00:00:00 → 00:00:04 อาจารย์คะเจ้ากลูเตนเนี่ยมันเป็นเอ่อ
00:00:04 → 00:00:07 อาหารประเภทอะไรมันเป็นส่วนผสมอย่างไร
00:00:08 → 00:00:10 อาจารยอธิบายนิดนึงให้เราได้รับรู้เบื้อง
00:00:10 → 00:00:14 ต้นค่ะค่ะได้ค่ะเอ่อที่เรารู้จักกันเรียก
00:00:14 → 00:00:17 กันว่ากลูเตนเนี่ยจริงๆมันเป็นเอ่อเขาค
00:00:17 → 00:00:20 เรียกว่าเป็นโปรตีนชนิดนึงนะคะที่สามารถ
00:00:20 → 00:00:23 พบได้ในธัญพืชแต่ว่าก็ไม่ได้หมายความว่า
00:00:23 → 00:00:26 ธัญพืชทุกชนิดเนี่ยจะมีตัวกลูเตนเป็นส่วน
00:00:27 → 00:00:30 ประกอบซึ่งที่เราจะเค้าเรียกว่าเห็นกัน
00:00:30 → 00:00:33 บ่อยๆว่ากลูเตนเนี่ยเป็นส่วนประกอบเอ้ย
00:00:33 → 00:00:35 เป็นส่วนนึงในธัญพืชเนี่ยก็คือจะเป็น
00:00:35 → 00:00:39 ธัญพืชที่เป็นพวกข้าวสาลีข้าวลายหรือว่า
00:00:39 → 00:00:43 ข้าวบาเล่อ่ะค่ะที่จะมีกลูเตนเยอะๆค่ะอื
00:00:43 → 00:00:48 ครับค่ะคำว่าเพราะฉะนั้นเราจะอนุโลมให้
00:00:48 → 00:00:51 ว่ากลูเตนเนี่ยมันอยู่ในพวกแป้งสาลีเป็น
00:00:51 → 00:00:53 ส่วนมากได้ใช่มั้ยคะอาจารย์คใช่ค่ะก็จะ
00:00:53 → 00:00:57 เป็นส่วนประกอบหลักเลยในในแป้งสาลีอ่ะค่ะ
00:00:57 → 00:00:59 เพราะว่าจริงๆแล้วลักษณะของกลูเตนเนี่ย
00:01:00 → 00:01:03 มันก็มีประโยชน์ก็คือมันจะมีลักษณะเอ่อ
00:01:03 → 00:01:07 เหนี่ยวนุ่มนะคะแล้วก็จะมีเอ่อเป็นการกัก
00:01:07 → 00:01:10 เก็บก๊าซได้ดีอ่ะค่ะก็จะทำให้รสสัมผัสของ
00:01:10 → 00:01:16 อาหารเนี่ยอร่อยขึ้นค่ะอือืค่ะค่ะอาจารย์
00:01:16 → 00:01:20 คะในคำว่ากลูเตนเนี่ยทำไมหลายคนเนี่ยถึง
00:01:20 → 00:01:23 เขาจะมีอาการที่เขาเรียกว่าแพ้กลูเตนแล้ว
00:01:24 → 00:01:26 ก็เท่าที่เราเห็นในโซเชียลทุกวันนี้มันก็
00:01:27 → 00:01:30 จะบอกว่าโอเราจะต้องระมัดระวังวังนะ
00:01:30 → 00:01:33 กลูเตนจะเข้าไปเอ่อเค้าเรียกว่ามี
00:01:33 → 00:01:36 ปฏิกิริยากับเรื่องของลำไส้ค่ะอาจารย์คะ
00:01:36 → 00:01:40 อือต้องต้องบอกก่อนว่าเราต้องแยกเป็น
00:01:40 → 00:01:43 กลุ่มคน 2 ประเภทก่อนนะคะคือปกติแล้วโดย
00:01:43 → 00:01:46 คนปกติทั่วไปเนี่ยก็จะไม่ได้มีอาการแพ้
00:01:46 → 00:01:50 กลูเตนแต่ว่าในกลุ่มคนบางบางประเภทซึ่งก็
00:01:50 → 00:01:54 ไม่ได้มีมากก็สักประมาณสัก 1% นะคะที่จะ
00:01:54 → 00:01:58 มีอาการแพ้ตัวกูเตนซึ่งก็จะแบ่งเป็น 3
00:01:58 → 00:02:02 ลักษณะด้วยกันนะคะค่ะเอ่อก็จะมีในเรื่อง
00:02:02 → 00:02:05 ของภาวะที่เขาเรียกว่าโรค CD นะคะหรือว่า
00:02:05 → 00:02:08 CD disease โรคอันเนี้ยค่ะมันจะเป็นโรค
00:02:08 → 00:02:12 ทางพันธุกรรมที่จะเป็นเรื่องของการแพ้
00:02:12 → 00:02:15 ภูมิตัวเองอ่ะค่ะแล้วก็จะเขาเรียกว่าจะ
00:02:15 → 00:02:19 สร้างสารต้านต้านตัวกลูเตนที่เข้าไปสู่ใน
00:02:19 → 00:02:23 ร่างกายทำให้ไม่สามารถย่อยกลูเตนได้ค่ะอ
00:02:23 → 00:02:25 ครับนี้ก็จะเป็นโรคแต่ว่าเป็นโรคทาง
00:02:25 → 00:02:28 พันธุกรรมซึ่งถ้าสมมุติว่าคนสงสัยว่ากิน
00:02:28 → 00:02:31 อาหารไปแล้วเอ๊ะเราเป็นโรคทางพันธุกรรม
00:02:31 → 00:02:34 แบบนี้มก็สามารถเ้าเรียกว่าไปตรวจในห้อง
00:02:34 → 00:02:38 แลบหรือว่าวินิจฉัยทางการแพทย์ได้อ่ะค่ะ
00:02:38 → 00:02:41 ก็คือตรวจอเค้าเรียกว่าตรวจรหัสพันธุกรรม
00:02:41 → 00:02:45 ว่ามีการแพรมอย่างเงี้ยค่ะออืออแต่สวรย
00:02:46 → 00:02:49 ส่วนใหญ่ที่ที่เห็นกลูเตนเนี่ยก็คือมัน
00:02:49 → 00:02:52 อยู่ในพวกเอ่อมันแปรรูปมาแล้วซะเยอะนะ
00:02:52 → 00:02:56 เอ่อเป็นขนมปังบ้างเป็นอะไรพวกนี้บ้างอ่ะ
00:02:56 → 00:03:00 เอ่อแสดงว่าคนส่วนน้อยกลุ่มเนี้ยเอ่อเขา
00:03:00 → 00:03:04 ก็จะต้องมีอาการที่ปรากฏมาให้ให้เห็นงใช่
00:03:04 → 00:03:06 มั้ยครับว่าเป็นข้อสังเกตอ่ะคุณหมอเพราะ
00:03:06 → 00:03:08 คนเราต้องกินแบบนี้อยู่แล้วใช่มั้ยคะก็ก็
00:03:08 → 00:03:11 จะมีอีกกลุ่มนึงเมื่อสักครู่พูดไปอีก 1
00:03:11 → 00:03:13 กลุ่มแล้วใช่มั้ยคะอีก 2 กลุ่มเนี่ยก็คือ
00:03:13 → 00:03:16 จะเป็นลักษณะของคนที่แพ้ข้าวสาลีหมายถึง
00:03:16 → 00:03:18 ว่าแพ้แป้งข้าวสาลีเลยอ่ะขัดข้าวตัวข้าว
00:03:18 → 00:03:21 สาแป้งข้าวสาลีอ่าใช่ค่ะเพราะฉะนั้นถ้า
00:03:21 → 00:03:24 กินอาหารที่มีส่วนประกอบของข้าวสาลีเข้า
00:03:24 → 00:03:27 ไปเนี่ยก็จะมีอาการแพ้แต่อาการแพ้มันก็จะ
00:03:27 → 00:03:31 ไม่รุนแรงเหมือนกับโรค CD ซีนะคะก็คือถ้า
00:03:31 → 00:03:34 แพ้ข้าวสาลีเนี่ยมันก็จะอาจแสดงอาการเช่น
00:03:34 → 00:03:38 เป็นเอ่อเหมือนลมพิษเป็นเเรียกบวมแดงอะไร
00:03:38 → 00:03:40 อย่างเงี้ยค่ะก็แสดงอาการออกมาให้เห็นอัน
00:03:40 → 00:03:43 นี้ก็จะเป็นลักษณะเหมือนภูมิแพ้ทั่วๆไป
00:03:43 → 00:03:48 อ่ะค่ะอืออเป็นภูมแพ้ทางผิวหนังอีกกลุ่ม
00:03:48 → 00:03:52 นึงก็จะมีเาเรียกว่ามีภาวะวัยต่อกลูเตนนะ
00:03:52 → 00:03:55 คะก็คืออย่างที่บอกว่าถ้าเป็นภาวะไวยต่อ
00:03:55 → 00:03:57 กลูเตนนี่ก็คือร่างกายเราอ่ะในลำไส้เรา
00:03:57 → 00:04:01 อ่ะไม่ย่อยไม่ย่อยกลูเตนอือค่ะก็จะรู้สึก
00:04:01 → 00:04:04 ว่ากินเข้าไปก็จะท้องอืดหรือว่าท้องเสีย
00:04:04 → 00:04:07 อย่างเงี้ยค่ะปวดท้องได้มวลท้องได้ค่ะก็
00:04:07 → 00:04:11 จะไม่ได้รุนแรงเท่ากับประเภทแรกค่ะอือใน
00:04:12 → 00:04:14 กลุ่มนี้ก็สามารถตรวจได้เหมือนกันแต่ว่า
00:04:14 → 00:04:16 ก็จะเป็นการตรวจในเเรียกว่าในในห้อง
00:04:16 → 00:04:18 ปฏิบัติการเนี่ยก็คือที่เราเรียกกันว่า
00:04:18 → 00:04:21 Skin Test ก็คือเนี่ยค่ะเป็นการแพ้ทด
00:04:21 → 00:04:25 สอบการแพ้ค่ะอืจริงๆแล้วเราต้องต้องกลัว
00:04:26 → 00:04:27 เจ้ากูเตนมั้ยครับหรือว่าจริงๆแล้วเขาก็
00:04:27 → 00:04:30 มีประโยชน์ต่อต่อรร่างกายของแต่ละคน
00:04:30 → 00:04:33 เหมือนกันออก็อย่างที่บอกว่าถ้าเป็นกลุ่ม
00:04:33 → 00:04:36 คนปกติที่เรากินแล้วไม่ได้มีปฏิกิริยาต่อ
00:04:37 → 00:04:40 ตัวกลูเตนในในทั้งข้าวสาลีข้าวลายข้าว
00:04:40 → 00:04:42 บาเล่เนี่ยก็สามารถกินได้เพราะอย่างที่
00:04:42 → 00:04:45 บอกว่ามันคือกลุ่มโปรตีนเนาะกลุโปรตีน
00:04:45 → 00:04:50 จริงๆแล้วตัวกลูเตนเนี่ยค่ะในข้าวสาลีเซน
00:04:50 → 00:04:53 1/4 ถ้วยเนี่ยมีตัวกลูเตนที่เป็นโปรตีน
00:04:53 → 00:04:56 เนี่ยก็คือจริงๆโปรตีนก็บอกอย่างที่รู้
