00:00:06 → 00:00:10 เรื่องของแร่ธาตุเนอะก็เป็นหนึ่งในสาร
00:00:10 → 00:00:13 อาหารที่สำคัญนะครับบางคนก็อาจจะเรียกว่า
00:00:13 → 00:00:18 เกลือแร่จริงๆแล้วแร่ธาตุกับเกลือแร่มัน
00:00:18 → 00:00:20 คือสิ่งเดียวกันนะครับถ้าภาษาอังกฤษเขา
00:00:20 → 00:00:23 เรียก minoral นะครับเป็นหนึ่งในสารอาหาร
00:00:23 → 00:00:26 ที่สำคัญสำหรับร่างกายของเราฉะนั้นแล้ว
00:00:27 → 00:00:29 เนี่ยขึ้นชื่อว่าสารอาหารร่างกายขาดไม่
00:00:29 → 00:00:33 ได้นะครับจะจะขาดมีผลต่อการทำงานของ
00:00:33 → 00:00:38 ร่างกายซึ่งแร่ธาตุเนี่ยมีทั้งหมดเนี่ย 20
00:00:38 → 00:00:41 ชนิดล้วนแล้วแต่มีความจำเป็นความต้องการ
00:00:41 → 00:00:44 ซึ่งต้องการมากน้อยในแต่ละตัวเนี่ยแตก
00:00:44 → 00:00:48 ต่างกันแต่ขาดไม่ได้เลย
00:00:48 → 00:00:52 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัพเดททุกโรคภัยฟังราย
00:00:52 → 00:00:58 การโรงหมอดิฉันสุรีพรวงสถิตย์พรค่ะ
00:00:58 → 00:01:01 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:01:01 → 00:01:04 การโรงหมอทาง Thai PBS podcast วันนี้
00:01:04 → 00:01:07 เรามาพบกันเช่นเคยนะคะติดตามสาระวันนี้ก็
00:01:07 → 00:01:09 ได้เราจะคุยกันเรื่องของแร่ธาตุที่สำคัญ
00:01:09 → 00:01:12 ที่ร่างกายไม่ควรขาดนะคะคุยกับผู้ช่วย
00:01:12 → 00:01:15 ศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุงพืชจากวิทยาลัย
00:01:15 → 00:01:18 การแพทย์บูรณาการมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต
00:01:18 → 00:01:21 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขาครับสวัสดีครับผม
00:01:21 → 00:01:24 พูดถึงเรื่องของแร่ธาตุที่สำคัญที่ร่าง
00:01:24 → 00:01:26 กายต้องการคงต้องถามอาจารย์แล้วแหละเนาะ
00:01:26 → 00:01:29 เพราะว่าเราไม่รู้หรอกว่าร่างกายของคนเรา
00:01:29 → 00:01:33 อ่ะสำคัญยังไงที่เราจะต้องใช้แร่ธาตุต่าง
00:01:33 → 00:01:36 ๆเหล่านี้จากอาหารการกินของเรามันมีอะไร
00:01:36 → 00:01:39 สำคัญบ้างสำคัญยังไงดีกับร่างกายยังไงคะ
00:01:39 → 00:01:43 อาจารย์สำหรับเรื่องของแร่ธาตุเนาะก็เป็น
00:01:43 → 00:01:47 หนึ่งในสารอาหารที่สำคัญนะครับบางคนก็อาจ
00:01:47 → 00:01:50 จะเรียกว่าเกลือแร่อ่าจริงๆแล้วแร่ธาตุ
00:01:50 → 00:01:54 กับเกลือแร่เนี่ยมันคือสิ่งเดียวกันนะ
00:01:54 → 00:01:57 ครับถ้าภาษาอังกฤษเขาเรียกมิโนรัลอ้อก็
00:01:57 → 00:02:01 คือเกลือแร่หรือแร่ธาตุนะครับเป็นหนึ่งใน
00:02:01 → 00:02:05 สารอาหารที่สำคัญสำหรับร่างกายของเรางั้น
00:02:05 → 00:02:07 แล้วเนี่ยขึ้นชื่อว่าสารอาหารร่างกายขาด
00:02:07 → 00:02:12 ไม่ได้นะครับอ่าจะพร่องจะขาดมีผลต่อการทำ
00:02:12 → 00:02:49 งานของร่างกายนะซึ่งแร่ธาตุเนี่ย
00:02:49 → 00:03:01 [เพลง]
00:03:15 → 00:03:19 ธาตุเหล็กนี้นะครับไม่ใช่เหล็กที่เราเห็น
00:03:19 → 00:03:21 ๆในก่อสร้าง
00:03:21 → 00:03:25 ในอาหารคือมันก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญ
00:03:25 → 00:03:29 ของเม็ดเลือดแดง
00:03:29 → 00:03:32 เม็ดเลือดแดงธาตุเหล็กเนี่ยทานแล้วอย่าง
00:03:32 → 00:03:35 ที่บอกว่าถ้าเราขาดธาตุเหล็กพร่องธาตุ
00:03:35 → 00:03:38 เหล็กการสร้างเม็ดเลือดแดงก็ลดน้อยลง
00:03:38 → 00:03:41 เพราะแล้วถ้าเราไปเจาะเลือด
00:03:41 → 00:03:44 ค่าฮีโมโกลบินฮีมา
00:03:44 → 00:03:51 ไปตรวจสุขภาพประจำปีเฮ้ยทำไมเธอต่ำเธอซี่
00:03:51 → 00:03:55 เพราะธาตุเหล็กเธอต่ำเม็ดเลือดแดงเธอเลย
00:03:55 → 00:03:57 ต่ำ terracy
00:03:57 → 00:04:02 มันต่ำลงเนี่ยมันก็มีผลทำให้การจับ
00:04:02 → 00:04:06 ออกซิเจนเพราะหน้าที่ของเม็ดเลือดหลักๆ
00:04:06 → 00:04:08 เลยเม็ดเลือดแดงในร่างกายคือขนส่ง
00:04:08 → 00:04:11 ออกซิเจนไปให้กับเซลล์แล้วถ้าเหล็กต่ำ
00:04:11 → 00:04:14 เม็ดเลือดแดงต่ำการส่งออกซิเจนให้กับ
00:04:14 → 00:04:17 เซลล์ต่างๆทั่วร่างกายมันก็ลดน้อยลงร่าง
00:04:17 → 00:04:19 กายของเราเนี่ยเซลล์ในร่างกายของเราเนี่ย
00:04:19 → 00:04:23 มันเอาออกซิเจนเข้าไปผลิตเป็นพลังงานงั้น
00:04:23 → 00:04:26 แล้วถ้าเกิดเล็กตามเม็ดเลือดแดงลดมีภาวะ
00:04:26 → 00:04:29 ซีดการขนส่งออกซิเจนเข้าเซลล์น้อยผลิต
00:04:29 → 00:04:32 พลังงานลดลงเราก็เลยอ่อนเพลียเราก็เลย
00:04:32 → 00:04:35 เหนื่อยง่ายไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง
00:04:35 → 00:04:39 เพราะอะไรครับเพราะร่างกายต้องการ
00:04:39 → 00:04:43 ออกซิเจนเพิ่มขึ้นไงมันเป็นกลไกการเอ่อชด
00:04:43 → 00:04:47 เชยของร่างกายนะครับที่แบบอุ๊ย 2 รูจมูก
00:04:47 → 00:04:50 เอาออกซิเจนไม่พอก็ต้องผ่าขาเข้าไป
00:04:50 → 00:04:54 จริงๆแต่จริงๆแล้วเนี่ยก็ต้องไปดูต้นเหตุ
