00:00:00 → 00:00:03 This is Thai PBS podcast view the
00:00:03 → 00:00:06 world by the voice.
00:00:06 → 00:00:08 การเดินย่อยหลังอาหารเนี่ยได้รับการ
00:00:08 → 00:00:11 พิสูจน์มาแล้วว่าดีต่อสุขภาพช่วยย่อย
00:00:11 → 00:00:14 อาหารลดท้องอืดท้องเฟ้อช่วยกระตุ้นการ
00:00:14 → 00:00:17 หลั่งอินซูลินช่วยเพิ่มการไหลเวียนของ
00:00:17 → 00:00:21 เลือดลดความดันโลหิตลดระดับไขมันในเลือด
00:00:21 → 00:00:25 ช่วยเร่งเผาผลาญพลังงานลดการสะสมของไขมัน
00:00:25 → 00:00:28 ส่วนเกินในร่างกายเพิ่มความหนาแน่นของ
00:00:28 → 00:00:31 กระดูกโดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
00:00:31 → 00:00:34 ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพุนคนที่เดินไป
00:00:34 → 00:00:36 เดินมาสามารถคิดงานดีดีได้มากกว่าคนนั่ง
00:00:36 → 00:00:39 อยู่เฉยๆถึง 60% ใครได้เดิน 3 มื้อนี่โห
00:00:39 → 00:00:42 รับรองแข็งแรกแน่
00:00:42 → 00:00:46 นอนฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟัง
00:00:46 → 00:00:50 รายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงษ์สถิตพรค่ะ
00:00:50 → 00:00:54 This is Thai PBS Podcast วันนี้เรา
00:00:54 → 00:00:57 จะคุยกันนะคะว่าทำไมเราถึงควรที่จะเดิน
00:00:57 → 00:01:00 หลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้วนะคะคุยกับ
00:01:00 → 00:01:03 แพทย์หญิงกิตติยาศรีเลิศฟ้าแพทย์อยุรกรรม
00:01:03 → 00:01:06 ฝ่ายการแพทย์ AIA สวัสดีค่ะคุณหมอหมอคะ
00:01:06 → 00:01:08 ค่ะสวัสดีค่ะอ่าเราเดี๋ยวจะชวนคุณผู้ฟัง
00:01:09 → 00:01:12 เดินเราต้องเดินทุกมื้อมั้ยอันนี้ไม่รู้
00:01:12 → 00:01:15 ค่ะเช้าที่ยังเย็นอะไรขนาดนี้มั้ยเดิน
00:01:15 → 00:01:17 แล้วมันดียังไงได้ยินแต่บอกว่าหลังกิน
00:01:17 → 00:01:23 ข้าวเสร็จนะอย่ามัวแต่นั่งหรือเอนหรือ
00:01:23 → 00:01:26 ทีวงทีวีดูโทรศัพท์กินข้าวอิ่มเราก็ไปหา
00:01:26 → 00:01:28 เดินบ้างแต่เราก็ใช้คำว่าขี้เกียจนั่น
00:01:29 → 00:01:32 แหละจริงๆแล้วการเดินหลังจากกินอาหารมื้อ
00:01:32 → 00:01:35 อาหารแล้วเนี่ยดียังไงคะดีสิเพราะว่าการ
00:01:35 → 00:01:38 เดินย่อยหลังอาหารเนี่ยได้รับการพิสูจน์
00:01:38 → 00:01:41 มาแล้วพิสูจน์เลยนะไม่ใช่พูดเปื่อยได้รับ
00:01:41 → 00:01:44 การพิสูจน์มาแล้วว่าดีต่อสุขภาพนะนอกจาก
00:01:44 → 00:01:46 นี้ยังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมใน
00:01:46 → 00:01:50 กลุ่มคนรักสุขภาพด้วยนะคะการเดินหลังกิน
00:01:50 → 00:01:53 ข้าวเนี่ยเป็นการออกกำลังกายเบาๆที่ดีนะ
00:01:53 → 00:01:56 ต่อร่างกายไม่ว่าจะกินมื้อใหญ่หรือกิน
00:01:56 → 00:02:00 มื้อเล็กก็ตามนะเอ่อก็การเดินจะช่วยส่ง
00:02:00 → 00:02:03 เสริมการย่อยอาหารแถมด้วยประโยชน์ต่อ
00:02:03 → 00:02:06 สุขภาพอีกหลายประการที่เราจะคุยกันโห
00:02:06 → 00:02:09 เดี๋ยวนะขอขีดใต้คำว่าหลายประการเอประการ
00:02:09 → 00:02:13 สิคะไม่น่าเชื่อคือว่าแบบแค่เดินเนี่ยนะ
00:02:13 → 00:02:15 ค่ะเดินแบบจริงจังหรือเปล่าอันนี้เดี๋ยว
00:02:15 → 00:02:18 มาฟังกันไม่ไม่จริงจังก็ได้อ่ะคราวนี้ลอง
00:02:18 → 00:02:21 มาฟังเราดูนะคะประการที่ 1 ช่วยย่อยอาหาร
00:02:22 → 00:02:26 ลดท้องอืดท้องเฟ้อนะหลังกินข้าวเดินมันจะ
00:02:26 → 00:02:29 ทำไมล่ะกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหาร
00:02:29 → 00:02:33 นะคะกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ทำให้
00:02:33 → 00:02:35 กระเพาะอาหารและลำไส้เนี่ยเคลื่อนไหวได้
00:02:35 → 00:02:39 ดีขึ้นพอเคลื่อนไหวก็ช่วยขับลมขับแก๊สลด
00:02:39 → 00:02:43 อาการอาหารไม่ย่อยนะอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
00:02:43 → 00:02:47 นอกจากนี้ยังส่งผลให้การขับถ่ายดีขึ้นอืม
00:02:47 → 00:02:51 เพราะว่าลำไส้มันได้มีการขยับขยับใช่เออ
00:02:51 → 00:02:54 ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดการเดินเนี่ย
00:02:54 → 00:02:57 ช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลินนะคะซึ่งช่วย
00:02:57 → 00:03:00 นำน้ำตาลในเลือดไปใช้เป็นพลังงานท่านผู้
00:03:00 → 00:03:02 ฟังทราบอยู่แล้วนะอินซูลินนะหลังกินข้าว
00:03:03 → 00:03:06 พอร่างกายได้รับน้ำตาลและแคลอรี่จากอาหาร
00:03:06 → 00:03:08 ที่เรากินเข้าไปใช่มั้ยคะค่ะระดับน้ำตาล
00:03:08 → 00:03:11 ในเลือดก็จะเพิ่มขึ้นสูงสุดหลังอาหาร
00:03:11 → 00:03:14 30-60 นาทีพอการเดินเบาๆหลังมื้ออาหาร
00:03:14 → 00:03:17 ทันทีเนี่ยก่อนที่น้ำตาลจะขึ้นสูงสุด
00:03:17 → 00:03:19 เนี่ยจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อดึงน้ำตาลจาก
00:03:20 → 00:03:23 กระแสเลือดไปใช้เป็นพลังงานได้เลยน้ำตาล
00:03:23 → 00:03:26 ส่วนเกินก็ยังไม่ถูกกลับเก็บเป็นไขมันค่ะ
