00:00:12 → 00:00:19 สวัสดีครับพี่หมอสวัสดีครับทุกคนครับ สวัสดีครับครับสวัสดีครับคุณหมอสวัสดี
00:00:19 → 00:00:27 ครับสวัสดีครับคุณหมอครับสวัสดีครับทุกคน ครับโอเควันเนี้ยเรา 4 คนพร้อมเพียงกันนะ
00:00:27 → 00:00:34 ฮะวันนี้หมอมีเรื่องเก่าๆอ่าที่จะมา Lecture ต้องใช้คำว่า Lecture นะฮะเพราะ
00:00:34 → 00:00:40 ฉะนั้นใครที่ฟังคลิปนี้นะถ้าเป็นไปได้ ตั้งต้นเนี่ยเตรียมสมุดปากกาแล้วเลคชอร์
00:00:40 → 00:00:49 ไปพร้อมๆกันนะฮะนะเอ่อวันเนี้ยหมอจะพูด ถึงหัวใจของ low C High Fat ที่เป็น
00:00:49 → 00:00:56 basic ที่สุดนะฮะเบสิคที่สุดของเรื่อง ของ low cf High Good Fat เนี่ยก็คือ
00:00:56 → 00:01:04 เรื่องของอินซูลินกับเรื่องของพลังงานนะ ฮะทำไมถึงอยากจะพูดใน 2 เรื่องเนี่ยเพราะ
00:01:04 → 00:01:14 เท่าที่สังเกตนะสังเกตของการที่คนเข้าสู่ เอ่อเรื่องของโภชนาการคฟต่ำ ow C หรือ
00:01:14 → 00:01:20 แบบอื่นๆอะไรก็ตามเนี่ยนะฮะความเข้าใจใน เรื่องของอาหารการปฏิบัติตัวในเรื่องของ
00:01:20 → 00:01:27 อาหารนะแล้วก็ผลที่เกิดขึ้นนะไม่ว่าจะ เป็นการประเมินทางกายภาพประเมินทาง
00:01:27 → 00:01:32 ฟิสิกส์หรือประเมินทางเคมีโดยการเจาะ เลือดอะไรก็ตามตามนะฮะหลายคนก็ยังมีความ
00:01:32 → 00:01:41 ไม่ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยอ่ะนะฮะคือไม่ ได้เป้าหมายอ่าในแง่ที่การเข้ามาใน
00:01:41 → 00:01:49 โภชนาการรูปแบบใหม่นี้นะก็เลยมาเกิดปัญหา เกิดความไม่สบายใจแล้วก็เกิดความคางแคงใจ
00:01:49 → 00:01:56 นะรวมทั้งในหลายๆเพจก็จะเห็นว่ามีกระทู้ เ่อโพสต์ถามกันถึงเรื่องว่าจะต้องกิน
00:01:56 → 00:02:02 อย่างนี้ไปตลอดชีวิตมยกินแล้วมันจะเป็น อะไรมยมันจะเป็นอันตรายมยนะฮะนะก็มี
00:02:02 → 00:02:11 วิวาทะกันในหลายๆเพจนะในช่วงสัปดาห์ที่ ผ่านมานี้นะฮะคือเข้าไปดูแล้วเนี่ยก็คิด
00:02:11 → 00:02:21 ว่าถ้าเราเป็นส่วนนึงนะของการที่จะแนะนำ องค์ความรู้ในเชิงลึกให้คนเข้าใจของ
00:02:21 → 00:02:27 โภชนาการคาฟต่ำเนี่ยนะฮะหมอคิดว่าเอ่อ 2 ประเด็นเนี้ยมันเป็น 2 ประเด็นที่น่าจะ
00:02:27 → 00:02:33 เป็น อ่อน่าจะเป็นใจความสำคัญแล้วล่ะนะฮะที่คน
00:02:33 → 00:02:41 จะต้องมาคิดแล้วมาปรับอ่าว่ามันมันมัน เป็นยังไงอ่ะนะกับตัวเราแลก็การนำไปแก้นะ
00:02:41 → 00:02:46 ฮะนะก็คืออยากจะพูดใน 2 เรื่องนี้นะฮะ เรื่องแรกจะเป็นเรื่องของอินซูลินนะฮะ
00:02:46 → 00:02:52 อย่างในภาพที่เราโชว์ในในไลฟเนี่ยนะฮะ เรื่องของอินซูลินเปลี่ยนแปลงโดยอะไร
00:02:52 → 00:02:59 เนี่ยภาพนี้ก็เคยฉายมาหลายครั้งแล้วนะฮะ นะก็เรารู้แล้วว่าอินซูลินเนี่ยไม่ได้ถูก
00:02:59 → 00:03:08 คอนโทรลที่สมองนะฮะเขาถูกคลอ่าที่อาหาร แล้วก็ถูกยกย่องเป็น King of รมนนะฮะนะ
00:03:08 → 00:03:14 โดยบทบาทสำคัญที่สุดนะและเราถูกยกย่องให้ เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญสูงสุดของ
00:03:14 → 00:03:23 มนุษย์เรานะฮะเอ่ออินซูลินเนี่ยเขา depend on Food นะฮะนะแต่ก็ต้องเป็น Good Food
00:03:23 → 00:03:30 นะฮะก็คือเป็นเร Food นั่นเองนะฮะอันนี้ พื้นๆสุดเลยนะอินซูลินสร้างจากเเซลของตับ
00:03:30 → 00:03:38 อ่อนซึ่งวิวัฒนาการของคนเราเนี่ยก็ไม่ได้ ว่าจะมีเอ่อการทำงานของตัวเบต้าเซลล์นะ
00:03:38 → 00:03:44 หรือการสร้างอินซูลินเนี่ยมากมายอะไรนัก นะฮะฟังก์ชันของตับอ่อนน่ะทั้งตับอ่อนเลย
00:03:44 → 00:03:49 นะที่มันมีส่วนเนื้อเยื่อเบต้าเซลล์และ สร้างอินซูลินเนี่ยมันมีแค่ประมาณ 1% นะ
00:03:49 → 00:03:57 ฮะ 1% นะฮะนะแล้วก็อีกประมาณไม่ถึง 1% เนี่ยนะฮะก็จะเป็นพวกแอลฟ่าเซลล์นะที่เขา
00:03:57 → 00:04:05 จะสร้างกลูคารอนมา Counter Balance กับ ตัวอินซูลินนะฮะแล้วก็ 2 ส่วนเนี้ยนะ 2
00:04:05 → 00:04:12 เรื่องเนี้ยนะฮะอินซูลินกับกลูคารอนเนี่ย ก็จะเป็นส่วนสำคัญนะที่ตับอ่อนที่เหลือใน
00:04:12 → 00:04:19 โครงสร้างตับอ่อนประมาณ 98-99 per เนี่ย มันจะเป็นเรื่องของการสร้างเอนไซม์มาช่วย
00:04:19 → 00:04:27 ในการย่อยอาหารนะเอ่อเพราะฉะนั้นอินซูลิน เนี่ยแม้ว่าจะเป็นส่วนที่มีน้อยก็จริงนะ
00:04:27 → 00:04:33 ฮะแต่ก็จะมีความสำคัญยิ่งๆยิ่งยิ่งกว่านะ ฮะมันถึงได้ถูกยกย่องให้เป็นเรื่องของ
00:04:33 → 00:04:40 King of ฮอร์โมนในการคอนโทรลทุกสิ่งทุก อย่างและที่สำคัญเขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับการ
00:04:40 → 00:04:51 สั่งการนะของสมองเลยนะฮะเป็นฮอร์โมนอ่า ตัวตัวนึงอ่ะนะฮะนะที่เป็นลักษณะแบบนี้นะ
00:04:51 → 00:04:57 ะแต่ตัวอื่นๆนะฮะจะเป็นคอร์ติซอลเป็น เอสโตรเจนหรือว่าจะเป็นเ่อลูกๆเทพอะไร
00:04:57 → 00:05:04 ต่างๆที่เคยพูดกันไปเนี่ยพวกนี้ยังขึ้น อยู่กับสมองนะฮะนะอยู่ภายใต้การคอนโทรล
00:05:04 → 00:05:11 ของตัวสมองอ๋อครับแล้วทีนี้อ่าอินซูลิน เนี่ยมันขึ้นอยู่กับอาหารนะเพราะฉะนั้น
00:05:11 → 00:05:17 เราก็ต้องมาดูเรื่องอาหารที่กระตุ้นและ ไม่กระตุ้นอินซูลินนะฮะเก็จะเรียงลำดับนะ
00:05:17 → 00:05:22 อาหารหลักๆของเราก็ 3 กลุ่มคาร์โบไฮเดรต โปรตีนไขมันเหล่านี้มีผลยังไงบ้างกับ