00:04:54 → 00:04:56 ว่าคุณอ่อนเพลียคุณเหนื่อยง่ายเนี่ยคุณ
00:04:56 → 00:04:58 อาจจะพร่องเหล็กนะขาดเหล็กนะอย่างนี้อัน
00:04:58 → 00:05:01 นี้คือเป็นตัวอย่างนึงเท่านั้นนะคือบางคน
00:05:01 → 00:05:03 อาจจะบอกว่าเอ้ยก็หาวหรืออะไรคืออาจจะ
00:05:03 → 00:05:05 เป็นเรื่องปกติแต่จริงๆมันอาจจะต้องดู
00:05:05 → 00:05:07 ระยะเวลาที่ผ่านมาด้วยว่ามันเป็นอย่างนี้
00:05:07 → 00:05:11 มาระยะเวลาพอสมควรแล้วว่าคุณแบบว่าเออบาง
00:05:11 → 00:05:15 คนแบบว่าเอานอนดึกคุณก็หาว่าก็เป็นไปได้
00:05:15 → 00:05:19 มันมีหลายปัจจัยนะแต่ว่าการการขาดเหล็ก
00:05:19 → 00:05:22 ห้องเหล็กออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายน้อยมัน
00:05:22 → 00:05:24 ก็สะท้อนกลับมาว่าร่างกายมันอยากที่จะแบบ
00:05:24 → 00:05:29 ต้องปกป้องตัวเองโดยการชดเชยโดยการแบบเอา
00:05:29 → 00:05:31 ออกซิเจนเข้าไปเพิ่มมากขึ้นเป็นเหมือน
00:05:31 → 00:05:33 competences ของร่างกายเพื่อจะให้แบบ
00:05:33 → 00:05:36 เฮ้ยออกซิเจนเข้ามาเยอะๆนะจะได้
00:05:36 → 00:05:40 ผลเอ่อเซลล์เอาไปใช้ได้เยอะอ่าแต่จริงๆ
00:05:40 → 00:05:44 แล้วเนี่ยมันคืออาจจะบ่งชี้สะท้อนว่าคุณ
00:05:44 → 00:05:46 พร่องเหล็กก็ได้คุณขาดเหล็กก็ได้ก็ต้อง
00:05:46 → 00:05:48 สังเกตดูว่าเฮ้ยคุณซีดมาให้คุณอ่อนเพลีย
00:05:48 → 00:05:51 มาให้คุณเหนื่อยง่ายไหมอ่าก็เป็นวิธีการ
00:05:51 → 00:05:54 นึงที่สังเกตว่าอุ๊ยมันทำไมช่วงนี้ซีดๆ
00:05:54 → 00:05:56 แลบลิ้นปลิ้นตา
00:05:56 → 00:06:00 ดูซีดๆอันนั้นเราเป็นอาการทางคลินิกที่
00:06:00 → 00:06:03 มันแบบมันสายไปแล้วไงมันเกิดแล้วไงมันซี่
00:06:03 → 00:06:06 ๆเพราะคุณขาดคุณพ่อไปแล้วอย่างเงี้ยแต่
00:06:06 → 00:06:09 ถ้าเกิดคุณเจาะเลือดดูอ่าตัวชี้วัดบางตัว
00:06:09 → 00:06:14 ที่บ่งชี้ว่าคุณขาดแร่ธาตุนั้นๆไหมก็
00:06:14 → 00:06:18 สามารถอ่าแล้วอันนี้คือความสำคัญเลยนะเรา
00:06:18 → 00:06:19 แค่ยกตัวอย่างเดียว
00:06:19 → 00:06:24 หรือแม้กระทั่งแคลเซียมเองคิดดูคนขาดปุ๊บ
00:06:24 → 00:06:27 กระดูกคุณก็อาจจะบางบางทียังไม่รู้ว่าขาด
00:06:27 → 00:06:28 หรือเปล่าแต่รู้สึกว่าเราต้องเสริม
00:06:28 → 00:06:31 แคลเซียมแล้วแต่มันก็เสริมมากไปบางอย่าง
00:06:31 → 00:06:34 มันก็ไม่ดีไงเพราะเรากลัวแบบว่าเราขาดฉัน
00:06:34 → 00:06:36 ขาดไหมฉันขาดไหมซึ่งทุกวันนี้มันมีวิธี
00:06:36 → 00:06:40 การในการประเมินนะครับก่อนที่จะแบบเสริม
00:06:40 → 00:06:42 เนี่ยพอคุยเรื่องของแร่ธาตุเนี่ยมันมี
00:06:42 → 00:06:45 ความสำคัญทุกตัวเลยไม่ใช่เฉพาะแคลเซียมนะ
00:06:45 → 00:06:49 แต่ต้องดูว่าคุณได้รับครบไหมล่ะถ้าคุณกิน
00:06:49 → 00:06:53 อาหารครบพืชพรรคผลไม้ทั้งหลายแหล่ที่เป็น
00:06:53 → 00:06:54 แหล่งของแร่ธาตุ
00:06:54 → 00:06:58 ซึ่งมันมีอยู่ในอาหารซะส่วนใหญ่ซึ่งครบ
00:06:58 → 00:06:59 เนี่ยอาจารย์บอกเลยนะทุกวันนี้เป็นนัก
00:06:59 → 00:07:03 โภชนาการเองเนี่ยรัฐตำรวจทหารเองเนี่ยยัง
00:07:03 → 00:07:06 บอกเลยว่าเฮ้ยเราอาจจะไม่ครบก็ได้ในบาง
00:07:06 → 00:07:09 วันอืมแล้วพอมันไม่ครบปุ๊บอ่ะมันก็พร่อง
00:07:09 → 00:07:11 ไปบางตัวแล้วเพราะถ้าเหล่านี้มันเป็นส่วน
00:07:11 → 00:07:14 ประกอบเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญในการทำงาน
00:07:14 → 00:07:17 ของเอนไซม์ต่างๆทั่วร่างกายของฮอร์โมน
00:07:17 → 00:07:22 ฮอร์โมนอ่าเป็นส่วนประกอบของ
00:07:22 → 00:07:24 เม็ดเลือดอย่างนี้อย่างที่อาจารย์บอกกลาย
00:07:24 → 00:07:28 เป็นว่าเฮ้ยเราสะสมสะสมสะสมคือกินไม่ครบ
00:07:28 → 00:07:30 ไม่ครบไม่ครบกลายเป็นพร่อง
00:07:30 → 00:07:33 หมายความว่าต้องมีต้องกินทุกวันหรอคะ
00:07:33 → 00:07:36 อาจารย์แร่ธาตุเอาให้ครบเลยนะอาจารย์เลย
00:07:36 → 00:07:38 20 ตัวเนี่ยแต่เราไม่มีทางรู้หรอก
00:07:38 → 00:07:41 อาจารย์เลยอยากที่จะแบบแหมมีใครอนาคตแล้ว
00:07:41 → 00:07:45 น่าจะมีไอ้ระบบ AI อ่ะ
00:07:45 → 00:07:48 ฟอร์มที่ใส่เป็นนาฬิกา smart watch แบบ
00:07:48 → 00:07:51 สมัยเนี้ยว่าคุณรีอ่ะกินวันนี้กินไปแล้ว
00:07:51 → 00:07:54 20 ตัวนะกดดูเลยอาจารย์ฟาดฉาบอาหารเช้า
00:07:54 → 00:07:56 ไปแล้วมื้อเช้าไปแล้วตอนนี้ธาตุเหล็ก
00:07:56 → 00:07:58 อาจารย์เนี่ยได้ไปกี่เปอร์เซ็นต์แล้ว
00:07:58 → 00:08:02 โอ้โห 100% ยังนี่นะนึกออกมั้ยแคลเซียมไป
00:08:02 → 00:08:03 กี่เปอร์เซ็นต์แล้วเมื่อเช้าไม่ได้กิน
00:08:03 → 00:08:06 อะไรเลยแคลเซียมไม่ได้กินปลาเล็กปลาน้อย
00:08:06 → 00:08:09 นมๆอะไรตอนนี้แคลเซียมยังศูนย์อยู่อย่าง
00:08:09 → 00:08:12 เงี้ยก็ยังขึ้นสีแดงอยู่เออมันก็
00:08:12 → 00:08:14 ปริ้นเตอร์ 20 ชนิดอย่างเงี้ยจะได้แบบ
00:08:14 → 00:08:16 เอ้ยเติมได้เสริมได้ตรงจุดแต่ทุกวันนี้