00:04:56 → 00:04:58 ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายเหมือนเนื้อสัตว์
00:04:58 → 00:05:03 ชนิดนึงก็จะประมาณ 23 กรัมนะคะซึ่งก็มาก
00:05:03 → 00:05:05 กว่าปริมาณเนื้อหมูด้วยซ้ำที่เรากินเข้า
00:05:05 → 00:05:08 ไปหรือเื้อสัตว์อื่นๆนะคะอสมมุติว่าเราจะ
00:05:08 → 00:05:11 เทียบง่ายๆนะคะอาจารย์คะเรากินขนมปังที่
00:05:11 → 00:05:13 เรากินกันอยู่ทุกวันเนี้ยเรากินขนมปัง
00:05:13 → 00:05:16 แผ่นขนมปังปิ้งอะไรอย่างเงี้ยในกลูเตน
00:05:16 → 00:05:18 เนี่ยมันจะมีเยอะขนาดไหนแล้วก็ถ้าคนที่
00:05:18 → 00:05:21 แพ้เนี่ยเขาแพ้ได้เลยมั้ยคะขนมปังปิ้ง 1
00:05:21 → 00:05:24 แผ่นอะไรเงี้ยค่ะจริงๆต้องบอกว่าถ้าถ้า
00:05:24 → 00:05:28 สมมุติว่าคนที่มีอาการแพ้เนี่ยค่ะต้อง
00:05:28 → 00:05:30 หลีกเลี่ยงเลยเพราะว่าออเหรอค่ะขนมปัง
00:05:30 → 00:05:32 หรือว่าเบเกอรี่ส่วนใหญ่เนี่ยก็จะทำมาจาก
00:05:33 → 00:05:36 แป้งข้าวสาลีแป้งที่ทำมาจากข้าวสาลีอ่ะ
00:05:36 → 00:05:39 ค่ะเพราะฉะนั้นก็จะมีกูเตนเป็นส่วนประกอบ
00:05:39 → 00:05:42 ต่อให้มีปริมาณมากน้อยแตกต่างกันถ้าถ้า
00:05:42 → 00:05:45 แผ้หรือว่าภูมิคุ้มกันของแต่ละคนที่แพ้
00:05:45 → 00:05:48 เนี่ยไม่เหมือนกันอาการรุนแรงก็จะแตกต่าง
00:05:48 → 00:05:51 กันนะคะอืเขาจะทานไม่ได้เลยว่างั้นนะคะ
00:05:51 → 00:05:53 อาจารย์ใช่เพราะฉะนั้นอาจจะต้องสังเกตนิด
00:05:53 → 00:05:57 นึงสำหรับคนที่กินพวกผลิตภัณฑ์เบเกอรี่
00:05:57 → 00:06:01 หรือว่าเส้นพาสต้าหรือคืออาหารที่มีแป้ง
00:06:01 → 00:06:03 ข้าวสาลีเป็นส่วนประกอบอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:06:03 → 00:06:07 ก็ต้องอ่านฉลากอเขาก็จะมีเขียนไว้ว่า
00:06:07 → 00:06:11 สำหรับผู้ที่แพ้อือ่าว่าข้อมูลผู้แพ้อ่ะ
00:06:11 → 00:06:14 ค่ะว่ามีกูนเป็นส่วนประกอบหรือว่าในบาง
00:06:14 → 00:06:17 อาหารบางชนิดเดี๋ยวนี้ก็เขาเรียกว่าเป็น
00:06:17 → 00:06:20 ทางเลือกกับคนที่อยากกินเบเกอรี่เนาะแต่
00:06:20 → 00:06:23 ว่าแพ้กูเตนในันเบเกอรี่บางชนิดก็จะเห็น
00:06:24 → 00:06:26 ว่าในฉลากโภชนาการเขาก็จะเขียนว่ากนฟรี
00:06:26 → 00:06:30 อย่างเงี้ยค่ะก็คือมีการดึงไอ้ตัวกเนี่ย
00:06:30 → 00:06:33 ออกไปครับอย่างงั้นมันจะอร่อยมยคะถ้า
00:06:33 → 00:06:35 กลูเตนออกไปเนี่ยในส่วนของความเหนียวหนึบ
00:06:35 → 00:06:37 ที่เราบอกเมันก็จะไม่มีจะมีเค้าเรียก
00:06:37 → 00:06:40 เทคโนโลยีอื่นเข้ามาทดแทนมันอาจจะไม่ได้
00:06:40 → 00:06:43 อร่อยเท่ากับกับที่ที่มีกูเตนอยู่แต่ก็
00:06:43 → 00:06:46 ใกล้เคียงค่ะ
00:06:46 → 00:06:50 อืแต่แต่ยุคสมัยนี้เราก็เห็นกันบ่อยนะพี่
00:06:50 → 00:06:54 นกที่แบบร้านเบเกอรี่แบใช่ๆเริ่มแบบคือ
00:06:54 → 00:06:57 มันมันมีเทคนิคในการปรุงอาหารค่อนข้างที่
00:06:57 → 00:07:01 จะเยอะขึ้นอค่ะบางคนแพ้นมก็ใช้สาร
00:07:01 → 00:07:03 อินทรีย์ตัวอื่นที่มันแบบจุลินทรีย์ตัว
00:07:03 → 00:07:07 อื่นที่มาช่วยในการแบบผสมเป็นเนยเป็นอะไร
00:07:07 → 00:07:11 อะไรพวกก็คือเลก็คือดึงแลคโตสออกสำหรับ
00:07:11 → 00:07:15 ผู้ที่แพ้แลคโตสในนมก็จะลักษณะใกล้เียง
00:07:15 → 00:07:18 เหมือนกันนะคะแต่ก็ต้องบอกก่อนว่าสำหรับ
00:07:18 → 00:07:21 คนที่ไม่แพ้เนี่ยก็สามารถกินกูเตนฟรีได้
00:07:21 → 00:07:25 แต่ว่าก็ไม่ได้แนะนำให้กินบ่อยก็คือถ้า
00:07:25 → 00:07:28 อยากกินก็กินได้แต่สำหรับคนที่แพ้เนี่ย
00:07:28 → 00:07:30 อย่างที่บอกว่าออาจจะต้องต้องดูราย
00:07:30 → 00:07:32 ละเอียดหรือว่าถ้าเราไปเจอผลิตภัณฑ์หรือ
00:07:32 → 00:07:35 ในร้านอาหารที่ไม่ได้มีฉลากเนี่ยเราก็อาจ
00:07:35 → 00:07:39 จะต้องสอบถามคนปรุงหรือว่าที่ร้านนิดนึง
00:07:39 → 00:07:41 ว่าอันนี้ทำมาจากอะไรมีอะไรเป็นส่วน
00:07:41 → 00:07:45 ประกอบเพื่อหลีกเลี่ยงค่ะอือันนี้เป็น
00:07:45 → 00:07:48 เป็นเป็นอาหารง่ายๆที่เอ่อเราชอบสั่งกัน
00:07:48 → 00:07:50 เช่นพิซซ่าอย่างเงี้มีกลูเตนแน่นอนเลยใช่
00:07:50 → 00:07:53 มั้คะอาจารย์ใช่ค่ะใช่ค่ะแล้วก็จะมีบาง
00:07:53 → 00:07:56 สูตรที่เขาก็จะบอกว่าเออเป็นกลูเตนฟรีก็
00:07:56 → 00:08:01 คือใช้แป้งนี้ที่ดึงตัวกออแล้วค่ะแต่ก็
00:08:01 → 00:08:05 ต้องเเรียกว่าด้วยความที่มันถูกดึงสารบาง
00:08:05 → 00:08:07 ตัวออกกรรมวิธีมันก็จะมากกว่าอันอื่น
00:08:07 → 00:08:09 เพราะฉะนั้นราคามันก็จะค่อนข้างสูงนิดนึง
00:08:09 → 00:08:14 นะคะออืก็อย่างว่ากลับมาวิธีมันโชคดีที่
00:08:14 → 00:08:17 เราไม่แพ้เติมไปนะใช่ครับเพราะว่าเห็น
00:08:17 → 00:08:21 จริงๆเอ่อพวกเบเกอรี่สูตรที่แบบต้องปรับ
00:08:22 → 00:08:24 ปรับพิเศษอะไรแบบเนี้ยหลายๆอย่างนะก็จะมี
00:08:24 → 00:08:26 มูลค่าที่เพิ่มขึ้นอีกสักนิดนึงแต่หลายๆ
00:08:27 → 00:08:29 คนก็ต้องต้องเลือกเลือกบริโภคไงเพราะว่า
00:08:29 → 00:08:32 อาจจะเลี่ยงการแพ้เลี่ยงอะไรพวกนี้ซึ่งซึ
00:08:32 → 00:08:35 มันก็เป็นของจำเป็น่ะนะของกิน
00:08:35 → 00:08:39 อือก็มีคำถามมาทันทีเลยนะคะอาจารย์ชม
00:08:39 → 00:08:42 อาจารย์เลยแหละว่าเข้าใจเลยนะคะเรื่องของ
00:08:42 → 00:08:46 กลูเตนเนี่ยเอ่อคุณพี่ประชิตก็บอกว่าถ้า
00:08:46 → 00:08:50 ทานกลูเตนประจำก็คืออยู่ในแป้งข้าวสาลี
00:08:50 → 00:08:55 อะไรอย่างเงี้ยทานประจำเนี่ยจะทำให้มีเศษ
00:08:55 → 00:09:01 คุณพี่ถามว่ามีเศษของกรดอะมิโนในเลือด
00:09:01 → 00:09:05 อืมก็คือแกไม่แพ้นี่เพราะแกทานประจำใช่
00:09:05 → 00:09:08 มั้ยคะงั้นก็ไม่มีปัญหาใช่มั้ยคะอาจารย์
00:09:08 → 00:09:11 แต่ก็ไม่ควรทานประจำเพราะว่าจริงๆแล้ว
00:09:11 → 00:09:14 เนี่ยในแป้งสาลีธรรมชาติมันก็จะมีสาร
00:09:14 → 00:09:17 อาหารตัวอื่นๆที่ไม่ได้ดึงกูเตนออกก็คือ
00:09:17 → 00:09:20 ดึงออกไปนี่คือดึงโปรตีนออกไปหมดเลยเก็
00:09:20 → 00:09:23 ใส่ตัวอื่นเข้ามาจริงๆเราสามารถกินได้เรา
00:09:23 → 00:09:28 ก็ควรจะกินสูตรปกติอย่างเงี้ยค่ะอ๋อค่ะอื
00:09:28 → 00:09:31 แต่ก็คำว่าประจำเนี่ยอาจารย์ก็ไม่แนะนำ
00:09:31 → 00:09:34 ใช่มว่าเราก็ไม่ได้ทานแป้งสาลีหรือไม่ได้
00:09:34 → 00:09:37 ทานพิซ่าใช่มั้ยคะเสือโอ๊คเนาะใช่ๆเออเรา
00:09:37 → 00:09:40 ทานข้าวซึ่งมันไม่มีกูนอยู่เวลาเราเรากิน
00:09:40 → 00:09:43 อะไรเราก็ควรกินให้หลากหลายไม่ควรจะกิน
