00:00:00 → 00:00:02 พูดอยู่แล้วเอ๊ะความคิดมันหายไปไหน
00:00:02 → 00:00:05 >> ในอัลไซเมอร์ก็มีลักษณะที่เริ่มต้นคล้าย
00:00:05 → 00:00:05 แบบนี้ได้เหมือนกัน
00:00:05 → 00:00:08 >> โอเวลาเราลืมอะไรบางอย่างแล้วเราก็เค้น
00:00:08 → 00:00:11 มันออกมาพยายามคิดส่งผลเสียต่อสมองไหมคะ
00:00:11 → 00:00:13 >> สมมุติว่าเราไม่นึกต่อสมองเราก็จะขี้
00:00:13 → 00:00:13 เกียจ
00:00:13 → 00:00:16 >> เราใช้แชท AI บ่อยๆเนี่ยสมองเราเบลอเอ๋อ
00:00:16 → 00:00:16 แล้วเสื่อมมั้คะ
00:00:17 → 00:00:19 >> คนที่ใช้ AI เนี่ยมันมีการทำงานของสมอง
00:00:19 → 00:00:22 น้อยกว่าเยอะเราใช้ AI แล้วเราก็แค่พิมพ์
00:00:22 → 00:00:24 เข้าไปแล้วเราก็โอ้ได้แล้วแน่สิมันก็ไม่
00:00:24 → 00:00:25 ได้คิด
00:00:25 → 00:00:27 >> ชีวิตนี้จะไม่เป็นแอลไซเมอร์ควรจะดูแล
00:00:27 → 00:00:28 สุขภาพยังไงคะ
00:00:28 → 00:00:30 >> ผมจะชอบให้คนไข้คือ
00:00:31 → 00:00:34 >> สมองล้ากับเธอแค่เหนื่อยเฉยๆมันต่างกัน
00:00:34 → 00:00:34 ยังไงอ่ะคะ
00:00:34 → 00:00:37 >> ถ้าเกิดสมาธิสั้นคิดช้าหน่อยความจำไม่
00:00:37 → 00:00:41 ค่อยดีอาจจะเป็นภาวะสมองลาก็ได้วิตกกังวล
00:00:41 → 00:00:43 เยอะซึมเศร้าทำให้เราไม่อยากทำอะไรเลยมัน
00:00:44 → 00:00:47 ก็เลยลาเช่นกันไม่ได้ตรวจร่างกายประจำปี
00:00:47 → 00:00:50 น้ำตาลสุขมานานมันก็รวนไปหมด
00:00:50 → 00:00:51 >> สมองหวานเกิน
00:00:51 → 00:00:51 >> หวานเกิน
00:00:51 → 00:00:54 >> หวานเกินล้าเลยคนขี้ลืมรักษาได้มั้คะ
00:00:54 → 00:00:57 >> จริงๆมันก็พอฝึกสมองได้นะที่ทำเองได้ง่าย
00:00:57 → 00:00:59 ๆคือ
00:00:59 → 00:01:01 >> สวัสดีค่ะอยู่กับ AS Doctors พcastที่จะ
00:01:01 → 00:01:04 พาคุณไปพบแพทย์เพื่อถามคำถามสุขภาพเจน
00:01:04 → 00:01:08 รัฐพันธุ์พันิค่ะถ้าชอบคทentสุขภาพแบบนี้
00:01:08 → 00:01:10 นะคะช่วยกดไลและ subscribe เป็นกำลังใจ
00:01:10 → 00:01:14 ให้เจนคุณหมอแล้วก็ทีมงานได้ผลิตผลงานดีๆ
00:01:14 → 00:01:16 แบบนี้ออกมาเรื่อยๆด้วยนะคะในแต่ละวันเรา
00:01:16 → 00:01:19 ใช้สมองคิดเรื่องต่างๆมากมายเลยค่ะรู้
00:01:19 → 00:01:22 มั้ยคะว่ามนุษย์เราเนี่ยสามารถใช้ความคิด
00:01:22 → 00:01:24 นะคะในแต่ละวันเนี่ยประมาณ 60,000 ครั้ง
00:01:24 → 00:01:27 เลยและในนั้นเนี่ย 95% เป็นความคิดเรื่อง
00:01:27 → 00:01:31 เดิมๆจากเมื่อวันก่อนนะคะฉะนั้นเราใช้
00:01:31 → 00:01:33 สมองเยอะๆอย่างเงี้ยก็น่าจะฉลาดขึ้นหรือ
00:01:33 → 00:01:35 เปล่าน่าจะเก่งหรือเปล่าแต่จริงๆแล้วบาง
00:01:35 → 00:01:37 ทีการที่เราคิดเยอะเกินไปเนี่ยมาด้วย
00:01:37 → 00:01:41 อาการขี้หลงขี้ลืมสมองเบลอคิดอะไรไม่ออก
00:01:41 → 00:01:43 เราอาจจะคิดว่าอันเนี้ยเป็นเพราะเหนื่อย
00:01:43 → 00:01:45 หรือเปล่าแต่บางที่อาจเป็นสัญญาณบอกว่า
00:01:45 → 00:01:48 สมองของเราเริ่มล้าแล้วนะคะหรือเคยเป็น
00:01:48 → 00:01:51 มั้คะกำลังจะพูดอะไรอยู่แต่อยู่ดีๆก็ลืม
00:01:51 → 00:01:54 ไปเฉยเลยหรือพอเจอหน้าใครเอ๊ะมันคุ้นๆแต่
00:01:54 → 00:01:57 มันติดอยู่ที่ปลายปากจนเราสงสัยว่าเอ๊ะ
00:01:57 → 00:01:59 นี่เรากำลังจะกลายเป็นแอลไซเมอร์หรือ
00:01:59 → 00:02:01 เปล่าแล้วถ้าสมมุติว่าเราเสี่ยงที่จะเป็น
00:02:01 → 00:02:04 โรคสมองเสื่อมจริงๆเนี่ยเราสามารถป้องกัน
00:02:04 → 00:02:06 ภาวะนี้ได้อย่างไรนะคะวันนี้เจเลยเชิญ
00:02:06 → 00:02:09 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญท่านนี้นะคะที่เคยมาให้
00:02:09 → 00:02:11 ความรู้กันแล้วนะคะใน EP ก่อนเรื่องไมเกน
00:02:11 → 00:02:14 นะคะแล้วก็มีคำถามเข้ามากันมากๆเลยนะคะ
00:02:14 → 00:02:17 โดยเฉพาะเรื่องความจำฉะนั้นใครที่คิดว่า
00:02:17 → 00:02:20 ตัวเองขี้หลงขี้ลืมหรือว่ากลัวไม่อยากจะ
00:02:20 → 00:02:22 เป็นแอลไซเมอร์เนี่ยต้องรีบดู EP นี้จนจบ
00:02:22 → 00:02:24 เลยนะคะเพราะเชื่อว่าวันเนี้ยคุณหมอจะบอก
00:02:24 → 00:02:27 เทคนิคดีๆมากมายแน่นอนนอนค่ะสวัสดีค่ะคุณ
00:02:27 → 00:02:28 หมอ
00:02:28 → 00:02:30 >> สวัสดีครับหมอแตงนะครับนายแพทย์ภาษิน
00:02:30 → 00:02:32 เหมจุทาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบ
00:02:33 → 00:02:34 ประสาทและสมองครับ
00:02:34 → 00:02:36 >> เจอกันอีกแล้วนะคะ
00:02:36 → 00:02:38 >> คำถามแรกค่ะเมื่อก่อนเนี่ยรู้สึกว่าตัว
00:02:38 → 00:02:41 เองเป็นคนทำงานเป๊ะมากนะคะไม่ค่อยพลาดเลย
00:02:41 → 00:02:43 แต่ช่วงหลังมาเนี่ย
00:02:43 → 00:02:46 >> เริ่มรู้สึกว่าตัวเองเนี่ยเบลอๆสมองไม่
00:02:46 → 00:02:49 ค่อยแล่นคิดอะไรไม่ค่อยออกลืมบ่อยมาก
00:02:49 → 00:02:51 สมาธิหลุดง่าย
00:02:51 → 00:02:53 >> คนรอบตัวเริ่มทักว่าเอ๊ะเราพักผ่อนไม่พอ
00:02:53 → 00:02:54 หรือเปล่า
00:02:54 → 00:02:58 >> ทั้งๆที่เราก็นอนเยอะนะคะแบบเนี้ยเราใช้
00:02:58 → 00:03:00 สมองมากเกินไปหรือเปล่าคะแล้วถ้าอยาก
00:03:00 → 00:03:03 บำรุงสมองให้กลับมาแล่นกลับมาคิดเร็วได้
00:03:03 → 00:03:05 เหมือนเดิมเนี่ยควรจะทำยังไงดีคะคุณหมอ
00:03:05 → 00:03:07 >> อือฮึตั้งแต่ก็พักผ่อนพอเนาะ
00:03:07 → 00:03:08 >> ใช่ค่ะ
00:03:08 → 00:03:10 >> อืคือจริงๆอาการที่บอกเนี่ยเหมือนจะเป็น
00:03:10 → 00:03:13 สมาธิใช่มั้ฮะที่ไม่ดีแล้วก็เหมือนคิด
00:03:13 → 00:03:15 อะไรช้าแล้วก็อะไรที่เพิ่งเกิดขึ้นแล้วก็
00:03:16 → 00:03:19 ลืมเหมือนสมาธิเหมือนเรื่องสั้นๆลืม
00:03:19 → 00:03:19 >> ค่ะ
00:03:19 → 00:03:22 >> ซึ่งอันเนี้ยมันบ่งบอกถึงปัญหาถึงระบบ
00:03:22 → 00:03:25 ประสาทที่สมองที่เป็นส่วนหน้านะฮะซึ่ง
00:03:25 → 00:03:28 เป็นการใช่ครับตรงเลย
00:03:28 → 00:03:31 >> ซึ่งสมองส่วนหน้าเนี่ยมันก็มีหน้าที่อื่น
00:03:31 → 00:03:34 อีกด้วยเช่นการยับยั้งชั่งใจการตัดสินใจ
00:03:34 → 00:03:36 แล้วก็ชันใช้เหตุผลอีกด้วยนะครับ
00:03:36 → 00:03:38 >> ซึ่งพวกนี้อย่างที่เราเห็นว่ามันแหมหน้า
00:03:38 → 00:03:41 ที่มันเยอะมากเลยมันก็เลยต้องมีเซลล์มี
00:03:41 → 00:03:43 การสื่อสารเต็มไปหมดเลย
00:03:43 → 00:03:43 >> ค่ะ
00:03:43 → 00:03:46 >> ทีนี้ถ้าเกิดว่ามันมีปัญหาอะไรนิดนึงไม่
00:03:46 → 00:03:49 ว่าจะเป็นปัญหาทางกายหรือปัญหาทางสมองไอ้
00:03:49 → 00:03:50 นี่มันไปก่อนเลย
00:03:50 → 00:03:50 >> อื
00:03:50 → 00:03:54 >> รวนก่อนเลยนะฮะซึ่งถ้าคำถามที่ถามมาเนี่ย
00:03:54 → 00:03:58 ถ้าเกิดมีอาการแค่สมาธิสั้นมีอาการแค่คิด
00:03:58 → 00:04:02 ช้าหน่อยแล้วก็อาจจะมีอาการแค่เหมือนความ
00:04:02 → 00:04:05 จำไม่ค่อยดีแค่ถ้ามีแค่นี้อาจจะเป็นภาวะ
