ปลาชนิดไหนในอาหารญี่ปุ่นถือว่าดีต่อสุขภาพ และควรกินอย่างไรเพื่อได้ประโยชน์สูงสุด

[PODCAST] Food Choice | EP.35 - ไขความลับอาหารญี่ปุ่น เมนูอายุยืน

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:24 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2400:00:28 อาหารที่คุณกิน ส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2800:00:31 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:3100:00:34 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา

00:00:3400:00:38 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้

00:00:3800:00:40 กับหมอเอ๋ แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4000:00:43 และหมอตั้ม นายแพทย์ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข

00:00:4300:00:46 [เสียงดนตรี]

00:00:4600:00:48 - คนนิจิวะ

00:00:4800:00:51 โอ้โฮ แบบนี้ วันนี้มาทั้งแบบ พูดกันเป็นภาษาญี่ปุ่น

00:00:5100:00:54 แล้วก็อาหารญี่ปุ่นอยู่ข้างหน้าเลยค่ะ

00:00:5400:00:55 โอ้โฮ น่าทานมาก ๆ เลยครับ

00:00:5500:00:57 ใช่ จริง ๆ อันนี้เป็นแบบ...ของโปรดพี่เลยนะ

00:00:5700:00:59 เป็นอาหารที่เราชื่นชอบมาก

00:00:5900:01:02 แล้วจริง ๆ อาหารญี่ปุ่นนี่ ก็ค่อนข้างมีมากมาย

00:01:0200:01:05 แล้วก็เป็นที่นิยมในประเทศไทยนะคะ

00:01:0500:01:07 นอกเหนือจากความอร่อยแล้วนี่

00:01:0700:01:11 ในอาหารญี่ปุ่นยังมีข้อดียังไงบ้าง ในมุมมองของเชฟ

00:01:1100:01:13 จริง ๆ นี่ นอกจากความสดใหม่

00:01:1300:01:15 แล้วก็ความพิถีพิถัน ในการทำอาหารญี่ปุ่นแล้วนี่

00:01:1600:01:18 อาหารญี่ปุ่นนี่เป็นอาหารที่ทำให้สุขภาพดี

00:01:1800:01:20 แล้วก็อายุยืนยาวด้วยครับพี่เอ๋

00:01:2000:01:22 เพราะว่าถ้าเราดูในข้อมูลนะคะ

00:01:2200:01:26 ตอนนี้อายุเฉลี่ยของคนญี่ปุ่นนี่ ก็อยู่ประมาณสัก 82 ปี

00:01:2600:01:30 เป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากร อายุยืนยาวมากที่สุดในโลกด้วย

00:01:3100:01:34 แล้วก็ยังมีผู้หญิงญี่ปุ่นนะคะ คุณฟูสะ ทัตสึมิ

00:01:3400:01:38 ซึ่งตอนนี้อายุอยู่เกิน 116 ปีไปแล้ว

00:01:3800:01:43 ถือว่าเป็นผู้หญิงญี่ปุ่น ที่มีอายุยืนที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่

00:01:4300:01:49 ดังนั้นวันนี้ Food Choice จะมาไขความลับอายุยืนกับอาหารญี่ปุ่น

00:01:4900:01:51 แล้วก็เดี๋ยวเรามาดูกันว่าในอาหารญี่ปุ่นนี่

00:01:5100:01:53 มีอะไรที่ดีกับสุขภาพ

00:01:5300:01:55 และส่งเสริมการที่มีอายุยืนได้อย่างไรค่ะ

00:01:5500:02:01 [เสียงดนตรี]

00:02:0100:02:04 ความลับแรกที่เราจะมาคุยกัน สำหรับอาหารญี่ปุ่น

00:02:0400:02:07 มันจะมีคำหนึ่งของภาษาญี่ปุ่นบอกว่า

00:02:0700:02:09 - “ฮาราฮาชิบุ” นะคะ - “ฮาราฮาชิบุ”

00:02:0900:02:14 คำนี้นี่ มันแปลว่ากินเข้าไป แล้วให้มันอิ่มท้องประมาณ 80%

00:02:1400:02:18 จะมีคนถามบ่อย ๆ เลยบอกว่า เอ๊ะ กิน 80% นี่คืออะไร

00:02:1800:02:22 จริง ๆ ที่มาอันนี้มันก็จะมาจาก กลุ่มของคนโอกินาวา

00:02:2200:02:22 ครับผม

00:02:2200:02:24 เขาจะไปถาม แล้วก็บอกว่า

00:02:2400:02:26 เป็นข้อสังเกตว่าในคนโอกินาวานี่

00:02:2600:02:27 จริง ๆ เวลาเขากินอาหารนี่

00:02:2700:02:28 เขาจะไม่กินจนอิ่ม

00:02:2900:02:31 ทีนี้ถามว่าเวลาถ้าเราจะทำนี่ ทำอย่างไร

00:02:3100:02:35 ต้องบอกว่า ถ้าเรามีความหิวปุ๊บใช่ไหมคะ แล้วเราเริ่มกินอาหารนี่

00:02:3500:02:38 ตอนแรก ความหิวจะหายก่อน

00:02:3800:02:38 อืม

00:02:3800:02:40 พอหายหิวเสร็จปุ๊บ

00:02:4000:02:41 แล้วเราก็จะเริ่มอิ่ม

00:02:4100:02:45 เพราะฉะนั้นเราให้กินแค่ตรงจุดที่เราหายหิว

00:02:4500:02:46 - แต่ไม่ต้องถึงขนาดอิ่ม - ถูกต้อง

00:02:4600:02:48 อันนี้ค่ะคือประมาณ 80%

00:02:4800:02:49 คือไม่ต้องกินจนอิ่มมาก

00:02:4900:02:53 เพราะฉะนั้นเทคนิคง่าย ๆ อันแรกนะคะ ก็คือกินแค่หายหิว

00:02:5300:02:55 - อันนี้คือได้แล้ว - ครับผม

00:02:5500:02:59 แล้วกินอาหารแค่ 80% นี่ครับ มันดีกับสุขภาพอย่างไรครับพี่เอ๋

00:02:5900:03:02 ก็ถ้าสมมุติเราบอกว่า เราต้องมีเต็มร้อยใช่ไหม

00:03:0200:03:04 การกิน 80% แปลว่ากินขาด ๆ

00:03:0400:03:06 - อ๋อ ครับผม - กินไม่พอเนอะ

00:03:0600:03:10 หรือว่าถ้าเป็นภาษาอังกฤษก็ใช้คำว่า Caloric Restriction

00:03:1000:03:12 ซึ่งตอนนี้จริง ๆ เราจะฮิตคำว่า IF

00:03:1200:03:14 - เราได้ยินบ่อยๆใช่ไหม - ใช่ครับ ใช่

00:03:1400:03:17 ถ้าเรากินน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ

00:03:1700:03:20 ร่างกายก็จะเริ่มเอาของที่มีในร่างกายมาใช้

00:03:2000:03:24 เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะทำให้น้ำหนักขึ้น หรือว่าอ้วนนี่ มันก็จะลดลงนะคะ

00:03:2400:03:29 อันที่ 2 นี่ มันก็จะทำให้ร่างกาย มีระยะเวลาในการที่จะซ่อมแซม

00:03:2900:03:34 ไม่ไปกระตุ้นระบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฮอร์โมนอะไรใด ๆ ก็ตาม

