00:00:00 → 00:00:06 [เสียงดนตรี]
00:00:06 → 00:00:07 วางไว้ไหนนี่
00:00:08 → 00:00:12 จำได้ว่าวางไว้ที่โซฟานะ หรือวางไว้ที่อื่น
00:00:12 → 00:00:13 ปราก
00:00:16 → 00:00:20 โอ้โฮ หูจะแตก เรียกทำไมคะนี่
00:00:20 → 00:00:23 หูจะแตกเพราะว่าเพลงที่ฟังอะดิ มันดังขนาดนั้นน่ะ
00:00:23 → 00:00:25 แล้วอาจารย์เต้เรียกหนูทำไมคะ
00:00:25 → 00:00:27 ก็จะถาม…จะถามว่าอะไร
00:00:27 → 00:00:30 ลืมเลยนี่ มัวแต่ชวนคุยนี่แหละ ลืมเลย
00:00:30 → 00:00:34 สมองเสื่อมแบบนี้ เอาเพลงไปฟังเลยค่ะ เพลงช่วยเรื่องความจำ
00:00:34 → 00:00:35 ไม่ช่วย
00:00:35 → 00:00:37 มันจะทำให้นึกอะไรไม่ออกสิเพลงดังขนาดนี้
00:00:37 → 00:00:39 เพลงนี่ล่ะค่ะช่วยเรื่องความจำ
00:00:39 → 00:00:41 หนูรู้ หนูเรียนมา
00:00:41 → 00:00:43 - เอาไปฟังดู - มันไม่ช่วย
00:00:43 → 00:00:45 - ลองฟังหน่อยค่ะ - ไม่
00:00:45 → 00:00:46 - มันฟังแล้วดีจริง ๆ
00:00:46 → 00:00:47 - ลองดู - ไม่
00:00:47 → 00:00:47 - นิดนึง - ก็ได้
00:00:49 → 00:00:52 ดนตรีมันเกี่ยวข้องกับ การป้องกันสมองเสื่อมยังไง
00:00:52 → 00:00:55 เคยนั่ง ๆ อยู่ แล้วมีรถแห่ผ่านข้างบ้างไหมคะ
00:00:55 → 00:00:56 - เอ้า แน่นอน - โอ้โฮ
00:00:57 → 00:00:57 มา
00:00:58 → 00:00:58 โอ๊ะ
00:00:58 → 00:01:02 [เสียงเคาะจังหวะ]
00:01:02 → 00:01:03 ซ้าย
00:01:03 → 00:01:03 ขวา
00:01:04 → 00:01:04 ซ้าย
00:01:04 → 00:01:05 ขวา
00:01:08 → 00:01:09 ซ้าย
00:01:09 → 00:01:10 ขวา
00:01:10 → 00:01:11 ซ้าย
00:01:11 → 00:01:12 [เสียงดนตรี]
00:01:12 → 00:01:15 ก่อนที่จะเถียงกับทีมงานจนสมองระเบิด
00:01:15 → 00:01:17 คงต้องหาคนมาช่วยให้คำตอบครับ
00:01:17 → 00:01:20 วันนี้ Brain Strong คุยเรื่องสมองให้เป็นเรื่องสนุก
00:01:20 → 00:01:24 ได้ผู้เชี่ยวชาญด้านดนตรีมาพูดคุยกับเรา
00:01:24 → 00:01:25 อาจารย์เมย์จะมาบอกเราว่า
00:01:26 → 00:01:29 ดนตรีมันเกี่ยวข้องกับ การป้องกันสมองเสื่อมยังไง
00:01:29 → 00:01:32 เคยนั่ง ๆ อยู่ แล้วมีรถแห่ผ่านข้างบ้างไหมคะ
