00:00:00 → 00:00:03 ของผูกตลอดทั้งที่ดื่มน้ำเยอะมากกินผัก
00:00:03 → 00:00:05 ตลอดเลยเบ่งไม่สุดเหมือนมีอะไรค้างอยู่
00:00:05 → 00:00:08 ข้างล่างอ่ะเหมือนอึไม่สุดมันติดอยู่บาง
00:00:08 → 00:00:12 คนถึงกับต้องใช้นิ้วดึงมันออกมา 50% ของ
00:00:12 → 00:00:15 คนที่เป็นท้องปลูกเรื้อรังเนี่ยเป็นโรคลำ
00:00:15 → 00:00:18 ไส้แปกปรวนอาจจะส่งผลทำให้เรามีโรคร้าย
00:00:18 → 00:00:20 อย่างเช่นมะเร็งในลำไส้ในอนาคตได้ถ้าอยาก
00:00:20 → 00:00:24 ให้ขับขยายดีขึ้น 1 นมเปรี้ยว 2 เม็ดแมง
00:00:24 → 00:00:27 รักมันช่วยได้มั้คะต้องกินยอาหารไฟเบอร์
00:00:27 → 00:00:29 ให้ถึง 25-30 กรัมต่อวันและไอ้ 30 กว่า
00:00:29 → 00:00:33 มันคือเท่าไหร่อ่ะมันกี่เ่งหรอหมอท้อง
00:00:33 → 00:00:35 เสียหนักมากโดยเฉพาะเวลาเครียดค่ะความ
00:00:35 → 00:00:37 เครียดมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของแค่จิต
00:00:37 → 00:00:39 ใจเนาะความเครียดมันก็ส่งผลกระทบต่อ
00:00:39 → 00:00:41 อวัยวะอื่นๆในร่างกายเหมือนกันแล้วทุกๆ
00:00:42 → 00:00:44 ครั้งที่คุณเครียดร่างกายกระเพาะอาหารของ
00:00:44 → 00:00:47 คุณจะหลั่งกรดมากยิ่งขึ้นไอ้กรดที่มัน
00:00:47 → 00:00:49 หลั่งออกมาเนี่ยมันก็จะทำลายเยื่อบุ
00:00:50 → 00:00:52 กระเพาะอาหารของเราและทำให้ลำไส้ของเรา
00:00:52 → 00:00:54 แปรปรวนมากยิ่งขึ้นมีประวัติในครอบครัว
00:00:54 → 00:00:57 ที่เป็นมะเร็งด้วยเลยกลัวว่าตัวเองจะเป็น
00:00:57 → 00:01:01 สมมุติมี 1 คนในครอบครัวความเสี่ยงคือ 2-3
00:01:01 → 00:01:05 เท่าถ้า 2 คนความเสี่ยงก็จะประมาณ 3-4
00:01:05 → 00:01:08 เท่าเฮ้ยเยอะมาก
00:01:08 → 00:01:11 สวัสดีค่ะอยู่กับ Doctors พcastที่จะพา
00:01:11 → 00:01:14 คุณไปพบแพทย์เพื่อถามคำถามสุขภาพเจน
00:01:14 → 00:01:17 รัฐพันธ์พันพินิจค่ะนี่ก็เป็น EP 4 แล้ว
00:01:17 → 00:01:20 นะคะของ AS Doctors ต้องขอขอบคุณทุกไลค
00:01:20 → 00:01:23 ทุกคอมเมนต์และทุกแชร์เลยนะคะจุดประสงค์
00:01:23 → 00:01:25 ของการที่ทำพcสนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะให้ข้อ
00:01:25 → 00:01:28 มูลกับทุกๆคนนะคะเรื่องสุขภาพโดยให้ทุกคน
00:01:28 → 00:01:30 เนี่ยเขียนปัญหาของตัวเองเข้ามานะคะแล้ว
00:01:30 → 00:01:32 ทางเราเนี่ยก็จะเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทาง
00:01:32 → 00:01:35 ด้านนั้นมาตอบคำถามจะได้คำถามจะได้คำตอบ
00:01:35 → 00:01:38 เนาะที่ถูกต้องแม่นยำแล้วก็น่าจะเป็น
00:01:38 → 00:01:41 ประโยชน์สำหรับตัวผู้ถามนะคะแล้วก็ใคร
00:01:41 → 00:01:43 หลายๆคนที่กำลังชมคลิปนี้อยู่และมีปัญหา
00:01:43 → 00:01:46 ที่คล้ายคลึงกันค่ะยังไงถ้ารู้สึกว่าคลิป
00:01:46 → 00:01:48 แบบนี้เป็นคลิปที่มีประโยชน์ยังไงรบกวนกด
00:01:48 → 00:01:51 Subscribe เป็นกำลังใจให้ทีมของเราด้วย
00:01:51 → 00:01:54 นะคะและในวันนี้นะคะเราได้รวบรวมคำถาม
00:01:54 → 00:01:57 เกี่ยวกับการขับถ่ายมาค่ะสำหรับบางคนนะ
00:01:57 → 00:01:59 การขับถ่ายเป็นเรื่องที่ง่ายมากขับถ่าย
00:01:59 → 00:02:01 ทุกวันเลยแต่บางคนเนี่ยต้องพึ่งยาหรือว่า
00:02:01 → 00:02:04 มีปัญหามากๆเลยนะคะก็เลยเชิญแพทย์ผู้
00:02:04 → 00:02:06 เชี่ยวชาญท่านนี้มาค่ะเพราะว่ามี
00:02:06 → 00:02:09 ประสบการณ์ช่วยให้คนปลดทุกข์มาแล้วน่าจะ
00:02:10 → 00:02:12 หลายร้อยคนนะคะกับหมอท่านนี้เลยค่ะหมอ
00:02:12 → 00:02:15 จิมมี่ค่ะสวัสดีค่ะคุณสวัสดีครับวันนี้
00:02:15 → 00:02:17 เราจะมาช่วยกันทุกคนปลดทุกข์กันใช่มั้ยคะ
00:02:17 → 00:02:20 เรื่องเอามันออกจากร่างกายเอามันออกไปซะ
00:02:20 → 00:02:22 หรือบางคนออกเยอะเกินก็เราแก้มันได้เรา
00:02:22 → 00:02:24 หยุดมันได้แก้มันได้อ่าเดี๋ยวขอให้หมอ
00:02:24 → 00:02:26 จิมมี่ช่วยแนะนำตัวหน่อยได้มั้คะได้ครับ
00:02:26 → 00:02:28 สวัสดีครับนายแพทย์สุทธิพจน์พัรัฐมงคลการ
00:02:28 → 00:02:31 นะครับหรือหมอจิมมี่มาจากคลินิกณเวลาครับ
00:02:31 → 00:02:33 ผมก็เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
00:02:33 → 00:02:36 วิทยาศาสตร์ป้องกันถนัดด้านการรักษาแบบ
00:02:36 → 00:02:38 องค์รวมไปถึงการดูแลสุขภาพการออกกำลัง
00:02:38 → 00:02:41 ร่างกายรวมไปถึงการดูแลด้านฮอร์โมนครับ
00:02:41 → 00:02:43 โอเคค่ะวันนี้เราจะมาปวดทุกข์กันได้เลย
00:02:43 → 00:02:46 ครับเรื่องแรกนะคะเกี่ยวกับคนที่ท้องผูก
00:02:46 → 00:02:49 ตลอดทั้งที่ดื่มน้ำเยอะมากกินผักตลอดเลย
00:02:49 → 00:02:52 แต่ไม่อยากกินยาถ่ายเพราะกลัวว่าจะติดจะ
00:02:52 → 00:02:55 ต้องทำยังไงดีนะคะก็เลยส่งคำถามมาถามค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 อันนี้คือคุณบีมอายุ 37 ปีนะคะทำร้าน
00:02:58 → 00:03:01 เบเกอรี่เล็กๆบ้านอยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ
00:03:01 → 00:03:04 สวัสดีค่ะคุณหมอประมาณ 4 ปีหลังมาเนี่ย
00:03:04 → 00:03:07 บีมกลายเป็นคนที่ขับถ่ายยากมากๆประมาณ 3-5
00:03:07 → 00:03:10 วันครั้งโอ้โห 3-5 วันต่อครั้งใช่ใช่ก็
00:03:10 → 00:03:12 คือแบบว่าทุก 3 วันก็จะ 1 ครั้งหรือไม่ก็
00:03:12 → 00:03:15 บางที 5 วันกว่าจะถ่ายดีใช่ทั้งที่เป็นคน
00:03:15 → 00:03:18 ที่ชอบกินผักสดมากกินอย่างกับวัวเลยค่ะ
00:03:18 → 00:03:22 อันนี้เขาพูดเองนะคะชอบกินผักแนวใบๆแล้ว
00:03:22 → 00:03:25 ก็ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรบวกๆทุกวันเลยนะคะ
00:03:25 → 00:03:27 ทุกเช้าก็จะดื่มกาแฟพร้อมกับเค้กที่ไม่
00:03:27 → 00:03:30 ใส่ครีมแล้วจะตบท้ายด้วยผลไม้ค่ะถึงแม้
00:03:30 → 00:03:32 ว่าจะทำเบคอรี่แต่ก็ไม่ได้กินพวกเค้กหรือ
00:03:33 → 00:03:36 ขนมปังตลอดนะคะก็จะมีชิมบ้างส่วนกลางวัน
00:03:36 → 00:03:40 เนี่ยก็จะกินพวกผักสดผักต้มไข่ไก่เมนู
00:03:40 → 00:03:42 ทั่วไปเลยค่ะแต่มื้อเย็นเนี่ยจะไม่ทาน
00:03:42 → 00:03:45 เพราะว่าจะทำ IF หรือว่าการฟสติ้งงดอาหาร
00:03:45 → 00:03:47 เย็นนะคะแต่ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์เนี่ยก็
00:03:47 → 00:03:50 จะมีไปกินข้าวนอกบ้านอันนี้ก็จะกินหลาก
00:03:50 → 00:03:52 หลายเลยค่ะทุกอย่างที่กินเนี่ยพยายามกิน
00:03:52 → 00:03:55 ให้Healตี้จะได้ดูแลสุขภาพแต่ทำไมบีมถึง
00:03:55 → 00:03:59 เป็นคนที่ท้องผูกถูกหรอคะอะไรที่คนอะไร
00:03:59 → 00:04:02 ที่คนบอกว่าช่วยให้ขับถ่ายเนี่ยบีมลองหมด
00:04:02 → 00:04:06 ค่ะไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยวการกินเม็ดแมง
00:04:06 → 00:04:09 รักหรือว่าการกินโปรไบโอติกช่วงแรกของการ
00:04:09 → 00:04:11 กินโปรไบโอติกเนี่ยก็ช่วยได้นะคะแต่ช่วย
00:04:11 → 00:04:13 ได้แค่ 2 อาทิตย์หลังจากนั้นก็ไม่ได้ช่วย
00:04:13 → 00:04:16 แล้วค่ะจริงๆก็อยากจะทานยาถ่ายแต่ว่ากลัว
00:04:16 → 00:04:19 จะติดไปนิสัยแล้วไม่สามารถถ่ายเองได้บีม
00:04:19 → 00:04:22 กับสามีเนี่ยทานอาหารเหมือนกันเลยค่ะแต่
00:04:22 → 00:04:25 สามีเนี่ยขับถ่ายทุกวันเลยครับสามีปกติ
00:04:25 → 00:04:28 ไม่เป็นไ่ใช่แต่พูใช่ถูกต้องค่ะทั้งที่
00:04:28 → 00:04:31 ทานเหมือนกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนะคะตอน
00:04:31 → 00:04:34 นี้ก็เลยแก้ไขด้วยการกินเผ็ดมากๆเพราะว่า
00:04:34 → 00:04:36 พอกินเผ็ดเนี่ยตื่นเช้ามาก็จะรู้สึกโล่ง
00:04:36 → 00:04:39 เลยค่ะแต่พอทำแบบเจะรู้สึกปวดท้องคุณหมอ
00:04:39 → 00:04:42 พอจะมีวิธีที่จะแนะนำให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น
00:04:42 → 00:04:45 โดยที่ไม่ต้องทรมานแบบนี้มั้ยคะหรือว่า
00:04:45 → 00:04:47 บีมกำลังจะป่วยเป็นโรคลำไส้อะไรบางอย่าง
00:04:47 → 00:04:50 โดยที่ไม่รู้ตัวหรือเปล่าควรไปตรวจมั้ยคะ
00:04:50 → 00:04:53 แล้วควรตรวจอะไรบ้างปกติคนไข้ก็คือท้อง
00:04:53 → 00:04:55 ผูกเป็นประจำแต่ไม่มีท้องเสียเลยถูกมั้ย
00:04:55 → 00:04:56 ครับคือท้องของผูกอย่างเดียวเลยค่ะผูก
00:04:57 → 00:04:59 อย่างเดียวปีที่ผ่านมาเนาะแล้วก็ทำอยู่
00:04:59 → 00:05:04 เชียงใหม่ทำขายทำเบเกอรี่มีกินขนมบ้างตอน
00:05:04 → 00:05:06 ที่เวลาทำนิดหน่อยแต่ว่าส่วนใหญ่เขาบอก
00:05:06 → 00:05:10 ว่าเพยายามกินตลอดตลอดกินผักบ้างกินด้วย
00:05:10 → 00:05:12 ถูกมั้ครับคราวนี้อย่างแรกต้องมาเข้าใจ
00:05:12 → 00:05:14 ก่อนคำว่าท้องผูกก่อนเพราะท้องผูกแต่ละคน
00:05:14 → 00:05:17 ไม่เหมือนกันเรามาเข้าใจคำว่าถ่ายปกติ
00:05:17 → 00:05:21 ก่อนถ่ายปกติจำกฎเลข 3 ครับเลข 3 เลข 3
00:05:21 → 00:05:26 เนาะก็คือวันละ 3 ครั้งจนถึงอาทิตย์ทิศละ
00:05:26 → 00:05:28 3 ครั้งอันนี้ถือว่าปกติแปลว่าถ้า 1 วัน
00:05:28 → 00:05:31 เราถ่าย 3 ครั้งปกติหรือว่าถ้า 3 วันถ่าย
00:05:31 → 00:05:34 1 ครั้งก็ยังปกติก็ยังปกติอยู่นะครับ
00:05:34 → 00:05:36 เนาะแต่คราวนี้ถ้าเราพูดถึงเรื่องท้องผูก
00:05:36 → 00:05:38 ก่อนแล้วกันถ้าท้องผูกหมายความว่าเลย 3
00:05:38 → 00:05:41 วันไปแล้วอาจจะอย่างในเคสนี้เนี่ยเขาบอก
00:05:41 → 00:05:44 ว่าบางครั้ง 3 วันครั้งแต่บางครั้ง 5 วัน
00:05:44 → 00:05:46 ครั้ง 5 วันครั้งเนี่ยถือว่านับเป็นท้อง
00:05:46 → 00:05:48 ผูกไปแล้วเพราะว่ามันใช้เวลานานมากจนเกิน
00:05:48 → 00:05:51 ไปนะครับเนาะคราวนี้อาการท้องผูก 1 เวลา
00:05:51 → 00:05:53 นานอย่างที่บอกไปมากกว่า 3 วันถูกมั้ย
00:05:53 → 00:05:58 ครับ 2 ก็คือเบ่งยากรู้สึกลำบากในการถ่าย
00:05:58 → 00:06:01 อุจจาระก้อนเล็กลงนะครับต้องเบ่งนะครับ
00:06:01 → 00:06:05 เนาะคราวนี้มันมีระยะเวลาที่บอกก็คือ
00:06:05 → 00:06:07 เรื้อรังกับทั่วๆไปเรื้อรังหมายความว่า
00:06:07 → 00:06:10 คุณเป็นอย่างเงี้ยมานานมากกว่า 3 เดือน
00:06:10 → 00:06:13 คุณถือว่าเป็นของผูกเรื้อรังเขตนี้ถือว่า
00:06:13 → 00:06:16 ใช่เพราะ 4 ปีอันนี้คือนานมากเนื้อรังแน่
00:06:16 → 00:06:18 นอนแล้วมันก็จะมีใครทีเดียวว่าเออท้องผูก
00:06:18 → 00:06:22 จริงๆอ่ะมีลักษณะใหญ่ๆ 1 ถ่ายอ่ะมากกว่า 3
00:06:22 → 00:06:26 วันอุจจาระเบ่งไม่สุดรอันที่ 3 เหมือนมี
00:06:26 → 00:06:28 อะไรค้างอยู่ข้างล่างอ่ะเหมือนอึไม่สุด
00:06:28 → 00:06:31 มันไม่สุดมันติดอ่ะมันติดอยู่อันที่ 4
00:06:31 → 00:06:34 บางคนถึงกับต้องใช้นิ้วเคยเคยได้ยินมั้ย
00:06:34 → 00:06:36 เหมือนแบบว่าเฮ้ยรู้สึกมันมีอะไรอยู่ข้าง
00:06:36 → 00:06:40 ลปรืดดึงมันออกมาเออดึงมันออกมานะครับ
00:06:40 → 00:06:42 เนาะหรืออุจจาระเนี่ยรูปร่างเปลี่ยนไป
00:06:42 → 00:06:45 เล็กลงอันนี้ก็จะเข้าคาทีของคำว่าท้องผูก
00:06:45 → 00:06:47 นะครับเนาะแต่ท้องผูกท้องผูกเนี่ยเราก็
00:06:48 → 00:06:50 ต้องมาหาสาเหตุว่าเฮ้ยมันเกิดจากอะไรหลัก
00:06:50 → 00:06:52 ๆเรื่องของการท้องผูกอ่ะครับแบ่งเป็น 2
00:06:52 → 00:06:55 สาเหตุอันแรกเรียกเรียกว่า primary
00:06:55 → 00:06:57 consipation อันนี้ concipation ก็คือ
00:06:57 → 00:07:00 ว่าอะไรที่มันเกี่ยวกับมันมีระบบทางเดิน
00:07:00 → 00:07:03 อาหารที่ผิดปกติเองนะครับอันที่ 2 เรียก
00:07:03 → 00:07:05 ว่า secondary constipation secondary
00:07:05 → 00:07:08 conscipation คือมาจากโรคอื่นๆหรือว่ายา
00:07:08 → 00:07:10 อื่นๆหรือเปล่าที่มากระทบต่อเรื่องระบบลำ
00:07:11 → 00:07:13 ไส้ของเราคราวนี้เรามาดูเรื่องของ primary
00:07:13 → 00:07:15 ก่อนก็คือเรื่องของลำไส้เองนะครับเนาะ
00:07:15 → 00:07:18 เรื่องของลำไส้ไส้เองอย่างแรกอการขยับ
00:07:18 → 00:07:23 เขยื้อนผิดปกตินะครับเนาะซึ่งส่วนมาก 50%
00:07:23 → 00:07:25 ของคนที่เป็นท้องผูกเหลื้อรังเนี่ยเป็น
00:07:25 → 00:07:29 โรคลำไส้แปรปรวนอืหมายความว่าการขยับ
00:07:29 → 00:07:32 เขยื้อนหรือกินอาหารบางชนิดเข้าไปแล้วมัน
00:07:32 → 00:07:36 ทำให้ลำไส้ขยับไม่ได้หรือขยับช้าลงคือ
00:07:36 → 00:07:38 จริงๆอ่ะการขยับเขยื้องก็คือเวลาเรากิน
00:07:38 → 00:07:40 อาหารเนาะมันก็จะเข้าไปในกระเพาะแล้วก็จะ
00:07:40 → 00:07:43 ลงแล้วก็ย่อยลงไปแล้วก็ย่อยลงมาแต่ที
00:07:43 → 00:07:47 เนี้ยปัญหาเกิดขึ้นก็คือมันอาจจะติดใช่
00:07:47 → 00:07:50 การขยับยืใช่การการทำงานการทำงานของระบบ
00:07:50 → 00:07:53 ลำไส้มันแปรปรวนมันผิดปกติไปนะครับเนาะ
00:07:54 → 00:07:58 อันที่ 2 คือกล้ามเนื้อรอบๆลำไส้ไม่ดีไม่
00:07:58 → 00:08:00 แข็งแรงเช่นโดยเฉพาะคือเราเวลาเราจะจะ
00:08:00 → 00:08:02 เบ่งอ่ะมันต้องใช้กล้ามเนื้อช่องท้องเนาะ
00:08:02 → 00:08:04 มันจะออะไรอย่างเงี้ยกล้ามเนื้อช่องท้อง
00:08:04 → 00:08:06 ไม่แข็งแรงหรือเปล่าแล้วผู้หญิงอย่าง
00:08:06 → 00:08:08 เงี้ยเ้าเรียกว่าอุ้มเชิงกลางไม่แข็งแรง
00:08:08 → 00:08:11 หรือเปล่าเอออันนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง
00:08:11 → 00:08:15 ที่ทำให้หูรูดกับการเบ่งการถ่ายมันไม่
00:08:15 → 00:08:18 สัมพันธ์กันทำให้การถ่ายมันถ่ายไม่ได้และ
00:08:18 → 00:08:21 อันสุดท้ายก็คือเป็นภาวะเค้าเรียกว่าลำ
00:08:21 → 00:08:24 ไส้ขยับขบเขยื้อนช้าแต่อันนี้เจอน้อยมาก
00:08:24 → 00:08:26 นะครับเนาะอลำไส้ขยับเขยื้อนช้านี่มัน
00:08:26 → 00:08:29 เกิดขึ้นแบบช้าผิดปกติมากกว่าคนอื่นแบบคน
00:08:29 → 00:08:32 อื่นมันแบบปึ๊บๆๆคนนี้อาจจะแบบเออนานๆที
00:08:32 → 00:08:35 กว่าจะขยับกว่าจะขี้เกียจแต่อันนี้เป็น
00:08:35 → 00:08:38 เป็นอะไรที่เจอน้อยที่สุดนะครับเนาะอ่ะ
00:08:38 → 00:08:39 เรามาดูเมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องของ
00:08:39 → 00:08:42 primary และเรามาพูดเรื่องของ secondary
00:08:42 → 00:08:44 กว่า secondary อย่างแรกที่เจอเยอะแล้ว
00:08:44 → 00:08:47 กันก็คือแน่นอนเรื่องของก้อนนะครับการ
00:08:47 → 00:08:51 เป็นมะเร็งการมีอะไรไปติดๆขัดๆการเดินทาง
00:08:51 → 00:08:52 ของอุจจาระหรือเปล่า
00:08:52 → 00:08:55 ทำให้มันมันไม่ออกมานะครับอันที่ 2 ก็คือ
00:08:55 → 00:09:00 ภาวะของโรคบางชนิดเช่นเป็นไทรรอยด์ต่ำอื
00:09:00 → 00:09:03 นะครับไทรรอยดต่ำเนี่ยก็ทุกอย่างจะช้าไป
00:09:03 → 00:09:06 หมดขี้เกียจน้ำหนักขึ้นแต่จริงๆไทรรอยด์
00:09:06 → 00:09:08 ต่ำมันคือต่อมที่อยู่ตรงต่อมไทรรอยด์ถูก
00:09:08 → 00:09:11 มั้ครับแต่ต่อมไทรรอยด์ไทรรอยด์เนี่ยมัน
00:09:11 → 00:09:13 มีหน้าที่ในการควบคุมอวัยวะต่างๆในร่าง
00:09:13 → 00:09:17 กายทำให้ระบบการเผาผลาเอ่อลดน้ำหนักด้วย
00:09:17 → 00:09:20 และรวมไปถึงจังหวะเต้นของหัวใจการทำงาน
00:09:20 → 00:09:23 ของลำไส้คราวนี้ยิ่งยิ่งคุณมีไทรรอยด์ทำ
00:09:23 → 00:09:25 งานไม่ดีหรือไทรอยด์ที่ต่ำผลิตออกมาไม่
00:09:25 → 00:09:29 ได้ส่งผลกระทบต่อลำไส้ลำไส้ก็ทำงานช้าลง
00:09:29 → 00:09:33 นะครับเนาะยายาบางครั้งก็เป็นตัวนึงที่ทำ
00:09:33 → 00:09:37 ให้เกิดอาการท้องผูกได้เช่นการกินยาลดกด
00:09:37 → 00:09:41 ในกระเพาะยากินยาปฏิชีวนะในระยะเวลานานนะ
00:09:41 → 00:09:44 ครับเนาะยาทางด้านจิตเวทยานอนหลับพวกนี้
00:09:44 → 00:09:47 ก็จะไปกดการขยับเขยื้อนของลำไส้อันนี้คือ
00:09:47 → 00:09:51 อเอิ่มประเภทนะครับของท้องผูกแล้วก็ต้อง
00:09:51 → 00:09:54 มาให้ได้ว่าเอ๊ะของเขาเป็นแบบไหนและอัน
00:09:54 → 00:09:56 สุดท้ายของเรื่องของ secondary คือเรื่อง
00:09:56 → 00:09:58 ของอาหารการกินบางชนิดก็ทำให้เราเกิด
00:09:58 → 00:10:01 อาการท้องผูกกับเรื่องของการติดเชื้อได้
00:10:01 → 00:10:04 เหมือนกันแต่ในเคสเนี้ยค่ะถ้าคนทั่วไป
00:10:04 → 00:10:07 เนาะจะคิดว่ากินผักเยอะกินน้ำเยอะยังไงก็
00:10:07 → 00:10:09 ต้องถ่ายแต่เนี้ยกินผักเยอะกินน้ำเยอะแต่
00:10:09 → 00:10:13 ทำไมมันส่วนทางกันคราวนี้เนี่ยคือการกิน
00:10:13 → 00:10:15 น้ำเยอะการกินผักเยอะมันไม่ผิดนะคือมัน
00:10:16 → 00:10:18 เป็นอะไรที่ทุกคนรู้ว่าเฮ้ยต้องทำมันมัน
00:10:18 → 00:10:20 ดีอยู่แล้วแล้วคนนี้กินน้ำมากกว่า 2 ลิตร
00:10:20 → 00:10:22 อันนี้ดีมากนะครับเนาะเพราะว่าหมอก็ไม่
00:10:22 → 00:10:24 รู้ว่าน้ำหนักตัวเขาเท่าไหร่แต่ปกติแล้ว
00:10:24 → 00:10:26 การคำนวณของน้ำที่เราต้องกินต่อวันนะครับ
00:10:26 → 00:10:30 คือน้ำหนักตัวคูณ 30 เราจะได้จำนวนของ
00:10:30 → 00:10:33 ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มต่อวันนะครับเนาะ
00:10:33 → 00:10:35 คราวนี้ปัจจัยของเขาไม่ใช่เกี่ยวกับ
00:10:35 → 00:10:37 เรื่องของการกินผักหรือน้ำของเขาคือ
00:10:38 → 00:10:41 เรื่องของอาชีพอือาชีพเบอร์เกอรรี่อ่ะหมอ
00:10:41 → 00:10:44 ขอขอข้ามอันนี้ไปก่อนขอยกตัวอย่างหมอเคย
00:10:45 → 00:10:48 เจอคนไข้กับตัวเองเลยเคสแรกเป็นผู้ชายชอบ
00:10:48 → 00:10:51 ทำเบเกอรรี่แต่ไม่ชอบกินขนมเค้กอ้าแต่ไม่
00:10:51 → 00:10:55 ชอบกินขนมเค้กไม่ชอบแต่ชอบทำขายทำขาย
00:10:55 → 00:10:57 เหมือนกันแล้วทำขายมาหลายๆปีแต่มีอาการ
00:10:57 → 00:11:00 ท้องผูกเหมือนกันคราวนี้เนี่ยต้องเข้าใจ
00:11:00 → 00:11:03 ก่อนว่าทุกๆครั้งที่คุณทำเบอร์เกอร์ขนม
00:11:03 → 00:11:07 ปังเบอร์เกอร์กับขนมปังทำมาจากอะไรครับ
00:11:07 → 00:11:10 ยีสแป้งยีสแป้งถูกมั้ครับคือถึงแม้คุณไม่
00:11:10 → 00:11:13 ได้กินแต่การที่คุณใช้มือ
00:11:13 → 00:11:18 สัมผัสในห้องมีกลิ่นผงแป้งผงอะไรทั้งยีส
00:11:18 → 00:11:22 หรือเชื้อรานั้นก็เข้าสู่ร่างกายของเราออ
00:11:22 → 00:11:25 นะครับเนาะและคือคุณทำมันทุกวันผมก็ไม่
00:11:25 → 00:11:28 หมอก็ไม่รู้เนาะว่าเ้าทำเค้กทุกวันหรือ
00:11:28 → 00:11:31 เปล่าแต่ทำมาระยะเวลานานหลายปีเพราะเป็น
00:11:31 → 00:11:33 อาชีพของเา้าอ่ะเนาะเพราะฉะนั้นการที่คุณ
00:11:34 → 00:11:37 สัมผัสหรือสูดดมมันเข้าไปเนี่ยมันก็สะสม
00:11:37 → 00:11:40 เข้าไปเรื่อยๆทำให้เชื้อราหรือยีสมันก็
00:11:40 → 00:11:42 เข้าไปอยู่ในร่างกายอเคส 2 เหมือนกันอัน
00:11:42 → 00:11:46 นี้ก็ทำงานอยู่ในโรงงานเลยนะโรงงานเป็นคน
00:11:46 → 00:11:49 ไข้ผู้หญิง 2 คน 2 คนนี้เนี่ยทำงานเหมือน
00:11:49 → 00:11:53 กันเลยเค้ามีหน้าที่ในการตรวจชิมว่าขนม
00:11:53 → 00:11:56 ที่ผลิตออกมาเนี่ยรสชาติถูกต้องตามกฎหมาย
00:11:56 → 00:11:58 หรือตามที่เขาต้องการหรือเปล่าอ๋อมีหน้า
00:11:58 → 00:12:00 ที่คือชิมอย่างเดียวเป็นนักชิมอย่างเดียว
00:12:00 → 00:12:03 อืแต่ว่าปกติอยู่ข้างนอกก็ไม่กินขนมหวาน
00:12:03 → 00:12:05 ไม่กินของหวานเหมือนกันแต่มากินในแหละกิน
00:12:05 → 00:12:08 อย่างเงี้ยทุกวันเนาะโอหทุกวันแล้วก็มี
00:12:08 → 00:12:11 อาการท้องผูกเหมือนกันเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:12:11 → 00:12:14 ของคนนั้นหมอคิดว่าน่าจะเป็นแบบเรื่องของ
