00:00:05 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์ดิฉันสุด
00:00:09 → 00:00:13 ธิดาพรปิเปตและนี่คือศัลยกรรมความสุขราย
00:00:13 → 00:00:17 การที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นมี
00:00:17 → 00:00:20 ความทุกข์น้อยลง
00:00:20 → 00:00:23 สวัสดีครับคุณผู้ฟังสวัสดีครับพี่อ้อย
00:00:23 → 00:00:27 สวัสดีค่ะพี่วีพี่อ้อยครับวันนี้ผมมีผม
00:00:27 → 00:00:29 ไม่ได้เป็น saleman นะแต่วันนี้ผมจะมาขาย
00:00:29 → 00:00:32 ของ
00:00:32 → 00:00:35 ไปซื้อกาต้มน้ำมาครับ
00:00:35 → 00:00:40 ผม
00:00:40 → 00:00:44 เวลาที่มันเดือดพอเราตั้งต้มน้ำลำเดือด
00:00:44 → 00:00:48 เสร็จแล้วคือผมเป็นคนที่เวลาทำอะไรชอบทำ
00:00:48 → 00:00:49 อะไรหลายๆอย่าง
00:00:49 → 00:00:51 แล้วก็พอเราต้มน้ำเสร็จแล้วเราก็ไปทำ
00:00:51 → 00:00:52 อย่างอื่นแล้ว
00:00:52 → 00:01:03 เราก็ไม่รู้ตัวนะฮะ
00:01:03 → 00:01:06 มันจะมีเสียงเตือน
00:01:06 → 00:01:08 นะฮะ
00:01:08 → 00:01:23 แต่ว่าเรายังไม่เคยเห็นเรื่องจริง
00:01:23 → 00:01:27 แล้วมันก็จะเป็นเตือนมันจะร้องวี๊ดเลยนะ
00:01:27 → 00:01:37 เพื่อเตือนว่าฉันเดือดแล้วนะ
00:01:37 → 00:01:42 พอพอไปซื้อกาต้มน้ำชนิดมาเนี่ยผมก็เลย
00:01:42 → 00:01:43 เกิดความคิดว่า
00:01:43 → 00:01:46 จะดีไหมนะถ้ามันมีเครื่องมืออะไรบางอย่าง
00:01:46 → 00:01:49 ที่เราซื้อมาแล้วเรามาใช้เพื่อเป็น
00:01:49 → 00:01:53 เครื่องเตือนว่าตอนนี้ฉันโกรธแล้วนะ
00:01:53 → 00:01:58 [เพลง]
00:01:58 → 00:02:01 จะไอ้การต้มน้ำเนี่ยครับก็คือว่าพอมัน
00:02:01 → 00:02:03 เดือดปุ๊บก็เตือนเราเนี่ย
00:02:03 → 00:02:06 มันก็เลยทำให้เราไม่มีปัญหาเรื่องการที่
00:02:06 → 00:02:11 น้ำมันแห้งจนกระทั่งบางเคยผมเคยต้มไว้
00:02:11 → 00:02:15 เนี่ยนะไอ้ต้มถั่วเขียวอ่ะ
00:02:15 → 00:02:17 แล้วมันเดือดแล้วเราก็ทำอย่างอื่นแล้วเรา
00:02:17 → 00:02:21 ก็ลืมไปเลยจนกระทั่งมันแห้งแล้วจนกระทั่ง
00:02:21 → 00:02:23 มันไหม้
00:02:23 → 00:02:24 ไม่เออควันโขมงเลย
00:02:24 → 00:02:30 [เพลง]
00:02:30 → 00:02:35 ก็เลยนึกว่ามนุษย์เราเนี่ยคนเราเนี่ยมัน
00:02:35 → 00:02:37 ไม่เหมือนกาต้มนานที่มันมีเครื่องเตือน
00:02:37 → 00:02:40 ว่าตอนนี้ฉันเดือดแล้วนะ
00:02:40 → 00:02:42 คนเรามันเหมือนเป็นอย่างที่ผมบอกเหมือน
00:02:42 → 00:02:46 มอบปกติที่เราต้มน้ำแล้วก็เดือดแล้วก็ไม่
00:02:46 → 00:02:50 รู้ว่าเดือดก็ไม่ไปไม่ไป
00:02:50 → 00:02:54 ดีไม่ดีถึงบ้านไฟไหม้นะใช่เพราะฉะนั้นจะ
00:02:54 → 00:02:59 ดีไหมคนเราถ้าเกิดเราโกรธเราเดือดเราร้อน
00:02:59 → 00:03:02 แล้วนะเราร้อนเราโกรธเราเนี่ยแล้วเราไม่
00:03:02 → 00:03:03 รู้ตัว
00:03:03 → 00:03:07 เริ่มจากตัวเราวอดวายก่อนแล้วหลังจากนั้น
00:03:07 → 00:03:10 คนรอบข้างก็จะวอดวายไปด้วยแล้วมันจะดีไหม
00:03:10 → 00:03:13 ครับคุณผู้ฟังพี่อ้อยครับถ้าจะมีเครื่อง
00:03:13 → 00:03:17 เตือนว่าอยากได้ค่ะตอนนี้
00:03:17 → 00:03:20 อยากได้เลยค่ะ
00:03:20 → 00:03:22 เป็นเพราะว่า
00:03:22 → 00:03:26 เมื่อเร็วๆนี้ครับผมก็ไปทำธุระผมก็ขับรถ
00:03:27 → 00:03:30 ขับรถเสร็จแล้วผมก็เห็นว่ารถมันติดไฟแดง
00:03:30 → 00:03:35 อยู่แล้วมันเป็นรถเอ่อ
00:03:35 → 00:03:37 เลนส์ซ้ายสุดเนี่ยก็คือเลี้ยวซ้ายผ่าน
00:03:37 → 00:03:38 ตลอด
00:03:38 → 00:03:41 แต่เผอิญมีรถคันนึงอ่ะ