00:04:05 → 00:04:07 สมองล้าก็ได้นะฮะ
00:04:07 → 00:04:10 >> คือภาวะสมองล้าในภาษาอังกฤษก็คือBrainฟK
00:04:10 → 00:04:11 >> อื
00:04:11 → 00:04:16 >> ซึ่งเรารู้ดีเพราะว่ามันเคยมีโควิดที่
00:04:16 → 00:04:17 ระบาดเยอะและ
00:04:17 → 00:04:19 >> Brainฟเนี่ยมันเจอเยอะมาก
00:04:19 → 00:04:21 >> Brainฟหรือภาวะสมองล้ามันเกี่ยวอะไรกับ
00:04:21 → 00:04:22 โควิดล่ะคะคุณหมอ
00:04:22 → 00:04:26 >> อครับคืออย่างที่บอกว่ามันเกิดจากปัญหาใน
00:04:26 → 00:04:28 สมองเองก็ได้หรือปัญหานอกสมองก็ได้ปัญหา
00:04:28 → 00:04:31 นอกสมองเนี่ยในโควิดเนี่ยมันทำให้เกิดการ
00:04:31 → 00:04:34 อักเสบในร่างกายถึงจะหายจากโควิดและไม่
00:04:34 → 00:04:35 ค่อยเจ็บคอและ
00:04:35 → 00:04:38 >> แต่ว่ามันยังมีโปรตีนของโควิดเนี่ยหลง
00:04:38 → 00:04:38 เหลืออยู่
00:04:38 → 00:04:39 >> อื
00:04:39 → 00:04:42 >> แล้วมันก็ไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันพอไป
00:04:42 → 00:04:44 กระตุ้นภูมิคุ้มกันเนี่ยมันก็เข้าไปใน
00:04:44 → 00:04:48 สมองได้มันก็แอบเข้าไปผ่านตัวเยื่อหุ้ม
00:04:48 → 00:04:53 ได้มันก็ไปรบกวนพอไปรบกวนบริเวณที่แทนที่
00:04:53 → 00:04:55 มันจะทำงานได้สบายสบายมีอะไรมารบกวนตลอด
00:04:55 → 00:04:59 เลยไอ้ตัวที่มันมีการสื่อสารเยอะสุดมันก็
00:04:59 → 00:05:00 ไปก่อน
00:05:00 → 00:05:00 >> อื
00:05:00 → 00:05:02 >> มันก็เลยเป็นสาเหตุนึงครับ
00:05:02 → 00:05:05 >> แล้วอยากจะถามคุณหมออ่ะค่ะว่าระหว่าง
00:05:05 → 00:05:09 อาการสมองล้ากับเธอแค่เหนื่อยเฉยๆเนี่ย
00:05:09 → 00:05:10 >> มันต่างกันยังไงอ่ะคะ
00:05:10 → 00:05:13 >> ความแตกต่างของสมองล้ากับเหนื่อยล้าเนี่ย
00:05:13 → 00:05:16 มันใกล้กันมากเลยเพราะว่าถ้าเกิดว่าทำงาน
00:05:16 → 00:05:19 เยอะๆมันก็เหนื่อยล้ามันก็สมองล้าได้แต่
00:05:19 → 00:05:21 เหนื่อยล้าเนี่ยมันจะมีแค่สมาธิสั้นอย่าง
00:05:21 → 00:05:24 เดียวจะไม่ได้มีอาการอื่นๆอย่างที่ในคำ
00:05:24 → 00:05:27 ถามมีมานะฮะเออแล้วก็อาจจะมีอาการทางกาย
00:05:27 → 00:05:29 เยอะหน่อยเช่นมันปวดเมื่อยไปหมดเลยแล้วก็
00:05:29 → 00:05:31 ล้าไปทั้งตัวนะครับ
00:05:31 → 00:05:34 >> อืแต่ถ้าเริ่มรู้สึกว่าทำงานพลาดบ่อยขี้
00:05:34 → 00:05:36 หลงขี้ลืมคิดอะไรไม่ออกเนี่ยสมองเธออาจจะ
00:05:36 → 00:05:38 ลาก็ได้ใช่มั้คะ
00:05:38 → 00:05:43 >> ใช่คือยังไงมีอาการแบบนี้ถ้าไม่ได้มีอะไร
00:05:43 → 00:05:46 ชัดเจนเช่นโหงานหาโถมมาหนักหรือนอนไม่พอ
00:05:46 → 00:05:49 เนี่ยมันไม่มีพักผ่อนพอ
00:05:49 → 00:05:52 >> แล้วยังมีอาการยังไงก็อาจจะต้องพบแพทย์
00:05:52 → 00:05:53 อยู่ดีเนาะอื
00:05:53 → 00:05:56 >> เพราะว่ามันก็มีหลายสาเหตุที่อาจจะเป็นไป
00:05:56 → 00:05:57 ได้
00:05:57 → 00:05:57 >> อื
00:05:57 → 00:06:00 >> ซึ่งสาเหตุทางสมองเ่ะส่วนหนึ่งซึ่งอาจจะ
00:06:00 → 00:06:03 ไม่ได้เจอเยอะแต่สาเหตุทางกายอื่นๆอย่าง
00:06:03 → 00:06:05 ที่เราบอกเรื่องโควิดไปคือเรื่องการ
00:06:05 → 00:06:06 อักเสบ
00:06:06 → 00:06:08 >> คือการอักเสบมันอาจจะเกิดจากการแพ้ภูมิ
00:06:08 → 00:06:10 ตัวเองจากโรคอื่นก็ได้อย่างที่เราเคยได้
00:06:10 → 00:06:14 ยินคือโรคพุ่มพวงหรือ SLE หรือโรคโชเรน
00:06:14 → 00:06:17 หรือจะเป็นโรคไขข้ออักเสบก็ได้พวกนี้ก็
00:06:17 → 00:06:19 อักเสบในร่างกายแล้วก็รวนในสมองได้เหมือน
00:06:19 → 00:06:20 กัน
00:06:20 → 00:06:23 >> อื่นๆที่เจอหน่อยเจอบ่อยหน่อยก็คือน้ำตาล
00:06:23 → 00:06:26 สูงอ่ะั้นไม่ได้ตรวจร่างกายประจำปีน้ำตาล
00:06:26 → 00:06:29 สูงมานานมันก็รวนไปหมดอ
00:06:29 → 00:06:31 >> น้ำตาลสูงทำให้สมองล้าได้เลย
00:06:31 → 00:06:34 >> ได้เหมือนกันเรานึกภาพว่าอ่ามันต้องมี
00:06:34 → 00:06:37 อินซูลินในการเอาน้ำตาลไปใช้แต่ว่าในสมอง
00:06:37 → 00:06:40 จริงๆไม่ไม่ได้จำเป็นมากแต่ถ้าเกิดว่าน้ำ
00:06:40 → 00:06:42 ตาลในเลือดมันสูงกว่าคนปกติเป็นเท่า
00:06:42 → 00:06:44 >> เลือดมันก็เลี้ยงสมองเหมือนกันมันก็ทำให้
00:06:44 → 00:06:46 สมดุลมันเสียไป
00:06:46 → 00:06:47 >> สมองหวานเกิน
00:06:47 → 00:06:47 >> หวานเกิน
00:06:47 → 00:06:49 >> หวานเกินล้าเลย
00:06:49 → 00:06:52 >> เหมือนกันอีกอั่งนึงก็คือไตรอยด์ฮะ
00:06:52 → 00:06:55 ต
00:06:55 → 00:06:57 มันก็ทำให้ชาไปหมดเพราะไอเหมือนเหมือน
00:06:57 → 00:06:59 เป็นน้ำมันเครื่องเหมือนแบบ
00:06:59 → 00:07:01 >> ถ้าเกิดว่ามันไม่มีเราก็ทำอะไรให้มันช้า
00:07:01 → 00:07:05 ลงสมองมันก็ช้าไปด้วยสมาธิก็ไม่ดีไปด้วย
00:07:05 → 00:07:05 นะฮะ
00:07:05 → 00:07:07 >> ก็แปลว่ามีหลายปัจจัยนะคะที่ทำให้เรา
00:07:07 → 00:07:08 สามารถสมองล้าได้
00:07:08 → 00:07:11 >> และถ้าไม่เจอพวกนี้อย่าลืมสุขภาพจิต
00:07:11 → 00:07:14 >> สุขภาพจิตซึมเศร้าบางคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
00:07:14 → 00:07:17 ว่าอันนี้คือซึมเศร้าวิตกกังวลเยอะพวก
00:07:17 → 00:07:19 เนี้ยการวิตกกังวลเยอะมันทำให้สมองมันคิด
00:07:19 → 00:07:22 ไปอยู่แล้วไงมันก็เหนื่อยอยู่แล้วมันก็
00:07:22 → 00:07:23 ล้าง่ายขึ้นนะฮ
00:07:23 → 00:07:25 >> ส่วนซึมเศร้าบางทีมันทำให้เราไม่อยากทำ
00:07:25 → 00:07:27 อะไรเลยมันไม่ไหวแล้วอ
00:07:27 → 00:07:29 >> มันก็เลยล้าเช่นกัน
00:07:29 → 00:07:32 >> ฉะนั้นการที่คน 1 คนจะสมองล้าเนี่ยมันมี
00:07:32 → 00:07:34 ได้หลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นโรคต่างๆนะคะจน
00:07:34 → 00:07:37 ถึงไปจนถึงซึมเศร้าเลยนะคะไทรรอยด์เอย
00:07:37 → 00:07:40 อะไรเอยแล้วก็แต่มันก็จะมีบางกลุ่มคนนะคะ
00:07:40 → 00:07:43 ที่ที่อาจจะยังไม่ได้หนักขนาดนั้นนะคะ
00:07:43 → 00:07:45 แล้วเชื่อว่าหลายๆคนที่ดูคลิปนี้แล้วฟัง
00:07:45 → 00:07:49 ว่าแบบสมองเบลอคิดอะไรไม่ออกลืมนู่นลืม
00:07:49 → 00:07:52 นี่พลาดบ่อยนี่เหมือนฉันนี่นาถ้ารู้ตัว
00:07:52 → 00:07:56 แล้วว่าฉันเริ่มสมองล้าและไม่อยากสมองล้า
00:07:56 → 00:07:57 ควรจะรักษายังไงคะ
00:07:57 → 00:08:00 >> จริงๆถ้าเป็นนิดเดียวนะฮะแล้วพักผ่อนแล้ว
00:08:00 → 00:08:03 ก็หายอันเนี้ยน่าจะสมองล้าแหละถามว่าทำ
00:08:03 → 00:08:06 ยังไงได้บ้างที่ทำเองได้ง่ายๆคือเริ่มดู
00:08:07 → 00:08:09 ว่าตัวเองเนี่ยใช้ชีวิตอย่างสุขภาพดีหรือ
00:08:09 → 00:08:09 ยัง
00:08:09 → 00:08:10 >> อื
00:08:10 → 00:08:12 >> อย่างแรกคือการออกกำลังกายการออกกำลังกาย
00:08:12 → 00:08:16 เนี่ยช่วยการเลี้ยงเลือดไปให้สมองได้ดี
