00:00:00 → 00:00:03 เบาหวานเป็นโรคที่หลายคนเคยได้ยินแต่ไม่
00:00:03 → 00:00:06 ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจจริงๆว่ามันคืออะไร
00:00:06 → 00:00:10 และอันตรายแค่ไหนในปัจจุบันองค์การอนามัย
00:00:10 → 00:00:14 โลกเปิดเผยว่ามีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 400
00:00:14 → 00:00:17 ล้านคนทั่วโลกและตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้น
00:00:17 → 00:00:20 อย่างต่อเนื่องทุกปีในประเทศไทยเองก็พบ
00:00:20 → 00:00:23 ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:00:23 → 00:00:27 ไว้ทำงานและผู้สูงอายุแต่สิ่งที่ทำให้โรค
00:00:27 → 00:00:30 นี้น่ากังวลคือคนจำนวนมากไม่รู้ตัวว่า
00:00:30 → 00:00:33 กำลังเป็นอยู่เพราะเบาหวานมักจะค่อยๆ
00:00:33 → 00:00:36 พัฒนาอย่างช้าๆและแทบไม่มีอาการในระยะ
00:00:36 → 00:00:41 เริ่มต้นเบาหวานเกิดขึ้นได้อย่างไร
00:00:41 → 00:00:44 หลักๆเบาหวานเกิดจากความผิดปกติในการทำ
00:00:44 → 00:00:47 งานของอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้าง
00:00:47 → 00:00:51 จากตับอ่อนหน้าที่ของอินซูลินคือคอยเปิด
00:00:51 → 00:00:55 ประตูให้กลูโคสหรือน้ำตาลที่เรากินเข้าไป
00:00:55 → 00:00:58 สามารถเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน
00:00:58 → 00:01:01 ถ้าไม่มีอินอินซูลินหรืออินซูลินทำงานได้
00:01:01 → 00:01:04 ไม่ดีน้ำตาลก็จะค้างอยู่ในเลือดทำให้
00:01:04 → 00:01:08 ระดับน้ำตาลสูงผิดปกติลองนึกภาพง่ายๆ
00:01:08 → 00:01:11 เหมือนเรามีกุญแจที่จะไขประตูบ้าน
00:01:11 → 00:01:15 อินซูลินก็คือกุญแจที่จะไขประตูเซลล์แต่
00:01:15 → 00:01:19 ถ้ากุญแจหายไปหรือกุญแจบิดแล้วไม่ลงล็อค
00:01:19 → 00:01:23 น้ำตาลก็เข้าไม่ได้ผลคือเลือดเต็มไปด้วย
00:01:23 → 00:01:25 น้ำตาลแต่ร่างกายกลับไม่ได้พลังงานเพียร
00:01:25 → 00:01:30 พอนี่แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา
00:01:30 → 00:01:33 ประเภทของเบาหวานโรคนี้แบ่งได้เป็นหลาย
00:01:33 → 00:01:37 ประเภทแต่ที่พบมากที่สุดคือ 2 ชนิดใหญ่
00:01:37 → 00:01:40 เบาหวานชนิดที่ 1 ร่างกายไม่สามารถสร้าง
00:01:40 → 00:01:44 อินซูลินได้เลยมักพบในเด็กและวัยรุ่นเกิด
00:01:44 → 00:01:47 จากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์
00:01:47 → 00:01:50 ตับอ่อนที่สร้างอินซูลินเป็นชนิดที่ต้อง
00:01:50 → 00:01:54 พึ่งพาการฉีดอินซูลินตลอดชีวิตเบาหวาน
00:01:54 → 00:01:57 ชนิดที่ 2 ชนิดนี้พบมากที่สุดร่างกายยัง
00:01:57 → 00:02:01 สร้างอินซูลินได้แต่เซลล์ไม่ตอบสนองหรือ
00:02:01 → 00:02:05 ที่เรียกว่าดื้อต่ออินซูลินสาเหตุหลักมา
00:02:05 → 00:02:08 จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่นกินอาหารหวาน
00:02:08 → 00:02:13 จัดมันจัดขาดการออกกำลังกายน้ำหนักเกิน
00:02:13 → 00:02:17 และภาวะอ้วนลงพุงนอกจากนี้ยังมีเบาหวาน
00:02:17 → 00:02:20 ขณะตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในคุณแม่บางคน
00:02:20 → 00:02:23 ซึ่งมักจะหายไปหลังคลอดแต่ก็อาจเพิ่ม
00:02:23 → 00:02:27 โอกาสในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต
00:02:27 → 00:02:31 ทำไมเบาหวานถือถูกเรียกว่าภัยเงียบเพราะ
00:02:31 → 00:02:34 ในระยะเริ่มต้นเบาหวานแทบจะไม่มีสัญญาณ
00:02:34 → 00:02:37 เตือนชัดเจนคนจำนวนมากใช้ชีวิตประจำวัน
00:02:37 → 00:02:40 ได้ตามปกติแต่ระดับน้ำตาลในเลือดกลับสูง
00:02:40 → 00:02:44 ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปน้ำตาลส่วน
00:02:44 → 00:02:48 เกินจะเริ่มทำลายเส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ
00:02:48 → 00:02:51 เช่นหลอดเลือดหัวใจเสี่ยงหัวใจวายหรือ
00:02:51 → 00:02:55 หลอดเลือดตีบไตเสี่ยงไตวายเรื้อรังต้อง
00:02:55 → 00:02:57 ฟอกไต่ตา
00:02:57 → 00:03:01 เสี่ยงตาบอดจากเบาหวานขึ้นตาเส้นประสาทมี
00:03:01 → 00:03:05 อาการชาปลายมือปลายเท้าหรือแผลหายช้านี่
00:03:05 → 00:03:07 จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องทำความ
00:03:07 → 00:03:10 เข้าใจโรคนี้ตั้งแต่เนิ่นๆเพราะการรู้
00:03:10 → 00:03:13 เร็วป้องกันได้เร็วย่อมดีกว่ารอจนเกิด
00:03:13 → 00:03:16 ภาวะแทรกซ้อนแล้ว
00:03:16 → 00:03:19 ปัจจัยเสี่ยงที่ควรรู้แม้เบาหวานจะเกี่ยว
00:03:19 → 00:03:22 ข้องกับพันธุกรรมแต่ปัจจัยที่ควบคุมได้ก็
00:03:22 → 00:03:27 มีมากเช่นการกินอาหารที่หวานมันเค็มเกิน
00:03:27 → 00:03:30 ไปการดื่มน้ำอัดลมและเคลื่อนดื่มที่มีน้ำ
00:03:30 → 00:03:34 ตาลสูงการนั่งทำงานทั้งวันขาดการเคลื่อน
00:03:34 → 00:03:38 ไหวร่างกายน้ำหนักตัวเกินโดยเฉพาะอ้วนลง
00:03:38 → 00:03:41 พุงและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอยู่บ่อย
00:03:41 → 00:03:44 ๆก็ถือว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแม้จะยัง
00:03:44 → 00:03:47 ไม่เป็นในตอนนี้แต่ถ้ายังปล่อยไปโดยไม่
00:03:47 → 00:03:50 ปรับเปลี่ยนก็มีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะเบา
00:03:50 → 00:03:54 หวานในอนาคตเมื่อเรามองภาพรวมทั้งหมดเบา
00:03:54 → 00:03:56 หวานไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิดมัน
00:03:56 → 00:03:59 เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและส่งผล
00:03:59 → 00:04:03 กระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวแต่สิ่งที่
00:04:03 → 00:04:06 น่ายินดีคือเบาหวานสามารถป้องกันได้และ
00:04:06 → 00:04:10 ถึงแม้จะเป็นแล้วก็ยังสามารถควบคุมและใช้
00:04:10 → 00:04:13 ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้ถ้าเรามีความรู้และ
00:04:13 → 00:04:16 เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้โรคเบา
00:04:16 → 00:04:20 หวานมักคืบคลานช้าและเงียบจนหลายคนรู้ตัว
00:04:20 → 00:04:23 อีกทีเมื่อเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนแล้วการ
00:04:23 → 00:04:26 สังเกตสัญญาณเตือนเล็กๆตั้งแต่เนื่อง
00:04:26 → 00:04:29 เนิ่นจึงสำคัญมากเพราะยิ่งรู้เร็วยิ่งมี
00:04:29 → 00:04:32 โอกาสป้องกันคุมได้และหลีกเลี่ยงความ
00:04:32 → 00:04:34 เสี่ยงระยะยาว
00:04:34 → 00:04:37 4 มากที่ควรรู้ให้ชัด
00:04:37 → 00:04:41 กินมากขึ้นผิดปกติเมื่ออินซูลินทำงานด้อย
00:04:41 → 00:04:45 ลงกลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้น้อยเซลล์จึง
00:04:45 → 00:04:48 เหมือนได้พลังงานไม่พอสมองส่งสัญญาณให้
00:04:48 → 00:04:52 หิวบ่อยทั้งที่เพิ่งทานไปไม่นานบางคนหิว
00:04:52 → 00:04:54 ตอนดึกหรือช่วงบ่ายหลังอาหารกลางวันเป็น
00:04:54 → 00:04:56 ประจำ
00:04:56 → 00:05:00 ดื่มมากกระหายน้ำตลอดน้ำตาลในเลือดที่สูง
00:05:00 → 00:05:03 ทำให้ร่างกายดึงน้ำออกจากเซลล์เพื่อเจื่อ
00:05:03 → 00:05:08 จางจึงกระหายน้ำง่ายปากคอแห้งบางคนต้องพก
00:05:08 → 00:05:10 น้ำติดตัวตลอดเวลา
00:05:10 → 00:05:15 ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะเวลากลางคืนไตจะ
00:05:15 → 00:05:18 พยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกมากับปัสสาวะ
00:05:18 → 00:05:21 จึงทำให้ต้องเข้าห้องน้ำถี่ขึ้นตื่นกลาง
00:05:21 → 00:05:24 ดึกหลายรอบจนคุณภาพการนอนลดลงสังเกตได้
00:05:24 → 00:05:29 ว่าปัสสาวะปริมาณมากและใสกว่าปกติ
00:05:29 → 00:05:32 น้ำหนักลดทั้งที่กินปกติหรือมากขึ้นเพราะ
00:05:33 → 00:05:35 ร่างกายเอาน้ำตาลไปใช้ไม่ได้จึงหันไปใช้
00:05:35 → 00:05:38 ไขมันและกล้ามเนื้อเป็นพลังงานน้ำหนักจึง
00:05:38 → 00:05:41 ลดลงอย่างไม่ตั้งใจเสื้อผ้าหลวมลงโดยไม่
00:05:41 → 00:05:44 อธิบายได้
00:05:44 → 00:05:48 อาการอื่นๆที่มักถูกมองข้ามอ่อนเพลีย
00:05:48 → 00:05:52 เหนื่อยง่ายสมองล้ามึนๆเบลอๆหลังมื้อ
00:05:52 → 00:05:53 อาหาร
00:05:53 → 00:05:56 สายตาพร่ามัวเป็นๆหายๆเนื่องจากระดับน้ำ
00:05:56 → 00:06:01 ตาลแกว่งทำให้เลนส์สตารบวมหรือหดแผลหาย
00:06:01 → 00:06:05 ช้าโดยเฉพาะเท้าขาหรือบริเวณที่รองรับน้ำ
00:06:05 → 00:06:09 หนักผิวหนังคันแห้งหรือติดเชื้อบ่อยเชื้อ
00:06:09 → 00:06:13 ราแบคทีเรียรวมถึงเชื้อราในช่องปากหรือ
00:06:13 → 00:06:18 อวัยวเพศเหงือกบวมเลือดออกง่ายมีกลิ่นปาก
00:06:18 → 00:06:22 หรือฟันโยกจากโรคเหงือกชาปลายมือปลายเท้า
00:06:22 → 00:06:25 เหมือนขิมทิ่มหรือแสบร้อนปลายเท้าโดย
00:06:25 → 00:06:27 เฉพาะตอนกลางคืนเป็นสัญญาณเริ่มของปลาย
00:06:27 → 00:06:30 ปราสาทถูกทำลาย
00:06:30 → 00:06:34 ผิวหนังหนาและคล้ำเป็นพืชกำมหยี่บริเวณคอ
00:06:34 → 00:06:38 รักแร้หรือขาหนีบ acantosis negric สื่อ
00:06:38 → 00:06:41 ถึงภาวะดื้อต่ออินซูลิน
00:06:41 → 00:06:45 ติ่งเนื้อเล็กๆตามคอรักแร้หรือขาหนีบ skin
00:06:45 → 00:06:49 tag พบได้ร่วมกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
00:06:49 → 00:06:52 ปัสสาวะเป็นฟองมากกว่าปกติเรื้อรังอาจบอก
00:06:52 → 00:06:56 ถึงปัญหาตายกับน้ำตาลสูงสะสมเพศชายอาจมี
00:06:56 → 00:06:59 ปัญหาหย่อนสมรรถภาพเพศหญิงประจำเดือนแปร
00:06:59 → 00:07:02 ปรวนเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์จากการติดเชื้อ
00:07:02 → 00:07:07 ซ้ำๆอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่ายวิตกกังวล
00:07:07 → 00:07:10 หรือรู้สึกซึมเศร้าซึ่งบางครั้งสัมพันธ์
00:07:10 → 00:07:13 กับน้ำตาลแกว่งและการนอนหลับถูกรับกวน
00:07:13 → 00:07:18 สัญญาณเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นกระหายน้ำ
00:07:18 → 00:07:22 มากปัสสาวะบ่อยน้ำหนักลดรวดเร็วอ่อนเพลีย
00:07:22 → 00:07:26 เบื่ออาหารหรือปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนหาก
00:07:26 → 00:07:29 รูปกับหายใจลึกคอม่าหรือผิดปกติมีกลิ่น
00:07:29 → 00:07:34 หอมแบบผลไม้สับสนซึมลงถือเป็นภาวะฉุกเฉิน
00:07:34 → 00:07:38 สงสัยคีโตอซิโดิสต้องพบแพทย์ทันทีหญิง
00:07:38 → 00:07:41 ตั้งครรภ์ปัสสาวะบ่อยและกระหายน้ำมากขึ้น
00:07:41 → 00:07:44 ผิดปกติเกินกว่าที่เกิดจากการตั้งครรภ์
00:07:44 → 00:07:47 ทั่วไปเหนื่อยง่ายกว่าที่ปกติทารกตัวโต
00:07:47 → 00:07:50 เกินอายุครรภ์หรือมีน้ำตาลในปัสสาวะจาก
00:07:50 → 00:07:53 การคัดกรองฝากคันฝากคันสม่ำเสมอตามนัด
00:07:53 → 00:07:57 สำคัญมากผู้สูงอายุอาการอาจไม่ชัดเช่น
00:07:57 → 00:08:02 เบลอเพลียเดินช้าลงลืมง่ายหกล้มบ่อยต้อง
00:08:02 → 00:08:05 ระวังเป็นพิเศษเพราะภาวะขาดน้ำและน้ำตาล
00:08:05 → 00:08:09 สูงมากๆอาจนำไปสู่ความสับสนฉับพลันได้
00:08:09 → 00:08:13 ปัจจัยที่ทำให้อาการปะทุชั่วคราวการติด
00:08:13 → 00:08:16 เชื้อหรืออักเสบใหญ่ๆเช่นปอดอักเสบทาง
00:08:16 → 00:08:19 เดินปัสสาวะอักเสบทำให้น้ำตาลสูงขึ้นผิด
00:08:19 → 00:08:23 ปกติยาบังชะเง็ดเช่นสติสเตียรอยด์ยาบาง
00:08:23 → 00:08:26 กลุ่มสำหรับจิตเวทหรือภูมิแพ้อาจทำให้น้ำ
00:08:26 → 00:08:30 ตาลสูงชั่วคราวความเครียดเรื้อรังการนอน
00:08:30 → 00:08:32 น้อยต่อเนื่องกันหลายคืนทำให้ดื้อต่อ
00:08:32 → 00:08:37 อินซูลินมากขึ้นภาวะก่อนเป็นเบาหวานยิ่ง
00:08:37 → 00:08:41 เงียบยิ่งน่าระวังภาวะก่อนเป็นเบาหวานมัก
00:08:41 → 00:08:43 แทบไม่มีอาการแต่มีสัญญาณแวดล้อมให้
00:08:44 → 00:08:47 สังเกตเช่นหนังคอคล้ำเป็นพืชติ่งเนื้อ
00:08:47 → 00:08:50 เล็กๆตามคอรักแร้ง่วงจัดหลังมื้อ
00:08:50 → 00:08:55 คาร์โบไฮเดรตสูงหิวไวหวานแล้วหิวอีกรอบ
00:08:55 → 00:08:59 เอวเพิ่มโดยเฉพาะอ้วนลงพุงกางเกงคับขึ้น
00:08:59 → 00:09:02 อย่างต่อเนื่องความดันไขมันไตรกลีเซอรด
