00:00:00 → 00:00:02 เอาจริงๆคนกินเนื้อควรจะรู้อะไรบ้าง
00:00:02 → 00:00:05 เกี่ยวกับเนื้อบ้างพี่ควรจะรู้ว่าลิปอาย
00:00:05 → 00:00:08 สันในและสันนอกมันแค่ 15% ของวัวเท่านั้น
00:00:08 → 00:00:13 อีก 85% ของวัวกินได้ครับปกติอ่ะถ้าไม่
00:00:13 → 00:00:16 ได้มีความรู้อไม่ได้สนใจในเรื่องของการ
00:00:16 → 00:00:19 เพิ่มมูลค่ามันหลายๆส่วนมันก็จะถูกไปบด
00:00:19 → 00:00:24 ถูกไปตูดไปต้ม
00:00:24 → 00:00:28 อสวัสดีครับผมหมีจิรณรงค์ครับและนี่คือ
00:00:28 → 00:00:31 รายการพแสที่คุยเรื่องเทรนดการกินกับคนใน
00:00:31 → 00:00:33 โวงการอาหารตอนนี้กระแสเนื้อไทยกำลังมา
00:00:34 → 00:00:36 แรงมากครับคนเริ่มหันมากินเนื้อโคขุนที่
00:00:36 → 00:00:39 เลี้ยงโดยฟาร์มวัวในไทยมากขึ้นและอีก
00:00:39 → 00:00:41 เรื่องที่ตีคู่กันมาเลยคือเรื่อง
00:00:41 → 00:00:43 secondary Cut ครับหรือว่าเนื้อวัวส่วน
00:00:43 → 00:00:45 รองที่คนยังไม่ค่อยรู้จักกันแต่ว่ารสชาติ
00:00:46 → 00:00:47 อร่อยไม่แพ้กัน
00:00:47 → 00:00:51 เลยผมเลยมาคุยเรื่องเนื้อๆแบบเน้นๆกับพี่
00:00:51 → 00:00:54 บิ๊กอิทธิชัยแห่งร้าน krbb เรื่องเนื้อ
00:00:54 → 00:00:57 ไทยและการตัดแบ่งเนื้อแบบซามูไรคัชการบ่ม
00:00:57 → 00:00:59 จนถึงวิธีการกินเนื้อเบื้องต้นที่เราควร
00:00:59 → 00:01:01 รู้กันครับ
00:01:01 → 00:01:03 ทั้งหมดอยู่ใน East Direction ตอนนี้
00:01:04 → 00:01:07 ครับ eat Direction คุยกับคนในวงการ
00:01:07 → 00:01:12 อาหารว่าเราควรกินอะไรถึงจะ
00:01:12 → 00:01:15 ดีตอนนี้กระแสเนื้อไทยมาแรงมากพี่เห็นทุก
00:01:15 → 00:01:19 ร้านแบบมีเนื้อไทยไปหมดเลยนะพี่มีความคิด
00:01:19 → 00:01:20 เห็นอะไรเกี่ยวกับกระแสเนื้อไทยตอนนี้
00:01:21 → 00:01:24 ม้างดีๆๆดีใช่มั้ยคือชอบมากคือยิ่งๆเนื้อ
00:01:24 → 00:01:28 ไทยขายได้เยอะยิ่งชอบอือพี่ก็ทำมาก่อน
00:01:28 → 00:01:31 เนาะใช่พี่ทำตั้งแต่เราก็ต้องการเค้า
00:01:31 → 00:01:34 เรียกอะไรนะต้องการเห็นตลาดเนื้อไทยมัน
00:01:34 → 00:01:37 ตัวจริงๆอือเพราะว่าถ้ามันไม่ช่วยกันโต
00:01:37 → 00:01:41 ใช่ป่ะกมันสู้กระแสเนื้อนอกไม่ไหวเอออ่า
00:01:41 → 00:01:43 แล้วความความแตกต่างของเนื้อไทยกับเนื้อ
00:01:43 → 00:01:45 นอกมันเป็นยังไงบ้างอ่ะพี่ไม่โดยส่วนตัว
00:01:46 → 00:01:48 เนี่ยโอเคเรามองก่อนนะเนื้อนอกที่คนไทย
00:01:48 → 00:01:52 คุ้นคินอือหลักๆเลยคือเนื้อออสเนื้อออส
00:01:52 → 00:01:54 อ่าได้ยินไปเนื้อออนได้ยินบ่อยๆใช่มั้ย
00:01:54 → 00:01:58 ลองลงมาก็จะมีเค้าเรียกว่าเนื้อ US อื
00:01:58 → 00:02:01 เห็นมั้เนื้อเนี่ยมันก็
00:02:01 → 00:02:07 เอ่อมีแบ่งเกรด 3 เกรดเป็นช้อยเก prim อ
00:02:07 → 00:02:10 แต่ว่ามันก็ไม่ได้เยอะแต่ที่ตอนนี้เนี่ย
00:02:10 → 00:02:14 มาเค้าเรียกอะไรดาหน้าถล่มเมืองไทยเลย
00:02:14 → 00:02:17 เนี่ยก็คือแนออดนี่แหละคือหลักๆทั้งโลก
00:02:17 → 00:02:20 เนี่ยมันจะมีออสกับ US อ่ากว้างๆแล้วกัน
00:02:20 → 00:02:22 เนาะไอ้พวกเอ่ออเมริกาใต้ก็
00:02:22 → 00:02:26 สญี่ปุ่นก็อีกส่วนนึงแต่ว่าตรงนั้นมันจะ
00:02:26 → 00:02:30 เป็นพรีเมี่ยมอ๋อการแข่งขันเนี่ยยิ่งแข่ง
00:02:30 → 00:02:34 แล้วทำให้ราคามันดีขึ้นเนี่ยเราไม่ว่าอื
00:02:34 → 00:02:37 แต่ทำให้ภาพรวมของราคามันแย่ลงเนี่ยเรา
00:02:37 → 00:02:40 เราเสียดายอือเพราะฉะนั้นเนี่ยการพูดง่าย
00:02:40 → 00:02:45 ๆว่าถ้าเกษตรกรไทยคนทำเนื้อไทยใช่มั้ยมี
00:02:45 → 00:02:49 แรงต่อสู้มีแรงชนกับ
00:02:49 → 00:02:52 กระแสพวกเนื้อนอกเนื้อนอกเข้ามาเนี่ย
00:02:52 → 00:02:55 เพราะว่ามันอะไรเวลาไปเจอเรื่องของการค้า
00:02:55 → 00:03:00 เสรีใช่มั้ยนำเข้ามาไม่เสียภาษีอีกอะไร
00:03:00 → 00:03:03 แบบเนี้ยทั้งๆที่บางทีเนี่ยถ้าเขาทำใน
00:03:03 → 00:03:07 ลักษณะของเชิงอุตสาหกรรมต้นทุนมันจะถูกอื
00:03:07 → 00:03:11 กว่าของเราเยอะเพราะว่าอย่างในเกษตรกร
00:03:11 → 00:03:13 บ้านเราเนี่ยอ่ายกตัวอย่างพวกที่ขายใน
00:03:13 → 00:03:18 สหกรณ์เนี่ยบางคนเเลี้ยงกันอยู่แค่บ้าน
00:03:18 → 00:03:20 นึง 5 ตัวอะไรอย่างเงี้ยนึกออกมั้ยคือต้น
00:03:20 → 00:03:24 ทุนเนี่ยต่อหน่วยมันสูงกว่าคนที่เลี้ยง
00:03:24 → 00:03:26 หลักพันตัวหมื่นตัวอยู่แล้วอืถูกมั้ยฮะ
00:03:26 → 00:03:30 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราจะต้องทำยังไงก็ได้
00:03:30 → 00:03:34 เพื่อที่จะยืนหยัดเออต่อสู้กับไอ้กระแส
00:03:34 → 00:03:37 ที่มันทาถมเข้ามานี่กระแสเนื้อถูกอ่า
00:03:37 → 00:03:39 เนื้อถูกที่ไม่เข้ามาอนี้ให้ได้พี่ว่า
00:03:39 → 00:03:41 เนื้อไทยที่ว่าเนี่ยมันเป็นเนื้อไทยทั่ว
00:03:41 → 00:03:43 ไปที่เราจะเห็นตามเฉียงเลยือเปล่าหรือไม่
00:03:43 → 00:03:46 ใช่เราพูดถึงตลาดโคขุนซึ่งมันสามารถมี
00:03:46 → 00:03:50 ศักภาพที่ไปทำเป็นพรีเมี่ยมได้นะครับโดย
00:03:50 → 00:03:52 เฉพาะอย่างยิ่งอย่างอย่างถ้าเป็นเนื้อ
00:03:52 → 00:03:56 เขียงเนี่ยมันก็จะเป็นพวกวัวบรามันเอออ่า
00:03:56 → 00:03:58 ธรรมดาก็จะเป็นอีกอีกเรียกว่าอีอีกเกรด
00:03:58 → 00:04:01 นึงอีกเึงอีกเกรดนึงซึ่งตรงนั้นเนี่ยเป็น
00:04:01 → 00:04:05 เกรดชาวบ้านอ่าแล้วก็เป็นราคาราคาเนื้อ
00:04:05 → 00:04:09 เขียงทั่วไปแต่นี้เราพูดถึงเนื้อที่อยู่
00:04:09 → 00:04:13 ในร้านอาหารหรือแม้แต่เข้าไปในประเภทร้าน
00:04:13 → 00:04:15 อาหารทั่วไปหรือไฟ dining อก็แล้วแต่อัน
00:04:15 → 00:04:18 นี้เราพูดถึงโคขุนพรีเมี่ยมดีกว่าเออที่
00:04:18 → 00:04:20 ใช้เนื้อใช่ในเมืองไทยเนี่ยพี่กำลังจะพูด
00:04:20 → 00:04:23 ว่าตอนเนี้ยในตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่าน
00:04:23 → 00:04:26 มาเนี่ยจนถึงวันเนี้พี่บอกเลยว่ามันพัฒนา
00:04:26 → 00:04:30 ขึ้นเรื่อยๆอืมันยังมีกลุ่มกุ่คนเนี่ย
00:04:30 → 00:04:33 กลุ่มเกษตรกรที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่
00:04:33 → 00:04:36 จะพัฒนาทั้งสายพันธุและคุณภาพอืเพราะ
00:04:36 → 00:04:39 ฉะนั้นเนี่ยโดยส่วนตัวพี่พี่มั่นใจว่า
00:04:40 → 00:04:42 เนื้อไทยมันก็ไม่ได้แพ้เนื้อชาติไหนในโลก
00:04:42 → 00:04:45 ออยู่แล้วแล้วราคามันต่างกันมยพี่โดยปก
00:04:45 → 00:04:49 ต่างดิต่างคือมาถูกกว่าไงคือเนื้อนอก
00:04:49 → 00:04:50 เราจะเข้าใจว่ามันควรจะแพงกว่าเนาแต่มัน
00:04:50 → 00:04:52 ถูกกับเนื้อเราเยอะแล้วตอนนี้แล้วอย่าง
00:04:52 → 00:04:54 เงี้เราแบบทำไมเราไม่กินเนื้อนอกไปเลยแง
00:04:54 → 00:04:56 ก็ก็ถึงบอกไงว่าถ้าเราคิดอย่างงั้นเนี่ย
00:04:56 → 00:04:59 แต่ว่าคุณภาพต้องบอกก่อนว่าถ้าลองกินเื้อ
00:04:59 → 00:05:01 นอกแล้วเทียบกับเนื้อไทยดีๆจริงๆนะอ
00:05:02 → 00:05:04 สำหรับพี่พี่ว่าเนื้อไทยอร่อยกว่าเออ
00:05:04 → 00:05:07 เนื้อมันอร่อยจากอะไรบ้างก็ 1 วิธีการ
00:05:07 → 00:05:09 เลี้ยงคือเราเลี้ยงเราไม่เลี้ยงแบบ
00:05:09 → 00:05:12 อุตสาหกรรมเนาะการทำปตุสัตว์แบบ
00:05:12 → 00:05:15 อุตสาหกรรมเนี่ยพวกนี้คือจะพูดง่ายๆภาษา
00:05:15 → 00:05:18 คุยง่ายๆอ่ะเร่งสีเร่งโตเร่งสีเร่งโตก็
00:05:18 → 00:05:23 คือเออใช่ป่ะเออเร่งสีเร่งโตก็คือระยะ
00:05:23 → 00:05:27 เวลาที่มันเลี้ยงเนี่ยคือน้อยมากสั้นมาก
00:05:27 → 00:05:30 วัว 20 กว่าเดือนเองก็คือวัวไม่เต็มไวอือ
