อาการของโรคเก๊าทคืออะไร และเกิดขึ้นที่ตำแหน่งไหนบ่อยที่สุด

5 พอดแคสต์ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้ คุยยาว ๆ เรื่องอาหาร 2 ชั่วโมง

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 [เพลง]

00:00:0200:00:05 ค่ะสำหรับวันนี้นะคะเราก็จะมาคุยกันใน

00:00:0500:00:08 เรื่องของอาหารกับไขมันในเลือดสูงนะคะ

00:00:0800:00:10 เอ่อเรามารู้จักกันนิดนึงเวลาที่เราคุย

00:00:1000:00:13 กันว่าไขมันในเลือดสูงคืออะไรนะคะก็คือ

00:00:1300:00:15 ส่วนใหญ่เราจะมาจากการเจาะเลือดถูกมั้ยคะ

00:00:1500:00:17 เพราะมันอยู่ในเลือดเนาะทีนี้ไขมันใน

00:00:1700:00:19 เลือดสูงเวลาที่เราเจาะเลือดอ่ะค่ะมันจะ

00:00:1900:00:22 มีอยู่ 2 ตัวหลักๆที่เราคุยกันก็จะเป็น

00:00:2200:00:26 เรื่องของคอเลสเตอรอลกับไตรกีซาไลน์นะคะ

00:00:2600:00:28 ทีนี้เราจะแยกกันเนาะช่วงแรกเราอาจจะพูด

00:00:2800:00:31 ถึงตัวคอเลสเตอรอลก่อนแล้วเดี๋ยวส่วนที่ 2

00:00:3100:00:33 เราจะพูดถึงไตรกีซาไลน์คอเลสเตอรอลใน

00:00:3300:00:35 เลือดสูงเนี่ยเวลาที่เราตรวจเลือดอ่ะค่ะ

00:00:3500:00:38 เราจะมีส่วนที่เป็นคอเลสเตอรอลเป็นภาพรวม

00:00:3800:00:41 ทั้งหมดนะคะแล้วก็เขาจะพูดคำว่า

00:00:4100:00:44 คอเลสเตอรอลตัว D ก็คือ hdl กับ

00:00:4400:00:49 คอเลสเตอรอลตัวเลวก็คือ ldl นะคะทีนี้ hdl

00:00:4900:00:51 เนี่ยมันมาจากคำว่า High density เอา

00:00:5100:00:54 ง่ายๆเลยตัว High ยิ่งสูงยิ่งดีอันนี้คือ

00:00:5400:00:58 ไขมันดีตัวเลวก็คือตัว L เนาะยิ่งต่ำยิ่ง

00:00:5800:01:01 ดีนะคะอันนี้เวลาที่เราเจาะเลือดเวลาที่

00:01:0200:01:04 เราไปตรวจสุขภาพนะคะเราก็จะได้ค่าไขมันใน

00:01:0400:01:07 เลือดออกมานะคะสมัยก่อนเนี่ยเราก็จะได้

00:01:0700:01:09 แค่ค่าที่เราเรียกว่าเป็นเอ่อค่า

00:01:0900:01:12 คอเลสเตอรอลตัวรวมกับอีกตัวนึงก็คือชื่อ

00:01:1200:01:15 ว่าไตรกลีเซอไรด์นะคะจริงๆแล้วเนี่ยถ้า

00:01:1500:01:18 เราดูกลุ่มของคอเลสเตอรอลปกติก็ควรจะต่ำ

00:01:1800:01:21 กว่า 200 นะคะแล้วถ้ามากกว่า 240

00:01:2100:01:24 อันเนี้ยเราก็จะบอกว่าสูงมากละไขมันตัว

00:01:2400:01:27 เร็วหรือว่า ldl เนี่ยค่าปกติควรจะต้อง

00:01:2700:01:31 ให้ต่ำกว่า 130 นะคะแล้วถ้ามากกว่า 160

00:01:3100:01:34 เนี่ยเราจะถือว่าสูงมากละนะคะและถ้าเกิด

00:01:3400:01:38 เมื่อไหร่ก็ตามที่สูงมากกว่า 190 อันนี้

00:01:3800:01:40 เราควรจะสงสัยว่าอาจจะมีเรื่องของกรมพร

00:01:4000:01:43 ที่จะเป็นเรื่องของคอเลสเตอรอลในเลือดสูง

00:01:4300:01:46 และเป็นตัวเลขที่ควรจะต้องได้รับยาในการ

00:01:4600:01:49 รักษาแล้วค่ะสำหรับไขมันตัวดีเนี่ยจริงๆ

00:01:4900:01:52 แล้วต้องบอกว่าในผู้หญิงกับผู้ชายเนี่ยจะ

00:01:5200:01:55 มีค่าที่ต่างกันปกติผู้หญิงจะสูงกว่าผู้

00:01:5500:01:58 ชายนิดหน่อยอยู่ละนะคะทีนี้ในแต่ละแลบใน

00:01:5800:02:01 แต่ละโรงพยาบาลบาหรือว่าที่ที่ตรวจเนี่ย

00:02:0100:02:04 อาจจะกำหนดค่ากลางเนี่ยไม่เท่ากันแต่จะ

00:02:0400:02:08 บอกว่าถ้าค่าไขมันตัวดีหรือว่า hdl ที่

00:02:0800:02:11 ต่ำกว่า 40 อันเนี้ยถือว่าเพิ่มความ

00:02:1100:02:13 เสี่ยงกับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดนะ

00:02:1400:02:16 คะอันที่ 2 ก็คือไตรกีซาไลน์ค่าที่เป็น

00:02:1600:02:20 ปกติเนี่ยควรจะต่ำกว่า 150 นะคะถ้ามาก

00:02:2000:02:22 กว่า 150 แสดงว่าเริ่มสูงละนะคะแล้ว

00:02:2200:02:25 ไตรกีซาไลน์ที่สูงมากคือมากกว่า 500 อัน

00:02:2500:02:28 นี้เป็นตัวที่จะทำให้คนเนี่ยเสี่ยงกับการ

00:02:2800:02:30 ที่จะเกิดเรื่องของตับอ่อนอักเสบแล้วควร

00:02:3000:02:33 จะต้องรีบได้รับการรักษานะคะคอเลสเตอรอล

00:02:3300:02:36 เราเจาะเวลาไหนคอเลสเตอรอลในเลือดเราพอๆ

00:02:3600:02:38 กันนะคะเจาะเช้าเจาะเย็นกินข้าวแล้วไม่

00:02:3800:02:41 กินข้าวอันเนี้ยไม่กระทบกับระดับ

00:02:4100:02:44 คอเลสเตอรอลแต่ตัวกตกีสาลายอ่ะค่ะตัวเลข

00:02:4400:02:47 ที่เราบอกว่าต้องน้อยกว่า 150 อันนี้เป็น

00:02:4700:02:50 ไตกีสลายหลังจากที่เรางดน้ำงดอาหารแล้ว

00:02:5000:02:52 เพราะว่าถ้าเรากินอาหารเข้าไปปุ๊บไตกีสไล

00:02:5200:02:55 จะขึ้นด้วยคำถามก็คือว่าเอ๊ะแล้วถ้าไข่

00:02:5500:02:57 มันในเลือดสูงอ่ะแล้วมันจะทำให้เกิดอะไร

00:02:5700:03:00 กับร่างกายไม่ว่าจะคอเลสเตอรอลสูงสูงหรือ

00:03:0000:03:02 ไม่ว่าจะไตรกีสไลสูงทั้ง 2 ตัวเนี้ย

00:03:0200:03:05 สามารถที่จะทำให้เกิดเรื่องของหลอดเลือด

00:03:0500:03:10 สมองได้นะคะอ่าทำให้หัวใจไตสมองใช่มั้ยคะ

00:03:1000:03:12 พังได้เพราะฉะนั้นเนี่ยตรงเนี้ยก็คือเป็น

00:03:1200:03:15 อันนึงที่เราป้องกันไม่ให้มันเกิดปัญหา

00:03:1500:03:20 สำหรับตัวของไตรกีสไลสูงถ้าสูงมากๆในระยะ

00:03:2000:03:23 สั้นๆสูงมากๆในที่นี้คือเกิน 500 เกิน

00:03:2300:03:25 1000 อาจจะทำให้เกิดเรื่องของตับอ่อน

00:03:2500:03:28 อักเสบได้เพราะฉะนั้นอันเนี้ยเราก็เลย

00:03:2800:03:33 ต้องแยกกัน

00:03:3300:03:34 [เพลง]

00:03:3400:03:37 ถามว่าสาเหตุที่จะทำให้เกิดเรื่องของ

00:03:3700:03:40 คอเลสเตอรอลสูงหรือไตรกีสไลสูงเกิดจาก

00:03:4000:03:42 อะไรได้บ้างส่วนใหญ่เราจะให้แยกเป็น 2

00:03:4200:03:44 กลุ่มค่ะกลุ่มแรกหมายความว่าเป็นสิ่งที่

00:03:4400:03:47 มันเกิดขึ้นเองอาจจะเกิดจากการเผาผลาญใน

00:03:4700:03:50 ร่างกายผิดปกติหรืออะไรก็แล้วแต่นะคะกับ

00:03:5000:03:54 กลุ่มที่ 2 มีโรคมีภาวะหรือมียาอะไรก็ตาม

00:03:5400:03:57 ที่ทำให้มันสูงสำหรับตัวคอเลสเตอรอลหรือ

00:03:5700:03:59 ไตรกีซาไลน์เนี่ยนะคะให้ระวังเรื่อง

00:03:5900:04:03 เรื่องของยานะคะยาบางอย่างเช่นกลุ่มของ

00:04:0300:04:06 ฮอร์โมนทั้งหลายนะคะแล้วก็ตัวที่จะเป็น

00:04:0600:04:10 เรื่องของตัวระดับความผิดปกติของฮอร์โมน

00:04:1000:04:13 ยกตัวอย่างเช่นไทรรอยด์ทำงานต่ำอันนี้จะ

00:04:1300:04:17 ทำให้ตัวนี้สูงได้นะคะมีโรคตับโรคไตโรคไต

00:04:1700:04:20 ในที่นี้เช่นมีโปรตีนรั่วที่ปัสสาวะพวก

00:04:2000:04:23 นี้ก็จะทำให้ตัวคอเลสเตอรอลสูงได้เพราะ

00:04:2300:04:25 ฉะนั้นเนี่ยเวลาที่คอเลสเตอรอลหรือว่า

00:04:2500:04:28 ไตรกีสไลดสูงเนี่ยเราจะต้องหาสาเหตุก่อน

00:04:2800:04:31 ว่ามีเหตุผลอื่นมยที่ทำให้เคสูงนะคะแล้ว

00:04:3100:04:33 หลังจากนั้นเราถึงจะมาดูว่าโอเคถ้าไม่มี

00:04:3300:04:36 สาเหตุอื่นนะคะไม่ว่าจะเป็นยาไม่ว่าจะ

00:04:3600:04:38 เป็นตัวโรคต่างๆไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนผิด

00:04:3800:04:42 ปกติอันนี้เราก็จะมาเริ่มให้การรักษากัน

00:04:4200:04:44 ส่วนใหญ่ในส่วนของตัวคอเลสเตอรอลเนี่ย

00:04:4400:04:48 ต้องบอกว่าคอเลสเตอรอลเองเนี่ย 70-80 per

00:04:4800:04:50 เนี่ยค่ะมันสร้างเองเพราะฉะนั้นเนี่ยส่วน

00:04:5100:04:54 ใหญ่ถ้าสูงแล้วสูงมากๆก็จะมีปัญหาจากกรรม

00:04:5400:04:56 พันธ์อ่อไปเช็คได้เลยคุณพ่อคุณแม่มีปัญหา

00:04:5600:04:58 เรื่องคอเลสเตอรอลสูงคุณลุงคุณป้าอะไร

00:04:5800:05:01 อย่างเงี้ยพี่น้องอันนี้ควรมาเช็คและนะคะ

00:05:0100:05:04 ว่ามีหรือเปล่าเอ่อเวลาที่คอเลสเตอรอลสูง

00:05:0400:05:06 จากกรพันธ์ถ้าเกิดเป็นมากๆแล้วสูงอยู่นาน

00:05:0600:05:10 ๆให้ดูนิดนึงค่ะตรงบริเวณของเปลือกตานะคะ

00:05:1000:05:12 อาจจะมีปื้นที่เป็นปื้นสีออกเหลืองๆอยู่

00:05:1200:05:16 บริเวณเปลือกตาถ้ามีอยู่อันนี้ควรมาตรวจ

00:05:1600:05:17 อันนี้เป็นอันนึงที่บอกว่ามันเป็นไขมัน

00:05:1700:05:21 สะสมระยะยาวอันที่ 2 ก็จะมีปื้นอยู่ตรง

00:05:2100:05:24 บริเวณของเอ่อข้อมือก็ได้นะคะหรือว่าหลัง

00:05:2400:05:27 มือตรงบริเวณเส้นเอ็นนะคะแล้วก็ตรงข้อศอก

00:05:2700:05:29 หรือว่าตรงบริเวณเอ็นร้อยหวายถ้ามันหนัก

00:05:2900:05:33 ตัวขึ้นมันมีตุ่มๆมีหนาๆขึ้นมาอันนี้ให้

00:05:3300:05:35 มาตรวจเลยระวังว่าจะมีเรื่องของตัว

00:05:3500:05:37 คอเลสเตอรอลสูงไตกีสไลเองส่วนนึงก็จะเป็น

00:05:3700:05:40 กรรมพันธ์ได้แต่หลักๆเลยนะคะเหมือนที่บอก

00:05:4000:05:43 ค่ะว่าไตกีสไลดเนี่ยมันจะสูงขึ้นตามอาหาร

00:05:4300:05:45 นะคะเพราะฉะนั้นกลุ่มของอาหารที่ทำให้

00:05:4500:05:48 ไตกีซาลายสูงได้หลักๆก็จะเป็นอาหารที่

00:05:4800:05:51 เป็นพวกข้าวแป้งน้ำตาลคนที่อ้วนกิน

00:05:5100:05:54 แคลอรี่เยอะๆคนที่ดื่มเหล้านะคะพวกเนี้ย

00:05:5400:05:58 ไตกีสาลายสูงได้นะคะแล้วถ้าเราไปลดอาหาร

00:05:5800:06:01 ไตกีสาลายก็จะต่ำได้เหมือนกันไกีสไลนมี

00:06:0100:06:03 อันนึงที่พิเศษกว่าตัวคอเลสเตอรอลคือสูง

00:06:0300:06:05 มากๆให้ระวังว่าจะเป็นเรื่องของตับอ่อน

00:06:0500:06:06 อักเสบนะ

00:06:0600:06:11 [เพลง]

00:06:1100:06:14 คะในส่วนของคอเลสเตอรอลสูงก่อนนะคะในส่วน

00:06:1400:06:18 ของคอเลสเตอรอลสูงเนี่ยอาหารหลักๆเนาะที่

00:06:1800:06:20 เราจะจัดการหรือว่าเราจะช่วยในแง่ของคน

00:06:2000:06:22 ที่มีปัญหาเรื่องของคอเลสเตอรอลสูงเนี่ย

00:06:2200:06:25 มีอยู่ 4 กลุ่ม 4 กลุ่มที่ว่าเนี้ยก็จะ

00:06:2500:06:28 เป็นกลุ่มของไขมันนะคะเราจะลดในส่วนที่

00:06:2800:06:31 เป็นไขมันทรานซ์หรือว่าไขมันอิ่มตัวเราจะ

00:06:3100:06:34 ลดในส่วนของคอเลสเตอรอลในอาหารนะคะเราอาจ

00:06:3400:06:36 จะเพิ่มในส่วนที่มันเป็นไฟเบอร์หรือว่าใย

00:06:3600:06:39 อาหารแล้วเราก็จะไปเพิ่มในส่วนของการออก

00:06:3900:06:40 กำลังกายหรือว่าลดน้ำหนักอันนี้ก็จะเป็น

00:06:4100:06:42 กลุ่มหลักๆในส่วนที่จะเป็นเรื่องของ

00:06:4200:06:45 คอเลสเตอรอลทีนี้เรามาดูกันในรายละเอียด

00:06:4500:06:48 อันแรกเลยนะคะถ้าสมมุติว่าเราจะลดเนี่ย

00:06:4800:06:50 ถามว่ามีอะไรได้บ้างอันแรกก่อนเราพูดถึง

00:06:5000:06:52 เรื่องของคอเลสเตอรอลเมื่อสักครู่ใช่มั้ย

00:06:5200:06:54 คะเราก็จะต้องไปลดอาหารที่มีคอเลสเตอรอล

00:06:5400:06:57 อ่าถ้าเกิดถามว่าตัวเลขเนี่ยสมัยก่อนเรา

00:06:5700:06:59 จะบอกว่าให้กินคอเลสเตอรอลที่น้อยกว่า 300

00:06:5900:07:03 มิลกรัมคิดไม่ออกนึกไม่ได้ว่าเป็นอะไรอ่า

00:07:0300:07:05 ถ้าเป็นไข่นะคะคอเลสเตอรอลจะอยู่เฉพาะใน

00:07:0500:07:08 ไข่แดงมีอันนึงที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด

00:07:0800:07:11 ต้องบอกก่อนว่าคอเลสเตอรอลเป็นอาหารที่มี

00:07:1100:07:14 เฉพาะในสัตว์เท่านั้นอะไรก็ตามที่มาจาก

00:07:1400:07:18 พืชจะไม่มีคอเลสเตอรอลเสมอมันฝรั่งทอดไม่

00:07:1800:07:21 มีคอเลสเตอรอลปลาท่องโก๋ไม่มีคอเลสเตอรอล

00:07:2100:07:25 กะทิไม่มีคอเลสเตอรอลนะคะเพราะว่า

00:07:2500:07:27 คอเลสเตอรอลจะเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจาก

00:07:2700:07:31 สัตว์เท่านั้นนะนะคะอ่าทีนี้เวลาที่มัน

00:07:3100:07:33 เป็นอาหารที่มาจากสัตว์เนี่ยพวกที่เป็น

00:07:3300:07:36 เครื่องในอ่ะค่ะไข่แดงสมองหรืออะไรอย่าง

00:07:3600:07:38 เงี้ยพวกนี้จะเป็นของที่เรากินน้อยแต่เรา

00:07:3800:07:41 จะได้คอเลสเตอรอลเยอะเพราะฉะนั้นเราควร

00:07:4100:07:43 หลีกเลี่ยงนะคะพวกอาหารทะเลทั้งหลายอะไร

00:07:4300:07:45 อย่างเงี้ยก็จะมีคอเลสเตอรอลสูงพอสมควร

00:07:4500:07:48 พวกไข่มันนะคะอ่าเพราะฉะนั้นอันนี้เราควร

00:07:4800:07:51 จะเลี่ยงหรือว่าลดลงอันที่ 2 ที่เราบอก

00:07:5100:07:53 ว่าจะลดก็คือไขมันอิ่มตัวหรือไขมันทรานส

00:07:5300:07:56 พวกไขมันอินตัวหรือไขมันทรานสก็คือของที่

00:07:5600:07:59 วางเอาไว้แล้วเป็นไขเป็นก้อนพวกของเนยพวก

00:07:5900:08:02 ของกระทิหรือว่าพวกของน้ำมันน้ำมันหมูน้ำ

00:08:0200:08:04 มันปาล์พวกนี้เป็นต้นพอเราเลี่ยงะเราจะ

00:08:0400:08:06 เลือกอะไรเราก็เลือกน้ำมันที่มันเป็นน้ำ

00:08:0600:08:09 มันที่มันใสนะคะก็จะเป็นพวกของน้ำมันพืช

00:08:0900:08:12 เช่นน้ำมันอะไรคะน้ำมันรำข้าวน้ำมันเ่อ

00:08:1300:08:15 ถั่วเหลืองน้ำมันคาโนล่าน้ำมันมะกอกหรือ

00:08:1500:08:17 อะไรพวกนี้อันนี้คือของที่เราเลือกใช่

00:08:1700:08:21 มั้ยคะอันที่ 3 เราใช้วิธีเลี่ยงค่ะคือ

00:08:2100:08:23 เรากินให้ไขมันมันน้อยไปเลยก็จะกินพวกของ

00:08:2300:08:28 ที่มันเป็นต้มนึ่งปิ้งย่างยำอบตุ๋นนะคะ

00:08:2800:08:30 หลีกเลี่ยงพวกของทอดหรือว่าของผัดการที่

00:08:3100:08:32 เรากินผักหรือว่าเพิ่มไฟเบอร์เยอะขึ้น

00:08:3300:08:35 เนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือช่วยชะลอหรือไป

00:08:3500:08:38 แย่งที่ไม่ให้คอเลสตอรอลนี่มันดูดซึมเข้า

00:08:3800:08:41 ไปคอเลสเตอรอลก็จะดูดซึมเข้าไปน้อยลงการ

00:08:4100:08:43 ออกกำลังกายหรือว่าการลดน้ำหนักเนี่ยอัน

00:08:4300:08:46 นี้เป็นผลทางอ้อมละมันจะทำให้ไขมันตัวดี

00:08:4600:08:49 เพิ่มขึ้นนะคะก็จะช่วยเป็นตัวที่เ่อป้อง

00:08:4900:08:51 กันโรคหัวใจให้เราได้อ่าดังนั้นเนี่ย

00:08:5100:08:53 สมมุติถ้าเป็นกลุ่มอาหารเช่นถ้าเป็นพวก

00:08:5300:08:55 เนื้อสัตว์เราก็เลือกไม่ติดมันใช่มั้ยคะ

00:08:5600:08:58 อ่าเลี่ยงพวกของเนื้อสัตว์ติดมันนะคะ

00:08:5800:09:01 อาหารทะเลพวกเครื่องในอ่าถ้าเป็นกลุ่มของ

00:09:0100:09:04 ธัญพืชเราก็เลือกพวกเ่อธัญพืชเมล็ดแห้ง

00:09:0400:09:07 ข้าวหรือว่าธัญพืชที่ไม่ขัดสีนะคะเลี่ยง

00:09:0700:09:10 พวกที่เป็นพวกขัดสีไปแล้วอันนี้ก็จะช่วย

00:09:1000:09:12 เพิ่มไฟเบอร์ใช่มั้ยคะพวกผักเห็นมั้ยคะ

00:09:1200:09:15 กินผักให้เยอะขึ้นนะคะถ้ากินก็กินผักที่

00:09:1500:09:17 อาจจะทำด้วยน้ำเ่อไม่ใช่ผักทอดเนาะเดี๋ยว

00:09:1800:09:20 บอกว่ากินผักได้แต่ปรากฏว่าเป็นผักชุบ

00:09:2000:09:23 แป้งทอดอันนี้ก็คงไม่ใช่ใช่มยคะผลไม้ได้

00:09:2300:09:25 นะคะอันนี้ก็จะเป็นกลุ่มของคนไข้ที่มี

00:09:2500:09:33 ปัญหาเรื่องของคอเลสเตอรอลในเลือดสูงนะคะ

00:09:3300:09:36 อันอันนึงก็จะเป็นกลุ่มที่เป็นไตกีสไลด์

00:09:3600:09:39 สูงอ่ามีความพิเศษนิดนึงถ้าไตกีสาลายสูง

00:09:3900:09:42 เนี่ยเราก็จะลดไขมันคล้ายๆกับคอเลสเตอรอล

00:09:4200:09:45 เมื่อสักครู่นะคะก็คือลดปริมาณไขมันลงไต

00:09:4500:09:48 กีสลายเนี่ยจะตอบสนองได้ดีกับการลดน้ำ

00:09:4800:09:50 หนักลดพวกข้าวแป้งน้ำตาลโดยเฉพาะพวกที่

00:09:5100:09:53 เป็นน้ำหวานหรืออะไรก็ตามที่เข้าไปแล้ว

00:09:5300:09:56 เนี่ยมันเป็นน้ำตาลในเลือดสูงลดน้ำตาลนะ

00:09:5600:09:59 คะถ้าใครเป็นเบาหวานจะเป็นอันนึงเลยเลย

00:09:5900:10:01 ที่น้ำตาลในเลือดสูงแล้วทำให้ไตกีสาไลสูง

00:10:0100:10:05 ได้ก็ต้องไปคุมน้ำตาลลดข้าวแป้งน้ำตาลลด

00:10:0500:10:09 ไขมันลดน้ำหนักแล้วก็ออกกำลังกายอีกอัน

00:10:0900:10:11 นึงสำหรับไตกีซาไลที่จะต้องเพิ่มก็คือไป

00:10:1100:10:14 ลดแอลกอฮอล์ค่ะเพราะว่าดื่มแอลกอฮอล์เยอะ

00:10:1400:10:17 ขึ้นนะคะก็จะไปทำให้ไตรกีสาลายสูงขึ้นได้

00:10:1700:10:19 เหมือนกันค่ะก็จริงๆแล้วเวลาที่เราเจอว่า

00:10:1900:10:21 คนไข้ที่มีปัญหาเรื่องของไขมันในเลือดสูง

00:10:2100:10:24 เนี่ยจริงๆเราต้องมองหาสาเหตุไว้ด้วยนะคะ

00:10:2400:10:27 หลายๆครั้งเนี่ยคนก็มักจะแบบเหมือนกับให้

00:10:2700:10:29 ยาไปเลยอะไรอย่างเงี้ยเคยมีเคสที่ส่งมา

00:10:2900:10:32 ปรึกษาค่ะก็คือว่าเอ่อเค้ามีปัญหาเรื่อง

00:10:3200:10:36 ของคอเลสเตอรอลในเลือดสูงนะคะแล้วก็ได้ยา

00:10:3600:10:38 มาพอได้ยามาเสร็จปุ๊บก็จะมีปัญหาโน่นนี่

00:10:3800:10:41 นั่นนะคะแล้วก็ต้องเปลี่ยนยาหยุดยาคนไข้

00:10:4100:10:44 ก็บอกกินยาแล้วไม่สบายตัวโน่นนี่นั่นไป

00:10:4400:10:47 ตลอดเวลานะคะก็ในที่สุดเนี่ยเาส่งมาบอก

00:10:4700:10:50 ว่าให้คุยกับคนไข้หน่อยในเรื่องของอาหาร

00:10:5000:10:52 ปรากฏว่าพอตรวจดูคนไข้เอ๊ะทำไมชีพจรมัน

00:10:5200:10:54 เต้นช้าจังเลยคนแคกบ่นว่าน้ำหนักเพิ่ม

00:10:5400:10:58 ขึ้นค่ะหมอเนี่ยดิฉันพยายามคุมอาหารละแต่

00:10:5800:11:00 ว่าน้ำหนักมันเพิ่มขึ้นแล้วดิฉันก็ขี้

00:11:0000:11:04 หนาวหันไปดูชีพจรก็ช้าลงสุดท้ายเคสเนี้ย

00:11:0400:11:06 คะเราก็ลองไปเจาะดูไทรรอยด์นะคะปรากฏว่า

00:11:0600:11:08 คนไข้เนี่ยมีภาวะไทรรอยด์บกพร่องหรือว่า

00:11:0800:11:11 ไทรรอยด์ต่ำำคนเนี้ยแค่ให้ยาไทรอยด์อ่ะ

00:11:1100:11:14 ค่ะคอเลสเตอรอลก็กลับมาเป็นปกติหรือในบาง

00:11:1400:11:17 รายอ่ะค่ะคณไข้ไม่ได้บอกเรานะคะแต่ว่าคน

00:11:1700:11:18 ไข้อ่ะน้ำหนักตัวดูเหมือนจะเพิ่มขึ้น

00:11:1800:11:21 เรื่อยๆแล้วคนไข้ก็บ่นว่าขาบวมขาบวมทำไป

00:11:2100:11:23 ทำมาเนี่ยไปตรวจปัสสาวะปรากฏว่ามีโปรตีน

00:11:2400:11:26 รั่วในปัสสาวะแล้วภาวะเนี้ยค่ะมันก็จะไป

00:11:2600:11:28 กระตุ้นให้ร่างกายเนี่ยมีการสร้าง

00:11:2900:11:31 คอเลสเตอรอลสูงขึ้นจริงๆพวกเนี้ยถ้าเราไป

00:11:3100:11:34 รักษาต้นเหตุไปรักษาตัวโรคนะคะเราไม่

00:11:3400:11:36 จำเป็นต้องให้ยาแล้วเดี๋ยวคอเลสเตอรอลมัน

00:11:3600:11:39 ก็จะกลับมาปกติอีกคนนึงก็มาด้วยเรื่องว่า

00:11:3900:11:41 ปวดท้องเนาะไม่เคยตรวจอะไรมาก่อนเลยเป็น

00:11:4100:11:45 เบาหวานอยู่เดิมแล้วก็ปวดท้องตอนที่มา

00:11:4500:11:48 ตรวจก็ปรากฏว่าคนไข้เนี่ยมีอาการปวดท้อง

00:11:4800:11:50 แล้วสุดท้ายก็เจอว่าเป็นตับอ่อนอักเสบเขา

00:11:5000:11:53 ก็เจาะไตกีสาลายในเลือดขึ้นมาประมาณสัก

00:11:5300:11:56 3,000 อย่างเงี้ยค่ะแล้วน้ำตาลก็สูงคน

00:11:5600:11:59 เนี้ยก็ต้องไปคุมน้ำตาลก่อนเนาะพอคุมน้ำ

00:11:5900:12:01 ตาลคุมอาการทุกอย่างแล้วเนี่ยแล้วหลังจาก

00:12:0100:12:04 นั้นเรามาดูไกีสไลนมันก็ยังสูงอยู่แต่ก็

00:12:0400:12:06 จะไม่ใช่หลักพันเพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆ

00:12:0600:12:09 แล้วเนี่ยหลายๆครั้งอ่ะค่ะที่เราเจอว่า

00:12:0900:12:11 พวกไขมันในเลือดสูงเนี่ยมันไม่ได้มาด้วย

00:12:1100:12:14 ตัวมันเองแต่มันมาด้วยเหตุผลอื่นเพราะ

00:12:1400:12:16 ฉะนั้นตรงเนี้ยถ้าเกิดใครที่เจอว่าตัวเอง

00:12:1600:12:20 มีไขมันในเลือดสูงนะคะให้มองหาด้วยว่ามี

00:12:2000:12:23 ปัญหาหรือเปล่าอีกรายนึงคือคุณหมอให้ยา

00:12:2300:12:25 ฮอร์โมนบางอย่างนะคะเพื่อรักษาโรคอยู่ที่

00:12:2500:12:27 บ้านก็ไม่ได้มีกรรมพันธ์เบาหวานไม่ได้มี

00:12:2700:12:30 กรรมพันธ์ไขมันอะไรสักพักนึงก็ถูกส่งมา

00:12:3000:12:33 ปรึกษาเพราะว่าคนไข้มีคอเลสเตอรอลในเลือด

00:12:3300:12:36 สูงทำไปทำมาก็แค่เป็นเพราะยาซึ่งอันเนี้ย

00:12:3600:12:38 เราจำเป็นที่จะต้องมาเช็คดูนะคะว่ายาที่

00:12:3800:12:41 ได้อ่ะมันเป็นสาเหตุที่ทำให้คอเลสเตอรอล

00:12:4100:12:45 สูงมมในขณะเดียวกันต่อให้ยาเป็นสาเหตุแต่

00:12:4500:12:48 ถ้ายามันจำเป็นในการรักษาโรคเราก็จำเป็น

00:12:4800:12:49 ที่จะต้องให้การรักษาเรื่องของ

00:12:4900:12:52 คอเลสเตอรอลควบคู่กันไปด้วยทีนี้ถ้าเกิด

00:12:5200:12:54 คอเลสเตอรอลในเลือดสูงเนี่ยถามว่าเราจะ

00:12:5400:12:57 ต้องทำยังไงอย่างแรกเราก็จะให้คำแนะนำ

00:12:5700:12:59 เรื่องของอาหารปรับพฤพฤติกรรมปรับเปลี่ยน

00:12:5900:13:01 พฤติกรรมไปก่อนนะคะขึ้นกับว่าเป็น

00:13:0100:13:04 คอเลสเตอรอลสูงหรือว่าไตรกีสลายสูงอย่าง

00:13:0400:13:07 ไรก็ตามค่ะคอเลสเตอรอลเองเนี่ยต้องบอกเลย

00:13:0700:13:10 ว่าเอ่อประมาณ 70-80 per เนี่ยเขาสร้าง

00:13:1000:13:13 เองในร่างกายส่วนที่เขาได้รับจากอาหารเอง

00:13:1300:13:16 เนี่ยมันอยู่ที่ประมาณสักไม่เกิน 30%

00:13:1600:13:19 เพราะฉะนั้นหลายครั้งบางคนก็จะชอบบอกว่า

00:13:1900:13:22 ฉันก็ไม่อ้วนเนาะกินก็ดีแล้วทำไม

00:13:2200:13:24 คอเลสเตอรอลสูงจังเลยกลุ่มเนี้ยพอไปดู

00:13:2400:13:26 เสร็จปรากฏว่าโอเคครอบครัวเนี่ยมี

00:13:2600:13:29 คอเลสเตอรอลสูงกันอยู่หลายคนซึ่งอันนี้อา

00:13:2900:13:32 จะเป็นกรรมพันธ์นะคะแล้วสุดท้ายก็อาจจะ

00:13:3200:13:34 ต้องจบลงที่การกิน

00:13:3400:13:38 [เพลง]

00:13:3800:13:41 ยาในส่วนของการรักษาคอเลสเตอรอลนะคะเรา

00:13:4100:13:44 ไม่ได้รักษาที่ตัวเลขคำถามคือเรารักษา

00:13:4400:13:47 อะไรถ้าเป็นคอเลสเตอรอลหรือไตกีสไลโดย

00:13:4700:13:48 เฉพาะในกลุ่มของคอเลสเตอรอลก่อนเนาะ

00:13:4800:13:51 คอเลสเตอรอลที่สูงเนี่ยเราจะรักษาเพราะ

00:13:5100:13:53 เราป้องกันไม่ให้คนไข้เนี่ยเกิดเรื่องของ

00:13:5300:13:55 โรคหัวใจนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่เรา