00:08:16 → 00:08:18 ขึ้นเพราะหัวใจก็บีบได้ดีขึ้น
00:08:18 → 00:08:20 >> แล้วก็ถ้าเกิดลดไขมันเพิ่มกล้ามเนื้อมัน
00:08:20 → 00:08:23 ก็ลดการอักเสบในร่างกายเพราะไขมันเนี่ย
00:08:23 → 00:08:25 เป็นจุดกำเนิดของการอักเสบเลย
00:08:25 → 00:08:26 >> อื
00:08:26 → 00:08:29 >> นะฮะถ้าลดมันไปการอักเสบในร่างกายน้อยลง
00:08:29 → 00:08:32 สมองก็สุขภาพดีมากขึ้นกายดีสมองก็ดีค่ะ
00:08:32 → 00:08:33 >> อื
00:08:33 → 00:08:35 >> อันอื่นๆที่สามารถทำได้คือการกินที่ดี
00:08:35 → 00:08:38 ขึ้นก็เหมือนกันMediterิอเนียนเนี่ยดีที่
00:08:38 → 00:08:42 สุดนะฮะกินปลาเยอะๆลดแป้งลดเนื้อแดงนะฮะ
00:08:42 → 00:08:44 กินผักเยอะๆเช่นกัน
00:08:44 → 00:08:46 >> แล้วอยากจะถามนิดนึงค่ะว่าถ้าสมมุติว่า
00:08:46 → 00:08:50 เราสมองล้าไปเรื่อยๆมันจะทำให้สมองสมอง
00:08:50 → 00:08:51 เสื่อมเร็วขึ้นคะ
00:08:51 → 00:08:54 >> อืเอ่ออันเนี้ยขึ้นอยู่กับว่าสาเหตุของ
00:08:54 → 00:08:57 สมองล้าคืออะไรถ้าสาเหตุของสมองล้าคือ
00:08:57 → 00:09:00 ความเครียดที่สั่งสมหรือนอนไม่พออันเนี้ย
00:09:00 → 00:09:03 ไม่ค่อยเกี่ยวกันแต่ถ้าเป็นเรื่องของซึม
00:09:03 → 00:09:04 เศร้า
00:09:04 → 00:09:04 >> อ
00:09:04 → 00:09:06 >> อาจจะเกี่ยวบ้าง
00:09:06 → 00:09:09 >> แต่ถ้าเกี่ยวเลยคือมีการอักเสบในร่างกาย
00:09:09 → 00:09:11 ที่เรื้อรังพอการอักเสบในร่างกายเรื้อรัง
00:09:11 → 00:09:14 สมดุลสมองไม่ดีเซลล์สมองแทนที่จะทำงานได้
00:09:14 → 00:09:17 เต็มประสิทธิภาพมันก็ทำงานได้ไม่ดีและบาง
00:09:17 → 00:09:20 ส่วนก็มีโอกาสที่จะตายลงไวได้มากขึ้นสมอง
00:09:20 → 00:09:22 ฝ่อเร็วขึ้นก็สมองเสื่อม
00:09:22 → 00:09:25 >> ออาจสมมุติว่าอาจจะยังเป็นสมองล้าไม่เยอะ
00:09:25 → 00:09:28 มากอย่างเงี้ยค่ะก็อาจจะทำตามที่คุณหมอ
00:09:28 → 00:09:30 พูดไปได้นะคะก็คือปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์
00:09:30 → 00:09:31 นั่นแหละไม่ว่าจะเป็นการกินหรือการออก
00:09:31 → 00:09:35 กำลังกายแต่ว่ามันจะมีจุดคutพอย์มั้คะว่า
00:09:35 → 00:09:37 สมองล้าแบบเนี้ยเธอเป็นหนักแล้วนะเธอต้อง
00:09:37 → 00:09:39 รีบพบแพทย์แล้วนะ
00:09:39 → 00:09:43 >> คือถ้าสมองล้าเฉยๆเนี่ยมักจะไม่ได้มีจุด
00:09:43 → 00:09:45 ชัดเจนยกเว้นว่าเราอ
00:09:45 → 00:09:46 >> ทำให้เราทำงานไม่ดี
00:09:46 → 00:09:51 >> มีคนคเพลนะว่าทำไมไม่โฟโฟกัสเลยทำไมบอกไป
00:09:51 → 00:09:52 แล้วทำไมลืมล่ะ
00:09:52 → 00:09:52 >> อื
00:09:52 → 00:09:54 >> เนี่ยหรืออาจจะมีหงุดหงิดมีอะไรเพิ่มเติม
00:09:54 → 00:09:56 ก็เป็นได้บ้างนะฮะเพราะว่ามันตื้อไปหมด
00:09:56 → 00:09:59 บางทีก็หงุดหงิดได้มีคนบ่นว่าทำงานไม่ดี
00:09:59 → 00:10:00 เราก็เริ่มหงุดหงิด
00:10:00 → 00:10:03 >> ถ้าพวกเนี้ยเราควรจะต้องมาเจอกันว่า
00:10:03 → 00:10:06 สาเหตุพวกนี้มันเกิดจากอะไรเราอาจจะ
00:10:06 → 00:10:08 เครียดสั่งสมซึมเศร้ามีอะไรก็ได้จะได้มา
00:10:09 → 00:10:10 ดูว่าเราจะต้องแก้ยังไงบางคนอาจจะต้องกิน
00:10:10 → 00:10:13 ยาถ้าเกิดเป็นคนวิตกกังวลเยอะอาจจะต้อง
00:10:13 → 00:10:16 กินยาช่วยร่วมกับการปรับความคิดใหม่อ
00:10:16 → 00:10:18 >> ส่วนโรคทางกายอย่างอื่นเราก็มาตรวจด้วย
00:10:18 → 00:10:20 ได้ว่าไม่ได้เป็นไตรด์ไม่ได้เป็นอื่นๆก็
00:10:20 → 00:10:21 ได้นะฮะ
00:10:21 → 00:10:24 >> ทีนี้อยากถามแทนคนที่เป็นอย่างที่คุณหมอ
00:10:24 → 00:10:27 พูดค่ะเชื่อว่าหลายๆคนเนี่ยสมองล้าเนาะ
00:10:27 → 00:10:29 อาจจะมีเรื่องความเครียดการงานเศรษฐกิจ
00:10:29 → 00:10:32 ทุกวันนี้การเมืองเอยอะไรเอยข่าวทั้งวัน
00:10:32 → 00:10:35 ทุกวันอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็เาก็ดูมาหลาย EP
00:10:35 → 00:10:37 และรู้แหละว่าฉันจะต้องกินดีออกกำลังกาย
00:10:37 → 00:10:40 ก็พยายามทำอย่างเต็มที่แล้วแต่ก็ยัง
00:10:40 → 00:10:42 >> ล้าอยู่ดีทีเนี้ยถ้าเขาอยากจะไปพบแพทย์
00:10:42 → 00:10:44 เขาควรจะไปหาหมอแผนกไหนดีคะ
00:10:44 → 00:10:48 >> อือขึ้นว่าเราคิดว่าเรามีปัญหาทางด้าน
00:10:48 → 00:10:49 สุขภาพจิตเยอะมั้ย
00:10:50 → 00:10:50 >> อื
00:10:50 → 00:10:53 >> ถ้าเกิดว่ามีเครียดมีรู้สึกว่ามีสาจะมี
00:10:53 → 00:10:55 ซึมเศร้าบ้างกินอาหารไม่อร่อยหรือว่ามีวิ
00:10:55 → 00:10:58 ตกจริตเยอะกังวลตลอดเวลากังวลนู่นกังวล
00:10:58 → 00:11:01 นี่ไปหยุดคิดไม่ได้อันนั้นไปหาได้ทั้งหมอ
00:11:01 → 00:11:03 จิตแพทย์และหมอสมองครับ
00:11:03 → 00:11:04 >> อือฮึ
00:11:04 → 00:11:09 >> แต่ถ้าเกิดว่าเป็นอื่นๆเช่นมันแย่ลงมัน
00:11:09 → 00:11:12 ไม่ดีเลยแล้วมันมีการตัดสินใจที่ผิดพลาด
00:11:12 → 00:11:16 เยอะมันเริ่มลืมสิ่งอื่นๆที่สำคัญและลืม
00:11:16 → 00:11:19 บ่อยๆพวกเนี้ยมหาหาหมอสมองก็ดี
00:11:19 → 00:11:21 >> แล้วทีนี้สำหรับคนขี้ลืมค่ะเวลาเราลืม
00:11:21 → 00:11:24 อะไรบางอย่างแล้วเราก็เอ๊ะมันคืออะไรนะ
00:11:24 → 00:11:26 เค้นมันออกมาเค้นมันออกมาพยายามคิดพยายาม
00:11:26 → 00:11:30 คิดแบบเนี้ยค่ะมันยิ่งส่งผลเสียต่อสมอง
00:11:30 → 00:11:30 มั้ยคะ
00:11:30 → 00:11:33 >> อ่าถ้าเกิดว่าใช้ชีวิตอย่างสบายอยู่นะฮะ
00:11:33 → 00:11:37 แล้วเอ๊ะมันนึกไม่ออกฉันจะปล่อยมันไปหรือ
00:11:37 → 00:11:40 ว่าฉันจะนึกต่อนึกต่อควรจะนึกต่อ
00:11:40 → 00:11:42 >> เพราะว่าการที่เรานึกต่อก็เหมือนเป็นการ
00:11:42 → 00:11:43 ฝึกสมองครับ
00:11:43 → 00:11:44 >> อื
00:11:44 → 00:11:46 >> คือสมมุติว่าเราไม่นึกต่อเราก็ปล่อยมันไป
00:11:46 → 00:11:49 เราก็เหมือนสมองเราเราจะขี้เกียจพอนึกต่อ
00:11:49 → 00:11:52 เราก็จะได้ฝึกให้ดึงความจำที่อยู่ลึกๆออก
00:11:52 → 00:11:52 มา
00:11:53 → 00:11:53 >> อ
00:11:53 → 00:11:56 >> ได้เร็วขึ้นได้ง่ายขึ้นทำบ่อยๆก็เก่ง
00:11:56 → 00:12:00 >> ในกรณีที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งวันและจะนอน
00:12:00 → 00:12:03 และหรืออะไรอย่างเงี้ยถ้าเกิดว่าล้างๆว่า
00:12:03 → 00:12:06 มันไม่ได้สำคัญมากอ่ะปล่อยมันไปเถอะไปพัก
00:12:06 → 00:12:07 ผ่อนนะฮะ
00:12:07 → 00:12:10 >> อือก็แปลว่าจริงๆแล้วอ่ะการที่ขุดมันออก
00:12:10 → 00:12:12 มาก็เป็นสิ่งที่ดีถ้าเราทำตอนกลางวันหรือ
00:12:12 → 00:12:15 ทำในช่วงเวลาทำงานที่มันจะต้องคิดถูกมั้
00:12:15 → 00:12:15 คะ
00:12:15 → 00:12:17 >> ใช่ครับใช่หรือว่าถ้าวันนั้นเป็นวันสบาย
00:12:17 → 00:12:19 สบายแล้วก็จะฝึกคิดฝึกอะไรได้บ้าง
00:12:19 → 00:12:22 >> มันจะได้ฝึกเยอะๆสมองก็จะได้แม่น
00:12:22 → 00:12:24 >> เพราะว่าสมองเอาจริงๆแล้วมันก็เหมือนเป็น
