00:00:00 → 00:00:02 ลดน้ำหนักง่ายๆ 10 กกใน 2 เดือนเพียงแค่
00:00:02 → 00:00:05 เอาเทคนิคในการปรับเครื่องปรุงกับการลด
00:00:05 → 00:00:08 โซเดียมในคลิปนี้ไปปรับใช้นะครับใครที่
00:00:09 → 00:00:11 เคยตื่นมาแล้วน้ำหนักขึ้นเลยนะครับรู้สึก
00:00:11 → 00:00:13 ว่ากินอาหารไปแล้วตัวมันบวมๆนะครับอย่า
00:00:13 → 00:00:15 พลาดคลิปนี้เด็ดขาดเพราะว่ามันจะทำให้คุณ
00:00:15 → 00:00:18 ลดน้ำหนักได้เร็วขึ้นนะครับสวัสดีครับผม
00:00:18 → 00:00:20 หมอ 1 Healthy ฮีโร่นะครับลดน้ำหนัก
00:00:20 → 00:00:22 ครั้งสุดท้ายในชีวิตคิดถึงหมอ 1 Healthy
00:00:22 → 00:00:24 ฮีโร่นะครับสำหรับคลิปนี้นะครับมีเพื่อนๆ
00:00:24 → 00:00:26 ในช่องเนี่ยถามมาเกี่ยวกับว่าคุณหมอครับ
00:00:26 → 00:00:28 อยากให้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องเครื่องปรุง
00:00:28 → 00:00:31 บ้างมันมีผลกับการลดน้ำหนักยังไงบอกเลย
00:00:31 → 00:00:34 ว่ามีนะครับแต่หลายคนเนี่ยมองข้ามไปทำให้
00:00:34 → 00:00:37 ลดน้ำหนักแล้วไปถึงเป้าหมายได้ช้าหรือบาง
00:00:37 → 00:00:40 คนเนี่ยอยู่ดีๆตื่นมาวันรุ่งขึ้นตอนเช้า
00:00:40 → 00:00:42 อ้วนเลยนะครับจิตตกเลยอุยทำไมน้ำหนักขึ้น
00:00:42 → 00:00:45 นะมันมีเหตุผลอยู่ตั้งใจฟังคลิปนี้ให้จบ
00:00:45 → 00:00:48 เนาะนะครับใครที่เพิ่งมาฟังคลิปนี้เพิ่ง
00:00:48 → 00:00:50 มารู้จักหมอ 1 นะครับอย่าลืมกดหัวใจกดติด
00:00:50 → 00:00:52 ตามนะครับหมอ 1 จะลงคลิปทุกวันอังคาร
00:00:52 → 00:00:55 พฤหัสแล้วก็อาทิตย์นะครับเน้นหลักๆเลยคือ
00:00:55 → 00:00:57 เรื่องของการลดน้ำหนักนะครับก็อย่าลืมกด
00:00:57 → 00:00:59 หัวใจกดติดตามไว้นะครับจะได้ไม่พลาดคลิป
00:00:59 → 00:01:01 ต่างๆที่ันหนลงไว้นะครับคราวนี้ก็ตาม
00:01:01 → 00:01:03 ธรรมเนียมนะครับนะขอแสดงความยินดีกับ
00:01:03 → 00:01:05 เพื่อนๆของเราท่านนี้นะครับนะติดตามผมมา
00:01:05 → 00:01:08 แล้วก็ลดจาก 95 เหลือ 85 ใช้เวลา 2 เดือน
00:01:08 → 00:01:11 เท่านั้นเองนะเพราะฉะนั้นถามว่ายากมยไม่
00:01:11 → 00:01:13 ยากเลยนะครับนะแล้วก็คุณจะมีความสุขมาก
00:01:13 → 00:01:15 ขึ้นกลับไปใส่เสื้อผ้าได้สบายแลที่สำคัญ
00:01:15 → 00:01:17 คุณจะกลับมารักตัวเองมากขึ้นเมื่อคุณ
00:01:17 → 00:01:20 เริ่มลดน้ำหนักได้นะแต่สิ่งที่เราจะคุย
00:01:20 → 00:01:22 กันวันนี้เนี่ยคือมีเพื่อนอีกคนนึงนะหมอน
00:01:22 → 00:01:24 หนึ่งเข้าไปตอบคอมเมนต์แล้วก็เจอว่าเถาม
00:01:24 → 00:01:26 ว่าเกี่ยวกับพวกเครื่องปรุงรถอ่ะคคุณหมอ
00:01:26 → 00:01:28 ว่าผงผงปรุงรถน้ำปลาเกลืออะไรพวกเยมันมี
00:01:28 → 00:01:31 ผลกับการลดน้ำหนักมยอธิบายแบบนี้แล้วกัน
00:01:31 → 00:01:34 นะตั้งใจฟังดีๆนะนะครับน้ำหนักบนตาช่าง
00:01:34 → 00:01:37 ของคนเราเนี่ยมันประกอบไปด้วยน้ำไขมัน
00:01:37 → 00:01:40 กล้ามเนื้อกระดูกอ่าเวลาคุณขึ้นไปยูนบนตา
00:01:40 → 00:01:43 ช่างนะเพราะฉะนั้นการที่คุณจะลดน้ำหนัก
00:01:43 → 00:01:46 คุณก็ต้องรู้ก่อนว่าสิ่งที่คุณตั้งใจจะลด
00:01:46 → 00:01:48 อ่ะมันคือไขมันเพราะฉะนั้นเวลาน้ำหนักลด
00:01:48 → 00:01:50 อย่าเพิ่งดีใจว่าคุณผอมลงหรือเปล่าเพราะ
00:01:50 → 00:01:53 คำว่าผอมหมายความว่าไขมันต้องลดลงนะและ
00:01:53 → 00:01:56 เวลาอ้วนก็อย่าเพิ่งตกใจเหมือนกันว่าคุณ
00:01:56 → 00:01:58 อ้วนขึ้นหรือเปล่าเพราะคำว่าอ้วนหมายความ
00:01:58 → 00:02:00 ว่าไขมันคุณต้องเพิ่มขึ้นต้องเข้าใจตรง
00:02:00 → 00:02:02 นี้ก่อนนะนี่มันหมายความว่าอะไรครับคุณ
00:02:02 → 00:02:04 หมอมันหมายความว่าอย่างนี้ครับคือคนบางคน
00:02:05 → 00:02:08 เนี่ยตกใจว่าช่างน้ำหนักเมื่อวานตอนเช้า
00:02:08 → 00:02:10 ได้ 70 ทำไมวันรุ่งขึ้นได้ 72 เราอ้วน
00:02:11 → 00:02:13 ขึ้นหรือเปล่าจำไว้เลยนะว่าน้ำหนักที่
00:02:13 → 00:02:16 เปลี่ยนแปลงเร็วๆในระยะเวลา 1 วันมักจะ
00:02:16 → 00:02:18 ไม่ใช่น้ำหนักของไขมันอ่านะครับจดใส่
00:02:19 → 00:02:21 กระดาษไวที่บ้านแปะหน้ากระจกไว้เลยนะจะ
00:02:21 → 00:02:23 ได้ไม่ตกใจเพราะอะไรรู้มยเพราะว่าไขมัน
00:02:23 → 00:02:25 มันไม่สามารถจะอยู่ดีๆสะสมมาได้วันนึง
00:02:25 → 00:02:28 เนี่ย 2 กกหรอกมันเป็นไปไม่ได้แต่สิ่งที่
00:02:28 → 00:02:30 เปลี่ยนแปลงได้เร็วมากๆคือคือน้ำในร่าง
00:02:30 → 00:02:32 กายเพราะฉะนั้นเมื่อกี้หมอนึงบอกว่าอะไร
00:02:32 → 00:02:35 นะขึ้นไปยืนบนตาช่างน้ำหนักที่อยู่บนนั้น
00:02:35 → 00:02:38 ตัวเลขที่แสดงมันเท่ากับน้ำบวกไขมันบวก
00:02:38 → 00:02:41 กระดูกบวกต้ามเนื้อถูกมยนะครับซึ่งสิ่ง
00:02:41 → 00:02:43 ที่เปลี่ยนแปลงที่สุดเร็วๆเนี่ยก็คือน้ำ
00:02:43 → 00:02:46 ถามว่าแล้วน้ำที่เปลี่ยนแปลงเร็วมากๆมัน
