00:00:00 → 00:00:03 งี้เวลาเชฟทำแล้วมาวางไว้แล้วยังไม่กิน
00:00:03 → 00:00:06 ทันทีเนี่ยควรกินทันทีพี่คือยังไงก็ตาม
00:00:06 → 00:00:08 ควรกินที่เขาบอกผมได้ยินบ่อยๆว่า 15 20
00:00:08 → 00:00:12 วินาทีเนี่ยควนททีใช่ถ้าเกินกว่านั้นคือ
00:00:12 → 00:00:16 สิ่งที่ผมตื่นเช้ามา 800 นมาทำมาเสิร์ฟ
00:00:16 → 00:00:19 คุณตอน 6 นพังไปหมดเลยนะไม่มีผลอะไร
00:00:19 → 00:00:23 เลยไม่มีผลอะไรเลยช EP นี้เรามากันที่
00:00:23 → 00:00:26 ร้านฟิลที่วัน Bangkok ครับเพื่อมาหาเชฟฟ
00:00:26 → 00:00:28 ตอนนี้เราจะมาคุยกันเรื่องวิธีกินซูชิโดย
00:00:28 → 00:00:31 เฉพาะครับก็เลยมาหาฟเพราะว่าอยากจะรู้จัก
00:00:31 → 00:00:33 ว่าซูชิในแต่ละแบบมันเป็นยังไงบ้างมีวิธี
00:00:33 → 00:00:36 กินยังไงบ้างในตอนนี้เราจะรู้จักทั้ง
00:00:36 → 00:00:38 ประเภทของข้าวประเภทของปลาแล้วก็วิธีการ
00:00:38 → 00:00:40 กินซูชิที่ทำให้หลังจากนี้เราจะกินซูชิ
00:00:40 → 00:00:43 ได้มีความสนุกมากขึ้นสามารถติดตามได้ใน EP
00:00:43 → 00:00:47 นี้เลยครับ eat diction คุยกับคนในวงการ
00:00:47 → 00:00:53 อาหารว่าเราควรกินอะไรถึงจะ
00:00:53 → 00:00:56 ดีจริงๆซูชิมันคืออะไรแล้วก็เรากินซูชิ
00:00:56 → 00:00:58 แล้วเราควรจะรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับมันพี่
00:00:58 → 00:01:02 ฟอจริงๆซูชิชซูชิเนี่ยมีหลายแบบมากพี่
00:01:02 → 00:01:04 ครับแล้วแต่ยุคแล้วแต่สมัยแล้วแต่แหล่ง
00:01:04 → 00:01:07 ของเขาเลยแล้วก็สไตล์ของร้านก็แตกต่าง
00:01:07 → 00:01:10 อย่างแรกเลยที่ผมจะแนะนำอ่ะสำหรับอ่าคน
00:01:10 → 00:01:14 ที่ทานซูชิมาพอควรแล้วอ่ะครับครับควรหา
00:01:14 → 00:01:17 สไตล์ที่ตัวเองต้องการจะทานก่อนเพราะแต่
00:01:17 → 00:01:20 ละร้านเสิร์ฟไม่เหมือนกันเคยได้ยินเอโด
00:01:20 → 00:01:24 มาเอะเอโดมาเอะคืออ่าซูชิที่เราทานกันจน
00:01:24 → 00:01:26 ทุกวันนี้ละครับอันเนี้ยคือโดมาเอแต่หลัก
00:01:26 → 00:01:29 ๆแล้วถ้าเกิดเอดมาอลึกๆเลยเนี่ยก็จะใช้
00:01:29 → 00:01:33 ใช้วัตถุดิบจากอ่าเอโดะเท่านั้นอ้าตเกียว
00:01:33 → 00:01:35 เท่านั้นมันแบ่งเป็นอะไรบ้างครับถ้าถ้า
00:01:35 → 00:01:37 มันจะมีสตายที่ต่างกันอืมจริงๆแล้วมัน
00:01:37 → 00:01:40 หลักๆเดี๋ยวเนี้ยมีแต่ไอโดมาเอแล้วล่ะ
00:01:40 → 00:01:43 ครับแล้วก็จะมีของทางคันไซก็มีคันไซก็จะ
00:01:43 → 00:01:47 เป็นพวกแบบเอ่อ pria อครับที่เข้ากดข้า
00:01:47 → 00:01:49 อะไรอย่างเงี้ยอคือคือเ้าแบ่งตามภูมิภาค
00:01:49 → 00:01:52 ของญี่ปุ่นใชมโดเอกก็คือใช่ครับแต่ตามยุค
00:01:52 → 00:01:55 สมัยซะมากกว่ายอถ้าเป็นเอโดมากที่บอกเี่
00:01:55 → 00:01:58 ก็คือเป็นช่วงยุคเอ่อยุคเอโดะเอโดะพที่
00:01:58 → 00:02:00 อยู่โตเกียวครับใช่ครับก็จะเป็นสไตล์ที่
00:02:00 → 00:02:03 ใช่ซึ่งสไตล์ทุกวันเนี้ยที่เราทานที่เรา
00:02:03 → 00:02:05 เห็นกันอยู่เนี่ยใช่ครับปลากับข้าวซึ่ง
00:02:05 → 00:02:09 แต่ก่อนแต่ว่ามันก็วิวัฒนาการมาเรื่อยๆ
00:02:09 → 00:02:12 ซึ่งแต่ก่อน AD เนี่ยซูชิคำใหญ่มากพี่บาง
00:02:12 → 00:02:14 ทีซูชิแชทำกันเนี่ยคือเราใช้ 2 มือครับ
00:02:14 → 00:02:17 เดี๋ยวเนี้ยคือมือเดียวกดคือไซส์ 2 มือ
00:02:17 → 00:02:20 เนี่ยคือข้าวคำใหญ่มากๆประมาณ 3 เท่าของ
00:02:20 → 00:02:23 ของทุกวันเนี้ยที่ทานะครับก็เป็นในยุค
00:02:23 → 00:02:25 สมัยก่อนก็เป็นในายุสมัยก่อนของเริ่ม
00:02:25 → 00:02:27 เริ่มแรกของเอโดแล้วทำไมมันถึงเล็กลงพี่
00:02:27 → 00:02:30 ฟอก็เวลาเปลี่ยน
00:02:30 → 00:02:32 ทุกอย่างเปลี่ยนนะครับคือท็อปปิ้งมันก็
00:02:32 → 00:02:36 หลากหลายขึ้นอ๋อจะได้ทานท็อปปิ้งจะได้ทาน
00:02:36 → 00:02:38 เนตะได้หลายๆแบบก็คือเมื่อก่อนเหมือนกับ
00:02:38 → 00:02:41 กินข้าวปั้นเทำเข้าวอิ่มใช่ครับส่วนมากก็
00:02:42 → 00:02:45 จะเป็นของหมักของดองของต้มของตุนสมากด้วย
00:02:45 → 00:02:49 ซูชิจริงๆแล้วไมจริงๆแล้วก็ูนูหน่าก็ดอง
00:02:49 → 00:02:53 สึเกะกุ้งโคฮาดะก็ดองเกลือน้ำส้มใส่ชู
00:02:53 → 00:02:55 เพราะสมัยนั้นมันตู้เย็นมันยังไม่มีส่วน
00:02:55 → 00:02:59 ประกอบหลักของซูชิมันคือข้าวเลยข้าวแล้ว
00:02:59 → 00:03:04 ก็เนตะเนตะคืออะไรนะเนตะคือทอปปิ้งของ
00:03:04 → 00:03:07 ซูชิจะเรียกว่าเนตะเรียกว่าเนตะครับจริงๆ
00:03:07 → 00:03:11 แล้วแล้วแต่คนให้ความสำคัญแค่ไหนอือ่า
00:03:11 → 00:03:15 อย่างผมอย่างเงี้ยผมให้ 60 40 คือเข้า 60
00:03:15 → 00:03:20 เนตะ 40 อออความสำคัญของชิ้นครับเชฟท่าน
00:03:20 → 00:03:23 อื่นก็อาจจะ 60 40 เนตะมาก่อนคสำคแล้ว
00:03:23 → 00:03:26 แต่คนแล้วแต่คนแล้วแต่สไตล์ของคนออก็คือ
00:03:26 → 00:03:28 ส่วนส่วนประกอบหลักจริงๆก็จะมีเนตะกับ
00:03:28 → 00:03:31 ข้าวใช่แล้วจริงๆผมีฟไว้ประมาณ 5% เป็น
00:03:31 → 00:03:36 ตัว Bridge เช่นซาบีโชอันนี้คือตัว Bing
00:03:36 → 00:03:38 เข้ามาผสมกันบางทีก็อาบางครำอาจจะไม่ใช้
00:03:38 → 00:03:42 บางำอาจจะใช้เกลือใช้อ่าส้มใช้อะไรพวกนี้
00:03:42 → 00:03:46 คือถ้าพี่ไปทางอไปทางแถวภาคใต้อ่ะครับ
00:03:46 → 00:03:50 คิวชูอ่ะครับแล้วคิชูมาเออ่ะคิชูมาเอส่วน
00:03:50 → 00:03:54 มากเนี่ยเกลือหนักๆเกลือยูซุเกลือซึชิซะ
00:03:54 → 00:03:57 ส่วนมากจะไม่ค่อยใช้ไม่ค่อยใช้โเท่าไหร่
00:03:57 → 00:04:01 ซึ่งโชของทางของภูมิภาคคิชูฮากาตะเนี่ยเเ
00:04:01 → 00:04:03 ออกหวานนำซึ่งมันก็จะไม่ค่อยเหมาะกับซูชิ
00:04:03 → 00:04:06 เท่าไหฮากาตะคือส่วนคิชูคือภาคใต้พุกกะ
00:04:06 → 00:04:10 พุกกะอ่าภาคใต้สุดก็คือตอนเที่ผมฟังพี่ฟอ
00:04:10 → 00:04:13 เนี่ยจะมีภาคใต้มีเอ่อคันไซก็คือแถว
00:04:13 → 00:04:16 โอซาก้าแถวใช่มั้ยฮะเกียวโตเนที่เป็นแบบ
00:04:16 → 00:04:18 ที่เมื่อกี้บอกเป็นอัดเป็นบล็อกเป็นเป็นเ
00:04:18 → 00:04:21 เี้ยใช่มยใช่โตก็มีของมันอีกานึงซึ่งจริง
00:04:21 → 00:04:24 ๆอยู่ห่างกัน 15 นาทีจเนี่ยโตก็จะมีซูชิ
00:04:24 → 00:04:28 คำเล็กๆเรียกว่าเทิซูชิเทิเทิคือปั้นกลมๆ
00:04:28 → 00:04:31 คือเาทำมาเพื่อให้แต่ก่อนแบบเอาใจพวกเกชา
00:04:31 → 00:04:33 พี่เวลาเกชาเแต่งหน้าเต็มๆแล้วอ่ะการทาน
00:04:33 → 00:04:36 ซูชิคำใหญ่ๆเหมือนแบบโอซูชิคำใหญ่ๆมันก็
00:04:36 → 00:04:38 ไม่เหมาะสมเก็เลยปั้นเป็นก้อนเล็กๆให้เขา
00:04:38 → 00:04:40 ทานได้สะดวกขึ้นไม่ไม่เลอะ Make Up ไม่
00:04:40 → 00:04:43 เลอะอะไรอก็สไตล์ญี่ปุ่นน่ะที่เขาแบบ
00:04:43 → 00:04:46 caring คือคิดเยอะแต่เดี๋ยวเนี้ยถ้าเกิด
00:04:46 → 00:04:50 พูดกันแบบตามทั่วไปในตลาดเลยแบบที่เรา
00:04:50 → 00:04:52 เห็นจะเป็นเอโดะมาเอะใช่มั้ยครับเอโดะ
00:04:52 → 00:04:54 มาเอะแต่ว่าก็จะอาจจะเอาอย่างอื่นมาแล้ว
00:04:54 → 00:04:58 ก็แหวกแนวไปตามสไตล์ของของวิถีการกินของ
00:04:58 → 00:05:03 คนหรือว่าวเชอย่างเงี้ยครับ
00:05:03 → 00:05:08 อือจริงๆแล้วมันไม่มีร้านโคเซนะอืเรา
00:05:08 → 00:05:10 เรียกว่าร้านซูชิเราเรียกว่าร้านซูชิร้าน
00:05:10 → 00:05:13 ซูชิของผมก็ร้านซูชิแต่ผมเสิร์ฟสไตล์
00:05:14 → 00:05:17 อากาเสโอมากาเสะคือสไตล์โคสคือสไตล์ก็คือ
00:05:17 → 00:05:21 เอ่อเชื่อใจเชฟเหมือนเหมือเชฟเเหมือนเหมื
00:05:21 → 00:05:24 เหมเหมือนเชฟเมนูอ่ะครับอือือแต่จริงๆมัน
00:05:24 → 00:05:26 ไม่มีแบบร้านแบบเป็นแล้วเอ้ยเนี่ยๆ OM
00:05:26 → 00:05:29 กาเสะร้าน OM คาเสะไม่ใช่อ๋อเฮ้ยวันนี้ไป
00:05:29 → 00:05:32 กินอะไรไปกินล้างซูชิอออ่าแต่กินสไตล์ไหน
00:05:32 → 00:05:35 อก็คือโกาสโกาสมันใช้กับอย่างอื่นด้วย
00:05:35 → 00:05:37 มั้ยครับใช้กับอย่างอื่นได้หมดเลยมันก็
00:05:37 → 00:05:39 คือ shap Travel ในภาษาญี่ปุ่นท่านเอง
00:05:39 → 00:05:43 ุ่นเวลาแบอกว่าไปกินโมาเกษตมาก็จะงงะใช่
00:05:43 → 00:05:46 ถ้าเกิดคุยกับคนญี่ปุ่นเองอือโอมากาเสะ
00:05:46 → 00:05:50 อะไรอ่ะซูชิเหรออือยากิโทริเหรออือแต่คน
00:05:50 → 00:05:52 ยังมีมีบางคนที่อาจจะเข้าใจผิดอยู่ว่า
00:05:52 → 00:05:55 โอมากาเสะแปลว่าร้านซูชิไม่ใช่คเรียกว่า
00:05:55 → 00:05:58 ร้านซูชิเรียกว่าร้านซูชิซูชิยะซูชิยะ
00:05:58 → 00:06:01 ซูชิยะซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเสิร์ฟเอ่อเนี่ยมี
00:06:01 → 00:06:04 ปลาเป็นเป็นส่วนประกอบของซใช่ครับซึ่ง
00:06:04 → 00:06:07 องค์ประกอบของชียจริงๆแล้วเจะมีอ่าึิ
00:06:07 → 00:06:11 อาหารทานเล่นซื้อมามิอ่าแต่บางร้านอย่าง
00:06:11 → 00:06:15 เช่นอ่าไปร้านลงจิโรลงจิโรนี่ก็ซุชิล้วน
00:06:15 → 00:06:18 อือืแต่ส่วนมากเขาก็จะมีอ่าร้านอื่นๆส่วน
00:06:18 → 00:06:21 มากจะเริ่มด้วย SM ก่อนึก็คือเป็นมีอะไรบ
00:06:21 → 00:06:27 อารทาเล่นอะไเอ่ออังคิโมอ่าอ่าจานเปรี้ยว
00:06:27 → 00:06:30 เช่นโมโนซอสเปรี้ยวอะไรพวกนี้ออก็แล้วแต่
00:06:31 → 00:06:36 ว่าเราจะจดสรรังสรอะไรออชิมิก็อยู่
00:06:36 → 00:06:41 ในิซาชิมิกับเอ่อปลาที่อยู่บนซูชิเนี่ย
00:06:41 → 00:06:44 เหมือนกันมั้ยครับจะบอกเหมือนก็ได้จะบอก
00:06:44 → 00:06:47 ไม่เหมือนก็แต่ละคนไม่เหมือนกันอย่างของ