00:12:24 → 00:12:26 กล้ามเนื้ออีกส่วนนึงเหมือนเหมือร่างกาย
00:12:26 → 00:12:28 เหมือนเวลาไปเราออกกำลังกายอะไรอย่างงี้
00:12:28 → 00:12:29 มั้คะแล้วถ้าเราคิดมันก็เหมือนเป็นการออก
00:12:29 → 00:12:31 กำลังกายสมองประมาณนึงถูกมั้คะ
00:12:31 → 00:12:33 >> นึกอย่างงั้นก็ได้แต่เปลี่ยนเป็นเส้นใย
00:12:33 → 00:12:36 กล้ามเนื้อก็จะเป็นเส้นใยสมองแทนซึ่งเส้น
00:12:36 → 00:12:39 ใยสมองมันก็จะแข็งแรงขึ้นในการต่อสัญญาณ
00:12:39 → 00:12:40 แต่ละส่วนนะครับอ
00:12:40 → 00:12:42 >> องั้นก็คิดเยอะๆดีมั้ยคะหมอจะได้ฉลาดๆ
00:12:43 → 00:12:43 อย่างนี้ได้มั้คะ
00:12:43 → 00:12:47 >> ก็ได้ในระดับนึงแต่ก็ทางสายกลางนะฮะโอเค
00:12:47 → 00:12:49 ค่ะแล้วก็ต่อนิดนึงค่ะคือเมื่อกี้เขาบอก
00:12:50 → 00:12:53 มาว่าเนี่ยคนบอกว่าเราอ่ะนอนพักผ่อนไม่
00:12:53 → 00:12:55 เพียงพอหรือเปล่าเลยเบลอแต่ฉันนอนเยอะมาก
00:12:55 → 00:12:58 เลยนะนอนเยอะแล้วทำไมสมองยังเบลออยู่เลย
00:12:58 → 00:13:00 เลยอยากจะถามคุณหมอว่าจริงๆแล้วการนอนน่ะ
00:13:00 → 00:13:04 ค่ะเพื่อให้สมองทำงานดีขึ้นเนี่ยมันเพียง
00:13:04 → 00:13:07 พอมั้คะถึงขึ้นอยู่กับคุณภาพของการนอน
00:13:07 → 00:13:10 ด้วยบางคนนอนไป 8-9 ชั่วโมงแต่ก็คุณภาพ
00:13:10 → 00:13:15 ไม่ดีคือในสมองเราจะมีอ่าระบบการกำจัดของ
00:13:15 → 00:13:17 เสียเรียกว่ากลิฟสิก system
00:13:17 → 00:13:19 >> คือกำจัดของเสียที่สร้างมาจากเซลล์พอ
00:13:19 → 00:13:22 เซลล์เราทำงานมันก็มีของเสียออกมา
00:13:22 → 00:13:25 >> และมันจะกำจัดได้ดีในช่วงนอนนอนก็จะมี 4
00:13:26 → 00:13:29 สageนะสage 1 2 3 แล้วก็นอนเรมสage 3
00:13:29 → 00:13:32 คือนอนหลับสนิทอันเนี้เป็นสageที่ทำงาน
00:13:32 → 00:13:35 ได้ดีที่สุดมันก็เคลียร์ไปได้ดีที่สุด
00:13:35 → 00:13:37 แล้วของที่มันเคลียร์ไปที่สำคัญนอกจาก
00:13:37 → 00:13:40 เรื่องสมองล้าแล้วมันเคลียร์พวกบีต้า
00:13:40 → 00:13:43 อเมรอยด์หรือทาซึ่งเป็นโปรตีนที่เจอใน
00:13:43 → 00:13:44 อัลไซเมอร์
00:13:44 → 00:13:45 >> อือื
00:13:45 → 00:13:48 >> แล้วก็คิดว่าอ้าถ้ามันเคลียร์ดีมันมีน้อย
00:13:48 → 00:13:50 ลงโอกาสเสี่ยงอัลไซเมอร์มันอาจจะน้อยลง
00:13:50 → 00:13:51 หรือเปล่า
00:13:51 → 00:13:52 >> นะครับอ
00:13:52 → 00:13:58 >> ทีนี้บางทีงานมันเครียดถึงจะนอนพอก็เอา
00:13:58 → 00:14:01 งานน่ะมาคิดที่บ้านมาเครียดต่อ
00:14:01 → 00:14:04 >> แล้วก็หลับไปกับความเครียดฉะนั้นการนอน
00:14:04 → 00:14:07 อาจจะคุณภาพไม่ดีนะฮะอาจจะ sleep น้อย
00:14:07 → 00:14:10 >> อืงั้นถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นหรือเรารู้
00:14:10 → 00:14:12 สึกว่าเอ้อมันนอนแล้วมันก็หลับไม่สนิทไม่
00:14:12 → 00:14:15 ตื่นมากลางดึกเงี้ยเราอาจจะต้องหากิจกรรม
00:14:15 → 00:14:19 อื่นเพื่อที่จะเปลี่ยนโฟกัสเราไปจุดอื่น
00:14:19 → 00:14:23 แทนเช่นเอาไปออกกำลังกายหลังงานเสร็จหรือ
00:14:23 → 00:14:26 ไปทำอะไรที่ผ่อนคลายที่ถ้าเกิดว่าไม่ใช่
00:14:26 → 00:14:28 เป็นสายออกกำลังกายมากก็แนะนำให้ออกอยู่
00:14:28 → 00:14:32 ดีแต่อาจจะไปทางนั่งสมาธิ
00:14:32 → 00:14:33 >> ก็อาจจะดีนะครับอ
00:14:33 → 00:14:36 >> อืก็แปลว่าจริงๆการนอนน่ะดีมากๆแล้วมัน
00:14:36 → 00:14:40 ช่วยแหละแต่ว่าเราจะต้องนอนให้ดีนะคะโดย
00:14:40 → 00:14:42 เฉพาะที่คุณหมอบอกไปว่าเวลาการนอนเมันจะ
00:14:42 → 00:14:44 มีทั้งหมด 4 ระดับใช่มั้คะระดับที่ 3
00:14:44 → 00:14:46 เนี่ยเป็นระดับการ deep sleep หรือว่า
00:14:46 → 00:14:49 เป็นระดับที่จะคอยชะล้างขยะหรือว่าสิ่ง
00:14:49 → 00:14:52 เหมือนของเสียในสมองเราชักโครกพรึชมันออก
00:14:52 → 00:14:54 ไปแต่ถ้าเรานอนไม่ดีเนี่ยเราอาจจะแค่อยู่
00:14:54 → 00:14:56 ไปแค่ระดับ 1 ระดับ 2
00:14:56 → 00:14:58 >> แล้วก็กลับมาและอาจจะแบบสะดุ้งตื่นหรือ
00:14:58 → 00:15:00 อะไรอย่างเงี้ยแล้วเราจะถ้าเราไม่ไปถึง
00:15:00 → 00:15:02 ขั้นตอนที่ 3 เนี่ย
00:15:02 → 00:15:03 >> สิ่งเหล่านั้นก็ยังอยู่ในสมองอยู่มันก็
00:15:03 → 00:15:06 อาจจะไม่ได้เคลียร์ใช่ฉะนั้นก็อาจจะต้อง
00:15:06 → 00:15:09 พยายามหากิจกรรมแล้วก็ลองสังเกตการนอนนะ
00:15:09 → 00:15:11 คะอย่างในเคสคนนี้อาจจะเดี๋ยวนี้ก็มีice
00:15:11 → 00:15:14 อะไรมากมายใช่มั้คะแล้วเราต้องระวังด้วย
00:15:14 → 00:15:16 ว่าถ้าเป็นคนที่นอนกรนเนี่ย
00:15:16 → 00:15:18 >> ถ้าเกิดว่ามีคนนอนข้างๆเนี่ยให้เค้า
00:15:18 → 00:15:20 สังเกตว่าเรามีกรนแล้วหยุดหายใจมั้ย
00:15:20 → 00:15:20 >> อื
00:15:20 → 00:15:23 >> เราอาจจะเป็นโรคนอนกรนแล้วก็หยุดหายใจ
00:15:23 → 00:15:24 >> อ
00:15:24 → 00:15:26 >> ซึ่งมันก็กลายเป็นเราพักผ่อนไม่พอเพราะ
00:15:26 → 00:15:27 ว่า
00:15:27 → 00:15:29 >> เราก็จะหลับไม่สนิทมีกรนแล้วมันก็จะมี
00:15:29 → 00:15:30 เฮือกตื่นขึ้นมา
00:15:30 → 00:15:33 >> มีเฮือกตื่นขึ้นมาหรือค่าออกซิเจนต่ำสมอง
00:15:33 → 00:15:36 มันก็ได้ออกซิเจนไม่พอมันก็ล้าตื่นขึ้นมา
00:15:36 → 00:15:39 ก็ไม่สดชื่นอาจจะตื่นขึ้นมาปวดหัวแล้วก็
00:15:39 → 00:15:41 ระหว่างวันก็สมาธิไม่ดีอันนี้เป็นอีกอัน
00:15:41 → 00:15:45 นึงที่สำคัญเช่นกันบางคนเนี่ยเจอแล้วใช้
00:15:45 → 00:15:49 ตัวช่วยซีแปบที่ช่วยใส่จมูกเนี่ย
00:15:49 → 00:15:50 >> ชีวิตเปลี่ยนเลยฮะอื
00:15:50 → 00:15:51 >> ก็มี
00:15:51 → 00:15:54 >> มันก็ต้องลองสังเกตตัวเองดีๆนะคะแล้วอีก
00:15:54 → 00:15:58 ประเด็นนึงที่คนถามมานะคะนอกจากคนนี้ที่
00:15:58 → 00:16:00 ถามมาเนี่ยเป็นอีกประเด็นที่คนมักจะให้
00:16:00 → 00:16:03 ความสนใจก็คือเรื่องอาหารเสริมนะคะ
00:16:03 → 00:16:04 >> ถ้า
00:16:04 → 00:16:07 >> ไม่อยากสมองล้าไม่อยากขี้ลืมอยากสมองไบรท
00:16:07 → 00:16:09 ควรเสริมด้วยอาหารเสริมอะไรดีคะ
00:16:09 → 00:16:12 >> ครับกรณีที่จัดการกับเหตุผลของสมองล้า
00:16:12 → 00:16:14 เรียบร้อยหรือไม่เจอเหตุผลอนะครับ
00:16:14 → 00:16:17 >> อย่างแรกที่ผมจะชอบให้คนไข้คือง่ายๆเลย
00:16:17 → 00:16:18 วิตามินบีรวม
00:16:18 → 00:16:19 >> ราคาถูกมาก
00:16:19 → 00:16:20 >> ค่ะ
00:16:20 → 00:16:24 >> คือมันจะมีหลักฐานมากมยอาจจะไม่ได้มีมาก
00:16:24 → 00:16:26 แต่ว่าหลายๆคนเนี่ยอาจจะกินผักกินอะไรไม่
00:16:26 → 00:16:27 พออยู่แล้ว
00:16:27 → 00:16:27 >> ค่ะ
00:16:27 → 00:16:30 >> ก็อาจจะขาดวิตามินบีวิตามินบีเนี่ยสำคัญ
00:16:30 → 00:16:31 ต่อการทำงานของสมอง
00:16:31 → 00:16:32 >> อื