00:01:32 → 00:01:35 - เอ้า แน่นอน - โอ้โฮ หันไปสนใจมันไหมคะ
00:01:35 → 00:01:36 โอ้โฮ เสียงดังขนาดนี้
00:01:36 → 00:01:38 อะไรที่ทำอยู่ เราก็วางหมดเลยใช่ไหม
00:01:38 → 00:01:41 บางคนวิ่งออกไปเลย แล้วก็ไปเต้นกับเขาด้วย
00:01:41 → 00:01:44 นั่นก็เพราะว่า ดนตรีน่ะ เวลาเราได้ยินเสียงของมันน่ะ
00:01:44 → 00:01:46 มันขโมยทั้งสมองเราไปหมดเลยค่ะ
00:01:46 → 00:01:48 แล้วแน่นอนส่วนความทรงจำมันก็ต้องช่วยด้วย
00:01:48 → 00:01:53 แล้วอย่างนี้คนที่ฟังดนตรี กับไม่ฟังดนตรีเลยนี่
00:01:53 → 00:01:56 เรื่องของการเสื่อมของสมองนี่ มีความแตกต่างกันไหมครับ
00:01:57 → 00:01:59 แน่นอนค่ะ เรื่องนี้ทำการศึกษาวิจัยมาแล้วว่า
00:01:59 → 00:02:02 ระหว่างคนที่ฟังดนตรีกับไม่ฟังดนตรี
00:02:02 → 00:02:04 รูปแบบของสมองทำงานแตกต่างกันแน่นอน
00:02:04 → 00:02:08 นอกจากการฟังแล้ว เรายังมีการเต้น การเล่นดนตรี
00:02:08 → 00:02:10 - แล้วก็การร้องเพลงอีกใช่ไหมคะ - อุ๊ย ชอบเลย
00:02:10 → 00:02:12 แล้วยิ่งเราทำกิจกรรมดนตรีพวกนี้ มากขึ้นเท่าไร
00:02:12 → 00:02:15 สมองเราก็ต้องใช้กำลังมากขึ้นในการทำงาน
00:02:15 → 00:02:18 นั่นก็แปลว่า มันสามารถช่วยลดอัตรา การเสื่อมของสมองในหลายส่วน
00:02:18 → 00:02:22 รวมทั้งส่วนของเรื่องความจำ แล้วก็สมาธิด้วยนั่นเองค่ะ
00:02:22 → 00:02:24 วันนี้คุณผู้ชมคงอยากที่จะทราบแล้วล่ะครับว่า
00:02:24 → 00:02:28 อาจารย์เมย์เตรียมกิจกรรมอะไรมา เพื่อจะกระตุ้นสมอง
00:02:28 → 00:02:29 และป้องกันสมองเสื่อมของเรา
00:02:29 → 00:02:33 [เสียงดนตรี]
00:02:33 → 00:02:36 - เดี๋ยวเรามาทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันก่อนนะคะ - ดีครับ
00:02:36 → 00:02:37 คิดว่าตัวเองตบมือเข้าจังหวะไหม
00:02:37 → 00:02:40 แล้วผมจะไปรู้ได้ยังไงว่า ผมตบมือเข้าจังหวะได้หรือเปล่า
00:02:40 → 00:02:42 เราก็ต้องมีเครื่องมือช่วยเราไงคะ
00:02:42 → 00:02:44 - นั่นคือ - นั่นคือเมโทรนอมนั่นเอง
00:02:44 → 00:02:47 สามารถดาวน์โหลดได้ใน Application มือถือทั่วไปเลยค่ะ
00:02:47 → 00:02:47 อา...