00:06:47 → 00:06:52 ผมอ่ะเราการ aging การเก็บหรือว่าวิธีทำ
00:06:52 → 00:06:56 พชของมันน่ะไม่เหมือนอืซาชิมิตีไปอย่าง
00:06:56 → 00:06:57 นี้พี่ซาชิมิ
00:06:57 → 00:07:03 นมอืซูชินิกิริซูชิเนี่ยชีสอ๋อก็คือไปทำ
00:07:03 → 00:07:06 มาแล้วใช่คือเอผ่านโสมาแล้วคือมีเงินเป็น
00:07:06 → 00:07:08 รล้านพี่สามารถซื้อปลาที่ดีที่สุดในโลก
00:07:09 → 00:07:11 ได้อยู่แล้วก็เอามาตักแรกนั่นคือซาชิมิ
00:07:11 → 00:07:15 ซาชิมิอร่อยก็คือซาชิมิอร่อยสดแต่ถ้าเกิด
00:07:15 → 00:07:20 ซูชิเนี่ยกรรมวิธีกว่าจะมาวางบนข้าวน้อยๆ
00:07:20 → 00:07:24 เนี่ยเยอะมากครับถ้าถ้าต้องไปลึกจริงๆอ่ะ
00:07:24 → 00:07:28 ก็มีการเอาเกลือดึงน้ำส่วนเกินออกถามว่า
00:07:28 → 00:07:31 ดึงเพื่ออะไรคือเนื้อเนื้อมันฉ่ำอ่ะจะกิน
00:07:31 → 00:07:34 แต่พอยิ่งมีน้ำส่วนเกินอยู่ในนั้นเยอะอ่ะ
00:07:35 → 00:07:37 ครับรสมันก็จืดก็คือเหมือนเรากินน้ำกับ
00:07:37 → 00:07:40 เนื้อไปผสมกันใช่เออก็ต้องดึงน้ำออกมาจาก
00:07:40 → 00:07:42 ตัวเหมือนวิธีการ Dr เนื้ออ่ะพี่ครับ
00:07:42 → 00:07:45 ทำลายเอนไซม์ของของของของโปรตีนด้วยแล้ว
00:07:45 → 00:07:48 ก็ดึงน้ำส่วนเกินออกทำให้รสชาติที่แท้
00:07:48 → 00:07:51 จริงของเขาอ่ะผุดขึ้นมาอซึ่งแปลว่าถ้า
00:07:51 → 00:07:55 เป็นซาชิมิมันเป็นปลาสดชปลาสดไม่ได้ผ่าน
00:07:55 → 00:07:58 กระบวนการ aging ไม่ได้ผ่านซะส่วนมากซะ
00:07:58 → 00:08:00 ส่วนมากแต่อย่างทูน่าอย่างเงี้ยทูน่าคน
00:08:00 → 00:08:04 Age อยู่แล้วปกติแล้วแต่ปลาปลแล้วแต่ปลา
00:08:04 → 00:08:07 แล้วแต่ปลาแล้วแต่ความตั้งใจของของของของ
00:08:07 → 00:08:10 ของจานนั้นๆ
00:08:10 → 00:08:14 ด้วยเมื่อกี้พี่ฟอบอกว่าส่วนเนตะคือส่วน
00:08:14 → 00:08:17 ที่เป็นทอิของท็อปของของซูชิเนี่ยครับ
00:08:17 → 00:08:19 ส่วนใหญ่มันจะเป็นอะไรบ้างครับหลักๆที่
00:08:19 → 00:08:24 ต้องมีเลยคือทูน่าทูน่าอืปลาขาวชิริจะ
00:08:24 → 00:08:29 เป็นฮิมปาตาเดียวจะเป็นมาดซีบีมอ่าหรือ
00:08:29 → 00:08:31 ว่าอะไรที่เป็นปลาเนื้อขาวถ้าเกิดถ้าเกิด
00:08:31 → 00:08:34 ยิบย่อยอีกก็ปลาเนื้อขาวที่มีไขมันก็คือ
00:08:34 → 00:08:37 ขาวแล้วยังมีขาวที่มีไขมันอยู่ใช่ขาวล้วน
00:08:37 → 00:08:40 ๆขาวลีนๆก็พวกปลาาตาเดียวที่ราเมอือมาด
00:08:40 → 00:08:44 คิมไมไดนี่อาจจะมีทวีนแต่ถ้าเกิดขาวที่มี
00:08:44 → 00:08:49 ไขมันเลยก็จะเป็นพวกอ่าฮามาจิอืจิิะอาจิ
00:08:49 → 00:08:52 อะไรแถวเนี้ยครับอยากรู้ process ของปลา 1
00:08:52 → 00:08:54 ชิ้นก่อนที่มาทำเป็นซูชิอ่ะครับมันต้อง
00:08:54 → 00:08:56 ผ่านแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วยนะไม่เหมือน
00:08:56 → 00:08:59 กันด้วยอ่ะพี่ลองพี่ลองยกมาซักชนิดส่วน
00:08:59 → 00:09:01 ใหญ่แล้วจะมีเมื่อกี้พี่ฟอบอกมีปลาเนื้อ
00:09:01 → 00:09:05 แดงเนื้อแดงคูน่าเนืแดงคูน่าอเอ่อมีเนื้อ
00:09:05 → 00:09:09 ขาวเนื้อขาวอ่ะเนื้อเขาิเอเนื้อเขาิ้น
00:09:09 → 00:09:12 เนื้อขามันอีกครับอันนี้คือปลาที่หลักๆ
00:09:12 → 00:09:15 ที่จะมีในซูชิถูกมั้ยครับแล้วก็กุ้งแล้ว
00:09:15 → 00:09:17 ก็เป็นกุ้งปลาเงินปลาเงินก็ไม่เหมือนปลา
00:09:17 → 00:09:19 เครื่องเงินก็ไม่เหมือนกับปลาขาว process
00:09:19 → 00:09:24 ก็ไม่เหมือนกันอ๋อโอเคออ่าอานาโกะปลาาไหล
00:09:24 → 00:09:28 อ่าปลาไหลปลาไหลเนี่ยปลาไหลทะเลจะอยู่ใน
00:09:28 → 00:09:30 ร้านซูชิปลาไหล่น้ำจืดจะไม่อยู่ในร้าน
00:09:30 → 00:09:33 ซูชิออนี่ความรู้ใหม่ปลาไหล่น้ำจืดที่
00:09:34 → 00:09:37 เรียกเอ่ออุนางิอุนางิจะไม่ใช่จะไม่จะไม่
00:09:37 → 00:09:40 ใช่เตะจะไม่ใช่ทอปปิ้ง 100% แทบจะไม่มี
00:09:40 → 00:09:43 เลยหรือไม่มีเลยใช่มั้ยเวลาไปทาน้าซุชิ
00:09:43 → 00:09:46 อย่างเงี้ยพี่จะไม่เห็นนะอกิยกเว้นพี่ไป
00:09:46 → 00:09:48 ทานแบบร้านที่มันเป็นแ mas ที่เขาแบบอยาก
00:09:48 → 00:09:53 ตามใจลูกค้าอย่าเงี้ยจะมีซึ่ง 2025 แล้ว
00:09:53 → 00:09:55 พี่พอมาถึงสมัยเนี้ยผมว่ามันก็ไม่ผิดอะไร
00:09:55 → 00:09:58 อ่ะเอใครทำอะไรก็ได้ใช่ผมว่าตามใจลูกค้า
00:09:58 → 00:10:01 อันนี้ออันนี้น่าๆน่าจะดีกว่าอแต่ถ้าแทรด
00:10:01 → 00:10:04 จริงๆแล้วจะเป็นอานาโงะจะเป็นอานาโงะคือ
00:10:04 → 00:10:07 ปลาไหลทะเลปลาไหลทะเลทะเลเท่านั้นในร้า
00:10:07 → 00:10:11 สีเลแล้วต้มต้มด้วยต้มบางคนอาจจะพริกแทง
00:10:11 → 00:10:13 หน่อยมาย่างตอนท้ายแต่จริงๆแล้วต้มโอเค
00:10:13 → 00:10:17 ครับถ้าเป็นปลาเอ่อทูน่าเนื้อแดงส่วนใหญ่
00:10:17 → 00:10:19 เขาจะผ่านกระบวนการอะไรบ้างพี่ทูน่านี่
00:10:19 → 00:10:22 ละเอียดอ่อนเอ่าๆเช่นคือหลักๆเราต้องรู้
00:10:22 → 00:10:26 ที่มาที่ไปของเค้าเ้าจับมาในสภาพไหนแหล่ง
00:10:26 → 00:10:30 ไหนกินอะไรมาถ้าถ้ามันลึกๆลึกนะพี่ยังเอา
00:10:30 → 00:10:33 นะครับก็เราจะรู้ว่าเออเฮ้ยเนี่ยช่วง
00:10:33 → 00:10:36 เนี้ยเราได้ทูน่ามาจากนี้จากจุดนี้อ่ะตี
00:10:36 → 00:10:40 ไปเอาโมลีโอมะอย่างช่วงเนี้ยก็คืออ่าาร
00:10:40 → 00:10:43 เนี่ยโอมะก็โญี่ปุ่นมันเป็นมันยาวๆอย่าง
00:10:43 → 00:10:46 งี้ใช่มั้ยมันทูน่ามันก็ว่ายแยกตัวลงใต้
00:10:46 → 00:10:50 ตัวลงขนใตใช่ใช่ตัวที่ขึ้นเหนือที่ที่มัน
00:10:50 → 00:10:53 แพงอ่ะเพราะว่าของทางเหนืออาหารเขาอ่ะที่
00:10:53 → 00:10:57 เขากินระหว่างทางอ่ะครับมันดีกว่าเจะกิน
00:10:57 → 00:11:00 พวกปลาาหมึกพวกเอ่อกุ้งพวกปลาตก็อะไร
00:11:00 → 00:11:02 อย่างเงี้ยส่วนทางภาคใต้อ่ะน้ำมันอุ่น
00:11:02 → 00:11:06 กว่าออเขาก็จะได้กินปลาเงินเยอะซาบะซาดีน
00:11:06 → 00:11:09 อะไรพวกเนี้ยซึ่งทุกอย่างมันแอฟเฟคกับตัว
00:11:09 → 00:11:12 เนื้อสิ่งที่ทำให้รสชาติทูหน่าอร่อยอยู่
00:11:12 → 00:11:14 ที่อาหารที่มันกินอยู่ที่อาหารที่เขากิน
00:11:14 → 00:11:17 แล้วก็อยู่ที่การฆ่าอือือยู่ที่การฆ่า
00:11:17 → 00:11:20 อยู่ที่การเอามาถึงมือเราเนี่ยครับเรือ
00:11:20 → 00:11:25 บางเรืออ่าอาตีไปร้านซูชิแบบครับเล็กๆ
00:11:25 → 00:11:27 หรือว่าร้านซูชิที่อีกอีกเกรดนึงนะที่ที่
00:11:27 → 00:11:29 เา้าซื้อปลาในราคาถูกกว่าอะไรอย่าเงี้ย
00:11:29 → 00:11:32 พวกนี้เรือบางเรือคือออกไปคือเป้าหมาย
00:11:32 → 00:11:36 เป็นตันอืออกไปเดือนนึง 2 เดือนมั่งจับ
00:11:36 → 00:11:40 เสร็จเข้าฟีสข้างล่างลบ 60 - 70 อือ
00:11:40 → 00:11:43 แล้วถึงกลับเข้ามาอันนี้ก็เป็นอีกเกดนึง
00:11:43 → 00:11:45 ส่วนมากพวกนี้จะเอลำบากนิดนึงอแต่อย่าง
00:11:45 → 00:11:48 ที่เราใช้หรือว่าอย่างที่ร้านอ่าเกรดใน
00:11:48 → 00:11:51 การเสิร์ฟสไตล์โมาเกษตใช้อ่ะส่วนมากจะ
00:11:51 → 00:11:53 เป็นพวก Day Boost Day ออกไปวันเดียว
00:11:53 → 00:11:57 แล้วกลับไม่ฟรีซไม่ฟรีซครับอืความต่างของ
00:11:57 → 00:12:00 กันคือสัมผัสของเนื้อเลยชาติกลิ่นรส
00:12:00 → 00:12:04 สัมผัสแตกต่างหมดเลยอแต่มันจะมีช่วงที่
00:12:04 → 00:12:08 ทูน่าแย่มากๆไม่ว่าจะไปแบบไหนก็ตามไม่ว่า
00:12:08 → 00:12:11 จะไปแบบไหนก็ตามคือเนื้อเขาแย่มากๆเนี่ย
00:12:11 → 00:12:15 สบบช่วงก่อนๆท้ายปีอ่ะครับครับซึ่งมันจะ
00:12:15 → 00:12:17 มีประมาณ 2 เดือนอันนี้ก็เทคโนโลยีเข้ามา
00:12:17 → 00:12:22 ช่วยละออืสั่งของสดในตอนที่ดีที่สุดเข้า
00:12:22 → 00:12:25 มาเยอะยัดเข้า -60 เองก็คือเป็นวิธีเก็บ
00:12:25 → 00:12:27 ของแต่ละร้านเป็นวิธีเก็บของแต่ละร้านอื
00:12:27 → 00:12:31 ซึ่งมัน - 60 มันก็ไม่ได้มีทุกร้านอครับ
00:12:31 → 00:12:33 คือปลาเนี่ยต้องส่วนใหญ่เา้าจะกินสดหรือ
00:12:33 → 00:12:38 กินบม aging ทูน่าซะส่วนมากควร aging ถาม
00:12:38 → 00:12:41 ว่า aging เพราะอะไรูหน่าเนี่ยมันมีความ
00:12:41 → 00:12:43 เป็นเหล็กมันมีความ acidity สูงถ้าเกิด
00:12:43 → 00:12:45 มันสดอ่ะครับเหมือนเหมือนที่ผมบอกเรื่อง
00:12:45 → 00:12:48 แรกว่าน้ำส่วนเกินมันเยอะกลิ่นมันยังไม่
00:12:48 → 00:12:52 ออกเนื้อมันยังไม่เซ็ตตัวครับเราทำ aging
00:12:52 → 00:12:56 อ่ะเพื่อให้เนื้อเค้ารสสัมผัสเขาดีด้วย
00:12:56 → 00:12:58 แล้วทำให้เนื้อเขหอมด้วยแล้วก็ไม่ไม่ได้
00:12:58 → 00:13:01 เป็นแบบพี่หมีเคยทานจูน่าแล้วแบบพอกัดไป
00:13:01 → 00:13:04 แล้วแบบน้ำน้ำมันออกนั่นแหละอันนั้นคือ
00:13:04 → 00:13:07 จูน่าที่ไม่ได้ผ่านการเอจผนัง่านการพอเรา
00:13:07 → 00:13:11 ได้ทูน่าจากจากทะเลจากทะเลมาแล้วเอมา
00:13:11 → 00:13:13 aging จากที่เราเองใช่มั้ยครับ aging
00:13:13 → 00:13:17 เสร็จปุ๊บแล้วเราเอ่อเวลาเทปเอามาทำเนี่ย
00:13:17 → 00:13:22 มันต้องใช้มีดในการหมีดหั่นปลาแต่ละชนิด
00:13:22 → 00:13:25 มันเหมือนกันมไม่เหมือนไม่เหมือนอืถ้า
00:13:25 → 00:13:27 เกิดต้องเจอกระดูกต้องอะไรส่วนมากเราจะ
00:13:27 → 00:13:29 เราจะใช้พวกนี้อันนี้เ้าเรียกว่าว่าเดบะ
00:13:29 → 00:13:32 ครับแต่ถ้าเกิดแบบไม่มีกระดูกหรือว่าทู
00:13:32 → 00:13:34 หน่าอย่างเงี้ยถ้ามาบล็อกใหญ่เราก็ต้อง
00:13:34 → 00:13:38 ใช้ความยาวของมันก็ก็ก็เกี่ยวครับพวกอ่า
00:13:38 → 00:13:41 มีดญี่ปุ่นอ่ะมีเยอะหัวตัดแบบนี้เรียกอีก
