00:00:47 → 00:00:48 สวัสดีค่ะ
00:00:48 → 00:00:50 กลับพบกับเราสองคนและรายการ
00:00:50 → 00:00:51 คุยกับหมออัจจิมานะคะ
00:00:51 → 00:00:52 รับรองเลยว่าถ้าเกิด
00:00:52 → 00:00:54 คุณติดตามรายการเราตลอดเครื่องชั่วโมง
00:00:54 → 00:00:56 อย่างน้อยคุณจะสุขภาพดี
00:00:56 → 00:00:58 ยิ่งวันนี้เนี่ย
00:00:58 → 00:00:59 ไม่ดูไม่ได้เลยใช่มั้ยคะคุณหมอ
00:01:00 → 00:01:03 คุณหมอจะพาเราล้วงลึกเข้าไปถึงด้านใน
00:01:03 → 00:01:04 อวัยวะที่แบบ
00:01:04 → 00:01:06 ต้องถามว่าคุณแนนคิดว่าตัวเองไส้ดีไหม
00:01:06 → 00:01:07 อาจจะถือว่าไม่แย่
00:01:07 → 00:01:09 เพราะว่าระบบขับถ่ายดีระบบ
00:01:09 → 00:01:11 ย่อยดีไม่มีท้องอืดท้องเฟ้อเหมือนสมัยก่อน
00:01:12 → 00:01:13 งั้นถือว่าเห็นผ่านไหมคะคุณหมอ
00:01:13 → 00:01:14 มาดูกันดีกว่าว่า
00:01:15 → 00:01:16 เราไส้ดีหรือไม่ดี
00:01:18 → 00:01:19 เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมา
00:01:19 → 00:01:20 พิสูจน์ไส้กัน
00:01:20 → 00:01:21 พิสูจน์ซากนะคะ
00:01:21 → 00:01:22 ห้ามหนีไปไหน
00:01:22 → 00:01:24 น่าสนใจมากๆสำหรับเนื้อหารายการวันนี้
00:01:25 → 00:01:26 มาค่ะคุณผู้ชมขาได้เวลา
00:01:26 → 00:01:29 มาติดตามกันแล้วในช่วงหมอชวนคุยช่วงที่ 1 นะคะ
00:01:29 → 00:01:33 ว่าไส้ดีไม่มีโรคเราจะดูแลให้ลำไส้เราดีได้ยังไง
00:01:33 → 00:01:35 อันดับแรกค่ะคุณหมอขาต้อง
00:01:35 → 00:01:37 ทำความรู้จักกันหน่อยว่า
00:01:37 → 00:01:38 ลำไส้
00:01:38 → 00:01:39 มันส่งผลยังไงกับระบบ
00:01:39 → 00:01:41 ภูมิคุ้มกันในร่างกาย
00:01:41 → 00:01:43 คุณหมอถึงบอกว่ามันส่งผลกับสุขภาพ
00:01:43 → 00:01:45 ที่แข็งแรงไม่แข็งแรงด้วย
00:01:45 → 00:01:47 จริงๆแล้วลำไส้เนี่ยถือว่า
00:01:47 → 00:01:49 เป็นอวัยวะที่
00:01:49 → 00:01:50 ส่งผล
00:01:50 → 00:01:52 สำคัญต่อภูมิต้านทานของร่างกาย
00:01:53 → 00:01:56 ซึ่งเค้ามีการศึกษานะคุณแนนในหนูทดลอง
00:01:56 → 00:01:57 โดยหนูทดลองเนี่ย
00:01:57 → 00:01:58 ไปอยู่ในที่
00:01:58 → 00:02:01 ให้ทานแต่อาหารที่ปลอดเชื้อ
00:02:01 → 00:02:02 แล้วหนูทดลองเนี่ย
00:02:03 → 00:02:05 เพราะว่าในลำไส้เนี่ยแทบไม่มีเชื้อจุลินทรีย์อยู่เลย
00:02:06 → 00:02:08 ค้นพบว่าอะไรรู้มั้ยคุณแนน
00:02:08 → 00:02:10 ปรากฏว่าหนูกลุ่มเนี่ยอายุยืน
00:02:11 → 00:02:12 อายุยืนกว่าหนูที่แบบ
00:02:12 → 00:02:14 กินอาศัยตามปกติ
00:02:14 → 00:02:15 กินของสกปรกเอาเชื้อโรคเข้าไป
00:02:16 → 00:02:17 อายุยืนกว่า
00:02:17 → 00:02:19 หนูพวกเนี้ย
00:02:19 → 00:02:21 ถึง 1.5 เท่าเลย
00:02:22 → 00:02:23 ฟังดูแล้วเหมือนดีนะคุณแนน
00:02:24 → 00:02:27 แต่ปรากฏว่าคุณแนนหนูพวกเนี้ย
00:02:27 → 00:02:30 ไม่มีจุลินทรีย์จริงไม่มีเชื้อโรคจริง
00:02:30 → 00:02:30 แต่
00:02:30 → 00:02:32 ไม่มีภูมิคุ้มกันโรค
00:02:32 → 00:02:35 เพราะฉะนั้นพอเจอเชื้อโรคปุ๊บเรียบร้อยเลย
00:02:35 → 00:02:35 ตายก่อน
00:02:37 → 00:02:38 เข้าใจได้
00:02:38 → 00:02:40 เพราะว่าในสภาพแวดล้อมปกติอะ
00:02:40 → 00:02:43 มันไม่มีหรอกที่มันไม่มีเชื้อโรคคุณแนนใช่ไหม
00:02:43 → 00:02:46 เข้าใจแล้วมันเหมือนเคยมีคนพูดไว้ว่า
00:02:46 → 00:02:46 ให้เราแบบ
00:02:46 → 00:02:49 ใช้ชีวิตรับเชื้อโรคบ้างร่างกายจะได้มีภูมิต้านทาน