00:02:47 → 00:02:49 - มาเริ่มฝึกกันเลยค่ะ - ได้เลยครับ
00:02:49 → 00:02:51 จากจังหวะง่าย ๆ กันก่อนนะคะ
00:02:51 → 00:02:56 [เสียงเคาะจังหวะ]
00:02:56 → 00:02:57 แค่นี้เหรอ
00:02:57 → 00:02:59 ให้ทำอะไรต่อครับ
00:02:59 → 00:03:01 เมื่อกี้พยักหน้าตามจังหวะไหมคะ
00:03:01 → 00:03:01 พยักอยู่
00:03:01 → 00:03:05 เดี๋ยวอาจารย์เต้ลองเปลี่ยนจากพยักหน้า เป็นปรบมือตามจังหวะดูนะคะ
00:03:05 → 00:03:06 ได้ครับ ปรบมือข้างเดียว
00:03:07 → 00:03:08 หา...จะดังไหมคะนี่
00:03:08 → 00:03:10 - 2 ข้าง - โอเค เริ่มเลยค่ะ
00:03:10 → 00:03:14 [เสียงปรบมือตามจังหวะ]
00:03:14 → 00:03:15 ต้องมีท่าด้วยนะ
00:03:15 → 00:03:19 [เสียงปรบมือตามจังหวะ]
00:03:19 → 00:03:20 โอเค
00:03:20 → 00:03:22 จังหวะแบบเมื่อกี้ มันเรียกว่าช้าหรือเร็วครับ
00:03:22 → 00:03:26 ในทางดนตรีนี่ มันจะมีจังหวะ ช้า กลาง และเร็วค่ะ
00:03:26 → 00:03:28 จังหวะที่ให้เมื่อกี้อยู่ในจังหวะปานกลาง
00:03:28 → 00:03:31 ปานกลาง ถ้างั้นผมอยากจะลองไปแบบเร็ว ๆ หน่อย
00:03:31 → 00:03:33 ได้เลยค่ะ จังหวะเร็ว จัดให้
00:03:34 → 00:03:34 มา
00:03:35 → 00:03:35 โอ๊ะ
00:03:35 → 00:03:39 [เสียงปรบมือตามจังหวะ]
00:03:39 → 00:03:41 คุณผู้ชม ทำได้หรือเปล่า
00:03:41 → 00:03:44 [เสียงปรบมือตามจังหวะ]
00:03:44 → 00:03:46 โอ๊ย ผมเร่งไปหรือเปล่า
00:03:46 → 00:03:48 อาจารย์เต้พูดได้ดีมากเลยค่ะ
00:03:48 → 00:03:52 เห็นไหมคะว่าถ้าสมองหลุดการจดจ่อเมื่อไร เราจะพลาดกับจังหวะเมื่อนั้น
00:03:52 → 00:03:57 ใช่ เมื่อสักครู่นี้ผมกำลังชวนคุณผู้ชม บอกว่ามาทำด้วยกัน ทำได้หรือเปล่า
00:03:57 → 00:03:59 เท่านั้นแหละ ผมหลุดไปเลยจากจังหวะ
00:03:59 → 00:04:02 ใช่ เพราะสมองเราต้องเฉลี่ยสมาธิ ไปใช้เรื่องอื่นไงคะ
00:04:03 → 00:04:06 เพราะฉะนั้น จังหวะนี่ มันจะทำให้เรามีสมาธิจดจ่อกับมัน
00:04:06 → 00:04:09 ช่วยทำให้เราสามารถที่จะคิดบางอย่าง ได้ทะลุปรุโปร่งด้วยซ้ำไป
00:04:09 → 00:04:12 ถูกต้องเลย ดังนั้น แค่มีสมาธิจดจ่อ
00:04:12 → 00:04:17 ก็มีส่วนช่วยในการดึงความจำ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวได้แล้วถูกต้องไหมคะ
00:04:17 → 00:04:18 อืม ใช่เลย
00:04:18 → 00:04:21 แล้วถ้าจังหวะมันช้าลงล่ะ ผมอยากลองแล้ว
00:04:21 → 00:04:22 ลองดูดีกว่าค่ะ
00:04:22 → 00:04:24 ช้าลง หลายคนคิดว่าง่ายนะคะ
00:04:24 → 00:04:27 แต่เดี๋ยวมาลองดูค่ะ ว่ามันง่ายหรือมันยากกันแน่
00:04:27 → 00:04:32 เดี๋ยวเมย์จะเอาเท่ากับเสียงนาฬิกา ที่เราใช้อยู่ในชีวิตประจำวันนะคะ
00:04:32 → 00:04:36 - นั่นคือ 60 ครั้งต่อนาที มา - ใช่แล้ว ไปลองดูค่ะ
00:04:36 → 00:04:44 [เสียงปรบมือตามจังหวะ]
00:04:44 → 00:04:45 คุณผู้ชม
00:04:45 → 00:04:53 [เสียงปรบมือตามจังหวะ]
00:04:53 → 00:04:55 เออ...เนาะ...
