00:00:00 → 00:00:08 [เพลง]

00:00:17 → 00:00:20 คือออแกนิ Concept นะคะเจ้าของร้านค่ะ

00:00:20 → 00:00:23 เป็นเชฟหน้าตาดีคิดว่าต้องเป็นเจ้าของ

00:00:23 → 00:00:25 ร้านใช่มคะทีมงานร้านใช่มคะเชฟเป็นเจ้า

00:00:25 → 00:00:28 ของร้านเนาะอ่าเพราะฉะนั้นเขาเลยตั้งชื่อ

00:00:28 → 00:00:32 ออแกนิคเสร็จนั่นเองนะคะอยู่อารีสัมพันธ์

00:00:32 → 00:00:35 1 ค่ะเดินทางไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เหมือนไทย

00:00:35 → 00:00:39 อินเบาๆให้เานะคะก็เดินทางมานั่งแท็กซี่

00:00:39 → 00:00:41 มาก็จะไม่ต้องลำบากเรื่องที่จอดรถเพราว่า

00:00:41 → 00:00:44 ไปจอดรถร้านอื่นเดี๋ยวเขาเคืองเอาแต่วัน

00:00:44 → 00:00:47 นี้นะคะก็คิดว่าทุกท่านก็ชื่นมื่นกันดี

00:00:47 → 00:00:49 ระหว่างนี้นะคะก็เดี๋ยวเตรียมกล้องกัน

00:00:50 → 00:00:53 อยู่หมอก็เม้ามอยให้พวกเราฟังว่าวันนี้

00:00:53 → 00:00:55 เราจะได้เหมือนร่วมงานเป็นบรรยากาศไลฟ์สด

00:00:55 → 00:00:58 ค่ะซึ่งบรรยากาศแบบนี้นะคะเหมือนเราเอ่อ

00:00:58 → 00:01:02 เคยดูในกองถ่ายใช่มคะละครเวทีอะไรแบบนี้

00:01:02 → 00:01:12 วันนี้เหมือนแบบได้มาดูสดเลยค่ะพร้อมม

00:01:12 → 00:01:16 คะสวัสดีค่ะคุณผู้ชมทุกท่านขณะนี้คุณ

00:01:16 → 00:01:19 กำลังรับชมการถ่ายทอดสดค่ะกิจกรรมสุขภาพ

00:01:19 → 00:01:22 ดีเริ่มต้นที่อาหารดี eat Health be

00:01:22 → 00:01:25 wey ซึ่งจัดโดย TNN Health นะคะผ่าน

00:01:25 → 00:01:28 ช่องทางออนไลน์ค่ะในแฟนเพจ Facebook TNN

00:01:28 → 00:01:31 He TNN Live T ช่อง 16 YouTube และ

00:01:31 → 00:01:35 tiktok TNN นะคะรวม 5 ช่องทางพร้อมกัน

00:01:35 → 00:01:38 เลยค่ะขอเสียงปบมือหน่อยสิคะอ่าคึกักค่ะ

00:01:38 → 00:01:41 คึกักอ่ะตืนๆอ่าทีมงานแล้ววันนี้นะคะคุณ

00:01:41 → 00:01:44 ผู้ชมอยู่กับดิฉันค่ะหมอดาวตัวจริงเสียง

00:01:44 → 00:01:47 จริงค่ะแพทย์หญิงฉัดาวจังวังกรแพทย์เฉพาะ

00:01:47 → 00:01:50 ทางสาขาวิทยศาสตร์ครอบครัวค่ะและผู้

00:01:50 → 00:01:54 ดำเนินรายการท Health ค่ะที่เราจะมาเอ่อ

00:01:54 → 00:01:56 ต้องบอกว่าอยู่ด้วยกันตลอดงานวันนี้เลย

00:01:57 → 00:01:59 วันนี้นะคะเราจัดงานกันที่ร้านออร์แกนิค

00:01:59 → 00:02:02 คอนเซปค่ะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลค่ะอยู่อารี

00:02:02 → 00:02:06 สัมพันธ์นะคะเ่อตรงจุดนี้เราจะอยู่กัน

00:02:06 → 00:02:09 15:00 นยาวๆไปเลยและแน่นอนความพิเศษของ

00:02:09 → 00:02:12 ร้านนี้คือความอบอุ่นรู้สึกอุ่นใจเหมือน

00:02:12 → 00:02:14 อยู่บ้านเหมือนอยู่บ้านมยคะเหมือนอยู่

00:02:14 → 00:02:16 บ้านนะคะแต่อย่าเพิ่งนอนนะคะยังไม่มีโซฟา

00:02:16 → 00:02:19 ให้เรานอนนะคะและในช่วงเช้านี้นะคะเดี๋ยว

00:02:19 → 00:02:23 เราจะมาดูกิจกรรมกันนะคะกิจกรรมแรกนะคะก็

00:02:23 → 00:02:25 จะเป็นกิจกรรมการเม้ามอยจริงๆไม่ใช่ค่ะ

00:02:25 → 00:02:28 เป็นกิจกรรมการให้ความรู้กันในในมากแล้ว

00:02:28 → 00:02:31 ขอเราอย่างพวกเราเนี่ยได้อะไรดีๆกลับไปนะ

00:02:31 → 00:02:35 คะจะเป็นกิจกรรมสุขภาพดีเริ่มต้นที่ี้ ity

00:02:35 → 00:02:38 เนี่ยมจะมาบรรยายนะคะเรื่อง

00:02:38 → 00:02:42 ของค่ะเป็นการดูแลตัวเองนะคะสามารถนำไป

00:02:42 → 00:02:46 ปฏิบัติได้ง่ายๆเลยนอกจากนี้แล้วค่ะเราจะ

00:02:46 → 00:02:49 ไปพูดคุยกับผู้เชื่อชาญค่ะท่านมาจากสำนัก

00:02:49 → 00:02:54 วิชาการอาหาร้องบริษัทเืเจริญพวค่ะเือ

00:02:54 → 00:03:01 เจริญพจำกัดรอนันตคุณนเตานเกี่ยวกับเ

00:03:01 → 00:03:05 อาหารปลอดภัย by cf และแน่นอนคะปีท้าย

00:03:05 → 00:03:09 ค่ะเราจะได้เจิกับเจ้าของร้านที่เกลิ่นไป

00:03:09 → 00:03:12 แล้วว่านอของเราก็คือคุณโอนะคะเชฟโอเจ้า

00:03:12 → 00:03:15 ของร้านโเป็นคอนเซปที่จะมาเล่าที่มาของ

00:03:16 → 00:03:19 เมนูอาหารสุขภาพที่น่าสนใจและเราจะได้พัก

00:03:19 → 00:03:22 ัประกาศอาหารพลังากันส่วนช่่ายค่ะอย่า

00:03:22 → 00:03:25 เพิ่งรีบกลับบ้านนะคะเพราะว่าเราจะไปคุย

00:03:25 → 00:03:29 กับคุณจุมาพันเจริรองกรรมการผู้จการ

00:03:29 → 00:03:32 บริษัทเมืองไทยประกันชีวิตจำกัดมหาชนใน

00:03:32 → 00:03:36 หัวข้อออกแบบชีวิตแบบเศรษฐีสุขภาพดีมี

00:03:36 → 00:03:39 เงินใช้นะค่ะตลับไปก็จะร่ำรวยกัน้วนหน้า

00:03:39 → 00:03:43 นะคะและปิดท้ายค่ะเมื่อกินแล้วรับประทาน

00:03:43 → 00:03:45 อาหารแล้วนะคะสุขภาพดีแล้วแน่นอนเรื่อง

00:03:45 → 00:03:48 ของการนอนสำคัญแต่ไม่ใช่ชวนให้เรานอนกัน

00:03:48 → 00:03:51 ที่นี่นะคะคือจะให้เราได้เคล็ดลับการนอน

00:03:51 → 00:03:54 อย่างไรให้สุขภาพดีไปกับที่นอนลินคอนน่า

00:03:54 → 00:03:58 สนใจยคะอ่ะสนใจปรบมือหน่อยค่ะอืจริงๆต้อง

00:03:58 → 00:04:02 มีกระดิ่งจริงๆๆๆใช่คะไม่ใช่ไลฟขายของนะ

00:04:02 → 00:04:05 คะและทางทีมงานต้องขอกราบขอบพระคุณ

00:04:05 → 00:04:08 สปอนเซอร์ใจดีค่ะที่ทำให้มีกิจกรรมดีๆดัง

00:04:08 → 00:04:13 ต่อไปนี้นะคะ 1 mqdc บริษัท magnolia

00:04:13 → 00:04:15 Quality Development Corporation

00:04:15 → 00:04:19 จำกัด 2 ธนาคาร Land แอ House จำกัดมหาชน

00:04:19 → 00:04:23 ค่ะหรือ LH Bank นั่นเอง 3 The Pizza

00:04:23 → 00:04:25 Company ภายใต้การดำเนินการของบริษัท The

00:04:25 → 00:04:28 minor Food Group จำกัดมหาชน C TR

00:04:28 → 00:04:32 help 5 ที่นอนเพื่อสุขภาพลินพอนและ 6

00:04:32 → 00:04:35 ค่ะบริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาาหารจำกัดมหาชน

00:04:35 → 00:04:39 หรือ CPF ค่ะขอเสียงประเมินนิดนึง

00:04:39 → 00:04:44 ค่ะโอเคค่ะงั้นเรามาเริ่มช่วงแรกกันได้

00:04:44 → 00:04:47 เลยใช่ไมยคะอ่าทีมงานคะได้เลยั้ยคะหมอดาว

00:04:47 → 00:04:50 จะเริ่มอ้าได้เลยนะคะต้องขออนุญาตทีมงาน

00:04:50 → 00:04:52 ก่อนค่ะทำอะไรแล้วเดี๋ยวมันจะผิดคอนเซปต์

00:04:52 → 00:04:56 ของทีมงานนะคะขออนุญาตวางแท็บเล็ตไว้แล้ว

00:04:56 → 00:05:00 ก็ใช้สะโพกแปะๆนะคะคือในใจค่ะอยากบอกทีม

00:05:00 → 00:05:03 งานว่าทีมงานขาการที่หมอดาวขึ้นไปนั่งกับ

00:05:03 → 00:05:06 การยืนไม่ต่างกันค่ะระดับความสูงไม่ต่าง

00:05:06 → 00:05:09 กันแต่ก่อนหมอดาวก็น้อยใจค่ะว่าทำไมตัว

00:05:09 → 00:05:13 เราเนี่ยตะแมะแคะแบบถ้าเราสูงวันเนี้ยเรา

00:05:13 → 00:05:14 อาจจะไปเป็นแบบ

00:05:14 → 00:05:18 มิสแกนเเนออไม่ใช่แต่เราก็เลยรู้ค่ะว่า

00:05:18 → 00:05:22 อ๋อวันเนี้ยที่เราเนี่ยถึงแม้ตัวเล็กกระ

00:05:22 → 00:05:25 ติ๋วลิวแบบนี้นะแต่เราก็ยังมีความรู้ความ

00:05:25 → 00:05:28 สามารถที่จะนำไปใช้ได้นั่นก็คือการแนะนำ

00:05:28 → 00:05:30 เนาะคราวนี้เรามาดูเรื่องกินกันดีกว่าคือ

00:05:30 → 00:05:32 บังเอิญต้องบอกว่าที่นี่เราไม่ได้เปิด

00:05:32 → 00:05:35 สไลด์เลคเชอร์อย่างแรกเลยการกินหรือว่า

00:05:35 → 00:05:39 การรับประทานอาหารอ่ะอันนี้เราไม่ได้

00:05:39 → 00:05:42 โฆษณาใดๆผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนโต๊ะท่านแต่

