00:00:00 → 00:00:12 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:15 สวัสดีครับพี่หมอครับสวัสดีครับสวัสดี
00:00:15 → 00:00:18 ครับทุกคนครับครับสวัสดีครับพี่หมอสวัสดี
00:00:18 → 00:00:21 ครับท้าสวัสดีครับเนสวัสดีครับครับเออ
00:00:21 → 00:00:26 สวัสดีทุกคนเลยนะวันนี้ก็เป็นฤกษ์งามยาม
00:00:26 → 00:00:29 ดีอ่ะเ่าวันนี้หมอไม่ได้พูดเรื่องกินและ
00:00:29 → 00:00:32 นะอยากจะพูดเรื่องอดบ้างเ่อที่เขาเรียก
00:00:32 → 00:00:35 กันว่า independent fasting หรือ If นะ
00:00:35 → 00:00:38 ฮะนะแต่ว่าหน้าแรกเนี่ยที่พวกเราเห็น
00:00:38 → 00:00:41 เนี่ยนะฮะเราก็จะแบ่งเป็น 2 คอลัมน์บน
00:00:41 → 00:00:45 ล่างนะฮะอันเนี้ยหมอแชร์มาอย่างเงี้ยจะ
00:00:45 → 00:00:49 ขัดหูขัดตาขัดใจใครหรือเปล่าโดยเฉพาะคน
00:00:49 → 00:00:54 ที่เอ่อใช้ If เป็นตัวนำทางในการดูแล
00:00:54 → 00:00:58 สุขภาพก็ฟังๆไว้ดูแล้วกันนะครับผม่าอัน
00:00:58 → 00:01:01 นี้ก็เริ่มว่าอย่างงี้นะคือธรรมชาติของ
00:01:01 → 00:01:03 มนุษย์เนี่ยความเป็นมนุษย์มานากายละเอียด
00:01:03 → 00:01:06 กายระยาบอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะทำ
00:01:06 → 00:01:09 ธรรมชาติอย่างนึงของคนเลยที่เป็นพื้นฐาน
00:01:09 → 00:01:13 เบสิคเลยเนี่ยคือกินกับไม่กินหรือกินกับ
00:01:13 → 00:01:17 นอนนะไม่กินเนี่ยในที่นี้เราหมายถึงนอนนะ
00:01:17 → 00:01:21 ฮะเราจะหมายถึงนอนเพราะว่ากินคู่กับนอนนะ
00:01:21 → 00:01:24 ฮะหรือกินคู่กับไม่กินนะแต่เอากินคู่กนอน
00:01:24 → 00:01:28 เนี่ยธรรมชาติที่สุดนะอ่าเบอกตามธรรมชาติ
00:01:28 → 00:01:34 ร่างกายชอบที่จะกินกินกินนะแต่ไม่ชอบอด
00:01:34 → 00:01:38 ไม่ชอบอดนะกินก็อดก็ตรงข้ามใช่มล่ะนะที
00:01:38 → 00:01:44 นี้มีบางคบางสถานการณ์น่ะที่เราจำเป็นที่
00:01:44 → 00:01:49 จะต้องอดนะนะที่เเรียก fasting นะหรือ
00:01:49 → 00:01:52 intermittent fasting iif อะไรเงี้ยนะ
00:01:52 → 00:01:57 ก็ต้องมีเงื่อนไขก่อนที่จะอดเป็นอดเอ่ออด
00:01:57 → 00:01:59 ให้ได้เนี่ยนะฮะก็คือคุณต้องกินให้เป็น
00:01:59 → 00:02:02 กินให้ที่ถูกต้องนะโดยมีความรู้ความเข้า
00:02:02 → 00:02:06 ใจที่ดีนะฮะแล้วก็มีช่วงเวลาที่กินเป็น
00:02:06 → 00:02:10 กินอย่างถูกต้องก่อนนะฮะซึ่งช่วงเวลาที่
00:02:10 → 00:02:13 ว่าเนี่ยส่วนใหญ่ก็ประมาณสัก 3 สัปดาห์นะ
00:02:13 → 00:02:19 ฮะ 21 วันเพราะฉะนั้นกินเป็นกินถูกนะเอ่อ
00:02:19 → 00:02:22 ต้องมาก่อนที่จะอดเป็นนะฮะอ่าเพราะฉะนั้น
00:02:22 → 00:02:23 กิน
00:02:23 → 00:02:27 อ่าเป็นเรื่องที่ร่างกายชอบแต่เาจะไม่ชอบ
00:02:27 → 00:02:32 อดนะฮะคอลัมข้างล่างนะตามธรรมชาติเช่น
00:02:32 → 00:02:35 เดียวกันร่างกายชอบที่จะนอนก็คือกินแล้ว
00:02:35 → 00:02:40 นอนนะแต่เขาไม่ได้ชอบที่จะออกแรงออกกำลัง
00:02:40 → 00:02:43 นะหรือเคลื่อนไหวอะไรต่างๆที่มากมายหนัก
00:02:43 → 00:02:46 หนักหนานะฮะเยเป็นธรรมชาติเลยของร่างกาย
00:02:46 → 00:02:49 นะของคนเรา
00:02:49 → 00:02:53 อแต่นะในเงื่อนไขที่เราจำเป็นต้องออกแรง
00:02:53 → 00:02:58 ออกกำลังเนี่ยนะเราจะต้องนอนนอนๆนะนอนให้
00:02:58 → 00:03:02 ดีนอนให้มีคุณคุณภาพอ่าให้ได้ซะก่อนนะฮะ
00:03:02 → 00:03:05 นะเหตุผลก็เพราะว่าการนอนเนี่ยคือการซ่อม
00:03:05 → 00:03:09 แซมคือการสร้างใหม่นะฮะงั้นในเมื่อร่าง
00:03:09 → 00:03:13 กายเนี่ยถูกซ่อมแซมถูกสร้างใหม่นะเราก็จะ
00:03:13 → 00:03:17 พร้อมนะที่จะมี activity ต่างๆนะฮะก็คือ
00:03:17 → 00:03:20 การใช้แรงใช้กำลังการเคลื่อนไหวนะการ
00:03:21 → 00:03:25 ดำเนินชีวิตต่างๆนะเนี่ยเพราะฉะนั้นระบบ
00:03:25 → 00:03:29 เนี่ยพื้นฐานเลยหรือเบสิคเลยของร่างกายค
00:03:29 → 00:03:33 เราก็จะเป็นอย่างนี้นะชอบกินไม่ชอบอดชอบ
00:03:33 → 00:03:37 นอนไม่ชอบออกแรงออกกำลังนะฮะถ้ามีเหตุผล
00:03:38 → 00:03:42 กลใดก็ตามที่ทำให้นะต้องอดต้องออกแรงออก
00:03:42 → 00:03:47 กำลังเยอะๆนะฮะนะอันนี้ก็จะเป็นเงื่อนไข
00:03:47 → 00:03:50 ที่ทำให้ร่างกายเสียสมดุลนะหรือเกิดความ
00:03:50 → 00:03:55 ไม่ชอบหรือเกิดความเครียดนั่นเองนะซึ่ง
00:03:55 → 00:03:58 ทั้งหมดเนี้ยฮอร์โมนที่จะออกมาเจ้ากี้
00:03:58 → 00:04:01 เจ้าการในการปรับในการดูแลในการควบคุมใน
00:04:01 → 00:04:04 การเ่อช่วยเหลือแก้ไขอะไรต่างๆก็คือ
00:04:04 → 00:04:07 คอร์ติซอลนะฮะซึ่งเป็นฮอร์โมนตัวแม่ที่
00:04:07 → 00:04:10 เราบอก
00:04:10 → 00:04:14 นะทีนี้ fasting คืออะไรนะฮะเราก็พวกเรา
00:04:14 → 00:04:18 ก็คงรู้กันหมดแล้วนะฮะนะหลักการเนี่ยนะใน
00:04:18 → 00:04:21 วันเนี้ยที่เราจะดูเนี่ยนะฮะก็คือฟายังไง
00:04:21 → 00:04:25 แล้วไม่เครียดนะฮะอ่าคืออดยังไงแล้วถึง
00:04:25 → 00:04:29 ร่างกายไม่เครียดนะอันนี้ก็คือจุดจุดใหญ่
00:04:29 → 00:04:33 ใจความเลยหรือว่าเนื้อหาสำคัญเลยของการอด
00:04:33 → 00:04:37 นะฮะคืออดแล้วก็อดแล้วดีอ่ะอดแล้วต้องได้
00:04:37 → 00:04:42 ผลอ่าที่ทำให้ร่างกายไม่อยู่ในในเรื่อง
00:04:42 → 00:04:45 ราวที่จะทุกข์ทรมานหรือเครียดนะฮะนะเนี่ย
00:04:45 → 00:04:48 เพฉะนั้นวันนี้ก็ให้จับประเด็นหรือโฟกัส
00:04:48 → 00:04:51 เรื่องนี้นะฮะอดยังไงไม่เครียดนะฮะนะนี้
00:04:51 → 00:04:54 เราก็รู้ความหมายนิดหน่อยนะฮว่าการอด
00:04:54 → 00:04:58 เนี่ยนะโดยธรรมชาติเนี่ยก็คือการที่ไม่
00:04:58 → 00:05:01 กินนะประมาณ 12 ชมงขึ้นไปอันนี้เป็น
00:05:01 → 00:05:03 ธรรมชาติของทุกคนนะฮะ
00:05:04 → 00:05:08 นะรวมทั้งยังมีเรื่องของการอดตามธรรมชาติ
00:05:08 → 00:05:12 ที่นะที่มีแต่การดื่มน้ำน้ำเปล่านะฮะนะ
00:05:12 → 00:05:17 อีกสัก 2 ชั่วโมงเนี่ยกลายเป็นอดนะทั้งอด
00:05:17 → 00:05:21 แห้งอดน้ำรวมกันเนี่ยไม่เกิน 14 ชมงอัน
00:05:21 → 00:05:24 นี้ถือว่าเป็นธรรมชาติแล้วนะฮะอ่าเราก็มา
00:05:24 → 00:05:28 คิดอ่ะว่าถ้าเกิดเราอเรานอนเงี้ยสมมุติ
00:05:28 → 00:05:31 เรานอนนอนน่ะนะแต่คนแต่ก่อนเลยที่เป็น
00:05:31 → 00:05:34 ธรรมชาติที่สุดน่ะนะเก็นอนประมาณ 20:00 น
00:05:34 → 00:05:38 ใช่มแล้วก็ตื่น 18:00 นนะอันนี้เรียกว่า
00:05:38 → 00:05:43 นอน 10 ชมงนะนอน 10 ชมงนะหลังจากนั้นก็
00:05:43 → 00:05:46 อ่าตื่นขึ้นมาแล้วอาจจะอดแห้งอีกสัก
00:05:46 → 00:05:50 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงก็กลายเป็นครบเนี่ยอด
00:05:50 → 00:05:52 แห้งก็คือยังไม่ได้กินอะไรหรอกเพราะมัน
00:05:52 → 00:05:55 ต้องเตรียมเอาหงอาหารหรือเตรียมตัวอาบน้ำ
00:05:55 → 00:05:57 อาบท่าอะไรต่างๆ
00:05:57 → 00:06:03 นะเมันก็จะพอดีอ่ะนะ 12 ชมงนะแล้วก็อาจจะ
00:06:03 → 00:06:07 มีการ extend ต่อดยการกินแต่น้ำเปล่าจิบๆ
00:06:07 → 00:06:10 ดื่มๆอ่าต่อไปอีกประมาณชั่วโมง 2 ชั่วโมง
00:06:10 → 00:06:15 แล้วถึงจะมีการกินนะฮะนะเอันเนี้ยถือว่า
00:06:15 → 00:06:18 เป็นธรรมชาติที่สุดนะฮะธรรมชาติที่สุดนะ
00:06:18 → 00:06:23 ของการอดนะแล้วก็เราก็เป็นอย่างนี้กันมา
00:06:23 → 00:06:26 เนินานกาเลแล้วนะฮะจนกระทั่งอาหาร
00:06:26 → 00:06:28 อุตสาหกรรมอาหารแปรรูปหรือระบบอาหารและ
00:06:28 → 00:06:30 การค้าต่างๆมันก็เข้ามาปรับเปลี่ยนน
00:06:30 → 00:06:34 ไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนไปหมดเลยนะฮะอ่ามันจะ
00:06:34 → 00:06:37 มีอะไรต่างๆตลอด 24 ชมงให้ได้กินชวนให้
00:06:37 → 00:06:42 กินหรือให้มีอะไรต่างๆที่จะต้องไม่ต้องอด
00:06:42 → 00:06:45 อ่ะนะฮะนะมันก็อยู่สบายกินสบายกินสะดวก
00:06:45 → 00:06:49 เออนะแต่ยังไงก็ตามเนี่ยเรากลับมาดูตรง
00:06:49 → 00:06:53 นี้นะฮว่าถ้ามีการอดนะในแง่ของอดแห้ง
00:06:53 → 00:06:58 เนี่ยนะสัก 12 ชมงหรืออดแห้งผสมอดเปียก
00:06:58 → 00:07:02 เนี่ยนะนะรวมเป็น 14 ชมงเนี่ยถ้าเกิดเหตุ
00:07:02 → 00:07:05 การณ์เช่นนี้ขึ้นร่างกายก็จะมีลักษณะ 3
00:07:05 → 00:07:09 อย่างนี้เกิดขึ้นนะะนะก็คือจะมีการเผา
00:07:09 → 00:07:11 ผลาญพลังงานสะสมไม่ว่าจะเป็นการสะสมจาก
00:07:11 → 00:07:16 คาฟหรือไขมันก็ตามนะร่างกายจะมีการซ่อม
00:07:16 → 00:07:20 แซมตัวเองนะฮะนะก็คือมีการซ่อมเนี่ยนะการ
00:07:20 → 00:07:24 ซ่อมที่สูงสุดก็คือออฟีนะฮะนะฮะอ่าร่าง
00:07:24 → 00:07:28 กายจะมีการสร้างอ่าสร้างสร้างร่างใหม่นะ
00:07:28 → 00:07:32 ฮะก็สร้างร่างสร้างอวัยวะสร้างอ่าบางสิ่ง
00:07:32 → 00:07:37 บางอย่างนะใหม่นะก็เรียกว่า ruination of
00:07:37 → 00:07:40 Stemcell นะฮะเนี่ยสร้างเซลล์ต้นกำเนิด
00:07:40 → 00:07:43 ใหม่นะอีกอันนึงก็คือมีเรื่องของการสร้าง
00:07:43 → 00:07:47 อ่าเซลล์สมองใหม่นะฮะก็จากตัวอิทธิพลของ
00:07:47 → 00:07:50 ฮอร์โมน bdnf นะฮะเนี่ยเทั้งหมดเนี่ยมัน
00:07:50 → 00:07:54 จะเกิดขึ้นนะเมื่อมีระบบการอดนะ 12 หรือ
00:07:55 → 00:07:58 14 ช่วโมงดังที่บอกนะอันนี้คือความหมาย
00:07:58 → 00:08:01 ของการอดที่เป็นธรรมชาติและประโยชน์ที่
00:08:01 → 00:08:05 เราพึงจะได้นะจากการฟาสนะ
00:08:05 → 00:08:09 ฮะนี้เรามาดูตรงเนี้ยสำคัญนะฮะนะคนต้อง
00:08:09 → 00:08:13 เข้าใจในเรื่องเ 1 2 3 นะฮะเวลาที่อดจะ
00:08:13 → 00:08:16 มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สำคัญมากๆ
00:08:16 → 00:08:20 อยู่ 3 กลุ่มนะฮะนะกลุ่มแรกก็คือฮอร์โมน
00:08:20 → 00:08:23 สะสมพลังงานก็คือฮอร์โมนตัวพ่ออินซูลิน
00:08:23 → 00:08:26 อ่าอันนี้เราไม่ได้กินนะเพราะฉะนั้นไม่มี
00:08:26 → 00:08:29 พลังงานเข้าร่างนะอินซูลินเค้าก็จะลดลงลด
00:08:29 → 00:08:33 ลงลดลงต่ำลงแต่เค้าก็ยังมีระดับของเค้า
00:08:33 → 00:08:38 แบบนิดๆหน่อยๆ minimal นะฮะนะนะคุมอยู่นะ
00:08:38 → 00:08:42 ฮะก็คือมันก็จะต้องคุมอ่าการสลายไขมันคุม
00:08:42 → 00:08:45 การเกิดตัวคีตงคีโตนอะไรต่างๆนะไม่ให้ออก
00:08:45 → 00:08:48 นอกู่นอกทางนะฮะนี่อินซูลินเอยู่ในระดับ
00:08:48 → 00:08:50 low Level
00:08:50 → 00:08:55 นะอันที่ 1 นะอันที่ 2 ก็คือจะมีฮอร์โมน
00:08:55 → 00:08:57 ที่เราเรียกว่าฮอร์โมนลูกเทพนะกลุ่ม
00:08:57 → 00:09:00 ฮอร์โมนพวกนี้มี 6 ตัวตัวสำคัญคือโกด
00:09:00 → 00:09:04 ฮอร์โมนกับกลูคารอนนะฮะแต่โกดฮอร์โมน
00:09:04 → 00:09:08 เนี่ยจะเป็นพี่เบิ้มเลยนะฮะที่จะออกมานะ
00:09:08 → 00:09:11 ถ้าเกิดคนโตเต็มวัยแล้วนะก็จะอยู่ในรูป
00:09:11 → 00:09:14 ของ IG F1 นั่นเองนะอันนี้เป็นกลุ่ม
00:09:14 → 00:09:18 ฮอร์โมนเผาผลาญพลังงานนะฮะที่เขาออกมาเผา
00:09:18 → 00:09:23 ผลาญนะฮะแต่ก็ยังมีอีก 1 ฮอร์โมนนะฮะนะ
00:09:23 → 00:09:26 เราเรียกฮอร์โมนตัดสินพลังงานนะฮะนะคือ
00:09:26 → 00:09:30 ตัดสินว่าจะเผาต่อไปเรื่อยๆเรื่อนะฮะแค่
00:09:31 → 00:09:34 ไหนหรือเมื่อไหร่ล่ะจะต้องเกิดการเก็บ
00:09:35 → 00:09:38 สะสมพลังงานแล้วนะฮะนี้คือฮอร์โมนแม่บ้าน
00:09:38 → 00:09:42 คอร์ติซอลนะฮะนะงั้นมันจะมีสถานการณ์ของ
00:09:42 → 00:09:46 ฮอร์โมน 3 ตัวเนี้ยนะใครจะมาน้อยมานะมาก
00:09:46 → 00:09:49 ใครจะมาเร็วมาช้านะใครจะ
00:09:49 → 00:09:54 อ่าอยู่ยาวนานตลอดไม่ยอมไปไหนนะฮะเหลียว
00:09:54 → 00:09:57 ซ้ายวขวาดูเรื่องพลังงานเรื่องสารอาหาร
00:09:57 → 00:10:01 ต่างๆเนี่ยอันนี้ก็ต้องคิดถึง 1 2 3
00:10:01 → 00:10:05 นี้เนาะเยตัวสำคัญเลยอ่ะที่เรายังไม่ค่อย
00:10:05 → 00:10:09 รู้จักดีนักก็คือคอร์ติซอลนะฮะเผาผันก็
00:10:09 → 00:10:13 ได้สะสมก็ได้นะฮะอื
00:10:13 → 00:10:17 ครับทีนี้จริงๆแล้วก็คือเรื่องของการอด
00:10:17 → 00:10:20 เรื่อง If เนี่ยตัวเบื้องลึกเบื้องหลัง
00:10:20 → 00:10:24 และตัวบงการใหญ่ที่สุดก็คือแม่หรือ
00:10:24 → 00:10:27 คอร์ติซอลนั่นเองนะฮะเพราะยังไงตัวพ่อ
00:10:27 → 00:10:30 เนี่ยเขาก็ไปแล้วเรียบร้อยนะฮะเ้าไม่มา
00:10:30 → 00:10:34 หรอกนะฮะอ่ามันอดอ่ะไม่ได้กินนะฮะครับ
00:10:34 → 00:10:38 ส่วนตัวลูกเนี่ยก็ต้องมีเรื่องของการการ
00:10:38 → 00:10:40 ใช้องค์ความรู้นะฮที่จะกินอะไรที่จะให้
00:10:40 → 00:10:45 ลูกเทพออกมาเยอะๆนะฮะแต่เค้าออกมาเค้าก็เ
00:10:45 → 00:10:47 ก็ทำงานเ้าไปเค้าก็เผาเ้าไปเรื่อยๆอ่ะนะ
00:10:47 → 00:10:50 ฮะแต่ถ้าเมื่อไหร่เนี่ยตัวแม่เนี่ยนะเ่า
00:10:51 → 00:10:55 ออกมาหารลีหันขวางอะไรต่างๆนะฮะแม่ก็ใหญ่
00:10:55 → 00:10:57 กว่าลูกอ่ะนะฮะนะถ้าเกิดแม่ออกมาออกมา
00:10:57 → 00:11:01 เยอะๆออกมาในทิศทางที่ไม่ดีนักอะไรอย่าง
00:11:01 → 00:11:04 เงี้ยนะฮะเอ่อโกรธโมโหฉุนเฉียวเหวี่ยงวีน
00:11:04 → 00:11:07 อะไรอย่างงี้นะอย่างงี้ลูกกลัวนะฮะลูกหด
00:11:07 → 00:11:10 หายไปหมดเลยนะเ่าเพราะฉะนั้นแม่ก็จะสั่ง
00:11:10 → 00:11:15 การต่อนะจะให้เผาต่อนะก็แม่ก็กูโค
00:11:15 → 00:11:19 neogenesis ได้เผาต่อได้นะฮะนะนะหรือจะ
00:11:19 → 00:11:23 ให้สะสมสะสมก็เค้าก็สะสมได้อ่ะนะฮะนะแล้ว
00:11:23 → 00:11:26 เดี๋ยวไม่ไม่นานเนี่ยเขาก็จะเรียกพ่อออก
00:11:26 → 00:11:30 มาช่วยสะสมอินซูลินอ่าจะเป็นอย่างนี้นะฮะ
00:11:30 → 00:11:33 เมื่อไหร่คอร์ติซอลนะจะสะสมเมื่อไหร่
00:11:33 → 00:11:36 คอร์ติซอลจะเผาผ่านนะฮะก็จะมีเงื่อนไข a
00:11:36 → 00:11:39 กับ B นะฮะอ่าสไลด์ครั้งที่แล้วเนี่ยหมอ
00:11:39 → 00:11:42 ก็พูดไปแล้วนะฮะอันนี้ลองไปอ่านดูนะฮะ
00:11:42 → 00:11:47 คอร์ติซอลเนี่ยจะเกิดการนะสะสมพลังงานนะ
00:11:47 → 00:11:51 เวลาที่เราอดนะก็จะมีเงื่อนไขแบบนี้นะฮะ
00:11:51 → 00:11:55 นะทั้งหมดแบบนี้นะฮะโดยลักษณะเนี่ยไม่ได้
00:11:55 → 00:11:58 อยู่ดีๆปุ๊บปั๊บเนี่ยเจะสะสมก็สะสมเลยนะ
00:11:58 → 00:12:02 ฮะนะเขาจะมีการสลายก่อนนะฮะในช่วงแรกๆนะ
00:12:02 → 00:12:07 ฮะพอสลายไปสลายมาแล้วก็จะจะตีกลับน่ะมา
00:12:07 → 00:12:10 เกิดการสะสมช่วงแรกๆเนี่ยนะฮะจะเกิดการ
00:12:10 → 00:12:14 เผาผลาญทั้งไขมันและกล้ามเนื้อโดยอัตรา
00:12:14 → 00:12:17 การเผาผลาไขมันเนี่ยจะเยอะกว่ากล้ามเนื้อ
00:12:17 → 00:12:20 นะอันเนี้ยอันนี้เป็นผลคอร์ติซอลนะแต่
00:12:20 → 00:12:22 เวลาคอร์ติซอลเอาไขมันมาเผ่าผลาญเนี่ย
00:12:23 → 00:12:26 คอร์ติซอลเขจะสั่งการให้แอรีนนะฮะนะซึ่ง
00:12:27 → 00:12:30 เป็นลูกคนเล็กที่เขาก็เตงมาเนี่ยว่าให้แก
00:12:30 → 00:12:35 ไปสลายไขมันสะสมมาเผาผลนนะเนี่ยอันนี้ก็
00:12:35 → 00:12:38 คือผู้บงการคือคอร์ติซอลแต่ตัวทำงานคือ
00:12:38 → 00:12:42 แอรีนนะฮะส่วนคอร์ติซอลเองเนี่ยเขาทำงาน
00:12:42 → 00:12:47 ในการสลายโปรตีนจากก้ามเนื้อนะฮะเนี่ยคือ
00:12:47 → 00:12:50 ช่วงแรกๆเนี่ยอ่าไขมันเผาเยอะมากกว่า
00:12:50 → 00:12:53 กล้ามเนื้อช่วงหลังๆนะกล้ามเนื้อจะถูกเผา
00:12:53 → 00:12:57 ผลาญมากกว่าไขมันนะฮะโดยเฉพาะเมื่อไหร่ก็
00:12:57 → 00:13:02 ตามที่บทบาทบาดของคอร์ติซอลเด่นนะแล้วก็
00:13:02 → 00:13:08 เอ่อมันมันมันมันไงอ่ะมันอดอดซ้ำอดซากคือ
00:13:08 → 00:13:11 อดแบบอดยาวนานไปเรื่อยๆเนี่ยนะคอซอเจะ
00:13:11 → 00:13:14 เด่นขึ้นเรื่อยๆนะเเด่นแล้วก็ดื้อก็เด่น
00:13:14 → 00:13:16 ก็ดื้อเพราฉะนั้นการเผาผลาญโปรตีนจาก
00:13:16 → 00:13:19 กล้ามเนื้อก็จะมากขึ้นนะกว่าไขมันอยู่
00:13:19 → 00:13:24 เรื่อยๆนะฮะนะนี้ในที่สุดเนี่ยนะก็จะเกิด
00:13:24 → 00:13:28 ภาวะการหวงพลังงานนะฮะเมื่อถึงจุดนึงนะฮะ
00:13:29 → 00:13:32 นะอันนี้ก็จะทำให้เกิดแต่การเผาผลาญกล้าม
00:13:32 → 00:13:35 เนื้อหรือโปรตีนในกล้ามเนื้อนะแล้วก็การ
00:13:35 → 00:13:38 เก็บไขมันนะฮะเก็บไขมัน
00:13:38 → 00:13:43 นะนี้นะอันนี้คือฝั่งที่จะมีการในที่สุด
00:13:43 → 00:13:48 จะเกิดการเก็บสะสมไขมันนะส่วนฝั่งสลายอ่า
00:13:48 → 00:13:51 เผาผลาญพลังงานไปได้เรื่อยๆเรื่อยๆๆๆนะฮะ
00:13:51 → 00:13:54 ไม่เก็บสะสมเนี่ยก็จะมีเงื่อนไขแบบฝั่ง