00:05:30 → 00:05:33 ก็ก็ก็ก็เชื่อละแต่อย่างบ้านเราเนี่ยก็
00:05:33 → 00:05:36 ยังเห็นเฉลี่ย 30 เดือน 30 กว่าเดือนขึ้น
00:05:36 → 00:05:38 ไปอะไรอย่างเงี้ยเพราะฉะนั้นเนี่ยแปลว่า
00:05:38 → 00:05:40 อะไรต้นทุนที่มันต่างกันเพราะว่า carrying
00:05:40 → 00:05:43 cost มันต่างกันไงอือถูกป่ะต้นทุนอาหาร
00:05:43 → 00:05:45 สัตว์มันไม่เท่ากันเพราะเราเลี้ยงนานกว่า
00:05:45 → 00:05:47 อเป็นต้นซึ่งเนื้อไทยมันจำเป็นต้องเลี้ยง
00:05:47 → 00:05:50 นางขนาดนั้นไม่ก็มันอยู่ที่วัวมันไม่ได้
00:05:50 → 00:05:52 เกี่ยวกับเนื้อไทยหรือเนื้อที่ไหนอย่าง
00:05:52 → 00:05:54 วัวญี่ปุ่นอย่างเงี้ยดีที่สุดก็ควรจะต้อง
00:05:54 → 00:05:57 1,000 วันก็คือ 33 เดือนนึกออกมั้ยครับ
00:05:57 → 00:05:59 วัวนี่ 1 ตัวเท่าที่ควรจะเลี้ยงนี่คือก็
00:05:59 → 00:06:03 1000 วันอ่ะวัวอายุ 1000 วันก็คือ 33
00:06:03 → 00:06:06 เดือนครับเหมือนว่าเราให้มีเวลาในการที่
00:06:06 → 00:06:09 มันแบบโตด้วยธรรมชาติใช่ก็คือวัวมันยัง
00:06:09 → 00:06:11 ไม่เต็มอ่ะเนื้อมันยังไม่เต็มอ่ะอ่าอย่าง
00:06:11 → 00:06:14 วัวเนี่ยเวลาเราจะเชื่อเนี่ยเราต้องดูตูด
00:06:14 → 00:06:17 ดูตูดใช่ตูดมันจะถ้าพูดถึงผู้หญิงมันจะ
00:06:17 → 00:06:21 แบบเจโลอ่ะมันจะมีเนื้ออ่ามันจะพอกมันจะ
00:06:21 → 00:06:23 มีพอามันมาพอกตรงนี้แล้วปุ๊บเนี่ยเราก็จะ
00:06:23 → 00:06:26 ดูะหลังเป็นยังไงอ่ะแอนลงแล้วนะอ่ะตัว
00:06:26 → 00:06:29 บอดี้มันเป็นยังไงอะไรอย่างเงี้ยนึกออก
00:06:29 → 00:06:31 มั้เราก็จะรู้แล้วว่าอ๋อวัวอย่างเงี้ยคือ
00:06:31 → 00:06:34 อย่างถ้าเป็นของพี่พี่ก็จะถ้าไม่เกิดแบบ
00:06:34 → 00:06:37 นี้พี่จะไม่เชื่อเลยอก็ต้องรอขุนอีกแสดง
00:06:37 → 00:06:40 ว่าอาหารไม่ถึงอืถูกมั้ยล่ะแต่บางคนเนี่ย
00:06:40 → 00:06:42 ถ้าเป็นระดับอุตสาหกรรมเอาจจะไม่ได้คิด
00:06:42 → 00:06:45 แบบนี้อือใช่มั้ยครับมันเลยทำให้ต้นทุน
00:06:45 → 00:06:48 เนี่ยครับมันต่างกันอืพี่บิ๊กทำวัวขุนคือ
00:06:49 → 00:06:52 เป็นวัวไทยเนาะเป็น่พี่บิ๊กทำวัวชื่อตอน
00:06:52 → 00:06:55 ตอนนั้นไงคือคือเราเราเริ่มพัฒนาก็คือเ่อ
00:06:56 → 00:06:59 กับอ่าพาร์ทเนอร์หรือหุ้นส่วนธุรกิจที่
00:06:59 → 00:07:01 เป็นคนี่ปุและคนไทยที่อยู่ด้วยกันนี่แหละ
00:07:01 → 00:07:05 เราเอาวัวนมมาพัฒนาเนื่องจากเราเห็นว่า
00:07:05 → 00:07:09 เราเป็นคนเสียดายไงครับว่าเออวัวนมแล้วก็
00:07:09 → 00:07:13 เป็นตัวผู้เนี่ยมันก็ถูกหมาเมินถูกมั้ย
00:07:13 → 00:07:16 ล่ะเพราะว่าวัวนมก็เขาจะเอาแต่นมเอาแต่
00:07:16 → 00:07:18 เอาแต่ตัวเมียเเออเอาแต่ตัวเมียซึ่งโดย
00:07:18 → 00:07:20 เจเนติกซึ่งโดยเจเนติกแล้วเนี่ยเขาก็เกิด
00:07:21 → 00:07:24 มาเป็นตัวเมียซะส่วนใหญ่อยู่แล้วอ๋ออ่าใน
00:07:24 → 00:07:27 การพัฒนาสายพันธุ์เนี่ยมันก็จะทำให้ส่วน
00:07:27 → 00:07:29 ใหญ่ออกมาเป็นตัวเมียซึ่งตัวผู้มันก็มี
00:07:29 → 00:07:32 โอกาสเกิดเมาได้แต่น้อยมากอ่าแต่ว่าน้อย
00:07:32 → 00:07:34 มากคนทั่วไปทำยังไงอ่ะเอาไปทำวัวหันขาย
00:07:34 → 00:07:38 เป็นอะไรพวกเนี้ยเล็กๆไปใช่มั้ยแล้วมัน
00:07:38 → 00:07:41 ไม่มีราคาครับแต่โดยหลักคอนเซปของญี่ปุ่น
00:07:41 → 00:07:45 อย่างเงี้ยอือหมอดใต้ไหรือว่าชีวิตหนต่อ
00:07:45 → 00:07:47 ชีวิตอ่ะเกิดขึ้นมาเราจะทำยังไงให้เค้า
00:07:47 → 00:07:50 ได้คุณค่าสูงสุดเอออ่ามันก็เลยมีโปรแกรม
00:07:50 → 00:07:54 ที่จะขุนมันขึ้นมาเออก็เลยเป็นการขุนอ่า
00:07:54 → 00:07:57 ก็เลยลองได้คุยกับทางหุ้นส่วนธุรกิจเนี่ย
00:07:58 → 00:08:00 ที่เป็นคนญี่ปุ่นกับคนไทยตรงนั้นเนี่ยว่า
00:08:00 → 00:08:03 เออลองมาทำกันดูเนาะอะไรอย่างเงี้ยเป็น
00:08:03 → 00:08:06 ต้นแต่ว่ามันก็ไม่ได้มีปริมาณที่จะ
00:08:06 → 00:08:09 commercialize อ๋อมันมันได้น้อยมากมัน
00:08:09 → 00:08:11 น้อยมันไม่ได้เยอะครับแต่ว่าหลายคนก็ต้อง
00:08:11 → 00:08:14 มานั่งดูว่าเพราะว่าวัวนมตัวผู้เนี่ยมัน
00:08:14 → 00:08:17 ก็ต้องคือเนื่องจากมันไม่ได้เป็นวัววัว
00:08:17 → 00:08:21 เนื้อออ่าการทำเนื้อมันก็ต้อง educate
00:08:21 → 00:08:24 ตลาดอีกให้มันเข้าใจในรสชาติหน้าตาที่มัน
00:08:24 → 00:08:27 ไม่เหมือนอะไรอย่างเงี้ยเป็นต้นความนิยม
00:08:27 → 00:08:30 มันเลยน้อยเอออ่าเพะความนิยมน้อยๆมันก็
00:08:30 → 00:08:34 ต้องใช้ Marketing effort สูงอะไรอย่าง
00:08:34 → 00:08:37 เงี้ยแต่วัวที่มันเป็นวัวขุนเนี่ยในเบส
00:08:37 → 00:08:40 ของบ้านเราเคือชาเล่ชาเล่เป็นชื่อของเป็น
00:08:41 → 00:08:43 ชื่อสายพันธุ์อ่าจากฝรั่งเศสมันมีการ
00:08:43 → 00:08:46 พัฒนาสายพันธุ์ในบ้านเราเนี่ยเกือบ 50 ปี
00:08:46 → 00:08:51 แล้วครับ 40 กว่าปีซึ่งถ้าคนที่เค้าดูแล
00:08:51 → 00:08:54 สายพันธุ์อย่างใกล้ชิดฟาร์มที่เา้ามีความ
00:08:54 → 00:08:56 ตั้งใจหรือว่าฐานในการที่จะเลี้ยงมัน
00:08:56 → 00:09:00 เนี่ยพี่ว่าไม่ได้แย่ไปกว่าวัวอะไรเลยอือ
00:09:00 → 00:09:03 วัวที่เรากินกันเป็นส่วนใหญ่เนี่ยก็คือ
00:09:03 → 00:09:05 สายพันธุ์ชาโรเล่ถูกมพี่ว่าง่ายๆในบ้าน
00:09:05 → 00:09:08 เรานะในบ้านเราใช่ถ้าเป็นถ้าเป็นโคขุนนะ
00:09:08 → 00:09:12 โคขุอเรียกว่าเอ่อเป็นเล่ห์ประมาณซัก 70
00:09:12 → 00:09:16 เลยชเล่จะ 70% อเดี๋ยวนี้มันจะมีอีกอ่ะ
00:09:16 → 00:09:20 มันก็จะมีแบบแัเออก็คือเอาบรามไปผสมกับแั
00:09:20 → 00:09:25 โออ่าเขาเรียกแัแัอ่าก็มีอืแล้วพี่ว่าไอ้
00:09:25 → 00:09:28 กระแสเทรนด์ของการกินเนื้อไทยเนี่ยมัน
00:09:28 → 00:09:31 เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆมันเป็นเพราะอะไรสำคัญ
00:09:31 → 00:09:35 คือข้อมูลอืสำคัญที่สุดก็คือความรู้มั้ง
00:09:35 → 00:09:39 อือที่คนในวงการทุกคนก็ช่วยกันเผยแพร่
00:09:39 → 00:09:43 ครับ educate ตลาดอ่ะคือซึ่งถ้าย้อนไปใน
00:09:43 → 00:09:46 10 ปีที่แล้วเราพูดสปนที่มันกว้างหน่อย
00:09:46 → 00:09:50 เนาะอือกับปัจจุบันเนี่ยคือต่างกันเยอะ
00:09:50 → 00:09:53 อือในเรื่องของความรู้นะอาจจะเป็นเรื่อง
00:09:53 → 00:09:57 ของโซเชียลมีเดียด้วยหรือในเรื่องของมี
00:09:57 → 00:09:59 การรีวิวอะไรกันด้วยอะไรอย่างเงี้ยเลยทำ
00:09:59 → 00:10:03 ให้เอิ่มความรู้หรือว่าข้อมูลเนี่ยมัน
00:10:03 → 00:10:06 กระจายและเผยแพร่ได้เร็วอืเนี่ยอย่าง
00:10:06 → 00:10:09 เมื่อก่อนเนี่ยยังไงก็ตามคนไทยมันก็รู้
00:10:09 → 00:10:14 แค่ 2-3 คัใช่มั้ยคนไปในร้านอาหารเนี่ยจะ
00:10:14 → 00:10:17 หาสเตกกินเนี่ยก็มีอยู่แค่แบบบางที่ก็มี
00:10:17 → 00:10:20 แบบเดียวอือไปร้านที่เป็น stak House ก็
00:10:20 → 00:10:24 มีอยู่ 3 คัคืออะไรบ้างอ่ะสารนอกลิปอาย
00:10:24 → 00:10:27 สันในมีแค่นี้อใช่มั้ยครับส่วนอื่นนี่แทบ
00:10:27 → 00:10:31 จะไม่เคยเห็นเนี่ยเดี๋ยวเนี้ยมันก็ไม่เคย
00:10:31 → 00:10:35 เห็นคนจะรู้จักส่วนต่างๆเพิ่มขึ้นมากขึ้น
00:10:35 → 00:10:37 ขึ้นตลอดระยะเวลาเย 10 ปีนี้ 10 ปีที่
00:10:37 → 00:10:40 ผ่านมาไม่ว่าจะทางทางเราเองก็ดีอที่เรา
00:10:40 → 00:10:45 ช่วยอ่ามีการจัดคอร์สจัดสัมมนาหรือว่าทำ
00:10:45 → 00:10:48 ออกมาในเมนูทำขายหรืออะไรอย่างเงี้ยมันก็
00:10:48 → 00:10:52 จะมีชิ้นส่วนพารทรองเนี่ยที่มันมีศักยภาพ
00:10:52 → 00:10:56 ไม่แพ้กับิ้นส่วนพาร์ทหลักอืออย่างสันใน
