00:00:00 → 00:00:03 This Is tha PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice พฤติกรรมการรับประทานอาหารการกิน
00:00:08 → 00:00:10 ของเราเนี่ยมันเหมาะสมหรือเปล่าต้องบอก
00:00:10 → 00:00:13 อย่างงี้วิตามินต่างๆอย่างเพียงพอมถ้าไม่
00:00:13 → 00:00:16 พอนะพูดง่ายๆว่าเมื่อพร่องต้องเสริมถ้า
00:00:17 → 00:00:19 เสริมคุณต้อง[\h__\h]เลยแต่ถ้าคุณไปหาหมอ
00:00:19 → 00:00:22 เนี่ยขาดถ้าหมอเจาะดูนะอ่าแต่ถ้าเรารู้
00:00:22 → 00:00:24 ว่าเอ้ยเริ่ม[\h__\h]มันมี 2 ระดับไงครับถ้า
00:00:24 → 00:00:26 ในาต Anti aging เนี่ยเขาจะเรียกว่าเอ้ย
00:00:26 → 00:00:29 sub optimal Level หรือการพร่องสมมุติ
00:00:29 → 00:00:31 ว่าต่ำกว่า 10 เนี่ยถือว่าขาดเราอาจจะ
00:00:31 → 00:00:34 อยู่ที่ 10 อ่าหรืออยู่ที่ 11 มันเริ่ม
00:00:34 → 00:00:37 [\h__\h]แล้ว่ะกับอีกคนนึงอยู่ 18 19 นะก็จะ
00:00:37 → 00:00:39 มีเจี้เต็มที่อีกคนเริ่ม[\h__\h]แล้วอย่าง
00:00:39 → 00:00:41 เงี้ยอันแล้วเนี่ยอาจารย์เปรียบเทียบให้
00:00:41 → 00:00:45 เห็นภาพง่ายๆแต่เกินก็ไม่ดี
00:00:45 → 00:00:49 นะฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทยฟัง
00:00:49 → 00:00:54 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ is
00:00:54 → 00:00:55 to PBS
00:00:55 → 00:00:58 podcast สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับ
00:00:58 → 00:01:01 เข้าสู่รายการโรงหมอทางไย PBS podcast
00:01:01 → 00:01:04 ค่ะวันนี้เรามาพบกันเช่นเคยนะคะติดตาม
00:01:04 → 00:01:06 สาระการดูแลสุขภาพกันได้วันนี้เกี่ยวกับ
00:01:06 → 00:01:10 เรื่องของวิตามินเออจริงๆก็ดีต่อตัวเรา
00:01:10 → 00:01:13 ถ้าจะใช้ในเรื่องของการเสริมนะคะแต่เสริม
00:01:13 → 00:01:17 ยังไงได้แค่ไหนมันจำเป็นขนาดนั้นมยหรือ
00:01:17 → 00:01:20 ไม่ต้องเสริมก็ได้สำหรับวิตามินนะคะ
00:01:20 → 00:01:22 เดี๋ยวคุยกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราช
00:01:22 → 00:01:25 บำรุงพืชจากวิทยาลัยการแพทย์บูรณการ
00:01:25 → 00:01:27 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:27 → 00:01:31 อาจารย์คะครับสวัสดีครับผมวิตามินเสริม
00:01:31 → 00:01:36 ได้แต่อย่าเยอะอ้าวนี่แสดงว่าก็ก็ได้นะ
00:01:36 → 00:01:40 เสริมได้ก็ได้นะถ้ามันจำเป็นใช่มยคือต้อง
00:01:40 → 00:01:42 ถูกต้องครับนี่แหละคีย์เวิร์ดอยู่ที่ว่า
00:01:42 → 00:01:46 ถ้ามันจำเป็นอ่าแล้วมันจำเป็นหรือไม่
00:01:46 → 00:01:48 จำเป็นล่ะแล้วจะรู้ได้ยังไงก็ขึ้นอยู่กับ
00:01:48 → 00:01:51 พฤติกรรมการบริโภคของแต่ละคนไม่ใช่เอะอะ
00:01:51 → 00:01:55 กินเสริมเอะอะกินเสริมนะแล้วมันก็จะต้อง
00:01:55 → 00:01:58 ประเมินไงค่ะว่าพฤติกรรมการรับประทาน
00:01:58 → 00:02:00 อาหารการกินของเราเนี่ยเนี่ยมันเหมาะสม
00:02:00 → 00:02:03 หรือเปล่าต้องบอกอย่างงี้วิตามินต่างๆ
00:02:03 → 00:02:06 อย่างเพียงพอมั้ยค่ะอ่าถ้าไม่พอนะพูดง่าย
00:02:06 → 00:02:10 ๆว่าเมื่อพร่องต้องเสริมอือ่าพร่องนะยัง
00:02:10 → 00:02:12 ไม่ถึงกับขาดนะถ้าเสริมคุณต้องพร่องเลย
00:02:12 → 00:02:15 แต่ถ้าคุณไปหาหมอเนี่ยขาดอ๋อขาดแล้วแหละ
00:02:15 → 00:02:18 ถ้าหมอเจาะดูนะอ่าแต่ถ้าเรารู้ว่าเอ้ย
00:02:18 → 00:02:20 เริ่ม[\h__\h]มันมี 2 ระดับไงครับถ้าในสาต
00:02:21 → 00:02:23 Anti aging เนี่ยเขาจะเรียกว่าเอ้ย sub
00:02:23 → 00:02:26 optimal Level หรือการพร่องค่ะนะคำว่า
00:02:26 → 00:02:29 พร่องเนี่ยคือเต็ม 10 สมมุติว่าเอ่อ 10
00:02:29 → 00:02:33 เนี่ยนะต่ำกว่า 10 เนี่ยถือว่าขาดอืเรา
00:02:33 → 00:02:36 อาจจะอยู่ที่ 10 พอดีเป๊ะอ่าหรืออยู่ที่
00:02:36 → 00:02:39 11 มันเริ่ม[\h__\h]แล้วอ่ะอ่าแต่ถ้าจะให้ดี
00:02:39 → 00:02:43 เลยอ่ะคือ 20 อ๋อสมมุติอ่าสมมุตินะครับ
00:02:43 → 00:02:47 ว่าอุยจะให้ดีเลย 20 อ่ะแล้วเราอยู่ที่ 10
00:02:47 → 00:02:50 11 12 เอ้ยมันเริ่ม[\h__\h]แล้วอ่ะมันจะขาด
00:02:50 → 00:02:52 แล้วถ้าต่ำกว่า 10 คือขาดอค่ะกับอีกคนนึง
00:02:52 → 00:02:55 อยู่ 18 19 เอออันนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย
00:02:55 → 00:02:58 โใช่เขาก็แบบอุยเต็มที่ค่ะนะก็จะมี
00:02:58 → 00:03:00 เอเนอจี้เต็มที่อีกคนเริ่ม[\h__\h]แล้วอย่าง
00:03:00 → 00:03:03 เงี้ยอันแล้วเนี่ยอาจารย์เปรียบเทียบเอ่อ
00:03:04 → 00:03:07 ให้เห็นภาพง่ายๆเนาะว่าแบบเอ้ยคนเราแบบ
00:03:07 → 00:03:11 ถ้าทาง Anti aging ลเรียกว่าสับ optimal
00:03:11 → 00:03:13 Level คือเริ่ม[\h__\h] optimal Level คือ
00:03:13 → 00:03:15 สมบูรณ์สูงสุดเนี่ยคือไปเต็มแม็กเต็ม
00:03:15 → 00:03:18 เพดานเลยค่ะอ่าสูงสุดแต่เกินก็ไม่ดีนะถูก
00:03:18 → 00:03:22 มั้ยรักษาระดับไปก่อนมีมาตรฐานบอกว่าโถ้า
00:03:22 → 00:03:25 คุณ 20 เนี่ยคุณเต็มแม็กเลยออ่าเหมือนแบบ
00:03:25 → 00:03:28 คุณคุณได้เต็มที่อ่ะอ่าคุณเต็มแม็กเลยแต่
00:03:28 → 00:03:32 ถ้าเกิดว่าคุณแบบลงมาต่ำกว่า 10 คุณขาด
00:03:32 → 00:03:36 ค่ะอ่าอีกคนนึง 11 อีกคนนึง 19 ไอ้คน 19
00:03:36 → 00:03:40 มันก็จะต้องถูกมั้ยค่ะเต็มที่มากกว่าอ่า
00:03:40 → 00:03:42 อ่าสูงกว่าแล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่[\h__\h]ที่