00:02:50 → 00:02:51 คล้ายๆแบบนั้นรึเปล่า
00:02:51 → 00:02:52 คล้ายๆประมาณนั้น
00:02:52 → 00:02:54 ก็จริงๆแล้วในลำไส้ของเราเนี่ย
00:02:54 → 00:02:56 มันมีเชื้อโรคที่เรียกว่าจุลินทรีย์
00:02:57 → 00:02:58 ซึ่งจุลินทรีย์อันเนี้ย
00:02:59 → 00:03:00 มีความสำคัญ
00:03:00 → 00:03:02 ในการปกป้อง
00:03:02 → 00:03:04 เยื่อบุลำไส้เรารู้ว่าใน
00:03:04 → 00:03:06 จุลินทรีย์ในลำไส้เนี่ยมีหน้าที่ช่วยย่อยอาหาร
00:03:07 → 00:03:09 นะมีหน้าที่ในการช่วยอาหาร
00:03:09 → 00:03:11 มีหน้าที่ช่วยในการดูดซึมอาหาร
00:03:12 → 00:03:14 แต่เท่านั้นยังไม่พอมันยังมีหน้าที่
00:03:14 → 00:03:16 ช่วยในการทำให้ลำไส้แข็งแรง
00:03:16 → 00:03:18 ก็คือคุ้มครองพวกเยื่อบุของลำไส้
00:03:19 → 00:03:21 แต่นอกจากนั้นยังไม่พอมันยังมีหน้าที่ในการ
00:03:22 → 00:03:24 ให้พลังภูมิคุ้มกันกับร่างกาย
00:03:25 → 00:03:26 แล้วก็เป็นพลัง
00:03:26 → 00:03:28 ที่ใหญ่มากด้วยนะคะซึ่ง
00:03:28 → 00:03:29 มาจาก
00:03:29 → 00:03:30 ระบบประสาทอัตโนมัติ
00:03:31 → 00:03:31 ซึ่งเขาพบว่า
00:03:31 → 00:03:34 ภูมิคุ้มกันของร่างกายเนี่ยมันสัมพันธ์กับ
00:03:34 → 00:03:36 ระบบประสาทอัตโนมัติ
00:03:36 → 00:03:38 ซึ่ง 70% เนี่ยมันอยู่ที่ลำไส้
00:03:39 → 00:03:42 และอีก 30% เนี่ยมันอยู่ที่เรื่องของจิต
00:03:42 → 00:03:43 เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ย
00:03:43 → 00:03:46 ถ้าเรามีลำไส้ที่ดีเราสามารถจะยกระดับ
00:03:46 → 00:03:48 ภูมิคุ้มกันของร่างกาย
00:03:48 → 00:03:50 ได้ดีมากเลยทีเดียวนะคะ
00:03:51 → 00:03:52 โดยเค้าพบว่า
00:03:52 → 00:03:54 ในส่วนของลำไส้ในส่วนของเซลล์ลำไส้เนี่ย
00:03:54 → 00:03:56 เป็นที่อยู่ของ
00:03:56 → 00:03:58 เซลล์ที่เป็นเซลล์เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของร่างกาย
00:03:58 → 00:04:00 เวลาที่ร่างกายเราเจ็บ
00:04:00 → 00:04:03 ป่วยหรือร่างกายเรามีการสร้างเซลล์
00:04:03 → 00:04:03 ผิดปกติ
00:04:04 → 00:04:05 ยกตัวอย่างเช่นเซลล์มะเร็งนะคะ
00:04:06 → 00:04:07 หรือมีการติดเชื้อ
00:04:07 → 00:04:09 นะคะหรือมีการเจ็บป่วยอะไรก็ตาม
00:04:09 → 00:04:10 ตัว
00:04:10 → 00:04:11 ภูมิต้านทาน
00:04:11 → 00:04:13 ที่ถูกสร้างจากลำไส้เนี่ย
00:04:13 → 00:04:16 มันก็จะเข้าไปช่วยในการจัดการนะคะกับ
00:04:16 → 00:04:18 ปัญหาต่างๆเหล่านี้
00:04:18 → 00:04:20 งั้นถ้าเราไม่ดูแลลำไส้ของเราให้ดีเนี่ย
00:04:20 → 00:04:22 ระบบภูมิต้านทานเราไปก่อน
00:04:22 → 00:04:23 เพราะฉะนั้นเนี้ย
00:04:23 → 00:04:24 ตัวภูมิต้านทาน
00:04:24 → 00:04:27 ที่อยู่ในผนังลำไส้สำคัญมากคุณแนน
00:04:28 → 00:04:30 นั้นถ้าสมมติว่าเราเนี่ย
00:04:30 → 00:04:32 ดูแลสุขภาพของลำไส้ให้ดี
00:04:33 → 00:04:35 ภูมิคุ้มกันก็ดีมันก็ทำงานปกติ
00:04:35 → 00:04:37 แต่ถ้าเมื่อไรก็ตามจุลินทรีย์ตรงนี้หายไป
00:04:37 → 00:04:39 หรือมีการอักเสบในลำไส้
00:04:40 → 00:04:41 นะคะมันก็จะทำให้
00:04:41 → 00:04:43 การทำงานของเยื่อบุผิดปกติ
00:04:43 → 00:04:45 เกิดภาวะลำไส้แปรปรวน
00:04:45 → 00:04:46 หรืออาจจะทำให้เรามีอาการ
00:04:46 → 00:04:49 ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อยนะหรือเกิด