00:10:56 → 00:10:59 สันนอกลิฟอายพวกเนี้ยเกิดขึ้นมาเยอะออื
00:10:59 → 00:11:02 แล้วเราก็เห็นตอนนี้เนี่ยในตลาดคนไทยมัน
00:11:02 → 00:11:05 ก็รู้จักปีกาเออได้ยินชื่อบ่อยมากปีญ่า
00:11:05 → 00:11:08 มากขึ้นอะไรอย่างเงี้ยหลายคนก็ยังเรียกพี
00:11:08 → 00:11:11 กันันพีกันันหน้าอยู่อะไรอย่างเงี้มันก็
00:11:12 → 00:11:14 ต้องค่อยๆเรียนรู้มันเรียกได้หลายชื่อนะ
00:11:14 → 00:11:18 ครับเค้าเรียกว่าล้ำแคปก็ได้หมายถึงิชิ้น
00:11:18 → 00:11:19 ส่วนเดียวกันชิ้นส่วนเดียวกันเนี่ยมัน
00:11:20 → 00:11:22 แล้วแต่ประเทศญี่ปุ่นเรียก
00:11:22 → 00:11:26 อิจิบะอ่าเนื้อเนื้อชิ้นนึงแต่ละประเทศ
00:11:26 → 00:11:28 เรียกไม่เหมือนกันชไม่เหมือนกันโอ้โหนะ
00:11:28 → 00:11:32 อเมริกาใต้พวกนี้เรียกปีกาญ่าเออเออ
00:11:32 → 00:11:36 เอ่อออสเตรเลียหรือยุโรปอาจจะเรียกว่า
00:11:36 → 00:11:39 เอ่อล้แปอือๆอเนี่ยมันก็คือส่วนเดียวกัน
00:11:39 → 00:11:40 นั่นแหละ
00:11:40 → 00:11:44 อเมื่อกี้พี่พูดเรื่องว่าคนเริ่มมีเริ่ม
00:11:44 → 00:11:48 รู้จักเนื้อมากขึ้นเนาะอืผมก็รู้จักเนื้อ
00:11:48 → 00:11:51 อย่างที่พี่พูดอ่ะมันจะมีเนี่ยสันนอกสัน
00:11:51 → 00:11:55 ในลิบอายเอาจริงๆคนกินเนื้อควรจะรู้อะไร
00:11:55 → 00:11:58 บ้างเกี่ยวกับเนื้อบ้างพี่ข้อที่ 1 อือ
00:11:58 → 00:12:01 ควรจะรู้ว่าลิฟอายสันในและสันนอกมันแค่
00:12:01 → 00:12:04 15% ของวัวเท่านั้นของวัวทั้งหมดเออข้อ
00:12:04 → 00:12:07 ที่ 1 เลยเอ่อเพราะฉะนั้นเนี่ยอีก 85%
00:12:07 → 00:12:10 ของวัวกินได้ครับเออเออต้องรู้ก่อนแล้ว
00:12:10 → 00:12:14 ปกติมันไปไหนพี่ปกติอ่ะถ้าไม่ได้มีความ
00:12:14 → 00:12:17 รู้อือน้อยไม่ได้สนใจในเรื่องของการเพิ่ม
00:12:18 → 00:12:21 มูลค่ามันหลายๆส่วนมันก็จะถูกไปบดถูกไป
00:12:21 → 00:12:23 ตุ๋นไปต้มออแต่ว่าไอ้ส่วนที่เอามากิน
00:12:23 → 00:12:26 เนี่ยมันเป็นส่วนที่เอามาทำสเตกใช่มยฮะ
00:12:26 → 00:12:29 พี่สามารถตัดสเตกได้อีกเป็น 10 ั้เลยเออ
00:12:29 → 00:12:31 หมายถึงว่าไอ้ไอ้ก่อนก่อนนั้นน่ะคนจะรู้
00:12:31 → 00:12:34 จัก 3 คัทเนี่ยทอปเป็นสเตกเอาไปเป็นสเตก
00:12:34 → 00:12:38 อ่าเพราะการกินเนื้อเนี่ยอือคุณค่าสูงสุด
00:12:38 → 00:12:42 ที่คนเ Value คือสตกอืคือเอาเนื้อจริงๆ
00:12:42 → 00:12:45 มันมาทำเป็นชิ้นใช่สมมุติคุณเอาเนื้อส่วน
00:12:45 → 00:12:48 สาในมาบดเป็นเบอร์เกอร์อ่ะอือคุณคิดว่า
00:12:48 → 00:12:50 คุณจะขายได้เท่าไหร่ธนาคารมันก็จะต่ำลบ
00:12:50 → 00:12:52 อ้าทั้งๆที่มันเนื้อส่วนเดียวกันใช่มั้
00:12:52 → 00:12:57 ล่ะใช่อ่าแต่ฟอร์มของมันน่ะเออคุณค่าที่
00:12:57 → 00:13:01 คนจะให้มูลค่ามันเนี่ยมันต่างกันอืออ่า
00:13:01 → 00:13:03 เพราะฉะนั้นเนื้อที่อยู่ในฟอร์มที่เป็น
00:13:03 → 00:13:07 สเตกเนี่ยมันมันเป็นชิ้นเป็นอันอือๆถูก
00:13:07 → 00:13:10 มั้ยครับอือเอ่อให้คุณค่าสูงสุดเออเพราะ
00:13:10 → 00:13:12 ฉะนั้นแล้วแบบเราก็ควรจะรู้ว่าจริงๆแล้ว
00:13:12 → 00:13:15 อย่างอื่นมันสามารถเป็นสเตกได้อีกใช่ใช่
00:13:15 → 00:13:18 แล้วก็ไอ้ที่ผ่านมาเนี่ยคนไทยบอกว่าเฮ้ย
00:13:18 → 00:13:21 ฉันก็กินทีโบนฉันก็กินโทรมาฮออันนั้นก็
00:13:21 → 00:13:23 เคยได้ยินโอ้แม่เจ้ามันก็คือสูนเดียวกัน
00:13:23 → 00:13:24 นี่แหละแต่ติด
00:13:24 → 00:13:28 กระดูกมันไม่ขึพอพอเป็นทโบนเสร็จโอโหบอก
00:13:28 → 00:13:32 เฮ้ยฉันก็กินพต House เดี๋ยวก่อน porter
00:13:32 → 00:13:34 House ก็คือทีโบนคือยังไงก็วนอยู่ใน
00:13:34 → 00:13:36 3 มันก็วนอยู่ใน 3 จ่วนนี้แหละเข้าใจป่ะ
00:13:36 → 00:13:40 เออทีโบนเนี่ยก็คือฝั่งนึงครับอ่อกระดูก
00:13:40 → 00:13:42 เป็นรูปตัว T ฝั่งนึงเป็นสันนอกอีกฝั่ง
00:13:42 → 00:13:46 นึงเป็นสันในถอ่าจะทีโบนนึกออกมี 2 ฝั่ง
00:13:46 → 00:13:47 ใช่ใช่มี 2 ฝั่งอ่ะฝั่งนึงเป็นสันนอกอีก
00:13:48 → 00:13:50 ฝั่งนึงเป็นสันในพ House ก็คือฝั่งที่มี
00:13:50 → 00:13:53 สันในอ่ะใหญ่หน่อยเาก็เรียก porter House
00:13:53 → 00:13:57 ครับโอเคมันอยู่ที่การตัดของของคนตัดใช่
00:13:57 → 00:13:59 ใช่แต่มันก็คือเนื้อ 3 ส่วนนี้แหละเออ
00:13:59 → 00:14:04 ส่วนส่วนในฮอกเนี่ยอ่าพิฟมันก็คือลิฟอาย
00:14:04 → 00:14:07 ที่ติดกระดูกมันก็วนอยู่แค่วนอยู่แค่ไอ้ 3
00:14:07 → 00:14:10 ส่วนนี้ซึ่งมันก็คือ 15% 15% ของเนึกออก
00:14:10 → 00:14:13 ป่ะออ่าเพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆเนี่ยมันยัง
00:14:13 → 00:14:17 มีส่วนอื่นซึ่งเราสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม
00:14:17 → 00:14:18 ให้กับันได้อ่าเมื่อกี้มันมีคำว่า
00:14:18 → 00:14:20 secondary Cut อันเนี้ยเคยได้ยินบ่อยใน
00:14:20 → 00:14:22 ช่วงนี้เหมือนกันพี่เหมือนเป็นแทคนิค
00:14:22 → 00:14:25 เหมือนกันนะว่าคนเริ่มกิน secondary Cut
00:14:25 → 00:14:28 มากขึ้นใช่ก็นี่ไงมันถึงบอกไงว่าตอนเนี้ย
00:14:28 → 00:14:32 คนเรียนรู้แล้วว่าไอ้ที่กูเคยกินมามันคือ
00:14:32 → 00:14:36 แค่ 15% เว้ยแล้วก็ไอ้อีก 85%
00:14:36 → 00:14:40 กินได้เป็นหมายถึงเป็นสเตกนะใช่ก็คือโอเค
00:14:40 → 00:14:43 มันมันยังมีส่วนอื่นที่เหลือใน 85% นั้น
00:14:43 → 00:14:47 เนี่ยซึ่งอร่อยออเอ่าอ่ะพี่ก็เป็นคน
00:14:47 → 00:14:50 นึงที่อ่าเราก็มาช่วยกันเผยแพร่ข้อมูล
00:14:50 → 00:14:53 หรือเอาคัชพวกนั้นน่ะมาขายออ่ายกตัวอย่าง
00:14:53 → 00:14:57 เช่นถ้าเป็นพ Cut คือสันคอเอออ่าชักชัก
00:14:57 → 00:15:00 Row ชัก Row คือก็คือเป็นส่วนที่ติดกับ
00:15:00 → 00:15:04 คออยู่ระหว่างคอกับพิฟโอเคอันนี้คือถือ
00:15:04 → 00:15:06 ว่าเป็น secondary Cut ถือเป็นพถือเป็นพ
00:15:06 → 00:15:12 C ใช่ก็คือชักชักชัก ow ก็คือคอชักพมลิฟ
00:15:12 → 00:15:15 ก็คือมันติดกันอย่างงี้ก็คือล็อคจากคอวัว
00:15:15 → 00:15:18 ก่อนจะถึงกระดูกสันหลังอือๆก็คือเนี่ยคือ
00:15:18 → 00:15:22 ส่วนที่ชักเนี่ยอืออ่าอือย่างเงี้ยพอเป็น
00:15:22 → 00:15:24 secondary คัชเราตัดแค่เรียกว่าซาบูตง
00:15:24 → 00:15:27 มันจะไปตัดอะไรของมันอีกอ่ะมันมันมีมัด
00:15:27 → 00:15:30 กล้ามเนื้อประกบกันออหลายมัดเออเราแยกมัน
00:15:30 → 00:15:34 ออกมาแยกมันออกมาอีกใช่ย่อยๆของส่วนใหญ่
00:15:34 → 00:15:37 ย่อยออกใช่ออกมาเป็น secy Cut ซึ่ง
00:15:37 → 00:15:40 นุ่มแบบโคตรสเตกเลยอือคืออเมริกันเรียก
00:15:40 → 00:15:44 Denver stake อือ่าญี่ปุ่นเรียกเอ่อ
00:15:44 → 00:15:48 ฮาชิตะหรือบูตงสามูไร Cut คืออะไรอ่า
00:15:48 → 00:15:51 ซามูไรคัก็คืออันนี้มันเกิดขึ้นจากที่
00:15:51 → 00:15:55 อาจารย์ของพวกเราเนี่ยคือริยากินูตอือ
00:15:55 → 00:15:57 ซึ่งแกเป็นมาสเตชอรของญี่ปุ่นอยู่แล้ว
00:15:57 → 00:16:00 ครับเราก็ไปเรียนเเขาก็ตั้งชื่อเข้าอ่ะ
00:16:00 → 00:16:02 ว่าก็คือน mot Cut นี่แหละอก็คือน mot
00:16:02 → 00:16:05 Cut ก็ samur Cut samur Cut ก็คือการ
00:16:05 → 00:16:11 ตัดเนื้ออือโดยคำนึงถึงการมี West อือ
00:16:11 → 00:16:13 หรือเศษที่ต้องทิ้งังขยะเนี่ยน้อยที่สุด
00:16:13 → 00:16:18 ให้น้อยที่สุดใช่และสร้างมูลค่าของพารรอง
00:16:18 → 00:16:20 ให้ได้มากที่สุดอ่ะยกตัวอย่างอีกคันึงก็
00:16:20 → 00:16:25 ได้เออ nle nle คือพคัชของแบบฝรั่งใช่เอ
00:16:25 → 00:16:28 อ่ามันจะคือส่วนไหนของวัวพี่ก็ลูกมะพร้าว
