00:00:50 → 00:00:52 สวัสดีค่ะ
00:00:52 → 00:00:54 ได้เวลาของรายการคุยกับหมออัจจิมาแล้วนะคะ
00:00:54 → 00:00:57 แน่นอนว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านไป
00:00:57 → 00:00:59 คุณหมอก็ทำการบ้านหนักอีกแล้ว
00:01:00 → 00:01:02 เพื่อที่จะมานำเสนอสาระที่
00:01:02 → 00:01:03 เป็นประโยชน์ที่สำคัญเนี่ยคุณหมอ
00:01:03 → 00:01:06 ย่อยมาแล้วให้ดูเราง่ายเข้าใจง่ายแล้วก็
00:01:06 → 00:01:09 เอาไปปฏิบัติตัวหรือว่าไปปรับใช้ได้ง่ายขึ้นด้วย
00:01:09 → 00:01:11 จริงๆแล้วตอนวันนี้คุณแนนมาจาก
00:01:11 → 00:01:12 คำถามที่
00:01:12 → 00:01:13 ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น
00:01:14 → 00:01:16 ช่วงประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์ที่ผ่านมา
00:01:16 → 00:01:17 มีแต่คนไข้ที่ถามเรื่องนี้
00:01:18 → 00:01:19 นั่นก็คือเรื่อง
00:01:19 → 00:01:20 ภูมิแพ้อาหาร
00:01:20 → 00:01:22 ภูมิแพ้อาหารเหรอคะ
00:01:22 → 00:01:24 เพราะอะไรหรือว่าเดี๋ยวเนี้ยคนมัน
00:01:24 → 00:01:26 แพ้อะไรแบบนี้เยอะขึ้น
00:01:26 → 00:01:28 หรือแพ้นู่นแพ้นี่แหละ
00:01:29 → 00:01:32 เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องมาคุยเรื่องนี้กันอย่างเจาะ
00:01:32 → 00:01:32 ลึก
00:01:32 → 00:01:34 ซึ่งทีบางคนเนี่ย
00:01:34 → 00:01:35 แพ้แต่ไม่รู้ตัว
00:01:36 → 00:01:37 คนรู้ตัวก็ยังโอเคไป
00:01:38 → 00:01:40 แต่แพ้แล้วไม่รู้เนี่ยกลัวนะคะ
00:01:40 → 00:01:42 เพราะฉะนั้นวันนี้น่าสนใจมากๆเลยค่ะ
00:01:42 → 00:01:45 คุณผู้ชมก็ห้ามหนีไปไหนนะคะติดตามรายการเราตลอด
00:01:45 → 00:01:47 ครึ่งชั่วโมงนี้ก็แล้วกันนะคะ
00:01:47 → 00:01:50 มาค่ะตอนนี้ได้เวลาของหมอชวนคุยแล้วนะคะ
00:01:50 → 00:01:53 วันนี้คุณหมอจะชวนพวกเราคุยถึงเรื่องของ
00:01:53 → 00:01:55 ภูมิแพ้อาหาร
00:01:55 → 00:01:57 เมื่อกี้คุณหมอเกริ่นเอาไว้แล้วว่า
00:01:57 → 00:02:00 เรื่องนี้นี่คนเป็นเยอะมาก
00:02:00 → 00:02:01 ซึ่งจริงๆก็พูดถึงเรื่องของ
00:02:01 → 00:02:04 ภูมิแพ้มันก็มีหลายต่อหลายอย่างใช่มั้ยคะคุณหมอ
00:02:05 → 00:02:07 คือจริงๆภูมิแพ้อาหารที่เราจะพูดในวันเนี้ย
00:02:07 → 00:02:09 จะเป็นเรื่องของภูมิแพ้อาหารแฝงมากกว่า
00:02:09 → 00:02:11 เพราะว่าเป็นภูมิแพ้อาหารในกลุ่มที่
00:02:11 → 00:02:12 มีการพบ
00:02:13 → 00:02:14 บ่อยมาก
00:02:14 → 00:02:16 ขึ้นและก็มากขึ้นเรื่อยๆ
00:02:16 → 00:02:17 ซึ่งจะต่างจาก
00:02:18 → 00:02:19 ภูมิแพ้อาหารธรรมดา
00:02:20 → 00:02:20 ทั่วๆไป
00:02:21 → 00:02:22 ซึ่งถ้าเป็นกลุ่มของกลุ่มของภูมิแพ้อาหาร
00:02:22 → 00:02:24 ธรรมดาหรือภูมิแพ้ปกติเนี่ยส่วนใหญ่
00:02:24 → 00:02:25 พวกนี้เนี่ยก็จะ
00:02:25 → 00:02:27 เป็นภูมิแพ้แบบเฉียบพลัน
00:02:27 → 00:02:28 แล้วก็โดยส่วนใหญ่
00:02:28 → 00:02:30 ภูมิแพ้กลุ่มเนี้ยจะมีอาการค่อนข้างรุนแรง
00:02:31 → 00:02:32 ก็คือถ้าแพ้เนี่ย
00:02:32 → 00:02:34 ก็จะแสดงอาการแพ้ออกมาทันทีเลย
00:02:35 → 00:02:36 แต่ถ้าเกิด
00:02:36 → 00:02:38 ในอาการภูมิแพ้อีกแบบนึง
00:02:38 → 00:02:40 ที่เราจะคุยกันวันนี้คือเรื่องของอาการภูมิแพ้แบบ
00:02:40 → 00:02:41 แฝง
00:02:42 → 00:02:44 ซึ่งอาการภูมิแพ้แบบแฝงเนี่ยก็มักจะเป็นอาการที่
00:02:45 → 00:02:46 ทำให้เกิด
00:02:46 → 00:02:47 อาการแพ้เรื้อรัง
00:02:48 → 00:02:49 ยกอย่างเช่น
00:02:49 → 00:02:51 คนไข้ที่มีปัญหาภูมิแพ้