00:03:26 → 00:03:30 จึงช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้โดยเฉพาะ
00:03:30 → 00:03:34 ในคนที่มีภาวะดื้ออินซูลินทั้งเบาเอ่อเบา
00:03:34 → 00:03:36 หวานชนิดที่ 1 ที่พึ่งพาอินซูลินและเบา
00:03:36 → 00:03:39 หวานชนิดที่ 2 เนี่ยควรจะต้องมีการเดิน
00:03:39 → 00:03:43 เบาๆอย่างน้อยนาน 10 นาทีขึ้นไปนะถ้าไหว
00:03:43 → 00:03:47 ก็สัก 30 นาทีก็จะดีกับการไหลเวียนของ
00:03:47 → 00:03:50 เลือดและการทำงานของหัวใจด้วยลดความดัน
00:03:50 → 00:03:54 โลหิตดีต่อหัวใจการเดินเนี่ยเป็นวิธีออก
00:03:54 → 00:03:57 กำลังแบบคาร์ดิโอชนิดนึงนะช่วยเพิ่มการ
00:03:57 → 00:04:01 ไหลเวียนของเลือดลดความดันโลหิตลดระดับไข
00:04:01 → 00:04:03 มันในเลือดซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยที่
00:04:04 → 00:04:06 เสี่ยงต่อโรคหัวใจค่ะถ้าออกกำลังกายเป็น
00:04:06 → 00:04:10 ประจำอย่างน้อยวันละ 10 นาทีหรือเดินให้
00:04:10 → 00:04:14 ได้วันละ 19,000 ก็จะช่วยลดความเสี่ยงของ
00:04:14 → 00:04:17 โรคหัวใจหลอดเลือดรวมไปถึงความเสี่ยงโรค
00:04:17 → 00:04:21 เรื้อรังต่างๆได้อีกอืต้อง 19,000 19,000
00:04:21 → 00:04:24 ขึ้นไป 7,000 ก็ได้เดี๋ยวเราเดี๋ยวเราจะ
00:04:24 → 00:04:27 พูดคือค่ะถ้า 19,000 นี่ต้องนานกว่า 10
00:04:27 → 00:04:32 นาทีโอเคยมีบางวันเดินเยอะมากใช่19,ืกว่า
00:04:32 → 00:04:35 9 เดินแบบคือมันจำเป็นต้องเดินแหละ่ะแต่
00:04:35 → 00:04:38 ถ้าปกติธรรมดาใช้ชีวิตทั่วไปไม่ถึงไม่ถึง
00:04:38 → 00:04:42 ไม่ถึงค่ะเออช่วยลดน้ำหนักการเดินหลัง
00:04:42 → 00:04:45 อาหารแนสนใจขึ้นมาเชียวการเดินหลังอาหาร
00:04:45 → 00:04:49 จะช่วยเร่งเผาผ่านพลังงานลดการสะสมของไข
00:04:49 → 00:04:53 มันส่วนเกินในร่างกายช่วยควบคุมน้ำหนักนะ
00:04:53 → 00:04:56 แล้วป้องกันโรดโรคอ้วนได้อีกทางทำให้มี
00:04:56 → 00:04:59 รูปร่างที่สมส่วนหุ่นดีได้ด้วยช่วยลดน้ำ
00:04:59 → 00:05:02 หนักการเดินช่วยกระตุ้นการหลั่งสาร
00:05:02 → 00:05:05 เอนโดฟินอ่าสารเอนดอร์ฟินเป็นสารแห่งความ
00:05:05 → 00:05:08 สุขนะท่านผู้ฟังทราบอยู่ะเป็นสารเคมี
00:05:08 → 00:05:11 ธรรมชาติที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวดทำให้
00:05:11 → 00:05:16 จิตใจสบายสดชื่นอารมณ์ดีคลายความเครียดลด
00:05:16 → 00:05:20 ความวิตกกังวลลดภาวะซึมเศร้าทำให้นอนหลับ
00:05:20 → 00:05:24 ได้ดีมีการศึกษาพบว่าการเดินระยะสั้นๆ
00:05:24 → 00:05:27 เป็นเวลาประมาณ 12 นาทีต่อวันเนี่ยจะช่วย
00:05:27 → 00:05:30 ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้าในผู้ใหญ่ได้ 18%
00:05:30 → 00:05:33 หากเดินประมาณ 20 นาทีต่อวันเนี่ยจะช่วย
00:05:33 → 00:05:37 ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้าในผู้ใหญ่ได้ 25%
00:05:37 → 00:05:41 เพราะฉะนั้นบางทีอย่างเอ่อหมอจิตเวชเขาจะ
00:05:41 → 00:05:44 รักษาคนไข้จิตเวทเนี่ยเาเน้นเรื่องการออก
00:05:44 → 00:05:46 กำลังด้วยนะต้องมีการออกกำลังด้วยนอกจาก
00:05:46 → 00:05:49 ยาอะไรต่างๆเนี่ยค่ะมันสำคัญค่ะอ๋อแต่ว่า
00:05:49 → 00:05:52 บางทีบางคนมันอาจจะต้องควบคู่กันไปนะไม่
00:05:52 → 00:05:55 ได้บอกว่าไปเดินอย่างเดียวอย่างเดียวแล้ว
00:05:55 → 00:05:57 หายไม่ใช่ไม่ใช่ไม่ใช่ค่ะช่วยส่งเสริม
00:05:57 → 00:06:00 คุณภาพการนอนหลับการเดินหลังกินข้าวเป็น
00:06:00 → 00:06:02 ประจำหรือเดินให้ได้วันละ 7,900 เป็น
00:06:02 → 00:06:05 อย่างน้อยจะช่วยส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับ
00:06:05 → 00:06:08 ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายแล้วก็หลับสนิทได้
00:06:08 → 00:06:11 มากขึ้นหากเดินได้วันละ 19,000 จะช่วยให้
00:06:11 → 00:06:14 ง่วงนอนและนอนหลับได้ง่ายขึ้นแต่จริงๆ
00:06:14 → 00:06:17 เนี่ยถ้าเรานั่งทำงานอยู่กับโต๊ะเนี่ย
00:06:17 → 00:06:19 เนี่ยถ้าทำงานน้องนีเนี่ยทำงานอยู่กับ
00:06:19 → 00:06:22 โต๊ะเนี่ยอืเดินไม่ถึงไม่ถึงค่ะน้องนีใส่
00:06:22 → 00:06:24 นาฬิกาที่มันจับก้าวหรือเปล่าก้าวเดินน่ะ
00:06:24 → 00:06:27 จับไม่ถึงอ่ะ 3-4,000 เท่านั้นแหละยกเว้น
00:06:27 → 00:06:30 ว่าถ้าวันนั้นน่ะจำเป็นจะต้องเดินไปที่
00:06:30 → 00:06:32 อื่นด้วยหรืออะไรด้วยอะไรอย่างเงี้ยใช่ไป
00:06:32 → 00:06:36 ทำงานนอกสถานที่ไปเป็นพิธีกรเดินไปเดินมา
00:06:36 → 00:06:41 อาจจะถึง 7,000 อ่ามีบ้างมีถึงแล้วก็หมื่
00:06:41 → 00:06:44 กว่าเนี่ยก็จะเป็นวันเสาร์อาทิตย์ที่แบบ
00:06:44 → 00:06:47 ไปนู่นไปนี่หรืออะไรไม่ช้อปปิ้งไม่ชิไป
00:06:48 → 00:06:51 เข้าวัดเข้าอะไรนะคะเข้าวัดเข้าวัดเข้า
00:06:51 → 00:06:55 วัดจะไปถึง 19,000 มั้ยก็เดินเอาไงอ๋อไกล
00:06:55 → 00:06:59 หน่อยแบบนี้สมาชิกเชอบเดินกันอ๋อเออแต่
00:06:59 → 00:07:01 เราอ่ะจะปวดขามากเลยเราเริ่มเมื่อยเริ่ม
