วิธีง่าย ๆ ที่ช่วยให้สมองสงบและลดความเครียดคืออะไร

[PODCAST] Well-Being | EP.24 - 9 พฤติกรรม ทำร้ายสมอง ไม่รู้ตัว

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:25 เพราะเป้าหมายของเราทุกคน คือการมีชีวิตที่ดี

00:00:2500:00:28 มาพัฒนาตัวเราให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

00:00:2800:00:33 กับรายการ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดี สร้างได้

00:00:3400:00:36 กับผม อาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง

00:00:3600:00:39 จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:3900:00:42 [เสียงดนตรี]

00:00:4200:00:44 คุณผู้ชมครับ ไม่แน่ใจว่าคุณผู้ชมเป็นเหมือนผมหรือเปล่า

00:00:4400:00:46 พออายุเริ่มมากขึ้นนี่

00:00:4700:00:50 สิ่งที่เคยจำได้ อยู่ ๆ ก็เกิดจำไม่ได้

00:00:5100:00:54 สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่ อยู่ ๆ ก็นึกไม่ออก

00:00:5400:00:56 พอจะพูดคำไหนก็…มันติดอยู่ที่ปาก

00:00:5600:00:58 หัวก็ไม่ไวเหมือนเดิม

00:00:5900:01:00 หลาย ๆ คนอาจจะบอกว่า

00:01:0000:01:04 ก็น่าจะเป็นอาการหนึ่ง ของคนที่เริ่มมีอายุมากขึ้น

00:01:0400:01:07 แต่จริง ๆ แล้ว มันอาจจะ ไม่ใช่เรื่องของอายุอย่างเดียวเนอะ

00:01:0700:01:09 มันอาจจะมีเรื่องของพฤติกรรมอยู่ด้วย

00:01:1000:01:11 ในวันนี้ครับ เราจะมาดูกันว่า

00:01:1100:01:15 พฤติกรรมแบบไหน ที่มันจะมีผลกับสมองของเรา

00:01:1500:01:17 ในหัวข้อที่เราจะมาคุยกันวันนี้คือ

00:01:1700:01:20 9 พฤติกรรมทำร้ายสมองไม่รู้ตัว

00:01:2000:01:22 วันนี้แขกรับเชิญที่มาพูดคุยกับเราครับ

00:01:2200:01:23 ก็คืออาจารย์ป๊อบ

00:01:2300:01:27 ผศ.ดร.ก.บ.ศุกลักษณ์ เข็มทอง

00:01:2700:01:29 อาจารย์นักกิจกรรมบำบัดจิตสังคม

00:01:2900:01:31 คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

00:01:3100:01:33 - สวัสดีครับอาจารย์ป๊อบ - สวัสดีครับ

00:01:3300:01:34 - สบายดีนะ - สบายดีไหมครับอาจารย์

00:01:3400:01:35 สบายดีเนอะ

00:01:3500:01:37 อันดับแรกเลย เข้าเรื่องเลย

00:01:3700:01:38 พฤติกรรมทำร้ายสมอง

00:01:3800:01:41 เรากำลังพูดถึงพฤติกรรมแบบไหน ที่มันจะทำร้ายสมองเราได้

00:01:4100:01:44 มันจะเป็นพฤติกรรมแบบเราไม่รู้ตัว

00:01:4400:01:48 เราทำไปแล้วก็… สมองมันก็เริ่มล้า เริ่มเหนื่อย

00:01:4800:01:51 เริ่มสะสมความตึงเครียด แล้วก็เสื่อมก่อนวัย

00:01:5100:01:54 ตามธรรมชาตินี่นะครับอาจารย์เต้ คือสมองเรานี่

00:01:5400:01:57 จะมีแบบ…เขาเรียกวุฒิภาวะ เหมือนเป็นผู้ใหญ่เต็มที่

00:01:5700:02:00 แต่พอเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ มันเริ่มเสื่อมเลยนะ

00:02:0000:02:00 โอ้

00:02:0000:02:01 30 ปี

00:02:0100:02:05 อ๋อ ก็คือคล้าย ๆ กับเวลาที่เราโตขึ้นมา จากเด็กขึ้นมาเป็นวัยรุ่น

00:02:0700:02:10 - ช่วงนี้เป็นช่วงขาขึ้น เป็นช่วงขาขึ้น - ใช่ ๆ

00:02:1000:02:11 พอ 20 กว่า ๆ 30 ปุ๊บ

00:02:1100:02:13 - 30 ปุ๊บ อย่างนี้เลย - ปุ๊บเลยหรือ

00:02:1400:02:16 แล้วมันจะปุ๊บมากกว่านั้นอีก ก็คือ

00:02:1600:02:19 สมองเสื่อมก่อนวัย ถ้าเรามีพฤติกรรมทำร้ายสมองไม่รู้ตัว

00:02:1900:02:20 ตอน 40

00:02:2100:02:23 - ตอน 40 - 40 จะเสื่อมก่อนวัย

00:02:2300:02:26 ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าตอนนี้เรากำลังพูดถึง 2 ปัจจัย

00:02:2600:02:29 ปัจจัยหนึ่งก็คืออยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา

00:02:2900:02:31 เพราะว่าอายุของเราก็จะเริ่มไปเรื่อย ๆ

00:02:3100:02:34 แต่ส่วนที่มันควบคุมได้ก็คือ เรื่องของพฤติกรรม

00:02:3400:02:34 ใช่เลย

00:02:3400:02:36 วันนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องพฤติกรรม

00:02:3600:02:37 และมี 9 พฤติกรรม

00:02:3700:02:41 [เสียงดนตรี]

00:02:4100:02:43 งั้นเรามาเริ่มจากพฤติกรรมแรกกันก่อน

00:02:4300:02:46 พฤติกรรมแรกก็คือ เราทานอาหารไม่ดีต่อสุขภาพ

00:02:4600:02:47 โอ้โฮ สะดุ้งเลย

00:02:4700:02:48 [เสียงหัวเราะ]

00:02:4800:02:50 อาหารไม่ดีต่อสุขภาพนี่

00:02:5000:02:52 อาจารย์ป๊อบขยายสักนิดนึง ประเภทไหน

00:02:5200:02:54 ก็คือดื่มน้ำอัดลม

00:02:5400:02:55 อืม

00:02:5500:02:57 - ทานอะไรที่หวาน ๆ - อ๋อ หวาน ๆ

00:02:5700:02:59 แล้วก็ทานอะไรที่มัน ๆ เค็ม ๆ

00:02:5900:03:00 มาครบเลย อร่อยทั้งนั้นเลย

00:03:0000:03:02 ใช่ เพราะว่าอะไรอาจารย์เต้

00:03:0200:03:04 สมองนี่นะ เขาจะตื่นตัวนะครับ

00:03:0400:03:09 แล้วต้องการพลังงาน ตั้งแต่ตี 5 จนถึง 9 โมงเช้า

00:03:0900:03:10 อืม

00:03:1000:03:13 คราวนี้อาหารที่เขาจะใช้นี่ก็คือ

00:03:1300:03:17 มีน้ำตาลน้อย ๆ มีผักผลไม้เยอะ ๆ

00:03:1700:03:20 เพราะว่ามันทำให้สมองมีพลังงาน ตื่นตัวครับ

00:03:2000:03:26 คราวนี้อาหารที่เกี่ยวกับอาหารทอด อาหารมันเยอะ ๆ นี่ มันจะยังไม่ใช้

00:03:2600:03:28 เมื่อสักครู่อาจารย์ป๊อบพูดถึงช่วงเช้า

00:03:2800:03:32 แสดงว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องของเวลา เกี่ยวข้องกับเรื่องนาฬิกายังไงครับ

