00:00:03 → 00:00:06 กินอาหารดีรักษาสุขภาพทำให้ไม่แก่ถ้าเรา
00:00:06 → 00:00:09 กินของหวานก่อนนะฮะน้ำตาลในเลือดจะพุ่ม
00:00:09 → 00:00:12 ขึ้นสูงน้ำตาลบวกโปรตีนหรือคอลลาเจนเนี่ย
00:00:12 → 00:00:15 ธรรมดาแล้วนะฮะจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับแต่
00:00:15 → 00:00:18 ส่วนที่เหลือเนี่ยนะฮะมันจะเป็นสิ่งที่ทำ
00:00:18 → 00:00:20 ร้ายร่างกายเราก็คือทำให้เราแก่ตัวนะครับ
00:00:20 → 00:00:23 ผลวิจัยจากอาหารหลายๆอย่างออกมาเนี่ยทำ
00:00:23 → 00:00:26 ให้เรารู้ว่าอะไรที่เรากินไปเนี่ยมีสาร
00:00:26 → 00:00:30 ความแก่เยอะนะครับโอ้โหฟังแล้วน่ากลัวมาก
00:00:30 → 00:00:31 เลย
00:00:31 → 00:00:34 พิซซ่า
00:00:34 → 00:00:40 19, 676 a เลยอ่ะอแต่อาจารย์ท่านนี้
00:00:40 → 00:00:43 ไม่ได้ทำแค่นั้นค่ะแต่สามารถดึงเอาสาร
00:00:43 → 00:00:46 ตั้งต้นความแก่ออกจากร่างกายของคนได้ด้วย
00:00:46 → 00:00:51 ะทำได้ยังไงตามไปกันเลยค่ะนี่แหละคือสาร
00:00:51 → 00:00:54 ที่ทำให้เราแก่เป็นสาเหตุทำให้เราแก่แล้ว
00:00:54 → 00:01:00 ก็เหี่ยวย่นและเป็นโรคต่างได้ครับ
00:01:00 → 00:01:09 [เพลง]
00:01:09 → 00:01:12 นนตดูให้เห็นเป็นความ
00:01:12 → 00:01:17 รู้ดูให้รู้เป็นไอเดียดูให้รรู้ให้
00:01:17 → 00:01:22 รู้จสวัสดีครับผมปุจิจิซากิจากประเทศ
00:01:22 → 00:01:26 ญี่ปุ่นครับ
00:01:26 → 00:01:26 [ปรบมือ]
00:01:26 → 00:01:44 [เพลง]
00:01:44 → 00:01:47 ใครๆก็อยากสาวอยากหล่ออยากเ่งตึงไม่
00:01:47 → 00:01:50 เหี่ยวย่นกันนะคะดังนั้นวิวัฒนาการใน
00:01:50 → 00:01:54 เรื่องความงามจึงพัฒนาไปเรื่อยๆจะดึงจะ
00:01:54 → 00:01:57 ฉีดกันอย่างไรคนก็ให้ความสนใจทั้งนั้นค่ะ
00:01:57 → 00:02:00 วันนี้คุณฟูจิเลยคิดว่าอยากจะแนะนำวิธีทำ
00:02:00 → 00:02:03 ให้คุณกลายเป็นสาวพันปีให้ได้ค่ะซึ่งเป็น
00:02:03 → 00:02:06 สิ่งที่อาจารย์ท่านนึงในญี่ปุ่นคิดค้นได้
00:02:06 → 00:02:08 แบบที่ยังไม่มีใครทำได้มาก่อนสิ่งที่ท่าน
00:02:09 → 00:02:11 คิดค้นได้ไม่ใช่แค่การปฏิบัติในชีวิต
00:02:11 → 00:02:14 ประจำวันเท่านั้นนะคะแต่ท่านสามารถดึงเอา
00:02:14 → 00:02:18 สารที่จะทำให้เราแก่ออกจากร่างกายได้ด้วย
00:02:18 → 00:02:22 ไม่ดูต่อไม่ได้แล้วล่ะ
00:02:22 → 00:02:26 ค่ะมหาวิทยาลัยคุรุเมะอยู่ที่ฟูคาค่ะใน
00:02:26 → 00:02:29 เกาะคิวชิวทางใต้ของญี่ปุ่นเราเดินทางมา
00:02:29 → 00:02:32 ไกลเพราะอาจารย์ท่านนี้มีเรื่องน่าค้นหา
00:02:32 → 00:02:37 จริงๆค่ะเฮ้ยสดชื่นตอนนี้ครับผมมาอยู่ที่
00:02:37 → 00:02:41 หน้าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคุเมครับมาเจอ
00:02:41 → 00:02:44 ศาสตราจารย์อยู่ท่านนึงเขาบอกว่านะฮะคิด
00:02:44 → 00:02:47 ค้นเกี่ยวกับเรื่องการชะลอความแก่แล้ว
00:02:47 → 00:02:51 เป็นหนุ่มสาวได้ยาวนานด้วยยังไม่พอนะครับ
00:02:51 → 00:02:54 ยังมีอายุยืนอีกด้วยเราจะได้ไม่ต้องไป
00:02:54 → 00:02:57 ศัลยกรรมอีกต่อไปแล้วเรื่องราวจะเป็นยัง
00:02:57 → 00:03:02 ไงไปดูให้รู้กันดีกว่าออีกโชไปกัน
00:03:02 → 00:03:09 [เพลง]
00:03:09 → 00:03:10 [ปรบมือ]
00:03:10 → 00:03:18 [เพลง]
00:03:18 → 00:03:25 ครับเฮ้ยอยู่นั่นแล้ว
00:03:25 → 00:03:39 อครับโอนี่ครับอาจารย์ยชครับรอเราอยู่เลย
00:03:39 → 00:03:42 มาถึงก็ยิงคำถามแรกกันเลยนะคะทำไมคนเรา
00:03:42 → 00:03:45 ถึงต้องแก่ด้วยนะแล้วอายุเท่าไหร่ึงจะ
00:03:45 → 00:03:53 เรียก
00:03:53 → 00:04:05 ว่า 10
00:04:05 → 00:04:08 ก็อกว่านะฮสิ่งสำัญมากเลยที่จะทำให้คนน
00:04:08 → 00:04:11 แก่ตัวได้เร็วก็คืออาหารการกินฮะเขาบอก
00:04:11 → 00:04:14 ว่าในร่างกายของคนเราเนี่ยจะมีโปรตีนอยู่
00:04:14 → 00:04:17 ในร่างกายเราประมาณ 100,000 ชนิดนะฮะแล้ว
00:04:17 → 00:04:20 บวกกับน้ำตาลที่เรากินไปนะน้ำตาลเยจะทำ
00:04:20 → 00:04:25 ให้เราเนี่ยมีการปฏิกิริยากับโปรตีนที่
00:04:25 → 00:04:27 อยู่ในร่างกายเราทำให้ร่างกายเราเนี่ย
00:04:27 → 00:04:30 เสื่อมโมเหมือนกับเป็นสนิมขึึ้นมานะะทำ
00:04:30 → 00:04:33 ให้ร่างกายเราเนี่ยแก่ตัวตงนี้สำคัญมาก
00:04:33 → 00:04:35 แล้วก็บวกกับการใช้ชีวิตประจำวันครับแต่
00:04:35 → 00:04:47 สิ่งสำคัญที่สุดก็คืออาหารที่เรากิน
00:04:47 → 00:04:52 อยู่
00:04:52 → 00:04:56 ารค้นพบสารเคมีชนิดหนึในร่างกายมนุษย์ที่
00:04:56 → 00:05:03 จะทำให้คนเราดูแก่ชราลงค่ะึ
00:05:03 → 00:05:04 ำ
00:05:04 → 00:05:08 คะที่
00:05:08 → 00:05:21 [เพลง]
00:05:21 → 00:05:28 ว่านี้บิโปตีนน้ำตเื่อนี้
00:05:28 → 00:05:33 ในภูมิ 37 องเซซเจ้า AG นี้ก็จะก่อตัว
00:05:33 → 00:05:37 ขึ้นในร่างกายทำให้คนดูสูงวยร่างกายทรุด
00:05:37 → 00:05:40 โมลงค่ะอันนี้เป็นภาพนะครับเอ่อน้ำตาลนะ
00:05:40 → 00:05:43 ครับและอันนี้ก็คือเอ่อคอลลาเจนนะครับ
00:05:43 → 00:05:47 แล้วก็โปรตีนครับโปรตีนในร่างกายของคนเรา
00:05:47 → 00:05:51 เนี่ยฮะจะมีคอลลาเจนหรือเรียกอีกอย่างว่า
00:05:51 → 00:05:54 โปรตีนนะโปรตีนเป็นรูปร่างคอลลาเจนเยอะ
00:05:54 → 00:05:57 เลยครับจะเป็นอยู่ในสมองหรือจะอยู่ในที่
00:05:57 → 00:06:00 ต่างๆนะครับมาผสมกันน้ำตาลบวกโปรตีนหรือ
00:06:00 → 00:06:03 คอลลาเจนเนี่ยธรรมดาแล้วนะจะเป็นสิ่งที่
00:06:03 → 00:06:06 ดีนะแต่ส่วนที่เหลือเนี่ยนะฮะมันจะเป็น
00:06:06 → 00:06:09 สิ่งที่ทำร้ายร่างกายเราก็คือทำให้เราแก่
00:06:09 → 00:06:16 ตัวนะครับมันก็คือสารที่เรียกว่า AG
00:06:16 → 00:06:26 ครับ
00:06:26 → 00:06:30 / นี่คือรูปของเส้นเลือดนะครับแล้วตรง
00:06:30 → 00:06:34 นี้นะครับตัวสีน้ำตาลนี่คือ AG นะครับมา
00:06:34 → 00:06:37 มาบังเส้นเลือดนะมาอุดตันเส้นเลือดที่ว่า
00:06:37 → 00:06:40 ไขมุซันเส้นเลือดอย่างนี้ไม่พอ AG เนี่ย
00:06:40 → 00:06:43 ทำให้เส้นเลือดแข็งตัวนี่ตรงสีขาวนี้คือ
00:06:43 → 00:06:47 ช่วงที่นะฮะเลือดไหลผ่านได้แค่ 1/3 เท่า
00:06:47 → 00:06:51 นั้นส่วน 2/3 เนี่ย P AG มามาบังทำให้
00:06:51 → 00:06:55 เกิดปัญหานะครับอนาคตเนี่ยจะเป็นโรคอุตัน
00:06:55 → 00:06:57 นะครับเส้นเลือดไม่ขยับแล้วก็เส้นเลือดจะ
00:06:57 → 00:07:01 แข็งตัวครับ
00:07:01 → 00:07:03 สรุปก็คือถ้าเราบริโภคโปรตีนแล้วก็น้ำตาล
00:07:03 → 00:07:07 เกินปริมาณที่พอดี AG ก็จะทำงานถล่มให้
00:07:07 → 00:07:10 ร่างกายเราโทรมค่ะซึ่งนอกจากประเภทของ
00:07:10 → 00:07:13 อาหารแล้วอาจารย์ยังบอกว่าการเรียนลำดับ
00:07:13 → 00:07:16 การรับประทานอาหารก็สำคัญนะคะเอเรสำคัญ
00:07:16 → 00:07:19 ยังไงอคะวิธีการลำดับการกินข้าวให้เรากิน
00:07:19 → 00:07:24 ผักก่อนอันที่ 2 กินเนื้ออันที่ 3 ค่อย
00:07:24 → 00:07:26 กินข้าวตามมาทีหลังนะครับให้เรากินผัก
00:07:26 → 00:07:28 ก่อนเพราะอะไรครับเพราะว่าถ้าเรากินของ
00:07:28 → 00:07:31 หวานก่อนนะฮะน้ำตาลในเลือดจะพุ่งขึ้นสูง
00:07:31 → 00:07:35 จะทำให้เกิดการปฏิกิริยาทำให้สนิมเกิด
00:07:35 → 00:07:38 ขึ้นในร่างกายครับปฏิกิริยาสนิมก็คือทำ
00:07:38 → 00:07:42 ให้มีสาร AG เกิดขึ้นครับสำหรับคนไทยฟัง