00:03:41 → 00:03:43 ไปจอดอยู่ในเลนส์นั้นคือเขาไม่ได้เลี้ยว
00:03:43 → 00:03:47 ซ้ายเขาจะส่งไปอันนี้ก็เป็นรถเมล์เขาจะ
00:03:47 → 00:03:50 ตรงไปแต่เขาอยู่เลนซ้ายสุดตรงไม่ได้เพราะ
00:03:50 → 00:03:53 ไฟแดงแต่เลี้ยวซ้ายผ่านตลอดแต่เขาก็ไม่
00:03:53 → 00:03:58 เลี้ยวเพราะอะไรเพราะเขาไม่ได้อยากเลี้ยว
00:03:58 → 00:04:01 ปัญหามันอยู่ตรงที่ว่ารถที่มาต่อจากเขาสิ
00:04:01 → 00:04:04 ครับต้องการเลี้ยวซ้าย
00:04:04 → 00:04:08 แล้วมีรถเมล์ขวางอยู่แล้วเป็นรถใหญ่รถ
00:04:08 → 00:04:11 บรรทุกใหญ่ด้วยเขาก็บีบแตรลั่นถนนเลยฮะ
00:04:11 → 00:04:15 ลั่นแล้วทำไมเสียงดังขนาดนั้นน่ะเราก็ตก
00:04:15 → 00:04:18 ใจแต่เราก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นว่ามีรถเมล์
00:04:18 → 00:04:21 มาขวางเขาเขาก็เลยบีบแตรแต่รถเมล์ก็คงทำ
00:04:21 → 00:04:24 อะไรไม่ได้หรอกก็ต้องรออย่างเดียวเดี๋ยว
00:04:24 → 00:04:25 ก็ไม่ได้
00:04:25 → 00:04:29 สักพักหนึ่งครับคนที่ขับรถบรรทุกนั้นลง
00:04:29 → 00:04:31 จากรถเลย
00:04:31 → 00:04:34 ตรงมาที่ตรงคนขับรถเมล์
00:04:34 → 00:04:37 แล้วก็ชี้หน้าตะโกนด่าใหญ่เลยแบบโอ้โห
00:04:37 → 00:04:41 เรื่องราวใหญ่โตจนกระทั่งผมก็กังวลว่าโหย
00:04:41 → 00:04:52 อย่างนี้จะมีเรื่องไหมเนี่ย
00:04:52 → 00:04:55 ก็คือเพราะว่าอะไรเพราะว่าเราไม่มี
00:04:55 → 00:04:59 เครื่องเตือนไงว่าตอนนี้ฉันโกรธแล้วนะไม่
00:04:59 → 00:05:02 หมายถึงเตือนตัวเองก่อนด้วยนะแล้วมันทำ
00:05:02 → 00:05:06 ให้ลูกหลานใหญ่โตเป็นแต่วันนั้นน่ะดิก็
00:05:06 → 00:05:10 คือกำลังโวยวายกันอยู่อ่ะไฟมันเขียวพอดี
00:05:10 → 00:05:15 รถเมล์ก็เลยไปคันนี้ก็เลยต้องรีบวิ่งไป
00:05:15 → 00:05:16 ที่รถตัวเองนะ
00:05:16 → 00:05:20 แล้วผมก็นึกถึงเลยว่า
00:05:20 → 00:05:23 คนสมัยนี้เนี่ยคือในยุคนี้เนี่ยที่มันมี
00:05:23 → 00:05:28 ความความเครียดนะอากาศก็ร้อน
00:05:28 → 00:05:33 การอะไรอีกอ่ะทำมาหากินก็ลำบากสภาพ
00:05:33 → 00:05:37 เศรษฐกิจน้ำมันก็กดดันไปหมดนะมันทำให้คน
00:05:37 → 00:05:41 ยิ่งอุณหภูมิของอารมณ์มันยิ่งร้อนขึ้น
00:05:41 → 00:05:44 แล้วที่สำคัญที่สุดก็คือมันไม่มีเครื่อง
00:05:44 → 00:05:45 เตือน
00:05:45 → 00:05:50 ไม่มีเครื่องเตือนว่าตอนนี้ฉันโกรธแล้วนะ
00:05:50 → 00:05:53 แล้วก็นึกถึงว่าแล้วเครื่องเตือนนี้คือ
00:05:53 → 00:05:54 อะไร
00:05:54 → 00:05:57 ในที่สุดผมก็ไปเจอ
00:05:57 → 00:06:01 พี่อ้อยผมไปเจอเครื่องเตือนเมื่อ
00:06:01 → 00:06:05 ต้องย้อนกลับไปหลายปีตอนที่ผมเป็นเด็ก
00:06:05 → 00:06:07 เนี่ยผมเคยไปเข้าอบรม
00:06:07 → 00:06:12 ไปอบรมแบบคอร์สพิเศษเนี่ยแล้วก็มีวิวาห์
00:06:12 → 00:06:13 ก็สอนว่า
00:06:13 → 00:06:17 พวกคุณรู้ไหมว่าในแต่ละปีเนี่ยถ้าเรา
00:06:17 → 00:06:21 เลือกมา 1 เรื่องว่าปีนี้เราจะพัฒนาตัว
00:06:21 → 00:06:26 เองเรื่องอะไรชีวิตเราจะดีขึ้นเรื่อยๆ
00:06:26 → 00:06:30 พี่อ้อยคิดว่าเทคนิคนี้ดีไหมดีมากค่ะดี
00:06:30 → 00:06:34 มากเลยใช่ไหมแต่ผมเป็นคนใจร้อน
00:06:34 → 00:06:38 ผมก็บอกตัวเองว่าโหยถ้าปีนึงเราเลือกมา 1
00:06:39 → 00:06:42 เรื่องนะแล้วก็พัฒนาเป็นหนึ่งเรื่องปี
00:06:42 → 00:06:44 หน้าก็อีกเรื่องนึงปีนึงรู้สึกอีกเรื่อง
00:06:44 → 00:06:48 หนึ่งแล้วเมื่อไหร่มันจะเราจะดีขึ้นน่ะ
00:06:48 → 00:06:52 นี่อาจารย์เป็นคนดีแล้วก็อย่างดีเร็วมาก