00:04:49 → 00:04:50 กลายเป็น
00:04:50 → 00:04:51 ปัญหาภูมิแพ้
00:04:51 → 00:04:53 นะที่ถูกกระตุ้นมาจาก
00:04:54 → 00:04:54 การ
00:04:55 → 00:04:58 ทำงานผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้
00:04:58 → 00:05:00 คุณแนนดูคนสมัยเนี้ย
00:05:01 → 00:05:02 การรับประทานอาหารของเราเนี่ย
00:05:03 → 00:05:04 มันไม่ได้ทานเรียลฟู้ดอะ
00:05:04 → 00:05:06 คือมันไม่ได้ทานอาหารสดใหม่
00:05:06 → 00:05:07 ที่ไม่ได้ผ่านการปรุงแต่ง
00:05:08 → 00:05:10 โดยส่วนใหญ่เราจะทานอะไรที่ง่าย
00:05:10 → 00:05:11 เร็ว
00:05:11 → 00:05:12 นะคะอาจจะทาน
00:05:12 → 00:05:15 อาหารแช่แข็ง อาหารโฟรเซ่น
00:05:16 → 00:05:16 อาหารที่
00:05:17 → 00:05:18 อยู่ที่ร้านสะดวกซื้อ
00:05:19 → 00:05:21 อยากจะทานก็กดไมโครเวฟปุ๊บแล้วก็ทาน
00:05:21 → 00:05:22 ค่ะ
00:05:22 → 00:05:23 มีทั้งวัตถุกันเสีย
00:05:24 → 00:05:25 แล้วรวมถึงมี
00:05:25 → 00:05:26 สารปรุงแต่ง
00:05:27 → 00:05:28 เพราะว่ามันต้องอร่อย
00:05:29 → 00:05:31 กลายเป็นว่าอาหารเหล่านี้เวลารับทานเข้าไป
00:05:32 → 00:05:34 มันทำให้แบคทีเรียในลำไส้อ่อนแอ
00:05:34 → 00:05:35 คือกินอะไรเราได้อย่างงั้น
00:05:36 → 00:05:38 ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้คนปัจจุบันเนี่ย
00:05:38 → 00:05:39 มีโรค
00:05:39 → 00:05:39 จริง
00:05:39 → 00:05:42 เยอะมากที่มาจากการกิน
00:05:42 → 00:05:44 แล้วก็เป็นกันตั้งแต่อายุยังน้อยด้วยนะคะคุณหมอ
00:05:44 → 00:05:47 สังเกตุโดยเฉพาะโรคร้ายแรงเนี่ยเยอะมาก
00:05:47 → 00:05:49 อะเราพอจะทราบไอเดียกันแล้วว่า
00:05:49 → 00:05:52 ถ้าลำไส้ดีมีแบคทีตัวดีในลำไส้
00:05:52 → 00:05:54 จะทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี
00:05:55 → 00:05:56 เราก็ไม่เจ็บไม่ป่วยง่าย
00:05:57 → 00:05:58 แต่ท่าลำไส้ไม่ดี
00:05:59 → 00:06:01 มันจะก่อให้เกิดโรคอะไรได้บ้างคะคุณหมอ
00:06:01 → 00:06:03 คือจริงๆโรคที่มาจาก
00:06:03 → 00:06:05 ภาวะของลำไส้ที่ส่งผลไปยังระบบ
00:06:05 → 00:06:06 อื่นมีมากมายเลย
00:06:07 → 00:06:08 เพราะว่าลำไส้เนี่ย
00:06:08 → 00:06:10 เขาถือว่าเป็นสมองส่วนที่สอง
00:06:10 → 00:06:12 ถ้าเป็นสมองจะมีชื่อเรียกว่า
00:06:12 → 00:06:14 cns คือ Central nervous System
00:06:14 → 00:06:16 ถ้าเป็นในส่วนของลำไส้เนี่ย
00:06:16 → 00:06:18 เขามีชื่อระบบประสาทเลยก็คือ ENS มาจาก
00:06:18 → 00:06:21 enteric nervous System คือระบบประสาท
00:06:21 → 00:06:21 ที่
00:06:22 → 00:06:23 มาจากระบบลำไส้
00:06:24 → 00:06:25 เพราะเค้าพบว่ามันมี
00:06:25 → 00:06:26 คอนเนคชั่นก็คือความเชื่อมโยง
00:06:27 → 00:06:29 ระหว่างลำไส้กับการทำงานของสมอง
00:06:30 → 00:06:31 ซึ่งเราพบว่า
00:06:31 → 00:06:32 ในกลุ่มคนไข้
00:06:33 → 00:06:36 ที่เป็นลำไส้แปรปรวนหรือลำไส้อักเสบเนี่ยคุณแนน
00:06:36 → 00:06:39 กลุ่มคนพวกนี้จะมีภาวะซึมเศร้า
00:06:40 → 00:06:41 หมอว่า
00:06:41 → 00:06:44 ทำไมคนสมัยนี้ถึงเป็นปัญหาเรื่องของซึมเศร้ากันมาก
00:06:44 → 00:06:45 ซึ่ง
00:06:45 → 00:06:46 หมอคิดว่าปัญหาเนี่ย
00:06:46 → 00:06:47 คนไม่ได้กลับไปดูว่า
00:06:48 → 00:06:50 ภาวะซึมเศร้าเนี้ยมาจากทำไส้หรือเปล่า