00:09:02 → 00:09:06 เริ่มสูงกลุ่มนี้ควรตรวจคัดกรองและปรับ
00:09:06 → 00:09:09 พฤติกรรมทันทีเพราะยังถอยกลับได้มากที่
00:09:09 → 00:09:13 สุดเมื่อไหร่ควรรีบพบแพทย์
00:09:13 → 00:09:17 กระหายน้ำจัดปัสสาวะบ่อยมากน้ำหนักลดรวด
00:09:17 → 00:09:21 เร็วเหนื่อยผิดปกติคลื่นไส้อาเจียนปวด
00:09:21 → 00:09:21 ท้อง
00:09:21 → 00:09:25 หายใจลึกและเร็วมีกลิ่นลมหายใจหวานคล้าย
00:09:25 → 00:09:30 ผลไม้สับสนซึมลงถือเป็นภาวะฉุกเฉินสงสัย
00:09:30 → 00:09:34 คีโตอซิโดิสต้องพบแพทย์ทันทีติดเชื้อบ่อย
00:09:34 → 00:09:38 ขึ้นหรือรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะแผลที่เท้าแดง
00:09:38 → 00:09:43 บวมร้อนเจ็บหรือมีน้ำหนองสายตาพร่ามัว
00:09:43 → 00:09:47 หรือมองเห็นแย่ลงฉับพลันอวัยวะเพศหรือผิว
00:09:47 → 00:09:50 หนังติดเชื้อซ้ำๆแม้รักษาแล้วก็กลับมา
00:09:50 → 00:09:53 ใหม่อาการเหล่านี้บ่งชี้ว่าน้ำตาลในเลือด
00:09:53 → 00:09:57 อาจสูงมากหรือเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนอย่ารอ
00:09:57 → 00:10:00 ให้ดีขึ้นเองควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด
00:10:00 → 00:10:04 เช่นงดอาหารแล้วเจาะน้ำตาลหรืออาจ HBA1C
00:10:04 → 00:10:07 และรับคำแนะนำที่เหมาะสม
00:10:07 → 00:10:11 เช็คตัวเองแบบเป็นระบบใน 7 วันบันทึกเวลา
00:10:11 → 00:10:14 และจำนวนครั้งที่ปัสสาวะตอนกลางคืนรวมถึง
00:10:14 → 00:10:17 ความกระหายน้ำตอนกลางคืนด้วยจดระดับพลัง
00:10:18 → 00:10:21 งานหลังอาหาร 1-2 ชมงว่าง่วงล้าหรือหิว
00:10:21 → 00:10:25 เร็วหรือไม่ชังน้ำหนัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์
00:10:25 → 00:10:28 สังเกตเสื้อผ้าหลวมแน่นผิดปกติตรวจผิว
00:10:28 → 00:10:32 หนังบริเวณคอรักแร้ขาหนีบมีปื้นคล้ำหรือ
00:10:32 → 00:10:35 หนาไหม้และมีติ่งเนื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่
00:10:35 → 00:10:39 มองหาแผลถลอกเล็กๆที่เท้าขาว่าหายช้ากว่า
00:10:39 → 00:10:43 ปกติหรือมีอาการอักเสบมยถ้าเป็นไปได้วัด
00:10:43 → 00:10:46 รอบเอวช่วงเช้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูแนว
00:10:46 → 00:10:50 โน้มลงพุงเช็คลิสต์สั้นๆที่ช่วยตัดตัดสิน
00:10:50 → 00:10:54 ใจไปตรวจหิวง่ายกระหายน้ำบ่อยปัสสาวะถี่
00:10:54 → 00:10:58 โดยเฉพาะกลางคืนน้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจใน
00:10:58 → 00:11:00 ช่วงไม่กี่เดือนง่วงเพลียมากหลังมื้อ
00:11:00 → 00:11:04 คาร์โบไฮเดรตสูงแผลหายช้าติดเชื้อง่ายผิว
00:11:04 → 00:11:08 คันบ่อยชาปลายมือปลายเท้าหรือปวดแสบร้อน
00:11:08 → 00:11:12 ปลายเท้าผิวคล้ำเป็นพืชกัมหยี่บริเวณคอ
00:11:12 → 00:11:16 รักแร้มีข้อใดข้อหนึ่งให้พิจารณาไปตรวจ
00:11:16 → 00:11:19 คัดกรองโดยเฉพาะถ้ามีประวัติครอบครัวน้ำ
00:11:19 → 00:11:23 หนักเกินหรืออายุเกิน 35 ปี
00:11:23 → 00:11:26 ใจความสำคัญของตอนนี้สัญญาณเตือนของโรค
00:11:26 → 00:11:30 เบาหวานอาจเล็กน้อยและกระจัดกระจายแต่
00:11:30 → 00:11:33 เมื่อเรารู้ว่าควรสังเกตอะไรบ้างเราจะได้
00:11:33 → 00:11:36 ยินร่างกายเร็วกว่าที่เคยการรู้ตัวเร็ว
00:11:36 → 00:11:38 ช่วยให้เริ่มปรับพฤติกรรมได้ทันป้องกัน
00:11:38 → 00:11:42 ภาวะแทรกซ้อนชะลอโรคและในภาวะก่อนเป็นเบา
00:11:42 → 00:11:45 หวานหลายคนสามารถดึงระดับน้ำตาลกลับสู่
00:11:45 → 00:11:49 ภาวะปกติได้ด้วยซ้ำถ้าทำอย่างจริงจัง
00:11:49 → 00:11:51 เนื้อหานี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้
00:11:51 → 00:11:54 ทั่วไปไม่ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะ
00:11:54 → 00:11:57 บุคคลหากคุณสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง
00:11:57 → 00:12:00 หรือมีอาการที่กล่าวถึงควรไปตรวจและ
00:12:00 → 00:12:04 ปรึกษาแพทย์ถัดไปเราจะลงลึกเรื่องปัจจัย
00:12:04 → 00:12:07 เสี่ยงจากพฤติกรรมและใครบ้างที่ควรตรวจ
00:12:07 → 00:12:11 คัดกรองเพื่อให้คุณรู้ว่าควรโฟกัสที่จุด
00:12:11 → 00:12:15 ไหนก่อนและเริ่มปรับอะไรได้ทันทีเมื่อพูด
00:12:15 → 00:12:18 ถึงโรคเบาหวานหลายคนอาจคิดว่ามีแต่เรื่อง
00:12:18 → 00:12:21 การกินหวานมากเกินไปเท่านั้นแต่ความจริง
00:12:21 → 00:12:25 แล้วปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานมีมากกว่านั้น
00:12:25 → 00:12:28 และหลายอย่างเป็นสิ่งที่เราอาจมองข้ามไป
00:12:28 → 00:12:32 อันดับแรกคือน้ำหนักตัวและภาวะอ้วนลงพุง
00:12:32 → 00:12:36 คนที่มีรอบเอวเกินมาตรฐานโดยเฉพาะผู้ชาย
00:12:36 → 00:12:40 ที่รอบเอวเกิน 90 ซม.และผู้หญิงที่เกิน 80
00:12:40 → 00:12:44 ซม.จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นเนื่องจากไขมัน
00:12:44 → 00:12:47 หน้าท้องมีผลต่อการดื้อต่ออินซูลินซึ่ง
00:12:47 → 00:12:50 เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิด
00:12:50 → 00:12:54 ที่ 2 ต่อมาคือการไม่ออกกำลังกายการใช้
00:12:54 → 00:12:57 ชีวิตแบบนั่งทำงานทั้งวันหรือเคลื่อนไหว
00:12:57 → 00:13:00 น้อยส่งผลให้ร่างกายใช้พลังงานน้อย
00:13:00 → 00:13:03 อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่และเพิ่มโอกาส
00:13:03 → 00:13:07 สะสมไขมันรวมถึงน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอีก
00:13:07 → 00:13:09 ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือพันธุกรรมและ
00:13:09 → 00:13:11 ประวัติครอบครัว
00:13:11 → 00:13:14 หากคุณมีพ่อแม่หรือพี่น้องที่ป่วยเป็นเบา
00:13:14 → 00:13:18 หวานความเสี่ยงของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3
00:13:18 → 00:13:21 เท่าซึ่งหมายความว่าต่อให้คุณพยายามควบ
00:13:21 → 00:13:24 คุมอาหารหรือออกกำลังกายก็ยังต้องระวัง
00:13:24 → 00:13:28 มากกว่าคนทั่วไปนอกจากนี้ยังมีเรื่องความ
00:13:28 → 00:13:32 ดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดผิดปกติคนที่
00:13:32 → 00:13:35 มีภาวะความดันสูงหรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่
00:13:35 → 00:13:39 ดีหรือ LDL สูงจะเสี่ยงต่อเบาหวานและโรค
00:13:39 → 00:13:42 หลอดเลือดหัวใจร่วมกันซึ่งบางครั้งแผดมัก
00:13:42 → 00:13:44 เรียกกลุ่มอาการเหล่านี้ว่า Metamolic
00:13:44 → 00:13:48 Syrมหรือกลุ่มอาการอ้วนลงพุงนั่นเองที่
00:13:48 → 00:13:52 หลายคนไม่คาดคิดคือการนอนหลับไม่เพียงพอ
00:13:52 → 00:13:55 งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าคนที่นอนน้อย
00:13:55 → 00:13:58 กว่า 6 ช่โมงต่อคืนติดต่อกันเป็นเวลานาน
00:13:58 → 00:14:00 จะมีโอกาสเกิดภาวะดี้ต่ออินซูลินและน้ำ
00:14:00 → 00:14:04 ตาลในเลือกสูงขึ้นนั่นหมายความว่าการนอน
00:14:04 → 00:14:06 หลับพักผ่อนที่มีคุณภาพไม่ได้ดีต่อสมอง
00:14:06 → 00:14:08 และอารมณ์เท่านั้นแต่ยังช่วยลดโอกาส
00:14:08 → 00:14:11 เสี่ยงเบาหวานได้ด้วยสุดท้ายคือความ
00:14:11 → 00:14:15 เครียดเรื้อรังเมื่อร่างกายเครียดจะหลั่ง
00:14:15 → 00:14:18 ฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลใน
00:14:18 → 00:14:20 เลือดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากคุณเจอ
00:14:20 → 00:14:23 สถานการณ์กดดันตลอดเวลาแต่ไม่หาวิธีจัด
00:14:23 → 00:14:25 การความเสี่ยงที่จะก้าวเข้าสู่โรคเบาหวาน
00:14:26 → 00:14:29 ก็สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัวสรุปแล้วปัจจัย
00:14:29 → 00:14:32 เสี่ยงของเบาหวานไม่ได้มีแค่การกินหวาน
00:14:32 → 00:14:35 แต่รวมถึงน้ำหนักตัวการขาดการออกกำลังกาย
00:14:35 → 00:14:39 พันธุกรรมความดันสูงไขมันสูงการนอนและ
00:14:39 → 00:14:42 ความเครียดด้วยการรู้ทันปัจจัยเหล่านี้
00:14:42 → 00:14:45 คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณปรับพฤติกรรม
00:14:45 → 00:14:49 และห่างไกลจากโรคได้จริงหลายคนที่ฟังพcส
00:14:49 → 00:14:52 นี้อาจสงสัยว่าแล้วถ้าเรามีความเสี่ยงจะ
00:14:52 → 00:14:56 ทำอะไรได้บ้างจริงๆแล้วเรื่องนี้เริ่ม
00:14:56 → 00:15:00 ง่ายกว่าที่คิดแค่รู้ตัวและลงมือทำทันที
00:15:00 → 00:15:04 อันดับแรกคือตรวจคัดกรองตัวเองใครควรตรวจ
00:15:04 → 00:15:07 บ้างคนที่น้ำหนักเกินหรือมีพุงเกิน
00:15:07 → 00:15:09 มาตรฐาน
00:15:09 → 00:15:12 คนที่อายุเกิน 35 ปีหรือมีคนในครอบครัว
00:15:12 → 00:15:16 เป็นเบาหวานสิ่งเหล่านี้คือสัญญาณว่าเรา
00:15:16 → 00:15:20 ควรตรวจการตรวจไม่ซับซ้อนแค่เจาะเลือดตอน
00:15:20 → 00:15:23 เช้าก่อนกินอาหารเรียกว่า fasting blood
00:15:23 → 00:15:28 sugar ถ้าน้ำตาลสูงเกิน 100-15
00:15:28 → 00:15:33 นี่คือช่วงก่อนเป็นเบาหวานแต่ถ้าเกิน 126
00:15:33 → 00:15:36 แปลว่าอาจจะเป็นเบาหวานแล้วแพทย์อาจตรวจ
00:15:36 → 00:15:39 HBA1C ด้วยซึ่งบอกเราว่าน้ำตาลในเลือด
00:15:39 → 00:15:43 ย้อนหลัง 2-3 เดือนอยู่ที่เท่าไหร่หรือ
00:15:43 → 00:15:46 บางครั้งก็ตรวจหลังอาหาร 2 ช่โมงเพื่อดู
00:15:46 → 00:15:49 ว่าน้ำตาลพุ่งหลังกินอาหารหรือเปล่าพอรู้
00:15:50 → 00:15:53 ตัวแล้วขั้นต่อไปคือการป้องกันด้วยตัวเอง
00:15:54 → 00:15:56 ซึ่งไม่ได้ยากเกินไปเริ่มจากเรื่องใกล้
00:15:56 → 00:16:00 ตัวที่สุดนั่นคืออาหารเราไม่ได้หมายถึง
00:16:00 → 00:16:05 กินน้อยหรืออดอาหารแต่เน้มสมดุลลดน้ำตาล
00:16:05 → 00:16:09 ลดอาหารแปรรูปเพิ่มผักผลไม้ธัญพืชไม่ขัด
00:16:09 → 00:16:14 สีและโปรตีนดีๆจากปลาไก่ถั่วรวมถึงไขมัน
00:16:14 → 00:16:19 ดีจากถั่วและเมล็ดพืชต่อมาคือออกกำลังกาย
00:16:19 → 00:16:23 ไม่ต้องเข้าฟิตเนสหนักๆเดินเร็วว่ายน้ำ
00:16:23 → 00:16:27 ปั่นจักรยานอย่างน้อยวันละ 30 นาทีทำ 5
00:16:27 → 00:16:30 วันต่อสัปดาห์ก็พอการเคลื่อนไหวช่วยให้
00:16:30 → 00:16:33 ร่างกายใช้อินซูลินได้ดีขึ้นและลดน้ำตาล
00:16:33 → 00:16:37 ในเลือดได้จริงอีกเรื่องสำคัญคือน้ำหนัก
00:16:37 → 00:16:42 และรอบเอวการลดน้ำหนักเพียง 5-10% ก็ช่วย
00:16:42 → 00:16:45 ลดความเสี่ยงได้มากวัดรอบเอวสัปดาห์ละ
00:16:45 → 00:16:48 ครั้งถ้าเกินมาตรฐานต้องปรับอาหารและ
00:16:48 → 00:16:52 เพิ่มกิจกรรมอย่าลืมเรื่องการนอนและความ
00:16:52 → 00:16:56 เครียดนอนให้เพียงพอ 6-8 ชมงต่อคืนฝึก
00:16:56 → 00:17:01 ผ่อนคลายทำสมาธิหรือหายใจลึกๆเพราะความ
00:17:01 → 00:17:04 เครียดทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นเรื้อรัง
00:17:04 → 00:17:09 สุดท้ายคือบุหรี่และลดแอลกอฮอล์สิ่งเหล่า
00:17:09 → 00:17:12 นี้ช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานและโรคหัวใจ
00:17:12 → 00:17:16 ง่ายๆก็คือตรวจตัวเองปรับชีวิตประจำวัน
00:17:16 → 00:17:20 และลงมือทำทันทีเราจะมีโอกาสห่างไกลเบา
00:17:20 → 00:17:24 หวานได้มากกว่าที่คิดเมื่อเรารู้ตัวว่ามี
00:17:24 → 00:17:27 น้ำตาลสูงหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น
00:17:27 → 00:17:31 เบาหวานสิ่งแรกที่หลายคนกังวลคือแล้ว
00:17:31 → 00:17:35 ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรต่อคำตอบคือเรายัง
00:17:35 → 00:17:39 ใช้ชีวิตได้ตามปกติแค่ต้องปรับบางอย่าง
00:17:39 → 00:17:42 การปรับชีวิตเริ่มจากการเข้าใจโรคและติด
00:17:42 → 00:17:46 ตามตัวเองรู้ว่าเราอยู่ในระดับไหนต้องวัด
00:17:46 → 00:17:50 น้ำตาลตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำสังเกต
00:17:50 → 00:17:54 ตัวเองง่ายๆเช่นกระหายน้ำมากขึ้นปัสสาวะ
00:17:54 → 00:17:59 บ่อยหรือมีอาการเหนื่อยง่ายต่อมาคืออาหาร
00:17:59 → 00:18:01 และโภชนาการ
00:18:01 → 00:18:04 ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอดอาหารแต่ให้เลือก