00:03:42 → 00:03:45 ขาดมันก็จำเป็นต้องเสริมอืมันก็ต้อง
00:03:45 → 00:03:47 ประเมินแล้วว่าคุณ[\h__\h]คุณขาดหรือเปล่า
00:03:48 → 00:03:51 แล้วเราจะไปตรวจดูว่าเรา[\h__\h]หรือเราขาด
00:03:51 → 00:03:52 หรืออะไรอย่างเงี้ยก็ต้องไปเจาะเลือด
00:03:52 → 00:03:55 อย่างเดียวเลยมั้ยคะหรือว่าแบบจริงๆแล้ว
00:03:55 → 00:03:57 การประเมินเนี่ยระดับเอ่อเรื่องของสาร
00:03:57 → 00:04:00 อาหารหรือวิตามินในร่างกายเนี่ยทางเอ่อ
00:04:00 → 00:04:04 โภชนาการเนี่ยเขาจะมีสิ่งที่ที่วิธีการใน
00:04:04 → 00:04:08 การประเมินเนาะอ่าเเรียกว่าอาจารย์เรียก
00:04:08 → 00:04:12 เป็นตัวย่อ a b c d ค่ะอ่า a b CD A
00:04:12 → 00:04:14 คือ anthropometry anthropometry หรือ
00:04:15 → 00:04:17 anthropometric assessment ประเมินโดย
00:04:17 → 00:04:20 การวัดสัดส่วนต่างๆของร่างกายซึ่งส่วน
00:04:20 → 00:04:22 ใหญ่เนี่ยในตัววิตามินอาจจะแบบมันไม่
00:04:22 → 00:04:26 เหมือนสารอาหารที่แบบเอ้ยบางตัวบางทีขาด
00:04:26 → 00:04:29 นะขาดโปรตีนกล้ามเนื้อเฮียวีฟฟออ่าถ้ากิน
00:04:29 → 00:04:32 ขไขมันเกินโอหไขมันสะสมเยอะอันนั้นคือน้ำ
00:04:32 → 00:04:34 หนักขึ้นนะประเมินแบบ anthropometric
00:04:34 → 00:04:37 assessment คือตัว a ตัว b คือ Bio
00:04:37 → 00:04:39 Chemical assessment ประเมินภาวะ
00:04:39 → 00:04:42 โภชนาการโดยวัดตัวชี้วัดทางชีวะเคมีคือ
00:04:43 → 00:04:46 เจาะเลือดอ้าดูไปเลยว่าคุณขาดวิตามิน a
00:04:46 → 00:04:50 หรือเปล่าคุณขาดวิตามิน B หรือเปล่าขาด
00:04:50 → 00:04:52 วิตามิน C หรือเปล่าขาดวิตามิน E หรือ
00:04:52 → 00:04:55 เปล่าเจาะเลือดดูอือฮึอ่าก็คือต้องแลบอ๋อ
00:04:55 → 00:04:58 อ่าจะตรวจแลบเจาะเลือดอันนี้ก็จะได้ความ
00:04:58 → 00:05:01 ชิอชัวร์เลยอันเนี้ยเที่ยงตรงแม่นยำชัวร์
00:05:01 → 00:05:04 ๆเลยค่ะอ่าแล้วก็ไม่ต้องให้มีอาการแสดง
00:05:04 → 00:05:06 ออกมาก่อนนะเพราะถ้ามีอาการแสดงออกมาก่อน
00:05:06 → 00:05:10 เนี่ยเช่นเอ่อการตรวจแบบที่ 3 ก็คือ
00:05:10 → 00:05:13 clinical assessment ออ่าประเมินอาการ
00:05:13 → 00:05:16 ทางคลินิกคือหมอก็ต้องตรวจเช่นเฮ้ยคุณมี
00:05:16 → 00:05:20 ปัญหาอาการเอ่อเลือดออกตามไรฟันอ่าก็ขาด
00:05:20 → 00:05:22 วิตามินซีแบบสมัยเราเรียนเด็กน้อยโฮ้ย
00:05:22 → 00:05:25 แล้วมีอาการเหน็บชาเรามีอาการเหน็บชาอ้า
00:05:25 → 00:05:29 ขาดวิตามิน B1 ค่ะอ้าวเราตาบอดกลางคืน
00:05:29 → 00:05:31 กลางคืนมองเหเห็นไม่ชัดขาดวิตามินเอนั่น
00:05:31 → 00:05:34 น่ะคือขาดไปแล้วแล้วแสดงอาการออกมาแล้ว
00:05:34 → 00:05:37 แล้วไปตรวจอันนั้นคือทางคลินิคอลค่ะตรวจ
00:05:38 → 00:05:41 ทางคลินิกพูดง่ายๆว่ามันเกิดขึ้นแล้วคือ
00:05:41 → 00:05:44 เหมือนกับแบบเพื่อการรักษาและถูกต้องแต่
00:05:44 → 00:05:47 ถ้าเพื่อการป้องกันก็เลยต้องเจาะเลือด
00:05:47 → 00:05:51 ตรวจไงอือแต่ราคาแพงถูกมั้ยครับไอ้คลินิค
00:05:51 → 00:05:54 Anti aging โรงพยาบาลเอกชนทั้งหลายแหล่
00:05:54 → 00:05:57 เนี่ยนะครับก็ต้องมาเจาะตรวจมันก็แพงอีก
00:05:57 → 00:06:01 อืแล้วก็วิธีสุดท้ายอันนี้ประหยัดถูกแต่
00:06:01 → 00:06:04 มันก็ไม่ได้เที่ยงตรงแม่นยำเหมือนเจาะค่ะ
00:06:04 → 00:06:07 ประเมินต้นทางได้ตั้งแต่แรกได้ก็คือ
00:06:07 → 00:06:10 dietary assessment ตัวดอกอือ่าก็คือ
00:06:10 → 00:06:13 ประเมินอาหารที่บริโภคว่าค่ะคุณรีเนี่ย
00:06:14 → 00:06:16 รับประทานอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินซี
00:06:16 → 00:06:19 เนี่ยมากน้อยแค่ไหนอือ่าบอกอาทิตย์นึงรับ
00:06:19 → 00:06:21 ประทานกี่ครั้งรับประทานทุกวันมั้ยสำรวจ
00:06:21 → 00:06:26 นะหรือสัมภาษณ์นะหรือทำแบบสอบถามอ่าเพื่อ
00:06:26 → 00:06:28 ดูอาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินแต่ละตัว
00:06:28 → 00:06:30 ว่าดูว่าเอ้ยขาดมั้ย
00:06:30 → 00:06:32 อันนี้มันไม่ต้องเสียเงินอะไรกระดาษค่า
00:06:32 → 00:06:34 กระดาษแล้วก็มานั่งคุยแต่แต่บางทีก็ตอบ
00:06:35 → 00:06:37 แบบงงๆได้เหมือนกันนะใช่เพราะเราลืมไงมัน
00:06:37 → 00:06:40 ก็จะมีวิธีการแบบหลายวิธีเช่นเอ่อ 24
00:06:40 → 00:06:43 hour recall ก็คือสัมภาษณ์อาหารบริโภค
00:06:43 → 00:06:46 ย้อนหลังเชื่อมั้ยหลายคนโดยเฉพาะสวจำไม่
00:06:46 → 00:06:49 ได้เมื่อวานเย็นกินอะไรกินไปรึยังอ้า
00:06:49 → 00:06:51 อาจารย์ถามว่ามื้อกลางวันเมื่อวานคุณลี
00:06:51 → 00:06:53 กินอะไรมื้อกลางวันต้องคิดก่อนนะคิดนานนะ
00:06:53 → 00:06:56 บางทีคิดนานเลยเมื่อวานเราไปไหนเทำอะไร
00:06:56 → 00:07:00 บางคนงานยุ่งมากเลยแล้วกินอะไรไปวะสเห็นม
00:07:00 → 00:07:03 จำไม่ได้แล้วต้องสำเอ่อสัมภาษณ์เนี่ยย้อน
00:07:03 → 00:07:05 หลัง 24 ช่มเ้าเรียก 24 hour recall
00:07:05 → 00:07:09 นี่แค่ 24 ช่วโมงยังจำไม่ได้แล้วเลยอย่า
00:07:09 → 00:07:11 ไปถาม 2-3 วันก่อนนะใช่นี่เมื่อวานเย็น
00:07:11 → 00:07:14 กินอะไรยังนึกเลยเอ๊เรากินอะไรเออเห็นมั้
00:07:14 → 00:07:16 ต้องให้ครบรอบอันเนี้ยก็จะได้ประเมินได้
00:07:16 → 00:07:18 ว่าเอ้ยคุณได้รับอาหารที่เป็นแหล่งของ
00:07:18 → 00:07:21 วิตามินมากน้อยแค่ไหนอย่างเงี้ยเขาก็จะมี
00:07:21 → 00:07:23 วิธีการประเมิน a b c d อย่างที่
