00:00:00 → 00:00:02 5 ขั้นตอนนะครับบังคับให้ร่างกายใช้ไข
00:00:02 → 00:00:05 มันแทนน้ำตาลเพื่อลดน้ำหนักนะครับทำยังไง
00:00:06 → 00:00:08 นะครับหลายคนถามมาอยากได้คลิปนี้ดูให้จบ
00:00:08 → 00:00:10 นะครับสวัสดีครับผมหมอ 1 Healthy ฮีโร่
00:00:10 → 00:00:12 นะครับลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตคิด
00:00:12 → 00:00:14 ถึงหมอ 1 Healthy ฮีโร่นะครับคราวนี้
00:00:14 → 00:00:17 เนี่ยมีหลายคนที่ดูคลิปของหมอหนึ่งในช่อง
00:00:17 → 00:00:18 Facebook และ YouTube แล้วถามคำถามนี้มา
00:00:18 → 00:00:20 ซึ่งมันน่าสนใจมากเลยนะครับก็คือทำยังไง
00:00:20 → 00:00:23 ดีนะคะคุณหมอที่จะให้ร่างกายเราใช้ไขมัน
00:00:23 → 00:00:25 แทนที่จะไปใช้น้ำตาลเนาะหมอหนึ่งเคยพูดไป
00:00:25 → 00:00:27 แล้วว่าระบบพลังงานของคนเราถ้าจะลดน้ำ
00:00:27 → 00:00:29 หนักต้องเข้าใจว่ามันมีใช้ทั้งน้ำตาลและ
00:00:29 → 00:00:32 แป้งแล้วก็ใช้ไขมันถูกมยแต่ถ้าอยากจะใช้
00:00:32 → 00:00:33 ไขมันเยอะๆอ่ะเน้นเรื่องนี้อย่างเดียวเลย
00:00:33 → 00:00:35 เนี่ยต้องทำอะไรบ้างวันนี้หมอเดกเลยเอามา
00:00:35 → 00:00:38 พูดให้ใน 5 ขั้นตอนซึ่งถ้าคุณทำตรงนี้ได้
00:00:38 → 00:00:40 นะยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องออกกำลังกายเลย
00:00:40 → 00:00:42 นะแค่ทำ 5 ขั้นตอนนี้ได้ร่างกายก็พร้อม
00:00:42 → 00:00:44 ใช้ไขมันแล้วนะครับโอเคมั้ยนะครับเพราะ
00:00:44 → 00:00:46 ฉะนั้นมาดูกันนะว่ามีอะไรบ้างนะครับแต่
00:00:46 → 00:00:47 ก่อนอื่นนะครับตามธรรมเนียมนะครับนะก็ขอ
00:00:47 → 00:00:50 แสดงความยินดีกับคนนี้เนี่ยเขบอกว่าติด
00:00:50 → 00:00:52 ตามหมอ1ึมาแล้วก็ได้ตัดสินใจลองทำตามนะ
00:00:53 → 00:00:55 ครับคนนี้เนี่ยเ้างดน้ำตาลไปเลย 100%
00:00:55 → 00:00:58 กลับไปกินกาแฟดำทั้งๆที่จะแต่ก่อนกินน้ำ
00:00:58 → 00:01:00 ตาลหวานปกติเดี๋ยวจะบอกให้นะนะครับว่า
00:01:00 → 00:01:02 จริงๆแล้วเนี่ยคนที่ติดกาแฟเนี่ยเราจะ
00:01:02 → 00:01:04 ปรับยังไงกาแฟอะไรที่ต้องระวังบ้างแล้ว
00:01:04 → 00:01:06 ถ้ายังติดหวานอยู่เนี่ยแล้วไม่อยากตัดน้ำ
00:01:06 → 00:01:09 ตาลไปเลยเนี่ยทำยังไงร่างกายถึงจะไปใช้ไข
00:01:09 → 00:01:11 มันได้ดีโดยที่ยังกินกาแฟอร่อยอยู่ด้วย
00:01:11 → 00:01:13 เดี๋ยวตั้งใจฟังต่อเนาะนะเริ่มเน้นทาน
00:01:13 → 00:01:15 โปรตีนจากพวกเนื้อสัตว์หมูไก่นะแล้วก็มี
00:01:15 → 00:01:18 ผักต้มผักหัวด้วยอ่านะครับนะเดี๋ยวจะ
00:01:18 → 00:01:20 อธิบายให้ฟังว่ามันเป็นยังไงผลไม้พวก
00:01:20 → 00:01:23 ฝรั่งแก้วมังกรจริงๆผลไม้เนี่ยถ้าเลือก
00:01:23 → 00:01:25 ผิดเนี่ยจะทำให้คุณไม่ผอมเลยนะแต่ถ้า
00:01:25 → 00:01:28 เลือกถูกนะผมบอกเลยว่ายังกินผลไม้อร่อย
00:01:28 → 00:01:30 แล้วร่างกายใช้ไขมันได้ด้วยแทนที่จะใช้
00:01:30 → 00:01:33 น้ำตาลนะอโอเคมั้ยนะครับแล้วก็ยังกินครบ 3
00:01:33 → 00:01:36 มื้อสิ่งที่หลายๆคนพลาดมากๆที่เริ่มต้นลด
00:01:36 → 00:01:39 น้ำหนักคืออะไรรู้มั้ยตัดมื้ออาหารออกโดย
00:01:39 → 00:01:41 ที่เข้าใจว่าการตัดมืออาหารเนี่ยเป็นการ
00:01:41 → 00:01:44 ทำ If ซึ่งจริงๆไม่ใช่ใครที่เคยได้ยินคำ
00:01:44 → 00:01:47 ว่า If แต่ไม่เคยเข้าใจฟังคลิปนี้ให้ดีๆ
00:01:47 → 00:01:48 เดี๋ยวจะรู้ว่าจริงๆอไม่จำเป็นต้องตัด
00:01:48 → 00:01:51 มื้ออาหารคนนี้ก็ทำ If เหมือนกันนะครับนะ
00:01:51 → 00:01:53 แต่ไม่ได้ตัดอาหารออกเลยนะครับอิ่มด้วย
00:01:53 → 00:01:56 เนาะแล้วก็เริ่มลดน้ำหนักไปนะครับจาก 112
00:01:56 → 00:01:59 เหลือ 99 ภายในเวลาแค่ 1 เดือนเหลือ 2
00:01:59 → 00:02:01 หลักเลยเลยนะอยากได้แบบนี้มั้ยอยากได้ฟัง
00:02:01 → 00:02:03 ให้จบนะครับเนาะเพราะฉะนั้นก็ดีใจกับนัก
00:02:03 → 00:02:05 เรียนท่านนี้ด้วยนะครับนะลดไป 13 กกเนาะ
00:02:05 → 00:02:08 คราวนี้มาดูนะ 5 ขั้นตอนมีอะไรบ้างก่อน
00:02:08 → 00:02:11 อื่นเราต้องอธิบายแบบนี้ก่อนว่าระบบพลัง
00:02:11 → 00:02:13 งานของเราเนี่ยมันมีใช้น้ำตาลกับแป้งเป็น
00:02:13 → 00:02:16 หลักแล้วก็ใช้ไขมันเป็นหลักแต่ถ้าใครฟัง
00:02:16 → 00:02:19 มาหลายคลิปมากๆจะรู้ว่าหมอหนึจะบอกเสมอนะ
00:02:19 → 00:02:21 ครับว่าถ้าร่างกายมีน้ำตาลมันจะใช้น้ำตาล
00:02:21 → 00:02:23 ก่อนอย่างแรกบางคนบอกเพราะอะไรอ่ะคะคุณ
00:02:23 → 00:02:26 หมอคือถ้าอธิบายกันในรายละเอียดที่มันลง
00:02:26 → 00:02:29 ลึกไปนะจริงๆแล้วร่างกายมันใช้น้ำตาลได้
00:02:29 → 00:02:32 ง่ายมากมีน้ำตาลปั๊บคุณเคยสังเกตมยคนที่
00:02:32 → 00:02:34 เคยเป็นเบาหวานน่ะแล้วน้ำตาลในเลือดต่ำ
00:02:34 → 00:02:36 จากการที่บางวันอาจจะกินน้อยแล้วกินยา
00:02:36 → 00:02:39 อยู่ปกติแต่กินข้าวไม่ค่อยได้นะครับนะ
00:02:39 → 00:02:41 เพราะฉะนั้นพอน้ำตาลในเลือดต่ำก็จะใจสั่น
00:02:41 → 00:02:43 พอเให้อมน้ำหวานปั๊บเป็นไงตื่นเลยเพราะ
00:02:43 → 00:02:46 อะไรรู้มั้ยเพราะว่าพวกน้ำตาลเนี่ยมันซึม
00:02:46 → 00:02:48 เข้ากระแสเลือดได้เร็วมากแต่ในขณะที่ไข
00:02:48 → 00:02:50 มันเวลาคุณจะเผาผลาญมันนะมันต้องผ่าน
00:02:50 → 00:02:52 กระบวนการหลายชั้นกว่าจะได้เป็นพลังงาน
00:02:52 → 00:02:54 ออกมาดังนั้นเลยไม่แปลกว่าทำไมเวลาอ้วน
00:02:54 → 00:02:56 แล้วถึงลดยากนะครับถ้าเราไม่เข้าใจเรื่อง
00:02:56 → 00:02:59 ระบบพลังงานตรงนี้ดังนั้นหอึงเลยบอกว่า
00:02:59 → 00:03:01 ถ้าคุณอยอยากจะเปลี่ยนจากการใช้น้ำตาลไป
00:03:01 → 00:03:04 ใช้ไขมันเนี่ยมันเลยจะต้องเข้าใจว่าอ๋อ
00:03:04 → 00:03:06 จริงๆแล้วสเต็ปในการลดน้ำหนักเนี่ยมันมี
00:03:07 → 00:03:09 อยู่ 2 สเต็ปหลักๆนะเอาเข้าใจต้องเข้าใจ
00:03:09 → 00:03:11 ตรงนี้นะอธิบายแบบนี้ให้ฟังก่อนนะสเต็ป
00:03:11 → 00:03:15 ที่ 1 คือคุณต้องเปลี่ยนให้ร่างกายของคุณ
00:03:15 → 00:03:20 เนี่ยจากที่ใช้น้ำตาลไปใช้ไขมันก่อนถ้า
00:03:20 → 00:03:22 คุณไม่ทำตรงนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรรู้
00:03:22 → 00:03:25 มั้ยเวลาคนเราออกกำลังกายเนี่ยนะมักจะคาด
00:03:25 → 00:03:28 หวังว่าฉันออกกำลังกายเยอะๆแล้วฉันจะผอม
00:03:28 → 00:03:30 แต่บางคนเข้ายิมวันชั่วโมง 2 ชั่วโมงไม่
00:03:30 → 00:03:33 ผอมเลยเพราะไม่เข้าใจว่าร่างกายเนี่ย