00:09:43 → 00:09:47 อะไรที่ซ้ำซ้ำซากจำเจอะไรอย่างเงี้ยค่ะอื
00:09:47 → 00:09:50 กินให้มีความหลากหลายให้ครบทั้งหหมู่ของ
00:09:50 → 00:09:54 อาหารเนาะสำหรับคนไทยเรามีทางเลือกเยอะ
00:09:54 → 00:09:57 ใช่ค่ะเพราะฉะนั้นปัญหากลูเตนเนี่ยมันจะ
00:09:57 → 00:10:00 ปรากฏในโลกตะวันตกมากกับเรามั้ยคะอาจารย์
00:10:00 → 00:10:03 คะใช่ค่ะถ้าถ้าสมมุติเทียบกันระหว่างฝั่ง
00:10:03 → 00:10:06 เอเชียกับฝั่งยุโรปหรือว่าตะวันตกคือ
00:10:06 → 00:10:09 อาหารเขาด้วยว่าเอ่อส่วนประกอบส่วนใหญ่ก็
00:10:09 → 00:10:11 อย่างที่บอกว่าจะเป็นมาจากข้าวสาลีข้าว
00:10:12 → 00:10:14 ร้ายข้าวบาเล่เป็นส่วนใหญ่ถ้าเป็นทางบ้าน
00:10:14 → 00:10:18 เราเราก็จะกินข้าวข้าวเจ้าข้าวเหนียวอค่ะ
00:10:18 → 00:10:22 อ่าก็จะไม่มีกูเตนค่ะค่ะอืสบายใจแล้วค่ะ
00:10:22 → 00:10:25 เอาง่ายๆวันนึงเนี่ยเสี่โอ๊คเนี่ยตื่นขมา
00:10:25 → 00:10:28 เนี่ยมื้อแรกอ่ะคือข้าวมั้ยอ่ะมื้อแรกของ
00:10:28 → 00:10:31 ผมหร่ะครับก็ข้าวครับส่วนใหญ่ก็ข้าวอยู่
00:10:31 → 00:10:33 ฮะบางครั้งก็าจะมีเบเกอรี่เนาหวงปังไม่
00:10:33 → 00:10:36 ค่อยอ่ะปไม่ค่อยคนไทยเราไม่ค่อยแบบนั้นนะ
00:10:36 → 00:10:38 ไปเบเกอรี่ของพวกเรามันจะเป็นมื้อแบบว่าง
00:10:39 → 00:10:41 ใช่มั้ยพี่นกว่างระหว่างวันใชเอตอนบ่าย
00:10:41 → 00:10:45 อะไรก็ว่าไปเออใช่มั้ยก็ข้าวถ้าถ้าถ้าคน
00:10:45 → 00:10:48 ไทยบิกินิดหน่อยนะตอนกาแฟตอนเช้าพูดถึงนะ
00:10:48 → 00:10:51 คะอาจารย์ก็ไม่ได้กินข้าวไม่อิ่มอแต่ว่า
00:10:51 → 00:10:54 ก็ก็อ่าสมมุติว่าพี่พี่โอ๊คหรือว่าพี่นก
00:10:54 → 00:10:58 กินขนมปัง 1 แผ่นเนี่ยเอขาไก่ 1 ขาอย่าง
00:10:58 → 00:11:01 เงี้ค่ะอาจารย์เทียบกับข้าว 1 ทัพพีแล้ว
00:11:01 → 00:11:04 นะคะหมายถึงว่าในขนมปัง 1 แผ่นก็มีปริมาณ
00:11:04 → 00:11:07 เท่ากับคาร์โบไฮเดรตเท่ากับข้าวหรือพลัง
00:11:07 → 00:11:10 งานเข้ากับข้าว 1 ทัพพีเหมือนกันอุ้ยเยอะ
00:11:10 → 00:11:12 จังเลยอาจจะดูแบบแผ่นเล็กแผ่นแผ่นนึงน้อย
00:11:12 → 00:11:15 เนาะถ้าเทียบกับกินข้าวหรือแบบหรือบางคน
00:11:15 → 00:11:17 ก็อาจจะมีความคิดว่ากินขนมปังไม่อิ่มต้อง
00:11:18 → 00:11:20 กินข้าวอย่าเงี้ไม่แต่ว่าเรื่องของพลัง
00:11:20 → 00:11:24 งานมันสูงไงเพราะว่ามันมีอะไรเนนมออืเนนม
00:11:24 → 00:11:29 ส่วนผสมอื่นๆอีกใช่มั้ยใช่ค่ะเอเออครับ
00:11:29 → 00:11:32 ถ้าเราไม่แพ้เราก็ไม่มีปัญหาอะไรนะคะแต่
00:11:32 → 00:11:35 ว่าสิ่งที่อาจารย์ย้ำนะคะคือเราไม่ใช่ว่า
00:11:35 → 00:11:39 จะกินเป็นประจำอะไรอย่างงั้นไปทุกมื้อเรา
00:11:39 → 00:11:42 ต้องสลับแล้วก็เราเป็นชาติที่มีวัฒนธรรม
00:11:42 → 00:11:45 ของการกินข้าวเพราะฉะนั้นเนี่ยเรื่องของ
00:11:45 → 00:11:49 กลูเตนเนี่ยก็จะต้องเอ่อดูในคนที่แพ้เป็น
00:11:49 → 00:11:53 หลักอืค่ะแต่แต่ปัญหาของของของของคนเรา
00:11:53 → 00:11:57 หรือแม้แต่ผมเองนะพี่นกว่าคะเอ่อเราจะไม่
00:11:57 → 00:12:00 ค่อยแบบใส่ใจในเรื่องของของส่วนผสมที่มัน
00:12:00 → 00:12:04 อยู่ในอาหารอ่ะจริงอ่ะเอ้อจริงๆก็คือแบบ
00:12:04 → 00:12:07 กินอะไรก็กจกว่ามันแใช่จนกว่าจะรู้สึกเออ
00:12:07 → 00:12:09 มันมันส่งผลกระทบต่อร่างกายจนเมื่อแพ้
00:12:09 → 00:12:12 จริงๆนัแหละมันถึงจะจะเลิกกินพี่ว่านะพี่
00:12:12 → 00:12:14 ว่านะไปในความเป็นโอ๊คในความเป็นพี่นก
00:12:14 → 00:12:17 เนี่ยก็คือไม่อยากจะเพูดแล้วเคาะเลยก็คือ
00:12:17 → 00:12:19 โชคดีที่เราเนี่ยไม่ได้แพ้อาหารอะไรอาหาร
00:12:19 → 00:12:21 ทะเลเราก็ไม่ได้แพ้อะไรเห็นบางคนแพ้นี่
00:12:21 → 00:12:24 เป็นผื่นแดงเลยใช่อาจารย์คะถ้าแพ้กลูเตน
00:12:24 → 00:12:26 มันจะมีลักษณะอาการที่แบบเห็นขึ้นมาเลย
00:12:26 → 00:12:29 ใช่มั้ยคะเป็นผืนเลยใช่มั้คะใชอมีอย่าง
00:12:29 → 00:12:32 ที่ที่บอกว่าแสดงอาการทันทีเลยเนี่ยก็จะ
00:12:32 → 00:12:34 มีลักษณะเป็นผื่นเหมือนภูมิแพ้อ่ะค่ะเป็น
00:12:34 → 00:12:39 ผื่นขึ้นไส้อาเจียนปวดท้องอะไรอย่างเงี้ย
00:12:39 → 00:12:41 ค่ะแต่ถ้าอย่างที่บอกว่าถ้าคนเป็นโรค
00:12:41 → 00:12:44 เนี่ยมันอาจจะใช้เวลานานนิดนึงอ่ะค่ะกว่า
00:12:44 → 00:12:47 จะแสดงอาการถ้าเฉียบพันก็จะเห็นได้ชัด
00:12:47 → 00:12:50 อย่างอย่างที่บอกปวดศีรษะค่ะในบางคนหรือ
00:12:51 → 00:12:54 ว่าในในภาวะบางคนที่มีความเครียดอ่าก็
00:12:54 → 00:12:58 สามารถบางพอเราเครียดมากๆภูมิคุ้มกันเรา
00:12:58 → 00:13:01 ต่ำลงแล้วก็เกิดอาการแพ้กลูเตนได้หรือว่า
00:13:01 → 00:13:05 ในตั้งครรภน่ะค่ะบางคนที่ช่วงตั้งครรภ์ก็
00:13:05 → 00:13:09 แพ้ได้เหมือนกันค่ะครับอ๋อเหรอฮะหญิงตั้ง
00:13:09 → 00:13:13 รภแสดงว่าก็ต้องระมัดระวังเรื่องกูเตนเอ
00:13:13 → 00:13:16 เวลากินอะไรก็อาจจะต้องอ่านฉลากนิดนึงอ่า
00:13:16 → 00:13:20 หรือที่อย่างที่บอกว่าก็ไม่ควรกินประจำ
00:13:20 → 00:13:24 ซ้ำๆก็กินให้หลากหลายอ่ะค่ะอืเพราะว่า
00:13:24 → 00:13:26 เรื่องเรื่องแบบนี้จริงๆแล้วในในหญิงตั้ง
00:13:26 → 00:13:29 รโชคดีอย่างนะถ้าแบบมีการฝากคันใช่มั้ยก็
00:13:29 → 00:13:31 อยู่อยู่ในกระบวนการของที่คุณหมอที่รับ
00:13:31 → 00:13:35 ฝากกันเเขาจะใส่ใจในเรื่องของคำแนะนำเนาะ
00:13:35 → 00:13:40 มีาอ่ามีการสอบถามอาการว่ากินแล้วมีการ
00:13:40 → 00:13:42 แพ้อะไรหรืออะไรแบบเค่ะก็จะมีการดูแล
00:13:42 → 00:13:46 อย่างใกล้ชิดค่ะแพทผู้เชี่ยวชาญค่ะก็คือ
00:13:46 → 00:13:49 คนแพ้ก็เจะรู้เนว่ามีกลุ่มปกติเราไม่เรา
00:13:49 → 00:13:52 ไม่เคยรู้สึกว่าเราแพ้แต่เราสังเกตว่า
00:13:52 → 00:13:55 เอ๊ะเรากินเบเกอรี่เข้าไปหรือว่าเรากิน
00:13:55 → 00:13:59 พิซซ่าเข้าไปอยู่ดีๆเราก็ปวดท้องท้องอื่น
00:13:59 → 00:14:02 อทเสียอย่าเงี้ค่ะก็ลองสังเกตไว้แล้วก็
00:14:02 → 00:14:06 กินครั้งต่อไปถ้าเป็นอีกอ่ะก็อาจจะสงสัย
00:14:06 → 00:14:09 ตัวเองหรือว่าถ้าเพื่อความแน่ใจก็อาจจะ
00:14:09 → 00:14:13 ต้องลองไปปรึกษาแพทย์ดูอย่างเงี้ยค่ะอื
00:14:13 → 00:14:16 ไม่ว่ากินอะไรที่แบเอ่ออาการท้องเสียไม่
00:14:16 → 00:14:19 ได้เสียจากอาหารที่เน่าเสียนะคะต้องต้อง
00:14:19 → 00:14:21 ต้องแยกกันด้วยแต่ว่าอย่างที่บอกว่ากิน
00:14:21 → 00:14:24 เบเกอรี่ต่างๆหรือว่ากินอาหารที่มีส่วน
00:14:24 → 00:14:27 ประกอบของกูเตนก็ต้องลองสังเกตตัวเองดู