00:06:52 → 00:06:56 ผมก็เลยเกิดคำถามของตัวเองว่ามันจะมีไหม
00:06:56 → 00:07:00 ถ้าเราพัฒนาแค่เรื่องเดียวเรื่องใดเรื่อง
00:07:00 → 00:07:01 หนึ่ง
00:07:01 → 00:07:03 แล้วเรื่องอื่นๆ
00:07:03 → 00:07:26 จะดีไปหมดเลย
00:07:26 → 00:07:30 [เพลง]
00:07:30 → 00:07:38 คือความที่ผมเนี่ยเป็นคนขี้โมโหนะ
00:07:38 → 00:07:40 ใจร้อนมากแล้วขี้โมโหมาก
00:07:40 → 00:07:43 จนกระทั่งพอเราเรียนรู้เรื่องนี้ปุ๊บ
00:07:43 → 00:07:46 เนี่ยเราบอกตัวเองว่าเราเกิดพอมีสติปุ๊บ
00:07:46 → 00:07:48 เราเกิดความเรียนรู้ว่า
00:07:48 → 00:07:52 เวลาที่เราโกรธนะสิ่งที่เรามักจะพูดสิ่ง
00:07:52 → 00:07:54 ที่เราพูดไปตอนนั้นมักจะเป็นสิ่งที่เรา
00:07:54 → 00:07:57 ไม่ควรพูดใช่ค่ะ
00:07:57 → 00:08:00 ก็เลยเกิดการเรียนรู้ว่าถ้าอย่างนั้นปุ๊บ
00:08:00 → 00:08:02 เวลาที่เราโกรธ
00:08:02 → 00:08:07 เราก็เลยควรจะไม่ห้ามตัวเองโกรธด้วยนะแต่
00:08:07 → 00:08:10 มันห้ามไม่ได้อารมณ์มันยังไงมันห้ามตัว
00:08:10 → 00:08:14 เองโกรธแต่ว่าจะหาวิธีในการแสดงความโกรธ
00:08:14 → 00:08:17 ก็ในเมื่อเราโกรธแล้วเราพูดสิ่งที่เราพูด
00:08:17 → 00:08:19 ไม่ควรพูดเพราะฉะนั้นผมจะโกรธผมก็เลยจะ
00:08:19 → 00:08:22 แสดงออกด้วยการไม่พูด
00:08:22 → 00:08:25 หุบปากเงียบเลยเพราะฉะนั้นเพื่อนๆจะรู้
00:08:25 → 00:08:28 เลยว่าถ้าผมเงียบไปหลายเสียงว่าตอนนี้ฉัน
00:08:28 → 00:08:30 โกรธแล้วนะ
00:08:30 → 00:08:32 อันนี้เป็นเครื่องเตือนของผม
00:08:32 → 00:08:37 เพื่อนจะรู้ตัวเลยเพราะปกติเป็นคนพูดเยอะ
00:08:37 → 00:08:41 ถามอะไร
00:08:41 → 00:08:46 ไม่พูดและไม่แสดงกิริยาท่าทางด้วยใช่ไหม
00:08:46 → 00:08:58 ไม่นิ่งเฉยเลยโอเค
00:08:58 → 00:09:00 เฉยเลย
00:09:00 → 00:09:04 อันนี้เป็นสัญญาณเตือนซึ่งมันมาจากสตินี่
00:09:04 → 00:09:07 แหละแต่ว่านี่คือสัญญาณเตือนว่าตอนนี้ฉัน
00:09:07 → 00:09:10 โกรธแล้วนะเพื่อนๆรู้เลยเพื่อนๆรู้เลย
00:09:10 → 00:09:13 แล้วแล้วที่ไม่พูดนั่นนิ่งๆนั่นคือคิด
00:09:13 → 00:09:17 อะไรคะก็คือแล้วตอนนั้นยังไม่คิดอะไรเรา
00:09:17 → 00:09:20 แค่ประมูลเวลาเฉยๆ
00:09:20 → 00:09:22 แค่จัดการกับด่านหน้าว่า
00:09:22 → 00:09:25 สิ่งที่พูดมักเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดอย่าง
00:09:25 → 00:09:27 น้อยมันก็ไม่ได้พูดออกไป
00:09:27 → 00:09:30 แล้วพอเวลาผ่านไป
00:09:30 → 00:09:33 มันจะเย็นลงมันค่อยๆเห็นช้างค่อยๆเย็นลง
00:09:33 → 00:09:37 แล้วเราค่อยมาประมวลว่าเกิดอะไรขึ้นมันก็
00:09:37 → 00:09:42 เลยดีขึ้นเรื่อยๆผมก็เลยพบว่าเนี่ยพอมีคำ
00:09:42 → 00:09:45 ถามว่าตัวเองว่ามันจะดีนะถ้ามันมีเครื่อง
00:09:45 → 00:09:49 มือที่บอกว่าตอนนี้ฉันโกรธแล้วนะเนี่ยใน
00:09:49 → 00:09:52 ความเป็นจริงแล้วมีไหม
00:09:52 → 00:09:55 แล้วเราก็ใช้มาตั้งนานแล้ว
00:09:55 → 00:10:00 โดยเราจุดสำคัญที่ทำให้เราเจอสิ่งนี้ก็
00:10:00 → 00:10:01 คือสติ
00:10:01 → 00:10:04 แล้วพอเราเจอปุ๊บเนี่ยเราสามารถสร้าง
00:10:04 → 00:10:09 มาตรการนี้ของแต่ละคนไม่เหมือนกันนะไม่
00:10:09 → 00:10:11 เหมือนกันที่เครื่องเตือนว่าตอนนี้ฉัน
00:10:11 → 00:10:13 โกรธแล้วนะเนี่ยบอกตัวเองก็บอกคนอื่น
00:10:13 → 00:10:15 เนี่ยไม่เหมือนกัน
00:10:15 → 00:10:20 มันขึ้นอยู่กับจริตของคนแต่ละคนค่ะแต่ว่า
