00:00:00 → 00:00:03 เรื่องของน้ำมันที่เราใช้ในการปลูกอาหาร
00:00:04 → 00:00:05 oil extra virgin อะไรอย่างเงี้ยคนทำ
00:00:05 → 00:00:08 วิจัยเยอะมากทุกๆตำราก็จะแนะนำแต่
00:00:08 → 00:00:10 อันเนี้ยมันไม่ใช่เขาเจอ
00:00:11 → 00:00:13 >> ของเราไงถ้าเอาตัวที่ใกล้เคียงกับโอลีฟ
00:00:13 → 00:00:15 oอยคือน้ำมันมะกอกเนี่ยเราจะรู้ว่าข้อดี
00:00:15 → 00:00:18 เขาคือ 1 สกัดเย็น 2 มีกรดไขมันไม่อิ่ม
00:00:18 → 00:00:20 ตัวเชิงเดี่ยวโอเมก้า 9 เพราะฉะนั้นถ้า
00:00:20 → 00:00:22 เราจะเอาดูให้มันใกล้กันและเป็นน้ำมันไทย
00:00:22 → 00:00:24 อ่ะคนอาจจะไม่ค่อยรู้จักแต่ว่ามันจะมีน้ำ
00:00:24 → 00:00:26 มัน
00:00:26 → 00:00:29 เ้าเอาคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอด
00:00:29 → 00:00:32 เลือดหัวใจอ่ะ 7,500 คนค่ะในประเทศสเปน
00:00:32 → 00:00:33 แล้วแบ่งคนไข้เป็น 3 กลุ่มกลุ่มแรกคือ
00:00:33 → 00:00:35 กินดิเนียนdiอetแล้วก็ให้กินร่วมกับน้ำ
00:00:36 → 00:00:38 มันมะกอกกลุ่ม 2 เป็นเมดanนไดเอตแล้วบวก
00:00:38 → 00:00:40 กับถั่วเปลือกแข็งกลุ่ม 3 คือให้กินอาหาร
00:00:40 → 00:00:42 ไขมันต่ำให้ทายว่ากลุ่มไหนชนะ
00:00:42 → 00:00:45 >> ขอดาว่าไขมันต่ำตายก่อน
00:00:45 → 00:00:48 >> คนที่เคยเป็นหรือว่าเป็น plant เบสเป็น
00:00:48 → 00:00:50 อะไรอย่างเงี้ยมาก่อนสุขภาพก็ไม่ได้เห็น
00:00:50 → 00:00:51 จะดีอ
00:00:51 → 00:00:53 >> กว่าคนทั่วไปตรงไหนหรือบางคนเรียกว่ามัน
00:00:53 → 00:00:56 ทรุดอ่ะมันถอยด้วยซ้ำอ่ะค่ะ
00:00:56 → 00:00:59 >> ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงที่ว่าบอกว่ากิน
00:00:59 → 00:01:01 หรือกินมังสวีรัตน์อ่ะมันไม่ได้จะ Healthy
00:01:01 → 00:01:04 เสมอไปถ้าพูดถึงงานวิจัยทางการแพทย์แล้ว
00:01:04 → 00:01:07 ทุกๆแพทย์เฉพาะทางให้การยอมรับว่ามันกิน
00:01:07 → 00:01:10 และอายุยืนลดการเกิดโรคหัวใจโรคอัมพฤกษ์
00:01:10 → 00:01:14 อัมพาตเนี่ยทุกคนก็จะนึกถึงเรื่องของ
00:01:14 → 00:01:14 แ
00:01:14 → 00:01:18 >> เบสใครๆก็บอกว่าดีต่อสุขภาพแต่คำถามคือ
00:01:18 → 00:01:21 คุณกินถูกหรือยังหรือแค่ทำตามกระแสไปฟัง
00:01:22 → 00:01:24 คำตอบจากกรมศาสตราจารย์แพทย์หญิงประพิมพร
00:01:24 → 00:01:28 อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านโภชนาการกินแพนเบส
00:01:28 → 00:01:35 แบบไหนสุขภาพปังเวพังกันแน่
00:01:35 → 00:01:38 >> วันนี้มีคำถามมากมายไม่รู้จะเริ่มจากอะไร
00:01:38 → 00:01:41 ก่อนดีคุณชมอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรคะ
00:01:41 → 00:01:52 เรื่องสุขภาพกายใจความงามแล้วก็
00:01:52 → 00:01:53 hours later
00:01:53 → 00:01:56 >> ถ้าอยากรู้เยอะขนาดนี้ไปงานนี้ดีกว่าคะ
00:01:57 → 00:01:59 ครั้งแรกงานมหกรรมชีวิตและสุขภาพที่ครบ
00:01:59 → 00:02:02 ทุกมิติร่วมทุกศาสตร์การดูแลตัวเองทั้ง
00:02:02 → 00:02:05 กายใจและความงามให้คุณได้ค้นหาเวอร์ชั่น
00:02:05 → 00:02:07 ใหม่ของชีวิต Wellness Talk Health
00:02:07 → 00:02:09 Tech Mindful Living Immersive
00:02:10 → 00:02:12 Experience Life Expo Come explore
00:02:13 → 00:02:16 the better you 15-16 พฤศจิกายนดูราย
00:02:16 → 00:02:17 ละเอียดในคอมเมนต์
00:02:17 → 00:02:20 >> 15-16 พฤศจิกายนนี้ Live Expo 2021
00:02:20 → 00:02:23 >> ครับ Life Expo ไม่ใช่ Expo
00:02:23 → 00:02:25 >> 15-16 พฤศจิกายนนี้
00:02:25 → 00:02:26 >> ครับ
00:02:26 → 00:02:30 >> 15-16 พฤศจิกายนนี้ Live Expo 2025
00:02:30 → 00:02:34 ที่ UOB Life Mpar
00:02:34 → 00:02:37 [ปรบมือ]
00:02:38 → 00:02:41 >> วันนี้เราจะมาพูดถึงเรียกว่าเป็นกระแส
00:02:41 → 00:02:43 หลักกระแสนึงนะในวงการของคนที่รักสุขภาพ
00:02:43 → 00:02:46 ทุกๆคนนะคะก็คือคำว่า Plant Base เนาะ
00:02:46 → 00:02:49 เอะอะไรตอนนี้ก็ Plant Base แล้วก็
00:02:49 → 00:02:51 สินค้าเพื่อสุขภาพหลายๆอย่างก็จะมีการ
00:02:51 → 00:02:54 เคลมว่าเออเป็น Plant Bสนะเป็นWeนนะเป็น
00:02:54 → 00:02:56 อย่างงั้นอย่างงี้อะไรเงี้ยเอาจริงๆเลย
00:02:56 → 00:02:59 เนี่ยคือเราอ่ะมีความเข้าใจเกี่ยวกับ
00:02:59 → 00:03:02 เรื่อง Plant Base เนี่ยถูกต้องมากน้อย
00:03:02 → 00:03:06 แค่ไหนคะคุณหมอแล้ว Plant Base กับWeก
00:03:06 → 00:03:08 เหมือนกันมหรือต่างกันอย่างไรคะคุณหมอ
00:03:08 → 00:03:10 >> จริงๆคำว่า Plant Base มันเป็นคำรวมๆ
00:03:10 → 00:03:13 อย่าง Plant คือพืชใช่มั้คะ Plant Bสก็
00:03:13 → 00:03:15 คือคนที่กินพืชผักเป็นหลัก
00:03:15 → 00:03:15 >> อื
00:03:15 → 00:03:19 >> ทีนี้ในสังคมไทยเราก็จะมีแบบหลายความนิยม
00:03:19 → 00:03:25 เช่นกินเจมังซวิรัสกินหรือกิน Flexitarian
00:03:25 → 00:03:29 เจก็คือโักที่จากสัตว์เนี่ยไม่เอาเลย
00:03:29 → 00:03:31 >> ถูกมั้ยเหมือนเวลาเราเทศกาลกินเจใช่มั้
00:03:31 → 00:03:34 น้ำปลายังไม่กินนมไข่ไม่เอา
00:03:34 → 00:03:35 >> ไม่เอาผักกินฉุนด้วย
00:03:35 → 00:03:39 >> อ่าโอเคแต่กินหอยนางลมนะ
00:03:39 → 00:03:42 >> แต่กินเจเออแต่กินหอยนางลมโอเค
00:03:42 → 00:03:43 >> แล้วมังซวีรัตน์
00:03:43 → 00:03:45 >> ถ้ามังซวีรัตน์เนี่ยไม่กินเนื้อสัตว์แต่
00:03:45 → 00:03:47 ยังกินผลิตภัณฑ์ของนมของไข่อยู่
00:03:48 → 00:03:49 >> กินชีส
00:03:49 → 00:03:52 >> ใช่เยังมีแบ่งอีกเป็นแลคโตเวจรเียน
00:03:52 → 00:03:54 ไม่กินเนื้อสัตว์แต่กินนม
00:03:54 → 00:03:58 >> โอเคโอโวจetรคือไม่กินเนื้อสัตว์แต่กิน
00:03:58 → 00:03:58 ไข่
00:03:58 → 00:04:01 >> โอโวก็ไข่นะโอวก็คือไข่อ่า
00:04:01 → 00:04:04 >> ใช่แลโอโวเจetอันเนี้ยเหมือนมังซวีรัสใน
00:04:04 → 00:04:06 บ้านเราก็คือไม่กินเนื้อสัตว์ไม่กินหมู
00:04:06 → 00:04:09 ไม่กินไก่ไม่กินปลาไม่กินอาหารทะเล
00:04:09 → 00:04:10 >> แต่กินไข่กินนม
00:04:10 → 00:04:14 >> ใช่กินชีสกินโยเกิร์ตได้ส่วนวีแกนเนี่ยจะ
00:04:14 → 00:04:15 คล้ายกับเจ
00:04:15 → 00:04:16 >> อื
00:04:16 → 00:04:19 >> แต่ว่าเจ้อกำหนดเรื่องวัฒนธรรมว่าต้องไม่
00:04:19 → 00:04:20 กินผักกลิ่นฉุน
00:04:20 → 00:04:22 >> ไม่กินเผ็ดอะไรอย่างี้ใช่ใช่มั้คะอ่า
00:04:22 → 00:04:25 >> ใช่แต่ว่าweกนคือคล้ายๆเป็นวิถีชีวิตว่า
00:04:25 → 00:04:28 นอกจากไม่กินสัตว์ก็ต้องไม่กินผลิตภัณฑ์
00:04:28 → 00:04:30 จากสัตว์น้ำผึ้ง
00:04:30 → 00:04:33 >> นมผลิตภัณฑ์ของนมแล้วก็อาจจะไปถึง
00:04:33 → 00:04:35 ไลฟ์สไตล์เช่นไม่ใช้
00:04:35 → 00:04:37 >> เครื่องหนังก็คือพูดง่ายๆก็คือเหมือนweกน
00:04:37 → 00:04:39 เป็นวิถีที่เขาเชื่อว่าเขาจะไม่
00:04:39 → 00:04:40 เบียดเบียน
00:04:40 → 00:04:43 >> ไม่เบียดเบียนสัตว์ไม่ว่าจะในรูปแบบใด
00:04:43 → 00:04:44 >> มีอีกมั้คะที่เป็นแบ
00:04:44 → 00:04:47 >> ส่วนตอนนี้ที่ฮิตกันในเชิงโซเชียลmedดีia
00:04:47 → 00:04:50 หรือที่เราคุยกันก็คือคำว่า flexitarian
00:04:50 → 00:04:51 >> ค่ะ
00:04:51 → 00:04:54 >> คำเนี้ยมีมาในช่วงหลายปีหลังเนี่ยค่ะมัน
00:04:54 → 00:04:56 มาจากคำว่า flexible คือยืด
00:04:56 → 00:04:58 แล้วก็
00:04:58 → 00:05:01 คือมังสวิรัสโดยรวมก็แปลว่ามังสวีรัสแบบ
00:05:01 → 00:05:04 ยืดหยุ่นซึ่งอันเนี้ยส่วนตัวมองว่าใกล้
00:05:04 → 00:05:07 เคียงคำว่า plant เบสในโลกที่เราคุยกันใน
00:05:07 → 00:05:07 ปัจจุบัน
00:05:07 → 00:05:08 >> ค่ะ
00:05:08 → 00:05:10 >> เพราะว่ามันหมายถึงว่าคนๆนั้นน่ะกินพืช
00:05:10 → 00:05:13 ผักเป็นหลักชอบกินผักผลไม้นะ
00:05:13 → 00:05:13 >> อือ
00:05:13 → 00:05:15 >> แต่เขายังกินเนื้อสัตว์ได้อยู่
00:05:15 → 00:05:16 >> ค่ะ
00:05:16 → 00:05:17 >> เราได้ทุกชนิดด้วย
00:05:17 → 00:05:19 >> นะคะเพียงแต่ว่าเอาจจะกินเนื้อสัตว์มี
00:05:19 → 00:05:22 ตั้งแต่กินนานๆทีจนถึงกินทุกวันแต่กิน
00:05:22 → 00:05:23 น้อยลง
00:05:23 → 00:05:23 >> อื
00:05:23 → 00:05:25 >> ดังนั้นมันก็จะเป็นอะไรที่ค่อนข้าง
00:05:25 → 00:05:28 จะทำง่ายแล้วก็ดูอาจจะปรับได้ไม่ยาก
00:05:28 → 00:05:31 สำหรับคนที่อาจจะเริ่มสนใจ plant เบสแล้ว
00:05:31 → 00:05:35 ก็อยากจะปรับมากินพืชผักมากขึ้นไปปาร์ตี้
00:05:35 → 00:05:39 กับเพื่อนไปกับครอบครัวก็ยังกินซีฟู้ดกิน
00:05:39 → 00:05:40 ปิ้งย่างกินสเตกได้
00:05:40 → 00:05:44 >> แต่ชีวิตปกติก็อาจจะเอมที่จะกินพืชผักให้
00:05:44 → 00:05:45 มากขึ้น
00:05:45 → 00:05:48 >> อกอิติึมชมนะเวลาสผล่ขึ้นมานะมันก็จะมี
00:05:48 → 00:05:50 ดีเบตมีอะไรอย่างเงี้ยมากมายแล้วก็รวมถึง