00:07:01 → 00:07:03 ปวดหลังไงอปวดขาเพราะอะไรรู้มั้เพราะเรา
00:07:03 → 00:07:07 นานๆเราเดินทีไงแต่ถ้าเราเดินทุกวันทุก
00:07:07 → 00:07:10 วันวันละ 19,000 ก็จะหายปวดเพราะมันเป็น
00:07:10 → 00:07:15 ความเคยชินอือ่าอย่างหมอเนี่ยวันนึงก็ไม่
00:07:15 → 00:07:17 ถึงอยู่แล้ว 19,000 แต่ช่วงอย่างที่บอก
00:07:17 → 00:07:20 ช่วงไปต่างประเทศช่วงอะไรแบบนี้ไปต่าง
00:07:20 → 00:07:24 จังหวัดอู้หู 10,000 15,000 10,000
00:07:24 → 00:07:26 เดี๋ยว 10,000 12,000 15,000 เฮ้ยบาง
00:07:26 → 00:07:28 วันมี 20,000 จริงๆด้วยเฮ้ยถึง 20,000
00:07:28 → 00:07:32 เลยเหรอคะจริงอื้อหือจากเชียงรายมาถึงไหน
00:07:32 → 00:07:37 โกรกเหรอคะ 2 ไม่ๆขึ้นรถไฟใต้ดินลงรถไฟ
00:07:37 → 00:07:40 เดินขึ้นเขาอะไรพวกเนี้ยมันจะก้าวมันจะ
00:07:40 → 00:07:44 ขึ้นอแล้วกลับมานี่น้ำหนักลดด้วยโอยเป็น
00:07:44 → 00:07:47 การช่วยลดน้ำหนักถึงว่าไปต่างประเทศบ่อยๆ
00:07:48 → 00:07:50 เพราะช่วยลดน้ำหนักใช่แต่ท่านผู้ฟังอย่า
00:07:50 → 00:07:54 เพิ่งหมั่นไส้ก็แล้วแต่แล้วแต่แล้วแต่คน
00:07:54 → 00:07:57 เนาะอาจจะหาวิธีไหนก็ได้จริงๆแต่มันต้อง
00:07:57 → 00:07:59 ถ้าเดินอย่างเงี้ยมันแข็งแข็งแรงจริงๆอร
00:07:59 → 00:08:04 กลับมาพอน้ำลดเข่าปวดน้อยลงอึ้ยจริงค่ะ
00:08:05 → 00:08:08 หมอกระดูกบอกเลยว่าน้ำหนักลดเท่าไหร่การ
00:08:08 → 00:08:11 ปวดเข่าจะน้อยลงเท่าไหร่อะไรอย่างงี้อ้าว
00:08:11 → 00:08:13 นี่เข้าเข้าใจว่านี่ทำรายการสุขภาพนี้ตัว
00:08:13 → 00:08:16 เองก็ยังเข้าใจอย่าอย่าว่าคุณหมอยังบอก
00:08:16 → 00:08:20 ว่าอย่าไปวิ่งอย่าไปกระแทกอย่าไปเดินเยอะ
00:08:20 → 00:08:22 เพราะเดี๋ปวดเข่าอันนี้เราก็อ๋อโอเคอัน
00:08:22 → 00:08:25 นั้นคือคนที่เสื่อมแล้วไว้ตายแล้วเสื่อม
00:08:25 → 00:08:28 แล้วเหรอใช่อันนั้นต้องระวังระวังนะเพราะ
00:08:28 → 00:08:31 ว่าเราไม่ค่อยเดินมันเลยเสื่อมถูกต้องถูก
00:08:31 → 00:08:33 ต้องคราวเนี้ยอย่างคนที่อย่างตัวเองยัง
00:08:33 → 00:08:36 คิดว่าน้ำหนักเราไม่เห็นจะเกินเลยมันปิ่ม
00:08:36 → 00:08:39 ๆนะ BMI ถ้าคิด BMI ออกมานะมันเกินนิด
00:08:39 → 00:08:42 เดียวอค่ะเออแต่พอน้ำหนักเราลดโดยไม่ได้
00:08:42 → 00:08:46 ตั้งใจเพราะไปเที่ยวเอ้ยกลับมาเนี่ยอาการ
00:08:46 → 00:08:49 ปวดเข่านี่มันหายจนลืมอ่ะลืมว่าเอ้ยไม่
00:08:49 → 00:08:51 ไม่ปวดทุกวันไม่ปวดเรื้อรังอะไรอย่าง
00:08:51 → 00:08:56 เงี้ยมันดีขึ้นเยอะมากๆแค่ลดไปซักอ 2 กล
00:08:56 → 00:08:59 อะไรแบบนี้โอ้โหโู 2 เหรอแต่เที่ยวค่ะบาง
00:08:59 → 00:09:03 ประเทศอาหารไม่ค่อยได้กินเดินเยอะใช่มั้ย
00:09:03 → 00:09:05 ถูกต้องอาหารคือนี่พูดถึงไม่ได้ไปกับ
00:09:05 → 00:09:08 ทัวร์ไปเองเนี่ยมันจะเหนื่อยมากแต่ถ้าไป
00:09:08 → 00:09:10 กับทัวร์นี่อาหารเต็มที่ทุกมื้อถ้าไปเอง
00:09:10 → 00:09:14 ก็จะอดๆอยากเพราะว่ามันต้องหาร้านอืเออ
00:09:14 → 00:09:16 เป็นเทคนิคดีนะเดี๋ยวๆเที่ยวอันนี้เที่ยว
00:09:16 → 00:09:18 ในเมืองไทยเพราะฉะนั้นอ่ะให้เดินอย่าง
00:09:18 → 00:09:22 น้อยวันละ 7,900 โอ้โหโอเคนอกจากเดินแล้ว
00:09:22 → 00:09:24 เนี่ยจะช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน
00:09:24 → 00:09:26 สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อเอ็นข้อต่อ
00:09:26 → 00:09:29 เห็นมั้ล่ะประโยชน์มากมายมหาศาลเพราะไง
00:09:29 → 00:09:32 เพราะว่าการเดินที่ถูกสุขลักษณะอย่างสม่ำ
00:09:32 → 00:09:35 เสมอเนี่ยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกโดย
00:09:35 → 00:09:38 เฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนนะช่วยลด
00:09:38 → 00:09:42 ความเสี่ยงโรคกระดูกพุนชะลอการเสียมวล
00:09:42 → 00:09:45 กระดูกเพราะการเดินเนี่ยเป็นการออกกำลัง
00:09:45 → 00:09:48 แบบต้านแรงโน้มถ่วงโรคทำให้กระดูกเนี่ย
00:09:48 → 00:09:50 ถูกกระตุ้นให้ผลิตเซลล์ออกมามากขึ้นเพราะ
00:09:50 → 00:09:53 ฉะนั้นลองสังเกตคนที่นั่งหรือนอนทั้งวัน
00:09:53 → 00:09:56 เนี่ยมวลกระดูกจะลดลงเยอะเลยกล้ามเนื้อ
00:09:56 → 00:09:59 เนี่ยก็จะรีบเหลวไม่กระชับนะการเดินออก
00:09:59 → 00:10:02 กำลังเพียงวันละ 30 นาทีเนี่ยจะช่วยให้
00:10:02 → 00:10:05 กระดูกแข็งแรงลดความเสี่ยงรวมถึงผลกระทบ
00:10:05 → 00:10:08 ที่เกิดจากกระดูกพูนได้แถมยังเพิ่มความ
00:10:08 → 00:10:11 แข็งแรงของกล้ามเนื้อเอ็นต้นขาเข่าน่อง
00:10:11 → 00:10:14 ข้อเท้าช่วยกระชับหน้าท้องและสะโพกโอมัน
00:10:14 → 00:10:18 ดีมั้ยล่ะก็เยอะเนาะใช่โดยเฉพาะข้อเนี้ย
00:10:18 → 00:10:20 คือเรื่องของผู้หญิงอ่ะเรื่องกระดูกคุณ
00:10:20 → 00:10:23 เนี่ยมันโอง่ายอยู่แล้วแหละค่ะโอก็ไม่
00:10:23 → 00:10:27 แปลกใจเพราะว่าตอนสมัยคุณก็ยังอยู่เนี่ย
00:10:27 → 00:10:31 อูยแกเดินเก่งมากแต่แกพอได้ล้มทีเดียวนี่