00:10:20 → 00:10:23 สำคัญก็คือเราต้องสร้างสิ่งนี้ขึ้นมา
00:10:23 → 00:10:26 เพราะถ้าเราสร้างขึ้นมาแล้วเราฝึกบ่อยๆ
00:10:26 → 00:10:32 นี่นะมันจะมีผลต่อชีวิตของเรามาก
00:10:32 → 00:10:34 คือเราจะไม่แสดงอะไรออกไปในขณะที่เราโกรธ
00:10:34 → 00:10:36 แค่นั้น
00:10:36 → 00:10:39 เวลาคนเรามีอารมณ์
00:10:39 → 00:10:44 สติมันจะหายแล้วเราจะทำอะไรก็ได้
00:10:44 → 00:10:49 ทำอย่างที่ให้อีกฝั่งนึงมันเจ็บปวดไม่ว่า
00:10:49 → 00:10:53 จะพูดอะไรที่อะไรก็ตามที่อาจจะแบบเกิน
00:10:53 → 00:10:56 จริงหรืออะไรก็ได้ไม่รู้ฉันจะทำเพื่อให้
00:10:56 → 00:11:00 ทำลายล้างอีกฝั่งนึงแหละประมาณนั้นก็คือ
00:11:00 → 00:11:04 ตอนที่มีอารมณ์แล้วสติมันไม่มีอย่างนี้
00:11:04 → 00:11:07 ซึ่งตรงนี้
00:11:07 → 00:11:11 เครื่องมือที่พี่วีพูดมาตลอดเนี่ย
00:11:11 → 00:11:13 กำลังจะบอกว่าไอ้เครื่องมือตัวนี้มันต้อง
00:11:13 → 00:11:17 เป็นเครื่องมือของตัวเองที่เตือนตัวเอง
00:11:17 → 00:11:22 เพราะว่ายามที่เรามีอารมณ์เราไม่มีสติต่อ
00:11:22 → 00:11:26 ให้ 10 คนมาเตือนเราเขามีเครื่องมือที่ดี
00:11:26 → 00:11:29 แหละมาเตือนเราแต่เราไม่มีสติเพราะฉะนั้น
00:11:29 → 00:11:34 เนี่ยไม่ได้ผลมันดับไม่ได้ค่ะต้องเราต้อง
00:11:34 → 00:11:35 นั่นของเราเอง
00:11:35 → 00:11:39 แล้วระหว่างที่คุยผมก็เลยนึกถึง
00:11:39 → 00:11:41 สัญญาณเตือนภัยเนี่ยสัญญาณเตือนเนี่ยตอน
00:11:41 → 00:11:44 นี้ฉันโกรธแล้วนะเนี่ยของอีกคนนึง
00:11:44 → 00:11:50 คุณแม่ผมเองคุณแม่ผมเองเนี่ยอยู่ดีๆก็นึก
00:11:50 → 00:11:52 ถึงเลยนะคุณแม่ผมได้เป็นคนที่ถามว่าดุไหม
00:11:52 → 00:11:57 ก็ไม่ได้ไม่ได้ดุนะก็ไม่ได้อะไรมากมายแต่
00:11:57 → 00:12:01 ว่าเขาจะมีสัญญาณเตือนซึ่งผมจับสัญญาณเขา
00:12:01 → 00:12:03 แล้วตั้งแต่ตอนเด็กๆ
00:12:03 → 00:12:06 คือความที่เราเป็นเด็กเราก็จะเล่นเราก็จะ
00:12:06 → 00:12:09 ทำอะไรเหมือนเด็กอ่ะปกติเนี่ยแต่เมื่อ
00:12:09 → 00:12:12 ไหร่ก็ตามที่ผมสังเกตเห็นว่า
00:12:12 → 00:12:16 ถ้าแม่เขามองผมเขาไม่พูดอะไรเลยนะแล้วเขา
00:12:16 → 00:12:19 ไม่ไม่พูดไม่แสดงอาการไม่มีอะไรเลยแต่เขา
00:12:19 → 00:12:22 จะแค่ส่งสัญญาณเตือนด้วยกันมองเท่านั้น
00:12:22 → 00:12:25 มองครั้งที่ 1 แล้วก็แป๊บนึงแล้วก็มอง
00:12:25 → 00:12:27 ครั้งที่ 2 แล้วมองครั้งที่ 3
00:12:27 → 00:12:31 ถ้ามองแบบนี้เป็นสัญญาณบอกว่า
00:12:31 → 00:12:35 [เสียงหัวเราะ]
00:12:35 → 00:12:39 คล้ายๆสัญญาณเตือนว่าตอนนี้ฉันโกรธแล้วนะ
00:12:39 → 00:12:41 คะ
00:12:41 → 00:12:44 เพราะเรารู้เราจับสัญญาณได้ว่าถ้าเราไม่
00:12:45 → 00:12:48 หยุดเราจะเกิดอะไรขึ้นมันคือเราจับสัญญาณ
00:12:48 → 00:12:51 แล้วเราจับสัญญาณได้ว่าสิ่งนี้ไม่เหมาะ
00:12:51 → 00:12:55 อ่า
00:12:55 → 00:12:58 แต่ตอนนั้นเราอาจจะไม่เข้าใจก็ได้นะว่า
00:12:58 → 00:13:00 ทำไมไม่เหมาะก็แค่เล่นแค่นี้อะไรแต่ว่า
00:13:00 → 00:13:03 เราอันนี้เราไม่ได้คิดเราคิดแค่ว่าอันนี้
00:13:03 → 00:13:05 เป็นสัญญาณเตือน
00:13:05 → 00:13:08 หยุดแล้วก็หยุดเลย
00:13:08 → 00:13:12 ก็เลยกลายเป็นแบบว่าแล้วสิ่งนี้มันมัน
00:13:12 → 00:13:16 เกิดผลกับชีวิตอย่างเช่นล่าสุดนี่เหมือน
00:13:16 → 00:13:18 กันนะพอเราฝึกบ่อยๆนะครับพี่อ้อยแล้วคุณ
00:13:18 → 00:13:20 ผู้ฟังมันจะส่งผลต่อชีวิตเรามากๆ
00:13:20 → 00:13:25 แล้วเรื่องใหญ่ก็กลายเป็นเรื่องเล็ก