00:05:50 → 00:05:56 คนที่เคยเป็นexวweกนหรือว่าเป็นเนี่ยเป็น
00:05:56 → 00:05:57 plant เบสเป็นอะไรอย่างเงี้ยมาก่อน
00:05:57 → 00:06:00 สุขภาพก็ไม่ได้เห็นจะดีอ
00:06:00 → 00:06:02 >> กว่าคนทั่วไปตรงไหนหรือแม้แต่บางคนเรียก
00:06:02 → 00:06:04 ว่ามันทรุดอ่ะมันถอยด้วยซ้ำอ่ะฮะคุณหมอ
00:06:04 → 00:06:06 เราสามารถอธิบายตรงนี้ได้ยังไงบ้าง
00:06:06 → 00:06:08 >> ซึ่งมันเป็นเรื่องจริงที่ว่าบอกว่ากิน
00:06:08 → 00:06:11 วีแกนหรือกินมังซวีรัสอ่ะมันไม่ได้จะ
00:06:11 → 00:06:12 Hetaly เสมอไป
00:06:12 → 00:06:13 >> อื
00:06:13 → 00:06:15 >> นะคะเพราะว่าบางทีคนจะรู้สึกว่าการตัด
00:06:15 → 00:06:17 เนื้อสัตว์ออกจากชีวิตแค่เนี้ก็ทำให้
00:06:17 → 00:06:19 สุขภาพเราดีละ
00:06:19 → 00:06:21 >> ซึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปเพราะ
00:06:21 → 00:06:24 ฉะนั้นในทางการแพทย์เนี่ยถ้าเราไปดูข้อ
00:06:24 → 00:06:27 เนาะเขาจะเปรียบเทียบคนที่กิน Plant Base
00:06:27 → 00:06:29 ออกเป็นกลุ่มที่เป็น Healthy Plant Base
00:06:29 → 00:06:30 >> ค่ะออ
00:06:30 → 00:06:33 >> กับ Unhealthy Plant Base ใช่มั้คะ
00:06:33 → 00:06:34 อย่าง Healthy Plant Base คุณชมนพรนึก
00:06:35 → 00:06:38 ออกว่าเขาก็จะเป็นสาย Whole Food Real
00:06:38 → 00:06:39 Food
00:06:39 → 00:06:43 >> ธัญพืชไม่ขัดสีผักผลไม้ถั่วเปลือกแข็ง
00:06:43 → 00:06:44 ถั่วเมล็ดแห้ง
00:06:44 → 00:06:44 >> อื
00:06:44 → 00:06:47 >> แต่ unhealy อาจจะอารมณ์คล้ายๆตอนเทศกาล
00:06:47 → 00:06:49 กินเจที่เราก็อาจจะ
00:06:49 → 00:06:51 >> เค้าเรียกว่าอะไรนะเค้าเรียกว่าโปรตีน
00:06:51 → 00:06:51 พิเศษ
00:06:51 → 00:06:57 >> เกษตรทอดชุบน้ำตาลเออน้ำหวานเฟนฟก็ก็มัง
00:06:57 → 00:07:00 ถูกมั้คะก็ถูกเฟรนฟรายก็เป็น
00:07:00 → 00:07:01 >> หรือว่าน้ำอัดลม
00:07:01 → 00:07:02 >> อ่า
00:07:02 → 00:07:04 >> อันนี้ก็อาจจะเป็นweกนเหมือนกันเนาะ
00:07:04 → 00:07:05 >> อื
00:07:05 → 00:07:07 >> อันนี้ก็จะจัดเป็น unhealthy plant base
00:07:07 → 00:07:10 diet เขาก็พบว่าคนที่กินแบบ unhealthy
00:07:10 → 00:07:12 plant based diอetอันเนี้ยจริงๆแล้ว
00:07:12 → 00:07:14 สุขภาพอาจจะแยกกว่าพวกที่กิน
00:07:14 → 00:07:16 >> unhealthy แต่ไม่ plant based
00:07:16 → 00:07:17 >> ใช่เป็น animal base
00:07:17 → 00:07:18 >> อ่า
00:07:18 → 00:07:20 >> แต่กลุ่มที่มันจะได้ประโยชน์ก็คือกลุ่ม
00:07:20 → 00:07:22 ที่กิน healthy แล้วก็จะได้ประโยชน์ใน
00:07:22 → 00:07:25 กลุ่มที่กินเป็น Whole Food Real Food
00:07:25 → 00:07:27 Plant Bสอตด้วยก็คือต้องกินเป็น
00:07:27 → 00:07:30 >> พืชผักจริงจากธัญพืช
00:07:30 → 00:07:33 >> อะไรแบบนี้เป็นต้นโดยที่ในการศึกษาเนี่ยอ
00:07:33 → 00:07:36 >> ไม่ใช่ wegan นะคะจะเป็นเหมือนเxซิรียน
00:07:36 → 00:07:37 ที่เราคุยกันอ
00:07:37 → 00:07:39 >> ก็คือเขายังบินการกินเนื้อสัตว์อยู่แหละ
00:07:39 → 00:07:41 แต่ว่าจะกินพืชผักมากขึ้น
00:07:41 → 00:07:41 >> ค่ะ
00:07:41 → 00:07:44 >> เนื้อสัตว์ปลาหมูเนื้ออะไรยังกินได้อยู่
00:07:44 → 00:07:46 >> คุณหมอบอกพอดีเลยเพราะว่ากำลังจะถามว่า
00:07:46 → 00:07:49 ถ้าเอาตามแบบเท่าที่มีวิจัยยืนยันอย่าง
00:07:49 → 00:07:53 เงี้ยคะไดเอตแบบไหนที่มันทำตามได้จริง
00:07:53 → 00:07:56 ยั่งยืนแล้วก็ดีต่อสุขภาพ
00:07:56 → 00:07:59 >> ถ้าพูดถึงงานวิจัยทางการแพทย์ทุกๆแพทย์
00:07:59 → 00:08:02 เฉพาะทางให้การยอมรับว่ามันมีข้อมูลจริง
00:08:02 → 00:08:06 ว่าแบบกินอายุยืนลดการเกิดโรคหัวใจโรค
00:08:06 → 00:08:08 อัมพฤกษ์อัมพาตเนี่ยทุกคนก็จะนึกถึง
00:08:08 → 00:08:10 เรื่องของเมดิอรเรเนียนdiอet
00:08:10 → 00:08:11 >> อื
00:08:11 → 00:08:13 >> ที่มาเขาก็คือมันจะมาจากอาหารที่มาจาก
00:08:13 → 00:08:17 ประเทศที่อยู่รอบๆทะเลเมดิเตอรเรเนียนอ่า
00:08:17 → 00:08:19 ซึ่งคนแถบนั้นน่ะเขาก็จะกินอาหารที่ค่อน
00:08:19 → 00:08:21 ข้างเป็น plant เบสนะ
00:08:21 → 00:08:23 >> แต่เขาไม่ได้กินมังสุวีรัตนหรือกินเจ
00:08:23 → 00:08:25 >> แต่เขาก็ทานปลาทานอะไรอย่างงี้
00:08:25 → 00:08:26 >> ใช่เยังทานปลา
00:08:26 → 00:08:29 >> แล้วก็เนื้อแดงเ้าก็ยังทานแต่ว่าทานน้อย
00:08:29 → 00:08:32 เพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆอันเนี้ยคนอาจจะคิด
00:08:32 → 00:08:34 ว่ามันก็ไม่ใช่แพนเบสเพอคนจะมีความเข้าใจ
00:08:34 → 00:08:37 ว่าแพนเบสอ่ะมันคือมังสีรัตน์เวจetรีย
00:08:37 → 00:08:38 หรือ
00:08:38 → 00:08:41 >> อ่าแต่ว่าจริงๆอันเนี้ยในทางการแพทย์เรา
00:08:41 → 00:08:44 ก็จะถือว่าเขาเป็น plant bสเหมือนกันแต่
00:08:44 → 00:08:46 เป็น plant เบสที่ไม่เคร่งมาก
00:08:46 → 00:08:49 >> เพราะว่าเขาก็จะเป็นอาหารที่มีข้อมูลว่า
00:08:49 → 00:08:52 ดีจากสุขภาพเพราะว่าทานพืชผักเป็นหลักค่ะ
00:08:52 → 00:08:56 >> ทานโปรตีนจากปลาจากไก่เพราะว่ามันมีไขมัน
00:08:56 → 00:08:56 ต่ำ
00:08:56 → 00:08:56 >> ค่ะ
00:08:56 → 00:08:59 >> เนื้อแดงก็ทานแต่ว่าอาจจะไม่เกิน 1-2
00:08:59 → 00:09:01 ครั้งต่อสัปดาห์
00:09:01 → 00:09:02 >> อื
00:09:02 → 00:09:06 >> กินไขมันดีจากน้ำมันมะกอกสกัดเย็นแล้วก็
00:09:06 → 00:09:09 มีพวกนัดคือถั่วเหลือแข็ง
00:09:09 → 00:09:11 >> ร่วมกับที่สำคัญเนี่ยนอกจากอาหารคือเขาจะ
00:09:11 → 00:09:14 มีเรื่องของกิจกรรมทางกายคือ active เดิน
00:09:14 → 00:09:17 ทั้งวันแล้วก็มีความสัมพันธ์
00:09:17 → 00:09:19 >> ที่ดีกับคนในครอบครัวเพราะฉะนั้นอันเนี้
00:09:19 → 00:09:21 มันก็เป็นสิ่งที่อาจจะบอกเลยว่าเรื่องของ
00:09:21 → 00:09:24 สุขภาพอาหารเป็นหลักนะแต่ในแง่อื่นๆ
00:09:24 → 00:09:26 เรื่องของไลฟ์สไตล์อ่ะก็เป็นตัวช่วยที่จะ
00:09:26 → 00:09:26 >> อ
00:09:26 → 00:09:29 >> ลดเรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือดอ
00:09:29 → 00:09:33 >> ลดการอักเสบนะคะแล้วก็ลดเรื่องของการแปร
00:09:33 → 00:09:35 ปรวนของระดับน้ำตาลพวกเบาหวานอะไรพวก
00:09:35 → 00:09:37 เนี้ยก็จะเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างดี
00:09:37 → 00:09:39 >> ชมว่าอีกอย่างนึงที่เป็นลักษณะของ
00:09:39 → 00:09:41 medดิเตอรเนียนdiอetก็คือว่าสังเกตเหมือน
00:09:41 → 00:09:44 เวลาที่เราไปร้านอาหารแล้วเราแบบไปสั่ง
00:09:44 → 00:09:46 เวลาเราไปแถบๆนั้นอะไรเงี้ยก็คืออาหารมัน
00:09:46 → 00:09:49 จะค่อนข้างถือว่า process น้อยถูกน้อยมาก
00:09:49 → 00:09:52 คือเหมือนกับว่ามาเสิร์ฟในจานก็คือหน้าตา
00:09:52 → 00:09:54 มันยังมันยังเหมือนเดิมอะไรอย่างเงี้ย
00:09:54 → 00:09:56 แล้วก็ผ่านความร้อนน้อยด้วย
00:09:56 → 00:09:58 >> จริงเห็นด้วยมากๆเพราะว่าเขาก็จะบอกเลย
00:09:58 → 00:10:01 ว่านอกจากลดการกินของหวานเนื้อแดงก็คือ
00:10:01 → 00:10:03 ต้องหลีกเลี่ยงเรื่องของ Ultra Process
00:10:03 → 00:10:03 Food
00:10:03 → 00:10:05 >> ซึ่งก็เป็นสิ่งที่
00:10:05 → 00:10:08 >> พวกเรามนุษย์กรุงเทพฯหลีกเลี่ยงยากแต่ว่า
00:10:08 → 00:10:10 เราก็รู้ว่าจริงๆอันเนี้เป็นสิ่งที่เรา
00:10:10 → 00:10:12 ควรจะเลี่ยงแล้วก็อีกอย่างคือสมุนไพรค่ะ
00:10:12 → 00:10:14 เพราะว่าเขาก็จะปรุงด้วยอะไรที่มันเป็น
00:10:14 → 00:10:16 สมุนไพรของเขา
00:10:16 → 00:10:16 >> ค่ะ
00:10:16 → 00:10:19 >> อันเนี้ยสิ่งที่ตัวเองมองว่ามันอาจจะปรับ
00:10:19 → 00:10:22 กับอาหารไทยได้นะคะใกล้ๆกันก็คือว่าถ้า
00:10:22 → 00:10:25 อาหารไทยดั้งเดิมอ่ะเราก็เป็นแพนเบสนะพืช
00:10:25 → 00:10:25 ผักเยอะ
00:10:25 → 00:10:28 >> เนื้อสัตว์เราก็กินกลางๆ
00:10:28 → 00:10:30 >> ไม่ได้กินมันเยอะมากๆ
00:10:30 → 00:10:33 >> แล้วเราก็มีสมุนไพรของไทรหลายๆอย่างซึ่ง
00:10:33 → 00:10:35 ที่เรากินๆกันอยู่บางทีเราก็ไม่รู้นะมัน
00:10:35 → 00:10:37 ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระกับ
00:10:37 → 00:10:40 >> โมเลกุลที่ลดการอักเสบได้ไม่แพ้อาหาร
00:10:40 → 00:10:42 เมดิเจอร์เนียนเพียงแต่ว่าอาจจะไม่ได้
00:10:42 → 00:10:44 เหมือนกัน 100% น่ะแต่ว่าผลลัพธ์ออกมาก็
00:10:44 → 00:10:47 ใกล้กันเพียงแต่ว่าเมืองไทยอ่ะเราไม่มี
00:10:47 → 00:10:50 งานวิจัยไงคะที่จะติดตามคนไปแบบ 5 ปี
00:10:50 → 00:10:52 10,000 คนมันก็เลยไม่มีตัวเลขมายืนยันอ
00:10:52 → 00:10:55 >> ครัวไทยอย่างเงี้ยค่ะว่าถ้าเราจะแบบดัด
00:10:55 → 00:10:57 แปลง
00:10:57 → 00:10:59 >> อะไรที่มันพอจะเทียบเท่ากับ
00:10:59 → 00:11:01 Medิเตอร์เนียนdiอetได้บ้างอ