00:16:28 → 00:16:31 ลูกมอยู่ในสะโพกเนี่ยมันมีศัพ์ไทยอีกนะึ
00:16:31 → 00:16:34 จะงงเข้าอยู่ในสโพกใช่ซึ่งส่วนใหญ่คนไทย
00:16:34 → 00:16:38 ผัดหมดผัดกับต้มออเพราะว่าอะไรครับ
00:16:38 → 00:16:40 ลูกมะพร้าวเนี่ยมีมัดกล้ามเนื้อ 3 มัดเออ
00:16:40 → 00:16:44 ฮเออซึ่งไม่มีใครรู้ไงถ้าเกิดหั่นแบบซึ่ง
00:16:44 → 00:16:48 มันมี 1 ใน 3 มัดนั้นน่ะที่นุ่มอ๋อโอเค
00:16:48 → 00:16:50 เดี๋ยวถ้าให้ผมเข้าใจก็คือลูกมะพร้าเนี่ย
00:16:50 → 00:16:53 มันเป็นก้อนๆนึงใช่ถ้าคนหั่นจากนั้นไปทำ
00:16:53 → 00:16:55 อาหารเลยเนี่ยมันก็จะมีเหนียวสับความ
00:16:55 → 00:16:59 เหนียวอยู่ใช่แต่ว่าซามูไรคัเนี่ยคือวิธี
00:16:59 → 00:17:02 การการไปเลาะมันเลาะส่วนที่มันนุ่มของใน
00:17:02 → 00:17:05 นั้นอีกออกมาใช่ออกมาใช้ใช่ Yes อ๋อโอเค
00:17:05 → 00:17:09 ก็คือเหมือนมันมีส่วนที่มีค่าอยู่ในส่วน
00:17:09 → 00:17:11 ที่แบบอาจจะกินไม่ได้นะถูกใช่ถูกต้องไม่
00:17:11 → 00:17:13 ใช่กินไม่ได้เหนียวเหนียวเพราะฉะนั้นพี่
00:17:13 → 00:17:16 เป็นคนที่ไม่ได้ชอบครับคำว่าเนื้อละลายใน
00:17:16 → 00:17:19 ปากไงเพราะฉะนั้นไม่ต้องถามพี่เนื้อละลาย
00:17:19 → 00:17:21 ในปากคืออะไรก็บางคนก็ M In The M
00:17:21 → 00:17:24 เอ่อโอ้โหเนื้อละลายในปากซึ่งมันมีอย่าง
00:17:24 → 00:17:26 งั้นจริงๆไม่มีไปแดกช็อกโกแลต m&m
00:17:26 → 00:17:29 ไงอย่างเดียวคือเนื้อมันไม่มีซึ่งไม่ได้
00:17:29 → 00:17:30 เกี่ยวกับไขมันด้วยใช่มั้ยไม่มันก็ไม่มี
00:17:30 → 00:17:33 ละลายมันก็ต้องเคี้ยวอยู่ดีเออเพราะ
00:17:33 → 00:17:34 ฉะนั้นเนี่ยเนื้อต้องเคี้ยวเนื้อต้อง
00:17:34 → 00:17:37 เคี้ยวอ่าเคี้ยวมากเคี้ยวน้อยอยู่ที่มัด
00:17:37 → 00:17:41 กล้ามเนื้อว่าเราเคี้ยวส่วนไหนโอเค
00:17:41 → 00:17:45 อ่าทำไมเราต้องคัดเนื้อต่างๆนานาให้มัน
00:17:45 → 00:17:47 เยอะแยะไปหมดเลยก็นี่ไงก็คือการสร้าง
00:17:47 → 00:17:50 มูลค่าอ่าเพราะฉะนั้นแล้วการการคัดเนื้อ
00:17:50 → 00:17:53 ต่างๆเนี่ยมันทำให้แยกเนื้อส่วนที่แบบดี
00:17:53 → 00:17:56 ที่ซ่อนอยู่ในนั้นออกมานุ่มได้ใช่ะนุ่ม
00:17:56 → 00:18:00 ได้ขายเป็นสเตกได้อก็มีมูลค่าก็มีมูลค่า
00:18:00 → 00:18:02 โอเคอันนั้นคือวิธีเหตุผลว่าทำไมเราถึง
00:18:02 → 00:18:06 ต้องคัดเนื้อละเอียดมากๆใช่ครับซึ่งสมูไร
00:18:06 → 00:18:09 เอ่อถ้าเป็นคลัทช์ของธรรมดาพี่พคลัชเนี่ย
00:18:09 → 00:18:12 มันมีทั้งหมดกี่คลัชเนี่ย 14 มั้ง 14 อ
00:18:12 → 00:18:14 มันมีอะไรที่เรารู้จักกันแน่ๆเนี่ยมี
00:18:14 → 00:18:18 เมื่อกี้พี่พูดมามีสันนอกสันในสันนอกสัน
00:18:18 → 00:18:23 ในลิฟอายสันคอสันคอสันสันสะโพกสันสะโพก
00:18:23 → 00:18:28 พับนอกพับในมะพร้าวอือแชงค์พื้นท้องี่
00:18:28 → 00:18:31 โครงอือเสืออือเอ่าในเท่าไหร่แล้ว่ะไม่
00:18:31 → 00:18:34 รู้ไม่นำไม่รู้ประมาณเยบวกๆกันแต่ก็คือ
00:18:34 → 00:18:37 แต่ละอย่างมันคือการเอาแต่ละพาร์ทของวัว
00:18:37 → 00:18:40 ออกมาเป็นชิ้นๆเพื่อให้คนเอไปทำอาหารใช่
00:18:40 → 00:18:43 ซึ่งแต่ละแต่ละพาร์ทเนี่ยมันก็มีความรส
00:18:43 → 00:18:47 ชาติกับเกอรต่างกันด้วยมากอใช่เป็นต้นอัน
00:18:47 → 00:18:49 นั้นมันประมาณ 14 เนถ้าเราคิดกันใช่
00:18:49 → 00:18:51 ประมาณแต่ว่าถ้าเป็น samur คัชจริงๆแล้ว
00:18:51 → 00:18:54 มันจะตั้งแต่มา 20 กว่า 26 ก็คือไปแตกจาก
00:18:54 → 00:18:58 a 144 นี้ทีใช่ใช่ๆเช่นอย่างมะพร้าว
00:18:58 → 00:19:00 มะพร้าวลูกเมื่อกี้ที่บอกอ่าจาก 1 เป็น 3
00:19:00 → 00:19:05 โอเคเราก็จะได้ส่วนชินๆที่พี่บอกอชินๆลู
00:19:05 → 00:19:08 พ้าทั้งหมดใช่เราก็จะได้มาชินมาชินคือก็
00:19:08 → 00:19:10 ส่วนที่นุ่มที่สุดของรุกมะพร้าวที่เราไป
00:19:10 → 00:19:12 สกัดออกมาเมื่อกี้ใช่โอเคใช่แล้วก็มีมารุ
00:19:12 → 00:19:15 กาวคาเนโกะ 3 ชิ้นประกบกันเนี่ยใช่จะกลาย
00:19:15 → 00:19:18 เป็น 1 ลูกมะพร้าวกกลายเป็น 1 ชินชิอเราม
00:19:18 → 00:19:21 คัเนี่ยคือการไปแยกออกมาใช่ 3 อันใช่ส่วน
00:19:21 → 00:19:24 ที่ส่วนมาชินคือส่วนที่นุ่มที่สุด่ของลูก
00:19:24 → 00:19:28 มะพร้าวใช่อีก 2 อันอีก 2 อันก็คือมาลาว
00:19:28 → 00:19:32 แล้วก็คาเนโกะอ่ามันคือซึ่งคาเนโกะเนี่ย
00:19:32 → 00:19:34 เป็นพาร์ทที่ใหญ่ที่สุดของลูกมะพร้าวออ
00:19:34 → 00:19:37 อ่าไอ้คาเนโกะเนี่ยตัดเป็นชิ้นหนาอาจจะ
00:19:37 → 00:19:41 เคี้ยวยากอือก็ทำเป็นยากินิกุโอเคโอเค
00:19:41 → 00:19:44 เพราว่าการสกัดออกมาเนี่ยมันก็จะได้เนื้อ
00:19:44 → 00:19:46 ส่วนที่นุ่มไปเป็นสเต็กใช่แต่ว่าไอ้ส่วน
00:19:46 → 00:19:48 ที่เอาออกเนี่ยไม่ได้ว่ากินไม่ได้เราก็
00:19:48 → 00:19:50 ยังไม่ได้กินไม่ได้นะเราก็แปลงมีวิธีการ
00:19:50 → 00:19:52 มีิการทรีทอีกก็คืออย่างเนี้ยเราก็ไปทำ
00:19:52 → 00:19:56 ยากกินิกุก็จะช่วยให้มันกินได้ง่ายขึ้น
00:19:56 → 00:19:58 เพราะว่าเนื้อแต่ละส่วนเนี่ยมันมีวิธี
00:19:58 → 00:20:00 กิินที่ต่างกันมากสมมุติว่าเรากินเนื้อที
00:20:00 → 00:20:03 นึงอ่ะพี่กินเข้าไปในปากเยเราเราควรจะ
00:20:03 → 00:20:06 สังเกตอะไรกับมันบ้างมันมี Texture ที่
00:20:06 → 00:20:10 พี่บอกเนาะเคี้ยวอืเนื้อก็ต้องเคี้ยวมัน
00:20:10 → 00:20:13 ก็พูดถึงแค่หลักๆก็คือ Texture และ flav
00:20:13 → 00:20:17 แหละ Texture กับเใช่เอาหลักๆอโรม่านี่
00:20:17 → 00:20:21 อย่าไปอย่าไปอย่าไปซีเรียสใช่มยคจะไปปรุง
00:20:21 → 00:20:23 ไปอะไรก็ช่างมันแต่ว่าเอา Texture กับ
00:20:23 → 00:20:26 flav ซึ่งตัวเนี้มันจะเป็นตอบได้ชัดอื
00:20:26 → 00:20:29 เหมือนญี่ปุ่นเนี่ยแบ่งเนื้อเป็นอากามิ
00:20:29 → 00:20:32 กับบุระอากามิเหมือนไม่เคยได้ยินจากซูชิ
00:20:32 → 00:20:36 ไปบก็ใช่ก็คือเนื้อแดงเนื้อแดงอกับบุระ
00:20:36 → 00:20:39 บุระคือคือแฟตอ่าโอเคอ่าก็แบ่งเป็น 2
00:20:39 → 00:20:41 ส่วนอย่างงี้ก็คือเนื้อแดงกับไขมันใช่ก็
00:20:41 → 00:20:44 คืออย่างลิปอายเขาก็จะอยู่ในหมวดของบุระ
00:20:44 → 00:20:47 ครับเอออย่างเ่อสะโพกก็ไปอยู่หมวดของ
00:20:48 → 00:20:51 อากามิเอออ่าซึ่งรสชาติของสะโพกก็เข้ม
00:20:51 → 00:20:54 กว่าิอยู่แล้วไอ้ความเข้มที่พี่บอกเนี่ย
00:20:54 → 00:20:57 มันรสชาติน่ะมันมาจากอะไรมาจากการออก
00:20:57 → 00:21:00 กำลังกายของวัวของวัวการเดินการใช้กล้าม
00:21:01 → 00:21:03 เนื้อนั้นมากๆอย่างสันในอย่างเงี้ยโหจริง
00:21:03 → 00:21:06 ๆแทบไม่มีรสเลยอ้าเหรอแต่นิ่มสัตว์เพราะ
00:21:06 → 00:21:09 มันไม่เคยขยับเลยอ๋อมันอยู่ข้างในกล้าม
00:21:09 → 00:21:13 เนื้ออทีโอโหแทบจะนิ่มมากสันในวัวเนี่ย
00:21:13 → 00:21:16 เป็นส่วนนินิ่มนิ่มมากนิ่มกว่าสันนอกนิ่ม
00:21:16 → 00:21:19 ที่สุดในวัวนิ่มที่สุดในวัวซึ่งแต่มัน
00:21:19 → 00:21:21 เป็นเนื้อแดง้วนไม่มีไขมันอ่าไม่มีไขมัน
00:21:21 → 00:21:25 ใช่นิ่มนิ่มนิ่มแต่รสชาติไม่ได้จัดเท่า
00:21:25 → 00:21:27 กับเนื้อสะโพกรสชาติแปลว่ารสชาติเมันมา
00:21:27 → 00:21:31 จากไขมันบางส่วนไม่อ่ารสมันกับรดเนื้อมัน
00:21:31 → 00:21:33 ไม่เหมือนกันอีโอเคแยกเมื่อกี้ที่พี่แยก
00:21:33 → 00:21:35 หนอ่าใช่ก็คือไอ้รสเนื้อเนี่ยไอ้ที่เวลา
00:21:35 → 00:21:38 กินแล้วมันมีความที่เค้าเรียกอะไรอ่ะที่
00:21:38 → 00:21:41 บางคนบอกสาบเนื้อกลิ่นเนื้อเนี่ยกลิ่น
