57:50 >> กินให้หลากหลายคือคำตอบ

00:57:5000:57:51 >> อืครับ

00:57:5100:57:53 >> โอเคครับ

00:57:5300:57:54 >> เหนื่อยมั้ยครับ

00:57:5400:57:56 >> อีกนิดจะหอบแล้วไม่ใช่แล้วได้อยู่ได้อยู่

00:57:5600:57:57 ได้อยู่

00:57:5700:58:00 >> ข้าวในหม้อหุงข้าวที่เปิดอุ่นโหมดอุ่น

00:58:0000:58:01 ตลอดเวลาครับอยู่ได้นานแค่ไหน

00:58:0100:58:04 >> โหอันตรายมากมีเคสแบบนี้เยอะมากหลายคนคิด

00:58:0400:58:07 ว่าอุ่นตลอดเวลาจะปลอดภัยเพราะมันอุ่น

00:58:0700:58:08 >> แต่ความจริงคำว่าอุ่นของข้าวอ่ะคือ

00:58:0800:58:09 อุณหภูมิอยู่ช่วง

00:58:0900:58:12 50 กว่าองศาเองนะยังไม่พ้น Danger Zone

00:58:1200:58:13 Danger Zซนคืออุณหภูมิที่มันอันตรายคือ

00:58:1400:58:16 5-60 องศา

00:58:1600:58:17 >> แล้วสังเกตข้าวที่อุ่นตลอดเวลา

00:58:1700:58:20 >> บูดไวกว่าข้าวที่ไม่อุ่นตลอดเวลา

00:58:2000:58:22 >> จริงหรอเออนึกไม่ออก

00:58:2200:58:26 >> เจอหลายเคอุ่นคือหลายคนอุ่นแล้วแบบทิ้ง

00:58:2600:58:29 ไว้พอมาเปิดอีกทีนึงโอ้โหเป็นยางมันเกิด

00:58:2900:58:32 จากเชื้อตัวนึงที่ทนความร้อนสูงมากคือสปอ

00:58:3200:58:34 ของบซิัส

00:58:3400:58:35 >> อ

00:58:3500:58:36 >> อันนี้เชื่ออีกตัวละตะกี้เราพูดถึงตัว

00:58:3600:58:39 อื่นเนาะบซิัสมันสร้างสปอ

00:58:3900:58:41 แล้วสปอมันทนความร้อนสูงมาก

00:58:4100:58:42 >> ครับ

00:58:4200:58:44 >> แล้วพอมาถึงอุณหภูมินึงเช่น 40 อุ่นๆน่ะ

00:58:4400:58:46 สปอจะจะงอก

00:58:4600:58:46 >> อ

00:58:4600:58:49 >> พองอกสร้างสารพิษคนกินเข้าไปก็ก็ท้องเสีย

00:58:4900:58:50 >> อื

00:58:5000:58:54 >> ข้าวดีที่สุดหุงเสร็จควรเอามาผึ่งให้มัน

00:58:5400:58:55 หายระอุ

00:58:5500:58:56 >> อื

00:58:5600:58:59 >> แล้วแช่เย็นจะกินค่อยเอาข้าวเย็นมาเวฟ

00:58:5900:59:01 แล้วข้าวเย็นมีประโยชน์กว่าด้วยเพราะว่า

00:59:0100:59:03 คาร์โบไฮเดรตมันลดลงนะ

00:59:0300:59:03 >> อ้าเหรอครับ

00:59:0300:59:06 >> แป้งมันลดลงมันจะมีแป้งหยตกผลึกแม้เอามา

00:59:0600:59:09 อุ่นมันก็ยังเป็นข้าวที่ตกผลึกอยู่

00:59:0900:59:10 >> อื

00:59:1000:59:12 >> G หรือค่าดัชนีน้ำตาลมันจะลด

00:59:1200:59:12 >> อ๋อ

00:59:1200:59:14 >> แต่ไม่ใช่ลดจากหลายคนนะชอบเข้าใจผิดว่า

00:59:1400:59:16 จาก 100 เหลือ 0 มันจาก 100 เหลือแค่

00:59:1600:59:19 ประมาณ 70-80 ประมาณนั้นนิดหน่อย

00:59:1900:59:20 >> ก็ลดลงนิดหน่อยแต่ก็ยังดี

00:59:2100:59:23 >> แล้วเราเก็บข้าวไว้ในหม้ออุ่นเนี่ยได้นาน

00:59:2300:59:25 มากที่สุดแค่ไหนเพราะร้านอาหารส่วนใหญ่ก็

00:59:2500:59:26 จะแบบทำอย่างนั้นอยู่นะ

00:59:2600:59:27 >> อุ่นไว้นานใช่มั้ครับ

00:59:2800:59:30 >> โหความจริงไม่ควรไม่ควรเกิน 4-6 ชั่วโมง

00:59:3000:59:30 4-6

00:59:3000:59:31 >> 4-6 ชม

00:59:3100:59:32 >> อือ

00:59:3200:59:35 >> แต่มันมีทริกอยู่ถ้าอยากอุ่นจริงๆเพราะคง

00:59:3500:59:37 แบบไม่คงไม่สะดวกแช่เย็น่

00:59:3700:59:40 >> หรือว่าเอามาเวฟตอนหุงอ่ะครับให้ใส่น้ำ

00:59:4000:59:43 ส้มสายชูไปซักสมมุติหม้อหม้อหม้อหม้อปกติ

00:59:4300:59:45 อ่ะครับใส่ไป 1 ช้อนฉ่า

00:59:4500:59:45 >> อือ

00:59:4500:59:48 >> น้ำส้มสายชูเป็นตัวที่ป้องกันไม่ให้สปอ

00:59:4800:59:50 ของบาซิรัสมันงอกได้

00:59:5000:59:53 >> อืเหมือนเป็นยาสารพัดประโยชน์เหมือนกันนะ

00:59:5300:59:54 น้ำน้ำส้มสารพัดประโยชน์มาก

00:59:5400:59:56 >> น้ำส้มสายชูอยู่ในหลายๆข้อที่เราใช้

00:59:5600:59:59 >> หลายๆข้อผมก็ใช้แล้วข้าวจะหนึบขึ้นด้วย

00:59:5901:00:01 ไม่รู้ทำไมเหมือนกันมันจะเงาหนึบๆ

01:00:0101:00:01 >> อื

01:00:0101:00:03 >> คือ texture มันจะมันจะดีขึ้นเมื่อขุงกับ

01:00:0301:00:05 กรดนิดนแต่จะไซสเยอะนะมันจะเหม็น

01:00:0501:00:06 >> อ่า

01:00:0601:00:08 >> แล้วลองดูครับไม่มีวันเสีย

01:00:0801:00:08 >> อื

01:00:0801:00:10 >> ข้ามคืนยังไม่เสียเลยขนาดนี้น้ำส้มใส่ชู

01:00:1001:00:12 แล้วหลายร้านอาหารเช็คทริกนี้

01:00:1201:00:15 >> ข้ามคืนไม่เสียคืออยู่ในตู้เย็น

01:00:1501:00:15 >> อยู่ข้างนอก

01:00:1601:00:17 >> อยู่ข้างนอกก็ไม่เสีย

01:00:1701:00:19 >> จริงๆมันมันมหัศจรรย์มาก

01:00:1901:00:22 >> น้ำส้มสายชูทุกประเภทในโลกเลยป่าครับ

01:00:2201:00:23 >> ความจริงทุกประเภทแต่ส่วนใหญ่ที่ใช้คือ

01:00:2301:00:25 น้ำส้มใสชูกลั่นสีใสเพราะไม่งั้นกลิ่นมัน

01:00:2501:00:28 จะมีกลิ่นหมักกลิ่นแอปเปิ้ลกลิ่น

01:00:2801:00:28 >> อือๆ

01:00:2801:00:30 >> สับปะรดมากวนคาวสีด้วย

01:00:3001:00:32 >> อือๆยกเว้นว่าเราต้องการ

01:00:3201:00:34 >> ใช่หลายหลายร้านใช้เพื่อประหยัดไม่ต้อง

01:00:3401:00:35 ไม่ต้องแชร์เย็นไม่ต้องอะไรแบบนี้

01:00:3501:00:38 >> เอ

01:00:3801:00:41 โอเคอันนี้ไม่รู้จะตอบเถั่วมีถั่วที่

01:00:4101:00:44 เริ่มมีกลิ่นหืนยังกินได้อยู่หรือเปล่า

01:00:4401:00:45 เหมือนเมื่อกี้เราถามเรื่อง

01:00:4501:00:47 >> อู้อ้าที่บอกว่าเดี๋ยวกลับมาใช่มั้ย

01:00:4701:00:50 เรื่องถั่วมีกลิ่นหืนมันปลอดภัยเชิงเชื้อ

01:00:5001:00:52 นะครับเพราะการที่กลิ่นเหม็นหืนมาจากไข

01:00:5201:00:54 มันเปลี่ยนเป็นสารอื่นมันออกซิไซด้วย

01:00:5401:00:56 ออกซิเจนจากอากาศเปลี่ยนเป็นสารอื่นปลอด

01:00:5601:00:58 ภัยเชิงเชื้อ

01:00:5801:01:00 >> แต่พูดตรงๆไม่ควรกินเพราะสารที่ทำให้

01:01:0001:01:02 เหม็นหืนเป็นสารออกซิไiz

01:01:0201:01:02 >> อ

01:01:0201:01:05 >> มันจะมันจะเหมือนเป็นพูดง่ายๆเป็นอนุมูล

01:01:0501:01:06 อิสระอในร่างกาย

01:01:0601:01:08 >> อนุมูลอิสระคืออะไรครับ

01:01:0801:01:10 >> กินเข้าไปแล้วทำให้ร่างกายอักเสบอะไร

01:01:1001:01:11 ประมาณเนี้ยครับอ

01:01:1101:01:12 >> อ

01:01:1201:01:15 >> สารอนุมูลอิสระเมื่อร่างกายได้ดับมากๆ

01:01:1501:01:17 อักเสบเยอะอักเสบเยอะมีโอกาสเป็นมะเร็ง

01:01:1701:01:18 ได้ในอนาคต

01:01:1801:01:19 >> อือ

01:01:1901:01:21 >> สารอนุิสระเช่นเดินตามท้องถนนแล้วมีกลิ่น

01:01:2101:01:24 มีจากการเผาไหม้อ่ะจากควันรถยนต์นะครับ

01:01:2401:01:27 ไอ้พวกนี้ก็เป็นอนุมูลอิสระ UV ก็เป็น

01:01:2701:01:29 อนุมูลอิสระได้การกินอาหารปิ้งย่างก็เป็น

01:01:2901:01:32 อนุมูลอิสระได้กลิ่นเหม็นหืนจากถั่ว

01:01:3201:01:33 >> อือ

01:01:3301:01:35 >> ก็เป็นสารตั้งต้นในการทำให้เกิดอนุม

01:01:3501:01:36 อนุมูลอิสระได้

01:01:3601:01:38 >> เอไม่ควรกินเพราะมันมีอนุมูลอิสระ

01:01:3901:01:41 >> ใช่มันไม่ดีระยะยาวแต่มันไม่ทำให้ท้อง