00:06:50 → 00:06:52 หมอว่าเป็นอันนึงที่
00:06:52 → 00:06:53 เราอย่ามองข้าม
00:06:54 → 00:06:55 นอกจาก
00:06:55 → 00:06:56 ความสัมพันธ์ระหว่าง
00:06:56 → 00:06:57 ลำไส้กับสมองแล้วเนี่ย
00:06:57 → 00:06:59 ความสัมพันธ์ที่เราพบก็ยังมี
00:07:00 → 00:07:00 เรื่องของตับ
00:07:01 → 00:07:01 ซึ่ง
00:07:01 → 00:07:03 มันไม่มีทางเลยที่
00:07:03 → 00:07:04 2 อวัยวะนี้จะทำงานต่างกัน
00:07:04 → 00:07:07 จริงๆแล้วตับก็ยังถือว่าเป็นหนึ่งอยู่ในระบบย่อย
00:07:07 → 00:07:09 เลือดที่ไปที่ตับเนี่ย
00:07:10 → 00:07:10 มาจากไหน
00:07:11 → 00:07:12 70% นี่
00:07:12 → 00:07:14 ไปจากลำไส้นะคุณแนน
00:07:14 → 00:07:16 นั้นหมายความว่าถ้าเกิดลำไส้เรา
00:07:16 → 00:07:19 มีแบคทีเรียตัวที่ไม่ดีลำไส้เรามีสารพิษเยอะๆ
00:07:19 → 00:07:20 ลำไส้เรา
00:07:20 → 00:07:22 ดูดซึมสารที่มีไขมันเยอะๆ
00:07:22 → 00:07:24 ก็ไปตับหมด
00:07:24 → 00:07:25 คนสมัยนี้ถึงเป็นโรค
00:07:25 → 00:07:28 ไขมันเกาะตับที่คุณทานอะไรคุณได้อย่างนั้น
00:07:28 → 00:07:29 ค่ะ
00:07:29 → 00:07:31 และถ้าเมื่อไหร่ไปตับปุ๊บมันก็
00:07:31 → 00:07:32 หนีไม่พ้นไตคุณแนน
00:07:33 → 00:07:33 เพราะฉะนั้นแล้วเนี้ย
00:07:33 → 00:07:36 ไม่ว่าจะเป็นลำไส้ไม่ว่าจะเป็นตับ
00:07:36 → 00:07:38 ไม่ว่าจะเป็นไตหรือปอด
00:07:38 → 00:07:38 ค่ะ
00:07:38 → 00:07:41 ทุกอวัยวะเหล่านี้มันต้องมีความสัมพันธ์กันอยู่แล้ว
00:07:41 → 00:07:42 เพราะว่ามันมี
00:07:42 → 00:07:44 ผลเรื่องการทำงานร่วมกัน
00:07:44 → 00:07:46 มีผลในเรื่องกรรมการขจัด
00:07:46 → 00:07:48 พวก Toxic product หรือว่า
00:07:48 → 00:07:50 กลุ่มพวกสารพิษต่างๆออกจากร่างกาย
00:07:50 → 00:07:51 ซึ่งเรารู้ว่า
00:07:51 → 00:07:53 ภาวะการเกิดโรคของมนุษย์เนี่ย
00:07:53 → 00:07:55 นอกจากจะมาจากสารอนุมูลอิสระ
00:07:55 → 00:07:56 ที่เยอะแล้วเนี่ย
00:07:56 → 00:07:57 แล้วไปทำให้เกิด
00:07:57 → 00:07:59 การเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรมในร่างกายแล้ว
00:08:00 → 00:08:02 มันยังมาจากการสะสมสารพิษ
00:08:02 → 00:08:04 สะสมท็อกซินที่มากนะคะ
00:08:04 → 00:08:06 แล้วก็ทำให้เกิดจากอักเสบเรื้อรัง
00:08:06 → 00:08:08 ซึ่งนำไปสู่โรคเรื้อรังต่างๆ
00:08:08 → 00:08:09 โอ้โห
00:08:09 → 00:08:10 นี่คือแบบ
00:08:10 → 00:08:12 ถ้าเราไม่คุยกันเรื่องนี้เราจะไม่ได้ให้ความสำคัญ
00:08:12 → 00:08:14 ขนาดนี้เลยนะคะคุณหมอ
00:08:14 → 00:08:16 เพราะฉะนั้นไม่ได้การแล้วคุณผู้ชมขา
00:08:16 → 00:08:17 ช่วงหน้าค่ะ
00:08:17 → 00:08:19 เราจะต้องมาทำให้ลำไส้เราดีกันหน่อย
00:08:19 → 00:08:21 เราจะได้ไม่มีโรคหรือว่าปลอด
00:08:21 → 00:08:23 ภัยจากโรคร้ายต่างๆนะคะแต่เราจะทำยังไง
00:08:23 → 00:08:25 เดี๋ยวกลับมาติดตามคำตอบช่วงหน้าค่ะ
00:08:26 → 00:08:27 กลับมาอย่างรวดเร็ว
00:08:27 → 00:08:28 ในช่วงที่ 2 ของหมอชวนคุยนะคะ
00:08:28 → 00:08:30 ช่วงนี้สนับสนุนโดย
00:08:30 → 00:08:34 ออลติซินผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง
00:08:35 → 00:08:35 จริงๆถ้าเกิดว่า
00:08:35 → 00:08:38 ไส้ดีระบบย่อยและดูดซึมดี
00:08:38 → 00:08:39 ผอมด้วย
00:08:39 → 00:08:42 รูปร่างมันก็จะดีแล้วก็สุขภาพดีใช่มั้ยคะคุณหมอ