00:03:33 → 00:03:36 กำลังใช้แต่น้ำตาลกับแป้งอยู่แต่ในขณะที่
00:03:36 → 00:03:38 นักเรียนผมใครที่เป็นนักเรียนในกลุ่ม VIP
00:03:38 → 00:03:40 ผมจะรู้เลยว่าผมสอนเรื่องนี้ตั้งแต่บทแรก
00:03:40 → 00:03:42 ๆเลยนะถ้าคุณไม่รู้จักการเปลี่ยนการใช้
00:03:42 → 00:03:43 น้ำตาลให้ร่างกายคุณไปใช้ไขมันก่อนนะคุณ
00:03:44 → 00:03:45 ออกกำลังกายให้ตายคุณก็ไม่ผอมหรอกเพราะ
00:03:45 → 00:03:47 ร่างกายไม่ใช้ไขมันเลยแต่นักเรียนผมแต่ละ
00:03:47 → 00:03:50 คนเป็นไงจากน้ำตาลเปลี่ยนมาใช้ไขมันก่อน
00:03:50 → 00:03:52 แล้วหลังจากนั้นค่อยเปลี่ยนจากไขมันไป
00:03:52 → 00:03:55 เป็นพลังงานถ้าคุณทำได้นะคุณจะออกกำลัง
00:03:55 → 00:03:58 กายแค่ 10-15 นาทีต่อวันเท่านั้นเองแล้ว
00:03:58 → 00:04:01 ผอมเลยเพราะอะไรเพราะทุกนาทีที่คุณออกคุณ
00:04:01 → 00:04:04 ใช้แต่ไขมันแต่แต่ก่อนเนี่ยคุณออกกำลัง
00:04:04 → 00:04:06 กายเป็นชั่วโมงเลยนะได้พลังงานก็จริงนะ
00:04:06 → 00:04:09 แต่ไขมันเนี่ยเป็นไงไม่หายไปเลยมีแต่น้ำ
00:04:09 → 00:04:12 ตาลที่หายไปโอเคไมนะครับเพราะฉะนั้นสิ่ง
00:04:12 → 00:04:15 แรกที่คุณต้องทำนะคือไม่อยากให้ร่างกาย
00:04:15 → 00:04:18 ใช้น้ำตาลเยอะใช่ไหมอย่ากินเครื่องดื่ม
00:04:18 → 00:04:21 ที่มีน้ำตาลอ่าไม่แปลกร่างกายมีน้ำตาล
00:04:21 → 00:04:23 เยอะก็ใช้น้ำตาลเยอะถูกมเช่นอะไรบ้างอ่า
00:04:23 → 00:04:25 บางคนบอกว่าคุณหมอคะคุณหมอพูดแบบนี้มัน
00:04:25 → 00:04:27 ง่ายแต่บางทีพี่ไม่รู้ว่ามันมีอะไรบ้างนะ
00:04:27 → 00:04:30 ครับอันที่ 1 หมวดกาแฟ
00:04:30 → 00:04:34 ใครที่ชอบกินกาแฟโดยเฉพาะกาแฟ 3 in one
00:04:34 → 00:04:36 ชื่อมันบอกอยู่แล้ว 3 in one 3 ใน 1
00:04:36 → 00:04:39 ใส่อะไรมาบ้างน้ำตาลครีมเทียมถูกมยนะครับ
00:04:39 → 00:04:43 นะมีอะไรอีกอ้านอกจากกาแฟท in one พวก
00:04:44 → 00:04:49 กาแฟใส่ไซรับอ่ากาแฟใส่ไซรับใส่อะไรใส่นม
00:04:49 → 00:04:52 กาแฟใส่นมจริงๆกาแฟใส่นมเ่ะถ้าคุณเลือกนม
00:04:52 → 00:04:56 ถูกนะคุณกินได้นะเช่นอะไรบ้างกาแฟที่ใส่
00:04:56 → 00:04:58 นมที่หมอหนึ่งจะกินนะก็คือกาแฟที่ใส่พวก
00:04:58 → 00:05:01 นมอัลมอนด์นมอัลมอนเนี่ยดีต่อสุขภาพแต่
00:05:01 → 00:05:03 ปริมาณโปรตีนมันอาจจะไม่ได้เยอะโอเคมยนะ
00:05:03 → 00:05:05 ครับนะสัดส่วนแต่ละอย่างมันจะไม่ค่อยเยอะ
00:05:05 → 00:05:07 แต่มันมีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพใส่ได้แต่
00:05:07 → 00:05:10 ใส่ตอนทำไไม่ได้นะใครที่เคยรู้จักการทำไ
00:05:10 → 00:05:13 น่ะนะครับเราไม่สามารถใส่นมในกาแฟตอนทำไ
00:05:13 → 00:05:16 ได้เนาะแล้วก็มีนมอะไรอีกนมโปรตีนสูงพอ
00:05:16 → 00:05:18 ได้เพราะว่าพวกเนี้ยเขาจะไม่เติมน้ำตาลมา
00:05:18 → 00:05:20 ก็จะมีน้ำตาลแค่อยู่ในนมอย่างเดียวก็ถือ
00:05:20 → 00:05:22 ว่าพอรับได้แต่พวกนมอื่นๆที่บางคนบอกว่า
00:05:22 → 00:05:26 คุณหมอคะดิฉันเติมนมพร่องมันเนยค่ะถ้าไป
00:05:26 → 00:05:29 ดูฉลากนะนมพร่องมันเนยเนี่ยไขมันไม่มีแต่
00:05:29 → 00:05:31 น้ำตาลบานเบอเลยเเห็นมยพวกเนี้ยคือน้ำตาล
00:05:31 → 00:05:33 ที่มันสอดแทรกอยู่ที่เราไม่รู้มีอยู่ใน
00:05:33 → 00:05:37 ไหนอีกที่มีน้ำตาลนะครับนะอ้าอันถัดมาชา
00:05:37 → 00:05:43 ต่างๆชาต่างๆโดยเฉพาะชานมไข่มุกโอ้โห
00:05:43 → 00:05:46 อันเนี้ยสุดยอดเลยนะไข่มุกก็ทำมาจากแป้ง
00:05:46 → 00:05:48 ถูกมยแล้วชานมตรงนั้นน่ะเขาใส่น้ำตาลเยอะ
00:05:48 → 00:05:51 ไม่งั้นมันอร่อยมไม่อร่อยเพราะฉะนั้นถ้า
00:05:51 → 00:05:54 เป็นไปได้กาแฟให้เปลี่ยนไปเป็นพวกกาแฟดำ
00:05:54 → 00:05:57 ส่วนพวกชาให้เปลี่ยนไปเป็นพวกชาเขียวหรือ
00:05:57 → 00:06:00 ชาดำเลยที่ไม่มีน้ำตาลและดีที่สุดเลยถ้า
00:06:00 → 00:06:02 บางคนไม่กินชาไม่กินกาแฟอยู่แล้วนะครับก็
00:06:03 → 00:06:06 คือพวกน้ำเปล่าโอเคไหมน้ำเปล่าชากาแฟดำ
00:06:06 → 00:06:08 น้ำเปล่าชากาแฟดำท่องไว้แบบนี้เลยนะครับ
00:06:08 → 00:06:11 เนาะและน้ำเปล่าสำคัญกับการลดน้ำหนักมากๆ
00:06:11 → 00:06:14 นะคนที่ลดน้ำหนักได้ช้าส่วนนึงเป็นเพราะ
00:06:14 → 00:06:16 ติดนิสัยไม่ค่อยกินน้ำถามว่าทำไมน้ำถึง
00:06:16 → 00:06:19 สำคัญกับการลดน้ำหนักมากๆในร่างกายของคน
00:06:19 → 00:06:21 เราเนี่ย 100% มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่
00:06:21 → 00:06:25 60-70 per หมายความว่าอะไรครับคุณหมอผม
00:06:25 → 00:06:28 หมายความว่าถ้าคุณน้ำหนัก 100 70 กกเป็น
00:06:28 → 00:06:31 น้ำหนักของน้ำแสดงว่ามันอยู่ในเซลล์ต่างๆ
00:06:31 → 00:06:33 ของร่างกายคุณหมดเลยถูกมั้ยเลือดก็เป็น
00:06:33 → 00:06:36 น้ำถูกมยนะครับเพราะฉะนั้นการที่คุณมีน้ำ
00:06:36 → 00:06:38 ในร่างกายไม่เพียงพอเนี่ยมันจะทำให้ร่าง
00:06:38 → 00:06:41 กายของคุณขาดน้ำแล้วเซลล์ต่างๆทำงานได้
00:06:41 → 00:06:42 ไม่เต็มที่มันเหมือนเครื่องจักรอ่ะมันจะ
00:06:42 → 00:06:44 รันได้มันต้องมีน้ำมันเครื่องหล่อลื่นถูก
00:06:45 → 00:06:47 มยนะครับแล้วคุณคิดดูว่าวันนึงคุณสูญเสีย
00:06:47 → 00:06:49 น้ำไปเท่าไหร่นะสูญเสียจากการหายใจอ่า
00:06:49 → 00:06:51 เป็นระเหยเป็นจากการหายใจสูญเสียทาง
00:06:51 → 00:06:54 เหงื่อสูญเสียทางปัสสาวะเยอะที่สุดเลยถูก
00:06:54 → 00:06:56 มั้ยสูญเสียทางอุจจาระเพราะฉะนั้นพวก
00:06:56 → 00:06:58 เนี้ยรวมๆกันแล้วเนี่ยต่อวันเนี่ยเราจะ
00:06:58 → 00:07:01 ขาดน้ำออกททางช่องทางต่างๆเนี่ยประมาณ 1.5
00:07:01 → 00:07:03 -2 ลิตรดังนั้นบางคนกินน้ำยังไม่ได้ 1.5
00:07:03 → 00:07:05 -2 ลิตรต่อวันเพราะฉะนั้นร่างกายก็ขาด
00:07:05 → 00:07:08 น้ำพอขาดน้ำร่างกายก็ทำงานได้ไม่ดีนี่คือ
00:07:08 → 00:07:10 เหตุผลว่าทำไมเชอบพูดว่าให้กินน้ำวันนึง
00:07:10 → 00:07:13 ให้ได้ 6-8 แก้วเพราะ 6-8 แก้วมันปริมาณ
00:07:13 → 00:07:15 ประมาณ 1.5 -2 ลิตรเพื่อชดเชยสิ่งที่เรา
00:07:15 → 00:07:18 ขาดหายไปโอเคมนะครับเนาะเพราะฉะนั้นน้ำ
00:07:18 → 00:07:20 เปล่า 1.5 -2 ลิตรอันเนี้ยเป็นสิ่งที่
00:07:20 → 00:07:23 ควรทำได้นะครับโดยที่ถ้าไม่ได้มีข้อจำกัด
00:07:23 → 00:07:25 นะบางคนเป็นโรคไตวายไปแล้วบางคนเป็นโรค
00:07:25 → 00:07:27 หัวใจต้องจำกัดน้ำอันนั้นก็ต้องจำกัดแต่
