00:00:00 → 00:00:02 ลดน้ำหนักนะครับอดอาหารเช้าหรือว่าอด
00:00:02 → 00:00:04 อาหารเย็นได้ผลมากกว่ากันนะครับคลิปนี้
00:00:04 → 00:00:07 หมอเ่งมีคำตอบครับสวัสดีครับผมหมอเ่ง
00:00:07 → 00:00:08 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนักครั้งสุด
00:00:08 → 00:00:11 ท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy ฮีโร่นะ
00:00:11 → 00:00:13 ครับสำหรับคลิปนี้นะครับนะมีเพื่อนๆใน
00:00:13 → 00:00:15 ช่อง YouTube ของเราเนี่ยถามมานะครับว่า
00:00:15 → 00:00:18 คุณหมอคะลดน้ำหนักเนี่ยเราไม่กินข้าวเช้า
00:00:18 → 00:00:20 กับไม่กินข้าวเย็นเนี่ยอันไหนมันลดได้
00:00:20 → 00:00:22 เร็วกว่ากันแล้วมันมีข้อเสียมเพราะบางที
00:00:22 → 00:00:25 บางคนบอกว่าไม่กินข้าวเช้าหลายๆคนชอบบอก
00:00:25 → 00:00:27 ว่าจะเป็นอัลไซเมอร์นะครับหรือบางคนไปอด
00:00:27 → 00:00:30 อาหารเย็นก็เกิดปัญหาว่าหิวตอนดึกอีกไม่
00:00:30 → 00:00:32 รู้จะทำยังไงนะครับเดี๋ยวคลิปเอธิบายให้
00:00:32 → 00:00:34 ฟังละเอียดเลยนะครับแต่ก่อนอื่นนะครับใคร
00:00:34 → 00:00:36 ที่เพิ่งมาติดตามหม 1 นะอย่าลืมกดหัวใจกด
00:00:36 → 00:00:38 ไลก์กดแชร์กดติดตามนะครับแล้วก็กดกระดิ่ง
00:00:38 → 00:00:40 แจ้งเตือนนะวันหนึงจะลงคลิปทุกวันอังคาร
00:00:40 → 00:00:42 พฤหัสแล้วก็วันอาทิตย์นะครับคลิปในช่อง
00:00:42 → 00:00:44 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกี่ยวกับความรู้แล้วก็
00:00:44 → 00:00:46 กำลังใจในการลดน้ำหนักนะครับดังนั้นอย่า
00:00:46 → 00:00:48 ลืมกดติดตามกดกระดิ่งแจ้งเตือนไว้นะแล้ว
00:00:48 → 00:00:50 ก็ตามธรรมเนียมนะครับขอแสดงความยินดีกับ
00:00:50 → 00:00:53 ท่านนี้ด้วยนะครับทำตามคำแนะนำของผมนะ
00:00:53 → 00:00:55 ครับนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันตอนนี้ลด
00:00:55 → 00:00:58 ไปแล้ว 30 กกนะครับนะปรบมือให้เพื่อนนิด
00:00:58 → 00:01:01 นึงน่านะครับถ้าถคุณตั้งใจนะแล้วเอาไป
00:01:01 → 00:01:03 ปรับใช้เนี่ยวันนึงเนี่ยสุขภาพดีๆความ
00:01:03 → 00:01:05 มั่นใจในการใช้ชีวิตจะกลับมาเป็นของคุณ
00:01:05 → 00:01:07 เหมือนท่านนี้เลยนะครับเนาะตอนเนี้ยกลับ
00:01:07 → 00:01:10 มาชิลๆซแพคเริ่มมาแล้วอ่าคือบางคนเนี่ย
00:01:10 → 00:01:12 เป้าหมายคือแค่อยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือน
00:01:12 → 00:01:15 ปกติไม่อยากมีพุงอยากใส่เสื้อผ้าสวยๆไม่
00:01:15 → 00:01:18 จำเป็นต้องมีิแคก็ได้ส่วนบางคนก็อยากจะมี
00:01:18 → 00:01:20 ิแคนะครับเพราะฉะนั้นเราต้องรู้ก่อนว่า
00:01:20 → 00:01:22 เป้าหมายของเราคืออะไรโอเคมยถ้าเป้าหมาย
00:01:22 → 00:01:24 เราแค่กลับไปใส่เสื้อผ้าสวยๆสุขภาพดีนะ
00:01:24 → 00:01:26 ไม่ยากเลยแบบท่านเนี่ยโอเคป่านะครับนะ
00:01:26 → 00:01:29 กลับไปเหมือนอายุสาวๆหนุ่มๆอีกครั้งเลย
00:01:29 → 00:01:31 เนาะก็ขอแสดงความความยินดีด้วยนะครับส่วน
00:01:31 → 00:01:33 อีกคนนึงนะบางคนบอกว่าหหคุณบอกว่า 30 กล
00:01:33 → 00:01:35 น่าจะใช้เวลานานนะคะมันลดนานมากเลยใช่
00:01:35 → 00:01:38 มั้ยคะท่านเนี้ยทำตามผมนะลดไปแค่ 2
00:01:38 → 00:01:42 สัปดาห์เองจาก 80 เหลือ 74 อีกนิดเดียวลง
00:01:42 → 00:01:45 เลข 6 แล้วอ่ะถามว่าใช้เวลานานมั้ยไม่เลย
00:01:45 → 00:01:47 ถ้าเทียบกับตอนที่คุณอ้วนนะบางคนเนี่ย
00:01:47 → 00:01:50 อ้วนกว่าจะใช้เวลาเนี่ยมัน 1 ปีโอ้โหคุณ
00:01:50 → 00:01:53 หมอคะจาก 60 ขึ้นมา 80 ปีนึงขึ้น 20 กล
00:01:53 → 00:01:55 เลยค่ะถ้าคุณไม่รู้อะไรเลยแล้วคุณจะลด
00:01:55 → 00:01:57 ปกติคุณต้องใช้เวลาปีนึงเหมือนกันนะถูก
00:01:57 → 00:01:59 มั้ยเราใช้เวลาสร้างหนี้เราก็มีเวลาต้อง
00:01:59 → 00:02:02 ใช้หนี้เหมือนกันแต่ถ้าคุณมีความรู้มันจะ
00:02:02 → 00:02:04 ประหยัดเวลามากขึ้นอย่างเงี้ยเห็นมั้ย 2
00:02:04 → 00:02:07 เดือนแป๊บเดียวเองลงไปละ 6 กกละไม่จำเป็น
00:02:07 → 00:02:09 ต้องรอถึงปีนึงหรอกนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:02:09 → 00:02:11 ตั้งใจฟังคลิปนี้ให้ดีนะอ่ะคราวนี้นะครับ
00:02:11 → 00:02:14 มาถึงสิ่งที่เพื่อนๆเราถามนะว่าลดน้ำหนัก
00:02:14 → 00:02:16 เนี่ยอดอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นดีกว่า
00:02:16 → 00:02:18 กันต้องบอกแบบนี้ว่าจริงๆไม่ค่อยอยากใช้
00:02:18 → 00:02:21 คำว่าอดอาหารเท่าไหร่เลยอ่าเพราะคำว่าอด
00:02:21 → 00:02:22 อาหารหมายความว่าคุณจะไม่กินอะไรเลยถูก
00:02:22 → 00:02:25 มั้ยแต่คำว่าอดอาหารในที่นี้หมอหนึ่งเข้า
00:02:25 → 00:02:28 ใจว่าเพื่อนๆเราอยากจะใช้คำว่าการทำ If
00:02:28 → 00:02:30 มากกว่าว่า If เนี่ยไม่กินเช้าหรือไม่กิน
00:02:30 → 00:02:33 เย็นดีกว่ากันคราวนี้บางคนไม่เคยรู้จัก If
00:02:33 → 00:02:35 มาก่อนเลยหมอหนเคยทำคลิปเกี่ยวกับพื้นฐาน
00:02:35 → 00:02:37 การทำ If ไว้นะเข้าไปดูได้ในช่องหมอหน่ง
00:02:38 → 00:02:40 นะครับนะมีคลิปดีๆเยอะมากๆเลยเนาะอ่ะแต่
00:02:40 → 00:02:42 ถ้าให้อธิบายคร่าวๆเพื่อที่จะได้เข้าใจ
00:02:42 → 00:02:44 ก่อนว่าอดมื้อเช้าหรือมื้อเย็นดีกว่ากัน
00:02:45 → 00:02:48 เนี่ย If เนี่ยมันย่อมาจากคำว่า
00:02:48 → 00:02:50 intermittent fasting จำไม่ได้ไม่เป็น
00:02:50 → 00:02:52 ไรแต่จะได้แปลก่อนเราจะได้เข้าใจว่ามัน
00:02:52 → 00:02:54 คืออะไร intermittent fasting
00:02:54 → 00:02:56 intermittent เนี่ยแปลว่าเป็นช่วงๆ
00:02:57 → 00:02:59 fasting แปลว่าอดอาหารเพราะฉะนั้นคำว่า
00:02:59 → 00:03:01 intermittent fasting เลยแปลว่ามีการอด
00:03:01 → 00:03:04 อาหารเป็นช่วงๆใน 1 วันนะถ้าใครเคยได้ยิน
00:03:04 → 00:03:07 ก็อาจจะเคยได้ยินเค้าเขียนคำว่า If 16/8
00:03:07 → 00:03:10 ถูกมยสังเกตเลขดีๆคือ 16 กับ 8 บวกกันได้
00:03:10 → 00:03:13 24 หมายความว่าใน 1 วัน 24 ชมเนี่ยโดย
00:03:13 → 00:03:16 ทั่วไปคนเราอ่ะทำ If อยู่แล้วแต่กำไรหรือ
00:03:16 → 00:03:19 ขาดทุนเท่านั้นเองใน 24 ชมบางคนอาจจะมี
00:03:19 → 00:03:22 ช่วงระยะเวลาของการกินเยอะมากๆก็ได้เช่น
00:03:22 → 00:03:25 ตื่นมาปั๊บ 8:00 นก็กินเที่นก็กิน 16:00
00:03:25 → 00:03:28 นก็กิน 18:00 นก็กิน 20:00 นก็กินเที่ยง
00:03:28 → 00:03:31 คืนก่อนนอนก็ก็ยังกินพูดง่ายๆคือตั้งแต่
00:03:31 → 00:03:33 8:00 นถึงเที่ยงคกินตลอดเวลาเลยไม่ได้
00:03:33 → 00:03:36 หยุดเลยแล้วช่วงที่นอนคือเที่ยงถึง 8:00
00:03:36 → 00:03:40 นค่อยหยุดกินอันเนี้ยก็เป็น If แบบนึง
00:03:40 → 00:03:42 เหมือนกันแต่เป็น If แบบที่ไม่ดีต่อ
00:03:42 → 00:03:45 สุขภาพเพราะกิน 16 ชมอดแค่ 8 ชมเองถามว่า
00:03:45 → 00:03:48 8 ชมนั้นมันไม่ดีหรอคะคุณหมอมันดีครับ
00:03:48 → 00:03:51 แต่มันดีไม่พอที่จะลดน้ำหนักได้เพราะงาน
00:03:52 → 00:03:54 วิจัยบอกว่าการที่เราจะลดน้ำหนักได้เนี่ย
00:03:54 → 00:03:56 เราจะต้องมีช่วงอดอาหารหรือช่วงหยุดกิน
00:03:56 → 00:04:00 เนี่ยนะนานกว่า 12 ชมงจำดีๆนะต้องมีช่วง
00:04:00 → 00:04:04 หยุดกินหรือช่วงฟาเนี่ยนานกว่า 12 ชมอ่า
00:04:04 → 00:04:07 หม 1 เลยมักจะบอกในหลายๆคลิปว่าอะไร
00:04:07 → 00:04:09 สำหรับคนเริ่มต้นลดน้ำหนักยังไม่จำเป็น
00:04:09 → 00:04:11 ต้องทำ If อะไรได้เยอะแยะมากมายเหมือนคน
00:04:11 → 00:04:13 อื่นเขาหรอกอย่าเพิ่งไปลอกเ้าเราต้องเข้า
00:04:13 → 00:04:16 ใจพื้นฐานก่อนถ้าอยากจะเริ่มต้นจริงๆค่อย
00:04:16 → 00:04:19 ๆปรับก่อนปรับจากการที่เรามีช่วงกินกับ
00:04:19 → 00:04:21 ช่วงหยุดกินใน 1 วันเนี่ยเฉลี่ยเฉลี่ย
00:04:21 → 00:04:24 แล้วเท่าๆกันได้มยเช่นเริ่มกินมื้อแรกตอน
00:04:24 → 00:04:27 8:00 นแล้ว 20:00 นปั๊บเราหยุดกินแบบนี้
00:04:27 → 00:04:30 ได้มยพอเห็นภาพมยแล้วหลัง 2 20:00 นไปจน
00:04:30 → 00:04:32 ถึง 8:00 นอีกวันนึงหยุดกินก็จะกลายเป็น
00:04:32 → 00:04:34 มีช่วงหยุดกิน 12 ชั่วมงร่างกายก็เริ่ม
00:04:34 → 00:04:36 เอาไขมันมาใช้ได้ละแต่ถามว่ามันจะได้กำไร
00:04:36 → 00:04:39 ขนาดที่จะผอมเร็วขึ้นมอาจจะยังแต่มันจะ
00:04:39 → 00:04:42 ฝึกให้ร่างกายของเราเนี่ยไม่ทรมานจนเกิน
00:04:42 → 00:04:44 ไปบางคนมาวันแรกเขาบอกว่าบางคนแบบว่าเอ้ย
00:04:44 → 00:04:46 ฉันผอมนะฉันกินวันละมื้อเธอกินวันละมื้อ