00:02:51 → 00:02:53 อาหารแฝงอาจจะมีอาการ
00:02:54 → 00:02:54 ท้องเสีย
00:02:55 → 00:02:57 หลังจากรับประทานอาหารบางอย่าง
00:02:57 → 00:02:57 ค่ะ
00:02:57 → 00:02:58 ปวดศีรษะ
00:02:59 → 00:03:00 หรือปวดศีรษะไมเกรน
00:03:00 → 00:03:01 หรือ
00:03:01 → 00:03:02 บวมน้ำ
00:03:02 → 00:03:05 หรืออาจจะไปกระตุ้นทำให้เกิดผื่นนี่แหละได้หรือ
00:03:05 → 00:03:06 กระตุ้นทำให้เกิด
00:03:06 → 00:03:09 หอบหืดได้นะหรือกระตุ้นการอักเสบ
00:03:09 → 00:03:11 ของชั้นผิวหนังต่างๆเช่น
00:03:11 → 00:03:12 รับประทานอาหารอันนี้
00:03:12 → 00:03:14 แล้วทำให้เกิดเป็นซิสใต้ผิวหนังก็ได้
00:03:14 → 00:03:15 อย่างเงี้ยเป็นต้น
00:03:15 → 00:03:16 หรือทำให้เกิดอาการ
00:03:16 → 00:03:18 สิวเรื้อรังก็ได้เหมือนกัน
00:03:18 → 00:03:21 อันนี้คือปัญหาของภูมิแพ้อาหารแฝง
00:03:22 → 00:03:22 นะคะเพราะว่า
00:03:23 → 00:03:25 ในส่วนของภูมิแพ้อาหารแฝงเองเนี่ยคุณแนนเวลา
00:03:25 → 00:03:26 เป็นแล้วเนี่ย
00:03:26 → 00:03:27 จะไม่ค่อยรู้
00:03:28 → 00:03:29 เพราะว่ามัน
00:03:29 → 00:03:31 เนื่องจากอย่างที่บอกว่ามันไม่เกิดอาการทันที
00:03:31 → 00:03:32 แล้วก็ไม่ได้รุนแรงเหมือน
00:03:33 → 00:03:36 แล้วก็ไม่ได้รุนแรงคือไม่เกิดทันทีไม่เกิดรุนแรง
00:03:36 → 00:03:37 แต่ว่ามันเป็น
00:03:37 → 00:03:38 ต้นเหตุของ
00:03:38 → 00:03:40 อะไรที่มันไม่ปกติในร่างกาย
00:03:40 → 00:03:41 ที่มัน
00:03:41 → 00:03:42 ทำให้เกิดอาการเรื้อรัง
00:03:43 → 00:03:45 หรือบางทีเนี่ยยกตัวอย่างเช่น
00:03:45 → 00:03:48 เราอาจที่จะมีอาการแพ้
00:03:48 → 00:03:49 เป็นผื่น
00:03:50 → 00:03:51 แห้ง
00:03:51 → 00:03:52 ลอก
00:03:52 → 00:03:54 แล้วเกิดขึ้นเป็นรอยดำหรือเป็นผด
00:03:54 → 00:03:56 ที่หน้าขึ้นตลอดเวลา
00:03:56 → 00:03:58 รักษาสิวยังไงก็ไม่หาย
00:03:58 → 00:04:00 รักษาผื่นยังไงก็ไม่หาย
00:04:00 → 00:04:01 เพราะเรารักษาแต่ภายนอก
00:04:02 → 00:04:03 แล้วพอเรา
00:04:03 → 00:04:03 ไม่ได้
00:04:03 → 00:04:05 มาสนใจกับปัญหาเรื่องของภูมิแพ้อาหารแฝง
00:04:05 → 00:04:06 ก็ทำให้
00:04:06 → 00:04:09 รักษายากแล้วก็รักษาไม่หาย
00:04:09 → 00:04:10 ซึ่งส่วนโดยใหญ่
00:04:10 → 00:04:12 พวกเนี้ยมันเกิดจากระบบภูมิต้านทานของร่างกาย
00:04:12 → 00:04:14 เกิดปฏิกิริยา
00:04:14 → 00:04:14 ต่อ
00:04:15 → 00:04:16 สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้น
00:04:16 → 00:04:17 อาจจะเป็นสิ่งที่เป็น
00:04:17 → 00:04:19 ตัวกระตุ้นที่เป็นตัวกระตุ้นปกติ
00:04:19 → 00:04:20 แล้วก็
00:04:20 → 00:04:22 ร่างกายเนี่ยทำปฏิกิริยาผิดปกติ
00:04:22 → 00:04:24 ต่อสารเหล่านั้น
00:04:24 → 00:04:28 ก็คือเราเรียกว่าเป็นกลุ่มโปรตีนที่อยู่ในอาหาร
00:04:28 → 00:04:30 กระตุ้นการเกิดอาการแพ้ขึ้นมา
00:04:30 → 00:04:32 ซึ่งจะมีตั้งแต่เรื่องของ
00:04:32 → 00:04:33 เป็นผื่น
00:04:33 → 00:04:34 มีตั้งแต่
00:04:35 → 00:04:36 อย่างที่หมอบอกว่าอาจจะไปกระตุ้นทำให้
00:04:36 → 00:04:38 เกิดอาการหอบหืดขึ้นมา
00:04:38 → 00:04:39 ซึ่งจะเกิด
00:04:39 → 00:04:41 เฉพาะในกลุ่มของอาหารบางประเภท
00:04:42 → 00:04:42 ยกตัวอย่างเช่น
00:04:43 → 00:04:45 กลุ่มของ เนื้อ นม ไข่ ถั่ว ปลา
00:04:45 → 00:04:46 เงี้ยก็เป็นอาหาร
00:04:46 → 00:04:48 จริงๆแล้วมันเป็นอาหารที่เรารับประทานประจำเลย
00:04:48 → 00:04:49 แต่ว่าพอ