00:07:27 → 00:07:29 คนปกติที่ไม่ได้มีโรคประจำตัวแบบน่ะกิน
00:07:29 → 00:07:31 ได้เลยแบบนี้โอเคมยแล้วเวลาเราออกกำลัง
00:07:31 → 00:07:34 กายถ้าเราออกกำลังกายแล้วเราเสียเหงื่อ
00:07:34 → 00:07:36 เยอะเราก็ต้องกินน้ำเติมกลับเข้าไปแค่
00:07:36 → 00:07:38 นั้นเองนะครับครานี้มันจะมีอีกบางอันที่
00:07:38 → 00:07:39 เป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลแต่หลายคน
00:07:40 → 00:07:42 เนี่ยไม่ค่อยเข้าใจนะครับเช่นอะไรบ้าง
00:07:42 → 00:07:47 เช่นนมเปรี้ยวนมเปรี้ยวน้ำผลไม้โอ้โห 2
00:07:47 → 00:07:51 อันนี้เนี่ยสุดๆเลยนะใครที่เคยเห็นนม
00:07:51 → 00:07:53 เปรี้ยวนะเราจริงๆเรากินนมเปรี้ยวอ่ะเรา
00:07:53 → 00:07:56 อยากได้วิตามินถูกมั้ยเราอยากได้ใยอาหาร
00:07:56 → 00:07:58 แต่ถ้าใครไปเปิดข้างกล่องดูนะใยอาหารศู
00:07:58 → 00:08:01 พูดง่ายๆไม่มีใยอาหารเลยมีแต่น้ำตาลอย่าง
00:08:01 → 00:08:04 เดียวน้ำผลไม้กล่องก็เหมือนกันส่วนใหญ่ใย
00:08:04 → 00:08:06 อาหารไม่มีเลยถ้าจะกินน้ำผลไม้กล่องกิน
00:08:06 → 00:08:08 น้ำผลไม้ปั่นหรือคั้นยังจะดีกว่ามันยังมี
00:08:08 → 00:08:11 ใยอาหารอยู่บ้างแต่ถ้าสมมุติว่าดีที่สุด
00:08:11 → 00:08:13 เลยคือกินผลไม้ที่เป็นลูกๆโอเคไหนะครับ
00:08:14 → 00:08:15 เนาะเพราะฉะนั้นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
00:08:15 → 00:08:18 ทั้งหมดพวกเยพยายามเปลี่ยนเป็นน้ำเปล่าชา
00:08:18 → 00:08:21 กาแฟดำดีที่สุดละหรือบางคนบอกว่าคุณหมอคะ
00:08:21 → 00:08:25 พี่กินกาแฟดำไม่ไหวใส่สิ่งที่เราเรียกว่า
00:08:25 → 00:08:28 สารให้ความหวานได้ไมอ่าสารให้ความหวานใส่
00:08:28 → 00:08:31 ได้มั้ยใส่ได้ครับถ้าให้หมอหนึ่งแนะนำนะ
00:08:31 → 00:08:33 อันที่ 1 ก็คือพวกที่เป็นหญ้าหวานแต่ใส่
00:08:33 → 00:08:36 แค่พอให้ได้รสชาตินะไม่ใช่ว่าเราเติมเข้า
00:08:36 → 00:08:38 ไปเพื่อที่จะได้กลับไปติดหวานเหมือนเดิม
00:08:38 → 00:08:41 ลิ้นคนเราเนี่ยสำคัญมากๆใครที่ตอนนี้ยัง
00:08:41 → 00:08:44 กินของหวานจนชินนะคุณลองหยุดสัก 3 วัน
00:08:44 → 00:08:46 แล้วไปกินกาแฟดำเอาแค่กาแฟอย่างเดียวเลย
00:08:46 → 00:08:48 นะแล้วกลับไปกินมอกค่ากลับไปกินลาเต้
00:08:48 → 00:08:51 คาปูชิโน่ใหม่คุณจะรู้เลยว่าลิ้นคุณมันจะ
00:08:51 → 00:08:53 ต่อต้านเฮ้ยทำไมมันหวานมากเลยบางคนกิน
00:08:53 → 00:08:55 แล้วเวียนหัวเลยมีใครเคยเป็นมั้ยตัดหวาน
00:08:55 → 00:08:57 เสร็จปั๊บอีก 3 วันกลับมากินเวียนหัวเลย
00:08:57 → 00:08:59 เพราะว่าร่างกายเราไม่ชินกับกันการติด
00:08:59 → 00:09:01 หวานแล้วลิ้นเราเริ่มรับรสได้ดีขึ้นแต่
00:09:02 → 00:09:04 ปกติคนที่กินหวานอยู่แล้วเนี่ยมันจะต้อง
00:09:04 → 00:09:05 กินหวานขึ้นไปเรื่อยๆเพราะว่าอะไรเพราะ
00:09:05 → 00:09:07 ว่าลิ้นมันเคยชินกับระดับความหวานที่เป็น
00:09:07 → 00:09:09 แบบเนี้ยหมอ1ึไปกินอาจจะบอกว่ามันหวานมาก
00:09:09 → 00:09:11 แต่คุณกินทุกวันคุณรู้สึกว่ามันปกตินะ
00:09:11 → 00:09:14 ครับเนาะอีกอันนึงที่ใช้ได้มีอะไรบ้างอีก
00:09:14 → 00:09:18 นะครับนะก็มีอันที่เรียกว่าอิออ่าอิอก็
00:09:18 → 00:09:20 ใช้ได้ส่วนใหญ่จะใช้ในขนมแล้วก็พวกสาร
00:09:20 → 00:09:22 สกัดหล่อังกล้วยพวกเได้หมดเลยนะครับแต่
00:09:22 → 00:09:26 ใช้แค่เพื่อให้ได้ความหวานในช่วงที่เรา
00:09:26 → 00:09:30 กำลังลดหวานลงโอเคปป่าส่วนใครที่ทำอออยู่
00:09:30 → 00:09:32 ช่วงทำออจริงๆพวกนี้ก็ใช้ได้แต่ถ้าถามหมอ
00:09:32 → 00:09:35 1 นะหมอ 1 ไม่ใช้เพราะอะไรรู้มมมันจะทำ
00:09:35 → 00:09:37 ให้คุณติดหวานลิ้นเราจะติดหวานแล้วสุด
00:09:37 → 00:09:39 ท้ายพอเราหาพวกสารให้ความหวานไม่ได้แล้ว
00:09:39 → 00:09:41 เราโหยมากๆเราก็ต้องกลับไปกินของหวาน
00:09:41 → 00:09:43 เหมือนเดิมนะครับเนาะเพราะฉะนั้นอันที่ 1
00:09:43 → 00:09:45 ตัดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลทิ้งไปก่อนร่าง
00:09:45 → 00:09:47 กายมีน้ำตาลน้อยลงมันจะถึงจะไปยอมใช้ไข
00:09:47 → 00:09:50 มันมากขึ้นนะเราถึงจะบังคับให้ร่างกายใช้
00:09:50 → 00:09:53 ไขมันได้ข้อที่ 2 อ้าเมื่อกี้เราพูดถึง
00:09:53 → 00:09:55 เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลแล้วพูดถึงน้ำ
00:09:55 → 00:09:59 ผลไม้ใช่มข้อที่ 2 ผลไม้ข้อนี้ 3 สำคัญ
00:09:59 → 00:10:01 มากคนส่วนใหญ่ลดน้ำหนักไม่ได้เพราะข้อนี้
00:10:01 → 00:10:03 เพราะบ้านเราเนี่ยประเทศไทยโดยเฉพาะผู้
00:10:03 → 00:10:06 หญิงใช่มั้ยผลไม้มันหากินง่ายนะครับ
00:10:06 → 00:10:12 ผลไม้ที่เราเลือกจะต้องเป็นผลไม้รสไม่
00:10:12 → 00:10:16 หวานผลไม้รสไม่หวานผลไม้รสหวานจำไว้เลยนะ
00:10:16 → 00:10:18 ครับอะไรที่กินแล้วหวานอันนั้นหวานหมดแต่
00:10:18 → 00:10:21 ถ้าเราสัมผัสได้นะลูกเล็กๆแล้วหวานจัดๆ
00:10:21 → 00:10:24 อันนั้นน่ะคือผลไม้ที่ไม่ควรกินเช่นรอง
00:10:24 → 00:10:27 กองมีอะไรอีกที่กินเป็นเม็ดๆพวงๆแล้วหวัน
00:10:27 → 00:10:33 มากๆอ้าลิ้นจี่ลิ้นจี่อะไรอีกลำไยลำไยพวก
00:10:33 → 00:10:36 เนี้ยหวานมากๆไม่ควรโอเคมนะครับแล้วถ้า
00:10:36 → 00:10:38 พูดถึงอันที่เรากินได้บ้างล่ะอ่าที่เรา
00:10:39 → 00:10:41 กินได้ก็มีนะครับนะพวกกลุ่มตระกูลที่เป็น
00:10:41 → 00:10:44 เบอร์รี่ทั้งหลายสตรอเบอร์รี่บลูเบอร์รี่
00:10:44 → 00:10:48 ได้หมดโอเคมถ้าลงท้ายด้วยเบอร์รี่พวกนี้
00:10:48 → 00:10:51 กินได้น้ำตาลน้อยชมพู่กินได้แล้วผลไม้
00:10:51 → 00:10:53 อย่างอื่นจริงๆไม่ใช่ว่ากินไม่ได้นะครับ
00:10:53 → 00:10:57 กินได้แต่หมอหนึมีย้ำคำว่าแต่นะในปริมาณ
00:10:57 → 00:11:00 ที่เหมาะสมไม่มีนะนะครับคนที่บอกว่ากิน
00:11:00 → 00:11:03 ผลไม้เท่าไหร่ก็ได้แล้วชีวิตสุขภาพดีเป็น
00:11:03 → 00:11:05 ไปไม่ได้อาหารทุกอย่างบนโลกนี้มันมี
00:11:05 → 00:11:07 ปริมาณที่เหมาะสมของมันหมอ1ึไม่เคยบอกว่า
00:11:07 → 00:11:09 คุณจะกินเนื้อสัตว์เท่าไหร่ก็ได้คุณจะกิน
00:11:09 → 00:11:12 ผักเท่าไหร่ก็ได้คุณจะกินผลไม้เท่าไหร่ก็
00:11:12 → 00:11:15 ได้น้ำหนักของแต่ละคนมันมีปริมาณที่เหมาะ
00:11:15 → 00:11:18 สมอยู่โอเคยนะครับถ้าใครอยากเรียนรู้
00:11:18 → 00:11:20 เรื่องนี้เพิ่มเติมให้ไปลองเสิร์ชคำว่า
00:11:20 → 00:11:24 ดัชนีน้ำตาลอ่าดัชนีน้ำตาลนะเดี๋ยวไว้ถ้า