00:10:31 → 00:10:33 แหละแค่นั้นแหละชีวิตเปลี่ยนเลยอะไรอย่าง
00:10:33 → 00:10:35 เงี้ยคราวเนี้ยในคนที่เป็นโรคกระดูกพู
00:10:35 → 00:10:38 รุนแรงนะหรือว่าเคยกระดูกหักมาก่อนเนี่ย
00:10:38 → 00:10:40 ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่อาจเสี่ยง
00:10:41 → 00:10:44 อันตรายนะจะต้องปรึกษาคุณหมอซะก่อนนะ
00:10:44 → 00:10:47 เพื่อรักษาต้นเหตุแล้วก็เลือกกิจกรรมการ
00:10:47 → 00:10:50 ออกกำลังกายที่เหมาะสมนะอย่างคนที่ปวด
00:10:50 → 00:10:53 เข่าเข่าเสื่อมมากๆเนี่ยหรือข้อเท้าเนี่ย
00:10:53 → 00:10:56 การออกกำลังในน้ำเนี่ยเป็นอีกทางเลือกนึง
00:10:56 → 00:10:58 ที่เหมาะสมแรงต้านในน้ำจะช่วยให้กล้าม
00:10:58 → 00:11:01 เนื้อและเอ็นรอบข้อแข็งแรงแต่อันนี้ไม่
00:11:01 → 00:11:05 ใช่ให้ว่ายน้ำหลังพันข้าวแล้วนะไม่ใช่นะ
00:11:05 → 00:11:08 คนละกลุ่มนะคะคนละกลุ่มอ่าอ่าอาจจะต้อง
00:11:08 → 00:11:10 เลือกเวลานิดนึงอ่ะแต่ว่าอันนี้เฉพาะคน
00:11:10 → 00:11:13 ที่มีปัญหาเรื่องเข่าเรื่องเข่าเรื่องข้อ
00:11:13 → 00:11:17 เท้าอะไรประมาณนี้ออืค่ะชะลอความจำเสื่อม
00:11:17 → 00:11:21 ได้ด้วยนะชอบข้อนี้อ่ะอ้าวตายการเดินช่วย
00:11:21 → 00:11:23 เพิ่มการไหลเวียนไปเลี้ยงสมองช่วยให้สมอง
00:11:23 → 00:11:28 ทำงานได้ดีความจำดีมีสมาธิการเดินในผู้
00:11:28 → 00:11:31 สูงวัยเนี่ยจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการหด
00:11:31 → 00:11:34 ตัวของสมองสามารถรักษาความทรงจำได้นาน
00:11:34 → 00:11:38 หลายปีชะลอความเสื่อมของสมองในผู้สูงอายุ
00:11:38 → 00:11:40 ไม่ให้นั่งแหะอยู่กับโต๊ะนะโหก็วิถีชีวิต
00:11:40 → 00:11:43 มันเป็นแบบนั้นเ้าบอกมีการทดลองนะคนที่
00:11:44 → 00:11:46 เดินไปเดินมาสามารถคิดงานดีๆได้มากกว่าคน
00:11:46 → 00:11:49 นั่งอยู่เฉยๆถึง 60%
00:11:49 → 00:11:53 ะไม่รู้แหละนั่งเฉยๆอ่ะนั่งเฉยๆงานก็ไม่
00:11:53 → 00:11:57 ออกคิดก็ไม่ออกนี่นี่มีการศึกษาไม่ได้พูด
00:11:57 → 00:12:01 เองการศึกษายังพบว่าการเดินออกกำลังนาน 40
00:12:01 → 00:12:04 นาที 3 วันต่อสัปดาห์เนี่ยเพิ่มขนาดสมอง
00:12:04 → 00:12:06 ที่เชื่อมโยงกับการวางแผนและความจำได้
00:12:06 → 00:12:09 ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีโอ้โหอ่าไป
00:12:09 → 00:12:12 เลี้ยงสมองมากขึ้นนอกจากนี้ยังเพิ่มภูมิ
00:12:12 → 00:12:16 คุ้มกันการเดินต่อเนื่อง 30-5 45 นาที
00:12:16 → 00:12:19 ต่อวันเนี่ยสามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ระบบ
00:12:19 → 00:12:22 ภูมิคุ้มกันได้อของร่างกายได้อสงสัยต้อง
00:12:22 → 00:12:24 หาเรื่องออกไปกินข้าวข้างนอกบ้างแล้วจะ
00:12:24 → 00:12:27 ได้เดินเพราะฉะนั้นไงสมมุติเราทานข้าว
00:12:27 → 00:12:31 เช้าเสร็จเดินคนที่ต้องไปขึ้นรถเมล์ไป
00:12:31 → 00:12:33 ขึ้นรถไฟฟ้าอะไรอย่างงี้เค้าก็ได้เดินถูก
00:12:33 → 00:12:37 มั้อ่าใช่ๆอ่าก็ดีนะอ่าพอไปถึงทำงานทำกิน
00:12:38 → 00:12:41 ข้าวกลางวันทานข้าวกลางวันเสร็จที่จะไป
00:12:41 → 00:12:45 หลับในอ่าจะไปงีบหลับไปเดินช้อปปิ้งมย
00:12:45 → 00:12:48 อุ๊ยนอนดีกว่าข้อเสียอ้าวไม่ใช่นอนนี้ป่า
00:12:48 → 00:12:51 ไปเดินบางออฟฟิศก็ติดตลาดใช่มั้ยไม่เดิน
00:12:51 → 00:12:55 สิเดินเดินเปิดหูเปิดตาแต่อย่าซื้อทุกวัน
00:12:55 → 00:12:58 อืมันก็ได้เดินเหนื่อยนะดีนะบางตลาดร้อน
00:12:58 → 00:13:01 มากด้วยได้ออกกำลังเออออกเหงื่อแล้วก็
00:13:01 → 00:13:04 เดินได้หลายก้าวทีเดียวอ่าพอตอนเย็นกลับ
00:13:04 → 00:13:08 มาก็ว่าไปเดินสมมุติมีหมู่บ้านก็เดินรอบ
00:13:08 → 00:13:11 หมู่บ้านใช่มหรือโอหใครโชคดีติดสวน
00:13:11 → 00:13:14 สาธารณะก็ไปเดินรอบสวนสาธารณะสุดยอดใคร
00:13:15 → 00:13:17 ได้เดิน 3 มื้อนี่โหรับรองแข็งแรงแน่นอน
00:13:17 → 00:13:21 ความจำดีแน่นอนหุ่นดีสรุปว่าคนไม่ค่อยได้
00:13:21 → 00:13:24 เดินนะก็จะมีความเสี่ยงในการโรคร้าย
00:13:24 → 00:13:28 สารพัดใช่มั้ยคนที่เดินได้เยอะๆก็จะลด
00:13:28 → 00:13:31 ความเสี่ยงต่อการสารพัดโรคร้ายเช่นคนที่
00:13:31 → 00:13:34 เดินต่อเนื่องกัน 3-5 ชมงต่อสัปดาห์ไม่
00:13:34 → 00:13:38 ใช่วันละนะ 3-5 ชมงต่อสัปดาห์เนี่ยลดความ
00:13:38 → 00:13:40 เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมและมะเร็งมด
00:13:40 → 00:13:42 ลูกได้กว่า
00:13:42 → 00:13:45 54% ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำ
00:13:45 → 00:13:48 ไส้ได้ 20% ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบา
00:13:48 → 00:13:51 หวานชนิดที่ 2 ได้มากถึง 60%
00:13:51 → 00:13:55 เพียงแค่เดินวันละ 10-15 นาทีอืนะทำให้
00:13:55 → 00:13:58 อาการโรคเบาหวานดีขึ้นเป็นการช่วยให้
00:13:58 → 00:14:00 อินซูลินเนี่ยทำงานดีขึ้นสามารถร่างกาย
00:14:00 → 00:14:05 สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้ดีขึ้นค่ะทำให้ควบ
