สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ปลอดภัยสำหรับคนเป็นเบาหวานมีอะไรบ้าง

[PODCAST] Food Choice | EP.32 - ของหวานสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:03 [เสียงดนตรี]

00:00:0300:00:06 You're listening to Mahidol Channel Podcast.

00:00:0600:00:08 Listen for a better life.

00:00:0800:00:11 ฟังเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

00:00:1100:00:14 และนี่คือรายการพอดแคสต์ของช่อง Mahidol Channel

00:00:1400:00:16 โดย มหาวิทยาลัยมหิดล

00:00:1600:00:22 [เสียงดนตรี]

00:00:2200:00:24 วันนี้คุณกินอะไร

00:00:2400:00:28 อาหารที่คุณกิน ส่งผลดี ส่งผลเสีย กับสุขภาพของคุณอย่างไร

00:00:2800:00:31 วันนี้หมอจะชวนทุกคนมาพูดคุย

00:00:3100:00:34 เกี่ยวกับรูปแบบของการกินอาหาร ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของเรา

00:00:3400:00:38 กับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้ กับหมอเอ๋

00:00:3800:00:40 แพทย์หญิงดรุณีวัลย์ วโรดมวิจิตร

00:00:4000:00:43 และหมอตั้ม นายแพทย์ดิษกุล ประสิทธิ์เรืองสุข

00:00:4300:00:46 [เสียงดนตรี]

00:00:4600:00:48 - สวัสดีค่ะ - สวัสดีครับ

00:00:4800:00:53 วันนี้ก็กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:00:5300:00:56 ตั้ม เวลาตั้มกินข้าวกับเพื่อน ๆ น่ะ

00:00:5600:00:59 พอกินเสร็จปุ๊บ มันจะมีประโยคหนึ่ง ที่เพื่อนพี่ชอบพูด

00:00:5900:01:00 ครับ

00:01:0000:01:02 กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่

00:01:0200:01:04 - นึกออกหรือเปล่า - โอ้โฮ แน่นอนเลยครับ แน่นอนเลยครับ

00:01:0400:01:08 เพราะฉะนั้นทุกครั้งเวลาที่เราไปทานอาหาร ด้วยกันกับเพื่อน ๆ นี่

00:01:0800:01:12 - มันมักจะต้องมีการสั่งอาหารหวาน ขนมหวาน - ต้องปิดด้วยขนมหวาน

00:01:1200:01:12 ถูกต้อง

00:01:1200:01:15 - มันก็คงดีสำหรับทั่วไป - ใช่ครับ

00:01:1500:01:20 แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะสามารถกินของหวานได้ โดยเฉพาะในคนไข้ที่เป็นเบาหวาน

00:01:2000:01:24 แล้วปัจจุบันนี้ ผู้ป่วยเบาหวานก็มีปริมาณเพิ่มขึ้น

00:01:2400:01:26 ทุก ๆ ที่ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วยค่ะ

00:01:2600:01:26 ใช่ครับ

00:01:2600:01:28 จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขนะครับ

00:01:2800:01:32 มีผู้ป่วยเบาหวานเพิ่มขึ้น ประมาณ 300,000 คนต่อปี

00:01:3200:01:33 โอ้โฮ

00:01:3300:01:36 โดยตอนนี้มีผู้ป่วยสะสม ประมาณ 3 ล้านคนแล้วสำหรับประเทศไทย

00:01:3600:01:39 ลูกค้าเยอะ เราไม่ตกงานแล้ว ลูกค้าเราเยอะ

00:01:3900:01:43 งั้นวันนี้เราก็จะมาคุยกัน เรื่องของของหวานสำหรับคนไข้เบาหวาน

00:01:4300:01:44 ว่าเราจะเลือกอย่างไรดีค่ะ

00:01:4700:01:48 คำถามแรกเลยครับพี่เอ๋

00:01:4800:01:51 กินหวานเท่ากับเป็นโรคเบาหวานจริงไหมครับ

00:01:5100:01:53 พี่อาจจะบอกว่าไม่ใช่

00:01:5300:01:55 เพราะว่าความหวานคือรสชาติ

00:01:5500:01:55 ครับ

00:01:5500:01:59 แต่เวลาที่เราคุยกันนี่ เราคุยกันที่เรื่องของเบาหวานถูกไหม

00:01:5900:02:04 เบาหวานคือความผิดปกติในเรื่องของ การเผาผลาญระดับน้ำตาลในเลือด

00:02:0400:02:06 เพราะฉะนั้น เวลาที่เราจะวินิจฉัยว่าเป็นเบาหวาน

00:02:0600:02:08 แปลว่าน้ำตาลในเลือดเราต้องสูง

00:02:0800:02:08 อืม

00:02:0800:02:12 เมื่อเรากินปุ๊บนี่ ร่างกายเราจะต้องพยายามเอาน้ำตาลไปใช้

00:02:1200:02:14 น้ำตาลมันก็จะไม่สูงเกินไป

00:02:1400:02:14 ครับ

00:02:1400:02:16 เมื่อไรก็ตามร่างกายเอาน้ำตาลไปใช้ไม่ได้

00:02:1600:02:18 มันก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดมันสูง

00:02:1800:02:20 ตรงนี้แหละเราถึงจะเรียกว่าเบาหวาน

00:02:2000:02:20 ครับ

00:02:2000:02:22 แต่ของที่กินแล้วหวาน

00:02:2200:02:26 ไม่ได้แปลว่า จะต้องทำให้น้ำตาลในเลือดมันสูงเกินไป

00:02:2600:02:28 เพราะฉะนั้นของหลาย ๆ อย่างที่เรากินนี่

00:02:2800:02:32 อาจจะไม่ได้เท่ากัน ว่าคนที่กินหวานจะต้องเป็นเบาหวานค่ะ

00:02:3200:02:35 พูดถึงอันตรายของการเป็นโรคเบาหวานนี่

00:02:3500:02:37 ถ้าเกิดเป็นขึ้นมาแล้วนี่ จะเกิดอะไรขึ้นบ้างครับ

00:02:3700:02:40 เบาหวานมีผลกับสุขภาพ 2 แบบ

00:02:4000:02:42 เราเรียกว่าระยะสั้นกับระยะยาว

00:02:4200:02:44 ระยะสั้น เช่น น้ำตาลในเลือดมันสูง

00:02:4400:02:46 สูงมาก ๆ เกิดอะไรขึ้น

00:02:4600:02:48 หิวน้ำ ฉี่บ่อย

00:02:4800:02:48 ครับ

00:02:4800:02:51 สูงมากกว่านี้อีก เดี๋ยวอาจจะซึม อาจจะมีเลือดเป็นกรด

00:02:5100:02:53 แล้วก็อาจจะหมดสติได้ เสียชีวิตได้

00:02:5300:02:55 แล้วก็ระยะยาว มีอะไรบ้าง

00:02:5500:03:00 น้ำตาลในเลือดสูง ก็จะส่งผล กับเรื่องของทุก ๆ ระบบในร่างกาย

00:03:0000:03:01 อันแรกเลย ภูมิคุ้มกันค่ะ

00:03:0100:03:02 ครับ

00:03:0200:03:04 เพราะฉะนั้นคนไข้เบาหวาน จะเสี่ยงกับการติดเชื้อ

00:03:0400:03:05 เส้นเลือดตีบ เส้นเลือดตัน

00:03:0500:03:06 ครับ

00:03:0600:03:08 ไม่ว่าจะเป็นหัวใจ สมอง

00:03:0800:03:10 หรือว่าหลอดเลือดส่วนปลาย

00:03:1000:03:13 จะทำให้เรื่องของคนไข้เบาหวานสูง ๆ นี่ ตัดขา

00:03:1300:03:15 แน่นอน เพราะได้ยินมาบ่อยมากเลยครับ

00:03:1500:03:18 ใช่ แล้วก็จะมีเรื่องไตกับเรื่องตา

00:03:1800:03:19 พวกนี้ก็จะมีผลกับเรื่องของหลอดเลือด

00:03:2000:03:22 แล้วทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน

00:03:2200:03:24 ต้องบอกว่าทั่วร่างเลยค่ะ

00:03:2400:03:25 น่ากลัวมาก ๆ เลยนะครับ

00:03:2500:03:25 ใช่

00:03:2500:03:29 คราวนี้นี่ มันก็มีคำถามเกิดขึ้น ในอินเตอร์เน็ตมากมายเลยครับ

00:03:2900:03:33 เป็นคำถามมาว่า อะไรที่จะสามารถทดแทนการทานน้ำตาล

00:03:3400:03:36 แล้วก็ป้องกันการเกิดเบาหวานได้บ้าง

00:03:3600:03:38 เริ่มต้นที่ผลไม้กันดีไหมครับ

00:03:3800:03:40 โอเค เพราะว่าเวลาที่เรากินอาหารเข้าไปค่ะ

00:03:4000:03:43 กลุ่มของน้ำตาล มันจะดูดซึมเร็ว

00:03:4300:03:43 ครับ

00:03:4300:03:45 พอดูดซึมเร็วปุ๊บ น้ำตาลในเลือดก็จะสูง

00:03:4500:03:47 ถ้าเราจัดการมันได้ไม่ดีใช่ไหมคะ

00:03:4700:03:50 มันก็อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดเราสูง และเป็นเบาหวานได้