00:04:46 → 00:04:49 แบบฉันสิมันทำไม่ได้ไงถูกมยอะไรที่มันสุด
00:04:49 → 00:04:51 โต่งเกินไปโดยที่ร่างกายของคุณไม่เคยฝึก
00:04:51 → 00:04:54 เนี่ยมันมักจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้วหมหนึ่ง
00:04:54 → 00:04:56 ก็มักจะไม่แนะนำให้กินแค่วันละ 1 มื้อ
00:04:56 → 00:04:58 ด้วยเพราะว่าสารอาหารมันมักจะไม่พอใครที่
00:04:58 → 00:05:00 ฟังมาจะรู้ว่าหนไม่ได้เน้นเรื่องการจัด
00:05:00 → 00:05:02 เวลาการทานที่สุดโตกแต่เน้นเรื่องสาร
00:05:02 → 00:05:05 อาหารที่เหมาะสมมันจะทำได้ตลอดชีวิตโอเค
00:05:05 → 00:05:07 มั้ยครับเนาะเพราะฉะนั้นต้องเข้าใจตรงนี้
00:05:07 → 00:05:09 ก่อนนะว่า intermittent fasting หรือ If
00:05:09 → 00:05:12 มันคืออะไรคราวนี้ไอ้คำว่าอดมื้อเช้ากับ
00:05:12 → 00:05:14 มื้อเย็นมันหมายความว่าอะไรล่ะคะคุณหมอ
00:05:14 → 00:05:16 อ่ะผมยกตัวอย่างแบบนี้ะกันถ้าตาม
00:05:16 → 00:05:19 ประสบการณ์ของผมนะครับที่ผมดูแลนักเรียน
00:05:19 → 00:05:20 มาในกลุ่มเนี่ยกลุ่มเรียนลดน้ำหนักครั้ง
00:05:20 → 00:05:22 สุดท้ายในชีวิตที่หลายๆคนถามถึงเดี๋ยวตอน
00:05:22 → 00:05:24 ุดตอนท้ายๆเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังว่าเค้า
00:05:24 → 00:05:27 เรียนยังไงเนาะแต่ในกลุ่มเนี่ยกว่า 20,000
00:05:27 → 00:05:29 คนที่เป็นนักเรียนของผมเนี่ยมีนักเรียน
00:05:29 → 00:05:32 ครบทุกรูปแบบเลยไม่ว่าจะทำงานเป็นกะทำงาน
00:05:32 → 00:05:36 เป็นเวลาทำงานเช้าบ้างกลางคืนบ้างลักษณะ
00:05:36 → 00:05:38 การกินการจัดเวลาในชีวิตประจำวันของแต่ละ
00:05:38 → 00:05:40 คนมันเลยแตกต่างกันไปดังนั้นเราเลยต้อง
00:05:40 → 00:05:43 เข้าใจพื้นฐานของมันก่อนคราวนี้ถ้าถามห
00:05:43 → 00:05:45 หนึ่งว่าแล้วอดอาหารเนี่ยช่วงอดเนี่ยกับ
00:05:45 → 00:05:48 ช่วงกินเนี่ยแบ่งแบบไหนเราถึงจะได้ผลดี
00:05:48 → 00:05:52 มากที่สุดนะถ้าตามประสบการณ์ของผมนะผมแนะ
00:05:52 → 00:05:55 นำให้เริ่มทำ If ตั้งแต่ 15/9 เอาใหม่นะ
00:05:55 → 00:05:58 บางคนยังไม่เข้าใจ 15/9 หมายความว่าใน 1
00:05:58 → 00:06:02 วันมีช่วงหยุดกินทั้งหมด 15 ชมมและมีช่วง
00:06:02 → 00:06:07 กินแค่ 9 ชมงเช่นอะไรบ้างเช่นหมอ 1 เริ่ม
00:06:07 → 00:06:10 กินมื้อแรกตอน 8:00 นอ่าหมอหนึ่งก็จะไป
00:06:10 → 00:06:14 หยุดกินที่ประมาณ 17.00 นอันนี้คือกิน 9
00:06:14 → 00:06:17 ชมงแล้วหลัง 17.00 นไปถึง 8:00 นอีกวัน
00:06:17 → 00:06:20 นึงไม่กินคำว่าไม่กินในที่นี้ไม่ได้หมาย
00:06:20 → 00:06:22 ความว่าไม่กินอะไรเลยนะครับแต่สิ่งที่กิน
00:06:22 → 00:06:24 ต้องเป็นสิ่งที่ไม่มีแคลอรี่เพราะฉะนั้น
00:06:24 → 00:06:28 ถามว่าอะไรบ้างล่ะน้ำเปล่าชากาแฟดำพวก
00:06:28 → 00:06:30 เนี้ยได้แต่ถ้าหลังมื้อเย็นไปแล้วกาแฟก็
00:06:30 → 00:06:32 ไม่ค่อยอยากให้กินเท่าไหร่แต่ถ้าก่อน 8:00
00:06:32 → 00:06:35 นบางคนตื่น 5:00 นนะแล้วก็ทำธุระอะไรก่อน
00:06:35 → 00:06:38 จะไปทำงานเนี่ยกาแฟดำตอนเช้าอได้ไม่นับ
00:06:38 → 00:06:41 เป็นมืออาหารโอเคยนะครับเนาะอันเนี้ยก็
00:06:41 → 00:06:44 เป็น 15/9 อันนี้ยกตัวอย่างในกรณีที่แต่
00:06:44 → 00:06:46 ละคนทำงานเป็นเวลากินเป็นเวลาเดิมๆทุกวัน
00:06:46 → 00:06:49 นะโอเคป่ะนะครับเนาะส่วนคนที่ทำงานเป็นกะ
00:06:49 → 00:06:52 ก็ต้องไปพูดกันอีกคลิปนึงนะครับคราวนี้
00:06:52 → 00:06:55 ถามว่าแล้ว 15/9 ได้ผลมยก็ได้ผลดีนะเพราะ
00:06:55 → 00:06:58 ว่าเราจะลดน้ำหนักได้ดีจะเอาไขมันมาใช้
00:06:58 → 00:07:00 ได้ดีต้องมีช่วงเวลาของการหยุดทานนานกว่า
00:07:00 → 00:07:02 12 ชมงถูกมั้ยแล้วถ้าสมมุติว่าเป็น If
00:07:02 → 00:07:06 แบบ 16/8 ล่ะ 16/8 ก็คือหยุด 16 ชมเราจะ
00:07:06 → 00:07:09 ได้กำไรเพิ่มมาหน่อยนึงกลายเป็นเริ่มกิน
00:07:09 → 00:07:13 ตอน 8:00 นอาจจะไปหยุดกินตอน 16.00 ก็ได้
00:07:13 → 00:07:17 อ่าแล้วตั้งแต่ 16. ไปจนถึง 8:00 นอีกวัน
00:07:17 → 00:07:19 นึงนะ 16 ชมเป็นช่วงเวลาของการหยุดทาน
00:07:19 → 00:07:21 ร่างกายก็จะใช้ไขมันได้มากขึ้นมาอีก 1
00:07:21 → 00:07:24 ชั่วโมงก็จะกำไรเพเพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึง
00:07:24 → 00:07:27 แต่พอเป็นแบบนี้ปั๊บหลายคนเริ่มถามหมอ1ึ
00:07:27 → 00:07:30 นะว่าคุณหมอคะ 16.00 หนูยังไม่ไม่เลิกงาน
00:07:30 → 00:07:32 เลยค่ะข้าวเย็นหนูจะกิน 16.00 นี่มันเป็น
00:07:32 → 00:07:35 ไปแทบไม่ได้เลยบางคนมีลูกต้องกลับบ้านไป
00:07:35 → 00:07:37 เลี้ยงลูกที่บ้านต้องกินข้าวพร้อมกันตอน
00:07:38 → 00:07:40 19:00 นแบบนี้แสดงว่าโอกาสทำ If หรือ
00:07:41 → 00:07:43 โอกาสที่จะอดมื้อใดมื้อหนึ่งของหนูนี่ยาก
00:07:43 → 00:07:46 มากเลยใช่มั้คะเห็นมยผมถึงบอกว่าเราต้อง
00:07:46 → 00:07:48 เข้าใจก่อนเราต้องเข้าใจร่างกายตัวเองไม่
00:07:48 → 00:07:50 งั้นเราจะไปลอกคนอื่นว่าคนอื่นบอกว่าให้
00:07:50 → 00:07:53 กิน 8 นน 16:00 นสิแล้วจะผอมบางคนบอกก็
00:07:53 → 00:07:55 วิธีการใช้ชีวิตของฉันมันไม่ใช่แบบนั้น
00:07:55 → 00:07:58 น่ะแสดงว่าฉันไม่ผอมแล้วหรือเปล่าไม่ใช่
00:07:58 → 00:08:00 โอเคป่าโยนความคิดที่ว่าตัวเองผอมยากออก
00:08:00 → 00:08:03 ไปก่อนนะคุณเหมาะสมที่จะได้สุขภาพดีแต่
00:08:03 → 00:08:06 ต้องมีความรู้ก่อนแค่นั้นเองโอเคป่ะอัน
00:08:06 → 00:08:09 นี้ก็เป็นตัวอย่างของ 16/8 16/8 บางคนนะ
00:08:09 → 00:08:12 เริ่มกินเที่ยนก็มีนะแล้วก็ไปหยุดที่
00:08:12 → 00:08:15 20:00 นก็มีอ่าเริ่มเที่ยนแล้วไปหยุด
00:08:15 → 00:08:18 20:00 นก็มีแต่บแบบนี้ข้อดีก็มีข้อเสีย
00:08:18 → 00:08:21 ก็มีข้อดีคืออะไรข้อดีคือแบบเนี้ยไม่ค่อย
00:08:21 → 00:08:24 หิวบ่อยเพราะอะไรเพราะว่ากลางคืนไม่หิว
00:08:24 → 00:08:27 แน่นอนเราหยุดกิน 20:00 นอ่ะแต่ข้อเสีย
00:08:27 → 00:08:30 คือถ้าคุณนอน 22:00 นแบบนี้เป็นกดไหลย้อน
00:08:30 → 00:08:32 เลยนะพอเห็นภาพมั้ยครับนะเพราะเราหยุดกิน
00:08:32 → 00:08:35 20:00 นถูกมั้ยข้อควรระวังของคนที่กิน
00:08:35 → 00:08:37 มื้อเย็นเลยเวลาพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วคือ
00:08:37 → 00:08:40 ควรจะให้มื้อเย็นเนี่ยมันห่างกับช่วงเวลา
00:08:40 → 00:08:44 นอนเนี่ยอย่างน้อย 3-4 ชมงนะโอเคป่าทำไม
00:08:44 → 00:08:47 ต้อง 3-4 ชั่วโมงรู้มยอาหารของคนเราเวลา
00:08:47 → 00:08:50 มันไปอยู่ที่กระเพาะเนี่ยมันจะใช้เวลา 3-4
00:08:50 → 00:08:52 ชมงในการที่จะย่อยเสร็จปั๊บก็ดันอาหาร
00:08:52 → 00:08:54 เนี่ยไปไว้ที่ลำไส้ถ้าอาหารยังอยู่ใน
00:08:54 → 00:08:57 กระเพาะอยู่แล้วคุณนอนอาหารมันก็จะไหลท้น
00:08:57 → 00:08:59 มาชนหลอดอาหารทำให้คุณเป็นกรดไหลย้อนได้
00:08:59 → 00:09:01 ได้แต่ถ้าอาหารผ่านกระเพาะไปหมดแล้ว
00:09:01 → 00:09:03 อันเนี้ยคุณไม่ต้องกลัวะเพราะมันจะโอกาส
00:09:03 → 00:09:05 เกิดกดไหลย้อนเนี่ยยากมากโอเคไหครับเนาะ
00:09:05 → 00:09:07 เพราะฉะนั้นแบบนี้ก็ได้เหมือนกันก็เป็น
00:09:07 → 00:09:10 16/8 หรือมากที่สุดที่หมอหนึ่งเคยทำก็
00:09:10 → 00:09:17 คือ If 18/6 อ่า 18/6 ได้มยได้อันนี้
00:09:17 → 00:09:19 เป็นแบบที่ผมทำเลยตอนผมลดน้ำหนักก็คือ
00:09:19 → 00:09:25 ตั้งแต่เที่ยงจนถึง 18.00 นอ่าไม่กินเช้า
00:09:25 → 00:09:27 อ่าหมอ 1 เลือกไม่กินเช้าแต่บางคนอาจจะ
00:09:27 → 00:09:29 ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบหมอ 1 นะคือบางคน
00:09:29 → 00:09:33 บอกว่าหยุดกิน 18 ชมแลกิน 6 ชมอาจจะทำอีก
00:09:33 → 00:09:36 แบบนึงก็ได้เช่นอาจจะกิน 8:00 นแล้วหยุด
00:09:36 → 00:09:39 ตอน 14 แบบนี้ก็ได้นะไม่จำเป็นต้องลอกผม
00:09:39 → 00:09:42 พอเห็นมยเพราะว่าแต่ละคนใช้ชีวิตไม่
00:09:42 → 00:09:43 เหมือนกันไงโอเคป่าต้องเคลียร์ตรงนี้ก่อน
00:09:44 → 00:09:45 นะครับเนาะเพราะฉะนั้นตรงนี้หมอ 1 อยาก
00:09:45 → 00:09:48 ให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าจะลดน้ำหนักได้อด
00:09:48 → 00:09:50 มื้อเช้าหรือมื้อเย็นไม่สำคัญโยนทิ้งไป
00:09:50 → 00:09:52 ก่อนแต่ต้องเข้าใจคำว่า intermittent
00:09:53 → 00:09:55 fasting หรือ If เนี่ยคืออะไร If คือการ
00:09:55 → 00:09:58 แบ่งช่วงเวลาการทานออกเป็นช่วงกินกับหยุด