01:01:4101:01:42 เสียเพราะมันไม่ใช่เชื้ออ

01:01:4201:01:42 >> ออ

01:01:4201:01:44 >> ครับมันเป็นไขมันที่เปลี่ยนเป็นสารเหม็น

01:01:4501:01:45 หื่นแล้ว

01:01:4501:01:48 >> โอเคถ้าเหม็นหื่นแล้วก็ไม่ต้องกินมันก็

01:01:4801:01:49 ได้

01:01:4901:01:52 >> ใช่แต่บางแต่หลายครั้งอ่ะถ้ายอมรับตามตรง

01:01:5201:01:55 เราต้องใช้ถั่วนั้นเลยอ่ะแล้วมันเหม็นหืน

01:01:5501:01:58 แบบนิดเดียวอ่ะเอาไปอบหรือเอาไปคั่วหายนะ

01:01:5801:01:59 >> อ๋อ

01:01:5901:02:00 >> กลิ่นเหม็นหัวเพราะกลิ่นเหม็นหืนส่วนใหญ่

01:02:0001:02:02 แล้วเหยได้ดีในความร้อน

01:02:0201:02:03 >> มันก็คือไขมัน

01:02:0301:02:05 >> ใช่มันคือมันคือไขมันที่เปลี่ยนฟอร์มไป

01:02:0501:02:05 แล้ว

01:02:0501:02:06 >> เสียดายไปแล้ว

01:02:0601:02:09 >> แต่ต้องระวังว่าต้องแค่เหม็นหื่นนะ

01:02:0901:02:10 >> อื

01:02:1001:02:13 >> ถ้าส่วนใหญ่กากถั่วที่เหม็นหืนคือถั่ว

01:02:1301:02:16 เก่าแล้วถั่วเก่าอ่ะalฟ่าท็อกซินมันก็ตาม

01:02:1601:02:16 มาด้วยไง

01:02:1601:02:17 >> นั่นดิ

01:02:1701:02:20 >> มันก็มาเป็นแพ็คคือทางที่ดีอ่ะทิ้งเหอะ

01:02:2001:02:20 >> เออๆ

01:02:2001:02:21 >> อทิ้งเหอะ

01:02:2101:02:25 >> โอเคแต่ถ้าเกิดเรามั่นใจว่าเราคั่วเอง

01:02:2501:02:26 แล้วทิ้งไว้วันเดียวมีกลิ่นหินนิดเดียว

01:02:2701:02:28 อะไรอย่างเงี้ยโอกาสที่แบบ

01:02:2801:02:28 >> อื

01:02:2801:02:30 >> ปลอดภัยมันก็จะมีมากกว่าแต่ก็ทิ้งดีกว่า

01:02:3101:02:32 ทิ้งทิ้งดีกว่าทิ้งดีกว่าเพื่อ

01:02:3201:02:32 >> ความปลอดภัยนะครับ

01:02:3201:02:34 >> หลายคนเก็บถั่วที่ส่งแช่แข็ง

01:02:3401:02:35 เออ

01:02:3501:02:38 >> แต่หลายคนเข้าใจผิดเก็บแช่แข็งเชื้อไม่มี

01:02:3801:02:40 วันโต 100% รามไม่มาแน่นอน

01:02:4101:02:43 >> แต่แช่แข็งหลายคนเข้าใจผิดคิดว่าจะหยุด

01:02:4301:02:44 ได้ทุกปฏิกิริยา

01:02:4401:02:45 >> อือ

01:02:4501:02:47 >> ยกเว้นปฏิกิริยาเดียวที่หยุดไม่ได้คือ

01:02:4701:02:48 ปฏิกิริยาการเหม็นหืน

01:02:4901:02:49 >> อ

01:02:4901:02:50 >> แช่แข็งจะหืน

01:02:5001:02:51 >> อ๋อ

01:02:5101:02:53 >> หืนจะไม่หยุดจะหยุดไม่ได้จะมาเรื่อยๆ

01:02:5301:02:53 >> อือ

01:02:5401:02:56 >> หมู 3 ชั้นเก็บแช่แข็งสมมุติเก็บเป็นปี

01:02:5601:02:57 ไม่เสียนะ

01:02:5701:02:59 >> แต่กลิ่นเพี้ยนแล้วครับกลิ่นหืนหมดแล้วอ

01:02:5901:03:00 >> เออ

01:03:0001:03:02 >> เพราะเป็นปฏิยาเดียวในโลกที่เกิดได้ตอน

01:03:0201:03:03 แช่แข็ง

01:03:0301:03:03 >> โอ

01:03:0301:03:04 >> อืออื

01:03:0401:03:06 >> ความรู้ใหม่ตู้เย็นไม่ได้ช่วยตลอดเวลา

01:03:0601:03:08 >> ไม่ๆ

01:03:0901:03:11 >> โอเคเอ้อพูดถึงเรื่องออกซิไดต่อเลยครับ Y

01:03:1101:03:15 ที่ออกซิไดแล้วอันตรายมั้ยเอาไปทำอาหาร

01:03:1501:03:16 >> ดื่มได้

01:03:1601:03:17 >> อือ

01:03:1701:03:19 >> ถ้าไม่คเซิร์นเรื่องรสชาติไอออกซิไดกับ

01:03:1901:03:22 ถั่วออกซิไดต่างกันถั่วออกซิไซสารมันเป็น

01:03:2201:03:26 มาโนมาโลนดีไฮด์อะไรพวกเนี่ยมันจะเป็นอ่า

01:03:2601:03:27 อนุมูลอิสระ

01:03:2701:03:27 >> อ

01:03:2801:03:30 >> แต่โักจากไที่ออกซิไซไม่ได้อันตรายครับ

01:03:3101:03:32 >> เป็นสารที่ยังกินได้อยู่แค่กลิ่นมัน

01:03:3201:03:33 เพี้ยน

01:03:3301:03:33 >> อืออ

01:03:3301:03:36 >> ถ้าไม่อยากดื่มก็เอาไปคุกิได้ไม่มีปัญหา

01:03:3601:03:38 ไปทำขนมเอาไปอะไรก็ได้ครับอครับ

01:03:3801:03:40 >> อื

01:03:4001:03:42 >> ไวออกซิไซ

01:03:4201:03:43 เปิดไวกินไม่จบ

01:03:4401:03:48 >> กลิ่นกลิ่นมันไม่เชิงกลิ่นหืนนะแต่มัน

01:03:4801:03:50 กลิ่นfrรุตตี้กลิ่น floral กลิ่นสปiceมัน

01:03:5001:03:51 มันหายละ

01:03:5101:03:51 >> อื

01:03:5101:03:52 >> ครับ

01:03:5201:03:52 >> อือ

01:03:5201:03:54 >> โอเค

01:03:5401:03:56 นมที่ดูแล้วเป็นปกติแต่เลย One Best

01:03:5601:03:58 before มาแล้วยังดื่มได้มย

01:03:5801:04:00 >> นมนม UHT

01:04:0001:04:01 >> ครับ

01:04:0101:04:03 >> มันจะเป็น Best before เพราะว่ามันไม่

01:04:0301:04:05 มันแทบไม่มีวันเสียเชิงเชื้อยกเว้นว่า

01:04:0501:04:06 กล่องมันบุก

01:04:0601:04:07 >> เออ

01:04:0701:04:10 >> สมมุติฟมันคือ 1 ปีหลังวันผลิตอ่ะครับ

01:04:1001:04:10 >> ครับ

01:04:1001:04:13 >> พูดตามตรงนะเก็บไว้ 2 ปีกินก็ไม่ท้องเสีย

01:04:1301:04:13 >> อื

01:04:1301:04:15 >> แต่กลิ่นเพี้ยนหมดแล้ว

01:04:1501:04:15 >> อื

01:04:1501:04:18 >> เพราะมันเสียเชิงเคมีสีเปลี่ยนกลิ่นเหม็น

01:04:1801:04:19 หืนกลิ่นอะไร

01:04:1901:04:20 >> อ

01:04:2001:04:22 >> เพราะฉะนั้นมันเสียเชิงเคมีกายภาพมันเลย

01:04:2201:04:23 ใช้คำว่า best before

01:04:2301:04:24 >> อือ

01:04:2501:04:28 >> นมกระป๋องถ้ามันเลยมาซักแบบวัน 2 วันหรือ

01:04:2801:04:29 อาทิตย์ 2 อาทิตย์ Best before นะครับ

01:04:2901:04:30 >> ครับ Best before

01:04:3001:04:33 >> ยังๆยังยังดื่มได้ไม่ได้มีปัญหาอืแต่ต้อง

01:04:3301:04:35 แยกว่ามันมี Best before กับ expireate

01:04:3501:04:36 จริงๆนะ

01:04:3601:04:38 >> ใช่ถ้า expireate เลยแล้วไม่ควร

01:04:3801:04:39 >> เออ

01:04:3901:04:43 >> แล้วบอกเฮ้ยดื่มนมเกิน expiry date กิน

01:04:4301:04:46 เข้าไปแล้วไม่เปรี้ยวแต่การเสียของนมอ่ะ

01:04:4601:04:47 มันไม่ได้มีแค่เชื้อที่ให้เปรี้ยวบาง

01:04:4701:04:50 เชื้อโตแต่ไม่ให้รสเปรี้ยวมันก็มีเหมือน

01:04:5001:04:50 กัน

01:04:5001:04:51 >> เราก็ไม่รู้ตัว

01:04:5101:04:53 >> เราไม่รู้สมมุติสมมุติมีลิสเตอรียอย่าง

01:04:5301:04:56 เงี้ยลิซอรียmonโนซogenสไม่ได้ให้เปรี้ยว

01:04:5601:04:58 >> แต่ถ้ามันโตแล้วแล้วเราดื่มเข้าไปเอ้ยไม่

01:04:5801:05:00 เปรี้ยวนี่อีก 6 ชมง

01:05:0001:05:03 >> อือถ่ายท้องก็มีเหมือนกัน

01:05:0301:05:07 >> อ่ะถามต่อว่านมเปรี้ยวนมบูดกับโยเกิร์ต

01:05:0701:05:08 มันต่างกันตรงตรงไหนครับ

01:05:0801:05:09 >> คนละเชื้อเลยครับนม

01:05:0901:05:10 >> อ

01:05:1001:05:13 >> นมเปรี้ยว UHT ที่ไม่ได้บูดนะโยเกิร์ตมัน

01:05:1301:05:17 มาจากเชื้อ 2 ตัวแคโตบาซิัสกับสตปโตคอกคั

01:05:1701:05:18 เทอรโมฟิัส 2 ตัวนี้

01:05:1801:05:19 >> อือฮึ

01:05:1901:05:21 >> 2 ตัวนี้เป็นเชื้อปลอดภัย

01:05:2101:05:22 >> อือคือการตั้งใจให้เป็น

01:05:2201:05:25 >> ใช่ตั้งใจให้เป็นแต่ถ้านมที่ไม่ได้ใส่ 2