00:03:3400:03:36 ที่จะทำให้ร่างกายต้องใช้งานเยอะ

00:03:3600:03:37 ครับ

00:03:3700:03:42 พูดง่าย ๆ ก็คือว่าจริง ๆ ร่างกายไม่มี ความจำเป็นต้องใช้งานเต็มร้อยหรือเกินร้อย

00:03:4200:03:46 แต่เราใช้งานเขาให้น้อยที่สุด เท่าที่ร่างกายเรายังทำงานไหว

00:03:4600:03:49 เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็จะไปลดการเสื่อมโทรม

00:03:4900:03:52 หรือว่าลดการทำงานในร่างกายลง

00:03:5200:03:55 มันมีข้อมูลค่ะ เอาเป็นว่า ถ้าเป็นในสัตว์ทดลองนี่

00:03:5500:03:58 ถ้าสมมุติว่าเราให้อาหารเขาเต็มที่ 100%

00:03:5800:04:00 กับเราจำกัดอาหารของเขานี่

00:04:0000:04:01 ปรากฏว่าในสัตว์ทดลองค่ะ

00:04:0100:04:04 ถ้าเราจำกัดอาหารนี่ เขาอายุยืนยาวกว่า

00:04:0400:04:05 อ๋อ ครับผม

00:04:0500:04:08 ก็เลยเป็นที่มาว่า Concept ของ Caloric Restriction

00:04:0800:04:12 แล้วนี่ก็เข้ากับ Concept ที่คนญี่ปุ่นกิน ว่ากินแค่ 80% ค่ะ

00:04:1200:04:15 โดยทั่วไปนะคะถามว่า เอ๊ะ แล้ว 80% มันคืออะไร

00:04:1500:04:20 เอาเป็นว่าเราต้องการกี่แคลอรีนี่ จริง ๆ ต้องบอกว่าในแต่ละคนไม่เท่ากัน

00:04:2000:04:23 หลัก ๆ นี่บอกว่า ที่เราต้องใช้ตอนที่เราอยู่นิ่ง ๆ

00:04:2300:04:27 อยู่ประมาณสัก 20-22 แคลอรี ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน

00:04:2800:04:31 ทีนี้ถ้าสมมุติว่าเราเป็นคนที่ Active มาก ๆ หรือออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างตั้มอย่างนี้

00:04:3100:04:33 เราก็จะบวกไป

00:04:3300:04:35 แล้วก็ดูว่าถ้าเราออกกำลังกาย

00:04:3500:04:37 เอาง่าย ๆ เลย สมมุติถ้าตั้มอยู่ในยิม

00:04:3700:04:38 ตั้มก็เห็นว่ามันเบิร์นไปเท่าไร

00:04:3800:04:39 ตั้มก็เติมไปเท่านั้น

00:04:3900:04:40 ครับผม

00:04:4000:04:42 แต่ถ้าสมมุติใครอยากจะลดน้ำหนัก

00:04:4200:04:44 ก็เอาเป็นว่ากินเท่าที่ร่างกายต้องใช้

00:04:4400:04:47 แล้วส่วนที่ออกกำลังกาย ก็เอาไปลดส่วนของตัวเอง

00:04:4800:04:49 แล้วก็เหมือนที่บอกค่ะว่า

00:04:4900:04:51 ในกรณีที่เรากินนี่

00:04:5100:04:54 ถ้าเราไม่กินมากจนเกินไป ร่างกายก็จะไม่สะสม

00:04:5400:04:57 ดังนั้น โดยทั่วไปค่ะ เรากินประมาณ 80% นี่

00:04:5700:04:59 มันไม่ได้มีผลอะไรกับสุขภาพ

00:04:5900:05:03 เวลาที่เราจะลดอาหารค่ะ คำถามคือ เอ๊ะ เราต้องลดเท่าไรหรือ

00:05:0300:05:06 โดยทั่วไปเราจะลดประมาณ 10 - 30% ของพลังงาน

00:05:0600:05:06 อืม

00:05:0600:05:08 แล้วการลดแค่นี้ค่ะ

00:05:0800:05:12 จะไม่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะทุพโภชนาการ หรือขาดสารอาหารค่ะ

00:05:1200:05:13 คราวนี้เทคนิคครับ

00:05:1300:05:19 คนก็จะสังเกตว่า แล้วกินอย่างไรให้เรารู้สึกว่า...แค่หายหิว

00:05:1900:05:20 แต่ว่าไม่ถึงกับอิ่มนะครับ

00:05:2000:05:24 สำหรับคนญี่ปุ่นเอง เขาก็จะใช้วิธีการกินให้นานมากขึ้น

00:05:2400:05:25 บางทีเราเร่งรีบมาก ๆ นี่

00:05:2600:05:27 กิน ๆ เข้าไปนี่

00:05:2700:05:28 มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ

00:05:2800:05:33 ช่วงเวลาที่หายหิวไปจนถึงอิ่มนี่ มันแคบมาก ๆ จนเรารู้สึกไม่ทัน

00:05:3300:05:37 เราอาจจะยืดเวลาให้มื้ออาหารนั้นนานมากขึ้น

00:05:3700:05:40 อาจจะเคี้ยวให้ช้าลง หรือค่อย ๆ กินให้นานมากขึ้นครับ

00:05:4000:05:42 อย่างที่ 2 คือคนที่ญี่ปุ่นที่ใช้กันคือ

00:05:4300:05:45 เขาจะจัดภาชนะเยอะ ๆ ครับ

00:05:4500:05:49 อย่างนี่ เราเห็นเซตนี้ ก็จะมีภาชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ เยอะ

00:05:4900:05:51 หรือแม้กระทั่งถ้าเกิดเราไปประเทศญี่ปุ่น เราก็จะเห็นว่า

00:05:5100:05:53 บางทีเขามาเป็นเบนโตะเซต

00:05:5300:05:55 มีเป็นช่อง ๆ เยอะ ๆ

00:05:5500:05:58 แล้วก็มีอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ เติมเข้าไปให้รู้สึกเยอะ

00:05:5800:06:01 หรือแม้กระทั่งเป็นเซตอาหารเลย ที่เรียกว่าไคเซกินี่

00:06:0100:06:03 เขาก็จะใส่เป็นถ้วยเล็ก ๆ ถ้วยเล็ก ๆ ถ้วยเล็ก ๆ นี่

00:06:0300:06:06 เพื่อให้เรารู้สึกว่าเรากินในปริมาณที่เยอะ

00:06:0600:06:08 จริง ๆ แล้วนี่ ถ้าเอามารวมกันเป็นจานเดียว

00:06:0800:06:09 - ไม่ได้เยอะ - เรามองเห็นหลายอย่าง โอเค

00:06:0900:06:14 [เสียงดนตรี]

00:06:1400:06:18 ความลับข้อที่ 2 นะคะ ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นจะรู้ว่า

00:06:1800:06:20 - มีผักหรือมีเครื่องเคียงเยอะมากเลย - เยอะมาก ๆ ครับ

00:06:2000:06:25 ซึ่งอาจจะเกินครึ่งหนึ่งของถาดด้วยซ้ำไป ที่จะเต็มไปด้วยผัก

00:06:2500:06:26 อันนี้มันช่วยยังไงเอ่ย

00:06:2600:06:29 โอ้โฮ จริง ๆ นี่ อย่างที่เรารู้ ๆ กันเลยครับว่า

00:06:2900:06:32 - ผักนี่ หนึ่งเลยคือไฟเบอร์สูงครับ - ใช่

00:06:3200:06:34 อย่างที่ 2 คือวิตามินนี่เยอะมาก ๆ นะครับ

00:06:3500:06:39 แค่สองอย่างนี้ก็จะทำให้ร่างกายเรานี่ แข็งแรงเพิ่มมากขึ้นแล้วครับพี่เอ๋