00:13:54 → 00:13:57 นี้นะฮะก็คือฝั่งที่เราได้พยายาม
00:13:57 → 00:14:01 เอ่อชักนำหรือพยายามจูงใจจให้พวกเราเนี่ย
00:14:01 → 00:14:04 นะมาทำการดูแลสุขภาพแบบ low C High
00:14:04 → 00:14:08 Good Fat นี่แหละนะฮะอ่ามีกระบวนการ
00:14:08 → 00:14:11 ค่อยๆยืดเวลาในการอดโดยเฉพาะช่วงเช้าๆ
00:14:11 → 00:14:14 เนี่ยนะฮะเเรียกว่า extend fasting หรือ
00:14:14 → 00:14:17 การเบรคฟาออกไปให้ยาวหน่อยนะจนถึงประมาณ
00:14:17 → 00:14:21 เที่ยงสายๆค่อนเที่ยงอะไรอย่างี้นะอ่อ
00:14:22 → 00:14:25 ก่อนจะ Breakfast ก็จะมีการออกแรงออก
00:14:25 → 00:14:29 กำลังนะก็แล้วแต่คนอ้วนก็คาร์ดิโอคนผอมก็
00:14:29 → 00:14:32 เวทอะไรอย่างงั้นนะฮะในช่วงที่อดนะอันนี้
00:14:32 → 00:14:37 เดี๋ยวจะมีนะว่ามันดียังไงนะแล้วก็มื้อ
00:14:37 → 00:14:40 แรกหลังการอดนะก็ต้องเน้นเป็นโปรตีนกับ
00:14:40 → 00:14:42 High Good Fat แล้วก็เน้นให้ร่างกาย
00:14:42 → 00:14:46 ได้พลังงานนะจับแฟตโดยเฉพาะเป็นน้ำมัน
00:14:46 → 00:14:50 สกัดเย็นจากพืชนะฮะนะอ่าแล้วก็อาจจะมีตัว
00:14:50 → 00:14:54 เสริมเป็นชาชงสมุนไพรอะไรต่างๆอ่าก็ได้นะ
00:14:54 → 00:14:57 มีน้ำส้มใายชูหมักแอปเปิ้ลมีการอบตัวแบบ
00:14:57 → 00:15:01 เ่อร้อนนะแบบซาวน่านะฮะนะพวกนี้ก็จะ
00:15:01 → 00:15:04 กระตุ้นนะให้คอร์ติซอลเนี่ยทำงานไปได้ตาม
00:15:04 → 00:15:08 ปกตินะฮะแล้วก็เป็นกระบวนการโปรลองการเผา
00:15:08 → 00:15:12 ผันพลังงานให้เข้าสู่ภาวะคีโตสิสยาวๆไปนะ
00:15:12 → 00:15:16 ซึ่งในกรณีเนี้ยนะเ่อตัวพระเอกที่ออกมาก็
00:15:16 → 00:15:19 คือคีโตนนะฮะเพราะว่าไขมันดีจะถูกเผาผลา
00:15:19 → 00:15:22 จากฮอร์โมนลูกเทพเกลายเป็นคีโตนแล้วตัว
00:15:22 → 00:15:25 คีโตนเนี่ยก็จะเกิดภาวะ Muscle sparing
00:15:25 → 00:15:30 effect นะฮะนะอันนี้
00:15:30 → 00:15:34 อ่าทีนี้ในกรณีเนี่ยบางครั้งบางคราวเนี่ย
00:15:34 → 00:15:38 นะฮะนะในเรื่องของการทำการอดหรือ If
00:15:38 → 00:15:41 เนี่ยนะฮะมันก็จะมีหลายรูปแบบนะฮะแล้วรูป
00:15:41 → 00:15:45 แบบนึงเนี่ยที่เราก็คงผ่านหูผ่านตากันมา
00:15:45 → 00:15:48 เยอะแล้วนะฮะก็คือการทำ One me a day
00:15:48 → 00:15:52 หรือ omas omas ที่เราเรียกกันนะฮะนะคือ
00:15:52 → 00:15:55 การอดแบบไหนก็ตามนะฮะในในพื้นฐานของกลุ่ม
00:15:55 → 00:15:58 เนี่ยนะมันจะเป็น Two Me A Day นะเรา
00:15:58 → 00:16:00 เราแนะนำให้กินให้ถูกต้องภายใน 1 วันกิน
00:16:00 → 00:16:03 อาหารมื้อแรกกินยังไงกินอาหารมื้อเย็น
00:16:03 → 00:16:05 เนี่ยต้องกินยังไงถึงจะถูกเพราะอะไรถ้า
00:16:05 → 00:16:07 ไม่กินแล้วจะเป็นยังไงถ้ากินแล้วมันจะ
00:16:07 → 00:16:11 เกิดประโยชน์อะไรนะฮะแต่สำหรับในกรณี omas
00:16:11 → 00:16:14 เนี่ยบางครั้งก็ต้องถูกนำมาใช้นะฮะเมื่อ
00:16:14 → 00:16:17 ไล้ที่แล้วที่หมอพูดไปเนี่ยมันเป็น trem
00:16:17 → 00:16:19 a day กินยังไงถึงจะเพิ่มกล้ามเนื้อนะ
00:16:19 → 00:16:23 อันนั้นเนี่ยมันเป็นกรณีเหมาะสำหรับคนที่
00:16:23 → 00:16:26 ที่ผอมนะที่อยากสร้างกล้ามเนื้อหรือสมสวน
00:16:26 → 00:16:29 ค่อนผอมนะฮะหรือคนที่อ้วนเยอะเยอะแล้วน้ำ
00:16:29 → 00:16:32 หนักมันลดลงมากๆเนี่ยกลายเป็นคนในรูปแบบ
00:16:32 → 00:16:34 ของค่อนข้างจะ underweight อะไรอย่างงี้
00:16:35 → 00:16:37 นะฮะนะเพราะฉะนั้นก็ต้องใช้หลักเกณฑ์แบบ
00:16:37 → 00:16:39 Two me a day แล้วก็กินยังไงที่จะ
00:16:39 → 00:16:42 สร้างกล้ามเนื้อได้ดีนะฮะสำหรับวันนี้
00:16:42 → 00:16:45 เนี่ยมันเป็นเรื่อง omas นะ One me a
00:16:45 → 00:16:48 day อ่าทีนี้ก็เป็น One me a day ยัง
00:16:48 → 00:16:52 ไงนะฮะนะที่จะทำให้เราเนี่ยอยู่ในภาวะ
00:16:52 → 00:16:54 สมดุล homeostasis
00:16:54 → 00:16:58 นะเพราะว่าการใช้หลักของวัน me เนี่ยส่วน
00:16:58 → 00:17:02 ใหญ่ก็ใช้ในกรณีของคนอ้วนคนน้ำหนักเกินนะ
00:17:02 → 00:17:05 หรือคนที่เป็นเบาหวานแบบอ้วนนะฮะแล้วก็
00:17:05 → 00:17:09 ต้องการที่จะลดพลังงานลดน้ำตาลลดอินซูลิน
00:17:09 → 00:17:12 อะไรต่างๆนะเพราะฉะนั้นบางครั้งเนี่ยเรา
00:17:12 → 00:17:15 จะต้องใช้หลักการของ omas อ่ามาใช้เป็น
00:17:15 → 00:17:20 ระยะนึงนะฮะนะเราไม่ได้ใช้ไปตลอดนะฮะนเรื
00:17:20 → 00:17:24 omas เนี่ยการกินแบบวันวดเนี่ยนะฮะขอย้ำ
00:17:24 → 00:17:27 ว่าร่างกายเท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดนะฮะ
00:17:27 → 00:17:32 นะก็คือสมองนั่นเองนะฮะนะเกิดจากการ
00:17:32 → 00:17:35 อนุญาตของสมองนะฮะนะหรือร่างกายเท่านั้น
00:17:35 → 00:17:39 นะฮะนะถ้าเไม่อนุญาตก็ทำไม่ได้นะฮะนะหรือ
00:17:39 → 00:17:43 ทำๆไปแล้วเนี่ยนะมันจะเกิดปรากฏการณ์หรือ
00:17:43 → 00:17:45 มันจะเกิดเ้าเรียก sign and symptom นะ
00:17:45 → 00:17:50 ฮะนะที่บอกว่าคุณอดต่อไม่ได้อไปกินซะนะ
00:17:51 → 00:17:54 อ่าก็ต้องไม่ฝืนนะฮะต้องไม่ฝืน omas ต่อ
00:17:54 → 00:17:58 นะและอย่าง omas เนี่ยเราไม่ได้ทำกันแบบ
00:17:58 → 00:18:02 แบบเค้าเรียกเนิ่นนานตาปีตาชาติไปยาวๆอัน
00:18:02 → 00:18:05 นั้นทำไม่ได้นะนะร่างกายจะเสียมากกว่าดี
00:18:05 → 00:18:12 นะเออนะอันนี้อ่าทีนี้หลักๆของ omas
00:18:12 → 00:18:15 เนี่ยนะฮะนะอันนี้คือประโยชน์ที่เราอยาก
00:18:15 → 00:18:19 จะได้นะเราถึงต้องมาทำ omas นะะก็มีอะไร
00:18:19 → 00:18:22 บ้างนะต้องการลด body fat นะต้องการลด
00:18:22 → 00:18:26 น้ำหนักลดความอ้วนนะลดไขมันส่วนเกินนะฮะ
00:18:26 → 00:18:29 คือลดเปอร์เซ็นต์ body fat นะหรือลด
00:18:29 → 00:18:33 เปอร์เซ็นต์ของั Fat ในคนผอมนะฮะนะอันนี้
00:18:33 → 00:18:38 นะเอ่อต้องการมีสัตส่วนรูปร่างนะฮะที่
00:18:38 → 00:18:42 สมดุลนะฮะนะก็ตามโครงสร้างบอ type ตาม
00:18:42 → 00:18:45 ธรรมชาติของคนๆนั้นเนา
00:18:45 → 00:18:48 อ่านี้บางครั้งเนี่ยน้ำหนักตัวอาจจะลดลง
00:18:48 → 00:18:54 มานะก็อันนี้จะดีนะแต่บางคนเนี่ยการทำมส
00:18:54 → 00:18:57 แล้วน้ำหนักก็ยังคงที่อยู่นะฮะอันนี้ก็
00:18:57 → 00:19:01 ไม่ต้องไปตกใจนะเป็นไปได้นะฮะแต่สัดส่วน
00:19:01 → 00:19:05 เนี่ยมันจะต้องลดลงนะแล้วเมื่อมีการ
00:19:05 → 00:19:10 มอนิเตอร์นะฮะนะตัวบ่งชี้ต่างๆเนี่ยก็ 3
00:19:10 → 00:19:12 ตัวนี่แหละนะฮะก็คือเปอร์เซ็น body fat
00:19:13 → 00:19:15 นะเปอร์เซ็น viser Fat แล้วก็
00:19:15 → 00:19:17 เปอร์เซ็นต์มวลกล้าม
00:19:17 → 00:19:20 เนื้อมวลกล้ามเนื้อต้องเท่าเดิมหรือเพิ่ม
00:19:20 → 00:19:24 ขึ้นนะฮะนะส่วน body fat vis Fat ต้อง
00:19:24 → 00:19:28 ลดลงนะนะคืออย่างน้อยเนี่ยอ่ามาเกอร์ที่
00:19:28 → 00:19:31 สำคัญคือมวลกล้ามเนื้อนะฮะจะต้องไม่ลดลง
00:19:31 → 00:19:35 ถ้าลดลงนี่แปลว่าไม่ได้แล้วนะจบนะฮะอ่า
00:19:35 → 00:19:39 omas ใช้ไม่ได้เนาะทีนี้อื่นๆเนี่ยที่
00:19:39 → 00:19:42 เราจะดูประกอบเนี่ยนะฮะก็จะมีว่าเนี่ย
00:19:42 → 00:19:46 เอ่อผมร่วงหรือเปล่านะผิวพรรณต้องไม่โทรม
00:19:46 → 00:19:50 นะเอ่อเล็บอะไรต่างๆต้องไม่ผุพังกร่อน
00:19:50 → 00:19:55 อะไรไปนะเ่อไม่หิวโหยอ่าแบบอื้อหือนะ
00:19:56 → 00:19:59 ทรมานทรกรรมนะฮะอดอยากแบบทรมานนะต้องหลับ
00:19:59 → 00:20:05 ดีต้องถ่ายข้องนะฮะนะแล้ว
00:20:05 → 00:20:09 ก็ค่า metabolic มาเกอร์ต่างๆนะระดับน้ำ
00:20:09 → 00:20:13 ตาลน้ำตาลสะสม a1c นะฮะไตกีซา hdl ความ
00:20:13 → 00:20:17 ดันเลือดเหล่านี้นะฮะควรจะอยู่ในเกณฑ์ของ
00:20:17 → 00:20:21 ค่าที่ปกตินะต้องมีการปรับด้วยนะฮะนะทั้ง
00:20:21 → 00:20:24 หมดเนี่ยยที่เป็นเลเบลสีเหลืองๆเนี่ยนะฮะ
00:20:24 → 00:20:28 ก็คือคือจุดมุ่งหมายของการทำ omap แล้วก็
00:20:28 → 00:20:31 ให้ถึงฝั่งฝันหรือให้ถึงผลลัพธ์แบบนี้นะ
00:20:31 → 00:20:35 ฮะนะเราทำได้เราทำแล้วมันมันเป็นไปได้มย
00:20:35 → 00:20:38 นะฮะอันนี้คือจุดประสงค์ที่ต้องเอามาติด
00:20:38 → 00:20:42 ตามเอามามอนิเตอรกันอยู่ตลอด
00:20:42 → 00:20:46 นะทีนี้วิธีการเนี่ยนะมันจะทำยังไงที่
00:20:46 → 00:20:49 omas เนี่ยถึงจะถึงฝั่งฝันแบบที่หมอบอก
00:20:49 → 00:20:54 นะฮะนะเราก็จะมีตัว 7 อนะฮะ 7 ออ่างนะฮะ
00:20:54 → 00:20:58 นะเนี่ยอันที่ 1 นะฮะอ่าการกินแบบแ OM
00:20:58 → 00:21:01 ใช้ในกรณีคนที่อ้วนน้ำหนักเกินนี้เกิน
00:21:02 → 00:21:04 เท่าไหร่นะควรจะมีน้ำหนักเกินค่าบนมาก
00:21:04 → 00:21:09 กว่า 5 กกขึ้นไปอ่านะสมมุติเราสูง 170 นะ
00:21:09 → 00:21:13 ฮะนะน้ำหนักค่ากลางก็คือเอา 105 ลบก็
00:21:13 → 00:21:18 เหลือ 65 นะ 65 นะอ่าน้ำหนักค่าบนก็ลบ
00:21:18 → 00:21:21 ด้วย 100 นะ
00:21:21 → 00:21:25 ฮะ 100 ก็เท่าไหร่นะก็เหลือ 70 นะฮะนะ
00:21:25 → 00:21:29 เพราะฉะนั้นอ่าเนี่ยเราสูง 170 แต่เราน้ำ
00:21:29 → 00:21:33 หนัก 75 กลขึ้นไปอันนี้ทำ omas ได้นะฮะ
00:21:33 → 00:21:36 คือต้องมากกว่าค่าบนเนี่ยเกิน 5 กขึ้นไป
00:21:36 → 00:21:40 นะฮะอืไม่ไม่ไม่ไม่มันมันมันไม่ยากอ่ะนะ
00:21:40 → 00:21:45 ฮะอันนี้ครับต่อไปก็คือคุณต้องผ่านการอด
00:21:45 → 00:21:49 นะฮะเการอดคือการ set up ระบบภายในเมื่อ
00:21:49 → 00:21:54 จะไม่กินนะฮะนะอ่าหลักการของระบบภายในที่
00:21:54 → 00:21:57 เมื่อไม่กินเนี่ยมันจะมีปฏิกิริยาตอบโต้
00:21:58 → 00:22:01 อ่ารุนแรงหนักหนาแค่ไหนเนี่ยนะฮะนะส่วน
00:22:01 → 00:22:05 ใหญ่มันก็จะมีอยู่ 4 อวัยวะนะฮะคือตับนะ
00:22:05 → 00:22:10 ฮะตับนะต่ออับตับตับอ่อนสมองแล้วก็ต่อ
00:22:10 → 00:22:16 หมวกไตอย่างงนี้นะฮะนะเนี่ยตับสมองนะต่อ
00:22:17 → 00:22:21 หมวกไตตับอ่อนนะฮะเนี่ยก็จะเรียงกันอย่าง
00:22:21 → 00:22:24 นี้เป็นหลักนะฮะนะแล้วก็ถ้าอย่างที่ 5 ก็
00:22:25 → 00:22:27 จะเป็นกล้ามเนื้อแต่แต่กล้ามเนื้อเนี่ย
00:22:27 → 00:22:31 มันก็ก็บางทีบางทีเราต้องสนใจ 4 อวัยวะ
00:22:31 → 00:22:34 ที่หมอบอกนั้นก่อนนะเป็นการ set up ระบบ
00:22:34 → 00:22:37 ภายในให้ได้ก่อนซึ่งการอดที่จะ set up
00:22:37 → 00:22:40 ระบบพวกเนี้ยนะฮะนะมันก็เริ่มมาตั้งแต่
00:22:40 → 00:22:46 อะไรอ่ะนะเอ่ออะไร 14/10 นะ 16/8 18/6
00:22:46 → 00:22:50 20/4 23/1 อะไรอย่าเงี้ยเนี่ยมันก็
00:22:50 → 00:22:53 เลื่อนมาตามลำดับพวกเนี้ยนะฮะนะห่างกัน
00:22:53 → 00:22:55 สักอาทิตย์ 2 อาทิตย์
00:22:55 → 00:22:58 นะพอเข้าที่เข้าทางร่างกายเป็น Fat
00:22:59 → 00:23:01 burner แล้วก็ร่างกายค่อนข้างอยู่ใน
00:23:01 → 00:23:04 คีโตซิสเป็นหลัก
00:23:04 → 00:23:08 นะก็อันเนี้ยก็เริ่มจะลอง omas นะฮะถ้ามี
00:23:08 → 00:23:12 ข้อบ่งชี้ต่างๆแบบในส่วนข้างบนเนี้ยแล้ว
00:23:12 → 00:23:15 ก็มีเป้าหมายอยากจะได้ผลลัพธ์นะฮะตามแนว
00:23:15 → 00:23:19 เลเบลสีเหลืองๆนี้นะ
00:23:19 → 00:23:22 ฮะอีกอย่างนึง omas เนี่ยนะฮะหรือการกิน
00:23:22 → 00:23:27 วันละมื้อนะเราไม่ได้ต้องทำทุกวันนะฮะนะ
00:23:27 → 00:23:31 นะเราไม่ต้องทำทุกวันนะหลักการต่อสัปดาห์
00:23:31 → 00:23:35 เนี่ยก็คือ 1 หรือ 2 ครั้งพอนะฮะเพียงแต่
00:23:35 → 00:23:39 ว่าต้องตั้งใจทำแล้วก็เตรียมตัวหน่อยนะฮะ
00:23:39 → 00:23:42 นะคือไม่ใช่ว่านึกว่าจะทำก็ทำอะไรอย่าง
00:23:42 → 00:23:47 เงี้ยนะเอ่อไปดู Follow อะไรต่างๆว่าดีก็
00:23:47 → 00:23:50 เอาเลยอะไรงี้ไม่ได้นะฮะนะก็ต้องมีองค์
00:23:50 → 00:23:54 ความรู้พื้นฐานอะไรด้วยนะฮะเออเพราะเอ่อ
00:23:54 → 00:23:58 เรื่องของการอดเนี่ยมันเป็นกลไกเเรียกว่า
00:23:59 → 00:24:01 กลไกการเอาตัวรอดของร่างกายเนี่ยเเรียก
00:24:01 → 00:24:04 hmis นั่นเองนะฮะซึ่งมันก็จะคู่ขนานไป
00:24:04 → 00:24:08 กับโฮมสเต sis homeostasis ก็คือการปรับ
00:24:08 → 00:24:12 สมดุลของร่างกายในเรื่องต่างๆนะฮะนะแต่
00:24:12 → 00:24:15 การเสียสมดุลเนี่ยนะอ่าแล้วร่างกายสามารถ
00:24:15 → 00:24:20 ที่จะฝึกฝึกฝึกฝนหรือฝึกหัดตัวเองเนี่ย
00:24:20 → 00:24:23 ที่จะปรับจากการเสียสมดุลมาเป็นภาวะสมดุล
00:24:23 → 00:24:27 เนี่ยนะการเสียสมดุลในเหตุการณ์ต่างๆอะไร
00:24:27 → 00:24:30 ก็ตามเนี่ยนะเราเรียกฮินะฮะนะซึ่งมันก็
00:24:30 → 00:24:33 ต้องมีอ่ะนะแต่ว่าไม่ใช่มีตลอดนะฮะเราจะ
00:24:33 → 00:24:39 ฮิไปตลอดไม่ใช่เราต้องโสตินะฮะแล้วมีิิมา
00:24:39 → 00:24:45 แทรกนะเป็นอะไรอ่ะเป็นเป็นกิมิเป็นเค้า
00:24:45 → 00:24:48 เรียกเป็นอะไรนะเป็นเป็นตัวมาเบรคหรือว่า
00:24:48 → 00:24:52 มาเปลี่ยนบรรยากาศบ้างอะไรอย่างี้นะเอ่อ
00:24:52 → 00:24:55 เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ของ omx ก็ในใน
00:24:55 → 00:24:58 เรื่องในเรื่องเนี้ยเป็นเรื่องสำคัญคือ
00:24:58 → 00:25:02 เราไม่ได้ทำตลอดทุกี่วันนะฮะนะอ่าทีนี้จะ
00:25:02 → 00:25:06 มีข้อเนี้ยอ่าอที่ 3 ก็คืออาการเตือนนะฮะ
00:25:06 → 00:25:09 นะเตือนยังไงอ่ะก็เตือนว่าทำได้หรือไม่
00:25:09 → 00:25:13 ได้นะอ่าผู้อนุญาตก็คือร่างกายหรือสมองนะ
00:25:13 → 00:25:17 ฮะนะสิ่งที่เขาจะส่งสัญญาณนะฮะส่งสัญญาณ
00:25:17 → 00:25:22 นะเนี่ยหลักๆเลยเนี่ยก็คือความหิวนะสั่น
00:25:22 → 00:25:26 หนาวสั่นหนาวสั่นนี่ก็คือพวกไทรรอยด์ไม่
00:25:26 → 00:25:31 ทำงานะนะนะไม่ได้นะเ่อมันจะหนาวมันจะหวิว
00:25:31 → 00:25:34 นะแล้วก็อ่อนเพลียอ่อนเปี้ยเพลียร่อยนะ
00:25:34 → 00:25:37 อันนี้ก็เสียเกลือแร่วิตามินเสียน้ำอะไร
00:25:37 → 00:25:41 ต่างๆนะหิวหนาวสั่นนะฮะอ่อนเพลียอันนี้
00:25:41 → 00:25:45 ต้องหยุดต้องหยุด If นะฮะนะไม่ว่าจะทำแบบ
00:25:45 → 00:25:49 ไหนก็ตามโดยเฉพาะ omas นะฮะเพราะถ้าฝืนไป
00:25:49 → 00:25:51 ต่อเดี๋ยวมันจะมีปัญหาเรื่องนี้การขับ
00:25:51 → 00:25:54 ถ่ายการนอนไม่หลับนะแล้วในที่สุดพวกค่า
00:25:55 → 00:25:59 แลบอะไรต่างๆก็จะผิดปกติยาวกันไปเลยนะฮะ
00:25:59 → 00:26:02 เนี่ยเออคือก็ต้องเข้าใจในแบบข้อที่ 2
00:26:02 → 00:26:06 ที่หมอบอกเว่ามันไม่ใช่ว่าทำกันแบบเป็น
00:26:06 → 00:26:08 เป็นหลักเลยทุกว่งทุกวันอะไรอย่างเงี้ยาว
00:26:08 → 00:26:13 ๆไปนะฮะนี้ข้อที่ 4 ตัวอที่ 4 คืออารมณ์
00:26:13 → 00:26:17 นะนะคนที่ทำ omas ได้เนี่ยนะฮะจะสังเกต
00:26:17 → 00:26:22 ว่านะเ่อในความรู้สึกนะเอ่อแต่ละวันแต่ละ
00:26:22 → 00:26:25 วันเนี่ยที่ทำเี่หรือช่วงที่ทำเนี่ยจะ
00:26:25 → 00:26:29 ต้องสบายชิวๆมีความรู้สึกดีอ่ามากกว่าไม่
00:26:29 → 00:26:34 ดีนะฮะนะเนี่ยแต่ถ้ามันสมองตื้อมึนงงโก่ง
00:26:34 → 00:26:38 งหวิวๆหงุดหงิดกระวนกระวายขี้รำคาญเอ่อ
00:26:38 → 00:26:42 กระสับกระส่ายไม่มีความสุขออย่างงนี้ไม่
00:26:42 → 00:26:45 ใช่แล้วนะฮะไม่ใช่แล้วมสไม่ได้แล้วอ่า
00:26:45 → 00:26:50 ร่างกายไม่อนุญาตนะฮะต้องออกเต้องออกเอ่อ
00:26:50 → 00:26:51 ออกก็คือกินนะ
00:26:52 → 00:26:56 ฮะนี้ในช่วงการที่วันที่เราทำ omas เนี่ย
00:26:56 → 00:26:58 นะการออกแรงออกคกำลังเนี่ยก็ต้องอยู่ใน
00:26:58 → 00:27:01 ลักษณะของการผ่อนคลายนะะนะส่วนใหญ่เป็น
00:27:01 → 00:27:04 เรื่องของการยืดเหยียดนะฮะยืดเหยียดโยคะ
00:27:04 → 00:27:09 ชี่กงเอ่ออะไรต่างๆเนะกาวดิ้งตากแดดนะฮะ
00:27:09 → 00:27:14 เอ่อเดินนะฮะเอ่อเดินเบาๆนะเอ่อไม่ต้อง
00:27:14 → 00:27:17 รีบเร่งนะสบายๆให้เกิดการผ่อนคลายหรือ
00:27:17 → 00:27:22 รีแลกอะไรงี้นะอออตัวที่ 6 ก็คืออาหาร
00:27:22 → 00:27:25 หลักนะฮะอาหารหลักเนี่ยมันเป็นจุดที่คน
00:27:25 → 00:27:29 ส่วนใหญ่จะพลาดนะฮะเพราะว่าอย่างว่าเนี่ย
00:27:29 → 00:27:33 นะถ้าเกิดเอ่อแนวทางของอาหารในรูปแบบต่าง
00:27:33 → 00:27:38 ๆเนี่ยนะไม่ว่าจะเป็น ow C คโต CD kcd
00:27:38 → 00:27:42 นะหรือจะเป็นอ่าคลีนเป็นแนเบสอะไรก็ตาม
00:27:42 → 00:27:46 เนี่ยนะฮะนะเพราะว่านะหลักสำคัญที่สุด
00:27:46 → 00:27:49 เนี่ยของการที่จะกินแบบ One me a day