00:08:16 → 00:08:19 อันนี้คือมโนไงมโนมันร่วม 10 ปีแล้วอยาก
00:08:19 → 00:08:21 ให้มีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่แน่ในอนาคต
00:08:21 → 00:08:24 อาจจะมีก็ได้นะคะ
00:08:24 → 00:08:27 แคลอรี่เท่าไหร่เดินเท่าไหร่อ่าพวกเนี้ย
00:08:27 → 00:08:29 คือแต่อันเนี้ยมันจะต้องอินดีเทลเข้าไป
00:08:30 → 00:08:33 อีกเขาอนาคตเนี่ยน่าจะมีเทคโนโลยีที่
00:08:33 → 00:08:36 สามารถที่จะดีเทคได้เพราะพวกเนี้ยมันคือ
00:08:36 → 00:08:39 มันคือแร่ครับมันคือโมเลกุลหนักมันมีโครง
00:08:39 → 00:08:41 สร้างทางเคมีมีคาร์บอนอะตอมมีไนโตรเจน
00:08:42 → 00:08:45 โอ้โหไอ้แผ่นที่มันสัมผัสกับร่างกายเรา
00:08:45 → 00:08:47 อ่ะมันอาจจะสื่อกับแร่ธาตุเหล่านี้ได้
00:08:47 → 00:08:50 อาจารย์ไม่มีความรู้ทางด้านของไอที
00:08:50 → 00:08:53 เทคโนโลยีอะไรแต่มโนล้วนๆคิดว่านวัตกรรม
00:08:53 → 00:08:56 ในอนาคตเนี่ยมันอาจจะบอกเราได้ว่าวันนี้
00:08:56 → 00:08:58 เราพร่องอะไรเราขาดอะไรเพื่อเราจะ
00:08:58 → 00:09:01 personalize ได้นะในสิ่งที่เราขาดวันนี้
00:09:01 → 00:09:04 คุณลีกินโครเมียมไม่ครบอย่างนี้จะรู้ไหม
00:09:05 → 00:09:07 ว่าต้องการวันละเท่านี้นะอย่างนี้
00:09:07 → 00:09:09 โครเมียมอย่างนี้โครเมียมมันไปเกี่ยวข้อง
00:09:09 → 00:09:12 อะไรอ่ะงงหรือเปล่า
00:09:12 → 00:09:16 ว่าโครเมียมเกี่ยวกับการช่วยนำน้ำตาล
00:09:16 → 00:09:19 กลูโคสเข้าเซลล์ถ้าเราขาดแล้วต่อ
00:09:19 → 00:09:21 เนื่องไปนานๆเอากลายเป็นเบาหวานไม่รู้เลย
00:09:21 → 00:09:25 น้ำตาลข้างในเลือดสูงอย่างนี้
00:09:25 → 00:09:28 ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญมันไม่ใช่แค่แบบ
00:09:28 → 00:09:31 ว่าอารมณ์พอพูดถึงแร่ธาตุหรือเกลือแร่คน
00:09:31 → 00:09:35 นึกถึงแต่แบบสดชื่นเหมือนผงน้ำตาลอ่าใช่
00:09:35 → 00:09:38 พวกเกลือแร่แก้ท้องร่วงอารมณ์มากเลยเพราะ
00:09:38 → 00:09:41 ว่ามันถูกขับถ่ายออกไปไงครับถึงเวลาท้อง
00:09:41 → 00:09:44 ร่วงเนี่ยกลายเป็นว่าเกลือแร่เนี่ยแร่
00:09:44 → 00:09:46 ธาตุเนี่ยมันจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
00:09:46 → 00:09:49 เพื่อเอาไปใช้กลายเป็นแบบเฮ้ยมันขับถ่าย
00:09:49 → 00:09:53 ออกไปหมดเลยคุณก็ต้องชดเชยเอองั้นมันมีบท
00:09:53 → 00:09:56 บาทสำคัญกับร่างกายของเราทุกตัวเลยงั้น
00:09:56 → 00:09:58 ถ้าเรากินอาหารให้ครบถ้วนหลากหลายเพียงพอ
00:09:58 → 00:10:01 เราก็ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสริมแต่เมื่อ
00:10:01 → 00:10:04 ไหร่ก็ตามที่เราอาจารย์ผู้เสมอเมื่อ
00:10:04 → 00:10:07 ต้องเสริมเหมือนน้ำไม่เต็มแก้วน้ำมัน
00:10:07 → 00:10:12 พร่องไปครึ่งแก้วอย่างนี้หรือแบบแค่ 3 ใน
00:10:12 → 00:10:14 4 ของแก้วเราก็ต้องเสริมเข้าไปเหมือน
00:10:14 → 00:10:17 ศาสตร์ anthai aging ที่เขามีภาวะที่เรา
00:10:17 → 00:10:20 เรียกว่าภาวะศัพท์ optimal Level ไง sub
00:10:20 → 00:10:24 optimal Level ก็คือห้องสารอาหารบางตัว
00:10:24 → 00:10:27 ไปห้องแร่ธาตุบางตัวไปอย่างนี้ห้องเล็กก็
00:10:27 → 00:10:31 มีผลและบางคนอาจจะพร่องแคลเซียมอย่างนี้
00:10:31 → 00:10:33 ความต้องการแคลเซียมเราเนี่ยต้องการวันละ
00:10:33 → 00:10:36 800 มิลลิกรัมต่อวันถึง 1,000 มิลลิกรัม
00:10:36 → 00:10:40 ต่อวันแต่เรากินไม่ถึงอ่ะไม่ถึงเลยบางคน
00:10:40 → 00:10:43 อาจจะวันนึงแค่แบบ 600 อันนี้ดีแล้วนะแต่
00:10:43 → 00:10:45 จากเซอร์เวย์ของพี่ไทยเราเนี่ยกินวันนึง
00:10:45 → 00:10:49 แค่ประมาณแบบ 300 400 เต็มที่ก็ถือว่า
00:10:49 → 00:10:52 ได้กินแล้วยังไม่ถึงนึกออกมั้ยเพราะงั้น
00:10:52 → 00:10:54 เราก็ต้องเสริมแต่มันก็ต้องเสริมแต่ละตัว
00:10:54 → 00:10:56 มันมีดีเทลเยอะว่าเอ้ยต้องเสริมอย่างไร
00:10:56 → 00:10:59 แต่อาจารย์เน้นย้ำเสมอนะว่ากินจากอาหาร
00:10:59 → 00:11:46 ก่อนให้เพียงพอ
00:11:46 → 00:12:00 [เพลง]
00:12:00 → 00:12:03 24 ชั่วโมงเนี่ยอาจารย์ก็จะนับถอยหลังไป
00:12:03 → 00:12:06 เลยว่าเมื่อเช้าคุณลีฐานอะไรเมื่อวานเย็น
00:12:06 → 00:12:07 ทานอะไร
00:12:07 → 00:12:09 แต่ข้อจำกัดคือคนส่วนใหญ่เป็นไงรู้ไหม
00:12:09 → 00:12:11 ครับลืม
00:12:11 → 00:12:14 เราลืมแล้วนึกตั้งนานเมื่อวานกลางวันแข่ง
00:12:14 → 00:12:20 กินอะไรนึกออกไหมครับมันนึกไม่ออก
00:12:20 → 00:12:24 แต่มันจะรู้แพทเทิร์น Food Pattern ตรง
00:12:24 → 00:12:26 นี้การพฤติกรรมการบริโภคอาหารเนี่ยจะรู้
00:12:26 → 00:12:28 เลยว่าหูคุณลีไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์ไม่
00:12:28 → 00:12:31 ค่อยกินผักใบเขียวเสี่ยงต่อการขาดธาตุ
00:12:31 → 00:12:34 เหล็กอ๋อประเมินอันนี้ประมูลอาหารบริโภค