01:05:2501:05:27 ตัวนี้แล้วมันเปรี้ยวเองอาจจะเป็น

01:05:2701:05:30 แลคโตบาซิลัสตัวอื่นหรืออีคลอไรด์ตัวอื่น

01:05:3001:05:32 ที่สร้างกรดแล้วทำให้เราท้องเสียได้

01:05:3201:05:34 >> อืเพราะฉะนั้นอย่าคิดว่า

01:05:3401:05:36 >> ถ้าทิ้งนมไว้แล้วเปรี้ยวก็จะเป็นนม

01:05:3601:05:37 เปรี้ยวโยเกิร์ตไม่ใช่

01:05:3701:05:40 >> ไม่ใช่ไม่ใช่ยกเว้นแล้วจะทำโยเกิร์ตจากนม

01:05:4001:05:42 ใหญ่แล้วก็ตักโยเกิร์ตมา 1 ช้อนใส่ลงใน

01:05:4201:05:44 ขวดนี้บ่มทิ้งไว้แล้วเปรี้ยว

01:05:4401:05:47 >> อันนี้เราตั้งใจเพราะเราบังคับให้เชื้อ 2

01:05:4701:05:49 ตัวที่ปลอดภัยลงไปเพราะฉะนั้นเชื้อที่ไม่

01:05:4901:05:50 ปลอดภัยก็โตไม่ได้อ

01:05:5001:05:50 >> ครับ

01:05:5001:05:52 >> ก็ปลอดภัยก็กลายเป็นโยเกิร์ตใหม่อือ

01:05:5301:05:53 >> อ

01:05:5301:05:54 >> แต่ถ้าทิ้งไว้อย่างเงี้ยไม่ได้ใส่อะไรลง

01:05:5501:05:56 ไปอ่ะ

01:05:5601:05:56 >> เออ

01:05:5601:05:56 >> ก็ไม่ควร

01:05:5701:05:59 >> เมื่อกี้เชฟก็เลยให้คอร์สทำโยเกิร์ต 30

01:05:5901:06:03 วินาทีมาแล้วหมายทำได้ใช่คือเทนมออกนิด

01:06:0301:06:04 นึงก่อน

01:06:0401:06:06 >> จะได้มีแล้วก็ใส่เนี่ยแกลอนนึงก็ใส่

01:06:0601:06:08 โยเกิร์ตลงไป 2 ช้อนโต๊ะ

01:06:0801:06:10 >> โยเกิร์ตอะไรก็ได้เหรอครับ

01:06:1001:06:12 >> ความจริงมันควรเลือกโยเกิร์ตที่เชื้อยัง

01:06:1201:06:15 มีชีวิตบางทีโยเกิร์ตมันไม่มี

01:06:1501:06:17 >> เชื้อมันตายแล้วใส่ลงไปก็ไม่มีประโยชน์

01:06:1701:06:17 >> อือ

01:06:1701:06:19 >> แล้วก็ไว้อุณหภูมิห้อง

01:06:1901:06:19 >> อือ

01:06:1901:06:22 >> พันผ้าอุ่นๆไว้ก็คืนนึงก็ได้โยเกิร์ต

01:06:2201:06:24 >> อแต่ถ้าเกิดเป็นนมพวกอย่างเงี้ยนมแบบพอไร

01:06:2401:06:27 เนี่ยใส่โยเชื้อโยเกิร์ตเข้าไปก็ไม่เป็น

01:06:2701:06:28 ไรไม่เป็นแล้วใช่มั้

01:06:2801:06:30 >> เกิดโยเกิร์ตได้แต่เนื้อจะไม่ดีเพราะว่า

01:06:3001:06:33 โครงสร้างโปรตีนมันเสียสภาพมากกว่า

01:06:3301:06:35 พจอร์ไลแต่ถามว่าทำได้มั้ทำได้เหมือนกัน

01:06:3501:06:37 แต่เนื้อมันจะไม่เท่าที่เคยทำมันจะไม่มัน

01:06:3701:06:38 จะไม่ข้นมันจะไม่เนียนมาก

01:06:3801:06:39 >> อืออือ

01:06:3901:06:40 >> โอเค

01:06:4001:06:40 >> อ

01:06:4001:06:44 >> อ่ะต่อครับให้โยเกิร์ตพอดีเลย

01:06:4401:06:44 >> อ้าว

01:06:4401:06:45 >> โยเกิร์ต

01:06:4501:06:47 >> นี่นี่ผมไม่ได้ตั้งใจนะโยเกิร์ตหรืออาหาร

01:06:4701:06:50 ที่มีรสเปรี้ยวถ้าหมดอายุควรทิ้งได้มั้ย

01:06:5001:06:51 >> ควร

01:06:5101:06:53 >> โยเกิร์ตมันจะเปรี้ยวได้มากกว่านั้นอีก

01:06:5301:06:54 เหรอครับ

01:06:5401:06:59 >> ที่มันหมดอายุอ่ะคือเชื้อมันในตู้เย็นน่ะ

01:06:5901:07:00 แม้ว่าจะเป็นเชื้อ 2 ตัวนั้นใช่มั้ย

01:07:0001:07:03 แobบซิัสกับสปคอกคัเทอรโมฟิัสอ่ะ

01:07:0301:07:05 >> มันจะยังทำงานอยู่แต่ทำงานช้าๆ

01:07:0501:07:05 >> อือ

01:07:0601:07:08 >> บางทีเพื่อนที่ผมอยู่ในเพื่อนผมที่อยู่ใน

01:07:0801:07:10 โรงงานนมเอ้ยโยเกิร์ตอ่ะเขาบอกว่า expiry

01:07:1001:07:13 day คือเชื้อมันโตเยอะเกินไปจนมัน

01:07:1401:07:17 เปรี้ยวมากเกินไปคือพีมันลงเยอะเกินไป

01:07:1701:07:17 >> ครับ

01:07:1701:07:19 >> ก็ไม่ควรกินคือรสมันจะเพี้ยนไปจากเดิม

01:07:1901:07:20 >> แค่เรื่องรสป่ะ

01:07:2001:07:21 >> แค่เรื่องรถ

01:07:2101:07:22 >> แต่ไม่อันตรายเลย

01:07:2201:07:23 >> ไม่ได้อันตรายอะไรแต่เชื้อมันบางทีอ่ะ

01:07:2401:07:26 เชื้อเชื้อ 2 ตัวนั้นมันมันโหลดมากกว่า

01:07:2601:07:28 เดิมใช่มั้ยบางทีกินเข้าไปมันไม่ได้ท้อง

01:07:2801:07:30 เสียแบบอาหารเป็นผิดอ่ะแต่อู้ถ่ายท้อง

01:07:3001:07:32 เพราะว่าความเป็นกรดมันมันเยอะไปเฉยๆ

01:07:3201:07:33 >> อือๆ

01:07:3301:07:34 >> พูดตามตรงโยเกิร์ต

01:07:3401:07:37 >> หรือว่านมเปรี้ยวที่มันเลยวันหมดอายุมา

01:07:3701:07:40 1-2 วันผมก็กินบ่อยนะ

01:07:4001:07:42 >> ก็ไม่ได้ไม่ได้มีปัญหาอะไรอย่างที่บอก

01:07:4201:07:45 expดเขาจะตั้งมาเผื่อ

01:07:4501:07:46 >> เผื่อไว้นิดนึง

01:07:4601:07:46 >> ครับ

01:07:4601:07:49 >> แต่ทางที่ดีอ่ะถ้าเราถ้าเราไม่ได้มีความ

01:07:4901:07:50 รู้อะไรเลยนะ

01:07:5001:07:50 >> เออ

01:07:5001:07:53 >> อะไรที่เกิน expirate มาแล้วไม่ควรกินก็

01:07:5301:07:56 >> แต่บางบังเอิญผมอ่ะรู้ว่าเออบางบางตัวมัน

01:07:5601:07:58 comomise ได้ก็ก็ยังกินได้

01:07:5801:07:58 >> อือ

01:07:5901:07:59 >> อือือ

01:07:5901:08:01 >> เค้าเค้าพูดถึงอาหารที่มีรสเปรี้ยวด้วยผม

01:08:0101:08:06 เลยนึกถึงแหนมแหนมเนี่ยมันกินได้จนแค่ไหน

01:08:0601:08:09 ถึงจะรู้สึกว่าอย่ากินเลย

01:08:0901:08:13 >> แหนมหรอครับโหแหนมมันหลายเคสมากเอ่อหมาย

01:08:1301:08:14 ความว่าไงนะกินได้เยอะ

01:08:1401:08:16 >> หมายถึงว่าแบบอ่ะโยเกิร์ตคือเรื่องนึงแต่

01:08:1601:08:18 ว่าแหนมเนี่ยเราก็ไม่รู้คือแหนมมัน

01:08:1801:08:19 เปรี้ยวอยู่แล้ว

01:08:1901:08:21 >> แล้วเราก็กินแช่ไว้ในตู้เย็น

01:08:2101:08:23 >> แล้วแบบมันก็เปรี้ยวอยู่ดีอ่ะแต่เราไม่

01:08:2301:08:25 รู้ว่าอันไหนคือแหนมเสียมันมีมั้ฮะ

01:08:2501:08:27 >> แหนมส่วนใหญ่ความจริงควรผ่านความร้อน

01:08:2801:08:30 >> อือืแหนมเวลาเค้าเรียกว่าอะไรครับโดย

01:08:3101:08:34 เฉพาะแหนมถ้าแหนมที่ออกสีชมพูมพูนิดนึง

01:08:3401:08:37 อ่ะส่วนใหญ่กินดิบได้แต่เรื่องนี้มันค่อน

01:08:3701:08:38 ข้างลึกเพราะเขาจะใส่ตัวนึงที่เรียกว่า

01:08:3801:08:41 ไนไตรท์ลงไปไนไตรท์มันจะไปกดเชื้อตัวเลว

01:08:4101:08:44 ก็คือไอ้กดคอสตเรียมโทิัไม่ให้มันโต

01:08:4401:08:45 >> อื

01:08:4501:08:49 >> ถ้าไม่ใส่สารตัวนี้มีโอกาสที่เชื้อจะโต

01:08:4901:08:50 ได้เค้าเลยบอกว่าสารเคมีทุกชนิดในโลก

01:08:5001:08:52 เนี้ยไม่ใช่เลวเสมอไป

01:08:5201:08:52 >> อ

01:08:5201:08:56 >> กินสารเคมียังเสี่ยงน้อยกว่ากลิ่นเชื้อ

01:08:5601:08:57 กลิ่นเชื้อเหลว

01:08:5701:08:59 >> เชื้ออันเนี้คือประโยชน์ของ Food

01:08:5901:09:01 Additive ในบางเคสครับ

01:09:0101:09:05 >> เพราะงั้นถ้าแหนมผมเลือกที่จะกินแหนมที่

01:09:0501:09:06 >> ถ้าจะกินดิบนะ

01:09:0601:09:06 >> อือ

01:09:0601:09:09 >> เลือกแหนมที่ใส่ไนไตรท์ปลอดภัยกว่า

01:09:0901:09:12 >> ปลอดภัยกว่าเพราะฉะนไปเจอไอ้เชื้อ

01:09:1201:09:15 คอสซิเดียมแล้วไม่ผ่านความร้อนไอ้สารพิษ

01:09:1501:09:16 นั้นคือสารพิษโบท็อก

01:09:1601:09:17 >> เออ