00:12:14 → 00:12:16 อาชีพเขาหรือเปล่าที่ทำให้เขามีอาการท้อง
00:12:16 → 00:12:18 ผูกคราวนี้ในน้ำไส้ของเรามีจุลินทรีย์ถูก
00:12:18 → 00:12:21 มั้ยจุ้ตัวจุลินทรีย์ก็คือเป็นแบคทีเรีย
00:12:21 → 00:12:24 เป็นแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของเรามีหน้า
00:12:24 → 00:12:26 ที่ในการย่อยอาหารดูดซึมสารอาหารเข้าใน
00:12:26 → 00:12:29 ร่างกายมันมีทั้งตัวดีและตัวไม่ดีคราวนี้
00:12:29 → 00:12:32 ปกติแล้วถ้าคุณสุขภาพแข็งแรงเนี่ยตัวดี
00:12:32 → 00:12:35 มันก็จะมีมากกว่าตัวไม่ดีก็คือตัวดีก็จะ
00:12:35 → 00:12:38 ควบคุมตัวไม่ดีนะครับเนาะแต่ถ้าเผลอไปกิน
00:12:38 → 00:12:41 อะไรผิดปกติไม่ได้ดูแลสุขภาพอาหารใน
00:12:41 → 00:12:44 ปัจจุบันของคนไทยก็ส่งเสริมเรื่องของตัว
00:12:45 → 00:12:48 ไม่ดีเยอะมากเนาะเรื่องของขนมต่างๆมากมาย
00:12:48 → 00:12:52 ถ้าหรือไปกินยาบางชนิดที่มันทำลายตัวดีพอ
00:12:52 → 00:12:55 ตอนเนี้ยตอนนี้ตัวดีมันน้อยลงตัวไม่ดีมัน
00:12:55 → 00:12:58 มากขึ้นเพราะฉะนั้นเนี่ยเชื้อราก็เป็นนับ
00:12:58 → 00:13:01 ถึงตัวไม่ดีเหมือนกันนะครับอือันก็จะทำ
00:13:01 → 00:13:05 ให้เราเกิดอาการได้นะครับในเทสนี้คือยีส
00:13:06 → 00:13:09 ก็คือเหมือนเชื้อราที่เป็นจุลินทรีย์ไม่
00:13:09 → 00:13:11 ดีในร่างกายเราใช่มั้คะใช่ครับมันไปเจริญ
00:13:11 → 00:13:13 เติบโตมากขึ้นคราวนี้พอเชื้อรามันไปอยู่
00:13:13 → 00:13:16 ในร่างกายมันต้องอยู่ที่ไหนที่ที่มีอาหาร
00:13:16 → 00:13:18 ที่ไหนอ่ะมีลำไส้มันมีอาหที่อื่นมันไม่มี
00:13:18 → 00:13:20 อาหารถูกครับแล้วมันไปอยู่ที่นั้นแล้วมัน
00:13:20 → 00:13:24 ก็เจริญเติบโตคราวนี้เชื้อราชอบรู้มชอบ
00:13:24 → 00:13:27 รับประทานอะไรเป็นอาหารน่าจะก็พวกขนมปัง
00:13:27 → 00:13:31 มั้คะแป้งแปรรูปน้ำตาลแอลกอฮอล์ครับ 3
00:13:31 → 00:13:34 อย่างอเพราะฉะนั้นยิ่งคุณเสพติดพวกนี้
00:13:34 → 00:13:38 อาหารพวกนี้เครื่องดื่มพวกนี้มากเท่าไหร่
00:13:38 → 00:13:41 เชื้อราที่อยู่ในลำไส้ของคุณ 1 เป็น 2
00:13:41 → 00:13:45 เป็น 4 4 เป็น 6 เพิ่มเหมือนคุณสร้างลูก
00:13:45 → 00:13:48 ไว้ในเติบโตไว้ในลำไส้ของเราแล้วมันเพิ่ม
00:13:48 → 00:13:50 จำนวนมากขึ้นพอเชื้อเวลาเพิ่มมากขึ้นมัน
00:13:50 → 00:13:53 ก็ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารของเราและ
00:13:53 → 00:13:56 อวัยวะอื่นๆถ้าระบบทางเดินอาหารก็อย่าง
00:13:56 → 00:14:00 เช่นท้องผูกแน่นท้องอาหารไม่ย่อยก็หรือ
00:14:00 → 00:14:03 ว่าเกิดแก๊สตลอดเวลาเลยนะครับอันนี้เรมี
00:14:03 → 00:14:07 แก๊สข้างล่างไายลมด้านล่างใช่อวัยวะอื่นๆ
00:14:07 → 00:14:09 ก็ส่งผลกระทบเหมือนกันนะครับเชื้อร่าทำ
00:14:09 → 00:14:13 ให้เราขี้เกียจไม่มีพลังงานนะครับเนาะทำ
00:14:13 → 00:14:17 ให้ผมร่วงสิวขึ้นมีผื่นขึ้นนะครับตามซอก
00:14:17 → 00:14:20 ต่างๆนะครับเนาะหรือของผู้หญิงก็อาจจะทำ
00:14:20 → 00:14:22 ให้เราตกข่าวได้มากขึ้นเวลามีประจำเดือน
00:14:22 → 00:14:25 ก็ได้ก็แปลว่าอันเนี้ยปัจจัยของอาชีพของ
00:14:25 → 00:14:28 เขาที่ต้องคุกคีอยู่กับยีสตลอดเวลากิน
00:14:28 → 00:14:31 ด้วยกินด้วยชิมด้วยแล้วก็อาจจะมีสัมผัส
00:14:31 → 00:14:33 หายใจเข้าไปเนี่ยก็เลยทำให้อาจจะอาจจะมี
00:14:33 → 00:14:37 เชื้อราในลำไส้ซึ่งเขาจะแน่ใจได้ยังไงอ่ะ
00:14:37 → 00:14:39 คะว่าเขามีเชื้อราในลำไส้มั้ยอันนี้มัน
00:14:39 → 00:14:41 ต้องตรวจเท่านั้นถูกมั้คะถูกต้องครับปกติ
00:14:41 → 00:14:44 ก็คืออ่ะเรื่องของอาการมันก็เป็นตัวหนึ่ง
00:14:44 → 00:14:46 ที่หมอฟังแล้วแบบเอ้ยมันน่าจะเข้าข่ายนะ
00:14:47 → 00:14:48 ครับเนาะแล้วก็หลังจากนั้นเราสามารถตรวจ
00:14:48 → 00:14:51 ได้นะครับเนาะไม่ว่าจะเป็นจากการตรวจ
00:14:51 → 00:14:53 ปัสสาวะหรืออุจจุระอุจจาระเนี่ยครับมันก็
00:14:53 → 00:14:56 สามารถบอกได้ว่าเอ๊ะคุณมันมีเชื้อราที่
00:14:56 → 00:14:59 ไม่ดีอยู่ในร่างกายเยอะเกินไปหรือเปล่านะ
00:14:59 → 00:15:02 ครับเนาะยิ่งคุณมีจำนวนมากเท่าไหร่พวกนี้
00:15:03 → 00:15:06 คือสิ่งมีชีวิตมันก็หิวเหมือนเราอือเพราะ
00:15:06 → 00:15:10 ฉะนั้นเวลาที่มันหิวมันก็จะโหยหาน้ำตาล
00:15:10 → 00:15:13 แป้งหรือแอลกอฮอล์เป็นหลักมันก็จะส่ง
00:15:13 → 00:15:16 สัญญาณจากลำไส้ของเราไปที่สมองอืแล้วบอก
00:15:16 → 00:15:22 ว่าเธอกินได้แล้วน้ำตาลได้แล้วถึงแล้วนะ
00:15:22 → 00:15:26 ชมไก่มุกไข่มุกแก้วนึงน้ำอัดลมแก้วนึงอื
00:15:26 → 00:15:29 แล้วทีเนี้ยค่ะเค้าบอกว่าเค้าอ่ะวิธีเค้า
00:15:29 → 00:15:31 ก็ไปเสิร์ชในอินเทอร์เน็ตเอาเนาะแล้วมีคน
00:15:31 → 00:15:35 พูดกันว่าจริงๆถ้าอยากให้ขับถ่ายดีขึ้น 1
00:15:35 → 00:15:38 นมเปรี้ยว 2 เม็ดแมงรักมันช่วยได้มั้คะ
00:15:38 → 00:15:39 อ่ะขอเม็ดแมงรักก่อนแล้วกันเม็ดแมงรัก
00:15:39 → 00:15:42 จริงๆช่วยได้นะครับเม็ดแมงรักเนี่ย 1
00:15:42 → 00:15:44 อย่างแรกคือเราต้องมาแช่น้ำก่อนเนาะให้
00:15:44 → 00:15:47 มันให้มันเค้าเรียกว่ามันแตกออกมาฟูแล้ว
00:15:47 → 00:15:50 ก็มีเมือกนะครับแล้วหลังจากนั้นเราก็ควร
00:15:50 → 00:15:53 ก็กินมันเข้าไปนะครับเนาะไอ้ตัวเมือกที่
00:15:53 → 00:15:56 มันเกิดการฟูขึ้นมานี่แหละมันเป็นกากใย
00:15:56 → 00:15:59 อาหารที่ร่างกายเราย่อยไม่ได้พอมันย่อย
00:15:59 → 00:16:02 ไม่ได้มันก็จะทำให้ตอนพอไปอยู่ในลำไส้ของ
00:16:02 → 00:16:05 เราอ่ะครับเอ่ออุจจาระมันจับเป็นก้อนได้
00:16:05 → 00:16:08 ดีมากขึ้นอเหมือนเม็ดแมงรักก็ไปเกาะกับ
00:16:08 → 00:16:09 อุจจาระแล้วพามันออกมาอย่างงี้ใช่มั้พา
00:16:09 → 00:16:13 มันรวมตัวเออเม็ดมลักทำให้อุจจาระของเรา
00:16:13 → 00:16:15 มันรวมตัวปึ๊บแล้วก็ทำให้การขยับขยับ
00:16:15 → 00:16:19 เขยื้อนของอุจจาระในลำไส้ของเราเนี่ยผนัง
00:16:19 → 00:16:22 ต่างๆทำงานลื่นอืได้ดีมากขึ้นแต่สิ่งที่
00:16:22 → 00:16:26 สำคัญเยสำคัญคือเรื่องของเม็ดมะลักเนี่ย
00:16:26 → 00:16:29 ห้ามกินตอนที่มันยังไม่ฟูอืนะครับเนาะฟู
00:16:29 → 00:16:31 ฟูแบบเติมน้ำไปนิดนึงปึ๊บกินเลยคราวนี้
00:16:31 → 00:16:34 เนี่ยอันเนี้อันตรายเพราะว่าถ้ามันยังไม่
00:16:34 → 00:16:36 ฟูเต็มที่อ่ะครับแล้วเราเผลอกินเข้าไป
00:16:36 → 00:16:40 เม็ดแมงรัดตัวเนี้ยมันดูดน้ำมากคราวนี้
00:16:40 → 00:16:43 มันจะดูดน้ำจากลำไส้เราแหละเราจะขาดแคน
00:16:43 → 00:16:47 น้ำในร่างกายแทนขาดขาดแค่น้ำท้องผูกแทนอื
00:16:47 → 00:16:49 ก็คือเหมือนแบบพออุจจาระมันแบบฟึบมันขาด
00:16:49 → 00:16:51 น้ำแล้วมันแข็งมันแข็งอ่ะมันไปไม่ได้เอา
00:16:51 → 00:16:54 ไม่ได้นะครับเนาะเพราะฉะนั้นเรื่องของ
00:16:54 → 00:16:57 เม็ดรักก็กินให้ถูกวิธีอย่างเช่น 2 ช้อน
00:16:57 → 00:17:01 โต๊ะผสมกับน้ำประมาณ 250 ซีซแล้วเราก็รอ
00:17:01 → 00:17:04 ให้มันฟูเต็มที่แล้วเราก็ดื่มมันนะครับ
00:17:04 → 00:17:07 เนาะนอกจากที่มันช่วยเรื่องการขยับเคนของ
00:17:07 → 00:17:10 อุจจาระแล้วเนี่ยมันก็จะทำให้ดูดซึมสาร
00:17:10 → 00:17:12 พิษที่อยู่ในร่างกายเราด้วยก็ถือว่าดีมาก
00:17:12 → 00:17:16 อันที่ 2 นมเปรี้ยวนมเปรี้ยวก็มันมีเค้า
00:17:16 → 00:17:18 เรียกว่าจุลินทรีย์ที่ดีนะครับเนาะอยู่ใน
00:17:18 → 00:17:21 นมเปรี้ยวก็จุลินทรีย์ที่ดีก็เป็นอะไรที่
00:17:21 → 00:17:24 สำคัญต่อร่างกายทำให้เราขยับทำให้ลำไส้
00:17:24 → 00:17:26 เราทำงานได้ดีมากขึ้นแต่สิ่งที่ต้องรับ
00:17:26 → 00:17:29 รางวัลคือเรื่องของน้ำตาลในนมเปรี้ยวพวก
00:17:29 → 00:17:32 นี้เนาะมันมีแบบผลิตภัณฑ์เยอะแยะมากมายก็
00:17:32 → 00:17:34 ขอให้อ่านฉลากก่อนแล้วกันนะครับอาจจะอยาก
00:17:34 → 00:17:36 กินนมเปรี้ยวที่มันที่มันหวานน้ำตาเออ
00:17:36 → 00:17:39 อย่าอย่าเอาอะไรที่มันหวานมากเกินไปอัน
00:17:39 → 00:17:42 นั้นคุณอาจจะได้เบาหวานมาแทนแทนที่จะช่วย
00:17:42 → 00:17:43 เรื่องของลำไส้อแล้วเรื่องของโปรไบโอติก
00:17:43 → 00:17:45 อ่ะคะเค้าบอกว่าเค้าเคยลองกินแล้วเวิร์ค
00:17:45 → 00:17:47 อยู่ 2 อาทิตย์แล้วก็ไม่เวิร์คทีนี้
00:17:47 → 00:17:50 โปรไบโอติกเนี่ยตกลงมันควรกินมั้ยหรือควร
00:17:50 → 00:17:52 เลือกแบบไหนดีคะคือจริงๆเรื่องของ
00:17:52 → 00:17:55 โปรไบโอติกเนี่ยเป็นอะไรที่ทุกคนควรมี
00:17:55 → 00:17:56 อยู่แล้วร่างกายเราต้องมีอยู่แล้วถูกมั้ย
00:17:56 → 00:17:59 ครับเนาะแต่การกินเสริมก็ไปเป็นการเค้า
00:17:59 → 00:18:02 เรียกบำรุงร่างกายแล้วกันนะครับเนาะคราว
00:18:02 → 00:18:04 นี้การที่ไปกินเริ่มกินครั้งแรกมันอาจจะ
00:18:04 → 00:18:07 เฮ้ยมันรู้สึกดีขึ้นแต่ถ้าคุณยังไม่ไปแก้
00:18:07 → 00:18:10 สาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกของ
00:18:11 → 00:18:13 คุณเนี่ยอมันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมถึง
00:18:13 → 00:18:17 แม้แม้ว่าคุณจะกินไป 2-3 อาทิตย์แล้วคุณ
00:18:17 → 00:18:19 ยังไม่ได้แก้เรื่องอ่ะสมมุติของเคสนี้
00:18:19 → 00:18:21 เรื่องของเชื้อราหรือว่าเรื่องของยีสที่
00:18:21 → 00:18:23 มันอยู่น้ำตาลที่มันอยู่ในลำไส้เนี่ยมัน
00:18:23 → 00:18:26 ยังมีอยู่เพราะฉะนั้นเนี่ยก็อย่าลืมไปค้า
00:18:26 → 00:18:28 ไปจัดการเรื่องของสาเหตุให้มันก่อนเหมือน
00:18:28 → 00:18:32 ว่าคิดง่ายๆว่าคุณยังมีคนร้ายอยู่ในลำไส้
00:18:32 → 00:18:35 ของคุณแล้วคุณไปเติมคนดีเข้าไปอ่ะคนดีมัน
00:18:35 → 00:18:37 จะอยู่รอดได้ไงถ้ามันยังมีคนดีเหมือนมัน
00:18:37 → 00:18:39 เป็นสมมตินะถ้าเราเป็นสิวเนาะเราลองพื้น
00:18:39 → 00:18:42 โปะๆเพราะสิวมันก็ยังอยู่ไงมันยังไม่ได้
00:18:42 → 00:18:45 เอาออกใช่มันยังไม่เอาแบบหัวข้างในเอาออก
00:18:45 → 00:18:48 ไงสิ่งเพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือเราเอาตัว
00:18:48 → 00:18:52 ที่มันไม่ดีหรือตัวที่เป็นปัญหาออกไปก่อน
00:18:52 → 00:18:55 ใช่แล้วเราค่อยเสริมเรื่องของจุลินทรีย์
00:18:55 → 00:18:57 แล้วที่เขาทำ IF ล่ะคะเพราะเขาบอกว่า
00:18:57 → 00:18:59 เหมือนน่าจะอาจจะไม่แน่ใจทำเพราะว่าอาจจะ
00:19:00 → 00:19:02 เป็นการควบคุมน้ำหนักเอาจจะไปอ่านมาว่า
00:19:02 → 00:19:04 มันอาจจะทำให้Healตี้จริงๆแล้วไม่จำเป็น
00:19:04 → 00:19:07 ต้องกินอาหารเย็นมันมีผลต่อการขับถ่ายมั้
00:19:07 → 00:19:09 คะอ่าหมอก็ไม่แน่ใจว่าคนนี้เค้าทำ IF มา
00:19:09 → 00:19:11 นานเท่าไหร่แล้วนะครับเนาะแต่คราวนี้ทุกๆ
00:19:11 → 00:19:15 ครั้งที่ไม่ว่าคุณมีการเปลี่ยนเรื่องของ
00:19:15 → 00:19:18 อาหารการกินเรื่องของเวลาหรือปริมาณน้ำ
00:19:18 → 00:19:21 แล้วก็ผักผลไม้ใยอาหารเข้าไปเนี่ยร่างกาย
00:19:21 → 00:19:24 กระเพาะเอลำไส้ของเรามันช็อกอ่ะมันเอ้ย
00:19:24 → 00:19:27 เฮ้ยทำไมอยู่คุณมาอดอาหารถ้าปกติมันควรมี
00:19:27 → 00:19:29 อาหารเข้ามาแล้วอยู่ดีมาอดหรือมาเปลี่ยน
00:19:29 → 00:19:31 อาหารกระทันหันเช่นจากแต่ก่อนกินเนื้อ
00:19:31 → 00:19:33 สัตว์แล้วไม่เป็นเนื้อสัตว์อือเหมือนเป็น
00:19:33 → 00:19:35 มังสาวิรัสอะไรอย่างเงี้ยครับอ๋อทุกๆคัน
00:19:35 → 00:19:37 ที่มันมีการเปลี่ยนกระทันร่างกระเพาะของ
00:19:37 → 00:19:40 เรามันช็อกมันแบบเฮ้ยหยุดทำงานดีกว่าเกิด
00:19:40 → 00:19:42 อะไรขึ้นก็คือไม่ถ่ายไปอีกมันก็ไม่ถ่าย
00:19:42 → 00:19:44 อีกใช่ครับเพราะฉะนั้นเนี่ยแล้วเราเรา
00:19:44 → 00:19:46 ต้องมาดูคนสมัยนี้ทำ IF เพราะอะไรลดน้ำ
00:19:46 → 00:19:49 หนักถูกมั้ยพอเราลดน้ำหนักเราก็จะทำอะไร
00:19:49 → 00:19:53 อดอาหารนานขึ้นลดปริมาณการกินถูกมั้ยครับ
00:19:53 → 00:19:58 ผักใยอาหารผลไม้กินน้อยลงน้ำกินน้อยลง
00:19:58 → 00:20:01 หลายคนคิดว่าการทำ IF คือห้ามกินน้ำอัน
00:20:01 → 00:20:04 นี้ไม่ใช่เนาะอ่ะมันกินน้ำได้อย่างเช่น
00:20:04 → 00:20:07 168 คือสมมุติว่ากิน 16 แต่หยุด 8 ระวัง
00:20:07 → 00:20:09 8 ชั่วโมงนั้นก็ต้องดื่มน้ำเยอะๆแต่ส่วน
00:20:09 → 00:20:12 มากเทำกินกนกิน 80 อรออรอนี่คิดว่าต้อง
00:20:12 → 00:20:15 กินอันนั้นอันนั้นน่าจะน้ำหนักขึ้นโอเค
00:20:15 → 00:20:18 โอเคคะนั่นก็แปลว่าต้องต้องมาดูอีกทีว่า
00:20:18 → 00:20:21 แบบ IF ทำได้อาจจะต้องค่อยๆปรับจูนร่าง
00:20:21 → 00:20:24 กายไว้ให้อยู่ดีๆปึ้มใช่แบบแบบสมมุติเรา
00:20:24 → 00:20:27 ตั้งใจว่าเฮ้ยเราอยากหยุด 16 นะอาจจะค่อย
00:20:27 → 00:20:29 ๆอย่างเช่น 12 ก่อน 12 ชมงก่อนนะครับแล้ว
00:20:29 → 00:20:32 ก็เฮ้ย 12 ชมงพักประมาณอาทิตย์ 2 อาทิตย์
00:20:32 → 00:20:34 เริ่มดีขึ้นมาเป็น 14 ชมงมาเป็น 16 ชมง
00:20:34 → 00:20:37 ค่อยๆปรับแต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือช่วง
00:20:37 → 00:20:40 เวลาที่เรารับประทานอาหารได้ก็ควรควรรับ
00:20:40 → 00:20:42 ประทานอาหารให้ถึงให้พอควรต่อร่างกายของ
00:20:42 → 00:20:45 เราอถ้าเป็นคนที่ท้องผูกเนี่ยควรและไม่
00:20:45 → 00:20:48 ควรทานอะไรคือไอ้ควรเนี่ยหมอว่าหลายๆคนก็
00:20:48 → 00:20:51 คงรู้อยู่แล้วว่าต้องกินอะไรต้องกินใย
00:20:51 → 00:20:53 อาหารไฟเบอร์ให้ถึงเนาะคำแนะนำก็ประมาณ
00:20:53 → 00:20:56 25-30 กรัมต่อวันออือแล้วไอ้ 30 กรัมมัน
00:20:56 → 00:20:58 คือเท่าไหร่อ่ะมันน่าจะเยอะมากมันกี่เข่ง
00:20:58 → 00:21:01 หรอหมอก็คราวนี้ก็เราจะขอแบ่งเป็น 2 อัน
00:21:01 → 00:21:03 แล้วกันอันหนึ่งคือผักอันนึงคือผลไม้นะ
00:21:03 → 00:21:06 ครับถ้าเป็นผักเนี่ยก็คือประมาณ 3-4
00:21:06 → 00:21:09 ทัพพีต่อวันนะครับทัพพีต่อวันเยอะเยอะมาก
00:21:09 → 00:21:11 ก็ไม่ได้เยอะมากนะครับแล้วก็อีกอันนึงคือ
00:21:11 → 00:21:15 ผลไม้ผลไม้เนี่ยเขาก็อยากให้กินประมาณ 3
00:21:15 → 00:21:19 จานอันนี้พูดถึงจานรองแก้วกาแฟอ่ะอ๋อเออ 3
00:21:19 → 00:21:23 จานแล้วจานนึงก็ประมาณ 6-8 ชิ้นของผลไม้
00:21:23 → 00:21:26 ที่มีน้ำตาลต่ำนะครับเนาะอันนี้ก็คือทั้ง
00:21:26 → 00:21:28 ผักและผลไม้ก็คือกินพร้อมกันนะครับเนาะก็
00:21:28 → 00:21:31 เนี่ยคือปริมาณที่คุณควรกินต่อวันนะครับ
00:21:31 → 00:21:34 เนาะอย่างอื่นอาจสามารถอ่าผักทุกชนิดนะ
00:21:34 → 00:21:36 ครับกินได้หมดเลยไม่ว่าคุณจะชอบอะไรทานไป
00:21:36 → 00:21:40 เถอะดีกว่าไม่ทานนะครับเนาะผลไม้ด้วยนะ
00:21:40 → 00:21:42 ครับเนาะแล้วก็พวกธัญพืชต่างๆถั่วดำถั่ว
00:21:42 → 00:21:45 แดงถั่วลิสงถั่วอะไรพวกเนี้ยนะครับเนาะ
00:21:45 → 00:21:48 มันช่วยทำให้ใยอาหารและก็ระบบการขับถ่าย
00:21:49 → 00:21:51 ของเราดีมากขึ้นนะครับเนาะส่วนคราวนี้
00:21:51 → 00:21:54 อาหารที่เราไม่ควรกินนะครับเนาะแน่นอน
00:21:54 → 00:21:57 อะไรที่ไปกระตุ้นเรื่องของเชื้อรานะครับ
00:21:57 → 00:21:59 เนาะหรือทำให้เราท้องอืดมากยิ่งขึ้นท้อง
00:21:59 → 00:22:02 ผูกมากยิ่งขึ้นเช่นอ่าผลิตภัณฑ์ที่ทำมา
00:22:02 → 00:22:05 จากนมวัวนะครับชีสไอศครีมพวกเนี้ยนะครับ
00:22:05 → 00:22:09 เนาะก็ควรงดมันนะครับเนาะอย่างอื่นก็เป็น
00:22:09 → 00:22:11 ช็อกโกแลตห้ามกินช็อกโกแลตเหรอห้ามกิน
00:22:11 → 00:22:13 ช็อกโกแลตแล้วถ้า dar ช็อกโกแลตได้มั้คะ
00:22:13 → 00:22:15 ก็ไม่ควรกินแล้วกันเพราะเช็อกโกแลตอ่ะมัน
00:22:15 → 00:22:18 ดีเนาะแต่ว่าพูดถึงเรื่องของท้องผูกเนี่ย
00:22:18 → 00:22:20 ด้วยความว่าช็อกโกแลตมันมีไขมันค่อนข้าง
00:22:20 → 00:22:23 เยอะมากและการย่อยไขมันสำหรับคนท้องผูก
00:22:23 → 00:22:26 มันก็ยิ่งยากไปอีกนะครับเนาะนอกจากไขมัน
00:22:26 → 00:22:29 ที่มันเยอะแล้วอันที่ 2 ที่ต้องหลีก
00:22:29 → 00:22:32 เลี่ยงก็คือโปรตีนที่มันหนักๆอย่างเช่น
00:22:32 → 00:22:35 เนื้อแดงเป็นต้นนะครับเนื้อวัวเนื้อแพะ
00:22:35 → 00:22:39 เนื้อแกะเนื้อหมูพวกเนี้ยก็มันย่อยยากนะ
00:22:39 → 00:22:43 ครับก็หลีกเลี่ยงไปทานเนื้อปลาเนื้อขาวอ
00:22:43 → 00:22:45 ไข่ไก่อะไรอย่างี้ก่อนดีกว่านะครับแน่นอน
00:22:45 → 00:22:47 เรื่องอย่างอื่นก็อย่างเช่นเรื่องของ
00:22:47 → 00:22:49 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ควรตันตันต้องหยุด
00:22:49 → 00:22:51 อยู่แล้วอเพราะว่าจริงๆเครื่องดื่ม
00:22:51 → 00:22:53 แอลกอฮอล์โดยเฉพาะเบียร์ก็มียีสด้วยนะคะ
00:22:53 → 00:22:56 แล้วอีกอย่างนึงอันเนี้ยอยากรู้ส่วนตัว
00:22:56 → 00:22:58 เพราะรู้สึกว่าส่วนใหญ่ค่ะสมมุติเป็นแฟน
00:22:58 → 00:23:02 กันเนาะผู้หญิงผู้ชายอ่ะผู้หญิงอ่ะมักจะ
00:23:02 → 00:23:04 มีปัญหาเรื่องขับถ่ายตลอดแต่แฟนที่กิน
00:23:04 → 00:23:07 เหมือนกันทำไมขับถ่ายทุกวันเลยทำไมมัน
00:23:07 → 00:23:09 เป็นอย่างเงี้ยนะคะมันเป็นแบบเรื่องของ
00:23:09 → 00:23:11 สรีระหรือว่าอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงผู้ชาย
00:23:11 → 00:23:13 นะคะเอ่อสิรีระถูกอย่างแรกนะครับเนาะ
00:23:13 → 00:23:16 เรื่องของสรีระร่างกายของเราผู้ชายผู้
00:23:16 → 00:23:19 หญิงลำไส้ใครยาวกว่ากันครับแล้วหรือมัน
00:23:19 → 00:23:24 เท่ากันไม่รู้อ่ะผู้หญิงยาวกว่านิดนึงนิด
00:23:24 → 00:23:27 นึงเพราะฉะนั้นผู้หญิงก็เลยสามารถอั้นได้
00:23:27 → 00:23:30 นานกว่าหรือมันอยู่ในลำไส้ได้ได้นานมาก
00:23:31 → 00:23:33 กว่าพูดอย่างงี้ดีกว่าก็คือยากน่าจะยาก
00:23:33 → 00:23:36 กว่านิดนึงนะครับเนาะอันที่ 2 ก็คือ
00:23:36 → 00:23:39 เรื่องของกล้ามเนื้อในร่างกายของผู้หญิง
00:23:39 → 00:23:40 ครับอุ้มชนกลางนะครับที่เมื่อกี้เราพูดไป
00:23:40 → 00:23:43 ในตอนแรกแล้วก็จะไม่ค่อยแข็งแรงหรือหน้า
00:23:43 → 00:23:45 ทาหน้าท้องกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่เท่ากับ
00:23:45 → 00:23:48 ผู้ชายคราวนี้อย่างอื่นก็อยิ่งผู้หญิงที่
00:23:48 → 00:23:51 มีมีบุตรแล้วถูกมั้ยครับคลอดลูกหรืออย่าง
00:23:51 → 00:23:53 เงี้ยก็เป็นปัจจัยนึงที่ทำให้เกิดท้องผูก
00:23:54 → 00:23:56 ได้เพราะกล้ามกล้ามเนื้อมันไม่แข็งแรงมัน
00:23:56 → 00:23:59 หย่อนยานแล้วนะครับเนาะถ้าไม่นับเรื่อง
00:23:59 → 00:24:01 ของร่างกายแล้วอย่างอื่นก็คือเรื่องของ
00:24:01 → 00:24:03 ฮอร์โมนนะครับเนาะผู้หญิงเรารู้อยู่แล้ว
00:24:03 → 00:24:06 ว่ามีประจำเดือนทุกเดือนมีการสวิงของ
00:24:06 → 00:24:08 ฮอร์โมนมนเพศหญิงที่เรียกว่าเอสโตรเจนกับ
00:24:08 → 00:24:11 โปรเจสเตรนนะครับอย่างพูดถึงอ่ะผู้หญิง
00:24:11 → 00:24:14 ตอนท้องเนี่ยจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเยอะ
00:24:14 → 00:24:17 อนะครับเนาะฮอร์โมนเพเจสเตรนทำให้ขยับ
00:24:17 → 00:24:21 เขยืนช้าลำไส้อ๋อนะครับคนที่ท้องก็เลยจะ