00:12:34 → 00:12:36 เลยคุยนี่เลยยังไม่ได้เจาะเลือดเลยนะ
00:12:36 → 00:12:39 เนี่ยถูกต้องเพราะว่ามันไม่เสียตังค์ไง
00:12:39 → 00:12:43 ประเมินอาหารบริโภคนึกออกไหมครับก็ดูเลย
00:12:43 → 00:12:45 ว่าแบบเฮ้ยไม่ค่อยกินอันนี้เลยไม่ค่อยกิน
00:12:45 → 00:12:48 เอ่ออาหารที่เป็นแหล่งของแคลเซียมเลย
00:12:48 → 00:12:51 อย่างเงี้ยอาจารย์ก็รู้เลยว่าโอ้โหเจาะ
00:12:51 → 00:12:53 เลือดไปอย่างเงี้ยก็จะมีผลว่าเฮ้ยระดับ
00:12:53 → 00:12:56 แคลเซียมหรือตัวชี้วัดแคลเซียมในเรื่อง
00:12:56 → 00:13:00 ของคุณก็ต้องต่ำทำยิ่งไปทำเด็กซ่าไปตรวจ
00:13:00 → 00:13:02 Bone มีแต่รอบเดนซิตี้ความหนาแน่นของมวล
00:13:02 → 00:13:05 กระดูกเฮ้ยก็ต่ำเพราะคุณขาดแร่ธาตุ
00:13:05 → 00:13:07 แคลเซียมนะคือมันก็คือสัมพันธ์กันนั่น
00:13:07 → 00:13:11 แหละสัมผัสในการกินนั่นแหละนึกออกใช่ไหม
00:13:11 → 00:13:15 ครับอาหารคือต้นน้ำกลางน้ำคือสารอาหารที่
00:13:15 → 00:13:18 เข้าไปอยู่ในเลือดแล้วเราเรียกเออรี่ดี
00:13:18 → 00:13:21 ถ้าเราเจาะเลือดมันมันตรวจพบได้ไวเมื่อไร
00:13:21 → 00:13:25 ก็ตามที่คุณต่ำแต่ปลายน้ำคืออะไรครับมัน
00:13:25 → 00:13:28 คือสิ่งที่แสดงออกมาทางคลินิกแล้วเช่น
00:13:28 → 00:13:29 กระดูกคุณบาง
00:13:29 → 00:13:33 หรือคุณซีดเพราะเม็ดเลือดแดงคุณต่ำคุณออก
00:13:33 → 00:13:36 อาการและซีดอย่างนี้แล้วคุณก็ต้องไปดูต้น
00:13:36 → 00:13:38 น้ำไม่เสียตังค์น้อยสุดแทบไม่เสียตังค์
00:13:39 → 00:13:42 เลยก็นั่งพูดคุยสัมภาษณ์กันนึกออกว่าอ๋อ
00:13:42 → 00:13:44 คุณกินอาหารที่เป็นแหล่งของธาตุเหล็กมาก
00:13:44 → 00:13:45 น้อยแค่ไหน
00:13:45 → 00:13:48 ประเมินปุ๊บคุณน้อยขาดแต่ถ้าเที่ยงตรง
00:13:48 → 00:13:52 แม่นยำเจาะเลือดเลยโอ้อันนี้ชัดเจนเลยเออ
00:13:52 → 00:13:55 บางทีเสียตังค์เยอะอย่างเงี้ยอ่าแต่ถ้า
00:13:55 → 00:13:59 ปล่อยให้สายไปแล้วคืออะไรครับซีดให้เห็น
00:13:59 → 00:14:02 แล้วกระดูกคุณบางแล้วถูกต้อง
00:14:02 → 00:14:06 แล้วนี่เตรียมหักแล้วเนี่ยใช่คุณแบบมี
00:14:06 → 00:14:10 อาการเป็นเบาหวานแล้วคุณมีปัญหาต่างๆแบบ
00:14:10 → 00:14:13 อาการแสดงทางคลินิกตามมาแล้วพอจะเห็นภาพ
00:14:13 → 00:14:16 ใช่มั้ยเวลาเราประเมินเนี่ยอ่าว่าเฮ้ยแร่
00:14:16 → 00:14:18 ธาตุในการทำงานของร่างกายเนี่ยมันจะเป็น
00:14:18 → 00:14:23 มันจะเป็นแบบแต่ละขั้นแต่ละสติแต่เราก็
00:14:23 → 00:14:25 ต้องประเมินเพราะไม่งั้นเราไม่รู้ไงว่า
00:14:25 → 00:14:29 เรากินพอลืมไม่พอทุกวันนี้ประเมินเบื้อง
00:14:29 → 00:14:31 ต้นได้ว่าดูแล้วก็ไม่พอแต่ก็ไม่รู้ว่าตัว
00:14:31 → 00:14:35 ไหนมันพร่องเพราะว่าแต่ละคนก็จะมีเขา
00:14:35 → 00:14:37 เรียกอะไรสัดส่วนความต้องการแร่ธาตุต่างๆ
00:14:37 → 00:14:40 ต่างกันและไร้สายต่างกันอันนี้คือ
00:14:40 → 00:14:44 ปากเกรดกบุคคลและเขาถึงต้อง personalize
00:14:44 → 00:14:48 ความต้องการของของแต่ละคนเท่าไหร่แต่คุณ
00:14:48 → 00:14:50 ผู้ฟังสามารถที่จะไปดูความต้องการในแต่ละ
00:14:50 → 00:14:53 ช่วงวัยได้ตามข้อแนะนำของกระทรวง
00:14:53 → 00:14:56 สาธารณสุขเขาจะมีข้อแนะนำปริมาณแร่ธาตุใน
00:14:56 → 00:14:58 แต่ละวันในแต่ละตัวว่าเราต้องการในแต่ละ
00:14:58 → 00:15:04 ช่วงวัยตั้งแต่วัยเด็กในวัยผู้ใหญ่ผู้สูง
00:15:04 → 00:15:07 อายุมีความต้องการและถ้าต่างกันนะโดย
00:15:07 → 00:15:10 General ทั่วไปแล้วก็ค่อยมาดูอีกว่าฉัน
00:15:10 → 00:15:13 ต้องการเท่าไหร่แล้วพฤติกรรมการบริโภคของ
00:15:13 → 00:15:17 ฉันเป็นอย่างไรเพียงพอหรือเปล่าอันนี้ก็
00:15:17 → 00:15:21 จะต้องประเมินดูนะก่อนที่เราจะต้องเสริม
00:15:21 → 00:15:26 แล้วเราเน้นจากอาหารเป็นหลักก่อน
00:15:26 → 00:15:29 เรากินไม่พอหรือพฤติกรรมมันไม่ได้บางคน
00:15:29 → 00:15:32 แบบอ้าวมื้อเช้างดเว้นไปอย่างเงี้ยอาจจะ
00:15:32 → 00:15:34 กินเฉพาะกลางวันกับเย็นเนี่ยแล้วคุณกิน
00:15:34 → 00:15:37 พร้อมไหมล่ะไม่พอแล้ว
00:15:37 → 00:15:40 สมมุติว่าเอาง่ายๆแคลเซียมของคุณไม่พออ่ะ
00:15:40 → 00:15:44 คุณก็ต้องมีเสริมนี่พอเสริมปุ๊บมันก็ขึ้น
00:15:44 → 00:15:47 อยู่กับรูปแบบและพอไม่พอปุ๊บอาจารย์บอก
00:15:47 → 00:15:49 ว่าคุณไปกินจะอาหารก่อนนะอ่ะคุณไปกิน
00:15:49 → 00:15:51 โยเกิร์ตก่อนนะคุณไปกินนมถั่วเหลือง
00:15:51 → 00:15:54 แคลเซียมนะอ่าหรือบางคนชอบนมเอาม้ง
00:15:54 → 00:15:55 อัลมอนด์อะไรก็ว่าไปแต่ต้องมีเป็นแหล่ง
00:15:55 → 00:15:57 ของแคลเซียมกินปลาเล็กปลาน้อยอะไรพวก
00:15:57 → 00:16:01 เนี้ยครับคุณไปกินตรงนั้นก่อนนะให้มันให้
00:16:01 → 00:16:04 มันเสริมเข้าไปให้เพียงพอนะถ้าเกิดว่าจะ
00:16:04 → 00:16:07 หาไม่พอคุณมาเป็นเม็ดเป็นอาหารเสริมเพราะ