00:04:49 → 00:04:51 รับประทานอาหารพวกนี้เข้าไปแล้วเนี้ย
00:04:51 → 00:04:52 มันไปกระตุ้นการทำงานของ
00:04:52 → 00:04:53 ภูมิต้านทานที่ผิดปกติ
00:04:54 → 00:04:55 ซึ่งกลุ่มพวกนี้เนี่ย
00:04:55 → 00:04:56 อาการมันจะไม่ค่อยรุนแรงมาก
00:04:57 → 00:05:00 แล้วก็เราจะต้องรับประทานอาหารมากประมาณนึง
00:05:00 → 00:05:01 ถึงจะ
00:05:01 → 00:05:03 กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยา
00:05:03 → 00:05:04 คือแบบรับประทานนิดหน่อย
00:05:05 → 00:05:06 ถ้าเราไม่ได้แพ้ใน
00:05:07 → 00:05:08 ความรุนแรงที่เยอะเนี่ยมันก็จะ
00:05:08 → 00:05:09 ไม่รู้สึก
00:05:10 → 00:05:11 ไม่มีอาการอะไร
00:05:11 → 00:05:12 เช่นเราอาจจะต้อง
00:05:12 → 00:05:14 ทานในปริมาณมากๆทานซ้ำๆ
00:05:14 → 00:05:15 ทุกวันทุกวันทุกวัน
00:05:15 → 00:05:17 ติดๆกัน 3-4 เราวันถึงจะมีอาการ
00:05:18 → 00:05:20 มันก็ทำให้เรายากในการวินิจฉัย
00:05:20 → 00:05:22 ที่เนี่ยเอ้าก็เมื่อวานฉันก็ทาน
00:05:22 → 00:05:24 ก็ไม่เห็นเป็นไรวันก่อนฉันก็ทานไม่เห็นเป็นไร
00:05:24 → 00:05:27 แต่ว่ามันเกิดเป็นปฏิกิริยาที่มันสะสมน้อยๆ
00:05:27 → 00:05:28 แล้วก็เกิด
00:05:28 → 00:05:29 เป็นปัญหาขึ้นมา
00:05:29 → 00:05:31 เพราะว่าภูมิต้านทานที่
00:05:31 → 00:05:32 ที่
00:05:32 → 00:05:33 ส่งผลทำให้เกิด
00:05:33 → 00:05:35 อาการแพ้เนี่ยมันเป็นคนละตัวกับอันแรก
00:05:36 → 00:05:37 กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่ม IGG
00:05:38 → 00:05:40 ที่ร่างกายสร้างมาต่อต้านอาหาร
00:05:40 → 00:05:41 ซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย
00:05:41 → 00:05:42 พอเรารับประทานอาหารที่
00:05:42 → 00:05:45 แพ้เข้าไปเนี่ยแล้วก็ตัวภูมิต้านทานเนี่ยไปจับ
00:05:45 → 00:05:47 กับอาหารที่แพ้แล้วก่อให้เกิดเป็น Complex
00:05:47 → 00:05:50 ขึ้นมาตัวคอมเพล็กซ์เนี่ยจะหลุดไปในกระแสเลือด
00:05:50 → 00:05:51 แล้วก็ไปก่อให้เกิดการอักเสบ
00:05:51 → 00:05:53 ตามจุดต่างๆของร่างกาย
00:05:53 → 00:05:54 เนี่ยอาการเนี่ยมันก็จะขึ้นอยู่ว่า
00:05:55 → 00:05:56 มันไปอยู่ตรงไหน
00:05:56 → 00:05:57 งั้นในแต่ละคนก็ต่าง
00:05:57 → 00:05:59 กันไม่จำเป็นจะต้องมีอาการเหมือนกัน
00:06:00 → 00:06:01 ซึ่งสาเหตุหลักๆ
00:06:01 → 00:06:02 ของตัวที่ทำให้เกิด
00:06:02 → 00:06:04 ตัวภูมิแพ้แฝงเนี่ยเขาเรียกว่า
00:06:04 → 00:06:05 ภาวะไส้รั่ว
00:06:05 → 00:06:06 ค่ะ
00:06:06 → 00:06:07 เนื่องจากว่าลำไส้ของเราเนี่ย
00:06:07 → 00:06:09 มันมีเยื่อบุที่ไม่แข็งแรง
00:06:09 → 00:06:10 แล้วทำให้มีการ
00:06:11 → 00:06:13 หลุดผ่านหรือมีการทำลาย
00:06:13 → 00:06:16 จากอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือเกิดจากการอักเสบ
00:06:16 → 00:06:17 ของเยื่อบุ
00:06:17 → 00:06:17 หรือว่า
00:06:17 → 00:06:20 เกิดจากสารแปลกปลอมจากอาหารที่รับประทานเข้าไป
00:06:20 → 00:06:22 นะซึ่งอาการก็แตก
00:06:22 → 00:06:24 ต่างกันไปที่เส้นเลือดก็ทำให้
00:06:24 → 00:06:26 อาจจะส่งผลทำให้เกิดมีอาการบวมของ
00:06:26 → 00:06:28 เส้นเลือด มีการอักเสบของเส้นเลือด
00:06:28 → 00:06:29 หรือเกิดความดันโลหิต
00:06:30 → 00:06:31 ผิดปกติขึ้นมาได้
00:06:31 → 00:06:32 ถ้าไปที่สมองอาจจะทำให้เรามี
00:06:32 → 00:06:34 อาการนอนหลับไม่สนิท
00:06:34 → 00:06:35 หรืออารมณ์หงุดหงิดง่าย
00:06:35 → 00:06:37 แปรปรวนก็ได้นะคะ