00:03:5000:03:52 ดังนั้นนี่ เราอยากจะลดน้ำตาล

00:03:5200:03:54 เราก็จะต้องลดพวกของข้าวแป้งน้ำตาล

00:03:5400:03:55 ครับผม

00:03:5500:03:58 ก็เลยมีคนบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ถ้าเราไม่กินขนมหวานเรากินอะไรได้

00:03:5900:04:00 ผลไม้

00:04:0000:04:01 เป็นอาหารสุขภาพเนอะ

00:04:0100:04:04 คำถามคือผลไม้นี่ กินดีไหมสำหรับคนไข้เบาหวาน

00:04:0400:04:06 มันก็มีทั้งดีและไม่ดีครับ

00:04:0600:04:07 ใช่

00:04:0700:04:13 มันก็จะมีข้อนึงที่จะมีคนพูด เขาเรียกว่า Glycemic Index (GI) หรือว่าดัชนีน้ำตาล

00:04:1300:04:14 ดัชนีน้ำตาลคืออะไร

00:04:1400:04:17 เป็นตัวที่จะบอกเราว่าของที่กินเข้าไปแล้วนี่

00:04:1700:04:19 น้ำตาลมันขึ้นเร็วหรือขึ้นช้า

00:04:1900:04:20 ครับผม

00:04:2000:04:22 ปกติเวลาเรากินอาหาร โดยเฉพาะพวกของคาร์โบไฮเดรต

00:04:2200:04:24 น้ำตาลในเลือดมันจะสูงขึ้น

00:04:2400:04:27 แล้วก็จะลดลง อยู่ในช่วงประมาณ 2-3 ชั่วโมง

00:04:2700:04:28 ครับผม

00:04:2800:04:32 เพราะฉะนั้นนี่ เราจะเอาอาหารมาตรฐาน ยกตัวอย่างเช่นเป็นน้ำตาล

00:04:3200:04:34 หรือว่าจะเป็นพวกของขนมปังขาว

00:04:3400:04:36 ในปริมาณประมาณ 50 กรัม

00:04:3600:04:37 เสร็จแล้วเรามาดูว่าน้ำตาลขึ้นเท่าไร

00:04:3700:04:38 อา...

00:04:3800:04:39 อันนี้คือเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์

00:04:3900:04:42 เสร็จแล้วทีนี้เราก็จะเอาอาหาร ที่เราต้องการจะทดสอบ

00:04:4300:04:45 ในปริมาณที่มีคาร์โบไฮเดรตเท่ากัน

00:04:4500:04:47 แล้วมากิน แล้วมาเทียบกัน

00:04:4700:04:47 อืม

00:04:4700:04:50 เพราะฉะนั้นเราก็จะรู้ว่าเป็นตัวเลขเท่าไร

00:04:5000:04:50 อืม

00:04:5000:04:54 มันก็เลยจะออกมาว่า อันนี้ถ้าเกิดน้ำตาลมันขึ้นช้า

00:04:5400:04:55 หรือว่าน้ำตาลมันไม่ค่อยขึ้น

00:04:5500:04:58 เราก็จะเรียกว่าดัชนีน้ำตาลต่ำ

00:04:5800:04:58 ครับผม

00:04:5800:05:01 แต่ถ้ามันขึ้นสูง เราก็จะเรียกว่า

00:05:0100:05:04 ดัชนีน้ำตาลสูง ซึ่งอันนี้ไม่ค่อยดีนะคะ

00:05:0400:05:06 ทีนี้อันที่เป็นดัชนีน้ำตาลต่ำนี่

00:05:0600:05:09 ก็จะเป็นของที่เราแนะนำสำหรับคนไข้เบาหวาน

00:05:0900:05:11 แปลว่ากินแล้วน้ำตาลไม่ค่อยขึ้น

00:05:1100:05:14 เพราะฉะนั้นถ้าผลไม้ที่เราจะเลือก หลักง่าย ๆ นะคะ

00:05:1400:05:17 ก็จะเป็นกลุ่มที่รสชาติไม่จัดจ้าน

00:05:1700:05:18 ไม่ได้พูดว่าไม่หวานนะ

00:05:1900:05:23 อย่างเช่น ฝรั่ง แก้วมังกร ชมพู่ อย่างนี้ค่ะ

00:05:2300:05:27 หรือว่าจะเป็นกลุ่มเบอร์รี เช่น เป็นพวกของเชอร์รี สตรอว์เบอร์รีทั้งหลาย

00:05:2700:05:30 กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่ดัชนีน้ำตาลต่ำ

00:05:3000:05:34 เพราะฉะนั้นนี่ ถ้ากินในปริมาณที่เท่ากัน น้ำตาลก็จะขึ้นน้อยกว่า

00:05:3400:05:35 แล้วก็ในทางตรงข้ามนะคะ

00:05:3500:05:37 ของที่มีดัชนีน้ำตาลสูงนี่

00:05:3700:05:40 ให้สังเกตง่าย ๆ คือรสชาติมักจะจัดจ้าน เช่น

00:05:4100:05:44 สับปะรด ลิ้นจี่ ลำไย หรือว่ามะขามหวานอย่างนี้

00:05:4400:05:48 อันนี้คืออาจจะต้องระวังนิดนึง ในคนไข้ที่เป็นเบาหวานนะคะ

00:05:4800:05:51 ทีนี้พี่ถามตั้มว่าถ้าสมมุติว่า คนไข้บอกว่าดัชนีน้ำตาลต่ำ

00:05:5100:05:53 ขอกินเท่าไหร่ก็ได้ได้ไหม

00:05:5300:05:54 ขอกินเยอะ ๆ เป็นบุฟเฟ่ต์ได้ไหม

00:05:5400:05:54 ใช่ ๆ

00:05:5400:05:55 ตอบว่า ไม่ได้ครับผม

00:05:5500:05:58 ต่อให้กินเข้าไปแล้วนี่ มันดูดซึมช้าก็จริง

00:05:5800:06:00 แต่ถ้าเกิดเรากินปริมาณมาก ๆ นี่

00:06:0000:06:03 ต่อให้ช้า แต่ว่ามันเยอะ นาน ๆ ก็ไม่ดีเช่นเดียวกันนะครับ

00:06:0300:06:03 ใช่

00:06:0300:06:05 ทีนี้มันก็จะมีอีกอันหนึ่ง

00:06:0500:06:07 ถ้าสมมุติว่าพี่บอกว่าพี่เป็นเบาหวาน

00:06:0700:06:07 ครับ

00:06:0700:06:09 แล้วก็ดัชนีน้ำตาลอาหารชนิดนี้ต่ำ

00:06:0900:06:10 ครับ

00:06:1000:06:11 อยากกินแต่เคี้ยวยากจังเลย

00:06:1200:06:15 ก็ขอมาปั่นแล้วกัน เป็นน้ำผลไม้แทน

00:06:1500:06:16 อย่างเช่นน้ำฝรั่ง

00:06:1600:06:18 ยังคงสามารถกินได้ไหมในคนที่เป็นเบาหวาน

00:06:1800:06:19 คราวนี้ก็ต้องแยกกันครับ

00:06:1900:06:23 ถ้าเกิดว่าปั่นเป็นเครื่องปั่นเลย ที่มันมีกากใยไฟเบอร์ตามมาครบทุกอย่างนี่