00:11:24 → 00:11:26 มีเวลาจะเอามาทำเรื่องนี้เพิ่มให้นะครับ
00:11:26 → 00:11:29 ดัชนีน้ำตาลหรือค่า GI มันย่อมาจากคำว่า
00:11:29 → 00:11:31 ไลซิก index จำชื่อจริงไม่ได้ช่างมันนะ
00:11:31 → 00:11:34 ครับแต่ไกลซีมิกไกลซีนเนี่ยคือน้ำตาล
00:11:34 → 00:11:36 index คือดัชนีดัชนีน้ำตาลคือค่าที่บอก
00:11:36 → 00:11:38 ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรากินไอ้สิ่งนั้น
00:11:38 → 00:11:40 เข้าไปแล้วมันจะทำให้น้ำตาลในเลือดของเรา
00:11:40 → 00:11:44 อ่ะสูงขึ้นเร็วหรือช้าถ้าค่า GI สูงหมาย
00:11:44 → 00:11:46 ความว่ากินแป๊บเดียวน้ำตาลพุ่งกระฉูดปี๊ด
00:11:46 → 00:11:49 เลยเช่นอะไรเช่นพวกข้าวข้าวขาวข้าวเหนียว
00:11:49 → 00:11:52 กินปั๊บน้ำตาลพุ่งกระฉูดเลยขนมปังสีขาว
00:11:53 → 00:11:56 พวกเนี้ยนะครับแต่ถ้าค่า G ต่ำๆนะนะกิน
00:11:56 → 00:11:59 เสร็จปั๊บร่างกายย่อยช้าดูดซึมน้ำตาลช้า
00:11:59 → 00:12:01 พวกนี้ก็จะทำให้คุณลดน้ำหนักได้ดีกว่านะ
00:12:01 → 00:12:02 ครับเพราะฉะนั้นถ้าอยากรู้ว่าผลไม้อะไร
00:12:02 → 00:12:05 บ้างที่กินได้เสิร์ชคำว่าดัชนีน้ำตาลโอเค
00:12:05 → 00:12:08 มยแล้วก็พวกผลไม้ที่น้ำเยอะจริงๆก็กินได้
00:12:08 → 00:12:10 นะแตงโมเเนี่ยบางคนไปเสือรดูดัชนีน้ำตาล
00:12:10 → 00:12:12 อาจจะสูงหน่อยแต่มันเป็นผลไม้ที่มีน้ำ
00:12:12 → 00:12:14 เยอะเพราะฉะนั้นแตงโมก็กินได้แต่กินใน
00:12:14 → 00:12:16 เสี้ยวที่ไม่ใช่กินเอาอิ่มอ่ะคนเราเวลา
00:12:16 → 00:12:19 มันจะอิ่มเนี่ยมันจะอิ่มจากโปรตีนไม่ได้
00:12:19 → 00:12:22 อิ่มจากแป้งกับน้ำตาลน้ำตาลกินเท่าไหร่ก็
00:12:22 → 00:12:24 ไม่อิ่มคุณลองสังเกตนะพวกที่มันมีรสหวาน
00:12:24 → 00:12:26 น่ะคุณกิน 8:00 นหรือ 10:00 นคุณก็หิวอีก
00:12:26 → 00:12:28 แล้วเพราะอะไรเพราะน้ำตาลในเลือดคุณมันจะ
00:12:28 → 00:12:30 แกวดแ่งขึึ้นแกว่งลงแบบนี้พอครูกินน้ำตาล
00:12:30 → 00:12:33 ไปน้ำตาลสูงแป๊บนึงเดี๋ยวร่างกายก็ดึงน้ำ
00:12:33 → 00:12:35 ตาลกลับไปเก็บเพราะไม่อยากเป็นเบาหวานแต่
00:12:35 → 00:12:37 เวลาเก็บมันไม่ได้เก็บธรรมดามันเอาไปเก็บ
00:12:37 → 00:12:39 หมดเลยเพราะฉะนั้นน้ำตาลก็อยู่ต่ำกว่า
00:12:39 → 00:12:41 เกณฑ์ที่ร่างกายอยากได้ร่างกายก็เลยโหย
00:12:41 → 00:12:43 แล้วก็อยากกินอันนี้คืออาการโหยโหยน้ำตาล
00:12:43 → 00:12:45 โอเคมยนะครับเนาะเพราะฉะนั้นอันนี้คือ
00:12:45 → 00:12:48 เรื่องของผลไม้แล้วก็สังเกตง่ายๆผลไม้สุก
00:12:48 → 00:12:51 จะหวานกว่าผลไม้ดิบด้วยเหตุผลอะไรคะคุณ
00:12:51 → 00:12:54 หมอปกติไอ้ผลไม้ดิบมันมีแป้งเยอะน้ำตาล
00:12:54 → 00:12:56 น้อยแต่พอทิ้งไว้นานๆแล้วมันบ่มอยู่ใน
00:12:56 → 00:12:59 นั้นเนี่ยแป้งมันจะถูกย่อยกลายเป็นน้ำตาล
00:12:59 → 00:13:01 ด้วยพวกน้ำย่อยที่อยู่ในผลไม้เพราะฉะนั้น
00:13:01 → 00:13:03 พอแป้งย่อยเป็นน้ำตาลปั๊บจากมะม่วงดิบ
00:13:03 → 00:13:05 กลายเป็นมะม่วงสุกมะม่วงสุกเลยหวานเพราะ
00:13:05 → 00:13:08 น้ำตาลเยอะแป้งน้อยแต่มะม่วงดิบแป้งเยอะ
00:13:08 → 00:13:11 น้ำตาลน้อยโอเคไหนะครับเนาะนะอ่ะเพราะ
00:13:11 → 00:13:14 ฉะนั้นพวกผลไม้อันที่ 2 เนาะถัดมานะครับ
00:13:14 → 00:13:18 อันที่ 3 อะไรที่เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ลด
00:13:18 → 00:13:20 เพราะเราอยากจะสลับระบบพลังงานจากน้ำตาล
00:13:20 → 00:13:22 ไปใช้ไขมันถูกป่าเพราะฉะนั้นอะไรที่
00:13:22 → 00:13:25 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ต้องลดลงก่อนสิ่งที่
00:13:25 → 00:13:27 เปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้สิ่งนั้นเราเรียกว่า
00:13:27 → 00:13:31 แป้งอ่าเราเรียกว่าแป้งนะครับหรือบางคนจะ
00:13:31 → 00:13:36 เรียกว่าขาบหรือบางคนจะเรียกว่าคาร
00:13:36 → 00:13:40 โบไฮเดรตก็ได้อ่าพวกเนี้ยนะครับพวกเเรา
00:13:40 → 00:13:42 เรียกว่าแป้งหมดเลยใครที่อยู่ในกลุ่ม
00:13:42 → 00:13:44 เรียนลดน้ำหนักของหมอ 1 นะครับให้ไปทบทวน
00:13:44 → 00:13:47 บทที่ 5 ถึงบทที่ 8 เพราะการแลกแป้งสำคัญ
00:13:47 → 00:13:49 มากแต่คนที่เพิ่งมาเจอหมอ 1 แล้วเพิ่ง
00:13:49 → 00:13:52 เริ่มต้นลดน้ำหนักเวลาที่เราเริ่มต้นลด
00:13:52 → 00:13:54 น้ำหนักเอาง่ายๆก่อนให้เราเริ่มเบื้องต้น
00:13:54 → 00:13:57 ให้ได้ก่อนเราจะได้มีกำลังใจในการไปต่อ
00:13:57 → 00:13:59 ถูกมยเพราะฉะนั้นสิ่งที่ที่ทำได้คือตัด
00:13:59 → 00:14:02 ปริมาณมันก่อนนึกอะไรไม่ออกอันที่ 1 ลด
00:14:02 → 00:14:06 ปริมาณลงครึ่งนึงได้มยอ่าลดปริมาณลง 1/2
00:14:06 → 00:14:09 ได้มยเคยกินข้าว 2 ทัพพีเหลือ 1 ทัพพีได้
00:14:09 → 00:14:13 มยเคยกินขนมปัง 2 แผ่นเหลือ 1 แผ่นได้มย
00:14:13 → 00:14:16 เคยกินผลไม้ 10 ชิ้นเหลือ 5 ชิ้นได้มยเคย
00:14:16 → 00:14:18 เห็นภาพมั้ยนะครับคือบางคนบอกว่าเอ๊ผลไม้
00:14:18 → 00:14:20 เกี่ยวด้วยหรอคุณหมออต้องบอกแบบนี้นะครับ
00:14:20 → 00:14:22 ว่าจริงๆพวกแป้งเนี่ยมันได้เกี่ได้แก่
00:14:22 → 00:14:25 อะไรบ้างมันได้แก่พวกข้าวพวกเส้นบางคนชอบ
00:14:25 → 00:14:27 กินก๋วยเตี๋ยวมากแล้วเพิ่มเส้นถูกมั้ย
00:14:27 → 00:14:29 แล้วก็ต้องลดเส้นลงเส้นก็เป็นแป้งย่อย
00:14:29 → 00:14:31 เสร็จก็เป็นน้ำำตาลถูกมั้ยเพราะฉะนั้นได้
00:14:31 → 00:14:35 แก่พวกข้าวเส้นขนมปังผักหัวทั้งหลายแล้ว
00:14:35 → 00:14:37 ก็พวกผลไม้ต่างๆพวกนี้เป็นแป้งหมดเลยให้
00:14:37 → 00:14:40 ลดปริมาณจากที่เคยกินลงครึ่งนึงอีกอันนึง
00:14:40 → 00:14:43 ที่เจอบ่อยก็คือนมนะนมก็เป็นแป้งแบบนึงนะ
00:14:43 → 00:14:45 ครับเด็กไทยเนี่ยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยไม่
00:14:45 → 00:14:48 ค่อยได้อ้วนจากพวกอาหารหรอกแต่มักจะอ้วน
00:14:48 → 00:14:51 จากพวกน้ำอัดลมกับนมผมเคยเห็นเด็กบางคนนะ
00:14:51 → 00:14:53 บปรึกษาบอกว่าคุณหมอคะลูกอ้วนมากเลยอยาก
00:14:53 → 00:14:56 ลดน้ำหนักทำยังไงดีคือเด็กเจะมีกิจกรรม
00:14:56 → 00:14:58 ทางกายอยู่แล้วใครที่ที่บ้านมีเด็กเด็ก
00:14:58 → 00:15:01 ลองสังเกตดีๆนะครับเด็กเพร้อมจะลดไขมัน
00:15:01 → 00:15:03 อยู่แล้วแต่หลักๆน่ะมักจะเสียที่การกิน
00:15:03 → 00:15:06 โดยเฉพาะพวกอะไรที่น้ำตาลกับแป้งเยอะนม