01:09:1701:09:19 >> โบทูมท็อกซินไง

01:09:1901:09:22 >> โบท็อกทำให้ระบบประสาทน็อคได้แล้วก็มี

01:09:2201:09:24 โอกาสเสียชีวิตได้

01:09:2401:09:24 >> ครับ

01:09:2401:09:26 >> โอเคครับ

01:09:2601:09:28 >> เป็นเรื่องซับซ้อนนะครับ

01:09:2801:09:31 >> ผมเหมือนเรียนเคมีเลยเนี่ย

01:09:3101:09:33 >> ไม่ใช่ไม่ใช่เรียนชีวะเหรอ

01:09:3301:09:36 >> เออมันมีทั้งชีวะและเคมี

01:09:3601:09:39 ถุงซีลสูญยากาศซิปล็ออ่ะเนาะเก็บอาหารได้

01:09:4001:09:43 นานแค่ไหนเอ้อสุนซีลโทษทีครับถุงซีล

01:09:4301:09:47 สูญยากาศเก็บอาหารได้นานแค่ไหนครับ

01:09:4701:09:49 >> อ๋อซิบลองไม่สูญยากาศสิ

01:09:4901:09:50 >> ไม่ๆอันนี้คือ

01:09:5001:09:52 >> อ๋อแบบเอาอากาศออกใช่มั้ยมันจะยืดได้คือ

01:09:5201:09:55 พอดึงอากาศออกหมดออกซิเจนต่ำ

01:09:5501:09:58 >> เชื้อโตยากขึ้นเชื้อเชื้อที่ส่วนใหญ่เป็น

01:09:5801:10:01 เชื้อสปอยเชื้อที่ทำให้เสียโต๊ะยากขึ้น

01:10:0101:10:03 >> ออกซิเจนไม่มีกลิ่นหื่นก็จะน้อยลงมันขึ้น

01:10:0301:10:04 อยู่กับอาหารด้วยครับ

01:10:0401:10:05 >> อือ

01:10:0501:10:07 >> ถ้าเป็นถั่วลิสง์สมมุติว่าไม่ได้ดึงอากาศ

01:10:0701:10:08 ออกอย่างเงี้ย

01:10:0801:10:10 >> อาจจะอยู่แค่อาทิตย์นึงเริ่มผืนแต่ถ้าดึง

01:10:1001:10:12 อากาศออกหมดแล้วเลือกแพคเagingที่ดีที่

01:10:1201:10:14 ออกซิเจนผ่านเข้าไปไม่ได้อาจจะได้ถึง

01:10:1401:10:15 เดือน

01:10:1501:10:15 >> อื

01:10:1501:10:17 >> โดยที่โดยที่ไม่หืน

01:10:1701:10:20 >> เหมือนข้าวที่เชฟบอกแต่เขาก็จะใส่เอ่อบาง

01:10:2001:10:22 ตัวเข้าไปแทนออกซิเจนป่ะฮะ

01:10:2201:10:23 >> ตัวไหนนะฮ

01:10:2301:10:25 >> ไม่รู้มันมีไนโตรเจนอะไรเข้าไปแทน

01:10:2501:10:26 >> อ๋อflัชไนโตรเจนใช่

01:10:2601:10:27 >> ใช่มั้ฮะ

01:10:2701:10:30 >> ถ้าไม่ดึงสูญยากาศแล้วถุงพองก็สามารถ

01:10:3001:10:33 flลัชไนโตรเจนเข้าไปได้เช่นอาหารขบเคี้ยว

01:10:3301:10:34 ขนมขบเคี้ยวเคี้ยว

01:10:3401:10:36 >> ดึงสูญชาไม่ได้ไม่งั้นแหลกหมดใช่มั้ยเก็

01:10:3601:10:39 จะflัชไนโตรเจนเข้าไปแทนเพื่อแทนออกซิเจน

01:10:3901:10:40 >> ออือ

01:10:4001:10:43 >> แต่เข้าใจว่าส่วนใหญ่การดึงอากาศออกทำใน

01:10:4301:10:45 ครัวเรดือนแล้วก็ในร้านอาหาร

01:10:4501:10:46 >> อ

01:10:4601:10:48 >> พอไม่มีร้านไหนคงฟลัชไนโตรเจนเข้าไปน้อย

01:10:4801:10:50 ล้านอืมันมันคือมันต้องซื้อแก๊ส

01:10:5001:10:52 >> คือหลักการคืออย่าให้มีออกซิเจนใน

01:10:5201:10:55 >> ใช่ดึงออกก็ได้หรือแทนที่ด้วยแก๊สอื่นก็

01:10:5501:11:00 ได้ผมว่าใกล้เคียง

01:11:0001:11:02 น้ำปลาซีอิ๊วซอสมะเขือเทศควรเก็บในตู้

01:11:0201:11:05 เย็นหรือข้างนอกถ้าใช้แล้วถ้าเปิดใช้แล้ว

01:11:0501:11:08 เก็บได้นานแค่ไหน

01:11:0801:11:10 >> อู้คำถามนี้ซับซ้อนอีกแล้ว

01:11:1001:11:11 >> เออ

01:11:1101:11:13 >> น้ำปลาอะไรซอสมะเขือเทศ

01:11:1301:11:14 >> อซ้อนมะเขือเทศ

01:11:1501:11:15 >> ซีอิ๊ว

01:11:1501:11:19 >> อ๋อส่วนใหญ่อ่ะเปิดไว้แล้ววางไว้อุณหภูมิ

01:11:1901:11:22 ห้องได้ไม่เสียไม่เสียเชิงเชื้อ

01:11:2201:11:24 >> เพราะ 1 ซ้อนมะเขือเทศมีน้ำส้มสายชูเยอะ

01:11:2401:11:25 มากอืออื

01:11:2501:11:28 >> น้ำส้มใสชูนี่ทำให้ซอสมะเขือเทศไม่เคย

01:11:2801:11:31 เสียเชิงไม่เคยขึ้นลาไม่เคยเห็นใช่มั้

01:11:3101:11:32 ครับน้ำปลาก็ไม่เสียแต่มันจะเสียเชิง

01:11:3201:11:34 อย่างอื่นเช่นสีค้ำขึ้นกลิ่นเพี้ยนอะไร

01:11:3401:11:37 ประมาณเนี้ยสีเสียเชิงเคมีกายภาพ

01:11:3701:11:39 >> มันเลยเขียนว่า best before ไงน้ำปลา

01:11:3901:11:39 >> ออ

01:11:3901:11:41 >> แต่ถามว่าต้องใช้ถ้าแช่เย็นได้ก็จะดี

01:11:4101:11:44 เพื่อคงไม่ให้สีมันเพี้ยนไม่ให้กลิ่นมัน

01:11:4401:11:44 เพี้ยน

01:11:4401:11:45 >> ออือ

01:11:4501:11:45 >> ครับ

01:11:4501:11:48 >> ยกเว้นเครื่องปรุงรสโซเดียม

01:11:4801:11:50 >> ที่เปิดแล้วพอโซเดียมมันต่ำใช่มั้ยไว้

01:11:5001:11:53 อุณหภูมิห้องมีโอกาสเสียได้

01:11:5301:11:55 >> มีโอกาสเป็นฟองได้เครื่องปรุงรสโซเดียม

01:11:5601:11:57 ควรแช่เย็นหลังเปิด

01:11:5701:11:59 >> พวกหมายถึงน้ำปลาด้วยป่ะฮะ

01:11:5901:12:01 >> น้ำปลาลดโซเดียม C ลดโซบางทีมันลดโซเดียม

01:12:0101:12:01 มาจน

01:12:0101:12:03 >> หมอที่ลดหมายถึงจำนวนโซเดียมมันน้อยลง

01:12:0301:12:05 >> ใช่เชื้อก็โตได้ไงเพราะโซเดียมมัน

01:12:0501:12:07 >> เกลือลดลงอะไรแบบเนี้ย

01:12:0701:12:09 >> เชื้อก็จะโตได้ง่ายขึ้น

01:12:0901:12:09 >> อื

01:12:0901:12:12 >> อืก็ควรหลายๆหลายอันครับเครื่องปรุงรส

01:12:1201:12:14 โซเดียมที่เขาพยายามเขียนตรงว่าเปิดฝาด

01:12:1401:12:15 แล้วแช่เย็นหน่อยนะ

01:12:1501:12:19 >> อือแล้วโทษทีแล้วเป็นถ้ามันเป็นแบบเอ่อ

01:12:1901:12:21 น้ำปลาหมักธรรมชาติไม่ได้เป็นแบบ

01:12:2101:12:23 อุตสาหกรรมมา

01:12:2301:12:25 >> อ๋อไว้อุณหภูมภูมิห้องได้ครับแต่อย่างที่

01:12:2501:12:27 ผมบอกมันจะเพี้ยนตรงแค่เรื่องสีแค่นั้น

01:12:2701:12:27 เอง

01:12:2701:12:27 >> เหมือนกัน

01:12:2701:12:28 >> อื

01:12:2801:12:30 >> หมักธรรมชาติส่วนใหญ่เกลือเยอะมาก

01:12:3001:12:31 >> อ่าๆ

01:12:3101:12:32 >> อืเชื้อไม่โตอยู่แล้วครับ

01:12:3201:12:32 >> อือ

01:12:3201:12:34 >> แช่เย็นครบเพราะเหตุผลเดียวอยากให้กลิ่น

01:12:3401:12:36 มันอยู่นานแล้วก็ไม่อยากให้

01:12:3701:12:37 >> สีเพี้ยนแค่นั้นเอง

01:12:3701:12:38 >> ก็คือ best before

01:12:3801:12:39 >> ครับ

01:12:3901:12:44 >> นี่ไง BBF เนี่ยชัดเจนน้ำปลาเป็น B4

01:12:4501:12:46 >> เขียนว่าโปรดเก็บในตู้เย็นด้วยนะครับ

01:12:4601:12:49 ยี่ห้อนี้ผมไม่บอกยี่ห้อแล้วกัน

01:12:4901:12:52 >> เพราะว่าถ้าน้ำปลาหลายยี่ห้อพอมันมีน้ำ

01:12:5201:12:53 ตาลนะครับน้ำตาลน้ำตาล

01:12:5301:12:56 อุณหภูมิห้องอ่ะน้ำตาลมันทำปยากับโปรตีน

01:12:5601:12:57 >> อือ

01:12:5701:12:58 >> แล้วเ้าเรียกปฏิยาเมลา

01:12:5801:13:02 >> สีจะเข้มขึ้นอืสีมันจะค้ำๆค้ำขึ้นพอเอามา

01:13:0201:13:04 ปรุงอาหารบางทีอาหารดำขึ้น

01:13:0401:13:06 >> ไม่ต้องใส่สีดำเลยอ

01:13:0601:13:07 >> สิวเป็นบ่อยอื

01:13:0701:13:08 >> ครับ

01:13:0801:13:10 >> สารกันบูด

01:13:1001:13:12 มันอันตรายยังไงครับ

01:13:1201:13:16 >> อ่าส่วนใหญ่นะเบนโซเอateซอเbตถ้ากินอ

01:13:1601:13:19 >> เกินที่กฎหมายกำหนดแล้วกินระยะเวลานานไป

01:13:1901:13:22 ตับตับจะโหลดเพราะมันไปกำจัดที่ตับ