00:06:2300:06:25 ผมว่าอาจจะทดแทนกันได้นะครับ

00:06:2500:06:28 แต่ว่าถ้าเกิดมันเป็นการปั่นแยกกาก

00:06:2800:06:33 เช่น การสกัดเย็นต่าง ๆ ที่ตัวไฟเบอร์ต่าง ๆ มันถูกกรองออกไปแล้วเหลือแต่น้ำผลไม้

00:06:3300:06:37 อันนี้เราจะไม่ได้คุณประโยชน์จากไฟเบอร์ ที่ช่วยการดูดซึมน้ำตาลเอาไว้

00:06:3700:06:40 เพราะฉะนั้น น้ำตาลเต็ม ๆ ที่อยู่ในน้ำผลไม้

00:06:4000:06:43 ก็จะดูดซึมผ่านตัวลำไส้ เข้าไปในกระแสเลือดได้โดยตรงครับผม

00:06:4300:06:44 โอเค

00:06:4400:06:48 ค่ะ อันนี้ก็เป็นเทคนิคหนึ่งที่เวลาจำไม่ได้ ว่าอันไหนมีดัชนีน้ำตาลต่ำ

00:06:4800:06:53 ง่าย ๆ เลย คืออะไรที่มีไฟเบอร์เยอะ ก็จะช่วยทำให้ดัชนี้น้ำตาลต่ำ

00:06:5300:06:56 หรือผลไม้สองอย่างระหว่างผลไม้ดิบกับผลไม้สุก

00:06:5600:06:58 ผลไม้สุกจะเป็นของที่ดัชนีน้ำตาลสูง

00:06:5800:07:02 เพราะว่ามันจะเปลี่ยนแป้ง ไปเป็นน้ำตาลเรียบร้อยแล้ว

00:07:0200:07:06 เพราะฉะนั้น อันนี้ก็จะเป็นวิธีหนึ่ง ที่สมมุติถ้าเราอยากจะกินดัชนีน้ำตาลต่ำ

00:07:0600:07:07 เราเลือกแบบดิบนิดนึง

00:07:0700:07:11 แต่ต้องระวังพวกน้ำปลาหวาน น้ำจิ้ม พริกเกลือด้วยนะคะ

00:07:1100:07:13 แล้วก็เหมือนที่บอกเมื่อกี้ค่ะ

00:07:1300:07:17 ถ้าสมมุติว่าเราจะกินฝรั่งปั่น...ก็ได้ แต่ปริมาณคือสำคัญ

00:07:1700:07:18 เพราะเวลาที่เรากินฝรั่งนี่

00:07:1800:07:20 กว่าจะเคี้ยว กว่าจะกินเข้าไปนี่

00:07:2000:07:22 ลูกนึงก็อาจจะอิ่มแล้ว

00:07:2200:07:22 ใช่ครับ

00:07:2200:07:25 แต่พอปั่นเสร็จปุ๊บนี่ มันจะเหลือแค่แก้วเล็กนิดเดียว

00:07:2500:07:27 เพราะฉะนั้น ลูกนึงมันกินไม่อิ่ม

00:07:2700:07:31 ถ้าจะกินให้เต็มอิ่มนี่ อาจจะเป็น 2-3 ลูก อันนี้มันก็อาจจะเยอะไปนะคะ

00:07:3100:07:33 เมื่อกี้เราพูดถึงผลไม้แล้ว

00:07:3300:07:34 คนก็จะเริ่มพูดถึงว่า

00:07:3400:07:37 แล้วถ้าเกิดสารให้ความหวาน ที่มาจากธรรมชาติล่ะ

00:07:3700:07:40 เช่น น้ำผึ้ง หรือว่าจะเป็นน้ำอ้อยนี่ อันนี้คือดีไหมครับพี่เอ๋

00:07:4000:07:41 โอเค

00:07:4100:07:43 ในกรณีของน้ำผึ้งกับน้ำอ้อยหรือใด ๆ

00:07:4300:07:46 จริง ๆ ต้องบอกว่า น้ำตาลก็ทำมาจากอ้อยถูกหรือเปล่า

00:07:4600:07:46 ใช่ครับ

00:07:4700:07:50 เพราะฉะนั้น จริง ๆ น้ำอ้อย ก็คือน้ำตาลนั่นแหละ

00:07:5000:07:51 ที่อยู่ในรูปของน้ำ

00:07:5100:07:52 ที่มันเป็นของเหลวใช่ไหมคะ

00:07:5200:07:53 ใช่ครับ

00:07:5300:07:56 เพราะฉะนั้น ถ้าสมมุติว่าเราดื่มน้ำอ้อยนี่ เราก็จะได้น้ำตาลไปเหมือนกัน

00:07:5600:07:59 เพียงแต่ว่ามันคือน้ำตาลที่ละลายน้ำแล้ว เอางี้เนอะ

00:07:5900:08:02 อันที่สองคือในกรณีของน้ำผึ้งก็เหมือนกัน

00:08:0200:08:04 น้ำผึ้งเองนี่ ข้อดีคือมันจะมีฟรุกโตส

00:08:0400:08:07 แล้วมันจะหวานกว่าน้ำตาลประมาเกือบ ๆ 2 เท่า

00:08:0700:08:10 เพราะฉะนั้น ถ้าสมมุติเราใส่น้อยลง มันก็ช่วย

00:08:1000:08:11 อืม

00:08:1100:08:14 แล้วมันก็จะมีกลิ่นแล้วก็เป็นรสชาติเฉพาะ

00:08:1400:08:16 ความหอมเฉพาะของตัวน้ำผึ้งแต่ละอย่าง

00:08:1700:08:19 แล้วก็จะมีส่วนของแร่ธาตุนิดหน่อย

00:08:1900:08:20 ถามว่าใช้ได้ไหม ตอบว่าใช้ได้

00:08:2000:08:22 แต่ว่าก็ต้องจำกัดปริมาณ

00:08:2200:08:27 เพราะว่าความอ้วนและน้ำตาลในเลือด มันก็ยังขึ้นได้เหมือนกัน

00:08:2700:08:31 เพียงแต่ว่า ใช่ค่ะ น้ำตาลในเลือดนี่ ถามว่าถ้าเป็นน้ำผึ้ง มันจะขึ้นช้ากว่า

00:08:3100:08:34 ถ้าเทียบกับในกรณีของตัวน้ำตาลทราย

00:08:3500:08:37 คำถามใหม่ พี่บอกว่าจะกินสุขภาพดี

00:08:3700:08:42 ขอกินน้ำตาลแบบ...เขาเรียกน้ำตาลสีรำ น้ำตาลแดง ดีไหม

00:08:4200:08:43 น้ำตาลไม่ขัดสีใช่ไหม

00:08:4300:08:43 ดีไหม ๆ

00:08:4300:08:45 สุดท้ายก็คือน้ำตาลอยู่ดีครับ

00:08:4500:08:49 แล้วยิ่งพวกนี้นี่ละลายได้เร็วกว่า พวกน้ำผึ้งหรืออะไรอีกนะครับ

00:08:4900:08:52 แล้วก็สเกลน้ำตาล อย่างที่พี่เอ๋แนะนำเมื่อกี้ครับว่า

00:08:5200:08:56 ตัวน้ำตาลทราย น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลกรวด มีความหวานที่พอ ๆ กัน

00:08:5600:08:59 เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเราจะปรุงให้ ความหวานเท่ากันนี่

00:08:5900:09:01 ก็ต้องใช้ปริมาณต่อกรัมเท่ากันอยู่ดี

00:09:0100:09:03 คราวนี้พี่ไม่กินน้ำตาลแล้ว

00:09:0300:09:07 โอเค แต่พี่ยังอยากได้หวานอยู่ พี่จะใช้อะไรดี

00:09:0700:09:11 ด้วยปัจจุบันนี่เรามีสารให้ความหวานแทนน้ำตาล เข้ามาเยอะมากครับ

00:09:1100:09:16 เพื่อทำให้ผู้ป่วยเบาหวาน สามารถมีความสุขในการทานอาหารอยู่นะครับ

00:09:1600:09:21 อย่างตัวแรกที่เรารู้จักกัน แล้วก็มาตัวแรก ๆ เลยนั่นก็คือแอสปาร์แตม

00:09:2100:09:22 อา...