00:11:01 → 00:11:04 >> อันดับแรกเลยพอคนพูดถึงMedดิเรนเนียน Diet
00:11:04 → 00:11:06 เนี่ยนะคะคนไทยเราอ่ะกินข้าวเยอะถูกมย
00:11:06 → 00:11:07 >> ค่ะ
00:11:07 → 00:11:10 >> ปกติอ่ะเราก็กินข้าวกว่าครึ่งจานน่ะถ้า
00:11:10 → 00:11:13 เป็นคนที่อายุเยอะนิดนึงเนี่ยเวลาที่เรา
00:11:13 → 00:11:14 นับแคลอรี่เขาออกมาอย่างเงี้ยเราจะพบว่า
00:11:15 → 00:11:17 เค้ากินคาร์โบไฮเดรตประมาณ 5-60%
00:11:17 → 00:11:19 เพราะมันรวมข้าวผลไม้
00:11:19 → 00:11:20 >> อื
00:11:20 → 00:11:22 >> แล้วก็เครื่องดื่มขนมใช่มั้ยคะแต่ถ้า 1
00:11:22 → 00:11:26 เราดูไดเอตเนี่ยตัวเปอร์เซ็นต์ของแป้งที่
00:11:26 → 00:11:28 ครูกินน่ะคือคาร์โบไฮเดรตอ่ะจริงๆจับว่า
00:11:28 → 00:11:30 เป็นขาบค่อนข้างต่ำนะ
00:11:30 → 00:11:31 >> อื
00:11:31 → 00:11:33 >> ก็คือเหลือประมาณ 40% ถ้าจะปรับสัดส่วน
00:11:33 → 00:11:37 ตรงเนี้ยก็คือ 1 เขากินขาบไม่เยอะมากอ่า
00:11:37 → 00:11:40 ซึ่งอันเนี้มันก็เป็นเหตุว่าทำไมกินแล้ว
00:11:40 → 00:11:44 ระดับน้ำตาลมันก็คงที่นะแล้วก็ลดการดื้อ
00:11:44 → 00:11:45 อินซูลินเนาะ
00:11:45 → 00:11:49 >> 2 ก็คือว่าเขากิน fat เกินแฟแฟชจากถั่ว
00:11:49 → 00:11:49 >> ค่ะ
00:11:49 → 00:11:52 >> อ่าซึ่งถั่วที่เขากินน่ะมันเป็นถั่วฝรั่ง
00:11:52 → 00:11:53 ใช่มั้คะแบบอ่ะ
00:11:54 → 00:11:57 >> เออมองนัทเเซelนัทอะไรอย่างเงี้ยจริงๆตัว
00:11:57 → 00:11:59 โปรไฟล์ที่ใกล้เคียงกันนะคะตัวถั่วใน
00:11:59 → 00:12:01 ประเทศไทยเนี่ยส่วนตัวคิดว่าเม็ดมะม่วง
00:12:01 → 00:12:02 หิมพานน่ะโอเคนะ
00:12:02 → 00:12:03 >> อื
00:12:03 → 00:12:04 >> ใกล้กันถึงเพียงแต่ว่าคนไทยชอบกินเม็ด
00:12:05 → 00:12:08 มะม่วงหิมพานทอดกรอบเคลือบน้ำตาลแล้วโรย
00:12:08 → 00:12:11 งาอันนี้เราจะกินได้เป็นเยอะอันนี้อาจจะ
00:12:11 → 00:12:15 อ้วนแต่ว่าถ้าเรากินแบบเป็นอบแล้วก็ไม่
00:12:15 → 00:12:17 เติมน้ำตาลอันเนี้ยคิดว่ามันก็คล้ายๆกัน
00:12:17 → 00:12:21 ในแง่ของการบริโภคถั่วแล้วก็ในแง่ของแป้ง
00:12:21 → 00:12:23 ที่โอกินถ้าเกิดว่าเราจะมองว่าของเขาค้า
00:12:23 → 00:12:27 อ่ะคือเป็นแป้งที่ไม่ขัดสีเป็นธัญพืชเรา
00:12:27 → 00:12:29 ก็กินได้เพราะว่าข้าวของเราอ่ะเราก็
00:12:29 → 00:12:31 สามารถเลือกข้าวที่เป็นข้าวกล้อง
00:12:32 → 00:12:35 >> หรือข้าวสีๆแถบนั้นเขาจะกินอาหารที่มีอ่า
00:12:35 → 00:12:38 เบอร์รี่อะไรพวกเนี้ยซึ่งมันก็จะมีสตาน
00:12:38 → 00:12:41 ต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อแอนโทไซยนินถ้าเรา
00:12:41 → 00:12:44 กินข้าวrสเบอร์รี่เราก็ได้แอนโทไซยนินนะ
00:12:44 → 00:12:47 >> ถ้ากินข้าวกล้องrสเบอร์รี่มันก็จัดเป็น
00:12:47 → 00:12:49 ธัญพืชไม่ขัดสี
00:12:49 → 00:12:49 >> ค่ะ
00:12:49 → 00:12:52 >> ก็ก็ได้เป็นคาร์โบไฮเดรตคุณภาพดีทีนี้มา
00:12:52 → 00:12:55 ในแง่ของโปรตีนน่ะเค้าก็กินโปรตีน
00:12:55 → 00:12:57 >> ค่อนข้างเยอะคือประมาณ 17%
00:12:57 → 00:12:58 อ
00:12:58 → 00:13:02 >> ก็ก็คือเยอะกว่าอ่าทั่วๆไปประมาณ 12-15%
00:13:02 → 00:13:04 ก็โปรตีนค่อนข้างเยอะแต่ว่ามันจะได้
00:13:04 → 00:13:07 โปรตีนจาก 1 ไก่จากปลา
00:13:07 → 00:13:10 จากบีนคือพวกถั่วเมล็ดแห้งใช่มั้คะแล้วก็
00:13:10 → 00:13:12 จากถั่วเมล็ดแข็งฉะนั้นตรงเนี้ยถ้าเราจะ
00:13:12 → 00:13:14 ทานออกเป็น plant เบสที่คล้ายๆเมดเรเนียน
00:13:14 → 00:13:16 เนี่ยดูเข้ากล้อง
00:13:16 → 00:13:19 อ่าเมื่อกี้พูดถึงข้าวกล้องrสรี่เราอาจจะ
00:13:19 → 00:13:21 เพิ่มธัญพืชไงเช่นมีถั่วเขียวถั่วเหลือง
00:13:21 → 00:13:22 ถั่วดำถั่วแดง
00:13:22 → 00:13:22 >> ค่ะ
00:13:22 → 00:13:25 >> เป็นข้าวธัญพืชอ่าเนื้อสัตว์ก็อาจจะมาจาก
00:13:25 → 00:13:28 ปลาเพิ่มผักเยอะนิดนึงซึ่งอาหารไทยปกติ
00:13:28 → 00:13:29 ถ้าเราทานน้ำพริก
00:13:29 → 00:13:32 >> ปลาทูอย่างเงี้ยมันก็เป็นผักหลากหลายชนิด
00:13:32 → 00:13:35 แล้วก็มีโปรตีนจากปลาซึ่งโปรตีนจากปลา
00:13:36 → 00:13:38 เนี่ยมันจะได้โอเมก้า 3 ถูกมั้ยคะทีนี้คน
00:13:38 → 00:13:42 ก็จะคิดว่าโอเมก้า 3 ซึ่งมาจากปลาที่มี
00:13:42 → 00:13:45 ประโยชน์อ่ะมันจะต้องเป็นปลาราคาแพง
00:13:45 → 00:13:47 >> อือแล้วก็เป็นปลาทะเลน้ำลึกนะแต่ว่าจริงๆ
00:13:47 → 00:13:51 แล้วข้อมูลของคนไทยอ่ะเราก็จะมีโอเมก้า 3
00:13:51 → 00:13:52 ในปลา
00:13:52 → 00:13:52 >> ค่ะ
00:13:52 → 00:13:56 >> เหมือนกันคือตัว EPA และ DHA อันเนี้ใน
00:13:56 → 00:14:01 ปลาไทยเช่นปลาจลเม็ดปลากระพงขาวปลาทูหรือ
00:14:01 → 00:14:03 ปลาน้ำจืดก็คือพวกปลามันๆปลาสวายพวกเนี้ย
00:14:03 → 00:14:07 ก็จะมีโอเมก้า 3 ที่เป็น EPA และ DHA
00:14:07 → 00:14:07 เหมือนกัน
00:14:08 → 00:14:10 >> ถามแบบสาวฟิตเนสนะคุณหมอเมื่อกี้เห็นคุณ
00:14:10 → 00:14:14 หมอแตะแตะเรื่องาฟนิดนึงว่าก็คือคาฟค่อน
00:14:14 → 00:14:18 ข้างข้างต่ำแต่ว่าไม่ได้ต่ำเท่าสายคีโตก็
00:14:18 → 00:14:19 คือหมอว่าประมาณ
00:14:19 → 00:14:19 >> 40%
00:14:20 → 00:14:22 >> คนไทยควรกินเท่าไหร่ดีอ่ะ
00:14:22 → 00:14:24 >> ถ้าคิดเป็นเท่าไหร่อย่างเงี้ยยากค่ะส่วน
00:14:24 → 00:14:27 ตัวเวลาแนะนำคนไข้นะจะบอกว่าเราใช้เพลด
00:14:27 → 00:14:29 โมเดล
00:14:29 → 00:14:33 ครึ่งจานเป็นผักโดยที่ผักอ่ะต้องมีหลายๆ
00:14:33 → 00:14:33 สี
00:14:33 → 00:14:34 >> อื
00:14:34 → 00:14:35 >> แต่ไม่ต้องมือเดียวกันก็ได้นะคะเดี๋ยวทำ
00:14:35 → 00:14:39 ไม่ได้เพราะผัก 5 สีก็จะมีสารต้านอนุมูล
00:14:39 → 00:14:41 อิสระที่ไม่เหมือนกันลดการอักเสบที่แตก
00:14:41 → 00:14:42 ต่างกัน
00:14:42 → 00:14:45 >> 1 ใน 4 จานเนี่ยเป็นข้าวแล้ว 1 ใน 4 จาน
00:14:46 → 00:14:48 เนี่ยเป็นโปรตีนอันเนี้ยมันจะเป็นสัดส่วน
00:14:48 → 00:14:51 อาหารที่ออกมาเป็นกึ่งๆโลคาร์โบไฮเดรต
00:14:51 → 00:14:52 อยู่แล้ว
00:14:52 → 00:14:52 >> อื
00:14:52 → 00:14:54 >> เพราะถ้าเป็นอาหารไทย
00:14:54 → 00:14:57 >> ขาบคือ 50% อันนี้เราลดเหลือ 25%
00:14:57 → 00:14:59 >> เราก็ถือว่าขาบค่อนข้างต่ำคิดว่าอย่าง
00:14:59 → 00:15:02 เงี้ยมันจะเป็นสิ่งที่เอาไปใช้ง่าย
00:15:02 → 00:15:02 >> ค่ะ
00:15:02 → 00:15:04 >> เพราะว่าบางคนก็อาจจะคิดตามเอ๊ะเรากิน
00:15:04 → 00:15:07 ข้าวเหลือ 1 ใน 4 จาน 25% ไม่น้อยไปหรอคะ
00:15:07 → 00:15:10 >> ไม่ค่ะเรายังมีพื้นที่ในการกินผลไม้ข้าง
00:15:11 → 00:15:11 นอกอีก
00:15:11 → 00:15:11 >> อ
00:15:12 → 00:15:14 >> หรือถ้าเราจะกินผลิตภัณฑ์จากนม
00:15:14 → 00:15:15 >> อื
00:15:15 → 00:15:17 >> หรือเราจะกินขนมหรืออะไรบ้างเงี้ยก็มีขาบ
00:15:17 → 00:15:19 อีกเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเหลือที่ให้ให้
00:15:19 → 00:15:21 ความสุขเล็กๆด้วยเนาะ
00:15:21 → 00:15:21 >> ใช่
00:15:21 → 00:15:22 >> เออ
00:15:22 → 00:15:23 >> healthตี้มันต้องแฮปปี้ค่ะ
00:15:23 → 00:15:24 >> ใช่
00:15:24 → 00:15:26 >> เดี๋ยวทำได้ไม่นาน
00:15:26 → 00:15:29 >> จริงๆชมว่าอีกเรื่องนึงที่รู้สึกว่ายัง
00:15:29 → 00:15:32 อยากให้มีวิจัยเยอะๆอ่ะคุณหมอก็คือว่าตอน
00:15:32 → 00:15:34 เชมว่าคนที่ติดตามเรื่องของสุขภาพเรื่อง
00:15:34 → 00:15:38 อะไรมันก็จะมีเรื่องของน้ำมันที่เราใช้ใน
00:15:38 → 00:15:41 การปรุงอาหารถูกมั้คะทีนี้ก็โอเคแน่นอนเ
00:15:41 → 00:15:42 แบบโอลveฟออย
00:15:42 → 00:15:45 ใช่มคนทำวิจัยเยอะมาก extra virgจinอะไร
00:15:45 → 00:15:48 อย่างเงี้ยแล้วก็ก็เหมือนกับว่าทุกๆตำรา
00:15:48 → 00:15:51 ก็จะแนะนำแต่อันเนี้ยมันไม่ใช่ culture
00:15:51 → 00:15:52 >> ของเราไง
00:15:52 → 00:15:52 >> ใช่
00:15:52 → 00:15:55 >> เออทีเนี้ยถ้าเป็นสำหรับครอบครัวไทยครัว
00:15:55 → 00:15:57 เรือนคนไทยอย่างเงี้ยคะคุณหมอถ้าเอาตัว
00:15:57 → 00:15:59 ที่ใกล้เคียงกับโอลีiveoอยคือน้ำมันมะกอก
00:15:59 → 00:16:02 เนี่ยเราจะรู้ว่าข้อดีเขาคือ 1 สกัดเย็น 2
00:16:02 → 00:16:07 มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวโอเมก้า 9
00:16:07 → 00:16:10 ชื่อโอลิค acid แล้วก็เขาจะมีวิตามินอี
00:16:10 → 00:16:11 สูงเพราะฉะนั้นถ้าเราจะเอาดูให้มันใกล้
00:16:11 → 00:16:14 กันแล้วเป็นน้ำมันไทยอ่ะเนาะคนอาจจะไม่
00:16:14 → 00:16:16 ค่อยรู้จักแต่ว่ามันจะมีน้ำมันเมล็ดชามัน
00:16:16 → 00:16:19 จะนำเมล็ดมาจากประเทศจีนอ่าแต่ว่าปลูกใน
00:16:20 → 00:16:22 เมืองไทยแล้วก็ process โรงงานอยู่ใน
00:16:22 → 00:16:24 ประเทศไทยซึ่งตัวน้ำมันมะกอกสกัดเย็นน่ะ