00:14:27 → 00:14:32 อ่ะค่ะอาจารย์คอืมันมันมีข้อมูลส่งกันใน
00:14:32 → 00:14:36 ในระยะเอ่อที่ายกำลังได้รับความนิยมเนี่ย
00:14:36 → 00:14:38 เรื่องของสุขภาพเป็นเรื่องอันดับหนึ่งเลย
00:14:38 → 00:14:41 ก็จะมองว่ากูเตเนี่ยเป็นตัวร้ายเสือโอ๊ค
00:14:42 → 00:14:44 คงเคยได้ยินเนาะอาจารย์เคยได้ยินว่ามัน
00:14:44 → 00:14:49 เข้าไปเหนียวไปไปเอ่อคั่งค้างอยู่ในลำไส้
00:14:49 → 00:14:51 ลำไส้เราจะเป็นรูอะไรอย่างเงี้ค่ะอาจารย์
00:14:51 → 00:14:54 อือเออมันจริงมั้ยคะถ้าเราไม่แพ้นะคะเรา
00:14:54 → 00:14:57 กินกลูเตนคืออาจจะเป็นหนุ่มสาวที่ชอบ
00:14:57 → 00:15:02 เบเกอรี่มากๆอย่าเงี้ยทานบ่อยๆก็ถามว่า
00:15:02 → 00:15:05 มันจริงมั้ยข่าวที่ที่แชร์กันเนี่ยต้อง
00:15:05 → 00:15:08 บอกว่าเป็นเทสเลยมากกว่าเพราะว่าจริงๆมัน
00:15:08 → 00:15:12 ก็คือสารอาหารตัวนึงในในเหมือนอาหารทั่ว
00:15:12 → 00:15:15 ไปอ่ะค่ะเป็นถ้ากลุ่มคนที่แพ้ก็จะเป็น
00:15:15 → 00:15:18 อันตรายกับเขาแต่อย่างที่บอกว่ากลุ่มคน
00:15:18 → 00:15:22 ปกติเนี่ยสามารถกินได้แต่ว่าจะไปบอกเอ่อ
00:15:22 → 00:15:25 บอกว่าเอ๊ะมันมันเกิดอาการค้างค้างใช่ๆ
00:15:25 → 00:15:29 อันนี้เป็นข้อมูลเทจอืถ้าในทางกลับการ
00:15:29 → 00:15:31 อย่างที่บอกว่าถ้าสมมุติว่าคนที่แพ้คือ
00:15:31 → 00:15:34 เขาคกินเข้าไปเนี่ยเอ่อลำไส้เล็กกับเขาค
00:15:34 → 00:15:37 อ่ะค่ะจะเกิดสารร่างกายมันจะเกิดสารต้าน
00:15:37 → 00:15:40 กลูเตนก็คือไม่ย่อยเนาะอมันก็อาจจะค้าง
00:15:40 → 00:15:44 ค้าก็คือเนี่ยสะสมก็คือท้องอืดทำให้เรา
00:15:44 → 00:15:47 ไม่ย่อยสารอาหารอื่นด้วยถ้าเรากินเป็น
00:15:47 → 00:15:50 เวลานานๆหรือเกิดอาการแพ้ไปนานๆเนี่ยน้ำ
00:15:50 → 00:15:52 หนักตัวก็ลดได้เพราะว่าไม่ดูดซึมสารอาหาร
00:15:53 → 00:15:55 อื่นที่กินเข้าไปคือลำไส้มันเกิดการ
00:15:55 → 00:15:59 อักเสบอ่ะค่ะอือืทางที่ดีเราก็ไม่ควรจะ
00:15:59 → 00:16:02 กินมากๆแบบเป็นประจำอย่างงั้นน่ะใช่มั้ย
00:16:02 → 00:16:07 คะอืมแต่เราก็ไม่ควรวิตกกังวลไปอย่างที่เ
00:16:07 → 00:16:11 แชรกันมาใช่ค่ะอือืแล้วอย่างเด็กๆล่ะครับ
00:16:11 → 00:16:14 เด็กๆที่ปัจจุบันเชอบทขนมใช่มั้ยใช่เอ่อ
00:16:14 → 00:16:16 ตั้งแต่เด็กเล็กเลยนะวัยเล็กๆอนุบาลอนุบ
00:16:16 → 00:16:19 อะไรเนี่ยก่อนเข้าอนุบาลอีกก็ขนมปงขนมปัง
00:16:19 → 00:16:23 เนี่ยจะเป็นของที่ชอบมากกว่าที่จะกินข้าว
00:16:23 → 00:16:25 อ่ะเอ่อกินตั้งแต่วัยเด็กเนี่ยมันจะมี
00:16:25 → 00:16:28 ความเสี่ยงในการแบบเพิ่มโอกาสในการแพ้
00:16:28 → 00:16:31 กูเตนรือว่าอืหรือว่ามันจะลดโอกาสในการ
00:16:31 → 00:16:34 แพ้กูเต็นครับมันมันมีความแตกต่างกันมั้ย
00:16:34 → 00:16:37 คุณหมองเอ้ยอาจารย์ฮะอือค่ะก็คือต้องบอก
00:16:37 → 00:16:39 ว่าจริงๆวัยเด็กเนี่ยอย่างที่ทุกคนทราบ
00:16:39 → 00:16:41 ว่าเขาก็เป็นเเป็นกลุ่มเสี่ยงหมายถึงว่า
00:16:41 → 00:16:43 เป็น sensitive เนาะในกลุ่มที่เซนีหมาย
00:16:43 → 00:16:47 ถึงว่าเวลารับสารอาหารอะไรเข้าไปเนี่ยพ่อ
00:16:47 → 00:16:50 แม่ก็จะต้องสังเกตแต่ก็อย่างที่บอกว่า
00:16:50 → 00:16:53 จริงๆแล้วในบ้านเราเนี่ยคนที่แพ้ก็ยังมี
00:16:53 → 00:16:56 อยู่น้อยไม่ไม่ได้เยอะมากเพราะฉะนั้น
00:16:56 → 00:17:01 กลุ่มปกติถ้าเกินตตามสเต็ปของอาหารในวัย
00:17:01 → 00:17:04 เด็กอย่างเช่นถ้าสมมุติว่าช่วงเอ่อแรก
00:17:04 → 00:17:06 เกิดถึง 6 เดือนเนี่ยเขาก็ให้กินนมแม่
00:17:06 → 00:17:09 อย่างเดียวอ่ะก็ไม่ไม่ต้องแพ้อะไระเพราะ
00:17:09 → 00:17:12 ว่ารับหนมแม่พอเริ่ม 6 เดือนขึ้นไปก็กิน
00:17:12 → 00:17:15 อาหารตามวัยเป็นข้าวเราก็จะแนะนำตั้งแต่
00:17:15 → 00:17:17 สเต็ปส่วนใหญ่เราก็จะไม่ได้บอกว่าให้กิน
00:17:17 → 00:17:21 เบเกอรี่เลยเนาะในเด็ก 6 เดือนจนถึงเอ่อ
00:17:21 → 00:17:24 12 เดือนหรือ 1 ขวบก็จะกินเป็นข้าวบด
00:17:24 → 00:17:28 เอ่อผักต้มเอามาบดอะไรเงี้ยค่ะตามสเต็ปจน
00:17:28 → 00:17:31 ถึงเริ่ม 1 ขวบขึ้นไปก็จะเริ่มกินอาหาร
00:17:31 → 00:17:35 ได้เเรียกว่าได้ตามผู้ใหญ่ก็ค่อยๆเพิ่ม
00:17:35 → 00:17:38 สเต็ปเพราะฉะนั้นเเรียกว่าการรับสารอาหาร
00:17:38 → 00:17:41 พวกนี้มันก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปเพราะฉะนั้น
00:17:41 → 00:17:44 ก็สามารถกินได้แต่ว่าเาเรียกว่าในวัยใน
00:17:44 → 00:17:48 ช่วงอายุที่สมควรที่จะให้อย่างเช่นสัก 2
00:17:48 → 00:17:52 ขวบอาจก็เริ่มให้กินพวกเส้นพาสต้าหรือว่า
00:17:52 → 00:17:55 เอ่อเป็นผลิตภัณฑ์เบเกอรี่เป็นขนมปังอะไร
00:17:55 → 00:17:58 อย่างเงี้ยค่ะก็เริ่มให้ได้ครับแต่ว่าก็
00:17:58 → 00:18:00 ต้องสังเกตเหมือนกันว่าเอลูกมีอากาศแพ้
00:18:00 → 00:18:03 มั้ยอย่างเงี้ยค่ะอนี่รู้เลยถามถึงน้อง
00:18:03 → 00:18:07 พีทแน่ๆเลยทานทานเบเกอรี่มากมั้ยอ่ะเอ
00:18:07 → 00:18:10 เด็กสมัเเนาะกินสมัยนี้คือเขาเขาชอบใน
00:18:10 → 00:18:13 เรื่องของพวกนี้เคกเค้กเบเกอรี่อะไรขนม
00:18:13 → 00:18:17 ปังอนะส่วนใหญ่หนปังก็อยู่ที่พ่อแม่หาให้
00:18:17 → 00:18:20 เนาะเพราะว่าเท่าที่เออเท่าที่ฟังดูที่
00:18:20 → 00:18:23 เอ่อข้อมูลนะเบอกว่าวิธีง่ายที่สุดที่จะ
00:18:23 → 00:18:25 หลีกเลี่ยงจากกลูเตนคือทำอาหารกินเอง
00:18:25 → 00:18:28 อาจารย์เรียกวัตถุดิบได้เพราะว่าอาหไทเรา
00:18:28 → 00:18:31 จะไม่มีกลูเตนใช่มั้ยคะส่วนมากอใช่ค่ะอื
00:18:31 → 00:18:35 ครับน้ำพริกผักต้มอะไรอย่างเงี้ยเจ้า
00:18:35 → 00:18:39 กูเตนแน่นอนอืนผักก็ได้สารต้านอนุมูล
00:18:39 → 00:18:43 อิสระในผักด้วยนะคะขโ
00:18:43 → 00:18:46 โอแต่ถ้าเมื่อไหร่ที่หันไปหาเดินห้าง
00:18:46 → 00:18:52 เนี่ยก็จะเจอร้านที่จะมีพาสต้ามีเอ่ออง
00:18:52 → 00:18:56 เค้กอืต่างประชาตินะต่าง
00:18:56 → 00:19:00 ประชาติไม่ได้นะคะต้องต้องทานอาหารที่
00:19:00 → 00:19:03 หลากหลก็คือถ้าเไม่แพ้ก็ทานได้บ้างนะคะ
00:19:03 → 00:19:06 เด็กๆเนี่ยก็ย่อมจะอยากรับประทานอยากกิน
00:19:06 → 00:19:10 ขนมที่เอร็ดอร่อยเนช fr นี่คือตัวดีเลย
00:19:10 → 00:19:14 ใช่ไหมคะอาจารย์ที่เรานิยมกันทั่วไปมี
00:19:14 → 00:19:16 กูเตนเลยตัวเฟนฟรายเนี่ยถามว่าอะไรที่
00:19:16 → 00:19:19 อันตรายที่สุดในเฟนฟรายน่าจะเป็นกลุ่มของ