00:07:23 → 00:07:25 อาจารย์บอก a ก็คือ anthropometric
00:07:25 → 00:07:27 assessment ประเมินสัดส่วนของร่างกาย
00:07:27 → 00:07:29 ซึ่งส่วนใหญ่วิตามินไม่ค่อยบ่งชี้เท่า
00:07:29 → 00:07:33 ไหร่นะตัว B เนี่ยโดยตรงไบโอเคมิคอลเจาะ
00:07:33 → 00:07:37 เลือดดูทางชีวเคมีตัว C มันมีอาการแล้ว
00:07:37 → 00:07:40 ถึงตรวจได้ตัวดีคืออาหารแล้วมันก็กลาย
00:07:40 → 00:07:42 เป็นว่าเอ้ยอยากจะเที่ยงตรงแม่นยำคุณก็
00:07:42 → 00:07:43 ต้องไปเจาะเลือดตรวจวิตามินแล้วถามว่ามัน
00:07:44 → 00:07:47 จำเป็นแค่ไหนอืนั่นสิอ่าถ้าสมมุติว่าเอ้ย
00:07:47 → 00:07:49 เราแบบไปตรวจสุขภาพประจำปีแล้วมันมี
00:07:49 → 00:07:53 แพ็คเกจแล้วเรารับไหวรับได้อ่าจ่ายได้ค่ะ
00:07:53 → 00:07:56 เนาะส่วนใหญ่จะเป็นโรงพยาบาลเอกชนถ้าเรา
00:07:56 → 00:07:58 อยากจะรู้ก็เจาะตรวจเพราะมันจะเป็น
00:07:58 → 00:08:00 แพทเทิร์นที่บอกเราว่าเฮ้ยถ้าเรากินแบบ
00:08:00 → 00:08:02 เนี้ยโดยไลฟ์สไตล์ของเราแบบเนี้ยมันจะ
00:08:02 → 00:08:06 โบ่งชี้มาได้อืออ่าว่าเฮ้ยเราอ่ะเป็นคน
00:08:06 → 00:08:08 ที่แบบเนี่ยนะขาดวิตามินบางตัวสมมุติบาง
00:08:09 → 00:08:12 คนขาดวิตามินดีอย่างเงี้ยแดดก็ไม่ค่อยถูก
00:08:12 → 00:08:14 อาหารที่เป็นแหล่งของวิตามินดีก็ไม่ค่อย
00:08:14 → 00:08:16 กินอย่างเงี้ยวิตามินดีต่ำเราก็รู้แล้ว
00:08:16 → 00:08:19 ว่าเฮ้ยเราจำเป็นนะที่จะต้องกินเสริมนะ
00:08:19 → 00:08:21 แล้วเสริมจากไหนจากอาหารก่อนแต่เพลิน
00:08:21 → 00:08:23 อาหารเราใช้วิถีชีวิตเร่งรีบเราก็ไม่ค่อย
00:08:23 → 00:08:25 ได้กินอีกค่ะมันก็เลยจำเป็นที่จะต้องแบบ
00:08:25 → 00:08:30 กินเสริมอือ่าซึ่งวิตามินที่ที่เสริม
00:08:30 → 00:08:31 เนี่ยมันจะมีอยู่ 2 กลุ่มด้วยกันจริงๆ
00:08:31 → 00:08:34 แล้วไม่ใช่เสริมหรอกโดยโดยหลักการเลย
00:08:34 → 00:08:36 เนี่ยคือชนิดของวิตามินเนี่ยจะมีอยู่ 2
00:08:36 → 00:08:39 ชนิด 2 กลุ่มก็บอกอย่างงี้คือวิตามินที่
00:08:39 → 00:08:42 ละลายในน้ำกับไม่ละลายในน้ำอ่าก็คือละลาย
00:08:42 → 00:08:45 ในไขมันอือ่าละลายในน้ำกับละลายในไขมัน
00:08:45 → 00:08:48 ลายๆในใครในน้ำเนี่ยจะมีอยู่ 2 ตัวคือ
00:08:48 → 00:08:53 วิตามิน B ก็จะมี B1 B2 B3 b5 b6 b7
00:08:53 → 00:08:59 นะไบโอติน b9 นะเอ่อโฟต B12 โอ้โหเพียบ
00:08:59 → 00:09:01 เลยโกับวิตามิส่วนใหญ่บ้านเราก็คือ
00:09:01 → 00:09:05 วิตามินบรวมอ่ะที่ขายอ่ะอือ่ากับวิตามิน
00:09:05 → 00:09:07 ซีคือละลายในน้ำค่ะอันเนี้ย
00:09:07 → 00:09:10 เสริมจะปลอดภัยกว่าละลายในไขมันเพราะ
00:09:10 → 00:09:13 ละลายในน้ำเนี่ยมันถูกขับออกได้ง่ายทาง
00:09:13 → 00:09:17 ปัสสาวะอ้าใช่ๆอ่าเหชเนกินแล้วจะปลอดภัย
00:09:17 → 00:09:20 มากกว่าค่ะคือฉี่ออกไปอ่ะค่ะพูดง่ายๆบาง
00:09:20 → 00:09:23 คนบอกโอกินเสริมไปทำไมฉี่แพงฉี่ออกมาอ่า
00:09:23 → 00:09:26 เพราะแกกินผักผลไม้เพียงพออยู่แล้วแกกิน
00:09:26 → 00:09:28 อาหารครบ 3 มื้อแกกินอาหารที่เพื่อสุขภาพ
00:09:28 → 00:09:32 อยู่แล้วบางคนผูกปิ่นโตกับพวกเอ่อศูนย์
00:09:33 → 00:09:36 ที่เขาจัดอาหารเพื่อสุขภาพอ่ะค่ะอ่าคำนวณ
00:09:36 → 00:09:38 ตัวเลขช่างตงวัดมาเลยวันนี้กินเท่านี้
00:09:38 → 00:09:40 เท่านั้นอันนี้อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้อง
00:09:40 → 00:09:42 แบบกินเสริมแล้วไปตรวจปุ๊บเอ้ยฉันไม่ได้
00:09:42 → 00:09:45 ขาดอะไรเลยอ่าแล้วใช้ชีวิตแบบไม่ได้วิถี
00:09:45 → 00:09:49 ชีวิตเร่งรีบกินครบ 3 มื้อแล้วแต่ละมื้อ
00:09:49 → 00:09:55 คุณภาพอืครบค่ะอ่าแล้วก็ตรวจเลือดไม่ขาด
00:09:55 → 00:10:01 อะไรเลยโอ๊ยดีอันนี้คือในอุดมอคติมโนไม่
00:10:01 → 00:10:04 ไม่ได้มีอยู่ในชีวิตจริงใช่ในอุดมคติถ้า
00:10:04 → 00:10:08 ทำได้อย่างงั้นอือ่าซึ่งถ้าเราทำไม่ได้ก็
00:10:08 → 00:10:10 จำเป็นต้องเสริมทีนี้เสริมในกลุ่มละลายใน
00:10:10 → 00:10:12 น้ำมันก็จะปลอดภัยกว่าเพราะเกินมันก็ขับ
00:10:12 → 00:10:16 ออกแต่ละลายในไขมันเนี่ยมันจะสะสมอ๋อหรอ
00:10:16 → 00:10:18 คะอ่าก็ต้องมาดูว่าเอ้ยมันปลอดภัยไม่ปลอด
00:10:18 → 00:10:20 ภัยก็ขึ้นอยู่กับว่าเราขาดแค่ไหนเหมือน
00:10:20 → 00:10:23 น้ำอ่ะคุณรีนึกออกมั้ยสมมุติว่าน้ำเนี่ย
00:10:23 → 00:10:27 ค่ะเรามีอยู่ครึ่งแก้วอือเราเติมเข้าไป
00:10:27 → 00:10:31 เต็มแก้วมันก็มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็ดี
00:10:31 → 00:10:35 เราก็มีน้ำเต็มแก้วพกพาไปใช้ในแต่ละวัน
00:10:35 → 00:10:39 ค่ะอ่าตามบทบาทหน้าที่น้ำก็เหมือนวิตามิน
00:10:39 → 00:10:41 ที่เติมเข้าสู่ร่างกายเราค่ะแล้วก็ไปใช้
00:10:41 → 00:10:44 ได้อย่างเต็มที่เต็มถังอ่ะพี่ถูกมยอ่า
00:10:44 → 00:10:46 เหมือนถังน้ำมันร่างกายเราเนี่ยมาเติม
00:10:46 → 00:10:49 วิตามินวิตามินก็เหมือนน้ำมันเติมเข้าไป
00:10:49 → 00:10:52 แล้วถ้าเราเติมล้นถังทำไมครับอันตรายถูก
00:10:52 → 00:10:55 มยหกเต็มไปหมดเลยเกิดสตาร์ทเครื่องมาพุบ
00:10:55 → 00:10:58 ไฟลุกไหม้ขึ้นมาคนะล้นถังเหมือนกันอเพราะ
00:10:58 → 00:11:00 ว่าอาารพูดแบบเนี้ยนึกภาพออกเพราะว่าอะไร
00:11:00 → 00:11:04 รู้ป่าคือเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะได้