00:03:3200:03:37 ใช่ มันเป็นเรื่องของการตั้งเวลาในสมอง ที่เราเรียกว่านาฬิกาชีวภาพ

00:03:3700:03:37 อืม

00:03:3700:03:39 คราวนี้พอเราใช้งานของเขา

00:03:3900:03:42 ใช้พลังงานต่าง ๆ ช่วง 7-9 โมงเช้านะครับ

00:03:4200:03:44 หลัง 10 โมงเป็นต้นมานี่

00:03:4400:03:46 สมองก็เริ่มแบบ…อยากจะพักบ้าง

00:03:4600:03:47 อ๋อ เขามีเวลา

00:03:4700:03:49 - เขามีเวลาของเขา - มีเวลาตื่นตัว มีเวลาพัก

00:03:4900:03:53 ใช่ คราวนี้พักของเขาก็อาจจะแบบ… ได้ทำอะไรเบา ๆ

00:03:5300:03:55 เขาก็ไม่ต้องการพลังงานจากน้ำตาล

00:03:5500:03:55 อืม

00:03:5500:03:58 น้ำตาลถ้าเราทานเกินนี่นะครับ

00:03:5800:03:59 มันก็จะไปสะสม

00:03:5900:04:01 สะสมโดยไม่ใช้งาน

00:04:0100:04:05 พอไปสะสมในสมองนี่ เส้นประสาทมันเริ่มอักเสบ

00:04:0500:04:07 เส้นประสาทในสมองอักเสบจะรู้ได้อย่างไร

00:04:0700:04:10 เราจะเริ่มง่วงทั้ง ๆ ที่ไม่ควรง่วง

00:04:1100:04:13 เราจะเริ่มแบบ…จำอะไรไม่ค่อยได้

00:04:1300:04:13 อ๋อ

00:04:1400:04:16 เราจะเริ่มปวดล้าสายตา

00:04:1600:04:19 เราก็ต้องการโปรตีน เพื่อไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ

00:04:1900:04:21 จะได้มีพลังงานในช่วงบ่าย

00:04:2100:04:25 นั่นแปลว่าตอนเช้าถ้าเกิดจะทานข้าว จะทานข้าวตอนไหนดี

00:04:2500:04:27 - ก่อน 10 โมงไหมหรือยังไงครับ - ใช่

00:04:2800:04:31 ช่วง 7-9 โมงนี่ อาหารเช้าพวกคาร์โบไฮเดรต

00:04:3100:04:33 พวกข้าวซ้อมมือยิ่งดีนะอาจารย์

00:04:3300:04:37 เพราะมีไฟเบอร์เยอะ มีผักผลไม้ตามหน่อยนะ

00:04:3700:04:39 มันก็จะทำให้ตื่นตัว มีพลังงาน

00:04:3900:04:40 ครับ

00:04:4000:04:43 แล้วหลังจากนั้น ถ้าเผื่อจะเติมให้กับสมองของเรา

00:04:4300:04:45 ก็อาจจะเป็นอาหารในกลุ่มที่มีโปรตีนสูงหน่อย

00:04:4500:04:46 โปรตีนสูงหน่อย ใช่

00:04:4600:04:50 โปรตีนสูงก็อาจจะมาจากถั่วเหลือง ถั่วต่าง ๆ

00:04:5000:04:52 หรือว่าโปรตีนที่ไม่มีติดมันนะอาจารย์

00:04:5200:04:54 มันจะทำให้พลังงานตอนบ่ายดีขึ้น

00:04:5400:04:57 อืม อย่างนี้ถ้าเผื่อหลังจาก 10 โมงไปแล้ว

00:04:5700:05:00 ผมก็เติมโปรตีนของผมไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงสักเที่ยงคืนได้ไหม

00:05:0100:05:03 ควรจะถึงแค่ 2 ทุ่ม

00:05:0300:05:05 ทำไมไม่ยาวไปกว่านั้นครับ

00:05:0500:05:10 เพราะว่าตอน 2 ทุ่มนี่ สมองเขาบอกว่า ฉันจะเริ่มมีเมลาโทนินหลั่งแล้วนะ

00:05:1000:05:13 คราวนี้ถ้าเราไปทานอะไรเยอะแยะ เมลาโทนินไม่หลั่ง

00:05:1300:05:14 นอนไม่หลับเอานะอาจารย์เต้

00:05:1400:05:16 อ๋อ เมลาโทนินเป็นฮอร์โมนตัวหนึ่ง

00:05:1600:05:19 ซึ่งสำคัญต่อการที่จะทำให้เราง่วง แล้วก็พักผ่อนใช่ไหมครับ

00:05:1900:05:22 ใช่ มันจะเคลิ้ม ๆ ฉันขอนอนนะ ยาว ๆ

00:05:2200:05:25 [เสียงดนตรี]

00:05:2500:05:27 พฤติกรรมที่ 2 นี่

00:05:2700:05:29 คือไม่ขยับร่างกายเลย 30 นาที

00:05:2900:05:29 ครับ

00:05:2900:05:31 เราเรียกว่าเนือยนิ่ง

00:05:3100:05:32 ชอบคำว่าเนือยนิ่ง

00:05:3200:05:35 มองภาพออกเลยว่า อยู่เนือย ๆ นิ่ง ๆ ใช่ไหมครับ

00:05:3500:05:37 จริง ๆ แล้ว หัวใจมันเหนื่อย

00:05:3700:05:38 มันเหนื่อยด้วย

00:05:3800:05:41 มันเหนื่อยเพราะว่าอยู่นาน ๆ มันไม่ได้ขยับสักที

00:05:4100:05:42 อ๋อ

00:05:4200:05:44 ปอดก็ไม่ได้ออกซิเจนเลยอย่างนี้ครับ

00:05:4400:05:47 มันก็เลยส่งผลนะอาจารย์ ระยะยาวถ้าเราเป็นอย่างนี้

00:05:4700:05:49 ไม่ขยับร่างกายเลย

00:05:4900:05:51 หัวใจ หลอดเลือด สมองเอย…แย่

00:05:5100:05:54 แล้วอย่างนี้เมื่อสักครู่ อาจารย์ป๊อบพูดถึงคำว่า 30 นาที

00:05:5400:05:57 งั้นแสดงว่าอาจจะต้อง นั่งจับเวลาเลยหรือเปล่าว่า

00:05:5700:05:59 30 นาทีที่เรานั่งอยู่นิ่ง ๆ นี่

00:05:5900:06:03 หลังจาก 30 นาทีแล้ว เราควรจะไปทำอะไรอย่างอื่นอย่างนี้หรือครับ

00:06:0300:06:05 - จริง ๆ ก็คือเปลี่ยนท่า - เปลี่ยนท่า

00:06:0500:06:08 ลุกขึ้นยืน ขยับร่างกาย บิดขี้เกียจอะไรอย่างนี้

00:06:0800:06:09 สมองเขาก็ตื่นตัวแล้ว

00:06:0900:06:10 แล้วเขาจำได้นะ

00:06:1100:06:15 เพราะว่ายิ่งเราทำเป็นประจำ สมองเขาจำแม่นเลย ไม่ต้องจับเวลา

00:06:1500:06:19 อ๋อ อย่างนี้ก็คือ 30 นาที แล้วก็ เปลี่ยนอิริยาบถสัก 2 ชั่วโมงไหมหรือว่านานไป