00:15:06 → 00:15:09 บางคนกินทีเนี่ยกิน 6 กล่องต่อวันมันเยอะ
00:15:09 → 00:15:12 เกินไปนะหรือบางคนกินข้าวเติมแล้วเติมอีก
00:15:12 → 00:15:15 เพราะว่าคนแต่ก่อนเาสอนกับมาว่ากินข้าว
00:15:15 → 00:15:18 เยอะๆจะได้โตไวๆไม่นะครับนะถ้ากล้ามเนื้อ
00:15:18 → 00:15:20 จะเติบโตกระดูกจะเติบโตต้องมีโปรตีนที่
00:15:20 → 00:15:23 เหมาะสมไม่ใช่กิ่นแป้งเข้าไปเยอะๆแล้วไม่
00:15:23 → 00:15:25 ได้ใช้อันนั้นนาจจะเป็นเด็กอ้วนไม่ค่อยดี
00:15:25 → 00:15:27 เนาะโอเคมยนะครับเพราะฉะนั้นลดปริมาณลง
00:15:27 → 00:15:30 ครึ่งนึงอีอีกเทคนิคนึงที่หมอหนึ่งบอกนะ
00:15:30 → 00:15:33 ครับนะคุณอาจจะยังไม่รู้ว่ามันมีวิธีแลก
00:15:33 → 00:15:36 แป้งอะไรกับอะไรบ้างในปริมาณเท่าไหร่เนาะ
00:15:36 → 00:15:40 แต่ให้รู้ไว้ว่าเอาง่ายๆแบบนี้เราจะไม่
00:15:40 → 00:15:43 กินแป้งอย่างเดียวกันในมื้อเดียวกันอ่า
00:15:43 → 00:15:46 หมายความว่าอะไรครับคุณหมอหมายความว่า
00:15:46 → 00:15:48 สมมุติเช้านี้คุณเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ
00:15:48 → 00:15:51 แล้วเขมักจะวางไอ้กล้วยหอมอ่ะใช่มยอ่า
00:15:51 → 00:15:54 แล้วก็มีแซนวิชด้วยแล้วก็หยิบแซนวิชแล้ว
00:15:54 → 00:15:56 ก็หยิบกล้วยหอแบบเไม่ดีที่มันไม่ดีเพราะ
00:15:56 → 00:15:59 อะไรที่มันไม่ดีเพราะว่าแซนวิชก็เป็นแป้ง
00:15:59 → 00:16:03 ใครขนมปังก็เป็นแป้งกล้วยก็เป็นแป้งกิน
00:16:03 → 00:16:05 แซนวิชแล้วก็กินกล้วยด้วยถ้าใครที่เรียน
00:16:05 → 00:16:08 กับหมอ 1 มาจะรู้ว่าแซนวิชมีขนมปัง 2
00:16:08 → 00:16:11 แผ่นแป้ง 2 ส่วนกล้วยหอมลูกนึงใหญ่ๆแป้ง
00:16:11 → 00:16:13 อีก 2 ส่วนรวมกันเป็น 4 ส่วนมื้อเดียวได้
00:16:13 → 00:16:15 แป้งไป 4 ส่วนแล้วกินอย่างงี้ 3 มื้อแป้ง
00:16:15 → 00:16:18 12 ส่วนเยอะระเบิดระเบ้อเลยถูกมยนะครับ
00:16:18 → 00:16:20 เพราะฉะนั้นถ้าไม่รู้อะไรเลยยังนับแป้ง
00:16:20 → 00:16:23 ยังแลกแป้งไม่เป็นอยากกินแป้งหลายชนิดใน 1
00:16:24 → 00:16:26 มื้อให้กินแป้งแค่ชนิดเดียวแล้วลดปริมาณ
00:16:26 → 00:16:29 ลงเช่นหมอหนึ่งบอกว่าหน้านี้หน้าทุเรียน
00:16:29 → 00:16:31 อ่านักเรียนผมอยากกินทุเรียนผมบอกว่าได้
00:16:31 → 00:16:34 สิครับอยากกินทุเรียนน่ะแต่ว่าแลกแป้งนะ
00:16:34 → 00:16:37 เอางี้ได้มยตอนเช้าอยากกินข้าวเหนียวหมู
00:16:37 → 00:16:39 ปิ้งอ่ะแต่ว่าทุเรียนก็อยากกินด้วยอ่ะ
00:16:39 → 00:16:41 ข้าวเหนียวก็แป้งทุเรียนก็แป้งเลือกแป้ง
00:16:41 → 00:16:44 สักอย่างนึงเป็นคุณคุณจะเลือกอะไรครับหมู
00:16:44 → 00:16:46 ปิ้งข้าวเหนียวหรือทุเรียนหมูปิ้งนัก
00:16:46 → 00:16:48 เรียนผมเลือกทุเรียนหมูปิ้งนะมันไม่แปลก
00:16:48 → 00:16:50 ถูกมยเพราะจริงๆแล้วไอ้ข้าวเหนียวกับทุ
00:16:50 → 00:16:52 ข้าวเหนียวกับหมูปิ้งมันถูกเอามาจับคู่
00:16:52 → 00:16:54 กันเฉยๆจริงๆเรากินหมูปิ้งอย่างเดียวก็
00:16:54 → 00:16:57 ได้แต่เราไปเอาแป้งจากทุเรียนแทนเห็นป่ะ
00:16:57 → 00:16:59 การเลือกแบบเจะทำให้เราเรากินได้ทุกอย่าง
00:16:59 → 00:17:01 ที่เราอยากกินไม่จำเป็นจะต้องมานั่งจำกัด
00:17:01 → 00:17:03 จำเขี่ยว่าอันนั้นกินไม่ได้อันนี้กินไม่
00:17:03 → 00:17:04 ได้ทุกอย่างกินได้หมดแต่แต่ต้องมีความรู้
00:17:04 → 00:17:07 เฉยๆเพราะฉะนั้นลองใช้เทคนิคนี้ดูไม่กิน
00:17:07 → 00:17:09 แป้งซ้ำซ้อนหรือเทคนิคที่บันหนึเคยสอนใน
00:17:09 → 00:17:11 กลุ่มคืนแรกแป้งไปทบ้วนบทที่ 5 บถึงบทที่
00:17:11 → 00:17:13 8 นะใครที่อยู่ในกลุ่มเรียนนะครับเนาะ
00:17:13 → 00:17:16 อันนี้อันที่ 3 นะลดปริมาณมันลงถัดมานะ
00:17:16 → 00:17:19 ครับเทคนิคที่ 4 เทคนิคที่ 4 ทำยังไงร่าง
00:17:19 → 00:17:22 กายถึงจะไม่ใช้น้ำตาลแล้วไปใช้ไขมันน่า
00:17:22 → 00:17:25 เมื่อกี้พูดถึงเรื่องปริมาณคราวนี้เราจะ
00:17:25 → 00:17:28 พูดถึงชนิดของแป้งบ้างชนิดของแป้ง
00:17:28 → 00:17:31 แป้งจริงๆเนี่ยมันมีอยู่ 2 ชนิดหลักๆนะ
00:17:31 → 00:17:34 ครับคือชนิดที่เราเรียกว่าเชิงเดี่ยวกับ
00:17:35 → 00:17:38 แป้งที่เป็นเชิงซ้อนหมายความว่าอะไรคะคุณ
00:17:38 → 00:17:41 หมอแป้งเชิงเดี่ยวเนี่ยมันคือแป้งที่พูด
00:17:41 → 00:17:44 ง่ายๆเลยแป้งที่มีสีขาวผ่านกระบวนการการ
00:17:44 → 00:17:47 ขัดสีอะไรมาหมดแล้วขัดยังไงบ้างเอาเปลือก
00:17:47 → 00:17:50 ออกถูกมยขัดเอาใยอาหารออกเพราะฉะนั้นได้
00:17:50 → 00:17:53 แก่พวกขนมปังขาวทั้งหลายพวกเส้นแป้งสาลี
00:17:53 → 00:17:57 ทั้งหลายข้าวขาวพวกเนี้ยนะแต่ถ้าเป็นพวก
00:17:57 → 00:17:59 เชิงซ้อนคีย์เวิร์ดเดียวเลยคือคำว่าใย
00:17:59 → 00:18:02 อาหารใครที่ฟังแล้วหลายๆรอบนะฟังซ้ำมันจะ
00:18:02 → 00:18:05 จดจำได้โดยที่คุณไม่ต้องจดเลยนะหลายๆคลิป
00:18:05 → 00:18:07 เนี่ยหมอหนึ่งก็จะพูดอยู่อย่างเงี้ยซ้ำๆ
00:18:07 → 00:18:10 บางทีเราฟังรอบเดียวเราจำไม่ได้บางคนจำ
00:18:10 → 00:18:13 ได้แต่ยังไม่เชื่อว่าเฮ้ยมันได้จริงๆหรอ
00:18:13 → 00:18:15 บางคนฟังคลิปหมอนหนึ่งมา 5 คลิปกว่าจะ
00:18:15 → 00:18:17 เริ่มลงมือทำอ่ะเพราะอะไรตอนนั้นใจเรามัน
00:18:17 → 00:18:19 ยังไม่เชื่อว่ามันเป็นไปได้แต่ผมบอกเลย
00:18:19 → 00:18:21 ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเริ่มเชื่อแล้วนะ
00:18:21 → 00:18:24 คุณจะลดน้ำหนักได้ติดจรวดมากๆแล้วสุดท้าย
00:18:24 → 00:18:26 คุณจะสุขภาพดีแบบที่คุณไม่เคยคิดเลยว่า
00:18:26 → 00:18:29 ชีวิตนี้จะมีได้โอเคมยนะครับเนาะแต่บางคน
00:18:30 → 00:18:32 บอกว่าเราหาไม่ได้อ่ะค่ะคุณหมอข้าวแป้ง
00:18:32 → 00:18:35 เชิงเดี่ยวทำยังไงดีคะก็กินข้าวสินะกิน
00:18:35 → 00:18:38 ข้าวขาวสิแต่บวกผักได้มยเพราะผักเราก็มี
00:18:38 → 00:18:42 ใยอาหารถูกเปล่าหรือบางทีแลกแป้งแบบพ่อ
00:18:42 → 00:18:44 เมื่อกี้ได้มยมีข้าวขาวถ้าต้องเทียบกับ
00:18:44 → 00:18:47 การที่เราจะกินฟักทองอ้าฟักทองเป็นแป้ง
00:18:47 → 00:18:49 เชิงซ้อนเพราะอะไรเพราะฟักทองเนี่ยเป็น
00:18:49 → 00:18:52 ผักหัวก็จริงนะผักหัวได้แก่พวกข้าวโพด
00:18:52 → 00:18:54 เผือกมันฟักทองพวกเนี้ยเป็นผักหัวมีแป้ง
00:18:54 → 00:18:57 อยู่ในนั้นแต่มีใยอาหารอยู่ในนั้นด้วย
00:18:57 → 00:18:59 เพราะฉะนั้นก็จะเป็นเชิงซอซนถ้าสมมุติว่า