00:18:04 → 00:18:09 อาหารสมดุลกินผักผลไม้ธัญพืชไม่ขัดสี
00:18:09 → 00:18:15 โปรตีนดีเช่นปลาไก่ถั่วและไขมันดีจากถั่ว
00:18:15 → 00:18:18 เมล็ดพืชควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละ
00:18:18 → 00:18:22 มื้อทำให้ระดับน้ำตาลไม่แกว่งมาก
00:18:22 → 00:18:27 เรื่องต่อมาคือการออกกำลังกายเดินเร็ว
00:18:27 → 00:18:30 ว่ายน้ำปั่นจักรยานหรือกิจกรรมที่ชอบ
00:18:30 → 00:18:35 อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห
00:18:35 → 00:18:38 การเคลื่อนไหวช่วยให้ร่างกายใช้อินซูลิน
00:18:38 → 00:18:43 ได้ดีลดน้ำตาลและยังช่วยให้ใจเราผ่อนคลาย
00:18:43 → 00:18:46 นอกจากอาหารและออกกำลังกายแล้วการนอนและ
00:18:46 → 00:18:50 จัดการความเครียดก็สำคัญมากนอนให้เพียงพอ
00:18:50 → 00:18:53 ฝึกผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมที่ช่วยลดความ
00:18:53 → 00:18:57 เครียดเพราะความเครียดและนอนน้อยทำให้น้ำ
00:18:57 → 00:19:00 ตาลในเลือดสูงขึ้นอีกเรื่องที่หลายคนมัก
00:19:00 → 00:19:05 มองข้ามคือการดูแลตัวเองระยะยาวตรวจ
00:19:05 → 00:19:09 สุขภาพประจำปีตามนัดดูแลเท้าเพราะเบาหวาน
00:19:09 → 00:19:14 ทำให้แผลหายช้าสังเกตผิวหนังและฟันเพราะ
00:19:14 → 00:19:18 การติดเชื้อบ่อยอาจเป็นสัญญาณน้ำตาลสูง
00:19:18 → 00:19:21 จัดการยาให้ตรงเวลาและปรึกษาแพทย์เมื่อมี
00:19:21 → 00:19:23 อาการผิดปกติ
00:19:23 → 00:19:27 สิ่งสำคัญคืออย่าตื่นตระหนกและอย่าท้อเบา
00:19:28 → 00:19:31 หวานไม่ได้หมายความว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไป
00:19:31 → 00:19:35 หมดแต่หมายถึงเราต้องใส่ใจตัวเองมากขึ้น
00:19:35 → 00:19:37 การปรับพฤติกรรมเล็กๆทุกวันจะช่วยให้
00:19:37 → 00:19:40 ชีวิตเราปกติได้เหมือนเดิมและลดความ
00:19:40 → 00:19:43 เสี่ยงแทรกซ้อนในระยะยาว
00:19:43 → 00:19:48 รู้ตัวสังเกตตัวเองปรับอาหารออกกำลังกาย
00:19:48 → 00:19:52 นอนเพียงพอและจัดการความเครียดเพียงเท่า
00:19:52 → 00:19:55 นี้เราก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่
00:19:55 → 00:19:59 แม้ว่าจะมีเบาหวานก็ตามตอนนี้เราพูดถึง
00:19:59 → 00:20:02 ทุกอย่างแล้วตั้งแต่ปัจจัยเสี่ยงสัญญา
00:20:02 → 00:20:06 สัญญาณเตือนการตรวจคัดกรองและวิธีดูแลตน
00:20:06 → 00:20:09 เองแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรวมทุก
00:20:09 → 00:20:12 อย่างเข้าด้วยกันและทำต่อเนื่องในชีวิต
00:20:12 → 00:20:16 ประจำวันหลายคนถามว่าแล้วถ้าเรารู้ตัวว่า
00:20:16 → 00:20:19 มีความเสี่ยงหรือเป็นเบาหวานแล้วจะทำ
00:20:19 → 00:20:24 อย่างไรให้ชีวิตยังปกติจริงๆคำตอบคือเรา
00:20:24 → 00:20:27 ยังมีชีวิตปกติได้เพียงแต่ต้องใส่ใจและมี
00:20:27 → 00:20:31 วินัยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตรวจสุขภาพสม่ำ
00:20:31 → 00:20:32 เสมอ
00:20:32 → 00:20:35 เริ่มจากพื้นฐานเลยคือตรวจสุขภาพเป็น
00:20:35 → 00:20:38 ประจำคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรตรวจน้ำ
00:20:38 → 00:20:43 ตาลและ HBA1C อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งการ
00:20:43 → 00:20:46 ตรวจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่เป็นเครื่อง
00:20:46 → 00:20:49 มือช่วยให้เรารู้ตัวเร็วหากพบว่าระดับน้ำ
00:20:49 → 00:20:53 ตาลสูงเราจะได้ลงมือปรับพฤติกรรมทันทีไม่
00:20:53 → 00:20:55 ปล่อยให้เป็นเรื้อรัง
00:20:55 → 00:20:58 อาหารและโภชนาการ
00:20:58 → 00:21:00 อาหารคือสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ด้วย
00:21:00 → 00:21:04 ตัวเองไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอดหรือกินจืด
00:21:04 → 00:21:08 สนิทแค่เลือกสมดุลและชานฉลาดลดอาหารหวาน
00:21:08 → 00:21:12 และแปรรูปเน้นถักผลไม้หลากสีเลือกธัญพืช
00:21:12 → 00:21:17 ไม่ขัดสีแทนข้าวขาวกินโปรตีนดีๆเช่นปลา
00:21:17 → 00:21:22 ไก่ถั่วและไขมันดีจากถั่วหรือเมล็ดพืชควบ
00:21:22 → 00:21:25 คุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละมื้อการกิน
00:21:25 → 00:21:28 แบบนี้ไม่เพียงช่วยควบคุมน้ำตาลแต่ยังทำ
00:21:28 → 00:21:30 ให้เราอิ่มนานมีพลัง
00:21:30 → 00:21:34 และรู้สึกดีทั้งร่างกายและจิตใจ
00:21:34 → 00:21:37 การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนส
00:21:37 → 00:21:40 หนักๆแค่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
00:21:40 → 00:21:45 ก็เพียงพอแล้วเดินเร็วว่ายน้ำปั่นจักรยาน
00:21:45 → 00:21:49 หรือกิจกรรมที่เราชอบวันละ 30 นาที
00:21:49 → 00:21:52 สัปดาห์ละ 5 วันการออกกำลังกายช่วยให้
00:21:52 → 00:21:55 ร่างกายใช้อินซูลินได้ดีขึ้นลดน้ำตาลใน
00:21:55 → 00:21:59 เลือดและทำให้จิตใจเราผ่อนคลาย
00:21:59 → 00:22:02 การนอนนอนและจัดการความเครียดหลายคนมัก
00:22:02 → 00:22:05 มองข้ามเรื่องนี้แต่การนอนเพียงพอและลด
00:22:05 → 00:22:09 ความเครียดเป็นสิ่งสำคัญมากนอนอย่างน้อย
00:22:09 → 00:22:13 6-8 ชมงต่อคืนฝึกสมาธิทำกิจกรรมที่ผ่อน
00:22:13 → 00:22:17 คลายการจัดการความเครียดช่วยควบคุมน้ำตาล
00:22:17 → 00:22:21 และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนการดูแลตนเอง
00:22:21 → 00:22:26 ระยะยาวเมื่อเรามีเบาหวานสิ่งสำคัญคือติด
00:22:26 → 00:22:29 ตามและดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องตรวจเท้า
00:22:29 → 00:22:33 สังเกตแผลเพราะเบาหวานทำให้แผลหายช้า
00:22:33 → 00:22:36 สังเกตฟันและผิวหนังหากติดเชื้อบ่อยอาจ
00:22:37 → 00:22:40 เป็นสัญญาณน้ำตาลสูงจัดการยาและปรึกษา
00:22:40 → 00:22:44 แพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติก้าวสู่
00:22:44 → 00:22:48 ชีวิตที่ปกติและมั่นใจสิ่งสำคัญที่สุดคือ
00:22:48 → 00:22:52 ไม่ท้อและไม่ตื่นตระหนกเบาหวานไม่ได้หมาย
00:22:52 → 00:22:54 ความว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไปหมดเพียงแต่
00:22:54 → 00:22:58 ปรับพฤติกรรมเล็กๆทุกวันอย่างสม่ำเสมอเรา
00:22:58 → 00:23:02 สามารถใช้ชีวิตปกติมีพลังและลดความเสี่ยง
00:23:02 → 00:23:06 แทรกซ้อนในระยะยาวจำง่ายๆว่าตรวจสุขภาพ
00:23:06 → 00:23:11 เป็นประจำกินอาหารสมดุลออกกำลังกายทุกวัน
00:23:11 → 00:23:15 นอนพอและลดความเครียดดูแลตนเองและติดตาม
00:23:15 → 00:23:19 อาการทำแบบนี้ต่อเนื่องคุณจะอยู่กับเบา
00:23:19 → 00:23:22 หวานได้อย่างมั่นใจมีคุณภาพชีวิตดีและยัง
00:23:22 → 00:23:26 สามารถทำกิจกรรมที่รักได้เหมือนเดิมและ
00:23:26 → 00:23:30 นี่ก็คือซีรียสเรื่องรู้ไว้ห่างไกลเบา
00:23:30 → 00:23:33 หวานครับหวังว่าคุณจะได้แนวทางและเทคนิค
00:23:33 → 00:23:36 ต่างๆไปลองปรับใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่า
00:23:36 → 00:23:40 จะเป็นการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอปรับอาหารให้
00:23:40 → 00:23:44 สมดุลออกกำลังกายและจัดการความเครียดสิ่ง
00:23:44 → 00:23:46 เหล่านี้แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆแต่เมื่อทำ
00:23:46 → 00:23:49 อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยง
00:23:49 → 00:23:53 และมีชีวิตที่มั่นใจได้จำไว้ว่าการดูแลตน
00:23:53 → 00:23:57 เองคือการลงทุนในสุขภาพระยะยาวเริ่มจาก
00:23:57 → 00:24:00 สิ่งง่ายๆวันนี้อาจเป็นการเดินเร็วปรับ
00:24:00 → 00:24:03 อาหารหรือสังเกตร่างกายตัวเองเมื่อทำ
00:24:03 → 00:24:06 อย่างสม่ำเสมอคุณจะเริ่มเห็นความแตกต่าง
00:24:06 → 00:24:10 ทั้งร่างกายและจิตใจขอบคุณที่ฟังพcสของ
00:24:10 → 00:24:14 เราถ้าชอบเนื้อหาอย่าลืมกดติดตามกดไลค์
00:24:14 → 00:24:17 และแชร์ให้เพื่อนๆหรือครอบครัวเพื่อให้
00:24:17 → 00:24:20 ทุกคนมีโอกาสห่างไกลเบาหวานและมีสุขภาพ
00:24:20 → 00:24:24 ที่ดีขึ้นครับแล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไปดู
00:24:24 → 00:24:28 แลตนเองให้ดีใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขภาพ
00:24:28 → 00:24:31 ดีในทุก
00:00:00 → 00:00:03 เบาหวานเป็นโรคที่หลายคนเคยได้ยินแต่ไม่
00:00:03 → 00:00:06 ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจจริงๆว่ามันคืออะไร
00:00:06 → 00:00:10 และอันตรายแค่ไหนในปัจจุบันองค์การอนามัย
00:00:10 → 00:00:14 โลกเปิดเผยว่ามีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 400
00:00:14 → 00:00:17 ล้านคนทั่วโลกและตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้น
00:00:17 → 00:00:20 อย่างต่อเนื่องทุกปีในประเทศไทยเองก็พบ
00:00:20 → 00:00:23 ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:00:23 → 00:00:27 ไว้ทำงานและผู้สูงอายุแต่สิ่งที่ทำให้โรค
00:00:27 → 00:00:30 นี้น่ากังวลคือคนจำนวนมากไม่รู้ตัวว่า
00:00:30 → 00:00:33 กำลังเป็นอยู่เพราะเบาหวานมักจะค่อยๆ
00:00:33 → 00:00:36 พัฒนาอย่างช้าๆและแทบไม่มีอาการในระยะ
00:00:36 → 00:00:41 เริ่มต้นเบาหวานเกิดขึ้นได้อย่างไร
00:00:41 → 00:00:44 หลักๆเบาหวานเกิดจากความผิดปกติในการทำ
00:00:44 → 00:00:47 งานของอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้าง
00:00:47 → 00:00:51 จากตับอ่อนหน้าที่ของอินซูลินคือคอยเปิด
00:00:51 → 00:00:55 ประตูให้กลูโคสหรือน้ำตาลที่เรากินเข้าไป
00:00:55 → 00:00:58 สามารถเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน
00:00:58 → 00:01:01 ถ้าไม่มีอินอินซูลินหรืออินซูลินทำงานได้
00:01:01 → 00:01:04 ไม่ดีน้ำตาลก็จะค้างอยู่ในเลือดทำให้
00:01:04 → 00:01:08 ระดับน้ำตาลสูงผิดปกติลองนึกภาพง่ายๆ
00:01:08 → 00:01:11 เหมือนเรามีกุญแจที่จะไขประตูบ้าน
00:01:11 → 00:01:15 อินซูลินก็คือกุญแจที่จะไขประตูเซลล์แต่
00:01:15 → 00:01:19 ถ้ากุญแจหายไปหรือกุญแจบิดแล้วไม่ลงล็อค
00:01:19 → 00:01:23 น้ำตาลก็เข้าไม่ได้ผลคือเลือดเต็มไปด้วย
00:01:23 → 00:01:25 น้ำตาลแต่ร่างกายกลับไม่ได้พลังงานเพียร
00:01:25 → 00:01:30 พอนี่แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา
00:01:30 → 00:01:33 ประเภทของเบาหวานโรคนี้แบ่งได้เป็นหลาย
00:01:33 → 00:01:37 ประเภทแต่ที่พบมากที่สุดคือ 2 ชนิดใหญ่
00:01:37 → 00:01:40 เบาหวานชนิดที่ 1 ร่างกายไม่สามารถสร้าง
00:01:40 → 00:01:44 อินซูลินได้เลยมักพบในเด็กและวัยรุ่นเกิด
00:01:44 → 00:01:47 จากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์
00:01:47 → 00:01:50 ตับอ่อนที่สร้างอินซูลินเป็นชนิดที่ต้อง
00:01:50 → 00:01:54 พึ่งพาการฉีดอินซูลินตลอดชีวิตเบาหวาน
00:01:54 → 00:01:57 ชนิดที่ 2 ชนิดนี้พบมากที่สุดร่างกายยัง
00:01:57 → 00:02:01 สร้างอินซูลินได้แต่เซลล์ไม่ตอบสนองหรือ
00:02:01 → 00:02:05 ที่เรียกว่าดื้อต่ออินซูลินสาเหตุหลักมา
00:02:05 → 00:02:08 จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่นกินอาหารหวาน
00:02:08 → 00:02:13 จัดมันจัดขาดการออกกำลังกายน้ำหนักเกิน
00:02:13 → 00:02:17 และภาวะอ้วนลงพุงนอกจากนี้ยังมีเบาหวาน
00:02:17 → 00:02:20 ขณะตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในคุณแม่บางคน
00:02:20 → 00:02:23 ซึ่งมักจะหายไปหลังคลอดแต่ก็อาจเพิ่ม
00:02:23 → 00:02:27 โอกาสในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต
00:02:27 → 00:02:31 ทำไมเบาหวานถือถูกเรียกว่าภัยเงียบเพราะ
00:02:31 → 00:02:34 ในระยะเริ่มต้นเบาหวานแทบจะไม่มีสัญญาณ
00:02:34 → 00:02:37 เตือนชัดเจนคนจำนวนมากใช้ชีวิตประจำวัน
00:02:37 → 00:02:40 ได้ตามปกติแต่ระดับน้ำตาลในเลือดกลับสูง