00:06:3900:06:40 ไม่เพียงแค่คนญี่ปุ่นนะคะ

00:06:4000:06:43 แต่ว่าถ้ามันเป็นข้อมูลของทั่ว ๆ โลกเลย

00:06:4300:06:48 บอกว่าอาหารสำหรับคนที่สุขภาพดี หรือว่าในกลุ่มประเทศที่มีอายุยืนยาวนี่

00:06:4800:06:50 เราไปมองแพทเทิร์นของอาหารของเขา

00:06:5000:06:54 เราจะเห็นว่าส่วนใหญ่นี่ จะเป็นเรื่องของผักผลไม้เยอะ

00:06:5400:06:58 พี่อยากรู้ว่าถ้าสมมุติว่าญี่ปุ่นนี่ ส่วนใหญ่จะกินผักอะไร

00:06:5800:07:00 ที่พี่เห็นเนอะ ส่วนใหญ่จะเป็นเห็ด

00:07:0000:07:03 ที่สำคัญช่วงนี้ก็จะเป็นมันหวาน

00:07:0300:07:04 โอ้ ครับผม

00:07:0400:07:07 แล้วก็อีกอันหนึ่งที่เจอบ่อย นี่เลยครับ สาหร่ายครับผม

00:07:0700:07:09 สาหร่ายทุกชนิดที่มีนี่ เขากินหมดเลยครับ

00:07:0900:07:12 ไม่ว่าจะเป็นวากาเมะ สาหร่ายแดง

00:07:1200:07:16 หรือว่าสาหร่ายเป็นแผ่นที่เขาจะใช้สำหรับ ใส่ในน้ำซุปพวกคมบุต่าง ๆ ครับผม

00:07:1600:07:19 ข้อดีในกรณีที่จะกินเป็นพวกของสาหร่ายนี่

00:07:1900:07:21 นอกจากจะได้แร่ธาตุแล้วนี่

00:07:2100:07:25 ก็ยังจะได้พวกของโอเมกา 3 นิดนึงด้วย

00:07:2500:07:27 เพราะฉะนั้นตรงนี้นี่ก็จะมีแร่ธาตุเยอะ

00:07:2700:07:30 มีไฟเบอร์นะคะในกรณีของกลุ่มสาหร่าย

00:07:3000:07:32 อันที่ 2 ในกรณีของมันหวาน เป็นคาร์โบไฮเดรต

00:07:3200:07:33 อา...ใช่

00:07:3300:07:35 แต่ว่าจะมี Glycemic index ต่ำ

00:07:3500:07:40 เพราะฉะนั้นก็จะเหมาะสำหรับในคนที่จะกิน เพื่อที่จะทำให้น้ำตาลในเลือดมันไม่สูงมากนัก

00:07:4100:07:43 ในกลุ่มของเห็ดเองนี่ก็มีหลาย ๆ อย่าง

00:07:4300:07:45 ที่เราคุ้น ๆ กัน คนรู้จักชิตาเกะ

00:07:4500:07:47 ทราบไหมว่าชิตาเกะคือเห็ดหอม

00:07:4800:07:51 หลายคนกินเห็ดหอม แต่ไม่รู้ว่าเห็ดหอมคือชิตาเกะ

00:07:5100:07:53 ชิตาเกะคือเห็ดหอมสดใช่ไหมคะ

00:07:5300:07:55 แล้วพอไปตากแห้งก็จะกลายเป็นเห็ดหอม

00:07:5500:07:59 จริง ๆ มันก็จะมีพวกของแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามินดีนะคะ

00:07:5900:08:01 แต่ว่าในเห็ดหอมสดอาจจะน้อยหน่อย

00:08:0100:08:03 ส่วนที่เป็นเห็ดหอมตากแห้งก็จะเยอะหน่อยนะคะ

00:08:0300:08:06 - แล้วก็ในเห็ดเองก็มีโปรตีนด้วยใช่ไหมคะ - ใช่ครับ

00:08:0600:08:08 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็คือ คุณค่าทางอาหารที่มากขึ้น

00:08:0900:08:12 โดยเฉพาะในกลุ่มของผัก ซึ่งกินเยอะในทางญี่ปุ่น

00:08:1200:08:15 เราก็จะสังเกตแล้วว่าผักของญี่ปุ่น หลาย ๆ อย่าง

00:08:1500:08:17 จะมีความอูมามิอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว

00:08:1700:08:20 เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าเวลากินนี่ เราไม่ค่อยเขี่ยออก

00:08:2100:08:22 แม้กระทั่งเป็นคนไทยเองก็ตามนี่

00:08:2200:08:24 ก็จะนิยมกินผักของญี่ปุ่นด้วยครับ

00:08:2400:08:25 ใช่

00:08:2500:08:26 เพราะฉะนั้นนี่เราก็จะเห็นว่า

00:08:2600:08:29 พอคนญี่ปุ่นนี่ ตั้งแต่เด็กเลยถูกปลูกฝังว่า

00:08:2900:08:30 ผักจริง ๆ กินแล้วมันอร่อย

00:08:3000:08:32 แล้วรสชาติมันอร่อยในตัวเองนี่

00:08:3200:08:36 จะทำให้เด็กของญี่ปุ่น ก็จะติดการกินผักมาจนถึงผู้ใหญ่เลยด้วยครับ

00:08:3600:08:41 [เสียงดนตรี]

00:08:4100:08:42 ไขความลับข้อที่ 3 นะคะ

00:08:4300:08:44 หลังจากที่บอกว่ากินน้อย

00:08:4400:08:45 กินผักเยอะแล้ว

00:08:4500:08:48 - สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพี่เลยก็คือปลา - ใช่

00:08:4800:08:51 - ญี่ปุ่นนี่ตลาดปลาขึ้นชื่อมากใช่ไหมคะ

00:08:5100:08:54 ตรงนี้มีตั้งหลายอย่างตั้ม เราจะเลือกอย่างไรดี

00:08:5400:08:55 แล้วแต่ละชนิดมันต่างกันอย่างไร

00:08:5500:08:59 ก็ต้องเล่าให้ฟังก่อนว่าโปรตีนหลัก ของประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเป็นปลา

00:08:5900:09:01 - เพราะว่าจริง ๆ มันเป็นประเทศเกาะนะครับ - ถูก

00:09:0100:09:05 เพราะฉะนั้นนี่ ปศุสัตว์บนเกาะก็จะค่อนข้างน้อยนิดนึง

00:09:0500:09:07 เขาก็จะเน้นทำประมงต่าง ๆ การตกปลาต่าง ๆ

00:09:0700:09:11 เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าความหลากหลายของปลา ที่คนญี่ปุ่นกินนี่เยอะมาก ๆ เลย

