00:00:06 → 00:00:08 คนไทยกินน้ำมันหลากหลายนะ
00:00:09 → 00:00:13 ตั้งแต่สมัยโบราณมา เรากินไขมัน ซึ่งเราบอกว่าอิ่มตัวเยอะมาก
00:00:13 → 00:00:16 เช่น น้ำมันหมู จะใช้ทอดอาหารเป็นประจำอยู่แล้ว
00:00:16 → 00:00:20 สัดส่วนของน้ำมันหมู ถ้าเทียบกับ น้ำมันพืชหลายชนิดดีกว่า
00:00:20 → 00:00:24 ก็จะมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว ค่อนข้างจะมากนิดหนึ่ง
00:00:24 → 00:00:27 แต่เทียบกับน้ำมันปาล์มเอง มันก็ไม่ได้เลวร้ายมาก
00:00:27 → 00:00:32 เพราะฉะนั้น จริง ๆ น้ำมันหมูเอง จะมีสัดส่วนที่เป็นไขมันอิ่มตัวมากหน่อย
00:00:33 → 00:00:35 เวลาไปทอด มันก็จะมีประโยชน์
00:00:35 → 00:00:39 ก็คือว่า ถ้าทอดกรอบ มันก็จะกรอบ มันก็จะหอม
00:00:43 → 00:00:46 บางคนบอกว่า น้ำมันหมูมีคอเลสเตอรอล
00:00:46 → 00:00:49 มี...ระดับหนึ่ง ไม่ได้เยอะมาก แต่ก็มี
00:00:50 → 00:00:51 เพราะฉะนั้น เราจะได้คอเลสเตอรอลเพิ่มมานิดหนึ่ง
00:00:51 → 00:00:55 เพราะฉะนั้นตรงนี้ถามว่า ใช้น้ำมันหมูแล้วมีประโยชน์กับร่างกาย
00:00:55 → 00:00:57 เทียบกับน้ำมันพืชไหม คงไม่ใช่
00:00:57 → 00:01:00 แต่ถามว่ามีโทษขนาดนั้นหรือเปล่า ก็คงไม่ใช่
00:01:00 → 00:01:04 สมัยโบราณ เรากินน้ำมันหมูมานาน คนไทยไม่มีปัญหาเรื่อง NCDs
00:01:05 → 00:01:08 เพราะฉะนั้น เรากิน เราประมาณการทอด เราไม่ได้ทอดเยอะแยะ
00:01:08 → 00:01:10 แล้วเราก็ใช้พลังงาน
00:01:10 → 00:01:13 เพราะฉะนั้น การกินให้บาลานซ์ สำคัญที่สุด ให้มันสมดุล
00:01:16 → 00:01:18 คือน้ำมันและไขมันในธรรมชาติ
00:01:19 → 00:01:24 จะมีสูตร 3 ประเภทรวมกันอยู่ในนั้น ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน
00:01:24 → 00:01:26 ชนิดที่ 1 เรียกว่า ไขมันอิ่มตัว
00:01:34 → 00:01:37 ไขมันอิ่มตัว ผลต่อร่างกายคือว่า
00:01:37 → 00:01:41 ถ้าทานมากเกินไป ก็จะมีผลทำให้ LDL มันเพิ่มขึ้น
00:01:41 → 00:01:45 LDL ก็คือคอเลสเตอรอลตัวที่ไม่ดี ซึ่งก็จะมีผลในการเพิ่มคอเลสเตอรอลด้วย
00:01:46 → 00:01:49 ข้อดีของไขมันอิ่มตัวก็มีคือ มันมีความคงตัวสูง
00:01:49 → 00:01:53 ฉะนั้น เวลาเราไปทอดที่อุณหภูมิสูง ๆ โอกาสที่จะเกิดควันก็จะไม่มี
00:01:53 → 00:01:54 เพราะฉะนั้น อาหารที่ทอดกรอบ
00:01:54 → 00:01:58 เราต้องการน้ำมัน ที่มีสัดส่วนของไขมันอิ่มตัวสูง
00:01:58 → 00:02:01 เพราะเนื่องจาก ทำให้อาหารนั้นกรอบ โดยที่ไม่เสียคุณภาพ
00:02:02 → 00:02:05 ประเภทที่ 2 คือ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
00:02:14 → 00:02:16 อันนี้ก็คือ มีจุดที่ไม่อิ่มตัวอยู่ 1 ตำแหน่ง
00:02:17 → 00:02:23 อันนี้ก็จะเป็น กรดไขมันที่ให้พลังงาน และมีความคงทนต่อการทอด
00:02:23 → 00:02:26 หรือการให้ความร้อนสูงในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากเท่ากับชนิดแรก