00:13:25 → 00:13:27 เรื่องเล็กก็กลายเป็นไม่มีเรื่อง
00:13:27 → 00:13:31 แล้วดีมากไอ้สัญญาณเตือนอันนี้พอรู้สึก
00:13:31 → 00:13:34 บ่อยๆเนี่ยพี่อ้อยเชื่อไหมครับว่าภายใน
00:13:34 → 00:13:37 ช่วงเวลาของประมาณสักถ้าเรามีชีวิตที่มี
00:13:37 → 00:13:42 สตินะ 3-4 วินาทีเนี่ยมันสามารถที่จะร้อย
00:13:42 → 00:13:44 เรียงเรื่องราวอันนี้ก็เป็นเรื่องจริงที่
00:13:44 → 00:13:48 เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันเองผมขับรถไป
00:13:48 → 00:13:51 ถ้าไม่ได้ฝึกมาเนี่ยไม่น่าจะรอดนะ
00:13:51 → 00:13:52 [เพลง]
00:13:52 → 00:13:56 เสร็จปุ๊บเรากำลังวิ่งอยู่ดีๆเนี่ยก็มีรถ
00:13:57 → 00:14:00 วิ่งออกมาจากซอยปกติรถออกมาจากซอยเนี่ย
00:14:00 → 00:14:02 เขาก็จะต้อง
00:14:02 → 00:14:06 หยุดรอก่อนมองซ้ายมองขวาใช่ไหมว่ามีรถมา
00:14:06 → 00:14:07 ไหม
00:14:07 → 00:14:10 อันนี้เขาไม่ชะลอเลยเขาออกมาจากซอยปุ๊บ
00:14:10 → 00:14:12 พุ่งเลยเขาพุ่งออกมาเลย
00:14:12 → 00:14:14 พุ่งออกมาเสร็จแล้วเขาก็มาหยุดอยู่กลาง
00:14:14 → 00:14:20 ถนนคือถนนเป็นถนน
00:14:20 → 00:14:24 2 เลนนะแต่ว่าถนนไม่กว้างมากนะแคบๆรถ
00:14:24 → 00:14:28 วิ่งสวยกันได้แล้วเขาพุ่งออกมาแล้วมาอยู่
00:14:28 → 00:14:31 กลางถนนเนี่ยเฮ้อโดยที่เขาไม่ไปต่อเพราะ
00:14:31 → 00:14:35 อีกเดือนนึงมันมีรถวิ่งสวนมาถ้าเกิดเขาไป
00:14:35 → 00:14:39 ต่อคันนั้นก็จะชนเลยแต่ว่าเขามาหยุดกลาง
00:14:39 → 00:14:40 ถนนเนี่ย
00:14:40 → 00:14:44 แบบกระทันหันแล้วผมเนี่ยเห็นเนี่ยก็คือจะ
00:14:44 → 00:14:48 ด้วยสายตานี้นะผมน่าจะอยู่ห่างจากเขา
00:14:48 → 00:14:49 เนี่ย
00:14:49 → 00:14:52 ประมาณสักไม่น่าจะเกิน 10 หรือ 15 เมตร
00:14:52 → 00:14:57 ซึ่งก็ใกล้มากใกล้มากแล้วผมเหยียบมาเร็ว
00:14:57 → 00:15:01 แล้วมามาไม่ได้เร็วจี๋แบบถนนใหญ่แต่ก็ไม่
00:15:01 → 00:15:02 ได้ช้า
00:15:02 → 00:15:04 ผมเหยียบเบรคแบบ
00:15:04 → 00:15:07 เหยียบเบรคแล้วก็
00:15:08 → 00:15:10 เหยียบแบบเหยียบแล้วก็คลายเหยียบแล้วก็
00:15:10 → 00:15:14 คลายอ่ะถ้าไม่งั้นรถจะสะบัดแล้วพอมาจนถึง
00:15:14 → 00:15:18 ประมาณวินาทีสุดท้ายซึ่งระยะห่างน่าจะ
00:15:18 → 00:15:22 ประมาณสัก 4-5 เมตรเนี่ยผมคิดว่าประเมิน
00:15:22 → 00:15:26 แล้วชนแน่ๆเพราะถึงวินาทีสุดท้ายปุ๊บผม
00:15:26 → 00:15:27 ตัดสินใจแบบ
00:15:27 → 00:15:29 เหยียบเบรคแบบมิตร
00:15:29 → 00:15:34 แต่ว่าดูแล้วต้องชน
00:15:34 → 00:15:37 แต่อาจจะเบาอาจจะต้องสะกิดกันหรืออะไรก็
00:15:37 → 00:15:41 ตามทีแต่ถ้าเกิดชนหนักเนี่ยผมชนเต็มๆโดน
00:15:41 → 00:15:45 คนขับเลยนะจากด้านข้างซึ่งเป็นจุดที่รถ
00:15:45 → 00:15:49 อ่อนแอที่สุดต้องต้องบาดเจ็บหนักนะแต่ว่า
00:15:49 → 00:15:55 พออย่างนั้นผมเบรคมิดปึ๊บรถเนี่ยมันไป
00:15:55 → 00:15:58 แตะกันพอดีแต่ว่าไม่ชนอ่ะ
00:15:58 → 00:16:02 คือคนที่เดินถนนนี่ร้องกันคือ
00:16:02 → 00:16:04 ดูทรงแล้ว
00:16:04 → 00:16:08 ต้องอุบัติเหตุแน่นอนขนาดผมเองผมยังคิด
00:16:08 → 00:16:12 ว่าต้องชนเลยแต่อาจจะชนเบาแต่กลายเป็นว่า
00:16:12 → 00:16:13 ไม่ชน
00:16:13 → 00:16:17 ถ้าเป็นอย่างนี้เนี่ยปกตินะถ้าเป็นสมัย
00:16:17 → 00:16:22 ก่อนนู่นนี่นั่นคงแบบตะโกนด่าลั่นแล้วอ่ะ
00:16:22 → 00:16:23 คือประมาณเหมือนกับว่า
00:16:24 → 00:16:26 ตอนนั้นที่อยู่ในหัวนะแต่ว่าไม่ได้พูด
