ไฟเบอร์ในอาหารพืชมีบทบาทอย่างไรต่อระบบย่อยอาหาร

โปรตีนพืช ทางเลือกสุขภาพดี by หมอแอมป์ [Dr. Amp Guide👨‍⚕️ & Dr.Amp Podcast]

จากช่อง : DrAmp Team


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:1400:00:16 สวัสดีครับท่านผู้ฟังทุกท่าน

00:00:1600:00:20 พบกับรายการ Dr.Amp Podcast กับผม หมอแอมป์

00:00:2000:00:23 วันนี้เราจะมาคุยกันในเรื่องอาหารการกิน

00:00:2300:00:25 หมอขอตั้งชื่อตอนว่า

00:00:2500:00:27 โปรตีนจากพืช

00:00:2700:00:29 หลายๆ ท่านฟังอาจจะสงสัยว่า

00:00:2900:00:32 ไม่ใช่โปรตีนเราต้องกินเนื้อสัตว์ เราต้องกินอาหารทะเล

00:00:3200:00:36 เราต้องกินไข่หรอครับ เราถึงจะได้โปรตีน

00:00:3600:00:40 วันนี้ก็เลยอยากจะมาขยายความให้เข้าใจมากขึ้นว่า

00:00:4000:00:42 ในปัจจุบัน ในวิทยาศาสตร์การแพทย์

00:00:4200:00:48 ได้มีการแบ่งแยกเป็น โปรตีนจากสัตว์และโปรตีนจากพืช

00:00:4800:00:51 หลายๆ คนอาจจะทราบอยู่แล้ว หลายๆ คนอาจจะทานอยู่แล้ว

00:00:5100:00:54 หลายๆ คนเป็นมังสวิรัติ หลายๆ คนชอบกินเจ

00:00:5400:00:57 หรือบางคนกินทั้งเนื้อสัตว์ด้วยกินผักด้วย

00:00:5700:01:01 วันนี้ก็เลยอยากจะนำข้อดีข้อเสียมาสรุปให้ฟัง

00:01:0100:01:03 หมอพูดมาหลายตอนว่า

00:01:0300:01:08 โรคอ้วนคือสิ่งที่หมอแอมป์และทีมงานพยายามจะต่อสู้มาตลอด

00:01:0800:01:11 หลายๆ ท่านที่ต่อสู้กับโรคอ้วนอยู่นี่ก็กลับรู้สึกว่า

00:01:1100:01:14 ของที่เราชอบทำไมเป็นของไม่ดีทุกที

00:01:1400:01:18 ของที่อร่อยทำไมถึงเป็นของที่ทำให้น้ำหนักเยอะ

00:01:1800:01:19 หรือเป็นโรคหัวใจ

00:01:1900:01:22 วันนี้ก็ต้องมาปรับตัว ปรับลิ้นกันนะครับ

00:01:2200:01:24 ศึกษาความรู้กันให้มากขึ้น

00:01:2400:01:27 แล้วก็จะค่อยๆ ปรับ

00:01:2700:01:31 ตัวหมอเองก็ยังรับประทานได้ไม่ดี 100%

00:01:3100:01:33 บางวันหมอก็ทานดีมาก

00:01:3300:01:36 ทานไฟเบอร์เยอะ ทานพืชผักเยอะ ทานธัญพืชเยอะ

00:01:3600:01:40 บางวันก็ต้องแอบกระซิบว่ามีวันครอบครัว

00:01:4000:01:41 มีวันขี้โกงบ้างเหมือนกัน

00:01:4100:01:44 เพราะเราต้องบาลานซ์วันอยู่กับสังคม

00:01:4400:01:46 การอยู่กับเพื่อนฝูง

00:01:4600:01:50 หมอจะไม่มาขีดเส้นว่าต้องทำแบบนี้ ต้องทำแบบนั้น

00:01:5000:01:53 ทุกคนต้องรู้คอนเซปต์หรือรู้ข้อมูลก่อน

00:01:5300:01:56 แล้วเราจะไปปรับตัวอย่างไร เราค่อยๆ ทำ

00:01:5600:01:58 เพราะถ้าหมอทำเองไม่ได้ 100%

00:01:5800:02:01 หมอก็จะไม่บอกให้ท่านผู้ฟังทำ 100% เช่นกัน

00:02:0100:02:06 แต่ถ้าใครทำได้มากๆ ก็ถือว่ายกนิ้วให้ ยกดาวให้

00:02:0600:02:08 วันนี้เรามาเริ่มต้นกันครับว่า

00:02:0800:02:11 มีการวิจัยไว้ใหม่ล่าสุดเลย ในปี ค.ศ. 2020

00:02:1100:02:18 The American Heart Association Epidemiology and Prevention | Lifestyle & Cardiometabolic