00:13:41 → 00:13:44 แบบนึงหัวแหลมเรียกอีกแบบนึงตัดเฉียงก็
00:13:44 → 00:13:46 อีกแบบนึงอันนี้มันอยู่ที่ preference
00:13:46 → 00:13:48 ของเชฟแต่ละคนและความสั้นความยาวเนี่ย
00:13:48 → 00:13:50 อยู่ที่ความถนัดบางคนเขาจะมีมีดเฉพาะตัว
00:13:51 → 00:13:54 ของเขาเลยใช่ครับพี่ฟอก็มีมีๆๆเออก็คือ
00:13:54 → 00:13:56 ต้องทำไว้เพื่อเพื่อให้มันได้อะไรความ
00:13:56 → 00:13:59 ถนัดของตัวเองเงี้ยความถนัดของความเคยชิน
00:13:59 → 00:14:01 เออ
00:14:01 → 00:14:05 ครับทูน่าเนี่ยมันมันผมเคยเห็นว่าทูน่า
00:14:05 → 00:14:08 มันมีหลายพาร์ทมากเลยอ่ะในการเอามาทำชี
00:14:08 → 00:14:10 อ่ะเหมือนเนื้อพี่ทูน่านี่เหมือนเนื้อมาก
00:14:10 → 00:14:13 อามิชูโทโร่
00:14:13 → 00:14:17 โอโทโรักไปลึกกว่านั้นอีกก็เยอะมากๆเช่น
00:14:17 → 00:14:23 ชูโรที่ติดเลือดออส่วนก็หัวมาให้ดูมยได้
00:14:23 → 00:14:26 นี่ก้อนเล็กมันมาก้อนใหญ่เราต้องตัดครึ่ง
00:14:26 → 00:14:30 ครับอ่าเนี่ยพี่หมีอย่างเงี้ยอันนี้คือ
00:14:30 → 00:14:34 เา้าเรียกเสะนากะเเซนากะส่วนหลังครับส่วน
00:14:34 → 00:14:38 หลังซึ่งเสะนากะเนี่ยจะไม่มีโอโทโรอ๋ออื
00:14:38 → 00:14:42 ฮาระคือท้องจะมีอันนี้เขาอยู่ส่วนหลัง
00:14:42 → 00:14:45 ส่วนก็คือส่วนข้างหลังข้างบน่ถ้าทูหน้า
00:14:45 → 00:14:47 เป็นแนวเวลาตัดทูหน้าแมันๆอย่างเงี้ยเรา
00:14:47 → 00:14:50 จะตัดตรงกลางแล้วก็แบ่งหลังแบ่งท้อง 2
00:14:50 → 00:14:53 ด้านก็เท่ากับว่าเวลาแลกทูหน้ามันจะมีปลา
00:14:53 → 00:14:56 ทั้งหมด 4 ชิ้น 4 ประมาณ 1 4 ชิ้น 4
00:14:56 → 00:15:01 ชิ้นอืก็คือท้อง 2 ระะ 2 หลัง 2 เสะ 2
00:15:01 → 00:15:04 เออผมจะใช้จส่วนเสะซะส่วนมากเพราะอะไร
00:15:04 → 00:15:08 ครับผมไม่ค่อยชอบโอโรเท่าไหร่มันมันไปมัน
00:15:08 → 00:15:12 มันส่วนตัวผมมันไม่มีมิติเอมันเหมือนกิน
00:15:12 → 00:15:15 มันหมูอ่ะมันจะดีแค่ไหนก็ตามแต่บางคนก็
00:15:15 → 00:15:17 เห็นต่างเหมือนกันนะครับอันนี้อันนี้แล้ว
00:15:17 → 00:15:21 แต่ความชอบของแต่ละคนนะอันนี้ส่วนนี้
00:15:21 → 00:15:25 เลือดครับครับเลือดทั้งหมดเลยส่วนนี้อาจ
00:15:25 → 00:15:29 จะบสีดๆใช่มใช่ซึ่งอันนี้คือส่วนเสียเหรอ
00:15:29 → 00:15:31 นี่คือเสียนี่คือเสียนี่ถือว่าโชคดีนะ
00:15:31 → 00:15:35 เลือดน้อยบางตัวนี่คือกินเข้าไปเยอะพอควร
00:15:35 → 00:15:39 ครับอ่าส่วนตัวผมอ่ะผม 3-4 วันแรกอ่ะผม
00:15:40 → 00:15:43 ชอบ Edge เค้าพร้อมเลือดครับอืผมอยากให้
00:15:43 → 00:15:46 กลิ่นมัน Impact กับเนื้อแดงเยอะขึ้น
00:15:46 → 00:15:50 หน่อยนึงแล้วค่อยตัดออกนะครับส่วนนี้คือ
00:15:50 → 00:15:53 อะคิด้านบนสุดอะคิที่บอกว่าเป็นเนื้อ
00:15:53 → 00:15:56 เนื้อแดงเนื้อแดงด้านบนสุดด้านบนสุดเขาจะ
00:15:56 → 00:15:58 นุ่มที่สุดเอ้ออืแต่เขาจะมีความเปรี้ยว
00:15:58 → 00:16:01 ติดมากกว่าที่อื่นเพราะว่ามีความเป็นเ
00:16:01 → 00:16:04 ใกล้กระดูกใกล้กระดูกครับรดเปรี้ยวรด
00:16:04 → 00:16:06 เปรี้ยวใกล้กระดูกใกล้เลือดถัดมาอันนี้
00:16:06 → 00:16:08 คืออคิละอือ
00:16:08 → 00:16:11 ฮึ density ของเนื้อก็จะแตกต่างเ้าอยู่
00:16:11 → 00:16:15 ตรงกลางเพราะฉะนั้นเเแน่นเวลาร่เนี่ยเรา
00:16:15 → 00:16:19 ก็องศามีดเราก็แตกต่างเหมือนกันออครับอื
00:16:19 → 00:16:21 อย่างอย่าตัวเนี้ยเราแลกตรงๆได้เราหั่น
00:16:21 → 00:16:25 ตรงๆเป็นเป็นในตับผมตรงตรงนี้ปกติผมจะหัน
00:16:25 → 00:16:27 หนากว่ากว่ากว่าปกตินิดนึงเพราะว่าเานุ่ม
00:16:27 → 00:16:30 เราก็เลยเวลาทานอ่ะอยากให้มันแบบสัมผัส
00:16:30 → 00:16:32 กว่าความนุ่มครับยังไม่พูดถึงข้าวเลยนะ
00:16:32 → 00:16:36 เนี่ยใช่ส่วนอันนี้ก็นั่นแหละครับคามิ
00:16:36 → 00:16:39 ส่วนอันนี้ชูโรชูรที่เราเข้าใจบนสุดนี่
00:16:40 → 00:16:42 คือเรียกอะไรนะครับขอกีอะคิครับจนถึงกลาง
00:16:42 → 00:16:45 นี้เลยใช่แล้วพอเ้าเปลี่ยนสีเนี่ยเฉียนเ
00:16:45 → 00:16:48 เป็นชูโทโร่เขาวๆหน่อยครับชพชมพูเพราะมัน
00:16:49 → 00:16:52 จะมีผสมมันชมพูไขมันครับแต่ชูโทโร่เนี่ย
00:16:52 → 00:16:56 พอมันแยกอีกทีนึงอ่ะอันนี้ชิชิโร่เป็น
00:16:56 → 00:17:00 ชื่อแยกมามเป็นชื่อแยกชอแปลว่าเลือด C ci
00:17:00 → 00:17:04 เออเนี่ยก็คือส่วนโรชูโรส่วนติดเลือดใกล้
00:17:05 → 00:17:08 เลือดติดเลือดอถามว่ารถชารตเป็นไงเข้มข้น
00:17:08 → 00:17:11 กว่าเอ้อเพราะว่ามันใกล้เลือดอือฮึใกล้
00:17:11 → 00:17:13 เลือดใกล้ซีโครงเก็จะเข้มข้นกว่าส่วนตรง
00:17:13 → 00:17:18 นี้ก็คือูลครับตรงเนี้ยความหอมความมัน
00:17:18 → 00:17:21 ครับความนุ่มอืเสร็จแล้วมันแยกได้อีกเล็ก
00:17:21 → 00:17:25 ๆเลยคือกลมๆตรงเนี้ยอันนี้เรียกว่าโคโล
00:17:25 → 00:17:29 โคลโคะโลโคโลเนี่ยถ้าเปรียบเป็นเนื้อก็
00:17:29 → 00:17:32 คือเทอรอยสันซึ่งมันเล็กมากๆเราต้องเรา
00:17:32 → 00:17:35 ต้องแล่อันอออกแล้วก็จะได้แค่ประมาณ 1%
00:17:35 → 00:17:39 ของเนื้อปลาโคโนี่มีสัมผัสที่นุ่มนุ่ม
00:17:39 → 00:17:44 นุ่มนุ่มแล้วก็หอมอือหอม Balance ดีมาก
00:17:44 → 00:17:48 ระหว่างอคมกับอ่าโซโลอฮะแต่เขาจะมันน้อย
00:17:48 → 00:17:52 กว่าซูสนี้ครับวิธีตัดก็แตกต่างกันเหมือน
00:17:52 → 00:17:55 กันแปลว่าเวลาร้านซูชิแต่ละร้านได้มาจะ
00:17:55 → 00:17:57 ได้มาเป็นก้อนอย่างนี้ถ้าเป็นส่วนใหญ่
00:17:57 → 00:18:00 แล้วก็เชฟก็จะมีหน้าที่ในการแบ่งส่วนใช่
00:18:00 → 00:18:02 จัดสรรแบ่งส่วนว่าส่วนนี้ควรเอาไปทำอะไร
00:18:02 → 00:18:04 ส่วนนี้ไปอยู่ในคอร์สไหนดีอะไรอย่างเงี้ย
00:18:04 → 00:18:08 ออือแต่ถ้าเกิดเป็นแบบเรียกว่า 3 อันหลัก
00:18:08 → 00:18:10 ๆของร้านซูชิที่คนจะรู้จักกันบ่อยๆก็คือ
00:18:10 → 00:18:15 เอ่ออากามิอากามิชูทโอโอโรใช่ 3 อันใช่
00:18:15 → 00:18:18 เออซึ่งทูน่าจริงๆแล้วมันมันคือป้ายร้าน
00:18:18 → 00:18:21 มันคือป้ายร้านมันคือป้ายป้ายร้านน่ะป้าย
00:18:21 → 00:18:24 ชื่อร้านเลยอ๋อเพราะว่ามันบ่งบอกว่าความ
00:18:24 → 00:18:28 สัมพันธ์เรากับ vender ดีแค่ไหนเค้าเลือก
00:18:28 → 00:18:30 ปลาให้เราดีแค่ไหนแล้วเราต้องไปเลือกเอง
00:18:30 → 00:18:33 ว่ารสนิยมในการใช้ปลาของเราอ่ะมีแค่ไหน
00:18:33 → 00:18:37 เกรดของปลาเนี่ยครับเป็นการบอกระดับของ
00:18:37 → 00:18:40 ร้านได้ประมาณนึงออก็คือหน้าตาของร้าน
00:18:40 → 00:18:43 แหละว่าทำทูน่าได้ดีแค่ไหนมีทูน่าที่มี
00:18:43 → 00:18:46 คุณภาพแค่ไหนใช่ครับออโอเคนี่แคู่หน้านะ
00:18:46 → 00:18:50 นี่แ่ทูหน้าอันนี้คือชื่อป้ายชื่อร้านเออ
00:18:50 → 00:18:54 ฝีมือเชฟจะอยู่ที่ปลาเงินซะส่วนมากต้องไป
00:18:54 → 00:18:56 สังเกตปลาเงินใช่มั้ยถ้าจะดูว่าเชฟคนไหน
00:18:56 → 00:18:59 ใช่ใช่ว่าเข้าใจปลาได้เลอะแค่ไหนเพราะว่า
00:18:59 → 00:19:02 ปลาเงินแต่ละตัวไม่เหมือนกันแต่ละช่วงไม่
00:19:02 → 00:19:04 เหมือนกันเพราะฉะนั้นเวลาเราทำปลาเงินน่ะ
00:19:04 → 00:19:08 มันต้องการดองดองเกลือดองนส้มใายชูอือสัด
00:19:08 → 00:19:09 ส่วนไม่เหมือนกันอันนี้มันความตัดสินใจ
00:19:09 → 00:19:12 ของเราอือถ้าทำออกมาดีก็คือถือว่า
00:19:12 → 00:19:16 ประสบการณ์เราก็คือมันพวกเนี้ยมันมันไม่
00:19:16 → 00:19:18 ได้อยู่ในบุ๊คอ่ะพี่ครับเปิดหนังสือมา
00:19:19 → 00:19:22 อ่านยังไงแพอพอเจอของจริงมันก็แตกต่าง
00:19:22 → 00:19:25 อยู่แล้วเอออืต้องแบบประสบการณ์ล้วนๆที่
00:19:25 → 00:19:28 จะทำออกมาได้แล้วปลาเงินที่ดีมันควรเป็น
00:19:28 → 00:19:33 ยังไงก็แล้วแต่คนชอบด้วยอือย่าอย่าโคดาผม
00:19:33 → 00:19:36 ไม่ชอบโคดาที่ดองนานเกินไปโคดคือชนิดชื่อ
00:19:36 → 00:19:39 พันธุปลาตะเพียนทะเลตัวสีที่มันเป็นจุดๆๆ
00:19:39 → 00:19:42 ๆๆๆอครับเ่อผมชอบให้มันเนื้อหนานุ่มนิด
00:19:42 → 00:19:46 นึงแล้วก็เ่อไม่เปรี้ยวจนเกินไปอืซึ่ง
00:19:46 → 00:19:48 สไตล์แต่ละคนก็ไม่เหมือนกันสไตล์แต่ละคน
00:19:48 → 00:19:49 ไม่เหมือนกันเพราะว่ามันมันต้องเข้ากับ
00:19:49 → 00:19:52 ข้าวอย่าลืมว่าซูชิเวลาทานอ่ะครับซูชิที่
00:19:52 → 00:19:57 ดีอ่ะคือซูชิที่จบพร้อม
00:19:57 → 00:20:00 กันเ๋อยากรู้ว่าความเข้าใจที่บอกว่าความ
00:20:00 → 00:20:03 เข้าใจปลาเงินมันคืออะไรครับเพราะแต่ละ
00:20:03 → 00:20:07 เชฟแต่ละคนควรเข้าใจปลาเงินก็ควรใช้เค้า
00:20:07 → 00:20:11 ให้ให้ให้ถูกต้องะมากกว่าอืออืเช่นเค้า
00:20:11 → 00:20:14 มันเยอะไปเราทานอะไรมันๆเยอะอย่างเงี้ย
00:20:14 → 00:20:16 มันก็ต้องมี agility เข้ามาตัดเยอะสมมติ
00:20:16 → 00:20:19 พี่เจอปลาแบบเฮ้ยมองเนื้อแล้วอ๋อไขมันเ
00:20:19 → 00:20:21 เยอะนะอะไรอย่าเงี้ยพี่ก็ต้องคำนวณใหม่
00:20:21 → 00:20:25 แล้วว่าปกติ 10 นาทีในน้ำส้มสายชูอ่ะอัน
00:20:25 → 00:20:30 นี้เยอะหน่อยลองไปซัก 12 มั้ย 15 ม
00:20:30 → 00:20:34 เออันนี้ก็แตกต่างอีกเพราะหลังจากที่เรา
00:20:34 → 00:20:38 เอาดองขึ้นมาแล้วจากนส้มอ่ะมัน Carry อื
00:20:38 → 00:20:40 อืเหมือนกับเวลาพี่ทอดอะไรอย่างเงี้ยแล้ว
00:20:40 → 00:20:43 แบบเอาออกจากน้ำมันอ่ะมันก็ยังทอดของมันต