00:14:05 → 00:14:09 คุมเบาหวานได้ดีขึ้นถ้าเดินเร็วติดต่อกัน
00:14:09 → 00:14:13 นาน 21 นาทีต่อวัน 4-5 วันต่อสัปดาห์ลด
00:14:13 → 00:14:16 ความเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดสมองและหัวใจ
00:14:16 → 00:14:20 ได้ถึง 31% มันช่วยลดความเสี่ยงเยอะมาก
00:14:20 → 00:14:23 ค่ะค่ะแต่ว่ามันก็ต้องมีระยะเวลาคืออย่าง
00:14:23 → 00:14:25 บางคนเดินเยอะๆก็จะรู้อยู่แล้วแหละว่าตัว
00:14:25 → 00:14:29 เองเป็นคนเดินไหวเออใช่แล้วก็แบบรู้สึก
00:14:29 → 00:14:33 แบบเดินทนได้มากขึ้นบางคนอาจจะยังไม่เคย
00:14:33 → 00:14:35 ได้เดินอ่ะอย่างอย่าของของรีเนี่ยแบบเดิน
00:14:35 → 00:14:38 ค่อนข้างน้อยในในแต่ละวันที่ทำงานเนี่ย
00:14:38 → 00:14:41 เพราะว่าส่วนใหญ่จุมปุ๊กนั่งอยู่กับโต๊ะ
00:14:41 → 00:14:44 ซะเยอะอะไรอย่างเงี้ยหรือถ้าจะเดินก็เดิน
00:14:44 → 00:14:47 ไม่มีอะไรบาลานซเลยอ่ะเพราะฉะนั้นมันอาจ
00:14:47 → 00:14:49 จะแบบเสี่ยงกับอันนู้นอันนี้อันนั้นแต่
00:14:49 → 00:14:53 ว่าเดี๋ยวจะลองไปดูนะว่าเดินจะปีกเวลามา
00:14:53 → 00:14:56 ได้มั้ยเค้าจะถามหามั้อ่ะพอไม่อยู่กับ
00:14:56 → 00:14:59 โต๊ะปึ๊บโดนถามหาตลอดเลยไปไหนเนี่ยอ้า
00:14:59 → 00:15:02 เวลาเที่ยงมั้ยอ่ะเที่ยงออแต่บางทีมันก็
00:15:02 → 00:15:05 สถานที่มันไม่เอื้ออำนวยให้ให้ในการที่จะ
00:15:05 → 00:15:07 แบบเดินมันไม่มีที่เดินกลางวันเนาะทาน
00:15:07 → 00:15:09 ข้าวต้องทานข้าวที่โต๊ะด้วยสิเดี๋ยวเนี้ย
00:15:09 → 00:15:12 โอ้เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้วโต๊ะกินคงกินข้าว
00:15:12 → 00:15:15 อะไรนโต๊ะทำงานเพราะว่าอะไรรู้ป่ะคุณต้อง
00:15:15 → 00:15:17 ซื้ออาหารกลางวันเข้ามาเนื่องจากถ้าคุณ
00:15:17 → 00:15:19 ออกไปรับประทาน
00:15:19 → 00:15:21 ค่าใช้จ่ายมันสูงกว่าถ้าคุณซื้อเข้ากล่อง
00:15:21 → 00:15:25 เข้ามา 2 มื้อสมมุติบางคนมาอาหารเช้าที่
00:15:25 → 00:15:29 ทำงานด้วยเห็นนะก็คือเช้ากล่องกลางวัน
00:15:29 → 00:15:32 กล่องมันถูกกว่าเยอะใช่เข้ากล่องเดี๋ยว
00:15:32 → 00:15:35 นี้เท่าไหร่ล่ะอุ้ยอย่างน้อยก็ 50 แล้วนะ
00:15:35 → 00:15:37 อืบางที่ก็ไม่ถึงบางที่ก็อาจจะถูกหน่อย
00:15:37 → 00:15:40 อ่าบางที่ไม่ถึงนะเอ้อพนักงานออฟฟิศเนี่ย
00:15:40 → 00:15:43 เค้าก็ซื้อกันเข้ามาอืเออแล้วก็ซื้อน้ำ
00:15:43 → 00:15:46 เข้ามาแล้วก็นั่ง 1 น้ำนี่อย่างที่บอกเรา
00:15:46 → 00:15:50 เคยพูดกันไปละน้ำหวานเจี๊ยบน้ำตาล 6 ช้อน
00:15:51 → 00:15:53 อะไรแบบนั้นมันก็หแล้วก็ไม่เดินไม่เดิน
00:15:53 → 00:15:56 ไม่เดินมันก็โหยแล้วก็ฟุบหลับที่โต๊ะแป้ง
00:15:56 → 00:16:00 อ๋อค่ะอันนี้ก็คือสิ่งที่เราก็เคยทำมา
00:16:00 → 00:16:02 ก่อนอ่า
00:16:02 → 00:16:04 อะไรแบบนี้แต่ว่าคือเข้าใจวิถีชีวิตของ
00:16:04 → 00:16:07 ใครหลายๆคนน่ะหรือว่าบางคนอาจจะรู้สึกว่า
00:16:07 → 00:16:08 เอ๊ะการ
00:16:08 → 00:16:12 เดินอืมไม่รู้จะไปเดินไหนใช่เพราะวิถี
00:16:12 → 00:16:15 ชีวิตเนี่ยคือแบบอ่ะอย่างมากสุดก็เดินไป
00:16:15 → 00:16:18 ขึ้นไปต่อรถไปอะไรอย่างเงี้ยแค่นั้นเอง
00:16:18 → 00:16:21 ไม่ได้แล้วอย่างยิ่งถ้าคนขับรถไปทำงานไม่
00:16:21 → 00:16:25 ต้องพูดถึงอ่าใช่แต่ถ้าคนไปขึ้นรถไฟฟ้า
00:16:25 → 00:16:27 ถ้าเดินเป็นระยะนึงก็ดีเหมือนกันนะอืได้
00:16:28 → 00:16:31 ออกกำลังเนาะก็มีนะแต่บางวันถ้าเกิดสภาพ
00:16:31 → 00:16:35 อากาศไม่ดีไม่ไหวนะจ๊ะอะไรอย่างงี้มันก็
00:16:35 → 00:16:39 มีข้ออ้างไปเรื่อยแหละค่ะเพราะฉะนั้นอ่ะ
00:16:39 → 00:16:43 เดินหลังกินข้าวกี่นาทีดีล่ะอ่าใช่ๆก็บอก
00:16:43 → 00:16:47 ว่าเดินก็เดินช่วงสั้นๆก็ได้นะพอให้ร่าง
00:16:47 → 00:16:50 กายได้ขยับน่ะเพิ่มใช้การใช้พลังงานสัก
00:16:50 → 00:16:54 หน่อยอืนะคะถามว่าเดินย่อยกี่นาทีดีก็บอก
00:16:54 → 00:16:56 ว่าเป็นคำตอบที่ไม่ตายตัวหรอกเนื่องจาก
00:16:57 → 00:16:59 ระบบร่างกายของแต่ละคนเนี่ยมันไม่เหมือน
00:16:59 → 00:17:02 กันการใช้เวลาย่อยแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
00:17:02 → 00:17:05 ค่ะนะรวมถึงสิ่งที่กินเข้าไปย่อยง่ายหรือ
00:17:06 → 00:17:09 ย่อยยากมื้อนั้นนะก็เป็นปัจจัยสำคัญซึ่ง
00:17:09 → 00:17:12 คนปกติอ่ะการใช้เวลาย่อยอาหารเนี่ยกระบวน
00:17:12 → 00:17:15 การการย่อยก็ประมาณ 2-4 ชมงแล้วแต่อื
00:17:15 → 00:17:17 ปัจจัยต่าง
00:17:17 → 00:17:22 นะก็เดินเบาๆได้เอ่อตั้งแต่ 10-30 นาทีนะ
00:17:22 → 00:17:25 คะเพราะฉะนั้นควรเดินอย่างน้อย 10 นาที
00:17:25 → 00:17:28 เอางี้ตอบแบบนี้นะอือืความเร็วควรเดิน
00:17:28 → 00:17:32 ด้วยความเร็วปานกลางสามารถพูดคุยได้ไม่
00:17:32 → 00:17:36 หอบแหกครับอ่าสถานที่ควรเลือกสถานที่ที่
00:17:36 → 00:17:39 ปลอดภัยร่มรื่นอากาศถ่ายเทได้สะดวกการ
00:17:39 → 00:17:42 เดินย่อยหลังกินเนี่ยเป็นวิธีที่ทุกคนทำ