00:16:07 → 00:16:09 เป็น Macbook ต้องพิจารณาด้วยนะอย่าง
00:16:09 → 00:16:10 แคลเซียมอย่างนี้ครับ
00:16:10 → 00:16:13 ถ้าเกิดกินเป็นเม็ดเนี่ยแคลเซียมไปเดี่ยว
00:16:13 → 00:16:16 ๆมันอาจจะทำให้เกิดตะกรันของแคลเซียมที่
00:16:16 → 00:16:18 ผนังหลอดเลือดหรือหินปูนของแคลเซียมที่
00:16:18 → 00:16:21 หลอดเลือดกลายเป็นว่าเอาเสริมแร่ธาตุแต่
00:16:21 → 00:16:23 กลายเป็นว่าเหมือนกับเป็นฆาตกรเงียบโดย
00:16:24 → 00:16:27 ไม่รู้ตัวมันไม่ได้ไปที่กระดูกอ่ะมันเป็น
00:16:27 → 00:16:30 มันไปตกสะสมเป็นตะกรันของแคลเซียมที่หลอด
00:16:30 → 00:16:33 เลือดเหมือนที่เวลาตรวจผู้สูงอายุหรือคน
00:16:33 → 00:16:35 ที่อายุแบบ 40 อัพส่วนใหญ่ก็จะแนะนำให้
00:16:35 → 00:16:37 ตรวจแคลเซียม score ไม่รู้คุณรีเคยตรวจ
00:16:37 → 00:16:39 ไหมยังไม่เคยตรวจสุขภาพทั่วไปมักไม่ค่อย
00:16:39 → 00:16:42 มีเราก็ต้อง Request เองอันนี้สำคัญนะ
00:16:42 → 00:16:45 ครับเพราะมันเป็นหินปูนที่ผนังหลอดเลือด
00:16:45 → 00:16:49 ทำให้หลอดเลือดของเราเนี่ยตีบตันแตกตายมา
00:16:49 → 00:16:51 หลายสิ้นโอ๊ยอาจารย์พูดแล้วก็รู้สึกกลัว
00:16:51 → 00:16:57 เลยอ่ะแบบว่าการตรวจสุขภาพ
00:16:57 → 00:16:59 ก่อนนึกออกมั้ยมันไม่ได้แบบว่าทีเดียวแบบ
00:16:59 → 00:17:03 ไปเลยทีเดียวจบเลยม้วนเดียวจบก็จบกันไป
00:17:03 → 00:17:06 ไม่เป็นภาระกับลูกกับหลานอ่าประกันอาวุโส
00:17:06 → 00:17:10 โอเคมันก็ไม่โอเคนะไม่มีใครโอเคแน่ๆแหละ
00:17:10 → 00:17:12 ด้วยความที่อาจารย์บอกว่าด้วยความมันอยู่
00:17:12 → 00:17:15 ในอาหารนั่นแหละหาได้ไม่ยากอันนี้ยังไม่
00:17:15 → 00:17:17 ได้พูดถึงเรื่องของการไปเสริมไปซื้ออะไร
00:17:17 → 00:17:20 อย่างนี้นะอันนี้ยังไม่พูดถึงตรงนี้นะเออ
00:17:20 → 00:17:22 เพราะว่ามีแร่ธาตุที่สำคัญ 20 กว่าชนิด
00:17:22 → 00:17:25 แล้วจะไปตามกินยังไงคะอาจารย์จากอาหารนี่
00:17:25 → 00:17:30 แหละโอ้โหให้หลากหลายให้เพียงพอค่ะมันมี
00:17:30 → 00:17:33 แร่ธาตุสำคัญๆเยอะแยะมากมายเอาอะไรก่อนดี
00:17:33 → 00:17:35 คะอาจารย์เอาธาตุเหล็กที่อาจารย์บอกไป
00:17:35 → 00:17:38 เมื่อกี้เนี่ยทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนใน
00:17:38 → 00:17:41 ให้กับเซลล์ฉะนั้นถ้าขาดอ่อนเพลียหน่วย
00:17:41 → 00:17:44 ง่ายเพราะออกซิเจนเข้าเซลล์น้อยผลิตพลัง
00:17:44 → 00:17:47 งานได้ไม่ดีตรงมาตรงไปนอกจากนี้เหล็กยัง
00:17:47 → 00:17:50 เป็นส่วนประกอบที่สำคัญใน
00:17:50 → 00:17:53 พวกระบบภูมิคุ้มกัน
00:17:53 → 00:17:56 พวกการทำงานของภูมิคุ้มกันต่างๆเพราะเรา
00:17:57 → 00:17:59 เนี่ยถ้าเราขาดเหล็กเพราะเหล็กเราก็จะ
00:17:59 → 00:18:03 เจ็บป่วยง่ายนะครับสมัยเด็กๆบางบ้านเนี่ย
00:18:03 → 00:18:08 ชอบจับลูกกรอกปากเพราะมันคาวน้ำมันตับปลา
00:18:08 → 00:18:11 เพราะเหล็กมันสะสมอยู่ที่ตับเยอะแต่เราจะ
00:18:11 → 00:18:23 ไปกินน้ำมันตับคนก็ไม่ได้ถูกไหมครับ
00:18:23 → 00:18:26 อันนี้เสริมภูมิคุ้มกันคนละอย่างกับน้ำ
00:18:26 → 00:18:28 มันปลานะครับมิน่าตอนเด็กๆไม่ค่อยป่วยเลย
00:18:28 → 00:18:32 ใช่เพราะว่านี่แล้วมันแต่ปลานี่เอง
00:18:32 → 00:18:35 เป็นแหล่งของธาตุเหล็กแล้วเหล็กเนี่ยมัน
00:18:35 → 00:18:37 จะไปเป็นส่วนประกอบสำคัญในการที่จะสร้าง
00:18:37 → 00:18:40 ศาลในการกำจัดเชื้อโรคสิ่งแปลกปลอมกินตอน
00:18:40 → 00:19:11 นี้ทันไหมคะ
00:19:11 → 00:19:18 [เพลง]
00:19:18 → 00:19:21 ก็ไม่ค่อยกินผักหรอคะอาบโดยเฉพาะในเด็ก
00:19:21 → 00:19:24 เนี่ยเกือบครึ่งนึงอ่ะ
00:19:24 → 00:19:27 เขาขาดเหล็กคือแบบบางคนกินตับทุกวันก็
00:19:27 → 00:19:29 เบื่อกินเนื้อสัตว์บางคนก็ไม่ค่อยชอบวิ่ง
00:19:29 → 00:19:32 กระแสแผ่นเบสมานึกออกไหมคุณก็แบบซีดโดย
00:19:32 → 00:19:34 ไม่รู้ตัวอย่างนี้ก็มีนะครับอันนี้คือ
00:19:34 → 00:19:37 ธาตุเหล็กอีกธาตุนึงที่ขาดกันเยอะในเด็ก
00:19:37 → 00:19:41 ไทยคือไอโอดีนเฮ้ยยังมีอยู่อีกหรอคะยังมี
00:19:41 → 00:19:41 ครับ
00:19:41 → 00:19:46 ในเด็กดงเด็กดอยทั้งหลายแหล่นึกออกใช่ไหม
00:19:46 → 00:19:50 ครับ
00:19:50 → 00:19:55 เกลือต้องมีไอโอดีนกฎหมายแม้กระทั่งมี
00:19:55 → 00:19:58 กึ่งสำเร็จรูปอันนั้นก็โซเดียมป่ะคะไม่
00:19:58 → 00:20:01 ครับยังมีไอโอดีเลยเขาให้เติมนะคุณลีลอง
00:20:01 → 00:20:05 ดูหน้าซองสิเฮ้ยเติมไอโอดีน
00:20:05 → 00:20:10 สังเกตดูไม่กิน
00:20:11 → 00:20:16 ง่ายๆว่าที่มีเศษสถานะไม่ดีอ่ะคนยากจนน่ะ
00:20:16 → 00:20:19 อย่างน้อยเขาก็กินเกลืออ่ะเสริมเข้าไปใน
00:20:19 → 00:20:21 เกลือสิเขากินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็เสริม
00:20:21 → 00:20:23 เข้าไปในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสิเพราะว่า