00:11:04 → 00:11:08 คุยกับอาจารย์ไปร้านขายยาอ่าฮะแล้วไปเจอ
00:11:08 → 00:11:11 พวกวิตามินเสริมเนี่ยเพียบเลยอาจริงๆไม่
00:11:11 → 00:11:13 ใช่แค่เฉพาะร้านขายยาเดี๋ยวนี้มีหลายที่
00:11:13 → 00:11:16 Super Store เยอะเลยอ่ะอ่าวางขายกัน
00:11:16 → 00:11:20 เป็นแบบที่เป็นเม็ดฟู่ค่ะอาจารย์มีทุกแบบ
00:11:20 → 00:11:24 แมกนีเซียมวิตามินซีวิตามินบี Everything
00:11:24 → 00:11:27 จิบที่ไม่ได้เป็นเม็ดแคปซูลหรือเป็นเม็ด
00:11:27 → 00:11:28 ใหญ่ๆที่เราต้องกลืนน่ะอใจอันนี้เป็นเม็ด
00:11:28 → 00:11:31 ฟูแบบเม็ดฟู่นะคะซึ่งก็แบบยืนแล้วก็ยืนงง
00:11:31 → 00:11:36 ในดงวิตามินอาจารเฮ้ยเราควรเลือกอะไรอ่ะ
00:11:36 → 00:11:39 เฮ้ยเราแต่เขาจะมีคำอธิบายนะอาจารย์ว่า
00:11:39 → 00:11:42 วิตามินนี้สำหรับอะไรนะคนที่แบบอาจจะนอน
00:11:42 → 00:11:46 ไม่ไม่เพียงพอขาดไอ้นู่นอะไเออมีข้อมูล
00:11:46 → 00:11:48 แต่เราก็รู้สึกว่าเอ๊ะแล้วเรายังจำเป็น
00:11:48 → 00:11:51 ต้องกินมั้ยแต่ที่ผ่านมาเนี่ยที่ซื้อก็
00:11:51 → 00:11:54 คือเป็นวิตามินซีเม็ดฟู่ค่ะอาจารย์เพราะ
00:11:54 → 00:11:57 ว่าก่อนหน้าเนี้ยเป็นภูมิแพ้บ่อยบ่อย
00:11:57 → 00:11:59 เพราะหลังจากเป็นโควิดแล้วปุ๊บเป็นภูมิ
00:11:59 → 00:12:02 แพ้เป็นนานขึ้นหมายความว่ากินยาเม็ดเดียว
00:12:02 → 00:12:05 เริ่มไม่อยู่อ่าเริ่มแบบต้องกินยา 2 เม็ด
00:12:05 → 00:12:07 หรืออะไรเงี้ยแล้วรู้สึกว่าเฮ้ยมันกิน
00:12:07 → 00:12:09 เกินโดสละอือถึงมันจะเป็นเม็ดเล็กๆแต่เขา
00:12:09 → 00:12:12 ให้กินวันละครั้งยาแก้แพ้เเลยเอ๊ะไม่ได้
00:12:12 → 00:12:16 แล้วต้องเสริมวิตามินซีมีคนแนะนำวิิซีซ
00:12:16 → 00:12:19 อะไรอย่างงี้ก็เลยไปซื้อแตบก็งงอีกแหละ
00:12:19 → 00:12:22 อาจารย์มันต้องซีไหนอหมายถึงว่ากี่
00:12:22 → 00:12:24 มิลลิกรัมมันต้องยังงแล้วฟอร์มไหนอีกมัน
00:12:24 → 00:12:27 มีหลายฟอร์มหลายรูปแบบงงแล้วจะกินกี่
00:12:27 → 00:12:30 มิลลิกรัมอ้าแล้วที่กินเราอาหารทุกวันนี้
00:12:30 → 00:12:33 ไม่พอเหรอเออแล้วไอ้ที่ขายอยู่ก็ราคาต่าง
00:12:33 → 00:12:36 กันหลายแล้วก็ฉันก็ต้องเลือกอะไรเเข้าใจ
00:12:36 → 00:12:40 เอาง่ายๆนะขององค์การเภสัชบางทีราคา 100
00:12:40 → 00:12:43 เดียวพอกระทึบมาอีกยี่ห้อนึงเอของของของ
00:12:43 → 00:12:46 ผู้ประกอบการรายอื่นมีตั้งแต่ 150 200
00:12:46 → 00:12:50 300 500 ฉันควรกินอะไรก็แต่มันคือ
00:12:50 → 00:12:52 วิตามินซีเหมือนกันต้องถามตั้งแต่แรกก่อน
00:12:52 → 00:12:54 ว่าฉันควรกินมั้ยอ๋อออไม่ใช่ฉันควรกิน
00:12:54 → 00:12:58 อะไรใช่มั้ยคแล้วฉันควรกินฉันควรกินมั้ยอ
00:12:58 → 00:12:59 อ่าแล้วฉันควรกิน
00:12:59 → 00:13:03 ฟอร์มไหนเออเออ่ากินเมื่อไหร่เวลาพิจารณา
00:13:03 → 00:13:05 พวกเอ่อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่างๆหรือ
00:13:05 → 00:13:08 วิตามินเสริมเนี่ยค่ะมันต้องดู 2 อย่าง 2
00:13:08 → 00:13:13 ดีคือดีแรกคือโดสอืคือปริมาณดีที่ 2 คือ
00:13:13 → 00:13:18 ดิณเอ่อ duration Time ระยะเวลาอืเฮ้ย
00:13:18 → 00:13:21 นานแค่ไหนที่เรากินถูกมยส่วนใหญ่แล้ว
00:13:21 → 00:13:25 วิตามินคนกลัวว่ากินแล้วมันจะตกค้างอ่าทำ
00:13:25 → 00:13:28 เอ่อมีผลต่อตับต่อไตนู่นนี่นั่นอือเนาะ
00:13:28 → 00:13:30 อาจารย์ถึงบอกว่าเอ้ยเฮ้ยถ้าละลายในน้ำอ
00:13:30 → 00:13:33 ผลค่อนข้างปลอดภัยอ่าละลายในไขมันอาจจะ
00:13:33 → 00:13:36 ต้องอ่าระมัดระวังเพราะมันสะสมในร่างกาย
00:13:36 → 00:13:38 ได้สะสมในเนื้อเยื่อไขมันได้อ๋ออ่าอาจจะ
00:13:39 → 00:13:41 มีความเป็นพิษความเป็นพิษของมันจะสูงกว่า
00:13:41 → 00:13:43 อ่าแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี่ยถึงบอกว่าเอ้ย
00:13:43 → 00:13:45 เมื่อเรา[\h__\h]เราขาดเราจำเป็นต้องเสริมนะ
00:13:45 → 00:13:48 เราไม่ใช่หลับหูหลับตาเสริม้าเราจะพร่อง
00:13:48 → 00:13:50 หรือขาดได้นั้นเราก็ต้องประเมินประเมิน
00:13:50 → 00:13:52 ง่ายๆเลยถ้าเราไม่ไปเจาะเลือดพฤติกรรมการ
00:13:52 → 00:13:55 บริโภคของเราเนี่ยกินผักผลไม้เพียงพอมั้ย
00:13:55 → 00:13:59 ไม่วันนึงไม่ค่อยอ่าผักเนี่ย 6 ทับพีถึง
00:13:59 → 00:14:03 มั้ยไม่ถึงอ่าผลไม้เนี่ย 3 3 กำมือถึง
00:14:03 → 00:14:06 มั้ยแล้วแต่วันอ่าแล้ววันนึงอ่ะครึ่งกิล
00:14:06 → 00:14:08 พูดง่ายๆตีรวมผักผลไม้เนี่ย 400 กรัม
00:14:08 → 00:14:11 เนี่ยหรือ 4 ขีดเนี่ยถึงมั้ยถึงบ้างไม่
00:14:11 → 00:14:14 ถึงบ้างอ่าอย่างเงี้ยเราก็เฮ้ยจำเป็นต้อง
00:14:14 → 00:14:16 เสริม
00:14:16 → 00:14:18 อ๋อแต่ถ้าเกิดถ้าเกิดเมื่อกี้ตอบอาจารย์
00:14:18 → 00:14:21 ใหม่อาจารย์ถามวิตามินเอ้ยไม่ใช่ดิผักกิน
00:14:21 → 00:14:24 เยอะมย 6 ทปีมั้ยอูยกินผักเยอะมากอาารอ่า
00:14:24 → 00:14:27 บางคนกินแพนเบสไงเสายแพนเบสไดเอตอ่ะสาย
00:14:27 → 00:14:32 เขียวอ่ะเน้นผักเลยสายเขียวหมายถึงผัก
00:14:32 → 00:14:36 นะแล้วก็อาจารย์บอกว่าผลไม้เอ้ยเต็มที่
00:14:36 → 00:14:39 ทุกมื้ออันนี้ไม่ต้องเสริมะถูกต้องฉะนั้น
00:14:39 → 00:14:42 แล้วถ้าเขากินแบบครบถ้วนเขาไม่จำเป็นค่ะ
00:14:42 → 00:14:44 อ่าทีนี้การเสริมเนี่ยมันจะมีอยู่อย่าง
00:14:44 → 00:14:48 นี้ครับ 2 2 โดสด้วยกันคำว่าดีเนี่ยโดส
00:14:48 → 00:14:51 เนี่ยถ้าโดสเนี่ยคือแบ่งออกเป็น 2 โดสโดส