00:05:22 → 00:05:30 อินซูลินนะก็เราก็มองเห็นแล้วนะฮะในรูป เนี้ยนะฮะอย่างคาฟโดยทั่วไปอันนี้คาฟนะ
00:05:30 → 00:05:36 เฉพาะเอ่อกลุ่มคาฟอย่างเดียวไม่ปนเปย อย่างอื่นนะฮะกระตุ้นอินซูลินเพิ่มขึ้น
00:05:36 → 00:05:43 จากเซอลเลเวลเนี่ยประมาณ 10 เท่านะฮะแต่ ถ้าเป็นโปรตีนอย่างเดียวก็ 3 เท่านะจริงๆ
00:05:43 → 00:05:50 3-5 เท่าน่ะแหละนะฮะถ้าเป็นไขมันอย่าง เดียวก็ประมาณ 0.5 -1 เท่านะฮะทีนี้ถ้า
00:05:50 → 00:05:56 เป็นรายละเอียดเนี่ยรายละเอียดในทางการ กินอาหารเข้าไปเลยเนี่ยเราก็จะเห็นว่า
00:05:56 → 00:06:02 เอ่อกลุ่มที่เป็นเอ่อโมเลกุลค่อนข้าง เดี่ยวหรือว่าไม่ซับซ้อนมากเนี่ยจะ
00:06:02 → 00:06:08 กระตุ้นเยอะนะฮะนะเนี่ยน้ำตาลกลูโคสแป้ง น้ำตาลเทียมอันนี้กระตุ้นเยอะนะฮะนะ
00:06:08 → 00:06:17 โปรตีนรองลงมาไขมันทรานนะฮะนะแล้วก็พวก อะไรน้ำมันพืชแปรรูกนะหรือเป็นไขมันเนี่ย
00:06:17 → 00:06:22 ที่มีความการเสียสภาพโดยความร้อนนะฮะนะ รวมทั้งโปรตีนด้วยนะฮะพวกนี้ก็กระตุ้น
00:06:22 → 00:06:29 อินซูลินหนักนะฮะแต่ในแง่ของไขมันดีเนี่ย ก็กระตุ้นน้อยนะฮะกระตุ้นน้อยนะไขมันดีก็
00:06:29 → 00:06:36 ที่เอามาทำน้ำมันสกัดเย็นหรือน้ำสลัด ทีออยอะไรต่างๆเนี่ยพวกนี้จะกระตุ้นน้อย
00:06:36 → 00:06:45 มากนะฮะนะอ้านะเราก็รู้หลักๆอย่างนี้นะฮะ ทีนี้โดยทั่วไปอ่ะที่เราเอ่ออยู่ในวงการ
00:06:45 → 00:06:53 ของเ่อโภชนาการสมัยใหม่มาเนี่ยเราก็คงพอ ทราบคร่าวๆในเรื่องว่าอินซูลินเนี่ยเอ่อ
00:06:53 → 00:06:59 มันถูกกระตุ้นด้วยอาหารอะไรนะแล้วเสร็จ แล้วเนี่ยมันก็ไปมีผลทำให้เกิดภาวะดื้
00:06:59 → 00:07:05 อิซูลินนะเราคิดแต่ในเรื่องเดียวอ่ะในหน ทางเดียวว่าเออการดื้ออินซูลินเนี่ยเพราะ
00:07:05 → 00:07:12 อินซูลินถูกกระตุ้นออกมาเยอะๆเยอะๆนะฮะ แล้วมันขี้เกียจมันไม่ทำงานในการเก็บกัก
00:07:12 → 00:07:21 สะสมไอ้พวกสารอาหารหรือพลังงานต่างๆนะก็ เลยทำให้เกิดการดื้อนะนะแต่อีกส่วนหนึ่ง
00:07:21 → 00:07:26 เนี่ยการดื้อของอินซูลินเนี่ยก็ไม่ได้ เป็นผลโดยตรงมาจากตัวอินซูลินนะฮะใน
00:07:26 → 00:07:33 ปัจจุบันที่มีงานวิจัยรองรับกันเนี่ยก็ คือมันเป็นเรื่องของตัวเซลล์ต่างๆนะที่
00:07:33 → 00:07:39 มันไม่เปิดประตูนะฮะนะประตูรับอินซูลิน เนี่ยก็ชื่อกัดโฟนะอก็ไม่เปิดประตู
00:07:39 → 00:07:45 อันเนี้ยนะฮะเพราะฉะนั้นอินซูลินก็พาเอา ของดีๆเอาสารอาหารเอาพลังงานอะไรต่างๆเอา
00:07:45 → 00:07:52 แร่ธาตุเอาวิตามินนะเข้าสู่เซลล์ไม่ได้นะ แต่ทั้งหมดเนี่ยเราก็รู้จักกันในนามภาวะ
00:07:52 → 00:08:00 ดื้ออินซูลินหรือ insulin resistance นะ ฮะแต่ทีนี้ในพื้นฐานเบสิคจริงๆของ ow C
00:08:00 → 00:08:06 High Fat เนี่ยนะเขาไม่ได้เขาก็พูดถึง อินซูลินในในแนวทางแบบเยนะแต่จะมีอีกทิศ
00:08:06 → 00:08:13 ทางนึงที่เขาพูดถึงนะโดยเขาแปลคำว่า insulin resistance เนี่ยนะถ้าเป็นภาษา
00:08:13 → 00:08:19 ไทยเนี่ยก็คืออินซูลินที่ก้าวร้านะฮะเใช้ คำว่า aggressive นะฮะนะเป็นอินซูลินที่
00:08:19 → 00:08:27 ก้าวร้าววันนี้นะฮะหมอจะมาให้รายละเอียด ของภาวะอินซูลินที่ก้าวร้าวเนี่ยมันมี
00:08:27 → 00:08:34 อยู่ 8 8 ปม 8 ปมนะของภาวะดื้ออินซูลิน หรืออินซูลิน 9 ร้าวเนี่ยนะว่าเกิดจาก
00:08:34 → 00:08:44 อะไรเราให้พวกเราเนี่ยจำสิ่งเหล่านี้ไว้ ให้ดีนะเอ่อมันเป็นเหตุนะฮะซึ่งถ้าจะแก้
00:08:44 → 00:08:51 ภาวะดื้ออินซูลินนะก็จะต้องคิดถึง 8 เรื่องเนี้ยนะฮะแล้วจะไปจัดการยังไงจะไป
00:08:51 → 00:09:00 ปรับยังไงนะฮะรวมทั้งถ้ามีตัวชี้วัดต่างๆ ที่มันมีความผิดปกติอะไรต่างๆถ้าคิดว่านะ
00:09:00 → 00:09:06 มันต้องอธิบายหรือมันต้องเกี่ยวข้องกับ เรื่องของอินซูลินนะฮะก็ให้ดู 1 2 3 4
00:09:06 → 00:09:13 5 6 7 8 นะว่ามันอยู่ในประเด็นไหนนะ ฮะให้คิดถึงอันนี้ก่อนนะฮะอ่าหมอเริ่มข้อ
00:09:13 → 00:09:22 แรกเลยนะฮะเบอกว่าอินซูลินมันก้าวร้าว เพราะเพราะว่าสิ่งที่กินมันไม่ใช่าฟตรงๆ
00:09:22 → 00:09:31 อ่ะนะมันเป็นาฟแปรรูปนะโดยแปรรูปาฟออกมา เป็นอะไรนะก็คือเป็นเป็นน้ำตาลนแหลักๆก็
00:09:31 → 00:09:40 คือเป็นน้ำตาลโดยเฉพาะน้ำตาล 3 ตัวหลักนะ ฮะก็คือกลูโคสฟรุกโตสนะกาแลคโตสนะฮะส่วน
00:09:40 → 00:09:48 น้ำตาลโมเลกุลคู่นะฮะหรือเชิงซ้อนอะไร ต่างๆนะที่มันมาจับจับๆพันธะมันมาจับๆกัน
00:09:48 → 00:09:56 ซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆเนี่ยทุกอย่างนะที่ เป็นคาฟเนี่ยนะฮะมีผลต่ออินซูลินยิ่งแปร
00:09:56 → 00:10:04 รูปมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นโลกุที่ถูกตัดทอน ลงเล็กลงเล็กลงมากเท่าไหร่นะฮะนะการเกิด
00:10:04 → 00:10:11 สภาวะที่เรียกว่าอินซูลินก้าวร้าวมันก็จะ ยิ่งมากขึ้นมากขึ้นนะฮะอันนี้นะฮะอันนี้
00:10:11 → 00:10:18 ประเด็นข้อที่ 1 นะฮะข้อที่ 2 นะเขาใช้คำ ว่า hien Sugar นะฮะ hidden Sugar แต่
00:10:18 → 00:10:23 hidden Sugar เนี่ยมันจะมีหลากหลายความ หมายความหมายในข้อที่ 2 เนี่ยส่วนใหญ่เรา