00:02:46 → 00:02:49 มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้างนะครับถ้าในคุณ
00:02:49 → 00:02:51 ผู้หญิงเนี่ยข้อนึงที่ต้องระวังคือเป็น
00:02:51 → 00:02:54 ช่วงประจำเดือนใกล้จะมาช่วงประจำเดือน
00:02:54 → 00:02:56 ใกล้จะมาเนี่ยร่างกายจะสะสมอาหารกับน้ำ
00:02:56 → 00:02:59 ไว้ในร่างกายสังเกตนะว่าก่อนประจำเดือนมา
00:02:59 → 00:03:01 จะหิวมากเลยแล้วพอประจำเดือนมารู้สึกว่า
00:03:01 → 00:03:04 เ้ยทำไมท้องมันเบาลงหน้าอกหายคัดนะพวก
00:03:04 → 00:03:06 เนี้ยมันเกิดจากการที่ร่างกายก็ปล่อยน้ำ
00:03:06 → 00:03:08 ออกมาเพราะว่าร่างกายก็ไม่จำเป็นจะต้อง
00:03:08 → 00:03:10 กลับเก็บอาหารแล้วก็น้ำไว้แล้วส่วนถ้า
00:03:10 → 00:03:12 เป็นคุณผู้ชายนะครับที่ไม่ได้มีประจำ
00:03:12 → 00:03:15 เดือนแล้วรู้สึกว่าตัวบวมขึ้นนะสาเหตุ
00:03:15 → 00:03:18 หลักๆเลยมาจากเรื่องของโซเดียมน่าแต่บ
00:03:18 → 00:03:20 หนึ่งไม่ได้บอกว่าโซเดียมไม่ดีนะครับ
00:03:20 → 00:03:22 โซเดียมจริงๆแล้วเนี่ยมันมีประโยชน์ต่อ
00:03:22 → 00:03:24 ร่างกายมันเป็นธาตุหลักเลยนะมันเป็นแร่
00:03:24 → 00:03:27 ธาตุหลักที่ช่วยรักษาสมดุลในร่างกายไว้
00:03:27 → 00:03:29 แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันมีมากเกินไปหรือ
00:03:29 → 00:03:31 น้อยเกินเกินไปอันเนี้ยจะเริ่มมีปัญหานะ
00:03:31 → 00:03:33 ครับเพราะฉะนั้นเดี๋ยวเรามาดูว่าพวก
00:03:33 → 00:03:35 เครื่องปรุงรสอะไรต่างๆเนี่ยเราดูยังไง
00:03:35 → 00:03:37 บ้างเนาะเครื่องปรุงรสเนี่ยรสชาติในการ
00:03:37 → 00:03:40 กินอาหารมันประกอบไปด้วย 5 รสหลักๆคือ
00:03:40 → 00:03:44 เปรี้ยวหวานเค็มขมอ่าโอเคมยจริงๆมันมี
00:03:44 → 00:03:47 เผ็ดด้วยนะแต่ว่าที่หมอหนึ่งพูดแค่ว่า
00:03:47 → 00:03:49 เปรี้ยวหวานเค็มขมเนี่ยเพราะว่ามันเป็นรส
00:03:49 → 00:03:52 ของต่อมรับรสรสเผ็ดจริงๆเนี่ยมันไม่ได้มี
00:03:52 → 00:03:55 ต่อมรับรสรสเผ็ดแต่ต่อมรับรถรดเผ็ดรถเผ็ด
00:03:55 → 00:03:57 เนี่ยมันเราจะมักจะไปรู้สึกที่บริเวณริม
00:03:57 → 00:04:00 ฝีปากแทนถูกมยนะครับเนาะต่อมรับรถของเรา
00:04:00 → 00:04:02 มันจะรับได้ 4 รสหลักๆบวกอีก 1 รสคือรถ
00:04:02 → 00:04:05 อุมิหรือพูดง่ายๆคือไอ้ต่อมรับผวงชูรส
00:04:05 → 00:04:08 นั่นแหละอุมิอ่ะนะเพราะฉะนั้นเราค่อยๆแยก
00:04:08 → 00:04:11 ทีละอันก่อนเปรี้ยวมีผลกับการลดน้ำหนักมย
00:04:11 → 00:04:14 ไม่ค่อยมีแต่ถ้าเปรี้ยวมากเกินไปมันจะไป
00:04:14 → 00:04:17 กลบรถอื่นทำให้เราอาจจะไม่เข้าใจว่าเฮ้ย
00:04:17 → 00:04:20 อย่างคนที่ชอบกินยำอ่ะส้มตำอ่ะพอเปรี้ยว
00:04:20 → 00:04:23 บวกเผ็ดปั๊บนะคุณจะกลบรสหวานไปเลยบางที
00:04:23 → 00:04:25 เขาใส่น้ำตาลปี๊บมาเยอะแต่คุณไม่รู้เพราะ
00:04:25 → 00:04:27 อะไรเพราะว่าเปรี้ยวกับเผ็ดมันไปกลบรส
00:04:27 → 00:04:30 หวานเพราะฉนั้นหลายๆคนเลยมักจะบอกบอกว่า
00:04:30 → 00:04:32 เวลาลดน้ำหนักจะทานรสจัดเพราะมันจะกลบรส
00:04:32 → 00:04:34 หวานไปทำให้คุณไม่รู้ว่าอาหารที่คุณทาน
00:04:34 → 00:04:36 มันหวานหรือเปล่าพอเห็นภาพเนาะอ่ะเมื่อ
00:04:36 → 00:04:38 กี้เปรี้ยวนะหวานอันเนี้ยหมอหนึ่งพูดไว้
00:04:38 → 00:04:41 หลายคลิปมากๆนะครับนะว่าระบบพลังงานใน
00:04:41 → 00:04:43 ร่างกายของคนเรามี 2 ระบบถูกมั้ยใครติด
00:04:43 → 00:04:46 ตามมานานนะฟังนะฟังไปเรื่อยๆจนย้ำจนเข้า
00:04:46 → 00:04:48 ใจเลยนะนะครับนะว่าระบบพลังงานในร่างกาย
00:04:48 → 00:04:51 มี 2 ระบบการที่เราอ้วนมันไม่ได้อ้วนจาก
00:04:51 → 00:04:53 การที่คุณเนี่ยกินของมันของทอดเยอะหรือ
00:04:53 → 00:04:55 ไม่ออกกำลังกายเพราะว่าใครที่ติดตามช่อง
00:04:55 → 00:04:57 ผมมาจะรู้ว่านักเรียนเยอะมากๆหลายๆคนที่
00:04:57 → 00:04:59 อยู่ในกลุ่มลดน้ำหนัก VIP ของหมอหนึ 1
00:04:59 → 00:05:02 เนี่ยที่น้ำหนักตัวเริ่มต้นเยอะออกกำลัง
00:05:02 → 00:05:04 กายไม่ไหวอยู่แล้วแต่ทำไมเ้าลดได้เดือน
00:05:04 → 00:05:06 นึง 5 กล 10 กลทำไมลดได้ในขณะที่อีกบางคน
00:05:07 → 00:05:09 ก็ยังกินของมันของทอดอยู่ทำไมลดได้เพราะ
00:05:09 → 00:05:11 คนเราไม่ได้อ้วนจากการที่กินของมันของทอด
00:05:12 → 00:05:13 ไม่ได้อ้วนจากการไม่ออกกำลังกายแต่อ้วน
00:05:13 → 00:05:16 จากสาเหตุหลักๆคือมีน้ำตาลกับแป้งในร่าง
00:05:16 → 00:05:18 กายมากเกินไปต่างหากเพราะถ้าสมมุติว่ามี
00:05:18 → 00:05:20 น้ำตาลกับแป้งแล้วก็มีไขมันมากองอยู่ตรง
00:05:20 → 00:05:23 หน้ากินเข้าไปเสร็จปั๊บร่างกายจะเลือกใช้
00:05:23 → 00:05:25 อะไรก่อนเลือกใช้น้ำตาลก่อนเพราะน้ำตาล
00:05:25 → 00:05:27 มันเอามาเผาผลาญเป็นพลังงานได้ไวที่สุด
00:05:27 → 00:05:30 โอเคมั้ยนะครับเนาะหมอ 1 จะพยายามพูดแบบ
00:05:30 → 00:05:32 ที่ไม่มีศัพท์ทางการแพทย์นะจะได้เข้าใจ