00:27:49 → 00:27:52 เนี่ยนะฮะคือร่างกายมันจะต้องเป็น Fat
00:27:52 → 00:27:56 burner แล้ว ketosis อ่าอย่างช่ำชองแล้ว
00:27:56 → 00:27:59 ซะก่อนนะฮะนะคือร่างกายต้องเรียนรู้ที่จะ
00:27:59 → 00:28:03 ใช้พลังงานหลักนะก็คือพลังงานจากไขมันนะ
00:28:03 → 00:28:07 และพลังงานฉุกเฉินก็คือพลังงานจากคาฟนะฮะ
00:28:07 → 00:28:10 นะอันเนี้ยมันจะต้องเป็นรูปแบบนี้ก่อนให้
00:28:10 → 00:28:13 ได้นะฮะเพราะฉะนั้นทำยังไงอ่ะเราก็อาจจะ
00:28:13 → 00:28:16 ต้องกินต้องฝึกฝนตัวเองอ่ะนะฮะที่จะกิน
00:28:16 → 00:28:18 ให้เป็นกินให้ได้แล้วจนกระทั่งร่างกาย
00:28:18 → 00:28:21 เกิดภาวะ Fat adaptation หรือคี
00:28:21 → 00:28:25 adaptation นะแล้วเราถึงจะค่อยสเต็ปต่อ
00:28:25 → 00:28:29 ไปก็คือการกินแบบ omas นะฮะนะเพงั้นรูป
00:28:29 → 00:28:32 แบบ low C High fash อะไรต่างๆเนี่ยก็
00:28:32 → 00:28:35 ค่อนข้างจะตอบโจทย์นะฮะนะถ้ามันเข้าที่
00:28:35 → 00:28:38 เข้าทางแล้วนะมีสัญญาณอะไรต่างๆดีแล้ว
00:28:38 → 00:28:42 เนี่ยนะฮะอ่าเราก็จะ omas อ่าไปได้เรื่อย
00:28:42 → 00:28:45 ๆนะฮะนะถ้าถ้าจำเป็นนะฮะหรือถ้ามีข้อโบ่ง
00:28:46 → 00:28:50 ชี้
00:28:50 → 00:28:55 นะเอ่อเวลาเรา omas เราก็รู้แล้วนะว่าเรา
00:28:55 → 00:28:59 เป็นการควบคุมอ่าตัวฮอร์โมนอินซูลินซึ่ง
00:28:59 → 00:29:04 เป็นฮอร์โมนพลังเก็บพลังงานตัวพ่อนะฮะ
00:29:04 → 00:29:09 นะคือตัวเนี้ยนะฮะอินซูลินเนี่ยนะฮะเ่อ
00:29:09 → 00:29:13 มันจะเวลาที่เรา omas เนี่ยนะฮะอันเนี้ย
00:29:13 → 00:29:17 อินซูลินเขาคก็ไปพักผ่อนนะ
00:29:17 → 00:29:23 ไปไปสงบสงบกายสงบไปสงบไปสงบอะไรไปอยู่ใน
00:29:23 → 00:29:27 ที่สงบๆของเคอ่ะนะฮะแต่ทีนี้เอ่อเวเวลา
00:29:27 → 00:29:31 ที่เราจะเบรค Fast เราออกจากการฟาแบบ omas
00:29:31 → 00:29:36 เนี่ยนะฮะอันนี้นี่ต้องเข้าใจเลยนะฮะนะ
00:29:36 → 00:29:40 ว่านะอาหารที่กินเนี่ยจะต้องไม่ใช่อาหาร
00:29:40 → 00:29:43 ที่จะไปกระตุ้นอินซูลินให้มาตั้งแต่แรก
00:29:43 → 00:29:47 เลยอย่างงี้ไม่ได้นะฮะนะไม่ได้นะฮะนะ
00:29:47 → 00:29:50 เพราะว่าอินซูลินเนี่ยเวลาที่เขาไปพักยาว
00:29:50 → 00:29:54 ๆพักนานๆแล้วเนี่ยนะฮะนะเวลาเออกมาเนี่ย
00:29:54 → 00:29:58 ต้องค่อยๆให้เขาออกมานะแล้วก็
00:29:58 → 00:30:03 เอ่อไม่วูบวาบไม่เหวี่ยงไม่ไม่ไม่พุ่งอ่ะ
00:30:03 → 00:30:07 ไม่พุ่งอ่าเอ่อไม่งั้นแล้วเนี่ยก็จะเกิด
00:30:07 → 00:30:11 ภาวะอิซูลิน hypersensitivity นะฮะนะซึ่ง
00:30:11 → 00:30:14 อันเนี้ยมันจะเกิดภาวะที่ไม่เสถียรของ
00:30:14 → 00:30:18 ระดับน้ำตาลนะแล้วก็จะเกิดปัญหานะก็จะมี
00:30:18 → 00:30:21 ปัญหาต่างๆเ่อหลายอย่างนะจากเรื่องของ
00:30:22 → 00:30:25 อินซูลินที่มันอ่าที่มันเหวี่ยงที่มัน
00:30:25 → 00:30:28 สวิงนะใช่มั้ล่ะ
00:30:28 → 00:30:32 นะอันนี้เราก็
00:30:32 → 00:30:36 นะต้องยึดหลักดีๆอ่ะนะฮะมาเพราะว่าถ้าใคร
00:30:36 → 00:30:40 ที่กิน ow C High Fat ถูกเนี่ยนะฮะนะ
00:30:40 → 00:30:44 จัดสรรพลังงานจัดสรรสังอาหารเอ่ออย่างถูก
00:30:44 → 00:30:47 ต้องเหมาะสมแล้วเนี่ยนะฮะอินซูลินจะไม่
00:30:47 → 00:30:52 เป็นปัญหานะทนี้เวลาเรา omas เนี่ยเรากิน
00:30:52 → 00:30:55 ได้วันละมื้อใช่่มเรากินวันละมื้อเนี่ย
00:30:55 → 00:30:59 เพราะฉะนั้นมันก็จะต้องต้องปรับในรูปแบบ
00:30:59 → 00:31:02 ของอาหารน่ะทั้งปริมาณทั้งสัดส่วนทั้ง
00:31:02 → 00:31:05 วิธีการปรุงและวิธีการที่จะกินลำเรียง
00:31:05 → 00:31:10 เข้าร่างเนะให้เกิดการเ่อตอบโจทย์นะต่อ
00:31:10 → 00:31:14 ฮอร์โมนต่างๆนะทั้งอินซูลินคอร์ติซอลนะ
00:31:14 → 00:31:18 แล้วก็ฮอร์โมนรูกเทพอะไรต่างๆนะที่เขาจะ
00:31:18 → 00:31:23 ให้เข้าหรือออกมาทำงานได้อย่างดีๆนะฮะนะ
00:31:23 → 00:31:26 โดยเฉพาะตัวอินซูลินเนี่ยนะฮะอันนี้สำคัญ
00:31:26 → 00:31:29 ที่สุดนะนะเพราะเรากินวันละมื้อนะมื้อ
00:31:29 → 00:31:32 นั้นเนี่ยมันอาหารมันต้องครบหมู่นะคาฟก็
00:31:32 → 00:31:37 ต้องมีนะไขมันก็ต้องเยอะนะแล้วก็โปรตีนนะ
00:31:37 → 00:31:41 ก็ต้องถึงนะฮะถ้าสัดส่วนมันไม่ดีหรือไป
00:31:41 → 00:31:45 เกิด randle RE เพราะความไม่รู้นะฮะนะ
00:31:45 → 00:31:50 อินซูลินเขาคก็จะมาแบบนะที่บอกนะก็คือ
00:31:50 → 00:31:53 อินซูลินไฮเปอร sensitive นะเอ่าอันนี้
00:31:53 → 00:31:55 มันจะเกิดปัญหา
00:31:55 → 00:32:00 นะทีนี้ออกปตัวสุดท้ายเ้าเรียกอาหารพิเศษ
00:32:00 → 00:32:04 นะฮะอาหารพิเศษนะคือจริงๆเนี่ยคนที่ทำ
00:32:04 → 00:32:08 omas หลายๆคนเนี่ยนะฮะนะก็อาจจะไม่
00:32:08 → 00:32:12 จำเป็นน่ะต้องใช้อาหารพิเศษช่วยนะฮะนะ
00:32:12 → 00:32:16 อาหารพิเศษในที่นี้เนี่ยนะเอ่อมันจะมี
00:32:16 → 00:32:20 หลักๆอยู่ 2-3 อย่างนะฮะอย่างนึงก็คือนะ
00:32:20 → 00:32:23 เวลาที่เรา If ไปแล้วเนี่ยอย่างเราทำ omas
00:32:23 → 00:32:27 เนี่ยเราก็ต้องรออ่ะนะกว่าที่มันจะครบ 23
00:32:27 → 00:32:32 ชมมนะฮะคือคำว่า omas เนี่ยในระบบระยะ
00:32:32 → 00:32:34 เวลาของการกินเนี่ยส่วนใหญ่คนเราเนี่ยจะ
00:32:34 → 00:32:38 กินอยู่ที่ประมาณไม่เกิน 1 คาบหรือ 55
00:32:38 → 00:32:43 นาที 50-55 นาทีนะฮะนะแต่ในการกินเร Food
00:32:43 → 00:32:46 เนี่ยนะฮะที่เามีงานวิจัยหเขาทดสอบทดลอง
00:32:46 → 00:32:50 เนี่ยนะในช่วงเวลาประมาณซักประมาณซัก 20
00:32:50 → 00:32:53 ถ 25 นาทีเนี่ยนะเฉลี่ยก็คือประมาณ 24
00:32:54 → 00:32:57 นาทีเนี่ยนะมันมันก็จะพอแล้วแล้วทุกอย่าง
00:32:57 → 00:33:01 มันจะ Set sle ะมันจะมันจะพอไปหมดแล้วะ
00:33:01 → 00:33:05 นะฮะถ้าเรากินอย่างเงี้ยนะฮะเนี่ยแต่ว่า
00:33:05 → 00:33:09 เราก็อาจจะมีช่วงเวลาที่จะเอ่อพักหรือว่า
00:33:09 → 00:33:13 กินอะไรต่างๆเนี่ยให้มันหมดให้มันหมดใน
00:33:13 → 00:33:16 มื้อนั้นน่ะนะฮะเค้าก็ให้เวลาประมาณ 1
00:33:16 → 00:33:18 คาบหรือ 1 ชั่วโมงนั่น
00:33:18 → 00:33:22 เองเพราะฉะนั้นเนี่ยบางครั้งเนี่ยเรารอ
00:33:22 → 00:33:26 ว่าจะครบ 3 23 ชมงยังจะถึงยังจะถึงยัง
00:33:26 → 00:33:27 เนี่ยนะ
00:33:27 → 00:33:30 แต่มันก็เกือบๆถึงอ่ะนะสมมุติว่า 20 21
00:33:30 → 00:33:34 ชั่วโมงเนี่ยชักชักจะมีอาการแบบไม่ไม่
00:33:34 → 00:33:37 ปกตินักละนะอุ้ยแต่มันก็ทนอีกชั่วโมง 2
00:33:37 → 00:33:41 ชั่วโมงก็ 23 แล้วจะได้กินแล้วนะฮะนะก็
00:33:41 → 00:33:43 อันเนี้ยนะฮะเราจะต้องมีบางครั้งเราต้อง
00:33:43 → 00:33:46 มีตัวช่วยอันนี้เเรียกอาหารพิเศษนะฮะนะ
00:33:46 → 00:33:50 ตัวช่วยมีอะไรบ้างก็มีน้ำำเปล่านะฮะน้ำ
00:33:50 → 00:33:53 เปล่าในรูปของน้ำอุ่นนะหรือจะใส่เกลือ
00:33:53 → 00:33:56 เล็กน้อยเกลือดำเกลือชมพูเกลือสีๆอะไรได้
00:33:56 → 00:34:01 หมดนะฮะนะก็จะเป็นอย่างนี้นะเอาอยู่มยนะ
00:34:01 → 00:34:07 พอไหวมยอ่าที่จะลดลาวาศอกไอ้ไอ้มันจะมัน
00:34:07 → 00:34:10 จะมันจะเบรคฟาซะก่อนเนะฮะนะถ้าไม่ไหวก็
00:34:10 → 00:34:15 ต้องเลื่อนหรือกเทิบมานะฮะนะเนี่ยซึ่งเรา
00:34:15 → 00:34:17 ก็จะเรียกว่า fasting my Making Diet
00:34:17 → 00:34:20 นะฮะนะคือคนส่วนใหญ่เนี่ยก็จะไปนึกถึงว่า
00:34:20 → 00:34:23 ในช่วงที่ฟาสเนี่ยนะที่เทำกันทั่วไปอ่ะ
00:34:23 → 00:34:27 เออเอ่อกาแฟกินได้อ่ากาแฟดำเพียวๆอ่ะนะ
00:34:27 → 00:34:30 เอ่อชาเขียวมัฉะกินได้ชาสมุนไพรบางอย่าง
00:34:30 → 00:34:35 กินได้นะฮะนะแต่จริงๆแล้วเนี่ยมันจะมีอ่า
00:34:35 → 00:34:39 คำๆนึงเนี่ยเเรียกว่าเี่อ่า fasting Diet
00:34:40 → 00:34:43 นะฮะอ่าเ้าเรียกอาหารตัวช่วยที่เี่ที่สุด
00:34:43 → 00:34:48 นะก็คือโนบอนะฮะก็คือน้ำซุปต้มกระดูกนะนะ
00:34:48 → 00:34:51 เพราะฉะนั้นเอ่อส่วนใหญ่ที่หมอแนะนำก็คือ
00:34:51 → 00:34:55 น้ำเปล่าผสมเกลือนะหรือจะผสมโซดานิดหน่อย
00:34:55 → 00:34:58 อะไรอย่างงี้นะฮะให้มันสซ่าๆนะอ่าถ้าไม่
00:34:58 → 00:35:03 ไหวก็บนบอดนะฮะไหวมยนะเป็นเค้าเรียก
00:35:03 → 00:35:06 fasting ming Diet นะนะบนบอสักถ้วยนึง
00:35:06 → 00:35:10 นะฮะประมาณสัก 200 ซีซีอ่ะ 200 ML นะฮะ
00:35:10 → 00:35:13 นะจะใส่เกลือใส่น้ำส้มใส่ชูนิดนึงอะไรก็
00:35:13 → 00:35:17 ได้นะเปรี้ยวๆเค็มๆอะไรอย่างเงี้ยนะฮะอัน
00:35:17 → 00:35:21 นี้เราถือว่าไม่ผิดกติกานะฮะนะก็เป็นตัว
00:35:21 → 00:35:25 ช่วยนะให้มันถึงฝั่งฝันก็คือพอครบ 23 ชมง
00:35:25 → 00:35:27 ก็กินนะ
00:35:27 → 00:35:32 นนี้ทำไมถึงไอ้โบนบอเนี่ยหรือว่าน้ำซุบ
00:35:32 → 00:35:35 ต้มกระดูกเี่มันเป็นเี่ Diet นะฮะสำหรับ
00:35:35 → 00:35:39 การฟาสนะฮะนะก็เพราะว่าเขามีเรื่องของ
00:35:39 → 00:35:43 เกลือแร่ต่างๆนะฮะเมื่อวานนี้ก็คุยกันไป
00:35:43 → 00:35:44 นิดนึงแล้วว่า
00:35:44 → 00:35:49 เอ่อตัวโซเดียมเนี่ยนะฮะนะแหล่งที่อยู่
00:35:49 → 00:35:52 ที่ใหญ่เลยของโซเดียมเนี่ยนะก็คืออยู่ใน
00:35:52 → 00:35:55 เลือดนะฮะนะรองลงมาอันดับ 2 ก็คืออยู่ใน
00:35:55 → 00:35:57 ไขกระดูกนะ
00:35:57 → 00:36:01 ฮะเพราะฉะนั้นเกลือแร่เวลาเราต้มอ่าต้ม
00:36:01 → 00:36:05 กระดูกนะฮะเราบนทำบนบอดเนี่ยนะเนี่ยเกลือ
00:36:05 → 00:36:09 แร่ต่างๆโดยเฉพาะโซเดียมแมกนีเซียมนะฮะนะ
00:36:09 → 00:36:13 จะเยอะนะเอ่อแล้วก็ยังมีแร่ธาตุเล็กๆน้อย
00:36:13 → 00:36:17 ๆมีวิตามินบางอย่างนะฮะนะแล้วก็มีตัว
00:36:17 → 00:36:22 โปรตีนคอลลาเจนนคอลลาเจนอ๋อครับก็สิ่ง
00:36:22 → 00:36:26 เหล่านี้เนี่ยเขาเรียกว่ากัดเี่นะฮะนะกัด
00:36:26 → 00:36:31 เี่นะก็ดีตั้งแต่ปากจนถึงทวารหนักเลยออ
00:36:31 → 00:36:35 มันช่วยผ่อนคลายนะระบบการย่อยการดุดซึมมี
00:36:35 → 00:36:39 การปรับซ่อมแซมเซลล์เยื่อบุผิวต่างๆอ่า
00:36:39 → 00:36:43 แล้วเป็นการฟื้นฟูทางเดินอาหารใหม่นะฮะมี
00:36:43 → 00:36:46 การช่วยในการทำดีท็อกซ์นะขับล้างสารพิษนะ
00:36:46 → 00:36:50 ฮะแล้วก็เป็นอาหารชั้นดีของ
00:36:50 → 00:36:52 โปรไบโอติกคือในช่วงที่เราฟาสเนี่ย
00:36:52 → 00:36:55 โปรไบโอติกของเราก็ล้มตายไปด้วยนะฮะนะมัน
00:36:56 → 00:37:00 ต้องล้ครับส่วนที่มันยังอึดยังทนยังเหลือ
00:37:00 → 00:37:05 เลดรอดเนี่ยนะถ้าเราใช้โบนบอเข้าไปนะใน
00:37:05 → 00:37:08 ตอนเอ่อก่อนที่จะเบรค Fast เนี่ยอันนี้เข
00:37:08 → 00:37:11 จะเป็นประโยชน์นะโปรไบโอติกเขาจะชโยโหิ้ว
00:37:11 → 00:37:15 เขชอบนะ
00:37:15 → 00:37:20 ฮะครับคือข้อสรุปเนี่ยนะฮะอันนี้เป็น 7 อ
00:37:20 → 00:37:22 ในเรื่องของการกินแบบ OM กินยังไงถึงจะ
00:37:22 → 00:37:27 รอดกินยังไงถึงจะให้ได้ถึงผลหรือเป้าหมาย
00:37:27 → 00:37:33 ที่เราตั้งไว้นะฮะแต่ก็บางบางบอ type อ่ะ
00:37:33 → 00:37:36 หรือบางคนเนี่ยก็ไม่ถนัดนักหรอกนะฮะอย่าง
00:37:36 → 00:37:39 เช่นสายพุงเครียดแบบหมอเนี่ยนะฮะนะ omas
00:37:39 → 00:37:45 เนี่ยบางทีเราอืเราเราค่อนข้างเอ่อจะเอา
00:37:45 → 00:37:48 ไว้ทีหลังสุดนะฮะนะเอ่อบางทีเราก็เลือก
00:37:49 → 00:37:52 เป็นการฟ้าที่เราเรียกว่าได Fast นะที่
00:37:52 → 00:37:55 เคยพูดไปแล้วนะฮะเ่ออย่างงี้อย่างงี้นะ
00:37:55 → 00:37:58 เ่อก็มีประสิทธิภาพ
00:37:58 → 00:38:03 นะแต่ omas เนี่ยกลุ่มบอ type ที่ชอบมาก
00:38:03 → 00:38:09 ที่สุดก็คือพุงตับนะฮะนะพุงตับนะเเก็พวก
00:38:09 → 00:38:13 นี้ทำ omas 23/1 ได้เก่งมากนะฮะนะแต่
00:38:13 → 00:38:17 เผอิญว่าเอ่อพื้นฐานของพลังงานหรือว่า
00:38:17 → 00:38:21 บอดี้รูปร่างสัดส่วนของเขาเนี่ยมันก็ค่อน
00:38:21 → 00:38:27 ข้างจะผอมนะหรือไม่ก็สัตว์ไอ้สส่วนค่อน
00:38:27 → 00:38:29 ผอมอ่ะนะฮะเพราะฉะนั้นรีเสิร์ชพลังงาน
00:38:29 → 00:38:33 อะไรต่างๆที่จะมาฟาบางทีมันก็มันได้ใน
00:38:33 → 00:38:38 เวลาจำกัดนะฮะนะอย่างเอ่อ Body ไสสายพุง
00:38:38 → 00:38:42 ตับหรือไทรรอยด์เนี่ยถ้าทำ omas ไปนานๆนะ
00:38:42 → 00:38:46 ก็หมอว่าไม่ไม่ดีเหมือนกันนะฮะนะมันไม่
00:38:46 → 00:38:50 ได้อ่ะนะฮะเพราะว่าไอ้ไอ้เปอร body fat
00:38:50 → 00:38:52 เ้ามันมันน้อย
00:38:52 → 00:38:59 ไปเอนะก็ก็แล้วแต่ใครทำได้มีพรสวรรค์ทำ
00:38:59 → 00:39:03 ได้เก่งๆด้วยแล้วยังสุขภาพดีอยู่อ่าแล้ว
00:39:03 → 00:39:05 ก็ไอ้ค่ามอนิเตอร์ metalic มาเกอร์อะไร
00:39:06 → 00:39:10 ต่างๆดีเนี่ยก็ก็ทำต่อได้นะฮะนะแต่ถ้า
00:39:10 → 00:39:14 เป็นความเห็นจริงๆเนี่ยนะก็คือให้ทำแบบ
00:39:14 → 00:39:19 สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งนะฮะพอแล้ว
00:39:19 → 00:39:24 นะยกเว้นแต่ว่ามีปัญหาโรคภัยไข้เจ็บนะ
00:39:24 → 00:39:28 อ้วนเยอะๆพลังงานสะสมเยอะมากอะไรต่างๆนะ
00:39:28 → 00:39:30 พวกนี้นี่สามารถไม่ต้องทำ OM Max สามารถ
00:39:31 → 00:39:33 สวิงไปทำเป็น Alternate Day fasting
00:39:33 → 00:39:41 เี่นะฟาไป 36 ชม 48 44 ชมเลยก็ได้นะฮะ
00:39:41 → 00:39:46 เนี่ยอ่าทีนี้ก็ทั่วๆไปนะฮะหลักการอ่าของ
00:39:46 → 00:39:51 การเเรเใช้คำว่าการกินของ If การกินแบบ If
00:39:51 → 00:39:54 เนี่ยนะฮะนะเอ่อการกินก็กินแบบ low C
00:39:54 → 00:39:59 High Good Fat นะฮะนะนะแล้วก็การอดนะ
00:39:59 → 00:40:02 ก็จะมีน้ำเปล่ามีอะไรอย่างเงี้ยนะนะหรือ
00:40:02 → 00:40:05 เป็นแค่น้ำเปล่าน้ำอุ่นๆผสมเกลือแบบที่
00:40:05 → 00:40:08 หมอบอกนะถ้าไม่ไหวจริงๆก็โบนบอดนะฮะหรือ
00:40:08 → 00:40:11 น้ำซุปต้มกระดูกมาช่วยนะฮะอย่างอื่นเนี่ย
00:40:11 → 00:40:15 เราเคยผ่านหูผ่านตามั้ยมีการฝานเอาผลไม้
00:40:15 → 00:40:20 เปรี้ยวๆเอ่าลงไปลอยนะในน้ำดื่มเเรียกว่า
00:40:20 → 00:40:23 infusion water นะฮะ infusion Water
00:40:23 → 00:40:27 นะฮะคือจริงๆผลไม้พวกเยมันเป็นคาอ่ะนะฮะ
00:40:27 → 00:40:33 แต่นะเราใช้การฝานบางๆนะนะแล้วก็ใส่ลงไป
00:40:33 → 00:40:39 นะฮะเนี่ยอันนี้อันนี้นะโดยเฉพาะ
00:40:39 → 00:40:42 เอ่อที่ผสมกันดีที่สุดเนี่ยคิดว่าเป็น
00:40:42 → 00:40:45 อะไรลองให้
00:40:45 → 00:40:51 ทายมะนาวเอ่อมะนาวผสมอะไรที่ที่จะกินแล้ว
00:40:51 → 00:40:53 มันมันจะอร่อยอ่ะแล้วมันจะฟินน่ะแล้วมัน
00:40:54 → 00:40:57 จะแบบมันจะทำให้อารมณ์ดีสดสดชื่นเลยอ่ะพอ
00:40:57 → 00:41:04 รู้มยมะนาวเกลือโซดาโหไม่ใช่มาเป็นชุดวตร
00:41:04 → 00:41:07 เนี่ยนะฮะนะมันจะมีแค่น้ำนะอาจจะเป็นน้ำ
00:41:07 → 00:41:11 ธรรมดาหรือน้ำเย็นนะแล้วก็เป็นการฝานไอ
00:41:11 → 00:41:16 ผลไม้เปรี้ยวๆเนี่ยนะลงไปนะเนี่ยแล้วก็ไป
00:41:16 → 00:41:21 แช่เย็นนะอ่าแล้วก็เอามากินนะเพื่อเพื่อ
00:41:21 → 00:41:27 ดับอารมณ์หิวนะฮะนะครับอ่าดีที่สุด
00:41:27 → 00:41:33 คือคือน้ำยาอุทัยฮะ
00:41:33 → 00:41:40 โอ้โอ้ดน้ำยาอุทัยนะนะคลาสสิกสุดๆเออแล้ว
00:41:40 → 00:41:44 ก็ใส่น้ำแข็งนะฮะให้มันเป็นสีชมพูอ่อนๆ
00:41:44 → 00:41:47 แล้วก็ฝานมะนาวเลมอนอะไรลงไปอย่างเงี้ยนะ
00:41:47 → 00:41:50 ฮะนะแล้วไปแช่เย็นน่ะเคยได้ยินเคยได้ยิน
00:41:50 → 00:41:55 แบบอย่างงี้นะนะหรือมีการออกแรงออกกำลัง
00:41:55 → 00:41:59 นะนะก่อนจะเบรคฟาสอะไรต่างๆเนี่ยนะน้ำยา
00:41:59 → 00:42:02 อุทัยฮะเพราะน้ำยาอุทยเนี่ยมันเย็นนะฮะ
00:42:02 → 00:42:06 มันเป็นสมุนไพรฤทธิ์เย็นนะฮะนะเอ่อมันจะ
00:42:06 → 00:42:10 ดับความรุ่มร้อนอะไรต่างๆนะเ่อปรับสมดุล
00:42:10 → 00:42:14 ได้ดีเลยนะฮถึงงาร้อนๆเป็นบน
00:42:14 → 00:42:18 บเออครับแล้วแต่ชอบร้อนชอบเย็นหรือสลับ
00:42:18 → 00:42:24 กันไปนะฮะน้ำยาวไทยนี่ก็ก็อินซูลินไม่
00:42:24 → 00:42:28 กระตุ้นนะฮะไม่กระตุ้นอินซูลินนะ
00:42:28 → 00:42:33 เอ่อจริงๆแล้วหลักการของของการที่เาจะถือ
00:42:33 → 00:42:36 ว่ามันเป็นการเบรคฟาอะไรต่างๆของสิ่งที่
00:42:36 → 00:42:37 จะมากินใน
00:42:38 → 00:42:41 ช่วงที่ฟาเนี่ยคือหลักฟาก็คือฟาก็คือไม่
00:42:41 → 00:42:44 กิน
00:42:44 → 00:42:48 นะแต่ถ้ามีการกินเนี่ยนะฮะเอ่อเดี๋ยวจะมี