00:13:5500:13:58 รักษาเราจะมีเป้าหมายอยู่ 2 อย่างอันแรก

00:13:5800:14:01 คือคนคนนั้นน่ะมีโรคหัวใจยังถ้ามีโรคหัว

00:14:0100:14:04 ใจไปแล้วมีหลอดเลือดสมองไปแล้วเป็นสตกไป

00:14:0400:14:08 แล้วอันนี้ยังไงก็ต้องได้ยาคุณหมอไม่สนใจ

00:14:0800:14:11 เลยค่ะว่าคอเลสเตอรอลเท่าไหร่สนใจแค่ว่า

00:14:1100:14:14 คนเนี้ยต้องได้ยานะคะเพราะฉะนั้นคนเนี้ย

00:14:1400:14:17 คุณหมอเขาคก็จะสั่งยาไปเลยกลุ่มที่ 2 คือ

00:14:1700:14:20 ยังไม่ได้เป็นโรคแต่มีคอเลสเตอรอลสูงอ่า

00:14:2000:14:23 กลุ่มเเราก็จะมาประเมินค่ะว่าเอ๊ะ

00:14:2300:14:25 คอเลสเตอรอลที่สูงเนี่ยเา้ามีความเสี่ยง

00:14:2500:14:29 อื่นๆมยเช่นอายุเยอะมั้ยมีความดันมยสูบ

00:14:2900:14:33 บุหรี่หรือเปล่ามีเบาหวานมยแล้วก็จะเอามา

00:14:3300:14:35 ดูว่าความเสี่ยงทั้งหมดเนี่ยมันมากหรือ

00:14:3500:14:40 เปล่าถ้าเสี่ยงมากเขาก็จะเริ่มพิจารณาให้

00:14:4000:14:43 ยานะคะถ้าเสี่ยงน้อยนะคะก็จะบอกว่าให้

00:14:4300:14:46 ปรับพฤติกรรมไปก่อนให้คุมเรื่องอาหารไป

00:14:4600:14:48 ก่อนซึ่งอาหารเมื่อกี้เราก็บอกไปแล้วเนาะ

00:14:4800:14:52 4 ส่วนใช่มยคะก็จะเป็นลดคอเลสเตอรอลลดไข

00:14:5200:14:55 มันอิ่มตัวลดไขมันทรานเพิ่มไฟเบอร์เพิ่ม

00:14:5500:14:57 การออกกำลังกายแล้วก็ลดน้ำหนักทีนี้พอทำ

00:14:5700:14:59 ไปเสร็จแล้วปุ๊บปุ๊บเนี่ยเราก็จะต้องมี

00:14:5900:15:01 การประเมินนแล้วก็ติดตามซ้ำนะคะถ้า

00:15:0100:15:04 ประเมินแล้วติดตามซ้ำถามว่าทำเมื่อไหร่ก็

00:15:0400:15:06 ประมาณ 4-6 เดือนถ้าสมมุติยังไม่ดีขึ้น

00:15:0600:15:10 อ่ะแล้วก็จะดูอีกทีนึงว่ามันสูงขึ้นมยถ้า

00:15:1000:15:12 มันสูงขึ้นมากเราก็อาจจะพิจารณาในเรื่อง

00:15:1200:15:15 ของการให้ยากลุ่มที่เราสงสัยว่าจะเป็น

00:15:1500:15:18 กรรมพันธ์ก็คือกลุ่มที่ ldl หรือว่าไขมัน

00:15:1800:15:20 ตัวเร็วเนี่ยมากกว่า 190 จริงอยู่ค่ะเค้า

00:15:2000:15:22 อาจจะอายุไม่เยอะนะคะเค้ามีประวัติ

00:15:2200:15:24 ครอบครัวชัดเจนเค้าไม่มีความเสี่ยงอื่นๆ

00:15:2500:15:27 เลยแต่ถ้าสมมุติว่าคอเลสเตอรอลในเลือก

00:15:2700:15:30 เค้าสูงมากนะคะเกิน 300 หรือว่าไข่มันตัว

00:15:3000:15:33 เร็วเกิน 190 อันนี้เรามองในภาพรวมค่ะว่า

00:15:3300:15:36 เค้าคงสูงมานานแล้วแล้วก็ระยะยาวหรือว่า

00:15:3600:15:39 ในชีวิตเาเนี่ยความเสี่ยงเขาจะเยอะก็คุย

00:15:3900:15:43 กับคนไข้พิจารณาเรื่องของการใช้ยาแต่ว่า

00:15:4300:15:45 จะใช้หรือไม่ใช้ขึ้นอยู่กับคนไข้เลยค่ะ

00:15:4500:15:48 เพราะว่าเราต้องคุยกันก่อนว่าโอเคเราจะ

00:15:4800:15:51 ใช้เพื่ออะไรนะคะเรามีผลข้างเคียงมยเป็น

00:15:5100:15:54 ยังไงแล้วคนไข้จะเป็นคนตัดสินใจว่าจะใช้

00:15:5400:15:56 ยาหรือเปล่ายาที่ใช้หลักๆสำหรับการลด

00:15:5600:15:59 คอเลสเตอรอลตอนนี้มี 3 กลุ่มมียากิน 2

00:15:5900:16:02 กลุ่มกับยาฉีด 1 ตัวนะคะยาฉีดเราไม่พูด

00:16:0200:16:04 ถึงก่อนแล้วกันเนาะเออไม่มีใครอยากจะฉีด

00:16:0400:16:07 ยาส่วนของยากินมี 2 กลุ่มกลุ่มที่ใช้กัน

00:16:0700:16:10 เยอะๆก็คือไปลดการสร้างคอเลสเตอรอลนะคะ

00:16:1000:16:13 ซึ่งออกรที่ตับตัวเนี้ยค่ะที่คนจะชอบพูด

00:16:1300:16:15 กันมากเลยว่าผลแ้างเคียงหลักๆก็คือตับ

00:16:1500:16:18 อักเสบกล้ามเนื้ออักเสบปวดกล้ามเนื้อโน่น

00:16:1800:16:20 นี่นั่นตัวเนี้ยมันจะสามารถลดคอเลสเตอรอล

00:16:2100:16:23 ได้ดีค่ะถ้าสมมุติคอเลสเตอรอลที่มีอยู่

00:16:2300:16:25 เนี่ยมันจะลดได้ประมาณ 30-50 per เพราะ

00:16:2500:16:28 ฉะนั้นลดลงไปครึ่งนึงใช่่มยคะประสิทธิภาพ

00:16:2800:16:31 ดีมากนะคะอันที่ 2 ก็คือกลุ่มที่ไปยับ

00:16:3100:16:34 ยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลที่ลำไส้กลุ่ม

00:16:3400:16:37 เนี้ยประสิทธิภาพอยู่ที่ประมาณ 10 -20%

00:16:3700:16:39 ก็จะไม่ได้เยอะมากแต่ไม่ค่อยมีผลข้าง

00:16:3900:16:42 เคียงเพราะฉะนั้นเวลาที่คุณหมอจะพิจารณา

00:16:4200:16:44 ยาหรือว่าคนไข้จะได้รับยาอะไรเนี่ยก็คุย

00:16:4400:16:46 กับคุณหมอก่อนก็ได้ค่ะว่าเอ่อมันควรจะ

00:16:4600:16:49 ต้องได้แล้วหรือยังนะคะเช่นความเสี่ยงสูง

00:16:4900:16:52 ควรต้องได้อีกอันนึงก็คือในคนไข้ที่เป็น

00:16:5200:16:54 เบาหวานคนแค่ที่เป็นเบาหวานเราถือว่าความ

00:16:5400:16:57 เสี่ยงสูงเนาะถ้ามีเบาหวานแล้วเนี่ย ldl

00:16:5700:16:59 หรือว่าไขมันตัวเร็วมันยังสูงสงอยู่เกินร

00:16:5900:17:01 อย่างเงี้ยค่ะส่วนใหญ่คุณหมอเขาก็พิจารณา

00:17:0100:17:04 ที่จะให้ยาแต่ว่าอันนี้ส่วนนึงก็ต้องบอก

00:17:0400:17:06 ว่าพูดเป็นหลักการเนาะที่เหลือคุยกับคุณ

00:17:0600:17:09 หมอที่ดูแลอยู่นะคะแล้วเวลาที่เราให้ยา

00:17:0900:17:11 เราก็จะต้องบอกว่าเขาจะได้ยากลุ่มไหนผล

00:17:1100:17:15 ข้างเคียงคืออะไรในส่วนของอาหารเสริม

00:17:1500:17:17 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือว่าสมุนไพรมีอะไร

00:17:1700:17:20 บ้างมที่จะสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลเราจะ

00:17:2000:17:23 เคยได้ยินอันนึงที่เขาเรียกว่าเป็นสตอ

00:17:2300:17:26 หรือสาออันนี้มีข้อมูลจริงๆค่ะว่าสามารถ

00:17:2600:17:28 จะช่วยลดคอเลสเตอรอลได้

00:17:2800:17:31 แต่ว่าเอฟเฟคของมันเนี่ยมันจะช่วยลด

00:17:3100:17:33 เรื่องของการดูดซึมของคอเลสเตอรอลเพราะ

00:17:3300:17:36 ฉะนั้นลดได้ประมาณ 10-20 per จะลดได้ไม่

00:17:3600:17:39 เยอะอันที่ 2 ในส่วนของสมุนไพรเราอาจจะ

00:17:3900:17:41 ได้ยินเขาเรียกว่าเป็นข้าวแดงอ่ะค่ะมันจะ

00:17:4100:17:45 ใช้คำว่า Red yeast Light นะคะ Red D

00:17:4500:17:47 เนี่ยก็คือจะเป็นตัวนึงที่มันเป็นข้าวสี

00:17:4700:17:50 แดงซึ่งตัวเนี้ยมันจะมีสารบางอย่างมี

00:17:5000:17:53 คุณสมบัติเหมือนกันเลยกับยาดังนั้นสิ่ง

00:17:5300:17:55 ที่ต้องทราบคือถ้ากินยาอยู่เราจะไม่กิน

00:17:5500:17:57 สมุนไพรตัวนี้ร่วมกันนะไม่งั้นเดี๋ยวจะ

00:17:5700:18:00 เกิดพิษจากยาอันนี้คือข้อควรระวังที่ต้อง

00:18:0000:18:03 ทราบถ้าจะกินส่วนสมุนไพรตัวอื่นๆนะค่ะไม่

00:18:0300:18:06 มีข้อมูลนะคะว่ามันจะมีประสิทธิภาพในแง่

00:18:0600:18:08 ของการลดคอเลสเตอรอลได้ดีอีกเรื่องนึงสุด

00:18:0800:18:11 ท้ายเลยถ้าสมมุติจะใช้ยากลุ่มนี้หรือหลาย

00:18:1100:18:14 คนได้อยู่นะคะยากลุ่มเนี้ยค่ะเขาจะเรียก

00:18:1400:18:16 ว่ามีปฏิกิริยาหรือที่เรียกว่ายาตีกันอัน

00:18:1600:18:19 นี้ต้องระวังถ้าเราจะต้องไปได้รับยาพวกยา

00:18:1900:18:23 ฆ่าเชื้อบางตัวยาที่รักษาเชื้อราบางตัวนะ

00:18:2300:18:27 คะแล้วกินร่วมกันกับยาลดไขมันมันอาจจะทำ

00:18:2700:18:29 ให้ระดับของยาลดไขมันในเลือดเนี่ยมันสูง

00:18:2900:18:32 ขึ้นแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือว่าได้รับ

00:18:3200:18:35 มากเกินไปเดี๋ยวอาจจะเกิดอันตรายได้เพราะ

00:18:3500:18:37 ฉะนั้นเนี่ยถ้าสมมุติว่าจำเป็นจะต้องได้

00:18:3700:18:39 ยาอะไรเก็บอกเ้าด้วยว่าตอนนี้เรามียาตัว

00:18:3900:18:42 นี้อยู่นะยามันจะตีกันหรือเปล่าอีกอันนึง

00:18:4200:18:44 นอกเหนือจากยาที่จะตีกันจะเป็นเรื่องของ

00:18:4400:18:47 อาหารไม่ใช่แค่ยานะคะที่กินเข้าไปแล้วจะ

00:18:4700:18:50 มีผลกับยาตัวอื่นแต่อาหารที่กินเข้าไปก็

00:18:5000:18:54 มีผลเหมือนกันยกตัวอย่างเช่นน้ำผลไม้บาง

00:18:5400:18:57 อย่างอ่าถ้าเป็นฝรั่งชื่อว่าน้ำเปฟนะคะ

00:18:5700:19:00 เปฟไม่ใช่น้ำน้ำองุ่นนะเป็นผลไม้ชนิดนึง

00:19:0000:19:03 หน้าตาคล้ายๆส้มประมาณเล็กกว่าส้มโออ่ะ

00:19:0300:19:05 ค่ะฝานเข้าไปแล้วตรงตรงผิวหรือว่าตรง

00:19:0500:19:07 เนื้อมันจะเป็นสีออกแดงๆกินแล้วจะลด

00:19:0700:19:10 เฝื่อนๆตัวเนี้ยถ้ากินร่วมกันกับยาลดไข

00:19:1000:19:13 มันนะคะสิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้ระดับยาลด

00:19:1300:19:15 ไขมันในเลือดเนี่ยเยอะขึ้นอันนี้ต้อง

00:19:1500:19:18 ระวังไม่ควรจะกินด้วยกันถ้าเป็นบ้านเรา

00:19:1800:19:21 ที่ไม่มีเปฟรุดให้ระวังพวกน้ำทับทิมพวก

00:19:2100:19:23 น้ำทับทิมถ้ากินด้วยกันเนี่ยก็อาจจะทำให้

00:19:2300:19:26 มีผลได้เพราะฉะนั้นบางทีเเวลาที่เราทานยา

00:19:2600:19:29 นะคะการกินอาหารเสริมการกินอะไรเข้าไปเรา

00:19:2900:19:31 ก็ต้องระวังว่ายามันจะตีกันหรือ

00:19:3100:19:36 [เพลง]

00:19:3600:19:39 เปล่า 4 เทคนิคในการที่จะลดไขมันในเลือด

00:19:3900:19:43 นะคะอันแรกเลยก็คือวิธีการปรุงอาหารนะคะ

00:19:4300:19:46 โดยการลดปริมาณไขมันในการปรุงอาหารหลีก

00:19:4600:19:48 เลี่ยงพวกของทอดหรือว่าของผัดแล้วก็เลือก

00:19:4800:19:52 เป็นพวกของต้มนึ่งปิ้งย่างยำอบตุ๋นนะคะที

00:19:5200:19:54 นี้ถ้าใครยังจะชอบอยู่ก็อาจจะใช้วิธีว่า

00:19:5500:19:56 เอ๊ะจะทำยังไงถ้าของที่กินยังอยากจะเป็น

00:19:5700:20:00 ผัดก็จะใช้ใช้เป็นเลือกของการผัดน้ำนะคะ

00:20:0000:20:02 ผัดน้ำก็อาจจะมีน้ำมันนิดเดียวนะคะเพื่อ

00:20:0200:20:04 จะเจียวกระเทียมหรือว่าเราอาจจะใช้

00:20:0400:20:07 กระเทียมเจียวที่มันแหงๆ้หน่อยนะคะเราใส่

00:20:0700:20:09 เนื้อแล้วก็ใช้แทนที่จะเป็นน้ำมันน่ะค่ะ

00:20:0900:20:12 แล้วก็ใส่เป็นพวกน้ำสต๊อกลงไปนะคะแล้วก็

00:20:1200:20:15 ผัดไปตามปกติเลยอันนี้ก็จะลดปริมาณของไข

00:20:1500:20:18 มันนะคะอันที่ 2 ค่ะจะเป็นไข่ดาวน้ำอ่า

00:20:1800:20:21 แทนที่จะเป็นไข่ดาวปกติก็ทำเป็นไข่ดาวน้ำ

00:20:2100:20:24 นะคะอันนี้ก็จะช่วยลดเรื่องของไขมันได้นะ

00:20:2400:20:27 คะเลือกกระทะค่ะใช้กระทะเทฟลอนหรืออะไร

00:20:2700:20:30 อย่างเงี้ยเพื่อที่จะทำให้ลดปริมาณการใช้

00:20:3000:20:32 น้ำมันลงวิธีที่ 2 เวลาที่เราเลือก

00:20:3200:20:34 ผลิตภัณฑ์เนี่ยเราเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีไข

00:20:3400:20:37 มันต่ำอันนี้ก็จะทำให้เราลดเรื่องของการ

00:20:3700:20:39 ใช้น้ำมันลงไปได้เช่นแทนที่เราจะกินเป็น

00:20:3900:20:43 เอ่อไขมันที่เป็น full Fat เป็นนม full

00:20:4300:20:45 Fat เราก็จะใช้เป็นโล Fat แทนอันที่ 3

00:20:4500:20:48 ค่ะเราเพิ่มผักและผลไม้เหมือนที่บอกค่ะ

00:20:4800:20:50 ผักและผลไม้จะช่วยลดการดูดซึมเรื่องของ

00:20:5000:20:53 คอเลสเตอรอลข้อสุดท้ายค่ะให้เพิ่มเป็นพวก

00:20:5300:20:55 ผักในอาหารมากขึ้นหรือเราจะเรียกว่าเป็น

00:20:5500:20:58 Plant Bas Diet คือกินผักกินกินผลไม้

00:20:5800:21:01 ไปสู่มังสวิรัสมากขึ้นนะคะในกรณีของ

00:21:0100:21:04 มังสวิรัตแน่นอนค่ะเมื่อมันมีผมันมีเนื้อ

00:21:0400:21:06 สัตว์น้อยลงส่วนที่เป็นคอเลสเตอรอลก็จะลด

00:21:0600:21:10 ลงนะคะแล้วก็พวกที่เป็นผักผลไม้พวกเนี้ย

00:21:1000:21:13 หรือแนเบสเนี่ยเขาก็จะกินในส่วนที่เป็น

00:21:1300:21:16 เรื่องของไฟเบอร์เยอะขึ้นนะคะไขมันอิ่ม

00:21:1600:21:18 ตัวน้อยลงข้อสำคัญสำหรับ Plant Bas Diet

00:21:1800:21:20 บางคนบอกเป็น Plant Base Diet ไม่กิน

00:21:2000:21:23 เนื้อสัตว์แต่กินน้ำหวานไม่เอานะคะ Plant

00:21:2300:21:25 Base Diet เนี่ยจะต้องกินเป็นเอ่อเค้า

00:21:2600:21:28 เรียกว่าข้าวแป้งน้ำตาลที่เป็นคอมเพลก

00:21:2800:21:30 คาร์โบไฮเดรตหรือว่าเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิง

00:21:3000:21:33 ซ้อนไม่แนะนำที่จะให้กินพวกน้ำหวานหรือ

00:21:3300:21:35 ว่าน้ำตาลเป็นปริมาณมากเพราะว่าถ้าเราไป

00:21:3500:21:38 กินน้ำหวานหรือน้ำตาลเยอะพอน้ำตาลในเลือด

00:21:3800:21:41 เราสูงขึ้นสิ่งที่ตามมาคือไตรกีสไลดจะสูง

00:21:4100:21:42 ขึ้นเช่นกัน

00:21:4200:21:46 [เพลง]

00:21:4600:21:50 ค่ะค่ะโดยสรุปนะคะสำหรับไข่มันในเลือดสูง

00:21:5000:21:52 เนี่ยจริงๆหลักๆถ้ามีไข่มันในเลือดสูงเรา

00:21:5200:21:55 จะแยกก่อนว่าเขาจะมีโรคอะไรที่ทำให้ไขมัน

00:21:5500:21:58 ในเลือดสูงมถ้ามีเราก็ไปรักษาตัวโรคถ้า

00:21:5800:22:01 ไม่มีเราก็มาเริ่มในแง่ของการรักษาตัวไข

00:22:0100:22:04 มันในเลือดสูงเลยนะคะก็จะเริ่มต้นจาก

00:22:0400:22:06 เรื่องของปรับพฤติกรรมนะคะเรื่องของอาหาร

00:22:0600:22:09 นะคะในส่วนของคอเลสเตอรอลสูงเนี่ยเราก็จะ

00:22:0900:22:12 มีอยู่ 4 ส่วนเนาะอันแรกก็คือลด

00:22:1200:22:15 คอเลสเตอรอลลดไขมันอิ่มตัวหรือว่าไขมัน

00:22:1500:22:18 ทรานนะคะเพิ่มผักผลไม้หรือเพิ่มไฟเบอร์

00:22:1800:22:20 แล้วก็ลดน้ำหนักหรือว่าเพิ่มการออกกำลัง

00:22:2000:22:23 กายนะคะในส่วนของไตรกีซาไลน์เราจะเพิ่ม

00:22:2300:22:26 อีกนิดเดียวก็คือลดเรื่องของข้าวแป้งน้ำ

00:22:2600:22:29 ตาลลดน้ำหนักเหมือนเดิมนะคะแล้วก็ลด

00:22:2900:22:32 แอลกอฮอล์นะคะอันนี้ก็จะเป็นคอนเซปหลักๆ

00:22:3200:22:34 ในเรื่องของการเ่อปรับพฤติกรรมหรือว่า

00:22:3400:22:36 ปรับในเรื่องของอาหารสำหรับคนไข้ที่มีไข

00:22:3600:22:38 มันในเลือดสูงถ้าเราปรับทั้งหมดแล้วยัง

00:22:3800:22:41 ไม่ดีขึ้นเราก็มาดูว่าคนๆนั้นน่ะมีความ

00:22:4100:22:43 เสี่ยงที่จะเกิดเรื่องของโรคหัวใจและหลอด

00:22:4300:22:46 เลือดมากมยนะคะถ้าเกิดระดับไขมันในเลือด

00:22:4600:22:49 มันสูงมากซึ่งคิดว่าอาจจะมีความเสี่ยงใน

00:22:4900:22:52 เรื่องของการเป็นกรมพรเราก็จะให้ยาถ้า

00:22:5200:22:54 เกิดเา้ามีความเสี่ยงกับโรคหลัวใจและหลอด

00:22:5400:22:57 เลือดเยอะเราก็ค่อยมาเริ่มให้ยาเวลาที่

00:22:5700:22:59 เราจะเริ่มให้ยาเราก็จะแนะนำคนไข้ในส่วน

00:23:0000:23:02 ของเรื่องของเ่อภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิด

00:23:0200:23:05 ขึ้นแล้วก็พิจารณาว่าเราจะใช้ยาตัวไหน

00:23:0500:23:08 แล้วก็สำหรับอ่ารายการอื่นๆนะคะที่เกี่ยว

00:23:0800:23:10 ข้องกับเรื่องของไขมันในเลือดสูงมันจะมี

00:23:1000:23:12 ลิงก์อยู่ใต้คลิปอันนี้นะคะแล้วก็ฝากติด

00:23:1200:23:15 ตาม podcast อันต่อไปของเราด้วยวันนี้ลา

00:23:1500:23:18 ไปก่อนค่ะสวัสดี

00:23:1800:23:21 ค่ะสำหรับวันนี้นะคะเราก็จะมาคุยกันใน

00:23:2100:23:24 เรื่องของโรคเก๊าทนะคะหลายคนคงเคยได้ยิน

00:23:2400:23:26 เรื่องโรคเก๊าทนะคะวันนี้เราจะมารู้จัก

00:23:2600:23:29 กันว่าโรคเก๊าทเนี่ยคืออะไรนะคะแล้วการ

00:23:2900:23:32 รักษาของโรคเก๊าทเนี่ยจะเป็นยังไงนะคะ

00:23:3200:23:34 ทั้งในเรื่องของการรักษาด้วยยาการรักษาใน

00:23:3400:23:37 เรื่องของอาหารกินยังไงถึงจะเหมาะกับโรค

00:23:3700:23:40 เก๊าค่ะสำหรับโรคเก๊านะคะก็คือโรคข้อ

00:23:4000:23:43 อักเสบค่ะที่เกิดขึ้นจากการตกตะกอนของกรด

00:23:4300:23:46 ยูริกนะคะที่บริเวณข้อนะคะดังนั้นเนี่ย

00:23:4700:23:49 มักจะเกิดขึ้นในคนไข้ที่มีภาวะยูริกใน

00:23:4900:23:52 เลือดสูงแต่ว่าการที่คนไข้มียูริกในเลือด

00:23:5200:23:54 สูงไม่ได้จำเป็นนะคะว่าจะต้องเป็นโรค

00:23:5400:23:57 เก๊าทเสมอไปเพราะฉะนั้นเนี่ยโรคเก๊าทใน

00:23:5700:23:59 ที่นี้จะต้องมีข้ออักเสบด้วยแล้วข้อ

00:23:5900:24:02 อักเสบอันนั้นเนี่ยก็นำมาจากการที่มีกรด

00:24:0200:24:04 ยูริกในเลือดสูงแล้วทำให้เกิดคริสตัลของ

00:24:0400:24:07 กรดยูริกอยู่ที่ข้อค่ะสำหรับอาการของโรค

00:24:0800:24:10 เก๊าอ่ะนะคะก็จริงๆจะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ

00:24:1000:24:13 เนาะระยะแรกเนี่ยก็คือในช่วงที่มีข้อ

00:24:1300:24:16 อักเสบนะคะมันจะเกิดขึ้นทันทีทันใดระยะ

00:24:1600:24:19 ที่ 2 ก็คือช่วงที่หายคือไม่มีอาการนะคะ

00:24:1900:24:22 แบบที่ 3 ก็คือเป็นๆหายๆแล้วก็เรื้อรังนะ

00:24:2300:24:25 คะเพราะฉะนั้นเนี่ยในกรณีของโรคเก๊าท

00:24:2500:24:27 เนี่ยเราก็จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มกลุ่มแรก

00:24:2700:24:30 คือช่วงที่มีอาการอักเสบเฉียบพลันนะคะ

00:24:3000:24:33 ช่วงที่ 2 คือช่วงที่โรคสงบคือไม่มีอาการ

00:24:3300:24:36 แล้วช่วงที่ 3 ก็คือเป็นๆหายๆเป็นเรื้อ

00:24:3600:24:39 รังจนในบางรายเนี่ยอาจจะมีเป็นปุ่มหรือ

00:24:3900:24:42 ว่าเป็นก้อนอยู่ตรงบริเวณข้อซึ่งอันนั้น

00:24:4200:24:45 เนี่ยมันจะเป็นลักษณะของตัวคริสตัลของตัว

00:24:4500:24:48 กรดยูริกอ่ะค่ะที่ทำให้มันไปเกาะอยู่ตาม

00:24:4800:24:51 บริเวณข้อสะสมนานเข้าจนกระทั่งเป็นก้อน

00:24:5100:24:55 ขึ้นมาแล้วอาจจะทำให้เกิดความลำบากในแง่

00:24:5500:25:02 ของการเคลื่อนไหวร่างกายค่ะ

00:25:0200:25:04 สำหรับอันแรกนะคะก็คือระยะที่ข้ออักเสบ

00:25:0400:25:07 เฉียบพลันนะคะในกรณีของคนที่เป็นโรคเก๊าท

00:25:0800:25:09 เนี่ยจะมีข้อสังเกตนิดนึงก็คือว่าข้อ

00:25:0900:25:12 อักเสบเนี่ยจะเป็นปุ๊บปั๊บค่อนข้างเป็น

00:25:1200:25:16 ทันทีทันใดเลยนะคะแล้วก็จะปวดมากนะคะจริง

00:25:1600:25:18 ๆแล้วเนี่ยไม่ทำอะไรก็หายได้เนาะเอ่อ

00:25:1800:25:21 อาการจะค่อยดีขึ้นเนี่ยประมาณอาทิตย์นึง

00:25:2100:25:24 นะคะแต่ว่าการที่จะเป็นมากๆนี่คือภายใน 24

00:25:2400:25:28 ชมงแรกเวลาที่ปวดเนี่ยการขยับขอบพวกเนี้ย

00:25:2800:25:30 ก็จะทำให้อาการมันเป็นมากขึ้นดังนั้นส่วน

00:25:3000:25:33 ใหญ่เวลาที่เป็นเนี่ยคนไข้มักจะไม่ค่อย

00:25:3300:25:36 ขยับข้อแล้วเนื่องจากว่าข้อที่เป็นบ่อยๆ

00:25:3600:25:38 อ่ะค่ะมักจะเป็นข้อเท้าหรือว่าตรงบริเวณ

00:25:3800:25:41 ของหัวนิ้วโป้งที่เท้านะคะก็เลยทำให้คน

00:25:4100:25:43 ไข้เนี่ยขยับตัวไม่ค่อยไหวแล้วก็ไม่ยอม

00:25:4400:25:47 เดินนะคะอันเนี้ยก็จะเป็นช่วงแรกที่เป็น

00:25:4700:25:49 ถ้าหากว่ามีการรักษาก็จะทำให้ระยะเวลาของ

00:25:4900:25:52 การปวดเนี่ยมันสั้นลงได้ค่ะก็จะมีคำถาม

00:25:5200:25:55 ที่ถามกันมาเยอะเลยว่าเวลาเป็นโรคเก๊าท

00:25:5500:25:57 แล้วเนี่ยเราควรจะไปบีบนวดมั้ยเอาจริงๆ

00:25:5800:26:00 เวลาที่เป็นโรคเก๊านะคะโดยเฉพาะในขณะที่

00:26:0000:26:04 อาการมันกำเริบคือมีอาการปวดข้อเนี่ยไม่

00:26:0400:26:08 แนะนำนะคะห้ามบีบห้ามนวดควรจะอยู่นิ่งๆ

00:26:0800:26:09 เพราะไม่งั้นเนี่ยมันจะทำให้เราเนี่ยมี

00:26:0900:26:12 อาการปวดมากขึ้นมันอาจจะยังเป็นการ

00:26:1200:26:15 กระตุ้นให้ผลึกของกรดยูริกอ่ะค่ะเข้าไป

00:26:1500:26:18 สู่ข้อแล้วทำให้ข้ออักเสบเฉียบพลันรุนแรง

00:26:1800:26:21 มากขึ้นได้ถ้าถามว่าในขณะที่เริ่มมีอาการ

00:26:2100:26:25 ปวดของโรคเก๊าทควรทำยังไงเราควรจะพัก

00:26:2500:26:29 อวัยวะหรือว่าข้อที่มีการปวดเอาไว้ยกตัว

00:26:2900:26:32 อย่างนะคะถ้าสมมุติว่าเราปวดที่เท้าเราก็

00:26:3200:26:35 ต้องหยุดการใช้เท้าอาจจะให้เรายกเท้าสูง

00:26:3500:26:38 ขึ้นมาเพื่อช่วยลดอาการบวมได้สามารถที่จะ

00:26:3800:26:41 ประคบเย็นได้นะคะเพื่อจะลดการอักเสบตรง

00:26:4100:26:44 บริเวณที่เราปวดถ้าสมมุติว่าการปวดมันยัง

00:26:4400:26:47 ลุกลามมันยังอักเสบเพิ่มขึ้นอันนี้เราควร

00:26:4700:26:50 จะต้องไปเจอแพทย์นะคะเพื่อที่จะได้รับยา

00:26:5000:26:53 ระยะที่ 2 ก็คือช่วงที่หายเหมือนที่บอก

00:26:5300:26:55 เมื่อสักครู่นะคะว่าต่อให้เราไม่รักษา

00:26:5500:26:57 เนี่ยจริงๆอาการมันก็จะค่อยๆดีขึ้นได้ได้

00:26:5700:27:00 แต่มันจะใช้เวลานานซึ่งบางคนเนี่ยจะใช้

00:27:0000:27:03 เวลาประมาณแบบ 10-14 วันแล้วแต่เลยอยู่

00:27:0300:27:06 ที่ประมาณซักอาทิตย์กว่าๆนะคะทีนี้ช่วง

00:27:0600:27:08 เนี้ยค่ะถ้าเราไม่ได้รักษาอะไรเลยแล้ว

00:27:0800:27:11 ระดับกรดยูริกในเลือดยังสูงอยู่มันก็มี

00:27:1100:27:14 โอกาสที่จะเกิดซ้ำอีกนะคะก็จะนำไปสู่ระยะ

00:27:1400:27:18 ที่ 3 คือเป็นๆหายๆอยู่เรื่อยๆแล้วกรด

00:27:1800:27:20 ยูริกในเลือดที่สูงมากๆเนี่ยมันก็จะมาตก

00:27:2100:27:23 ตะกอนดงบริเวณข้อแล้วทำให้ข้ออักเสบคำถาม

00:27:2300:27:26 ก็คือว่าเอ๊แล้วยูริกเนี่ยมันมาจากไหน

00:27:2600:27:28 แล้วคนไข้ที่มียูริกในเลือดสูงเนี่ย

00:27:2800:27:31 จำเป็นต้องเป็นเกาทุกคนหรือเปล่าอันนี้ก็

00:27:3100:27:34 จะบอกว่าข้อแรกเลยยูริกนะคะจริงๆเราสร้าง

00:27:3400:27:37 เองในร่างกายส่วนใหญ่เลยของกรดยูริกที่มี

00:27:3700:27:40 ในเลือดเนี่ยเราสร้างเองในร่างกายอีกส่วน

00:27:4000:27:44 นึงประมาณ 20 -30% เนี่ยจริงๆได้มาจาก

00:27:4400:27:46 อาหารแต่ว่าอาหารเนี่ยเราจะไม่มีอาหารที่

00:27:4600:27:50 มันมียูริกนะคะอาหารที่เรากินเข้าไปเนี่ย

00:27:5000:27:52 ถ้าเป็นอาหารที่มีพิวรีนสูงอันนี้เวลา

00:27:5200:27:54 เข้าไปในร่างกายปั๊บร่างกายเราจะเปลี่ยน

00:27:5400:27:58 จากพิวรีนอ่ะค่ะให้กลายเป็นกรดยูริกนะคะ

00:27:5800:28:00 อันนี้ก็จะบอกว่าระดับยูริกในเลือดนะคะ

00:28:0000:28:03 โดยปกติเนี่ยเวลาที่เราไปตรวจสุขภาพอ่ะ

00:28:0300:28:05 ค่ะมันก็จะมีค่าปกติอยู่ซึ่งปกติเนี้ยเรา

00:28:0500:28:08 ก็ไม่ควรจะเกินเลข 7 เนาะในผู้หญิงนี้ก็

00:28:0800:28:10 อาจจะอยู่ต่ำกว่าผู้ชายนิดนึงก็ประมาณ 6

00:28:1000:28:13 กว่าๆหรือว่าไม่เกิน 6 นะคะทีนี้ถ้า

00:28:1300:28:15 สมมุติว่าในกรณีที่ยูริกในเลือดสูงจำเป็น

00:28:1500:28:19 มยที่เราจะเป็นเก๊าทไม่จำเป็นค่ะคนไข้ที่

00:28:1900:28:21 ยูริกในเลือดสูงเนี่ยมีแค่จำนวนนึงซึ่ง

00:28:2100:28:23 เป็นส่วนน้อยประมาณ 10-20 per เท่านั้น

00:28:2300:28:26 เองที่เขาจะกลายไปเป็นโรคเก๊าทนะคะนอก

00:28:2600:28:28 เหนือจากโรคพวกเก๊าแล้วเนี่ยยูริกมันทำ

00:28:2800:28:31 อันตรายอะไรได้อีกถ้ามันสูงอยู่นานๆเนี่ย

00:28:3100:28:34 ค่ะมันอาจจะมีการตกตะกอนที่ไตทำให้เกิด

00:28:3400:28:36 นิ่วหรือว่าทำให้เกิดไตเสื่อมได้เหมือน

00:28:3600:28:38 กัน

00:28:3800:28:41 [เพลง]

00:28:4100:28:44 ค่ะเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็นโรคเก๊าทนะ

00:28:4400:28:46 คะอันแรกก่อนที่เราคุยกันมาตั้งแต่ต้นก็

00:28:4600:28:48 คือว่าโรคเก๊าทเนี่ยคือข้ออักเสบเพราะ

00:28:4800:28:50 ฉะนั้นเราต้องมีข้ออักเสบก่อนอ่าข้อ

00:28:5000:28:55 อักเสบเป็นยังไงปวดบวมแดงแล้วก็ร้อนนะคะ

00:28:5500:28:57 การขยับข้อแล้วทำให้มีอาการปวดหรือเจ็บ

00:28:5700:29:00 มากขึ้นนะคะอันนี้ก็จะเป็นอาการที่เริ่ม

00:29:0000:29:04 ต้นของข้ออักเสบโรเก๊าเจอในใครบ้างจริงๆ

00:29:0400:29:06 แล้วบอกว่าเจอได้ในทุกคนน่ะเนาะแต่ว่าที่

00:29:0600:29:08 เจอบ่อยเนี่ยจะเป็นผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