00:21:41 → 00:21:44 เนื้อชัดๆเี่รถเนี้ยอ่าซึ่งเนื้อแดงมันก็
00:21:44 → 00:21:45 จะชัด
00:21:45 → 00:21:49 กว่าซึ่งเนื้อวัวปกติปุ๊บเราได้วัว 1 ตัว
00:21:49 → 00:21:53 เข้าโรงเชือดปุ๊บก็จะมาแล่เป็นส่วนต่างๆ
00:21:53 → 00:21:56 ที่พี่บอกเมื่อเกเนครับออไม่บ่มก่อนบ่ม
00:21:56 → 00:21:59 อ่ะการบ่มคืออะไรอ้าการบ่มก็คือเค้าเรียก
00:21:59 → 00:22:01 ว่าเข้าสู่กระบวนการ tenderization
00:22:01 → 00:22:03 process ออ่า tenderization process
00:22:03 → 00:22:08 อ่าคือคือการทำบมซากคาคา aging ก็คือทำ
00:22:08 → 00:22:12 ให้เนื้อวัวอ่านุ่มขึ้นอ๋อคือเราไม่ได้
00:22:12 → 00:22:14 กินเนื้อวัวที่เชือดเสร็จแล้วปุ๊บกินเลย
00:22:14 → 00:22:16 ก็ไม่เหมือนกันครับวัวเขียงเนี่ยเขาเรียก
00:22:16 → 00:22:19 กันว่าวัวอุ่นวัวอุ่นอ่าก็คือเชือดเช้า
00:22:19 → 00:22:22 กินบ่ายอ๋อก็มีก็คือเนื้อที่มันเด้งๆๆๆ
00:22:22 → 00:22:25 อันนี้มันยังไม่ผ่านวิกเกอร์ไงวิกเกอร์
00:22:25 → 00:22:28 คือ wicker mortis ระยะการหดเกรงของโอเค
00:22:28 → 00:22:31 ของกเนื้อไอ้ 14 วันเนี่ยมันผ่านเป็นโพส
00:22:31 → 00:22:36 สอร์โอเคอ่ามันก็จะพอเอนไซม์ ATP มันแตก
00:22:36 → 00:22:39 ตัวออกทั้งหมดเนี่ยมันถึงจะเกิดขึ้นเป็น
00:22:39 → 00:22:42 imp ไงว่าวิธีสุดท้ายมันก็คุยกันอิมัน
00:22:42 → 00:22:47 ถึงเกิดณหลังจากที่อบบแล้วถ้าถ้าเรากิน
00:22:47 → 00:22:50 วัวจะเขียนชิเลยมันไม่มีรถแต่มันจะได้
00:22:50 → 00:22:52 Texture Texture เด้งๆเด้งๆมันก็จะเป็น
00:22:52 → 00:22:55 กอนริกเกอร์นิดหน่อยอ๋อครับอืพิกเกอร์
00:22:55 → 00:22:58 สั้นๆแต่ส่วนใหญ่จะเด้งหมดเอออ่าก็แหม
00:22:58 → 00:23:01 เพิ่งตายบางทีก็ตุ๊กๆๆๆๆๆๆเออเห็นป่ะใน
00:23:01 → 00:23:04 บางคลิปแต่วิธีการส่วนใหญ่เนี่ยเขาจะเอา
00:23:04 → 00:23:07 ไปบมกันก่อนใช่ครับอันนี้พูดถึงโคขุนโค
00:23:07 → 00:23:09 ขุนอ่าเพราะฉะนั้นไม่ได้พูดถึงวัวเขียง
00:23:09 → 00:23:12 อ่าๆอ่าโคขุนเนี่ยส่วนใหญ่เชื่อเสร็จแล้ว
00:23:12 → 00:23:15 ปุ๊บจะมาอาจกบ่มครับบ่มก่อนส่วนโดยปกติ
00:23:15 → 00:23:18 อย่างน้อย 14 วัน 14 วันใช่กระบวนการใน
00:23:18 → 00:23:21 การ 14 วันนั้นมันคืออะไรบ้างก็แขวนซาก
00:23:21 → 00:23:24 อย่างเดียวหมายถึงว่ามันมันเกิดปฏิกิริยา
00:23:24 → 00:23:27 อะไรก็เอนไซม์ในในในในวัวเนี้ยก็คือพูด
00:23:28 → 00:23:31 ง่ายๆ้ากระบวนการจริงๆก็คือ ATP มันแตก
00:23:31 → 00:23:34 ตัวพลังงานมันก็ย่อยเซลล์แล้วแตกตัวลงไป
00:23:34 → 00:23:39 เรื่อยๆจนเป็น im ไงอิิฟอสเฟตถึงจะเกิด
00:23:39 → 00:23:42 ขึ้นอยู่ในรสชาติเนื้อมันก็จะเป็นอุมิ
00:23:42 → 00:23:44 ขึ้นมาแต่พวกนี้ก็ต้องอยู่ในอุณหภูมิที่
00:23:44 → 00:23:46 เหมาะสมถ้าเป็นไงก็เน่าถูกมั้ยล่ะ
00:23:46 → 00:23:49 อุณหภูมิที่เหมาะสมเหมือนคือ 2 อง 2 อง
00:23:49 → 00:23:51 ใช่ก็คือทิ้งไว้อย่างั้น 14 ใช่ก็ความ
00:23:52 → 00:23:55 ชื้น 60 แล้วแล้วสิ่งที่ได้มาเนี่ยจากวัว
00:23:55 → 00:23:58 อุุ่นนะก็จะได้เป็นรสชาติของเนื้ออวัวก็
00:23:58 → 00:24:01 ก็จะนุ่มเลยก็คือวัวกก็ที่ที่เรากินอย่าง
00:24:01 → 00:24:03 เงี้ยแต่ว่าแต่ละคนเนี่ยจะมีเทคนิคไปอะไร
00:24:03 → 00:24:06 ก่อนอย่างพี่เก็บพี่เก็บในถุงแวกอือก็จะ
00:24:06 → 00:24:09 เรียกว่าเ Age เ AG ก่อนอ่าก็คือต่อไป
00:24:09 → 00:24:11 เพราะว่าเราไม่ได้ขายหมดทั้งก้อนอือคือ
00:24:11 → 00:24:15 อย่างร้านพี่เนี่ยพี่ทำลินิก็คือวัวพี่
00:24:15 → 00:24:19 เก็บทั้งก้อนสั่งถึงตัดอือ่าแต่เนื่องจาก
00:24:19 → 00:24:21 เราเป็นบูเชอร์ไงครับอ่าจูสทั้งหมดมันก็
00:24:21 → 00:24:24 จะอยู่ในในก้อนนั้นออเป็นเราเก็บเนื้อวัว
00:24:24 → 00:24:27 ที่มันมีความชบล็อกอ่ะเอออยู่อยู่แล้วเรา
00:24:27 → 00:24:29 ไม่ได้ตัดเราไม่ได้ตัดปีกเราไม่ได้ตัดแบบ
00:24:30 → 00:24:32 อ่าอย่างบางร้านเนี่ยเขาไม่มีบูชเชอร์
00:24:32 → 00:24:35 ใช่่มั้ยเอาจจะต้องสั่งแบบออคุณตัดสันนอก
00:24:35 → 00:24:37 ไปให้ชั้นเลย 10 ชิ้นแพ็คใส่ถุงมาอย่าง
00:24:37 → 00:24:41 เงี้ยอ่าอย่างงี้มันก็จะเนื้อมันก็จะเค้า
00:24:41 → 00:24:43 เรียกอะไรแห้งเร็วอ่ะอ่ะพูดง่ายๆอ๋ออือัน
00:24:43 → 00:24:46 นี้ก็ยังเก็บความุอ๋อใช่ๆๆอยู่เพราะเรา
00:24:46 → 00:24:48 เก็บทั้งบล็อกเอทั้งบล็อกอยู่แล้วลูกค้า
00:24:48 → 00:24:52 สั่งก็ค่อยๆตัดค่อยๆตัดใช่มันก็เลยมีความ
00:24:52 → 00:24:55 จุยซี่อ่ะเวลาเรากินอ่ะอแต่ทั้งหมดนั้น
00:24:55 → 00:24:58 คือการบบใช่ในระยะเวลานั้นคือการบมใช่ๆ
00:24:58 → 00:25:00 แต่เรียกว่าเ aged ใช่แต่ถ้าเกิดเป็น
00:25:00 → 00:25:02 aging ธรรมดาก็คือ Dr Ed ก็ต้องก็ต้อง
00:25:02 → 00:25:06 แขวนซากต่อจะเห็นตามร้านอาหารที่คนเริ่ม
00:25:06 → 00:25:09 แขวนกันใช่ผมก็เห็นหลาย้านเค้าเริ่มแขวน
00:25:09 → 00:25:12 เมกันอืก็อยากจะพูดอะไรจะพูด
00:25:12 → 00:25:17 ไม่เออไม่ก็ขอให้บ่มจริงๆเพราะว่าบ่มต้อง
00:25:17 → 00:25:20 อย่างงี้นะครับบ่มได้อคือมันต้องเข้าใจ
00:25:20 → 00:25:23 ก่อนไงอือเอ่อเพราะว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้น
00:25:23 → 00:25:27 เนี่ยมันมีผลต่อผู้บริโภคอือเพราะว่าคุณ
00:25:27 → 00:25:31 ต้องเข้าใจในเรื่องของโมอ่ะคือจุลินทรีย์
00:25:31 → 00:25:33 หรือเชื้อราที่มันเกิดขึ้นมันจะเกิด
00:25:33 → 00:25:35 ระหว่างการบมใช่
00:25:35 → 00:25:39 ถ้าทุกอย่างมันไม่เหมาะสมเนี่ยอือราาที่
00:25:39 → 00:25:42 ไม่ดีมันจะขึ้นแทนราที่ดีไการ aging
00:25:42 → 00:25:44 เนื้อเนี่ยมันเพื่อรสชาติที่มันจะได้มาก
00:25:44 → 00:25:47 ขึ้นความนุ่มของเืมันก็ได้มากขึ้นใช่มั้ย
00:25:47 → 00:25:50 ของพี่บิ๊ก็เป็นเป็นเป็นชอร์ด้วยที่นี้
00:25:50 → 00:25:53 เป็นี่ด้วยใช่มั้ยฮพี่ก็จะแบบมีการสไลด์
00:25:53 → 00:25:56 เนื้อตกแต่งเนื้อด้วยใช่ไอ้การตกแต่ง
00:25:56 → 00:25:59 เนื้อมันเพื่ออะไรก็ก็ถ้าการตกแต่งเนื้อ
00:25:59 → 00:26:04 ก็คือล 1 เราทำตามโจทย์ลูกค้าอือเนาะแต่
00:26:04 → 00:26:06 ว่าหลักๆก็คือเราแต่งเนื้อเพื่อทำสมลคัท
00:26:06 → 00:26:10 นี่แหละอือเอ่าก็คือเราเราทำเพื่อขายเมนู
00:26:10 → 00:26:13 ของเราเองอือที่ทำคลัทย่อยๆอ่ะครับอืซึ่ง
00:26:13 → 00:26:16 คนให้ความสนใจในการสั่งมูไรคลัชของพี่
00:26:16 → 00:26:20 เยอะอยู่ก็ก็โอเคนะเาก็มากินก็ปีกาหญ่า
00:26:20 → 00:26:24 เราก็ขายดีเออเวลาทำเวอรเซฟมันจะมีลูกค้า
00:26:24 → 00:26:27 ประจำต้องบอกว่าที่เจริงๆมันไม่ใช่ร้าน
00:26:27 → 00:26:31 อาหารถูกป่ะเออไม่ก็คือจริงๆมันก็ไม่ได้
00:26:31 → 00:26:33 โอเคมันก็กึ่งมันเริ่มจากการที่เราเป็น
00:26:33 → 00:26:35 บอร์นี่แหละ krbb เนี่ยของพี่บิ๊กเนี่ย
00:26:35 → 00:26:39 มันคือบอร์ใช่กึ่งร้านอาหารกึ่งร้านอาหาร
00:26:39 → 00:26:41 จริงๆมันคือโชว์รูมมันคือโชว์รูมเนื้อ้า
00:26:41 → 00:26:44 ให้คนมากินที่นี่ก็คือเหมือนมาเทส Drive
00:26:44 → 00:26:46 อือแต่ว่าพอช่วงโควิดเนี่ยเราก็เริ่มออก
00:26:47 → 00:26:49 อาหารจานเดียวเพื่อ Survive ไงตอนนี้ก็
00:26:49 → 00:26:54 เลยบบโอเคถ้าเอ่อก็มีอาหารขายก็พร้อม
00:26:54 → 00:26:56 Delivery คือมานั่งกินก็ได้นี่แหละแต่
00:26:56 → 00:26:57 ว่าจองกันมันหน่อยเพราะว่าร้านเราไม่ได้
00:26:58 → 00:27:01 ใหญ่อืเอ่อแค่นั้นเองอือก็ขายแหละแต่ว่า