00:08:42 → 00:08:43 ใช่ค่ะ
00:08:43 → 00:08:45 เพราะฉะนั้นเราก็ต้องส่องเข้าไปดูข้างในแล้วค่ะว่า
00:08:45 → 00:08:47 ลำไส้ที่ดีเนี่ย
00:08:47 → 00:08:49 มันจะต้องมีคุณลักษณะยังไงคะคุณหมอ
00:08:49 → 00:08:51 ลำไส้ที่ดีแบคทีเรียต้องดี
00:08:51 → 00:08:52 ถามว่ามันทำหน้า
00:08:52 → 00:08:55 ที่อะไรบ้างแบคทีเรียในลำไส้เนี่ยมีหน้าที่ที่จะ
00:08:55 → 00:08:57 สอนระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
00:08:57 → 00:08:58 ตอนแรกเราพูดถึงเรื่องของ
00:08:58 → 00:08:59 หนูใช่มั้ย
00:08:59 → 00:09:03 ว่าหนูเนี่ยถ้าได้รับอาหารที่ไม่มีเชื้อจุลินทรีย์เลย
00:09:03 → 00:09:04 อายุยืนจริง
00:09:04 → 00:09:05 แต่ถ้าเจอแบคทีเรียเมื่อไหร่แล้วตายก็
00:09:05 → 00:09:07 คือภูมิต้านทานเค้าไม่มี
00:09:07 → 00:09:08 เพราะว่าอะไร
00:09:08 → 00:09:10 เพราะว่าในลำไส้เขาไม่มีแบคทีเรีย
00:09:10 → 00:09:14 ที่เป็นตัวสอนว่าถ้าเจอเชื้อคุณจะต้อง
00:09:14 → 00:09:16 เกิดอะไรขึ้นในร่างกาย
00:09:16 → 00:09:18 ลำดับการทำงานของร่างกายจะเป็นยังไง
00:09:18 → 00:09:20 ซึ่งมันถูกสอนด้วยเชื้อแบคทีเรียพอแบคทีเรีย
00:09:20 → 00:09:21 ไม่มีปุ๊บเนี่ย
00:09:21 → 00:09:23 ภาวะภูมิต้านทาน
00:09:23 → 00:09:25 ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์
00:09:25 → 00:09:27 ก็เลยทำให้เกิดโรค
00:09:28 → 00:09:28 ซึ่ง
00:09:28 → 00:09:32 เค้าค้นพบว่าไอ้ปัจจัยอันเนี้ยหรือว่าเหตุการณ์อันเนี้ย
00:09:32 → 00:09:36 มันจะเกิดขึ้นในหนูที่ไม่มีเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้
00:09:37 → 00:09:39 แล้วก็เหตุการณ์เดียวกันเนี้ยคุณแนน
00:09:39 → 00:09:41 ไปพบในคนด้วย
00:09:42 → 00:09:44 จริงๆแล้วในธรรมชาติของมนุษย์เนี่ย
00:09:44 → 00:09:46 เราพบว่าเด็กเนี่ยเกิดมา
00:09:46 → 00:09:48 พร้อมกับจุลินทรีย์แล้ว
00:09:49 → 00:09:52 โดยถามว่ามาจากไหนนะ
00:09:52 → 00:09:52 เค้า
00:09:53 → 00:09:54 ได้มาจากแม่
00:09:54 → 00:09:54 หาได้
00:09:54 → 00:09:57 ภูมิต้านทานมาจากแม่ ได้เชื้อจุลินทรีย์มาจากแม่
00:09:57 → 00:09:58 อยู่ในรกนะคะ
00:09:58 → 00:10:00 เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยเค้าได้รับ
00:10:00 → 00:10:02 ภูมิต้านทานเค้าถูกสอนมาและ
00:10:02 → 00:10:03 จากในท้องเนี้ย
00:10:03 → 00:10:05 เพราะโอเคออกมาปุ๊บเนี้ยนะ
00:10:05 → 00:10:07 ภูมิต้านทานฉันจะมีการพัฒนาอย่างไร
00:10:07 → 00:10:09 แต่ว่าปัญหามันเกิดขึ้นเมื่อ
00:10:10 → 00:10:11 เด็กเนี่ยไม่ได้คลอด
00:10:11 → 00:10:12 ผ่านทางช่องคลอด
00:10:13 → 00:10:13 เด็ก
00:10:13 → 00:10:16 ผ่าคลอดเพราะฉะนั้นเชื้อจุลินทรีย์ที่อยู่
00:10:16 → 00:10:18 ทางช่องคลอดของแม่เนี่ย
00:10:18 → 00:10:19 ไม่ได้
00:10:19 → 00:10:23 เค้าก็จะมีความไม่สมบูรณ์ของภาวะภูมิต้านทาน
00:10:23 → 00:10:25 และอีกอย่างถ้าเกิดว่าแม่ป่วย
00:10:25 → 00:10:27 ต้องให้ยาปฏิชีวนะนะคะ
00:10:27 → 00:10:28 หรือว่าลูกเนี่ย
00:10:28 → 00:10:30 มีปัญหาคลอดก่อนกำหนด
00:10:30 → 00:10:33 หรือภาวะอะไรก็ตามที่มันเป็นผลแทรกซ้อน
00:10:33 → 00:10:34 ขึ้นมาในช่วงของการตั้งครรภ์
00:10:34 → 00:10:36 ก็จะส่งผลไปรื่องถึง
00:10:36 → 00:10:38 เรื่องของสุขภาพของลูกเมื่อโตขึ้น