00:05:42 → 00:05:46 มันคือน้ำเปล่าวันนี้เราดื่มน้ำเปล่าเอา

00:05:46 → 00:05:49 ล่ะคะวันนี้วันนี้เราดื่มน้ำเปล่ากันอ่ะ

00:05:49 → 00:05:52 ขอผู้ร่วมงานหน่อยค่ะคุณพี่คนสวยพี่ชุด

00:05:52 → 00:05:55 ฟ้านะคะอ่ะไมโครโฟนไปหาคุณพี่ราบชื่อเล่น

00:05:55 → 00:05:58 นิดนึงพี่เขยับตัวรู้เลยนะ

00:05:58 → 00:06:02 คะรู้เลยว่าฉันสวยอ้าสวยสิพี่อ่ะชื่อเล่น

00:06:02 → 00:06:06 นิดนึงค่ะพี่พี่อีดค่ะพี่อีดโอเคพี่อีดขา

00:06:06 → 00:06:08 วันนึงพี่อีดคิดว่าจิบน้ำเนี่ยได้ดื่มน้ำ

00:06:09 → 00:06:12 ประมาณสักกี่ซีซีต่อวันเอ่อถ้าอยู่ที่

00:06:12 → 00:06:16 บ้านดื่มน้ำประมาณ

00:06:16 → 00:06:20 4 เช้า 2 แล้วก็บ 2 โอเคค่ะอ่ะขอบคุณพี่

00:06:20 → 00:06:23 อีดอ่ะขอเสียงปรบมือค่ะพี่อีพูดให้เราฟัง

00:06:23 → 00:06:26 ด้วยความมั่นใจแสดงว่าทำจริงขวดนี้ 600

00:06:26 → 00:06:28 ซีซีนั่นหมายถึงว่า 600 * 4 คือได้เท่า

00:06:28 → 00:06:30 ไหร่คะได้เท่าไหร่

00:06:30 → 00:06:34 คูณเลขค่ะ 2,400 พวกเราคะอย่ากดเครื่อง

00:06:34 → 00:06:37 คิดเลขค่ะเพราะมันจะทำให้สมองเสื่อมนะคะ

00:06:37 → 00:06:40 อ่า 2,400 อ่ะเอารับไมค์จากพี่อีดก่อนค่ะ

00:06:40 → 00:06:42 ทีมงานเดี๋ยวพี่อีดเมื่อย 2,400 ถามว่า

00:06:42 → 00:06:45 เพียงพอมในคุณผู้หญิงค่ะหมอดาว recom ว่า

00:06:45 → 00:06:47 อย่างต่ำอย่างน้อยคุณต้องได้ 1 ลิตรครึ่ง

00:06:47 → 00:06:50 ถึง 2 ลิตรเหตุผลเพราะว่าด้วยร่างกายของ

00:06:50 → 00:06:53 เราแต่ถ้าคุณผู้ชายตัวใหญ่ขึ้นนะคะก็คือ 2

00:06:53 → 00:06:55 ลิตรขึ้นไปแต่ถ้าคนที่ออกกำลังกายอาจจะ

00:06:55 → 00:06:58 มากกว่านั้นคราวนี้ทำไมน้ำดื่มถึงมีความ

00:06:58 → 00:07:01 สำคัญน้ำดื่มที่ดีบอกแล้วไม่ได้โฆษณาน้ำ

00:07:01 → 00:07:04 ให้ใครแต่ว่าต้องเป็นน้ำที่ 3 ปัจจัย

00:07:04 → 00:07:07 สะอาดทางด้านไม่มีเชื้อโรคเชื้อโรคใดๆ

00:07:07 → 00:07:11 เนาะนั่นหมายถึงว่าถ้าเราไปเอ่อแหล่งน้ำ

00:07:11 → 00:07:13 แล้วก็ตักมาดื่มเลยคงไม่ได้อาจจะมีเชื้อ

00:07:13 → 00:07:16 พยาธเชื้อแบคทีเรียอย่างที่ 2 ค่ะคือต้อง

00:07:16 → 00:07:19 ไม่มีเคมีปนเปื้อนเคมีปนเปื้อนไม่ว่าจะ

00:07:19 → 00:07:22 เป็นโลหะหนักนึกออกมยคะสารปนเปื้อนต่างๆ

00:07:22 → 00:07:25 อันที่ 3 ก็คือทางฟิสิกส์ทางกายภาพต้อง

00:07:25 → 00:07:27 ไม่มีฝุ่นดินฝุ่นทรายปนเปื้อนคราวนี้ถ้า

00:07:27 → 00:07:30 น้ำมันจุดขวดเนี่ยในบางครั้งเนี่ยมันยัง

00:07:30 → 00:07:33 ไม่เพียงพอเหตุผลเพราะว่าน้ำบรรจุขวดบาง

00:07:33 → 00:07:35 อย่างไม่ได้มาตรฐานคราวนี้กลับมาที่ว่า

00:07:35 → 00:07:38 น้ำที่ recom เนี่ยแนะนำว่าถ้าเลือกได้นะ

00:07:38 → 00:07:41 คะก็จะเป็นกลุ่มน้ำแร่ที่มีแร่ธาตุเพราะ

00:07:41 → 00:07:44 มีความเป็น่างอ่อนๆจะทำให้เลือดของเรา

00:07:44 → 00:07:46 เนี่ยค่อนไปทางพีที่เขาเรียกว่าเป็นด่าน

00:07:47 → 00:07:50 ก็คือประมาณ 7.4 นะอืคราวนี้การดื่มน้ำ

00:07:50 → 00:07:54 ใครเป็นสาวใหญ่อายุเกินอ่ะ 50 ะกันยกมือ

00:07:54 → 00:07:57 ขึ้นยกมือด้วยความภาคภูมิใจพี่เก่งมากอ่ะ

00:07:57 → 00:08:00 ขอเสียงปบมือให้สาวใหญ่ค่ะ

00:08:00 → 00:08:03 พวกเราบอกเลยนะว่าถ้าพวกเราอายุแบบพี่ๆ

00:08:03 → 00:08:05 เ้าแล้วยังดูแลสุขภาพแบบพี่ๆได้นี่คือ

00:08:05 → 00:08:08 เจ๋งนะบอกเลยว่าพี่ๆหลายๆท่านที่อยู่ใน

00:08:08 → 00:08:11 นี้อายุ 30 ต้นๆแต่สุขภาพสู้พี่ๆไม่ได้นะ

00:08:11 → 00:08:14 การเป็นสาวใหญ่เนี่ยการดื่มน้ำที่มีแร่

00:08:14 → 00:08:18 ธาตุนั้นจะช่วยเรื่องของกระดูกปุนดังนั้น

00:08:18 → 00:08:21 จริงๆไม่ใช่แค่สาวใหญ่แต่สาวน้อยนะคะการ

00:08:21 → 00:08:23 ที่เราดื่มเครื่องดื่มชากาแฟไม่ใช่เป็น

00:08:23 → 00:08:26 สิ่งผิดบาปแต่ว่าอย่าลืมดื่มน้ำเปล่าให้

00:08:26 → 00:08:29 เพียงพอด้วยชากาแฟ 1 แก้วดื่มน้ำทดแทน 2

00:08:29 → 00:08:32 แก้วจิบเบาๆจิบน้อยๆยิ่งถ้าเราเป็นสาว

00:08:32 → 00:08:36 ใหญ่คือสาวที่หมดประจำเดือนแล้ว 45-55

00:08:36 → 00:08:40 คือหมดประจำเดือนดังนั้นค่ะเราควรที่จะ

00:08:40 → 00:08:43 ช่วยกันในเรื่องของดูแลเรื่องของกระดูก

00:08:43 → 00:08:47 สมองหัวใจนึกออกมคะเพราะว่าประจำเดือน

00:08:47 → 00:08:49 เป็นสัญลักษณ์ว่าฮอร์โมนเพศหญิงฮอร์โมน

00:08:49 → 00:08:51 เพศหญิงที่หมดพร่องไปก็จะมีผลตรงนี้เนาะ

00:08:51 → 00:08:54 การดื่มน้ำที่มีแร่ธาตุอ่อนๆจะช่วยตรงนี้

00:08:54 → 00:08:57 นอกจากนี้ค่ะการได้สามน้ำเพียงพอเนี่ยจะ

00:08:57 → 00:09:00 ทำให้ร่างกายทำงานได้ดีด้วยนะคราวนี้ใน

00:09:00 → 00:09:02 คุณผู้ชายเดี๋ยวเอาใจแต่คุณผู้หญิงก็คือ

00:09:02 → 00:09:05 ประมาณ 2 ลิตรถึง 3 ลิตรครึ่งไปจิบน้อยๆ

00:09:05 → 00:09:08 จิบบ่อยๆอ่ะไหนลองจิบสิคะอาจิตเฮ้ยขอน้ำ

00:09:08 → 00:09:11 ให้หมอหน่อยสิคะแซมมี่จิบด้วยค่ะแซมมี่ขา

00:09:11 → 00:09:15 เราต้องขออนุญาตค่ะเสียงแห้งเสียงแห้ง

00:09:15 → 00:09:18 เปิดๆอ่ะนิดนึงจิบจิบเบาๆจิบนิดนึงอ่ะจิบ

00:09:18 → 00:09:21 อ่าแล้วเราก็ถ่ายรูปทุกคนขณะจิบ

00:09:21 → 00:09:24 น้ำไม่ต้องห่วงนะคะเราก็อยากจะเก็บรูปสวย

00:09:24 → 00:09:27 ๆหล่อๆของท่านไว้แต่ของเราตอนนี้มีแต่

00:09:27 → 00:09:31 สุภาพสตรีค่ะอ่า

00:09:32 → 00:09:34 ขอโทษค่ะอ่ะคือที่ให้จิตเนี่ยไม่ต้องดื่ม

00:09:34 → 00:09:37 เยอะเดี๋ยวปวดฉีดวิธีการดื่มน้ำเนี่ยถ้า

00:09:37 → 00:09:41 ท่านดื่มแบบซัโทกอ่ะค่ะโฮกๆสังเกตมสักพัก

00:09:41 → 00:09:43 จะปวดฉี่เพราะว่าร่างกายเนี่ยจะมีระบบเขา

00:09:44 → 00:09:46 เรียกว่าเหมือนระบบความดันในเลือดหลอด

00:09:46 → 00:09:48 เลือดแล้วก็มีระบบของการรักษาสมดุลแร่

00:09:48 → 00:09:51 ธาตุอ่ะเรื่องการกินดื่มน้ำแล้วเนาะต่อไป

00:09:51 → 00:09:56 การกินอาหารเมื่อเช้านี้หลายคนอาจจะทำ If

00:09:56 → 00:09:58 intermittent fasting เคยได้ยินคำนี้ม

00:09:58 → 00:10:02 คะคะรู้ไหว่าถ้าจะอดอาหารจริงๆจะต้องกี่

00:10:02 → 00:10:06 ชั่วโมงอ่ะใครที่ทำอยู่เ้าไม่ใช่ไม่ใช่

00:10:06 → 00:10:09 ลูกของดรอ้นนะคะที่ยกมือน้องกำลังบิดขี้

00:10:09 → 00:10:11 เกียจอ่ะมีใครรู้ไหมคะกี่ชั่วโมงอ่ะให้

00:10:11 → 00:10:15 เดาให้เดา I คือการอดอาหารเพื่อให้ไขมัน

00:10:15 → 00:10:18 หรือว่าร่างกายมันมีการเผลาผลาญอ่ะให้ถ่า

00:10:18 → 00:10:21 ให้ถ่าใครอ่ะ 6 อ่ะพี่จ๋า 6 ใครให้ตัวเลข

00:10:22 → 00:10:25 มากกว่านี้ 14 อ่ะ 12 อ่ะมีมีใครอีกมีใคร

00:10:25 → 00:10:29 อีกคะ 16 16 โอเคคำตอบที่ถูกต้องเอ่อโทษ

00:10:29 → 00:10:33 ถาพี่พูดคำตอบที่ถูกต้องคือ 16 ชมงบวกๆ

00:10:33 → 00:10:35 ขึ้นไปค่ะพี่จ๋าไม่ใช่ 6 นะพี่พี่จ๋าบอก

00:10:35 → 00:10:39 ไม่น่าล่ะฉันไมานานทำไมไม่ผอมมันมีเหตุผล

00:10:39 → 00:10:43 นะคะพวกเราการเผาผลาญอาหารนั้นมันจะเริ่ม

00:10:43 → 00:10:45 นะคะคือเหมือนร่างกายมันรู้แล้วว่าร่าง

00:10:45 → 00:10:49 กายเนี่ยเจ้าของร่างกายอดแน่ๆมันจะรู้ตัว

00:10:49 → 00:10:54 แล้วก็เริ่มที่จะเผาผลาญไขมันใดๆคือ 12-14

00:10:54 → 00:10:57 ชมงคราวเเราไม่รู้ว่ากลไกร่างกายเรามันจะ

00:10:57 → 00:11:00 เป็นกี่ชั่วโมงมันก็ก็เลยกันเหนียวที่ 16

00:11:00 → 00:11:04 ชมมขึ้นไปคราวนี้กลับมาที่เรื่องกินทำไม

00:11:04 → 00:11:07 หมอดาวถึงเตือนเรื่องนี้ใครมีภาวะจุก

00:11:07 → 00:11:10 เสียดท้องอันนี้ไม่ต้องบอกบก็ได้กินอาหาร

00:11:10 → 00:11:12 ไม่ตรงเวลาปุ๊บจุกเสียดท้องดิสเปปเซีย

00:11:12 → 00:11:15 ภาวะนี้ที่เราชอบพูดกดไลย้อนกว่าไลย้อน

00:11:15 → 00:11:19 จริงๆไม่ใช่แค่นั้นภาวะนี้ถ้าคุณเป็นอยู่

00:11:19 → 00:11:21 ถ้าคุณทำงานที่เป็นลักษณะเหมือนทีมงานหมอ

00:11:21 → 00:11:23 ดาวเนี่ยค่ะต้องโอ้โหกระตือรือล้นแิคุณทำ

00:11:23 → 00:11:26 If อดอาหารอาจจะไม่เหมาะสมมันจะทำให้ปวด

00:11:26 → 00:11:29 ท้องทำให้ไม่มีแรงยิ่งถ้าเราเป็นสาใหญ่นะ

00:11:30 → 00:11:33 คะหนุ่มใหญ่มีโรคเบาหวานไขมันความดันคุณ

00:11:33 → 00:11:36 อาจจะไม่เหมาะกับภาวะนี้การทำ If หรือว่า

00:11:36 → 00:11:38 intermittent fasting คือการอดอาหาร

00:11:38 → 00:11:42 ชั่วคราวเพื่อให้เผาผลาญไขมันนึกออกมยคะ

00:11:42 → 00:11:45 ดังนั้นอันนี้บอกไว้ก่อนแต่ว่าการทำ If

00:11:45 → 00:11:48 เนี่ยมันจะได้ผลในคนที่สุขภาพแข็งแรงดี

00:11:48 → 00:11:51 จริงๆนั่นหมายถึงวัยหนุ่มสาวที่คุณไปตรวจ

00:11:51 → 00:11:53 สุขภาพแล้วสุขภาพแข็งแรงเนาะเพราะฉะนั้น

00:11:53 → 00:11:56 If เนี่ยถ้าจะทำเนี่ยขอให้ 16 ชมงบวกๆ

00:11:56 → 00:12:00 ขึ้นไปเา้าก็จะมีสูตรเช่นนะคะเชเช่น 168

00:12:00 → 00:12:04 อ่านั่นหมายถึงว่าติต่างเราไม่กินอาหาร

00:12:04 → 00:12:08 ตั้งแต่กี่โมงดี 18:00 นละกันอ่ะ 18 นบวก

00:12:08 → 00:12:10 ไป 16 ชมเป็นเท่าไหร่อ่ะช่วยกันคลิกค่ะ

00:12:10 → 00:12:15 ติ๊กต 10 นี่เห็นมพี่ฟ้าเอ๊ะใช่มพี่พี่

00:12:15 → 00:12:18 ฟ้าเนาะเออพี่อีดขอโทษขอโทษพี่อีชุดฟ้าขอ

00:12:18 → 00:12:23 โทษพี่อีพี่อีชุดฟ้าของเราบวกเร็วมากอ่ะ

00:12:23 → 00:12:26 ขอิปรบมือให้พี่อีค่ะพี่อีนี่ต้องกิน

00:12:26 → 00:12:29 โอเมก้าแน่ๆเดี๋ยวพวกเราตั้งใจนะเพราะว่า

00:12:29 → 00:12:32 ดรอ้นจะมาพูดเรื่องของโอเมก้าทในหมูและใน

00:12:32 → 00:12:36 ไก่นะคะอ่าพิเศษมากๆนั่นหมายถึงว่าถ้าเรา

00:12:36 → 00:12:39 อดตั้งแต่ 18:00 นหรือ 18:00 นพี่อีดของ

00:12:39 → 00:12:41 เราบอกว่าพี่อยากจะทำเหลือเกินไหมอดาว

00:12:41 → 00:12:44 นั่นหมายถึงพี่อีดต้องเริ่มกินอาหารแบบ

00:12:44 → 00:12:47 ที่มีพลังงานค่ะพี่อีดขาตอน 10:00 นซึ่ง

00:12:47 → 00:12:49 หมอจะไม่ค่อยเรคคอมเมนในสาวใหญ่แบบพี่อีด

00:12:49 → 00:12:52 เพราะว่าใช่พี่เดี๋ยวหวิวเวียนเป็นลมโอห

00:12:52 → 00:12:55 แล้วพี่รู้มว่าถ้าเราหกล้มกันไปกระดูกแตก

00:12:55 → 00:12:58 กระดูกหักมีปัญหาติดเตียงอีกเนาะเพราะ

00:12:58 → 00:13:01 ฉะนั้นเราต้องระวังอ่ะนะคะทีมงานนะคะน้อง

00:13:01 → 00:13:04 ๆที่อยู่ในครัวถ้าจะทำ If ต้องพิจารณา

00:13:04 → 00:13:08 สังขารตัวเองดีๆนะคะต่อไปค่ะการกินแล้ว

00:13:08 → 00:13:11 การกินที่เหมาะสมยังไม่จบแค่นั้นจะต้อง

00:13:11 → 00:13:15 ได้อาหารที่เขาเรียกว่าแคลอรี่หรือปริมาณ

00:13:15 → 00:13:19 เพียงพอแต่คุณภาพก็เพียงพอเช่นกันพวกเรา

00:13:19 → 00:13:21 รู้ไหมว่าส่วนใหญ่แล้วเรามักจะกินอะไรที่

00:13:21 → 00:13:22 เกิน

00:13:22 → 00:13:27 บ้างเฮ้ยต่อมาเถอะแปงแป้งเก่งมากค่ะมี

00:13:27 → 00:13:29 อะไรอีกคะพี่เมย์อันนี้พี่เม์นะคะเป็น FC

00:13:29 → 00:13:32 หมอพี่เมกินอะไรเกินบ้าง

00:13:32 → 00:13:37 คะไม่แป้งแป้งนะคะมีใครกินก๋วยเตี๋ยวกิน

00:13:37 → 00:13:41 ซุปแล้วชอบเติมมยอ่ะมีใครโอเคขอบคุณมาก

00:13:41 → 00:13:45 ทีมงานมีใครกินส้มตำปูงปลาร้ามั้ยกินตำ

00:13:45 → 00:13:50 ซั่โอเคเอ่อกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไม่

00:13:50 → 00:13:53 ต้องบอกยี่ห้อไหนโอเคพวกเราที่พวกเราเป็น

00:13:53 → 00:13:56 กันเนี่ยไม่ใช่แค่อ้วนแต่เราบวมน้ำด้วยนะ

00:13:56 → 00:14:00 ทีมงานโอเคป่ะคราวนี้หมอราแนะให้คือไม่

00:14:00 → 00:14:03 ไม่ได้ว่าเดี๋ยวทีมงานน้อยใจคืออย่างงี้

00:14:03 → 00:14:05 ทีมงานจ๋าอ่ะการกินอาหารกลุ่มที่มี

00:14:05 → 00:14:08 โซเดียมเนี่ยมันทำให้พวกเรามีแรงโซเดียม

00:14:08 → 00:14:11 เนี่ยมีโซเดียม 2 แบบง่ายๆคือโซโซเดียม

00:14:11 → 00:14:14 ที่เค็มคือโซเดียมที่เป็นโซเดียมคลอไรด์

00:14:14 → 00:14:16 คือเกลือกับโซเดียมหวานก็คือกลุ่ม

00:14:16 → 00:14:19 เบเกอรี่ซึ่งปัจจุบันเนี่ยพวกเบเกอรี่ที่

00:14:19 → 00:14:21 เขาพยายามดูแลกันเนี่ยเขาคก็จะพยายามใส่

00:14:21 → 00:14:23 โซเดียมเซเดอะไรน้อยๆหน่อยอ่ะกลับมาที่

00:14:23 → 00:14:26 ว่าโซเดียมเนี่ยมันมีคุณสมบัติในการดูด

00:14:26 → 00:14:29 น้ำเข้ามาแต่มันก็ทำให้เกิดแรงดันในเลือด

00:14:29 → 00:14:31 ทำให้เหมือนกับเลือดมันสุกฉีดดีแต่ในคน

00:14:31 → 00:14:34 ที่มีความดันสูงก็คือแรงดันเลือดมันเยอะ

00:14:34 → 00:14:36 เว่อร์อยู่ละมันก็เลยทำให้เราน่ะอยากให้

00:14:36 → 00:14:40 เขาหลีกเลี่ยงโซเดียมโอเคป่ะอืคราวนี้พวก

00:14:40 → 00:14:43 เราโซเดียมเนี่ยทำให้ดูดน้ำใช่มยมันก็เลย

00:14:43 → 00:14:46 ทำให้บวมน้ำใครเคยไปนอนโรงพยาบาลแล้วออก

00:14:46 → 00:14:50 มาน้ำหนักขึ้นมา 2-3 กลบ้างแล้วหน้าฉุๆ

00:14:50 → 00:14:53 นั่นแหละที่บอกบวมน้ำเกลือคือบวมโซเดียม

00:14:54 → 00:14:57 ถ้าคุณอยากจะลดโซเดียมคุณก็จะลดน้ำลงไป

00:14:57 → 00:15:00 ด้วยและตัวช่วยอันนึงคือผักกลุ่มที่มี

00:15:00 → 00:15:04 โพแทสเซียมสูงผักใบเขียวๆที่มีโพแทสเซียม

00:15:04 → 00:15:07 เมื่อคุณอันนี้ไม่ได้บอกว่าให้ไปกินอาหาร

00:15:07 → 00:15:09 ที่มีโซเดียมสูงของหมักของดองแล้วไปกิน

00:15:09 → 00:15:11 ผักนะแต่หมายถึงว่าถ้าเราจะกินกระจุ๊บ

00:15:12 → 00:15:14 กระจิ๊บหน่อยเราก็กินผักกลุ่มผักเขียวๆ

00:15:14 → 00:15:17 เยอะๆหน่อยเพื่อให้โพแทสเซียมขับโซเดียม

00:15:17 → 00:15:20 ออกไปโอเคป่ะเก็ทเนาะจะได้กินส้มตำกินปู

00:15:21 → 00:15:23 ปลาร้ากินอะไรอย่างมีความสุขแต่ปริมาณต่อ

00:15:23 → 00:15:26 วันปริมาณต่อมื้อเราก็สำเหนียกตัวเองก็

00:15:26 → 00:15:28 คือสำเหนียกนี่ไม่ใช่คำสุภาพใช่มั้ยคะ

00:15:28 → 00:15:31 เป็นคำสุภาพมั้ยคะสำนึกค่ะเป็นคำสำนึก

00:15:31 → 00:15:34 โอเคเดี๋ยวดูแล้วมันไม่ผ่านช่องนะคะสำนึก

00:15:34 → 00:15:37 หน่อยว่าเฮ้ยเราได้เกินไปแล้วเนาะดังนั้น

00:15:37 → 00:15:39 เมื่อกี้ที่พี่เมย์ช่วยตอบหมอดาวก็คือว่า

00:15:39 → 00:15:43 โซเดียมความเค็มที่เรามักจะเกินน้ำซุปค่ะ

00:15:43 → 00:15:46 จุ๊บจิ๊บได้เล็กน้อยนะคะแต่ไม่ควรซดโฮก

00:15:46 → 00:15:49 เพราะอย่าลืมนะคะใน 1 ชามของน้ำซุปเราใส่

00:15:49 → 00:15:53 น้ำปลาไป 2 ถึงแม้มันจางๆไม่ค่อยเค็มแต่

00:15:53 → 00:15:57 ถ้าเราซดโทกไปทั้งชามนั่นหมายถึงเราได้

00:15:57 → 00:16:01 น้ำปลาอยู่ดี 2 ช้อนถูกมเออดังนั้นอันนึง

00:16:01 → 00:16:04 ค่ะจะให้พวกเราหัดลิ้นให้ชินจืดแล้วมันจะ

00:16:04 → 00:16:08 ทำให้พวกเราผอมและหน้าเด็ดด้วยจริงๆหมอ

00:16:08 → 00:16:10 ดาวก็อายุอานามเยอะแล้วแต่หมอดาวเทรนตัว

00:16:10 → 00:16:13 เองให้ไม่เติมอะไรเลยทำให้เราถัดลิ้นให้

00:16:13 → 00:16:17 มันชินจืบแล้วพอที่สำคัญนะพวกเราพอเราชิน

00:16:17 → 00:16:19 จืดแล้วค่ะพอเรากินอะไก็ไปแตะนิดนึงปุ๊บ

00:16:19 → 00:16:21 เราจะรู้เลยว่าอ๋อมันใส่ไอ้นั่นมันใส่ไอ้

00:16:21 → 00:16:24 นี่นะคะจะรู้เลยว่าล้านนี้แอบขี้โกงเรา

00:16:24 → 00:16:26 หรือเปล่าใส่งชูรสหรือเปล่านะคะแต่

00:16:26 → 00:16:29 ออร์แกนิคซไม่ใส่ใช่่ไหมคะไม่ใส่ค่ะไม่

00:16:29 → 00:16:32 ใส่หวัดดีค่ะเชฟโอไม่ใส่เชฟโอบอกไม่รู้

00:16:32 → 00:16:36 ไม่ใส่โอเคค่ะอ่ะเดี๋ยวพวกเราจะได้เจอเชฟ

00:16:36 → 00:16:38 โอนะคะตอนนี้อดใจรอมาดูหมอดาวก่อนอย่า

00:16:38 → 00:16:40 เพิ่งหันไปดูเชฟโอถึงแม้จะหน้าตาดีแค่ไหน

00:16:40 → 00:16:43 นะอ้าหันไปดูกันใหญ่เถอะอ่ะกลับมาค่ะ

00:16:43 → 00:16:45 เมื่อกี้เรื่องกินแล้วเนาะที่เรากินเกิน

00:16:45 → 00:16:49 คือกลุ่มแป้งน้ำตาลนะคะแล้วก็กลุ่มเกลือ

00:16:49 → 00:16:52 นะคะพวกนี้หมอดาวไม่ได้ต่อต้านนะหมอดาว

00:16:52 → 00:16:54 เป็นคนนึงที่ยังรับประทานอาหารแบบพวกเรา

00:16:54 → 00:16:57 ล่ะค่ะแต่เราจะกินอย่างมีสติมีปัญญาใช้

00:16:57 → 00:16:59 วิจารณญาณในการกิน

00:16:59 → 00:17:01 นะคะอีกอันนึงเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆค่ะใคร