00:27:01 → 00:27:03 มันมันไม่ได้ full service แบบเป็นร้าน
00:27:03 → 00:27:05 อาหารจ๋าอะไรอย่างงี้แต่ว่าเราก็จะได้ลอง
00:27:05 → 00:27:08 เนื้อที่ผ่านการ Age ก็มันบ่มซากอยู่แล้ว
00:27:08 → 00:27:11 เราไม่ได้ทำ Dr Edge ต่ออ๋อแค่นั้นเอง
00:27:11 → 00:27:14 เพราะว่าเราก็เชื่อว่าแค่บ่ม 14 วันแล้ว
00:27:14 → 00:27:17 ก็เพราะว่าเนื้อเทเวอร์เนื้อพี่เร็วไงอื
00:27:17 → 00:27:21 เอ่ามันก็ไม่กี่วันเราก็หมดเราก็เราเ Ed
00:27:21 → 00:27:24 ต่อไปอีกอ่ะ 7 วันอะไรอย่างเงี้ยอืมันก็
00:27:24 → 00:27:27 มันก็พี่ว่ามันก็นุ่มแล้วพี่ว่ามันก็โอเค
00:27:27 → 00:27:32 แล้วอือๆเอมันไม่ได้ไม่ต้องไปถึงขนาดโอ้ย
00:27:32 → 00:27:34 40 วัน 40 50 วันอะไรอย่างเงี้ยไม่ต้อง
00:27:34 → 00:27:37 หรอกอโอเคซึ่งถ้าถ้าทำอย่างงั้นก็ก็จะทำ
00:27:37 → 00:27:40 ให้เนื้อมันมีอีกรสชาตินึงอีกรสชาตินึง
00:27:40 → 00:27:43 เลยอันนั้นมันก็กลิ่นเนยกลิ่นชี่อะไร
00:27:43 → 00:27:46 อย่างเงี้ยอ่าแล้วแต่คนชอบอือๆแต่นอกจาก
00:27:46 → 00:27:49 นั้นนะพี่ตอนเยพี่ทำเหมือนมีก๋วยเตี๋ยวนะ
00:27:49 → 00:27:51 ผมเห็นออใช่อือฮึที่ร้านพี่มีก๋วยเตี๋ยว
00:27:51 → 00:27:53 ด้วยแต่ความพิเศษของมันคือเนื้อก็คือ
00:27:54 → 00:27:56 เนื้อบมไงนเพราะว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อส่วน
00:27:56 → 00:27:58 ใหญ่อ่ะที่เใช้กันเนี่ยคือเป็นเนื้อเนื้อ
00:27:58 → 00:28:02 เขียงใช่มั้ยอ่าก็คืออมันก็คือเป็นวัว
00:28:02 → 00:28:05 อุ่นไอเอ่าแต่ของเรากินโอโหถ้ากินเนื้อ
00:28:05 → 00:28:09 เปื่อยนี่ไม่ต้องพูดถึงมันนุ่มเอ่อกิน
00:28:09 → 00:28:12 เนื้อสดเราก็โอ้โหสุดยอดเพราะมันมีความ
00:28:12 → 00:28:16 พิเศษของการ edging มัน่อยู่เราซ่งทำกเว
00:28:16 → 00:28:18 เนืรสชาติที่ใช่เราก็เลยียบมันเป็น
00:28:18 → 00:28:20 ก๋วยเตี๋ยวเนื้อโบ่งคือคือไม่ได้แบบว่าคน
00:28:20 → 00:28:22 อื่นนะแต่หมายถึงว่าถ้ากินแบบนั้นมันก็จะ
00:28:22 → 00:28:25 ได้ความเรียกว่า Texture ของคนละแบบคนละ
00:28:25 → 00:28:28 แบบกันใช่แต่ของเราเนี่ยคือภูมิูมใจใน
00:28:28 → 00:28:30 เนื้อเปื่อยมากมีรดเนื้อด้วยมีรดเนื้อ
00:28:30 → 00:28:35 เข้มข้นมีความนุ่มเอออ่าความหอมจากการที่
00:28:35 → 00:28:38 เราปรุงทั้งหมดครบเครื่องนะแต่เราสไตล์
00:28:38 → 00:28:41 ของมันเนี่ยของเราเนี่ยถ้าเป็น
00:28:41 → 00:28:45 อ่าน้ำเราก็จะคือพี่ influence จาก
00:28:45 → 00:28:47 ญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะเพราะฉะนั้นพี่จะทำ
00:28:47 → 00:28:51 ซุปออกมาคล้ายๆดาชิุพี่ก็จะใสๆหน่อยอะไร
00:28:51 → 00:28:54 อย่างเงี้ยแล้วก็กินซดค่องคลออูมามิแต่
00:28:54 → 00:28:57 ถ้านึกตามก็เข้าใจได้นะเพราะว่าเราบ่ม
00:28:57 → 00:28:59 เนื้อเพื่อเอารสกับเ์ขนาดไหนวงเข้าไปอีก
00:28:59 → 00:29:02 เยอะๆเนี่ยก็เสียของเสียของใช่มันก็เลยจะ
00:29:02 → 00:29:05 มีความแบบความเช็งอ่ะเออถ้าเรียกอ่าของ
00:29:05 → 00:29:08 ช้างของน้ก็เลยว่าต้องเรียนเชิญอย่าให้
00:29:08 → 00:29:11 รองเออแล้วเนื้อเนื้อเนื้อตุ๋นเนื้อ
00:29:11 → 00:29:13 เปื่อยใช่่มั้ยมันต้องใช้เวลาในการตุ๋น
00:29:13 → 00:29:16 เพิ่มอีกเืออ๋อใช่เราก็ทำวันนึงแล้วมัน
00:29:17 → 00:29:19 ไม่เสียความเป็น Texture ของไม่แต่ว่าเรา
00:29:19 → 00:29:22 แต่ละส่วนเราไม่ได้ทำพร้อมกันอ๋ออ่ามัน
00:29:22 → 00:29:25 ต้องมี resting time ไม่เหมือนกันเพราะ
00:29:25 → 00:29:28 ว่าคำว่าเนื้อเปื่อยเนี่ยมันต้องไม่ยุ่ย
00:29:28 → 00:29:30 อือ่าก็คือเนื้อเปื่อยเรากินเนื้อเปื่อย
00:29:30 → 00:29:32 เราไม่กินเนื้อยุ่ยครับอ่าเพราะฉะนั้น
00:29:33 → 00:29:35 เนี่ยอย่างพี่ทำเนื้อเปื่อยพี่เนี่ยยัง
00:29:35 → 00:29:39 ต้องเคียวได้หน่อยเออไม่ใช่แบบนึกออกป่ะ
00:29:39 → 00:29:41 ดุลๆลุ่ยเลยอย่างเงี้ยเอ่าอย่างงี้
00:29:41 → 00:29:44 เราก็ไม่เอาอไม่ใช่สไตล์อือๆแล้วพี่บอก
00:29:45 → 00:29:48 ว่าเนื้อสดพี่ก็พิเศษโอ๋พิเศษดิเราใช้โอ
00:29:48 → 00:29:50 คลัทช์เราพิเศษอ๋อเนื้อสดมันก็มีคลัทช์
00:29:50 → 00:29:53 ของมันต่างหๆแต่ละอย่างใช่ออพี่ไม่ใช่ใช้
00:29:53 → 00:29:57 เศษเนื้ออ่าพี่ใช้คลัทช์อืพิเศษพี่บอกว่า
00:29:57 → 00:29:59 ไอ้เนื้อเนื้อในเนื้อเปลื่อยของพี่แต่ละ
00:29:59 → 00:30:03 อันเนี่ยมันจะมีวิธีเวลาในการตต่างกันใช่
00:30:03 → 00:30:06 แปลว่าเนื้อแต่ละส่วนมันมีความใช่สำคัญ
00:30:06 → 00:30:09 มากเออเนื้อแต่ละส่วนเนี่ย Cooking
00:30:09 → 00:30:11 temperature สำคัญที่สุดอแปลว่าเราไม่
00:30:11 → 00:30:13 ได้แบบเอาเนื้อทุกอย่างมาทำให้แบบ medium
00:30:14 → 00:30:17 R โอไม่ใช่ได้ไม่ได้เอออ่ายกตัวอย่าง
00:30:17 → 00:30:20 เนี่ยอย่างวันเนี้ยส่วนที่เป็น secondary
00:30:20 → 00:30:24 Cut อีกส่วนนึงก็คือ Fat อออื Fat ไออก็
00:30:24 → 00:30:28 คือส่วนที่เราเลาะออกมาจากใบพายใบพายคือ
00:30:28 → 00:30:30 ส่วนไหนของฝรั่งนะพี่ใบพายคือออยสเตอร์
00:30:30 → 00:30:34 เบลดออยสเตอร์เดอ่ามันคือสมันคือสะบัก
00:30:34 → 00:30:37 สะบักวัวใช่อ่าอยู่แก่ไหล่อยู่อยู่ตงแถวถ
00:30:37 → 00:30:40 ไหล่อ่าประกบด้วยชักเนอร์กับชักโชลเดอร์
00:30:40 → 00:30:43 เป็นแผ่นที่ติดกระดูกอ่าเขาก็จะลอกมัน
00:30:43 → 00:30:46 ขึ้นมาครับอ่าแต่ใบพายเนี่ยที่ที่เรา
00:30:46 → 00:30:49 เรียกว่าใบพายเนี่ยเพราะว่ามันมีพังผืด
00:30:49 → 00:30:51 อยู่เส้นนึงอยู่ตรงกลางจะเป็นเนื้ออ่า
00:30:51 → 00:30:53 ลักษณะจริงๆมันเหมือนใบไม้อ่ะมันเป็น
00:30:53 → 00:30:55 เนื้อ 2 แผ่นน่ะประกบกันอ๋อแล้วมันจะมี
00:30:55 → 00:30:59 เส้นใบใช่ใช่อยู่เวลาเราตัด Section อ่ะ
00:30:59 → 00:31:02 ครับเราก็จะเห็นมันเป็นลายเนื้อเออยู่ตรง
00:31:02 → 00:31:06 นี้มันเป็น n ครับซึ่งถ้าเราตัดใบพายไปทำ
00:31:06 → 00:31:10 สตกเนี่ยถึงจุดนึงจะเคี้ยวไม่ขาดอือก็คือ
00:31:11 → 00:31:14 เหนียวเพราะว่าพังผืดนี่มันหนามากอืออ่า
00:31:14 → 00:31:17 วิธีทำวิธีแก้ก็คือเราก็เอาเลาะอือเอ่อ
00:31:17 → 00:31:21 พังผืดอันเนี้ยแผ่นเนี้ยออกมาอืมันก็จะ
00:31:21 → 00:31:24 กลายเป็นแฟชไอนหรือว่าเตารีดเรียบอ๋อ
00:31:24 → 00:31:27 เพราะว่าเป็นเป็นแผ่นที่บางมากครับอ่าจาก
00:31:27 → 00:31:29 ที่ให้ดูอือืออย่างลักษณะของพวกเพวกเมัน
00:31:29 → 00:31:32 กิน rare To medium rare rare To
00:31:32 → 00:31:35 medium rare ใช่ถ้าเงี้ออกมาเป็น medium
00:31:35 → 00:31:38 หรือเ D นี้เหนียวอืกินไม่ได้เพราะมันมี
00:31:38 → 00:31:43 ความมันมีมันมีเ็นไม่ใช่มันคือเน Muscle
00:31:43 → 00:31:46 grain เนี่ยมันน้อยออใช่ถึงถึงแม้เราจะ
00:31:46 → 00:31:49 ลอกเอ็นไปแล้วเนี่ยมันก็ต้องมีวิธีการอ
00:31:49 → 00:31:51 อือทำให้มันสุกที่พอดีของมันอีกใช่ถ้า
00:31:51 → 00:31:55 อย่างเงี้ยยูลองไปทำ medium เลยเอออ่าแป
00:31:55 → 00:32:01 ว่าความความสุกของมันเนี่ยขึ้นอยู่กับเ่อ
00:32:01 → 00:32:04 ใยกล้ามเนื้อ mus ที่บอกยกล้ามเนื้อถ้า
00:32:04 → 00:32:08 เนื้อส่วนไหนละเอียดควรคฮีทน้อยีทน้อย
00:32:08 → 00:32:10 หมายถึงว่าออ rare หรือ medium rare
00:32:10 → 00:32:13 โอเคถ้าถ้าละเอียดควรจะเป็นอย่างงั้นแต่
00:32:13 → 00:32:15 ถ้าเกิดกล้ามเนื้อหยาบควรต้องสุกควรต้อง