00:09:58 → 00:10:00 กินจะลดน้ำหนักได้ดีช่วงหยุดกินควรจะต้อง
00:10:00 → 00:10:04 นนานอย่างน้อย 12 ชมงแต่ถ้าเริ่มชินกับ
00:10:04 → 00:10:06 การที่แบ่งเวลากินกับหยุดกินแล้วช่วงหยุด
00:10:06 → 00:10:09 กิน 12 ชมคุณเพิ่มช่วงหยุดกินเพิ่มขึ้นมา
00:10:09 → 00:10:12 หน่อยเช่น 15 ชมแบบนี้พอได้ 16 ชมแบบนี้
00:10:12 → 00:10:15 ได้ 18 ชมงได้แต่สังเกตว่าช่วงกินใน 1
00:10:15 → 00:10:17 วันของเรามันจะน้อยลงเรื่อยๆคุณลองนึกภาพ
00:10:17 → 00:10:20 นะว่าเราทำ If 18/6 นะเรามีช่วงกินแค่ 6
00:10:20 → 00:10:23 ชมเองนะอย่างหมอ 1 เนี่ยจุดกินเที่ยงจถึง
00:10:23 → 00:10:25 18:00 นเนี่ยเรากินได้กี่มื้ออย่างมากก็
00:10:25 → 00:10:28 3 มื้อถูกมยหรือจริงๆ 3 มื้อยังแน่นไป
00:10:28 → 00:10:30 ด้วยซ้ำเพราะว่าผมกินเที่ยนกับ 18:00 น
00:10:30 → 00:10:32 แล้ว 15:00 นอีก 1 มื้อเนี่ยถ้าจะกินแน่น
00:10:32 → 00:10:35 ๆอัดๆกันเนี่ยโอกาสที่มันจะจุกมันเยอะมาก
00:10:35 → 00:10:37 เพราะฉะนั้นหมอหนึ่งก็เลยกินแค่ 2 มื้อ
00:10:37 → 00:10:39 แต่การกิน 2 มื้อในที่นี้ไม่ได้หมายความ
00:10:39 → 00:10:41 ว่าตัดมื้อใดมื้อหนึ่งออกไปแล้วเรียกว่า
00:10:41 → 00:10:44 การทำไไม่ใช่คนเราปกติเกิดมาเนี่ยถูกสอน
00:10:44 → 00:10:46 ให้กิน 3 มื้อเพราะอะไรรู้มั้ยมันจะมี
00:10:47 → 00:10:49 อยู่คำๆนึงนะครับที่เราต้องรู้จักคือคำ
00:10:49 → 00:10:52 ว่านาฬิกาชีวภาพนาฬิกาชีวภาพหรือนาฬิกา
00:10:52 → 00:10:55 ชีวิตชีวิตของคนเราเนี่ยมันอ้างอิงตามพระ
00:10:55 → 00:10:58 อาทิตย์น่าเราตื่นขึ้นมาปั๊บพระอาทิตย์
00:10:58 → 00:11:00 ขึ้นร่างกายถูกกระุ่นจากแสงอาทิตย์ตอน
00:11:00 → 00:11:02 เช้าให้ตับเนี่ยสร้างน้ำตาลออกมาเพื่อให้
00:11:02 → 00:11:04 เราออกไปใช้ชีวิตแล้วพอน้ำตาลเราเริ่มตก
00:11:04 → 00:11:06 คือเราใช้น้ำตาลที่ร่างกายเราสร้างขึ้นไป
00:11:06 → 00:11:08 แล้วน้ำตาลเราเริ่มตกเราก็ต้องหาของกิน
00:11:08 → 00:11:10 ตอนเช้าเพื่อที่จะทำให้ร่างกายใช้ชีวิต
00:11:10 → 00:11:13 แบบมีพลังงานต่อไปได้เพราะฉะนั้นสมัยก่อน
00:11:13 → 00:11:15 เราก็เลยมักจะต้องกินอาหารเช้าเสร็จปั๊บ
00:11:15 → 00:11:17 อีก 3-4 ชั่วโมงเราหิวอีกแล้วเพราะอะไร
00:11:17 → 00:11:19 เมื่อกี้หมอหนึ่งเพิ่งพูดไปว่าอาหารผ่าน
00:11:19 → 00:11:21 กระเพาะไปใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงถูกมั้ย
00:11:21 → 00:11:23 เที่ยงเราเลยหิวอีกแล้วแล้วช่วงเย็นเราก็
00:11:23 → 00:11:25 เลยหิวอีกแล้วแต่พอพระอาทิตย์เริ่มตกดิน
00:11:26 → 00:11:28 ตอนเย็นหลัง 17:00 นเป็นต้นไป 18:00 น
00:11:28 → 00:11:30 เป็นต้นไปร่างกายเริ่มไม่ค่อยใช้พลังงาน
00:11:30 → 00:11:33 อะไรเท่าไหร่ร่างกายก็จะไม่ค่อยหิวแล้ว
00:11:33 → 00:11:35 ส่วนใหญ่เราก็มักจะนอนถ้าเป็นสมัยก่อน
00:11:35 → 00:11:37 เนาะที่พระอาทิตย์ตกดินแล้วอ่ะ 3 2:00
00:11:37 → 00:11:40 21 นเราก็หลับแล้วคนต่างจังหวัด 20:00
00:11:40 → 00:11:42 21 นเคนอนแล้วนะเลยไม่ค่อยเกิดปัญหาว่า
00:11:42 → 00:11:44 เราหิวตอนกลางคืนแต่ถ้าเป็นคนกรุงส่วน
00:11:44 → 00:11:46 ใหญ่นะกินข้าวมื้อสุดท้ายก่อนพระอาทิตย์
00:11:46 → 00:11:48 ตกดินเที่ยงคืนก็ยังหิวเพราะอะไรเพราะเรา
00:11:48 → 00:11:50 ใช้พลังงานเราถูกกระตุ้นเยอะเรามี
00:11:50 → 00:11:53 activity เรามีกิจกรรมก่อนที่มันจะถึง
00:11:53 → 00:11:56 เที่ยงคืนน่ะค่อนข้างเยอะเราเลยหิวง่าย
00:11:56 → 00:11:58 ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อนโอเคมั้ยเพราะฉะนั้น
00:11:58 → 00:11:59 จริงๆแล้วเนี่ยร่างกายเราถูกถูกแบบออกแบบ
00:11:59 → 00:12:02 มาให้กิน 3 มื้อแต่ 3 มื้อในที่นี้ไม่ได้
00:12:02 → 00:12:03 หมายความว่าต้องเป็นอาหารเต็มๆทั้ง 3
00:12:03 → 00:12:05 มื้อหมอหนึเลยเอามาประยุว่าถ้าอย่างงั้น
00:12:05 → 00:12:08 ถ้าเราลดเวลาของช่วงกินในช่วงลดน้ำหนักลง
00:12:08 → 00:12:10 เนี่ยเหลือแค่ 6 ชมงเรากิน 3 มื้อเต็มก็
00:12:10 → 00:12:11 ได้
00:12:11 → 00:12:15 นะหรือเราอาจจะกินเป็น 2 มื้อเต็มบวก 1
00:12:15 → 00:12:18 มื้อย่อยได้มยอ้าเช่นหมายความว่าอะไรหมาย
00:12:18 → 00:12:22 ความว่าหมอ 1 กินมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น
00:12:22 → 00:12:25 แล้วมื้อบ่าย 3 เป็นแค่มื้อย่อยๆแต่มื้อ
00:12:25 → 00:12:27 ย่อยๆของหมอ 1 ใครตามหมอ 1 จะรู้ว่าร่าง
00:12:27 → 00:12:29 กายของคนเราสะสมไขมันจากการที่เรากินน้ำ
00:12:29 → 00:12:31 ตาลกับแป้งมากเกินไปถูกมั้ยเพราะระบบพลัง
00:12:31 → 00:12:33 งานมี 2 ระบบคือใช้น้ำตาลกับแป้งกับใช้ไข
00:12:33 → 00:12:36 มันถ้าร่างกายมีน้ำตาลกับแป้งเยอะมันจะ
00:12:36 → 00:12:38 ใช้น้ำตาลกับแป้งก่อนแล้วยิ่งถ้ากินเยอะ
00:12:38 → 00:12:39 มากจนมันใช้ไม่หมดมันจะเอาไปสะสมเป็นไข
00:12:40 → 00:12:41 มันเพราะฉะนั้นมื้อเสริมของหม 1 หม 1 จะ
00:12:41 → 00:12:43 เสริมแค่โปรตีนให้ร่างกายมันได้โปรตีน
00:12:43 → 00:12:45 เพียงพอแล้วอิ่มแบบเนี้ยก็จะกลายเป็นว่า
00:12:45 → 00:12:47 เรากิน 2 มื้อหลักบวก 1 มื้อย่อยโดยที่
00:12:47 → 00:12:50 ยังได้สารอาหารครบเพราะฉะนั้นหลักๆจริงๆ
00:12:50 → 00:12:51 แล้วการอดอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นไม่
00:12:51 → 00:12:53 ได้บ่งบอกว่าคุณจะผอมไม่ได้เป็นตัว
00:12:53 → 00:12:56 การันตีว่าคุณจะผอมด้วยนะแต่เวลาคุณอด
00:12:57 → 00:12:58 มื้อใดมื้อหนึงไปแล้วอย่างหมอ 1 กิน
00:12:58 → 00:13:01 เที่ยงจนจนถึง 18:00 นหมอหนึ่งตัดมื้อ
00:13:01 → 00:13:03 อะไรออกครับตัดมื้อเช้าออกแต่สารอาหารใน
00:13:03 → 00:13:05 มื้อเช้าเนี่ยหมอหนึ่งเอาไปโปะมื้ออื่น
00:13:05 → 00:13:07 แทนซึ่งสารอาหารที่สำคัญที่สุดที่หมอ
00:13:07 → 00:13:09 หนึ่งเคยพูดไปแล้วคืออะไรคนไทยกินไม่ค่อย
00:13:09 → 00:13:11 ถึงคือโปรตีนเพราะโปรตีนเนี่ยเอาไว้สร้าง
00:13:11 → 00:13:13 กล้ามเนื้อเวลาเรากินโปรตีนไม่ถึงร่างกาย
00:13:13 → 00:13:16 ก็เลยดึงกล้ามเนื้อมาใช้เรื่อยๆเรื่อยๆๆๆ
00:13:16 → 00:13:18 เวลาเราจับนะตอนเราอ้วนก็จะมีแต่ไขมัน
00:13:18 → 00:13:20 กล้ามเนื้อไม่ค่อยมีถูกป่ะนะเพราะฉะนั้น
00:13:20 → 00:13:23 โปรตีนเลยสำคัญการที่เราตัดอาหารมื้อเช้า
00:13:23 → 00:13:25 ออกแล้วไปกินเที่ยงกับเย็นเราต้องเอา
00:13:25 → 00:13:27 โปรตีนในมื้อเช้าไปเฉลี่ยเที่ยงกับเย็น
00:13:27 → 00:13:29 ด้วยถ้าคุณจะตัดมื้อเย็นออกคุณต้องเอาเอา
00:13:29 → 00:13:30 โปรตีนในมื้อเย็นไปเฉลี่ยในมื้อเช้ากับ
00:13:30 → 00:13:33 มื้อเที่ยงด้วยเห็นภาพตรงนี้มนะครับเนาะ
00:13:33 → 00:13:36 เพราะฉะนั้นถามว่าอดอาหารมื้อเช้ากับอด
00:13:36 → 00:13:40 อาหารมื้อเย็นอะไรดีกว่ากันคำตอบคือทำได้
00:13:40 → 00:13:44 ทั้งคู่ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ชีวิตฟังดีๆ
00:13:44 → 00:13:49 นะหมอ 1 ชอบอดมื้อเช้ามากกว่าเพราะพอกลับ
00:13:49 → 00:13:51 มาถึงบ้านแล้วตอนเย็นเราใช้พลังงานค่อน
00:13:51 → 00:13:54 ข้างเยอะในการที่ต้องคิดงานตอบลูกเพจทำ
00:13:54 → 00:13:56 นู่นทำนี่หมอหนึ่งเลยมักจะกินไปสุดอยู่
00:13:56 → 00:13:58 ที่ประมาณ 18:00 นพอกินไปสุด 18:00 นก็
00:13:58 → 00:14:01 เลยนองนัลองนั่งนึกภาพถ้าเรานั่งตรวจคน
00:14:01 → 00:14:03 ไข้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วเรากินตั้งแต่ 8:00
00:14:03 → 00:14:07 นแล้วเรากินไปจนถึง 18:00 นเกิดอะไรขึ้น
00:14:07 → 00:14:09 ครับเรามีช่วงเวลาของการกินตั้ง 10
00:14:09 → 00:14:12 ช่วโมงถูกมยแล้วมีช่วงเวลาของการอดแค่ 14
00:14:12 → 00:14:15 ชมงมันอย่างเงี้ยเราเรียกว่า If 14/10
00:14:15 → 00:14:18 ถามว่าได้มยผอมมก็พอได้นะแต่ตาม
00:14:18 → 00:14:20 ประสบการณ์ของผมที่ดูแลนักเรียนมากว่า
00:14:20 → 00:14:23 20,000 คนน่ะผมบอกเลยว่า 15 ชมขึ้นไปถึง
00:14:23 → 00:14:26 จะลดน้ำหนักได้ดีเพราะฉะนั้นงั้นปรับนิด
00:14:26 → 00:14:28 นึงแล้วกันจะไปกิน 10:00 นก็ไม่ได้เพราะ
00:14:28 → 00:14:30 เราทำงานอยู่เอาอย่างงี้งั้นเราเริ่ม
00:14:30 → 00:14:34 เที่ยงเลยะกันแต่ไม่อยากเป็นกดไหลย้อนหมอ
00:14:34 → 00:14:35 หนึ่งจะไม่กินจนถึง 20:00 นหมอหนึ่งก็จะ
00:14:35 → 00:14:38 กินแค่ถึง 18:00 นนั่นแหละ 6 ชมอย่างนี้