00:42:48 → 00:42:50 พูดในเรื่องของ fasting ming ไดเอตนะฮะ
00:42:50 → 00:42:55 ก็ให้จำคำนี้ไว้ว่าอถ้า
00:42:55 → 00:42:58 ได้ใดๆอ่ะนะที่กินในมื้อนั้นๆแล้วมีพลัง
00:42:59 → 00:43:04 งานเกิน 35 อ่า 35 กิโลแคลอรีขึ้นไป
00:43:04 → 00:43:08 เนี่ยถือว่าเบรค Fast ไปแล้วนะฮะคือพลัง
00:43:08 → 00:43:11 งานต้องไม่เกิน 305 กิโลแคลอรีนะไม่งั้น
00:43:11 → 00:43:13 เราจะถือว่ามันเบรกฟ้าอเพราฉะนั้นเราใส่
00:43:14 → 00:43:17 เกลือนิดนึงใส่น้ำส้มใส่ชูหน่อยนึงอ่าเ่อ
00:43:17 → 00:43:19 ตัวน้ำซุป
00:43:19 → 00:43:23 โบนปอดอะไรก็ดีอะไรเงี้ยนะก็คือปรุงนิดๆ
00:43:23 → 00:43:27 หน่อยๆนะฮะนะหรือว่าการเป็นแบบ infusion
00:43:27 → 00:43:30 Water แล้วก็มันจะมีมีเปลือกไอ้ผลไม้
00:43:30 → 00:43:34 เปรี้ยวๆฉ่ำๆอะไรเนะต้องไม่หวานนะฮะไม่
00:43:34 → 00:43:38 ใช่ไปใส่หวานๆไม่ได้นะนะเอามะนาวเอาอะไร
00:43:38 → 00:43:43 อ่ะเลมอนอะไรงี้เออเนี่ยคืออย่างกาแฟ
00:43:43 → 00:43:48 เนี่ยชานะฮะนะเอ่อพวกเนี้ยมันจริงๆแล้ว
00:43:48 → 00:43:51 เนี่ยมันเป็นคาฟนั่นแหละนะฮะนะเอ่อมัน
00:43:51 → 00:43:55 เป็นคาฟนั่นแหละนะแล้วก็กาแฟก็มีขั่วเข้ม
00:43:55 → 00:43:59 ขั่วควานกลางขั้วอะไรอ่ะบางอะไรต่างๆ
00:43:59 → 00:44:04 เนี่ยนะบางทีมันมันก็พูดยากนะฮะเอ่อแต่ดี
00:44:04 → 00:44:08 ที่สุดก็คือน้ำเปล่าน้ำอุ่นเอ่อไม่ก็น้ำ
00:44:08 → 00:44:12 ซุปต้มกระดูกนะไม่เกิน 200 ซีซีนะส่วน
00:44:12 → 00:44:16 ใหญ่ก็ 150 180 200 นะใส่เกลือได้นิด
00:44:16 → 00:44:20 หน่อยเกลือดำเกลือชมพูอะไรได้
00:44:21 → 00:44:24 หมดนี่ในต่างประเทศเนี่ยของดรมาดี้เนี่ย
00:44:24 → 00:44:28 นะฮะนะอันนี้ก็ไม่รู้อ่ะตอนหลังนี่มาแปลง
00:44:28 → 00:44:31 อะไรไปเยอะแยะไปหมดเลยอนะฮะนะคือมันก็ไม่
00:44:31 → 00:44:36 ตรงกับไอ้ definition น่ะว่าฟาสนะฮะนะฟาส
00:44:36 → 00:44:39 อันนี้ตกขอบหน่อยนะพี่หมอก็อันนี้ก็มา
00:44:39 → 00:44:42 เปรียบเทียบไว้ให้ดูอ่ะนะฮะออแต่เราก็ยึด
00:44:42 → 00:44:46 หลักก็แล้วแต่นะไม่เครียดจนเกินไปนะฮะท
00:44:46 → 00:44:48 นี้ก็มีว่ากาแฟดำเนี่ยกินในช่วงฟาสแล้วดี
00:44:48 → 00:44:52 จริงเปล่านะฮะดีจริงมยนะกาแฟดำเนี่ยมัน
00:44:52 → 00:44:56 เป็นาฟนี่นานะหลักการก็คือที่หมอหมอบอก
00:44:56 → 00:45:00 ว่ามันเกิน 35 แควมั้ยนะบางคนเนี่ยมัน
00:45:00 → 00:45:02 ขั้วเข้มขั้วกลางขั้วอ่อนอะไรไม่รู้นะ
00:45:02 → 00:45:07 แล้วมันก็เกิน 35 มันก็เบรค Fast ไปอ่ะนะ
00:45:07 → 00:45:11 ฮะแล้วก็กาแฟเนี่ยนะฮะถ้ามันเ่อระดับ
00:45:11 → 00:45:15 คาเฟอีนอีกนั่นแหละนะฮนะว่าเอ่อสายพันธุ์
00:45:15 → 00:45:17 แต่ละสายพันธุ์เ่ะคาเฟอีนมันแค่ไหน
00:45:17 → 00:45:20 คาเฟอีนเยอะๆมันก็กระตุ้นนะยิ่งเป็นบอ
00:45:20 → 00:45:24 type ทรงพุงเครียดเงี้ยนะคอร์ติซอลก็มา
00:45:24 → 00:45:27 นะเพรางั้นหลักการในเรื่องของกาแฟเนี่ยนะ
00:45:27 → 00:45:33 ฮะต้องถูกคนนะฮะนะทรงพุมเครียดเนี่ยนะคน
00:45:33 → 00:45:36 ส่วนใหญ่ 80% เนี่ยจะไม่ถูกกับคาเฟอีนที่
00:45:36 → 00:45:40 อยู่ในกาแฟนะพอกินกาแฟไปแล้วเนี่ยนะฮะนะ
00:45:40 → 00:45:43 ไอ้พวกคอร์ติซอลเด่นเนี่ยนะกินกาแฟไปแล้ว
00:45:43 → 00:45:47 มันก็เลยเสพติดอ่ะนะฮะมันเสพติดกาแฟไปนะ
00:45:47 → 00:45:50 เพราะคาเฟอีนยิ่งไปกระตุ้นคอร์ติซอล
00:45:50 → 00:45:55 นะอันเนี้ยแต่ว่าอย่างพุงตับนะไทรรอยด์
00:45:55 → 00:45:59 เอ่อหรือเอสโตรเจนเนี่ยนะเ่อพุงตับกับ
00:45:59 → 00:46:01 ไทรรอยด์สายแป้งเนี่ยส่วนใหญ่ยังพอกิน
00:46:01 → 00:46:05 กาแฟที่มีไอ้พวกคาเฟอีนได้นะแต่ถ้าเป็น
00:46:05 → 00:46:08 พวกพุงตับเอ้ยพวกพุงเครียดเนี่ยพวกนี้จะ
00:46:08 → 00:46:12 ต้องดีคาฟต้องดีคาฟนะหรือไม่ก็ไปกินพวกชา
00:46:12 → 00:46:16 นะฮะชา
00:46:16 → 00:46:21 อถูกปริมาณอ่าปริมาณก็คือต่อมื้อเนี่ยอ่า
00:46:21 → 00:46:25 คาเฟอีนต้อง 3 มิลลิกรัมกิโลไม่เกินนี้นะ
00:46:25 → 00:46:28 ฮะนะแล้วก็วันนึงไม่ควรเกิน 2 มื้อ 2
00:46:29 → 00:46:30 มื้อนะ
00:46:30 → 00:46:35 ฮะถูกคู่เนี่ยนะก็แนะนำกินกาแฟดำเพียวๆ
00:46:35 → 00:46:39 นั่นแหละนะฮะอ่าถ้ากระเถิบขึ้นมาอีกนิด
00:46:39 → 00:46:43 นึงก็ก็จะใส่ medium CH หรือช็อ chain
00:46:43 → 00:46:45 ที่เป็น Bullet Coffee อะไรอย่าเงี้ยได้
00:46:45 → 00:46:48 นะฮะแต่ถ้าพวก long chain ไม่แนะนำนะฮะ
00:46:48 → 00:46:51 นะเห็นมีบางคนไปเอากาแฟกินกันน้ำมันมะกอก
00:46:51 → 00:46:54 เงี้ย No ไม่ได้นะไม่ได้มันเกิด Random
00:46:54 → 00:46:59 reaction นะฮะเออต้องยมนะฮะนะเช่นน้ำมัน
00:46:59 → 00:47:03 มะพร้าวสกัดเย็นหรือ mct Oil นะแต่น้ำ
00:47:03 → 00:47:06 มันมะพร้าวสกัดเย็นเนี่ยมันก็มี medium
00:47:06 → 00:47:09 ไม่เยอะอ่ะนะฮะนะส่วนใหญ่ถ้ากาแฟกินกับ
00:47:09 → 00:47:14 น้ำมันก็ก็ mct นะนะหรือไม่ก็ Bullet
00:47:14 → 00:47:19 Coffee ก็ใส่ไอ้เนยแท้อ่าใส่กีอ่าใส่
00:47:19 → 00:47:23 ครีมชีสอะไรอย่าเงี้ยนะเแล้ว
00:47:23 → 00:47:28 แต่นะถูกคู่นะแต่ถ้าสิ่งที่ไปคู่กับกาแฟ
00:47:28 → 00:47:33 ในคนทั่วๆไปแบบ Standard aman ก็คืออะไร
00:47:33 → 00:47:36 อ่ะนะก็มีแต่น้ำตาลมีแต่นมมีแป้งมีแต่
00:47:36 → 00:47:41 เบเกอรี่ใช่มยนะอันนี้ไม่ได้แล้วนะเอนี้
00:47:41 → 00:47:45 ถูกเวลาอ่าถูกเวลาก็คือพยายามหลีกเลี่ยง
00:47:45 → 00:47:49 การดื่มกาแฟในช่วงก่อน 99:00 นนะฮะเพราะ
00:47:49 → 00:47:53 ว่าตอนเนี้ยคอร์ติซอลเขากำลังจะลงอ่า
00:47:53 → 00:47:57 กำลังจะอ่าไปพักอ่ะนะฮะนะอย่าเพิ่งไป
00:47:57 → 00:48:01 กระตุ้นเค้าให้ขึ้นมาอีกนะฮะนะเพราะ
00:48:01 → 00:48:04 ฉะนั้นถ้าเกิดอย่างคนพุงเครียดเนี่ยนะกิน
00:48:04 → 00:48:06 กาแฟตั้งแต่เช้า 7-8 นอะไรอย่างเงี้ยนะฮะ
00:48:07 → 00:48:09 คอร์ติซอลยังเยอะอยู่อย่างเงี้ยนะคาเฟอีน
00:48:09 → 00:48:13 ก็ยิ่งไปกระตุ้นใหญ่นะฮะอ่าแล้วในที่สุด
00:48:13 → 00:48:16 ก็จะเกิดการสะสมของคอร์ติซอลจนกระทั่ง
00:48:16 → 00:48:20 คอร์ติซอลเด่นนะเด่นดื้ออะไรอย่างงี้นะฮะ
00:48:20 → 00:48:23 เสร็จแล้วมันก็ต้องเต้องพึ่งพึ่งแต่
00:48:23 → 00:48:27 คาเฟอีนก็เลยติดกาแฟนะฮะ
00:48:27 → 00:48:32 เอออีกช่วงนึงก็คือห่างจากเวลานอน 6-8 ชม
00:48:32 → 00:48:35 นะฮะอันนี้นะเพราะว่าเอฟเฟคของกาแฟเนี่ย
00:48:35 → 00:48:39 มันจะอยู่ในช่วงประมาณ 7 ชมมนะฮะนะนะก่อน
00:48:39 → 00:48:42 ที่มันจะลดระดับลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญใน
00:48:42 → 00:48:46 ร่างกายคนเรานะนะคือกาแฟก็กินได้นะฮะแม้
00:48:46 → 00:48:49 แต่พุงเครียดเนะถ้าไม่มีปัญหาอะไรไม่ใจ
00:48:49 → 00:48:55 สั่นไม่มีอาการแบบอ่าไปกระตุ้นอ่าค่าน้ำ
00:48:55 → 00:48:59 ตรงน้ำน้ำตาลค่าไตคีสไลดขึ้นนะก็ได้
00:48:59 → 00:49:03 นะอันนี้เป็น fasting ming Diet นะมี
00:49:03 → 00:49:06 อะไรบ้างที่จะมากินนะฮะอันนี้ก็เคยฉายไป
00:49:06 → 00:49:10 ให้ดูแล้วนะไม่กินได้ก็ดีนะฮะไม่กินได้ก็
00:49:10 → 00:49:14 ดีแต่ถ้าจะให้เลือกให้เลือกน้ำเปล่ากับ
00:49:14 → 00:49:20 โนบอดีที่สุดอ่าบนบอนี่เป็นกัดเี่นะ
00:49:20 → 00:49:25 ฮะทีนี้ถ้าอดแห้งอดแห้งก็แบบที่บอก Dr
00:49:26 → 00:49:29 Fast นะฮะก็คือหลังจากเราหลับมาจะกี่
00:49:29 → 00:49:32 ชั่วโมงก็ตามนะให้ extend ต่อไปอีก 1-2
00:49:32 → 00:49:37 ชั่วโมงนะฮะนะหรือนะอย่าให้เกิน 12 ชมงนะ
00:49:37 → 00:49:42 เป็นธรรมชาติของร่างกายที่สุดนะฮะนะอย่า
00:49:42 → 00:49:45 ให้เกิน 12 ชมง
00:49:45 → 00:49:49 นะส่วนกรณีที่จะตั้งใจอดแห้งให้มันยาวๆก็
00:49:49 → 00:49:53 อย่าให้เกิน 24 ชมนะนะอันนี้มันเป็นตาม
00:49:53 → 00:49:57 หลักการของเอ่อชาวมุสลิมเานะฮะนี้
00:49:57 → 00:50:00 ประโยชน์ที่จะได้นะก็จะมี 8 ข้อพวกนี้นะ
00:50:01 → 00:50:04 ฮะซึ่งอันเนี้ยเคยบอกไปแล้วอ่อข้อแม้ก็
00:50:04 → 00:50:07 คือคนที่จะอดแห้งหรือทำได Fast ได้จะต้อง
00:50:07 → 00:50:11 เป็น Fat burner เ่อแล้วเท่านั้นนะฮะ
00:50:11 → 00:50:14 ร่างกายจะต้องชินชานะต่อการเป็น Fat
00:50:14 → 00:50:17 เบอร์เนอร์เผาผาญไขมันเป็นหลักนะฮะนะถ้า
00:50:17 → 00:50:21 ยังเป็นคาฟ burner เป็นารเนอรอยู่เอ่อไม่
00:50:21 → 00:50:24 ได้นะฮะนะร่างกายจะยิ่งเครียดแล้วก็จะ
00:50:24 → 00:50:28 ยิ่งเสียมากกว่าดีนะฮะนะแล้วมันจะกลาย
00:50:28 → 00:50:33 เป็นได้คอร์ติซอลมาเก็บสะสมพลังงานเออนะ
00:50:33 → 00:50:37 การที่ไม่ควรอดแห้งเกิน 24 ชมงเพราะว่าจะ
00:50:37 → 00:50:41 มีปัญหาเรื่องอิเล็กโตรไลต์นะ imbalance
00:50:41 → 00:50:46 แล้วก็การขาดน้ำนะอันนี้อันนี้ก็ลองอ่าน
00:50:46 → 00:50:52 ดูทีนี้สัญญาณนะของการที่บอกว่าไม่ควรจะ
00:50:52 → 00:50:55 อดต่อไปนะสัญญาณหลักๆเนี่ยก็คือตัวตัวแดง
00:50:55 → 00:50:59 ๆพวกนี้แหละนะฮะก็คือหิวอ่าหิวตะบะเอ่ย
00:50:59 → 00:51:02 หิวแบบทรมานทรกรรมอ่ะนะฮะอ่าหงุดหงิดใจ
00:51:02 → 00:51:06 สั่นมือเท้าเย็นนะฮะนะหวิวๆหน้ามืดจะเป็น
00:51:06 → 00:51:12 ลมนะฮะเนี่ยหิวนี่ก็คือคอร์ติซอลนะฮะเ
00:51:12 → 00:51:16 กำลังพุ่งพ่านจัดหาพลังงานนะฮะเนี่ยเออ
00:51:16 → 00:51:20 หงุดหงิดใจสั่นนะฮะเนี่ยอันนี้อันนี้ก็
00:51:20 → 00:51:26 คือคอร์ติซอลและแอรีนนะฮะนะแอรีนนะนะเา
00:51:26 → 00:51:29 ออกมาคู่กันเลยเพื่อจัดหาพลังงานอย่าง
00:51:29 → 00:51:32 รุนแรงอ่าหิวนี่คอร์ติซอลนะหงุดหงิดใจ
00:51:32 → 00:51:36 สั่นนะแอรีนพุ่งพ่านเลยมือเท้าเย็นนี่
00:51:36 → 00:51:40 ไทรรอยด์เออนะเ่อไทรรอยด์ต่ำนะฮะนะแล้วก็
00:51:41 → 00:51:43 วิววิว่ามืดจะเป็นลมอันนี้อเกต imbalance
00:51:44 → 00:51:48 นะฮะนะนะมันขาดเกลือแร่นะนะแปลว่าการอด
00:51:48 → 00:51:51 เหล่าเนี้ยมีผลกระทบต่อฮอร์โมนและต่อสาร
00:51:51 → 00:51:55 อาหารอ่าสารอาหารรองในบางเรื่องนะอันนี้
00:51:55 → 00:51:58 ไม่ได้ไปต่อไม่ได้นะร่างกายจะรวนนะแล้วก็
00:51:58 → 00:52:02 มีอันตรายได้นะฮะนะส่วนรายการอื่นๆเนี่ย
00:52:02 → 00:52:06 ก็แล้วแต่นะฮะเราพบว่าในกรณีที่อดเกิน 12
00:52:06 → 00:52:10 ช่วโมงตามธรรมชาติของคนเราเนี่ยนะนะจะมี
00:52:10 → 00:52:13 ผลเสียอะไรนะถ้าทำติดต่อกันนานๆเนี่ยขอ
00:52:13 → 00:52:16 ให้เหล่าเนี้เป็นข้อสังเกตนะฮะนะแล้วก็
00:52:16 → 00:52:19 อย่างนึงก็คือการนอนนอนนอนไม่ดีไม่มี
00:52:19 → 00:52:21 คุณภาพหลับไม่ลึกอะไร
00:52:21 → 00:52:24 งี้
00:52:24 → 00:52:28 เอ่อเนี่ยอย่างน้ำหนักรดเกิน 5 กลต่อ
00:52:28 → 00:52:31 เดือนต่อขึ้นไปต่อเดือนเนี่ย
00:52:31 → 00:52:36 นะอันนี้ถือว่าเยอะมากเลยนะจำเคสครั้งที่
00:52:36 → 00:52:39 แล้วได้มั้ยอ่าหนัก 120 แล้วลงมาเหลือ
00:52:39 → 00:52:43 เท่าไหร่เหลือ 72 อ่ะอ่าภายในระยะเวลา
00:52:43 → 00:52:46 ตั้งแต่มิถุนายนเป็นต้นมาโอเยอะเลยอ่ะ
00:52:46 → 00:52:51 เนาะอเออเยอะเลยอ่ะเดือนละ 10 กลนะฮะลงลง
00:52:51 → 00:52:54 เร็วเออถ้าอย่างงี้เนี่ยหมอว่าเรียบร้อย
00:52:54 → 00:52:58 แล้วล่ะนะนะขาดพลงพลังงานร่างกายมันมัน
00:52:58 → 00:53:01 multiple organ problem ะมันหลายอย่าง
00:53:01 → 00:53:05 แล้วล่ะนะฮะไม่รู้อะไรเป็นไรแล้วอืครับนะ
00:53:05 → 00:53:09 อ่ะทีนี้อ่าอาการผิดปกติเหล่านี้เนี่ยนะ
00:53:09 → 00:53:12 ฮะนะที่เกิดขึ้นเพราะอะไรก็เพราะว่า
00:53:12 → 00:53:15 เรื่องของเนี่ฮอร์โมนอินซูลินต่ำลงนะฮะพอ
00:53:16 → 00:53:19 อินซูลินต่ำลงเนี่ยเลปตินก็ต่ำด้วยนะฮะนะ
00:53:19 → 00:53:22 คือดื้ออินซูลินก็ดื้อเลปตินนะอินซูลิน
00:53:22 → 00:53:25 น้อยเลปตินก็น้อยเลปตินก็คือเป็นฮอร์โมน
00:53:25 → 00:53:27 ที่บอกว่าอิ่มนะ
00:53:27 → 00:53:33 ฮะแล้วก็คอร์ติซอลพุ่งนะฮะนะเอ่อโด
00:53:33 → 00:53:37 ฮอร์โมนเนี่ยจะพุ่งในช่วงแรกนะฮะนะเพราะ
00:53:37 → 00:53:41 ว่าร่างกายมันเหมือนเข้าโหมดกับเข้าโหมด
00:53:41 → 00:53:46 ขาดสารอาหารน่ะนะนะเนี่ยอ่าแต่ตอนแต่มัน
00:53:46 → 00:53:51 จะแต่พอพอคอร์ติซอลเด่นมากๆมาๆเข้าไปอี
00:53:51 → 00:53:53 ตัวนี้ก็หมดบทบาทนะฮะไอ้ตัวโก๊ดฮอร์โมน
00:53:53 → 00:53:56 เนี่ยนะฮะแล้วก็ไทรรอยด์ต่ำนะฮะเหล่า
00:53:56 → 00:53:59 เนี้ยจะมีผลแบบตัวแดงๆที่หมอบอกเนี่ยนะฮะ
00:53:59 → 00:54:03 แบบนี้นะแล้วก็มีเรื่องการสูญเสียเือแร่
00:54:03 → 00:54:07 สารอาหารต่างๆนะเกิดอ่าอวัยวะหลายๆอย่าง
00:54:07 → 00:54:11 เนี่ยนะเอ่อเสื่อมนะหรือมีความบกพร่องใน
00:54:11 → 00:54:15 การทำงานนะเกิดการสลายมวลกล้ามเนื้อนะใน
00:54:15 → 00:54:19 ที่สุดเนี่ยถ้าเราทำไปแบบแบบอะไรอ่ะแบบ
00:54:19 → 00:54:24 ไม่ไม่ไม่เข้าใจหรือว่าฝืนน่ะนะฮะนะฝืน
00:54:24 → 00:54:28 เนี่ยนะฮะนะก็จะมีปัญหาการเจ็บป่วยที่
00:54:28 → 00:54:32 รุนแรงนะมากมายยิ่งขึ้นนะแล้วพอยที่จะไป
00:54:32 → 00:54:35 เกิดนิ่วเกิดเนื้องอกเกิดซีสเกิดถุงน้ำ
00:54:35 → 00:54:37 เกิดมะเร็งเกิดเซลล์กายพันธุ์และเกิด
00:54:37 → 00:54:41 ปัญหาทางด้านจิตเวชได้นะอันนี้มีผลถึง
00:54:41 → 00:54:43 ขนาดนี้่ะนะฮะ
00:54:43 → 00:54:48 นะอก็อันนี้จริงๆแล้วเนี่ยมันมีข้ออธิบาย
00:54:48 → 00:54:52 มันมีอยู่ 3 process แต่หมอตัดออกไปนะฮะ
00:54:52 → 00:54:55 คือให้รู้คร่าวๆไว้อย่างนี้ก่อนนะฮะเพราะ
00:54:55 → 00:54:58 ว่าคนเราเนี่ยพออย่างเราทำ omas เนี่ย
00:54:58 → 00:55:01 หรือเราทำ If เนี่ยพอไปถึงจุดนึงเนี่ยมัน
00:55:01 → 00:55:04 ยังไม่มาถึงนี่หรอกนะฮะมันจะไม่ไหวซะก่อน
00:55:04 → 00:55:07 น่ะไอ้แคบแบบพวกเนี้ยนะฮะนะหรือแบบพวก
00:55:07 → 00:55:11 เนี้ยนะฮะที่แดงๆเนี่ยนะฮะอันนี้ก็แย่ะนะ
00:55:11 → 00:55:14 หรืออย่างเงี้ยนะอดแล้วน้ำหนักไม่ลดเนี่ย
00:55:14 → 00:55:17 นะฮะส่วนใหญ่อดแล้วน้ำหนักไม่ลดเนี่ยนะฮะ
00:55:17 → 00:55:20 นะอย่างเช่นเดี๋ยวก็จะมีเคสเคสนึงอ่ะนะฮะ
00:55:21 → 00:55:24 ที่เค้าน้ำหนัก 97 ตอนนี้เ่อน้ำหนักเ
00:55:24 → 00:55:27 เหลือเหลือประมาณ 84 85 แล้วก็ไปต่อไม่
00:55:27 → 00:55:31 ได้นะแล้วเก็อดมาประมาณ 11 เดือนแล้วนะ
00:55:31 → 00:55:36 เอ่อก็เนี่ยส่วนใหญ่ก็คือหลังอดนะฮะเวลา
00:55:36 → 00:55:40 เบรคฟาสเนี่ยไปกินาฟไปกินคาฟหรือไปกินาฟ
00:55:40 → 00:55:44 แฝงนะะนะนะร่างกายมีการอักเสบมีการบาด
00:55:44 → 00:55:47 เจ็บมีการเจ็บป่วยไม่สบายขาดน้ำขาดเกลือ
00:55:48 → 00:55:51 แร่อิเล็กโตรไลต์นะฮะนะโดยเฉพาะ 3 ตัวนะ
00:55:51 → 00:55:53 ฮะโซเดียมโปแทสเซียม
00:55:54 → 00:55:57 แมกนีเซียมอ่าพวกนี้ก็จะเกิดการขัดขวางนะ
00:55:57 → 00:56:02 การโปสของเป้าหมายที่เราต้องการนะฮะการลด
00:56:02 → 00:56:04 น้ำหนักการลดความอ้วนการลดเปอร์เซ็นต์
00:56:04 → 00:56:07 body fat การลด viser Fat นะฮะนะแล้ว
00:56:07 → 00:56:11 ดีไม่ดีก็จะไปสลายมวลก้ำอันนี้ก็จะเป็น
00:56:11 → 00:56:15 เรื่องของการอดที่มีผลต่อเอสโตรเจนกับ
00:56:15 → 00:56:19 โปรเจสเตรนนะฮะนะอันนี้จะเป็นในผู้หญิงนะ
00:56:19 → 00:56:22 ฮะเรายังพอจำได้ม
00:56:22 → 00:56:27 ว่าว่าในกรณีที่
00:56:27 → 00:56:31 เราฟาเนี่ยนะฮะแล้วมันจะมีฮอร์โมนน่ะเ่า
00:56:31 → 00:56:35 ฮอร์โมนที่มันขึ้นอยู่กับคาฟเนะอยู่ 3
00:56:35 → 00:56:38 ตัวนะฮะนะคือฮอร์โมนพวกเนี้ยเขาอยู่ไม่
00:56:38 → 00:56:42 ได้อ่ะถ้าเราอดเราตัดคาฟเนี่ยนะฮะตัวที่ 1
00:56:42 → 00:56:45 ก็คือ
00:56:45 → 00:56:50 ไทรอยตัวที่ 2 โปรเจสเตอโรนตัวที่ 3 คือ
00:56:50 → 00:56:53 เลปตินโดยเฉพาะไทรอยด์กับ
00:56:53 → 00:56:58 โปรเจสโรนเนี่ยนะฮะถ้ามีการอดนะหรือการ
00:56:58 → 00:57:02 ตัดคาฟเมื่อไหร่นะฮะเนี่ยโปรเจสเตอโรนจะ
00:57:02 → 00:57:05 หายไปเลยนะฮะเอสโตรเจนก็จะ
00:57:05 → 00:57:10 เดดเด่นขึ้นมาแล้วก็สะสมพลังงานนะแล้ว