00:20:23 → 00:20:27 ถ้าคุณขาดปุ๊บอ่ะเด็กน้อยอ่ะเออที่เราชอบ
00:20:27 → 00:20:30 พูดกันน่ะโอ้ยอาจารย์มันจะได้โซเดียมเยอะ
00:20:30 → 00:20:33 เกินไปหรือเปล่าไม่ครับคือเขาปริมาณที่
00:20:33 → 00:20:35 ต้องการเนี่ยมันน้อย
00:20:35 → 00:20:37 เป็นปริมาณที่ต้องการของไอโอดีนเนี่ยมัน
00:20:37 → 00:20:40 น้อยคือกินนะคุณต้องกินนะโซเดียมคุณลีไม่
00:20:40 → 00:20:44 กินไม่ได้นะก็ยังคือแร่ธาตุที่จำเป็นแต่
00:20:44 → 00:20:47 เรากินเกินจำเป็นไงเราอย่าไปกลัวแล้วกลาย
00:20:47 → 00:20:49 เป็นว่าเราไม่กินเลยไม่ได้โอ้โหนี่พยายาม
00:20:49 → 00:20:52 เลี่ยงเลยนะคะอาจารย์ทุกวันนี้คนไทยเรา
00:20:52 → 00:20:54 ทุกวันนี้คือต้องการโซเดียมและกินได้ไม่
00:20:54 → 00:20:57 เกินไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมแต่พี่ไทยเรา
00:20:57 → 00:21:00 กินวันละ 4,000 บาท 2 เท่าเลยนะฮะถูกต้อง
00:21:00 → 00:21:03 ให้กินเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชาเนี่ยพี่ไทย
00:21:03 → 00:21:06 เราช้อนชาคือช้อนกาแฟอ่ะอ่าเล็กๆนั่นแหละ
00:21:06 → 00:21:09 พี่ไทยเรากิน 2 ช้อนกินเกินแต่ต้องกินน้า
00:21:09 → 00:21:11 ขาดไม่ได้นะโซเดียมเนี่ยมีความจำเป็นมี
00:21:11 → 00:21:14 ความสำคัญแล้วคนแบบว่าเฮ้ยฉันไม่กินเลย
00:21:14 → 00:21:16 อะไรอย่างเงี้ยจริงๆแล้วสูตรนี้มันแฝง
00:21:16 → 00:21:18 อยู่ในอาหารอยู่แล้วแหละเขาก็เลยให้ควบ
00:21:18 → 00:21:20 คุมเครื่องปรุงรสน้ำปรุงน้ำปลาเกลือซอส
00:21:20 → 00:21:23 ซีอิ๊วเพราะโซเดียมมันแฝงอยู่ในอาหารอยู่
00:21:23 → 00:21:25 แล้วทุกชนิดเรากินข้าวยังมีโซเดียมเลยคุณ
00:21:25 → 00:21:27 ลีกินขนมปัง 1 แผ่นเนี่ยมีโซเดียมขนมปัง
00:21:27 → 00:21:29 เนี่ย 1 แผ่นเนี่ยมีโซเดียมประมาณ 100
00:21:29 → 00:21:33 มิลลิกรัมและอ๋อๆใช่เคยเห็นในในฉลากมีถูก
00:21:33 → 00:21:35 ต้องบางอย่างยังงงอยู่มั้ยถ้าไม่มีโซมัน
00:21:36 → 00:21:38 มีโซเดียมอยู่ในอาหารตามธรรมชาติที่เรา
00:21:38 → 00:21:40 กินอยู่แล้วฉะนั้นแล้วไอ้พวกเครื่องปรุง
00:21:40 → 00:21:42 รสทั้งหลายแหล่อาหารแปรรูปทั้งหลายแหล่
00:21:42 → 00:21:46 เนี่ยมันมีโซเดียมอยู่สูงเขาไม่อยากให้ไป
00:21:46 → 00:21:49 ทับถมซ้ำเติมตรงนั้นแต่ไม่ใช่ว่าเราแบบ
00:21:49 → 00:21:52 ว่ากลัวโซเดียมจนไม่เลยร่างกายขาดโซเดียม
00:21:52 → 00:21:54 ไม่ได้เลยเพราะโซเดียมมันมีความสำคัญใน
00:21:54 → 00:21:57 การรักษาสมดุลของน้ำทั้งหลายแหล่ในร่าง
00:21:57 → 00:21:58 กาย
00:21:58 → 00:22:01 ทีนี้กลับมาที่ไอโอดีนอย่างที่อาจารย์บอก
00:22:01 → 00:22:05 ว่าโอ้มีความสำคัญนะในการที่จะแบบ
00:22:05 → 00:22:08 เรื่องของสมองไอคิวเด็กอย่างเงี้ย
00:22:08 → 00:22:11 พัฒนาการทางด้านสมองถ้าเด็กขาดไอโอดีนะ
00:22:11 → 00:22:14 เด็กจะเป็นโรคเอ๋อเลย
00:22:14 → 00:22:17 อ่าฉะนั้นแล้วไอโอดีมันสำคัญต่อเรื่องของ
00:22:17 → 00:22:21 ปัญญาอ่าเขาเรียกเชาว์ปัญญาด้วยไอคิวด้วย
00:22:21 → 00:22:24 นะครับอ่ะแล้วเนี่ยหญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่
00:22:24 → 00:22:26 เนี่ยทุกวันนี้เป็นกล้องข้อกำหนดของ
00:22:26 → 00:22:30 กระทรวงเลยนะก็คือเหล็กโฟเลตและไอโอดีน
00:22:30 → 00:22:33 เขาเรียกไตฟืนดีจริง 3 ตัวเนี้ยก็ไม่มีคำ
00:22:33 → 00:22:36 ว่าตายปึ๊บไม่ค่อยดียังไงไม่รู้เลยไตรแปล
00:22:36 → 00:22:41 ว่า 3 นะครับ
00:22:41 → 00:22:44 ใช่ๆถูกต้องครับมันอารมณ์แบบนั้นเลยคือ
00:22:44 → 00:22:48 คือเป็นเป็นเอ่อเหมือนกับยาเม็ดแร่ธาตุ
00:22:48 → 00:22:52 เป็นธาตุให้กับหญิงตั้งครรภ์ต้องเสริมถูก
00:22:52 → 00:22:55 ต้องเพราะไอโอดีนเนี่ยถ้าขาดปุ๊บคอพ่อ
00:22:55 → 00:22:57 ไทรอยด์ทำงานหนักเพราะเป็นส่วนประกอบของ
00:22:57 → 00:22:58 ไทรอยด์ฮอร์โมน
00:22:58 → 00:23:01 ไทรอยด์ฮอร์โมนก็มีส่วนในการสร้าง Ghost
00:23:01 → 00:23:04 Hormone แล้วก็คุณขาดไอโอดีนไทยลอย
00:23:04 → 00:23:06 ฮอร์โมนคุณต่ำถ้าเด็กเล็กก็เจริญเติบโต
00:23:06 → 00:23:09 ไม่ดีถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็การเผาผลาญไม่ดี
00:23:09 → 00:23:13 ไทรอยด์ต่ำหรือ hypot อ้วนถุยบวมเห็นมั้ย
00:23:13 → 00:23:16 มันสัมผัสหมดเลย
00:23:16 → 00:23:19 อ่าเวลาพูดอ้วนถูกบวมอาจารย์ไม่ต้องแบบ
00:23:19 → 00:23:21 ว่าหันมาที่นี่
00:23:21 → 00:23:25 อะไรประมาณนี้คือแบบว่าน่ากลัวแคลเซียม
00:23:25 → 00:23:28 ส่วนประกอบที่สำคัญของกระดูกเนาะอ่าทั้ง
00:23:28 → 00:23:30 หลายแหล่การทำงานของกล้ามเนื้อทั้งหลาย
00:23:30 → 00:23:33 แหล่ก็อาศัยแคลเซียมสังกะสีสังกะสีก็
00:23:33 → 00:23:36 เสริมภูมิคุ้มกันยิ่งช่วงโควิดที่ผ่านมา
00:23:36 → 00:23:39 คุณพูดถึงกันเยอะมากมีบทบาทสำคัญในการที่