00:19:19 → 00:19:21 ไขมันเนาะเพราะว่าการทอดเฟนฟรายเป็นการ
00:19:21 → 00:19:25 ทอดแบบน้ำมันท่วมอือครับค่ะในเฟรนช์ฟราย
00:19:26 → 00:19:29 มันก็เลยดูดน้ำมันที่ใช้ทอดเข้าไปไปเยอะ
00:19:29 → 00:19:30 อือหือ
00:19:30 → 00:19:33 อืก็น่าจะอันตรายเหมือนกูเตนเพียงแต่ว่า
00:19:33 → 00:19:36 มันอาจจะไม่ได้แพ้ไขมันแต่ว่าไขมันก็ไป
00:19:36 → 00:19:41 สสมไมันเยอะใช่ค่ะก็จะเป็นทำให้มีน้ำหนัก
00:19:41 → 00:19:45 เกินถ้ากินบ่อยๆหรือว่ากินทุกวันค่ะอือ
00:19:45 → 00:19:47 แล้วก็จะเป็นกลุ่มที่ให้พลังงานหรือว่า
00:19:47 → 00:19:50 คาร์โบไฮเดรตซะส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้สาร
00:19:50 → 00:19:54 อาหารครบอืออือแถมเอ่อเค้าเรียกว่าใน
00:19:54 → 00:19:59 เฟรนช์ฟรายก็จะมีโรยเกลือบางทีก็โรยใช่ๆ
00:19:59 → 00:20:02 เค็มมากได้สดเยี่ยมเกินอีกถ้ากินในปริมาณ
00:20:03 → 00:20:08 เยอะๆค่ะอมันฝรั่งมันฝรั่งต่างๆนี่ก็ไม่
00:20:08 → 00:20:11 มีใช่มั้ยคะแต่ก็มีแค่ความเค็มไม่ไม่มี
00:20:11 → 00:20:19 ค่ะอืค่ะมันฝรั่งถุงต่างๆอือือครับก็ก็
00:20:19 → 00:20:21 ถือว่าเป็นเป็น
00:20:21 → 00:20:25 เอ่อเป็นตัวนึงที่อาจจะต้องระมัดระวังใน
00:20:25 → 00:20:28 กลุ่มบางบางกลุ่มระมัดระวังค่ะอืโดยเฉพาะ
00:20:28 → 00:20:30 ผู้ผู้มีโรคประจำตัวแบบเนี้ยมันเกี่ยว
00:20:30 → 00:20:33 เนื่องด้วยกันมครับจะต้องระวังเพิ่มเติม
00:20:33 → 00:20:37 ไปอีกมีมอาจารย์อหมายถึงว่าเป็นความดัน
00:20:37 → 00:20:42 เบาหวาใช่มคะใช่ครับก็อาจจะไม่ต้องระมัด
00:20:42 → 00:20:47 ระวังมากแต่ว่าก็ต้องดูเวลาเราไปหาคุณหมอ
00:20:47 → 00:20:49 ก็อาจจะต้องสอบถามคุณหมอผู้เชี่ยวชาญว่า
00:20:49 → 00:20:53 อาหารชนิดไหนเราสามารถทานได้อันไหนสเอ่อ
00:20:53 → 00:20:55 เขาเรียกว่าเป็นโรคนี้แล้วไม่สามารถทัน
00:20:55 → 00:20:59 ได้แต่ปกติไขมันเบาหวานความดันเนี่ยถ้า
00:20:59 → 00:21:01 ไม่มีอาการแพ้ก็อย่างที่บอกว่าสามารถทัน
00:21:01 → 00:21:06 ได้อืไม่ได้ไม่ได้มีผลปลูกพันธุเป็นพิเศษ
00:21:06 → 00:21:09 อไม่ได้มีผลผูกพันเพียงแต่ว่าอย่างที่บอก
00:21:09 → 00:21:12 ว่าก็ต้องกินเน้นเลยนะคะเน้นมากๆคือกิน
00:21:12 → 00:21:15 ให้ครบถ้วนทุกกลุ่มอาหารทุกหมู่แล้วก็
00:21:15 → 00:21:18 หลากหลายแล้วก็ในปริมาณที่เพียงพอใน 1
00:21:18 → 00:21:22 วันออือว่าเอ๊ะดูแล้วกลุ่มอายุเราต้องการ
00:21:22 → 00:21:24 อย่างสมมุติวัยทำงานก็ต้องการพลังงานสัก
00:21:24 → 00:21:28 2,000 แบ่งเป็น 3 มื้อก็อาจจะเฉลี่ยกัน
00:21:28 → 00:21:31 สมมติว่ากินข้าวขาหมูไปนี่ก็ได้พลังงาน
00:21:31 → 00:21:33 เยอะแล้วเนาะเพราะว่าขาหมูก็จะมีแต่ไขมัน
00:21:33 → 00:21:36 อย่างเงี้ยมื้อเย็นก็อาจจะกินเบาๆเป็นผัก
00:21:36 → 00:21:39 เน้นเป็นผักมยหรืออะไรอย่าเงี้ยเพื่อให้
00:21:39 → 00:21:42 พลังงานน้อยหน่อยอือเพื่อดูแล้ว 1 วัน
00:21:42 → 00:21:46 พลังงานจะได้ไม่เกินนะค่ะค่ะมีคุณผู้ฟัง
00:21:46 → 00:21:50 ก็สนใจนะคะเรื่องของกลูเตนก็เลยสอบถามมา
00:21:50 → 00:21:54 ว่าเรียนถามอาจารย์ว่าขนมปังฮวดทานได้
00:21:54 → 00:21:57 มั้ยมีกลูเตนมยครับอันนี้เราจะเห็นทาง
00:21:57 → 00:22:00 เลือกนะคะขนมปังขาวกับฮวีที่เราจะเจอคู่
00:22:00 → 00:22:03 กันอยู่ตลอดต่างกันมั้ยคะอาจารย์แล้วก็
00:22:03 → 00:22:06 กลูเตนจะอยู่ในไหนเลือกได้อย่างไรดีคะค่ะ
00:22:06 → 00:22:10 จริงๆเอ่อในส่วนของขนมปังโวเนี่ยก็ยังมี
00:22:10 → 00:22:13 ส่วนประกอบของแป้งสาลีอยู่เพียงแต่ว่า
00:22:13 → 00:22:17 เอ่อในปริมาณที่น้อยน้อยกว่าขนมปังขาว
00:22:17 → 00:22:20 เพราะว่าเขาก็จะใส่ในส่วนของธัญพืชเข้าไป
00:22:20 → 00:22:24 ธัญพืชอื่นนะค่ะเข้าไปเพื่อเขาเรียกว่า
00:22:24 → 00:22:27 เป็นทางเลือกไฟเบอร์สภาพใช่ค่ะเพื่อให้ใน
00:22:27 → 00:22:31 ส่่วนของพังตังงานมันมันน้อยลงจริงๆ
00:22:31 → 00:22:35 ธัญพืชก็จะมีในส่วนของเขาเรียกว่าเอ่อยาย
00:22:35 → 00:22:38 อาหารด้วยเนาะถ้ากินถ้าเทียบกับขนมตางขาว
00:22:38 → 00:22:41 แต่ก็อย่างที่บอกว่าต้องดูก่อนว่าเขาเป็น
00:22:41 → 00:22:46 กลูเตนฟรีมยคนที่แพ้สามารถทานได้แต่ถ้า
00:22:46 → 00:22:49 กลุ่มที่เอ่อไม่ได้มีฉลากเนี่ยก็
00:22:49 → 00:22:52 สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าส่วนใหญ่เบเกอรี่
00:22:52 → 00:22:55 เนี่ยก็คือมันต้องอาศัยข้าวแป้งข้าวสาลี
00:22:55 → 00:22:59 อ่ะค่ะเพื่อที่จะทำให้มันสกักเก็บการ์ด
00:22:59 → 00:23:01 หรือว่าทำให้เนื้อสัมผัสมันนุ่มอย่างที่
00:23:01 → 00:23:05 บอกนุ่มเหนียวเกิดรสชาติที่อร่อยคมันจะทำ
00:23:05 → 00:23:09 ให้ตัวเวลาหมักขนมปังแล้วมันจะมีความฟู
00:23:09 → 00:23:10 ขึ้นมาใช่ค่ะฟู
00:23:10 → 00:23:14 ขึ้นแ่ทุกอย่างเลยถ้าอย่างงั้นน่ะเนาะใช่
00:23:14 → 00:23:18 ค่ะออือนำมาถึงคำถามที่เพิ่งผ่านพ้นไปใน
00:23:18 → 00:23:20 เทศกาลกิน
00:23:20 → 00:23:25 เจฟคุณฟังก็สอบถามมาว่าเอ๊ะใช่อยู่ในหมี่
00:23:25 → 00:23:30 กึงในเออในพวกเอ่อที่เราทำเป็นต่างๆนานา
00:23:30 → 00:23:33 เกี่ยวกับอาหารเจอาจารย์อ่ะช่วงทศการกิน
00:23:33 → 00:23:38 เจก็จะมีเขาเรียกว่าตัวโปรตีนโใช่โปตีนจ
00:23:38 → 00:23:43 ใช่มคครับก็ต้องดูก็คืออย่างที่บอกว่าตัว
00:23:43 → 00:23:46 เนี่ยต้องดูฉลากเลยค่ะอืเดี๋ยวนี้เขาก็จะ
00:23:46 → 00:23:48 เอ่อเขาเรียกว่าใส่ใจผู้บริโภคมากขึ้น
00:23:49 → 00:23:52 สำหรับผู้ผลิตเนาะก็จะมีเขียนว่าอันนี้มี
00:23:52 → 00:23:56 ส่วนประกอบของแป้งสาลีอ่ะหรือว่าครับ
00:23:56 → 00:23:58 สำหรับผู้แพ้ก็คือมีกุดเต็มมันเป็นส่วน
00:23:58 → 00:24:00 ประกอบอันเนี้ยแสดงว่าถ้าเราแพ้เราต้อง
00:24:00 → 00:24:05 หลีกเลี่ยงเลยอสามารถทันได้เอ้แต่แต่ใน
00:24:05 → 00:24:09 ตามร้านอาหารที่เราไปอ่ะมันเขาก็ไม่เไม่
00:24:09 → 00:24:13 บอกเราต้องถามไงดเพราะเราเป็นคนปกติถาม
00:24:13 → 00:24:16 ถามเราไม่ใช่คนที่แพ้แต่โดยปกติคนที่มี
00:24:16 → 00:24:19 อาการแพ้แล้วรู้ตัวเขาก็จะถามก่อนถามเก็
00:24:19 → 00:24:22 จะถามใช่ค่ะอว่าอันนี้ปรุงมาจากอะไรมี
00:24:22 → 00:24:25 อะไรเป็นส่วนประกอบหรือว่าเป็นเมนูที่ถ้า
00:24:25 → 00:24:27 ถ้าหลีกเลี่ยงเลยก็คือถ้าเราไม่คุ้นชิน
00:24:27 → 00:24:31 เราก็ก็ไม่กินเราก็เลือกกินูที่ที่เรากิน