00:02:40 → 00:02:44 ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปน้ำตาลส่วน
00:02:44 → 00:02:48 เกินจะเริ่มทำลายเส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ
00:02:48 → 00:02:51 เช่นหลอดเลือดหัวใจเสี่ยงหัวใจวายหรือ
00:02:51 → 00:02:55 หลอดเลือดตีบไตเสี่ยงไตวายเรื้อรังต้อง
00:02:55 → 00:02:57 ฟอกไต่ตา
00:02:57 → 00:03:01 เสี่ยงตาบอดจากเบาหวานขึ้นตาเส้นประสาทมี
00:03:01 → 00:03:05 อาการชาปลายมือปลายเท้าหรือแผลหายช้านี่
00:03:05 → 00:03:07 จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องทำความ
00:03:07 → 00:03:10 เข้าใจโรคนี้ตั้งแต่เนิ่นๆเพราะการรู้
00:03:10 → 00:03:13 เร็วป้องกันได้เร็วย่อมดีกว่ารอจนเกิด
00:03:13 → 00:03:16 ภาวะแทรกซ้อนแล้ว
00:03:16 → 00:03:19 ปัจจัยเสี่ยงที่ควรรู้แม้เบาหวานจะเกี่ยว
00:03:19 → 00:03:22 ข้องกับพันธุกรรมแต่ปัจจัยที่ควบคุมได้ก็
00:03:22 → 00:03:27 มีมากเช่นการกินอาหารที่หวานมันเค็มเกิน
00:03:27 → 00:03:30 ไปการดื่มน้ำอัดลมและเคลื่อนดื่มที่มีน้ำ
00:03:30 → 00:03:34 ตาลสูงการนั่งทำงานทั้งวันขาดการเคลื่อน
00:03:34 → 00:03:38 ไหวร่างกายน้ำหนักตัวเกินโดยเฉพาะอ้วนลง
00:03:38 → 00:03:41 พุงและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอยู่บ่อย
00:03:41 → 00:03:44 ๆก็ถือว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแม้จะยัง
00:03:44 → 00:03:47 ไม่เป็นในตอนนี้แต่ถ้ายังปล่อยไปโดยไม่
00:03:47 → 00:03:50 ปรับเปลี่ยนก็มีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะเบา
00:03:50 → 00:03:54 หวานในอนาคตเมื่อเรามองภาพรวมทั้งหมดเบา
00:03:54 → 00:03:56 หวานไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิดมัน
00:03:56 → 00:03:59 เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและส่งผล
00:03:59 → 00:04:03 กระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวแต่สิ่งที่
00:04:03 → 00:04:06 น่ายินดีคือเบาหวานสามารถป้องกันได้และ
00:04:06 → 00:04:10 ถึงแม้จะเป็นแล้วก็ยังสามารถควบคุมและใช้
00:04:10 → 00:04:13 ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้ถ้าเรามีความรู้และ
00:04:13 → 00:04:16 เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้โรคเบา
00:04:16 → 00:04:20 หวานมักคืบคลานช้าและเงียบจนหลายคนรู้ตัว
00:04:20 → 00:04:23 อีกทีเมื่อเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนแล้วการ
00:04:23 → 00:04:26 สังเกตสัญญาณเตือนเล็กๆตั้งแต่เนื่อง
00:04:26 → 00:04:29 เนิ่นจึงสำคัญมากเพราะยิ่งรู้เร็วยิ่งมี
00:04:29 → 00:04:32 โอกาสป้องกันคุมได้และหลีกเลี่ยงความ
00:04:32 → 00:04:34 เสี่ยงระยะยาว
00:04:34 → 00:04:37 4 มากที่ควรรู้ให้ชัด
00:04:37 → 00:04:41 กินมากขึ้นผิดปกติเมื่ออินซูลินทำงานด้อย
00:04:41 → 00:04:45 ลงกลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้น้อยเซลล์จึง
00:04:45 → 00:04:48 เหมือนได้พลังงานไม่พอสมองส่งสัญญาณให้
00:04:48 → 00:04:52 หิวบ่อยทั้งที่เพิ่งทานไปไม่นานบางคนหิว
00:04:52 → 00:04:54 ตอนดึกหรือช่วงบ่ายหลังอาหารกลางวันเป็น
00:04:54 → 00:04:56 ประจำ
00:04:56 → 00:05:00 ดื่มมากกระหายน้ำตลอดน้ำตาลในเลือดที่สูง
00:05:00 → 00:05:03 ทำให้ร่างกายดึงน้ำออกจากเซลล์เพื่อเจื่อ
00:05:03 → 00:05:08 จางจึงกระหายน้ำง่ายปากคอแห้งบางคนต้องพก
00:05:08 → 00:05:10 น้ำติดตัวตลอดเวลา
00:05:10 → 00:05:15 ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะเวลากลางคืนไตจะ
00:05:15 → 00:05:18 พยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกมากับปัสสาวะ
00:05:18 → 00:05:21 จึงทำให้ต้องเข้าห้องน้ำถี่ขึ้นตื่นกลาง
00:05:21 → 00:05:24 ดึกหลายรอบจนคุณภาพการนอนลดลงสังเกตได้
00:05:24 → 00:05:29 ว่าปัสสาวะปริมาณมากและใสกว่าปกติ
00:05:29 → 00:05:32 น้ำหนักลดทั้งที่กินปกติหรือมากขึ้นเพราะ
00:05:33 → 00:05:35 ร่างกายเอาน้ำตาลไปใช้ไม่ได้จึงหันไปใช้
00:05:35 → 00:05:38 ไขมันและกล้ามเนื้อเป็นพลังงานน้ำหนักจึง
00:05:38 → 00:05:41 ลดลงอย่างไม่ตั้งใจเสื้อผ้าหลวมลงโดยไม่
00:05:41 → 00:05:44 อธิบายได้
00:05:44 → 00:05:48 อาการอื่นๆที่มักถูกมองข้ามอ่อนเพลีย
00:05:48 → 00:05:52 เหนื่อยง่ายสมองล้ามึนๆเบลอๆหลังมื้อ
00:05:52 → 00:05:53 อาหาร
00:05:53 → 00:05:56 สายตาพร่ามัวเป็นๆหายๆเนื่องจากระดับน้ำ
00:05:56 → 00:06:01 ตาลแกว่งทำให้เลนส์สตารบวมหรือหดแผลหาย
00:06:01 → 00:06:05 ช้าโดยเฉพาะเท้าขาหรือบริเวณที่รองรับน้ำ
00:06:05 → 00:06:09 หนักผิวหนังคันแห้งหรือติดเชื้อบ่อยเชื้อ
00:06:09 → 00:06:13 ราแบคทีเรียรวมถึงเชื้อราในช่องปากหรือ
00:06:13 → 00:06:18 อวัยวเพศเหงือกบวมเลือดออกง่ายมีกลิ่นปาก
00:06:18 → 00:06:22 หรือฟันโยกจากโรคเหงือกชาปลายมือปลายเท้า
00:06:22 → 00:06:25 เหมือนขิมทิ่มหรือแสบร้อนปลายเท้าโดย
00:06:25 → 00:06:27 เฉพาะตอนกลางคืนเป็นสัญญาณเริ่มของปลาย
00:06:27 → 00:06:30 ปราสาทถูกทำลาย
00:06:30 → 00:06:34 ผิวหนังหนาและคล้ำเป็นพืชกำมหยี่บริเวณคอ
00:06:34 → 00:06:38 รักแร้หรือขาหนีบ acantosis negric สื่อ
00:06:38 → 00:06:41 ถึงภาวะดื้อต่ออินซูลิน
00:06:41 → 00:06:45 ติ่งเนื้อเล็กๆตามคอรักแร้หรือขาหนีบ skin
00:06:45 → 00:06:49 tag พบได้ร่วมกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
00:06:49 → 00:06:52 ปัสสาวะเป็นฟองมากกว่าปกติเรื้อรังอาจบอก
00:06:52 → 00:06:56 ถึงปัญหาตายกับน้ำตาลสูงสะสมเพศชายอาจมี
00:06:56 → 00:06:59 ปัญหาหย่อนสมรรถภาพเพศหญิงประจำเดือนแปร
00:06:59 → 00:07:02 ปรวนเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์จากการติดเชื้อ
00:07:02 → 00:07:07 ซ้ำๆอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่ายวิตกกังวล
00:07:07 → 00:07:10 หรือรู้สึกซึมเศร้าซึ่งบางครั้งสัมพันธ์
00:07:10 → 00:07:13 กับน้ำตาลแกว่งและการนอนหลับถูกรับกวน
00:07:13 → 00:07:18 สัญญาณเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นกระหายน้ำ
00:07:18 → 00:07:22 มากปัสสาวะบ่อยน้ำหนักลดรวดเร็วอ่อนเพลีย
00:07:22 → 00:07:26 เบื่ออาหารหรือปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนหาก
00:07:26 → 00:07:29 รูปกับหายใจลึกคอม่าหรือผิดปกติมีกลิ่น
00:07:29 → 00:07:34 หอมแบบผลไม้สับสนซึมลงถือเป็นภาวะฉุกเฉิน
00:07:34 → 00:07:38 สงสัยคีโตอซิโดิสต้องพบแพทย์ทันทีหญิง
00:07:38 → 00:07:41 ตั้งครรภ์ปัสสาวะบ่อยและกระหายน้ำมากขึ้น
00:07:41 → 00:07:44 ผิดปกติเกินกว่าที่เกิดจากการตั้งครรภ์
00:07:44 → 00:07:47 ทั่วไปเหนื่อยง่ายกว่าที่ปกติทารกตัวโต
00:07:47 → 00:07:50 เกินอายุครรภ์หรือมีน้ำตาลในปัสสาวะจาก
00:07:50 → 00:07:53 การคัดกรองฝากคันฝากคันสม่ำเสมอตามนัด
00:07:53 → 00:07:57 สำคัญมากผู้สูงอายุอาการอาจไม่ชัดเช่น
00:07:57 → 00:08:02 เบลอเพลียเดินช้าลงลืมง่ายหกล้มบ่อยต้อง
00:08:02 → 00:08:05 ระวังเป็นพิเศษเพราะภาวะขาดน้ำและน้ำตาล
00:08:05 → 00:08:09 สูงมากๆอาจนำไปสู่ความสับสนฉับพลันได้
00:08:09 → 00:08:13 ปัจจัยที่ทำให้อาการปะทุชั่วคราวการติด
00:08:13 → 00:08:16 เชื้อหรืออักเสบใหญ่ๆเช่นปอดอักเสบทาง
00:08:16 → 00:08:19 เดินปัสสาวะอักเสบทำให้น้ำตาลสูงขึ้นผิด
00:08:19 → 00:08:23 ปกติยาบังชะเง็ดเช่นสติสเตียรอยด์ยาบาง
00:08:23 → 00:08:26 กลุ่มสำหรับจิตเวทหรือภูมิแพ้อาจทำให้น้ำ
00:08:26 → 00:08:30 ตาลสูงชั่วคราวความเครียดเรื้อรังการนอน
00:08:30 → 00:08:32 น้อยต่อเนื่องกันหลายคืนทำให้ดื้อต่อ
00:08:32 → 00:08:37 อินซูลินมากขึ้นภาวะก่อนเป็นเบาหวานยิ่ง
00:08:37 → 00:08:41 เงียบยิ่งน่าระวังภาวะก่อนเป็นเบาหวานมัก
00:08:41 → 00:08:43 แทบไม่มีอาการแต่มีสัญญาณแวดล้อมให้
00:08:44 → 00:08:47 สังเกตเช่นหนังคอคล้ำเป็นพืชติ่งเนื้อ
00:08:47 → 00:08:50 เล็กๆตามคอรักแร้ง่วงจัดหลังมื้อ
00:08:50 → 00:08:55 คาร์โบไฮเดรตสูงหิวไวหวานแล้วหิวอีกรอบ
00:08:55 → 00:08:59 เอวเพิ่มโดยเฉพาะอ้วนลงพุงกางเกงคับขึ้น
00:08:59 → 00:09:02 อย่างต่อเนื่องความดันไขมันไตรกลีเซอรด
00:09:02 → 00:09:06 เริ่มสูงกลุ่มนี้ควรตรวจคัดกรองและปรับ
00:09:06 → 00:09:09 พฤติกรรมทันทีเพราะยังถอยกลับได้มากที่
00:09:09 → 00:09:13 สุดเมื่อไหร่ควรรีบพบแพทย์
00:09:13 → 00:09:17 กระหายน้ำจัดปัสสาวะบ่อยมากน้ำหนักลดรวด
00:09:17 → 00:09:21 เร็วเหนื่อยผิดปกติคลื่นไส้อาเจียนปวด
00:09:21 → 00:09:21 ท้อง
00:09:21 → 00:09:25 หายใจลึกและเร็วมีกลิ่นลมหายใจหวานคล้าย
00:09:25 → 00:09:30 ผลไม้สับสนซึมลงถือเป็นภาวะฉุกเฉินสงสัย
00:09:30 → 00:09:34 คีโตอซิโดิสต้องพบแพทย์ทันทีติดเชื้อบ่อย
00:09:34 → 00:09:38 ขึ้นหรือรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะแผลที่เท้าแดง
00:09:38 → 00:09:43 บวมร้อนเจ็บหรือมีน้ำหนองสายตาพร่ามัว
00:09:43 → 00:09:47 หรือมองเห็นแย่ลงฉับพลันอวัยวะเพศหรือผิว
00:09:47 → 00:09:50 หนังติดเชื้อซ้ำๆแม้รักษาแล้วก็กลับมา
00:09:50 → 00:09:53 ใหม่อาการเหล่านี้บ่งชี้ว่าน้ำตาลในเลือด
00:09:53 → 00:09:57 อาจสูงมากหรือเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนอย่ารอ
00:09:57 → 00:10:00 ให้ดีขึ้นเองควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด
00:10:00 → 00:10:04 เช่นงดอาหารแล้วเจาะน้ำตาลหรืออาจ HBA1C
00:10:04 → 00:10:07 และรับคำแนะนำที่เหมาะสม
00:10:07 → 00:10:11 เช็คตัวเองแบบเป็นระบบใน 7 วันบันทึกเวลา
00:10:11 → 00:10:14 และจำนวนครั้งที่ปัสสาวะตอนกลางคืนรวมถึง
00:10:14 → 00:10:17 ความกระหายน้ำตอนกลางคืนด้วยจดระดับพลัง
00:10:18 → 00:10:21 งานหลังอาหาร 1-2 ชมงว่าง่วงล้าหรือหิว
00:10:21 → 00:10:25 เร็วหรือไม่ชังน้ำหนัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์
00:10:25 → 00:10:28 สังเกตเสื้อผ้าหลวมแน่นผิดปกติตรวจผิว
00:10:28 → 00:10:32 หนังบริเวณคอรักแร้ขาหนีบมีปื้นคล้ำหรือ
00:10:32 → 00:10:35 หนาไหม้และมีติ่งเนื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่
00:10:35 → 00:10:39 มองหาแผลถลอกเล็กๆที่เท้าขาว่าหายช้ากว่า
00:10:39 → 00:10:43 ปกติหรือมีอาการอักเสบมยถ้าเป็นไปได้วัด
00:10:43 → 00:10:46 รอบเอวช่วงเช้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูแนว
00:10:46 → 00:10:50 โน้มลงพุงเช็คลิสต์สั้นๆที่ช่วยตัดตัดสิน
00:10:50 → 00:10:54 ใจไปตรวจหิวง่ายกระหายน้ำบ่อยปัสสาวะถี่
00:10:54 → 00:10:58 โดยเฉพาะกลางคืนน้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจใน
00:10:58 → 00:11:00 ช่วงไม่กี่เดือนง่วงเพลียมากหลังมื้อ
00:11:00 → 00:11:04 คาร์โบไฮเดรตสูงแผลหายช้าติดเชื้อง่ายผิว
00:11:04 → 00:11:08 คันบ่อยชาปลายมือปลายเท้าหรือปวดแสบร้อน
00:11:08 → 00:11:12 ปลายเท้าผิวคล้ำเป็นพืชกัมหยี่บริเวณคอ
00:11:12 → 00:11:16 รักแร้มีข้อใดข้อหนึ่งให้พิจารณาไปตรวจ
00:11:16 → 00:11:19 คัดกรองโดยเฉพาะถ้ามีประวัติครอบครัวน้ำ
00:11:19 → 00:11:23 หนักเกินหรืออายุเกิน 35 ปี
00:11:23 → 00:11:26 ใจความสำคัญของตอนนี้สัญญาณเตือนของโรค
00:11:26 → 00:11:30 เบาหวานอาจเล็กน้อยและกระจัดกระจายแต่
00:11:30 → 00:11:33 เมื่อเรารู้ว่าควรสังเกตอะไรบ้างเราจะได้
00:11:33 → 00:11:36 ยินร่างกายเร็วกว่าที่เคยการรู้ตัวเร็ว
00:11:36 → 00:11:38 ช่วยให้เริ่มปรับพฤติกรรมได้ทันป้องกัน
00:11:38 → 00:11:42 ภาวะแทรกซ้อนชะลอโรคและในภาวะก่อนเป็นเบา
00:11:42 → 00:11:45 หวานหลายคนสามารถดึงระดับน้ำตาลกลับสู่
00:11:45 → 00:11:49 ภาวะปกติได้ด้วยซ้ำถ้าทำอย่างจริงจัง