00:18:59 → 00:19:01 หมอหนึเลือกได้ว่ามื้อนี้หมอหนึ่งต้องมี
00:19:01 → 00:19:05 ข้าวแล้วก็มีฟักทองผัดไข่หมอหนึ่งจะกิน
00:19:05 → 00:19:07 ฟักทองผัดไข่โดยที่อาจจะไม่กินข้าวเลยก็
00:19:07 → 00:19:10 ได้เพราะฟักทองก็มีแป้งแล้วไข่คือโปรตีน
00:19:10 → 00:19:12 แต่ถ้าเรากินข้าวกับฟักทองผัดไข่มันจะ
00:19:12 → 00:19:15 กลายเป็นแป้งแป้งโปรตีนเอาแป้งอันนึงออก
00:19:15 → 00:19:17 ดีกว่าถูกมยก็ต้องเลือกฟักทองฟักทองมีใหย
00:19:18 → 00:19:20 อาหารเห็นมยเราจะเลือกเก่งขึ้นน่ะทักษะ
00:19:20 → 00:19:22 พวกนี้มันเป็นทักษะที่จำเป็นนะแต่โรง
00:19:22 → 00:19:25 เรียนไม่เคยสอนเราเท่านั้นเองนะครับเนาะ
00:19:25 → 00:19:28 นะอ่ะแล้วก็ข้อสุดท้ายถ้าไม่อยากใช้น้ำ
00:19:28 → 00:19:30 ตาลอยากให้ร่างกายบังคับให้ใช้ไขมันได้นะ
00:19:30 → 00:19:34 ครับก็คือข้อที่ 5 คือการทำ If บางคนรู้
00:19:34 → 00:19:37 แล้วแต่ว่าทำผิดเยอะนะเจอเยอะมากหลายคน
00:19:37 → 00:19:40 ที่มาเรียนกับหมอ 1 แล้วบอกว่าคุณหมอคะทำ
00:19:40 → 00:19:43 If มาปีนึงแล้วค่ะแต่ไม่ผอมเลยค่ะพี่ทำ
00:19:43 → 00:19:46 ถูกแน่นอนเพราะว่าช่วงอดพี่ไม่กินอะไรเลย
00:19:46 → 00:19:48 ค่ะแต่ว่าไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมน้ำหนัก
00:19:48 → 00:19:51 มันถึงไม่ลงสำคัญมากๆนะข้อนี้นะครับผมจะ
00:19:51 → 00:19:54 บอกเลยนะว่าหลายคนเข้าใจผิดจริงๆ If
00:19:54 → 00:19:56 เนี่ยคำว่า intermittent เนี่ยมันแปลว่า
00:19:56 → 00:19:59 เป็นช่วงๆ Fast แปลว่าอดอาหารเพราะฉะนั้น
00:19:59 → 00:20:02 intermittent fasting แปลว่าอดอาหาร
00:20:02 → 00:20:04 เป็นช่วงๆใครที่เคยฟังเรื่อง If มาแล้ว
00:20:04 → 00:20:06 ตั้งใจฟังคลิปนี้ให้ดีเพราะคุณอาจจะทำมัน
00:20:06 → 00:20:08 ผิดอยู่ก็ได้นะครับเนาะมันแปลว่าอดอาหาร
00:20:08 → 00:20:11 เป็นช่วงๆหมายความว่าใน 1 วันเรามีช่วง
00:20:11 → 00:20:15 กินกับมีช่วงอดโอเคมมีช่วงกินกับช่วงอด
00:20:15 → 00:20:18 ไอ้ช่วงอดเนี่ยเขาบอกเลยว่าถ้าคุณจะลดน้ำ
00:20:18 → 00:20:22 หนักได้ดีคุณต้องมีช่วงอดเนี่ยที่นานกว่า
00:20:22 → 00:20:26 12 ชมงหมายความว่าอะไรหมายความว่าถ้าวัน
00:20:26 → 00:20:29 นี้หมอหนึ่งหยุดกินตอน 20:00 นหลัง 20:00
00:20:29 → 00:20:32 นหมอหนึ่งกินแต่น้ำเปล่าเลยนะวันรุ่งขึ้น
00:20:32 → 00:20:34 หมอหนึ่งจะเริ่มกินได้คือหลัง 8:00 นเป็น
00:20:34 → 00:20:36 ต้นไปเพราะอะไรเพราะเราจะอด 12 ชมงถูก
00:20:36 → 00:20:39 มั้ยแต่บางคนน่ะชอบติดนิสัยกินจุกจิกก่อน
00:20:39 → 00:20:41 นอนก็ยังกินอันเนี้ยคุณก็จะมีเวลาที่ร่าง
00:20:41 → 00:20:44 กายใช้ไขมันได้น้อยทำไมการทำไมันถึงได้ผล
00:20:44 → 00:20:46 รู้มั้ยเพราะว่าร่างกายของเราถ้ามีพลัง
00:20:46 → 00:20:48 งานภายนอกมันใช้พลังงานจากสิ่งที่เรากิน
00:20:48 → 00:20:50 ก่อนบางทีเราสู้ใจตัวเองไม่ได้อ่ะตอนกลาง
00:20:50 → 00:20:52 คืนปั๊บกำลังจะนอนเห็นของกินเปิดตู้เย็น
00:20:52 → 00:20:55 มาปั๊บเอาสักคำวะทั้งๆที่หยุดกินตอน 20:00
00:20:55 → 00:20:58 นนะแต่เที่ยงคืนเปิดตู้มาเอาสักคำวะกลาย
00:20:58 → 00:21:00 เป็นหยุดกินเที่ยงคืน 8:00 นตื่นมากินอีก
00:21:00 → 00:21:03 แล้วเวลาหยุดกินแค่ 8 ชมมันไม่เพียงพอ
00:21:03 → 00:21:04 เพราะว่าร่างกายเริ่มใช้ไขมันได้ดีตั้ง
00:21:05 → 00:21:09 แต่ 12 ชมขึ้นไปและจากประสบการณ์หมอ1ึนะ
00:21:09 → 00:21:12 15-18 ชมงถือว่าเป็นช่วงที่กำลังดีมากๆ
00:21:12 → 00:21:16 เฮ้ยคุณหมอแต่ว่าเคยเห็นบางคนเทำ If แบบ
00:21:16 → 00:21:19 23/1 นะ 23/1 หมายความว่าอะไรอ่าเลขมัน
00:21:19 → 00:21:22 จะมี 2 ตัวใช่มยนะครับเนาะ 23 หมายความ
00:21:22 → 00:21:24 ว่าอด 23 ชมแล้วกิน 1 ช่มคนบ้านอะไรจะกิน
00:21:24 → 00:21:26 วันละ 1 ชั่วโมงคือกินมื้อเดียวใช่มั้ย
00:21:26 → 00:21:29 ใช่ครับเนี่ยคือคนที่เคกินมื้อเดียวถาม
00:21:29 → 00:21:32 ว่าดีมั้ยดีในระยะสั้นมันจะลดน้ำหนักได้
00:21:32 → 00:21:34 ดีในระยะสั้นแต่ระยะยาวไม่ดีถ้าทำแบบนี้
00:21:34 → 00:21:37 ตลอดแล้วติดจนเป็นนิสัยคือมนุษย์เราเนี่ย
00:21:37 → 00:21:40 มันมีสิ่งที่ไม่ดีอยู่อย่างนึงนะเราจะ
00:21:40 → 00:21:43 เป็นคนที่ยึดติดพระพุทธเจ้าใช้คำว่ายึด
00:21:43 → 00:21:46 ติดเนาะอะไรที่ทำแล้วดีเราจะเชื่อว่าสิ่ง
00:21:46 → 00:21:49 นั้นมันจะดีตลอดไปคนๆนึงลดน้ำหนักด้วยการ
00:21:49 → 00:21:53 กินคีโตมาแล้วลดจนน้ำหนักนิ่งบางคนนะที่
00:21:53 → 00:21:56 มาเจอผมนะลดจาก 100 มาเหลือ 80 กินคีโตมา
00:21:56 → 00:21:58 ผมไม่ได้บอกว่าคีโตไม่ดีนะแต่แต่พอกิน
00:21:58 → 00:22:00 คีโตมาเสร็จน้ำหนักนิ่งนิ่งแล้วเกิดอะไร
00:22:00 → 00:22:03 ขึ้นฉันเชื่อว่าคีโตมันดีที่สุดพอน้ำหนัก
00:22:03 → 00:22:05 นิ่งฉันจะต้องพยายามทำคีโตให้หนักกว่า
00:22:05 → 00:22:08 เดิมน้ำหนักก็ยิ่งนิ่งเข้าไปอีกหมอหนึ่ง
00:22:08 → 00:22:10 บอกว่าเฮ้ยถ้าน้ำหนักลดมาถึงตรงนี้เรา
00:22:10 → 00:22:12 นิ่งอ่ะกลับไปกินแป้งซะแล้วเดี๋ยวค่อย
00:22:12 → 00:22:15 กลับมาลดต่อเดี๋ยวลดได้ไม่เชื่อก็กลับไป
00:22:15 → 00:22:17 พยายามจนสุดท้ายไปไหนไม่ได้แล้วไม่รู้จะ
00:22:17 → 00:22:19 ทำยังไงหมอหนึช่วยหน่อยค่ะพอหมอหนึสอนว่า
00:22:20 → 00:22:22 เราจะกลับไปกินแป้งยังไงให้กลับมาลดต่อ
00:22:22 → 00:22:24 ได้พอเริ่มทำตามปั๊บเริ่มกายเริ่มเปลี่ยน
00:22:24 → 00:22:26 แปลงเออเฮ้ยมันมหัศจรรย์จังเลยทำไมเป็น
00:22:26 → 00:22:29 แบบนี้ได้กลร่างกายเราถึงต้องเข้าใจไง
00:22:29 → 00:22:31 โอเคมยนะครับเนาะเพราะฉะนั้นทุกวิธีการลด
00:22:31 → 00:22:34 น้ำหนักไม่ว่าจะเป็นคีโตแนเบส If อะไรมัน
00:22:34 → 00:22:36 ดีหมดแหละแต่เราต้องเข้าใจมันก่อนว่าหลัก
00:22:36 → 00:22:38 การมันคืออะไรแล้วร่างกายเราทำงานยังไง
00:22:38 → 00:22:40 เราถึงจะได้ดึงข้อดีของมันมาใช้ได้เนาะ
00:22:40 → 00:22:43 เพราะฉะนั้นมหนึเลยไม่ค่อยแนะนำให้ใครทำ
00:22:43 → 00:22:46 23/1 คือกินแค่วันละมื้อไม่เอานะครับการ
00:22:46 → 00:22:48 ที่เรามีช่วงอด 15-18 ชมงถ้าเราอด 15
00:22:48 → 00:22:50 ชั่วโมหมายความว่าเรามีเวลากิน 9 ช่มใช่
00:22:50 → 00:22:53 มยอ่าแต่ถ้าเราอด 18 ชมแสดงว่าเรามีเวลา
00:22:54 → 00:22:57 กิน 6 ชมใช่มย 6 ชมเนี่ยมันก็ยังเพียงพอ