00:09:1100:09:13 ถ้าเกิดเราเคยไปร้านอาหารญี่ปุ่นนี่

00:09:1300:09:16 ชาร์จปลาที่เขาติดไว้ตามบอร์ดนี่

00:09:1600:09:17 เยอะมาก ๆ เลยครับ

00:09:1700:09:18 แล้วก็จะมีตามฤดูกาลต่าง ๆ ด้วย

00:09:1800:09:20 ทำให้เวลากินปลานี่ เขาไม่เบื่อ

00:09:2000:09:22 เพราะเขาวนชนิดไปเรื่อย ๆ ครับ

00:09:2200:09:25 มันจะไม่ได้ซ้ำซากอยู่กับปลาชนิดเดียว

00:09:2500:09:28 อย่างข้างหน้าอย่างนี้ นี่คือปลาอะไร แล้วก็ยังไงบ้าง

00:09:2800:09:30 อันนี้นี่ คนไทยน่าจะต้องเจอบ่อยแน่นอน

00:09:3000:09:33 นั่นก็คือตัวอากามิ หรือปลาทูน่าเนื้อแดงนะครับ

00:09:3300:09:34 แล้วก็ตัวฮามาจิ

00:09:3500:09:38 ซึ่งเป็น Yellowtail นะครับ คือตัวปลาหางเหลือง

00:09:3900:09:41 ข้อดีของทั้ง 2 กลุ่มนี้เลยคือไขมันต่ำ

00:09:4100:09:43 อย่างที่เลือกมานี่

00:09:4300:09:47 คือส่วนของอากามินี่ จะเป็นส่วน lean ที่สุดคือไขมันต่ำที่สุด

00:09:4700:09:50 แล้วก็ปลาเนื้อแดงนี่ ที่จะได้ประโยชน์ถัดมาเลยคือเหล็ก

00:09:5100:09:51 ใช่ค่ะ

00:09:5100:09:54 เพราะว่าปลาเนื้อแดงนี่ จะมีคล้าย ๆ เป็นธาตุเหล็กเยอะ ๆ

00:09:5400:09:58 เวลากินเข้าไปนี่ ก็จะได้ธาตุเหล็กเสริมเข้าไปค่อนข้างสูง

00:09:5800:09:59 บำรุงเลือด

00:09:5900:10:02 ใช่ ในขณะเดียวกันนี่ ปริมาณโปรตีนก็สูงเช่นเดียวกัน

00:10:0200:10:06 เหมือนอย่างที่บอกแล้วว่า ปริมาณไขมันจะค่อนข้างต่ำครับผม

00:10:0600:10:09 แต่ว่าจะมีคนชอบกินพวกท้องปลาตอนนี้

00:10:0900:10:13 อา...จริง ๆ ท้องปลานี่ ไขมันจะสูงขึ้นมานิดนึง

00:10:1300:10:16 แต่ว่าเมื่อเทียบกับปลาที่เป็นปลาไขมัน เช่น ปลาแซลมอนนี่

00:10:1600:10:19 จริง ๆ แล้ว ปริมาณไขมันอาจจะไม่ได้สูงเท่า

00:10:1900:10:22 ยกเว้นในส่วนของปลาโอโทโร่นะครับ

00:10:2200:10:23 ในส่วนเนื้อนี่จะมีไขมัน

00:10:2300:10:27 ถ้าเทียบกับเนื้อวัวนี่คือ แทบจะไขมันแทรกเยอะ

00:10:2700:10:29 จริง ๆ เยอะกว่าด้วยซ้ำนะครับโอโทโร่

00:10:2900:10:30 พอพูดถึงแซลมอนนี่

00:10:3000:10:34 จริง ๆ แซลมอนอาจจะไม่ใช่ปลาประจำ หรือปลาหลักในญี่ปุ่น

00:10:3400:10:35 ใช่ครับ

00:10:3500:10:38 สมัยก่อนเลยนะครับ เริ่มต้นเลยนี่ คนญี่ปุ่นไม่ได้ทานปลาแซลมอนนะครับ

00:10:3800:10:43 ปลาแซลมอนนี่เริ่มนิยมมากขึ้นเมื่อ คนญี่ปุ่นเริ่มย้ายถิ่นฐานไปทางประเทศอเมริกา

00:10:4300:10:45 หรือประเทศยุโรปต่าง ๆ นี่

00:10:4500:10:48 เราก็จะไปเจอปลาแซลมอนที่จะเยอะ ๆ ในฝั่งยุโรปใช่ไหมครับ

00:10:4800:10:49 ใช่

00:10:4900:10:50 พอทานแล้วเริ่มติดใจมากขึ้น

00:10:5000:10:53 หรือเรามาใส่ในเมนูอาหารเพิ่มมากขึ้น เช่น

00:10:5300:10:57 เป็นแคลิฟอร์เนียโรล หรือว่าการทำเป็นซูชิโดยใช้ปลาประจำถิ่น

00:10:5700:11:00 แล้วหลังจากนั้นนี่ ก็จะเริ่มแพร่กลับมาที่ประเทศญี่ปุ่น

00:11:0000:11:03 ทำให้ประเทศญี่ปุ่น เริ่มทานแซลมอนเพิ่มมากขึ้นครับ

00:11:0300:11:04 อืม

00:11:0400:11:06 ฟังมาตั้งเยอะแล้ว มีตั้งหลายชิ้นนะคะ

00:11:0600:11:08 ทั้งหลายชนิด แล้วก็หลายส่วนของปลา

00:11:0800:11:10 เพราะฉะนั้นถามว่า ถ้าตั้มจะแนะนำให้กินปลา

00:11:1000:11:13 ตั้มจะแนะนำให้กินปลาส่วนไหนและกินอย่างไร

00:11:1300:11:15 จริง ๆ จะบอกว่าปลานี่

00:11:1500:11:17 อย่างแรกเลย ไม่อยากมีข้อจำกัด

00:11:1700:11:19 อยากจะโน้มนาวให้คนกินปลาเพิ่มมากขึ้น

00:11:1900:11:22 ไม่ว่าจะเป็นปลาเนื้อแดง ปลาเนื้อขาว หรือปลาที่มีไขมันสูง

00:11:2200:11:23 สามารถทานได้หมดเลยนะครับ

00:11:2300:11:26 เพราะว่าปลาที่มีไขมันสูงนี่ ก็มีประโยชน์นะครับ

00:11:2600:11:27 ถ้าถามว่าอะไรดีที่สุด

00:11:2700:11:32 ก็ต้องเลือกเป็นปลาที่ค่อนข้าง lean นิดนึง คือปลาเนื้อขาวที่มีไขมันต่ำ

00:11:3200:11:35 หรือว่าแม้กระทั่งเป็นปลาเนื้อแดง ที่มีส่วนไขมันต่ำ เช่น

00:11:3500:11:38 อากามิอย่างนี้ก็จะมีไขมันต่ำ

00:11:3800:11:39 แล้วก็วิธีการทำ

00:11:3900:11:39 ครับผม

00:11:3900:11:41 ก็ถ้าสังเกตคือของญี่ปุ่นนี่

00:11:4100:11:44 ส่วนใหญ่ปลาจะเป็นลักษณะของการกินสด

00:11:4400:11:46 - หรือว่าเป็นปลาดิบ - ใช่ เป็นซาซิมิครับผม

00:11:4600:11:48 แล้วถ้าเป็นปลาไทย กินดิบได้ไหม

00:11:4800:11:50 จริง ๆ ปลาไทยไม่แนะนำให้กินดิบ

00:11:5000:11:52 เพราะว่าปลาแม่น้ำนี่จะมีพยาธิค่อนข้างเยอะ

00:11:5200:11:55 ใช่ อันนี้อันนึง ที่จะต้องเตือนทุกท่านเลยก็คือว่า

00:11:5500:11:59 ถ้าจะกินนี้เป็นพวกปลาแม่น้ำ หรือว่าของบางอย่างนี่

00:11:5900:12:00 ควรจะกินเป็นสุก

00:12:0000:12:03 ถ้าสมมุติว่าเป็นไปได้นี่ ในกรณีของการกินสุกนี่

00:12:0300:12:07 ถ้าเกิดว่าเรากินเป็นลักษณะของ ยำ ต้ม นึ่ง ย่าง ปิ้ง ใด ๆ นี่

00:12:0700:12:08 ที่ไม่มีการเติมน้ำมันแล้ว

00:12:0800:12:12 มันก็จะช่วยทำให้คุณค่าทางอาหารเพิ่มมากขึ้น

00:12:1200:12:17 [เสียงดนตรี]