00:20:43 → 00:20:45 เรื่อยๆมันก็หลักการเดียวกันเลยกับกับการ
00:20:45 → 00:20:49 ดองปลาคือเขาก็ยังแบบเขาก็ยังเคลียรของ
00:20:49 → 00:20:51 เขาเรื่อยๆอ่ะอวิธีการเตรียมปลาเนี่ย
00:20:51 → 00:20:54 เมื่อกี้เรามีการ aging เนาคือการแบบตาก
00:20:54 → 00:20:59 ลมผึึ่งลมจะตากลมก็ได้บางตัวแช่แในน้ำ
00:20:59 → 00:21:02 แข็งบางตัวแค่ปล่อยแขวนอแต่ละตัวมันไม่
00:21:02 → 00:21:05 เหมือนกันแล้วอีกแบบนึงก็คือวิธีดองดอง
00:21:05 → 00:21:08 ครับเอดองนี่คือน้ำส้มน้ำส้มกับเกลือ
00:21:08 → 00:21:10 เกลือก่อนแล้วต่อน้ำส้มอันนี้ก็เป็นแบบ
00:21:10 → 00:21:12 อีกแบบนึงคือเป็นปลาดซึ่งมันเป็นปลาใน
00:21:12 → 00:21:16 ซูชิด้วยใช่ครับครับแล้วเห็นมีการดองใน
00:21:16 → 00:21:18 ซีอิ๊วนี่คือมีมั้ยฮะอันนั้นเรียกว่า
00:21:18 → 00:21:21 สุเกะไม่ใช่การดองทีเดียวอันนั้นคือเพิ่ม
00:21:21 → 00:21:24 รสชาติอ๋อเพิ่มรสชาติอืซึ่งสุเดสมัยก่อน
00:21:24 → 00:21:26 เนี่ยมันมันใช้สำหรับ tuna ซะส่วนมาก
00:21:26 → 00:21:29 เพราะว่า tuna เนี่ยตัวใหญ่ไม่มีตู้เย็น
00:21:29 → 00:21:32 เสียเร็วการดองโชวอยู่เนี่ยก็เหมือนกับ
00:21:32 → 00:21:35 การถนอมอาหารคุมปัญญาของคนสมัยก่อนเครับอ
00:21:35 → 00:21:39 นอกจากเนี่ยปลาปลาปลาเนื้อแดงปลาเนื้อ
00:21:39 → 00:21:42 เงินปลาเงินปลาขาวมันต้องสังเกตอะไรมย
00:21:42 → 00:21:46 ครับว่าปลาขาวต้องเล่นฤดูต้องดูฤดูการ
00:21:46 → 00:21:50 ต้องดูฤดูต้องดูว่าเขาเลือกปลาตัวเนี้ย
00:21:50 → 00:21:52 ได้ตรงฤดูแค่ไหนหรือว่าได้ตรงช่วงแค่ไหน
00:21:52 → 00:21:56 อือซึ่งเดี๋ยวเนี้ยภาวะโรคร้อนของเรานี่
00:21:56 → 00:21:58 เอฟเฟคเยอะมากเลยนะครับปลาไม่ค่อยต้องู
00:21:58 → 00:22:00 หรอกเช่นเนี่ยช่วงเนี้ยต้องเป็นปลาเนี้ย
00:22:00 → 00:22:04 บางทีก็ยังยังไม่พีคก็มีแล้วไม่ใช่ว่าปลา
00:22:04 → 00:22:09 นี้มาไดพีค 3 เมาดฤดูเ้า 3 เดือนแต่ไม่
00:22:09 → 00:22:11 ใช่ว่าวันแรกของเดือนที่นับมันจะอร่อยเลย
00:22:11 → 00:22:14 ออมันมีช่วงต้นช่วงมันก็มีช่วงพีคอร่อย
00:22:14 → 00:22:17 ของมันพีคของพีคจริงๆคือดูว่าเขาจับมาได้
00:22:17 → 00:22:20 ตรงช่วงที่มันพีคของใช่แหล่งที่จับด้วย
00:22:20 → 00:22:23 เกรดไม่ก็ไม่เหมือนกันเลยปลาน้ำหนักเดียว
00:22:23 → 00:22:27 กันอย่างเงี้ยจับห่างกันแบบ 100 กลขึ้น
00:22:27 → 00:22:30 เหนืออือราคาตือแบบเท่าเท่าต่อเท่าก็มี
00:22:30 → 00:22:35 ชาวประมงอก็อก็เกี่ยวอือเพราะแต่ละคนมี
00:22:35 → 00:22:38 เทคนิคการฆ่าไม่เหมือนกันการีเลือดกาข้าม
00:22:38 → 00:22:39 เหมือนกันบางตัวนี่คือเป็นแบรนด์ของคนคน
00:22:39 → 00:22:43 นี้เลยเช่นอ่าแบรนด์โชชิของคิมอย่างเงี้ย
00:22:43 → 00:22:46 ครับอันนั้นก็คือแบรนด์ของเขาไปเลยคือมี
00:22:46 → 00:22:48 ป้ายมีอะไรมาบอกเส็จสัพท์ป้ายเนี่ยยคือ
00:22:48 → 00:22:51 ตัวบอกราคาของปลาอือๆๆเป็นยี่ห้อของปลา
00:22:51 → 00:22:56 เลยแล้วกันอออก็คือปลาเป็นส่วนประกอบที่
00:22:56 → 00:22:59 บ่งบอกได้ว่าเชฟเข้าใจใช่ชิแค่ไหนเป็น
00:22:59 → 00:23:02 หลักเลยใช่เรื่อง manage แบบถ้าในคอร์ส
00:23:02 → 00:23:04 อย่างเงี้ยมันก็ต้องเรื่อง manage ด้วย
00:23:04 → 00:23:07 management ต้องเก่งอือืซื้อตัวนี้แพง
00:23:07 → 00:23:10 ต้องตัวนี้ต้องผ่อนหน่อยซื้อตัวนี้ต้อง
00:23:10 → 00:23:12 ให้มันแบบบาานอย่างเงี้ยโอเแต่คนกินก็ถ้า
00:23:12 → 00:23:15 คนกินรู้ได้มากกว่าเรู้รู้ได้มากกว่าชนิด
00:23:15 → 00:23:18 ปลาว่าจับที่ไหนมันดียังไงฤดูกาลไหนดีอัน
00:23:18 → 00:23:21 เงก็จะเป็นประโยชน์กับคนกินด้วยใช่มยใช่
00:23:21 → 00:23:23 อย่างเราอย่างเงี้ยเราเราเราเรามีปลาโชว์
00:23:23 → 00:23:26 ให้ดูทั้งตัวเลยแล้วคอยแบบอภิบายบอกเงี้
00:23:26 → 00:23:31 มาเล่นอานนิดนึงเวลามาานข้าวกผม
00:23:31 → 00:23:35 แล้วพวกกุ้งปลาหมึกแล้วก็ปลาไหลเนี่ยย
00:23:35 → 00:23:38 เป็นส่วนที่ให้ความสำคัญเยอะมั้ยฮะเยอะนะ
00:23:38 → 00:23:39 เยอะใช่มั้ย
00:23:39 → 00:23:43 เพราะสมมุติคอร์สนึงมี 9 คำอ่ะครับครับ
00:23:43 → 00:23:48 การจัดเรียงทุกอย่างเนี่ยมันเหมือนเหมือน
00:23:48 → 00:23:52 พี่มาดูโชว์ผมอ่ะเหมือนพี่มาดูคอนเสิร์ต
00:23:52 → 00:23:56 ผมอ่ะอือบางคนเปิดรถอ่อนๆปาขาวก่อนก็อาจ
00:23:56 → 00:24:00 จะเป็นพวกแบบสายคอนเสิร์ตแบบนิ่มๆเปิด
00:24:00 → 00:24:03 เพลงเศร้าก่อนแล้วค่อยไปพีคค่อยไปอินทร
00:24:03 → 00:24:05 ตอนหลังอะไรอย่างเงี้ยบางคนเปิดอย่างผมผม
00:24:05 → 00:24:09 เปิดชูโรเลยแบบหนักๆเฮี้เลยอือผมแบบวาร
00:24:09 → 00:24:12 ก่อนเลยอ่ะอืก็แล้วแต่คนแล้วแต่ว่าเราจะ
00:24:12 → 00:24:15 วางไปตัวไหนก็คือเหมือนเราทำโชว์นั่นแหละ
00:24:15 → 00:24:19 ใช่ใช่มั้ฮะใช่ทานปลานุ่มๆติดกัน 2-3 คำ
00:24:19 → 00:24:22 อาจจะเอาอะไรกรุบๆอีก Texture นึงมาตัด
00:24:22 → 00:24:25 นิดนึงหรือว่าคำนี้เจอโชวุคำที่ 2 ก็โชวุ
00:24:25 → 00:24:28 อ่ะคำที่ 3 อาจจะมีเลมอนหรือว่ามีสดสีมี
00:24:28 → 00:24:31 ความเปรี้ยวตัดเข้ามาหน่อยอือแล้วก็ค่อย
00:24:31 → 00:24:33 ไปล้างปากอีกทีนึงแล้วก็ค่อยเริ่มใหม่อือ
00:24:33 → 00:24:35 มันเหมือนกราฟอ่ะครับบางคนเเริ่มอย่าง
00:24:35 → 00:24:38 เงี้ยแล้วขึ้นไปบางคนลงขึ้นลงขึ้นลงอยู่
00:24:38 → 00:24:41 ที่ว่าแต่ละร้านจะออกแบบโชว์ตัวเองใช่ือ
00:24:41 → 00:24:44 บอกว่าก่อนก่อนที่จะไปทานน่ะจริงๆซูชิ
00:24:44 → 00:24:48 เนี่ยถ้าอยากให้ประสบการณ์ดีจริงๆอ่ะผม
00:24:48 → 00:24:51 ว่าควรทำการบ้านคนกินคนกินควรทำการบ้าน
00:24:51 → 00:24:55 การบ้านอะไรบ้างครับก็สไตล์ของของเชฟแต่
00:24:55 → 00:24:59 ละคนของแต่ละคนนะครับอือือย่างผมผมชอบทาน
00:24:59 → 00:25:03 ผมเป็นคนชอบดื่มไงครับผมก็ผมทานผมไม่ชอบ
00:25:03 → 00:25:06 ทานซูชิติดกันแบบ 10 คำ 9 คำ 10 คำแบบ
00:25:06 → 00:25:08 ข้าวปลาข้าวปลาข้าวปลาข้าวปลาล้วนๆผมชอบ
00:25:08 → 00:25:11 แบบมีแอร์มาสลับนิดนึงมีสมาิมาสลับนิดนึง
00:25:11 → 00:25:14 ให้ Enjoy กับเครื่องดื่มไปอือก็เลยเป็น
00:25:14 → 00:25:18 สไตล์ของผมทุกวันนี้โออือือยู่ที่เชฟคนคน
00:25:18 → 00:25:21 กินถ้ารู้จักเชฟด้วยว่าเป็นยังไงก็ทำให้
00:25:21 → 00:25:24 กินได้สนุกขึ้นใช่เพราะเวลาคนถามผมเฮ้ย
00:25:24 → 00:25:27 แนะนำร้านซูชิหน่อยดิผมไม่สามารถแนะนำได้
00:25:27 → 00:25:31 เอ้ออือรไม่รู้ว่าคอยากกินอะไรบางทีโอ๊
00:25:31 → 00:25:35 ไม่กินปลาเงินแบบดันร้านนี้ดันเลือกร้าน
00:25:35 → 00:25:37 ที่ปลาเงินอร่อยแล้วเช็ฟมันก็จะเสิร์ฟแต่
00:25:37 → 00:25:39 ปลาเงินบางบางทีเจอคอร์สที่แบบปลาเงิน 4
00:25:39 → 00:25:43 คำก็มีบางร้านอือๆๆอือบางร้านแบบเก่ง
00:25:43 → 00:25:46 เรื่องทูน่าเขาก็เสิร์ฟทูน่าแบบ 6 คำก็มี
00:25:46 → 00:25:49 อ๋อครับไม่มีกฎตายตัวไม่มีสดตายตัวแล้ว
00:25:49 → 00:25:52 มันมีกฎตายตัวมั้ครับว่าอะไรมันควรต่อจาก
00:25:52 → 00:25:55 ปลาอะไรอะไรอย่างงี้คนเค้าพูดกันว่าควรมี
00:25:56 → 00:25:58 เช่นตั้งแต่แรกเลยว่าเอ้ยต้องเริ่มจากปลา
00:25:58 → 00:26:00 เนื้ออ่อนนะมานู่นมานี่นะแต่ผมก็ไม่เชื่อ
00:26:00 → 00:26:03 ในจุดนี้นะอือผมผมว่าผมอยากเจอความสนุก
00:26:04 → 00:26:06 สนานเจออะไรมากกว่าความเซอร์ไพรสความแบบ
00:26:06 → 00:26:10 อืความตื่นเต้นมากกว่าออือแต่จริงๆตัวแต่
00:26:10 → 00:26:13 ก็มันจะมีคนที่แบบ conservative พอควแต่
00:26:13 → 00:26:16 จริงๆขนบขนบแปลว่าขนบเดิมมันมีมันมีมันมี
00:26:16 → 00:26:19 เออแต่ว่าเราถ้ามันมีวิธีอื่นที่มันทดลอง
00:26:19 → 00:26:21 ได้มากกว่าแล้วมันสนุกขึ้นก็จะดีใช่การ
00:26:21 → 00:26:23 กินข้าวนอกบ้านอพี่ไม่ต้องไม่ต้องแค่ซูชิ
00:26:23 → 00:26:26 หรอกอย่าไปแบบอย่าไปสร้างกรอบให้ตัวเอง
00:26:26 → 00:26:29 มากดีกว่ายิ่งกินยิเครียดครับอืการกิน
00:26:29 → 00:26:32 ข้าวมันควรเป็นอะไรที่ออกมา Enjoy อ่ะ
00:26:32 → 00:26:35 ครับเออตัวเองชอบันไหนก็กินไปเถอะตัวเอง
00:26:35 → 00:26:37 อย่างงี้อือไม่งั้นไปร้านไหนก็จะเหมือน
00:26:37 → 00:26:41 กันนะใช่ใช่มั้อื
00:26:41 → 00:26:44 เอออันสุดท้ายที่อยากถามเรื่องปลาว่า
00:26:45 → 00:26:46 กลิ่นคาวมันเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
00:26:46 → 00:26:50 สำหรับชูชิฮมันมีคาวที่ดีด้วยนะเหรอก็
00:26:50 → 00:26:52 เหมือนเหมือนเนื้อแกะอพี่ว่าเนืแกะความ
00:26:52 → 00:26:54 ความสาปของเนื้อแกะอร่อยมั้ยมันเป็นสิ่ง
00:26:54 → 00:26:57 ที่ผมชอบนะแต่บางคนบางคนก็แบบโอ้ยล้านี้
00:26:57 → 00:26:59 ดีจังไม่ทำแกะแกะไม่มีกลิ่นเนื้อเลยแล้ว
00:26:59 → 00:27:01 จะกินทำไมอ่ะผมก็แบบจะไปกินแกะทำไมให้
00:27:01 → 00:27:04 อย่างงั้นอหลักเอกลักษณ์ของเค้าอ่ะคือคือ
00:27:04 → 00:27:07 กลิ่นเฉพาะตัวของเคปลาทุกตัวมีกลิ่นเฉพาะ
00:27:07 → 00:27:11 ตัวของเขาครับอืเช่นปลาเงินอย่างเงี้ยคน
00:27:11 → 00:27:14 คิดจะว่าปลาหนังเงินเช่นซาบะซามะโคฮาดะ
00:27:14 → 00:27:19 เนี่ยเป็นปลาคาวอือมันไม่คาวมันคือรสชาติ
00:27:19 → 00:27:21 ของเค้าออมันคือรสชาติของเคอยู่ที่ว่าเรา
