00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world By The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ถ้าเราขาดโปรตีนโปรตีนมันก็จะ
00:00:08 → 00:00:11 มีปัญหาและอ่อนเพลียเหนื่อยง่ายผมร่วงนะ
00:00:11 → 00:00:15 ลงพุงก้ามหดหมดแรงเตะปี๊บไม่ดังเรี่ยวแรง
00:00:15 → 00:00:18 ไม่มีทนี้ถ้าเรากินโปรตีนจากสัตว์และ
00:00:18 → 00:00:21 ผลิตภัณฑ์จากสัตว์คือมีกดอะมิโนครบทุก
00:00:21 → 00:00:23 ชนิดแต่ในขณะเดียวกันถ้าเรากินโปรตีนจาก
00:00:23 → 00:00:27 พืชอ่าให้กดอะมิโนไม่ครบหรือมีครบแหละแต่
00:00:27 → 00:00:32 บางตัวมีอยู่น้อยเเรียกีมิอิโนแซจริงๆ
00:00:32 → 00:00:34 แล้วเนี่ยมันมีการศึกษาวิจัยนะครับีติด
00:00:34 → 00:00:38 ตามคนที่กินโปรตีนพืชกับโปรตีนสัตว์ดูิ
00:00:38 → 00:00:41 ว่าใครตายก่อนกันเขาพบว่ากลุ่มที่กิน
00:00:41 → 00:00:43 โปรตีนจากพืชเนี่ยมีความสัมพันธ์กับอัตรา
00:00:44 → 00:00:46 การตายที่ลดน้อย
00:00:46 → 00:00:50 ลงฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:50 → 00:00:54 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:54 → 00:00:57 This Is tha PBS podcast เอาล่ะค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 คุณผู้ฟังวันนี้เราจะมาติดตามเรื่องของ
00:01:00 → 00:01:04 ความลับนะคะโอ้โหวันนี้ Secret มากเลยนะ
00:01:04 → 00:01:06 ไม่ได้มากล่องจุ่มกล่องสุ่มอะไรนะคะแต่
00:01:06 → 00:01:09 เป็นความลับที่เกี่ยวกับโปรตีนจากพืชเอ๊ะ
00:01:09 → 00:01:11 หรือเราต้องสุ่มเพื่อให้ได้โปรตีนนี่มัน
00:01:11 → 00:01:13 มีความลับอะไรอ่ะพืชมันมีความลับด้วยเหรอ
00:01:14 → 00:01:16 ไม่ได้เดี๋ยวเราต้องมาไขความลับกันกับผู้
00:01:16 → 00:01:18 ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชจาก
00:01:18 → 00:01:21 วิทยาลัยการแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัย
00:01:21 → 00:01:23 ธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ค่ะ
00:01:23 → 00:01:26 สวัสดีครับวันนี้มาออกแนวกล่องสุ่มกล่อง
00:01:26 → 00:01:29 จุ่มกันเลยทีเดียวกับโปรตีนจากพืชเออพืช
00:01:29 → 00:01:32 มันก็มีหลากหลายเนาอาจารยเนาอืโปรตีนจาก
00:01:32 → 00:01:35 พืชไม่ใช่โปรตีนจากเนื้อสัตวหรอทำไมเป็น
00:01:35 → 00:01:39 โปรตีนจากพืชเออโปรตีนก็คือโปรตีนอือ
00:01:39 → 00:01:42 โปรตีนโปรตีนก็คือโปรตีนอย่างก่อนอื่น
00:01:42 → 00:01:44 ต้องบอกคุณผู้ฟังก่อนว่าโปรตีนก็เป็น
00:01:44 → 00:01:47 หนึ่งในสารอาหารหลักที่สำคัญสำหรับสุขภาพ
00:01:47 → 00:01:50 ร่างกายของเราเนาะเพราะว่าโครงสร้างร่าง
00:01:50 → 00:01:54 กายของเราคอลลาเจนผิวผมเล็บนะการทำงานของ
00:01:54 → 00:01:57 เอนไซม์ทั้งหลายแหล่เอ่อภูมิคุ้มกันใน
00:01:57 → 00:02:00 ร่างกายล้วนแล้วจะต้องอาศัยโปรตีนหเลยค่ะ
00:02:00 → 00:02:04 นะในการที่จะทำหน้าที่ทำงานงั้นแล้วเนี่ย
00:02:04 → 00:02:06 ถ้าเราขาดโปรตีนโปรตีนมันก็จะมีปัญหา
00:02:06 → 00:02:10 และอืนะครับเราก็จะอาจจะแบบอ่อนเพลีย
00:02:10 → 00:02:14 เหนื่อยง่ายผมร่วงนะลงพุงก้ามหดหมดแรงเตะ
00:02:14 → 00:02:18 ปี๊บไม่ดังเรี่ยวแรงไม่มีนะทำไมฟังแล้ว
00:02:18 → 00:02:20 เป็นตัวเองหมดเลยมันก็มีผลหมดเลยว่าเฮ้ย
00:02:20 → 00:02:23 โปรตีนวันนึงฉันกินถึงมยแล้วโปรตีนมันก็
00:02:23 → 00:02:26 มีทั้งพืชะโปรตีนทั้งมาจากสัตว์เนาะยังไง
00:02:26 → 00:02:30 มันก็คือโปรตีนเหมือนกันหมดแต่แค่ว่า
00:02:30 → 00:02:32 โปรตีนเนี่ยนะอาจารย์ต้องบอกก่อนว่าโครง
00:02:32 → 00:02:35 สร้างโมเลกุลของมันเนี่ยคือกรดอะมิโนคุณ
00:02:35 → 00:02:38 รีคงเคยได้ยินคำว่ากรดอะมิโนอ่าอาจารย์
00:02:38 → 00:02:41 เปรียบโปรตีนเนี่ยประดุจดังเอ่อสร้อยไข่
00:02:41 → 00:02:44 มุกสร้อยไข่มุกของคุณหญิงคุณนายเห็นมั้ย
00:02:44 → 00:02:46 ครับสร้อยสายยาวๆอ่ะแต่ละเม็ดมุกเนี่ยคือ
00:02:46 → 00:02:51 กรดอะมิโนโปตีถูกต้องเลยโปรตีนก็คือกรด
00:02:51 → 00:02:54 อะมิโนที่ร้อยเรียงต่อกันเป็นสายยาวแล้ว
00:02:54 → 00:02:56 แล้วกดอมิโนแต่ละเม็ดก็เหมือนกับเม็ดมุก
00:02:56 → 00:02:58 แต่ละเม็ดแต่ละเม็ดแต่ละเม็ดร้อยเรียงกัน
00:02:58 → 00:03:02 ถ้วยพันธะเปปไทวิทยาศาสตร์เเรียกเฮ้ย
00:03:02 → 00:03:04 พันธะเปปไทนะก็เหมือนสายสร้อยไข่มุกที่
00:03:04 → 00:03:07 ร้อยเรียงเม็ดมุกแต่ละเม็ดแต่ละเม็ดนะ
00:03:07 → 00:03:10 ซึ่งกรดอะมิโนเนี่ยจะมีอยู่ด้วยกัน 20
00:03:10 → 00:03:13 ชนิดอูอ่าที่ร้อยแต่ละเม็ดมุกเนี่ยมีรูป
00:03:13 → 00:03:17 ร่างหน้าตาแตกต่างกันไปนะ 20 ชนิดมี 10
00:03:17 → 00:03:19 ชนิดที่มีความจำเป็นจำเป็นต้องกินเพราะ
00:03:19 → 00:03:21 ร่างกายสร้างขึ้นไม่ได้ที่เขาเรียกว่าอ๋อ
00:03:21 → 00:03:24 กรดอะมิโนที่จำเป็นอ่ากับกดอะมิโนที่ไม่
00:03:24 → 00:03:27 จำเป็นเพราะร่างกายสร้างขึ้นได้อ่ารวม