00:02:1800:02:22 ก็คล้ายๆ กับสมาคมโรคหัวใจของประเทศสหรัฐอเมริกา

00:02:2200:02:26 เขาทดลองเก็บข้อมูลในคนประมาณ 37,000 คน

00:02:2600:02:29 อายุเฉลี่ยประมาณ 50 ปี

00:02:2900:02:31 ที่ทานอาหารต่างๆ

00:02:3100:02:36 พบว่าคนที่ทานโปรตีนพืชแทนโปรตีนเนื้อสัตว์

00:02:3600:02:37 1 หน่วยบริโภค (Serving) ต่อวัน

00:02:3700:02:39 เราเข้าใจคำว่า 1 หน่วยบริโภคก่อน

00:02:3900:02:42 1 หน่วยบริโภคก็คือ โปรตีนประมาณเกือบๆ 1 ขีด

00:02:4200:02:46 วางบนฝ่ามือเรา ไม่นับนิ้วนะ จะวางบนฝ่ามือได้พอดี

00:02:4600:02:49 หรือคิดภาพก็คือเนื้อสัตว์ประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ

00:02:4900:02:52 ถ้าเป็นกรัมก็คือประมาณ 85 กรัม

00:02:5200:02:55 คนอเมริกันเฉลี่ยกินเนื้อสัตว์ประมาณ

00:02:5500:02:59 3.5-4 หน่วยบริโภคต่อวัน ก็คือเยอะ

00:02:5900:03:01 ประมาณเกือบๆ 3-4 ขีด ทุกวัน

00:03:0100:03:03 เขาวิจัยว่า

00:03:0300:03:07 ถ้าเปลี่ยนเนื้อสัตว์ 1 หน่วยบริโภค (ประมาณ 6 ช้อนโต๊ะ)

00:03:0700:03:09 ไปเป็นโปรตีนพืช

00:03:0900:03:13 ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจได้ถึง 29%

00:03:1300:03:17 อีกคณะหนึ่งครับ คณะ Dr.Al-Shaar จาก Harvard

00:03:1700:03:21 เขาก็พิมพ์การวิจัยลงได้ American Heart Association

00:03:2100:03:23 ในปี ค.ศ. 2020 นี่แหละว่า

00:03:2300:03:28 การทดแทนเนื้อแดงด้วยโปรตีนถั่ว 1 มื้อ ก็คือ 1 หน่วยบริโภค

00:03:2800:03:31 เปลี่ยนจากโปรตีนสัตว์ มาเป็นโปรตีนถั่ว

00:03:3100:03:35 ลดอัตราการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 17%

00:03:3500:03:38 แล้วถ้าเปลี่ยนเนื้อแดงเป็นธัญพืช

00:03:3800:03:43 ธัญพืชก็คือมีผักมีพืชมีถั่วต่างๆ ที่ไม่ใช่ถั่วแบบเปลือกแข็ง

00:03:4300:03:48 ก็จะลดอัตราการเกิดโรคหัวใจในผู้ชายได้ 48%

00:03:4800:03:51 โอ้โห ฟังดูแล้วข่วยได้เยอะเลยใช่ไหมละครับ

00:03:5100:03:53 ไปกันต่อครับถึงข้อมูลเพิ่มเติมว่า

00:03:5300:03:56 WHO หรือองค์การอนามัยโลก

00:03:5600:03:58 เขาจะมีแผนกหนึ่ง ชื่อว่า IARC

00:03:5800:04:01 ก็คือแผนกวิจัยเรื่องโรคมะเร็งนี่แหละครับ

00:04:0100:04:04 เนื้อแปรรูปหรือที่เรียกว่า Processed meat

00:04:0400:04:06 เป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มแรงสุด

00:04:0600:04:09 คือกลุ่ม 1 คือก่อให้เกิดมะเร็งแน่นอน

00:04:0900:04:12 ถ้าคนเรากินสารเหล่านี้เข้าไป เนื้อแปรรูปเข้าไป

00:04:1200:04:15 ต้องระมัดระวังเรื่องมะเร็งมาก

00:04:1500:04:17 เนื้อแปรรูปมีอะไรบ้าง ก็ที่ทำมาแหละครับ

00:04:1700:04:23 ไม่ว่าจะเป็นแฮม ซาลามี เบคอน ไส้กรอก

00:04:2300:04:26 ถ้าบ้านเราก็มีแหนม มีหมูยอ มีกุนเชียง

00:04:2600:04:27 ต้องทานน้อยๆ นะครับ

00:04:2700:04:30 นานๆ ทานทียังพออะลุ่มอล่วย

00:04:3000:04:33 บางคนทานบ่อยๆ บางคนทานตลอด ต้องระมัดระวัง

00:04:3300:04:35 มีการวิจัยไว้ครับ

00:04:3500:04:39 การทานเนื้อแปรรูป 50 กรัมต่อวัน ก็คือครึ่งขีด

00:04:3900:04:41 ถ้าไส้กรอกก็ 2 ชิ้น

00:04:4100:04:45 เพิ่มอัตราการเป็นโรคมะเร็งลำไส้ถึง 18%

00:04:4500:04:48 เพิ่มอัตราการเป็นโรคเบาหวานถึง 51%

00:04:4800:04:51 Processed meat หรือเนื้อแปรรูปก็จะอันตรายมาก

00:04:5100:04:53 รองลงมาคือเนื้อแดง

00:04:5300:04:56 เนื้อแดงที่องค์การอนามัยโลกวิจัยไว้ก็จะประกอบไปด้วย

00:04:5600:04:59 เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ

00:04:5900:05:02 3 ตัวนี้ ถ้าทานเกินวันละ 1 ขีด

00:05:0200:05:05 ก่อให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้สูงถึง 17%