00:14:38 → 00:14:42 กลายเป็น If 18/6 แต่ใน 6 ชมนี้ระวังที่
00:14:42 → 00:14:45 สุดเลยคือสารอาหารต้องครบเนี่ยข้อเนี้ย
00:14:45 → 00:14:47 คือข้อนึงที่หลายๆคนพลาดแล้วบอกว่าทำไมทำ
00:14:47 → 00:14:50 ไแล้วไม่ผอมคุณหมอคะอดมื้อเช้าทำไมไม่ผอม
00:14:50 → 00:14:52 อดมื้อเย็นทำไมไม่ผอมเพราะคุณตัดมื้อ
00:14:52 → 00:14:55 อาหารไปเลยแล้วโปรตีนมันหายไปด้วยพอสาร
00:14:55 → 00:14:57 อาหารไม่ครบเราไม่เรียกการทำ If เลยนะคน
00:14:57 → 00:15:00 ที่ทำ If แล้วกินกินโปรตีนแล้วตัดมื้อ
00:15:00 → 00:15:01 นั้นออกไปเลยแล้วโปรตีนไม่ได้เอาไปเพิ่ม
00:15:01 → 00:15:04 มื้ออื่นเนี่ยมันคือการอดอาหารเพราะร่าง
00:15:04 → 00:15:06 กายมองว่าอดอาหารสุดท้ายกล้ามเนื้อจะหาย
00:15:06 → 00:15:08 ไปเรื่อยๆพอกลับมากินเยอะโยโยเลยเห็นภาพ
00:15:08 → 00:15:11 ป่าโอเคมยนะครับเพราะฉะนั้นทำได้ทั้งคู่
00:15:12 → 00:15:15 ขึ้นอยู่กับว่าใครถนัดแบบไหนหมอหนึ่งถนัด
00:15:15 → 00:15:17 แบบนี้มากกว่าแล้วมหนึ่งก็กินกาแฟไป
00:15:17 → 00:15:19 ระหว่างตรวจคนไข้ตอนเช้าพอเที่ยงปั๊บอ่ะ
00:15:19 → 00:15:22 ค่อยกินมื้อแรกโอเคเนาะนะครับนะคราวนี้
00:15:22 → 00:15:24 ข้อที่หลายๆคนกังวลคือคุณหมอคะแล้วถ้าอด
00:15:24 → 00:15:27 มื้อเช้าเนี่ยจะเป็นอัลไซเมอร์มยคำตอบก็
00:15:27 → 00:15:30 คือมีงานวิจัยนะครับเยอะมากๆที่พยายามทำ
00:15:30 → 00:15:32 เรื่องนี้แต่ยังไม่มีตัวไหนที่รับรองเลย
00:15:32 → 00:15:34 ว่าอดอาหารมื้อเช้าแล้วจะเป็นอัลไซเมอร์
00:15:34 → 00:15:36 ส่วนใหญ่คนที่อดอาหารมื้อเช้าแล้วเป็น
00:15:36 → 00:15:38 อัลไซเมอร์หรือความจำไม่ค่อยดีเกิดจากการ
00:15:38 → 00:15:41 ที่อดมื้อเช้าแล้วมื้อกลางวันกับเย็นกิน
00:15:41 → 00:15:43 เท่าเดิมโดยที่ไม่ได้เอาสารอาหารเฉลี่ยใน
00:15:43 → 00:15:45 มื้อเช้าไปเฉลี่ยมื้ออื่นพอเข้าใจเรื่อง
00:15:45 → 00:15:47 นี้มั้ยเพราะฉะนั้นสมองเสื่อมไม่ได้เกิด
00:15:47 → 00:15:50 จากอดอาหารเช้าหรอกแต่อาจจะเกิดจากสาร
00:15:50 → 00:15:52 อาหารไม่พอมากกว่าร่างกายได้สารอาหารน้อย
00:15:52 → 00:15:55 เกินไปทำให้สมองเสื่อมเนาะนะครับส่วนคน
00:15:55 → 00:15:59 ที่อดอาหารมื้อเย็นได้มยได้เหมือนกันจริง
00:15:59 → 00:16:02 ๆถามว่าดีมยก็ดีด้วยเพราะการที่เราอดมื้อ
00:16:02 → 00:16:04 เย็นคือบางมื้อเย็นของบางคนมันประมาณ
00:16:04 → 00:16:06 19:00 น 20:00 นใช่มั้ยถ้าเราอดมื้อเย็น
00:16:06 → 00:16:07 ตรงนั้นเราเลื่อนมากินมื้อเย็นเร็วหน่อย
00:16:08 → 00:16:10 เช่นอาจจะกิน 8:00 นถึง 15:00 น 800 นถึง
00:16:10 → 00:16:13 16:00 นแบบเนี้ยก็จะทำให้ร่างกายของเรา
00:16:13 → 00:16:17 เนี่ยทำงานตามนาฬิกาชีวภาพแต่ข้อควรระวัง
00:16:17 → 00:16:19 คือคุณอาจจะไปหิวดึกนะถ้าคุณนอนดึกโอเคมย
00:16:19 → 00:16:21 เดี๋ยวจะทำอีกคลิปนึงออกมาให้นะครับว่าคน
00:16:21 → 00:16:24 ที่ชอบหิวดึกๆบ่อยๆเนี่ยแก้ยังไงเนาะ
00:16:24 → 00:16:27 เพราะฉะนั้นทำได้ทั้งคู่ทั้งอดเช้าแล้วก็
00:16:27 → 00:16:29 อดเย็นแต่ระวังเรื่องอะไรครับสารอาหาร
00:16:29 → 00:16:32 เนาะโอเคเปล่าไม่งั้นการทำไอของคุณจะไม่
00:16:32 → 00:16:34 มีประโยชน์เลยเนาะหวังว่าจะเข้าใจมากขึ้น
00:16:34 → 00:16:35 นะอดได้ทั้งเช้าทั้งเย็นนะครับอย่าไป
00:16:35 → 00:16:38 ซีเรียสมากปรับให้เข้ากับการใช้ชีวิต
00:16:38 → 00:16:40 ประจำวันของคุณให้ได้ก็พอเพราะมันจะทำให้
00:16:40 → 00:16:43 คุณทำทำได้นานและทำได้ตลอดไปเพราะฉะนั้น
00:16:43 → 00:16:45 ก็ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆเราอีกทีนึง
00:16:45 → 00:16:47 นะที่ลดไปได้คนนึงลดไปได้ 30 กลเนี่ยนะ
00:16:47 → 00:16:50 ครับกลับมาอายุเหมือนหนุ่มๆสาวๆอีกครั้ง
00:16:50 → 00:16:52 เลยอีกคนเพิ่งเริ่มลดไป 2 สัปดาห์นะลดไป
00:16:52 → 00:16:55 ได้ 5 กกกว่าๆเกือบ 6 กกแล้วนะครับเนาะ
00:16:55 → 00:16:57 เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ความรู้หมอ
00:16:57 → 00:17:00 หนึ่งพูดทุกคลิปเลยนะความเชื่อก็สำคัญคุณ
00:17:00 → 00:17:02 จะมีความเชื่อเมื่อคุณอยู่ในบรรยากาศการ
00:17:02 → 00:17:05 ลดน้ำหนักที่เหมาะสมถ้ารู้สึกไม่มีกำลัง
00:17:05 → 00:17:08 ใจเข้ามาฟังคลิปหมอหนึ่งบ่อยๆเปิดฟังได้
00:17:08 → 00:17:10 ทุกวันเลยนะครับหมอหนึ่งจะลงคลิปเนี่ยถี่
00:17:10 → 00:17:12 ที่สุดเท่าที่ทำได้แต่แน่ๆที่เราจะเจอกัน
00:17:12 → 00:17:15 คือวันอังคารพฤหัสแล้วก็วันอาทิตย์ก็จะ
00:17:15 → 00:17:17 เป็นการเอาเทคนิคต่างๆมาเล่าให้ฟังว่า
00:17:17 → 00:17:19 อยากเริ่มต้นลดน้ำหนักทำยังไงบ้างเอาคำ
00:17:19 → 00:17:22 ถามมาตอบว่าเพื่อนๆถามแบบนี้คำถามนี้น่า
00:17:22 → 00:17:24 สนใจนะครับจะเอาไปปรับใช้กับการลดน้ำหนัก
00:17:24 → 00:17:26 ยังไงส่วนใครที่อยากให้หมอ1ึช่วยในการลด
00:17:26 → 00:17:28 น้ำหนักไม่อยากลดน้ำหนักรอยแบบลองผิดลอง
00:17:28 → 00:17:30 ถูกเองเองหมอหนึ่งก็มีกลุ่มเรียนด้วยนะนะ
00:17:30 → 00:17:32 ครับชื่อกลุ่มว่ากลุ่มเรียนลดน้ำหนัก
00:17:32 → 00:17:34 ครั้งสุดท้ายในชีวิตกลุ่ม VIP นะครับใน
00:17:34 → 00:17:36 นั้นเนี่ยหมอหนึ่งจะมีบทเรียนเรียงไว้ให้
00:17:36 → 00:17:38 ว่า 1 2 3 4 5 แต่ละวันต้องทำอะไร
00:17:38 → 00:17:40 บ้างเรียนจบบทที่ 1 ทำอะไรวันที่ 2 ทำ
00:17:40 → 00:17:42 อะไรไม่ต้องคิดเองนะครับว่าจะปรับอะไร
00:17:42 → 00:17:44 ก่อนหลังปรับตามนี้เลยบทเรียนทั้งหมดถูก
00:17:45 → 00:17:46 ออกแบบมาแล้วเพราะว่ามันเกิดจากการดัด
00:17:46 → 00:17:49 แปลงจากประสบการณ์ที่หมอ 1 ช่วยคนลงน้ำ
00:17:49 → 00:17:51 หนักมากว่า 20,000 คนที่อยู่ในกลุ่มเรียน
00:17:51 → 00:17:53 และยังไม่รวมคนอื่นๆอีกที่หมอหนึ่งเคยเจอ
00:17:53 → 00:17:55 เพราะฉะนั้นเชื่อเถอะว่ามันทำง่ายขอแค่
00:17:55 → 00:17:57 คุณเริ่มอยากมอบสิ่งดีๆให้ตัวเองนะครับ
00:17:57 → 00:17:59 เนี่ยอีกประมาณ 2 2 เดือนก็ปีใหม่แล้ว
00:17:59 → 00:18:01 อ่ะเราชอบตั้งเป้าว่าปีใหม่นี้ฉันอยาก
00:18:01 → 00:18:03 สุขภาพดีแต่พอเลยปีใหม่ไป 3-4 วันปั๊บ
00:18:03 → 00:18:05 กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้วถูกมั้ย
00:18:05 → 00:18:06 เพราะฉะนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้แหละอีก
00:18:06 → 00:18:08 2 เดือนมันจะกลายเป็นของขวัญให้คุณเนี่ย
00:18:08 → 00:18:11 เอาไปโพสต์อวดคนอื่นได้ว่าเออปีใหม่เนี่ย
00:18:11 → 00:18:13 ฉันผอมลงนะฉันลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายใน
00:18:13 → 00:18:15 ชีวิตได้แล้วมันคือความภาคภูมิใจอ่ะโอเค
00:18:15 → 00:18:17 มั้ยนะครับเนาะเพราะฉะนั้นใครที่สนใจ
00:18:17 → 00:18:19 เรียนกับหมอ 1 นะครับนะซึ่งหมอ 1 ตอบคำ
00:18:19 → 00:18:21 ถามอยู่ในกลุ่ม้วยเนาะเผื่อใครมีปัญหาใน
00:18:21 → 00:18:23 การลดน้ำหนักนะครับก็สามารถดูรายละเอียด
00:18:23 → 00:18:24 ได้นะครับใครดูจาก Facebook หรือ YouTube
00:18:24 → 00:18:26 ให้ดูรายละเอียดที่อยู่ในลิงก์ในคอมเมนต์
00:18:26 → 00:18:28 นะหมอ 1 ปักหมุดไว้ให้นะครับหรือจะแอดไลน
00:18:28 → 00:18:30 ก็ได้นะครับแ Healthy Hero นะครับก็จะมี
00:18:30 → 00:18:32 ทีมงานคอยให้รายละเอียดนะครับว่าเข้า
00:18:32 → 00:18:34 กลุ่มยังไงแล้วก็คอยอำนวยความสะดวกนะครับ
00:18:34 → 00:18:36 แล้วก็อย่าลืมกดหัวใจกดไลก์กดแชร์กดติด
00:18:36 → 00:18:38 ตามกดกระดิ่งแจ้งเตือนไว้นะครับจะได้ไม่
00:18:38 → 00:18:40 พลาดคลิปความรู้ดีๆแบบนี้นะส่วนใครที่จะ
00:18:40 → 00:18:42 เข้าไปเรียนกับหมอ 1 ในกลุ่ม VIP ก็เจอ
00:18:42 → 00:18:44 กันในกลุ่มนะครับแล้วพบกันคลิปถัดไปนะ
00:18:44 → 00:18:46 ครับชมคลิปหมอ 1 จบแล้วนะครับอย่าลืมกด
00:18:46 → 00:18:47 ติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจาก
00:18:48 → 00:18:50 หมอ 1 นะครับส่วนคลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดู
00:18:50 → 00:18:52 จากทางซ้ายมือได้เลยครับส่วนใครที่อยากลด
00:18:52 → 00:18:53 น้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียน
00:18:54 → 00:18:55 กับหมอ 1 นะครับกดดูรายละเอียดจากทางขวา
00:18:55 → 00:18:57 มือหรือดูรายละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์