00:03:27 → 00:03:31 เป็น 20 ชนิดทนี้ถ้าเรากินโปรตีนจากสัตว์
00:03:32 → 00:03:35 และผลิตภัณฑ์จากสัตว์นะเนื้อนมไข่อพวกนี้
00:03:36 → 00:03:39 เป็นเอ่อโปรตีนที่เราเรียกว่า compete
00:03:39 → 00:03:43 โปรตีน compte แปลว่าครบถ้วนสมบูรณ์อ่า
00:03:43 → 00:03:47 คือมีกรดอะมิโนครบทุกชนิดถ้าเรากินโปรตีน
00:03:47 → 00:03:51 จากเนื้อสัตว์อือ่าและผลิตภัณฑ์ก็คือ
00:03:51 → 00:03:55 เนื้อนมไข่นะครับเราจะได้ compte โปรตีน
00:03:55 → 00:03:57 ได้กดอะมิโนที่จำเป็นครบหมดเลยแต่ในขณะ
00:03:57 → 00:04:00 เดียวกันถ้าเรากินโปรตีนจากพืชอือึมันจะ
00:04:00 → 00:04:04 เป็น incomplete โปรตีนอ่าไม่ครบไม่ครบ
00:04:04 → 00:04:07 อาฮะอ่าให้กดอะมิโนไม่ครบหรือมีครบแหละ
00:04:07 → 00:04:10 แต่บางตัวมีอยู่น้อยเขาเรียก limiting
00:04:10 → 00:04:14 amino Acid เป็น limited edition เออ
00:04:15 → 00:04:17 เป็นแบบพ limited อ่ะมีอยู่น้อยนะมีอยู่
00:04:17 → 00:04:20 จำกัดในพืชนั้นๆเมื่อเทียบกับไข่งั้นแล้ว
00:04:20 → 00:04:23 เนี่ยถ้าอยากที่จะได้รับกดอะมิโนที่
00:04:23 → 00:04:27 จำเป็นใกล้เคียงหรือเหมือนกันกับที่เรา
00:04:27 → 00:04:30 กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์ค่ะค่ะแต่เรากิน
00:04:30 → 00:04:34 พืชอ่ะเช่นฉันกินถั่วอืฉันก็ต้องกินให้
00:04:34 → 00:04:38 หลากหลายชนิดค่ะนะเพราะแต่ละชนิดของพืชจะ
00:04:38 → 00:04:42 มีกรดอะมิโนจำเป็นเนี่ยที่มีอยู่น้อย
00:04:42 → 00:04:45 เนี่ยแตกต่างกันไปนะเช่นเธอมีตัวนี้อยู่
00:04:45 → 00:04:48 น้อยนะแต่ตัวที่เธอมีอยู่น้อยอ่ะฉันมี
00:04:48 → 00:04:53 เยอะอือ่าตัวที่ฉันขาดอ่ะหรือฉันมีน้อย
00:04:53 → 00:04:57 เนี่ยเธอมีเยอะฉะนั้นเรากินร่วมกันเค้า
00:04:57 → 00:05:01 เรียก complimentary โปรตีนอ่าโครงการนึง
00:05:01 → 00:05:04 ในสมัยโบราณกาของกระทรวงสาธารณสุขบ้านเรา
00:05:04 → 00:05:06 เนี่ยเามีโครงการข้าวถั่ว
00:05:06 → 00:05:10 งาข้าวถั่วงาคืออะไรให้กินข้าวใส่ถั่วใส่
00:05:10 → 00:05:14 งาเพราะอะไรเพราะข้าวมีกรดอะมิโนแอซิดบาง
00:05:14 → 00:05:17 อย่างเนี่ยจำเป็นที่จำเป็นน่ะมีอยู่น้อย
00:05:17 → 00:05:21 แต่ในถั่วเนี่ยมีก็กินร่วมกันออกับงาอ่า
00:05:21 → 00:05:24 ฉะนั้นแล้วเนี่ยถ้าเรากินแพนเบสหรือ
00:05:24 → 00:05:27 โปรตีนจากพืชเราจะต้องมีพืช 2-3 ชนิดขึ้น
00:05:27 → 00:05:30 ไปเพราะแต่ละชนิดมันจะช่วยเติมเต็มซึ่ง
00:05:30 → 00:05:34 กันและกันอ๋อไม่น่าเวลาที่เราไปร้านที่
00:05:34 → 00:05:38 ขายพวกแบบแนวแบบเ่อเค้าเรียกอะไรเพื่อสภา
00:05:38 → 00:05:42 พวกเจียนพวกแผนเบสผักเยอะๆพืชเพียบเลยมัน
00:05:42 → 00:05:46 จะมีหลากหลายใช่อันนั้นก็จะช่วยเติมเต็ม
00:05:46 → 00:05:48 ซึ่งกันและกันไงอเพื่อให้มันใกล้เคียงกัน
00:05:48 → 00:05:52 กับโปรตีนจากเนื้อสัตว์เพราะโปรตีนจาก
00:05:52 → 00:05:54 เนื้อสัตว์ขึ้นชื่อว่าให้กดอะมิโนจำเป็น
00:05:54 → 00:05:57 ครบถ้วนเราก็ไม่อยากขาดเลยสักตัวทั้งครบะ
00:05:57 → 00:05:59 เอ้ทั้งจำเป็นไม่จำเป็นเราอยากที่จะจะได้
00:05:59 → 00:06:02 รับหมดแต่พืชอ่ะมันไม่มีหมดไงอืมันคือข้อ
00:06:03 → 00:06:05 จำกัดงั้นแล้วเนี่ยแต่ละพืชก็กินร่วมกัน
00:06:05 → 00:06:08 ค่ะอย่างเวลากินถั่วต้มอ่ะอาจารย์จะกิน
00:06:08 → 00:06:11 กับข้าวโพดต้มนะเอ้าจริงหรออาจารย์อ้า
00:06:11 → 00:06:13 เพราะว่าตัวที่ถั่วมีอยู่น้อยข้าวโพดมี
00:06:13 → 00:06:16 เยอะตัวที่ข้าวโพดมีอยู่น้อยถั่วมีเยอะ
00:06:16 → 00:06:18 ฉะนั้นแล้วเวลากินข้าวโพต้มกับตั่วต้ม
00:06:18 → 00:06:20 เนี่ยเป็น complimentary โปรตีนนี่คือ
00:06:20 → 00:06:23 ความรู้โภชนาการขั้นสูงที่พ่อค้าแม่ขาย
00:06:23 → 00:06:26 ถั่วต้มและข้าวโพดต้มอาจไม่รู้ซึ่งมันไม่
00:06:26 → 00:06:31 เคยอยู่ด้วยกันเลยค่ะเวลาแผงก็มีนะเออหา
00:06:31 → 00:06:34 ยากมากยิ่งอยู่ในจุดบางแหล่งที่มันแบบไม่
00:06:34 → 00:06:37 มีอย่างบางทีก็จะมีข้าวโพดใช่มั้ยคะมี
00:06:37 → 00:06:41 ครับผมกล้วยอ่าเออแล้วก็มีอะไรอ่ะที่มัน
00:06:41 → 00:06:44 จะแห้งๆเหมือนกินอาหารนกอ่ะอารมณ์ประมาณ
00:06:44 → 00:06:47 นั้นมันจะแบบฝืดๆคอหน่อยใช่ๆบางบางที่ก็
00:06:47 → 00:06:49 จะมีแค่ถั่วต้มอย่างเดียวเลยไม่ไม่มี
00:06:50 → 00:06:52 อย่างอื่นเลยที่อาจารย์บอกข้าวโพดต้มแม
00:06:52 → 00:06:54 กระทั่งถั่วเราก็ต้องกินถั่วแหละหลากหลาย
00:06:54 → 00:06:57 ชนิดไงบางคนเห็นมั้ยครับที่เากินพวกวี
00:06:57 → 00:07:00 แก่นแพ่นเบสบางทีเหุงข้าวอ่ะอค่ะเอาเมล็ด
00:07:00 → 00:07:05 เจียร์ใส่เอาเฟกซีดใส่เอาคีนัวใส่ใเพื่อ
00:07:05 → 00:07:08 อะไรเพื่อให้มันมีกรดอะมิโนที่จำเป็น
00:07:08 → 00:07:11 เนี่ยครบก็รู้นะว่ามีประโยชน์อ่ะแต่มัน
00:07:11 → 00:07:13 กินยากอ่ะก็กินยากทุกวันนี้เขาก็เลยกิน
00:07:14 → 00:07:18 ไอ้โปรตีนฉงๆไอ้ผงๆเชคๆกันน่ะเป็นผงๆอ่ะ