00:10:23 → 00:10:32 หมายถึงแป้งนะฮะหรือสัชนะฮะนะตัวแป้งนะ ที่จะเป็นเ่อเป็นตัวแป้งโดยตรงก็ดีอนะ
00:10:32 → 00:10:39 หรือเป็นตัวที่มีน้ำตาล เอ่อรวมอยู่เป็นส่วนผสมอยู่นะฮะนะส่วน
00:10:39 → 00:10:47 ใหญ่เนี่ยก็จะอยู่ในรูปของอาหารแปรรูปไป นะฮะนะแล้วแป้งต่างๆพวกเนี้ยนะถ้ามันอยู่
00:10:47 → 00:10:55 ในอาหารปกติเนี่ยอย่างเช่นเมล็ดพืชเมล็ด ธัญพืชอะไรต่างๆนะฮะนะพวกนี้เราถือว่า
00:10:55 → 00:11:00 เป็นตัวที่ในที่สุดเนี่ยมันก็จะถูกร่าง กายเปลี่ยนแปลงไปเป็นโมเลกุลที่เป็นน้ำ
00:11:00 → 00:11:07 ตาลอยู่ดีนะเพราะฉะนั้นก็มีโอกาสที่จะ กระตุ้นอ่าเรื่องของอินซูลินจะมากจะน้อย
00:11:07 → 00:11:15 จะชู้ดแค่ไหนอะไรอย่างงั้นนะฮะแต่กลุ่ม เมล็ดพืชเนี่ยเ่อจะมีส่วนอย่างนึงอ่ะนะ
00:11:15 → 00:11:23 ที่จะมีตัวแถมขึ้นมาเ้าเรียกกลูเต้นนะฮะ กลูเต้นมันก็เป็นโปรตีนน่ะนะฮะนะแต่เมื่อ
00:11:23 → 00:11:32 มันเป็นโปรตีนกลูเต้นที่อยู่กับคาฟหรือ น้ำตาลก็ตามนะฮะพวพวกนี้มีมีแนวโน้มในการ
00:11:32 → 00:11:38 กระตุ้นอินซูลินที่ทำให้เกิดภาวะอินซูลิน ก้าวร้าวนะค่อนข้างแรงค่อนข้างแรงนะฮะนะ
00:11:38 → 00:11:45 อีกอันนึงก็คือแป้งที่อยู่กับไขมันนะฮะนะ อันนี้เราก็รู้ปฏิกิริยาของ rand
00:11:45 → 00:11:52 reaction หรือ Ron Cycle อยู่แล้วนะฮะ ว่าเขามีส่วนที่กระตุ้นอินซูลินค่อนข้าง
00:11:52 → 00:11:57 แรงค่อนข้างแรงแล้วเป็นการกระตุ้นแบบ อินซูลินก้าวร้าวนะฮะ
00:11:57 → 00:12:05 อในกกลุ่มของเมล็ดพืชเนี่ยที่มีผลในการ กระตุ้นเอ่อไม่เยอะนะฮะไม่เยอะนะเอ่อก็จะ
00:12:05 → 00:12:14 เป็นพวกข้าวลายแล้วก็เข้าเจ้านะฮะนะถ้า เป็นเมล็ดพืชนะฮะนะพวกนี้ไม่มีกลูเต้นนะ
00:12:14 → 00:12:21 นะแล้วก็โอกาสในการเกิดภาวะอินซูลินก้าว ร้าวจะน้อยลงนะฮะคือหมอจะใช้คำนี้นะฮะนะ
00:12:21 → 00:12:29 คิดว่ามันน่าจะดูเด็ดเผ็ดมันนะมากกว่านะ เรื่องของอินซูลินดื้ออินซูลินเฉยๆนะฮะ
00:12:29 → 00:12:35 อีกอย่างนึงก็คือกลุ่มผลไม้เราถือว่า ผลไม้ทุกอย่างมีเรื่องของ hien Sugar
00:12:35 → 00:12:43 อยู่นะฮะยกเว้นผลไม้ที่นับพลังงานนะอ่า หรือนับพลังงานและสารอาหารน่ะในรูปของไข
00:12:43 → 00:12:51 มันนะฮะก็มีอยู่ 3-4 ตัวนะก็มีมะพร้าว อะโวคาโดมะกอกนะฮะนะทนี้ผลไม้ที่ไม่ได้
00:12:51 → 00:12:57 นับพลังงานนะฮะนะเป็นผลไม้ที่ไม่ได้กิน เยอะแล้วเราอนุโลมว่าถือว่าไม่มีพลังงาน
00:12:57 → 00:13:05 นะก็คือมะนาวนะฮะนะกินวันละ 1-2 ผลอีก กลุ่มนึงเนี่ยก็ถือว่าเป็นพลังงานประเภท
00:13:05 → 00:13:13 าฟแต่กินน้อยๆได้นะแล้วก็เมีสารพรึกษา เคมีกับตัวแอนตี้ออกซินที่ดีต่อร่างกายก็
00:13:13 → 00:13:20 คือพวกตระกูลเบอร์รี่นะฮะนะแต่พวกเนี้ย ต้องกินน้อยๆนะกินในปริมาณเน็ตคาฟแค่
00:13:20 → 00:13:24 ประมาณ 5-10 กรัมนะฮะไม่เกินนี้
00:13:25 → 00:13:32 นะทีนี้พวกถั่วต่างๆอ่ะที่เราเคยไลฟกันไป แล้วเนี่ยถั่วเนี่ยเราถือว่าเป็นกลุกแป้ง
00:13:32 → 00:13:37 เป็นหลักละนะฮะนะแต่ก็จะมีโปรตีนมีไขมัน เนี่ยอันนั้นมันก็จะยิบย่อยแล้วมันเป็น
00:13:37 → 00:13:42 ส่วนน้อยนะถั่วส่วนใหญ่ก็เป็นแป้งนะฮะ ถั่วในที่นี้ส่วนใหญ่ก็คือบีนหรือถั่ว
00:13:42 → 00:13:50 เมล็ดแห้งที่เป็นถั่วฝักนะฮะพวกนี้เราถือ ว่ามี hien ชูการสูงนะถ้ากินเยอะก็มี
00:13:50 → 00:13:58 โอกาสในการกระตุ้นอินซูลินที่จะเกิดการ ก้าวร้าวขึ้นมานะฮะนะก็มีถั่วชนิดนึงนะฮะ
00:13:58 → 00:14:04 ไม่รู้พวกเราพอรู้จักมยนะถั่วอันนี้เนี่ย กระตุ้นอินซูลินน้อยที่สุดนะฮะนะแต่ว่า
00:14:04 → 00:14:10 ไม่ได้อยู่ในแถบเอเชียหรือเขตเส้นศูนย์ สูตรเป็นถั่วในเขตอบอุ่นนะฮะเคเรียกว่า
00:14:10 → 00:14:23 กิมัสนะฮะคิมัสนะฮะอันนี้กระตุ้นกระตุ้น อินซูลินน้อยสุดในโลกนะฮะิัิ hu ms นะฮะ
00:14:23 → 00:14:32 นะแต่ถั่วพวกนี้ก็มีขายใน shopee Lazada นะฮะนะถ้าใครจะลองซื้อมามากินนะอ่ายัง
00:14:32 → 00:14:42 อยู่กันม 2 ข้อแล้วนะฮะทีนี้ข้อที่ 3 นะ ข้อที่ 3 ก็คือการกินคาฟร่วมกับโปรตีนนะ
00:14:42 → 00:14:50 โดยมีการกินแบบเป็นร่ำเป็นสันนะคือกิน บ่อยๆนะฮะกินถี่ๆกินบ่อยๆกินกันไปนานๆกิน
00:14:50 → 00:14:58 กันเป็นชีวิตประจำวันนะฮะ นะอันนี้เนี่ยโดยทั่วไปนะฮะนะถ้าเกิดว่า
00:14:58 → 00:15:04 เรากินคาฟอย่างเดียวเนี่ยมันกระตุ้น อินซูลินประมาณ 10 เท่าใช่มนะนะแต่ถ้า
00:15:04 → 00:15:12 เมื่อไหร่นะมีการกินคาฟบวกโปรตีนนะฮะนะ พวกนี้มันจะเพิ่มการกระตุ้นอินซูลินขึ้น
00:15:12 → 00:15:18 ไปนะเป็น 200% น่ะก็คือเป็นประมาณ 20 เท่านะ
00:15:18 → 00:15:26 ฮะแล้วก็ความหมายส่วนใหญ่เจะหมายถึงกลุ่ม นะอาหารที่ค่อนข้างไปทางแปรรูปหรือจังฟ
00:15:26 → 00:15:33 ถ้าเป็นส่วนใหญ่นะฮะก็ได้แก่การกินพวก แฮมเบอร์เกอร์ฮอตดอกนะเบอร์เกอร์ในร้าน
00:15:33 → 00:15:42 สะดวกซื้อต่างๆนะฮะนะมีพวกข้าวเหนียวหมู ทอดข้าวเหนียวไก่ย่างขนมปังไข่นะฮะพวกนี้
00:15:42 → 00:15:49 แซนวิชนะขนมปังปิ้งบาร์บีคิวนะฮะนะอย่าง ข้าวเหนียวหูปิ้งเนี่ยเขาเรียก
00:15:49 → 00:15:56 แฮมเบอร์เกอร์เมืองไทยเนาอันนี้เราเคยรู้ กันมยอไม่เคยเลยครับพี่หมอนี้เนี่ย