00:04:55 → 00:04:56 ยากหรือง่ายกว่ากันคะ
00:04:56 → 00:04:57 ผมว่ามันยากกว่านะ
00:04:57 → 00:05:00 เพราะว่าผมจะต้องนับอยู่ในใจอยู่ด้วย เหมือนกันเนอะ
00:05:00 → 00:05:04 จังหวะที่จะต้องปรบมือในครั้งต่อไป มันจะเป็นตรงไหน
00:05:04 → 00:05:08 จังหวะที่ช้าก็ทำให้เราต้องรอคอย จังหวะที่กำลังจะมาถัดไปค่ะ
00:05:09 → 00:05:12 ซึ่งก็ต้องใช้กำลังของสมาธิที่มากขึ้น ถูกต้องไหมคะ
00:05:12 → 00:05:13 มากขึ้น
00:05:13 → 00:05:18 นั่นแปลว่า ช้า กลาง หรือเร็ว ไม่ได้บอกว่าจังหวะไหนยากกว่ากันนะคะ
00:05:18 → 00:05:23 แต่ว่าการทำงานของจังหวะแต่ละจังหวะ ในทางดนตรี และเชื่อมโยงกับสมองนี่
00:05:23 → 00:05:25 เขามีคุณสมบัติเฉพาะของเขา
00:05:25 → 00:05:29 แต่ไม่ว่าจะเป็นจังหวะ ช้า กลาง หรือเร็ว ก็ช่วยบริหารสมองได้ทั้งนั้นล่ะค่ะ
00:05:29 → 00:05:31 เพราะว่าการเคาะจังหวะแบบนี้ค่ะ
00:05:31 → 00:05:34 มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ดนตรี ของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ
00:05:34 → 00:05:37 คนที่ชอบร้องเพลง คนที่เคยเล่นดนตรี
00:05:37 → 00:05:39 หรือว่าคนที่ชอบเต้นหรือฟังเพลงบ่อย ๆ
00:05:39 → 00:05:41 สมองเขาก็จะสามารถพัฒนาในการรับรู้
00:05:41 → 00:05:44 แล้วก็ทำการเคาะจังหวะได้ง่ายกว่า แล้วก็ดีกว่า
00:05:44 → 00:05:49 แล้วถ้าเผื่อคุณผู้ชมมีล้ำ ๆ เหลื่อม ๆ ของจังหวะอยู่บ้างนี่ ต้องกังวลไหมหรือยังไง
00:05:50 → 00:05:51 ยังไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
00:05:51 → 00:05:55 เพราะแบบฝึกนี้ เมย์ออกแบบมาเพื่อให้ฝึกสนุก ๆ ที่บ้าน
00:05:55 → 00:05:57 ส่วนการประเมินว่า เอ๊ะ สมองเรายังดีอยู่หรือเปล่านี่
00:05:57 → 00:05:59 ยังต้องไปที่โรงพยาบาลอยู่นะ
00:05:59 → 00:05:59 อืม
00:06:00 → 00:06:01 ผมว่ากิจกรรมอันนี้สนุก
00:06:01 → 00:06:05 ผมอยากที่จะดูแล้วล่ะ ว่ากิจกรรมที่ 2 มันคืออะไร
00:06:05 → 00:06:07 งั้นเดี๋ยวเราไปหาอุปกรณ์กันในครัวกันค่ะ
00:06:07 → 00:06:08 หา! ในครัวเหรอ