00:09:2200:09:23 แอสปาร์แตมนี่เป็นอย่างไรครับ อยากให้พี่เอ๋ลองเล่าให้ฟัง

00:09:2300:09:26 แอสปาร์แตม จริง ๆ มันเป็นกรดอะมิโนค่ะ

00:09:2600:09:30 จริง ๆ ต้องบอกว่าตัวน้ำตาล มันคือคาร์โบไฮเดรตถูกไหมคะ

00:09:3000:09:34 แต่ว่าแอสปาร์แตมนี่ มันเป็นตัวกรดอะมิโน เป็นโปรตีนนิดนึงเนอะ

00:09:3400:09:37 เพียงแต่ว่ามันมีรสหวาน มันสามารถให้รสหวานได้

00:09:3700:09:40 - แล้วมันหวานกว่าน้ำตาลด้วย - ถูกต้องครับ

00:09:4000:09:41 หวานกว่าน้ำตาลเยอะแค่ไหน

00:09:4100:09:42 เยอะมากเลยครับ

00:09:4200:09:44 จริง ๆ สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเกือบทุกชนิด

00:09:4400:09:47 มีความหวานมากกว่าน้ำตาลหลายสิบเท่าเลย

00:09:4700:09:49 บางอันเป็นร้อยเลยนะคะ

00:09:4900:09:52 ทีนี้นี่เวลาที่ใช้ มันก็จะใช้ปริมาณนิดเดียว

00:09:5200:09:53 มีข้อเสียนิดเดียวค่ะ

00:09:5300:09:55 ด้วยความที่เป็นโปรตีน คิดง่าย ๆ เลย

00:09:5600:09:58 เวลาโปรตีน อย่างไข่ขาวอย่างนี้ ใส่ลงไปแล้วมันสุก

00:09:5800:10:00 เพราะฉะนั้น ส่วนของโปรตีนไม่ชอบความร้อน

00:10:0000:10:01 ถูกต้อง

00:10:0100:10:04 แอสปาร์แตมจะเป็นอะไรที่ใส่ในเครื่องดื่ม ที่ไม่ใช่เครื่องดื่มร้อน

00:10:0500:10:06 เครื่องดื่มเย็นใช้ได้

00:10:0600:10:08 แต่ถ้าเป็นเครื่องดื่มร้อนนี่ มันจะเฝื่อน มันจะไม่อร่อย

00:10:0800:10:12 ใช่ รสชาติจะเปลี่ยนจากความหวาน ไปเป็นความเฝื่อนหรือความขมได้เลย

00:10:1200:10:12 ค่ะ

00:10:1200:10:16 คราวนี้นี่มีข่าวเข้ามาค่อนข้างเยอะเลยครับ

00:10:1600:10:19 เกี่ยวกับการทานแอสปาร์แตมกับมะเร็ง

00:10:1900:10:20 เดี๋ยวให้พี่เอ๋ลองเล่าให้ฟังนิดนึงครับ

00:10:2000:10:25 คืออย่างนี้ค่ะ เวลาที่เราจะมาดูว่า ของหรืออาหาร หรือสารบางอย่างนี่

00:10:2500:10:28 มันจะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งได้ไหม มันก็จะแยกเป็นชนิด อย่างเช่น

00:10:2900:10:31 คลัส 1 อย่างนี้ โอ้โฮ มันเสี่ยงชัดเจน

00:10:3100:10:34 ถ้า 2 ก็อาจจะมีความเป็นไปได้ใด ๆ

00:10:3400:10:37 ในกรณีของตัวแอสปาร์แตมเองนี่ น่าจะอยู่ประมาณสัก 2B

00:10:3700:10:39 ซึ่งบอกว่ามีความเสี่ยง

00:10:3900:10:43 อาจจะเป็นข้อมูลในสัตว์ทดลอง หรือว่าอาจจะเป็นข้อมูลในแล็บ

00:10:4300:10:45 ข้อมูลในคนอาจจะยังไม่ได้ชัดเจนนะคะ

00:10:4500:10:47 ทีนี้ถ้าสมมุติว่าจะกิน

00:10:4700:10:52 ส่วนใหญ่เวลาที่คนไข้ถามว่า อุ๊ย มันเสี่ยงมะเร็งโน่นนี่นั่น

00:10:5200:10:54 ถามอย่างเดียวเลยว่าทำไมต้องกินก่อน

00:10:5400:10:55 อืม

00:10:5500:10:58 ทำไมต้องกิน ถ้ายังอยากกิน กินได้ ชอบอันนี้

00:10:5800:11:01 ก็อาจจะต้องดูว่าปริมาณที่กินมากไหม

00:11:0100:11:03 เพราะว่าส่วนใหญ่ที่มันมีข้อมูล

00:11:0300:11:07 มันจะเป็นปริมาณที่โดสค่อนข้างเยอะ เมื่อเทียบกับตัวสัตว์ทดลอง

00:11:0700:11:07 ครับ

00:11:0700:11:11 แต่ว่าอาจจะยังไม่ได้มีข้อมูล ที่ชัดเจนมาก ๆ นักในคน

00:11:1100:11:13 ที่แบบว่ากินปุ๊บแล้วจะกลายเป็นมะเร็งปั๊บ

00:11:1300:11:16 เพราะฉะนั้น ถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงนะคะ

00:11:1600:11:18 ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ใช้ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ

00:11:1800:11:20 โดยสรุปสำหรับตัวแอสปาร์แตมนะครับ

00:11:2000:11:22 หนึ่งเลยคือ ไม่ทนความร้อนนะครับ

00:11:2300:11:26 เพราะฉะนั้น ไม่แนะนำให้นำไปปรุงอาหาร ที่มีความร้อน

00:11:2600:11:29 หรือแม้กระทั่งเครื่องดื่มร้อนก็ตาม จะทำให้รสชาติเปลี่ยนนะครับ

00:11:2900:11:34 อย่างที่สองเลยคือ มีข้อมูลว่าเกี่ยวข้องกับการก่อมะเร็ง

00:11:3400:11:36 แต่ว่าต้องกินปริมาณสูงมาก ๆ ถึงจะเกิดนะครับ

00:11:3600:11:39 เพราะฉะนั้น คนที่ทานในปริมาณที่เหมาะสมนี่

00:11:3900:11:41 อาจจะไม่ต้องกังวล ในส่วนตรงนั้นมากสักเท่าไรครับ

00:11:4100:11:43 ทีนี้ หลังจากแอสปาร์แตมนะคะ

00:11:4300:11:46 ตอนนี้จริง ๆ แล้วที่กำลังฮิต และมีคนพูดถึงมาก ๆ เลย

00:11:4600:11:48 - ก็คือหญ้าหวาน - แน่นอนครับ

00:11:4800:11:50 - ซึ่งหญ้าหวานทนความร้อนได้เห็นไหม - ใช่ครับ

00:11:5000:11:51 ตอบโจทย์แล้วนะ

00:11:5100:11:51 ใช่ครับ

00:11:5100:11:54 ถามว่าหญ้าหวานเป็นอย่างไรบ้าง ในการเอามาใช้แทน

00:11:5400:11:56 หญ้าหวานที่เริ่มมีกระแสมากขึ้น

00:11:5600:12:00 หนึ่งเลยคือผลิตได้ในประเทศเอเชีย ค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะประเทศไทย

00:12:0000:12:05 เพราะฉะนั้นก็เลยเป็นสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ที่ค่อนข้างราคาถูกเมื่อเทียบกับอย่างอื่น

00:12:0500:12:07 อย่างที่สองที่พี่เอ๋บอกคือทนความร้อนสูง

00:12:0700:12:12 เพราะฉะนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มนิยม นำมาทำเป็นส่วนประกอบของของหวานมากขึ้น

00:12:1200:12:17 รวมอีกอย่างหนึ่งคือ เขาส่วนใหญ่จะอยู่ใน รูปแบบของน้ำเชื่อมที่มีความเหนียวนิดนึง

00:12:1700:12:20 เพราะฉะนั้น มันเลยเป็น Binder หรือตัวเกาะ

00:12:2000:12:25 ที่ทำให้ตัวเค้กหรือตัวขนมหรือคุ้กกี้ต่าง ๆ มันสามารถอยู่ในรูปได้

