00:00:02 → 00:00:06 ผอมได้แล้วก็สุขภาพดีด้วยอยากรู้ว่าต้อง
00:00:06 → 00:00:09 ทำยังไงไม่ควรพลาดไลฟ์นี้ครับสวัสดีครับ
00:00:09 → 00:00:12 ทุกท่านครับภาพชัดเสียงชัดทักทายกันนิด
00:00:12 → 00:00:14 นึงนะครับวันนี้ตอนนี้น่าจะไลฟ์ขึ้นเรียบ
00:00:14 → 00:00:16 ร้อยแล้วนะครับวันนี้เรามาเรียนรู้กัน
00:00:16 → 00:00:19 เนาะเกี่ยวกับเรื่องของการทำสุขภาพให้ดี
00:00:19 → 00:00:23 แล้วก็ผอมด้วยคำนี้ชอบจังเลยนะครับวันนี้
00:00:23 → 00:00:24 เดี๋ยวเจ้าของหนังสือเขาจะมาเล่าให้ฟังนะ
00:00:24 → 00:00:28 อ่ะภาพชัดเสียงชัดช่วยทักทายกันนิดนึงนะ
00:00:28 → 00:00:31 ครับอันนี้รอดูอยู่นะว่าเป็นยังไงกันบ้าง
00:00:31 → 00:00:34 นะครับตอนนี้มีคนเข้ามากันแล้วบ้างเอ่ย
00:00:34 → 00:00:37 อ่ะลองดูกันหน่อยเนาะอ่าโอเคทยอยกันเข้า
00:00:37 → 00:00:39 มาแล้วนะครับดีเลย์นิดหน่อยนะสวัสดีนะ
00:00:39 → 00:00:41 ครับคอนเฟิร์มกันนิดนึงนะครับภาพชัดเสียง
00:00:41 → 00:00:45 ชัดช่วยพิมพ์ร่ำรวยพิมพ์อยากผอมจ้าก็ได้
00:00:45 → 00:00:48 อ่ะวันนี้หัวข้อมันคือผอมใช่ไหม
00:00:48 → 00:00:51 อ่ะมาเรามาเรียนรู้กันว่าทำยังไงให้มัน
00:00:51 → 00:00:55 ผอมนะไม่ผอมซะทีคลิปนี้ช่วยคุณได้นะครับ
00:00:55 → 00:00:58 อ้าวมาครับทักทายกันหน่อยเนาะพรรคชาติคุย
00:00:58 → 00:01:01 กันนิดนึงนะครับอืมโอเคอ่ะเดี๋ยวผมลองดู
00:01:01 → 00:01:04 ด้วยนะว่าใน Facebook เป็นยังไงบ้างนะแอบ
00:01:04 → 00:01:08 สังเกตเหมือนกันว่าเอ๊ะวันนี้คนทยอยมากัน
00:01:08 → 00:01:13 พอสมควรโอเคในไลฟ์สรุปให้ขึ้นอยู่โอเค
00:01:13 → 00:01:14 น้อง
00:01:14 → 00:01:17 หาจากกลุ่มอื่นๆมีบ้างไหมนะครับถ้าภาพชัด
00:01:17 → 00:01:19 เสียงชัดช่วยทักทายกันหน่อยนะอ่ะทยอยกัน
00:01:19 → 00:01:21 เข้ามาแล้วนะครับวันนี้เราจะมาเรียนรู้
00:01:21 → 00:01:23 กันเรื่องอะไรเนาะก็คือศาสตร์ที่ทำให้คุณ
00:01:23 → 00:01:25 ผอมได้นะครับตอนนี้เป็นหนังสือขายดีด้วย
00:01:25 → 00:01:28 นะครับจบไลฟ์แล้วสนใจก็ไปตำกันได้นะครับ
00:01:28 → 00:01:31 หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วๆไปนะพร้อม
00:01:31 → 00:01:33 ทันทีสุขภาพดี 100% นะแต่คอนเฟิร์มกันนิด
00:01:33 → 00:01:37 นึงได้ไหมว่าคุณได้ยินเสียงผมนะครับแล้ว
00:01:37 → 00:01:39 คุณก็พับชัดด้วยตอนนี้ผมเช็คใน Line ด้วย
00:01:39 → 00:01:42 แล้วกันเนาะอ่าใน Facebook สรุปให้ขึ้น
00:01:42 → 00:01:45 อยู่อาจแต่ถ้าฟังอยู่แล้วภาพชัดเสียงชัด
00:01:45 → 00:01:47 ทักทายกันนิดนึงนะครับ
00:01:47 → 00:01:50 มีท่านไหนได้ยินเสียงเนาะภาพชัดเสียงทัก
00:01:50 → 00:01:53 ทายกันหน่อยนะครับซึ่งวันนี้ก็ต้องบอกว่า
00:01:53 → 00:01:57 เอ่อจองคิวไว้นานนะครับจองคิวไว้นานนะเออ
00:01:57 → 00:02:00 ช่วงนี้ผมเองก็ยุ่งด้วยนะครับเอ่อขออภัย
00:02:00 → 00:02:02 ด้วยนะฮะช่วงนี้จะไม่ค่อยได้มาไลฟ์เท่า
00:02:02 → 00:02:05 ไหร่แต่ว่าวันนี้ยังไงผมเองก็อยากฟัง
00:02:05 → 00:02:07 เพราะเราก็เป็นหนึ่งคนเนาะที่แบบไวเข้า
00:02:07 → 00:02:10 กันแล้วก็เจอปัญหากับเรื่องนี้มานานเนาะ
00:02:10 → 00:02:13 สัก 2 เดือนที่แล้วมีโอกาสได้เจอนักเขียน
00:02:13 → 00:02:17 นี้นะครับโอ้โหหล่อแบบโอปป้ามากเลยแล้วก็
00:02:17 → 00:02:20 ลีนสุดๆเลยครับ
00:02:20 → 00:02:24 แต่ว่าเราหนาทันทีว่าอยู่กับเขานะเอาเขา
00:02:24 → 00:02:25 เป็นคนที่แบบว่าทั้งผอมแล้วก็สุขภาพดีนะ
00:02:25 → 00:02:28 ครับอ่ะไม่ให้เสียเวลาดีกว่าเดี๋ยวเราจะ
00:02:28 → 00:02:32 ไปรู้จักกับเอ่อท่านคุณนายแพทย์นะครับพระ
00:02:32 → 00:02:34 นภัทรนาตะสุดนะครับแต่ว่าเดี๋ยวผมจะขอ
00:02:34 → 00:02:37 เรียกเขาว่าคุณหมอแบงค์ละกันนะอ่าสวัสดี
00:02:37 → 00:02:40 คุณหมอแบงค์ครับผมสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:02:40 → 00:02:42 สวัสดีครับพี่แป๊ดสวัสดีครับท่านผู้ฟัง
00:02:42 → 00:02:45 ครับผมโอเคสวัสดีครับโอเคตอนนี้มีคน
00:02:45 → 00:02:47 คอนเฟิร์มแล้วว่าภาพชัดเสียงชัดนะครับ
00:02:47 → 00:02:50 โอเคขอบคุณคุณวุฒิด้วยนะครับอ่าเพื่อนกัน
00:02:50 → 00:02:54 เองเนาะสวัสดีครับก็ผมคิดว่าหลายๆคนน่าจะ
00:02:54 → 00:02:56 เคยเห็นคุณหมอแบงค์อยู่แล้วนะอ่าหลักฐาน
00:02:56 → 00:02:59 กันง่ายๆนะครับด้านหลังเขาที่มี YouTube
00:02:59 → 00:03:01 อันนั้นมันอันนั้นมันล้านซับหรือแสนซับนะ
00:03:01 → 00:03:03 แสนทรัพย์ครับ
00:03:03 → 00:03:06 อย่างน้อยมีแสนคนที่รู้จักแล้วแน่ๆนะเกิน
00:03:06 → 00:03:09 แสนแน่นอนนะครับแต่ว่าผมคิดว่าหลายๆคนที่
00:03:09 → 00:03:11 ฟังอยู่อาจจะเพิ่งเคยเจอคุณหมอแบงค์ครั้ง
00:03:11 → 00:03:13 แรกเนาะให้คุณหมอแบงค์แนะนำตัวสักนิดนึง
00:03:13 → 00:03:17 แล้วกันครับก็สวัสดีครับสวัสดีพี่แป๊ะ
00:03:17 → 00:03:18 ด้วยนะครับอย่างเป็นทางการแล้วก็สวัสดี
00:03:18 → 00:03:22 ท่านผู้ฟังไลฟ์นี้ด้วยนะครับผมก็ผมชื่อ
00:03:22 → 00:03:24 นายแพทย์ธนพัฒน์นาตะสุดนะครับหรือว่าหมอ
00:03:24 → 00:03:27 แบงค์ Food Doctor ครับผมก็จบการศึกษา
00:03:27 → 00:03:31 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับผมจบมาหลาย
00:03:31 → 00:03:33 ปีแล้วครับพี่แป๊ะเราอย่าพูดถึงเรื่องราว
00:03:33 → 00:03:35 จบกันมากี่ปีแล้ว
00:03:35 → 00:03:41 [เสียงหัวเราะ]
00:03:41 → 00:03:45 หนังสือเล่มนี้มันเรื่องผอมมันแสดงว่ามัน
00:03:45 → 00:03:47 ต้องเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักถูกต้องไหม
00:03:47 → 00:03:50 เอ่อจริงๆมันคือโดยส่วนตัวผมมันอาจจะ
00:03:50 → 00:03:52 เพิ่งเคยเจอคุณหมอแบงค์มาเมื่อสักเดือน
00:03:52 → 00:03:54 ที่แล้วหรือ 2-3 เดือนจริงๆงานสัปดาห์เรา
00:03:54 → 00:03:56 ก็เจอกันแต่ว่าก่อนหน้านั้นน่ะผมก็ไม่รู้
00:03:56 → 00:04:00 ว่าอะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้คุณหมอแบงค์
00:04:00 → 00:04:02 อ่ะสนใจเรื่องการลดน้ำหนักเนาะเออเรื่อง
00:04:02 → 00:04:05 ของตัวเองหรือว่าเรื่องของใครอยากเล่าให้
00:04:05 → 00:04:07 ฟังอ๋อจริงๆมีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆครับพี่
00:04:07 → 00:04:10 แป๊ะตอนนั้นเนี่ยขอเล่าย้อนไปตอนที่เรียน
00:04:10 → 00:04:12 จบหมอใหม่ๆเนาะตอนนั้นเป็นนักศึกษาแพทย์
00:04:12 → 00:04:16 ปี 6 ครับแล้วก็อืมได้มีโอกาสทำงานด้าน
00:04:16 → 00:04:19 ncd คลินิกก็คือเรื่องเกี่ยวกับเบาหวาน
00:04:19 → 00:04:23 ความดันไขมันครับพี่แป๊ะเราก็เจอคุณลุง
00:04:23 → 00:04:25 คุณป้าเนาะที่มาปรึกษาเราเรื่องเบาหวาน
00:04:25 → 00:04:28 ความดันแล้วเราก็รู้สึกว่าจุดจบของโรค
00:04:28 → 00:04:31 อ้วนเบาหวานความดันเนี่ยสุดท้ายจะเป็นโรค
00:04:31 → 00:04:35 หลอดเลือดบางคนมาเป็นเรื่องอัมพาตเป็นโรค
00:04:35 → 00:04:37 หลอดเลือดสมองตีบหลอดเลือดหัวใจตีบตอน
00:04:37 → 00:04:40 นั้นน่ะผมความฝันคืออยากจะแบบเป็นหมอโรค
00:04:40 → 00:04:44 หัวใจเนาะเรารู้สึกว่าอุ๊ยเท่ดีอ่ะแบบคุณ
00:04:44 → 00:04:47 ป้ามาแน่นหน้าอกแล้วเราสวยหัวใจเขาปึ๊บ
00:04:47 → 00:04:50 หายได้เลยแบบนี้ตอนนั้นอยากจะเป็นแต่พอมี
00:04:50 → 00:04:53 โอกาสทำงานในโรงพยาบาลพุทธมณฑลครับมี
00:04:53 → 00:04:56 โอกาสทำงานไปปุ๊บเนี่ยเราสอนคุณป้าเขากิน
00:04:56 → 00:05:00 อาหารแบบนี้เนี่ยปรากฏว่าเขาลดยาได้พี่
00:05:00 → 00:05:01 แป๊ะ
00:05:01 → 00:05:05 โรคเบาหวานความดันความอ้วนเขาลดลงหมดเลย
00:05:05 → 00:05:10 เราก็เลยมีแนวคิดใหม่ว่าเฮ้ยทำไมเราถึงจะ
00:05:10 → 00:05:13 ต้องไปเป็นหมอหัวใจที่เป็นปลายทางเรา
00:05:13 → 00:05:15 สามารถช่วยเขาไม่ให้เป็นโรคนั้นได้อันนี้
00:05:15 → 00:05:18 ก็เป็นจุดเริ่มต้นแรกครับแล้วก็บวกกับตอน
00:05:18 → 00:05:22 นั้นเนี่ยคุณแม่ผมก็หาวิธีลดน้ำหนักมานาน
00:05:22 → 00:05:24 มากๆครับพี่แป๊ะ
00:05:24 → 00:05:28 ก็คุณแม่ลดน้ำหนักมาตั้งแต่สาวๆเลยครับ
00:05:28 → 00:05:32 หลายคนก็แบบคงเคยได้ยินแบบวิธีกินยาลดน้ำ
00:05:32 → 00:05:36 หนักหรือว่าเข้าสถาบันลดน้ำหนักซื้อชุดมา
00:05:36 → 00:05:38 รัดรูปแบบนี้
00:05:38 → 00:05:42 อดอาหารไปมันไม่ยั่งยืนสักทีครับต้องอด
00:05:42 → 00:05:45 แป้งคำนวณโปรตีนนู่นนี่นั่นที่คุณแม่เคย
00:05:45 → 00:05:48 ทำมาหมดครับผมก็เลยต้องหาสักสูตรแล้วแหละ
00:05:48 → 00:05:51 ที่จะมาช่วยทั้งคุณแม่แล้วก็คนไข้ของผม
00:05:51 → 00:05:54 เองเพราะว่าสูตรตอนนั้นเนี่ยต้องยอมรับ
00:05:54 → 00:05:57 เลยว่าเราจบหมอมาเนี่ยไม่มีความรู้เรื่อง
00:05:57 → 00:06:01 ของโภชนาการที่จะช่วยให้สุขภาพดี
00:06:01 → 00:06:04 เราเลยจำเป็นจะต้องไปหาสูตรที่มาจาก
00:06:04 → 00:06:07 อาจารย์ต่างประเทศครับผมก็ใช้เวลาอยู่นาน
00:06:07 → 00:06:11 มากๆเป็นหลักปีครับในการศึกษาว่าอะไรคือ
00:06:11 → 00:06:12 ทางออก
00:06:12 → 00:06:16 สำหรับการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนปรากฏว่าก็
00:06:16 → 00:06:18 เลยได้สูตรที่เรียกว่าอาหารต้นทางมัน
00:06:18 → 00:06:21 เนี่ยมาช่วยคุณแม่ครับแล้วก็จริงๆแล้วก็
00:06:21 → 00:06:24 คือเป็นประสบการณ์ของผมสัก 10 ปีมารวมกัน
00:06:24 → 00:06:26 อยู่ในไลฟ์นี้ครับ
00:06:26 → 00:06:30 จริงๆในหนังสือเล่มนี้ตอนที่สัมภาษณ์ที่ C
00:06:30 → 00:06:33 อาเซียนเนาะในคอร์สเขียนได้ขายดีเนี่ยหมอ
00:06:33 → 00:06:36 ก็มาเล่าให้ฟังว่าใช้ก็คือ 10 ปีทั้งหมด
00:06:36 → 00:06:39 ที่รู้อ่ะแล้วก็ช่วยคนไข้ได้จริงช่วยให้
00:06:39 → 00:06:42 คุณแม่ไม่กลับไปสุขภาพแบบอาจจะไม่ค่อย
00:06:42 → 00:06:45 แข็งแรงอะไรแข็งแรงได้ตลอดเวลาเนาะมัน
00:06:45 → 00:06:48 อยู่ในเล่มนี้หมดแล้วนะครับทีเนี้ยเอ่อก็
00:06:48 → 00:06:50 เลยผมเลยเชื่อว่ามันจะมีอยู่บทนึงนะที่ผม
00:06:50 → 00:06:53 อ่านแล้วเนาะบอกว่าหมอบอกว่ามันมีเหตุผล
00:06:53 → 00:06:57 หลักๆที่คนลดน้ำหนักแล้วไม่สำเร็จเสียที
00:06:57 → 00:07:00 เออลองหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จสักทีเนี่ย
00:07:00 → 00:07:03 เอออะไรคือสิ่งที่หมออยากบอกว่าเออเพราะ
00:07:03 → 00:07:05 อะไรคนถึงลดน้ำหนักเราไม่สำเร็จครับ
00:07:05 → 00:07:10 เวลาที่ทุกคนจะคิดถึงการลดน้ำหนักสมมตินะ
00:07:10 → 00:07:12 ตอนนี้เลยอยากอยากลดน้ำหนักอ่ะสัก 5 กิโล
00:07:12 → 00:07:16 นะครับความรู้สึกแรกๆนะหมอเชื่อว่าเขาจะ
00:07:16 → 00:07:19 รู้สึกว่ามันยากครับพี่แป๊ะ
00:07:19 → 00:07:22 รู้สึกว่าแบบหมอจะต้องสั่งฉันอดอาหารหรือ
00:07:22 → 00:07:26 เปล่าจะต้องสั่งให้ฉันไม่กินบิงซูที่ฉัน
00:07:26 → 00:07:29 ชอบหรือเปล่าไอติมจะต้องถูกมดไหมแล้ว
00:07:29 → 00:07:30 ปาท่องโก๋ตอนเช้าฉันจะต้องตัดด้วยหรือ
00:07:30 → 00:07:34 เปล่าความรู้สึกยากมันจะถาโถมเข้ามาครับ
00:07:34 → 00:07:37 หรือว่าต้องไปเข้าฟิตเนสสมัครเทรนเนอร์
00:07:37 → 00:07:40 แล้วต้องไปวิ่งเยอะๆไหมคนรู้สึกว่ายาก
00:07:40 → 00:07:43 ครับพี่แป๊ะเขาเลยคิดว่าการลดน้ำหนัก
00:07:43 → 00:07:46 เนี่ยมันทำได้แค่ระยะสั้นพอเราตั้งใจปึ๊บ
00:07:46 → 00:07:49 แค่เดือนสองเดือนลดลงมาหลังจากนั้นตบะแตก
00:07:49 → 00:07:54 หลุดออกมาเป็นแบบนี้ผมก็เลยคิดหาวิธีว่า
00:07:54 → 00:07:58 จะทำยังไงเนี่ยให้คนที่กำลังอยากจะลดน้ำ
00:07:58 → 00:08:01 หนักรู้สึกมีความสุขและไม่ได้คิดว่ากำลัง
00:08:01 → 00:08:04 ลดน้ำหนักอยู่แต่น้ำหนักมันลดลงมาเองครับ
00:08:04 → 00:08:07 มีอย่างนี้ด้วยเหรอครับลดลงมาเองด้วยโดย
00:08:07 → 00:08:09 ที่ไม่รู้สึกว่าแบบฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่
00:08:09 → 00:08:14 ของมันเองอย่างนี้ก็ได้ด้วยหรอ
00:08:14 → 00:08:19 ที่เรามีน้ำหนักตัวปกติเนี่ยเรียกว่าภาวะ
00:08:19 → 00:08:22 ปกตินะทุกคนควรจะมีภาวะนี้อยู่ในตัวอยู่
00:08:22 → 00:08:25 แล้วแต่แค่เราอาจจะโดนบางอย่างจากภายนอก
00:08:25 → 00:08:28 เนี่ยทำให้เราอ้วนขึ้นมาแบบนี้ผมพยายามพา
00:08:28 → 00:08:38 ทุกคนเข้าสู่ภาวะปกตินั้นครับ
00:08:38 → 00:08:41 ทีนี้ตอนนี้เรารู้แล้วว่าส่วนใหญ่คือเขา
00:08:41 → 00:08:43 รู้สึกว่ามันยากเขาจะต้องพยายามมันแล้ว
00:08:43 → 00:08:46 เขาจะทำมันได้แบบละแบบนั้นน่ะแค่แป๊บ
00:08:46 → 00:08:49 เดียวแล้วสุดท้ายมันก็จะกลับไปกลับไปมี
00:08:49 → 00:08:50 อะไรบางอย่างที่แบบดึงกับเขาขึ้นไปให้เขา
00:08:51 → 00:08:52 มันอ้วนอีกรอบนึงหรือน้ำหนักตัวเกินอีก
00:08:52 → 00:08:55 รอบนึงนะแต่หมอก็กำลังบอกว่าจริงๆหมอมี
00:08:55 → 00:08:58 วิธีการที่ทำให้คนน้ำหนักตัวลดลงได้กลับ
00:08:58 → 00:09:01 มาสู่ภาวะปกติได้ซึ่งอันเนี่ยจะเป็นอัน
00:09:01 → 00:09:05 ที่ยั่งยืนประมาณนี้เนาะอ่าโอเคงั้นกลับ
00:09:05 → 00:09:09 ข้างกันน่ะคืออะไรคือแก่นแท้ของการลดน้ำ
00:09:09 → 00:09:11 หนักคือเราจะเคยได้ยินหลายสูตรมากเนาะ
00:09:11 → 00:09:15 เอ่อ low carft เอ่อ low Fat เต็มไปหมด
00:09:15 → 00:09:20 เออจริงๆเออๆๆอะไรอย่างเงี้ยซึ่งๆเราๆเรา
00:09:20 → 00:09:22 ก็น่าจะเป็นสิ่งที่คนอ่านกันอยู่แล้วเนาะ
00:09:22 → 00:09:27 ประเด็นคือแล้วอะไรคือแกนแท้ฉันจะได้ในใน
00:09:27 → 00:09:28 สิ่งที่หมอได้ศึกษามา 10 ปีอ่ะครับอยาก
00:09:28 → 00:09:32 ให้เล่าเขาเรียกว่าแฟนๆสรุปให้ฟังหน่อย
00:09:32 → 00:09:35 จริงๆผมชอบคำว่าแก่นแท้มากเลยครับพี่แปะ
00:09:35 → 00:09:39 ไอ้คำว่าแก่นผมนึกถึงภาพตอนดูหนังจีนน่ะ
00:09:39 → 00:09:42 ที่แบบพระเอกมา
00:09:42 → 00:09:44 ต้องใช้กระบี่แล้วเขาก็เปลี่ยนกระบี่ไป
00:09:44 → 00:09:46 เรื่อยๆจากกระบี่เล็กถึงกระบี่ใหญ่ฝึก
00:09:46 → 00:09:50 วิทยายุทธแต่สุดท้ายจุดสูงสุดของเพลง
00:09:50 → 00:09:54 กระบี่เขาบอกกระบี่อยู่ที่ใจกิ่งไผ่ก็
00:09:54 → 00:09:56 เป็นกระบี่ได้
00:09:56 → 00:10:11 [เสียงหัวเราะ]
00:10:11 → 00:10:14 รุ่นน้องพวกคุณนับแบงค์เนี่ยเค้าดูกัน
00:10:14 → 00:10:17 บ่อยๆนะลูกนะเอาเป็นว่าอะไรก็เป็นอาวุธ
00:10:17 → 00:10:21 ได้นี่คือแก่นแท้โอเคต่อท่อจุดสูงสุด
00:10:21 → 00:10:24 เนี่ยของการลดน้ำหนักก็คือคุณจะไม่ต้อง
00:10:24 → 00:10:27 คำนวณใดๆเลยครับไม่ต้องคำนวณแคลอรี่ไม่
00:10:27 → 00:10:30 ต้องคำนวณโปรตีนไม่ต้องนับคาร์โบไฮเดรต
00:10:30 → 00:10:33 ไม่ต้องกังวลว่าวิตามินจะถึงไหม
00:10:33 → 00:10:36 นี่คือจุดสูงสุดแต่ก่อนที่เราจะไปถึงจุด
00:10:36 → 00:10:40 สูงสุดอ่ะเราก็ต้องพัฒนาไปก่อนคุณจะต้อง
00:10:40 → 00:10:41 เคยนับแคลอรี่มาก่อน
00:10:41 → 00:10:43 คุณจะต้องเคยแบบว่า
00:10:43 → 00:10:48 ต้องเคยคำนวณโปรตีนมาก่อนว่า 1.2 ตัว
00:10:48 → 00:10:51 อย่างเงี้ยครับต้องเคยผ่านกระบวนการอาหาร
00:10:51 → 00:10:53 เสริมมาก่อน
00:10:53 → 00:10:56 เคยบ้างเป็นบางทีเนอะครับ
00:10:57 → 00:11:01 ทุกคนผ่านแบบนี้มาไม่รู้กี่ 10 รอบแล้วจน
00:11:01 → 00:11:04 ผมอ่ะตกผลึกว่าจุดสูงสุดเราจะไม่ต้อง
00:11:04 → 00:11:07 คำนวณอะไรเลยครับเรากลับมาสู่ธรรมชาติอัน
00:11:07 → 00:11:09 นี้คือแนวคิดของผม
00:11:09 → 00:11:12 นี่คือแก่นแท้ครับเวลาที่เรากินอาหาร
00:11:12 → 00:11:16 ธรรมชาติครับเราจะได้รับสารอาหารครบทุก
00:11:16 → 00:11:19 อย่างอยู่ในตัวธรรมชาติจัดสรรไว้ให้แล้ว
00:11:19 → 00:11:22 เป็นแบบนี้ครับแล้วก็
00:11:22 → 00:11:25 สูตรอื่นๆครับที่เรารู้สึกไม่มีความสุข
00:11:25 → 00:11:28 เขาใช้วิธีการตัดครับ
00:11:28 → 00:11:31 ตัดคุณออกอ่าสมมุติคุณน้ำหนักตัวเกินมานะ
00:11:31 → 00:11:34 เราไปเข้าคลินิกเขาคลินิกหรือเข้าโรง
00:11:34 → 00:11:37 พยาบาลก็ได้เวลาเจอคุณหมอเนี่ยคุณหมอจะ
00:11:37 → 00:11:41 บอกคุณว่าอะไรครับไปลดน้ำหนักนะตัดแป้งลง
00:11:41 → 00:11:45 นะไปเพิ่มโปรตีนแล้วก็อย่ากินของมันของ
00:11:45 → 00:11:48 ผัดของทอดขนมหวานนี้ห้ามเลยนะเบเกอรี่
00:11:48 → 00:11:52 ห้ามเลยกูรู้สึกยังไง
00:11:52 → 00:11:56 ทรมานเนาะเพราะว่ามันเป็นของที่เราชอบถูก
00:11:56 → 00:11:58 ไหมแล้วก็รู้สึกเครียดว่าแล้วฉันจะทำได้
00:11:58 → 00:12:01 หรือเปล่าอะไรอย่างนี้ผมก็เคยผ่านตรงนั้น
00:12:01 → 00:12:03 มาแล้วก็แน่นอนว่ามันอาจจะทำได้ในระยะ
00:12:03 → 00:12:06 สั้นแต่ว่าในระยะยาวมันก็ไม่ยั่งยืนเนาะ
00:12:06 → 00:12:08 สุดท้ายพอทำไม่ได้มันก็กลับมาโยโย่หรือ
00:12:08 → 00:12:11 ว่าอาจจะกลับมาน้ำหนักตัวเท่าเดิมหรือ
00:12:11 → 00:12:14 น้อยๆขึ้นไม่มากกว่าเดิมก็มีเนาะบางทีผม
00:12:14 → 00:12:16 ว่าอันนี้คือการตัดแล้ว
00:12:16 → 00:12:20 ก็วิธีอื่นๆเนี่ยเขาจะเน้นการตัดออกแต่
00:12:20 → 00:12:24 วิธีของผมเนี่ยจะบอกคุณว่าต้องทำอะไรบ้าง
00:12:24 → 00:12:26 1 2 3 4 โดยไม่เอาหัวไปคิดถึงเรื่อง
00:12:27 → 00:12:29 การตัดครับจะต้องใส่ของมีประโยชน์เข้าไป
00:12:29 → 00:12:30 ก่อน
00:12:30 → 00:12:33 ก็จะเป็นการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนถึงแก่น
00:12:33 → 00:12:36 แท้ครับจะทำได้ทั้งชีวิตว่าง่ายๆแหละนะ
00:12:36 → 00:12:40 ครับโอเคอันนี้คือแก่นแท้นะกระบี่อยู่ที่
00:12:40 → 00:12:42 ใจกิ่งไผ่ก็เป็นกระบี่ได้นะครับ
00:12:42 → 00:12:47 [เสียงหัวเราะ]
00:12:47 → 00:12:50 ผมอ่านหนังสือไปก็ต้องบอกว่าผมก็อ่านแล้ว
00:12:50 → 00:12:52 นะแล้วมันเป็นหนังสือที่เขาใจง่ายสนุกนะ
00:12:52 → 00:12:54 อ่ะเดี๋ยวเปิดให้ดูก่อนนะครับทุกคนเนี่ย
00:12:54 → 00:12:56 มันก็คือข้างในเนี่ยเขาก็จัดอ่าได้เข้าใจ
00:12:56 → 00:12:59 ง่ายแล้วก็ผมก็ชอบในเล่มนี้ที่มันมีรูป
00:12:59 → 00:13:02 ประกอบนะทุกคนแล้วก็เอ่อมันมีตัวอย่างของ
00:13:02 → 00:13:05 อาหารแล้วก็มีโขดที่แบบว่าหมอเขาก็จะเน้น
00:13:05 → 00:13:08 มาให้นะครับซึ่งผมคิดว่าดีมากๆนะทีนี้มัน
00:13:08 → 00:13:10 จะมีอยู่คำนึงที่ผมคิดว่าถ้าเกิดเราคุณ
00:13:10 → 00:13:12 หมอไม่อธิบายแล้วคนที่ยังไม่ได้อ่าน
00:13:12 → 00:13:15 หนังสือเล่มนี้เลยเนี่ยเขาจะงงอ่าในเนี้ย
00:13:15 → 00:13:18 เขาจะเขียนว่าเจ้าของหลักสูตรอาหารต้นทาง
00:13:18 → 00:13:20 อ่ามันอาจจะไม่ชัดเนาะต่อไปแต่มันจะมี
00:13:20 → 00:13:22 คำนึงเนี่ยเรียกว่าอาหารต้นทางพอเข้าไป
00:13:22 → 00:13:24 อ่านเนี่ยหมอก็บอกว่าหมอเป็นคนบัญญัติ
00:13:24 → 00:13:27 ศัพท์เนี่ยขึ้นมาเองอ่ามันจะไม่ค่อยมีคน
00:13:27 → 00:13:29 ได้ใช้คำนี้หรอกเพราะฉะนั้นผมคิดว่า
00:13:29 → 00:13:31 เดี๋ยวเพื่อให้ท่านผู้ฟังเราเข้าใจตรงกัน
00:13:31 → 00:13:34 เนาะเออใช้ให้หมออธิบายหน่อยว่าอะไรคือ