00:18:57 → 00:19:01 ได้เลยนะครับแล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ
00:00:00 → 00:00:02 ลดน้ำหนักนะครับอดอาหารเช้าหรือว่าอด
00:00:02 → 00:00:04 อาหารเย็นได้ผลมากกว่ากันนะครับคลิปนี้
00:00:04 → 00:00:07 หมอเ่งมีคำตอบครับสวัสดีครับผมหมอเ่ง
00:00:07 → 00:00:08 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนักครั้งสุด
00:00:08 → 00:00:11 ท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy ฮีโร่นะ
00:00:11 → 00:00:13 ครับสำหรับคลิปนี้นะครับนะมีเพื่อนๆใน
00:00:13 → 00:00:15 ช่อง YouTube ของเราเนี่ยถามมานะครับว่า
00:00:15 → 00:00:18 คุณหมอคะลดน้ำหนักเนี่ยเราไม่กินข้าวเช้า
00:00:18 → 00:00:20 กับไม่กินข้าวเย็นเนี่ยอันไหนมันลดได้
00:00:20 → 00:00:22 เร็วกว่ากันแล้วมันมีข้อเสียมเพราะบางที
00:00:22 → 00:00:25 บางคนบอกว่าไม่กินข้าวเช้าหลายๆคนชอบบอก
00:00:25 → 00:00:27 ว่าจะเป็นอัลไซเมอร์นะครับหรือบางคนไปอด
00:00:27 → 00:00:30 อาหารเย็นก็เกิดปัญหาว่าหิวตอนดึกอีกไม่
00:00:30 → 00:00:32 รู้จะทำยังไงนะครับเดี๋ยวคลิปเอธิบายให้
00:00:32 → 00:00:34 ฟังละเอียดเลยนะครับแต่ก่อนอื่นนะครับใคร
00:00:34 → 00:00:36 ที่เพิ่งมาติดตามหม 1 นะอย่าลืมกดหัวใจกด
00:00:36 → 00:00:38 ไลก์กดแชร์กดติดตามนะครับแล้วก็กดกระดิ่ง
00:00:38 → 00:00:40 แจ้งเตือนนะวันหนึงจะลงคลิปทุกวันอังคาร
00:00:40 → 00:00:42 พฤหัสแล้วก็วันอาทิตย์นะครับคลิปในช่อง
00:00:42 → 00:00:44 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเกี่ยวกับความรู้แล้วก็
00:00:44 → 00:00:46 กำลังใจในการลดน้ำหนักนะครับดังนั้นอย่า
00:00:46 → 00:00:48 ลืมกดติดตามกดกระดิ่งแจ้งเตือนไว้นะแล้ว
00:00:48 → 00:00:50 ก็ตามธรรมเนียมนะครับขอแสดงความยินดีกับ
00:00:50 → 00:00:53 ท่านนี้ด้วยนะครับทำตามคำแนะนำของผมนะ
00:00:53 → 00:00:55 ครับนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันตอนนี้ลด
00:00:55 → 00:00:58 ไปแล้ว 30 กกนะครับนะปรบมือให้เพื่อนนิด
00:00:58 → 00:01:01 นึงน่านะครับถ้าถคุณตั้งใจนะแล้วเอาไป
00:01:01 → 00:01:03 ปรับใช้เนี่ยวันนึงเนี่ยสุขภาพดีๆความ
00:01:03 → 00:01:05 มั่นใจในการใช้ชีวิตจะกลับมาเป็นของคุณ
00:01:05 → 00:01:07 เหมือนท่านนี้เลยนะครับเนาะตอนเนี้ยกลับ
00:01:07 → 00:01:10 มาชิลๆซแพคเริ่มมาแล้วอ่าคือบางคนเนี่ย
00:01:10 → 00:01:12 เป้าหมายคือแค่อยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือน
00:01:12 → 00:01:15 ปกติไม่อยากมีพุงอยากใส่เสื้อผ้าสวยๆไม่
00:01:15 → 00:01:18 จำเป็นต้องมีิแคก็ได้ส่วนบางคนก็อยากจะมี
00:01:18 → 00:01:20 ิแคนะครับเพราะฉะนั้นเราต้องรู้ก่อนว่า
00:01:20 → 00:01:22 เป้าหมายของเราคืออะไรโอเคมยถ้าเป้าหมาย
00:01:22 → 00:01:24 เราแค่กลับไปใส่เสื้อผ้าสวยๆสุขภาพดีนะ
00:01:24 → 00:01:26 ไม่ยากเลยแบบท่านเนี่ยโอเคป่านะครับนะ
00:01:26 → 00:01:29 กลับไปเหมือนอายุสาวๆหนุ่มๆอีกครั้งเลย
00:01:29 → 00:01:31 เนาะก็ขอแสดงความความยินดีด้วยนะครับส่วน
00:01:31 → 00:01:33 อีกคนนึงนะบางคนบอกว่าหหคุณบอกว่า 30 กล
00:01:33 → 00:01:35 น่าจะใช้เวลานานนะคะมันลดนานมากเลยใช่
00:01:35 → 00:01:38 มั้ยคะท่านเนี้ยทำตามผมนะลดไปแค่ 2
00:01:38 → 00:01:42 สัปดาห์เองจาก 80 เหลือ 74 อีกนิดเดียวลง
00:01:42 → 00:01:45 เลข 6 แล้วอ่ะถามว่าใช้เวลานานมั้ยไม่เลย
00:01:45 → 00:01:47 ถ้าเทียบกับตอนที่คุณอ้วนนะบางคนเนี่ย
00:01:47 → 00:01:50 อ้วนกว่าจะใช้เวลาเนี่ยมัน 1 ปีโอ้โหคุณ
00:01:50 → 00:01:53 หมอคะจาก 60 ขึ้นมา 80 ปีนึงขึ้น 20 กล
00:01:53 → 00:01:55 เลยค่ะถ้าคุณไม่รู้อะไรเลยแล้วคุณจะลด
00:01:55 → 00:01:57 ปกติคุณต้องใช้เวลาปีนึงเหมือนกันนะถูก
00:01:57 → 00:01:59 มั้ยเราใช้เวลาสร้างหนี้เราก็มีเวลาต้อง
00:01:59 → 00:02:02 ใช้หนี้เหมือนกันแต่ถ้าคุณมีความรู้มันจะ
00:02:02 → 00:02:04 ประหยัดเวลามากขึ้นอย่างเงี้ยเห็นมั้ย 2
00:02:04 → 00:02:07 เดือนแป๊บเดียวเองลงไปละ 6 กกละไม่จำเป็น
00:02:07 → 00:02:09 ต้องรอถึงปีนึงหรอกนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:02:09 → 00:02:11 ตั้งใจฟังคลิปนี้ให้ดีนะอ่ะคราวนี้นะครับ
00:02:11 → 00:02:14 มาถึงสิ่งที่เพื่อนๆเราถามนะว่าลดน้ำหนัก
00:02:14 → 00:02:16 เนี่ยอดอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นดีกว่า
00:02:16 → 00:02:18 กันต้องบอกแบบนี้ว่าจริงๆไม่ค่อยอยากใช้
00:02:18 → 00:02:21 คำว่าอดอาหารเท่าไหร่เลยอ่าเพราะคำว่าอด
00:02:21 → 00:02:22 อาหารหมายความว่าคุณจะไม่กินอะไรเลยถูก
00:02:22 → 00:02:25 มั้ยแต่คำว่าอดอาหารในที่นี้หมอหนึ่งเข้า
00:02:25 → 00:02:28 ใจว่าเพื่อนๆเราอยากจะใช้คำว่าการทำ If
00:02:28 → 00:02:30 มากกว่าว่า If เนี่ยไม่กินเช้าหรือไม่กิน
00:02:30 → 00:02:33 เย็นดีกว่ากันคราวนี้บางคนไม่เคยรู้จัก If
00:02:33 → 00:02:35 มาก่อนเลยหมอหนเคยทำคลิปเกี่ยวกับพื้นฐาน
00:02:35 → 00:02:37 การทำ If ไว้นะเข้าไปดูได้ในช่องหมอหน่ง
00:02:38 → 00:02:40 นะครับนะมีคลิปดีๆเยอะมากๆเลยเนาะอ่ะแต่
00:02:40 → 00:02:42 ถ้าให้อธิบายคร่าวๆเพื่อที่จะได้เข้าใจ
00:02:42 → 00:02:44 ก่อนว่าอดมื้อเช้าหรือมื้อเย็นดีกว่ากัน
00:02:45 → 00:02:48 เนี่ย If เนี่ยมันย่อมาจากคำว่า
00:02:48 → 00:02:50 intermittent fasting จำไม่ได้ไม่เป็น
00:02:50 → 00:02:52 ไรแต่จะได้แปลก่อนเราจะได้เข้าใจว่ามัน
00:02:52 → 00:02:54 คืออะไร intermittent fasting
00:02:54 → 00:02:56 intermittent เนี่ยแปลว่าเป็นช่วงๆ
00:02:57 → 00:02:59 fasting แปลว่าอดอาหารเพราะฉะนั้นคำว่า
00:02:59 → 00:03:01 intermittent fasting เลยแปลว่ามีการอด
00:03:01 → 00:03:04 อาหารเป็นช่วงๆใน 1 วันนะถ้าใครเคยได้ยิน
00:03:04 → 00:03:07 ก็อาจจะเคยได้ยินเค้าเขียนคำว่า If 16/8
00:03:07 → 00:03:10 ถูกมยสังเกตเลขดีๆคือ 16 กับ 8 บวกกันได้
00:03:10 → 00:03:13 24 หมายความว่าใน 1 วัน 24 ชมเนี่ยโดย
00:03:13 → 00:03:16 ทั่วไปคนเราอ่ะทำ If อยู่แล้วแต่กำไรหรือ
00:03:16 → 00:03:19 ขาดทุนเท่านั้นเองใน 24 ชมบางคนอาจจะมี
00:03:19 → 00:03:22 ช่วงระยะเวลาของการกินเยอะมากๆก็ได้เช่น
00:03:22 → 00:03:25 ตื่นมาปั๊บ 8:00 นก็กินเที่นก็กิน 16:00
00:03:25 → 00:03:28 นก็กิน 18:00 นก็กิน 20:00 นก็กินเที่ยง
00:03:28 → 00:03:31 คืนก่อนนอนก็ก็ยังกินพูดง่ายๆคือตั้งแต่
00:03:31 → 00:03:33 8:00 นถึงเที่ยงคกินตลอดเวลาเลยไม่ได้
00:03:33 → 00:03:36 หยุดเลยแล้วช่วงที่นอนคือเที่ยงถึง 8:00
00:03:36 → 00:03:40 นค่อยหยุดกินอันเนี้ยก็เป็น If แบบนึง
00:03:40 → 00:03:42 เหมือนกันแต่เป็น If แบบที่ไม่ดีต่อ
00:03:42 → 00:03:45 สุขภาพเพราะกิน 16 ชมอดแค่ 8 ชมเองถามว่า
00:03:45 → 00:03:48 8 ชมนั้นมันไม่ดีหรอคะคุณหมอมันดีครับ
00:03:48 → 00:03:51 แต่มันดีไม่พอที่จะลดน้ำหนักได้เพราะงาน
00:03:52 → 00:03:54 วิจัยบอกว่าการที่เราจะลดน้ำหนักได้เนี่ย
00:03:54 → 00:03:56 เราจะต้องมีช่วงอดอาหารหรือช่วงหยุดกิน
00:03:56 → 00:04:00 เนี่ยนะนานกว่า 12 ชมงจำดีๆนะต้องมีช่วง
00:04:00 → 00:04:04 หยุดกินหรือช่วงฟาเนี่ยนานกว่า 12 ชมอ่า
00:04:04 → 00:04:07 หม 1 เลยมักจะบอกในหลายๆคลิปว่าอะไร
00:04:07 → 00:04:09 สำหรับคนเริ่มต้นลดน้ำหนักยังไม่จำเป็น
00:04:09 → 00:04:11 ต้องทำ If อะไรได้เยอะแยะมากมายเหมือนคน
00:04:11 → 00:04:13 อื่นเขาหรอกอย่าเพิ่งไปลอกเ้าเราต้องเข้า
00:04:13 → 00:04:16 ใจพื้นฐานก่อนถ้าอยากจะเริ่มต้นจริงๆค่อย
00:04:16 → 00:04:19 ๆปรับก่อนปรับจากการที่เรามีช่วงกินกับ
00:04:19 → 00:04:21 ช่วงหยุดกินใน 1 วันเนี่ยเฉลี่ยเฉลี่ย
00:04:21 → 00:04:24 แล้วเท่าๆกันได้มยเช่นเริ่มกินมื้อแรกตอน
00:04:24 → 00:04:27 8:00 นแล้ว 20:00 นปั๊บเราหยุดกินแบบนี้
00:04:27 → 00:04:30 ได้มยพอเห็นภาพมยแล้วหลัง 2 20:00 นไปจน
00:04:30 → 00:04:32 ถึง 8:00 นอีกวันนึงหยุดกินก็จะกลายเป็น
00:04:32 → 00:04:34 มีช่วงหยุดกิน 12 ชั่วมงร่างกายก็เริ่ม
00:04:34 → 00:04:36 เอาไขมันมาใช้ได้ละแต่ถามว่ามันจะได้กำไร
00:04:36 → 00:04:39 ขนาดที่จะผอมเร็วขึ้นมอาจจะยังแต่มันจะ
00:04:39 → 00:04:42 ฝึกให้ร่างกายของเราเนี่ยไม่ทรมานจนเกิน