00:12:2500:12:29 แตกต่างจากรูปผงของแอสปาร์แตม ที่มันจะไม่สามารถจับตัวกันเป็นก้อนได้

00:12:2900:12:30 อ๋อ โอเคค่ะ

00:12:3100:12:34 แล้วปกติมันต้องมีข้อควรระวังอะไรไหม ในกรณีที่จะใช้สตีเวียค่ะ

00:12:3400:12:37 โอเค สำหรับคนที่เป็นมือใหม่เลยนะครับ

00:12:3700:12:41 สำหรับคนที่เริ่มทำขนม จากสารให้ความหวานแทนน้ำตาลตอนแรก

00:12:4200:12:46 ตัวสตีเวียหวานกว่าน้ำตาล ถึง 200-300 เท่าเลยนะครับ

00:12:4600:12:51 เพราะฉะนั้น เดิมเคยใช้น้ำตาล 1 ถ้วยสมมุติ ในการทำคุ้กกี้

00:12:5200:12:54 อาจจะเหลือแค่แบบช้อนชานึง

00:12:5400:13:00 อาจจะต้องชิมให้เยอะมากขึ้นเพราะว่า ตัวรสชาติของสตีเวียนี่จะหวาน

00:13:0000:13:04 แต่ว่ามันจะไม่ได้เป็นหวานละมุนเหมือนน้ำตาล จะเป็นหวานค่อนข้างบาดเลยทีเดียว

00:13:0400:13:06 บางทีถ้าใส่ปริมาณมาก ๆ นี่

00:13:0600:13:09 บางทีมันจะแทงเหมือน เหมือนหวานน้ำตาลเข้าไปที่บริเวณคอหอย

00:13:0900:13:10 คนเลยจะไม่...

00:13:1000:13:13 มีคำแนะนำไหม สมมุติว่าถ้าจะใช้สตีเวียอย่างนี้

00:13:1300:13:14 จะใช้หญ้าหวานดีกว่าใช้หญ้าหวาน

00:13:1400:13:16 ผมแนะนำให้ค่อย ๆ ใส่ครับ

00:13:1600:13:17 แล้วค่อย ๆ ชิม

00:13:1700:13:21 ถ้าเป็นขนมอะไรก็ตามที่สามารถชิมได้ ตั้งแต่ตอนทำนี่ ให้ชิมเลย

00:13:2100:13:26 แต่ถ้าบางอย่างที่มันมีเป็นพวกวัตถุดิบ ที่มันดิบ เช่น ต้องใส่ไข่ไก่

00:13:2600:13:30 หรือว่าต้องใส่อะไรที่มันชิม ตอนที่ก่อนอบไม่ได้

00:13:3000:13:32 อาจจะต้องทำเป็นแบทช์เล็ก ๆ

00:13:3200:13:36 หรือผมน่ะ เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ ผมจะเอาไปจี่บนกระทะก่อน

00:13:3600:13:36 อ๋อ

00:13:3600:13:38 เช่นสมมุติผมทำแป้งคุ้กกี้โดว์มานี่

00:13:3800:13:40 ปกติมันดิบ มันมีไข่ใช่ไหมครับ

00:13:4000:13:44 ผมก็จะเอาคุ้กกี้โดว์ปั้นเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วก็เอาไปทิ้งไว้ในกระทะให้มันสุกก่อน

00:13:4500:13:45 เพื่อชิม

00:13:4500:13:48 ใช่ คือเราไม่ได้เน้นว่า ต้อง texture เหมือนคุ้กกี้อะไรนะครับ

00:13:4800:13:51 เราแค่อยากรู้ว่ามันหวานแค่ไหนก่อน

00:13:5100:13:53 ถ้าเกิดยังหวานไม่พอ ค่อย ๆ เติมได้

00:13:5300:13:56 คราวนี้นอกจากตัวสตีเวีย ที่สามารถทนความร้อนได้

00:13:5600:13:59 มีอีกตัวหนึ่ง ที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมค่อนข้างเยอะ

00:13:5900:14:00 นั่นก็คือตัวซูคราโลสครับ

00:14:0100:14:06 ซูคราโลสนี่ก็จะได้ยินบ่อยในเครื่องดื่ม ที่มันผสมสารให้ความหวานแทนน้ำตาล

00:14:0600:14:09 ตัวที่เจอบ่อยจะเป็นพวกของซูคราโลส หรือว่าอะเซซัลเฟรม-เค

00:14:0900:14:12 อันนี้ก็จะเป็นตัวหนึ่งที่เจอบ่อย โดยเฉพาะในน้ำอัดลม

00:14:1200:14:12 ใช่ครับ

00:14:1200:14:15 รสชาติเป็นอย่างไรคะสำหรับซูคราโลส เทียบกับสตีเวีย

00:14:1500:14:19 สำหรับผมนะ มันจะใกล้เคียงน้ำตาล มากกว่าสตีเวียนะ เท่าที่ผมกิน

00:14:1900:14:23 แต่ว่ามันก็จะไม่สามารถแทนที่น้ำตาลทราย ได้ขนาดนั้นครับ

00:14:2300:14:26 แล้วหลักการในการที่จะปรุงก็คือเหมือนกัน ชิม

00:14:2600:14:27 เช่นเดียวกัน

00:14:2700:14:29 แต่ว่าตัวสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนี่

00:14:2900:14:34 มันจะหวานกว่าน้ำตาลนี่ เหมือนเดิมครับ สิบหรือเป็นร้อยเท่าเลย

00:14:3400:14:36 คราวนี้ข้อควรระวังของตัวซูคราโลส

00:14:3600:14:40 คือตัวนี้นี่ บางคนจะไวต่อซูคราโลสกว่าปกติ

00:14:4000:14:43 บางทีคนกินอาจจะทำให้มีอาการปวดหัวได้

00:14:4300:14:46 อืม อันนี้มันเป็นเพราะอะไรนะคะ

00:14:4600:14:50 ผมเข้าใจว่ามันเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิด คล้าย ๆ หลอดเลือดในสมองมันพองมากขึ้น

00:14:5000:14:51 เหมือนคล้าย ๆ ไมเกรน

00:14:5100:14:52 โอเค

00:14:5200:14:54 มีอีกตัวหนึ่งที่เห็นบ่อย ๆ นะคะ

00:14:5400:14:57 อย่างเช่น สมมุติเวลาเราเดินไปแถวย่านเยาวราช หรืออะไรอย่างนี้

00:14:5700:14:59 - รู้แล้วใช่ไหม หล่อฮังก๊วย - ก็จะมีหล่อฮังก๊วย

00:14:5900:15:02 - อันนี้ก็จะมีคนพูดอยู่พอสมควร - ใช่

00:15:0200:15:05 แต่หล่อฮังก๊วยนี่มันจะพิเศษกว่า ตรงที่เขาจะมีกลิ่นเฉพาะ

00:15:0500:15:06 ใช่ค่ะ

00:15:0600:15:07 บางทีการใส่หล่อฮังก๊วยเข้าไปนี่

00:15:0800:15:12 มันจะทำให้รู้เลย ว่าตรงนี้มันมีส่วนประกอบของหล่อฮังก๊วย

00:15:1200:15:16 บางทีอาจจะเป็นข้อดี แล้วก็อาจจะเป็นข้อเสียในเวลาเดียวกัน

00:15:1600:15:17 สมมุติเราทำคุ้กกี้

00:15:1700:15:20 เราไม่ได้อยากให้คุ้กกี้ มันเป็นรสหล่อฮังก๊วยนึกออกไหมครับ

00:15:2000:15:22 การใส่เข้าไปบางทีมันก็อาจจะรู้สึกแบบ...