00:07:42 → 00:07:45 ดูยากเลยนะคะรับประทานผักเป็นอย่างแรกแถม
00:07:45 → 00:07:48 ยังตามด้วยข้าวเป็นอย่างสุดท้ายอีกแต่
00:07:48 → 00:07:51 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ของอาจารย์ก็คือข้าว
00:07:51 → 00:07:53 สามารถเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้อย่างรวด
00:07:53 → 00:07:56 เร็วถ้าเรากินข้าวก่อนกว่าจะอิ่มเราคง
00:07:56 → 00:08:00 บริโภคไปมากมายแล้วแต่ถ้าเราเลือกผแล้ว
00:08:00 → 00:08:03 โปตีนเมื่องายอิ่มแล้วก็รับประานข้าวได้
00:08:03 → 00:08:12 นอยลงเองก็ช่วยให้รงกายส้างสได้
00:08:12 → 00:08:14 [เพลง]
00:08:14 → 00:08:22 ค
00:08:22 → 00:08:26 669 เล่มนี้เป็นหนังสือที่ท่านอาจารใชผล
00:08:26 → 00:08:28 วิจัยจากอหารหลายๆอย่าอมาเนี่ยทำให้เรา
00:08:28 → 00:08:32 รู้ว่าอะไรที่เรากินไปเนี่ยมีสารความแก่
00:08:32 → 00:08:37 เยอะนะครับโอโหฟังแล้วน่ากลัวมากเลยใน
00:08:37 → 00:08:39 หนังสือเล่มนี้อาจารย์ได้คำนวณมาแล้วค่ะ
00:08:39 → 00:08:42 ว่าอาหารแบบไหนที่รับประทานมากแล้วจะทำ
00:08:42 → 00:08:46 ให้เราแก่เร็วสรุปก็คืออาหารที่มีสารผสม
00:08:46 → 00:08:49 ของคาร์โบไฮเดรตโปรตีนแล้วก็ไขมันอยู่มาก
00:08:49 → 00:08:53 ค่ะเช่นข้าวผัดอาหารชุกแป้งทอดท้ารับ
00:08:53 → 00:08:55 ประทานมากแก่เร็วแน่ๆเลย
00:08:55 → 00:09:01 ค่ะทาโกยากินี่นะครับมีตั้ง 9,000 1 418
00:09:01 → 00:09:08 at เลยนะครับนี่ครับพิซ่าอ
00:09:08 → 00:09:15 14, 676 AG เลยอ่ะสปาตี้ carbonara 2
00:09:15 → 00:09:18 7,
00:09:18 → 00:09:23
00:09:24 → 00:09:29 เลย 1 1
00:09:29 → 00:09:31 อาจารย์ก็บอกอีกครับว่าพวกนี้นะครับถ้า
00:09:32 → 00:09:35 เราทานเยอะเนี่ยเราก็ไม่ได้หมายถึงว่ามัน
00:09:35 → 00:09:38 จะอันตรายหมดเลยนะครับเพียงแต่ว่าให้เรา
00:09:38 → 00:09:41 ระวังถ้าเรากินมื้อนี้เยอะเกินไปนะครับ
00:09:41 → 00:09:46 มื้อต่อไปนะครับแล้วก็ลดอาหารที่มีคี่สูง
00:09:47 → 00:09:52 อาหารที่มี AG
00:09:52 → 00:09:55 สง
00:09:55 → 00:09:59 อ 1
00:09:59 → 00:10:02 การตั้งขึ้นก็ทำอย่างมีหลักการนะคะเพราะ
00:10:02 → 00:10:05 เป็นมาตวัดที่เกิดจากการทดลองค่ะเอ่อจะมี
00:10:05 → 00:10:07 หน่วยวัดยังไงคิดค้นยังไงก็คือง่ายนิด
00:10:07 → 00:10:09 เดียวนะครับก็คือมีหลอดทดลองอยู่หลอดนึง
00:10:09 → 00:10:12 นะครับอ่าเอาโปรตีนใส่เข้าไปโปรตีนนี่ถือ
00:10:12 → 00:10:16 ว่าเป็นร่างกายของคนเรานะฮะแล้วใส่เอ่อ
00:10:16 → 00:10:20 สารที่ทำให้โปรตีนเนี่ยเกิดสนิมขึ้นมาทำ
00:10:20 → 00:10:22 ให้โปรตีนเนี่ยเื่อมโทรมขึ้นมาเนี่ยถือ
00:10:22 → 00:10:25 ว่าเป็นหนึ่งถ้ามีเยอะมากเท่าไหร่ก็ถือ
00:10:25 → 00:10:28 ว่าเป็นตัวเลขนั้นๆนะฮะถ้ามี 10,000 นึง
00:10:28 → 00:10:31 ก็แสดงว่ามันก็จะจะมีสนิมเยอะทำให้แก่ไว
00:10:31 → 00:10:33 เยอะนะครับก็เลยมาตั้งเป็นหน่วยวัดแบบนี้
00:10:33 → 00:10:34 ขึ้นมา
00:10:34 → 00:10:38 ครับอาจารย์มีสูตรการคิดเรื่องความอ้วน
00:10:38 → 00:10:41 ด้วยค่ะเตรียมเครื่องคิดเลขกันไว้เลยนะคะ
00:10:41 → 00:10:44 วิธีการคิดคำนวณให้อ้วนเกินไปต้องทำยังไง
00:10:44 → 00:10:48 ก็คือสมมุติคนที่มีน้ำหนัก 60 กนะครับ 60
00:10:48 → 00:10:54 กกนะครับให้หาร 1.7 นะครับหาร
00:10:54 → 00:10:58 1 ง่ายๆนะคะคือเอาน้ำหนักหารด้วยส่วนสูง
00:10:58 → 00:11:03 หากคุณน้ำหนัก 60 กกหด้วยส่วนสูง 170 ซม
00:11:03 → 00:11:07 ก็คิดเป็น 60 หารด้วย 1.7 ได้ผลเท่าไหร
00:11:07 → 00:11:10 แล้วหารด้วย 1.7 อีกครั้งคผที่ได้จะต้อง
00:11:10 → 00:11:11 อยู่ระว่าง
00:11:11 → 00:11:18 22-2 จึงจะถือว่าไม่อ้วน
00:11:18 → 00:11:22 [เพลง]
00:11:22 → 00:11:26 ค่ะอายุน้อยแล้วดูหน้าแก่นะอายุน้อยดู
00:11:26 → 00:11:29 หน้าแก่เนี่ยส่วนใหญ่เลยนะครับ
00:11:29 → 00:11:36 เอวาก็จะแก
00:11:36 → 00:11:41 ด้วยถามอาจารย์นะครับว่าจะชะลอความแก่ยัง
00:11:41 → 00:11:44 ไงนะครับมีอยู่หลายอย่างครับก็คือทาน
00:11:44 → 00:11:46 อาหารไม่เยอะเกินไปนะครับแล้วก็ทานอาหาร
00:11:47 → 00:11:50 ที่มี AG น้อยๆนะครับแล้วก็ลำดับการทาน
00:11:50 → 00:11:53 อาหารลำดับการทานอาหารก็คือกินผักก่อนนะ
00:11:53 → 00:11:56 ฮะกินเนื้อตามมาแล้วค่อยกินข้าวตามมาที
00:11:56 → 00:12:00 หลังลำดับการทานแล้วก็ถ้าเรากินอาหารเยอะ
00:12:00 → 00:12:02 เกินไปนะครับเราไม่สามารถรู้ได้นะครับก็
00:12:02 → 00:12:05 ดูจากน้ำหนักของตัวเราเองนะฮะแล้วก็อีก
00:12:05 → 00:12:08 อันนึงก็คือการออกกำลังกายแล้วอาหารแบบ
00:12:08 → 00:12:12 ไหนที่จะมี AG น้อยลองดูกันค่ะของดิบนี่
00:12:12 → 00:12:16 ไม่มีการทอดไม่มีการย่างกินดิบๆเลยดูสิ
00:12:16 → 00:12:20 ครับว่ามีแคลอรี่เท่าไหร่มี 69 AG เท่า
00:12:20 → 00:12:22 นั้นเองนะฮะ 70
00:12:22 → 00:12:25 เองแต่ก็ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นนะคะที่ทำ
00:12:25 → 00:12:28 ให้เราดูทรุดโทรมเร็วการสูบบุหรี่ก็เป็น
00:12:28 → 00:12:30 สาเหตุสำคัญเหมือนกันค่ะเพราะเป็นการนำ
00:12:30 → 00:12:34 สารพิษเข้าร่างกายโดยตรงบุหรี่ก็คือ AG
00:12:34 → 00:12:37 นะครับเพราะอะไรรู้มยเพราะว่าใบไม้เนี่ย
00:12:37 → 00:12:40 เอามาเผาให้มันเป็นสีน้ำตาลและมีควันนะฮะ
00:12:40 → 00:12:44 ดังนั้นเนี่ยตรงเนี้ยมันทำให้เกิดสาร AG
00:12:44 → 00:12:47 ก็คือสารทำให้แก่นะครับเขบอกว่าคนที่สูบ
00:12:47 → 00:12:50 บุหรี่ 10 ปีนะฮะธรรมดาแล้วเฉลี่ยจะมี
00:12:50 → 00:12:54 เอ่อความลอยย่นมีความแก่มากกว่าคนธรรมดา
00:12:54 → 00:12:58 2.5 ปีนะครับถ้าสูบ 20 ปีก็จะมีความแก่
00:12:58 → 00:13:02 มามากว่าคนอื่น 5 ปีครับดังนั้นถ้าเราลด
00:13:02 → 00:13:05 สิ่งเร้าที่เรียกว่า AG ให้เข้าสู่ร่าง
00:13:05 → 00:13:09 กายน้อยลงเราก็จะแก่ชราช้าลงค่ะจำไว้ได้
00:13:09 → 00:13:12 เลยนะคะต้องรับประทานอาหารให้ดีแล้วก็กิน
00:13:12 → 00:13:15 ช้าๆเพื่อให้ไม่มีน้ำตาลในเลือสูง
00:13:15 → 00:13:18 กระทันหันพักผ่อนให้เพียงพอนอนวันละมาก
00:13:18 → 00:13:22 กว่า 5 ชมงเป็นอย่างน้อยไม่เครียดมากเรา
00:13:22 → 00:13:25 ก็จะแก่ช้าลงได้ค่ะแล้วถ้าเราทำได้เราจะ
00:13:25 → 00:13:28 อายุยืนได้ขนาดไหนล่ะคะเนี่ยถามนะว่า
00:13:28 → 00:13:33 อาจารย์ว่าเอ่อถ้าเรามีนะฮะาร AG เนี่ยาร
00:13:33 → 00:13:35 ความแก่เนี่ยอยู่ในร่างกายน้อยเนี่ยจะ
00:13:35 → 00:13:38 เป็นยังไงท่านก็บอกว่านะครับว่าเอ่อเรา
00:13:38 → 00:13:41 อาจจะอยู่อายุถึง 1000 ปีมั้ยอท่านก็บอก
00:13:41 → 00:13:43 ว่านะครับว่ามีเอ่อนักวิจัยอยู่คนนึงครับ
00:13:44 → 00:13:46 เป็นคนชาวอังกฤษนะครับก็บอกว่าถ้าเรา
00:13:46 → 00:13:49 รักษาศา AG ให้อยู่ใน้าการน้อยๆเนี่ยอาจ
00:13:49 → 00:13:52 จะอยู่ถึง 1000 ปีเลยนะครับอันนี้เป็น
00:13:52 → 00:13:56 เอ่อข้อมูลวิจัยนะครับแต่ว่าอาจารย์เนี่ย
00:13:56 → 00:13:59 ทานข้าววันละแค่ 1 มื้อเท่านั้นนะฮะ
00:13:59 → 00:14:07 [เพลง]
00:14:07 → 00:14:10 กว่าอาจารย์จะคิดค้นเจ้า AG ขึ้นมาได้ใช้
00:14:10 → 00:14:13 เวลาถึง 30 ปีเลยนะคะซึ่งแรงบันดาลใจก็มา