00:17:01 → 00:17:03 เคยไปศูนย์อาหาร Food คอร์ดเชื่อว่าทุกคน

00:17:03 → 00:17:08 ไปไปยคะไปมยคะชาว TNN ก็ไปนะคะเรอเนอย่าง

00:17:08 → 00:17:13 นี้พอจองที่แล้วนะคะอย่ารีบไปร้าน 3 ร้าน

00:17:13 → 00:17:16 ให้ไปแค่ร้านเดียวคือร้านที่เราจะกิน

00:17:16 → 00:17:19 อาหารหลักบางคนจะมีวิธีการบริหารจัดการ

00:17:19 → 00:17:22 เวลาที่ดีมากไปสั่งสมมุติสั่งราดหน้า

00:17:22 → 00:17:24 เสร็จเสร็จแล้วก็พี่ๆเดี๋ยวหนูมาเอานะไป

00:17:24 → 00:17:27 สั่งร้านอาหารขนมหวานพี่ๆเดี๋ยวหนูมาเอา

00:17:27 → 00:17:30 นะไปชานงไข่มุกคุณก็จะได้อาหารเต็มโต๊ะ

00:17:30 → 00:17:33 เลยใช่ป่ะปรากฏกินไปอิ่มอิ่มแล้วคำถามคือ

00:17:33 → 00:17:37 เราทิ้งมยคะทิ้งมงไม่ทิ้งอย่ามาทิ้งไม่

00:17:37 → 00:17:41 เชื่อเราเสียดายทำยังไงคะเขมือบจนหมดค่ะ

00:17:41 → 00:17:44 กินจนหมดนั่นแหละค่ะเป็นสาเหตุทำให้เรา

00:17:44 → 00:17:47 ได้รับแคลอรี่ที่เกินนะคะดังนั้นเรอเนแนะ

00:17:47 → 00:17:50 นำค่ะสั่งอย่างเดียวอดใจไว้อดใจไว้เงิน

00:17:50 → 00:17:53 เรายังต้องใช้ในอนาคตนะคะบริหารการเงิน

00:17:53 → 00:17:57 ให้ดีด้วยการกินอย่าง 80% ของท้องที่อิ่ม

00:17:57 → 00:17:59 และเมื่อเื่อเรากินแค่อย่างเดียวเราจะรู้

00:17:59 → 00:18:02 ว่าโหอิ่มและเราจะเอ้ยข้าวเหนียวมะม่วง

00:18:02 → 00:18:05 เดี๋ยวไว้ครั้งหน้าก็ได้นี่คือเคล็ดลับ

00:18:05 → 00:18:08 นึงทำให้ประหยัดเงินแลกศูนย์อาหารมา 200

00:18:08 → 00:18:11 ใช้แค่ประมาณ 60 70 ได้เงินเหลืออีกดีย

00:18:11 → 00:18:14 คะนะคะเพราะฉะนั้นนะคะกินทีละอย่างแต่ถ้า

00:18:14 → 00:18:16 อยากกินจริงๆค่อยเดินลุกขึ้นไปซื้อหลัง

00:18:16 → 00:18:20 จากกินของคาวเสร็จแล้วเนาะเรื่องการกิน

00:18:20 → 00:18:22 แล้วเดี๋ยวเรื่องการนอนไว้ตอนท้ายก็คือ

00:18:22 → 00:18:25 ว่ายังไงก็ตามเนี่ยเขาจะมีเอ่อของเป็น

00:18:25 → 00:18:29 วิทยากรจากที่นอนมาแต่กินนอนเอานอนนิดๆะ

00:18:29 → 00:18:33 กันทุกท่านคะเมื่อคืนใครนอน 22:00 นบ้าง

00:18:33 → 00:18:37 ยกมือหน่อยทีมงานมหยกแน่นอนโอ้พี่อีดค่ะ

00:18:37 → 00:18:40 ขอเสียงปบมือให้พี่อีดนะคะพี่อีดบอกทำไม

00:18:40 → 00:18:42 ได้รับเสียงปบมือก่อพี่มันเป็นกำลังใจพี่

00:18:42 → 00:18:45 เมย์นอนกี่โมงคะ 23:00 นอ่ะไม่เป็นไรเอา

00:18:45 → 00:18:49 ล่ะพวกเรา 22:00 นถึง 2:00 นเวลาดีเวลาดี

00:18:49 → 00:18:52 ในการนอนนะอย่าลืมนะจำอะไรไม่ได้ 22:00 น

00:18:52 → 00:18:54 ถึง 2:00 นชวนแฟนนอนห้ามทำอะไรกันตอน

00:18:54 → 00:18:57 22:00 นถ 2:00 นนะโรมนะทำอะไรหมายถึง

00:18:57 → 00:19:00 นั่งดูดูนั่งดูทีวีนั่งดูเียก็ไปดูตอน

00:19:00 → 00:19:03 เช้านะเออ 22:00 น - 2:00 นเป็นเวลาที่

00:19:04 → 00:19:06 โกทฮอร์โมนจะหลังได้ดีที่สุดนะคะดังนั้น

00:19:06 → 00:19:09 คุณต้องนอนให้หลับสนิทที่สุดการเตรียมตัว

00:19:09 → 00:19:11 นอนก่อน 22:00 นนั่นคือ 20:00 น 21:00 น

00:19:11 → 00:19:16 คุณควรปิดไฟทำไฟให้สลัวสลัวนะคะมือถือค่ะ

00:19:16 → 00:19:19 ส่งลงส่งไลนกันให้เสร็จไม่ใช่มาตึ้งดึงๆ

00:19:19 → 00:19:22 ดึนะคะแฟนเฟิร์นจะคุยกันแชทอะไรกันก็สับ

00:19:22 → 00:19:25 รางให้เสร็จนะคะอ่าส่งไปให้เรียบร้อยแล้ว

00:19:25 → 00:19:28 ปิดเสียงปิดอะไรทุกอย่างเพราะว่าคุณจะ

00:19:28 → 00:19:32 ต้องเตรียมตัวในการนอนหลายๆท่านค่ะเสพ

00:19:32 → 00:19:35 ข่าวไม่ว่าจะเป็นการเมืองขาตกรรมดูหนัง

00:19:35 → 00:19:37 Channel นู่นนี่นั่นไม่ว่ากันค่ะแต่

00:19:37 → 00:19:40 20:00 น recom แนะนำว่าหยุดก่อนพักก่อน

00:19:40 → 00:19:43 เพราะสมองจะ al ตื่นตัวแสงค่ะแสงที่มาจาก

00:19:43 → 00:19:45 iPad เออโทษค่ะไม่ได้ว่าเค้านะคะแต่หมาย

00:19:46 → 00:19:48 ถึงแท็บเล็ตแสงจากเอ่อโทรศัพท์มือถือนู่น

00:19:48 → 00:19:51 นี่นั่นต่างๆนะคะคือถึงแม้เราจะใช้เค้า

00:19:51 → 00:19:54 ต้องใช้ให้ถูกวิธีดังนั้น 20:00 น 21:00

00:19:54 → 00:19:57 นหลีกเลี่ยงวางมันไปค่ะแล้วก็ปิดเสียง

00:19:57 → 00:20:00 โอเคอุ๊ยกลัวจะจังเลยว่าเดี๋ยวกลายเป็น

00:20:00 → 00:20:02 เหมือนมีอะไรนะเล่นด่วนฉุกเฉินตั้งสัร

00:20:02 → 00:20:05 แล้ววางไว้ตรงแถวๆปลายเท้าแต่จริงๆตาม

00:20:05 → 00:20:07 หลักการเขาจะให้ห่างจากหัวเรา 1 เมตร

00:20:07 → 00:20:10 อย่างน้อยมันก็มีงานวิจัยบางส่วนบอกว่า

00:20:10 → 00:20:13 คลื่นสมองมันจะถูกรบกวนด้วยคลื่นเหล่านี้

00:20:13 → 00:20:16 ดังนั้นเราก็เพเซฟว่าอยู่ใกล้ๆนะคะกึ๊กๆๆ

00:20:16 → 00:20:19 ๆโอเคแสดงว่ามีเรื่องโดนฉุกเฉินแต่ถ้าไม่

00:20:19 → 00:20:22 มีก็คือช่างมันเนาะอ่ะประมาณนั้นเพื่อให้

00:20:22 → 00:20:24 นอนหลับสนิทนะคะทีมงานเหลือเวลาอีกกี่

00:20:24 → 00:20:25 นาที

00:20:25 → 00:20:30 คะะ 20 หรือ 2 นาทีสำหรับการพูดค่ะก็

00:20:30 → 00:20:34 สำหรับของะอะไรนะคะ 10 นาทีค่ะอ้า 10

00:20:34 → 00:20:36 นาทีโอเคได้ค่ะคือหมอนาวมีความสามารถ

00:20:36 → 00:20:39 พิเศษในการพูดได้เรื่อยๆค่ะคือต้องบอกนะ

00:20:39 → 00:20:42 คะพวกเราถ้าเรามีลูกหลานที่วันๆมันนั่ง

00:20:42 → 00:20:45 เล่นคนเดียวนั่งเล่านิทานจินตนาการสำคัญ

00:20:45 → 00:20:48 กว่าความรู้สนับสนุนให้เขาเรียนหมอหรือ

00:20:48 → 00:20:50 เรียนอะไรที่มันเป็นการบอกเล่าเรื่องราว

00:20:50 → 00:20:52 ค่ะ telling Story ค่ะหมอจะพูดได้ตอนแรก

00:20:52 → 00:20:55 หมอก็ไม่รู้ตัวเองว่าเอ๊ะเราโรคจิตหรือ

00:20:55 → 00:20:58 เปล่าพูดกับกำแพงพูดเล่าเรื่องได้แต่แต่

00:20:58 → 00:21:00 พอโตมาค่ะเราสามารถมาเล่าให้ทุกท่านฟัง

00:21:01 → 00:21:03 แล้ววันนี้ดีใจมากที่ไม่ได้เล่าให้กำแพง

00:21:03 → 00:21:06 ฟังแต่เล่าให้พี่ฟังพี่ชื่ออะไรนะคะพี่

00:21:06 → 00:21:09 เปิ้ลนะคะโอเคไม่ต้องไมค์เดี๋ยวเสัมภาษณ์

00:21:09 → 00:21:11 พี่เปิ้ลบ้างอืเดี๋ยวพี่เปิ้ลจะเหงาเพราะ

00:21:11 → 00:21:14 ฉะนั้นนะคะอ่ะกลับมาค่ะกินนอนแล้วเหลือ

00:21:14 → 00:21:19 เรื่องอะไรคะพวกเราเรื่องอะไรขับทายไม่

00:21:19 → 00:21:23 ว่าจะอุจจาระปัสสวะเอางี้ถ้าเขินอายไม่

00:21:23 → 00:21:26 ต้องยกมือก็ได้แต่ถ้าภูมิใจยกมือนะใครที่

00:21:26 → 00:21:31 ถ่ายอุจจระทุกวันหสุดยอดสุดยอดพี่จ๋าสุด

00:21:31 → 00:21:36 ยอดเฮ้ยพวกเราบอกเลยนะการขับถ่ายอุจจาระ

00:21:36 → 00:21:40 เนี่ยไม่ใช่เรื่องตลกๆนะคะเหตุผลเพราะว่า

00:21:40 → 00:21:44 ลำไส้เนี่ยจะทำงานทุก 12-24 ชมงท่านไหน

00:21:44 → 00:21:48 ที่กินเจผ่านมาแล้วพบว่าตัวเองเช้าถ่าย

00:21:48 → 00:21:52 อุจจาระเย็นถ่ายอุจจาระแต่อุจจาระของท่าน

00:21:52 → 00:21:54 นะคะต้องขออภัยท่านที่กินข้าวอยู่มี

00:21:54 → 00:21:58 ลักษณะเป็นลำไม่เหม็นเน่าไม่เหม็นบูดมีล

00:21:58 → 00:22:01 ลักษณะเนื้อมากกว่าน้ำแต่นุ่มนวลชวนฝัน

00:22:01 → 00:22:05 เวลาถ่ายออกมารูทวารของท่านไม่แสบเวลาดม

00:22:05 → 00:22:08 กลิ่นเคยดมมยแนะนำให้ดมของตัวเองไม่ต้อง

00:22:08 → 00:22:12 ดมของคนอื่นไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าเหม็นบูด

00:22:12 → 00:22:14 เดินออกมาจากห้องน้ำในคนในครอบครัวเดิน

00:22:14 → 00:22:17 เข้าไปแล้วไม่ด่าว่าเฮ้ยทำไมอึเหม็นจัง

00:22:17 → 00:22:20 โอเคมยคะอันนั้นคือใช้ได้อันนั้นคือการ

00:22:20 → 00:22:23 ถ่ายอุจจาระที่ดีอุจจาระเป็นตัวบ่งชี้

00:22:23 → 00:22:26 สุขภาพของท่านด้วยให้สังเกตอุจจาระทุก

00:22:26 → 00:22:30 ครั้งนะคะพวกเราถ้ามีเลือดแดงๆปนแสบก้น

00:22:30 → 00:22:34 เอ๊ะริสีดวงทวารหรือเปล่าถ้ามีเลือดแดงๆ

00:22:34 → 00:22:37 ปนไม่แสบก้นรสีดวงทวารก็ได้เป็นกลุ่ม

00:22:37 → 00:22:40 เกี่ยวกับเนื้องอกในลำไส้ในทวารหนักก็ได้

00:22:40 → 00:22:44 อุจจาระถ้าสีดำคล้ำเหมือนเฉาก๊วยอันนี้ก็

00:22:44 → 00:22:46 ไม่โอเคยกเว้นเรากินธาตุเหล็กจริงๆนะจ๊ะ

00:22:46 → 00:22:48 แต่ถ้าเราไม่ได้เสริมธาตุเหล็กแบบธาตุ

00:22:48 → 00:22:52 เล็กธาตุเหล็กเนี่ยต้องเอ้ยไม่โอเคะ 2

00:22:52 → 00:22:55 วัน 3 วันติดกันอึไม่โอเคอึเป็นก้อนลำ

00:22:55 → 00:22:58 กระสุนอึเป็นเม็ดๆขี้แพะเ้าเรียกขี้แพะ

00:22:58 → 00:23:01 เนาะไม่โอเคเพราะฉะนั้นกรุณาไปสังเกต

00:23:01 → 00:23:04 อุจจาระของท่านด้วยยังไม่จบแค่นั้น

00:23:04 → 00:23:08 อุจจาระบางคนกินเข้าไปปึ๊บลำไส้ตรงภาค

00:23:08 → 00:23:11 ภูมิใจไม่อ้วนอึกินแล้วอึกินแล้วไปเข้า

00:23:11 → 00:23:15 ห้องน้ำไม่โอเคนะคะไม่ไม่โอเคนะคะแบบแบบ

00:23:15 → 00:23:18 พี่แคทไม่โอเคเลยนะคะเพราะว่าท่านอาจจะมี

00:23:18 → 00:23:23 พยาธเฮ้ยฉันเป็นอะไรนะเป็นสาวสังคมไฮโซ

00:23:23 → 00:23:26 ฉันจะไปติดพยาธได้ยังไงพี่หมอเจอมาหลาย

00:23:26 → 00:23:29 ท่านแล้วค่ะที่ที่มีภาวะนี้แล้วเมื่อตรวจ

00:23:29 → 00:23:33 อุจจาระดูปรากฏว่ามีพยาธินะคะแล้วพอรักษา

00:23:33 → 00:23:36 พยาธปรากฏว่าหายเพราะอย่าลืมว่าการที่คุณ

00:23:36 → 00:23:39 ปึ๊บกินแล้วถ่ายเลยสิ่งที่เกิดขึ้นคือลำ

00:23:39 → 00:23:43 ไส้ยังไม่ทันดูดสันอาหารดีๆเลยยังไม่จบ

00:23:43 → 00:23:46 แค่นั้นแสดงว่าลำไส้คุณเสียสมดุลมเมื่อลำ

00:23:46 → 00:23:49 ไส้เสียสมดุลมันก็ดูดซึมอาหารดีๆไม่ได้

00:23:49 → 00:23:51 มันก็สังเคราะห์กลุ่มที่เป็นโพรไบโอติก

00:23:51 → 00:23:53 จุลินซีชนิดดีไม่ได้มันก็สังเคราะห์

00:23:54 → 00:23:57 วิตามิน B12 ที่ช่วยในเรื่องของหลเอ่อโทษ

00:23:57 → 00:24:00 ค่ะเม็ดเลือดแดงไม่ได้อย่างนี้เป็นต้นนึก

00:24:00 → 00:24:03 ออกป่ะมันมีความสัมพันธ์กันกินนอนขับถ่าย

00:24:03 → 00:24:06 ปัสสาวะเช่นเดียวกันบอกแล้วนะคะสาวใหญ่

00:24:06 → 00:24:09 จิบน้ำน้อยๆจิบบ่อยๆนะคะอ่ะจิบค่ะจิบ

00:24:09 → 00:24:13 แซมมี่อยากจิบน้ำขอจิบน้ำหน่อยค่ะเราจะ

00:24:13 → 00:24:15 อู้กันต่อจิบค่ะจิบนิดนึงสังเกตเมื่อกี้

00:24:15 → 00:24:18 ประมาณ 20 นาทีหมเราให้จิบจิบเบาๆพี่ห้าม

00:24:18 → 00:24:21 สัตวโหกห้ามสัตว์โหกเดี๋ยวปวดฉีดอ่าพี่

00:24:21 → 00:24:25 รู้มยว่าห้องน้ำที่นี่อยู่ที่ไหนชั้นเอา

00:24:25 → 00:24:28 ล่ะชั้น 2 อ่ะเพราะฉะนั้นพี่ไม่ต้องห่วง

00:24:28 → 00:24:31 นะคะสุภาพสตรีท่านใดนะคะอยากขึ้นห้องน้ำ

00:24:31 → 00:24:34 แต่อยากแบบว่าเป็นนางเสลี่ยงนะคะเป็นเจ้า

00:24:34 → 00:24:38 นางนะคะเราจะมีทีมงานยกท่านขึ้นไปล้อเล่น

00:24:38 → 00:24:40 ค่ะไม่ใช่นะคะอยู่ชั้น 2 นะคะดังนั้นจิบ

00:24:40 → 00:24:43 น้อยๆจิบบ่อยๆมีทีมงานมาบอกว่าเหลือเวลา

00:24:43 → 00:24:46 อีกไม่นานไม่เป็นไรค่ะเรายังพูดกันได้กิน

00:24:46 → 00:24:50 นอนถับถ่ายออกกำลังกายใช้คำว่าเคลื่อนไหว

00:24:50 → 00:24:54 ร่างกายกันดีกว่ามาใครใส่ Smart Watch

00:24:54 → 00:24:58 คะทีมงานสรวน้องแซมมี่เดินกี่ 9 เมื่อวาน

00:24:58 → 00:25:01 นี้เอาล่ะ

00:25:01 → 00:25:04 2528 ขอเสียงปรบมือให้แซมมี่หน่อยค่ะเอา

00:25:04 → 00:25:07 วะอย่างน้อยทีมงานของดิฉันนะคะน้องแซมมี่

00:25:07 → 00:25:08 นะคะ

00:25:08 → 00:25:12 2528 เกล้า 9 ไม่ใช่เกล้าพวกเราอยากให้

00:25:12 → 00:25:15 ได้ 19,000 จริงๆแต่ 19,000 จะเกิดขึ้น

00:25:15 → 00:25:17 ได้เมื่อเราไปทำอะไรรู้มยไปเที่ยวต่าง

00:25:17 → 00:25:21 ประเทศญี่ปุ่นไตหวันฮ่องกงใช่มั้ยคะ

00:25:21 → 00:25:23 19,000 เดินกันได้จ้าเพราะมันประมาณ 10

00:25:24 → 00:25:28 กค่ะ 10 กจริงๆไม่ใช่ 10 กแม้วนะคะแต่ว่า

00:25:28 → 00:25:30 เราอยู่เมืองไทยส่วนใหญ่มันร้อนดังนั้น

00:25:30 → 00:25:32 ค่ะอย่างน้อย 5,000 กก็ยังดีหรืออย่าง

00:25:32 → 00:25:34 น้องแซมมี่เราไม่ได้เผาน้องคือคือเขาเป็น

00:25:34 → 00:25:36 ทีมงานที่แบบเขาต้องพยายามเคลื่อนไหวถาม

00:25:36 → 00:25:40 ว่าทำไมถึงแนะนำให้เดินเป็นตัวหลักการ

00:25:40 → 00:25:41 เดินเนี่ยไม่ใช่แค่ได้เคลื่อนไหวร่างกาย

00:25:41 → 00:25:44 หรือว่าผอมนะคะแต่การเดินการเคลื่อนไหว

00:25:44 → 00:25:47 ร่างกายจะทำให้เราท้องอืดน้อยลงหลายๆท่าน

00:25:47 → 00:25:49 รับประทานอาหารเสร็จแล้วนั่งจ่อมอยู่กับ

00:25:49 → 00:25:51 ที่ผู้บริหารทั้งหลายอุยมีเวลาจำกัดนั่ง

00:25:52 → 00:25:54 กินกินเสร็จแล้วก็นั่งนึกออกมคะสิ่งเหล่า

00:25:54 → 00:25:57 เจะทำให้เราเกิดภาวะที่เป็นจุกเสียดแน่น

00:25:57 → 00:25:59 ท้องซียและนานๆเข้าจะเกิดกรดไหลย้อนขึ้น

00:25:59 → 00:26:02 มาได้ดังนั้นอยากให้เดินเหิรวมถึงว่าการ

00:26:02 → 00:26:04 เคลื่อนไหวร่างกายจะทำให้การควบคุมระดับ

00:26:04 → 00:26:07 น้ำตาลได้ดีด้วยอ่ะคราวนี้กลับมาที่ออก

00:26:07 → 00:26:11 กำลังกายไม่มีสไลด์ไม่เป็นไรกลับไปจำให้

00:26:11 → 00:26:15 ได้ว่าขอให้มี 3 อย่างนะพะพวกเรา 1 ออก

00:26:15 → 00:26:17 กำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อการทำงาน