00:12:1700:12:19 ไขความลับข้อที่ 4 นะคะ

00:12:1900:12:23 เมื่อกี้ตั้มบอกไปแล้วว่า โปรตีนส่วนใหญ่นี่จะได้มาจากปลา

00:12:2300:12:24 ครับผม

00:12:2400:12:26 แต่พี่ขอเถียงนิดนึงว่าญี่ปุ่นกินเต้าหู้เยอะ

00:12:2700:12:29 เราจะเห็นว่าในเมนูของอาหารญี่ปุ่นนี่

00:12:2900:12:32 จะมีเต้าหู้ปนอยู่หลาย ๆ อย่างเลยทีเดียว

00:12:3200:12:35 นอกจากในซุปมิโซะที่เราเห็นนี่ ที่จะมีเต้าหู้ใส่เข้าไปแล้วนี่

00:12:3500:12:38 บางทีนี้ใน appetizer หรือตัวที่เปิดเย็น ๆ นี่

00:12:3800:12:43 มันจะมีเต้าหู้ก้อน แล้วก็ราดด้วยโชยุหรืออะไรสักอย่างนี่แหละ

00:12:4300:12:46 จะเป็นเต้าหู้เย็นครับ แล้วก็ แล้วแต่ว่าเขาจะใส่อะไรด้านบน

00:12:4600:12:49 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขิงขูด เป็นเล็ก ๆ ให้มันมีกลิ่น มีความเผ็ดขึ้นนิดนึง

00:12:4900:12:51 แล้วก็ราดด้วยโชยุนะครับ

00:12:5100:12:54 ให้มันมีรสชาติที่กลมกล่อมเพิ่มมากขึ้น

00:12:5400:12:57 ก็ต้องเล่าว่าตัวเต้าหู้นี่ ไม่ได้กำเนิดจากตัวญี่ปุ่นเอง

00:12:5700:13:00 เขารับวัฒนธรรมมาจากประเทศจีน

00:13:0000:13:01 เพราะฉะนั้นนี่เราก็จะเห็นเลยว่า

00:13:0100:13:04 โอ้โฮ มันก็จะคล้าย ๆ บ้านเรา เพราะว่าเราก็รับมาจากจีนเหมือนกัน

00:13:0400:13:08 ก็จะมีทั้งเต้าหู้ที่เป็นเต้าหู้ ที่เป็น silky เลย คือเป็นนิ่ม ๆ เลยนะครับ

00:13:0800:13:10 กับอีกอันหนึ่งคือ เป็นเต้าหู้ที่มันเป็นชั้น ๆ

00:13:1000:13:12 คือเป็นก้อน ๆ หยาบ ๆ นิดนึง

00:13:1200:13:15 วิธีการปรุงอาหารและวิธีการทานนี่

00:13:1500:13:16 ก็จะคล้าย ๆ ประเทศจีนนะครับ

00:13:1600:13:19 อย่างเต้าหู้ที่เป็นนิ่ม ๆ นี่ เขาก็จะกินสดเลย

00:13:1900:13:23 หรือเอามาใส่ในอะไรที่มันเป็นน้ำ ๆ นะครับ เช่น เป็นซุปต่าง ๆ นะครับ

00:13:2300:13:26 แต่ถ้าเกิดเป็นเต้าหู้ ที่เป็นก้อนที่มันหยาบ ๆ

00:13:2600:13:27 บางทีเรากินเองนี่

00:13:2700:13:31 รสสัมผัสอาจจะไม่ได้เป็น รสสัมผัสที่มันอร่อยสำหรับในบางคน

00:13:3100:13:33 - จะหยาบ ๆ หน่อยเนอะ - ใช่

00:13:3300:13:36 เขาจะมาผัดกับน้ำมันนะครับ ให้มันมีความกรอบเพิ่มมากขึ้นด้านนอก

00:13:3700:13:40 หรือบางคนนี่เอาไปทอดเลย ให้มันเป็นเต้าหู้ทอดครับผม

00:13:4000:13:43 จริง ๆ แล้วถามว่าสองอันนี้ มีคุณค่าทางอาหารต่างกันไหม

00:13:4300:13:45 ถ้าเกิดเป็นในแง่ของโปรตีนนะคะ

00:13:4600:13:49 ตัวที่มันจะเป็นเต้าหู้ ที่มันค่อนข้างเฟิร์มหรือว่าแข็งหน่อยนี่

00:13:4900:13:53 โปรตีนมันจะเยอะกว่า ถ้าเทียบกับอันที่มันนิ่ม ๆ

00:13:5300:13:55 ในส่วนของแคลเซียมเอง ก็อาจจะมีความต่างกันนิดหน่อย

00:13:5500:13:58 แต่ว่าก็สามารถจะเลือกกินได้ตามความชอบนะคะ

00:13:5800:14:02 อันนี้เหมือนที่บอกไปตอนต้นว่า ทำไมมันถึงมีข้อดี

00:14:0200:14:03 อันที่ 1 ก็คือไม่มีคอเลสเตอรอล

00:14:0300:14:06 อันที่ 2 ก็คือโปรตีนสูง แต่ว่าไขมันต่ำ

00:14:0600:14:08 อีกอันหนึ่งที่เป็นข้อดีนะคะ

00:14:0800:14:11 ก็คือจะมี Phytoestrogen หรือว่าเป็นเอสโตรเจนตามธรรมชาตินะคะ

00:14:1100:14:15 ซึ่งอาจจะเหมาะในคนที่กำลังเข้าสู่วัยทอง หรือว่ามีปัญหานะคะ

00:14:1500:14:19 อันนี้ก็จะทำให้ได้รับเรื่องของเอสโตรเจน จากธรรมชาติ

00:14:1900:14:21 ไม่ต้องเสี่ยงกับการเกิดเรื่องของมะเร็งค่ะ

00:14:2100:14:25 เพราะฉะนั้นนี่ กลุ่มประเทศจีน ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกินเต้าหู้เยอะ ๆ นี่

00:14:2500:14:28 ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ค่ะ โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม

00:14:2800:14:32 อย่างที่บอกว่าต้องระวังบางเมนูนะครับ ว่าถ้าเกิดเอาเต้าหู้ไปทอดนี่

00:14:3200:14:35 จากที่คอเลสเตอรอลต่ำ ไขมันต่ำ อันนี้อาจจะสูงขึ้นมาได้

00:14:3500:14:40 [เสียงดนตรี]