00:15:56 → 00:16:02 ปฏิกิริยาดื้ออินซูลินนะฮะหรือหรือภาวะ อินซูลินก้าวร้าวเนี่ยมันจะเพิ่มมากขึ้น
00:16:02 → 00:16:09 นะฮะนะครับก็คือเป็นการ combine ระหว่าง คาฟกับโปรตีนนั่นเองนะอือันนี้ถือว่าไม่
00:16:09 → 00:16:17 ปลอดภัยนะฮะนะในยุคอสนี้ด้วยนะฮะที่พื้น ฐานของคนทั่วไปส่วนใหญ่เราจะมีภาวะดื้อ
00:16:17 → 00:16:24 อินซูลินน้อยมากก็แล้วแต่ อืหมูนี่นะครับพี่หมอหมูหหมูปิ้งเนี่ยนะ
00:16:24 → 00:16:31 ด้วยฮะหมูปิ้งนี่คือเค้าเรียกว่าอะไรนะ หมูปิ้งเนี่ยคุณปิ้งเป็นยังไงไก่ย่างไก่
00:16:31 → 00:16:38 ทอดหมูหวานหมูหวานเดี๋ยวนี้หมูหวานแล้ว ปิ้งๆอ๋อไปตลาดเช้าเนี่ยก็เห็นที่เขาขายๆ
00:16:38 → 00:16:45 กันเนี่ยนะฮะเราไปถามว่าอันไหนหวานน้อย ที่สุดนะฮะนะแต่หวานน้อยที่สุดก็คือหวาน
00:16:45 → 00:16:50 นั่นแหละก็ยังก็มีการใส่อยู่ดีอ่ะนะฮะพี่ หมอเมื่อเมื่อวานเนี่ยผมเห็นโพสต์นึงมัน
00:16:50 → 00:16:57 เป็นสูตรข้าวขาหมูอ่ะพี่หมอเใส่โอตินเข้า ไปด้วยนะนะอันนั้นไม่ได้ฮะไม่ได้เพราะว่า
00:16:57 → 00:17:04 โปรตีนเสียสภาพโดยความร้อนจากการต้มหมด แล้วเออ๋เดี๋ยวในเยจะบอกหมดเลยเนี่ยเ้า
00:17:04 → 00:17:10 กินไปเก็เกิดภาวะอินซูลินก้าวร้าวนะฮะนะ อินซูลินก้าวร้าวอินซูลินก้าวร้าวคืออะไร
00:17:10 → 00:17:18 อ่ะก็คืออินซูลินมันเหวี่ยงมันวีนนะฮะมัน พุ่งนะฮะแล้วมันเค้าเรียกมันสวิงอ่ะมัน
00:17:18 → 00:17:23 สวิงแล้วก็มันไป sustain นะฮะนะอันเนี้ย ก็คืออินซูลินก้าว้ามันจะเป็นความหมาย
00:17:23 → 00:17:31 เนี้ยมันไม่ลดลงนะฮะแล้วมันก็จะสต On เป็นนานๆช่อย่างเงี้ยนะฮะก็เกิดจากปัจจัย
00:17:31 → 00:17:38 8 อย่างนี่แหละฮะนะทีนี้อย่างคำถามเนี่ย ว่าเออเนี่ยหมอคนนี้มาบอกว่าเออกินแป้ง
00:17:38 → 00:17:46 กับโปรตีนจะเกิดการกระตุ้นอินซูลินที่ไม่ ดีเลยนะฮะถามว่าแล้วถ้าคุณจะกินโปรตีนกับ
00:17:46 → 00:17:53 คาฟเนี่ยต้องกินยังไงถึงจะดีและกระตุ้น อินซูลินน้อยที่สุดนะฮะนะตรงนี้โน้ตไว้
00:17:53 → 00:18:01 เลยนะฮะว่าโปรตีนจะต้องไปกับคาฟประเภท ไฟเบอร์เท่านั้นนะนะฮะโปรตีนต้องไปกับคาฟ
00:18:01 → 00:18:11 ประเภทไฟเบอร์นะฮะเพราะฉะนั้นโปรตีนนะเอ ที่เป็นเป็นที่โปรตีนต่างๆเนี่ยนะฮะถ้าจะ
00:18:11 → 00:18:19 กินร่วมกับคาฟคาฟนั้นก็จะต้องเป็นลักษณะ ผักใบกับผักหัวนะแล้วก็ผลักดองนะฮะนะ 3
00:18:19 → 00:18:26 เรื่องนี้เนี่ยนะโอเคนะยังทำให้อินซูลิน เนี่ยเขาเป็นมิตรอยู่นะฮะอ่าเขาไม่
00:18:26 → 00:18:33 เหวี่ยงไม่วีนอ่าไม่ก้าวร้าวไม่ดูนะฮะ นะอันนี้คือคำตอบนะฮะนะก็โน้ตไว้แล้วกัน
00:18:33 → 00:18:40 นะฮะเอ่อโปรตีนคู่กับคได้มยได้แต่ต้อง เป็นลักษณะที่หมอว่าเนี่ยนะนะถ้าพ้นจาก
00:18:40 → 00:18:49 นี้นะโดยเฉพาะแบบที่พูดๆมาทั้งหมดนะฮะนะ อย่างกินไข่อ่ะแต่ว่าเป็นแบบอยู่ในแซนวิช
00:18:49 → 00:18:56 อย่างเงี้ยนะแล้วก็ไปราดน้ำอะไรต่ออะไรดู ถึงไม่ราดน้ำก็เถอะนะฮะนะอันนี้ก็ถือว่า
00:18:56 → 00:19:02 ไม่ผ่านนะฮะเพราะเหล่านี้กระตุ้นอินซูลิน นะแล้วอินซูลินเนี่ยมันไววนะฮะนะที่จะ
00:19:02 → 00:19:11 เรียกเขาออกมาในมื้อที่ไม่สมควรนะหรือไม่ ตามธรรมชาตินาฬิกาอ่าชีวิตเค้านะนะครับๆ
00:19:11 → 00:19:19 อันนี้ข้อ 3 นะฮะข้อ 4 นะข้อ 4 คือข้อ 4 เนี่ยมันก็จะเป็นเรื่องของคล้ายๆกับาฟ
00:19:19 → 00:19:25 ประเภทนึงอ่ะนะฮะอันนี้เขาเรียกว่า Modify starch นะฮะนะ Modify start นะก็คือ
00:19:25 → 00:19:31 เหมือนแป้งแปรรูปน่ะซึ่งแป้งก็เป็นาฟนะ แต่ว่าจะจัดอยู่ในเป็นลักษณะ hien Sugar
00:19:31 → 00:19:39 ก็ได้นะฮะนะอันนี้คืออะไรนะฮะอันนี้ก็คือ ผลิตภัณฑ์นะเ่าแต่งเติมอาหารต่างๆนะฮะที่
00:19:39 → 00:19:48 เราใช้กันมากเลยโดยเฉพาะในสังคมประเทศไทย เรานะฮะนะก็มีอะไรอ่ะชูรสรถดีคะนออร่อย
00:19:48 → 00:19:57 ชัวซื่อสัตย์ขั้นเทพฟ้าไทยมันมันจ่งขึ้น ไปมยเนี่ยนะพวกนี้หลักๆก็คือเขาเป็นแป้ง
00:19:57 → 00:20:07 กับโปรตีนเนี่ยผสมกันนะฮะนะแล้วพีคในการ กระตุ้นอินซูลินเนี่ยนะชูดขึ้นไปถึง 300%
00:20:07 → 00:20:17 นะฮะนะ 250 - 300% นะฮะซึ่งมันก็จะแรง กว่าข้อ 3 เนะฮะเอเห็นนะนะพวกนี้ก็คือเรา
00:20:17 → 00:20:24 ต้องเลือกอ่ะนะฮะนะสารแต่งเติมพวกนี้นะ มันอยู่ที่วิจารณญาณและอยู่ที่การมีสติ
00:20:24 → 00:20:34 ของแต่ละคนนะที่จะควบคุมนะฮะเออเพราะ ฉะนั้นกินโดยปุงเองที่บ้านดีที่สุด
00:20:34 → 00:20:42 เนาะมีใครยังใช้อยู่มล่ะครับผมครับโอ้ย เลิกแล้วครับผมโอเคนะครับก็ตามที่หมอเคย
00:20:42 → 00:20:49 บอกอ่ะบ้านใครมีไอ้กระปุกกระปุกระป๋อง กระป๋องปรุงๆพวกเนี้ยนะเกิน 3 กระปุกขึ้น
00:20:49 → 00:20:57 ไปก็มีโรค 1 โรคของสสมาชิกคนใดคนหนึ่งใน ครอบครัวไม่น้อยกว่า 1 คนนะถ้ามันบ 4 +
00:20:57 → 00:21:03 5 + 6 บวกบวก 78 90 เนี่ยมันก็บวกๆ โลกขึ้นไปอ่ะนะ
00:21:03 → 00:21:12 ฮะข้อ 5 นะฮะข้อ 5 ก็คือกลุ่มศาลทดแทน ความหวานซึ่งในปัจจุบันเนี่ยนะเราเค้า
00:21:12 → 00:21:20 กากบาทมาแล้วนะฮะนะว่าใช้ไม่ได้นะฮะนะไม่ ต้องมาอาลัอาวรณ์หรือต่อรองนะว่าใช้อย่าง