00:10:39 → 00:10:41 โดยเค้าพบว่าในเด็ก
00:10:41 → 00:10:42 ที่ผ่าคลอด
00:10:43 → 00:10:46 จะมีความเสี่ยงของการเกิดโรคบางชนิดเนี่ย
00:10:46 → 00:10:48 สูงกว่าเด็กที่คลอดปกติ
00:10:49 → 00:10:49 ซึ่งได้แก่
00:10:50 → 00:10:51 เบาหวาน
00:10:52 → 00:10:53 โรคอ้วน
00:10:54 → 00:10:55 แล้วก็โรค
00:10:55 → 00:10:56 หอบหืด
00:10:56 → 00:10:59 คือกลุ่มของภูมิแพ้หอบหืดในกลุ่มของคนที่
00:11:00 → 00:11:03 คลอดก่ิอนการผ่าตัดเนี่ยจะพบสูงกว่า
00:11:03 → 00:11:05 ซึ่งจริงๆในภาวะปัจจุบันเนี่ย
00:11:05 → 00:11:05 คุณแนน
00:11:06 → 00:11:07 บางทีเนี่ยเรารับประทานอาหาร
00:11:07 → 00:11:09 ที่ไปทำให้
00:11:09 → 00:11:10 แบคทีเรียตัวดี
00:11:10 → 00:11:11 มันตาย
00:11:11 → 00:11:14 หรือว่าทำให้แบคทีเรียตัวที่ไม่ดีมันเจริญไปเยอะ
00:11:14 → 00:11:15 หรือไปทำให้เกิดการอักเสบ
00:11:15 → 00:11:17 ในส่วนของลำไส้
00:11:17 → 00:11:19 ทำให้สมดุลของแบคทีเรียตัวเนี้ยมันหายไป
00:11:19 → 00:11:21 เพราะฉะนั้นก็จะมีวิธี
00:11:21 → 00:11:22 แก้คือถ้าสมมุติว่าเราไม่
00:11:22 → 00:11:23 ไปปลูกถ่าย
00:11:24 → 00:11:24 จุลินทรีย์
00:11:24 → 00:11:25 ในอุจจาระ
00:11:25 → 00:11:28 มาอยู่ในอีกคนนึงเราก็อาจจะใช้วิธีก็คือ
00:11:28 → 00:11:31 ให้รับประทานกลุ่มของโพรไบโอติกเข้าไป
00:11:31 → 00:11:33 อันนี้ก็เป็นวิธีการดูแล
00:11:33 → 00:11:37 นะคะง่ายๆในการที่เราจะทำยังไงที่ทำให้เพิ่ม
00:11:37 → 00:11:38 ประสิทธิภาพ
00:11:38 → 00:11:39 การทำงานของลำไส้
00:11:39 → 00:11:42 ของเราได้เพื่อทำให้ภูมิต้านทานเราแข็งแรงขึ้น
00:11:42 → 00:11:45 เนี่ยอันเนี้ยสำคัญที่สุดเลยนะคะคุณหมอขา
00:11:45 → 00:11:46 เรารู้กันแล้วว่า
00:11:46 → 00:11:49 ถ้าลำไส้ดีมันก็ที่มีโรคแล้วเราจะทำยังไง
00:11:49 → 00:11:50 ให้ลำไส้เราดีหรือ
00:11:50 → 00:11:52 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของลำไส้
00:11:52 → 00:11:53 ได้ยังไงบ้างอะคะ
00:11:53 → 00:11:55 คือจริงๆนอกจากการรับประทาน
00:11:55 → 00:11:57 โพรไบโอติกซึ่งเราพูดเมื่อกี้นี้นะคะ
00:11:57 → 00:11:59 ก็คือโพรไบโอติกเนี่ยมันเป็นไลฟ์แบคทีเรีย
00:12:00 → 00:12:00 ก็คือ
00:12:01 → 00:12:01 รับประทานแล้ว
00:12:01 → 00:12:03 สามารถจะเข้าไปเจริญในลำไส้ของเรา
00:12:04 → 00:12:06 แต่ว่าโดยทั่วไปเนี่ยโดยส่วนใหญ่เนี่ย
00:12:06 → 00:12:07 เวลาที่รับประทานเข้าไปแล้วเนี้ย
00:12:08 → 00:12:09 มันจะเข้าไป
00:12:09 → 00:12:11 เปลี่ยนแล้วเข้าไปปรับสมดุลของลำไส้ของเรา
00:12:11 → 00:12:13 ตัวมันเนี่ยอาจจะไม่ได้อยู่
00:12:13 → 00:12:14 ถาวร
00:12:14 → 00:12:16 แต่มันเข้าไปช่วยในการปรับสมดุล
00:12:16 → 00:12:17 การทำงานของลำไส้ในตอนแรก
00:12:18 → 00:12:19 สุดท้ายเราเองเนี่ยจะต้อง
00:12:20 → 00:12:22 พยายามทำให้ลำไส้เราเนี่ยแข็งแรงขึ้นมา
00:12:23 → 00:12:24 นะคะแล้วก็ลดการอักเสบ
00:12:24 → 00:12:26 นะแล้วก็ไปปรับสมดุล
00:12:26 → 00:12:28 การทำงานของภูมิต้านทาน
00:12:29 → 00:12:29 ให้แข็งแรง
00:12:30 → 00:12:31 เพื่อที่จะ
00:12:31 → 00:12:33 ไปช่วยทำให้ลำไส้เนี่ย
00:12:33 → 00:12:35 มีการทำงานที่สมดุลแล้วก็ไปปรับ
00:12:36 → 00:12:38 เสริมภูมิต้านทานขึ้นมา