00:06:1900:06:20 อย่างน้อย 3 นาที

00:06:2000:06:21 โอเค 3 นาทีพอ

00:06:2200:06:23 อย่างน้อย 3 นาที

00:06:2300:06:25 เดี๋ยวเจ้านายคงจะเพ่งเล็ง

00:06:2500:06:27 หรือบางทีเราทำงานไป เดินไปบ้างก็ได้

00:06:2700:06:32 อืม การที่เราขยับตัวน้อย มันก็จะทำให้เราใช้พลังงานน้อย

00:06:3200:06:35 น้อยเกินไป ทั้ง ๆ ที่เรามีพลังงานตอนเช้า ๆ

00:06:3500:06:36 อืม

00:06:3600:06:40 [เสียงดนตรี]

00:06:4000:06:43 พฤติกรรมที่ 3 ที่ทำร้ายสมองของเราครับ อาจารย์ป๊อบคืออะไร

00:06:4300:06:47 พฤติกรรมที่ 3 นี้เราเรียกว่า นั่งคอมนาน แล้วใส่หูฟัง

00:06:4700:06:48 นั่งคอมนาน

00:06:4800:06:49 เกิน 30 นาที

00:06:4900:06:50 หมายถึงใช้คอมพิวเตอร์อยู่นาน

00:06:5000:06:53 ใช่ ใส่หูฟังในนี้ด้วย ในหูเลยนะ

00:06:5300:06:57 เอ้า แล้วมันไม่ดีอย่างไร ใส่หูฟัง มันก็จะได้ยินชัด ๆ

00:06:5700:06:58 จริง ๆ แล้วพอเราใส่หูฟังปุ๊บนี่

00:06:5800:06:59 ครับ

00:06:5900:07:00 สมองเขาชอบฟัง

00:07:0000:07:01 เขาไม่ชอบมอง

00:07:0200:07:05 ดังนั้น มันจะทำให้หูของเรานี่ ใช้งานหนักเกินไป

00:07:0500:07:06 อ๋อ

00:07:0600:07:08 แล้วมันทำให้เครียดมากเลยอาจารย์

00:07:0800:07:11 เพราะว่าถ้าเราแบบ…ลองดูนะอาจารย์

00:07:1100:07:12 พอใส่อะไรปุ๊บนี่

00:07:1200:07:14 แล้วถ้าเราเป็นคนแบบหูไว

00:07:1400:07:15 หรือหูหาเรื่อง

00:07:1600:07:19 หูหาเรื่องก็คือ ใครนินทาหรือว่านินทาเรื่องเรา

00:07:1900:07:21 จิ๊บ ๆ เราหูไปแล้ว หูกระดิกแล้ว

00:07:2100:07:26 แล้วทำให้ตามันแบบ โห...มันทำงานเยอะเกินไป

00:07:2600:07:26 อืม

00:07:2700:07:29 ถ้าอย่างนั้นทางแก้ หรือว่าวิธีในการที่จะลดพฤติกรรมนี้คือ

00:07:3000:07:30 ก็เอาหูฟังออก

00:07:3000:07:31 ใช่ ง่าย ๆ

00:07:3100:07:33 พอเอาหูฟังออกนี่

00:07:3300:07:36 ตาจะเบิกกว้าง ตาจะแบบเป็นประกาย

00:07:3700:07:39 มองอะไรก็คิด จำได้แม่นนะอาจารย์

00:07:4000:07:42 แล้วถ้าเรานั่งประชุมกันแบบนี้

00:07:4200:07:45 ไม่ใส่หูฟัง เราก็จะได้สบตา ยิ้ม ทักทาย

00:07:4500:07:47 แล้วก็ได้เดินไปด้วยกันด้วย

00:07:4700:07:48 อ๋อ ฟังดูเหมือนกับว่า

00:07:4800:07:51 ถ้าเราใส่หูฟัง เราก็จะโฟกัสกับเสียงเป็นหลักเลย

00:07:5100:07:52 ใช่

00:07:5200:07:54 ในขณะที่ถ้าเราไม่ได้ใส่หูฟัง

00:07:5400:07:56 เราต้องพยายามอ่านปากคนที่เรานั่งประชุมด้วย

00:07:5600:08:00 แล้วก็ได้สังเกตอื่น ๆ ด้วย นอกจากที่จะฟังอยู่ที่หูอย่างเดียว

00:08:0000:08:03 แล้วก็ใส่หูฟังมาก ๆ ก็จะหูหาเรื่อง หงุดหงิดง่าย

00:08:0300:08:04 [เสียงหัวเราะ]

00:08:0400:08:07 [เสียงดนตรี]

00:08:0800:08:11 อาจารย์ป๊อบครับ ตอนนี้เรามาถึง พฤติกรรมที่ 4 ที่ทำร้ายสมองครับ

00:08:1100:08:11 อืม

00:08:1200:08:12 คืออะไร

00:08:1200:08:13 คืออย่างนี้ครับ

00:08:1300:08:16 มันจะเป็นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

00:08:1600:08:17 มีกาเฟอีน

00:08:1700:08:18 สูบบุหรี่เยอะ ๆ

00:08:1800:08:19 อืม

00:08:1900:08:21 มันทำร้ายสมองโดยตรงเลย

00:08:2100:08:24 เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มันจะมีผลยังไงโดยตรงกับสมองเลย

00:08:2400:08:27 มันจะไปที่ตัวสมองใช่ไหมอาจารย์

00:08:2700:08:28 แล้วมันทำให้สมองมึน

00:08:2800:08:29 มึน (หัวเราะ)

00:08:2900:08:29 ใช่

00:08:3000:08:34 สมองมึนก็คือ แอลกอฮอล์ มันจะเข้าไปแทนของเหลวอื่น ๆ

00:08:3400:08:35 ไปแย่งเลย

00:08:3500:08:38 ไปแย่งออกซิเจน ไปแย่งน้ำในสมองเนอะ

00:08:3800:08:40 เหมือนสมองเมาเหล้า อารมณ์นั้นน่ะ

00:08:4000:08:41 แต่มันจะเมาเร็วมาก

00:08:4200:08:45 แล้วก็ตาเรานี่จะพร่า มัว

00:08:4500:08:47 คราวนี้นึกถึงพอตามันมัว ตาพร่า

00:08:4800:08:49 ก็จะเดินเซ

00:08:4900:08:49 อืม

00:08:5000:08:53 หูชั้นในนี่ ที่หูหาเรื่องนี่ จะหาเรื่องมากขึ้น

00:08:5300:08:54 [เสียงหัวเราะ]

00:08:5400:08:55 ไปกันใหญ่เนอะอาจารย์เนอะ

00:08:5500:08:58 มันจะหงุดหงิด โมโห ก้าวร้าว

00:08:5800:09:00 - ควบคุมตัวเองไม่ได้ - ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้