00:16:32 → 00:16:35 >> มันเพิ่มให้มันนิดนึงก็น่าจะดีไม่ได้มีผล
00:16:35 → 00:16:37 เสียด้วยถ้าไม่ได้กินเหลือเกินไป
00:16:37 → 00:16:39 >> เอ่ออื่นๆเนี่ยเราบอกว่าเป็นการอักเสบใน
00:16:39 → 00:16:41 ร่างกายฉะนั้นก็กินอะไรที่ช่วยลดการ
00:16:41 → 00:16:42 อักเสบในร่างกาย
00:16:43 → 00:16:44 เช่นน้ำมันปลา
00:16:44 → 00:16:44 >> อื
00:16:44 → 00:16:46 >> หรือวิตามินดี
00:16:46 → 00:16:46 >> ค่ะ
00:16:46 → 00:16:49 >> นะฮะส่วนไปปรับในเรื่องของลำไส้ก็
00:16:49 → 00:16:51 โปรไบโอติกก็ช่วยเช่นกัน
00:16:51 → 00:16:53 >> อืโปรไบโอติกมันเกี่ยวอะไรกับสมองอ่ะคะ
00:16:53 → 00:16:53 คุณหมอ
00:16:53 → 00:16:57 >> อ่าคือโปรไบโอติกเนี่ยจะทำให้ตัว
00:16:57 → 00:17:01 จุลินทรีย์ในลำไส้เนี่ยมันปรับไปสู่
00:17:01 → 00:17:02 จุลินทรีย์ที่ดีขึ้น
00:17:02 → 00:17:02 >> อื
00:17:03 → 00:17:05 >> คือสมองกับลำไส้เนี่ยต่อกัน
00:17:05 → 00:17:05 >> อื
00:17:05 → 00:17:08 >> ต่อกันอันนึงคือต่อกันในเส้นประสาทคู่ที่
00:17:08 → 00:17:11 10 นะต่อกันอีกอันนึงคือไอ้เวลามีอะไร
00:17:11 → 00:17:14 ที่สร้างอยู่ในลำไส้มันก็จะซึมเข้าไปใน
00:17:14 → 00:17:17 เลือดถ้ามันมีแบคทีเรียไม่ดีที่มันสร้าง
00:17:17 → 00:17:19 การอักเสบอยู่มันก็ซึมเข้าไปในเลือดแล้ว
00:17:19 → 00:17:22 ก็ส่งผลต่อสมองั้นถ้าเรากินโปรไบโอติก
00:17:22 → 00:17:25 เยอะหน่อยแล้วเราเปลี่ยนจุลินทรีย์ในลำ
00:17:25 → 00:17:27 ไส้ให้เป็นจุลินทรีย์ที่ดีไม่สร้างสาร
00:17:28 → 00:17:31 อักเสบมันก็ช่วยทำให้สมองเราแล่นได้ดี
00:17:31 → 00:17:31 ขึ้น
00:17:31 → 00:17:32 >> อืครับ
00:17:32 → 00:17:35 >> แต่อันนี้ก็เป็นเพียงตัวช่วยใช่มั้ยคะคุณ
00:17:35 → 00:17:36 หมอสิ่งที่สำคัญที่สุดก็น่าจะต้องเป็น
00:17:36 → 00:17:39 เรื่องการนอนและจัดการความเครียดคำถามต่อ
00:17:39 → 00:17:42 มาค่ะอันเนี้เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะเคยเจอ
00:17:42 → 00:17:44 พูดๆเอ๊ะ
00:17:44 → 00:17:48 ความคิดมันหายไปไหนนะคะคำถามคือว่าเวลาไป
00:17:48 → 00:17:51 คุยกับเพื่อนคนนึงเราจะนึกหน้าเขาออกนะคะ
00:17:51 → 00:17:55 แต่ดันนึกชื่อไม่ออกรู้สึกคุ้นๆแต่มันติด
00:17:55 → 00:17:58 อยู่ที่ปากบางทีเนี่ยนึกชื่อออกนะคะว่า
00:17:58 → 00:18:01 เริ่มต้นด้วยตัวบอแต่ทำยังไงก็นึกไม่ออก
00:18:01 → 00:18:04 ค่ะทั้งๆที่รู้จักกันมานานอาการแบบเนี้ย
00:18:04 → 00:18:07 เกิดขึ้นบ่อยมากเลยค่ะจนเริ่มกังวลไม่แน่
00:18:07 → 00:18:11 ใจว่าเป็นแค่คนขี้ลืมธรรมดาหรือว่าเป็น
00:18:11 → 00:18:14 สัญญาณของโรคสมองเสื่อมเพราะว่าโดยเฉพาะ
00:18:14 → 00:18:16 แอลไซเมอร์นะคะเพราะว่าคนในครอบครัวเนี่ย
00:18:16 → 00:18:17 เป็นอยู่
00:18:17 → 00:18:20 >> เลยยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่เลยค่ะเลยอยากจะถาม
00:18:20 → 00:18:23 คุณหมอว่าแบบเนี้ยถือว่าเสี่ยงไหมคะแล้ว
00:18:23 → 00:18:26 มีวิธีการดูแลตัวเองยังไงบ้างเพื่อป้อง
00:18:26 → 00:18:28 กันไม่ให้สมองเสื่อมในอนาคต
00:18:28 → 00:18:30 >> ครับไอ้อาการที่ติดอยู่ปลายลิ้นเนี่ยผมก็
00:18:31 → 00:18:34 ชอบเป็นแล้วก็แต่ว่ามันจริงๆมันปกตินะฮะ
00:18:34 → 00:18:37 ถ้าเกิดว่าไม่ได้เป็นบ่อยคือปกติในที่นี้
00:18:37 → 00:18:40 คือถ้าเกิดอายุน้อยอายุ 10 20 30 อย่าง
00:18:40 → 00:18:43 เงี้ยจะอาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้งไม่แปลก
00:18:44 → 00:18:45 >> อย่าไปกังวล
00:18:45 → 00:18:49 >> แต่ถ้าเกิดว่าเป็นบ่อยๆเนี่ยอาจจะต้อง
00:18:49 → 00:18:52 เริ่มกังวลนิดนึงส่วนอันนี้แน่นอนมันเป็น
00:18:52 → 00:18:56 มากขึ้นตามอายุเพราะว่าแหมสมองมันก็อยู่
00:18:56 → 00:18:58 มานานสมมุติอยู่มา 50-60 ปีมันก็
00:18:58 → 00:19:01 >> มันก็มีเสื่อมของมันอยู่แล้วนะฉะนั้นถ้า
00:19:01 → 00:19:04 เกิดว่าอายุอยู่อายุหน่อย 50-60 จะมีวัน
00:19:04 → 00:19:06 ละครั้งวันละ 2 ครั้ง
00:19:06 → 00:19:09 >> ก็คงไม่ได้แปลกนะฮะนี้ถือว่าปกติอยู่อ
00:19:09 → 00:19:11 >> แล้วทีนี้อันไหนที่เาเรียกไม่ปกติอ่ะคะ
00:19:11 → 00:19:13 อย่างที่เมื่อกี้คุณหมอบอกว่าถ้าอายุเอ่อ
00:19:13 → 00:19:16 ยังวัยรุ่น 10 20 30 ยังวัยรุ่นอยู่
00:19:16 → 00:19:20 เนาะก็ยังก็อาจจะอ่าอาทิตย์นึงครั้ง 2
00:19:20 → 00:19:22 ครั้งอุ๊ยติดอยู่ที่ป่าแต่ลืมอ่ะปล่อยไป
00:19:22 → 00:19:23 แต่
00:19:23 → 00:19:26 >> ถ้าเริ่มเป็นอย่างี้สักกี่ครั้งต้องเอ๊ะ
00:19:26 → 00:19:29 และว่าเฮ้ยเธอทำไมเธอลืม
00:19:29 → 00:19:30 >> แบบนี้
00:19:30 → 00:19:33 >> อจะยกตัวอย่างคนไข้ละกันนะฮะคือมันจะมีคน
00:19:33 → 00:19:35 ไข้สมองเสื่อมเพราะว่าจริงๆกังวลเรื่อง
00:19:35 → 00:19:36 อัลไซเมอร์อยู่
00:19:36 → 00:19:36 >> ใช่ค่ะ
00:19:36 → 00:19:38 >> จริงๆอัลไซเมอร์ก็มีลักษณะที่เริ่มต้น
00:19:38 → 00:19:39 คล้ายแบบนี้ได้เหมือนกัน
00:19:39 → 00:19:43 >> อืออจะเป็นอันหนึ่งที่เรียกว่า primary
00:19:43 → 00:19:47 priveia ซึ่งเอ่ออันเนี้ยมันก็จะมาด้วย
00:19:47 → 00:19:50 การที่เรานึกคำไม่ออกเรารู้ว่าจะพูดอะไร
00:19:50 → 00:19:54 แต่นึกไม่ออกแต่มันจะเป็นค่อนข้างเร็วไม่
00:19:54 → 00:19:58 ใช่แบบอายุ 40-50 แล้วค่อยๆแย่ลงแต่จะ
00:19:58 → 00:20:00 เป็นประมาณสัก 6 เดือนปีนึงแล้วมันเป็น
00:20:00 → 00:20:01 มากขึ้น
00:20:01 → 00:20:01 >> โห
00:20:01 → 00:20:04 >> แล้วเป็นมากขึ้นก็คือเป็นทั้งวันแค่จะพูด
00:20:04 → 00:20:06 อะไรแค่ 2-3 นาทีก็จะมีและว่านึกคำไม่ออก
00:20:06 → 00:20:10 จะมีและจะนึกคำไม่ออกมันมีความต่างขนาด
00:20:10 → 00:20:12 อันนั้นคือความผิดปกติถ้าเกิดว่าวันละ
00:20:12 → 00:20:16 ครั้ง 2 ครั้งหรือพักผ่อนไม่พอนอนน้อย
00:20:16 → 00:20:18 แล้วมันเพิ่มมานิดหน่อยแบบ 3-4 ครั้งหรือ
00:20:18 → 00:20:21 อาจจะดื่มเยอะนิดนึงหรือวันแฮงนิดนึงก็
00:20:21 → 00:20:23 อาจจะเป็นได้ครับนั้นอาจจะยังอยู่ในเกวน
00:20:23 → 00:20:24 ปกติ
00:20:24 → 00:20:29 >> อือย่างที่คุณหมอบอกว่าเคสที่โอเคจุด
00:20:29 → 00:20:32 สังเกตก็คือว่าถ้ามันหลายครั้งมากๆอาจจะ 3
00:20:32 → 00:20:34 4 5 6 7 ครั้งต่อวันแล้วก็ความชัดเจน
00:20:34 → 00:20:35 ก็คือ
00:20:35 → 00:20:39 >> มันจะแย่ตั้งแต่เป็นระยะ 6 เดือน 1 ปีก็
00:20:39 → 00:20:41 อันเนี้ยชัดเจนะจะไม่ได้แบบว่าจะค่อนข้าง
00:20:41 → 00:20:45 เร็วใช่มั้คะแล้วอาการเหล่าเนี้ยค่ะมักจะ
00:20:45 → 00:20:47 เกิดขึ้นในคนอายุเท่าไหร่คะที่ที่มักจะ
00:20:47 → 00:20:49 เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนนะคะ
00:20:49 → 00:20:52 >> อ่าเป็นตัวทิป of the tang ใช่มอ๋อพวก
00:20:52 → 00:20:55 นี้ส่วนมากจะประมาณ 40 ขึ้นไปครับ
00:20:55 → 00:20:55 >> อื
00:20:55 → 00:20:58 >> มันจะเริ่มมีการฝ่อของสมองที่ชัดเจนมาก
00:20:58 → 00:21:01 ขึ้นฉะนั้นพวกนี้มันต้องมีการสื่อสารที่
00:21:01 → 00:21:04 ดีปกติเราไม่ได้คิดหรอกนะว่าเราจะพูดหัว
00:21:04 → 00:21:06 คำสมมุติอ้อนี่คุณเจน
00:21:06 → 00:21:08 >> ไม่ได้คิดหรอกว่าเอ่อคุณชื่ออะไรนะไม่ใช่
00:21:08 → 00:21:13 อย่างงั้นอืมอมเพราะมันก็เป็นการเราเห็น
00:21:13 → 00:21:16 เราเห็นคุณเดินมาแล้วเราก็ดึงความจำออกมา
00:21:16 → 00:21:17 จากส่วนลึก
00:21:17 → 00:21:17 >> อ
00:21:17 → 00:21:21 >> แล้วก็ออกไปส่วนที่สร้างคำขึ้นมาอ้าคนเจน
00:21:21 → 00:21:24 แต่ถ้าเกิดว่ามันมีอะไรรวนเนี่ยมันก็ทำ
00:21:24 → 00:21:28 ให้การอัตโนมัติเนี่ยมันช้าลงหรือมันขัด
00:21:28 → 00:21:31 ข้องได้ง่ายขึ้นอายุมากขึ้นมันมีความฝ่อ
00:21:31 → 00:21:34 ตามอายุหรืออาจจะฝ่อมากกว่าอายุนิดนึง
00:21:34 → 00:21:34 >> อ
00:21:34 → 00:21:38 >> มันก็ทำให้รวนได้ง่ายขึ้นก็คือหลังจาก 40
00:21:38 → 00:21:40 เป็นต้นไปก็มักจะเสียงมากขึ้น
00:21:40 → 00:21:43 >> อแล้วอย่างคนเนี้ยค่ะเขาน่าจะสมมุติว่า
00:21:43 → 00:21:44 เ้าไม่ได้เขียนอายุมานะคะถ้าสมมุติว่า
00:21:45 → 00:21:46 อายุ 30 เนาะ
00:21:46 → 00:21:50 >> แล้วก็ลืมบ่อยนะคะแล้วก็ลืมถึงแม้ว่าจะ
00:21:50 → 00:21:52 นอนพักผ่อนเพียงพอแล้วก็ไม่ได้มีความ
00:21:52 → 00:21:55 เครียดสะสมแต่ว่าลืมอยู่แบบเนี้ยวันนึง
00:21:55 → 00:21:57 หลายครั้งเลย 5-6 ครั้งอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:21:57 → 00:22:00 อันเนี้ยถือว่าเป็นภาวะแบบไหนแล้วควรจัด
00:22:00 → 00:22:00 การยังไงคะ
00:22:00 → 00:22:03 >> ครับอ่าอันเนี้ยสาเหตุจะไม่เยอะนะฮะ
00:22:03 → 00:22:05 >> เอ่อส่วนมากถ้าอายุน้อยเราจะไปดูที่
00:22:05 → 00:22:07 สาเหตุทางจิตเวทก่อน
00:22:07 → 00:22:09 >> อือืว่ามีเครียดมีซึมเศร้ามีกังวลอะไร
00:22:09 → 00:22:10 เยอะหรือเปล่า
00:22:10 → 00:22:13 >> หรือมีกินยาที่กดประสาทอยู่หรือเปล่า
00:22:13 → 00:22:14 >> อื
00:22:14 → 00:22:17 >> บางทีนอนไม่หลับอฮะแล้วก็กินยานอนหลับกิน
00:22:17 → 00:22:20 ยาแก้แพ้อย่าเงี้ยแล้วก็ทำให้สมองมันทำ
00:22:20 → 00:22:23 งานได้ไม่ดีฉะนั้นที่จะบอกว่ามันควรจะมา
00:22:23 → 00:22:25 แบบเหมือนอัตโนมัติเลยมันก็ไม่ค่อยมา
00:22:25 → 00:22:28 เพราะว่ามันโดนกดประสาทอยู่กดสมองอยู่อ
00:22:28 → 00:22:31 >> สาเหตุอื่นๆที่อาจจะต้องระวังก็คือมีการ
00:22:31 → 00:22:32 อักเสบในสมอง
00:22:32 → 00:22:33 >> อื
00:22:33 → 00:22:37 >> การอักเสบในสมองในบางแบบก็ทำให้การสื่อ
00:22:37 → 00:22:39 สารพวกเนี้ยรวนไปเช่นกันเพราะว่ามันต้อง
00:22:39 → 00:22:42 มีสายสัญญาณส่งจากด้านในออกมาข้างนอกถ้า
00:22:42 → 00:22:45 มันมีการอักเสบหรือมีก้อนหรือมีอะไรอยู่
00:22:45 → 00:22:46 ก็ทำให้มันรวนได้
00:22:46 → 00:22:47 >> อื
00:22:47 → 00:22:50 >> อีกอย่างนึงก็คือเส้นเลือดในสมองถ้าเส้น
00:22:50 → 00:22:52 เลือดในสมองไม่ดีหรือเป็นโรคทางพันธุกรรม
00:22:52 → 00:22:56 บางอย่างที่อาจจะเกิดเนื้อสมองผิดปกติก็
00:22:56 → 00:22:58 อาจจะทำให้เกิดอาการแบบนี้ได้แต่เจอน้อย
00:22:58 → 00:22:59 มากๆนะฮะ
00:22:59 → 00:23:00 >> อื
00:23:00 → 00:23:02 >> ถ้าเกิดว่าอายุน้อยแต่ว่ามันมีปัญหาจริงๆ
00:23:02 → 00:23:04 ยังไงต้องไปพบแพทย์แน่นอน
00:23:04 → 00:23:08 >> อืโอเคค่ะก็แปลว่าจริงๆแล้วด้วยยุคสมัย
00:23:08 → 00:23:10 นี้ด้วยนะคะคนรู้สึกว่าคนเป็นซึมเศร้า
00:23:10 → 00:23:13 หรือว่าคนจะต้องกินยาเพื่อช่วยจัดการ
00:23:13 → 00:23:15 เรื่องเรื่องทางอารมณ์หรือทางความคิดมาก
00:23:15 → 00:23:19 มายบางทีก็อาจจะส่งผลทำให้เราอาจจะแบบ
00:23:19 → 00:23:21 >> ขี้หลงขี้ลืมได้ฉะนั้นอาจจะไม่ได้ถึงกับ
00:23:21 → 00:23:24 โอเคเป็นโรคขนาดนั้นแต่อาจจะเป็นผลพอยได้
00:23:24 → 00:23:28 จากยาต่างหากนะคะทีนี้ขอถามในเชิงในเชิง
00:23:28 → 00:23:32 ตัวเองและคนรอบข้างหน่อยว่าคนขี้ลืมรักษา
00:23:32 → 00:23:33 ได้มั้คะ
00:23:33 → 00:23:35 >> ถ้าเป็นคนขี้ลืมเฉยๆแล้วขี้ลืมมานานเนี่ย
00:23:35 → 00:23:36 จริงๆมันก็พอฝึกสมองได้นะครับ
00:23:36 → 00:23:38 >> อ้าเหรอคะยังไงอ่ะคะ
00:23:38 → 00:23:41 >> คือสมมุติว่าเราจะทำอะไรสักอย่างแทนที่
00:23:41 → 00:23:44 เราจะจดไว้เราจดไว้ก่อนแต่เราไม่ต้องดู
00:23:44 → 00:23:46 >> เย็นนี้จะไปซุเปอร์มาร์เก็ตไปซื้อของ
00:23:46 → 00:23:47 >> จดไว้
00:23:47 → 00:23:50 >> จด 1 2 3 จะซื้ออะไรบ้างจำไว้
00:23:50 → 00:23:51 >> แล้ว
00:23:51 → 00:23:53 >> ไปถึงไม่ต้องดู
00:23:53 → 00:23:56 >> ซื้อให้เสร็จก่อนแล้วก็ค่อยดูอีกทีว่าครบ
00:23:56 → 00:23:57 มั้ย
00:23:57 → 00:23:59 >> เป็นการฝึกก็คือฝึกความจำ
00:23:59 → 00:24:02 >> แล้วก็ฝึกว่าเราสามารถ execute มันออกมา
00:24:02 → 00:24:03 ได้ดีมั้ย
00:24:03 → 00:24:05 >> อีกอย่างนึงคือฝึกการคิดเลขก็ดี
00:24:05 → 00:24:05 >> อือื
00:24:05 → 00:24:07 >> อันเดียวกันเลยก็คือโอ้อันนี้เท่านี้อัน
00:24:08 → 00:24:09 นี้เท่านี้คิดในใจ
00:24:09 → 00:24:09 >> อื
00:24:09 → 00:24:12 >> สุดท้ายบวกเอามาถูกหรือเปล่า
00:24:12 → 00:24:15 >> นะฮะอีกอย่างคือการเรียงขั้นลำดับก็สำคัญ
00:24:15 → 00:24:18 เหมือนกันอ่ะพูดถึงเรื่องอาหารต่อแล้วกัน
00:24:18 → 00:24:20 เลยไปซุเปอร์มาร์เก็ตและซื้อมาเรียบร้อย
00:24:20 → 00:24:24 มาทำอาหารเราดูจาก YouTube สูตอาหารมาและ
00:24:25 → 00:24:27 อ่าไม่ต้องดูจำและ
00:24:27 → 00:24:28 >> ลองทำดู
00:24:28 → 00:24:29 >> อื
00:24:29 → 00:24:31 >> แต่อาจจะเปลืองอาจจะกินไม่ได้
00:24:31 → 00:24:34 >> อาจจะเปลืองตัววัตถุดิบนิดนึงเท่านั้นเอง
00:24:34 → 00:24:37 พวกนี้ก็เป็นการฝึกสมองอืม
00:24:37 → 00:24:40 ยิ่งบ่อยๆมันก็ยิ่งเก่ง
00:24:40 → 00:24:43 >> เทรนบ่อยๆก็คือควรจะเทรนทุกวันคะถ้าถ้า
00:24:43 → 00:24:45 สมมติเชื่อว่าหลายๆคนก็จะคิดว่าตัวเอง
00:24:45 → 00:24:48 เป็นคนขี้ลืมแต่ก็เอก็เหมือนเหมือนทำใจ
00:24:48 → 00:24:50 แล้วก็ก็ขี้ลืมอยู่อย่างเงี้แหละแต่ถ้า
00:24:50 → 00:24:52 สมมุติว่าเขารู้สึกว่าอยากจะเฮึบฉันอยาก
00:24:52 → 00:24:54 จะพัฒนาสมองเนี่ยควรจะเทรนบ่อยขนาดไหนคะ
00:24:55 → 00:24:57 >> จริงๆทำทุกโอกาสที่ทำได้ครับ
00:24:57 → 00:24:59 >> ถ้าเกิดไม่ได้ทำให้เราเหนื่อยหรือเครียด