00:14:13 → 00:14:16 จากการได้เห็นคนเป็นโรคบาหวานค่ะคนที่
00:14:16 → 00:14:18 เป็นโรคเบาหวานเนี่ยล้มปุ๊บเนี่ยกระดูก
00:14:18 → 00:14:21 หักนะฮะเป็นมะเร็งเร็วอะไรอย่าเงี้ยฮะ
00:14:21 → 00:14:23 เพราะอะไรเพราะว่าคนที่เป็นเบาหวานเนี่ย
00:14:23 → 00:14:25 จะต้องมีสารอะไรที่ผิดปกติไม่เหมือนคน
00:14:25 → 00:14:28 ธรรมดานะครับก็เพราะว่ามีน้ำตาลในเลือด
00:14:28 → 00:14:30 เ่ะสูมีน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงบ่อยๆนะ
00:14:31 → 00:14:34 ครับถึงแม้จะมีการฉีดอินซูลินเข้าไปใน
00:14:34 → 00:14:36 ร่างกายน้ำตาลในเลือดจะเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ
00:14:36 → 00:14:39 เนี่ยจะทำให้เกิดปัญหาก็เลยเจอมันต้องมี
00:14:39 → 00:14:44 เหตุผลเหตุผลอะไรก็คือมีสาร AG อยู่ใน
00:14:44 → 00:14:52 ร่างกายเยอะนั่นเอง
00:14:52 → 00:14:55 ครับนี้ชีวิตของอาจารยตั้งแต่วัยเด็กก็
00:14:55 → 00:14:57 เป็นส่วนผลักดันให้อาจารย์อยากจะดูแล
00:14:57 → 00:15:00 รักษาร่างกายแล้วก็ไขความลับเรื่องความ
00:15:00 → 00:15:03 เจ็บป่วยด้วยค่ะในตอนอายุ 5 ขวบอาจารย์
00:15:04 → 00:15:07 เป็นโรคไตพอถึงอายุ 16 ปีก็เป็นโรคเกี่ยว
00:15:07 → 00:15:10 กับเลือดต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 5 ปี
00:15:10 → 00:15:13 ในช่วงนั้นเองที่ได้รับการรักษาจากคุณหมอ
00:15:13 → 00:15:16 ท่านนึงอย่างใกล้ชิดท่านจึงคิดว่าถ้าหาย
00:15:16 → 00:15:19 ไปได้จะไปเป็นหมอรักษาคนเพื่อช่วยเหลือ
00:15:19 → 00:15:22 ผู้ป่วยเช่นกันค่ะแล้ววันนี้ท่านก็ประสบ
00:15:22 → 00:15:27 ความสำเร็จอย่างสูงเพราะว่าฟังให้ดีๆนะคะ
00:15:27 → 00:15:30 ้าไม่ใช่แค่หาวิธการความแกแต่ท่านกำลัง
00:15:30 → 00:15:34 พยายามทำให้สามาดึงเอาสาร AG ที่สร้าง
00:15:34 → 00:15:38 ความชราความเสรมโทรมโรคภัยต่างๆออกจาก
00:15:38 → 00:15:40 ร่างกายมนุษย์ได้ด้วยจริงเหรอคะเนี่ย
00:15:40 → 00:15:46 ปัจจุบันนี้คิดค้นวิจัยการเอาสาร AG หรือ
00:15:46 → 00:15:50 สารที่ทำให้แก่เนี่ยออกจากร่างกาย
00:15:50 → 00:15:52 ปัจจุบันนี้ถึงไหน
00:15:52 → 00:15:56 แล้วท่านบอกว่านะครับใช้กับหนูมาทดลองกับ
00:15:56 → 00:16:00 หนูมา 8 ปีหนูที่เป็น็งก้อนมะเร็งเล็กๆๆ
00:16:01 → 00:16:06 ฟ่อลงหนูที่มีเส้นเลือดอุดตันสมองไม่ตัน
00:16:06 → 00:16:09 แล้วนะฮะเส้นเลือดก็กลับมาเส้นเลือดที่
00:16:09 → 00:16:11 แข็งตัวเนี่ยกลายเป็นเส้นเลือดที่นิ่ม
00:16:11 → 00:16:14 ขึ้นมาได้นะครับประสบความสำเร็จถึงเวลา
00:16:14 → 00:16:18 ที่นำมาใช้กับคนนะครับรออีกแป๊บเดียวฟัง
00:16:18 → 00:16:21 แล้วก็ตื่นเต้นนะคะอยากให้งานวิจัยของ
00:16:21 → 00:16:24 อาจารย์สำเร็จใช้งานได้จริงเร็วๆเพราะ
00:16:24 → 00:16:26 นั่นจะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ดีขึ้นได้
00:16:26 → 00:16:30 จริงๆค่ะ
00:16:30 → 00:16:33 เแต่ว่าตอนนี้เราคุยกันมานานแล้วคงจะต้อง
00:16:33 → 00:16:36 ลปฏิบัติจริงกันบ้างแล้วล่ะ
00:16:36 → 00:16:42 [เพลง]
00:16:42 → 00:16:51 ค่ะเยอเลยน้ำมันทั้งนั้น
00:16:51 → 00:16:54 เลยเอาล่ะค่ะ
00:16:54 → 00:16:58 จารูซืรับประานว่าเป็นบ
00:16:58 → 00:17:02 นอยมา
00:17:02 → 00:17:11 [เพลง]
00:17:11 → 00:17:17 กันไม่นก่อ
00:17:17 → 00:17:19 ก่อด
00:17:19 → 00:17:25 [เพลง]
00:17:25 → 00:17:31 ปลาดครับว่าไก่เนี่ยไก่ต้มกับไก่ย่างกับ
00:17:31 → 00:17:34 ไก่ทอดนี่ต่างกัน 10 เท่าเลยนะไข่เจียว
00:17:34 → 00:17:40 ยิ่งเยอะใหญ่
00:17:40 → 00:17:44 เลยออแล้วก็แนะนำอีกอันนึงครับว่าอาหาร
00:17:44 → 00:17:46 เป็นผักที่มันมีเส้นใยยืดเยอะๆนะครับแบบ
00:17:46 → 00:17:50 นัตอาจารย์มันยืดมาเห็นฮะยืดที่ปากเห็นม
00:17:50 → 00:17:53 ครับยืดมาเนี่ยฮะอาหารที่มีเส้นใยอาหาร
00:17:53 → 00:17:56 ที่มีใยยืดเหมือนถั่วหมักเนี่ยฮะดีต่อ
00:17:56 → 00:18:00 ร่างกายเขบอกว่ามันช่วยบล็อกนะฮะกระเพาะ
00:18:00 → 00:18:04 ไม่ให้ดูดซึมในทันทีถ้าดูดซึมในทันทีก็ทำ
00:18:04 → 00:18:07 ให้เกิดมีน้ำตาลเยอะเกินไปนั่นเองและที่
00:18:07 → 00:18:10 แน่ๆอาหารผ่านกระบวนการอย่างบะหมี่กึ่ง
00:18:10 → 00:18:13 สำเร็จรูปของปรวดของคนหลายๆคนก็มี AG สูง
00:18:13 → 00:18:17 เหมือนกันนะคะแล้วผลไม้ล่ะคะเพราะผลไม้มี
00:18:17 → 00:18:20 รสหวานด้วยนี่นาจะไม่ทำให้มี AG สูงขึ้น
00:18:20 → 00:18:28 ด้วยเหรอคะ
00:18:28 → 00:18:32 กล้วยนะครับ 1 ผลนะฮะแล้วเนี่ย
00:18:32 → 00:18:35 เอ่อบางทีเนี่ยบางคนกิน 3 ผลนะกิน
00:18:35 → 00:18:38 แอปเปิ้ลเยอะไปเลยทีเดียวเลยแล้วอีกวัน
00:18:38 → 00:18:41 นึงมาลดได้ไบอกว่าไม่ได้เพราะว่าการกิน
00:18:41 → 00:18:43 ที่ดีนะครับก็คือการกินวันละนิดวันละ
00:18:43 → 00:18:45 หน่อยนะครับเพราะว่าในใน 1 วันเรารับ
00:18:45 → 00:18:48 วิตามินเยอะเกินไปมันก็ไหลออกมาเป็นฉี่นะ
00:18:48 → 00:18:51 ครับแต่ถ้ามันเยอะเกินไปแล้วเนี่ยในวัน
00:18:51 → 00:18:53 รุ่งขึ้นแล้วไม่ทานก็คืออีกวันแทนที่จะ
00:18:53 → 00:18:56 ต้องการกลายเป็นขาดนะต้องกินวันละนิดวัน
00:18:56 → 00:19:04 ละหน่อย
00:19:04 → 00:19:07 อีกอย่างนะคะที่คนเราอาจจะเข้าใจเผิดกัน
00:19:07 → 00:19:10 อยู่คือการดื่มน้ำผลไม้แล้วคิดว่าน่าจะดี
00:19:10 → 00:19:13 กว่าดื่มน้ำอัดลมความจริงแล้วอาจจะแย่พอๆ
00:19:13 → 00:19:17 กันเลยล่ะค่ะเพราะน้ำผลไม้ไม่มีกากใยเลย
00:19:17 → 00:19:19 แถมยังเต็มไปด้วยความหวานจากทั้งผลไม้
00:19:19 → 00:19:23 แล้วก็น้ำตาลที่เติมลงไปอีกดังนั้นหยุด
00:19:23 → 00:19:27 น้ำผลไม้แบบหวานๆเลยจะดีกว่านะ
00:19:27 → 00:19:30 คะตนนี้อิ่มเข้าแล้วก็ถึงเวลาตามอาจารย์
00:19:30 → 00:19:33 ไปห้องทดลองกันแล้วล่ะค่ะไปดูสิคะว่าหน้า
00:19:33 → 00:19:36 ตา AG ตัวร้ายเนี่ยเป็นยังไงกัน
00:19:36 → 00:19:40 [เพลง]
00:19:40 → 00:19:43 ค่ะตอนนี้ครับเรามาอยู่ที่ห้องแลบของ
00:19:43 → 00:19:46 อาจารย์นะครับอยากดูแล้วใช่ไหมครับว่า a
00:19:46 → 00:19:49 ที่ว่าเอยู่ที่ไหน
00:19:49 → 00:19:54 อดีใจครับอาจารย์บอกนะว่าอจะให้เรา
00:19:54 → 00:20:00 ดูจะให้เราดู AG เลยพร้อมดูยพ้อมดูที่ส
00:20:00 → 00:20:03 ที่ทำให้เราดูหนุ่มทำให้เราหนุ่มสาวขึ้น
00:20:03 → 00:20:08 มาไม่แก่แก่ช้า
00:20:08 → 00:20:11 นี่
00:20:11 → 00:20:29 นี่คือโปรนของงกเราครับในงเราจะโ
00:20:29 → 00:20:32 นี่คือโปรตีนในร่างกายเราโปรตีนในร่างกาย
00:20:32 → 00:20:36 ถ้าเกิดนะฮะเอ่อมี AG เยอะนะครับก็จะเกิด
00:20:37 → 00:20:40 ให้การทำงานของโปรตีนในร่างกายเราจะไม่ดี
00:20:40 → 00:20:43 นะครับก็จะเกิดสนิมขึ้นมานะครับทำให้เรา
00:20:43 → 00:20:46 เหี่ยวย่นไม่เต่งตึงแล้วก็ดูแก่ระหว่าง
00:20:46 → 00:20:49 ที่เราคุยกับอาจารย์ไปเราก็คิดสงสัยไป
00:20:49 → 00:20:51 ด้วยนะคะว่าถ้าอาจารย์คิดค้นเรื่องนี้มา
00:20:51 → 00:20:54 หลายสบปีตัวอาจารย์เองก็จะต้องเป็นคนสูง
00:20:54 → 00:20:59 ไวในร่างของคนหนุ่มด้วยสิคะดังนั้นเราลมา
00:20:59 → 00:21:08 กันะว่าอาจารอายเท่าไหรแล้ว
00:21:08 → 00:21:14 60 Go
00:21:14 → 00:21:17 53 นึกว่าอาจารย์อายุไม่เกิน 50 ปีนะคะ