00:24:31 → 00:24:34 แล้วมันไม่แพ้อ่ะข้าวกะเพราอย่างเงี้ยไม่
00:24:34 → 00:24:37 แพ้แน่นอน
00:24:38 → 00:24:42 เอ่าก็ต้องรู้จักเลือกใช่ค่ะอย่างที่พี่น
00:24:42 → 00:24:44 บอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดก็คือเราจะรู้ว่า
00:24:44 → 00:24:48 เราใช้อะไรปรุงก็คือต้องทำอาหารทานเองอ
00:24:48 → 00:24:53 ค่ะอืแต่ถ้าหลีกเลี่ยงปญบอกก็คืออ่ะต้อง
00:24:53 → 00:24:56 ถามผู้ประกอบหรือว่าพี่เอมาถามนิดนึงว่า
00:24:56 → 00:24:58 เมนูที่เราสั่งอันเนี้ยจะมีอะไรเป็นส่วน
00:24:58 → 00:25:02 ประกอบเพราะว่าก็พบผู้แพ้กูเตนเนาะส่วน
00:25:02 → 00:25:05 ใหญ่ร้านอาหารก็จะให้ข้อมูลได้แต่ว่าบาง
00:25:05 → 00:25:07 ร้านอาหารก็ไม่สามารถให้ข้อมูลถ้าเราไม่
00:25:07 → 00:25:10 แน่ใจก็หลีกเลี่ยงไม่สั่งเมนูนั้นจะดี
00:25:10 → 00:25:13 กว่าค่ะอเท่าที่รู้ว่ามันมันมาจากแป้ง
00:25:13 → 00:25:17 สาลีเป็นส่วนมากเนี่ยมันมีข้าวโอ๊ตด้วยนะ
00:25:17 → 00:25:21 คะที่บางคนเชอบมากเลยเขาบอกว่ามันจะเป็น
00:25:21 → 00:25:23 เหมือนวิตามินทางเลือกอะไรสักอย่างนึง
00:25:23 → 00:25:26 เนี่ยเป็นเอ่อคาร์โบไฮเดรตที่ดีอย่าง
00:25:26 → 00:25:30 เงี้ยมันก็มีกลูเตนด้วยใช่มั้ยคะใช่ค่ะอื
00:25:30 → 00:25:33 เนาะแม้จะหันไปหาข้าวโอ๊ตแล้วข้าวบรี่ที่
00:25:33 → 00:25:36 เป็นเบียร์หมักเบียร์อย่างงี้อ่าหรือว่า
00:25:36 → 00:25:39 ในไวนวิสกี้เอ่อในวิสกี้เครื่องดื่ม
00:25:40 → 00:25:43 แอลกอฮอล์บางชนิดก็ก็มีกลูเตนเหมือนกัน
00:25:43 → 00:25:47 หรือว่าอ๋อ่าถ้าถ้าสมมุติว่าเราสังเกตใน
00:25:47 → 00:25:51 ฉลากโภชนาการอ่ะค่ะซอสอือตัวซอสปรุงรสบาง
00:25:51 → 00:25:55 บางประเภทเนี่ยก็จะใส่ตัวแป้งสาลีลงไป
00:25:55 → 00:25:56 อย่างที่บอกว่ามันจะให้ Texture หรือว่า
00:25:56 → 00:26:01 รดสัมผัสของเนื้อซอสเนี่ยมันดีขึ้นอือค่ะ
00:26:01 → 00:26:06 ออนี่เส้นโรนีเส้นพาสต้าเนี่ยค่ะเบียร์
00:26:06 → 00:26:08 นี่ต้องมีแน่นอนเลยใช่มั้ยคะอาจารย์มี
00:26:08 → 00:26:13 ข้าวสาลีเนาะมันมีทำจากการหมักมันตัวตัว
00:26:13 → 00:26:16 ธัญญพืชที่ใช้ในการหมากแลข้าวแต่ละชนิดอ
00:26:16 → 00:26:20 เออนะครับโชคดีนะใชโชคดีแล้วเนี่ยโชคดี
00:26:20 → 00:26:24 ที่ไม่แพ้ใช่มยเอ้อทุกท่านก็นำมาสู่
00:26:24 → 00:26:28 เรื่องของว่าเอ่อหลักการกินอาหารที่มี
00:26:28 → 00:26:31 ประโยชน์หลักการที่เราจะแบบเราไม่แพ้อ่ะ
00:26:31 → 00:26:34 คนส่วนมากคนไทยนี่ 80 90% ไม่แพ้ใช่มั้
00:26:34 → 00:26:38 คะอาจารย์ใช่ค่ะอือก็สัก 1 1% โน้อยมาก
00:26:38 → 00:26:42 ใช่มั้ยคะที่ที่แพ้ค่ะการแพ้ของเขานี่มา
00:26:42 → 00:26:44 จากอะไรครับอ่าพันธุกรรมหรือว่ามันมาจาก
00:26:44 → 00:26:49 ตัวความความผิดปกติอะไรบางอย่างเป็นตัว
00:26:49 → 00:26:51 บ่งบอกหรือเปล่า 2 มีทั้ง 2 กลุ่มเลยค่ะ
00:26:51 → 00:26:55 ก็คือจากธุกรรมก็มีส่วนนึงแล้วก็อย่างที่
00:26:55 → 00:26:57 บอกว่ามีภาวะไวต่อกูเตนอย่างที่บอกว่าเออ
00:26:58 → 00:27:00 เป็นเป็นช่วงของการตั้งครรภ์หรือว่าเป็น
00:27:00 → 00:27:03 ช่วงของปรุงคุ้มกันที่มันต่ำมีภาวะเครียบ
00:27:03 → 00:27:06 ออย่างเงี้ยแพได้ก็คือไม่
00:27:06 → 00:27:09 ย่อยมีคนรู้จักอยู่คนนึงเป็นคนใกล้ชิดพอ
00:27:09 → 00:27:13 ควรอันเนี้ยเ้าบอกว่าเค้าเอ่อทานอาหารซ้ำ
00:27:13 → 00:27:18 ๆอยู่ชนิดนึงมาเป็นเวลานานมากร่วม 5 ปี 5
00:27:18 → 00:27:22 ปีขึ้นนะอาจารย์คืออาหารที่เอ่อ
00:27:22 → 00:27:26 เป็นทานกับนมเป็นเหมือนกับเบเกอรี่ชนิด
00:27:26 → 00:27:28 นึงเนี่ยนะคะจำไม่ได้แล้วว่าชนิดอะไรที่
00:27:28 → 00:27:32 อร่อยมากเลยแล้วก็ทานประจำทุกเช้าเลยกับ
00:27:32 → 00:27:36 กับนมนมช็อกโกแลตหรืออะไรของเาเนี่ยทำให้
00:27:36 → 00:27:41 เอ่อในช่วงต่อมาหลายปีผ่านมาเนี่ยมีอาการ
00:27:41 → 00:27:44 ที่เรียกว่าแพ้ภูมิตัวเองหรือ sle เ้าบอก
00:27:44 → 00:27:47 ว่าเข้ามาจากสาเหตุนี้แน่ๆเลยอาจารย์ว่า
00:27:47 → 00:27:49 มันจะเป็นส่วนนึงของก็ก็เป็นส่วนนึงค่ะ
00:27:49 → 00:27:52 อย่างที่บอกว่าถ้าเราร่างกายเราเกิดอาการ
00:27:52 → 00:27:55 แพ้ถึงแม้จะเป็นภาวะแพ้กูเตนแต่ว่าไม่ใช่
00:27:55 → 00:27:58 โรคแต่ถ้าเกิดการแพ้นานๆสะสมนะค่ะมันก็
00:27:58 → 00:28:02 สามารถกลับมาเป็นโรค CD อย่างที่บอกว่า
00:28:02 → 00:28:06 เป็นเนี่ยโรคภูมิคุ้มกันคือโรคในทำนอง
00:28:06 → 00:28:09 เดียวกันเลยใช่มั้ยคะ sle ใช่ค่ะออก็ก็
00:28:09 → 00:28:11 ลักษณะเหมือนเหมือนเค้าเรียกอะไรนะโรค
00:28:11 → 00:28:15 พุ่มพวงใช่มั้ยคะที่ที่เราจะชินกันแล้วเ
00:28:15 → 00:28:18 ย้อนกลับไปถึงพฤติกรรมของเขาเองเนี่ยเขา
00:28:18 → 00:28:20 ก็วิเคราะห์ได้เลยว่าเนี่ยแหละเทานอาหาร
00:28:20 → 00:28:23 แบบเนี้ยทุกเช้าเลยซึ่งคนเรามันไม่น่าจะ
00:28:23 → 00:28:26 ทำขนาดนั้นใช่มั้ยคะเออใช่ค่ะบอกว่าเอ
00:28:26 → 00:28:31 หลักหการค่ะอย่าให้ได้ประยใน 1 วันอย่าง
00:28:31 → 00:28:34 เงี้นะคะก็จริงๆต้องบอกว่าเราต้องกิน
00:28:34 → 00:28:37 อาหารให้ครบ 5 กลุ่ม 5 กลุ่มอาหารถ้า
00:28:37 → 00:28:40 สมมติที่สำนักโภชนาการกรมอนามัยเราแนะนำ
00:28:40 → 00:28:43 เนี่ยเราจะมีตัวธงโภชนาการนะคะก็จะแบ่ง
00:28:43 → 00:28:46 เป็นกลุ่มอาหารก็คือกลุ่มแรกเนี่ยก็จะ
00:28:46 → 00:28:49 เป็นข้าวแป้งซึ่งปริมาณก็แตกต่างกันแล้ว
00:28:49 → 00:28:52 แต่กลุ่มวัยนะคะกลุ่มที่ 2 เนี่ยก็จะเป็น
00:28:52 → 00:28:56 ในส่วนของผักผักแล้วผแล้วก็กลุ่มอีกกลุ่ม
00:28:56 → 00:28:58 นึงก็จะเป็นในส่วนของผลไม้นะคะแล้วก็
00:28:58 → 00:29:02 เนื้อสัตว์กลุ่มที่ 4 แล้วก็รวมถึงนมนม
00:29:02 → 00:29:05 นี้ก็จัดอยู่ในกลุ่มอาหารเหมือนกันค่ะ
00:29:05 → 00:29:10 ครับนมสำหรับนมสำหรับคนบางคนเก็เกลัว
00:29:10 → 00:29:13 อาจารย์นมนี่เราควรจะเปลี่ยนเป็นนมถั่ว
00:29:13 → 00:29:15 เหลืองได้หรือว่าแตกต่างกันกับนมวยยังไง
00:29:16 → 00:29:18 คะเอต้องบอกว่าถ้าสมมุติในหลักของอาหาร
00:29:18 → 00:29:21 แลกเปลี่ยนทางโภชนาการเนี่ยตัวนมอ่ะค่ะ
00:29:21 → 00:29:23 มันก็จะมีทั้งโปรตีนแล้วก็มีทั้งแคลเซียม
00:29:23 → 00:29:25 แต่ว่าแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ก็คือจะเป็น
00:29:25 → 00:29:29 ส่วนของแคลเซียมอืโภชนาการเขาแนะนำว่า