00:07:18 → 00:07:20 อันนี้ก็ซื้อมาเอาจริงๆโปรตีนพืชเห็นมย
00:07:20 → 00:07:22 แล้วคุณลีต้องมีเทคนิคในการดูว่าเฮ้ยวัน
00:07:22 → 00:07:24 นี้คุณผู้ฟังคุณลีมีความรู้แล้วว่าต้อง
00:07:24 → 00:07:27 เป็นพืชหลายชนิดอืแล้วพืชชนิดไหนล่ะที่
00:07:27 → 00:07:30 ใกล้เคียงกับโปรตีโปีนในสัตว์ซึ่งโปรตีน
00:07:30 → 00:07:33 จากสัตว์เนี่ยเช่นที่เขาเช็คๆเป็นผงนะ
00:07:33 → 00:07:37 ครับค่ะเวโปรตีนรู้จักใช่มั้ยครับเว
00:07:37 → 00:07:40 โปรตีนอกำลังฮิตกันอยู่เลยช่วยในการเสริม
00:07:40 → 00:07:43 สร้างมวลกล้ามเนื้อแล้วมันมีกรดอะมิโนที่
00:07:43 → 00:07:46 เราเรียกว่า br chain อิโน Acid หรือ
00:07:46 → 00:07:50 bcaa นะครับอยู่สูงไอ้เจ้าบนอมินแอซิด
00:07:50 → 00:07:53 เนี่ยมันก็จะเป็นกลุ่มของอมิโนแอซิดนะที่
00:07:53 → 00:07:55 มีอยู่ 3 ตัวด้วยกันที่เราเรียก bcaa
00:07:55 → 00:07:58 เนี่ยคือลิวซีนไอโซลิวซีนวารีนพวกนี้เวลา
00:07:58 → 00:08:01 เรากินเข้าไปแล้วเนี่ยไอ้กรดอะมิโนเหล่า
00:08:01 → 00:08:03 เนี้ยมันจะวิ่งไปตรงเข้าสู่กล้ามเนื้อ
00:08:03 → 00:08:05 เพื่อไปเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อเสริม
00:08:05 → 00:08:07 สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้ออืทั้ง
00:08:07 → 00:08:09 Muscle mas Muscle Strength ทำให้
00:08:09 → 00:08:11 กล้ามเนื้อเนี่ยเฮ้ยมันแข็งแรงแต่ไอ้
00:08:11 → 00:08:14 โปรตีนเนี้ยมันอยู่เยอะในเเเนี่ยเป็น
00:08:14 → 00:08:17 โปรตีนที่พบในนมค่ะงั้นแล้วเนี่ยเขาก็
00:08:17 → 00:08:21 สกัดออกมาอ่าซึ่งถ้าให้โปรตีนเข้มข้นสูง
00:08:21 → 00:08:24 สูงเนี่ยเาเรียกเโปรตีนไอโซเลตคือแยก
00:08:25 → 00:08:29 โปรตีนออกมาสูงสุดถึง 95% อืนะแต่เวพวก
00:08:30 → 00:08:31 เนี้ยเรารู้ว่าเฮ้ยกินแล้วกล้ามเนื้อแข็ง
00:08:31 → 00:08:34 แรงนะเสริมสร้างโปรตีนได้แล้วก็ให้กรด
00:08:34 → 00:08:37 อะมิโนจำเป็นครบถ้วนเป็นคพทโปรตีนแต่พอ
00:08:37 → 00:08:40 พืชปุ๊บอ้าวเธอมีไม่เหมือนกับเวนะเค้าก็
00:08:40 → 00:08:43 พยายามมีการศึกษาวิจัยว่าพืชชนิดไหนให้ผล
00:08:43 → 00:08:46 ไม่ต่างกับเวนะครับจน
00:08:46 → 00:08:49 เอ่อศึกษาในคนเลยนะให้คนกินแล้วเทียบ
00:08:49 → 00:08:51 กลุ่มนึงกินเวกลุ่มนึงกินไอ้นี่วัดมวล
00:08:51 → 00:08:53 กล้ามเนื้อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
00:08:53 → 00:08:56 สมรรถนะในการออกกำลังเขาก็พบว่าโปรตีนจาก
00:08:56 → 00:08:59 ถั่วเหลืองหรือซอยโปรตีนไอโซเลตอืให้
00:08:59 → 00:09:04 คุณภาพใกล้เคียงกับเวโปรตีนอ๋ออ่าแล้ว
00:09:04 → 00:09:07 ถั่วเหลืองกินนมถั่วเหลืองอย่างเงี้ยอ่า
00:09:07 → 00:09:09 ก็ให้คุณภาพใกล้เคียงกับเวโปรตีนในแง่ของ
00:09:09 → 00:09:14 โปรตีนนะอ่าแล้วก็ถั่วลันเตาถั่วลันเตา P
00:09:14 → 00:09:16 โปรตีนเคยได้ยินใช่มั้ยครับพโปรตีนถั่ว
00:09:16 → 00:09:19 ลันเตาถั่ลันเตาสีทองนะ 2 ตัวนี้จะให้
00:09:19 → 00:09:22 เอ่อกรดอะมิโนแอซิดที่เราเรียกว่า bcaa
00:09:22 → 00:09:23 ที่ช่วยเสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อเนี่ยอยู่
00:09:24 → 00:09:28 ที่ประมาณ 20% อืเเนี่ยมันประมาณ 25% ของ
00:09:28 → 00:09:35 BC อเพราะพืบางิดมีอยู่แค่ 5 6 7 8
00:09:35 → 00:09:40 นะไม่ถึง 10 น้อยจังน้อยมากแล้วนอกจาก
00:09:40 → 00:09:42 ถั่วเหลืองถั่วลันเตาเนาะ
00:09:42 → 00:09:48 อัลมอนอ่าก็ให้คุณภาพของโปรตีนเนี่ยคือ
00:09:48 → 00:09:52 ใกล้เคียงนะไม่ต่างกับการกินเอ่อเวโปรตีน
00:09:52 → 00:09:55 ที่เป็นผงเสริมแล้วก็โปรตีนจากข้าวก็มี
00:09:55 → 00:09:58 งานวิจัยข้าวนะข้าวเนี่ยมีโปรตีนนะครับ
00:09:58 → 00:10:00 ทุกวันนี้เรากินข้าวเนี่ยเราไม่ได้แต่
00:10:00 → 00:10:02 แป้งนะคุลีเราได้โปรตีนด้วย 1 ทัพพีเนี่ย
00:10:02 → 00:10:05 อาจจะได้โปรตีนสัก 2 กรัมไม่ได้เยอะโออ่า
00:10:05 → 00:10:08 แต่เขาสกัดโปรตีนออกมาจากข้าวไงเพื่อเอา
00:10:08 → 00:10:11 มาใช้ในอุตสาหกรรมอาหารเพราะบางคนแพ้อะไร
00:10:11 → 00:10:15 ครับแพ้นมแพ้โปรตีนในนมนมบัวกินไม่ได้
00:10:15 → 00:10:17 อ้าวงั้นแพ้โปรตีนจากถั่วอ้าถั่วเหลือง
00:10:17 → 00:10:19 ถั่วลันเตาถั่วอะไรที่อาจารย์ว่ามาไม่ได้
00:10:19 → 00:10:23 แต่นมข้าวเขากินได้เขาก็ได้โปรตีนจากข้าว
00:10:23 → 00:10:25 แต่ผออื่นแคลเซียมมันน้อยก็ต้องอาศัยการ
00:10:25 → 00:10:29 fortify แคลเซียมคือเอ่อผู้ประกอบการอุา
00:10:29 → 00:10:32 การอาหารก็เติมแคลเซียมเข้าไปเพื่อทำให้
00:10:32 → 00:10:35 ค่ะผู้บริโภคเนี่ยได้โปรตีนโดยที่ไม่แพ้
00:10:35 → 00:10:39 เหมือนถั่วเหมือนกับนมวัวอ๋อและได้
00:10:39 → 00:10:43 แคลเซียมไม่น่าล่ะผลิตภัณฑ์มันเยอะเต็มม
00:10:43 → 00:10:46 คือมาถ้าเราไปเดินเนี่ยเมาเลยตอบโจทย์คือ
00:10:46 → 00:10:50 แต่ละแต่ละคนบเออาจจะแพถูกใช่โปรตีนเออ