00:05:0500:05:08 และอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งกลุ่ม 2A

00:05:0800:05:10 ฟังมาแบบนี้เป็นอย่างไรครับ

00:05:1000:05:12 กลัวเลยใช่ไหมครับ บอกหมอแอมป์มาขู่อีกแล้ว

00:05:1200:05:15 ทานนั่นก็ไม่ได้ ทานนี่ก็ไม่ได้ แล้วจะให้ทานอะไร

00:05:1500:05:18 วันนี้ไม่ได้มาบอกว่าต้องทานอะไร

00:05:1800:05:22 วันนี้จะมาช่วยแชร์ ช่วยเล่าให้ฟัง ช่วยปรึกษากันว่า

00:05:2200:05:25 เราควรจะทานอาหารให้พอดีขึ้น

00:05:2500:05:29 หมอเองก็ยังทานเนื้อแดงอยู่บ้าง เนื้อแปรรูปนานๆ ก็มีที

00:05:2900:05:32 แต่พยายามลด ละ ยังเลิกไม่ได้

00:05:3200:05:33 ทำต่อไปทีละน้อย

00:05:3300:05:35 วันนี้พอเรามาคุยกันในเรื่องโปรตีนพืช

00:05:3500:05:37 หมออยากจะมาสื่อว่า

00:05:3700:05:40 เวลาเราลดจากโปรตีนเนื้อสัตว์เนี่ย

00:05:4000:05:43 เราเปลี่ยนเป็นโปรตีนพืชบ้าง บางมื้อก็ยังดี

00:05:4300:05:46 บางวันต่ออาทิตย์ก็ยังดี ค่อยๆ ทำ

00:05:4600:05:48 แล้วร่างกายเราจะปรับตัว

00:05:4800:05:50 วันนี้เราเลยจะมาคุยกันว่า

00:05:5000:05:54 โปรตีนพืชนี้ดีอย่างไร ทำไมเอามาแทนโปรตีนเนื้อสัตว์

00:05:5400:05:59 เขาถึงวิจัยในอเมริกาว่าช่วยลดโรคหัวใจ ช่วยลดโรคนั้น โรคนี้

00:05:5900:06:02 ในโปรตีนพืชครับ ข้อที่ 1

00:06:0200:06:05 พืชมีไฟเบอร์เยอะ เรามารู้จักไฟเบอร์กันก่อน

00:06:0500:06:08 ไฟเบอร์ก็คือเส้นใยหรือกากใย

00:06:0800:06:10 มีทั้งหมด 3 รูปแบบ

00:06:1000:06:15 รูปแบบที่ 1 ชื่อ Soluble fiber หรือไฟเบอร์ที่ละลายในน้ำได้

00:06:1500:06:18 ตัวไฟเบอร์หรือกากใยนี้ก็จะช่วยลดน้ำตาลในเลือด

00:06:1800:06:20 ช่วยลดไขมันในเลือด เช่น คอเลสเตอรอล

00:06:2000:06:24 ช่วยให้การย่อยอาหารในลำไส้ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป

00:06:2400:06:29 ตัวที่ 2 ก็คือ Insoluble fiber คือไฟเบอร์ที่ไม่ละลายในน้ำ

00:06:2900:06:33 ตัวนี้เมื่อไม่ละลายแล้วก็เป็นตัวเกาะของมวลอุจจาระ

00:06:3300:06:35 ทำให้ระบบขับถ่ายเราปกติ

00:06:3500:06:37 ทำให้เรามีมวลอุจจาระออกมา

00:06:3700:06:39 ป้องกันไม่ให้เราท้องผูก

00:06:3900:06:43 แล้วตัวที่ 3 ของไฟเบอร์ก็คือ Fermentable fibers

00:06:4300:06:46 คือ ไฟเบอร์ที่เพิ่มการหมักของระบบการย่อยอาหาร

00:06:4600:06:49 ในลำไส้เรามีแบคทีเรียอยู่เต็มไปหมด

00:06:4900:06:51 มีทั้งชนิดดี มีทั้งชนิดไม่ดี

00:06:5100:06:55 ในตัวคนเรามีแบคทีเรียอยู่เป็นล้านๆ เซลล์

00:06:5500:06:57 ถ้าเอามารวมกันแบบมองไม่เห็นด้วยตาเนี่ย

00:06:5700:07:00 ใหญ่เท่ากำปั้นเลยนะครับ แบคทีเรียในร่างกายเราเนี่ย

00:07:0000:07:03 ในลำไส้นี่แหละครับมีแบคทีเรียเยอะที่สุด

00:07:0300:07:08 ตัวไฟเบอร์ก็เป็นที่เกาะ เป็นอาหาร เป็นของกินของเขา

00:07:0800:07:10 ในการเพิ่มแบคทีเรียชนิดดี

00:07:1000:07:12 อันนี้คือไฟเบอร์ทั้งหลาย

00:07:1200:07:16 แสดงว่าในผัก โปรตีนพืช ธัญพืช

00:07:1600:07:18 มีประโยชน์คือ 1 ช่วยลดน้ำหนัก

00:07:1800:07:22 ตัวที่ 2 ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันเบาหวาน

00:07:2200:07:26 ตัวที่ 3 ช่วยลดระดับไขมันในเลือด

00:07:2600:07:29 ตัวที่ 4 ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ

00:07:2900:07:32 โรคหลอดเลือดสมอง (โรค Stroke) เป็นต้น

00:07:3200:07:35 ข้อสุดท้ายครับ ช่วยบำรุงระบบย่อยอาหาร

00:07:3500:07:38 สร้างแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้

00:07:3800:07:40 เพราะฉะนั้นแล้วพอเราเห็นแบบนี้

00:07:4000:07:42 พืชนี่มีประโยชน์เยอะ

00:07:4200:07:45 หมอถึงอยากมาเน้น อยากมาเล่าให้ทุกคนฟังว่า

00:07:4500:07:48 ทุกมื้ออาหารมีผักครึ่งหนึ่ง อย่างอื่นครึ่งหนึ่ง

00:07:4800:07:51 ผักครึ่งหนึ่งนี่แหละครับคือไฟเบอร์ที่เราว่าไป

00:07:5100:07:55 แล้ว 1 ใน 4 ของจานที่หมอเล่าให้ฟังเป็นโปรตีน

00:07:5500:07:58 แล้ว 1 ใน 4 ของที่เหลือเป็นแป้งนะ

00:07:5800:08:00 วันนี้เราเอา 1 ใน 4 ของโปรตีนมาคุยกัน

00:08:0000:08:03 1 ใน 4 ของโปรตีนที่หมอเคยบอกว่า

00:08:0300:08:08 จิตยังไม่แข็งก็ยังกินหมู กินไก่ กินไข่ กินสเต็กได้อยู่

00:08:0800:08:11 ใครที่จิตใจแข็งขึ้นมาหน่อย อยากบำรุงสุขภาพ

00:08:1100:08:16 อยากบำรุงหลอดเลือด ลดไขมันในเลือด ลดน้ำตาลในเลือด

00:08:1600:08:19 ก็เปลี่ยนเป็นโปรตีนที่ดีขึ้นมาก็คือ ปลา

00:08:1900:08:22 ใครที่อยากจะทดลองมากขึ้นไปอีก

00:08:2200:08:24 เปลี่ยน 1 ใน 4 ของจานที่เป็นโปรตีนนี้

00:08:2400:08:27 เป็นโปรตีนพืชบ้างในบางมื้อ

00:08:2700:08:32 โปรตีนพืชครับ มีการวิจัยใน JAMA ปี ค.ศ. 2005 ว่า

00:08:3200:08:34 ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ

00:08:3400:08:37 ประโยชน์ข้อที่ 2 ของโปรตีนพืช

00:08:3700:08:39 ลดความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวาน

00:08:3900:08:42 อันนี้วิจัยไว้ใน The European Journal of Clinical Nutrition

00:08:4200:08:44 ในปี ค.ศ. 2015

00:08:4400:08:47 ข้อที่ 3 มีการวิจัยไว้ใน

00:08:4700:08:50 The New England Journal of Medicine (NEJM) 2011

00:08:5000:08:54 เกือบ 120,000 คน ตลอด 20 ปี

00:08:5400:08:58 ที่ทานถั่วเยอะ ทานธัญพืชเยอะ ทานโปรตีนพืชเยอะ

00:08:5800:09:01 จะคุมน้ำหนักและลดน้ำหนักได้ดีกว่าคนปกติมาก

00:09:0100:09:05 ประโยชน์ก็คือช่วยคุมน้ำหนัก และรักษาโรคอ้วน

00:09:0500:09:08 เราต้องการโปรตีนเท่าไหร่ต่อวัน

00:09:0800:09:10 ให้เอา 0.8 คูณด้วยน้ำหนักตัว

00:09:1000:09:14 อย่างหมอแอมป์หนัก 63 กิโลกรัม ผมคูณด้วย 0.8

00:09:1400:09:17 ผมต้องการโปรตีนต่อวันประมาณ 50 กรัม

00:09:1700:09:23 ไฟเบอร์ที่ร่างกายมนุษย์เราต้องการต่อวันประมาณ 25-30 กรัม

00:09:2300:09:26 อันนี้ข้อมูลจาก American Heart Association

00:09:2600:09:29 หรือสมาคมโรคหัวใจของอเมริกา

00:09:2900:09:31 คราวนี้เรามาเข้าบทเรานะครับ

00:09:3100:09:35 ว่าโปรตีนพืชกับโปรตีนสัตว์ ต่างกันอย่างไร

00:09:3500:09:36 โปรตีนสัตว์ครับ

00:09:3600:09:43 ในมนุษย์เราต่อวันเราจะสร้างกรดอะมิโนสายสั้นๆ

00:09:4300:09:47 ที่จำเป็นต่อร่างกาย สร้างได้จากข้างในตัวเรา

00:09:4700:09:51 แต่จะมีอยู่ 9 ชนิดที่อย่างไรก็ต้องรับประทานเข้าไป

00:09:5100:09:52 เพราะร่างกายของเราสร้างไม่ได้

00:09:5200:09:57 เขาถึงเรียกว่า กรดอะมิโนจำเป็น จำเป็นก็คือต้องทานเข้าไป

00:09:5700:09:59 หมอเล่าให้ฟัง 9 ตัวเลยนะ

00:09:5900:10:02 1. กรดอะมิโนจำเป็น ฮีสทิดีน (Histidine)