00:13:34 → 00:13:37 อาหารตนทางนะครับได้เลยครับท่านผู้ฟังนะ
00:13:37 → 00:13:41 ครับก็คำว่าอาหารต้นทางเนี่ยแปลมาจากภาษา
00:13:41 → 00:13:44 อังกฤษครับที่ชื่อว่า Ho Food ครับผมอ่า
00:13:44 → 00:13:47 Good เนี่ยถ้าเกิดว่าเสิร์ชเข้าไปนะครับ
00:13:47 → 00:13:50 อาจจะถูกแปลมาว่าเป็นอาหารที่ไม่ผ่าน
00:13:51 → 00:13:53 กระบวนการแปรรูปบ้างแหละอย่างเงี้ยครับ
00:13:53 → 00:13:57 แต่หมออยากจะให้ Concept ให้เข้าใจง่าย
00:13:57 → 00:13:59 เรียกว่าอาหารต้นทางอย่างเช่นนะครับอย่าง
00:13:59 → 00:14:01 เช่นถ้า
00:14:01 → 00:14:07 ถ้าคุณจะกินข้าวข้าวที่ปลูกจากพื้นนาอ้า
00:14:07 → 00:14:11 สมมตินั้นนึกภาพข้าวที่ปลูกจากเราไปหยิบ
00:14:11 → 00:14:14 จับในนาเนี่ยมากินได้เลยไหมครับ
00:14:14 → 00:14:21 ยังกินไม่ได้
00:14:21 → 00:14:24 ชาวนาเขาจะต้อง
00:14:24 → 00:14:28 นำต้นข้าวเนี่ยมาสะบัดครับ
00:14:28 → 00:14:31 เพื่อให้ได้เม็ดข้าวเปลือกออกมา
00:14:31 → 00:14:35 เรากินเม็ดข้าวเปลือกได้ยังครับ
00:14:35 → 00:14:39 ก็น่าจะยังนะ
00:14:39 → 00:14:42 ไปขัดสีออกก่อนไปขัดตัวเปลือกที่แข็งๆออก
00:14:42 → 00:14:53 ก่อนเราจะได้มาเป็นข้าวกล้องครับ
00:14:53 → 00:14:57 [เพลง]
00:14:57 → 00:15:00 ถ้าเรานำเข้ากล้อง
00:15:00 → 00:15:02 ไปหาสี
00:15:02 → 00:15:06 เราจะได้เป็นอะไรครับท่านผู้ชม
00:15:06 → 00:15:08 ได้เป็นข้าวสวย
00:15:08 → 00:15:13 ข้าวสวย
00:15:13 → 00:15:17 ข้าวขาวเนี่ยผมจะเรียกเขาว่าอาหารกลางทาง
00:15:17 → 00:15:18 แหละ
00:15:18 → 00:15:19 อ๋อ
00:15:19 → 00:15:24 โอเคเพราะมันถูกการแปรรูปมาครับเวลาที่
00:15:24 → 00:15:27 อาหารถูกการแปรรูปมาเนี่ยสารอาหารเขาจะลด
00:15:27 → 00:15:31 ลงครับทุกคนจะรู้สึกพึงพอใจน้อยลงสังเกต
00:15:31 → 00:15:33 เลยนะเวลาคุณกินข้าวกล้องกับข้าวสวยที่
00:15:33 → 00:15:37 ปริมาณเท่ากันเนี่ยข้าวกล้องจะอิ่มมาก
00:15:37 → 00:15:41 กว่าข้าวสวยครับ
00:15:41 → 00:15:44 มันดูเหมือนแบบอ่ะไม่รู้สินะความรู้สึก
00:15:44 → 00:15:47 มันเป็นอย่างนั้นเนาะมันดูแบบนั้น
00:15:47 → 00:15:52 นะครับแล้วถ้าเกิดว่าเรานำข้าวขาวเนี่ยไป
00:15:52 → 00:15:53 แปรรูปเพิ่มมา
00:15:53 → 00:15:57 มันจะได้เป็นผงแป้งครับแล้วก็กลายเป็นพวก
00:15:57 → 00:16:00 น้ำตาลเอาไปทำขนมใช่ไหม
00:16:00 → 00:16:03 ไอ้พวกนี้หมอแบงค์เรียกเขาว่าอาหารปลาย
00:16:03 → 00:16:05 ทางครับพี่แป๊ะ
00:16:05 → 00:16:12 โอเค
00:16:12 → 00:16:16 ของมันมากเท่าไหร่มันจะใกล้ต้นทางมากเท่า
00:16:16 → 00:16:19 นั้นเนาะแต่ยิ่งมันถูกแปรรูปมากเท่าไหร่
00:16:19 → 00:16:21 มันก็จะเรียกว่าถูกปลายทางมากเท่านั้นอ๋อ
00:16:21 → 00:16:25 โอเคเออเข้าใจง่ายนะงงแต่พอบอกต้นทางกลาง
00:16:25 → 00:16:29 ทางไปทางเข้าใจง่ายเนาะโอเคเยี่ยมเลย
00:16:29 → 00:16:32 เยี่ยมเลยเยี่ยมเลยโอเคนะครับทุกคนโอเค
00:16:32 → 00:16:36 อ่ามีคนบอกเหมือนกันว่านี่เคยพูดถึงคลิป
00:16:36 → 00:16:38 การกินทุเรียนไม่ให้อ้วนของหมอแบงค์น่า
00:16:38 → 00:16:43 รักมากขอบคุณที่โกรธด้วย
00:16:43 → 00:16:46 ตอนนี้เราเข้าใจแล้วอาหารต้นทานถ้าพูด
00:16:46 → 00:16:48 ง่ายๆก็คืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยมากๆ
00:16:48 → 00:16:52 มีสภาพใกล้เคียงกับสภาพตามธรรมชาติของมัน
00:16:52 → 00:16:55 น่ะคืออาหารธรรมชาติเนาะอ่าทีนี้ใน
00:16:55 → 00:16:57 หนังสือเนี่ยมันมีอีกว่าหมอบอกว่าอาหาร
00:16:57 → 00:17:01 ต้นทางเนี่ยหรือว่าอาหารที่ในนิยามของหมอ
00:17:01 → 00:17:04 มันเหมือนเป็นไฟ 3 สีผมว่าอันนี้เราก็จะ
00:17:04 → 00:17:07 ต้องต้องชี้แจงหรือว่าเราต้องอธิบายเพิ่ม
00:17:07 → 00:17:09 สักนิดนึงว่าเอออะไรมันคือ 3 4 แล้วมัน
00:17:09 → 00:17:11 มีสีไหนบ้างเนาะให้หมอเล่านิดนึงได้ไหม
00:17:12 → 00:17:14 ครับได้เลยครับผมก็อันนี้จะเป็นแก่นเลยนะ
00:17:14 → 00:17:18 ครับเพราะว่าการที่หมอทำเกี่ยวกับเรื่อง
00:17:18 → 00:17:21 รถน้ำหนักเนี่ยจะมีหลายๆคำถามเข้ามาตลอด
00:17:21 → 00:17:24 เลยครับว่าอันนู้นกินได้ไหมอันนี้กินได้
00:17:24 → 00:17:26 หรือเปล่าสารให้ความหวานชนิดนั้นกินได้
00:17:26 → 00:17:29 ไหมหมอแบงค์อย่างเงี้ยรู้ไหมอินทผาลัมกิน
00:17:29 → 00:17:31 ได้หรือเปล่าจะมีคำถามแบบนี้มาเรื่อยๆนะ
00:17:31 → 00:17:34 ครับหมอเนี่ยก็เลยใช้ Concept ที่เรียก
00:17:34 → 00:17:37 ว่าอาหารต้นทางเนี่ยแบ่งอาหารทุกชนิดบน
00:17:37 → 00:17:40 โลกครับให้เหลือแค่ 3 สีเท่านั้นครับก็
00:17:40 → 00:17:44 คือสีเขียวสีเหลืองแล้วก็สีแดงให้เหมือน
00:17:44 → 00:17:50 กับไฟจราจรอื้มโอเคเวลาที่เราเจอเจอไฟ
00:17:50 → 00:17:54 เขียวเราทำยังไงอ่ะก็เต็มที่เลยนะเหยียบ
00:17:54 → 00:17:56 ได้เหยียบใช่ไหมเพราะว่ามันไม่ได้ผิดกฎ
00:17:56 → 00:17:58 หมายอะไรเราก็ไปของเราเลยเนาะตามสปีดที่
00:17:58 → 00:18:01 เราแบบว่ารู้สึกว่าขับแล้วปลอดภัยเลยใช่
00:18:01 → 00:18:03 เลยครับเพราะฉะนั้นอาหารหมวดสีเขียวเนี่ย
00:18:03 → 00:18:06 คุณสามารถใส่ได้สุดเลยครับอาหารสีเขียว
00:18:06 → 00:18:11 จากเขียวก่อนอ้วนโอเค keyword มาแล้วนะ
00:18:11 → 00:18:15 ครับเขียวสีเขียวนะครับซึ่งเดี๋ยวๆหมอเขา
00:18:15 → 00:18:16 จะอธิบายเพิ่มหน่อยนะว่าสีเขียวมันมีอะไร
00:18:16 → 00:18:19 บ้างเนาะแต่อันคีย์เวิร์ดที่ผมชอบมากๆใน
00:18:19 → 00:18:21 หนังสือเล่มนี้คือ Import อ้วนมีด้วยเหรอ
00:18:21 → 00:18:24 นี่นะครับ
00:18:24 → 00:18:31 [เสียงหัวเราะ]
00:18:31 → 00:18:35 แต่ยังไม่ทันอิ่มเลยอ้วนแล้ว
00:18:35 → 00:18:37 อ้วนเสมอ
00:18:37 → 00:18:42 โอเคสีเขียวใช่ไหมครับสีเขียวแล้วพอมา
00:18:42 → 00:18:45 เป็นสีเหลืองเนี่ยหลักคิดก็คือเวลาเราเจอ
00:18:45 → 00:18:48 ไฟเหลืองเราจะต้องแบบเฮ้ยเตรียมตัวชะลอ
00:18:48 → 00:18:53 เบรกละเออๆแต่บางคนก็ยังเร่งไปอยู่เพราะ
00:18:53 → 00:18:56 ฉะนั้นอาหารหมดเหลืองครับกินต้องมีครับ
00:18:56 → 00:18:59 ให้คิดว่าเป็นเหมือนหมวดอาหารเสริมในมื้อ
00:18:59 → 00:19:02 อาหารครับไม่ได้ให้กินเยอะจนเกินไปแต่ว่า
00:19:02 → 00:19:05 ต้องมีในมือเพื่อเพื่อเป็นอาหารเสริม
00:19:05 → 00:19:09 โอเคก็อาจจะกินพร้อมๆกับสีเขียวแต่ว่า
00:19:09 → 00:19:12 เน้นสีเขียวก่อนแล้วเติมสักนิดหน่อยอัน
00:19:12 → 00:19:14 นี้พอได้แต่ว่าหลักๆเราจะเน้นอาหารที่
00:19:14 → 00:19:17 เป็นสีเขียวก่อนเนาะโอเคสีเหลืองให้ชะลอ
00:19:17 → 00:19:19 นะครับทุกคนอยากกินเยอะเกินไปให้กินสี
00:19:19 → 00:19:23 เขียวเยอะกว่าโอเคสีแดงสีแดงเนี่ยจะเป็น
00:19:23 → 00:19:26 อาหารปลายทางและจะมีไขมันสูงแคลอรี่สูง
00:19:26 → 00:19:37 ทุกคนจะมีโอกาสอ้วนก่อนอิ่มมากครับ
00:19:37 → 00:19:39 หรือกินให้น้อยที่สุดอารมณ์ประมาณนี้ล่ะ
00:19:39 → 00:19:43 ใช่ครับแต่นิดนึงครับหลายคนจะคิดว่าอาหาร
00:19:43 → 00:19:45 แดงเนี่ยหมอแบงค์ห้ามหรือเปล่า
00:19:45 → 00:19:48 ต้องตอบคือไม่ห้ามนะครับหมอเนี่ยให้เอา
00:19:48 → 00:19:51 หัวไปโฟกัสว่าเราจะกินอาหารเขียวเหลือง
00:19:51 → 00:19:54 ยังไงให้ได้เยอะที่สุดก่อนหลังจากนั้น
00:19:54 → 00:19:57 ครับถ้ากระเพาะยังเหลือใส่อาหารแดงที่คุณ
00:19:57 → 00:20:02 ชอบได้ครับ
00:20:02 → 00:20:05 แต่ว่าเน้นว่าให้เขียวกับเหลืองเนี่ย
00:20:05 → 00:20:08 เดี๋ยวก่อนโอเคมาก่อนแล้วถ้าคุณยังรู้สึก
00:20:08 → 00:20:11 ว่าไม่อิ่มจริงๆคุณต้องการจะเติมเต็มอะไร
00:20:11 → 00:20:14 บางอย่างให้กับร่างกายกระเพาะและสมองของ
00:20:14 → 00:20:17 คุณหมอเขามีคำนึงด้วยนะบอกว่าท้องอิ่ม
00:20:17 → 00:20:19 สมองไม่อิ่มหรือว่าไอ้พวกนี้อยากให้หมอ
00:20:19 → 00:20:21 อธิบายเพิ่มด้วยนะผมว่าอันนี้น่าสนใจนะ
00:20:21 → 00:20:25 แต่ว่าสีแดงหมอก็ไม่ได้ห้ามนะจ๊ะทุกคนกิน
00:20:25 → 00:20:30 ได้จ้าอ่าได้เอาสีเขียวมากก่อนโอเค
00:20:30 → 00:20:35 ๆทั้งสิ้นของที่ชอบของคุณก็ยังอยู่เห็น
00:20:35 → 00:20:37 มั้ยแต่ของมีประโยชน์จะถูกใส่เข้าไปก่อน
00:20:37 → 00:20:42 ครับโอเคอ่ะผมว่าตอนนี้คนคนเข้าใจ Concept
00:20:42 → 00:20:45 อะไรคือเขียวอะไรคือเหลืองอะไรสีแดงถ้า
00:20:45 → 00:20:47 เกิดหมออยากอธิบายอย่างอื่นก่อนเอาก่อน
00:20:47 → 00:20:50 ได้เลยนะอืมได้เลยครับยกตัวอย่างนะครับยก
00:20:50 → 00:20:54 ตัวอย่างสมมุติคำนี้ทุกคนหิวโซเลยนะหิวโซ
00:20:54 → 00:20:58 นะครับหมอเนี่ยยื่นกล้วยน้ำว้าให้ทุกคน
00:20:58 → 00:21:02 เนี่ยไป 1 ลูกครับอ้ากินเลยนะครับหิวโซ
00:21:02 → 00:21:06 ใช่ไหมครับกินไป 1 ลูกอิ่มหรือยังครับ
00:21:06 → 00:21:08 น่าจะยังไม่อิ่มนะ
00:21:08 → 00:21:13 ครับหมอไม่ถามต่อครับหมอยื่นกล้วยน้ำว้า
00:21:13 → 00:21:15 ลูกที่ 2 ให้กับคุณครับ
00:21:15 → 00:21:17 อิ่มเพิ่มยังครับ
00:21:17 → 00:22:16 ดีขึ้น
00:22:16 → 00:22:20 เป็นไปได้นะเป็นไปได้นะนี่ชอบกินกล้วย
00:22:20 → 00:22:23 ปิ้งมากคือถ้าเทียบกันกล้วยสุกน่าจะอิ่ม
00:22:23 → 00:22:25 เร็วกว่ากล้วยปิ้งอันนี้ความรู้สึกนะท่าน
00:22:25 → 00:22:27 ไหนที่เห็นด้วยก็พิมพ์ +1 มาก็ได้นะครับ
00:22:27 → 00:22:30 คุณเคยกินกล้วยสุกแล้วก็กินกล้วยปิ้งอิ่ม
00:22:30 → 00:22:32 เท่ากันไหมถ้ากล้วยสุกอิ่มง่ายกว่าก็
00:22:33 → 00:22:36 พิมพ์บวกหนึ่งแล้วกันโอเคครับลองดูนะขนาด
00:22:36 → 00:22:39 กล้วยสุกอ่ะครับ 4 ลูกอิ่มแล้วแต่กล้วย
00:22:39 → 00:22:43 ปิ้งครับ 6 ลูกถึงจะอิ่มครับจะสังเกตว่า
00:22:43 → 00:22:46 ความพึงพอใจจะลดน้อยลงเมื่อผ่านกระบวนการ
00:22:46 → 00:22:49 บางอย่างไป
00:22:49 → 00:22:52 แต่คราวนี้ถ้าหมอไม่ได้ให้กล้วยปิ้งไป
00:22:52 → 00:22:54 ครับหมอให้เป็นกล้วยเบรคแตกไปครับเกิด
00:22:54 → 00:23:09 อะไรขึ้น
00:23:09 → 00:23:11 บางคนเนี่ย
00:23:11 → 00:23:14 กินอาหารมื้อหลักอิ่มแล้วนะแต่หมอยื่น
00:23:14 → 00:23:15 กล้วยเบรคแตกให้
00:23:15 → 00:23:19 ก็ยังกินได้เพิ่ม
00:23:19 → 00:23:22 สมองของเราเพราะฉะนั้นหมอเลยจัดกล้วยเบรค
00:23:22 → 00:23:24 แตกหรือที่แปรรูปขั้นสุดเนี่ยมาไว้ใน
00:23:24 → 00:23:28 อาหารแดงครับผม
00:23:28 → 00:23:33 กล้วยโอเคกล้วยสุกนี่คือสีเขียวนะทุกคนสี
00:23:33 → 00:23:39 เขียวนี่คือกล้วยปิ้งนะครับ
00:23:39 → 00:23:43 ยิ่งมันใกล้ปลายทางมันจะมีแนวโน้มว่ามัน
00:23:43 → 00:23:45 จะเปลี่ยนสภาพเป็นสีแดงเพราะฉะนั้นวิธีดู
00:23:45 → 00:23:47 ก็ง่ายๆที่หมอแนะนำตอนนี้ก็คือพยายามกิน
00:23:47 → 00:23:49 อะไรที่มันใกล้เคียงกับสภาพธรรมชาติของ
00:23:49 → 00:23:52 มันถ้าเรากินอย่างนั้นเราจะอิ่มเร็วมันก็
00:23:52 → 00:23:55 จะเข้า Concept ว่าอิ่มก่อนอ้วน
00:23:55 → 00:23:58 อันนี้ผมผมเข้าใจถูกไหมพอดีเมื่อกี้พี่
00:23:58 → 00:24:02 โก๋เขาบอกว่าน้ำตาลอาจจะขึ้นได้แต่เท่า
00:24:02 → 00:24:03 ที่ผมอ่านหนังสือของหมอคือ
00:24:03 → 00:24:07 ถ้าเรากินตามธรรมชาติเนี่ยโอกาสที่
00:24:07 → 00:24:09 แคลอรี่หรือว่าน้ำตาลเราจะเกินเนี่ยมัน
00:24:09 → 00:24:12 น่าจะน้อยเมื่อเทียบกับการที่เรากินสีแดง
00:24:12 → 00:24:14 ด้วยแคลอรี่เท่ากันอันนี้ผมเข้าใจถูกไหม
00:24:14 → 00:24:17 ผมชอบคำถามนี้มากเลยอยากจะอธิบายเพิ่มให้
00:24:17 → 00:24:21 ก็ได้ๆๆเลยคือยุคปัจจุบันเนี่ยเวลาเรากิน
00:24:21 → 00:24:23 อะไรก็ตามเข้าไปนะแล้วน้ำตาลเราขึ้นน่ะ
00:24:24 → 00:24:26 ครับทุกคนจะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ดีกับ
00:24:26 → 00:24:29 สุขภาพใช่ไหมแต่อาจจะอยากให้เปลี่ยนมุม
00:24:29 → 00:24:33 มองครับว่าการที่เรากินข้าวกินผลไม้ที่
00:24:33 → 00:24:35 เป็นอาหารธรรมชาติครับกินเข้าไปเนี่ยคน
00:24:35 → 00:24:38 ปกตินะกินเข้าไปน้ำตาลต้องขึ้นเป็นเรื่อง
00:24:38 → 00:24:42 ปกติครับแต่สิ่งที่ไม่ปกติคือน้ำตาลไม่ลง
00:24:42 → 00:24:43 ต่างหากครับ
00:24:43 → 00:24:48 ฟังใหม่อีกรอบนะโรคเบาหวานคือโรคที่ไม่
00:24:48 → 00:24:52 ใช่น้ำตาลขึ้นนะครับแต่เป็นโรคของการที่
00:24:52 → 00:24:54 น้ำตาลไม่ลงครับ
00:24:54 → 00:24:57 อย่างสมมุติพี่แป๊ะกินกล้วยเข้าไปหมอเจาะ
00:24:57 → 00:25:00 น้ำตาลน้ำตาลต้องขึ้นครับนี่คือภาวะปกติ
00:25:00 → 00:25:04 แต่หลังจากน้ำตาลขึ้นครับสมองพี่แป๊ะก็จะ
00:25:04 → 00:25:05 ใช้น้ำตาลตัวนั้น
00:25:05 → 00:25:09 ปอดร่างกายลำไส้ใช้น้ำตาลตัวนั้นหลังจาก
00:25:09 → 00:25:12 นั้นน้ำตาลพี่แป๊ะจะลดลงสู่ระดับปกติอัน
00:25:12 → 00:25:15 นี้คือภาวะปกติครับ
00:25:15 → 00:25:16 เพราะฉะนั้นกินอาหารธรรมชาติน้ำตาลขึ้น
00:25:16 → 00:25:24 เนี่ยต้องเรียกว่าปกติครับ
00:25:24 → 00:25:27 ใช่ครับไม่ลงน้ำตาลมันค้าง sale เอาไปใช้
00:25:27 → 00:25:30 ไม่ได้อันนี้คือผิดปกติ
00:25:30 → 00:25:34 เพราะฉะนั้นการที่กินแล้วน้ำตาลขึ้นไม่
00:25:34 → 00:25:37 ใช่เรื่องผิดปกติแล้วก็มันควรจะเป็นอย่าง
00:25:37 → 00:25:41 นั้นตามธรรมชาติของมันแต่ว่าโดย Concept
00:25:41 → 00:25:44 ของอาหารธรรมชาติเนี่ยอันนี้อันนี้ผมไม่
00:25:44 → 00:25:46 แน่ผมอ่านแล้วผมเข้าใจถูกไหมว่ามันมักจะ
00:25:46 → 00:25:50 มีน้ำเป็นส่วนผสมค่อนข้างเยอะดังนั้นคุณ
00:25:50 → 00:25:53 จะอิ่มได้ไวกว่าพึงพอใจมากกว่าเมื่อกี้
00:25:53 → 00:25:56 ถ้าเกิดทุกคนสังเกตนะครับที่หมอแบงค์ยกๆ
00:25:56 → 00:25:59 ภาพมาเนี่ยกล้วยน้ำว้าน่าจะมีน้ำปนอยู่
00:25:59 → 00:26:01 เยอะที่สุดเมื่อเทียบกับกล้วยปิ้งแล้วก็
00:26:01 → 00:26:04 จะน้อยมากๆเมื่อเทียบกับกล้วยเบรคแตกอัน
00:26:04 → 00:26:09 นี้ผมก็ใจถูกไหม
00:26:09 → 00:26:12 ผมขอแทรกหน่อยไม่ใช่โอเคพี่คือพี่จับแบบ
00:26:12 → 00:26:15 จับใจความแบบเน้นๆเข้ามาเลยอ่ะคือรู้เลย
00:26:15 → 00:26:19 ว่าประสบการณ์การอ่านแบบสุดยอดมาก
00:26:19 → 00:26:24 ครับ
00:26:24 → 00:26:29 [เสียงหัวเราะ]
00:26:29 → 00:26:32 เรื่องน้ำนะครับถูกต้องเลยนะครับทุกท่าน
00:26:32 → 00:26:36 ก็คือจุดเปลี่ยนอย่างเดียวระหว่างกล้วยสด
00:26:36 → 00:26:39 กับกล้วยปิ้งก็คือน้ำที่มันระเหยไปแล้วก็
00:26:39 → 00:26:42 วิตามินแร่ธาตุบางชนิดอาจจะหายไปจากความ
00:26:42 → 00:26:43 ร้อนได้
00:26:43 → 00:26:46 ความพึงพอใจของทุกคนก็เลยลดลงครับเมื่อ
00:26:46 → 00:26:50 น้ำออกไปจากอาหารครับผมสังเกตได้ว่าอาหาร
00:26:50 → 00:26:54 แห้งๆอย่างเช่นขนมกลบกรอบๆนะครับในตาม
00:26:54 → 00:26:58 ร้านสะดวกซื้อนะครับมักจะแห้งเราจะกิน
00:26:58 → 00:27:03 เท่าไหร่ไม่เคยพึงพอใจแต่ถ้าเรากินมะม่วง
00:27:03 → 00:27:18 สุกหวานๆแบบว่าเย็นๆหวานๆกินไม่กี่คำ
00:27:18 → 00:27:23 โอกาสอ้วนน้อยมากๆแล้วก็หลายคนจะคิดว่า
00:27:23 → 00:27:28 หมอแบงค์เรากินอาหารพวกนี้มันแป้งเยอะไม่
00:27:28 → 00:27:30 ใช่หรอมันจะย่อยไปเป็นน้ำตาลไหมแล้วน้ำ
00:27:30 → 00:27:33 ตาลเนี่ยมันจะไปเก็บสะสมเป็นไขมันทำให้
00:27:33 → 00:27:35 เราอ้วนหรือเปล่า
00:27:35 → 00:27:38 หลายคนจะกลัวแบบนั้นนะครับหมอยกตัวอย่าง
00:27:38 → 00:27:41 ฟักทองอ่าหลายๆคนบอกผักมีหัวเนี่ยมันมี
00:27:41 → 00:27:43 แป้งนะทำให้คุณอ้วน
00:27:43 → 00:27:46 ฟักทองเนี่ยการที่คุณจะกินให้อ้วนได้นะ
00:27:46 → 00:27:49 ครับคุณต้องกินเกิน 2,000 กิโลแคลอรี่
00:27:49 → 00:27:52 ซึ่งเทียบเท่ากับฟักทองเนี่ย 10 กิโลกรัม
00:27:52 → 00:27:54 ด้วยกันครับท่านผู้ชม
00:27:54 → 00:27:58 1 ลูกเต็มๆเผลอๆเยอะกว่า 1 ลูกด้วยนะถูก
00:27:58 → 00:28:12 ไหม
00:28:12 → 00:28:17 [เสียงหัวเราะ]
00:28:17 → 00:28:22 เรากินแค่ 2 ชิ้นนะครับก็อิ่มสุดๆแล้วนะ
00:28:22 → 00:28:24 ครับเพราะฉะนั้นฟักทองไม่ได้ทำให้เราอ้วน
00:28:24 → 00:28:27 ถ้าเรากินฟักทองแล้วเราอ้วนให้ไปเช็ค
00:28:27 → 00:28:29 อาหารแดงครับอาหารแดงเนี่ยมีโอกาสทำให้
00:28:29 → 00:28:31 เราอ้วนมากกว่าครับผม
00:28:31 → 00:28:35 ในหนังสือเล่มนี้มีผมชอบอยู่ภาพนึงเมื่อ
00:28:35 → 00:28:37 กี้ผมเดินกับภรรยาผมยังเปิดให้ดูเลย
00:28:37 → 00:28:40 เดี๋ยวผมเจอเดี๋ยวผมไอ้นี่นะคือมันมีการ
00:28:40 → 00:28:43 ทดลองที่บอกว่าอาหารที่เป็นอานี่ๆๆแต่ผม
00:28:43 → 00:28:45 ไม่รู้ว่าภาพมันจะชัดหรือเปล่านะครับทุก
00:28:45 → 00:28:47 ท่านอันนี้อยากให้คุณหมออธิบายนิดนึงเอา
00:28:47 → 00:28:50 รูปข้างไหนวะเดี๋ยวครั้งนี้ที่บอกว่ามัน
00:28:50 → 00:28:52 เป็นการทดลองของอาจารย์ท่านนึงที่บอกนี่
00:28:52 → 00:28:57 ฮะนิดเดียวเองอาหารแห้งๆใช่มั้ยก็ 1,75
00:28:57 → 00:28:59 กกแคลอรี่นะอ่ะบางท่านอาจจะมองเห็นไม่
00:28:59 → 00:29:01 ค่อยชัดเท่าไหร่ออกไปนะส่วนฝั่งเนี้ยคุณ
00:29:01 → 00:29:03 เห็นมั้ยว่ามันเยอะมากเลยอ่ะเดี๋ยวผมดู
00:29:03 → 00:29:06 แล้วเนี่ยจะโหกินหมดหรือวะเนี่ยกินหมดนี่
00:29:06 → 00:29:10 ก็เพิ่งทัน 575 ลิตรนะความหมายคือไอ้
00:29:10 → 00:29:12 เนี่ยอันนี้คือแดกละมั้งในความคิดของของ
00:29:12 → 00:29:14 ผมนะส่วนอันนี้คือเขียวกับเหลืองถูกมั้ย
00:29:14 → 00:29:17 ประมาณว่าใช่เลยครับนี่คือ keyword อีก
00:29:17 → 00:29:19 แล้วครับท่านผู้ชม
00:29:19 → 00:29:23 เทคนิคนี้คือการกินเยอะแต่ผอมลงครับกิน
00:29:23 → 00:29:26 เยอะแต่ได้รับแคลอรี่ลดลง
00:29:26 → 00:29:30 สูตรนี้หมอหมอดัดแปลงมาจากสูตรหนึ่งของ
00:29:30 → 00:29:33 ต่างประเทศครับจากอาจารย์ดรบาบาร่าโรส
00:29:33 → 00:29:36 ครับเขาเป็นหนึ่งในสูตรลดน้ำหนักที่ดีที่
00:29:36 → 00:29:38 สุดครับที่ชื่อว่า Volume Matic Diet
00:29:38 → 00:29:41 เราค่อยๆมาแปลนะครับ Volume Matrix Diet
00:29:41 → 00:29:44 เนี่ยคำว่า Volume ก็คืออาหารที่มีมวล
00:29:44 → 00:29:47 เยอะกินอิ่มก่อน
00:29:47 → 00:29:50 ก็คือหมวดหลักอาหารเขียวเหลืองของเรานั่น
00:29:50 → 00:29:50 เอง
00:29:51 → 00:29:53 ก็โอเคโอเค
00:29:53 → 00:29:58 ซึ่งนี่คือเหตุผลว่าทำไมตอนต้นไลฟ์หมอบอก
00:29:58 → 00:29:58 ว่า
00:29:58 → 00:30:03 คุณจะกินอิ่มแต่คุณก็จะผอมลงไปเองหลักการ
00:30:03 → 00:30:05 มันเป็นอย่างนี้เนาะเพราะว่าคุณกินในสิ่ง
00:30:05 → 00:30:07 ที่คุณจะอิ่มก่อนที่คุณจะเริ่มได้รับ
00:30:07 → 00:30:10 แคลอรี่ที่มันเกินของร่างกายไปถ้าเมื่อ
00:30:10 → 00:30:12 กี้เราพูดกันตาม Concept คือคุณต้องกิน
00:30:12 → 00:30:15 ฟักทองที่คุณรู้สึกว่าอ้วนเลี่ยงดีกว่า
00:30:15 → 00:30:17 นี้อย่างนี้คุณต้องกิน 10 โลเลยนะคุณถึง
00:30:17 → 00:30:21 จะเริ่มอ้วนอันนี้ผมว่าเข้าใจเข้าใจแล้ว
00:30:21 → 00:30:23 ในหนังสือเล่มนี้ก็เลยบอกว่าทุเรียนที่