00:23:39 → 00:23:43 จะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันอ่าไอ้ตัวสังกะสี
00:23:43 → 00:23:44 เนี่ยเป็นส่วนประกอบสำคัญของพวก
00:23:44 → 00:23:47 antioxidant enzy ที่กำจัดอนุมูลอิสระ
00:23:47 → 00:23:52 ในร่างกายอ่าถึงบอกว่าเอ้ยสังกะสีเป็นแร่
00:23:52 → 00:23:54 ธาตุที่สำคัญนะครับแล้วก็เกี่ยวข้องกับ
00:23:54 → 00:23:57 เรื่องของเอ่อผิวเรื่องของผมอะไรพวกนี้
00:23:57 → 00:23:58 ด้วยนะ
00:23:58 → 00:24:06 ใช่สังกะสีนี้ซิงค์ป่ะคะ
00:24:06 → 00:24:10 คนต้องการกินบำรุงผิวผมเล็บพวกนี้เดี๋ยว
00:24:10 → 00:24:13 ไปหาผมร่วงเยอะแล้วก็มีความสำคัญกับคุณ
00:24:13 → 00:24:15 ผู้ชายด้วยสังกะสีเนี่ยเพราะมันช่วยในการ
00:24:15 → 00:24:20 ผลิตสเปิร์มช่วยในกระบวนการสเปิร์มประตู
00:24:20 → 00:24:23 จีนทำให้คุณภาพของสเปิร์มดีเผื่อใครอยาก
00:24:23 → 00:24:26 มีลูกถูกต้องแต่ไม่ใช่กินแล้วแบบโอ้โหให้
00:24:26 → 00:24:28 มันร้อนรุ่มให้มันอยู่ไม่ได้แต่การข้างฝา
00:24:28 → 00:24:32 ไม่ใช่สังกะสีไม่ใช่ยาปลูกสมรรถภาพทางเพศ
00:24:32 → 00:24:37 อย่างงี้ใส่อะไรลงไปมันแค่ช่วยในการแบบทำ
00:24:37 → 00:24:39 ให้คุณภาพสเปิร์มดีอะไรอย่างเงี้ยอ่า
00:24:39 → 00:24:42 เรื่องของฮอร์โมนเทสเซิร์สโตรนเพศชายดี
00:24:42 → 00:24:46 เออก็คือนะสังกะสีเนียมก็เป็น antioxidant
00:24:46 → 00:24:48 เอนไซม์ทำหน้าที่เป็นแอนตี้ออกซิเจน
00:24:48 → 00:24:51 เหมือนกันอย่างเงี้ยคุณไม่ค่อยแบบเคยได้
00:24:51 → 00:24:54 ยินหรือแม้กระทั่ง maxnium อีกแรกหนึ่ง
00:24:54 → 00:24:56 ที่สำคัญแมกนีเซียมเนี่ยเกี่ยวข้องกับ
00:24:56 → 00:24:58 กระดูกแล้วเนี่ยยังเกี่ยวข้องกับเรื่อง
00:24:58 → 00:25:01 ของไมเกรนอ้าเป็นข่าวอาการปวดไมเกรน
00:25:01 → 00:25:04 เรื่องการทำงานของระบบประสาทและสมองไปจน
00:25:04 → 00:25:08 ถึงควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดช่วยส่งเสริม
00:25:08 → 00:25:11 สุขภาพหัวใจแล้วหรอเลือดไม่มีเสี่ยมเนี่ย
00:25:11 → 00:25:13 แต่ละตัวไม่ธรรมดาเลยอ่ะทำให้ผ่อนคลาย
00:25:13 → 00:25:17 ด้วยจริงๆเห็นไหมแล้วคนบางคนแบบเฮ้ยฉัน
00:25:17 → 00:25:20 ไม่รู้เลยว่าแบบเฮ้ยแร่ธาตุมันมีเยอะแยะ
00:25:20 → 00:25:23 มันไม่ใช่แค่แบบมีไม่กี่ตัวนะครับที่เคย
00:25:23 → 00:25:25 ได้ยินแคลเซียมเลขอะไรเท่านั้นอีก 1 ตัว
00:25:25 → 00:25:30 ที่สำคัญมากคือโพแทสเซียมมีบทบาทที่สำคัญ
00:25:30 → 00:25:35 มากเพราะมันช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
00:25:35 → 00:25:38 ในร่างกายโพแทสเซียมจะช่วยควบคุมความดัน
00:25:38 → 00:25:41 โลหิตโดยเฉพาะคนที่ความดันสูงอย่างนี้
00:25:41 → 00:25:44 โพแทสเซียมก็จะไปช่วยลดความดันได้พบมากใน
00:25:44 → 00:25:48 พวกผลไม้พวกส้มพวกกล้วยนะครับพวกนี้ก็จะ
00:25:48 → 00:25:53 มีโพแทสเซียมอยู่สูงนะครับก็จะช่วยปรับ
00:25:53 → 00:25:56 สมดุลความดันโลหิตในร่างกายนะครับอ่าแถม
00:25:56 → 00:25:58 ให้อีก 1 ตัวเนื่องจากเวลาเรามีจำกัดไร่
00:25:58 → 00:26:01 20 ตัวไม่ครบจบแน่นอนอ่าต้องไป 3 ที่ว่า
00:26:01 → 00:26:05 ราตรีการก็คือโครเมียมที่อาจารย์บอกไปคง
00:26:05 → 00:26:09 ไม่มีบทบาทสำคัญแต่ในการที่จะช่วยนำน้ำ
00:26:09 → 00:26:10 ตาลจากเลือดเนี่ย
00:26:10 → 00:26:14 เข้าไปสู่เซลล์แล้วมันก็จะช่วยในการควบ
00:26:14 → 00:26:17 คุมระดับน้ำตาลในเลือดก็ช่วยในการทำงาน
00:26:17 → 00:26:20 ของฮอร์โมนอินซูลินพวกนี้แล้วเราจะเห็น
00:26:20 → 00:26:22 ว่าแร่ธาตุเยอะแยะมากมายเนี่ยมันมีความ
00:26:22 → 00:26:25 สำคัญกับสุขภาพร่างกายของเราโดยรวมทั้ง
00:26:25 → 00:26:29 ทุกระบบของร่างกายถ้าเราขาดเราพร่องตัวใด
00:26:29 → 00:26:32 ตัวหนึ่งมันก็ส่งผลต่อสมดุลของร่างกายที่
00:26:32 → 00:26:34 ผิดปกติเปลี่ยนแปลงไปแล้วก็อาจจะทำให้
00:26:34 → 00:26:37 เกิดพยาธิที่สภาพทำให้เกิดโรคต่างๆตามมา
00:26:37 → 00:26:40 ได้หรืออาการต่างๆตามมาได้ที่ทำให้เรา
00:26:40 → 00:26:44 เนี่ยไม่ได้สุขภาพดีอย่างสมบูรณ์เต็มที่
00:26:44 → 00:26:48 แล้วก็เป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญ
00:26:48 → 00:26:51 เพราะว่าในอาหารบางอย่างมีหลายแร่ธาตุ
00:26:51 → 00:26:53 อยู่ในนี้ด้วยนะถูกต้องครับผมไม่ต้อง
00:26:54 → 00:26:57 อย่างเดียวจริงๆแล้วเนี่ยผักผลไม้ทั้ง
00:26:57 → 00:27:01 หลายแหล่ไปจนถึงพวกเนื้อสัตว์นะครับอ่า
00:27:01 → 00:27:03 จากปลาจากไข่พวกนี้มีแร่ธาตุต่างๆเนี่ย
00:27:03 → 00:27:06 อยู่เยอะแต่ที่สำคัญคือเราต้องกินให้หลาก
00:27:06 → 00:27:09 หลายแล้วก็เพียงพอนะมือถัดไปจัดเลยค่ะคุณ
00:27:09 → 00:27:12 ผู้ฟังแรเราจะได้อย่างเต็มที่เพราะว่า
00:27:12 → 00:27:15 ร่างกายของเราไม่ควรขาดไม่ควรพร่องไปเลย