00:21:18 → 00:21:21 เนี่ยหน้ายังตึงจริงๆค่ะทีนี้ถ้าเราอยาก
00:21:21 → 00:21:25 รู้ว่าตัวเองมี AG มากหรือน้อยอาจารย์ก็
00:21:25 → 00:21:29 บอกว่าจะใช้วิธีเจาะเลือดตรวจค่ะ
00:21:29 → 00:21:34 ก็คือคืออะไรรู้มก็คือโปรตีนที่ได้มาจาก
00:21:34 → 00:21:38 เลือดของคนเอามาสกัดเอาโปรตีนออกมาจาก
00:21:38 → 00:21:41 เลือดของคนนะครับแล้วเราจะเอาน้ำตาลมาใส่
00:21:41 → 00:21:49 ในโปรตีนของคนนี่นะครับว่าจะเกิดอะไร
00:21:49 → 00:21:53 ขึ้นแล้วเอานี้นะครับมา
00:21:53 → 00:21:58 ใส่ในตู้นี้ครับเป็นตู้ที่มีอุณหภูมิเท่า
00:21:58 → 00:22:00 กับร่ากายคนคือ 37
00:22:00 → 00:22:04 องปล่อยไว้ประมาณ 1 อาทิตย์
00:22:04 → 00:22:07 [เพลง]
00:22:07 → 00:22:10 อดูข้างในเป็นยัง
00:22:10 → 00:22:23 ไง
00:22:23 → 00:22:27 โนี่ครับก็คือการแสดงให้เห็นนะว่าเมื่อ
00:22:27 → 00:22:29 ครบ 1 อาทิตย์แล้วนะฮะน้ำตาลที่เยอะเกิน
00:22:29 → 00:22:33 ไปเนี่ยจะมีปฏิกิริยากับโปรตีนในคนนะฮะทำ
00:22:34 → 00:22:37 ให้เกิดสนิมในคนทำให้เกิดการเสริมโทรมใน
00:22:37 → 00:22:39 ร่างกายเมื่อครบเหนือที่จะเป็นสีงนี้ครับ
00:22:39 → 00:22:43 นี่แหละคือสารที่ทำให้เราแก่เป็นสาเหตุทำ
00:22:43 → 00:22:53 ให้เราแก่แล้วก็เหี่ยวย่นแลเป็นโรคตงๆได้
00:22:53 → 00:22:56 ครับถ้าอธิบายกันในระดับละเอียดลงไปอีกก็
00:22:56 → 00:23:00 คือตรงที่เรามีรอยเหว่นเช่นที่หางตาร่อง
00:23:00 → 00:23:04 แก้มเหล่านี้คือจุดที่มี AG สะสมอยู่มาก
00:23:04 → 00:23:07 ค่ะซึ่ง AG ไม่ได้ส่งผลให้เราแก่หรือ
00:23:07 → 00:23:10 หนุ่มสาวเท่านั้นนะคะแต่เป็นดัชนีชี้วัด
00:23:10 → 00:23:13 ว่าเราจะเป็นโรคร้าด้วยหรือเปล่าด้วย
00:23:13 → 00:23:16 ค่ะเลือดของเรานะในเลือดเราก็จะมี AG
00:23:16 → 00:23:18 ด้วยถ้ามี AG เยอะเท่าไหร่นะครับในอนาคต
00:23:18 → 00:23:22 เนี่ยจะเป็นมะเร็งลำไส้ลำไส้ใหญ่ได้ง่าย
00:23:22 → 00:23:26 ครับแสดงให้เห็นเลยครับว่าที่อาจารย์ค้น
00:23:26 → 00:23:28 คว้าวิจัยมาเนี่ยมันเป็นผลจริงๆเลยครับ
00:23:28 → 00:23:31 แต่ทุกวันนี้วิวัฒนาการเรื่องความงามก็
00:23:31 → 00:23:34 ก้าวหน้าไปแบบไม่ธรรมดาทั้งดูดทั้งฉีด
00:23:34 → 00:23:38 ทั้งดึงเลเซอร์อีกต่างหากก็ช่วยได้นี่
00:23:38 → 00:23:46 อาจารมีคำอธิบายตรนี้
00:23:46 → 00:23:50 ค่ะเอ่อการที่รักษาความแก่ชะลอความแก่โดย
00:23:50 → 00:23:53 การใช้เลเซอร์อะไรต่างๆที่จะทำให้ผิว
00:23:53 → 00:23:56 เนี่ยดูสวยงามดูอะไต่างๆเนี่ยบอกว่าเป็น
00:23:56 → 00:24:00 การรักษาที่ผิดวิธีบว่าก็เป็นการรักษาที่
00:24:00 → 00:24:03 มองให้ดูหนุ่มสาวอยู่ตลอดนะครับแต่ว่า
00:24:03 → 00:24:06 ข้างในเนี่ยอาจจะเป็นอวัยวะที่แก่หรือ
00:24:06 → 00:24:08 เี่ยวย่นหรือมีปัญหาอยู่นะครับก็เป็นการ
00:24:08 → 00:24:11 รักษาแค่ดูผิวเินะครับแต่จริงๆแล้วถ้าเรา
00:24:11 → 00:24:15 กินอาหารที่ดีกินอาหารที่มี AG ด AG ได้
00:24:15 → 00:24:20 จะดีกว่านะ
00:24:20 → 00:24:24 ครับคุณหมอก็บอกนะครับว่านะฮะการทาครีม
00:24:24 → 00:24:27 เนี่ยจะลด aeg ของผิวมบอกว่าลดครับเพราะ
00:24:27 → 00:24:29 ว่าสิ่งที่ดีต่อผผิวนะฮะมีอยู่ 2 อย่างนะ
00:24:29 → 00:24:32 ครับก็คือการที่จะให้ผิวเนี่ยชุ่มชื้น
00:24:32 → 00:24:33 อยู่ตลอดอย่าให้แห้งนะครับให้ชุ่มชื้น
00:24:33 → 00:24:36 อยู่ตลอดโดยการใช้ครีมใช้สารต่างๆนะครับ
00:24:36 → 00:24:40 ที่มีการลด aeg ในผิวเนี่ยก็คืออาจจะเป็น
00:24:40 → 00:24:45 สารหรือครีมที่ผสมสารที่มีเอ่อผักอยู่
00:24:45 → 00:24:47 ข้างในต่างๆนะครับอยู่ในอทานะครับไม่ให้
00:24:47 → 00:24:50 ผิวแห้งและงอย่าโดนแดดเยอะครับนี่คือวิธี
00:24:50 → 00:24:54 การไม่ให้ผิวเนี่ยเอ่อเกิดการแก่เกินไป
00:24:54 → 00:24:57 ครับเข้าใจแล้วล่ะค่ะอยากทำให้ผิวแห้งก็
00:24:57 → 00:25:01 จะช่วยดรเขวย่นได้แลถ้าใช้ครีมที่มีส่วน
00:25:01 → 00:25:04 ผสมของผักผลไม้ก็จะช่วยได้เข้าไปอีกค่ะ
00:25:04 → 00:25:15 แล้วอนาคตอาจารยจะมีนวัตกอะไใหช่วุก
00:25:15 → 00:25:19 คอนาคตครับจะมีการวิจัยอะไรบ้างครับก็บอก
00:25:19 → 00:25:23 ว่าตอนเวิจัยแล้วก็ทำผลการทดลองได้ดีนะ
00:25:23 → 00:25:27 ครับสำหรับสตนะะก็คือสามารถเอาสารต่างๆส
00:25:27 → 00:25:29 ออกจากร่างกายสัตว์นะฮะแล้วทำให้สัตว์ตัว
00:25:29 → 00:25:33 นั้นน่ะมีความหนุ่มสาวได้มากกว่าสัตว์
00:25:33 → 00:25:35 ธรรมดานะครับประสบความสำเร็จแล้วในอนาคต
00:25:35 → 00:25:40 ก็คือจะให้มาใช้กับคนครับดึงสารที่มี aig
00:25:40 → 00:25:42 เยอะทำให้สารที่เป็นบกสนิมเนี่ยเอาออกจาก
00:25:42 → 00:25:45 ร่างกายคนแล้วทำให้ตัวเราเนี่ยเป่งปัง
00:25:45 → 00:25:48 เป็นหนุ่มเป็นสาวได้นานครับตัวยาที่ฉีด
00:25:48 → 00:25:51 เข้าไปควบคุม AG ในร่างกายคนคือสารอาตมะ
00:25:51 → 00:25:54 ที่อาจารย์คิดค้นขึ้นมาได้ค่ะโดยเจ้าสาร
00:25:54 → 00:25:57 นี้จะทำหน้าที่คลุม AG ไว้แล้วเม็ดเลือด
00:25:58 → 00:25:59 คา
00:25:59 → 00:26:03 ทงอตแล้วก็ AG นเป็นการกำจัด AG ที่สดวก
00:26:03 → 00:26:07 มากเลยนะคะนี่คือหนูที่มีมะเร็งเป็น
00:26:07 → 00:26:10 มะเร็งอยู่นะครับและถ้าได้ทานได้ทานยาฉีด
00:26:10 → 00:26:14 ยาจืดเข้าไปในร่างกายของหนูนะครับตัวยา
00:26:14 → 00:26:20 เนี่ยจะไปคลุม AG ที่อยู่ในเนื้อมะเร็ง
00:26:20 → 00:26:24 ของหนูทำให้ดูิครับเล็กลงไป
00:26:24 → 00:26:30 เลยหายไปเกือบหมดเลยนะโอโห
00:26:30 → 00:26:32 ตัวยาที่อาจารย์คิดค้นนี้ไม่ได้ช่วยแค่
00:26:32 → 00:26:35 โรคมะเร็งเท่านั้นนะคะโรคอันเกิดจากความ
00:26:35 → 00:26:38 เสื่อมของร่างกายก็สามารถใช้ตัวยานี้ช่วย
00:26:38 → 00:26:41 รักษาได้เช่นกันเช่นโรคเกี่ยวกับหลอด
00:26:41 → 00:26:44 เลือดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทความทรงจำแต่
00:26:44 → 00:26:48 ตัวยาของอาจารย์ที่จะเข้าไปทำลาย AG ไม่
00:26:48 → 00:26:50 ให้ขยายตัวไปทำร้ายร่างกายมนุษย์นั้นยัง
00:26:50 → 00:26:53 นำออกมาใช้จริงไม่ได้ค่ะจะต้องผ่านการรับ
00:26:53 → 00:26:57 รองจากกระทรวงสาธารณสุขซะก่อนค่ะถ้าเมื่อ
00:26:57 → 00:26:59 ไหร่ที่ตัวยานี้นำไปใช้ได้จริงนอกจากจะ
00:26:59 → 00:27:02 เปลี่ยนโฉมหน้าวงการความงามแล้วจะช่วย
00:27:02 → 00:27:04 เหลือผู้ป่วยโรคร้ายแรงเรืรักอื่นๆได้อีก
00:27:04 → 00:27:07 ด้วยนะคะจากความเจ็บป่วยในวัยเด็กสร้าง
00:27:08 → 00:27:11 แรงมานาใจให้มาเป็นคุณหมอเป็นอาจารย์วัน
00:27:11 → 00:27:15 นี้ท่านทำสำเร็จมาแล้วข้นทางที่เหลือพวก
00:27:15 → 00:27:18 เราก็ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะเพราะนี่จะ
00:27:18 → 00:27:21 ช่วยมนุษย์ได้อีกมากเลยนะคะพบกับรูให้รู
00:27:21 → 00:27:24 ได้ใหม่ในครั้งหน้ากับเรื่องราวในญี่ปุ่น
00:27:24 → 00:27:31 ที่คุณไม่เคยเห็นดูให้รู้รู้ให้ลึกสวัสดี
00:27:31 → 00:27:34 ค่ะถ้าคุณอยากจะหล่ออยากจะสวยมีหน้าเด้ง
00:27:34 → 00:27:37 ดึ๋อย่างเงี้นะอิมหักก่อนแล้วค่อยกินกลับ
00:27:37 → 00:27:47 แล้วค่อยกินข้าวลืมกินช้าๆด้วย
00:27:47 → 00:27:48 [เพลง]