01:13:2201:13:23 >> อ๋อก็คือกินเกิน

01:13:2301:13:24 >> กินเกิน

01:13:2401:13:26 >> เพราะมันมีมันมีปริมาณที่เหมาะสมอยู่

01:13:2601:13:29 >> มีๆๆมีกำหนดอาหารส่วนใหญ่นะผมจำไม่ได้น่า

01:13:2901:13:33 จะไม่เกิน 1,000 มลกรัมต่ออาหาร 1 กก.ตาม

01:13:3301:13:36 กฎหมายอาหารส่วนใหญ่ก็คือ 1,000 ppm อ

01:13:3601:13:37 >> อือ

01:13:3701:13:39 >> คืออาหาร 1 กไม่ควรห้ามใส่เกิน 1 กรัมพูด

01:13:4001:13:42 ง่ายๆอาหาร 1 ก.ไม่ควรใส่สังการเสียเกิน 1

01:13:4201:13:42 กรัม

01:13:4201:13:43 >> ครับ

01:13:4301:13:45 >> แต่ส่วนใหญ่ที่ตรวจเกิน

01:13:4501:13:46 >> อื

01:13:4601:13:49 >> เพราะตั้งทดลองถ้าใส่น้อยกว่า 1 กรัมไม่

01:13:4901:13:50 ช่วยช่วยได้นิดเดียว

01:13:5001:13:53 >> อืสั่งให้บุดมันคืออะไรครับ

01:13:5301:13:55 >> สารเคมีสารสังเคราะห์เลยครับสังเคราะห์

01:13:5501:13:59 ขึ้นมาแบบเพื่อทำให้อาหารเพื่อทำให้เชื้อ

01:13:5901:14:02 >> โตยากขึ้นสารการบูดมันจะเข้าไปในเซลล์

01:14:0201:14:03 เชื้อแล้วเชื้อก็จะตาย

01:14:0301:14:04 >> อ๋อ

01:14:0401:14:05 >> แต่ต้องเข้มข้นมากพอ

01:14:0501:14:06 >> โอ

01:14:0601:14:08 >> หลายเคสเวลาเค้าไปสุ่มตรวจเส้นก๋วยเตี๋ยว

01:14:0801:14:10 ตามท้องตลาดเลยเจอเกิน

01:14:1001:14:13 >> อืตามกฎหมายกำหนดไม่ใช่แค่ 2 เท่านะเกิน 4

01:14:1301:14:14 5 6 เท่า

01:14:1501:14:16 >> ก็คือกินเข้าไปก็เกินที่

01:14:1601:14:17 >> ใช่

01:14:1701:14:19 >> กำหนดแล้วแหละ

01:14:1901:14:20 >> แต่นานๆทีได้

01:14:2001:14:23 >> นานากินได้ที่มีปัญหาคือกินทุกวัน

01:14:2301:14:25 >> อ่ะโอเคกลับมาที่เรื่องเดิมก็คือกินให้พอ

01:14:2501:14:26 ดีหมุนเวียนกินหมุนเวียน

01:14:2601:14:30 >> กินหมุนเวียนแล้วก็กินให้พอดี

01:14:3001:14:33 >> ผลิตภัณฑ์อย่างอาหารหรือภาชนะบรรจุต้อง

01:14:3301:14:36 ผ่านหน่วยงานอะไรบ้างถึงจะมั่นใจว่าปลอด

01:14:3601:14:36 ภัยครับ

01:14:3601:14:36 >> อย.

01:14:3701:14:39 >> แต่ถ้าเป็นของน้ำเข้าผ่านศูนย์ด้วยและอย.

01:14:3901:14:40 ด้วยอครับ

01:14:4001:14:42 >> ต้องผ่านออเพราะอยเค้าดูทั้งอาหารที่อยู่

01:14:4201:14:44 ในนั้นแล้วก็ดูว่าบรรจุพันธุ์มันปลอดภัย

01:14:4401:14:46 เหมาะสมหรือเปล่าอ

01:14:4601:14:48 >> อืแต่เกณฑ์ผมไม่รู้นะเพราะมันบางทีเ้า

01:14:4801:14:51 ต้องไปตรวจเค้าเรียกว่าการไมเกรชัของ

01:14:5101:14:54 พลาสติกอ่ะเพราะบางทีพลาสติกใส่เนยถั่ว

01:14:5401:14:56 หรือมีไขมันแบบเนี้ย

01:14:5601:14:58 >> บางทีเก็บไว้นานๆหรือความร้อนพลาสติกบาง

01:14:5801:14:59 ส่วนก็มีสิทธิ์

01:14:5901:15:00 >> ออกมา

01:15:0001:15:02 >> อ๋อแล้วก็เค้าก็เช็ค

01:15:0201:15:05 >> คือผ่านอยมาเนี่ยรับรองว่ามันน่าจะปลอด

01:15:0501:15:06 ภัยได้ประมาณนึงแล้ว

01:15:0601:15:08 >> เกินโหยเกิน 80-90%

01:15:0801:15:09 >> เพราะเก็สิอยู่

01:15:0901:15:09 >> ครับ

01:15:1001:15:12 >> แต่บางบางทีมันก็มีหลุดบ้าง

01:15:1201:15:13 >> เพราะผลิตภัณฑ์มันเยอะมากแล้วอย.มีอยู่

01:15:1301:15:14 ไม่กี่คน

01:15:1401:15:17 >> ก็ต้องคอยซูมตรวจกันทีนี้ผู้ประกอบการก็

01:15:1701:15:18 ต้องอ

01:15:1801:15:20 >> มีความซื้อสัตว์กับผู้บริโภคอ่ะว่าแบบไม่

01:15:2001:15:22 ได้ใส่สารอะไรแปลกปลอมอ่ะอ

01:15:2201:15:23 >> อื

01:15:2301:15:25 >> ครับ

01:15:2501:15:28 >> อันต่อไปครับเอ่อออร์แกนิคอาหารออร์แกนิค

01:15:2801:15:31 ที่ปลอดสารเคมีกินเลยทันทีได้มั้ยครับ

01:15:3101:15:34 >> ไม่ได้ต้องดูนิยามออร์แกนิคออร์แกนิคคือ

01:15:3401:15:36 ไม่ใช้สารเคมีตลอดห่วงโซ่อาหาร

01:15:3601:15:37 >> อือ

01:15:3701:15:39 >> แต่สมมุติเลอะดินอ

01:15:3901:15:41 >> ที่เขาใช้ปลูกมันไม่มีสารเคมีนะแต่อย่า

01:15:4101:15:44 ลืมว่าในดินมีเชื้อมีสปอ

01:15:4401:15:45 >> ออ

01:15:4501:15:46 >> ก็ต้องล้าง

01:15:4601:15:49 >> ครับล้างเพื่อลดจำนวนเชื้อไม่ให้มันโหลด

01:15:4901:15:50 มากเกินไป

01:15:5001:15:50 >> อือ

01:15:5001:15:53 >> หรือระหว่างที่เค้าขนส่งมีฝุ่นมาเกาะล้าง

01:15:5301:15:54 ก็ยังดีกว่า

01:15:5401:15:55 >> อ่า

01:15:5501:15:56 >> นิยามออร์แกนิคมันอยู่แค่นี้เอง

01:15:5601:15:58 >> โอเคไม่ใช่แบบออร์แกนิคปลอดภัยทุกอย่างนะ

01:15:5801:16:00 แบบไปเอามาจากเชลกัดเลยนี่แบบ

01:16:0001:16:03 >> ปลอดภัยจากสารเคมีเชิงเชิงสารเคมีเชิง

01:16:0301:16:04 เคมี

01:16:0401:16:04 >> อครับ

01:16:0401:16:05 >> แต่ไม่ได้ปอดเชื้อ

01:16:0501:16:08 >> เออมีเชื้อจากดินใช่เพราะนึกไม่คนไม่ค่อย

01:16:0801:16:10 นึกถึงเรื่องดินเรื่องอะไร

01:16:1001:16:10 >> ครับ

01:16:1001:16:13 >> เพราะเข้าใจว่าออร์แกนิคปุ๊บฉันสบายมาก

01:16:1301:16:15 >> ออย่าไปจำสลับกับไฮโดรโปนิคนะครับ

01:16:1501:16:17 >> ไฮโดรโปนิคอื

01:16:1701:16:19 >> อันนั้นก็ใช้สารเคมีในการปลูก

01:16:1901:16:19 >> อ่า

01:16:1901:16:23 >> บางคนบอกหลายคนน่ะเชฟหลายคนไปใช้ผัก

01:16:2301:16:24 ไฮโดรโปนิค

01:16:2401:16:27 >> แล้วเคลมว่าเป็นออร์แกนิคผิดกฎหมายนะครับ

01:16:2701:16:28 ไม่ได้

01:16:2801:16:30 >> ใช่แล้วจะเคลมอะไรออร์แกนิคมันต้องมี

01:16:3001:16:31 ใบเซอร์

01:16:3101:16:32 >> จากเกษตรอินทรีย์

01:16:3201:16:34 >> จากจากของทางรัฐ

01:16:3401:16:34 >> อื

01:16:3401:16:36 >> เพราะเต้องมาตรวจตั้งแต่ต้นถึงปลายน้ำ

01:16:3601:16:37 >> อือๆ

01:16:3701:16:38 >> เคลมเองไม่ได้ครับ

01:16:3801:16:41 >> อือโอเคฮะเมื่อกี้ผมพูดเรื่องถุงซิล็อกไป

01:16:4101:16:44 ผิดอันนี้คือถุงซิปล็อจริงๆละถุงซิปล็อ

01:16:4401:16:46 ล้างแล้วใช้ซ้ำได้มั้ครับ

01:16:4601:16:48 >> เอ่อขึ้นอยู่กับอาหารครับถ้าเป็นอาหาร

01:16:4801:16:51 แห้งๆหรืออาหารที่ไม่มีไขมันใช้แล้วใช้

01:16:5101:16:53 แล้วทำแล้วใช้แล้วล้างแล้วซ้ำได้แต่ต้อง

01:16:5301:16:56 เช็ดให้แห้งก่อนเพราะว่าการที่

01:16:5601:16:58 >> จะใช้ซ้ำได้หรือใช้ซ้ำไม่ได้มันขึ้นอยู่

01:16:5801:17:01 กับว่าบรรจุอาหารอะไรแล้วสิ่งที่เขา

01:17:0101:17:04 concern คือพลาสติกส่วนใหญ่มันคือ LDPE

01:17:0401:17:07 นะ Low Density Low Density Poly

01:17:0701:17:08 Eทine

01:17:0801:17:08 >> อือ

01:17:0801:17:11 >> มันจะถ้าเจอความร้อนกับเจอไขมันพลาสติก

01:17:1101:17:12 มันจะแพร่ออกมาอยู่ที่อาหารเป็น

01:17:1201:17:13 ไมโครพลาสติก

01:17:1301:17:15 >> แล้วก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายได้