00:57:10 → 00:57:12 เอสโตรเจนเนี่ยเขาจะเป็นฮอร์โมนในเรื่อง
00:57:12 → 00:57:16 ที่จะไปทำให้เกิดเกิดเซลล์กายพันธุ์ต่างๆ
00:57:16 → 00:57:18 นะฮะเกิดซีสเกิดถุงน้ำเกิดเอเจนเนี่ยนะ
00:57:18 → 00:57:22 สิวเกิดอ่าหลายอย่างเลยเออมันต้องมีตัว
00:57:22 → 00:57:25 โปรเจสเตอโรนมาบานมาบาน
00:57:25 → 00:57:29 แล้วก็เอ่อเอสไอ้ตัวโปรเจสเตอโรนที่จะมา
00:57:29 → 00:57:32 มาร้านเอสโตรเจนเนี่ยเอ่อปริมาณของ
00:57:32 → 00:57:35 โปรเจสเตอโรนต้องค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว
00:57:36 → 00:57:40 นะฮะนะเเรียกว่าประมาณสัก 200 ต่อ 1
00:57:40 → 00:57:46 อ่ะ 200 ต่อ 1 เท่าอ่ะนะเอ่าไม่เป็นไร
00:57:46 → 00:57:50 เรื่องนี้ผ่านไปก่อน
00:57:50 → 00:57:53 เอ่ออันนี้ก็เป็นข้อสรุปแล้วล่ะนะฮะก็
00:57:53 → 00:57:56 ต้องระวังนะฮะนะในการทำ If ไม่ว่าจะเป็น
00:57:56 → 00:58:00 omap หรือ If แบบไหนก็ตามนะหลักการที่
00:58:00 → 00:58:04 สำคัญก็คือนะฮะร่างกายต้องใช้ไขมันเป็น
00:58:04 → 00:58:08 พลังงานให้ได้เก่งๆก่อนย้ำคำนี้นะฮะนะนะ
00:58:08 → 00:58:11 นี้ถ้าเกิดแนวทางที่เราบอกว่ากิน low C
00:58:11 → 00:58:15 High Good Fat นอ่าแล้วก็ร่างกายมี Fat
00:58:15 → 00:58:18 adapt มี ket adapt เข้า ketosis เป็น
00:58:18 → 00:58:21 Fat burner อ่าถ้าอย่างนี้เนี่ยนะอ่า
00:58:21 → 00:58:23 มันจะเร็วมันจะเร็วนะ
00:58:23 → 00:58:28 ฮะแต่ถ้าเกิดทำไม่ถูกหรือยังขาดองค์ความ
00:58:28 → 00:58:31 รู้ขาดเรื่องพลังงานนะ lack of Energy
00:58:31 → 00:58:35 ต่างๆที่เหมควรเฮะนะเอ่อตรงเนี้ยจะไม่
00:58:35 → 00:58:38 ผ่านนะพอไม่ผ่านแล้วเนี่ยคราวเนี้ยการอด
00:58:38 → 00:58:43 จะเป็นการนำเอ่อข้อไม่ดีต่างๆนะมาสู่ร่าง
00:58:43 → 00:58:46 กายเต็มไปหมดเลยแล้วในที่สุดก็จะลงเอย
00:58:46 → 00:58:49 ด้วยเรื่องเนี่ยเรื่องร่างกายขาดสารอาหาร
00:58:49 → 00:58:51 และพลังงานนะฮะ
00:58:51 → 00:58:55 นะแล้วก็มีภาวะการสูญสลายของกล้ามเนื้อ
00:58:55 → 00:58:58 เพราะว่าคอร์ติซอลเไม่ยอมนะนะแล้วก็เป้า
00:58:58 → 00:59:05 หมายของคอร์ติซอลก็คือโปรตีนนะนะนี่แหละ
00:59:05 → 00:59:11 อือันนี้ก็เหมือนกันนะฮะว่านะการจะอด
00:59:11 → 00:59:16 เนี่ยนะผู้กำหนดก็คือร่างกายหรือสมองนะ
00:59:16 → 00:59:19 แล้วเราทำ omas เนี่ยทำได้มั้ยก็ทำได้นะ
00:59:19 → 00:59:23 ฮะนะแต่ไม่ต้องไปทำเป็นทุกวันนะฮะนะแล้ว
00:59:23 → 00:59:26 เวลาทำแล้วให้สังเกตนะว่าอนุญาตเปล่าร่าง
00:59:26 → 00:59:31 กายเโอเคมยนะฮะอย่างงั้นนะฮะสำคัญที่สุด
00:59:31 → 00:59:34 เลยเนี่ยนะหลังการเบรคฟาสก็ดีหรือการ
00:59:34 → 00:59:38 เตรียมตัวก่อนที่จะถึงวันที่จะทำ omas ก็
00:59:38 → 00:59:41 ดีเนี่ยนะฮะต้องกินให้ถึงนะทั้งพลังงาน
00:59:41 → 00:59:45 และสารอาหารนะแล้วก็เน้นเรื่องการกระตุ้น
00:59:45 → 00:59:49 ร่างกายให้สามารถเผาผลาญไขมันเป็นพลังงาน
00:59:49 → 00:59:53 หลักได้เก่ง
00:59:53 → 00:59:56 ๆ
00:59:56 → 00:59:59 อันนี้ก็จะเป็นข้ออธิบายนะฮะว่าที่มัน
00:59:59 → 01:00:02 เกิดปัญหาเนี่ยส่วนใหญ่นะฮะมันเป็นเพราะ
01:00:02 → 01:00:07 ว่าอินซูลินมันต่ำเกินไปนะแล้วนานเป็น
01:00:07 → 01:00:10 เวลานานเกินไปหมอถึงได้บอกไปเมื่อไรที่
01:00:10 → 01:00:12 แล้วเนี่ยว่าอินซูลินก็เป็นฮอร์โมนตัวพ่อ
01:00:12 → 01:00:15 เป็น King of ฮอร์โมนยังไงยังไงพ่อก็
01:00:15 → 01:00:19 ต้องสำคัญในบ้านนี้นะนะเพราะฉะนั้นเนี่ย
01:00:19 → 01:00:24 นะเาจะต้องออกมาทำงานบ้างนะฮะนะหลายๆวัน
01:00:24 → 01:00:28 ทำงานทีนึงนะก็เรียกเป็นเป็น cing C นะ
01:00:28 → 01:00:31 นะหรือให้ทำงานทุกวันแต่ให้ทำงานในช่วง
01:00:31 → 01:00:34 เวลาที่เหมาะสมในมื้ออาหารมื้อเย็นก็ยัง
01:00:34 → 01:00:37 โอเคอยู่นะฮะก็ยังให้ความสำคัญก็อยู่อ่ะ
01:00:37 → 01:00:42 นะฮะนะครับเพราะว่าถ้าขาดพ่อนะแม่เขาจะมา
01:00:42 → 01:00:46 จัดการนะฮะนะเออแล้วก็เมื่อขาดพ่อเนี่ย
01:00:46 → 01:00:50 ไทรรอยด์เอยโปรเจสเตอโรนเลยที่บอกอ่ะนะ
01:00:50 → 01:00:53 ว่าพวกนี้เป็นเอ่อ cf Dependent ฮอร์โมน
01:00:53 → 01:00:58 นะเค้าก็ก็จะเสียไปด้วยนะฮะออ่าแล้วก็ลอง
01:00:58 → 01:01:01 ลงมาก็คือเนี่ยปัญหาก็คือพวกเกลือแร่
01:01:01 → 01:01:03 วิตามินนะฮะนะเกลือแล
01:01:04 → 01:01:07 วิตามินแล้วก็ในที่สุดมวลกล้ามเนื้อจะลด
01:01:07 → 01:01:09 ลง
01:01:09 → 01:01:16 นะออกกำลังกายในช่วงที่ฟาสดีมยดีนะฮะนะ
01:01:16 → 01:01:19 เพราะมี 5 คุณประโยชน์นี้นะฮะ
01:01:19 → 01:01:23 นะเพราะฉะนั้นก่อนจะเบรค Fast ในมื้อแรก
01:01:23 → 01:01:27 นะถ้าเราอ้วเราไปคาร์ดิโอนะฮะนะหรือมีเวท
01:01:27 → 01:01:31 บ้างในบางวันแต่ถ้าเราผอมเราอยากสร้างมวง
01:01:31 → 01:01:34 กล้ามเนื้อเราเวทอย่างเดียวนะ
01:01:34 → 01:01:39 ฮะทั้งมื้อแรกและมื้อเย็นนะนะแต่ถ้าไม่
01:01:39 → 01:01:42 สะดวกก็อย่างน้อยมื้อนึงก็จะเป็นมื้อแรก
01:01:42 → 01:01:45 หรือมื้อเย็นก็ได้นะฮะขอให้มีเรื่องการ
01:01:45 → 01:01:49 ออกกำลังกายด้วยนะอันนี้มีประโยชน์ 1 2
01:01:49 → 01:01:52 3 4 5 อันนี้นะ
01:01:52 → 01:01:57 ครับเนี่ยยังวันนี้ก็มีคำถามนะฮะนะหลัง
01:01:57 → 01:02:00 จากวิ่งออกกำลังกายในตอนเย็นไม่ได้ทาน
01:02:00 → 01:02:03 อะไรเลยกินแต่น้ำเปล่าก็คือเฟาสนี่แหละนะ
01:02:03 → 01:02:07 ฮะนะแล้วก็ออกกำลังกายด้วยวิ่งนะฮะวิ่งนะ
01:02:07 → 01:02:13 เทำไมถึงนอนไม่หลับอืทำไมึงนอนไม่หลับ
01:02:13 → 01:02:17 เอออ่าก็คือคนเนี้ยเค้าเหมือนก็เทียบง่าย
01:02:17 → 01:02:21 ๆก็คือคาร์ดิโอเฮะนะเนี่ยพอคาร์ดิโอไป
01:02:21 → 01:02:23 แล้วนะ
01:02:23 → 01:02:28 เอ่อมันนอนไม่หลับอ่ะนะเพราะว่า 1 นะไม่
01:02:28 → 01:02:31 ได้กินมื้อเย็นหรือเปล่าหรือกินผิดเอ่อ
01:02:31 → 01:02:34 ไม่ได้กินคาฟไม่ได้ให้ความสำคัญกับคาฟใน
01:02:34 → 01:02:39 มื้อเย็นนะฮะอันที่ 2 การคาร์ดิโอไม่
01:02:39 → 01:02:43 เหมาะกับบอ typ หรือไม่เหมาะกับเรื่อง
01:02:43 → 01:02:47 ระบบเมตาบอลิกของร่างกายเขาในขณะนั้นนะ
01:02:47 → 01:02:53 ควรจะเวทนะแต่ก็ไปติดคาร์ดิโอซะโดยเฉพาะ
01:02:53 → 01:02:57 กลุ่มประเภทอ่าพวกฮอร์โมนพวกไอ้อะไรอ่ะบอ
01:02:57 → 01:03:01 type ทรงไทรรอยด์อ่ะนะฮะพวกนี้คาร์ดิโอ
01:03:01 → 01:03:07 แบบใครห้ามก็ไม่ได้นะก็วิ่งๆๆๆๆเอ๊มันมี
01:03:07 → 01:03:11 มันมีแชร์ใน If Mix ใช่มยที่ว่ามีคนออก
01:03:11 → 01:03:16 มาพูดว่าวิ่ง 15 กต่อวันจนกระทั่งไอ้ตรง
01:03:16 → 01:03:19 atic not นะฮะตรงเค้าเรียกว่าขั้วเส้น
01:03:19 → 01:03:23 เลือดหัวใจใหญ่อ่ะมันมันเป็นอะไรอ่ะมัน
01:03:23 → 01:03:28 ฉี่ขาดครับมันเออมันนั่นแหละนั่นแหละอเออ
01:03:28 → 01:03:32 ก็ต้องไปใส่ไอ้ตัว mechanical not นะฮะ
01:03:32 → 01:03:38 ใน carnal K อันนี้ก็หลายแสนนะ
01:03:38 → 01:03:42 เอนะเหมือนกับเส้นเลือดแดงใหญ่ในท้องแตก
01:03:42 → 01:03:43 อ่ะฮะ
01:03:43 → 01:03:48 นะแต่อันนี้เแตกตรงขั้วขั้วเอออต้าเนี่ย
01:03:48 → 01:03:53 เอินอประมาณนั้นน่ะเนาะมันถึงได้มีอาการ
01:03:53 → 01:03:57 แมแต่เขาก็อึเนอะเออพยุงตัวเองไปจน
01:03:57 → 01:03:59 กระทั่งถึงโรงพยาบาลแต่ก็ดีแล้วล่ะไปที่
01:04:00 → 01:04:02 สงขลานะต้องไปโรงเรียนแพทย์นะฮะไปโรง
01:04:02 → 01:04:05 พยาบาลทั่วไปก็ยากไม่
01:04:05 → 01:04:09 รอดนะอันนี้น่าจะเกิดจาก 2 เรื่องนะฮะก็ 1
01:04:09 → 01:04:14 พลังงานเอ่อไม่พอแล้วก็กินผิดนะนะแล้วก็
01:04:14 → 01:04:17 ไม่เหมาะสมในรูปแบบของการออกกำลังกาย
01:04:17 → 01:04:19 ประมาณ
01:04:19 → 01:04:23 นี้ทำ If เนี่ยห้ามทำอะไร 3 อย่างต่อไป
01:04:23 → 01:04:26 นี้นะฮะอันนี้เป็นหัวใจสำคัญเลยนะฮะของคน
01:04:26 → 01:04:32 ที่อยากจะทำไนะฮะนะมื้อแรกกินคาแปรรูปไม่
01:04:32 → 01:04:40 ได้กินผลไม้ไม่ได้นะฮะนะยาๆๆนะฮะนะเออนะ
01:04:40 → 01:04:46 ได้แต่ผักใบผักหัวนะฮะนะนะแล้วก็จะกิน
01:04:46 → 01:04:48 อาหารปริมาณเท่าไหร่ก็ได้กินกี่มื้อก็ได้
01:04:48 → 01:04:52 อันนี้ไม่ใช่นะฮะนะแล้วก็มื้อเย็นไม่กิน
01:04:52 → 01:04:56 นะฮะนะหรือกินไม่ครบนะเนี่ยที่เลเบลไว้สี
01:04:56 → 01:05:01 ดำๆเนี่ยหัวใจสำคัญเลยของข้อห้ามนะ
01:05:01 → 01:05:05 เอนี้ในกรณีของคนเป็นเบาหวานนะฮะเบาหวาน
01:05:05 → 01:05:09 เนี่ยนะอันนี้หมายถึงเบาหวานในกรณีที่
01:05:09 → 01:05:13 อ้วนน้ำหนักเกินนะนะแล้วจะต้องใช้ If นะ
01:05:13 → 01:05:15 หรือแบบ One me a day หรือไม่ก็โปรลอง
01:05:15 → 01:05:17 Fast หรือ Alternate Day fasting ช่วย
01:05:17 → 01:05:21 นะะนะก็จะมีหลักการอยู่ 3 อย่างเยคือคุณ
01:05:21 → 01:05:24 ต้องอ้วนมากๆดื้ออินซูลินเยอะๆแล้วก็น้ำ
01:05:24 → 01:05:28 หนักเกินเยอะแยะนะฮะนะอันต่อมาก็คือคุณ
01:05:28 → 01:05:34 ต้องได้รับการฝึกอัดในการอดนะแบบสั้นๆนะ
01:05:34 → 01:05:38 เนี่ยเป็นแล้วนะฮะเจะเป็น 16/8 18/6
01:05:38 → 01:05:41 20/4 อะไรอย่างงี้นะต้องต้องให้ให้ให้
01:05:41 → 01:05:44 ให้เก่งในในส่วนนี้ก่อนนะฮะสุดท้ายคือ
01:05:45 → 01:05:47 ต้องมีระดับคีโตนในเลือดสูงประมาณ 1-3
01:05:47 → 01:05:48 มิลลิโมล
01:05:48 → 01:05:52 นะแล้วก็มีการกินพวกโค High Fat อย่าง
01:05:52 → 01:05:56 ถูกวิธีนะอันเนี้ยสำคัญที่สุดนะฮะนะเฉพาะ
01:05:56 → 01:06:00 คนเป็นเบาหวานนะฮะเบาหวานประเภทอ้วนแต่
01:06:00 → 01:06:03 เบาหวานที่ผอมหรือสมส่วนค่อนผอมไม่ต้องนะ
01:06:03 → 01:06:07 ไม่ต้องไนะฮะนะทำไม่ได้นะนะอันนี้อันตราย
01:06:07 → 01:06:12 นะพลังงานสะสมไม่พอนะอ่า
01:06:12 → 01:06:15 ครับเนี่ยเพราะอะไรเนี่ยนะก็จะมีข้อ
01:06:15 → 01:06:19 อธิบายต่างๆอยู่นะฮะคือหลักการของ If ใน
01:06:19 → 01:06:23 คนที่เป็นเบาหวานเนี่ยนะฮะนะคุณต้อง3ออด
01:06:23 → 01:06:28 ให้ถูกนะอดให้ถูกเนี่ยก็แล้วแต่ว่าจะอด
01:06:28 → 01:06:31 ยังไงแล้วแต่สภาพรูปร่างโครงสร้างนะหรือ
01:06:31 → 01:06:33 เปอร์เซ็น body fat เปอร์เซ viser Fat
01:06:33 → 01:06:39 นะแล้วก็เอ่อน้ำหนักอะไรต่างๆอ่ะอ้วนผอม
01:06:39 → 01:06:43 สมส่วนอะไรก็ตามนะฮะนะจะอดให้ถูกเนี่ยนะ
01:06:43 → 01:06:48 ก็มีช่วงเวลาที่จะมามาให้อดนะต่อไปอิ่ม
01:06:48 → 01:06:50 ให้พออิ่มให้พอก็คืออิ่มแบบ ow C High
01:06:50 → 01:06:53 Good fash นี่แหละนะฮะโดยเฉพาะมื้อแรก
01:06:53 → 01:06:57 กับมื้อเย็นอะไรอย่างงั้นนะฮะนะ
01:06:57 → 01:07:02 เนี่ยอิ่มนะนะสุดท้ายก็คืออัดให้ถึงนะฮะ
01:07:02 → 01:07:05 นะเนี่ยต้องเน้นทั้งพลังงานและสารอาหารนะ
01:07:05 → 01:07:09 ฮะโดยเฉพาะคนที่น้ำหนักตัวน้อยๆน้ำหนัก
01:07:09 → 01:07:14 ตัวน้อยๆนะมันยากตรงนี้แหละครับเแล้วก็
01:07:14 → 01:07:18 หมอก็แจงให้นะอันนี้ลองไปอ่านนะฮะนะมี
01:07:18 → 01:07:20 ประโยชน์มีประโยชน์นะก็แล้วแต่ถ้าไม่ได้
01:07:21 → 01:07:25 เป็นเบาหวานก็ไม่เป็นไรนะอ
01:07:25 → 01:07:29 แล้วก็คนที่น้ำหนักน้อยผ่ายผอมนะเนี่ยนะ
01:07:29 → 01:07:32 อยากเพิ่มกล้ามเนื้อให้อ้วนๆทำยังไงนะฮะ
01:07:33 → 01:07:35 จริงๆตรงเนี้ยมันมีหลักการอะไรต่างๆใน
01:07:35 → 01:07:38 ระดับเซลล์เรื่องของเถ่ออะไรอย่าเงี้นะนะ
01:07:38 → 01:07:41 แต่หมออยากให้ดูอันนี้ฮะนะ Over
01:07:41 → 01:07:43 nutrition you should Fast Under
01:07:43 → 01:07:47 nutrition you should eat นะเพราะ
01:07:47 → 01:07:52 ฉะนั้นเนี่ยพวกนี้คือกินๆๆๆๆนะฮะนะเ่าไม่
01:07:52 → 01:07:56 ต้องไปมองเรื่องของการโอดอดนะการอดอ่าให้
01:07:56 → 01:07:59 พวกอ้วนๆที่เขามีกล้ามเนื้อมีเปอร์เซ็นต์
01:07:59 → 01:08:04 บอ Fat เยอะๆนะอ้าเขาก็จัดการในแนวทางเข
01:08:05 → 01:08:11 ไปครับก็คือก็คือถ้าผอมๆสมส่วนก็ทำไงก็ทำ
01:08:11 → 01:08:12 แบบ TR me a day แล้วก็สร้างกล้าม
01:08:12 → 01:08:18 เนื้อแบบอ่าไลฟที่แล้วเนาอืนี้หลักการของ
01:08:18 → 01:08:21 การไดเอทที่ดีที่สุดนะฮะนะนะก็แล้วแต่ว่า
01:08:21 → 01:08:26 จุดมุ่งหมายจะทำอะไรนะจะลดไขมันลดน้ำหนัก
01:08:26 → 01:08:32 ลดความอ้วนนะอันนี้ขอให้เน้นที่นะที่สาร
01:08:32 → 01:08:36 อาหารนะฮะเนี่ยสารอาหารกินให้มากนะฮะแต่
01:08:36 → 01:08:41 มีข้อแม้ว่านะพลังงานต้องไม่มากนะนะสาร
01:08:41 → 01:08:44 อาหารมากนะพลังงานไม่ต้องมาก
01:08:44 → 01:08:50 นะเพื่อที่จะให้ไขมันที่สะสมอยู่นะถูกเอา
01:08:50 → 01:08:56 มาใช้นะฮะนะถูกเอามาใช้แท่นะฮะอันนี้ลอง
01:08:56 → 01:08:59 ไปอ่านรายละเอียดนะฮะถ้าจุดมุ่งหมายเพื่อ
01:08:59 → 01:09:02 เพิ่มมวลกล้ามเนื้อนะฮะก็ให้กินสารอาหาร
01:09:03 → 01:09:09 นะให้ถึงนะฮะเน้นที่โปรตีนนะนะแล้วพลัง
01:09:09 → 01:09:12 งานรวมทั้งหมดทั้งโปรตีนคาร์โบไฮเดรตไข
01:09:12 → 01:09:17 มันนะให้น้อยที่สุดนะฮะเพื่อจะไม่ให้มี
01:09:17 → 01:09:22 เหลือที่จะไปสร้างเป็นอ่าไขมันส่วนเกินนะ
01:09:22 → 01:09:26 ฮะคือคำว่าพลังงานรวมน้อยที่สุดเนี่ยนะ
01:09:26 → 01:09:29 พลังงานรวมน้อยที่สุดเแบบที่เราเคยคำนวณ
01:09:29 → 01:09:32 กันไปให้เมื่อไลฟ์ที่แล้วเนี่ยนะมันจะทำ
01:09:32 → 01:09:35 ให้ตัวโปรตีนเนี่ย
01:09:35 → 01:09:40 นะถูกเอาไปสร้างกล้ามเนื้อได้มากที่
01:09:40 → 01:09:45 สุดคือพลังงานรวมจะต้องพอดีในขั้นที่น้อย
01:09:45 → 01:09:49 ที่สุดแต่ไม่ขาดพลังงานนะฮะนะนะเราก็จะ
01:09:49 → 01:09:52 สร้างกล้ามเนื้อได้ดีนะฮะมันจะมีเหตุผล
01:09:52 → 01:09:56 อย่างนี้นะฮะลองเอาไปแปลงนะฮะเนี่ยนะข้าง
01:09:56 → 01:10:00 บนกับข้างล่างก็แล้วแต่นะฮะเคนส่วนใหญ่ก็
01:10:00 → 01:10:03 คือต้องอันนี้ก่อนนะฮะต้องลดไขมันลดน้ำ
01:10:03 → 01:10:06 หนักลดความอ้วนก่อนนะแล้วก็มาปรับใน
01:10:06 → 01:10:10 เรื่องสารอาหารกับพลังงานนะด้วยเหตุผลแบบ
01:10:10 → 01:10:11 นี้
01:10:11 → 01:10:15 นะหลังจากนั้นนะถ้าเผลอเรอแล้วมวลกล้าม
01:10:15 → 01:10:19 เนื้อมันหายไปด้วยนะฮะก็ต้องมากู้มวน
01:10:19 → 01:10:22 กล้ามเนื้อขึ้นโดยใช้หลักการพวก
01:10:22 → 01:10:24 นี้
01:10:24 → 01:10:28 อันนี้นะก็อันนี้เป็นข้อสรุปที่จะต้อง
01:10:28 → 01:10:30 อ่านทบทวนไป
01:10:30 → 01:10:34 มาอือันนี้ก็มาแปะให้ดูนิดเดียวอ่ะว่า
01:10:34 → 01:10:38 เวลาเราทำ If เนี่ยหรือเวลาที่เรานอน
01:10:38 → 01:10:43 เนี่ยนะฮะการกูโน genesis เนี่ยนะโดยอ่า
01:10:43 → 01:10:46 ฮอร์โมนตัวแม่หรือคอร์ติซอลเนี่ยนะฮะคือ
01:10:46 → 01:10:50 คอร์ติซอลเก็จะมากับแอรีนนะฮะลูกคนเล็ก
01:10:50 → 01:10:56 เสมอนะเนี่ยโดยธรรมชาตินะนะฮะนะแล้วก็เขา
01:10:56 → 01:10:59 จะสั่งให้แอรีนเนี่ยสลายไขมันที่สะสม
01:10:59 → 01:11:00 เนี่ย
01:11:00 → 01:11:04 40% แต่ตัวเาเองเนี่ยจะพยายามสลายโปรตีน
01:11:04 → 01:11:08 ในกล้ามเนื้อประมาณ 60% นะฮะแต่เมื่อช่วง
01:11:08 → 01:11:13 เวลาผ่านไปบทบาทอันนี้จะลดลงนะฮะแอรีนนะ
01:11:13 → 01:11:17 เอ่อจะดื้อนะมันจะดื้อนะมันจะสลายไม่ได้
01:11:17 → 01:11:22 แล้วะนะฮะนะแล้วก็ไอ้ตัวคอร์ติซอลเนี่ยก็
01:11:22 → 01:11:27 จะสลายตัวเนี้ยมากขึ้นเรื่อยๆนะฮะแล้วขณะ
01:11:27 → 01:11:30 เดียวกันก็จะเกิดการเก็บสะสมพลังงานไขมัน
01:11:30 → 01:11:35 นะฮะแต่จะสลายอ่าตัวกล้ามเนื้อหรือกด
01:11:35 → 01:11:38 อะมิโนเนี่ยมากขึ้นนะจนกระทั่งกล้ามเนื้อ
01:11:38 → 01:11:43 ฟอรีบรีนไปหมดนะก็เนี่ยตามเนี้ยนะฮะที่
01:11:43 → 01:11:47 เค้าแปลออก
01:11:47 → 01:11:52 มามีใครสงสัยอะไรมย
01:11:52 → 01:11:56 If ก็ประมาณครับไม่
01:11:56 → 01:12:02 มีนะอันนี้ก็เป็นเรื่องพื้นฐานน่ะนะฮะนะ
01:12:02 → 01:12:05 เอ่อก็ลองไปดูแล้วกันนะฮะมันมีข้อมูลที่
01:12:05 → 01:12:10 เป็นสไลด์นะลองอ่านทบทวนนะวันนี้หมอมีเคส
01:12:10 → 01:12:14 ที่น่าสนใจมาดูกัน 2 เคสนะฮะในการแปลผล