00:24:59 → 00:25:01 เกินไปแต่วันไหนแบบทำไปเหนื่อยๆแล้วฉันจะ
00:25:02 → 00:25:05 ต้องมานั่งนึกว่าจะต้องซื้ออะไรอีกคงแบบ
00:25:05 → 00:25:06 คงกำัด
00:25:06 → 00:25:07 >> สมองร้าวกว่าเดิมใช่มั้คะ
00:25:07 → 00:25:08 >> ใช่ครับ
00:25:08 → 00:25:12 >> ทีเนี้ยคำถามต่อมาที่คนเยกังวลเพราะว่าใน
00:25:12 → 00:25:15 ครอบครัวเขามีประวัติคนเป็นอัลไซเมอร์ถ้า
00:25:15 → 00:25:17 คนที่บ้านเป็นอัลไซเมอร์เนี่ยมันจะเพิ่ม
00:25:17 → 00:25:20 เปอร์เซ็นต์ให้เราสมองเสื่อมมากขึ้นจริง
00:25:20 → 00:25:20 มั้ยคะ
00:25:20 → 00:25:22 >> เริ่มก่อนว่าอัลไซเมอร์เนี่ยจะเจอในคน
00:25:22 → 00:25:24 อายุ 40 ขึ้นไปนะฮะอค่ะ
00:25:24 → 00:25:28 >> เอ่อแล้วก็มันจะมีการศึกษาว่าถ้าอายุ 45
00:25:28 → 00:25:30 ขึ้นไปเนี่ยตลอดหลังจากนั้นทั้งชีวิตอ่ะ
00:25:30 → 00:25:32 ความเสี่ยงเท่าไหร่ในคนทั่วไปที่ไม่ได้มี
00:25:32 → 00:25:35 ความเสี่ยงเอ่อในประในครอบครัวนะฮะ
00:25:35 → 00:25:38 >> ในผู้หญิงจะ 12%
00:25:38 → 00:25:38 >> อื
00:25:38 → 00:25:40 >> ผู้ชายแค่ 6%
00:25:40 → 00:25:43 >> อุยผู้ชายโชคดีจังเลยค่ะ
00:25:43 → 00:25:45 >> คือเคาดว่าอาจจะเป็นฮอร์โมนที่ฮอร์มูลผู้
00:25:45 → 00:25:48 หญิงเนี่ยเคยปกป้องแต่ว่าพอฮอร์โมนมันหมด
00:25:48 → 00:25:49 แล้ว
00:25:49 → 00:25:50 >> มันก็เริ่มไม่ปกป้อง
00:25:50 → 00:25:52 >> ไม่มีคนปกป้องฉันแล้วใช่มั้คะ
00:25:52 → 00:25:54 >> แต่ไม่ใช่ให้ไปกินฮอร์โมนเสริมนะอันนั้น
00:25:54 → 00:25:55 มันมันมันไม่เหมือนกัน
00:25:55 → 00:25:56 >> อืโอเคค่ะ
00:25:56 → 00:25:59 >> เอ่อส่วนถ้าเกิดว่ามีคนในครอบครัวที่เป็น
00:25:59 → 00:26:02 สายตรงเช่นพ่อแม่พี่น้องที่เป็นสายตรง
00:26:02 → 00:26:04 >> เนี่ยเพิ่มความเสี่ยง 2- ถึง 3 เท่า
00:26:04 → 00:26:05 >> โอ
00:26:05 → 00:26:07 >> เอ่อเยอะเนี่ยระดับนึงแต่ว่าถามว่าเยอะ
00:26:07 → 00:26:08 มั้มันก็ไม่ได้แบบเป็นแน่นอน
00:26:09 → 00:26:11 >> ถ้าทั้งพ่อทั้งแม่เป็นเนี่ยเพิ่มความ
00:26:11 → 00:26:13 เสี่ยง 6 เท่าประมาณนะฮะ
00:26:13 → 00:26:16 >> ซึ่งเพราะว่าถ้าเป็นทั้งพ่อทั้งแม่เนี่ย
00:26:16 → 00:26:19 แปลว่ามันมีเอ่อยีนมีพันธุกรรมที่มัน
00:26:19 → 00:26:22 เพิ่มความเสี่ยงอยู่ฮะมันก็เลย
00:26:22 → 00:26:24 >> แปลว่าเรามีโอกาสเป็นสูงมากๆ
00:26:24 → 00:26:28 >> อืฉะนั้นค่ะถามเผื่อคนที่ทั้งมีประวัติใน
00:26:29 → 00:26:32 ครอบครัวที่มีเป็นภาวะสมอเสื่อมกับคนที่
00:26:32 → 00:26:34 ไม่เป็นเลยว่าถ้าชีวิตนี้จะไม่สมองเสื่อม
00:26:35 → 00:26:37 และไม่เป็นแอลไซเมอร์ควรจะดูแลสุขภาพยัง
00:26:37 → 00:26:41 ไงคะถ้ายังทันหลีกเลี่ยงอย่าเป็นเบาหวาน
00:26:41 → 00:26:42 >> อย่าเป็นเบาหวาน
00:26:42 → 00:26:45 >> อย่าไขมันสูงอย่าความดันสูงนะฮะแต่หลีก
00:26:45 → 00:26:46 เลี่ยงไปก่อน
00:26:46 → 00:26:46 >> ค่ะ
00:26:46 → 00:26:50 >> และถ้าเกิดว่าทั่วไปเราออกกำลังกายสม่ำ
00:26:50 → 00:26:50 เสมอ
00:26:50 → 00:26:51 >> อื
00:26:51 → 00:26:53 >> ออกกำลังกายนี้จะพูดทุกอันเลย
00:26:53 → 00:26:54 >> เพราะว่ามันดี
00:26:54 → 00:26:58 >> ออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์ออกให้ได้
00:26:58 → 00:27:01 เหงื่อนะไม่ใช่เดินเฉยๆสบายๆและแนะนำว่า
00:27:01 → 00:27:04 ให้ยกน้ำหนักด้วยเสริมกล้ามเนื้อลดไขมัน
00:27:04 → 00:27:06 ก็ลดการอักเสบในร่างกายแล้วถ้ามีกล้าม
00:27:06 → 00:27:09 เนื้อเยอะมันจะช่วยดูดน้ำตาลไปใช้ได้ด้วย
00:27:09 → 00:27:12 ฮะนั้นโอกาสที่จะเป็นเบาหวานก็น้อยลงอื่น
00:27:12 → 00:27:14 ๆคือถ้าเกิดว่าเป็นเบาหวานแล้วคุมเบาหวาน
00:27:14 → 00:27:17 ให้ดีนะมันจะมีน้ำตาลสะสมที่ HBA1C ต่ำ
00:27:17 → 00:27:22 กว่า 7 นะฮะไขมันไขมันเลว LDL ต่ำกว่า 100
00:27:22 → 00:27:22 >> โอเค
00:27:22 → 00:27:25 >> แล้วก็ความดันอันเนี้ความดันของทุกคนเลย
00:27:25 → 00:27:29 นะฮะถ้าต่ำกว่า 130 เนี่ยพบว่าสมองเสื่อม
00:27:29 → 00:27:30 น้อยลง
00:27:30 → 00:27:30 >> อู้
00:27:30 → 00:27:31 >> ใช่ครับ
00:27:31 → 00:27:34 >> อือืโอเคค่ะจริงๆมันก็คือเริ่มต้นจากการ
00:27:34 → 00:27:36 ดูแลตัวเองแบบเบสิคนี่แหละเนาะนะคะ
00:27:36 → 00:27:38 >> ใช่เรื่องกินด้วยอย่างที่เราบอกเรื่องลำ
00:27:38 → 00:27:39 ไส้นะฮะ
00:27:39 → 00:27:42 >> เรื่องกินเนี่ยเราพวกเมดิทอรเรเนียนน่ะดี
00:27:42 → 00:27:45 เพราะว่ามันช่วยลดการอักเสบกินโปรไบอติก
00:27:45 → 00:27:46 ก็ช่วยนะฮะ
00:27:46 → 00:27:49 >> อถ้าไม่อยากสมองเสื่อมต้องกินอะไรอ่ะค่ะ
00:27:49 → 00:27:51 >> อืแหมถ้าเกิดเราไม่ชอบอาหารที่ผมพูดจะทำ
00:27:51 → 00:27:52 ยังไงเนี่ยถ้า
00:27:52 → 00:27:53 >> ต้องชอบแล้วล่ะค่ะตอนนี้
00:27:53 → 00:27:58 >> เน้นผักผลไม้กากใหญ่ธัญพืชแล้วก็ปลานะ
00:27:58 → 00:27:59 ครับอ
00:27:59 → 00:28:02 >> แล้วก็รสพวกแป้งเนื้อแดงแงแล้วก็อาหารมัน
00:28:02 → 00:28:03 ๆ
00:28:03 → 00:28:06 >> แล้วมีผักเอ่อหรือธัญพืชหรือปลาอันไหน
00:28:06 → 00:28:09 เป็นพิเศษมั้คะจะได้รีบไปซื้อตามคุณหมอ
00:28:09 → 00:28:09 เลยค่ะ
00:28:09 → 00:28:10 >> ผักกับธัญพืชอ่ะได้หมดเลย
00:28:11 → 00:28:11 >> อื
00:28:11 → 00:28:14 >> แต่ปลาปลาจริงๆปลาอะไรก็ได้ไม่ได้จำเป็น
00:28:14 → 00:28:16 ต้องปลาหรูหราไม่ได้ต้องเป็นแซลมอนเป็น
00:28:17 → 00:28:19 อะไรปลาดุกปลาช่อน
00:28:19 → 00:28:21 >> ปลาทูอย่างงี้ก็ได้เหมือนกันครับอ
00:28:21 → 00:28:25 >> อืต้องกินทุกวันเลยมั้คะเพื่อให้เพื่อให้
00:28:25 → 00:28:27 มันบำรุงสมองอครับจริงปลาเนี่ยสักอาทิตย์
00:28:27 → 00:28:30 ละ 2 วันก็พอครับ 2-3 วันก็เกินพอพอแล้ว
00:28:31 → 00:28:32 เพราะมันได้โอเมก้า 3 พอแล้ว
00:28:32 → 00:28:33 >> อืค่ะ
00:28:33 → 00:28:35 >> ส่วนผักเนี่ยจริงๆผักเนี่ยมันจะต้องกิน
00:28:35 → 00:28:36 ค่อนข้างเยอะ
00:28:37 → 00:28:38 >> นั้นกินทุกวันไปเลย
00:28:38 → 00:28:38 >> อื
00:28:38 → 00:28:41 >> ค่ะแล้วก็เคยได้ยินมาค่ะเขาบอกว่ากินแปะ
00:28:41 → 00:28:43 ก๊วยช่วยบำรุงสมองจริงมั้ยคะ
00:28:43 → 00:28:48 >> ผมชอบกินแปะก๊วยนะอร่อยดีเออแต่มันอาจจะ
00:28:48 → 00:28:51 ไม่ได้ช่วยมากนะครับอันนี้ไม่ชัดเจนอ
00:28:51 → 00:28:51 >> อื
00:28:51 → 00:28:53 >> แต่ถ้าชอบกินอยู่แล้วก็กินได้ครับไม่มี
00:28:53 → 00:28:54 ปัญหา
00:28:54 → 00:28:56 >> ยังไม่ชัดเจนนะที่นี้ก็คือว่าจริงๆแล้ว
00:28:56 → 00:28:57 มันนก็อาจจะช่วยได้แหละแต่ว่าอาจจะยังไม่
00:28:57 → 00:28:59 ได้มีรีเสิร์ชหรือมีpapเปอรหรือสyมากถ้า