00:29:0800:29:12 นะคะอายุที่เจอบ่อยๆก็คือ 50-60 ปีขึ้นไป

00:29:1200:29:15 นะคะถามว่าในหนุ่มกว่านี้จะเจอได้ไหตอบ

00:29:1500:29:18 ว่าได้แต่ถามว่าส่วนใหญ่ก็ต้องเป็นกลุ่ม

00:29:1800:29:21 นั้นนะคะตำแหน่งที่เจอคือตรงไหนส่วนใหญ่

00:29:2100:29:24 จะเป็นส่วนของด้านล่างของร่างกายนะคะที่

00:29:2400:29:27 เจอบ่อยๆก็จะเป็นพวกข้อเท้านะคะหรือว่า

00:29:2700:29:30 บริเวณของนิ้วโป้งที่เท้าอ่ะนะคะอันนี้ก็

00:29:3000:29:33 จะเจอบ่อยหรือบางคนก็จะเจอที่ข้อเข่าก็

00:29:3300:29:36 ได้นะคะเราจะรู้ได้ยังไงว่าคนๆนี้เป็นโรค

00:29:3600:29:39 เก๊าทวิธีการวินิจฉัยที่แน่นอนเราจะต้อง

00:29:3900:29:42 เจาะแล้วก็ดูดเอาน้ำในข้อที่บวมอ่ะนะคะ

00:29:4200:29:44 มันจะมีน้ำอยู่ในข้อเขาก็จะเจาะดูดเอาน้ำ

00:29:4400:29:48 ในข้อออกมาแล้วก็ไปส่องกล้องเราก็จะเตย

00:29:4800:29:50 คริสตัลซึ่งเกิดจากกรดยูริกอนะคะอันเนี้ย

00:29:5000:29:52 พอเวลาที่เราไปส่องกล้องจุลทัศน์แล้วเรา

00:29:5300:29:55 เห็นร่วมกับการที่คนไข้มีข้ออักเสบ

00:29:5500:29:57 อันเนี้ยมันก็จะเป็นการวินิจฉัยว่าคนๆคัน

00:29:5700:29:59 เนี้ยข้ออักเสบเกิดขึ้นจากคริสตัลของ

00:29:5900:30:02 ยูริกแล้วเราก็เรียกว่าเก๊าทนะคะทีนี้ใน

00:30:0200:30:05 บางครั้งบางทีเนี่ยคุณหมออาจจะไม่ได้เจาะ

00:30:0500:30:08 ดูเรื่องของน้ำในข้อนะคะแต่เขาคก็จะเจาะ

00:30:0800:30:10 เลือดดูแล้วดูว่ายูริกมันสูงมั้ยอันนี้

00:30:1000:30:14 เป็นการดูทางอ้อมถ้ายูริกในเลือดสูงนะคะ

00:30:1400:30:17 อาการปวดเนี่ยมันเป็นเฉียบพลันเลยอยู่ๆก็

00:30:1700:30:20 ปวดขึ้นมานะคะมีข้อบวมข้ออักเสบนะคะแล้ว

00:30:2000:30:23 ก็อยู่ในตำแหน่งที่เข้าได้ด้วยอันนี้เรา

00:30:2300:30:26 ก็บอกว่าอ่าน่าจะเป็นเรื่องของเก๊าทนะคะ

00:30:2600:30:29 หรือในบางบางรายเนี่ยก็อาจจะมีการทำ xray

00:30:2900:30:32 นะคะพอ xray เสร็จแล้วเราก็มาดูว่าเออมัน

00:30:3200:30:35 มีลักษณะของกระดูกที่มันสึกกล่อนไปหรือ

00:30:3500:30:38 เปล่าการที่กระดูกมันสึกกร่อนเนี่ยบอกเรา

00:30:3800:30:41 ว่ามันเป็นมานานหรือว่าเป็นหลายๆรอบนะคะ

00:30:4100:30:43 ทีนี้พอมันสึกกร่อนไปมากๆหรือว่าถ้าเกิด

00:30:4300:30:46 มีการตกตะกอนของยูริกเราก็จะเห็นเป็นก้อน

00:30:4600:30:49 ขึ้นมาอันนี้ก็จะบอกได้ว่าเป็นเกาหรือ

00:30:4900:30:52 เปล่าทีนี้หลายๆคนนะคะก็แค่ปวดข้อแล้วก็

00:30:5200:30:55 สงสัยเอ๊ะไปตรวจเลือดตรวจสุขภาพประจำปีก็

00:30:5500:30:58 เจอว่ายูริกสูงเราก็กังวลว่าจะเป็นเกา

00:30:5800:31:01 หรือเปล่าต้องบอกก่อนว่ามันคือข้ออักเสบ

00:31:0100:31:05 ถ้าแค่เราขยับข้อเราเดินเราปวดเราเมื่อย

00:31:0500:31:06 อะไรอย่างนี้เราจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของ

00:31:0600:31:10 เก๊าทนะคะหลายคนจะแบบมีเรื่องของข้อเข่า

00:31:1000:31:13 เสื่อมแล้วก็อ้วนแล้วก็ไปตรวจเจอว่ายูริก

00:31:1300:31:16 ในเลือดสูงแล้วก็กังวลตลอดเวลาว่าเอ๊ะฉัน

00:31:1600:31:18 จะเป็นเรื่องของตัวรกเก๊าทหรือเปล่าอะไร

00:31:1800:31:21 อย่างเงี้ยอันนี้ก็จะเจอบ่อยนะคะคำถามคือ

00:31:2100:31:24 ยูริกในเลือดสูงแล้วสูงแค่ไหนเราถึงจะ

00:31:2400:31:27 รักษาจริงๆสูงนิดหน่อยเนี่ยเราไม่ไม่

00:31:2700:31:29 จำเป็นต้องให้ยานะคะในที่นี้เนี่ยถ้าค่า

00:31:2900:31:32 ปกติอยู่ที่ประมาณ 6 หรือ 7 ใช่มั้ยคะ

00:31:3200:31:35 สมมุติว่าเราได้ยูริกประมาณ 8 อาจจะยัง

00:31:3500:31:38 ไม่จำเป็นที่จะต้องได้ยานะคะความจำเป็นใน

00:31:3800:31:41 แง่ของการรีบด่วนในการรักษาเนี่ยกรดยูริก

00:31:4100:31:43 มันจะต้องสูงมากๆอ่ะค่ะประมาณแบบ 10 อะไร

00:31:4300:31:46 อย่างเงี้ยเนาะเราถึงจะรีบรักษาแล้วเวลา

00:31:4600:31:49 ที่เรารักษาค่ะเป้าหมายในการรักษาเนี่ย

00:31:4900:31:53 มันก็ขึ้นกับแต่ละคนถ้าคนนั้นมียูริกที่

00:31:5300:31:57 สูงนะคะมีข้ออักเสบในแง่ของการรักษาโรคเา

00:31:5700:31:59 นะคะการรักษาที่จะประสบความสำเร็จได้

00:31:5900:32:01 เนี่ยจริงๆเนี่ยเราต้องเริ่มรักษาตั้งแต่

00:32:0100:32:05 เริ่มต้นไม่ใช่ปล่อยทิ้งเอาไว้แล้วการที่

00:32:0500:32:08 รู้จักโรคอย่างรวดเร็วนะคะแล้วก็รับการ

00:32:0800:32:10 รักษาอย่างรวดเร็วอันเนี้ยก็จะช่วยให้

00:32:1000:32:13 ประสบความสำเร็จในระยะยาวได้ดีกว่านะคะ

00:32:1300:32:16 ไม่มีการอักเสบของข้อเรื้อรังไม่มีเรื่อง

00:32:1600:32:18 ของการบาดเจ็บระยะยาวหรือไม่มีการสึก

00:32:1800:32:22 กร่อนของตัวข้อหรือกระดูกนะคะทีนี้เนี่ย

00:32:2200:32:24 ถามว่าเวลารักษาเนี่ยเราจะรักษาไปนานเท่า

00:32:2400:32:27 ไหร่หลายคนคือพอหายเจ็บปุ๊บก็หยุดยักเลย

00:32:2700:32:30 เนาะแต่จริงๆแล้วเราต้องคุมให้ระดับของ

00:32:3000:32:32 ยูริกในเลือดเนี่ยค่อนข้างเป็นปกติมากที่

00:32:3200:32:35 สุดนะคะอันนี้เนี่ยการรักษาเนี่ยอาจะต้อง

00:32:3500:32:38 ใช้เวลานะคะ 6 เดือนถึงปีนึงนะคะโดยเฉพาะ

00:32:3800:32:41 ถ้าสมมุติว่าใครที่มีตุ่มมีก้อนขึ้นมา

00:32:4100:32:43 แล้วเนี่ยการคุมระดับยูริกในเลือดให้ค่อน

00:32:4300:32:46 ข้างเป็นปกติเนี่ยจะทำให้ตุ่มหรือก้อน

00:32:4600:32:49 อันเนี้ยมันยุบลงได้นะคะระดับยูริกใน

00:32:4900:32:51 เลือดที่ปกติที่เราอยากได้คือมันควรจะ

00:32:5100:32:54 ต้องต่ำกว่า 6 นะคะอันเนี้ยในกรณีเรื่อง

00:32:5400:33:01 ของการรักษานะคะ

00:33:0100:33:04 ในกรณีที่เราทราบว่ายูริกในเลือดเราสูงนะ

00:33:0400:33:07 คะเราก็ควรที่จะต้องมีการปรับพฤติกรรม

00:33:0700:33:09 หรือปรับเรื่องของอาหารแต่ถ้าสมมุติว่า

00:33:0900:33:12 ยูริกมันสูงมากบางทีเนี่ยคุณหมอก็อาจจะ

00:33:1200:33:15 พิจารณาในเรื่องของการให้ยาทีนี้ในรายการ

00:33:1500:33:16 ของเราวันนี้เนี่ยเราก็จะมาโฟกัสกันว่า

00:33:1600:33:19 เอ๊ะถ้าสมมุติว่าเราอยากจะปรับในเรื่อง

00:33:1900:33:21 ของอาหารที่เรารับประทานอยู่เพื่อจะทำให้

00:33:2100:33:24 ระดับยูริกในเลือดเราไม่สูงจนเกินไปเนี่ย

00:33:2400:33:26 เราจะทำยังไงได้บ้างอย่างที่พูดตั้งแต่

00:33:2600:33:29 ตอนต้นน่ะค่ะว่ายูริกในเลือดเนี่ยสร้าง

00:33:2900:33:32 เองในร่างกายเนาะแต่อาหารที่เรากินอ่ะค่ะ

00:33:3200:33:34 ไม่ใช่ยูริกอาหารที่เรากินชื่อว่าพิวรีน

00:33:3400:33:38 ดังนั้นเนี่ยเราก็จะดูว่าถ้าเรามียูริกใน

00:33:3800:33:40 เลือดสูงเราควรจะเลือกอาหารที่มีพิวรีน

00:33:4000:33:43 ต่ำถูกมั้ยคะถ้าพิวรีนต่ำเข้าไปมันก็จะทำ

00:33:4300:33:46 ให้ยูริกในเลือดเราไม่สูงเราจะแบ่งอาหาร

00:33:4600:33:49 ที่เรากินเนี่ยเป็น 3 กลุ่มเนาะกลุ่มแรก

00:33:4900:33:52 เราจะเรียกว่ากลุ่มที่มีพิวรีนสูงกลุ่ม

00:33:5200:33:54 ที่ 2 เป็นพิวรีนปานกลางกลุ่มที่ 3 ก็คือ

00:33:5400:33:57 พิวรีนต่ำถ้าอาหารที่มีพิวรีนสูงงสูงเรา

00:33:5700:34:00 ก็จะกินน้อยหน่อยอาหารที่มีพิวรีนต่ำแล้ว

00:34:0000:34:02 ก็สามารถที่จะกินได้มากขึ้นทีนี้พิวรีน

00:34:0200:34:05 เนี่ยเราอาจจะเคยได้ยินแล้วล่ะว่าโอ้โห

00:34:0500:34:07 ห้ามกินโน่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมดเลยถ้าเรา

00:34:0700:34:10 แบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆนะคะกลุ่มที่มาจาก

00:34:1000:34:13 พืชแล้วก็กลุ่มที่มาจากสัตว์อันแรกก่อน

00:34:1300:34:15 กลุ่มที่มาจากพืชค่อนข้างดีปลอดภัยหน่อย

00:34:1500:34:18 ต่อให้มีพิวรีนสูงเวลากินเข้าไปแล้วเนี่ย

00:34:1800:34:20 ร่างกายก็ไม่เปลี่ยนไปเป็นกรดยูริกมากนัก

00:34:2000:34:23 แต่ถ้าพิวรีนที่มาจากสัตว์อันนี้คืออัน

00:34:2300:34:26 ที่เราจะต้องระมัดระวังอ่ะเรามาดูกันก่อน

00:34:2600:34:29 ว่ากลุ่มไหนบ้างที่มีพิวรีนสูงอันแรกก็จะ

00:34:2900:34:31 เป็นพวกเครื่องในนะคะยกตัวอย่างตั้งแต่

00:34:3100:34:35 ตับไตไส้พุงสมองพวกเนี้ยมันมีพิวรีนค่อน

00:34:3500:34:37 ข้างมากถ้าทานเข้าไปแล้วเนี่ยก็จะทำให้

00:34:3700:34:39 ร่างกายมีการสร้างกรดยูริกสูงขึ้นอันนี้

00:34:3900:34:43 ควรงดนะคะอันที่ 2 ก็จะเป็นกลุ่มของอาหาร

00:34:4300:34:46 ทะเลซีฟู้ดทั้งหลายนะคะเช่นเป็นพวกปล่า

00:34:4600:34:49 ปลาดุกปลาสาดีนนะคะหรือว่าเป็นพวกของหอย

00:34:4900:34:51 กุ้งอะไรพวกนี้อันนี้ก็จะต้องกินปริมาณ

00:34:5100:34:54 น้อยลงหรือว่าลดลงถ้าเกิดท่านมียูริกใน

00:34:5400:34:57 เลือดสูงอยู่แล้วนะคะอันที่ 3 3 ก็จะ

00:34:5700:34:59 เป็นกลุ่มที่มียีสค่ะพวกนี้เนี่ยจะมี

00:34:5900:35:03 พิวรีนค่อนข้างสูงอะไรบ้างเอ่ยอันแรกก็จะ

00:35:0300:35:06 เป็นกลุ่มของพวกเบียร์เห็นมคะเวลาที่เรา

00:35:0600:35:08 ทำมีหมักมีอะไรอย่างเงี้ยพวกเเนี่ยถือว่า

00:35:0800:35:11 มีพิวรีนสูงจริงๆด้วยแอลกอฮอล์เองเนี่ย

00:35:1100:35:14 อาจจะไม่ได้เป็นตัวกระทบโดยตรงนะคะแต่ว่า

00:35:1400:35:16 แอลกอฮอล์จะทำให้การเผ่าผลานเรื่องของ

00:35:1600:35:18 พิวรีนมันแย่ลงเพราะฉะนั้นแอลกอฮอล์ทั้ง

00:35:1800:35:21 กลุ่มเราขอบอกว่าถ้าคุณแค่เป็นโรคเก๊า

00:35:2100:35:23 แล้วอยากจะให้เลี่ยงนะคะแต่โดยเฉพาะ

00:35:2300:35:25 เบียร์อันนี้จะมีพิวรีนด้วยเพราะฉะนั้น

00:35:2500:35:28 เบียร์เนี่ยจะเป็นตัวที่ทำให้อาการมันแย่

00:35:2800:35:31 ลงได้อย่างชัดเจนนะคะอันที่ 2 ก็คือพวก

00:35:3100:35:33 เบเกอรี่หลายๆอย่างที่มันจะต้องใช้ยีสต์

00:35:3300:35:36 ลงไปนะคะพวกนี้เราก็ต้องควรงดแล้วก็

00:35:3600:35:39 เลี่ยงนะคะอันถัดมาก็จะเป็นกลุ่มของพวก

00:35:3900:35:41 ซุปอ่ะค่ะเพราะว่าเวลาที่เราทำน้ำสต๊อก

00:35:4100:35:44 เนี่ยนะคะเราก็จะต้องใส่พวกของกระดูกหรือ

00:35:4400:35:47 อะไรก็แล้วแต่พวกนี้ก็จะทำให้มีพิวรีนสูง

00:35:4700:35:49 ถ้าเราดื่มหรือว่าเรากินพวกที่เป็นน้ำ

00:35:4900:35:52 สต๊อกมากขึ้นนะคะอันถัดมาก็จะเป็นกลุ่ม

00:35:5200:35:54 ที่เป็นพิวรีนปานกลางอันนี้จะเป็นกลุ่ม

00:35:5400:35:57 ของเนื้อสัตว์เป็นส่วนใหญ่นะคะคะไม่ว่าจะ

00:35:5700:36:00 เป็นหมูเป็นไก่หรือว่าจะเป็นพวกของปลา

00:36:0000:36:03 ทั้งหลายนะคะก็จะอยู่ในกลุ่มนี้นะคะอัน

00:36:0300:36:05 ที่ทุกคนจะได้ยินกันมาตลอดก็คือเรื่องของ

00:36:0500:36:07 ไก่หรือว่าสัตว์ปีกนะคะจริงๆแล้วไก่หรือ

00:36:0700:36:09 สัตว์ปีกเนี่ยเราจะจัดอยู่ในกลุ่มที่เป็น

00:36:0900:36:12 พิวรีนปานกลางเรายังสามารถจะรับประทานได้

00:36:1200:36:15 นะคะโดยเฉพาะถ้าเป็นไปได้เนี่ยก็จะบอกว่า

00:36:1500:36:17 ให้รับประทานแบบไม่กินหนังเนาะเพราะว่า

00:36:1700:36:20 ของที่มีไขมันสูงเนี่ยอาจจะมีผลกระทบหรือ

00:36:2000:36:22 ว่าผลเสียกับคนแข่ที่เป็นโรคเกาได้เหมือน

00:36:2200:36:25 กันนะคะกลุ่มสุดท้ายในกลุ่มที่มีพิรินต่ำ

00:36:2500:36:29 แล้วก็สามารถจะรับประทานได้มากขึ้นนะคะ

00:36:2900:36:32 อันนี้ก็จะเป็นพวกผักทั้งหลายนะคะต่อให้

00:36:3200:36:34 บอกว่าเอ๊ะเราเคยได้ยินว่าผักที่มันเป็น

00:36:3400:36:36 ผักทอดยอดหรืออะไรก็ตามกลุ่มนี้ต่อให้มัน

00:36:3600:36:39 มีพิรินที่ค่อนข้างสูงนิดนึงแต่ปริมาณที่

00:36:3900:36:42 เรากินเรากินไม่เยอะกับอันที่ 2 ก็คือว่า

00:36:4200:36:44 พอกินเข้าไปแล้วเนี่ยในร่างกายเรามีการ

00:36:4400:36:47 เปลี่ยนแปลงที่ทำให้ไปเกิดเป็นยูริกเนี่ย

00:36:4700:36:50 ต่ำกว่าดังนั้นกลุ่มของผักเนี่ยสามารถรับ

00:36:5000:36:52 ประทานได้พวกไข่หรือว่าพวกที่เป็น

00:36:5200:36:55 ผลิตภัณฑ์จากนมนะคะก็รับประทานได้ถ้าเป็น

00:36:5500:36:57 ไปได้อยากจะให้เป็นเป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่

00:36:5700:37:00 เป็น low Fat นะ

00:37:0000:37:03 [เพลง]

00:37:0300:37:06 คะค่ะแนวทางในการเลือกรับประทานอาหาร

00:37:0600:37:09 สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องของกรดยูริกสูง

00:37:0900:37:12 หรือว่าเป็นโรคเก๊าทนะคะอันแรกเลยเนี่ยก็

00:37:1200:37:14 คือต้องควบคุมน้ำหนักนะคะเลือกอาหารที่

00:37:1400:37:17 อาจจะมีไขมันต่ำพลังงานต่ำแล้วก็หลีก

00:37:1700:37:19 เลี่ยงกลุ่มที่เป็นน้ำหวานนะคะหรือว่า

00:37:1900:37:21 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลปริมาณมากเพราะว่า

00:37:2100:37:23 ทั้งหมดเนี่ยจะเปลี่ยนไปเป็นเรื่องของ

00:37:2300:37:27 ยูริกสูงได้นะคะอันที่ 2 ก็คือเลือกอาหาร

00:37:2700:37:29 ที่มีพิวรีนต่ำที่เราบอกมาแล้วเมื่อตอน

00:37:2900:37:32 ต้นนะคะถ้าเกิดจะกินอาหารที่มีพิวรีนปาน

00:37:3200:37:36 กลางก็จำกัดปริมาณการรับประทานนะคะอันที่

00:37:3600:37:39 3 หลีกเลี่ยงหรือว่าจำกัดการใช้เครื่อง

00:37:3900:37:42 ดื่มแอลกอฮอล์นะคะเพราะว่าพวกนี้ก็จะทำ

00:37:4200:37:45 ให้เรื่องของยูริกในเลือดสูงได้แล้วก็สุด

00:37:4500:37:47 ท้ายค่ะถ้าเราเลือกได้เราจะเลือกอาหารที่

00:37:4700:37:49 มีโอเมก้า 3 เพิ่มขึ้นเหตุผลเพราะว่า

00:37:4900:37:52 โอเมก้า 3 เองเนี่ยสามารถที่จะช่วยลดการ

00:37:5200:37:55 อักเสบแล้วก็อาจจะช่วยส่งผลดีในเรื่องของ

00:37:5500:37:59 โรคเกาได้ด้วยค่ะในส่วนของกรดโอเมก้า 3

00:37:5900:38:01 นะคะที่จะช่วยลดการอักเสบเนี่ยจริงๆแล้ว

00:38:0100:38:04 มีอยู่ในอาหารหลายๆประเภทนะคะถ้าเป็น

00:38:0400:38:06 กลุ่มพวกของเนื้อสัตว์ก็จะเป็นกลุ่มของ

00:38:0600:38:08 ปลานะคะซึ่งมีทั้งในปลาทะเลแล้วก็ปลาน้ำ

00:38:0800:38:11 จืดไม่จำเป็นเลยว่าจะต้องเป็นปลาทะเลนะคะ

00:38:1200:38:14 นอกเหนือจากในกรณีของการรับประทานจาก

00:38:1400:38:16 อาหารก็จะมีคนถามว่าเอ๊ะถ้างั้นเนี่ยเรา

00:38:1600:38:19 ไปซื้อมาได้มซื้อเป็นเม็ดๆเป็นแคปซูลสิ่ง

00:38:1900:38:21 ที่เราจะได้จากเป็นเม็ดๆหรือเป็นแคปซูล

00:38:2100:38:23 เนี่ยเราจะได้แค่โอเมก้า 3 ซึ่งสกัดมา

00:38:2400:38:26 เป็นน้ำมันแต่เราจะไม่ได้โปรตีนเราจะไม่

00:38:2600:38:29 ได้สอาหารอื่นนะคะเพราะฉะนั้นอันนี้เนี่ย

00:38:2900:38:31 ก็อาจจะต้องระวังนิดนึงนะคะอันที่ 2 ค่ะ

00:38:3200:38:34 ในกรณีที่เรากินพวกโอเมก้า 3 ที่เป็น

00:38:3400:38:37 แคปซูลแล้วปริมาณมากเนี่ยมันจะทำให้เลือด

00:38:3700:38:40 ของเราเนี่ยแข็งตัวช้าลงแล้วก็เพิ่มความ

00:38:4000:38:41 เสี่ยงในการที่จะทำให้เลือดออกได้เหมือน

00:38:4100:38:44 กันค่ะพิวรีนที่เรารับประทานเข้าไปเนี่ย

00:38:4400:38:47 จริงๆมันคือวัตถุดิบแล้วทำให้ร่างกาย

00:38:4700:38:49 เนี่ยสร้างสิ่งที่เราเรียกว่ากรดยูริกออก

00:38:4900:38:52 มานะคะทีนี้ถ้าเราใส่วัตถุดิบเข้าไปเยอะ

00:38:5200:38:54 คือกินพิวรีนเยอะเนี่ยมันก็จะได้วัตถุดิบ

00:38:5400:38:57 ก็คือกรดยูริกเยอะของบางอย่างอ่ะค่ะอาจจะ

00:38:5700:39:00 ไม่ได้มีพิวรีนแต่ทำให้ร่างกายเนี่ย

00:39:0000:39:02 เปลี่ยนไปเป็นกรดยูริกได้เยอะยกตัวอย่าง

00:39:0200:39:05 เช่นแอลกอฮอล์เมื่อกี้ที่บอกไปแล้วนะคะ

00:39:0500:39:08 อันที่ 2 ก็จะเป็นเรื่องของการเผาผลาญใน

00:39:0800:39:11 ร่างกายนะคะยกตัวอย่างเช่นคนอ้วนนะคะคน

00:39:1100:39:13 อ้วนเนี่ยจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงแล้วก็

00:39:1300:39:16 เกิดยูริกเยอะขึ้นเพราะฉะนั้นเนี่ยคนอ้วน

00:39:1600:39:19 ก็ควรจะต้องลดน้ำหนักนะคะอีกอันนึงก็เป็น

00:39:1900:39:22 อาหารที่มีไขมันสูงอันนี้เราก็จะแนะนำว่า

00:39:2200:39:25 ควรที่จะต้องลดนะคะกินอาหารที่มีไขมันต่ำ

00:39:2500:39:28 อันนี้จะมีผลดีกับยูริกมากกว่าแล้วสุด

00:39:2800:39:30 ท้ายค่ะเนื่องจากยูริกในร่างกายที่สร้าง

00:39:3000:39:34 ขึ้นเนี่ยมันจะมีการขับออกทางไตเราไม่ควร

00:39:3400:39:36 จะปล่อยให้ร่างกายแห้งหรือว่าขาดน้ำเพราะ

00:39:3600:39:39 อันเนี้ยจะยิ่งทำให้ยูริกเนี่ยมีการตก

00:39:3900:39:42 ตะกอนหรือว่าส่งผลเสียมากขึ้นค่ะเมื่อเรา

00:39:4200:39:45 เลือกวัตถุดิบที่เราจะเอามาใช้ทำอาหารได้

00:39:4500:39:47 แล้วอนะคะว่าเราเลือกอันที่มันเป็นพิริน

00:39:4700:39:50 ต่ำเนาะกระบวนการในการทำอาหารนี้ก็สำคัญ

00:39:5000:39:53 เหมือนกันเพราะเรารู้แล้วว่าอ้วนเองเนี่ย

00:39:5300:39:55 ก็สามารถที่จะทำให้ยูริกในเลือดสูงได้ดัง

00:39:5500:39:58 นั้นเนี่ยเนี่ยเราไม่ควรที่จะใช้อาหารที่

00:39:5800:40:01 มีน้ำมันเข้ามาเป็นส่วนประกอบในการทำ

00:40:0100:40:05 อาหารสูงมากนักนะคะก็ควรจะหลีกเลี่ยงพวก

00:40:0500:40:07 ที่เป็นทอดหรือว่าเป็นผัดแล้วก็กินพวกต้ม

00:40:0700:40:11 นึ่งปิ้งย่างยำอบตุ๋นอะไรทั้งหลายเพื่อ

00:40:1100:40:13 ที่จะทำให้แคลอรีหรือพลังงานเนี่ยมันลดลง

00:40:1300:40:14 นะ

00:40:1400:40:18 [เพลง]

00:40:1800:40:21 คะการดูแลตัวเองนะคะโดยเฉพาะการเลือกรับ

00:40:2100:40:23 ประทานอาหารเองเนี่ยหรือว่าการดูแลตัวเอง

00:40:2300:40:26 ทั้งหมดเนี่ยก็จะช่วยสามารถทำให้เราเนี่ย

00:40:2600:40:29 ควบคุมระดับยูริกในเลือดได้ดีแล้วถ้าเรา

00:40:2900:40:31 ควบคุมระดับยูริกในเลือดได้ดีเนี่ยคุณหมอ

00:40:3100:40:34 ก็จะสามารถลดยาลงได้นะคะหลายๆท่านที่มี

00:40:3400:40:37 ปัญหาเรื่องเก๊าทเนี่ยก็อาจจะมียาเยอะแยะ

00:40:3700:40:39 ไปหมดเลยทีนี้ถ้าเราดูแลตัวเองได้ดีขึ้น

00:40:3900:40:43 เราก็จะสามารถลดยาลงได้ในทางกลับกันค่ะ

00:40:4300:40:46 ถ้าเรามีปัญหาเรื่องของยูริกในเลือดสูง

00:40:4600:40:49 แล้วเราไม่ได้รักษาส่วนนึงอาจจะเปลี่ยนไป

00:40:4900:40:52 เป็นเรื่องของโรคเก๊าได้หรือถ้าใครที่มี

00:40:5200:40:55 ปัญหาข้ออักเสบเป็นโรคเก๊าทไปแล้วนะคะ

00:40:5500:40:57 แล้วยังไม่ได้ดูดแลตัวเองเพราะคิดว่าเออ

00:40:5700:40:59 เป็นแล้วเดี๋ยวมันก็หายได้สิ่งที่เกิด

00:41:0000:41:02 ขึ้นและเป็นผลกระทบระยะยาวเนี่ยก็จะทำให้

00:41:0200:41:06 ข้ออักเสบเรื้อรังนะคะแล้วก็มีการตกตะกอน

00:41:0600:41:08 ของตัวยูริกเนี่ยที่บริเวณข้อเป็นก้อน

00:41:0800:41:11 เป็นตุ่มขึ้นมาที่เราเห็นในข่าวนะคะสิ่ง

00:41:1100:41:14 ที่เกิดขึ้นเวลาที่เรามีการข้ออักเสบ

00:41:1400:41:16 เนี่ยค่ะมันจะทำให้การใช้งานของข้อเนี่ย

00:41:1600:41:19 ทำได้ลำบากมากขึ้นแล้วยิ่งถ้ามีตุ่มมี

00:41:1900:41:22 ก้อนเนี่ยแสดงว่าเริ่มมีการสลายของตัว

00:41:2200:41:25 กระดูกและนะคะในระยะยาวอาจจะทำให้คนๆนั้น

00:41:2600:41:28 เนี่ยมีความพิการนะคะไม่สามารถที่จะเดิน

00:41:2800:41:32 ได้หรือว่าใช้ชีวิตลำบากมากขึ้นไม่สามารถ

00:41:3200:41:36 ที่จะใช้ข้อมือข้อเท้าทำอะไรได้ดีขึ้นนะ

00:41:3600:41:38 คะเพราะฉะนั้นอันนี้จะเป็นผลกระทบระยะยาว

00:41:3800:41:41 ถ้าเราไม่ดูแลตั้งแต่ต้นแล้วสิ่งที่เกิด

00:41:4100:41:43 ขึ้นอันเนี้ยถ้ามันเกิดไปแล้วเนี่ยมันไม่

00:41:4300:41:46 สามารถจะแก้ไขได้แล้วอ่ะค่ะในบางคนเนี่ย

00:41:4600:41:48 ก็คือต่อให้เรารักษาแล้วก็จนกระทั่งกรด

00:41:4800:41:51 ยูริกกลับมาเป็นปกติแล้วเนี่ยส่วนที่มัน

00:41:5100:41:54 เสียหายไปแล้วก็ไม่อาจจะฟื้นคืนมาได้ค่ะ

00:41:5400:41:57 ในแง่ของการรักษานะคะในเรื่องของยาเนี่ย

00:41:5700:42:00 เราจะมีการรักษาอยู่ 2 ส่วนส่วนแรกเลยก็

00:42:0000:42:03 คือถ้าคนไข้มีอาการเจ็บปวดหรือว่ามีข้อ

00:42:0300:42:06 อักเสบตรงนี้เราจะลดการอักเสบก่อนนะคะ

00:42:0600:42:08 แล้วหลังจากนั้นเนี่ยเราก็จะมีการให้ยา

00:42:0800:42:11 เพื่อลดกรดยูริกด้วยเหตุผลว่ากรดยูริก

00:42:1100:42:14 เป็นตัวที่ทำให้ข้ออักเสบนะคะในระยะของ

00:42:1400:42:17 การที่มีข้ออักเสบเนี่ยการใช้ยาลดการ

00:42:1700:42:19 อักเสบนะคะในกลุ่มที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ก็

00:42:1900:42:23 จะมีคนใช้หรืออาจจะใช้ยาลดการอักเสบอีก

00:42:2300:42:25 ตัวนึงที่ชื่อโคจิซินนะคะตัวนี้ก็จะช่วย

00:42:2500:42:28 ทำทำให้อาการข้ออักเสบเนี่ยสั้นลงคนไข้

00:42:2800:42:32 หายเจ็บหายป่วยได้เร็วขึ้นนะคะข้อสังเกต

00:42:3300:42:35 ก็คือว่าถ้าเกิดว่าจะใช้พวกโคจิซินเนี่ย

00:42:3500:42:38 ข้อควรระวังก็คือเวลาให้มากเนี่ยจะทำให้

00:42:3800:42:40 ท้องเสียได้เพราะฉะนั้นเนี่ยคุณหมอเขาก็

00:42:4000:42:44 จะให้ปรับโดสตามอาการนะคะในอีกตัวนึงก็

00:42:4400:42:46 คือเป็นยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่กลุ่ม

00:42:4600:42:49 สเตรอยด์กลุ่มนี้มีข้อดีค่ะลดการอักเสบ

00:42:4900:42:52 ได้ค่อนข้างเร็วแต่มีข้อเสียนิดหน่อยก็

00:42:5200:42:55 คืออาจจะทำให้กัดกระเพาะระคายเคือง

00:42:5500:42:58 กระเพาะนะคะคหรือในบางรายเนี่ยอาจจะทำให้

00:42:5800:43:00 มีปัญหากับไตได้โดยเฉพาะในคนไข้ที่มี

00:43:0000:43:03 ปัญหาโรคไตอยู่แล้วอันนี้ก็ควรที่จะ

00:43:0300:43:06 ปรึกษาคุณหมอนะคะในการที่จะเลือกใช้ยานะ

00:43:0600:43:10 คะระยะถัดมาค่ะก็คือการใช้เพื่อจะไปลดกรด

00:43:1000:43:13 ยูริกนะคะยาที่จะใช้ลดกรดยูริกนี่มีหลาย

00:43:1300:43:17 ตัวเลยนะคะอันแรกก็คือเพิ่มการขับยูริก

00:43:1700:43:20 ออกไปกับอันที่ 2 ก็คือลดการสร้างกรด

00:43:2000:43:24 ยูริกนะคะทีนี้ในส่วนของการใช้ยาเนี่ยมัน

00:43:2400:43:27 จะมียาบางตัวค่ะที่มีความเสี่ยงในการที่

00:43:2700:43:31 จะทำให้เกิดการแพ้เราอาจจะเคยได้ยินเนาะ

00:43:3100:43:34 เวลาแพ้ยาแล้วมีผืนที่ผิวหนังแพ้อักเสบ

00:43:3400:43:36 รุนแรงบางทีอาจจะต้องเข้าโรงพยาบาลเลยที

00:43:3600:43:39 นี้ยารักษาโรคเกาเนี่ยค่ะก็จะเป็นตัวนึง

00:43:3900:43:42 ที่เจอได้ค่อนข้างบ่อยนะคะแล้วเราก็รู้

00:43:4200:43:45 ด้วยอ่ะค่ะว่าเอ่อกรรมพันธ์บางอย่างเนี่ย

00:43:4500:43:48 ทำให้คนๆเนี้ยเสี่ยงที่จะแพ้ยาดังนั้น

00:43:4800:43:51 ปัจจุบันในยาบางกลุ่มอนะคะเราจะมีการตรวจ

00:43:5100:43:53 ก่อนว่าคนๆเนี้ยเสี่ยงที่จะแพ้ยาหรือ

00:43:5300:43:56 เปล่าถ้าเค้าไม่มีปัญหาเราเราถึงจะเริ่ม

00:43:5600:43:59 ให้ยานะคะการเริ่มให้ยาคุณหมอก็จะต้อง

00:43:5900:44:03 ค่อยๆเพิ่มยาเริ่มจากโดสต่ำๆก่อนนะคะแล้ว

00:44:0300:44:06 ก็ติดตามอ่ะถ้าระดับยูริกในเลือดยังไม่

00:44:0600:44:08 เป็นปกติเขาก็จะต้องเพิ่มยาอันเนี้ยล่ะ

00:44:0800:44:11 ค่ะหรือเหตุผลที่เราบอกว่าเราควรที่จะ

00:44:1100:44:14 เลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมด้วยเพื่อ