00:22:57 → 00:22:59 ที่จะได้สารอาหารครบถ้วนโดยเฉพาะโปรตีนนะ
00:22:59 → 00:23:01 ตอนที่หมอหนึ่งตรวจคนไข้เนี่ยแต่ก่อน
00:23:01 → 00:23:03 เนี่ยหมอหนึ่งตรวจคนไข้อยู่ที่โรงพยาบาล
00:23:03 → 00:23:06 เนี่ยนะครับผมเริ่มกินมื้อแรกเที่ยงนะ
00:23:06 → 00:23:09 แล้วหยุดกินตอน 18:00 น 18:00 นจนถึง 8:00
00:23:09 → 00:23:12 นเอ่อจนถึงเที่ยนอีกวันนึงผม 18 ชมเนี่ย
00:23:12 → 00:23:15 กินน้ำเปล่ากับกาแฟดำตื่นเช้ามาแต่ก่อน
00:23:15 → 00:23:17 ติดนิสัยต้องหาอะไรกินตอนเช้าไม่งั้นจะ
00:23:17 → 00:23:19 ไม่มีแรงมันเป็นความเชื่อเรานะว่ามันจะ
00:23:19 → 00:23:22 ไม่มีแรงทำงานแต่พอกินกาแฟดำไป 3 วันคุณ
00:23:22 → 00:23:25 เคยมั้ยเวลางานยุ่งมากๆผมตรวจคนไข้ึ่ง
00:23:25 → 00:23:27 เช้า 60 คนอย่างเงี้ยนะครับมันยุ่งมากๆจน
00:23:28 → 00:23:30 มันไม่มีเวลาไปสงสัยว่าตัวเองหิวหรือ
00:23:30 → 00:23:32 เปล่าอ่ะ 8:00 นอาจจะหิวอยู่นะแต่หลัง
00:23:32 → 00:23:35 8:00 นไปปั๊บตรวจไปยาวๆปั๊บเอ้า 10:00 น
00:23:35 → 00:23:37 หายหิวแล้วร่างกายเรามันเป็นแบบนี้แหละ
00:23:37 → 00:23:40 เวลามันมาเคาะประตูว่าหิวนะเราต้องมีสติ
00:23:40 → 00:23:42 แป๊บนึงพอมันเคาะสักครึ่งชั่วโมงแล้วเรา
00:23:42 → 00:23:44 ไม่กินอะไรเนี่ยมันไปเอาไขมันมาใช้เองเรา
00:23:44 → 00:23:47 ต้องอย่าไปสนใจมันเยอะความหิวจะมาเป็นลูก
00:23:47 → 00:23:49 คลื่นผมพูดประโยคนี้กับนักเรียนในกลุ่มใน
00:23:49 → 00:23:52 คอร์สผมบ่อยมากเลยนะความหิวจะมาเป็นลูก
00:23:52 → 00:23:55 คลื่นเราต้องมีสติกับมันนิดนึงว่ามันไม่
00:23:55 → 00:23:58 ได้มาเสร็จปั๊บแล้วเราจะต้องตอบสนองกัน
00:23:58 → 00:24:01 มันทันทีเราแค่ต้องรู้ว่าเรากำลังหิวแล้ว
00:24:01 → 00:24:03 เดี๋ยวพอถึงเวลาจะกินเราค่อยกินเดี๋ยว
00:24:03 → 00:24:07 ความหิวมันจะหายไปโอเคมั้นะครับเนาะนะ
00:24:07 → 00:24:09 เพราะฉะนั้นก็การอดเนี่ยดีจริงๆก็คือช่วง
00:24:09 → 00:24:12 15-18 ชมและไม่ได้หมายความว่ากินอะไรไม่
00:24:12 → 00:24:14 ได้นะสิ่งที่กินได้ก็คืออะไรน้ำเปล่า
00:24:14 → 00:24:17 สำคัญมากนะบางคนทำฟาสติ้งแล้วไม่กินอะไร
00:24:17 → 00:24:18 เลยน้ำเปล่าก็ไม่กินร่างกายเหี่ยวมากเลย
00:24:19 → 00:24:21 นะครับวันนึงบอกแล้วว่าเซลล์ต่างๆในร่าง
00:24:21 → 00:24:23 กายจำเป็นต้องใช้น้ำนะเนาะเพราะฉะนั้นก็
00:24:23 → 00:24:27 มีพวกน้ำเปล่ากาแฟดำพวกเนี้ยได้แต่ว่าไม่
00:24:27 → 00:24:30 ค่อยแนะนำให้กินพวกชากับกาแฟดำในช่วงหลัง
00:24:30 → 00:24:32 มื้อสุดท้ายของวันไปแล้วเนาะเพราะมันจะทำ
00:24:32 → 00:24:34 ให้นอนไม่หลับการนอนมีผลกับการนนน้ำหนัก
00:24:34 → 00:24:36 พอสมควรเลยนะครับเดี๋ยวจะอธิบายในคลิป
00:24:36 → 00:24:39 อื่นๆเนาะนะส่วนคนที่มักจะทำผิดคือช่วง
00:24:39 → 00:24:43 ด้านซ้ายคือไอ้ช่วงการกินคุณหมอเพี่
00:24:43 → 00:24:47 fasting 18/6 16/8 มาไม่ผอมเลยค่ะ
00:24:47 → 00:24:49 เพราะอะไรรู้มั้ยสมมุติหมอหนึ่งบอกว่ามี
00:24:49 → 00:24:53 คนๆนึงทำ If 16/8 หมายความว่าอด 16 ชมง
00:24:53 → 00:24:56 ทำได้ดีมากเลยการที่คุณอดได้ 16 ชม
00:24:56 → 00:24:59 จินตนาการภาพนะครับหลอดเลือดของเราอ่ามี
00:24:59 → 00:25:02 น้ำตาลกับไขมันลอยอยู่ในนั้นอ่านะแต่ถ้า
00:25:02 → 00:25:04 สมมุติว่าเราทำไฟาติได้ 16 ช่วโมงคือหยุด
00:25:04 → 00:25:06 กิน 16 ช่วโมงร่างกายจะปล่อยไขมันออกมา
00:25:06 → 00:25:08 เพราะมันไม่มีน้ำตาลจากภายนอกถูกมยมันก็
00:25:08 → 00:25:11 จะปล่อยไขมันเข้ามาเข้ามาเข้ามาแล้วพอคุณ
00:25:11 → 00:25:13 ออกกำลังกายแค่ 5-10 นาทีตอนเริ่มต้นนะ
00:25:13 → 00:25:16 มันจะเอาไขมันไปใช้เร็วมากเลยบางคนบอกว่า
00:25:16 → 00:25:18 พี่ทำข้อนี้ได้ดีมากเลยค่ะแต่ไอ้ 8 ชมงใน
00:25:18 → 00:25:21 ช่วงกินเนี่ยทำได้ไม่ดีเลยหมายความว่า
00:25:21 → 00:25:25 อะไร 8 ชมนี้บางคนกินอาหารที่น้ำตาลสูงพอ
00:25:25 → 00:25:28 น้ำตาลสูงในช่วง 8 ชมนี้มันก็ใช้ไม่หมด
00:25:28 → 00:25:31 มันก็เอาไปเก็บเป็นไขมันถูกมยบางคนยังกิน
00:25:31 → 00:25:34 อาหารที่มีแป้งเยอะอยู่บางคนบอกว่าคุณหมอ
00:25:34 → 00:25:37 คะแต่พี่แป้งก็ไม่ค่อยกินน้ำตาลพี่ไม่กิน
00:25:37 → 00:25:41 แน่นอนเลยค่ะไที่ไม่หลุดแน่นอนไปตกม้าตาย
00:25:41 → 00:25:45 ที่คำว่าโปรตีนจำไว้เลยนะครับคนส่วนใหญ่
00:25:45 → 00:25:47 ที่ทำไอแล้วไม่ผอมนะแล้วร่างกายไม่ยอมไป
00:25:47 → 00:25:49 ใช้ไขมันเพราะระบบเผาผลาญพังจากการที่กิน
00:25:49 → 00:25:52 โปรตีนไม่เพียงพอผมเคยทำคลิปเกี่ยวกับ
00:25:52 → 00:25:55 โปรตีนไว้ในช่องนะไปย้อนดูได้เลยนะสำคัญ
00:25:55 → 00:25:58 มากๆเพราะโปรตีนเอาไว้สร้างกล้ามเนื้อเ
00:25:58 → 00:26:00 กล้ามเนื้อเปรียบเสมือนเตาเผาพลังงานของ
00:26:00 → 00:26:02 ร่างกายถ้าคุณมีระบบเผาผลาที่ดีมีกล้าม
00:26:03 → 00:26:04 เนื้อที่แข็งแรงผมไม่ได้บอกว่าคุณต้อง
00:26:04 → 00:26:06 เป็นนักกล้ามนะคุณเชื่อมั้ยว่าผมเคยอ้วน
00:26:06 → 00:26:08 เหมือนกันหมอหนึ่งก็เคยอ้วนมีคลิปที่เอา
00:26:08 → 00:26:11 มาโชว์ตอนหมอหนึ่งอ้วนด้วยนะแต่ทุกวันนี้
00:26:11 → 00:26:13 หมอหนึ่งก็ไม่ได้มีกล้ามแบบพวกนักกล้ามก็
00:26:13 → 00:26:15 เราไม่ได้อยากมีแบบนั้นเราแค่อยากกลับมา
00:26:15 → 00:26:17 ใส่เสื้อผ้าหุ่นสวยๆมีความมั่นใจในตัวเอง
00:26:17 → 00:26:19 โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีซิ PAT ก็ได้เฉยๆ
00:26:19 → 00:26:21 อ่ะถูกมั้ยเราแค่บางคนแค่อยากกลับมา
00:26:21 → 00:26:23 สุขภาพดีอ่ะพออายุเยอะแล้วอยากไปเดิน
00:26:23 → 00:26:25 เที่ยวต่างประเทศได้โดยที่ไม่ปวดเข่าไม่
00:26:25 → 00:26:28 ต้องนั่งรถเข็นน่ะคือบางคนต้องการแค่นั้น
00:26:28 → 00:26:31 เพราะฉะนั้นโปรตีนสำคัญมากๆกินโปรตีนให้
00:26:32 → 00:26:34 อิ่มก่อนถ้าโปรตีนกินแล้วอิ่มร่างกายบอก
00:26:34 → 00:26:37 ว่าเออโอเคฉันอิ่มแล้วนะตรงนั้นน่ะคือจุด
00:26:37 → 00:26:39 ที่คุณประสบความสำเร็จคุณทำ If แล้วคุณจะ
00:26:39 → 00:26:42 ได้ผลส่วนใหญ่เนี่ยตกม้าตายข้อนี้แหละ
00:26:42 → 00:26:45 โอเคมยเพราะฉะนั้น 5 ข้อนะครับนะที่หมอ
00:26:45 → 00:26:47 หนึ่งให้ไปวันนี้เอาไปทำแล้วคุณจะสลับ
00:26:47 → 00:26:49 ระบบพลังงานจากน้ำตาลกับแป้งไปใช้ไขมัน