00:02:27 → 00:02:30 ตัวนี้ให้พลังงาน แต่ไม่ค่อยมีผล ในการเพิ่มหรือลดคอเลสเตอรอล
00:02:30 → 00:02:33 มันก็เป็นกลาง ๆ เป็นตัวนำสารอาหารต่าง ๆ ได้ดี
00:02:34 → 00:02:36 ชนิดที่ 3 ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
00:02:45 → 00:02:47 ก็คือมีความไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
00:02:47 → 00:02:50 พวกนี้ ข้อดีของเขาคือ ทำให้ LDL ลดลง
00:02:50 → 00:02:53 LDL ก็คือ คอเลสเตอรอลตัวที่ไม่ดี ที่บอกไปแล้ว
00:02:53 → 00:02:54 ก็มีผลทำให้คอเลสเตอรอลลดลง
00:02:54 → 00:02:58 แต่ข้อเสียของเขาคือว่า เขาจะไม่ทนต่อความร้อนสูง
00:02:58 → 00:03:00 พอเวลาเราไปทอดไปผัด ตัวเขาจะหืนง่าย
00:03:01 → 00:03:05 เวลาหืนง่าย เวลาอาหารหืน สิ่งที่เกิดขึ้นที่เราไม่ต้องการคืออะไร
00:03:05 → 00:03:09 คืออนุมูลอิสระ ตัวนี้จะเป็นตัวทำให้ก่อมะเร็งได้
00:03:09 → 00:03:10 เพราะฉะนั้น ตรงนี้จะเห็นภาพว่า
00:03:10 → 00:03:14 ถ้าเราใช้น้ำมันเหล่านี้ไปทอดที่อุณหภูมิสูง หรือเปิดทิ้งไว้นาน ๆ
00:03:14 → 00:03:17 โอกาสที่จะเกิดความหืนได้ ก็จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง
00:03:18 → 00:03:21 แต่ขณะเดียวกัน ขณะนี้ชีวิตคนของเราเปลี่ยน
00:03:21 → 00:03:23 เรากินของผัดทอดมากขึ้นอีก
00:03:23 → 00:03:27 แต่ขณะเดียวกัน เราจะกิน ชนิดของน้ำมันต่าง ๆ ที่ใช้
00:03:27 → 00:03:30 เราก็มั่ว ใช้มั่วไปเรื่อยนะครับ
00:03:30 → 00:03:32 เราไม่ค่อยดูแลว่าอะไรที่เหมาะกับอะไร
00:03:32 → 00:03:34 แต่จริง ๆ แล้ว เวลาเรากินอาหารพวกนี้
00:03:34 → 00:03:38 เราต้องเลือกชนิดของไขมันหรือน้ำมัน ที่เหมาะกับการทำอาหาร
00:03:46 → 00:03:49 เวลาเราเลือกใช้น้ำมัน เราจะเห็นภาพว่า ถ้าเกิดเรามาใช้ทอดกรอบ
00:03:50 → 00:03:52 ต้องการอะไรที่มันทอดนาน ๆ ทอดกรอบ
00:03:52 → 00:03:55 ต้องการความกรอบ ความหอม แบบกลิ่นไหม้หน่อย ๆ อะไรพวกนี้
00:03:56 → 00:03:59 ก็ต้องใช้น้ำมันที่อิ่มตัว น้ำมันปาล์มก็เป็นทางเลือกอันหนึ่ง
00:03:59 → 00:04:05 แต่ถ้าเกิดเราต้องการผัด ผัดนิดหน่อย น้ำมันถั่วเหลืองก็ได้
00:04:05 → 00:04:06 น้ำมันรำข้าวอยู่กลาง ๆ
00:04:07 → 00:04:09 น้ำมันรำข้าวก็จะมีความหลากหลายในการใช้งาน
00:04:09 → 00:04:13 มีส่วนที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว อยู่ตรงกลางเยอะนิดหนึ่ง
00:04:14 → 00:04:17 ซึ่งเชิงเดี่ยวจะเป็นตัวที่ ถ้าร้อนเกินไปหน่อย ก็ไม่เป็นไร
00:04:17 → 00:04:20 เพราะฉะนั้น น้ำมันรำข้าวก็เป็น น้ำมันที่ใช้ได้หลากหลายนิดหนึ่ง
00:04:20 → 00:04:23 แต่ถ้าเกิดอาหารแบบที่ ส่วนมากเรามาทำน้ำสลัด
00:04:24 → 00:04:27 น้ำมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน น่าจะมีประโยชน์