00:16:24 → 00:16:28 เขาจะมีกรดโออิคคือโอเมก้า 9 อยู่ 70%
00:16:28 → 00:16:31 ตัวเมล็ดช่าจะมีประมาณ 70-80
00:16:31 → 00:16:32 >> ก็คือเยอะกว่า
00:16:32 → 00:16:34 >> ใช่เรียกว่าใกล้เคียงกันแต่ถ้าเกิดอีกตัว
00:16:34 → 00:16:37 นึงนะที่ตัวเองชอบนะคะแต่ว่าอาจจะไม่ใช่
00:16:37 → 00:16:39 ผลิตภัณฑ์ของไทยคือน้ำมันอะโวคาโด
00:16:39 → 00:16:40 >> ใช่มั้ยคะ
00:16:41 → 00:16:43 >> ก็ตัวเองก็ชอบเพราะว่า 1 ชอบความสกัดเย็น
00:16:43 → 00:16:46 ใช่มั้ย 2 น้ำมันอะโวคาโด้ก็จะมีกลิ่นที่
00:16:46 → 00:16:49 ไม่ไม่แรงมากถ้าทำกับข้าวที่ไม่ต้องการ
00:16:49 → 00:16:52 กลิ่นรสของมะกอกแล้วก็ตัวจุดเกิดควันก็
00:16:52 → 00:16:52 สูง
00:16:52 → 00:16:53 >> ค่ะ
00:16:53 → 00:16:55 >> ขึ้นไปแบบ 200- 250
00:16:55 → 00:16:57 >> หลายๆบ้านตอนนี้จะมาใช้น้ำมันรำข้าว
00:16:57 → 00:16:59 >> อืทดแทน
00:16:59 → 00:17:02 >> น้ำมันรำข้าวเนี่ยถ้าไม่ติดเรื่องไม่สกัด
00:17:02 → 00:17:04 เย็นนะคะถ้าเกิดว่าเรายอมรับในความเป็น
00:17:04 → 00:17:07 refine ออยก็คือผ่านขบวนการอันเนี้ยจริง
00:17:07 → 00:17:10 ๆกรดไขมันตัวโอเลอิอ่ะก็นับว่าโอเคเพราะ
00:17:10 → 00:17:12 ว่าเจะมีอยู่ประมาณ 40%
00:17:12 → 00:17:13 >> อื
00:17:13 → 00:17:15 >> แล้วก็มีจุดเกิดควันที่เยอะแต่เขาค้าจะมี
00:17:15 → 00:17:17 โอเมก้า 6 โอเมก้า 3 ด้วย
00:17:17 → 00:17:18 >> ค่ะ
00:17:18 → 00:17:21 >> ดังนั้นเนี่ยถ้าเรากลัวเรื่องของความที่
00:17:21 → 00:17:23 เา้ามีโอเมก้า 6 เพราะว่าเรากลัวเรื่อง
00:17:23 → 00:17:25 การอักเสบใช่มั้ยคะจริงๆเนี่ยหลักการเรา
00:17:26 → 00:17:27 จะบอกว่าโอเมก้า 6 มันเจอได้แหละเราต้อง
00:17:27 → 00:17:29 เพิ่มการบริโภคโอเมก้า 3
00:17:29 → 00:17:30 >> โม 3
00:17:30 → 00:17:32 >> ก็กินก็กิน 3 สู้ไป
00:17:32 → 00:17:35 >> แต่ว่าไอ้ cooking oil อ่ะจริงๆมันเอา
00:17:35 → 00:17:37 เป็นส่วนประกอบไงเราก็อย่าใส่เยอะเพราะ
00:17:37 → 00:17:41 ว่าเราไม่ได้จำเป็นจะต้องเอามาตับทานเป็น
00:17:41 → 00:17:44 ช้อนหรือว่าทานอาหารฟรทอดกรอบทุกมือถ้า
00:17:44 → 00:17:45 เกิดว่าเราใช้
00:17:45 → 00:17:48 >> ผัดกับข้าวอะไรนิดๆหน่อยๆมันใช้ปริมาณ
00:17:48 → 00:17:51 5-10 ซีซเองมันก็ไม่จำเป็นต้องใช้เยอะ
00:17:51 → 00:17:53 บางบ้านที่พอใจจะใช้น้ำมันหมูเขาบอกว่า
00:17:53 → 00:17:56 มันเป็นสิ่งที่คู่ครัวมาอันเนี้ยต้อง
00:17:56 → 00:17:59 จำกัดปริมาณคือน้ำมันจากสัตว์เนี่ยจริงๆ
00:17:59 → 00:18:01 แล้วประเด็นก็คือว่าเรากลัวไขมันอิ่มตัว
00:18:01 → 00:18:02 ถูกมั้คะ
00:18:02 → 00:18:02 >> ค่ะ
00:18:02 → 00:18:04 >> อ่าซึ่งไขมันอิ่มตัวเนี่ย
00:18:04 → 00:18:06 >> ก็ไม่ใช่ของไม่ดีนะแต่ว่าเรากินเยอะไม่
00:18:06 → 00:18:09 ได้การที่เรากินเยอะอ่ะมันจะไปทำให้การ
00:18:09 → 00:18:13 เก็บปรับตัวไขมันไม่ดีคือ LDL อ่ะเข้าสู่
00:18:13 → 00:18:17 ตับได้แย่ลงฉะนั้นเราต้องลิมิตปริมาณเช่น
00:18:17 → 00:18:21 ใส่มื้อนึงไม่เกินแค่ 5-10 ซีซซึ่งก็ไม่
00:18:21 → 00:18:22 เยอะถูกป่ะคะ
00:18:22 → 00:18:24 >> ถ้าเรากินไม่เยอะอันเนี้ย
00:18:24 → 00:18:27 >> ตรวจเลือดมาผลระดับ LDL อะไรเงี้ยมันก็
00:18:27 → 00:18:29 อาจจะไม่มีผลสิ่งที่บองต้องบอกว่าควบคุม
00:18:29 → 00:18:31 เพราะว่าการที่เรากินไขมันอิ่มตัวจาก
00:18:31 → 00:18:33 สัตว์เยอะๆมันมีอยู่ในอาหารอยู่แล้วไงคน
00:18:33 → 00:18:37 ปกติไม่ได้กินแพลนเบสแล้วก็กินไขมันหมูไข
00:18:37 → 00:18:39 มันวัวอยู่แล้วดังนั้นถ้าเกิดว่าเราใช้ไข
00:18:39 → 00:18:43 มันจากสัตว์จำนวนมากๆเนี่ยก็คิดว่าปริมาณ
00:18:43 → 00:18:45 ทั้งวันที่ได้รับเนี่ยน่าจะมากไป
00:18:45 → 00:18:47 >> เพราะว่าเพราะเราทานเนื้อสัตว์มันก็ติดไข
00:18:47 → 00:18:50 มันเขาอยู่แล้วกินไก่ก็มีหนังไก่หมูติด
00:18:50 → 00:18:52 มันเนื้อติดมันอยู่แล้ว
00:18:52 → 00:18:55 >> อใช่แต่ส่วนตัวก็จะคิดว่าน้ำมันจากพืชก็
00:18:55 → 00:19:00 อาจจะดูมีข้อมูลที่ healthy มากกว่าแต่
00:19:00 → 00:19:03 น้ำมันจากสัตว์ถ้าจะใช้ก็ใช้ปริมาณไม่
00:19:03 → 00:19:04 เยอะอันเงี้ยก็โอเค
00:19:04 → 00:19:08 >> ทีนี้ปัญหาที่พบบ่อยๆในคนที่ทาน plant เบ
00:19:08 → 00:19:10 base อ่ะคะคุณหมอเพราะว่าอันดับ 1 ก็น่า
00:19:10 → 00:19:11 จะเป็นเรื่องโปรตีนม
00:19:11 → 00:19:15 >> ใช่นึกภาพเลยเวลาเทศกาลกินเจ
00:19:15 → 00:19:15 >> ค่ะ
00:19:15 → 00:19:18 >> อาหารที่เราเห็นทุกอย่างก็จะแบบดูน่ากิน
00:19:18 → 00:19:19 อร่อยไปหมด
00:19:19 → 00:19:19 >> อื
00:19:19 → 00:19:22 >> แต่ว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นแป้งแล้วก็น้ำมัน
00:19:22 → 00:19:24 บางอย่างที่เรากินอาจจะเป็น unhealthy
00:19:24 → 00:19:27 plan bas เพราะว่ามันก็อาจจะได้แต่แป้ง
00:19:27 → 00:19:31 กับน้ำมันน้ำตาลเกลือแล้วก็โปรตีนไม่พอ
00:19:31 → 00:19:32 >> อ
00:19:32 → 00:19:34 >> เมื่อกี้คุณหมอ mention ถึงเรื่อง
00:19:34 → 00:19:36 unhealthy plan based diet ใช่มั้คะ
00:19:36 → 00:19:38 ก็อย่างที่เราเจอกันเยอะๆก็จะเป็นอย่าง
00:19:38 → 00:19:40 พวกเทศเทศการกินเจอะไรเงี้ยใช่มั้ที่เรา
00:19:40 → 00:19:43 มีเค้าเรียกว่าอะไรนะโปรตีนเกษตรทอดเทิด
00:19:43 → 00:19:45 ซึ่งหรือว่าอีเว่นว่าเดี๋ยวนี้เราจะเห็น
00:19:45 → 00:19:47 ว่าแบบเหมือนมันมีพวกอาหารแช่แข็ง
00:19:47 → 00:19:47 >> อือ
00:19:47 → 00:19:50 >> เป็น plant เบสเป็นweกนเป็นแบบเบอร์เกอร์
00:19:50 → 00:19:53 ปลอมไส้กรอกปลอมฮอตดอกปลอมอะไรอย่างเงี้ย
00:19:53 → 00:19:56 มันก็ยังเป็น process food อยู่ดีมันไม่
00:19:56 → 00:19:58 ได้แปลว่ามันจะเป็น healthy food ถูกมย
00:19:58 → 00:19:59 คุณหมอ
00:19:59 → 00:20:01 >> ถูกต้องค่ะเพราะว่าที่บอกว่ากินแล้วดีอ่ะ
00:20:01 → 00:20:03 มันคือ food plan base
00:20:03 → 00:20:06 >> แต่สิ่งที่มันเป็นอาหารแปรรูปอ่ะถามว่า
00:20:06 → 00:20:08 >> ทุกอันมที่มันไม่ดีถึงขั้นสุดอันนี้อาจจะ
00:20:09 → 00:20:09 ต้องอ่านฉลาก
00:20:09 → 00:20:10 >> ค่ะ
00:20:10 → 00:20:14 >> เพราะว่าตัวของพวกโปรตีนเกษตรหรือพวก
00:20:14 → 00:20:16 analอกคือเนื้อเทียม
00:20:16 → 00:20:17 >> ไม่ไม่เคยกิน
00:20:17 → 00:20:20 >> อันนี้เค้าก็จะผลิตมาด้วยขั้นตอนค่อนข้าง
00:20:20 → 00:20:24 เยอะถ้าเราอ่านฉลากเนี่ยบางอันก็จะพบว่า 1
00:20:24 → 00:20:28 มันแบบใส่น้ำตาลเยอะเกลือเยอะแล้วก็มีพวก
00:20:28 → 00:20:31 วัตถุเจอปนอาหารการแต่งกลิ่นแต่งรส
00:20:31 → 00:20:31 >> อื
00:20:32 → 00:20:34 >> ค่อนข้างเยอะซึ่งถ้าเป็นแบบเนี้ยเราก็ไม่
00:20:34 → 00:20:38 จัดว่าเป็น Healy แผนเบสไดเอตนะคะในอดีต
00:20:38 → 00:20:40 เราจะมีแค่คำว่า process food ถูกไหมคะ
00:20:40 → 00:20:41 >> ค่ะ
00:20:41 → 00:20:43 >> แต่ในช่วงซักประมาณ 10 ปีหลังเนี่ยในวง
00:20:43 → 00:20:46 การเนี่ยเมื่อก่อนเวลาคุยเรื่องของอาหาร
00:20:46 → 00:20:50 น่ะเราจะแคลอรี่โปรตีนแฟตหรืออาหาร 5
00:20:50 → 00:20:52 หมู่ใช่ไหมคะแต่ปัจจุบันเนี่ยเราจะคุยว่า
00:20:52 → 00:20:55 อาหารเนี้ยทั้งจ้านน่ะคุณภาพเป็นยังไงเรา
00:20:55 → 00:20:57 จะเรียกว่าเป็นรูปแบบการทานหรือ datory
00:20:57 → 00:20:59 patterเทิร์นก็คือรูปแบบการทานอาหารอย่าง
00:20:59 → 00:21:02 เช่น Mediteran Dietอตเนี่ยก็เป็นรูปแบบ
00:21:02 → 00:21:04 การอาหารที่เรียกว่า Healthy แล้วก็จะ
00:21:04 → 00:21:06 เห็นว่าในจานอย่างที่คุณชมบอกดูแล้วมันดู
00:21:06 → 00:21:07 ออกอ่ะอ่ะ
00:21:07 → 00:21:07 >> อือ
00:21:07 → 00:21:09 >> ว่ามันคือมะเขือเทศ
00:21:09 → 00:21:11 >> ชีสไก่
00:21:11 → 00:21:15 >> หรือข้าวนะคะแต่ว่า process ของการแปรรูป
00:21:15 → 00:21:17 อาหารในปัจจุบันเนี่ยมันก้าวลำไปไง
00:21:18 → 00:21:19 อุตสาหกรรมอาหารอ่ะเนาะ
00:21:19 → 00:21:19 >> ค่ะ
00:21:19 → 00:21:22 >> ซึ่งถ้าเรียกว่า Ultra Process Food
00:21:22 → 00:21:25 อ่ะอันนี้คือรูปแบบของอาหารแปรรูปขั้นสุด
00:21:25 → 00:21:25 >> ค่ะ
00:21:26 → 00:21:28 >> ขั้นสูงสุดแล้วแต่ว่าเราจะเรียกว่าอะไร
00:21:28 → 00:21:30 >> ก็คือแกเป็นผักอ่ะแกกลายเป็นฮอตดอกได้ยัง
00:21:30 → 00:21:32 ไงอ่ะใช่มั้มันคือมันแปลงร่างจนมันไม่
00:21:33 → 00:21:34 เหลือร่างเดิมแล้ว
00:21:34 → 00:21:36 >> ใช่คือ 1 ดูไม่ออกว่ามันของเดิมคืออะไร
00:21:36 → 00:21:39 กับ 2 คืออ่านฉลากแล้วเอ๊ะอันนี้วัตถุดิบ
00:21:39 → 00:21:40 คืออะไร
00:21:40 → 00:21:40 >> อื
00:21:41 → 00:21:43 >> เขาบอกว่าถ้าออกเสียงไม่ได้ก็คืออย่ากิน