00:32:15 → 00:32:19 สุกใช่มันจะกินได้ง่ายขึ้นง่ายขึ้นใช่อ๋อ
00:32:19 → 00:32:22 แต่อย่างพี่ยกตัวอย่างที่มันชัดๆเลยนะ
00:32:22 → 00:32:24 อย่างร่องซี่โครงอ่ะอือร่องที่ี่โครงเนี่
00:32:24 → 00:32:28 อยู่ต้องควรกินเวลดันร่องี่โครงคือเนื้อ
00:32:28 → 00:32:31 มันมีซี่โครงอยู่ใช่ช่องเนื้อระหว่างอ
00:32:31 → 00:32:33 เนื้อระว่างซโครงเอ่าอย่างงั้นต้องกินสุก
00:32:33 → 00:32:37 มากเพราะอะไรเพราะมันมีทั้งมันเอ็นพังผืด
00:32:37 → 00:32:40 อยู่ในนั้นเราก็เลยต้องกินให้มันสุกเพ
00:32:40 → 00:32:42 เพื่อสุให้มันนุ่มให้มันนุ่มใช่เพราะว่า
00:32:42 → 00:32:45 มันหยาบเกนอ่ะโอเคถ้าถ้าเราทำแบบ medium
00:32:45 → 00:32:48 แนเนี่ยมีโอกาสที่จะหนเขี้วไม่ขาดใช่ถูก
00:32:48 → 00:32:50 ต้องเข้าใจมันต้อง Render มันมันต้อง
00:32:50 → 00:32:53 Render เลยอือก็คือยิ่งสุกยิ่งอร่อยอ่า
00:32:53 → 00:32:55 เปรียบเทียบเป็นอย่างนี้โอเคใช่หรืออย่าง
00:32:56 → 00:32:59 ปีกาหญ่าอย่างเงี้ยจริงๆควรกินยมอืกิน
00:32:59 → 00:33:01 medium แจะรู้สึกว่าเหนียวกว่าเพราะว่า
00:33:01 → 00:33:04 มันมีเส้นใหญ่ที่ยาบกว่าใช่ถูกต้องนี่แ
00:33:04 → 00:33:07 แค่นั้นเองหลักการง่ายๆหลักการง่ายๆอย่าง
00:33:07 → 00:33:10 อย่าเทอรอยมึงแดกดิบยังได้เลยนิ่มสับ
00:33:10 → 00:33:15 เทอรอยเนื้อจะละเอียดใช่ซีนกินดิบเลยแปล
00:33:15 → 00:33:18 ว่าถ้าผมถ้าผมไปกินคราวหน้าเนี่ยผมไป
00:33:18 → 00:33:21 สังเกตเนื้อว่าเอ้ยมันมีเส้นของเส้นเนื้อ
00:33:21 → 00:33:24 อ่าอันนี้สต็ปแรกนะสตป 2 คือ Cut against
00:33:24 → 00:33:26 The grain ก็คือตัดขวางลายอย่าตัดตาม
00:33:26 → 00:33:30 ลาย 1 คือเราควรจะดูเนื้อให้มันดีว่าอัน
00:33:30 → 00:33:33 นี้ละเอียดหรือหยาบถ้าหยาบให้กินสุกใช่
00:33:33 → 00:33:36 ใช่สุกกว่าแต่ไม่ใช่ไม่ใช่สถึงควดนะคำว่า
00:33:36 → 00:33:38 สุขก็คือ medium โอเคถ้าถ้าละเอียดหน่อย
00:33:38 → 00:33:42 ให้กินแบบ rare to medium R 1 ละ 2
00:33:42 → 00:33:46 คือเวลาดเอ่าตัดเนี่ยต้อง Cut against
00:33:46 → 00:33:49 strain สนเอ้ยลนของเส้นเนี่ยมันริงเป็น
00:33:49 → 00:33:51 อย่างงี้ต้องตัดขวางมันจะยาวใช่มถ้าตัด
00:33:51 → 00:33:54 ตามมันเนี่ยโอเหนียวสัตว์ก็คือกินเส้นแรง
00:33:54 → 00:33:56 มันใช่ก็คืออ่า biting Force เนี่ยใช้
00:33:57 → 00:33:59 แรงเยอะมากอ๋อเพราะว่าคตัดให้มันเป็นเส้น
00:33:59 → 00:34:02 ขวางใช่ถูกต้องก็คือ Break The grain
00:34:02 → 00:34:06 อ่าใช่นี่คือวิธีดูเนื้อใช่แค่นเที่ดู
00:34:06 → 00:34:08 วิธีกินให้ให้อร่อยให้ถูกต้องแค่นั้นเอง
00:34:08 → 00:34:11 แต่อย่างชาบูพวกนี้มันเป็นสไลด์บางแล้ว
00:34:12 → 00:34:15 มันลวกนิดหน่อยได้แต่พอลวกเ่ะพอมันสุก
00:34:15 → 00:34:18 เนี่ยมันจะเหมือนคนขนลุกอ่ะเออซึ่งตัว
00:34:18 → 00:34:21 นั้นน่ะมันเกิดขึ้นจากไอ้เกรนกล้ามเนื้อ
00:34:21 → 00:34:24 นี่แหละครับหมีก็จะเห็นว่าในแต่ละส่วนที่
00:34:24 → 00:34:28 ทำอ่ะเวลามันหดตัวขึ้นมาเนี่ยออ่อไอ้
00:34:28 → 00:34:30 มาสเซอเกนที่ใหญ่มันจะเป็นยังไงอันเล็ก
00:34:30 → 00:34:32 เป็นยังไงแล้วหมีก็จะรู้ว่าอันไหนละเอียด
00:34:32 → 00:34:36 อันไหนเข้มอันไหนหยาบกว่าเออเออจริงๆก็
00:34:36 → 00:34:39 คือดูก็เข้าใจแล้วอืออ่าแต่กินนี้จะจ่าง
00:34:39 → 00:34:41 เลยลองเลยมั้ยพี่ลองเลย
00:34:41 → 00:34:46 ครับนี่ชาบูพี่มีส่วนไหนให้ผมลองบ้างอ๋อ
00:34:46 → 00:34:50 วันนี้ก็มี 3 ส่วนนะครับจริงๆปกติเรา
00:34:50 → 00:34:54 เสิร์ฟ 4 ครับ 4 ส่วนเนาะวันนี้เราเสิร์ฟ
00:34:54 → 00:34:57 3 ส่วนอือให้ชิมมันก็เห็นความแตกต่างและ
00:34:57 → 00:35:00 ที่เราดีไซน์อ่าแบบเเพราะว่าเราอยากให้
00:35:00 → 00:35:04 ลูกค้าอือได้กิน Texture ที่ต่างกันเเอร
00:35:04 → 00:35:08 ที่ต่างกันเนาะอวันนี้เราก็มี 3 ส่วนก็
00:35:08 → 00:35:11 คือ uck Shoulder คือที่บอกเมื่อกี้ที่
00:35:11 → 00:35:14 เล่าให้ฟังมันจะเป็นส่วนที่อยู่ประกบกับ
00:35:14 → 00:35:17 ติดกับใบพายอ่าที่อรที่อยู่กับใบพายเออ่า
00:35:17 → 00:35:21 ต่อมาอันนี้คือพับนอกอือ่าพับนอกอยู่ใน
00:35:21 → 00:35:25 ส่วนของสะโพกสะโพกซึ่งไม่ใช่มะพร้าวสะโพก
00:35:25 → 00:35:30 มี 4 ส่วนสะโพกบัวมี 4 ส่วนใช่ก็คือล้ำ
00:35:30 → 00:35:34 โอเคพับนอกพับในมะพร้าวอออ่าอันนี้คือพับ
00:35:34 → 00:35:37 นอกใช่อันนี้ก็คือิ E ร E อ่ารู้จักิป E
00:35:37 → 00:35:40 รู้จักอยู่โอเคไอ้พวกนี้คือไม่ใช่
00:35:40 → 00:35:42 secondary ซะทีเดียวพวกนี้คือไม่ใช่
00:35:42 → 00:35:46 secondary ซะทีเดียวเพียงแต่ว่าเรามัน
00:35:46 → 00:35:50 เป็นส่วนที่อ่าเราสามารถที่จะเอามาสไลซ์
00:35:50 → 00:35:52 เพื่อทำชาบูเชบูแล้วให้ลูกค้าเกิด
00:35:52 → 00:35:55 experience ได้ให้รู้ว่ามันต่างกันใช่
00:35:55 → 00:35:58 มั้ยครับใช่ใช่เพราะฉะนั้นเนี่ยพอน้ำ
00:35:58 → 00:36:01 เดือดแล้วเนี่ยนะครับขออนุญาตเดี๋ยวลวก
00:36:01 → 00:36:04 ให้เลยขออนุญาตลวกให้ขออนุญาตรกนพี่บิ
00:36:04 → 00:36:09 ครับคำว่าชาบูชาบูก็คือเสียงของการแกว่ง
00:36:09 → 00:36:13 เนื้ออือนะครับเนี่ยมันตายตัวมพี่ว่าแต่
00:36:14 → 00:36:16 ละอันควรจะใช้เวลาเท่าไหร่อ่าอันนี้ถ้า
00:36:16 → 00:36:19 เป็นสไลด์อย่างงนี้ไม่ไม่ไม่ต่างกันมาก
00:36:19 → 00:36:24 เออนะครับอ่ะเฮ้ยได้เลยเหรออ่ะตูอ่ะชิม
00:36:24 → 00:36:26 ก่อนเหมือนพี่ยังไม่ได้ลงไปจุ่มเลยนะ
00:36:26 → 00:36:30 เมื่อกี้เฮ้ยกินก่อนแล้วช่วย
00:36:30 → 00:36:34 อธิบายอื Texture and flavor มันด้วย
00:36:34 → 00:36:38 มันนุ่มแล้วก็มีรสชาติหมีมีกลิ่นหน่อยมี
00:36:38 → 00:36:40 รสชาติหน่อยเนาะ
00:36:40 → 00:36:46 โอเคเื่องนี่คืออืเมื่อกี้คืออะไรวะเมื่อ
00:36:46 → 00:36:52 กี้คือชักโชเดอร์ชักโชเดอร์
00:36:52 → 00:36:54 เ
00:36:54 → 00:37:00 อ่ะช่วยมองความต่างอือฮึเห็นปะอืเห็นป่ะ
00:37:00 → 00:37:05 ครับ
00:37:05 → 00:37:09 อ่ะจริเหมือก็ต่างกันเต่างดินี่คือบัวตัว
00:37:09 → 00:37:13 เดียวกันป่าบัวคนละ
00:37:13 → 00:37:18 ตัว
00:37:18 → 00:37:23 ออันนี้รู้สึกห้างกว่านิดนึงเแตัวนั้นนะ
00:37:23 → 00:37:28 แต่ว่าเรู้สึกว่าอะไรหยาบกว่าอันนี้อ่า
00:37:28 → 00:37:30 เห็นมั้ยแค่นี้ก็กินไม่ก็รู้แล้วหลับตา
00:37:30 → 00:37:32 กินก็รู้ถูกป่ะออันนี้คือเส้นใยที่บอกว่า
00:37:32 → 00:37:36 มันหยาบกว่าใช่อือืชักโอร์ครับอ่ะดูดู
00:37:36 → 00:37:39 เวลามันสุกเห็นมยเกรนกล้ามเนื้อ
00:37:39 → 00:37:43 ละเอียดมากอออืออันนี้คือตัวอย่างที่พี่
00:37:43 → 00:37:47 บิ๊กบอกว่ามันละเอียดใช่ใช่มฮใช่ก็มันจะ
00:37:47 → 00:37:50 ไม่ใช่เป็นตะปุ่มตะปุเหมือนเมื่อกี้
00:37:50 → 00:37:55 ออืใช่มั้ยเมันจะหายไปเลยใช่อืนั่นแหละ
00:37:55 → 00:37:57 เข้าใจครับเข
00:37:57 → 00:38:01 เนี่ยนี่คือความสนุกอือในการกินชาบูแบบ
00:38:01 → 00:38:04 นี้นะครับแล้วก็อันเนี้ยต้องบอกก่อนว่า
00:38:04 → 00:38:08 เรากินแบบคันไซเนาะคือคนคันไซเนี่ยมันจะ
00:38:08 → 00:38:13 กินคันไซคือโอซาก้าโซนนั้นเนาะอเขาจะกิน
00:38:13 → 00:38:17 เนื้อกะเปล่า่าก่อนอ๋อที่จะเอาพวกผักเผิก
00:38:17 → 00:38:20 อาใส่ถ้ากินแบบโตเกียวเนี่ยมันจะใส่ลงไป
00:38:20 → 00:38:22 เหมือนที่บ้านเราอ่ะอ๋อต่างเทุกอย่างลงไป