00:09:0000:09:01 นี่ที่ผมเคยทราบมาก็คือ

00:09:0100:09:05 แอลกอฮอล์เองก็อาจจะทำให้ เซลล์สมองมันตายด้วยเหมือนกัน

00:09:0500:09:06 ไปถึงขนาดนั้นเลยหรือเปล่า

00:09:0700:09:10 อันนี้ใช่เลย ถ้าเราทานแอลกอฮอล์มากกว่าเกณฑ์นะอาจารย์

00:09:1000:09:13 ก็คือมากกว่า 2 แก้วในเวลา 1 ชั่วโมง

00:09:1300:09:14 อืม

00:09:1400:09:17 นั่นจะทำให้เซลล์สมองตาย

00:09:1700:09:20 สูบบุหรี่ มันมีอะไรที่อยู่ในควันบุหรี่หรือ

00:09:2000:09:24 อืม สารนิโคตินนี่มากนะอาจารย์

00:09:2400:09:27 มีผลต่อสมองมากกว่าแอลกอฮอล์เมื่อกี้นะ

00:09:2700:09:27 อุ๊ย

00:09:2700:09:30 โอ้โฮ นี่เราค่อย ๆ ไล่ระดับไปเลยนะนี่

00:09:3000:09:30 ใช่ ๆ

00:09:3000:09:32 นิโคตินที่อยู่ในบุหรี่ ควันบุหรี่

00:09:3300:09:35 เพราะมันไปพร้อมกับคาร์บอนไดออกไซด์

00:09:3600:09:36 ครับ

00:09:3600:09:41 มันไปจับ…สามารถจับออกซิเจน ไม่ให้ทำงานเป็นออกซิเจน

00:09:4100:09:42 จะทำงานคล้าย ๆ คาร์บอนไดออกไซด์

00:09:4200:09:43 อืม

00:09:4300:09:46 แล้วก็เมื่อคาร์บอนไดออกไซด์มากขึ้นในร่างกาย

00:09:4700:09:48 ออกซิเจนก็ลดลง

00:09:4800:09:52 สมองสามารถขาดเลือด แล้วก็อัมพาตได้

00:09:5200:09:53 โอ้

00:09:5400:09:58 คือ แค่สมองขาดเลือด หรือว่าเลือดไปหล่อเลี้ยงสมองน้อยลงนี่

00:09:5800:10:01 มันก็ทำให้เราคิดอะไรไม่ค่อยดีแล้ว

00:10:0100:10:01 ใช่

00:10:0100:10:03 อันนี้อาจจะทำให้เซลล์สมองตายเลย

00:10:0300:10:07 และที่สำคัญคนรอบข้าง ๆ นี่ตายก่อนได้ด้วย

00:10:0700:10:09 ด้วยควันบุหรี่มือสอง

00:10:0900:10:10 ใช่

00:10:1000:10:11 บุหรี่นี่พอนึกออก

00:10:1200:10:14 แอลกอฮอล์ก็อาจจะพอนึกออก

00:10:1400:10:19 กาเฟอีนนี่ ที่มันอยู่ในชาในกาแฟ มันไปทำอะไรกับสมอง

00:10:1900:10:21 ยังจำได้อยู่ไหมอาจารย์เต้

00:10:2100:10:24 ถ้าเกิดเราใส่กาแฟ ใส่น้ำตาลด้วยนะ

00:10:2500:10:28 น้ำตาลนี่ ทำให้สมองเราอักเสบไง

00:10:2800:10:30 โอเค ครับ

00:10:3000:10:32 พออย่างนี้ มันไม่อักเสบอย่างเดียวเนอะ

00:10:3200:10:36 กาเฟอีนนี้ มันจะไปกระตุ้นที่กล้ามเนื้อมากกว่าสมอง

00:10:3600:10:39 ดังนั้นออกซิเจนต้องไปเพิ่มพลังในกล้ามเนื้อ

00:10:3900:10:41 ออกซิเจนก็ไปเลี้ยงสมองลดลง

00:10:4100:10:42 อืม

00:10:4200:10:46 สมองก็จะล้าตามมา เหนื่อย หมดแรง อยากนอน

00:10:4600:10:47 อืม

00:10:4700:10:49 ถ้าเป็นสูบบุหรี่นี่ งดได้ก็จะดี

00:10:4900:10:50 แอลกอฮอล์นี่ งดได้ก็จะดี

00:10:5000:10:54 แต่หลาย ๆ คนบอกว่า กาแฟนี่ขอสักแก้วนึงได้ไหม สองแก้วได้ไหม

00:10:5400:10:55 ตอนเช้า ไม่งั้นมันไม่ตื่นนะ

00:10:5600:10:58 เขาก็กำหนดไว้ ทั่วโลกกำหนดเลยนะอาจารย์

00:10:5800:11:00 ว่าตั้งแต่เช้าตื่นมา

00:11:0000:11:02 ถ้าเป็นกาแฟที่มีน้ำตาลน้อย ๆ

00:11:0200:11:04 หรือไม่ใส่เลย

00:11:0400:11:06 ก็กินได้วันละ 2 แก้ว

00:11:0600:11:06 อืม

00:11:0600:11:08 และมีข้อจำกัดด้วย

00:11:0800:11:11 วันละ 2 แก้วก็คือตื่นเช้ามาจนถึง 3 โมงเย็น

00:11:1100:11:13 เพราะว่าหลังบ่าย 3 โมงนี่

00:11:1300:11:16 เขาต้องการอากาศ ออกซิเจนเยอะ ๆ

00:11:1700:11:18 ต้องการน้ำบ้างนะอาจารย์

00:11:1800:11:20 สมองต้องการน้ำ

00:11:2000:11:23 ต้องการวิตามิน เกลือแร่ จากน้ำผลไม้

00:11:2300:11:26 จากนมถั่วเหลืองอะไรพวกนี้ก็จะดีกว่า

00:11:2600:11:30 [เสียงดนตรี]

00:11:3000:11:32 มาถึงพฤติกรรมที่ 5 ทำร้ายสมองครับ

00:11:3200:11:37 ก็คือพฤติกรรมที่เราแปรงฟัน แต่ไม่ใช้ไหมขัดฟัน

00:11:3700:11:38 เอ้า ยังไง

00:11:3800:11:40 แปรงฟันก็แปรงอยู่ ทุกเช้าเย็นก่อนนอน

00:11:4000:11:41 ต้องใช้ไหมขัดฟันด้วยหรือ

00:11:4100:11:42 ใช่

00:11:4200:11:46 เพราะว่าไหมขัดฟันเป็นเครื่องมือ ที่ช่วยกำจัดแบคทีเรีย

00:11:4600:11:47 ใช้ดีมากนะครับ

00:11:4700:11:52 ได้ลึกซึ้งถึงตัวเหงือก รากของฟันด้วยนะครับ

00:11:5200:11:54 แล้วถ้าเรามีแบคทีเรียน้อยลง

00:11:5500:11:58 สมองก็จะไม่มีเชื้อโรค ไม่ติดเชื้อ

00:11:5800:12:01 แล้วก็เส้นประสาทจะไม่อักเสบด้วย

00:12:0100:12:04 โอ้โฮ ผมก็นึกว่าแค่ในการใช้ไหมขัดฟันนี่

00:12:0500:12:11 จะช่วยบำรุงรักษาสุขภาพในช่องปากของเรา ในการที่จะลดคราบแบคทีเรียลง

00:12:1100:12:13 ไม่ได้นึกว่ามันจะไปมีผลกับสมองด้วย

00:12:1300:12:13 ใช่

00:12:1400:12:19 สุขภาพสมองจะดีขึ้นเพราะว่า ลดการอักเสบในช่องปากและโพรงสมองครับ

00:12:1900:12:19 ครับ

00:12:1900:12:23 [เสียงดนตรี]