00:44:1400:44:16 จะทำให้คุณหมอไม่จำเป็นต้องไปเพิ่มยาอยู่

00:44:1600:44:20 เรื่อยๆนะคะนอกเหนือจากการที่จะไปรักษา

00:44:2000:44:23 เรื่องของระดับยูริกแล้วเนี่ยไม่เพียงแค่

00:44:2300:44:26 ว่าจะทำให้โรคเก๊าดีขึ้นแต่จะช่วยส่งผลใน

00:44:2600:44:29 ระยะยาวก็คือถ้าสมมุติว่ายูริกในเลือดมัน

00:44:2900:44:31 สูงมากๆอ่ะค่ะมันอาจจะมีการตกตะกอนแล้วก็

00:44:3200:44:34 ทำให้ไตเสื่อมได้เหมือนกันเพราะฉะนั้นอัน

00:44:3400:44:37 นี้ก็จะเป็นข้อดีอีกอันนึงนะ

00:44:3700:44:40 [เพลง]

00:44:4100:44:44 คะข้อคุณปฏิบัติเมื่อเราเป็นโรคเก๊าแล้ว

00:44:4400:44:47 นะคะก็คืออันที่ 1 ติดตามการรักษาอย่าง

00:44:4700:44:50 สม่ำเสมอกินยาอย่างครบถ้วนนะคะในเรื่อง

00:44:5000:44:52 ของการปฏิบัติตัวหรือว่าเรื่องของอาหาร

00:44:5200:44:55 เนี่ยอย่างที่บอกไปสักครู่แล้วนะคะลดน้ำ

00:44:5500:44:57 หนักนะนะคะลดเรื่องของการกินเครื่องดื่ม

00:44:5700:44:59 ที่มีแอลกอฮอล์เครื่องดื่มที่มีรสหวาน

00:45:0000:45:02 หรือมีน้ำตาลผสมอยู่กินอาหารที่มีไขมัน

00:45:0200:45:06 ต่ำพิวรีนต่ำนะคะอันนี้คือสิ่งปฏิบัติโดย

00:45:0600:45:09 ทั่วไปนะคะอ่าในเรื่องของคนไข้บางคนที่

00:45:0900:45:12 อาจจะมีโรคร่วมนะคะในกรณีที่เรามีเรื่อง

00:45:1200:45:15 ของยูริคอาซิสูงเนี่ยมันมียาบางตัวค่ะที่

00:45:1500:45:18 อาจจะทำให้ยูริกมันสูงได้โดยเฉพาะในกลุ่ม

00:45:1800:45:21 ของคนไข้ที่เป็นความดันโลหิตสูงหรือว่า

00:45:2100:45:23 กินยาขับปัสสาวะยาขับปัสสาวะบางตัวจะทำ

00:45:2300:45:26 ให้ยูริกสูงได้อันนี้อาจะจะต้องคุยกับ

00:45:2600:45:29 แพทย์ผู้ดูแลนะคะว่ามันจำเป็นมยที่เราจะ

00:45:2900:45:32 ใช้ยาตัวเดิมหรือว่าเราจะปรับยาเปลี่ยนยา

00:45:3200:45:35 เพื่อให้ควบคุมระดับยูริกในเลือดได้ดี

00:45:3500:45:38 ขึ้นอันที่ 2 ก็คือคนไข้โรคไตอันนี้จะ

00:45:3800:45:40 ลำบากนิดนึงเหมือนที่บอกอ่ะค่ะว่ายูริก

00:45:4000:45:43 เนี่ยเราเอาออกจากร่างกายโดยทางไตถูกมั้ย

00:45:4300:45:46 คะถ้าสมมุติว่าไตเราไม่ดีหรือว่าไตเรา

00:45:4600:45:49 เสื่อมสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการเอายูริก

00:45:4900:45:51 ออกจากร่างกายเนี่ยมันก็จะทำได้น้อยลง

00:45:5100:45:54 หรือว่าช้าลงดังนั้นคนไข้โรคไตส่วนใหญ่

00:45:5400:45:57 เรามักจะเจอว่ามียูริกในเลือดสูงและที่

00:45:5700:45:59 สำคัญคือคแค่โรคไตเนี่ยก็ไม่ควรที่จะได้

00:45:5900:46:02 รับยาอีกเพราะว่าอาจจะทำให้เกิดอันตราย

00:46:0200:46:04 ได้เหมือนกันเพฉะนั้นอันนี้จะค่อนข้างมี

00:46:0400:46:06 ความลำบากนิดนึงอันนี้ต้องคุยกับแพทย์ที่

00:46:0600:46:09 ดูแลนะคะแล้วก็สุดท้ายก็คือในเรื่องของ

00:46:1000:46:12 อาหารอีกตัวนึงถ้าเกิดว่ามันมีการอักเสบ

00:46:1200:46:15 เพิ่มขึ้นกลุ่มที่เป็นเรื่องของโอเมก้า 3

00:46:1500:46:17 ที่จะเอามาเสริมก็อาจจะช่วยในเรื่องของ

00:46:1800:46:20 การลดการอักเสบแล้วทำให้อาการของโรคดี

00:46:2000:46:23 ขึ้นได้เช่นกันค่ะสำหรับพิวรีนในอาหารน่ะ

00:46:2300:46:25 นะคะเมื่อกี้เราพูดกันมาเนี่ยมันมีตั้ง

00:46:2500:46:27 หลายตัวตัวแล้วก็หลายๆอย่างที่ท่านอาจจะ

00:46:2700:46:30 อยากรับประทานแต่ท่านไม่แน่ใจว่ามีพิริน

00:46:3000:46:33 สูงหรือว่าพิรินต่ำนะคะด้วยเวลาที่จำกัด

00:46:3300:46:36 เนี่ยคะเราสามารถที่จะเข้าไปสืบค้นข้อมูล

00:46:3600:46:38 ทั้งหลายในอินเทอร์เน็ตได้นะคะเลือก

00:46:3800:46:42 สถาบันที่ให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้นะคะ

00:46:4200:46:45 กดเข้าไปแล้วเขียนว่าอาหารที่มีพิวรีนสูง

00:46:4500:46:47 นะคะหรือว่าอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับ

00:46:4700:46:50 คนไข้โรคเก๊านะคะอันนี้ก็อาจจะพอเป็นแนว

00:46:5000:46:52 ทางให้ทุกท่านเนี่ยสามารถเลือกวัตถุดิบมา

00:46:5200:46:55 เป็นแนวทางในการทำอาหารของท่านได้ในครั้ง

00:46:5500:46:58 ต่อไปค่ะ

00:46:5900:47:01 วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องของอาหาร

00:47:0100:47:04 บำรุงตับได้ยินกันมาบ่อยเลยใช่มั้ยคะ

00:47:0400:47:07 อาหารบำรุงตับหลายๆคนก็กินยาเยอะหลายๆคน

00:47:0700:47:10 ก็กลัวเอ๊ะอาจจะเคยมีปัญหาสุขภาพหรือไป

00:47:1000:47:13 ตรวจร่างกายแล้วเจอว่าตับอักเสบบ้างล่ะไข

00:47:1300:47:16 มันพอกตับบ้างล่ะเอ๊ะมันจะมีวิธีไหนไที่

00:47:1600:47:19 จะทำให้ตับฉันดีขึ้นมีการขายคอร์สมีการทำ

00:47:1900:47:21 โน่นนี่นั่นที่บอกว่าอันนี้เป็นอาหาร

00:47:2100:47:24 บำรุงตับหรือวิตามินบำรุงตับมันดีจริง

00:47:2400:47:26 หรือเปล่ามันช่วยได้หหรือเปล่าวันนี้เรา

00:47:2600:47:29 จะมาคุยกันค่ะในเรื่องของอาหารบำรุงตับ

00:47:2900:47:32 ตับนะคะหลายคนก็รู้จักเนาะถ้าไม่รู้จัก

00:47:3200:47:34 เราก็คงเคยกินกันเนาะตับมีหน้าที่อะไรใน

00:47:3400:47:37 ร่างกายตอบมีความสำคัญมากๆเลยอาหารที่เรา

00:47:3700:47:39 กินเข้าไปนะคะไม่ว่าจะเป็นคาร์โบไฮเดรต

00:47:3900:47:43 โปรตีนหรือไขมันทุกอย่างจะต้องมีการจัด

00:47:4300:47:46 การที่ตับตับจะเป็นเหมือนโรงงานขนาดใหญ่

00:47:4600:47:49 เลยนะคะอาหารเข้ามาปุ๊บแล้วตับจะเป็นคน

00:47:4900:47:52 ที่จะเอามาใช้อ่าเอามาใช้ไปเป็นพลังงาน

00:47:5200:47:54 เอามาเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลเอามาเปลี่ยนไป

00:47:5400:47:57 เป็นไขมันหรือว่าจะเปลี่ยนให้เป็นโปรตีน

00:47:5700:48:00 แล้วถ้าเกิดเกินจากนั้นเขาก็จะจัดสรรให้

00:48:0000:48:03 เอาไปเก็บนะคะเพราะฉะนั้นการทำงานของตับ

00:48:0300:48:05 อันที่ 1 ในเรื่องของอาหารเขาจะมาจัดการ

00:48:0500:48:08 กับอาหารเกือบทุกชนิดเลยรวมถึงวิตามิน

00:48:0800:48:11 แล้วก็แร่ธาตุบางอย่างด้วยอันที่ 2 ค่ะ

00:48:1100:48:14 ตับมีหน้าที่คือจัดการกับของเสียหรือสาร

00:48:1400:48:16 พิษเวลาที่เรากินอาหารกินยาหรือกินอะไร

00:48:1600:48:19 เข้าไปแล้วมันมีของเสียมีสารพิษเกิดขึ้น

00:48:1900:48:21 เนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นตับจะมีหน้าที่ทำให้

00:48:2100:48:23 สารพิษอันนั้นเนี่ยมันหมดสภาพหรือหมด

00:48:2300:48:26 ฤทธิ์ไปยาวบางตัวกินเข้ามาอาจจะยังไม่ออก

00:48:2600:48:29 ฤทธิ์มาผ่านตับแล้วทำให้มันออกฤทธิ์ยาว

00:48:2900:48:32 บางตัวออกฤทธิ์เต็มที่แล้วตับมีหน้าที่ทำ

00:48:3200:48:34 ให้มันหมดฤทธิ์เพื่อจะให้มันหมดสภาพแล้ว

00:48:3400:48:37 ไม่เกิดอันตรายกับร่างกายแล้วเอาไปทิ้ง

00:48:3700:48:39 เพราะฉะนั้นหน้าที่ของตับเนี่ยคอยจัดการ

00:48:3900:48:41 กับเรื่องของสารพิษที่อยู่ในร่างกายด้วย

00:48:4100:48:44 นอกจากนี้ค่ะตับยังมีหน้าที่คอยเสริม

00:48:4400:48:47 สร้างระบบเรื่องของภูมิคุ้มกันในร่างกาย

00:48:4700:48:50 ด้วยเพราะฉะนั้นถ้าตับไม่ดีสิ่งที่ตามมา

00:48:5000:48:52 ก็คือคนๆนั้นอาจจะมีเรื่องของการติดเชื้อ

00:48:5200:48:56 ง่ายขึ้นนะคะอันถัดมาค่ะตอมีหน้าที่จัด

00:48:5600:49:00 การกับน้ำดีเนาะเสร้างน้ำดีได้นะคะช่วยใน

00:49:0000:49:02 ร่างกายในเรื่องของการจัดการกับวิตามิน

00:49:0200:49:04 บางอย่างโดยเฉพาะไวตามินดีดถ้าเกิด

00:49:0400:49:06 ไวตามินดีเข้ามาปุ๊บตับจะมีหน้าที่

00:49:0600:49:09 เปลี่ยนวิตามินดีเราก็จะไปเปลี่ยนอีก

00:49:0900:49:11 ครั้งนึงที่ไตเพื่อจะให้วิตามินดีอันนั้น

00:49:1100:49:13 ได้ออกริทธิ์เต็มที่นะคะจะเห็นว่าตับ

00:49:1300:49:16 เนี่ยมีหน้าที่สำคัญมากมายในร่างกายแล้ว

00:49:1600:49:20 หลายๆอย่างของตับคือเคทำได้คนเดียวไม่มี

00:49:2000:49:22 ตัวแทนเลยเพราะฉะนั้นเนี่ยเรามีตับอยู่

00:49:2200:49:26 แค่อันเดียวนะคะรักษาตับนี้เอาไว้ไเพราะ

00:49:2600:49:28 ว่าถ้าเราใช้มันไปเยอะๆเราใส่สารพิษเข้า

00:49:2800:49:31 ไปเยอะๆหรือเราไปทำร้ายตับเราเยอะๆสิ่ง

00:49:3100:49:34 ที่เกิดขึ้นคือในอนาคตตับเราก็จะแย่ลงไป

00:49:3400:49:36 เรื่อยๆแล้วเราไม่มีเปลี่ยนนะคะถ้าสมมุติ

00:49:3600:49:39 มันพังไปมากๆอย่างเดียวที่เราตได้ก็คือ

00:49:3900:49:41 เราจะต้องรอให้มีการปลูกถ่ายอวัยวะหรือ

00:49:4100:49:43 ว่าเปลี่ยนตับนั่นเองค่ะทีนี้ถ้าสมมุติ

00:49:4300:49:46 ว่าเราฟังมาแล้วว่าตับมีความสำคัญนะคะ

00:49:4600:49:49 เอ๊ะแล้วตับเนี่ยมันใช้ไปหรือว่ามันทำงาน

00:49:4900:49:52 ไปแล้วมันพังไปเรื่อยๆหรือเปล่าไม่เลยใน

00:49:5200:49:55 ร่างกายเรามีการซ่อมแซมนะคะลองนึกภาพนะคะ

00:49:5500:49:58 เวลาที่เราเป็นแผลเห็นมั้ยคะร่างกายเราก็

00:49:5800:50:00 จะมีการซ่อมแซมมีแผลแล้วก็มีการซ่อมแล้ว

00:50:0000:50:04 แผลก็หายตับเราก็เช่นกันค่ะร่างกายก็จะมี

00:50:0400:50:07 การซ่อมแซมอยู่ตลอดเวลานะคะแต่แน่นอนค่ะ

00:50:0700:50:09 เมื่ออายุเรามากขึ้นคุณสมบัติในเรื่องของ

00:50:0900:50:13 การซ่อมเนี่ยมันจะน้อยกว่าอ่าซ่อมสร้างจะ

00:50:1300:50:15 น้อยถ้าเรายังคงถูกทำลายต่อเนื่องสิ่งที่

00:50:1500:50:18 เกิดขึ้นก็คือการทำงานในภาพรวมของตับก็จะ

00:50:1900:50:22 ลดลงไปตามอายุได้เช่นกันหลายๆคนเนี่ยก็จะ

00:50:2200:50:25 มีแพ็คเกจตรวจสุขภาพใช่มั้ยคะอาจจะซื้อ

00:50:2500:50:27 เกียจตรวจสุขภาพในการลดราคาก็ตามหรือว่า

00:50:2700:50:30 ที่ทำงานให้ตรวจสุขภาพก็ตามเสร็จแล้ว

00:50:3000:50:32 เนี่ยผลตรวจสุขภาพจะกลับมาหลายคนเวลาที่

00:50:3200:50:35 ไปตรวจสุขภาพไม่ได้เจอคุณหมอแต่จะมีผลตว

00:50:3500:50:37 สุขภาพกลับมาแล้วก็บอกว่ามีแขมันพอกตับ

00:50:3700:50:39 บ้างล่ะตับอักเสบบ้างล่ะหลายคนก็ตื่นเต้น

00:50:3900:50:42 ตกใจแล้วในนั้นก็จะเขียนว่าให้ไปพบคุณหมอ

00:50:4200:50:45 ใกล้ๆอันที่ 1 ก่อนเราจะรู้ได้ยังไงว่า

00:50:4500:50:48 เรามีไขมันพอกตับส่วนใหญ่การที่จะรู้ว่า

00:50:4800:50:50 มีไขมันพอกตับเนี่ยมันมักจะต้องตรวจด้วย

00:50:5000:50:53 เครื่องอัรสาวอันนี้เป็นการตรวจอย่างง่าย

00:50:5300:50:57 นะคะไม่แพงนะคะแล้วก็สามารถรูปผลได้นะคะ

00:50:5700:50:59 โดยทั่วไปเขก็จะดูว่าอ้าตอนเนี้ยมันมี

00:50:5900:51:02 ลักษณะที่สงสัยว่าจะเป็นไขมันพอกตับเขาค

00:51:0200:51:05 ก็จะบอกมาอันที่ 2 ค่ะจะพูดว่ามีตับ

00:51:0500:51:07 อักเสบเวลาที่จะพูดว่ามีตับอักเสบเนี่ย

00:51:0700:51:10 ส่วนใหญ่จะโดนเจาะเลือดถ้าเจาะเลือดเสร็จ

00:51:1000:51:12 ปุ๊บเนี่ยจะมีค่าการอักเสบของตับที่สูง

00:51:1200:51:16 ขึ้นเขาก็จะบอกว่าตอนนี้มีตับอักเสบนะที

00:51:1600:51:18 นี้ถามว่าเอ๊ะแล้วมันต่างกันยังไงมันจะ

00:51:1800:51:21 รู้ได้ยังไงมันจะอันตรายยหลักการมีแค่นี้

00:51:2100:51:24 นะคะอันแรกก็คือว่าในเซลล์ตับเนี่ยให้เรา

00:51:2400:51:26 มองภาพว่าเซลล์ 1 เซลล์เนี่ยมันเหมือนถุง

00:51:2600:51:29 ซึ่งปิดสนิทสารที่อยู่ข้างในถุงเนี่ยมี

00:51:3000:51:32 น้ำอยู่เนี่ยอันเนี้ยก็คือเอนไซม์ที่อยู่

00:51:3200:51:35 ในตับถ้าสมมุติว่าถุงมันแตกหรือถุงมัน

00:51:3500:51:37 รั่วไอ้สารที่มันอยู่ข้างในเนี่ยมันก็จะ

00:51:3700:51:40 รั่วออกมาจากนอกเซลล์ตับนึกออกมั้ยคะแล้ว

00:51:4000:51:42 มันก็จะปนอยู่ในเลือดเวลาเราเจาะเลือด

00:51:4200:51:45 ปั๊บเราเห็นไอ้สารตัวเนี้ยมันสูงขึ้นเรา

00:51:4500:51:48 ก็บอกว่าอ้าต้องมีปัญหากับเซลล์ตับแน่ๆ

00:51:4800:51:52 แล้วนะคะอันนี้คุณหมอจะพูดคำว่าตับอักเสบ

00:51:5200:51:54 ทีนี้ถ้าเกิดว่ามันมีการบาดเจ็บหรือมี

00:51:5400:51:57 อะไรเกิดขึ้นกับากเซลล์ตับไม่ว่าจะด้วย

00:51:5700:52:00 เหตุผลใดเราก็เรียกว่าตับอักเสบยกตัว

00:52:0000:52:03 อย่างเช่นกินเหล้าเยอะๆเห็นมั้ยคะก็จะมี

00:52:0300:52:05 สารพิษเข้ามาตับจัดการไม่ได้ตอนนี้ตับได้

00:52:0500:52:08 รับการบาดเจ็บเพราะว่าได้รับตัวแอลกอฮอล์

00:52:0800:52:10 เยอะขึ้นใช่มยคะอันนี้ก็จะทำให้เกิดตับ

00:52:1000:52:14 อักเสบคนแข้กินยาบางอย่างมากเกินไปหรือยา

00:52:1400:52:17 ตัวเนี้ยมันทำอันตรายกับตับยาตัวเนี้ยมัน

00:52:1700:52:19 จะไปออกฤทธิ์ที่ตับนะคะก็จะทำให้ตับ

00:52:1900:52:22 อักเสบได้หรือมีการติดเชื้ออ่าไม่ว่าจะ

00:52:2300:52:25 เป็นโควิดไม่ว่าจะเป็นเชื้อไวรัสใดๆหรือ

00:52:2500:52:28 แม้กระทั่งพวกของไวรัสตอบอักเสบพวกนี้ก็

00:52:2800:52:30 จะทำให้ตออักเสบได้เหมือนกันจะเห็นว่า

00:52:3000:52:33 เวลาที่เราเจาะเลือดแล้วเจอว่ามีค่าตับ

00:52:3300:52:36 อักเสบอันเนี้ยมันเกิดได้จากหลายสาเหตุ

00:52:3600:52:39 มากๆเลยวิธีการนึงเวลาที่คุณหมอเห็นคุณ

00:52:3900:52:41 หมอก็จะต้องไปหาสาเหตุก่อนว่าเอออันนี้

00:52:4100:52:44 มันเกิดจากอะไรได้บ้างก็ซักประวัติเอ๊ะ

00:52:4400:52:47 กินเหล้ามยกินยามยหรือว่ามันมีอาการอย่าง

00:52:4700:52:50 อื่นใดหรือเปล่าที่จะสนับสนุนแล้วถึงจะมา

00:52:5000:52:53 เป็นข้อสรุปว่าตับอักเสบอันเนี้ยเกิดจาก

00:52:5300:52:57 อะไรอันที่ 3 เวลาทำอนรซาว์บางทีเนี่ยนอก

00:52:5700:52:59 เหนือจากเราเห็นว่ามีไขมันพอกตับแล้ว

00:52:5900:53:02 เนี่ยบางคนเนี่ยแนนรซาวอาจจะบอกได้เลยว่า

00:53:0200:53:05 ตอนเเรามีตับแข็งแล้วหรือยังบางทีผล

00:53:0500:53:07 อันซาวออกมาปุ๊บบอกว่าตับแข็งหหคุณแข้

00:53:0700:53:10 ตื่นเต้นตกใจแย่แล้วฉันแย่แน่ๆแล้วฉันจะ

00:53:1000:53:12 ตายแล้วอะไรอย่างเงี้ยมันจะมีลักษณะหน้า

00:53:1200:53:15 ตาบางอย่างของตับที่จะทำให้รู้สึกว่า

00:53:1500:53:18 อันเนี้ยมันมีความผิดปกติที่เป็นมานานละ

00:53:1800:53:22 แล้วทำให้เกิดผังผืดเกิดขึ้นอันนี้ก็เลย

00:53:2200:53:25 เรียกว่าเป็นตับแข็งนะคะซึ่งอันนี้จะมอง

00:53:2500:53:28 เห็นได้จากตัวอัตรสาวในปัจจุบันนะคะโรค

00:53:2800:53:30 ตับที่ได้ยินบ่อยๆหรือว่าเป็นโรคยอดฮิต

00:53:3100:53:34 เริ่มต้นจากไขมันพอกตับก่อนอันนี้บอกเลย

00:53:3400:53:36 ว่าไม่มีอาการค่ะอย่าถามว่ามีอาการอะไร

00:53:3600:53:39 ไม่มีเลยมีข้อสังเกตว่าคนอ้วนมีความ

00:53:3900:53:42 เสี่ยงที่จะเกิดไขมันพอกตับโดยเฉพาะกลุ่ม

00:53:4200:53:45 ที่อ้วนลงพุงอันที่ 2 ค่ะถ้าเกิดอ้วนมาก

00:53:4500:53:48 ขึ้นหรือไขมันพอกตับมากขึ้นมันก็จะทำให้

00:53:4800:53:50 เกิดเรื่องของตับ

00:53:5000:53:53 อักเสบอันนี้อาจจะยังไม่มีอาการแต่ตรวจ

00:53:5300:53:56 ได้จากในเลือดจะเห็นว่าว่ามีค่าการอักเสบ

00:53:5600:53:59 ของตับสูงขึ้นเวลาที่เราจะบอกว่าเป็นไข

00:53:5900:54:01 มันพอกตับแล้วทำให้เกิดตับอักเสบเนี่ยมัน

00:54:0100:54:04 จะต้องไม่มีสาเหตุอื่นนะคะเช่นไม่ได้ดื่ม

00:54:0400:54:06 เหล้าเลยนะคะไม่ได้มียาสมุนไพรไม่ได้มี

00:54:0700:54:10 สารพิษใดๆไม่ได้มียาอะไรที่ทำให้ร่างกาย

00:54:1000:54:13 เรามีเรื่องของการอักเสบเกิดขึ้นระยะที่ 3

00:54:1300:54:17 ค่ะเมื่อการอักเสบเกิดขึ้นซ้ำๆสิ่งที่ตาม

00:54:1700:54:20 มาก็จะเป็นผังผืดอันนี้ก็จะเริ่มเป็นตับ

00:54:2000:54:23 แข็งทีนี้ลองนึกภาพนะคะว่าเซลล์ตับเนี่ย

00:54:2300:54:25 จากตอนแรกเนี่ยเหมือนตับทั้งก้อนเนี่ย

00:54:2500:54:29 ปกติแต่ถ้ามันมีผังผืดเป็นจุดๆหลายๆที่

00:54:2900:54:32 สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือผิวที่ตับอ่ะค่ะมัน

00:54:3200:54:35 ก็จะเริ่มไม่เรียบละจะเริ่มมีความขรุขะละ

00:54:3500:54:38 ตับอาจจะเริ่มเหี่ยวเล็กลงละอันเนี้ยค่ะ

00:54:3800:54:40 เวลาที่เราตรวจซาวเราถึงจะมองเห็นถ้าถึง

00:54:4000:54:44 จุดที่มีตับแข็งแล้วเนี่ยโดยทั่วไปอ่ะถ้า

00:54:4400:54:47 ตับแข็งเป็นมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆจน

00:54:4700:54:51 กระทั่งการทำงานของตับในภาพรวมลดลงอันนี้

00:54:5100:54:54 จะเริ่มมีอาการละนอกจากนี้ค่ะเวลาที่เป็น

00:54:5400:54:57 ผังผืดเนี่ยถ้ามันเกิดซ้ำๆแล้วมันเป็นต่อ

00:54:5700:55:00 เนื่องมันมีโอกาสที่เซลล์พวกนี้จะเปลี่ยน

00:55:0000:55:04 แปลงไปแล้วกลายไปเป็นมะเร็งได้ประมาณ 10%

00:55:0400:55:06 ของคนไข้ที่ตับแข็งอาจจะเปลี่ยนไปเป็น

00:55:0600:55:08 มะเร็งตับ

00:55:0800:55:11 [เพลง]

00:55:1100:55:15 ได้สำหรับในกรณีของคนไข้ที่กำลังสงสัยว่า

00:55:1500:55:17 ตัวเองจะเป็นโรคตับหรือไปตรวจสุขภาพแล้ว

00:55:1700:55:19 เจอความผิดปกติแล้วถามว่าเอ๊ะเราจะทำยัง

00:55:1900:55:21 ไงข้อแรกเลยก็คือเราต้องดูก่อนว่าสาเหตุ

00:55:2100:55:24 คืออะไรนะคะถ้าสาเหตุอันนั้นเนี่ยเราแก้

00:55:2400:55:27 ไขได้เราก็จะไปจัดการเพราะฉะนั้นคุณหมอจะ

00:55:2700:55:29 ซักประวัติค่อนข้างเยอะนิดนึงเพื่อจะดู

00:55:2900:55:31 ว่าเอ๊ะมันมีอะไรหรือเปล่าบางอย่างที่แก้

00:55:3100:55:34 ไขได้แล้วจัดการไปที่บอกไปตอนต้นนะคะเช่น

00:55:3400:55:37 บางคนเนี่ยถ้าหากว่ายังไม่เคยฉีดวัคซีนก็

00:55:3700:55:40 อาจจะให้ฉีดวัคซีนใช่มั้ยคะถ้าเกิดว่ามี

00:55:4000:55:42 ปัญหาว่าตอนเนี้ยกินยาเยอะเกินไปหรือว่า

00:55:4300:55:45 ยาตัวเนี้ยมันมีปัญหากระตับก็จะให้หยุดยา

00:55:4500:55:48 แอลกอฮอล์ก็จะให้หยุดเหล้าอันนี้เป็นต้น

00:55:4800:55:51 เนาะทีนี้ที่เจอบ่อยๆเลยก็คืออ้วนแล้วก็

00:55:5100:55:53 ไขมันพอกตับต้องบอกอย่างงี้นะคะเวลาที่

00:55:5300:55:56 เราจะลดน้ำหนักเนี่ยในกรณีของไขมันพอกตับ

00:55:5600:55:59 เนี่ยเราขอประมาณสัก 10% แต่ถ้าเกิดว่า

00:55:5900:56:02 ตับอักเสบเนี่ยแค่ประมาณ 5% เนี่ยน้ำหนัก

00:56:0200:56:05 ลดลงค่าการอักเสบของตับก็จะลดลงแล้วค่ะ

00:56:0500:56:08 แต่ถ้าจะทำให้ไขมันพอกตับมันลดลงชัดเจน

00:56:0800:56:11 เนี่ยเราต้องขอลดน้ำหนักอย่างน้อย 10%

00:56:1100:56:13 ถ้าในกรณีที่เป็นตับแข็งแล้วหรือว่ามีผัง

00:56:1300:56:16 ผืดแล้วเนี่ยมันจะเปลี่ยนได้ไมในอดีตเรา

00:56:1600:56:18 เชื่อว่ามันเปลี่ยนไม่ได้แต่ปัจจุบันเรา

00:56:1800:56:21 เห็นว่าการลดน้ำหนักนะคะหรือว่าการทำให้

00:56:2100:56:23 ตับเราดีขึ้นเนี่ยผังผืดมันก็อาจจะ

00:56:2300:56:26 เปลี่ยนแล้วก็ลดลงได้เพราะฉะนั้นยังไง

00:56:2600:56:29 เนี่ยในทุกๆระยะเนี่ยเราก็ยังแนะนำนะคะ

00:56:2900:56:31 ถ้าสมมุติว่าอ้วนเราก็ยังแนะนำให้ลดน้ำ

00:56:3100:56:34 หนักนอกจากนี้เนี่ยเรื่องของตัวสูบบุหรี่

00:56:3400:56:36 หลายคนจะบอกว่าเอ๊ะสูบบุหรี่ก็ไม่ได้

00:56:3600:56:39 เกี่ยวกับตับโดยตรงแต่ว่าในแง่ของการสูบ

00:56:3900:56:41 บุหรี่อ่ะค่ะสารพิษที่เกิดขึ้นเนี่ยมันจะ

00:56:4100:56:43 ทำให้เรื่องของเส้นเลือดทำงานได้ไม่ดี

00:56:4300:56:45 เพราะฉะนั้นเนี่ยเส้นเลือดเราแย่อยู่แล้ว

00:56:4500:56:48 เนาะเราก็จะไม่ให้สูบบุหรี่ด้วยอีกอันนึง

00:56:4800:56:51 ค่ะก็คือเรื่องของน้ำตาลโดยเฉพาะพวกน้ำ

00:56:5100:56:53 หวานหรือว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอยู่

00:56:5300:56:56 พวกนี้เวลาเรากินกินเข้าไปปุ๊บเนี่ยพลัง

00:56:5600:56:58 งานทั้งหมดมันจะเข้าไปที่ตับแล้วมันก็จะ

00:56:5800:57:01 สะสมง่ายทำให้เกิดไขมันพอกตับได้อย่างรวด

00:57:0100:57:03 เร็วเพราฉะนั้นถ้าเราตัดพวกน้ำหวานหรือ

00:57:0300:57:06 ตัดพวกเครื่องดื่มพวกนี้เนี่ยน้ำหนักก็จะ

00:57:0600:57:08 ลดได้ค่อนข้างดีแล้วทีนี้เนี่ยในส่วนของ

00:57:0800:57:11 อาหารหลายๆอันก็อย่างเช่นอาหารพวกที่เป็น

00:57:1100:57:14 พวกของปิ้งย่างอาหารที่มีการปนเปื้อน

00:57:1400:57:16 เชื้อรานะคะอาหารปิ้งย่างเกี่ยวยังไง

00:57:1600:57:19 อาหารปิ้งย่างเนี่ยถ้าสมมุติว่ามันมีพวก

00:57:1900:57:21 ของเนื้อที่มันดำๆไหม้ๆพวกนี้มันก็จะมี

00:57:2100:57:24 พวกของไฮโดรคาร์บอนหรือสารก่อมะเร็งอัน

00:57:2400:57:26 นี้เราก็ไม่อยากอยากได้พวกไขมันปริมาณมาก

00:57:2600:57:29 หรือไขมันสูงๆโดยเฉพาะเป็นกลุ่มของไขมัน

00:57:2900:57:31 อิ่มตัวอันนี้เราก็ไม่ชอบเพราะว่ามันก็จะ

00:57:3100:57:35 ยิ่งทำให้มีการทำร้ายตับมากขึ้นนะคะการทำ

00:57:3500:57:38 ให้เกิดการไขมันพอกตับเยอะขึ้นเพฉะนั้น

00:57:3800:57:41 โดยทั่วไปก็คือลดในส่วนของไขมันอิ่มตัวลด

00:57:4100:57:43 อาหารปิ้งย่างเพื่อจะช่วยลดเรื่องของ

00:57:4300:57:46 ไฮโดรคาร์บอนลดพวกของสารพิษท็อกซินทั้ง

00:57:4600:57:48 หลายพวกถั่วขึ้นราหรืออะไรอย่างงี้ลด

00:57:4900:57:51 อาหารสุกๆดิบๆใช่มั้ยคะเพื่อจะให้ลดความ

00:57:5100:57:54 เสี่ยงในเรื่องของพยาธิบางชนิดแล้วก็ลด

00:57:5400:57:57 พวกของน้ำตาลโดยเฉพาะพวกน้ำหวานจะได้ทำ

00:57:5700:58:00 ให้ไม่มีเรื่องของน้ำตาลไปสะสมหรือไปพอก

00:58:0000:58:02 ที่ตับอีกวิธีนึงที่จะช่วยดึงเอาไขมันที่

00:58:0200:58:06 ตับออกไปใช้ได้ก็คือการออกกำลังกายหลาย

00:58:0600:58:09 ครั้งค่ะการออกกำลังกายต่อให้น้ำหนักไม่

00:58:0900:58:12 ลดลงแต่ไขมันพอกตับก็จะลดลงได้เพราะว่าจะ

00:58:1200:58:15 เป็นการดึงเอาไขมันที่อยู่ในตับเนี่ยออก

00:58:1500:58:18 มาใช้ฟังดูทั้งหมดบอกห้ามโน่นห้ามนี่มาก

00:58:1800:58:21 มายเอ๊ะมันมีมยอาหารหรือวิตามินที่ช่วย

00:58:2100:58:24 บำรุงตับหลักการง่ายๆก่อนอันแรกเลยก็คือ

00:58:2400:58:26 ้าถ้าเรารู้ว่าตับเราอ่ะอยู่กับเราได้

00:58:2600:58:29 อย่างยาวนานตับของเราอ่ะมีการซ่อมแซมตัว

00:58:2900:58:33 เองได้หลักการข้อแรกเลยค่ะห้ามใส่อะไรที่

00:58:3300:58:37 มันจะไปทำร้ายตับในกรณีของยาคุยกับคุณหมอ

00:58:3700:58:42 ที่ดูแลว่ายาตัวเมันจำเป็นมากมนะคะถ้ายา

00:58:4200:58:45 มันจำเป็นแล้วมีโอกาสใช้คำนี้นะมีโอกาส

00:58:4500:58:48 ที่อาจจะทำให้มีปัญหากระตับสิ่งที่คุณหมอ

00:58:4800:58:51 เขาจะทำก็คือเขาจะติดตามค่ะมอนิเตอร์หรือ

00:58:5100:58:54 ว่าเจาะเลือดดูเป็นระยะว่าค่าตับเรามีการ

00:58:5400:58:56 อักเสบหรือหรือเปล่ามีอะไรหรือเปล่าในขณะ

00:58:5600:58:58 เดียวกันถ้ามันจำเป็นต้องใช้เราก็ต้องไป

00:58:5800:59:01 ลดความเสี่ยงอื่นๆที่มันอาจจะทำให้ตับเรา

00:59:0100:59:04 แย่เช่นเราจำเป็นต้องกินยาตัวนี้เพราะว่า

00:59:0400:59:07 รักษาโรคเราแต่เราก็ไม่ควรจะไปดื่มเหล้า

00:59:0700:59:09 เราก็ไม่ควรจะทำให้เราอ้วนเพื่อที่จะทำ

00:59:0900:59:12 ให้ตับเราแย่ลงไปอีกอันนี้นึกภาพออกใช่

00:59:1200:59:15 มั้ยคะแล้วทีนี้ในแง่ของอาหารที่จะช่วย

00:59:1500:59:18 เนี่ยโดยหลักๆค่ะจะเป็นอาหารกลุ่มที่มี

00:59:1800:59:21 เรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระเพราะเวลาที่