00:10:0200:10:04 2. ไอโซลิวซีน (Isoleucine)

00:10:0400:10:06 3. ลิวซีน (Leucine)

00:10:0600:10:08 4. ไลซีน (Lysine)

00:10:0800:10:10 5. เมไธโอนีน (Methionine)

00:10:1000:10:12 6. ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine)

00:10:1200:10:14 7. ทรีโอนีน (Threonine)

00:10:1400:10:16 8. ทริปโตแฟน (Tryptophan)

00:10:1600:10:18 9. วาลีน (Valine)

00:10:1800:10:23 นี่คือ 9 ตัวพระเอก เข้าไปบำรุงรักษาร่างกายเรา

00:10:2300:10:25 ให้ทำงานได้อย่างเหมาะสม

00:10:2500:10:29 คราวนี้เองพอเป็นโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากจะมีครบ

00:10:2900:10:33 ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ เป็นปลา เป็นไข่ มีครบ 9 ตัว

00:10:3300:10:35 แต่ในโปรตีนพืชมีไม่ครบ

00:10:3500:10:38 บางอันมีตัวนี้ขาดตัวนั้น

00:10:3800:10:40 นั่นคือสิ่งสำคัญครับ

00:10:4000:10:45 ทำไมในอดีตโปรตีนสัตว์ถึงได้รับความนิยมมากกว่าโปรตีนพืช

00:10:4500:10:47 แต่พอเวลาผ่านมาเนิ่นนาน

00:10:4700:10:50 มนุษย์เราขยับตัวน้อย ออกกำลังกายน้อย

00:10:5000:10:55 รับประทานเยอะ อาหารเข้าถึงได้ง่าย ก็ทานมากเกินไป

00:10:5500:10:59 เหมือนที่หมอบอกว่าปัจจุบัน โลกทั้งโลกใบนี้

00:10:5900:11:02 มีหลายประเทศมากที่กำลังผจญกับภาวะโรคอ้วน

00:11:0200:11:04 โจมตีประชาชนในชาติ

00:11:0400:11:10 เช่นเมืองไทยเรา เป็นประเทศที่มีโรคอ้วนอันดับ 2 ของอาเซียน

00:11:1000:11:14 ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บหรือโรค NCDs เพียบเลย

00:11:1400:11:16 เราถึงพยายามปรับ

00:11:1600:11:20 เราลองทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ให้น้อยลงดีไหม

00:11:2000:11:24 เพราะโปรตีนเนื้อสัตว์ มีไขมันอิ่มตัวสูง มีแคลอรี่สูง

00:11:2400:11:28 ทานแล้วอ้วนง่าย ทานแล้วไขมันไปเกาะกับหลอดเลือด

00:11:2800:11:31 ทานแล้วไขมันในร่างกายไม่ดี

00:11:3100:11:34 ใครที่ผลเลือดดีอันนี้ปล่อยไปก่อน ไม่ว่ากัน

00:11:3400:11:36 คุณมีสิทธิ์ทานต่อได้

00:11:3600:11:40 ใครที่ผลเลือดไม่ดี เช่น คอเลสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง

00:11:4000:11:44 ยูริกสูง น้ำตาลสูง ลองหันมาปรับเปลี่ยนทางนี้ดูหน่อย

00:11:4400:11:48 โปรตีนพืชครับ เปรียบเทียบด้วยน้ำหนักแล้วแคลอรี่น้อยกว่า

00:11:4800:11:52 ไขมันดีเยอะกว่า ไฟเบอร์มากกว่า

00:11:5200:11:54 แล้วในพืชก็มีโปรตีน

00:11:5400:11:59 เรามาไล่กันเลยว่ามีตัวไหนบ้าง หมอจะยกตัวอย่างมาให้ฟัง

00:11:5900:12:02 เวลาเรากินโปรตีนพืชครับ การรับประทานอย่างไร

00:12:0200:12:05 ทำให้กรดอะมิโนจำเป็นครบถ้วนครับหมอแอมป์

00:12:0500:12:10 เช่น ข้าวกล้องจะมีกรดอะมิโนเมไธโอนีนสูง ไลซีนต่ำ

00:12:1000:12:15 กลับกับ ถั่วเลนทิลจะมีไลซีนสูง เมไธโอนีนต่ำ

00:12:1500:12:17 เราก็กินคู่กันครับ

00:12:1700:12:19 ถ้าเรากินข้าวกล้องกับถั่วตัวนี้

00:12:1900:12:21 กรดอะมิโนที่ไม่มีก็จะไปเสริมกัน

00:12:2100:12:25 คราวนี้ 9 ตัวที่เราขาดไปบางตัวก็จะเสริมขึ้นมาได้

00:12:2600:12:27 อันนี้ก็เป็นทางเลือก

00:12:2700:12:31 สำหรับสายที่อยากจะกินโปรตีนพืชอย่างเดียวแล้วกลัว กังวล

00:12:3100:12:33 เราก็ปรับแบบนี้ได้

00:12:3300:12:36 คราวนี้แหล่งอาหารครับ

00:12:3600:12:40 พืชตัวไหนที่มีโปรตีนพืชเยอะๆ ดีๆ บ้าง ไล่ไปเลยครับวันนี้

00:12:4000:12:41 เริ่มครับ

00:12:4100:12:44 ตัวที่ 1 ที่เป็นโปรตีนพืชที่ดีนั่นก็คือ

00:12:4400:12:49 ข้าวกล้องหรือจะเป็นข้าวขาวก็ได้ แต่เน้นไปที่ข้าวไม่ขัดสีดีกว่า

00:12:4900:12:52 จะมีกรดอะมิโน เมไธโอนีน

00:12:5200:12:55 เราก็กินคู่กันครับ ถ้าเรากินข้าวกล้องกับถั่วตัวนี้

00:12:5500:12:58 1 ถ้วย 239 กรัม

00:12:5800:13:02 มีโปรตีนสูงถึง 12 กรัม มีไฟเบอร์ 10 กรัม

00:13:0200:13:05 ตัวต่อไปครับ เป็นแก๊งถั่ว

00:13:0500:13:09 แก๊งถั่วทั้งหมดหมอขอนับรวมมาอยู่ในข้อ 2 ทั้งหมดเลย

00:13:0900:13:11 ก็คือถั่วและธัญพืช

00:13:1100:13:13 2.1 ตัวที่ 1 ของถั่วครับ

00:13:1300:13:16 ถั่วแดง ภาษาอังกฤษเรียก Kidney bean

00:13:1600:13:21 1 ถ้วยมีแคลอรี่ประมาณ 215 กิโลแคลอรี่

00:13:2100:13:23 มีโปรตีนประมาณ 13.4 กรัม

00:13:2300:13:25 ก็เยอะพอสมควรนะ

00:13:2500:13:27 มีไฟเบอร์ประมาณ 13.6 กรัม

00:13:2700:13:32 มีวิตามินด้วย โฟลิก แมงกานีส วิตามินบี 1 ทองแดง ธาตุเหล็ก

00:13:3200:13:36 2.2 ถั่วดำ ภาษาอังกฤษ Black bean

00:13:3600:13:42 1 ถ้วย 172 กรัม มีแคลอรี่ประมาณ 227 กิโลแคลอรี่

00:13:4200:13:46 มีโปรตีนมากกว่าถั่วแดงหน่อย 15.2 กรัม

00:13:4600:13:48 มีไฟเบอร์ประมาณ 15 กรัม

00:13:4800:13:52 มีวิตามินโฟลิก วิตามินบี 1 แมกนีเซียม แมงกานีส ธาตุเหล็ก

00:13:5200:13:57 2.3 ถั่วลิสง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Peanut

00:13:5700:14:04 1 ถ้วย 73 กรัม จะมีแคลอรี่เยอะหน่อย เพราะถั่วลิสงจะมันๆ

00:14:0400:14:07 427 กิโลแคลอรี่ต่อ 1 ถ้วย

00:14:0700:14:10 มีโปรตีนประมาณ 17.3 กรัม เยอะนะครับ

00:14:1000:14:13 มีไฟเบอร์น้อยหน่อย 5.9 กรัม

00:14:1300:14:17 มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมาก เขาเรียก Good Fat หรือไขมันดี

00:14:1700:14:21 มีวิตามิน บี 1 บี 9 วิตามินอี แมกนีเซียม แมงกานีส

00:14:2100:14:22 ตัวต่อไป

00:14:2200:14:25 2.4 ถั่วเหลือง หรือว่า Soybean

00:14:2500:14:29 1 ถ้วย มีแคลอรี่ประมาณ 298 กิโลแคลอรี่

00:14:2900:14:33 มีโปรตีนเยอะเลยนะครับ 28.6 กรัม

00:14:3300:14:37 ใครที่ทดแทนเนื้อสัตว์ ทดแทนด้วยโปรตีนถั่วเลืองก็ดีมาก

00:14:3700:14:40 มีไฟเบอร์ประมาณ 10.3 กรัม

00:14:4000:14:44 มีวิตามินบี 2 บี 9 วิตามินเค

00:14:4400:14:47 มีแร่ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก แมงกานีส

00:14:4700:14:51 ที่สำคัญในถั่วเหลืองมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ

00:14:5100:14:53 ชื่อว่า ไอโซฟลาโวน (Isoflavone)