00:30:23 → 00:30:26 เราบอกว่ากินไม่ได้อ้วนเนี่ยก็ต้องกิน
00:30:26 → 00:30:28 เป็นกิโลเลยนะ 1.4 กกมั้งถ้าผมจำไม่ผิด
00:30:28 → 00:30:31 ถึงจะเริ่มน้ำหนักเกินอ่าเพราะฉะนั้นจริง
00:30:31 → 00:30:34 ๆคุณกินสิ่งที่คุณชอบได้ถ้าถ้ามันเป็น
00:30:34 → 00:30:37 อาหารที่ค่อนข้างจะเป็นทางต้นทางเนาะอ่า
00:30:37 → 00:30:40 เยี่ยมเลยครับคุณหมอผมว่าหลายๆคนพอจะเก็ท
00:30:40 → 00:30:43 กับสิ่งที่คุณหมอพูดเพิ่มขึ้นเนาะอาจจะ
00:30:43 → 00:30:44 ตรงนี้คุณหมอมีอะไรอยากเสริมมั้ยเกี่ยว
00:30:44 → 00:30:49 กับเรื่องอาหาร 3 สีไฟ 3 สีครับก็พูดหมวด
00:30:49 → 00:30:52 อาหารหลักๆแล้วกันนะครับก็จริงๆมันเป็น
00:30:52 → 00:30:55 ลึกๆอยู่ในหนังสือจะลิสต์ให้เลยเอาอาหาร
00:30:55 → 00:30:59 ไหนอยู่ในสีอะไรนะครับอ้าโอเคหมดๆให้นะ
00:30:59 → 00:31:02 ครับอาหารหมดเขียวเนี่ยก็จะมีผักทุกชนิด
00:31:02 → 00:31:05 นะครับผลไม้ทุกชนิดนะครับได้หมดเลยไม่มี
00:31:05 → 00:31:09 ห้ามหวานมากหวานน้อยได้หมดเหตุทุกชนิดนะ
00:31:09 → 00:31:13 ครับสมุนไพรต่างๆนะครับจะจัดอยู่ในหมวด
00:31:13 → 00:31:15 อาหารเขียวทั้งหมดครับ
00:31:15 → 00:31:17 ซึ่งจริงๆมันจะมีรายละเอียดอยู่ในนี้นะ
00:31:18 → 00:31:20 ครับถ้าสนใจก็ไปลองหาเพิ่มได้นะเดี๋ยวผม
00:31:20 → 00:31:22 ชอบเล่มนี้ตรงที่มันมีสรุปให้เนี่ยคุณก็
00:31:22 → 00:31:25 อ่านแล้วคุณก็ไปหาซื้อทานได้เลยเนาะมี
00:31:25 → 00:31:28 ทั้งเคี้ยวทั้งเหลืองทั้งแดงฝั่งสีเหลือง
00:31:28 → 00:31:31 พอพอจะแบบตัวอย่างคร่าวๆได้ไหมมีอะไรบ้าง
00:31:31 → 00:31:34 สีเหลืองเนี่ยจะเป็นหมวดอาหารที่เป็น
00:31:34 → 00:31:37 อาหารสีเขียวที่แปรรูปขึ้นมานิดนึงครับ
00:31:37 → 00:31:40 หรือจะเป็นหมวดอาหารต้นทางที่มีแคลอรี่
00:31:40 → 00:31:43 สูงอย่างเช่นพวกถั่วเปลือกแข็งครับ
00:31:43 → 00:31:46 เม็ดอัลมอนด์แมคคาเดเมียแบบนี้ต่อให้เป็น
00:31:46 → 00:31:49 ต้นทางนะครับแต่มีแคลอรี่ที่สูงครับก็มี
00:31:49 → 00:31:52 โอกาสทำให้อ้วนมากกว่าหมวดเขียวเพราะสมัย
00:31:52 → 00:31:55 ก่อนเนี่ยการที่คุณจะกินแมคคาเดเมียได้
00:31:55 → 00:32:01 ใครเคยซื้อแมคคาเดเมียมาแบบมีเปลือกอ่ะ
00:32:01 → 00:32:04 แกะยากกินยาก
00:32:04 → 00:32:08 ต้องใช้ค้อนทุบแล้วก็ zill คุ้ม
00:32:08 → 00:32:11 สมัยก่อนนะครับตัวแมคคาเดเมียมันอยู่บน
00:32:11 → 00:32:14 ต้นไม้ใช่ไหมกว่าคุณจะกินได้อ่ะคุณจะต้อง
00:32:14 → 00:32:16 ออกแรงอีก
00:32:16 → 00:32:19 ออกแรงก่อนที่จะกินแล้วพอคุณกินนิดนึง
00:32:19 → 00:32:22 เฮ้ยมันหมดแล้วคุณต้องไปออกแรงทุบเม็ดที่
00:32:22 → 00:32:25 2 แบบนี้สมัยก่อนเราจะอิ่มยากครับแต่
00:32:25 → 00:32:29 สมัยนี้เขาทุบมาให้อยู่ในถุงหมดแล้ว
00:32:29 → 00:32:32 หนักเลยเพราะว่าก็มันไม่ใช่ต้นทาง
00:32:32 → 00:32:37 เศรษฐกิจการค้า
00:32:37 → 00:32:40 หมอก็เลยจัดอาหารหมดถั่วเปลือกแข็งเนี่ย
00:32:40 → 00:32:43 เอาไว้ในหมวดสีเหลืองต้องกินแต่ในปริมาณ
00:32:43 → 00:32:48 ที่น้อยหน่อยโอเคเข้าใจแล้วสีแดงสีแดงสี
00:32:48 → 00:32:50 แดงสีแดง
00:32:50 → 00:32:54 คืออาหารที่มีไขมันสูงนะครับกับกลุ่มที่
00:32:54 → 00:32:57 เป็นพืชแปรรูปแบบขั้นสุดอย่างเช่นผงแป้ง
00:32:57 → 00:33:00 น้ำตาลน้ำเชื่อมสารให้ความหวานทั้งหมดเลย
00:33:00 → 00:33:04 พวกนี้แปรรูปขั้นสุดนะครับนะเนื้อสัตว์
00:33:04 → 00:33:07 ที่ติดมันแบบเนี้ยก็อยู่แดงหมดเลยเพราะ
00:33:07 → 00:33:10 มันแคลอรี่สูง
00:33:10 → 00:33:14 โอเคตอนนี้เราพอจะแยกออกแล้วเนาะเอ่อ
00:33:14 → 00:33:19 นมไข่นี่เหลืองหรือแดงคุณหมอผมเนี่ยจัด
00:33:19 → 00:33:23 อยู่ในอาหารแดงครับอืมๆโอเคแต่ไม่แน่นะ
00:33:24 → 00:33:26 ครับ
00:33:26 → 00:33:30 โอเคก็คือทานได้เนาะอ่ะทีนี้มีคำถามจาก
00:33:30 → 00:33:32 ทางบ้านมาคุณนันทวันอ่ะนะเขาถามว่าจริง
00:33:32 → 00:33:34 ไหมที่กินถั่ว 1 กำมือก่อนกินพวกขนมหวาน
00:33:34 → 00:33:38 ช่วยให้อินซูลินไม่พุ่งอันนี้คุณหมอต้อง
00:33:38 → 00:33:41 รบกวนคุณหมอแล้วจริงๆแปลว่าคุณนันทวัน
00:33:41 → 00:33:44 เนี่ยเคยศึกษาแล้วก็ฟังมุมมองสุขภาพมา
00:33:44 → 00:33:48 แล้วจะมีคำว่าอินซูลินเข้ามาในชีวิตแล้ว
00:33:48 → 00:33:52 อินซูลินเนี่ยสมัยก่อนก่อนที่หมอจะมาสาย
00:33:52 → 00:33:53 นี้
00:33:53 → 00:33:56 เราพยายามจะโทษอะไรก็ตามที่มันทำให้
00:33:57 → 00:33:58 อินซูลินเราพุ่ง
00:33:58 → 00:34:01 เมื่อก่อนเรามีความเชื่อว่า
00:34:01 → 00:34:04 อินซูลินพุ่งเมื่อไหร่เนี่ยมันจะทำให้เรา
00:34:04 → 00:34:06 อ้วนเป็นเบาหวานเป็นโรคนู่นนี่นั่นนะครับ
00:34:06 → 00:34:10 แต่การกินกินอาหารต่างๆเนี่ย
00:34:10 → 00:34:14 หมออยากให้มุมมองใหม่ใหม่เลยนะเมื่อก่อน
00:34:14 → 00:34:17 เราจะเชื่อว่าอินซูลินเป็นผู้ร้ายแต่จริง
00:34:17 → 00:34:20 ๆแล้วอ่ะอินซูลินเป็นเพื่อนเราครับถ้าวัน
00:34:20 → 00:34:24 นี้คุณไม่มีอินซูลินร่างกายเราอยู่ไม่ได้
00:34:24 → 00:34:27 ครับเราเสียชีวิตเลยทันทีเพราะฉะนั้นการ
00:34:27 → 00:34:31 กินถั่วหรือการกินขนมหวานกินอะไรก็ตาม
00:34:31 → 00:34:34 ครับกระตุ้นอินซูลินอยู่แล้วแล้วก็เป็น
00:34:34 → 00:34:37 ภาวะปกติครับ
00:34:37 → 00:34:39 เพราะฉะนั้นการกินถั่ว
00:34:39 → 00:34:43 อินซูลินพุ่งครับกินขนมหวานอินซูลินพุ่ง
00:34:43 → 00:34:47 ครับกินคู่กันอินซูลินก็พุ่งครับแต่ไม่
00:34:47 → 00:34:49 ใช่ภาวะผิดปกติ
00:34:49 → 00:34:52 เป็นเพื่อนเรานะครับก็ให้มุมมองใหม่
00:34:52 → 00:34:57 อินซูลินพุ่งไม่เป็นไรกินได้เลยครับผม
00:34:57 → 00:34:59 ถ้ากินถั่วก่อนกินขนมหวานถือว่าดีมาก
00:34:59 → 00:35:03 เพราะถั่วเป็นอาหารสีเหลืองขนมหวานเป็น
00:35:03 → 00:35:07 อาหารสีแดงแต่ว่าเราเลือกอันที่ดีเข้าไป
00:35:07 → 00:35:12 ก่อนแล้วครับดีมากโอเคอ่ะเข้าใจแล้วทีนี้
00:35:12 → 00:35:15 อันนี้ถามแบบถามแบบ
00:35:15 → 00:35:19 คนขอความรู้อ่ะเนาะคือถ้าเราเริ่มปรับ
00:35:19 → 00:35:22 พฤติกรรมพอเรารู้แล้วว่าตอนนี้สิ่งที่
00:35:22 → 00:35:25 แก่นที่หมอให้คือว่าเราเรียงลำดับสิ่งที่
00:35:25 → 00:35:28 เราจะทานในแต่ละมื้อก่อนเริ่มจากสีเขียว
00:35:28 → 00:35:32 ให้เยอะๆแล้วคุณยังรู้สึกไม่อิ่มแต่ว่า
00:35:32 → 00:35:34 คุณรู้สึกว่าโอเคอีกคุณกินสีเขียวมากพอ
00:35:34 → 00:35:36 แล้วคุณก็มาหาสีเหลืองแต่ถ้ามันยังเหลือ
00:35:36 → 00:35:38 อีกนิดหน่อยคุณจะเติมสีแดงบ้างนิดนึงก็
00:35:38 → 00:35:40 ไม่เป็นไรแต่ให้เรียงเขียวเหลืองแดงเนาะ
00:35:40 → 00:35:45 ถ้าเราใช้ชีวิตทานแบบเนี้ยไปแบบทุกวันทุก
00:35:45 → 00:35:48 วันเนี่ยครับโดยธรรมชาติแบบมันน่าจะพาเรา
00:35:48 → 00:35:51 ลงมาในน้ำหนักที่เราควรจะเป็นโดยแท้จริง
00:35:51 → 00:35:54 อ่ะเนาะถูกไหมอ่ามันน่าจะใช้เวลาประมาณ
00:35:54 → 00:35:56 เท่าไหร่อะไรเงี้ยอันนี้หรือว่าแล้วแต่คน
00:35:56 → 00:36:00 ที่ถามหมอแบบครับผมก็ขึ้นกับ
00:36:00 → 00:36:04 น้ำหนักตั้งต้นแล้วก็ความเข้มข้นในการทำ
00:36:04 → 00:36:05 ของเราด้วยครับ
00:36:05 → 00:36:09 วันนี้วันนี้เราคุยกันในมุมเรื่องอาหาร
00:36:09 → 00:36:13 อย่างเดียวถ้าเกิดว่ามีอีกคนนึงทำแบบที่
00:36:13 → 00:36:15 หมอแบบแนะนำแบบเข้มข้นแต่บวกกับเขาไปทำ
00:36:15 → 00:36:19 เรื่องของออกกำลังกายเพิ่มขึ้นด้วยอันนี้
00:36:19 → 00:36:28 ก็จะเร็วมากขึ้นครับ
00:36:28 → 00:36:31 ถ้าเกิดจัดการทั้งหมดนี้ได้เนี่ยเดือนนึง
00:36:31 → 00:36:34 ครับเดือนนึงเนี่ย
00:36:34 → 00:36:35 5-10 กิโล
00:36:36 → 00:36:39 เป็นเรื่องธรรมชาติมากในในนักเรียนของหมอ
00:36:39 → 00:36:40 แบงค์นะครับ
00:36:40 → 00:36:43 เข้มข้นจริงๆนะครับเข้มข้นจริงๆแดงน้อย
00:36:43 → 00:36:50 มากๆและอีก 4 เสาหลักเนี่ยดีมากๆ
00:36:50 → 00:36:52 น่าสนใจ
00:36:52 → 00:36:55 พูดมากก็แสดงว่าจริงๆนอกจากเรื่องของการ
00:36:55 → 00:36:58 อ่าเขาเรียกว่าเหลืองเขียวแดงตามสูตรของ
00:36:58 → 00:37:01 ของที่คุณหมอพูดถึงเรื่องอาหารต้นทางแล้ว
00:37:01 → 00:37:04 เนี่ยมันยังมีตัวช่วยหรือว่าตัวเร่งอื่นๆ
00:37:04 → 00:37:07 ที่จะทำให้คุณผอมได้เร็วขึ้นสุขภาพดีขึ้น
00:37:07 → 00:37:11 อันนี้ผมเข้าใจถูกต้องไหม
00:37:11 → 00:37:16 มีเทคนิคอะไรบ้างที่จะเร่งสปีดการลดน้ำ
00:37:16 → 00:37:19 หนักลงมาสู่น้ำหนักที่ควรจะเป็นของเรารูป
00:37:19 → 00:37:22 ร่างดีสุขภาพดีมีอะไรบ้างถ้าเกิดหมอพอจะ
00:37:22 → 00:37:25 แชร์ได้รบกวนหน่อยครับได้เลยครับสูตรนี้
00:37:25 → 00:37:29 นะครับถ้าทำตามยังไม่ต้องไปวิ่งออกกำลัง
00:37:29 → 00:37:34 กายเลยครับคุณจะลดน้ำหนักลงมาได้ฟรีๆ 2.2
00:37:34 → 00:37:38 กิโลใน 3 เดือนตามงานวิจัยครับ
00:37:38 → 00:37:39 เทคนิคอันนี้
00:37:39 → 00:37:42 เทคนิคนี้แชร์ให้พิเศษสำหรับคนฟังไลฟ์นี้
00:37:42 → 00:37:44 ในเพจสรุปให้เลย
00:37:44 → 00:37:48 ข้อแรกนะครับให้ดื่มน้ำก่อน
00:37:48 → 00:37:51 ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 30 นาทีครับปริมาณ
00:37:51 → 00:37:55 1-2 แก้วหรือว่า
00:37:55 → 00:37:58 241-480 ML ครับน้ำดื่มเนี่ยจะเข้าไป
00:37:58 → 00:38:01 ขยายกระเพาะครับ
00:38:01 → 00:38:04 และการขยายเฉพาะของคุณเนี่ยมันไปกระตุ้น
00:38:04 → 00:38:06 ระบบประสาทหนึ่งครับที่เรียกว่า
00:38:06 → 00:38:09 simpedatic แปลเป็นภาษา
00:38:09 → 00:38:15 มนุษย์ทั่วไปก็คือระบบที่เราใช้ในการสู้
00:38:15 → 00:38:17 หรือหนี
00:38:17 → 00:38:21 ระบบสู้หรือหนีเนี่ยคือตอนที่เรานอนหลับ
00:38:21 → 00:38:25 อยู่แล้วเราโดนตะโกนว่าไฟไหม้นะครับแล้ว
00:38:25 → 00:38:29 เรายกตู้เซฟได้
00:38:29 → 00:38:33 ระบบระบบสู้หรือหนีแล้วทำงานเราจะรู้สึก
00:38:33 → 00:38:36 มีแรงรู้สึกเหงื่อแตกการเผาผลาญเราเพิ่ม
00:38:36 → 00:38:39 ขึ้นครับการดื่มน้ำแบบนี้คือกระตุ้นระบบ
00:38:39 → 00:38:40 นั้นครับ
00:38:40 → 00:38:43 การเผาผลาญถึงจะพุ่งขึ้น 30% โดยที่ยัง
00:38:43 → 00:38:48 ไม่ต้องไปวิ่งเลย
00:38:48 → 00:38:51 อันนี้สูตรอันนี้สูตรน่าสนใจ 2.2 กิโลนี้
00:38:51 → 00:38:55 ใช้ได้เลยนะถ้าใครที่แบบว่าฉันจะลด 2
00:38:55 → 00:38:58 กิโล 3 กิโลอะไรอย่างเงี้ยคุณไม่ต้องทำ
00:38:58 → 00:39:01 อะไรเพิ่มเลยคุณได้ได้แต้มต่อไปแล้ว 2.2
00:39:01 → 00:39:04 กิโลด้วยกันดื่มน้ำ 240 มิลลิลิตรนะครับ
00:39:04 → 00:39:07 ก่อนมื้ออาหาร 30 นาที
00:39:07 → 00:39:12 เยี่ยมโอเค
00:39:12 → 00:39:15 ก่อนถึงมื้ออาหาร 5 นาทีเนี่ย
00:39:15 → 00:39:19 ให้ทานผลไม้ที่คุณชอบเข้าไปก่อนอย่างน้อย
00:39:19 → 00:39:47 ๆ 5 ชิ้นครับ
00:39:47 → 00:39:50 อย่างน้อย 5 ชิ้นแปลว่ามากกว่านั้นได้
00:39:50 → 00:39:55 ครับ
00:39:55 → 00:39:56 มีความ
00:39:56 → 00:40:00 มากกว่านั้นได้หรือจนกว่าจะพอใจก็ได้ครับ
00:40:00 → 00:40:03 แต่ไม่เอาแบบอิ่มแต่ไม่เอาแบบอิ่มแล้ว
00:40:03 → 00:40:06 แล้วยัดลงไปแบบฝึกกระเพาะให้เป็นนักกิน
00:40:06 → 00:40:10 ไหนไม่เอาแบบนั้นครับ
00:40:10 → 00:40:14 ทานให้รู้สึกว่าพึงพอใจประมาณสัก 5 ชิ้น
00:40:14 → 00:40:18 ขึ้นไปเนี่ยได้เลยทุเรียนอาจจะแบบ 2 เม็ด
00:40:18 → 00:40:22 3 เม็ดได้แล้วแต่ 4 เม็ดได้ครับมะม่วง
00:40:22 → 00:40:27 ลูกได้ได้ครับก็เทคนิคนี้นะครับทำไมถึง
00:40:27 → 00:40:30 ถึงช่วยได้
00:40:30 → 00:40:35 นึกภาพตามหมอทุกคนหิวโทรมาหมอเสกให้ทุกคน
00:40:35 → 00:40:38 หิวโซมาเหมือนเดิมนะครับเดินมาเข้าร้าน
00:40:38 → 00:40:40 อาหารหมอแบงค์นะครับเข้าร้านอาหารหมอ
00:40:40 → 00:40:41 แบงค์
00:40:41 → 00:40:44 แล้วสั่งอาหารเนี่ย 10 อย่างปรากฏว่า
00:40:44 → 00:40:47 พนักงานเนี่ยมาเสิร์ฟคุณแค่ 3 อย่างครับ
00:40:47 → 00:40:49 แต่อีก 7 อย่างเนี่ยทิ้งช่วงไว้ 15 นาที
00:40:49 → 00:40:55 ขาดตอนแล้วค่อยมาส่งคุณรู้สึกยังไงครับ
00:40:55 → 00:40:58 ผมรู้สึกว่าเป็นไปได้ว่าเราจะเริ่มรู้สึก
00:40:58 → 00:41:01 อยากไอ 7 อันที่เหลือน้อยลงเมื่อเทียบกับ
00:41:01 → 00:41:04 ตอนที่ 3 ถ้าใครคิดคล้ายๆกันพิมพ์ +1 ให้
00:41:04 → 00:41:08 หน่อยแล้วกันว่าตอนๆหิวหน้ามืดจะสั่งหนัก
00:41:08 → 00:41:10 ๆเลยเพราะคิดว่าจะกินให้หมดแต่ว่ากินไป
00:41:10 → 00:41:12 ได้สัก 3 อันที่มันมาเสริมก่อนน่ะอันหลัง
00:41:12 → 00:41:15 ๆจะรู้สึกไม่มาก็เอากลับบ้านแล้วกันหรือ
00:41:15 → 00:41:16 ไม่ก็ยกเลิกอะไรอย่างนี้ผมว่าเป็นไปได้
00:41:16 → 00:41:19 สูงนะอันนี้ส่วนตัวผมนะแต่ถ้าเกิดเห็น
00:41:19 → 00:41:20 ด้วยก็พิมพ์บวกหนึ่งแล้วกัน
00:41:20 → 00:41:24 เวลาอาหารขาดตอนครับทุกคนเราจะรู้สึกว่า
00:41:24 → 00:41:27 พอมันมาล็อตหลังเนี่ยเราจะกินไม่ได้
00:41:27 → 00:41:29 เหมือนเดิมแหละความอร่อยมันจะไม่เหมือน
00:41:29 → 00:41:30 เดิมแหละ
00:41:30 → 00:41:33 แต่เปลี่ยนใหม่ถ้าเขามาทีเดียว 10 อย่าง
00:41:33 → 00:41:34 ครับ
00:41:34 → 00:41:37 คุณว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะกินหมดทั้ง
00:41:37 → 00:41:38 ครอบครัวไหม
00:41:39 → 00:41:40 เป็นไปได้นะ
00:41:40 → 00:41:45 นึกถึงเวลาที่อ่ะเวลาเราไปสุกี้ก็ได้มา
00:41:45 → 00:41:49 พร้อมๆกันเทใส่พร้อมกันตัดอยากรวดเร็ว
00:41:49 → 00:41:53 แล้วเดาเอานะผมไม่รู้ว่าว่าจริงๆแล้ว
00:41:53 → 00:41:55 เดี๋ยวหมอแบงค์จะๆเฉลยว่ายังไงแต่ผมรู้
00:41:55 → 00:41:58 สึกว่าเราจะอิ่มเกินน่ะเพราะว่าตอนนั้น
00:41:58 → 00:42:00 เราหิวจัดๆ
00:42:00 → 00:42:02 ซึ่งอันนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับว่าทำไมเรา
00:42:02 → 00:42:08 ต้องกินผลไม้ลวกหน้าก่อนครับ
00:42:09 → 00:42:12 ใช่เลยครับเทคนิคการกินผลไม้เข้าไปก่อน
00:42:12 → 00:42:16 มื้ออาหาร 5-10 นาทีเนี่ยมันจะไปทำให้
00:42:16 → 00:42:20 ระยะห่างระหว่างมื้อหลักกับผลไม้มันมัน
00:42:20 → 00:42:23 แยกออกจากกันเหมือนมันขาดตอน
00:42:23 → 00:42:27 โอเคเวลาที่คุณไปกินมื้อหลักจริงๆแล้ว
00:42:27 → 00:42:31 เนี่ยคุณจะกินแคลอรี่ไม่เกินที่ร่างกาย
00:42:31 → 00:42:34 ต้องการครับ
00:42:34 → 00:42:37 เราจะไม่ได้กินเพราะความหิวโหยแล้วเราจะ
00:42:37 → 00:42:40 กินเพื่ออยู่กินเพื่ออิ่ม
00:42:40 → 00:42:43 ซึ่งโดยใช้คือเคล็ดลับมันก็คือเหมือนกับ
00:42:43 → 00:42:50 ใช้ผลไม้สีเขียวเพื่อทำให้เราเริ่มรู้สึก
00:42:50 → 00:42:53 อิ่มไวขึ้นเวลาเราไปกินมื้อหนักๆมันจะได้
00:42:53 → 00:43:01 ไม่ Take Carry เยอะเกินไปเนาะ
00:43:01 → 00:43:34 งานวิจัยเขาบอกว่าแบ่งคนเป็น 2 กลุ่มนะ
00:43:34 → 00:43:37 10 กว่าวัน 7,700 แคลเมื่อไหร่ที่เราเคย
00:43:37 → 00:43:39 ได้ยินกันว่า 7,700 แคล้วคุณก็ลงได้โหลด
00:43:39 → 00:43:45 ถึงเนาะงั้นก็เดือนนึงก็เดือนนึง
00:43:45 → 00:43:51 ครับโดยยังไม่ได้ห้ามคุณเลยนะ
00:43:51 → 00:43:54 พวกเราพิมพ์คำว่ามีความหวังให้หน่อยได้
00:43:54 → 00:44:06 ไหม
00:44:06 → 00:44:09 คือผมสารภาพเรื่องนึงอันนี้ผมขออนุญาต
00:44:09 → 00:44:13 ชื่นชมน้องน้องคุณหมอแบงค์นิดนึงอ่าขึ้น
00:44:13 → 00:44:16 มาแบงค์อ่ะเขาเขาเวลาเขาเขียนหนังสือแล้ว
00:44:16 → 00:44:18 ตอนนั้นผมสัมภาษณ์เขาว่าเออทำไมถึงอยาก
00:44:18 → 00:44:20 เขียนเล่มนี้อะไรอย่างงี้เขาบอกว่าเนี่ย
00:44:20 → 00:44:23 เขาก็ไม่ตั้งใจจะไม่กั๊กอะไรเลยเขาบอกว่า
00:44:23 → 00:44:26 เขาอยากจะเอาที่มีทั้งหมดอ่ะที่เขารู้ว่า
00:44:26 → 00:44:28 ใส่เข้าไปแล้วเขาใช้เวลาในการแก้หนังสือ
00:44:28 → 00:44:30 เล่มนี้นานมากเนาะตอนที่เขาสัมภาษณ์เนี่ย
00:44:30 → 00:44:32 เราก็บอกว่าอยากให้เป็นหนังสือที่ดีที่
00:44:32 → 00:44:34 สุดที่ช่วยให้แบบเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน
00:44:34 → 00:44:36 น่ะผมคิดว่าผมอ่านเสร็จผมรู้สึกอย่างนั้น
00:44:36 → 00:44:38 จริงๆนะอันนี้อันนี้ไม่ได้อวยน้องเขานะ
00:44:39 → 00:44:42 ครับแต่ว่าเราสัมผัสได้ว่าเออเขาเขาคิด
00:44:42 → 00:44:44 ว่าเออเขาอยากทำอย่างนี้แล้วเขารู้สึกว่า
00:44:44 → 00:44:47 เขาพูดถึงแม่เขาด้วยถ้าคุณไปอ่านเนาะคือ
00:44:47 → 00:44:50 เขาจะรู้สึกว่าแบบเนี่ยเขาอยากให้คนได้
00:44:50 → 00:44:53 อะไรดีๆอ่ะแล้วแบบว่าได้อยู่กับคนที่รัก
00:44:53 → 00:44:54 ไว้นานๆอะไรอย่างเงี้ยเค้านึกถึงว่าเขาจะ
00:44:54 → 00:44:57 เขียนให้แม่จะเขียนให้ญาติพี่น้องอะไร
00:44:57 → 00:45:00 เงี้ยอ่าเราได้สิ่งที่ดีไปแล้วเขายังพูด
00:45:00 → 00:45:02 เลยว่าเขามั่นใจเลยว่าเนี่ยส่วนตัวเขาเขา
00:45:02 → 00:45:04 รู้สึกว่า 2,000 บาทเค้ายังซื้อเลยหมาย
00:45:04 → 00:45:05 ถึงว่าถ้าเขาเป็นนักอ่านนะเพราะเขารู้สึก
00:45:05 → 00:45:07 ว่าสิ่งที่อยู่ในนี้มันเกินนั้นน่ะผม
00:45:07 → 00:45:10 เชื่อจริงๆนะฮะเอาแค่ไอ้สองข้อเมื่อกี้ก็
00:45:10 → 00:45:13 คุ้มแล้วไงใช่มั้ยเอออ่ะเป็นคนพิมพ์มี
00:45:13 → 00:45:15 ความหวังเพียบเลยโอเคจะพอก็คราวนี้แหละ
00:45:15 → 00:45:16 [เสียงหัวเราะ]
00:45:16 → 00:45:19 มีคำถามมีคำถามมีคำถามที่ผมว่า
00:45:20 → 00:45:24 เราคือผมเห็นด้วยนะว่าเวลาเราสงสัยให้เรา
00:45:24 → 00:45:26 ถามครับเพราะว่าบางทีผู้เชี่ยวชาญน่ะใน
00:45:26 → 00:45:29 หนังสืออ่ะบางทีตอนที่เราอ่านแล้วเรา
00:45:29 → 00:45:32 สงสัยบางทีเราเราถามเขาตรงๆไม่ได้แต่ตอน
00:45:32 → 00:45:33 นี้เขาอยู่ตรงนี้แล้วเนาะเพราะฉะนั้น
00:45:33 → 00:45:37 สงสัยถามเลยนะครับอ่าอย่างนี้พี่โกเขาถาม
00:45:37 → 00:45:39 ว่าถ้าคุณเป็นเบาหวานเนี่ยทานผลไม้ได้
00:45:39 → 00:45:41 ปกติหรือควรจำกัดผมว่าอันนี้ต้องให้คำแนะ
00:45:41 → 00:45:42 นำเนาะ
00:45:42 → 00:45:46 ดีมากๆแล้วก็ขอบคุณสำหรับคำถามนะครับดี
00:45:46 → 00:45:50 มากๆเลยสมัยก่อนนะเชื่อไหมเอ่อพี่แป๊ะพอ
00:45:50 → 00:45:54 มีเวลาสัก 2 นาทีนะฮะเนี่ยให้ผม
00:45:54 → 00:45:57 สมัยก่อนหมอแบงค์เนี่ยก็เรียนตามหลักสูตร
00:45:57 → 00:46:01 ปกติมาเนาะแล้วพอเจอคนไข้เบาหวานเนี่ยเรา
00:46:01 → 00:46:04 ก็แนะนำปกติอยากกินข้าวเยอะอยากกินผลไม้
00:46:04 → 00:46:06 เยอะอยากกินน้ำตาลเยอะเพราะว่าทุกอย่าง
00:46:06 → 00:46:09 มันเปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลแล้วพอเจาะเลือด
00:46:09 → 00:46:11 ที่โรงพยาบาลน้ำตาลมันขึ้นหมอก็เลยจะเป็น
00:46:11 → 00:46:14 จะต้องเอายาให้เพื่อเป็นรดน้ำตาลมันจะ
00:46:14 → 00:46:18 เป็นวัฏจักรแบบนี้แต่พอมาสายเนี่ยครับเรา