01:12:14 → 01:12:18 แลปนะฮะครับอ่าอย่างเคสเนี้ยเขาบอกว่าอัน
01:12:18 → 01:12:21 นี้ผลเลือดนะ a1c เนี่ยต่ำกว่า 5.7 มา 9
01:12:21 → 01:12:26 เดือนแล้วนะฮะแล้วก็ทำ If 18/6 มา 11
01:12:26 → 01:12:30 เดือนน้ำหนักก็ยังนิ่งๆอยู่ที่ 8 คนนี้
01:12:30 → 01:12:33 น้ำหนักเริ่มต้นเ 97 นะฮะนะตอนนี้เน้ำ
01:12:33 → 01:12:37 หนักมานิ่งๆ 84 85 เนี่ยนะฮะนะอ่าแล้วก็
01:12:37 → 01:12:43 ทำ If นะกินวันละ 2 มื้ออเนี่ย a1c คุม
01:12:43 → 01:12:45 ได้ดีเลยอ่ะดื้ออินซูลินก็ไม่มีแล้วหายไป
01:12:45 → 01:12:50 หมดแล้วนะฮะเนี่ยนะแต่ทำไมกดยูริคกับตับ
01:12:50 → 01:12:56 นะพุ่งขึ้นเอ่อน่ากังวลมยเป็นไรเปล่านะทำ
01:12:56 → 01:13:01 ไงต่อดีนะฮะทีนี้เรามาดูในตารางเนะคนนี้
01:13:01 → 01:13:05 ก็เป็นคนพุงเครียดนะฮะนะนะน้ำหนัก
01:13:05 → 01:13:09 overweight นะสูงก็ประมาณ 165 นะฮะนะตอน
01:13:09 → 01:13:13 นี้น้ำหนักเยังเกินอยู่เยอะนะนะอยู่ที่ 8
01:13:13 → 01:13:17 84 85 นี่แหละนะเป็นพุงเครียดนะก็ฟาติ
01:13:17 → 01:13:24 บัตเ้า 96 นะฮะนะเแล้วก็แต่ตัวเนี่ยคือ
01:13:24 → 01:13:28 fing บั a1c เนี่ยคุมได้หมดะนะฮะคุมได้
01:13:28 → 01:13:31 หมดนะก่อนหน้านี้ก็ 5 กว่าๆนี่ก็เหลือ
01:13:31 → 01:13:35 เนี่ยคือเมุ่งแต่จะคุมอินซูลินคุมคาฟ
01:13:35 → 01:13:38 เนี่ยนะฮะนะนะแต่ว่าไอ้ตัว ting อินซูลิน
01:13:38 → 01:13:41 ตัวเอ่อ insulin sensitivity เท่าไหร่ก็
01:13:41 → 01:13:45 ไม่รู้อ่ะนะฮะอันนี้เป็นจุดอ่อนของคนคน
01:13:45 → 01:13:48 ป่วยในเมืองไทยเราอ่ะนะฮะเราไม่ดูตัว
01:13:48 → 01:13:50 สำคัญน่ะเพราะว่าเบาหวานมันก็เป็นโรคของ
01:13:50 → 01:13:54 อินซูลินนั่นแหละนะฮะเเราไปดูน้ำตาลเป็น
01:13:54 → 01:13:55 หลักนะ
01:13:56 → 01:13:59 อืคือน้ำตาลก็ดูอ่ะนะแต่ว่าอินซูลินเนี่ย
01:13:59 → 01:14:03 ต้องดูเป็นช่วงๆไปด้วยนะฮะโดยเฉพาะที่แลบ
01:14:03 → 01:14:07 ต่างๆมันมีมีการขาดเกินอะไรไปอย่างเงี้ย
01:14:07 → 01:14:10 มีความผิดปกติเนี่ยเราต้องกลับมาดูตัวต้น
01:14:10 → 01:14:12 ทางเอ่อของการเป็นเบาหวานเก็คือฮอร์โมน
01:14:12 → 01:14:17 อินซูลินเป็นยังไงนะปริมาณนะแล้วก็ความไว
01:14:17 → 01:14:20 ความดื้อนะแต่เราไม่มีอ่ะนะเออก็ไม่รู้จะ
01:14:21 → 01:14:24 พูดยังไงเนาะการทำของไตก็ยังดีนะฮะแล้วกด
01:14:24 → 01:14:29 ยูริกเนี่ยก็ 9.8 นะฮะนะแล้วก็เอนไซม์ตับ
01:14:29 → 01:14:32 นะฮะเอนไซม์ตับก็ค่อนข้างสูงค่อนข้างสูง
01:14:32 → 01:14:36 นะแม้ว่าอัตราส่วนจะปกตินะฮะจริงๆเนี่ย
01:14:36 → 01:14:41 เค้าทำ If 18/6 นะแล้วก็กินแบบน่าจะต้อง
01:14:41 → 01:14:44 ow คาฟนั่นแหละนะฮะเพราะกินคาฟเนี่ยก็คง
01:14:44 → 01:14:47 จะกู้ไอ้ a1c ขึ้นมาเป็น 5 กว่าอะไรไม่
01:14:47 → 01:14:49 ได้ส่วนใหญ่มันเกิน 6 ทั้งนั้นแหละนะฮะ
01:14:49 → 01:14:54 พวกคาฟฟแฝงนะนะแต่ทำไมคนเนี้ยเนะไอ้ตัวเย
01:14:54 → 01:14:58 sgpt เนี่ยมันยังเกิน 30 อยู่นะฮะผู้ชาย
01:14:58 → 01:15:00 นะ
01:15:00 → 01:15:05 ฮะก็ถือว่าตับมีปัญหานะ
01:15:05 → 01:15:09 ฮะแล้วก็ในเรื่องของรายปิดโปรไฟล์เนี่ยก็
01:15:09 → 01:15:12 ดูจะดีไปหมดเลยนะฮะแต่เวลาเข้าอัตราส่วน
01:15:12 → 01:15:15 แล้วเนี่ยนะเรื่องดื้ออินซูลินไม่มีนะฮะ
01:15:15 → 01:15:18 แต่มันยังมีร่องรอยให้เห็นจากค่า tyg
01:15:18 → 01:15:23 index นะฮะเนี่ยเนี่ยเราก็ดูนะไกิลนะฮะ
01:15:23 → 01:15:27 นะไตกีสไลที่ดีที่สุดนะฮะในราปิดโปรไฟล์
01:15:27 → 01:15:31 เนี่ยนะก็คือต้องไม่เกิน 80 ไม่เกิน 80
01:15:31 → 01:15:35 นะะครับนะแล้วถ้าเป็น Lean mas Hyper
01:15:35 → 01:15:39 respond เนี่ยก็คือไม่เกิน 70 ไม่เกิน
01:15:39 → 01:15:44 70 เนี่ยถ้าไตกีลยังค่อนข้างสูงไปแตะ 100
01:15:44 → 01:15:50 นะโดยที่น้ำตาลตอนเช้า fing บัอยังเกิน 90
01:15:50 → 01:15:54 อยู่อ่ะหรือไปชิดๆเกือบรอ่ะนะฮะอ่าพวก
01:15:54 → 01:15:58 เนี้ยมันจะทำให้ TG index เนี่ยเ่าแสดง
01:15:58 → 01:16:02 ว่าคุณยังดื้ออินซูลินอยู่นะฮะในขณะที่ไ
01:16:02 → 01:16:05 กิลหารด้วย hdl เนี่ยมันยังไม่มีปัญหานะ
01:16:06 → 01:16:08 เพราะฉะนั้นเนี่ยที่หมอเอาตัว TG index
01:16:08 → 01:16:12 เนี่ยมาเป็นตัวบ่งบอกเ่อเป็น metalic
01:16:12 → 01:16:14 มากออันนึงเนี่ยเพราะว่ามันมันมัน
01:16:14 → 01:16:18 sensitive กว่านะฮะคือมันไวกว่าแล้วมัน
01:16:18 → 01:16:22 จำเพาะดีกว่าไอ้ค่าไตกินายหารด้วย hdl นะ
01:16:22 → 01:16:29 ฮะอือืมันเกิน 4.49 4. 543 นะก็ถือว่า
01:16:29 → 01:16:33 คนนี้ดือินซูลินนะเอออันนี้คนนี้ดื้อ
01:16:33 → 01:16:36 อินซูลินแล้วนะอ่าดื้ออินซูลินก็ต้องไปดู
01:16:36 → 01:16:40 แล้วล่ะว่ากินถูกกินยังไงอะไรเงี้ยนะฮะนะ
01:16:40 → 01:16:44 ต่อมา remnant คอเลสเตอเกินนะนะอันนี้
01:16:44 → 01:16:47 ส่วนใหญ่ความหมายแรกเลยก็คือขาดพลังงาน
01:16:47 → 01:16:51 ความหมายต่อมาก็คือคอร์ติซอลน่าจะมามีบท
01:16:51 → 01:16:56 บาททำอะไรบ้างก็ไม่รู้อ่ะนะฮะครับเออ
01:16:56 → 01:17:00 เพราะฉะนั้นคนนี้ดูไม่ปกติเลยนะฮะทั้ง
01:17:00 → 01:17:03 ฮอร์โมนตัวพ่อตัวแม่
01:17:03 → 01:17:08 อืแล้วก็เนี่ยเค้าเคดูแลตัวเองมาก็ตั้งจะ
01:17:08 → 01:17:12 11 เดือนแล้วอ่ะใช่มนะนะแล้วก็ควบคุม
01:17:12 → 01:17:15 อินซูลินได้ตั้ง 9 เดือนมาแล้วนะฮะ
01:17:15 → 01:17:21 เนี่ยแต่ว่าจะเห็นว่ายูริกก็สูงนะฮะเนี่ย
01:17:21 → 01:17:26 ครับก็เหมือนกับว่ามันเหมือนกับว่าร่าง
01:17:26 → 01:17:27 กาย
01:17:27 → 01:17:32 มันมันเผาผลาญพลังงานมาจนกระทั่งตอนเนี้ย
01:17:32 → 01:17:36 คอร์ติซอลออกมาเก็บพลังงานแล้วะมันเหมือน
01:17:36 → 01:17:39 คอร์ติซอลมันจะออกมาเก็บพลังงานแล้วะเอ่อ
01:17:39 → 01:17:43 เอครับพอมันเก็บพลังงานแล้วพลังงานช่วง
01:17:43 → 01:17:46 ที่เผาแรกๆเนี่ยจะไปซ่อมไปสร้างอะไรหรือ
01:17:46 → 01:17:50 ไปใช้อะไรได้หรือเปล่าไม่รู้นะนะอืแต่ตอน
01:17:50 → 01:17:51 เนี้ยนะ
01:17:52 → 01:17:57 เอ่อเขาจะหวงพลังงานแล้วนะเพราะฉะนั้น
01:17:57 → 01:18:01 เอ่อกล้ามน้งกล้ามเนื้ออะไรต่างๆนะอาจจะ
01:18:01 → 01:18:06 ไม่ซ่อมไม่โตแล้วนะหรือจะฝ่อรีบเล็กอ่าไป
01:18:06 → 01:18:09 ซ่อมไม่ได้ฮะนะไปซ่อมไม่ได้เก็เลยลดการ
01:18:09 → 01:18:13 เผาผลาญพลังงานลงครับยูริคแอซิดมันก็เลย
01:18:13 → 01:18:17 พุ่งขึ้นมา
01:18:17 → 01:18:20 9.8 นะเนี่ยก็คือจะเป็นอย่างนี้แหละ
01:18:20 → 01:18:23 เนี่ยเราก็จะแปลผลกันอย่างเงี้ยคือส่วน
01:18:23 → 01:18:26 ใหญ่เอ่อเคสนี้ก็จะอยู่ในกลุ่มเบาหวานใน
01:18:26 → 01:18:28 ห้องเบาหวานนี่แหละฮะแต่มันว่าเขาก็จะ
01:18:28 → 01:18:32 โฟกัสแต่เรื่องเรื่องน้ำตาลนะเรื่องน้ำ
01:18:32 → 01:18:35 ตาลสะสมอะไรต่างๆนะแล้วเขก็จะดีใจถ้าเกิด
01:18:35 → 01:18:39 ว่าไอ้พวกน้ำตาลน้ำตาลสะสมมันอยู่ในเกณฑ์
01:18:39 → 01:18:42 นะฮะนะรวมทั้งไตกสลายก็ไม่เยอะอะไรอย่าง
01:18:42 → 01:18:47 เงี้ยนะแต่ว่าไอ้ตัวมาร์เกอร์อื่นๆที่
01:18:47 → 01:18:50 สำคัญำคัญเขาก็จะค่อนข้างละเลไปหน่อยนะ
01:18:50 → 01:18:52 โดยเฉพาะตัวอินซูลินเนี่ยนะฮะนะอันนี้สำ
01:18:52 → 01:18:56 สำคัญนะฮะนะก็ไม่รู้จะไปบอกไง
01:18:56 → 01:19:00 เนาะแล้วก็อันนี้ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้มัน
01:19:00 → 01:19:03 บล็อกตัวน้ำหนักอยู่เนี่ยนะฮะมันเผาต่อ
01:19:03 → 01:19:06 ไม่ได้ฮะร่างกายสลาพลังพลังงานไม่ได้น้ำ
01:19:06 → 01:19:09 หนักก็เลยค้างเติ่งอยู่อย่าเงี้ยครับครับ
01:19:09 → 01:19:11 อืๆตามที่บอกเมื่อกี้เนี่ยนะฮะว่าเคุณทำ
01:19:11 → 01:19:15 If เ่ะแต่ทำไมน้ำหนักมันค้างอ่ะนะเอ่อ
01:19:15 → 01:19:17 น้ำหนักมันค้างก็อินซูลินกับคอร์ติซอล
01:19:17 → 01:19:21 เนี่ย 2 ตัวนี่แหละนะนะเนี่ยหลังฟ้าคุณ
01:19:21 → 01:19:25 กินอะไรอ่ะกินครับเงี้ยเรียบ
01:19:25 → 01:19:29 ร้อยนะมันไม่ได้ฮะนะมันก็ต้องกินแบบท me
01:19:29 → 01:19:31 a day กินให้ถูกต้องใน 1 วันมื้อแรก
01:19:32 → 01:19:34 ต้องเป็นโปรตีนบวก High Good Fat อะไร
01:19:34 → 01:19:37 อย่างเงี้ยนะแล้วก็มื้อเย็นก็ค่อยกินคาฟ
01:19:37 → 01:19:40 แต่ถ้ามื้อแรกมาก็ผิดแล้วอย่างเงี้ยเนี่ย
01:19:40 → 01:19:45 นะเนี่ยมันก็ไปไม่ถึงเป้าผลลับไม่มาแล้ว
01:19:45 → 01:19:50 คอร์ติซอลออกมาจากเอ่อขาดพลังงานนะกล้าม
01:19:50 → 01:19:56 นงกล้ามเนื้อฝ่อรีบไปหรือเปล่า
01:19:56 → 01:20:01 อืมีใครสงสัยอะไรมั้ยอืพอจะช่ำชองแล้ว
01:20:01 → 01:20:06 หรือ
01:20:06 → 01:20:11 ยังมีออก
01:20:12 → 01:20:16 มาหัวเราะหัวเราะโดยโดยไม่นัด
01:20:16 → 01:20:21 หมายเออเออพี่หมอคือบางทีเนี่ยหมอก็แปล
01:20:21 → 01:20:24 แบบเร็วๆอ่ะนะเพราะว่ามันมีเยเอแหมพี่หมอ
01:20:24 → 01:20:28 ชำนาญน่ะเนนี่เพิ่งจะมารู้ว่าเรื่องนพูด
01:20:28 → 01:20:32 เปล่าๆแล้วแบบมึงรู้คนเดียวอ่ะเออคนอื่นเ
01:20:32 → 01:20:34 ไม่ทันน่ะเแปไม่ทันยิ่งหมอยิ่งแต่ก่อนไม่
01:20:34 → 01:20:37 มีตารางนี่นะแล้วคุณหมอแปลออกมาแบบโอ้โห
01:20:37 → 01:20:41 รัวๆนะโอ้โหพวกพวกผมนี่หัวหมุนเลยอ่ะใช่
01:20:41 → 01:20:45 เออสเนามันไอช่วงช่วงแรกๆอ่ะนะที่ที่พี่
01:20:45 → 01:20:48 หมอทำแต่ที่หมอทำเป็นตารางของคุณหมออยู่
01:20:48 → 01:20:51 อ่ะนะแต่ยังไม่ได้มีเกณฑ์อะไรพวกนี้ออกมา
01:20:51 → 01:20:59 ไงแล้วก็แปลแบบอย่างเมามันพวกผมก็ครับๆ
01:20:59 → 01:21:01 ๆ
01:21:01 → 01:21:04 เออทีนี้อันนี้เป็นของต่างประเทศนะฮะเคส
01:21:04 → 01:21:08 สุดท้ายนะครับเนี่ยเราอยากจะให้ดูแลบของ
01:21:08 → 01:21:13 ต่างประเทศนะฮะนะเอ่อคนนี้ก็คือคือคน
01:21:13 → 01:21:19 เนี้ยเค้ากินเค้าก็กินอ่าเค้าก็กินแบบเกน
01:21:19 → 01:21:23 นะแล้วเค้าก็มากินแบบซีดี
01:21:23 → 01:21:26 อ่าแล้วก็เค้าถูกแนะนำให้ไปกินแบบพาลิโอ
01:21:26 → 01:21:30 ไดเอตพิโอไดเอตพอพอรู้จักใช่มั้ยก็กินกิน
01:21:30 → 01:21:34 แบบมนุษย์ถ้ำอ่ะมนุษย์ดึกดำบรน่ะฮะนะก็
01:21:34 → 01:21:36 คือกินทั้งพืชทั้งสัตว์นะฮะแต่ว่าไม่ได้
01:21:36 → 01:21:40 ปรุงอะไรมากมายนะฮะครับผมนะกินถั่วกินผัก
01:21:40 → 01:21:45 กินผลไม้อ่ากินเนื้อสัตว์กินไข่กินนมอะไร
01:21:45 → 01:21:50 ต่างๆนะเอ่อแต่ว่าไม่ได้เน้นการปรุงโดย
01:21:50 → 01:21:53 การใช้น้ำมงน้ำมันอะไรอย่างงี้นะฮะไม่มี
01:21:53 → 01:21:56 การกินน้ำมันสกัดยงสกัดเย็นต่างๆทุกอย่าง
01:21:56 → 01:22:01 เนี่ยต้องเป็นเรเจอรอ่ะนะฮะเป็น law Food
01:22:01 → 01:22:03 น่ะ law Food เข้าใจคำว่า law R AW ม
01:22:03 → 01:22:07 law Food ก็คือแบบแบบที่เห็นเด็ดมากต้น
01:22:07 → 01:22:10 เลยอย่างเงี้ยนะแล้วเอามาผ่านความร้อนให้
01:22:10 → 01:22:12 สุกแล้วก็กินเข้าปากไปไม่จิ้มไม่อะไรทั้ง
01:22:12 → 01:22:16 สิ้นนะฮะพิโอไดเอตก็จะกินแบบนี้นะฮะกิน
01:22:16 → 01:22:17 แบบมนุษย์ถ้ำ
01:22:17 → 01:22:22 นะนะทีนี้ผลแลปเขาเนี่ยนะอยากจะให้ดูที่
01:22:22 → 01:22:25 ที่เรื่องไปิด panel นะฮะนะเขาจะมีการ
01:22:25 → 01:22:28 ตรวจเนี่ยมี Total cholesterol เนี่ย 473
01:22:28 → 01:22:35 นะฮะมี hdl 32 มีไิ 141 แล้วก็มี ldl
01:22:35 → 01:22:39 412 เนี่ยเราดูแค่เนี้ยพอนะฮะแล้วมาดู
01:22:39 → 01:22:43 ldl แพทเทิร์น B นะฮะนะคือไปิด panel
01:22:43 → 01:22:47 เนี่ยเาก็จะมีการคำนวณมีการเนี่ยเ่อ
01:22:47 → 01:22:49 notify Record มาอีกตัวนึงก็คือ aple
01:22:49 → 01:22:53 lin B มากกว่า 240 นะฮะทนี้เรามาดูใน
01:22:53 → 01:22:57 ตารางของเราเลยนะนะอ๋อครับพี่หมอต้องซูม
01:22:57 → 01:23:01 ออกหน่อยครับเพราะมันตกขอบเอาโอเคเนี่ย
01:23:01 → 01:23:02 อันนี้ได้ครับ
01:23:03 → 01:23:08 โอเคก็ไม่มีอะไร 473 นะ 141 คือกินยังไง
01:23:08 → 01:23:11 ก็ไม่รู้อ่ะแต่ไตกสไลนมันพุ่งอ่ะนะฮะนะ
01:23:11 → 01:23:16 แล้ว hdl มันก็ลดลงนะฮะเนี่ยแล้ว ldl ก็
01:23:16 → 01:23:20 เยอะนะแล้วเนี่ยสูงหมดเลยนะ hdl ก็ต่ำมาก
01:23:20 → 01:23:24 ไปเลยแล้วก็เป็นอ่า ldl type B นะฮะ
01:23:25 → 01:23:28 แล้วก็ดูในการเทียบอัตราส่วนเนี่ย
01:23:28 → 01:23:33 นะก็ผิดปกติเป็นส่วนใหญ่นะคนนี้ก็คือทั้ง
01:23:33 → 01:23:35 ดื้ออินซูลิน
01:23:35 → 01:23:40 ทั้งมีปัญหาในเรื่องของคอร์ติซอลนะฮะก็
01:23:40 → 01:23:43 คือคนเนี้ยฮะกินพลังงานไม่ถึงฮะการกินพาไ
01:23:43 → 01:23:46 ไดเอทเนี่ยเอ่อมันเป็นอาหารที่ปรุงแบบ
01:23:46 → 01:23:50 ง่ายๆอ่าไม่ได้เป็นการผาดท่งผัดทอดหรือ
01:23:50 → 01:23:53 ปรุงแต่งอะไรมากมายนะนะ
01:23:53 → 01:23:57 แล้วก็เห็นอันนี้มั้ย BMI เค้า 18.5 เอง
01:23:57 → 01:24:03 นะฮะครับอือผอมเออก็ผอมไปอ่ะผอมไปคือพอ
01:24:03 → 01:24:06 Diet เนี่ยเป็นการกินที่มีต้นทางมาจาก
01:24:06 → 01:24:11 การกินแบบที่จะเป็นนางแบบนะเป็นนางแบบออ
01:24:11 → 01:24:14 เออนางแบบในต่างประเทศนะในอิตาลีเนี่ยเา
01:24:14 → 01:24:19 จะกินพิโไดเอตกันเอ๋ออยากเป็นนางแบบเออ
01:24:19 → 01:24:22 แล้วก็พวกนี้พอไวทองไปแล้วนี่ก็จะโรมมาก
01:24:23 → 01:24:27 เลยจะผอมถ่ายผอมมากผิดปกตินะ
01:24:27 → 01:24:32 ครับก็ก็อันเนี้ยนะฮะคือเป็นเรื่องของใน
01:24:32 → 01:24:35 ต่างประเทศนะฮะที่ว่าเา้ากินแบบ lack of
01:24:35 → 01:24:39 Energy ขาดพลังงานนะขาดพลังงานแล้วก็
01:24:39 → 01:24:44 เอ่อโปรตีนถึงมั้ก็ถึงอ่ะนะฮะนะอืแล้วก็
01:24:44 → 01:24:46 ร่างกายขาดพลังงานจนกระทั่งมีความเครียด
01:24:47 → 01:24:51 นะมีความเครียดนะแล้ว
01:24:51 → 01:24:58 ก็เอ่อมีการดื้ออินซูลินกลับมาจากไขมัน
01:24:58 → 01:25:02 อิ่มตัวนะฮะเพราะว่าคนนี้เขาติดเากินพิโอ
01:25:02 → 01:25:05 ไดเอตก็ตามก็จริงแต่ว่าเขาเน้นไปทางเนื้อ
01:25:05 → 01:25:09 สัตว์ใหญ่ saturated Fat นะฮะนะก็คือ
01:25:09 → 01:25:12 เหมือนกินกินหมูเป็นตัวกินวัวเป็นท่อนๆ
01:25:12 → 01:25:16 น่ะนะอย่างเงี้ยนะแต่ไม่ได้ไปผัดไปทอด
01:25:16 → 01:25:20 อะไรนะคือกินแบบเนื้อสัตว์ที่มันน่ะมีไข
01:25:20 → 01:25:24 มงไขมันอะไรต่างๆอ่ะนะเหมือนเหมเนี่ย
01:25:24 → 01:25:27 อย่างนี้เลยนะไม่ได้มีการแปรรูปอะไร
01:25:27 → 01:25:33 เลยนะแล้วก็ในคำวิเคราะห์วิจารณ์กันเนี่ย
01:25:33 → 01:25:37 ก็คือ 1 lack of Energy 2 High
01:25:37 → 01:25:41 saturated Fat นะฮะที่มันมีกฎเ่า C6
01:25:41 → 01:25:45 พิติกดใช้อิ่มตัวเนี่ยเสจสายยาว 46 เนี่ย
01:25:45 → 01:25:48 เยอะนะฮะแล้วมันก็เลยทำให้เกิดปัญหาเ่อ
01:25:48 → 01:25:51 เป็นภาวะดื้ออินซูลินจากการอักเสบนะฮะพวก
01:25:51 → 01:25:55 นี้อักเสบหมดเลยอ๋อดื้อจากการอักเสบใช่ฮะ
01:25:55 → 01:25:58 นะเอ่อเป็นการดื้ออินซูลินจากการอักเสบนะ
01:25:58 → 01:26:02 ฮะแล้วบอดี้ไทยนน่าจะเป็นสายแป้งด้วยนะ
01:26:02 → 01:26:04 เนี่ยถ้ากินเนื้อมากๆนะจะมีปัญหาใช่ช่วง
01:26:04 → 01:26:08 แรกเค้าถึงได้กินวนไงนั่นแหละอ๋อซึ่งแลบ
01:26:08 → 01:26:11 ในตอนที่กินวีแกนกับกินซีดีเนี่ยก็ดีแต่
01:26:11 → 01:26:15 มาพอมาเป็นพาลิโอเนี่ยก็คือผสมระหว่างวน
01:26:15 → 01:26:18 กับซีดีเนี่ยมันเรียบร้อยไปเลยนะ
01:26:18 → 01:26:22 ฮะมันกลายเป็นเนี่ยอักเสบไปหมดเลยนะฮะนะ
01:26:22 → 01:26:25 กล้ามเนื้อก็น้อยนะฮะไตกีสไลไม่มีที่เก็บ
01:26:25 → 01:26:28 นะเนี่ยกล้ามเนื้อก็น้อยพลังงานก็น้อย
01:26:29 → 01:26:33 กล้ามเนื้อน้อยนะการอักเสบก็มีนะฮะแล้วดู
01:26:33 → 01:26:37 hdl ตั้มต่ำนะพวกนี้การอักเสบทั้งนั้นนะ
01:26:37 → 01:26:42 ฮะครับนะแล้วก็เป็น type B เห็นมะเห็นมะ
01:26:42 → 01:26:44 เนี่ยเ้ารายงานมาเป็น type B เลยแต่ของ
01:26:44 → 01:26:48 เราเราก็ยังต้องมาเทียบเคียงอะไรต่างๆ
01:26:48 → 01:26:52 อาฮะเอแต่เราไม่สามารถมีการตรวจแบบนี้ได้
01:26:52 → 01:26:56 นะนะอีกอย่างนึงเอ่อที่ฝรั่งเขาวิจารณ์