00:05:32 → 00:05:34 ง่ายๆแล้วก็เอาไปอธิบายให้คนที่คุณรักใน
00:05:35 → 00:05:37 ครอบครัวฟังต่อได้จะได้สุขภาพดีไปกันหมด
00:05:37 → 00:05:39 นะครับเนาะเพราะฉะนั้นสาเหตุหลักๆที่อ้วน
00:05:39 → 00:05:43 มันมาจากน้ำตาลนะดังนั้นนอกจากเรื่องของ
00:05:43 → 00:05:45 น้ำตาลที่อยู่ในเครื่องดื่มกับน้ำตาลที่
00:05:45 → 00:05:46 อยู่ในขนมที่หมอหนึงบอกไปแล้วว่าถ้าใคร
00:05:46 → 00:05:48 อยากเริ่มต้นลดน้ำหนักไม่รู้จะทำอะไรเลย
00:05:48 → 00:05:51 นะไปปรับน้ำตาลจากเครื่องดื่มก่อนลดพวก
00:05:51 → 00:05:55 น้ำอัดลมลดพวกกาแฟ 3 in one ลดพวกชาไข่
00:05:55 → 00:05:58 มุกต่างๆเปลี่ยนมาเป็นน้ำเปล่าชากาแฟดำ
00:05:58 → 00:06:00 แค่นี้ 1 สัปดาห์คุณก็ก็ผอบแล้วแต่บางคน
00:06:00 → 00:06:03 ก็ถามว่าคุณหมอคะแล้วถ้าเป็นพวกเครื่อง
00:06:03 → 00:06:06 ปรุงล่ะคะอ่าเกี่ยวมยถ้าเราปรุงเองนะถ้า
00:06:06 → 00:06:08 เป็นอาหารที่เา้าปรุงมาเสร็จแล้วเช่น
00:06:08 → 00:06:10 ก๋วยเตี๋ยวเราไม่ใส่น้ำตาลเพิ่มลองชิม
00:06:10 → 00:06:13 ก่อนว่ามันหวานหรือเปล่าโอเคมยแต่ถ้ามัน
00:06:13 → 00:06:15 เป็นอาหารที่เขาทำมาแล้วเนี่ยอันเนี้ยมัน
00:06:15 → 00:06:17 ทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะเคปรุงมาเสร็จแล้ว
00:06:17 → 00:06:20 เช่นเวลาเราไปทำงานที่ทำงานแล้วเ้ามีเป็น
00:06:20 → 00:06:23 อาหารตามสั่ง 3 อย่าง 40 4 อย่าง 50
00:06:23 → 00:06:25 อะไรอย่างเงี้ยนะครับเค้าทำมาแล้ววิธี
00:06:25 → 00:06:28 เรี่ยงง่ายๆของเราเลยนะพวกน้ำตาลเนี่ยมัน
00:06:28 → 00:06:31 ชอบละลายอยู่ในน้ำเพราะฉะนั้นเครื่องปรุง
00:06:31 → 00:06:33 ทั้งหลายเนี่ยนะครับนะถ้าไม่อยากได้
00:06:33 → 00:06:35 เครื่องปรุงเยอะไม่อยากได้น้ำตาลเยอะไม่
00:06:35 → 00:06:38 อยากได้โซเดียมเยอะพยายามเลี่ยงพวกส่วน
00:06:38 → 00:06:40 ที่เป็นน้ำน้ำแล้วคุณจะไม่ได้น้ำตาลเยอะ
00:06:40 → 00:06:42 แบบนี้คุณจะไม่อ้วนเนาะเมื่อกี้มีเปรี้ยว
00:06:42 → 00:06:46 มีหวานแล้วนะเค็มกับผมพวกรสเค็มรสขมเนี่ย
00:06:46 → 00:06:48 มันก็จะไปกลบรสหวานออยู่เหมือนกันแต่ส่วน
00:06:48 → 00:06:51 ที่พิเศษที่สุดเลยคือรสเค็มเพราะความเค็ม
00:06:51 → 00:06:53 นั้นน่ะมันเค็มจากการที่มันมีเกลืออยู่ใน
00:06:54 → 00:06:56 นั้นซึ่งอาจจะมาจากอะไรได้บ้างมาจาก
00:06:56 → 00:07:00 ซีอิ๊วได้มยได้เพราะซีอิ๊วซอสนะน้ำปลา
00:07:00 → 00:07:02 เกลือพวกเนี้ยมีความเค็มอยู่ในนั้นหมดเลย
00:07:02 → 00:07:04 และสิ่งที่ทำให้มันเค็มก็คือสิ่งที่เรียก
00:07:04 → 00:07:07 ว่าโซเดียมน่าแต่ไม่ได้หมายความว่าทานไม่
00:07:07 → 00:07:10 ได้นะแต่มันจะมีปริมาณที่ทานได้อยู่
00:07:10 → 00:07:12 เดี๋ยวมหน่งจะอธิบายต่อว่าเราจะลดยังไง
00:07:12 → 00:07:14 โดยที่เราไม่จำเป็นต้องคำนวณเพราะมัน
00:07:14 → 00:07:17 คำนวณยากถูกมยก็มานั่งดูตลอดว่าคุณป้าคะ
00:07:17 → 00:07:19 เอ่อค่ากะเพราของคุณป้าใส่โซเดียมเท่า
00:07:19 → 00:07:21 ไหร่เค้าก็จะตีหัวเราเอาถูกมั้ยครับเพราะ
00:07:21 → 00:07:24 ฉะนั้นมันจะมีเทคนิคในการปรับง่ายๆโดยที่
00:07:24 → 00:07:26 คุณไม่จำเป็นที่จะต้องคำนวณเลขอะไรเลย
00:07:26 → 00:07:28 เนาะนะครับแล้วก็ตอมรับรถอันสุดท้ายคือ
00:07:28 → 00:07:31 อูมามิคือพวกผงชูรสอันนี้ขอพูดแทรกอีกนิด
00:07:31 → 00:07:34 นึงแล้วกันเนาะผงชูรสเนี่ยถ้าเป็นไปได้นะ
00:07:34 → 00:07:36 พยายามเลี่ยงให้ได้มากที่สุดเพราะมัน
00:07:36 → 00:07:39 กระตุ้นฮอร์โมนที่เกิดการสะสมไขมันในระยะ
00:07:39 → 00:07:42 ยาวกินผงชูรสเยอะๆจะเป็นเบาหวานด้วย
00:07:42 → 00:07:45 อันตรายมากๆถ้าจะให้ปรับปรับไปเป็นอะไร
00:07:45 → 00:07:48 ปรับไปเป็นพวกผงปรุงรสที่เป็นผงปรุงรสหมู
00:07:48 → 00:07:51 หรือผงปรุงรสคีโตก็ได้หมอหนึ่งไม่ได้สอน
00:07:51 → 00:07:53 ให้กินคีโตนะเพราะว่าใครที่ติดตามช่องหมอ
00:07:53 → 00:07:55 หนึ่งอยู่ก็จะรู้ว่าหมอหนึ่งเยังกินแป้ง
00:07:55 → 00:07:58 ยังกินข้าวยังกินขาบอยู่แต่เราสามารถ
00:07:58 → 00:08:01 เลือกเลือกเครื่องปรุงของคีโตได้เพราะว่า
00:08:01 → 00:08:03 เครื่องปรุงของคีโตไม่มีน้ำตาลและไม่ได้
00:08:03 → 00:08:06 ใส่ผงชูรสโอเคไหมมันก็จะดีกับสุขภาพของ
00:08:06 → 00:08:08 คุณมากกว่านะครับเนาะส่วนในเรื่องความ
00:08:08 → 00:08:10 หวานตอนแรกที่พูดไปเนี่ยบางคนถามว่าคุณ
00:08:10 → 00:08:12 หมอคะถ้าไม่ใส่น้ำตาลเนี่ยเราใส่พวกสาร
00:08:12 → 00:08:15 ให้ความหวานได้มได้นะครับแต่ใส่ให้พอได้
00:08:16 → 00:08:18 รสชาติเฉยๆเช่นถ้าอาหารหรือเครื่องดื่ม
00:08:18 → 00:08:21 ทั่วไปที่หาง่ายที่สุดก็คือจะเป็นพวกหญ้า
00:08:21 → 00:08:24 หวานหรือสตีเวียน่าแต่ถ้าใครเอาไปทำขนมก็