00:27:48 → 00:27:52 ครับแก่เร็ว
00:27:52 → 00:27:58 [เพลง]
00:00:03 → 00:00:06 กินอาหารดีรักษาสุขภาพทำให้ไม่แก่ถ้าเรา
00:00:06 → 00:00:09 กินของหวานก่อนนะฮะน้ำตาลในเลือดจะพุ่ม
00:00:09 → 00:00:12 ขึ้นสูงน้ำตาลบวกโปรตีนหรือคอลลาเจนเนี่ย
00:00:12 → 00:00:15 ธรรมดาแล้วนะฮะจะเป็นสิ่งที่ดีนะครับแต่
00:00:15 → 00:00:18 ส่วนที่เหลือเนี่ยนะฮะมันจะเป็นสิ่งที่ทำ
00:00:18 → 00:00:20 ร้ายร่างกายเราก็คือทำให้เราแก่ตัวนะครับ
00:00:20 → 00:00:23 ผลวิจัยจากอาหารหลายๆอย่างออกมาเนี่ยทำ
00:00:23 → 00:00:26 ให้เรารู้ว่าอะไรที่เรากินไปเนี่ยมีสาร
00:00:26 → 00:00:30 ความแก่เยอะนะครับโอ้โหฟังแล้วน่ากลัวมาก
00:00:30 → 00:00:31 เลย
00:00:31 → 00:00:34 พิซซ่า
00:00:34 → 00:00:40 19, 676 a เลยอ่ะอแต่อาจารย์ท่านนี้
00:00:40 → 00:00:43 ไม่ได้ทำแค่นั้นค่ะแต่สามารถดึงเอาสาร
00:00:43 → 00:00:46 ตั้งต้นความแก่ออกจากร่างกายของคนได้ด้วย
00:00:46 → 00:00:51 ะทำได้ยังไงตามไปกันเลยค่ะนี่แหละคือสาร
00:00:51 → 00:00:54 ที่ทำให้เราแก่เป็นสาเหตุทำให้เราแก่แล้ว
00:00:54 → 00:01:00 ก็เหี่ยวย่นและเป็นโรคต่างได้ครับ
00:01:00 → 00:01:09 [เพลง]
00:01:09 → 00:01:12 นนตดูให้เห็นเป็นความ
00:01:12 → 00:01:17 รู้ดูให้รู้เป็นไอเดียดูให้รรู้ให้
00:01:17 → 00:01:22 รู้จสวัสดีครับผมปุจิจิซากิจากประเทศ
00:01:22 → 00:01:26 ญี่ปุ่นครับ
00:01:26 → 00:01:26 [ปรบมือ]
00:01:26 → 00:01:44 [เพลง]
00:01:44 → 00:01:47 ใครๆก็อยากสาวอยากหล่ออยากเ่งตึงไม่
00:01:47 → 00:01:50 เหี่ยวย่นกันนะคะดังนั้นวิวัฒนาการใน
00:01:50 → 00:01:54 เรื่องความงามจึงพัฒนาไปเรื่อยๆจะดึงจะ
00:01:54 → 00:01:57 ฉีดกันอย่างไรคนก็ให้ความสนใจทั้งนั้นค่ะ
00:01:57 → 00:02:00 วันนี้คุณฟูจิเลยคิดว่าอยากจะแนะนำวิธีทำ
00:02:00 → 00:02:03 ให้คุณกลายเป็นสาวพันปีให้ได้ค่ะซึ่งเป็น
00:02:03 → 00:02:06 สิ่งที่อาจารย์ท่านนึงในญี่ปุ่นคิดค้นได้
00:02:06 → 00:02:08 แบบที่ยังไม่มีใครทำได้มาก่อนสิ่งที่ท่าน
00:02:09 → 00:02:11 คิดค้นได้ไม่ใช่แค่การปฏิบัติในชีวิต
00:02:11 → 00:02:14 ประจำวันเท่านั้นนะคะแต่ท่านสามารถดึงเอา
00:02:14 → 00:02:18 สารที่จะทำให้เราแก่ออกจากร่างกายได้ด้วย
00:02:18 → 00:02:22 ไม่ดูต่อไม่ได้แล้วล่ะ
00:02:22 → 00:02:26 ค่ะมหาวิทยาลัยคุรุเมะอยู่ที่ฟูคาค่ะใน
00:02:26 → 00:02:29 เกาะคิวชิวทางใต้ของญี่ปุ่นเราเดินทางมา
00:02:29 → 00:02:32 ไกลเพราะอาจารย์ท่านนี้มีเรื่องน่าค้นหา
00:02:32 → 00:02:37 จริงๆค่ะเฮ้ยสดชื่นตอนนี้ครับผมมาอยู่ที่
00:02:37 → 00:02:41 หน้าโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยคุเมครับมาเจอ
00:02:41 → 00:02:44 ศาสตราจารย์อยู่ท่านนึงเขาบอกว่านะฮะคิด
00:02:44 → 00:02:47 ค้นเกี่ยวกับเรื่องการชะลอความแก่แล้ว
00:02:47 → 00:02:51 เป็นหนุ่มสาวได้ยาวนานด้วยยังไม่พอนะครับ
00:02:51 → 00:02:54 ยังมีอายุยืนอีกด้วยเราจะได้ไม่ต้องไป
00:02:54 → 00:02:57 ศัลยกรรมอีกต่อไปแล้วเรื่องราวจะเป็นยัง
00:02:57 → 00:03:02 ไงไปดูให้รู้กันดีกว่าออีกโชไปกัน
00:03:02 → 00:03:09 [เพลง]
00:03:09 → 00:03:10 [ปรบมือ]
00:03:10 → 00:03:18 [เพลง]
00:03:18 → 00:03:25 ครับเฮ้ยอยู่นั่นแล้ว
00:03:25 → 00:03:39 อครับโอนี่ครับอาจารย์ยชครับรอเราอยู่เลย
00:03:39 → 00:03:42 มาถึงก็ยิงคำถามแรกกันเลยนะคะทำไมคนเรา
00:03:42 → 00:03:45 ถึงต้องแก่ด้วยนะแล้วอายุเท่าไหร่ึงจะ
00:03:45 → 00:03:53 เรียก
00:03:53 → 00:04:05 ว่า 10
00:04:05 → 00:04:08 ก็อกว่านะฮสิ่งสำัญมากเลยที่จะทำให้คนน
00:04:08 → 00:04:11 แก่ตัวได้เร็วก็คืออาหารการกินฮะเขาบอก
00:04:11 → 00:04:14 ว่าในร่างกายของคนเราเนี่ยจะมีโปรตีนอยู่
00:04:14 → 00:04:17 ในร่างกายเราประมาณ 100,000 ชนิดนะฮะแล้ว
00:04:17 → 00:04:20 บวกกับน้ำตาลที่เรากินไปนะน้ำตาลเยจะทำ
00:04:20 → 00:04:25 ให้เราเนี่ยมีการปฏิกิริยากับโปรตีนที่
00:04:25 → 00:04:27 อยู่ในร่างกายเราทำให้ร่างกายเราเนี่ย
00:04:27 → 00:04:30 เสื่อมโมเหมือนกับเป็นสนิมขึึ้นมานะะทำ
00:04:30 → 00:04:33 ให้ร่างกายเราเนี่ยแก่ตัวตงนี้สำคัญมาก
00:04:33 → 00:04:35 แล้วก็บวกกับการใช้ชีวิตประจำวันครับแต่
00:04:35 → 00:04:47 สิ่งสำคัญที่สุดก็คืออาหารที่เรากิน
00:04:47 → 00:04:52 อยู่
00:04:52 → 00:04:56 ารค้นพบสารเคมีชนิดหนึในร่างกายมนุษย์ที่
00:04:56 → 00:05:03 จะทำให้คนเราดูแก่ชราลงค่ะึ
00:05:03 → 00:05:04 ำ
00:05:04 → 00:05:08 คะที่
00:05:08 → 00:05:21 [เพลง]
00:05:21 → 00:05:28 ว่านี้บิโปตีนน้ำตเื่อนี้
00:05:28 → 00:05:33 ในภูมิ 37 องเซซเจ้า AG นี้ก็จะก่อตัว
00:05:33 → 00:05:37 ขึ้นในร่างกายทำให้คนดูสูงวยร่างกายทรุด
00:05:37 → 00:05:40 โมลงค่ะอันนี้เป็นภาพนะครับเอ่อน้ำตาลนะ
00:05:40 → 00:05:43 ครับและอันนี้ก็คือเอ่อคอลลาเจนนะครับ
00:05:43 → 00:05:47 แล้วก็โปรตีนครับโปรตีนในร่างกายของคนเรา
00:05:47 → 00:05:51 เนี่ยฮะจะมีคอลลาเจนหรือเรียกอีกอย่างว่า
00:05:51 → 00:05:54 โปรตีนนะโปรตีนเป็นรูปร่างคอลลาเจนเยอะ
00:05:54 → 00:05:57 เลยครับจะเป็นอยู่ในสมองหรือจะอยู่ในที่
00:05:57 → 00:06:00 ต่างๆนะครับมาผสมกันน้ำตาลบวกโปรตีนหรือ
00:06:00 → 00:06:03 คอลลาเจนเนี่ยธรรมดาแล้วนะจะเป็นสิ่งที่
00:06:03 → 00:06:06 ดีนะแต่ส่วนที่เหลือเนี่ยนะฮะมันจะเป็น
00:06:06 → 00:06:09 สิ่งที่ทำร้ายร่างกายเราก็คือทำให้เราแก่
00:06:09 → 00:06:16 ตัวนะครับมันก็คือสารที่เรียกว่า AG
00:06:16 → 00:06:26 ครับ
00:06:26 → 00:06:30 / นี่คือรูปของเส้นเลือดนะครับแล้วตรง
00:06:30 → 00:06:34 นี้นะครับตัวสีน้ำตาลนี่คือ AG นะครับมา
00:06:34 → 00:06:37 มาบังเส้นเลือดนะมาอุดตันเส้นเลือดที่ว่า
00:06:37 → 00:06:40 ไขมุซันเส้นเลือดอย่างนี้ไม่พอ AG เนี่ย
00:06:40 → 00:06:43 ทำให้เส้นเลือดแข็งตัวนี่ตรงสีขาวนี้คือ
00:06:43 → 00:06:47 ช่วงที่นะฮะเลือดไหลผ่านได้แค่ 1/3 เท่า
00:06:47 → 00:06:51 นั้นส่วน 2/3 เนี่ย P AG มามาบังทำให้
00:06:51 → 00:06:55 เกิดปัญหานะครับอนาคตเนี่ยจะเป็นโรคอุตัน
00:06:55 → 00:06:57 นะครับเส้นเลือดไม่ขยับแล้วก็เส้นเลือดจะ
00:06:57 → 00:07:01 แข็งตัวครับ
00:07:01 → 00:07:03 สรุปก็คือถ้าเราบริโภคโปรตีนแล้วก็น้ำตาล
00:07:03 → 00:07:07 เกินปริมาณที่พอดี AG ก็จะทำงานถล่มให้
00:07:07 → 00:07:10 ร่างกายเราโทรมค่ะซึ่งนอกจากประเภทของ
00:07:10 → 00:07:13 อาหารแล้วอาจารย์ยังบอกว่าการเรียนลำดับ
00:07:13 → 00:07:16 การรับประทานอาหารก็สำคัญนะคะเอเรสำคัญ
00:07:16 → 00:07:19 ยังไงอคะวิธีการลำดับการกินข้าวให้เรากิน
00:07:19 → 00:07:24 ผักก่อนอันที่ 2 กินเนื้ออันที่ 3 ค่อย
00:07:24 → 00:07:26 กินข้าวตามมาทีหลังนะครับให้เรากินผัก
00:07:26 → 00:07:28 ก่อนเพราะอะไรครับเพราะว่าถ้าเรากินของ
00:07:28 → 00:07:31 หวานก่อนนะฮะน้ำตาลในเลือดจะพุ่งขึ้นสูง
00:07:31 → 00:07:35 จะทำให้เกิดการปฏิกิริยาทำให้สนิมเกิด
00:07:35 → 00:07:38 ขึ้นในร่างกายครับปฏิกิริยาสนิมก็คือทำ
00:07:38 → 00:07:42 ให้มีสาร AG เกิดขึ้นครับสำหรับคนไทยฟัง