00:14:5300:14:56 ช่วยรักษา บรรเทาอาการของผู้หญิงวัยทอง

00:14:5600:15:02 เราเคยเห็นในหนังหลายเรื่องพอวัยทองเขาชอบทานถั่วเหลือง

00:15:0200:15:06 แล้วก็เพิ่มการต้านอนุมูลอิสระหรือบำรุงสุขภาพด้วย

00:15:0600:15:09 ตัวต่อไป 2.5 ถั่วลูกไก่

00:15:0900:15:12 เคยได้ยินไหม ภาษาอังกฤษเรียก Chickpea

00:15:1200:15:18 1 ถ้วย 164 กรัม มีแคลอรี่ประมาณ 269 กิโลแคลอรี่

00:15:1800:15:20 มีโปรตีน 14.5 กรัม

00:15:2000:15:22 มีไฟเบอร์ 12 กรัม

00:15:2200:15:26 มีวิตามิน โฟลิก แมงกานีส ทองแดง สังกะสี ธาตุเหล็ก

00:15:2600:15:29 คือในถั่วลูกไก่และในถั่วต่างๆ นี่มีแป้งด้วย

00:15:2900:15:35 แต่ถ้าเปรียบเทียบเรากินข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เส้นสปาเกตตี้

00:15:3500:15:38 กับเรากินถั่วลูกไก่ที่เป็นแป้งเหมือนกัน

00:15:3800:15:42 แป้งของถั่วลูกไก่มีน้ำตาลต่ำกว่าแป้งที่เหลือทั้งหมด

00:15:4200:15:48 ทานในปริมาณเท่ากันนี่อ้วนน้อย หรือลดน้ำหนักได้ดี

00:15:4800:15:50 ต่อมาถั่วตัวสุดท้ายก็คือถั่วเลนทิล (Lentil)

00:15:5000:15:56 1 ถ้วย 198 กรัม มีแคลอรี่ประมาณ 230 กิโลแคลอรี่

00:15:5600:15:58 มีโปรตีน 17.9 กรัม

00:15:5800:16:00 มีไฟเบอร์ 15.6 กรัม

00:16:0000:16:05 มีวิตามินบี 9 บี 1 ทองแดง แมงกานีส และมีธาตุเหล็กเยอะด้วย

00:16:0500:16:08 แถมอีกตัว ถั่วลันเตา

00:16:0800:16:13 1 ถ้วยมีโปรตีนประมาณ 8 กรัม น้อยกว่าถั่วอื่นนิดหนึ่ง

00:16:1300:16:16 แต่เขามีสารชื่อว่า Branched-chain amino acid

00:16:1600:16:19 สายออกกำลังยกเวทนี่ต้องรู้จัก

00:16:1900:16:22 คือวิตามินเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย

00:16:2200:16:25 อันนี้คือกลุ่มที่ 2 แก๊งถั่วต่างๆ

00:16:2500:16:28 มีอีกเยอะนะครับ มีถั่วเมืองนอกอีกหลายชื่อเลย

00:16:2800:16:31 แต่ที่หมอไม่ได้เอามาเพราะหมออยากจะให้เลือกทาน

00:16:3100:16:34 ถั่วที่ใกล้ๆ มือเราหรือถั่วที่เราหาได้ในประเทศเรา

00:16:3400:16:37 ข้อ 3 อันนี้เริ่มฝรั่งหน่อย ชื่อว่า

00:16:3700:16:41 ควินัว Quinoa

00:16:4100:16:45 ตามซุปเปอร์มาเก็ตหรือใครที่รักสุขภาพน่าจะพอเคยเห็น

00:16:4500:16:48 1 ถ้วยมีโปรตีนประมาณ 8 กรัม

00:16:4800:16:51 มีแมงกานีส ธาตุเหล็ก ไฟเบอร์ สังกะสี

00:16:5100:16:53 เอามาโรย เอามาทานกับสลัด

00:16:5300:16:55 อันนี้ก็ช่วยลดน้ำหนักได้ดี

00:16:5500:16:58 ข้อ 4 เต้าหู้

00:16:5800:17:01 พระเอกของบ้านเราเลย คนไทยทานเต้าหู้เยอะ

00:17:0100:17:05 85 กรัม หรือ 1 ถ้วยของเต้าหู้ มีโปรตีนประมาณ 8 กรัม

00:17:0500:17:07 มีแคลเซียมสูง

00:17:0700:17:10 มีโพแทสเซียม ธาตุเหล็ก

00:17:1000:17:12 มีสารต้านอนุมูลอิสระด้วย

00:17:1200:17:15 เพราะฉะนั้นเต้าหู้ก็เป็นสารบำรุงสุขภาพที่ดี

00:17:1500:17:19 แต่ต้องระวังนะครับ ถ้าเป็นนึ่ง เป็นต้ม อันนั้นโอเค

00:17:1900:17:23 แต่บางคนทานเต้าหู้เยอะ แล้วทำไมไม่เห็นผอมเลย

00:17:2300:17:26 เพราะเป็นเต้าหู้ทอด ต้องระวังน้ำมัน

00:17:2600:17:29 ตัวต่อไป ข้อ 5 สาหร่ายสไปรูลิน่า

00:17:2900:17:31 เป็นสาหร่ายชนิดหนึ่ง

00:17:3100:17:36 ในช่วงไม่กี่ปีหลังมาแรงแล้วก็ดัง เพราะมีโปรตีนเยอะเหลือเกิน

00:17:3600:17:40 1 ช้อนชานี่ ปกติเขาจะไม่ทานเป็นต้น เขาจะมาบดเป็นผง

00:17:4000:17:44 1 ช้อนชาหรือประมาณ 7 กรัมของสาหร่ายบดแห้งสไปรูลิน่า

00:17:4400:17:46 มีโปรตีนถึง 4 กรัม

00:17:4600:17:49 แต่แคลอรี่แค่ 20 กิโลแคลอรี่

00:17:4900:17:51 มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะมาก

00:17:5100:17:54 โดยเฉพาะสารที่ชื่อว่า ไฟโคไซยานิน (Phycocyanin)