00:08:24 → 00:08:26 อาจจะใช้พวกอิอพวกนี้ก็จะทำขนมอร่อยกว่า
00:08:27 → 00:08:29 โอเคมยนะครับหวังว่าตอนนี้จะเข้าใจเรื่อง
00:08:29 → 00:08:31 เครื่องปรุงหลักๆเนาะคราวนี้สิ่งที่อยาก
00:08:31 → 00:08:34 จะโฟกัสของวันเนี้ยคือเรื่องของ 5 เทคนิค
00:08:34 → 00:08:39 อ่า 5 เทคนิคการลดโซเดียมอ่า 5 เทคนิคการ
00:08:39 → 00:08:43 ลดโซเดียมลดตัวบวมแน่ทำไมถึงบอกว่า 5
00:08:43 → 00:08:46 เทคนิคการลดโซเดียมแล้วจะลดตัวบวมได้นะ
00:08:46 → 00:08:49 ครับเพราะว่าอย่างงี้ปกติแล้วเนี่ย
00:08:49 → 00:08:51 โซเดียม 1 อันที่เรากินเข้าไปนึกนะ
00:08:51 → 00:08:53 โซเดียม 1 โมเลกุลไม่เข้าใจคำอะไรที่มัน
00:08:53 → 00:08:56 เป็นศัพท์ยากๆช่างมันเลยนะโยนทิ้งไปเลยนะ
00:08:56 → 00:08:58 ครับแต่ให้เข้าใจว่าโซเดียม 1 ก้อนที่มัน
00:08:58 → 00:09:00 อยู่ในร่างกายเราเนี่ยมันจะชอบดึงน้ำไว้
00:09:00 → 00:09:03 ด้วยเพราะฉะนั้นสังเกตใครที่กินอาหาร
00:09:03 → 00:09:05 บุฟเฟ่ต์หรือว่ากินพวกอาหารสำเร็จรูปนะ
00:09:05 → 00:09:08 กินไปเสร็จปั๊บแป๊บนึงรู้สึกง่วงๆตาหนักๆ
00:09:09 → 00:09:11 นะครับรู้สึกหน้าบวมๆอันเนี้ยมันเกิดจาก
00:09:11 → 00:09:14 การที่ร่างกายเราได้โซเดียมมากเกินไปแล้ว
00:09:14 → 00:09:17 มันทำยังไงมันพยายามจะดึงน้ำมาด้วยดึงน้ำ
00:09:17 → 00:09:20 มาเยอะๆเพราะฉะนั้นพอคุณกินเข้าไปบางคน
00:09:20 → 00:09:22 รู้สึกคอแห้งเพราะมันดึงน้ำไปหมดเลยถูกมย
00:09:22 → 00:09:24 โซเดียมมันดึงน้ำไปหมดเลยคราวนี้พอมันดึง
00:09:24 → 00:09:26 น้ำไปแล้วไปอยู่ตามพวกผิวหนังต่างๆของเรา
00:09:26 → 00:09:28 มันก็รู้สึกว่ามันบวมโดยเฉพาะหนังตาก็จะ
00:09:28 → 00:09:31 รู้สึกตึงๆนะเพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากตัวบวม
00:09:31 → 00:09:33 ไม่อยากน้ำหนักขึ้นไวๆเนี่ยสิ่งที่คุณ
00:09:33 → 00:09:36 ต้องทำนะครับคือลดโซเดียมจาก 5 สิ่งนี้
00:09:36 → 00:09:40 ข้อที่ 1 จำไว้เลยนะข้อที่ 1 ให้คุณถ้า
00:09:40 → 00:09:44 เป็นไปได้ให้ปรุงอาหารเองอ่าปรุงอาหารเอง
00:09:44 → 00:09:46 คำว่าปรุงเองในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า
00:09:46 → 00:09:49 ต้องทำอาหารเองเสมอไปนะครับนะบางทีเนี่ย
00:09:49 → 00:09:51 เค้าทำก๋วยเตี๋ยวมาบอกเค้าไม่ต้องปรุงมา
00:09:51 → 00:09:54 เวลาคุณสั่งคุณอาจจะสั่งแห้งบอกเค้าว่า
00:09:54 → 00:09:56 ยังไม่ต้องปรุงมาไม่ต้องยำมาเห็นภาพมั้ย
00:09:56 → 00:09:59 พวกเนี้ยเป็นการที่เดี๋ยวเราเอามาปรุงตาม
00:09:59 → 00:10:02 รสชาติที่เราชอบเองอย่างนี้ก็ได้หรือถ้า
00:10:02 → 00:10:05 ใครทำอาหารเองที่บ้านนะครับเวลาปรุง
00:10:05 → 00:10:09 พยายามอย่าทำไปชิมไปข้อนี้ไม่ดีเลยนะบาง
00:10:09 → 00:10:11 คนทำซุปทำแกงอย่างเงี้ยเสร็จปั๊บก็ใส่
00:10:11 → 00:10:14 เนื้อสัตว์เสร็จปั๊บแล้วก็ปรุงบางคนก็ใส่
00:10:14 → 00:10:17 ผักเสร็จปั๊บแล้วก็ปรุงดีที่สุดเลยคือทำ
00:10:17 → 00:10:20 ให้เสร็จก่อนแล้วปรุงแล้วชิมทีเดียวคุณจะ
00:10:20 → 00:10:23 ได้ไม่ได้โซเดียมมากเกินไปเพราะอะไรรู้มย
00:10:23 → 00:10:25 เพราะว่าเวลาทำอาหารภรรยาจะสอนผมตลอดเลย
00:10:26 → 00:10:28 นะเวลาทำอาหารเนี่ยว่าในเนื้อสัตว์มันก็
00:10:28 → 00:10:30 มีรสชาติของมันอยู่อยู่แล้วอย่างเช่นปลา
00:10:30 → 00:10:32 อย่างเงี้ยเวลาเราทำอาหารเราไม่คนๆไม่
00:10:32 → 00:10:34 งั้นมันจะคาวถูกมั้ยเพราะมันมีรสชาติอยู่
00:10:34 → 00:10:36 อย่างเวลาเราทำต้มผักอย่างเงี้ยในผักมัน
00:10:36 → 00:10:39 ก็จะมีความหวานอยู่แล้วเราใส่ผักลงไปก่อน
00:10:39 → 00:10:40 แล้วเราค่อยปรุงว่าเราชอบรสชาตินั้นหรือ
00:10:41 → 00:10:43 เปล่าพอจะเห็นภาพมยนะครับเนาะเพราะฉะนั้น
00:10:43 → 00:10:45 ทำให้เสร็จทีเดียวแล้วเราค่อยค่อยปรุงและ
00:10:45 → 00:10:47 อีกวิธีนึงที่จะลดโซเดียมได้ก็คืออาจจะ
00:10:47 → 00:10:50 ใช้รสชาติอื่นมาตัดเช่นใช้เผ็ดกับใช้
00:10:50 → 00:10:52 เปรี้ยวมาตัดมันจะทำให้เราลดการใช้
00:10:52 → 00:10:54 โซเดียมลงเพราะมันมีรสชาติมากขึ้นนะครับ
00:10:54 → 00:10:57 อันนี้คือข้อที่ 1 นะเป็นไปได้คือพยายาม
00:10:57 → 00:10:59 ปรุงอาหารเองและชิมให้ให้น้อยที่สุดแล้ว
00:11:00 → 00:11:02 ใครที่ทำ If อยู่เนี่ยถ้าเป็นไปได้นะ
00:11:02 → 00:11:04 พยายามตวงเอาใครที่ชอบติดนิสัยเวลาทำกับ
00:11:04 → 00:11:07 ข้าวแล้วชอบเหยาะๆๆๆเติมททุกอย่างลงไป
00:11:07 → 00:11:09 แล้วค่อยเอามานั่งชิมแบบเนี้ยมันจะทำให้
00:11:09 → 00:11:12 คุณเนี่ยเวลาทำ If เนี่ยหลุด If ได้นะ
00:11:12 → 00:11:14 เพราะว่าเพื่อกเครื่องปรุงต่างๆเนี่ยโดย
00:11:14 → 00:11:16 เฉพาะน้ำตาลอันอื่นอาจจะไม่มีพลังงานแต่
00:11:16 → 00:11:18 น้ำตาลมีพลังงานคุณกินเข้าไปคุณอาจจะหลุด