00:11:49 → 00:11:51 เนื้อหานี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้
00:11:51 → 00:11:54 ทั่วไปไม่ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะ
00:11:54 → 00:11:57 บุคคลหากคุณสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง
00:11:57 → 00:12:00 หรือมีอาการที่กล่าวถึงควรไปตรวจและ
00:12:00 → 00:12:04 ปรึกษาแพทย์ถัดไปเราจะลงลึกเรื่องปัจจัย
00:12:04 → 00:12:07 เสี่ยงจากพฤติกรรมและใครบ้างที่ควรตรวจ
00:12:07 → 00:12:11 คัดกรองเพื่อให้คุณรู้ว่าควรโฟกัสที่จุด
00:12:11 → 00:12:15 ไหนก่อนและเริ่มปรับอะไรได้ทันทีเมื่อพูด
00:12:15 → 00:12:18 ถึงโรคเบาหวานหลายคนอาจคิดว่ามีแต่เรื่อง
00:12:18 → 00:12:21 การกินหวานมากเกินไปเท่านั้นแต่ความจริง
00:12:21 → 00:12:25 แล้วปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานมีมากกว่านั้น
00:12:25 → 00:12:28 และหลายอย่างเป็นสิ่งที่เราอาจมองข้ามไป
00:12:28 → 00:12:32 อันดับแรกคือน้ำหนักตัวและภาวะอ้วนลงพุง
00:12:32 → 00:12:36 คนที่มีรอบเอวเกินมาตรฐานโดยเฉพาะผู้ชาย
00:12:36 → 00:12:40 ที่รอบเอวเกิน 90 ซม.และผู้หญิงที่เกิน 80
00:12:40 → 00:12:44 ซม.จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นเนื่องจากไขมัน
00:12:44 → 00:12:47 หน้าท้องมีผลต่อการดื้อต่ออินซูลินซึ่ง
00:12:47 → 00:12:50 เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิด
00:12:50 → 00:12:54 ที่ 2 ต่อมาคือการไม่ออกกำลังกายการใช้
00:12:54 → 00:12:57 ชีวิตแบบนั่งทำงานทั้งวันหรือเคลื่อนไหว
00:12:57 → 00:13:00 น้อยส่งผลให้ร่างกายใช้พลังงานน้อย
00:13:00 → 00:13:03 อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่และเพิ่มโอกาส
00:13:03 → 00:13:07 สะสมไขมันรวมถึงน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอีก
00:13:07 → 00:13:09 ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือพันธุกรรมและ
00:13:09 → 00:13:11 ประวัติครอบครัว
00:13:11 → 00:13:14 หากคุณมีพ่อแม่หรือพี่น้องที่ป่วยเป็นเบา
00:13:14 → 00:13:18 หวานความเสี่ยงของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3
00:13:18 → 00:13:21 เท่าซึ่งหมายความว่าต่อให้คุณพยายามควบ
00:13:21 → 00:13:24 คุมอาหารหรือออกกำลังกายก็ยังต้องระวัง
00:13:24 → 00:13:28 มากกว่าคนทั่วไปนอกจากนี้ยังมีเรื่องความ
00:13:28 → 00:13:32 ดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดผิดปกติคนที่
00:13:32 → 00:13:35 มีภาวะความดันสูงหรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่
00:13:35 → 00:13:39 ดีหรือ LDL สูงจะเสี่ยงต่อเบาหวานและโรค
00:13:39 → 00:13:42 หลอดเลือดหัวใจร่วมกันซึ่งบางครั้งแผดมัก
00:13:42 → 00:13:44 เรียกกลุ่มอาการเหล่านี้ว่า Metamolic
00:13:44 → 00:13:48 Syrมหรือกลุ่มอาการอ้วนลงพุงนั่นเองที่
00:13:48 → 00:13:52 หลายคนไม่คาดคิดคือการนอนหลับไม่เพียงพอ
00:13:52 → 00:13:55 งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าคนที่นอนน้อย
00:13:55 → 00:13:58 กว่า 6 ช่โมงต่อคืนติดต่อกันเป็นเวลานาน
00:13:58 → 00:14:00 จะมีโอกาสเกิดภาวะดี้ต่ออินซูลินและน้ำ
00:14:00 → 00:14:04 ตาลในเลือกสูงขึ้นนั่นหมายความว่าการนอน
00:14:04 → 00:14:06 หลับพักผ่อนที่มีคุณภาพไม่ได้ดีต่อสมอง
00:14:06 → 00:14:08 และอารมณ์เท่านั้นแต่ยังช่วยลดโอกาส
00:14:08 → 00:14:11 เสี่ยงเบาหวานได้ด้วยสุดท้ายคือความ
00:14:11 → 00:14:15 เครียดเรื้อรังเมื่อร่างกายเครียดจะหลั่ง
00:14:15 → 00:14:18 ฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลใน
00:14:18 → 00:14:20 เลือดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากคุณเจอ
00:14:20 → 00:14:23 สถานการณ์กดดันตลอดเวลาแต่ไม่หาวิธีจัด
00:14:23 → 00:14:25 การความเสี่ยงที่จะก้าวเข้าสู่โรคเบาหวาน
00:14:26 → 00:14:29 ก็สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัวสรุปแล้วปัจจัย
00:14:29 → 00:14:32 เสี่ยงของเบาหวานไม่ได้มีแค่การกินหวาน
00:14:32 → 00:14:35 แต่รวมถึงน้ำหนักตัวการขาดการออกกำลังกาย
00:14:35 → 00:14:39 พันธุกรรมความดันสูงไขมันสูงการนอนและ
00:14:39 → 00:14:42 ความเครียดด้วยการรู้ทันปัจจัยเหล่านี้
00:14:42 → 00:14:45 คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณปรับพฤติกรรม
00:14:45 → 00:14:49 และห่างไกลจากโรคได้จริงหลายคนที่ฟังพcส
00:14:49 → 00:14:52 นี้อาจสงสัยว่าแล้วถ้าเรามีความเสี่ยงจะ
00:14:52 → 00:14:56 ทำอะไรได้บ้างจริงๆแล้วเรื่องนี้เริ่ม
00:14:56 → 00:15:00 ง่ายกว่าที่คิดแค่รู้ตัวและลงมือทำทันที
00:15:00 → 00:15:04 อันดับแรกคือตรวจคัดกรองตัวเองใครควรตรวจ
00:15:04 → 00:15:07 บ้างคนที่น้ำหนักเกินหรือมีพุงเกิน
00:15:07 → 00:15:09 มาตรฐาน
00:15:09 → 00:15:12 คนที่อายุเกิน 35 ปีหรือมีคนในครอบครัว
00:15:12 → 00:15:16 เป็นเบาหวานสิ่งเหล่านี้คือสัญญาณว่าเรา
00:15:16 → 00:15:20 ควรตรวจการตรวจไม่ซับซ้อนแค่เจาะเลือดตอน
00:15:20 → 00:15:23 เช้าก่อนกินอาหารเรียกว่า fasting blood
00:15:23 → 00:15:28 sugar ถ้าน้ำตาลสูงเกิน 100-15
00:15:28 → 00:15:33 นี่คือช่วงก่อนเป็นเบาหวานแต่ถ้าเกิน 126
00:15:33 → 00:15:36 แปลว่าอาจจะเป็นเบาหวานแล้วแพทย์อาจตรวจ
00:15:36 → 00:15:39 HBA1C ด้วยซึ่งบอกเราว่าน้ำตาลในเลือด
00:15:39 → 00:15:43 ย้อนหลัง 2-3 เดือนอยู่ที่เท่าไหร่หรือ
00:15:43 → 00:15:46 บางครั้งก็ตรวจหลังอาหาร 2 ช่โมงเพื่อดู
00:15:46 → 00:15:49 ว่าน้ำตาลพุ่งหลังกินอาหารหรือเปล่าพอรู้
00:15:50 → 00:15:53 ตัวแล้วขั้นต่อไปคือการป้องกันด้วยตัวเอง
00:15:54 → 00:15:56 ซึ่งไม่ได้ยากเกินไปเริ่มจากเรื่องใกล้
00:15:56 → 00:16:00 ตัวที่สุดนั่นคืออาหารเราไม่ได้หมายถึง
00:16:00 → 00:16:05 กินน้อยหรืออดอาหารแต่เน้มสมดุลลดน้ำตาล
00:16:05 → 00:16:09 ลดอาหารแปรรูปเพิ่มผักผลไม้ธัญพืชไม่ขัด
00:16:09 → 00:16:14 สีและโปรตีนดีๆจากปลาไก่ถั่วรวมถึงไขมัน
00:16:14 → 00:16:19 ดีจากถั่วและเมล็ดพืชต่อมาคือออกกำลังกาย
00:16:19 → 00:16:23 ไม่ต้องเข้าฟิตเนสหนักๆเดินเร็วว่ายน้ำ
00:16:23 → 00:16:27 ปั่นจักรยานอย่างน้อยวันละ 30 นาทีทำ 5
00:16:27 → 00:16:30 วันต่อสัปดาห์ก็พอการเคลื่อนไหวช่วยให้
00:16:30 → 00:16:33 ร่างกายใช้อินซูลินได้ดีขึ้นและลดน้ำตาล
00:16:33 → 00:16:37 ในเลือดได้จริงอีกเรื่องสำคัญคือน้ำหนัก
00:16:37 → 00:16:42 และรอบเอวการลดน้ำหนักเพียง 5-10% ก็ช่วย
00:16:42 → 00:16:45 ลดความเสี่ยงได้มากวัดรอบเอวสัปดาห์ละ
00:16:45 → 00:16:48 ครั้งถ้าเกินมาตรฐานต้องปรับอาหารและ
00:16:48 → 00:16:52 เพิ่มกิจกรรมอย่าลืมเรื่องการนอนและความ
00:16:52 → 00:16:56 เครียดนอนให้เพียงพอ 6-8 ชมงต่อคืนฝึก
00:16:56 → 00:17:01 ผ่อนคลายทำสมาธิหรือหายใจลึกๆเพราะความ
00:17:01 → 00:17:04 เครียดทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นเรื้อรัง
00:17:04 → 00:17:09 สุดท้ายคือบุหรี่และลดแอลกอฮอล์สิ่งเหล่า
00:17:09 → 00:17:12 นี้ช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานและโรคหัวใจ
00:17:12 → 00:17:16 ง่ายๆก็คือตรวจตัวเองปรับชีวิตประจำวัน
00:17:16 → 00:17:20 และลงมือทำทันทีเราจะมีโอกาสห่างไกลเบา
00:17:20 → 00:17:24 หวานได้มากกว่าที่คิดเมื่อเรารู้ตัวว่ามี
00:17:24 → 00:17:27 น้ำตาลสูงหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น
00:17:27 → 00:17:31 เบาหวานสิ่งแรกที่หลายคนกังวลคือแล้ว
00:17:31 → 00:17:35 ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรต่อคำตอบคือเรายัง
00:17:35 → 00:17:39 ใช้ชีวิตได้ตามปกติแค่ต้องปรับบางอย่าง
00:17:39 → 00:17:42 การปรับชีวิตเริ่มจากการเข้าใจโรคและติด
00:17:42 → 00:17:46 ตามตัวเองรู้ว่าเราอยู่ในระดับไหนต้องวัด
00:17:46 → 00:17:50 น้ำตาลตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำสังเกต
00:17:50 → 00:17:54 ตัวเองง่ายๆเช่นกระหายน้ำมากขึ้นปัสสาวะ
00:17:54 → 00:17:59 บ่อยหรือมีอาการเหนื่อยง่ายต่อมาคืออาหาร
00:17:59 → 00:18:01 และโภชนาการ
00:18:01 → 00:18:04 ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอดอาหารแต่ให้เลือก
00:18:04 → 00:18:09 อาหารสมดุลกินผักผลไม้ธัญพืชไม่ขัดสี
00:18:09 → 00:18:15 โปรตีนดีเช่นปลาไก่ถั่วและไขมันดีจากถั่ว
00:18:15 → 00:18:18 เมล็ดพืชควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละ
00:18:18 → 00:18:22 มื้อทำให้ระดับน้ำตาลไม่แกว่งมาก
00:18:22 → 00:18:27 เรื่องต่อมาคือการออกกำลังกายเดินเร็ว
00:18:27 → 00:18:30 ว่ายน้ำปั่นจักรยานหรือกิจกรรมที่ชอบ
00:18:30 → 00:18:35 อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห
00:18:35 → 00:18:38 การเคลื่อนไหวช่วยให้ร่างกายใช้อินซูลิน
00:18:38 → 00:18:43 ได้ดีลดน้ำตาลและยังช่วยให้ใจเราผ่อนคลาย
00:18:43 → 00:18:46 นอกจากอาหารและออกกำลังกายแล้วการนอนและ
00:18:46 → 00:18:50 จัดการความเครียดก็สำคัญมากนอนให้เพียงพอ
00:18:50 → 00:18:53 ฝึกผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมที่ช่วยลดความ
00:18:53 → 00:18:57 เครียดเพราะความเครียดและนอนน้อยทำให้น้ำ
00:18:57 → 00:19:00 ตาลในเลือดสูงขึ้นอีกเรื่องที่หลายคนมัก
00:19:00 → 00:19:05 มองข้ามคือการดูแลตัวเองระยะยาวตรวจ
00:19:05 → 00:19:09 สุขภาพประจำปีตามนัดดูแลเท้าเพราะเบาหวาน
00:19:09 → 00:19:14 ทำให้แผลหายช้าสังเกตผิวหนังและฟันเพราะ
00:19:14 → 00:19:18 การติดเชื้อบ่อยอาจเป็นสัญญาณน้ำตาลสูง
00:19:18 → 00:19:21 จัดการยาให้ตรงเวลาและปรึกษาแพทย์เมื่อมี
00:19:21 → 00:19:23 อาการผิดปกติ
00:19:23 → 00:19:27 สิ่งสำคัญคืออย่าตื่นตระหนกและอย่าท้อเบา
00:19:28 → 00:19:31 หวานไม่ได้หมายความว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไป
00:19:31 → 00:19:35 หมดแต่หมายถึงเราต้องใส่ใจตัวเองมากขึ้น
00:19:35 → 00:19:37 การปรับพฤติกรรมเล็กๆทุกวันจะช่วยให้
00:19:37 → 00:19:40 ชีวิตเราปกติได้เหมือนเดิมและลดความ
00:19:40 → 00:19:43 เสี่ยงแทรกซ้อนในระยะยาว
00:19:43 → 00:19:48 รู้ตัวสังเกตตัวเองปรับอาหารออกกำลังกาย
00:19:48 → 00:19:52 นอนเพียงพอและจัดการความเครียดเพียงเท่า
00:19:52 → 00:19:55 นี้เราก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่
00:19:55 → 00:19:59 แม้ว่าจะมีเบาหวานก็ตามตอนนี้เราพูดถึง
00:19:59 → 00:20:02 ทุกอย่างแล้วตั้งแต่ปัจจัยเสี่ยงสัญญา
00:20:02 → 00:20:06 สัญญาณเตือนการตรวจคัดกรองและวิธีดูแลตน
00:20:06 → 00:20:09 เองแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรวมทุก
00:20:09 → 00:20:12 อย่างเข้าด้วยกันและทำต่อเนื่องในชีวิต
00:20:12 → 00:20:16 ประจำวันหลายคนถามว่าแล้วถ้าเรารู้ตัวว่า
00:20:16 → 00:20:19 มีความเสี่ยงหรือเป็นเบาหวานแล้วจะทำ
00:20:19 → 00:20:24 อย่างไรให้ชีวิตยังปกติจริงๆคำตอบคือเรา
00:20:24 → 00:20:27 ยังมีชีวิตปกติได้เพียงแต่ต้องใส่ใจและมี
00:20:27 → 00:20:31 วินัยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตรวจสุขภาพสม่ำ
00:20:31 → 00:20:32 เสมอ
00:20:32 → 00:20:35 เริ่มจากพื้นฐานเลยคือตรวจสุขภาพเป็น
00:20:35 → 00:20:38 ประจำคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรตรวจน้ำ
00:20:38 → 00:20:43 ตาลและ HBA1C อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งการ
00:20:43 → 00:20:46 ตรวจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่เป็นเครื่อง
00:20:46 → 00:20:49 มือช่วยให้เรารู้ตัวเร็วหากพบว่าระดับน้ำ
00:20:49 → 00:20:53 ตาลสูงเราจะได้ลงมือปรับพฤติกรรมทันทีไม่