00:12:2300:12:26 พฤติกรรม 6-9 นี่เป็นเกี่ยวกับจิตใจนะอาจารย์

00:12:2600:12:27 จิตใจ โอเค

00:12:2700:12:28 มีผลมาก

00:12:2800:12:31 - เมื่อสักครู่เป็นกายเนอะ ตอนนี้มาเป็น... - จิตใจ

00:12:3100:12:34 จิตใจอันแรกก็คือ เรามีความคิดลบ

00:12:3400:12:36 คิดลบนี่อาจารย์ มันคือเหมือนกับว่า

00:12:3600:12:39 เราจะคิดแบบเข้าข้างตัวเอง

00:12:3900:12:42 บิดเบียนจากความเป็นจริง

00:12:4200:12:44 อ๋อ บิดเบี้ยวไปจากความเป็นจริง

00:12:4400:12:46 - บิดเบี้ยวไปเลยเราเรียกว่าบิดเบือนได้เลย - อ๋อ บิดเบือน โอเค

00:12:4600:12:49 แล้วก็มักจะมีบุคลิกภาพแบบชอบตำหนิ

00:12:4900:12:53 ชอบสั่งการ และชอบเก็บมาคิดน้อยใจ

00:12:5400:12:56 อันนี้แบบพอพูดไปนี่ ผมกำลังติ๊ก ๆ ไปด้วยนะ

00:12:5600:13:00 แต่ผมไม่ค่อยว่าคนอื่นนะ ผมมักจะตำหนิตัวเอง

00:13:0000:13:02 อันนี้เป็นพวกคิดลบด้วยไหมครับ ตำหนิตัวเองว่า

00:13:0200:13:05 ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเราทำ

00:13:0500:13:08 มันมักจะอย่างนี้ มันมักจะมาคิดได้ตอนหลังจากทำไปแล้ว

00:13:0800:13:10 ก็เลยมาตำหนิตัวเองตอนหลัง

00:13:1000:13:12 - นั่นก็เป็นคิดลบอยู่ด้วยเหมือนกัน - ก็ด้วยเหมือนกัน

00:13:1200:13:16 แล้วพอคิดโน่นคิดนี่ กลางคืนก็มานอนไม่หลับอย่างนี้อาจารย์

00:13:1600:13:17 อ๋อ

00:13:1700:13:23 บางทีพอคิดแล้วนี่ แล้วคิดไปถึงในสิ่งที่อาจจะเคยทำแล้วในอดีต

00:13:2300:13:26 เราอาจจะเกิดอาการรู้สึกว่า เฮ้ย ไม่น่าทำเลย

00:13:2600:13:27 เราคิดในทางที่ไม่ดีเสมอ

00:13:2700:13:29 ใช่ คิดไปข้างหน้าล่วงหน้าอีก

00:13:2900:13:29 อ๋อ

00:13:2900:13:32 คราวนี้สมองนี่เขาไม่ชอบคิดกังวลไปนาน

00:13:3200:13:33 อืม

00:13:3300:13:34 เพราะว่ามันลืม

00:13:3400:13:34 [เสียงหัวเราะ]

00:13:3400:13:38 แล้วเขาต้องการนอนหลับพักผ่อน โดยที่แบบคิดน้อย ๆ

00:13:3800:13:40 คิดเรื่องบวก ๆ ดี ๆ อย่างนี้อาจารย์

00:13:4000:13:44 ถ้าเราสามารถที่จะลดการคิดลบนั้นลงได้

00:13:4400:13:48 สมองของเรา ก็จะเข้าสู่โหมดในการพักผ่อนได้ง่ายขึ้น

00:13:4800:13:48 พักผ่อนได้เต็มที่

00:13:4800:13:51 ก็จะทำให้นอนได้ง่ายขึ้น

00:13:5100:13:52 และบางทีฝันดีด้วย

00:13:5200:13:54 โอ้ ผมอยากที่จะฝันดี

00:13:5400:13:56 แต่ก่อนที่จะฝันดี ต้องนอนให้ได้ก่อนเนอะอันดับแรก

00:13:5600:13:56 ใช่

00:13:5600:14:00 [เสียงดนตรี]

00:14:0000:14:02 พฤติกรรมที่ 7 นี่คือ

00:14:0200:14:06 ในเวลาที่จำกัด แล้วก็ เราทำงานหลายอย่างพร้อมกันจนเกินไป

00:14:0600:14:09 โอ๊ย คนเดี๋ยวนี้เขาต้อง Multitasking ไหม

00:14:0900:14:11 - คนรุ่นใหม่ใช่ไหม - ใช่

00:14:1100:14:14 อืม แต่จริง ๆ แล้วพอทำมาก ๆ ก็ทำไม่ได้ดีนะ

00:14:1400:14:17 ตัวสมองเรานี่อาจารย์เต้ เราวัดได้ 20 ตำแหน่ง

00:14:1700:14:19 นั่นหมายถึงว่า เราสามารถ จริง ๆ นะ

00:14:1900:14:22 ถ้าเราทำจริง ๆ เราทำได้ 20 อย่างพร้อมกัน

00:14:2200:14:24 โอ้โฮ ผมไม่สามารถ

00:14:2400:14:27 ถูกไหม ไม่มีใครสามารถ เพราะว่าสมองมันเหนื่อย

00:14:2700:14:28 สมองมันล้า

00:14:2800:14:29 ครับ

00:14:2900:14:33 แล้วที่เราแนะนำก็คือ ทำแค่เป็น 2 อย่างก็เต็มที่แล้ว

00:14:3400:14:36 - 2 อย่างก็เต็มที่แล้ว โอเค - ใช่ ๆ

00:14:3600:14:37 เคยได้ยินมาจากบางที่

00:14:3700:14:40 บางที่เขาบอกว่า จริง ๆ มันไม่ใช่ Multitasking หรอก

00:14:4100:14:43 มันเป็น Switchtasking

00:14:4300:14:45 ก็คือทำ 2 อย่างอยู่ข้างหน้านี่

00:14:4500:14:49 แต่เราให้ความสนใจกับสิ่งนี้ 2 นาที

00:14:4900:14:51 แล้วก็กลับมาสิ่งนี้อีก 2 นาที

00:14:5100:14:52 แล้วก็กลับมาสิ่งนี้ 2 นาที

00:14:5200:14:55 เราไม่สามารถจะทำทุกอย่างไปพร้อมกันได้

00:14:5500:14:55 ใช่

00:14:5500:14:57 มันยิ่งทำให้งานเสร็จช้าลงไปอีก

00:14:5700:14:58 ใช่ ๆ

00:14:5800:15:01 ถ้าเป็นไปได้ก็โฟกัสทีละสิ่ง ก็จะดีที่สุดใช่ไหมถูกไหม

00:15:0100:15:03 แล้วการโฟกัสทีละสิ่ง จะทำได้เร็วกว่าเดิมด้วย

00:15:0300:15:04 ใช่แล้ว

00:15:0400:15:08 [เสียงดนตรี]