00:59:2100:59:24 มันมีการบาดเจ็บหรือเวลาที่มันมีการทำ

00:59:2400:59:27 ร้ายตับเนาะตรงนั้นเนี่ยอนุมูลอิสระมันจะ

00:59:2700:59:29 เยอะขึ้นเพราะฉะนั้นสิ่งที่เราจะแนะนำก็

00:59:2900:59:32 คืออาหารที่มันมีวิตามินเกลือแรเพียงพอ

00:59:3200:59:34 แล้วก็จะเสริมในกลุ่มที่จะเป็นเรื่องของ

00:59:3400:59:36 แอนติออกซิแดนท์หรือว่าสารต้านอนุมูล

00:59:3600:59:40 อิสระอันแรกเลยก็จะมีคนพูดถึงกาแฟกาแฟเอง

00:59:4000:59:42 เนี่ยก็มีรายงานเหมือนกันว่าช่วยในเรื่อง

00:59:4200:59:46 ของไข่มันพอกตับแต่ๆๆเราพูดถึงกาแฟเราไม่

00:59:4600:59:49 ได้พูดถึงกาแฟใส่นมหรือใส่น้ำตาลเพราะ

00:59:4900:59:52 ฉะนั้นอันเนี้ยที่แนะนำคือเป็นกาแฟดำนะคะ

00:59:5200:59:55 ไม่ใช่กาแฟที่เติมน้ำตาลเพราะว่าว่ากาแฟ

00:59:5500:59:57 ที่เติมน้ำตาลหรือว่าเป็นเครื่องดื่มที่

00:59:5701:00:00 ใส่นมข้นหรืออะไรพวกเยค่ะแคลอรีมันจะเยอะ

01:00:0001:00:03 อันนี้จะยิ่งไปทำให้แขวนมันพอกตับเป็นมาก

01:00:0301:00:05 ขึ้นชากาแฟก็จะมีทั้งคาเฟอีนแล้วก็จะมี

01:00:0501:00:08 แอนติออกซิแดนท์บางตัวเพราะฉะนั้นชากาแฟ

01:00:0801:00:10 เนี่ยไปด้วยกันได้เลยตัวที่ 2 เนี่ยก็จะ

01:00:1001:00:13 เป็นกลุ่มที่เป็นพืชหรือว่าผักผลไม้ก็

01:00:1301:00:16 แล้วแต่พวกเนี้ยจะมีอะไรบ้างมีไวตามินเอ

01:00:1601:00:19 ค่ะในคนไข้โรคตับต้องบอกว่าไวตามิน a

01:00:1901:00:22 เนี่ยเราจะสะสมแล้วเก็บเอาไว้ที่ตับถ้า

01:00:2201:00:25 เมื่อไหร่ตับเราแย่ลงนะคะเซลล์ตับเราพัง

01:00:2501:00:27 สิ่งที่เกิดขึ้นคือไวตามินเอเราจะดรอปลง

01:00:2701:00:30 ด้วยเพฉะนั้นเนี่ยเอาจจะให้เรากินพวกที่

01:00:3001:00:32 มันมีไวตามินเอเยอะขึ้นมีแอนติออกซิแดนท์

01:00:3201:00:35 เยอะขึ้นอ่าแครอทอย่างเงี้ยใช้ได้หรือว่า

01:00:3501:00:39 จะเป็นพวกของบล็อกโคลี่นะคะกะหล่ำปรี

01:00:3901:00:42 องุ่นเมล็ดองุ่นนะคะพวกนี้เนี่ยจะช่วยใน

01:00:4201:00:44 เรื่องของการให้สารที่มีเรื่องของ

01:00:4401:00:47 แอนติออกซิแดนท์แล้วบางตัวอาจจะไปเพิ่ม

01:00:4701:00:50 ตัวที่เราเรียกว่ากลูต้าไทโอนกลูต้าไทโอน

01:00:5001:00:52 เมื่อกี้เราได้ยินแล้วเอ๊ะตัวนี้ทำให้มัน

01:00:5201:00:54 ผิวขาวใช่มั้ยมันดีหรออะไรอย่างอย่าง

01:00:5401:00:57 เงี้ยจริงๆแล้วตัวเนี้ยค่ะจะเป็นสารตัว

01:00:5701:01:01 นึงที่เราเอาไว้ใช้เวลาที่คนไข้ทานยาที่

01:01:0101:01:04 เราเรียกว่าพาราเซตามอลนะคะมากจนเกินขนาด

01:01:0401:01:07 โดยทั่วไปเวลาที่เรากินพาราเซตามอลเนี่ย

01:01:0701:01:09 พาราเซตามอลเนี่ยจะถูกทำลายที่ตับถ้า

01:01:0901:01:12 พาราเซตามอลเรากินโดสเยอะเกินไปแล้วตับ

01:01:1201:01:15 เราทำลายไม่ทันสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็จะทำ

01:01:1501:01:18 ให้ตับเนี่ยมีการบาดเจ็บแล้วถ้ามันเยอะ

01:01:1801:01:20 เกินไปหลังจากนั้นเนี่ยมันอาจจะทำให้เกิด

01:01:2001:01:22 ภาวะที่เราเรียกว่าตับไววายได้ในช่วงต้น

01:01:2201:01:25 ถ้ามาเร็วมาทันแล้วยาวมันเยอะเนี่ยเราจะ

01:01:2501:01:29 มียาตัวนึงซึ่งจะไปทำให้ฤทธิ์ของยาพวกนี้

01:01:2901:01:31 มันหมดฤทธิ์แล้วก็ช่วยป้องกันตับนะคะก็จะ

01:01:3101:01:33 เป็นกลุ่มของกลูตาไทโอนเพราะฉะนั้นเนี่ย

01:01:3301:01:35 เวลาที่เราไปกินอาหารที่มันมีพวกของ

01:01:3501:01:38 กลูต้าไทโอนเยอะขึ้นมันก็อาจจะช่วยซ่อม

01:01:3801:01:41 แซมหรือว่าช่วยบำรุงตับได้เช่นกันนะคะยก

01:01:4101:01:43 ตัวอย่างเช่นกินกะหล่ำปรีพวกนี้หรือว่า

01:01:4301:01:45 อาจจะเป็นพวกของบล็อกโคลี่บล็อกโคลี่ก็จะ

01:01:4501:01:47 มีแอนติออกซิแดนท์ค่อนข้างเยอะอีกตัวนึง

01:01:4701:01:49 ที่มาด้วยกันเวลาที่เราดูผลไม้เราจะเห็น

01:01:4901:01:52 ตลอดเวลาก็คือกลุ่มที่เป็นเบอร์รี่

01:01:5201:01:54 เบอร์รี่นอกจากจะมีพวกของแอนตี้ออกซิอิน

01:01:5401:01:56 แล้วเนี่ยก็จะมีพวกที่เป็นอนุพันธ์ของ

01:01:5601:01:59 ไวตามินเอซึ่งพวกนี้ก็จะช่วยในเรื่องของ

01:01:5901:02:01 เป็นแอนติออกซิแดนท์แล้วก็ช่วยในเรื่อง

01:02:0101:02:04 ของการทำงานที่ตับแล้วก็ช่วยในส่วนที่จะ

01:02:0401:02:08 ลดการบาดเจ็บที่ตับได้ด้วยในส่วนของการ

01:02:0801:02:10 เลือกเนาะถ้าเป็นน้ำมันเมื่อกี้เราบอก

01:02:1001:02:12 แล้วว่าน้ำมันที่น้ำมันไขมันอิ่มตัวหรือ

01:02:1201:02:15 ว่าน้ำมันที่มันเป็นไข่เป็นก้อนเราไม่ชอบ

01:02:1501:02:17 เราก็มาเลือกน้ำมันที่ไม่อิ่มตัวหรือว่า

01:02:1701:02:19 เป็นกลุ่มของน้ำมันมะกอกนะคะช่วยลดเรื่อง

01:02:1901:02:22 ของความดื้ออินซูลินนะคะอันนี้ก็จะช่วยทำ

01:02:2201:02:24 ให้ตับเนี่ยทำงานได้ดีขึ้นนะคะเลือก

01:02:2401:02:27 คาร์โบไฮเดรตที่เป็นพวกของถั่วพวกของ

01:02:2701:02:29 ธัญพืชแต่ต้องระวังนิดนึงถ้าจะใช้ถั่ว

01:02:2901:02:33 เนาะควรจะกินถั่วที่ใหม่ๆนะคะอาจจะคั่ว

01:02:3301:02:35 หรืออบเองที่ไม่ได้แบบเป็นถั่วบดซึ่งเรา

01:02:3501:02:38 มองไม่ออกเลยว่ามันจะมีเชื้อราวปนอยู่

01:02:3801:02:40 หรือเปล่าถ้ามีเชื้อราวไม่ต้องเสียดาย

01:02:4001:02:42 ทิ้งไปเลยพวกถั่วพวกนี้ควรจะกินซื้อมา

01:02:4201:02:45 ปริมาณน้อยๆแล้วก็อบกินทีละนิดเดียวเพราะ

01:02:4501:02:48 ว่าถือว่าเป็นสารที่มีน้ำมันค่อนข้างเยอะ

01:02:4801:02:51 ทิ้งเอาไว้แล้วมันจะเกิดภาวะหืนได้ค่อน

01:02:5101:02:53 ข้างง่ายบางทีเราเก็บถั่วไว้สักพักนึงเรา

01:02:5301:02:55 จะรู้สึกว่ามันมีกลิ่นแล้วมันหืนละอันนี้

01:02:5501:02:58 ก็คือกรดไขมันที่มีอยู่ในถั่วทำปฏิกิริยา

01:02:5801:03:01 กับออกซิเจนในอากาศนะคะอันนี้ถ้าสมมุติ

01:03:0101:03:03 ว่าจะแก้ไขอันแรกลองไปอบซ้ำดูอีกทีนึง

01:03:0301:03:05 เพื่อไล่อากาศถ้ามันช่วยไม่ได้ก็ทิ้งไป

01:03:0501:03:08 เถอะค่ะแล้วก็สุดท้ายค่ะเราจะไปลดการ

01:03:0801:03:11 อักเสบได้ยังไงก็จะเป็นพวกของโอเมก้า 3

01:03:1101:03:14 นะคะซึ่งมีอยู่ในปลาที่มีน้ำมันเยอะๆไม่

01:03:1401:03:17 จำเป็นว่าจะต้องเป็นปลาทะเลน้ำลึกปลาน้ำ

01:03:1701:03:19 จืดบ้านเราก็ถือว่ามีโอเมก้า 3 หรือว่ามี

01:03:1901:03:22 ฟิช Oil เรากินพวกนี้ได้ถามว่าปริมาณที่

01:03:2201:03:25 ควรกินก็ปลาประมาณ 1 ฝ่ามืออาจจะบวกไปอีก

01:03:2501:03:27 สักข้อนิ้วนึงอันนี้เรากินสักประมาณ

01:03:2701:03:30 อาทิตย์ละ 2 ครั้งอันนี้ก็จะช่วยทำให้เรา

01:03:3001:03:33 ได้รับพวกของฟิ Oil เพียงพอ

01:03:3301:03:36 [เพลง]

01:03:3601:03:39 ค่ะอันสุดท้ายนะคะที่เราจะคุยกันก็คือเรา

01:03:3901:03:42 จะเห็นโดยภาพรวมในอินเทอร์เน็ตหรือว่าคำ

01:03:4201:03:44 บอกกล่าวเนาะไม่ว่าจะส่งต่อมาใน LINE

01:03:4401:03:46 หรืออะไรก็ตามคำโฆษณาชวนเชื่อบอกว่า

01:03:4601:03:49 วิตามินอันนี้เป็นวิตามินบำรุงตับทั้งแบบ

01:03:4901:03:51 ที่ฉีดและแบบที่กินเหมือนที่บอกเมื่อสัก

01:03:5101:03:54 ครู่อ่ะค่ะอันนึงเลยที่อาจจะต้องระวังก็

01:03:5401:03:56 คือก็คือการฉีดวิตามินเนี่ยมันก็จะทำให้

01:03:5601:04:00 เราได้รับวิตามินในปริมาณที่ค่อนข้างสูง

01:04:0001:04:02 ถ้าเราไปดูแล้วเราสามารถที่จะมีความรู้

01:04:0201:04:05 หรือขอเค้าดูได้ว่าวิตามินที่จะฉีดนี่คือ

01:04:0501:04:07 อะไรนะคะส่วนใหญ่ที่เขาจะผสมให้ก็คือ

01:04:0701:04:10 ไวตามินซีไวตามิน E ซึ่งอันนี้จะเป็นอะไร

01:04:1001:04:12 คะมีคุณสมบัติเป็นแอนติออกซิแดนท์หรือว่า

01:04:1201:04:14 สารต้านอนุมูลอิสระอาจจะเพิ่มไวตามิน

01:04:1401:04:18 บีบอยเพราะว่าไวตามินบเนี่ยเป็นตัวช่วย

01:04:1801:04:21 ที่สำคัญในแง่ของการเผาผลานสารอาหารทั้ง

01:04:2101:04:23 หลายซึ่งเมื่อกี้บอกไปแล้วว่าตับมีหน้า

01:04:2301:04:25 ที่หลักในการจัดการเรื่องของสารอาหารใช่

01:04:2501:04:28 มั้ยคะอีกตัวนึงอาจจะเพิ่มในตัวของกลูตา

01:04:2801:04:31 ไทโอนเข้าไปหรือว่าใส่อะมิโนแอซิดหรือใส่

01:04:3101:04:33 เพปไทด์บางอย่างเข้าไปอันนี้ก็จะบอกว่า

01:04:3301:04:36 แล้วมาเคลมเนาะว่าอันเนี้ยจะช่วยเรื่อง

01:04:3601:04:39 ตับอันนึงเลยคือไวตามิน a ระวังนะคะใน

01:04:3901:04:42 กรณีของไวตามินเอเองเนี่ยจริงๆแล้วในคน

01:04:4201:04:45 ไข้โรคตับไวตามินเออาจจะต่ำเพราะฉะนั้น

01:04:4501:04:48 เนี่ยเติมไวตามินเอได้แต่ในบางรายที่กิน

01:04:4801:04:51 ไวตามินเอในโดสที่เยอะๆหรือเมกาโดสเนี่ย

01:04:5101:04:53 นะคะสิ่งที่เกิดขึ้นเา้าเรียกภาวะเป็นพิษ

01:04:5301:04:55 จากไวตามินเอหรือกินมากเกินไปสิ่งที่จะ

01:04:5501:04:58 เกิดขึ้นก็คือจะทำให้ตับอักเสบได้อาจจะทำ

01:04:5801:05:01 ให้เกิดผังผืดที่ตับได้เพราะฉะนั้นจริงๆ

01:05:0101:05:03 แล้วเนี่ยไวตามินเอในโดสต่ำๆหรือว่า

01:05:0401:05:07 ไวตามินเอที่ขาดอันนี้ก็จะเกิดในคนแค่โรค

01:05:0701:05:10 ตับได้แต่ว่าไวตามินเอที่เยอะจนเกินไปก็

01:05:1001:05:12 ทำร้ายตับได้เหมือนกันเพราะฉะนั้นเวลา

01:05:1201:05:15 ไวตามินเอจะใช้เนี่อาจจะต้องใช้ด้วยความ

01:05:1501:05:18 ระมัดระวังถามว่าปริมาณเท่าไหร่อาจจะตอบ

01:05:1801:05:21 ยากนิดนึงแต่ว่าในคำแนะนำเราจะบอกว่า

01:05:2101:05:24 ไวตามิน a เนี่ยควรใช้ไม่เกินประมาณ 5,000

01:05:2401:05:26 I แต่ถ้าใครที่เจาะเลือดแล้วบอกว่า

01:05:2601:05:29 ไวตามิน a ต่ำอันนี้คุณหมอจะสั่งการรักษา

01:05:2901:05:31 คือจะให้มากกว่านั้นเพราะฉะนั้นจริงๆถ้า

01:05:3101:05:34 เป็นคนทั่วไปไม่ได้แนะนำว่าจะต้องไปเสริม

01:05:3401:05:37 ไวตามินเอทีละเยอะๆนะคะเพราะอาจจะมี

01:05:3701:05:39 อันตรายตัวอย่างที่ชัดเจนก็คือคนไข้ที่

01:05:3901:05:42 รักษาสิวใครเคยรักษาสิวบ้างก็จะมียาใช่

01:05:4201:05:45 มั้ยคะที่จะให้กินเพื่อรักษาสิวเนาะที่จะ

01:05:4501:05:48 ทำให้หน้ามันแห้งๆหน่อยนะคะกินแล้วปากจะ

01:05:4801:05:50 แห้งๆหน่อยกลุ่มนี้จะเป็นเค้าเรียกว่า

01:05:5001:05:53 เป็นอนุพันธ์ของไวตามินเอกินมากเกินไปบาง

01:05:5301:05:56 ทีคุณหมอจะต้องตรวจเรื่องของระดับค่าตับ

01:05:5601:05:59 เป็นระยะๆะเพราะว่าตัวนี้อาจจะมีผลกระตับ

01:05:5901:06:02 ได้ดังนั้นไวตามินเอหรือว่าไวตามินทุทั่ว

01:06:0201:06:05 ไปไม่ได้หมายความว่าปลอดภัย 100% การกิน

01:06:0501:06:08 วิตามินหรือว่าการฉีดวิตามินในปริมาณที่

01:06:0801:06:11 มากเกินไปก็อาจจะเกิดผลเสียได้แล้วอวัยวะ

01:06:1101:06:15 ที่จะรับผลกระทบในตอนแรกก็มักจะเป็นตับ

01:06:1501:06:18 เพราะว่าเราใส่อะไรเข้าไปตับเรามีหน้าที่

01:06:1801:06:20 ทำให้มันหมดฤทธิ์หรือทำให้มันออกฤทธิ์

01:06:2001:06:23 เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากกลุ่มวิตามินที่ฉีด

01:06:2301:06:25 หรือกินที่เราบอกนะคะว่าที่เราจะต้อง

01:06:2501:06:27 ระวังแล้วเนี่ยมันก็จะมีอีกอันนึงเมื่อ

01:06:2701:06:30 กี้เราพูดกันก็คือกลุ่มของกลูต้าใช่มั้ย

01:06:3001:06:32 คะหลายคนก็จะบอกว่าเอ้ยถ้าฟังดูแล้วเนี่ย

01:06:3201:06:35 เราไปฉีดกลูต้าจะช่วยทำให้ตับเราดีขึ้นไม

01:06:3501:06:38 ต้องบอกว่างี้ค่ะในกรณีของกลูต้าเนี่ยถ้า

01:06:3801:06:40 ตับไม่ได้มีปัญหาอะไรฉีดไปเนี่ยเดี๋ยวสัก

01:06:4001:06:43 ผ้ามันก็หมดฤทธิ์เนาะที่อันตรายมากที่สุด

01:06:4301:06:45 ก็คือเรากลัวภาวะที่เราเรียกว่าแพ้กลูต้า

01:06:4501:06:47 เนาะมันอาจจะทำให้เกิดเค้าเรียกอนาไฟ

01:06:4701:06:50 laxis อ่ะค่ะที่หายใจไม่ทันนะคะหรือว่า

01:06:5001:06:53 อาจจะทำให้ความดันเลือดตกลงแล้วอาจจะเสีย

01:06:5301:06:55 ชีวิตได้เลยเพราะฉะนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่

01:06:5501:06:59 ต้องถ้าจะเอาพวกนี้เอาจากไหนจริงๆจากการ

01:06:5901:07:00 กินน่ะค่ะนอกเหนือจากเราจะได้สารพวกนี้

01:07:0001:07:03 ได้แอนติออกซิแดนท์ได้ไฟเบอร์เนาะ

01:07:0301:07:06 อันเนี้ยจะช่วยในเรื่องของการทำงานของลำ

01:07:0601:07:08 ไส้ช่วยในเรื่องของการทำงานแบคทีเรียแล้ว

01:07:0801:07:11 ก็ยังช่วยส่งผลดีกับตับในภาพรวมได้อีก

01:07:1101:07:13 เพราะฉะนั้นเราเปลี่ยนจากของพวกเนี้ยที่

01:07:1301:07:15 เราจะต้องจ่ายตังค์แพงๆไปเลือกอาหารที่ดี

01:07:1501:07:18 หรือว่าให้ได้รับสารอาหารที่ใกล้เคียงกัน

01:07:1801:07:21 อันนี้น่าจะดีกว่าอันสุดท้ายจะชอบมีคนพูด

01:07:2101:07:24 ถึงเรื่องของสมุนไพรต้องบอกอย่างนี้นะคะ

01:07:2401:07:27 สมุนไพรเนี่ยโดยทั่วไปเาใช้หลักการคล้ายๆ

01:07:2701:07:30 กันเลยก็คือว่าสารออกฤทธิ์ที่อยู่ใน

01:07:3001:07:33 สมุนไพรเนี่ยเราไปศึกษาอยู่ในสัตว์ทดลอง

01:07:3301:07:35 หรือว่าอยู่ในหลอดทดลองแล้วบอกว่ามี

01:07:3501:07:38 คุณสมบัติไม่ว่าจะเป็นแอนติออกซินหรือว่า

01:07:3801:07:40 จะมีคุณสมบัติในแง่ของการลดการอักเสบ

01:07:4001:07:43 อย่างไรก็ตามเราไม่รู้โดสที่เหมาะสมที่

01:07:4301:07:48 แน่ชัดสำหรับการใช้ในคนข้อมูลอันนึงก็คือ

01:07:4801:07:51 ว่าสมุนไพรในโดสต่ำๆอาจจะไม่ได้ประโยชน์

01:07:5101:07:53 สมุนไพรในโดสตรงกลางหรือโดสที่เหมาะสมอัน

01:07:5301:07:55 นี้จะช่วยลดเรื่องของการอักเสบช่วยทำให้

01:07:5501:07:59 ตับดีขึ้นแต่ถ้ามันมากเกินไปอันนี้มันอาจ

01:07:5901:08:02 จะทำร้ายตับคำถามคือโดสที่เหมาะสมอยู่ตรง

01:08:0201:08:05 ไหนอันเนี้ยค่ะมันยังไม่มีข้อมูลที่ทำใน

01:08:0501:08:08 คนมากสักเท่าไหร่นักเพราะฉะนั้นเนี่ยยัง

01:08:0801:08:11 ไม่ได้มีคำแนะนำในเรื่องของการใช้สมุนไพร

01:08:1101:08:14 ที่เป็นแคปซูลเป็นเม็ดเพื่อจะช่วยบำรุง

01:08:1401:08:17 รักษาตับแต่ถ้าเรารู้ว่าสมุนไพรเนี่ยมัน

01:08:1701:08:20 มีสารตัวเนี้ยแล้วเราไปเอามาใช้ในเรื่อง

01:08:2001:08:23 ของการประกอบอาหารใช้ในสัดส่วนที่เรากิน

01:08:2301:08:26 ตามปปกติอันเนี้ยมันจะไม่เกิดภาวะเป็นพิษ

01:08:2601:08:28 แน่นอนแล้วเราก็จะได้รับสารอาหารหรือว่า

01:08:2801:08:31 ได้รับสารตัวที่มันช่วยในเรื่องของสุขภาพ

01:08:3101:08:34 ด้วยฉั้นในส่วนของสมุนไพรถ้ามันมีข้อมูล

01:08:3401:08:37 ว่ามันช่วยแนะนำว่าเอามาใช้ในการที่จะ

01:08:3701:08:39 เป็นส่วนหนึงของการประกอบอาหารอันนี้น่า

01:08:3901:08:42 จะดีกว่าไม่เพียงแค่นั้นค่ะบางทีเวลาที่

01:08:4201:08:44 เขาเอามาใส่แคปซูลให้เราอ่ะค่ะหลายครั้ง

01:08:4401:08:47 หลายทีเนี่ยเราไม่รู้เลยว่ามันจะมีสารปน

01:08:4701:08:50 เปื้อนหรือสารอะไรอย่างอื่นหรือเปล่าแล้ว

01:08:5001:08:53 มันจะยิ่งทำให้เราเนี่ยหรือตับเราเนี่ยทำ

01:08:5301:08:55 งานงานหนักขึ้นเพราะฉะนั้นถ้าสมมุติเรา

01:08:5501:08:58 อยากจะเซฟตับแค่เราไม่ต้องใส่อะไรที่ทำ

01:08:5801:09:00 ให้ตับเราทำงานหนักขึ้นแล้วเราก็ไม่ต้อง

01:09:0101:09:03 เปรืองเงินด้วยอันนี้น่าจะดีที่สุดค่ะโดย

01:09:0301:09:05 สรุปนะคะวันนี้เราคุยกันเรื่องของอาหาร

01:09:0501:09:08 บำรุงตับแต่จริงๆแล้วเราก็จะพูดว่าในส่วน

01:09:0801:09:11 ของโรคตับมีอะไรบ้างเราจะสังเกตได้ยังไง

01:09:1101:09:13 หลักการวันนี้ที่อยากจะให้ทุกท่านได้ไปก็

01:09:1301:09:16 คือว่าตับเราเนี่ยจริงๆมันดีอยู่แล้วแล้ว

01:09:1601:09:20 จะดีที่สุดถ้าเราไม่พยายามใส่อะไรที่ไม่

01:09:2001:09:23 จำเป็นให้ตับเราต้องทำงานหนักขึ้นและที่

01:09:2301:09:26 สำคัญถ้าสมมุติว่าเราจะอยากได้อาหารอะไร

01:09:2601:09:29 ที่จะไปบำรุงตับเราควรจะเลือกจากที่เป็น

01:09:2901:09:31 อาหารการที่เราใช้วิตามินไม่ว่าจะเสริม

01:09:3101:09:35 ด้วยการกินหรือเสริมด้วยการฉีดมากเกินไป

01:09:3501:09:37 ไม่ได้หมายความว่ามันจะปลอดภัยวิตามินไม่

01:09:3701:09:39 ได้เท่ากับคำว่าปลอดภัยหรือไม่ได้เท่ากับ

01:09:3901:09:42 คำว่าไม่เป็นอันตรายอะไรที่มากเกินไปก็

01:09:4201:09:45 อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับร่างกายแล้วทุก

01:09:4501:09:47 อย่างที่เราใส่เข้าไปหมายความว่าเรากำลัง

01:09:4701:09:50 ตั้งใจทำให้ตับเราเนี่ยทำงานหนักขึ้น

01:09:5001:09:52 เพราะฉะนั้นถ้าสมมุติทุกท่านกังวลว่าเอ๊ะ

01:09:5201:09:54 ตอนนี้ฉันกินยาเยอะไปหรือหรือเปล่าตับฉัน

01:09:5401:09:57 มีปัญหาหรือเปล่าถามตัวเองนิดเดียวว่าเรา

01:09:5701:10:00 จำเป็นต้องกินมถ้าเราไม่จำเป็นต้องกินเรา

01:10:0001:10:03 จะไม่ทำให้ตับเราเนี่ยทำงานมากขึ้นแล้ว

01:10:0301:10:05 เราก็จะไม่ไปเสียตังค์ด้วยของที่ไม่

01:10:0501:10:08 จำเป็น

01:10:0801:10:11 ค่ะสำหรับวันนี้นะคะเราก็จะมาคุยกันใน

01:10:1101:10:14 เรื่องของเทรนด์อาหารควบคุมน้ำหนักค่ะวัน

01:10:1401:10:17 นี้นะคะเราจะมาคุยกันก่อนว่าหลักการที่

01:10:1701:10:19 ถูกต้องสำหรับการควบคุมน้ำหนักคืออะไร

01:10:1901:10:22 แล้วหลังจากนั้นเนี่ยเราก็จะเข้าไปสู่

01:10:2201:10:24 อาหารที่เราได้ยินกันแบบบๆเราอาจจะเคยได้

01:10:2401:10:27 ยินมาเยอะแยะมากมายไม่ว่าจะเป็นไม่กิน

01:10:2701:10:31 ข้าวเย็นนะคะ law Food No ขาบนะคะหรือ

01:10:3101:10:34 ว่าจะเป็นเรื่องของการกินเนื้ออย่างเดียว

01:10:3401:10:37 การล้วงคอนะคะสารพัดอย่างที่เราเจอใน

01:10:3701:10:39 อินเทอร์เน็ตสำหรับ 5 เรื่องที่เราจะคุย

01:10:3901:10:41 กันจะเป็นเรื่องที่อาจจะมีคนพูดถึงกัน

01:10:4101:10:44 บ่อยๆแล้วมาดูกันว่ามีข้อดีข้อเสียหรือมี

01:10:4401:10:46 ข้อมูลยังไงว่ามันจะได้ประโยชน์หรือเปล่า

01:10:4601:10:48 5 อันที่เราจะคุยกันก็จะมีตั้งแต่

01:10:4801:10:50 intermittent fasting นะคะหรือบางคนจะ

01:10:5101:10:53 เรียกว่า If มีบางคนเรียก If ด้วยซ้ำไป

01:10:5301:10:56 อันที่ 2 ก็จะเป็น ketogenic Diet หรือ

01:10:5601:10:59 ว่าอาหารคีโตอันที่ 3 จะเป็น Blood type

01:10:5901:11:02 Diet กินอาหารตามหมูเลือดนะคะอันที่ 4

01:11:0201:11:05 ก็จะเป็นเรื่องของ vegetarian หรืออาหาร

01:11:0501:11:07 มังสวิรัตแล้วก็สุดท้ายที่เราจะคุยกันก็

01:11:0701:11:10 คือ mediterranean Diet ค่ะในแง่ของหลัก

01:11:1001:11:12 การในการควบคุมน้ำหนักนะคะอันนี้ทุกคน

01:11:1201:11:15 ทราบก็จะชอบบอกว่าให้กินน้อยๆให้ออกกำลัง

01:11:1501:11:18 กายเยอะๆโดยทั่วไปอย่างนี้ค่ะเวลาที่เรา

01:11:1801:11:20 จะอ้วนขึ้นอันนี้เราเราพูดถึงอ้วนก่อน

01:11:2001:11:22 เนาะเวลาที่อ้วนเนี่ยเราจะพูดถึงไขมัน

01:11:2201:11:24 เวลาที่น้ำหนักเปลี่ยนแปลงไปเนี่ยถ้าเรา

01:11:2401:11:26 บวมขึ้นอันเนี้ยน้ำหนักก็จะขึ้นเร็ว

01:11:2601:11:28 เหมือนกันแต่วันเนี้ที่เราจะคุยกันก็คือ

01:11:2901:11:31 เรื่องอ้วนนะคะการออกกำลังกายก็คือเป็น

01:11:3101:11:34 การเพิ่มการเผาผลาญในขณะเดียวกันถ้าเราลด

01:11:3401:11:37 อาหารที่เข้าไปด้วยก็คือหมายความว่าลด

01:11:3701:11:39 ปริมาณอาหารที่จะเข้าไปเมื่ออาหารที่มัน

01:11:3901:11:42 ลดลงร่างกายมีการเผาผลาญเพิ่มขึ้นเขาก็จะ

01:11:4201:11:45 เอาของที่มีสะสมอยู่ซึ่งก็คือไขมันนั่น

01:11:4501:11:49 เองเอาไปใช้แล้วเราก็จะผอมลงการลดน้ำหนัก

01:11:4901:11:51 ที่เหมาะสมอะนะคะควรจะอยู่ที่ประมาณ 0.5

01:11:5101:11:55 -1 กลต่อสัปดาห์แต่ว่าหลายๆรายก็อยากจะ

01:11:5501:11:58 แบบลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นงาน

01:11:5801:12:00 รับปริญญาจะไปงานแต่งงานหรืออะไรก็แล้ว

01:12:0001:12:04 แต่ดังนั้นเนี่ยก็จะมีอาหารสูตรสารพัด

01:12:0401:12:06 อย่างเลยในอินเทอร์เน็ตเราจะเรียกกลุ่ม

01:12:0601:12:08 นี้รวมๆว่าเป็นกลุ่มที่เป็น fash Diet

01:12:0801:12:11 หรือเป็นอาหารตามแฟชั่นอันนี้อยากจะลด

01:12:1101:12:14 ระยะเวลาสั้นๆเช่นอุยอีกไม่กี่วันอีกไม่

01:12:1401:12:16 กี่เดือนฉันจะลดน้ำหนักละเราก็จะได้ยิน

01:12:1601:12:19 ตั้งแต่อดไม่กินอะไรเลยอ่าไม่กินมื้อเย็น

01:12:1901:12:22 ไม่กินแป้งอะไรอย่าเงี้ยค่ะแล้วก็จะเคลม

01:12:2201:12:24 ว่าสามารถที่ที่จะลดน้ำหนักได้อย่างรวด

01:12:2501:12:27 เร็วดังนั้นวันนี้เดี๋ยวเรามาดูกันว่า

01:12:2701:12:29 อาหารที่เราได้ยินบ่อยๆเนี่ยมันมีข้อดี

01:12:2901:12:33 ข้อเสียยังไงมันทำได้หรือเปล่านะ

01:12:3301:12:36 [เพลง]