00:07:42 → 00:07:45 ดูยากเลยนะคะรับประทานผักเป็นอย่างแรกแถม
00:07:45 → 00:07:48 ยังตามด้วยข้าวเป็นอย่างสุดท้ายอีกแต่
00:07:48 → 00:07:51 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ของอาจารย์ก็คือข้าว
00:07:51 → 00:07:53 สามารถเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้อย่างรวด
00:07:53 → 00:07:56 เร็วถ้าเรากินข้าวก่อนกว่าจะอิ่มเราคง
00:07:56 → 00:08:00 บริโภคไปมากมายแล้วแต่ถ้าเราเลือกผแล้ว
00:08:00 → 00:08:03 โปตีนเมื่องายอิ่มแล้วก็รับประานข้าวได้
00:08:03 → 00:08:12 นอยลงเองก็ช่วยให้รงกายส้างสได้
00:08:12 → 00:08:14 [เพลง]
00:08:14 → 00:08:22 ค
00:08:22 → 00:08:26 669 เล่มนี้เป็นหนังสือที่ท่านอาจารใชผล
00:08:26 → 00:08:28 วิจัยจากอหารหลายๆอย่าอมาเนี่ยทำให้เรา
00:08:28 → 00:08:32 รู้ว่าอะไรที่เรากินไปเนี่ยมีสารความแก่
00:08:32 → 00:08:37 เยอะนะครับโอโหฟังแล้วน่ากลัวมากเลยใน
00:08:37 → 00:08:39 หนังสือเล่มนี้อาจารย์ได้คำนวณมาแล้วค่ะ
00:08:39 → 00:08:42 ว่าอาหารแบบไหนที่รับประทานมากแล้วจะทำ
00:08:42 → 00:08:46 ให้เราแก่เร็วสรุปก็คืออาหารที่มีสารผสม
00:08:46 → 00:08:49 ของคาร์โบไฮเดรตโปรตีนแล้วก็ไขมันอยู่มาก
00:08:49 → 00:08:53 ค่ะเช่นข้าวผัดอาหารชุกแป้งทอดท้ารับ
00:08:53 → 00:08:55 ประทานมากแก่เร็วแน่ๆเลย
00:08:55 → 00:09:01 ค่ะทาโกยากินี่นะครับมีตั้ง 9,000 1 418
00:09:01 → 00:09:08 at เลยนะครับนี่ครับพิซ่าอ
00:09:08 → 00:09:15 14, 676 AG เลยอ่ะสปาตี้ carbonara 2
00:09:15 → 00:09:18 7,
00:09:18 → 00:09:23
00:09:24 → 00:09:29 เลย 1 1
00:09:29 → 00:09:31 อาจารย์ก็บอกอีกครับว่าพวกนี้นะครับถ้า
00:09:32 → 00:09:35 เราทานเยอะเนี่ยเราก็ไม่ได้หมายถึงว่ามัน
00:09:35 → 00:09:38 จะอันตรายหมดเลยนะครับเพียงแต่ว่าให้เรา
00:09:38 → 00:09:41 ระวังถ้าเรากินมื้อนี้เยอะเกินไปนะครับ
00:09:41 → 00:09:46 มื้อต่อไปนะครับแล้วก็ลดอาหารที่มีคี่สูง
00:09:47 → 00:09:52 อาหารที่มี AG
00:09:52 → 00:09:55 สง
00:09:55 → 00:09:59 อ 1
00:09:59 → 00:10:02 การตั้งขึ้นก็ทำอย่างมีหลักการนะคะเพราะ
00:10:02 → 00:10:05 เป็นมาตวัดที่เกิดจากการทดลองค่ะเอ่อจะมี
00:10:05 → 00:10:07 หน่วยวัดยังไงคิดค้นยังไงก็คือง่ายนิด
00:10:07 → 00:10:09 เดียวนะครับก็คือมีหลอดทดลองอยู่หลอดนึง
00:10:09 → 00:10:12 นะครับอ่าเอาโปรตีนใส่เข้าไปโปรตีนนี่ถือ
00:10:12 → 00:10:16 ว่าเป็นร่างกายของคนเรานะฮะแล้วใส่เอ่อ
00:10:16 → 00:10:20 สารที่ทำให้โปรตีนเนี่ยเกิดสนิมขึ้นมาทำ
00:10:20 → 00:10:22 ให้โปรตีนเนี่ยเื่อมโทรมขึ้นมาเนี่ยถือ
00:10:22 → 00:10:25 ว่าเป็นหนึ่งถ้ามีเยอะมากเท่าไหร่ก็ถือ
00:10:25 → 00:10:28 ว่าเป็นตัวเลขนั้นๆนะฮะถ้ามี 10,000 นึง
00:10:28 → 00:10:31 ก็แสดงว่ามันก็จะจะมีสนิมเยอะทำให้แก่ไว
00:10:31 → 00:10:33 เยอะนะครับก็เลยมาตั้งเป็นหน่วยวัดแบบนี้
00:10:33 → 00:10:34 ขึ้นมา
00:10:34 → 00:10:38 ครับอาจารย์มีสูตรการคิดเรื่องความอ้วน
00:10:38 → 00:10:41 ด้วยค่ะเตรียมเครื่องคิดเลขกันไว้เลยนะคะ
00:10:41 → 00:10:44 วิธีการคิดคำนวณให้อ้วนเกินไปต้องทำยังไง
00:10:44 → 00:10:48 ก็คือสมมุติคนที่มีน้ำหนัก 60 กนะครับ 60
00:10:48 → 00:10:54 กกนะครับให้หาร 1.7 นะครับหาร
00:10:54 → 00:10:58 1 ง่ายๆนะคะคือเอาน้ำหนักหารด้วยส่วนสูง
00:10:58 → 00:11:03 หากคุณน้ำหนัก 60 กกหด้วยส่วนสูง 170 ซม
00:11:03 → 00:11:07 ก็คิดเป็น 60 หารด้วย 1.7 ได้ผลเท่าไหร
00:11:07 → 00:11:10 แล้วหารด้วย 1.7 อีกครั้งคผที่ได้จะต้อง
00:11:10 → 00:11:11 อยู่ระว่าง
00:11:11 → 00:11:18 22-2 จึงจะถือว่าไม่อ้วน
00:11:18 → 00:11:22 [เพลง]
00:11:22 → 00:11:26 ค่ะอายุน้อยแล้วดูหน้าแก่นะอายุน้อยดู
00:11:26 → 00:11:29 หน้าแก่เนี่ยส่วนใหญ่เลยนะครับ
00:11:29 → 00:11:36 เอวาก็จะแก
00:11:36 → 00:11:41 ด้วยถามอาจารย์นะครับว่าจะชะลอความแก่ยัง
00:11:41 → 00:11:44 ไงนะครับมีอยู่หลายอย่างครับก็คือทาน
00:11:44 → 00:11:46 อาหารไม่เยอะเกินไปนะครับแล้วก็ทานอาหาร
00:11:47 → 00:11:50 ที่มี AG น้อยๆนะครับแล้วก็ลำดับการทาน
00:11:50 → 00:11:53 อาหารลำดับการทานอาหารก็คือกินผักก่อนนะ
00:11:53 → 00:11:56 ฮะกินเนื้อตามมาแล้วค่อยกินข้าวตามมาที
00:11:56 → 00:12:00 หลังลำดับการทานแล้วก็ถ้าเรากินอาหารเยอะ
00:12:00 → 00:12:02 เกินไปนะครับเราไม่สามารถรู้ได้นะครับก็
00:12:02 → 00:12:05 ดูจากน้ำหนักของตัวเราเองนะฮะแล้วก็อีก
00:12:05 → 00:12:08 อันนึงก็คือการออกกำลังกายแล้วอาหารแบบ
00:12:08 → 00:12:12 ไหนที่จะมี AG น้อยลองดูกันค่ะของดิบนี่
00:12:12 → 00:12:16 ไม่มีการทอดไม่มีการย่างกินดิบๆเลยดูสิ
00:12:16 → 00:12:20 ครับว่ามีแคลอรี่เท่าไหร่มี 69 AG เท่า
00:12:20 → 00:12:22 นั้นเองนะฮะ 70
00:12:22 → 00:12:25 เองแต่ก็ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นนะคะที่ทำ
00:12:25 → 00:12:28 ให้เราดูทรุดโทรมเร็วการสูบบุหรี่ก็เป็น
00:12:28 → 00:12:30 สาเหตุสำคัญเหมือนกันค่ะเพราะเป็นการนำ
00:12:30 → 00:12:34 สารพิษเข้าร่างกายโดยตรงบุหรี่ก็คือ AG
00:12:34 → 00:12:37 นะครับเพราะอะไรรู้มยเพราะว่าใบไม้เนี่ย
00:12:37 → 00:12:40 เอามาเผาให้มันเป็นสีน้ำตาลและมีควันนะฮะ
00:12:40 → 00:12:44 ดังนั้นเนี่ยตรงเนี้ยมันทำให้เกิดสาร AG
00:12:44 → 00:12:47 ก็คือสารทำให้แก่นะครับเขบอกว่าคนที่สูบ
00:12:47 → 00:12:50 บุหรี่ 10 ปีนะฮะธรรมดาแล้วเฉลี่ยจะมี
00:12:50 → 00:12:54 เอ่อความลอยย่นมีความแก่มากกว่าคนธรรมดา
00:12:54 → 00:12:58 2.5 ปีนะครับถ้าสูบ 20 ปีก็จะมีความแก่
00:12:58 → 00:13:02 มามากว่าคนอื่น 5 ปีครับดังนั้นถ้าเราลด
00:13:02 → 00:13:05 สิ่งเร้าที่เรียกว่า AG ให้เข้าสู่ร่าง
00:13:05 → 00:13:09 กายน้อยลงเราก็จะแก่ชราช้าลงค่ะจำไว้ได้
00:13:09 → 00:13:12 เลยนะคะต้องรับประทานอาหารให้ดีแล้วก็กิน
00:13:12 → 00:13:15 ช้าๆเพื่อให้ไม่มีน้ำตาลในเลือสูง
00:13:15 → 00:13:18 กระทันหันพักผ่อนให้เพียงพอนอนวันละมาก
00:13:18 → 00:13:22 กว่า 5 ชมงเป็นอย่างน้อยไม่เครียดมากเรา
00:13:22 → 00:13:25 ก็จะแก่ช้าลงได้ค่ะแล้วถ้าเราทำได้เราจะ
00:13:25 → 00:13:28 อายุยืนได้ขนาดไหนล่ะคะเนี่ยถามนะว่า
00:13:28 → 00:13:33 อาจารย์ว่าเอ่อถ้าเรามีนะฮะาร AG เนี่ยาร
00:13:33 → 00:13:35 ความแก่เนี่ยอยู่ในร่างกายน้อยเนี่ยจะ
00:13:35 → 00:13:38 เป็นยังไงท่านก็บอกว่านะครับว่าเอ่อเรา
00:13:38 → 00:13:41 อาจจะอยู่อายุถึง 1000 ปีมั้ยอท่านก็บอก
00:13:41 → 00:13:43 ว่านะครับว่ามีเอ่อนักวิจัยอยู่คนนึงครับ
00:13:44 → 00:13:46 เป็นคนชาวอังกฤษนะครับก็บอกว่าถ้าเรา
00:13:46 → 00:13:49 รักษาศา AG ให้อยู่ใน้าการน้อยๆเนี่ยอาจ
00:13:49 → 00:13:52 จะอยู่ถึง 1000 ปีเลยนะครับอันนี้เป็น
00:13:52 → 00:13:56 เอ่อข้อมูลวิจัยนะครับแต่ว่าอาจารย์เนี่ย
00:13:56 → 00:13:59 ทานข้าววันละแค่ 1 มื้อเท่านั้นนะฮะ
00:13:59 → 00:14:07 [เพลง]
00:14:07 → 00:14:10 กว่าอาจารย์จะคิดค้นเจ้า AG ขึ้นมาได้ใช้
00:14:10 → 00:14:13 เวลาถึง 30 ปีเลยนะคะซึ่งแรงบันดาลใจก็มา