00:46:18 → 00:46:21 ต้องมีมุมมองใหม่กับโลกเบาหวานและวิธีคิด
00:46:21 → 00:46:24 ของโรคเบาหวานหมอแบงค์ในใน 10 ปีก่อนอ่ะ
00:46:24 → 00:46:27 จะไม่ใช่หมอแบงค์ในวันนี้งั้นวันนี้หมอ
00:46:27 → 00:46:29 อัพเดทซอฟแวร์ให้ทุกคนไปเลยนะครับ
00:46:29 → 00:46:33 วิธีคิดเรื่องเบาหวานแบบไหนอย่างที่เรา
00:46:33 → 00:46:36 คุยกันต้นไม้ครับโรคเบาหวานไม่ใช่โรคของ
00:46:36 → 00:46:40 น้ำตาลขึ้นแต่เป็นโรคของน้ำตาลไม่ลง
00:46:40 → 00:46:43 แล้วอะไรล่ะทำให้น้ำตาลเราเนี่ยมันไม่ลง
00:46:43 → 00:46:46 มันมีบางอย่างครับไปอุดในเซลล์ของเราอยู่
00:46:46 → 00:46:49 ไปอุดอย่างนี้เซลล์ของเราเลยไม่กล้ากิน
00:46:49 → 00:46:52 น้ำตาลครับมันเลยหลงเหลือในเลือดเยอะเวลา
00:46:52 → 00:46:54 เจาะมาก็เลย 150-200
00:46:54 → 00:46:57 แต่เซลล์ของพี่แป๊ะปกติกินข้าวเข้าไป
00:46:57 → 00:47:00 เซลล์มันกินครับน้ำตาลก็เลยลดต่ำกว่าร้อย
00:47:00 → 00:47:04 ปกติครับปัญหาตัวนี้ที่มันไปอุดเซลล์เรา
00:47:04 → 00:47:13 ครับฟังดีๆนะคืออาหารสีแดงครับ
00:47:13 → 00:47:15 ถ้าคุณมีอาหารสีแดง
00:47:15 → 00:47:19 ยังไงน้ำตาลจะพุ่งครับถ้าคุณกินข้าวแล้ว
00:47:19 → 00:47:22 ผลไม้น้ำตาลจะพุ่งแล้วเอาไม่ลงครับแต่ถ้า
00:47:22 → 00:47:26 วันนี้หอยอาหารสีแดงออกแล้วลองกินแต่สี
00:47:26 → 00:47:28 เขียวลองพิสูจน์ให้หมอดู
00:47:28 → 00:47:31 ผลไม้หวานๆกินเข้าไปครับกินเข้าไปเลยกิน
00:47:31 → 00:47:32 กับข้าวแบบนี้
00:47:32 → 00:47:36 ปรากฏว่าน้ำตาลกับรถด้วยครับเพราะอาหารสี
00:47:36 → 00:47:41 แดงมันไม่ไปอุดในเซลล์แล้วครับ
00:47:41 → 00:47:43 อาจารย์ของหมอแบงค์เนี่ย
00:47:43 → 00:47:47 ก็เลยใช้สูตรที่เรียกว่ากินข้าวกับแตงโม
00:47:47 → 00:47:50 กินข้าวกับมะม่วงเคยเห็นปู่ย่าตายายเรา
00:47:50 → 00:47:52 กินไหม
00:47:52 → 00:47:56 มันมีแบบกินกับแตงโมแล้วก็เติมน้ำตาลลงไป
00:47:56 → 00:47:58 ด้วยน้ำตาลอะไรสักอย่างด้วยมื้อเที่ยงที่
00:47:58 → 00:48:02 ผ่านมานี่เองเออๆๆๆนึกออกแล้วเออ
00:48:02 → 00:48:05 ข้าวแตงโมข้าวมะม่วงเนี่ยเป็นสูตรปู่ย่า
00:48:05 → 00:48:08 ตายายเราซึ่งปู่ย่าตายายเราที่กินสูตรนี้
00:48:08 → 00:48:11 ครับไม่มีใครเป็นเบาหวานนะแล้วทุกคนก็ตัว
00:48:11 → 00:48:13 ผอมและอายุยืนกันหมดครับ
00:48:14 → 00:48:17 นี่แหละนะครับเพราะฉะนั้นลองดูครับกิน
00:48:17 → 00:48:20 ข้าวกินผลไม้ที่เป็นอาหารต้นทางและหลีก
00:48:20 → 00:48:22 เลี่ยงอาหารแดงครับจะรักษาโรคเบาหวานที่
00:48:22 → 00:48:29 ต้นเหตุครับ
00:48:29 → 00:48:32 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ลองลองศึกษาเพิ่มก็ลอง
00:48:32 → 00:48:35 อ่านอันนี้เพิ่มก็ได้แล้วก็ติดตามคุณแบบ
00:48:35 → 00:48:37 คุณหมอแบงค์ได้เนาะอาทิตย์นี้จริงๆที่ผม
00:48:37 → 00:48:40 ชอบอีกอย่างนึงในเล่มนี้นะต้องบอกงี้เรา
00:48:40 → 00:48:43 เองอ่ะเราก็เวลาเราอ่านเราก็จะชอบสรุป
00:48:43 → 00:48:44 อยู่แล้วนึกออกไหมเพราะเราก็ทำเพจสรุปให้
00:48:44 → 00:48:47 ใช่ไหมเราก็จะต้องสรุปของเราเองแต่ขอโทษ
00:48:47 → 00:48:51 นะครับเล่มนี้ครับเขารู้ว่าจะมีคนสรุปเขา
00:48:51 → 00:48:54 สรุปให้เลยครับนี่ซิมทรูสรุป 12 คันต่อ
00:48:54 → 00:48:56 สู้กับการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนนะครับอัน
00:48:56 → 00:49:01 นี้คือเขาสรุปให้เลยสุดยอดไปเลยนะแต่ที
00:49:01 → 00:49:03 นี้ผมคิดว่าถ้าเราจะเอาแบบคร่าวๆเนอะ 12
00:49:03 → 00:49:05 ขั้นตอนผมไม่แน่ใจว่าทุกคนจะจำได้หรือ
00:49:05 → 00:49:08 เปล่าเพราะว่ามันค่อนข้างเยอะนะถ้าสนใจก็
00:49:08 → 00:49:10 ไปลองดูในหนังสือเลยดีกว่าแต่ว่าถ้าจะให้
00:49:10 → 00:49:14 คุณหมอแบงค์แบบสรุปแบบง่ายๆที่อ่ะคนเอาไป
00:49:14 → 00:49:16 ใช้ได้อะไรเงี้ยคุณหมอแบงค์จะสรุปว่ายัง
00:49:16 → 00:49:18 ไงดีว่าถ้าเราอยากลดน้ำหนักเราจะต้อง
00:49:18 → 00:49:20 เริ่มจากอะไรอ่ะเชิญคุณหมอครับทุกคนจดตาม
00:49:20 → 00:49:23 ครับทำสูตรนี้ยังไงก็สุขภาพดีแล้วก็ผอมนะ
00:49:23 → 00:49:27 ครับถ้าคุณเป็นคนกินข้าว 3 มื้อนะครับให้
00:49:27 → 00:49:32 รวบมื้อกินอยู่ในมื้อครับเช้ากลางวันแล้ว
00:49:32 → 00:49:35 ก็เย็นครับนอกมือไม่กินจุกจิกครับข้อแรก
00:49:35 → 00:49:38 ก่อนนะครับไม่ว่าจะกินอะไรอยู่นะขอให้กิน
00:49:38 → 00:49:41 ในมื้อนอกมื้อไม่กินง่ายไหม
00:49:42 → 00:49:44 ง่ายนะครับถ้าคุณเป็นคนกิน 2 มื้ออยู่
00:49:44 → 00:49:48 แล้วครับก็ให้กิน 2 มื้อนะครับเป็นแบบ
00:49:48 → 00:49:51 นั้นไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนอะไรครับแต่ถ้า
00:49:51 → 00:49:54 ทำสูตรนี้เหมาะกับ 10 ไว้นิดนึงถ้าทำสูตร
00:49:54 → 00:49:57 หมอแบงค์เนี่ยอาหารต้นทางเดิมทีกิน 3
00:49:57 → 00:49:59 มื้ออยู่แล้วเนี่ยแล้วรู้สึกว่ามื้อที่ 2
00:49:59 → 00:50:02 มันอิ่มอ่ะหมอแบงค์มันยังไม่อยากกินเลย
00:50:02 → 00:50:06 อ่ะเราข้ามมื้อเลยได้ไหมทำได้เลยครับแต่
00:50:06 → 00:50:12 ว่ามันอิ่มถึงสมองครับ
00:50:12 → 00:50:15 เหลือ 2 มื้อได้ครับสำหรับคนที่กิน 3
00:50:15 → 00:50:19 มื้ออยู่แล้วแล้วมันอิ่มข้อแรกนะข้อที่ 2
00:50:19 → 00:50:19 ครับ
00:50:19 → 00:50:24 ให้ทุกคนเนี่ยดื่มน้ำให้ถึงครับวันนึง 2
00:50:24 → 00:50:27 ลิตรขึ้นไปสำหรับคุณผู้หญิงเนาะคุณผู้ชาย
00:50:27 → 00:50:31 3 ลิตรขึ้นไปครับน้ำดื่มสำคัญสุดๆครับ
00:50:31 → 00:50:35 ถ้าน้ำไม่ถึงเราจะมีโอกาสหิวตาบะแตกได้
00:50:35 → 00:50:37 เราจะอยากกินนู่นกินนี่ครับเพราะฉะนั้น
00:50:37 → 00:50:39 น้ำดื่มต้องดื่ม
00:50:39 → 00:50:42 ข้อที่ 3 ครับ
00:50:42 → 00:50:45 ให้ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารเมื่อกี้ 30 นาที
00:50:45 → 00:50:52 1-2 แก้วครับโอเค
00:50:52 → 00:50:56 ครับข้อที่ 4 ครับให้ทานผลไม้ก่อนมื้อ
00:50:56 → 00:51:02 อาหาร 5-10 นาทีอย่างน้อยๆ 5 ชิ้นครับ
00:51:02 → 00:51:05 ข้อสุดท้ายที่จะให้วันนี้นะครับก็คือใน
00:51:05 → 00:51:09 มืออาหารถ้าเลือกอาหารต้นทางได้ก่อนก็ทาน
00:51:09 → 00:51:12 เมนูที่เป็นอาหารต้นทางก่อนครับก็จะ
00:51:12 → 00:51:15 สุขภาพดีอย่างเช่นไปร้านส้มตำเลือกส้มตำ
00:51:15 → 00:51:19 ก่อนเลือกข้าวเหนียวก่อนซุปหน่อไม้ลาบ
00:51:19 → 00:51:21 เห็ด
00:51:21 → 00:51:24 แล้วถ้ากระเพาะยังเหลือเราค่อยไปกินไก่
00:51:24 → 00:51:28 ทอดลาบไก่ทอดแล้วแต่
00:51:28 → 00:51:32 พวกนั้นจะเป็นหมวดอาหารแดงแคลอรี่สูงไม่
00:51:32 → 00:51:35 ได้ห้ามแต่ถ้าอิ่มแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้อง
00:51:35 → 00:51:38 ไปกินอาหารแดงแล้วครับเราทำความดีไปละยัง
00:51:38 → 00:51:40 ไงเราก็ขึ้นสวรรค์นะครับ
00:51:40 → 00:51:45 [เพลง]
00:51:45 → 00:51:49 ว่าเราจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเราทำบุญไว้
00:51:49 → 00:51:55 แล้ว
00:51:55 → 00:51:58 ล้างได้
00:51:58 → 00:52:02 เดี๋ยวลองทวนนะตอนนี้พิมพ์ไว้แล้วกินกิน
00:52:02 → 00:52:05 ถ้ากิน 3 มื้อก็จะให้กินในมื้อเท่านั้น
00:52:05 → 00:52:08 นอกมื้อพยายามไม่ทานนะครับถ้ากิน 2 มื้อ
00:52:08 → 00:52:10 อยู่ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นพิเศษ
00:52:10 → 00:52:13 แต่ว่าถ้าเกิดคุณกิน 2 มื้อแล้วคุณอิ่ม
00:52:13 → 00:52:16 คุณมีสิทธิ์ข้ามมื้อได้เผื่อคุณจะกินก็
00:52:16 → 00:52:19 ต่อเมื่อคุณหิวเนาะอ่าดื่มน้ำให้พอสภาพ
00:52:19 → 00:52:22 สตรีก็ 2 ลิตรขึ้นไปสุภาพบุรุษอาจจะ 3
00:52:22 → 00:52:24 ลิตรขึ้นไปนะครับคำแนะนำของหมออีกอันนึง
00:52:24 → 00:52:27 เมื่อกี้ที่เราคุยกันก็คือว่าคุณอาจจะลด
00:52:27 → 00:52:29 ได้ 2.2 กมภายใน 3 เดือนถ้าเกิดคุณดื่ม
00:52:29 → 00:52:33 น้ำปริมาณที่มากพอ 240 มิลลิลิตรก็อาจจะ
00:52:33 → 00:52:35 เท่ากับอ่าน้ำดื่มประมาณสักเท่านี้แหละ
00:52:35 → 00:52:38 เนาะ 1 ขวดอ่ะก่อนมื้อ 30 นาทีแล้วก็พอ
00:52:38 → 00:52:42 ใกล้ๆมือให้คุณทานผลไม้ที่คุณชอบ 5 ชิ้น
00:52:42 → 00:52:45 เป็นอย่างน้อยคีย์เวิร์ดคือเป็นอย่างน้อย
00:52:45 → 00:52:47 นะครับมันจะช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นเมื่อ
00:52:47 → 00:52:49 ถึงมือหลักของคุณเนาะอ่าแล้วก็อันสุดท้าย
00:52:49 → 00:52:52 ก็เวลาเริ่มทานมื้อหลักก็เรียงเขียว
00:52:52 → 00:52:55 เหลืองแดงนะจะมีแดงบ้างนิดหน่อยไม่เป็นไร
00:52:55 → 00:52:57 แต่อย่าลืมเอาเขียวกับเอาเหลืองใหญ่เขาไป
00:52:57 → 00:53:01 ก่อนทำได้เท่านี้น้ำหนักมาจุดในที่จุดที่
00:53:01 → 00:53:06 ดีแน่นอน
00:53:06 → 00:53:09 มีคำถามมีคำถามนะครับอันนี้ผมสรุปไว้ให้
00:53:09 → 00:53:12 แล้วนะครับนะลองเอาไปลองใช้กันดูเดี๋ยวผม
00:53:12 → 00:53:16 จะลองด้วยนะทีนี้คำถามครับผมถ้าอายุ 40
00:53:16 → 00:53:19 บวกกันลดน้ำหนักยากขึ้นมากจนท้อใจค่ะแต่
00:53:19 → 00:53:22 จะลองกลับมาลดตามหนังสืออ่ะสำหรับคนอายุ
00:53:22 → 00:53:25 40 มีคำแนะนำเป็นพิเศษไหมเอออันนี้น่าสน
00:53:25 → 00:53:26 ใจขอฟังด้วย
00:53:26 → 00:53:30 [เสียงหัวเราะ]
00:53:30 → 00:53:35 ครับหลายคนจะมีความเชื่อว่าอายุเยอะขึ้น
00:53:35 → 00:53:37 จะลดน้ำหนักยากขึ้นหมอไม่อยากให้มีความ
00:53:37 → 00:53:39 เชื่อนี้ครับนักเรียนของหมอแบงค์เนี่ย
00:53:39 → 00:53:43 อายุ 80 ปีครับ
00:53:43 → 00:53:52 แต่ความตั้งใจเขาไม่เคยลดครับ
00:53:52 → 00:53:57 6 เดือนกลับมามีน้ำหนักปกติครับหมอกำลัง
00:53:57 → 00:54:00 จะบอกว่าแม้อายุเยอะขึ้นครับถ้าเรากลับมา
00:54:00 → 00:54:03 สู่วิถีธรรมชาติยังไงก็ลดน้ำหนักได้ปกติ
00:54:03 → 00:54:07 แน่นอนครับไม่เกี่ยวกับอายุเลย
00:54:07 → 00:54:09 [เพลง]
00:54:09 → 00:54:12 ขอบคุณมากทีนี้
00:54:12 → 00:54:15 เรื่องนึงที่อยากจะต้องระวังคือน้ำตาลที่
00:54:15 → 00:54:18 อยู่ในอาหารตามธรรมชาติ
00:54:18 → 00:54:21 หมอจะพูดด้วยคำนึงแหละว่าสารอาหารกับ
00:54:21 → 00:54:23 อาหารมันไม่เหมือนกันเดี๋ยวผมกำลังนึกถึง
00:54:23 → 00:54:25 ว่าอุ๊ยของขวัญกินได้ถ้าอย่างนี้น้ำตาลก็
00:54:25 → 00:54:27 กินได้สีอะไรอย่างนี้อันนี้ให้หมอหมอแถลง
00:54:27 → 00:54:29 ไข่นิดนึงเดี๋ยวคนเขาใช้ผิดว่าอะไรมันคือ
00:54:30 → 00:54:31 ยังไงเนาะ
00:54:31 → 00:54:34 ดีมากๆดีมากๆนะครับ
00:54:34 → 00:54:38 วันนี้นะโลกข้างนอกอ่ะครับเขาจะเหมารวม
00:54:38 → 00:54:41 กล้วยว่าเป็นน้ำตาล
00:54:41 → 00:54:44 กล้วยกินเข้ามาแล้วเป็นน้ำตาลนะอย่ากิน
00:54:44 → 00:54:47 เยอะหรือว่ามะละกอมะม่วงเนี่ยอย่ากินเยอะ
00:54:47 → 00:54:50 กินเข้ามาแล้วเป็นน้ำตาลแต่วันนี้ให้เรา
00:54:50 → 00:54:53 แยกกันครับเวลามองอาหารแบบใหม่ให้เราดูไป
00:54:53 → 00:54:57 เลยว่าสีเขียวหรือหรือสีเหลืองหรือสีแดง
00:54:57 → 00:55:00 ให้เปลี่ยนกรอบความคิดนี้ใหม่เอาเรื่อง
00:55:00 → 00:55:02 พวกนี้ออกนะครับ
00:55:02 → 00:55:05 ถามว่ากล้วยมันย่อยออกมาก็เป็นน้ำตาลหรือ
00:55:05 → 00:55:07 เปล่าหมอคำตอบคือใช่ครับแต่
00:55:07 → 00:55:11 น้ำตาลทรายกับกล้วยเนี่ยมันต่างกันอย่าง
00:55:11 → 00:55:14 สิ้นเชิงเลยครับน้ำตาลทรายเนี่ยมันถูกแปร
00:55:14 → 00:55:18 รูปมาแล้วเวลาเราได้รับไปเนี่ยปุ๊บมันจะ
00:55:18 → 00:55:20 เข้าสู่กระแสเลือดอย่างเร็วครับแล้ว
00:55:20 → 00:55:23 กระตุ้นระบบฮอร์โมนเราให้ผิดแปลกไปแต่
00:55:23 → 00:55:25 กล้วยครับเวลาที่เขาเข้าร่างกายมาเนี่ย
00:55:25 → 00:55:29 เขาไม่ใช่เป็นอยู่ในรูปของน้ำตาลทรายครับ
00:55:29 → 00:55:32 เขาจะอยู่ในรูปแพ็กเกจของอาหาร
00:55:32 → 00:55:35 แพ็กเกจของอาหารเนี่ยมันเยอะมากนะครับมี
00:55:36 → 00:55:39 ทั้งโปรตีนคาร์โบไฮเดรตไขมันวิตามินเกลือ
00:55:39 → 00:55:42 แร่ไฟเบอร์สารต้านอนุมูลอิสระสารต้าน
00:55:42 → 00:55:44 มะเร็งล้วนแล้วแต่อยู่ในแพ็กเกจกล้วย
00:55:44 → 00:55:47 เพราะมันเข้าไปในร่างกายครับร่างกายเราจะ
00:55:47 → 00:55:49 ต้องค่อยๆปอกเปลือกออกจะต้องค่อยๆแกะ
00:55:49 → 00:55:53 กล่องกล้วยนี้ออกค่อยๆเอาออกร่างกายเราจะ
00:55:53 → 00:55:55 ค่อยๆดูดซึมคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันออก
00:55:55 → 00:55:59 น้ำตาลจะไม่ได้พุ่งแบบกินน้ำตาลทรายเพราะ
00:55:59 → 00:56:02 ฉะนั้นแยกออกจากกันครับ
00:56:02 → 00:56:05 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงน้ำตาลในผลไม้ลูก
00:56:05 → 00:56:08 ๆกับน้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อมคนละเรื่อง
00:56:08 → 00:56:09 ครับ
00:56:09 → 00:56:13 วันนี้วันนี้เรื่องนึงที่ผมคิดว่าผมผมได้
00:56:13 → 00:56:15 เลยนะอันนี้ขออนุญาตแชร์ก็ขอบคุณคุณหมอ
00:56:15 → 00:56:19 ล่วงหน้าเลยผมรู้สึกว่าการการควบคุมน้ำ
00:56:19 → 00:56:21 หนักน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับผม
00:56:21 → 00:56:24 นะอย่างยกตัวอย่างอาชีพเราเนี่ยเป็น
00:56:24 → 00:56:27 วิทยากรคุณหมอเขาก็จะมาเสิร์ฟขนมน้ำตาล
00:56:27 → 00:56:31 ของหวานอะไรอย่างนี้ผมแค่เปลี่ยนเป็น
00:56:31 → 00:56:33 กลุ่มนี้ 2 ช้อยคือผมไม่กินเลยซึ่งผมก็จะ
00:56:33 → 00:56:35 โหยมากเพราะว่าผมยืนบรรยายใช่ไหมผมก็แค่
00:56:35 → 00:56:37 เปลี่ยนมันว่าก่อนที่ผมจะทานมื้อใหญ่ตอน
00:56:37 → 00:56:39 เที่ยงซึ่งส่วนใหญ่เขาก็จะดูแลเราเนาะใน
00:56:39 → 00:56:43 ฐานะวิทยากรเนี่ยผมก็แค่ขอผลไม้ตอนเบรก
00:56:43 → 00:56:47 อ่ะอ่ามาทานล่วงหน้าสัก 5 ชิ้นแตงโมอะไร
00:56:47 → 00:56:50 ก็ได้เนาะแล้วก็ผมก็ดื่มน้ำเยอะๆหน่อยอ่า
00:56:50 → 00:56:54 วิธีนี้ผมคิดว่าผมใช้ได้เลยแล้วก็ท่านไหน
00:56:54 → 00:56:57 ที่ชอบไปทานบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรมก่อนที่คุณ
00:56:57 → 00:57:00 จะเริ่มทานเอ่อถ้าคิวมันเยอะคุณก็ดื่มน้ำ
00:57:00 → 00:57:04 ก่อนเนาะล่วงหน้าก่อนลงมาทานพอมาปุ๊บคิว
00:57:04 → 00:57:07 ตักอาหารมันแน่นคุณก็ไปสอยผลไม้ก่อนเลย
00:57:07 → 00:57:11 แทนที่จะเอาไว้ท้ายแล้วพอคุณกินผลไม้จน
00:57:11 → 00:57:13 หนำใจแล้วคุณค่อยไปตากตอนที่คิวบนทรายเอา
00:57:13 → 00:57:16 ผมว่าอันนี้เวิร์คเดี๋ยวผมจะไปใช้แล้ว
00:57:16 → 00:57:18 เดี๋ยวผมจะเอาผลลัพธ์มาบอกหมอ
00:57:18 → 00:57:21 ยินดีมากๆครับ
00:57:21 → 00:57:25 ถ้าใครใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ก็ลองทำดูเนาะที
00:57:25 → 00:57:27 นี้ผมคิดว่าทุกคนแฮปปี้กับการที่คุณหมอมา
00:57:27 → 00:57:30 ตรงนี้แหละถ้าถ้าใครยังไม่ได้ติดตามหมอ
00:57:30 → 00:57:32 ยังไม่ได้กด Subscribe หมอไม่ได้ Follow
00:57:32 → 00:57:35 หมอเนี่ยไป Follow ได้ที่ไหนยังไงบ้างอ่ะ
00:57:35 → 00:57:39 ชี้แจงเลยก็ตอนนี้มีอยู่ใน Facebook นะ
00:57:39 → 00:57:42 ครับเพจหมอแบงค์ Food Doctor ครับมีทั้ง
00:57:42 → 00:57:45 ใน Facebook YouTube tiktok และ IG
00:57:45 → 00:57:47 ครับซึ่ง Content เนี่ยก็จะแตกต่างกันนะ
00:57:48 → 00:57:50 ครับแล้วตอนนี้หมอก็เปิดช่องใหม่ครับก็
00:57:50 → 00:57:53 เรียกว่าช่องครัว Food Doctor ครับจาก
00:57:53 → 00:57:56 สอนการทำอาหารไทยง่ายๆที่มีอยู่ในบ้านของ
00:57:56 → 00:57:59 ทุกคนอยู่แล้ว 1 นาทีครับเป็นคลิป 1 นาที
00:57:59 → 00:58:02 จะเริ่มเปิดช่องเนี้ยเดือนหน้าครับก็
00:58:02 → 00:58:05 สามารถติดตามกันได้ชื่อว่าช่องครัว Food
00:58:05 → 00:58:09 Doctor ครับโอเคอ่ะเยี่ยมเลยนะครับอ่ะที
00:58:09 → 00:58:10 นี้ฝากถึงหนังสือเล่มนี้หน่อยนิดนึงก็เออ
00:58:10 → 00:58:15 เล่มนี้มันเหมาะกับใครอ่าทำไมถึงควรจัดหา
00:58:15 → 00:58:18 มาเจอเลยครับเล่มนี้นะครับเหมาะสำหรับคน
00:58:18 → 00:58:21 ที่ลดน้ำหนักมาแล้วทั้งชีวิตนะครับแล้ว
00:58:21 → 00:58:23 อยากเลิกคิดเรื่องลดน้ำหนักไปเลยเล่มนี้
00:58:23 → 00:58:27 ตอบโจทย์คุณครับหรือคนที่ต้องการมีสุขภาพ
00:58:27 → 00:58:30 ดีอายุยืนไม่ได้ต้องการลดน้ำหนักเล่มนี้
00:58:30 → 00:58:34 ก็เหมาะครับหรือคนที่มีโรคประจำตัวอย่าง
00:58:34 → 00:58:38 เช่นเบาหวานความดันไขมันท้องผูกนอนไม่
00:58:38 → 00:58:41 หลับมีปัญหากับการกินเล่มนี้ก็ตอบโจทย์
00:58:41 → 00:58:44 เช่นกันครับหมอเรียกได้ว่าเป็นตัวจบ
00:58:44 → 00:58:47 ถ้าเปรียบเป็น iPhone ก็ iPhone รุ่นรุ่น
00:58:47 → 00:58:50 ท็อปเลยเล่มเดียวจบแล้วคุณจะไม่ต้องหาจาก
00:58:51 → 00:58:53 ที่อื่นอีกเลยยึดเป็นแก่นได้เลยทั้งชีวิต
00:58:53 → 00:58:54 นี้ครับ
00:58:54 → 00:58:59 โอเคก็จัดเถอะนะครับเพราะว่าผมก็อ่านแล้ว
00:58:59 → 00:59:02 นะผมก็ยืนยันว่ามันเข้าใจง่ายใช้ได้จริง
00:59:02 → 00:59:04 แค่ 2 เขตเราเมื่อสักครู่ที่เราได้ไปเนาะ
00:59:04 → 00:59:07 ดื่มน้ำแล้วก็ทานผลไม้ก็คุ้มแล้วอ่ะแต่ใน
00:59:07 → 00:59:10 นี้ยังมีอีกเยอะเลยนะครับราคาอ่ะหน้าปกนะ
00:59:10 → 00:59:13 ครับ 329 บาทแต่ว่าถ้าเกิดคุณไปซื้อใน
00:59:13 → 00:59:15 shopee Lazada ก็อาจจะมีส่วนลดให้คุณ
00:59:15 → 00:59:18 อีกนิดหน่อยนะตอนนี้ยังติดอันดับขายดี
00:59:18 → 00:59:21 อยู่เพราะฉะนั้นไปที่ร้านหนังสือไหนก็น่า
00:59:21 → 00:59:24 จะมีขายอยู่นะอ่าวันพรุ่งนี้ยังพอมีเวลา
00:59:24 → 00:59:27 ก็ไปจัดซื้อจัดหากันนะครับพร้อมทันที
00:59:27 → 00:59:31 สุขภาพดี 100% นะครับก็วันนี้ผมว่าครบ
00:59:31 → 00:59:33 ถ้วนสมบูรณ์หุ้นแล้วก็ได้ความรู้จริงๆที่
00:59:33 → 00:59:35 เอาไปใช้งานได้เลยโดยที่ไม่ต้องมีคำศัพท์
00:59:35 → 00:59:38 อะไรให้มันยุ่งยากเนาะคุณจำเหลืองเขียว
00:59:38 → 00:59:40 แดง Concept มันว่ายิ่งใกล้ธรรมชาติเท่า
00:59:40 → 00:59:42 ไหร่ก็คือสีเขียวห่างธรรมชาติมากเท่าไหร่
00:59:42 → 00:59:44 คือสีแดงเนื้อสัตว์เลี่ยงได้เลี่ยงก่อน
00:59:44 → 00:59:47 เนาะทานพวกผักอะไรไว้ก่อนจะดีนะครับก็ผม
00:59:47 → 00:59:49 ว่าวันนี้เป็นประโยชน์มากๆเนาะขอบคุณคุณ
00:59:49 → 00:59:52 หมอแบงค์มากนะครับพวกเราอ่ะขอบคุณกดไลค์
00:59:52 → 00:59:54 กดหัวใจให้คุณหมอแบงค์หน่อยแล้วก็เชื่อ
00:59:54 → 00:59:57 ว่าเดี๋ยวคุณหมอแบงค์จะผลิตเขาเรียกว่าผล
00:59:57 → 01:00:00 งานดีๆเนาะเราอาจจะได้เห็นหนังสือที่
01:00:00 → 01:00:02 เกี่ยวกับเรื่องการทำอาหารที่แบบว่าใครทำ
01:00:02 → 01:00:04 ก็ได้จากคอนเทนต์ครัว
01:00:04 → 01:00:07 อาหารต้นทางอีกทีนึงเหมือนกันเนาะ
01:00:07 → 01:00:10 ครับก็วันนี้ขอบคุณคุณหมอแบงค์มากนะครับ
01:00:10 → 01:00:13 ไว้พบกันในโอกาสถัดไปยังไงต้องเชิญมาแน่ๆ