00:24:21 → 00:24:24 ท้องผูกนะครับแต่พูดถึงผู้หญิงคนอื่นทั่ว
00:24:24 → 00:24:27 ไปที่มีประจำเดือนทุกๆครั้งที่เกิดก่อน
00:24:27 → 00:24:30 เวลาจะมีไข่ตกถูกมั้ครับแล้วก่อนที่จะมี
00:24:30 → 00:24:32 ประจำเดือนเนี่ยช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่
00:24:33 → 00:24:35 ฮอร์โมนอีกตัวนึงเรียกว่าเอสโตรเจนมันสูง
00:24:35 → 00:24:38 มากคราวนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็อาจจะทำให้
00:24:38 → 00:24:41 เกิดท้องเสียได้หรือท้องผูกได้อ๋อก็คือ
00:24:41 → 00:24:43 เอสโตรเจนทำให้ท้องเสียโปรเจสเตอโรนทำให้
00:24:43 → 00:24:46 ท้องผูกถูกต้องครับแต่มันยุ่งยากไปกว่า
00:24:46 → 00:24:49 นั้นคืออเรื่องของเอสโตรเจนเนี่ยมันขึ้น
00:24:49 → 00:24:52 กับจุลินทรีย์ในลำไส้ของผู้หญิงด้วยถ้า
00:24:52 → 00:24:56 จุลินทรีย์ในลำไส้ของผู้หญิงดีไม่มีปัญหา
00:24:56 → 00:24:59 อาการปวดท้องท้องเสียก็จะน้อยมากแต่คราว
00:24:59 → 00:25:03 นี้ถ้าเออโตรเจนสูงตอนนั้นแล้วในลำไส้มี
00:25:03 → 00:25:06 จุลินทรีย์ไม่ดีเชื้อราไม่ดีมันก็จะทำให้
00:25:06 → 00:25:08 เกิดอาการปวดท้องท้องเสียท้องผูกได้ในแต่
00:25:08 → 00:25:12 ละคนอืแล้วถ้าสมมุตินะคะฟังมาโอ๊ยเหนื่อย
00:25:12 → 00:25:15 อ่ะหมอต้องมานั่งคิดต้องกินนู่นได้กินนี่
00:25:15 → 00:25:18 ไม่ได้ขี้เกียจคิดแค่เนี้ยก็เครียดจะตาย
00:25:18 → 00:25:21 และกับชีวิตเนี่ยทำงานหนักมากกินเผ็ดทุก
00:25:21 → 00:25:24 วันตอนเย็นให้มันตื่นมาแล้วท้องเสียแค่
00:25:24 → 00:25:27 นิดได้มั้คะก็ไม่ดีนะครับเนาะการกินเผ็ด
00:25:27 → 00:25:30 เหมือนเราไปแก้ทางอ้อมไปบังคับมันให้
00:25:30 → 00:25:33 เหมือนเหมือนกินยาถ่ายอ่ะครับเนาะมันคือ
00:25:33 → 00:25:35 การกินยาถ่ายบางครั้งบางคราวเนี่ยเนี่ยก็
00:25:35 → 00:25:38 ถือว่าโอเคเพื่อเป็นการปลดปล่อยบางครั้ง
00:25:38 → 00:25:42 บางคราวนี่คือยังไงคะคือที่จริงก็แบบอย่า
00:25:42 → 00:25:44 บ่อยมากแบบเดือนก็แบบเดือน 2-3 เดือน
00:25:44 → 00:25:47 ครั้ง 2-3 เดือนครั้งโอเคไม่มีปัญหานะ
00:25:47 → 00:25:48 ครับเนาะแต่ใช้ทุกอาทิตย์เนี่ยอันนี้ก็
00:25:48 → 00:25:50 ถือว่าเยอะเกินไปแล้วก็มันทำให้ร่างกาย
00:25:50 → 00:25:53 เริ่มชินมากยิ่งขึ้นแต่คราวนี้เราพูดถึง
00:25:53 → 00:25:55 ของอาหารเผ็ดดีกว่าอาหารเผ็ดมันจะมีสาร
00:25:55 → 00:25:58 เรียกว่าแคปไซซินนะครับจากพริกนั่นเองนะ
00:25:58 → 00:26:01 ครับไอ้สารเนี้ยมันมีความร้อนนะครับเนาะ
00:26:01 → 00:26:03 เพราะฉะนั้นเนี่ยสารเนี้ยมันก็พอเราทาน
00:26:03 → 00:26:07 เข้าไปปริมาณมากมากมันก็ทำให้เอ่อรคาย
00:26:07 → 00:26:09 เคลืองในกระเพาะอาหารของเรารวมไปถึงลำไส้
00:26:09 → 00:26:13 ด้วยทำให้ลำไส้ต้องบีบรัดตัวมากขึ้นและ
00:26:13 → 00:26:16 เราก็ถ่ายมันออกมาแต่ระดับความเผ็ดของแต่
00:26:16 → 00:26:18 ละคนน่ะมันก็ไม่เท่ากันเนาะบางคนกินเผ็ด
00:26:18 → 00:26:20 มากก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยบางคนกินเผ็ดแล้ว
00:26:20 → 00:26:23 ก็วิ่งเข้าห้องน้ำเลยแต่ก็เป็นการทำบ่อยๆ
00:26:23 → 00:26:24 ที่มันไม่ดีเพราะมันจะเป็นระคายเคือง
00:26:24 → 00:26:26 เรื่องของกระเพาะอาหารกับลำไส้ของเราที
00:26:26 → 00:26:28 นี้สุดท้ายค่ะคุณหมออันเนี้ยซีเรียสขึ้น
00:26:28 → 00:26:32 มาหน่อยเพราะว่าเขาทิ้งท้ายว่าเค้าบีม
00:26:32 → 00:26:36 เนี่ยตัวเขาเองอ่ะเป็นป่วยเป็นอะไรที่
00:26:36 → 00:26:38 เกี่ยวกับลำไส้ที่มันเรื้อรังหรือมากกว่า
00:26:38 → 00:26:39 แค่เรื่องการขับถ่ายหรือเปล่าเพราะว่านี่
00:26:40 → 00:26:42 ก็เป็นมานาน 4 ปีแล้วควรจะตรวจมั้ยแล้ว
00:26:42 → 00:26:45 ตรวจยังไงบ้างก็ถ้าสำหรับเค้าก็คือถือว่า
00:26:45 → 00:26:48 เป็นมานานแล้วเนาะ 4 ปีอย่างี้ก็แนะนำว่า
00:26:48 → 00:26:51 เออให้ไปเจอแพทย์หน่อยดีกว่านะครับไปหา
00:26:51 → 00:26:54 สาเหตุว่าเออมันเกิดอะไรทำไมมันถึงยัง
00:26:54 → 00:26:57 ท้องผูกมาระยะเวลานานขนาดนี้พอทั้งๆที่
00:26:57 → 00:27:00 กินอาหารก็ค่อนข้างโอเคแล้วการออกกำลัง
00:27:00 → 00:27:03 กายไม่รู้ว่าเป็นยังไงความเครียดเป็นยัง
00:27:03 → 00:27:05 ไงอันนี้ต้องมานั่งหากันอีกทีนะครับเนาะ
00:27:05 → 00:27:07 แล้วก็ลองให้ไปศึกษาแพทย์ดูแล้วกันครับ
00:27:07 → 00:27:10 ว่าสาเหตุของเขาที่ไม่การขยับเขยื้อนเป็น
00:27:10 → 00:27:12 โรคลำไส้แปรปรวนหรือเปล่าพวกเนี้ยมัน
00:27:12 → 00:27:15 สามารถแก้ได้ครับก็คือว่าอาจจะลองไปคุย
00:27:15 → 00:27:18 กับแพทย์แล้วถ้าสมมุติว่าเข้าขายที่อาจจะ
00:27:18 → 00:27:20 มีการจองกล้องก็ได้หรืออะไรเงี้ยซื้อทั้ง
00:27:20 → 00:27:22 หมดเราก็ควรจะปรึกษาแพทย์เนาะเพราะแต่ละ
00:27:23 → 00:27:26 เคสอันนี้เราเล่าเล่าเรื่องมาแค่ 2-3
00:27:26 → 00:27:28 นาทีเนาะเราอาจจะยังไม่ได้รู้ถึงต้นตอที่
00:27:29 → 00:27:31 แท้จริงอาจจะต้องใช้เวลาอยู่กับแพทย์แล้ว
00:27:31 → 00:27:33 ก็อาจจะต้องรับคำแนะนำใช่ครับแล้วถ้าจะ
00:27:33 → 00:27:36 ให้สรุปอย่างเคสนี้เนี่ยอันแรกเลยน่าจะ
00:27:36 → 00:27:39 เป็นที่อาชีพของเขาที่จะต้องคอยถึงแม้อาจ
00:27:39 → 00:27:42 จะไม่ได้ทานขนมปังหรือยีสตลอดเวลาเนี่ย
00:27:42 → 00:27:45 แต่ว่ามีการสัมผัสมีการสูดดมเข้าไปมันอาจ
00:27:45 → 00:27:47 จะเข้าร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้นะ
00:27:47 → 00:27:50 ครับเนาะก็ไม่ได้บอกให้เขาหยุดทำงานเนาะ
00:27:50 → 00:27:52 ร้านก็ไม่ได้ก็ไม่ได้เนาะเก็ต้องทำมาหา
00:27:52 → 00:27:55 กินอยู่ก็ป้องกันตัวเองไว้ก่อนนะครับเนาะ
00:27:55 → 00:27:57 ไม่ว่าจะเป็นการใส่เสื้อผ้ามิดชิดใส่ถุง
00:27:57 → 00:28:00 มือหน้ากากอนามัยพวกเนี้ยนะครับมีเครื่อง
00:28:00 → 00:28:03 ฟอกอากาศในห้องอากาศถ่ายเททุกครั้งหลัง
00:28:03 → 00:28:05 จากที่เราทำขนมปังเสร็จอะไรพวกเนี้ยครับ
00:28:05 → 00:28:10 เนาะก็ให้มันเจอเชื้อโรคพวกเนี้ยให้น้อย
00:28:10 → 00:28:11 ที่สุดแล้วะกันจริงๆก็ป้องกันตัวเองไว้
00:28:12 → 00:28:14 ก่อนก็ดีแต่ว่าถ้าสมมุติว่าเราแบบสงสัย
00:28:14 → 00:28:16 เอ๊ะจะใช่หรอหมอมียีสในร่างกายเป็นไปได้
00:28:16 → 00:28:19 หรอเนาะจริงๆก็สามารถไปตรวจเราจะได้จะได้
00:28:20 → 00:28:21 รู้ว่าชัวร์แต่ว่าเข้าใจว่าบางทีบางคนอาจ
00:28:22 → 00:28:24 จะไม่ได้จะสะดวกที่จะตรวจหรือว่ารู้สึก
00:28:24 → 00:28:26 ว่าเอ้ยมันจะราคาสูงนะหรือไปหาตรวจที่ไหน
00:28:26 → 00:28:29 อาจจะยังไม่สะดวกณตอนนี้ก็อาจจะลองป้อง
00:28:29 → 00:28:31 กันตัวเองไว้ก่อนแต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว
00:28:31 → 00:28:33 และแล้วอยากรู้จริงๆว่าเอ้ยในลำไส้เรา
00:28:33 → 00:28:35 เนี่ยมันมีแบคทีเรียดีไม่ดีหรือว่ามียีส
00:28:35 → 00:28:38 จริงมั้ยก็แนะนำให้ตรวจเนาะอันต่อมาที่
00:28:38 → 00:28:41 สำคัญมากๆเลยคือเรื่องของอาหารเมื่อกี้ก็
00:28:41 → 00:28:43 เพิ่งรู้เหมือนกันว่าคนที่ท้องผูกเขาไม่
00:28:43 → 00:28:45 ควรกินช็อกโกแลตเพราะมันจะยิ่งทำให้ผูก
00:28:45 → 00:28:48 ย่อยยากใช่มั้คะฉะนั้นก็อาจจะต้องย้อนไป
00:28:48 → 00:28:50 ฟังทริปที่คุณหมอพูดเมื่อกี้นี้เนาะว่ามี
00:28:50 → 00:28:53 อาหารอะไรบ้างที่ไม่ควรรับประทานเนาะหรือ
00:28:53 → 00:28:56 ว่าเม็ดแมงรักเองเนี่ยทำทานได้แต่ต้องรอ
00:28:56 → 00:29:00 แป๊บนึงให้มันพองก่อนแล้วค่อยดื่มลงไปนะ
00:29:00 → 00:29:03 คะและด้านสุดท้ายที่สำคัญที่สุดเลยคือของ
00:29:03 → 00:29:07 คุณบีมเนี่ยเข้าข่ายการเป็นท้องผูกเรื้อ
00:29:07 → 00:29:09 รังแล้วเพราะว่าเป็นมานาน 4 ปีฉะนั้น
00:29:09 → 00:29:12 เนี่ยการที่ตื่นตระหนกหรือว่ากลัวว่าตัว
00:29:12 → 00:29:14 เองจะเป็นโรคลำไส้อะไรที่มันร้ายแรงเนี่ย
00:29:14 → 00:29:16 อันนี้ก็ไม่ได้กลัวเกินจริงควรจะไปพบ
00:29:16 → 00:29:19 แพทย์เนาะเผื่อแพทย์อ่ะอาจจะแนะนำให้ส่อง
00:29:19 → 00:29:21 กล้องมั้ยหรือทำเทสต่างๆมเราจะได้ป้องกัน
00:29:21 → 00:29:24 เพราะว่าถ้าปล่อยอาการท้องผูกเรื้อรังไป
00:29:24 → 00:29:26 เรื่อยๆมันสามารถเกิดโรคร้ายได้เลยใช่มั้
00:29:26 → 00:29:29 คะใช่ครับเพราะว่า 1 เราก็เคสนี้เราก็ไม่
00:29:29 → 00:29:30 รู้ประวัติอะไรมากมายของเรื่องของครอบ
00:29:30 → 00:29:33 ครอบครัวนะครับเนาะหรือว่าเรื่องของดื่ม
00:29:33 → 00:29:34 เหล้าสูบบุหรี่ความเครียดอะไรพวกนี้หรือ
00:29:34 → 00:29:37 เปล่าเพราะฉะนั้นเนี่ยก็ป้องกันไว้ก่อน
00:29:37 → 00:29:40 เพราะว่าการที่เราท้องผูกมาระยะเวลานาน
00:29:40 → 00:29:42 ขนาดเนี้ยครับเนาะมันอาจจะเป็นอาการนึง
00:29:42 → 00:29:45 แล้วกันนะครับที่อาจจะส่งผลทำให้เรามีโรค
00:29:45 → 00:29:47 ร้ายอย่างเช่นมะเร็งในลำไส้ในอนาคตได้
00:29:47 → 00:29:50 ครับอืเคสต่อไปนะคะเป็นเคสที่ตรงข้ามกับ
00:29:50 → 00:29:53 เคสแรกเลยเคสแรกคือท้องผูกใช่มั้คะ
00:29:53 → 00:29:56 อันเนี้ยคือท้องเสียท้องเสียหนักมากจน
00:29:56 → 00:29:58 กลัวว่าจะเป็นโรคร้ายทำยังไงดีคะหมออัน
00:29:58 → 00:30:01 นี้นะคะเป็นเรื่องมาจากคุณขวัญอายุ 29 ปี
00:30:01 → 00:30:03 เป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องคอยติดต่อประสาน
00:30:03 → 00:30:05 งานอยู่ตลอดเรามีผู้หญิงหมดเลยเนาะใช่ผู้
00:30:05 → 00:30:09 หญิงผู้หญิงหมดเลยใช่ค่ะแล้วก็งานของเขา
00:30:09 → 00:30:10 เนี่ยต้องคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ตลอด
00:30:11 → 00:30:13 เวลาทำงานประมาณ 5-6 วันต่อสัปดาห์อันนี้
00:30:13 → 00:30:17 ก็อยู่ที่กรุงเทพมหานครค่ะคุณหมอคะตั้ง
00:30:17 → 00:30:20 แต่เกิดขวัญเนี่ยท้องเสียบ่อยมากๆโดย
00:30:20 → 00:30:22 เฉพาะเวลาเครียดค่ะเพราะว่าเป็นคนที่คาด
00:30:22 → 00:30:25 หวังสูงในการสอบแข่งขันเช่นตอนที่กำลังจะ
00:30:25 → 00:30:28 สอบเนี่ยก็จะปวดท้องหนักมากจนต้องขอ
00:30:28 → 00:30:30 อนุญาตไปเข้าห้องน้ำตลอด
00:30:30 → 00:30:32 ปัจจุบันก็ยังเป็นคนที่ท้องเสียง่ายอยู่
00:30:32 → 00:30:35 กินอาหารรสจัดไม่ได้เลยค่ะถ้ากินอาหาร
00:30:35 → 00:30:37 อะไรที่ไม่คุ้นปากนิดหน่อยก็จะท้องเสีย
00:30:37 → 00:30:40 ทันทีเวลาไปกินข้าวกับเพื่อนก็จะเป็นคน
00:30:40 → 00:30:42 เดียวที่ท้องเสียค่ะรู้สึกว่าใช้ชีวิต
00:30:42 → 00:30:46 ลำบากมากๆอยากลองกินอะไรก็ไม่กล้ากินทุก
00:30:46 → 00:30:49 เช้าจะขับถ่ายประมาณ 1-2 รอบในแต่ละวัน
00:30:49 → 00:30:53 เนี่ยจะถ่ายน้อยสุดก็คือ 3 รอบหรือบางวัน
00:30:53 → 00:30:56 เนี่ย 5-6 รอบเลยอันนี้คือตรงข้ามกับ
00:30:56 → 00:30:58 เมื่อกี้เลยเค้เลยเนาะถ่ายเยอะมากเยอะมาก
00:30:58 → 00:31:01 ถ่ามากกว่าลักษณะอุจจาระเนี่ยก็จะเล็กๆ
00:31:01 → 00:31:04 นิ่มๆบนน้ำแต่ช่วงที่ประจำเดือนมาก็จะ
00:31:04 → 00:31:07 ท้องผูกไปเลยค่ะ 3-4 วันก็คือพลิกเลยขวัญ
00:31:07 → 00:31:10 เป็นคนที่กินอาหารปกติค่ะแต่เพราะเป็นคน
00:31:10 → 00:31:13 ที่ท้องร่วงง่ายมากเลยชอบกินอะไรเดิมๆกิน
00:31:13 → 00:31:16 ผักผลไม้เนื้อสัตว์ตามปกติแต่จะเน้นอาหาร
00:31:16 → 00:31:19 ที่รสไม่จัดค่ะแล้วก็จะกินพวกเกลือแร่
00:31:19 → 00:31:21 บ่อยเพราะว่าเวลาถ่ายเนี่ยรู้สึกเหนื่อย
00:31:21 → 00:31:24 มากแล้วไม่มีแรงเรื่องความเครียดก็มีเป็น
00:31:24 → 00:31:27 ช่วงค่ะส่วนใหญ่จะคลายเครียดด้วยการกลับ
00:31:27 → 00:31:30 มาดูซีรีย์แล้วก็ออกกำลังกายตามคลิปใน
00:31:30 → 00:31:32 YouTube เช่นคลิปเบบเบ้อันนี้ผู้หญิงออก
00:31:33 → 00:31:36 เยอะนะคะออาทิตย์ละประมาณ 3 วันค่ะใน
00:31:36 → 00:31:40 ครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ 2 คน
00:31:40 → 00:31:43 และเป็นมะเร็งเต้านม 1 คนค่ะสงสัยว่าทำไม
00:31:43 → 00:31:46 ตัวเองถึงมีอาการท้องเสียสลับกับผูกแบบ
00:31:46 → 00:31:49 นี้จริงๆก็ค่อนข้างชินกับการที่เป็นคน
00:31:49 → 00:31:52 ท้องร่วงนะคะแต่พอเห็นคลิปที่คนเป็น
00:31:52 → 00:31:54 มะเร็งกันเยอะแล้วก็บวกกับตัวเองเนี่ยมี
00:31:54 → 00:31:57 ประวัติในครอบครัวที่เป็นมะเร็งด้วยเลย
00:31:57 → 00:32:00 กลัวว่าตัวเองจะเป็นและคิดว่าถึงเวลาที่
00:32:00 → 00:32:02 จะต้องจัดการกับเรื่องนี้แล้วเลยอยากจะ
00:32:02 → 00:32:05 ให้คุณหมอแนะนำหน่อยค่ะว่าอย่างขวัญเนี่ย
00:32:05 → 00:32:08 ควรจะตรวจส่องกล้องมแล้วควรจะแก้ไขปัญหา
00:32:08 → 00:32:11 ยังไงดีคะอ่ะโอเคก็เคสตรงกันข้ามนะครับ
00:32:11 → 00:32:13 ท้องร่วงหรือว่าท้องเสียนั่นเองนะครับ
00:32:13 → 00:32:16 เนาะก็มีไครทีเรียเหมือนกันคำว่าท้องเสีย
00:32:16 → 00:32:19 หมายความว่าอุจจารที่ออกมาเป็นน้ำถูกมั้
00:32:19 → 00:32:22 ครับเนาะแล้วก็มีอาการปวดท้องบ้างแสบท้อง
00:32:22 → 00:32:25 มากนะครับเนาะอาจจะมีชิ้นก้อนเนื้อบ้างก็
00:32:25 → 00:32:28 แล้วแต่นะครับเนาะแต่ถ้ามากกว่า 3 ครั้ง
00:32:28 → 00:32:32 ต่อวันถูกมยกฎข้อ 3 ถูกมยมากกว่า 3 ครั้ง
00:32:32 → 00:32:35 ต่อวันถือว่าเป็นท้องเสียหรืออีกอันนึง
00:32:35 → 00:32:39 คือท้องเสียแค่ครั้งเดียวแต่มีมูกเลือดก็
00:32:39 → 00:32:42 นับถือว่าเป็นท้องเสียเหมือนกันนะครับ
00:32:42 → 00:32:44 เนาะคราวนี้พอท้องเสียเนี่ยก็แบ่งออกมา
00:32:44 → 00:32:47 เป็น 3 ประเภทนะครับเนาะก็คือ 1 เฉียบ
00:32:47 → 00:32:49 พันธุเฉียบพันธุ์หมายความว่าอย่างเช่นกิน
00:32:49 → 00:32:52 อาหารทะเลแล้วท้องเสียเลยอันนี้คือหมอว่า
00:32:52 → 00:32:54 ทุกคนเคยเป็นหมดนะครับเนาะอาการก็จะเป็น
00:32:54 → 00:32:57 แค่ 2-3 วันและควรหายเองอันที่ 2 ก็คือ
00:32:57 → 00:33:00 แบบว่าเาเรียกว่า persistent diียนะครับ
00:33:00 → 00:33:03 เนาะก็เอ่อเป็นต่อเนื่องนะครับเป็นเป็น
00:33:03 → 00:33:04 แล้วเป็นอีกแต่เป็นต่อเนื่องเนี่ยจะอยู่
00:33:04 → 00:33:07 ที่ประมาณ 2 ถึง 4 สัปดาห์แล้วเดี๋ยวมัน
00:33:07 → 00:33:09 จะค่อยขยายเองแต่ว่า 2-4 สัปดาห์เนี่ยก็
00:33:09 → 00:33:12 ควรไปหาหมอและนะครับและอันสุดท้ายก็คือ
00:33:12 → 00:33:15 เรื้อรังเรื้อรังก็คือมากกว่า 4 สัปดาห์
00:33:15 → 00:33:19 ครับออ่าคนนี้ก็เเป็นตั้งแต่เกิดเนาะใช่
00:33:19 → 00:33:21 ตั้งแต่นี้เรารู้อยู่แล้วว่าเเป็นแบบไหน
00:33:21 → 00:33:23 น่าจะเรือรังเพราะฉะนั้นเนี่ยคนนี้ก็ถือ
00:33:23 → 00:33:26 ว่าเป็นหนักอยู่เหมือนกันเป็นแบบเรื้อรัง
00:33:26 → 00:33:29 เลยทีเดียวครับอืมแล้วทีนี้ปัจจัยที่ทำ
00:33:29 → 00:33:32 ให้เขาสามารถเป็นคนที่ท้องร่วงเอาอย่าง
00:33:32 → 00:33:34 งี้ดีกว่าปัจจัยโดยรวมของทุกคนที่ทำให้
00:33:34 → 00:33:37 เป็นคนท้องร่วงได้ง่ายเนี่ยมีอะไรบ้าง
00:33:37 → 00:33:38 คราวนี้สาเหตุของการท้องร่วงเราจะแบ่ง
00:33:39 → 00:33:41 เป็น 2 ประเภทเหมือนกันนะครับ 1 คือ
00:33:41 → 00:33:43 เรื่องของการติดเชื้ออันที่ 2 คือไม่ติด
00:33:43 → 00:33:45 เชื้อนะครับเรามาดูเรื่องของติดเชื้อที่
00:33:45 → 00:33:48 เจอทุกคนเจอบ่อยก็คือว่าไปกินอะไรผิดปกติ
00:33:48 → 00:33:50 ไม่สะอาดบ้างอาจจะมีของสดบ้างอาจจะติด
00:33:51 → 00:33:54 เชื้อพยาธแบคทีเรียเชื้อไวรัสพวกเนี้ยนะ
00:33:54 → 00:33:56 ครับเนาะอันนี้ก็เป็นกลุ่มของการติดเชื้อ
00:33:56 → 00:33:59 แล้วทำให้เราท้องเสียอันที่ 2 คือกลุ่ม
00:33:59 → 00:34:01 ไม่ติดเชื้อกลุ่มไม่ติดเชื้ออย่างแรกที่
00:34:01 → 00:34:04 เจอบ่อยที่สุดคือโรคลำไส้แปรปรวนนะครับ
00:34:04 → 00:34:06 เมื่อกี้เราพูดไปแล้วอย่างเคสแรกลำไส้แปร
00:34:06 → 00:34:08 ปรวนเล่มไส้แปรปวนเนี่ยอาจจะเป็นได้ทั้ง
00:34:08 → 00:34:12 ท้องผูกและท้องเสียแต่ระยะเวลามากกว่า 4
00:34:12 → 00:34:15 สัปดาห์เป็นต้นไปนะครับเนอันนี้เหมือน
00:34:15 → 00:34:17 เข้าขายมากๆเลยก็เข้าขายมากๆอันนี้ก็อ่ะ
00:34:17 → 00:34:19 แปรปรวนหรือเปล่านะครับท้องเสียเยอะมี
00:34:19 → 00:34:24 ท้องอื่นบ้างมีปวดท้องนะครับเนาะแล้วก็มี
00:34:24 → 00:34:27 แบบแล้วพวกเนี้ยคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปัว
00:34:27 → 00:34:30 นะครับจะรู้สึกดีหลังจากที่ถ่ายเสร็จอื
00:34:30 → 00:34:32 ตอนที่ไม่ถ่ายเนี่ยอื้อหืออึดอัดตลอดเวลา
00:34:32 → 00:34:36 แต่ถ่ายปุ๊บเฮ้ยโล่งสบายนะครับอันนี้คือ
00:34:36 → 00:34:38 ภาวะแรกอันที่ 2 คือแน่นอนอันที่เรากลัว
00:34:39 → 00:34:41 มากที่สุดก็คือเรื่องของมะเร็งนะครับเนาะ
00:34:41 → 00:34:43 มะเร็งก็ต้องเป็นมากกว่า 4 สัปดาห์เป็น
00:34:43 → 00:34:47 ต้นไปนะครับเนาะแต่ต้องมีอาการอย่างอื่น
00:34:47 → 00:34:52 ด้วยเช่นน้ำหนักรสมีไข้นะครับไม่หิวไม่
00:34:52 → 00:34:56 อยากอาหารอผอมถูกมั้น้ำหนักลดผอมมากขึ้น
00:34:56 → 00:34:58 มีคลื่นไส้อาเจียนหรือเปล่านะครับนะแน่
00:34:58 → 00:35:02 นอนเรื่องของพฤติกรรมเช่นดื่มเหล้าสูบ
00:35:02 → 00:35:05 บุหรี่ไม่กินยายอาหารไม่กินผักกินเนื้อ
00:35:05 → 00:35:07 สัตว์กินของปิ้งย่างและมีประวัติคนใน
00:35:08 → 00:35:10 ครอบครัวคนนี้คนในครอบครัวนี่เป็นไขสิ่ง
00:35:10 → 00:35:14 สำคัญคือเป็นสายตรงหรือว่างทางห่างหรือ
00:35:14 → 00:35:16 เปล่าอันนี้อันนี้สำคัญนะครับเนาะเพราะ
00:35:16 → 00:35:19 ว่าถ้าเป็นสายตรงอย่างเช่นพ่อแม่พี่ลูก
00:35:19 → 00:35:21 อันเนี้ยหรือว่าสายตรงนะครับความเสี่ยงก็
00:35:21 → 00:35:23 จะมากขึ้นเดี๋เราค่อยมาคุยกันความเสี่ยง
00:35:23 → 00:35:26 มันประมาณเท่าไหร่นะครับเนาะโรคอื่นๆนะ
00:35:26 → 00:35:29 ครับนอกจากอ่าโรคแปรลำไส้แปรปรวนโรค
00:35:29 → 00:35:31 มะเร็งแล้วก็ไทรรอยด์เหมือนกันแต่ตรงกัน
00:35:31 → 00:35:35 ข้ามอือันนี้เป็นไทรรอยด์สูงอืเร่งหมดเลย
00:35:35 → 00:35:38 สูงก็คือว่าผอมเนาะผลิตเยอะเกินแล้วก็ไป
00:35:38 → 00:35:41 เร่งระบบการทำงานทุกๆอย่างในร่างกายของ
00:35:41 → 00:35:44 เราจังหวะเต้นของหัวใจมากขึ้นการขยับ
00:35:44 → 00:35:46 เขยื้อนของลำไส้ถถ่ายเร็วไงมันขยับ
00:35:46 → 00:35:49 เขยื้อนเร็วมากขึ้นนะครับและอันสุดท้ายก็
00:35:49 → 00:35:51 เรื่องของพวกยานะครับเนาะผลค้างเคียงของ
00:35:51 → 00:35:54 ยาก็เป็นปัจจัยนึงที่อย่างเช่นยาปฏิชีวนะ
00:35:54 → 00:35:56 ยาอะไรก็แล้วแต่เนี่ยทำให้เกิดอาการท้อง
00:35:56 → 00:35:58 เสียได้ครับอือฉะนั้นอยากจะเจาะลึกลงไป
00:35:59 → 00:36:00 เรื่องนี้แหละค่ะที่คนน่าจะกลัวที่สุดคือ
00:36:00 → 00:36:03 เรื่องมะเร็งเท่าที่หมอฟังมาเนี่ยถ้ามี
00:36:03 → 00:36:06 ญาติถ้าเป็นถ้ามีแบบคนในครอบครัวเป็นอาจ
00:36:06 → 00:36:08 จะเป็นสายตรงหรือว่าอาจจะห่างเนี่ยอันนี้
00:36:08 → 00:36:10 ก็มีเปอร์เซ็นต์แน่นอนอาจจะเปอร์เซ็นต์