01:26:56 → 01:26:58 กันมากเลยในเคสนี้ก็คือเรื่องการกิน
01:26:58 → 01:27:01 saturated Fat นะฮะนะที่มันไปทำให้
01:27:02 → 01:27:06 เอโป้ไลโปโปรตีน B สูงนะนะคือปกติเนี่ย
01:27:06 → 01:27:11 ไม่ควรเกิน 80 นะฮะคือไม่ไม่ไม่ควรเกิน 90
01:27:11 → 01:27:14 อ่ะนะฮะนะหรือเค้าเรียกเฉลี่ยๆลไม่ควร
01:27:14 → 01:27:18 เกิน 100 นะฮะนะถ้าสูงก็คือเกิน 120 ขึ้น
01:27:18 → 01:27:22 ไปครับคนนี้มันเกิน 240
01:27:23 → 01:27:26 เพราะว่าเคกินไขมันอิ่มตัวสูงมากเกินไป
01:27:26 → 01:27:30 ซึ่งมันไม่เหมาะก่ยีนของเค้านะฮะ
01:27:30 → 01:27:34 นะไม่เหมาะกับอะไรยน expression ของเขาอ
01:27:34 → 01:27:37 เพราะฉะนั้นเนี่ยเขาจะต้องกลับมากินสัตว์
01:27:37 → 01:27:42 ปีกกินสติ Acid นะฮะกิน c18 แล้วก็กิน
01:27:42 → 01:27:48 สัตว์น้ำแล้วก็มากินค่อนข้างมาทางพืชอืๆๆ
01:27:48 → 01:27:52 ๆคือคือคือคือต้องไม่ใช้พวกไขมันอิ่มตัว
01:27:52 → 01:27:56 อ่ะนะครับแต่ถ้าั้นร่างกายตอนเนี้ยมีผล
01:27:56 → 01:27:59 กระทบเยอะแยะเลยถ้าเป็นคนที่มียีนยีนทาง
01:27:59 → 01:28:02 เนื้อนี่จะไม่มีปัญหาอะไรพวกนี้ใช่มั้ยฮะ
01:28:02 → 01:28:06 เอ่อหมายถึงถ้ากินเนื้อสัตว์แล้วยีนถ้า
01:28:06 → 01:28:08 เป็นยีนทาง
01:28:08 → 01:28:11 เนื้อยีนที่กินเนื้อได้อ่ะครับพวกพุง
01:28:11 → 01:28:14 เครียดพวกอะไรอ๋อไม่มีปัญหาฮะอันนี้สบาย
01:28:14 → 01:28:19 บืออ่าออถ้ากินแบบพพิโอนี่ก็หวานเลยเออ
01:28:19 → 01:28:22 หวานเลยแต่ถ้าผมอย่างเงี้ยอย่างผมเป็นสาย
01:28:22 → 01:28:25 แป้งเงี้ยผมไปกินแบบนั้นมากๆเข้านี่ก็จะ
01:28:25 → 01:28:28 มีปัญหาคล้ายๆแบบนี้ใช่มั้ยฮะใช่มีปัญหา
01:28:28 → 01:28:30 อย่างเงี้ยแล้วอีกอย่างร่างกายจะรับรู้
01:28:30 → 01:28:33 ได้ว่าระบบทางเดินอาหารเนี่ยมันมันไม่
01:28:33 → 01:28:36 สบายท้องอ่ะแล้วมันจะทำให้เรานอนไม่หลับ
01:28:36 → 01:28:39 เราทำให้เราเป็นภูมิแพ้อ่าๆจริงอันนี้อัน
01:28:39 → 01:28:42 นี้ส่วนตัวนะครับส่วนตัวที่กินตช่วงที่
01:28:42 → 01:28:44 กินบุฟเฟ่ต์เนื้ออะไรพวกนี้เยอะๆก็เรียบ
01:28:44 → 01:28:49 ร้อยฮะร้อนวุบวาบวุกวาบอะไรเออนั่นแหละ
01:28:49 → 01:28:52 มันมันจะไม่ได้ยาวๆอย่างงี้หรอกแต่คนนี้เ
01:28:52 → 01:28:55 กินแบบเอาาจริงเอาจังแล้วกินแบบฝืนๆไงนะ
01:28:55 → 01:28:57 จนกระทั่งมาตรวจบประจำปีแล้วมันออกมา
01:28:57 → 01:29:02 เงี้ยเก็เลยตกใจนะฮะเอ่อทีนี้ถ้าเราจะดู
01:29:02 → 01:29:04 ให้ละเอียดไปอีกจี๊ดนึงนะฮะหมอแถมให้
01:29:04 → 01:29:10 เนี่ยนะเนี่ย ldl แพทเทิร์นน Number นะฮะ
01:29:10 → 01:29:11 นะก็คือ
01:29:12 → 01:29:15 ldl P นะฮะ ldl particle Number
01:29:15 → 01:29:20 เนี่ยนะฮะครับนะปกติปกติมันไม่เกินอ่า
01:29:20 → 01:29:22 1,400 อ่ะนะฮะนะนะแต่อันนี้มันขึ้นไป
01:29:22 → 01:29:28 4,000 กว่านะโอเยอะเลยนะฮะนะแล้วก็ ldl
01:29:28 → 01:29:32 Small อ่า Small type เนี่ยนะฮะก็เยอะ
01:29:32 → 01:29:36 นะนะปกติก็ไม่เกิน 219 อันนี้ขึ้นไป 1,200
01:29:36 → 01:29:39 ่ะไม่รู้กี่เท่าเพิ่มส0อีกตัวนึง ldl
01:29:39 → 01:29:41 medium นะฮะขนาดกลางๆก็
01:29:41 → 01:29:47 882 นะฮะโอ้อันนี้เกินนะฮะเกินทุกตัวเฮะ
01:29:47 → 01:29:51 นะแต่ไอ้ตัวใหญ่ดันน้อยเออตัวใหญ่ก็ก็
01:29:51 → 01:29:55 เยอะอ่ะก็เยอะนะฮะคือต้องเอาไปลบกันนะฮะ
01:29:55 → 01:29:57 เอา ldl Total particle เนี่ย 4,000
01:29:57 → 01:30:01 กว่าตั้งลบด้วยตัวนี้ลบด้วยตัวนี้นะฮะอื
01:30:01 → 01:30:04 เพราะว่า ldl ตัวใหญ่เนี่ย ldl ตัวใหญ่
01:30:04 → 01:30:08 ส่วนใหญ่ไม่เอ่อไม่ควรจะเกิน 1000 น่ะไม่
01:30:08 → 01:30:09 ควรจะเกิน
01:30:09 → 01:30:12 พันแต่นี่มันก็มันน่าจะเกินหมดแหละมัน
01:30:12 → 01:30:16 เกินทุกไอเทมอ่ะนะฮะนะแล้วอีกอย่างนึงถ้า
01:30:16 → 01:30:18 เส้นผ่านศูนย์กลางมันไม่ได้เกิน 70
01:30:18 → 01:30:21 นาโนเมตรเนี่ยมันก็มีโอกาสเสี่ยงหมดแหละ
01:30:21 → 01:30:26 นะะเดี๋ยวนี้ทฤษฎีก็เป็นอย่างนี้หมดแล้ว
01:30:26 → 01:30:31 นะแล้วก็ hdl ที่ดีนะฮะนะ
01:30:31 → 01:30:35 นะไม่เยอะนะฮะนะถ้าเยอะเนี่ยถ้าเยอะมันจะ
01:30:36 → 01:30:38 ต้องมากกว่าเนี่ยนะฮะเอ่ามันจะต้องมาก
01:30:38 → 01:30:43 กว่า 6,7 29 อันนี้มันแค่ 3,000 กว่านะ
01:30:43 → 01:30:47 ก็เพราฉะนั้น hdl มัน 32 นะฮะเอน้อยนะ
01:30:48 → 01:30:50 แล้วก็ ldl Peak siz ldl Peak sz
01:30:50 → 01:30:54 ของเคเนี่ยเอ่อมันอยู่ในช่วง 21 นะประมาณ
01:30:54 → 01:30:57 21.0 นี่แหละนะฮะนะถ้าเทียบแล้วนะครับ
01:30:58 → 01:31:01 เอ่อ 210 ใช่มั้ยอันนี้
01:31:01 → 01:31:04 มันก็เป็นในลักษณะเนี่ย
01:31:04 → 01:31:12 เอ่อ type B อ่ะนะฮะอืเนี่ยมันน้อยกว่า
01:31:12 → 01:31:20 217 นะแล้วก็เไปโปรตีน B เยอะแยะเลยนะ
01:31:20 → 01:31:22 ฮะ
01:31:22 → 01:31:27 ก็เคสนี้ก็ก็เอามาให้ดูอ่ะว่าเออนะเนี่ย
01:31:27 → 01:31:32 หลายปัญหานะฮะการอักเสบพลังงานไม่พอนะ
01:31:32 → 01:31:37 เอ่อคือสารอาหารเนี่ยพอแต่พลังงานไม่พอนะ
01:31:37 → 01:31:40 ร่างกายมีการอักเสบแล้วก็ไอ้ตัวบานของ
01:31:40 → 01:31:43 ฮอร์โมนอินซูลินกับคอร์ติซอลเนี่ยเ่อ
01:31:43 → 01:31:46 เพี้ยนหมดแล้วนะฮะเออพี่หมอแล้วที่เมือง
01:31:46 → 01:31:49 นอกนี่เขาเข้าใจกันเรื่องพลังงานกันกัน
01:31:49 → 01:31:53 มากน้อยแค่ไหนอ่ะครับก็ก็เข้าใจฮะเข้าใจ
01:31:53 → 01:31:56 อืเเข้าใจกว่าเรา
01:31:56 → 01:31:59 เยอะอ่าๆ
01:31:59 → 01:32:03 ๆอพูดไปผมก็เพิ่งมาเข้าใจาที่แล้วนะไลฟ์
01:32:03 → 01:32:07 คราที่แล้วเนี่ยเหรอเราเรายังช้ากว่านะฮะ
01:32:07 → 01:32:10 มันมีเคส Conference ระหว่างฟิลิปปินส์
01:32:10 → 01:32:14 กับอินเดียนะนะเอ่อเป็นเคส Conference
01:32:14 → 01:32:17 ทางด้านโคฟนี่แหละครับเก็ใช้ตารางแบบ
01:32:17 → 01:32:22 เนี้ยนะฮะใช้ตารางแบบนี้เอออือืก็เป็นนี่
01:32:22 → 01:32:26 แหละเค้าก็ discus กันในเรื่องขาดพลังงาน
01:32:26 → 01:32:30 นะแล้วก็ในเรื่องของอะไร as cvd High
01:32:30 → 01:32:35 List อะไรต่างๆพวกเนี้ยครับเก็แปลผลกัน
01:32:35 → 01:32:39 ร้งช้งเช้งเนี่ยนะเนี่ยในในนี้เนี่ยในนี้
01:32:39 → 01:32:42 ก็มีคนเข้ามาว่าน่ะฮะมาว่าว่าเอ้าคุณทำไม
01:32:42 → 01:32:46 ไม่ตรวจการทำงานของตับของไตในเมื่อคุณน่ะ
01:32:46 → 01:32:48 ทั้งอักส่งอักเสบทั้งอะไรต่ออะไรอย่า
01:32:48 → 01:32:52 เงี้ยทำไมไม่โชว์ในเรื่องเหล่านี้นะฮะ
01:32:52 → 01:32:54 HP
01:32:54 → 01:32:57 โมซินนะอะไรอย่างเงี้ยเพราะว่าคุณกิน
01:32:57 → 01:33:00 เนื้อเยอะ in saturated Fat เยอะด้วย
01:33:00 → 01:33:03 อะไรอย่างเงี้ยนะยูริกก็ไม่ตรวจอะไรเงี้ย
01:33:03 → 01:33:07 นะก็อ่านแล้วก็สนุกอ่ะแต่เราเราเอาเอาเอา
01:33:07 → 01:33:10 เฉพาะเรื่องไรปิดเนี่ยมาอย่างเงี้ยนะฮะ
01:33:10 → 01:33:14 เฉพาะอะไรปิดมานี่ก็เลเทแล้วยังไม่รวมตัว
01:33:14 → 01:33:18 อื่นเลยคือคือไม่รู้นะหมอว่าของเราเนี่ย
01:33:18 → 01:33:20 มันยังรู้กันน้อยเกินไปอ่ะมันต้องรู้
01:33:20 → 01:33:24 กว้างกว่ากว่านี้อ่ะนะก็ไม่รู้จะเผยแพร่
01:33:24 → 01:33:27 ออกไปได้ยังไงนะครับเพราะฉะนั้นไม่แปลก
01:33:28 → 01:33:30 ที่หลายคนออกมาก็มาโพสต์สั้นๆแล้วก็บอก
01:33:30 → 01:33:34 ว่าเป็นเ่อไขมันดีไขมันเลวเป็น typ a
01:33:34 → 01:33:38 type B อะไรอย่างเงี้ยเอออืๆเก็ไปกัน
01:33:38 → 01:33:39 ถึงไหนถึงไหน
01:33:39 → 01:33:43 แล้วอยากจะบเอ่อฝากบอกนิดนึงว่าเดี๋ยว
01:33:43 → 01:33:46 หลังปีใหม่ก็จะมาทบทวนในเรื่องการแปรผล
01:33:46 → 01:33:49 แบบนี้ใหม่หมดนะฮะนะเพราะว่ามข้อมูลไว้
01:33:49 → 01:33:52 หมดแล้วดีมากครับ
01:33:52 → 01:33:54 อืมมล
01:33:54 → 01:33:58 แรกวันนี้วันนี้ถามแทรกหน่อยนะครับมีคน
01:33:58 → 01:34:03 ถามเรื่องของคีโตนเข้ามาพี่หมออืว่าเราจะ
01:34:03 → 01:34:09 สังเกตยังไงว่าเราเข้าคีน adap แล้วอื
01:34:09 → 01:34:12 อย่างฆ่าเลือดอะไรอย่างเงี้ยครับมันมันดู
01:34:12 → 01:34:14 จากตรงไหนได้บ้างอะไรอย่างเงี้ยคราวนี้
01:34:14 → 01:34:17 จริงๆพี่หมอเคยยกตัวอย่างเคสมาแล้วล่ะมัน
01:34:17 → 01:34:21 มีเคสเคสที่เป็นพี่ผู้หญิงคนนึงเนาะอืที่
01:34:21 → 01:34:24 คีโตแต่ผมอ่ะขนาดทำเองผมยังตามไปหาไม่ได้
01:34:24 → 01:34:28 เลยเนี่ยเราทำเราทำกันมา 40 40 คลิปแล้ว
01:34:28 → 01:34:29 นะพี่หมอ
01:34:29 → 01:34:32 ครับเออแล้วพอดีวันนี้ช่วงช่วงนี้ลง
01:34:32 → 01:34:35 เรื่องคีโตนไงเาก็เลยถามว่าเออแล้วจะ
01:34:35 → 01:34:37 สังเกตจุดสังเกตได้ยังไงบ้างว่าร่างกาย
01:34:37 → 01:34:42 นี่เข้าคีโตนแล้วอะไรอย่างเงี้ย
01:34:42 → 01:34:46 ครับคือสังเกตน่ะนะสังเกตว่ากินอย่าง
01:34:46 → 01:34:50 เงี้ยแล้วร่างกายคียคีโตสิสนะอาจจะเป็น
01:34:51 → 01:34:53 ทางทั้ง f adap ket adap แล้วเนี่ยก็ 3
01:34:53 → 01:34:57 อย่างจากอาการและอาการแสดงอ่ะนะอันที่ 1
01:34:57 → 01:35:05 คือไม่หิวไม่หิวเอไม่หิวอ่าแต่ถ้าเกิดยัง
01:35:05 → 01:35:08 ไม่ adapt ยังไม่คีโตสิสอะไรเงี้ยมันก็
01:35:08 → 01:35:12 ยังจะมีหิวอยู่คือคำว่าไม่หิวเนี่ยไม่หิว
01:35:12 → 01:35:15 เนี่ยก็คือแบบอ
01:35:15 → 01:35:20 เอ่อมันจะมีความรู้สึกว่าว่าทุกว่าไม่ได้
01:35:20 → 01:35:23 มีความสนใจที่จะมาโฟกัสเรื่องอาหารน่ะฮะ
01:35:23 → 01:35:25 อืคืออย่างหมอเนี่ยหมอเป็นบอดี้ typ ทรง
01:35:25 → 01:35:28 พุงเครียดเนี่ยครับเอ่อคุณสมบัติอย่าง
01:35:28 → 01:35:31 หนึ่งทรงพุมเครียดก็คือคือไม่หิวกูก็กิน
01:35:31 → 01:35:35 ได้แล้วก็ในช่วงเวลาระหว่างอาหารเนี่ยเรา
01:35:35 → 01:35:38 จะนึกถึงแต่โปรแกรมอาหารเนี่ยนะฮะว่า
01:35:38 → 01:35:41 เนี่ยผ่านไปแล้วนะเอ่อประเดี๋ยวเราจะกิน
01:35:41 → 01:35:44 อะไรดีมื้อเย็นนี้นะอจะต้องอลังการงาน
01:35:44 → 01:35:49 สร้างขนาดไหนอแล้วนิสัยของคนพุงเครียด
01:35:49 → 01:35:52 เนี่ยเขาจะไม่กินซ้ำๆนะเขจะไม่กินซ้ำๆนะ
01:35:52 → 01:35:56 เอแล้วเขาจะกินทีเนี่ยเขาจะกินอะไรต่างๆ
01:35:56 → 01:35:59 เยอะแยะไปหมดเลยนะฮะแต่อย่างละนิดอย่างละ
01:35:59 → 01:36:03 นิดนะกินแบบบุฟเฟ่ต์อย่างละนิดครับขอให้
01:36:03 → 01:36:06 หลากหลายเออขอให้หลากหลายก็คือมันจะไม่
01:36:06 → 01:36:09 หิวก็นึกอยากจะกินแล้วก็ถ้ามีโฆษณาอะไร
01:36:09 → 01:36:12 ผ่านหูผ่านตามีรถแลกแจกแถมอะไรต่างๆเนี่ย
01:36:12 → 01:36:16 ก็จะตะลึงแล้วก็อยู่ในความทรงจำเดี๋ยว
01:36:16 → 01:36:20 เถอะยังไม่หมดโนะเดี๋ยวพุ่งนี้ืนี้มา
01:36:20 → 01:36:23 เรื่องนี้เป็นรายการต่อต่อไปแล้วล่ะมันจะ
01:36:23 → 01:36:24 เป็นอย่าง
01:36:24 → 01:36:29 งั้นไม่งั้นเครียดเออคียนน่ะมันคีย์โนมา
01:36:29 → 01:36:33 แล้วเงี้ยนะคีโนมาแล้วมันจะเพลินไปเลยฮะ
01:36:33 → 01:36:37 นะคือเขาจะไม่มาสนใจเรื่องความหิวไม่หิว
01:36:37 → 01:36:40 อิ่มแล้วอะไรแล้วอ่ะนะคือเค้าก็เรียกว่า
01:36:40 → 01:36:46 มันเป็นการอิ่มเต็มอ่ะอิ่มเต็มไปแบบชนิด
01:36:46 → 01:36:49 เอ่อไม่รู้สึกไม่รู้สึกไม่มีอาการอะไรเลย
01:36:49 → 01:36:53 อ่ะอื
01:36:53 → 01:36:57 อืคือไม่หิวนี่ก็ตั้งแต่เช้าหรือว่าเฉพาะ
01:36:57 → 01:37:00 ช่วงเวลาบางช่วงเวลาครับ
01:37:00 → 01:37:04 อ๋อส่วนใหญ่ไม่หิวเนี่ยเป็นช่วงหลังอาหาร
01:37:04 → 01:37:05 มื้อ
01:37:05 → 01:37:10 แรกคือคือได้กินแล้วเงี้ยแล้วก็จบแล้วก็
01:37:10 → 01:37:15 ไม่หิวอืไม่หิวไปไปเรื่อยๆเลยอ่ะไปไปยาว
01:37:15 → 01:37:21 ๆาไปเลยครับครับเพราะว่ามันสมองอ่ะสมอง
01:37:21 → 01:37:25 มันมันอิ่มเต็มะมันพอแล้วพลังงานจบ
01:37:26 → 01:37:30 แล้วคือความหิวส่วนใหญ่จะเป็นหิวพลังงาน
01:37:30 → 01:37:34 ครับจะเป็นจิตละเอียดเนี่ยนะที่
01:37:34 → 01:37:38 เา้าได้พลังงานไม่พอเขาจะต่อเชื่อมต่อ
01:37:38 → 01:37:40 พลังงาน
01:37:40 → 01:37:44 เ่อให้ให้ยาวๆไปเนี่ยไม่ได้อย่างเงี้ยนะ
01:37:44 → 01:37:47 เขาก็จะต้องสรรหาพลังงานโดยเรื่องของ
01:37:47 → 01:37:49 คอร์ติซอลเนี่ยลึกๆแล้วก็เป็นบทบาท
01:37:49 → 01:37:55 คอร์ติซอลที่ทำให้ไม่หิว่ะฮะ
01:37:55 → 01:38:00 อ๋อนั่นแหละพอที่พี่ไพโรจะว่ายังไงนะครับ
01:38:00 → 01:38:04 เมื่อกี้เหมือนจะมีอะไรถามแล้วแล้วมัน
01:38:04 → 01:38:06 ต่างแล้วแล้วแล้วที่เป็น Fat adap มันจะ
01:38:06 → 01:38:09 แตกต่างกันมครับที่ว่าไม่หิวเหมือนกัน
01:38:09 → 01:38:11 อย่างเงี้ยแฟน adap ก็ไม่หิวเหมือนกัน
01:38:11 → 01:38:14 หรือเปล่าครับใช่ฮะไม่หิวเหมือนกัน
01:38:14 → 01:38:18 นะอ๋องั้นก็ต้องดูทรายอื่นด้วยสิครับใช่
01:38:18 → 01:38:22 นะอันที่ 1 ก็ดูเรื่องเรื่องนี้เรื่องหิว
01:38:22 → 01:38:24 เรื่องอิ่มมันจะรู้สึกอิ่มมันจะรู้สึก
01:38:24 → 01:38:27 เอ่อเพลินๆไปไม่ต้องกินก็ได้ไม่ต้องนึก
01:38:27 → 01:38:30 ถึงอาหารแล้วก็ไม่ต้องมีมื้ออ่ะคือมันไม่
01:38:30 → 01:38:32 เป็นมื้ออ่ะไม่มีความที่จะต้องเป็นมื้อ
01:38:33 → 01:38:35 เช้ามื้อเที่ยงมื้อเย็นอะไรเงี้ไม่ต้อง
01:38:35 → 01:38:38 ครับแล้วหิเมื่อไหร่เดี๋ยวไปกินอะไรอย่าง
01:38:38 → 01:38:42 เงี้ยอาจจะไปลงเแบบนั้นเลยคนแบบเนี้ยเ
01:38:42 → 01:38:47 เรียกว่าเออเอ่อคีโตนมีมาแล้วนะแล้วก็
01:38:47 → 01:38:51 แสดงไแ syt แล้วอาการและการแสดงนะอันนี้
01:38:51 → 01:38:54 อันที่ 2 ก็คือมีเรี่ยวแรงกำลังวัง
01:38:54 → 01:39:00 ชานะก็คือไม่ง่วงไม่หลับไม่ซึมไม่เพลียนะ
01:39:00 → 01:39:03 แล้วก็มันเหมือนที่เเรียกว่าดีดน่ะนะคือ
01:39:03 → 01:39:08 มันเหมือนจะนั่งจะไปโน่นไปนี่จะไม่อยู่
01:39:08 → 01:39:12 สุขอ่ะนะดีอี
01:39:12 → 01:39:15 ดีหัวเราะเลยหัวเราะ
01:39:15 → 01:39:21 เลยโอเคครับผมแล้วก็อันต่อมาคือสุดท้ายก็
01:39:21 → 01:39:27 คือเรื่องสมองฮสมองนะสมองมันก็จะเค้า
01:39:27 → 01:39:30 เรียกว่ามันมันจะลื่นน่ะ
01:39:30 → 01:39:35 คือคือมันจะไม่รู้สึกง่วงเรื่องอยากนอน
01:39:35 → 01:39:39 อะไรอยากนิ่งอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะมันมัน
01:39:39 → 01:39:43 ก็จะทำงานมันจะคิดมันจะอะไรต่างๆไปเรื่อย
01:39:43 → 01:39:47 ๆอ่ะนะฮะมันคือมีการใช้สมองได้ดีอ่ะนะ
01:39:47 → 01:39:50 แล้วก็ใช้สมองอย่างไม่ถูกบังคับอ่ะไม่
01:39:50 → 01:39:55 เครียดนะมีความสุขอ่ะนะที่จะได้ที่สมอง
01:39:55 → 01:39:56 มันได้ใช้
01:39:56 → 01:40:00 คีโตนเ้าดู 3 เรื่องเยนะฮะอันที่ 1 คือ
01:40:00 → 01:40:03 ระบบทางเดินอาหารคือหิวเปล่าอิ่มมั้ยนะ
01:40:03 → 01:40:06 อันที่ 2 ก็คือพวกกล้ามเนื้อนะเอ่อที่จะ
01:40:06 → 01:40:09 เกิดการเคลื่อนไหวันที่ 3 ก็คือเรื่องของ
01:40:09 → 01:40:13 เบนนะฮะเรื่องของ
01:40:13 → 01:40:18 สมองถ้ามีสิ่งเหล่าเนี้ยก็แสดงว่าอ่ามี
01:40:18 → 01:40:22 คีโตนและมีคีโต adap และ
01:40:22 → 01:40:26 จุดจุดที่ต่างกับ fash adap อ่ะครับพี่
01:40:26 → 01:40:30 หมอจุดที่ต่างจาก fash adap นี่ต้องยาวๆ
01:40:30 → 01:40:33 ไปนิดนึงนะฮะยาวๆไปนิดนึงแล้วก็ต้องแยก
01:40:33 → 01:40:37 กันด้วยผลแลบอ่านี่แหละนี่แหละนี่แหละนี่
01:40:37 → 01:40:41 แหละนี่แหละก็ดังที่บอกนะฮะอันที่ 1 ก็
01:40:41 → 01:40:46 คือคือคนมันจะคีโตนได้เนี่ยนะคุณต้องมี
01:40:46 → 01:40:51 ความรู้แล้วคุณก็ต้องทำในแนวทางที่ที่ถูก
01:40:51 → 01:40:53 ต้องอ่ะคือกิน low C High Good Fat
01:40:53 → 01:40:56 ใช้น้ำมันพืชสกัดเย็นที่มีสัดส่วนมี
01:40:57 → 01:40:59 ปริมาณมีสารพรึกษาเคมีแล้วมาปรุงอย่างงี้
01:40:59 → 01:41:02 กินอะไรอย่างเงี้ยไม่กินตอนท้องว่างไม่
01:41:02 → 01:41:04 กินแบบเดี่ยวๆไม่กรอกน้ำมันอะไรอย่าง
01:41:04 → 01:41:08 เงี้ยนะฮะแล้วก็กินเป็นมื้อมื้อแรกอแล้ว
01:41:08 → 01:41:11 ก็มื้อเย็นอย่างงั้นอย่างงี้อะไร