00:04:28 → 00:04:29 เพราะเนื่องจากว่าตัวมันยังไม่ถูกเปลี่ยนสภาพ
00:04:29 → 00:04:31 ไม่มีโอกาสที่จะหืน
00:04:32 → 00:04:35 ใช้น้ำมันถั่วเหลืองสบาย น้ำมันรำข้าวก็ยังพอไหว
00:04:43 → 00:04:47 ไขมันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากต่อร่างกาย การเลือกรับประทาน
00:04:47 → 00:04:51 สัดส่วนที่เหมาะสมจริง ๆ แล้ว ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ
00:04:51 → 00:04:54 คือ 1 : 1 : 1 1 : 1 : 1 ก็คือ
00:04:54 → 00:04:56 ไขมันอิ่มตัว 1 ส่วน
00:04:56 → 00:04:59 ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 1 ส่วน
00:04:59 → 00:05:02 ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 1 ส่วน
00:05:02 → 00:05:05 จะเห็นว่า ทุกตัวมีความสำคัญใกล้เคียงกันหมด
00:05:05 → 00:05:08 เพราะจริง ๆ เวลาเราเลือกรับประทาน เราจะเลือกให้หลากหลาย
00:05:08 → 00:05:10 การกินอาหารที่หลากหลายดีที่สุด
00:05:18 → 00:05:21 การที่กินน้ำมันหรือไขมันเข้าไป ต้องมีการใช้ออก
00:05:21 → 00:05:25 ต้องมีการใช้พลังงาน เพื่อจะให้ไขมันที่กินเข้าไปมีการเผาผลาญ
00:05:25 → 00:05:27 และเป็นพลังงาน และไม่เหลือสะสมมาก
00:05:28 → 00:05:33 ในการทำอาหารในบ้านเรา อาจจะมีน้ำมันมากกว่า 1 ชนิดในบ้าน
00:05:33 → 00:05:37 ไม่ใช่ว่ามีชนิดเดียวแล้วใช้ทุกอย่าง อันนี้คือสิ่งที่อยากจะบอกไว้ครับ
00:00:06 → 00:00:08 คนไทยกินน้ำมันหลากหลายนะ
00:00:09 → 00:00:13 ตั้งแต่สมัยโบราณมา เรากินไขมัน ซึ่งเราบอกว่าอิ่มตัวเยอะมาก
00:00:13 → 00:00:16 เช่น น้ำมันหมู จะใช้ทอดอาหารเป็นประจำอยู่แล้ว
00:00:16 → 00:00:20 สัดส่วนของน้ำมันหมู ถ้าเทียบกับ น้ำมันพืชหลายชนิดดีกว่า
00:00:20 → 00:00:24 ก็จะมีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว ค่อนข้างจะมากนิดหนึ่ง
00:00:24 → 00:00:27 แต่เทียบกับน้ำมันปาล์มเอง มันก็ไม่ได้เลวร้ายมาก
00:00:27 → 00:00:32 เพราะฉะนั้น จริง ๆ น้ำมันหมูเอง จะมีสัดส่วนที่เป็นไขมันอิ่มตัวมากหน่อย
00:00:33 → 00:00:35 เวลาไปทอด มันก็จะมีประโยชน์
00:00:35 → 00:00:39 ก็คือว่า ถ้าทอดกรอบ มันก็จะกรอบ มันก็จะหอม
00:00:43 → 00:00:46 บางคนบอกว่า น้ำมันหมูมีคอเลสเตอรอล
00:00:46 → 00:00:49 มี...ระดับหนึ่ง ไม่ได้เยอะมาก แต่ก็มี
00:00:50 → 00:00:51 เพราะฉะนั้น เราจะได้คอเลสเตอรอลเพิ่มมานิดหนึ่ง
00:00:51 → 00:00:55 เพราะฉะนั้นตรงนี้ถามว่า ใช้น้ำมันหมูแล้วมีประโยชน์กับร่างกาย
00:00:55 → 00:00:57 เทียบกับน้ำมันพืชไหม คงไม่ใช่
00:00:57 → 00:01:00 แต่ถามว่ามีโทษขนาดนั้นหรือเปล่า ก็คงไม่ใช่
00:01:00 → 00:01:04 สมัยโบราณ เรากินน้ำมันหมูมานาน คนไทยไม่มีปัญหาเรื่อง NCDs
00:01:05 → 00:01:08 เพราะฉะนั้น เรากิน เราประมาณการทอด เราไม่ได้ทอดเยอะแยะ