00:21:20 → 00:21:26 งั้นอย่างงี้อย่างโง้นนะฮะนะอันนี้ถือว่า คือจุดประสงค์เค้าออกมาเนี่ยเค้าก็อยากจะ
00:21:26 → 00:21:34 ให้คนเนี่ยที่ยังติดอยู่กับกับความหวาน ต่างๆอ่ะนะได้มีการลิ้มรถนะอ่าที่ผ่อนจาก
00:21:34 → 00:21:40 หนักเป็นเบาอ่ะแต่ไปๆมาๆตามสถิติที่สาร พวกนี้ออกมาแล้วเนี่ยนะกลับกลายเป็นว่า
00:21:40 → 00:21:47 อุบัติการณ์ของการเจ็บป่วยเพิ่มขึ้นเพิ่ม ขึ้นเพิ่มขึ้นนะฮะตั้งแต่ยุคอะไรอ่ะอ่า
00:21:47 → 00:21:54 ยุคประเภทที่ที่อะไรนะเเรียกอะไรที่มัน เป็นเครื่องดื่ม
00:21:54 → 00:22:02 ที่เ้าเรียกอะไรอ่ะเอ่อ Pepsi Max อะไร โค้กซีโร่อะไรพวกเนี้ยนะฮะนั่นแหละตั้ง
00:22:02 → 00:22:09 แต่นั้นมาเลยนะฮะนะในที่สุดเนี่ยคน เปลี่ยนการกินหวานจากพวกน้ำตาลธรรมชาติมา
00:22:09 → 00:22:16 กินสารทดแทนความหวานซึ่งเป็นความหวานที่ แปรรูปนะฮะมันก็เลยป่วยมากขึ้นเข้าไปอีก
00:22:16 → 00:22:22 นะฮะเพราะฉะนั้นข้อ 5 เนี่ยไม่ผ่านนะฮะ ใช้ไม่ได้เลยนะฮะให้ตัดออกให้หมดนะฮะนะที
00:22:22 → 00:22:30 นี้ข้อต่อมาก็คือคันนี้เป็นโปรตีนละนะฮะ นะเมื่อกี้เราบอกแล้วว่าว่าเอ่อโปรตีน
00:22:30 → 00:22:35 เนี่ยเขาถ้าเป็นโปรตีนธรรมดาเลยนะฮะแล้ว เป็นโปรตีนธรรมชาติทั่วไปเนี่ยเกระตุ้น
00:22:35 → 00:22:44 อินซูลินประมาณ 3 ถึงไม่เกิน 5 เท่าจาก เซอ Level นะฮะนะแต่โปรตีนโดยทั่วไปนะฮะ
00:22:44 → 00:22:50 ที่เรากินเข้าร่างกายเราในยุคปัจจุบัน เนี่ยยก็มักจะเป็นแปโปรตีนแปรรูปปรุงแต่ง
00:22:50 → 00:22:57 นะฮะเราจะถือว่านะโปรตีนเนี่ยต้องมากับไข มันและโปรตีนเขาจับคู่กับไขมันที่ดีที่
00:22:57 → 00:23:05 สุดก็คือคือโปรตีนที่มีไขมันสูงกับโปรตีน ที่มีไขมันปานกลางนะอันนี้การกระตุ้น
00:23:05 → 00:23:12 อินซูลินจะน้อยนะและอยู่ในร่องในรอยและ อินซูลินที่ออกมามักจะยังมีความเป็นมิตร
00:23:12 → 00:23:21 ดีอยู่นะฮะเมื่อไหร่นะฮะที่โปรตีนมันปรับ ไปอีกเอ่อเลเวลนึงอ่ะนะฮะก็เช่นโปรตีนไข
00:23:21 → 00:23:29 มันต่ำถึงต่ำมากนะเ่ารวมทั้งโปรตีนที่ เป็นลีนโปรตีนโปรตีนไร้มันนะนะฮะนะและ
00:23:29 → 00:23:37 โปรตีนแปรรูปต่างๆทั้งพืชทั้งสัตว์เหล่า นี้ให้ทราบว่าเกิดการกระตุ้นอินซูลินแบบ
00:23:37 → 00:23:45 เอ่ออินซูลินก้าวร้าวนะฮะนะคือจริงๆพวก เนี้ยเ้ามีขั้นตอนอยู่ 2 2 ขั้นนะฮะขั้น
00:23:45 → 00:23:51 แรกเนี่ยมันจะเป็นการกระตุ้นเรื่องของ คอร์ติซอลฮอร์โมนตัวแม่ออกมาก่อนนะฮะนะ
00:23:51 → 00:23:59 แล้วออกมาปุ๊บเนี่ยมันก็มีการปรับเปลี่ยน นะกลายเป็นจากโปรตีนล้นเกินกลายเป็นน้ำ
00:23:59 → 00:24:05 ตาลนะฮะแล้วหลังจากนั้นเนี่ยนะตัวน้ำตาล เนี่ยถูกอินซูลินเพราะระดับน้ำตาลมันสูง
00:24:05 → 00:24:10 ขึ้นมันก็กระตุ้นอินซูลินน่ะอินซูลินมา ปุ๊บก็จะมาเปลี่ยนน้ำตาลกลายเป็นไขมัน
00:24:10 → 00:24:17 อิ่มตัวนะแล้วก็ไปสะสมเป็นไตกีสไลนี่แหละ นะฮะมันก็เป็น 2 เด้งนะฮะนะเพราะฉะนั้นใน
00:24:17 → 00:24:22 กลุ่มโปรตีนเนี่ยที่จะมีผลในการกระตุ้น อินซูลิน
00:24:22 → 00:24:31 โดยกระตุ้นแบบก้าวร้าวที่หมอบอกเนี่ยนะฮะ ก็เช่นโปรตีนไขมันต่ำเอ่อโปรตีนไขมันต่ำ
00:24:31 → 00:24:39 ก็มักจะอยู่ในพวกสัตว์ปีกที่เป็นไม่ติด หนังนะที่เป็นลีนโปรตีนโดยเฉพาะอกไก่นะ
00:24:39 → 00:24:47 หรือเนื้อไก่นะที่ไม่เต็มรูป นะอีกอันนึงก็คือพวกสัตว์น้ำนะสัตว์น้ำก็
00:24:47 → 00:24:59 เป็นกุ้งปูปลาหอยนะโดยเฉพาะถ้าเ่ออยู่ใน น้ำน้ำจืดทั่วไปอ่ะนะฮะที่เขาอ่า
00:24:59 → 00:25:07 หามาแล้วก็มาขายให้เราบริโภคน่ะนะนะพวก นี้ก็จะมีไขมันที่ต่ำมากๆนะฮะนะแล้ว
00:25:07 → 00:25:17 ระหว่างปลาปูพุงหอยปลาโดยเฉพาะปลาตัวเล็ก ไขมันต่ำสุดนะฮะงั้นโปรตีนไขมันต่ำสุดก็
00:25:17 → 00:25:23 จะกระตุ้นอินซูลินสูงสุดนะและมักจะเป็น การกระตุ้นแบบไม่ตรงไปตรงมาเเรียกว่า
00:25:23 → 00:25:29 กระตุ้นอินซูลินแบบก้าวร้าวนะฮะเพราะ ฉะนั้นใครที่เป็นเมนูในการกินกินสัตว์
00:25:29 → 00:25:36 ประเภทเหล่านี้บ่อยๆคือไม่ใช่กินไม่ได้ กินได้นะฮะแต่ก็ต้องเลือกกินให้เป็นนะแต่
00:25:36 → 00:25:43 ไม่ใช่กินเป็นหลักหรือกินบ่อยๆทั้งเช้า เที่ยงเย็นอะไรอย่างนั้นนะออันนี้ก็เคย
00:25:43 → 00:25:50 บอกไปแล้วนะฮะพวกนี้เนี่ยเวลาปรุงอาหารมา แล้วเนี่ยนะเขาจะวัดที่ค่าระดับอินซูลิน
00:25:50 → 00:25:59 index นะมันจะสูงนะฮะมันจะสูงนะโปรตีน ไร้ไขมันก็เช่นไข่ขาวถั่วเหลืองหรือเวนะ
00:25:59 → 00:26:07 ฮะนะพวกเนี้ยก็เหมือนกันนะก็ไม่ใช่ว่ากิน ไม่ได้นะก็สามารถกินเป็นตัวแถมหรือเป็น
00:26:07 → 00:26:16 ตัวแทรกได้ในบางสภาวะนะโดยเฉพาะการสร้าง กล้ามเนื้อการออกแรงออกกำลังค่อนข้างเยอะ
00:26:16 → 00:26:24 นะหรือในกลุ่มคนบางบอดี้ type นะโดยเฉพาะ สายแป้งนะนะเอ่อเอาเรามาเสริมได้แต่ว่า
00:26:24 → 00:26:29 เราก็ต้องต้องกินโปรตีนที่เป็นโปรตีนไข มันสูงกับไขมันปานกลางเนี่ยเป็นหลักไว้
00:26:29 → 00:26:35 ก่อนนะฮะเปอร์เซ็นต์พวกเนี้ยไม่ต้องเสริม เข้าไปให้มันมากมายหรือเป็นหลักนะฮะแล้ว
00:26:35 → 00:26:42 คือคืออย่าไปกินผิด่ะนะนะถ้ากินผิดปุ๊บอื โอกาสหายด้วยอินซูลินมันจะยาก