00:15:2300:15:25 - เอ๊ะ มันไม่ควรมาอยู่ - พี่ว่าเขาจะชอบมาใส่ในเครื่องดื่ม

00:15:2600:15:26 ใช่

00:15:2600:15:28 แล้วก็จะมองเป็นแบบสุขภาพใด ๆ

00:15:2800:15:28 ใช่

00:15:2800:15:32 แต่ว่าในลักษณะ คือมองว่าถ้าสมมุติเราจะทำเป็นขนมหวาน

00:15:3200:15:35 - อันนี้จะไม่ใช่ชอยส์ที่ดีนะคะ - ถูกต้องครับ

00:15:3500:15:37 ก็อาจจะต้องไปมองสตีเวียหรือว่าไปมองซูคราโลส

00:15:3700:15:39 ใช่ ที่เขาไม่ได้มีกลิ่นเฉพาะ

00:15:3900:15:39 ใช่

00:15:3900:15:44 [เสียงดนตรี]

00:15:4400:15:48 ทีนี้พอเรารู้ตรงนี้แล้วนะคะ วันนี้อุตส่าห์มีเชฟมานั่งกับเรา

00:15:4800:15:53 แล้วเราก็เป็นเบาหวาน หรือว่าท่านผู้ชม ที่เป็นเบาหวานแล้วยังอยากจะทานขนมหวานอยู่

00:15:5300:15:53 โอเค

00:15:5300:15:55 ด้านหน้าเราก็มีขนมอยู่

00:15:5500:15:58 ทีนี้เราก็อยากรู้ว่าเราจะมีวิธีการอะไรไหม

00:15:5800:16:04 ที่จะมีการปรับ เปลี่ยน หรือว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้อาหารที่เราอยากกินนี่

00:16:0400:16:07 สามารถจะลดน้ำตาลได้โดยที่รสชาติยังโอเคอยู่

00:16:0700:16:11 แน่นอนครับว่าที่ตั้งอยู่ข้างหน้าเรา มีแพนเค้ก แล้วก็เค้กช็อกโกแลตใช่ไหมครับ

00:16:1100:16:12 ใช่

00:16:1200:16:14 แน่นอนว่าของเหล่านี้ประกอบไปด้วยน้ำตาล

00:16:1400:16:17 แล้วก็ประกอบไปด้วยแป้งถูกต้องไหมครับ

00:16:1700:16:19 คราวนี้การจะเอาทั้งแป้งทั้งน้ำตาลออกนี่

00:16:1900:16:22 ต้องมาดูส่วนผสมหลักของตัวนี้ก่อนว่า

00:16:2200:16:24 มันเป็นตัว body ของตัวนี้หรือเปล่า

00:16:2400:16:26 เช่น อย่างแพนเค้กอย่างนี้ครับ

00:16:2600:16:28 ถ้าเกิดเราเอาแป้งออก มันก็จะไม่ฟอร์มตัวเป็นแพนเค้กถูกไหมครับ

00:16:2900:16:34 เราก็ต้องหาตัวอะไรมาแทนแป้งให้ได้ว่า เราจะเอาอันนี้มาเป็น body แทน

00:16:3400:16:37 อย่างตัวแพนเค้กนี่ มีสูตรออกมาค่อนข้างเยอะแล้วครับ

00:16:3700:16:39 อย่างแรกที่เอามาแทนได้คือข้าวโอ๊ต

00:16:3900:16:40 อืม

00:16:4000:16:42 บางทีเขาเอาข้าวโอ๊ตมาปั่นให้เป็นผงนะครับ

00:16:4200:16:45 แล้วก็ใส่น้ำมันมันพองตัวมากขึ้นนะครับ

00:16:4500:16:47 หรือบางคนเขาจะใช้สูตร ใช้เป็นกล้วยครับ

00:16:4800:16:51 เอากล้วยมาบด แล้วผสมกับไข่ แล้วก็ตี ๆ

00:16:5100:16:52 แล้วก็มาทอดในกระทะ

00:16:5200:16:54 แต่พวกนี้มันจะแบน ๆ ไหม

00:16:5400:16:54 ใช่ครับ

00:16:5400:16:55 ถ้าเกิดสมมุติอย่างนี้

00:16:5500:16:58 เพราะว่ามันน่าจะไม่ขึ้นฟูแบบนี้

00:16:5800:16:58 ใช่

00:16:5800:17:01 คำถามคือ ถามว่ารสชาติจะเหมือนกันไหม

00:17:0100:17:02 มันจะไม่ได้เหมือนกันเสียทีเดียว

00:17:0200:17:06 เพราะว่าตัวแป้งที่ใส่ผงฟู หรือแป้งที่มันไปทอดในกระทะนี่

00:17:0600:17:07 มันจะมีความเบามากกว่า

00:17:0700:17:08 อืม

00:17:0800:17:10 เพราะว่าตัวข้าวสาลีมันมีความเบาอยู่แล้ว

00:17:1000:17:14 ถ้าเกิดเราเอาตัวที่ไปทดแทน เช่น ข้าวโอ๊ต หรือตัวกล้วยนี่

00:17:1400:17:15 มันจะมีความหนักมากกว่า

00:17:1500:17:16 บางคนก็จะชอบครับ

00:17:1600:17:20 เพราะว่าแพนเค้กแน่น ๆ นี่ ก็จะเป็นอีก texture หนึ่งที่คนชอบ

00:17:2000:17:24 แต่ถ้าเกิดใครอยากทานให้เนื้อเบา ๆ นี่ บางทีเขาก็จะให้เติมพวกนม

00:17:2400:17:28 ให้มันมีความบางมากขึ้น แต่ว่ามันก็จะ ไม่ฟอร์มตัวหนาเหมือนตัวแพนเค้กสูตรปกติ

00:17:2800:17:29 โอเคค่ะ

00:17:2900:17:34 สำหรับคนที่อยากจะลองทานเป็นสูตรปรับเปลี่ยน ของแพนเค้กนะคะ

00:17:3400:17:36 อาจจะดู Healthy ขึ้น แล้วก็จะลดน้ำตาลได้

00:17:3600:17:38 ก็เป็นแบบที่เชฟว่า

00:17:3800:17:41 แต่ฝั่งนี้ขอกินแพนเค้กปกติ แต่น้อยลง

00:17:4100:17:42 ก็เป็นอีกทางหนึ่งนะคะ

00:17:4200:17:46 ก็คือว่าเราจะกินแพนเค้กปกติก็ได้ แต่ว่าต้องลดปริมาณลงนะคะ

00:17:4600:17:50 อีกอันหนึ่งค่ะ อันนี้ฮิตมากเลย หลาน ๆ ชอบมากก็คือเค้กช็อกโกแลต

00:17:5000:17:50 ใช่

00:17:5000:17:53 คราวนี้ เค้กช็อกโกแลตนี่มันมี 2 ส่วนนะครับ

00:17:5300:17:55 คือส่วนของเค้กที่เป็นแป้งนะครับ

00:17:5500:17:59 กับอีกอันหนึ่งคือส่วนที่เป็นหน้าข้างบน หรือเรียกว่ากานาช

00:17:5900:18:01 เนื่องจากว่ากานาชนี่หวาน

00:18:0100:18:05 แต่สามารถแก้ได้ง่าย ๆ คือ เราไม่ใส่น้ำตาลเลยก็ได้

00:18:0500:18:08 หรือใส่พวกสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ที่เราพูดไปถึงเมื่อกี้