00:14:51 → 00:14:54 แรกเนี่ยภาษาอังกฤษเขาเรียกภาษาวิชาการ
00:14:54 → 00:14:57 เขาเรียก physiological doose
00:14:57 → 00:15:00 physiological แปลว่าสรีรวิทยาของร่าง
00:15:00 → 00:15:04 กายอ่าเป็นโดสหรือปริมาณที่ทำให้ร่างกาย
00:15:04 → 00:15:07 ทำหน้าที่ได้ตามปกติโอ้โหคือ
00:15:07 → 00:15:09 physiological เหมือนวิตามินซีอ่ะเราบอก
00:15:10 → 00:15:12 ว่าเฮ้ยร่างกายต้องการวันละ 100 เองนะ
00:15:12 → 00:15:16 อือแต่ถ้าเราอยากจะกินเพื่อเสริมภูมิคุ้ม
00:15:16 → 00:15:19 กันค่ะบรรเทาอาการหวัดเสริมสร้างคอลลาเจน
00:15:19 → 00:15:22 ค่ะนะบรรเทาภูมิพ้งภูมิแพ้อะไรว่าไปอัน
00:15:22 → 00:15:23 นั้นจะต้องเป็น
00:15:23 → 00:15:27 Fic doose เป็นโดสที่เป็นยาครับฟามาโค
00:15:27 → 00:15:29 แปลว่ายาอ๋อไม่ใช่่
00:15:29 → 00:15:31 แบบเมื่อกี้ถูกต้อง physical คือแค่ร่าง
00:15:31 → 00:15:36 กายทำงานได้ตามปกติอือฮึคือ physical
00:15:36 → 00:15:38 doose คือดสที่ร่างกายทำงานได้ตามปกติ
00:15:38 → 00:15:41 อย่างเงี้ยอ้าเช่นเรากินวันละวิตามินซี
00:15:41 → 00:15:43 วันละ 100 ในอาหารเสริมอ่ะเขาให้ใส่ได้
00:15:43 → 00:15:47 เต็มที่ 60 ค่ะอ่าก็ไม่ได้เยอะเลยในอาหาร
00:15:47 → 00:15:50 เสริมนะแต่ถ้าเป็นยาส่วนใหญ่วิตามินซีที่
00:15:50 → 00:15:53 เราขายๆกันเนี่ยคือรูปยานะแต่คนทั่วไปก็
00:15:53 → 00:15:56 จะเรียกว่าอาหารเสริมวิตามินซีเนี่ยเรียก
00:15:56 → 00:15:59 ผิดอ่าจริงๆแล้วมันคือยานะครับออปริมาณ
00:15:59 → 00:16:02 มันสูงกว่า 60 มกที่เขกำหนดก็คือขึ้น
00:16:02 → 00:16:05 ทะเบียนเป็นยาคือ 500 มก 1,000 มกอ่าที่
00:16:05 → 00:16:09 เราจะเห็นใช่ๆอ่าทีนี้เราจะกินมันจะมีค่า
00:16:09 → 00:16:13 นึงครับคุณรีเขาจะเรียกว่าค่า ul อืค่า
00:16:13 → 00:16:17 Upper Limit intake ค่า U คือปริมาณ
00:16:17 → 00:16:21 ของวิตามินนั้นๆเนี่ยที่ร่างกายรับได้ใน
00:16:21 → 00:16:25 แต่ละวันไม่เกิดอันตรายกับสุขภาพร่างกาย
00:16:25 → 00:16:29 อือ่าเช่นวิตามินซีมีค่าอายุอยู่ที่ 2,000
00:16:29 → 00:16:33 นะ 2,000 มิลลิกรัมอโอไม่ควรกินเกินนี้
00:16:33 → 00:16:36 ค่ะอ่าซึ่งส่วนใหญ่แล้วอาจารย์ก็แนะนำ 500
00:16:36 → 00:16:39 ค่ะอ่าช่วงไหนที่สตสมากหน่อยเจ็บไข้ได้
00:16:39 → 00:16:42 ป่วยไม่สบายก็ 1,000 อือ่าหรือคุณอยากจะ
00:16:42 → 00:16:45 บูทขึ้นมาแรงๆเลย 2,000 เต็มที่ห้ามเกิน
00:16:45 → 00:16:48 นี้นะอ่าแต่แต่ละวันเนี่ยคุณกินมื้อเช้า
00:16:48 → 00:16:52 นะเพราะว่าร่างกายคุณน่ะจะสตสเนี่ยคือตอน
00:16:52 → 00:16:55 ทั้งวันระหว่างวันถูกมั้ยครับค่ะวิตามิน
00:16:55 → 00:16:58 ซีเป็นวิตามินละลายในน้ำงั้นแล้วจริงๆ
00:16:58 → 00:17:01 แล้วเนี่ยเนี่ยคุณกินตอนไหนก็ได้ค่ะอ่า
00:17:01 → 00:17:03 ไม่จำเป็นที่ต้องหลังมื้ออาหารทันทีหรือ
00:17:03 → 00:17:07 พร้อมมื้ออาหารอือ่าแต่แค่ว่าบางฟอร์ม
00:17:07 → 00:17:10 เช่น ascorbic Acid วิตามินซีนะมันเป็น
00:17:10 → 00:17:13 กรดค่ะบางทีมันระคายเครืองกระเพาะบางคล
00:17:13 → 00:17:16 กินเข้าไปเา้าก็จะมีฟอร์มที่เป็นแคตเป็น
00:17:16 → 00:17:20 ฟอร์มที่เป็นเกลือหรือไปจับกับตัวเอ่อไข
00:17:20 → 00:17:24 มันนะอ่าเช่นแสคบิปามีดหรือมีเทคโนโลยี
00:17:24 → 00:17:27 ที่เป็น sustain release ค่อยๆปลดปล่อย
00:17:27 → 00:17:30 โมเลกุลของวิตามินซีได้ยาวนานตลอดทั้งวัน
00:17:30 → 00:17:32 อันนี้ขึ้นอยู่กับฟอร์มแล้วเห็นมั้ยราคา
00:17:32 → 00:17:35 มันถึงมีตั้งแต่ 100 บาทยันเป็น 1000 อ่า
00:17:35 → 00:17:37 เป็น 1000 บาทเห็นมั้ยครับแล้วมันขึ้น
00:17:37 → 00:17:39 อยู่กับฟอร์มและค่ะอ่าว่าเฮ้ยมันจะไป
00:17:40 → 00:17:43 ฟอร์มไหนเทคโนโลยีไหนถ้าบางทีเราซื้อเอ้ย
00:17:43 → 00:17:45 ธรรมดาเลยเบสิคมันก็มีประโยชน์นะแต่เรา
00:17:45 → 00:17:50 กินปุ๊บมันก็ถูกดูดซึมแล้วปล่อยไปเลยที
00:17:50 → 00:17:52 เดียวเลยเรากิน 500 เนี่ยอาจารย์บอกเลยนะ
00:17:52 → 00:17:55 ดูดซึมได้สูงสุด 300 อ่าหายไป 200 จ้เรา
00:17:55 → 00:17:59 กิน 1,000 ดูดซึมได้สูงสุดก็ 300
00:17:59 → 00:18:03 อุ๊ยอ่าฉะนั้นแล้วบอกเลยว่าเรากิน 500
00:18:03 → 00:18:07 กว่า 1,000 ครั้งเดียวให้ผลไม่ต่างกันใน
00:18:07 → 00:18:09 การถูซึมอันนี้จากการศึกษาวิจัยนะอ๋อ
00:18:09 → 00:18:12 เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องแบกิน 500
00:18:12 → 00:18:15 เช้ากิน 500 กลางวันดีกว่าอแต่ถ้าบางคน
00:18:15 → 00:18:19 บอกว่าอุยอาจารย์หนูซื้อแบบซนรสค่อยๆปลด
00:18:19 → 00:18:22 ปล่อยโมเลกุลเออก็ว่าไปก็กินเช้าอย่าง
00:18:22 → 00:18:25 เดียวมันก็ปล่อยได้เย็นๆแล้วก็จบระหว่าง
00:18:25 → 00:18:29 วันเรามีอนุมูลอิสระเราเผชิญ PM 2.5 เรา
00:18:29 → 00:18:32 เผชิญความเครียดอือฮกินอาหารที่ไม่ดีไข
00:18:32 → 00:18:36 มันไม่ดีน้ำตาลสูงอันนี้แหละมันจะช่วยถึง
00:18:36 → 00:18:38 บอกว่าเฮ้ยต้องกินตอนเช้านะพวกวิตามินที่
00:18:38 → 00:18:40 เป็นแอนติออกซิแดนท์เนี่ยกินหลังอาหาร
00:18:40 → 00:18:42 เช้าเพราะเราไม่รู้บางตัวเราก็แบบเอ้ย
00:18:43 → 00:18:46 เกิดมันละลายในไขมันอ่ามันก็จะได้อาศัยไข
00:18:46 → 00:18:50 มันในมื้ออาหารทำให้มันดูซึมได้ดีอูย