01:00:13 → 01:00:15 เนาะเพราะว่าฟังแล้วสนุกแล้วก็ได้ความรู้
01:00:15 → 01:00:20 ด้วยแต่วันนี้ขอบคุณมากนะครับสวัสดีครับ
01:00:20 → 01:00:24 สวัสดีครับสวัสดีครับ
00:00:02 → 00:00:06 ผอมได้แล้วก็สุขภาพดีด้วยอยากรู้ว่าต้อง
00:00:06 → 00:00:09 ทำยังไงไม่ควรพลาดไลฟ์นี้ครับสวัสดีครับ
00:00:09 → 00:00:12 ทุกท่านครับภาพชัดเสียงชัดทักทายกันนิด
00:00:12 → 00:00:14 นึงนะครับวันนี้ตอนนี้น่าจะไลฟ์ขึ้นเรียบ
00:00:14 → 00:00:16 ร้อยแล้วนะครับวันนี้เรามาเรียนรู้กัน
00:00:16 → 00:00:19 เนาะเกี่ยวกับเรื่องของการทำสุขภาพให้ดี
00:00:19 → 00:00:23 แล้วก็ผอมด้วยคำนี้ชอบจังเลยนะครับวันนี้
00:00:23 → 00:00:24 เดี๋ยวเจ้าของหนังสือเขาจะมาเล่าให้ฟังนะ
00:00:24 → 00:00:28 อ่ะภาพชัดเสียงชัดช่วยทักทายกันนิดนึงนะ
00:00:28 → 00:00:31 ครับอันนี้รอดูอยู่นะว่าเป็นยังไงกันบ้าง
00:00:31 → 00:00:34 นะครับตอนนี้มีคนเข้ามากันแล้วบ้างเอ่ย
00:00:34 → 00:00:37 อ่ะลองดูกันหน่อยเนาะอ่าโอเคทยอยกันเข้า
00:00:37 → 00:00:39 มาแล้วนะครับดีเลย์นิดหน่อยนะสวัสดีนะ
00:00:39 → 00:00:41 ครับคอนเฟิร์มกันนิดนึงนะครับภาพชัดเสียง
00:00:41 → 00:00:45 ชัดช่วยพิมพ์ร่ำรวยพิมพ์อยากผอมจ้าก็ได้
00:00:45 → 00:00:48 อ่ะวันนี้หัวข้อมันคือผอมใช่ไหม
00:00:48 → 00:00:51 อ่ะมาเรามาเรียนรู้กันว่าทำยังไงให้มัน
00:00:51 → 00:00:55 ผอมนะไม่ผอมซะทีคลิปนี้ช่วยคุณได้นะครับ
00:00:55 → 00:00:58 อ้าวมาครับทักทายกันหน่อยเนาะพรรคชาติคุย
00:00:58 → 00:01:01 กันนิดนึงนะครับอืมโอเคอ่ะเดี๋ยวผมลองดู
00:01:01 → 00:01:04 ด้วยนะว่าใน Facebook เป็นยังไงบ้างนะแอบ
00:01:04 → 00:01:08 สังเกตเหมือนกันว่าเอ๊ะวันนี้คนทยอยมากัน
00:01:08 → 00:01:13 พอสมควรโอเคในไลฟ์สรุปให้ขึ้นอยู่โอเค
00:01:13 → 00:01:14 น้อง
00:01:14 → 00:01:17 หาจากกลุ่มอื่นๆมีบ้างไหมนะครับถ้าภาพชัด
00:01:17 → 00:01:19 เสียงชัดช่วยทักทายกันหน่อยนะอ่ะทยอยกัน
00:01:19 → 00:01:21 เข้ามาแล้วนะครับวันนี้เราจะมาเรียนรู้
00:01:21 → 00:01:23 กันเรื่องอะไรเนาะก็คือศาสตร์ที่ทำให้คุณ
00:01:23 → 00:01:25 ผอมได้นะครับตอนนี้เป็นหนังสือขายดีด้วย
00:01:25 → 00:01:28 นะครับจบไลฟ์แล้วสนใจก็ไปตำกันได้นะครับ
00:01:28 → 00:01:31 หาซื้อได้ที่ร้านหนังสือทั่วๆไปนะพร้อม
00:01:31 → 00:01:33 ทันทีสุขภาพดี 100% นะแต่คอนเฟิร์มกันนิด
00:01:33 → 00:01:37 นึงได้ไหมว่าคุณได้ยินเสียงผมนะครับแล้ว
00:01:37 → 00:01:39 คุณก็พับชัดด้วยตอนนี้ผมเช็คใน Line ด้วย
00:01:39 → 00:01:42 แล้วกันเนาะอ่าใน Facebook สรุปให้ขึ้น
00:01:42 → 00:01:45 อยู่อาจแต่ถ้าฟังอยู่แล้วภาพชัดเสียงชัด
00:01:45 → 00:01:47 ทักทายกันนิดนึงนะครับ
00:01:47 → 00:01:50 มีท่านไหนได้ยินเสียงเนาะภาพชัดเสียงทัก
00:01:50 → 00:01:53 ทายกันหน่อยนะครับซึ่งวันนี้ก็ต้องบอกว่า
00:01:53 → 00:01:57 เอ่อจองคิวไว้นานนะครับจองคิวไว้นานนะเออ
00:01:57 → 00:02:00 ช่วงนี้ผมเองก็ยุ่งด้วยนะครับเอ่อขออภัย
00:02:00 → 00:02:02 ด้วยนะฮะช่วงนี้จะไม่ค่อยได้มาไลฟ์เท่า
00:02:02 → 00:02:05 ไหร่แต่ว่าวันนี้ยังไงผมเองก็อยากฟัง
00:02:05 → 00:02:07 เพราะเราก็เป็นหนึ่งคนเนาะที่แบบไวเข้า
00:02:07 → 00:02:10 กันแล้วก็เจอปัญหากับเรื่องนี้มานานเนาะ
00:02:10 → 00:02:13 สัก 2 เดือนที่แล้วมีโอกาสได้เจอนักเขียน
00:02:13 → 00:02:17 นี้นะครับโอ้โหหล่อแบบโอปป้ามากเลยแล้วก็
00:02:17 → 00:02:20 ลีนสุดๆเลยครับ
00:02:20 → 00:02:24 แต่ว่าเราหนาทันทีว่าอยู่กับเขานะเอาเขา
00:02:24 → 00:02:25 เป็นคนที่แบบว่าทั้งผอมแล้วก็สุขภาพดีนะ
00:02:25 → 00:02:28 ครับอ่ะไม่ให้เสียเวลาดีกว่าเดี๋ยวเราจะ
00:02:28 → 00:02:32 ไปรู้จักกับเอ่อท่านคุณนายแพทย์นะครับพระ
00:02:32 → 00:02:34 นภัทรนาตะสุดนะครับแต่ว่าเดี๋ยวผมจะขอ
00:02:34 → 00:02:37 เรียกเขาว่าคุณหมอแบงค์ละกันนะอ่าสวัสดี
00:02:37 → 00:02:40 คุณหมอแบงค์ครับผมสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:02:40 → 00:02:42 สวัสดีครับพี่แป๊ดสวัสดีครับท่านผู้ฟัง
00:02:42 → 00:02:45 ครับผมโอเคสวัสดีครับโอเคตอนนี้มีคน
00:02:45 → 00:02:47 คอนเฟิร์มแล้วว่าภาพชัดเสียงชัดนะครับ
00:02:47 → 00:02:50 โอเคขอบคุณคุณวุฒิด้วยนะครับอ่าเพื่อนกัน
00:02:50 → 00:02:54 เองเนาะสวัสดีครับก็ผมคิดว่าหลายๆคนน่าจะ
00:02:54 → 00:02:56 เคยเห็นคุณหมอแบงค์อยู่แล้วนะอ่าหลักฐาน
00:02:56 → 00:02:59 กันง่ายๆนะครับด้านหลังเขาที่มี YouTube
00:02:59 → 00:03:01 อันนั้นมันอันนั้นมันล้านซับหรือแสนซับนะ
00:03:01 → 00:03:03 แสนทรัพย์ครับ
00:03:03 → 00:03:06 อย่างน้อยมีแสนคนที่รู้จักแล้วแน่ๆนะเกิน
00:03:06 → 00:03:09 แสนแน่นอนนะครับแต่ว่าผมคิดว่าหลายๆคนที่
00:03:09 → 00:03:11 ฟังอยู่อาจจะเพิ่งเคยเจอคุณหมอแบงค์ครั้ง
00:03:11 → 00:03:13 แรกเนาะให้คุณหมอแบงค์แนะนำตัวสักนิดนึง
00:03:13 → 00:03:17 แล้วกันครับก็สวัสดีครับสวัสดีพี่แป๊ะ
00:03:17 → 00:03:18 ด้วยนะครับอย่างเป็นทางการแล้วก็สวัสดี
00:03:18 → 00:03:22 ท่านผู้ฟังไลฟ์นี้ด้วยนะครับผมก็ผมชื่อ
00:03:22 → 00:03:24 นายแพทย์ธนพัฒน์นาตะสุดนะครับหรือว่าหมอ
00:03:24 → 00:03:27 แบงค์ Food Doctor ครับผมก็จบการศึกษา
00:03:27 → 00:03:31 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครับผมจบมาหลาย
00:03:31 → 00:03:33 ปีแล้วครับพี่แป๊ะเราอย่าพูดถึงเรื่องราว
00:03:33 → 00:03:35 จบกันมากี่ปีแล้ว
00:03:35 → 00:03:41 [เสียงหัวเราะ]
00:03:41 → 00:03:45 หนังสือเล่มนี้มันเรื่องผอมมันแสดงว่ามัน
00:03:45 → 00:03:47 ต้องเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักถูกต้องไหม
00:03:47 → 00:03:50 เอ่อจริงๆมันคือโดยส่วนตัวผมมันอาจจะ
00:03:50 → 00:03:52 เพิ่งเคยเจอคุณหมอแบงค์มาเมื่อสักเดือน
00:03:52 → 00:03:54 ที่แล้วหรือ 2-3 เดือนจริงๆงานสัปดาห์เรา
00:03:54 → 00:03:56 ก็เจอกันแต่ว่าก่อนหน้านั้นน่ะผมก็ไม่รู้
00:03:56 → 00:04:00 ว่าอะไรเป็นแรงจูงใจที่ทำให้คุณหมอแบงค์
00:04:00 → 00:04:02 อ่ะสนใจเรื่องการลดน้ำหนักเนาะเออเรื่อง
00:04:02 → 00:04:05 ของตัวเองหรือว่าเรื่องของใครอยากเล่าให้
00:04:05 → 00:04:07 ฟังอ๋อจริงๆมีอยู่ 2 ประเด็นหลักๆครับพี่
00:04:07 → 00:04:10 แป๊ะตอนนั้นเนี่ยขอเล่าย้อนไปตอนที่เรียน
00:04:10 → 00:04:12 จบหมอใหม่ๆเนาะตอนนั้นเป็นนักศึกษาแพทย์
00:04:12 → 00:04:16 ปี 6 ครับแล้วก็อืมได้มีโอกาสทำงานด้าน
00:04:16 → 00:04:19 ncd คลินิกก็คือเรื่องเกี่ยวกับเบาหวาน
00:04:19 → 00:04:23 ความดันไขมันครับพี่แป๊ะเราก็เจอคุณลุง
00:04:23 → 00:04:25 คุณป้าเนาะที่มาปรึกษาเราเรื่องเบาหวาน
00:04:25 → 00:04:28 ความดันแล้วเราก็รู้สึกว่าจุดจบของโรค
00:04:28 → 00:04:31 อ้วนเบาหวานความดันเนี่ยสุดท้ายจะเป็นโรค
00:04:31 → 00:04:35 หลอดเลือดบางคนมาเป็นเรื่องอัมพาตเป็นโรค
00:04:35 → 00:04:37 หลอดเลือดสมองตีบหลอดเลือดหัวใจตีบตอน
00:04:37 → 00:04:40 นั้นน่ะผมความฝันคืออยากจะแบบเป็นหมอโรค
00:04:40 → 00:04:44 หัวใจเนาะเรารู้สึกว่าอุ๊ยเท่ดีอ่ะแบบคุณ
00:04:44 → 00:04:47 ป้ามาแน่นหน้าอกแล้วเราสวยหัวใจเขาปึ๊บ
00:04:47 → 00:04:50 หายได้เลยแบบนี้ตอนนั้นอยากจะเป็นแต่พอมี
00:04:50 → 00:04:53 โอกาสทำงานในโรงพยาบาลพุทธมณฑลครับมี
00:04:53 → 00:04:56 โอกาสทำงานไปปุ๊บเนี่ยเราสอนคุณป้าเขากิน
00:04:56 → 00:05:00 อาหารแบบนี้เนี่ยปรากฏว่าเขาลดยาได้พี่
00:05:00 → 00:05:01 แป๊ะ
00:05:01 → 00:05:05 โรคเบาหวานความดันความอ้วนเขาลดลงหมดเลย
00:05:05 → 00:05:10 เราก็เลยมีแนวคิดใหม่ว่าเฮ้ยทำไมเราถึงจะ
00:05:10 → 00:05:13 ต้องไปเป็นหมอหัวใจที่เป็นปลายทางเรา
00:05:13 → 00:05:15 สามารถช่วยเขาไม่ให้เป็นโรคนั้นได้อันนี้
00:05:15 → 00:05:18 ก็เป็นจุดเริ่มต้นแรกครับแล้วก็บวกกับตอน
00:05:18 → 00:05:22 นั้นเนี่ยคุณแม่ผมก็หาวิธีลดน้ำหนักมานาน
00:05:22 → 00:05:24 มากๆครับพี่แป๊ะ
00:05:24 → 00:05:28 ก็คุณแม่ลดน้ำหนักมาตั้งแต่สาวๆเลยครับ
00:05:28 → 00:05:32 หลายคนก็แบบคงเคยได้ยินแบบวิธีกินยาลดน้ำ
00:05:32 → 00:05:36 หนักหรือว่าเข้าสถาบันลดน้ำหนักซื้อชุดมา
00:05:36 → 00:05:38 รัดรูปแบบนี้
00:05:38 → 00:05:42 อดอาหารไปมันไม่ยั่งยืนสักทีครับต้องอด
00:05:42 → 00:05:45 แป้งคำนวณโปรตีนนู่นนี่นั่นที่คุณแม่เคย
00:05:45 → 00:05:48 ทำมาหมดครับผมก็เลยต้องหาสักสูตรแล้วแหละ
00:05:48 → 00:05:51 ที่จะมาช่วยทั้งคุณแม่แล้วก็คนไข้ของผม
00:05:51 → 00:05:54 เองเพราะว่าสูตรตอนนั้นเนี่ยต้องยอมรับ
00:05:54 → 00:05:57 เลยว่าเราจบหมอมาเนี่ยไม่มีความรู้เรื่อง
00:05:57 → 00:06:01 ของโภชนาการที่จะช่วยให้สุขภาพดี
00:06:01 → 00:06:04 เราเลยจำเป็นจะต้องไปหาสูตรที่มาจาก
00:06:04 → 00:06:07 อาจารย์ต่างประเทศครับผมก็ใช้เวลาอยู่นาน
00:06:07 → 00:06:11 มากๆเป็นหลักปีครับในการศึกษาว่าอะไรคือ
00:06:11 → 00:06:12 ทางออก
00:06:12 → 00:06:16 สำหรับการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนปรากฏว่าก็
00:06:16 → 00:06:18 เลยได้สูตรที่เรียกว่าอาหารต้นทางมัน
00:06:18 → 00:06:21 เนี่ยมาช่วยคุณแม่ครับแล้วก็จริงๆแล้วก็
00:06:21 → 00:06:24 คือเป็นประสบการณ์ของผมสัก 10 ปีมารวมกัน
00:06:24 → 00:06:26 อยู่ในไลฟ์นี้ครับ
00:06:26 → 00:06:30 จริงๆในหนังสือเล่มนี้ตอนที่สัมภาษณ์ที่ C
00:06:30 → 00:06:33 อาเซียนเนาะในคอร์สเขียนได้ขายดีเนี่ยหมอ
00:06:33 → 00:06:36 ก็มาเล่าให้ฟังว่าใช้ก็คือ 10 ปีทั้งหมด
00:06:36 → 00:06:39 ที่รู้อ่ะแล้วก็ช่วยคนไข้ได้จริงช่วยให้
00:06:39 → 00:06:42 คุณแม่ไม่กลับไปสุขภาพแบบอาจจะไม่ค่อย
00:06:42 → 00:06:45 แข็งแรงอะไรแข็งแรงได้ตลอดเวลาเนาะมัน
00:06:45 → 00:06:48 อยู่ในเล่มนี้หมดแล้วนะครับทีเนี้ยเอ่อก็
00:06:48 → 00:06:50 เลยผมเลยเชื่อว่ามันจะมีอยู่บทนึงนะที่ผม
00:06:50 → 00:06:53 อ่านแล้วเนาะบอกว่าหมอบอกว่ามันมีเหตุผล
00:06:53 → 00:06:57 หลักๆที่คนลดน้ำหนักแล้วไม่สำเร็จเสียที
00:06:57 → 00:07:00 เออลองหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จสักทีเนี่ย
00:07:00 → 00:07:03 เอออะไรคือสิ่งที่หมออยากบอกว่าเออเพราะ
00:07:03 → 00:07:05 อะไรคนถึงลดน้ำหนักเราไม่สำเร็จครับ
00:07:05 → 00:07:10 เวลาที่ทุกคนจะคิดถึงการลดน้ำหนักสมมตินะ
00:07:10 → 00:07:12 ตอนนี้เลยอยากอยากลดน้ำหนักอ่ะสัก 5 กิโล
00:07:12 → 00:07:16 นะครับความรู้สึกแรกๆนะหมอเชื่อว่าเขาจะ
00:07:16 → 00:07:19 รู้สึกว่ามันยากครับพี่แป๊ะ
00:07:19 → 00:07:22 รู้สึกว่าแบบหมอจะต้องสั่งฉันอดอาหารหรือ
00:07:22 → 00:07:26 เปล่าจะต้องสั่งให้ฉันไม่กินบิงซูที่ฉัน
00:07:26 → 00:07:29 ชอบหรือเปล่าไอติมจะต้องถูกมดไหมแล้ว
00:07:29 → 00:07:30 ปาท่องโก๋ตอนเช้าฉันจะต้องตัดด้วยหรือ
00:07:30 → 00:07:34 เปล่าความรู้สึกยากมันจะถาโถมเข้ามาครับ
00:07:34 → 00:07:37 หรือว่าต้องไปเข้าฟิตเนสสมัครเทรนเนอร์
00:07:37 → 00:07:40 แล้วต้องไปวิ่งเยอะๆไหมคนรู้สึกว่ายาก
00:07:40 → 00:07:43 ครับพี่แป๊ะเขาเลยคิดว่าการลดน้ำหนัก
00:07:43 → 00:07:46 เนี่ยมันทำได้แค่ระยะสั้นพอเราตั้งใจปึ๊บ
00:07:46 → 00:07:49 แค่เดือนสองเดือนลดลงมาหลังจากนั้นตบะแตก
00:07:49 → 00:07:54 หลุดออกมาเป็นแบบนี้ผมก็เลยคิดหาวิธีว่า
00:07:54 → 00:07:58 จะทำยังไงเนี่ยให้คนที่กำลังอยากจะลดน้ำ
00:07:58 → 00:08:01 หนักรู้สึกมีความสุขและไม่ได้คิดว่ากำลัง
00:08:01 → 00:08:04 ลดน้ำหนักอยู่แต่น้ำหนักมันลดลงมาเองครับ
00:08:04 → 00:08:07 มีอย่างนี้ด้วยเหรอครับลดลงมาเองด้วยโดย
00:08:07 → 00:08:09 ที่ไม่รู้สึกว่าแบบฉันกำลังลดน้ำหนักอยู่
00:08:09 → 00:08:14 ของมันเองอย่างนี้ก็ได้ด้วยหรอ
00:08:14 → 00:08:19 ที่เรามีน้ำหนักตัวปกติเนี่ยเรียกว่าภาวะ
00:08:19 → 00:08:22 ปกตินะทุกคนควรจะมีภาวะนี้อยู่ในตัวอยู่
00:08:22 → 00:08:25 แล้วแต่แค่เราอาจจะโดนบางอย่างจากภายนอก
00:08:25 → 00:08:28 เนี่ยทำให้เราอ้วนขึ้นมาแบบนี้ผมพยายามพา
00:08:28 → 00:08:38 ทุกคนเข้าสู่ภาวะปกตินั้นครับ
00:08:38 → 00:08:41 ทีนี้ตอนนี้เรารู้แล้วว่าส่วนใหญ่คือเขา
00:08:41 → 00:08:43 รู้สึกว่ามันยากเขาจะต้องพยายามมันแล้ว
00:08:43 → 00:08:46 เขาจะทำมันได้แบบละแบบนั้นน่ะแค่แป๊บ
00:08:46 → 00:08:49 เดียวแล้วสุดท้ายมันก็จะกลับไปกลับไปมี
00:08:49 → 00:08:50 อะไรบางอย่างที่แบบดึงกับเขาขึ้นไปให้เขา
00:08:51 → 00:08:52 มันอ้วนอีกรอบนึงหรือน้ำหนักตัวเกินอีก
00:08:52 → 00:08:55 รอบนึงนะแต่หมอก็กำลังบอกว่าจริงๆหมอมี
00:08:55 → 00:08:58 วิธีการที่ทำให้คนน้ำหนักตัวลดลงได้กลับ
00:08:58 → 00:09:01 มาสู่ภาวะปกติได้ซึ่งอันเนี่ยจะเป็นอัน
00:09:01 → 00:09:05 ที่ยั่งยืนประมาณนี้เนาะอ่าโอเคงั้นกลับ
00:09:05 → 00:09:09 ข้างกันน่ะคืออะไรคือแก่นแท้ของการลดน้ำ
00:09:09 → 00:09:11 หนักคือเราจะเคยได้ยินหลายสูตรมากเนาะ
00:09:11 → 00:09:15 เอ่อ low carft เอ่อ low Fat เต็มไปหมด
00:09:15 → 00:09:20 เออจริงๆเออๆๆอะไรอย่างเงี้ยซึ่งๆเราๆเรา
00:09:20 → 00:09:22 ก็น่าจะเป็นสิ่งที่คนอ่านกันอยู่แล้วเนาะ
00:09:22 → 00:09:27 ประเด็นคือแล้วอะไรคือแกนแท้ฉันจะได้ในใน
00:09:27 → 00:09:28 สิ่งที่หมอได้ศึกษามา 10 ปีอ่ะครับอยาก
00:09:28 → 00:09:32 ให้เล่าเขาเรียกว่าแฟนๆสรุปให้ฟังหน่อย
00:09:32 → 00:09:35 จริงๆผมชอบคำว่าแก่นแท้มากเลยครับพี่แปะ
00:09:35 → 00:09:39 ไอ้คำว่าแก่นผมนึกถึงภาพตอนดูหนังจีนน่ะ
00:09:39 → 00:09:42 ที่แบบพระเอกมา
00:09:42 → 00:09:44 ต้องใช้กระบี่แล้วเขาก็เปลี่ยนกระบี่ไป
00:09:44 → 00:09:46 เรื่อยๆจากกระบี่เล็กถึงกระบี่ใหญ่ฝึก
00:09:46 → 00:09:50 วิทยายุทธแต่สุดท้ายจุดสูงสุดของเพลง
00:09:50 → 00:09:54 กระบี่เขาบอกกระบี่อยู่ที่ใจกิ่งไผ่ก็
00:09:54 → 00:09:56 เป็นกระบี่ได้
00:09:56 → 00:10:11 [เสียงหัวเราะ]
00:10:11 → 00:10:14 รุ่นน้องพวกคุณนับแบงค์เนี่ยเค้าดูกัน
00:10:14 → 00:10:17 บ่อยๆนะลูกนะเอาเป็นว่าอะไรก็เป็นอาวุธ
00:10:17 → 00:10:21 ได้นี่คือแก่นแท้โอเคต่อท่อจุดสูงสุด
00:10:21 → 00:10:24 เนี่ยของการลดน้ำหนักก็คือคุณจะไม่ต้อง
00:10:24 → 00:10:27 คำนวณใดๆเลยครับไม่ต้องคำนวณแคลอรี่ไม่
00:10:27 → 00:10:30 ต้องคำนวณโปรตีนไม่ต้องนับคาร์โบไฮเดรต
00:10:30 → 00:10:33 ไม่ต้องกังวลว่าวิตามินจะถึงไหม
00:10:33 → 00:10:36 นี่คือจุดสูงสุดแต่ก่อนที่เราจะไปถึงจุด
00:10:36 → 00:10:40 สูงสุดอ่ะเราก็ต้องพัฒนาไปก่อนคุณจะต้อง
00:10:40 → 00:10:41 เคยนับแคลอรี่มาก่อน
00:10:41 → 00:10:43 คุณจะต้องเคยแบบว่า
00:10:43 → 00:10:48 ต้องเคยคำนวณโปรตีนมาก่อนว่า 1.2 ตัว
00:10:48 → 00:10:51 อย่างเงี้ยครับต้องเคยผ่านกระบวนการอาหาร
00:10:51 → 00:10:53 เสริมมาก่อน
00:10:53 → 00:10:56 เคยบ้างเป็นบางทีเนอะครับ
00:10:57 → 00:11:01 ทุกคนผ่านแบบนี้มาไม่รู้กี่ 10 รอบแล้วจน
00:11:01 → 00:11:04 ผมอ่ะตกผลึกว่าจุดสูงสุดเราจะไม่ต้อง
00:11:04 → 00:11:07 คำนวณอะไรเลยครับเรากลับมาสู่ธรรมชาติอัน
00:11:07 → 00:11:09 นี้คือแนวคิดของผม
00:11:09 → 00:11:12 นี่คือแก่นแท้ครับเวลาที่เรากินอาหาร
00:11:12 → 00:11:16 ธรรมชาติครับเราจะได้รับสารอาหารครบทุก
00:11:16 → 00:11:19 อย่างอยู่ในตัวธรรมชาติจัดสรรไว้ให้แล้ว
00:11:19 → 00:11:22 เป็นแบบนี้ครับแล้วก็
00:11:22 → 00:11:25 สูตรอื่นๆครับที่เรารู้สึกไม่มีความสุข
00:11:25 → 00:11:28 เขาใช้วิธีการตัดครับ
00:11:28 → 00:11:31 ตัดคุณออกอ่าสมมุติคุณน้ำหนักตัวเกินมานะ
00:11:31 → 00:11:34 เราไปเข้าคลินิกเขาคลินิกหรือเข้าโรง
00:11:34 → 00:11:37 พยาบาลก็ได้เวลาเจอคุณหมอเนี่ยคุณหมอจะ
00:11:37 → 00:11:41 บอกคุณว่าอะไรครับไปลดน้ำหนักนะตัดแป้งลง
00:11:41 → 00:11:45 นะไปเพิ่มโปรตีนแล้วก็อย่ากินของมันของ
00:11:45 → 00:11:48 ผัดของทอดขนมหวานนี้ห้ามเลยนะเบเกอรี่
00:11:48 → 00:11:52 ห้ามเลยกูรู้สึกยังไง
00:11:52 → 00:11:56 ทรมานเนาะเพราะว่ามันเป็นของที่เราชอบถูก
00:11:56 → 00:11:58 ไหมแล้วก็รู้สึกเครียดว่าแล้วฉันจะทำได้
00:11:58 → 00:12:01 หรือเปล่าอะไรอย่างนี้ผมก็เคยผ่านตรงนั้น
00:12:01 → 00:12:03 มาแล้วก็แน่นอนว่ามันอาจจะทำได้ในระยะ
00:12:03 → 00:12:06 สั้นแต่ว่าในระยะยาวมันก็ไม่ยั่งยืนเนาะ
00:12:06 → 00:12:08 สุดท้ายพอทำไม่ได้มันก็กลับมาโยโย่หรือ
00:12:08 → 00:12:11 ว่าอาจจะกลับมาน้ำหนักตัวเท่าเดิมหรือ
00:12:11 → 00:12:14 น้อยๆขึ้นไม่มากกว่าเดิมก็มีเนาะบางทีผม
00:12:14 → 00:12:16 ว่าอันนี้คือการตัดแล้ว
00:12:16 → 00:12:20 ก็วิธีอื่นๆเนี่ยเขาจะเน้นการตัดออกแต่
00:12:20 → 00:12:24 วิธีของผมเนี่ยจะบอกคุณว่าต้องทำอะไรบ้าง
00:12:24 → 00:12:26 1 2 3 4 โดยไม่เอาหัวไปคิดถึงเรื่อง
00:12:27 → 00:12:29 การตัดครับจะต้องใส่ของมีประโยชน์เข้าไป
00:12:29 → 00:12:30 ก่อน
00:12:30 → 00:12:33 ก็จะเป็นการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนถึงแก่น
00:12:33 → 00:12:36 แท้ครับจะทำได้ทั้งชีวิตว่าง่ายๆแหละนะ
00:12:36 → 00:12:40 ครับโอเคอันนี้คือแก่นแท้นะกระบี่อยู่ที่
00:12:40 → 00:12:42 ใจกิ่งไผ่ก็เป็นกระบี่ได้นะครับ
00:12:42 → 00:12:47 [เสียงหัวเราะ]
00:12:47 → 00:12:50 ผมอ่านหนังสือไปก็ต้องบอกว่าผมก็อ่านแล้ว
00:12:50 → 00:12:52 นะแล้วมันเป็นหนังสือที่เขาใจง่ายสนุกนะ
00:12:52 → 00:12:54 อ่ะเดี๋ยวเปิดให้ดูก่อนนะครับทุกคนเนี่ย
00:12:54 → 00:12:56 มันก็คือข้างในเนี่ยเขาก็จัดอ่าได้เข้าใจ
00:12:56 → 00:12:59 ง่ายแล้วก็ผมก็ชอบในเล่มนี้ที่มันมีรูป
00:12:59 → 00:13:02 ประกอบนะทุกคนแล้วก็เอ่อมันมีตัวอย่างของ
00:13:02 → 00:13:05 อาหารแล้วก็มีโขดที่แบบว่าหมอเขาก็จะเน้น
00:13:05 → 00:13:08 มาให้นะครับซึ่งผมคิดว่าดีมากๆนะทีนี้มัน
00:13:08 → 00:13:10 จะมีอยู่คำนึงที่ผมคิดว่าถ้าเกิดเราคุณ
00:13:10 → 00:13:12 หมอไม่อธิบายแล้วคนที่ยังไม่ได้อ่าน
00:13:12 → 00:13:15 หนังสือเล่มนี้เลยเนี่ยเขาจะงงอ่าในเนี้ย
00:13:15 → 00:13:18 เขาจะเขียนว่าเจ้าของหลักสูตรอาหารต้นทาง
00:13:18 → 00:13:20 อ่ามันอาจจะไม่ชัดเนาะต่อไปแต่มันจะมี
00:13:20 → 00:13:22 คำนึงเนี่ยเรียกว่าอาหารต้นทางพอเข้าไป
00:13:22 → 00:13:24 อ่านเนี่ยหมอก็บอกว่าหมอเป็นคนบัญญัติ
00:13:24 → 00:13:27 ศัพท์เนี่ยขึ้นมาเองอ่ามันจะไม่ค่อยมีคน
00:13:27 → 00:13:29 ได้ใช้คำนี้หรอกเพราะฉะนั้นผมคิดว่า
00:13:29 → 00:13:31 เดี๋ยวเพื่อให้ท่านผู้ฟังเราเข้าใจตรงกัน