01:12:3601:12:40 คะเรามาเริ่มกันที่อันแรกนะคะก็คือเรื่อง

01:12:4001:12:42 ของ intermittent fasting หรือว่าคนจะ

01:12:4201:12:45 เรียกว่าเป็น If นะคะ If หรือ

01:12:4501:12:46 intermittent fasting เนี่ยชื่อมันก็

01:12:4601:12:50 บอกอยู่แล้วว่าให้อดเป็นช่วงๆเป็นพักๆมัน

01:12:5001:12:53 มีอยู่ 2 กลุ่มนะคะเราแยกเป็น 2 อันอัน

01:12:5301:12:55 แรกแรกหมายความว่าเราอดเป็นพักๆเนี่ยเรา

01:12:5501:12:58 อดทุกวันเพราะฉะนั้นในทุกๆวันเนี่ยจะมี

01:12:5801:13:00 การกำหนดระยะเวลาว่าเราจะกินได้กี่

01:13:0001:13:03 ชั่วโมงแล้วเราจะอดได้กี่ชั่วโมงสูตรที่

01:13:0301:13:06 เราได้ยินบ่อยๆก็คือ 168 เวลาที่เขาจะให้

01:13:0601:13:09 กินเนี่ยเขาจะให้กินแค่ 8 ชมงอย่าผิดนะคะ

01:13:0901:13:11 เดี๋ยวบางคนบอกว่าไปกิน 16 ชมอันนี้ก็จะ

01:13:1101:13:15 ไม่ผอมเนอะอ่านอกจาก 168 บางคนก็จะแบบพอ

01:13:1501:13:18 เริ่มต้นทำ 16-8 แล้วเนี่ยเก่งขึ้นก็อาจ

01:13:1801:13:22 จะเพิ่มเวลาขึ้นไปอาจจะเหลือ 204 ระยะ

01:13:2201:13:25 เวลาการกินก็จะสั้นลงทีนี้โดยหลักการก่อน

01:13:2501:13:30 อันนี้คือกินทุกวันแล้วก็อดทุกวันแบบที่ 2

01:13:3001:13:33 ก็คือจะเป็นกลุ่มที่ในอาทิตย์นึงเราจะมี

01:13:3301:13:36 วันที่กินกับวันที่ไม่กินเา้าก็จะเจอบ่อย

01:13:3601:13:39 ๆก็จะเขียนว่าเป็น 52 52 คืออะไรหมาย

01:13:3901:13:42 ความว่าเรากินเนี่ย 5 วันอีก 2 วันคือวัน

01:13:4201:13:45 ที่เราอดแล้วก็อีกแบบนึงก็คือเขาจะเรียก

01:13:4501:13:47 ว่าเป็น Alternate Day fasting ก็คือ

01:13:4701:13:50 วันนี้กินพรุ่งนี้อดวันนี้กินพรุ่งนี้อด

01:13:5001:13:54 สลับกันไปนะคะไม่ว่าจะยังยังไงก็ตามหลัก

01:13:5401:13:57 การที่จะทำให้เรากินน้อยๆหรือล่นระยะเวลา

01:13:5701:14:00 การกินเนี่ยมันจะทำให้ในแต่ละวันหรือใน

01:14:0001:14:03 แต่ละสัปดาห์เนี่ยเรากินน้อยลงคุณหมอยก

01:14:0301:14:05 ตัวอย่างให้ดูนะคะถ้าสมมุติว่าวันนึง

01:14:0501:14:08 เนี่ยเรากินอาหาร 3 มื้อถ้าเราเหลือเวลา

01:14:0801:14:11 กินแค่ 8 ช่มมันก็เหมือนกับเรากินได้แค่ 2

01:14:1101:14:14 มื้อมันเท่ากับว่าเราหายไปแล้ว 1 มื้อถูก

01:14:1401:14:16 มยคะอันนี้คือหลักการของการที่จะให้คุม

01:14:1601:14:20 อาหารลดลงไป 30% เท่านั้นเองอันที่ 2

01:14:2001:14:23 สมมุติเรามี 7 วันแล้วกินได้แค่ 5 วัน

01:14:2301:14:27 แต่เราหายไปแล้ว 2 วัน 2 วันใน 7 วันมัน

01:14:2701:14:30 ก็คือการลดอาหาร 30% นั่นเองจริงๆมันเป็น

01:14:3001:14:33 แค่กฎกติกามารยาทเพื่อให้เราเนี่ยคุม

01:14:3301:14:37 อาหารได้โดยการใช้เวลาเป็นตัวตั้งการทำ If

01:14:3701:14:40 ไม่เคยบอกว่าจะต้องกินอาหารแบบไหน If ไม่

01:14:4101:14:43 เคยบอกว่าจะต้องกินอาหารข้าวต่ำเอ่อไม่มี

01:14:4401:14:47 ข้าวไขมันต่ำไม่มีเลย If กำหนดแค่ระยะ

01:14:4701:14:50 เวลาแล้วการกำหนดระยะเวลาก็ทำให้ระยะเวลา

01:14:5001:14:53 ของการกินน้อยลงเราก็จะกินน้อยลงโดยปริ

01:14:5301:14:56 ยายสิ่งที่เป็นกับดักสำคัญสำหรับ If ก็

01:14:5601:14:59 คือว่าทุกคนจะชอบบอกว่าระยะเวลาที่กิน

01:14:5901:15:03 เนี่ยเช่นให้กิน 8 ช่วโมงกินอะไรก็ได้ฉัน

01:15:0301:15:06 ไปกินบุฟเฟ่ต์มัน 3 ชั่วโมงกินเท่าไหร่ก็

01:15:0601:15:09 ได้จริงๆแล้วไม่ใช่นะคะคนที่จะทำไอเนี่ย

01:15:0901:15:12 สิ่งที่เขาบอกเนี่ยถ้าเป็นภาษาอังกฤษเขา

01:15:1201:15:14 จะเขียนว่ากินได้ตามที่ต้องการหรือว่ากิน

01:15:1401:15:17 ได้เหมือนเดิมเพราะฉะนั้นมันเหมือนกับว่า

01:15:1701:15:19 คุณไม่ต้องไปหลีกเลี่ยงไม่ต้องไปลดอะไรใน

01:15:1901:15:22 ช่วงเวลาที่กินก็คือกินเท่าเดิมแต่ไม่ใช่

01:15:2201:15:26 ว่ากินอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจไม่ใช่ว่ากิน

01:15:2601:15:29 แบบไม่มีลิมิตอันนี้ก็จะไม่ผอมนะคะอันนี้

01:15:2901:15:31 คือส่วนนึงที่จะทำให้มีปัญหาสำหรับการทำ

01:15:3101:15:33 If งั้นเดี๋ยววันนี้เราจะมาดูกันนะคะว่า

01:15:3301:15:36 เวลาคนที่เขาอยากจะเริ่มทำ If เนี่ยเขาทำ

01:15:3601:15:39 กันยังไงวันนี้จะยกตัวอย่างหรือแสดงให้ดู

01:15:3901:15:41 แค่ 2 แบบก็คืออันที่เราเรียกว่า 168 กับ

01:15:4101:15:45 52 ซึ่งจะเป็นตัวอย่างของการอดทุกวันกับ

01:15:4501:15:49 อดแค่บางวันในแต่ละสัปดาห์เริ่มจาก 16-8

01:15:4901:15:52 ก่อนเขาจะให้เรากินเนี่ย 8 ชมงนะคะจริงๆ

01:15:5201:15:54 16-8 เนี่ยเนี่ยจะไม่มีใครกำหนดว่าเราจะ

01:15:5401:15:57 งดมื้อไหนรู้แค่ว่าคุณเริ่มกินเมื่อไหร่

01:15:5701:16:00 ก็ตามคุณนับเวลากินของคุณไปอีก 8 ชมแล้ว

01:16:0001:16:03 คุณก็หยุดกินยกตัวอย่างเช่นตื่นมา 6:00 น

01:16:0301:16:06 กินข้าวตอน 7:00 นเราจะสามารถกินอาหารไป

01:16:0601:16:10 ได้จนถึงมื้อสุดท้ายตอน 15:00 นหลัง 14:00

01:16:1001:16:12 นจะไม่มีมื้ออาหารแล้วถามว่าอ้าวไม่กิน

01:16:1201:16:15 อะไรเลยหรอได้ค่ะแต่จะต้องเป็นของที่ไม่

01:16:1501:16:19 มีแคลอรีดื่มน้ำได้นะคะหรือบางคนเนี่ยจะ

01:16:1901:16:21 ใช้เป็นชากาแฟก็ได้แต่ว่าจะต้องเป็นชา

01:16:2101:16:24 กาแฟที่ไม่เติบน้ำตาลอันนี้เป็นต้นอันนี้

01:16:2401:16:26 ก็คือวิธีการเริ่มต้นต้องบอกว่าอันเนี้ย

01:16:2601:16:30 เบสิคสุดและสำหรับคนที่จะเริ่มทำ If ก็

01:16:3001:16:33 คือให้กินแบบนี้บางคนบอกว่าฉันตื่นสายล่ะ

01:16:3301:16:36 เขาจะเริ่มกินเที่ยนค่ะเริ่มกินเที่ยง

01:16:3601:16:39 มื้อแรกแล้วก็ยาวไปจนถึงทั้่ง 20:00 น

01:16:3901:16:41 หลัง 20:00 นก็จะไม่กินแล้วก็ยาวไปจน

01:16:4101:16:44 กระทั่งมื้อเช้าก็อดแล้วก็มาเริ่มกินใหม่

01:16:4401:16:47 ที่มื้อเที่ยนอันนี้คือการทำ 168 ถ้าเกิด

01:16:4701:16:50 โหดร้ายกว่านั้นระยะเวลาของการกินจะสั้น

01:16:5001:16:54 ลงก็จะเหลือแค่จาก 8 ชมจะเหลือ 4 ชม 5 ชม

01:16:5401:16:58 แล้วแต่นะคะอันที่ 2 ค่ะจะเรียกว่าเป็น 52

01:16:5801:17:01 52 คือในแต่ละวันของอาทิตย์เนี่ยเาจะให้

01:17:0101:17:04 เลือกไม่จำเป็นต้องติดกันวันไหนก็ได้วัน

01:17:0401:17:07 นี้นึกอยากจะอดอดเลยค่ะแล้วก็นับไปใน

01:17:0701:17:10 อาทิตย์นึงเนี่ยให้เลือกอด 2 วันสมัยก่อน

01:17:1001:17:13 เนี่ยอดคือไม่กินเลยไม่กินเลยในที่นี่คือ

01:17:1301:17:17 0 แต่บอกว่ามันโหดร้ายไปตอนหลังเนี่ยมี

01:17:1701:17:19 คนทำวิจัยแล้วบอกว่าต่อให้เรากินเนี่ยแต่

01:17:1901:17:23 ถ้ากินไม่เกินประมาณสัก 25% ของแคลอรี

01:17:2301:17:25 ทั้งหมดหรือประมาณสัก 400 หรือ 600

01:17:2501:17:28 แคลอรีเนี่ยก็ยังถือว่ายังเป็นอดอยู่ดัง

01:17:2801:17:31 นั้นเขาจะบอกว่าวันที่อดเอนุญาตให้กิน

01:17:3101:17:34 ประมาณ 400 ไม่เกิน 600 แคลอรี 400 ไม่

01:17:3401:17:36 เกิน 600 แคลอรี่ไม่ได้หมายความว่าจะกิน

01:17:3601:17:39 ทั้งวันนะตั้งแต่เช้าไม่เกินเที่ยนอันนี้

01:17:3901:17:41 คือ 400-600 แคลอรีแล้วหลังจากนั้นก็จะ

01:17:4101:17:45 เป็นของที่ไม่มีแคลอรีแล้วดื่มน้ำได้

01:17:4501:17:47 อาทิตย์นึงทำ 2 ครั้งอันนี้คือหลักการของ

01:17:4801:17:50 การทำ If ค่ะทีนี้ถามว่าข้อควรระวังใน

01:17:5001:17:53 กรณีของ If อย่างที่บอกเมื่อสักครู่นะคะ

01:17:5301:17:57 เวลาที่อดก็คือจะมีช่วงเวลานึงเวลาที่กิน

01:17:5701:18:00 ห้ามกินมากจนเกินไปถ้าเรากินแบบไม่บรรยะ

01:18:0001:18:02 บรรยังกินอย่างไม่ยับยั้งชั่งใจอันนี้

01:18:0201:18:05 สิ่งที่จะตามมาก็คือจะทำให้คนๆนั้นเนี่ย

01:18:0501:18:09 มีปัญหานะคะก็คือน้ำหนักไม่ลดอันที่ 2

01:18:0901:18:13 ค่ะ If มันกำหนดแค่วิธีการบอกว่าให้กิน

01:18:1301:18:15 กี่ชั่วโมงไม่ให้กินกี่ชั่วโมงเขาไม่เคย

01:18:1501:18:18 บอกว่าอาหารเป็นยังไงดังนั้นเนี่ยคนที่จะ

01:18:1801:18:21 เลือกทำ If ควรจะเลือกรับประทานอาหารให้

01:18:2101:18:24 เหมาะสมด้วยเราเหลืออาหารเี่กินแค่ 2

01:18:2401:18:27 มื้อเพราะฉะนั้นเราต้องเลือกให้ครบทั้ง 5

01:18:2701:18:30 หมู่ถ้าเรายังเลือกไม่ครบอีกโอกาสที่จะ

01:18:3001:18:33 เกิดการขาดสารอาหารจะตามมานะคะอันที่ 3

01:18:3301:18:37 การทำไให้ประสบความสำเร็จถ้าเรากินแต่น้ำ

01:18:3701:18:40 หวานเรากินแต่ของที่ไม่อยู่ท้องโปรตีนต่ำ

01:18:4101:18:43 สิ่งที่เกิดขึ้นมันจะเกิดความทรมานมากคน

01:18:4301:18:46 ก็จะมีปัญหาเรื่องของปวดท้องหงุดหงิดนอน

01:18:4601:18:50 ไม่หลับอันเนี้ยจะเกิดได้บ่อยพอสมควรที่

01:18:5001:18:53 สำคัญค่ะต้องระวังในคนไข้ที่เป็นเบาหวา

01:18:5301:18:56 ถ้าเป็นเบาหวานแล้วต้องกินยามื้อเย็นโดย

01:18:5601:18:59 เฉพาะยาที่เป็นยาก่อนอาหารหรือฉีด

01:18:5901:19:03 อินซูลินอันนี้ควรจะต้องลดยาหรือหยุดฉีด

01:19:0301:19:06 ยาหรือไม่งั้นต้องคุยกับแพทย์ที่ดูแลนะคะ

01:19:0601:19:09 เพราะมีโอกาสที่จะเกิดน้ำตาลต่ำได้อันนี้

01:19:0901:19:12 คือสิ่งที่สำคัญสำหรับคนแค่ที่จะทำ If

01:19:1201:19:14 ถ้าเลือกอาหารไม่เหมาะสมเลือกอาหารไม่ถูก

01:19:1401:19:17 ต้องอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับสาร

01:19:1701:19:20 อาหารเพิ่มเติมหรือวิตามินเพิ่มเติมคำถาม

01:19:2001:19:23 ว่า If เนี่ยมันเหมาะกับแต่ละคนหรือเปล่า

01:19:2301:19:26 อันนี้แล้วแต่เลยนะคะ If คือแค่วิธีการ

01:19:2601:19:28 นึงที่จะนำไปสู่เรื่องของการลดน้ำหนักมัน

01:19:2801:19:31 มีคนทำวิจัยบอกว่าถ้าเราเดิมเรากินเยอะ

01:19:3101:19:33 อยู่แล้วเราไปทำ If เนี่ยน้ำหนักลดมมตอก็

01:19:3301:19:36 ลดแต่ถ้าสมมุติว่าคนๆนึงเนี่ยลดปริมาณ

01:19:3601:19:39 อาหารลงเช่นเราบอกว่าให้กินน้อยลงทุกๆ

01:19:3901:19:42 มื้อแต่กินได้ 3 มื้อเลยเทียบกับการกิน If

01:19:4201:19:45 จริงๆแล้วน้ำหนักลดเท่าๆกันเพราะฉะนั้น If

01:19:4501:19:49 เนี่ยหลักการคือการลดปริมาณอาหารเราคิด

01:19:4901:19:51 ไม่ออกหรอกค่ะว่าจะให้ลดอาหารเท่าไหร่แต่

01:19:5101:19:53 บอกว่าให้เรากินแค่ 2 2 มือในวันนึงเรา

01:19:5401:19:57 บอกเราทำได้ถ้าคนที่ทำอย่างงั้นได้และชอบ

01:19:5701:19:59 ที่จะทำอย่างงั้นสามารถที่จะทำ If ได้แต่

01:19:5901:20:01 ถ้าใครบอกว่าไม่ไหวอ่ะฉันปวดท้องฉัน

01:20:0201:20:05 เครียดฉันนอนดึกฉันอดอาหารแล้วฉันมีปัญหา

01:20:0501:20:07 อันนี้ไม่ใช่ทางของคุณแล้วค่ะคุณพยายามไป

01:20:0801:20:10 หาอย่างอื่นค่ะแล้วก็ถ้าสมมุติว่าเรา

01:20:1001:20:13 สามารถที่จะคุมอาหารทุกๆมื้อนะคะให้

01:20:1301:20:15 ปริมาณน้อยลงแล้วก็จะสามารถลดน้ำหนักได้

01:20:1501:20:18 พอๆไอนะคะซึ่งอาจจะมีความสุขมากกว่าเพราะ

01:20:1801:20:21 ว่าเราไม่ต้องอดอาหารไม่ต้องเครียดว่าตาย

01:20:2101:20:23 แล้วถึงเวลาแล้วฉันกินไม่ได้อะไรอย่างนี้

01:20:2301:20:26 เป็นต้นงั้นลองดูนะคะว่าวิธารนี้เนี่ยมัน

01:20:2601:20:30 เหมาะกับชีวิตของคุณหรือเปล่านะ

01:20:3001:20:33 [เพลง]

01:20:3301:20:36 คะอันที่ 2 นะคะที่เราจะคุยกันก็คือคีโต

01:20:3601:20:39 อันเนี้ยดังมากทุกคนจะได้ยินบ่อยมากแล้ว

01:20:3901:20:41 มันเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากจะลดน้ำ

01:20:4101:20:44 หนักเร็วๆเพราะเวลาที่คนพูดกันจะบอกว่า

01:20:4401:20:46 โอ้โหเนี่ยลดได้ทีละ 5 ก 10 กอะไรอย่าง

01:20:4601:20:49 เงี้ยถามว่าผิดมยหรือว่าถูกมั้ยอ่าให้

01:20:4901:20:52 เข้าใจก่อนว่าคีโตคืออะไรหลักการของการ

01:20:5201:20:55 การที่จะทำคีโตก็คือไปหลอกร่างกายว่าตอนเ

01:20:5501:20:58 เรากำลังอดอาหารเราร่างกายเราเนี่ยจะรู้

01:20:5801:21:00 สึกว่ามีอาหารเข้าไปก็ต่อเมื่อน้ำตาลใน

01:21:0001:21:03 เลือดมันสูงขึ้นแล้วไปกระตุ้นฮอร์โมนที่

01:21:0301:21:05 ชื่อว่าอินซูลินทีนี้พอเวลาที่เราไม่กิน

01:21:0501:21:09 พวกคาร์โบไฮเดรตนะคะน้ำตาลในเลือดก็จะตก

01:21:0901:21:12 ร่างกายก็จะไม่มีการกระตุ้นอินซูลินหลัง

01:21:1201:21:14 จากนั้นเป็นไงคะร่างกายก็จะไปสลายไขมันสิ

01:21:1401:21:16 คะเพราะว่าเขาต้องการพลังงานร่างกายไม่

01:21:1601:21:19 แคร์นะคะว่าพลังงานที่จะเข้ามาเนี่ยคือ

01:21:1901:21:21 คืออย่างสมมุติว่าร่างกายใช้ชีวิตอยู่ได้

01:21:2101:21:24 ต้องใช้พลังงานเขาไม่เคยสนใจว่าพลังงาน

01:21:2401:21:27 อันเนี้ยเราจะได้มาจากรูปแบบไหนทีนี้พอ

01:21:2701:21:30 อาหารที่มาเป็นคาร์โบไฮเดรตหรือเป็นน้ำ

01:21:3001:21:32 ตาลไม่มีร่างกายก็จะต้องเริ่มไปสลายไขมัน

01:21:3201:21:35 เพื่อจะให้มาเป็นพลังงานดังนั้นต่อให้เรา

01:21:3501:21:38 กินเข้าไปแต่ถ้าคาร์โบไฮเดรตต่ำร่างกายก็

01:21:3901:21:41 ยังคงสลายไขมันอยู่อันนี้คือสิ่งที่ทุกคน

01:21:4101:21:45 บอกว่ากินได้แต่ผอมลงใช่มั้ยคะทุกคนก็จะ

01:21:4501:21:48 แฮปปี้ทีนี้ถามว่าน้ำหนักลงเร็วยต้องตอบ

01:21:4801:21:51 ว่าลงเร็วค่ะโดยเฉพาะในช่วงระยะเวลาสั้นๆ

01:21:5101:21:53 ลงเร็วกว่าวิธีอื่น

01:21:5301:21:55 แต่ว่าถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรากลับมากิน

01:21:5501:21:58 แป้งน้ำหนักมันก็จะขึ้นเร็วเหมือนกันที

01:21:5801:22:01 นี้ที่เจอบ่อยๆว่าเป็นความผิดเนี่ยก็คือ

01:22:0101:22:04 ทุกคนจะบอกว่าไม่กินแป้งไม่กินข้าวเนาะ

01:22:0401:22:06 แล้วบางใครก็บอกว่าพยายามทำคีโตแล้วแต่

01:22:0601:22:08 น้ำหนักไม่ลดไม่กินแป้งไม่กินข้าวแต่ยัง

01:22:0801:22:11 คงกินน้ำหวานยังคงกินผลไม้อยู่อันนี้ก็

01:22:1101:22:14 ไม่ใช่เพราะเวลาที่จะทำคีโตคือลดส่วนที่

01:22:1401:22:17 เรียกว่าคาร์โบไฮเดรตทั้งหมดข้าวแป้งน้ำ

01:22:1701:22:20 ตาลผักผลไม้ที่มันมาแล้วให้เป็น

01:22:2001:22:23 คาร์โบไฮเดรตหรือเหลืออยู่เท่าไหร่วันนึง

01:22:2301:22:27 ยอมรับให้กินได้ไม่เกิน 20-50 กรัม 20

01:22:2701:22:31 กรัมคืออะไรเห็นภาพขนาดกำปั้นเราเนาะแล้ว

01:22:3101:22:33 เป็นผลไม้ขนาดเนี้ยเช่นส้มหรือแอปเปิ้ลก็

01:22:3301:22:36 ตามเท่ากำปั้นเรา 1 ลูกอ่ะค่ะอันนี้มี

01:22:3601:22:40 คาร์โบไฮเดรต 15 กรัมเพราะฉะนั้นวันทั้ง

01:22:4001:22:43 วันถ้ากินอันนี้ไป 2 อันจบแล้วนะไม่กิน

01:22:4301:22:45 อะไรอีกแล้วหรือว่าถ้าสมมุติว่าเวลาที่

01:22:4501:22:48 เราจะกินขนมปังอ่ะค่ะขนมปังแผ่นขนมปังขาว

01:22:4801:22:51 อ่ะนะคะแผ่นนึงอ่ะอันนี้ก็จะประมาณ 15-18

01:22:5101:22:54 กรัมถ้าถ้าเรากินข้าวข้าวทับพีนึงหรือว่า

01:22:5401:22:56 ประมาณ 5 ช้อนเนี่ยจริงๆอ่ะมันจะมี

01:22:5601:22:59 คาร์โบไฮเดรตอยู่ประมาณ 15-18 กรัมตีง่าย

01:22:5901:23:02 ๆว่าเรากินข้าว 1 ช้อนโต๊ะอ่ะค่ะอันเนี้ย

01:23:0201:23:05 คาร์โบไฮเดรตแล้ว 3 กรัมเพราะฉะนั้นกิน

01:23:0501:23:09 มากกว่านี้ไม่ได้แล้วโดยทั่วไปเวลาคนที่

01:23:0901:23:12 จะทำคีโตอ่ะค่ะเขาจะไม่กินข้าวไม่กินแป้ง

01:23:1201:23:15 ไม่กินเส้นใดๆทั้งสิ้นรวมทั้งน้ำหวานด้วย

01:23:1501:23:17 คาร์โบไฮเดรตที่ได้ส่วนใหญ่จะได้มาจากผัก

01:23:1701:23:20 แล้วจะกินเนื้อกินได้เต็มที่กินไขมันกิน

01:23:2001:23:22 ได้เต็มที่อันนี้คือสิ่งที่เขากินกันข้อ

01:23:2201:23:25 เสียอีกอย่างนึงที่จะเกิดขึ้นก็คือกลุ่ม

01:23:2501:23:28 นี้จะทำให้ได้รับวิตามินและเกลือแร่ไม่

01:23:2801:23:30 เพียงพอเพราะฉะนั้นกลุ่มนี้จะต้องมีการ

01:23:3001:23:33 เสริมวิตามินเสริมเกลือแร่เสมอสุดท้าย

01:23:3301:23:36 กลุ่มนี้จะทำให้มีเรื่องของร่างกายแห้ง

01:23:3601:23:40 หรือว่าขาดน้ำถ้าจะกินคีโตต้องกินน้ำเยอะ

01:23:4001:23:42 แล้วเนื่องจากว่าการที่เขาจะต้องกินไขมัน

01:23:4201:23:44 ค่อนข้างเยอะนะคะหรือว่ากินได้ไม่จำกัด

01:23:4401:23:47 กินเนื้อได้ไม่จำกัดอะไรแบบเนี้ยสิ่งที่

01:23:4701:23:50 เจอก็คือหลายคนเนี่ยไม่รู้แล้วก็กินไป

01:23:5001:23:52 สิ่งที่ตามมาก็คืออาจจะมีคอเลสเตอรอลใน

01:23:5201:23:55 เรือเลื้อสูงเคยมีคนไข้คนนึงอ่ะค่ะเป็นคน

01:23:5501:23:58 ที่มีความรู้เนาะเออแล้วจบพีชอย่างเงี้ย

01:23:5801:24:01 จบปริญญาเอกคนไข้ก็มาหาไปปรึกษาเรื่องไข

01:24:0101:24:04 มันในเลือดสูงนะคะแล้วก็บอกว่าจริงๆก่อน

01:24:0401:24:07 หน้าเนี้ยอ้วนอยากจะลดน้ำหนักแล้วมาดูว่า

01:24:0701:24:10 เออผลเลือดเนี่ยตรวจสุขภาพประจำปีทำไมรอบ

01:24:1001:24:13 นี้มันสูงจังเลยก็เลยถามว่าเอ๊ะแบบลองทาน

01:24:1301:24:15 คีโตอยู่หรือเปล่าคะคนนี้ก็บอกว่าใช่ค่ะ

01:24:1501:24:18 คุณหมอรู้ได้ยังไงคะคือคอเลสเตอรอลเคสูง

01:24:1801:24:21 มากอ่ะค่ะดังนั้นเนี่ยการที่คนบางคนแล้ว

01:24:2101:24:24 มาเลือกกินอาหารแบบเนี้ยเา้าอาจจะมีปัญหา

01:24:2401:24:26 เรื่องของคอเลสเตอรอลที่เป็นกรรมพันธ์ผิด

01:24:2601:24:29 ปกติอยู่แล้วพอกินเป็นไขมันเยอะๆสิ่งที่

01:24:2901:24:31 เกิดขึ้นก็คือคอเลสเตอรอลในเลือดมันสูง

01:24:3101:24:34 ขึ้นหลายคนอาจจะพูดว่าเออก็กินคีโตเหมือน

01:24:3401:24:36 กันนะไม่เห็นคอเลสเตอรอลจะสูงเลยไม่ได้

01:24:3601:24:39 ทุกรายค่ะแต่ว่าอาจจะเป็นเราหรืออาจจะ

01:24:3901:24:41 เป็นคนอื่นก็ได้ดังนั้นบอกว่าถ้าจะกิน

01:24:4101:24:44 คีโตข้อแรกคือควรเช็คคอเลสเตอรอลก่อนและ

01:24:4401:24:47 หลังกินว่ามันมีปัญหาหรือเปล่า 2 ถ้าจะ

01:24:4701:24:50 กินต่อให้เราจะกินไขมันได้เยอะขึ้นเรา

01:24:5001:24:53 ต้องเลือกค่ะเลือกไขมันที่ดีในที่นี้คือ

01:24:5301:24:55 หลีกเลี่ยงไขมันที่เราเรียกว่าไขมัน

01:24:5501:24:59 ทรานซ์หรือว่าไขมันอิ่มตัวเลือกไขมันที่

01:24:5901:25:01 มันวางไว้แล้วมันไม่เป็นไขไม่เป็นก้อนที่

01:25:0101:25:03 อุณหภูมิห้องแล้วเนื้อสัตว์ก็ไม่ควรเลือก

01:25:0401:25:06 เนื้อสัตว์ติดมันอาจจะใช้เป็นซีฟู้ดหรือ

01:25:0601:25:09 ว่าใช้เป็นอาหารทะเลเพิ่มขึ้นเลือกโปรตีน

01:25:0901:25:12 ในรูปแบบอื่นเช่นโปรตีนที่มาจากพืชอันนี้

01:25:1201:25:14 ก็จะเป็นอีกทางนึงที่ทำให้ปรับรูปแบบของ

01:25:1501:25:17 การกินได้ดีขึ้นแล้วก็ต้องเสริมพวก

01:25:1701:25:19 วิตามินและเกลือแร่ให้เหมาะสมเพราะว่า

01:25:1901:25:21 กลุ่มเนี้ยจะขาดวิตามินและเกลือแร่แน่นอน

01:25:2101:25:22 ค่ะ

01:25:2201:25:26 [เพลง]

01:25:2601:25:29 สำหรับอันที่ 3 นะคะก็จะเป็นเรื่องของ

01:25:2901:25:31 Blood type Diet หรือว่าการกินอาหาร

01:25:3101:25:33 ตามหมูเลือดนะคะอันเนี้ยก็จะมีอยู่ใน

01:25:3301:25:35 อินเทอร์เน็ตเยอะแยะมากมายแต่จะบอกว่า

01:25:3501:25:38 เป็นกลุ่มหรือว่ารูปแบบของการกินอาหารที่

01:25:3801:25:41 มีข้อมูลงานวิจัยน้อยที่สุดแทบจะไม่เคย

01:25:4101:25:43 เห็นเลยยกตัวอย่างเช่นนะคะสมมุติว่าคนที่

01:25:4301:25:46 เป็นหมูเลือดเอเเนี่ยเขาก็จะเน้นบอกว่า

01:25:4601:25:49 ให้กินผักกับผลไม้แต่ให้เลี่ยงส่วนที่

01:25:4901:25:52 เป็นนมวัวกับข้าวโพดเนาะพอมาเป็นกรุ๊ปบี

01:25:5201:25:55 ปั๊บเนี่ยเขาก็จะให้เน้นกินนมกินเนื้อ

01:25:5501:25:57 สัตว์นะคะแล้วก็กินผักแต่ว่าให้เลี่ยง

01:25:5701:26:00 ส่วนที่เป็นไก่ข้าวโพดแล้วก็แป้งสาลีพอมา

01:26:0001:26:03 ถึงกรุ๊ป O ปั๊บเนี่ยบอกว่าให้กินโปรตีน

01:26:0301:26:05 สูงแต่ว่าให้เลี่ยงนมอ่าก็คือกินโปรตีน

01:26:0501:26:08 อื่นที่ไม่ใช่นมพอมาเป็น AB บอกให้กิน

01:26:0801:26:11 เนื้อแกะปลานะคะกินเรื่องของเต้าหู้แล้ว

01:26:1101:26:13 ก็จะบอกว่าให้เลี่ยงถั่วแดงเลี่ยงไก่แล้ว

01:26:1401:26:16 ก็แป้งสาลีจริงๆเนี่ยพอมาดูปุ๊บเนี่ยมัน

01:26:1601:26:19 ก็จะมีส่วนที่มันอย่างเช่นยกตัวอย่างนะคะ

01:26:1901:26:21 แป้งสาลีเนี่ยให้เลี่ยงใน b กับ O ส่วน

01:26:2101:26:24 ที่เป็นนมเนี่ยให้เลี่ยงที่ a กับ O อะไร

01:26:2401:26:26 อย่างเงี้ยค่ะบางทีเนี่ยต้องบอกว่ารูปแบบ

01:26:2701:26:29 ของอาหารมันไม่ได้หลากหลายและถ้าบางคนที่

01:26:2901:26:33 มีปัญหาว่าเช่นแพ้นมก็อาจจะทำให้ข้อจำกัด

01:26:3301:26:36 ในเรื่องของการกินเนี่ยมากขึ้นไปอีกแล้ว

01:26:3601:26:39 ที่สำคัญคือถามว่าคนบนโลกเนี้ยค่ะตั้งพัน

01:26:3901:26:42 ล้านคนจะมากินอย่างนี้หมดเนี่ยมันก็คงไม่

01:26:4201:26:45 ใช่เนาะเพฉะนั้นเนี่ยตรงนี้เนี่ยถามว่ามี

01:26:4501:26:47 ข้อมูลมั้ว่ามันจะช่วยเรื่องของการลดน้ำ

01:26:4701:26:49 หนักต้องบอกว่าไม่มีอ่ะค่ะเพราะว่ามันไม่

01:26:4901:26:51 มีเรื่องของข้อมูลงานวิจัยที่ติดตามดูว่า

01:26:5101:26:53 กลุ่มกลุ่มเนี้ยจะช่วยในเรื่องของการลด

01:26:5301:26:56 น้ำหนักแต่เป็นอาหารที่มีการเขียนอยู่ใน

01:26:5601:26:58 อินเทอร์เน็ตค่อนข้างเยอะซึ่งเชื่อว่า

01:26:5801:27:00 กรรมพันธ์ที่เหมือนกันทำให้ลักษณะของการ

01:27:0001:27:03 ย่อยการดูดซึมที่แตกต่างกันตามปลูเลือด

01:27:0301:27:07 [เพลง]