01:41:11 → 01:41:15 เงี้ยครับอันเนี้ยต้องมีต้องมีต้องมีความ
01:41:15 → 01:41:20 รู้แล้วก็ต้องมีมีมีอะไรมีฮมีการกระทำที่
01:41:21 → 01:41:23 ที่เป็นจริงเป็นจังอ่ะนะแล้วก็ไม่ใช่ทำ
01:41:23 → 01:41:26 แค่วัน 2 วันอะไรอย่างงั้นก็ต้องทำไประยะ
01:41:26 → 01:41:30 ยาวนะฮอันที่ 1 เนี่ยนะคือการสร้างอันที่
01:41:30 → 01:41:34 2 ก็คือการใช้เนี่ยการใช้ก็
01:41:34 → 01:41:37 คือคือกว่าที่ร่างกายมันจะใช้คีโตนได้
01:41:37 → 01:41:39 เนี่ยมันไม่ได้อยู่ปุ๊บปั๊บใช้ได้นะมัน
01:41:39 → 01:41:42 ต้อง 3 วันขึ้นไปหรือเฉลี่ยก็คือประมาณ
01:41:42 → 01:41:47 เอ่อ 2 2 สัปดาห์นะ 2 สัปดาห์ถึงเป็น
01:41:47 → 01:41:52 เดือนแล้วแต่เร็วช้าในแต่ละบุคคล
01:41:52 → 01:41:57 แต่เร็วที่สุดคือ 3 72 ชมงอืมที่ร่างกาย
01:41:57 → 01:42:00 มัน sensitive ที่จะใช้คีโตนได้แล้วก็มี
01:42:00 → 01:42:04 อาการแบบที่บอกนะก็คือไม่หิวแล้วก็
01:42:04 → 01:42:07 เคลื่อนไหวดีออกแรงออกกำลังมีกำลังแรงงาน
01:42:07 → 01:42:11 อะไรเงี้ยแล้วก็สมองดีเอ่อสดชื่นกระปรี้
01:42:11 → 01:42:15 กระเป่าเ่อไม่ง่วงไม่งัวเงียไม่หลับๆตื่น
01:42:15 → 01:42:19 ๆหรือไม่แบบล้าน่ะไม่สมองไม่เนฟอะไรอย่าง
01:42:19 → 01:42:22 เงี้ย
01:42:22 → 01:42:24 อืแล้วก็สุดท้ายก็คือในระยะยาวเนี่ยก็
01:42:24 → 01:42:28 ต้องดูค่าผลแลปแล้วก็ดูตัวที่สำคัญที่สุด
01:42:28 → 01:42:31 เลยก็คือน้ำหนักรูปร่างสัดส่วนเปอร์เซ็น
01:42:31 → 01:42:34 body fat visceral Fat แล้วก็มวล
01:42:34 → 01:42:38 กล้ามเนื้อเพราะว่าคีโตนเนี่ยเป็นตัวลด
01:42:38 → 01:42:39 viser
01:42:39 → 01:42:44 Fat ที่สำคัญอืๆๆนะแล้วมันก็จะลดสับ Cut
01:42:44 → 01:42:46 Fat เนี่ยเพราะงั้นเปอร์เซ็นต body fat
01:42:46 → 01:42:51 ลดลง vis Fat ลดลงนะแล้วมันจะพรบ Muscle
01:42:51 → 01:42:55 sparing effect อ่ะเมันก็อ่ามวลกล้าม
01:42:55 → 01:43:00 เนื้อก็ไม่หายไปในระยะยาวนะนะแต่ถ้าคุณ
01:43:00 → 01:43:03 เป็น Fat adapt นะ Fat adapt เนี่ยเวลา
01:43:04 → 01:43:06 มันแค่ Fat adapt มันไม่คีน adapt เนี่ย
01:43:07 → 01:43:12 ก็คือก็คือคุณคุณก็ทำยังไงก็ได้ที่ให้ไข
01:43:12 → 01:43:15 มันมันให้ร่างกายมันใช้ไขมันแทนพลังงาน
01:43:16 → 01:43:20 อย่างอื่นน่ะนะก็คือคุณ If คุณไปออกแรง
01:43:21 → 01:43:27 ออกกำลังให้มันหักโหมเลยนะเอหรือคุณอดยาว
01:43:27 → 01:43:31 ๆโปรลองฟาดอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะอืๆพวกเ
01:43:31 → 01:43:33 มันก็ใช้ไขมันอยู่แล้วล่ะเพราะไม่มีอะไร
01:43:33 → 01:43:35 จะใช้อ่ะนะแต่มันจะใช้คีโตนด้วยหรือเปล่า
01:43:35 → 01:43:41 ไม่รู้นะมันไม่มีความพร้อมสัพน่ะที่จะที่
01:43:41 → 01:43:44 ที่จะใช้คีโตนนะหรือว่าคีโตนผลิตได้ไม่
01:43:45 → 01:43:47 ได้หรือตับเติบอินซูลินอะไรต่างๆมันพร้อม
01:43:48 → 01:43:52 หรือยังอะไรเงี้ยอืๆอือแล้วก็เรื่องการนำ
01:43:52 → 01:43:56 ไปใช้เนี่ยนะฮะเออถ้าร่างกายใช้แต่แฟต
01:43:56 → 01:43:59 แล้วไม่ไม่ได้ใช้คีโตนเลยเนี่ยนะฮะครับ
01:43:59 → 01:44:03 เอ่อในที่สุดเนี่ยมันในที่สุดเนี่ยร่าง
01:44:03 → 01:44:08 กายมันมันจะต้องมีการใช้แหล่งพลังงานอื่น
01:44:08 → 01:44:12 ๆเนี่ยนะเพราะว่ามันมันไม่ใช่พลังงานหลัก
01:44:12 → 01:44:16 นะที่ร่างกายเจะใช้ได้ยืนยาวอ่ะนะฮะแต่
01:44:16 → 01:44:20 คีโตนเนี่ยมันใช้ได้ไปตลอดแหละมันเป็น
01:44:20 → 01:44:23 เอ่อมันเป็นพลังงานเหนือพลังงานน่ะมัน
01:44:23 → 01:44:24 เป็น
01:44:24 → 01:44:28 มิราเคิลอะไรไม่รู้อ่ะนะที่ที่มันเป็นมหั
01:44:28 → 01:44:30 สารมหัศจรรย์น่ะเป็นทั้งพลังงานเป็นทั้ง
01:44:30 → 01:44:33 ฮอร์โมนน่ะเพราะฉะนั้นมันจะควบคุมได้หมด
01:44:33 → 01:44:36 แล้วคุณสามารถอยู่กับมันได้ไปยาวๆแต่ถ้า
01:44:36 → 01:44:38 คุณบอกว่าจะใช้แต่พลังงานไขมันลูกเดียว
01:44:38 → 01:44:42 อะไรต่างๆนะคุณใช้ๆๆๆไปแล้วเนี่ยเดี๋ยวก็
01:44:42 → 01:44:45 ฮอร์โมนเครียดมันก็ออกมาแล้วมันก็จะเอา
01:44:45 → 01:44:47 โปรตีนมาใช้ช่วยกัน
01:44:47 → 01:44:52 ไปแล้วคุณก็ผอมเอ่อแบบเข้าโหมดอะไรแอิ
01:44:53 → 01:44:55 restriction แล้ว ST เชอะไรอย่างเงี้ย
01:44:55 → 01:44:59 แล้วยูริก็จะสูงเลมนก็จะพูค่าแหบในข้อที่
01:44:59 → 01:45:03 3 เนี่ยนะมันก็จะพิสูจน์ให้เห็นน่ะว่า
01:45:03 → 01:45:07 มันเริ่มตีกลับแล้วนะเป็นอะไรออ๋อเอ่อเ่อ
01:45:07 → 01:45:12 fing บั chuka สูงขึ้นเป็นฟมอแล้วก็อะไร
01:45:12 → 01:45:16 อ่ะ a1c เริ่มมาแล้วเอ TG เริ่มมาเอ่อ
01:45:16 → 01:45:21 แล้วก็ a1c เริ่มสะสมแล้วก็ไอ้ตัวการดื้อ
01:45:21 → 01:45:24 อินซูลินอะไรฮ่า ir อะไรต่างๆเนี่ย
01:45:24 → 01:45:28 เปลี่ยนแปลงนะครับอย่างเงี้ยเออแล้วก็ค่า
01:45:28 → 01:45:31 แลบต่างๆมันก็จะไม่โชว์ของการเป็น Fat
01:45:31 → 01:45:37 burner อืๆเริ่มตีกลับไปในทางที่ไม่ดีอื
01:45:37 → 01:45:40 ครับสมดุลของฮอร์โมนเสียด้วยทุกอย่างเสีย
01:45:40 → 01:45:43 หมดมันมันมันก็เหมือนกับเคสเมื่อกี้ที่
01:45:43 → 01:45:47 คุณหมอยกตัวอย่างมาใช่มั้ยครับผมที่ใช่
01:45:47 → 01:45:49 น้ำตาลครับ
01:45:49 → 01:45:53 ผมอ๋อต้นเหตุมันอยู่ตรงนี้ครับที่คีโตน
01:45:53 → 01:45:57 แล้วก็การใช้ไขมันมากเกินไปครับผมใช่
01:45:57 → 01:46:02 ฮะแล้วคุณใช้คีโตนไม่ได้ไงนะคุณไปไม่ถึง
01:46:02 → 01:46:04 ดวงดาวอ
01:46:04 → 01:46:09 เออไปไม่ถึงดวงดาวก็คือเอ่อคุณก็ตัดคาฟ
01:46:09 → 01:46:13 คุณก็โลคาฟเอ่อแต่คุณก็ไม่ได้กินน้ำมัน
01:46:13 → 01:46:17 ที่ถูกต้องหรือพลังงานที่ถูกต้องนะแล้วก็
01:46:17 → 01:46:22 คุณก็ไปโอเวอร์โปรตีนแล้วก็ไขมันในโปรตีน
01:46:22 → 01:46:24 น่ะซึ่งมันเป็นไขมัน
01:46:24 → 01:46:29 สัตว์ความที่มันจะเป็นพลังงานเนี่ยมันไม่
01:46:29 → 01:46:32 เป็นพลังงานแบบเต็มใจนักอ่ะนะฮะไอ้พวกไข
01:46:32 → 01:46:36 มันที่อยู่ในสัตว์เี่เออครับแล้ว
01:46:36 → 01:46:40 ไมโทคอนเดรียของเราเนี่ยเค้าก็ถือว่ามัน
01:46:40 → 01:46:41 เป็น
01:46:41 → 01:46:47 เตี้อะไรอ่ะเตี้คีโตนน่ะเวลาที่เเอาจำใจ
01:46:47 → 01:46:50 ต้องเอาไขมันจากสัตว์ไปใช้เป็นพลังงานออื
01:46:50 → 01:46:53 มันเป็นเตี้คีโตนน่ะมันไม่ใช่เป็นคีโตน
01:46:53 → 01:46:57 ที่สะอาดบริสุทธิ์ครับเลี่ยมเลเรนะแต่ถ้า
01:46:57 → 01:47:01 ค้าเอาน้ำมันสกัดเย็นจากน้ำมันพืชอะไร
01:47:01 → 01:47:03 เงี้ยแล้วมันยังมีตัวรักษาเครื่องยนต์ก็
01:47:03 → 01:47:05 คือมีสารพฤกษาเคมีด้วยอะไรด้วยเพราะ
01:47:05 → 01:47:08 ฉะนั้นไมโตคอนเดี่เนี่ยมันก็จะต้องมี
01:47:08 → 01:47:11 ออกซิเจนมีการออกซิเดชันอะไรต่างๆมีสนิม
01:47:11 → 01:47:14 มีอนุสละแล้วมันมีสารพรึกษาเคมีมาช่วย
01:47:14 → 01:47:17 อะไรอย่างเงี้ยไมโตคอนเดรียเชอบอันนี้มาก
01:47:17 → 01:47:21 กว่าครับแล้วมันดีต่อร่างกายเราอ่ะนะ
01:47:21 → 01:47:26 อนุมูลอิสระเราก็ไม่เยอะอคุณหมอพูดมานานะ
01:47:26 → 01:47:29 ที่บอกว่าพลังงาน
01:47:29 → 01:47:33 สำคัญเพราะว่าเพราะว่าทางทางสาย ow Fat
01:47:33 → 01:47:37 ลขาบอะไรพวกเนี้ยคีโตเนี่ยส่วนมากจะพูด
01:47:37 → 01:47:41 แต่เรื่องสารอาหารอืจะไม่ได้พูดเรื่อง
01:47:41 → 01:47:44 พลังงานเพราะคิดว่าพลังงานมันเหลือเฟือ
01:47:44 → 01:47:47 พลังงานมันมีเยอะอะไรอย่างเงี้ยอือแต่ขาด
01:47:47 → 01:47:50 สารอาหารแต่ทั้งๆจริงๆแล้วเนี่ย
01:47:50 → 01:47:54 อ่ะมันเป็นพลังงานที่เอามาใช้ไม่ได้นะพี่
01:47:54 → 01:47:59 หมอเอพลังงานไม่สะอาดอ่ะก็เป็นพอใช้ได้
01:47:59 → 01:48:02 แต่ว่ามันได้เป็นเตี้คีโตน
01:48:02 → 01:48:06 อือืทนี้เตี้คีนมันก็ไม่ได้มีคุณสมบัติ
01:48:06 → 01:48:12 เป็นคีโตน DD 1 2 3 แบบที่หมอบอกนะก็
01:48:12 → 01:48:16 คือ 1 ครับเอ่อเอ่ออะไรนะรู้สึกอิ่มไม่
01:48:16 → 01:48:21 หิว 2 มีเรี่ยวแรงกำลังวังชา 3 3 เ่อมี
01:48:21 → 01:48:25 อะไรอ่ะมีสมองดีอ่ะมีการทำงานของสมองดี
01:48:25 → 01:48:30 เบนฟังก์ชันเอ่อเอ่อ memmory อะไรต่างๆ
01:48:30 → 01:48:33 มันดีอะไรอย่าเงี้ยมันไม่ไม่ใช่ผมผมว่า
01:48:33 → 01:48:36 ทุกคนในนี้น่าน่าจะผ่านประสบการณ์พวกนี้
01:48:36 → 01:48:38 มาหมดแล้วนะครับทั้งทั้งพี่เนสทั้งพี่
01:48:38 → 01:48:43 ไพโรจนะเรื่องดีแล้วครับปัญหามันมาเป็น
01:48:43 → 01:48:46 ช่วงๆเพราะว่าผมผม่ะมีปัญหากับการกิน
01:48:46 → 01:48:50 เพราะว่ามันไม่หิวไงอืใช่ครับผมมันไม่หิว
01:48:50 → 01:48:54 แล้วเราถึงเวลาเราเราจำเป็นต้องกินเพราะ
01:48:54 → 01:48:57 ว่าเพราะว่าเราสร้างกล้ามอนะ
01:48:57 → 01:49:02 อืใช่ๆครับมันมาเป็นช่วงๆก็คืออย่างงี้แง
01:49:02 → 01:49:04 ว่าเราเราเราก็ต้องเจาะหรือเป่าช่วงก่อน
01:49:04 → 01:49:06 ที่จะกินถึงจะเห็นว่ามีคีโตหรือไม่มี
01:49:07 → 01:49:11 คีโตนอย่างนี้ถูกมครับอืโอ้แต่ถ้าอาการ
01:49:11 → 01:49:14 แบบที่พี่หมอบอก่ะมันใช่เลยไงไอ้เรื่อง
01:49:14 → 01:49:17 ไม่หิวเรื่องอะไรพวกเยมันแต่ปกติเราจะ
01:49:17 → 01:49:19 ง่วงตอนบ่ายๆด้วยนี่ก็ไม่มียิ่งยิ่งบ่าย
01:49:19 → 01:49:21 ยิ่งดียิ่งบ่ายิ่งดีด
01:49:21 → 01:49:24 เนี่ยอื
01:49:24 → 01:49:29 เออคือคำบอกว่ากินเท่าไหร่ก็ได้กินอะไรก็
01:49:29 → 01:49:34 ได้หิวกินแล้วอิ่มหยุดเนี่ยมันใช้ไม่ได้
01:49:34 → 01:49:37 กับ low C High Good Fat อันนี้จริง
01:49:37 → 01:49:40 อย่างยิ่งเพราะว่ามันไม่
01:49:40 → 01:49:45 หิวคืออย่าลืมว่าร่างกายมี 2 ช่องทางคู่
01:49:45 → 01:49:50 ขนานเสมอกายหยาบกายละเอียดนะไอ้คำว่าไม่
01:49:50 → 01:49:53 หิวเนี่ยแปลว่ากายละเอียดเนี่ยมีพลังงาน
01:49:53 → 01:49:58 เต็มแต่กายหยาบเค้าขาดสารอาหารอืมอเพราะ
01:49:58 → 01:50:00 ฉะนั้นต้องปรับความพอดีให้กายหยาบกาย
01:50:00 → 01:50:04 ละเอียดทั้งพลังงานและสารอาหารน่ะนะให้
01:50:04 → 01:50:08 มันให้มันได้อ่ะฮะให้มันได้เราก็มีหน้า
01:50:08 → 01:50:11 ที่แค่นั้นแหละอืคนงานพร้อมแล้วพอสาร
01:50:11 → 01:50:15 อาหารบคนงานพร้อมแล้วเหลือแต่ส่งวัสดุก่อ
01:50:15 → 01:50:20 สร้างเข้าไปอืใช่ครับผมเออผมผมก็เห็นเป็น
01:50:20 → 01:50:24 ภาพอย่างเงี้นะพอถึงเวลาักที่พอหมดมื้อ
01:50:24 → 01:50:26 แรกไปแล้วนี่เหมือนเราเอาคนงานเข้าไปนะ
01:50:26 → 01:50:30 พี่หมออืพอคนงานพร้อมปั๊บสักักมื้อต่อไป
01:50:30 → 01:50:33 เราก็ซัดเลยใส่ปูนใส่อิฐเข้าไปเลยคราวนี้
01:50:33 → 01:50:38 ก็สนุกเลยอก็ตามตามที่พี่หมอบอกอ่ะครับ
01:50:38 → 01:50:41 อือแต่ว่าจะอธิบายให้คนทั่วไปฟังมันยากไง
01:50:41 → 01:50:45 ถ้าไม่ทำนะอืถ้าไม่ทำยังไงก็ไม่เข้าใจถ้า
01:50:45 → 01:50:49 ถ้าถ้าคุณจะไปกินแบบแบบอะไรอ่ะไขมันที่
01:50:49 → 01:50:52 มันผสมมาในอาหารอย่างเงี้ยโอกาสจะเข้าใจ
01:50:52 → 01:50:59 คำว่าคำว่าอิ่มจากคีโตนเนี่ยมันมันยากไง
01:50:59 → 01:51:05 อืเพราะฉะนั้นคำว่าเกิดคีโตนมั้ยเอ่อเอ่อ
01:51:05 → 01:51:07 เกิดออโตฟี้
01:51:07 → 01:51:12 มั้ยเกิดอะไรล่ะเอ่อการสร้างสเต็มเซลล์
01:51:12 → 01:51:15 ใหม่อะไรมั้ยอะไรอย่างเงี้ยครับส่วนใหญ่
01:51:15 → 01:51:18 เราไปถึงสิ่งเหล่านี้กัน
01:51:18 → 01:51:22 ยากจริงครับไม่ได้ง่ายไม่ได้
01:51:22 → 01:51:24 [เพลง]
01:51:24 → 01:51:29 ง่ายจริงครับเออทฤษฎีเนี่ยมันดูเหมือน
01:51:29 → 01:51:34 ง่ายอ่ะแต่ทางปฏิบัติเนี่ยมันไม่
01:51:35 → 01:51:39 ง่ายการจะทำให้ฮอร์โมนเราสมดุลนะเออการจะ
01:51:39 → 01:51:43 ที่จะรู้จังหวะเค้าเรียกอะไิีิิิของของ
01:51:43 → 01:51:47 ฮอร์โมนน่ะจังหวะการทำงานของมันน่ะอือ
01:51:47 → 01:51:51 อันเนี้ยก็ไม่มีคนบอกว่าฮอร์โมนแต่ละอัน
01:51:51 → 01:51:54 แต่ละตัวมันมันมีเวลาช่วงเวลาที่มันจะทำ
01:51:54 → 01:51:58 งานของมันอมันจะนอนมันจะพักเราก็ไปปลุก
01:51:58 → 01:52:01 มันขึ้น
01:52:01 → 01:52:06 มา
01:52:06 → 01:52:10 เออใช่ๆ
01:52:10 → 01:52:13 ครับเดี๋ยวสงสัยต้องกลับไปขุดเรื่องคีโตน
01:52:13 → 01:52:18 เอามาเอามาคุยกันอีกนะพี่
01:52:18 → 01:52:21 หมอ
01:52:21 → 01:52:27 โอเคมีมีใครจะถามอะไรยังไงมยครับคือ
01:52:27 → 01:52:32 สำหรับเรื่อง If เรื่องอดเนี่ยนะถ้าเทียบ
01:52:32 → 01:52:35 ความสำคัญในเก้าอี้ 4 ขาแล้วเนี่ยเอ่อใน
01:52:35 → 01:52:37 ทางของ ow C High fash เนี่ยเขาให้
01:52:37 → 01:52:42 ความสำคัญอันดับที่โที่ 4 นะฮะอันดับที่ 1
01:52:42 → 01:52:45 คือเรื่องอินอันดับ 2 คือนอนอันดับ 3 คือ
01:52:45 → 01:52:50 การออกแรงออกกำลังออกกำลังกายนะแลอันดับ 4
01:52:50 → 01:52:52 ก็คือการนี่แหละ
01:52:53 → 01:52:56 เอ่อการทำ If หรือการ
01:52:56 → 01:53:02 อดแสลงหูมากเลยทีนี้ถ้าแบ่งเป็นในกรณีของ
01:53:02 → 01:53:05 คนอ้วนกับสม
01:53:05 → 01:53:10 สวน่เออนะถ้าเป็นอ้วนสมส่วนค่อนอ้วนเนี่ย
01:53:10 → 01:53:14 เอ่อเราจะต้องให้ความสำคัญกับอาหารก่อนนะ
01:53:14 → 01:53:18 ฮะนะแล้วตามมาด้วยการนอนหลับนะ
01:53:18 → 01:53:23 แล้วแล้วพอ 2 เรื่องเนี้ยนะอยู่ในเกณฑ์
01:53:23 → 01:53:27 ที่ที่พอเข้าที่เข้าทางแล้วเนี่ยนะเราถึง
01:53:27 → 01:53:33 จะเริ่มด้วยการทำ If นะแล้วไปลงเอยที่การ
01:53:33 → 01:53:34 ออกแรงออก
01:53:34 → 01:53:37 กำลัง
01:53:37 → 01:53:42 อืแต่ถ้าเป็นคนผอมหรือสมส่วนค่อนผอมเนี่ย
01:53:42 → 01:53:45 ก็เริ่มที่อาหารการนอนแล้วก็ออกแรงออก
01:53:45 → 01:53:53 กำลังนะฮะ If แทบจะ
01:53:53 → 01:53:57 ไม่คือถ้าทำไอก็ทำแบบอาทิตย์ละครั้ง 2
01:53:57 → 01:54:02 ครั้งเอ่อพอเป็นเปลี่ยน
01:54:02 → 01:54:05 บรรยากาศประมาณนี้แหละอื
01:54:06 → 01:54:10 อืแต่ทั้งหมดทั้งหลายทั้งปวงเนี่ยกินนะ
01:54:10 → 01:54:13 กินเนี่ยต้องให้เป็นให้ถูกให้ได้ก่อน
01:54:13 → 01:54:16 เพราะเป็นพื้นฐานของทุกอย่างถ้าไม่ผ่าน
01:54:16 → 01:54:18 เรื่องกินเนี่ยจะไปเรื่องนอนเรื่องไ
01:54:18 → 01:54:23 เรื่องออกแรงออกกลังมันก็จะยากหน่อยครับ
01:54:23 → 01:54:30 เอออืมเรื่องกินสำคัญที่สุดเลยเนาะอืมแต่
01:54:30 → 01:54:34 คนส่วนใหญ่ก็ยังกินไม่ค่อยถูกนะเราเก็มา
01:54:34 → 01:54:38 ถามเรื่องค่าแลบเรื่องโน่นเรื่องนี่อะไร
01:54:38 → 01:54:40 ต่างๆเนี่ยเราก็ไม่รู้จะไปบอกเ้าว่ายังไง
01:54:40 → 01:54:45 ว่านะมันยังไม่ถูกยังกินไม่เป็นยังกินยัง
01:54:45 → 01:54:46 ไม่ใช่อ่ะ
01:54:46 → 01:54:51 เออเอถ้าเกิดไม่แก้เรื่องการกินให้ดีๆไป
01:54:51 → 01:54:54 แก้นู่นแก้นี่ไปปรับนู่นปรับนี่อะไรต่างๆ
01:54:54 → 01:54:59 เนี่ยมันก็มันก็ไม่รู้่ะมันก็ยังยังไม่ไป
01:54:59 → 01:55:02 ไม่มาอะไรนักอ่ะเอ้อไม่ใช่คำตอบที่ตรงอ่ะ
01:55:02 → 01:55:06 เอกว่าจะเข้าใจกว่าจะเข้าใจได้นิดนึง
01:55:06 → 01:55:10 เนี่ยเรื่องนอนยังสำคัญกว่าเลยนะโออันนี้
01:55:10 → 01:55:16 อันนี้อันนี้เออจริงเว้ยเพราะว่าเรากิน
01:55:16 → 01:55:21 เราไม่ชอบอดเราชอบนอนเราไม่ชอบออกแรงออก
01:55:21 → 01:55:26 กำลังอืๆถึงถึงความสำคัญถึงเอาไว้หลังๆ
01:55:26 → 01:55:29 กันนะพี่หมอน
01:55:29 → 01:55:35 นะกินผิดทุกอย่างก็ผิดหมด
01:55:35 → 01:55:39 อืโอเคครับใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมมั้ย
01:55:39 → 01:55:43 ครับไม่มีครับไม่มีงั้นเดี๋ยวเราปิดปิด
01:55:43 → 01:55:46 ไลฟนี้กันก่อนเนาะเดี๋ยวจะเดี๋ยวจะออกออก
01:55:46 → 01:55:50 ทะเลไปมากกว่านี้ใช่ครับผม
01:55:50 → 01:55:53 โอเคครับขอบคุณพี่หมอทุทุคนครับเอครับ
01:55:53 → 01:55:56 ครับขอบคุณพี่หมอมากครับขอบคุณครับขอบคุณ
01:55:56 → 01:55:59 คุณหมอมากสวัสดี
01:56:00 → 01:56:08 [เพลง]
01:56:08 → 01:56:09 [ปรบมือ]
01:56:09 → 01:56:18 [เพลง]
01:56:18 → 01:56:21 ครับ
01:56:21 → 01:56:30 [เพลง]
01:56:30 → 01:56:33 เ