00:12:39 → 00:12:40 คือไม่ใช่อาศัย
00:12:40 → 00:12:42 การรับประทานจากโพรไบโอติกอย่างเดียว
00:12:42 → 00:12:43 ซึ่งจริงแล้วเนี้ย
00:12:44 → 00:12:46 โพรไบโอติกที่เราเห็นในปัจจุบันเนี่ย
00:12:46 → 00:12:48 จะเห็นว่ามันหลากหลายมาก
00:12:49 → 00:12:50 แล้วจะรู้ได้ไงว่าเอ๊ะฉัน
00:12:50 → 00:12:52 ควรจะต้องรับประทาน
00:12:52 → 00:12:53 ตัวไหน
00:12:54 → 00:12:56 แล้วก็ตัวโพรไบโอติกเองที่เราเห็นเนี่ย
00:12:56 → 00:12:59 ซึ่งมีขายอยู่ในอาหารเสริมอะไรเยอะแยะไปหมดเลย
00:12:59 → 00:13:01 แล้วก็รับประทานเข้าไป
00:13:01 → 00:13:03 จำนวนมันจะอยู่
00:13:03 → 00:13:04 ตามที่เขียนไว้มั้ย
00:13:04 → 00:13:07 คืออันนี้เนี่ยเป็นความยาก
00:13:07 → 00:13:08 ของการ
00:13:08 → 00:13:09 ซื้อ
00:13:09 → 00:13:11 อาหารเสริมที่เป็นโพรไบโอติกเข้ามารับประทาน
00:13:12 → 00:13:14 ง่ายๆเราก็อาจจะหนึ่งต้องเลือก
00:13:14 → 00:13:16 แบรนด์ที่เราเชื่อถือ
00:13:17 → 00:13:17 ว่าเป็น
00:13:17 → 00:13:19 แบรนด์ที่มีคุณภาพสูงนะคะหรือว่า
00:13:19 → 00:13:21 อาจจะเป็นแบรนด์ที่เป็นนิวเตอร์เซอร์ติเคิล
00:13:21 → 00:13:23 นะก็คือเป็นแบรนด์ที่ใช้ทางการแพทย์
00:13:24 → 00:13:26 นอกจากนี้แล้วเนี้ยเวลาที่เรารับประทานกลุ่ม
00:13:27 → 00:13:28 อาหารที่ไปสร้าง
00:13:29 → 00:13:30 จุลินทรีย์ในลำไส้
00:13:31 → 00:13:32 สิ่งที่เราควรจะรับประทาน
00:13:32 → 00:13:33 ก็คือเราควรจะรับประทานอาหาร
00:13:34 → 00:13:34 ให้หลากหลาย
00:13:34 → 00:13:36 เพื่อให้ได้รับแบคทีเรียที่หลากหลาย
00:13:37 → 00:13:39 เพราะว่าจริงๆแบคเรียที่อยู่ในลำไส้
00:13:39 → 00:13:40 มันมีหลากหลายชนิด
00:13:40 → 00:13:42 นั่นหมายความว่าเราจะต้องรับประทานอาหาร
00:13:42 → 00:13:43 ที่หลากหลาย
00:13:43 → 00:13:44 เราจะต้องรับประทาน
00:13:44 → 00:13:47 ผักผลไม้นะคะหรือรับประทานพืชตระกูลถั่ว
00:13:47 → 00:13:48 ที่มี
00:13:48 → 00:13:49 ส่วนประกอบของ Fiber
00:13:50 → 00:13:51 เยอะเพราะไฟเบอร์จริงๆแล้วมันคือ
00:13:51 → 00:13:52 ส่วนของ
00:13:53 → 00:13:55 อาหารของพวกแบึทีเรียพวกนี้
00:13:55 → 00:13:58 คือกลุ่มพวกเนี้ยมันมีไฟเบอร์สูงแล้วมันก็ไปช่วย
00:13:58 → 00:14:01 ทำให้มีการเจริญของแบคทีเรียที่ดี
00:14:01 → 00:14:03 ทำให้ลำไส้ของเราเนี่ยมีความสมดุล
00:14:04 → 00:14:06 ในส่วนของจุลินทรีย์ที่ดีขึ้นมาได้
00:14:06 → 00:14:08 นั้นก็ทำให้ภูมิต้านทานของเราดีขึ้น
00:14:08 → 00:14:10 นอกจากนี้อาจจะไปรับประทานในกลุ่ม
00:14:10 → 00:14:13 ที่เป็นอาหารหมักนะคะยกตัวอย่างเช่น
00:14:13 → 00:14:15 โยเกิร์ตแต่พอเราพูดถึงโยเกิร์ต
00:14:16 → 00:14:17 คนจะคิดถึงโยเกิร์ตที่
00:14:17 → 00:14:19 ขายอยู่ทั่วๆไป
00:14:19 → 00:14:21 ซึ่งกลุ่มอันนั้นเนี่ยเราต้องดูให้ดีเพราะว่า
00:14:21 → 00:14:23 แบคทีเรียเนี่ยมันจะตายไปกับ
00:14:23 → 00:14:24 การผลิต
00:14:24 → 00:14:26 บางทีเนี่ยโยเกิร์ตที่เรารับประทานอยู่
00:14:26 → 00:14:28 กลายเป็นว่ารับประทานได้แต่น้ำตาล
00:14:28 → 00:14:29 คือความอร่อย
00:14:30 → 00:14:32 ของโยเกิร์ตแต่เราไม่ได้แบคทีเรียที่เราต้องการ
00:14:33 → 00:14:35 ถ้าจะรับประทานก็ต้องไปรับประทานเป็น
00:14:35 → 00:14:39 อาจจะต้องเป็นอาหารนะเป็นโยเกิร์ตที่มีการเตรียม