00:21:43 → 00:21:44 เลย
00:21:44 → 00:21:44 >> ถูกมั้คะ
00:21:44 → 00:21:46 >> ก็อาจจะเป็นตัวนึงที่เราเลือกเพราะฉะนั้น
00:21:46 → 00:21:48 เวลาดู
00:21:48 → 00:21:51 >> อาหารในจานเป็นcommมอนซseล่ะถ้าซื้อของ
00:21:51 → 00:21:54 เป็นฉลากต่างๆก็อย่าลืมอ่านให้หมดว่าองค์
00:21:54 → 00:21:57 ประกอบอ่ะเป็นตัวที่เราเข้าใจหรือเป็นตัว
00:21:57 → 00:21:58 ที่เป็น food additive
00:21:59 → 00:22:01 >> ถามว่ากินได้มยมันก็ได้รับการรับรองจาก
00:22:01 → 00:22:04 อย.เนาะแต่ว่าเราคงไม่ได้กินทุกวันหรือ
00:22:04 → 00:22:07 ทุกมื้อเพราะว่าในแง่ของ Ultra Process
00:22:07 → 00:22:10 Food เนี่ยจริงๆคำแนะนำทางการแพทย์ทุกๆ
00:22:10 → 00:22:14 สมาคมวิชาชีพไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจโรคเบา
00:22:14 → 00:22:18 หวานโรคไตโรคตับเ้าจะแนะนำทุกอันว่าให้
00:22:18 → 00:22:21 ลิมิตลดเลี่ยงการกิน Ultra Process Food
00:22:21 → 00:22:23 แล้วเจะชอบขึ้นคำตัวนะเด็กควรบริโภคแต่
00:22:23 → 00:22:24 น้อย
00:22:24 → 00:22:24 >> อะไรแบบนี้
00:22:24 → 00:22:25 >> อะไรประมาณนั้น
00:22:25 → 00:22:28 >> อืฉะนั้นการกินโปรตีนให้เพียงพอเนี่ยในคน
00:22:28 → 00:22:31 ที่กินแพนเบสถ้าเป็นสายที่ไม่เคร่งอยาก
00:22:31 → 00:22:35 Medิเนนนอย่างเงี้ยเขาก็แค่กินเนื้อสัตว์
00:22:35 → 00:22:38 ที่ไม่ติดมันมากขึ้นใช่มั้คะไก่ปลารด
00:22:38 → 00:22:41 เนื้อแดงอันนี้อาจจะไม่ได้มีปัญหามากบาง
00:22:41 → 00:22:45 มื้อเราก็กินโปรตีนจากพืชเช่นถั่วหรือว่า
00:22:45 → 00:22:46 ถั่วเมล็ดแห้ง
00:22:47 → 00:22:47 >> อื
00:22:47 → 00:22:50 >> ถ้าเป็นคนไทยเราก็จะกินเต้าหู้อาจจะมี
00:22:50 → 00:22:53 เทมเป้พวกเนี้ยก็เสริมได้แต่ถ้าเป็นสาย
00:22:53 → 00:22:54 ที่เป็น
00:22:54 → 00:22:55 >> อ
00:22:55 → 00:22:58 >> เวจetarianเลยอันเนี้ยก็อาจจะมีความที่
00:22:58 → 00:23:00 ต้องอาศัยความใส่ใจ
00:23:00 → 00:23:00 >> ค่ะ
00:23:00 → 00:23:01 >> และมีความรู้นิดนึง
00:23:02 → 00:23:02 >> ค่ะ
00:23:02 → 00:23:05 >> เพราะว่าโปรตีนจากพืชอ่ะมันก็จะมีปัญหา
00:23:05 → 00:23:05 ที่ว่า
00:23:05 → 00:23:06 >> อะมิโนอซิดใช่มั้
00:23:06 → 00:23:09 >> ใช่เ้าอาจจะมีกรดอะมิโนจำเป็น
00:23:09 → 00:23:12 >> ที่ไม่ครบถ้วนอ่าเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลากิน
00:23:12 → 00:23:14 เถึงว่าต้องกินให้หลากหลายเพราะว่าถ้าเรา
00:23:14 → 00:23:16 กินข้าวอย่างเดียวเราอาจจะขาดอะมิโนอซิด
00:23:16 → 00:23:19 บางตัวที่ชื่อว่าไลซีนอ
00:23:19 → 00:23:21 >> หรือเรากินถั่วอย่างเดียวเราก็อาจจะขาด
00:23:21 → 00:23:24 ตัวเม็ดไทโอนีนเพราะฉะนถึงบอกว่ามันก็
00:23:24 → 00:23:28 ต้องกินทั้งข้าวกินถั่วเมล็ดแห้งใช่มั้คะ
00:23:28 → 00:23:31 อาจจะต้องกินควีนัวเสริมไปอาจจะมีพวกถั่ว
00:23:31 → 00:23:35 ลูกไก่ซึ่งก็จะมีโปรตีนที่ครบถ้วนมากขึ้น
00:23:35 → 00:23:37 แล้วก็มีโปรตีนจากถั่วเหลืองซึ่งอันเนี้ย
00:23:37 → 00:23:40 เข้ากับวัฒนธรรมไทยซึ่งต้องทานในปริมาณ
00:23:40 → 00:23:42 ที่ค่อนข้างสูงมั้คุณหมอเอาจริงๆถ้าเรา
00:23:42 → 00:23:45 ต้องการจะเก็บโปรตีนเก็บอะมิโนอซิดเราให้
00:23:45 → 00:23:48 ครบนะคะก็ต้องยอมรับว่าสูงกว่าเพราะนับ
00:23:48 → 00:23:51 ง่ายๆ 1 ฝ่ามือใช่มั้ยคะไม่นับนิ้วก็คือ
00:23:51 → 00:23:54 ประมาณ 100 กรัมเนี่ยถ้าเป็นเนื้อสัตว์
00:23:54 → 00:23:56 กลมๆเลยก็คือได้โปรตีน 20 กรัมแต่ว่ามัน
00:23:56 → 00:23:59 ก็แตกต่างเออแตกต่างจะกินอกไก่กับสะโพก
00:23:59 → 00:24:02 ไก่ก็ไม่เท่ากันมีมันแทรกไม่มีมันแทรกก็
00:24:02 → 00:24:04 นับง่ายๆว่า 1 ฝ่ามือ 1 ขีดได้โปรตีนจาก
00:24:04 → 00:24:05 เนื้อสัตว์สัก 20 กรัม
00:24:05 → 00:24:06 >> ค่ะ
00:24:06 → 00:24:08 >> แต่ถ้าเป็นจากพืชที่เป็นถั่วเมล็ดแห้ง
00:24:08 → 00:24:10 อันเนี้ยอาจจะเหลือ 8-9 กรัม
00:24:10 → 00:24:11 >> ต่างกันเยอะ
00:24:11 → 00:24:13 >> ก็เยอะเหมือนกันแต่ว่ามันก็จะมีโปรตีนจาก
00:24:13 → 00:24:16 พืชบางตัวที่เขา้าไปปรับอย่างเช่นตัว
00:24:16 → 00:24:17 เทมเป้อันเนี้ย
00:24:17 → 00:24:17 >> ค่ะ
00:24:17 → 00:24:20 >> ก็จะเป็นถั่วเหลืองที่เขา้าเอาไปหมัก
00:24:20 → 00:24:22 >> ใช่มั้คะแล้วก็
00:24:22 → 00:24:24 >> ทำให้มันเป็นก้อนแน่นๆอันเนี้ย 100 กรัม
00:24:24 → 00:24:26 ก็ได้โปรตีน 20 กรัม
00:24:26 → 00:24:26 >> อื
00:24:27 → 00:24:30 >> ใกล้กันเลยเรื่องถั่วนิดนึงค่ะถั่วถั่ว
00:24:31 → 00:24:34 ชนิดไหนที่ถือว่าเป็นฝั่งโปรตีน
00:24:34 → 00:24:34 >> อื
00:24:34 → 00:24:38 >> ฝั่งไขมันถั่วเปลือกแข็งเช่นเอ่ออัลมอน
00:24:38 → 00:24:40 พิชioวานั
00:24:40 → 00:24:41 >> แคadamia
00:24:41 → 00:24:43 >> แคadamiaมะมุ้งหิมพานอันเนี้ยเป็นนัทคือ
00:24:43 → 00:24:45 ถั่วเปลือกแข็งอันเนี้ยองค์ประกอบเขาคือ
00:24:46 → 00:24:46 น้ำมันดี
00:24:46 → 00:24:47 >> อื
00:24:47 → 00:24:48 >> แล้วก็จะมีโปรตีน
00:24:49 → 00:24:51 >> เพราะฉะนั้นเวลาที่กินเ้าถึงบอกว่าporชั
00:24:51 → 00:24:54 siซอ่ะให้กิน 30 กรัมเพราะว่าได้โปรตีน
00:24:54 → 00:24:55 จริงแต่แควสูง
00:24:55 → 00:24:57 >> ถ้าเกิดว่าจะควบคุมน้ำหนักด้วยก็คือกิน
00:24:57 → 00:25:00 แค่ 30 กรัมของตัวถั่วแต่ละชนิดสอนคนไข้
00:25:00 → 00:25:02 ว่าประมาณ 15-20 เม็ด
00:25:02 → 00:25:02 >> อื
00:25:02 → 00:25:04 >> แต่ถ้าถั่วเม็ดใหญ่ๆอย่างเช่น academia
00:25:04 → 00:25:07 เนี่ยเอ่อเม็ดนึง 3-4 กรัมแล้วอ่ะค่ะก็
00:25:07 → 00:25:08 อาจจะได้
00:25:08 → 00:25:10 >> แต่มันหยุดไม่ได้เหมือนกันนะแคademia
00:25:10 → 00:25:12 >> ใช่แต่ถ้าเราไม่คุ้มน้ำหนักกินแล้วเพิ่ม
00:25:12 → 00:25:14 น้ำหนักดีนะคะอื
00:25:14 → 00:25:16 >> โอกลัวเลย
00:25:16 → 00:25:18 >> หรือเราก็อาจจะต้องแบบอ่ะวันนี้กินเยอะ
00:25:18 → 00:25:21 พรุ่งนี้ลดลงแต่ว่าจริงๆพอไซส์ที่แนะนำก็
00:25:21 → 00:25:23 คือประมาณ 30 กรัมแล้วก็อาจจะแนะนำเป็น
00:25:23 → 00:25:24 unsed
00:25:24 → 00:25:24 >> อื
00:25:24 → 00:25:27 >> ก็คือแล้วเป็นอบไม่ใส่เกลือเนี่ยก็จะดี
00:25:27 → 00:25:27 สุด
00:25:27 → 00:25:29 >> ก็คือถือว่าได้ทั้งโปรตีนและได้ทั้งไขมัน
00:25:30 → 00:25:32 >> ใช่แต่ว่าไขมันจริงๆไม่ต้องไปกลัวเค้านะ
00:25:32 → 00:25:35 เพราะไขมันในถั่วส่วนใหญ่มันจะเป็นไขมัน
00:25:35 → 00:25:38 ดีถ้าเป็นวอนัอาจจะได้โอเมก้า 3 แต่ถั่ว
00:25:38 → 00:25:41 อื่นๆพวกเนี้ยเช่นมะม่วงหิมพานแอลมอนพวก
00:25:41 → 00:25:43 นี้ก็จะเป็นโอเมก้า 9 โอคซิดคล้ายๆน้ำมัน
00:25:43 → 00:25:46 มะกอกแต่ว่ามันมี 3 กับ 6 ด้วยนะแต่ว่า 9
00:25:46 → 00:25:49 อ่ะเยอะเพราะฉะนั้นตัวไขมันในถั่วเราโอเค
00:25:49 → 00:25:50 เพราะเราถือว่าเป็น good fat
00:25:51 → 00:25:53 >> ค่ะอย่างเงี้ยถ้าเราดื่มนมถั่วอย่างเงี้ย
00:25:53 → 00:25:55 คะถือว่าได้ประโยชน์พวกเนี้ยครบถ้วนมั้ย
00:25:55 → 00:25:55 คะ
00:25:55 → 00:25:58 >> เอออันนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจมากเลยเนาะ
00:25:58 → 00:25:58 ค่ะ
00:25:59 → 00:26:01 >> เพราะว่าตอนนี้คนเนิยมกินกันเพราะเรากิน
00:26:01 → 00:26:04 ถั่วเปลือกแข็งเราบอกเราได้ไขมันกับ
00:26:04 → 00:26:07 โปรตีนใช่มั้คะแต่ถ้าเราไปดูดมพืชที่มา
00:26:07 → 00:26:10 จากถั่วพวกเนี้ยกลับพบว่าโปรตีนน้อยมาก
00:26:10 → 00:26:11 >> อื
00:26:11 → 00:26:13 >> อืแล้วก็แคลอรี่ก็จะไม่เยอะ
00:26:13 → 00:26:15 >> ทำให้ได้สารอาหารไม่เหมือนของจริงเพราะ
00:26:15 → 00:26:17 ฉะนั้นถ้าเกิดว่าจะกินเพราะว่าอยากชงกับ
00:26:17 → 00:26:19 เครื่องดื่มแล้วเราชอบอันเนี้ยก็ไม่ติด
00:26:19 → 00:26:20 >> ค่ะ
00:26:20 → 00:26:22 >> นะคะเพียงแต่ว่าเา้าก็มีขบวนการในการผลิต
00:26:22 → 00:26:24 เยอะเหมือนกันน่ะถ้ามันเป็นแบบกล่องๆอ่ะ
00:26:24 → 00:26:26 ขบวนการแปรรูปเหมือนกันแต่ว่าเขาจะมีการ
00:26:26 → 00:26:29 เติมนะเติมวิตามินอีเติมแคลเซียมแล้วแต่
00:26:29 → 00:26:29 ยี่ห้อ
00:26:29 → 00:26:30 >> ค่ะ
00:26:30 → 00:26:32 >> แต่ว่าถ้าจะหวังประโยชน์ว่าให้ได้เหมือน
00:26:32 → 00:26:33 เป็นเมล็ดอ่ะส่วนตัวมองว่ากินเป็นถั่ว
00:26:33 → 00:26:37 เม็ดอ่ะ 1 ประโยชน์เยอะกว่า 2 ไม่แปรรูป 3
00:26:38 → 00:26:41 ได้ความพึงพอใจจากการเขียวก็คือจะรู้สึก
00:26:41 → 00:26:43 อิ่มมากกว่าเพราะฉะนามตัวเองว่าเราจะกิน
00:26:43 → 00:26:44 เพื่ออะไรอื
00:26:44 → 00:26:47 >> บางคนอาจจะอยากหลีกเลี่ยงdaรี่