00:14:13 → 00:14:16 จากการได้เห็นคนเป็นโรคบาหวานค่ะคนที่
00:14:16 → 00:14:18 เป็นโรคเบาหวานเนี่ยล้มปุ๊บเนี่ยกระดูก
00:14:18 → 00:14:21 หักนะฮะเป็นมะเร็งเร็วอะไรอย่าเงี้ยฮะ
00:14:21 → 00:14:23 เพราะอะไรเพราะว่าคนที่เป็นเบาหวานเนี่ย
00:14:23 → 00:14:25 จะต้องมีสารอะไรที่ผิดปกติไม่เหมือนคน
00:14:25 → 00:14:28 ธรรมดานะครับก็เพราะว่ามีน้ำตาลในเลือด
00:14:28 → 00:14:30 เ่ะสูมีน้ำตาลในเลือดเปลี่ยนแปลงบ่อยๆนะ
00:14:31 → 00:14:34 ครับถึงแม้จะมีการฉีดอินซูลินเข้าไปใน
00:14:34 → 00:14:36 ร่างกายน้ำตาลในเลือดจะเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ
00:14:36 → 00:14:39 เนี่ยจะทำให้เกิดปัญหาก็เลยเจอมันต้องมี
00:14:39 → 00:14:44 เหตุผลเหตุผลอะไรก็คือมีสาร AG อยู่ใน
00:14:44 → 00:14:52 ร่างกายเยอะนั่นเอง
00:14:52 → 00:14:55 ครับนี้ชีวิตของอาจารยตั้งแต่วัยเด็กก็
00:14:55 → 00:14:57 เป็นส่วนผลักดันให้อาจารย์อยากจะดูแล
00:14:57 → 00:15:00 รักษาร่างกายแล้วก็ไขความลับเรื่องความ
00:15:00 → 00:15:03 เจ็บป่วยด้วยค่ะในตอนอายุ 5 ขวบอาจารย์
00:15:04 → 00:15:07 เป็นโรคไตพอถึงอายุ 16 ปีก็เป็นโรคเกี่ยว
00:15:07 → 00:15:10 กับเลือดต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลถึง 5 ปี
00:15:10 → 00:15:13 ในช่วงนั้นเองที่ได้รับการรักษาจากคุณหมอ
00:15:13 → 00:15:16 ท่านนึงอย่างใกล้ชิดท่านจึงคิดว่าถ้าหาย
00:15:16 → 00:15:19 ไปได้จะไปเป็นหมอรักษาคนเพื่อช่วยเหลือ
00:15:19 → 00:15:22 ผู้ป่วยเช่นกันค่ะแล้ววันนี้ท่านก็ประสบ
00:15:22 → 00:15:27 ความสำเร็จอย่างสูงเพราะว่าฟังให้ดีๆนะคะ
00:15:27 → 00:15:30 ้าไม่ใช่แค่หาวิธการความแกแต่ท่านกำลัง
00:15:30 → 00:15:34 พยายามทำให้สามาดึงเอาสาร AG ที่สร้าง
00:15:34 → 00:15:38 ความชราความเสรมโทรมโรคภัยต่างๆออกจาก
00:15:38 → 00:15:40 ร่างกายมนุษย์ได้ด้วยจริงเหรอคะเนี่ย
00:15:40 → 00:15:46 ปัจจุบันนี้คิดค้นวิจัยการเอาสาร AG หรือ
00:15:46 → 00:15:50 สารที่ทำให้แก่เนี่ยออกจากร่างกาย
00:15:50 → 00:15:52 ปัจจุบันนี้ถึงไหน
00:15:52 → 00:15:56 แล้วท่านบอกว่านะครับใช้กับหนูมาทดลองกับ
00:15:56 → 00:16:00 หนูมา 8 ปีหนูที่เป็น็งก้อนมะเร็งเล็กๆๆ
00:16:01 → 00:16:06 ฟ่อลงหนูที่มีเส้นเลือดอุดตันสมองไม่ตัน
00:16:06 → 00:16:09 แล้วนะฮะเส้นเลือดก็กลับมาเส้นเลือดที่
00:16:09 → 00:16:11 แข็งตัวเนี่ยกลายเป็นเส้นเลือดที่นิ่ม
00:16:11 → 00:16:14 ขึ้นมาได้นะครับประสบความสำเร็จถึงเวลา
00:16:14 → 00:16:18 ที่นำมาใช้กับคนนะครับรออีกแป๊บเดียวฟัง
00:16:18 → 00:16:21 แล้วก็ตื่นเต้นนะคะอยากให้งานวิจัยของ
00:16:21 → 00:16:24 อาจารย์สำเร็จใช้งานได้จริงเร็วๆเพราะ
00:16:24 → 00:16:26 นั่นจะทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตที่ดีขึ้นได้
00:16:26 → 00:16:30 จริงๆค่ะ
00:16:30 → 00:16:33 เแต่ว่าตอนนี้เราคุยกันมานานแล้วคงจะต้อง
00:16:33 → 00:16:36 ลปฏิบัติจริงกันบ้างแล้วล่ะ
00:16:36 → 00:16:42 [เพลง]
00:16:42 → 00:16:51 ค่ะเยอเลยน้ำมันทั้งนั้น
00:16:51 → 00:16:54 เลยเอาล่ะค่ะ
00:16:54 → 00:16:58 จารูซืรับประานว่าเป็นบ
00:16:58 → 00:17:02 นอยมา
00:17:02 → 00:17:11 [เพลง]
00:17:11 → 00:17:17 กันไม่นก่อ
00:17:17 → 00:17:19 ก่อด
00:17:19 → 00:17:25 [เพลง]
00:17:25 → 00:17:31 ปลาดครับว่าไก่เนี่ยไก่ต้มกับไก่ย่างกับ
00:17:31 → 00:17:34 ไก่ทอดนี่ต่างกัน 10 เท่าเลยนะไข่เจียว
00:17:34 → 00:17:40 ยิ่งเยอะใหญ่
00:17:40 → 00:17:44 เลยออแล้วก็แนะนำอีกอันนึงครับว่าอาหาร
00:17:44 → 00:17:46 เป็นผักที่มันมีเส้นใยยืดเยอะๆนะครับแบบ
00:17:46 → 00:17:50 นัตอาจารย์มันยืดมาเห็นฮะยืดที่ปากเห็นม
00:17:50 → 00:17:53 ครับยืดมาเนี่ยฮะอาหารที่มีเส้นใยอาหาร
00:17:53 → 00:17:56 ที่มีใยยืดเหมือนถั่วหมักเนี่ยฮะดีต่อ
00:17:56 → 00:18:00 ร่างกายเขบอกว่ามันช่วยบล็อกนะฮะกระเพาะ
00:18:00 → 00:18:04 ไม่ให้ดูดซึมในทันทีถ้าดูดซึมในทันทีก็ทำ
00:18:04 → 00:18:07 ให้เกิดมีน้ำตาลเยอะเกินไปนั่นเองและที่
00:18:07 → 00:18:10 แน่ๆอาหารผ่านกระบวนการอย่างบะหมี่กึ่ง
00:18:10 → 00:18:13 สำเร็จรูปของปรวดของคนหลายๆคนก็มี AG สูง
00:18:13 → 00:18:17 เหมือนกันนะคะแล้วผลไม้ล่ะคะเพราะผลไม้มี
00:18:17 → 00:18:20 รสหวานด้วยนี่นาจะไม่ทำให้มี AG สูงขึ้น
00:18:20 → 00:18:28 ด้วยเหรอคะ
00:18:28 → 00:18:32 กล้วยนะครับ 1 ผลนะฮะแล้วเนี่ย
00:18:32 → 00:18:35 เอ่อบางทีเนี่ยบางคนกิน 3 ผลนะกิน
00:18:35 → 00:18:38 แอปเปิ้ลเยอะไปเลยทีเดียวเลยแล้วอีกวัน
00:18:38 → 00:18:41 นึงมาลดได้ไบอกว่าไม่ได้เพราะว่าการกิน
00:18:41 → 00:18:43 ที่ดีนะครับก็คือการกินวันละนิดวันละ
00:18:43 → 00:18:45 หน่อยนะครับเพราะว่าในใน 1 วันเรารับ
00:18:45 → 00:18:48 วิตามินเยอะเกินไปมันก็ไหลออกมาเป็นฉี่นะ
00:18:48 → 00:18:51 ครับแต่ถ้ามันเยอะเกินไปแล้วเนี่ยในวัน
00:18:51 → 00:18:53 รุ่งขึ้นแล้วไม่ทานก็คืออีกวันแทนที่จะ
00:18:53 → 00:18:56 ต้องการกลายเป็นขาดนะต้องกินวันละนิดวัน
00:18:56 → 00:19:04 ละหน่อย
00:19:04 → 00:19:07 อีกอย่างนะคะที่คนเราอาจจะเข้าใจเผิดกัน
00:19:07 → 00:19:10 อยู่คือการดื่มน้ำผลไม้แล้วคิดว่าน่าจะดี
00:19:10 → 00:19:13 กว่าดื่มน้ำอัดลมความจริงแล้วอาจจะแย่พอๆ
00:19:13 → 00:19:17 กันเลยล่ะค่ะเพราะน้ำผลไม้ไม่มีกากใยเลย
00:19:17 → 00:19:19 แถมยังเต็มไปด้วยความหวานจากทั้งผลไม้
00:19:19 → 00:19:23 แล้วก็น้ำตาลที่เติมลงไปอีกดังนั้นหยุด
00:19:23 → 00:19:27 น้ำผลไม้แบบหวานๆเลยจะดีกว่านะ
00:19:27 → 00:19:30 คะตนนี้อิ่มเข้าแล้วก็ถึงเวลาตามอาจารย์
00:19:30 → 00:19:33 ไปห้องทดลองกันแล้วล่ะค่ะไปดูสิคะว่าหน้า
00:19:33 → 00:19:36 ตา AG ตัวร้ายเนี่ยเป็นยังไงกัน
00:19:36 → 00:19:40 [เพลง]
00:19:40 → 00:19:43 ค่ะตอนนี้ครับเรามาอยู่ที่ห้องแลบของ
00:19:43 → 00:19:46 อาจารย์นะครับอยากดูแล้วใช่ไหมครับว่า a
00:19:46 → 00:19:49 ที่ว่าเอยู่ที่ไหน
00:19:49 → 00:19:54 อดีใจครับอาจารย์บอกนะว่าอจะให้เรา
00:19:54 → 00:20:00 ดูจะให้เราดู AG เลยพร้อมดูยพ้อมดูที่ส
00:20:00 → 00:20:03 ที่ทำให้เราดูหนุ่มทำให้เราหนุ่มสาวขึ้น
00:20:03 → 00:20:08 มาไม่แก่แก่ช้า
00:20:08 → 00:20:11 นี่
00:20:11 → 00:20:29 นี่คือโปรนของงกเราครับในงเราจะโ
00:20:29 → 00:20:32 นี่คือโปรตีนในร่างกายเราโปรตีนในร่างกาย
00:20:32 → 00:20:36 ถ้าเกิดนะฮะเอ่อมี AG เยอะนะครับก็จะเกิด
00:20:37 → 00:20:40 ให้การทำงานของโปรตีนในร่างกายเราจะไม่ดี
00:20:40 → 00:20:43 นะครับก็จะเกิดสนิมขึ้นมานะครับทำให้เรา
00:20:43 → 00:20:46 เหี่ยวย่นไม่เต่งตึงแล้วก็ดูแก่ระหว่าง
00:20:46 → 00:20:49 ที่เราคุยกับอาจารย์ไปเราก็คิดสงสัยไป
00:20:49 → 00:20:51 ด้วยนะคะว่าถ้าอาจารย์คิดค้นเรื่องนี้มา
00:20:51 → 00:20:54 หลายสบปีตัวอาจารย์เองก็จะต้องเป็นคนสูง
00:20:54 → 00:20:59 ไวในร่างของคนหนุ่มด้วยสิคะดังนั้นเราลมา
00:20:59 → 00:21:08 กันะว่าอาจารอายเท่าไหรแล้ว
00:21:08 → 00:21:14 60 Go
00:21:14 → 00:21:17 53 นึกว่าอาจารย์อายุไม่เกิน 50 ปีนะคะ