00:14:4000:14:42 ไขความลับข้อที่ 5 นะคะ

00:14:4200:14:45 ต่อเนื่องจากเรื่องของเต้าหู้เมื่อสักครู่เลย

00:14:4500:14:48 เมื่อกี้ตั้มบอกว่า นี่ไงอยู่ในอันนี้ อันนี้คืออะไรคะ มิโซะ

00:14:4800:14:49 - ซุปมิโซะใช่ไหม - ครับผม

00:14:4900:14:52 มันจะมีความพิเศษนิดนึง เวลาที่เรากินซุปมิโซะนี่

00:14:5200:14:54 มันจะมีกลิ่นพิเศษนิดนึง

00:14:5400:14:58 แล้วก็ในญี่ปุ่นนี่มันก็จะมีหลาย ๆ อย่าง ที่เขาจะเอามาหมัก

00:14:5800:15:00 เราอาจจะเคยได้ยินว่าโยเกิร์ตมันดีกับสุขภาพ

00:15:0000:15:03 ซึ่งจริง ๆ โยเกิร์ตก็คือเอานมไปหมักใช่ไหม

00:15:0300:15:06 ตอนนี้ถ้าฝั่งเอเชียก็จะมีหลายตัวนะคะ

00:15:0600:15:09 ไม่ว่าจะเป็นนัตโตะเอง หรือว่ามิโซะเองนี่

00:15:0900:15:11 อันนี้ก็เป็นของหมักเนอะ

00:15:1100:15:14 เวลาที่หมักปุ๊บนี่ มันก็จะมีพวกของโพรไอโอติกส์

00:15:1400:15:16 หรืออะไรก็ตามที่เกิดขึ้น

00:15:1600:15:19 อันนี้ก็จะเป็นอีกคุณค่าทางอาหารที่ดีนะคะ

00:15:1900:15:23 ซึ่งจะทำให้อาหารญี่ปุ่นนี่ แลดูเป็นอาหารสุขภาพได้เนอะ

00:15:2300:15:27 เดี๋ยวเราจะมาคุยกันในเรื่องของ มิโซะหรือว่านัตโตะ

00:15:2700:15:27 ใช่ครับ

00:15:2700:15:30 อย่างฝั่งที่เป็นยุโรปนี่ เขาจะหมักโยเกิร์ตกันใช่ไหมครับ

00:15:3000:15:30 ใช่

00:15:3000:15:33 ส่วนใหญ่เราก็จะรู้จักในชื่อ แลคโตบาซิลลัสใช่ไหมครับ

00:15:3300:15:35 เป็นแบคทีเรียที่อยู่ในนมเนอะ

00:15:3500:15:38 แต่ถ้าเกิดสำหรับคนญี่ปุ่นนี่ เขาจะมีอีกกลุ่มหนึ่งที่จะใช้หมัก

00:15:3800:15:39 เขาเรียกว่าโคจิ

00:15:3900:15:41 วิธีการนี่ เขาจะเอาข้าวมาหมัก

00:15:4100:15:42 ซึ่งพอเอาข้าวมาหมักนี่

00:15:4200:15:45 มันจะมี 2 สิ่งมีชีวิตที่โตร่วมกัน

00:15:4500:15:49 นั่นก็คือส่วนของแบคทีเรีย แล้วก็เชื้อราที่เป็นเชื้อราที่ดีครับ

00:15:4900:15:51 พอเขาอยู่กันแบบเป็น Mutualism

00:15:5100:15:53 - เขาพึ่งพาอาศัยกัน - พึ่งพาอาศัยกัน

00:15:5300:15:54 - เขาเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน - ใช่

00:15:5400:15:57 ในขณะเดียวกัน พอเขาเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน

00:15:5700:15:58 เอาพลังงานจากข้าวมาใช้

00:15:5800:15:58 ค่ะ

00:15:5900:16:02 แล้วก็ผลิตเป็นสารอื่น ๆ ที่ดีต่อร่างกายออกมาด้วย

00:16:0200:16:06 เขาก็จะเอาข้าวที่เป็นโคจิไปใส่ในถั่วเหลือง

00:16:0600:16:07 อา...

00:16:0700:16:10 เขาก็จะเอาทั้งข้าวทั้งถั่วเหลืองนี่ มาทำปฏิกิริยาต่าง ๆ

00:16:1000:16:13 แล้วก็ออกมาเป็นของหมักต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น

00:16:1300:16:15 เมื่อสักครู่นี้เขาจะมีข้าวหมักเนอะ

00:16:1500:16:18 ซึ่งในข้าวหมักนั้นมีทั้งเชื้อราและแบคทีเรีย

00:16:1800:16:18 ใช่ครับผม

00:16:1800:16:20 เสร็จแล้วเราก็จะเอามาหมักอยู่ในถั่วเหลือง

00:16:2100:16:21 ใช่ครับ

00:16:2100:16:24 ซึ่งในถั่วเหลืองเองก็มีแป้ง ซึ่งเป็นสารอาหารเนอะ

00:16:2400:16:24 ถูกต้องครับ

00:16:2400:16:26 ทีนี้แบคทีเรียหรือว่าเชื้อรานี่

00:16:2600:16:28 ก็จะเริ่มใช้พลังงานจากถั่วเหลือง

00:16:2800:16:29 ใช่ครับ

00:16:2900:16:32 แล้วทำให้เกิดปฏิกิริยา มีสารเคมีใด ๆ เกิดขึ้น

00:16:3200:16:36 ก็เลยกลายเป็นสิ่งพิเศษ ที่เรียกว่านัตโตะใช่ไหมคะ

00:16:3600:16:37 ถูกต้องครับ รวมถึงมิโซะด้วย

00:16:3700:16:39 มิโซะนี่มันหมักอะไร

00:16:3900:16:40 เป็นโคจิที่เป็นคนละประเภทกัน

00:16:4100:16:41 อ๋อ

00:16:4100:16:43 แต่ว่าเป็นถั่วเหลืองเหมือนกันนะครับ

00:16:4300:16:45 อย่างตัวนัตโตะนี่ ก็จะเป็นถั่วเหลืองยังเป็นเม็ดอยู่

00:16:4500:16:46 ยืด ๆ น่ะ

00:16:4600:16:49 ใช่ แต่ว่ามันจะมีสารต่าง ๆ ที่เกิดจากโคจิเรียบร้อยแล้วนี่

00:16:4900:16:51 มันก็จะทำให้มันมีความยืดขึ้น

00:16:5100:16:55 ในขณะเดียวกันมิโซะนี่ เขาจะเอาตัว ถั่วเหลืองไปบดให้มันเป็นเนื้อเนียนก่อน

00:16:5500:16:57 เพราะฉะนั้น Texture มันก็จะเหมือน ๆ กัน

00:16:5700:17:02 แต่ในขณะเดียวกันโคจิของประเทศญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ใช้แค่นัตโตะกับตัวมิโซะอย่างเดียว

00:17:0200:17:07 เขาหมักเยอะมาก แม้กระทั่งสาเกเองก็ตาม ก็ใช้ตัวโคจิเป็นตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

00:17:0700:17:09 ฝรั่งเศสเมดิเตอร์เรเนียนดื่มไวน์

00:17:0900:17:10 อา...ครับ

00:17:1000:17:12 ญี่ปุ่นก็จะกลายเป็นสาเก

00:17:1200:17:12 ครับผม

00:17:1200:17:14 กลับมาที่นัตโตะกับมิโซะครับพี่เอ๋

00:17:1400:17:17 คราวนี้นัตโตะกับมิโซะนี่ เขามีคุณประโยชน์อย่างไรบ้างครับ

00:17:1700:17:18 โอเค

00:17:1800:17:20 ก็จริง ๆ มันก็คือเป็นแหล่งโปรตีนเนอะ

00:17:2000:17:21 แล้วก็จะบวกอีกนิดนึง

00:17:2100:17:24 ก็คือจะได้ส่วนที่จะเป็น เรื่องของตัวโพรไบโอติกส์ที่บอกมา

00:17:2500:17:27 ในกลุ่มของอาหารหมักกลุ่มนี้

00:17:2700:17:29 ก็ยังมีพวกของวิตามินที่มากขึ้นด้วย

00:17:2900:17:33 ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มของโฟเลต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบี 6