00:27:21 → 00:27:24 จะคิดว่ามันเป็นอะไรเท่านั้นเองออร่อยออก
00:27:24 → 00:27:29 ข้าวนุ่มๆอุ่นๆเจอปลาเงินเงินเปรี้ยวๆ
00:27:29 → 00:27:32 กลิ่นแรงๆโหตบเบียร์ต่อตบสาเกต่อก็อร่อย
00:27:32 → 00:27:35 เลยเออเพราะมันกลิ่นมันชัดเนาะอืใช่มยก็
00:27:35 → 00:27:39 เหมือนกินชีสอ่ะใช่บางคนชอบกินี้ชีสอือ
00:27:39 → 00:27:42 แต่พอมาถึงเรื่องปลาไม่กินปลาเงินเยอะแย
00:27:42 → 00:27:44 ไปเอออืแต่ว่าเชฟก็ต้องรู้ว่าอันไหนคือ
00:27:45 → 00:27:48 กลิ่นคาวที่ดีกับไม่ดีใช่ครับเออกลิ่นคาว
00:27:48 → 00:27:49 ที่ไม่ดีมันเป็นกลิ่นคาวไม่ดีคือปลาเน่า
00:27:49 → 00:27:52 พี่ก็คือชัดเจนอยู่แล้วว่าคืออะไรครับเออ
00:27:52 → 00:27:55 แต่ว่าบางทีเราอันนี้คือกลิ่นเาอันนี้คือ
00:27:55 → 00:27:57 กลิ่นที่ดีของปลามันนะบางคนอาจจะไม่เข้า
00:27:57 → 00:28:01 ใจเรื่องนี้ก็มีโอเคกลิ่นหอมของเเต้อง
00:28:01 → 00:28:04 กลิ่นหอมดี
00:28:04 → 00:28:08 กว่าปลาเป็นส่วนสำคัญอันนึงะทีนี้เรื่อง
00:28:08 → 00:28:10 ข้าวครับพี่ฟอข้าวของตัวชีมันคือมัน
00:28:10 → 00:28:13 ประกอบด้วยอะไรบ้างจริงๆแล้วเอโดมจริงๆ
00:28:13 → 00:28:18 น้ำส้มสายชูอืเกลือเท่านั้น 2 อย่าง 2
00:28:18 → 00:28:22 อย่างจริงๆข้าวซูชิเนี่ยการที่เราผสมข้าว
00:28:22 → 00:28:26 เ่าผสมน้ำส้มลงในข้าวเนี่ยเพื่อเป็นการ
00:28:26 → 00:28:30 ถนอมปลาเหรอครับอืจุดมุ่งหมายหลักของเขา
00:28:30 → 00:28:34 จริงๆสมัยก่อนคือการถนอปลาแล้วก็อันนี้คน
00:28:34 → 00:28:38 ญี่ปุ่นเขาก็ไม่อยากจะบอกว่าไม่อยากจะยอม
00:28:38 → 00:28:41 รับว่ามันมาจากอันนี้แต่จริงๆแล้วผมยัง
00:28:41 → 00:28:44 เชื่ออยู่ว่ามันมาจากปลาส้มเพว่าททำมแถวๆ
00:28:44 → 00:28:47 นี้นะใช่ซูชิเนี่ยมันมาจากปลาส้มบ้านเรา
00:28:47 → 00:28:50 เนี่ยแหละเพราะว่าซูชิแรกๆคือูนซูชิครับ
00:28:50 → 00:28:55 ูนซูชิคือปลาาฟเอาไปหมักในข้าวถุงแล้วอือ
00:28:55 → 00:28:59 ซึ่งกลิ่นมันจะแรงมากปลาส้มเราก็เหมือน
00:28:59 → 00:29:02 กันผมว่าภูมิปัญญาเดียวกันอาจจะแบบเอาไป
00:29:02 → 00:29:06 ใช้ก็ได้อืก็ basically คืออ่าน้ำส้มใส่
00:29:06 → 00:29:10 ชูเนี่ยเขาจะฆ่าแบคทีเรียฆ่าอะไรด้วยใน
00:29:10 → 00:29:12 ตัวปลาอ๋อเขาเอาข้าวมาหมักปลาแล้วก็ใช้
00:29:12 → 00:29:17 น้ำส้มเนี่ยช่วยคลุมณตอนแรกข้าวเกลือปลา
00:29:17 → 00:29:20 ข้าวเกลือปลาใช่แล้วพอมาเป็นเอโดะเนี่ย
00:29:20 → 00:29:25 เอโดะก็จะเป็นข้าวหุงสุกสดอืผสมน้ำส้มสาย
00:29:25 → 00:29:29 ซูผสมเกลือออือือแค่นั้นแต่เดี๋ยวนี้ยุค
00:29:29 → 00:29:32 สมัยมันเปลี่ยนไปละความบานมันก็ต้องเกิด
00:29:32 → 00:29:35 ขึ้นก็มีการใส่น้ำตาลเข้าไปเพิ่มนิดนึง
00:29:35 → 00:29:38 เพื่อให้มัน Balance หน่อยแต่บางร้านก็
00:29:38 → 00:29:41 ยังยังยังยังเป็นน้ำส้มสัชิวกับเกลืออยู่
00:29:41 → 00:29:43 นะรถมันก็จะไม่ได้ติดหวานรถมันก็จะ
00:29:43 → 00:29:47 เปรี้ยวออเปรี้ยวนำอฮเวลาไปทานร้านสุชี
00:29:48 → 00:29:51 ที่แบบข้าวเปรี้ยวจี๊ดเนี่ยแล้วก็มีเค็ม
00:29:51 → 00:29:54 จัดปลายนิดนึงอ่ะอันนั้นคือเขายังไม่ผสม
00:29:54 → 00:29:57 ทานก็เป็นสไตล์ก็เป็นสไตล์น้ำส้มใส่ชูก็
00:29:57 → 00:29:59 เกี่ยวเพราะมันมีน้ำส้มใายชูหลายแบบมา
00:29:59 → 00:30:03 แล้วแต่คนเลือกอ่าอาสึน้ำส้มใายชูแดงได้
00:30:03 → 00:30:07 มาจากการอ่าบ่มกากสาเกกับโชจูอืออันนี้ก็
00:30:07 → 00:30:10 จะมีความแบบมีแอลกอฮอล์นิดนึงมีความร้อน
00:30:10 → 00:30:14 แรมีความแบบเอ่อเปรี้ยวจี๊ดนำอืออันนี้ก็
00:30:14 → 00:30:19 เหมาะสำหรับพวกอามิทูน่าชูโทโร่ปลามันๆรส
00:30:19 → 00:30:22 ชาติเตะมันคือเตะกับข้าวมันต้องสู้กันได้
00:30:22 → 00:30:28 พี่อืไม่ใช่ว่าข้าวรสชาตินำโดดเลยแล้วใน
00:30:28 → 00:30:31 ตะตายก็มันก็ไม่ใช่สุชิมันไม่ฮาร์โมนี่ใน
00:30:31 → 00:30:34 ปากอ่ะออืแล้วก็มีน้ำส้มอีกอย่างนึงโคเมะ
00:30:34 → 00:30:37 โคเมะโคเมะก็คือผลิตจากข้าวล้วนอือก็คือ
00:30:37 → 00:30:41 น้ำส้มข้าวน้ำส้มข้าวครับอันนี้ก็จะสีใสๆ
00:30:41 → 00:30:43 สีใสๆมิสกันน่ะที่เราที่เราคนขุกันน่ะน้ำ
00:30:43 → 00:30:47 ส้มนั้นคือทำจากข้าวอยู่ที่ใครเลือกใช้
00:30:47 → 00:30:49 อะไรเลยใช่อยู่ที่ใครเลือกใช้อะไรบางคนก็
00:30:49 → 00:30:52 เบรนพร้อมเอาอุมาผสมผสมหนี้ผสมหนี้กันแต่
00:30:53 → 00:30:54 ละสูตรก็ไม่เหมือนกันเพราะบางทีเราจะเจอ
00:30:54 → 00:30:58 ข้าวซูชิที่มันออกจสีแดงๆออกสีแดงๆอาสึ
00:30:58 → 00:31:02 อาสึก็คือใช้กากอาสึก็มีหลายแบบอาสึสีจาง
00:31:02 → 00:31:06 อาสึสีเข้มอาสึที่เป็นเดนสึคือปรุงรสมา
00:31:06 → 00:31:08 บางส่วนแล้วอาจจะเติมโชวอยู่เข้าไปอะไร
00:31:08 → 00:31:10 อย่างเงี้ยออันนี้ก็คือแล้วแต่สูตรของแต่
00:31:10 → 00:31:13 ละคนแล้วแต่สูตรของแต่ละคนไม่ไม่มีตายตัว
00:31:13 → 00:31:16 ใช่โอแต่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำส้มกับเกลือน้ำ
00:31:16 → 00:31:19 ส้มกับเกลือคือเมนหลักออปกติสายพันธุ์
00:31:19 → 00:31:22 ข้าวเจะใช้ข้าวอะไรมาทำหลักหลักเลยที่คน
00:31:22 → 00:31:24 นิยมกันที่สุดคือโคชิฮิคาริครับ
00:31:24 → 00:31:27 โคชิฮิคาริเพราะว่าเาให้ความหวานความ
00:31:27 → 00:31:29 เหนียวสัดส่วนส่วนที่มันพอดีแต่ว่าจะข้าว
00:31:29 → 00:31:31 ใหม่ข้าวเก่านั่นอีกเรื่องนึงนะไม่เหมือน
00:31:31 → 00:31:34 กันอีกไม่เหมือนกันอีกเอข้าวเก่าหอมหวาน
00:31:34 → 00:31:37 อือยางกันอยู่เหนียวซึมซับน้ำส้มได้ดี
00:31:37 → 00:31:41 กว่าออบางคนก็ผสมกันสุดส่วนแล้วแต่อือยู่
00:31:41 → 00:31:42 ที่คุณสมบัติของที่อยากให้มันเป็นอยู่ที่
00:31:42 → 00:31:45 คุณสมบัติใช่ก็คืออยู่ที่ตัวละครที่เราจะ
00:31:45 → 00:31:49 สร้างเาขึ้นมาอคำอแต่ว่าเราเราก็ไม่ได้
00:31:49 → 00:31:52 บอกว่าเชฟคนนี้เก่งจังเลยคือแบบทำข้าวได้
00:31:52 → 00:31:54 ถูกต้องตามที่ซูชิควรจะเป็นไม่ใช่มันไม่
00:31:54 → 00:31:57 มีสูตรตายตัวพี่ไม่มีคือแบบอยู่ที่ว่าคน
00:31:57 → 00:32:00 นี้เนี่ยเข้าใจเข้าใจว่าจุดที่ 1 คำมัน
00:32:00 → 00:32:04 มันเกิดจากความเข้าใจของเชฟมากกว่าออืแต่
00:32:04 → 00:32:07 ของพี่ฟเองก็เหมือนใช้ข้าวมากกว่า 1 ชนิด
00:32:07 → 00:32:10 ผมใช้ 3 สายพันธุ์เอออือคือโดยปกติแล้วเา
00:32:10 → 00:32:12 จะใช้กันสายพันธุ์เดียวมั้ยฮะหรือส่วน
00:32:12 → 00:32:15 ใหญ่มันก็ไม่มีกรอบอยู่ดีอ่ะมันแล้วแต่
00:32:15 → 00:32:17 แล้วแต่แล้วแต่แล้วแต่เราเลยแต่ของพี่พี่
00:32:17 → 00:32:21 ฟอใช้ 3 3 ตัว 3 ตัวนึงหวานตัวนึงหนึบ
00:32:21 → 00:32:24 อือแล้วก็ตัวนึงเอตแล้วมันทำให้เข้ากัน
00:32:24 → 00:32:26 เป็นเนื้อเดียวกันได้ยังไงตอนผมพร้อมกันเ
00:32:26 → 00:32:28 แหละครับคือมันคำนวณมาแล้วว่าอันเนี้ยมัน
00:32:28 → 00:32:29 ต้องกี่เปอร์เซ็นต์อันนี้ต้องกี่
00:32:29 → 00:32:30 เปอร์เซ็นต์อันนี้ต้องกี่เปอร์เซ็นแล้วผล
00:32:30 → 00:32:33 ลัพธ์ออกมามันผลลลับออกมามันก็คือข้าว 1
00:32:33 → 00:32:37 กรัมแค่ข้าว 14.5 กรัมเออๆในซูชิ 1 คำ
00:32:37 → 00:32:39 เนี่ยง
00:32:39 → 00:32:43 อืข้าวนี่คือชาลิใช่มั้ยผมเคยในตากกับ
00:32:43 → 00:32:45 ชาลิครับทีนี้พอมันประกอบกันเนี่ยคนที่
00:32:45 → 00:32:48 เป็นเชฟเนี่ยมันมีวิธีการปั้นผมเห็นอยู่
00:32:48 → 00:32:51 ตลอดเลยทำไมเต้องมีการปั้นข้าวเป็นท่าทาง
00:32:51 → 00:32:55 ขนาดแบบนั้นนึงท่าทางแล้วแต่คนถนัดแต่อ
00:32:55 → 00:32:58 เวลาปั้นข้าวอ่ะถ้าลึกๆจริงๆอ่ะอ่ะความ
00:32:58 → 00:33:02 แน่นอืความแน่นไม่เหมือนกันแต่ละคำต้อง
00:33:02 → 00:33:04 ไม่เหมือนกันเวลาพี่จับพี่สังเกตเวลาคน
00:33:04 → 00:33:07 เค้าทำชี่เจะแบบจับปลาขึ้นมาแป๊บนึงมาดู
00:33:07 → 00:33:11 ก่อนใช่มยอันเนี้ยของผมสำหรับผมนะผมเช็ค
00:33:11 → 00:33:14 density ในตัวปลาผมเช็คว่าผมกำลังคุยกับ
00:33:14 → 00:33:17 เขาอยู่ว่าเฮ้ยมึงควรโดนข้าวยังไงดีนะเออ
00:33:17 → 00:33:20 ๆอยากให้แบบละลายปุ๊บในปากพร้อมกันเลย
00:33:20 → 00:33:23 มั้ยอะไรอย่างเงี้ยอเช่นถ้าพี่ปั้นปลา
00:33:23 → 00:33:25 นุ่มๆเช่นพี่ปั้นโทโร่อย่างเงี้ยเราจะกด
00:33:25 → 00:33:28 ผมจะกดโพรงให้ข้าวมันมีโครงมีแอร์พอกเก็ต
00:33:28 → 00:33:30 อยู่ข้างในในระหว่างเม็ดข้าวในระหว่าง
00:33:30 → 00:33:34 เม็ดข้าวออเวลาทานเข้าไปเนี่ยมันแปกละลาย
00:33:34 → 00:33:37 เพราะปลามันนุ่มนี่คำว่าละลายในปากเนี่ย
00:33:37 → 00:33:40 แหละเออคือเพิ่งรู้เนี่ยว่าข้าวข้าวปั้น
00:33:40 → 00:33:43 แต่ละคำซูชิแต่ละคำปั้นข้าวไม่เท่ากัน
00:33:43 → 00:33:46 หมายถึงความแน่นความแน่นไม่ไม่ไม่เท่ากัน
00:33:46 → 00:33:48 ปริมาณข้าวบางคนก็ไม่เท่ากันนะรอยู่ที่
00:33:48 → 00:33:51 เนตะด้วยมันคือเหรซูชินี่มันอยู่ที่ความ
00:33:51 → 00:33:54 บาานพี่อืคือเชฟทำยังไงก็ได้ให้ทั้ง 2
00:33:54 → 00:33:57 อันมันหมดพร้อมกันครับ Balance hary คือ
00:33:57 → 00:34:00 รสชาติก็เรื่องนึงแล้วนะใชมฮะข้าวเนี่ยจะ
00:34:00 → 00:34:02 ใช้ข้าวเดียวกันตลอดชุมใช่แต่รสชาติมัน
00:34:02 → 00:34:05 เกี่ยวด้วยนะเพราะว่าเวลาพี่ปั้นข้าวพอ