00:18:50 → 00:18:52 เนี่ยเห็นมยมาคุยกับอาจารย์หลังจากซื้อมา
00:18:53 → 00:18:55 แล้วไงแล้วก็แต่แต่อันนี้เป็นแบบกินเพื่อ
00:18:55 → 00:18:59 แบบการไม่ให้ตัวเองเป็นภูมิแพ้บ่อยอมันก็
00:18:59 → 00:19:01 ได้ผลนะเพราะว่าปริมาณที่มันมีอยู่มันมี
00:19:01 → 00:19:04 แค่มันเขียนเป็นกรัมหรือยังไงไม่แน่ใจค่ะ
00:19:04 → 00:19:06 อาจารย์จำไม่ได้เพราะแต่ดูดูก่อนซื้อ
00:19:06 → 00:19:09 เพราะอาจารย์เคยสอนแล้วว่าอ่านฉลาดก่อน
00:19:09 → 00:19:12 นะแต่บางอย่างก็งงๆไม่เข้าใจเหมือนกันนะ
00:19:12 → 00:19:14 อะไรที่เขาเขียนอะไรอย่าเงี้ยแต่มันก็จะ
00:19:15 → 00:19:18 มีหลายๆตัวแต่ปริมาณของวิตามินซีที่ซื้อ
00:19:18 → 00:19:21 มาเนี่ยใน 1 เม็ดมันจะอยู่ประมาณ 50 กว่า
00:19:21 → 00:19:24 เองน้อยๆน้อยๆรู้สึกว่าเฮ้ยกินขแล้ว 50
00:19:24 → 00:19:25 กว่ามิลลิกรรมใช่มั้ยครับใช่มั้ยคะ
00:19:25 → 00:19:27 อาจารย์อ่า 50 กว่ามิลลิกรัมเนี่ยจะบอก
00:19:27 → 00:19:30 ว่ามันอาหารเสริมเให้ใส่ได้เท่านี้แหละ
00:19:30 → 00:19:33 แต่อาจารย์เชื่อว่าคุณรีซื้อมาเนี่ยอาจจะ
00:19:33 → 00:19:35 มีวิตามินตัวอื่นผสมอยู่ด้วยใช่มีตัวอื่น
00:19:35 → 00:19:39 ผสมอ่าแล้วก็ให้กินวันละเม็ดเท่านั้นเม็ด
00:19:39 → 00:19:44 ฟู่กับปริมาณน้ำ 200 มิลล ML อ่าก็มีวัน
00:19:44 → 00:19:49 นึงค่ะอยากเสริมครับเพราะเห็นมันแค่ 56
00:19:49 → 00:19:51 อ่าฮะเออไปจำตัวเลขผิดนะค่ะคุณผู้ฟังก็
00:19:52 → 00:19:55 คิดว่าเฮ้ยมันเติมได้เออวันนั้นก็เลยเช้า
00:19:55 → 00:19:58 ครึ่งเช้า 1 เย็นอีกเอ้ยขออีก 1 แล้วกันอ
00:19:58 → 00:20:02 เออนิดนึงนิดนึงอะไรเงี้ปรากฏว่าอันนี้ขอ
00:20:02 → 00:20:05 โทษคุณผู้ฟังด้วยปัสสาวะออกมาเป็นสี
00:20:05 → 00:20:09 เหลืองเลยอ่าแล้วมีกลิ่นเฮ้ยเหมือนคนชอบ
00:20:09 → 00:20:11 เวลากินวิตามินเสริมอ่ะครับจะจะเป็นอย่าง
00:20:11 → 00:20:14 เงี้ยคือเพราะมันละลายในน้ำไงอแล้วถ้า
00:20:14 → 00:20:17 ส่วนเกินเนี่ยไม่ได้ใช้อ่ะอาจารย์ถึงบอก
00:20:17 → 00:20:19 ว่าเอ้ยมันก็จะถูกขับออกแล้ววิตามินซี
00:20:20 → 00:20:22 เนี่ยบอกเลยว่าควรจะกินน้ำตามเยอะๆค่ะกิน
00:20:22 → 00:20:25 500 มกรเช้ากิน 500 มิลกรัมกลางวันหรือ
00:20:25 → 00:20:28 ใครจะกินซนรีส 500 หรือ 1,000 นะนะครับใน
00:20:29 → 00:20:31 มื้อเช้าหรือมื้อกลางวันจะดีกว่ากินมื้อ
00:20:31 → 00:20:33 เย็นอืออ่าเพราะว่าถ้ากินมื้อเย็นแล้วคุณ
00:20:33 → 00:20:35 ดื่มน้ำน้อยด้วยไอ้เจ้าวิตามินซีอ่ะมันจะ
00:20:36 → 00:20:38 เปลี่ยนไปเป็นพวกออกซาเลตแล้วทำให้เกิด
00:20:38 → 00:20:43 นิ่วที่ไตได้ว้าวอ่าแล้วทุกตัวมันมีข้อดี
00:20:43 → 00:20:46 ข้อจำกัดหรือข้อเสียของมันหมดเลยงั้นก็
00:20:46 → 00:20:48 เข้ากับหัวข้อเราเลยว่าคือเสริมได้แต่
00:20:48 → 00:20:52 อย่าไปเยอะถูกต้องอย่าเยอะ
00:20:52 → 00:20:56 โเดี๋ยวๆๆอาจารย์ไม่ได้ว่าารได้ว่าแค่บอก
00:20:56 → 00:21:00 ว่าอย่าเยอะอออันนี้เยอันเนี้ยจะย้ำเตือ
00:21:00 → 00:21:03 เลยแล้วไปไปเสิร์ชดูข้อมูลได้เลยมันจะมี
00:21:03 → 00:21:05 ค่า ul ที่อาจารย์บอก Upper Limit
00:21:05 → 00:21:08 intake ที่จำกัดได้ในแต่ละวิตามินนะ
00:21:08 → 00:21:11 อย่างวิตามินเออ่ะวิตามินเอเนี่ยสูงสุด
00:21:11 → 00:21:15 ได้ไม่เกิน 10,000 อื IU อย่างเงี้ยอ่า
00:21:15 → 00:21:18 วิตามิน B ไม่เกินเท่าไหร่วิตามินซีอ่า
00:21:18 → 00:21:21 ไม่เกิน 2,000 นะอย่างเงี้ยครับวิตามิน E
00:21:21 → 00:21:25 ไม่เกินเอ่อ 1,000 I อะไรอย่างเงี้ยมัน
00:21:25 → 00:21:27 ก็แต่ละตัวมันก็จะมีบอกไว้ว่าเอ้ยไม่ควร
00:21:27 → 00:21:30 เกินเท่าไหร่แต่ข้อดีของผลิตภัณฑ์เสริม
00:21:30 → 00:21:34 อาหารหรือวิตามินเสริมบ้านเราข้อดีคืออย
00:21:34 → 00:21:38 เนี่ยค่อนข้างที่จะเข้มงวดนะครับก็คือตี
00:21:38 → 00:21:42 กรอบเพดานไว้นะไม่ไม่ไม่เกินอยู่แล้วถ้า
00:21:42 → 00:21:44 เรากินตามฉลากนะออ่าเราไม่ต้องกลัวเกิน
00:21:44 → 00:21:48 เลยไม่ต้องไปแบบว่ากลัวแต่แค่ว่าพอเ่าวะ
00:21:48 → 00:21:51 ไม่ต้องไปบูสแบบสุรีพรนะที่แบบว่านี่ขนาด
00:21:51 → 00:21:54 แบบนิดนึงเฮ้ยขอนิดนึงละกันเอ้ยเราไม่
00:21:54 → 00:21:55 ต้องกลัวเกินอย่างสมมุติว่าวิตามินซี
00:21:56 → 00:21:57 อย่างเงี้ยเราบอกโอหอยบ้านเราให้ใช้ได้
00:21:57 → 00:22:01 แค่ 60 อือฮึแล้วคุณลีคิดดูถ้าสมมุติว่า
00:22:01 → 00:22:03 คุณลีบอกว่าคุณลีอยากได้ 500 คุณลีกินไป
00:22:03 → 00:22:07 10 เม็ดอ่ะว 8 เม็ด 10 เม็ดอ่ะครับกิน
00:22:07 → 00:22:09 เข้าไปแบบ
00:22:09 → 00:22:12 อื้อหือเยอะเกินอีกซึ่งมันก็ไม่ดีอีกนะ
00:22:12 → 00:22:14 เพราะมันเยอะมากเกินมันจะมีส่วนที่ไม่ใช่
00:22:14 → 00:22:18 Active ingredient อือฮึเราเรียกว่า
00:22:18 → 00:22:21 exi ก็คือพูดง่ายๆว่ากระสยาเคยได้ยิน
00:22:21 → 00:22:23 มั้ยถ้าภาษาแบบบ้านๆชาวบ้านเลยคือกระสาย
00:22:23 → 00:22:26 ยาที่จะขึ้นรูปอ่ะมันก็ต้องมีสารกันหืน
00:22:26 → 00:22:29 สารขึ้นโครงตัวเราจะได้รับสารเหล่านั้น
00:22:29 → 00:22:34 สูงวายถูกมั้ยแหมดันลบดันลุลบไอ้วิตามิน
00:22:34 → 00:22:37 ที่เราซื้อไว้แล้วก็แบบว่าจำเจะได้ส่งให้
00:22:37 → 00:22:40 อาจารย์ดูว่ามันแบเอไม่งั้นส่งลนมาได้เลย
00:22:40 → 00:22:44 ทีหลังอาจารย์โหแต่ก็แต่ก็มันมันเห็นผล