00:17:3300:17:37 หรือว่าจะเป็นเรื่องของ K2 ซึ่งจะช่วยในเรื่องของกระดูก

00:17:3700:17:39 อันนี้ก็มีความจำเป็นแล้วก็ดีขึ้น

00:17:3900:17:42 ดังนั้น อันนี้ก็เลยจะเป็นข้อดี ที่มีผลดีกับสุขภาพ

00:17:4200:17:44 เมื่อมีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อเสีย

00:17:4400:17:44 ครับผม

00:17:4400:17:45 ข้อเสียมีอะไรบ้าง

00:17:4500:17:47 คือเวลาที่เราเอาไปปรุงพวกนี้ค่ะ

00:17:4700:17:50 มันอาจจะมีเรื่องของโซเดียมที่เยอะนิดนึง

00:17:5000:17:52 ถ้าสมมุติว่าเราซดน้ำไปเยอะ ๆ เราจะสังเกตว่า

00:17:5200:17:54 มันอาจจะมีการปรุงด้วยนะคะ

00:17:5400:18:00 เพราะฉะนั้น อาจจะต้องระมัดระวังนิดนึงว่า กินได้ แต่ว่าไม่ใช่แบบว่ากินอย่างไม่อั้น

00:18:0000:18:05 [เสียงดนตรี]

00:18:0500:18:08 ไขความลับข้อที่ 6 อันนั้นเป็นแก้วที่วางอยู่ข้าง ๆ ตั้มเลย

00:18:0800:18:09 ครับผม

00:18:0900:18:13 เวลาที่เราไปร้านอาหารญี่ปุ่น เรามักจะต้องดื่มชาเขียวกันใช่ไหมคะ

00:18:1300:18:14 ใช่ครับ

00:18:1400:18:16 เรามีชาหลากหลายชนิดมากนะครับ

00:18:1600:18:18 ถ้าฝั่งจีนนี่ก็จะเยอะหน่อยนะครับ

00:18:1800:18:21 ส่วนใหญ่ก็จะมีอู่หลง มีอัสสัมอะไรต่าง ๆ ใช่ไหมครับ

00:18:2100:18:24 ซึ่งส่วนใหญ่นี่ วิธีการเขาจะเอาใบชามาครับ

00:18:2400:18:25 ตากให้แห้งครับ

00:18:2500:18:30 หลังจากนั้นเขาจะเอาไปอบ ให้มันมีความอูมามิเพิ่มมากขึ้น

00:18:3000:18:34 เพราะฉะนั้นจะให้สังเกตว่า ชาที่เกิดจากการชงต่าง ๆ ออกมาแล้วนี่ครับ

00:18:3400:18:35 - จะเป็นสีน้ำตาล - สีมันจะเข้ม ใช่

00:18:3500:18:38 เพราะมันเกิดจากการอบมาเรียบร้อยแล้ว

00:18:3800:18:39 เพราะฉะนั้นนี่มันก็จะคล้าย ๆ กาแฟครับ

00:18:3900:18:42 สีก็จะมีสีคล้าย ๆ คาราเมลนะครับ

00:18:4200:18:46 ขึ้นอยู่กับว่าระดับความเข้มที่เราไปคั่ว มันคั่วได้เยอะแค่ไหนนะครับ

00:18:4600:18:49 ก็มีตั้งแต่จางมากไปจนถึงเข้มมาก

00:18:4900:18:53 ซึ่งในกรณีของชา โดยเฉพาะพวกชาดำ ชาจีน พวกนี้ค่ะ

00:18:5300:18:56 เวลาเราชง ถ้าเกิดว่าใครไปเรียนชงชาจะรู้ว่า

00:18:5600:18:58 รอบแรกจะเป็นน้ำร้อนล้าง เขาเรียกว่าบลูม

00:18:5800:18:59 ทำให้มันตื่น

00:18:5900:19:03 มันตื่นขึ้น มันมีความอมน้ำเข้าไปในช่วงแรกก่อน

00:19:0300:19:04 อันนั้นคือน้ำแรก ทิ้งก่อน

00:19:0400:19:06 แล้วหลังจากนั้นก็จะเป็นน้ำที่ 2

00:19:0600:19:09 ซึ่งปกติเราจะไม่ได้ทิ้งชาไว้ในโถชง

00:19:0900:19:09 ครับ

00:19:0900:19:11 ยิ่งทิ้งเอาไว้นาน มันก็จะมีแทนนินเยอะขึ้น

00:19:1200:19:13 ซึ่งมันจะทำให้ขมขึ้น

00:19:1300:19:15 - แล้วก็ฝาดด้วยครับ - ใช่

00:19:1500:19:19 แต่ว่ามันจะมีข้อดีคือจะช่วยในแง่ของการรักษา ในคนที่เรื่องของท้องเสีย

00:19:1900:19:22 หรือว่าพูดง่าย ๆ ก็คือว่ากินพวกนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดท้องผูกได้

00:19:2200:19:23 ครับผม

00:19:2300:19:28 แต่สำหรับชาเขียวนี่จะแตกต่างกับกลุ่มชา ที่มาจากประเทศจีนนิดนึงตรงที่ว่า