00:36:10 → 00:36:12 มากเปอร์เซ็นต์น้อยอันนี้แล้วแต่เนาะแล้ว
00:36:12 → 00:36:15 ก็เป็นมานานกว่า 4 อาทิตย์อด้วยแล้วก็ดู
00:36:15 → 00:36:18 แบบดูดูมันมันดูเข้าข่ายจังเลยเข้าข่าย
00:36:18 → 00:36:20 แต่เค้ายังไม่มีอาการอย่างอื่นเนาะมีค่าย
00:36:20 → 00:36:22 น้ำหนักรถอะไรพวกนี้ยังไม่มีตามที่เขาบอก
00:36:22 → 00:36:24 มานะครับเนาะคราวนี้เราพูดถึงเรื่องของ
00:36:24 → 00:36:26 อ่ะเรามาพูดถึงเรื่องของมะเร็งและนะครับ 5
00:36:26 → 00:36:30 เอาเป็นสายตรงก่อนพ่อแม่ลูกพี่น้องนะครับ
00:36:30 → 00:36:34 จากพ่อแม่เดียวกันนะครับเนาะก็สมมุติมี 1
00:36:34 → 00:36:39 คนในครอบครัวความเสี่ยงคือ 2-3 เท่าในการ
00:36:39 → 00:36:42 ที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่อเฮ้ยเยอะมาก 1
00:36:42 → 00:36:47 คนนะคราวนี้ถ้า 2 คนก็ความเสี่ยงก็จะปาน
00:36:47 → 00:36:51 3-4 เท่าอันนี้พูดถึงสายตรงก่อนนะครับ
00:36:51 → 00:36:53 ความเสี่ยงในร่างกายของคุณที่จะเป็น
00:36:53 → 00:36:58 มะเร็งอ๋อไม่ใช่สายตรงล่ะพ่อแม่ปู่ย่าพ่อ
00:36:58 → 00:37:04 แม่ลูกไม่เป็นแต่ปู่ย่าตายายป้าอารอบข้าง
00:37:04 → 00:37:08 นอกก็ 1 คนความเสี่ยงก็จะบาน 1.5 5 เท่า
00:37:08 → 00:37:12 อื 2 คนก็ประมาณ 2-3 เท่าครับเอาจริงๆก็
00:37:12 → 00:37:13 เสี่ยงอยู่ดีก็เสี่ยงอยู่ดีเสี่ยงน้อย
00:37:13 → 00:37:16 เสี่ยงมากถ้าเป็นมันก็คือเป็นอ่ะฉะนั้น
00:37:16 → 00:37:18 น่ะค่ะอย่างคนนี้เค้าบอกว่าเค้าควรไปส่อง
00:37:18 → 00:37:19 กล้องมั้ยควรไปตรวจมั้ยอันนี้น่าจะต้อง
00:37:19 → 00:37:23 ตรวจเลยนะคะคราวนี้การส่องกล้องมันก็มัน
00:37:23 → 00:37:25 มีเค้าเรียกว่าไครทีเรียนะครับเนาะอ่ะแต่
00:37:25 → 00:37:27 ก่อนที่เราจะไปเรื่องของ 2 กล้องอ่ะครับ
00:37:27 → 00:37:30 เราต้องมาบอกก่อนว่าเรื่องของการวินิจฉัย
00:37:30 → 00:37:32 เรื่องมะเร็งในลำไส้อ่ะครับปัจจุบันก็ 1
00:37:32 → 00:37:35 สามารถตรวจจากอุจจาระได้ว่ามีรสเลือดปน
00:37:35 → 00:37:37 เปื้อนหรือเปล่านะครับอันเนี้ยสามารถตรวจ
00:37:38 → 00:37:41 ได้ทุกปีอืเราเราเรียกว่า Fecal Account
00:37:41 → 00:37:44 Blood Test account blood test นะ
00:37:44 → 00:37:46 ครับเนาะอันนี้ก็ตรวจได้ทุกปีตรวจง่ายนะ
00:37:46 → 00:37:48 ครับส่งอุจจาระไปมันดูว่ามีรถมีเลือดมาปน
00:37:48 → 00:37:51 เปื้อนหรือเปล่านะครับเนาะทุกคนตรวจได้
00:37:51 → 00:37:54 ทุกวัยทุกเพศนะครับอันที่ 2 แน่นอนก็คือ
00:37:54 → 00:37:56 คนosyก็คือการส่องกล้องจากด้านล่างนั่น
00:37:56 → 00:38:00 เองนะครับตามมาตรฐานแล้วเนี่ยถ้าใครไม่มี
00:38:00 → 00:38:02 ความเสี่ยงไม่มีปัจจัยของครอบครัวเราก็จะ
00:38:02 → 00:38:07 แนะนำตอนที่คุณอายุ 50 ปีโหแต่อันนี้คุณ
00:38:07 → 00:38:09 เสียงเนี่ยอ่ะก็ต้องเร็วขึ้นนะครับอาจจะ
00:38:09 → 00:38:11 40 ปีหรือเปล่านะครับและตรวจอันที่ 3
00:38:11 → 00:38:14 คือเขาเรียกว่าใช้คอมพิวเตอร์ Chromoscopy
00:38:14 → 00:38:17 อันนี้คือแบบ Advance มากใช้แบบกล้องมัน
00:38:18 → 00:38:22 จะเห็นแบบชิ้นเนื้อเล็กแบบ 9 จุดมมความ
00:38:22 → 00:38:25 ชัดเจน 90% แต่ประเทศไทยมีมั้คะตรวจเนี้ย
00:38:25 → 00:38:27 อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันไม่เคยทำไม่เป็น
00:38:27 → 00:38:30 นะครับเนาะอันนี้ก็คือมีการตรวจ 3 แบบนะ
00:38:30 → 00:38:33 ครับเนาะคราวนี้เรามาบอกว่าเอ้ยแล้วคนนี้
00:38:33 → 00:38:35 เขาควรไปตรวจตอนอายุเท่าไหร่อ่ะเมื่อกี้
00:38:35 → 00:38:40 เราบอกว่าเอาสายตรงก่อนเนาะสายตรง 1 คน
00:38:40 → 00:38:42 แต่ขึ้นกับอายุอีกอายุเป็นอันที่สำคัญนะ
00:38:43 → 00:38:48 ครับถ้าสายตรง 1 คนพ่อแม่พี่ลูก 1 คนเจอ
00:38:48 → 00:38:52 ตอนอายุมากกว่า 60 ปีคุณควรไปตรวจตอนคุณ
00:38:53 → 00:38:57 อายุ 40 ปีอืและตรวจทุก 10 ปีตรวจทุก 10
00:38:57 → 00:39:00 ปีตรวจทุก 10 ปีหรือมีการคำนวณง่ายๆพูด
00:39:00 → 00:39:04 ง่ายๆว่าสายตรงเตอนที่เขาตรวจเจอครั้งแรก
00:39:04 → 00:39:05 อายุเท่าไหร่
00:39:05 → 00:39:07 และ -10 เราไปตรวจตอนนั้นออย่างเช่น
00:39:07 → 00:39:10 สมมุติว่าสมมุติพ่อเราเนี่ยเป็นมะเร็งตอน
00:39:10 → 00:39:13 40 ก็แปลว่า -10 แปลว่าเราต้องตรวจตั้ง
00:39:13 → 00:39:16 แต่ 30 อ่าอันนี้คำนวณง่ายๆเนาะแต่อันที่
00:39:16 → 00:39:20 2 คือสมมุติสายตรงพ่อแม่พี่ลูก 1 คน
00:39:20 → 00:39:23 เหมือนกันแต่อายุน้อยนะเมื่อกี้เรามาก
00:39:23 → 00:39:26 กว่า 60 อันนี้น้อยกว่า 50 นะครับเนาะถ้า
00:39:26 → 00:39:29 น้อยกว่า 50 เราก็จะแนะนำว่าไปตรวจเหมือน
00:39:29 → 00:39:32 กันตอนอายุ 40 นะครับเนาะแล้วแต่ตรวจ 2
00:39:32 → 00:39:34 กล้องทุก 5 ปีแทนฉะนั้นการตรวจเนี่ยมันก็
00:39:34 → 00:39:37 จะจะมีการตรวจตั้งแต่ตรวจอุจจาระใช่มั้ย
00:39:37 → 00:39:40 คะแล้วก็มีการตรวจกล้องแบบทั่วไปแล้วก็มี
00:39:40 → 00:39:43 แบบกล้องแบบแวanceนซแบบอแบบสุดๆไปเลยเนาะ
00:39:44 → 00:39:45 อันนี้อาจจะอาจจะราคาสูงแล้วอาจจะหาได้
00:39:45 → 00:39:47 ยากหน่อยแล้วก็มีวิธีการตรวจอย่างอื่นอีก
00:39:47 → 00:39:50 มั้ยคะอคราวนี้มันก็ให้ง่ายๆหน่อยแล้วกัน
00:39:50 → 00:39:52 นะครับเนาะราคาย่อมเยาก็อาจจะสามารถตรวจ
00:39:52 → 00:39:55 จากโรคเอ่อจากเลือดได้นะครับเนาะเลือดก็
00:39:55 → 00:39:58 แป๊บเดียวนะครับผลออกมาก็สามารถเป็นเป็น
00:39:58 → 00:40:00 เ้าเรียกว่า colon cancer marกอนะครับ
00:40:00 → 00:40:02 เนาะเป็นกอร์สำหรับว่าเฮ้ยคุณมีความ
00:40:02 → 00:40:04 เสี่ยงที่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมีมะเร็ง
00:40:04 → 00:40:07 ในลำไส้หรือเปล่านะครับเนาะอันนี้ก็ตรวจ
00:40:07 → 00:40:10 ได้เหมือนกันแต่ต้องบอกก่อนว่าการตรวจจาก
00:40:10 → 00:40:13 เลือดอาจจะไม่แม่นยำเท่ากับการตรวจ
00:40:13 → 00:40:15 อุจจาระหรือการส่องกล้องนะครับเนาะเพราะ
00:40:15 → 00:40:18 ว่าการตรวจจากเลือดเนี่ยมันบ่งบอกว่าคุณ
00:40:18 → 00:40:20 น่ะเป็นเรียบร้อยแล้วนะอือคุณมีเชื้อแล้ว
00:40:21 → 00:40:23 นะคุณเป็นมะเร็งแล้วนะแล้วมันจะเห็นใน
00:40:23 → 00:40:26 เลือดแต่ถ้ามันเล็กมากหรือเป็นเนื้องอก
00:40:26 → 00:40:28 มันอาจจะไม่โชว์ในมันอาจจะไม่เห็นในเลือด
00:40:28 → 00:40:30 ก็ได้ครับแล้วทีนี้อยากย้อนกลับมาเรื่อง
00:40:30 → 00:40:33 ที่อาจจะยังไม่ร้ายแรงขนาดนั้นอเรื่อง
00:40:33 → 00:40:35 ความเครียดก่อนอก่อนที่จะเป็นมะเร็งเรา
00:40:35 → 00:40:38 ต้องเครียดก่อนเนาะทีนี้เอ่ะมีปัญหา
00:40:38 → 00:40:40 เรื่องเครียดปุ๊บท้องเสียเครียดปุ๊บท้อง
00:40:40 → 00:40:43 เสียจริงๆเราก็น่าจะจริงๆใน Doct Talk
00:40:43 → 00:40:44 เนาะเราเคยพูดเรื่องความเครียดเกี่ยวอะไร
00:40:44 → 00:40:47 กับท้องร่วงมาแล้วอยากให้หมอพูดในเชิงของ
00:40:47 → 00:40:50 เคสเนี้ยค่ะว่าจริงๆอ่ะเขาเป็นคนที่อาจจะ
00:40:50 → 00:40:52 ชอบแข่งขันเนาะอาจจะแบบสอบนู่นนี่นั่น
00:40:52 → 00:40:54 แล้วก็ต้องท้องเสียอยู่ตลอดอะไรอย่าง
00:40:54 → 00:40:56 เงี้ยค่ะมันเชื่อมโยงกันยังไงคะคราวนี้
00:40:56 → 00:40:58 เราพูดถึงเรื่องของความเครียดก่อนแล้วกัน
00:40:58 → 00:40:59 ความเครียดมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของ
00:40:59 → 00:41:02 แค่จิตใจเนาะคือความเครียดมันก็ส่งผล
00:41:02 → 00:41:04 กระทบต่ออวัยวะอื่นๆในร่างกายเหมือนกัน
00:41:04 → 00:41:07 แล้วทุกๆครั้งที่คุณเครียดไม่ว่าจะเรื่อง
00:41:07 → 00:41:10 ของการสอบการทำงานก็แล้วแต่เนี่ยร่างกาย
00:41:10 → 00:41:14 กระเพาะอาหารของคุณจะหลั่งกรดมากยิ่งขึ้น
00:41:14 → 00:41:16 แล้วไอ้กรดที่มันหลั่งออกมาเนี่ยมันก็จะ
00:41:16 → 00:41:19 ทำทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารของเราและทำ
00:41:19 → 00:41:22 ให้ลำไส้ของเราแปรปรวนมากยิ่งขึ้นมีการ
00:41:22 → 00:41:25 บีบมีการรัดมากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้นเครียด
00:41:25 → 00:41:28 ทุกครั้งพอมีการบีบรัดคุณก็จะมีอาการได้
00:41:29 → 00:41:31 เช่นไม่อยากอาหารอิ่มมากขึ้นคลื่นไส้
00:41:31 → 00:41:36 อาเจียนปวดท้องท้องเวียนหัวอาการพวกนี้ก็
00:41:36 → 00:41:38 จะตามมาแล้วคุณก็จะท้องเสียนั่นเองครับ
00:41:38 → 00:41:41 ฉะนั้นวิธีการก็คือพยายามอย่าเครียดเนาะ
00:41:41 → 00:41:44 ซึ่งมันพูดยากเนาะไม่ให้เครียดอาจจะแบบ
00:41:44 → 00:41:47 อาจจะต้องหากิจกรรมหรือว่านั่งสมาธิหรือ
00:41:47 → 00:41:50 หาวิธีการให้แบบว่าเออเราเราต้องผ่อนคลาย
00:41:50 → 00:41:52 ถูกต้องผ่อนคลายใช่ครับเรารู้อยู่แล้วว่า
00:41:52 → 00:41:54 ทุกครั้งที่เรามีความเครียดเราจะท้องเสีย
00:41:54 → 00:41:57 เพราะฉะนั้นเนี่ย 1 อาจจะลองท้องอะไรเบาๆ
00:41:57 → 00:42:00 หรือเปล่าก่อนนะครับเนาะแล้วก็พยายามผ่อน
00:42:00 → 00:42:02 คลายความเครียดแล้วอย่างคนนี้คือ 1 วิธี
00:42:02 → 00:42:05 ในการที่เขาโteคตัวเองไม่ให้ท้องร่วง
00:42:05 → 00:42:07 เนี่ยก็คือพยายามกินอาหารซ้ำๆอือแล้วก็
00:42:07 → 00:42:10 กินอาหารเบาๆการกินอาหารซ้ำๆเนี่ยเป็น
00:42:10 → 00:42:12 สิ่งที่ดีมั้ยคะคือกินอาหารซ้ำๆอ่ะที่
00:42:12 → 00:42:14 จริงมันก็ทานได้นะครับแต่คราวนี้มันต้อง
00:42:14 → 00:42:17 ขึ้นกับว่าเค้ากินอะไรอืถูกมั้ยครับเนาะ
00:42:17 → 00:42:20 อย่างเช่นถ้าสมมุติเค้ากินอาหารที่ไม่รส
00:42:20 → 00:42:23 จัดกินใยอาหารกินผักกินผลไม้กินเนื้อ
00:42:23 → 00:42:27 สัตว์กินแป้งคาร์โบไฮเดรตที่เพียงพอก็ถือ
00:42:27 → 00:42:29 ว่าโอเคก็สามารถกินได้ซ้ำๆแต่บางคนอาจจะ
00:42:29 → 00:42:33 กินอะไรที่เหมือนๆเดิมไม่หลับหลากหลายไม่
00:42:33 → 00:42:35 มีอาหารอันเนี้ยก็อาจจะไม่ดีต่อร่างกายทำ
00:42:35 → 00:42:38 ให้คุณยิ่งขาดสารอาหารมากยิ่งขึ้นนะครับ
00:42:38 → 00:42:40 เนาะเพราะฉะนั้นคนที่ท้องเสียบ่อยๆก็ยาย
00:42:40 → 00:42:43 อาหารน่ะต้องมีอยู่แล้วเหมือนท้องผูกท้อง
00:42:43 → 00:42:45 เสียยังไงก็ต้องมีกากยายอาหารนะครับเนาะ
00:42:45 → 00:42:47 หรือเราจะไปเพิ่มพวกของจุลินทรีย์พวก
00:42:47 → 00:42:49 เนี้ยโปรไบโอติกพวกเนี้ยมันก็ช่วยด้วย
00:42:49 → 00:42:53 เหมือนกันครับอืแล้วอีกคำถามนึงค่ะอย่าง
00:42:53 → 00:42:56 เคสเนี้ยเราชัดเจนเนาะว่าเา้าท้องร่วงมา
00:42:56 → 00:42:58 ตลอดอันเนี้ยซีเรียสแน่นอนแต่ว่าสำหรับ
00:42:58 → 00:42:59 ใครที่ดูอยู่แล้วอาจจะมีปัญหาที่คล้าย
00:42:59 → 00:43:02 คลึงกันแต่ก็ยังไม่แน่ใจเอ๊ฉันถึงขั้นที่
00:43:02 → 00:43:04 ฉันจะต้องไปหาหมอหรือรักษาหรือยังนะอยาก
00:43:04 → 00:43:09 ถามว่าต้องท้องเสียบ่อยขนาดไหนหรือถึง
00:43:09 → 00:43:12 วิกฤตขนาดนั้นถึงควรจะไปพบแพทย์ท้องเสีย
00:43:12 → 00:43:15 ขนาดไหนให้มาดูเรื่องของน้ำหนักตัวอืมอ่า
00:43:15 → 00:43:17 มันก็จะแบ่งเป็น 3 ระดับนะครับระดับแรกก็
00:43:17 → 00:43:22 คือท้องเสียแต่น้ำหนักไม่ลดต่ำกว่า 5%
00:43:22 → 00:43:26 ของน้ำหนักตัวณปัจจุบันนะครับเนาะแล้วก็
00:43:26 → 00:43:29 มีอาจจะมีคลื่นไส้มีอาเจียนทองร่วงบ้าง
00:43:29 → 00:43:32 อันนี้ก็สามารถหายด้วยตนเองได้นะครับเนาะ
00:43:32 → 00:43:36 อาจจะกินอ่ายาซื้อยามากินเองเช่นอ่ายา
00:43:36 → 00:43:38 เอ่อเกลือแร่ถูกมั้ครับ ORS นะครับเนาะ
00:43:38 → 00:43:42 เกลอรพวกเกือรก็ต้องควรทานมันเข้าไปคนนี้
00:43:42 → 00:43:44 เค้าก็ทานเกลือแรกอเกือแรกแล้วอคนนี้ทาน
00:43:44 → 00:43:46 เกอแรกนะครับเนาะพวกเนี้ยก็สามารถหายเอง
00:43:46 → 00:43:49 ได้นะครับยาตัวที่ 2 ที่สามารถทานได้ก็
00:43:49 → 00:43:52 คือผงถ่านรู้จักมั้ยอ่าผงถ่าน activated
00:43:52 → 00:43:55 ชาโคนะครับเนาะพวกนี้มันก็สามารถดูดซึม
00:43:55 → 00:43:58 สารพิษหรือเชื้อโรคที่อยู่ในลำไส้ของเรา
00:43:58 → 00:44:00 แล้วก็จับจับทำให้อุจจาระจับเป็นก้อนมาก
00:44:00 → 00:44:03 ยิ่งขึ้นและอันสุดท้ายก็คือยาหยุดถ่าย
00:44:03 → 00:44:05 นั่นเองนะครับยาหยุดถ่ายเนี่ยพวกนี้มันก็
00:44:06 → 00:44:08 จะทำให้อ่าลำไส้ของเราไม่ขยับเขยื้อนเร็ว
00:44:08 → 00:44:11 จนเกินไปครับอ่ายาพวกนี้เป็นยาสามัญประจำ
00:44:11 → 00:44:13 บ้านที่ทุกคนสามารถทานได้นะครับเนาะแปล
00:44:13 → 00:44:15 ว่าถ้าสมมุติว่าเราเริ่มเป็นก็เริ่มจากยา
00:44:15 → 00:44:18 พวกนี้ก่อนทานแล้วถ้ายาพวกนี้ทานแล้วรู้
00:44:18 → 00:44:21 สึกแต่ห้ามมากกว่า 5 วันเป็นต้นไปนะครับ
00:44:21 → 00:44:24 เนาะเริ่มมันยังไม่ดีขึ้นเลยอันเนี้ยต้อง
00:44:24 → 00:44:27 ไปหาแพทย์และนะครับอันเนี้ยระดับแรกระดับ
00:44:27 → 00:44:31 ที่ 2 น้ำหนักลดมากกว่า 6 ถึง 9% ของน้ำ
00:44:31 → 00:44:34 หนักตัวปัจจุบันอันนี้ก็จะเริ่มมีอาการ
00:44:34 → 00:44:38 อย่างอื่นเช่นเวียนศีรษะนะครับจังหวะเต้น
00:44:38 → 00:44:41 ของหัวใจมากขึ้นมากกว่า 100 นะครับเนาะ
00:44:41 → 00:44:45 ปัสสาวะเริ่มน้อยลงนะครับอันเนี้ยก็ต้อง
00:44:45 → 00:44:47 รีบต้องไปหาแพทย์นะครับและอันสุดท้ายหนัก
00:44:47 → 00:44:50 สุดรุนแรงสุดรุนแรงสุดน้ำหนักลดมากกว่า
00:44:50 → 00:44:53 10% ของน้ำหนักตัวผู้หญิงอาจจะชอบก็ได้
00:44:53 → 00:44:56 เนาะพอดีค่ะหมอไม่อยากไม่อยากไปไม่อยากจะ
00:44:56 → 00:44:59 ดีขึ้นแล้วค่ะอยากพออ่าคราวนี้ก็รุนแรง
00:44:59 → 00:45:03 10% ก็คือเป็นลมได้หมดสติจังหวะเต้นของ
00:45:03 → 00:45:07 หัวใจมากกว่า 120 ความดันลดลงต่ำกว่า 90
00:45:08 → 00:45:11 ก็ได้นะครับเนาะแล้วก็อาการใจสั่นนะครับ
00:45:11 → 00:45:14 เนาะหน้ามืดตามัวคลื่นไส้อาเจียนพวกเนี้ย
00:45:14 → 00:45:17 อาจจะช็อกได้ควรรีบไปโรงพยาบาลเลยทีเดียว
00:45:17 → 00:45:19 ครับอืก็ให้ดูน้ำหนักตัวแล้วกันเออแต่
00:45:19 → 00:45:21 อย่าดีใจ
00:45:21 → 00:45:24 ดีใจมันอาจจะไม่ดีก็ได้อาจจะไม่ดีก็ได้
00:45:24 → 00:45:27 ไอ้ที่น้ำหนักรถอ่ะมันน้ำอื่ไข่ไขมันไข
00:45:27 → 00:45:30 มันยังอยู่จ้าไม่ได้อยู่เดี๋มันก็กลับมา
00:45:30 → 00:45:32 เออ
00:45:32 → 00:45:35 สรุปง่ายๆของเคสนี้ก็คืออย่างแรกเลยเขา
00:45:35 → 00:45:37 ไม่ได้กังวลมากเกินไปเนาะเพราะว่าอันเนี้
00:45:37 → 00:45:39 คือเป็นมาทั้งชีวิตแล้วและที่สำคัญคือมี
00:45:39 → 00:45:41 ประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งด้วยฉะนั้น
00:45:41 → 00:45:44 อันดับแรกคือจะต้องตรวจใช่มั้คะไม่ๆถาม
00:45:44 → 00:45:46 ก่อนว่าถามพ่อแม่เป็นตอนอายุเท่าไหรเป็น
00:45:46 → 00:45:49 อายุเท่าไหร่แล้วเราก็ - 10 มาเราจะได้
00:45:49 → 00:45:51 รู้ว่าเราควรจะไปตรวจตอนอายุเท่าไหร่ตอน 2
00:45:51 → 00:45:53 การ 2 กล้องสำหรับการ 2 กล้องเท่านั้น
00:45:53 → 00:45:56 เนาะแต่ว่าณปัจจุบันถ้าสมมติว่าพ่อแม่จำ
00:45:57 → 00:45:58 ไม่ได้เป็นเมื่อไหร่ก็ไม่ซื้ออย่างแรกตอน
00:45:58 → 00:46:01 เนี้ยสามารถเจาะเลือดพืชตรวจดูว่าเอ๊ะมัน
00:46:01 → 00:46:03 ผิดปกติมั้แล้วก็ตรวจอุจจาระถูกต้องครับ
00:46:03 → 00:46:06 ถูกต้องมั้คะแล้วก็อันต่อมาก็คือเนื่อง
00:46:06 → 00:46:09 จากว่าเขามักจะท้องเสียตอนที่เครียดตั้ง
00:46:09 → 00:46:12 แต่เด็กเลยก็อาจจะต้องหาวิธีการลดความ
00:46:12 → 00:46:14 เครียดอย่างจริงจังเนาะลดความเครียดอย่าง
00:46:14 → 00:46:16 จริงจังอันนี้ฟังดูขัดแยงแต่ว่าจริงๆอ่ะ
00:46:16 → 00:46:18 มันสำคัญนะอย่างเช่นเราอาจจะสมมุตินะทำ
00:46:19 → 00:46:21 งานกลับมาตอนนี้เขาบอกว่าวิธีการคาย
00:46:21 → 00:46:23 เครียดเคือดูซีรีส์มันอาจจะต้องมีอย่าง
00:46:23 → 00:46:24 อื่นที่อาจจะได้ขยับเพื่อเยอะร่างกายมั้ย
00:46:24 → 00:46:27 อย่างเช่นสมมุติออกไปเดินเล่นหรืออาจจะ
00:46:27 → 00:46:29 ต้องหากิจกรรมอะไรที่มันแบบได้ใช้ร่างกาย
00:46:29 → 00:46:31 หน่อยนะอย่างเมื่อกี้ที่หมอบอกไปคือทุก
00:46:31 → 00:46:34 ครั้งที่คุณมีความเครียดมันทำให้กรดใน
00:46:34 → 00:46:36 กระเพาะอาหารหลังมากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้น
00:46:36 → 00:46:38 เนี่ยอ่ะหมอเข้าใจว่าคนไข้คนนี้อาจจะเป็น
00:46:38 → 00:46:41 คนที่แบบตั้งใจทำงานตั้งใจตลอดเวลาเขาอาจ
00:46:41 → 00:46:44 จะลืมกินข้าวหรือกินอาหารระหว่างมือหรือ
00:46:44 → 00:46:46 เปล่าแล้วปล่อยให้ท้องมันว่างจนเกินไป
00:46:46 → 00:46:49 แล้วพอความเครียดมันมามันก็เลยทำให้แสบ
00:46:49 → 00:46:52 กระเพาะหมดเลยถูกมยเพราะฉะนั้นก็อาจจะลอง
00:46:52 → 00:46:54 มีของว่างบ้างนะครับเนาะทุกๆแบบ 2
00:46:54 → 00:46:56 ชั่วโมงทุกๆ 4 ชั่วโมงอะไรพวกเนี้ยหรือ
00:46:56 → 00:46:59 กินพวกพวกโปรตีนปั่นหรืออะไรพวกเนี้ยครับ
00:46:59 → 00:47:01 เพื่ออย่างน้อยไม่ให้ท้องมันว่างจนเกินไป
00:47:01 → 00:47:04 อืฉะนั้นหลักๆของเคสเนี้ยก็น่าจะเป็น 2
00:47:04 → 00:47:07 พอย์นี้เนาะพอยที่ 3 อันนี้ขอเสริมเองคือ
00:47:07 → 00:47:11 ต้องรีบเพราะไม่รู้นะส่วนตัวคือเราทุกวัน
00:47:11 → 00:47:13 นี้ก็เห็นข่าวว่าคนเป็นมะเร็งก็เด็กลง
00:47:13 → 00:47:15 เรื่อยๆเนาะแล้วบางทีอย่างของเขาเนี่ย
00:47:15 → 00:47:17 ค่อนข้างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นมีคนใน
00:47:17 → 00:47:19 ครอบครัวเป็นมะเร็งเนาะแล้วก็ท้องเป็นคน
00:47:19 → 00:47:22 ท้องร่วงมานานตั้งแต่เกิดแล้วเนี่ยค่อน
00:47:22 → 00:47:24 ข้างสุ่มเสี่ยงเลยฉะนั้นไม่แน่ใจว่าเขา
00:47:24 → 00:47:26 เป็นคนที่ตรวจสุขภาพประจำปีอยู่แล้วหรือ
00:47:26 → 00:47:29 ไม่เนาะถ้าอันนี้ก็อาจหวังว่าเทปเนี้ยถ้า
00:47:29 → 00:47:32 ได้ออกไปอยากจะให้เป็นเหมือนแบบการเตือน
00:47:32 → 00:47:34 ใจว่าถึงเวลาตรวจแล้วนะเนาะแล้วก็อาจจะ
00:47:34 → 00:47:36 ถึงเวลาที่จ้องจัดการกับความเครียดอย่าง
00:47:36 → 00:47:38 จริงจังก่อนที่มันจะกลายเป็นโรคร้ายอืใช่
00:47:38 → 00:47:41 ครับอก็วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะหมอจิมมี่
00:47:41 → 00:47:44 ที่มาให้ความรู้ทางด้านขับถ่ายนะคะไม่ว่า
00:47:45 → 00:47:47 จะเป็นท้องเสียท้องผูกอยากให้ทุกคนถ่ายดี
00:47:47 → 00:47:49 อยากให้ทุกคนถ่ายดีอยากให้ทุกคนปลดทุกข์
00:47:49 → 00:47:52 ปลดทุกข์หมอจิมมี่ช่วยปลดทุกข์ได้แล้ว
00:47:52 → 00:47:55 เดี๋ยวไว้โอกาสน่าจะชวนมาตอบคำถามใหม่นะ
00:47:55 → 00:47:57 คะเพราะว่าจริงๆหมอหมอจิมมี่ก็มีความถนัด
00:47:57 → 00:48:00 มากมายเนาะแล้วก็จะได้มาคุยกันในประเด็น
00:48:00 → 00:48:03 อื่นๆนะคะก็ถ้าใครชอบคลิปนี้นะคะแล้วก็
00:48:03 → 00:48:05 รู้สึกว่าตัวเองเนี่ยอยากจะมีคำถามเรื่อง
00:48:05 → 00:48:06 ทางด้านสุขภาพสามารถส่งเข้ามาได้เลยใน