00:26:17 → 00:26:21 ของหัวใจหัวใจของเราไม่ใช่มีไว้ให้คนรัก

00:26:21 → 00:26:24 แต่มีเอาไว้ดูแลตัวเรานะคะดังนั้นค่ะการ

00:26:24 → 00:26:26 เคลื่อนไหวร่างกายที่ให้หัวใจโอเคอ่ะ

00:26:26 → 00:26:29 อนุญาตให้กดเครื่องคิดเลขได้ค่ะทางบ้านก็

00:26:29 → 00:26:31 กดได้ทุกคนหยิบมือถือค่ะห้ามเล่นมือถือ

00:26:31 → 00:26:34 ให้หยิบขึ้นมานะคะเข้าฟังก์ชันเครื่องคิด

00:26:34 → 00:26:37 เลขค่ะ 220 ลบอายุของท่านนะคะอายุของท่าน

00:26:37 → 00:26:41 ไม่ใช่อายุลูกนะคะดรอ้นนะคะแซวดรอ้นเล็ก

00:26:41 → 00:26:44 น้อย 220 ลบอายุของท่านได้เท่าไหร่คะเอา

00:26:44 → 00:26:48 เป็นพี่เปิ้ลค่ะพี่

00:26:48 → 00:26:52 เปิ้ล 220 ลบอายุทีมงานอ้าน้องๆอย่านั่น

00:26:52 → 00:26:55 กดๆจะได้รู้ด้วยว่าต้องออกกำลังกาย 160

00:26:56 → 00:26:59 ได้เท่าไหร่คะ 160 220 ลบอายุพี่ได้ 160

00:26:59 → 00:27:03 เลยหรอเฮ้ยพี่คุณหลอกดาวแล้วพี่ 220 ลบ

00:27:03 → 00:27:06 อายุพี่อ่าขออนุญาตาบอายุ 60 โอเคอ๋อขอ

00:27:06 → 00:27:10 โทษค่ะขอบคุณค่ะพี่เาอายุ 60 สาวใหญ่อ่ะ

00:27:10 → 00:27:13 ได้ 160 160 เนี่ยเขาเรียกว่าอัตราการ

00:27:13 → 00:27:15 เต้นของหัวใจของพี่เปิ้ลที่สูงสุดพี่ขา

00:27:16 → 00:27:19 ถ้าพี่ออกกำลังกายพี่เปิ้ลห้ามห้ามนะห้าม

00:27:19 → 00:27:22 ห้ามให้หัวใจเต้นประมาณนี้นะเพราะอาจจะ

00:27:22 → 00:27:24 เกิดภาวะหัวใจจวายได้อันนี้เขาเรียกว่า

00:27:24 → 00:27:26 Maximum heart rate หมอดาวจะแนะนำเสมอ

00:27:27 → 00:27:32 ไม่ได้นะคะอย่าบ้าพลังนะคะอ่ะเอ่อขอสาวๆ

00:27:32 → 00:27:36 ตัวเองเท่าไหร่คะ 180 180 โอเค 220 อ่า

00:27:36 → 00:27:38 ลบอายุก็เป็น 180 ใช่มซึ่งอันเนี้ยคือ 180

00:27:38 → 00:27:41 เช่นเดียวกันคราวนี้เอาตัวเลขสูงสุดนี้นะ

00:27:41 → 00:27:44 คูณ 0.65 พี่เปิ้ลอย่าเพิ่งเก็บพี่เปิ้ล

00:27:44 → 00:27:47 ก็เร็วเหลือเกิน

00:27:47 → 00:27:54 มา 0.65 ค่ะ 100 117 โอเคเฉลี่ยกรณีของ

00:27:54 → 00:27:57 เรานะคะอ่ะนิดนึงอีกนิดนึงอ่ะอย่างเงี้ย

00:27:57 → 00:28:00 117 อ่ะพี่เปิ้ลได้เท่าไหร่ 104 104

00:28:00 → 00:28:04 โอเคตีเฉลี่ยไปว่าประมาณ 120 Range นะคะ

00:28:04 → 00:28:09 ก็คือ 120 ถึงเอ่อ 100 100-120 เนาะกรณี

00:28:09 → 00:28:11 บ้านเราของเราเมื่อกี้ได้ 104 ก็คือ

00:28:11 → 00:28:15 ประมาณช่วง 90 - 110 0.65 เป็นอัตรา

00:28:15 → 00:28:18 เฉลี่ยที่อยู่ระหว่าง 0.6 - 0.7 เรา

00:28:18 → 00:28:21 ต้องออกกำลังกายให้หัวใจเต้นประมาณนี้

00:28:21 → 00:28:25 แล้วมันจะมีการเบิร์นไขมันที่ดีนะคะทำให้

00:28:25 → 00:28:27 เราผอมลงทำให้ไขมันในเลือดในในเส้นเลือด

00:28:27 → 00:28:31 ลดลงและทำให้หัวใจทำงานได้ดีนะคะก็คือทำ

00:28:31 → 00:28:34 ประมาณ 30 นาทีบวกๆขึ้นไปไม่เกิน 1

00:28:34 → 00:28:36 ชั่วโมงเพราะไม่งั้นร่างกายจะโทมจะแก่จะ

00:28:37 → 00:28:38 เหี่ยวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากการออก

00:28:39 → 00:28:41 กำลังกายอีก 2 ปัจจัยนิดนึงค่ะทีมงานบอก

00:28:41 → 00:28:44 ให้ q&a แต่ว่าขออีกนิดนึงนะทีมงานการ

00:28:44 → 00:28:47 แข็งแรงของกล้ามเนื้อก็สำคัญนะคะโดยเฉพาะ

00:28:47 → 00:28:49 กล้ามเนื้อที่เป็นเ้าเรียก Core Muscle

00:28:49 → 00:28:51 ดังนั้นถ้าเราออกกำลังกายกลุ่มวิ่งกลุ่ม

00:28:51 → 00:28:53 เดินเราจะได้บริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำ

00:28:53 → 00:28:56 ตัวทำให้หกลมได้ยากและอย่างที่ 3 ก็คือ

00:28:56 → 00:28:58 เรื่องเรื่องของการยืดอยู่ยืดเยียนการ

00:28:58 → 00:29:02 โยคะพิติเล่นอะไรอ่ะคะเล่นอะไรคะที่เรา

00:29:02 → 00:29:06 เล่นไม่ใช่กังฟูอ้าเก่งมากไเกกชี้กงนะคะ

00:29:07 → 00:29:09 ตามสวนรุมนะคะไปเล่นซะทำให้เกิดการยืดื่น

00:29:09 → 00:29:12 3 ปัจจัยโอเคมาถึงตรงนี้มีใครมีคำถาม

00:29:12 → 00:29:14 อะไรม

00:29:14 → 00:29:18 คะ 1 2 3

00:29:18 → 00:29:22 4 มีไมค์ให้ด้วยให้กลับบ้านป่ะไม่ใช่นะ

00:29:22 → 00:29:25 คะคุณผู้ชมทางบ้านนะคะวันนี้ดีใจมากๆเลย

00:29:25 → 00:29:28 ที่เราได้ไลฟ์กันนะคะอ่าค่ะขอเสียงจากพี่

00:29:29 → 00:29:32 เปิ้ลหน่อยค่ะคำถามค่ะ

00:29:32 → 00:29:38 คือปกติงทีก็คืออที่นึงเเลแินะคะอันนี้

00:29:38 → 00:29:41 เนี่ยอาทิยนึงถ้าเกิดมากกว่า 3 วันจะเป็น

00:29:41 → 00:29:44 อันตรายอะไโอ้โหขอเสียงปรบมือให้พี่เ

00:29:44 → 00:29:47 หน่อยค่ะพี่การออกกำลังกายที่ดีที่สุดเลย

00:29:47 → 00:29:51 นะพี่ทำทุกวันถามว่าทำไมอ่ะโอเคขอบคุณ

00:29:51 → 00:29:54 ขอบคุณนะคะคือการออกกำลังกายเนี่ยนะคะมัน

00:29:54 → 00:29:57 มีอย่างนี้ค่ะทำไมหมอดาวถึงให้พี่ๆบวกลบ

00:29:57 → 00:29:59 เลขเพราะอันนี้มันยังง่ายหน่อยถ้าเราใช้

00:29:59 → 00:30:04 สมองร่างกายจะรู้ว่าใช้สมองดังนั้นสมองจะ

00:30:04 → 00:30:07 ไม่เสื่อมน้องๆพวกเราถ้าเจ้านายด่าว่า

00:30:07 → 00:30:11 ทำไมแกไม่ใช้สมองแกหัดใช้สมองะมสิเครัก

00:30:11 → 00:30:14 พวกเรานะคะเาไม่อยากให้สมองเราเสื่อมเไม่

00:30:14 → 00:30:17 ได้ด่าเราดังนั้นรุ่นใหญ่รุ่นเลกคะใช้

00:30:17 → 00:30:21 สมองเยอะๆในการคิดเช่นเดียวกันถ้าเราใช้

00:30:21 → 00:30:23 ร่างกายทุกวันร่างกายจะตระหนักรู้ว่าเจ้า

00:30:23 → 00:30:27 ของร่างกายใช้อยู่เจ้าของร่างกายไม่รีบไป

00:30:27 → 00:30:29 ตายที่ไหนไม่ได้ด่านะคะแต่จริงๆเขาจะรู้

00:30:29 → 00:30:31 อย่างนั้นดังนั้นกล้ามเนื้อเนี่ยเขาจะ

00:30:31 → 00:30:34 พยายามที่จะดุดน้ำตาลใช้น้ำตาลเผาผลันไข

00:30:34 → 00:30:38 มันได้ดีอันเนี้ยดังนั้นนะคะต้องบอกว่า

00:30:38 → 00:30:40 ยิ่งพี่ทำได้ทุกวันแต่ทุกอย่างต้องสมดุล

00:30:40 → 00:30:43 หมอดาวจะเน้นย้ำคือครึ่งชั่วโมงถึง 1

00:30:43 → 00:30:45 ชั่วโมงเหตุผลเพราะว่าถ้าเกิน 1 ชั่วโมง

00:30:45 → 00:30:48 ไปแล้วโอกาสที่เราจะแก่จะบาดเจ็บจากการ

00:30:48 → 00:30:50 ที่เกิดอนุมูลอิสระในร่างกายจากการที่เรา

00:30:51 → 00:30:53 บ้าพลังทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บมันจะได้

00:30:53 → 00:30:57 ไม่คุ้มเสียก็ตอบคำถามพี่เปิ้ลนะคะมีคำ

00:30:57 → 00:31:00 ถามอีกมยคะอยากถามว่า

00:31:00 → 00:31:05 ไถ้าทำระยะเวลานานเท่าไหร่แล้วก็เคยได้

00:31:05 → 00:31:09 ยินบอกว่าถ้าทำ is แล้วเราเลิกทำเราจะเ่ง

00:31:09 → 00:31:13 กลับมาในโลกอเนี่ยเป็นคำถามที่ดีมากค่ะ

00:31:13 → 00:31:17 ขอบคุณสำหรับคำถามนะคะโอเคมีๆข้างหลังแอบ

00:31:17 → 00:31:20 ๆอยากทำ If แต่ยังกินส้มตำอยู่โอเคอ่ะที

00:31:20 → 00:31:22 ละเรื่องนะอย่างที่บอกไป Concept ก็คือ

00:31:22 → 00:31:25 ว่าร่างกายของเราเนี่ยเามีความสามารถใน

00:31:25 → 00:31:28 การปรับตัววอร์มากไอ้เนี่ยตามตำราหลายๆ

00:31:28 → 00:31:31 ท่านก็บอกว่า 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือนแต่