00:29:29 → 00:29:32 ต้องดื่มนมวันละ 1 แก้ว 2 แก้วเนี่ยก็คือ
00:29:32 → 00:29:35 ต้องการให้ได้ปริมาณแคลเซียมเพราะฉะนั้น
00:29:35 → 00:29:37 ถามว่าถ้าเราไม่ดื่มนมเรากินอย่างอื่นที่
00:29:37 → 00:29:41 มีแคลเซียมทดแทนได้มก็สามารถกินได้ค่ะ
00:29:41 → 00:29:45 อย่างเช่นตัวเต้าหู้อืเต้าหู้ที่ทำมาจาก
00:29:45 → 00:29:48 เอ่อถั่วเหลืองเนี่ยก็ก็มีไอ้ถั่วเขียว
00:29:48 → 00:29:50 หรือถั่วเหลืองเนี่ยก็มีแคลเซียมเหมือน
00:29:50 → 00:29:53 กันเพียงแต่ว่าอาจจะต้องกินในปริมาณที่
00:29:53 → 00:29:56 เยอะเยอะเยอะกว่าการดื่มนมนิดนึงอถ้า
00:29:56 → 00:29:58 เทียบกันกับนม 1 แก้ว
00:29:58 → 00:30:01 เอเต้าหู้ที่เราใส่ในผัดถั่วงงอกอ่ะค่ะ
00:30:01 → 00:30:04 ที่เป็นเต้าหู้ขาวเหลืองๆแข็งๆอ่ะต้องกิน
00:30:04 → 00:30:08 1 แผ่นก็จะได้แคลเซียมเท่ากับนม 1 แก้ว
00:30:08 → 00:30:11 ซึ่งมันก็อาจจะกินได้ยากนิดนึงอ่ะก็ยากหน
00:30:11 → 00:30:15 เหมือนจืดแต่พี่นเลือกเพิ่มขึ้นอย่างเช่น
00:30:15 → 00:30:18 เอ่อในนมถั่วเหลืองอ่ะค่ะก็จะมีผลิตภัณฑ์
00:30:18 → 00:30:22 ในท้องตลาดใช่ะเสริมแคลเซียมเข้าไปในนม
00:30:22 → 00:30:26 ถั่วเหลืองก็มีค่ะอือืค่ะครับผม่ะชอบมัก
00:30:26 → 00:30:29 นมถั่วเหลืองอืคือของของโปรดเลยจริงของ
00:30:29 → 00:30:33 โปรดเลยยิ่งใส่พวกลูกเดือยยิ่งใส่พวกวุ้น
00:30:33 → 00:30:36 นมถวเหลืองเป็นของที่เรายังถูกปากของเรา
00:30:36 → 00:30:39 อยู่แล้วก็ก็ไม่มีกลูเตนอยู่แล้วนะคะทำ
00:30:39 → 00:30:40 จาก
00:30:40 → 00:30:45 ธัญพืชสบายๆนะคะก็คือทานอาหารให้ครบอย่าง
00:30:45 → 00:30:47 ที่อาจารย์บอกนะคะมีทางเลือกเนาะถือว่ามี
00:30:47 → 00:30:51 ทางเลือกอยู่ไม่ได้แบบจนอับจนในการที่แ
00:30:51 → 00:30:54 ของกินยากอะไรนี้สักหน่อยจิต้องบอกว่า
00:30:54 → 00:30:56 ประเทศเราเป็นประเทศที่โชคดีนะคะเพราะว่า
00:30:56 → 00:30:59 อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งอาหารอาหารทุกหลาย
00:30:59 → 00:31:02 อย่างทุกอย่างเลยไม่ว่าจะเป็นกลุ่มข้าว
00:31:02 → 00:31:05 แป้งกลุ่มผักผลไม้ก็มีให้เลือกหลากหลาย
00:31:05 → 00:31:10 ตามฤดูกาลค่ะอือือือแล้วก็
00:31:11 → 00:31:14 เป็นหลีกเลี่ยงของหมักดองเครื่องดื่มที่
00:31:14 → 00:31:18 มีแอลกอฮอล์ใช่มั้ยคะอาจารยของดองบเเรียก
00:31:18 → 00:31:22 ว่าเป็นข้อปฏิบัติตามหลักโภชนาการ 9 ข้อ
00:31:22 → 00:31:25 ค่ะอืเื่อเมื่อสักครู่ที่พูดไปในเรื่อง
00:31:25 → 00:31:27 ของกลุ่มอาหารตามธงนี่ก็จะเป็นข้อที่ 1
00:31:27 → 00:31:31 ข้อที่ที่ก็คือเน้นในส่วนของการกินเเรียก
00:31:31 → 00:31:34 ว่ากินข้าวที่เป็นข้าวไม่ขัดสีอย่างเช่น
00:31:35 → 00:31:38 พวกข้าวก้องหรือว่าขัดสีน้อยๆสลับกับ
00:31:38 → 00:31:41 กลุ่มข้าวขาวหรือว่าเป็นเส้นอะไรอย่าง
00:31:41 → 00:31:43 เงี้ยค่ะสลับกันได้แล้วก็ข้อที่ 3 นี้ก็
00:31:43 → 00:31:46 คือในส่วนของเรื่องของการกินปลากินไข่ค่ะ
00:31:46 → 00:31:48 แล้วก็หลีกเลี่ยงในเรื่องของเนื้อสัตว์
00:31:48 → 00:31:52 ติดมันน่ะค่ะอือแล้วก็อาจจะต้องเพิ่มใน
00:31:52 → 00:31:55 กลุ่มของเขาเรียกว่าถั่วเมล็ดแห้งเข้าไป
00:31:55 → 00:31:58 คำว่าถั่วเมล็ดแห้งเนี่ยก็คือถั่วถั่วแดง
00:31:58 → 00:32:02 ถั่วเขียวถั่วดำอย่างเงี้ยค่ะในกลุ่มนี้
00:32:02 → 00:32:05 นอกเหนือจากจะมีโปรตีนมันก็ยังมีกลุ่มของ
00:32:05 → 00:32:08 ใหญ่อาหารด้วยค่ะที่เพิ่มเข้ามาแล้วก็
00:32:08 → 00:32:12 เน้นในส่วนของกินผักให้เป็นประจำส่วนของ
00:32:12 → 00:32:16 ผักเนี่ยก็กินให้มันหลากสีจริงๆกินทั้ง
00:32:16 → 00:32:19 ให้ครบ 5 สีก็จะก็จะดีเพราะว่าในแต่ละสี
00:32:19 → 00:32:22 ก็มีเขาเรียกว่ามีสารอาหารสำคัญที่แตก
00:32:22 → 00:32:26 ต่างกันไปค่ะอืแล้วก็เน้นย้ำเรื่องของการ
00:32:26 → 00:32:29 ดื่มนมดื่มนมนี่ก็เน้นเป็นกลุ่มนมรสจืดนะ
00:32:29 → 00:32:33 คะค่ะเพื่อหลีกเลี่ยงน้ำตาลค่ะก็ก็อย่าง
00:32:33 → 00:32:36 ที่บอกว่าหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงหวานจัด
00:32:36 → 00:32:40 เค็มจัดหรือว่าพวกผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ
00:32:40 → 00:32:45 ค่ะค่ะคุณผู้ฟังหลายคนก็จะได้ข้อมูลที่
00:32:45 → 00:32:47 ต้องการแล้วแล้วก็ขอบพระคุณอาจารย์มานะคะ
00:32:47 → 00:32:50 สุดท้ายนี้อาจารย์เอ่อย้ำอีกทีนึงว่า
00:32:50 → 00:32:54 กลูเตนไม่ใช่ตัวร้ายนะคะอาจารย์แล้วก็เรา
00:32:54 → 00:32:59 มีวิธีที่ทานอาหารที่เอ่อมีกลูเตนได้แต่
00:32:59 → 00:33:02 ก็มีข้อระมัดระวังที่จะต้องทานอาหารที่
00:33:02 → 00:33:06 สลับกันไปไม่ได้ซ้ำซากไม่ได้จำเจอยู่ทุก
00:33:06 → 00:33:09 วันใช่มั้ยคะจารยให้ข้อจำกัดความของ
00:33:09 → 00:33:13 กลูเตนนิดนึงแล้วก็เราคนไทย 99% น่าจะไม่
00:33:13 → 00:33:17 แพ้กลูเตนใช่มั้ยคะอืใช่ค่ะอือก็อย่างที่
00:33:17 → 00:33:21 บอกว่าเอ๊ตัวกูเตนเนี่ยถ้าเรามองในมุมมอง
00:33:21 → 00:33:24 ของคนปกติมันไม่ใช่ตัวร้ายมันก็ให้สาร
00:33:24 → 00:33:27 อาหารปกติเป็นอาหารชนิดอื่นแต่ถ้าเรามา
00:33:27 → 00:33:30 มองในมุมมองของคนที่แพ้คือสัมผัสเพียงนิด
00:33:30 → 00:33:32 เดียวหมายถึงว่ากินเข้าไปเล็กน้อยมันก็
00:33:32 → 00:33:34 เกิดอาการแพ้มันก็อาจจะมองเป็นตัวร้าย
00:33:34 → 00:33:38 สำหรับกลุ่มคนที่แพ้อือก็ต้องแบ่งประเภท
00:33:38 → 00:33:39 ของการมอง
00:33:40 → 00:33:45 กูเต็นเป็น 2 ประเภทค่ะอืเพราะฉะนั้นอ่ะ
00:33:45 → 00:33:48 สมมติอีกอีกนิดนึงถ้าเรามีอาการแพ้ขึ้นมา
00:33:48 → 00:33:51 แล้วเนี่ยทำยังไงเอ่อคนที่แพ้แล้วใช่จะจะ
00:33:51 → 00:33:54 ปฏิบัติตัวยังไงดีครับมันมีมันมีแบ่งแบ่ง
00:33:54 → 00:33:58 อแบ่งระยะของอาการมั้ยแล้วต้องควรจะไปหา
00:33:58 → 00:34:02 หมอได้ทันทีเลยหรือเปล่าอาจารย์ฮ่ะถ้าถ้า
00:34:02 → 00:34:05 เป็นอาการที่เค้าเรียกว่าภูมิแพ้ทั่วๆไป
00:34:05 → 00:34:08 เนี่ยก็อาจจะต้องหยุดคือต่อไปก็อาจจะไม่
00:34:08 → 00:34:11 ต้องกินอาหารเหล่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงแต่
00:34:11 → 00:34:14 ถ้าสมมุติว่าเราไม่สบายใจหรือเราเราเค้า
00:34:14 → 00:34:18 เรียกมีกำลังทรับหรือว่ามีเวลาก็น่าจะ
00:34:18 → 00:34:21 ต้องไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะเพราะว่าตอน