00:17:5400:17:58 ช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงร่างกาย

00:17:5800:18:03 มีวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 ทองแดง ธาตุเหล็ก

00:18:0300:18:06 อันนี้ก็เป็นอาหารสุขภาพตัวหนึ่งที่มาแรงเหมือนกัน

00:18:0600:18:10 ตัวสุดท้าย เป็นพวกเมล็ดพืช เลือกมาให้ 2 ตัว

00:18:1000:18:15 1 เมล็ดเชีย Chia seeds

00:18:1500:18:18 2 ช้อนโต๊ะมีโปรตีนประมาณ 4 กรัม

00:18:1800:18:23 ในเมืองนอกจะมีอีก 1 อย่างที่ขายกันในร้านรักสุขภาพ ก็คือ

00:18:2300:18:25 Hemp seed ก็คือ เมล็ดกัญชา

00:18:2500:18:27 เมล็ดกัญชาทานแล้วไม่เมานะครับ

00:18:2700:18:32 แต่มีโปรตีนเยอะ 3 ช้อนโต๊ะมีโปรตีนประมาณ 10 กรัม

00:18:3200:18:36 นี่ก็คือทั้งหมดที่หมอรวมมาเป็นกลุ่ม ประมาณ 6 กลุ่ม

00:18:3600:18:39 เราอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ

00:18:3900:18:43 เราไม่รู้จะทำอย่างไรดี ทำไมหยุดอยู่บ้านแล้วอ้วนขึ้น

00:18:4300:18:46 น้ำหนักเยอะขึ้น Enjoy eating เหลือเกิน

00:18:4600:18:47 ก็ต้องลองปรับบ้าง

00:18:4700:18:51 บางวันกินสเต็กไปแล้ว วันต่อมากินปลาบ้าง

00:18:5100:18:52 ให้ร่างกายได้พักผ่อน

00:18:5200:18:56 วันต่อมาลองเลือกโปรตีนพืชแทนดู

00:18:5600:18:59 ให้บาลานซ์นะครับ ระหว่างความสุขกาย

00:18:5900:19:01 ร่างกายดี น้ำตาลดี ไขมันดี

00:19:0100:19:06 กับความอร่อยด้วย ได้กินกับเพื่อฝูงด้วย กับญาติพี่น้องด้วย

00:19:0600:19:10 หมอไม่อยากจะมาฟันธง หรือสั่งใครทั้งสิ้น

00:19:1000:19:12 แต่วันนี้ในบทนี้ที่เรามาคุยกันก็คือ

00:19:1200:19:15 อยากจะให้เป็นตัวเลือกเสริมว่า

00:19:1500:19:19 บางวันเราจะรักสุขภาพเราโดยการให้ของดีเขา

00:19:1900:19:23 เราก็บอกใจเราว่าเราจะอร่อยน้อยหน่อยนะ เราจะกินผักเยอะ

00:19:2300:19:26 โปรตีน 1 ใน 4 เราก็จะกินโปรตีนพืช

00:19:2600:19:29 1 ใน 4 เป็นแป้งเราก็จะเป็นข้าวกล้องแบบนี้เป็นต้น

00:19:3000:19:34 ก็จะทำให้ร่างกายเราคุมน้ำหนัก ลดไขมันได้ดีแน่นอน

00:19:3400:19:37 ขออนุญาตจบตอนนี้ไว้เท่านี้นะครับ

00:19:3700:19:39 แล้วพบกันใหม่ในสัปดาห์หน้าๆ

00:19:3900:19:43 ขอให้ทุกท่านรับประทานให้เป็นยา

00:19:4300:19:46 รับประทานให้อร่อยแต่พอสมควร

00:19:4600:19:48 จะได้ไม่ต้องรับประทานยาแทนอาหาร

00:19:4800:19:52 ถ้าเราทานแบบไม่มีจิตใจในการควบคุมเขาเลย

00:19:5200:19:54 เราก็จะเกิดโรคต่างๆ

00:19:5400:19:57 พอในอนาคตเราเผลอพลาดไปแล้วป่วย

00:19:5700:19:59 เราก็ต้องทานยาเป็นกำมือแหละครับ

00:19:5900:20:02 เพราะฉะนั้น หวานเป็นลม ขมเป็นยา

00:20:0200:20:05 สู้กันต่อไป สู้กับโรคอ้วนไปด้วยกัน

00:20:0500:20:08 สัปดาห์นี้ ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