00:10:50 → 00:10:53 หรือแบบกินนมถั่วเหลืองไม่ได้นะโอ้โหเห็น
00:10:53 → 00:10:56 มั้ยครับอแล้วเนี่ยบางคนแพ้นมวัวงั้นกิน
00:10:56 → 00:10:59 นมถั่วเหลืองอบางคนแพ้นมถั่วเหลืองอ้ากิน
00:10:59 → 00:11:04 นมข้าวบางคนนแคโปรตีนจะข้าวไปกินนมะเอ่อ
00:11:04 → 00:11:09 มันกินนมพืชฟักทองเค้ามีโปรตีนสกัดจากพืช
00:11:09 → 00:11:13 เหล่านี้ด้วยนะฮะโหเยอะไปไหนเนี่ยอ่ามี
00:11:13 → 00:11:16 สารพัดจบรายการจบรายการนี้ต้องไปเดิน
00:11:16 → 00:11:18 ซุปเปอร์แล้วล่ะไปดูไปเดินดูแล้วลไปดูได้
00:11:18 → 00:11:21 เลยอาจารย์บอกเลยบางคนเนี่ยแบบไม่รู้เอๆ
00:11:21 → 00:11:24 ที่ที่ฟังเรา 2 คนน่ะเ้าเมีขนาดนี้เลย
00:11:24 → 00:11:27 เหรออาจารย์ถึงบอกตลอดว่าเพราะมองหาจึง
00:11:27 → 00:11:30 มองเห็นอถูกมั้ยครับจริงๆถ้าเราไม่มองหา
00:11:30 → 00:11:33 เราเห็นมค่ะฉันเคยซื้ออย่างเงี้ก็ซื้อ
00:11:33 → 00:11:36 อย่างเงี้ยทุกตลอดฉันเคยซื้อนมอันนี้กับ
00:11:36 → 00:11:38 อันเนี้ยโหก็หรือซื้อข้าวแบบนี้ก็
00:11:38 → 00:11:40 อันเนี้ยซื้อน้ำมันแบบเก็แบบเนี้ยเวลาไป
00:11:40 → 00:11:44 ซุปเปอร์มาร์เก็ตทำไมเราไม่ลองมองหาอือ่า
00:11:44 → 00:11:48 เฮ้ยวันนี้เราฟังแล้วในรายการโรงหมอเรา
00:11:48 → 00:11:51 รู้แล้วว่าเฮ้ยนมสารพัดนมเราต้องเลือกอ่า
00:11:51 → 00:11:55 หาแล้วว่าเฮ้ยที่มันใกล้เคียงกับโปรตีน
00:11:55 → 00:11:58 จากนมบัวนะอ่ามันมีอะไรบ้างนมถั่วเหลือง
00:11:59 → 00:12:02 นมนมเอ่อถั่วลั่นเต้าอย่างเงี้ยมันก็จะ
00:12:02 → 00:12:04 ได้เลือกได้แล้วบางอย่างมันต้องคอมบาย
00:12:04 → 00:12:08 ชนิดของพืชกันเช่นที่อาจารย์บอกนมโอ๊ตมี
00:12:08 → 00:12:12 แคลเซียมสูงแต่โปรตีนต่ำมาก 1 กล่องเนี่ย
00:12:12 → 00:12:15 โปรตีนอาจจะ 1 กรัมน้อยมากซึ่งนมวัวเนี่ย
00:12:15 → 00:12:19 7 กรัมออ่าแต่ในขณะที่นมถั่วเหลืองเอ้ย
00:12:19 → 00:12:21 ให้โปรตีนใกล้เคียงกับนมวัวแต่แคลเซียม
00:12:21 → 00:12:24 ต่ำครับนมถั่วเหลืองว่าเช้ากินนมถั่ว
00:12:24 → 00:12:27 เหลืองเย็นกินนมโอ๊ดได้ถูกต้องหรือเอาผสม
00:12:27 → 00:12:29 กันเลยอย่างที่อาจารย์บางทีอาจารย์อยาก
00:12:29 → 00:12:32 กินกาแฟเนี่ยปกติอาจารย์เป็นคนกินกาแฟดำ
00:12:32 → 00:12:34 แต่บางทีเนี่ยเฮ้ยฉันอยากกินอะไรนัวๆมั่ง
00:12:34 → 00:12:38 เออนัวๆคือมีความครีมมี่มีความมันกมก
00:12:38 → 00:12:40 หน่อยรสึกได้อาจารย์บอกที่ร้านใส่นมถั่ว
00:12:40 → 00:12:44 เหลืองและนมโอ๊ตอืเป็น complimentary
00:12:44 → 00:12:47 โปรตีนด้วยผสมให้ได้กดอะมิโนที่จำเป็นครบ
00:12:47 → 00:12:50 แล้วอาจารย์ก็ยืมมือแคลเซียมมาจากนมโอ๊ต
00:12:50 → 00:12:54 ยืมมือโปตีโปรตีนมาจากนม่เรืองเออๆเออดีๆ
00:12:54 → 00:12:58 ๆเรากินช็อกโกแลตกินโกโก้สูตรนี้เลยอุ๊ย
00:12:58 → 00:13:01 เดี๋ยวไปหามาใส่ดีกว่ากาแฟดำพยายามจะ
00:13:01 → 00:13:04 กำลังหัดกินกาแฟดำอยู่โอหัดกินได้เป็นดี
00:13:04 → 00:13:08 ครับแต่เข้าใจน้าๆเดือนนึงจะมีสักขนนึง
00:13:08 → 00:13:10 ที่อาจารย์อยากกินแบบ
00:13:10 → 00:13:16 โกโก้หรือกาแฟที่ใส่นมอืเพราะบางทีเราชอบ
00:13:16 → 00:13:19 เราอยากได้ความความมันไงบางทีตอนบ่าย
00:13:19 → 00:13:21 เนี่ยอ่าความมันไม่ใช่แบบอรรถรสเมามันนะ
00:13:21 → 00:13:25 ครับความมันคือแบบอยากได้นัวๆบ้างเย็นๆ
00:13:26 → 00:13:28 นัวๆหวานๆเย็นๆนัวๆเพราะเราไม่ต้องเติม
00:13:28 → 00:13:32 น้ำตาลเพิ่มนะเอน้ำตาลจาก 2 นมเ 2 นมนี่
00:13:32 → 00:13:34 แหละที่มันมีอยู่ตามธรรมชาติอยู่แล้วเขา
00:13:34 → 00:13:36 จะแบบ No added sua คือเขาไม่ได้เติม
00:13:36 → 00:13:39 น้ำตาลเข้าไปในอุตสาหกรรมอาหารเพิ่มค่ะ
00:13:39 → 00:13:42 แต่มันอาจจะมีน้ำตาลตามธรรมชาติที่มันมี
00:13:42 → 00:13:44 อยู่แล้วด้วยเราก็อาศัยความหวานตรงนี้นี่
00:13:44 → 00:13:47 แหละอือันนี้นอกเรื่องนิดนึงน่าจะไม่ได้
00:13:47 → 00:13:51 มีโปรตีนอยู่ในในอ่ากาแฟส้มแน่นอนโปรตีน
00:13:52 → 00:13:54 ไม่น่าอยู่ในส้มอะไรอย่างเงี้ยอือฮึคือ
00:13:54 → 00:13:58 หลายๆร้านเนี่ยเขาใช้น้ำส้มจากแบบไม่ใช่
00:13:58 → 00:14:01 คันสดอ่ะกล่องในในกล่องในขวดอะไรว่าไปอ่ะ
00:14:01 → 00:14:03 คือเหมือนจะดูดูแลสุขภาพเนาะกลายเป็นว่า
00:14:04 → 00:14:07 เ้าไม่ใช่หนักกว่าเดิมอีกความหวานน่ะความ
00:14:07 → 00:14:11 หวานคือถ้าให้เลือกก็มันก็หวานเยอะแล้ว
00:14:11 → 00:14:13 หวานในปัจจุบันเนี่ยจากผลไม้เนี่ยส่วน
00:14:13 → 00:14:16 ใหญ่มันก็จะมาจากฟรุกโตสซึ่งเรารับมากไป
00:14:16 → 00:14:18 ก็ไม่ดีครับเพราะฟรุ๊กโตสเนี่ยมันเปลี่ยน
00:14:18 → 00:14:22 ไปเป็นเอ่อไตรกีซาไลน์ทำให้ไขมันในเลือด
00:14:22 → 00:14:25 เราสูงค่ะแล้วก็ไปสะสมที่ต้นแขนต้นขาหน้า
00:14:25 → 00:14:28 ท้องช่องพุงของเราเปลี่ยนไปเป็นยูริกทำ
00:14:28 → 00:14:31 ให้แบบเก๊ากำเริบได้หวายเห็นมยแล้วเนี่ย
00:14:32 → 00:14:35 เนี่ยมันก็โอหไม่แนะนำแต่อาจารย์