00:16:26 → 00:16:29 อะไรออกไปแล้วไม่ได้อยู่ในหัวคิดในใจว่า
00:16:29 → 00:16:33 เฮ้ยเหมือนคุณจะฆ่าตัวตาย
00:16:33 → 00:16:35 คือออกมาแบบนี้เหมือนจะฆ่าตัวตายพวกมึง
00:16:35 → 00:16:41 ออกมาแล้วมาหยุดพุ่งออกมาแล้วมาหยุด
00:16:41 → 00:16:42 เขาก็
00:16:42 → 00:16:44 เอากระจกลง
00:16:44 → 00:16:48 กลายเป็นเป็นผู้หญิงขับนะแล้วก็หน้าเขา
00:16:48 → 00:16:51 ซีดตกใจเลยนะแต่เขาก็หันมาแล้วก็ไหว้ขอ
00:16:51 → 00:16:52 โทษเรา
00:16:52 → 00:16:56 ตอนนี้ผมคิดในใจว่า
00:16:56 → 00:17:01 เราเลือกว่าเราจะเปิดลงไปแล้วครับ
00:17:01 → 00:17:06 แต่ในสุดก็ตัดสินใจว่าไม่ลงอยู่เฉยๆในรถ
00:17:06 → 00:17:10 แล้วเขาก็ขับไปแล้วเราก็ขับไป
00:17:10 → 00:17:12 ที่เป็นอย่างนี้เพราะอะไรรู้ไหมครับเพราะ
00:17:12 → 00:17:13 ว่า
00:17:13 → 00:17:17 ผมมีความรู้สึกว่าไอ้ตัวสัญญาณเตือนของ
00:17:17 → 00:17:20 เราเนี่ยที่เราฝึกมาตลอดเวลาว่าสิ่งที่
00:17:20 → 00:17:24 เรามีปฏิกิริยาตอนที่เราโกรธ
00:17:24 → 00:17:26 มักจะเป็นสิ่งที่เราไม่ควรทำ
00:17:26 → 00:17:32 อันที่ 1 และอันที่ 2 เนี่ยเราเห็นภายใน
00:17:32 → 00:17:36 4-5 วินาทีนั้นเนี่ยมันเกิดการประมวล
00:17:36 → 00:17:38 เหมือนกับมันฉายหนังในหัวไม่รู้กี่เรื่อง
00:17:38 → 00:17:39 แล้ว
00:17:39 → 00:17:42 แต่หนังเหล่านั้นเป็นหนังที่เกี่ยวกับ
00:17:42 → 00:17:46 คนที่ระงับอารมณ์โกรธไม่ได้แล้วแสดงอะไร
00:17:46 → 00:17:50 ออกไปแล้วทำให้เกิดความสูญเสียถึงชีวิต
00:17:50 → 00:17:55 พูดง่ายๆว่าจะข่าวไม่ว่าจะเป็นคนที่
00:17:55 → 00:18:00 ทะเลาะกันที่ปั๊มแล้วก็ยิงกันตายคนที่ขับ
00:18:00 → 00:18:02 รถเฉี่ยวชนกันด่ากันแล้วก็ปาดหน้ากันแล้ว
00:18:02 → 00:18:05 ก็เสียชีวิตอย่างนี้เรื่องพวกนี้มันเข้า
00:18:05 → 00:18:08 มาในหัวเร็วมากเลยภายใน 4 วินาทีนั้นนะ
00:18:08 → 00:18:11 แล้วมันก็สรุปตอนสุดท้ายวินาทีสุดท้ายที่
00:18:11 → 00:18:15 ผมถามตัวเองว่าเราจะลงหรือไม่ลงเนี่ย
00:18:15 → 00:18:18 ผมมีความรู้สึกว่าเราเลือกได้
00:18:18 → 00:18:21 ว่าเราจะจบแบบไหน
00:18:21 → 00:18:25 มาจากไอ้นี้เลยมาจากสัญญาณเตือนนี้เลยว่า
00:18:25 → 00:18:27 พอเรารู้ทันว่าตอนนี้ฉันโกรธแล้วนะเนี่ย
00:18:27 → 00:18:29 แล้วเรามีมาตรการไหม
00:18:30 → 00:18:33 ตอนที่เราโกรธเราจะไม่พูดตอนที่เราโกรธ
00:18:33 → 00:18:37 เราจะไม่แสดงออกเราจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น
00:18:37 → 00:18:39 แล้ว
00:18:39 → 00:18:43 ถ้าไม่ฝึกมานานนะครับเหตุการณ์แบบนั้น
00:18:43 → 00:18:45 ดูแล้วต้องมีเรื่อง
00:18:45 → 00:18:50 มันเป็นเรื่องยากค่ะเพราะว่าถ้าเราจะบอก
00:18:50 → 00:18:54 ว่าอารมณ์มันคือธรรมชาติของมนุษย์แล้ว
00:18:54 → 00:18:58 อารมณ์ทางทางอารมณ์เขาเรียกว่าในอุณหภูมิ
00:18:58 → 00:19:01 ด้านร้อน
00:19:01 → 00:19:03 โมโหอะไรนะ
00:19:03 → 00:19:07 ที่บอกหัวร้อนนู่นนี่อะไรอย่างนี้มันเป็น
00:19:07 → 00:19:10 อารมณ์ที่เป็นอุณหภูมิทางร้อน
00:19:10 → 00:19:13 แต่ว่าถ้าสมมุติว่าเออสงบเยอะเย็นมันเป็น
00:19:13 → 00:19:16 อุณหภูมิทางเย็นอ่าอารมณ์ที่มีอุณหภูมิ
00:19:16 → 00:19:20 เย็นถ้าเราเทียบง่ายๆคือความร้อนกับความ
00:19:20 → 00:19:22 เย็นน่ะความแรงของความร้อนมันมีมากกว่า
00:19:22 → 00:19:25 อ่าความเย็นอย่างเอาน้ำแข็งใส่
00:19:25 → 00:19:28 อ่าอะไรอ่ะคะใส่เตาอ่ะค่ะใส่หม้อที่ตั้ง