00:13:31 → 00:13:34 เนาะเออใช้ให้หมออธิบายหน่อยว่าอะไรคือ
00:13:34 → 00:13:37 อาหารตนทางนะครับได้เลยครับท่านผู้ฟังนะ
00:13:37 → 00:13:41 ครับก็คำว่าอาหารต้นทางเนี่ยแปลมาจากภาษา
00:13:41 → 00:13:44 อังกฤษครับที่ชื่อว่า Ho Food ครับผมอ่า
00:13:44 → 00:13:47 Good เนี่ยถ้าเกิดว่าเสิร์ชเข้าไปนะครับ
00:13:47 → 00:13:50 อาจจะถูกแปลมาว่าเป็นอาหารที่ไม่ผ่าน
00:13:51 → 00:13:53 กระบวนการแปรรูปบ้างแหละอย่างเงี้ยครับ
00:13:53 → 00:13:57 แต่หมออยากจะให้ Concept ให้เข้าใจง่าย
00:13:57 → 00:13:59 เรียกว่าอาหารต้นทางอย่างเช่นนะครับอย่าง
00:13:59 → 00:14:01 เช่นถ้า
00:14:01 → 00:14:07 ถ้าคุณจะกินข้าวข้าวที่ปลูกจากพื้นนาอ้า
00:14:07 → 00:14:11 สมมตินั้นนึกภาพข้าวที่ปลูกจากเราไปหยิบ
00:14:11 → 00:14:14 จับในนาเนี่ยมากินได้เลยไหมครับ
00:14:14 → 00:14:21 ยังกินไม่ได้
00:14:21 → 00:14:24 ชาวนาเขาจะต้อง
00:14:24 → 00:14:28 นำต้นข้าวเนี่ยมาสะบัดครับ
00:14:28 → 00:14:31 เพื่อให้ได้เม็ดข้าวเปลือกออกมา
00:14:31 → 00:14:35 เรากินเม็ดข้าวเปลือกได้ยังครับ
00:14:35 → 00:14:39 ก็น่าจะยังนะ
00:14:39 → 00:14:42 ไปขัดสีออกก่อนไปขัดตัวเปลือกที่แข็งๆออก
00:14:42 → 00:14:53 ก่อนเราจะได้มาเป็นข้าวกล้องครับ
00:14:53 → 00:14:57 [เพลง]
00:14:57 → 00:15:00 ถ้าเรานำเข้ากล้อง
00:15:00 → 00:15:02 ไปหาสี
00:15:02 → 00:15:06 เราจะได้เป็นอะไรครับท่านผู้ชม
00:15:06 → 00:15:08 ได้เป็นข้าวสวย
00:15:08 → 00:15:13 ข้าวสวย
00:15:13 → 00:15:17 ข้าวขาวเนี่ยผมจะเรียกเขาว่าอาหารกลางทาง
00:15:17 → 00:15:18 แหละ
00:15:18 → 00:15:19 อ๋อ
00:15:19 → 00:15:24 โอเคเพราะมันถูกการแปรรูปมาครับเวลาที่
00:15:24 → 00:15:27 อาหารถูกการแปรรูปมาเนี่ยสารอาหารเขาจะลด
00:15:27 → 00:15:31 ลงครับทุกคนจะรู้สึกพึงพอใจน้อยลงสังเกต
00:15:31 → 00:15:33 เลยนะเวลาคุณกินข้าวกล้องกับข้าวสวยที่
00:15:33 → 00:15:37 ปริมาณเท่ากันเนี่ยข้าวกล้องจะอิ่มมาก
00:15:37 → 00:15:41 กว่าข้าวสวยครับ
00:15:41 → 00:15:44 มันดูเหมือนแบบอ่ะไม่รู้สินะความรู้สึก
00:15:44 → 00:15:47 มันเป็นอย่างนั้นเนาะมันดูแบบนั้น
00:15:47 → 00:15:52 นะครับแล้วถ้าเกิดว่าเรานำข้าวขาวเนี่ยไป
00:15:52 → 00:15:53 แปรรูปเพิ่มมา
00:15:53 → 00:15:57 มันจะได้เป็นผงแป้งครับแล้วก็กลายเป็นพวก
00:15:57 → 00:16:00 น้ำตาลเอาไปทำขนมใช่ไหม
00:16:00 → 00:16:03 ไอ้พวกนี้หมอแบงค์เรียกเขาว่าอาหารปลาย
00:16:03 → 00:16:05 ทางครับพี่แป๊ะ
00:16:05 → 00:16:12 โอเค
00:16:12 → 00:16:16 ของมันมากเท่าไหร่มันจะใกล้ต้นทางมากเท่า
00:16:16 → 00:16:19 นั้นเนาะแต่ยิ่งมันถูกแปรรูปมากเท่าไหร่
00:16:19 → 00:16:21 มันก็จะเรียกว่าถูกปลายทางมากเท่านั้นอ๋อ
00:16:21 → 00:16:25 โอเคเออเข้าใจง่ายนะงงแต่พอบอกต้นทางกลาง
00:16:25 → 00:16:29 ทางไปทางเข้าใจง่ายเนาะโอเคเยี่ยมเลย
00:16:29 → 00:16:32 เยี่ยมเลยเยี่ยมเลยโอเคนะครับทุกคนโอเค
00:16:32 → 00:16:36 อ่ามีคนบอกเหมือนกันว่านี่เคยพูดถึงคลิป
00:16:36 → 00:16:38 การกินทุเรียนไม่ให้อ้วนของหมอแบงค์น่า
00:16:38 → 00:16:43 รักมากขอบคุณที่โกรธด้วย
00:16:43 → 00:16:46 ตอนนี้เราเข้าใจแล้วอาหารต้นทานถ้าพูด
00:16:46 → 00:16:48 ง่ายๆก็คืออาหารที่ผ่านการแปรรูปน้อยมากๆ
00:16:48 → 00:16:52 มีสภาพใกล้เคียงกับสภาพตามธรรมชาติของมัน
00:16:52 → 00:16:55 น่ะคืออาหารธรรมชาติเนาะอ่าทีนี้ใน
00:16:55 → 00:16:57 หนังสือเนี่ยมันมีอีกว่าหมอบอกว่าอาหาร
00:16:57 → 00:17:01 ต้นทางเนี่ยหรือว่าอาหารที่ในนิยามของหมอ
00:17:01 → 00:17:04 มันเหมือนเป็นไฟ 3 สีผมว่าอันนี้เราก็จะ
00:17:04 → 00:17:07 ต้องต้องชี้แจงหรือว่าเราต้องอธิบายเพิ่ม
00:17:07 → 00:17:09 สักนิดนึงว่าเอออะไรมันคือ 3 4 แล้วมัน
00:17:09 → 00:17:11 มีสีไหนบ้างเนาะให้หมอเล่านิดนึงได้ไหม
00:17:12 → 00:17:14 ครับได้เลยครับผมก็อันนี้จะเป็นแก่นเลยนะ
00:17:14 → 00:17:18 ครับเพราะว่าการที่หมอทำเกี่ยวกับเรื่อง
00:17:18 → 00:17:21 รถน้ำหนักเนี่ยจะมีหลายๆคำถามเข้ามาตลอด
00:17:21 → 00:17:24 เลยครับว่าอันนู้นกินได้ไหมอันนี้กินได้
00:17:24 → 00:17:26 หรือเปล่าสารให้ความหวานชนิดนั้นกินได้
00:17:26 → 00:17:29 ไหมหมอแบงค์อย่างเงี้ยรู้ไหมอินทผาลัมกิน
00:17:29 → 00:17:31 ได้หรือเปล่าจะมีคำถามแบบนี้มาเรื่อยๆนะ
00:17:31 → 00:17:34 ครับหมอเนี่ยก็เลยใช้ Concept ที่เรียก
00:17:34 → 00:17:37 ว่าอาหารต้นทางเนี่ยแบ่งอาหารทุกชนิดบน
00:17:37 → 00:17:40 โลกครับให้เหลือแค่ 3 สีเท่านั้นครับก็
00:17:40 → 00:17:44 คือสีเขียวสีเหลืองแล้วก็สีแดงให้เหมือน
00:17:44 → 00:17:50 กับไฟจราจรอื้มโอเคเวลาที่เราเจอเจอไฟ
00:17:50 → 00:17:54 เขียวเราทำยังไงอ่ะก็เต็มที่เลยนะเหยียบ
00:17:54 → 00:17:56 ได้เหยียบใช่ไหมเพราะว่ามันไม่ได้ผิดกฎ
00:17:56 → 00:17:58 หมายอะไรเราก็ไปของเราเลยเนาะตามสปีดที่
00:17:58 → 00:18:01 เราแบบว่ารู้สึกว่าขับแล้วปลอดภัยเลยใช่
00:18:01 → 00:18:03 เลยครับเพราะฉะนั้นอาหารหมวดสีเขียวเนี่ย
00:18:03 → 00:18:06 คุณสามารถใส่ได้สุดเลยครับอาหารสีเขียว
00:18:06 → 00:18:11 จากเขียวก่อนอ้วนโอเค keyword มาแล้วนะ
00:18:11 → 00:18:15 ครับเขียวสีเขียวนะครับซึ่งเดี๋ยวๆหมอเขา
00:18:15 → 00:18:16 จะอธิบายเพิ่มหน่อยนะว่าสีเขียวมันมีอะไร
00:18:16 → 00:18:19 บ้างเนาะแต่อันคีย์เวิร์ดที่ผมชอบมากๆใน
00:18:19 → 00:18:21 หนังสือเล่มนี้คือ Import อ้วนมีด้วยเหรอ
00:18:21 → 00:18:24 นี่นะครับ
00:18:24 → 00:18:31 [เสียงหัวเราะ]
00:18:31 → 00:18:35 แต่ยังไม่ทันอิ่มเลยอ้วนแล้ว
00:18:35 → 00:18:37 อ้วนเสมอ
00:18:37 → 00:18:42 โอเคสีเขียวใช่ไหมครับสีเขียวแล้วพอมา
00:18:42 → 00:18:45 เป็นสีเหลืองเนี่ยหลักคิดก็คือเวลาเราเจอ
00:18:45 → 00:18:48 ไฟเหลืองเราจะต้องแบบเฮ้ยเตรียมตัวชะลอ
00:18:48 → 00:18:53 เบรกละเออๆแต่บางคนก็ยังเร่งไปอยู่เพราะ
00:18:53 → 00:18:56 ฉะนั้นอาหารหมดเหลืองครับกินต้องมีครับ
00:18:56 → 00:18:59 ให้คิดว่าเป็นเหมือนหมวดอาหารเสริมในมื้อ
00:18:59 → 00:19:02 อาหารครับไม่ได้ให้กินเยอะจนเกินไปแต่ว่า
00:19:02 → 00:19:05 ต้องมีในมือเพื่อเพื่อเป็นอาหารเสริม
00:19:05 → 00:19:09 โอเคก็อาจจะกินพร้อมๆกับสีเขียวแต่ว่า
00:19:09 → 00:19:12 เน้นสีเขียวก่อนแล้วเติมสักนิดหน่อยอัน
00:19:12 → 00:19:14 นี้พอได้แต่ว่าหลักๆเราจะเน้นอาหารที่
00:19:14 → 00:19:17 เป็นสีเขียวก่อนเนาะโอเคสีเหลืองให้ชะลอ
00:19:17 → 00:19:19 นะครับทุกคนอยากกินเยอะเกินไปให้กินสี
00:19:19 → 00:19:23 เขียวเยอะกว่าโอเคสีแดงสีแดงเนี่ยจะเป็น
00:19:23 → 00:19:26 อาหารปลายทางและจะมีไขมันสูงแคลอรี่สูง
00:19:26 → 00:19:37 ทุกคนจะมีโอกาสอ้วนก่อนอิ่มมากครับ
00:19:37 → 00:19:39 หรือกินให้น้อยที่สุดอารมณ์ประมาณนี้ล่ะ
00:19:39 → 00:19:43 ใช่ครับแต่นิดนึงครับหลายคนจะคิดว่าอาหาร
00:19:43 → 00:19:45 แดงเนี่ยหมอแบงค์ห้ามหรือเปล่า
00:19:45 → 00:19:48 ต้องตอบคือไม่ห้ามนะครับหมอเนี่ยให้เอา
00:19:48 → 00:19:51 หัวไปโฟกัสว่าเราจะกินอาหารเขียวเหลือง
00:19:51 → 00:19:54 ยังไงให้ได้เยอะที่สุดก่อนหลังจากนั้น
00:19:54 → 00:19:57 ครับถ้ากระเพาะยังเหลือใส่อาหารแดงที่คุณ
00:19:57 → 00:20:02 ชอบได้ครับ
00:20:02 → 00:20:05 แต่ว่าเน้นว่าให้เขียวกับเหลืองเนี่ย
00:20:05 → 00:20:08 เดี๋ยวก่อนโอเคมาก่อนแล้วถ้าคุณยังรู้สึก
00:20:08 → 00:20:11 ว่าไม่อิ่มจริงๆคุณต้องการจะเติมเต็มอะไร
00:20:11 → 00:20:14 บางอย่างให้กับร่างกายกระเพาะและสมองของ
00:20:14 → 00:20:17 คุณหมอเขามีคำนึงด้วยนะบอกว่าท้องอิ่ม
00:20:17 → 00:20:19 สมองไม่อิ่มหรือว่าไอ้พวกนี้อยากให้หมอ
00:20:19 → 00:20:21 อธิบายเพิ่มด้วยนะผมว่าอันนี้น่าสนใจนะ
00:20:21 → 00:20:25 แต่ว่าสีแดงหมอก็ไม่ได้ห้ามนะจ๊ะทุกคนกิน
00:20:25 → 00:20:30 ได้จ้าอ่าได้เอาสีเขียวมากก่อนโอเค
00:20:30 → 00:20:35 ๆทั้งสิ้นของที่ชอบของคุณก็ยังอยู่เห็น
00:20:35 → 00:20:37 มั้ยแต่ของมีประโยชน์จะถูกใส่เข้าไปก่อน
00:20:37 → 00:20:42 ครับโอเคอ่ะผมว่าตอนนี้คนคนเข้าใจ Concept
00:20:42 → 00:20:45 อะไรคือเขียวอะไรคือเหลืองอะไรสีแดงถ้า
00:20:45 → 00:20:47 เกิดหมออยากอธิบายอย่างอื่นก่อนเอาก่อน
00:20:47 → 00:20:50 ได้เลยนะอืมได้เลยครับยกตัวอย่างนะครับยก
00:20:50 → 00:20:54 ตัวอย่างสมมุติคำนี้ทุกคนหิวโซเลยนะหิวโซ
00:20:54 → 00:20:58 นะครับหมอเนี่ยยื่นกล้วยน้ำว้าให้ทุกคน
00:20:58 → 00:21:02 เนี่ยไป 1 ลูกครับอ้ากินเลยนะครับหิวโซ
00:21:02 → 00:21:06 ใช่ไหมครับกินไป 1 ลูกอิ่มหรือยังครับ
00:21:06 → 00:21:08 น่าจะยังไม่อิ่มนะ
00:21:08 → 00:21:13 ครับหมอไม่ถามต่อครับหมอยื่นกล้วยน้ำว้า
00:21:13 → 00:21:15 ลูกที่ 2 ให้กับคุณครับ
00:21:15 → 00:21:17 อิ่มเพิ่มยังครับ
00:21:17 → 00:22:16 ดีขึ้น
00:22:16 → 00:22:20 เป็นไปได้นะเป็นไปได้นะนี่ชอบกินกล้วย
00:22:20 → 00:22:23 ปิ้งมากคือถ้าเทียบกันกล้วยสุกน่าจะอิ่ม
00:22:23 → 00:22:25 เร็วกว่ากล้วยปิ้งอันนี้ความรู้สึกนะท่าน
00:22:25 → 00:22:27 ไหนที่เห็นด้วยก็พิมพ์ +1 มาก็ได้นะครับ
00:22:27 → 00:22:30 คุณเคยกินกล้วยสุกแล้วก็กินกล้วยปิ้งอิ่ม
00:22:30 → 00:22:32 เท่ากันไหมถ้ากล้วยสุกอิ่มง่ายกว่าก็
00:22:33 → 00:22:36 พิมพ์บวกหนึ่งแล้วกันโอเคครับลองดูนะขนาด
00:22:36 → 00:22:39 กล้วยสุกอ่ะครับ 4 ลูกอิ่มแล้วแต่กล้วย
00:22:39 → 00:22:43 ปิ้งครับ 6 ลูกถึงจะอิ่มครับจะสังเกตว่า
00:22:43 → 00:22:46 ความพึงพอใจจะลดน้อยลงเมื่อผ่านกระบวนการ
00:22:46 → 00:22:49 บางอย่างไป
00:22:49 → 00:22:52 แต่คราวนี้ถ้าหมอไม่ได้ให้กล้วยปิ้งไป
00:22:52 → 00:22:54 ครับหมอให้เป็นกล้วยเบรคแตกไปครับเกิด
00:22:54 → 00:23:09 อะไรขึ้น
00:23:09 → 00:23:11 บางคนเนี่ย
00:23:11 → 00:23:14 กินอาหารมื้อหลักอิ่มแล้วนะแต่หมอยื่น
00:23:14 → 00:23:15 กล้วยเบรคแตกให้
00:23:15 → 00:23:19 ก็ยังกินได้เพิ่ม
00:23:19 → 00:23:22 สมองของเราเพราะฉะนั้นหมอเลยจัดกล้วยเบรค
00:23:22 → 00:23:24 แตกหรือที่แปรรูปขั้นสุดเนี่ยมาไว้ใน
00:23:24 → 00:23:28 อาหารแดงครับผม
00:23:28 → 00:23:33 กล้วยโอเคกล้วยสุกนี่คือสีเขียวนะทุกคนสี
00:23:33 → 00:23:39 เขียวนี่คือกล้วยปิ้งนะครับ
00:23:39 → 00:23:43 ยิ่งมันใกล้ปลายทางมันจะมีแนวโน้มว่ามัน
00:23:43 → 00:23:45 จะเปลี่ยนสภาพเป็นสีแดงเพราะฉะนั้นวิธีดู
00:23:45 → 00:23:47 ก็ง่ายๆที่หมอแนะนำตอนนี้ก็คือพยายามกิน
00:23:47 → 00:23:49 อะไรที่มันใกล้เคียงกับสภาพธรรมชาติของ
00:23:49 → 00:23:52 มันถ้าเรากินอย่างนั้นเราจะอิ่มเร็วมันก็
00:23:52 → 00:23:55 จะเข้า Concept ว่าอิ่มก่อนอ้วน
00:23:55 → 00:23:58 อันนี้ผมผมเข้าใจถูกไหมพอดีเมื่อกี้พี่
00:23:58 → 00:24:02 โก๋เขาบอกว่าน้ำตาลอาจจะขึ้นได้แต่เท่า
00:24:02 → 00:24:03 ที่ผมอ่านหนังสือของหมอคือ
00:24:03 → 00:24:07 ถ้าเรากินตามธรรมชาติเนี่ยโอกาสที่
00:24:07 → 00:24:09 แคลอรี่หรือว่าน้ำตาลเราจะเกินเนี่ยมัน
00:24:09 → 00:24:12 น่าจะน้อยเมื่อเทียบกับการที่เรากินสีแดง
00:24:12 → 00:24:14 ด้วยแคลอรี่เท่ากันอันนี้ผมเข้าใจถูกไหม
00:24:14 → 00:24:17 ผมชอบคำถามนี้มากเลยอยากจะอธิบายเพิ่มให้
00:24:17 → 00:24:21 ก็ได้ๆๆเลยคือยุคปัจจุบันเนี่ยเวลาเรากิน
00:24:21 → 00:24:23 อะไรก็ตามเข้าไปนะแล้วน้ำตาลเราขึ้นน่ะ
00:24:24 → 00:24:26 ครับทุกคนจะเริ่มรู้สึกว่ามันไม่ดีกับ
00:24:26 → 00:24:29 สุขภาพใช่ไหมแต่อาจจะอยากให้เปลี่ยนมุม
00:24:29 → 00:24:33 มองครับว่าการที่เรากินข้าวกินผลไม้ที่
00:24:33 → 00:24:35 เป็นอาหารธรรมชาติครับกินเข้าไปเนี่ยคน
00:24:35 → 00:24:38 ปกตินะกินเข้าไปน้ำตาลต้องขึ้นเป็นเรื่อง
00:24:38 → 00:24:42 ปกติครับแต่สิ่งที่ไม่ปกติคือน้ำตาลไม่ลง
00:24:42 → 00:24:43 ต่างหากครับ
00:24:43 → 00:24:48 ฟังใหม่อีกรอบนะโรคเบาหวานคือโรคที่ไม่
00:24:48 → 00:24:52 ใช่น้ำตาลขึ้นนะครับแต่เป็นโรคของการที่
00:24:52 → 00:24:54 น้ำตาลไม่ลงครับ
00:24:54 → 00:24:57 อย่างสมมุติพี่แป๊ะกินกล้วยเข้าไปหมอเจาะ
00:24:57 → 00:25:00 น้ำตาลน้ำตาลต้องขึ้นครับนี่คือภาวะปกติ
00:25:00 → 00:25:04 แต่หลังจากน้ำตาลขึ้นครับสมองพี่แป๊ะก็จะ
00:25:04 → 00:25:05 ใช้น้ำตาลตัวนั้น
00:25:05 → 00:25:09 ปอดร่างกายลำไส้ใช้น้ำตาลตัวนั้นหลังจาก
00:25:09 → 00:25:12 นั้นน้ำตาลพี่แป๊ะจะลดลงสู่ระดับปกติอัน
00:25:12 → 00:25:15 นี้คือภาวะปกติครับ
00:25:15 → 00:25:16 เพราะฉะนั้นกินอาหารธรรมชาติน้ำตาลขึ้น
00:25:16 → 00:25:24 เนี่ยต้องเรียกว่าปกติครับ
00:25:24 → 00:25:27 ใช่ครับไม่ลงน้ำตาลมันค้าง sale เอาไปใช้
00:25:27 → 00:25:30 ไม่ได้อันนี้คือผิดปกติ
00:25:30 → 00:25:34 เพราะฉะนั้นการที่กินแล้วน้ำตาลขึ้นไม่
00:25:34 → 00:25:37 ใช่เรื่องผิดปกติแล้วก็มันควรจะเป็นอย่าง
00:25:37 → 00:25:41 นั้นตามธรรมชาติของมันแต่ว่าโดย Concept
00:25:41 → 00:25:44 ของอาหารธรรมชาติเนี่ยอันนี้อันนี้ผมไม่
00:25:44 → 00:25:46 แน่ผมอ่านแล้วผมเข้าใจถูกไหมว่ามันมักจะ
00:25:46 → 00:25:50 มีน้ำเป็นส่วนผสมค่อนข้างเยอะดังนั้นคุณ
00:25:50 → 00:25:53 จะอิ่มได้ไวกว่าพึงพอใจมากกว่าเมื่อกี้
00:25:53 → 00:25:56 ถ้าเกิดทุกคนสังเกตนะครับที่หมอแบงค์ยกๆ
00:25:56 → 00:25:59 ภาพมาเนี่ยกล้วยน้ำว้าน่าจะมีน้ำปนอยู่
00:25:59 → 00:26:01 เยอะที่สุดเมื่อเทียบกับกล้วยปิ้งแล้วก็
00:26:01 → 00:26:04 จะน้อยมากๆเมื่อเทียบกับกล้วยเบรคแตกอัน
00:26:04 → 00:26:09 นี้ผมก็ใจถูกไหม
00:26:09 → 00:26:12 ผมขอแทรกหน่อยไม่ใช่โอเคพี่คือพี่จับแบบ
00:26:12 → 00:26:15 จับใจความแบบเน้นๆเข้ามาเลยอ่ะคือรู้เลย
00:26:15 → 00:26:19 ว่าประสบการณ์การอ่านแบบสุดยอดมาก
00:26:19 → 00:26:24 ครับ
00:26:24 → 00:26:29 [เสียงหัวเราะ]
00:26:29 → 00:26:32 เรื่องน้ำนะครับถูกต้องเลยนะครับทุกท่าน
00:26:32 → 00:26:36 ก็คือจุดเปลี่ยนอย่างเดียวระหว่างกล้วยสด
00:26:36 → 00:26:39 กับกล้วยปิ้งก็คือน้ำที่มันระเหยไปแล้วก็
00:26:39 → 00:26:42 วิตามินแร่ธาตุบางชนิดอาจจะหายไปจากความ
00:26:42 → 00:26:43 ร้อนได้
00:26:43 → 00:26:46 ความพึงพอใจของทุกคนก็เลยลดลงครับเมื่อ
00:26:46 → 00:26:50 น้ำออกไปจากอาหารครับผมสังเกตได้ว่าอาหาร
00:26:50 → 00:26:54 แห้งๆอย่างเช่นขนมกลบกรอบๆนะครับในตาม
00:26:54 → 00:26:58 ร้านสะดวกซื้อนะครับมักจะแห้งเราจะกิน
00:26:58 → 00:27:03 เท่าไหร่ไม่เคยพึงพอใจแต่ถ้าเรากินมะม่วง
00:27:03 → 00:27:18 สุกหวานๆแบบว่าเย็นๆหวานๆกินไม่กี่คำ
00:27:18 → 00:27:23 โอกาสอ้วนน้อยมากๆแล้วก็หลายคนจะคิดว่า
00:27:23 → 00:27:28 หมอแบงค์เรากินอาหารพวกนี้มันแป้งเยอะไม่
00:27:28 → 00:27:30 ใช่หรอมันจะย่อยไปเป็นน้ำตาลไหมแล้วน้ำ
00:27:30 → 00:27:33 ตาลเนี่ยมันจะไปเก็บสะสมเป็นไขมันทำให้
00:27:33 → 00:27:35 เราอ้วนหรือเปล่า
00:27:35 → 00:27:38 หลายคนจะกลัวแบบนั้นนะครับหมอยกตัวอย่าง
00:27:38 → 00:27:41 ฟักทองอ่าหลายๆคนบอกผักมีหัวเนี่ยมันมี
00:27:41 → 00:27:43 แป้งนะทำให้คุณอ้วน
00:27:43 → 00:27:46 ฟักทองเนี่ยการที่คุณจะกินให้อ้วนได้นะ
00:27:46 → 00:27:49 ครับคุณต้องกินเกิน 2,000 กิโลแคลอรี่
00:27:49 → 00:27:52 ซึ่งเทียบเท่ากับฟักทองเนี่ย 10 กิโลกรัม
00:27:52 → 00:27:54 ด้วยกันครับท่านผู้ชม
00:27:54 → 00:27:58 1 ลูกเต็มๆเผลอๆเยอะกว่า 1 ลูกด้วยนะถูก
00:27:58 → 00:28:12 ไหม
00:28:12 → 00:28:17 [เสียงหัวเราะ]
00:28:17 → 00:28:22 เรากินแค่ 2 ชิ้นนะครับก็อิ่มสุดๆแล้วนะ
00:28:22 → 00:28:24 ครับเพราะฉะนั้นฟักทองไม่ได้ทำให้เราอ้วน
00:28:24 → 00:28:27 ถ้าเรากินฟักทองแล้วเราอ้วนให้ไปเช็ค
00:28:27 → 00:28:29 อาหารแดงครับอาหารแดงเนี่ยมีโอกาสทำให้
00:28:29 → 00:28:31 เราอ้วนมากกว่าครับผม
00:28:31 → 00:28:35 ในหนังสือเล่มนี้มีผมชอบอยู่ภาพนึงเมื่อ
00:28:35 → 00:28:37 กี้ผมเดินกับภรรยาผมยังเปิดให้ดูเลย
00:28:37 → 00:28:40 เดี๋ยวผมเจอเดี๋ยวผมไอ้นี่นะคือมันมีการ
00:28:40 → 00:28:43 ทดลองที่บอกว่าอาหารที่เป็นอานี่ๆๆแต่ผม
00:28:43 → 00:28:45 ไม่รู้ว่าภาพมันจะชัดหรือเปล่านะครับทุก
00:28:45 → 00:28:47 ท่านอันนี้อยากให้คุณหมออธิบายนิดนึงเอา
00:28:47 → 00:28:50 รูปข้างไหนวะเดี๋ยวครั้งนี้ที่บอกว่ามัน
00:28:50 → 00:28:52 เป็นการทดลองของอาจารย์ท่านนึงที่บอกนี่
00:28:52 → 00:28:57 ฮะนิดเดียวเองอาหารแห้งๆใช่มั้ยก็ 1,75
00:28:57 → 00:28:59 กกแคลอรี่นะอ่ะบางท่านอาจจะมองเห็นไม่
00:28:59 → 00:29:01 ค่อยชัดเท่าไหร่ออกไปนะส่วนฝั่งเนี้ยคุณ
00:29:01 → 00:29:03 เห็นมั้ยว่ามันเยอะมากเลยอ่ะเดี๋ยวผมดู
00:29:03 → 00:29:06 แล้วเนี่ยจะโหกินหมดหรือวะเนี่ยกินหมดนี่
00:29:06 → 00:29:10 ก็เพิ่งทัน 575 ลิตรนะความหมายคือไอ้
00:29:10 → 00:29:12 เนี่ยอันนี้คือแดกละมั้งในความคิดของของ
00:29:12 → 00:29:14 ผมนะส่วนอันนี้คือเขียวกับเหลืองถูกมั้ย
00:29:14 → 00:29:17 ประมาณว่าใช่เลยครับนี่คือ keyword อีก
00:29:17 → 00:29:19 แล้วครับท่านผู้ชม
00:29:19 → 00:29:23 เทคนิคนี้คือการกินเยอะแต่ผอมลงครับกิน
00:29:23 → 00:29:26 เยอะแต่ได้รับแคลอรี่ลดลง
00:29:26 → 00:29:30 สูตรนี้หมอหมอดัดแปลงมาจากสูตรหนึ่งของ
00:29:30 → 00:29:33 ต่างประเทศครับจากอาจารย์ดรบาบาร่าโรส
00:29:33 → 00:29:36 ครับเขาเป็นหนึ่งในสูตรลดน้ำหนักที่ดีที่
00:29:36 → 00:29:38 สุดครับที่ชื่อว่า Volume Matic Diet
00:29:38 → 00:29:41 เราค่อยๆมาแปลนะครับ Volume Matrix Diet
00:29:41 → 00:29:44 เนี่ยคำว่า Volume ก็คืออาหารที่มีมวล
00:29:44 → 00:29:47 เยอะกินอิ่มก่อน
00:29:47 → 00:29:50 ก็คือหมวดหลักอาหารเขียวเหลืองของเรานั่น
00:29:50 → 00:29:50 เอง
00:29:51 → 00:29:53 ก็โอเคโอเค
00:29:53 → 00:29:58 ซึ่งนี่คือเหตุผลว่าทำไมตอนต้นไลฟ์หมอบอก
00:29:58 → 00:29:58 ว่า
00:29:58 → 00:30:03 คุณจะกินอิ่มแต่คุณก็จะผอมลงไปเองหลักการ
00:30:03 → 00:30:05 มันเป็นอย่างนี้เนาะเพราะว่าคุณกินในสิ่ง
00:30:05 → 00:30:07 ที่คุณจะอิ่มก่อนที่คุณจะเริ่มได้รับ
00:30:07 → 00:30:10 แคลอรี่ที่มันเกินของร่างกายไปถ้าเมื่อ
00:30:10 → 00:30:12 กี้เราพูดกันตาม Concept คือคุณต้องกิน
00:30:12 → 00:30:15 ฟักทองที่คุณรู้สึกว่าอ้วนเลี่ยงดีกว่า
00:30:15 → 00:30:17 นี้อย่างนี้คุณต้องกิน 10 โลเลยนะคุณถึง
00:30:17 → 00:30:21 จะเริ่มอ้วนอันนี้ผมว่าเข้าใจเข้าใจแล้ว
00:30:21 → 00:30:23 ในหนังสือเล่มนี้ก็เลยบอกว่าทุเรียนที่