00:14:35 → 00:14:38 ไม่ไม่ใช่ว่าไม่ให้กินนะครับมันก็มี
00:14:39 → 00:14:41 ประโยชน์ถ้าสมมุติว่าเราแบบเฮ้ยวันนี้ไม่
00:14:41 → 00:14:45 ค่อยได้กินอะไรแล้วต้องการแบบเพลียิดนอ่า
00:14:45 → 00:14:47 มันก็ขึ้นมาทันทีเลยหรือคนไข้ผู้ป่วยบาง
00:14:47 → 00:14:50 อย่างเงี้ยคนไข้มาเร็งผู้สูงอายุที่มี
00:14:50 → 00:14:52 ปัญหาบดเคี้ยวกินแน่นอนอันนั้นมันก็มี
00:14:52 → 00:14:55 ประโยชน์ออือสำหรับภาวะสุขภาพสำหรับแต่ละ
00:14:55 → 00:14:59 บุคคลอ่าแต่ถ้าเกิดว่าเราแบบเฮ้ยเฮ้ยยัง
00:14:59 → 00:15:02 เคี้ยวได้ดีก็เคี้ยวไปเถอะครับคือจะสามจะ
00:15:02 → 00:15:05 มันมันมีไฟโบ้งไฟเบอร์ด้วยถ้าเรากินในลูก
00:15:05 → 00:15:09 ผลไม้สสดใช่เราไม่ต้องไปกินสะโก่งสกัด
00:15:09 → 00:15:11 หรอกแต่ก็ไม่ได้แอนตี้ว่ากินไม่ได้เรากิน
00:15:11 → 00:15:14 ได้แต่ก็ไม่อยากให้กินในชีวิตประจำวันแบบ
00:15:14 → 00:15:16 ทุกวันทุกวันเพราะอย่าลืมว่ามันก็มีน้ำ
00:15:16 → 00:15:20 ตาลอยู่อืถ้าเราเรากินเป็นผลเลยเนี่ย
00:15:20 → 00:15:25 คุณลีได้กากส้มเนี่ยเพียบเลยนะกากใหญ่อ่ะ
00:15:25 → 00:15:28 ได้สารพฤกษสักเคมีที่อยู่ในส้มพวกานอย
00:15:28 → 00:15:30 เป็นแอนตี้ออกซิ dan แี้อมแบบเยอะมากมี
00:15:30 → 00:15:33 ประโยชน์เยอะมากเราไม่ต้องไปกลัวความเป็น
00:15:33 → 00:15:37 พิษจากน้ำตาลแฝงที่อยู่ในผลไม้มากถ้าเรา
00:15:37 → 00:15:42 กินผลไม้สดค่ะไปเอ่อในส่วนที่มันกินได้นะ
00:15:42 → 00:15:45 อ่ายกเว้นแต่ผลไม้บางอย่างที่อาจจะต้อง
00:15:45 → 00:15:51 ควบคุมอย่างทุเรียนนะรำไยลิ้นจี่นึกออก
00:15:51 → 00:15:53 มั้ยครับอันนั้นมันก็ทำมมีน้ำตาลแฝงสูง
00:15:53 → 00:15:55 แต่ไม่ใช่ว่าเฮ้ยกินไม่ได้อ่าเราก็กินได้
00:15:55 → 00:15:58 แต่ว่าไอ้ปริมาณจำกัดหน่อยอย่างฝรั่งชมพู
00:15:58 → 00:16:00 แอปเปิ้ลแก้วมังกรอันนี้ก็จะกินได้แบบ
00:16:00 → 00:16:03 เยอะหน่อยเพราะมันไม่ได้หวานมากเราก็ได้
00:16:03 → 00:16:05 ไฟเบอร์อย่างเงี้ยครับคือเหมือนจริงๆมัน
00:16:05 → 00:16:08 ต้องมีบ้างในร่างกายคืออ่าความน้ำตาล
00:16:08 → 00:16:10 โซเดียมนู่นนี่ไขมันอะไรคือร่างกายมัน
00:16:10 → 00:16:13 ต้องมีอยู่บ้างไม่ใช่ว่าไม่มีเลยศูย์จะมา
00:16:13 → 00:16:16 เป็นศูนยทุกอย่างได้อาจารย์บอกเลยสาร
00:16:16 → 00:16:20 อาหารเนี่ยมันคือสารที่ที่เอ่อจำเป็น
00:16:21 → 00:16:23 สำหรับร่างกายของเราสารอาหารเนี่ยทุกตัว
00:16:23 → 00:16:26 นะต้องมีอน้ำตาลถ้าเราไม่มีเราก็ไม่
00:16:26 → 00:16:28 สามารถที่จะผลิตพลังงานได้นะให้กับร่าง
00:16:28 → 00:16:30 กายของเราได้ตาย 5 กันพดีเลยครับคุณผู้
00:16:30 → 00:16:34 ฟังมันไม่ได้นะครับมันต้องมีครับน้ำตาล
00:16:34 → 00:16:37 ยังไงเราก็ต้องมีครับไม่งั้นไม่มีไม่ได้
00:16:37 → 00:16:39 เราก็ต้องเราก็ต้องกินแต่แค่ว่าเราอาจจะ
00:16:39 → 00:16:42 ไม่ได้กินน้ำตาลโดยตรงเรากินข้าวกินแป้ง
00:16:42 → 00:16:45 มันก็เป็นคาร์โบไฮเดรตซึ่งร่างกายก็จะถูก
00:16:45 → 00:16:47 ย่อยเป็นน้ำตาลมันก็ให้พลังงานสำหรับ
00:16:47 → 00:16:50 เซลล์ในร่างกายทุกเซลล์ค่ะเราต้องการพลัง
00:16:50 → 00:16:53 งานไขมันเราก็ต้องกินครับัวสมองเรามีอะไร
00:16:53 → 00:16:57 ครับมันสมองไม่ใช่ขี้เลื่อยนะครับีสมอง
00:16:57 → 00:16:59 ขี้
00:16:59 → 00:17:01 มันสมองที่มันเป็นส่วนของไขมันแล้วก็
00:17:02 → 00:17:05 เลือกไขมันดีอย่างเงี้ยพวกโอเมก้า 3 เอย
00:17:05 → 00:17:07 อะไรเอ่พวกนี้เห็นมั้ยครับแล้วแล้วกล้าม
00:17:07 → 00:17:10 เนื้อเราร่างกายของเราเป็นโปรตีนโซเดียม
00:17:10 → 00:17:13 ก็ต้องมีอยู่บ้างไม่ใช่ว่าต้องมีครับ
00:17:13 → 00:17:16 โซเดียมคือสารอาหารอ่ากินได้วันนึงไม่
00:17:16 → 00:17:19 เกิน 2,000 ไม่กินเลยไม่ได้ครับตายค่ะคุณ
00:17:19 → 00:17:22 รีตอนที่ไม่กินอาหารไม่ได้เข้าโรงพยาบาล
00:17:22 → 00:17:24 คุณรีให้อะไรครับน้ำเกลือถูกต้องน้ำเกลือ
00:17:25 → 00:17:27 คืออะไรครับก็โซเดียมไงถูกต้องเห็นมั้ย
00:17:27 → 00:17:30 มันช่วยชีวิตเราได้นะเออถูกมั้ยแต่เราอ่ะ
00:17:31 → 00:17:33 ไปกลัวมันเพราะเรากินมันมากเกินไงจริงๆ
00:17:33 → 00:17:36 แล้วเราอ่ะมันคือประโยชน์แต่เรากินเกินไป
00:17:36 → 00:17:38 ไงเรากินวันละ 4,000 มิลลิกรัมต่อวันไง
00:17:38 → 00:17:42 ทุกวันนี้พี่ไทยเรากินเกลือน้ำปลาโซเดียม
00:17:42 → 00:17:45 เนี่ยเกินเล็กคอมเมนต์ทบไปวันพรุ่งนี้เลย
00:17:45 → 00:17:47 กินเผื่อพรุ่งนี้ไงไม่ได้แล้วถึงเวลา
00:17:47 → 00:17:49 พรุ่งนี้เราก็ต้องไปกินกินแก้กรรมเพราะ
00:17:49 → 00:17:53 ว่าในในอดีตฉันกินเกินไงคือเพราะว่าเนี่ย
00:17:53 → 00:17:55 คุยกับหลายๆคนบอกว่าคือทุกคนก็พยายาม
00:17:55 → 00:17:57 ระวังนู่นนี่นั่นอะไรเงี้ยแต่เราเราก็คุย
00:17:57 → 00:17:59 บอกว่าเอ้ยจริงๆคุยกับาอาจารย์เอกราชมา
00:17:59 → 00:18:02 เนี่ยนะนักโภชนาการเลยนะโอ้โหต้องมีนะไม่