00:04:42 → 00:04:44 ไปบางคนมาวันแรกเขาบอกว่าบางคนแบบว่าเอ้ย
00:04:44 → 00:04:46 ฉันผอมนะฉันกินวันละมื้อเธอกินวันละมื้อ
00:04:46 → 00:04:49 แบบฉันสิมันทำไม่ได้ไงถูกมยอะไรที่มันสุด
00:04:49 → 00:04:51 โต่งเกินไปโดยที่ร่างกายของคุณไม่เคยฝึก
00:04:51 → 00:04:54 เนี่ยมันมักจะไม่ดีต่อสุขภาพแล้วหมหนึ่ง
00:04:54 → 00:04:56 ก็มักจะไม่แนะนำให้กินแค่วันละ 1 มื้อ
00:04:56 → 00:04:58 ด้วยเพราะว่าสารอาหารมันมักจะไม่พอใครที่
00:04:58 → 00:05:00 ฟังมาจะรู้ว่าหนไม่ได้เน้นเรื่องการจัด
00:05:00 → 00:05:02 เวลาการทานที่สุดโตกแต่เน้นเรื่องสาร
00:05:02 → 00:05:05 อาหารที่เหมาะสมมันจะทำได้ตลอดชีวิตโอเค
00:05:05 → 00:05:07 มั้ยครับเนาะเพราะฉะนั้นต้องเข้าใจตรงนี้
00:05:07 → 00:05:09 ก่อนนะว่า intermittent fasting หรือ If
00:05:09 → 00:05:12 มันคืออะไรคราวนี้ไอ้คำว่าอดมื้อเช้ากับ
00:05:12 → 00:05:14 มื้อเย็นมันหมายความว่าอะไรล่ะคะคุณหมอ
00:05:14 → 00:05:16 อ่ะผมยกตัวอย่างแบบนี้ะกันถ้าตาม
00:05:16 → 00:05:19 ประสบการณ์ของผมนะครับที่ผมดูแลนักเรียน
00:05:19 → 00:05:20 มาในกลุ่มเนี่ยกลุ่มเรียนลดน้ำหนักครั้ง
00:05:20 → 00:05:22 สุดท้ายในชีวิตที่หลายๆคนถามถึงเดี๋ยวตอน
00:05:22 → 00:05:24 ุดตอนท้ายๆเดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังว่าเค้า
00:05:24 → 00:05:27 เรียนยังไงเนาะแต่ในกลุ่มเนี่ยกว่า 20,000
00:05:27 → 00:05:29 คนที่เป็นนักเรียนของผมเนี่ยมีนักเรียน
00:05:29 → 00:05:32 ครบทุกรูปแบบเลยไม่ว่าจะทำงานเป็นกะทำงาน
00:05:32 → 00:05:36 เป็นเวลาทำงานเช้าบ้างกลางคืนบ้างลักษณะ
00:05:36 → 00:05:38 การกินการจัดเวลาในชีวิตประจำวันของแต่ละ
00:05:38 → 00:05:40 คนมันเลยแตกต่างกันไปดังนั้นเราเลยต้อง
00:05:40 → 00:05:43 เข้าใจพื้นฐานของมันก่อนคราวนี้ถ้าถามห
00:05:43 → 00:05:45 หนึ่งว่าแล้วอดอาหารเนี่ยช่วงอดเนี่ยกับ
00:05:45 → 00:05:48 ช่วงกินเนี่ยแบ่งแบบไหนเราถึงจะได้ผลดี
00:05:48 → 00:05:52 มากที่สุดนะถ้าตามประสบการณ์ของผมนะผมแนะ
00:05:52 → 00:05:55 นำให้เริ่มทำ If ตั้งแต่ 15/9 เอาใหม่นะ
00:05:55 → 00:05:58 บางคนยังไม่เข้าใจ 15/9 หมายความว่าใน 1
00:05:58 → 00:06:02 วันมีช่วงหยุดกินทั้งหมด 15 ชมมและมีช่วง
00:06:02 → 00:06:07 กินแค่ 9 ชมงเช่นอะไรบ้างเช่นหมอ 1 เริ่ม
00:06:07 → 00:06:10 กินมื้อแรกตอน 8:00 นอ่าหมอหนึ่งก็จะไป
00:06:10 → 00:06:14 หยุดกินที่ประมาณ 17.00 นอันนี้คือกิน 9
00:06:14 → 00:06:17 ชมงแล้วหลัง 17.00 นไปถึง 8:00 นอีกวัน
00:06:17 → 00:06:20 นึงไม่กินคำว่าไม่กินในที่นี้ไม่ได้หมาย
00:06:20 → 00:06:22 ความว่าไม่กินอะไรเลยนะครับแต่สิ่งที่กิน
00:06:22 → 00:06:24 ต้องเป็นสิ่งที่ไม่มีแคลอรี่เพราะฉะนั้น
00:06:24 → 00:06:28 ถามว่าอะไรบ้างล่ะน้ำเปล่าชากาแฟดำพวก
00:06:28 → 00:06:30 เนี้ยได้แต่ถ้าหลังมื้อเย็นไปแล้วกาแฟก็
00:06:30 → 00:06:32 ไม่ค่อยอยากให้กินเท่าไหร่แต่ถ้าก่อน 8:00
00:06:32 → 00:06:35 นบางคนตื่น 5:00 นนะแล้วก็ทำธุระอะไรก่อน
00:06:35 → 00:06:38 จะไปทำงานเนี่ยกาแฟดำตอนเช้าอได้ไม่นับ
00:06:38 → 00:06:41 เป็นมืออาหารโอเคยนะครับเนาะอันเนี้ยก็
00:06:41 → 00:06:44 เป็น 15/9 อันนี้ยกตัวอย่างในกรณีที่แต่
00:06:44 → 00:06:46 ละคนทำงานเป็นเวลากินเป็นเวลาเดิมๆทุกวัน
00:06:46 → 00:06:49 นะโอเคป่ะนะครับเนาะส่วนคนที่ทำงานเป็นกะ
00:06:49 → 00:06:52 ก็ต้องไปพูดกันอีกคลิปนึงนะครับคราวนี้
00:06:52 → 00:06:55 ถามว่าแล้ว 15/9 ได้ผลมยก็ได้ผลดีนะเพราะ
00:06:55 → 00:06:58 ว่าเราจะลดน้ำหนักได้ดีจะเอาไขมันมาใช้
00:06:58 → 00:07:00 ได้ดีต้องมีช่วงเวลาของการหยุดทานนานกว่า
00:07:00 → 00:07:02 12 ชมงถูกมั้ยแล้วถ้าสมมุติว่าเป็น If
00:07:02 → 00:07:06 แบบ 16/8 ล่ะ 16/8 ก็คือหยุด 16 ชมเราจะ
00:07:06 → 00:07:09 ได้กำไรเพิ่มมาหน่อยนึงกลายเป็นเริ่มกิน
00:07:09 → 00:07:13 ตอน 8:00 นอาจจะไปหยุดกินตอน 16.00 ก็ได้
00:07:13 → 00:07:17 อ่าแล้วตั้งแต่ 16. ไปจนถึง 8:00 นอีกวัน
00:07:17 → 00:07:19 นึงนะ 16 ชมเป็นช่วงเวลาของการหยุดทาน
00:07:19 → 00:07:21 ร่างกายก็จะใช้ไขมันได้มากขึ้นมาอีก 1
00:07:21 → 00:07:24 ชั่วโมงก็จะกำไรเพเพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึง
00:07:24 → 00:07:27 แต่พอเป็นแบบนี้ปั๊บหลายคนเริ่มถามหมอ1ึ
00:07:27 → 00:07:30 นะว่าคุณหมอคะ 16.00 หนูยังไม่ไม่เลิกงาน
00:07:30 → 00:07:32 เลยค่ะข้าวเย็นหนูจะกิน 16.00 นี่มันเป็น
00:07:32 → 00:07:35 ไปแทบไม่ได้เลยบางคนมีลูกต้องกลับบ้านไป
00:07:35 → 00:07:37 เลี้ยงลูกที่บ้านต้องกินข้าวพร้อมกันตอน
00:07:38 → 00:07:40 19:00 นแบบนี้แสดงว่าโอกาสทำ If หรือ
00:07:41 → 00:07:43 โอกาสที่จะอดมื้อใดมื้อหนึ่งของหนูนี่ยาก
00:07:43 → 00:07:46 มากเลยใช่มั้คะเห็นมยผมถึงบอกว่าเราต้อง
00:07:46 → 00:07:48 เข้าใจก่อนเราต้องเข้าใจร่างกายตัวเองไม่
00:07:48 → 00:07:50 งั้นเราจะไปลอกคนอื่นว่าคนอื่นบอกว่าให้
00:07:50 → 00:07:53 กิน 8 นน 16:00 นสิแล้วจะผอมบางคนบอกก็
00:07:53 → 00:07:55 วิธีการใช้ชีวิตของฉันมันไม่ใช่แบบนั้น
00:07:55 → 00:07:58 น่ะแสดงว่าฉันไม่ผอมแล้วหรือเปล่าไม่ใช่
00:07:58 → 00:08:00 โอเคป่าโยนความคิดที่ว่าตัวเองผอมยากออก
00:08:00 → 00:08:03 ไปก่อนนะคุณเหมาะสมที่จะได้สุขภาพดีแต่
00:08:03 → 00:08:06 ต้องมีความรู้ก่อนแค่นั้นเองโอเคป่ะอัน
00:08:06 → 00:08:09 นี้ก็เป็นตัวอย่างของ 16/8 16/8 บางคนนะ
00:08:09 → 00:08:12 เริ่มกินเที่ยนก็มีนะแล้วก็ไปหยุดที่
00:08:12 → 00:08:15 20:00 นก็มีอ่าเริ่มเที่ยนแล้วไปหยุด
00:08:15 → 00:08:18 20:00 นก็มีแต่บแบบนี้ข้อดีก็มีข้อเสีย
00:08:18 → 00:08:21 ก็มีข้อดีคืออะไรข้อดีคือแบบเนี้ยไม่ค่อย
00:08:21 → 00:08:24 หิวบ่อยเพราะอะไรเพราะว่ากลางคืนไม่หิว
00:08:24 → 00:08:27 แน่นอนเราหยุดกิน 20:00 นอ่ะแต่ข้อเสีย
00:08:27 → 00:08:30 คือถ้าคุณนอน 22:00 นแบบนี้เป็นกดไหลย้อน
00:08:30 → 00:08:32 เลยนะพอเห็นภาพมั้ยครับนะเพราะเราหยุดกิน
00:08:32 → 00:08:35 20:00 นถูกมั้ยข้อควรระวังของคนที่กิน
00:08:35 → 00:08:37 มื้อเย็นเลยเวลาพระอาทิตย์ตกดินไปแล้วคือ
00:08:37 → 00:08:40 ควรจะให้มื้อเย็นเนี่ยมันห่างกับช่วงเวลา
00:08:40 → 00:08:44 นอนเนี่ยอย่างน้อย 3-4 ชมงนะโอเคป่าทำไม
00:08:44 → 00:08:47 ต้อง 3-4 ชั่วโมงรู้มยอาหารของคนเราเวลา
00:08:47 → 00:08:50 มันไปอยู่ที่กระเพาะเนี่ยมันจะใช้เวลา 3-4
00:08:50 → 00:08:52 ชมงในการที่จะย่อยเสร็จปั๊บก็ดันอาหาร
00:08:52 → 00:08:54 เนี่ยไปไว้ที่ลำไส้ถ้าอาหารยังอยู่ใน
00:08:54 → 00:08:57 กระเพาะอยู่แล้วคุณนอนอาหารมันก็จะไหลท้น
00:08:57 → 00:08:59 มาชนหลอดอาหารทำให้คุณเป็นกรดไหลย้อนได้
00:08:59 → 00:09:01 ได้แต่ถ้าอาหารผ่านกระเพาะไปหมดแล้ว
00:09:01 → 00:09:03 อันเนี้ยคุณไม่ต้องกลัวะเพราะมันจะโอกาส
00:09:03 → 00:09:05 เกิดกดไหลย้อนเนี่ยยากมากโอเคไหครับเนาะ
00:09:05 → 00:09:07 เพราะฉะนั้นแบบนี้ก็ได้เหมือนกันก็เป็น
00:09:07 → 00:09:10 16/8 หรือมากที่สุดที่หมอหนึ่งเคยทำก็
00:09:10 → 00:09:17 คือ If 18/6 อ่า 18/6 ได้มยได้อันนี้
00:09:17 → 00:09:19 เป็นแบบที่ผมทำเลยตอนผมลดน้ำหนักก็คือ
00:09:19 → 00:09:25 ตั้งแต่เที่ยงจนถึง 18.00 นอ่าไม่กินเช้า
00:09:25 → 00:09:27 อ่าหมอ 1 เลือกไม่กินเช้าแต่บางคนอาจจะ
00:09:27 → 00:09:29 ไม่จำเป็นต้องเลือกแบบหมอ 1 นะคือบางคน
00:09:29 → 00:09:33 บอกว่าหยุดกิน 18 ชมแลกิน 6 ชมอาจจะทำอีก
00:09:33 → 00:09:36 แบบนึงก็ได้เช่นอาจจะกิน 8:00 นแล้วหยุด
00:09:36 → 00:09:39 ตอน 14 แบบนี้ก็ได้นะไม่จำเป็นต้องลอกผม
00:09:39 → 00:09:42 พอเห็นมยเพราะว่าแต่ละคนใช้ชีวิตไม่
00:09:42 → 00:09:43 เหมือนกันไงโอเคป่าต้องเคลียร์ตรงนี้ก่อน
00:09:44 → 00:09:45 นะครับเนาะเพราะฉะนั้นตรงนี้หมอ 1 อยาก
00:09:45 → 00:09:48 ให้ทุกคนเข้าใจก่อนว่าจะลดน้ำหนักได้อด
00:09:48 → 00:09:50 มื้อเช้าหรือมื้อเย็นไม่สำคัญโยนทิ้งไป
00:09:50 → 00:09:52 ก่อนแต่ต้องเข้าใจคำว่า intermittent
00:09:53 → 00:09:55 fasting หรือ If เนี่ยคืออะไร If คือการ
00:09:55 → 00:09:58 แบ่งช่วงเวลาการทานออกเป็นช่วงกินกับหยุด
00:09:58 → 00:10:00 กินจะลดน้ำหนักได้ดีช่วงหยุดกินควรจะต้อง