00:48:07 → 00:48:09 ลิงก์ด้านล่างนะคะหรือสามารถสแกน QR coด
00:48:09 → 00:48:12 มาก็ได้ค่ะแล้วพบกันใหม่ใน EP หน้านะคะ
00:48:12 → 00:48:17 สวัสดีค่ะสวัสดีครับ
00:00:00 → 00:00:03 ของผูกตลอดทั้งที่ดื่มน้ำเยอะมากกินผัก
00:00:03 → 00:00:05 ตลอดเลยเบ่งไม่สุดเหมือนมีอะไรค้างอยู่
00:00:05 → 00:00:08 ข้างล่างอ่ะเหมือนอึไม่สุดมันติดอยู่บาง
00:00:08 → 00:00:12 คนถึงกับต้องใช้นิ้วดึงมันออกมา 50% ของ
00:00:12 → 00:00:15 คนที่เป็นท้องปลูกเรื้อรังเนี่ยเป็นโรคลำ
00:00:15 → 00:00:18 ไส้แปกปรวนอาจจะส่งผลทำให้เรามีโรคร้าย
00:00:18 → 00:00:20 อย่างเช่นมะเร็งในลำไส้ในอนาคตได้ถ้าอยาก
00:00:20 → 00:00:24 ให้ขับขยายดีขึ้น 1 นมเปรี้ยว 2 เม็ดแมง
00:00:24 → 00:00:27 รักมันช่วยได้มั้คะต้องกินยอาหารไฟเบอร์
00:00:27 → 00:00:29 ให้ถึง 25-30 กรัมต่อวันและไอ้ 30 กว่า
00:00:29 → 00:00:33 มันคือเท่าไหร่อ่ะมันกี่เ่งหรอหมอท้อง
00:00:33 → 00:00:35 เสียหนักมากโดยเฉพาะเวลาเครียดค่ะความ
00:00:35 → 00:00:37 เครียดมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของแค่จิต
00:00:37 → 00:00:39 ใจเนาะความเครียดมันก็ส่งผลกระทบต่อ
00:00:39 → 00:00:41 อวัยวะอื่นๆในร่างกายเหมือนกันแล้วทุกๆ
00:00:42 → 00:00:44 ครั้งที่คุณเครียดร่างกายกระเพาะอาหารของ
00:00:44 → 00:00:47 คุณจะหลั่งกรดมากยิ่งขึ้นไอ้กรดที่มัน
00:00:47 → 00:00:49 หลั่งออกมาเนี่ยมันก็จะทำลายเยื่อบุ
00:00:50 → 00:00:52 กระเพาะอาหารของเราและทำให้ลำไส้ของเรา
00:00:52 → 00:00:54 แปรปรวนมากยิ่งขึ้นมีประวัติในครอบครัว
00:00:54 → 00:00:57 ที่เป็นมะเร็งด้วยเลยกลัวว่าตัวเองจะเป็น
00:00:57 → 00:01:01 สมมุติมี 1 คนในครอบครัวความเสี่ยงคือ 2-3
00:01:01 → 00:01:05 เท่าถ้า 2 คนความเสี่ยงก็จะประมาณ 3-4
00:01:05 → 00:01:08 เท่าเฮ้ยเยอะมาก
00:01:08 → 00:01:11 สวัสดีค่ะอยู่กับ Doctors พcastที่จะพา
00:01:11 → 00:01:14 คุณไปพบแพทย์เพื่อถามคำถามสุขภาพเจน
00:01:14 → 00:01:17 รัฐพันธ์พันพินิจค่ะนี่ก็เป็น EP 4 แล้ว
00:01:17 → 00:01:20 นะคะของ AS Doctors ต้องขอขอบคุณทุกไลค
00:01:20 → 00:01:23 ทุกคอมเมนต์และทุกแชร์เลยนะคะจุดประสงค์
00:01:23 → 00:01:25 ของการที่ทำพcสนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะให้ข้อ
00:01:25 → 00:01:28 มูลกับทุกๆคนนะคะเรื่องสุขภาพโดยให้ทุกคน
00:01:28 → 00:01:30 เนี่ยเขียนปัญหาของตัวเองเข้ามานะคะแล้ว
00:01:30 → 00:01:32 ทางเราเนี่ยก็จะเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทาง
00:01:32 → 00:01:35 ด้านนั้นมาตอบคำถามจะได้คำถามจะได้คำตอบ
00:01:35 → 00:01:38 เนาะที่ถูกต้องแม่นยำแล้วก็น่าจะเป็น
00:01:38 → 00:01:41 ประโยชน์สำหรับตัวผู้ถามนะคะแล้วก็ใคร
00:01:41 → 00:01:43 หลายๆคนที่กำลังชมคลิปนี้อยู่และมีปัญหา
00:01:43 → 00:01:46 ที่คล้ายคลึงกันค่ะยังไงถ้ารู้สึกว่าคลิป
00:01:46 → 00:01:48 แบบนี้เป็นคลิปที่มีประโยชน์ยังไงรบกวนกด
00:01:48 → 00:01:51 Subscribe เป็นกำลังใจให้ทีมของเราด้วย
00:01:51 → 00:01:54 นะคะและในวันนี้นะคะเราได้รวบรวมคำถาม
00:01:54 → 00:01:57 เกี่ยวกับการขับถ่ายมาค่ะสำหรับบางคนนะ
00:01:57 → 00:01:59 การขับถ่ายเป็นเรื่องที่ง่ายมากขับถ่าย
00:01:59 → 00:02:01 ทุกวันเลยแต่บางคนเนี่ยต้องพึ่งยาหรือว่า
00:02:01 → 00:02:04 มีปัญหามากๆเลยนะคะก็เลยเชิญแพทย์ผู้
00:02:04 → 00:02:06 เชี่ยวชาญท่านนี้มาค่ะเพราะว่ามี
00:02:06 → 00:02:09 ประสบการณ์ช่วยให้คนปลดทุกข์มาแล้วน่าจะ
00:02:10 → 00:02:12 หลายร้อยคนนะคะกับหมอท่านนี้เลยค่ะหมอ
00:02:12 → 00:02:15 จิมมี่ค่ะสวัสดีค่ะคุณสวัสดีครับวันนี้
00:02:15 → 00:02:17 เราจะมาช่วยกันทุกคนปลดทุกข์กันใช่มั้ยคะ
00:02:17 → 00:02:20 เรื่องเอามันออกจากร่างกายเอามันออกไปซะ
00:02:20 → 00:02:22 หรือบางคนออกเยอะเกินก็เราแก้มันได้เรา
00:02:22 → 00:02:24 หยุดมันได้แก้มันได้อ่าเดี๋ยวขอให้หมอ
00:02:24 → 00:02:26 จิมมี่ช่วยแนะนำตัวหน่อยได้มั้คะได้ครับ
00:02:26 → 00:02:28 สวัสดีครับนายแพทย์สุทธิพจน์พัรัฐมงคลการ
00:02:28 → 00:02:31 นะครับหรือหมอจิมมี่มาจากคลินิกณเวลาครับ
00:02:31 → 00:02:33 ผมก็เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
00:02:33 → 00:02:36 วิทยาศาสตร์ป้องกันถนัดด้านการรักษาแบบ
00:02:36 → 00:02:38 องค์รวมไปถึงการดูแลสุขภาพการออกกำลัง
00:02:38 → 00:02:41 ร่างกายรวมไปถึงการดูแลด้านฮอร์โมนครับ
00:02:41 → 00:02:43 โอเคค่ะวันนี้เราจะมาปวดทุกข์กันได้เลย
00:02:43 → 00:02:46 ครับเรื่องแรกนะคะเกี่ยวกับคนที่ท้องผูก
00:02:46 → 00:02:49 ตลอดทั้งที่ดื่มน้ำเยอะมากกินผักตลอดเลย
00:02:49 → 00:02:52 แต่ไม่อยากกินยาถ่ายเพราะกลัวว่าจะติดจะ
00:02:52 → 00:02:55 ต้องทำยังไงดีนะคะก็เลยส่งคำถามมาถามค่ะ
00:02:55 → 00:02:58 อันนี้คือคุณบีมอายุ 37 ปีนะคะทำร้าน
00:02:58 → 00:03:01 เบเกอรี่เล็กๆบ้านอยู่ที่เชียงใหม่ค่ะ
00:03:01 → 00:03:04 สวัสดีค่ะคุณหมอประมาณ 4 ปีหลังมาเนี่ย
00:03:04 → 00:03:07 บีมกลายเป็นคนที่ขับถ่ายยากมากๆประมาณ 3-5
00:03:07 → 00:03:10 วันครั้งโอ้โห 3-5 วันต่อครั้งใช่ใช่ก็
00:03:10 → 00:03:12 คือแบบว่าทุก 3 วันก็จะ 1 ครั้งหรือไม่ก็
00:03:12 → 00:03:15 บางที 5 วันกว่าจะถ่ายดีใช่ทั้งที่เป็นคน
00:03:15 → 00:03:18 ที่ชอบกินผักสดมากกินอย่างกับวัวเลยค่ะ
00:03:18 → 00:03:22 อันนี้เขาพูดเองนะคะชอบกินผักแนวใบๆแล้ว
00:03:22 → 00:03:25 ก็ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรบวกๆทุกวันเลยนะคะ
00:03:25 → 00:03:27 ทุกเช้าก็จะดื่มกาแฟพร้อมกับเค้กที่ไม่
00:03:27 → 00:03:30 ใส่ครีมแล้วจะตบท้ายด้วยผลไม้ค่ะถึงแม้
00:03:30 → 00:03:32 ว่าจะทำเบคอรี่แต่ก็ไม่ได้กินพวกเค้กหรือ
00:03:33 → 00:03:36 ขนมปังตลอดนะคะก็จะมีชิมบ้างส่วนกลางวัน
00:03:36 → 00:03:40 เนี่ยก็จะกินพวกผักสดผักต้มไข่ไก่เมนู
00:03:40 → 00:03:42 ทั่วไปเลยค่ะแต่มื้อเย็นเนี่ยจะไม่ทาน
00:03:42 → 00:03:45 เพราะว่าจะทำ IF หรือว่าการฟสติ้งงดอาหาร
00:03:45 → 00:03:47 เย็นนะคะแต่ในวันหยุดเสาร์อาทิตย์เนี่ยก็
00:03:47 → 00:03:50 จะมีไปกินข้าวนอกบ้านอันนี้ก็จะกินหลาก
00:03:50 → 00:03:52 หลายเลยค่ะทุกอย่างที่กินเนี่ยพยายามกิน
00:03:52 → 00:03:55 ให้Healตี้จะได้ดูแลสุขภาพแต่ทำไมบีมถึง
00:03:55 → 00:03:59 เป็นคนที่ท้องผูกถูกหรอคะอะไรที่คนอะไร
00:03:59 → 00:04:02 ที่คนบอกว่าช่วยให้ขับถ่ายเนี่ยบีมลองหมด
00:04:02 → 00:04:06 ค่ะไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยวการกินเม็ดแมง
00:04:06 → 00:04:09 รักหรือว่าการกินโปรไบโอติกช่วงแรกของการ
00:04:09 → 00:04:11 กินโปรไบโอติกเนี่ยก็ช่วยได้นะคะแต่ช่วย
00:04:11 → 00:04:13 ได้แค่ 2 อาทิตย์หลังจากนั้นก็ไม่ได้ช่วย
00:04:13 → 00:04:16 แล้วค่ะจริงๆก็อยากจะทานยาถ่ายแต่ว่ากลัว
00:04:16 → 00:04:19 จะติดไปนิสัยแล้วไม่สามารถถ่ายเองได้บีม
00:04:19 → 00:04:22 กับสามีเนี่ยทานอาหารเหมือนกันเลยค่ะแต่
00:04:22 → 00:04:25 สามีเนี่ยขับถ่ายทุกวันเลยครับสามีปกติ
00:04:25 → 00:04:28 ไม่เป็นไ่ใช่แต่พูใช่ถูกต้องค่ะทั้งที่
00:04:28 → 00:04:31 ทานเหมือนกันใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนะคะตอน
00:04:31 → 00:04:34 นี้ก็เลยแก้ไขด้วยการกินเผ็ดมากๆเพราะว่า
00:04:34 → 00:04:36 พอกินเผ็ดเนี่ยตื่นเช้ามาก็จะรู้สึกโล่ง
00:04:36 → 00:04:39 เลยค่ะแต่พอทำแบบเจะรู้สึกปวดท้องคุณหมอ
00:04:39 → 00:04:42 พอจะมีวิธีที่จะแนะนำให้ขับถ่ายได้ดีขึ้น
00:04:42 → 00:04:45 โดยที่ไม่ต้องทรมานแบบนี้มั้ยคะหรือว่า
00:04:45 → 00:04:47 บีมกำลังจะป่วยเป็นโรคลำไส้อะไรบางอย่าง
00:04:47 → 00:04:50 โดยที่ไม่รู้ตัวหรือเปล่าควรไปตรวจมั้ยคะ
00:04:50 → 00:04:53 แล้วควรตรวจอะไรบ้างปกติคนไข้ก็คือท้อง
00:04:53 → 00:04:55 ผูกเป็นประจำแต่ไม่มีท้องเสียเลยถูกมั้ย
00:04:55 → 00:04:56 ครับคือท้องของผูกอย่างเดียวเลยค่ะผูก
00:04:57 → 00:04:59 อย่างเดียวปีที่ผ่านมาเนาะแล้วก็ทำอยู่
00:04:59 → 00:05:04 เชียงใหม่ทำขายทำเบเกอรี่มีกินขนมบ้างตอน
00:05:04 → 00:05:06 ที่เวลาทำนิดหน่อยแต่ว่าส่วนใหญ่เขาบอก
00:05:06 → 00:05:10 ว่าเพยายามกินตลอดตลอดกินผักบ้างกินด้วย
00:05:10 → 00:05:12 ถูกมั้ครับคราวนี้อย่างแรกต้องมาเข้าใจ
00:05:12 → 00:05:14 ก่อนคำว่าท้องผูกก่อนเพราะท้องผูกแต่ละคน
00:05:14 → 00:05:17 ไม่เหมือนกันเรามาเข้าใจคำว่าถ่ายปกติ
00:05:17 → 00:05:21 ก่อนถ่ายปกติจำกฎเลข 3 ครับเลข 3 เลข 3
00:05:21 → 00:05:26 เนาะก็คือวันละ 3 ครั้งจนถึงอาทิตย์ทิศละ
00:05:26 → 00:05:28 3 ครั้งอันนี้ถือว่าปกติแปลว่าถ้า 1 วัน
00:05:28 → 00:05:31 เราถ่าย 3 ครั้งปกติหรือว่าถ้า 3 วันถ่าย
00:05:31 → 00:05:34 1 ครั้งก็ยังปกติก็ยังปกติอยู่นะครับ
00:05:34 → 00:05:36 เนาะแต่คราวนี้ถ้าเราพูดถึงเรื่องท้องผูก
00:05:36 → 00:05:38 ก่อนแล้วกันถ้าท้องผูกหมายความว่าเลย 3
00:05:38 → 00:05:41 วันไปแล้วอาจจะอย่างในเคสนี้เนี่ยเขาบอก
00:05:41 → 00:05:44 ว่าบางครั้ง 3 วันครั้งแต่บางครั้ง 5 วัน
00:05:44 → 00:05:46 ครั้ง 5 วันครั้งเนี่ยถือว่านับเป็นท้อง
00:05:46 → 00:05:48 ผูกไปแล้วเพราะว่ามันใช้เวลานานมากจนเกิน
00:05:48 → 00:05:51 ไปนะครับเนาะคราวนี้อาการท้องผูก 1 เวลา
00:05:51 → 00:05:53 นานอย่างที่บอกไปมากกว่า 3 วันถูกมั้ย
00:05:53 → 00:05:58 ครับ 2 ก็คือเบ่งยากรู้สึกลำบากในการถ่าย
00:05:58 → 00:06:01 อุจจาระก้อนเล็กลงนะครับต้องเบ่งนะครับ
00:06:01 → 00:06:05 เนาะคราวนี้มันมีระยะเวลาที่บอกก็คือ
00:06:05 → 00:06:07 เรื้อรังกับทั่วๆไปเรื้อรังหมายความว่า
00:06:07 → 00:06:10 คุณเป็นอย่างเงี้ยมานานมากกว่า 3 เดือน
00:06:10 → 00:06:13 คุณถือว่าเป็นของผูกเรื้อรังเขตนี้ถือว่า
00:06:13 → 00:06:16 ใช่เพราะ 4 ปีอันนี้คือนานมากเนื้อรังแน่
00:06:16 → 00:06:18 นอนแล้วมันก็จะมีใครทีเดียวว่าเออท้องผูก
00:06:18 → 00:06:22 จริงๆอ่ะมีลักษณะใหญ่ๆ 1 ถ่ายอ่ะมากกว่า 3
00:06:22 → 00:06:26 วันอุจจาระเบ่งไม่สุดรอันที่ 3 เหมือนมี
00:06:26 → 00:06:28 อะไรค้างอยู่ข้างล่างอ่ะเหมือนอึไม่สุด
00:06:28 → 00:06:31 มันไม่สุดมันติดอ่ะมันติดอยู่อันที่ 4
00:06:31 → 00:06:34 บางคนถึงกับต้องใช้นิ้วเคยเคยได้ยินมั้ย
00:06:34 → 00:06:36 เหมือนแบบว่าเฮ้ยรู้สึกมันมีอะไรอยู่ข้าง
00:06:36 → 00:06:40 ลปรืดดึงมันออกมาเออดึงมันออกมานะครับ
00:06:40 → 00:06:42 เนาะหรืออุจจาระเนี่ยรูปร่างเปลี่ยนไป
00:06:42 → 00:06:45 เล็กลงอันนี้ก็จะเข้าคาทีของคำว่าท้องผูก
00:06:45 → 00:06:47 นะครับเนาะแต่ท้องผูกท้องผูกเนี่ยเราก็
00:06:48 → 00:06:50 ต้องมาหาสาเหตุว่าเฮ้ยมันเกิดจากอะไรหลัก
00:06:50 → 00:06:52 ๆเรื่องของการท้องผูกอ่ะครับแบ่งเป็น 2
00:06:52 → 00:06:55 สาเหตุอันแรกเรียกเรียกว่า primary
00:06:55 → 00:06:57 consipation อันนี้ concipation ก็คือ
00:06:57 → 00:07:00 ว่าอะไรที่มันเกี่ยวกับมันมีระบบทางเดิน
00:07:00 → 00:07:03 อาหารที่ผิดปกติเองนะครับอันที่ 2 เรียก
00:07:03 → 00:07:05 ว่า secondary constipation secondary
00:07:05 → 00:07:08 conscipation คือมาจากโรคอื่นๆหรือว่ายา
00:07:08 → 00:07:10 อื่นๆหรือเปล่าที่มากระทบต่อเรื่องระบบลำ
00:07:11 → 00:07:13 ไส้ของเราคราวนี้เรามาดูเรื่องของ primary
00:07:13 → 00:07:15 ก่อนก็คือเรื่องของลำไส้เองนะครับเนาะ
00:07:15 → 00:07:18 เรื่องของลำไส้ไส้เองอย่างแรกอการขยับ
00:07:18 → 00:07:23 เขยื้อนผิดปกตินะครับเนาะซึ่งส่วนมาก 50%
00:07:23 → 00:07:25 ของคนที่เป็นท้องผูกเหลื้อรังเนี่ยเป็น
00:07:25 → 00:07:29 โรคลำไส้แปรปรวนอืหมายความว่าการขยับ
00:07:29 → 00:07:32 เขยื้อนหรือกินอาหารบางชนิดเข้าไปแล้วมัน
00:07:32 → 00:07:36 ทำให้ลำไส้ขยับไม่ได้หรือขยับช้าลงคือ
00:07:36 → 00:07:38 จริงๆอ่ะการขยับเขยื้องก็คือเวลาเรากิน
00:07:38 → 00:07:40 อาหารเนาะมันก็จะเข้าไปในกระเพาะแล้วก็จะ
00:07:40 → 00:07:43 ลงแล้วก็ย่อยลงไปแล้วก็ย่อยลงมาแต่ที
00:07:43 → 00:07:47 เนี้ยปัญหาเกิดขึ้นก็คือมันอาจจะติดใช่
00:07:47 → 00:07:50 การขยับยืใช่การการทำงานการทำงานของระบบ
00:07:50 → 00:07:53 ลำไส้มันแปรปรวนมันผิดปกติไปนะครับเนาะ
00:07:54 → 00:07:58 อันที่ 2 คือกล้ามเนื้อรอบๆลำไส้ไม่ดีไม่
00:07:58 → 00:08:00 แข็งแรงเช่นโดยเฉพาะคือเราเวลาเราจะจะ
00:08:00 → 00:08:02 เบ่งอ่ะมันต้องใช้กล้ามเนื้อช่องท้องเนาะ
00:08:02 → 00:08:04 มันจะออะไรอย่างเงี้ยกล้ามเนื้อช่องท้อง
00:08:04 → 00:08:06 ไม่แข็งแรงหรือเปล่าแล้วผู้หญิงอย่าง
00:08:06 → 00:08:08 เงี้ยเ้าเรียกว่าอุ้มเชิงกลางไม่แข็งแรง
00:08:08 → 00:08:11 หรือเปล่าเอออันนี้ก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่ง
00:08:11 → 00:08:15 ที่ทำให้หูรูดกับการเบ่งการถ่ายมันไม่
00:08:15 → 00:08:18 สัมพันธ์กันทำให้การถ่ายมันถ่ายไม่ได้และ
00:08:18 → 00:08:21 อันสุดท้ายก็คือเป็นภาวะเค้าเรียกว่าลำ
00:08:21 → 00:08:24 ไส้ขยับขบเขยื้อนช้าแต่อันนี้เจอน้อยมาก
00:08:24 → 00:08:26 นะครับเนาะอลำไส้ขยับเขยื้อนช้านี่มัน
00:08:26 → 00:08:29 เกิดขึ้นแบบช้าผิดปกติมากกว่าคนอื่นแบบคน
00:08:29 → 00:08:32 อื่นมันแบบปึ๊บๆๆคนนี้อาจจะแบบเออนานๆที
00:08:32 → 00:08:35 กว่าจะขยับกว่าจะขี้เกียจแต่อันนี้เป็น
00:08:35 → 00:08:38 เป็นอะไรที่เจอน้อยที่สุดนะครับเนาะอ่ะ
00:08:38 → 00:08:39 เรามาดูเมื่อกี้เราพูดถึงเรื่องของ
00:08:39 → 00:08:42 primary และเรามาพูดเรื่องของ secondary
00:08:42 → 00:08:44 กว่า secondary อย่างแรกที่เจอเยอะแล้ว
00:08:44 → 00:08:47 กันก็คือแน่นอนเรื่องของก้อนนะครับการ
00:08:47 → 00:08:51 เป็นมะเร็งการมีอะไรไปติดๆขัดๆการเดินทาง
00:08:51 → 00:08:52 ของอุจจาระหรือเปล่า
00:08:52 → 00:08:55 ทำให้มันมันไม่ออกมานะครับอันที่ 2 ก็คือ
00:08:55 → 00:09:00 ภาวะของโรคบางชนิดเช่นเป็นไทรรอยด์ต่ำอื
00:09:00 → 00:09:03 นะครับไทรรอยดต่ำเนี่ยก็ทุกอย่างจะช้าไป
00:09:03 → 00:09:06 หมดขี้เกียจน้ำหนักขึ้นแต่จริงๆไทรรอยด์
00:09:06 → 00:09:08 ต่ำมันคือต่อมที่อยู่ตรงต่อมไทรรอยด์ถูก
00:09:08 → 00:09:11 มั้ครับแต่ต่อมไทรรอยด์ไทรรอยด์เนี่ยมัน
00:09:11 → 00:09:13 มีหน้าที่ในการควบคุมอวัยวะต่างๆในร่าง
00:09:13 → 00:09:17 กายทำให้ระบบการเผาผลาเอ่อลดน้ำหนักด้วย
00:09:17 → 00:09:20 และรวมไปถึงจังหวะเต้นของหัวใจการทำงาน
00:09:20 → 00:09:23 ของลำไส้คราวนี้ยิ่งยิ่งคุณมีไทรรอยด์ทำ
00:09:23 → 00:09:25 งานไม่ดีหรือไทรอยด์ที่ต่ำผลิตออกมาไม่
00:09:25 → 00:09:29 ได้ส่งผลกระทบต่อลำไส้ลำไส้ก็ทำงานช้าลง
00:09:29 → 00:09:33 นะครับเนาะยายาบางครั้งก็เป็นตัวนึงที่ทำ
00:09:33 → 00:09:37 ให้เกิดอาการท้องผูกได้เช่นการกินยาลดกด
00:09:37 → 00:09:41 ในกระเพาะยากินยาปฏิชีวนะในระยะเวลานานนะ
00:09:41 → 00:09:44 ครับเนาะยาทางด้านจิตเวทยานอนหลับพวกนี้
00:09:44 → 00:09:47 ก็จะไปกดการขยับเขยื้อนของลำไส้อันนี้คือ
00:09:47 → 00:09:51 อเอิ่มประเภทนะครับของท้องผูกแล้วก็ต้อง
00:09:51 → 00:09:54 มาให้ได้ว่าเอ๊ะของเขาเป็นแบบไหนและอัน
00:09:54 → 00:09:56 สุดท้ายของเรื่องของ secondary คือเรื่อง
00:09:56 → 00:09:58 ของอาหารการกินบางชนิดก็ทำให้เราเกิด
00:09:58 → 00:10:01 อาการท้องผูกกับเรื่องของการติดเชื้อได้
00:10:01 → 00:10:04 เหมือนกันแต่ในเคสเนี้ยค่ะถ้าคนทั่วไป
00:10:04 → 00:10:07 เนาะจะคิดว่ากินผักเยอะกินน้ำเยอะยังไงก็
00:10:07 → 00:10:09 ต้องถ่ายแต่เนี้ยกินผักเยอะกินน้ำเยอะแต่
00:10:09 → 00:10:13 ทำไมมันส่วนทางกันคราวนี้เนี่ยคือการกิน
00:10:13 → 00:10:15 น้ำเยอะการกินผักเยอะมันไม่ผิดนะคือมัน
00:10:16 → 00:10:18 เป็นอะไรที่ทุกคนรู้ว่าเฮ้ยต้องทำมันมัน
00:10:18 → 00:10:20 ดีอยู่แล้วแล้วคนนี้กินน้ำมากกว่า 2 ลิตร
00:10:20 → 00:10:22 อันนี้ดีมากนะครับเนาะเพราะว่าหมอก็ไม่
00:10:22 → 00:10:24 รู้ว่าน้ำหนักตัวเขาเท่าไหร่แต่ปกติแล้ว
00:10:24 → 00:10:26 การคำนวณของน้ำที่เราต้องกินต่อวันนะครับ
00:10:26 → 00:10:30 คือน้ำหนักตัวคูณ 30 เราจะได้จำนวนของ
00:10:30 → 00:10:33 ปริมาณน้ำที่เราควรดื่มต่อวันนะครับเนาะ
00:10:33 → 00:10:35 คราวนี้ปัจจัยของเขาไม่ใช่เกี่ยวกับ
00:10:35 → 00:10:37 เรื่องของการกินผักหรือน้ำของเขาคือ
00:10:38 → 00:10:41 เรื่องของอาชีพอือาชีพเบอร์เกอรรี่อ่ะหมอ
00:10:41 → 00:10:44 ขอขอข้ามอันนี้ไปก่อนขอยกตัวอย่างหมอเคย
00:10:45 → 00:10:48 เจอคนไข้กับตัวเองเลยเคสแรกเป็นผู้ชายชอบ
00:10:48 → 00:10:51 ทำเบเกอรรี่แต่ไม่ชอบกินขนมเค้กอ้าแต่ไม่
00:10:51 → 00:10:55 ชอบกินขนมเค้กไม่ชอบแต่ชอบทำขายทำขาย
00:10:55 → 00:10:57 เหมือนกันแล้วทำขายมาหลายๆปีแต่มีอาการ
00:10:57 → 00:11:00 ท้องผูกเหมือนกันคราวนี้เนี่ยต้องเข้าใจ
00:11:00 → 00:11:03 ก่อนว่าทุกๆครั้งที่คุณทำเบอร์เกอร์ขนม
00:11:03 → 00:11:07 ปังเบอร์เกอร์กับขนมปังทำมาจากอะไรครับ
00:11:07 → 00:11:10 ยีสแป้งยีสแป้งถูกมั้ครับคือถึงแม้คุณไม่
00:11:10 → 00:11:13 ได้กินแต่การที่คุณใช้มือ
00:11:13 → 00:11:18 สัมผัสในห้องมีกลิ่นผงแป้งผงอะไรทั้งยีส
00:11:18 → 00:11:22 หรือเชื้อรานั้นก็เข้าสู่ร่างกายของเราออ
00:11:22 → 00:11:25 นะครับเนาะและคือคุณทำมันทุกวันผมก็ไม่
00:11:25 → 00:11:28 หมอก็ไม่รู้เนาะว่าเ้าทำเค้กทุกวันหรือ
00:11:28 → 00:11:31 เปล่าแต่ทำมาระยะเวลานานหลายปีเพราะเป็น
00:11:31 → 00:11:33 อาชีพของเา้าอ่ะเนาะเพราะฉะนั้นการที่คุณ
00:11:34 → 00:11:37 สัมผัสหรือสูดดมมันเข้าไปเนี่ยมันก็สะสม
00:11:37 → 00:11:40 เข้าไปเรื่อยๆทำให้เชื้อราหรือยีสมันก็
00:11:40 → 00:11:42 เข้าไปอยู่ในร่างกายอเคส 2 เหมือนกันอัน
00:11:42 → 00:11:46 นี้ก็ทำงานอยู่ในโรงงานเลยนะโรงงานเป็นคน
00:11:46 → 00:11:49 ไข้ผู้หญิง 2 คน 2 คนนี้เนี่ยทำงานเหมือน
00:11:49 → 00:11:53 กันเลยเค้ามีหน้าที่ในการตรวจชิมว่าขนม
00:11:53 → 00:11:56 ที่ผลิตออกมาเนี่ยรสชาติถูกต้องตามกฎหมาย
00:11:56 → 00:11:58 หรือตามที่เขาต้องการหรือเปล่าอ๋อมีหน้า
00:11:58 → 00:12:00 ที่คือชิมอย่างเดียวเป็นนักชิมอย่างเดียว
00:12:00 → 00:12:03 อืแต่ว่าปกติอยู่ข้างนอกก็ไม่กินขนมหวาน
00:12:03 → 00:12:05 ไม่กินของหวานเหมือนกันแต่มากินในแหละกิน
00:12:05 → 00:12:08 อย่างเงี้ยทุกวันเนาะโอหทุกวันแล้วก็มี
00:12:08 → 00:12:11 อาการท้องผูกเหมือนกันเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:12:11 → 00:12:14 ของคนนั้นหมอคิดว่าน่าจะเป็นแบบเรื่องของ