00:11:18 → 00:11:21 การทำ is ได้โอเคมยนะครับเนาะอันนี้คือ
00:11:21 → 00:11:25 ข้อที่ 1 นะข้อที่ 2 สำคัญมากเลยส่วนใหญ่
00:11:25 → 00:11:29 คนเราได้โซเดียมเยอะจากอาหารอะไรเอ่ยอ
00:11:29 → 00:11:32 อาหารแปรรูปข้อนี้เป็นไปได้พยายามเลี่ยง
00:11:32 → 00:11:35 ให้ได้มากที่สุดอาหารแปรรูปเช่นอะไรบ้าง
00:11:35 → 00:11:38 อาหารบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองๆบะหมี่กึ่ง
00:11:38 → 00:11:40 สำเร็จรูปทั้งหลายนะครับนะไม่พูดชื่อ
00:11:40 → 00:11:43 ยี่ห้อนะมีหลายยี่ห้อมากนะครับพวกอาหาร
00:11:43 → 00:11:45 ที่เป็นอาหารเวฟเอ๊ะอาหารเวฟมันเกี่ยว
00:11:45 → 00:11:47 ด้วยเหรอคะคุณหมอพวกอาหารสำเร็จรูปนะครับ
00:11:47 → 00:11:49 มันจะคงสภาพอยู่ได้มันจำเป็นจะต้องมี
00:11:49 → 00:11:51 โซเดียมอยู่ในนั้นด้วยเพราะฉะนั้นคนที่
00:11:51 → 00:11:54 ชอบกินพวกบะมี่กลึงสำเร็จรูปอาหารเวฟ
00:11:54 → 00:11:56 อาหารกระป๋องพวกนี้จะได้โซเดียมค่อนข้าง
00:11:56 → 00:11:59 สูงถ้าเป็นไปได้พยายามเปลี่ยนไปเป็นอาหาร
00:11:59 → 00:12:03 สดจะดีที่สุดเลี่ยงเท่าที่เลี่ยงได้มื้อ
00:12:03 → 00:12:05 ไหนที่มันจำเป็นจริงๆเช่นมันเร่งรีบวัน
00:12:05 → 00:12:07 นี้เข้าร้านสะดวกซื้อเอาอกไก่แล้วกันอก
00:12:07 → 00:12:10 ไก่เวฟคือในมื้อที่มันจำเป็นจริงๆบางคน
00:12:10 → 00:12:13 แบบอยากได้โปรตีนให้มันอิ่มถูกมยก็สามารถ
00:12:13 → 00:12:15 ทำได้แต่ถ้าสมมุติว่าทำไม่ได้จริงๆไม่
00:12:15 → 00:12:18 เป็นไรโอเคไหมบางมื้อเราอนุโลมได้แต่อย่า
00:12:18 → 00:12:20 กินแบบเดียวกันทุกมื้อบางคนจะเข้าร้าน
00:12:20 → 00:12:22 สะดวกซื้อกินแบบนั้นทุกมื้อเลยมันจะทำให้
00:12:22 → 00:12:25 ร่างกายได้โซเดียมมากเกินไปข้อเสียของการ
00:12:25 → 00:12:27 ได้โซเดียมมากเกินไปคือถ้าเป็นคนที่เป็น
00:12:28 → 00:12:29 ความดันอยู่แล้วแล้วหมอหนึ่งบอกแล้วว่า
00:12:29 → 00:12:32 โซเดียมมันจะดึงน้ำไว้ถูกมั้ยลองคุณลอง
00:12:32 → 00:12:33 นึกภาพนะว่าในหลอดเลือดของเราเนี่ยนะ
00:12:33 → 00:12:36 เหมือนท่อน้ำอ่ะแล้วท่อน้ำมีน้ำอยู่
00:12:36 → 00:12:38 ปริมาณนึงแต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมี
00:12:38 → 00:12:40 โซเดียมอยู่ในนั้นเยอะมันก็จะดึงน้ำเข้า
00:12:40 → 00:12:43 มาอีกแล้วท่อที่มีน้ำเยอะๆแรงดันสูงมั้
00:12:43 → 00:12:46 ครับสูงเพราะฉะนั้นท่อที่น้ำเยอะแรงดันจะ
00:12:46 → 00:12:49 สูงความดันมันก็เลยสูงเเลยบอกว่าคนที่
00:12:49 → 00:12:51 เป็นความดันควรลดการกินอาหารที่โซเดียม
00:12:51 → 00:12:54 สูงแต่ไม่ได้หมายความว่าห้ามปรุงห้ามอะไร
00:12:54 → 00:12:58 เลยไม่ใช่นะยังพอปรุงได้แต่หลักๆแล้วสิ่ง
00:12:58 → 00:13:00 ที่ควรเรียกที่สุดคือพวกอาหารแปรรูปพวก
00:13:00 → 00:13:02 นี้แหละคนปกติก็เป็นความดันได้ถ้ากิน
00:13:02 → 00:13:04 อาหารพวกนี้เยอะโอเคมนะครับเนาะนี่คือข้อ
00:13:04 → 00:13:07 ที่ 2 นะข้อที่ 3 นะครับบอกว่าอุ๊ยคุณหมอ
00:13:07 → 00:13:10 คะงั้นก็ไปกินอาหารสดอาหารปรุงสุกค่ะแต่
00:13:10 → 00:13:13 ทำไมยังบวมอยู่คะพวกอาหารสดหรืออาหารปรุง
00:13:13 → 00:13:15 สุกเนี่ยสิ่งสำคัญที่สุดที่คุณทำให้คุณ
00:13:15 → 00:13:21 ได้โซเดียมเยอะคือ 1 ซุป 2 ผัด 3 แกงอื
00:13:21 → 00:13:24 น้ำซุปน้ำผัดน้ำแกงส่วนที่มันเป็นน้ำๆคุณ
00:13:24 → 00:13:27 ต้องระวังมากๆเลยถ้าเป็นไปได้ให้หมอหนึ่ง
00:13:27 → 00:13:30 แนะนำคือเวลาคุณสั่งอาหารให้แยกกลับกับ
00:13:30 → 00:13:34 ข้าวบางคนเนี่ยกินข้าวแล้วก็เอาผัดกะเพรา
00:13:34 → 00:13:36 บางคนบางร้านเ้าผัดแฉะมากเลยนะแล้วเค้าก็
00:13:36 → 00:13:39 เอาทั้งทุกอย่างที่ผัดเสร็จเนี่ยเทลงมา
00:13:39 → 00:13:42 คือแทบจะเป็นข้าวกะเพราที่ชุ่มมากๆอ่ะ
00:13:42 → 00:13:44 เพราะอะไรเพราะว่าโอ้โหน้ำกะเพรานี่ราด
00:13:44 → 00:13:46 แทบจะเต็มข้าวเลยข้าวแฉะหมดเลยนะครับไอ้
00:13:46 → 00:13:49 ตรงส่วนนั้นแหละมันจะมีโซเดียมอยู่เพราะม
00:13:49 → 00:13:51 พูดตั้งแต่ต้นคลิปแล้วว่าในน้ำจะมี
00:13:51 → 00:13:54 โซเดียมกับน้ำตาลละลายอยู่เป็นไปได้พวก
00:13:54 → 00:13:57 ซุปพยายามอย่าซดเยอะเวลาไปกินชาบูเเนี่ย
00:13:57 → 00:14:00 กินได้นะแต่น้ำชาบูอย่าซดเยอะน้ำตาลทั้ง
00:14:00 → 00:14:02 นั้นเลยชูรสทั้งนั้นเลยน้ำจิ้มเนี่ยเห็น
00:14:02 → 00:14:05 มยน้ำตาลโซเดียมทั้งนั้นเลยที่อยู่ในนั้น
00:14:05 → 00:14:08 นะครับนะกินแค่พอประมาณผัดก็เหมือนกันแกง
00:14:08 → 00:14:10 ก็เหมือนกันน้ำผัดอย่างที่บอกนะครับผัด
00:14:10 → 00:14:13 ผักเนี่ยบางคนใส่ซีอิ๊วเยอะๆไม่เคยตวงใส่
00:14:13 → 00:14:15 ช้อนเลยนะใส่ซีอิ๊วลงไปเยอะๆแล้วเวลากิน
00:14:15 → 00:14:18 เราก็ชอบตักน้ำผักแล้วก็เอามาราดข้าวแล้ว
00:14:18 → 00:14:20 ก็กินรู้สึกอร่อยมันอร่อยสิเพราะมันมี