00:10:00 → 00:10:04 นนานอย่างน้อย 12 ชมงแต่ถ้าเริ่มชินกับ
00:10:04 → 00:10:06 การที่แบ่งเวลากินกับหยุดกินแล้วช่วงหยุด
00:10:06 → 00:10:09 กิน 12 ชมคุณเพิ่มช่วงหยุดกินเพิ่มขึ้นมา
00:10:09 → 00:10:12 หน่อยเช่น 15 ชมแบบนี้พอได้ 16 ชมแบบนี้
00:10:12 → 00:10:15 ได้ 18 ชมงได้แต่สังเกตว่าช่วงกินใน 1
00:10:15 → 00:10:17 วันของเรามันจะน้อยลงเรื่อยๆคุณลองนึกภาพ
00:10:17 → 00:10:20 นะว่าเราทำ If 18/6 นะเรามีช่วงกินแค่ 6
00:10:20 → 00:10:23 ชมเองนะอย่างหมอ 1 เนี่ยจุดกินเที่ยงจถึง
00:10:23 → 00:10:25 18:00 นเนี่ยเรากินได้กี่มื้ออย่างมากก็
00:10:25 → 00:10:28 3 มื้อถูกมยหรือจริงๆ 3 มื้อยังแน่นไป
00:10:28 → 00:10:30 ด้วยซ้ำเพราะว่าผมกินเที่ยนกับ 18:00 น
00:10:30 → 00:10:32 แล้ว 15:00 นอีก 1 มื้อเนี่ยถ้าจะกินแน่น
00:10:32 → 00:10:35 ๆอัดๆกันเนี่ยโอกาสที่มันจะจุกมันเยอะมาก
00:10:35 → 00:10:37 เพราะฉะนั้นหมอหนึ่งก็เลยกินแค่ 2 มื้อ
00:10:37 → 00:10:39 แต่การกิน 2 มื้อในที่นี้ไม่ได้หมายความ
00:10:39 → 00:10:41 ว่าตัดมื้อใดมื้อหนึ่งออกไปแล้วเรียกว่า
00:10:41 → 00:10:44 การทำไไม่ใช่คนเราปกติเกิดมาเนี่ยถูกสอน
00:10:44 → 00:10:46 ให้กิน 3 มื้อเพราะอะไรรู้มั้ยมันจะมี
00:10:47 → 00:10:49 อยู่คำๆนึงนะครับที่เราต้องรู้จักคือคำ
00:10:49 → 00:10:52 ว่านาฬิกาชีวภาพนาฬิกาชีวภาพหรือนาฬิกา
00:10:52 → 00:10:55 ชีวิตชีวิตของคนเราเนี่ยมันอ้างอิงตามพระ
00:10:55 → 00:10:58 อาทิตย์น่าเราตื่นขึ้นมาปั๊บพระอาทิตย์
00:10:58 → 00:11:00 ขึ้นร่างกายถูกกระุ่นจากแสงอาทิตย์ตอน
00:11:00 → 00:11:02 เช้าให้ตับเนี่ยสร้างน้ำตาลออกมาเพื่อให้
00:11:02 → 00:11:04 เราออกไปใช้ชีวิตแล้วพอน้ำตาลเราเริ่มตก
00:11:04 → 00:11:06 คือเราใช้น้ำตาลที่ร่างกายเราสร้างขึ้นไป
00:11:06 → 00:11:08 แล้วน้ำตาลเราเริ่มตกเราก็ต้องหาของกิน
00:11:08 → 00:11:10 ตอนเช้าเพื่อที่จะทำให้ร่างกายใช้ชีวิต
00:11:10 → 00:11:13 แบบมีพลังงานต่อไปได้เพราะฉะนั้นสมัยก่อน
00:11:13 → 00:11:15 เราก็เลยมักจะต้องกินอาหารเช้าเสร็จปั๊บ
00:11:15 → 00:11:17 อีก 3-4 ชั่วโมงเราหิวอีกแล้วเพราะอะไร
00:11:17 → 00:11:19 เมื่อกี้หมอหนึ่งเพิ่งพูดไปว่าอาหารผ่าน
00:11:19 → 00:11:21 กระเพาะไปใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงถูกมั้ย
00:11:21 → 00:11:23 เที่ยงเราเลยหิวอีกแล้วแล้วช่วงเย็นเราก็
00:11:23 → 00:11:25 เลยหิวอีกแล้วแต่พอพระอาทิตย์เริ่มตกดิน
00:11:26 → 00:11:28 ตอนเย็นหลัง 17:00 นเป็นต้นไป 18:00 น
00:11:28 → 00:11:30 เป็นต้นไปร่างกายเริ่มไม่ค่อยใช้พลังงาน
00:11:30 → 00:11:33 อะไรเท่าไหร่ร่างกายก็จะไม่ค่อยหิวแล้ว
00:11:33 → 00:11:35 ส่วนใหญ่เราก็มักจะนอนถ้าเป็นสมัยก่อน
00:11:35 → 00:11:37 เนาะที่พระอาทิตย์ตกดินแล้วอ่ะ 3 2:00
00:11:37 → 00:11:40 21 นเราก็หลับแล้วคนต่างจังหวัด 20:00
00:11:40 → 00:11:42 21 นเคนอนแล้วนะเลยไม่ค่อยเกิดปัญหาว่า
00:11:42 → 00:11:44 เราหิวตอนกลางคืนแต่ถ้าเป็นคนกรุงส่วน
00:11:44 → 00:11:46 ใหญ่นะกินข้าวมื้อสุดท้ายก่อนพระอาทิตย์
00:11:46 → 00:11:48 ตกดินเที่ยงคืนก็ยังหิวเพราะอะไรเพราะเรา
00:11:48 → 00:11:50 ใช้พลังงานเราถูกกระตุ้นเยอะเรามี
00:11:50 → 00:11:53 activity เรามีกิจกรรมก่อนที่มันจะถึง
00:11:53 → 00:11:56 เที่ยงคืนน่ะค่อนข้างเยอะเราเลยหิวง่าย
00:11:56 → 00:11:58 ต้องเข้าใจตรงนี้ก่อนโอเคมั้ยเพราะฉะนั้น
00:11:58 → 00:11:59 จริงๆแล้วเนี่ยร่างกายเราถูกถูกแบบออกแบบ
00:11:59 → 00:12:02 มาให้กิน 3 มื้อแต่ 3 มื้อในที่นี้ไม่ได้
00:12:02 → 00:12:03 หมายความว่าต้องเป็นอาหารเต็มๆทั้ง 3
00:12:03 → 00:12:05 มื้อหมอหนึเลยเอามาประยุว่าถ้าอย่างงั้น
00:12:05 → 00:12:08 ถ้าเราลดเวลาของช่วงกินในช่วงลดน้ำหนักลง
00:12:08 → 00:12:10 เนี่ยเหลือแค่ 6 ชมงเรากิน 3 มื้อเต็มก็
00:12:10 → 00:12:11 ได้
00:12:11 → 00:12:15 นะหรือเราอาจจะกินเป็น 2 มื้อเต็มบวก 1
00:12:15 → 00:12:18 มื้อย่อยได้มยอ้าเช่นหมายความว่าอะไรหมาย
00:12:18 → 00:12:22 ความว่าหมอ 1 กินมื้อเที่ยงกับมื้อเย็น
00:12:22 → 00:12:25 แล้วมื้อบ่าย 3 เป็นแค่มื้อย่อยๆแต่มื้อ
00:12:25 → 00:12:27 ย่อยๆของหมอ 1 ใครตามหมอ 1 จะรู้ว่าร่าง
00:12:27 → 00:12:29 กายของคนเราสะสมไขมันจากการที่เรากินน้ำ
00:12:29 → 00:12:31 ตาลกับแป้งมากเกินไปถูกมั้ยเพราะระบบพลัง
00:12:31 → 00:12:33 งานมี 2 ระบบคือใช้น้ำตาลกับแป้งกับใช้ไข
00:12:33 → 00:12:36 มันถ้าร่างกายมีน้ำตาลกับแป้งเยอะมันจะ
00:12:36 → 00:12:38 ใช้น้ำตาลกับแป้งก่อนแล้วยิ่งถ้ากินเยอะ
00:12:38 → 00:12:39 มากจนมันใช้ไม่หมดมันจะเอาไปสะสมเป็นไข
00:12:40 → 00:12:41 มันเพราะฉะนั้นมื้อเสริมของหม 1 หม 1 จะ
00:12:41 → 00:12:43 เสริมแค่โปรตีนให้ร่างกายมันได้โปรตีน
00:12:43 → 00:12:45 เพียงพอแล้วอิ่มแบบเนี้ยก็จะกลายเป็นว่า
00:12:45 → 00:12:47 เรากิน 2 มื้อหลักบวก 1 มื้อย่อยโดยที่
00:12:47 → 00:12:50 ยังได้สารอาหารครบเพราะฉะนั้นหลักๆจริงๆ
00:12:50 → 00:12:51 แล้วการอดอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นไม่
00:12:51 → 00:12:53 ได้บ่งบอกว่าคุณจะผอมไม่ได้เป็นตัว
00:12:53 → 00:12:56 การันตีว่าคุณจะผอมด้วยนะแต่เวลาคุณอด
00:12:57 → 00:12:58 มื้อใดมื้อหนึงไปแล้วอย่างหมอ 1 กิน
00:12:58 → 00:13:01 เที่ยงจนจนถึง 18:00 นหมอหนึ่งตัดมื้อ
00:13:01 → 00:13:03 อะไรออกครับตัดมื้อเช้าออกแต่สารอาหารใน
00:13:03 → 00:13:05 มื้อเช้าเนี่ยหมอหนึ่งเอาไปโปะมื้ออื่น
00:13:05 → 00:13:07 แทนซึ่งสารอาหารที่สำคัญที่สุดที่หมอ
00:13:07 → 00:13:09 หนึ่งเคยพูดไปแล้วคืออะไรคนไทยกินไม่ค่อย
00:13:09 → 00:13:11 ถึงคือโปรตีนเพราะโปรตีนเนี่ยเอาไว้สร้าง
00:13:11 → 00:13:13 กล้ามเนื้อเวลาเรากินโปรตีนไม่ถึงร่างกาย
00:13:13 → 00:13:16 ก็เลยดึงกล้ามเนื้อมาใช้เรื่อยๆเรื่อยๆๆๆ
00:13:16 → 00:13:18 เวลาเราจับนะตอนเราอ้วนก็จะมีแต่ไขมัน
00:13:18 → 00:13:20 กล้ามเนื้อไม่ค่อยมีถูกป่ะนะเพราะฉะนั้น
00:13:20 → 00:13:23 โปรตีนเลยสำคัญการที่เราตัดอาหารมื้อเช้า
00:13:23 → 00:13:25 ออกแล้วไปกินเที่ยงกับเย็นเราต้องเอา
00:13:25 → 00:13:27 โปรตีนในมื้อเช้าไปเฉลี่ยเที่ยงกับเย็น
00:13:27 → 00:13:29 ด้วยถ้าคุณจะตัดมื้อเย็นออกคุณต้องเอาเอา
00:13:29 → 00:13:30 โปรตีนในมื้อเย็นไปเฉลี่ยในมื้อเช้ากับ
00:13:30 → 00:13:33 มื้อเที่ยงด้วยเห็นภาพตรงนี้มนะครับเนาะ
00:13:33 → 00:13:36 เพราะฉะนั้นถามว่าอดอาหารมื้อเช้ากับอด
00:13:36 → 00:13:40 อาหารมื้อเย็นอะไรดีกว่ากันคำตอบคือทำได้
00:13:40 → 00:13:44 ทั้งคู่ขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ชีวิตฟังดีๆ
00:13:44 → 00:13:49 นะหมอ 1 ชอบอดมื้อเช้ามากกว่าเพราะพอกลับ
00:13:49 → 00:13:51 มาถึงบ้านแล้วตอนเย็นเราใช้พลังงานค่อน
00:13:51 → 00:13:54 ข้างเยอะในการที่ต้องคิดงานตอบลูกเพจทำ
00:13:54 → 00:13:56 นู่นทำนี่หมอหนึ่งเลยมักจะกินไปสุดอยู่
00:13:56 → 00:13:58 ที่ประมาณ 18:00 นพอกินไปสุด 18:00 นก็
00:13:58 → 00:14:01 เลยนองนัลองนั่งนึกภาพถ้าเรานั่งตรวจคน
00:14:01 → 00:14:03 ไข้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วเรากินตั้งแต่ 8:00
00:14:03 → 00:14:07 นแล้วเรากินไปจนถึง 18:00 นเกิดอะไรขึ้น
00:14:07 → 00:14:09 ครับเรามีช่วงเวลาของการกินตั้ง 10
00:14:09 → 00:14:12 ช่วโมงถูกมยแล้วมีช่วงเวลาของการอดแค่ 14
00:14:12 → 00:14:15 ชมงมันอย่างเงี้ยเราเรียกว่า If 14/10
00:14:15 → 00:14:18 ถามว่าได้มยผอมมก็พอได้นะแต่ตาม
00:14:18 → 00:14:20 ประสบการณ์ของผมที่ดูแลนักเรียนมากว่า
00:14:20 → 00:14:23 20,000 คนน่ะผมบอกเลยว่า 15 ชมขึ้นไปถึง
00:14:23 → 00:14:26 จะลดน้ำหนักได้ดีเพราะฉะนั้นงั้นปรับนิด
00:14:26 → 00:14:28 นึงแล้วกันจะไปกิน 10:00 นก็ไม่ได้เพราะ
00:14:28 → 00:14:30 เราทำงานอยู่เอาอย่างงี้งั้นเราเริ่ม
00:14:30 → 00:14:34 เที่ยงเลยะกันแต่ไม่อยากเป็นกดไหลย้อนหมอ
00:14:34 → 00:14:35 หนึ่งจะไม่กินจนถึง 20:00 นหมอหนึ่งก็จะ
00:14:35 → 00:14:38 กินแค่ถึง 18:00 นนั่นแหละ 6 ชมอย่างนี้
00:14:38 → 00:14:42 กลายเป็น If 18/6 แต่ใน 6 ชมนี้ระวังที่
00:14:42 → 00:14:45 สุดเลยคือสารอาหารต้องครบเนี่ยข้อเนี้ย