00:26:42 → 00:26:51 นะคือโปรตีนที่มีลักษณะไขมันต่ำเนี่ยนะฮะ เาเรียกว่าเวลากินแล้วเนี่ยมันเหมือนเป็น
00:26:51 → 00:26:59 การส่งสัญญาณแบบด่วนๆเลยให้อินซูลินออกมา รีบจัดการกักเก็บตัวเค้านะฮะถ้ามันเยอะ
00:26:59 → 00:27:05 ล้นเกินเนี่ยนะฮะเพราะพอเยอะล้นเกิน คอร์ติซอลก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลนะแล้วน้ำ
00:27:05 → 00:27:11 ตาลก็กระตุ้นอินซูลินให้มารีบเปลี่ยนแปลง โครงสร้างเป็นไตรกีสไลแล้วรีบเอาไปสะสมนะ
00:27:11 → 00:27:18 ฮะเพราะอินซูลินเเป็นฮอร์โมนเก็บกักสะสม นะฮะแต่ถ้าโปรตีนเหล่าเนี้ยนะฮะมันอยู่ใน
00:27:18 → 00:27:26 รูปแบบของอ่อการที่เป็นโปรตีนไขมันสูง หรือไขมันปานกลางเนี่ยนะฮะไอ้ตัวไขมัน
00:27:26 → 00:27:32 เนี่ยมันเป็นเกาะที่จะมาหุ้มไอ้ตัวก้อน อาหารโปรตีนอันนี้ไว้นะฮะเพราะฉะนั้น
00:27:32 → 00:27:41 อินซูลินเขาคก็อาจจะออกมาแต่เขาจะออกมา แบบช้าๆนะนะแบบช้าๆแบบที่ไม่รีบร้อนนะ
00:27:41 → 00:27:47 แล้วก็ไม่ได้เยอะแยะอะไรนะพอที่จะจัดการ ปรับเปลี่ยนเอาเก็บเข้าเซลล์อะไรต่างๆ
00:27:47 → 00:27:55 แล้วความเป็นไขมันที่มันสูงๆพวกนี้เราจะ อิ่มเร็วและอิ่มนานอ่ามันต่างกับพวกไขมัน
00:27:55 → 00:28:03 ต่ำๆนะฮะอันนี้ก็จะเป็นรายละเอียดที่มัน มันมีความต่างๆกันน่ะซึ่งเราจะต้องรู้ใน
00:28:03 → 00:28:11 แง่ของเรื่องของอินซูลินนะฮะนี้อันต่อมา เนี่ยนะข้อ 7 ก็เป็นเรื่องโปรตีนอีกนั
00:28:11 → 00:28:18 แหละนะฮะนะเขาบอกว่าโปรตีนเนี่ยมันเป็น สารอาหารที่มีช่องว่างนะช่องว่างนะช่อง
00:28:18 → 00:28:27 ว่างในการบริโภคนะช่องว่างเนี่ยหมายถึง ปริมาณในการบริโภคต่อมื้อหรือต่อวันนะฮะ
00:28:27 → 00:28:35 ต่อมื้อหรือต่อวันวันนะเนื่องจากว่า เอ่อคือโปรตีนเนี่ยยังไงเสียเนี่ยการที่
00:28:35 → 00:28:42 จะสะสมไปเป็นพลังงานหรือการที่จะนำคือนำ ไปเก็บหรือนำไปใช้เป็นพลังงานเนี่ยนะมัน
00:28:42 → 00:28:50 เป็นสิ่งที่ร่างกายเขาไม่ไม่ไม่ได้ใช้แนว ทางไปในลักษณะนี้นะฮะนะเพราะว่าโปรตีนมัน
00:28:50 → 00:28:56 เป็นเรื่องของสารหารที่ร่างกายจะใช้ในการ เป็นโครงสร้างอ่ะจะไปซ่อมแซมจะไปสร้าง
00:28:56 → 00:29:02 ใหม่อะไรก็ตามนะฮะเพราะฉะนั้นแนวโน้มของ การที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเาให้เป็นพลัง
00:29:02 → 00:29:07 งานเอาไปใช้และเอาไปสะสมเนี่ยมันมันไม่ ใช่สิ่งที่ร่างกายเจะกระทำอ่ะนะฮะเพราะ
00:29:07 → 00:29:14 ฉะนั้นช่องว่างอันเนี้ยก็คือก็คือการที่ จะเป็นตัวกำหนดว่าโปรตีน intake ในแต่ละ
00:29:14 → 00:29:20 วันหรือแต่ละมื้อเนี่ยควรจะอยู่ในตัวเลข ประมาณเท่าไหร่นะซึ่งในสูตรของ low C
00:29:20 → 00:29:26 High Fat ของคนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วยเนะ ตัวโปรตีนก็จะอยู่ในช่วงประมาณ 20% นะ
00:29:26 → 00:29:33 เมื่อเทียบกับพลังงานทั้งหมดในแต่ละวันนะ ฮะคาฟโปรตีนจะพอๆกัน 1 ต1คือ
00:29:33 → 00:29:42 20:20 แล้วตัวไขมันก็จะประมาณ 60% เพราะ ว่าไขมันจะต้องมากกว่าคาฟบวกโปรตีนนะฮะใน
00:29:42 → 00:29:52 การกินแบบโคฟไ Fat นะซึ่งสิ่งเนี้ยก็จะทำ ให้เราได้เ่อผลตามเป้านะตามเป้าก็คือคือ
00:29:52 → 00:29:58 การลดการเดื้ออินซูลินการควบคุมอินซูลิน แล้วก็การใช้พลังงานจากไขมันแล้วเกิด
00:29:58 → 00:30:05 คีโตนอะไรอย่างนี้นะฮะงั้นตัวโปรตีนเนี่ย นะส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในช่วงประมาณนี้แหละนะ
00:30:05 → 00:30:15 ฮะก็คือ 15 -20% นะฮะถ้าจะมีการออกแรง ออกกำลังเยอะๆจะสร้างก้ามนะหรือจะว่าเอ่อ
00:30:15 → 00:30:21 เป็น Body Builder เป็นเนอรอะไรต่างๆนะ พวกนี้สามารถจะอัพ Level จากปกติขึ้นไป
00:30:21 → 00:30:30 ได้อีก -10% นะก็กลายเป็นส่วนใหญ่ก็คือ 25 -30% จะไม่เกิดเนนี้นะฮะเพราะเพบแล้วว่า
00:30:30 → 00:30:39 ถึง้าเกินนี้เนี่ยเกินนี้เนี่ยนะฮะนะ ประโยชน์ของตัวโปรตีนเนี่ยนะฮะมันมันไม่
00:30:39 → 00:30:44 ได้เกิดเพิ่มขึ้นนะฮะตามการเพิ่มของ ปริมาณโปรตีนนะเพรางั้นกระบวนการซ่อมแซม
00:30:44 → 00:30:51 ก็ดีกระบวนการเอ่อที่จะเอาไปสร้างเซลล์ ใหม่สร้างอวัยวะใหม่อะไรต่างๆเนี่ยนะ
00:30:51 → 00:30:58 สร้างกล้ามเนื้อเพิ่มอะไกมันก็ไม่เพิ่ม อ่ะนะถ้าคุณคุณคุณอัพมันไปมากๆนะฮะนะอีก
00:30:58 → 00:31:06 อย่างนึงก็คือมันจะเกิดอ่าการเปลี่ยนแปลง เป็นน้ำตาลเป็นไตกีสลยรวมทั้งมันจะต้อง
00:31:06 → 00:31:12 เ่อขับทิ้งอ่ะในรูปแบบของของเสียที่เป็น แอมโมเนียยูเรียนะเป็นภาระการทำงานของตับ
00:31:12 → 00:31:20 ของไตนะอันนี้เราก็พอรู้แล้ว เนาะเพราะฉะนั้นนะตัวโปรตีนเนี่ยนะฮะ
00:31:20 → 00:31:28 โปรตีนเนี่ยก็จะมีช่วงในการที่ควรจะรับ เข้าสู่ร่างกายให้ถูกต้องนะฮะถูกต้องอ
00:31:28 → 00:31:35 ส่วนหนึ่งของโปรตีนเนี่ยร่างกายจะต้องเอา ไปใช้ในการสร้างฮอร์โมนเผาผลาญพลังงานนะ
00:31:35 → 00:31:43 ฮะนะฮอร์โมนลูกเทพของเราทั้ง 6 ตัวนะฮะ ที่ต้องพึ่งอินซูลินเยอะๆเลยนะก็มีตัวโด
00:31:43 → 00:31:53 ฮอร์โมนอันนี้อันดับ 1 เลยนะฮะนะกลูคารอน ไทรรอยด์นะฮะแล้วก็ตัวเอ่อฟินนะฮะหรือคือ