00:20:53 → 00:20:55 ปล่อยให้เป็นเรื้อรัง
00:20:55 → 00:20:58 อาหารและโภชนาการ
00:20:58 → 00:21:00 อาหารคือสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ด้วย
00:21:00 → 00:21:04 ตัวเองไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอดหรือกินจืด
00:21:04 → 00:21:08 สนิทแค่เลือกสมดุลและชานฉลาดลดอาหารหวาน
00:21:08 → 00:21:12 และแปรรูปเน้นถักผลไม้หลากสีเลือกธัญพืช
00:21:12 → 00:21:17 ไม่ขัดสีแทนข้าวขาวกินโปรตีนดีๆเช่นปลา
00:21:17 → 00:21:22 ไก่ถั่วและไขมันดีจากถั่วหรือเมล็ดพืชควบ
00:21:22 → 00:21:25 คุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละมื้อการกิน
00:21:25 → 00:21:28 แบบนี้ไม่เพียงช่วยควบคุมน้ำตาลแต่ยังทำ
00:21:28 → 00:21:30 ให้เราอิ่มนานมีพลัง
00:21:30 → 00:21:34 และรู้สึกดีทั้งร่างกายและจิตใจ
00:21:34 → 00:21:37 การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนส
00:21:37 → 00:21:40 หนักๆแค่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
00:21:40 → 00:21:45 ก็เพียงพอแล้วเดินเร็วว่ายน้ำปั่นจักรยาน
00:21:45 → 00:21:49 หรือกิจกรรมที่เราชอบวันละ 30 นาที
00:21:49 → 00:21:52 สัปดาห์ละ 5 วันการออกกำลังกายช่วยให้
00:21:52 → 00:21:55 ร่างกายใช้อินซูลินได้ดีขึ้นลดน้ำตาลใน
00:21:55 → 00:21:59 เลือดและทำให้จิตใจเราผ่อนคลาย
00:21:59 → 00:22:02 การนอนนอนและจัดการความเครียดหลายคนมัก
00:22:02 → 00:22:05 มองข้ามเรื่องนี้แต่การนอนเพียงพอและลด
00:22:05 → 00:22:09 ความเครียดเป็นสิ่งสำคัญมากนอนอย่างน้อย
00:22:09 → 00:22:13 6-8 ชมงต่อคืนฝึกสมาธิทำกิจกรรมที่ผ่อน
00:22:13 → 00:22:17 คลายการจัดการความเครียดช่วยควบคุมน้ำตาล
00:22:17 → 00:22:21 และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนการดูแลตนเอง
00:22:21 → 00:22:26 ระยะยาวเมื่อเรามีเบาหวานสิ่งสำคัญคือติด
00:22:26 → 00:22:29 ตามและดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องตรวจเท้า
00:22:29 → 00:22:33 สังเกตแผลเพราะเบาหวานทำให้แผลหายช้า
00:22:33 → 00:22:36 สังเกตฟันและผิวหนังหากติดเชื้อบ่อยอาจ
00:22:37 → 00:22:40 เป็นสัญญาณน้ำตาลสูงจัดการยาและปรึกษา
00:22:40 → 00:22:44 แพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติก้าวสู่
00:22:44 → 00:22:48 ชีวิตที่ปกติและมั่นใจสิ่งสำคัญที่สุดคือ
00:22:48 → 00:22:52 ไม่ท้อและไม่ตื่นตระหนกเบาหวานไม่ได้หมาย
00:22:52 → 00:22:54 ความว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไปหมดเพียงแต่
00:22:54 → 00:22:58 ปรับพฤติกรรมเล็กๆทุกวันอย่างสม่ำเสมอเรา
00:22:58 → 00:23:02 สามารถใช้ชีวิตปกติมีพลังและลดความเสี่ยง
00:23:02 → 00:23:06 แทรกซ้อนในระยะยาวจำง่ายๆว่าตรวจสุขภาพ
00:23:06 → 00:23:11 เป็นประจำกินอาหารสมดุลออกกำลังกายทุกวัน
00:23:11 → 00:23:15 นอนพอและลดความเครียดดูแลตนเองและติดตาม
00:23:15 → 00:23:19 อาการทำแบบนี้ต่อเนื่องคุณจะอยู่กับเบา
00:23:19 → 00:23:22 หวานได้อย่างมั่นใจมีคุณภาพชีวิตดีและยัง
00:23:22 → 00:23:26 สามารถทำกิจกรรมที่รักได้เหมือนเดิมและ
00:23:26 → 00:23:30 นี่ก็คือซีรียสเรื่องรู้ไว้ห่างไกลเบา
00:23:30 → 00:23:33 หวานครับหวังว่าคุณจะได้แนวทางและเทคนิค
00:23:33 → 00:23:36 ต่างๆไปลองปรับใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่า
00:23:36 → 00:23:40 จะเป็นการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอปรับอาหารให้
00:23:40 → 00:23:44 สมดุลออกกำลังกายและจัดการความเครียดสิ่ง
00:23:44 → 00:23:46 เหล่านี้แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆแต่เมื่อทำ
00:23:46 → 00:23:49 อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยง
00:23:49 → 00:23:53 และมีชีวิตที่มั่นใจได้จำไว้ว่าการดูแลตน
00:23:53 → 00:23:57 เองคือการลงทุนในสุขภาพระยะยาวเริ่มจาก
00:23:57 → 00:24:00 สิ่งง่ายๆวันนี้อาจเป็นการเดินเร็วปรับ
00:24:00 → 00:24:03 อาหารหรือสังเกตร่างกายตัวเองเมื่อทำ
00:24:03 → 00:24:06 อย่างสม่ำเสมอคุณจะเริ่มเห็นความแตกต่าง
00:24:06 → 00:24:10 ทั้งร่างกายและจิตใจขอบคุณที่ฟังพcสของ
00:24:10 → 00:24:14 เราถ้าชอบเนื้อหาอย่าลืมกดติดตามกดไลค์
00:24:14 → 00:24:17 และแชร์ให้เพื่อนๆหรือครอบครัวเพื่อให้
00:24:17 → 00:24:20 ทุกคนมีโอกาสห่างไกลเบาหวานและมีสุขภาพ
00:24:20 → 00:24:24 ที่ดีขึ้นครับแล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไปดู
00:24:24 → 00:24:28 แลตนเองให้ดีใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขภาพ
00:24:28 → 00:24:31 ดีในทุก
00:00:00 → 00:00:03 เบาหวานเป็นโรคที่หลายคนเคยได้ยินแต่ไม่
00:00:03 → 00:00:06 ใช่ทุกคนที่จะเข้าใจจริงๆว่ามันคืออะไร
00:00:06 → 00:00:10 และอันตรายแค่ไหนในปัจจุบันองค์การอนามัย
00:00:10 → 00:00:14 โลกเปิดเผยว่ามีผู้ป่วยเบาหวานมากกว่า 400
00:00:14 → 00:00:17 ล้านคนทั่วโลกและตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้น
00:00:17 → 00:00:20 อย่างต่อเนื่องทุกปีในประเทศไทยเองก็พบ
00:00:20 → 00:00:23 ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:00:23 → 00:00:27 ไว้ทำงานและผู้สูงอายุแต่สิ่งที่ทำให้โรค
00:00:27 → 00:00:30 นี้น่ากังวลคือคนจำนวนมากไม่รู้ตัวว่า
00:00:30 → 00:00:33 กำลังเป็นอยู่เพราะเบาหวานมักจะค่อยๆ
00:00:33 → 00:00:36 พัฒนาอย่างช้าๆและแทบไม่มีอาการในระยะ
00:00:36 → 00:00:41 เริ่มต้นเบาหวานเกิดขึ้นได้อย่างไร
00:00:41 → 00:00:44 หลักๆเบาหวานเกิดจากความผิดปกติในการทำ
00:00:44 → 00:00:47 งานของอินซูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้าง
00:00:47 → 00:00:51 จากตับอ่อนหน้าที่ของอินซูลินคือคอยเปิด
00:00:51 → 00:00:55 ประตูให้กลูโคสหรือน้ำตาลที่เรากินเข้าไป
00:00:55 → 00:00:58 สามารถเข้าสู่เซลล์เพื่อใช้เป็นพลังงาน
00:00:58 → 00:01:01 ถ้าไม่มีอินอินซูลินหรืออินซูลินทำงานได้
00:01:01 → 00:01:04 ไม่ดีน้ำตาลก็จะค้างอยู่ในเลือดทำให้
00:01:04 → 00:01:08 ระดับน้ำตาลสูงผิดปกติลองนึกภาพง่ายๆ
00:01:08 → 00:01:11 เหมือนเรามีกุญแจที่จะไขประตูบ้าน
00:01:11 → 00:01:15 อินซูลินก็คือกุญแจที่จะไขประตูเซลล์แต่
00:01:15 → 00:01:19 ถ้ากุญแจหายไปหรือกุญแจบิดแล้วไม่ลงล็อค
00:01:19 → 00:01:23 น้ำตาลก็เข้าไม่ได้ผลคือเลือดเต็มไปด้วย
00:01:23 → 00:01:25 น้ำตาลแต่ร่างกายกลับไม่ได้พลังงานเพียร
00:01:25 → 00:01:30 พอนี่แหละที่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา
00:01:30 → 00:01:33 ประเภทของเบาหวานโรคนี้แบ่งได้เป็นหลาย
00:01:33 → 00:01:37 ประเภทแต่ที่พบมากที่สุดคือ 2 ชนิดใหญ่
00:01:37 → 00:01:40 เบาหวานชนิดที่ 1 ร่างกายไม่สามารถสร้าง
00:01:40 → 00:01:44 อินซูลินได้เลยมักพบในเด็กและวัยรุ่นเกิด
00:01:44 → 00:01:47 จากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำลายเซลล์
00:01:47 → 00:01:50 ตับอ่อนที่สร้างอินซูลินเป็นชนิดที่ต้อง
00:01:50 → 00:01:54 พึ่งพาการฉีดอินซูลินตลอดชีวิตเบาหวาน
00:01:54 → 00:01:57 ชนิดที่ 2 ชนิดนี้พบมากที่สุดร่างกายยัง
00:01:57 → 00:02:01 สร้างอินซูลินได้แต่เซลล์ไม่ตอบสนองหรือ
00:02:01 → 00:02:05 ที่เรียกว่าดื้อต่ออินซูลินสาเหตุหลักมา
00:02:05 → 00:02:08 จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่นกินอาหารหวาน
00:02:08 → 00:02:13 จัดมันจัดขาดการออกกำลังกายน้ำหนักเกิน
00:02:13 → 00:02:17 และภาวะอ้วนลงพุงนอกจากนี้ยังมีเบาหวาน
00:02:17 → 00:02:20 ขณะตั้งครรภ์ที่เกิดขึ้นในคุณแม่บางคน
00:02:20 → 00:02:23 ซึ่งมักจะหายไปหลังคลอดแต่ก็อาจเพิ่ม
00:02:23 → 00:02:27 โอกาสในการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในอนาคต
00:02:27 → 00:02:31 ทำไมเบาหวานถือถูกเรียกว่าภัยเงียบเพราะ
00:02:31 → 00:02:34 ในระยะเริ่มต้นเบาหวานแทบจะไม่มีสัญญาณ
00:02:34 → 00:02:37 เตือนชัดเจนคนจำนวนมากใช้ชีวิตประจำวัน
00:02:37 → 00:02:40 ได้ตามปกติแต่ระดับน้ำตาลในเลือดกลับสูง
00:02:40 → 00:02:44 ขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไปน้ำตาลส่วน
00:02:44 → 00:02:48 เกินจะเริ่มทำลายเส้นเลือดและอวัยวะต่างๆ
00:02:48 → 00:02:51 เช่นหลอดเลือดหัวใจเสี่ยงหัวใจวายหรือ
00:02:51 → 00:02:55 หลอดเลือดตีบไตเสี่ยงไตวายเรื้อรังต้อง
00:02:55 → 00:02:57 ฟอกไต่ตา
00:02:57 → 00:03:01 เสี่ยงตาบอดจากเบาหวานขึ้นตาเส้นประสาทมี
00:03:01 → 00:03:05 อาการชาปลายมือปลายเท้าหรือแผลหายช้านี่
00:03:05 → 00:03:07 จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องทำความ
00:03:07 → 00:03:10 เข้าใจโรคนี้ตั้งแต่เนิ่นๆเพราะการรู้
00:03:10 → 00:03:13 เร็วป้องกันได้เร็วย่อมดีกว่ารอจนเกิด
00:03:13 → 00:03:16 ภาวะแทรกซ้อนแล้ว
00:03:16 → 00:03:19 ปัจจัยเสี่ยงที่ควรรู้แม้เบาหวานจะเกี่ยว
00:03:19 → 00:03:22 ข้องกับพันธุกรรมแต่ปัจจัยที่ควบคุมได้ก็
00:03:22 → 00:03:27 มีมากเช่นการกินอาหารที่หวานมันเค็มเกิน
00:03:27 → 00:03:30 ไปการดื่มน้ำอัดลมและเคลื่อนดื่มที่มีน้ำ
00:03:30 → 00:03:34 ตาลสูงการนั่งทำงานทั้งวันขาดการเคลื่อน
00:03:34 → 00:03:38 ไหวร่างกายน้ำหนักตัวเกินโดยเฉพาะอ้วนลง
00:03:38 → 00:03:41 พุงและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอยู่บ่อย
00:03:41 → 00:03:44 ๆก็ถือว่ามีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นแม้จะยัง
00:03:44 → 00:03:47 ไม่เป็นในตอนนี้แต่ถ้ายังปล่อยไปโดยไม่
00:03:47 → 00:03:50 ปรับเปลี่ยนก็มีโอกาสที่จะเข้าสู่ภาวะเบา
00:03:50 → 00:03:54 หวานในอนาคตเมื่อเรามองภาพรวมทั้งหมดเบา
00:03:54 → 00:03:56 หวานไม่ใช่เรื่องไกลตัวอย่างที่คิดมัน
00:03:56 → 00:03:59 เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนและส่งผล
00:03:59 → 00:04:03 กระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวแต่สิ่งที่
00:04:03 → 00:04:06 น่ายินดีคือเบาหวานสามารถป้องกันได้และ
00:04:06 → 00:04:10 ถึงแม้จะเป็นแล้วก็ยังสามารถควบคุมและใช้
00:04:10 → 00:04:13 ชีวิตอย่างมีคุณภาพได้ถ้าเรามีความรู้และ
00:04:13 → 00:04:16 เริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้โรคเบา
00:04:16 → 00:04:20 หวานมักคืบคลานช้าและเงียบจนหลายคนรู้ตัว
00:04:20 → 00:04:23 อีกทีเมื่อเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนแล้วการ
00:04:23 → 00:04:26 สังเกตสัญญาณเตือนเล็กๆตั้งแต่เนื่อง
00:04:26 → 00:04:29 เนิ่นจึงสำคัญมากเพราะยิ่งรู้เร็วยิ่งมี
00:04:29 → 00:04:32 โอกาสป้องกันคุมได้และหลีกเลี่ยงความ
00:04:32 → 00:04:34 เสี่ยงระยะยาว
00:04:34 → 00:04:37 4 มากที่ควรรู้ให้ชัด
00:04:37 → 00:04:41 กินมากขึ้นผิดปกติเมื่ออินซูลินทำงานด้อย
00:04:41 → 00:04:45 ลงกลูโคสเข้าสู่เซลล์ได้น้อยเซลล์จึง
00:04:45 → 00:04:48 เหมือนได้พลังงานไม่พอสมองส่งสัญญาณให้
00:04:48 → 00:04:52 หิวบ่อยทั้งที่เพิ่งทานไปไม่นานบางคนหิว
00:04:52 → 00:04:54 ตอนดึกหรือช่วงบ่ายหลังอาหารกลางวันเป็น
00:04:54 → 00:04:56 ประจำ
00:04:56 → 00:05:00 ดื่มมากกระหายน้ำตลอดน้ำตาลในเลือดที่สูง
00:05:00 → 00:05:03 ทำให้ร่างกายดึงน้ำออกจากเซลล์เพื่อเจื่อ
00:05:03 → 00:05:08 จางจึงกระหายน้ำง่ายปากคอแห้งบางคนต้องพก
00:05:08 → 00:05:10 น้ำติดตัวตลอดเวลา
00:05:10 → 00:05:15 ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะเวลากลางคืนไตจะ
00:05:15 → 00:05:18 พยายามขับน้ำตาลส่วนเกินออกมากับปัสสาวะ
00:05:18 → 00:05:21 จึงทำให้ต้องเข้าห้องน้ำถี่ขึ้นตื่นกลาง
00:05:21 → 00:05:24 ดึกหลายรอบจนคุณภาพการนอนลดลงสังเกตได้