00:34:05 → 00:34:08 พอชถูกต้องความแน่นของข้าวถูกต้องปลาความ
00:34:08 → 00:34:11 หนาปริมาณไซส์ของปลาถูกต้องเนี่ยครับมัน
00:34:11 → 00:34:13 คือรสชาติธรรมชาติอโชว์อยู่เนี่ยเป็นตัว
00:34:13 → 00:34:17 ละครรับเล็กๆนิดเดียวเองอืซึ่งมีผลมั้ยมี
00:34:17 → 00:34:21 ผลโชว์อยู่ที่จิ้มกินมันเหมือนโชว์อยู่
00:34:21 → 00:34:24 กับวาซาบิเนี่ยมัน
00:34:24 → 00:34:27 เหมือนสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตถ้ามาเติม
00:34:27 → 00:34:33 เต็มอือืดีง่ายๆข้าวคือพ่อเอ่าเนตะคือแม่
00:34:33 → 00:34:36 เออพวกวาซาบิพวกโชยุเนี่ยคือลูกคือจะคุณ
00:34:36 → 00:34:39 จะอยู่กัน 2 คนในโลกก็อยู่ไปได้แต่ถ้ามี
00:34:39 → 00:34:43 ลูกเนี่ยก็อาจอาจจะมีความอุ่นข้นอีแบบอ
00:34:43 → 00:34:48 ประมาณนี้เออๆๆท่าปั้นข้าวพี่ฟอนคือมันมี
00:34:48 → 00:34:51 ท่าอะไรบ้างเพื่อเพื่ออะไรบ้างอันนี้ถ้า
00:34:51 → 00:34:54 เกิดถามผมถ้าเกิดเอาเอาแบบตามตำราตามอะไร
00:34:54 → 00:34:56 นะผมก็ไม่สามารถแบบตอบได้ตรงๆนะมันจะมี
00:34:56 → 00:35:00 แบบอ่าอย่างแรกเลยคือคือการกด Air Pocket
00:35:00 → 00:35:03 อันนี้คือ basic กดให้เกิดความหลวมในตัว
00:35:03 → 00:35:07 ข้า 2 ปิดหัวปิดท้ายเอ 3 พิกจับให้นิ่ม
00:35:07 → 00:35:11 ให้ให้แน่นเอแล้วก็เนี่ยแหละมันจะมี 5 5
00:35:11 → 00:35:14 5 สต็ป 7 สต็ป 9 สต็ปแล้วแต่เพื่อให้
00:35:14 → 00:35:17 เกิดเอฟเฟคกับข้าวใช่ที่เราต้องการครับอื
00:35:17 → 00:35:21 ลึกไปอีกคือเชฟอยากให้เข้าปากยังไงตัดปลา
00:35:21 → 00:35:24 ยาวขึ้นเพื่อให้อง lasting แบบบางคนชอบ
00:35:24 → 00:35:27 ตัดทูหน้าชิ้นยาวกปกติเพราะเวลาเเวลา
00:35:27 → 00:35:29 เคี้ยวอ่ะมันจะได้มีกลิ่นกลิ่นหอมเรื่อยๆ
00:35:29 → 00:35:32 หอมไปเรื่อยๆอบางคนอย่างอย่างอย่างผม
00:35:32 → 00:35:35 เสิร์ฟอีกะอย่างเงี้ยผมจะปั้นสั้นๆตู้ๆ
00:35:35 → 00:35:39 เพราะอีกะผมผมผมหั่นสไลด์มาบางๆแล้วมันจะ
00:35:39 → 00:35:42 หวานกว่าออือความยาวอืออือมันก็ดีมันก็
00:35:43 → 00:35:45 เลยทำให้เราเวลาไปกินครั้งต่อไปสังเกตมาก
00:35:45 → 00:35:48 ขึ้นว่าจริงๆแล้วมันคือการออกแบบอซูชิ 1
00:35:48 → 00:35:51 คำอควรสังเกตจริงๆแล้วมันสนุกนะพี่เวลาทั
00:35:51 → 00:35:53 ยิ่งแบบมันเป็นอะไรที่แบบ interact กับ
00:35:53 → 00:35:56 กับกับตัวเชฟได้อ่ะอครับเรายินดีให้ถาม
00:35:56 → 00:36:00 ส่วนมากแล้วอ่ะทำให้ญี่ปุ่นมันเริ่มมาก
00:36:00 → 00:36:02 เรายินดีให้ถามเลยเราเราอยากจะเล่ามากบาง
00:36:02 → 00:36:04 ทีเราก็ไม่กล้าเล่าบางทีเรากลัวว่าเอ้ย
00:36:04 → 00:36:06 เราจะทำความรำคาญให้หรือเปล่าอะไรอย่าง
00:36:06 → 00:36:10 เงี้ยอืแต่ผมผมแนะนำอย่างอีกอย่างซูชิ
00:36:10 → 00:36:13 เนี่ยอย่ามากินกันิ 4 คนทำไมอ่ะอุ๊ยความ
00:36:13 → 00:36:16 สนุกไม่เหมือนกันนะ 4 คนเนี่ยผมไยังเยอะ
00:36:16 → 00:36:19 เลยผมเป็นคนชอบกินซูชิคนเดียวเหรอผมชอบ
00:36:19 → 00:36:21 ความตั้งใจแบบจะได้มีเวลาแบบไม่มีอะไรมา
00:36:21 → 00:36:23 distract อะไรอย่างเงี้ยเออแต่ก็ไม่ผิด
00:36:23 → 00:36:25 ถ้าเกิดมาเยอะๆถ้าเกิดอยากสังสรรคแบบไ
00:36:25 → 00:36:28 นู่นนี่แล้วมีซูชิอร่อยๆกินอย่างเงี้ยมี
00:36:28 → 00:36:32 หมายถึงว่า 4 4 คนมันทำให้สมาธิมันหายไป
00:36:32 → 00:36:35 โอไปคนเดียวคือได้อคมากกว่า่ผมชอบกินสีคน
00:36:35 → 00:36:38 เดียวมากเลยนึกว่าเป็นเรื่องแบบว่ากว่าจะ
00:36:38 → 00:36:40 ทำให้เราอีกอันนึงยังไงเค้าก็รับเต็มของ
00:36:40 → 00:36:42 เ้าอยู่ดีอ่ะหน้าเคาน์เตอร์ยังไงเคก็รับ
00:36:42 → 00:36:45 เต็มแต่ความตั้งใจในการกินของเราแตกต่าง
00:36:45 → 00:36:48 คือมี concentrate มีสมาธิในการดูเชฟมาก
00:36:48 → 00:36:51 กว่าใช่อันนี้คือแนะนำสำหรับอยากลงลึกๆ
00:36:51 → 00:36:53 สำหรลงเลยเอแต่ถ้าเกิดอยากไปคุยกับเพื่อน
00:36:53 → 00:36:56 ก็ไปก็ไปครับเต็มที่เปิดสระเกขดใหญ่นั่ง
00:36:56 → 00:37:00 กินเฮฮาเออ
00:37:00 → 00:37:05 เอเราสามารถกินซูชิโดยที่ไม่จิ้มโชยุได้
00:37:05 → 00:37:08 ได้ได้ญี่ปุ่นฮาร์ดคอร์บางคนเค้าก็ไม่
00:37:08 → 00:37:12 จิ้มนะพี่อือือก็แตะเกลือนิดเดียวแล้วรส
00:37:12 → 00:37:15 ชาติมันจะเหมือนกับที่เชฟตั้งใจมยครับถ้า
00:37:15 → 00:37:18 สมมุติว่าจะจิ้มทั้งวาซาบิและโชยุพอมัน
00:37:18 → 00:37:21 ออกมาจากมือเราแล้วเนี่ยมันค่อนข้างตรง
00:37:21 → 00:37:24 ตามที่เราตั้งใจไว้อยู่แล้วอออืแว่าคนกิน
00:37:24 → 00:37:27 ถ้าอยากรู้ว่าเชฟตั้งใจอะไรไว้เนี่ยเชื่อ
00:37:28 → 00:37:30 เราอย่าเป็นเรื่องมากกับเราหมายถึงว่าผม
00:37:30 → 00:37:32 สามารถกินโดยที่ไม่ต้องจิ้มชวอยู่กับ
00:37:32 → 00:37:34 วาซาบิเลยได้แต่พี่จะไม่ชอบหรอกอ้าเหรอ
00:37:34 → 00:37:37 ใช่เพราะรสชาติมันค่อนข้างแบบฮาร์คอมัน
00:37:37 → 00:37:40 แบนดนิดนึงอ่ะออพี่จะได้รสชาติข้าวแท้
00:37:40 → 00:37:42 จริงพี่จะได้รสตาที่แท้จริงแต่ถามว่ามัน
00:37:42 → 00:37:45 Balance มยมันจะไม่บาานสิ่งที่เราอยาก
00:37:45 → 00:37:49 ให้านก็คือโุที่เพิ่มขึ้นใช่ครับโชยุเวลา
00:37:49 → 00:37:51 เราเสิร์ฟโชยุเนี่ยมันคือโชยุจากขดแล้ว
00:37:51 → 00:37:53 แต่คนเหมือนกันแล้วแต่คนเหมือนกันแล้วแต่
00:37:53 → 00:37:56 คนเหมือนกันความเข้มความหนาโชว์อยู่
00:37:56 → 00:37:59 เดี๋ยวเนี้ย 99% ของโชอยู่ในญี่ปุ่นนะ
00:37:59 → 00:38:03 ครับผลิตแบบอุตสาหกรรมไปละอือฮึคือถัง
00:38:03 → 00:38:06 สติลแบบ 6 เดือนบ่ม 6 เดือนจากถั่วเหลือง
00:38:06 → 00:38:09 ก็จบะมันจะมีโชอยู่ที่มันนชเช่นแบบที่ยัง
00:38:09 → 00:38:13 บมในถังคิโอเกะอ่ะถังไม้อ่ะซึ่งคือ 1%
00:38:13 → 00:38:16 ของญี่ปุ่นนค่อยมีซึ่งพวกนี้มันใช้เวลา
00:38:16 → 00:38:19 ประมาณ 2 ปีถ 4 ปีมันต่างกันยังไงครับ
00:38:19 → 00:38:22 ความเข้มข้นอือความเข้มข้นอย่างของผมผม
00:38:22 → 00:38:26 ใช้ตัว 2 ปีสำหรับราขาวสำหรับหอยสำหรับ
00:38:26 → 00:38:29 กุ้งอือแล้วผมจะใช้ตัว 4 ปีสำหรับซารีน
00:38:29 → 00:38:32 ที่รสชาติแบบแน่นๆูหน่าโรอะไรอย่าเงี้ย
00:38:32 → 00:38:35 ครับผมอันนี้คือหมายถึงสิ่งที่จะป้ายเข้า
00:38:35 → 00:38:39 ไปก่อนสิ่งที่สเสิร์ฟใช่มยใช่อ๋อก็จะเป็น
00:38:39 → 00:38:42 โชยุที่ทำไว้ต่างหากไม่ไม่ใช่โชยุที่มา
00:38:42 → 00:38:45 อยู่เสิร์ฟกถ้ามาร้านเสิร์ฟสไตล์ OM มา
00:38:45 → 00:38:48 คาเซะแล้วอ่ะเออ 99% คือเราจะพาเราจะป้าย
00:38:48 → 00:38:51 ให้ไม่ได้มีแบบเไม่ได้มีแให้ยกเว้นคอสที่
00:38:51 → 00:38:54 เป็นชิมิเราจะให้จิ้มแยกแต่ถ้าเกิดเป็น
00:38:54 → 00:38:57 ซูชิเป็นนิิซูชิแล้วอ่ะครับเราจะกะสัดสวน
00:38:57 → 00:38:59 สวนให้เรียบร้อยแล้วเพราะเรารู้นี่ว่า
00:38:59 → 00:39:01 เนี่ยอย่างเมื่อกี้ที่พี่เห็นเนี่ยผมเลย
00:39:01 → 00:39:03 เกลือใส่ปลานะวันนี้ผมปลาน้ำมันเยอะผม
00:39:04 → 00:39:07 ต้องเลยแบบ 1% 2% ของตัวปลาอาจจะมากกว่า
00:39:07 → 00:39:08 ปกตินิดนึงเพราะฉะนั้นมันจะมีความเค็มของ
00:39:08 → 00:39:11 มันอยู่แล้วเราจะรู้ว่าเราจะใส่กันเท่า
00:39:11 → 00:39:15 ไหร่อือือ
00:39:15 → 00:39:18 โอเคซูชิอ่ะส่วนใหญ่เขาจะกินกันด้วยมือ
00:39:18 → 00:39:20 หรือตะเกียบพี่พผมชอบกินด้วย
00:39:21 → 00:39:24 มือมันมันตัวเชฟก็อยากให้ใช้มือหยิบอยาก
00:39:24 → 00:39:27 ให้ใช้มือหยิบอย่างผมผมเห็นเวลาใครใครใช้
00:39:27 → 00:39:30 มือเนี่ยผมจะปั้นตามตามที่ผมต้องการได้
00:39:30 → 00:39:33 ความนุ่มความเบาก็เหมือนกันแต่ถ้าเกิดใช้
00:39:33 → 00:39:36 ตะเกียบเจอพวกใช้ตะเกียบไม่เป็นผมก็ต้อง
00:39:36 → 00:39:39 ปั้นให้แน่นขึ้นกว่าเดิมนิดนึงคือเชฟต้อง
00:39:39 → 00:39:41 สังเกตสังเกตครับลูกค้าทุกคนเลยใช่มั้ย
00:39:41 → 00:39:43 สังเกตสังเกตเราสแว่าแต่ละคนจะถูกปั้น
00:39:44 → 00:39:46 ข้าวให้ไม่เหมือนกันใช่คมือซ้ายมือขวารู้
00:39:46 → 00:39:50 หมดโอ้เพราะองศาที่เราวางอ่ะพี่สังเกต
00:39:50 → 00:39:52 ซูชิทำไมไม่วางตรงอย่างงี้เพราะเวลาเรา
00:39:53 → 00:39:55 นั่งอ่ะเราหยิบอย่างเงี้ยมันลำบากใช่มั้ย
00:39:55 → 00:39:57 เพราะมือเราออกแบบให้มันมาอย่างเงี้ยอ่า
00:39:57 → 00:40:01 เรากขนัดขวาชิก็ต้องเองออแต่ถ้าเกิดพี่
00:40:01 → 00:40:04 พี่หมีถนัดซ้ายปุ๊บผมก็ต้องวางให้พี่เข้า
00:40:04 → 00:40:07 ซ้ายได้ถูกต้องเป็นงานที่หนักมากเลยเถ้า
00:40:07 → 00:40:10 สังเกตนิดนึงคือต้องดูว่ามันถึงยากมันไม่
00:40:10 → 00:40:13 แบบยิ่งยิสไตล์โมาเกษตด้วยมันไม่ใช่ว่าคน
00:40:13 → 00:40:16 ปั้นซูชิได้แล้วจะเสิร์ฟสไตล์นี้ได้เพราะ
00:40:16 → 00:40:20 ว่ามันค่อนข้างราคาราคามันค่อนข้างสูง
00:40:20 → 00:40:24 กว่ากว่าการกินซูชิแบบอื่นอืเพราะฉะนั้น
00:40:24 → 00:40:27 สิ่งที่เราต้องให้ลูกค้ากลับอ่ะคือ
00:40:27 → 00:40:30 ประสบการณ์ที่ดีกลับไปซึ่งมันเล็กๆน้อยๆ
00:40:30 → 00:40:33 พวก Detail to tion พวกเนี้ยมันมันมัน
00:40:33 → 00:40:36 มันสำคัญมากที่เราปลูกขวัญกันมาตั้งแต่
00:40:36 → 00:40:39 แบบถ้าเกิดพี่เข้าไปดูกลัวผมผมไม่มีเทป