00:17:42 → 00:17:45 ได้ไม่ต้องเสียเวลาไม่ต้องเสียเงินหรือ
00:17:45 → 00:17:46 อุปกรณ์ใด
00:17:46 → 00:17:49 เพียงแค่ลุกขึ้นยืนแล้วก็เดินสามารถสร้าง
00:17:49 → 00:17:52 ประโยชน์ดีๆต่อสุขภาพได้มากมายค่ะอืแต่
00:17:52 → 00:17:55 ที่เราพูดมาเนี่ยเดินหลังกินข้าวเนี่ยเออ
00:17:55 → 00:17:58 ต้องมีการนั่งสักพักนึงก่อนมยแล้วค่อยมา
00:17:58 → 00:18:00 เดินไม่ใช่แบบกินเสร็จปุ๊บเดินเลยอย่างี้
00:18:00 → 00:18:04 หรือเปล่าคะก็เบอกว่าหลังกินข้าวแล้วอ่ะ
00:18:04 → 00:18:07 สามารถเริ่มเดินได้เลยอ้าเหรอก็จริงๆไป
00:18:07 → 00:18:10 อ่านหนังสือมันก็มีหลายคนเขียนไม่เหมือน
00:18:10 → 00:18:13 กันบางคนก็บอกไม่ให้เดินเลยให้พักก่อน
00:18:13 → 00:18:16 อะไรอย่างโงนอย่างงี้บางวิจัยเบอกว่าเดิน
00:18:16 → 00:18:20 ได้เลยแต่ว่าเดินเบาๆนะอ๋อเออไม่ต้องไป
00:18:20 → 00:18:22 เดินเอาจริงเอาจังอะไรประมาณนั้นก็มี
00:18:22 → 00:18:24 ประเภทแบบพวกเดินเร็วใช่มั้อันนั้นไม่ใช่
00:18:24 → 00:18:27 อันนั้นคือเดินอันนั้นเดินเร็วเดินอะไร
00:18:27 → 00:18:29 เดินเพื่อออกกำลังจริงๆเพื่อลดน้ำหนัก
00:18:29 → 00:18:31 เพื่ออะไรก็ว่าไปอันนี้ใช้คำว่าเดินทอด
00:18:31 → 00:18:35 น่องเออประมาณนั้นได้ค่อยๆเดินไปอืบอกว่า
00:18:35 → 00:18:38 เดินช้อปปิ้งตลาดนี่มันดีเหมือนกันนะกลาง
00:18:38 → 00:18:41 วันเนี่ยตังค์เหมิด
00:18:41 → 00:18:45 ตังค์เดี๋ยวไม่เหลืออ่ะเพราะฉะนั้นอ่ะ
00:18:45 → 00:18:48 หลังกินข้าวเริ่มเดินได้เลยอืแต่อย่าลืม
00:18:48 → 00:18:52 warm up คูลดาวน์ก่อนหลังการเดินวมเอ๊ะ
00:18:52 → 00:18:56 แค่เบอกว่าเบอกว่าอย่างงั้นเบอกว่าควรอบ
00:18:56 → 00:18:58 อุ่นร่างกายด้วยการwarมอupัเบาๆยืดเส้น
00:18:58 → 00:19:01 ยืดสายอบบิดขี้เกียจยืดเส้นยืดสายข้อต่อ
00:19:01 → 00:19:04 ก่อนการเดินนะยืดเหยื่อซะหน่อยกล้ามเนื้อ
00:19:04 → 00:19:08 เบาๆเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายให้
00:19:08 → 00:19:11 ร่างกายมันรับรู้ในการทำงานของระบบต่างๆ
00:19:11 → 00:19:15 ไม่ว่าจะเป็นระบบไหลเวียนระบบหายใจกล้าม
00:19:15 → 00:19:19 เนื้อข้อต่อออืค่ะอือ่าแล้วก็มีการคูลดาว
00:19:19 → 00:19:22 หลังเดินอ่ะเดินเสร็จเสร็จกลับเข้ามายืด
00:19:22 → 00:19:24 เหยียดกล้ามเนื้ออีกสักหน่อยเพื่อคลาย
00:19:24 → 00:19:27 ความตึงเครียดนะคะจะช่วยลดอาการบาดเจ็บ
00:19:27 → 00:19:30 จากกล้ามเนื้ออักเสบหรือเปนตาคิว
00:19:30 → 00:19:33 จากการออกกำลังกายเป็นการช่วยปรับระดับ
00:19:33 → 00:19:37 การทำงานของหัวใจปอดสู่ระยะผ่อนคลายนะ
00:19:37 → 00:19:41 ซึ่งมีความสำคัญมากในผู้สูงวัยนะคะต้องมี
00:19:41 → 00:19:45 คูลดาวน์ซะหน่อยนะการเดินเบายาวเดินช้าๆ
00:19:45 → 00:19:48 ไม่ต้องเร่งความเร็วอือฮึอ่าถ้ารู้สึก
00:19:48 → 00:19:53 เหนื่อยก็ควรหยุดพักออใช่ใช่ๆคราวนี้ถ้า
00:19:53 → 00:19:56 คนที่ไม่ได้อยู่ที่ทำงานอาจจะเลือกใส่
00:19:56 → 00:19:58 เสื้อผ้ารองเท้าสำหรับการออกกำลังกายสัก
00:19:58 → 00:20:01 เล็กน้อยนะอาจจะสวมเสื้อกางเกงที่ยืด
00:20:02 → 00:20:05 หยุ่นระบายเหงื่อได้ดีรองเท้าเนี่ยสำคัญ
00:20:05 → 00:20:07 คนเป็นรองเท้าที่สำหรับออกกำลังกายป้อง
00:20:08 → 00:20:11 กันการลื่นหรือล้มไม่บีบนิ้วเท้าน้ำหนัก
00:20:11 → 00:20:15 เบากระชับข้อเท้าได้ดีพื้นเนี่ยมีวัสดุลด
00:20:15 → 00:20:18 แรงกระแทกเพื่อช่วยกระจายน้ำหนักค่ะนะมี
00:20:18 → 00:20:22 แรงส่งในการยกเท้าให้ทำให้เมื่อยช้าลง
00:20:22 → 00:20:25 ช่วยป้องกันการบาดเจ็บที่เอ็นฝ่าเท้าข้อ
00:20:25 → 00:20:29 เท้าเข่าหรือขาทำให้เดินสบายได้ต่อเนื่อง
00:20:29 → 00:20:32 ค่ะรองเท้านี่สำคัญมากอย่างเช่นเราเราอาจ
00:20:32 → 00:20:36 จะไม่เห็นความสำคัญเห็นมากตอนไปเที่ยวไป
00:20:36 → 00:20:39 เที่ยวก็คือเราจะเลือกใส่ผ้าใบที่มันทำไม
00:20:39 → 00:20:42 ครับมีคุณภาพหน่อยอ่าฮถ้าเลือกที่มี
00:20:42 → 00:20:45 คุณภาพจริงมันก็ต้องแพงหน่อยเนาะค่ะมันจะ
00:20:46 → 00:20:50 สบายจริงๆเดินได้ไกลโดยไม่ปวดขาอะไร
00:20:50 → 00:20:52 ประมาณนั้นเลยคือรองเท้าสำหรับเดี๋ยวนี้
00:20:52 → 00:20:55 รองเท้ามีแบ่งออกเป็นแบบสำหรับการเดินการ
00:20:55 → 00:20:59 วิ่งอะไรอย่างงี้ด้วยเนาะใช่ก็ต้องเลือก
00:20:59 → 00:21:01 รองเท้าให้ถูกประเภทเลือกเอาใช่แต่ว่าบาง
00:21:01 → 00:21:04 ทีแม้กระทั่งราคาไม่แพงมากอ่ะแต่ว่าถ้า
00:21:04 → 00:21:05 เดินแล้วมันเมื่อยหรืออะไรอย่างเงี้ยบาง
00:21:05 → 00:21:09 ทีอาจจะต้องไปหาอีกรูปแบบนึงนะใช่รูปแบบ
00:21:09 → 00:21:13 ไม่อยากพูดคือรูปแบบบางยี่ห้อมันมีรูปแบบ
00:21:13 → 00:21:15 ที่มันเป็นเคิ์ฟกับเท้าจริงๆอ่ะแล้วเดิน
00:21:15 → 00:21:17 แล้วมันไม่เมื่อยจริงๆเลือกเดินบนพื้น
00:21:17 → 00:21:20 เรียบเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บอ่าเดินใน