00:26:47 → 00:26:49 >> อ่าก็เป็นทางเลือกถูกมั้คะ
00:26:49 → 00:26:51 >> อแล้วมีแบบไขมันน้อยๆโปรตีนเยอะๆมีมั้คะ
00:26:51 → 00:26:54 >> ถั่วเป็นแป้งใช่ป่ะแต่ถ้าเป็นอันที่
00:26:54 → 00:26:57 >> เป็นเป็นโปรตีนทีละแบบว่าไขมันน้อยๆ
00:26:57 → 00:26:59 >> อ๋อมีแป้งอ๋อมีถั่วเป็นแป้งด้วยเหรอคะ
00:26:59 → 00:27:02 >> ใช่อ่าพวกถั่วเขียวถั่วเหลืองถั่วดำถั่ว
00:27:02 → 00:27:04 แดงชิกพีเขาก็จะมี
00:27:05 → 00:27:07 >> โปรตีนแต่เขาจะมีแป้งด้วย
00:27:07 → 00:27:09 >> เนาะเพราะ texture เค้าเนอ
00:27:09 → 00:27:11 >> เพราะฉะนั้นเราก็จะนับอันนี้ไปกับข้าว
00:27:11 → 00:27:12 >> อื
00:27:12 → 00:27:14 >> ว่าถ้าเกิดว่ากินถั่วแดงคนไข้อย่านับเป็น
00:27:14 → 00:27:16 โปรตีนอย่างเดียวนะคะคุณได้แป้งด้วยอแต่
00:27:16 → 00:27:18 ก็เป็นแป้งที่ถือว่าเป็นแป้งชั้นดี้นะ
00:27:18 → 00:27:20 >> แต่ถ้าจะควบคุมน้ำหนักก็ห้ามกินถูเขียว
00:27:20 → 00:27:23 ต้มน้ำตาลทีละ 2 ชามอะไรเงี้ยไม่ได้อ
00:27:23 → 00:27:27 >> อจริงๆชมว่าแพนเบสที่ไปทางแบบweกนหรือมัง
00:27:27 → 00:27:32 สวีรัตน์แบบสุดต่งถามว่าทำได้แต่ว่ามัน
00:27:32 → 00:27:35 ยากยากจริงมันทนยาก
00:27:35 → 00:27:37 >> คนที่ทำได้ส่วนใหญ่เท่าที่เคยเจอก็อาจจะ
00:27:37 → 00:27:40 มีเหตุผลนอกจากเรื่องสุขภาพไงคะเขา
00:27:40 → 00:27:42 ต้องการที่จะละเว้นหรือว่าลดการ
00:27:42 → 00:27:43 เบียดเบียนสัตว์อื่น
00:27:43 → 00:27:43 >> ค่ะ
00:27:43 → 00:27:46 >> หรือเรื่องของการที่จะช่วยเรื่องของสิ่ง
00:27:46 → 00:27:48 แวดล้อมนะคะเพราะว่าเรื่องของเทรน plan
00:27:48 → 00:27:50 Base เนี่ยนอกจากเรื่องสุขภาพปัจจุบันก็
00:27:50 → 00:27:54 จะมีการพูดถึงเรื่องของความยั่งยืนของ
00:27:54 → 00:27:56 อาหารการทำปสุสัตอาจจะใช้พื้นที่ในการ
00:27:56 → 00:27:57 เพาะปลูก
00:27:57 → 00:27:58 เยอะกว่า
00:27:58 → 00:28:01 >> ใช้น้ำเยอะกว่าแล้วก็อาจจะสร้างแก๊สเวน
00:28:01 → 00:28:02 กระจกเยอะกว่า
00:28:02 → 00:28:04 >> เพราะฉะนั้นจริงๆเขาก็จะไม่ได้บอกว่าทุก
00:28:04 → 00:28:07 คนต้องมาเป็นมังสวิรัสหรือวีกัน
00:28:07 → 00:28:09 >> แต่ว่าแค่เราตั้งใจที่จะกินพืชผักเพิ่ม
00:28:09 → 00:28:10 ขึ้น
00:28:10 → 00:28:12 >> ลดเนื้อสัตว์ในบางมื้อก็อาจจะเป็น
00:28:12 → 00:28:14 >> แล้วคุณหมอเป็นสายไหนคะ
00:28:14 → 00:28:17 >> หมอก็เป็นเxกิเรียนค่ะให้ทานเวจetเรียน
00:28:17 → 00:28:19 หรือ vegan 100% เนี่ยส่วนตัวก็ยังยอม
00:28:19 → 00:28:22 รับว่ายังทำไม่ค่อยได้เราจะต้องเตรียม
00:28:22 → 00:28:25 แล้วก็จะต้องคิดวางแผนค่อนข้างเยอะ
00:28:25 → 00:28:26 >> ใช่คือมันต้องวางแผนใช่ใช่
00:28:26 → 00:28:29 >> ให้มันแบบมันก็ต้องอาศัยความรู้เยอะ
00:28:29 → 00:28:33 >> ขนาดว่าเราอ่ะไม่ได้แบบไม่ได้ไป Plant เบ
00:28:33 → 00:28:36 base แบบแค่โปรตีนแทรกสารอาหารอ่ะแล้วก็
00:28:36 → 00:28:40 พยายามให้แต่ละมื้อมันไม่ process แล้วก็
00:28:40 → 00:28:42 healthy ที่สุดมันยังต้องวางแผนเลยนะคุณ
00:28:42 → 00:28:44 หมอมันไม่สามารถแบบเออไปตายเอาดาบหน้า
00:28:45 → 00:28:46 แล้วจะมีอะไรกินข้างหน้าก็ได้คือมัน
00:28:46 → 00:28:48 เหมือนมันต้องมันต้องคิดนิดนึงอ่ะมันต้อง
00:28:49 → 00:28:49 วางแผน
00:28:49 → 00:28:51 >> ใช่ใช่เห็นด้วยเลยค่ะว่าต้องวางแผนเรื่อง
00:28:51 → 00:28:53 อาหารอีกตัวนึงของเลยนะถ้าเกิดว่าไม่กิน
00:28:53 → 00:28:57 เนื้อสัตว์ไข่นมผลิตภัตเลยเกิน 3 ปีอ่ะ
00:28:57 → 00:29:00 ต้องระวังเรื่องการขาด B12
00:29:00 → 00:29:01 >> เหลืองมยคุณหมอ
00:29:01 → 00:29:03 >> B12 อาจจะทำให้ซีด
00:29:03 → 00:29:03 >> ออ
00:29:03 → 00:29:05 >> เป็นซีดแบบมีเม็ดเลือดแดงโต
00:29:05 → 00:29:06 >> ออ
00:29:06 → 00:29:07 >> แล้วก็อาจจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของ
00:29:08 → 00:29:08 ระบบประสาท
00:29:09 → 00:29:09 >> ค่ะ
00:29:09 → 00:29:12 >> เช่นอาจจะมีเดินเซหรือชา
00:29:12 → 00:29:12 >> อื
00:29:12 → 00:29:14 >> นะคะซึ่งจริงๆกลุ่มที่เขากินวีแกนแบบที่
00:29:14 → 00:29:17 เขา้ามีความรู้เรื่องสารอาหารน่ะอันเนี้
00:29:17 → 00:29:19 เขาจะต้องมาเช็คแล้วเส่วนใหญ่เขาก็น่าจะ
00:29:19 → 00:29:20 ต้องกินเสริมอยู่
00:29:20 → 00:29:21 >> ค่ะ
00:29:21 → 00:29:24 >> เพราะแหล่งของปี 12 ส่วนใหญ่มาจากสัตว์
00:29:24 → 00:29:24 >> อื
00:29:24 → 00:29:28 >> ที่เขาบอกว่าอาจจะมีบ้างในอาหารหมักบาง
00:29:28 → 00:29:30 ชนิดนะคะปัจจุบันก็จะบอกอาจจะมีในเทมเป้
00:29:30 → 00:29:33 ในผัวไข่น้ำค่ะบุเฟีย
00:29:34 → 00:29:35 >> อันนั้นเนี่ยมันก็จะเคลมว่ามีบ้างแต่ว่า
00:29:36 → 00:29:38 ถ้าไปดูข้อมูลน่ะก็ต้องยอมรับว่าการผลิต
00:29:38 → 00:29:40 ของเรามันอาจจะมีความหลากหลายนะคะส่วนตัว
00:29:40 → 00:29:42 ก็คิดว่ามีบ้างแต่ว่า
00:29:42 → 00:29:45 >> ก็อย่าวางใจว่ากินแล้วมันจะดูดซึมได้ถึง
00:29:45 → 00:29:46 ระดับที่เพียงพอ
00:29:46 → 00:29:49 >> ส่วนตัวสำหรับคนไข้ที่เราดูแล
00:29:49 → 00:29:51 >> เราก็จะบอกว่าอย่างน้อยก็ต้องเช็คเลือด
00:29:51 → 00:29:53 ส่วนใหญ่ก็น่าจะต้องเสริมถ้าเป็น strick
00:29:53 → 00:29:56 สายที่แบบสุดโตมากๆอย่างล่าสุดน่าจะได้
00:29:56 → 00:29:59 ยินข่าวกันน่ะที่มีเป็นอินฟลูคนนึงที่กิน
00:29:59 → 00:30:03 แต่ผลไม้โชว์อ่ะสุดท้ายก็คือเสียชีวิต
00:30:03 → 00:30:06 แล้วก็ขาดสารอาหารเกิดขึ้นได้ใช่มั้คะ
00:30:06 → 00:30:09 เกิดขึ้นได้เพราะว่าเป็นการกินอาหารที่
00:30:09 → 00:30:10 ต้องใช้ความรู้ค่ะ
00:30:10 → 00:30:10 >> อื
00:30:10 → 00:30:13 >> ต้องความรู้ความใส่ใจแล้วก็การเตรียม
00:30:13 → 00:30:16 อาหารให้มันครบถ้วนเพราะฉะนั้นถ้ากินให้
00:30:16 → 00:30:18 ครบถ้วนเนี่ยมันก็จะมีเยอะแยะในประเทศไทย
00:30:18 → 00:30:20 ที่กินเจหรือกินวีแกนแล้วสุขภาพแข็งแรงดี
00:30:20 → 00:30:22 ใช่มั้ยคะถ้ากินแบบไม่ระมัดระวังอ่ะขาด
00:30:23 → 00:30:24 สารอาหารได้อยู่แล้ว
00:30:24 → 00:30:24 >> อ
00:30:24 → 00:30:26 >> จริงจริงทุกอาหารค่ะไม่ว่าจะเป็นอาหารก็
00:30:26 → 00:30:29 ทุกๆไดเอตอ่ะเนาะถ้ามันextrมเกินไปมันก็
00:30:29 → 00:30:31 >> ใช่เพราะอย่างคีโตไดอตคนกินก็ต้องมีความ
00:30:31 → 00:30:33 รู้นะหมอก็ใช้คีโตไดเอตกับคนไข้ลดน้ำหนัก
00:30:33 → 00:30:34 นะ
00:30:34 → 00:30:34 >> ค่ะ
00:30:34 → 00:30:36 >> แต่จะเป็นคีโตแนวกด fat ถ้าจะกินก็ต้อง
00:30:36 → 00:30:39 สอนกันยาวนิดนึงเห็นว่ายังมี plant bสet
00:30:39 → 00:30:43 อื่นๆที่เออชมไม่เคยได้ยิน Dash diet
00:30:43 → 00:30:46 Mind diet คืออะไรคะ Dash diet เนี่ย
00:30:46 → 00:30:49 ก็คือชื่อเต็มคือ diary approach to
00:30:49 → 00:30:51 stop hypertension
00:30:51 → 00:30:51 >> อื
00:30:51 → 00:30:53 >> แปลว่าเป็นอาหารที่ดีไซน์มาเพื่อลดความ
00:30:53 → 00:30:54 ดัน
00:30:54 → 00:30:54 >> อืออื
00:30:54 → 00:30:57 >> เป็นแพนเบสเหมือนกันแล้วก็มีความคล้าย
00:30:57 → 00:31:00 คลึงตรงที่ว่าเน้นพืชผักเน้นเนื้อสัตว์ไข
00:31:00 → 00:31:02 มันต่ำแต่น้ำมันเขาจะเป็นน้ำมันไม่อิ่ม
00:31:02 → 00:31:05 ตัวทั่วๆไปไม่ได้เน้นน้ำมันมะกอกค่ะเพราะ
00:31:05 → 00:31:06 ฉะนั้นมันก็มีความคล้ายคลึงกันแหละอืแล้ว
00:31:06 → 00:31:08 เขาก็จะเน้นเรื่องของการทาน
00:31:08 → 00:31:11 >> daี่ product คือผลิตภัณฑ์ของนมแบบไขมัน
00:31:11 → 00:31:13 ต่ำถ้าเป็นดิอรเaniเนียนนั้นเขาจะเป็น
00:31:13 → 00:31:16 daี่ product สายที่เป็นชีสเนาะ
00:31:16 → 00:31:19 >> กับโยเกิร์ตอันนี้ถ้าเป็นdasชก็จะเป็น low
00:31:19 → 00:31:22 fat dairy product คือผลิตภัณจากนม
00:31:22 → 00:31:23 อะไรก็ได้ที่เป็นไขมันต่ำ
00:31:23 → 00:31:26 >> ซึ่งอันเนี้ยจริงๆใกล้เคียงกันฟังดูก็
00:31:26 → 00:31:28 คล้ายๆกันต่างที่น้ำมันเป็นหลัก
00:31:28 → 00:31:29 >> แต่ก็ low fat
00:31:29 → 00:31:33 >> อ่า low fat ใช่ low fat กว่าอาจจะ high
00:31:33 → 00:31:35 แต่ good fat อืซึ่งอันนี้เขาดีไซน์มา
00:31:35 → 00:31:38 สำหรับลดความดันเพราะว่าพอกินพืชผักเยอะ
00:31:38 → 00:31:41 อ่ะความดันจะลงเพราะว่ามันจะมีไฟเบอร์
00:31:41 → 00:31:42 แล้วก็โพแทสเซียม
00:31:42 → 00:31:42 >> อื
00:31:42 → 00:31:46 >> แล้วพอเรามากินร่วมกับการจำกัดเกลือคือช
00:31:46 → 00:31:49 บวกการจำกัดเกลืออันเนี้ยจะยิ่งส่งผลดีเน
00:31:50 → 00:31:53 ของการลดระดับความดันโลหิตก็เป็นหนึ่งใน
00:31:53 → 00:31:55 รูปแบบการกินที่เรียกว่าโอเคนะคะ
00:31:55 → 00:31:55 >> ค่ะ