00:30:23 → 00:30:26 เราบอกว่ากินไม่ได้อ้วนเนี่ยก็ต้องกิน
00:30:26 → 00:30:28 เป็นกิโลเลยนะ 1.4 กกมั้งถ้าผมจำไม่ผิด
00:30:28 → 00:30:31 ถึงจะเริ่มน้ำหนักเกินอ่าเพราะฉะนั้นจริง
00:30:31 → 00:30:34 ๆคุณกินสิ่งที่คุณชอบได้ถ้าถ้ามันเป็น
00:30:34 → 00:30:37 อาหารที่ค่อนข้างจะเป็นทางต้นทางเนาะอ่า
00:30:37 → 00:30:40 เยี่ยมเลยครับคุณหมอผมว่าหลายๆคนพอจะเก็ท
00:30:40 → 00:30:43 กับสิ่งที่คุณหมอพูดเพิ่มขึ้นเนาะอาจจะ
00:30:43 → 00:30:44 ตรงนี้คุณหมอมีอะไรอยากเสริมมั้ยเกี่ยว
00:30:44 → 00:30:49 กับเรื่องอาหาร 3 สีไฟ 3 สีครับก็พูดหมวด
00:30:49 → 00:30:52 อาหารหลักๆแล้วกันนะครับก็จริงๆมันเป็น
00:30:52 → 00:30:55 ลึกๆอยู่ในหนังสือจะลิสต์ให้เลยเอาอาหาร
00:30:55 → 00:30:59 ไหนอยู่ในสีอะไรนะครับอ้าโอเคหมดๆให้นะ
00:30:59 → 00:31:02 ครับอาหารหมดเขียวเนี่ยก็จะมีผักทุกชนิด
00:31:02 → 00:31:05 นะครับผลไม้ทุกชนิดนะครับได้หมดเลยไม่มี
00:31:05 → 00:31:09 ห้ามหวานมากหวานน้อยได้หมดเหตุทุกชนิดนะ
00:31:09 → 00:31:13 ครับสมุนไพรต่างๆนะครับจะจัดอยู่ในหมวด
00:31:13 → 00:31:15 อาหารเขียวทั้งหมดครับ
00:31:15 → 00:31:17 ซึ่งจริงๆมันจะมีรายละเอียดอยู่ในนี้นะ
00:31:18 → 00:31:20 ครับถ้าสนใจก็ไปลองหาเพิ่มได้นะเดี๋ยวผม
00:31:20 → 00:31:22 ชอบเล่มนี้ตรงที่มันมีสรุปให้เนี่ยคุณก็
00:31:22 → 00:31:25 อ่านแล้วคุณก็ไปหาซื้อทานได้เลยเนาะมี
00:31:25 → 00:31:28 ทั้งเคี้ยวทั้งเหลืองทั้งแดงฝั่งสีเหลือง
00:31:28 → 00:31:31 พอพอจะแบบตัวอย่างคร่าวๆได้ไหมมีอะไรบ้าง
00:31:31 → 00:31:34 สีเหลืองเนี่ยจะเป็นหมวดอาหารที่เป็น
00:31:34 → 00:31:37 อาหารสีเขียวที่แปรรูปขึ้นมานิดนึงครับ
00:31:37 → 00:31:40 หรือจะเป็นหมวดอาหารต้นทางที่มีแคลอรี่
00:31:40 → 00:31:43 สูงอย่างเช่นพวกถั่วเปลือกแข็งครับ
00:31:43 → 00:31:46 เม็ดอัลมอนด์แมคคาเดเมียแบบนี้ต่อให้เป็น
00:31:46 → 00:31:49 ต้นทางนะครับแต่มีแคลอรี่ที่สูงครับก็มี
00:31:49 → 00:31:52 โอกาสทำให้อ้วนมากกว่าหมวดเขียวเพราะสมัย
00:31:52 → 00:31:55 ก่อนเนี่ยการที่คุณจะกินแมคคาเดเมียได้
00:31:55 → 00:32:01 ใครเคยซื้อแมคคาเดเมียมาแบบมีเปลือกอ่ะ
00:32:01 → 00:32:04 แกะยากกินยาก
00:32:04 → 00:32:08 ต้องใช้ค้อนทุบแล้วก็ zill คุ้ม
00:32:08 → 00:32:11 สมัยก่อนนะครับตัวแมคคาเดเมียมันอยู่บน
00:32:11 → 00:32:14 ต้นไม้ใช่ไหมกว่าคุณจะกินได้อ่ะคุณจะต้อง
00:32:14 → 00:32:16 ออกแรงอีก
00:32:16 → 00:32:19 ออกแรงก่อนที่จะกินแล้วพอคุณกินนิดนึง
00:32:19 → 00:32:22 เฮ้ยมันหมดแล้วคุณต้องไปออกแรงทุบเม็ดที่
00:32:22 → 00:32:25 2 แบบนี้สมัยก่อนเราจะอิ่มยากครับแต่
00:32:25 → 00:32:29 สมัยนี้เขาทุบมาให้อยู่ในถุงหมดแล้ว
00:32:29 → 00:32:32 หนักเลยเพราะว่าก็มันไม่ใช่ต้นทาง
00:32:32 → 00:32:37 เศรษฐกิจการค้า
00:32:37 → 00:32:40 หมอก็เลยจัดอาหารหมดถั่วเปลือกแข็งเนี่ย
00:32:40 → 00:32:43 เอาไว้ในหมวดสีเหลืองต้องกินแต่ในปริมาณ
00:32:43 → 00:32:48 ที่น้อยหน่อยโอเคเข้าใจแล้วสีแดงสีแดงสี
00:32:48 → 00:32:50 แดงสีแดง
00:32:50 → 00:32:54 คืออาหารที่มีไขมันสูงนะครับกับกลุ่มที่
00:32:54 → 00:32:57 เป็นพืชแปรรูปแบบขั้นสุดอย่างเช่นผงแป้ง
00:32:57 → 00:33:00 น้ำตาลน้ำเชื่อมสารให้ความหวานทั้งหมดเลย
00:33:00 → 00:33:04 พวกนี้แปรรูปขั้นสุดนะครับนะเนื้อสัตว์
00:33:04 → 00:33:07 ที่ติดมันแบบเนี้ยก็อยู่แดงหมดเลยเพราะ
00:33:07 → 00:33:10 มันแคลอรี่สูง
00:33:10 → 00:33:14 โอเคตอนนี้เราพอจะแยกออกแล้วเนาะเอ่อ
00:33:14 → 00:33:19 นมไข่นี่เหลืองหรือแดงคุณหมอผมเนี่ยจัด
00:33:19 → 00:33:23 อยู่ในอาหารแดงครับอืมๆโอเคแต่ไม่แน่นะ
00:33:24 → 00:33:26 ครับ
00:33:26 → 00:33:30 โอเคก็คือทานได้เนาะอ่ะทีนี้มีคำถามจาก
00:33:30 → 00:33:32 ทางบ้านมาคุณนันทวันอ่ะนะเขาถามว่าจริง
00:33:32 → 00:33:34 ไหมที่กินถั่ว 1 กำมือก่อนกินพวกขนมหวาน
00:33:34 → 00:33:38 ช่วยให้อินซูลินไม่พุ่งอันนี้คุณหมอต้อง
00:33:38 → 00:33:41 รบกวนคุณหมอแล้วจริงๆแปลว่าคุณนันทวัน
00:33:41 → 00:33:44 เนี่ยเคยศึกษาแล้วก็ฟังมุมมองสุขภาพมา
00:33:44 → 00:33:48 แล้วจะมีคำว่าอินซูลินเข้ามาในชีวิตแล้ว
00:33:48 → 00:33:52 อินซูลินเนี่ยสมัยก่อนก่อนที่หมอจะมาสาย
00:33:52 → 00:33:53 นี้
00:33:53 → 00:33:56 เราพยายามจะโทษอะไรก็ตามที่มันทำให้
00:33:57 → 00:33:58 อินซูลินเราพุ่ง
00:33:58 → 00:34:01 เมื่อก่อนเรามีความเชื่อว่า
00:34:01 → 00:34:04 อินซูลินพุ่งเมื่อไหร่เนี่ยมันจะทำให้เรา
00:34:04 → 00:34:06 อ้วนเป็นเบาหวานเป็นโรคนู่นนี่นั่นนะครับ
00:34:06 → 00:34:10 แต่การกินกินอาหารต่างๆเนี่ย
00:34:10 → 00:34:14 หมออยากให้มุมมองใหม่ใหม่เลยนะเมื่อก่อน
00:34:14 → 00:34:17 เราจะเชื่อว่าอินซูลินเป็นผู้ร้ายแต่จริง
00:34:17 → 00:34:20 ๆแล้วอ่ะอินซูลินเป็นเพื่อนเราครับถ้าวัน
00:34:20 → 00:34:24 นี้คุณไม่มีอินซูลินร่างกายเราอยู่ไม่ได้
00:34:24 → 00:34:27 ครับเราเสียชีวิตเลยทันทีเพราะฉะนั้นการ
00:34:27 → 00:34:31 กินถั่วหรือการกินขนมหวานกินอะไรก็ตาม
00:34:31 → 00:34:34 ครับกระตุ้นอินซูลินอยู่แล้วแล้วก็เป็น
00:34:34 → 00:34:37 ภาวะปกติครับ
00:34:37 → 00:34:39 เพราะฉะนั้นการกินถั่ว
00:34:39 → 00:34:43 อินซูลินพุ่งครับกินขนมหวานอินซูลินพุ่ง
00:34:43 → 00:34:47 ครับกินคู่กันอินซูลินก็พุ่งครับแต่ไม่
00:34:47 → 00:34:49 ใช่ภาวะผิดปกติ
00:34:49 → 00:34:52 เป็นเพื่อนเรานะครับก็ให้มุมมองใหม่
00:34:52 → 00:34:57 อินซูลินพุ่งไม่เป็นไรกินได้เลยครับผม
00:34:57 → 00:34:59 ถ้ากินถั่วก่อนกินขนมหวานถือว่าดีมาก
00:34:59 → 00:35:03 เพราะถั่วเป็นอาหารสีเหลืองขนมหวานเป็น
00:35:03 → 00:35:07 อาหารสีแดงแต่ว่าเราเลือกอันที่ดีเข้าไป
00:35:07 → 00:35:12 ก่อนแล้วครับดีมากโอเคอ่ะเข้าใจแล้วทีนี้
00:35:12 → 00:35:15 อันนี้ถามแบบถามแบบ
00:35:15 → 00:35:19 คนขอความรู้อ่ะเนาะคือถ้าเราเริ่มปรับ
00:35:19 → 00:35:22 พฤติกรรมพอเรารู้แล้วว่าตอนนี้สิ่งที่
00:35:22 → 00:35:25 แก่นที่หมอให้คือว่าเราเรียงลำดับสิ่งที่
00:35:25 → 00:35:28 เราจะทานในแต่ละมื้อก่อนเริ่มจากสีเขียว
00:35:28 → 00:35:32 ให้เยอะๆแล้วคุณยังรู้สึกไม่อิ่มแต่ว่า
00:35:32 → 00:35:34 คุณรู้สึกว่าโอเคอีกคุณกินสีเขียวมากพอ
00:35:34 → 00:35:36 แล้วคุณก็มาหาสีเหลืองแต่ถ้ามันยังเหลือ
00:35:36 → 00:35:38 อีกนิดหน่อยคุณจะเติมสีแดงบ้างนิดนึงก็
00:35:38 → 00:35:40 ไม่เป็นไรแต่ให้เรียงเขียวเหลืองแดงเนาะ
00:35:40 → 00:35:45 ถ้าเราใช้ชีวิตทานแบบเนี้ยไปแบบทุกวันทุก
00:35:45 → 00:35:48 วันเนี่ยครับโดยธรรมชาติแบบมันน่าจะพาเรา
00:35:48 → 00:35:51 ลงมาในน้ำหนักที่เราควรจะเป็นโดยแท้จริง
00:35:51 → 00:35:54 อ่ะเนาะถูกไหมอ่ามันน่าจะใช้เวลาประมาณ
00:35:54 → 00:35:56 เท่าไหร่อะไรเงี้ยอันนี้หรือว่าแล้วแต่คน
00:35:56 → 00:36:00 ที่ถามหมอแบบครับผมก็ขึ้นกับ
00:36:00 → 00:36:04 น้ำหนักตั้งต้นแล้วก็ความเข้มข้นในการทำ
00:36:04 → 00:36:05 ของเราด้วยครับ
00:36:05 → 00:36:09 วันนี้วันนี้เราคุยกันในมุมเรื่องอาหาร
00:36:09 → 00:36:13 อย่างเดียวถ้าเกิดว่ามีอีกคนนึงทำแบบที่
00:36:13 → 00:36:15 หมอแบบแนะนำแบบเข้มข้นแต่บวกกับเขาไปทำ
00:36:15 → 00:36:19 เรื่องของออกกำลังกายเพิ่มขึ้นด้วยอันนี้
00:36:19 → 00:36:28 ก็จะเร็วมากขึ้นครับ
00:36:28 → 00:36:31 ถ้าเกิดจัดการทั้งหมดนี้ได้เนี่ยเดือนนึง
00:36:31 → 00:36:34 ครับเดือนนึงเนี่ย
00:36:34 → 00:36:35 5-10 กิโล
00:36:36 → 00:36:39 เป็นเรื่องธรรมชาติมากในในนักเรียนของหมอ
00:36:39 → 00:36:40 แบงค์นะครับ
00:36:40 → 00:36:43 เข้มข้นจริงๆนะครับเข้มข้นจริงๆแดงน้อย
00:36:43 → 00:36:50 มากๆและอีก 4 เสาหลักเนี่ยดีมากๆ
00:36:50 → 00:36:52 น่าสนใจ
00:36:52 → 00:36:55 พูดมากก็แสดงว่าจริงๆนอกจากเรื่องของการ
00:36:55 → 00:36:58 อ่าเขาเรียกว่าเหลืองเขียวแดงตามสูตรของ
00:36:58 → 00:37:01 ของที่คุณหมอพูดถึงเรื่องอาหารต้นทางแล้ว
00:37:01 → 00:37:04 เนี่ยมันยังมีตัวช่วยหรือว่าตัวเร่งอื่นๆ
00:37:04 → 00:37:07 ที่จะทำให้คุณผอมได้เร็วขึ้นสุขภาพดีขึ้น
00:37:07 → 00:37:11 อันนี้ผมเข้าใจถูกต้องไหม
00:37:11 → 00:37:16 มีเทคนิคอะไรบ้างที่จะเร่งสปีดการลดน้ำ
00:37:16 → 00:37:19 หนักลงมาสู่น้ำหนักที่ควรจะเป็นของเรารูป
00:37:19 → 00:37:22 ร่างดีสุขภาพดีมีอะไรบ้างถ้าเกิดหมอพอจะ
00:37:22 → 00:37:25 แชร์ได้รบกวนหน่อยครับได้เลยครับสูตรนี้
00:37:25 → 00:37:29 นะครับถ้าทำตามยังไม่ต้องไปวิ่งออกกำลัง
00:37:29 → 00:37:34 กายเลยครับคุณจะลดน้ำหนักลงมาได้ฟรีๆ 2.2
00:37:34 → 00:37:38 กิโลใน 3 เดือนตามงานวิจัยครับ
00:37:38 → 00:37:39 เทคนิคอันนี้
00:37:39 → 00:37:42 เทคนิคนี้แชร์ให้พิเศษสำหรับคนฟังไลฟ์นี้
00:37:42 → 00:37:44 ในเพจสรุปให้เลย
00:37:44 → 00:37:48 ข้อแรกนะครับให้ดื่มน้ำก่อน
00:37:48 → 00:37:51 ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร 30 นาทีครับปริมาณ
00:37:51 → 00:37:55 1-2 แก้วหรือว่า
00:37:55 → 00:37:58 241-480 ML ครับน้ำดื่มเนี่ยจะเข้าไป
00:37:58 → 00:38:01 ขยายกระเพาะครับ
00:38:01 → 00:38:04 และการขยายเฉพาะของคุณเนี่ยมันไปกระตุ้น
00:38:04 → 00:38:06 ระบบประสาทหนึ่งครับที่เรียกว่า
00:38:06 → 00:38:09 simpedatic แปลเป็นภาษา
00:38:09 → 00:38:15 มนุษย์ทั่วไปก็คือระบบที่เราใช้ในการสู้
00:38:15 → 00:38:17 หรือหนี
00:38:17 → 00:38:21 ระบบสู้หรือหนีเนี่ยคือตอนที่เรานอนหลับ
00:38:21 → 00:38:25 อยู่แล้วเราโดนตะโกนว่าไฟไหม้นะครับแล้ว
00:38:25 → 00:38:29 เรายกตู้เซฟได้
00:38:29 → 00:38:33 ระบบระบบสู้หรือหนีแล้วทำงานเราจะรู้สึก
00:38:33 → 00:38:36 มีแรงรู้สึกเหงื่อแตกการเผาผลาญเราเพิ่ม
00:38:36 → 00:38:39 ขึ้นครับการดื่มน้ำแบบนี้คือกระตุ้นระบบ
00:38:39 → 00:38:40 นั้นครับ
00:38:40 → 00:38:43 การเผาผลาญถึงจะพุ่งขึ้น 30% โดยที่ยัง
00:38:43 → 00:38:48 ไม่ต้องไปวิ่งเลย
00:38:48 → 00:38:51 อันนี้สูตรอันนี้สูตรน่าสนใจ 2.2 กิโลนี้
00:38:51 → 00:38:55 ใช้ได้เลยนะถ้าใครที่แบบว่าฉันจะลด 2
00:38:55 → 00:38:58 กิโล 3 กิโลอะไรอย่างเงี้ยคุณไม่ต้องทำ
00:38:58 → 00:39:01 อะไรเพิ่มเลยคุณได้ได้แต้มต่อไปแล้ว 2.2
00:39:01 → 00:39:04 กิโลด้วยกันดื่มน้ำ 240 มิลลิลิตรนะครับ
00:39:04 → 00:39:07 ก่อนมื้ออาหาร 30 นาที
00:39:07 → 00:39:12 เยี่ยมโอเค
00:39:12 → 00:39:15 ก่อนถึงมื้ออาหาร 5 นาทีเนี่ย
00:39:15 → 00:39:19 ให้ทานผลไม้ที่คุณชอบเข้าไปก่อนอย่างน้อย
00:39:19 → 00:39:47 ๆ 5 ชิ้นครับ
00:39:47 → 00:39:50 อย่างน้อย 5 ชิ้นแปลว่ามากกว่านั้นได้
00:39:50 → 00:39:55 ครับ
00:39:55 → 00:39:56 มีความ
00:39:56 → 00:40:00 มากกว่านั้นได้หรือจนกว่าจะพอใจก็ได้ครับ
00:40:00 → 00:40:03 แต่ไม่เอาแบบอิ่มแต่ไม่เอาแบบอิ่มแล้ว
00:40:03 → 00:40:06 แล้วยัดลงไปแบบฝึกกระเพาะให้เป็นนักกิน
00:40:06 → 00:40:10 ไหนไม่เอาแบบนั้นครับ
00:40:10 → 00:40:14 ทานให้รู้สึกว่าพึงพอใจประมาณสัก 5 ชิ้น
00:40:14 → 00:40:18 ขึ้นไปเนี่ยได้เลยทุเรียนอาจจะแบบ 2 เม็ด
00:40:18 → 00:40:22 3 เม็ดได้แล้วแต่ 4 เม็ดได้ครับมะม่วง
00:40:22 → 00:40:27 ลูกได้ได้ครับก็เทคนิคนี้นะครับทำไมถึง
00:40:27 → 00:40:30 ถึงช่วยได้
00:40:30 → 00:40:35 นึกภาพตามหมอทุกคนหิวโทรมาหมอเสกให้ทุกคน
00:40:35 → 00:40:38 หิวโซมาเหมือนเดิมนะครับเดินมาเข้าร้าน
00:40:38 → 00:40:40 อาหารหมอแบงค์นะครับเข้าร้านอาหารหมอ
00:40:40 → 00:40:41 แบงค์
00:40:41 → 00:40:44 แล้วสั่งอาหารเนี่ย 10 อย่างปรากฏว่า
00:40:44 → 00:40:47 พนักงานเนี่ยมาเสิร์ฟคุณแค่ 3 อย่างครับ
00:40:47 → 00:40:49 แต่อีก 7 อย่างเนี่ยทิ้งช่วงไว้ 15 นาที
00:40:49 → 00:40:55 ขาดตอนแล้วค่อยมาส่งคุณรู้สึกยังไงครับ
00:40:55 → 00:40:58 ผมรู้สึกว่าเป็นไปได้ว่าเราจะเริ่มรู้สึก
00:40:58 → 00:41:01 อยากไอ 7 อันที่เหลือน้อยลงเมื่อเทียบกับ
00:41:01 → 00:41:04 ตอนที่ 3 ถ้าใครคิดคล้ายๆกันพิมพ์ +1 ให้
00:41:04 → 00:41:08 หน่อยแล้วกันว่าตอนๆหิวหน้ามืดจะสั่งหนัก
00:41:08 → 00:41:10 ๆเลยเพราะคิดว่าจะกินให้หมดแต่ว่ากินไป
00:41:10 → 00:41:12 ได้สัก 3 อันที่มันมาเสริมก่อนน่ะอันหลัง
00:41:12 → 00:41:15 ๆจะรู้สึกไม่มาก็เอากลับบ้านแล้วกันหรือ
00:41:15 → 00:41:16 ไม่ก็ยกเลิกอะไรอย่างนี้ผมว่าเป็นไปได้
00:41:16 → 00:41:19 สูงนะอันนี้ส่วนตัวผมนะแต่ถ้าเกิดเห็น
00:41:19 → 00:41:20 ด้วยก็พิมพ์บวกหนึ่งแล้วกัน
00:41:20 → 00:41:24 เวลาอาหารขาดตอนครับทุกคนเราจะรู้สึกว่า
00:41:24 → 00:41:27 พอมันมาล็อตหลังเนี่ยเราจะกินไม่ได้
00:41:27 → 00:41:29 เหมือนเดิมแหละความอร่อยมันจะไม่เหมือน
00:41:29 → 00:41:30 เดิมแหละ
00:41:30 → 00:41:33 แต่เปลี่ยนใหม่ถ้าเขามาทีเดียว 10 อย่าง
00:41:33 → 00:41:34 ครับ
00:41:34 → 00:41:37 คุณว่าคุณมีสิทธิ์ที่จะกินหมดทั้ง
00:41:37 → 00:41:38 ครอบครัวไหม
00:41:39 → 00:41:40 เป็นไปได้นะ
00:41:40 → 00:41:45 นึกถึงเวลาที่อ่ะเวลาเราไปสุกี้ก็ได้มา
00:41:45 → 00:41:49 พร้อมๆกันเทใส่พร้อมกันตัดอยากรวดเร็ว
00:41:49 → 00:41:53 แล้วเดาเอานะผมไม่รู้ว่าว่าจริงๆแล้ว
00:41:53 → 00:41:55 เดี๋ยวหมอแบงค์จะๆเฉลยว่ายังไงแต่ผมรู้
00:41:55 → 00:41:58 สึกว่าเราจะอิ่มเกินน่ะเพราะว่าตอนนั้น
00:41:58 → 00:42:00 เราหิวจัดๆ
00:42:00 → 00:42:02 ซึ่งอันนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับว่าทำไมเรา
00:42:02 → 00:42:08 ต้องกินผลไม้ลวกหน้าก่อนครับ
00:42:09 → 00:42:12 ใช่เลยครับเทคนิคการกินผลไม้เข้าไปก่อน
00:42:12 → 00:42:16 มื้ออาหาร 5-10 นาทีเนี่ยมันจะไปทำให้
00:42:16 → 00:42:20 ระยะห่างระหว่างมื้อหลักกับผลไม้มันมัน
00:42:20 → 00:42:23 แยกออกจากกันเหมือนมันขาดตอน
00:42:23 → 00:42:27 โอเคเวลาที่คุณไปกินมื้อหลักจริงๆแล้ว
00:42:27 → 00:42:31 เนี่ยคุณจะกินแคลอรี่ไม่เกินที่ร่างกาย
00:42:31 → 00:42:34 ต้องการครับ
00:42:34 → 00:42:37 เราจะไม่ได้กินเพราะความหิวโหยแล้วเราจะ
00:42:37 → 00:42:40 กินเพื่ออยู่กินเพื่ออิ่ม
00:42:40 → 00:42:43 ซึ่งโดยใช้คือเคล็ดลับมันก็คือเหมือนกับ
00:42:43 → 00:42:50 ใช้ผลไม้สีเขียวเพื่อทำให้เราเริ่มรู้สึก
00:42:50 → 00:42:53 อิ่มไวขึ้นเวลาเราไปกินมื้อหนักๆมันจะได้
00:42:53 → 00:43:01 ไม่ Take Carry เยอะเกินไปเนาะ
00:43:01 → 00:43:34 งานวิจัยเขาบอกว่าแบ่งคนเป็น 2 กลุ่มนะ
00:43:34 → 00:43:37 10 กว่าวัน 7,700 แคลเมื่อไหร่ที่เราเคย
00:43:37 → 00:43:39 ได้ยินกันว่า 7,700 แคล้วคุณก็ลงได้โหลด
00:43:39 → 00:43:45 ถึงเนาะงั้นก็เดือนนึงก็เดือนนึง
00:43:45 → 00:43:51 ครับโดยยังไม่ได้ห้ามคุณเลยนะ
00:43:51 → 00:43:54 พวกเราพิมพ์คำว่ามีความหวังให้หน่อยได้
00:43:54 → 00:44:06 ไหม
00:44:06 → 00:44:09 คือผมสารภาพเรื่องนึงอันนี้ผมขออนุญาต
00:44:09 → 00:44:13 ชื่นชมน้องน้องคุณหมอแบงค์นิดนึงอ่าขึ้น
00:44:13 → 00:44:16 มาแบงค์อ่ะเขาเขาเวลาเขาเขียนหนังสือแล้ว
00:44:16 → 00:44:18 ตอนนั้นผมสัมภาษณ์เขาว่าเออทำไมถึงอยาก
00:44:18 → 00:44:20 เขียนเล่มนี้อะไรอย่างงี้เขาบอกว่าเนี่ย
00:44:20 → 00:44:23 เขาก็ไม่ตั้งใจจะไม่กั๊กอะไรเลยเขาบอกว่า
00:44:23 → 00:44:26 เขาอยากจะเอาที่มีทั้งหมดอ่ะที่เขารู้ว่า
00:44:26 → 00:44:28 ใส่เข้าไปแล้วเขาใช้เวลาในการแก้หนังสือ
00:44:28 → 00:44:30 เล่มนี้นานมากเนาะตอนที่เขาสัมภาษณ์เนี่ย
00:44:30 → 00:44:32 เราก็บอกว่าอยากให้เป็นหนังสือที่ดีที่
00:44:32 → 00:44:34 สุดที่ช่วยให้แบบเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน
00:44:34 → 00:44:36 น่ะผมคิดว่าผมอ่านเสร็จผมรู้สึกอย่างนั้น
00:44:36 → 00:44:38 จริงๆนะอันนี้อันนี้ไม่ได้อวยน้องเขานะ
00:44:39 → 00:44:42 ครับแต่ว่าเราสัมผัสได้ว่าเออเขาเขาคิด
00:44:42 → 00:44:44 ว่าเออเขาอยากทำอย่างนี้แล้วเขารู้สึกว่า
00:44:44 → 00:44:47 เขาพูดถึงแม่เขาด้วยถ้าคุณไปอ่านเนาะคือ
00:44:47 → 00:44:50 เขาจะรู้สึกว่าแบบเนี่ยเขาอยากให้คนได้
00:44:50 → 00:44:53 อะไรดีๆอ่ะแล้วแบบว่าได้อยู่กับคนที่รัก
00:44:53 → 00:44:54 ไว้นานๆอะไรอย่างเงี้ยเค้านึกถึงว่าเขาจะ
00:44:54 → 00:44:57 เขียนให้แม่จะเขียนให้ญาติพี่น้องอะไร
00:44:57 → 00:45:00 เงี้ยอ่าเราได้สิ่งที่ดีไปแล้วเขายังพูด
00:45:00 → 00:45:02 เลยว่าเขามั่นใจเลยว่าเนี่ยส่วนตัวเขาเขา
00:45:02 → 00:45:04 รู้สึกว่า 2,000 บาทเค้ายังซื้อเลยหมาย
00:45:04 → 00:45:05 ถึงว่าถ้าเขาเป็นนักอ่านนะเพราะเขารู้สึก
00:45:05 → 00:45:07 ว่าสิ่งที่อยู่ในนี้มันเกินนั้นน่ะผม
00:45:07 → 00:45:10 เชื่อจริงๆนะฮะเอาแค่ไอ้สองข้อเมื่อกี้ก็
00:45:10 → 00:45:13 คุ้มแล้วไงใช่มั้ยเอออ่ะเป็นคนพิมพ์มี
00:45:13 → 00:45:15 ความหวังเพียบเลยโอเคจะพอก็คราวนี้แหละ
00:45:15 → 00:45:16 [เสียงหัวเราะ]
00:45:16 → 00:45:19 มีคำถามมีคำถามมีคำถามที่ผมว่า
00:45:20 → 00:45:24 เราคือผมเห็นด้วยนะว่าเวลาเราสงสัยให้เรา
00:45:24 → 00:45:26 ถามครับเพราะว่าบางทีผู้เชี่ยวชาญน่ะใน
00:45:26 → 00:45:29 หนังสืออ่ะบางทีตอนที่เราอ่านแล้วเรา
00:45:29 → 00:45:32 สงสัยบางทีเราเราถามเขาตรงๆไม่ได้แต่ตอน
00:45:32 → 00:45:33 นี้เขาอยู่ตรงนี้แล้วเนาะเพราะฉะนั้น
00:45:33 → 00:45:37 สงสัยถามเลยนะครับอ่าอย่างนี้พี่โกเขาถาม
00:45:37 → 00:45:39 ว่าถ้าคุณเป็นเบาหวานเนี่ยทานผลไม้ได้
00:45:39 → 00:45:41 ปกติหรือควรจำกัดผมว่าอันนี้ต้องให้คำแนะ
00:45:41 → 00:45:42 นำเนาะ
00:45:42 → 00:45:46 ดีมากๆแล้วก็ขอบคุณสำหรับคำถามนะครับดี
00:45:46 → 00:45:50 มากๆเลยสมัยก่อนนะเชื่อไหมเอ่อพี่แป๊ะพอ
00:45:50 → 00:45:54 มีเวลาสัก 2 นาทีนะฮะเนี่ยให้ผม
00:45:54 → 00:45:57 สมัยก่อนหมอแบงค์เนี่ยก็เรียนตามหลักสูตร
00:45:57 → 00:46:01 ปกติมาเนาะแล้วพอเจอคนไข้เบาหวานเนี่ยเรา
00:46:01 → 00:46:04 ก็แนะนำปกติอยากกินข้าวเยอะอยากกินผลไม้
00:46:04 → 00:46:06 เยอะอยากกินน้ำตาลเยอะเพราะว่าทุกอย่าง
00:46:06 → 00:46:09 มันเปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลแล้วพอเจาะเลือด
00:46:09 → 00:46:11 ที่โรงพยาบาลน้ำตาลมันขึ้นหมอก็เลยจะเป็น
00:46:11 → 00:46:14 จะต้องเอายาให้เพื่อเป็นรดน้ำตาลมันจะ
00:46:14 → 00:46:18 เป็นวัฏจักรแบบนี้แต่พอมาสายเนี่ยครับเรา
00:46:18 → 00:46:21 ต้องมีมุมมองใหม่กับโลกเบาหวานและวิธีคิด