00:06:37 → 00:06:39 หรือบางคนก็บอกว่าเนี่ยจะเป็นต้นเหตุ
00:06:39 → 00:06:41 ของกลุ่มคนไข้ที่เป็นอัลไซเมอร์ก็ได้
00:06:42 → 00:06:44 นะหรือวิธีไปที่บริเวณข้อ
00:06:44 → 00:06:45 คนไข้จะมาด้วยเรื่องของปวด
00:06:45 → 00:06:46 ข้อ ปวดกระดูก
00:06:46 → 00:06:48 หรือบางทีถ้าเป็นหนักๆ
00:06:48 → 00:06:49 ก็อาจจะเป็นกลุ่มพวก
00:06:49 → 00:06:50 ภูมิเพี้ยนรูมาตอยด์ไปเลย
00:06:51 → 00:06:52 ถ้ามาอักเสบที่ผิวหนัง
00:06:52 → 00:06:53 คนไข้อาจจะมาด้วยเรื่องของอาการ
00:06:54 → 00:06:55 ภูมิแพ้
00:06:55 → 00:06:56 ภูมิเพี้ยน
00:06:56 → 00:06:58 ผื่นคันไม่หายลมพิษเรื้อรัง
00:06:58 → 00:07:00 อย่างเงี้ยเป็นต้น
00:07:00 → 00:07:02 ในกลุ่มพวกนี้เนี่ยเราจะพบว่าอาหารเนี่ย
00:07:03 → 00:07:04 มีส่วนสำคัญ
00:07:04 → 00:07:06 ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภูมิแพ้อาหารแฝง
00:07:06 → 00:07:07 มากมาย
00:07:07 → 00:07:09 ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นกลุ่มที่
00:07:09 → 00:07:11 เรารับประทานเป็นจะจำ
00:07:11 → 00:07:13 แล้วก็ตัวที่เราพบบ่อยๆคือกลุ่มพวกนม
00:07:13 → 00:07:14 ค่ะ
00:07:14 → 00:07:15 ผลิตภัณฑ์ที่มาจากนม
00:07:15 → 00:07:17 อย่างเช่นพวกชีสโยเกิร์ตนะ
00:07:17 → 00:07:18 หรือบางทีก็ไปอยู่ใน
00:07:19 → 00:07:21 ขนมนะ Bakery ซึ่งมีส่วนประกอบ
00:07:22 → 00:07:23 ทั้งนม ทั้งชีส
00:07:24 → 00:07:25 นะคะเนย
00:07:25 → 00:07:25 หรือ
00:07:25 → 00:07:28 ส่วนของกลูเตนก็ได้นะ
00:07:28 → 00:07:29 แป้งสาลีก็ได้นะ
00:07:29 → 00:07:32 กลุ่มพวกนี้ก็จะเป็นตัวนึงที่ไปเพิ่ม
00:07:32 → 00:07:34 การอักเสบให้เกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น
00:07:34 → 00:07:35 สามารถจะเป็น
00:07:35 → 00:07:36 เอ่อสารอาหาร
00:07:36 → 00:07:37 ที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายได้สูง
00:07:38 → 00:07:40 เพราะฉะนั้นภูมิแพ้อาหารแฝงเนี่ย
00:07:40 → 00:07:43 ไม่ใช่โรคที่ทำให้เกิดแล้วเป็นอันตรายถึงชีวิต
00:07:43 → 00:07:44 แต่
00:07:44 → 00:07:45 ภูมิแพ้อาหารแฝงเนี่ย
00:07:45 → 00:07:46 เป็นโรคที่ทำให้เรา
00:07:47 → 00:07:48 ใช้ชีวิตได้อย่างไม่มีความสุข
00:07:49 → 00:07:51 แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วถ้าเราปล่อยให้ร่างกาย
00:07:52 → 00:07:54 เกิดการอักเสบอยู่เป็นระยะเวลานานๆ
00:07:54 → 00:07:56 คือเกิดอาการของภูมิแพ้อาหารแฝง
00:07:56 → 00:07:59 เป็นระยะเวลานานๆไปเรื่อยๆ
00:07:59 → 00:08:01 มีปัญหาลำไส้แปรปรวนไปเรื่อยๆ
00:08:01 → 00:08:03 สุดท้ายแล้วก็จะมีปัญหาอยู่ดี
00:08:03 → 00:08:05 เราจะมีปัญหาเรื่องการดูดซึม
00:08:05 → 00:08:07 เราจะมีปัญหาเรื่องการอักเสบเรื้อรัง
00:08:07 → 00:08:09 สุดท้ายมันก็อาจจะนำไปสู่
00:08:09 → 00:08:10 โรคอื่นๆ
00:08:11 → 00:08:13 ที่ร้ายแรงอื่นๆต่อไปได้
00:08:13 → 00:08:15 เพราะฉะนั้นแล้วค่ะผู้ชมคะ
00:08:15 → 00:08:16 ฟังแบบนี้แล้วเนี่ยมัน
00:08:16 → 00:08:18 ต้องตั้งคำถามกับตัวเองแล้วว่า
00:08:18 → 00:08:19 เราเนี่ย
00:08:19 → 00:08:21 เป็นภูมิแพ้อาหารแฝงอยู่หรือเปล่า
00:08:21 → 00:08:24 เราจะรู้ได้ยังไงมันจะมีวิธีการเช็คอาการไหม
00:08:24 → 00:08:25 เดี๋ยวช่วงหน้ากลับมาคุยกันต่อ
00:08:25 → 00:08:28 กำลังสนุกเลยตอนนี้พักสักครู่ก่อนค่ะ
00:08:29 → 00:08:30 กำลังสนุกเลยค่ะ
00:08:30 → 00:08:32 วันนี้เราคุยกันถึงเรื่องของ