00:31:55 → 00:31:59 >> ทีนี้มันก็จะมีอีกว่าคนก็บอกเอ้ยก็ดีนะ
00:31:59 → 00:32:01 Dasชก็ดีเอามารวมกันแล้วกันซึ่งอันเนี้ย
00:32:01 → 00:32:03 คุณอาจจะสนใจเพราะว่าพอเอามารวมกันปุ๊บ
00:32:03 → 00:32:07 กลายเป็น My Diet M D
00:32:07 → 00:32:10 >> Mediterraniเaniียนบวก DAS กลายเป็น Mind
00:32:10 → 00:32:11 Diet
00:32:11 → 00:32:12 >> ไม่เพราะว่าเ้าบอกว่ากินแล้วมันดีay
00:32:12 → 00:32:14 เรื่อง cognitive decline
00:32:14 → 00:32:16 >> ทำให้ลดเรื่องของอัลไซเมอร์อ
00:32:16 → 00:32:17 >> อื
00:32:17 → 00:32:21 >> จะต่างจากนิดนึงตรงที่ว่าเาบอกว่าข้อมูล
00:32:21 → 00:32:23 ที่แบบว่ากินแล้วสมองไม่เสื่อมอ่ะถ้าเป็น
00:32:23 → 00:32:28 ผักผลไม้อ่ะเขาจะเฟเวอร์ไปที่ผักเขียวๆ
00:32:28 → 00:32:31 ผักใบสีเขียวเพราะว่าอาจจะมีพวกฟลาโวนอย
00:32:31 → 00:32:33 ส่งผลในแง่ของการลดการอักเสบแล้วก็ต้าน
00:32:33 → 00:32:35 อนุบูลอิสระแล้วก็เขาจะไม่ได้เน้นให้กิน
00:32:35 → 00:32:36 ผลไม้อะไรก็ได้อ
00:32:36 → 00:32:40 >> จะเน้นเบอร์รี่นะคะซึ่งอันเนี้ย
00:32:40 → 00:32:42 >> ดีนะคะเหมากับคนไทย
00:32:42 → 00:32:43 >> อื
00:32:43 → 00:32:46 >> เพราะคนไทยเรากินผลไม้ไม่ได้กินทีนึง
00:32:46 → 00:32:49 >> จานเล็กๆเราจะทานทีเป็นจานใหญ่ๆใช่เป็น
00:32:49 → 00:32:49 กิโล
00:32:49 → 00:32:51 >> กิโลแล้วแต่ฤดูว่าเป็นหน้าอะไร
00:32:51 → 00:32:51 >> ใช่
00:32:51 → 00:32:53 >> ถ้าเงาะโรงเรียนก็เจอกัน 3 ก 100
00:32:53 → 00:32:55 >> ใช่
00:32:55 → 00:32:58 ซึ่งก็อร่อยจริง
00:32:58 → 00:33:00 ใช่มั้คะแต่ว่าเราจะได้น้ำตาลเยอะอ
00:33:00 → 00:33:01 >> กินกันจนหมดฤดู
00:33:01 → 00:33:02 >> ใช่
00:33:02 → 00:33:07 >> ถ้าจะเน้นในmyอตเรื่องของการลดเรื่องสมอง
00:33:07 → 00:33:09 เสื่อมอ่ะเขาจะเน้นเป็นผลไม้กลุ่ม
00:33:09 → 00:33:09 เบอร์รี่
00:33:09 → 00:33:10 >> อื
00:33:10 → 00:33:13 >> อ่าซึ่งมันก็จะมีน้ำตาลต่ำมีสารต้าน
00:33:13 → 00:33:16 อนุมูลอิสระสูงบลูเบอร์รี่rasเบอร์รี่ใช่
00:33:16 → 00:33:18 มั้ยคะแต่ว่ามันก็จะหายากเนาะไม่เข้าคน
00:33:18 → 00:33:20 ไทยอีกละ
00:33:20 → 00:33:22 >> เรามีอะไรที่มันคล้ายๆแบบเบอร์เบอร์รี่
00:33:22 → 00:33:23 มั้คะผลไม้ไทย
00:33:23 → 00:33:25 >> เราก็จะมีลูกหม่อน
00:33:25 → 00:33:25 >> อื
00:33:25 → 00:33:29 >> อืแล้วก็จะมีกูเบอร์รี่พวกนี้ก็จะมี
00:33:29 → 00:33:31 compound ที่คล้ายคล้ายๆกัน
00:33:31 → 00:33:31 >> อื
00:33:31 → 00:33:34 >> แต่จริงๆคอนเซปตก็คือว่าอาจจะเป็นผลไม้
00:33:34 → 00:33:37 ที่น้ำตาลไม่เยอะเป็นผลไม้ที่มีสีสันสวย
00:33:37 → 00:33:40 งามเพื่อให้มันมีพวกแอนอกซidantนที่ออก
00:33:40 → 00:33:44 ฤทธิ์ดีในแง่ของการลดการอักเสบต้านอนุมูล
00:33:44 → 00:33:47 อิสระซึ่งพวกเนี้ยมันอาจจะไปลดการสะสมของ
00:33:47 → 00:33:51 พวกอไมอยด์พลหรือว่าเทาโปรตีนซึ่งเป็นตัว
00:33:51 → 00:33:54 ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมอ่าเพราะฉะนั้นอัน
00:33:54 → 00:33:56 นี้ก็จะบอกว่าถ้ากินค่อนข้างเป็น
00:33:56 → 00:33:58 แพทเทิร์นคล้ายๆแบบเนี้ยก็มีข้อมูลว่า
00:33:58 → 00:34:01 เรื่องของความจำอ่ะอาจจะชะลอความเสื่อม
00:34:01 → 00:34:02 ได้
00:34:02 → 00:34:05 >> มันคือการเอาเมดิเตอรเรเนียนบวกกับdasช
00:34:05 → 00:34:06 ใช่มย
00:34:06 → 00:34:07 >> แปลว่าก็ต้อง low fฟด้วยใช่มั้คะ
00:34:08 → 00:34:10 >> ไม่เจะเทไปทาง
00:34:10 → 00:34:12 >> ไปทางออแล้วก็กินเบอร์รี่
00:34:12 → 00:34:15 >> ใช่ก็คือยังเน้นน้ำมันมะกอกเหมือนเดิม
00:34:15 → 00:34:20 แล้วก็กินปลาลดเนื้อแดงแล้วก็ลดของหวาน
00:34:20 → 00:34:23 พืชผักเป็นหลักเน้นผักใบเขียวผลไม้เป็น
00:34:23 → 00:34:25 เบอร์รี่นัดก็กินเหมือนเดิม
00:34:25 → 00:34:27 >> ค่ะเพราะจริงๆสมองเราก็ต้องการแฟชใช่มั้
00:34:27 → 00:34:28 คุณหมอ
00:34:28 → 00:34:30 >> ใช่จริงๆแฟชไม่ใช่สิ่งน่ากลัวนะคะเพียง
00:34:30 → 00:34:33 แต่เราต้องเลือกแฟให้เป็นแฟชที่ดี
00:34:33 → 00:34:33 >> อื
00:34:33 → 00:34:35 >> เพราะว่าข้อมูลปัจจุบันรู้แล้วว่าการกิน
00:34:36 → 00:34:38 low fฟatอ่ะอาจจะไม่ลดการเกิดโรคหัวใจ
00:34:38 → 00:34:41 ได้ดีเท่ากับการกินอาหารที่แฟชสูงนิดนึง
00:34:41 → 00:34:42 >> แต่เป็นแฟชที่ดี
00:34:42 → 00:34:43 >> ถูกอ
00:34:43 → 00:34:46 >> อืซึ่งอันเนี้ยเล่าเรื่องการศึกษาวิจัย
00:34:46 → 00:34:49 ของ Vegetarian Dietอตนะคะอันนี้มันเป็น
00:34:49 → 00:34:51 การศึกษาวิจัยที่คนในวงการแพทย์
00:34:51 → 00:34:54 จะต้องรู้จักชื่อ Predimage Study เขา
00:34:54 → 00:34:57 เอาคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดหลอดเลือด
00:34:57 → 00:35:02 หัวใจอ่ะเช่นเป็นเบาหวานสูบบุหรี่ไขมันใน
00:35:02 → 00:35:04 เลือดสูงความดันสูงเอาคนตั้ง 7,500 คนน่ะ
00:35:04 → 00:35:07 ค่ะในประเทศสเปนมาติดตามไป 5 ปีแล้วแบ่ง
00:35:07 → 00:35:10 คนไข้เป็น 3 กลุ่มกลุ่มแรกคือกิน
00:35:10 → 00:35:12 เิรอเรียนdiอetแล้วก็ให้กินร่วมกับ
00:35:12 → 00:35:14 โอลีive oil คือน้ำมัน
00:35:14 → 00:35:14 >> กี่ปีนะคุณหมอ
00:35:14 → 00:35:15 >> 5 ปี
00:35:15 → 00:35:17 >> แล้วเราฟีดเ้ายังไงอ่ะ 5 ปี
00:35:17 → 00:35:19 >> เราแนะนำค่ะแนะนำว่าให้กินแบบนี้แล้วเรา
00:35:19 → 00:35:22 ก็ซัพพlyาย
00:35:23 → 00:35:27 ออกให้อ่าใช่แล้วก็กลุ่มก็คือเป็นบวกกับ
00:35:27 → 00:35:28 นั
00:35:28 → 00:35:32 >> นัทก็คือถั่วเปลือกแข็งก็คือalมอนเ่อวนั
00:35:32 → 00:35:36 เซนัอืกลุ่ม 3 คือให้กินอาหารไขมันต่ำ
00:35:36 → 00:35:37 >> อื
00:35:37 → 00:35:41 >> อืแบ่งเป็น 3 กลุ่ม 7,500 คนตามไป 5 ปี
00:35:41 → 00:35:42 ให้ทายว่ากลุ่มไหนชนะ
00:35:42 → 00:35:45 >> ขอดาว่าไขมันต่ำตายก่อน
00:35:45 → 00:35:49 >> ถูกต้องค่ะเป๊ะมาก
00:35:49 → 00:35:52 เพราะก็คือกลุ่มไม่ว่าจะเป็นเมดเรียนบวก
00:35:52 → 00:35:54 น้ำมันมะกอกหรือบวกถั่วเนี่ยดีกว่ากลุ่ม
00:35:54 → 00:35:55 lowat
00:35:55 → 00:35:58 >> ลดอัตราการเกิดหลอดเลือดหัวใจตีบอ
00:35:58 → 00:36:01 >> ลดอัตราการเกิดอัมพฤกษอัมพาตแล้วก็ลด
00:36:01 → 00:36:04 อัตราการตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจได้ 30%
00:36:04 → 00:36:04 >> อื
00:36:04 → 00:36:07 >> อมันก็เลยเป็นข้อมูลว่าเอ้ยทำไมข้อมูลทาง
00:36:07 → 00:36:09 การแพทย์ถึงเชียร์ Medarian Dietอต
00:36:09 → 00:36:10 >> ค่ะ
00:36:10 → 00:36:13 >> เพราะเามีข้อมูลยืนยันแต่ว่าอาหารไทยเรา
00:36:13 → 00:36:14 ก็สามารถปรับให้มันคล้ายๆกันได้
00:36:14 → 00:36:15 >> อื
00:36:15 → 00:36:17 >> แล้วทีนี้เมื่อกี้ฟังคือบอกว่าเอ๊ะเป็น
00:36:17 → 00:36:19 ข้อมูลของคนที่ยังไม่เป็นโรคถูกมั้ยเค้า
00:36:19 → 00:36:21 ก็ทำต่อว่าเอ้ยข้อมูลคนไม่เป็นโรคกินแล้ว
00:36:21 → 00:36:25 มันดีอ่ะลดอัตราการตายหัวใจไม่เป็นสมอง
00:36:25 → 00:36:27 ไม่เป็นเค้าก็เอาคนที่เป็นโรคหลอดด้วยหัว
00:36:27 → 00:36:29 ใจแล้วอ่ะมาทำบ้าง
00:36:29 → 00:36:30 >> ว่าได้มั้ย
00:36:30 → 00:36:32 >> ใช่ก็คือลดได้เหมือนกันลดการเกิดเรื่อง
00:36:32 → 00:36:35 ของหลอดเลือดหัวใจและสมองได้ประมาณ 25%
00:36:35 → 00:36:38 medดิเรนdiดอตเนี่ยอีกนิดนึงถ้าเราไปดู
00:36:38 → 00:36:41 อ่ะว่าเอ๊ะเค้ากินยังไงเถึงแบบอายุยืนลด
00:36:41 → 00:36:44 การอักเสบใช่มยเค้ากินไข่กลางๆนะคะคือ
00:36:44 → 00:36:46 ประมาณ 4-7 ฟองต่อสัปดาห์
00:36:46 → 00:36:46 >> อื
00:36:46 → 00:36:48 >> คือวันนึงไม่เกินลูกนึง
00:36:48 → 00:36:48 >> ค่ะ
00:36:48 → 00:36:49 >> อ่าเพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราจะตามแพทเทิร์น
00:36:49 → 00:36:53 เนี้ยทุกอย่างดูจะเป็นทางสายกลางเป็นทาง
00:36:53 → 00:36:56 สมดุลหมดนะคะทีเนี้ยปัจจุบันก็จะมีข้อมูล
00:36:56 → 00:36:58 บอกว่าไข่เป็นอาหารที่ดี
00:36:58 → 00:36:59 >> ค่ะ
00:36:59 → 00:37:02 >> แล้วก็กินเยอะๆได้อันนี้คุณชมกินไข่เยอะ
00:37:02 → 00:37:02 มั้คะ
00:37:02 → 00:37:06 >> คือต้องบอกว่าไข่เป็นแหล่งโปรตีนที่เข้า
00:37:06 → 00:37:09 ถึงง่ายที่สุดเอาอย่างเงี้ยดีกว่าก็เพราะ
00:37:09 → 00:37:12 ฉะนั้นบางทีตันๆเหมือนกับว่ามื้อเนี้ยถ้า
00:37:12 → 00:37:15 มองด้วยตาคือชมก็ไม่ได้ถึงกับแทรคอ่ะนะ
00:37:15 → 00:37:20 แต่ว่าก็จะประเมินด้วยสายตาเอ้ยยังขาดอีก
00:37:20 → 00:37:22 ศีรษะ 5 กรัมอะไรเงี้ยก็จะอยากไข่ต้มไป
00:37:23 → 00:37:25 ลูกนึงอะไรเงี้ยนะฮะคล้ายๆกันเพราะว่า