00:14:20 → 00:14:22 ชูรสมันมีน้ำตาลมันมีความเค็มมีโซเดียม
00:14:22 → 00:14:24 ถูกมยนะครับนะเพราะฉะนั้นอันนี้ต้องระวัง
00:14:24 → 00:14:28 นะถัดมาข้อที่ 4 นะครับถ้าเป็นไปได้ค่อยๆ
00:14:28 → 00:14:33 ฝึกอ่านฉลากอ่าอค่อยๆฝึกอ่านฉลากโดยเฉพาะ
00:14:33 → 00:14:35 น้ำตาลที่อยู่ในฉลากถ้าให้เลือกนะครับใน
00:14:35 → 00:14:38 ฉลากอ่านอะไรไม่เป็นอ่านน้ำตาลในฉลากให้
00:14:38 → 00:14:40 ได้ใครที่เรียนกับหมอ1ึอยู่ในกลุ่มลดน้ำ
00:14:40 → 00:14:42 หนักครั้งสุดท้ายในชีวิตกลุ่ม VIP ไปทบ
00:14:42 → 00:14:45 ทวนบทที่ 4 นะโอเคมยไปทบทวนบทที่ 4 บทที่
00:14:45 → 00:14:47 4 สอนอ่านฉลากเนาะแต่ใครที่เรียนกับหมอ
00:14:47 → 00:14:49 หนึ่งจะรู้ว่าหมอหนึ่งไม่ได้สอนอ่านสลาก
00:14:49 → 00:14:51 โซเดียมเพราะมันไม่ได้จำเป็นมากขนาดนั้น
00:14:51 → 00:14:53 โซเดียมในร่างกายของคนเราที่มันเกินมานิด
00:14:53 → 00:14:55 ๆหน่อยๆร่างกายเราขับเกออกเองได้แต่
00:14:55 → 00:14:57 โซเดียมมันจะเยอะจากพวกข้อ 2 เนี่ยแหละ
00:14:57 → 00:14:59 อาหารแปรรูปเพราะฉะนั้นถ้าคุณเลี่ยงพวก
00:15:00 → 00:15:01 อาหารแปรรูปได้คุณไม่จำเป็นต้องอ่านฉลาก
00:15:01 → 00:15:03 เกี่ยวกับโซเดียมได้เลยแต่ให้อ่านฉลาก
00:15:03 → 00:15:05 เกี่ยวกับน้ำตาลให้ได้ว่าน้ำตาลเยอะหรือ
00:15:05 → 00:15:07 น้อยอย่างบางคนเนี่ยไม่มีความรู้รู้สึก
00:15:07 → 00:15:11 ว่าคุณหมอคะน้ำผลไม้กินดียคะอยากขับถ่าย
00:15:11 → 00:15:13 ค่ะอุ้ยอยากขับถ่ายอย่ากินน้ำผลไม้นะค
00:15:13 → 00:15:15 เพราะน้ำผลไม้กล่องเนี่ยมีแต่น้ำตาลไป
00:15:15 → 00:15:18 พลิกดูยอาหารไม่มีเลยมีแต่น้ำตาลอย่าง
00:15:18 → 00:15:20 เดียวหรือบางคนบอกว่าอยากให้ลูกกินนม
00:15:20 → 00:15:23 เปรี้ยวค่ะเพราะว่าอยากให้ขับถ่ายดีไปดู
00:15:23 → 00:15:25 พริกดมเปรี้ยวยายอาหารไม่มีอีกเหมือนกัน
00:15:25 → 00:15:27 มีแต่อะไรมีแต่น้ำตาลเห็นมยเราเลยต้อง
00:15:27 → 00:15:29 อ่านฉลากเป็นเนาะแต่พวกโซเดียมที่อยู่ใน
00:15:29 → 00:15:31 ฉลากไม่จำเป็นต้องอ่านก็ได้เพราะถ้าเรา
00:15:31 → 00:15:33 เลี่ยงอาหารแปรรูปได้โซเดียมเรามักจะไม่
00:15:33 → 00:15:36 ค่อยเกินเนาะนะครับโอเคมยส่วนอีกอันนึง
00:15:36 → 00:15:38 ที่ต้องระวังนะคนเป็นโรคไตกับคนเป็นโรค
00:15:38 → 00:15:40 หัวใจอาจจะต้องดูดีๆก็คือพวกขวดเครื่อง
00:15:40 → 00:15:43 ปรุงที่เป็นพวกโซเดียม 50% อะไรอย่าง
00:15:43 → 00:15:46 เงี้ยนะหรือพวกเครื่องปรุงที่เป็นโซเดียม
00:15:46 → 00:15:48 เคยได้ยินพวกโลโซเดียมมั้ยหม1ึเคยซื้อมา
00:15:48 → 00:15:50 ลองทำกับข้าวดูนะครับนะด้วยความที่เรา
00:15:50 → 00:15:51 ต้องสอนนักเรียนต้องสอนคนไข้ถูกมั้ยแล้ว
00:15:51 → 00:15:54 ก็ลองซื้อมากินดูรสชาติมันไม่เหมือนกับ
00:15:54 → 00:15:56 พวกน้ำปลาหรือซอสที่เป็นโซเดียมปกติอ่ะพอ
00:15:56 → 00:15:59 เขาคตัดโซเดียมออกไปครึ่งนึงถามว่าพอตัด
00:15:59 → 00:16:00 โซเดียมออกไปครึ่งนึงแล้วเใส่อะไรมาเ้า
00:16:00 → 00:16:02 ใส่สิ่งที่เรียกว่าโพแทสเซียมในคนที่เป็น
00:16:02 → 00:16:05 โรคไตเนี่ยต้องระวังมากๆเลยว่าเราต้อง
00:16:05 → 00:16:07 จำกัดโพแทสเซียมด้วยคนปกติอาจจะไม่จำเป็น
00:16:07 → 00:16:09 ต้องจำกัดถูกมั้ยเพราะว่าร่างกายเรักษา
00:16:09 → 00:16:11 สมดุลได้แต่คนที่ไตเริ่มเสื่อมเนี่ยจะ
00:16:11 → 00:16:14 รักษาสมดุลของโพแทสเซียมไม่ค่อยได้นะครับ
00:16:14 → 00:16:16 เพราะฉะนั้นการที่กินพวกเครื่องปรุงที่โล
00:16:17 → 00:16:18 โซเดียมอาจจะได้โพแทสเซียมเสริมมาแทนต้อง
00:16:19 → 00:16:21 ระวังมากๆเพราะฉะนั้นคนที่เป็นโรคไตถ้า
00:16:21 → 00:16:22 เป็นไปได้เลยไม่ควรจะต้องปรุงอะไรเยอะ
00:16:22 → 00:16:25 เท่าไหร่เลยนะครับเนาะเพื่อสุขภาพบางคน
00:16:25 → 00:16:27 เนี่ยเป็นโรคไตที่ไม่ได้เป็นเรื้อรังเป็น
00:16:27 → 00:16:29 โรคไตแค่เริ่มขึ้นแล้วพอลดน้ำหนักแล้วมี
00:16:29 → 00:16:31 โอกาสที่ค่าไตจะกลับไปปกติจะกลับไปใช้
00:16:31 → 00:16:33 ชีวิตได้อร่อยเหมือนปกติอันเนี้ยถ้าเป็น
00:16:33 → 00:16:36 ไปได้หมอหนึ่งเลยพยายามบอกทุกคนตลอดว่า
00:16:36 → 00:16:38 ถ้าค่าไตเริ่มเสื่อมแล้วอ่ะลองลดน้ำหนัก
00:16:38 → 00:16:40 นะพอลดน้ำหนักแล้วหมอหนึ่งเจอเยอะมากว่า
00:16:40 → 00:16:42 นักเรียนของหมอหนึ่งสามารถกลับมามีค่าไต
00:16:42 → 00:16:45 เป็นปกติได้โปรตีนหายรั่วได้แต่อาจจะใช้
00:16:45 → 00:16:47 เวลานิดนึงเท่านั้นเองเนาะแต่ถ้าสู้ยังไง
00:16:47 → 00:16:49 สุขภาพกลับมาดีแน่นอนนะครับเนาะส่วนคนที่
00:16:49 → 00:16:51 เป็นโรคไตเรื้อรังไปแล้วอันนั้นคือไตมัน
00:16:51 → 00:16:53 เสื่อมถาวรก็ต้องจำกัดเกี่ยวกับเรื่อง
00:16:53 → 00:16:56 เครื่องปุงกันไปนะและข้อสุดท้ายข้อที่ 5