00:05:24 → 00:05:29 ว่าปัสสาวะปริมาณมากและใสกว่าปกติ
00:05:29 → 00:05:32 น้ำหนักลดทั้งที่กินปกติหรือมากขึ้นเพราะ
00:05:33 → 00:05:35 ร่างกายเอาน้ำตาลไปใช้ไม่ได้จึงหันไปใช้
00:05:35 → 00:05:38 ไขมันและกล้ามเนื้อเป็นพลังงานน้ำหนักจึง
00:05:38 → 00:05:41 ลดลงอย่างไม่ตั้งใจเสื้อผ้าหลวมลงโดยไม่
00:05:41 → 00:05:44 อธิบายได้
00:05:44 → 00:05:48 อาการอื่นๆที่มักถูกมองข้ามอ่อนเพลีย
00:05:48 → 00:05:52 เหนื่อยง่ายสมองล้ามึนๆเบลอๆหลังมื้อ
00:05:52 → 00:05:53 อาหาร
00:05:53 → 00:05:56 สายตาพร่ามัวเป็นๆหายๆเนื่องจากระดับน้ำ
00:05:56 → 00:06:01 ตาลแกว่งทำให้เลนส์สตารบวมหรือหดแผลหาย
00:06:01 → 00:06:05 ช้าโดยเฉพาะเท้าขาหรือบริเวณที่รองรับน้ำ
00:06:05 → 00:06:09 หนักผิวหนังคันแห้งหรือติดเชื้อบ่อยเชื้อ
00:06:09 → 00:06:13 ราแบคทีเรียรวมถึงเชื้อราในช่องปากหรือ
00:06:13 → 00:06:18 อวัยวเพศเหงือกบวมเลือดออกง่ายมีกลิ่นปาก
00:06:18 → 00:06:22 หรือฟันโยกจากโรคเหงือกชาปลายมือปลายเท้า
00:06:22 → 00:06:25 เหมือนขิมทิ่มหรือแสบร้อนปลายเท้าโดย
00:06:25 → 00:06:27 เฉพาะตอนกลางคืนเป็นสัญญาณเริ่มของปลาย
00:06:27 → 00:06:30 ปราสาทถูกทำลาย
00:06:30 → 00:06:34 ผิวหนังหนาและคล้ำเป็นพืชกำมหยี่บริเวณคอ
00:06:34 → 00:06:38 รักแร้หรือขาหนีบ acantosis negric สื่อ
00:06:38 → 00:06:41 ถึงภาวะดื้อต่ออินซูลิน
00:06:41 → 00:06:45 ติ่งเนื้อเล็กๆตามคอรักแร้หรือขาหนีบ skin
00:06:45 → 00:06:49 tag พบได้ร่วมกับภาวะดื้อต่ออินซูลิน
00:06:49 → 00:06:52 ปัสสาวะเป็นฟองมากกว่าปกติเรื้อรังอาจบอก
00:06:52 → 00:06:56 ถึงปัญหาตายกับน้ำตาลสูงสะสมเพศชายอาจมี
00:06:56 → 00:06:59 ปัญหาหย่อนสมรรถภาพเพศหญิงประจำเดือนแปร
00:06:59 → 00:07:02 ปรวนเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์จากการติดเชื้อ
00:07:02 → 00:07:07 ซ้ำๆอารมณ์แปรปรวนหงุดหงิดง่ายวิตกกังวล
00:07:07 → 00:07:10 หรือรู้สึกซึมเศร้าซึ่งบางครั้งสัมพันธ์
00:07:10 → 00:07:13 กับน้ำตาลแกว่งและการนอนหลับถูกรับกวน
00:07:13 → 00:07:18 สัญญาณเฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นกระหายน้ำ
00:07:18 → 00:07:22 มากปัสสาวะบ่อยน้ำหนักลดรวดเร็วอ่อนเพลีย
00:07:22 → 00:07:26 เบื่ออาหารหรือปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนหาก
00:07:26 → 00:07:29 รูปกับหายใจลึกคอม่าหรือผิดปกติมีกลิ่น
00:07:29 → 00:07:34 หอมแบบผลไม้สับสนซึมลงถือเป็นภาวะฉุกเฉิน
00:07:34 → 00:07:38 สงสัยคีโตอซิโดิสต้องพบแพทย์ทันทีหญิง
00:07:38 → 00:07:41 ตั้งครรภ์ปัสสาวะบ่อยและกระหายน้ำมากขึ้น
00:07:41 → 00:07:44 ผิดปกติเกินกว่าที่เกิดจากการตั้งครรภ์
00:07:44 → 00:07:47 ทั่วไปเหนื่อยง่ายกว่าที่ปกติทารกตัวโต
00:07:47 → 00:07:50 เกินอายุครรภ์หรือมีน้ำตาลในปัสสาวะจาก
00:07:50 → 00:07:53 การคัดกรองฝากคันฝากคันสม่ำเสมอตามนัด
00:07:53 → 00:07:57 สำคัญมากผู้สูงอายุอาการอาจไม่ชัดเช่น
00:07:57 → 00:08:02 เบลอเพลียเดินช้าลงลืมง่ายหกล้มบ่อยต้อง
00:08:02 → 00:08:05 ระวังเป็นพิเศษเพราะภาวะขาดน้ำและน้ำตาล
00:08:05 → 00:08:09 สูงมากๆอาจนำไปสู่ความสับสนฉับพลันได้
00:08:09 → 00:08:13 ปัจจัยที่ทำให้อาการปะทุชั่วคราวการติด
00:08:13 → 00:08:16 เชื้อหรืออักเสบใหญ่ๆเช่นปอดอักเสบทาง
00:08:16 → 00:08:19 เดินปัสสาวะอักเสบทำให้น้ำตาลสูงขึ้นผิด
00:08:19 → 00:08:23 ปกติยาบังชะเง็ดเช่นสติสเตียรอยด์ยาบาง
00:08:23 → 00:08:26 กลุ่มสำหรับจิตเวทหรือภูมิแพ้อาจทำให้น้ำ
00:08:26 → 00:08:30 ตาลสูงชั่วคราวความเครียดเรื้อรังการนอน
00:08:30 → 00:08:32 น้อยต่อเนื่องกันหลายคืนทำให้ดื้อต่อ
00:08:32 → 00:08:37 อินซูลินมากขึ้นภาวะก่อนเป็นเบาหวานยิ่ง
00:08:37 → 00:08:41 เงียบยิ่งน่าระวังภาวะก่อนเป็นเบาหวานมัก
00:08:41 → 00:08:43 แทบไม่มีอาการแต่มีสัญญาณแวดล้อมให้
00:08:44 → 00:08:47 สังเกตเช่นหนังคอคล้ำเป็นพืชติ่งเนื้อ
00:08:47 → 00:08:50 เล็กๆตามคอรักแร้ง่วงจัดหลังมื้อ
00:08:50 → 00:08:55 คาร์โบไฮเดรตสูงหิวไวหวานแล้วหิวอีกรอบ
00:08:55 → 00:08:59 เอวเพิ่มโดยเฉพาะอ้วนลงพุงกางเกงคับขึ้น
00:08:59 → 00:09:02 อย่างต่อเนื่องความดันไขมันไตรกลีเซอรด
00:09:02 → 00:09:06 เริ่มสูงกลุ่มนี้ควรตรวจคัดกรองและปรับ
00:09:06 → 00:09:09 พฤติกรรมทันทีเพราะยังถอยกลับได้มากที่
00:09:09 → 00:09:13 สุดเมื่อไหร่ควรรีบพบแพทย์
00:09:13 → 00:09:17 กระหายน้ำจัดปัสสาวะบ่อยมากน้ำหนักลดรวด
00:09:17 → 00:09:21 เร็วเหนื่อยผิดปกติคลื่นไส้อาเจียนปวด
00:09:21 → 00:09:21 ท้อง
00:09:21 → 00:09:25 หายใจลึกและเร็วมีกลิ่นลมหายใจหวานคล้าย
00:09:25 → 00:09:30 ผลไม้สับสนซึมลงถือเป็นภาวะฉุกเฉินสงสัย
00:09:30 → 00:09:34 คีโตอซิโดิสต้องพบแพทย์ทันทีติดเชื้อบ่อย
00:09:34 → 00:09:38 ขึ้นหรือรุนแรงขึ้นโดยเฉพาะแผลที่เท้าแดง
00:09:38 → 00:09:43 บวมร้อนเจ็บหรือมีน้ำหนองสายตาพร่ามัว
00:09:43 → 00:09:47 หรือมองเห็นแย่ลงฉับพลันอวัยวะเพศหรือผิว
00:09:47 → 00:09:50 หนังติดเชื้อซ้ำๆแม้รักษาแล้วก็กลับมา
00:09:50 → 00:09:53 ใหม่อาการเหล่านี้บ่งชี้ว่าน้ำตาลในเลือด
00:09:53 → 00:09:57 อาจสูงมากหรือเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนอย่ารอ
00:09:57 → 00:10:00 ให้ดีขึ้นเองควรพบแพทย์เพื่อตรวจเลือด
00:10:00 → 00:10:04 เช่นงดอาหารแล้วเจาะน้ำตาลหรืออาจ HBA1C
00:10:04 → 00:10:07 และรับคำแนะนำที่เหมาะสม
00:10:07 → 00:10:11 เช็คตัวเองแบบเป็นระบบใน 7 วันบันทึกเวลา
00:10:11 → 00:10:14 และจำนวนครั้งที่ปัสสาวะตอนกลางคืนรวมถึง
00:10:14 → 00:10:17 ความกระหายน้ำตอนกลางคืนด้วยจดระดับพลัง
00:10:18 → 00:10:21 งานหลังอาหาร 1-2 ชมงว่าง่วงล้าหรือหิว
00:10:21 → 00:10:25 เร็วหรือไม่ชังน้ำหนัก 2 ครั้งต่อสัปดาห์
00:10:25 → 00:10:28 สังเกตเสื้อผ้าหลวมแน่นผิดปกติตรวจผิว
00:10:28 → 00:10:32 หนังบริเวณคอรักแร้ขาหนีบมีปื้นคล้ำหรือ
00:10:32 → 00:10:35 หนาไหม้และมีติ่งเนื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่
00:10:35 → 00:10:39 มองหาแผลถลอกเล็กๆที่เท้าขาว่าหายช้ากว่า
00:10:39 → 00:10:43 ปกติหรือมีอาการอักเสบมยถ้าเป็นไปได้วัด
00:10:43 → 00:10:46 รอบเอวช่วงเช้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูแนว
00:10:46 → 00:10:50 โน้มลงพุงเช็คลิสต์สั้นๆที่ช่วยตัดตัดสิน
00:10:50 → 00:10:54 ใจไปตรวจหิวง่ายกระหายน้ำบ่อยปัสสาวะถี่
00:10:54 → 00:10:58 โดยเฉพาะกลางคืนน้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจใน
00:10:58 → 00:11:00 ช่วงไม่กี่เดือนง่วงเพลียมากหลังมื้อ
00:11:00 → 00:11:04 คาร์โบไฮเดรตสูงแผลหายช้าติดเชื้อง่ายผิว
00:11:04 → 00:11:08 คันบ่อยชาปลายมือปลายเท้าหรือปวดแสบร้อน
00:11:08 → 00:11:12 ปลายเท้าผิวคล้ำเป็นพืชกัมหยี่บริเวณคอ
00:11:12 → 00:11:16 รักแร้มีข้อใดข้อหนึ่งให้พิจารณาไปตรวจ
00:11:16 → 00:11:19 คัดกรองโดยเฉพาะถ้ามีประวัติครอบครัวน้ำ
00:11:19 → 00:11:23 หนักเกินหรืออายุเกิน 35 ปี
00:11:23 → 00:11:26 ใจความสำคัญของตอนนี้สัญญาณเตือนของโรค
00:11:26 → 00:11:30 เบาหวานอาจเล็กน้อยและกระจัดกระจายแต่
00:11:30 → 00:11:33 เมื่อเรารู้ว่าควรสังเกตอะไรบ้างเราจะได้
00:11:33 → 00:11:36 ยินร่างกายเร็วกว่าที่เคยการรู้ตัวเร็ว
00:11:36 → 00:11:38 ช่วยให้เริ่มปรับพฤติกรรมได้ทันป้องกัน
00:11:38 → 00:11:42 ภาวะแทรกซ้อนชะลอโรคและในภาวะก่อนเป็นเบา
00:11:42 → 00:11:45 หวานหลายคนสามารถดึงระดับน้ำตาลกลับสู่
00:11:45 → 00:11:49 ภาวะปกติได้ด้วยซ้ำถ้าทำอย่างจริงจัง
00:11:49 → 00:11:51 เนื้อหานี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้
00:11:51 → 00:11:54 ทั่วไปไม่ทดแทนคำแนะนำทางการแพทย์เฉพาะ
00:11:54 → 00:11:57 บุคคลหากคุณสงสัยว่าตนเองมีความเสี่ยง
00:11:57 → 00:12:00 หรือมีอาการที่กล่าวถึงควรไปตรวจและ
00:12:00 → 00:12:04 ปรึกษาแพทย์ถัดไปเราจะลงลึกเรื่องปัจจัย
00:12:04 → 00:12:07 เสี่ยงจากพฤติกรรมและใครบ้างที่ควรตรวจ
00:12:07 → 00:12:11 คัดกรองเพื่อให้คุณรู้ว่าควรโฟกัสที่จุด
00:12:11 → 00:12:15 ไหนก่อนและเริ่มปรับอะไรได้ทันทีเมื่อพูด
00:12:15 → 00:12:18 ถึงโรคเบาหวานหลายคนอาจคิดว่ามีแต่เรื่อง
00:12:18 → 00:12:21 การกินหวานมากเกินไปเท่านั้นแต่ความจริง
00:12:21 → 00:12:25 แล้วปัจจัยเสี่ยงของเบาหวานมีมากกว่านั้น
00:12:25 → 00:12:28 และหลายอย่างเป็นสิ่งที่เราอาจมองข้ามไป
00:12:28 → 00:12:32 อันดับแรกคือน้ำหนักตัวและภาวะอ้วนลงพุง
00:12:32 → 00:12:36 คนที่มีรอบเอวเกินมาตรฐานโดยเฉพาะผู้ชาย
00:12:36 → 00:12:40 ที่รอบเอวเกิน 90 ซม.และผู้หญิงที่เกิน 80
00:12:40 → 00:12:44 ซม.จะมีความเสี่ยงสูงขึ้นเนื่องจากไขมัน
00:12:44 → 00:12:47 หน้าท้องมีผลต่อการดื้อต่ออินซูลินซึ่ง
00:12:47 → 00:12:50 เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิด
00:12:50 → 00:12:54 ที่ 2 ต่อมาคือการไม่ออกกำลังกายการใช้
00:12:54 → 00:12:57 ชีวิตแบบนั่งทำงานทั้งวันหรือเคลื่อนไหว
00:12:57 → 00:13:00 น้อยส่งผลให้ร่างกายใช้พลังงานน้อย
00:13:00 → 00:13:03 อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่และเพิ่มโอกาส
00:13:03 → 00:13:07 สะสมไขมันรวมถึงน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอีก
00:13:07 → 00:13:09 ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือพันธุกรรมและ
00:13:09 → 00:13:11 ประวัติครอบครัว
00:13:11 → 00:13:14 หากคุณมีพ่อแม่หรือพี่น้องที่ป่วยเป็นเบา
00:13:14 → 00:13:18 หวานความเสี่ยงของคุณจะเพิ่มขึ้นเป็น 2-3
00:13:18 → 00:13:21 เท่าซึ่งหมายความว่าต่อให้คุณพยายามควบ
00:13:21 → 00:13:24 คุมอาหารหรือออกกำลังกายก็ยังต้องระวัง
00:13:24 → 00:13:28 มากกว่าคนทั่วไปนอกจากนี้ยังมีเรื่องความ
00:13:28 → 00:13:32 ดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดผิดปกติคนที่
00:13:32 → 00:13:35 มีภาวะความดันสูงหรือคอเลสเตอรอลชนิดไม่
00:13:35 → 00:13:39 ดีหรือ LDL สูงจะเสี่ยงต่อเบาหวานและโรค
00:13:39 → 00:13:42 หลอดเลือดหัวใจร่วมกันซึ่งบางครั้งแผดมัก
00:13:42 → 00:13:44 เรียกกลุ่มอาการเหล่านี้ว่า Metamolic
00:13:44 → 00:13:48 Syrมหรือกลุ่มอาการอ้วนลงพุงนั่นเองที่
00:13:48 → 00:13:52 หลายคนไม่คาดคิดคือการนอนหลับไม่เพียงพอ
00:13:52 → 00:13:55 งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าคนที่นอนน้อย
00:13:55 → 00:13:58 กว่า 6 ช่โมงต่อคืนติดต่อกันเป็นเวลานาน
00:13:58 → 00:14:00 จะมีโอกาสเกิดภาวะดี้ต่ออินซูลินและน้ำ
00:14:00 → 00:14:04 ตาลในเลือกสูงขึ้นนั่นหมายความว่าการนอน
00:14:04 → 00:14:06 หลับพักผ่อนที่มีคุณภาพไม่ได้ดีต่อสมอง
00:14:06 → 00:14:08 และอารมณ์เท่านั้นแต่ยังช่วยลดโอกาส
00:14:08 → 00:14:11 เสี่ยงเบาหวานได้ด้วยสุดท้ายคือความ
00:14:11 → 00:14:15 เครียดเรื้อรังเมื่อร่างกายเครียดจะหลั่ง
00:14:15 → 00:14:18 ฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งทำให้ระดับน้ำตาลใน
00:14:18 → 00:14:20 เลือดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหากคุณเจอ
00:14:20 → 00:14:23 สถานการณ์กดดันตลอดเวลาแต่ไม่หาวิธีจัด
00:14:23 → 00:14:25 การความเสี่ยงที่จะก้าวเข้าสู่โรคเบาหวาน
00:14:26 → 00:14:29 ก็สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัวสรุปแล้วปัจจัย
00:14:29 → 00:14:32 เสี่ยงของเบาหวานไม่ได้มีแค่การกินหวาน
00:14:32 → 00:14:35 แต่รวมถึงน้ำหนักตัวการขาดการออกกำลังกาย
00:14:35 → 00:14:39 พันธุกรรมความดันสูงไขมันสูงการนอนและ
00:14:39 → 00:14:42 ความเครียดด้วยการรู้ทันปัจจัยเหล่านี้