00:12:14 → 00:12:16 อาชีพเขาหรือเปล่าที่ทำให้เขามีอาการท้อง
00:12:16 → 00:12:18 ผูกคราวนี้ในน้ำไส้ของเรามีจุลินทรีย์ถูก
00:12:18 → 00:12:21 มั้ยจุ้ตัวจุลินทรีย์ก็คือเป็นแบคทีเรีย
00:12:21 → 00:12:24 เป็นแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของเรามีหน้า
00:12:24 → 00:12:26 ที่ในการย่อยอาหารดูดซึมสารอาหารเข้าใน
00:12:26 → 00:12:29 ร่างกายมันมีทั้งตัวดีและตัวไม่ดีคราวนี้
00:12:29 → 00:12:32 ปกติแล้วถ้าคุณสุขภาพแข็งแรงเนี่ยตัวดี
00:12:32 → 00:12:35 มันก็จะมีมากกว่าตัวไม่ดีก็คือตัวดีก็จะ
00:12:35 → 00:12:38 ควบคุมตัวไม่ดีนะครับเนาะแต่ถ้าเผลอไปกิน
00:12:38 → 00:12:41 อะไรผิดปกติไม่ได้ดูแลสุขภาพอาหารใน
00:12:41 → 00:12:44 ปัจจุบันของคนไทยก็ส่งเสริมเรื่องของตัว
00:12:45 → 00:12:48 ไม่ดีเยอะมากเนาะเรื่องของขนมต่างๆมากมาย
00:12:48 → 00:12:52 ถ้าหรือไปกินยาบางชนิดที่มันทำลายตัวดีพอ
00:12:52 → 00:12:55 ตอนเนี้ยตอนนี้ตัวดีมันน้อยลงตัวไม่ดีมัน
00:12:55 → 00:12:58 มากขึ้นเพราะฉะนั้นเนี่ยเชื้อราก็เป็นนับ
00:12:58 → 00:13:01 ถึงตัวไม่ดีเหมือนกันนะครับอือันก็จะทำ
00:13:01 → 00:13:05 ให้เราเกิดอาการได้นะครับในเทสนี้คือยีส
00:13:06 → 00:13:09 ก็คือเหมือนเชื้อราที่เป็นจุลินทรีย์ไม่
00:13:09 → 00:13:11 ดีในร่างกายเราใช่มั้คะใช่ครับมันไปเจริญ
00:13:11 → 00:13:13 เติบโตมากขึ้นคราวนี้พอเชื้อรามันไปอยู่
00:13:13 → 00:13:16 ในร่างกายมันต้องอยู่ที่ไหนที่ที่มีอาหาร
00:13:16 → 00:13:18 ที่ไหนอ่ะมีลำไส้มันมีอาหที่อื่นมันไม่มี
00:13:18 → 00:13:20 อาหารถูกครับแล้วมันไปอยู่ที่นั้นแล้วมัน
00:13:20 → 00:13:24 ก็เจริญเติบโตคราวนี้เชื้อราชอบรู้มชอบ
00:13:24 → 00:13:27 รับประทานอะไรเป็นอาหารน่าจะก็พวกขนมปัง
00:13:27 → 00:13:31 มั้คะแป้งแปรรูปน้ำตาลแอลกอฮอล์ครับ 3
00:13:31 → 00:13:34 อย่างอเพราะฉะนั้นยิ่งคุณเสพติดพวกนี้
00:13:34 → 00:13:38 อาหารพวกนี้เครื่องดื่มพวกนี้มากเท่าไหร่
00:13:38 → 00:13:41 เชื้อราที่อยู่ในลำไส้ของคุณ 1 เป็น 2
00:13:41 → 00:13:45 เป็น 4 4 เป็น 6 เพิ่มเหมือนคุณสร้างลูก
00:13:45 → 00:13:48 ไว้ในเติบโตไว้ในลำไส้ของเราแล้วมันเพิ่ม
00:13:48 → 00:13:50 จำนวนมากขึ้นพอเชื้อเวลาเพิ่มมากขึ้นมัน
00:13:50 → 00:13:53 ก็ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารของเราและ
00:13:53 → 00:13:56 อวัยวะอื่นๆถ้าระบบทางเดินอาหารก็อย่าง
00:13:56 → 00:14:00 เช่นท้องผูกแน่นท้องอาหารไม่ย่อยก็หรือ
00:14:00 → 00:14:03 ว่าเกิดแก๊สตลอดเวลาเลยนะครับอันนี้เรมี
00:14:03 → 00:14:07 แก๊สข้างล่างไายลมด้านล่างใช่อวัยวะอื่นๆ
00:14:07 → 00:14:09 ก็ส่งผลกระทบเหมือนกันนะครับเชื้อร่าทำ
00:14:09 → 00:14:13 ให้เราขี้เกียจไม่มีพลังงานนะครับเนาะทำ
00:14:13 → 00:14:17 ให้ผมร่วงสิวขึ้นมีผื่นขึ้นนะครับตามซอก
00:14:17 → 00:14:20 ต่างๆนะครับเนาะหรือของผู้หญิงก็อาจจะทำ
00:14:20 → 00:14:22 ให้เราตกข่าวได้มากขึ้นเวลามีประจำเดือน
00:14:22 → 00:14:25 ก็ได้ก็แปลว่าอันเนี้ยปัจจัยของอาชีพของ
00:14:25 → 00:14:28 เขาที่ต้องคุกคีอยู่กับยีสตลอดเวลากิน
00:14:28 → 00:14:31 ด้วยกินด้วยชิมด้วยแล้วก็อาจจะมีสัมผัส
00:14:31 → 00:14:33 หายใจเข้าไปเนี่ยก็เลยทำให้อาจจะอาจจะมี
00:14:33 → 00:14:37 เชื้อราในลำไส้ซึ่งเขาจะแน่ใจได้ยังไงอ่ะ
00:14:37 → 00:14:39 คะว่าเขามีเชื้อราในลำไส้มั้ยอันนี้มัน
00:14:39 → 00:14:41 ต้องตรวจเท่านั้นถูกมั้คะถูกต้องครับปกติ
00:14:41 → 00:14:44 ก็คืออ่ะเรื่องของอาการมันก็เป็นตัวหนึ่ง
00:14:44 → 00:14:46 ที่หมอฟังแล้วแบบเอ้ยมันน่าจะเข้าข่ายนะ
00:14:47 → 00:14:48 ครับเนาะแล้วก็หลังจากนั้นเราสามารถตรวจ
00:14:48 → 00:14:51 ได้นะครับเนาะไม่ว่าจะเป็นจากการตรวจ
00:14:51 → 00:14:53 ปัสสาวะหรืออุจจุระอุจจาระเนี่ยครับมันก็
00:14:53 → 00:14:56 สามารถบอกได้ว่าเอ๊ะคุณมันมีเชื้อราที่
00:14:56 → 00:14:59 ไม่ดีอยู่ในร่างกายเยอะเกินไปหรือเปล่านะ
00:14:59 → 00:15:02 ครับเนาะยิ่งคุณมีจำนวนมากเท่าไหร่พวกนี้
00:15:03 → 00:15:06 คือสิ่งมีชีวิตมันก็หิวเหมือนเราอือเพราะ
00:15:06 → 00:15:10 ฉะนั้นเวลาที่มันหิวมันก็จะโหยหาน้ำตาล
00:15:10 → 00:15:13 แป้งหรือแอลกอฮอล์เป็นหลักมันก็จะส่ง
00:15:13 → 00:15:16 สัญญาณจากลำไส้ของเราไปที่สมองอืแล้วบอก
00:15:16 → 00:15:22 ว่าเธอกินได้แล้วน้ำตาลได้แล้วถึงแล้วนะ
00:15:22 → 00:15:26 ชมไก่มุกไข่มุกแก้วนึงน้ำอัดลมแก้วนึงอื
00:15:26 → 00:15:29 แล้วทีเนี้ยค่ะเค้าบอกว่าเค้าอ่ะวิธีเค้า
00:15:29 → 00:15:31 ก็ไปเสิร์ชในอินเทอร์เน็ตเอาเนาะแล้วมีคน
00:15:31 → 00:15:35 พูดกันว่าจริงๆถ้าอยากให้ขับถ่ายดีขึ้น 1
00:15:35 → 00:15:38 นมเปรี้ยว 2 เม็ดแมงรักมันช่วยได้มั้คะ
00:15:38 → 00:15:39 อ่ะขอเม็ดแมงรักก่อนแล้วกันเม็ดแมงรัก
00:15:39 → 00:15:42 จริงๆช่วยได้นะครับเม็ดแมงรักเนี่ย 1
00:15:42 → 00:15:44 อย่างแรกคือเราต้องมาแช่น้ำก่อนเนาะให้
00:15:44 → 00:15:47 มันให้มันเค้าเรียกว่ามันแตกออกมาฟูแล้ว
00:15:47 → 00:15:50 ก็มีเมือกนะครับแล้วหลังจากนั้นเราก็ควร
00:15:50 → 00:15:53 ก็กินมันเข้าไปนะครับเนาะไอ้ตัวเมือกที่
00:15:53 → 00:15:56 มันเกิดการฟูขึ้นมานี่แหละมันเป็นกากใย
00:15:56 → 00:15:59 อาหารที่ร่างกายเราย่อยไม่ได้พอมันย่อย
00:15:59 → 00:16:02 ไม่ได้มันก็จะทำให้ตอนพอไปอยู่ในลำไส้ของ
00:16:02 → 00:16:05 เราอ่ะครับเอ่ออุจจาระมันจับเป็นก้อนได้
00:16:05 → 00:16:08 ดีมากขึ้นอเหมือนเม็ดแมงรักก็ไปเกาะกับ
00:16:08 → 00:16:09 อุจจาระแล้วพามันออกมาอย่างงี้ใช่มั้พา
00:16:09 → 00:16:13 มันรวมตัวเออเม็ดมลักทำให้อุจจาระของเรา
00:16:13 → 00:16:15 มันรวมตัวปึ๊บแล้วก็ทำให้การขยับขยับ
00:16:15 → 00:16:19 เขยื้อนของอุจจาระในลำไส้ของเราเนี่ยผนัง
00:16:19 → 00:16:22 ต่างๆทำงานลื่นอืได้ดีมากขึ้นแต่สิ่งที่
00:16:22 → 00:16:26 สำคัญเยสำคัญคือเรื่องของเม็ดมะลักเนี่ย
00:16:26 → 00:16:29 ห้ามกินตอนที่มันยังไม่ฟูอืนะครับเนาะฟู
00:16:29 → 00:16:31 ฟูแบบเติมน้ำไปนิดนึงปึ๊บกินเลยคราวนี้
00:16:31 → 00:16:34 เนี่ยอันเนี้อันตรายเพราะว่าถ้ามันยังไม่
00:16:34 → 00:16:36 ฟูเต็มที่อ่ะครับแล้วเราเผลอกินเข้าไป
00:16:36 → 00:16:40 เม็ดแมงรัดตัวเนี้ยมันดูดน้ำมากคราวนี้
00:16:40 → 00:16:43 มันจะดูดน้ำจากลำไส้เราแหละเราจะขาดแคน
00:16:43 → 00:16:47 น้ำในร่างกายแทนขาดขาดแค่น้ำท้องผูกแทนอื
00:16:47 → 00:16:49 ก็คือเหมือนแบบพออุจจาระมันแบบฟึบมันขาด
00:16:49 → 00:16:51 น้ำแล้วมันแข็งมันแข็งอ่ะมันไปไม่ได้เอา
00:16:51 → 00:16:54 ไม่ได้นะครับเนาะเพราะฉะนั้นเรื่องของ
00:16:54 → 00:16:57 เม็ดรักก็กินให้ถูกวิธีอย่างเช่น 2 ช้อน
00:16:57 → 00:17:01 โต๊ะผสมกับน้ำประมาณ 250 ซีซแล้วเราก็รอ
00:17:01 → 00:17:04 ให้มันฟูเต็มที่แล้วเราก็ดื่มมันนะครับ
00:17:04 → 00:17:07 เนาะนอกจากที่มันช่วยเรื่องการขยับเคนของ
00:17:07 → 00:17:10 อุจจาระแล้วเนี่ยมันก็จะทำให้ดูดซึมสาร
00:17:10 → 00:17:12 พิษที่อยู่ในร่างกายเราด้วยก็ถือว่าดีมาก
00:17:12 → 00:17:16 อันที่ 2 นมเปรี้ยวนมเปรี้ยวก็มันมีเค้า
00:17:16 → 00:17:18 เรียกว่าจุลินทรีย์ที่ดีนะครับเนาะอยู่ใน
00:17:18 → 00:17:21 นมเปรี้ยวก็จุลินทรีย์ที่ดีก็เป็นอะไรที่
00:17:21 → 00:17:24 สำคัญต่อร่างกายทำให้เราขยับทำให้ลำไส้
00:17:24 → 00:17:26 เราทำงานได้ดีมากขึ้นแต่สิ่งที่ต้องรับ
00:17:26 → 00:17:29 รางวัลคือเรื่องของน้ำตาลในนมเปรี้ยวพวก
00:17:29 → 00:17:32 นี้เนาะมันมีแบบผลิตภัณฑ์เยอะแยะมากมายก็
00:17:32 → 00:17:34 ขอให้อ่านฉลากก่อนแล้วกันนะครับอาจจะอยาก
00:17:34 → 00:17:36 กินนมเปรี้ยวที่มันที่มันหวานน้ำตาเออ
00:17:36 → 00:17:39 อย่าอย่าเอาอะไรที่มันหวานมากเกินไปอัน
00:17:39 → 00:17:42 นั้นคุณอาจจะได้เบาหวานมาแทนแทนที่จะช่วย
00:17:42 → 00:17:43 เรื่องของลำไส้อแล้วเรื่องของโปรไบโอติก
00:17:43 → 00:17:45 อ่ะคะเค้าบอกว่าเค้าเคยลองกินแล้วเวิร์ค
00:17:45 → 00:17:47 อยู่ 2 อาทิตย์แล้วก็ไม่เวิร์คทีนี้
00:17:47 → 00:17:50 โปรไบโอติกเนี่ยตกลงมันควรกินมั้ยหรือควร
00:17:50 → 00:17:52 เลือกแบบไหนดีคะคือจริงๆเรื่องของ
00:17:52 → 00:17:55 โปรไบโอติกเนี่ยเป็นอะไรที่ทุกคนควรมี
00:17:55 → 00:17:56 อยู่แล้วร่างกายเราต้องมีอยู่แล้วถูกมั้ย
00:17:56 → 00:17:59 ครับเนาะแต่การกินเสริมก็ไปเป็นการเค้า
00:17:59 → 00:18:02 เรียกบำรุงร่างกายแล้วกันนะครับเนาะคราว
00:18:02 → 00:18:04 นี้การที่ไปกินเริ่มกินครั้งแรกมันอาจจะ
00:18:04 → 00:18:07 เฮ้ยมันรู้สึกดีขึ้นแต่ถ้าคุณยังไม่ไปแก้
00:18:07 → 00:18:10 สาเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกของ
00:18:11 → 00:18:13 คุณเนี่ยอมันก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมถึง
00:18:13 → 00:18:17 แม้แม้ว่าคุณจะกินไป 2-3 อาทิตย์แล้วคุณ
00:18:17 → 00:18:19 ยังไม่ได้แก้เรื่องอ่ะสมมุติของเคสนี้
00:18:19 → 00:18:21 เรื่องของเชื้อราหรือว่าเรื่องของยีสที่
00:18:21 → 00:18:23 มันอยู่น้ำตาลที่มันอยู่ในลำไส้เนี่ยมัน
00:18:23 → 00:18:26 ยังมีอยู่เพราะฉะนั้นเนี่ยก็อย่าลืมไปค้า
00:18:26 → 00:18:28 ไปจัดการเรื่องของสาเหตุให้มันก่อนเหมือน
00:18:28 → 00:18:32 ว่าคิดง่ายๆว่าคุณยังมีคนร้ายอยู่ในลำไส้
00:18:32 → 00:18:35 ของคุณแล้วคุณไปเติมคนดีเข้าไปอ่ะคนดีมัน
00:18:35 → 00:18:37 จะอยู่รอดได้ไงถ้ามันยังมีคนดีเหมือนมัน
00:18:37 → 00:18:39 เป็นสมมตินะถ้าเราเป็นสิวเนาะเราลองพื้น
00:18:39 → 00:18:42 โปะๆเพราะสิวมันก็ยังอยู่ไงมันยังไม่ได้
00:18:42 → 00:18:45 เอาออกใช่มันยังไม่เอาแบบหัวข้างในเอาออก
00:18:45 → 00:18:48 ไงสิ่งเพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญคือเราเอาตัว
00:18:48 → 00:18:52 ที่มันไม่ดีหรือตัวที่เป็นปัญหาออกไปก่อน
00:18:52 → 00:18:55 ใช่แล้วเราค่อยเสริมเรื่องของจุลินทรีย์
00:18:55 → 00:18:57 แล้วที่เขาทำ IF ล่ะคะเพราะเขาบอกว่า
00:18:57 → 00:18:59 เหมือนน่าจะอาจจะไม่แน่ใจทำเพราะว่าอาจจะ
00:19:00 → 00:19:02 เป็นการควบคุมน้ำหนักเอาจจะไปอ่านมาว่า
00:19:02 → 00:19:04 มันอาจจะทำให้Healตี้จริงๆแล้วไม่จำเป็น
00:19:04 → 00:19:07 ต้องกินอาหารเย็นมันมีผลต่อการขับถ่ายมั้
00:19:07 → 00:19:09 คะอ่าหมอก็ไม่แน่ใจว่าคนนี้เค้าทำ IF มา
00:19:09 → 00:19:11 นานเท่าไหร่แล้วนะครับเนาะแต่คราวนี้ทุกๆ
00:19:11 → 00:19:15 ครั้งที่ไม่ว่าคุณมีการเปลี่ยนเรื่องของ
00:19:15 → 00:19:18 อาหารการกินเรื่องของเวลาหรือปริมาณน้ำ
00:19:18 → 00:19:21 แล้วก็ผักผลไม้ใยอาหารเข้าไปเนี่ยร่างกาย
00:19:21 → 00:19:24 กระเพาะเอลำไส้ของเรามันช็อกอ่ะมันเอ้ย
00:19:24 → 00:19:27 เฮ้ยทำไมอยู่คุณมาอดอาหารถ้าปกติมันควรมี
00:19:27 → 00:19:29 อาหารเข้ามาแล้วอยู่ดีมาอดหรือมาเปลี่ยน
00:19:29 → 00:19:31 อาหารกระทันหันเช่นจากแต่ก่อนกินเนื้อ
00:19:31 → 00:19:33 สัตว์แล้วไม่เป็นเนื้อสัตว์อือเหมือนเป็น
00:19:33 → 00:19:35 มังสาวิรัสอะไรอย่างเงี้ยครับอ๋อทุกๆคัน
00:19:35 → 00:19:37 ที่มันมีการเปลี่ยนกระทันร่างกระเพาะของ
00:19:37 → 00:19:40 เรามันช็อกมันแบบเฮ้ยหยุดทำงานดีกว่าเกิด
00:19:40 → 00:19:42 อะไรขึ้นก็คือไม่ถ่ายไปอีกมันก็ไม่ถ่าย
00:19:42 → 00:19:44 อีกใช่ครับเพราะฉะนั้นเนี่ยแล้วเราเรา
00:19:44 → 00:19:46 ต้องมาดูคนสมัยนี้ทำ IF เพราะอะไรลดน้ำ
00:19:46 → 00:19:49 หนักถูกมั้ยพอเราลดน้ำหนักเราก็จะทำอะไร
00:19:49 → 00:19:53 อดอาหารนานขึ้นลดปริมาณการกินถูกมั้ยครับ
00:19:53 → 00:19:58 ผักใยอาหารผลไม้กินน้อยลงน้ำกินน้อยลง
00:19:58 → 00:20:01 หลายคนคิดว่าการทำ IF คือห้ามกินน้ำอัน
00:20:01 → 00:20:04 นี้ไม่ใช่เนาะอ่ะมันกินน้ำได้อย่างเช่น
00:20:04 → 00:20:07 168 คือสมมุติว่ากิน 16 แต่หยุด 8 ระวัง
00:20:07 → 00:20:09 8 ชั่วโมงนั้นก็ต้องดื่มน้ำเยอะๆแต่ส่วน
00:20:09 → 00:20:12 มากเทำกินกนกิน 80 อรออรอนี่คิดว่าต้อง
00:20:12 → 00:20:15 กินอันนั้นอันนั้นน่าจะน้ำหนักขึ้นโอเค
00:20:15 → 00:20:18 โอเคคะนั่นก็แปลว่าต้องต้องมาดูอีกทีว่า
00:20:18 → 00:20:21 แบบ IF ทำได้อาจจะต้องค่อยๆปรับจูนร่าง
00:20:21 → 00:20:24 กายไว้ให้อยู่ดีๆปึ้มใช่แบบแบบสมมุติเรา
00:20:24 → 00:20:27 ตั้งใจว่าเฮ้ยเราอยากหยุด 16 นะอาจจะค่อย
00:20:27 → 00:20:29 ๆอย่างเช่น 12 ก่อน 12 ชมงก่อนนะครับแล้ว
00:20:29 → 00:20:32 ก็เฮ้ย 12 ชมงพักประมาณอาทิตย์ 2 อาทิตย์
00:20:32 → 00:20:34 เริ่มดีขึ้นมาเป็น 14 ชมงมาเป็น 16 ชมง
00:20:34 → 00:20:37 ค่อยๆปรับแต่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือช่วง
00:20:37 → 00:20:40 เวลาที่เรารับประทานอาหารได้ก็ควรควรรับ
00:20:40 → 00:20:42 ประทานอาหารให้ถึงให้พอควรต่อร่างกายของ
00:20:42 → 00:20:45 เราอถ้าเป็นคนที่ท้องผูกเนี่ยควรและไม่
00:20:45 → 00:20:48 ควรทานอะไรคือไอ้ควรเนี่ยหมอว่าหลายๆคนก็
00:20:48 → 00:20:51 คงรู้อยู่แล้วว่าต้องกินอะไรต้องกินใย
00:20:51 → 00:20:53 อาหารไฟเบอร์ให้ถึงเนาะคำแนะนำก็ประมาณ
00:20:53 → 00:20:56 25-30 กรัมต่อวันออือแล้วไอ้ 30 กรัมมัน
00:20:56 → 00:20:58 คือเท่าไหร่อ่ะมันน่าจะเยอะมากมันกี่เข่ง
00:20:58 → 00:21:01 หรอหมอก็คราวนี้ก็เราจะขอแบ่งเป็น 2 อัน
00:21:01 → 00:21:03 แล้วกันอันหนึ่งคือผักอันนึงคือผลไม้นะ
00:21:03 → 00:21:06 ครับถ้าเป็นผักเนี่ยก็คือประมาณ 3-4
00:21:06 → 00:21:09 ทัพพีต่อวันนะครับทัพพีต่อวันเยอะเยอะมาก
00:21:09 → 00:21:11 ก็ไม่ได้เยอะมากนะครับแล้วก็อีกอันนึงคือ
00:21:11 → 00:21:15 ผลไม้ผลไม้เนี่ยเขาก็อยากให้กินประมาณ 3
00:21:15 → 00:21:19 จานอันนี้พูดถึงจานรองแก้วกาแฟอ่ะอ๋อเออ 3
00:21:19 → 00:21:23 จานแล้วจานนึงก็ประมาณ 6-8 ชิ้นของผลไม้
00:21:23 → 00:21:26 ที่มีน้ำตาลต่ำนะครับเนาะอันนี้ก็คือทั้ง
00:21:26 → 00:21:28 ผักและผลไม้ก็คือกินพร้อมกันนะครับเนาะก็
00:21:28 → 00:21:31 เนี่ยคือปริมาณที่คุณควรกินต่อวันนะครับ
00:21:31 → 00:21:34 เนาะอย่างอื่นอาจสามารถอ่าผักทุกชนิดนะ
00:21:34 → 00:21:36 ครับกินได้หมดเลยไม่ว่าคุณจะชอบอะไรทานไป
00:21:36 → 00:21:40 เถอะดีกว่าไม่ทานนะครับเนาะผลไม้ด้วยนะ
00:21:40 → 00:21:42 ครับเนาะแล้วก็พวกธัญพืชต่างๆถั่วดำถั่ว
00:21:42 → 00:21:45 แดงถั่วลิสงถั่วอะไรพวกเนี้ยนะครับเนาะ
00:21:45 → 00:21:48 มันช่วยทำให้ใยอาหารและก็ระบบการขับถ่าย
00:21:49 → 00:21:51 ของเราดีมากขึ้นนะครับเนาะส่วนคราวนี้
00:21:51 → 00:21:54 อาหารที่เราไม่ควรกินนะครับเนาะแน่นอน
00:21:54 → 00:21:57 อะไรที่ไปกระตุ้นเรื่องของเชื้อรานะครับ
00:21:57 → 00:21:59 เนาะหรือทำให้เราท้องอืดมากยิ่งขึ้นท้อง
00:21:59 → 00:22:02 ผูกมากยิ่งขึ้นเช่นอ่าผลิตภัณฑ์ที่ทำมา
00:22:02 → 00:22:05 จากนมวัวนะครับชีสไอศครีมพวกเนี้ยนะครับ
00:22:05 → 00:22:09 เนาะก็ควรงดมันนะครับเนาะอย่างอื่นก็เป็น
00:22:09 → 00:22:11 ช็อกโกแลตห้ามกินช็อกโกแลตเหรอห้ามกิน
00:22:11 → 00:22:13 ช็อกโกแลตแล้วถ้า dar ช็อกโกแลตได้มั้คะ
00:22:13 → 00:22:15 ก็ไม่ควรกินแล้วกันเพราะเช็อกโกแลตอ่ะมัน
00:22:15 → 00:22:18 ดีเนาะแต่ว่าพูดถึงเรื่องของท้องผูกเนี่ย
00:22:18 → 00:22:20 ด้วยความว่าช็อกโกแลตมันมีไขมันค่อนข้าง
00:22:20 → 00:22:23 เยอะมากและการย่อยไขมันสำหรับคนท้องผูก
00:22:23 → 00:22:26 มันก็ยิ่งยากไปอีกนะครับเนาะนอกจากไขมัน
00:22:26 → 00:22:29 ที่มันเยอะแล้วอันที่ 2 ที่ต้องหลีก
00:22:29 → 00:22:32 เลี่ยงก็คือโปรตีนที่มันหนักๆอย่างเช่น
00:22:32 → 00:22:35 เนื้อแดงเป็นต้นนะครับเนื้อวัวเนื้อแพะ
00:22:35 → 00:22:39 เนื้อแกะเนื้อหมูพวกเนี้ยก็มันย่อยยากนะ
00:22:39 → 00:22:43 ครับก็หลีกเลี่ยงไปทานเนื้อปลาเนื้อขาวอ
00:22:43 → 00:22:45 ไข่ไก่อะไรอย่างี้ก่อนดีกว่านะครับแน่นอน
00:22:45 → 00:22:47 เรื่องอย่างอื่นก็อย่างเช่นเรื่องของ
00:22:47 → 00:22:49 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็ควรตันตันต้องหยุด
00:22:49 → 00:22:51 อยู่แล้วอเพราะว่าจริงๆเครื่องดื่ม
00:22:51 → 00:22:53 แอลกอฮอล์โดยเฉพาะเบียร์ก็มียีสด้วยนะคะ
00:22:53 → 00:22:56 แล้วอีกอย่างนึงอันเนี้ยอยากรู้ส่วนตัว
00:22:56 → 00:22:58 เพราะรู้สึกว่าส่วนใหญ่ค่ะสมมุติเป็นแฟน
00:22:58 → 00:23:02 กันเนาะผู้หญิงผู้ชายอ่ะผู้หญิงอ่ะมักจะ
00:23:02 → 00:23:04 มีปัญหาเรื่องขับถ่ายตลอดแต่แฟนที่กิน
00:23:04 → 00:23:07 เหมือนกันทำไมขับถ่ายทุกวันเลยทำไมมัน
00:23:07 → 00:23:09 เป็นอย่างเงี้ยนะคะมันเป็นแบบเรื่องของ
00:23:09 → 00:23:11 สรีระหรือว่าอะไรเกี่ยวกับผู้หญิงผู้ชาย
00:23:11 → 00:23:13 นะคะเอ่อสิรีระถูกอย่างแรกนะครับเนาะ
00:23:13 → 00:23:16 เรื่องของสรีระร่างกายของเราผู้ชายผู้
00:23:16 → 00:23:19 หญิงลำไส้ใครยาวกว่ากันครับแล้วหรือมัน
00:23:19 → 00:23:24 เท่ากันไม่รู้อ่ะผู้หญิงยาวกว่านิดนึงนิด
00:23:24 → 00:23:27 นึงเพราะฉะนั้นผู้หญิงก็เลยสามารถอั้นได้
00:23:27 → 00:23:30 นานกว่าหรือมันอยู่ในลำไส้ได้ได้นานมาก
00:23:31 → 00:23:33 กว่าพูดอย่างงี้ดีกว่าก็คือยากน่าจะยาก
00:23:33 → 00:23:36 กว่านิดนึงนะครับเนาะอันที่ 2 ก็คือ
00:23:36 → 00:23:39 เรื่องของกล้ามเนื้อในร่างกายของผู้หญิง
00:23:39 → 00:23:40 ครับอุ้มชนกลางนะครับที่เมื่อกี้เราพูดไป
00:23:40 → 00:23:43 ในตอนแรกแล้วก็จะไม่ค่อยแข็งแรงหรือหน้า
00:23:43 → 00:23:45 ทาหน้าท้องกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่เท่ากับ
00:23:45 → 00:23:48 ผู้ชายคราวนี้อย่างอื่นก็อยิ่งผู้หญิงที่
00:23:48 → 00:23:51 มีมีบุตรแล้วถูกมั้ยครับคลอดลูกหรืออย่าง
00:23:51 → 00:23:53 เงี้ยก็เป็นปัจจัยนึงที่ทำให้เกิดท้องผูก
00:23:54 → 00:23:56 ได้เพราะกล้ามกล้ามเนื้อมันไม่แข็งแรงมัน
00:23:56 → 00:23:59 หย่อนยานแล้วนะครับเนาะถ้าไม่นับเรื่อง
00:23:59 → 00:24:01 ของร่างกายแล้วอย่างอื่นก็คือเรื่องของ
00:24:01 → 00:24:03 ฮอร์โมนนะครับเนาะผู้หญิงเรารู้อยู่แล้ว
00:24:03 → 00:24:06 ว่ามีประจำเดือนทุกเดือนมีการสวิงของ
00:24:06 → 00:24:08 ฮอร์โมนมนเพศหญิงที่เรียกว่าเอสโตรเจนกับ
00:24:08 → 00:24:11 โปรเจสเตรนนะครับอย่างพูดถึงอ่ะผู้หญิง
00:24:11 → 00:24:14 ตอนท้องเนี่ยจะมีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเยอะ
00:24:14 → 00:24:17 อนะครับเนาะฮอร์โมนเพเจสเตรนทำให้ขยับ
00:24:17 → 00:24:21 เขยืนช้าลำไส้อ๋อนะครับคนที่ท้องก็เลยจะ
00:24:21 → 00:24:24 ท้องผูกนะครับแต่พูดถึงผู้หญิงคนอื่นทั่ว