01:17:1501:17:18 >> ถ้าใส่แกงร้อนๆอย่างเงี้ยแพร่ออกมาแน่นอน

01:17:1801:17:19 แล้วควรใช้ครั้งเดียวทิ้ง

01:17:1901:17:20 >> เนื้อสัตว์

01:17:2001:17:22 >> ก็ครั้งเดียวทิ้ง

01:17:2201:17:24 >> แต่ถั่วแห้งผักสลัดอย่างเงี้ยครับ

01:17:2401:17:26 >> ได้ถึง 3-4 ครั้งไม่มีปัญหา

01:17:2601:17:27 >> ครับ

01:17:2701:17:28 >> แต่ต้องล้างแล้วก็ทำให้แห้ง

01:17:2801:17:29 >> ล้างแล้วทำให้แห้ง

01:17:2901:17:30 >> อื

01:17:3001:17:32 >> ก็ระวังถุงซิปล็อคกันครับหมายถึงว่าต้อง

01:17:3301:17:33 เช็คให้ดี

01:17:3301:17:35 >> อจะใช้ใหม่ทุกครั้งมันก็ไม่ตรงกับความ

01:17:3501:17:37 เป็นจริงตรงที่ว่ามันก็เปลือง

01:17:3701:17:37 >> เปลือง

01:17:3701:17:39 >> ครับอาหารแห้งๆใช้ซ้ำได้

01:17:3901:17:39 >> อื

01:17:3901:17:40 >> ครับ

01:17:4001:17:42 >> เนื้อที่แช่แค่ช่องฟิกเก็บได้นานแค่ไหน

01:17:4201:17:44 ครับแล้วจริงมั้ที่มันเก็บไว้ได้ตลอดไป

01:17:4401:17:44 อันนี้

01:17:4401:17:46 >> ใช่เก็บไว้ได้เก็บไว้ได้เก็บไว้เป็น 10

01:17:4601:17:47 ปีก็ได้ไม่มีปัญหา

01:17:4701:17:48 >> จริงป่ะเนี่ย

01:17:4801:17:51 >> เชื้อไม่โตแต่กินได้หรือเปล่าเพราะมันหืน

01:17:5101:17:55 >> อ๋อคือผมก็แบบเป็นคนเป็นคนแบบ

01:17:5501:17:56 >> เรียกว่าหงุดหงิดกับ

01:17:5601:17:57 >> ครับ

01:17:5701:17:59 >> ของในช่องฟิตตัวเองเหมือนกันคือมันแบบ

01:17:5901:18:01 โอโหตั้งแต่เมื่อไหร่เราก็ไม่รู้เนี่ยไม่

01:18:0101:18:01 กล้ากินหรอก

01:18:0101:18:04 >> เชื้อๆมันปลอดภัยเชิงเชื้อเชื้อโตไม่ได้

01:18:0401:18:05 ครับ

01:18:0501:18:05 >> ออ

01:18:0501:18:08 >> แต่ว่ามันจะรับกับเนื้อสัมผัสได้หรือ

01:18:0801:18:10 เปล่าเพราะยิ่งเก็บไว้นานๆเปิดปิดเปิดปิด

01:18:1001:18:12 อุณหภูมิขึ้นลงใช่มั้ครับ

01:18:1201:18:15 >> อ่าผลึกน้ำแข็งมันจะยิ่งแทงๆตัวมัดกล้าม

01:18:1501:18:15 เนื้อสัตว์

01:18:1501:18:18 >> เอามากินอีกทีมันอาจจะแห้งไม่มีความจูซี่

01:18:1801:18:19 >> หรือตะกี้ที่ผมบอกปฏิกิริยาเดียวที่

01:18:1901:18:22 สามารถเกิดในตู้แช่แข็งได้คือปฏิกิริยา

01:18:2201:18:23 การเหม็นหืน

01:18:2301:18:27 >> ลิปออกซิเดชมันอาจจะเหม็นหืนไขมันหมู 3

01:18:2701:18:29 ชั้นอาจจะหืนไปแล้วไม่หอมหมูแล้วก็ได้

01:18:2901:18:29 >> อ

01:18:2901:18:32 >> ถามว่ากินได้มั้ปลอดภัยเชิงเชื้อ

01:18:3201:18:36 แต่ลักษณะมันไม่พึงประสงค์ที่จะกิน

01:18:3601:18:40 >> โอแล้วแล้วพวกเอ่อแกงที่กินเหลือแล้วผม

01:18:4001:18:42 ยัดใส่ซองฟิตเลยครับ

01:18:4201:18:42 >> ก็ได้ก็ได้

01:18:4201:18:44 >> ก็ยังก็ยังเก็บมากินได้อยู่พนี้มัน

01:18:4401:18:46 >> มันมันปลอดภัยเชิงเชิงเชื้ออยู่แล้วแหละ

01:18:4701:18:49 แต่วิตามินแร่ธาตุสารอาหารที่มีประโยชน์

01:18:4901:18:52 บางตัวที่มันอยู่ได้นานๆไม่ได้มันก็อาจจะ

01:18:5201:18:53 ลด

01:18:5301:18:55 >> วิตามินซีไม่เสถียรก็อาจจะลดๆแต่โปรตีน

01:18:5501:18:56 มันยังอยู่อย่างนั้นน่ะ

01:18:5601:18:57 >> อือ

01:18:5701:18:59 >> โปรตีนมันยังอยู่แต่เนื้ออาจจะยุ่ยเละ

01:18:5901:19:00 แห้งไปแล้วก็ได้โอเค

01:19:0001:19:03 >> ถ้าเป็นแกงกะทิอาจจะเหม็นหืน

01:19:0301:19:04 >> ไม่หอมพริกแกงแล้วก็ได้

01:19:0401:19:05 >> อือ

01:19:0501:19:05 >> ครับ

01:19:0501:19:09 >> คือถ้าเราไม่อยู่ในภาวะสงครามจริงๆเราก็

01:19:0901:19:11 >> ไม่กลัวควร

01:19:1101:19:14 >> maximumันะเดือนเดียวทิ้งเหอะ

01:19:1401:19:17 >> ของผมมันก็แบบไม่รู้มาตั้งแต่เมื่อไหร่

01:19:1701:19:19 >> เว้นอาหารแช่แข็งไงที่ที่เราซื้อเป็น Fen

01:19:1901:19:21 Food ที่เป็น Ready to Eat อ่ะอันนั้น

01:19:2101:19:24 โหเามีเทคโนโลยีในการแพ็คดึงอากาศออก

01:19:2401:19:26 >> ก็อยู่ได้ตามที่เขาระบุไว้

01:19:2601:19:27 >> อ่า

01:19:2701:19:28 >> ประมาณเท่าไหร่ปีนึงใช่มั้ย

01:19:2801:19:29 >> อือๆ

01:19:2901:19:29 >> อยู่ได้ไม่มี

01:19:2901:19:31 >> ปีนึงนี่คือ best before

01:19:3101:19:33 >> best before ใช่ๆเพราะอาหารใช้แข็งเสีย

01:19:3301:19:34 เชิง

01:19:3401:19:35 >> เชื้อไม่ได้เชื้อ

01:19:3501:19:36 >> เออ

01:19:3601:19:38 >> อืก็เป็น Best Before

01:19:3801:19:39 >> อืครับ

01:19:3901:19:41 >> แต่เดี๋ยวนี้มันก็มีเทคโนโลยีเยอะจริงคือ

01:19:4101:19:44 อาหารใช้แข็งที่ไม่ได้แบบเป็นอุตสาหกรรม

01:19:4401:19:46 >> แล้วเขาแบบเหมือนคลุกเสร็จแล้วเนี่ยเขาก็

01:19:4601:19:49 ทำแช่เย็นทันทีบัสิเซอร์ฟิเซอร์ครับ

01:19:4901:19:52 >> แล้วก็แช่ทิ้งไว้เนี่ยมันก็ยังใช้ได้อยู่

01:19:5201:19:53 แล้วคุณภาพมันอาจจะแบบ

01:19:5301:19:54 >> ดีกว่า

01:19:5401:19:56 >> ดีกว่าเพราะมันเร็วยิ่งแช่แข็งเร็วผลึก

01:19:5601:19:59 น้ำแข็งยิ่งมีขนาดเล็กพอมีขนาดเล็กมันก็

01:19:5901:20:02 ทิ่มเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อสัตว์น้อยลง