01:27:0701:27:10 ค่ะอีกอันนึงที่เราจะพูดกันวันนี้ก็คือจะ

01:27:1001:27:13 เป็นเรื่องของมังสวิรัสนะคะหลักๆก็คือเขา

01:27:1301:27:16 จะกินเป็นพืชผักเป็นหลักนะคะแล้วก็พยายาม

01:27:1601:27:19 หลีกเลี่ยงส่วนที่มาจากเนื้อสัตว์นะคะที

01:27:1901:27:21 นี้ถ้าเกิดเป็นกลุ่มของคนที่เข้มงวดเลยก็

01:27:2201:27:24 จะจะเรียกว่าเป็นคนที่กินเจอันนี้ก็จะไม่

01:27:2401:27:28 มีวัวไม่มีนมไม่มีไข่แต่ถ้ามังสวิรัตบาง

01:27:2801:27:31 คนเนี่ยก็อาจจะมีนมมีไข่ได้ด้วยนะคะข้อดี

01:27:3101:27:33 พวกนี้เก็จะมีอาหารที่มีพืชผักค่อนข้าง

01:27:3301:27:36 เยอะจะได้รับพวกของสารต้านอนุมูลอิสระนะ

01:27:3601:27:39 คะจะมีคอเลสเตอรอลต่ำนะคะหรือแทบจะไม่มี

01:27:3901:27:41 คอเลสเตอรอลเลยไขมันอิ่มตัวก็จะน้อยลง

01:27:4201:27:44 เพราะว่ามันจะแทบไม่มีพวกของเนื้อสัตว์

01:27:4401:27:47 เข้ามาเกี่ยวข้องนะคะทีนี้ถามว่าพวกนี้มี

01:27:4701:27:49 ข้อดีแล้วเนี่ยจะช่วยเรื่องของการลดโรค

01:27:4901:27:51 หัวใจและหลอดเลือดช่วยลดเรื่องของ

01:27:5101:27:53 คอเลสเตอรอลแต่ว่ามันก็จะมีข้อเสียนิด

01:27:5301:27:55 หน่อยในส่วนที่เขาไม่ได้กินเนื้อสัตว์เลย

01:27:5501:27:57 เพราะฉะนั้นเนี่ยกลุ่มของธาตุเหล็กหรือ

01:27:5701:28:00 ว่าพวก B12 เนี่ยก็อาจจะไม่เพียงพอวิธี

01:28:0001:28:03 การแก้ไขในกรณีของ B12 เนี่ยก็อาจจะได้มา

01:28:0301:28:06 จากพวกสาหร่ายบ้างนะคะจริงๆแล้วถ้าเกิด

01:28:0601:28:09 ยอมที่จะกินเป็นพวกไข่แดงหรือกินนมบ้าง

01:28:0901:28:11 จริงๆตรงนี้ก็จะได้วิตามิน B12 แต่ถ้า

01:28:1201:28:14 สมมุติว่าเป็นกินเจเลยเนี่ยก็อาจจะต้อง

01:28:1401:28:16 เสริมวิตามิน B12 ในส่วนของธาตุเหล็ก

01:28:1601:28:19 เนี่ยจริงๆก็อาจจะต้องเพิ่มพวกของผักสี

01:28:1901:28:22 เขียวที่เป็นผักสีเขียวเข้มๆนะคะคะหรือ

01:28:2201:28:24 ว่าเป็นกลุ่มของสาหร่ายซึ่งอันนี้ก็จะมี

01:28:2401:28:27 เรื่องของธาตเหล็กพอสมควรในกรณีของคนที่

01:28:2701:28:30 ไม่ยอมที่จะกินในส่วนของเนื้อสัตว์เลยนะ

01:28:3001:28:32 คะไข่แดงก็ยังพอมีธาตุเหล็กอยู่บ้างค่ะ

01:28:3301:28:35 สำหรับมังสวิรัตนะคะสามารถที่จะกินเป็น

01:28:3501:28:37 ระยะเวลายาวนานเนี่ยได้เพราะว่ามีกลุ่ม

01:28:3701:28:40 ของคนที่กินอยู่เป็นระยะเวลายาวนานได้

01:28:4001:28:42 แล้วก็เชื่อว่าจะมีผลดีกับเรื่องของโรค

01:28:4201:28:44 หัวใจและหลอดเลือดด้วยเพียงแต่ว่ามันอาจ

01:28:4401:28:47 จะปฏิบัติยากในแง่ของคนทั่วไปนะคะหลายๆคน

01:28:4701:28:50 ก็จะยอมปรับนิดนึงเพื่อจะให้รับประทาน

01:28:5001:28:52 เค้าเรียกว่าเป็น Plant Base Diet นะคะ

01:28:5201:28:54 Plant เบสไดเอดตอนนี้ก็ค่อนข้างปปูนิด

01:28:5401:28:57 นึงก็จะเป็นเหมือนการประยุกต์มังสวิรัต

01:28:5701:29:00 ให้คนทั่วไปเนี่ยกินได้มากขึ้นแต่ว่า

01:29:0001:29:02 Plant Base di ในที่นี้คือกินจับผัก

01:29:0201:29:04 ผลไม้เป็นหลักแล้วก็อาจจะเพิ่มเนื้อสัตว์

01:29:0401:29:07 โดยเฉพาะอย่างเช่นเป็นพวกของสัตว์ตัวเล็ก

01:29:0701:29:09 ตัวน้อยอ่ะนะคะสัตว์ปีกหรือว่าอาจจะเป็น

01:29:0901:29:12 พวกของซีฟู้ดมีข้อควรระวังนิดเดียวสำหรับ

01:29:1201:29:14 กลุ่มมังสวิรัตคือหลายคนบอกว่าไม่กิน

01:29:1401:29:17 เนื้อสัตว์ไม่กินเนื้อสัตว์แล้วก็จะไปกิน

01:29:1701:29:20 เป็นผักผลไม้อันนี้โอเคอยู่เนาะแต่บางราย

01:29:2001:29:22 เนี่ยดื่มเป็นพวกเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล

01:29:2301:29:25 ค่อนข้างมากอันเนี้ยอาจจะไม่ได้ช่วยเป็น

01:29:2501:29:28 ผลดีกับสุขภาพบอกว่าเป็นมังสวิรัตมยบอก

01:29:2801:29:30 ว่าเป็นไม่มีเนื้อสัตว์แต่พอมีน้ำตาลเยอะ

01:29:3001:29:32 ๆอันนี้ก็อาจจะเป็นอันตรายกับสุขภาพได้

01:29:3201:29:33 เหมือนกัน

01:29:3301:29:37 [เพลง]

01:29:3701:29:40 ค่ะอันสุดท้ายนะคะที่จะคุยกันก็คือ

01:29:4001:29:42 mediterranean Diet mediterranean

01:29:4201:29:44 Diet เป็นอาหารที่เป็นรูปแบบที่กินกัน

01:29:4401:29:47 อยู่ในประเทศรอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนหลัก

01:29:4701:29:50 ๆเป็นผักหรือว่าเป็นธัญพืชที่ไม่ขัดสีนะ

01:29:5001:29:53 คะแล้วก็จะมีเรื่องของการกินเนื้อแดงที่

01:29:5301:29:55 ค่อนข้างน้อยหลีกเลี่ยงการกินเนื้อแดงแปร

01:29:5501:29:59 รูปนะคะแล้วก็จะกินพวกของเนื้อที่มาจาก

01:29:5901:30:02 พวกของสัตว์ปีกหรือว่าอาหารทะเลนะคะน้ำ

01:30:0201:30:05 มันที่ใช้จะเป็นกลุ่มของน้ำมันมะกอกนะคะ

01:30:0501:30:08 กินถั่วกินธัญพืชค่อนข้างเยอะกินพวกของ

01:30:0801:30:11 น้ำตาลค่อนข้างน้อยแล้วก็จะมีการดื่มไวน

01:30:1101:30:14 เป็นประจำนะคะแต่ไวนที่ดื่มเนี่ยให้เป็น

01:30:1401:30:17 ปริมาณน้อยๆค่ะประมาณ 1 ดริงต่อวันอะไร

01:30:1701:30:20 แบบนี้แล้วก็มีกิจกรรมทางกายร่วมด้วยใน

01:30:2001:30:22 รูปแบบของอาหารยกตัวอย่างนะคะมันจะมี

01:30:2201:30:24 เรื่องของผักค่อนข้างเยอะนิดนึงนะคะหรือ

01:30:2401:30:26 ว่าเป็นธัญพืชที่ไม่ขัดสีเพราะฉะนั้น

01:30:2601:30:28 เนี่ยถ้าสมมุติว่ามองในรูปของจานอาจจะ

01:30:2801:30:31 เป็นลักษณะของสลัดเนาะแล้วก็จะเป็นปลาที่

01:30:3101:30:34 จะต้องย่างกลิวเผาอะไรอย่างเงี้ยนะคะวาง

01:30:3401:30:36 เอาไว้แล้วก็ราดด้วยน้ำสลัดก็จะไม่ใช่น้ำ

01:30:3601:30:39 สลัดครีมแต่จะเป็นบัลซามิกเป็นน้ำส้มแล้ว

01:30:3901:30:42 ก็เป็นพวกของน้ำมันมะกอกโรยเกลือนะคะอัน

01:30:4201:30:44 นี้ก็จะเป็นรูปแบบของอาหารที่เราจะเห็น

01:30:4401:30:47 บ่อยๆในกลุ่มของเมดิเตอร์เรเนียนอาจจะมี

01:30:4701:30:50 การเพิ่มชีสค่ะเป็นชีสเบาๆนะคะโรยอยู่

01:30:5001:30:53 ข้างบนลักษณะนี้เป็นต้นแล้วก็มีไวนดื่ม

01:30:5301:30:55 ด้วยนะคะอันนี้ก็จะเป็นรูปแบบของ

01:30:5501:30:57 เมดิเตอเรเนียนซึ่งมีข้อมูลค่ะว่าสามารถ

01:30:5701:31:00 ช่วยลดเรื่องของโรคหัวใจและหลอดเลือดช่วย

01:31:0001:31:02 ลดเรื่องของเบาหวานแล้วก็ช่วยเรื่องของ

01:31:0201:31:05 การลดน้ำหนักตัวในระยะยาวได้ค่ะในส่วนของ

01:31:0501:31:07 การกิน mediterranean Diet นะคะหรือว่า

01:31:0701:31:09 อาหารกลุ่มเมดิเตอร์เรเนียนถ้าเราอยากจะ

01:31:0901:31:11 รับประทานเนี่ยถามว่าได้ไหมก็ต้องตอบว่า

01:31:1101:31:14 ได้เนาะไม่ได้มีปัญหาอะไรเวลาปรับเนี่ย

01:31:1401:31:16 ถ้าสมมุติบอกว่าน้ำมันมะกอมันแพงมากแล้ว

01:31:1601:31:19 ปรับในรูปแบบบ้านเราอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็

01:31:1901:31:21 จะเป็นเลือกน้ำมันตัวอื่นที่มันมีกรดไข

01:31:2101:31:23 มันที่เหมือนกับในน้ำมันมะกอกยกตัวอย่าง

01:31:2301:31:26 เช่นเราอาจจะใช้เป็นน้ำมันรำข้าวแทนนะคะ

01:31:2601:31:29 ลักษณะอย่างนี้อันที่ 2 ก็คือว่าสมมุติ

01:31:2901:31:31 ว่าถ้าจะใช้เป็นเมดิเตอร์เรเนียนแล้วต้อง

01:31:3101:31:33 มีไวนอย่างเงี้ยคำถามคือโอ้โหบ้านเรากิน

01:31:3301:31:36 กันเยอะเลยเดี๋ยวบอกไม่ยั้งจริงๆเนี่ยถ้า

01:31:3601:31:38 สมมุติใครไม่กินเราก็ไม่ได้บอกว่าจะต้อง

01:31:3801:31:41 ไปเริ่มกินแต่ถ้าใครที่กินอยู่แล้วเราแนะ

01:31:4101:31:44 นำว่าให้กินในปริมาณที่พอเหมาะซึ่งใน

01:31:4401:31:46 เมดิเตอเรเนียนเองเนี่ยเขาไม่ได้พูดถึง

01:31:4601:31:49 แอลกอฮอล์ทุกชนิดแต่เขาจะเน้นที่ไวนเหตุ

01:31:4901:31:51 ผลที่เน้น W เพราะว่าใน W เนี่ยมันจะมี

01:31:5101:31:53 สารต้านอนุมูลอิสระที่มาจากผิวขององุ่น

01:31:5301:31:57 แดงที่ใช้ร่วมด้วยอย่างเงี้ยค่ะนะคะเพราะ

01:31:5701:31:58 ฉะนั้นถ้าสมมุติบอกว่าจะกิน

01:31:5801:32:00 เมดิเตอเรเนียนแล้วจะไม่ดื่มวายก็ไม่ได้

01:32:0001:32:03 ผิดถ้าใครที่มีปัญหาเรื่องของโรคตับอยู่

01:32:0301:32:06 แล้วก็ไม่แนะนำที่จะให้ไปดื่มแอลกอฮอล์นะ

01:32:0601:32:10 [เพลง]

01:32:1001:32:13 คะจากที่กล่าวมาทั้งหมดนะคะจริงๆมันมีมาก

01:32:1301:32:15 กว่านี้เนาะแต่ว่าที่เราพูดกันมาใน 5 อัน

01:32:1501:32:17 เนี้ยจริงๆมันก็จะเป็นเทรนด์ซึ่งเดี๋ยว

01:32:1701:32:20 เข้ามาแล้วเดี๋ยวก็ออกไปอยู่เรื่อยๆนะคะ

01:32:2001:32:22 จริงๆแล้วเนี่ยแต่ละอย่างงก็จะมีทั้งข้อ

01:32:2201:32:25 ดีและข้อเสียที่พูดไปแล้วซึ่งมันก็คงจะ

01:32:2501:32:27 พูดได้แค่คร่าวๆเนาะในรายละเอียดถ้า

01:32:2701:32:30 สมมุติว่าเราอยากจะลดน้ำหนักนะคะถ้า

01:32:3001:32:32 สมมุติเราสามารถที่จะลดแคลอรีลงไปได้กิน

01:32:3201:32:35 ให้น้อยลงยังไงน้ำหนักมันก็ลดลงหลังการ

01:32:3501:32:38 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจะเป็นสิ่งที่จะทำให้

01:32:3801:32:41 การคุมน้ำหนักอันเนี้ยทำได้อย่างยั่งยืน

01:32:4101:32:43 ถ้าสมมุติว่าเราลดน้ำหนักช่วงสั้นๆเดี๋ยว

01:32:4301:32:45 พอเราเปลี่ยนพฤติกรรมเราไม่ทำเหมือนเดิม

01:32:4501:32:48 มันก็อ้วนอีกนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆ

01:32:4801:32:50 แล้วแต่ละลายเนี่ยก็จะมีข้อจำกัดในเรื่อง

01:32:5001:32:54 ของโรคประจำตัวหรือว่านิสัยการกินนะคะแนะ

01:32:5401:32:56 นำว่าให้ปรึกษาคุณหมอหรือว่านักกำหนด

01:32:5601:32:59 อาหารนะคะเพื่อจะดูว่าวิธีไหนที่เหมาะกับ

01:32:5901:33:01 ท่านนะคะอันนี้ก็น่าจะดีที่สุดการปรับ

01:33:0101:33:04 เปลี่ยนพฤติกรรมควรจะทำไปตลอดชีวิตแล้ว

01:33:0401:33:06 ไม่ใช่ควบคุมแค่เรื่องของอาหารแต่ควรจะมี

01:33:0601:33:09 การออกกำลังกายร่วมด้วยค่ะสำหรับเทรนด์

01:33:0901:33:11 ของรูปแบบอาหารลดน้ำหนักนะคะก็จะมีมากมาย

01:33:1101:33:13 เดี๋ยวผ่านมาแล้วก็ผ่านไปนะคะนั่งอยู่ตรง

01:33:1401:33:16 นี้หลายปีเนี่ยก็จะเห็นมาหลายรูปแบบมาก

01:33:1601:33:20 เลยแต่สิ่งนึงที่ยังคงอยู่เสมอก็คือการลด

01:33:2001:33:22 น้ำหนักเนี่ยจะทำได้ก็ต่อเมื่อเราคุม

01:33:2201:33:25 อาหารได้แล้วเราก็ต้องเพิ่มการออกกำลัง

01:33:2501:33:28 กายด้วยนะคะอันเนี้ยถ้าทำได้เนี่ยยังไงก็

01:33:2801:33:31 ผอมแน่นอนนะคะถ้าสงสัยหรือมีข้อข้องใจ

01:33:3201:33:34 เกี่ยวกับเรื่องของอาหารนะคะก็แนะนำให้

01:33:3401:33:36 เดินเข้ามาคุยกับคุณหมอหรือว่านักกำหนด

01:33:3601:33:39 อาหารนะคะเคจะได้แนะนำแนวทางที่เฉพาะ

01:33:3901:33:42 สำหรับตัวคุณนะคะที่เหมาะกับตัวท่านไม่

01:33:4201:33:44 ว่าจะเป็นเรื่องของรูปแบบการกินหรือว่า

01:33:4401:33:47 โรคประจำ

01:33:4701:33:51 ตัวสวัสดีค่ะแพทย์หญิงดารุนีววโรดมวิจิตร

01:33:5101:33:54 นะคะมาพบกันอีกครั้งในรายการ Food Choice

01:33:5401:33:57 กินดีสุขภาพดีเลือกได้กับหมอเอ๋ค่ะวันนี้

01:33:5701:34:00 นะคะเราจะมาคุยกันในเรื่องของอาหารสร้าง

01:34:0001:34:03 กล้ามเนื้อค่ะตอนนี้หลายๆคนก็แบบอยากจะมี

01:34:0301:34:06 กล้ามเนื้อที่แข็งแรงนะคะอยากจะสร้าง

01:34:0601:34:11 ซิกแพคเราจะกินยังไงเดี๋ยวเราจะมาคุยกัน

01:34:1101:34:15 ค่ะสำหรับความต้องการโปรตีนนะคะในคนทั่วๆ

01:34:1501:34:18 ไปกับคนที่เราจะไปออกกำลังกายเพื่อจะให้

01:34:1801:34:20 มีกล้ามเนื้อเยอะๆเนี่ยมีความต้องการต่าง

01:34:2001:34:23 กันไมนะคะจริงๆก็ต้องบอกว่าต่างกันถ้า

01:34:2301:34:25 เป็นคนทั่วไปในชีวิตประจำวันทั่วไปเนี่ย

01:34:2501:34:28 เราใช้หรือว่าเราต้องการโปรตีนเนี่ยอยู่

01:34:2801:34:31 ที่ประมาณ 0.8 -1 กรัมของโปรตีนนะคะต่อ

01:34:3101:34:34 น้ำหนักตัวเป็นกิโลต่อวันอ่าเพราะฉะนั้น

01:34:3401:34:37 เอาง่ายๆก็คือ 1 กรัมเราหนัก 50 กลเราก็

01:34:3701:34:40 ต้องการโปรตีน 50 กรัมประมาณนี้นะคะแต่ใน

01:34:4001:34:42 กรณีของคนที่ออกกำลังกายแล้วก็มีการเสริม

01:34:4201:34:44 สร้างกล้ามเนื้ออ่าเรารู้แล้วล่ะว่า

01:34:4401:34:47 โปรตีนที่เรากินเข้าไปเนี่ยมันมีหน้าที่

01:34:4701:34:51 ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอถ้าเราเล่นกีฬามากๆ

01:34:5101:34:53 หนักๆกล้ามเนื้อเราจะมีการบาดเจ็บใช่มั้

01:34:5301:34:56 คะเพราะฉะนั้นเนี่ยคนกลุ่มนี้ก็จะต้องการ

01:34:5601:34:59 โปรตีนมากขึ้นเพื่อเอาไปเสริมสร้างกล้าม

01:34:5901:35:01 เนื้อที่บาดเจ็บเพฉะนั้นเขาคต้องการเพิ่ม

01:35:0101:35:04 ขึ้นถามว่าเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ขึ้นกับว่าเค

01:35:0401:35:07 เล่นหรือว่าออกกำลังกายหนักมากมยโดยทั่ว

01:35:0701:35:10 ไปเราก็จะอยู่ที่ประมาณ 1.5 นะคะแล้วก็

01:35:1001:35:13 อาจจะมากจนถึงประมาณ 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว

01:35:1301:35:16 1 กลกต่อวันคือประมาณ 50 - 100% ของ

01:35:1601:35:20 ความต้องการของคนทั่วไปทีนี้ในอีกกรณีนึง

01:35:2001:35:23 เช่นสมมุติว่าเราต้องการจะแบบเป็นนักกีฬา

01:35:2301:35:25 หรือว่าเราต้องการจะสร้างกล้ามแบบพวกเพาะ

01:35:2501:35:28 กายอ่าพวกนี้เนี่ยอาจจะต้องการโปรตีนเยอะ

01:35:2801:35:30 ขึ้นบอกและว่าโปรตีนเพิ่มขึ้นตามระดับ

01:35:3001:35:34 หรือว่าเอ่อความเข้มข้นของการที่เราจะออก

01:35:3401:35:37 กำลังให้มันหนักขึ้นนะคะบางคนเอาจจะมากจน

01:35:3701:35:40 ถึง 2-3 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กกต่อวันนะ

01:35:4001:35:43 คะเพราะฉะนั้นเนี่ยมันจะเป็นระดับตามความ

01:35:4301:35:45 เอ่อเค้าเรียกความเข้มข้นเวลาที่เขาจะ

01:35:4501:35:48 สร้างกล้ามเนื้ออันแรกก่อนถ้าสมมุติว่า

01:35:4801:35:50 ปริมาณโปรตีนต้องเพียงพอเหมือนที่บอก

01:35:5001:35:52 เมื่อสักครู่นี้นะคะอยู่ที่ว่าเราจะเล่น

01:35:5301:35:55 หนักไหมมันก็เริ่มตั้งแต่ 1 กรัมถ้าเป็น

01:35:5501:35:59 คนทั่วไปอ่านักกีฬาที่ออกกำลังกายพอสมควร

01:35:5901:36:01 ต้องการสร้างกล้ามให้มันเห็นชัดเจนสร้าง

01:36:0101:36:05 ซิกแพคธรรมดาอาจจะ 1.5 จนถึง 2 แต่ถ้า

01:36:0501:36:09 สมมุติเป็นนักเพาะกายอาจจะไป 2-3 ก็มีนะ

01:36:0901:36:11 คะทีนี้เวลาที่เราจะคำนวณกันเราก็คำนวณ

01:36:1101:36:14 ไม่ยากหรอกค่ะออกมาเป็นกรัมถามว่าพอออกมา

01:36:1401:36:16 เป็นกรัมเสร็จปุ๊บแล้วปริมาณอันนั้นคือ

01:36:1601:36:19 อะไรถ้าสมมุติเรามองในรูปของเนื้อสัตว์

01:36:1901:36:23 อ่ะค่ะแล้วเราตักด้วยช้อนโต๊ะนะคะ 2 ช้อน

01:36:2301:36:26 โต๊ะก็คือประมาณ 7 กรัมง่ายๆเลยสมมุติว่า

01:36:2601:36:29 เราคิดว่าเราต้องการวันนึงเท่าไหร่วันนึง

01:36:2901:36:31 สมมุติเราต้องการประมาณ 70 กรัมมันก็จะ

01:36:3101:36:34 เป็นจำนวนที่เป็นช้อนโต๊ะในแต่ละมื้อ

01:36:3401:36:36 เพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการ 70 กรัมหมาย

01:36:3601:36:39 ความว่าเราต้องใช้ประมาณ 7 ช้อนโต๊ะของ

01:36:3901:36:42 เนื้อสัตว์ชนิดของโปรตีนก็มีความสำคัญอัน

01:36:4201:36:45 แรกเลยเขาจะใช้โปรตีนที่มีไขมันต่ำค่ะ

01:36:4501:36:47 เพราะว่าเวลาที่เราจะเพาะกายหรือเราจะ

01:36:4701:36:49 สร้างก้ามเนี่ยเราไม่ได้ต้องการไขมันเยอะ

01:36:4901:36:52 นะคะเขาก็จะใช้โปรตีนที่มีไขมันต่ำดูดซึม

01:36:5201:36:55 ง่ายอ่าถ้าเป็นโปรตีนที่มีไขมันสูงเนี่ย

01:36:5501:36:58 ข้อเสียที่จะตามมาก็คือลำไส้จะบีบตัวช้า

01:36:5801:37:01 ลงก็จะท้องอืดแล้วก็จะแน่นท้องได้ง่ายนะ

01:37:0101:37:04 คะอ่าชนิดของโปรตีนที่ใช้มีความสำคัญ

01:37:0401:37:07 เหมือนกันค่ะเ่อโปรตีนชนิดที่ใช้จะต้อง

01:37:0701:37:10 เป็นชนิดที่ดูดซึมง่ายแล้วก็สามารถที่จะ

01:37:1001:37:13 เข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วถามว่า

01:37:1301:37:15 มันคืออะไรอ่าอย่างเช่นยกตัวอย่างนะคะ

01:37:1501:37:19 โปรตีนที่มันเป็นพวกนมพวกเอ่อนมถั่ว

01:37:1901:37:22 เหลืองนะคะในนมวัวเนี่ยมันจะมีโปรตีนอยู่

01:37:2201:37:27 2 ชนิดเราเรียกว่าเคซีนกับเวนะคะเคซีน

01:37:2701:37:29 คืออะไรลองนึกภาพเวลาที่เรามีเอ่อนมแล้ว

01:37:2901:37:31 เราวางเอาไว้แล้วมันเป็นเคิสหรือว่ามัน

01:37:3201:37:34 เป็นเค้าเรียกมันเป็นก้อนๆน่ะค่ะนะคะอัน

01:37:3401:37:37 นั้นน่ะคือส่วนที่เป็นเคซีนส่วนที่เป็นเว

01:37:3801:37:40 คือส่วนของโปรตีนที่มันจะเป็นน้ำใสๆอยู่

01:37:4001:37:42 ข้างบนอันนั้นคือเวพูดอย่างนี้แล้วก็จะ

01:37:4201:37:44 เห็นภาพเลยว่าเวเนี่ยมันจะเป็นน้ำใสๆ

01:37:4401:37:47 เพราะฉะนั้นมันจะละลายได้ดีนะคะถ้าสมมุติ

01:37:4701:37:50 ว่าเวลาที่เรากินเข้าไปในกรณีที่เป็นนม

01:37:5001:37:54 วัวธรรมดาเนี่ยเคซีนมีอยู่ 80% เวมีอยู่

01:37:5401:37:57 20% เพราะฉะนั้นตัวที่จะทำให้มีการดูด

01:37:5701:37:59 ซึมได้อย่างรวดเร็วแล้วกระตุ้นการสร้าง

01:37:5901:38:02 กล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็วก็คือเวถามว่า

01:38:0201:38:05 กินระหว่างนมวัวกับกินนมถั่วเหลืองอันไหน

01:38:0601:38:08 กระตุ้นได้ดีกว่าต้องบอกเป็นนมถั่วเหลือง

01:38:0801:38:11 เพราะว่าในนมวัวค่ะมันมีเวยก็จริงแต่เว

01:38:1101:38:14 มันน้อยเววมันมีแค่ 20% นะคะเพราะฉะนั้น

01:38:1401:38:16 เนี่ยถ้าสมมุติว่ากินกินเป็นพวกของนมถั่ว

01:38:1601:38:19 เหลืองเนี่ยอาจจะกระตุ้นได้ดีกว่านะคะอัน

01:38:1901:38:21 ที่ 2 ก็คือนอกจากโปรตีนที่ละลายได้เร็ว

01:38:2201:38:25 แล้วเนี่ยชนิดของโปรตีนก็มีความสำคัญมัน

01:38:2501:38:29 จะมีกรดอะมิโนตัวนึงที่ชื่อว่าลิวซีนค่ะ

01:38:2901:38:31 ตัวเนี้ยจะเป็นตัวที่ไปกระตุ้นให้มีการ

01:38:3101:38:34 สร้างกล้ามเนื้อซึ่งมันมีมากในโปรตีนที่

01:38:3401:38:37 มาจากสัตว์พวกนมวัวก็ตามพวกเวยก็ตามหรือ

01:38:3701:38:39 ว่าพวกเนื้อสัตว์ก็ตามจะมีลิวซีนมากกว่า

01:38:3901:38:42 ที่จะมาจากพวกของถั่วเหลืองนะคะดังนั้น

01:38:4201:38:45 เนี่ยบางคนจะกินเป็นอะไรคะเป็นอกไก่ปั่น

01:38:4501:38:47 อย่างเงี้ยกิินเป็นเวยอย่างเงี้ยค่ะเพราะ

01:38:4701:38:49 ว่าพอกินเข้าไปแล้วมันมีลิวซีนเยอะพอ

01:38:4901:38:51 ลิวซีนเยอะปุ๊บมันก็จะไปช่วยกับกระตุ้น

01:38:5101:38:54 ให้มีการสร้างโปรตีนได้ดีกว่าดังนั้น

01:38:5401:38:56 เนี่ยหลายๆคนเนี่ยก็บอกว่าถ้ามันกินจาก

01:38:5601:38:59 อาหารไม่พอเขาก็จะกินเสริมเป็นลักษณะของ

01:38:5901:39:01 นมหรือเป็นเครื่องดื่มซึ่งแน่นอนค่ะแทน

01:39:0101:39:03 ที่จะเป็นนมวัวเนี่ยเขาจะเลือกเป็นเว

01:39:0301:39:06 เพราะว่าเต้องการโปรตีนที่มันดูดซึมได้

01:39:0601:39:09 ง่ายและได้อย่างรวดเร็วทีนี้พอเรามารู้

01:39:0901:39:11 แล้วว่าอันที่ 1 เราต้องการกินโปรตีน

01:39:1101:39:13 ปริมาณเท่าไหร่ใช่มั้ยคะโปรตีนที่ใช้

01:39:1301:39:16 เนี่ยจะใช้เป็นอะไรเนาะก็จะเป็นโปรตีนที่

01:39:1601:39:19 มีไขมันต่ำอ่าอีกอันนึงค่ะคือปริมาณที่

01:39:1901:39:21 กินต่อครั้งเช่นสมมุติว่าเราขับคำนวณได้ะ

01:39:2101:39:24 ว่าวันเนี้ยเราจะกินประมาณ 200 กรัมถาม

01:39:2401:39:26 ว่าฉันกิน 200 กรัมทีเดียวเลยหรือเปล่า

01:39:2601:39:29 ไม่นะคะโดยทั่วไปในแต่ละครั้งที่เรากิน

01:39:2901:39:32 เนี่ยเ่ามันจะมีเอฟเฟคอันนึงเขาเรียกว่า

01:39:3201:39:35 เป็น Muscle fullness คือมันอิ่มให้มาก

01:39:3501:39:38 กว่าเนี้ยกล้ามเนื้อก็จะไม่สร้างนะคะซึ่ง

01:39:3801:39:41 ปกติอ่ะค่ะมันจะอยู่ที่ประมาณสัก 20-30

01:39:4101:39:44 กรัมของโปรตีนดังนั้นในแต่ละครั้งที่กิน

01:39:4401:39:47 เช่นหลังการเล่นกีฬาหรือหลังการออกกำลัง

01:39:4701:39:49 กายต่อ 1 ครั้งนี่เขาจะกินอยู่ประมาณนี้

01:39:4901:39:52 ค่ะ 20-30 กรัมแล้วหลังจากนั้นเนี่ยเขาก็

01:39:5201:39:54 จะค่อยๆเพิ่มให้วันนึงเนี่ยมันได้ครบตาม

01:39:5401:39:57 ที่เขาต้องการนะคะดังนั้นหลังออกกำลังกาย

01:39:5701:39:59 เสร็จปุ๊บนักกีฬาก็มักจะกินอยู่ที่ประมาณ

01:39:5901:40:03 20-30 กรัมโปรตีนนะคะกินเป็นเวลาเท่า

01:40:0301:40:05 ไหร่โดยทั่วไปก็จะสักประมาณครึ่งชั่วโมง

01:40:0501:40:07 ไม่เกิน 3 ชั่วโมงหลังจากออกกำลังกาย

01:40:0701:40:10 เสร็จเขาก็จะเริ่มกินโปรตีนกันและนะคะ

01:40:1001:40:12 แล้วถ้าสมมุติว่ากินเป็นโปรตีนปกติไม่พอ

01:40:1201:40:15 บางคนก็จะใช้เป็นพวกของเอ่อเป็นนมหรือ

01:40:1501:40:17 เป็นเวอะไรอย่างเงี้ยค่ะเสริมนะคะซึ่ง

01:40:1701:40:19 ส่วนใหญ่ก็จะใช้เป็นเวเพราะว่ามีลิวซีน

01:40:1901:40:22 เยอะแล้วก็ละลายน้ำได้ดีแล้วก็จะไม่ใส่

01:40:2201:40:24 เกลือเยอะนะคะเพราะเวลาใส่เกลือเยอะแล้ว

01:40:2401:40:26 มันจะบวมอ่าพวกที่จะเล่นกล้ามหรือเฉพาะ

01:40:2601:40:28 กายเไม่ต้องการความบวมเพราะฉะนั้นพวกนี้

01:40:2801:40:30 จะค่อนข้างจืดทีนี้เมื่อกี้บอกไปแล้วว่า

01:40:3001:40:33 ในกรณีที่เราจะสร้างกล้ามเนี่ยเขาจะไม่

01:40:3301:40:35 ค่อยอยากมีไขมันเนาะแล้วก็มันจะต้องค่อน

01:40:3501:40:38 ข้างดูแห้งๆนิดหน่อยเพื่อจะให้เห็นเส้น

01:40:3801:40:40 หรือว่าเห็นลวดลายของกล้ามเนื้อชัดเจนใช่

01:40:4001:40:43 มั้ยคะดังนั้นอาหารที่มีโซเดียมมากๆเนี่ย

01:40:4301:40:45 จะไม่ใช่อาหารที่เขาแนะนำแต่ว่าถ้าเรา

01:40:4501:40:48 เล่นกีฬาแล้วเรามีการเสียเหงื่อมากๆนะคะ

01:40:4801:40:50 โซเดียมเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะว่าเวลาที่

01:40:5001:40:52 ที่เราเสียเหงื่อไปถ้าใครเคยชิมมจะรู้สึก

01:40:5201:40:55 ว่าเหงื่อมันเค็มๆนะคะดังนั้นเหงื่อที่

01:40:5501:40:58 ออกไปเนี่ยก็จะมีการสูญเสียโซเดียมไปด้วย

01:40:5801:41:00 ถ้าเราเสียเหงื่อมากแล้วกิจกรรมที่เรา

01:41:0101:41:03 เล่นหรือการออกกำลังกายนั้นเป็นแอโรบิ

01:41:0301:41:05 หรือเป็นคาร์ดิโอซึ่งเสียเหงื่อเยอะๆอัน

01:41:0501:41:07 นี้เราต้องทดแทนนะคะโดยการใช้เครื่องดื่ม

01:41:0701:41:10 เกลือแร่ไม่งั้นถ้าเกลือแร่ต่ำเนี่ยจะทำ

01:41:1001:41:13 ให้เกิดตะคิวได้จะทำให้เกิดแบบอาการเวียน

01:41:1301:41:15 หัวหน้ามืดหรือจะเป็นลมได้นะคะเพราะ

01:41:1601:41:18 ฉะนั้นอันนี้ต้องเสริมเกลือแร่ด้วยแต่ว่า

01:41:1801:41:20 ในอาหารที่เป็นโปรตีนส่วนใหญ่เขาจะไม่

01:41:2001:41:22 ค่อยเติเติมเกลือลงไปเพราะว่าเขากลัวว่า

01:41:2201:41:25 เดี๋ยวจะทำให้บวมถึงแม้เราจะบอกว่าคนที่

01:41:2501:41:27 ต้องการจะสร้างกล้ามเนี่ยจะพยายามกินไข

01:41:2701:41:30 มันต่ำแต่ไม่ได้บอกว่าห้ามกินไขมันนะคะ

01:41:3001:41:32 ยังสามารถกินไขมันได้แล้วก็แนะนำว่าให้

01:41:3201:41:36 กินไขมันดีนะคะไม่เอาไขมันเลวสังเกตว่า

01:41:3601:41:39 อาหารของคนที่จะต้องการจะเ่อเป็นพ่อกาย

01:41:3901:41:41 หรือว่าคนที่เป็นนักกีฬาเนี่ยส่วนใหญ่จะ

01:41:4101:41:44 ไม่ค่อยมันนะคะมักจะลีนนะคะเพราะว่าเขาค

01:41:4401:41:46 ไม่ได้ต้องการไข่มันเยอะนะคะส่วนนึงอาจจะ

01:41:4601:41:49 เป็นเพราะว่าต้องการจะลดน้ำหนักด้วยนะคะ

01:41:4901:41:51 แต่ว่ายังสามารถที่จะกินไขมันได้แล้วก็

01:41:5101:41:54 ให้เลือกเป็นไขมันที่เป็นไขมันดีนะคะไข

01:41:5401:41:57 มันดีคืออะไรก็คือน้ำมันที่ไม่เป็นไขไม่

01:41:5701:42:00 เป็นก้อนเป็นน้ำมันที่ไม่อิ่มตัวนะคะหรือ

01:42:0001:42:03 บางคนเนี่ยจะเลือกเป็นพวกน้ำมันมะกอกอะไร

01:42:0301:42:06 อย่างนี้ก็พอได้นะคะเวลาที่จะออกกำลังกาย

01:42:0701:42:09 หรือว่าต้องการที่จะสร้างกล้ามเนื้อห้าม

01:42:0901:42:13 อดคาร์โบไฮเดรตนะคะไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้