00:27:15 → 00:27:18 นะคะอาหารที่เรากินขอบคุณอาจารย์เอกราช
00:27:18 → 00:27:20 ค่ะที่มาร่วมพูดคุยในวันนี้ค่ะขอบคุณค่ะ
00:27:20 → 00:27:23 อาจารย์สวัสดีค่ะสวัสดีครับหมดเวลาแล้ว
00:27:23 → 00:27:25 ค่ะคุณผู้ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการ
00:27:25 → 00:27:27 โรงหมอทาง Thai PBS podcast นะคะวันนี้
00:27:27 → 00:27:31 ลาไปก่อนค่ะสวัสดีค่ะ This Is Thai PBS
00:27:31 → 00:27:34 ยาที่กินเข้าไปนอกจากใช้รักษาและป้องกัน
00:27:34 → 00:27:36 โรคหรืออาการต่างๆโดยตรงยังมีผลอะไรกับ
00:27:36 → 00:27:40 ร่างกายบ้างรองศาสตราจารย์เภสัชกรธนัชสวน
00:27:40 → 00:27:43 เสน่ห์จากคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล
00:27:43 → 00:27:45 มาเล่าให้ฟังครับ
00:27:45 → 00:27:49 สงกรานต์ใช้คือใช้ด้วยการรักษาโรคหรืออาจ
00:27:49 → 00:27:52 จะใช้ในการป้องกันโรคก็ได้นะเพราะฉะนั้น
00:27:52 → 00:27:55 แปลว่าการที่เราจะใช้ยาด้วยวัตถุประสงค์
00:27:55 → 00:27:58 ต่างๆตรงนี้เนี่ยเราจะต้องได้รับพวกนี้
00:27:58 → 00:28:00 เข้าไปทีนี้พอการได้รับเข้าไปในร่างกาย
00:28:00 → 00:28:03 เราเนี่ยยามันคือสิ่งแปลกปลอมอ่ะครับคือ
00:28:03 → 00:28:05 ถ้าเกิดพูดโดยโดยภาพรวมก็คือยาที่เราใช้
00:28:05 → 00:28:07 กันอยู่ปัจจุบันเนี่ยส่วนใหญ่ก็คือสาร
00:28:07 → 00:28:10 เคมีที่มีการสังเคราะห์ตัวยาขึ้นมา
00:28:10 → 00:28:14 เมื่อเราให้ยาเข้าไปก็แปลว่ายาพวกนี้ก็จะ
00:28:14 → 00:28:16 เข้าไปทำอะไรบางอย่างกับร่างกายเราทำให้
00:28:16 → 00:28:19 เกิดการเปลี่ยนแปลงของภายในร่างกายแล้ว
00:28:19 → 00:28:22 ส่งผลทำให้เกิดการรักษาหรือการป้องกันโรค
00:28:22 → 00:28:25 เกิดขึ้นแต่เวลาเรากินเข้าไปเนี่ยเราบอก
00:28:25 → 00:28:27 เช่นสมมุติเราบอกว่าปวดศีรษะจังเลยปวดหัว
00:28:27 → 00:28:30 มากเราอยากกินยาเข้าไปเพื่อรักษาการปวด
00:28:30 → 00:28:33 หัวแต่พอเรากินยาเข้าไปเนี่ยยามันไม่ได้
00:28:33 → 00:28:37 ฉลาดมากพอครับที่จะบอกว่าอ๋อเรากินเข้าไป
00:28:37 → 00:28:40 เพื่อปวดหัวนะเพราะฉะนั้นเรากินปั๊บอยาก
00:28:40 → 00:28:42 จะวิ่งไปออกโดยเฉพาะที่หัวเราเพื่อลด
00:28:42 → 00:28:45 อาการปวดหัวแต่พอเรากินเข้าไปคือยามันออก
00:28:45 → 00:28:47 ฤทธิ์ได้ทั่วร่างกายเลยครับถ้าเกิดเป้า
00:28:47 → 00:28:49 หมายของการเราฤทธิ์ของยามันสมมุติอย่างยา
00:28:49 → 00:28:52 แก้ปวดหัวที่เราใช้กันบ่อยๆเนี่ยแล้วเรา
00:28:52 → 00:28:55 กินปั๊บมันไปออกฤทธิ์ที่ศีรษะที่หัวทำให้
00:28:55 → 00:28:58 เรามีอาการปวดลดลงแต่มันก็ไปออกไปที่
00:28:58 → 00:29:02 กระเพาะไปออกเลขที่ไตไม่ออกเลขที่ต่ำแล้ว
00:29:02 → 00:29:04 ก็ทำให้เกิดสิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลง
00:29:04 → 00:29:06 เช่นเดียวกันซึ่งไอ้สิ่งที่เกิดการ
00:29:06 → 00:29:09 เปลี่ยนแปลงตรงตำแหน่งอื่นๆที่ไม่ใช่เป้า
00:29:09 → 00:29:12 หมายของการใช้ยาของเราเราในขณะนั้นเนี่ย
00:29:12 → 00:29:15 มันก็คือผลข้างเคียงหรือพิษจากยาที่เกิด
00:29:15 → 00:29:18 ขึ้นนั่นเองทีนี้เวลาเกิดอันตรายขึ้น
00:29:18 → 00:29:22 เนี่ยมันก็แล้วแต่คนคือบางคนเนี่ยไวมาก
00:29:22 → 00:29:25 กินเม็ดเดียวก็ก็คือเกิดได้บางคนไม่ไหว
00:29:25 → 00:29:29 หรือความใช้ว่าช้าหน่อยน่าจะเป็นกรณีแรก
00:29:29 → 00:29:32 คือเรามีเรามีสาเหตุที่มันมันพาราช่วยได้
00:29:32 → 00:29:35 จริงเช่นเราปวดศีรษะจริงเรามีไข้จริงอัน
00:29:35 → 00:29:38 นี้ก็ตรงไปตรงมากินแล้วเราก็ได้ประโยชน์
00:29:38 → 00:29:40 แต่ถ้าเกิดว่าเราไม่ได้มีอย่างเช่นสมมุติ
00:29:40 → 00:29:42 ผมขออนุญาตยกตัวอย่างนะเช่นสมมุติเราเรา
00:29:42 → 00:29:45 ปวดท้องจากท้องเสียคือปวดท้องจะท้องเสีย
00:29:45 → 00:29:48 ในพาราช่วยไม่ค่อยดีเราจะยาแก้ปวดท้องตัว
00:29:48 → 00:29:49 อื่นให้ดีกว่าอย่างเงี้ยครับแต่การรับ
00:29:49 → 00:29:52 ประทานเข้าไปมันๆก็อาจจะช่วยได้บ้างเล็ก
00:29:52 → 00:29:56 น้อยแต่มันต้องถามว่ามันคุ้มไหมกับอาการ
00:29:56 → 00:30:00 ข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นเช่นในคนไข้บาง
00:30:00 → 00:30:02 รายที่รับประทานพาราแบบต่อเนื่องหรือใช้
00:30:02 → 00:30:05 แบบเป็นประจำตลอดเนี่ยก็อาจจะทำให้เกิด
00:30:05 → 00:30:07 การอักเสบของตับถ้ารับประทานยาต้านเก็บ
00:30:07 → 00:30:34 เลือดที่ชื่อว่าวาสลีนอยู่ก็อาจ
00:30:34 → 00:30:37 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:30:37 → 00:30:40 ของไทย PBS podcast spotify Sound
00:30:40 → 00:30:43 Google podcast
00:30:43 → 00:30:46 และ YouTube Channel Thai PBS
00:30:46 → 00:30:51 portcast Thai PBS
00:30:51 → 00:30:57 [เพลง]