00:31:31 → 00:31:34 หมอดาวแนะนำว่าอ่ะลองดูสมมุติว่า 1 เดือน

00:31:34 → 00:31:36 แล้วคุณไม่โทรมไม่อะไรแล้วน้ำหนักรได้ดี

00:31:36 → 00:31:38 รวมถึงว่าอันนี้หมอดาว recom ในเรื่องการ

00:31:38 → 00:31:41 ตรวจเลือดด้วยตรวจเลือดเพื่อดูว่าคุณมี

00:31:41 → 00:31:44 การทำงานตับไตที่ปกติไมเพราะบางครั้งคุณ

00:31:44 → 00:31:47 ทำ If มันมีผลต่อเรื่องของการเผาผลาญไข

00:31:47 → 00:31:51 มันแบบผิดปกติเกิดภาวะคีโตซิสแล้วบางท่าน

00:31:51 → 00:31:54 ทำ If แล้วก็อัดโปรตีนด้วยทำให้การทำงาน

00:31:54 → 00:31:56 ของไตทำงานหนักโหลดหนักการกรองของไตมี

00:31:56 → 00:31:59 ปัญหาด้วยด้วยตรงจุดนี้ค่ะก็คือ recom

00:31:59 → 00:32:01 ว่าบางท่านก็บอก 1 เดือนบางท่าน 3 เดือน

00:32:02 → 00:32:04 ไม่ได้มีตัวเลขคั Point แต่ไม่ควรทำตลอด

00:32:04 → 00:32:07 กาละนานเทอเพราะอะไรเพราะว่าร่างกายจะจำ

00:32:07 → 00:32:11 ได้ว่าเจ้าของร่างกายกำลังทำแบบนี้เขาก็

00:32:11 → 00:32:15 จะปรับตัวไปแบบแบบที่บอกไปและประกอบกับ

00:32:15 → 00:32:17 ว่าร่างกายของเรารวมถึงส่วนใหญ่แล้วถ้า

00:32:17 → 00:32:19 เราอยู่ในวิถีชีวิตที่เราทำงานอย่างเงี้ย

00:32:19 → 00:32:22 al เตขนาดเนี้ยถ้าเราแบบไม่กินโหมันวงนะ

00:32:22 → 00:32:25 นึกออกมั้ยคะสมองมันจะไม่โลดแล่นดังนั้น

00:32:25 → 00:32:27 ต้อง challeng ต้องปรับตรงนี้ด้วยด้วย

00:32:27 → 00:32:31 กลับมาที่ว่าและใช่ไหมพอเรา If เสร็จแล้ว

00:32:31 → 00:32:34 เลิกทำไมมันถึงโยโยร่างกายก็มีการปรับตัว

00:32:34 → 00:32:36 อีกและประกอบกับว่าเจ้าของร่างกายบอกเลย

00:32:36 → 00:32:40 ค่ะวินัยความสม่ำเสมอเหมือนมาคุยเรื่อง

00:32:40 → 00:32:43 กลยุทธ์คือเราต้องเอ่อีย long ter

00:32:43 → 00:32:45 sustainability คือมันจะต้องยาวๆเราจะ

00:32:45 → 00:32:47 ต้องมีชีวิตอยู่ยาวๆถูกมั้ยคะเราจะไม่รีบ

00:32:47 → 00:32:50 ตายตอน 50 ถูกมั้ยคะดังนั้นค่ะการที่เรา

00:32:50 → 00:32:53 แบบว่าพอ If ไปเนี่ยนั่นหมายถึงว่าเฮ้ย

00:32:53 → 00:32:56 ร่างกายจะจะเหมือนกับจะทำยังไงกับร่างกาย

00:32:56 → 00:32:58 ต่อเราก็ต้องมีมีวินัยในการดูแลร่างกาย

00:32:58 → 00:33:00 ต่อว่าโอเคเราจะปรับแคลอรี่ต่อวันยังไง

00:33:00 → 00:33:03 ปรับเข้ากับวิถีชีวิตยังไงออกกำลังกายยัง

00:33:03 → 00:33:08 ไงนอนยังไงปัญหาคือเรามักจะทำเป็นต่อนๆ

00:33:08 → 00:33:11 ไม่ใช่ปลาร้านะคะแต่เป็นแบบว่าเราได้องค์

00:33:11 → 00:33:13 ความรู้นี้มาเอาแล้ว่ะฉันอยากจะทำเราก็ทำ

00:33:13 → 00:33:16 ตรงนี้แต่เราลืมนึกถึง Impact หรือว่าผล

00:33:16 → 00:33:19 กระทบที่มันจะเกิดขึ้นว่าเฮ้ยเราทำตรงนี้

00:33:19 → 00:33:22 is แต่เราลืมไปว่าเราไม่ได้ปรับการกิน

00:33:22 → 00:33:24 เราไม่ได้ปรับการนอนการขับถ่ายเราไม่ได้

00:33:24 → 00:33:27 วางแผนในการปรับตัวว่า If เสร็จแล้วจะยัง

00:33:27 → 00:33:32 ไงกับชีวิตต่ออเอวังก็มีด้วยพระกาชนีมีคำ

00:33:32 → 00:33:34 ถามอีกม

00:33:34 → 00:33:36 คะ

00:33:36 → 00:33:43 ค่ะขอน้ำลืมหน่อยค่ะอ่ะๆๆเปิดๆิดขออนุญา

00:33:43 → 00:33:49 การนอนขอน้ำดเอเร่ฮอร์โมนค่ะแต่ละคนช่วงไ

00:33:49 → 00:33:53 ค่ะต้องนอนเท่าไหร่ในช่วง 22 นถึงถจะ

00:33:53 → 00:33:57 เพียงพอค่ะเช่นเ่อวัยรุ่นควรจะเ่อถ้า

00:33:57 → 00:33:58 สมมติว่าน

00:33:58 → 00:34:03 เริ่องปี 2 รว่าเข้าาเหมกันแต่ก็คำที่ 2

00:34:03 → 00:34:07 คือว่ากรณีคนที่ทำงานแบไม่ได้ปกติเหมือน

00:34:07 → 00:34:10 คนอื่นค่ะเช่นทำงานากกลางคืนนอนเช้าอย่าง

00:34:10 → 00:34:14 เงี้ยค่ะวงชีวิไม่เหมือนกันคต้องลบคมูมัน

00:34:14 → 00:34:18 อยู่ตรงไหนค่ะจะบอกว่าเป็นคำถามที่ดีมากๆ

00:34:18 → 00:34:22 จริงๆค่ะอันนี้คือจะเอาไปสอนลูกด้วยล้อ

00:34:22 → 00:34:26 เล่นค่ะอ่ะคืออย่างงี้ทีละคำถามนะคะเอ่อ

00:34:26 → 00:34:29 การนอนเนี่ยมันคืออะไรเรากลับมาก่อนนะการ

00:34:29 → 00:34:32 นอนเนี่ยมันคือการทำให้เกิดการเจริญเติบ

00:34:32 → 00:34:36 โตในสิ่งมีชีวิตนั้นๆคือมันได้พักกายพัก

00:34:36 → 00:34:39 ใจพักสมองเหมือนเพลงพี่พงษศิษย์คัมภีร์

00:34:39 → 00:34:42 พักกายพักใจหลับตาเถอะนะฝันดีถูกมั้ยคะ

00:34:42 → 00:34:46 เราเกิดทันกันโอเคอ่ะกลับมาที่ว่ามันทำ

00:34:46 → 00:34:50 ให้เกิดการพักและทำให้เกิดการสร้างในเด็ก

00:34:50 → 00:34:54 เด็กก็คือ 0 ปีตั้งแต่ทารกน้อยจนถึงอายุ

00:34:54 → 00:34:56 ประมาณตัวเต็มวัยคือผู้ใหญ่เต็มวัยคือ 25

00:34:56 → 00:35:01 ถึง 30 และอีกฟังก์ชันนึงของการนอนก็คือ

00:35:01 → 00:35:06 การซ่อมแซมการสร้างและการซ่อมคราวนี้โ

00:35:06 → 00:35:09 ฮอร์โมนชื่อมันคือโทแต่ไม่ใช่แค่การสร้าง

00:35:09 → 00:35:14 มันคือการซ่อมการสร้างการซ่อมจะหลังได้ดี

00:35:14 → 00:35:17 จริงๆมันก็คือตอนช่วง 22:00 นถึง 2:00 น

00:35:17 → 00:35:20 ใช่ไมั้ยคะแต่มันมีเาเรียกว่าการทำงานของ

00:35:20 → 00:35:24 ฮอร์โมนที่สอดประสานมีเซโรโทนิน

00:35:24 → 00:35:26 เมลาโทนินเซโรโทนิน

00:35:26 → 00:35:29 อ่ามีอยู่เอ่อโทษนะคะยังไม่ส่งแค่ได้

00:35:29 → 00:35:31 เซโรโทนินเมลาโทนินเอ่อสารตั้งต้นของ

00:35:31 → 00:35:35 เซโรโทนินก็คือกลุ่มปลดอะมิโนที่ิฟานที่

00:35:35 → 00:35:37 มีอยู่ในกล้วยหอมนะดังนั้นกินกล้วยหอมจะ

00:35:37 → 00:35:40 ได้ช่วยสร้างซีโรโทนินทำให้การนอนดีขึ้น

00:35:40 → 00:35:42 เราคงเคยได้ยินเรื่องราวพวกเนี้เนาะเป็น

00:35:42 → 00:35:45 การต่อยอดคราวนี้กลับมาว่ามนุษย์เราตอน

00:35:45 → 00:35:49 ที่เราตัวน้อยๆเนี่ยเน้นสร้างมากกว่าซ่อม

00:35:49 → 00:35:52 ต้องสร้างก่อนสร้างสร้างในเฟสของการสร้าง

00:35:52 → 00:35:56 ทำให้การนอนจำนวนชั่วโมงของการนอนมากกว่า

00:35:56 → 00:36:01 คนโตเต็มวัยอ่ะยังไม่ใช่คนสูงอายุนะพักนะ

00:36:01 → 00:36:05 พี่เปิ้ลพี่เปิ้ลได้ฟังแน่นอนพอเด็กน้อย

00:36:05 → 00:36:07 มันจะเริ่มจากเท่าไหร่อ่ะใครที่เลี้ยงลูก

00:36:07 → 00:36:10 น้อยอุแว้อุแว้จะรู้เลยว่าเด็กจะนอน 12

00:36:10 → 00:36:14 ชมงก่อนหน้านั้นมี 18 ช่ม 12 ชมงเด็กเ่อ

00:36:14 → 00:36:18 ประถมช่วงประมาณเ่าประถมใช่มั้ยคะก็คือจะ

00:36:18 → 00:36:22 10 ชมง 9 ชมง 9-10 ชมเด็กมัธยมเริ่มมา

00:36:22 → 00:36:27 คล้ายๆผู้ใหญ่ 7-8 ผู้ใหญ่ 6-7 เนี้กลับ

00:36:27 → 00:36:31 มานิดนึงรุ่นใหญ่สูงวัยคะไม่ใช่ว่าท่าน

00:36:31 → 00:36:36 ต้องการการนอนที่น้อยลงนะคะโอเคนะคะนะคะ

00:36:36 → 00:36:39 โอเคเพราะฉะนั้นจริงๆแล้วรุ่นใหญ่สูงวย

00:36:39 → 00:36:43 ยังคงต้องการ 6-7 ชมงแต่ที่มันนอนบ่ได้

00:36:43 → 00:36:45 มันนอนแล้วมันตืนหลับๆเพราะร่างกายมัน

00:36:45 → 00:36:47 เสื่อมการนอนเนี่ยมันยังคงเป็นเรื่องของ

00:36:47 → 00:36:51 Active คือร่างกายต้องใช้เรื่เอ่อเขาค

00:36:51 → 00:36:53 เรียกว่าเหมือนพลังงานหรือใช้อะไรบาง

00:36:53 → 00:36:56 อย่างที่ทำให้เกิดการนอนที่มีคุณภาพดีแต่

00:36:56 → 00:37:00 ด้วยพอเราอายุมากขึ้นร่างกายมันเสื่อมทำ

00:37:00 → 00:37:03 ให้เสมือนนะเสมือนว่าเราต้องการนอนน้อยลง

00:37:03 → 00:37:06 ไม่ใช่รุ่นใหญ่ยังต้องการนอน 6-7 ช่วโมง

00:37:06 → 00:37:09 เพื่อซ่อมแซมแต่ด้วยความเสื่อมทำให้มัน

00:37:09 → 00:37:12 นอนบ่ได้มันนอน 3-4 ชั่วโมงมันก็ตื่นขึ้น

00:37:12 → 00:37:17 มาแล้วเรื่องราวแรกดังนั้นกลับมาที่ว่า

00:37:17 → 00:37:19 แล้วจะทำยังไงกับชีวิตเรารู้แล้วว่านี่

00:37:19 → 00:37:22 คือธรรมชาติที่เหมาะสมเหลืออีก 5 นาทีสุด

00:37:22 → 00:37:27 ท้ายโอเคค่ะนั่นหมายถึงว่านั่นหมายถึงว่า

00:37:27 → 00:37:30 เราจะต้องช่วยกันจัดปัจจัยให้เอื้อต่อการ

00:37:30 → 00:37:34 นอนการกินก่อนนอนไม่ถูกต้องอย่างแรงแต่

00:37:34 → 00:37:37 ถ้าท่านใดไปเจอหมอดาวตามเยาวราชตามบรทัด

00:37:37 → 00:37:40 ทองเฮ้เซ High ได้นะคะไม่เป็นไรเป็นบ้าง

00:37:40 → 00:37:43 ไปบ้างขำๆแต่ไม่ใช่เป็นอาจินโอเคป่ะพวก

00:37:44 → 00:37:46 เราเพราะฉะนั้นถ้าจะนอน 22:00 นตามหลัก

00:37:47 → 00:37:49 การคือ 18:00 นต้องกินให้อิ่มแล้วเตรียม

00:37:49 → 00:37:51 ตัวนอนเพราะไม่งั้นจะกลายเป็นนอนหลับไม่

00:37:51 → 00:37:54 สนิทเพราะร่างกายต้องมาย่อยการหลัง

00:37:54 → 00:37:57 อินซูลินจะทำให้ไปรบกวนโทฮอร์โมนมน

00:37:57 → 00:38:00 ฮอร์โมนการซ่อมแซมดังนั้นเนี่ยจะต้องการ

00:38:00 → 00:38:03 กินต้องให้เต็มอิ่มให้พอดีและเอ่อเขา

00:38:03 → 00:38:06 เรียกว่าระยะเวลาคือแบ่งระยะเวลาไว้เผื่อ

00:38:06 → 00:38:08 ให้เราได้นอนอย่างต่อมาด้วยก็คือสิ่งแวด

00:38:08 → 00:38:10 ล้อมเมื่อกี้ที่หมอดาวบอกไปไม่ว่าจะเป็น

00:38:10 → 00:38:13 การปรับแซนสีเสียงต่างๆการนอนไม่ทะเลาะบา

00:38:14 → 00:38:15 แว้งไม่อะไรเอาล่ะค่อยไปทะเลาะพรุ่งนี้

00:38:15 → 00:38:18 ฉันนอนก่อนโอเคป่ะอันนี้คือคำถามแรกเนาะ

00:38:18 → 00:38:21 ดังนั้นเนี่ยก็คือต้องจัดปัจจัยในการนอน

00:38:21 → 00:38:25 คำถามที่ 2 คนที่ทำงานิวเป็นกะโคตรหนขอ

00:38:26 → 00:38:29 โทษค่ะไม่สุภาพสุดๆของความน่าเห็นใจขอโทษ

00:38:29 → 00:38:32 นะคะถ้าไม่สุภาพอ่ะสุดๆของความน่าเห็นใจ

00:38:32 → 00:38:36 เลยก็คือว่าพวกเขาเหล่านั้นมันเป็นงานแต่

00:38:36 → 00:38:39 เราก็ต้องบอกกันตรงๆนะคะว่าเฮ้ยเราโกหก

00:38:39 → 00:38:41 ร่างกายบ่ได้ดังนั้นคุณทำได้ช่วงนี้คือ

00:38:41 → 00:38:44 ช่วงที่คุณยังเป็นผู้ใหญ่ตอนต้นแต่ถ้า

00:38:44 → 00:38:47 เมื่อไหร่ที่คุณเริ่มเข้าสู่วัยกลางคนที่

00:38:47 → 00:38:49 คำว่ากลางคนในที่นี้เราไม่ได้บูลลี่

00:38:49 → 00:38:51 เรื่องอายุแต่หมายถึงเรื่องของสภาพร่าง

00:38:51 → 00:38:53 กายคุณต้องเริ่มปรับมาทำงานเป็นกากกลาง

00:38:53 → 00:38:57 วันนะเพราะว่าคุณหลอกดวงอาทิตย์ไม่ไม่ได้

00:38:57 → 00:38:59 เมื่อไหร่ก็ตามที่เราแสงเห็นแสงดวง

00:38:59 → 00:39:01 อาทิตย์เพียงเล็กน้อยแสงดวงอาทิตย์จะเข้า

00:39:01 → 00:39:04 สู่จอประสาทตาเข้าสู่สมองมีการรับประสาท

00:39:04 → 00:39:08 เอ่อการรับเรื่องของคลื่นจะทำให้การรีเซต

00:39:08 → 00:39:11 สมองเกิดขึ้นทันทีพอเกิดขึ้นทันทีปุ๊บการ

00:39:11 → 00:39:13 หลั่งฮอร์โมนนู่นนี่นั่นคุณหลอกไม่ได้ดัง

00:39:13 → 00:39:16 นั้นคนที่ทำงานชิเฟิเป็นกะเราเลยแนะนำว่า

00:39:16 → 00:39:20 แบบนี้ค่ะพอคุณจะนอนคุณต้องทำ Everything

00:39:20 → 00:39:22 จกบลทุกอย่างเลยให้ใกล้เคียงกับตอนกลาง

00:39:22 → 00:39:25 คืนที่คุณจะนอนคุณต้องพยายามปรับสิ่งแวด

00:39:25 → 00:39:28 ล้อมสุดๆเวลาินอาจจะมีส่วนช่วยแต่ถ้าคุณ

00:39:28 → 00:39:30 ไม่ได้บกพร่องเมลาโทนินมันก็ไม่ได้เรื่อง

00:39:30 → 00:39:33 มันก็ช่วยบได้เหมือนกันมันเลยทำให้เอ้ย

00:39:33 → 00:39:36 ทำไมฉันกินเมลานินแล้วไม่เห็นได้อะไรเลย

00:39:36 → 00:39:39 ไม่เชื่อว่ามันไม่ดีแต่คุณไม่ได้มัน

00:39:39 → 00:39:42 โอเคเนาะตอบคำถามทุกคนนะ

00:39:43 → 00:39:47 คะค่ะขออนุญานะคะค่ะร้องเพลงก็ได้คอีไม่

00:39:47 → 00:39:52 ใช่ค่ะคือจะถามไม่ว่าการหนักค่ะค่ะคือตัว

00:39:52 → 00:39:56 เองเนี่ยเป็นปีเนี้ก็มีปาที่สุขภาพก็อารม

00:39:56 → 00:40:00 ทำให้เอของเข่าเสจะเดินเคลื่อนไหวอะไรไม่

00:40:00 → 00:40:04 ได้เลยคุณหมอกดูก็ให้รถน้ำหนักคุณแม่ก็

00:40:04 → 00:40:08 พยายามทนะคะก็คือว่าคือการทานก็คือระบบง

00:40:08 → 00:40:11 เช้าอยู่เเย็นพยายามทานค่าน้อยลงแล้วทาน

00:40:11 → 00:40:15 ปาเพิ่มขึ้นค่ะคุณหมอก็ไม่ทานพักตกเนี่ย

00:40:15 → 00:40:19 เพราะว่ามันจะกระเพาะไม่ค่อย้อพวก H อ่าๆ

00:40:19 → 00:40:23 ก็ต้องมีพวกผักต้มผักๆอะไอ่าค่ะแต่มันก็

00:40:23 → 00:40:26 มีรถรถยากมากเลยสัก 5 ขี

00:40:26 → 00:40:30 คู่แต่มาช้ามากพยายามลดเรื่อยๆล่าสุดบอก

00:40:30 → 00:40:34 ว่าถ้าจะไม่พาก็คือต้องลดน้ำหนักตลงเป็น

00:40:34 → 00:40:38 ไปได้ยไงก็ถามคุณหมอว่ามันจะมีวิธีการ

00:40:38 → 00:40:41 อะไรที่มันดีกว่าที่คุณแม่ทำโอเคคุณแม่ทำ

00:40:41 → 00:40:44 ้าประมาณตอนนี้ไม่ได้เกิน 2-3 ช้อนเลยนะ

00:40:44 → 00:40:50 ค่ะแต่ว่าเตัวเยอะทตพวกต้มพวกยังชอบตัด

00:40:50 → 00:40:54 ผักแต่ว่าพยามอาหารทอดแต่ก็ยังมันมันจะทำ

00:40:54 → 00:40:56 ออกกลชอบคำถาม

00:40:56 → 00:40:59 พี่อีดหรือแม่อี๊ดนะคะเป็นตัวแทนของ

00:40:59 → 00:41:03 ประชากรทั้งห้องนี้ค่ะทุกคนคะแค่เราหายใจ

00:41:03 → 00:41:06 ก็อ้วนแล้วถูกไหคะถูกค่ะเพราะอะไรคะเพราะ

00:41:06 → 00:41:09 เมื่อไหร่ที่เราอายุแตะ 30 ขึ้นไปค่ะการ

00:41:09 → 00:41:12 เผาผลาญมันลดลงไม่ต้องน้อยใจไปค่ะพี่อีด

00:41:12 → 00:41:14 แม่อีดของเรานะคะขออนุญาตเรียกพี่อีดนะคะ

00:41:14 → 00:41:17 พี่อีดขาคืออย่างงี้ค่ะเอ่อการลดน้ำหนัก

00:41:17 → 00:41:21 เนี่ยพูดง่ายแต่ทำยากถ้าคุณหมอประจำตัว

00:41:21 → 00:41:23 พี่อีดเดี๋ยวอาจารย์เจะมาตีหัวหมอดาวลอง

00:41:23 → 00:41:26 ถามเแล้วอาจารย์ลดยังไงโอไม่ใช่นะคะล้อ

00:41:26 → 00:41:29 เล่นต้องบอกอย่างงี้อ่ะกลับมากลับมาค่ะ

00:41:29 → 00:41:32 ตอนนี้หมอดาวใช้หลักเกณฑ์ที่ว่าถึงแม้ลด

00:41:32 → 00:41:35 ไม่ได้แต่อย่าให้เพิ่มละกันอ้าเพราะอะไร

00:41:35 → 00:41:38 เพราะอย่างน้อยน้ำหนักที่ไม่เพิ่มมันก็ดี

00:41:38 → 00:41:41 กว่าเพิ่มและถึงแม้น้ำหนักไม่เพิ่มก็ให้

00:41:41 → 00:41:44 มวลกล้ามเนื้อเพิ่มและมวลไขมันน้อยลงละ

00:41:45 → 00:41:47 กันดังนั้นจะรู้ได้อย่างไรมันต้องชั่งตรง

00:41:47 → 00:41:50 วัดมันก็จะมีเครื่องที่เรียกว่า Body

00:41:50 → 00:41:53 impedance analysis vi ลองไปหาดูนะคะ

00:41:53 → 00:41:56 พวกเราเา้าจะมีตามศูนย์นู่นนี่นั่นคลินิก

00:41:56 → 00:41:59 อะไรต่างๆลองไปวัดกันดูอันนั้นน่ะจะเป็น

00:41:59 → 00:42:01 ตัวช่วยเรื่องของมวลกล้ามเนื้อไขมันเพราะ

00:42:01 → 00:42:03 ว่าก็มีความสำคัญคราวนี้กลับมาที่ว่าของ

00:42:03 → 00:42:06 พี่อีดมี 2 ประเด็นประเด็นแรกคือมันเป็น

00:42:06 → 00:42:10 วงจรอุบาทนะคะปวดเข่าออกกำลังกายไม่ได้

00:42:10 → 00:42:13 อ้วนอ้วนยิ่งปวดเข่ายิ่งออกกำลังกายเป็น

00:42:13 → 00:42:16 วงจรอุบาทเป็นขาลงคราวนี้เราก็ต้องหาหน

00:42:16 → 00:42:18 ทางที่มันจะได้เคลื่อนไหวร่างกายค่ะพี่

00:42:18 → 00:42:21 อีกในเมื่อเดินไม่ได้จักรยานได้ไหจักรยาน

00:42:21 → 00:42:24 คุณหมอเขาก็จะมีเรอเนว่าอะไรที่เสียทาน

00:42:24 → 00:42:27 ข่าวน้อยก็คือจักรยานเ่อเขาเรียกว่าอาน

00:42:27 → 00:42:29 สูงปรับสูงจักรยานแม่บ้านไม่ใช่จักรยาน

00:42:29 → 00:42:31 เสือหมอบไม่ใช่พี่ีไปบอกลูกชายแล้วลูกชาย

00:42:31 → 00:42:34 เอาเสือหมอบมาให้นี่เบิรดทีนะคะไม่ได้นะ

00:42:34 → 00:42:36 คะคุณลูกชายจะต้องเป็นจักรยานแม่บ้านและ

00:42:36 → 00:42:39 ขี่ต่อนยอนไปเรื่อยๆให้เหงื่อออกซึมๆไม่

00:42:39 → 00:42:42 เอาแบบว่ารถชงรถชนไม่ได้นะคะอันนี้ก็ต้อง

00:42:42 → 00:42:44 แบบหาสถานที่ประเด็นต่อมาก็คือกลุ่มว่าย

00:42:44 → 00:42:47 น้ำถ้าบ้านไหนที่อยู่คอนโดอยู่อะไรที่มี

00:42:47 → 00:42:51 สาวว่ายน้ำก็ดีใจด้วยก็คือใช้วิธีว่าเตะ

00:42:51 → 00:42:54 น้ำเป็นการออกกำลังกายในน้ำอ่าแล้วก็อีก

00:42:54 → 00:42:56 ทีก็คือพวกเครื่องเครื่องในบ้านด้าน

00:42:56 → 00:42:58 เครื่องฉีดที่ไม่ได้งอเข่าอันเนี้ยก็คือ

00:42:58 → 00:43:00 จะเป็นกลุ่มออกกำลังกายต้องมีการเคลื่อน

00:43:00 → 00:43:02 ไหวค่ะพี่อี๊ดพราะไม่เคลื่อนไหวยังไงก็

00:43:02 → 00:43:05 ไม่ลดกลุ่มรับประทานอาหารเอ่อพี่อีพูดอัน

00:43:05 → 00:43:09 นึงคืออ่ะหมอดาวจะพูดให้นะคะผักมีคนถาม

00:43:09 → 00:43:12 ว่าผักสดกับผักสุกอันไหนดีกว่ากันจริงๆ

00:43:12 → 00:43:14 แล้วไม่ใช่ว่าดีกว่ากันแต่คุณต้องมาดูว่า

00:43:14 → 00:43:18 นดีมีด้อยในด้อยมีดีผักสุกในรุ่นใหญ่จะทำ

00:43:18 → 00:43:20 ให้ย่อยง่ายแต่มันจะขาดวิตามินบางส่วน

00:43:20 → 00:43:23 เช่นวิตามินซีวิตามินบีที่สวนเสียไปกับ

00:43:23 → 00:43:25 ความร้อนคุณก็รับประทานจากอาหารกลุ่มอื่น

00:43:25 → 00:43:28 ที่ให้ิน V สูงยกตัวอย่างเช่นลูกเดือย

00:43:28 → 00:43:31 ข้าวกล้องนึกออกมยคะกลุ่มที่เป็นธัญพืช

00:43:31 → 00:43:34 แบบนั้นเป็นต้นแล้วก็เมื่อกี้พี่อีดพูด

00:43:34 → 00:43:37 ถึงเดี๋ยวนะลดน้ำหนักแล้วอ่ะผักแล้วอ่ะ

00:43:37 → 00:43:39 แล้วหมอดาวก็บอกแล้วค่ะเฉลยแล้วว่ามันไม่

00:43:39 → 00:43:42 ลงถ้าถึงแม้ปรับเรื่องอาหารให้ตายเนาะอีก

00:43:43 → 00:43:46 เรื่องนึงที่จะนิดนึงค่ะโปรตีนก็คือต้อง

00:43:46 → 00:43:49 ดูด้วยนะคะดูการทำงานของไตด้วยเนาะไม่

00:43:49 → 00:43:52 งั้นเดี๋ยวมันมีปัญหาโอเคหมดคำถามหมดเวลา

00:43:53 → 00:43:55 แล้วเราต้องกลับเข้าสู่ช่วงพิธีการใช่

00:43:55 → 00:43:57 ไหมยคะ

00:43:57 → 00:44:00 ทุกท่านลืมไปเลยนะคะว่าเราต้องกลับมาสู่

00:44:00 → 00:44:03 ช่วงพิธีการเพราะวันนี้เรามีดรรูปหล่อนะ

00:44:03 → 00:44:06 คะแต่ว่าดอกเตอรนะคะมีผู้ช่วยนะคะมาด้วย

00:44:06 → 00:44:10 ดังนั้นถ้าใครที่เอ่อเหมือนกับว่าอยากจะ

00:44:10 → 00:44:12 รู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของ

00:44:12 → 00:44:16 โอเมก้า 3 เดี๋ยวเรามาคุยกันค่ะก็ในตอน

00:44:16 → 00:44:19 นี้นะคะเป็นช่วงที่เราจะมาเจอกับนะคะขอ

00:44:19 → 00:44:23 เรียนเชิญค่ะดรอนันตวัฒน์คุณธนเตชานนท์

00:44:23 → 00:44:26 ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสำนักวิชาการ

00:44:26 → 00:44:29 อาหารสัตว์บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์จำกัด