00:18:02 → 00:18:05 ใช่ไม่มีคือมีบ้างแต่อย่าให้มันเกินในแต่
00:18:05 → 00:18:08 ละวันมันกินได้หมดทุกอย่างอาจารย์เอกลักษ
00:18:08 → 00:18:11 ถึงย้ำเสมอว่าอยากกินต้องได้กินแต่แค่ว่า
00:18:11 → 00:18:14 ปริมาณที่กินความถี่ที่กินช่วงเวลาที่กิน
00:18:14 → 00:18:16 บริบทในวันนั้นที่กินอย่างเงี้ยเอหรือว่า
00:18:16 → 00:18:19 มีอะไรมาแบบหักล้างกันไปใช่ใช่ครับนี่
00:18:19 → 00:18:22 แหละถูกต้องเลยมันมีศิลปะไงในการกินน่ะ
00:18:22 → 00:18:25 มันมีทั้งศาสต์และศีลมันไม่ใช่ว่าเอ้ยออ้
00:18:25 → 00:18:27 นี่ก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้นะไปกินข้าวกับ
00:18:28 → 00:18:29 ลูกศิษย์อ
00:18:29 → 00:18:30 ไม่น่าชั่วอาจารย์เป็นอาจารย์โภชนาการ
00:18:30 → 00:18:33 อาจารย์กินหมดเลยทุกอย่างทำมั้ยเมื่อวาน
00:18:33 → 00:18:36 ลูกศิษย์เพิ่งทักไปอย่างงี้บอกอ้าอาจารย์
00:18:36 → 00:18:38 บอกแล้วว่ากินหมดทุกอย่างแต่ยังกินยังไง
00:18:38 → 00:18:40 ให้มันสุขภาพดีไงใช่ๆมันไม่ใช่ห้ามไปหมด
00:18:40 → 00:18:43 ทุกอย่างอแล้วยิ่งพ่อแม่ปู่ย่าตายายเรา
00:18:43 → 00:18:46 เราห้ามเขาเขาเป็นไงครับอืยิ่งยุเลย
00:18:46 → 00:18:49 เหมือนยิ่งยุแอบไปกินเลยพอลูกไม่อยู่นะ
00:18:49 → 00:18:52 อื้อหือแอบกินเต็มที่ไปหาหมอปุ๊บฉันไม่
00:18:52 → 00:18:55 ได้กินลูกมันห้าไว้แต่ว่าตรวจเจอใชอตรวจ
00:18:55 → 00:18:57 เจออย่างเงี้ยโป๊ะแตกจับได้ตบตาหมอไม่ได้
00:18:57 → 00:18:59 อย่างเงี้ยถ้าอย่างงั้นเนี่ยถ้าเกิด
00:18:59 → 00:19:01 สมมุติว่าเราจะต้องกินอะไรหลายๆอย่าง
00:19:01 → 00:19:02 อย่างที่ต้องกินอย่างเงี้ยเมื่อกี้
00:19:02 → 00:19:05 อาจารย์กินอ่านมข้าวโอ๊ตใช่มั้ยคะกับนม่ว
00:19:05 → 00:19:09 เหลืองมันจำเป็นต้องกินพร้อมๆกันในมื้อ
00:19:09 → 00:19:11 นั้นมยหรือว่าอ่ะอย่างของรีว่าเอ้ยตอน
00:19:11 → 00:19:15 เช้ากินนมโอ๊ตตอนเย็นถั่วเหลืองได้มยมัน
00:19:15 → 00:19:18 มันช่วยในวันนั้นก็ได้ได้ครับคิดเป็นวัน
00:19:18 → 00:19:21 คิดเป็นวันอ่าวันต่อวันมีเวมีการนอนมา
00:19:21 → 00:19:24 คั่นนอกจากเราไม่ได้
00:19:24 → 00:19:28 นอนคิดเป็นวันว่าในบริบท 1 วันของฉันฉัน
00:19:28 → 00:19:30 จะกินออันนี้กลางวันกินอ่าเช้าอาจจะกิน
00:19:31 → 00:19:33 ช่วงเบรกกินนมถั่วเหลืองบ่ายกินนมโอ๊ต
00:19:33 → 00:19:36 อย่างงั้นก็ได้เราคิดเป็นแบบเปอร์ Day
00:19:36 → 00:19:39 อ่ะอ่าหรือคุณรีจะกินพร้อมกันผสมกันก็ได้
00:19:39 → 00:19:42 ก็ไม่ได้ว่าอะไรตีตีรวมกันไปเลยเนาะเพราะ
00:19:42 → 00:19:45 โปรตีนจากพืชเนี่ยไอ้ที่มันมีๆอยู่เนี่ย
00:19:45 → 00:19:47 คือเราไม่ได้แค่โปรตีนอย่างเดียวนะทุกวัน
00:19:47 → 00:19:50 เนี้ยที่เรากินโปรตีนพืชเนี่ยหรือไอ้ผงชง
00:19:50 → 00:19:53 เอยยในนมเอบางทีเนี่ยเขาสกัดมาจากพืชใช่
00:19:53 → 00:19:56 มั้ครับค่ะมันจะได้ไฟเบอร์แถมมาได้
00:19:56 → 00:20:00 วิตามินแร่ธาตุแฝงมาด้วยค่ะอ่ามันไม่
00:20:00 → 00:20:03 เหมือนกับเนื้อสัตว์ที่มันสกัดโปรตีนออก
00:20:03 → 00:20:07 มาเนี่ยบางทีมันก็มีเฉพาะตัวโปรตีนนั้นๆ
00:20:07 → 00:20:10 เองเหมือนเขาสกัดเวมาจากนมอือมันก็จะเป็น
00:20:10 → 00:20:16 โมเลกุลของเวแต่ถ้าสกัดโปรตีนพืชนะมาจาก
00:20:16 → 00:20:18 ถั่วเหลืองถั่วลันเตาบางทีมันจะมีแร่ธาตุ
00:20:18 → 00:20:22 มีวิตามินปนเข้ามาอยู่อ่ามีไฟเบอร์ปนเข้า
00:20:22 → 00:20:25 มาอยู่คั้นแล้วโปรตีนพืชเนี่ยจริงๆแล้ว
00:20:25 → 00:20:27 เนี่ยมันมีการศึกษาวิจัยนะครับุีเปรียบ
00:20:27 → 00:20:30 เทียบระหว่างโปรตีนพืชกับโปรตีนสัตว์เขา
00:20:30 → 00:20:35 เป็นการศึกษาทางระบาดวิทยานะติดตามคนที่
00:20:35 → 00:20:40 กินโปรตีนพืชกับโปรตีนสัตว์ดูซิว่าใครตาย
00:20:40 → 00:20:43 ก่อนกันอ้าติดตามไปเลยเป็นระยะเวลา 10 ปี
00:20:43 → 00:20:46 คนหลายหมื่นคนเลยมี study เยอะมากนะ
00:20:46 → 00:20:48 ระหว่างกลุ่มที่กินโปรตีนพืชกับกลุ่มที่
00:20:48 → 00:20:53 กินโปรตีนสัตว์นะเขาเรียกฮอ study โคหอคอ
00:20:53 → 00:20:55 หดแต่ไม่ได้หดถอยหลังนะติดตามไปข้างหน้า
00:20:55 → 00:20:58 นะแล้วดู morality rate morality มทา
00:20:59 → 00:21:02 คือม่องเท่งออตายครับเรทอัตราตายทำไมต้อง
00:21:02 → 00:21:05 ดูการตายอ้าวก็ดูซิว่าเฮ้ยกลุ่มไหนเนี่ย
00:21:05 → 00:21:08 มันมีความสัมพันธ์กันอ่าดูดูได้แค่ความ
00:21:08 → 00:21:11 สัมพันธ์นะอ่าลักษณะการศึกษาแบบเนี้ยมัน
00:21:11 → 00:21:14 ไม่เหมือนแบบให้คนกินแล้วไปติดตามไม่ใช่
00:21:14 → 00:21:17 เหมือนอากาเหมือนกับเฮ้ยให้กินซิแล้วดูผล
00:21:17 → 00:21:20 เหือดผลน้ำตาลผลอะไรอันนี้มันดูได้แต่การ
00:21:20 → 00:21:24 ตายเนี่ยมันต้องติดตามนานไงอ่าเราจะไปให้
00:21:24 → 00:21:26 แบบทำการศึกษาทางคลินิกแบบอย่างงั้นเนี่ย
00:21:26 → 00:21:29 มันก็หูยาก
00:21:29 → 00:21:32 เก็เลยดูความสัมพันธ์อออ่าว่าคนที่กินแบบ