00:01:08 → 00:01:10 แล้วเราก็ใช้พลังงาน
00:01:10 → 00:01:13 เพราะฉะนั้น การกินให้บาลานซ์ สำคัญที่สุด ให้มันสมดุล
00:01:16 → 00:01:18 คือน้ำมันและไขมันในธรรมชาติ
00:01:19 → 00:01:24 จะมีสูตร 3 ประเภทรวมกันอยู่ในนั้น ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน
00:01:24 → 00:01:26 ชนิดที่ 1 เรียกว่า ไขมันอิ่มตัว
00:01:34 → 00:01:37 ไขมันอิ่มตัว ผลต่อร่างกายคือว่า
00:01:37 → 00:01:41 ถ้าทานมากเกินไป ก็จะมีผลทำให้ LDL มันเพิ่มขึ้น
00:01:41 → 00:01:45 LDL ก็คือคอเลสเตอรอลตัวที่ไม่ดี ซึ่งก็จะมีผลในการเพิ่มคอเลสเตอรอลด้วย
00:01:46 → 00:01:49 ข้อดีของไขมันอิ่มตัวก็มีคือ มันมีความคงตัวสูง
00:01:49 → 00:01:53 ฉะนั้น เวลาเราไปทอดที่อุณหภูมิสูง ๆ โอกาสที่จะเกิดควันก็จะไม่มี
00:01:53 → 00:01:54 เพราะฉะนั้น อาหารที่ทอดกรอบ
00:01:54 → 00:01:58 เราต้องการน้ำมัน ที่มีสัดส่วนของไขมันอิ่มตัวสูง
00:01:58 → 00:02:01 เพราะเนื่องจาก ทำให้อาหารนั้นกรอบ โดยที่ไม่เสียคุณภาพ
00:02:02 → 00:02:05 ประเภทที่ 2 คือ ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
00:02:14 → 00:02:16 อันนี้ก็คือ มีจุดที่ไม่อิ่มตัวอยู่ 1 ตำแหน่ง
00:02:17 → 00:02:23 อันนี้ก็จะเป็น กรดไขมันที่ให้พลังงาน และมีความคงทนต่อการทอด
00:02:23 → 00:02:26 หรือการให้ความร้อนสูงในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากเท่ากับชนิดแรก
00:02:27 → 00:02:30 ตัวนี้ให้พลังงาน แต่ไม่ค่อยมีผล ในการเพิ่มหรือลดคอเลสเตอรอล
00:02:30 → 00:02:33 มันก็เป็นกลาง ๆ เป็นตัวนำสารอาหารต่าง ๆ ได้ดี
00:02:34 → 00:02:36 ชนิดที่ 3 ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน
00:02:45 → 00:02:47 ก็คือมีความไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง
00:02:47 → 00:02:50 พวกนี้ ข้อดีของเขาคือ ทำให้ LDL ลดลง
00:02:50 → 00:02:53 LDL ก็คือ คอเลสเตอรอลตัวที่ไม่ดี ที่บอกไปแล้ว
00:02:53 → 00:02:54 ก็มีผลทำให้คอเลสเตอรอลลดลง
00:02:54 → 00:02:58 แต่ข้อเสียของเขาคือว่า เขาจะไม่ทนต่อความร้อนสูง
00:02:58 → 00:03:00 พอเวลาเราไปทอดไปผัด ตัวเขาจะหืนง่าย
00:03:01 → 00:03:05 เวลาหืนง่าย เวลาอาหารหืน สิ่งที่เกิดขึ้นที่เราไม่ต้องการคืออะไร
00:03:05 → 00:03:09 คืออนุมูลอิสระ ตัวนี้จะเป็นตัวทำให้ก่อมะเร็งได้
00:03:09 → 00:03:10 เพราะฉะนั้น ตรงนี้จะเห็นภาพว่า
00:03:10 → 00:03:14 ถ้าเราใช้น้ำมันเหล่านี้ไปทอดที่อุณหภูมิสูง หรือเปิดทิ้งไว้นาน ๆ
00:03:14 → 00:03:17 โอกาสที่จะเกิดความหืนได้ ก็จะทำให้เกิดสารก่อมะเร็ง
00:03:18 → 00:03:21 แต่ขณะเดียวกัน ขณะนี้ชีวิตคนของเราเปลี่ยน
00:03:21 → 00:03:23 เรากินของผัดทอดมากขึ้นอีก