00:21:18 → 00:21:21 เนี่ยหน้ายังตึงจริงๆค่ะทีนี้ถ้าเราอยาก
00:21:21 → 00:21:25 รู้ว่าตัวเองมี AG มากหรือน้อยอาจารย์ก็
00:21:25 → 00:21:29 บอกว่าจะใช้วิธีเจาะเลือดตรวจค่ะ
00:21:29 → 00:21:34 ก็คือคืออะไรรู้มก็คือโปรตีนที่ได้มาจาก
00:21:34 → 00:21:38 เลือดของคนเอามาสกัดเอาโปรตีนออกมาจาก
00:21:38 → 00:21:41 เลือดของคนนะครับแล้วเราจะเอาน้ำตาลมาใส่
00:21:41 → 00:21:49 ในโปรตีนของคนนี่นะครับว่าจะเกิดอะไร
00:21:49 → 00:21:53 ขึ้นแล้วเอานี้นะครับมา
00:21:53 → 00:21:58 ใส่ในตู้นี้ครับเป็นตู้ที่มีอุณหภูมิเท่า
00:21:58 → 00:22:00 กับร่ากายคนคือ 37
00:22:00 → 00:22:04 องปล่อยไว้ประมาณ 1 อาทิตย์
00:22:04 → 00:22:07 [เพลง]
00:22:07 → 00:22:10 อดูข้างในเป็นยัง
00:22:10 → 00:22:23 ไง
00:22:23 → 00:22:27 โนี่ครับก็คือการแสดงให้เห็นนะว่าเมื่อ
00:22:27 → 00:22:29 ครบ 1 อาทิตย์แล้วนะฮะน้ำตาลที่เยอะเกิน
00:22:29 → 00:22:33 ไปเนี่ยจะมีปฏิกิริยากับโปรตีนในคนนะฮะทำ
00:22:34 → 00:22:37 ให้เกิดสนิมในคนทำให้เกิดการเสริมโทรมใน
00:22:37 → 00:22:39 ร่างกายเมื่อครบเหนือที่จะเป็นสีงนี้ครับ
00:22:39 → 00:22:43 นี่แหละคือสารที่ทำให้เราแก่เป็นสาเหตุทำ
00:22:43 → 00:22:53 ให้เราแก่แล้วก็เหี่ยวย่นแลเป็นโรคตงๆได้
00:22:53 → 00:22:56 ครับถ้าอธิบายกันในระดับละเอียดลงไปอีกก็
00:22:56 → 00:23:00 คือตรงที่เรามีรอยเหว่นเช่นที่หางตาร่อง
00:23:00 → 00:23:04 แก้มเหล่านี้คือจุดที่มี AG สะสมอยู่มาก
00:23:04 → 00:23:07 ค่ะซึ่ง AG ไม่ได้ส่งผลให้เราแก่หรือ
00:23:07 → 00:23:10 หนุ่มสาวเท่านั้นนะคะแต่เป็นดัชนีชี้วัด
00:23:10 → 00:23:13 ว่าเราจะเป็นโรคร้าด้วยหรือเปล่าด้วย
00:23:13 → 00:23:16 ค่ะเลือดของเรานะในเลือดเราก็จะมี AG
00:23:16 → 00:23:18 ด้วยถ้ามี AG เยอะเท่าไหร่นะครับในอนาคต
00:23:18 → 00:23:22 เนี่ยจะเป็นมะเร็งลำไส้ลำไส้ใหญ่ได้ง่าย
00:23:22 → 00:23:26 ครับแสดงให้เห็นเลยครับว่าที่อาจารย์ค้น
00:23:26 → 00:23:28 คว้าวิจัยมาเนี่ยมันเป็นผลจริงๆเลยครับ
00:23:28 → 00:23:31 แต่ทุกวันนี้วิวัฒนาการเรื่องความงามก็
00:23:31 → 00:23:34 ก้าวหน้าไปแบบไม่ธรรมดาทั้งดูดทั้งฉีด
00:23:34 → 00:23:38 ทั้งดึงเลเซอร์อีกต่างหากก็ช่วยได้นี่
00:23:38 → 00:23:46 อาจารมีคำอธิบายตรนี้
00:23:46 → 00:23:50 ค่ะเอ่อการที่รักษาความแก่ชะลอความแก่โดย
00:23:50 → 00:23:53 การใช้เลเซอร์อะไรต่างๆที่จะทำให้ผิว
00:23:53 → 00:23:56 เนี่ยดูสวยงามดูอะไต่างๆเนี่ยบอกว่าเป็น
00:23:56 → 00:24:00 การรักษาที่ผิดวิธีบว่าก็เป็นการรักษาที่
00:24:00 → 00:24:03 มองให้ดูหนุ่มสาวอยู่ตลอดนะครับแต่ว่า
00:24:03 → 00:24:06 ข้างในเนี่ยอาจจะเป็นอวัยวะที่แก่หรือ
00:24:06 → 00:24:08 เี่ยวย่นหรือมีปัญหาอยู่นะครับก็เป็นการ
00:24:08 → 00:24:11 รักษาแค่ดูผิวเินะครับแต่จริงๆแล้วถ้าเรา
00:24:11 → 00:24:15 กินอาหารที่ดีกินอาหารที่มี AG ด AG ได้
00:24:15 → 00:24:20 จะดีกว่านะ
00:24:20 → 00:24:24 ครับคุณหมอก็บอกนะครับว่านะฮะการทาครีม
00:24:24 → 00:24:27 เนี่ยจะลด aeg ของผิวมบอกว่าลดครับเพราะ
00:24:27 → 00:24:29 ว่าสิ่งที่ดีต่อผผิวนะฮะมีอยู่ 2 อย่างนะ
00:24:29 → 00:24:32 ครับก็คือการที่จะให้ผิวเนี่ยชุ่มชื้น
00:24:32 → 00:24:33 อยู่ตลอดอย่าให้แห้งนะครับให้ชุ่มชื้น
00:24:33 → 00:24:36 อยู่ตลอดโดยการใช้ครีมใช้สารต่างๆนะครับ
00:24:36 → 00:24:40 ที่มีการลด aeg ในผิวเนี่ยก็คืออาจจะเป็น
00:24:40 → 00:24:45 สารหรือครีมที่ผสมสารที่มีเอ่อผักอยู่
00:24:45 → 00:24:47 ข้างในต่างๆนะครับอยู่ในอทานะครับไม่ให้
00:24:47 → 00:24:50 ผิวแห้งและงอย่าโดนแดดเยอะครับนี่คือวิธี
00:24:50 → 00:24:54 การไม่ให้ผิวเนี่ยเอ่อเกิดการแก่เกินไป
00:24:54 → 00:24:57 ครับเข้าใจแล้วล่ะค่ะอยากทำให้ผิวแห้งก็
00:24:57 → 00:25:01 จะช่วยดรเขวย่นได้แลถ้าใช้ครีมที่มีส่วน
00:25:01 → 00:25:04 ผสมของผักผลไม้ก็จะช่วยได้เข้าไปอีกค่ะ
00:25:04 → 00:25:15 แล้วอนาคตอาจารยจะมีนวัตกอะไใหช่วุก
00:25:15 → 00:25:19 คอนาคตครับจะมีการวิจัยอะไรบ้างครับก็บอก
00:25:19 → 00:25:23 ว่าตอนเวิจัยแล้วก็ทำผลการทดลองได้ดีนะ
00:25:23 → 00:25:27 ครับสำหรับสตนะะก็คือสามารถเอาสารต่างๆส
00:25:27 → 00:25:29 ออกจากร่างกายสัตว์นะฮะแล้วทำให้สัตว์ตัว
00:25:29 → 00:25:33 นั้นน่ะมีความหนุ่มสาวได้มากกว่าสัตว์
00:25:33 → 00:25:35 ธรรมดานะครับประสบความสำเร็จแล้วในอนาคต
00:25:35 → 00:25:40 ก็คือจะให้มาใช้กับคนครับดึงสารที่มี aig
00:25:40 → 00:25:42 เยอะทำให้สารที่เป็นบกสนิมเนี่ยเอาออกจาก
00:25:42 → 00:25:45 ร่างกายคนแล้วทำให้ตัวเราเนี่ยเป่งปัง
00:25:45 → 00:25:48 เป็นหนุ่มเป็นสาวได้นานครับตัวยาที่ฉีด
00:25:48 → 00:25:51 เข้าไปควบคุม AG ในร่างกายคนคือสารอาตมะ
00:25:51 → 00:25:54 ที่อาจารย์คิดค้นขึ้นมาได้ค่ะโดยเจ้าสาร
00:25:54 → 00:25:57 นี้จะทำหน้าที่คลุม AG ไว้แล้วเม็ดเลือด
00:25:58 → 00:25:59 คา
00:25:59 → 00:26:03 ทงอตแล้วก็ AG นเป็นการกำจัด AG ที่สดวก
00:26:03 → 00:26:07 มากเลยนะคะนี่คือหนูที่มีมะเร็งเป็น
00:26:07 → 00:26:10 มะเร็งอยู่นะครับและถ้าได้ทานได้ทานยาฉีด
00:26:10 → 00:26:14 ยาจืดเข้าไปในร่างกายของหนูนะครับตัวยา
00:26:14 → 00:26:20 เนี่ยจะไปคลุม AG ที่อยู่ในเนื้อมะเร็ง
00:26:20 → 00:26:24 ของหนูทำให้ดูิครับเล็กลงไป
00:26:24 → 00:26:30 เลยหายไปเกือบหมดเลยนะโอโห
00:26:30 → 00:26:32 ตัวยาที่อาจารย์คิดค้นนี้ไม่ได้ช่วยแค่
00:26:32 → 00:26:35 โรคมะเร็งเท่านั้นนะคะโรคอันเกิดจากความ
00:26:35 → 00:26:38 เสื่อมของร่างกายก็สามารถใช้ตัวยานี้ช่วย
00:26:38 → 00:26:41 รักษาได้เช่นกันเช่นโรคเกี่ยวกับหลอด
00:26:41 → 00:26:44 เลือดโรคเกี่ยวกับระบบประสาทความทรงจำแต่
00:26:44 → 00:26:48 ตัวยาของอาจารย์ที่จะเข้าไปทำลาย AG ไม่
00:26:48 → 00:26:50 ให้ขยายตัวไปทำร้ายร่างกายมนุษย์นั้นยัง
00:26:50 → 00:26:53 นำออกมาใช้จริงไม่ได้ค่ะจะต้องผ่านการรับ
00:26:53 → 00:26:57 รองจากกระทรวงสาธารณสุขซะก่อนค่ะถ้าเมื่อ
00:26:57 → 00:26:59 ไหร่ที่ตัวยานี้นำไปใช้ได้จริงนอกจากจะ
00:26:59 → 00:27:02 เปลี่ยนโฉมหน้าวงการความงามแล้วจะช่วย
00:27:02 → 00:27:04 เหลือผู้ป่วยโรคร้ายแรงเรืรักอื่นๆได้อีก
00:27:04 → 00:27:07 ด้วยนะคะจากความเจ็บป่วยในวัยเด็กสร้าง
00:27:08 → 00:27:11 แรงมานาใจให้มาเป็นคุณหมอเป็นอาจารย์วัน
00:27:11 → 00:27:15 นี้ท่านทำสำเร็จมาแล้วข้นทางที่เหลือพวก
00:27:15 → 00:27:18 เราก็ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะเพราะนี่จะ
00:27:18 → 00:27:21 ช่วยมนุษย์ได้อีกมากเลยนะคะพบกับรูให้รู
00:27:21 → 00:27:24 ได้ใหม่ในครั้งหน้ากับเรื่องราวในญี่ปุ่น
00:27:24 → 00:27:31 ที่คุณไม่เคยเห็นดูให้รู้รู้ให้ลึกสวัสดี
00:27:31 → 00:27:34 ค่ะถ้าคุณอยากจะหล่ออยากจะสวยมีหน้าเด้ง
00:27:34 → 00:27:37 ดึ๋อย่างเงี้นะอิมหักก่อนแล้วค่อยกินกลับ
00:27:37 → 00:27:47 แล้วค่อยกินข้าวลืมกินช้าๆด้วย
00:27:47 → 00:27:48 [เพลง]
00:27:48 → 00:27:52 ครับแก่เร็ว
00:27:52 → 00:27:58 [เพลง]