00:37:25 → 00:37:27 เป็นคนกินไข่เยอะเหมือนกัน
00:37:27 → 00:37:29 >> นะคะซึ่งเพราะว่าไข่เป็นโปรตีนที่ดีเข้า
00:37:29 → 00:37:31 ถึงง่ายอร่อยราคาถูก
00:37:31 → 00:37:34 >> มีธาตุเหล็กมีโคลีนมี
00:37:34 → 00:37:36 >> วิตามินเกลือแร่อะไรเงี้ยเพราะฉะนั้นการ
00:37:36 → 00:37:38 กินไข่ไม่ใช่เรื่องที่ผิดไม่ได้บอกว่ากิน
00:37:38 → 00:37:42 แล้วไม่ดีแต่ว่ามันจะมีคนไข้กลุ่มนึง
00:37:42 → 00:37:45 >> ที่เราเรียกว่าเป็นกลุ่ม Hyper Responder
00:37:45 → 00:37:48 กับการกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง
00:37:48 → 00:37:48 >> ค่ะ
00:37:48 → 00:37:52 >> อ่าเช่นคนไข้ทั่วๆไปเอามา 100 คนน่ะ
00:37:52 → 00:37:55 ประมาณ 80% ของประชากรน่ะเค้ากินอาหารที่
00:37:55 → 00:37:57 มีคอเลสอลเข้าไปอ่ะระดับคอเลสรอลในเลือด
00:37:57 → 00:37:59 อ่ะก็จะไม่ได้ขึ้นนะ
00:37:59 → 00:37:59 >> ค่ะ
00:37:59 → 00:38:02 >> เออแต่ว่าอีก 20% คือ 1 ใน 5 ของคนทั่วๆ
00:38:02 → 00:38:04 ไปเนี่ยเราจะเรียกว่าเป็นกลุ่ม Hyper
00:38:04 → 00:38:05 Responder
00:38:05 → 00:38:05 >> อือ
00:38:05 → 00:38:08 >> คือเป็นกลุ่มที่กินอาหารที่มีคอสรอลสูง
00:38:08 → 00:38:10 แล้วก็จะทำให้เขามีระดับ
00:38:10 → 00:38:12 >> ก็คือเหมือนในตำนานที่เราได้ยินมาช้านาน
00:38:12 → 00:38:16 ว่ากินไข่ทำให้มีคอเลสเตอรอลอะไรประมาณเย
00:38:16 → 00:38:20 มันจะสอดคล้องแบบก็คือในอดีตอ่ะวงการ
00:38:20 → 00:38:22 แพทย์จะบอกว่าให้ลิมิตการกินคอเลสเตอรอล
00:38:22 → 00:38:23 ใช่มั้ยคะแล้วพอ
00:38:24 → 00:38:25 >> ช่วงสัก 10 ปีที่ผ่านมาเบอกว่าไม่ต้อง
00:38:25 → 00:38:28 ลิมิper intake ของคอเลสรอลละไม่ต้อง
00:38:28 → 00:38:30 ลิมิตปริมาณคอเลสเตอรอลที่กินต่อวันแต่
00:38:30 → 00:38:32 ให้ลิมิตไขมันอิ่มตัวอยู่นะ
00:38:32 → 00:38:33 >> อื
00:38:33 → 00:38:35 >> ดังนั้นเนี่ยมันก็เลยยังต้องลิมิตพวก
00:38:35 → 00:38:37 เนื้อแดงหรือไขมันจากสัตว์นะคะแต่
00:38:37 → 00:38:40 อันเนี้ยข้อมูลที่บอกว่าไม่ต้องลิมิต
00:38:40 → 00:38:42 เรื่องการกินคอเลสเตรอลมันเป็นอย่างที่
00:38:42 → 00:38:46 คุณชมบอกก็คือว่าพอกินคอเลสเตอรอลอ่ะจาก
00:38:46 → 00:38:48 อาหารอ่ะมันอาจจะไม่ได้แปรตาม
00:38:48 → 00:38:48 >> ค่ะ
00:38:48 → 00:38:51 >> เรื่องของคอเลสเตอรอลในเลือดซะทีเดียวแต่
00:38:51 → 00:38:52 ว่ามันจะมีคนกลุ่มนึงซึ่ง
00:38:52 → 00:38:54 >> แล้วแต่คนพูดง่ายๆแล้ว
00:38:54 → 00:38:56 >> แต่ละคนมันไม่เหมือนกันไงเราไม่ใช่เป็น
00:38:56 → 00:38:56 >> อ
00:38:56 → 00:38:58 >> ทุกคนต้องกินอาหารแบบนี้ถึงจะดี 20% น่ะ
00:38:59 → 00:39:00 กินแล้วมันขึ้นเยอะเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่า
00:39:00 → 00:39:02 เราจะกินแค่ฟอง 2 ฟองต่อวันอันเนี้ยมักจะ
00:39:02 → 00:39:03 ไม่มีปัญหา
00:39:03 → 00:39:06 >> แต่ถ้าคิดว่าจะกินแบบเยอะมากๆเช่นหลายๆ
00:39:06 → 00:39:09 ฟองต่อวันอันเนี้ยก็จริงๆก็คิดว่าควรจะมี
00:39:09 → 00:39:10 การเช็คเลือด
00:39:11 → 00:39:11 >> อื
00:39:11 → 00:39:14 >> สุขภาพประจำปีแล้วก็มีการติดตามเป็นระยะ
00:39:14 → 00:39:19 ๆะเพราะว่าถึงแม้ว่าโปรตีนในไข่ไขมันใน
00:39:19 → 00:39:21 ไข่จะเป็นชนิดที่ดีกินแล้วเพิ่มไขมันดี
00:39:21 → 00:39:24 HDL แต่ถ้าคอเลสเตอรอลมันสูงเยอะเกินไป
00:39:24 → 00:39:28 เนี่ยก็อาจจะไม่ได้ส่งผลดีกับสุขภาพใน
00:39:28 → 00:39:31 ระยะยาวก็ต้องดูให้มันเหมาะกับเราอ่ะอื
00:39:31 → 00:39:32 >> ค่ะ
00:39:32 → 00:39:34 >> จริงๆชมว่าชมว่าทุกวันน่ะไข่อย่างน้อยก็
00:39:34 → 00:39:35 ต้อง
00:39:35 → 00:39:36 >> 1-2
00:39:36 → 00:39:38 >> เอออย่างน้อยยังไงก็ต้องมีเพราะว่ามัน
00:39:38 → 00:39:39 เติม
00:39:39 → 00:39:40 >> เติมให้เต็ม
00:39:40 → 00:39:43 >> แต่ถ้าเช็คแล้วไข่มันไม่ขึ้นมันก็โอเคไง
00:39:43 → 00:39:46 >> โดยเฉพาะถ้ากลุ่มที่เรากินแพลนเบสเรากิน
00:39:46 → 00:39:48 อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวรวมถึงคอเลสเตอรอล
00:39:48 → 00:39:50 อ่ะไม่ดีเยอะอยู่แล้วอ่ะการที่จะกินไข่
00:39:50 → 00:39:52 เพิ่มเติมเนี่ยก็เป็นคำแนะนำที่ส่วนตัว
00:39:52 → 00:39:55 ให้กับคนรอบข้างนะคะเพราะว่าก็มองว่ากิน
00:39:56 → 00:39:58 ง่ายแล้วก็ทำให้เขาได้โปรตีนครบถ้วนกับ
00:39:58 → 00:40:00 ว่าต้องดูด้วยว่าเหมาะกับเราหรือเปล่า
00:40:00 → 00:40:04 >> อือ่ะอยากให้คุณหมอสรุปอีกครั้งว่าการกิน
00:40:04 → 00:40:07 Plant เบ base diอetที่จะให้ดีต่อสุขภาพ
00:40:07 → 00:40:09 จริงๆเงี้ยค่ะเราควรจะเลือกรับประทานยัง
00:40:09 → 00:40:10 ไงคะ
00:40:10 → 00:40:13 >> อือจริงๆ Plant Bสetนะกลับมาอันแรกเลยเรา
00:40:13 → 00:40:16 ไม่ถึงกับจะต้องเป็นเวจetเรียหรือweกนเรา
00:40:16 → 00:40:19 สามารถที่จะกินพืชผักเพิ่มขึ้นแล้วก็ลด
00:40:19 → 00:40:21 ปริมาณเนื้อสัตว์เพียงเล็กน้อยก็ได้เรียก
00:40:21 → 00:40:23 ว่าเป็น plant bบaseละสิ่งที่จะมี
00:40:23 → 00:40:25 ประโยชน์กับสุขภาพที่สุดก็คือว่าต้อง
00:40:25 → 00:40:27 เลือกกิน Whole Food Plant Base คือ
00:40:27 → 00:40:31 เลือกเป็นอาหารจริงๆคุณภาพดีแล้วก็เป็น
00:40:31 → 00:40:33 สิ่งที่ผ่านการแปรรูปน้อยถ้าเราเลือกที่
00:40:33 → 00:40:35 จะกินอาหารให้ Healy อ่ะเราต้องมองด้วย
00:40:35 → 00:40:37 ว่าเราทำแล้วเราต้องแฮปปี้
00:40:37 → 00:40:37 >> ค่ะ
00:40:37 → 00:40:39 >> เพราะว่าเราถึงจะทำได้นานอันนี้เป็นสิ่ง
00:40:39 → 00:40:42 ที่ทุกคนต้องคิดว่าถ้าเราเลือกที่จะกิน
00:40:42 → 00:40:44 อาหารเวไหนอ่ะอันนั้นน่ะจะต้องทำให้
00:40:44 → 00:40:46 สุขภาพดีด้วยนะแล้วก็มีความสุข
00:40:46 → 00:40:47 >> ยั่งยืน
00:40:47 → 00:40:49 >> ไม่งั้นก็ทำได้แป๊บเดียวก็เลิก
00:40:49 → 00:40:49 >> อื
00:40:49 → 00:40:52 >> คนที่อยากจะมาเป็นแพนเบสหรือเอาเป็นว่าคน
00:40:52 → 00:40:55 ที่อยากจะกินให้มันดีขึ้นน่ะค่ะคุณหมอ
00:40:55 → 00:40:57 แล้วรู้สึกว่าอ
00:40:57 → 00:40:59 >> ในวิถีชีวิตปัจจุบันมันก็บางทีมันก็ไม่
00:40:59 → 00:41:01 ได้ง่ายเนาะอย่างที่บอกว่าคือถ้าตั้งใจ
00:41:01 → 00:41:03 ที่จะกินดีจริงๆอ่ะ
00:41:03 → 00:41:06 >> มันต้องมีการวางแผนคุณหมออยากจะบอกอะไรเ
00:41:06 → 00:41:09 คะเป็นกำลังใจให้กับคนที่แบบว่าอยากจะ
00:41:09 → 00:41:10 เลือกสิ่งดีๆให้กับตัวเองอ่ะค่ะ
00:41:10 → 00:41:13 >> ถ้าจะกินแพนเบสเริ่มต้นเนี่ยเราไม่ต้อง
00:41:13 → 00:41:16 ตั้งอะไรมากค่ะเราตั้งอะไรง่ายๆเช่น 1
00:41:16 → 00:41:19 วันหรือ 1 สัปดาห์ก็ได้นะลองกินเป็น plant
00:41:19 → 00:41:24 เบสเลือกโปรตีนจากพืชสัก 1 มื้อถ้าจะเอา
00:41:24 → 00:41:27 ง่ายๆคืออาทิตย์นึง 1 วัน midless Monday
00:41:27 → 00:41:29 ไม่กินเนื้อวันจันทร์
00:41:29 → 00:41:31 >> ถ้าสังคมไทยส่วนใหญ่จะเป็นกินเจวันพระ
00:41:31 → 00:41:33 หรือกินใจวันเกิดอะไรอย่างเงี้ยเราก็
00:41:33 → 00:41:36 เริ่มจากจุดนั้นได้หรือว่าถ้าบอกว่า
00:41:36 → 00:41:38 อาทิตย์นึงวันนึง 3 มื้อยากไปก็อาจจะลอง
00:41:38 → 00:41:40 มื้อนึงก็ได้นะคะซึ่งอาจจะเข้ากับคน
00:41:40 → 00:41:43 ปัจจุบันที่บางคนก็ IF อยู่ละนะคะมื้อ
00:41:43 → 00:41:45 เช้าก็เลือกสิ่งที่อาจจะไม่มีเนื้อสัตว์
00:41:45 → 00:41:49 เป็นแบบโปรตีนจากพืชหรือเป็นไข่แล้วก็ลด
00:41:49 → 00:41:51 Animal Meat ละอันนี้มันก็ยังถือว่า
00:41:51 → 00:41:53 โอเคก็เป็นสิ่งที่จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
00:41:53 → 00:41:54 ได้
00:41:54 → 00:41:59 >> อืเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะดูคลิปนี้จบ
00:41:59 → 00:42:02 แล้วนะคะใครที่เคยลองทานแบบ Plant เบ base
00:42:02 → 00:42:04 นะคะไม่ว่าจะเป็นสายไหนนะคะได้ผลยังไง
00:42:04 → 00:42:07 เนี่ยก็ลองมาแชร์กันบ้างนะคะแล้วก็ถ้าใคร
00:42:07 → 00:42:09 ที่อยากจะให้เราชวนคุณหมอหรือว่ากูรูสาย
00:42:09 → 00:42:12 สุขภาพสายHealthตี้ท่านไหนนะคะมานั่งคุย
00:42:12 → 00:42:14 กับชมที่นี่นะคะเม้นต์มาบอกได้เลยค่ะ
00:42:14 → 00:42:17 เพราะว่าทีมงานของเรานะคะส่องอยู่ตลอดค่ะ
00:42:17 → 00:42:20 ดูคลิปนี้จบแล้วนะคะก็อย่าลืมนะคะกด
00:42:20 → 00:42:22 Subscribe ช่อง Life Do นะคะแล้วก็กด
00:42:22 → 00:42:25 ไลคกดแชร์ให้กับคนที่อยากจะมีสุขภาพดี
00:42:25 → 00:42:28 อยากจะกินดีแต่ว่ากลัวพลาดนะคะเพราะว่า
00:42:28 → 00:42:30 บางทีเนี่ยข้อมูลดีๆจากคลิปนึงเนี่ยนะคะ
00:42:30 → 00:42:35 อาจจะเปลี่ยนชีวิตเ้าได้ทั้งชีวิตเลยค่ะ
00:42:35 → 00:42:39 [เพลง]