01:42:1301:42:15 กินเลยไม่ใช่นะคะคาร์โบไฮเดรตยังจำเป็น

01:42:1501:42:18 อยู่ยิ่งถ้าใครที่ออกกำลังกายโดยมีการ

01:42:1801:42:20 เล่นคาร์ดิโอหรือว่าพวกของ endurance นะ

01:42:2001:42:23 นะคะออกกำลังกายหนักๆเนี่ยพวกเนี้ยร่าง

01:42:2301:42:26 กายยังจำเป็นที่จะต้องได้รับเอ่อพลังงาน

01:42:2601:42:28 นะคะซึ่งพวกนี้ก็จะมาหลักๆจากพวกที่เป็น

01:42:2801:42:30 คาร์โบไฮเดรตอ่าเราก็แนะนำให้เป็นกลุ่ม

01:42:3001:42:33 ของคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนนะคะเป็นพวกของ

01:42:3301:42:36 ธัญพืชเป็นข้าวแป้งที่มันมีข้าวกล้องนะคะ

01:42:3601:42:39 มีไฟเบอร์แล้วก็มีเส้นใยช่วยในเรื่องของ

01:42:3901:42:42 การเสริมสร้างเอ่อแร่ธาตุแล้วก็ไวตามิน

01:42:4201:42:45 ร่วมไปด้วยค่ะที่เราไม่ให้งดแป้งส่วนนึง

01:42:4501:42:47 อ่ะนะคะเพราะว่าคาร์โบไฮเดรตหรือว่าแป้ง

01:42:4701:42:49 ที่เรากินเข้าไปเนี่ยหลังจากนั้นเนี่ย

01:42:4901:42:51 ร่างกายเราจะไปเก็บในรูปของไกลโคเจนซึ่ง

01:42:5101:42:54 ไกลโคเจนเนี่ยเป็นแหล่งพลังงานสำรองเวลา

01:42:5401:42:55 ที่เราออกกำลังกายหนักๆนะคะเพราะฉะนั้น

01:42:5601:42:59 ห้ามงดแป้งนะคะแล้วที่สำคัญห้ามลืมพวกของ

01:42:5901:43:02 ไฟเบอร์ด้วยนะคะเวลาที่เราบังคับหรือว่า

01:43:0201:43:04 เราบอกว่าต้องกินพวกโปรตีนเยอะๆเนี่ยบาง

01:43:0401:43:06 ครั้งบางทีอาจจะมีปัญหาเรื่องของท้องผูก

01:43:0601:43:09 นะคะการกินไฟเบอร์ร่วมเข้าไปด้วยเนี่ยก็

01:43:0901:43:11 จะช่วยทำให้เอ่อระบบขับถ่ายของเราทำงาน

01:43:1101:43:14 ได้ดีขึ้น

01:43:1401:43:18 ค่ะเดี๋ยวเราจะพูดถึงอาหารโปรตีนสูงแล้ว

01:43:1801:43:21 ก็ไขมันต่ำที่มีคนนิยมเอาไปใช้นะคะสำหรับ

01:43:2101:43:24 คนที่ต้องการจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อนะคะ

01:43:2401:43:27 อันแรกก็คืออกไก่นะคะอกไก่ถือว่าเป็น

01:43:2701:43:30 โปรตีนที่มีโปรตีนสูงแล้วก็ไขมันต่ำเป็น

01:43:3001:43:33 โปรตีนคุณภาพดีอ่าเนื้อไก่นะคะส่วนใหญ่

01:43:3301:43:36 ที่เค้านิยมใช้เนี่ยมักจะเป็นเนื้ออกเหตุ

01:43:3601:43:38 ผลเพราะว่าตรงเนื้ออกเนี่ยจะถือว่าเป็น

01:43:3801:43:42 ส่วนที่มีไขมันต่ำนะคะราคาไม่แพงเวลาที่

01:43:4201:43:45 เราต้องการใช้ในปริมาณมากนะคะเอ่อวิธีการ

01:43:4501:43:48 คำนวณค่ะก็คือว่าถ้าเป็นเนื้อไก่เนี่ย

01:43:4801:43:51 เวลาเราซื้อมาเป็นอกไก่สดน่ะนะคะ 40 กรัม

01:43:5101:43:54 จะพอต้มแล้วเนี่ยมันก็จะเหลืออยู่ประมาณ

01:43:5401:43:57 สัก 30 กรัมซึ่งอันเนี้ยจะให้โปรตีนอยู่

01:43:5701:44:00 ที่ประมาณ 7 กรัมก็ถ้าสมมุติว่าเราเริ่ม

01:44:0001:44:03 ต้นจากคนหนักประมาณ 70 กใช่ไหมมคะแล้วเรา

01:44:0301:44:06 ต้องการประมาณ 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กก

01:44:0601:44:08 เนาะอ่า 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กลกหมาย

01:44:0801:44:10 ความว่าเาต้องการโปรตีนอยู่ที่ประมาณ 140

01:44:1001:44:12 กรัมเพราะฉะนั้นถ้าเราต้องการอยู่ที่

01:44:1201:44:16 ประมาณ 140 กรัมก็คือเท่ากับเนื้อไก่อีก

01:44:1601:44:19 ประมาณ 800 กรัมเราก็ไปซื้อเนื้ออกไก่มา

01:44:2001:44:23 800 กรัมนะคะก็เกือบกิโลกอ่ะแล้วก็เอามา

01:44:2301:44:26 ต้มเสร็จแล้วเนี่ยถามว่ากินหมดมยเอาไม่

01:44:2601:44:29 หมดก็เอามาปั่นนะคะพอปั่นเป็นน้ำเสร็จ

01:44:2901:44:31 ปุ๊บเนี่ยถ้ารสชาติที่มันออกมาจริงๆมันจะ

01:44:3101:44:34 จืดๆเข้าก็เลยเรียกว่านมอกไก่นะคะทีนี้

01:44:3401:44:36 ถ้ามันกินยากมว่าจะเติมเกลือนิดหน่อยแต่

01:44:3601:44:38 เขาจะไม่เติมเยอะนะคะเติมแค่แบบเติมเกลือ

01:44:3801:44:41 พริกไทยเพื่อจะให้มันมีรสชาตินิดนึงจะได้

01:44:4101:44:44 ดื่มง่ายนะคะดังนั้นเนื้ออกไก่ 800 กรัม

01:44:4401:44:47 ก็จะได้โปรตีนอยู่ที่ประมาณ 140 กรัมค่ะ

01:44:4701:44:49 แต่ว่าเหมือนที่บอกตอนแรกนะคะเราจะให้ที

01:44:4901:44:52 เดียวเยอะเยอะเนี่ยกล้ามเนื้อเราสร้างไม่

01:44:5201:44:54 ไหวละมันอิ่มละเพราะฉะนั้นเราก็จะต้อง

01:44:5401:44:57 แบ่งให้ถ้าเราแบ่งให้ทีละสัก 30 อย่าง

01:44:5701:45:00 เงี้ยค่ะเราก็จะให้เป็น 7 หรือ 8 มื้อ

01:45:0001:45:03 หรือเราอาจจะดูว่าเอ่อในมื้อหลักเรากิน

01:45:0301:45:05 เท่าไหร่แล้วก็ในหลังจากที่เราออกกำลัง

01:45:0501:45:08 กายเนี่ยเราจะกินทีละสักประมาณ 30-40

01:45:0801:45:10 กรัมอย่างเงี้ยค่ะที่นิยมพอๆกันอีกอันนึง

01:45:1001:45:12 ก็จะเป็นไข่เนาะแต่ว่าจริงๆแล้วเนี่ยถ้า

01:45:1301:45:15 แบบพวกที่ต้องการจะสร้างกล้ามเนืมักจะกิน

01:45:1501:45:18 แค่ไข่ขาวนะคะเพราะว่าถ้าสมมุติว่าจะกิน

01:45:1801:45:20 ปริมาณเยอะๆเนี่ยแล้วกินไข่แดงด้วยเนี่ย

01:45:2001:45:22 มันจะต้องได้ไขแดงเยอะมากซึ่งมันจะทำให้

01:45:2201:45:25 มีไขมันแล้วก็มีคอเลสเตอรอลที่สูงขึ้นนะ

01:45:2501:45:27 คะดังนั้นเนี่ยส่วนใหญ่พวกนักกีฬาเพราาะ

01:45:2701:45:29 กายหรือว่าพวกที่จะสร้างกล้ามเนื้อมักจะ

01:45:2901:45:33 กินแค่ไข่ขาวในไข่ขาว 1 ฟองค่ะจะมีโปรตีน

01:45:3301:45:36 อยู่ประมาณ 7 กรัมซึ่งเท่ากับเนื้ออกไก่

01:45:3601:45:40 เมื่อสักครู่เนี้ย 40 กรัมถ้าเราจะคิดใน

01:45:4001:45:41 ปริมาณที่เท่ากันกับเมื่อสักครู่ที่เรา

01:45:4101:45:45 คิดเรื่องของเนื้อไก่นะคะในคนที่ 70 กก

01:45:4501:45:47 เนี่ยเราก็ต้องการประมาณ 2 กรัมต่อน้ำ

01:45:4701:45:50 หนักตัว 1 กกต่อวันถ้าเราใช้เนื้อไก่

01:45:5001:45:52 ประมาณ 8 800 กรัมนะคะคิดออกมาเป็นไข่

01:45:5201:45:55 ขาวแล้วเนี่ย 1 ฟองให้โปรตีนประมาณ 4

01:45:5501:45:59 กรัมเราจะใช้ไข่ขาวประมาณ 35 ฟองนะคะหรือ

01:45:5901:46:02 ถ้าเราไปซื้อไข่ขาวดิบที่ขายอยู่นะคะเรา

01:46:0201:46:04 ก็ต้องไปดูว่าไข่ขาวดิบอันนั้นเนี่ยเราจะ

01:46:0401:46:06 ใช้กี่กรัมเพราะว่าเ่อเขาคจะเขียนบอกไว้

01:46:0601:46:09 ว่าไข่ขาวดิบกี่ซีซีหรือว่ากี่กรัมจะได้

01:46:0901:46:13 โปรตีนเท่าไหร่นะคะทีนี้วิธีกินอ่ะค่ะ

01:46:1301:46:16 เค้าคงไม่เอามาต้มเป็นไข่ขาวแล้วก็มากิน

01:46:1601:46:17 ข้าวปากเพราะว่าอันนี้มันจะกินยากเหมือน

01:46:1701:46:20 ที่บอกเมื่อสักครู่นี้กินไก่เนาะวิธีีการ

01:46:2001:46:23 ทำหลายๆคนจะมีทั้งแบบที่กินเป็นไข่ขาวดิบ

01:46:2301:46:26 เลยหรือจะไปลวกให้มันแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ

01:46:2601:46:28 เหมือนจะเป็นไข่ลวกอ่ะค่ะแล้วก็ดื่มเข้า

01:46:2801:46:32 ไปนะคะซึ่งปริมาณค่อนข้างมากทีนี้ประเด็น

01:46:3201:46:34 มีนิดเดียวในกรณีของคนที่กินไข่ขาวดิบใน

01:46:3401:46:38 ไข่ขาวดิบจะมีสารตัวนึงชื่อว่าอวอนนะคะ

01:46:3801:46:41 ตัวเนี้ยจะมีหน้าที่ยับยั้งการดูดซึมของ

01:46:4101:46:43 วิตามินตัวนึงที่ชื่อว่าไบโอตินถ้าเมื่อ

01:46:4301:46:46 ไหร่ก็ตามเราทำให้ไข่ขาวสุกอดินจะหายไป

01:46:4601:46:49 ไม่มีปัญหาแต่ถ้าเรากินไข่ขาวดิบเรากิน

01:46:4901:46:53 เป็นปริมาณมากกินเป็นระยะเวลายาวนานเรา

01:46:5301:46:55 อาจจะมีการบกพร่องหรือว่าการดูดซึมของ

01:46:5501:46:58 ไบโอตินเนี่ยมันลดลงได้แล้วทำให้เราขาด

01:46:5801:47:01 ไบโอตินถ้าขาดไบโอตินแล้วทำให้เกิดอะไร

01:47:0101:47:04 ขึ้นอาจจะทำให้หัวล้านได้นะคะเพราะฉะนั้น

01:47:0401:47:07 อันนี้ก็จะเจอได้ถ้าสมมุติว่าคนๆนั้นกิน

01:47:0701:47:09 ไข่ขาวเป็นระยะเวลายาวนานแล้วเป็นไข่ขาว

01:47:0901:47:13 ดิบนะคะอีกกลุ่มนึงก็จะเป็นนมนะคะต้องบอก

01:47:1301:47:15 ก่อนว่านมธรรมดาเนี่ยส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้

01:47:1501:47:18 รับความนิยมเพราะว่าถ้าจะกินนมให้ได้

01:47:1801:47:21 ปริมาณเอิ่มโปรตีนเพียงพอเท่ากับที่

01:47:2101:47:24 ต้องการเนี่ยมันจะมีส่วนของไขมันแล้วก็จะ

01:47:2401:47:27 มีส่วนของน้ำตาลในนมเข้าไปด้วยนะคะซึ่ง

01:47:2701:47:29 ปกติเขาไม่ได้ชอบต้องการที่จะกินน้ำตาล

01:47:2901:47:32 ปริมาณเยอะๆแล้วต้องกินนมปริมาณมากๆสิ่ง

01:47:3201:47:35 ที่เขาจะกินเขาจะกินเป็นนมที่เป็นนมไฮ

01:47:3501:47:38 โปรตีนนะคะหรืออาจจะเป็นนมแล้วมาผสมใน

01:47:3801:47:41 ส่วนของผงโปรตีนแล้วกันนะคะเพื่อจะทำให้

01:47:4101:47:43 ได้โปรตีนเพียงพออันนี้ก็จะเป็นอีกเทคนิค

01:47:4401:47:47 นึงที่จะมีคนทำในเรื่องของการเสริมโปรตีน

01:47:4701:47:50 นะคะอ่านอกเหนือจากนั้นเนี่ยอาหารอื่นๆ

01:47:5001:47:52 ที่ที่เราแนะนำให้กินร่วมกันจะเป็นอะไร

01:47:5201:47:55 บ้างก็อย่างเช่นอ่าอะไรที่มันมีแคลเซียม

01:47:5501:47:57 กับไวตามินดีเยอะนะคะซึ่งอันนี้มันก็จะ

01:47:5701:47:59 ช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างพวกของ

01:47:5901:48:02 กระดูกแล้วก็กล้ามเนื้อนะคะอาจจะแบบเวลา

01:48:0201:48:04 ออกกำลังกายบางทีถ้าเราสมมุติว่าเป็นนัก

01:48:0401:48:06 กีฬาแล้วไม่ได้ไปออกกลางแจ้งเลยอยู่ในยิม

01:48:0601:48:08 ตลอดเวลาก็อาจจะต้องเช็คดูนิดนึงว่า

01:48:0801:48:11 ไวตามินดีพอมไวตามินดีไม่พอหลายคนก็อาจจะ

01:48:1101:48:14 ใช้เป็นวิตามินดีเสริมไปหรือว่าอาจจะไป

01:48:1401:48:16 เลือกอาหารซึ่งเหมือนที่บอกค่ะอาหารที่จะ

01:48:1601:48:19 มีวิตามินดีก็มีตั้งแต่นมที่เสริมไวตามิน

01:48:1901:48:21 ดีนะคะพวกพวกสาหร่ายหรือว่าพวกของเห็ดนะ

01:48:2101:48:24 คะโดยเฉพาะพวกที่เป็นเห็ดหอมตักแห้งนะคะ

01:48:2401:48:27 อันนี้ก็จะมีวิตามินดีสูงเช่นกันค่ะนอก

01:48:2701:48:29 เหนือจากนมนะคะที่จะเป็นไฮโปรตีนเนี่ยอีก

01:48:2901:48:31 อันนึงที่คนจะกินก็คือจะเป็นพวกของ

01:48:3101:48:33 โยเกิร์ตแต่ว่าก็จะแนะนำให้เป็นพวกกรีก

01:48:3301:48:35 โยเกิร์ตนะคะเพราะว่ากรีกโยเกิร์ตก็คือ

01:48:3501:48:38 เหมือนกับเอาโยเกิร์ตมาทำให้เข้มข้นอัน

01:48:3801:48:40 นี้จะมีโปรตีนเยอะขึ้นนะคะอันนี้ก็จะเป็น

01:48:4001:48:43 อีกทางเลือกนึงแล้วเหมือนที่บอกค่ะเมื่อ

01:48:4301:48:46 สักครู่นี้ว่ามีคนที่พยายามจะเลือกใช้บอก

01:48:4601:48:48 ว่ากินไม่ไหวก็จะเติมพวกของเวนะคะเรามา

01:48:4901:48:52 รู้จักเวนิดนึงนะคะเเหมือนที่บอกเมื่อตอน

01:48:5201:48:56 ต้นเลยว่าเเองเนี่ยเป็นโปรตีนที่มาจากนม

01:48:5601:48:59 นะคะเป็นส่วนของโปรตีนที่ละลายน้ำได้

01:48:5901:49:02 เพราะฉะนั้นเอานมมาเนี่ย 20% ของโปรตีนนม

01:49:0201:49:05 เนี่ยมันเป็นเวยอีก 80% เป็นเคซีนนะคะ

01:49:0501:49:08 เพราะฉะนั้นกว่าจะสกัดเมาได้เนี่ยมันต้อง

01:49:0801:49:11 ใช้นมปริมาณมากเลยนะคะอ่าเแบ่งอาเป็น 3

01:49:1101:49:14 ส่วนอันแรกเราเรียกว่าเ concentrate นะคะ

01:49:1401:49:17 หรือเข้มข้นอันที่ 2 เราเรียกว่าเป็นเ

01:49:1701:49:20 isolate นะคะคือแยกออกมาเฉพาะเวเลยอัน

01:49:2001:49:22 ที่ 3 เราเรียกว่าเไฮโดรไลเซทหมายความว่า

01:49:2201:49:25 เป็นเที่ย่อยแล้วนะคะไล่มาทีละอันอันแรก

01:49:2501:49:28 ที่เป็นเ concentrate เนี่ยคือเข้มข้นนะ

01:49:2801:49:31 คะแต่ยังไม่ได้เป็น PE Way เพราะฉะนั้น

01:49:3101:49:34 เนี่ยในกรณีของ concentrate เนี่ยจะยังคง

01:49:3401:49:38 มีน้ำตาลในนมอยู่ถ้าใครที่แพ้หรือว่าใคร

01:49:3801:49:40 ที่ย่อยน้ำตาลในนมไม่ได้เช่นกินนมแล้ว

01:49:4001:49:44 ท้องเสียกินนมแล้วมีแก๊สนะคะไม่ควรที่จะ

01:49:4401:49:47 เลือกเ concentrate นะคะพวกนี้จะมีปริมาณ

01:49:4801:49:50 ของเวในผงนมเี่อยู่ประมาณสัก 5 50-80

01:49:5001:49:54 per เนาะอันที่ 2 เราเรียกว่าเ isolate

01:49:5401:49:55 หมายความว่าเราเอาเฉพาะเวมาแล้วเนาะ

01:49:5501:49:58 อันเนี้ยเมันจะเข้มข้นขึ้นปริมาณเวย

01:49:5801:50:01 โปรตีนที่อยู่ในผงเนี่ยมีมากกว่า 80%

01:50:0101:50:04 หมายความว่าสมมุติเราตักผมมา 100 นตักที่

01:50:0401:50:06 มันเป็นผงผมา 100 นเนี่ยมันจะมีเวยอยู่ใน

01:50:0601:50:09 นั้นประมาณ 80% อ่าแล้วอันสุดท้ายเรา

01:50:1001:50:11 เรียกว่าเป็นเไฮโดรไลเสต

01:50:1101:50:14 เไฮโดรไลเสตคืออะไรหมายความว่าเอาโปรตีน

01:50:1401:50:16 ไปย่อยเสร็จละเพราะฉะนั้นเวลากินปุ๊บเรา

01:50:1601:50:19 ก็คาดว่ามันจะต้องดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว

01:50:1901:50:21 นะคะอันนี้จะแพงกว่ารสชาติก็จะไม่ค่อย

01:50:2101:50:24 อร่อยเท่าไหร่ดังนั้นส่วนใหญ่สิ่งที่เขา

01:50:2401:50:27 เลือกใช้กันมักจะเป็น Way isolate อ่า

01:50:2701:50:30 ถ้าเป็นเ isolate เนี่ยคนที่อ่อย่อยน้ำ

01:50:3001:50:32 ตาลในนมไม่ได้นะคะหรือว่ากินนมแล้วท้อง

01:50:3201:50:34 เสียพวกนี้กินได้ละเพราะว่าในเนี้ยจะไม่

01:50:3401:50:37 มีน้ำตาลแลคโตสแล้วนะคะค่ะแล้วเวลาจะ

01:50:3701:50:40 คำนวณเวนะคะก็เหมือนกันว่าเราเลือกเวย

01:50:4001:50:42 อะไรอ่ะอย่างที่บอกยกตัวอย่างเช่นสิ่งที่

01:50:4201:50:45 เคนิยมคือเคนิยมเว isolate อ่ะเราไปดู

01:50:4501:50:48 ข้างซองข้างฉลากแล้วเนี่ยมันจะเขียนว่า

01:50:4801:50:51 80% ความเข้มข้นเนี่ยเป็นเว isolate 80%

01:50:5101:50:53 หมายความว่าถ้าสมมุติเราตักเป็นผงมาเนี่ย

01:50:5301:50:57 อ่าผงที่มันให้มา 100 กรัมมันจะมีเวอยู่

01:50:5701:51:00 ในนั้นน่ะ 80 กรัมเพราะฉะนั้นถ้าสมมุติ

01:51:0001:51:02 ว่าเราต้องการเนี่ยเราก็จะไปดูว่า 1 ช้อน

01:51:0201:51:04 ที่เขาคให้มาเนี่ยเราจะได้โปรตีนเท่าไหร่

01:51:0401:51:07 เราจะได้เวยเท่าไหร่ไปเสริมจากของที่เรา

01:51:0701:51:09 กินอยู่เดิมเพื่อให้ได้ปริมาณของโปรตีน

01:51:0901:51:12 เท่าที่เราคำนวณได้ค่ะถ้าสมมุติว่าเอ่อคน

01:51:1201:51:15 ๆนั้นเนี่ยน้ำหนัก 70 กแล้วต้องการโปรตีน

01:51:1501:51:18 อยู่ที่ประมาณ 2-3 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1

01:51:1801:51:21 กกต่อวันเพว่าต้องการที่จะเป็นน้เพ้อกาย

01:51:2101:51:23 หรือว่าจะสร้างกล้ามใช่มั้ยคะอันนี้แสดง

01:51:2301:51:26 ว่าเค้าต้องการโปรตีนอยู่ที่ประมาณ 140

01:51:2601:51:31 จนถึง 210 กรัมต่อวันนะคะถ้าสมมุติว่าเขา

01:51:3101:51:35 จะใช้เวแล้วเวอันนั้นเป็นเ isolate 80%

01:51:3501:51:39 100 กรัมของผงที่เราได้มาเนี่ยมันจะมี

01:51:3901:51:42 เวยอยู่ประมาณ 80 กรัมถูกมั้ยคะถ้าเรา

01:51:4201:51:45 ต้องการอยู่ที่ประมาณ 160 กรัมแสดงว่าเรา

01:51:4501:51:48 ต้องเอาผงอันนี้มา 200 กรัมมากินต่อวัน

01:51:4801:51:50 ดังนั้นนะคะใครที่จะเอ่อสร้างกล้ามเนื้อ

01:51:5001:51:52 หรือเป็นนักเพาะกายเนี่ยไม่ใช่แค่มี

01:51:5201:51:54 ระเบียบวินัยที่จะต้องออกกำลังกายเป็น

01:51:5401:51:57 ประจำสม่ำเสมอแล้วเนี่ยต้องมีฐานะดีพอสม

01:51:5701:51:59 ควรนะคะไม่งั้นก็คงไม่สามารถที่จะหา

01:51:5901:52:02 โปรตีนได้เพียงพอกับความต้องการค่ะทีนี้

01:52:0201:52:04 พอฟังเสร็จแล้วก็บอกโอ๊ยไม่เป็นไรฉันอยาก

01:52:0401:52:07 จะมีกล้ามแล้วก็ฉันมีปัญญาที่จะซื้อเวยมา

01:52:0701:52:09 ใช้นะคะสมมุติว่าดิฉันเองเนี่ยนะคะก็ไป

01:52:1001:52:12 ซื้อเวยมากินเสร็จแล้วก็นอนอันนี้ไม่เกิด

01:52:1201:52:15 กล้ามนะคะแต่จะเกิดพุงน้อยๆแทนนะคะเพราะ

01:52:1501:52:18 ฉะนั้นเนี่ยในกรณีที่เราจะใช้เวนะคะบอก

01:52:1801:52:22 เลยว่าโปรตีนที่เยอะขึ้นนะคะจะใช้ได้แล้ว

01:52:2201:52:24 เหมาะสมสำหรับคนที่มีการออกกำลังกายอย่าง

01:52:2401:52:26 สม่ำเสมอนะคะแล้วก็ออกกำลังกายค่อนข้าง

01:52:2701:52:29 หนักแต่ถ้าเรากินโปรตีนเยอะขึ้นโดยที่เรา

01:52:2901:52:31 ไม่มีการออกกำลังกายเลยสิ่งที่จะตามมาก็

01:52:3201:52:34 คืออาจจะทำให้เราอ้วนขึ้นได้กับอันที่ 2

01:52:3401:52:37 ค่ะจะทำให้ไเราทำงานหนักขึ้นเพราะว่า

01:52:3701:52:39 โปรตีนเนี่ยมีหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึก

01:52:3901:52:43 หรอถ้าไม่มีอะไรต้องซ่อมเขาคก็จะทิ้งที่

01:52:4301:52:45 เดียวที่เขาคทิ้งอวัยวะที่จะจัดการกับ

01:52:4601:52:48 เค้าก็คือตับแล้วก็ไตนะคะเพราะฉะนั้น

01:52:4801:52:51 เนี่ยไตเราจะถูกทำทำงานหนักขึ้นนะคะโดย

01:52:5101:52:53 เฉพาะในคนที่มีปัญหาเรื่องไตอยู่แล้วก็

01:52:5301:52:56 ไม่แนะนำที่จะให้กินโปรตีนปริมาณมากๆแบบ

01:52:5601:52:58 นี้ค่ะค่ะทีนี้หลายๆครั้งเนี่ยเราก็จะพูด

01:52:5801:53:01 กันถึงเวย์โปรตีนเนาะคำถามคือเอ๊ะแล้วมัน

01:53:0101:53:04 มีแต่เวหรอที่มันจะดีนะคะเหมือนที่บอกค่ะ

01:53:0401:53:06 ว่าการที่เรารับประทานเป็นเวเนี่ยมันจะ

01:53:0601:53:08 ดูดซึมเข้าไปในกระแสะเลือดเราได้ค่อนข้าง

01:53:0801:53:10 เร็วนะคะเพราะฉะนั้นเนี่ยมันก็จะเปลี่ยน

01:53:1101:53:13 ไปเป็นกรดอะมิโนแล้วก็ไปสร้างโปรตีนได้ดี

01:53:1301:53:17 แต่ว่าถ้าสมมุติว่าเอ่อเวลาที่เราจะนอน

01:53:1701:53:20 เนี่ยกลางคืนนะคะถ้าสมมุติว่ากรดอะมิโน

01:53:2001:53:22 ของเรามันลดลงอย่างรวดเร็วเนี่ยสิ่งที่

01:53:2201:53:24 เกิดขึ้นร่างกายก็จะมีการสลายกล้ามเนื้อ

01:53:2401:53:27 ใช่มั้ยคะดังนั้นหลายๆคนเนี่ยก็จะเลือก

01:53:2701:53:30 เป็นโปรตีนชนิดที่เราเรียกว่าเป็นเคซีน

01:53:3001:53:33 หรือพวกนมอย่างเงี้ยค่ะมาทานก่อนนอนการ

01:53:3301:53:36 ดื่มนมพวกนี้ก่อนนอนก็จะช่วยทำให้ระดับ

01:53:3601:53:38 ของอะมิโนแอซิดเนี่ยในเลือดเนี่ยมันค่อน

01:53:3801:53:41 ข้างคงที่อยู่นานแล้วทำให้ลดการสลายกล้าม

01:53:4101:53:43 เนื้อเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่เราจะเลือก

01:53:4301:53:45 โปรตีนเนี่ยขึ้นกับคุณสมบัติว่าเราอยากจะ

01:53:4501:53:48 ได้อะไรนะคะเราอยากจะได้โปรตีนที่ขึ้นสูง

01:53:4801:53:50 เร็วๆเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อเขาก็จะ

01:53:5001:53:53 วิ่งไปทางเวยนะคะหรืออยากจะให้โปรตีน

01:53:5301:53:55 เนี่ยมันอยู่ในร่างกายได้นานขึ้นอะมิโน

01:53:5501:53:59 แอซิดคงที่ลดลงช้าๆอันนี้เขาคก็จะเลือก

01:53:5901:54:02 เคซีนก็จะทำให้ร่างกายมีการสลายกล้าม

01:54:0201:54:05 เนื้อเนี่ยลดลงที่สำคัญค่ะนักกีฬาพ้อกาย

01:54:0501:54:09 มักจะกินอาหารบ่อยๆแล้วก็กินหลายๆมื้อต่อ

01:54:0901:54:12 กันเนาะมักจะไม่ค่อยให้อดอาหารเท่าไหร่นะ

01:54:1201:54:15 คะส่วนในเรื่องของบางคนจะพูดถึงเ่อชีท Day

01:54:1501:54:17 หรืออะไรอย่างเงี้ยจริงๆแล้วก็ทำได้นะคะ

01:54:1701:54:20 แต่ว่าชีส Day ก็อย่าให้บ่อยนักเพราะไม่

01:54:2001:54:22 งั้นเนี่ยเอ่อเวลาที่เราจะเพาะกายหรือเรา

01:54:2201:54:24 จะเล่นกล้ามเนี่ยเราไม่ต้องการแฟตเยอะๆ

01:54:2401:54:26 เนาะเราต้องการให้เห็นกล้ามเนื้อโตๆในขณะ

01:54:2601:54:29 เดียวกันก็คือไขมันน้อยๆจะได้มองเห็นเ้า

01:54:2901:54:32 เรียกว่าสัดส่วนหรือว่ากล้ามเนื้อชัดเจน

01:54:3201:54:35 ขึ้นนะคะดังนั้นชีเทำได้ค่ะจะเป็นเอ่อ 23

01:54:3501:54:37 อาทิตย์ครั้งนึงหรือว่าเดือนละครั้งอัน

01:54:3701:54:39 นี้แล้วแต่เลยนะคะแล้วส่วนใหญ่ต่อให้ชีท

01:54:4001:54:42 Day เราก็ไม่ได้แบบว่าชีทซะจนแบบ unlimit

01:54:4201:54:45 นะคะอันนี้ก็จะเป็นเทคนิคที่นักกีฬาเพาะ

01:54:4501:54:48 กายก็จะทำกันส่วนในเรื่องของอาหารเสริม

01:54:4801:54:51 หรือมนอื่นๆน่ะจะมีคำถามต้องบอกก่อนว่า

01:54:5101:54:54 เอ่อมีเยอะแยะมากมายเลยที่จะมีคนพยายาม

01:54:5401:54:57 ออกไปใช้นะคะโดยหลักการก็คืออันที่ 1 อาจ

01:54:5701:54:59 จะเป็นเรื่องของแอนติออกซิแดนท์อาจจะเป็น

01:54:5901:55:02 เรื่องของการเพิ่มโิทำให้กล้ามเนื้อมัน

01:55:0201:55:05 แข็งแรงมากขึ้นนะคะไม่ว่าจะเป็นพวกของ

01:55:0501:55:07 เอ่อกาแฟคาเฟอีนนะคะหรือว่าจะเป็นพวกของ

01:55:0701:55:10 แอนติออกซิแดนท์เช่นพวกของชาเขียวอย่าง

01:55:1001:55:13 งี้นะคะหรือว่าจะเป็นพวกของโปรตีนชนิด

01:55:1301:55:16 อื่นๆเช่นจะเป็นครินหรือว่าจะเป็นเตีนนะ

01:55:1601:55:19 คะแล้วก็มีอีกอีกเยอะแยะมากมายอีกอันนึง

01:55:1901:55:22 ที่ที่อาจจะใช้กันอยู่แล้วก็อ่าอันตราย

01:55:2201:55:25 นิดหน่อยก็คือเรื่องของฮอร์โมนนะคะบางคน

01:55:2501:55:27 จะใช้ฮอร์โมนเพื่อจะทำให้กล้ามเนื้อมัน

01:55:2701:55:30 ขึ้นเร็วขึ้นต้องบอกนิดนึงว่าใช้เนี่ยมัน

01:55:3001:55:32 ก็มีประโยชน์เนาะแต่ว่ามันมีข้อเสีย

01:55:3201:55:35 เหมือนกันพวกนี้จะทำให้เลือดข้นค่ะและ

01:55:3501:55:37 เพิ่มความเสี่ยงของการที่จะเกิดเส้นเลือด

01:55:3701:55:39 หลุดตันจริงๆไม่ได้แนะนำเนาะแต่ถ้าใครใช้

01:55:3901:55:42 อยู่ก็ระมัดระวังแล้วก็ดูแลเรื่องของความ

01:55:4201:55:46 เสี่ยงที่จะมีอันตรายกับสุขภาพด้วยค่ะพบ

01:55:4601:55:49 กับรายการ Food Choice กินดีสุขภาพดี

01:55:4901:55:52 เลือกได้ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 นที่

01:55:5201:55:55 มหิดน Channel podcast ผ่านช่องทาง

01:55:5501:55:58 Facebook มหิดน Channel YouTube มหิดน

01:55:5801:56:02 Channel Apple podcast spotify anor

01:56:0201:56:05 blockit ดำเนินรายการโดยหมอเอ๋ผู้ช่วย

01:56:0501:56:08 ศาสตราจารย์แพทย์หญิงดรุณีวัลย์

01:56:0801:56:15 [เพลง]

01:56:1501:56:19

01:56:1901:56:23 ดลปัญญาของแผ่น

01:56:2301:56:30 [เพลง]

01:56:3001:56:33 ดิน