00:19:28 → 00:19:31 เตาน้ำแข็งก็ละลายเพราะฉะนั้นเนี่ยจะบอก
00:19:31 → 00:19:34 ว่าความร้อนมันมีอิทธิพลมากกว่าการที่เรา
00:19:34 → 00:19:38 จะแก้อารมณ์ร้อนของเราเนี่ยที่อาจารย์บอก
00:19:38 → 00:19:42 ว่าใช้เวลามันใช้เวลาแน่ๆเพราะเรื่องอะไร
00:19:42 → 00:19:46 อ่ะอิทธิพลด้านความร้อนมันส่งผลมากกว่า
00:19:46 → 00:19:49 เพราะฉะนั้นถ้าเราจะฝึกแก้ไขเปลี่ยนแปลง
00:19:49 → 00:19:53 เราต้องใช้เวลาแล้วก็มีวินัยในการที่จะ
00:19:53 → 00:19:55 ต้องฝึกฝนแก้ไขมากกว่า
00:19:55 → 00:19:59 ค่ะผมชอบที่สรุปเมื่อกี้บอกว่ามันเป็น
00:19:59 → 00:20:01 เรื่องของอุณหภูมิร้อนกับเย็น
00:20:01 → 00:20:04 แล้วก็มันเป็นเรื่องของความสงบ
00:20:04 → 00:20:08 ซึ่งถ้าไม่ฝึกมาแล้ว
00:20:08 → 00:20:11 ไม่มีทางเลยคือ
00:20:11 → 00:20:15 มันอยู่ในสภาวะที่มันเสี้ยวเว้ยเขาเรียก
00:20:15 → 00:20:20 อะไรเป็นวินัย
00:20:20 → 00:20:23 จนถึงเป็นสุขของนิ่งเนี่ยกินเวลาไม่น่าจะ
00:20:23 → 00:20:26 เกิน 4-5 วินาที
00:20:26 → 00:20:32 นี้พี่อ้อย
00:20:32 → 00:20:37 อาจารย์แบบเขาเรียกว่าเป็นภาพที่ฉอดอ่ะ
00:20:37 → 00:20:40 แล้วช็อตนั้นน่ะ
00:20:40 → 00:20:42 อาจารย์น่ะพูดถึงเรื่องการฝึกสติของ
00:20:42 → 00:20:46 อาจารย์มาตั้งแต่ตั้งแต่ตั้งนานละตั้งแต่
00:20:46 → 00:20:50 เด็กเพราะฉะนั้นเนี่ยสติช่วยตั้งแต่แรก
00:20:50 → 00:20:54 แล้วถ้าสมมุติว่าไม่มีสติในในเขาเรียกว่า
00:20:54 → 00:20:59 อะไรในช่วงแรกก็คือการเหยียบเบรคมิด
00:20:59 → 00:21:02 ตรงนั้นรถจะหมุนไม่รู้ไปฟาดอะไรต่อฟาด
00:21:02 → 00:21:05 อะไรโอ้โหแบบไม่รู้ชีวิตจะยังอยู่ด้วย
00:21:05 → 00:21:09 หรือเปล่าตรงนั้นก็คือใน Shot แรกเพราะ
00:21:09 → 00:21:53 ฉะนั้นสติมาช่วยตรงนั้นล่ะ
00:21:53 → 00:21:56 ทุกคน
00:21:56 → 00:22:01 ที่เดินอยู่บนถนน
00:22:01 → 00:22:06 คุณป้าคนนึงเอามือตกออกประมาณแบบ
00:22:06 → 00:22:11 แล้วสภาวะของเราอะไรวินาทีแบบนั้นคือที่
00:22:11 → 00:22:14 ผมอยากจะย้ำเป็นพิเศษเลยก็คือว่า
00:22:14 → 00:22:17 สิ่งที่แบ่งปันนี่เรื่องหนึ่งนะแต่สิ่ง
00:22:17 → 00:22:21 ที่แบ่งปันไม่ใช่ว่ารู้แล้วแล้วดีจังเลย
00:22:21 → 00:22:23 เอาไปทำ
00:22:23 → 00:22:25 ต้องฝึก
00:22:25 → 00:22:29 ต้องฝึกจนกระทั่งเพราะในวินาทีนั้น 4-5
00:22:29 → 00:22:31 วินาทีนั้นเนี่ยทุกอย่างมันจะกลายเป็น
00:22:31 → 00:22:33 อัตโนมัติ
00:22:33 → 00:22:37 ต้องฝึกจนเป็นอัตโนมัติอันนี้อันนี้สำคัญ
00:22:37 → 00:22:39 เห็นด้วยมากๆค่ะ
00:22:39 → 00:22:43 แล้วผมยังผมยังรู้สึกภาคที่ประทับใจเลยก็
00:22:43 → 00:22:47 คือวินาทีที่มัน
00:22:47 → 00:22:52 ไม่ชนแล้วผมรู้สึกประทับใจตรงที่ว่ามันมี
00:22:52 → 00:22:56 ความคิดเข้ามาในหัวว่าเราจะลงไปด่าไหม
00:22:56 → 00:23:00 ขนาดนั้นยังเรายังเป็นคนเลือกเองเลยนะ
00:23:00 → 00:23:04 เออแต่ถ้าเราไม่น่าเลย
00:23:04 → 00:23:07 ต้องลงไป
00:23:07 → 00:23:12 เพราะว่าถามว่าพี่วีเลือกได้ถามคำถามกับ
00:23:12 → 00:23:17 ตัวเองได้ตรงนั้นน่ะคือสติมาเพราะฉะนั้น
00:23:17 → 00:23:22 ไม่ใช่อารมณ์นำแต่ถ้าคนที่สติไม่มาและ
00:23:22 → 00:23:36 อารมณ์นำไปแล้วค่ะไม่คิดค่ะ
00:23:36 → 00:23:38 วินาทีนั้น
00:23:38 → 00:23:40 ข่าวที่เราเคยได้มาทั้งหมดมันกลับเข้ามา
00:23:40 → 00:23:44 ในหัวมันเลยว่าถ้าลงแล้วจะเป็นยังไง