00:31:53 → 00:31:58 ตัวตัวแดนีนั่นแหละนะฮะนะพวกนี้โครงสร้าง ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนประกอบที่เป็นโปรตีนนะ
00:31:58 → 00:32:05 ฮะแต่ถ้าเป็นโปรเจสเตอโรนเทสโทสเตอโรน อะไรพวกนี้นะพวกนี้ก็จะเป็นเรื่องของไข
00:32:05 → 00:32:11 มันนะฮะเป็น หลักเาบอกว่าโปรตีนเนี่ยถ้าเราใส่เข้าไป
00:32:11 → 00:32:19 เยอะๆนะใส่เกินอ่าเอ่อช่องว่างที่หมอบอก ไปเมื่อกี้เนี่ยนะฮะเอ่อส่วนใหญ่มันจะไป
00:32:19 → 00:32:27 ยับยั้งนะโดยเฉพาะอ่าที่มีงานวิจัยรองับ ก็คือกินโปรตีนเยอะๆโกดฮอร์โมนไม่ได้เยอะ
00:32:27 → 00:32:34 ตามนะฮะนะกลับไป inhibit เลเวลของโกน ฮอร์โมนที่จะถูกกระตุ้นออกมาอีก
00:32:34 → 00:32:43 นะทีนี้มันก็มีการพูดกันน่ะว่าแล้วนะ ปริมาณโปรตีนเนี่ยควรต่อมื้อหรือต่อวันนะ
00:32:43 → 00:32:52 นะควรจะถือเกณฑ์อันไหนนะฮะหลักๆโดยทั่วไป เนี่ยเรายังถือเกณฑ์โปรตีนต่อวันนะฮะว่า
00:32:52 → 00:33:01 ควรจะได้อ่าเท่าไหร่นะหรือสามารถเพิ่มไป ได้อีกอนิดๆหน่อยๆนะประมาณ 5-10 per ดัง
00:33:01 → 00:33:10 ที่บอกนะฮะนะส่วนหลังๆเนี่ยก็จะมีคนพูด ถึงเรื่องโปรตีนต่อมื้อนะฮะเอ่อต่อมื้อ
00:33:10 → 00:33:17 ว่าถ้าเกิดต่อมื้อเนี่ยกินเกินนะฮะนะตัว เลขที่เขให้ไว้ก็คือเน็ตโปรตีนเ่ะประมาณ
00:33:17 → 00:33:24 30-35 กรัมต่อมื้อถ้าเกินนี้นะฮะเขาคจะ ถือว่ามันจะกลายเป็น West product คือ
00:33:24 → 00:33:33 ร่างกายมันเอาไปใช้อะไรต่อไม่ได้นะแล้ว มันก็จะกลายเป็นน้ำตาลส่วนนึงนะกับเป็น
00:33:33 → 00:33:40 ภาระที่ตับไตอ่ะจะต้องเปลี่ยนแปลงมันนะ ให้เสียเพื่อขับออกพี่หมอพี่หมอครับมีมี
00:33:40 → 00:33:50 หน้าจอขึ้นมาครับเออหน้าจอเป็นกุ้นเชี้ยง อ่ะคยโฆษณาด้วย
00:33:50 → 00:33:59 เออไอ้พวกนี้กินไม่ได้นะอินซูลินอินซูลิน โมโหโกโมโหน่าดูเลยใช่ก็เป็นโปรตีนแปรรูป
00:33:59 → 00:34:07 นะฮะแล้วก็มีปรุงแต่งด้วยนะครับอ่าเพราะ ฉะนั้นเนี่ยโปรตีนเนี่ยต่อมื้อหรือต่อวัน
00:34:07 → 00:34:16 นะฮะนะเอ่ออย่างเมื่อกี้ที่บอกไป่ะว่าต่อ มื้อก็คือเน็ตโปรตีน 30-35 กรัมถ้าเทียบ
00:34:16 → 00:34:23 นะเป็นน้ำหนักก็จะอยู่ในช่วงนะฮะเนื้อ สัตว์เนี่ยประมาณ 3-6 ออนก็คือ 1-2 ขีด
00:34:23 → 00:34:31 น่ะ 100-200 กรัมนะฮะเนี่ยร่างกายไม่ควร จะรับได้เกินกว่านี้นะฮะนะแต่ว่าอันนี้
00:34:31 → 00:34:39 เนี่ยนะฮะอันนี้เนี่ยก็แล้วแต่นะฮะแล้ว แต่ก็ยังมีมีคนออกมาค้านหรือว่ายังมีน้ำ
00:34:39 → 00:34:46 หนักของงานวิจัยที่ที่แล้วแต่คนจะเชื่อ ไม่เชื่อนะฮะนะแต่ว่าเราก็สามารถพิสูจน์
00:34:46 → 00:34:52 ได้ด้วยตัวเราเองนะโดยเฉพาะถ้าเรากินน้อย มื้อหรือกินแบบ omas เนี่ยนะฮะถ้าปริมาณ
00:34:52 → 00:35:00 โปรตีนเนี่ยเ่อมันมากเกินไปนะฮะมันจะมีผล ยังไงเนี่ยค่าแลบมันก็จะฟ้องขึ้นมานะ
00:35:00 → 00:35:11 อืนะเพราะฉะนั้นการวโหลดนะฮะนะอัน นี้ต้องยึดหลักต่อวันไว้ก่อนนะฮะส่วนต่อ
00:35:11 → 00:35:21 มื้อก็ดูเป็นคนคไปนะฮะถ้าค่าแลบเราผิด ปกตินะแล้วเราเออต่อวันเนี่ยเราก็ไม่
00:35:21 → 00:35:28 โอเวอร์นี่หว่านะก็มาดูต่อมื้อแล้วกันนะ แล้วก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนมื้ออาหารอ่า
00:35:28 → 00:35:37 ซอยมื้ออาหารหรือปรับเป็นมื้อเบรกเป็นสนค นะแล้วใช้โปรตีนเป็นหลักแล้ว
00:35:38 → 00:35:48 กันก็อันนี้น่าจะพอเข้าใจนะฮะนะคือมีการ เพียบนะฮะขนาดหรือปริมาณโปรตีนที่พอเหมาะ
00:35:48 → 00:35:56 เฮะตัวเลขที่เราเคยทราบกันอยู่ตลอดเลยก็ คือ 1 กรัมโปรตีน 1 กรัมนะฮะนะต่อน้ำหนัก
00:35:56 → 00:36:01 ตัวที่เป็นีน body weight เนี่ยนะฮะ 1 กกซึ่งอันนี้
00:36:01 → 00:36:09 จะเทียบเท่านะฮะกับการได้โปรตีนเนี่ย ประมาณ 15% ของพลังงานรวมนะฮของพลังงาน
00:36:09 → 00:36:18 รวมอันนี้ก็คือเป็นการยึดหลักทั่วๆไปนะ ตามเกน basal metabolic Rate ของคนที่
00:36:18 → 00:36:25 ทั่วๆไปนะฮะนะที่ไม่ได้ว่าเอ่อออกแรงออก กำลังอะไรมากมายนะฮะนะแค่เดินๆนั่งๆนิดๆ
00:36:25 → 00:36:32 หน่อยๆนะฮะแล้วก็กินกระจายมากกว่ากิน กระจุก
00:36:32 → 00:36:41 อือว่าอย่างงั้นอืสุดท้ายนะข้อที่ 8 นะฮะ ข้อที่ 8 เนี่ยนะก็คือเรื่องความถี่บ่อย
00:36:41 → 00:36:49 ในการกินอาหารยิ่งกินถี่เท่าไหร่ก็ยิ่ง กระตุ้นอินซูลินมาสะสมนะแล้วถ้าสิ่งนี้
00:36:49 → 00:36:57 เนี่ยเกิดนะเกิดแบบนานๆขึ้นไปเรื่อยๆ เนี่ยนะอ่าตอนแรกๆเนี่ยมันกระตุ้นแบบ
00:36:57 → 00:37:05 ปริมาณอินซูลินเท่านั้นแหละนะฮะแต่ถ้าใน ระยะยาวมันจะเกิดภาวะเ้าเรียกอินอินซูลิน
00:37:05 → 00:37:12 อ่า multiply คืออินซูลินมันจะเป็นแบบยก กำลังอ่ะนะฮะนะแรกๆเนี่ยมันเป็นแค่แค่บวก
00:37:12 → 00:37:22 ๆบวนะนะแ on บวกๆนะฮะนะแต่ถ้านานๆเข้า เนี่ยนะเอ่ออินซูลินจะปรับตัวเป็นแบบ
00:37:22 → 00:37:29 multiply หรือเป็นยกกำลังเป็นยกกำลังนะ ก็คือถ้าเป็น 10 ยกกำลัง 2 ก็เป็น 100
00:37:29 → 00:37:35 แต่ถ้า 10 + 10 มันได้แค่ 20 นะฮะอัน นี้มันเกิดจากปัญหาเรื่อง frequency หรือ
00:37:35 → 00:37:44 ความถี่บ่อยในการกินนะฮะในการกินเอ่านะ อาหารทุกอย่างเนี่ยนะฮะเขาถือว่าถ้ามันมี