00:14:45 → 00:14:47 คือข้อนึงที่หลายๆคนพลาดแล้วบอกว่าทำไมทำ
00:14:47 → 00:14:50 ไแล้วไม่ผอมคุณหมอคะอดมื้อเช้าทำไมไม่ผอม
00:14:50 → 00:14:52 อดมื้อเย็นทำไมไม่ผอมเพราะคุณตัดมื้อ
00:14:52 → 00:14:55 อาหารไปเลยแล้วโปรตีนมันหายไปด้วยพอสาร
00:14:55 → 00:14:57 อาหารไม่ครบเราไม่เรียกการทำ If เลยนะคน
00:14:57 → 00:15:00 ที่ทำ If แล้วกินกินโปรตีนแล้วตัดมื้อ
00:15:00 → 00:15:01 นั้นออกไปเลยแล้วโปรตีนไม่ได้เอาไปเพิ่ม
00:15:01 → 00:15:04 มื้ออื่นเนี่ยมันคือการอดอาหารเพราะร่าง
00:15:04 → 00:15:06 กายมองว่าอดอาหารสุดท้ายกล้ามเนื้อจะหาย
00:15:06 → 00:15:08 ไปเรื่อยๆพอกลับมากินเยอะโยโยเลยเห็นภาพ
00:15:08 → 00:15:11 ป่าโอเคมยนะครับเพราะฉะนั้นทำได้ทั้งคู่
00:15:12 → 00:15:15 ขึ้นอยู่กับว่าใครถนัดแบบไหนหมอหนึ่งถนัด
00:15:15 → 00:15:17 แบบนี้มากกว่าแล้วมหนึ่งก็กินกาแฟไป
00:15:17 → 00:15:19 ระหว่างตรวจคนไข้ตอนเช้าพอเที่ยงปั๊บอ่ะ
00:15:19 → 00:15:22 ค่อยกินมื้อแรกโอเคเนาะนะครับนะคราวนี้
00:15:22 → 00:15:24 ข้อที่หลายๆคนกังวลคือคุณหมอคะแล้วถ้าอด
00:15:24 → 00:15:27 มื้อเช้าเนี่ยจะเป็นอัลไซเมอร์มยคำตอบก็
00:15:27 → 00:15:30 คือมีงานวิจัยนะครับเยอะมากๆที่พยายามทำ
00:15:30 → 00:15:32 เรื่องนี้แต่ยังไม่มีตัวไหนที่รับรองเลย
00:15:32 → 00:15:34 ว่าอดอาหารมื้อเช้าแล้วจะเป็นอัลไซเมอร์
00:15:34 → 00:15:36 ส่วนใหญ่คนที่อดอาหารมื้อเช้าแล้วเป็น
00:15:36 → 00:15:38 อัลไซเมอร์หรือความจำไม่ค่อยดีเกิดจากการ
00:15:38 → 00:15:41 ที่อดมื้อเช้าแล้วมื้อกลางวันกับเย็นกิน
00:15:41 → 00:15:43 เท่าเดิมโดยที่ไม่ได้เอาสารอาหารเฉลี่ยใน
00:15:43 → 00:15:45 มื้อเช้าไปเฉลี่ยมื้ออื่นพอเข้าใจเรื่อง
00:15:45 → 00:15:47 นี้มั้ยเพราะฉะนั้นสมองเสื่อมไม่ได้เกิด
00:15:47 → 00:15:50 จากอดอาหารเช้าหรอกแต่อาจจะเกิดจากสาร
00:15:50 → 00:15:52 อาหารไม่พอมากกว่าร่างกายได้สารอาหารน้อย
00:15:52 → 00:15:55 เกินไปทำให้สมองเสื่อมเนาะนะครับส่วนคน
00:15:55 → 00:15:59 ที่อดอาหารมื้อเย็นได้มยได้เหมือนกันจริง
00:15:59 → 00:16:02 ๆถามว่าดีมยก็ดีด้วยเพราะการที่เราอดมื้อ
00:16:02 → 00:16:04 เย็นคือบางมื้อเย็นของบางคนมันประมาณ
00:16:04 → 00:16:06 19:00 น 20:00 นใช่มั้ยถ้าเราอดมื้อเย็น
00:16:06 → 00:16:07 ตรงนั้นเราเลื่อนมากินมื้อเย็นเร็วหน่อย
00:16:08 → 00:16:10 เช่นอาจจะกิน 8:00 นถึง 15:00 น 800 นถึง
00:16:10 → 00:16:13 16:00 นแบบเนี้ยก็จะทำให้ร่างกายของเรา
00:16:13 → 00:16:17 เนี่ยทำงานตามนาฬิกาชีวภาพแต่ข้อควรระวัง
00:16:17 → 00:16:19 คือคุณอาจจะไปหิวดึกนะถ้าคุณนอนดึกโอเคมย
00:16:19 → 00:16:21 เดี๋ยวจะทำอีกคลิปนึงออกมาให้นะครับว่าคน
00:16:21 → 00:16:24 ที่ชอบหิวดึกๆบ่อยๆเนี่ยแก้ยังไงเนาะ
00:16:24 → 00:16:27 เพราะฉะนั้นทำได้ทั้งคู่ทั้งอดเช้าแล้วก็
00:16:27 → 00:16:29 อดเย็นแต่ระวังเรื่องอะไรครับสารอาหาร
00:16:29 → 00:16:32 เนาะโอเคเปล่าไม่งั้นการทำไอของคุณจะไม่
00:16:32 → 00:16:34 มีประโยชน์เลยเนาะหวังว่าจะเข้าใจมากขึ้น
00:16:34 → 00:16:35 นะอดได้ทั้งเช้าทั้งเย็นนะครับอย่าไป
00:16:35 → 00:16:38 ซีเรียสมากปรับให้เข้ากับการใช้ชีวิต
00:16:38 → 00:16:40 ประจำวันของคุณให้ได้ก็พอเพราะมันจะทำให้
00:16:40 → 00:16:43 คุณทำทำได้นานและทำได้ตลอดไปเพราะฉะนั้น
00:16:43 → 00:16:45 ก็ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนๆเราอีกทีนึง
00:16:45 → 00:16:47 นะที่ลดไปได้คนนึงลดไปได้ 30 กลเนี่ยนะ
00:16:47 → 00:16:50 ครับกลับมาอายุเหมือนหนุ่มๆสาวๆอีกครั้ง
00:16:50 → 00:16:52 เลยอีกคนเพิ่งเริ่มลดไป 2 สัปดาห์นะลดไป
00:16:52 → 00:16:55 ได้ 5 กกกว่าๆเกือบ 6 กกแล้วนะครับเนาะ
00:16:55 → 00:16:57 เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ความรู้หมอ
00:16:57 → 00:17:00 หนึ่งพูดทุกคลิปเลยนะความเชื่อก็สำคัญคุณ
00:17:00 → 00:17:02 จะมีความเชื่อเมื่อคุณอยู่ในบรรยากาศการ
00:17:02 → 00:17:05 ลดน้ำหนักที่เหมาะสมถ้ารู้สึกไม่มีกำลัง
00:17:05 → 00:17:08 ใจเข้ามาฟังคลิปหมอหนึ่งบ่อยๆเปิดฟังได้
00:17:08 → 00:17:10 ทุกวันเลยนะครับหมอหนึ่งจะลงคลิปเนี่ยถี่
00:17:10 → 00:17:12 ที่สุดเท่าที่ทำได้แต่แน่ๆที่เราจะเจอกัน
00:17:12 → 00:17:15 คือวันอังคารพฤหัสแล้วก็วันอาทิตย์ก็จะ
00:17:15 → 00:17:17 เป็นการเอาเทคนิคต่างๆมาเล่าให้ฟังว่า
00:17:17 → 00:17:19 อยากเริ่มต้นลดน้ำหนักทำยังไงบ้างเอาคำ
00:17:19 → 00:17:22 ถามมาตอบว่าเพื่อนๆถามแบบนี้คำถามนี้น่า
00:17:22 → 00:17:24 สนใจนะครับจะเอาไปปรับใช้กับการลดน้ำหนัก
00:17:24 → 00:17:26 ยังไงส่วนใครที่อยากให้หมอ1ึช่วยในการลด
00:17:26 → 00:17:28 น้ำหนักไม่อยากลดน้ำหนักรอยแบบลองผิดลอง
00:17:28 → 00:17:30 ถูกเองเองหมอหนึ่งก็มีกลุ่มเรียนด้วยนะนะ
00:17:30 → 00:17:32 ครับชื่อกลุ่มว่ากลุ่มเรียนลดน้ำหนัก
00:17:32 → 00:17:34 ครั้งสุดท้ายในชีวิตกลุ่ม VIP นะครับใน
00:17:34 → 00:17:36 นั้นเนี่ยหมอหนึ่งจะมีบทเรียนเรียงไว้ให้
00:17:36 → 00:17:38 ว่า 1 2 3 4 5 แต่ละวันต้องทำอะไร
00:17:38 → 00:17:40 บ้างเรียนจบบทที่ 1 ทำอะไรวันที่ 2 ทำ
00:17:40 → 00:17:42 อะไรไม่ต้องคิดเองนะครับว่าจะปรับอะไร
00:17:42 → 00:17:44 ก่อนหลังปรับตามนี้เลยบทเรียนทั้งหมดถูก
00:17:45 → 00:17:46 ออกแบบมาแล้วเพราะว่ามันเกิดจากการดัด
00:17:46 → 00:17:49 แปลงจากประสบการณ์ที่หมอ 1 ช่วยคนลงน้ำ
00:17:49 → 00:17:51 หนักมากว่า 20,000 คนที่อยู่ในกลุ่มเรียน
00:17:51 → 00:17:53 และยังไม่รวมคนอื่นๆอีกที่หมอหนึ่งเคยเจอ
00:17:53 → 00:17:55 เพราะฉะนั้นเชื่อเถอะว่ามันทำง่ายขอแค่
00:17:55 → 00:17:57 คุณเริ่มอยากมอบสิ่งดีๆให้ตัวเองนะครับ
00:17:57 → 00:17:59 เนี่ยอีกประมาณ 2 2 เดือนก็ปีใหม่แล้ว
00:17:59 → 00:18:01 อ่ะเราชอบตั้งเป้าว่าปีใหม่นี้ฉันอยาก
00:18:01 → 00:18:03 สุขภาพดีแต่พอเลยปีใหม่ไป 3-4 วันปั๊บ
00:18:03 → 00:18:05 กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิมแล้วถูกมั้ย
00:18:05 → 00:18:06 เพราะฉะนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้แหละอีก
00:18:06 → 00:18:08 2 เดือนมันจะกลายเป็นของขวัญให้คุณเนี่ย
00:18:08 → 00:18:11 เอาไปโพสต์อวดคนอื่นได้ว่าเออปีใหม่เนี่ย
00:18:11 → 00:18:13 ฉันผอมลงนะฉันลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายใน
00:18:13 → 00:18:15 ชีวิตได้แล้วมันคือความภาคภูมิใจอ่ะโอเค
00:18:15 → 00:18:17 มั้ยนะครับเนาะเพราะฉะนั้นใครที่สนใจ
00:18:17 → 00:18:19 เรียนกับหมอ 1 นะครับนะซึ่งหมอ 1 ตอบคำ
00:18:19 → 00:18:21 ถามอยู่ในกลุ่ม้วยเนาะเผื่อใครมีปัญหาใน
00:18:21 → 00:18:23 การลดน้ำหนักนะครับก็สามารถดูรายละเอียด
00:18:23 → 00:18:24 ได้นะครับใครดูจาก Facebook หรือ YouTube
00:18:24 → 00:18:26 ให้ดูรายละเอียดที่อยู่ในลิงก์ในคอมเมนต์
00:18:26 → 00:18:28 นะหมอ 1 ปักหมุดไว้ให้นะครับหรือจะแอดไลน
00:18:28 → 00:18:30 ก็ได้นะครับแ Healthy Hero นะครับก็จะมี
00:18:30 → 00:18:32 ทีมงานคอยให้รายละเอียดนะครับว่าเข้า
00:18:32 → 00:18:34 กลุ่มยังไงแล้วก็คอยอำนวยความสะดวกนะครับ
00:18:34 → 00:18:36 แล้วก็อย่าลืมกดหัวใจกดไลก์กดแชร์กดติด
00:18:36 → 00:18:38 ตามกดกระดิ่งแจ้งเตือนไว้นะครับจะได้ไม่
00:18:38 → 00:18:40 พลาดคลิปความรู้ดีๆแบบนี้นะส่วนใครที่จะ
00:18:40 → 00:18:42 เข้าไปเรียนกับหมอ 1 ในกลุ่ม VIP ก็เจอ
00:18:42 → 00:18:44 กันในกลุ่มนะครับแล้วพบกันคลิปถัดไปนะ
00:18:44 → 00:18:46 ครับชมคลิปหมอ 1 จบแล้วนะครับอย่าลืมกด
00:18:46 → 00:18:47 ติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจาก
00:18:48 → 00:18:50 หมอ 1 นะครับส่วนคลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดู
00:18:50 → 00:18:52 จากทางซ้ายมือได้เลยครับส่วนใครที่อยากลด
00:18:52 → 00:18:53 น้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียน
00:18:54 → 00:18:55 กับหมอ 1 นะครับกดดูรายละเอียดจากทางขวา
00:18:55 → 00:18:57 มือหรือดูรายละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์
00:18:57 → 00:19:01 ได้เลยนะครับแล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