00:18:0800:18:10 ก็คือส่วนของสตีเวียหรือว่าจะเป็นซูคราโลส

00:18:1000:18:12 ก็สามารถเข้าไปแทนที่น้ำตาลได้

00:18:1200:18:15 ส่วนผสมอื่น ๆ ก็จะเป็นแค่ช็อกโกแลตกับครีม

00:18:1500:18:17 คราวนี้ถ้าถามว่า ถ้าเกิดเราต้องการจะลดไขมันล่ะ

00:18:1700:18:18 เราจะเอาครีมออกได้ไหม

00:18:1800:18:22 ทำได้ครับ เราจะใช้เป็นนมธรรมดาผสมแป้งก็ได้

00:18:2200:18:24 หรือใช้เป็นนมถั่วเหลืองผสมแป้งก็ได้

00:18:2400:18:27 แต่ว่าอย่าลืมว่าพอเราเอาไขมันจากครีมออก

00:18:2700:18:29 มันก็มีแป้ง มีคาร์โบไฮเดรตเข้ามาแทนที่อยู่ดี

00:18:2900:18:31 เพื่อให้มันมีความเหนียวเหมือนเดิม

00:18:3200:18:34 หรือว่าถ้าเกิดใครอยากใช้เป็นอย่างอื่น มาแทนที่เลยนี่

00:18:3500:18:38 ถ้าอยากได้ความเหนียว บางทีใช้เป็นอินทผลัมอย่างนี้

00:18:3800:18:41 นำมาปั่นคู่ ก็จะสามารถทำให้ มันมีเนื้อเหนียวได้เช่นเดียวกัน

00:18:4100:18:43 - ก็ไม่ต้องใส่น้ำตาลเพิ่มแล้ว - ถูกต้อง

00:18:4300:18:45 ทีนี้ส่วนที่สองก็คือส่วนของเค้ก

00:18:4500:18:49 ส่วนเค้ก จริง ๆ แล้วนี่มันมีส่วนผสมคือ แป้งเค้กใช่ไหมครับ

00:18:4900:18:51 มีไข่ไก่ แล้วก็มีน้ำตาล

00:18:5100:18:52 ซึ่งเช่นเดียวกันครับ

00:18:5200:18:55 ตัวเค้กไม่จำเป็นต้องมีน้ำตาล เพื่อให้คงรูปนะครับ

00:18:5500:18:56 อุ๊ย แล้วทำอย่างไร

00:18:5600:18:58 พี่เคยแค่รู้สึกว่าถ้ามันไม่มีน้ำตาล

00:18:5800:19:00 มันจะไม่ชุ่มชื้น

00:19:0000:19:02 แล้วมันก็จะตีแล้วขึ้นยาก

00:19:0200:19:06 คราวนี้บางสูตรนี่เขาจะทดแทนด้วยน้ำมันมะกอก เข้าไปแทนที่แทน

00:19:0600:19:08 คือเราเอาน้ำตาลออกทั้งหมดเลย

00:19:0800:19:12 แล้วก็ใส่น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันคาโนลา น้ำมันรำข้าวอะไรต่าง ๆ นี่

00:19:1200:19:15 สามารถเข้าไปแทนที่ ให้มันมีความชุ่มชื้นแทนได้

00:19:1500:19:18 หรือว่าบางคนนี่อบออกมาก่อนเลย แห้งช่างเขานะครับ

00:19:1800:19:20 แล้วก็เราพรมด้วยน้ำตอนหลัง

00:19:2000:19:21 อ๋อ

00:19:2100:19:23 ซึ่งปกติ ถ้าเกิดตามสูตร เขาจะใช้เป็นน้ำเชื่อมใช่ไหมครับ

00:19:2300:19:26 แต่ถ้าเกิดเราจะไม่ใช้น้ำเชื่อม เราก็ใช้พวกนี้เลยครับ

00:19:2600:19:28 ซูคราโลส น้ำเชื่อมหญ้าหวาน เอามาพรมแทน

00:19:2800:19:30 มันก็จะมีความชุ่มชื้นมากขึ้นได้ครับ

00:19:3000:19:33 จริง ๆ ของหวานที่คนไทยชอบกิน มักจะมีความเย็น

00:19:3400:19:35 ใช่ ๆ

00:19:3500:19:38 ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งไสเองก็ตาม หรือว่าไอศกรีมเองก็ตาม

00:19:3800:19:40 ผมว่าเน้นตรงตัวไอศกรีมดีกว่า

00:19:4000:19:43 ไอศกรีมนี่ จริง ๆ มันมีหลาย texture มาก แล้วแต่ประเทศนะครับ

00:19:4300:19:46 ถ้าเกิดว่าเอาน้ำตาลน้อยที่สุดเลย

00:19:4600:19:50 ก็คือในส่วนของ Sorbet หรือเชอร์เบตนั่นเองนั่นแหละ

00:19:5000:19:54 มันก็คือการนำเอาผลไม้มาแช่แข็งแล้วปั่น

00:19:5400:19:57 ในส่วนพวกนี้จะมีลักษณะเป็นเกล็ด สังเกตไหมครับ

00:19:5700:20:00 เพราะว่าเขาไม่ได้มีส่วนผสมของไขมัน ที่จะทำให้เนื้อมันเนียน

00:20:0000:20:02 พวกนี้มันคือน้ำผลไม้ปั่นนั่นแหละ

00:20:0200:20:04 หรือว่าถ้าเกิดว่าเป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี

00:20:0400:20:07 ก็จะเหมาะกับการทำตัวเชอร์เบต กับ Sorbet มากขึ้น

00:20:0700:20:09 เพราะว่า หนึ่งคือตัวไฟเบอร์เขาเยอะ

00:20:0900:20:12 เวลาเอามาทำนี่ เนื้อมันจะค่อนข้างหนักกว่า

00:20:1200:20:14 เวลาทานแล้วมันละมุนลิ้นมากกว่า

00:20:1400:20:17 หรือถ้าเกิดอยากให้เนื้อมันเนียนมากขึ้น หรือถ้าอยากให้มันมีรสหวาน

00:20:1700:20:21 ใช่ ผมจะผสมโยเกิร์ตเข้าไป ที่มันเป็นส่วนของเนื้อของนม

00:20:2100:20:25 เพราะฉะนั้น เนื้อของนมเข้าไปนี่ มันจะให้ความรู้สึกละมุนมากขึ้น

00:20:2500:20:29 หรือถ้าเกิดใครไม่อยากใส่เป็น Dairy Product หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมเลยนี่

00:20:2900:20:30 อาจจะใช้เป็นกล้วยแทนได้

00:20:3000:20:31 อ๋อ

00:20:3100:20:34 เราเอาเบอร์รีปั่นพร้อมกล้วยนะครับ แล้วก็แช่ตู้เย็น

00:20:3400:20:38 สามารถสกู๊ปออกมาเป็น ลักษณะของไอศกรีมได้เลยนะครับ

00:20:3800:20:42 หรือว่าถ้าเกิดอยากใช้เป็นนมชนิดอื่น ๆ เช่น นมโอ๊ต นมถั่วเหลืองอย่างนี้

00:20:4200:20:46 ก็สามารถเข้ามาแทนที่ได้เช่นเดียวกัน ในอัตราส่วนที่อาจจะไม่ได้มากเท่า

00:20:4600:20:49 เพราะไม่อย่างนั้นนี่ อาจจะทำให้เนื้อมันเป็นเกล็ด

00:20:4900:20:50 เพราะว่ามันมีน้ำค่อนข้างเยอะ

00:20:5000:20:54 อันนี้ก็จะได้ไอศกรีมอีกแล้วนะคะ หน้าร้อนข้างหน้านี้

00:20:5400:20:56 มีอะไรอีกไหมสักอย่างหนึ่งที่จะแนะนำ

00:20:5600:20:59 อีกสักอย่างหนึ่งผมว่าคนไทยก็ชอบ คือพุดดิงหรือวุ้นนะครับ

00:20:5900:21:02 พวกนี้จริง ๆ แล้วนี่ แทบไม่ต้องใส่น้ำตาลเลยก็ได้

00:21:0200:21:06 เพราะว่าตัววุ้นนี่มันอยู่คงรูปได้ เพราะตัวเจลาติน

00:21:0600:21:07 ใช่ ๆ

00:21:0700:21:09 หรือตัวผงวุ้นอะไรต่าง ๆ นี่

00:21:0900:21:12 ตัวอะการ์-อะการ์ ตัวเจลาตินต่าง ๆ มันเป็นโปรตีนนะครับ

00:21:1200:21:15 เพราะฉะนั้นทานเข้าไปนี่ แทบจะศูนย์คาร์โบไฮเดรตเลย

00:21:1500:21:18 แต่ว่าเราเติมน้ำตาล เพื่อให้มันทานง่ายมากขึ้น

00:21:1800:21:21 คราวนี้ย้อนกลับไป แล้วถ้าเกิดเราจะเอาน้ำตาลออกล่ะ

00:21:2100:21:23 เราก็แค่ใส่ซูคราโลส หรือใส่หญ้าหวานเข้าไปแทนที่

00:21:2300:21:26 แล้วก็ใส่ปริมาณผงวุ้นเท่าเดิมครับ

00:21:2600:21:29 มันก็จะได้ทรงรูปออกมาเป็นพุดดิง แล้วก็เนื้อเนียนเช่นเดียวกัน

00:21:2900:21:34 พี่สงสัยนิดนึง สมมุติว่าถ้าเราอยากจะได้เป็น เหมือนเมื่อกี้ที่เราทำเป็นไอศกรีมใช่ไหมคะ

00:21:3400:21:36 ถ้าสมมุติว่าเราจะเป็นน้ำผลไม้

00:21:3600:21:39 อย่างเช่นผลไม้สักอย่างหนึ่งที่เราจะกิน แล้วเราปั่นมาเรียบร้อยแล้ว

00:21:3900:21:42 แล้วเราอยากจะผสมวุ้นลงไป หรืออะไรใด ๆ นี่เนอะ

00:21:4200:21:45 แต่ข้อนึงก็คือว่าเวลาเราจะทำวุ้นนี่ค่ะ มันจะต้องต้ม

00:21:4500:21:49 เราจะต้มในน้ำก่อนแล้วค่อยมาผสม หรือว่าเราต้องเอาน้ำผลไม้ไปต้มเลย

00:21:4900:21:52 ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้อะไร เป็นตัวทำให้มันเป็นวุ้นนะครับ

00:21:5300:21:57 เนื่องจากว่าในตลาดมีเยอะมาก ทั้งแผ่นวุ้น ผงวุ้น มี...