00:44:29 → 00:44:32 หรื CP เกี่ยวกับฟารมแบรนด์น้องใหม่ใน

00:44:32 → 00:44:34 เครือ CPF นะ

00:44:34 → 00:44:37 คะ

00:44:37 → 00:44:41 อันสวัสดีค่ะขออนุญาตเรียกดรอ้นนะคะดรอ้น

00:44:41 → 00:44:45 มาเรามานั่งบนเก้าอี้กันนะคะอได้ครับค่ะ

00:44:45 → 00:44:51 ่ะนะคะเป็นเป็นเก้าอี้ที่เ่อต้องค่อยๆ

00:44:51 → 00:44:57 ขึ้นโอเคครับค่ะดอกรตื่นเต้นยคะ

00:44:57 → 00:45:00 ดอกเตอร์บอกไม่น่าถามค่ะดอกเตอร์งั้นหมอ

00:45:00 → 00:45:03 ดาวขออนุญาตเริ่มที่คำถามแรกเลยนะคะได้

00:45:03 → 00:45:06 ครับค่ะแนวคิดการดูแลสุขภาพเชิงรุกผ่าน

00:45:07 → 00:45:09 อาหารของ CPF ค่ะดอกเตอร์คืออะไรคะมีแนว

00:45:09 → 00:45:13 คิดมาอย่างไรคะจริงๆจริงๆทางทางทางเรา

00:45:13 → 00:45:16 เนี่ยก็ก็เอ่อมีการวิจัยนะครับจเดี๋ยวเรา

00:45:16 → 00:45:19 คนเตอร์ไมค์ใกล้ๆนิดนึงค่ะไมค์ไมค์ใกล้ๆ

00:45:19 → 00:45:23 ค่ะจริงๆแล้วทางเราเนี่ยมีเอ่อเน้นเรื่อง

00:45:23 → 00:45:27 การวิจัยนะครับเราเราเอ่อเอเราวิจัยทาง

00:45:27 → 00:45:30 ด้านสุขภาพทางด้านอาหารเนี่ยมาเป็นระยะ

00:45:30 → 00:45:32 นึงแล้วนะครับถ้าย้อนกลับไปก็อาจจะสัก

00:45:32 → 00:45:36 ประมาณปีเริ่มสักปี 2008 2009 ช่วงๆนั้น

00:45:36 → 00:45:38 นะครับแล้วก็สนใจที่ว่าเอ่อเนื่องจากเรา

00:45:39 → 00:45:41 เราเราธุรกิจด้านอาหารนะครับแต่ว่าเราก็

00:45:41 → 00:45:44 อยากรู้ว่าถ้าเกิดว่าเราธุรกิจได้อาหาร

00:45:44 → 00:45:48 เนี่ยอาหารเนี่ยเราเราควรจะทำยังไงให้ให้

00:45:48 → 00:45:50 ให้อาหารเนี่ยผู้บริโภคทานเข้าไปแล้วมี

00:45:50 → 00:45:54 สุขภาพดีนะครับเราก็เริ่มดูว่าเอ๊เอิ่ม

00:45:54 → 00:45:57 ช่วงนั้นเนี่ยก็ก็มีเทรนเทรนสุขภาพเชิง

00:45:57 → 00:46:00 ลุกจากต่างประเทศที่เรียกว่า functional

00:46:00 → 00:46:04 Food กินอาหารเป็นยาทานอาหารให้สุขภาพดี

00:46:04 → 00:46:08 เลือกที่จะทานอาหารเอ่อรดหวานรดเค็มรดมัน

00:46:08 → 00:46:11 แล้วสุขภาพก็จะดีขึ้นเราก็เริ่มเราก็

00:46:11 → 00:46:13 เริ่มสนใจเริ่มตรงนั้นเราก็เริ่มมีงาน

00:46:13 → 00:46:15 วิจัยเกี่ยวกับตรงนั้นออกมานะครับจน

00:46:15 → 00:46:19 กระทั่งมาสักประมาณปีเอิ่ 2014 2015 นะ

00:46:19 → 00:46:23 ครับทางเราก็มีการเอ่อเรียกว่า

00:46:23 → 00:46:25 collaborate กับทางมหาวิทยาลัยต่าง

00:46:25 → 00:46:28 ประเทศนะครับที่สหรัฐอเมริกานะครับเราก็

00:46:28 → 00:46:30 มีการ collaborate ว่า

00:46:30 → 00:46:34 เอ่อวิธีที่จะดูว่าอาหารเนี่ยเราอยากที่

00:46:34 → 00:46:37 จะรู้ว่าถ้าเกิดว่าเอ่ออาหารที่เราสร้าง

00:46:37 → 00:46:39 ขึ้นมาอาหารที่เราทำขึ้นมาเนื้อหมูเนื้อ

00:46:39 → 00:46:42 ไก่ไข่ของเราเนี่ยเอ่อเราจะรู้ได้ยังไง

00:46:42 → 00:46:45 ว่าเอ่อทานแล้วเนี่ยมีสุขภาพดีนะครับแล้ว

00:46:45 → 00:46:48 ก็มีความร่วมมือกับมาลัยต่างประเทศดูว่า

00:46:48 → 00:46:52 เอ่อเรียนรู้กับเขาว่าเอ่อมีวิธีการที่จะ

00:46:52 → 00:46:57 ทดสอบใช้เอ่อเทคนิคทางเชิงเรียกว่า PR

00:46:57 → 00:46:59 clinical Research นะเป็นงานวิจัยเชิง

00:46:59 → 00:47:03 พิินะครับดูว่าให้ให้สัตว์ทดลองทานแล้วก็

00:47:03 → 00:47:06 ดูว่าสุขภาพของสัตว์เนี่ยดีขึ้นเราก็จะมี

00:47:06 → 00:47:09 ความมั่นใจมากขึ้นว่าเอ่อสินค้าของเรา

00:47:09 → 00:47:12 เนี่ยดีต่อสุขภาพจริงก็มีงานวิจัยเรื่อยๆ

00:47:12 → 00:47:15 ๆๆมานะครับหังจากนั้นก็ดูว่าเอ๊ะถ้าเกิด

00:47:15 → 00:47:19 ว่าเอ่อคนเราก็ได้ยินคซที่ว่าเ่อ you are

00:47:19 → 00:47:22 what you eat นะครับก็ทานอะไรเราก็ได้

00:47:22 → 00:47:26 อย่างนั้นนะครับเราก็ือว่าเอ่อถ้าือว่า

00:47:26 → 00:47:28 เราทานอาหารดีๆเนี่ยเราก็จะมีสุขภาพดี

00:47:28 → 00:47:31 ขึ้นนะครับเราก็เริ่มสนใจว่าเอ๊ะถ้าอย่าง

00:47:31 → 00:47:35 นั้นเอ่อหมูไก่เราเนี่ยถ้าให้เขาทานอาหาร

00:47:35 → 00:47:39 ดีๆวัตถุดิบดีๆมีโอเมก้า 3 เนี่ยสุขภาพ

00:47:39 → 00:47:43 เขาจะดีขึ้นมยก็เป็นงานวิจัยที่สร้างๆๆ

00:47:43 → 00:47:46 ขึ้นมาเรื่อยๆนะครับอแสดงว่าตรงจุดนี้

00:47:46 → 00:47:49 เนี่ยค่ะทราบมาว่าก็คือเป็นแบรนด์ฟารมถูก

00:47:49 → 00:47:52 มั้ยคะซึ่งแบรนดฟารมเนี่ยก็คือจะมีแนวคิด

00:47:52 → 00:47:55 ในการที่ให้หมูให้ไก่รับประทานอาหารกลุ่ม

00:47:55 → 00:47:58 ที่มีโอเมโมก้า 3 แล้วคราวนี้ในเรื่องของ

00:47:58 → 00:48:00 เอ่อที่ดอกเตอรบอกไปค่ะว่าถ้าหมูไก่รับ

00:48:00 → 00:48:03 ประทานโอเมก้า 3 แล้วมันจะดีอย่างไรบ้าง

00:48:03 → 00:48:06 อยากให้ขยายความอนิดนึงค่ะจริงๆแล้ว

00:48:06 → 00:48:10 เอิ่มทางทางทางทางเรานะครับก็วิจัยสูต

00:48:10 → 00:48:12 อาหารนะครับเราก็อยากรู้ว่าถ้าเกิดว่าให้

00:48:12 → 00:48:16 หมูไก่เนี่ยทานอาหารที่มีส่วนประกอบของ

00:48:16 → 00:48:19 วัตถุดิบดีๆจากธรรมชาติที่มีโอเมก้า 3 นะ

00:48:19 → 00:48:23 ครับก็เป็นวัตถุดิบที่อย่างเราเราทานๆกัน

00:48:23 → 00:48:26 นะครับอย่างลแกซที่มีโอเมก้า 3 สอนะครับ

00:48:26 → 00:48:31 แล้วก็เป็นเอ่อมีสาไหล่ทะเลน้ำลึกนะครับ

00:48:31 → 00:48:34 แล้วก็มีน้ำมันปลานะครับอเราก็เอา 3 สิ่ง

00:48:34 → 00:48:37 เนี้ยเอ่อใส่เข้าไปในศูนยอาหารหมูอาหาร

00:48:37 → 00:48:39 ไก่ของเราแล้วก็ดูว่าหมูไก่เนี่ยมีการตอบ

00:48:39 → 00:48:42 สนองยังไงมีการสะสมโอเมก้าเพิ่มขึ้นมแล้ว

00:48:42 → 00:48:44 สุขภาพของหูของไก่เนี่ยเป็นยังไงเราก็มี

00:48:44 → 00:48:47 งานวิจัยตรงนี้รองรับทั้งหมดนะครับแล้วก็

00:48:47 → 00:48:51 ค่ะเราก็เจอว่าพอๆพอพอหมูทานพวกนี้เข้าไป

00:48:51 → 00:48:54 เนี่ยก็สามารถสะสมโอเมก้าได้นะครับแล้ว

00:48:54 → 00:48:57 ประมาณนี้ครับคือคือกำลังจะบอกว่าฟังดู

00:48:57 → 00:49:00 แล้วหมูไก่สุขภาพดีกว่าพวกเราอีกค่ะรู้

00:49:00 → 00:49:03 สึกอยากไปเป็นหมูไก่ให้เไม่ใช่นะคะเอ่อก็

00:49:03 → 00:49:06 ตรงนี้นะคะจะเป็นหมูนะคะชื่อว่าหมูชีวา

00:49:06 → 00:49:09 กับไก่เบญจานั่นเองแล้วคราวนี้สงสัยค่ะ

00:49:09 → 00:49:12 ดอกเตอร์ในเมื่อหมูไก่เนี่ยเขารับประทาน

00:49:12 → 00:49:14 อาหารที่มีโอเมก้า 3 นั่นหมายถึงในตัวเขา

00:49:14 → 00:49:17 เนี่ยมีโอเมก้า 3 แต่โอเมก้า 3 เนี่ยถ้า

00:49:17 → 00:49:19 โดนความร้อนแล้วมีการปรุงสุกแล้วเนี่ยมัน

00:49:19 → 00:49:22 จะเสียสภาพคราวนี้ถ้าหมูไก่ตรงจุดเนี้ย

00:49:22 → 00:49:25 เราไปผ่านความร้อนแน่นอนว่าโอเมก้า 3 จะ

00:49:25 → 00:49:30 เป็นยังไงคะเอ่อจริงๆแล้วโอเมก้า 3 นะ

00:49:30 → 00:49:32 ครับก็จะมีด้วยกันหลาย 3 ตัวนะครับหลักๆ

00:49:33 → 00:49:36 ก็มี ALA epa dha นะครับซึ่ง 3 ตัว

00:49:36 → 00:49:39 เนี้ยคุณสมบัติเขาจะมาเนื่องจากเเป็นไข

00:49:39 → 00:49:42 มันนะครับเจะทนความร้อนค่อนข้างสูงนะครับ

00:49:42 → 00:49:44 ก็ถ้าเกิดว่าดูตามหลักวิทยาศาสตร์เนี่ย

00:49:44 → 00:49:48 เอ่อโอเมก้า 3 3 ตัวเนี้ยเขาจะมีเอ่อจุด

00:49:48 → 00:49:51 ที่จะเสียสภาพนะครับอยู่ที่สักประมาณ

00:49:51 → 00:49:54 300-400 องศเซซนะครับซึ่งโดยปกติแล้ว

00:49:54 → 00:49:57 เวลาเราทำทำอาหารเนี่ยเวลาเราทำอาหารไทย

00:49:57 → 00:50:00 ไม่ว่าจะเป็นการผัดการทอดต้มย่างเนี่ย

00:50:00 → 00:50:02 อุณหภูมิของเนื้อสัตว์ที่ถูกที่ที่ถูก

00:50:02 → 00:50:06 ความร้อนเนี่ยก็จะอยู่ภายในประมาณ 2 -300

00:50:06 → 00:50:09 องศาไม่เกินนะครับก็ก็ถ้าเกิดว่าตามตาม

00:50:09 → 00:50:12 ทฤษฎีเนี่ยก็จะไม่ทำให้เสียสภาพนะครับ

00:50:12 → 00:50:16 แล้วก็นอกจากนั้นทางเราก็มีการวิจัยเพิ่ม

00:50:16 → 00:50:19 เติมนะครับว่าเอ่อเราเอาเนื้อหมูชีวา

00:50:19 → 00:50:21 เนื้อไก่เป็นจานนะครับมา

00:50:21 → 00:50:24 เอ่อมามาปรุงอาหารนะครับก็ไม่ว่าจะเป็น

00:50:24 → 00:50:27 การทอดย่างอย่างนี้นะครับแล้วก็เอ่อวัด

00:50:27 → 00:50:30 ปริมาณโอเมก้า 3 ก่อนที่จะทำอาหารแล้วก็

00:50:30 → 00:50:32 หลังจากที่ปรุมเสร็จแล้วนะครับก็พบว่า

00:50:33 → 00:50:35 ปริมาณโอเมก 3 ก็ยังเท่าเดิมอยู่นะครับ

00:50:35 → 00:50:38 ไม่ได้ลดลงค่ะแล้วในงานวิจัยรวมถึงการ

00:50:38 → 00:50:40 พัฒนาผลิตภัณฑ์ค่ะดอกเตอร์เรามีการใส่

00:50:41 → 00:50:44 อะไรเพิ่มเติมลงไปอีกมั้ยคะจริงๆแล้วหมู

00:50:44 → 00:50:47 ชีวากับไก่เบนจาของเรานะครับเนื่องจากเรา

00:50:47 → 00:50:50 เราเลี้ยงโดยที่เอ่อเรียกว่าปลอดยา

00:50:50 → 00:50:53 ปฏิชีวนะนะครับก็คือว่าเอ่อทั้งหมูทั้ง

00:50:53 → 00:50:56 ไก่ไม่ได้ใช้ยาปฏิชีวนะตลอดตลอดการเลี้ยง

00:50:56 → 00:50:58 ดูนะครับอย่างถ้าเกิดว่าในหมูเนี่ยเราก็

00:50:58 → 00:51:02 จะไม่ได้ใส่ตั้งแต่เรียกว่าตั้งแต่แม่ของ

00:51:02 → 00:51:05 เขานะครับในแม่เเลยก่อนที่แม่เขาจะคลอด

00:51:05 → 00:51:07 ลูกของเขมาเนี่ยในแม่เนี่ยเราก็ไม่ได้ใส่

00:51:07 → 00:51:09 อาหารเราก็ไม่ได้ใส่ยาปัติชีวะในอาหารของ

00:51:09 → 00:51:12 แม่นะครับพอลูกคลอดออกมาเนี่ยเอ่อในอาหาร

00:51:12 → 00:51:14 เที่ลูกทานเนี่ยเราก็ไม่ใส่อีกนะครับ

00:51:14 → 00:51:17 ฉะนั้นหมูชีวาแแจาเนี่ยตลอดชีวิตเขาเนี่ย

00:51:17 → 00:51:20 จะไม่ไม่ไม่เคยเจอยาปฏิชีวนะเลยนะครับ

00:51:20 → 00:51:23 ฉะนั้นพอไม่มียาปฏิชีวนะเนี่ยเรื่องสารตก

00:51:23 → 00:51:26 ค้างอะไรต่างๆเนี่ยก็ก็เรียกว่างใจได้นอก

00:51:26 → 00:51:30 จากนั้นทางทางเราก็ได้เอ่อเรียกว่ามีทาง

00:51:30 → 00:51:33 บริษัทชื่อว่า nsf นะครับ nsf เนี่ยเป็น

00:51:33 → 00:51:34 เรียกว่าเป็น

00:51:34 → 00:51:40 เอ่อเป็นองค์กรเอ่อของสหรัฐอเมริกานะครับ

00:51:40 → 00:51:43 เป็นองค์กรที่เขาจะทำหน้าที่ certify นะ

00:51:43 → 00:51:45 ครับ certify ทางด้านอาหารทางด้านความ

00:51:45 → 00:51:48 ปลอดภัยนะครับก็จะ certify ว่าเขาก็จะ

00:51:48 → 00:51:50 certify หลายอย่างนะครับเป็นอุปกรณ์

00:51:50 → 00:51:53 เชื่องใช้ไฟฟ้ายาน้ำอะไรต่างๆรวมถึงอาหาร

00:51:53 → 00:51:56 ด้วยนะครับก็ของเราก็ได้ certify จาก

00:51:56 → 00:51:59 บริษัทนี้ว่าเอ่อเป็น Rest without

00:51:59 → 00:52:01 antibiotic ก็คือเลี้ยงโดยปราศจากยาปติ

00:52:01 → 00:52:05 ชีวนะนะครับนั่นหมายถึงว่าอาหารเนี่ยเป็น

00:52:05 → 00:52:09 ที่มาของเอ่อสารอาหารดีๆในมนุษย์เราเนาะ

00:52:09 → 00:52:12 แล้วก็ตรงนี้นะคะเอ่อดรก็ให้ความรู้ความ

00:52:12 → 00:52:15 เข้าใจในเรื่องของหมูไก่ที่เขามีโอเมก้า 3

00:52:15 → 00:52:21 จากธรรมชาติมาถึงตรงนี้ค่ะท่านใดมีคำถามม

00:52:21 → 00:52:25 คะแสดงว่าดอกเตอร์ได้ให้ความรู้ความใจทุก

00:52:25 → 00:52:30 ท่านมีมั้ยคะพี่จะบอกว่าเอาไปทำเมนูอะไร

00:52:30 → 00:52:33 ก็มีมีเมนูแนะนำมั้ยคะในในงานวิจัยตอน

00:52:33 → 00:52:35 วิจัยนี้อยากรู้จริงๆเป็นการส่วนตัวจริงๆ

00:52:35 → 00:52:39 แล้วเอ่อปกติเวลาเราทำวิจัยนะครับก็เมนู

00:52:39 → 00:52:42 ที่เราใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเอาไปย่าง