00:16:56 → 00:16:59 นะครับข้อที่ 5 คือเรื่องของบางคนจำเป็น
00:16:59 → 00:17:01 ที่จะต้องกินโซเดียมเยอะจริงๆในบางมื้อ
00:17:01 → 00:17:04 เช่นหมอหนึ่งบอกว่าวันนี้หมอหนึ่งมีสังสร
00:17:04 → 00:17:06 อ่ะต้องไปกินชาบูกับเขาคอ่ะถ้าเป็นแบบนี้
00:17:06 → 00:17:09 สิ่งที่อยากให้ทำคือให้ลองใช้เทคนิคการ
00:17:09 → 00:17:13 แชร์โซเดียมอ้าเฮ้ยอะไรอ่ะหมอเทคนิคการ
00:17:13 → 00:17:16 แชร์โซเดียมคือร่างกายมันใช้เวลาในการขับ
00:17:16 → 00:17:19 โซเดียมออกพอสมควรนะอย่างบางคนกินผงชูรส
00:17:19 → 00:17:21 เยอะๆอ่ะนะครับร่างกายก็ต้าบวมตาบวม
00:17:21 → 00:17:23 เหมือนกันเพราะผงชูรสเนี่ยชื่อเคมีของมัน
00:17:23 → 00:17:27 คือโมโนโซเดียมกลูตาเมตมีโซเดียมมั้ยมี
00:17:27 → 00:17:29 เพราะฉะนั้นโโยมกลูตาเมตกินนเข้าไปก็จะ
00:17:29 → 00:17:32 รู้สึกตัวบวมๆอีกเหมือนกันถ้ามื้อนี้เรา
00:17:32 → 00:17:35 กินอาหารที่โซเดียมเยอะแล้วมื้อถัดไปให้
00:17:35 → 00:17:37 กินอาหารที่โซเดียมน้อยมากๆเพื่อให้ร่าง
00:17:37 → 00:17:41 กายมันปรับสมดุลได้ทันและกินน้ำเยอะๆโอเค
00:17:41 → 00:17:44 มยแชร์โซเดียมมื้อถัดไปเนี่ยให้กินอาหาร
00:17:44 → 00:17:48 ที่ปรุงน้อยๆอ่าพอเราปรุงน้อยๆโซเดียมจะ
00:17:48 → 00:17:50 ไม่เยอะปรุงน้อยๆเช่นเอาไปอบเอาไปนึ่ง
00:17:51 → 00:17:54 อย่างนี้ได้กปรุงน้อยๆบวกน้ำเราจะได้ขับ
00:17:54 → 00:17:56 โซเดียมออกได้เยอะเพราะโซเดียมชอบน้ำถูก
00:17:56 → 00:17:58 มยเราก็กินน้ำออกไปเพื่อจะขับโซเดียมออก
00:17:58 → 00:18:01 หรือบางทีหมอหนึ่งเคยเหมือนกันว่าถ้า
00:18:01 → 00:18:03 สมมุติว่าเรากินอะไรที่เป็นผงชูรสเยอะๆ
00:18:03 → 00:18:06 แล้วรู้สึกบวมๆผมจะกินพวกวิตามินบีนะครับ
00:18:06 → 00:18:08 นะูก็ช่วยได้อยู่นะนะครับเพราะบางคนเนี่ย
00:18:08 → 00:18:11 ไวต่อผงชูรสมากๆกินเสร็จปั๊บรู้สึกว่ามัน
00:18:11 → 00:18:14 คอแห้งเลยตาบวมตัวบวมเลยนะครับเนาะก็ลอง
00:18:14 → 00:18:16 กินพวกนี้ก็ช่วยได้บ้างแต่หลักๆแล้วก็
00:18:16 → 00:18:18 เป็นมื้อไหนกินโซเดียมเยอะมื้อถัดไปปรุง
00:18:18 → 00:18:21 น้อยๆกินน้ำเยอะๆโอเคมนะครับเพราะฉะนั้น
00:18:21 → 00:18:24 ถ้าลดโซเดียมตรงนี้ได้นะคุณจะไม่เจอปัญหา
00:18:24 → 00:18:26 เลยว่าน้ำหนักแกว่งตื่นมาเสร็จปั๊บเมื่อ
00:18:26 → 00:18:28 วานช่างได้ 70 วันนี้ได้ 72 คุณจะไม่เจอ
00:18:28 → 00:18:30 ปัญหาหานี้เลยอย่าไปกลัวโซเดียมมากจนเกิน
00:18:30 → 00:18:32 ไปบางคนบอกคุณหมอครับอันนี้โซเดียมเท่า
00:18:32 → 00:18:34 ไหร่อันนี้โซเดียมเกินมั้ยอย่าไปกลัวมาก
00:18:34 → 00:18:36 จนเกินไปสิ่งที่น่ากลัวที่สุดแค่คุณจำกัด
00:18:36 → 00:18:38 พวกอาหารแปรรูปได้แล้วคุณไม่ได้มีโรค
00:18:38 → 00:18:40 ประจำตัวอยู่เดิมนะโซเดียมคุณจะไม่มี
00:18:40 → 00:18:43 ปัญหาโอเคไยนะครับเนาะเพราะฉะนั้นหวังว่า
00:18:43 → 00:18:45 คลิปนี้จะได้ประโยชน์นะครับนะแล้วก่อนจะ
00:18:45 → 00:18:47 จบคลิปนี้ก็เหมือนเดิมนะครับก็ขอแสดงความ
00:18:47 → 00:18:49 ยินดีกับนักเรียนท่านนี้นะครับนะที่ลดไป
00:18:49 → 00:18:52 ได้ 10 กลภายในระยะเวลา 2 เดือนนะครับนะ
00:18:52 → 00:18:54 ถ้าทุกๆคนที่เพิ่งมาติดตามอย่าลืมไปดู
00:18:54 → 00:18:56 คลิปอื่นๆหมอ 1 มีเทคนิคในการลดน้ำหนัก
00:18:56 → 00:18:58 ให้เยอะมากๆนะครับที่เป็นคลิปฟรีดีเนาะ
00:18:58 → 00:19:01 ส่วนใครที่อยากให้หมอ 1 ช่วยอยากเรียนกับ
00:19:01 → 00:19:02 หมอ 1 หมอ 1 ก็มีกลุ่มเรียนด้วยนะครับ
00:19:02 → 00:19:04 เป็นกลุ่มเรียนที่ชื่อว่ากลุ่มเรียนลดน้ำ
00:19:04 → 00:19:06 หนักครั้งสุดท้ายในชีวิตกลุ่ม VIP นะครับ
00:19:06 → 00:19:09 ในนั้นเนี่ยใครที่ไม่อยากลองผิดลองถูกเอง
00:19:09 → 00:19:11 หมอหนึ่งจะมีซอยมาให้แล้วว่าในแต่ละวัน
00:19:11 → 00:19:12 ต้องทำอะไรบ้างน้ำหนักเท่านี้ต้องกิน
00:19:12 → 00:19:14 โปรตีนเท่าไหร่ต้องใช้แป้งเท่าไหร่ต้อง
00:19:15 → 00:19:17 ใช้ไขมันเท่าไหร่เรียงมาเป็นหลักสูตรของม
00:19:17 → 00:19:19 1 เองเลยนะที่ไม่มีเผยแพร่ที่ไหนนะครับ
00:19:19 → 00:19:21 นะคลิปที่อยู่ในกลุ่มเรียนตรงนั้นจะไม่
00:19:21 → 00:19:23 ได้เอามาลงใน YouTube เนาะก็เป็นสิทธิ
00:19:23 → 00:19:25 พิเศษให้นะครับสำหรับใครที่อยากเข้าไป
00:19:25 → 00:19:27 เรียนในกลุ่มเรียนกับหมอ 1 นะครับเนาะใน
00:19:27 → 00:19:29 นั้นก็จะมีทั้งแรงบันดาลใจนะครับจะมีความ
00:19:30 → 00:19:32 เชื่อดีๆคุณจะเห็นเลยว่านักเรียนของผม
00:19:32 → 00:19:35 เนี่ย 20,000 คนทำไมเาลดได้ทำไมเาผอม
00:19:35 → 00:19:37 เพราะคนเราจะผอมมันไม่ได้มีความรู้อย่าง
00:19:37 → 00:19:39 เดียวแล้วผอมนะคนส่วนใหญ่ผมเชื่อว่าหลายๆ
00:19:39 → 00:19:41 คนน่ะฟังมาหลายหมอมากๆฟังมาหลายคลิปมากๆ