00:23:44 → 00:23:46 [เพลง]
00:23:46 → 00:23:48 แล้วไม่หลงเป็นยังไงเราก็เลือก
00:23:48 → 00:23:52 ภายในเวลาสั้นๆก็เลยรู้สึกว่าเฮ้ยอันนี้
00:23:52 → 00:23:54 เป็นความอัศจรรย์ของผมนึกขึ้นมาสรุปด้วย
00:23:54 → 00:23:57 ตัวเองนะเป็นความมหัศจรรย์ของอันนี้เป็น
00:23:57 → 00:24:00 เรื่องราวของสติไหมดูเหมือนจะใช่นะแต่
00:24:00 → 00:24:03 จริงๆแล้วผมนึกว่าเฮ้ยกลายเป็นไม่ใช่แล้ว
00:24:03 → 00:24:06 อันนี้เป็นเรื่องของไม่ใช่สตินะแต่เป็น
00:24:06 → 00:24:09 เรื่องของมหาสติ
00:24:09 → 00:24:13 คือ
00:24:13 → 00:24:16 แต่ละเสี้ยววินาทีเนี่ยเวลามันสั้นมากแต่
00:24:16 → 00:24:18 ว่ามันมีหลายอย่างวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
00:24:18 → 00:24:19 มาก
00:24:19 → 00:24:22 ที่อยากจะบอกก็คือว่า
00:24:22 → 00:24:25 สรุปแล้วตอนนี้เนี่ยเป็นตอนที่ที่เริ่มมา
00:24:25 → 00:24:28 บอกว่าตอนนี้โกรธแล้วนะเนี่ยเพราะว่าผม
00:24:28 → 00:24:32 นึกถึงเรื่องของจะดีไหมถ้าเรามีเครื่อง
00:24:32 → 00:24:35 มือบางอย่างที่มาเป็นเครื่องเตือนตัวเอง
00:24:35 → 00:24:38 ว่าตอนนี้ฉันโกรธแล้วนะ
00:24:38 → 00:24:43 จะดีมากและคำถามและคำตอบคือมีไว้มี
00:24:43 → 00:24:46 แต่ว่าเหตุ
00:24:46 → 00:24:49 ไอ้แล้วไปซื้อจากไหน
00:24:49 → 00:24:52 ไม่มีค่ะไม่มีขาย
00:24:52 → 00:24:54 ฝึกได้ด้วยตัวเองด้วยตัวเองแล้วด้วยสติ
00:24:54 → 00:24:58 ค่ะแล้วเราก็สร้างกลเราต้องสร้างเครื่อง
00:24:58 → 00:25:01 นี้ด้วยตัวเราเองเครื่องนี้ของผมคือสิ่ง
00:25:01 → 00:25:05 ที่ผมสร้างมาเมื่อ 40 ปีที่แล้วนะคือหุบ
00:25:05 → 00:25:06 ปาก
00:25:06 → 00:25:08 ไม่พูด
00:25:08 → 00:25:10 ไม่พูดแล้วไม่แสดงออกไม่ทำอะไรอยู่เฉยๆ
00:25:10 → 00:25:14 นิ่งๆอันนี้เป็นเครื่องเตือนว่าตอนนี้ฉัน
00:25:14 → 00:25:18 โกรธแล้วนะแต่ของคุณแม่ผมคืออะไรมี
00:25:18 → 00:25:22 [เพลง]
00:25:22 → 00:25:24 แต่ไม่มีขาย
00:25:24 → 00:25:28 ต้องพัฒนาเอง
00:25:28 → 00:25:33 ของตัวเองแล้วก็ต้องฝึกเอง
00:25:33 → 00:25:36 โอ้โหไม่น่าเชื่อเลยครับตอนนี้ฉันโกรธ
00:25:36 → 00:25:37 แล้วนะ
00:25:37 → 00:25:41 แต่ว่าตอนนี้เวลาจะหมดแล้วนะ
00:25:41 → 00:25:45 คุณผู้ฟังครับแต่ในการความสุขเป็นรายการ
00:25:45 → 00:25:48 ที่เรามุ่งเน้นที่จะส่งมอบวิธีคิดแง่คิด
00:25:48 → 00:25:51 มุมมองโดยผ่านเรื่องเล่าผ่านทาง
00:25:51 → 00:25:55 ประสบการณ์ของทั้งผมนะครับพี่วีแล้วก็พี่
00:25:55 → 00:25:56 อ้อยก็หวังว่า
00:25:56 → 00:26:00 คุณฟังจะได้แง่คิดมุมมองที่มีประโยชน์นะ
00:26:00 → 00:26:02 ที่จะทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นมี
00:26:02 → 00:26:06 ความทุกข์น้อยลงแล้วก็พบกับเราทั้งสองคน
00:26:06 → 00:26:09 นะครับใน EP หน้าๆต่อไปครับถ้ามีอะไรก็
00:26:09 → 00:26:12 ติดต่อสื่อสารกันได้ผ่านทางข้อความทุก
00:26:12 → 00:26:15 ช่องทางแล้วของไทย vs นะฮะวันนี้ผม
00:26:15 → 00:26:18 วีระพงษ์ทวีศักดิ์ครับพี่วีต้องลาไปก่อน
00:26:18 → 00:26:22 นะครับสวัสดีค่ะ
00:26:22 → 00:26:25 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:26:25 → 00:26:27 ของไทย
00:26:27 → 00:26:32 spotify Sound Google podcast Apple
00:26:32 → 00:26:35 YouTube Channel Thai pbsort Class
00:26:35 → 00:26:40 ใช้ PBS Plus
00:26:40 → 00:26:45 [เพลง]