00:15:0800:15:12 มาที่พฤติกรรมที่ 8 ที่ทำร้ายสมองครับ

00:15:1200:15:16 จะเป็นความตึงเครียดมาก ๆ ของคนที่เก็บตัว ไม่เข้าสังคม

00:15:1600:15:17 อาจารย์เต้เป็นไหม

00:15:1800:15:20 ผมเป็นคนที่ชอบอยู่คนเดียว

00:15:2000:15:23 ใช้เวลาคุณภาพกับตัวเองคนเดียว

00:15:2300:15:25 มันก็จะมี Extrovert กับ Introvert

00:15:2500:15:28 ถ้าผมจะจัดตัวเองเข้าไป ผมจะเป็น Introvert

00:15:2800:15:32 ที่ชาร์จพลังหรือว่าเพิ่มพลังชีวิต ด้วยการอยู่คนเดียว

00:15:3200:15:34 ถ้าไปอยู่กับคนเยอะ ๆ พลังผมหมด

00:15:3400:15:35 มันก็จะแบ่ง Introvert อีก

00:15:3500:15:38 ว่า Introvert แบบฉันไม่เอาสังคมเลย

00:15:3900:15:43 แต่ Introvert ของอาจารย์เต้คือ ขอให้เราแบบตั้งหลักนิดนึง

00:15:4300:15:46 สงบสติอารมณ์นิดนึง แล้วก็ไปเผชิญกับสังคม

00:15:4600:15:48 อ่า...โอเค ใช่ ๆ ผมจะอยู่ประเภทนี้

00:15:4800:15:48 ใช่ไหม

00:15:4800:15:51 ก็เขาก็มีจำกัดเวลาไว้นะอาจารย์เต้

00:15:5100:15:55 ว่า Introvert ขอแบบอยู่คนเดียวสัก 20 นาที

00:15:5500:15:57 บางคนทำถึงนะอาจารย์

00:15:5700:15:58 อืม

00:15:5800:16:03 แต่ความว่า 20 นาทีนี่ มันจะหมกมุ่นครุ่นคิดแต่เรื่องความคิดลบไง

00:16:0300:16:04 เหมือนที่เราคุยกันเมื่อกี้

00:16:0400:16:06 อ๋อ

00:16:0600:16:10 อาจารย์ป๊อบบอกว่า ถ้าเผื่อใครจะชาร์จพลังด้วยการอยู่คนเดียว

00:16:1000:16:13 ในช่วง 20 นาทีแรก มันอาจจะเป็นช่วงการชาร์จพลัง

00:16:1300:16:14 ใช่

00:16:1400:16:16 แต่หลังจาก 20 นาทีไปแล้ว

00:16:1600:16:18 ความคิดลบมันอาจจะเริ่มก่อตัว

00:16:1800:16:19 แน่นอน

00:16:1900:16:22 แล้วมันอาจจะเริ่มเข้ามาจู่โจม เข้ามาแทรกแซงความคิดของเรา

00:16:2200:16:22 ใช่

00:16:2200:16:23 นำไปสู่ความเครียด

00:16:2300:16:27 นำไปสู่การล้าของสมอง แล้วอาจจะนำไปสู่การเสื่อมของสมองด้วยใช่ไหม

00:16:2700:16:29 ใช่ สมองเสื่อมก่อนวัยก็คือ

00:16:2900:16:31 เรามักจะคิดว่าน้อยใจอะไร

00:16:3100:16:33 เรามักจะคิดว่าเราไปตำหนิเขา

00:16:3300:16:36 เราเพิ่งจะมาคิดได้แต่ทำไปแล้ว อะไรอย่างนี้ มันจะวนไปวนมา

00:16:3600:16:37 อืม

00:16:3700:16:40 เพราะฉะนั้นถ้าจะชาร์จพลังด้วยการอยู่คนเดียว

00:16:4000:16:41 ก็อย่าชาร์จเกิน 20 นาทีเนอะ

00:16:4100:16:42 ใช่

00:16:4200:16:44 หลังจาก 20 นาทีไปแล้ว อาจจะไปลองทำอย่างอื่น

00:16:4400:16:48 เข้าสังคม ไปเปลี่ยนอิริยาบถก็ได้

00:16:4800:16:49 แล้วก็ไปทำอย่างอื่น

00:16:4900:16:51 เพื่อจะป้องกันไม่ให้ความคิดลบนั้นมันเข้ามา

00:16:5100:16:52 ใช่

00:16:5200:16:56 [เสียงดนตรี]

00:16:5600:16:59 อาจารย์ป๊อบครับ เรามาถึงพฤติกรรมที่ 9 ที่ทำร้ายสมองของเราแล้วครับ

00:17:0000:17:01 มันคือเสพติดความเครียดครับอาจารย์

00:17:0200:17:04 เดี๋ยว มันแปลว่าอะไร เสพติดความเครียด

00:17:0400:17:06 อาจารย์นึกถึงความเครียดนี่

00:17:0600:17:06 ครับ

00:17:0600:17:09 มันจะมีความเครียดที่แบ่งเป็นบวกและลบ

00:17:0900:17:11 แต่เราทำมากเกินไป

00:17:1100:17:17 เช่น เราออกกำลังกายหนักจนเกินไป จนไม่หลับไม่นอนอย่างนี้

00:17:1700:17:19 ก็คือถ้าเราตั้งเวลานอนไว้

00:17:1900:17:21 ซึ่งจริง ๆ เขาไม่ควรนอนเกิน 5 ทุ่ม

00:17:2200:17:23 หมายถึงเวลาที่เข้านอน

00:17:2300:17:24 ใช่ เป็นเวลาที่ดี

00:17:2400:17:27 เพราะว่ามันจะมี Growth Hormone มาซ่อมแซม

00:17:2700:17:30 เอาโปรตีนมาซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอนะอาจารย์เต้

00:17:3000:17:33 บังเอิญเราออกกำลังกายจนร่างกายเราปวดเมื่อย

00:17:3300:17:34 อืม

00:17:3400:17:36 เช้ามาก็ยังปวดเมื่อย อย่างนี้เสพติด

00:17:3700:17:38 ทำทุกวัน ๆ

00:17:3800:17:42 การออกกำลังกายนี่ก็อาจจะเป็น ตัวอย่างของความเครียดแบบบวกใช่ไหม

00:17:4200:17:45 ว่าจริง ๆ แล้ว การเสพติดที่ว่านี่ เราอาจจะรู้สึกว่า

00:17:4500:17:47 เราอยากกระชุ่มกระชวย

00:17:4700:17:48 ทำมันทุกวัน

00:17:4800:17:50 ทำมันทุกวันจากการออกกำลังกาย

00:17:5000:17:50 อืม

00:17:5000:17:53 แต่พอเราออกกำลังกาย ร่างกายของเราก็ alert

00:17:5300:17:53 ใช่

00:17:5300:17:55 พอมัน alert มันก็เลยนอนไม่ได้

00:17:5500:17:56 มันนอนไม่ได้

00:17:5600:17:59 มันก็เลยทำให้ เที่ยงคืนก็แล้ว ตี 1 ก็แล้วก็ยังไม่หลับ

00:17:5900:18:00 เพราะร่างกายยัง alert อยู่

00:18:0000:18:01 ใช่

00:18:0100:18:02 แล้วก็มันยังมาส่งผลตอนเช้า

00:18:0200:18:05 เพราะว่ามันปวดเมื่อย มันไม่สบายกายสบายใจ

00:18:0500:18:07 นี่ตอนนี้ผมกำลังนึกถึงว่า

00:18:0700:18:09 ความเครียดที่มันเกิดจากเดดไลน์

00:18:0900:18:12 ไม่ว่างานไหนก็ทำ เราก็จะรอถึงเดดไลน์

00:18:1200:18:15 แล้วเราก็บอกว่า เออ นี่แหละ ช่วงเดดไลน์มันเครียดเนอะ

00:18:1500:18:18 มันก็จะคิดงานออก อันนี้ถือว่าเป็นการเสพติดไหม

00:18:1800:18:20 เป็นการเสพติด แต่เราเรียกแรงกว่านั้น

00:18:2000:18:21 ว่า เบรนเดด (brain-dead)

00:18:2200:18:22 โอ้โฮ

00:18:2200:18:25 เดดไลน์ทำให้สมองตาย

00:18:2500:18:27 - ขนาดนั้นเลยหรือครับ - ใช่ ใช่

00:18:2700:18:30 เพราะว่ามันก็คล้าย ๆ กับเราต้องทำหลายอย่าง

00:18:3000:18:33 จะต้องนอนด้วย จะต้องทำให้เสร็จด้วย

00:18:3300:18:35 และก็เกิดความเครียดลบ และคิดลบได้

00:18:3600:18:38 - แล้วก็นำไปสู่การนอนน้อย - โอ้โฮ มันจะไม่นอน

00:18:3900:18:39 มันจะไม่นอน

00:18:3900:18:41 เราเรียกว่าไม่นอน หรือว่านอนไม่เต็มอิ่ม

00:18:4200:18:44 งานไม่เสร็จ กังวลแล้ว มันก็จะแบบ...