00:19:41 → 00:19:43 แต่บางคนติดปัญหายังไม่ได้เริ่มลงมือทำ
00:19:43 → 00:19:46 บางคนติดปัญหาลดไปแล้วเจอปัญหาไม่รู้จะ
00:19:46 → 00:19:48 ปรึกษาใครตรงนี้แหละคือสิ่งสำคัญนะครับ
00:19:48 → 00:19:50 เพราะฉะนั้นมีความรู้แล้วเราต้องมีความ
00:19:50 → 00:19:52 เชื่อด้วยทำไปเรื่อยๆจนเราเริ่มมีความ
00:19:52 → 00:19:54 เชื่อว่าเราอ่ะไปถึงเส้นชัยได้เราเหมาะสม
00:19:54 → 00:19:57 ที่จะมีสุขภาพดีและสุดท้ายก็คือต้องอยู่
00:19:57 → 00:19:59 ในบรรยากาศที่ที่เหมาะสมผมสร้างกลุ่มขึ้น
00:19:59 → 00:20:02 มาทำไมผมสร้างคลิปช่อง YouTube แบบนี้มา
00:20:02 → 00:20:05 พูดบ่อยๆทำไมไม่เหนื่อยหรอคือผมอยากให้
00:20:05 → 00:20:07 ทุกคนได้อยู่ในบรรยากาศน่ะนะเนี่ยอย่างมี
00:20:07 → 00:20:09 คนเนี่ยเบอกว่าทุกครั้งที่หมดกำลังใจจะ
00:20:09 → 00:20:11 เข้ามาฟังคุณหมอตลอดเลยนักเรียนในกลุ่ม
00:20:11 → 00:20:14 เรียนของผมนะก็เหมือนกันนะครับเวลาออก
00:20:14 → 00:20:16 กำลังกายแต่ละวันจะบอกว่าจะต้องฟังคลิปผม
00:20:16 → 00:20:19 วันวนซ้ำๆซ้ำๆแบบนี้ไปเพราะอะไรเรู้สึก
00:20:19 → 00:20:21 ว่าเคกำลังอยู่ในบรรยากาศที่เหมาะสมกำลัง
00:20:21 → 00:20:23 อยู่ในบรรยากาศที่มีคนให้กำลังใจเขาอยู่
00:20:23 → 00:20:25 เพราะฉะนั้นเหมือนกันนะครับหลายๆคนที่
00:20:25 → 00:20:27 อยากได้กำลังใจทุกๆวันเปิดเข้ามาฟังคลิป
00:20:27 → 00:20:30 ผมวนไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆผมจะลงคลิปใหม่ทุก
00:20:30 → 00:20:32 วันอังคารพฤหัสอาทิตย์เราก็จะได้เทคนิค
00:20:32 → 00:20:34 ต่างๆเอาไปปรับใช้ด้วยแต่เหนือกว่าเทคนิค
00:20:34 → 00:20:37 ต่างๆคือกำลังใจในการใช้ชีวิตนั่นเองโอเค
00:20:37 → 00:20:39 มยบางคนเนี่ยไปทำงานแต่ละวันอาจจะเจอ
00:20:39 → 00:20:42 ปัญหาบางวันมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับ
00:20:42 → 00:20:45 เพื่อนร่วมงานคนในครอบครัวบางวันมีปัญหา
00:20:45 → 00:20:47 กับเจ้านายบางวันมีปัญหาเรื่องการงานบาง
00:20:48 → 00:20:50 วันเนี่ยอาจจะเรื่องค้าขายเรื่องการเงิน
00:20:50 → 00:20:52 คือมันอาจจะมีหลายเรื่องนะครับนะที่ทำให้
00:20:52 → 00:20:54 เราเนี่ยรู้สึกไม่ดีกับการใช้ชีวิตรู้สึก
00:20:54 → 00:20:57 ว่าทำไมชีวิตมันโหดร้ายจังเลยแต่สภาพแวด
00:20:57 → 00:20:59 ล้อมจะโหดร้ายกับเรายังไงก็ได้แต่เราต้อง
00:20:59 → 00:21:01 ไม่โหดร้ายกับตัวเองโดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ
00:21:01 → 00:21:03 เรื่องที่มันเข้ามาวันเนี้ยหวันหนึ่งเจอ
00:21:03 → 00:21:05 เยอะมากเลยนะช่วงนี้มันเป็นเรื่องปกตินะ
00:21:05 → 00:21:07 ครับคนเรามันจะมีความทุกข์เข้ามาหลากหลาย
00:21:07 → 00:21:10 แบบเนาะไม่ว่าจะเป็นคนจนคนรวยคนแก่คน
00:21:10 → 00:21:12 หนุ่มสาวหรือว่าเด็กทุกคนมีความทุกข์
00:21:12 → 00:21:14 เหมือนกันหมดแหละแต่สำคัญที่สุดคือปัญหา
00:21:14 → 00:21:17 เข้ามาวันนี้ปั๊บถ้าสุขภาพกายกับสุขภาพใจ
00:21:17 → 00:21:20 คนดีนะวันรุ่งขึ้นคุณจะพร้อมสู้แต่ถ้า
00:21:20 → 00:21:22 สมมุติปัญหาเข้ามาแล้วสุขภาพกายสุขภาพใจ
00:21:22 → 00:21:25 คุณไม่ดีนะทุกอย่างพังหมดเลยโอเคมยโดย
00:21:25 → 00:21:27 เฉพาะใครที่เป็นหัวหน้าครอบครัวนะครับ
00:21:27 → 00:21:29 สุขภาพของคุณคุณสำคัญกับคนในครอบครัวของ
00:21:29 → 00:21:32 คุณมากๆนะบหนย้ำประโยคนี้หลายรอบมากเพราะ
00:21:32 → 00:21:34 ฉะนั้นก็หวังว่าฟังคลิปแล้วจะได้ความรู้
00:21:34 → 00:21:37 เอาไปปรับใช้เริ่มทำเลยนะแล้วก็ได้แรง
00:21:37 → 00:21:39 บันดาลใจดีๆส่วนใครที่อยากเรียนลดน้ำหนัก
00:21:39 → 00:21:41 กับหม 1 นะครับก็ดูรายละเอียดได้ในลิงก์
00:21:41 → 00:21:42 ที่อยู่ในคอมเมนต์นะครับใครที่ดูจาก
00:21:43 → 00:21:44 Facebook หรือ YouTube กดลิงก์ใน
00:21:44 → 00:21:47 คอมเมนต์ได้เลยหรือว่าแด LINE @th Hero
00:21:47 → 00:21:49 ก็ได้นะครับนะหรือว่าจะแ LINE แ Healthy
00:21:49 → 00:21:51 Hero ก็ได้ก็จะมีทีมงานคอยดูแลแล้วพา
00:21:51 → 00:21:53 เข้ากลุ่มเรียนนะครับนะก็ใครที่จะเข้า
00:21:53 → 00:21:55 เรียนก็เจอกันในกลุ่มนะครับแล้วพบกันคลิป
00:21:55 → 00:21:57 ถัดไปนะครับชมคลิปหมอ 1 จบแล้วนะครับอย่า
00:21:57 → 00:21:59 ลืมกดกดติดตามเพื่อที่จะได้ไม่พลาดคลิป
00:21:59 → 00:22:01 ใหม่ๆจากหมอ 1 นะครับส่วนคลิปอื่นๆที่น่า
00:22:01 → 00:22:03 สนใจกดดูจากทางซ้ายมือได้เลยครับส่วนใคร
00:22:03 → 00:22:05 ที่อยากลดน้ำหนักครั้งสุดท้ายในชีวิตใน
00:22:05 → 00:22:07 กลุ่มเรียนกับหมอ 1 นะครับกดดูรายละเอียด
00:22:07 → 00:22:09 จากทางขวามือหรือดูรายละเอียดจากลิงก์ใน
00:22:09 → 00:22:10 คอมเมนต์ได้เลยนะครับแล้วพบกันในกลุ่ม
00:22:10 → 00:22:13 เรียนนะครับ