00:46:21 → 00:46:24 ของโรคเบาหวานหมอแบงค์ในใน 10 ปีก่อนอ่ะ
00:46:24 → 00:46:27 จะไม่ใช่หมอแบงค์ในวันนี้งั้นวันนี้หมอ
00:46:27 → 00:46:29 อัพเดทซอฟแวร์ให้ทุกคนไปเลยนะครับ
00:46:29 → 00:46:33 วิธีคิดเรื่องเบาหวานแบบไหนอย่างที่เรา
00:46:33 → 00:46:36 คุยกันต้นไม้ครับโรคเบาหวานไม่ใช่โรคของ
00:46:36 → 00:46:40 น้ำตาลขึ้นแต่เป็นโรคของน้ำตาลไม่ลง
00:46:40 → 00:46:43 แล้วอะไรล่ะทำให้น้ำตาลเราเนี่ยมันไม่ลง
00:46:43 → 00:46:46 มันมีบางอย่างครับไปอุดในเซลล์ของเราอยู่
00:46:46 → 00:46:49 ไปอุดอย่างนี้เซลล์ของเราเลยไม่กล้ากิน
00:46:49 → 00:46:52 น้ำตาลครับมันเลยหลงเหลือในเลือดเยอะเวลา
00:46:52 → 00:46:54 เจาะมาก็เลย 150-200
00:46:54 → 00:46:57 แต่เซลล์ของพี่แป๊ะปกติกินข้าวเข้าไป
00:46:57 → 00:47:00 เซลล์มันกินครับน้ำตาลก็เลยลดต่ำกว่าร้อย
00:47:00 → 00:47:04 ปกติครับปัญหาตัวนี้ที่มันไปอุดเซลล์เรา
00:47:04 → 00:47:13 ครับฟังดีๆนะคืออาหารสีแดงครับ
00:47:13 → 00:47:15 ถ้าคุณมีอาหารสีแดง
00:47:15 → 00:47:19 ยังไงน้ำตาลจะพุ่งครับถ้าคุณกินข้าวแล้ว
00:47:19 → 00:47:22 ผลไม้น้ำตาลจะพุ่งแล้วเอาไม่ลงครับแต่ถ้า
00:47:22 → 00:47:26 วันนี้หอยอาหารสีแดงออกแล้วลองกินแต่สี
00:47:26 → 00:47:28 เขียวลองพิสูจน์ให้หมอดู
00:47:28 → 00:47:31 ผลไม้หวานๆกินเข้าไปครับกินเข้าไปเลยกิน
00:47:31 → 00:47:32 กับข้าวแบบนี้
00:47:32 → 00:47:36 ปรากฏว่าน้ำตาลกับรถด้วยครับเพราะอาหารสี
00:47:36 → 00:47:41 แดงมันไม่ไปอุดในเซลล์แล้วครับ
00:47:41 → 00:47:43 อาจารย์ของหมอแบงค์เนี่ย
00:47:43 → 00:47:47 ก็เลยใช้สูตรที่เรียกว่ากินข้าวกับแตงโม
00:47:47 → 00:47:50 กินข้าวกับมะม่วงเคยเห็นปู่ย่าตายายเรา
00:47:50 → 00:47:52 กินไหม
00:47:52 → 00:47:56 มันมีแบบกินกับแตงโมแล้วก็เติมน้ำตาลลงไป
00:47:56 → 00:47:58 ด้วยน้ำตาลอะไรสักอย่างด้วยมื้อเที่ยงที่
00:47:58 → 00:48:02 ผ่านมานี่เองเออๆๆๆนึกออกแล้วเออ
00:48:02 → 00:48:05 ข้าวแตงโมข้าวมะม่วงเนี่ยเป็นสูตรปู่ย่า
00:48:05 → 00:48:08 ตายายเราซึ่งปู่ย่าตายายเราที่กินสูตรนี้
00:48:08 → 00:48:11 ครับไม่มีใครเป็นเบาหวานนะแล้วทุกคนก็ตัว
00:48:11 → 00:48:13 ผอมและอายุยืนกันหมดครับ
00:48:14 → 00:48:17 นี่แหละนะครับเพราะฉะนั้นลองดูครับกิน
00:48:17 → 00:48:20 ข้าวกินผลไม้ที่เป็นอาหารต้นทางและหลีก
00:48:20 → 00:48:22 เลี่ยงอาหารแดงครับจะรักษาโรคเบาหวานที่
00:48:22 → 00:48:29 ต้นเหตุครับ
00:48:29 → 00:48:32 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ลองลองศึกษาเพิ่มก็ลอง
00:48:32 → 00:48:35 อ่านอันนี้เพิ่มก็ได้แล้วก็ติดตามคุณแบบ
00:48:35 → 00:48:37 คุณหมอแบงค์ได้เนาะอาทิตย์นี้จริงๆที่ผม
00:48:37 → 00:48:40 ชอบอีกอย่างนึงในเล่มนี้นะต้องบอกงี้เรา
00:48:40 → 00:48:43 เองอ่ะเราก็เวลาเราอ่านเราก็จะชอบสรุป
00:48:43 → 00:48:44 อยู่แล้วนึกออกไหมเพราะเราก็ทำเพจสรุปให้
00:48:44 → 00:48:47 ใช่ไหมเราก็จะต้องสรุปของเราเองแต่ขอโทษ
00:48:47 → 00:48:51 นะครับเล่มนี้ครับเขารู้ว่าจะมีคนสรุปเขา
00:48:51 → 00:48:54 สรุปให้เลยครับนี่ซิมทรูสรุป 12 คันต่อ
00:48:54 → 00:48:56 สู้กับการลดน้ำหนักที่ยั่งยืนนะครับอัน
00:48:56 → 00:49:01 นี้คือเขาสรุปให้เลยสุดยอดไปเลยนะแต่ที
00:49:01 → 00:49:03 นี้ผมคิดว่าถ้าเราจะเอาแบบคร่าวๆเนอะ 12
00:49:03 → 00:49:05 ขั้นตอนผมไม่แน่ใจว่าทุกคนจะจำได้หรือ
00:49:05 → 00:49:08 เปล่าเพราะว่ามันค่อนข้างเยอะนะถ้าสนใจก็
00:49:08 → 00:49:10 ไปลองดูในหนังสือเลยดีกว่าแต่ว่าถ้าจะให้
00:49:10 → 00:49:14 คุณหมอแบงค์แบบสรุปแบบง่ายๆที่อ่ะคนเอาไป
00:49:14 → 00:49:16 ใช้ได้อะไรเงี้ยคุณหมอแบงค์จะสรุปว่ายัง
00:49:16 → 00:49:18 ไงดีว่าถ้าเราอยากลดน้ำหนักเราจะต้อง
00:49:18 → 00:49:20 เริ่มจากอะไรอ่ะเชิญคุณหมอครับทุกคนจดตาม
00:49:20 → 00:49:23 ครับทำสูตรนี้ยังไงก็สุขภาพดีแล้วก็ผอมนะ
00:49:23 → 00:49:27 ครับถ้าคุณเป็นคนกินข้าว 3 มื้อนะครับให้
00:49:27 → 00:49:32 รวบมื้อกินอยู่ในมื้อครับเช้ากลางวันแล้ว
00:49:32 → 00:49:35 ก็เย็นครับนอกมือไม่กินจุกจิกครับข้อแรก
00:49:35 → 00:49:38 ก่อนนะครับไม่ว่าจะกินอะไรอยู่นะขอให้กิน
00:49:38 → 00:49:41 ในมื้อนอกมื้อไม่กินง่ายไหม
00:49:42 → 00:49:44 ง่ายนะครับถ้าคุณเป็นคนกิน 2 มื้ออยู่
00:49:44 → 00:49:48 แล้วครับก็ให้กิน 2 มื้อนะครับเป็นแบบ
00:49:48 → 00:49:51 นั้นไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนอะไรครับแต่ถ้า
00:49:51 → 00:49:54 ทำสูตรนี้เหมาะกับ 10 ไว้นิดนึงถ้าทำสูตร
00:49:54 → 00:49:57 หมอแบงค์เนี่ยอาหารต้นทางเดิมทีกิน 3
00:49:57 → 00:49:59 มื้ออยู่แล้วเนี่ยแล้วรู้สึกว่ามื้อที่ 2
00:49:59 → 00:50:02 มันอิ่มอ่ะหมอแบงค์มันยังไม่อยากกินเลย
00:50:02 → 00:50:06 อ่ะเราข้ามมื้อเลยได้ไหมทำได้เลยครับแต่
00:50:06 → 00:50:12 ว่ามันอิ่มถึงสมองครับ
00:50:12 → 00:50:15 เหลือ 2 มื้อได้ครับสำหรับคนที่กิน 3
00:50:15 → 00:50:19 มื้ออยู่แล้วแล้วมันอิ่มข้อแรกนะข้อที่ 2
00:50:19 → 00:50:19 ครับ
00:50:19 → 00:50:24 ให้ทุกคนเนี่ยดื่มน้ำให้ถึงครับวันนึง 2
00:50:24 → 00:50:27 ลิตรขึ้นไปสำหรับคุณผู้หญิงเนาะคุณผู้ชาย
00:50:27 → 00:50:31 3 ลิตรขึ้นไปครับน้ำดื่มสำคัญสุดๆครับ
00:50:31 → 00:50:35 ถ้าน้ำไม่ถึงเราจะมีโอกาสหิวตาบะแตกได้
00:50:35 → 00:50:37 เราจะอยากกินนู่นกินนี่ครับเพราะฉะนั้น
00:50:37 → 00:50:39 น้ำดื่มต้องดื่ม
00:50:39 → 00:50:42 ข้อที่ 3 ครับ
00:50:42 → 00:50:45 ให้ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหารเมื่อกี้ 30 นาที
00:50:45 → 00:50:52 1-2 แก้วครับโอเค
00:50:52 → 00:50:56 ครับข้อที่ 4 ครับให้ทานผลไม้ก่อนมื้อ
00:50:56 → 00:51:02 อาหาร 5-10 นาทีอย่างน้อยๆ 5 ชิ้นครับ
00:51:02 → 00:51:05 ข้อสุดท้ายที่จะให้วันนี้นะครับก็คือใน
00:51:05 → 00:51:09 มืออาหารถ้าเลือกอาหารต้นทางได้ก่อนก็ทาน
00:51:09 → 00:51:12 เมนูที่เป็นอาหารต้นทางก่อนครับก็จะ
00:51:12 → 00:51:15 สุขภาพดีอย่างเช่นไปร้านส้มตำเลือกส้มตำ
00:51:15 → 00:51:19 ก่อนเลือกข้าวเหนียวก่อนซุปหน่อไม้ลาบ
00:51:19 → 00:51:21 เห็ด
00:51:21 → 00:51:24 แล้วถ้ากระเพาะยังเหลือเราค่อยไปกินไก่
00:51:24 → 00:51:28 ทอดลาบไก่ทอดแล้วแต่
00:51:28 → 00:51:32 พวกนั้นจะเป็นหมวดอาหารแดงแคลอรี่สูงไม่
00:51:32 → 00:51:35 ได้ห้ามแต่ถ้าอิ่มแล้วก็ไม่จำเป็นจะต้อง
00:51:35 → 00:51:38 ไปกินอาหารแดงแล้วครับเราทำความดีไปละยัง
00:51:38 → 00:51:40 ไงเราก็ขึ้นสวรรค์นะครับ
00:51:40 → 00:51:45 [เพลง]
00:51:45 → 00:51:49 ว่าเราจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรกเราทำบุญไว้
00:51:49 → 00:51:55 แล้ว
00:51:55 → 00:51:58 ล้างได้
00:51:58 → 00:52:02 เดี๋ยวลองทวนนะตอนนี้พิมพ์ไว้แล้วกินกิน
00:52:02 → 00:52:05 ถ้ากิน 3 มื้อก็จะให้กินในมื้อเท่านั้น
00:52:05 → 00:52:08 นอกมื้อพยายามไม่ทานนะครับถ้ากิน 2 มื้อ
00:52:08 → 00:52:10 อยู่ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเป็นพิเศษ
00:52:10 → 00:52:13 แต่ว่าถ้าเกิดคุณกิน 2 มื้อแล้วคุณอิ่ม
00:52:13 → 00:52:16 คุณมีสิทธิ์ข้ามมื้อได้เผื่อคุณจะกินก็
00:52:16 → 00:52:19 ต่อเมื่อคุณหิวเนาะอ่าดื่มน้ำให้พอสภาพ
00:52:19 → 00:52:22 สตรีก็ 2 ลิตรขึ้นไปสุภาพบุรุษอาจจะ 3
00:52:22 → 00:52:24 ลิตรขึ้นไปนะครับคำแนะนำของหมออีกอันนึง
00:52:24 → 00:52:27 เมื่อกี้ที่เราคุยกันก็คือว่าคุณอาจจะลด
00:52:27 → 00:52:29 ได้ 2.2 กมภายใน 3 เดือนถ้าเกิดคุณดื่ม
00:52:29 → 00:52:33 น้ำปริมาณที่มากพอ 240 มิลลิลิตรก็อาจจะ
00:52:33 → 00:52:35 เท่ากับอ่าน้ำดื่มประมาณสักเท่านี้แหละ
00:52:35 → 00:52:38 เนาะ 1 ขวดอ่ะก่อนมื้อ 30 นาทีแล้วก็พอ
00:52:38 → 00:52:42 ใกล้ๆมือให้คุณทานผลไม้ที่คุณชอบ 5 ชิ้น
00:52:42 → 00:52:45 เป็นอย่างน้อยคีย์เวิร์ดคือเป็นอย่างน้อย
00:52:45 → 00:52:47 นะครับมันจะช่วยให้คุณอิ่มเร็วขึ้นเมื่อ
00:52:47 → 00:52:49 ถึงมือหลักของคุณเนาะอ่าแล้วก็อันสุดท้าย
00:52:49 → 00:52:52 ก็เวลาเริ่มทานมื้อหลักก็เรียงเขียว
00:52:52 → 00:52:55 เหลืองแดงนะจะมีแดงบ้างนิดหน่อยไม่เป็นไร
00:52:55 → 00:52:57 แต่อย่าลืมเอาเขียวกับเอาเหลืองใหญ่เขาไป
00:52:57 → 00:53:01 ก่อนทำได้เท่านี้น้ำหนักมาจุดในที่จุดที่
00:53:01 → 00:53:06 ดีแน่นอน
00:53:06 → 00:53:09 มีคำถามมีคำถามนะครับอันนี้ผมสรุปไว้ให้
00:53:09 → 00:53:12 แล้วนะครับนะลองเอาไปลองใช้กันดูเดี๋ยวผม
00:53:12 → 00:53:16 จะลองด้วยนะทีนี้คำถามครับผมถ้าอายุ 40
00:53:16 → 00:53:19 บวกกันลดน้ำหนักยากขึ้นมากจนท้อใจค่ะแต่
00:53:19 → 00:53:22 จะลองกลับมาลดตามหนังสืออ่ะสำหรับคนอายุ
00:53:22 → 00:53:25 40 มีคำแนะนำเป็นพิเศษไหมเอออันนี้น่าสน
00:53:25 → 00:53:26 ใจขอฟังด้วย
00:53:26 → 00:53:30 [เสียงหัวเราะ]
00:53:30 → 00:53:35 ครับหลายคนจะมีความเชื่อว่าอายุเยอะขึ้น
00:53:35 → 00:53:37 จะลดน้ำหนักยากขึ้นหมอไม่อยากให้มีความ
00:53:37 → 00:53:39 เชื่อนี้ครับนักเรียนของหมอแบงค์เนี่ย
00:53:39 → 00:53:43 อายุ 80 ปีครับ
00:53:43 → 00:53:52 แต่ความตั้งใจเขาไม่เคยลดครับ
00:53:52 → 00:53:57 6 เดือนกลับมามีน้ำหนักปกติครับหมอกำลัง
00:53:57 → 00:54:00 จะบอกว่าแม้อายุเยอะขึ้นครับถ้าเรากลับมา
00:54:00 → 00:54:03 สู่วิถีธรรมชาติยังไงก็ลดน้ำหนักได้ปกติ
00:54:03 → 00:54:07 แน่นอนครับไม่เกี่ยวกับอายุเลย
00:54:07 → 00:54:09 [เพลง]
00:54:09 → 00:54:12 ขอบคุณมากทีนี้
00:54:12 → 00:54:15 เรื่องนึงที่อยากจะต้องระวังคือน้ำตาลที่
00:54:15 → 00:54:18 อยู่ในอาหารตามธรรมชาติ
00:54:18 → 00:54:21 หมอจะพูดด้วยคำนึงแหละว่าสารอาหารกับ
00:54:21 → 00:54:23 อาหารมันไม่เหมือนกันเดี๋ยวผมกำลังนึกถึง
00:54:23 → 00:54:25 ว่าอุ๊ยของขวัญกินได้ถ้าอย่างนี้น้ำตาลก็
00:54:25 → 00:54:27 กินได้สีอะไรอย่างนี้อันนี้ให้หมอหมอแถลง
00:54:27 → 00:54:29 ไข่นิดนึงเดี๋ยวคนเขาใช้ผิดว่าอะไรมันคือ
00:54:30 → 00:54:31 ยังไงเนาะ
00:54:31 → 00:54:34 ดีมากๆดีมากๆนะครับ
00:54:34 → 00:54:38 วันนี้นะโลกข้างนอกอ่ะครับเขาจะเหมารวม
00:54:38 → 00:54:41 กล้วยว่าเป็นน้ำตาล
00:54:41 → 00:54:44 กล้วยกินเข้ามาแล้วเป็นน้ำตาลนะอย่ากิน
00:54:44 → 00:54:47 เยอะหรือว่ามะละกอมะม่วงเนี่ยอย่ากินเยอะ
00:54:47 → 00:54:50 กินเข้ามาแล้วเป็นน้ำตาลแต่วันนี้ให้เรา
00:54:50 → 00:54:53 แยกกันครับเวลามองอาหารแบบใหม่ให้เราดูไป
00:54:53 → 00:54:57 เลยว่าสีเขียวหรือหรือสีเหลืองหรือสีแดง
00:54:57 → 00:55:00 ให้เปลี่ยนกรอบความคิดนี้ใหม่เอาเรื่อง
00:55:00 → 00:55:02 พวกนี้ออกนะครับ
00:55:02 → 00:55:05 ถามว่ากล้วยมันย่อยออกมาก็เป็นน้ำตาลหรือ
00:55:05 → 00:55:07 เปล่าหมอคำตอบคือใช่ครับแต่
00:55:07 → 00:55:11 น้ำตาลทรายกับกล้วยเนี่ยมันต่างกันอย่าง
00:55:11 → 00:55:14 สิ้นเชิงเลยครับน้ำตาลทรายเนี่ยมันถูกแปร
00:55:14 → 00:55:18 รูปมาแล้วเวลาเราได้รับไปเนี่ยปุ๊บมันจะ
00:55:18 → 00:55:20 เข้าสู่กระแสเลือดอย่างเร็วครับแล้ว
00:55:20 → 00:55:23 กระตุ้นระบบฮอร์โมนเราให้ผิดแปลกไปแต่
00:55:23 → 00:55:25 กล้วยครับเวลาที่เขาเข้าร่างกายมาเนี่ย
00:55:25 → 00:55:29 เขาไม่ใช่เป็นอยู่ในรูปของน้ำตาลทรายครับ
00:55:29 → 00:55:32 เขาจะอยู่ในรูปแพ็กเกจของอาหาร
00:55:32 → 00:55:35 แพ็กเกจของอาหารเนี่ยมันเยอะมากนะครับมี
00:55:36 → 00:55:39 ทั้งโปรตีนคาร์โบไฮเดรตไขมันวิตามินเกลือ
00:55:39 → 00:55:42 แร่ไฟเบอร์สารต้านอนุมูลอิสระสารต้าน
00:55:42 → 00:55:44 มะเร็งล้วนแล้วแต่อยู่ในแพ็กเกจกล้วย
00:55:44 → 00:55:47 เพราะมันเข้าไปในร่างกายครับร่างกายเราจะ
00:55:47 → 00:55:49 ต้องค่อยๆปอกเปลือกออกจะต้องค่อยๆแกะ
00:55:49 → 00:55:53 กล่องกล้วยนี้ออกค่อยๆเอาออกร่างกายเราจะ
00:55:53 → 00:55:55 ค่อยๆดูดซึมคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันออก
00:55:55 → 00:55:59 น้ำตาลจะไม่ได้พุ่งแบบกินน้ำตาลทรายเพราะ
00:55:59 → 00:56:02 ฉะนั้นแยกออกจากกันครับ
00:56:02 → 00:56:05 แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงน้ำตาลในผลไม้ลูก
00:56:05 → 00:56:08 ๆกับน้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อมคนละเรื่อง
00:56:08 → 00:56:09 ครับ
00:56:09 → 00:56:13 วันนี้วันนี้เรื่องนึงที่ผมคิดว่าผมผมได้
00:56:13 → 00:56:15 เลยนะอันนี้ขออนุญาตแชร์ก็ขอบคุณคุณหมอ
00:56:15 → 00:56:19 ล่วงหน้าเลยผมรู้สึกว่าการการควบคุมน้ำ
00:56:19 → 00:56:21 หนักน่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นสำหรับผม
00:56:21 → 00:56:24 นะอย่างยกตัวอย่างอาชีพเราเนี่ยเป็น
00:56:24 → 00:56:27 วิทยากรคุณหมอเขาก็จะมาเสิร์ฟขนมน้ำตาล
00:56:27 → 00:56:31 ของหวานอะไรอย่างนี้ผมแค่เปลี่ยนเป็น
00:56:31 → 00:56:33 กลุ่มนี้ 2 ช้อยคือผมไม่กินเลยซึ่งผมก็จะ
00:56:33 → 00:56:35 โหยมากเพราะว่าผมยืนบรรยายใช่ไหมผมก็แค่
00:56:35 → 00:56:37 เปลี่ยนมันว่าก่อนที่ผมจะทานมื้อใหญ่ตอน
00:56:37 → 00:56:39 เที่ยงซึ่งส่วนใหญ่เขาก็จะดูแลเราเนาะใน
00:56:39 → 00:56:43 ฐานะวิทยากรเนี่ยผมก็แค่ขอผลไม้ตอนเบรก
00:56:43 → 00:56:47 อ่ะอ่ามาทานล่วงหน้าสัก 5 ชิ้นแตงโมอะไร
00:56:47 → 00:56:50 ก็ได้เนาะแล้วก็ผมก็ดื่มน้ำเยอะๆหน่อยอ่า
00:56:50 → 00:56:54 วิธีนี้ผมคิดว่าผมใช้ได้เลยแล้วก็ท่านไหน
00:56:54 → 00:56:57 ที่ชอบไปทานบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรมก่อนที่คุณ
00:56:57 → 00:57:00 จะเริ่มทานเอ่อถ้าคิวมันเยอะคุณก็ดื่มน้ำ
00:57:00 → 00:57:04 ก่อนเนาะล่วงหน้าก่อนลงมาทานพอมาปุ๊บคิว
00:57:04 → 00:57:07 ตักอาหารมันแน่นคุณก็ไปสอยผลไม้ก่อนเลย
00:57:07 → 00:57:11 แทนที่จะเอาไว้ท้ายแล้วพอคุณกินผลไม้จน
00:57:11 → 00:57:13 หนำใจแล้วคุณค่อยไปตากตอนที่คิวบนทรายเอา
00:57:13 → 00:57:16 ผมว่าอันนี้เวิร์คเดี๋ยวผมจะไปใช้แล้ว
00:57:16 → 00:57:18 เดี๋ยวผมจะเอาผลลัพธ์มาบอกหมอ
00:57:18 → 00:57:21 ยินดีมากๆครับ
00:57:21 → 00:57:25 ถ้าใครใช้ชีวิตแบบนี้อยู่ก็ลองทำดูเนาะที
00:57:25 → 00:57:27 นี้ผมคิดว่าทุกคนแฮปปี้กับการที่คุณหมอมา
00:57:27 → 00:57:30 ตรงนี้แหละถ้าถ้าใครยังไม่ได้ติดตามหมอ
00:57:30 → 00:57:32 ยังไม่ได้กด Subscribe หมอไม่ได้ Follow
00:57:32 → 00:57:35 หมอเนี่ยไป Follow ได้ที่ไหนยังไงบ้างอ่ะ
00:57:35 → 00:57:39 ชี้แจงเลยก็ตอนนี้มีอยู่ใน Facebook นะ
00:57:39 → 00:57:42 ครับเพจหมอแบงค์ Food Doctor ครับมีทั้ง
00:57:42 → 00:57:45 ใน Facebook YouTube tiktok และ IG
00:57:45 → 00:57:47 ครับซึ่ง Content เนี่ยก็จะแตกต่างกันนะ
00:57:48 → 00:57:50 ครับแล้วตอนนี้หมอก็เปิดช่องใหม่ครับก็
00:57:50 → 00:57:53 เรียกว่าช่องครัว Food Doctor ครับจาก
00:57:53 → 00:57:56 สอนการทำอาหารไทยง่ายๆที่มีอยู่ในบ้านของ
00:57:56 → 00:57:59 ทุกคนอยู่แล้ว 1 นาทีครับเป็นคลิป 1 นาที
00:57:59 → 00:58:02 จะเริ่มเปิดช่องเนี้ยเดือนหน้าครับก็
00:58:02 → 00:58:05 สามารถติดตามกันได้ชื่อว่าช่องครัว Food
00:58:05 → 00:58:09 Doctor ครับโอเคอ่ะเยี่ยมเลยนะครับอ่ะที
00:58:09 → 00:58:10 นี้ฝากถึงหนังสือเล่มนี้หน่อยนิดนึงก็เออ
00:58:10 → 00:58:15 เล่มนี้มันเหมาะกับใครอ่าทำไมถึงควรจัดหา
00:58:15 → 00:58:18 มาเจอเลยครับเล่มนี้นะครับเหมาะสำหรับคน
00:58:18 → 00:58:21 ที่ลดน้ำหนักมาแล้วทั้งชีวิตนะครับแล้ว
00:58:21 → 00:58:23 อยากเลิกคิดเรื่องลดน้ำหนักไปเลยเล่มนี้
00:58:23 → 00:58:27 ตอบโจทย์คุณครับหรือคนที่ต้องการมีสุขภาพ
00:58:27 → 00:58:30 ดีอายุยืนไม่ได้ต้องการลดน้ำหนักเล่มนี้
00:58:30 → 00:58:34 ก็เหมาะครับหรือคนที่มีโรคประจำตัวอย่าง
00:58:34 → 00:58:38 เช่นเบาหวานความดันไขมันท้องผูกนอนไม่
00:58:38 → 00:58:41 หลับมีปัญหากับการกินเล่มนี้ก็ตอบโจทย์
00:58:41 → 00:58:44 เช่นกันครับหมอเรียกได้ว่าเป็นตัวจบ
00:58:44 → 00:58:47 ถ้าเปรียบเป็น iPhone ก็ iPhone รุ่นรุ่น
00:58:47 → 00:58:50 ท็อปเลยเล่มเดียวจบแล้วคุณจะไม่ต้องหาจาก
00:58:51 → 00:58:53 ที่อื่นอีกเลยยึดเป็นแก่นได้เลยทั้งชีวิต
00:58:53 → 00:58:54 นี้ครับ
00:58:54 → 00:58:59 โอเคก็จัดเถอะนะครับเพราะว่าผมก็อ่านแล้ว
00:58:59 → 00:59:02 นะผมก็ยืนยันว่ามันเข้าใจง่ายใช้ได้จริง
00:59:02 → 00:59:04 แค่ 2 เขตเราเมื่อสักครู่ที่เราได้ไปเนาะ
00:59:04 → 00:59:07 ดื่มน้ำแล้วก็ทานผลไม้ก็คุ้มแล้วอ่ะแต่ใน
00:59:07 → 00:59:10 นี้ยังมีอีกเยอะเลยนะครับราคาอ่ะหน้าปกนะ
00:59:10 → 00:59:13 ครับ 329 บาทแต่ว่าถ้าเกิดคุณไปซื้อใน
00:59:13 → 00:59:15 shopee Lazada ก็อาจจะมีส่วนลดให้คุณ
00:59:15 → 00:59:18 อีกนิดหน่อยนะตอนนี้ยังติดอันดับขายดี
00:59:18 → 00:59:21 อยู่เพราะฉะนั้นไปที่ร้านหนังสือไหนก็น่า
00:59:21 → 00:59:24 จะมีขายอยู่นะอ่าวันพรุ่งนี้ยังพอมีเวลา
00:59:24 → 00:59:27 ก็ไปจัดซื้อจัดหากันนะครับพร้อมทันที
00:59:27 → 00:59:31 สุขภาพดี 100% นะครับก็วันนี้ผมว่าครบ
00:59:31 → 00:59:33 ถ้วนสมบูรณ์หุ้นแล้วก็ได้ความรู้จริงๆที่
00:59:33 → 00:59:35 เอาไปใช้งานได้เลยโดยที่ไม่ต้องมีคำศัพท์
00:59:35 → 00:59:38 อะไรให้มันยุ่งยากเนาะคุณจำเหลืองเขียว
00:59:38 → 00:59:40 แดง Concept มันว่ายิ่งใกล้ธรรมชาติเท่า
00:59:40 → 00:59:42 ไหร่ก็คือสีเขียวห่างธรรมชาติมากเท่าไหร่
00:59:42 → 00:59:44 คือสีแดงเนื้อสัตว์เลี่ยงได้เลี่ยงก่อน
00:59:44 → 00:59:47 เนาะทานพวกผักอะไรไว้ก่อนจะดีนะครับก็ผม
00:59:47 → 00:59:49 ว่าวันนี้เป็นประโยชน์มากๆเนาะขอบคุณคุณ
00:59:49 → 00:59:52 หมอแบงค์มากนะครับพวกเราอ่ะขอบคุณกดไลค์
00:59:52 → 00:59:54 กดหัวใจให้คุณหมอแบงค์หน่อยแล้วก็เชื่อ
00:59:54 → 00:59:57 ว่าเดี๋ยวคุณหมอแบงค์จะผลิตเขาเรียกว่าผล
00:59:57 → 01:00:00 งานดีๆเนาะเราอาจจะได้เห็นหนังสือที่
01:00:00 → 01:00:02 เกี่ยวกับเรื่องการทำอาหารที่แบบว่าใครทำ
01:00:02 → 01:00:04 ก็ได้จากคอนเทนต์ครัว
01:00:04 → 01:00:07 อาหารต้นทางอีกทีนึงเหมือนกันเนาะ
01:00:07 → 01:00:10 ครับก็วันนี้ขอบคุณคุณหมอแบงค์มากนะครับ
01:00:10 → 01:00:13 ไว้พบกันในโอกาสถัดไปยังไงต้องเชิญมาแน่ๆ
01:00:13 → 01:00:15 เนาะเพราะว่าฟังแล้วสนุกแล้วก็ได้ความรู้
01:00:15 → 01:00:20 ด้วยแต่วันนี้ขอบคุณมากนะครับสวัสดีครับ
01:00:20 → 01:00:24 สวัสดีครับสวัสดีครับ