00:21:20 → 00:21:22 ที่อากาศถ่ายเทสะดวกเช่นสวนสาธารณะหรือ
00:21:22 → 00:21:26 ทางเดินในบ้านในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5
00:21:26 → 00:21:31 ค่าสูงมากกรุณาอย่าไปเดินในบ้านเถอะหรือ
00:21:31 → 00:21:33 เดินบนลู่วิ่งถ้าใครมีลู่วิ่งอยู่นะคะโดย
00:21:34 → 00:21:36 เลือกใช้ความเร็วต่ำๆเราไม่ต้องไปแข่งกับ
00:21:36 → 00:21:39 ลูกเรานะอนะเราตั้งความเร็วต่ำๆนะให้
00:21:39 → 00:21:42 เหมาะสมกับอายุเออค่ะเป็นการเดินเหมือน
00:21:42 → 00:21:44 เดินในสวนอะไรประมาณนั้นเราไม่ได้เดิน
00:21:44 → 00:21:48 เพื่อลดน้ำหนักเดินเพื่อลดแคลอรี่ลดน้ำ
00:21:48 → 00:21:51 หนักสัก 10 กนั้นอู้หูต้องวิ่งแล้วนะบนลู
00:21:51 → 00:21:55 วิ่งไม่ใช่อออฮะค่ะแล้วก็ควรเดินให้ได้
00:21:55 → 00:21:58 อย่างน้สัปดาห์แล้ว 3-5 ครั้งทำเป็นประจำ
00:21:58 → 00:22:01 อก็เป็นข้อดีประโยชน์หลายๆอย่างเลยนะไม่
00:22:01 → 00:22:04 น่าเชื่อเลยแค่ลงมาเดินใช่ๆโลกเลิกหายหมด
00:22:04 → 00:22:07 เลยอุ๊ยต้องรอแล้วแหละคือบางคนอาจจะไม่
00:22:07 → 00:22:10 เหมาะในการวิ่งไม่ต้องวิ่งไม่ต้องวิ่งมา
00:22:10 → 00:22:15 เดินเอาเดินอืแต่จริงๆถ้ามีคู่เดินด้วย
00:22:15 → 00:22:19 มันก็จะเพลินๆสบายดีนะเพลินๆแล้วก็เพื่อน
00:22:19 → 00:22:23 ๆน่ะไม่ต้องคู่หรอกเพื่อนก็ได้เออนึกออก
00:22:23 → 00:22:26 มั้ยคือเดินคนมันไม่สนนึกออกมั้ว่ากำลัง
00:22:26 → 00:22:30 นึกอยู่มีเพื่อนเปล่า
00:22:30 → 00:22:35 เดี๋ยวดิเจะใช้วิธีมีหูฟางอืนี่สิแล้วก็
00:22:35 → 00:22:39 เดินดูอะไรไปใช่การเดินในสวนสาธารณะแทน
00:22:39 → 00:22:42 ที่จะได้เพื่อนได้ฝูงได้รู้จักคนเพิ่มไม่
00:22:42 → 00:22:46 ฉันมีเพลงฟังมีหูฟังประจำตัวเพลงประจำตัว
00:22:46 → 00:22:49 ถูกเออเดินไปดูซีลงซีรี์ไปด้วยต้องไม่
00:22:49 → 00:22:52 ต้องรู้จักใครแล้วไม่ต้องฉันมาเดินได้
00:22:52 → 00:22:55 โอเคถ้ามีความสุขออ้าแล้วแต่บางคนอาจจะ
00:22:55 → 00:22:58 introvert ถูกต้องมันบอกข้อดีและมันไม่
00:22:58 → 00:23:01 มีข้อที่ต้องระมัดระวังอะไรขนาดนั้นเลย
00:23:01 → 00:23:05 หรอก็แล้วแต่บางคนเนาะถ้าเกิดว่าอาการถ้า
00:23:05 → 00:23:08 เดินแล้วอึอือาหารไม่ย่อยท้องอืดท้องเฟ้อ
00:23:08 → 00:23:10 อะไรพวกนี้ต้องต้องพักสักครู่ก่อนเริ่ม
00:23:10 → 00:23:15 เดินนะคะหรือว่าบางคนเดินเร็วหรือว่าเดิน
00:23:15 → 00:23:17 เร็วเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการจุกเสียดก็
00:23:17 → 00:23:21 ต้องหยุดพักอือฮึพวกที่มีโรคประจำตัวโรค
00:23:21 → 00:23:24 หัวใจอะไรพวกนี้โรคข้อต้องปรึกษาแพทย์
00:23:24 → 00:23:27 ปรึกษาศึกษาคุณหมอนิดนึงค่ะนะคะหลีก
00:23:27 → 00:23:29 เลี่ยงการเดินในสภาพอากาศที่ร้อนจัดก็คือ
00:23:30 → 00:23:33 ดื่มน้ำให้เพียงพอด้วยป้องกันภาวะขาดน้ำ
00:23:33 → 00:23:36 ใครเดินได้เยอะๆบ้างลองเม้นๆกันมาบอก
00:23:36 → 00:23:40 หน่อยเนาะว่าแบบเดินกันไปยังไงบ้างมีข้อ
00:23:40 → 00:23:42 เทคนิคแนะนำอะไรมั้ยอะไรอย่างเงี้ยแต่มี
00:23:42 → 00:23:46 บางคนเ้าเดินคือเ้าบอกพอถึงเวลานี้ต้องไป
00:23:46 → 00:23:49 เพราะมันมีการหลั่งเอนดอร์ฟินไงเ้ามีเป็น
00:23:49 → 00:23:52 สารที่มีความสุขเ้าไม่ได้แล้วถึงเวลาเ
00:23:52 → 00:23:55 ต้องไปออกกำลังเอค่ะใช่ใช่ๆทุกเย็นทุก
00:23:55 → 00:23:58 เย็นทุกเย็นเวินัยวินัยดีมากเลยนะใช่หรือ
00:23:58 → 00:24:00 ว่าทุกเช้าทุกเช้าทุกเช้ามีเพื่อนคนนึง
00:24:00 → 00:24:02 ไม่ได้ต้องออกอ่ะอือเพราะฉะนั้นอันนี้ก็
00:24:02 → 00:24:05 คือแล้วแต่ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนเลยเนาะว่า
00:24:05 → 00:24:08 จะเดินในมื้ออาหารมื้อไหนบางวันทำงานอาจ
00:24:08 → 00:24:11 จะไม่สะดวกก็ตอนเย็นหรือเสาร์อาทิตย์ก็
00:24:11 → 00:24:15 เช้าปรับเปลี่ยนโอเคค่ะขอบคุณคุณหมอค่ะ
00:24:15 → 00:24:17 ขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้
00:24:17 → 00:24:20 ฟังพบกันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทาง
00:24:20 → 00:24:23 ไทย PBS พcastค่ะวันนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:24:23 → 00:24:26 This is Thai PBS podcast การผ่าตัด
00:24:26 → 00:24:29 กระเพาะอาหารสามารถทำได้กับทุกคนหรือไม่
00:24:29 → 00:24:31 หลักเกณฑ์เป็นอย่างไรแพทย์หญิงขวัญนณรา
00:24:31 → 00:24:33 เกตวงศ์ผู้เชี่ยวชาญสาขาการผ่าตัดระบบเผา
00:24:33 → 00:24:36 ผลาญและโรคอ้วนโรงพยาบาลจุฬารัฐ 3
00:24:36 → 00:24:39 อินเตอร์มาเล่าให้ฟังครับงานผ่าตัด
00:24:39 → 00:24:42 กระเพาะจริงๆถ้าจะให้ถูกลองเราควรจะเรียก
00:24:42 → 00:24:45 ว่าเป็นเหมือนการผ่าตัดรักษาโรคอ้วนแต่
00:24:45 → 00:24:48 ว่าทีนี้เนี่ยอวัยวะที่มีการผ่าตัดในการ
00:24:48 → 00:24:50 รักษาโรคอ้วนเนี่ยค่ะจะเป็นบริเวณกระเพาะ