00:40:39 → 00:40:41 เลวงเลวอย่าเงี้ยผมอันกตัดหมดเลยคือความ
00:40:41 → 00:40:43 ละเอียดเล็กๆน้อยๆพวกนี้คือถ้าเกิดมึง
00:40:43 → 00:40:47 ต้องมานั่งฉีกเชรงมึงเริ่มเป็นเช็ที่ดี
00:40:47 → 00:40:50 ไม่ได้หรอกอแล้วเราก็คอยสังเกตคอยต่อเ
00:40:50 → 00:40:54 ตั้งแต่เน้อย้อยแล้วพอเขาได้อะไรพวกเนี้ย
00:40:55 → 00:40:57 เขาจะเปลี่ยนตัวเองไปเรื่อยๆทีละนิดนิดๆ
00:40:57 → 00:41:00 นิดๆแล้วถึงค่อยเริ่มมาทำปลาเริ่มมาหิ
00:41:00 → 00:41:03 ข้าวอะไได้ออือือเพราะเขาจะสังเกตสิ่งผิด
00:41:03 → 00:41:06 พลาดเออๆคือต้องมีความสังเกตใช่มีความ
00:41:06 → 00:41:09 ช่องสังเกตแน่ๆมันไม่มีหรอกแบบคลาสเรียน
00:41:09 → 00:41:14 ซูชิแบบเรียนซูชิ 30,000 บาท 6 วันจบ
00:41:14 → 00:41:17 แบบโอมาทำซูชิได้เลยอ่ะไม่ใช่แล้วอยู่ที่
00:41:17 → 00:41:19 ประสบการณ์เอมันตั้งแต่เรื่องปลาเรื่อง
00:41:19 → 00:41:22 ข้าวเรื่องเสิร์ฟแต่ึ่งมากนะว่าแต่ละคน
00:41:22 → 00:41:25 เสิร์ฟไม่เหมือนกันคนที่ใช้ตะเกียบก็จะ
00:41:25 → 00:41:27 ปั้นให้แน่นขึ้นหน่อยอืเพราะว่ามันเป็น
00:41:27 → 00:41:30 เรื่องวิธีการคีดใช่มั้ยฮะคือคนที่อยาก
00:41:30 → 00:41:33 ใช้ตะเกียบอ่ะเท่าที่ผมสังเกตมานะ 1 เ้า
00:41:33 → 00:41:36 ไม่อยากเอามือเปื้อนเอ้ออืเออๆใช่ซึ่งก็
00:41:36 → 00:41:39 ไม่แพไม่ไม่ผิดแต่ถ้าเกิดอย่างงั้นแล้ว
00:41:39 → 00:41:41 อ่ะคุณก็ควรเรียนรู้วิธีใช้มันให้มันถูก
00:41:42 → 00:41:44 ต้องเออตะเกียบซูชิแบบเป็นคำอย่างเงี้ย
00:41:44 → 00:41:47 คุณเอามตะเกียบไปจิ้มอย่างเงี้ยีขึ้นมาเอ
00:41:47 → 00:41:50 ต่อให้ผมบั้นแน่นแค่ไหนมันก็แตกเวลาคี
00:41:50 → 00:41:54 ซูชิเเช้อนขึ้นมาด้านข้างเออพยุนเ้าขึ้น
00:41:54 → 00:41:57 มาเฉยๆโอเครับอืแล้วถ้าเป็นมือเหครับมัน
00:41:57 → 00:42:01 ควรจับยังไงบางคนจะกลับบางคนกลับจับกลับ
00:42:01 → 00:42:05 กลับหมายถึงกลับด้านกลับใช่เอาปลาลงก่อน
00:42:05 → 00:42:08 เพราะอะไรครับอุณหภูมิครับออเค้าบอกกัน
00:42:08 → 00:42:12 ว่าอุณหภูมิซึ่งตัวผมอ่ะผมหหารข้างซะส่วน
00:42:12 → 00:42:15 มากผมชอบข้าวกับปลาสัมผัสแรกพร้อมกันแล้ว
00:42:15 → 00:42:18 แต่คนนะอันนี้คือวิธีการเอาซูชิทั้งคำ
00:42:18 → 00:42:21 เข้าปากกันด้วยมือครับบางคนก็จะจับบางคน
00:42:21 → 00:42:22 เนี่ยบางคนก็จับอย่างเงี้ยแล้วเคหยิบแล้ว
00:42:22 → 00:42:25 เคก็กลับแล้วก็กลับยัดไปอันนี้คือต้องการ
00:42:26 → 00:42:29 ให้ปลาเข้าไปชาติของปลามาก่อนมาก่อนแต่
00:42:29 → 00:42:33 พี่ฟอนชอบผมชอบผมผมชอบหยิบแล้วเสียงเข้า
00:42:33 → 00:42:36 ก็คือเข้าให้เข้ากับปลาพร้อมกันมีความแตก
00:42:36 → 00:42:39 ต่างกันใช่มั้ยครับเพราะเวลาเรากัดเข้าไป
00:42:39 → 00:42:41 มันสิ่งที่มันได้มันความละลายออกมาพร้อม
00:42:41 → 00:42:44 กันแล้วแต่คนชอบจริงๆอืออือแล้วมีคนที่
00:42:44 → 00:42:48 เอาข้าวเข้าก่อนก็มีมีเอออือออแต่ไม่มี
00:42:48 → 00:42:51 อันไหนถูกต้องไม่มีความถูกต้องที่คนเคิด
00:42:51 → 00:42:54 ันก็คือเอาปลาลงก่อนอันนี้อยากรู้ว่าทำไม
00:42:54 → 00:42:57 ตอนนเคถึงรสชาติครับรสชาติปาใช่แล้วจริงๆ
00:42:57 → 00:43:00 แล้วผมว่าเอฟเฟคกับพวกอุณหภูมิด้วยวิธี
00:43:00 → 00:43:02 ปั้นซูชิอุณหภูมิก็สำคัญในพหอุณหภูมิของ
00:43:02 → 00:43:05 อุณหภูมิของข้าวอุณหภูมิของปลาเอออือปลา
00:43:06 → 00:43:08 อย่างอย่างโทโร่อย่างเงี้ยที่กินโทโร่
00:43:08 → 00:43:13 เย็นๆมันแทบไม่มีรสชาติเลยนะอือือมันควร
00:43:13 → 00:43:15 ผึ่งให้มันแบบไขมันมันเริ่มละลายออกมานิด
00:43:15 → 00:43:20 นึงไม่มากเกินไปอุณหภูมิห้องข้าวอุ่นข้าว
00:43:20 → 00:43:24 ข้าวเ้าเรียกอุณหภูมิข้าีคือมา smk
00:43:24 → 00:43:29 อุณหภูมิเดียวกันกับอ่าอ่านมแม่อ๋อมันก็
00:43:29 → 00:43:31 อยู่ประมาณ 38 4 อันนั้นคืออุ่นหภูมิ
00:43:32 → 00:43:37 ข้าวอุ่นๆปลาแบบอ่าอุณหภูมิห้องแปลว่าปลา
00:43:37 → 00:43:39 เราสามารถทิ้งไว้ได้นานมากก็ไม่ได้แล้ว
00:43:39 → 00:43:41 แต่ตัวแล้วแต่ตัวด้วยแล้วแต่ตัวละเอียด
00:43:41 → 00:43:44 มากบซาดีอย่างเงี้ยๆซารีนแทนที่จะปล่อย
00:43:45 → 00:43:48 ให้มันผึ่งตามลมเองเนี่ยอ่าฮะกลิ่นมันจะ
00:43:48 → 00:43:51 อันามันจะออกมาอโอเพเพราะฉะนั้นซารีนน่ะ
00:43:51 → 00:43:54 ออกมาแค่แป๊บเดียวแล้วเอาเข้าปากเนี่ย
00:43:54 → 00:43:56 อุณหภูมิในปากอ่ะมันจะเป็นตัวละลายไขมัน
00:43:56 → 00:44:00 ออกมาเองออแต่ละปลาต้องมีเวลาของมันอีกมี
00:44:00 → 00:44:03 เวลาของมันครับเอองี้เวลาเชฟทำแล้วมาวาง
00:44:03 → 00:44:06 ไว้แล้วยังไม่กินทันทีเนี่ยควรกินทันที
00:44:06 → 00:44:09 พี่คือยังไงก็ตามควรกินที่เขคบอกผมได้ยิน
00:44:09 → 00:44:11 บ่อยๆว่า 15 20 วินาทีเนี่ยควรแล้วควกิน
00:44:11 → 00:44:13 ควรกินเลยทันทีใชถ้าเกินกว่านั้นคือสิ่ง
00:44:13 → 00:44:17 ที่ผมตื่นเช้ามา 8:00 นมาทำมาเสิร์ฟคุณ
00:44:17 → 00:44:20 ตอน 18 นทนพังไปหมดเลยนะไม่มีผลอะไร
00:44:20 → 00:44:24 เลยไม่มีผลอะไเลยกินซูชิโรเหอะกินสายพาน
00:44:24 → 00:44:28 เออคือปลามันจะมีเอฟเฟคทันทีมียิ่งปลา
00:44:28 → 00:44:32 Edge ปลาบ่มด้วยเแกมากเเบอกบางมากพี่ทำ
00:44:32 → 00:44:35 Take a ก็ไม่ได้อคนชอบถามทำเอะไไม่ได้
00:44:36 → 00:44:40 อืออือมันมันมันถึงเวลาของมันเวลาของมัน
00:44:41 → 00:44:44 แค่นี้เออเท่านั้นเอง
00:44:44 → 00:44:47 อือแล้วเรากินเข้าไปเราควรจะสังเกตอะไร
00:44:48 → 00:44:49 บ้างครับที่มันเกิดสิ่งที่เกิดขึ้นในปาก
00:44:49 → 00:44:52 ก็เนี่ยอย่างที่เราพูดไปตั้งแต่แรกเลยอ่ะ
00:44:52 → 00:44:55 Harmony Balance Harmony Balance อื
00:44:55 → 00:44:57 แชบแต่ละคนเขาอยากซื่ออะไรอ่ะมันอยู่ใน
00:44:57 → 00:45:00 นั้นหมดแล้วอือแล้วก็การเคี้ยวก็คือ
00:45:00 → 00:45:04 เคี้ยวให้มันแบบหมดไปพร้อมกันครับทั้งปาก
00:45:04 → 00:45:07 ใช่อือรสชาติของปลานี่ก็แล้วแต่ว่าเชฟออก
00:45:08 → 00:45:10 แบบมายังไงข้าวออกแบบมายังไงข้าวกับปลา
00:45:10 → 00:45:15 นี่ในปากเราควรจะสังเกตมั้ยว่ามันแบบเออ
00:45:15 → 00:45:17 รถเปรี้ยวมันเข้ากับปลาชนิดนี้อะไรอย่าง
00:45:17 → 00:45:20 งี้มันควรจะบาานกันเช่นอ่ะคนนึงถ้าสมมุติ
00:45:21 → 00:45:25 ข้าวแชปคนนี้เปรี้ยวตัวปลาเขาอาจจะเข้ม
00:45:25 → 00:45:29 ข้นขึ้นนิดนึงอืหรือว่าอ่าข้าวเ้าบานปลา
00:45:29 → 00:45:35 เขาก็อาจจะกลมกล่อมออปลากลมข้าวกลมกลมๆ
00:45:35 → 00:45:38 ข้าวเปรี้ยวปลาแรงเดี๋ยวมันก็กลมเองอออือ
00:45:38 → 00:45:41 แปลว่าไม่ควรมีอะไรสักอย่างนึงที่มันแบบ
00:45:41 → 00:45:44 เป็นรถพุ่งโดดของมันเช่นแบบข้าวเปรี้ยว
00:45:44 → 00:45:47 เกินไปอันนี้อาจจะแบบรู้สึกว่าไม่บานอื
00:45:47 → 00:45:50 หลักๆคอนเซปของการกินซูชิคือความ Balance
00:45:50 → 00:45:53 ความ Balance ค้ามาล้างสเข้ามาล้างอืพี่
00:45:53 → 00:45:55 ต้องกินแล้วพี่ต้องยิ้มอ่ะอืหลักๆเลยอ่ะ
00:45:55 → 00:46:00 ไม่กินแล้วแบบีอ่ะเกี้ยวๆโอเคอย่ากินหมึก
00:46:00 → 00:46:02 มึกมะนาวอย่างเงี้ยโอเคนะเข้าใจเกรี้ยว
00:46:02 → 00:46:08 เผ็ดเอ้ยสะใจแต่ซุชิไม่ต้องกินแล้วมันแบบ
00:46:08 → 00:46:12 อือีกอันนึงคือวาซาบิพี่พอวาซาบิบบางที
00:46:12 → 00:46:15 เชฟจะใส่มาอยู่แล้วในข้าวอันนั้นน่ะคือมี
00:46:15 → 00:46:18 คนไม่ใส่มั้ยฮะเยอะก็ไม่ได้ใส่มาให้ก็มี
00:46:18 → 00:46:21 เยอะหมายถึงเชฟอ่ะเหรอครับใช่ๆๆส่วนมาก
00:46:21 → 00:46:24 ร้านบกสจะใส่หมดเออเพราะมันเป็น 100 เป็น
00:46:24 → 00:46:26 หนึ่งในเพราะมันคือลูกของพ่อของครอบครัว
00:46:27 → 00:46:30 อยากให้ทั้งคำมันอบอุ่นใช่เออป้ายมากป้าย
00:46:30 → 00:46:32 น้อยไม่เหมือนกันด้วยออเราปั้นชูโทโร่เรา
00:46:32 → 00:46:35 ต้องป้ายเยอะเพราะปลามันๆคือเนื้อที่
00:46:35 → 00:46:37 เนื้อปลาที่มันๆจะต้องใส่วใช่แล้วก็เค็วา
00:46:37 → 00:46:39 สบิได้เยอะขึ้นแล้วพี่ปั้นอีกะปั้นปลา
00:46:39 → 00:46:43 หมึกเงี้ยพี่ก็ใส่น้อยลงอปลาบางตัวใช้
00:46:43 → 00:46:45 วาซาบิไม่ได้ซาโยริอย่างเงี้ยปลาเข็ม
00:46:45 → 00:46:48 เงี้ยพี่ป้ายนิดเดียวเผ็ดจี๊ดนำเลยเ
00:46:48 → 00:46:51 ถึงใช้ใช้ขิงขิงขูแอ๋อก็เลยเป็นขิงคูนบาง
00:46:51 → 00:46:53 คนชูหน่า
00:46:53 → 00:46:59 อ่ามีความแบบฟังกี้เยอะอืราคินะใช้มาสตา
00:46:59 → 00:47:03 แทนอืก็อร่อยอีกแบบนึงอือืไอ้ส่วนเมัน
00:47:03 → 00:47:06 เป็นส่วนที่ทำให้ทั้งคำมันกลมสมบูรณ์ครบ
00:47:06 → 00:47:09 แต่ว่าแต่ละปลาเนี่ยมันขึ้นอยู่กับว่าปลา
00:47:09 → 00:47:12 อันไหนมันน้อยหรือปลาชนิดไหนเป็นยังไงใช่
00:47:12 → 00:47:14 โอเคไอ้สิ่งที่ไอ้มันมีอีกอันนึงคือ
00:47:14 → 00:47:18 เรื่องขิงดองพี่ที่เขาเสิร์ฟมาอันนั้นน่ะ
00:47:18 → 00:47:20 มันเพื่ออะไร Property ของมันคือเหมือน
00:47:20 → 00:47:23 ซอบอ่ะในคอร์สเวลาพี่ไปทานอาหารฝรั่งเศส
00:47:23 → 00:47:26 ก่อนที่จะเข้าเมนคอร์สอ่ะเจะเสิร์ฟบตอเผม
00:47:26 → 00:47:27 ก็ไม่เข้าใจแต่น้องึงจะเสิร์ฟไอศครีมมา
00:47:28 → 00:47:31 ทำไมวะก่ๆๆระงพอมันทานปุ๊บอ่ะมันเคลียร์
00:47:31 → 00:47:34 ปากเราหมดเลยเออเพื่อที่เราจะได้รสชาติ