01:20:0201:20:03 >> อ

01:20:0301:20:05 >> พอเอามาละลายมันก็ยังฉ่ำอยู่

01:20:0501:20:06 >> มากกว่าการแช่

01:20:0701:20:09 >> แข็งตามครัวเรือนผมเลยบอกไงว่าถ้าจะแช่

01:20:0901:20:12 แข็งตามครัวเรือนแล้วคุณภาพใกล้เคียง

01:20:1201:20:12 >> อ

01:20:1201:20:15 >> Blast ทำยังไงก็ได้ให้มัน

01:20:1501:20:17 >> แข็งไวที่สุด

01:20:1701:20:18 >> ให้มันแบนให้มันน้อยสุด

01:20:1801:20:19 >> อือ

01:20:1901:20:21 >> ครับมันก็จะโรเzenไวผลึกน้ำแพงก็จะเล็กอ

01:20:2101:20:22 >> อือ

01:20:2201:20:25 >> แล้วอีกอันนึงสมมุติว่าผมกินกับข้าวแล้ว

01:20:2501:20:28 ผมก็ทิ้งเอาไว้ในช่วงที่กินประมาณชั่วโมง

01:20:2801:20:30 นึง 2 ชั่วโมงเนี่ยเอาสิ่งเนี้ยไปแช่ให้

01:20:3101:20:31 แข็งได้อยู่มั้ครับ

01:20:3101:20:32 >> ได้แช่ได้

01:20:3201:20:33 >> มันก็จะคุมเชื้อเท่านั้นอยู่

01:20:3301:20:35 >> มันก็มามันก็จะนิ่งอยู่แค่นั้น

01:20:3501:20:37 >> ออโอเคอ

01:20:3701:20:40 >> ได้อยู่ครับแต่ช่วยวอร์มจนร้อนอีกทีนึง

01:20:4001:20:42 เพราะเราไม่รู้ว่าไอ้ตอนที่เรารอก่อนแช่

01:20:4201:20:44 แขงเชื้อมันโตไปแล้วมากแค่ไหนอ

01:20:4401:20:47 >> แต่ 2 ชั่วโมงไม่มีปัญหา 3 ก็ยังพอได้แต่

01:20:4701:20:48 เลย 4 ไปแล้วอ่ะ

01:20:4801:20:51 >> เสี่ยงเพราะมันเป็นช่วงที่เชื้อกำลังขึ้น

01:20:5101:20:51 แบบเร็ว

01:20:5101:20:52 >> อื

01:20:5201:20:56 >> โอเคอย่าให้เกิดใกล้แล้วครับ

01:20:5601:20:57 อันนี้ก็น่าสนใจครับเป็นเรื่องเนื้อ

01:20:5801:21:00 เหมือนกันหมักเนื้อนานๆแล้วเนื้อจะนุ่ม

01:21:0001:21:03 ขึ้นจริงมยแล้วก็หมักไว้นานแค่ไหนมันถึง

01:21:0301:21:04 จะเริ่มเน่า

01:21:0401:21:07 >> นานไว้นุ่มจริงเพราะเกลือมันซึมเข้าไปถึง

01:21:0701:21:08 เหนือในสุดแล้วมันก็เปลี่ยนโครงสร้าง

01:21:0801:21:12 โปรตีนนิดนึงแต่คำว่านานคือ 12 ชมงเห็นผล

01:21:1201:21:15 24 ชมงก็ยิ่งนานกว่า 12

01:21:1501:21:16 >> ไม่ใช่แค่เครื่องปรุงอย่างเดียวมันจะมี

01:21:1601:21:19 เอนไซม์ในเนื้อที่มันย่อยเนื้อไปเรื่อยๆ

01:21:1901:21:20 >> แต่นานสุดอ่ะ

01:21:2001:21:20 >> อ

01:21:2001:21:23 >> ตามที่ WHO เค้าเขียนไว้อ่ะเนื้อสดเนื้อ

01:21:2301:21:25 หมักอย่างเงี้ยครับไม่ควรเกิน 3 วันหรือ

01:21:2501:21:26 ไม่ควรเกิน 72

01:21:2601:21:27 >> ออ

01:21:2701:21:31 >> นักเรียนผมในคลาสในคลาสหมูแดงขายของอีก

01:21:3101:21:36 แล้วผมมีคลาสหมูแดงฮ่องกงหมัก 3 ชมงอร่อย

01:21:3601:21:39 สุดแต่เคยเกิน 3 ช่ม 3 ชั่วโมงคือ 24 *

01:21:3901:21:40 3 72 ใช่มั้ยครับ

01:21:4001:21:42 >> 72 อร่อยสุดเลย

01:21:4201:21:43 >> 3 ชั่วโมงคือ 3 วัน

01:21:4301:21:45 >> เอ้ย 3 วันขอโทษ 3 วัน 3 วัน

01:21:4501:21:49 >> 3 วัน 72 ชมอร่อยสุดเคยเกิน 3 แล้วแตะ 4

01:21:4901:21:50 >> อือ

01:21:5001:21:52 >> เชื้อราขึ้น

01:21:5201:21:53 มันตรงกับที่ WHO เขียนเลย

01:21:5401:21:54 >> เออ

01:21:5401:21:57 >> อยู่ได้ตู้เย็นอยู่ในตู้เย็นไม่ควรเกิน 3

01:21:5701:21:58 วัน

01:21:5801:21:58 >> อื

01:21:5801:21:59 >> อ

01:22:0001:22:02 >> พอเกิน 3 เริ่มมีโอกาสเชื้อราขึ้น

01:22:0201:22:03 >> แล้วทำไมเชื้อรามันขึ้นได้ถ้าอยู่ในตู้

01:22:0301:22:06 เย็นถ้าถ้าแช่ช่องฟีมันจะเป็นการหมักอยู่

01:22:0601:22:06 มั้ครับ

01:22:0601:22:07 >> ไม่หมักไม่หมัก

01:22:0701:22:12 >> ช่องช่องช่องฟรีอุณหภูมิติดลบการแพร่ของ

01:22:1201:22:14 เกลือน้ำตาลมันจะเข้าเนื้อสัตว์ได้ช้า

01:22:1401:22:17 หรือแทบไม่ได้เลยเพราะมันแข็งไง

01:22:1701:22:19 >> เครื่องปรุงมันแข็งแต่ตู้เย็นน่ะ

01:22:1901:22:20 >> อือ

01:22:2001:22:21 >> เครื่องปรุงมันยังเป็นของเหลียวอยู่

01:22:2101:22:22 >> อือ

01:22:2201:22:24 >> การฟิสู่เนื้อสัตว์มันยังมีได้

01:22:2401:22:25 >> ออ

01:22:2501:22:27 >> แต่แน่นอนช้ากว่าอุณหภูมิห้องแต่อุณหภูมิ

01:22:2701:22:29 ห้องเราไม่หมักอยู่แล้วเพราะมันจะบูด

01:22:2901:22:29 >> ใช่

01:22:2901:22:30 >> ใช่มั้ยครับอื

01:22:3001:22:32 >> ในตู้เย็นพอวันที่ 4 เริ่มมีเชื้อราแล้ว

01:22:3201:22:34 >> มีเชื้อราแล้วแล้วเชื้อราโตขึ้นได้ไง

01:22:3401:22:39 เชื้อราเชื้อราชอบโตในสภาวะที่กึ่งกึ่ง

01:22:3901:22:41 กึ่งเปียกกึ่งแห้ง

01:22:4101:22:41 >> อือๆ

01:22:4101:22:44 >> ซึ่งน้ำหมักมันเปียกนะแต่อย่าลืมว่าเกลือ

01:22:4401:22:46 กับน้ำตาลมันเยอะ

01:22:4601:22:46 >> อ่า

01:22:4601:22:49 >> อสังเกตเชื้อราจะชอบโตอะไรในที่อะไรที่

01:22:4901:22:53 แบบเค็มจัดหวานจัดแยมอย่างเงี้ยบางทีลาก็

01:22:5301:22:54 ขึ้นตรงผิวหน้า

01:22:5401:22:54 >> อือ

01:22:5401:22:57 >> แต่แบคทีเรียไม่โตแบคทีเรียชอบอะไรที่แบบ

01:22:5701:22:59 เนี่ยไข่สดนมสด

01:22:5901:23:01 >> แต่อะไรที่มีเครื่องปรุงเยอะๆ

01:23:0101:23:06 >> เนี่ยอ่าอะไรอ่ะสเปรย์ช็อกโกแลตแยมที่

01:23:0601:23:07 กึ่งเปียกกึงแห้งอ่ะครับเชื้อราจะขึ้น

01:23:0701:23:09 >> โอ

01:23:0901:23:12 โอเคแปลว่าก็ดูเชื้อราเชื้อรานี่ก็ไม่ควร

01:23:1201:23:13 กินเข้าไปแล้วเนาะ

01:23:1301:23:15 >> อื

01:23:1501:23:17 >> พูดตามตรงบางตัวมันก็ไม่ได้มี

01:23:1701:23:17 >> ผลอะไรฮะ

01:23:1701:23:19 >> ผลอะไรแต่เราเราไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ที่

01:23:2001:23:22 จะไปสามารถเห็นโคโลนีแล้วบอกได้ว่ามัน

01:23:2201:23:23 เป็นสายพันธุ์ที่ไม่เป็นไร

01:23:2301:23:26 >> คือจริงๆมันก็ไม่ก็เซ้นคนปกติเห็นเชื้อรา

01:23:2601:23:26 ก็ทิ้งแล้วอ่ะ

01:23:2601:23:28 >> ใช่ๆทิ้งเหอะครับ

01:23:2801:23:28 >> ครับ

01:23:2901:23:29 >> โอ้

01:23:2901:23:33 >> ยกเว้นเชื้อราในบลูชีสเนาะที่กินได้เพราะ

01:23:3301:23:34 นั้นชัวร์ว่ากินได้

01:23:3401:23:37 >> ผมกลัวอีกอันนึงบููชีสขึ้นล้าอื่นจะรู้

01:23:3701:23:38 มั้ย

01:23:3801:23:40 >> ก็ถ้ามันขึ้นปุยขาวๆหรือสีอื่นที่ไม่ใช่

01:23:4001:23:42 สีเขียวที่ไม่ได้มาจากไอ้ิซิเลiมรุฟอร์ด

01:23:4201:23:43 ก็ทิ้ง

01:23:4301:23:44 >> อือ

01:23:4401:23:45 >> ทิ้งครับ

01:23:4501:23:50 >> เออ Food GRดมันคืออะไรครับ

01:23:5001:23:53 >> Food GRดคือคุณภาพอาหารที่บริสุทธิ์

01:23:5301:23:55 เพียงพอที่คนสามารถกินได้มันจะมีหลายเกรด

01:23:5601:24:00 มาก Cosmetic GRด Food GRด Analytical

01:24:0001:24:01 GRดมันจะยิ่งเพียว Analytical GR คือ

01:24:0101:24:04 ยิ่งเพียวเลยเช่นเกลือที่เป็น

01:24:0401:24:05 >> Analytical

01:24:0501:24:08 ถ้าเป็น analical

01:24:0801:24:10 ยิ่งเพียวกับ Food Gดยิ่งยิ่งกินได้แต่

01:24:1001:24:12 มันไม่มีความจำเป็นเพราะมันเพียวเกินไป

01:24:1201:24:15 >> เอาไว้วิเคราะห์ในพวกเครื่องมืออะไรพวก

01:24:1501:24:17 เนี้ยครับเพราะถ้ามันไม่เพียวแล้วเอา Food

01:24:1701:24:19 Gสไปยิงเข้าเครื่องมือมันจะรบกวน

01:24:1901:24:19 >> อือ

01:24:1901:24:21 >> ความ Imperiority ความไม่บริสุทธิ์จะรบ

01:24:2101:24:21 กวน

01:24:2101:24:22 >> อือ

01:24:2201:24:23 >> เพราะงั้นอะไรที่เขียนว่า Food GRดคือ

01:24:2301:24:25 เกรดที่

01:24:2501:24:29 สารเจือปนไม่ได้เยอะเกินไปที่จะส่งผล

01:24:2901:24:31 อันตรายต่อมนุษย์ได้

01:24:3101:24:31 >> อืออ

01:24:3101:24:34 >> อย่างเช่นแบบได้ยินบ่อยๆเรื่องพวกภาชนะ

01:24:3401:24:36 ต่างๆที่เป็น Food GR เนี่ยมันคือ

01:24:3601:24:36 >> อ

01:24:3601:24:38 >> อาจจะมีการเจอปนแต่ไม่มีป

01:24:3801:24:41 >> มีแต่เค้าทดลองแล้วว่าถ้าใช้ในลักษณะที่

01:24:4101:24:43 สมมุติเป็นพลาสติก

01:24:4301:24:44 >> Food GRด

01:24:4401:24:47 >> เค้าทดลองแล้วว่าเอาอาหารไปวางแล้วเอาไป

01:24:4701:24:48 ไมโครเวฟอ

01:24:4801:24:51 >> แล้วอแล้วเกิดการแพร่ของชีนพลาสติกน้อย

01:24:5101:24:53 กว่า

01:24:5301:24:54 ที่กฎหมายกำหนด

01:24:5401:24:54 >> อือ

01:24:5401:24:56 >> ก็ถือว่าเป็น Food GR ได้แต่สมมุติว่าไป

01:24:5601:24:59 ทดสอบแล้วโอ้โหไมโครพลาสติกเต็มอาหารเลย

01:24:5901:25:00 >> เออ

01:25:0001:25:01 >> ก็

01:25:0101:25:01 >> ก็ไม่ใช่ Food GR

01:25:0101:25:04 >> ใช่ก็ไปใส่อย่างอื่นเถอะ

01:25:0401:25:06 มันจะมีประเด็นเรื่องถุงแกงใส่แกงร้อนนี่

01:25:0601:25:09 แหละที่แบบไม่รู้ food เกรดแค่ไหน

01:25:0901:25:12 >> แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นถุงร้อนส่วนใหญ่อ่ะมัน