00:22:44 → 00:22:47 อยู่ตรงที่ว่าอาการภูมิแพ้หรือว่าเป็น
00:22:47 → 00:22:49 หวัดช่วงหลังเนี่ยหลังจากที่กินมันเนี่ย
00:22:49 → 00:22:52 อือฮึไม่เป็นอ่าวิตามินซีใช่มั้ยครับวซ
00:22:52 → 00:22:56 วิตามินซีเอ่อถ้าไม่ใช่กลุ่มวิตามินเนาะ
00:22:56 → 00:23:02 ก็จะมีพวกเบต้ากูแคนอือ่าจากเห็ดอ่ะครับ
00:23:02 → 00:23:05 อ่าจากเห็ดหอมนี่แหละเค้าสกัดมาจากยีสพก
00:23:05 → 00:23:08 นี้แล้วก็โปรไบโอติกที่ช่วยเรื่องของเอ่อ
00:23:08 → 00:23:12 ภูมิคุ้มกันก็กินพวกโยเกิร์ตอยู่บ้างอ่า
00:23:12 → 00:23:14 แต่วิตามินซีนี่คือมันก็ช่วยช่วยช่วยช่วย
00:23:14 → 00:23:17 ได้โดยตรงเลยอย่างเงี้ยแต่ก็ต้องกินโดส
00:23:17 → 00:23:19 ที่มันแบบอ่าสูงขึ้นมาหน่อยหรือบางทีอ่ะ
00:23:19 → 00:23:23 เราขาดไงมันก็ทำให้จิ๊กซอชิ้นนั้นน่ะค่ะ
00:23:23 → 00:23:27 มัน[\h__\h]ไปค่ะอ่านะแล้วเนี่ยท้ายที่สุดทาง
00:23:27 → 00:23:31 ที่ดีคือการตรวจแล้วคนชอบกลัวการเสริม
00:23:31 → 00:23:34 วิตามินค่ะเนาะคือไม่ใช่หลับหูหลับตา
00:23:34 → 00:23:37 เสริมต้องเสริมอย่างสมเหตุสมผลก็คือคุณ
00:23:37 → 00:23:41 ขาดคุณ[\h__\h]ตัวไหนคุณเสริมไปค่ะอ่าวิตามิน
00:23:41 → 00:23:44 D3 เนี่ยฮอตมากช่วงโควิดเนี่ยที่เสริม
00:23:44 → 00:23:46 กันเพราะมันมีข้อมูลว่าเอ้ยมันช่วยลด
00:23:46 → 00:23:48 อุบัติการณ์การติดเชื้อทางเดินหายใจได้
00:23:48 → 00:23:52 อ่าช่วยเอ่อบรรเทาอาการรองโควิดบรรเทานะอ
00:23:52 → 00:23:54 เดี๋ยวจะบอกว่าเอ้ยอาจารย์มาบอกวิตามิน D3
00:23:54 → 00:23:57 มารักษาอะไรอย่างงี้ไม่ถึงขนาดนั้นแล้วก็
00:23:57 → 00:24:00 แบบใชเอ่อการใช้เนี่ยก็ต้องใช้อย่างเหมาะ
00:24:00 → 00:24:03 สมนี้คำว่าเหมาะสมว่าแต่ละคนมันต่างกันไง
00:24:03 → 00:24:05 ถึงอาจารย์ถึงบอกว่าเอ้ยเราก็ต้องประเมิน
00:24:05 → 00:24:07 ก่อนอ่าแล้วถ้าเราจะใช้ในลักษณะ
00:24:08 → 00:24:09 pharmacological ose เราก็ต้องดู
00:24:09 → 00:24:12 ประสิทธิภาพและความปลอดภัย 2 สิ่งเฮ้ย
00:24:12 → 00:24:14 ประสิทธิภาพคุณรีกินไปเฮ้ยดีอ่ะอือฮึแล้ว
00:24:14 → 00:24:17 คุณลีบอกกินได้นานแค่ไหนอาจารย์ลีกังวล
00:24:17 → 00:24:20 อ่าสมมุติคุณลีก็ไปตรวจสุขภาพประจำปีค่ะ
00:24:20 → 00:24:23 อ่าอย่างน้อยปีละครั้งหรือถ้าเรากินอาหาร
00:24:23 → 00:24:25 เสริมมาปุ๊บไอสัก 6 เดือนครั้งนึงไปตรวจ
00:24:25 → 00:24:29 ค่าการทำงานของตับของไตนะ B เอิน as L
00:24:30 → 00:24:33 พวกนี้ตัวละ 50 บาทค่ะคุณรีไปเจาะเลือดดู
00:24:33 → 00:24:37 มันไม่กี่ร้อยนึกออกมั้ยอ่าซึ่งตรงเนี้ย
00:24:37 → 00:24:39 มันจะบ่งชี้ได้ว่าเฮ้ยที่เรากินน่ะตับไต
00:24:39 → 00:24:43 ของเราเนี่ยมันทำงานหนักเพิ่มขึ้นมยมันจะ
00:24:43 → 00:24:46 เป็นตัวสะท้อนฟ้องออกมาแล้วอาจารย์ถึงบอก
00:24:46 → 00:24:48 ไงว่าแต่ละคนน่ะต่างกันอาจารย์กินอาจจะ
00:24:48 → 00:24:51 เฉยๆตับค่าตับไตของอาจารย์เฉยๆนะแต่ของ
00:24:51 → 00:24:53 คุณลีอาจจะเป็นอีกแบบนึงหรรือเปล่าแล้วพอ
00:24:53 → 00:24:55 ท้ายที่สุดอ่ะเราต้องประเมิน 2 สิ่งไม่
00:24:55 → 00:24:57 ใช่กินแล้วนั่งมโนว่าโอ้ของฉันน่าจะดี
00:24:57 → 00:25:00 เว้ยอืแล้วก็นั่งมโนว่าไตฉันไม่เป็นไรตับ
00:25:00 → 00:25:03 ฉันไม่เป็นไรค่ะนะงั้นแล้วเนี่ยส่วนใหญ่
00:25:03 → 00:25:05 แล้ววิตามินเป็นกลุ่มของสารอาหารที่ค่อน
00:25:05 → 00:25:08 มีความปลอดภัยค่อนข้างสูงโดยเฉพาะวิตามิน
00:25:08 → 00:25:11 ที่ละลายในน้ำสูงกว่าเอ่อสมุนไพรออ
00:25:11 → 00:25:14 สมุนไพรอ่าด้วยสมุนไพรมันถือว่าเป็นสิ่ง
00:25:14 → 00:25:17 แปลกปลอมอือ่าเพราะมันไม่ใช่สารอาหารที่
00:25:17 → 00:25:20 ร่างกายรู้จักค่ะสารอาหารคือร่างกายรู้
00:25:20 → 00:25:23 จักจำเป็นถ้าขาดถ้า[\h__\h]เสริมมามีประโยชน์
00:25:23 → 00:25:28 อ่าอ่าแต่ถ้าคุณคุณแบบกลัวมากเกินบางคน
00:25:28 → 00:25:31 กลัวไม่กล้ากินเลยเดี๋ยวมันตกค้างตกค้าง
00:25:31 → 00:25:34 คนชอบใช้คำว่าตกค้างเนาะกลัวแบบเอ้ยจะกิน
00:25:34 → 00:25:37 วิตามินแล้วมันจะไปทำให้ไตทำงานหนักนู่น
00:25:37 → 00:25:40 นี่นั่นทำไมทีคุณกินชานมไข่มุกคุณกิน
00:25:40 → 00:25:42 ช็อกโกแลตลาวาชิบูย่าฮันนี้น้ำตาลสูงๆอ่ะ
00:25:42 → 00:25:45 คุณไม่กลัวไตคุณทำงานหนักเหรอถูกป่ะมัน
00:25:45 → 00:25:49 ไม่เหมือนกันอแล้วนี่แหละอาจารย์ถึงบอกไง
00:25:49 → 00:25:53 ทีกินชานมไข่มุกช็อกโกแลตลาวาชิบูย่าฮัน
00:25:53 → 00:25:55 นี้นี่คือแบบว่าคุณกินเต็มที่ของหวาน
00:25:55 → 00:25:57 เนี่ยน้ำตาลสูงไตมันก็ต้องทำงานหนักเลือด
00:25:57 → 00:26:00 สุีดหนักอือคุณไม่กลัวเลยทีกินขนมหวานของ
00:26:00 → 00:26:03 หวานเนี่ยเออแต่พอคุณกินวิตามินขึ้นมานิด
00:26:03 → 00:26:06 ๆหน่อยๆโอ๊ยกลัวแบบเดี๋ยวมันจะตกค้างไทำ
00:26:07 → 00:26:10 งานหนักโออ่าคุณกินปิ้งย่างชาบูหมูย่าง
00:26:10 → 00:26:12 เกาหลีหมูกระทะบุฟเฟ่ต์นั่นน่ะสารก่อ
00:26:12 → 00:26:16 มะเร็งตกค้างคุณไม่กลัวน่าๆดีอันนี้ฝาก
00:26:16 → 00:26:18 ไว้ให้คิ
00:26:18 → 00:26:22 อืนะเพราะฉะนั้นเสริมได้แต่อย่าเยอะแต่้า
00:26:22 → 00:26:24 ให้ดีไปตรวจดีกว่าว่าเราคล่องอะไรเพราะ
00:26:24 → 00:26:27 ว่าบางทีเสริมไปมันไม่ได้จำเป็นเลยมันโดน
00:26:27 → 00:26:31 ขับออกเปลืองเปล่าๆใช่ๆขอบคุณอาจารย์