00:08:32 → 00:08:33 ภูมิแพ้อาหาร
00:08:33 → 00:08:35 และในช่วงที่สองเรานะคะ
00:08:35 → 00:08:36 สนับสนุนโดย
00:08:36 → 00:08:40 ออลติซินผลิตภัณฑ์อาหารเสริมดูแลรูปร่าง
00:08:40 → 00:08:41 ส่วนตอนนี้กลับมาดูแลกัน
00:08:41 → 00:08:43 ต่อเกี่ยวกับเรื่องของโรค
00:08:43 → 00:08:45 ภูมิแพ้อาหารที่คุณหมอบอกว่าโหเนี่ย
00:08:45 → 00:08:46 ยิ่งปัจจุบันนี้เนี่ย
00:08:46 → 00:08:48 คนเป็นโรคนี้กันเยอะ
00:08:48 → 00:08:50 มากเลยเหมือนที่คนไข้มาปรึกษา
00:08:50 → 00:08:51 กันที่นี้เนี่ย
00:08:51 → 00:08:53 แนนก็ถามคุณหมอหลังไมค์ว่าเอ๊ะ
00:08:53 → 00:08:55 ทำไมเขาถึงมาปรึกษาคุณหมอ
00:08:55 → 00:08:57 แสดงว่าเขาต้องมีอาการบางอย่างที่เขาสงสัย
00:08:57 → 00:09:00 ว่าเขาจะเป็นภูมิแพ้อาหารแฝงใช่ไหมคะคุณหมอ
00:09:00 → 00:09:02 คือคนไข้ส่วนใหญ่เนี่ยเขา
00:09:02 → 00:09:03 ก็จะมีอาการเรื้อรัง
00:09:03 → 00:09:04 ซึ่งจะมีหลายระบบ
00:09:05 → 00:09:08 แต่หมอว่าคนไข้ปัจจุบันเขาดูแลสุขภาพพยายาม จะ
00:09:09 → 00:09:12 ตอบคำถามสิ่งที่ตัวเองเป็นว่าทำไมมันถึงไม่หาย
00:09:12 → 00:09:14 อันนี้ก็คือจะเป็นคำถามของคนไข้เลยว่า
00:09:14 → 00:09:15 เขาเนี่ย
00:09:15 → 00:09:17 เป็นลมพิษมาเป็นปีแล้วอ่ะ
00:09:17 → 00:09:19 ทำไมรักษาไม่หาย
00:09:19 → 00:09:20 หรือ
00:09:20 → 00:09:20 ทำไมเขาถึง
00:09:20 → 00:09:23 มีอาการท้องอืดท้องเฟ้ออยู่ตลอดเวลา
00:09:23 → 00:09:24 แล้วรักษาไม่หาย
00:09:24 → 00:09:24 ค่ะ
00:09:24 → 00:09:26 อันนี้แหละคืออาการ
00:09:26 → 00:09:27 อันนึง
00:09:27 → 00:09:28 ของอาการ
00:09:28 → 00:09:29 แพ้อาหารแฝง
00:09:30 → 00:09:32 หรือบางคนคุณแนนมาด้วยเรื่อง
00:09:32 → 00:09:33 กลิ่นปาก
00:09:33 → 00:09:33 ค่ะ
00:09:34 → 00:09:35 กลิ่นปาก
00:09:35 → 00:09:36 กลิ่นตัว
00:09:36 → 00:09:37 อะไรที่มันเป็นเรื่องเรื้อรังเนี่ย
00:09:38 → 00:09:39 แล้วเค้าพยายามจะรักษา
00:09:39 → 00:09:41 โดยปกติทั่วไปแล้วไม่หาย
00:09:42 → 00:09:43 อันนี้แหละคือกลุ่มคนไข้ที่
00:09:44 → 00:09:46 ที่สนใจพยายามหาคำตอบ
00:09:46 → 00:09:46 ว่ามันคืออะไร
00:09:47 → 00:09:48 เดี๋ยวบางคนก็จะมาด้วย
00:09:48 → 00:09:51 ผมร่วง ปวดตามข้อ
00:09:51 → 00:09:52 แล้วเขาก็
00:09:52 → 00:09:53 พยายามหาสาเหตุ
00:09:53 → 00:09:55 แต่มันหาไม่ได้เพราะว่าปัญหาคือคนไข้เนี่ย
00:09:55 → 00:09:57 เวลารับประทานอาหารที่แพ้มันไม่ได้
00:09:57 → 00:09:59 เกิดอาการทันทีอย่างที่หมอบอกมันใช้เวลา
00:10:00 → 00:10:01 ถ้าเราไม่ได้สังเกต
00:10:01 → 00:10:02 เราก็จะไม่รู้เลย
00:10:03 → 00:10:05 ว่ามันมาจากอาหารชนิดนั้นชนิดนี้
00:10:06 → 00:10:07 เพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆแล้ว
00:10:07 → 00:10:08 ถ้า
00:10:08 → 00:10:09 เราสงสัยว่าเรา
00:10:09 → 00:10:12 จะมีอาการเรื่องของปัญหาภูมิแพ้อาหารแฝง
00:10:12 → 00:10:12 ค่ะ
00:10:12 → 00:10:14 เราก็ควร
00:10:14 → 00:10:15 ที่จะต้อง
00:10:15 → 00:10:16 ตรวจ
00:10:16 → 00:10:18 เราเป็นโรคภูมิแพ้อาหารแฝงอยู่หรือเปล่า
00:10:18 → 00:10:21 เราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็นเนี่ย
00:10:21 → 00:10:23 อย่างเดียวเลยคือต้องเจาะเลือด
00:10:23 → 00:10:24 ตรวจเลือด
00:10:24 → 00:10:25 ต้องเจาะเลือด
00:10:25 → 00:10:26 ตรวจ แล้วต้องเป็นเจาะเลือด
00:10:26 → 00:10:28 ตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงแบบ IGG