00:37:44 → 00:37:51 พลังงานนะมันมีพลังงานมันจะเป็นการเรียก อินซูลินมาในทุกๆครั้งนะฮะเพราะฉะนั้น
00:37:51 → 00:37:59 ยิ่งกินถี่บ่อยเท่าไหร่นะฮะก็จะทำให้ อินซูลินเนี่ยเค้าเค้าเเก็โมโหอ่ะเคก็
00:37:59 → 00:38:06 โมโหเคก็ดูเก็เขาก็แบบคือไปเรียกเบ่อยๆ เรียกคนมาทำงานทำนู่นทำนี่ทำ
00:38:06 → 00:38:12 กระจุ๊กกระจิ๊กบ่อยๆอะไรต่างๆคนมันก็ หงุดหงิดนะฮะเหมือนกันนะแต่ถ้าน้ำเปล่า
00:38:12 → 00:38:19 น้ำเปล่านี่ไม่กระตุ้นอินซูลินนะฮะไม่ กระตุ้นอินซูลินนะอาหารใดๆนะทุกอย่างนะ
00:38:19 → 00:38:27 กระตุ้นหมดนะอาหารที่ไม่ใช่น้ำหรือมีน้ำ ปนแต่ก็มีเนื้อด้วยนะเอเพราะฉะนั้นพวกนี้
00:38:27 → 00:38:33 ก็จะเรียกอินซูลินมาตลอดแต่ถ้าน้ำเปล่า ไม่เรียกน้ำเปล่าเท่านั้น
00:38:33 → 00:38:43 นะก็ก็จะเป็นอย่างนี้นะฮะนะเป็น 8 เรื่อง นะฮะที่เราต้องทราบและต้องยึดเป็นเกณฑ์
00:38:43 → 00:38:52 เข้าไว้ว่าถ้าพูดถึงภาวะดื้ออินซูลินนะ เนี่ยสิ่งต่างๆทั้ง 8 อย่างเหล่าเนี้ยเรา
00:38:52 → 00:39:01 ได้เอ่อแก้ไขหรือได้ปรับนะหรือยังนะฮะคือ ไม่ได้ดูแต่เรื่องของคาฟอย่างเดียวนะฮะนะ
00:39:01 → 00:39:13 ตัวโปรตีนนะอ่าแล้วก็อะไรต่างๆที่พูดกัน ไปนะเออันนี้ก็จบเรื่อง 8 อย่างนี้นะอ่ะ
00:39:13 → 00:39:22 พอเข้าใจมยฮะอันนี้เป็นหัวใจอย่างนึงเลยเ เรียกภาว่าะอินซูลินก้าว
00:39:24 → 00:39:32 ร้าวก็เป็นยังไงอ่ะนะชโนตกันไปได้มั้ยพอ ได้มั้ยฮะอย่าง 8 ข้อนี่ถือว่าเรียงลำดับ
00:39:32 → 00:39:40 ความสำคัญกันเลยมั้ยครับเออไม่ถึงขนาด นั้นนะเพราะว่ามันมีการแี่ในแต่ละบุคคล
00:39:40 → 00:39:46 ค่อนข้างเยอะ นะแต่มันก็จะเป็นแบบรวมๆกันอย่างนี้เลยนะ
00:39:46 → 00:39:54 ฮะคือคือที่ต้องเอามาบอกแยกแยกแยะเป็น 8 เรื่องเนี่ยก็เพราะว่าส่วนหนึ่งก็คือคน
00:39:54 → 00:40:01 มันจะโฟกัสแต่เรื่องาฟไงนะ แต่ไอ้ตัวคาฟซ่อนเล้นคาฟแอบแฝงนะฮะหรือ
00:40:01 → 00:40:09 คาฟปนเปื้อนอะไรต่างๆรวมทั้งตัวโปรตีน เนี่ยนะฮะมันก็ต้องดูไส้ในที่เป็นราย
00:40:09 → 00:40:16 ละเอียดเข้าไปด้วยนะโดยเฉพาะโปรตีนนะฮะนะ เพราฉนั้นทั้งคาฟทั้งโปรตีนก็กระตุ้น
00:40:16 → 00:40:26 อินซูลินน่ะนะถึงคาฟจะมากกว่าเนี่ยแต่ถ้า โปรตีนเนี่ยเอ่อไปอยู่ผิดที่ผิดทางหรือ
00:40:26 → 00:40:32 หรือมีมีรายละเอียดในการใส่่เข้าร่าง เนี่ยไม่ถูกเนี่ยนะมันก็เหมือนกันแล้ว
00:40:32 → 00:40:38 แหละนะฮะนะอินซูลินมันจะมันจะไม่เปลี่ยน น่ะนะเพว่าดอิซูลิน insulin resistance
00:40:38 → 00:40:45 อะไต่างๆนะมันก็ยังคาๆอยู่เงี้ยนั้นเป้า หมายต่างๆเนี่ยที่เราหวังผลว่าเออเดี๋ยว
00:40:45 → 00:40:54 เราหายด้วยอินซูลินแล้วอ่าน้ำหนักจะลดนะ ไอ้ค่าแลบเอยหรือการอักเสบนะเนี่ยอะไร
00:40:54 → 00:41:01 ต่างๆที่เราหวังว่ามันจะได้ผลดีอ่ะมันก็ ไม่ดีอ่ะนะฮะน้ำหน่งน้้ำหนักมันก็ค้างค่า
00:41:01 → 00:41:10 แลบตัวนั้นตัวนี้นะเอ่อยังไม่เปลี่ยนไป ทางไหนอ่าอการอักเสบก็ยังมีเ่อความดันน
00:41:10 → 00:41:18 ตัวโรคไขมันน้ำตาลเอนไซม์ตับนะการทำงาน ของไตอะไรอย่างเงี้ยนะฮะก็ยังไม่ลด
00:41:18 → 00:41:25 อืพี่หมอไคำว่าอินซูลิน 9 วนี่ภาษาอังกฤษ ว่าอะไรครับจริงๆก็คือ insulin
00:41:25 → 00:41:31 resistance นัแหละนะฮะอ๋ออ๋อออแต่เป็น ประเภทของเไม่ได้แปลว่าดื้ออินซูลินเพราะ
00:41:31 → 00:41:39 ว่าเอ่อ insulin resistance แปลตรงตัวก็ คือการด้วอินซูลินนะฮะนะแต่ที่เค้าเอามา
00:41:39 → 00:41:48 พูดกันในในฝั่งทางด้านโคฟแบบเชิงลึกที่จะ มาแตกออกเป็น 8 ข้อเนี่ยเค้าเเรียกว่า
00:41:48 → 00:41:54 อินซูลินก้าวร้าวไปเลยนะฮะอืคือถ้าดื้อ อินซูลินเนี่ยความหมายส่วนใหญ่มันก็หมาย
00:41:54 → 00:42:01 ถึงว่าอินซูลินมันออกมาเยอะๆแต่มันก็ก็ ยังทำหน้าที่ได้ตามปกตินะแล้วมันมาแล้ว
00:42:01 → 00:42:08 มันก็อ่าพอไม่กินมันก็ลดลงไปอะไรต่างๆก็ คือแบบซื่อๆตรงๆอ่ะนะฮะแต่ถ้าอินซูลิน
00:42:08 → 00:42:16 ก้าวร้าวเนี่ยก็คืออินซูลินมันโมโหมัน เหวี่ยงนะมันหมุดหงิดเอมันอะไรอ่ะมันดุ
00:42:16 → 00:42:25 อ่าเนี่ยอืเพราะฉะนั้นก็คำพวกเนี้ยหมอก็ เคยพูดอยู่บ่อยๆอ่ะนะฮะแต่เพจอื่นๆอะไร
00:42:25 → 00:42:33 เค้าก็ไม่ไม่ได้พูดกันให้ถึงผู้ถึงเอ้ย ให้ให้ถึงลูกถึงคนใส่อารมณ์แบบนี้ใช่มั้ย
00:42:33 → 00:42:39 ล่ะ เอเนี่ยเราก็มีคำรวมๆอ่ะอินซูลินโมโห
00:42:39 → 00:42:48 อินซูลินก้าร้าวเอออืมันก็จะได้รู้ไปอ่ะ นะฮะว่าเวลาที่คุณจะไปสืบสาวเราเรื่องอ่ะ
00:42:48 → 00:42:55 ว่าเออทำไมไม่ดีอ่ะทำไมกินก็แล้ว เอ่อคือคือในทางปฏิบัติที่มันไม่ดีเนี่ย
00:42:55 → 00:43:02 ก็เออ 1 เป็นยังไง 2 3 4 5 6 7 8 9 อะไรเอ้ย 8 อะไรอย่างเงี้ยนะครับเนี่ยฮะ
00:43:02 → 00:43:09 มันก็คือมันเหมือนเติมให้มันละเอียดขึ้น ไปนะทนี้เราก็ไม่ต้องหวังว่าจะต้องไปเจอ
00:43:09 → 00:43:16 หมอคนไหนหรือมาหามาถามหมอหรอกนะฮะคุณก็ พิจารณาเลยนะฮะฟังอันนี้แล้วชตโนตไปแล้ว
00:43:16 → 00:43:27 เนี่ยนะมันมีอะไรบ้างหรรือเปล่ามีกี่ข้อ เออนะใช่ึเปล่า่ะอะไรอย่าเงี้ยอืๆๆๆๆ
00:43:27 → 00:43:31 อ่าทีนี้เรา