00:34:21 → 00:34:24 นี้เทคโนโลยีการตรวจก็ก็มีหลากหลายอย่าง
00:34:24 → 00:34:27 เช่นตรวจถึงระดับพันธุกรรมว่าเอ๊ะมันเป็น
00:34:27 → 00:34:31 โรคมั้หรือว่าเป็นสกินเทสทางผิวหนังดูว่า
00:34:31 → 00:34:35 เราแพ้อะไรบ้างจริถ้าเราไปตรวจสกินเทส
00:34:35 → 00:34:38 เนี่ยก็จะรู้หลายเอ่อจำไม่ได้ว่ากี่ราย
00:34:38 → 00:34:40 การนะคะแต่ว่าหลายรายการมากเลยในในส่วน
00:34:40 → 00:34:44 ที่แพ้แต่ก็ไม่ได้แนะนำว่าทุกคนที่พอกิน
00:34:44 → 00:34:47 ไปเรารู้สึกว่าท้องอืดมีผืนคันต้องต้องไป
00:34:47 → 00:34:50 ตรวจทุกคนเราสามารถหลีกเลี่ยงได้ถ้าเรา
00:34:50 → 00:34:53 สังเกตอาการตัวเองเหมือนเหมือนคนแพ้กุ้ง
00:34:53 → 00:34:56 แพ้อาหารทะเลทั่วไปอย่างเงี้ยค่ะค่ะอครับ
00:34:56 → 00:35:00 อ๋อแต่แต่ถ้ามีมีอาการมันก็คือการรักษา
00:35:00 → 00:35:03 คล้ายคล้ายๆขึอาการแพ้อาหารทั่วไปปกติถ้า
00:35:03 → 00:35:07 ไม่ได้แพ้มากเกินไปก็แต่ว่าที่รุนแรงก็
00:35:07 → 00:35:10 อาจจะเป็นเหมือนแบบทางแพ้ทางเดินหายใจที่
00:35:10 → 00:35:13 อาจจะทำให้ืหายใจอะไรอย่างเงี้ยค่ะออัน
00:35:13 → 00:35:17 นั้นอ่าอันนั้นก็ต้องอ่าปรึกษาแพทย์โดยดว
00:35:17 → 00:35:19 ถ้าเกิดอาการแพ้แบบนี้เพราะว่าจริงๆเรา
00:35:19 → 00:35:21 ไม่รู้ว่ามันเกิดจากกุดเด็นมั้ยหรือว่า
00:35:21 → 00:35:25 เกิดจากสารอื่นที่ที่เป็นแพ้เขมาร่วมด้วย
00:35:25 → 00:35:29 อย่างเงี้ยค่ะออพอพเรารู้ว่าตัวเองแพ้
00:35:29 → 00:35:31 หรือว่าไปเทสสกินเอ่อเทสเรื่องของการแพ้
00:35:31 → 00:35:34 ต่างๆอาการภูมิแพ้ต่างๆแล้วเนี่ยรู้แล้ว
00:35:34 → 00:35:37 ว่าเราแพ้ไอ้ตัวตัวกลูเตนเนี่ยเอ่อมันมัน
00:35:37 → 00:35:41 ต้องอยู่กับเขาให้ได้หรือว่ามันจะมีเอ่อ
00:35:41 → 00:35:44 ตัวยาหรืออะไรที่มันจะรักษาได้มั้ยฮะถาม
00:35:44 → 00:35:48 แบบงงๆถามแบบแบบอยากรู้อ่ะอยากรู้ถ้ายา
00:35:48 → 00:35:51 ถ้ายานี่ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่าแต่ส่วน
00:35:51 → 00:35:53 ใหญ่ถามว่าเราจะอยู่กับเขาได้ยังไงก็อาจ
00:35:53 → 00:35:56 จะต้องเลือกผลิตภัณฑ์อย่างที่เราคุยกันไป
00:35:56 → 00:35:59 ตั้งแต่ต้นรายการจริงถามว่าเราจำเป็นต้อง
00:35:59 → 00:36:03 กินอาหารที่มีข้าวสาลีมีข้าวบาเล่ข้าวลาย
00:36:03 → 00:36:06 เป็นส่วนประกอบมีชีวิตประจำวันของคนไทย
00:36:06 → 00:36:10 เราก็ไม่ต้องหมายถึงว่าหลีกเลี่ยงได้เนาะ
00:36:10 → 00:36:12 เพราะว่ามันก็จะมีอาหารชนิดอื่นหรือว่า
00:36:12 → 00:36:15 แม้กระทั่งในผลิตภัณฑ์เบเกอรี่เองที่ไม่
00:36:15 → 00:36:19 ได้ใช้เอ่อข้าวสาลีเลยแต่ว่าใช้ไข่ขาวแทน
00:36:19 → 00:36:22 หรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะที่เขาพัฒนาสูตร
00:36:22 → 00:36:26 สำหรับคนที่แพ้ก็ก็มีให้เลือกหลากหลายใน
00:36:26 → 00:36:29 เรียกในท้องตลาดทั่ไปในปัจจุบันนะคะต้อง
00:36:29 → 00:36:32 บอกว่ามันเป็นอุตสาหกรรมอาหารเนาะที่
00:36:32 → 00:36:37 พัฒนามากขึ้นออือต้องเลือกให้เหมาะกับ
00:36:37 → 00:36:40 สุขภาพของเราต้องบอกแบบนี้ดีกว่าค่ะอื
00:36:40 → 00:36:43 โอโหก็ดีนะในยุคปัจจุบันก็ถือว่าแบบเอ่อ
00:36:43 → 00:36:45 ความหลากหลายในการเอ่อบริโภคมันค่อนข้าง
00:36:45 → 00:36:48 เยอะแล้วก็ทางเลือกเยอะอ่ะไม่เหมือนไม่
00:36:48 → 00:36:52 เหมือนถ้าเป็นยุคย้อนไปสัก 20 ปีก็ผมว่า
00:36:52 → 00:36:55 เราจะไม่รู้จักว่าเราจะแบ่งอะไรเราจะแพ้
00:36:55 → 00:36:59 อะไรเราจะเลือกอะไรยังไงที่อยากเน้นย้ำก็
00:36:59 → 00:37:02 คือต้องสังเกตแล้วก็อาจจะต้องอาศัยการ
00:37:02 → 00:37:05 อ่านฉลากโภชนาการเพราะจริงๆในฉลาก
00:37:05 → 00:37:08 โภชนาการเนี่ยมีประโยชน์มากอืนอกจากเหนือ
00:37:08 → 00:37:11 จากดูว่ามันมีส่วนประกอบของอะไรแล้วก็จะ
00:37:11 → 00:37:15 มีคุณค่าทางโภชนาการต่างๆดูว่าเอ๊ะ 1 ซอง
00:37:15 → 00:37:18 เนี่ยเราควรกินหมดมั้ยหรือเขาเขียนว่า 1
00:37:18 → 00:37:22 ซองควรแบ่งกิน 3 ครั้งก็แสดงว่าต้องแบ่ง
00:37:22 → 00:37:25 กิน 3 ครั้งไม่ให้กินใน 1 ครั้ง
00:37:25 → 00:37:28 หมดเออแต่เราดืเชื่อเราจะไม่เชื่อักดื้อ
00:37:28 → 00:37:32 เราักดซองนึงควรกินถึง 3 ครั้งนะเก็บไว้
00:37:32 → 00:37:35 มันแน่นตัวยไปหน่อยถ้างั้นเราก็ต้องเลือก
00:37:35 → 00:37:37 ซื้อซองที่มันเล็กลงแล้วก็กินหมดครั้ง
00:37:37 → 00:37:41 เดียวค่ะอมันแต่มันไม่ไม่ไม่จุใจไม่จุใจ
00:37:41 → 00:37:44 โอ้วันนี้ได้ความรู้มากมายเออเหมือนคุณ
00:37:44 → 00:37:47 ผู้ฟังท่านนี้เลยพี่นกอาจารย์ว่าไงคะเอ่อ
00:37:47 → 00:37:50 คือแบบเขาบอกว่าของท่านผู้ฟังท่านนี้บอก
00:37:50 → 00:37:53 ว่าแพ้แพ้เหมือนกันแต่เป็นแพ้ข้าวขาหมู
00:37:53 → 00:37:55 เจอเมื่อไหร่นะน้ำลายไหลเป็นพิเศษต้อง
00:37:55 → 00:37:59 สั่งเพิ่มพิเศษซะเลยเไม่มีกลูเตนอันนี้
00:37:59 → 00:38:02 อันนี้ไม่ได้แพ้อาหารนะฮะแพ้ความยั่วยวน
00:38:02 → 00:38:04 ของอาหารน้ำน้ำลายหกทุกครั้งเหมือนกันนะ
00:38:04 → 00:38:08 สำหรับคนที่ระมัดระวังในไขมันก็ตามนะคะ
00:38:08 → 00:38:12 เดี๋ยวโอกาสหน้าใช่จะต้องชวนอาจารย์
00:38:12 → 00:38:15 วรทิพย์นะคุยเรื่องของโภชนาการเพิ่มเติม
00:38:15 → 00:38:18 อีกหลากหลายเรื่องเลยเรื่องของโซเดียมก็
00:38:18 → 00:38:23 ดีซึ่งที่อาจารย์ให้แนะนำให้ดูของเอ่อ
00:38:23 → 00:38:27 สลากโภชนาการใช่ใช่เห็นโซเดียมมันเยอะทุก
00:38:27 → 00:38:30 ครั้งแล้วก็ใจแป้วนะคะเอ๊ะครับแล้วทำไม
00:38:30 → 00:38:32 มันเยอะขนาดนั้นล่ะคะมันไม่มีน้อยเลยนะคะ
00:38:32 → 00:38:35 เรื่องของโซเดียมเดี๋ยวไว้โอกาสหน้าต้อง
00:38:35 → 00:38:38 ชวนอาจารย์คุยหน่อยนะคะค่ะเพราะเราก็กลัว
00:38:38 → 00:38:40 ๆกันอยู่วันนี้ก็ได้ความรู้เรื่องของ
00:38:40 → 00:38:44 กลูเตนแล้วนะคะเค้าก็ไม่ใช่ตัวร้ายแล้ว
00:38:44 → 00:38:47 เขาก็ต้องเอ่อสงบเสงี่ยมเขาคก็เป็นโปรตีน
00:38:48 → 00:38:50 ชนิดหนึ่งเราก็ต้องระมัดระวังให้ดีนะคะ
00:38:50 → 00:38:53 สำหรับคนที่แท้ค่ะวันนี้ขอบพระคุณอาจารย์
00:38:53 → 00:38:56 วารีทิพย์มากเลยนะคะขอบพระคุณมากค่ะ
00:38:56 → 00:38:59 อาจารย์คะสวัสดีค่ะสวัสดีครับสวัสดีครับ
00:38:59 → 00:39:02 อาจารย์ครับค่ะอาจารย์วารีทิพย์พึ่งพันนะ
00:39:02 → 00:39:05 คะนักโภชนาการชำนาญการพิเศษจากกรมอนามัย
00:39:05 → 00:39:08 นะคะนาย