00:10:29 → 00:10:32 เพราะว่าถ้าเป็นไอและแบบ IGE เนี่ยมันจะเป็น
00:10:32 → 00:10:35 ภูมิแพ้อาหารแบบธรรมดาที่เราคุยกันตอนต้นรายการ
00:10:35 → 00:10:37 เหมือนแพ้ถั่ว แพ้กุ้ง แพ้อะไรว่าไป
00:10:38 → 00:10:39 ก็ต้องบอก
00:10:39 → 00:10:42 คุณหมอว่าขอตรวจภูมิแพ้อาหารแฝงแบบ IGG
00:10:42 → 00:10:43 ใช่ค่ะ
00:10:43 → 00:10:44 แล้วเราก็จะได้รู้ว่าเรา
00:10:44 → 00:10:46 แพ้ตัวไหนบ้าง
00:10:47 → 00:10:48 ซึ่งถ้าเรารู้
00:10:48 → 00:10:50 แล้วเราทำไงต่อค่ะคุณหมอคะ
00:10:50 → 00:10:51 เลิกกินอย่างงี้หรอคะ
00:10:51 → 00:10:52 เออใช่
00:10:52 → 00:10:53 เราต้องเลิกกิน
00:10:55 → 00:10:57 ในอย่างกรณีที่เรา
00:10:57 → 00:11:00 รอผลการตรวจเลือดเนี่ยหมอก็จะบอกให้ว่าให้
00:11:00 → 00:11:02 คุณเลี่ยงอาหารที่เราพบ
00:11:02 → 00:11:03 ว่ามันเป็นอาหารที่พบบ่อย
00:11:03 → 00:11:04 ที่เราทานบ่อย
00:11:05 → 00:11:06 หรืออาหารที่เราทานบ่อยให้
00:11:06 → 00:11:08 เปลี่ยนประเภทของอาหารที่ทานซะ
00:11:08 → 00:11:11 ลองเปลี่ยนซะดูซิอาการมันจะดีขึ้นมั้ย
00:11:11 → 00:11:12 อันนี้คือข้อแรก
00:11:12 → 00:11:14 ข้อที่2 ก็คือไข้จะต้อง
00:11:14 → 00:11:16 ลดละ หลีกเลี่ยง
00:11:16 → 00:11:17 เลิก
00:11:17 → 00:11:18 อาหารอักเสบ
00:11:18 → 00:11:19 หรือ
00:11:19 → 00:11:21 กิจกรรมอะไรก็ตามที่ไปสร้างการอักเสบหรือ
00:11:22 → 00:11:24 ภาวะที่ไปทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายเราแย่ลง
00:11:24 → 00:11:25 อย่างเช่น
00:11:25 → 00:11:26 ดื่ม
00:11:26 → 00:11:28 แอลกอฮอล์
00:11:28 → 00:11:29 บุหรี่ สูบบุหรี่
00:11:29 → 00:11:31 ใช่อันเนี่ยตัวดีเลย
00:11:31 → 00:11:32 นอนน้อย
00:11:33 → 00:11:34 นอนดึกเนี่ย
00:11:34 → 00:11:36 เครียดเนี่ย
00:11:36 → 00:11:38 คือตัวพวกนี้ทั้งหลายเนี่ยคือเป็นตัว
00:11:38 → 00:11:39 ทำลายภูมิต้านทานของเรา
00:11:40 → 00:11:41 นั้นหมายความว่าเราจะต้องทำให้
00:11:41 → 00:11:43 ภูมิต้านทานเราเนี่ยมัน
00:11:43 → 00:11:45 มันซ่อม มันรีแพร์
00:11:45 → 00:11:46 เพราะว่าจริงๆแล้วท้ายที่สุด
00:11:46 → 00:11:47 ถึงแม้เราจะงด
00:11:47 → 00:11:50 อาหารอักเสบถึงแม้เราจะงดอาหารที่เราแพ้
00:11:50 → 00:11:53 แต่ถ้าร่างกายเราไม่ได้อยู่ในสภาพ
00:11:53 → 00:11:55 ที่มันจะซ่อมแซมตัวเองขึ้นมา
00:11:55 → 00:11:56 มันก็ไม่หายสักที
00:11:57 → 00:11:59 อย่างคนบางคนเป็นเป็นปีๆกว่าจะหายคุณแนน
00:12:00 → 00:12:01 คือนอกจาก
00:12:01 → 00:12:03 ทำให้การเสบในร่างกายลดลงแล้วเนี่ยเราต้อง
00:12:03 → 00:12:06 เพิ่มภูมิต้านทานของตัวเองให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นมา
00:12:06 → 00:12:07 เนี่ยไงสำคัญตรงนี้
00:12:07 → 00:12:10 คราวนี้เพิ่มภูมิต้านทานร่างกายก็มีตั้งแต่เพิ่ม
00:12:10 → 00:12:11 ภูมิเฉพาะที่
00:12:11 → 00:12:13 ซึ่งการเพิ่มภูมิเฉพาะ
00:12:13 → 00:12:15 ที่ในระบบย่อยอาหารหรือระบบลำไส้เนี่ยก็คือการ
00:12:16 → 00:12:17 กินรับประทานโพรไบโอติก
00:12:18 → 00:12:21 ส่วนเพิ่มภูมิต้านทานทั่วไปของร่างกายก็
00:12:21 → 00:12:22 คือเรื่องของการนอนหลับ
00:12:22 → 00:12:24 พักผ่อนให้เพียงพอลดความเครียด
00:12:24 → 00:12:26 ออกกำลังกายให้เหมาะสมไม่เยอะเกินไป
00:12:27 → 00:12:29 แก่นแท้ของมันอยู่ตรงนี้นั่นเอง
00:12:29 → 00:12:31 ไปตรวจหาให้เจอก่อน
00:12:31 → 00:12:34 ว่าเราแพ้ตัวไหนก็ให้เลิกทานซะ