00:19:2800:19:31 ชาเขียวนี่เขาจะไม่ผ่านวิธีการคั่วครับผม

00:19:3100:19:33 วิธีการ เขาก็จะเด็ดมา แล้วก็ทิ้งไว้ให้แห้งนะครับ

00:19:3300:19:35 จากนั้นเขาก็จะเอาไปบดเลยให้เป็นผง

00:19:3500:19:39 ถ้าเกิดสังเกตสีชาเขียวนี่ ก็อาจจะยังเห็นเป็นสีแบบเหมือนใบ

00:19:3900:19:40 ใบชาเนอะ ไปผึ่งลมไว้

00:19:4000:19:43 สาเหตุที่เป็นสีเขียว เพราะว่าเขาไม่ผ่านการคั่วนั่นเอง

00:19:4300:19:47 มันเลยทำให้สีที่ชงออกมา ยังมีความเป็นสีเขียวอยู่

00:19:4700:19:48 ใช่

00:19:4800:19:51 คราวนี้วิธีการชง ก็จะไม่เหมือนวิธีการชงของชาจีน

00:19:5100:19:54 ที่จะราดน้ำแล้วให้เขาแช่ไว้นะครับ

00:19:5400:19:56 วิธีการชงนี่ เนื่องจากว่าเขาบดเป็นผงนะ

00:19:5600:19:58 เขาต้องการจะกินเข้าไปทั้งหมดเลย

00:19:5800:20:00 เพราะฉะนั้นวิธีการชง เขาจะมีถ้วยนะครับ

00:20:0000:20:02 แล้วก็จะมีตัวแปรงเฉพาะของเขานะครับ

00:20:0200:20:05 คราวนี้จะสังเกตว่า ถ้าเกิดเราชงชาปกตินี่

00:20:0600:20:07 เราใช้ช้อนคนก็ละลายแล้ว

00:20:0700:20:11 แต่ถ้าเกิดเราซื้อเป็นผงชาเขียวมา แล้วละลายน้ำ แล้วใช้ช้อนคน

00:20:1100:20:11 ยากค่ะ

00:20:1100:20:12 ไม่มีทางละลาย

00:20:1200:20:14 ซึ่งจริง ๆ แล้วนี่ วัฒนธรรมการกินญี่ปุ่นนี่

00:20:1500:20:17 เขาจะมีการเรียก 2 แบบครับผม

00:20:1700:20:18 เขาเรียกว่า โคอิฉะ

00:20:1900:20:21 โคอิฉะ คือ ชาเขียวเข้มข้น

00:20:2100:20:22 เวลาเราไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น

00:20:2200:20:27 แล้วก็ไปกินตาม...เขาเรียกอะไร… โรงชาเขียวที่เขาค่อนข้างซีเรียส

00:20:2700:20:30 - แล้วก็แบบ… - ต้องมีเดรสนั่งกินเรียบร้อย

00:20:3000:20:33 - จะสังเกตว่าปริมาณน้ำน้อยมาก - น้อยมาก

00:20:3300:20:33 ครับ

00:20:3300:20:36 เขาจะใส่อัตราส่วนน้ำน้อย ๆ แล้วก็ตีจนเขาละลาย แล้วก็กิน

00:20:3700:20:40 จะสังเกตเลยว่ารสชาตินี่ ถ้ากินเข้าไปนี่ หนึ่งคือมันมีความเขียว

00:20:4100:20:42 เหมือนกินผัก

00:20:4200:20:46 ใช่ แล้วมันก็จะมีแบบว่า เม็ด ๆ ใด ๆ อยู่ในปากนิดนึง

00:20:4600:20:48 มันจะไม่ได้เป็นน้ำที่เรากินนะคะ

00:20:4800:20:50 มันจะรู้สึกว่ามันจะติดลิ้น มีโพสต์เทสนิดนึง

00:20:5000:20:53 กับอีกอันหนึ่งที่จะสัมผัสได้เลย คือความเค็ม

00:20:5400:20:56 ความเค็มแล้วก็อูมามิ ซึ่งเขาไม่ได้เติมเกลือเลยนะครับ

00:20:5600:20:59 แต่ว่าเราทำในประเทศญี่ปุ่น ที่เป็นประเทศเกาะเนอะ

00:20:5900:21:02 แล้วเวลาเขาตากแห้งนี่ มันเป็นลมทะเลเข้ามาครับผม

00:21:0200:21:02 อ๋อ โอเค

00:21:0200:21:04 แล้วแบบที่ 2 ที่ชงชา

00:21:0400:21:08 แบบที่ 2 คือเป็นอูรูฉะ คือทำให้มันมีความจางเพิ่มมากขึ้น

00:21:0800:21:14 บางทีนี่เขากินเป็นแบบเข้มข้นจนเหลือแค่ขอบ ติดถ้วย แล้วเติมน้ำลงไป

00:21:1400:21:17 ก็จะได้รสชาติชาเขียว ที่คล้าย ๆ กับที่เราทานทุกวันนี้

00:21:1700:21:18 - คือมีความจางเพิ่มมากขึ้น - แล้วฟูจิชะล่ะ

00:21:1900:21:24 ฟูจิชะ ไอเดียคือเอาตัวชาเขียว ที่ปกตินี่เราตั้งใจที่จะไม่คั่วใช่ไหมครับ

00:21:2400:21:25 เราเอาสิ่งนี้ไปคั่วครับ

00:21:2500:21:26 อ๋อ

00:21:2600:21:27 ก็เกิดเป็นฟูจิชะขึ้นมาครับผม

00:21:2800:21:30 เพราะมันจะมีกลิ่นพิเศษที่เกิดจากการคั่ว

00:21:3000:21:34 มันก็จะเป็นความหอม ความเป็นคาราเมลเพิ่มมากขึ้นในตัวฟูจิชะ

00:21:3400:21:34 โอเค

00:21:3400:21:38 คราวนี้นี่เรารู้ถึงวิธีการทาน แล้วก็ชนิดต่าง ๆ ของใบชา

00:21:3800:21:41 แล้วคราวนี้กินชาเขียว แล้วมันมีประโยชน์อย่างไรครับพี่เอ๋

00:21:4100:21:46 ก็คือในชาเขียวเองนี่ มันก็จะมีเรื่องของสารต้านอนุมูลอิสระหลายตัว

00:21:4600:21:50 แต่ตัวที่เด่น แล้วก็มีคนพูดเยอะ ๆ เลย ก็คือ EGCG

00:21:5000:21:52 ซึ่งจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

00:21:5200:21:58 แล้วก็มีข้อดีคืออาจจะมีส่วนในเรื่องของ ชะลอเรื่องของกระบวนการแก่

00:21:5800:21:59 หรือว่า aging process ในร่างกาย

00:21:5900:22:01 ก็เลยมีคนพยายามพูดว่า

00:22:0100:22:05 การใช้ชาเขียวนี่นอกเหนือจากที่จะช่วย ในเรื่องของรสชาติหรือต้านอนุมูลอิสระแล้วนี่

00:22:0500:22:09 อาจจะช่วยเรื่องของทำให้อายุยืนยาวมากขึ้น

00:22:0900:22:09 ครับผม

00:22:0900:22:11 วันนี้ได้ประโยชน์เยอะมาก ๆ เลยครับ

00:22:1100:22:16 มีทั้ง 6 เทคนิคเลยที่จะช่วยทำให้อายุเรา ยืนยาวเพิ่มมากขึ้นนะครับ

00:22:1600:22:19 เราลองเอากลับไปปรับใช้ ในชีวิตประจำวันดูครับ

00:22:1900:22:23 เพื่อให้ร่างกายเราแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น แล้วก็อายุยืนยาวมากขึ้น

00:22:2300:22:25 นอกเหนือจากเรื่องของอาหารนะคะ

00:22:2500:22:27 เวลาที่เรามองคนญี่ปุ่น เราจะเห็นว่าคนญี่ปุ่นเองนี่

00:22:2700:22:30 - ส่วนใหญ่จะค่อนข้างกระฉับกระเฉงถูกไหม - ใช่ครับ

00:22:3000:22:32 ไม่ว่าจะอายุยืน เด็ก ๆ หรือสาว ๆ ก็ตาม

00:22:3200:22:35 เขาจะเดินค่อนข้างเยอะ แล้วก็เดินค่อนข้างเร็วนะคะ

00:22:3500:22:38 เพราะฉะนั้นนอกเหนือจากเรื่องของอาหารแล้วนี่

00:22:3800:22:40 ไลฟ์สไตล์หรือการใช้ชีวิตนี่

00:22:4000:22:44 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Positive Thinking การมองโลกในแง่ดี

00:22:4400:22:46 แล้วก็เรื่องของการเดินให้เยอะขึ้น

00:22:4600:22:48 การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ

00:22:4800:22:52 อันนี้ก็จะเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่จะทำให้เรามีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น

00:22:5200:22:55 ไม่ใช่แค่เรื่องของอาหารอย่างเดียวนะคะ

00:22:5500:22:59 ครั้งต่อไปเราจะมาคุยกันในเรื่องของ อาหารสุขภาพอะไรใน Food Choice

00:22:5900:23:01 ติดตามได้นะคะ

00:23:0100:23:03 วันนี้หมอเอ๋กับหมอตั้มก็ขอลากันไปก่อน

00:23:0300:23:05 - สวัสดีค่ะ - สวัสดีครับ

00:23:0500:23:10 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:23:1000:23:12 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:23:1200:23:14 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:23:1400:23:16 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:23:1600:23:18 YouTube Mahidol Channel

00:23:1800:23:19 Apple Podcasts

00:23:1900:23:20 Spotify

00:23:2100:23:21 Anchor

00:23:2200:23:22 Joox

00:23:2200:23:28 [เสียงดนตรี]

00:23:2800:23:30 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้

00:23:3000:23:31 มหาวิทยาลัยมหิดล

00:23:3200:23:33 ปัญญาของแผ่นดิน