00:24:24 → 00:24:27 ไปที่มีประจำเดือนทุกๆครั้งที่เกิดก่อน
00:24:27 → 00:24:30 เวลาจะมีไข่ตกถูกมั้ครับแล้วก่อนที่จะมี
00:24:30 → 00:24:32 ประจำเดือนเนี่ยช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่
00:24:33 → 00:24:35 ฮอร์โมนอีกตัวนึงเรียกว่าเอสโตรเจนมันสูง
00:24:35 → 00:24:38 มากคราวนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็อาจจะทำให้
00:24:38 → 00:24:41 เกิดท้องเสียได้หรือท้องผูกได้อ๋อก็คือ
00:24:41 → 00:24:43 เอสโตรเจนทำให้ท้องเสียโปรเจสเตอโรนทำให้
00:24:43 → 00:24:46 ท้องผูกถูกต้องครับแต่มันยุ่งยากไปกว่า
00:24:46 → 00:24:49 นั้นคืออเรื่องของเอสโตรเจนเนี่ยมันขึ้น
00:24:49 → 00:24:52 กับจุลินทรีย์ในลำไส้ของผู้หญิงด้วยถ้า
00:24:52 → 00:24:56 จุลินทรีย์ในลำไส้ของผู้หญิงดีไม่มีปัญหา
00:24:56 → 00:24:59 อาการปวดท้องท้องเสียก็จะน้อยมากแต่คราว
00:24:59 → 00:25:03 นี้ถ้าเออโตรเจนสูงตอนนั้นแล้วในลำไส้มี
00:25:03 → 00:25:06 จุลินทรีย์ไม่ดีเชื้อราไม่ดีมันก็จะทำให้
00:25:06 → 00:25:08 เกิดอาการปวดท้องท้องเสียท้องผูกได้ในแต่
00:25:08 → 00:25:12 ละคนอืแล้วถ้าสมมุตินะคะฟังมาโอ๊ยเหนื่อย
00:25:12 → 00:25:15 อ่ะหมอต้องมานั่งคิดต้องกินนู่นได้กินนี่
00:25:15 → 00:25:18 ไม่ได้ขี้เกียจคิดแค่เนี้ยก็เครียดจะตาย
00:25:18 → 00:25:21 และกับชีวิตเนี่ยทำงานหนักมากกินเผ็ดทุก
00:25:21 → 00:25:24 วันตอนเย็นให้มันตื่นมาแล้วท้องเสียแค่
00:25:24 → 00:25:27 นิดได้มั้คะก็ไม่ดีนะครับเนาะการกินเผ็ด
00:25:27 → 00:25:30 เหมือนเราไปแก้ทางอ้อมไปบังคับมันให้
00:25:30 → 00:25:33 เหมือนเหมือนกินยาถ่ายอ่ะครับเนาะมันคือ
00:25:33 → 00:25:35 การกินยาถ่ายบางครั้งบางคราวเนี่ยเนี่ยก็
00:25:35 → 00:25:38 ถือว่าโอเคเพื่อเป็นการปลดปล่อยบางครั้ง
00:25:38 → 00:25:42 บางคราวนี่คือยังไงคะคือที่จริงก็แบบอย่า
00:25:42 → 00:25:44 บ่อยมากแบบเดือนก็แบบเดือน 2-3 เดือน
00:25:44 → 00:25:47 ครั้ง 2-3 เดือนครั้งโอเคไม่มีปัญหานะ
00:25:47 → 00:25:48 ครับเนาะแต่ใช้ทุกอาทิตย์เนี่ยอันนี้ก็
00:25:48 → 00:25:50 ถือว่าเยอะเกินไปแล้วก็มันทำให้ร่างกาย
00:25:50 → 00:25:53 เริ่มชินมากยิ่งขึ้นแต่คราวนี้เราพูดถึง
00:25:53 → 00:25:55 ของอาหารเผ็ดดีกว่าอาหารเผ็ดมันจะมีสาร
00:25:55 → 00:25:58 เรียกว่าแคปไซซินนะครับจากพริกนั่นเองนะ
00:25:58 → 00:26:01 ครับไอ้สารเนี้ยมันมีความร้อนนะครับเนาะ
00:26:01 → 00:26:03 เพราะฉะนั้นเนี่ยสารเนี้ยมันก็พอเราทาน
00:26:03 → 00:26:07 เข้าไปปริมาณมากมากมันก็ทำให้เอ่อรคาย
00:26:07 → 00:26:09 เคลืองในกระเพาะอาหารของเรารวมไปถึงลำไส้
00:26:09 → 00:26:13 ด้วยทำให้ลำไส้ต้องบีบรัดตัวมากขึ้นและ
00:26:13 → 00:26:16 เราก็ถ่ายมันออกมาแต่ระดับความเผ็ดของแต่
00:26:16 → 00:26:18 ละคนน่ะมันก็ไม่เท่ากันเนาะบางคนกินเผ็ด
00:26:18 → 00:26:20 มากก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยบางคนกินเผ็ดแล้ว
00:26:20 → 00:26:23 ก็วิ่งเข้าห้องน้ำเลยแต่ก็เป็นการทำบ่อยๆ
00:26:23 → 00:26:24 ที่มันไม่ดีเพราะมันจะเป็นระคายเคือง
00:26:24 → 00:26:26 เรื่องของกระเพาะอาหารกับลำไส้ของเราที
00:26:26 → 00:26:28 นี้สุดท้ายค่ะคุณหมออันเนี้ยซีเรียสขึ้น
00:26:28 → 00:26:32 มาหน่อยเพราะว่าเขาทิ้งท้ายว่าเค้าบีม
00:26:32 → 00:26:36 เนี่ยตัวเขาเองอ่ะเป็นป่วยเป็นอะไรที่
00:26:36 → 00:26:38 เกี่ยวกับลำไส้ที่มันเรื้อรังหรือมากกว่า
00:26:38 → 00:26:39 แค่เรื่องการขับถ่ายหรือเปล่าเพราะว่านี่
00:26:40 → 00:26:42 ก็เป็นมานาน 4 ปีแล้วควรจะตรวจมั้ยแล้ว
00:26:42 → 00:26:45 ตรวจยังไงบ้างก็ถ้าสำหรับเค้าก็คือถือว่า
00:26:45 → 00:26:48 เป็นมานานแล้วเนาะ 4 ปีอย่างี้ก็แนะนำว่า
00:26:48 → 00:26:51 เออให้ไปเจอแพทย์หน่อยดีกว่านะครับไปหา
00:26:51 → 00:26:54 สาเหตุว่าเออมันเกิดอะไรทำไมมันถึงยัง
00:26:54 → 00:26:57 ท้องผูกมาระยะเวลานานขนาดนี้พอทั้งๆที่
00:26:57 → 00:27:00 กินอาหารก็ค่อนข้างโอเคแล้วการออกกำลัง
00:27:00 → 00:27:03 กายไม่รู้ว่าเป็นยังไงความเครียดเป็นยัง
00:27:03 → 00:27:05 ไงอันนี้ต้องมานั่งหากันอีกทีนะครับเนาะ
00:27:05 → 00:27:07 แล้วก็ลองให้ไปศึกษาแพทย์ดูแล้วกันครับ
00:27:07 → 00:27:10 ว่าสาเหตุของเขาที่ไม่การขยับเขยื้อนเป็น
00:27:10 → 00:27:12 โรคลำไส้แปรปรวนหรือเปล่าพวกเนี้ยมัน
00:27:12 → 00:27:15 สามารถแก้ได้ครับก็คือว่าอาจจะลองไปคุย
00:27:15 → 00:27:18 กับแพทย์แล้วถ้าสมมุติว่าเข้าขายที่อาจจะ
00:27:18 → 00:27:20 มีการจองกล้องก็ได้หรืออะไรเงี้ยซื้อทั้ง
00:27:20 → 00:27:22 หมดเราก็ควรจะปรึกษาแพทย์เนาะเพราะแต่ละ
00:27:23 → 00:27:26 เคสอันนี้เราเล่าเล่าเรื่องมาแค่ 2-3
00:27:26 → 00:27:28 นาทีเนาะเราอาจจะยังไม่ได้รู้ถึงต้นตอที่
00:27:29 → 00:27:31 แท้จริงอาจจะต้องใช้เวลาอยู่กับแพทย์แล้ว
00:27:31 → 00:27:33 ก็อาจจะต้องรับคำแนะนำใช่ครับแล้วถ้าจะ
00:27:33 → 00:27:36 ให้สรุปอย่างเคสนี้เนี่ยอันแรกเลยน่าจะ
00:27:36 → 00:27:39 เป็นที่อาชีพของเขาที่จะต้องคอยถึงแม้อาจ
00:27:39 → 00:27:42 จะไม่ได้ทานขนมปังหรือยีสตลอดเวลาเนี่ย
00:27:42 → 00:27:45 แต่ว่ามีการสัมผัสมีการสูดดมเข้าไปมันอาจ
00:27:45 → 00:27:47 จะเข้าร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัวก็ได้นะ
00:27:47 → 00:27:50 ครับเนาะก็ไม่ได้บอกให้เขาหยุดทำงานเนาะ
00:27:50 → 00:27:52 ร้านก็ไม่ได้ก็ไม่ได้เนาะเก็ต้องทำมาหา
00:27:52 → 00:27:55 กินอยู่ก็ป้องกันตัวเองไว้ก่อนนะครับเนาะ
00:27:55 → 00:27:57 ไม่ว่าจะเป็นการใส่เสื้อผ้ามิดชิดใส่ถุง
00:27:57 → 00:28:00 มือหน้ากากอนามัยพวกเนี้ยนะครับมีเครื่อง
00:28:00 → 00:28:03 ฟอกอากาศในห้องอากาศถ่ายเททุกครั้งหลัง
00:28:03 → 00:28:05 จากที่เราทำขนมปังเสร็จอะไรพวกเนี้ยครับ
00:28:05 → 00:28:10 เนาะก็ให้มันเจอเชื้อโรคพวกเนี้ยให้น้อย
00:28:10 → 00:28:11 ที่สุดแล้วะกันจริงๆก็ป้องกันตัวเองไว้
00:28:12 → 00:28:14 ก่อนก็ดีแต่ว่าถ้าสมมุติว่าเราแบบสงสัย
00:28:14 → 00:28:16 เอ๊ะจะใช่หรอหมอมียีสในร่างกายเป็นไปได้
00:28:16 → 00:28:19 หรอเนาะจริงๆก็สามารถไปตรวจเราจะได้จะได้
00:28:20 → 00:28:21 รู้ว่าชัวร์แต่ว่าเข้าใจว่าบางทีบางคนอาจ
00:28:22 → 00:28:24 จะไม่ได้จะสะดวกที่จะตรวจหรือว่ารู้สึก
00:28:24 → 00:28:26 ว่าเอ้ยมันจะราคาสูงนะหรือไปหาตรวจที่ไหน
00:28:26 → 00:28:29 อาจจะยังไม่สะดวกณตอนนี้ก็อาจจะลองป้อง
00:28:29 → 00:28:31 กันตัวเองไว้ก่อนแต่ถ้ารู้สึกว่าไม่ไหว
00:28:31 → 00:28:33 และแล้วอยากรู้จริงๆว่าเอ้ยในลำไส้เรา
00:28:33 → 00:28:35 เนี่ยมันมีแบคทีเรียดีไม่ดีหรือว่ามียีส
00:28:35 → 00:28:38 จริงมั้ยก็แนะนำให้ตรวจเนาะอันต่อมาที่
00:28:38 → 00:28:41 สำคัญมากๆเลยคือเรื่องของอาหารเมื่อกี้ก็
00:28:41 → 00:28:43 เพิ่งรู้เหมือนกันว่าคนที่ท้องผูกเขาไม่
00:28:43 → 00:28:45 ควรกินช็อกโกแลตเพราะมันจะยิ่งทำให้ผูก
00:28:45 → 00:28:48 ย่อยยากใช่มั้คะฉะนั้นก็อาจจะต้องย้อนไป
00:28:48 → 00:28:50 ฟังทริปที่คุณหมอพูดเมื่อกี้นี้เนาะว่ามี
00:28:50 → 00:28:53 อาหารอะไรบ้างที่ไม่ควรรับประทานเนาะหรือ
00:28:53 → 00:28:56 ว่าเม็ดแมงรักเองเนี่ยทำทานได้แต่ต้องรอ
00:28:56 → 00:29:00 แป๊บนึงให้มันพองก่อนแล้วค่อยดื่มลงไปนะ
00:29:00 → 00:29:03 คะและด้านสุดท้ายที่สำคัญที่สุดเลยคือของ
00:29:03 → 00:29:07 คุณบีมเนี่ยเข้าข่ายการเป็นท้องผูกเรื้อ
00:29:07 → 00:29:09 รังแล้วเพราะว่าเป็นมานาน 4 ปีฉะนั้น
00:29:09 → 00:29:12 เนี่ยการที่ตื่นตระหนกหรือว่ากลัวว่าตัว
00:29:12 → 00:29:14 เองจะเป็นโรคลำไส้อะไรที่มันร้ายแรงเนี่ย
00:29:14 → 00:29:16 อันนี้ก็ไม่ได้กลัวเกินจริงควรจะไปพบ
00:29:16 → 00:29:19 แพทย์เนาะเผื่อแพทย์อ่ะอาจจะแนะนำให้ส่อง
00:29:19 → 00:29:21 กล้องมั้ยหรือทำเทสต่างๆมเราจะได้ป้องกัน
00:29:21 → 00:29:24 เพราะว่าถ้าปล่อยอาการท้องผูกเรื้อรังไป
00:29:24 → 00:29:26 เรื่อยๆมันสามารถเกิดโรคร้ายได้เลยใช่มั้
00:29:26 → 00:29:29 คะใช่ครับเพราะว่า 1 เราก็เคสนี้เราก็ไม่
00:29:29 → 00:29:30 รู้ประวัติอะไรมากมายของเรื่องของครอบ
00:29:30 → 00:29:33 ครอบครัวนะครับเนาะหรือว่าเรื่องของดื่ม
00:29:33 → 00:29:34 เหล้าสูบบุหรี่ความเครียดอะไรพวกนี้หรือ
00:29:34 → 00:29:37 เปล่าเพราะฉะนั้นเนี่ยก็ป้องกันไว้ก่อน
00:29:37 → 00:29:40 เพราะว่าการที่เราท้องผูกมาระยะเวลานาน
00:29:40 → 00:29:42 ขนาดเนี้ยครับเนาะมันอาจจะเป็นอาการนึง
00:29:42 → 00:29:45 แล้วกันนะครับที่อาจจะส่งผลทำให้เรามีโรค
00:29:45 → 00:29:47 ร้ายอย่างเช่นมะเร็งในลำไส้ในอนาคตได้
00:29:47 → 00:29:50 ครับอืเคสต่อไปนะคะเป็นเคสที่ตรงข้ามกับ
00:29:50 → 00:29:53 เคสแรกเลยเคสแรกคือท้องผูกใช่มั้คะ
00:29:53 → 00:29:56 อันเนี้ยคือท้องเสียท้องเสียหนักมากจน
00:29:56 → 00:29:58 กลัวว่าจะเป็นโรคร้ายทำยังไงดีคะหมออัน
00:29:58 → 00:30:01 นี้นะคะเป็นเรื่องมาจากคุณขวัญอายุ 29 ปี
00:30:01 → 00:30:03 เป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องคอยติดต่อประสาน
00:30:03 → 00:30:05 งานอยู่ตลอดเรามีผู้หญิงหมดเลยเนาะใช่ผู้
00:30:05 → 00:30:09 หญิงผู้หญิงหมดเลยใช่ค่ะแล้วก็งานของเขา
00:30:09 → 00:30:10 เนี่ยต้องคอยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่ตลอด
00:30:11 → 00:30:13 เวลาทำงานประมาณ 5-6 วันต่อสัปดาห์อันนี้
00:30:13 → 00:30:17 ก็อยู่ที่กรุงเทพมหานครค่ะคุณหมอคะตั้ง
00:30:17 → 00:30:20 แต่เกิดขวัญเนี่ยท้องเสียบ่อยมากๆโดย
00:30:20 → 00:30:22 เฉพาะเวลาเครียดค่ะเพราะว่าเป็นคนที่คาด
00:30:22 → 00:30:25 หวังสูงในการสอบแข่งขันเช่นตอนที่กำลังจะ
00:30:25 → 00:30:28 สอบเนี่ยก็จะปวดท้องหนักมากจนต้องขอ
00:30:28 → 00:30:30 อนุญาตไปเข้าห้องน้ำตลอด
00:30:30 → 00:30:32 ปัจจุบันก็ยังเป็นคนที่ท้องเสียง่ายอยู่
00:30:32 → 00:30:35 กินอาหารรสจัดไม่ได้เลยค่ะถ้ากินอาหาร
00:30:35 → 00:30:37 อะไรที่ไม่คุ้นปากนิดหน่อยก็จะท้องเสีย
00:30:37 → 00:30:40 ทันทีเวลาไปกินข้าวกับเพื่อนก็จะเป็นคน
00:30:40 → 00:30:42 เดียวที่ท้องเสียค่ะรู้สึกว่าใช้ชีวิต
00:30:42 → 00:30:46 ลำบากมากๆอยากลองกินอะไรก็ไม่กล้ากินทุก
00:30:46 → 00:30:49 เช้าจะขับถ่ายประมาณ 1-2 รอบในแต่ละวัน
00:30:49 → 00:30:53 เนี่ยจะถ่ายน้อยสุดก็คือ 3 รอบหรือบางวัน
00:30:53 → 00:30:56 เนี่ย 5-6 รอบเลยอันนี้คือตรงข้ามกับ
00:30:56 → 00:30:58 เมื่อกี้เลยเค้เลยเนาะถ่ายเยอะมากเยอะมาก
00:30:58 → 00:31:01 ถ่ามากกว่าลักษณะอุจจาระเนี่ยก็จะเล็กๆ
00:31:01 → 00:31:04 นิ่มๆบนน้ำแต่ช่วงที่ประจำเดือนมาก็จะ
00:31:04 → 00:31:07 ท้องผูกไปเลยค่ะ 3-4 วันก็คือพลิกเลยขวัญ
00:31:07 → 00:31:10 เป็นคนที่กินอาหารปกติค่ะแต่เพราะเป็นคน
00:31:10 → 00:31:13 ที่ท้องร่วงง่ายมากเลยชอบกินอะไรเดิมๆกิน
00:31:13 → 00:31:16 ผักผลไม้เนื้อสัตว์ตามปกติแต่จะเน้นอาหาร
00:31:16 → 00:31:19 ที่รสไม่จัดค่ะแล้วก็จะกินพวกเกลือแร่
00:31:19 → 00:31:21 บ่อยเพราะว่าเวลาถ่ายเนี่ยรู้สึกเหนื่อย
00:31:21 → 00:31:24 มากแล้วไม่มีแรงเรื่องความเครียดก็มีเป็น
00:31:24 → 00:31:27 ช่วงค่ะส่วนใหญ่จะคลายเครียดด้วยการกลับ
00:31:27 → 00:31:30 มาดูซีรีย์แล้วก็ออกกำลังกายตามคลิปใน
00:31:30 → 00:31:32 YouTube เช่นคลิปเบบเบ้อันนี้ผู้หญิงออก
00:31:33 → 00:31:36 เยอะนะคะออาทิตย์ละประมาณ 3 วันค่ะใน
00:31:36 → 00:31:40 ครอบครัวมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ 2 คน
00:31:40 → 00:31:43 และเป็นมะเร็งเต้านม 1 คนค่ะสงสัยว่าทำไม
00:31:43 → 00:31:46 ตัวเองถึงมีอาการท้องเสียสลับกับผูกแบบ
00:31:46 → 00:31:49 นี้จริงๆก็ค่อนข้างชินกับการที่เป็นคน
00:31:49 → 00:31:52 ท้องร่วงนะคะแต่พอเห็นคลิปที่คนเป็น
00:31:52 → 00:31:54 มะเร็งกันเยอะแล้วก็บวกกับตัวเองเนี่ยมี
00:31:54 → 00:31:57 ประวัติในครอบครัวที่เป็นมะเร็งด้วยเลย
00:31:57 → 00:32:00 กลัวว่าตัวเองจะเป็นและคิดว่าถึงเวลาที่
00:32:00 → 00:32:02 จะต้องจัดการกับเรื่องนี้แล้วเลยอยากจะ
00:32:02 → 00:32:05 ให้คุณหมอแนะนำหน่อยค่ะว่าอย่างขวัญเนี่ย
00:32:05 → 00:32:08 ควรจะตรวจส่องกล้องมแล้วควรจะแก้ไขปัญหา
00:32:08 → 00:32:11 ยังไงดีคะอ่ะโอเคก็เคสตรงกันข้ามนะครับ
00:32:11 → 00:32:13 ท้องร่วงหรือว่าท้องเสียนั่นเองนะครับ
00:32:13 → 00:32:16 เนาะก็มีไครทีเรียเหมือนกันคำว่าท้องเสีย
00:32:16 → 00:32:19 หมายความว่าอุจจารที่ออกมาเป็นน้ำถูกมั้
00:32:19 → 00:32:22 ครับเนาะแล้วก็มีอาการปวดท้องบ้างแสบท้อง
00:32:22 → 00:32:25 มากนะครับเนาะอาจจะมีชิ้นก้อนเนื้อบ้างก็
00:32:25 → 00:32:28 แล้วแต่นะครับเนาะแต่ถ้ามากกว่า 3 ครั้ง
00:32:28 → 00:32:32 ต่อวันถูกมยกฎข้อ 3 ถูกมยมากกว่า 3 ครั้ง
00:32:32 → 00:32:35 ต่อวันถือว่าเป็นท้องเสียหรืออีกอันนึง
00:32:35 → 00:32:39 คือท้องเสียแค่ครั้งเดียวแต่มีมูกเลือดก็
00:32:39 → 00:32:42 นับถือว่าเป็นท้องเสียเหมือนกันนะครับ
00:32:42 → 00:32:44 เนาะคราวนี้พอท้องเสียเนี่ยก็แบ่งออกมา
00:32:44 → 00:32:47 เป็น 3 ประเภทนะครับเนาะก็คือ 1 เฉียบ
00:32:47 → 00:32:49 พันธุเฉียบพันธุ์หมายความว่าอย่างเช่นกิน
00:32:49 → 00:32:52 อาหารทะเลแล้วท้องเสียเลยอันนี้คือหมอว่า
00:32:52 → 00:32:54 ทุกคนเคยเป็นหมดนะครับเนาะอาการก็จะเป็น
00:32:54 → 00:32:57 แค่ 2-3 วันและควรหายเองอันที่ 2 ก็คือ
00:32:57 → 00:33:00 แบบว่าเาเรียกว่า persistent diียนะครับ
00:33:00 → 00:33:03 เนาะก็เอ่อเป็นต่อเนื่องนะครับเป็นเป็น
00:33:03 → 00:33:04 แล้วเป็นอีกแต่เป็นต่อเนื่องเนี่ยจะอยู่
00:33:04 → 00:33:07 ที่ประมาณ 2 ถึง 4 สัปดาห์แล้วเดี๋ยวมัน
00:33:07 → 00:33:09 จะค่อยขยายเองแต่ว่า 2-4 สัปดาห์เนี่ยก็
00:33:09 → 00:33:12 ควรไปหาหมอและนะครับและอันสุดท้ายก็คือ
00:33:12 → 00:33:15 เรื้อรังเรื้อรังก็คือมากกว่า 4 สัปดาห์
00:33:15 → 00:33:19 ครับออ่าคนนี้ก็เเป็นตั้งแต่เกิดเนาะใช่
00:33:19 → 00:33:21 ตั้งแต่นี้เรารู้อยู่แล้วว่าเเป็นแบบไหน
00:33:21 → 00:33:23 น่าจะเรือรังเพราะฉะนั้นเนี่ยคนนี้ก็ถือ
00:33:23 → 00:33:26 ว่าเป็นหนักอยู่เหมือนกันเป็นแบบเรื้อรัง
00:33:26 → 00:33:29 เลยทีเดียวครับอืมแล้วทีนี้ปัจจัยที่ทำ
00:33:29 → 00:33:32 ให้เขาสามารถเป็นคนที่ท้องร่วงเอาอย่าง
00:33:32 → 00:33:34 งี้ดีกว่าปัจจัยโดยรวมของทุกคนที่ทำให้
00:33:34 → 00:33:37 เป็นคนท้องร่วงได้ง่ายเนี่ยมีอะไรบ้าง
00:33:37 → 00:33:38 คราวนี้สาเหตุของการท้องร่วงเราจะแบ่ง
00:33:39 → 00:33:41 เป็น 2 ประเภทเหมือนกันนะครับ 1 คือ
00:33:41 → 00:33:43 เรื่องของการติดเชื้ออันที่ 2 คือไม่ติด
00:33:43 → 00:33:45 เชื้อนะครับเรามาดูเรื่องของติดเชื้อที่
00:33:45 → 00:33:48 เจอทุกคนเจอบ่อยก็คือว่าไปกินอะไรผิดปกติ
00:33:48 → 00:33:50 ไม่สะอาดบ้างอาจจะมีของสดบ้างอาจจะติด
00:33:51 → 00:33:54 เชื้อพยาธแบคทีเรียเชื้อไวรัสพวกเนี้ยนะ
00:33:54 → 00:33:56 ครับเนาะอันนี้ก็เป็นกลุ่มของการติดเชื้อ
00:33:56 → 00:33:59 แล้วทำให้เราท้องเสียอันที่ 2 คือกลุ่ม
00:33:59 → 00:34:01 ไม่ติดเชื้อกลุ่มไม่ติดเชื้ออย่างแรกที่
00:34:01 → 00:34:04 เจอบ่อยที่สุดคือโรคลำไส้แปรปรวนนะครับ
00:34:04 → 00:34:06 เมื่อกี้เราพูดไปแล้วอย่างเคสแรกลำไส้แปร
00:34:06 → 00:34:08 ปรวนเล่มไส้แปรปวนเนี่ยอาจจะเป็นได้ทั้ง
00:34:08 → 00:34:12 ท้องผูกและท้องเสียแต่ระยะเวลามากกว่า 4
00:34:12 → 00:34:15 สัปดาห์เป็นต้นไปนะครับเนอันนี้เหมือน
00:34:15 → 00:34:17 เข้าขายมากๆเลยก็เข้าขายมากๆอันนี้ก็อ่ะ
00:34:17 → 00:34:19 แปรปรวนหรือเปล่านะครับท้องเสียเยอะมี
00:34:19 → 00:34:24 ท้องอื่นบ้างมีปวดท้องนะครับเนาะแล้วก็มี
00:34:24 → 00:34:27 แบบแล้วพวกเนี้ยคนที่เป็นโรคลำไส้แปรปัว
00:34:27 → 00:34:30 นะครับจะรู้สึกดีหลังจากที่ถ่ายเสร็จอื
00:34:30 → 00:34:32 ตอนที่ไม่ถ่ายเนี่ยอื้อหืออึดอัดตลอดเวลา
00:34:32 → 00:34:36 แต่ถ่ายปุ๊บเฮ้ยโล่งสบายนะครับอันนี้คือ
00:34:36 → 00:34:38 ภาวะแรกอันที่ 2 คือแน่นอนอันที่เรากลัว
00:34:39 → 00:34:41 มากที่สุดก็คือเรื่องของมะเร็งนะครับเนาะ
00:34:41 → 00:34:43 มะเร็งก็ต้องเป็นมากกว่า 4 สัปดาห์เป็น
00:34:43 → 00:34:47 ต้นไปนะครับเนาะแต่ต้องมีอาการอย่างอื่น
00:34:47 → 00:34:52 ด้วยเช่นน้ำหนักรสมีไข้นะครับไม่หิวไม่
00:34:52 → 00:34:56 อยากอาหารอผอมถูกมั้น้ำหนักลดผอมมากขึ้น
00:34:56 → 00:34:58 มีคลื่นไส้อาเจียนหรือเปล่านะครับนะแน่
00:34:58 → 00:35:02 นอนเรื่องของพฤติกรรมเช่นดื่มเหล้าสูบ
00:35:02 → 00:35:05 บุหรี่ไม่กินยายอาหารไม่กินผักกินเนื้อ
00:35:05 → 00:35:07 สัตว์กินของปิ้งย่างและมีประวัติคนใน
00:35:08 → 00:35:10 ครอบครัวคนนี้คนในครอบครัวนี่เป็นไขสิ่ง
00:35:10 → 00:35:14 สำคัญคือเป็นสายตรงหรือว่างทางห่างหรือ
00:35:14 → 00:35:16 เปล่าอันนี้อันนี้สำคัญนะครับเนาะเพราะ
00:35:16 → 00:35:19 ว่าถ้าเป็นสายตรงอย่างเช่นพ่อแม่พี่ลูก
00:35:19 → 00:35:21 อันเนี้ยหรือว่าสายตรงนะครับความเสี่ยงก็
00:35:21 → 00:35:23 จะมากขึ้นเดี๋เราค่อยมาคุยกันความเสี่ยง
00:35:23 → 00:35:26 มันประมาณเท่าไหร่นะครับเนาะโรคอื่นๆนะ
00:35:26 → 00:35:29 ครับนอกจากอ่าโรคแปรลำไส้แปรปรวนโรค
00:35:29 → 00:35:31 มะเร็งแล้วก็ไทรรอยด์เหมือนกันแต่ตรงกัน
00:35:31 → 00:35:35 ข้ามอือันนี้เป็นไทรรอยด์สูงอืเร่งหมดเลย
00:35:35 → 00:35:38 สูงก็คือว่าผอมเนาะผลิตเยอะเกินแล้วก็ไป
00:35:38 → 00:35:41 เร่งระบบการทำงานทุกๆอย่างในร่างกายของ
00:35:41 → 00:35:44 เราจังหวะเต้นของหัวใจมากขึ้นการขยับ
00:35:44 → 00:35:46 เขยื้อนของลำไส้ถถ่ายเร็วไงมันขยับ
00:35:46 → 00:35:49 เขยื้อนเร็วมากขึ้นนะครับและอันสุดท้ายก็
00:35:49 → 00:35:51 เรื่องของพวกยานะครับเนาะผลค้างเคียงของ
00:35:51 → 00:35:54 ยาก็เป็นปัจจัยนึงที่อย่างเช่นยาปฏิชีวนะ
00:35:54 → 00:35:56 ยาอะไรก็แล้วแต่เนี่ยทำให้เกิดอาการท้อง
00:35:56 → 00:35:58 เสียได้ครับอือฉะนั้นอยากจะเจาะลึกลงไป
00:35:59 → 00:36:00 เรื่องนี้แหละค่ะที่คนน่าจะกลัวที่สุดคือ
00:36:00 → 00:36:03 เรื่องมะเร็งเท่าที่หมอฟังมาเนี่ยถ้ามี
00:36:03 → 00:36:06 ญาติถ้าเป็นถ้ามีแบบคนในครอบครัวเป็นอาจ
00:36:06 → 00:36:08 จะเป็นสายตรงหรือว่าอาจจะห่างเนี่ยอันนี้
00:36:08 → 00:36:10 ก็มีเปอร์เซ็นต์แน่นอนอาจจะเปอร์เซ็นต์
00:36:10 → 00:36:12 มากเปอร์เซ็นต์น้อยอันนี้แล้วแต่เนาะแล้ว
00:36:12 → 00:36:15 ก็เป็นมานานกว่า 4 อาทิตย์อด้วยแล้วก็ดู