00:52:42 → 00:52:45 กับการเอาไปต้มสเป็นส่วนใหเพราะว่าย่าง

00:52:45 → 00:52:48 กับต้มเนี่ยเป็นเอ่อค่อนข้างเอ่อเบสิค

00:52:48 → 00:52:51 เป็นการปูกที่ค่อนข้างเบสิคในทุกๆคเรือน

00:52:51 → 00:52:53 นะครับรนถือว่าในร้านอาหารเนี่ยก็จะหนีไป

00:52:53 → 00:52:56 บน 2 2 เมนูนี้ต้มกย่างต้มกับย่างนะคะ

00:52:56 → 00:52:59 แล้วเดี๋ยวเชฟโอจะมาทำค่ะและสุดท้ายค่ะ

00:52:59 → 00:53:02 อยากให้ดรออ้นชิ้งท้ายค่ะเอ่อเหมือนกับ

00:53:02 → 00:53:06 ว่าให้ฝากเอาไว้ให้คุณผู้ชมรวมถึงทางบ้าน

00:53:06 → 00:53:09 ด้วยว่าในเรื่องของการดูแลสุขภาพการเลือก

00:53:09 → 00:53:13 อาหารหมูไก่อย่างไรบ้างคะเอ่อจริงๆแล้ว

00:53:13 → 00:53:16 อาหารไทยนะครับถ้าเกิดเราพูดถึงอาหารไทย

00:53:16 → 00:53:18 โดยรวมนะครับอาหารไทยเนี่ยเป็นอาหารที่

00:53:18 → 00:53:22 โดยเฉพาะช่วงหลังๆนะครับก็จะเห็นว่ามี

00:53:22 → 00:53:25 กระแสค่อนข้างดีนะครับในในเชิงของเอ่อ

00:53:25 → 00:53:27 ต่างชาติให้ความสำคัญกับอาหารไทยนะครับ

00:53:27 → 00:53:30 อาจจะเป็นว่าอาหารไทยเนี่ยมีองค์ประกอบ

00:53:30 → 00:53:32 ที่ค่อนข้างหลากหลายนะครับไม่ว่าจะเป็น

00:53:32 → 00:53:37 เอ่อพวกเอิ่แนิออกซินก็สูงนะครับผัดก็

00:53:37 → 00:53:40 เยอะไฟเบอร์ก็สูงวิตามินก็สูงนะครับผมคิด

00:53:40 → 00:53:43 ว่าการที่การที่เราบูชีวาไก่เต็มจาของเรา

00:53:43 → 00:53:47 เนี่ยเป็นการที่เราทำให้วัตถุดิบสำหรับทำ

00:53:47 → 00:53:50 อาหารไทยเนี่ยเอ่อมีคุณสมบัติที่ดีเพิ่ม

00:53:50 → 00:53:53 ขึ้นไปอีกนะครับนอกจากมีไฟเบอร์สูงอะไร

00:53:53 → 00:53:56 ต่างๆอหารไทยก็ยังมีโอกาสที่จะมีโอเมก้า 3

00:53:56 → 00:53:58 เพิ่มขึ้นมาจากเนื้อสัตว์ที่ใช้ด้วย

00:53:58 → 00:54:00 เหมือนกันนะครับอย่าจะคิดว่าอันเนี้ยเป็น

00:54:00 → 00:54:04 การที่สร้างเอ่อสร้างนวัตกรรมอาหารไทยให้

00:54:04 → 00:54:08 มีให้ดีต่อสุขภาพทั้งทั้ทั้งหมดนะครับค่ะ

00:54:08 → 00:54:13 ก็อ้าพี่อีขออนุญาตถามนิดนึงนะ

00:54:13 → 00:54:18 คะค่ะขออนุญาตอันนี้เดี๋ยว

00:54:18 → 00:54:22 เราฮัลโหลคืออย่างงี้นะคะคุณแม่เนี่ยจะ่า

00:54:22 → 00:54:26 ของของ C

00:54:26 → 00:54:31 นะฮะไม่เห็นชีวาพกับเจานินความงขายเป็นกบ

00:54:31 → 00:54:36 ของสพหรือว่าวางขายแบบสำเร็จรูปแรงเดี๋ยว

00:54:36 → 00:54:38 เดี๋ยให้ทำทีมทางทีม Marketing ตอบให้

00:54:38 → 00:54:40 หน่อยได้ยคะ

00:54:40 → 00:54:44 คุณแล้วก็ไปซื้อมาตลอดอ๋อพี่บอกอยากซื้อ

00:54:45 → 00:54:48 เพราว่าเราเชื่อว่าผลิตมาดีเราต้องของให้

00:54:48 → 00:54:52 มีสุขภาพดีไม่เห็นแต่บ้านอยู่เมืองนนท์ออ

00:54:52 → 00:54:55 บ้านอยู่เมืองนนท์อ่ะค่ะอันนี้ต้องให้ฟัง

00:54:55 → 00:54:58 ่าทางการตลาดตอบหน่อยนะ

00:54:58 → 00:55:02 คะอ่ะตอบไมคหน่อยค่ะตอบไค

00:55:02 → 00:55:07 ตยังไม่มีใช่เอ่อจริงๆแล้ว

00:55:07 → 00:55:11 มีจริงๆแล้วจริงๆแล้วหมูชีวากับเดจาก็

00:55:11 → 00:55:14 เอ่อมีนะครับอาจจะเป็นบางสาขาเดี๋ยวทาง

00:55:14 → 00:55:17 เราจะจะเช็คแต่นอกเือจาก CP fr เนี่ยตาม

00:55:17 → 00:55:22 ทอปตาม foodland Time maret ก็จะมีทั้ง

00:55:22 → 00:55:28 หมดัก็จะมีกันครับค่ะก็ไม่เป็นไรค่ะก็

00:55:28 → 00:55:31 ต้องขอบคุณสำหรับคำถามนะคะนี้เป็นคำถาม

00:55:31 → 00:55:35 เชิงทางการจัดซื้อเลยทีเดียวนะคะค่ะก็ตรง

00:55:35 → 00:55:37 นี้นะคะต้องขอบคุณค่ะดรอ้นหรือดร

00:55:38 → 00:55:41 อนันตวัฒน์ค่ะคุณธเตชานนท์ผู้ช่วยกรรมการ

00:55:41 → 00:55:43 ผู้จัดการสำนักวิชาการอาหารสัตว์บริษัท

00:55:43 → 00:55:47 เจริญพภพจำกัดที่มาให้ข้อมูลกับและคุณผู้

00:55:47 → 00:55:49 ชมในวันนี้ขอบคุณนะ

00:55:49 → 00:55:53 คะทีมงานรับดค่ะเอาล่ะ

00:55:54 → 00:55:58 ค่ะระหว่างนี้นะคะเดี๋ยวเราจะมีการคุยกับ

00:55:58 → 00:56:00 คนพิเศษเพราะว่าจะเป็นช่วงของความพิเศษ

00:56:00 → 00:56:02 สุดๆ

00:56:02 → 00:56:06 ค่ะตอนนี้ระหว่างที่ทีมงานกำลังเตรียม

00:56:06 → 00:56:10 พร้อมนะคะเราอยากจะเชิญท่านหนึมาคุยกับ

00:56:10 → 00:56:12 เราแต่ระหว่าง

00:56:13 → 00:56:17 ที่จะได้คุยนั้นต้องจัดสถานที่แต่ถ้าจะ

00:56:17 → 00:56:19 จัดสถานที่แล้วทิ้งเวลาให้เป่าลๆก็ไม่ใช่

00:56:19 → 00:56:22 หมอดาวสิคะเป็นยังไงกันบ้างคะเราขอฟัง

00:56:22 → 00:56:27 เอ่อเสียงเสียงเอ่อขอไมค์ค่ะขอไมค์อ้า

00:56:27 → 00:56:30 ไมค์อยู่ท่านนี้คุณผู้หญิงชุดเลือดหมูของ

00:56:30 → 00:56:33 เราวันนี้รู้สึกอย่างไรกันบ้างคะนิดนึง

00:56:33 → 00:56:37 ค่ะก็อ่าตั้งแต่ที่หมอเราาพูดนะคะคือเรา

00:56:37 → 00:56:39 ได้ข้อมูลเยอะมากเกี่ยวกับสุขภาพเพราะว่า

00:56:39 → 00:56:43 จริงๆสุขภาพที่ดีมันมันเริ่มต้นเริ่มต้น

00:56:43 → 00:56:46 ชื่อชื่อปุยค่ะเพราะว่าอย่างที่คุณหมอก็

00:56:46 → 00:56:51 คือมีมาหาได้ยินว่าเ่าการมีสุขภาพที่ดี

00:56:51 → 00:56:55 คือเริ่มต้นที่หลังใ้อค่ะใช่มคะก็คือเรา

00:56:55 → 00:56:57 ได้เคล็ดลับการดูแลงสุขภาพไม่จะเป็นการ

00:56:57 → 00:57:01 นอนที่ว่าเราจะมีการนอนอย่างไรให้เราจะ

00:57:01 → 00:57:03 นอนครบแต่ชั่วโมงหรือว่า

00:57:03 → 00:57:08 อ่าการกินหรือว่าการขับอหารที่ดีว่าจะเอ

00:57:08 → 00:57:12 ปรับยังไงบ้างให้นะคะให้เราเนี่ยเริ่ม

00:57:12 → 00:57:16 เริ่มต้นในการปรับก็คือได้ได้เอ่อข้อแนะ

00:57:16 → 00:57:20 นำโขอบพระคุณคุณปุยมากค่ะอท่านอ่าขอเสียง

00:57:20 → 00:57:23 ปปมือให้คุณปูยหน่อยนะคะอ่าท่าถัดไปเลยก็

00:57:23 → 00:57:25 ได้ค่ะเพราะว่าพี่เปิ้ลพูดแล้วอ่าทันนี้

00:57:25 → 00:57:29 ชื่อเล่นนิดนึงค่ะชื่อนิค่ะคุณนินะคะค่ะ

00:57:29 → 00:57:32 เชิญค่ะได้รู้สึกได้อะไรยังไงคะได้เรื่อง

00:57:32 → 00:57:35 กนอนเพราะว่าเพราะว่าเป็นน้องคณที่แบบนอน

00:57:35 → 00:57:40 ไม่ตเวลาเหมือนกันก็ได้แบบเริ่มคือเราจะ

00:57:40 → 00:57:45 รู้ว่าบางวันเราตื่นมาเราก็รู้สึกมีเบอๆ

00:57:45 → 00:57:48 หรือแบบคือไม่ใช่พีอำใช่มั้ยคนนี้ออค่ะก็

00:57:48 → 00:57:50 เลยเข้าใจว่าออกเกิดจากตัวเองเพราะแบบนอน

00:57:50 → 00:57:54 ไม่เป็นเวลาเพราว่าแบบางวันเราก็มีนอนึ

00:57:54 → 00:57:57 อะไรเงี้เงี้คมันด้วยกิจกรรมหรือด้วยอะไร

00:57:57 → 00:58:00 อย่างเงี้ยก็คงจะได้ข้อมูลไปปับตัวที่แบบ

00:58:00 → 00:58:03 เพื่อจากตัวเองค่ะโอเคขอเสียปบให้คุณนิด

00:58:03 → 00:58:05 นะคะโอเคเดี๋ยวส่งไมคให้ท่านถัดไปแต่ว่า

00:58:05 → 00:58:08 ขออนุญาตเสริมความรู้ให้พวกเราฟังนิดนึง

00:58:08 → 00:58:10 อ่ะคุณนิดส่งไมค์ได้เลยค่ะคืออย่างงี้ค่ะ

00:58:10 → 00:58:13 มันมีงานวิจัยในกลุ่มการทำ Meditation

00:58:13 → 00:58:15 หรือว่าการทำสมาธิเราคงเคยได้ยินเนาะจะทำ

00:58:15 → 00:58:18 ให้การนอนดีขึ้นการสวดมนต์ไม่ว่าจะเป็น

00:58:18 → 00:58:21 ทางพุทธศาสนาหรือบางท่านเป็นคริสเตียนที่

00:58:21 → 00:58:23 อ่านพระคัมภีร์หรือแม้กระทั่งท่านที่เป็น

00:58:23 → 00:58:27 มุสลิมค่ะการที่เราเนี่ยเข้าถึงศาสนาแล้ว

00:58:27 → 00:58:30 มีสมาธิมันทำให้เกิดคลื่นของความสงบคลื่น

00:58:30 → 00:58:33 สมองที่สงบมันก็จะมีส่วนช่วยทำให้การนอน

00:58:34 → 00:58:37 เนี่ยหลับได้ดีหลับสนิทเข้านอนได้ดีขึ้น

00:58:37 → 00:58:41 นะคะอันนี้ลองไปทำกันดูบางบ้านค่ะข้อดี

00:58:41 → 00:58:43 ที่ได้ก็คือถ้าเราพาลูกหลานอย่างเช่นถ้า

00:58:43 → 00:58:45 เป็นพุทธศาสนิกชนอย่างเงี้ยพาลูกหลานสวด

00:58:45 → 00:58:47 มนต์หรือว่าเป็นคริสเตียนที่พากันอ่าน

00:58:47 → 00:58:50 คัมภีร์เนี่ยค่ะบอกเลยค่ะว่านอกจากจะได้

00:58:50 → 00:58:52 เรื่องของความสัมพันธ์ในครอบครัวแล้วช่วย

00:58:52 → 00:58:54 เรื่องการนอนและแน่นอนถ้าเด็กของเราเรา

00:58:54 → 00:58:58 ลูกหลานเราเนี่ยนอนดีจะทำให้หัวสมองเปอโป

00:58:58 → 00:59:01 การเจริญเติบโตทั้งสมองนะคะรวมไปถึงร่าง

00:59:01 → 00:59:05 กายพัฒนาต่างๆเได้ดีทันถัดไปค่ะเรียนทราบ

00:59:05 → 00:59:11 ชื่อค่ะค่ะเอ่อชื่อดีนะคะเ่าอะไรนะคะบใบ

00:59:11 → 00:59:15 ไม้อ๋อบใบไม้บอ่ะค่ะก็คือว่าเของวันนี้นะ

00:59:15 → 00:59:18 คะก็คือได้ได้อะไรหลายอย่างแต่ว่าแต่ได้

00:59:19 → 00:59:24 เลยค่ะได้เลยค่ะมีหลังว่าถ้าสกเรานอนนอน

00:59:25 → 00:59:28 แล้วเราจะมีวิธีการชดเชยยังไงโหเป็นคำถาม

00:59:28 → 00:59:31 ที่ดีมากๆอ่ะตั้งใจฟังนะคะจริงๆคุณบีบี

00:59:31 → 00:59:33 หมอดอยากบอกว่าการนอนชดเชยไม่ใช่สิ่งที่

00:59:33 → 00:59:36 ถูกต้องต้องบอกนี้ก่อนนะไม่ใช่สิ่งที่ถูก

00:59:36 → 00:59:38 ต้องเพราะว่ามันจะกลายเป็นว่าเราไปชดเชย

00:59:38 → 00:59:41 ตรงนั้นแต่วงจรการนอนที่ดีมันจะสูญหาย

00:59:41 → 00:59:44 ค่อยๆสูญหายไปคราวนี้ถ้าอยากจะงีบเขา

00:59:44 → 00:59:48 เรียกว่า kidnapping คือในตามทฤษฎีเาแนะ

00:59:48 → 00:59:51 นำในในช่วง 13:00 น 13 นจนถึง 15:00 นไม่

00:59:51 → 00:59:55 เกินนั้นนะคะแล้วก็ไม่ใช่ 2 ชมงนะคะเให้ค

00:59:55 → 00:59:57 napping คือประมาณ 15 ไม่เกิน 30 นาที

00:59:57 → 01:00:00 เพราะอะไรเพราะเมื่อไหร่ที่คุณๆสมมุติว่า

01:00:00 → 01:00:02 kidnapping คือแอบสัปหงกไปตอนประมาณ

01:00:02 → 01:00:05 13:00 นถึง 1315 นนั่นหมายถึงคุณบีบี

01:00:05 → 01:00:09 เนี่ยแอบใช้โควต้าของตอนกลางคืนไปแล้วแต่

01:00:09 → 01:00:11 มันก็มีนะคะมันก็มีงานวิจัยที่พยายามจะ

01:00:12 → 01:00:14 สนับสนุนว่าเฮ้ยการนอนกลางวันนะมันทำให้

01:00:14 → 01:00:17 สมรรถภาพในการทำงานของร่างกายของสมองดี

01:00:17 → 01:00:20 ขึ้นแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องสังเกตตัว

01:00:20 → 01:00:23 เองค่ะเพราะบางท่านเนี่ยพอคนิหรือว่ามี

01:00:23 → 01:00:25 การหลักรางวัลกลายเป็นโอเคสมรรถภาพดีขึ้น

01:00:25 → 01:00:28 แต่รบกวนการนอนกลางคืนยอันนี้ลองไปปรับ

01:00:28 → 01:00:31 กับตัวเองดูเนาะสังเกตตัวเองนะคะแต่แน่

01:00:31 → 01:00:33 นอนต้องตั้งปลุกเอาไว้โดยเฉพาะรุ่นใหญ่

01:00:33 → 01:00:36 ค่ะรุ่นใหญ่ชอบนอนกลางวันมันจะทำให้นอน

01:00:36 → 01:00:39 ยาวและยิ่งทำให้กลางคืนนอนไม่หลับดังนั้น

01:00:39 → 01:00:41 รุ่นใหญ่พอกินข้าวเสร็จต้องเดินไปเดินมา

01:00:41 → 01:00:44 ทำอะไรที่ตื่น Alert เพื่อเหมือนสะสมเอา

01:00:44 → 01:00:48 ไว้ให้เรามานอนกลางคืนเนาะอ่ะตอนนี้เรา

01:00:48 → 01:00:50 พร้อมแล้วค่ะมาพบกับเจ้าของร้านที่เรา

01:00:50 → 01:00:53 เกริ่นกันไปค่ะเซเชฟโอทั้งๆที่ยไม่รู้จัก

01:00:53 → 01:00:57 ค่ะก็มาพูดคุยกับคุณเชฟโอณัฐการ

01:00:57 → 01:00:59 ศรีสวัสดิ์ค่ะ

01:00:59 → 01:01:04 สวัเชฟโอขาวันนี้เราจะมาทำเมนูกันแต่อยาก

01:01:04 → 01:01:07 เมานิดนึงที่มาของร้านนี้คือยังไงคะเล่าส

01:01:07 → 01:01:11 ก็เอ่อที่มาของร้านิคซนะคะโอเคที่มาของ

01:01:11 → 01:01:15 ร้าออร์แกนิคคซก็คือชื่อเชฟโอนะคะกับทำ

01:01:15 → 01:01:17 อาหารออร์แกนิคก็เลยเป็นออร์แกนิคนะคะก็

01:01:17 → 01:01:19 ไม่อยากใช้ของว่าออร์แกนิทั่วไปเป็น

01:01:19 → 01:01:22 ออร์แกนิเริ่มแรกเลยเนี่ยเรามาจากธุรกิจ

01:01:22 → 01:01:25 เอ่อดูแลสุขภาพหรือคลินิกเนี่ยแะค่ะแบบ

01:01:25 → 01:01:28 องครวมนะคะแล้วก็เราทำอาหารให้ผู้ป่วย

01:01:28 → 01:01:32 มะเร็งเป็นหลักค่ะอ่าเราก็เลยสร้างปา

01:01:32 → 01:01:35 ออร์แกนิคใช้วัตถุดิบออร์แกนิคนะคะปลอด

01:01:35 → 01:01:37 สารเคมีต่างๆเนี่ยเพื่อที่จะทำอาหารให้

01:01:37 → 01:01:41 ผู้ป่วยจนเกิดร้านนี้ขึ้นมาโอโหคอนเซปนี่

01:01:41 → 01:01:44 ดูดีมีชาติตระกูลเลยนะคะแต่ว่าเราทำกัน

01:01:44 → 01:01:47 และคราวนี้พอดูแลผู้ป่วยมะเร็งแล้วเชฟโอเ

01:01:47 → 01:01:49 เนี่ยอยากทำก็คือแน่นอนอาหารให้บุคคลที่

01:01:49 → 01:01:53 สุขภาพดีทั่วไปเชโบมีหลักการยังไงบ้างก็

01:01:53 → 01:01:55 ตอนแรกพอเราทำอาหารให้ผู้ป่วยมะเร็งนะคะ

01:01:55 → 01:01:58 แต่พอมีหน้าร้านออร์แกนิคขึ้นมาเนี่ยเรา

01:01:58 → 01:02:00 ไม่ได้ดูแลเฉพาะผู้ป่วยมะเร็งเป็นผู้ป่วย

01:02:01 → 01:02:03 โรคอื่นๆด้วยไม่ว่าจะไตเบาหวานหรือคนแพ้

01:02:03 → 01:02:06 อาหารซึ่งแพ้อาหารจะเยอะมากค่ะแพ้ยังไงคะ

01:02:06 → 01:02:10 อ่าแพ้อย่างเอ่อเหมือนไปตรวจเลือดแล้วก็

01:02:10 → 01:02:14 มีอาการแพ้ต่างๆนะคะมีแพ้วัตถุดิบนะคะ

01:02:14 → 01:02:17 หลักๆก็นมวัวแป้งสาลีอะไรแบบนี้ไข่ไก่อัน

01:02:17 → 01:02:19 นี้ก็ค่อนข้างเยอะแล้วก็เชฟก็จะช่วยดูแล

01:02:19 → 01:02:22 เรื่องของอาหารนั่นหมายถึงว่าถ้าเกิดคุณ

01:02:22 → 01:02:25 ผู้ชมทางบ้านเนี่ยมีเเรียกเอกสารที่บอก

01:02:25 → 01:02:28 ว่าฉันแพ้สิ่งนี้มานะเชฟโอช่วยทำให้หน่อย

01:02:28 → 01:02:30 หหมายถึงทำอาหารที่ไม่แพ้ให้หน่อยใช่ก็

01:02:31 → 01:02:34 ช่วยไกนได้หรือภูปิ่นโตก็ได้ว่าเราทำ

01:02:34 → 01:02:37 อาหารแบบนี้หรือแพ้แบบนี้ควรทานอะไรได้

01:02:37 → 01:02:40 บ้างค่ะคราวนี้เดี๋ยวจะขออนุญาตชวนคุยไป

01:02:40 → 01:02:45 แล้วก็ถ้าทำไปจะมีใครถือไมค์ให้เชฟโอมคะ

01:02:45 → 01:02:50 อ่าห้ามเอาไมค์ไปบเชฟโอนะคะจริงๆอยากได้

01:02:50 → 01:02:53 ไมค์แบบที่เหมือนร้องเพลงเนาะแต่เราก็

01:02:53 → 01:02:56 เอ่อบังเอิญว่าวันนี้ไม่ได้มีจริงๆก็

01:02:56 → 01:03:01 เพราะฉะนั้นจะมีทีมงานถือไมค์นะ

01:03:01 → 01:03:05 คะเชโอคะวันนี้เมนูที่เราจะทำคืออะไรบ้าง

01:03:05 → 01:03:09 อ่าเมนูนะคะอ่ะเชโอใส่ถุงมือก่อนก็ได้ค่ะ

01:03:09 → 01:03:12 ออใส่ถุงมือนะคะโอเควันนี้นะคะเมนูที่จะ

01:03:12 → 01:03:14 มาสาธิตในการจัดนะคะแล้วทุกท่านก็จะได้

01:03:14 → 01:03:18 เอ่อรับประทานร่วมกันนะคะก็จะมีเป็นเอ่อ

01:03:18 → 01:03:20 stake po Shop นะคะซึ่งเป็นหมูป่าสาร

01:03:20 → 01:03:24 อยู่แล้วนะคะแล้วก็ซึ่งหมูเป่าสานก็จะมี

01:03:24 → 01:03:27 มีความนุ่มความหอมนะคะแล้วก็มันจะมี

01:03:27 → 01:03:30 เอกลักษณ์ที่แตกต่างกับหมูทั่วไปอยู่แล้ว

01:03:30 → 01:03:33 นะคะแล้วก็เราก็จะเสิร์ฟกับผักต่างๆนะคะ

01:03:33 → 01:03:36 ซึ่งมาจากฟาร์มของเราเองนะคะหลักๆก็จะมี

01:03:36 → 01:03:40 ผักเควนะคะจะอยู่ในเอ่อจานนี้นะคะผักเคว

01:03:40 → 01:03:46 ใครใครเคยทานผักเควมั้ยคะเชอบยคะชอบนะคะ

01:03:46 → 01:03:49 ผักเควนะคะเป็นราชินีของผักใบเขียวนะคะ

01:03:49 → 01:03:52 ซึ่งมีประโยชน์มากๆค่ะมีวิตามินหลากหลาย

01:03:52 → 01:03:54 มีสารต้านอุณมุมอิสระนะคะนะคะแล้วก็ช่วย

01:03:54 → 01:03:57 ป้องกันโรคมะเร็งและมีวิตามิน K มากกว่า

01:03:57 → 01:04:01 เอ่อนมวัวอีกนะ

01:04:01 → 01:04:05 คะแล้วก็อ้าตัวสเตกของเรานะคะอันนี้เชฟ

01:04:05 → 01:04:09 เอ่อยากมาเรียบร้อยแล้วนะคะถ้าใครอยากรู้

01:04:09 → 01:04:11 เทคนิคสอบถามได้นะคะว่าจะทำยังไงให้หมู

01:04:11 → 01:04:14 นุ่มแบบนี้นี่ค่ะสอบถามได้แต่ทำไม่ได้

01:04:14 → 01:04:17 เหมือนเชฟค่ะบอกเลยให้เชฟทำง่ายกว่าค่ะ

01:04:17 → 01:04:20 อ่ะค่ะโอเคค่ะหลักการนะคะอย่างสเตกเนี่ย

01:04:20 → 01:04:23 เราจะทานอาหารจานนึงนะคะนอกจากมีโปรตีน

01:04:23 → 01:04:25 แล้วนะคะแล้วเราต้องมีผักมีไฟเบอร์ใช่มย

01:04:25 → 01:04:28 คะช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดช่วยเอ่อใน