00:24:50 → 00:24:53 อาหารและหรืออาจจะมีการผ่าตัดเตาะลำไส้
00:24:53 → 00:24:56 ร่วมด้วยหรือไม่ร่วมด้วยก็ได้การผ่าเนี่ย
00:24:56 → 00:24:59 ไม่ใช่ว่าแบบว่าน้ำหนักเข้าแล้วก็แบบว่า
00:24:59 → 00:25:02 โรคอะไรมาแล้วไปผ่าเลยอันนี้ยังไม่ใช่เรา
00:25:02 → 00:25:05 จะต้องมีการพยายามลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นๆ
00:25:05 → 00:25:08 มาก่อนแล้วมันแบบไม่สำเร็จจริงๆการผ่า
00:25:08 → 00:25:10 เป็นเหมือนแบบทางเลือกสุดท้ายเลยส่วนใหญ่
00:25:10 → 00:25:13 ก็คือพอคุมอาหารแล้วเนี่ยออกกำลังกายเท่า
00:25:13 → 00:25:16 ที่ได้ทำแล้วเนี่ยแต่ก็ลงมาแบบนิดนึงก็
00:25:16 → 00:25:18 ไม่ลงต่อแล้วอะไรเงี้ยการผ่าตัดอ่ะถึงจะ
00:25:18 → 00:25:21 เข้ามามีบทบาทอย่างณปัจจุบันนี้ที่ที่
00:25:21 → 00:25:23 เห็นก็คือว่าเหมือนพอเหมือนกลายเป็น
00:25:23 → 00:25:26 แฟชั่นอะไรอย่างเงี้ยที่เจอก็คือว่าการ
00:25:26 → 00:25:29 ผ่าจริงๆ 1 ก็คือควรจะผ่าในโรงพยาบาล
00:25:29 → 00:25:32 เพราะว่า 1 อ่ะพอคุณคนไข้เนี่ยเป็นคนไข้
00:25:32 → 00:25:34 โรคอ้วนเนาะคือจริงๆคนที่เป็นโรคอ้วน
00:25:34 → 00:25:35 เนี่ยร่างกายไม่ได้แข็งแรงเหมือนคนที่น้ำ
00:25:35 → 00:25:38 หนักปกตินะคะคือเขาจะมีโรคหรือว่ามีแบบ
00:25:38 → 00:25:41 การทำงานของร่างกายที่มันที่มันไม่ได้
00:25:41 → 00:25:43 ปกติอย่างแบบเรื่องภูมิคุ้มกันอะไรอย่าง
00:25:43 → 00:25:45 เงี้ยหรือว่าโรคบางทีอาจจะมีโรคหัวใจแอบ
00:25:46 → 00:25:48 ซ่อนอยู่เราไม่รู้ถ้าเกิดสมมุติเราเกิดไป
00:25:48 → 00:25:51 ผ่าที่คลินิกแล้วเกิดมันมีปัญหาอะไรขึ้น
00:25:51 → 00:25:54 มาณตอนนั้นน่ะบอกว่าอุปกรณ์เครื่องมือ
00:25:54 → 00:25:56 หรือแม้แต่คุณหมอเองอะไรก็ตามอ่ะมันไม่
00:25:56 → 00:25:58 ได้พร้อมเท่ากับที่โรงพยาบาลแล้วก็อย่าง
00:25:58 → 00:26:01 ที่ 2 ก็คือว่าอย่างคุณหมอที่ที่จะผ่าตัด
00:26:01 → 00:26:04 ให้อย่างเงี้ยก็อยากจะให้เลือกเป็นคุณหมอ
00:26:04 → 00:26:07 ที่จบในเรื่องของแบบการผ่าตัดถ้าเกิดว่า
00:26:07 → 00:26:10 ได้เฉพาะทางผ่าตัดลดน้ำหนักอะไรเงี้ยก็จะ
00:26:10 → 00:26:13 ยิ่งดีไปอีกคนที่น้ำหนักปกติกับคนที่เป็น
00:26:13 → 00:26:15 โรคอ้วนอ่ะค่ะ BMI เยอะๆเป็นโรคอ้วนอย่าง
00:26:15 → 00:26:18 เงี้ยค่ะในเรื่องของระบบฮอร์โมนสารเคมี
00:26:18 → 00:26:20 ทั้งหลายมันไม่เหมือนกันในคนไข้ที่เป็น
00:26:21 → 00:26:23 โรคอ้วนเนี่ยค่ะเขาจะมีภาวะที่เรียกว่า
00:26:23 → 00:26:26 ดื้อต่อฮอร์โมนอิ่มคือปกติร่างกายเราจะมี
00:26:26 → 00:26:29 การผลิตเป็นฮอร์โมนหิวฮอร์โมนอิ่มออกมา
00:26:29 → 00:26:31 เป็นแบบช่วงเวลาทำให้เรารู้สึกหิวอ่ะกิน
00:26:31 → 00:26:33 เสร็จเราอิ่มนะอะไรอย่างงี้แต่ว่าในคนไข้
00:26:33 → 00:26:35 ที่เป็นโรคอ้วนปุ๊บเนี่ยการควบคุมตรง
00:26:35 → 00:26:38 เนี้ยมันเสียไปหมดสมมุติฮอร์โมนอิ่มเขา
00:26:38 → 00:26:40 ออกมาละแต่ปรากฏว่าเขาไม่ตอบสนองต่อ
00:26:40 → 00:26:43 ฮอร์โมนอิ่มนั้นอืก็กลายเป็นว่าเขาก็จะ
00:26:43 → 00:26:45 รู้สึกว่าเขาไม่อิ่มฮอร์โมนหิวร่างกาย
00:26:45 → 00:26:47 ผลิตออกมานิดนึงก็จะรู้สึกแบบหิวมากกว่า
00:26:47 → 00:26:50 คนปกติอืซึ่งซึพอมันเป็นเรื่องของฮอร์โมน
00:26:50 → 00:26:52 และสารเคมีเราไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด
00:26:52 → 00:26:54 เพราะว่ามันเกี่ยวกับสมองแล้วก็หลายๆระบบ
00:26:54 → 00:26:56 อะไรเงี้ยก็เลยทำให้เขาเหมือนแบบยิ่งหิว
00:26:57 → 00:27:01 ก็คือไปกินถ้าเกิดว่า BMI เนี่ยมีค่าเกิน
00:27:01 → 00:27:03 32.5 5 ขึ้นไปอันเนี้จะต้องมีโรคประจำ
00:27:03 → 00:27:06 ตัวอยู่ด้วยซึ่งเป็นโรคประจำตัวที่เกี่ยว
00:27:06 → 00:27:09 ข้องกับความอวนเพราะว่าโรคเหล่าเนี้ยพอ
00:27:09 → 00:27:11 เราผอมปุ๊บเนี่ยมันมีโอกาสหายหรือว่ามัน
00:27:11 → 00:27:15 ดีขึ้นได้หมดเลยมีเบาหวานค่ะความดันโลหิต
00:27:15 → 00:27:19 สูงค่ะไขมันในเลือดสูงไขมันเกาะตับถุงน้ำ
00:27:19 → 00:27:22 รังไข่หลายใบหรือว่า PCOS อย่างเงี้ยค่ะ
00:27:22 → 00:27:25 จะพวกแบบหยุดหายใจขนาดนอนหลับกลุ่มเหล่า
00:27:25 → 00:27:28 เนี้ยพอผ่าคือดีหรือว่าแบบหายหมดคืออย่าง
00:27:28 → 00:27:30 แย่ที่สุดเลยก็คือแบบยังต้องกินยาอยู่แต่
00:27:30 → 00:27:33 ว่าลดยาได้อย่างดีที่สุดก็คือหายสนิทหมด
00:27:33 → 00:27:35 เลยอ
00:27:35 → 00:27:37 [เพลง]
00:27:37 → 00:27:40 This is Thai PBS
00:27:40 → 00:27:43 Podcast ติดตามรายการของ Thai PBS
00:27:43 → 00:27:45 Podcast ได้ทางเว็บไซต์
00:27:45 → 00:27:48 www.thaipspodcast.com
00:27:48 → 00:27:51 thapodcast.com แอปพลิเคช Thai PBBS
00:27:51 → 00:27:53 Podcast รวมถึงฟังผ่าน podcast ช่องทาง
00:27:53 → 00:27:58 อื่นๆ Spotify YouTube Apple Podcast
00:27:58 → 00:28:00 และ Soundcloud เ้า
00:28:00 → 00:28:03 [เพลง]