00:18:4400:18:49 เผลอ ๆ นะอาจารย์ ฝันปิ๊งแว๊บอะไรบางอย่าง แล้วก็ลุกขึ้นมาเขียนไอเดียดี ๆ ด้วย

00:18:4900:18:50 อืม เหรอ

00:18:5000:18:51 เคยไหม อาจารย์เป็นไหม

00:18:5100:18:54 มันไม่เสร็จไง แต่มันง่วงแล้ว

00:18:5400:18:56 ก็นอน นอนก็ไม่หลับหรอก

00:18:5600:18:58 แต่บังเอิญไปปิ๊งแว๊บ ไปคิดตอนนอน

00:18:5800:18:59 มันนอนหลับไม่สนิท

00:18:5900:19:00 ครับ

00:19:0000:19:02 ณ ตอนนั้น อาจารย์จะทำยังไงครับ

00:19:0200:19:03 ลุกขึ้นมาเขียนไว้เลย เดี๋ยวลืม

00:19:0300:19:05 เป็นบางคนที่เขียนได้

00:19:0500:19:05 อ้าว

00:19:0500:19:07 เพราะเขาก็ไม่อยากจะตื่นขึ้นมา

00:19:0700:19:10 แต่ถ้าอาจารย์ตื่นขึ้นมา ได้ความคิดปิ๊งแว๊บมากเลย

00:19:1100:19:13 และเผลอ ๆ ได้ไอเดียดี ๆ ด้วย

00:19:1300:19:14 แต่เราควรจะทำตอนกลางวัน

00:19:1500:19:18 งีบนอนสัก 15 นาทีถึง 1 ชั่วโมงหลังเที่ยงได้

00:19:1800:19:22 อ๋อ ก็คือการนอนกลางวันอาจจะช่วยได้ใช่ไหม

00:19:2200:19:23 แน่นอนครับ

00:19:2400:19:27 แต่ทางที่ดีตอนกลางคืนเข้านอนก่อน 5 ทุ่ม

00:19:2700:19:28 ใช่

00:19:2800:19:29 ถ้าเป็นไปได้

00:19:2900:19:29 ใช่

00:19:2900:19:32 แล้วก็นอนให้ได้สัก 6-7 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง

00:19:3200:19:34 เพื่อสมองของเราจะได้แจ่มใสเต็มที่

00:19:3400:19:35 สดชื่น

00:19:3500:19:35 ครับ

00:19:3600:19:38 แล้วก็ถ้าเป็นไปได้ อาจจะมี Power Nap

00:19:3800:19:39 เขาเรียก Power Nap ใช่ไหม

00:19:3900:19:39 ใช่

00:19:3900:19:42 ที่จะนอนกลางวันสักช่วงหนึ่ง

00:19:4200:19:43 15 นาที

00:19:4300:19:44 - 15 นาที - ใช่

00:19:4400:19:46 - ถ้ามันยาวเกินไปจะเป็นยังไง - ได้ ไม่เกินชั่วโมง

00:19:4600:19:48 ไม่เกินชั่วโมง ถ้าสักชั่วโมงครึ่ง

00:19:4900:19:50 ถ้าชั่วโมงครึ่งมันคือจะหลับ

00:19:5000:19:51 [เสียงหัวเราะ]

00:19:5100:19:52 มันไม่งีบ มันหลับ

00:19:5200:19:54 ครับ เจ้านายของเราคงไม่แฮปปี้เท่าไหร่

00:19:5400:19:55 เขาคงปลุกไม่ขึ้น

00:19:5500:19:57 [เสียงหัวเราะ]

00:19:5700:20:01 [เสียงดนตรี]

00:20:0100:20:05 ตอนนี้เราไล่เรียงมาเรียบร้อยแล้วว่า 9 พฤติกรรมทำร้ายสมอง

00:20:0500:20:07 แบบไม่รู้ตัวนี่มันมีอะไรบ้าง

00:20:0700:20:10 ถ้าจะพอสรุปได้ไหมครับว่า

00:20:1000:20:15 แล้วจะทำอย่างไรที่จะเลิก หรือว่าหยุดทำร้ายสมองของเราสักที

00:20:1500:20:17 อันแรกอาหารต้องมีประโยชน์

00:20:1700:20:18 อาหารต้องดี

00:20:1800:20:20 อันที่ 2 ก็คือออกกำลังกายนะ

00:20:2000:20:21 อืม

00:20:2100:20:22 ให้พอดี

00:20:2200:20:23 - ครับ ให้พอดีด้วย - ให้พอดี

00:20:2300:20:25 อันสุดท้ายเราเรียกว่า

00:20:2500:20:27 ใจจะต้องมีสมาธิ

00:20:2700:20:28 อืม

00:20:2800:20:30 มีความนิ่ง สงบบ้าง

00:20:3000:20:32 ทำอะไรก็ได้ให้เรารู้สึกคิดน้อย ๆ

00:20:3200:20:34 อ๋อ คล้าย ๆ กับว่า

00:20:3500:20:37 เราดูแลทั้งเรื่องของกายของเรา

00:20:3700:20:37 ครับ

00:20:3700:20:40 - ดูแลทั้งเรื่องของใจของเราใช่ไหม - ใช่ ๆ

00:20:4000:20:45 ก็คล้าย ๆ กับ 9 พฤติกรรมที่ว่า ที่แบ่งเป็นหมวดกายแล้วก็หมวดใจ

00:20:4500:20:46 ดูแลเรื่องอาหารที่ดี

00:20:4700:20:49 - ออกกำลังกายให้เหมาะสม - ใช่

00:20:4900:20:51 แล้วก็ดูแลเรื่องของจิตใจ เรื่องของอารมณ์

00:20:5100:20:57 แล้วอาจารย์ป๊อบจะมีวิธีที่จะช่วย ในการที่จะดูแลจิตใจของเราอย่างไร