00:47:34 → 00:47:35 ใหม่ๆครับ
00:47:35 → 00:47:39 อืก็แล้วแต่คนว่าอยากให้รสชาติมันต่อกัน
00:47:39 → 00:47:41 หรือเปล่าหรือว่าอยากจะเคลียร์รสชาติใหม่
00:47:41 → 00:47:44 ขึ้นมาอ๋อคือคือสมมุติว่าคำที่เชฟวางมา
00:47:44 → 00:47:47 ให้เนี่ยอยากจะให้มันต่อจากคำที่แล้วหรือ
00:47:47 → 00:47:49 เปล่าถ้าต่อก็ไม่ต้องกินถ้าต่อก็ไม่ต้อง
00:47:50 → 00:47:52 กินเเอรเรารู้สึกว่าเฮ้ยเริ่มเลี่ยนเริ่ม
00:47:52 → 00:47:58 เริ่มแบบมีความเอียนๆนิดนึงเออทานเตัด
00:47:58 → 00:48:01 แล้วก็รีตเซ Zero ใหม่อออย่างผมผมจะใช้
00:48:01 → 00:48:04 น้อยมากเลยถ้าเกิดหิงนองผมจะใช้เฉพาะแบบ
00:48:04 → 00:48:07 เอ่อผมทานปลามันมันแล้วผมจะใช้ของฟิเล
00:48:07 → 00:48:09 เนี่ยไม่ไม่ได้เสิร์ฟขิงดองเสิร์ฟขิงดอง
00:48:09 → 00:48:11 มั้ยขิงดองขิงดองเราเสิร์ฟขิงดองกับชมพู่
00:48:11 → 00:48:14 ดองซีซนี้อมันจะมี 2 อย่างแต่ก่อนเป็นขิง
00:48:14 → 00:48:16 ดองกับแอปเปิลอ๋อก็จะเป็นอย่างผลไม้อย่าง
00:48:16 → 00:48:18 อื่นมาดองก็ใช้ได้เหมือนกันไม่จำเป็นต้อง
00:48:18 → 00:48:21 ขิงใช่มั้ยไม่จำเป็นต้องขิงเออบางคนก็ให้
00:48:21 → 00:48:24 แตงกวาสดอย่าถ้าเกิดคิวชูอย่างเงี้ยมีจะ
00:48:24 → 00:48:26 มีร้านนึงที่แบบอ่าอซังเนี่ยเขาจะเสิร์ฟ
00:48:26 → 00:48:29 กวาสไลด์สดเลยแล้วก็มีขิงดองมีสาหร่ายวา
00:48:29 → 00:48:31 กาเมมีถ้าเกิดไปโอกินาก็พี่ก็ได้สาหร่าย
00:48:31 → 00:48:35 กงองุ่นทานคู่กันออสิ่งนี้คือหน้าที่คือ
00:48:35 → 00:48:38 การคลีนลิ้นเพื่อให้คำต่อไปอยากอยากเฟรช
00:48:38 → 00:48:41 กับคำต่อไปมากแค่ไหนหูยผมเจอหลายๆคนเลย
00:48:41 → 00:48:44 พี่แบบูชิแบบกินไป 5 คำเติมขิงดองไป 6
00:48:44 → 00:48:47 รอบแล้วอ่ะก็มีนะเมื่อก่อนผมก็ชอบเป็นคน
00:48:47 → 00:48:52 ชอบกินขิงดองคือพี่อาจจะชอบกินหักดองตอน
00:48:52 → 00:48:55 กินข้าวต้มแต่ว่าเนูชิอ่ะมันมัน Property
00:48:55 → 00:48:58 ของมันแบบมันแค่แค่เอาไว้ล้างปากเฉยๆเอออ
00:48:58 → 00:49:00 ไม่ได้เอาไว้กินเพื่อเอาเสมรถใช่พุ่งนี้
00:49:01 → 00:49:03 กินเยอะๆปากพังรสชาติพังแคสพังหมดเลยจริ
00:49:03 → 00:49:05 มันก็แบบรถมันก็แรงอยู่นะจุดสุดท้ายตอน
00:49:05 → 00:49:07 ท้ายอ่ะสิ่งที่พี่จำได้คือรสชาติของกิง
00:49:07 → 00:49:11 พี่จำรสชาติปาไม่ได้เลยเออๆอืออือกินนิด
00:49:11 → 00:49:15 เดียวเพื่อให้ลานิดเดียวล้างลิ้น
00:49:15 → 00:49:18 โอเคไอ้ที่เราคุยกันมาทั้งหมดเนี่ยพี่
00:49:18 → 00:49:21 ฟ้อนมันใช้ได้ตั้งแต่ร้านซูชิที่เป็นโอมา
00:49:21 → 00:49:24 เกษตสไตล์จนถึงร้านสายพานเลยป่ะพี่ต้อง
00:49:24 → 00:49:27 เตรียมตัวให้พร้อมก่อนว่าพี่จะมาสไตล์ไหน
00:49:27 → 00:49:31 เออไม่ใช่ว่าพี่ไปกินซูชิสายพานพี่ไปกิน
00:49:31 → 00:49:33 มาพี่บอกว่าไม่อร่อยอุ๊ยแงไม่ดีเลยนู่น
00:49:34 → 00:49:36 นี่เออเทียบกับร้านนู้นไม่ได้แต่ร้านที่
00:49:36 → 00:49:39 พี่เทียบคือร้านองมาเกษะอ่ะมันคนละเรื่อง
00:49:39 → 00:49:41 กันมันคือมันคนละเรื่องกันเอออืต้องดู
00:49:41 → 00:49:44 ก่อนเฮ้ยเนี่ยเราไปกินสายพานนะปล่อยใจ
00:49:44 → 00:49:48 โล่งๆกินสนุกกับวัตถุดิบไปสนุกกับข้าวไป
00:49:48 → 00:49:51 หรือว่าไปกินกับร้านแบบสุชิแบบออกมาเสษ
00:49:51 → 00:49:54 สไตล์อย่าเงี้ยอือก็แนวคิดก็อีกแนวนึงอือ
00:49:54 → 00:49:57 อืคนจ่ายเงินเกือบหมื่นแล้วอตั้งใจกินให้
00:49:57 → 00:50:00 มันก็ดีหน่อยอ่ะเออแต่คือแบบถ้าคุณกิน
00:50:00 → 00:50:02 ซูชิสายพานเนี่ยมันคือความสุขเลยเนาะแบบ
00:50:02 → 00:50:05 คุณผมชอบนะใช่ผมก็ชอบมันสามารถแบบเลือก
00:50:05 → 00:50:08 ปลาอะไรมากินทันทีไม่ต้องไปเรียงอะไรขนาด
00:50:08 → 00:50:12 ใช่ไปอาทีละครั้งใกล้ๆเรยิ่งแต่ว่า
00:50:12 → 00:50:15 ร้านซูชิที่เขาไม่ได้เสิร์ฟสไตล์โคาเซอ่ะ
00:50:15 → 00:50:18 อร่อยๆดีๆก็เยอะเชฟบางคนเขาก็ไม่อยากมา
00:50:18 → 00:50:20 เครียดไม่อยากมาให้ลูกค้าเครียดเขาอยาก
00:50:20 → 00:50:22 เจอลูกค้าที่แบบแฮปปี้คุยกันฉงฉางพี่เดิน
00:50:22 → 00:50:25 เข้ามาไแล้วใชมาเซดังๆสั่งเบียร์ข้ามหัว
00:50:25 → 00:50:28 กันอหลายๆร้านเลยซูชิอร่อยกร้านเรา
00:50:28 → 00:50:32 มาเสอีกเหรออืก็สั่งเา้าเรียกโอโคโนมิเออ
00:50:32 → 00:50:37 โอคิคือตามใจฉันอ๋อไม่ใช่าสคือตามใจเชฟ
00:50:37 → 00:50:40 โอโคโนมิคือตามใจฉันอ๋ออสิ่งนั้นคือ
00:50:40 → 00:50:43 โอโคโนมิคือการสั่งเองใช่ว่าจะเอาอะไร
00:50:43 → 00:50:47 บ้างหลังๆผมชอบลนี้เนี่ยทำไมฮะมันไม่ไม่
00:50:47 → 00:50:50 ต้องเครียดไม่ต้องซีเรียสก็ผมรู้จักปลาซะ
00:50:50 → 00:50:52 เกือบหมดแล้วผมก็อยากกินในสผมเป็นควรกิน
00:50:52 → 00:50:55 สุชิร้านตัวเองไม่อร่อยอ้าเหรอเพราะว่า
00:50:55 → 00:50:58 เราทำเองอ่ะเห็นมาตั้งแต่แบบตั้งแต่ตอน
00:50:58 → 00:51:01 รับของตั้งแต่พทุกอย่างมันไม่มีความจอยอื
00:51:01 → 00:51:04 ในการนั่งกินของตัวเองแล้วเวลาพี่ฟันไป
00:51:04 → 00:51:07 โคนิพอสั่งอะไรบ้างผมเลือกปลาที่อยากกิน
00:51:07 → 00:51:10 ก่อนเลยพวกผมผมเป็นคนชอบกินปลาเงินอ๋อผม
00:51:10 → 00:51:14 ก็เปิดเนี่ยซารีนาแล้วผมชอบกินหอยเอออืผม
00:51:14 → 00:51:18 ก็จะกินปลาเงินกินหอยรัวๆๆๆจนผมเบื่อแล้ว
00:51:18 → 00:51:20 ผมค่อยสั่งอะไรที่แบบอ่ะเดี๋ยวเอาทูน่ามา
00:51:20 → 00:51:22 กินก็ได้เอามากลกมากินเอานู่นมากินก็ได้
00:51:22 → 00:51:24 อื
00:51:24 → 00:51:28 อทีนี้อยากถามเรื่องฟิเลลครับฟิเลเนี่ย
00:51:29 → 00:51:32 คอนเซปของเอ่อร้านซูชิของพี่ฟอเนี่ย
00:51:32 → 00:51:35 ต้องการให้เป็นร้านซูชิแบบไหนฟิลล่าสุด
00:51:35 → 00:51:38 ที่ผมสร้างร้านนี้มามันเป็นประสบการณ์ใน
00:51:38 → 00:51:41 การกินข้าวหรือประสบการณ์ในการทำของผมที่
00:51:42 → 00:51:44 เก็บเกี่ยวมาตั้งแต่แรกเลยว่าสิ่งที่ผม
00:51:44 → 00:51:47 อยากให้มีในร้านตัวเองอ่ะมีอะไรสิ่งที่
00:51:47 → 00:51:52 ร้านซูชิขาดหายคืออะไรอืเช่นอาจจะดูจาก
00:51:52 → 00:51:55 รูปร้านก่อคือหลังๆผมไม่ค่อยผมรู้สึกว่า
00:51:56 → 00:51:58 การที่ที่เป็นไม้การที่ห้องแคบๆการที่
00:51:58 → 00:52:00 เคาน์เตอร์แบบผมอยากมานั่งกินซูชิแบบ
00:52:00 → 00:52:05 อร่อยๆในบรรยากาศที่มันแบบอสบายอืมให้มัน
00:52:06 → 00:52:10 แบบเปิดโล่งกว้างแล้วซูชิอ่ะผมอยากกิน
00:52:10 → 00:52:14 เครื่องดื่มเยอะอือผมก็เลยมีเซ่ามีบใช่
00:52:14 → 00:52:18 แล้วผมมีสเกไว by the GL เยอะมากผมอยาก
00:52:18 → 00:52:20 สลับเปลี่ยนนู่นเปลี่ยนนี่ไปเรื่อยๆตาม
00:52:20 → 00:52:22 อารมณ์ผมเอ้ยเดี๋ยวกินแชมเปญก่อนดีกว่า
00:52:22 → 00:52:25 เดี๋ยวกินเอ่อสาเกดีกว่าสลับไปเป็นเบียร์
00:52:25 → 00:52:27 ดีกว่าอืแล้วก็
00:52:27 → 00:52:30 ก็ความสนุกของมันน่ะแล้วความบอกเล่า
00:52:31 → 00:52:33 เรื่องความคือเราก็อยากให้ลูกค้าได้รู้
00:52:33 → 00:52:36 เรื่องที่มาที่ไปของมันว่าเอ้ยปลาตัวนี้
00:52:36 → 00:52:38 มาจากไหนอะไรอย่างงี้ยังไงวิธีการเสิร์ฟ
00:52:38 → 00:52:42 ที่ถูกต้องอะไรอย่างเงี้ยครับคือเราเรียก
00:52:42 → 00:52:45 ตัวเองว่า casual ไ di ที่มีซูชิซะดีกว่า
00:52:45 → 00:52:48 ซึ่งไม่ใช่ส้าซูชิอุมากาสิของผมเป็น
00:52:48 → 00:52:50 คัปโปะเป็นคัปผมเรียกตัวเองว่าคัโปะเรา
00:52:50 → 00:52:53 ของเราเป็นโมนิคัปโปะคัปโปะคืออะไรครับขอ
00:52:53 → 00:52:59 คัปโปะกับไคกิเนี่ยมันมาคู่กันอไซกิคือ
00:52:59 → 00:53:04 การ Enjoy Set คส Meal เฟ Meal กับ
00:53:04 → 00:53:05 เพื่อนอือเพราะฉะนั้นมันจะไม่มี
00:53:05 → 00:53:08 เคาน์เตอร์สังเกตว่าร้านไซกิสมารถจะเป็น
00:53:08 → 00:53:11 ห้องไวทเออนั่งชามาเสิร์ฟร้าน kaki ทุก
00:53:11 → 00:53:14 อย่างในห้องก็จัดตามฤดูกาลแต่คัปโปะเนี่ย
00:53:14 → 00:53:17 คือการ Enjoy อาหารที่ในใกล้เคียงกัน
00:53:17 → 00:53:20 อาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งการทอดการนึ่งการ
00:53:20 → 00:53:23 ต้มการตุ๋นมีซูชิมีการดิบมีนี่แต่ Enjoy
00:53:23 → 00:53:27 ที่เคาเตอร์กับเชฟอือันนั้นคือคปอืของผม
00:53:27 → 00:53:32 inb ระหว่างชิมาากับค 6 อออผมจะเสิร์ฟ
00:53:32 → 00:53:35 สมาิเยอะหน่อยแแอแต่ดูเข้ามาในร้านแล้ว
00:53:35 → 00:53:38 ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นร้านชิ traditional
00:53:38 → 00:53:41 มันไม่มีไม้ไม่มีเคาน์เตอร์ไม้มีเชฟไม่
00:53:41 → 00:53:44 ได้แบบใส่ชุดเชฟญี่ปุ่นอะไรอย่าเงี้แต่มี
00:53:44 → 00:53:48 ซูชิแบบซูชิก็จะใช้ traditional แบบยัง
00:53:48 → 00:53:50 ยังยังคงอยู่ในความถูกต้องของมันครับอฮะ
00:53:50 → 00:53:54 ครับอือืก็อี 2025 แล้วอ่ะเนาะอืก็
00:53:54 → 00:53:57 เปลี่ยนไปหมดแล้วใช่เออทุกอย่างเปลี่ยน
00:53:57 → 00:54:00 หมดครับซึ่งที่นี่ก็มีแิ W แล้วก็มีสาเก
00:54:00 → 00:54:05 กำลังจะมีซกำลังมากำังซใช่ออโอเคครับวัน
00:54:06 → 00:54:08 นี้ขอบคุณพี่ปอนมากเลยนะครับขอบคุณครับ
00:54:08 → 00:54:14 ให้ความรู้เรื่องสุชีเยอะมากขอบคุณมากนะ
00:54:14 → 00:54:25 [เพลง]
00:54:25 → 00:54:29 ครับ H