00:26:31 → 00:26:34 เอกราชค่ะสวัสดีค่ะสวัสดีครับหมดเวลาแล้ว
00:26:34 → 00:26:36 ค่ะคุณผู้ฟังค่ะพบกันใหม่ครั้งหน้ากับราย
00:26:36 → 00:26:38 การโรงหมอทางไทย PBS podcast ค่ะวันนี้
00:26:38 → 00:26:42 ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ This Is Toy PBS
00:26:42 → 00:26:45 podcast รู้หรือเปล่าว่าการนอนสระผมบน
00:26:45 → 00:26:47 เตียงสระในร้านทำผมทำให้เกิดอาการเวียน
00:26:47 → 00:26:50 ศีรษะบ้านหมุนหรือทรงตัวไม่ได้ก็ได้แพทย์
00:26:50 → 00:26:53 หญิงกิตยาสรีเลิศฟ้าแพทย์อายุรกรรมฝ่าย
00:26:53 → 00:26:57 การแพทย์ AIA มาบอกให้รู้ครับอาการศีษา
00:26:57 → 00:26:59 เนี่ยมันจะเป็นสัญญาณการเตือนเบื้องต้น
00:26:59 → 00:27:02 ของโรคอื่นๆได้หลายโรคทีเดียวนะคะจริงๆ
00:27:02 → 00:27:04 อ่ะท่านผู้ฟังก็อาจจะบอกว่ามันไม่เห็นจะ
00:27:04 → 00:27:07 อันตรายมันไม่ร้ายแรงถึงกเสียชีวิตนะ
00:27:07 → 00:27:11 เรื่องเวียนศีรษะบ้านหมุนเนี่ยแต่ว่าถ้า
00:27:11 → 00:27:15 เกิดระหว่างการทำกิจกรรมต่างๆเช่นเราขับ
00:27:15 → 00:27:20 รถอยู่ว่ายน้ำเดินข้ามถนนปีนเขาอะไร
00:27:20 → 00:27:22 ประมาณนี้ก็จะทำให้เกิดความเสี่ยงในการ
00:27:22 → 00:27:25 เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้นะ
00:27:25 → 00:27:28 เวียนศีรษะเรียกว่า ess แต่ถ้าถ้าบ้าน
00:27:28 → 00:27:33 หมุนเวียนศีษาบ้านหมุนจะไปเรียกว่าเทก ess
00:27:33 → 00:27:36 เนี่ยใครๆก็ ess ได้เช่นยังไงท่านผู้ฟัง
00:27:36 → 00:27:43 มึนศีรษะงุนงงโคงเครงไม่มั่นใจหวิวๆโหวงๆ
00:27:43 → 00:27:47 ยืนทรงตัวได้ไม่ดีก็มักจะมีสาเหตุที่มา
00:27:47 → 00:27:50 จากสภาวะต่างๆที่ไม่เฉพาะเจาะจงคราวนี้
00:27:50 → 00:27:53 เวียนสิษาบ้านหมุนเนี่ยจะรู้สึกว่าสิ่ง
00:27:53 → 00:27:56 แวดล้อมรอบตัวหมุนอยู่เฉยๆนะเราอยู่เฉยๆ
00:27:56 → 00:28:00 นะสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุนอ้าหรือค่ะตนเอง
00:28:00 → 00:28:03 กำลังหมุนหรือรู้สึกโครงเครงทั้งที่อยู่
00:28:03 → 00:28:06 กับที่ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรกลุ่มเนี้ยนะ
00:28:07 → 00:28:09 กลุ่มที่บ้านหมุนเนี่ยนะมักจะเกิดจากความ
00:28:09 → 00:28:13 ผิดปกติของอวัยวะรับการทรงตัวของหูชั้นใน
00:28:13 → 00:28:17 ที่คอยดูแลสมดุลของร่างกายอืหากมีอาการ
00:28:17 → 00:28:19 รุนแรงก็จะมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นคื่น
00:28:19 → 00:28:23 ใส้อาเจียนหูอื้อค่ะได้ยินลดลงหรือมี
00:28:23 → 00:28:26 เสียงในหูหรือว่ามีความรู้สึกเหมือนจะ
00:28:26 → 00:28:30 เป็นลมซึ่งสิ่งที่น่ากลัวก็คือเวียนศีรษะ
00:28:30 → 00:28:33 บ้านหมูแล้วจะเสียการทรงตัวไงมันก็จะทำ
00:28:33 → 00:28:36 ให้เสี่ยงต่อการล้มหรืออุบัติเหตุต่างๆ
00:28:36 → 00:28:40 ได้โรคที่เกี่ยวกับบ้านหมุนเนี่ยนะเอาโรค
00:28:40 → 00:28:43 ที่พบบ่อยที่สุดก่อนโรคหินปูนในหูชั้นใน
00:28:43 → 00:28:45 เคลื่อนหรือว่าโรคเวียนศีรษะขนาดเปลี่ยน
00:28:45 → 00:28:48 ท่าเอออันนี้ค่อยฟังรู้เรื่องหน่อยนะ B
00:28:48 → 00:28:51 paroxysmal positioning vert คุณหมออา
00:28:51 → 00:28:54 จะบอกว่าเราเนี่ยเป็นโรค bppv ค่ะ
00:28:54 → 00:28:58 อันเนี้ยพบมากในกลุ่มผู้สูงอายุนะคะสาหตุ
00:28:58 → 00:29:01 เกิดจากความเสื่อมของหูชั้นในเป็นโรคที่
00:29:01 → 00:29:04 ทำให้เกิดเวียนศีรษะบ้านหมุนที่พบได้บ่อย
00:29:04 → 00:29:06 ที่สุดอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนเนี่ยจะ
00:29:06 → 00:29:09 เกิดขึ้นทันทีทันใดนะจากการเปลี่ยนท่าทาง
00:29:09 → 00:29:15 ของศีรษะเช่นล้มตัวลงนอนพลิกตัวในที่นอน
00:29:15 → 00:29:18 ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วหรือว่าเงยหน้าขึ้น
00:29:18 → 00:29:22 หลังจากก้มลงหยิบของที่ที่พบบ่อยอะไรรู้
00:29:22 → 00:29:28 เปล่าน้องรีลุกขึ้นนอนสะผมะไปสะผมที่ล้าน
00:29:28 → 00:29:31 ใช่มั้ยคะถ้าไม่รู้ล่ะช่วงที่นอนช่วงที่
00:29:31 → 00:29:35 หัวมันต่ำหรือว่าช่วงที่สระเสร็จและช่วง
00:29:35 → 00:29:38 ที่ลุกขึ้นมาเนี่ยมีการเปลี่ยน Position
00:29:38 → 00:29:41 มีการเปลี่ยนท่าของศีรษะเปลี่ยนท่าเออ
00:29:41 → 00:29:44 ท่านผู้ฟังอาจที่ที่ที่ฟังอยู่อุ๊ยจริง
00:29:44 → 00:29:47 ด้วยเคยเนี่ยไปนอนสระผมแล้วเป็นแบบนี้เลย
00:29:47 → 00:29:51 อาการมักจะเป็นเวลาสั้นๆเป็นช่วงวินาที
00:29:51 → 00:29:55 ที่ขยับศีรษะค่ะแล้วอาการจะค่อยๆหายไปอาจ
00:29:55 → 00:29:58 จะเป็นซ้ำเกือบทุกวันก็ได้อืจะไม่มีหู
00:29:58 → 00:30:02 อื้อไม่มีสูญเสียการได้ยินหรือได้ยิน
00:30:02 → 00:30:05 เสียงผิดปกติในหูค่ะแล้วก็ไม่มีอาการทาง
00:30:05 → 00:30:10 ระบบประสาทเช่นแขนขาชาอ่อนแรงอะไรแบบ
00:30:10 → 00:30:15 นี้ This Is Toy PBS
00:30:15 → 00:30:18 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:30:18 → 00:30:21 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:30:21 → 00:30:24 spotify Sound Cloud Google podcast
00:30:24 → 00:30:27 Apple podcast และ YouTube Channel
00:30:27 → 00:30:29 Thai PB
00:30:29 → 00:30:32 PBS podcast View the world via
00:30:32 → 00:30:33 The Voice
00:30:33 → 00:30:39 [เพลง]