00:12:34 → 00:12:36 จากนั้นเสริมภูมิต้านทานให้กับตัวเอง
00:12:36 → 00:12:38 โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทาน
00:12:39 → 00:12:41 มันมีอาหารอะไรมั้ยคะคุณหมอที่จะช่วยเสริม
00:12:41 → 00:12:42 ภูมิต้านทาน
00:12:42 → 00:12:44 คือจริงๆแล้วเนี่ยก็เป็นกลุ่มอาหาร
00:12:44 → 00:12:46 พวกต้านการอักเสบ
00:12:46 → 00:12:47 หรือเป็นอาหารที่
00:12:47 → 00:12:48 ไปลด
00:12:48 → 00:12:49 สารอนุมูลอิสระนะคะ
00:12:50 → 00:12:51 ส่วนใหญ่แล้วก็เราก็จะรู้กันอยู่แล้วว่า
00:12:52 → 00:12:53 ถ้าเราทานแพลนต์เบส
00:12:54 → 00:12:56 หรือเราทานผักผลไม้เนี่ยเป็นหลัก
00:12:56 → 00:12:58 85% ถึงของอาหารที่เรารับประทาน
00:12:59 → 00:13:03 ในผักและผลไม้เนี่ยมีทั้งวิตามินมากมายนะคะ
00:13:03 → 00:13:05 ที่เป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์
00:13:05 → 00:13:06 นั้นคือสารต้านอนุมูลอิสระ
00:13:07 → 00:13:07 นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม
00:13:07 → 00:13:10 วิตามินที่ช่วยยับยั้งการหลั่งฮิสตามีน
00:13:10 → 00:13:11 ซึ่งเรารู้ว่า
00:13:11 → 00:13:14 ตัวสารอันเนี้ยเป็นต้นเหตุของการเกิดภูมิแพ้
00:13:14 → 00:13:17 บางทีเราก็อาจจะต้องทานกลุ่มพวกธัญพืชคู่ไป ด้วย
00:13:17 → 00:13:20 ธัญพืชก็เสริมพวกวิตามิน E นะคะ
00:13:20 → 00:13:21 ซึ่งพวกนี้ก็
00:13:21 → 00:13:22 เป็นไขมันดีนะคะแล้วก็
00:13:22 → 00:13:24 ช่วยลดการอักเสบ
00:13:24 → 00:13:25 นะของร่างกาย
00:13:25 → 00:13:26 เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับผู้สูงอายุ
00:13:27 → 00:13:29 นั้นหมายความว่าเราอาจจะต้องรับประทานกลุ่ม พวก
00:13:29 → 00:13:30 ถั่ว
00:13:30 → 00:13:31 นะอย่างเช่น
00:13:31 → 00:13:33 เมล็ดทานตะวัน ถั่ว อัลมอนด์ ธัญพืช
00:13:34 → 00:13:35 จมูกข้าวสาลีอะไรพวกเนี้ย
00:13:36 → 00:13:38 นอกจากนี้ก็ยังมีตัวอื่นๆอย่างเช่นขิง
00:13:38 → 00:13:40 ขิงเนี้ยมีแคลเซียมมีเหล็ก
00:13:40 → 00:13:44 มีโปรตีนก็ช่วยในการลดการอักเสบได้นะคะหรือ
00:13:44 → 00:13:46 ถ้าจะหลีกเลี่ยงจากรับประทาน
00:13:46 → 00:13:48 กาแฟก็อาจจะมารับประทานเป็นชาเขียวแทน
00:13:48 → 00:13:49 เพราะว่าในชาเขียวเนี่ย
00:13:49 → 00:13:52 มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์หรือสารต้านการอักเสบมาก
00:13:52 → 00:13:53 นะแล้วก็ตัวมันเองเนี่ย
00:13:54 → 00:13:56 มีส่วนประกอบของวิตามิน
00:13:56 → 00:14:00 เยอะมากนะคะมี B C E แล้วก็มีตัวของกรดอะมิโน
00:14:00 → 00:14:02 ซึ่งมันจะช่วยในการลดการอักเสบ
00:14:02 → 00:14:03 ของร่างกาย
00:14:03 → 00:14:05 ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นแล้วก็ขับสารพิษ
00:14:06 → 00:14:08 ตัวที่ช่วยอีกอันนึงคือ
00:14:08 → 00:14:10 โอเมก้า 3 ที่ในปลาน้ำทะเลลึก
00:14:10 → 00:14:12 เรารู้ว่าโอเมก้า 3 เนี่ย
00:14:12 → 00:14:14 เป็นสารสำคัญมากเลยที่มีฤทธิ์
00:14:14 → 00:14:17 ต้านการอักเสบสูงเพราะฉะนั้นแล้วอาจจะต้อง
00:14:17 → 00:14:19 รับประทานประทะเลเพิ่ม
00:14:20 → 00:14:21 นอกจากนี้แล้วก็ยังมี
00:14:21 → 00:14:23 กลุ่มเนื้อสัตว์คือหมอบอกว่าเออเรา
00:14:23 → 00:14:25 แพลนต์เบสเป็นหลักแต่อย่าลืมว่า
00:14:25 → 00:14:27 เรายังต้องการเนื้อสัตว์อยู่
00:14:27 → 00:14:29 เพราะเราต้องการโปรตีนนั้น
00:14:29 → 00:14:30 เราอาจจะ
00:14:30 → 00:14:31 ใช้โปรตีนที่มีการย่อยง่าย