00:21:5700:22:01 ผงวุ้นก็มีหลายชนิดอีก มีทั้งตัวเจลาติน มีทั้งอะการ์-อะการ์นะครับ

00:22:0100:22:05 โดยหลัก ๆ เลยนี่ เราจะเอาไปใส่ในน้ำให้มันบลูม

00:22:0500:22:08 - บลูมคือหมายถึงว่าอิ่มน้ำก่อน - ละลายให้มันอุ้มน้ำ

00:22:0800:22:09 ใช่ครับ

00:22:0900:22:12 ถ้าเป็นผงวุ้นนี่ เราใช้เป็นน้ำอุณหภูมิห้องก็ได้

00:22:1200:22:15 เพราะว่าพวกนี้มันจะไวต่อความร้อนมากเลยครับ

00:22:1500:22:20 เราเอาผงวุ้นแช่ในน้ำเพื่อให้มันดูดน้ำเข้าไป อุ้มให้สักนิดนึงก่อน

00:22:2000:22:22 จากนั้นหยิบตัวแผ่นวุ้นนี่ขึ้นมานะครับ

00:22:2200:22:26 แล้วก็ใส่ในน้ำเชื่อมหรือน้ำอะไรก็ได้ ให้มันร้อน ๆ น่ะครับ ให้มันละลาย

00:22:2600:22:29 แล้วค่อยเทกลับลงไปในน้ำผลไม้ ที่มีความเย็นได้

00:22:2900:22:30 ก็ไม่จำเป็นต้องต้มทุกอย่าง

00:22:3000:22:33 เราแค่แยกออกมาตัวผงตรงนั้น ให้ความร้อน

00:22:3400:22:36 หรือถ้าเกิดเป็นผงวุ้น ที่มันเป็นผง ๆ อยู่ในซองนี่ครับ

00:22:3600:22:38 มันจะต่างจากตัวแผ่นวุ้นนิดนึงนะครับ

00:22:3800:22:41 ตรงที่ตรงนี้นี่มันต้องเอาไปโดนความร้อนก่อน

00:22:4100:22:44 เราอาจจะตั้งน้ำให้มันเดือดเลย จากนั้นปิดไฟนะครับ

00:22:4400:22:46 แล้วก็ใส่ผงวุ้นลงไป

00:22:4600:22:48 ทิ้งไว้แป๊บนึง ให้เขาอิ่มน้ำขึ้นมาก่อน

00:22:4800:22:52 มันจะบวม ๆ ขึ้นมา แล้วก็ตักเอาแค่ตรงนั้นมาใส่ตัวน้ำผลไม้

00:22:5200:22:54 โดยที่ไม่ต้องเพิ่มความร้อนเลยครับ

00:22:5400:22:54 โอเค

00:22:5400:22:58 แค่นี้มันก็จะทรงรูปออกมาเป็นพุดดิง หรือวุ้นตามที่ต้องการได้แล้วครับ

00:22:5800:22:59 แล้วก็เทใส่พิมพ์เนอะ

00:22:5900:22:59 ใช่

00:22:5900:23:01 แล้วก็หลังจากนั้นก็...เด็ก ๆ คงชอบค่ะ

00:23:0100:23:04 ถ้าบ้านไหนมีเด็ก ก็ชวน ๆ เด็กทำได้นะคะ

00:23:0400:23:09 [เสียงดนตรี]

00:23:0900:23:11 สำหรับวันนี้นะครับ เราก็ได้เรียนรู้หลายอย่างเลยนะครับ

00:23:1100:23:13 อย่างแรกเลยคือ

00:23:1300:23:16 การเป็นเบาหวานนี่ ไม่จำเป็นว่าต้องอดการทานหวานอย่างเดียว

00:23:1600:23:19 เรารู้จักแล้วว่าค่าดัชนีน้ำตาลเป็นอย่างไร

00:23:1900:23:22 เราควรจะต้องทานอาหาร ที่มีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำนะครับ

00:23:2200:23:24 หรือแม้กระทั่งการเลือกผลไม้ต่าง ๆ

00:23:2400:23:27 การเลือกทานสารให้ความหวานแทนน้ำตาลต่าง ๆ ที่เรารู้วันนี้

00:23:2700:23:31 การปรับเปลี่ยนการปรุงอาหารต่าง ๆ ให้มันเหมาะสมกับคนเป็นเบาหวานมากขึ้น

00:23:3100:23:34 ที่สำคัญบางทีนี่นะคะ ถ้าสมมุติว่าเราต้องไปซื้ออาหารนอกบ้าน

00:23:3400:23:37 เราก็อาจจะต้องมองฉลากโภชนาการนิดนึง

00:23:3700:23:37 ถูกต้องครับ

00:23:3700:23:41 เพื่อที่จะดูว่าพลังงานเป็นอย่างไร น้ำตาล แล้วก็โซเดียมเป็นอย่างไร

00:23:4100:23:43 เพราะว่าในกรณีของคนไข้ที่เป็นเบาหวาน

00:23:4300:23:46 อาจจะไม่ได้ดูแค่โฟกัสเรื่องของน้ำตาล

00:23:4600:23:50 เขาอาจจะต้องดูในเรื่องของความดันโลหิตสูง แล้วก็ไขมันที่มีร่วมด้วย

00:23:5000:23:53 อีกอันหนึ่งที่จะต้องขอย้ำคือ ทางสายกลางค่ะ

00:23:5300:23:53 ครับผม

00:23:5300:23:58 ต่อให้เราบอกว่าเราพยายามจะทำทุกอย่าง ให้มันเหมาะสำหรับคนไข้เบาหวาน

00:23:5800:24:01 ลดน้ำตาล ปรับเปลี่ยนน้ำตาลใด ๆ ก็ตาม

00:24:0100:24:03 แต่ถ้าเรากินในปริมาณมากนี่

00:24:0300:24:07 อันนี้เราก็จะได้รับพลังงานที่เยอะจนเกินไป หรือว่าน้ำตาลที่เยอะจนเกินไป

00:24:0700:24:11 แล้วก็อาจจะทำให้เบาหวานไม่ได้ดีขึ้น น้ำตาลแย่ลง

00:24:1100:24:13 หรือว่าคนไข้อ้วนขึ้นได้เหมือนกันนะคะ

00:24:1300:24:16 ครั้งหน้าเราจะมาคุยกัน ในเรื่องของอาหารสุขภาพอะไร

00:24:1600:24:19 ฝากติดตามทาง Food Choice กินดี สุขภาพดี เลือกได้

00:24:1900:24:20 ทาง Mahidol Channel นะคะ

00:24:2100:24:23 วันนี้หมอเอ๋กับหมอตั้มขอลาไปก่อนค่ะ

00:24:2300:24:24 - สวัสดีค่ะ - สวัสดีครับ

00:24:2500:24:29 พบกับรายการ Food Choice กินดี สุขภาพดีเลือกได้

00:24:3000:24:32 ทุกวันจันทร์เวลา 18:00 น.

00:24:3200:24:34 ที่ Mahidol Channel Podcast

00:24:3400:24:36 ผ่านช่องทาง Facebook Mahidol Channel

00:24:3600:24:38 YouTube Mahidol Channel

00:24:3800:24:39 Apple Podcasts

00:24:3900:24:40 Spotify

00:24:4000:24:41 Anchor

00:24:4100:24:42 Joox

00:24:4200:24:47 [เสียงดนตรี]

00:24:4700:24:50 ความรู้ทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้

00:24:5000:24:51 มหาวิทยาลัยมหิดล

00:24:5100:24:52 ปัญญาของแผ่นดิน