01:25:1201:25:13 เป็นเกรดอยู่ละ

01:25:1301:25:15 >> แล้วมันความร้อนได้แค่ไหนครับ

01:25:1501:25:15 >> มันแล้วแต่ชนิด

01:25:1601:25:16 >> เออ

01:25:1601:25:19 >> ถ้าเป็น PP ก็โหเกินไปตั้ง 130

01:25:1901:25:21 >> อ๋อโอเคเพราะว่าแกง

01:25:2101:25:23 >> ใช่ถ้าถุงเย็นก็ได้ไม่เยอะ

01:25:2301:25:23 >> อื

01:25:2301:25:24 >> ครับ

01:25:2401:25:28 >> สุดท้ายครับผมหยิบให้เลย

01:25:2801:25:31 >> เรื่องอะไรเนี่ยคำถามสุดท้าย

01:25:3101:25:31 >> เออ

01:25:3101:25:32 >> ยากแน่

01:25:3201:25:36 ซอสปลาไหลที่เก็บซ้ำๆกันมาแบบ 40 ปี 60

01:25:3601:25:39 ปี 100 ปีเนี่ยมันกินได้จริงมั้ยอ่ะ

01:25:3901:25:41 >> มันปลอดภัยเชิงเชื้อ

01:25:4101:25:41 >> อือ

01:25:4101:25:44 >> คือซอสปลาไหลส่วนใหญ่มันมาจากสิวขาวน้ำ

01:25:4401:25:46 ตาลมันเยอะมากครับ

01:25:4601:25:50 >> แล้วเวลาเขาเอามาบางร้านเค้าก็มาให้ความ

01:25:5001:25:52 ร้อนอีกหน่อยให้ความร้อนทุกวันน่ะ

01:25:5201:25:52 >> อือๆ

01:25:5201:25:55 >> จนเชื้อสมมุติเชื้อจะแต่พูดตรงๆเชื้อโต

01:25:5501:25:58 ยากมากแหละเพราะว่าเค็มจัดหวานจัดใช่มั้ย

01:25:5801:26:01 แต่ถึงเชื้อกำลังจะโตพอมาผ่านความร้อนอีก

01:26:0101:26:03 ทีนึงเชื้อมันก็กลับไปลดลงที่เดิม

01:26:0301:26:03 >> อือ

01:26:0301:26:07 >> ก็ค่อนข้างปลอดภัยเชิงเชื้อแต่ต้องมั่นใจ

01:26:0701:26:09 ว่า

01:26:0901:26:10 เพราะทุกครั้งในการชุบปลาไหลอ่ะ

01:26:1001:26:11 >> ครับ

01:26:1101:26:14 >> มันแล้วแต่ร้านบางร้านเอาปลาไหลจุ่มลงไป

01:26:1401:26:17 เพราะฉะนั้นน้ำจากปลาไหลก็แพร่ไปโดน

01:26:1701:26:20 >> แพร่ออกมาเจือจางทำให้ซอสปลาไหลมันไม่

01:26:2101:26:21 เข้มข้นเท่าเดิม

01:26:2101:26:22 >> อ

01:26:2201:26:23 >> พอไม่เข้มข้นเท่าเดิม

01:26:2301:26:25 >> มีโอกาสละมาละเชื้อราแบคทีเรีย

01:26:2501:26:26 >> อ

01:26:2601:26:31 >> แต่ถ้าเขาจุ่มซอสแล้วทาข้างบนโดยที่ไม่

01:26:3101:26:34 ได้เราปลาไหลจุ่มก็มีโอกาสที่มันจะไม่โดน

01:26:3401:26:34 ไดรูท

01:26:3401:26:35 >> อื

01:26:3501:26:36 >> มันมันไหลปัจจัยมาก

01:26:3701:26:39 >> แล้วมันต้องเก็บในตัวเย็นด้วยมั้มัน

01:26:3901:26:40 >> ไม่ไม่จำเป็น

01:26:4001:26:42 >> ถ้ามันเค็มจัดหวานจัดเหมือนน้ำปลาเหมือน

01:26:4201:26:44 ซีอิ๊วก็วางเอาไว้ข้างนอกได้

01:26:4401:26:47 >> แล้วการใช้ซอสปลาไหลแบบ 30-40 ปีส่วนใหญ่

01:26:4701:26:48 มันคือคนญี่ปุ่นโบราณน่ะสมัยก่อนมันยัง

01:26:4801:26:49 ไม่มีตู้เย็น

01:26:4901:26:50 >> ออ

01:26:5001:26:51 >> นะครับแล้วบ้านเค้าก็ไม่ได้เย็นทั้งปี

01:26:5101:26:54 ด้วยบางทีเข้าหน้าร้อนเดือนไหนนะสิงหาคม

01:26:5401:26:55 ใช่มั้ย

01:26:5501:26:56 >> กรกฎาคมมันก็กลับมาร้อนเหมือนเดิม

01:26:5601:27:00 >> อืเพราะอุณหภูมิอุณหภูมิห้องเนี่ยมันมี

01:27:0001:27:03 อุณหภูมช่วงที่มันแบบปลอดภัยกับไม่ปลอด

01:27:0301:27:03 ภัย

01:27:0301:27:04 >> อ่าเค้าเรียก dan zone

01:27:0401:27:05 >> dan zone คืออะไรครับ

01:27:0501:27:07 >> Dananger Zone คือช่วงที่อันตรายคือ

01:27:0701:27:08 ช่วงที่เชื้อโตได้

01:27:0801:27:09 >> ออ

01:27:0901:27:12 >> เชื้อตัวได้คือ 5-60 องศอันเนี้คือช่วง

01:27:1201:27:14 ที่ควรหลีกเลี่ยงอาหารไม่ให้อยู่ตรงช่วงเ

01:27:1401:27:16 นานเกินไป

01:27:1601:27:17 >> อื

01:27:1701:27:19 >> เพราะฉะนั้นถ้าให้ความร้อนเกิน 60 เชื้อ

01:27:1901:27:20 โตไม่ได้แล้วโดนฆ่าด้วย

01:27:2001:27:22 >> ต่ำกว่า 5 เชื้อไม่โดนฆ่าแต่เชื้อโตไม่

01:27:2201:27:22 ได้

01:27:2201:27:23 >> อือ

01:27:2301:27:27 >> 5-60 เนี่ย 15 20 25 30 35 40 55

01:27:2701:27:30 เนี่ยเชื้อโตได้หมดแต่ช่วงที่เชื้อโตได้

01:27:3001:27:33 ดีที่สุดแจคือ 5-60 ใช่มั้ยครับ

01:27:3301:27:35 >> แต่ช่วงที่ควรเลี่ยงแบบมากๆอ่ะคือช่วงที่

01:27:3501:27:35

01:27:3601:27:38 >> เชื้อรักแฮปปี้มากคือช่วงประมาณ 30-35

01:27:3901:27:39 ช่วงนี้

01:27:3901:27:40 >> ก็คืออุณหภูมิห้องกับร่างกายเราเน

01:27:4101:27:42 >> นั่นแหละนั่นแหละนั่นแหละนั่นแหละครับ

01:27:4201:27:44 >> อก็คืออันตรายตรงนี้แหละอื

01:27:4401:27:49 >> อับๆเนี่ยข้าวผัดปูหรือว่าเส้นใหญ่มาอับๆ

01:27:4901:27:52 วิ่งอยู่ 35 40 โหเ้าเรียกว่า Danger

01:27:5201:27:53 อันนี้ผมเรียกเองนะ

01:27:5301:27:56 >> Super Danger Zone เลยคือเชื้อโตไวมาก

01:27:5601:27:59 >> 5-60 คือเชื้อโตได้แต่ไม่ได้แฮปปี้ทั้ง

01:27:5901:28:00 ช่วงครับ

01:28:0101:28:04 >> เชื้อบางตัวเชื้อส่วนใหญ่ที่ก่อโรคด้วยนะ

01:28:0401:28:06 แฮปปี้ช่วง 30-35 อ

01:28:0601:28:06 >> อื

01:28:0601:28:07 >> นั่นแหละครับ

01:28:0701:28:07 >> อื

01:28:0701:28:10 >> โอเคเพราะฉะนั้นพยายามจะเก็บทุกอย่างไว้

01:28:1001:28:12 ในอุณหภูมิห้อง

01:28:1201:28:12 >> อ่า

01:28:1201:28:13 >> อุณหภูมิห้องไทย

01:28:1301:28:15 >> อุณหภูมิห้องไทยเออ

01:28:1501:28:16 >> เพราะว่าอุณหภูมิห้องแต่ละประเทศไม่

01:28:1601:28:17 เหมือนกันอีก

01:28:1701:28:17 >> ใช่

01:28:1701:28:20 >> เลี่ยงได้เลี่ยงคือ 30-35

01:28:2001:28:21 >> หลบมา 10 ก็ยังดี

01:28:2101:28:21 >> อ

01:28:2201:28:23 >> ใช่มั้ครับแต่ยังไม่ปลอดภัย 100% ถ้าอยาก

01:28:2301:28:25 ปลอดภัยต้องต่ำกว่า 5

01:28:2501:28:25 >> อื

01:28:2501:28:27 >> เช่น 4 ลงมา 4 3 2 1

01:28:2701:28:28 >> อ

01:28:2801:28:30 >> แช่เย็นหรือทำให้รอร้อน

01:28:3001:28:31 >> ทำให้ร้อน

01:28:3101:28:31 >> มากๆ

01:28:3101:28:32 >> เกินไปเลย

01:28:3201:28:33 >> เออปลอดภัยสุด

01:28:3301:28:33 >> ปลอดภัยสุด

01:28:3301:28:36 >> โอเควันนี้เราคุยกันมาเป็นชั่วโมงเลยครับ

01:28:3601:28:38 เชฟได้ความรู้มากเหมือนผมกลับไปเรียนเคมี

01:28:3801:28:42 ชีวะใหม่หมดเลยเนาะแล้วก็แบบวันนี้เชฟแบบ

01:28:4201:28:44 เนี่ย 40 50 คำถามเนี่ย

01:28:4401:28:44 >> อ

01:28:4401:28:48 >> ไม่ผมว่ามันไม่จบแค่นี้มันจะมีต่อเออแล้ว

01:28:4801:28:48 ก็เยอะ

01:28:4801:28:51 >> วันนี้แบบเชฟน่าจะแบบสมองบวมอ่ะผมอ่ะผม

01:28:5101:28:54 อ่ะสมองบวมแน่นอนเพราะแบบรับเยอะมากอะไร

01:28:5401:28:55 อย่างเงี้ยแต่ว่าคนที่เก่งกับพวกเราเนี่ย

01:28:5601:28:58 ผมนับถือก็คือคนดูที่ดูมาจนถึงนาทีนี้

01:28:5801:28:58 เนาะ

01:28:5801:29:01 >> ถ้าดูจบถ้าดูจบคือแบบคุณดูจบได้ยังไงเจ๋ง

01:29:0101:29:04 มากแต่ว่าผมคิดว่าทุกคนน่าจะมีคำถามอ่ะ

01:29:0401:29:08 สามารถถามเข้ามาได้ในเอ่อช่องคอมเมนต์ของ

01:29:0801:29:11 รายการนี้หรือจะเข้าไปถามที่เชฟโดยตรงที่

01:29:1101:29:13 เพจทักtheชฟ

01:29:1301:29:14 >> ใช่นะครับถามได้ครับ

01:29:1401:29:17 >> ก็คิดว่าถ้ามีคำถามที่น่าสนใจอีกเราอาจจะ

01:29:1701:29:20 มีซีซีซันี้อีกสัก EP นึงก็ได้อีกัก EP

01:29:2001:29:22 >> ใช่ฮะก็จะคราวหน้า

01:29:2201:29:24 >> อาจจะเป็นคำถามจากคอมเมนต์ F นี้

01:29:2401:29:29 >> ใช่ๆหรือมีอะไรที่คิดว่าอยากถกเถียงหรือ

01:29:2901:29:30 ไม่ถูกต้อง

01:29:3001:29:31 >> อ๋อก็คอมเมนต์มาบอก

01:29:3101:29:32 >> ก็คอมเมนต์มาบอกก็ได้ครับ

01:29:3201:29:33 >> ใช่เพราะวันนี้มันเป็นคำถามสดแล้วผมก็

01:29:3401:29:36 ต้องดึงความรู้ออกจากสมองสดๆบางทีมันอาจ

01:29:3601:29:38 จะมีบางคำที่

01:29:3801:29:40 >> เค้าเรียกว่ามิสลหรือผิดพลาดไปก็ช่วย

01:29:4001:29:42 คอมเมนต์มาบอกได้เพราะผมก็ไม่ได้เชี่ยว

01:29:4201:29:43 ชาญทุกๆแขนง

01:29:4301:29:45 >> ใช่แล้ววันนี้ผมก็หาเรื่องให้เชฟเองอ่ะ

01:29:4501:29:47 คือเหมือนแบบจับปุ๊บตอบเลย

01:29:4701:29:48 >> ไม่ได้เตรียมเลย

01:29:4801:29:51 >> เออไม่ได้เตรียมก็ขออภัยไว้ล่วงหน้านะ

01:29:5101:29:54 ครับถ้ามันมีอะไรผิดก็คอมเมนต์กันมาดีๆ

01:29:5401:29:57 ครับก็ตอบถกเถียงกันได้ครับวันนี้ขอบคุณ

01:29:5701:29:59 เชฟมากครับที่อุตส่าห์เสียเวลามันให้ความ

01:30:0001:30:01 รู้เยอะมากครับขอบคุณมาก

01:30:0101:30:03 >> ขอบคุณพี่มีครับขอบคุณ

01:30:0301:30:13 [เพลง]