00:38:22 → 00:38:25 อือๆๆก่อนอ่าอย่างเงี้ยหนจะกินเนื้อพวก
00:38:25 → 00:38:28 นี้กิน Enjoy กินพวกนี้เสร็จแล้วเราค่อย
00:38:28 → 00:38:31 ใส่ผักกิ่นต่อไปอือริบ
00:38:31 → 00:38:35 อายอ่ะเดี๋ยวเอาให้สุกพอๆกันนะอือฮึอ่ะ
00:38:35 → 00:38:40 กินดูแล้วเราจะบอกว่าอ่ะเดี๋ยวดูคือมัน
00:38:40 → 00:38:43 นุ่มอย่างเดียว Texture มันจะเป็นกิน
00:38:43 → 00:38:45 Texture แต่ความที่บอกเข้มข้้นเนี่ยอาจ
00:38:45 → 00:38:47 จะหอมมัน
00:38:47 → 00:38:51 อืหอมหอมกลิ่นไขมันอ่าแต่ไม่ได้เป็นกลิ่น
00:38:51 → 00:38:55 เนื้ออืออืกลิ่นเนื้อจะบางกลิ่นไข่มันจะ
00:38:55 → 00:38:58 ชัดขึ้นพอแยกกิินอย่างเงี้ยเราจะรู้สึก
00:38:58 → 00:39:02 ความมีครีมนิดๆอย่างเงี้ยอือใช่อย่าง
00:39:02 → 00:39:06 เงี้ยถูกเป๊ะเลยไอ้ความรสาตเนมันมันแบบ
00:39:06 → 00:39:08 อาจจะไม่ได้เยอะเยอะจนแบบชัดเจนขนาดที่
00:39:09 → 00:39:11 เราจะดูออกแต่ว่าที่ได้เลย Texture ว่า
00:39:11 → 00:39:13 มันต่างกันเยอะจใช่อันเนี้ยเดี๋ยวให้กลับ
00:39:13 → 00:39:16 มากินอันนี้นะอันนี้จะยิ่งชัดเลยออืเพราะ
00:39:16 → 00:39:21 เรากินตัวบางมาอยู่อ๋อเนี่ยนะครับเห็นมย
00:39:21 → 00:39:24 เวลาสุกเนี่ยมันจะเป็นแบบมันปุมปุมปุมปุม
00:39:24 → 00:39:26 ปุ่มใหญ่ครับไอ้นั่นน่ะปุ่มเล็กเอออันนี้
00:39:26 → 00:39:28 คือเนื้อเนี่ยคือซินี่คือเนื้อที่หยาบจะ
00:39:29 → 00:39:32 เป็นอย่างงี้ยใช่ถูกต้องเมื่อกี้คือเรา
00:39:32 → 00:39:36 กินตัวที่มันอ่อนมาแล้วใช่ตัวนี้ก็จะเข้ม
00:39:36 → 00:39:38 ขึ้น
00:39:38 → 00:39:42 อือันนี้อือเพราะเรากระโดดข้ามมา 2 ขั้น
00:39:42 → 00:39:46 เข้าใจอันนี้อันนี้รู้เลยว่าโอ้โหรดเนื้อ
00:39:46 → 00:39:52 ออืแล้วยิ่งเคี้ยวยิ่งนึเออกปะนั่นแหละ
00:39:52 → 00:39:57 เงยกินแค่นี้ถ้าเพราะฉะนั้นเวลาเราอยากจะ
00:39:57 → 00:40:00 experience อ่ะเนี่ยก็มากินเพราะว่าพี่
00:40:00 → 00:40:05 ก็ทำ 4 คัอืออืเวลาเวลาทำก็ก็อย่างเงี้ย
00:40:05 → 00:40:08 เพื่อความสนุกเพลิดเพลินเสร็จแล้วเราค่อย
00:40:08 → 00:40:12 มาหาว่าการชอบอะไรมันไม่มีถูกไม่มีผิดอื
00:40:12 → 00:40:16 แล้วค่อยหาเฟรนแบบไหนเผอๆเราอาจจะชอบอของ
00:40:16 → 00:40:18 ดีราคาถูกก็ได้เพราะไอ้นี่มันถูกกว่าไอ้
00:40:18 → 00:40:22 นี่ครึ่งนึงอเหรออ่าใช่คือนึกออกมั้ยแล้ว
00:40:22 → 00:40:23 ก็แบบเอ้ยมันไม่จำเป็นนี่ต้องกินเนื้อแพง
00:40:23 → 00:40:26 เราอาจจะชอบกอย่างี้ก็ได้เราอาจจะชอบ
00:40:26 → 00:40:29 เคี้ยวหน่อยทำไมทำไมมันถึงถูกกว่าพี่
00:40:29 → 00:40:33 เนื้อสะโพกอืมันถูกกว่าเนื้อสันอยู่แล้ว
00:40:33 → 00:40:36 เพราะว่าอันนั้นคือเอ่อไม่ใช่มันก็จริงๆ
00:40:37 → 00:40:40 มันก็คือแบบก็พนี่แหละแต่ว่ามันหลักก็คือ
00:40:40 → 00:40:45 ส่วนของส่วนของเอ่อ highest demand อ่ะ
00:40:45 → 00:40:47 ความต้องการสูงสุดใช่คนรู้จักเยอะก็ไม่
00:40:47 → 00:40:49 น่าแปลกเพราะรีบ iPhone รู้จักปแล้วสะโพก
00:40:49 → 00:40:52 เอาจจะแบบใชถใช่เป็นคล้ายๆลูกไม่น้อยของ
00:40:52 → 00:40:56 ความคัใช่ใช่ถูกต้องใช่แล้วอันนี้คือความ
00:40:56 → 00:41:01 สนุกอืการราทรสในการกินซึ่งนอกจากชาบู
00:41:01 → 00:41:03 ร้านพี่มีเมนูอะไรอีกบ้างอ๋อมีชาบูนะครับ
00:41:03 → 00:41:06 เป็นเซตอย่างงี้แล้วก็เรามีแจ่วฮ้อนแจ่ว
00:41:06 → 00:41:10 ฮ้อนด้วยอ่าแจ่วฮ้อนเนี่ยคือพี่ไม่ได้
00:41:10 → 00:41:12 ปรุงพริกอะไรลงไปในซุปเนาะเพียงแต่ว่าเรา
00:41:12 → 00:41:16 เอาพวกสมุนไพรเอาไปเผาอแล้วก็ใส่ลงมาพวก
00:41:16 → 00:41:20 เอ่อตะไคร้อะไรพวกเนี้ยใส่ลงไปหอมอเพื่อ
00:41:20 → 00:41:23 อโรม่าครับแต่พอเนื้อน้ำซุปที่มันมี
00:41:23 → 00:41:25 อโรม่ามากขึ้นเนี่ยพริกก็เลยเอาเนื้อคัด
00:41:25 → 00:41:29 ที่มันเหนียวขึ้นอือทัฟขึ้นมาใช้อก็คือ
00:41:29 → 00:41:33 เราเอาเอ็นห้องกรอบมาทำเราเอาใบพายมาทำ
00:41:33 → 00:41:36 เราเอาเอ่อลิฟแคปมาทำอะไรอย่าเงี้ยเป็น
00:41:36 → 00:41:39 ต้นอออ่าแต่ลูกค้าก็จะได้กินหลากหลายอือ
00:41:40 → 00:41:43 แค่นั้นเองอ่ะมีเมนูชาบูมีแพ้อนอใช่ก็
00:41:43 → 00:41:46 ซิกเนเจอร์เอ่อก็ข้าวผัดมันเนื้อข้าวผัด
00:41:46 → 00:41:49 มันเนื้ออร่อยมากใช่ข้าวผัดมันเนื้อแล้ว
00:41:49 → 00:41:51 ก็ตอนนี้ก็พวกก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ถ้าเป็นพวก
00:41:51 → 00:41:55 เมนูพิเศษก็จะเป็นพวกคาโดอ่าออันนี้มันก็
00:41:55 → 00:41:58 เป็นเอ่อเอาสันนอกไปชุดแป้งทอดเนาะกิน
00:41:58 → 00:42:00 เหมือนแซนวิชญี่ปุ่นออืออ่าแล้วก็หลาก
00:42:00 → 00:42:03 หลายต่างๆนักอเอาที่จริงผมมากินร้านพี่
00:42:03 → 00:42:06 บิ๊กหลายรอบแต่ว่าถ้าถามผมว่าส่วนไหนมัน
00:42:06 → 00:42:08 จะเรียกมันจะมีเนื้อส่วนหนึงชื่อขั้วตับ
00:42:08 → 00:42:11 อ๋อขั้วตับอ๋ออ๋อนั่นก็สินเจอร์เลยขั้ว
00:42:11 → 00:42:13 ตับนี่เรียกว่า Super secondary Cut
00:42:13 → 00:42:15 เลยป่ะซุเปอร์เลยคือขั้วตับคืออะไรพี่บิ
00:42:15 → 00:42:18 ขั้วตับหรือเค้าเรียกแฮงเกอร์มันก็จะเป็น
00:42:18 → 00:42:21 เนื้อเนื้อติดตับซึ่งจริงๆเราได้หลังจาก
00:42:21 → 00:42:24 ที่เราเชือดวัวเลยเนาะอืออ่าวัวตัวนึงก็
00:42:24 → 00:42:26 คือเป็นเนื้อส่วนเดียวอ่ะที่มีที่มี 1
00:42:26 → 00:42:31 อันยกน้อยด้วกับอื่นตัวเดียวอัน
00:42:31 → 00:42:33 เดียวของวัวอย่างอื่นมันมีเป็นคู่อ่า
00:42:33 → 00:42:36 เนื้อคู่ต่ำเมีอันเดียวมันคือส่วนที่เป็น
00:42:36 → 00:42:38 เป็นเป็นเป็นติดกระตับแต่ว่าเป็นเนื้อใช่
00:42:39 → 00:42:41 ติดอ่าเนี่ยแหละก็คือภาษาญี่ปุ่นเรียก
00:42:41 → 00:42:44 ซาการิตเออซึ่งส่่วนเยมันพิเศษจริงๆมัน
00:42:44 → 00:42:47 กินรมันแบบรถเข้มข้นที่สุดรถเข้มข้นแต่
00:42:47 → 00:42:50 นุ่มอืออ่าแต่เป็น secondary Cut ที่ไม่
00:42:50 → 00:42:53 ได้หาง่ายยากมากเพราะว่าวัวตัวนึงมี
00:42:53 → 00:42:56 ประมาณ 7 ขีดซึ่งน้อยมากครับบมีอยู่แล้ว
00:42:56 → 00:43:00 เพราะว่าเป็นใช่ๆใช่ๆน้อยสุดๆได้เลยก็มา
00:43:00 → 00:43:03 เพิ่มประสบการณ์กันได้ครับเออครับวันนี้
00:43:03 → 00:43:04 ขอบคุณพี่บิ๊กมากครับได้ความรู้เรื่อง
00:43:04 → 00:43:06 เนื้อเต็มไปหมดเลยแล้วก็โอหด้วยความยิดี
00:43:06 → 00:43:09 หวังว่าเป็นประโยชน์ประโยชมาชอย่างอย่าง
00:43:09 → 00:43:13 น้อยผมว่าไปฟังซ้ำได้หลายรอบแหละมันอาจจะ
00:43:13 → 00:43:15 มีข้อมูลเยอะเยอะเยอะๆเยอะเยอไปหน่อยแต่
00:43:15 → 00:43:18 ว่าจำเป็นต้องให้ใช่จำเป็นต้องให้แต่ว่า
00:43:18 → 00:43:21 ผมผมคิดว่าเดี๋ยวผมน่าจะลองคุยกับพี่บิ๊ก
00:43:21 → 00:43:24 เดี๋ยวลองคุยหลังจากนี้เนาะว่าลองจัดสัก
00:43:24 → 00:43:27 มื้อนึงดีกว่าแล้วก็ให้คนได้ลองอ๋อดีเลย
00:43:27 → 00:43:29 เอเงี้ยมันก็ได้เทียบกันแล้วเห็นใช่ว่า
00:43:29 → 00:43:31 เนี่ยมาลองเป็นรู้ว่าไม่เดี๋ยวจะทำให้ดู
00:43:31 → 00:43:35 ว่าเอ้ยอันนี้ถ้าทำแบบนี้เป็นยังไงแล้วทำ
00:43:35 → 00:43:38 สุขต่างกันอ่าเทียบ AB testing มันก็ได้
00:43:38 → 00:43:40 รู้เอมันควรจะได้กินด้วยตัวเองแล้วก็รู้
00:43:40 → 00:43:42 ว่าตัวเองจะได้รู้ด้วยว่าชอบเนื้อส่วนไหน
00:43:42 → 00:43:44 โอยินดีเลยครับได้ครับวันนี้ขอบคุณพี่ิมา
00:43:44 → 00:43:48 ครับโอเคขอบคุณครับขอบคุณครับ
00:43:48 → 00:43:57 [เพลง]
00:43:57 → 00:43:58 เ
00:43:58 → 00:44:06 [เพลง]