00:36:15 → 00:36:18 แบบดูดูมันมันดูเข้าข่ายจังเลยเข้าข่าย
00:36:18 → 00:36:20 แต่เค้ายังไม่มีอาการอย่างอื่นเนาะมีค่าย
00:36:20 → 00:36:22 น้ำหนักรถอะไรพวกนี้ยังไม่มีตามที่เขาบอก
00:36:22 → 00:36:24 มานะครับเนาะคราวนี้เราพูดถึงเรื่องของ
00:36:24 → 00:36:26 อ่ะเรามาพูดถึงเรื่องของมะเร็งและนะครับ 5
00:36:26 → 00:36:30 เอาเป็นสายตรงก่อนพ่อแม่ลูกพี่น้องนะครับ
00:36:30 → 00:36:34 จากพ่อแม่เดียวกันนะครับเนาะก็สมมุติมี 1
00:36:34 → 00:36:39 คนในครอบครัวความเสี่ยงคือ 2-3 เท่าในการ
00:36:39 → 00:36:42 ที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่อเฮ้ยเยอะมาก 1
00:36:42 → 00:36:47 คนนะคราวนี้ถ้า 2 คนก็ความเสี่ยงก็จะปาน
00:36:47 → 00:36:51 3-4 เท่าอันนี้พูดถึงสายตรงก่อนนะครับ
00:36:51 → 00:36:53 ความเสี่ยงในร่างกายของคุณที่จะเป็น
00:36:53 → 00:36:58 มะเร็งอ๋อไม่ใช่สายตรงล่ะพ่อแม่ปู่ย่าพ่อ
00:36:58 → 00:37:04 แม่ลูกไม่เป็นแต่ปู่ย่าตายายป้าอารอบข้าง
00:37:04 → 00:37:08 นอกก็ 1 คนความเสี่ยงก็จะบาน 1.5 5 เท่า
00:37:08 → 00:37:12 อื 2 คนก็ประมาณ 2-3 เท่าครับเอาจริงๆก็
00:37:12 → 00:37:13 เสี่ยงอยู่ดีก็เสี่ยงอยู่ดีเสี่ยงน้อย
00:37:13 → 00:37:16 เสี่ยงมากถ้าเป็นมันก็คือเป็นอ่ะฉะนั้น
00:37:16 → 00:37:18 น่ะค่ะอย่างคนนี้เค้าบอกว่าเค้าควรไปส่อง
00:37:18 → 00:37:19 กล้องมั้ยควรไปตรวจมั้ยอันนี้น่าจะต้อง
00:37:19 → 00:37:23 ตรวจเลยนะคะคราวนี้การส่องกล้องมันก็มัน
00:37:23 → 00:37:25 มีเค้าเรียกว่าไครทีเรียนะครับเนาะอ่ะแต่
00:37:25 → 00:37:27 ก่อนที่เราจะไปเรื่องของ 2 กล้องอ่ะครับ
00:37:27 → 00:37:30 เราต้องมาบอกก่อนว่าเรื่องของการวินิจฉัย
00:37:30 → 00:37:32 เรื่องมะเร็งในลำไส้อ่ะครับปัจจุบันก็ 1
00:37:32 → 00:37:35 สามารถตรวจจากอุจจาระได้ว่ามีรสเลือดปน
00:37:35 → 00:37:37 เปื้อนหรือเปล่านะครับอันเนี้ยสามารถตรวจ
00:37:38 → 00:37:41 ได้ทุกปีอืเราเราเรียกว่า Fecal Account
00:37:41 → 00:37:44 Blood Test account blood test นะ
00:37:44 → 00:37:46 ครับเนาะอันนี้ก็ตรวจได้ทุกปีตรวจง่ายนะ
00:37:46 → 00:37:48 ครับส่งอุจจาระไปมันดูว่ามีรถมีเลือดมาปน
00:37:48 → 00:37:51 เปื้อนหรือเปล่านะครับเนาะทุกคนตรวจได้
00:37:51 → 00:37:54 ทุกวัยทุกเพศนะครับอันที่ 2 แน่นอนก็คือ
00:37:54 → 00:37:56 คนosyก็คือการส่องกล้องจากด้านล่างนั่น
00:37:56 → 00:38:00 เองนะครับตามมาตรฐานแล้วเนี่ยถ้าใครไม่มี
00:38:00 → 00:38:02 ความเสี่ยงไม่มีปัจจัยของครอบครัวเราก็จะ
00:38:02 → 00:38:07 แนะนำตอนที่คุณอายุ 50 ปีโหแต่อันนี้คุณ
00:38:07 → 00:38:09 เสียงเนี่ยอ่ะก็ต้องเร็วขึ้นนะครับอาจจะ
00:38:09 → 00:38:11 40 ปีหรือเปล่านะครับและตรวจอันที่ 3
00:38:11 → 00:38:14 คือเขาเรียกว่าใช้คอมพิวเตอร์ Chromoscopy
00:38:14 → 00:38:17 อันนี้คือแบบ Advance มากใช้แบบกล้องมัน
00:38:18 → 00:38:22 จะเห็นแบบชิ้นเนื้อเล็กแบบ 9 จุดมมความ
00:38:22 → 00:38:25 ชัดเจน 90% แต่ประเทศไทยมีมั้คะตรวจเนี้ย
00:38:25 → 00:38:27 อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันไม่เคยทำไม่เป็น
00:38:27 → 00:38:30 นะครับเนาะอันนี้ก็คือมีการตรวจ 3 แบบนะ
00:38:30 → 00:38:33 ครับเนาะคราวนี้เรามาบอกว่าเอ้ยแล้วคนนี้
00:38:33 → 00:38:35 เขาควรไปตรวจตอนอายุเท่าไหร่อ่ะเมื่อกี้
00:38:35 → 00:38:40 เราบอกว่าเอาสายตรงก่อนเนาะสายตรง 1 คน
00:38:40 → 00:38:42 แต่ขึ้นกับอายุอีกอายุเป็นอันที่สำคัญนะ
00:38:43 → 00:38:48 ครับถ้าสายตรง 1 คนพ่อแม่พี่ลูก 1 คนเจอ
00:38:48 → 00:38:52 ตอนอายุมากกว่า 60 ปีคุณควรไปตรวจตอนคุณ
00:38:53 → 00:38:57 อายุ 40 ปีอืและตรวจทุก 10 ปีตรวจทุก 10
00:38:57 → 00:39:00 ปีตรวจทุก 10 ปีหรือมีการคำนวณง่ายๆพูด
00:39:00 → 00:39:04 ง่ายๆว่าสายตรงเตอนที่เขาตรวจเจอครั้งแรก
00:39:04 → 00:39:05 อายุเท่าไหร่
00:39:05 → 00:39:07 และ -10 เราไปตรวจตอนนั้นออย่างเช่น
00:39:07 → 00:39:10 สมมุติว่าสมมุติพ่อเราเนี่ยเป็นมะเร็งตอน
00:39:10 → 00:39:13 40 ก็แปลว่า -10 แปลว่าเราต้องตรวจตั้ง
00:39:13 → 00:39:16 แต่ 30 อ่าอันนี้คำนวณง่ายๆเนาะแต่อันที่
00:39:16 → 00:39:20 2 คือสมมุติสายตรงพ่อแม่พี่ลูก 1 คน
00:39:20 → 00:39:23 เหมือนกันแต่อายุน้อยนะเมื่อกี้เรามาก
00:39:23 → 00:39:26 กว่า 60 อันนี้น้อยกว่า 50 นะครับเนาะถ้า
00:39:26 → 00:39:29 น้อยกว่า 50 เราก็จะแนะนำว่าไปตรวจเหมือน
00:39:29 → 00:39:32 กันตอนอายุ 40 นะครับเนาะแล้วแต่ตรวจ 2
00:39:32 → 00:39:34 กล้องทุก 5 ปีแทนฉะนั้นการตรวจเนี่ยมันก็
00:39:34 → 00:39:37 จะจะมีการตรวจตั้งแต่ตรวจอุจจาระใช่มั้ย
00:39:37 → 00:39:40 คะแล้วก็มีการตรวจกล้องแบบทั่วไปแล้วก็มี
00:39:40 → 00:39:43 แบบกล้องแบบแวanceนซแบบอแบบสุดๆไปเลยเนาะ
00:39:44 → 00:39:45 อันนี้อาจจะอาจจะราคาสูงแล้วอาจจะหาได้
00:39:45 → 00:39:47 ยากหน่อยแล้วก็มีวิธีการตรวจอย่างอื่นอีก
00:39:47 → 00:39:50 มั้ยคะอคราวนี้มันก็ให้ง่ายๆหน่อยแล้วกัน
00:39:50 → 00:39:52 นะครับเนาะราคาย่อมเยาก็อาจจะสามารถตรวจ
00:39:52 → 00:39:55 จากโรคเอ่อจากเลือดได้นะครับเนาะเลือดก็
00:39:55 → 00:39:58 แป๊บเดียวนะครับผลออกมาก็สามารถเป็นเป็น
00:39:58 → 00:40:00 เ้าเรียกว่า colon cancer marกอนะครับ
00:40:00 → 00:40:02 เนาะเป็นกอร์สำหรับว่าเฮ้ยคุณมีความ
00:40:02 → 00:40:04 เสี่ยงที่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมีมะเร็ง
00:40:04 → 00:40:07 ในลำไส้หรือเปล่านะครับเนาะอันนี้ก็ตรวจ
00:40:07 → 00:40:10 ได้เหมือนกันแต่ต้องบอกก่อนว่าการตรวจจาก
00:40:10 → 00:40:13 เลือดอาจจะไม่แม่นยำเท่ากับการตรวจ
00:40:13 → 00:40:15 อุจจาระหรือการส่องกล้องนะครับเนาะเพราะ
00:40:15 → 00:40:18 ว่าการตรวจจากเลือดเนี่ยมันบ่งบอกว่าคุณ
00:40:18 → 00:40:20 น่ะเป็นเรียบร้อยแล้วนะอือคุณมีเชื้อแล้ว
00:40:21 → 00:40:23 นะคุณเป็นมะเร็งแล้วนะแล้วมันจะเห็นใน
00:40:23 → 00:40:26 เลือดแต่ถ้ามันเล็กมากหรือเป็นเนื้องอก
00:40:26 → 00:40:28 มันอาจจะไม่โชว์ในมันอาจจะไม่เห็นในเลือด
00:40:28 → 00:40:30 ก็ได้ครับแล้วทีนี้อยากย้อนกลับมาเรื่อง
00:40:30 → 00:40:33 ที่อาจจะยังไม่ร้ายแรงขนาดนั้นอเรื่อง
00:40:33 → 00:40:35 ความเครียดก่อนอก่อนที่จะเป็นมะเร็งเรา
00:40:35 → 00:40:38 ต้องเครียดก่อนเนาะทีนี้เอ่ะมีปัญหา
00:40:38 → 00:40:40 เรื่องเครียดปุ๊บท้องเสียเครียดปุ๊บท้อง
00:40:40 → 00:40:43 เสียจริงๆเราก็น่าจะจริงๆใน Doct Talk
00:40:43 → 00:40:44 เนาะเราเคยพูดเรื่องความเครียดเกี่ยวอะไร
00:40:44 → 00:40:47 กับท้องร่วงมาแล้วอยากให้หมอพูดในเชิงของ
00:40:47 → 00:40:50 เคสเนี้ยค่ะว่าจริงๆอ่ะเขาเป็นคนที่อาจจะ
00:40:50 → 00:40:52 ชอบแข่งขันเนาะอาจจะแบบสอบนู่นนี่นั่น
00:40:52 → 00:40:54 แล้วก็ต้องท้องเสียอยู่ตลอดอะไรอย่าง
00:40:54 → 00:40:56 เงี้ยค่ะมันเชื่อมโยงกันยังไงคะคราวนี้
00:40:56 → 00:40:58 เราพูดถึงเรื่องของความเครียดก่อนแล้วกัน
00:40:58 → 00:40:59 ความเครียดมันไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของ
00:40:59 → 00:41:02 แค่จิตใจเนาะคือความเครียดมันก็ส่งผล
00:41:02 → 00:41:04 กระทบต่ออวัยวะอื่นๆในร่างกายเหมือนกัน
00:41:04 → 00:41:07 แล้วทุกๆครั้งที่คุณเครียดไม่ว่าจะเรื่อง
00:41:07 → 00:41:10 ของการสอบการทำงานก็แล้วแต่เนี่ยร่างกาย
00:41:10 → 00:41:14 กระเพาะอาหารของคุณจะหลั่งกรดมากยิ่งขึ้น
00:41:14 → 00:41:16 แล้วไอ้กรดที่มันหลั่งออกมาเนี่ยมันก็จะ
00:41:16 → 00:41:19 ทำทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหารของเราและทำ
00:41:19 → 00:41:22 ให้ลำไส้ของเราแปรปรวนมากยิ่งขึ้นมีการ
00:41:22 → 00:41:25 บีบมีการรัดมากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้นเครียด
00:41:25 → 00:41:28 ทุกครั้งพอมีการบีบรัดคุณก็จะมีอาการได้
00:41:29 → 00:41:31 เช่นไม่อยากอาหารอิ่มมากขึ้นคลื่นไส้
00:41:31 → 00:41:36 อาเจียนปวดท้องท้องเวียนหัวอาการพวกนี้ก็
00:41:36 → 00:41:38 จะตามมาแล้วคุณก็จะท้องเสียนั่นเองครับ
00:41:38 → 00:41:41 ฉะนั้นวิธีการก็คือพยายามอย่าเครียดเนาะ
00:41:41 → 00:41:44 ซึ่งมันพูดยากเนาะไม่ให้เครียดอาจจะแบบ
00:41:44 → 00:41:47 อาจจะต้องหากิจกรรมหรือว่านั่งสมาธิหรือ
00:41:47 → 00:41:50 หาวิธีการให้แบบว่าเออเราเราต้องผ่อนคลาย
00:41:50 → 00:41:52 ถูกต้องผ่อนคลายใช่ครับเรารู้อยู่แล้วว่า
00:41:52 → 00:41:54 ทุกครั้งที่เรามีความเครียดเราจะท้องเสีย
00:41:54 → 00:41:57 เพราะฉะนั้นเนี่ย 1 อาจจะลองท้องอะไรเบาๆ
00:41:57 → 00:42:00 หรือเปล่าก่อนนะครับเนาะแล้วก็พยายามผ่อน
00:42:00 → 00:42:02 คลายความเครียดแล้วอย่างคนนี้คือ 1 วิธี
00:42:02 → 00:42:05 ในการที่เขาโteคตัวเองไม่ให้ท้องร่วง
00:42:05 → 00:42:07 เนี่ยก็คือพยายามกินอาหารซ้ำๆอือแล้วก็
00:42:07 → 00:42:10 กินอาหารเบาๆการกินอาหารซ้ำๆเนี่ยเป็น
00:42:10 → 00:42:12 สิ่งที่ดีมั้ยคะคือกินอาหารซ้ำๆอ่ะที่
00:42:12 → 00:42:14 จริงมันก็ทานได้นะครับแต่คราวนี้มันต้อง
00:42:14 → 00:42:17 ขึ้นกับว่าเค้ากินอะไรอืถูกมั้ยครับเนาะ
00:42:17 → 00:42:20 อย่างเช่นถ้าสมมุติเค้ากินอาหารที่ไม่รส
00:42:20 → 00:42:23 จัดกินใยอาหารกินผักกินผลไม้กินเนื้อ
00:42:23 → 00:42:27 สัตว์กินแป้งคาร์โบไฮเดรตที่เพียงพอก็ถือ
00:42:27 → 00:42:29 ว่าโอเคก็สามารถกินได้ซ้ำๆแต่บางคนอาจจะ
00:42:29 → 00:42:33 กินอะไรที่เหมือนๆเดิมไม่หลับหลากหลายไม่
00:42:33 → 00:42:35 มีอาหารอันเนี้ยก็อาจจะไม่ดีต่อร่างกายทำ
00:42:35 → 00:42:38 ให้คุณยิ่งขาดสารอาหารมากยิ่งขึ้นนะครับ
00:42:38 → 00:42:40 เนาะเพราะฉะนั้นคนที่ท้องเสียบ่อยๆก็ยาย
00:42:40 → 00:42:43 อาหารน่ะต้องมีอยู่แล้วเหมือนท้องผูกท้อง
00:42:43 → 00:42:45 เสียยังไงก็ต้องมีกากยายอาหารนะครับเนาะ
00:42:45 → 00:42:47 หรือเราจะไปเพิ่มพวกของจุลินทรีย์พวก
00:42:47 → 00:42:49 เนี้ยโปรไบโอติกพวกเนี้ยมันก็ช่วยด้วย
00:42:49 → 00:42:53 เหมือนกันครับอืแล้วอีกคำถามนึงค่ะอย่าง
00:42:53 → 00:42:56 เคสเนี้ยเราชัดเจนเนาะว่าเา้าท้องร่วงมา
00:42:56 → 00:42:58 ตลอดอันเนี้ยซีเรียสแน่นอนแต่ว่าสำหรับ
00:42:58 → 00:42:59 ใครที่ดูอยู่แล้วอาจจะมีปัญหาที่คล้าย
00:42:59 → 00:43:02 คลึงกันแต่ก็ยังไม่แน่ใจเอ๊ฉันถึงขั้นที่
00:43:02 → 00:43:04 ฉันจะต้องไปหาหมอหรือรักษาหรือยังนะอยาก
00:43:04 → 00:43:09 ถามว่าต้องท้องเสียบ่อยขนาดไหนหรือถึง
00:43:09 → 00:43:12 วิกฤตขนาดนั้นถึงควรจะไปพบแพทย์ท้องเสีย
00:43:12 → 00:43:15 ขนาดไหนให้มาดูเรื่องของน้ำหนักตัวอืมอ่า
00:43:15 → 00:43:17 มันก็จะแบ่งเป็น 3 ระดับนะครับระดับแรกก็
00:43:17 → 00:43:22 คือท้องเสียแต่น้ำหนักไม่ลดต่ำกว่า 5%
00:43:22 → 00:43:26 ของน้ำหนักตัวณปัจจุบันนะครับเนาะแล้วก็
00:43:26 → 00:43:29 มีอาจจะมีคลื่นไส้มีอาเจียนทองร่วงบ้าง
00:43:29 → 00:43:32 อันนี้ก็สามารถหายด้วยตนเองได้นะครับเนาะ
00:43:32 → 00:43:36 อาจจะกินอ่ายาซื้อยามากินเองเช่นอ่ายา
00:43:36 → 00:43:38 เอ่อเกลือแร่ถูกมั้ครับ ORS นะครับเนาะ
00:43:38 → 00:43:42 เกลอรพวกเกือรก็ต้องควรทานมันเข้าไปคนนี้
00:43:42 → 00:43:44 เค้าก็ทานเกลือแรกอเกือแรกแล้วอคนนี้ทาน
00:43:44 → 00:43:46 เกอแรกนะครับเนาะพวกเนี้ยก็สามารถหายเอง
00:43:46 → 00:43:49 ได้นะครับยาตัวที่ 2 ที่สามารถทานได้ก็
00:43:49 → 00:43:52 คือผงถ่านรู้จักมั้ยอ่าผงถ่าน activated
00:43:52 → 00:43:55 ชาโคนะครับเนาะพวกนี้มันก็สามารถดูดซึม
00:43:55 → 00:43:58 สารพิษหรือเชื้อโรคที่อยู่ในลำไส้ของเรา
00:43:58 → 00:44:00 แล้วก็จับจับทำให้อุจจาระจับเป็นก้อนมาก
00:44:00 → 00:44:03 ยิ่งขึ้นและอันสุดท้ายก็คือยาหยุดถ่าย
00:44:03 → 00:44:05 นั่นเองนะครับยาหยุดถ่ายเนี่ยพวกนี้มันก็
00:44:06 → 00:44:08 จะทำให้อ่าลำไส้ของเราไม่ขยับเขยื้อนเร็ว
00:44:08 → 00:44:11 จนเกินไปครับอ่ายาพวกนี้เป็นยาสามัญประจำ
00:44:11 → 00:44:13 บ้านที่ทุกคนสามารถทานได้นะครับเนาะแปล
00:44:13 → 00:44:15 ว่าถ้าสมมุติว่าเราเริ่มเป็นก็เริ่มจากยา
00:44:15 → 00:44:18 พวกนี้ก่อนทานแล้วถ้ายาพวกนี้ทานแล้วรู้
00:44:18 → 00:44:21 สึกแต่ห้ามมากกว่า 5 วันเป็นต้นไปนะครับ
00:44:21 → 00:44:24 เนาะเริ่มมันยังไม่ดีขึ้นเลยอันเนี้ยต้อง
00:44:24 → 00:44:27 ไปหาแพทย์และนะครับอันเนี้ยระดับแรกระดับ
00:44:27 → 00:44:31 ที่ 2 น้ำหนักลดมากกว่า 6 ถึง 9% ของน้ำ
00:44:31 → 00:44:34 หนักตัวปัจจุบันอันนี้ก็จะเริ่มมีอาการ
00:44:34 → 00:44:38 อย่างอื่นเช่นเวียนศีรษะนะครับจังหวะเต้น
00:44:38 → 00:44:41 ของหัวใจมากขึ้นมากกว่า 100 นะครับเนาะ
00:44:41 → 00:44:45 ปัสสาวะเริ่มน้อยลงนะครับอันเนี้ยก็ต้อง
00:44:45 → 00:44:47 รีบต้องไปหาแพทย์นะครับและอันสุดท้ายหนัก
00:44:47 → 00:44:50 สุดรุนแรงสุดรุนแรงสุดน้ำหนักลดมากกว่า
00:44:50 → 00:44:53 10% ของน้ำหนักตัวผู้หญิงอาจจะชอบก็ได้
00:44:53 → 00:44:56 เนาะพอดีค่ะหมอไม่อยากไม่อยากไปไม่อยากจะ
00:44:56 → 00:44:59 ดีขึ้นแล้วค่ะอยากพออ่าคราวนี้ก็รุนแรง
00:44:59 → 00:45:03 10% ก็คือเป็นลมได้หมดสติจังหวะเต้นของ
00:45:03 → 00:45:07 หัวใจมากกว่า 120 ความดันลดลงต่ำกว่า 90
00:45:08 → 00:45:11 ก็ได้นะครับเนาะแล้วก็อาการใจสั่นนะครับ
00:45:11 → 00:45:14 เนาะหน้ามืดตามัวคลื่นไส้อาเจียนพวกเนี้ย
00:45:14 → 00:45:17 อาจจะช็อกได้ควรรีบไปโรงพยาบาลเลยทีเดียว
00:45:17 → 00:45:19 ครับอืก็ให้ดูน้ำหนักตัวแล้วกันเออแต่
00:45:19 → 00:45:21 อย่าดีใจ
00:45:21 → 00:45:24 ดีใจมันอาจจะไม่ดีก็ได้อาจจะไม่ดีก็ได้
00:45:24 → 00:45:27 ไอ้ที่น้ำหนักรถอ่ะมันน้ำอื่ไข่ไขมันไข
00:45:27 → 00:45:30 มันยังอยู่จ้าไม่ได้อยู่เดี๋มันก็กลับมา
00:45:30 → 00:45:32 เออ
00:45:32 → 00:45:35 สรุปง่ายๆของเคสนี้ก็คืออย่างแรกเลยเขา
00:45:35 → 00:45:37 ไม่ได้กังวลมากเกินไปเนาะเพราะว่าอันเนี้
00:45:37 → 00:45:39 คือเป็นมาทั้งชีวิตแล้วและที่สำคัญคือมี
00:45:39 → 00:45:41 ประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งด้วยฉะนั้น
00:45:41 → 00:45:44 อันดับแรกคือจะต้องตรวจใช่มั้คะไม่ๆถาม
00:45:44 → 00:45:46 ก่อนว่าถามพ่อแม่เป็นตอนอายุเท่าไหรเป็น
00:45:46 → 00:45:49 อายุเท่าไหร่แล้วเราก็ - 10 มาเราจะได้
00:45:49 → 00:45:51 รู้ว่าเราควรจะไปตรวจตอนอายุเท่าไหร่ตอน 2
00:45:51 → 00:45:53 การ 2 กล้องสำหรับการ 2 กล้องเท่านั้น
00:45:53 → 00:45:56 เนาะแต่ว่าณปัจจุบันถ้าสมมติว่าพ่อแม่จำ
00:45:57 → 00:45:58 ไม่ได้เป็นเมื่อไหร่ก็ไม่ซื้ออย่างแรกตอน
00:45:58 → 00:46:01 เนี้ยสามารถเจาะเลือดพืชตรวจดูว่าเอ๊ะมัน
00:46:01 → 00:46:03 ผิดปกติมั้แล้วก็ตรวจอุจจาระถูกต้องครับ
00:46:03 → 00:46:06 ถูกต้องมั้คะแล้วก็อันต่อมาก็คือเนื่อง
00:46:06 → 00:46:09 จากว่าเขามักจะท้องเสียตอนที่เครียดตั้ง
00:46:09 → 00:46:12 แต่เด็กเลยก็อาจจะต้องหาวิธีการลดความ
00:46:12 → 00:46:14 เครียดอย่างจริงจังเนาะลดความเครียดอย่าง
00:46:14 → 00:46:16 จริงจังอันนี้ฟังดูขัดแยงแต่ว่าจริงๆอ่ะ
00:46:16 → 00:46:18 มันสำคัญนะอย่างเช่นเราอาจจะสมมุตินะทำ
00:46:19 → 00:46:21 งานกลับมาตอนนี้เขาบอกว่าวิธีการคาย
00:46:21 → 00:46:23 เครียดเคือดูซีรีส์มันอาจจะต้องมีอย่าง
00:46:23 → 00:46:24 อื่นที่อาจจะได้ขยับเพื่อเยอะร่างกายมั้ย
00:46:24 → 00:46:27 อย่างเช่นสมมุติออกไปเดินเล่นหรืออาจจะ
00:46:27 → 00:46:29 ต้องหากิจกรรมอะไรที่มันแบบได้ใช้ร่างกาย
00:46:29 → 00:46:31 หน่อยนะอย่างเมื่อกี้ที่หมอบอกไปคือทุก
00:46:31 → 00:46:34 ครั้งที่คุณมีความเครียดมันทำให้กรดใน
00:46:34 → 00:46:36 กระเพาะอาหารหลังมากยิ่งขึ้นเพราะฉะนั้น
00:46:36 → 00:46:38 เนี่ยอ่ะหมอเข้าใจว่าคนไข้คนนี้อาจจะเป็น
00:46:38 → 00:46:41 คนที่แบบตั้งใจทำงานตั้งใจตลอดเวลาเขาอาจ
00:46:41 → 00:46:44 จะลืมกินข้าวหรือกินอาหารระหว่างมือหรือ
00:46:44 → 00:46:46 เปล่าแล้วปล่อยให้ท้องมันว่างจนเกินไป
00:46:46 → 00:46:49 แล้วพอความเครียดมันมามันก็เลยทำให้แสบ
00:46:49 → 00:46:52 กระเพาะหมดเลยถูกมยเพราะฉะนั้นก็อาจจะลอง
00:46:52 → 00:46:54 มีของว่างบ้างนะครับเนาะทุกๆแบบ 2
00:46:54 → 00:46:56 ชั่วโมงทุกๆ 4 ชั่วโมงอะไรพวกเนี้ยหรือ
00:46:56 → 00:46:59 กินพวกพวกโปรตีนปั่นหรืออะไรพวกเนี้ยครับ
00:46:59 → 00:47:01 เพื่ออย่างน้อยไม่ให้ท้องมันว่างจนเกินไป
00:47:01 → 00:47:04 อืฉะนั้นหลักๆของเคสเนี้ยก็น่าจะเป็น 2
00:47:04 → 00:47:07 พอย์นี้เนาะพอยที่ 3 อันนี้ขอเสริมเองคือ
00:47:07 → 00:47:11 ต้องรีบเพราะไม่รู้นะส่วนตัวคือเราทุกวัน
00:47:11 → 00:47:13 นี้ก็เห็นข่าวว่าคนเป็นมะเร็งก็เด็กลง
00:47:13 → 00:47:15 เรื่อยๆเนาะแล้วบางทีอย่างของเขาเนี่ย
00:47:15 → 00:47:17 ค่อนข้างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นมีคนใน
00:47:17 → 00:47:19 ครอบครัวเป็นมะเร็งเนาะแล้วก็ท้องเป็นคน
00:47:19 → 00:47:22 ท้องร่วงมานานตั้งแต่เกิดแล้วเนี่ยค่อน
00:47:22 → 00:47:24 ข้างสุ่มเสี่ยงเลยฉะนั้นไม่แน่ใจว่าเขา
00:47:24 → 00:47:26 เป็นคนที่ตรวจสุขภาพประจำปีอยู่แล้วหรือ
00:47:26 → 00:47:29 ไม่เนาะถ้าอันนี้ก็อาจหวังว่าเทปเนี้ยถ้า
00:47:29 → 00:47:32 ได้ออกไปอยากจะให้เป็นเหมือนแบบการเตือน
00:47:32 → 00:47:34 ใจว่าถึงเวลาตรวจแล้วนะเนาะแล้วก็อาจจะ
00:47:34 → 00:47:36 ถึงเวลาที่จ้องจัดการกับความเครียดอย่าง
00:47:36 → 00:47:38 จริงจังก่อนที่มันจะกลายเป็นโรคร้ายอืใช่
00:47:38 → 00:47:41 ครับอก็วันนี้ขอบคุณมากเลยนะคะหมอจิมมี่
00:47:41 → 00:47:44 ที่มาให้ความรู้ทางด้านขับถ่ายนะคะไม่ว่า
00:47:45 → 00:47:47 จะเป็นท้องเสียท้องผูกอยากให้ทุกคนถ่ายดี
00:47:47 → 00:47:49 อยากให้ทุกคนถ่ายดีอยากให้ทุกคนปลดทุกข์
00:47:49 → 00:47:52 ปลดทุกข์หมอจิมมี่ช่วยปลดทุกข์ได้แล้ว
00:47:52 → 00:47:55 เดี๋ยวไว้โอกาสน่าจะชวนมาตอบคำถามใหม่นะ
00:47:55 → 00:47:57 คะเพราะว่าจริงๆหมอหมอจิมมี่ก็มีความถนัด
00:47:57 → 00:48:00 มากมายเนาะแล้วก็จะได้มาคุยกันในประเด็น
00:48:00 → 00:48:03 อื่นๆนะคะก็ถ้าใครชอบคลิปนี้นะคะแล้วก็
00:48:03 → 00:48:05 รู้สึกว่าตัวเองเนี่ยอยากจะมีคำถามเรื่อง
00:48:05 → 00:48:06 ทางด้านสุขภาพสามารถส่งเข้ามาได้เลยใน
00:48:07 → 00:48:09 ลิงก์ด้านล่างนะคะหรือสามารถสแกน QR coด
00:48:09 → 00:48:12 มาก็ได้ค่ะแล้วพบกันใหม่ใน EP หน้านะคะ
00:48:12 → 00:48:17 สวัสดีค่ะสวัสดีครับ