00:03:23 → 00:03:27 แต่ขณะเดียวกัน เราจะกิน ชนิดของน้ำมันต่าง ๆ ที่ใช้
00:03:27 → 00:03:30 เราก็มั่ว ใช้มั่วไปเรื่อยนะครับ
00:03:30 → 00:03:32 เราไม่ค่อยดูแลว่าอะไรที่เหมาะกับอะไร
00:03:32 → 00:03:34 แต่จริง ๆ แล้ว เวลาเรากินอาหารพวกนี้
00:03:34 → 00:03:38 เราต้องเลือกชนิดของไขมันหรือน้ำมัน ที่เหมาะกับการทำอาหาร
00:03:46 → 00:03:49 เวลาเราเลือกใช้น้ำมัน เราจะเห็นภาพว่า ถ้าเกิดเรามาใช้ทอดกรอบ
00:03:50 → 00:03:52 ต้องการอะไรที่มันทอดนาน ๆ ทอดกรอบ
00:03:52 → 00:03:55 ต้องการความกรอบ ความหอม แบบกลิ่นไหม้หน่อย ๆ อะไรพวกนี้
00:03:56 → 00:03:59 ก็ต้องใช้น้ำมันที่อิ่มตัว น้ำมันปาล์มก็เป็นทางเลือกอันหนึ่ง
00:03:59 → 00:04:05 แต่ถ้าเกิดเราต้องการผัด ผัดนิดหน่อย น้ำมันถั่วเหลืองก็ได้
00:04:05 → 00:04:06 น้ำมันรำข้าวอยู่กลาง ๆ
00:04:07 → 00:04:09 น้ำมันรำข้าวก็จะมีความหลากหลายในการใช้งาน
00:04:09 → 00:04:13 มีส่วนที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว อยู่ตรงกลางเยอะนิดหนึ่ง
00:04:14 → 00:04:17 ซึ่งเชิงเดี่ยวจะเป็นตัวที่ ถ้าร้อนเกินไปหน่อย ก็ไม่เป็นไร
00:04:17 → 00:04:20 เพราะฉะนั้น น้ำมันรำข้าวก็เป็น น้ำมันที่ใช้ได้หลากหลายนิดหนึ่ง
00:04:20 → 00:04:23 แต่ถ้าเกิดอาหารแบบที่ ส่วนมากเรามาทำน้ำสลัด
00:04:24 → 00:04:27 น้ำมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน น่าจะมีประโยชน์
00:04:28 → 00:04:29 เพราะเนื่องจากว่าตัวมันยังไม่ถูกเปลี่ยนสภาพ
00:04:29 → 00:04:31 ไม่มีโอกาสที่จะหืน
00:04:32 → 00:04:35 ใช้น้ำมันถั่วเหลืองสบาย น้ำมันรำข้าวก็ยังพอไหว
00:04:43 → 00:04:47 ไขมันเป็นสิ่งที่จำเป็นมากต่อร่างกาย การเลือกรับประทาน
00:04:47 → 00:04:51 สัดส่วนที่เหมาะสมจริง ๆ แล้ว ที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ
00:04:51 → 00:04:54 คือ 1 : 1 : 1 1 : 1 : 1 ก็คือ
00:04:54 → 00:04:56 ไขมันอิ่มตัว 1 ส่วน
00:04:56 → 00:04:59 ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 1 ส่วน
00:04:59 → 00:05:02 ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 1 ส่วน
00:05:02 → 00:05:05 จะเห็นว่า ทุกตัวมีความสำคัญใกล้เคียงกันหมด
00:05:05 → 00:05:08 เพราะจริง ๆ เวลาเราเลือกรับประทาน เราจะเลือกให้หลากหลาย
00:05:08 → 00:05:10 การกินอาหารที่หลากหลายดีที่สุด
00:05:18 → 00:05:21 การที่กินน้ำมันหรือไขมันเข้าไป ต้องมีการใช้ออก
00:05:21 → 00:05:25 ต้องมีการใช้พลังงาน เพื่อจะให้ไขมันที่กินเข้าไปมีการเผาผลาญ
00:05:25 → 00:05:27 และเป็นพลังงาน และไม่เหลือสะสมมาก
00:05:28 → 00:05:33 ในการทำอาหารในบ้านเรา อาจจะมีน้ำมันมากกว่า 1 ชนิดในบ้าน
00:05:33 → 00:05:37 ไม่ใช่ว่ามีชนิดเดียวแล้วใช้ทุกอย่าง อันนี้คือสิ่งที่อยากจะบอกไว้ครับ