00:14:31 → 00:14:33 ก็คือกลุ่มของเนื้อปลา
00:14:33 → 00:14:35 ใช่เนื้อปลาก็จะ
00:14:35 → 00:14:37 ย่อยง่ายนะเราก็ยังได้
00:14:37 → 00:14:39 กรดอะมิโนนะไปช่วยในการ
00:14:39 → 00:14:41 เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
00:14:42 → 00:14:44 นอกจากนี้มันก็จะมีสมุนไพรเราอาจจะ
00:14:44 → 00:14:46 รับประทานสมุนไพรบางอย่าง
00:14:46 → 00:14:47 ช่วยได้นะ
00:14:48 → 00:14:48 ช่วยในเรื่องของ
00:14:48 → 00:14:51 กลุ่มพวกอาการของภูมิแพ้ได้
00:14:51 → 00:14:52 เพราะฉะนั้นเนี่ย
00:14:52 → 00:14:54 เราก็ต้องพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยอะไรก็ตาม
00:14:54 → 00:14:56 ที่ไปสร้างการอักเสบของระบบเยื่อบุ
00:14:56 → 00:14:59 แล้วก็พยายามทำให้เยื่อบุมันแข็งแรงขึ้นมา
00:14:59 → 00:15:00 นะเอาโพรไบโอติกเข้าไป
00:15:01 → 00:15:02 พรีไบโอติกเข้าไป
00:15:02 → 00:15:04 พรีไบโอติกก็เป็นสารอาหารของโพรไบโอติกนะ
00:15:04 → 00:15:06 อาจจะต้องรับประทานพวก amino Acid ก็คือ
00:15:06 → 00:15:09 สารอาหารโปรตีนที่ไปซ่อมแซมเยื่อบุอาหาร
00:15:09 → 00:15:11 ทำให้ระบบตรงเนี้ยมันกลับมาแข็งแรง
00:15:12 → 00:15:12 มันก็จะทำให้
00:15:13 → 00:15:14 ภูมิแพ้อาหารเนี่ยมันค่อยๆดีขึ้น
00:15:15 → 00:15:16 ในขณะเดียวกับที่เราลด
00:15:16 → 00:15:17 เราไม่ไปสัมผัส
00:15:18 → 00:15:21 เราไม่ไปกินอาหารที่เราแพ้อย่างน้อย 6 เดือน
00:15:22 → 00:15:25 ร่างกายก็จะให้ค่อยๆมีการซ่อมแซมและก็ปรับปรุง
00:15:25 → 00:15:27 นะให้ดีขึ้นแล้วเราก็หาย
00:15:27 → 00:15:28 แล้วเราก็สามารถ
00:15:28 → 00:15:29 มารับประทานได้อีก
00:15:30 → 00:15:31 แต่ว่าคือต้องหายสนิท
00:15:32 → 00:15:34 ถึงจะสามารถกลับมารับประทานได้
00:15:34 → 00:15:36 จริงๆแล้วจะบอกว่าเป็นเรื่องใกล้
00:15:36 → 00:15:37 ตัวนะคุณผู้ชมคนรอบ
00:15:37 → 00:15:39 ตัวเนี่ยเป็นภูมิแพ้อาหารแฝงเยอะมาก
00:15:39 → 00:15:40 ใช่
00:15:40 → 00:15:42 ซึ่งบางคนเนี่ยไม่รู้ว่าอาการที่เราเป็นอยู่เนี่ย
00:15:42 → 00:15:45 มันคือการบอกว่าเราเป็นโรคนี้อยู่ด้วย
00:15:45 → 00:15:47 เพราะฉะนั้นอย่างที่คุณหมอแนะนำไป
00:15:47 → 00:15:49 ถ้าเกิดว่าคุณแบบมีผื่น เป็นลมพิษ
00:15:49 → 00:15:52 ท้องอืด ท้องเฟ้อ ลำใส่แปรปรวน
00:15:52 → 00:15:54 อ่อนเพลี ไม่สดชื่น
00:15:54 → 00:15:55 ลองไปตรวจเลือดดู
00:15:56 → 00:15:57 วันนี้ก็ฝากเอาไว้
00:15:57 → 00:15:58 ใครที่มีอาการก็อย่าลืมไป
00:15:58 → 00:15:59 พบแพทย์
00:15:59 → 00:16:01 ไปตรวจแล้วก็ขอให้หายไวๆกันทุกคนนะคะ
00:16:02 → 00:16:04 วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่รายการสนุ๊กสนุกแล้วก็
00:16:04 → 00:16:06 มีความรู้เยอะแยะมากมายเลยค่ะคุณหมอขา
00:16:06 → 00:16:08 ใครอยากจะติดตามเรื่องราวในการดูแลสุข
00:16:08 → 00:16:11 ภาพ แบบนี้เราอีกหลายช่องทางเลยนะคะ
00:16:11 → 00:16:14 ไม่ว่าจะเป็นยูทูป แชแนล ก็เสิร์ชชื่อรายการเลย
00:16:14 → 00:16:17 หรือสดๆร้อนคุณหมอบอกว่านี่ต้องมียุคนี้
00:16:17 → 00:16:18 พอดคาสต์
00:16:18 → 00:16:21 พอดคาสต์นะคะก็จะเป็นแบบว่าเป็นคลิปเสียง
00:16:21 → 00:16:23 ที่เป็นความรู้ต่างๆก็สามารถที่จะ
00:16:23 → 00:16:25 ไป Follow ไปคอมเมนต์กันได้
00:16:25 → 00:16:27 ช่องทางที่ขึ้นหน้าจอนะคะ
00:16:27 → 00:16:29 วันนี้เวลาหมดเกลี้ยงพบกันใหม่ครั้งหน้านะคะ
00:16:29 → 00:16:32 คุณหมอและแนนลาไปก่อน สวัสดีค่ะ