01:04:28 → 01:04:30 เรื่องระบบขับถ่ายแล้วก็จะมีส่วนในของ

01:04:30 → 01:04:32 คาร์โบไฮเดรตซึ่งคาร์โบไฮเดรตวันนี้นะคะ

01:04:32 → 01:04:36 เราใช้เป็นมันม่วงนะคะก็เปลี่ยนจากข้าว

01:04:36 → 01:04:38 เป็นมันม่วงก็จะได้ประโยชน์ที่มากกว่านะ

01:04:38 → 01:04:41 คะโอเคเดี๋ยวเชฟจะลองจัดจานให้ดูนะคะแล้ว

01:04:41 → 01:04:45 ก็อ่าใครอยากถ่ายคลิปหรือสอบถามอะไรก็สอบ

01:04:45 → 01:04:48 ถามได้นะอันนี้หมอดาวถามเองมันม่วงกับมัน

01:04:48 → 01:04:50 ทั่วไปต่างกันยังไงอ่ะเชจริงๆเอ่อมันม่วง

01:04:50 → 01:04:54 เนี่ยมีความหวานที่มากกว่าแต่เอ่อพอมัน

01:04:54 → 01:04:58 มันมันหวานแต่หวานธรรมชาตินะคะแล้วก็มี

01:04:58 → 01:05:00 ความอร่อยกลมกล่อมมากกว่านะคะแล้วก็มี

01:05:00 → 01:05:05 ไฟเบอร์ที่สูงนะคะโอเคเวลาเอ่ออย่างผัก

01:05:05 → 01:05:08 อันเนี้ยค่ะเชฟก็จะเอาไปผัดนะคะกับน้ำมัน

01:05:08 → 01:05:10 มะกอกนะคะน้ำมันมะกอกก็เป็นเอ่อไขมันไม่

01:05:10 → 01:05:13 อิ่มตัวที่ดีนะคะสามารถเปลี่ยนเป็นน้ำมัน

01:05:13 → 01:05:17 เอ่อรำข้าวก็ได้นะคะอ่าเราก็จะวางผักเคว

01:05:17 → 01:05:20 แบบนี้นะคะเราผัดกับเอ่อเกลือพริกไทยแล้ว

01:05:20 → 01:05:24 ก็กระเทียมแค่นั้นเองนะคะอันนี้ถามให้คุณ

01:05:24 → 01:05:26 คุณผู้ชมค่ะเพราะว่าหมอดาวเทำไม่เป็นแล

01:05:26 → 01:05:28 เชื่อว่าเชฟทำอร่อยที่สุดคือถ้าคุณผู้ชม

01:05:28 → 01:05:31 บอกว่าอยู่บ้านแล้วแบบอยากผัดเอาผักเนี่ย

01:05:31 → 01:05:34 ไปผัดกับน้ำมันคือบางคนยังงงๆกับชีวิตไอ้

01:05:34 → 01:05:39 การเอาผักไปผัดกับน้ำมันมะกอกยังไงบ้างคะ

01:05:39 → 01:05:42 อ่าอาพูดถึงน้ำมันมะกอกนะคะถ้าน้ำมันมะกา

01:05:42 → 01:05:46 มีหลายแบบมีแบบ Extra เจิหรือสกัดเย็นแบบ

01:05:46 → 01:05:50 นั้นควรทานแบบสดหรือแบบเอ่อสลัดเดรสซิ่ง

01:05:50 → 01:05:53 นะคะก็คือเอ่อแบบนั้นจะมีประโยชน์ที่สุด

01:05:53 → 01:05:56 แต่แต่ถ้าคุกกิ้งแบบนี้เชฟจะใช้โอลิ Oil

01:05:56 → 01:05:58 ธรรมดาน้ำมันประกอบแบบธรรมดาที่สามารถทน

01:05:58 → 01:06:02 ความร้อนได้นะคะ Extra เถ้า Extra เวจิ

01:06:02 → 01:06:05 เหมาะทานในสลัดหรือทานสดอ่าอ่ะจดค่ะ Extra

01:06:05 → 01:06:08 เวจิเหมาะทานในสลัดนะคะก็คือไม่ใช่ผ่าน

01:06:08 → 01:06:11 ความร้อนใชใช่่ไม่ควรโดนความร้อนค่ะอ่า

01:06:11 → 01:06:13 แล้วแล้วที่ผ่านความร้อนคือก็เป็นโอลิฟ

01:06:13 → 01:06:16 Oil แบบธรรมดาโอลิฟ Oil ธรรมดานะคะกลิ่น

01:06:16 → 01:06:19 มันจะเบาลงแล้วก็สามารถทนความร้อนได้มาก

01:06:19 → 01:06:24 ขึ้นนะคะผ่านไฟได้นิดหน่อยนะคะโอเคคผักนะ

01:06:24 → 01:06:28 คะมีเคลนะคะมีเอ่อดอกกะหล่ำมีบรอกโคลี่นะ

01:06:28 → 01:06:33 คะมีหน่อไม้ฝรั่งนะคะหรือแกันะคะซุกินี่

01:06:34 → 01:06:35 นะ

01:06:35 → 01:06:39 คะอันนี้ถามแบบว่าอยากรู้จริงๆการจัดผัก

01:06:39 → 01:06:43 เนี่ยคือยังไงเชฟมันเป็นอาร์ตหรือว่ามัน

01:06:43 → 01:06:45 มีหลักการมยอ๋อาร์อหลักการจัดนะคะก็คือ

01:06:45 → 01:06:48 เราก็แบบโอเคเป็นลายนี้แล้วเราก็จะแบบ

01:06:48 → 01:06:51 สลับสีให้มันมีสีสันที่มากขึ้นแล้วดู

01:06:51 → 01:06:54 สังเกตว่าผักเนี่ยพอทุกคนรู้สึกว่ากินผัก

01:06:54 → 01:06:56 แล้วมันจะไม่อร่อยหรือไม่อยกินผักอ่ามัน

01:06:56 → 01:06:59 จะเขียวเราก็เลยเพิ่มสีแดงเพิ่มแครอทมี

01:06:59 → 01:07:01 เบต้าแคโรทีนมามีไลโคปีนเพิ่มขึ้นมามันก็

01:07:01 → 01:07:04 จะได้ประโยชน์มากขึ้นนะคะอันนี้ใครที่มี

01:07:04 → 01:07:06 ลูกหลานแต่จริงๆไม่ลูกหลานค่ะคนเดี๋ยวนี้

01:07:06 → 01:07:09 ไม่กินผักเนาะก็จัดแบบเชฟได้นะคะอ่ามันก็

01:07:10 → 01:07:13 ดูมีอะไรขึ้นนะคะอ่ะทีนี้ก็เป็นมันม่วงนะ

01:07:13 → 01:07:16 คะมันม่วงก็คือเอาไปนึ่งก่อนแล้วก็ปรุง

01:07:16 → 01:07:19 เกลือพริกไทยเหมือนกันค่ะอ่าเริ่มมีสี

01:07:19 → 01:07:24 ม่วงสีเขียวสีส้มสีแดงนะคะอ่าทีนี้ก็

01:07:24 → 01:07:26 สเต็กนะคะสเต็กเราย่างไว้เรียบร้อยแล้ว

01:07:26 → 01:07:30 เราก็จะวางแบบนี้เลยค่ะอ่ามันก็จะเห็นทุก

01:07:30 → 01:07:36 สีนะคะส่วนตัวซอสค่ะเราวันนี้เราเป็นซอส

01:07:36 → 01:07:40 เห็ดแล้วก็พริกไข่ดำนะคะพีจะเข้าไปเอ่อ

01:07:40 → 01:07:43 เข้ากันดีกับหมูนะ

01:07:43 → 01:07:48 คะโอเคซอสผมมีคำถามค่ะค่ะส่วน้าอหารสภาพ

01:07:48 → 01:07:51 จะไม่อร่อยเชฟทำยังไงให้อร่อย

01:07:51 → 01:07:54 คะเทคนิคเลยมคะเปิดไปทำบ้านจะได้แบบกิน

01:07:55 → 01:07:58 ได้โอก็คือหลักการนะคะถ้าทำอาหารสุขภาพ

01:07:58 → 01:08:01 นี่คือเราก็ต้องเลือกสิ่งที่เราชอบก่อนเ

01:08:01 → 01:08:03 แล้วเราค่อยมาปรับเปลี่ยนให้อย่างเช่น

01:08:03 → 01:08:06 ปรับน้ำมันนะคะอย่างปกติเราอาจจะใช้น้ำ

01:08:06 → 01:08:08 มันพืชธรรมดาเปลี่ยนเป็นน้ำมันมะกอนะคะ

01:08:08 → 01:08:11 จากข้าวอาจจะเป็นคีนัวหรืออะไรแบบนี้ปรุง

01:08:11 → 01:08:14 อ่ะปรุงเกลือพริกไทยอะไรอย่างเงี้ยปรับลด

01:08:14 → 01:08:17 การใช้ผงชรสลงอะไรอย่างงี้ก็ช่วยได้นะคะ

01:08:17 → 01:08:19 ช่วยให้อร่อยใช่มั้ยคะช่วยให้อร่อยค่ะ

01:08:19 → 01:08:22 จริงๆแล้วมันมีเอ่อรสอย่างมะเขือเทศเห็ด

01:08:22 → 01:08:26 หอมนะคะมันมีรสอุมิในตัวนะคะเป็นรสอุมิใน

01:08:26 → 01:08:29 ธรรมชาติของเขานะคะค่ะก็หมอดาวขออนุญาต

01:08:30 → 01:08:33 เสริมเชฟนะคะในเรื่องของมเขือเทศนะคะแล้ว

01:08:33 → 01:08:36 ก็เมื่อกี้เราจะเห็นผักสีส้มๆผักอะไร

01:08:36 → 01:08:41 คะไม่ใช่ส้มๆอีอย่าอย่าเพิ่งรีบตอบส้มๆ

01:08:41 → 01:08:45 ส้มๆอ่าโอเคที่ต้องการให้ตอบเวลาที่เรา

01:08:45 → 01:08:48 พูดเราจะได้จำได้กลุ่มนี้ก็คือกลุ่มเขา

01:08:48 → 01:08:51 เรียกเบตคนที่เชฟบอกไปพอผ่านความร้อนแล้ว

01:08:51 → 01:08:55 เนี่ยมันจะทำให้เกิดการุดซึมได้ดีขึ้นโดย

01:08:55 → 01:08:57 เฉพาะคุณผู้ชายใครเป็นผู้ชายยกมือขึ้น

01:08:57 → 01:09:00 โอเคโครโมโซม XY ค่ะหมายความว่าอย่างงั้น

01:09:00 → 01:09:03 เพราะว่ามันมีเรื่องของมะเร็งต่อมลูกหมาก

01:09:03 → 01:09:06 นะคะแล้วก็ต่อมลูกหมากที่โตการที่คุณ

01:09:06 → 01:09:08 เนี่ยจะรับประทานกลุ่มที่เป็นไลโคปีน

01:09:08 → 01:09:11 เหล่านี้ให้ได้ประโยชน์ที่ดีนะคะจะไม่ใช่

01:09:11 → 01:09:14 การกินสดแต่ตรงกันข้ามเลยคือการสุกแล้วก็

01:09:14 → 01:09:16 ผ่านน้ำมันอย่างที่คุณเชฟทำเชฟโมีอะไรแนะ

01:09:16 → 01:09:20 นำอีกคะอ่าทีนี้พอเราราดซอสไปแล้วนะคะเรา

01:09:20 → 01:09:23 ก็จะโรยด้วยอิตาเลียนเฮิบนะคะเพื่อที่

01:09:23 → 01:09:25 เพิ่มความหอมพวกสมุนไพรเนี่ยมันก็เป็น

01:09:25 → 01:09:27 อโรม่าอย่างหนึ่งที่ทำให้เราอยากอาหารมาก

01:09:27 → 01:09:31 ขึ้นนะคะจริงๆแค่ยืนอย่างนี้ก็อยากแล้ว

01:09:31 → 01:09:33 เนาะคะพวกเราแล้วก็เชฟก็ใส่ตัวนี้นะคะ

01:09:33 → 01:09:37 เป็นเอฟฟา spr นะคะเพิ่มประโยชน์แล้วก็

01:09:37 → 01:09:38 เพิ่มความสวยงามด้วยมีอะไรกระจุ๊กกระจิ๊ก

01:09:38 → 01:09:42 มันจะทำให้จานเมันน่าทานขึ้นนะคะอ่าเราก็

01:09:42 → 01:09:46 จะได้สเตกแบบนี้นะคะสีสันมีครบทุกอย่าง

01:09:46 → 01:09:49 เลยนะคะโปรตีนไฟเบอร์นะคะแล้วก็

01:09:49 → 01:09:51 คาร์โบไฮเดรตที่ดีนะ

01:09:51 → 01:09:57 คะค่ะต้องบอกว่าสวยงามมากที่เราได้เห็น

01:09:57 → 01:09:59 ตรงนี้ทุกท่านจะได้รับประทานเป็นอาหาร

01:09:59 → 01:10:02 เชี่ยงนะคะส่วนคุณผู้ชมที่ดูผ่านทางไลฟก็

01:10:02 → 01:10:07 ก็ดูผ่านต่อไปค่ะตึงโอเคอ่ะมีคำถามอะไร

01:10:07 → 01:10:10 กับเชฟย

01:10:10 → 01:10:13 คะคำถามเกี่ยวกับอาหารเกี่ยวกับการเนี่ย

01:10:13 → 01:10:17 ค่ะดูแลสุขภาพการจัดอาหารสุขภาพงั้นหมอ

01:10:17 → 01:10:19 เราดถามให้นิดนึงก็ได้ค่ะเชฟพระตอนที่ดู

01:10:19 → 01:10:23 แลผู้ป่วยมะเร็งเนี่ยเอาเอาตามความความ

01:10:23 → 01:10:25 เอ่อประสบการณ์ของเชฟเลยเนาะเพราะว่า

01:10:25 → 01:10:27 อย่างหมอดาวดูแลผู้ปวมะเร็งเนี่ยก็แอบ

01:10:27 → 01:10:30 เห็นใจตรงที่ว่าเราก็ักจะจัดอาหารเป็น

01:10:30 → 01:10:32 กลุ่มแบบอาหารเหลวอาหารปั่นอะไรก็ไม่รู้

01:10:32 → 01:10:35 เป็นสำเร็จรูปคราวนี้ที่เชฟดูแลผู้ป่วยเา

01:10:35 → 01:10:38 เนี่ยยังไงบ้างก็หลักๆเลยถ้าเป็นอาหาร

01:10:38 → 01:10:41 สำหรับผู้ป่วยมะเร็งขั้นตอนแรกกันเลยก็

01:10:41 → 01:10:44 คือลดแป้งลดน้ำตาลแป้งนี่ยังทานได้อยู่

01:10:44 → 01:10:47 แต่ลดน้ำตาลตัดน้ำตาลทุกๆอย่างในอาหาร

01:10:47 → 01:10:50 เป็นหลักนะคะเพราะว่าน้ำตาลเป็นอาหารของ

01:10:50 → 01:10:53 เซลล์มะเร็งนะคะเราอาจจะมองข้ามในส่่วน

01:10:53 → 01:10:56 นี้ไปไปแต่จริงๆแล้วน้ำตาลเนี่ยเป็นเป็น

01:10:56 → 01:10:59 ตัวหลักเลยที่เราต้องปรับนะคะเมื่อที่จะ

01:10:59 → 01:11:02 ทำอาหารให้ผู้ปวยมะเร็งงั้นขอขออีกนิดนึง

01:11:02 → 01:11:05 มีความประทับใจจากผู้ป่วยมะเร็งที่เขาบมา

01:11:05 → 01:11:07 บอกเล่าให้เชฟฟังมั้ยหลังจากที่แบบรับ

01:11:07 → 01:11:09 ประทานอาหารกลุ่มที่เชฟเนี่ยทำที่ไม่ใช่

01:11:09 → 01:11:12 อาหารแปรรูปอใช่อ่าอ่าอย่างที่คุณหมอพูด

01:11:12 → 01:11:16 นะคะก็คือ 1 อ่ะเอ่อเป็นอาหารที่แปรรูป

01:11:16 → 01:11:19 เราก็จะตัดไปเลยนะคะส่วนใหญ่คนไข้มะเร็ง

01:11:19 → 01:11:21 เราก็จะให้อาหารที่เป็นฟู้ดอ่าเป็นผัก

01:11:21 → 01:11:25 เป็นเอ่อที่มาจากธรรมชาติจริงๆไม่มีสาร

01:11:25 → 01:11:28 เคมีไม่มีเอ่อส่วนผสมที่เป็นอาหารแปรรูป

01:11:28 → 01:11:31 นะคะก็จะดีต่อผู้ป่วยมเงแล้วพอเขาได้ปรับ

01:11:31 → 01:11:34 ไลฟ์สไตล์มาทานอาหารสุขภาพอื้อซึ่งเป็น

01:11:34 → 01:11:36 อาหารธรรมชาติอาหารเหมือนเหมือนคนอื่นที่

01:11:36 → 01:11:38 ริงใช่คคู่กับการ

01:11:38 → 01:11:41 รักษาประสบการณ์เลยประสบการณ์ที่เชคเจอ

01:11:41 → 01:11:43 เลยอ่าประสบการณ์ก็คือเอ่อจากที่บอกว่า

01:11:43 → 01:11:47 เขาไม่มีแรงที่จะอยู่ต่ออ่ะอเขารักษาแบบเ

01:11:47 → 01:11:50 ไม่อยากอยู่ต่อมันอมันชื่นใจเาบอกว่าเฮ้ย

01:11:50 → 01:11:53 เขาไม่คิดว่าอาหารสุขภาพอ่ะจะกินได้เอ่า

01:11:53 → 01:11:58 แล้วเาก็มีแรงที่จะรักษาต่อไปนี่อ่าค่ะก็

01:11:58 → 01:12:01 เดี๋ยวยังไงขอเสียงปรบมือให้เชฟก่อนนะคะ

01:12:01 → 01:12:04 เดี๋ยวเรายังไม่ดแนี้ครับช่วงบยรายการเนท

01:12:04 → 01:12:08 ของเราก็ยังมีสาระดีๆมาฝาก

01:12:08 → 01:12:13 ค่ะขอเสียงขอเสียงขอบคุณค่ะขอบคุณค่ะจาน

01:12:13 → 01:12:16 นี้ก็จริงๆกินได้นะคะทำ

01:12:16 → 01:12:21 ได้ค่ะโอเคหมดแล้วเนาะอือๆๆให้หมอดาว

01:12:22 → 01:12:26 กล่าวโอเคค่ะก็สำหรับคุณผู้ชมนะคะที่รับ

01:12:26 → 01:12:29 ชมกิจกรรมสุขภาพดีเริ่มต้นที่อาหารดี eat

01:12:29 → 01:12:31 Health fre wealthy ผ่านช่องทาง

01:12:31 → 01:12:33 ออนไลน์ทั้ง 5 ช่องทางค่ะ TNN Health

01:12:33 → 01:12:36 TNN Live TNN ช่อง 16 YouTube TNN

01:12:36 → 01:12:40 อไลและ tiktok TNN He เราจะขอพักการ

01:12:40 → 01:12:43 ไลฟ์สักแป๊บนึงค่ะและจะกลับมาพบกันอีก

01:12:43 → 01:12:47 ครั้งประมาณ 13:00 นพบกับคุณโอ๋พันพิลนะ

01:12:47 → 01:12:50 คะจะมารับหน้าที่พิธีกรต่อจากหมอดาวค่ะ

01:12:50 → 01:12:52 และช่วงนี้หมอดาวต้องขอตัวลาไปก่อนค่ะ

01:12:52 → 01:12:56 สวัสดีค่ะ

01:12:56 → 01:13:04 [เพลง]

01:13:22 → 01:13:23 ค่ะ

01:13:23 → 01:13:29 [ปรบมือ]

01:13:29 → 01:13:33 [เพลง]

01:13:33 → 01:13:36 T