00:28:59 → 00:29:02 ไม่ได้ชอบกินไม่ต้องกินนะครับโอเค
00:29:02 → 00:29:02 >> ดีกว่า
00:29:02 → 00:29:05 >> สุดท้ายนิดนึงค่ะเพราะว่าเราอยู่ในยุคของ
00:29:05 → 00:29:08 AI กำลังมาแรงใช่มั้คะแล้วก็เรื่อง
00:29:08 → 00:29:10 เดี๋ยวเนี้ยอย่างที่คุณหมอได้มีการอธิบาย
00:29:10 → 00:29:12 ไปว่าจริงๆแล้วถ้าเราอยากไม่อยากเป็นคน
00:29:12 → 00:29:14 ขี้ลืมเนี่ยต้องคอยฝึกสมองต้อง
00:29:15 → 00:29:17 >> ลองฝึกความจำบ้างบวกเลขบ้างอะไรอย่าง
00:29:17 → 00:29:19 เงี้ยค่ะแต่ว่าทุกวันเนี้ย
00:29:19 → 00:29:22 >> แค่เราเราแทบจะไม่คิดเองแล้วค่ะเพราะว่า
00:29:22 → 00:29:25 เราให้ AI พิมพ์เข้าไปในแชทให้มันคิดให้
00:29:25 → 00:29:28 ก็เลยอยากจะถามคุณหมอว่ามันจะส่งผลมั้ยคะ
00:29:28 → 00:29:30 ถ้าสมมุติว่าเราใช้แชท II บ่อยๆเนี่ยจะทำ
00:29:30 → 00:29:33 ให้สมองเราเบลอเอ๋อแล้วเสื่อบมั้คะ
00:29:33 → 00:29:36 >> มันมีการศึกษาในต่างประเทศนะอันนึงเล็กๆ
00:29:36 → 00:29:38 เองนะมันอาจจะบอกอะไรมากไม่ได้แต่ว่า
00:29:38 → 00:29:41 เปรียบเทียบคนที่มาเขียนเอเสที่เราใช้ AI
00:29:41 → 00:29:43 กับเขียนเอเสโดยทำเองแล้วมาดูสมองในตอน
00:29:43 → 00:29:46 สุดท้ายเนี่ยพบว่าคนที่ใช้ AI เนี่ยมันมี
00:29:46 → 00:29:48 การทำงานของสมองน้อยกว่าเยอะ
00:29:48 → 00:29:49 >> อื
00:29:49 → 00:29:53 >> แต่มันก็ไม่ได้จำเป็นเสมอถ้าเราใช้ AI
00:29:53 → 00:29:55 แล้วเราก็แค่พิมพ์เข้าไปแล้วเราก็โอ้ได้
00:29:55 → 00:30:00 แล้วก็จบแน่สิมันก็ไม่ได้คิดไม่ได้แบบไม่
00:30:00 → 00:30:02 ได้ใช้ความคิดเลยว่าอันนี้ถูกอันนี้ผิด
00:30:02 → 00:30:03 อันนี้มัน
00:30:03 → 00:30:05 >> เจ๋งหรือยังอันนี้มันดีหรือยังแต่ถ้าเรา
00:30:06 → 00:30:08 ใช้ AI โดยการทำให้เราเก่งขึ้น
00:30:08 → 00:30:09 >> อื
00:30:09 → 00:30:12 >> ใช้ AI กับแทสที่ง่ายๆเราจะได้มีเวลาที่
00:30:13 → 00:30:16 เหลือเอาไปทำอะไรแบบเจ๋งๆคิดอะไรดีๆคิด
00:30:16 → 00:30:17 ไอเดียใหม่ๆ
00:30:17 → 00:30:19 >> เนี่ยมันก็ได้ใช้ความคิดแล้วก็ทำให้เรา
00:30:19 → 00:30:22 เก่งขึ้นด้วยนะฮผมคิดว่าการใช้ AI ไม่ได้
00:30:22 → 00:30:25 จำเป็นจะต้องทำให้สมองเราฝ่อเร็วทำให้เรา
00:30:25 → 00:30:26 โง่ลง
00:30:26 → 00:30:29 >> แต่ว่าต้องใช้ให้ถูกระวังใช้ไปเยอะๆแล้ว
00:30:29 → 00:30:31 มันทำให้เราขี้เกียจเพราะโอ๊ยมันได้แล้ว
00:30:31 → 00:30:32 อ่ะมันดูดีด้วย
00:30:32 → 00:30:35 >> มันก็พอถ้าพออย่างเงี้ยมันก็
00:30:35 → 00:30:37 >> จะทำให้เราสมองช้าลงครับ
00:30:37 → 00:30:39 >> โอวันนี้ได้ความรู้เรื่องสมองแน่นอีกแล้ว
00:30:39 → 00:30:42 นะคะอยากให้คุณหมอฝากทิ้งท้ายนิดนึงค่ะ
00:30:42 → 00:30:45 เรื่องเรื่องความจำเพราะหลายคนก็น่าจะ
00:30:45 → 00:30:48 เป็นคนขี้ลืมแล้วยิ่งอายุมากก็ยิ่งลืมนะ
00:30:48 → 00:30:51 คะว่าเอ่อมีเทคนิคหรือว่ามีอะไรมยทำให้
00:30:51 → 00:30:52 เขา้า
00:30:52 → 00:30:53 >> ความจำดีขึ้นบ้างค่ะ
00:30:53 → 00:30:57 >> ครับจริงความจำเนี่ยต้องเริ่มตั้งแต่เด็ก
00:30:57 → 00:30:57 >> อื
00:30:57 → 00:31:00 >> เพราะว่าถ้าเกิดว่ามันไปถึงอายุเยอะหน่อย
00:31:00 → 00:31:03 แล้วเริ่มมีความจำเสื่อมแล้วเนี่ยแปลว่า
00:31:03 → 00:31:05 สมองเนี่ยมันหายไปอย่างน้อย 40% แล้วครับ
00:31:05 → 00:31:08 ถึงจะเริ่มมีอาการมันต้องเริ่มตั้งแต่
00:31:08 → 00:31:10 ก่อนหน้านั้นเพราะว่าเ่อพยาธิสภาพเนี่ย
00:31:10 → 00:31:12 มันจะเริ่มประมาณ 5-10 ปีก่อนที่จะมี
00:31:12 → 00:31:13 อาการ
00:31:13 → 00:31:13 >> อื
00:31:13 → 00:31:17 >> งั้นถ้าเราอายุ 30-40 เนี่ยเราควรจะเริ่ม
00:31:17 → 00:31:19 ทำตัวให้ดีทำตัวให้สุขภาพดี
00:31:19 → 00:31:21 >> ตอนอายุ 60 เราจะได้
00:31:21 → 00:31:22 >> ใช่ครับดื่มเหล้าให้เหมาะสม
00:31:22 → 00:31:23 >> ค่ะ
00:31:23 → 00:31:25 >> และถ้าสูบบุหรี่เนี่ยอันนี้ตัวอันนี้ตัว
00:31:25 → 00:31:28 ร้ายสุดเลยลืมพูดไปต้องหยุดนะฮะส่วน PM
00:31:28 → 00:31:31 2.5 5 นี้บางทีมันช่วยไม่ได้ก็อาจจะ
00:31:31 → 00:31:33 ต้องใส่หน้ากากเวลาออกจากบ้านถ้าเกิด
00:31:33 → 00:31:34 จำเป็นนะ
00:31:34 → 00:31:34 >> ค่ะ
00:31:34 → 00:31:37 >> ในส่วนของอาหารเสริมถ้าเกิดว่าจะเป็น
00:31:37 → 00:31:39 อาหารเสริมของในเรื่องสมองเสื่อมเหมือน
00:31:39 → 00:31:43 กันเลยวิตามินบีอ่าแต่ที่เสริมมาอื่นๆคือ
00:31:43 → 00:31:46 respiratal คือสารสกัดจากเปลือกองุ่นนะ
00:31:46 → 00:31:49 ฮะถ้ากินในปริมาณสูงเนี่ยอาจจะช่วยลดสมอง
00:31:49 → 00:31:53 เสื่อมได้กลไกของมันก็คือทำให้เซลล์เนี่ย
00:31:53 → 00:31:55 แหล่งพลังงานในเซลล์เนี่ยทำงานได้ดีขึ้น
00:31:55 → 00:31:58 ดังนั้นโอกาสที่มันจะเสื่อมมันก็น้อยลงนะ
00:31:58 → 00:31:58 ครับอ
00:31:58 → 00:32:00 >> อือืค่ะหลายคนก็เลยหันมากินไวายพอเขาบอก
00:32:00 → 00:32:05 ว่าYวก็มีrespวเนี่ยมันทำให้สมองเราไทได้
00:32:05 → 00:32:06 จริงมั้คะหมอ
00:32:06 → 00:32:09 >> Y เนี่ยเป็นคำถามหลักเลยกับ respiratal
00:32:09 → 00:32:12 แต่ถ้ากินไวให้พอจำนวน respatal ที่อยาก
00:32:12 → 00:32:15 ให้กินเนี่ยแต่ต้องกินไวประมาณ 5 ขวดต่อ
00:32:15 → 00:32:15 วัน
00:32:15 → 00:32:17 >> โหซึ่ง
00:32:17 → 00:32:18 >> 5 ขวดต่อวัน
00:32:18 → 00:32:22 >> ซึ่งซึ่งน่าจะแย่น่าจะแย่ต่อตับก่อนเลย
00:32:22 → 00:32:22 >> อื
00:32:22 → 00:32:24 >> คุณหมอตับน่าจะเตรียมะ
00:32:24 → 00:32:27 >> คุณหมอตับก็น่าจะมาตีแล้วว่าไม่ได้ไม่ได้
00:32:27 → 00:32:30 >> แล้วก็สมองก็เหมือนกันฮะคือสมองถ้าได้รับ
00:32:30 → 00:32:33 เหล้าเยอะๆเรื้อรังมันก็ทำให้เสื่อมของ
00:32:33 → 00:32:34 มันได้เช่นกัน
00:32:34 → 00:32:35 >> จะได้จดไว้ค่ะ
00:32:35 → 00:32:36 >> จะได้ดื่มน้อยๆ
00:32:36 → 00:32:39 >> จะได้ดื่มน้อยๆนะคะค่ะก็ถ้าใครนะคะมีคำ
00:32:39 → 00:32:41 ถามเรื่องสมองเพิ่มเติมนะคะไม่ว่าจะเป็น
00:32:41 → 00:32:43 เรื่องความจำที่วันนี้เราได้พูดคุยกันนะ
00:32:43 → 00:32:46 คะหรือว่าถ้าใครมีความสงสัยเรื่องอ่าการ
00:32:46 → 00:32:49 ปวดหัวไมเกรนก็สามารถไปย้อนดูอ่าเทปก่อน
00:32:49 → 00:32:51 ได้นะคะหรือว่าถ้ามีคำถามเพิ่มเติมก็
00:32:51 → 00:32:53 สามารถพิมพ์เข้ามาในคทentได้เหมือนกัน
00:32:53 → 00:32:56 เดี๋ทางทีมงานก็จะรวบรวมนะคะแล้วก็มาถาม
00:32:56 → 00:32:59 คุณหมอใหม่ใน EP EP หน้านะคะสำหรับวัน
00:32:59 → 00:33:01 นี้ลาไปก่อนแล้วเจอกันใน EP หน้าสวัสดี
00:33:01 → 00:33:02 ค่ะ
00:33:02 → 00:33:06 >> สวัสดีครับ