00:20:5700:20:58 ในการที่จะทำให้อารมณ์ของเรานี่

00:20:5800:21:01 มันไม่ไปทางที่มันวิตกกังวลจนเกินไป

00:21:0100:21:04 หรือว่าไม่ให้เครียดจนเกินไป มีวิธีไหมครับ

00:21:0400:21:09 ผมชวนอาจารย์เต้ทำ เราเรียกว่าการหายใจแบบ 4x4

00:21:0900:21:14 4x4 นี่เป็นการหายใจแบบนักวิ่ง 4x400

00:21:1400:21:15 เรานั่งเฉย ๆ นี่ล่ะครับ

00:21:1500:21:15 อ๋อ นั่งเฉย ๆ นะ

00:21:1500:21:18 ดูนะอาจารย์ เราก็จะเริ่มเอานิ้วชี้เรานี่ ชี้ไปทางนี้

00:21:1800:21:19 ชี้ทแยงไป

00:21:1900:21:21 คราวนี้เราก็หายใจเข้านะอาจารย์

00:21:2100:21:22 หายใจเข้า

00:21:2300:21:27 1, 2, 3, 4 ต้องขึ้นด้วย ต้องขึ้นด้วยนะอาจารย์

00:21:2700:21:29 เหมือนการวาดรูปสี่เหลี่ยม

00:21:2900:21:30 แล้วค้างไว้อาจารย์

00:21:3000:21:32 ค้างไว้ที่ตัวเลขไหนครับ

00:21:3200:21:34 ค้างไว้ที่ตรงจุดนี้

00:21:3400:21:35 แล้วก็เคลื่อนนิ้วไปทางขวา

00:21:3600:21:39 นับในใจ 1, 2, 3, 4

00:21:3900:21:40 - เอาออกนะอาจารย์ เอาออกนะ - ครับ

00:21:4000:21:42 หายใจออกทางจมูก

00:21:4200:21:45 1, 2, 3, 4

00:21:4500:21:47 - เอาล่ะ เข้าอีกทีครับ - ครับ

00:21:4700:21:50 1, 2, 3, 4

00:21:5000:21:53 ค้างไว้ 1, 2, 3, 4

00:21:5300:21:54 ออกครับ

00:21:5500:21:57 1, 2, 3, 4

00:21:5800:21:59 เข้าอีกที

00:21:5900:22:01 1, 2, 3, 4

00:22:0200:22:02 ค้างไว้

00:22:0300:22:05 1, 2, 3, 4

00:22:0500:22:06 ออกครับ

00:22:0600:22:08 1, 2, 3, 4

00:22:0900:22:13 ฟังดูมันก็เหมือนกับว่า เรากำลังจดจ่อไปที่การนับ

00:22:1300:22:17 แล้วก็เป็นการดูลมหายใจไปด้วยในตัว อันนี้ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า

00:22:1700:22:18 เพิ่มออกซิเจนในสมอง

00:22:1800:22:20 เป็นการเพิ่มออกซิเจนในสมองไปในตัวด้วย

00:22:2000:22:21 ใช่

00:22:2100:22:26 รวมถึงเราดึงความคิดของเราไปอยู่ที่การนับ แล้วก็การหายใจของเรา

00:22:2600:22:29 ใช่ และออกกำลังกายโดยตั้งใจด้วย เห็นไหมครับ

00:22:2900:22:31 อ๋อ ก็คือเราเคลื่อนไหวไปด้วย

00:22:3100:22:33 ใช่ ต้องทำ 4 รอบ

00:22:3300:22:34 ให้ได้สี่เหลี่ยมเป็น 4 วง

00:22:3400:22:37 อ๋อ โอ๊ะ มันมีหลายเลข 4 อยู่ในนี้เนอะ

00:22:3700:22:38 ใช่

00:22:3800:22:40 - เราหายใจเข้า 4 - เข้า 4

00:22:4000:22:42 ค้างไว้ 4 แต่เคลื่อนมือไปด้วยนะครับ

00:22:4200:22:44 ตรงนี้ท้าทายนิดนึง

00:22:4400:22:46 - แล้วก็ออก 4 - ออก 4

00:22:4600:22:48 แล้วก็ไปให้ได้อีก 4 รอบ

00:22:4900:22:52 ครับ อ๋อ เป็นสี่เหลี่ยม นับ 4

00:22:5200:22:54 - โอเค เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว - 4x4 จำง่าย ๆ

00:22:5500:22:59 4x4 เป็นวิธีในการที่จะฝึกเรื่องของการหายใจ

00:22:5900:23:01 เพื่อที่จะเพิ่มออกซิเจนให้กับสมอง

00:23:0100:23:05 เพื่อที่จะดึงความคิดของเรา มาอยู่กับการนับ มาอยู่กับปัจจุบัน

00:23:0500:23:05 ใช่

00:23:0500:23:08 รวมถึงเป็นการที่จะออกกำลังกายด้วย

00:23:0800:23:10 และที่สำคัญก็คือ ลดความวิตกกังวล

00:23:1100:23:14 ในการทำพฤติกรรมที่สมองทำไม่รู้ตัว

00:23:1400:23:16 เป็นวิธีที่ง่ายเนอะ

00:23:1600:23:16 ง่ายมากครับ

00:23:1600:23:21 ถ้าเผื่อยังไม่สามารถจะปรับอะไรได้เลยในชีวิต ที่มันทำร้ายเรามา 9 อย่าง

00:23:2100:23:22 ใช่

00:23:2200:23:23 - อาจจะเริ่มจากสิ่งนี้ก่อน - เริ่มเลย

00:23:2400:23:25 โอเคครับ

00:23:2500:23:27 ในช่วงสุดท้ายนี้ครับ ผมอยากที่จะชวนให้อาจารย์ป๊อบ

00:23:2700:23:30 ได้บอกเล่าคุณผู้ชม คุณผู้ฟัง

00:23:3000:23:33 ให้เห็นถึงความสำคัญ ของการดูแลสุขภาพสมองของเรา

00:23:3300:23:36 ผมแนะนำว่า จงหยุดทำร้ายสมอง

00:23:3600:23:39 เพราะสมองนั้น อายุมันสั้นนะครับ

00:23:3900:23:39 ครับ

00:23:3900:23:43 เห็นว่าสมองนี่ มันเติบโตเต็มที่ 30 ปีนะครับ

00:23:4400:23:44 แต่จริง ๆ แล้ว

00:23:4500:23:51 เราจะต้องค่อย ๆ หยุดพฤติกรรมที่เราไม่รู้ตัวทั้ง 9 พฤติกรรม

00:23:5100:23:53 แล้วเราก็ต้องมีสติกับมัน

00:23:5300:23:56 ใช้สมองอย่างคิดบวก

00:23:5600:24:00 พอคิดบวก สมองจะยืดหยุ่น แล้วทุกปัญหาจะมีทางออกครับ

00:24:0000:24:02 ทุก ๆ ครั้งที่อาจารย์ป๊อบมาคุยกับเรานะครับ

00:24:0200:24:06 ผมคิดว่าสนุก ไม่ใช่สนุกแค่ผม แต่ว่าสนุกไปถึงคุณผู้ชมด้วย

00:24:0600:24:09 วันนี้ผมขอขอบคุณอาจารย์ป๊อบ อย่างมากนะครับที่มาพูดคุยกับเรา

00:24:0900:24:13 อ.ป๊อบ ผศ.ดร.ก.บ.ศุกลักษณ์ เข็มทอง

00:24:1300:24:15 อาจารย์นักกิจกรรมบำบัดจิตสังคม

00:24:1500:24:17 คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล

00:24:1700:24:18 - ขอขอบคุณมากครับ - ขอบคุณมากครับอาจารย์เต้ครับ

00:24:1800:24:21 - โอกาสหน้ามาคุยกันอีกนะ - ยินดีครับ

00:24:2100:24:26 คุณผู้ชมครับ แล้วกลับมาพบกับ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้

00:24:2600:24:28 ได้ทางทุกช่องทางของ Mahidol Channel

00:24:2800:24:31 ในคราวหน้าเราจะมาพูดคุยกันเรื่องอะไรนั้น

00:24:3100:24:32 ต้องติดตามนะครับ

00:24:3200:24:35 ในวันนี้ผมอาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง และ อ.ป๊อบ

00:24:3500:24:36 สวัสดีครับ

00:24:3800:24:42 พบกับ Well-Being สุขภาพดี ชีวิตดีสร้างได้

00:24:4200:24:45 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:24:4500:24:47 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:24:4700:24:49 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:24:4900:24:51 YouTube Mahidol Channel

00:24:5100:24:52 Apple Podcasts

00:24:5200:24:54 Spotify

00:24:5400:24:55 Anchor

00:24:5500:24:55 Joox

00:24:5500:24:58 [เสียงดนตรี]

00:24:5800:25:01 ดำเนินรายการโดยอาจารย์เต้ ระพี บุญเปลื้อง

00:25:0100:25:05 [เสียงดนตรี]