00:21:32 → 00:21:35 เนี้ยประจำกลุ่มคนที่กินเนื้อสัตว์เยอะ
00:21:35 → 00:21:38 เป็นประจำกับกลุ่มคนที่กินโปรตีนจากพืช
00:21:38 → 00:21:41 เนี่ยเป็นประจำแล้วติดตามไปเค้าพบว่า
00:21:41 → 00:21:45 กลุ่มที่กินโปรตีนจากเอ่อพืชเนี่ยมีความ
00:21:45 → 00:21:49 สัมพันธ์กับอัตราการตายที่ลดน้อยลงอ่ะอ่า
00:21:49 → 00:21:50 เพราะมันอาจจะอย่างที่อาจารย์บอกแหละว่า
00:21:50 → 00:21:53 พืชเี่มันมีไฟเบอร์อืมีไฟโตเคมิคอลสาร
00:21:53 → 00:21:56 พฤกษะเคมีมีวิตามินแร่ธาตุนะแต่ในเนื้อ
00:21:56 → 00:21:58 สัตว์เนี่ย
00:21:58 → 00:22:01 บางทีเนี่ยแหล่งในการกินเนี่ยมันมีไขมัน
00:22:01 → 00:22:05 อิ่มตัวแทรกอยู่ค่ะอ่ากินหมูติดมันกิน
00:22:05 → 00:22:07 อะไรอย่างเงี้ยนึกออกมั้ยครับอ่าหรือเอา
00:22:07 → 00:22:12 ไปแปรรูปยิ่งคนที่กินเนื้อแดงแปรรูปที่
00:22:12 → 00:22:16 เราเรียกว่าเอ่อ process R มีสเช่นไส้
00:22:16 → 00:22:22 กรอกแฮมอืเบคอนค่ะอ่าพวกเนี้ยาริ Rate
00:22:22 → 00:22:25 ยิ่งสูงครับสัมพันธ์กับการตายสูงอ๋ออแล้ว
00:22:25 → 00:22:28 ยิ่งกินโปรตีนเนื้อสัตว์จากกลุ่มของเนื้อ
00:22:28 → 00:22:32 แดงแปรรูปสูงบางคนชอบมากเลยทุกเช้ากินไส่
00:22:32 → 00:22:34 กรอกแคมเบคอน
00:22:34 → 00:22:37 กุนเชียงเคฟาสพวกเนี้ยนะอัตราการตายจะสูง
00:22:37 → 00:22:40 กว่าคนที่กินโปรตีนจากพืชเอออ่าแต่ไม่ใช่
00:22:40 → 00:22:44 ว่ากินไม่ได้นะก็กินได้แล้วเนี่ยโดยโดย
00:22:44 → 00:22:47 เอ่อสรุปเนี่ยอาจารย์มักจะแนะนำอย่างนี้
00:22:47 → 00:22:50 ว่าโปรตีนจากพืชคุณก็กินได้แต่ถ้าคุณกิน
00:22:50 → 00:22:53 สุดโต่งเลยกินพืชอย่างเดียวเลยคุณอาจจะ
00:22:53 → 00:22:58 ขาดวิตามิน B12 ซึ่งมันพบเฉพาะในสัตว์อ๋อ
00:22:58 → 00:23:01 ออคุณก็ต้องกินเสริมแต่บางคนกินแพนเบส
00:23:01 → 00:23:04 โปรตีนนะกินโปรตีนจากพืชนะแต่ฉันยังกิน
00:23:04 → 00:23:08 ปลาฉันยังกินไข่จบเลยหรือกินนมคุณก็ไม่
00:23:08 → 00:23:11 ขาดออ่าแต่ถ้าคุณกินเนื้อสาตอย่างเดียว
00:23:11 → 00:23:14 คุณอาจจะขาดไฟเบอร์ถูกมั้ยคะเพราะมันพบใน
00:23:14 → 00:23:18 พวกพืชผักแต่คุณเล่นแบบกินแต่เนื้อ
00:23:18 → 00:23:23 สัตว์เออกินไก่กินเอ้ยกินหมูกินวัวกินแพะ
00:23:23 → 00:23:27 กินแกะเนื้อสัตว์ไส้กรอกหมูยอกุนเชียงแฮม
00:23:27 → 00:23:30 เบคอนอย่างเงี้ยพวกพส Food ยิ่งอัตราการ
00:23:30 → 00:23:34 ตายสูงั้นเราพยายามเลี่ยงพวกอาหารแปรรูป
00:23:34 → 00:23:39 เนื้อแดงแปรรูปนะเนื้อสัตว์แปรรูปนะครับ
00:23:39 → 00:23:45 แล้วเน้นเนื้อขาวจากปลาอกไก่ไข่ขาวค่ะอ่า
00:23:45 → 00:23:48 แล้วก็โปรตีนพืชอันนี้แหละจะทำให้เรา
00:23:48 → 00:23:52 เนี่ยอายุยืนยาวสุขภาพดีมากกว่ากินเนื้อ
00:23:52 → 00:23:57 แดงแปรรูปใส่กอกแคมเบคอนนะหรือเนื้อสัตว์
00:23:57 → 00:23:59 เองเนี่ยเนื้อเนื้อหมูเนื้อวัวเองก็กิน
00:23:59 → 00:24:01 ให้มันน้อยหน่อยสัปดาห์นึงเี่ไม่เกิน
00:24:01 → 00:24:05 ครึ่งกิโลนะครับแล้วพวกเนี้ยอาจารย์จะไม่
00:24:05 → 00:24:08 อยากให้แบบโอ้ยไปกินโปรตีนจากไหนดีกว่า
00:24:08 → 00:24:10 กันไม่ต้องไปเทียบไม่ต้องไม่ต้องไปจากไหน
00:24:10 → 00:24:13 ดีกว่ากันเพราะชีวิตเราอ่ะมันยืดหยุ่นได้
00:24:13 → 00:24:17 เเรียก flexitarian อ flexitarian คือ
00:24:17 → 00:24:20 flexible มันยืดหยุ่นได้ไงแล้วเราใช้
00:24:20 → 00:24:22 ชีวิตจากยืดยุ่นได้ไม่ต้องเคร่งเครียดนะ
00:24:22 → 00:24:25 ถ้าคุณอยากจะกินเอ่อโปรตีนจากพืชอย่าง
00:24:25 → 00:24:26 เดียวเลยไม่กินสัตว์ใหญ่เลยไม่กินเนื้อ
00:24:26 → 00:24:29 สัตว์เลยคุณกินเฉพาะวันพักกินเฉพาะวัน
00:24:29 → 00:24:31 เกิดอาทิตย์นึง 2 วันพอหรือวันเดียวพอจบ
00:24:32 → 00:24:35 ถ้าอยากจะได้บุญกุศลแรงนะอ่าะนั้นเนี่ย
00:24:35 → 00:24:38 คุณกินเฉพาะวันพระอ่ะวันนี้กินล้างลำไส้
00:24:38 → 00:24:41 ซะหน่อยไม่ต้องกินเนื้อสัตว์เลยกินแต่พืช
00:24:41 → 00:24:45 อ่ะก็ได้อ่าแล้ววันอื่นเราก็ยืดหยุ่นเอา
00:24:45 → 00:24:49 ถ้าเป็นแปรรูปโปรตีนแปรรูปจากเนื้อแปรรูป
00:24:49 → 00:24:52 เราก็พยายามเลี่ยงถ้ากินก็อ่าน้อย่อนานๆ
00:24:52 → 00:24:55 กินทีแล้วก็เน้นจากปลาอกไก่ไข่ขาวพวกนี้
00:24:56 → 00:24:58 แล้วก็เน้นจากพืชร่วมด้วยได้ฟังดูแล้ว
00:24:58 → 00:25:01 จริงๆเรามีทางเลือกเยอะมากเยอะมากนะคะแต่
00:25:01 → 00:25:03 ว่าแค่เราไม่ได้เลือกใช่ถูกต้องอย่าง
00:25:03 → 00:25:05 เงี้ยจะสั่งผัดกะเพราเงี้ยเฮ้ยเอากะเพรา
00:25:05 → 00:25:09 ไก่ไข่ดาวแล้วกันนะก็ลดเนื้อแดงอย่าง
00:25:09 → 00:25:12 เงี้ยอ่าหรือหรือแบบว่าไม่ใช่แบบใส่แฮม
00:25:12 → 00:25:15 เบคอนอะไรแบบเยอะอ่ะเพราะเราเลือกได้ถูก
00:25:15 → 00:25:17 มั้ยเพราะชีวิตออกแบบได้เราเลือกได้นะ
00:25:17 → 00:25:21 แล้วเราก็พยายามที่จะเอ่อเลือกในสิ่งที่
00:25:21 → 00:25:23 มันดีต่อสุขภาพเรื่องของโปรตีนก็เช่น