00:26:49 → 00:26:51 ได้ไวมากเลยตทั้งหมดนี้ยังไม่พูดเรื่อง
00:26:52 → 00:26:53 ออกกำลังกายเลยเพราะอะไรออกกำลังกายเป็น
00:26:53 → 00:26:56 แค่เครื่องจักรในการเอาวัตถุดิบเข้าไป
00:26:57 → 00:27:00 ผลิตเป็นพลังงานถ้าคุณป้อนน้ำตาลมันก็ใช้
00:27:00 → 00:27:03 น้ำตาลถ้าคุณป้อนไขมันมันก็ใช้ไขมันโอเค
00:27:03 → 00:27:06 ป่านะอธิบายมายาวมากๆเลยวันนี้นะแต่จะ
00:27:06 → 00:27:08 พยายามไม่ใช้ศัพท์การแพทย์แล้วนะครับเนาะ
00:27:08 → 00:27:10 อะไรที่เป็นศัพท์การแพทย์ที่ไม่จำเป็น
00:27:10 → 00:27:12 ต้องรู้คุณไม่จำเป็นต้องจำเลยนะแต่ให้เอา
00:27:12 → 00:27:15 หลักการมันไปใช้คุณจะได้กลายเป็น Healthy
00:27:15 → 00:27:17 ฮีโร่ของครอบครัวบางคนบอกว่าคุณหมอคะทั้ง
00:27:17 → 00:27:20 บ้านเอ้วนหมดเลยค่ะคุณนนี่แหละจะเป็นคน
00:27:20 → 00:27:22 แรกที่ผอมแล้วคนอื่นจะเริ่มเห็นความเป็น
00:27:22 → 00:27:25 ไปได้ว่าเฮ้ยคุณทำได้นี่นานะเฮ้ยหลานเรา
00:27:25 → 00:27:28 ทำได้เราก็น่าจะทำได้ประเทศใครเป็นประเทศ
00:27:28 → 00:27:30 ที่พออายุ 80 ปีแล้วคนแก่ส่วนใหญ่ 90%
00:27:30 → 00:27:32 นั่งรถเข็นนะโอเคมั้ยเราจะไม่เป็นคนนั้น
00:27:32 → 00:27:35 เด็ดขาดพอเราเกษียณปั๊บอายุ 60 ปีเราไป
00:27:35 → 00:27:37 เที่ยวเราอยากจะเดินเที่ยวแบบสวยๆถ่ายรูป
00:27:37 → 00:27:40 สวยๆไม่ใช่ต้องให้หลานเข็นรถเข็นไปเที่ยว
00:27:40 → 00:27:42 อ่ะโอเคป่ะนะครับนะชีวิตของเรานะมันไม่
00:27:43 → 00:27:45 ได้มีแง่มุมแค่ว่าวันนี้ตื่นมาทำงานหา
00:27:45 → 00:27:48 เงินทำงานหาเงินทำงานหาเงินมันมีมิติอื่น
00:27:48 → 00:27:50 ด้วยในเรื่องของสุขภาพกับครอบครัวเพราะ
00:27:50 → 00:27:54 ฉะนั้นต้องบาานให้ดีๆเนาะปัจจุบันเนี่ยหม
00:27:54 → 00:27:56 หนึเจอเยอะมากๆนะครับเนาะคือเครียดทำงาน
00:27:56 → 00:27:58 แล้วเครียดพอพอเครียดเสร็จปั๊บก็อยากกิน
00:27:58 → 00:28:01 อยากกินก็หิวแล้วไม่ได้ดูแลตัวเองสุดท้าย
00:28:01 → 00:28:03 ก็อ้วนแล้วมันก็จะวนอยู่อย่างเงี้ยเป็นวง
00:28:03 → 00:28:06 จรที่ไม่ดีเลยเพราะฉะนั้นสำคัญที่สุดนะ
00:28:06 → 00:28:08 เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้สุขภาพ
00:28:08 → 00:28:11 ต้องมาอันดับ 1 มันเป็นทัศนคติที่ดีเมื่อ
00:28:11 → 00:28:13 ไหร่ก็ตามที่คุณทำงานหรือว่าอะไรก็แล้ว
00:28:13 → 00:28:16 แต่แล้วคุณเจอเรื่องยากๆแต่สุขภาพคุณดีนะ
00:28:16 → 00:28:19 คุณมีต้นทุนเยอะกว่าคนอื่นแล้วเพราะอะไร
00:28:19 → 00:28:21 ถ้าสุขภาพกายดีสุขภาพใจดีไม่เป็นไรพรุ่ง
00:28:21 → 00:28:23 นี้มันก็สู้ใหม่ได้พรุ่งนี้มันก็เริ่ม
00:28:23 → 00:28:26 ใหม่ได้ถูกมั้ยแต่ถ้าสุขภาพคุณไม่ดีนะต่อ
00:28:26 → 00:28:28 ให้พรุ่งนี้มีโอกาสมาคุณก็ไม่พร้อมเริ่ม
00:28:28 → 00:28:30 ต้นอะไรสักอย่างนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:28:30 → 00:28:32 หวังว่าจะได้ประโยชน์นะเพราะฉะนั้นก็ขอ
00:28:32 → 00:28:35 แสดงความยินดีกับท่านนี้ด้วยนะครับลดไป 13
00:28:35 → 00:28:40 กในระยะเวลาแค่ 1 เดือนอ่าทุกคนก็ทำได้
00:28:40 → 00:28:43 เหมือนกันแน่นอนนะครับเนาะนะส่วนใครที่
00:28:43 → 00:28:45 ทักมาหลังไมล์เหมือนเดิมนะครับนะกลุ่ม
00:28:45 → 00:28:46 เรียนลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตยัง
00:28:47 → 00:28:48 เปิดอยู่นะครับใครที่ดูคลิปนี้อยู่แล้ว
00:28:48 → 00:28:51 อยากเรียนลดน้ำหนักกับหมอ 1 นะในกลุ่ม
00:28:51 → 00:28:53 เรียนเนี่ยนะครับหมอ 1 จะเรียงลำดับไว้
00:28:53 → 00:28:55 ให้แล้วเนาะใครที่ไม่อยากลดด้วยตัวเองอ่ะ
00:28:55 → 00:28:56 ก็เข้าไปดูได้เลยนะว่าแต่ละวันเราต้องทำ
00:28:56 → 00:28:58 อะไรบ้าง 1 1 2 3 4 5 นะครับนะน้ำ
00:28:58 → 00:29:00 หนักเท่านี้ต้องกินโปรตีนประมาณเท่าไหร่
00:29:00 → 00:29:03 หรือใครที่อยากเรียนลึกๆเรื่องการแลกแป้ง
00:29:03 → 00:29:05 อย่างวันเนี้ยนะครับวัน 1 พูดเรื่องการ
00:29:05 → 00:29:07 แลกแป้งไปถูกมั้ยนะใครที่อยากเรียนลึกๆ
00:29:07 → 00:29:09 เรื่องการแลกแป้งน่ะใช้เวลาเรียนหน่อยนะ
00:29:09 → 00:29:11 3-4 บทตรงนั้นน่ะอาจจะใช้เวลานิดนึงแต่
00:29:11 → 00:29:14 เหมือนๆดูซีรียส์ค่อยๆดูไปเรื่อยๆทีละบท
00:29:14 → 00:29:16 ว่าเออเฮ้ยมันสนุกดีจังแล้วบทถัดไปเราจะ
00:29:16 → 00:29:19 แก้ยังไงนะนะครับทักษะพวกเยมันจะติดตัว
00:29:19 → 00:29:21 คุณไปตลอดชีวิต 21 บทนะครับในนั้นที่เป็น
00:29:21 → 00:29:24 บทหลักเนาะเพียงแค่ผ่านไป 13 บทส่วนมาก
00:29:24 → 00:29:25 นักเรียนส่วนใหญ่ที่เรียนกับผมเนี่ย 13
00:29:26 → 00:29:28 บทแรกจะเห็นภาพการลดน้น้ำหนักชัดเจนละแต่
00:29:28 → 00:29:30 1 สัปดาห์แรกจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง
00:29:30 → 00:29:32 ทันทีที่เริ่มเรียนโอเคมยนะเพราะฉะนั้น
00:29:32 → 00:29:34 ใครที่จะเรียนนะครับถ้าดูจาก Facebook
00:29:34 → 00:29:36 หรือ YouTube ก็ดูรายละเอียดที่อยู่ใน
00:29:36 → 00:29:37 ลิงก์ปักหมุดทางด้านล่างนะครับหรือจะแอด
00:29:37 → 00:29:39 Line Healthy Hero ไว้ก็ได้นะครับจะมี
00:29:39 → 00:29:41 ทีมงานคอยดูแลตลอดการเข้าเรียนนะครับเนาะ
00:29:41 → 00:29:43 บ 1 จะคอยตอบคำถามอยู่ในกลุ่มด้วยตัวเอง
00:29:43 → 00:29:45 ด้วยเนาะก็หวังว่าวันนี้จะได้ประโยชน์นะ
00:29:45 → 00:29:47 ครับใครที่เพิ่งมาติดตามอย่าลืมนะครับ
00:29:47 → 00:29:50 ก่อนจากการวันนี้กดหัวใจกดแชร์กดติดตามกด
00:29:50 → 00:29:52 กระดิ่งแจ้งเตือนกดอะไรก็ได้แล้วก็พิมพ์
00:29:52 → 00:29:53 คอมเมนต์คุยกันด้านล่างได้นะครับเดี๋ยว
00:29:53 → 00:29:55 หมอ 1 มาตอบนะครับแล้วพบกันคลิปถัดไปนะ
00:29:55 → 00:29:58 ครับชมคลิปหม 1 จบแล้วนะครับอย่าลืมกดติด
00:29:58 → 00:30:00 ตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆจากหมอ 1
00:30:00 → 00:30:02 นะครับส่วนคลิปอื่นๆที่น่าสนใจกดดูจากทาง
00:30:02 → 00:30:04 ซ้ายมือได้เลยครับส่วนใครที่อยากลดน้ำ
00:30:04 → 00:30:06 หนักครั้งสุดท้ายในชีวิตในกลุ่มเรียนกับม
00:30:06 → 00:30:08 1 นะครับกดดูรายละเอียดจากทางขวามือหรือ
00:30:08 → 00:30:09 ดูรายละเอียดจากลิงก์ในคอมเมนต์ได้เลยนะ
00:30:09 → 00:30:13 ครับแล้วพบกันในกลุ่มเรียนนะครับ