00:14:42 → 00:14:45 คือก้าวสำคัญที่จะช่วยให้คุณปรับพฤติกรรม
00:14:45 → 00:14:49 และห่างไกลจากโรคได้จริงหลายคนที่ฟังพcส
00:14:49 → 00:14:52 นี้อาจสงสัยว่าแล้วถ้าเรามีความเสี่ยงจะ
00:14:52 → 00:14:56 ทำอะไรได้บ้างจริงๆแล้วเรื่องนี้เริ่ม
00:14:56 → 00:15:00 ง่ายกว่าที่คิดแค่รู้ตัวและลงมือทำทันที
00:15:00 → 00:15:04 อันดับแรกคือตรวจคัดกรองตัวเองใครควรตรวจ
00:15:04 → 00:15:07 บ้างคนที่น้ำหนักเกินหรือมีพุงเกิน
00:15:07 → 00:15:09 มาตรฐาน
00:15:09 → 00:15:12 คนที่อายุเกิน 35 ปีหรือมีคนในครอบครัว
00:15:12 → 00:15:16 เป็นเบาหวานสิ่งเหล่านี้คือสัญญาณว่าเรา
00:15:16 → 00:15:20 ควรตรวจการตรวจไม่ซับซ้อนแค่เจาะเลือดตอน
00:15:20 → 00:15:23 เช้าก่อนกินอาหารเรียกว่า fasting blood
00:15:23 → 00:15:28 sugar ถ้าน้ำตาลสูงเกิน 100-15
00:15:28 → 00:15:33 นี่คือช่วงก่อนเป็นเบาหวานแต่ถ้าเกิน 126
00:15:33 → 00:15:36 แปลว่าอาจจะเป็นเบาหวานแล้วแพทย์อาจตรวจ
00:15:36 → 00:15:39 HBA1C ด้วยซึ่งบอกเราว่าน้ำตาลในเลือด
00:15:39 → 00:15:43 ย้อนหลัง 2-3 เดือนอยู่ที่เท่าไหร่หรือ
00:15:43 → 00:15:46 บางครั้งก็ตรวจหลังอาหาร 2 ช่โมงเพื่อดู
00:15:46 → 00:15:49 ว่าน้ำตาลพุ่งหลังกินอาหารหรือเปล่าพอรู้
00:15:50 → 00:15:53 ตัวแล้วขั้นต่อไปคือการป้องกันด้วยตัวเอง
00:15:54 → 00:15:56 ซึ่งไม่ได้ยากเกินไปเริ่มจากเรื่องใกล้
00:15:56 → 00:16:00 ตัวที่สุดนั่นคืออาหารเราไม่ได้หมายถึง
00:16:00 → 00:16:05 กินน้อยหรืออดอาหารแต่เน้มสมดุลลดน้ำตาล
00:16:05 → 00:16:09 ลดอาหารแปรรูปเพิ่มผักผลไม้ธัญพืชไม่ขัด
00:16:09 → 00:16:14 สีและโปรตีนดีๆจากปลาไก่ถั่วรวมถึงไขมัน
00:16:14 → 00:16:19 ดีจากถั่วและเมล็ดพืชต่อมาคือออกกำลังกาย
00:16:19 → 00:16:23 ไม่ต้องเข้าฟิตเนสหนักๆเดินเร็วว่ายน้ำ
00:16:23 → 00:16:27 ปั่นจักรยานอย่างน้อยวันละ 30 นาทีทำ 5
00:16:27 → 00:16:30 วันต่อสัปดาห์ก็พอการเคลื่อนไหวช่วยให้
00:16:30 → 00:16:33 ร่างกายใช้อินซูลินได้ดีขึ้นและลดน้ำตาล
00:16:33 → 00:16:37 ในเลือดได้จริงอีกเรื่องสำคัญคือน้ำหนัก
00:16:37 → 00:16:42 และรอบเอวการลดน้ำหนักเพียง 5-10% ก็ช่วย
00:16:42 → 00:16:45 ลดความเสี่ยงได้มากวัดรอบเอวสัปดาห์ละ
00:16:45 → 00:16:48 ครั้งถ้าเกินมาตรฐานต้องปรับอาหารและ
00:16:48 → 00:16:52 เพิ่มกิจกรรมอย่าลืมเรื่องการนอนและความ
00:16:52 → 00:16:56 เครียดนอนให้เพียงพอ 6-8 ชมงต่อคืนฝึก
00:16:56 → 00:17:01 ผ่อนคลายทำสมาธิหรือหายใจลึกๆเพราะความ
00:17:01 → 00:17:04 เครียดทำให้ระดับน้ำตาลสูงขึ้นเรื้อรัง
00:17:04 → 00:17:09 สุดท้ายคือบุหรี่และลดแอลกอฮอล์สิ่งเหล่า
00:17:09 → 00:17:12 นี้ช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานและโรคหัวใจ
00:17:12 → 00:17:16 ง่ายๆก็คือตรวจตัวเองปรับชีวิตประจำวัน
00:17:16 → 00:17:20 และลงมือทำทันทีเราจะมีโอกาสห่างไกลเบา
00:17:20 → 00:17:24 หวานได้มากกว่าที่คิดเมื่อเรารู้ตัวว่ามี
00:17:24 → 00:17:27 น้ำตาลสูงหรือได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น
00:17:27 → 00:17:31 เบาหวานสิ่งแรกที่หลายคนกังวลคือแล้ว
00:17:31 → 00:17:35 ชีวิตเราจะเป็นอย่างไรต่อคำตอบคือเรายัง
00:17:35 → 00:17:39 ใช้ชีวิตได้ตามปกติแค่ต้องปรับบางอย่าง
00:17:39 → 00:17:42 การปรับชีวิตเริ่มจากการเข้าใจโรคและติด
00:17:42 → 00:17:46 ตามตัวเองรู้ว่าเราอยู่ในระดับไหนต้องวัด
00:17:46 → 00:17:50 น้ำตาลตามคำแนะนำของแพทย์เป็นประจำสังเกต
00:17:50 → 00:17:54 ตัวเองง่ายๆเช่นกระหายน้ำมากขึ้นปัสสาวะ
00:17:54 → 00:17:59 บ่อยหรือมีอาการเหนื่อยง่ายต่อมาคืออาหาร
00:17:59 → 00:18:01 และโภชนาการ
00:18:01 → 00:18:04 ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอดอาหารแต่ให้เลือก
00:18:04 → 00:18:09 อาหารสมดุลกินผักผลไม้ธัญพืชไม่ขัดสี
00:18:09 → 00:18:15 โปรตีนดีเช่นปลาไก่ถั่วและไขมันดีจากถั่ว
00:18:15 → 00:18:18 เมล็ดพืชควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละ
00:18:18 → 00:18:22 มื้อทำให้ระดับน้ำตาลไม่แกว่งมาก
00:18:22 → 00:18:27 เรื่องต่อมาคือการออกกำลังกายเดินเร็ว
00:18:27 → 00:18:30 ว่ายน้ำปั่นจักรยานหรือกิจกรรมที่ชอบ
00:18:30 → 00:18:35 อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห
00:18:35 → 00:18:38 การเคลื่อนไหวช่วยให้ร่างกายใช้อินซูลิน
00:18:38 → 00:18:43 ได้ดีลดน้ำตาลและยังช่วยให้ใจเราผ่อนคลาย
00:18:43 → 00:18:46 นอกจากอาหารและออกกำลังกายแล้วการนอนและ
00:18:46 → 00:18:50 จัดการความเครียดก็สำคัญมากนอนให้เพียงพอ
00:18:50 → 00:18:53 ฝึกผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมที่ช่วยลดความ
00:18:53 → 00:18:57 เครียดเพราะความเครียดและนอนน้อยทำให้น้ำ
00:18:57 → 00:19:00 ตาลในเลือดสูงขึ้นอีกเรื่องที่หลายคนมัก
00:19:00 → 00:19:05 มองข้ามคือการดูแลตัวเองระยะยาวตรวจ
00:19:05 → 00:19:09 สุขภาพประจำปีตามนัดดูแลเท้าเพราะเบาหวาน
00:19:09 → 00:19:14 ทำให้แผลหายช้าสังเกตผิวหนังและฟันเพราะ
00:19:14 → 00:19:18 การติดเชื้อบ่อยอาจเป็นสัญญาณน้ำตาลสูง
00:19:18 → 00:19:21 จัดการยาให้ตรงเวลาและปรึกษาแพทย์เมื่อมี
00:19:21 → 00:19:23 อาการผิดปกติ
00:19:23 → 00:19:27 สิ่งสำคัญคืออย่าตื่นตระหนกและอย่าท้อเบา
00:19:28 → 00:19:31 หวานไม่ได้หมายความว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไป
00:19:31 → 00:19:35 หมดแต่หมายถึงเราต้องใส่ใจตัวเองมากขึ้น
00:19:35 → 00:19:37 การปรับพฤติกรรมเล็กๆทุกวันจะช่วยให้
00:19:37 → 00:19:40 ชีวิตเราปกติได้เหมือนเดิมและลดความ
00:19:40 → 00:19:43 เสี่ยงแทรกซ้อนในระยะยาว
00:19:43 → 00:19:48 รู้ตัวสังเกตตัวเองปรับอาหารออกกำลังกาย
00:19:48 → 00:19:52 นอนเพียงพอและจัดการความเครียดเพียงเท่า
00:19:52 → 00:19:55 นี้เราก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่
00:19:55 → 00:19:59 แม้ว่าจะมีเบาหวานก็ตามตอนนี้เราพูดถึง
00:19:59 → 00:20:02 ทุกอย่างแล้วตั้งแต่ปัจจัยเสี่ยงสัญญา
00:20:02 → 00:20:06 สัญญาณเตือนการตรวจคัดกรองและวิธีดูแลตน
00:20:06 → 00:20:09 เองแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรวมทุก
00:20:09 → 00:20:12 อย่างเข้าด้วยกันและทำต่อเนื่องในชีวิต
00:20:12 → 00:20:16 ประจำวันหลายคนถามว่าแล้วถ้าเรารู้ตัวว่า
00:20:16 → 00:20:19 มีความเสี่ยงหรือเป็นเบาหวานแล้วจะทำ
00:20:19 → 00:20:24 อย่างไรให้ชีวิตยังปกติจริงๆคำตอบคือเรา
00:20:24 → 00:20:27 ยังมีชีวิตปกติได้เพียงแต่ต้องใส่ใจและมี
00:20:27 → 00:20:31 วินัยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตรวจสุขภาพสม่ำ
00:20:31 → 00:20:32 เสมอ
00:20:32 → 00:20:35 เริ่มจากพื้นฐานเลยคือตรวจสุขภาพเป็น
00:20:35 → 00:20:38 ประจำคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรตรวจน้ำ
00:20:38 → 00:20:43 ตาลและ HBA1C อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้งการ
00:20:43 → 00:20:46 ตรวจไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่เป็นเครื่อง
00:20:46 → 00:20:49 มือช่วยให้เรารู้ตัวเร็วหากพบว่าระดับน้ำ
00:20:49 → 00:20:53 ตาลสูงเราจะได้ลงมือปรับพฤติกรรมทันทีไม่
00:20:53 → 00:20:55 ปล่อยให้เป็นเรื้อรัง
00:20:55 → 00:20:58 อาหารและโภชนาการ
00:20:58 → 00:21:00 อาหารคือสิ่งที่เราสามารถควบคุมได้ด้วย
00:21:00 → 00:21:04 ตัวเองไม่ต้องกังวลว่าจะต้องอดหรือกินจืด
00:21:04 → 00:21:08 สนิทแค่เลือกสมดุลและชานฉลาดลดอาหารหวาน
00:21:08 → 00:21:12 และแปรรูปเน้นถักผลไม้หลากสีเลือกธัญพืช
00:21:12 → 00:21:17 ไม่ขัดสีแทนข้าวขาวกินโปรตีนดีๆเช่นปลา
00:21:17 → 00:21:22 ไก่ถั่วและไขมันดีจากถั่วหรือเมล็ดพืชควบ
00:21:22 → 00:21:25 คุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแต่ละมื้อการกิน
00:21:25 → 00:21:28 แบบนี้ไม่เพียงช่วยควบคุมน้ำตาลแต่ยังทำ
00:21:28 → 00:21:30 ให้เราอิ่มนานมีพลัง
00:21:30 → 00:21:34 และรู้สึกดีทั้งร่างกายและจิตใจ
00:21:34 → 00:21:37 การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนส
00:21:37 → 00:21:40 หนักๆแค่เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
00:21:40 → 00:21:45 ก็เพียงพอแล้วเดินเร็วว่ายน้ำปั่นจักรยาน
00:21:45 → 00:21:49 หรือกิจกรรมที่เราชอบวันละ 30 นาที
00:21:49 → 00:21:52 สัปดาห์ละ 5 วันการออกกำลังกายช่วยให้
00:21:52 → 00:21:55 ร่างกายใช้อินซูลินได้ดีขึ้นลดน้ำตาลใน
00:21:55 → 00:21:59 เลือดและทำให้จิตใจเราผ่อนคลาย
00:21:59 → 00:22:02 การนอนนอนและจัดการความเครียดหลายคนมัก
00:22:02 → 00:22:05 มองข้ามเรื่องนี้แต่การนอนเพียงพอและลด
00:22:05 → 00:22:09 ความเครียดเป็นสิ่งสำคัญมากนอนอย่างน้อย
00:22:09 → 00:22:13 6-8 ชมงต่อคืนฝึกสมาธิทำกิจกรรมที่ผ่อน
00:22:13 → 00:22:17 คลายการจัดการความเครียดช่วยควบคุมน้ำตาล
00:22:17 → 00:22:21 และลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนการดูแลตนเอง
00:22:21 → 00:22:26 ระยะยาวเมื่อเรามีเบาหวานสิ่งสำคัญคือติด
00:22:26 → 00:22:29 ตามและดูแลตนเองอย่างต่อเนื่องตรวจเท้า
00:22:29 → 00:22:33 สังเกตแผลเพราะเบาหวานทำให้แผลหายช้า
00:22:33 → 00:22:36 สังเกตฟันและผิวหนังหากติดเชื้อบ่อยอาจ
00:22:37 → 00:22:40 เป็นสัญญาณน้ำตาลสูงจัดการยาและปรึกษา
00:22:40 → 00:22:44 แพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติก้าวสู่
00:22:44 → 00:22:48 ชีวิตที่ปกติและมั่นใจสิ่งสำคัญที่สุดคือ
00:22:48 → 00:22:52 ไม่ท้อและไม่ตื่นตระหนกเบาหวานไม่ได้หมาย
00:22:52 → 00:22:54 ความว่าชีวิตต้องเปลี่ยนไปหมดเพียงแต่
00:22:54 → 00:22:58 ปรับพฤติกรรมเล็กๆทุกวันอย่างสม่ำเสมอเรา
00:22:58 → 00:23:02 สามารถใช้ชีวิตปกติมีพลังและลดความเสี่ยง
00:23:02 → 00:23:06 แทรกซ้อนในระยะยาวจำง่ายๆว่าตรวจสุขภาพ
00:23:06 → 00:23:11 เป็นประจำกินอาหารสมดุลออกกำลังกายทุกวัน
00:23:11 → 00:23:15 นอนพอและลดความเครียดดูแลตนเองและติดตาม
00:23:15 → 00:23:19 อาการทำแบบนี้ต่อเนื่องคุณจะอยู่กับเบา
00:23:19 → 00:23:22 หวานได้อย่างมั่นใจมีคุณภาพชีวิตดีและยัง
00:23:22 → 00:23:26 สามารถทำกิจกรรมที่รักได้เหมือนเดิมและ
00:23:26 → 00:23:30 นี่ก็คือซีรียสเรื่องรู้ไว้ห่างไกลเบา
00:23:30 → 00:23:33 หวานครับหวังว่าคุณจะได้แนวทางและเทคนิค
00:23:33 → 00:23:36 ต่างๆไปลองปรับใช้ในชีวิตประจำวันไม่ว่า
00:23:36 → 00:23:40 จะเป็นการตรวจสุขภาพสม่ำเสมอปรับอาหารให้
00:23:40 → 00:23:44 สมดุลออกกำลังกายและจัดการความเครียดสิ่ง
00:23:44 → 00:23:46 เหล่านี้แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆแต่เมื่อทำ
00:23:46 → 00:23:49 อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณลดความเสี่ยง
00:23:49 → 00:23:53 และมีชีวิตที่มั่นใจได้จำไว้ว่าการดูแลตน
00:23:53 → 00:23:57 เองคือการลงทุนในสุขภาพระยะยาวเริ่มจาก
00:23:57 → 00:24:00 สิ่งง่ายๆวันนี้อาจเป็นการเดินเร็วปรับ
00:24:00 → 00:24:03 อาหารหรือสังเกตร่างกายตัวเองเมื่อทำ
00:24:03 → 00:24:06 อย่างสม่ำเสมอคุณจะเริ่มเห็นความแตกต่าง
00:24:06 → 00:24:10 ทั้งร่างกายและจิตใจขอบคุณที่ฟังพcสของ
00:24:10 → 00:24:14 เราถ้าชอบเนื้อหาอย่าลืมกดติดตามกดไลค์
00:24:14 → 00:24:17 และแชร์ให้เพื่อนๆหรือครอบครัวเพื่อให้
00:24:17 → 00:24:20 ทุกคนมีโอกาสห่างไกลเบาหวานและมีสุขภาพ
00:24:20 → 00:24:24 ที่ดีขึ้นครับแล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไปดู
00:24:24 → 00:24:28 แลตนเองให้ดีใช้ชีวิตอย่างสมดุลและสุขภาพ
00:24:28 → 00:24:31 ดีในทุก