00:25:23 → 00:25:26 เดียวกันเนาะเพราะมันส่งผลต่อเอ่อสุขภาพ
00:25:26 → 00:25:29 ร่างกายของเราเป็นสำคัญครับค่ะนี้ก็ได้
00:25:29 → 00:25:32 แนวทางแล้วเนาะจะได้กินได้ถูกสักทีโปรตีน
00:25:32 → 00:25:34 นะคะขความลับกันไปเรียบร้อยแล้วนะคะวัน
00:25:34 → 00:25:37 นี้ได้ข้อมูลกันไปเต็มที่ขอบคุณอาจารย์
00:25:37 → 00:25:40 เอกราชค่ะสวัสดีค่ะเอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังหมด
00:25:40 → 00:25:42 เวลาแล้วค่ะพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการ
00:25:42 → 00:25:45 โรงหมอไย pvs podcast นะคะวันนี้ลาไป
00:25:45 → 00:25:48 ก่อนสวัสดีค่ะ This Is tha PBS
00:25:48 → 00:25:50 podcast ความผอมยังเป็นค่านิยมที่หมาย
00:25:50 → 00:25:53 ถึงสุขภาพดีแต่จริงๆแล้วผอมมากไปอาจส่งผล
00:25:54 → 00:25:56 เสียต่อร่างกายที่คุณคิดไม่ถึงและต้องพึง
00:25:56 → 00:25:58 ระวังแพทย์หญิงกิตยาสีเลิศฟ้าแพทย์
00:25:58 → 00:26:03 อายุรกรรม AIA มาเล่าให้ฟังครับคนที่น้ำ
00:26:03 → 00:26:06 หนักต่ำกว่าเกณฑ์เนี่ยจะเกิดจากการได้รับ
00:26:06 → 00:26:09 พลังงานน้อยกว่าที่ร่างกายควรจะได้รับต่อ
00:26:09 → 00:26:12 วันใช่มยเขาก็อาจจะมีเหนื่อยล้าไม่มีแรง
00:26:12 → 00:26:16 อ่อนเพลียกว่าคนทั่วไปนะคะก็จะขาดพลังงาน
00:26:16 → 00:26:20 แล้วก็สารอาหารในระยะยาวค่ะอาจจะมีปัญหา
00:26:20 → 00:26:23 ด้านพัฒนาการโดยเฉพาะในเด็กแล้วก็วัยรุ่น
00:26:23 → 00:26:27 ภาวะทุบโภชนาการหรือขาดสารอาหารเนี่ยอาจ
00:26:27 → 00:26:30 จะนำไปสู่การเจ็บป่วยอื่นๆเช่นโรคเลือด
00:26:30 → 00:26:34 จางทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลงนะคะแล้วก็ป่วย
00:26:34 → 00:26:38 ง่ายอ๋อเออนะคนผอมๆเนี่ยอาจจะป่วยง่ายโรค
00:26:38 → 00:26:42 กระดูกพรุนเนื่องจากขาดวิตามินดีแคลเซียม
00:26:42 → 00:26:44 เพราะว่าทานน้อยไงค่ะขาดวิตามินดี
00:26:44 → 00:26:48 แคลเซียมแล้วก็สารอาหารอื่นที่จำเป็นนะทำ
00:26:48 → 00:26:53 ให้กระดูกบางนะอาจจะหักง่ายนะมีปัญหาด้าน
00:26:53 → 00:26:56 การเคลื่อนไหวเมื่ออายุมากขึ้นค่ะปัญหา
00:26:56 → 00:26:59 สุขภาพทางเพศเช่นประจำเดือนมาไม่ปปกติมี
00:26:59 → 00:27:03 ลูกยากอะไรแบบนี้ค่ะนอกจากนี้การกินเท่า
00:27:03 → 00:27:05 ไหร่ก็ไม่อ้วนเนี่ยก็อาจจะเพิ่มความ
00:27:05 → 00:27:09 เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมาแต่ว่าการ
00:27:09 → 00:27:14 กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนแบบนี้เนี่ยนะมัน
00:27:14 → 00:27:17 เป็นเพราะอะไรได้บ้างที่พบบ่อยก็คือ
00:27:17 → 00:27:21 พันธุกรรมนะเพราะว่าพวกนี้อาจจะมีพ่อแม่
00:27:21 → 00:27:24 พี่น้องไปดูเหอะเนี่ยพ่อแม่พี่น้องปู่ย่า
00:27:24 → 00:27:28 ตายายเนี่ยผอมทั้งนั้นเลยอืครพเนี่ยเจะมี
00:27:28 → 00:27:31 ระบบเผาผลาญที่ทำงานได้เร็วแล้วก็มี
00:27:31 → 00:27:35 ประสิทธิภาพก็ถือว่าโชคดีใช่นะมียีนที่
00:27:35 → 00:27:38 กระตุ้นการทำงานของเบอิซึ่งพวกนี้ก็จะไม่
00:27:38 → 00:27:40 เป็นอันตรายต่อสุขภาพเขาก็ผอมเ้าอย่าง
00:27:40 → 00:27:44 งั้นแหละอค่ะค่ะต่อไประบบเผาผลนที่ดีแล้ว
00:27:44 → 00:27:49 ก็มีรูปแบบการใช้ชีวิตเป็นของเขาอือนะคะ
00:27:49 → 00:27:53 ก็คือพวกนี้เนี่ยมีระบบเผาผานที่ดีนะเอ่อ
00:27:53 → 00:27:57 ระบบร่างกายทำงานได้ดีไม่ว่าจะเป็นการ
00:27:57 → 00:28:02 ย่อยการดูดซึมสารอาหารการนำพลังงานไปใช้
00:28:02 → 00:28:05 ซึ่งปัจจัยบางอย่างส่งผลต่อประสิทธิภาพ
00:28:05 → 00:28:09 เอ่อของระบบเหล่านี้เช่นเ่อขนาดและโครง
00:28:09 → 00:28:12 สร้างของร่างกายปริมาณกล้ามเนื้อส่วนสูง
00:28:12 → 00:28:16 เพศแล้วก็อายุอย่างเช่นผู้ชายเนี่ยจะเผา
00:28:16 → 00:28:19 ผลาญพลังงานได้ดีกว่าอแล้วก็คนอายุน้อย
00:28:19 → 00:28:22 เนี่ยระบบเผาผลาญก็จะดีกว่าคนมีอายุค่ะ
00:28:22 → 00:28:26 ใช่มอันนี้คือระบบเผาผลนเดีส่วนรูปแบบการ
00:28:26 → 00:28:28 ใช้ชีวิตเนี่ยก็เป็นอีกปัจจใดนึงที่ทำให้
00:28:28 → 00:28:31 กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเช่นเอ่อรูปแบบการ
00:28:31 → 00:28:35 ใช้ชีวิตที่จะต้องเอ่อใช้มีพลังงานปริมาณ
00:28:35 → 00:28:38 มากอยู่เสมอนะฮะทำให้พลังงานที่กินเข้าไป
00:28:38 → 00:28:42 อ่ะไม่เพียงพอนะเนื่องจากใช้แรงทำงานเยอะ
00:28:42 → 00:28:46 แล้วก็คนที่ออกกำลังกายเป็น
00:28:46 → 00:28:51 ประจำ This Is Thai PBS
00:28:51 → 00:28:54 podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:28:54 → 00:28:58 podcast ได้ทางเว็บไซต์ www.th PBS
00:28:58 → 00:29:01 podcast dcom Application Thai PBS
00:29:01 → 00:29:04 podcast รวมถึงฟังผ่าน podcast ช่องทาง
00:29:04 → 00:29:08 อื่นๆ spotify YouTube Apple podcast
00:29:08 → 00:29:11 และ soundcloud
00:29:11 → 00:29:14 [เพลง]