00:14:39 → 00:14:41 ใส่เชื้อแลคโตบาซิลัดเข้าไป
00:14:41 → 00:14:42 แล้วก็ทำให้เกิดการเจริญ
00:14:42 → 00:14:44 แล้วแลคโตบาซิลัดนั้นอะยังคงอยู่
00:14:44 → 00:14:47 แล้วก็ส่งให้เกิดผลประโยชน์นะคะต่อลำไส้
00:14:47 → 00:14:50 ซึ่งอาจจะอยู่ในกิมจิก็ได้นะคะอยู่ใน
00:14:50 → 00:14:52 โยเกิร์ตที่เป็นโยเกิร์ตธรรมชาติ
00:14:52 → 00:14:53 รับประทานพรีไบโอติก
00:14:54 → 00:14:54 พรีไบโอติกคือ
00:14:54 → 00:14:56 อาหารของโพรไบโอติก
00:14:56 → 00:14:57 หลานของจุลินทรีย์
00:14:57 → 00:14:59 ซึ่งก็คือกลุ่มไฟเบอร์
00:14:59 → 00:15:02 กลายเป็นว่าพอเราได้สมดุลของแบคทีเรียเข้าไป เนี่ย
00:15:02 → 00:15:05 นอกจากจะทำให้ภูมิต้านทานของเราดีขึ้นแล้วเนี้ย
00:15:05 → 00:15:07 มันยังไปช่วยลดอาการของโรค
00:15:07 → 00:15:09 ที่เกี่ยวกับเมตาบอลิค ซินโดรม ในร่างกาย
00:15:09 → 00:15:10 อย่างเช่น
00:15:10 → 00:15:11 โรคอ้วน
00:15:12 → 00:15:12 เบาหวาน
00:15:13 → 00:15:16 ซึ่งพอกลุ่มพวกนี้ดีนั่นหมายความว่าเราก็จะไปลด
00:15:16 → 00:15:18 ความเสี่ยงการเกิดเป็นโรคหัวใจได้ด้วย
00:15:18 → 00:15:20 ภูมิต้านทานเราดีนั้น
00:15:20 → 00:15:22 การอักเสบในร่างกายเราลดลง
00:15:22 → 00:15:24 ระบบไหลเวียนเลือดก็ต้องดีไปด้วยงั้น
00:15:24 → 00:15:25 ผิวพรรณเราก็จะ
00:15:26 → 00:15:27 ดูเปล่งปลั่ง สดใส
00:15:28 → 00:15:31 อันนี้แหละคือมันสวยสุขภาพดีแล้วก็ผิวสวย
00:15:31 → 00:15:33 จากภายในจริงๆ
00:15:34 → 00:15:34 เพราะฉะนั้นแล้ว
00:15:34 → 00:15:37 ต้องดูแลแล้วค่ะถึงเวลาที่ต้องดูแล
00:15:37 → 00:15:38 ลำไส้กันนะคะก็
00:15:38 → 00:15:41 อย่างที่คุณหมอบอกรับประทานอาหารให้หลากหลาย
00:15:41 → 00:15:43 ทานผักผลไม้เยอะๆนะคะแล้วก็ทานอาหารที่
00:15:44 → 00:15:44 เกิดการ
00:15:44 → 00:15:46 เกิดการดองเพื่อให้มีแบคทีเรียตัวดีอย่างเช่น
00:15:46 → 00:15:47 พวกโยเกิร์ตธรรมชาติ
00:15:47 → 00:15:50 กิมจิอะไรแบบนี้ได้นะคะแล้วก็
00:15:50 → 00:15:52 หมั่นดูแลลำไส้ของคุณให้แข็งแรง
00:15:52 → 00:15:54 จะได้มีภูมิต้านทานที่ดีแล้วก็จะได้
00:15:54 → 00:15:56 ห่างไกลจากโรคต่างๆนั่นเองนะคะ
00:15:56 → 00:15:57 หวังว่า
00:15:57 → 00:15:58 ฟังแล้วเราจะไปปรับ
00:15:58 → 00:16:00 เปลี่ยนพฤติกรรมการกินของเรานะคุณหมอ
00:16:00 → 00:16:02 ไม่งั้นมันจะไม่เกิดประโยชน์
00:16:02 → 00:16:05 เดี๋ยวครั้งหน้าเราจะพาทุกคนไปติดตาม
00:16:05 → 00:16:07 เคล็ดลับในการดูแลสุขภาพและ
00:16:07 → 00:16:08 ความงามในด้านไหน
00:16:08 → 00:16:10 ก็กลับมาติดตามรายการได้ที่นี่เหมือนเดิมนะคะ
00:16:11 → 00:16:13 ส่วนใครอยากจะดูเนื้อหารายการอื่นๆ
00:16:13 → 00:16:14 มีหลายช่องทางนะคะคุณหมอ
00:16:14 → 00:16:16 ถ้าดูทั้งภาพและเสียงก็เข้าไปที่ YouTube
00:16:16 → 00:16:19 แต่ถ้าอยากฟังเสียงเฉยๆประกอบการทำกิจกรรมอื่นๆ
00:16:19 → 00:16:20 ก็เข้าไปที่พอดแคสต์
00:16:20 → 00:16:22 ตามช่องอากาศขึ้นหน้าจอ
00:16:22 → 00:16:25 แค่เสิร์ชชื่อรายการคุยกับหมออัจจิมานะคะ
00:16:25 → 00:16:26 วันนี้หมดเวลาแล้ว
00:16:26 → 00:16:28 ขอตัวไปเติมแบคทีเรียตัวดีให้กับเรา
00:16:28 → 00:16:30 ทั้งสองคนกันก่อนนะคะ
00:16:30 → 00:16:32 คุณหมอและแนนลาไปก่อน สวัสดีค่ะ