00:06:08 → 00:06:12 [เสียงดนตรี]
00:06:12 → 00:06:16 อาจารย์เมย์ครับ นี่เหรอเครื่องดนตรี แถวบ้านผมเรียกถ้วยชาม
00:06:16 → 00:06:18 เป็นเครื่องดนตรีที่เราหาได้ที่บ้านไงคะ
00:06:18 → 00:06:21 โอเค แล้วมันจะยังไงล่ะนี่
00:06:21 → 00:06:23 ตอนนี้มันได้กลายเป็นกลองชุดเรียบร้อยแล้วค่ะ
00:06:23 → 00:06:24 - เล่นมือเดียวก่อนแล้วกัน - เล่นมือเดียว
00:06:24 → 00:06:26 - เอามือที่ถนัดค่ะ - มือขวาครับผม
00:06:26 → 00:06:28 - ช้อน 1 อันนะคะ - ช้อน 1 อัน
00:06:28 → 00:06:29 ลองเคาะซิ เสียงมีอะไรบ้าง
00:06:29 → 00:06:35 [เสียงเคาะ]
00:06:35 → 00:06:37 - โอ๊ะ - อา...
00:06:37 → 00:06:39 - ตอนนี้เรามีอยู่ 4 เสียงนะคะ - ครับ
00:06:39 → 00:06:42 เดี๋ยวเราจะเปิดเมโทรนอม แล้วเราให้เคาะตามจังหวะเมโทรนอมดู
00:06:42 → 00:06:43 ให้อาจารย์เต้เลือกก่อน
00:06:44 → 00:06:45 ช้า กลาง เร็ว ดีคะ
00:06:45 → 00:06:47 เอาแบบง่ายสุดเลยคือเร็ว
00:06:47 → 00:06:48 อา...เร็ว
00:06:48 → 00:06:49 สำหรับผม ผมคิดว่ามันง่ายแล้วนะ
00:06:49 → 00:06:51 หัวใจเรามันเต้นเป็นจังหวะเร็ว ๆ เราต้องเร็วก่อน
00:06:51 → 00:06:53 สำหรับอาจารย์เต้ เร็วคือง่ายนะคะ
00:06:53 → 00:06:54 เร็วคือง่ายครับ
00:06:54 → 00:06:55 จัดไปเลย 130
00:06:55 → 00:06:57 เคยไปเต้นแอโรบิกไหมคะ
00:06:57 → 00:07:00 คุณครูเขาจะนับ 1 2 3 4 5 6 7 8
00:07:00 → 00:07:02 - ทีนี้เมื่อกี้เรามี 4 ใช่ไหมคะ - ครับ
00:07:02 → 00:07:03 แต่ว่าเราอยากนับ 8 น่ะ
00:07:03 → 00:07:05 งั้นเราไปแล้วเราต้องกลับด้วยก็
00:07:05 → 00:07:06
00:07:06 → 00:07:07
00:07:07 → 00:07:07
00:07:07 → 00:07:08
00:07:08 → 00:07:08
00:07:08 → 00:07:09
00:07:09 → 00:07:09
00:07:09 → 00:07:10
00:07:10 → 00:07:14 โอ้โฮ ถ้างั้นเริ่มจากช้าก่อนได้ไหม อันนี้มันดูยากไป
00:07:14 → 00:07:15 เอาเร็วเลยดีกว่า เร็ว
00:07:15 → 00:07:16 เอาใจช่วยผม
00:07:16 → 00:07:17 - สู้ ๆ นะคะ - ได้ครับ
00:07:18 → 00:07:29 [เสียงเคาะ]
00:07:29 → 00:07:32 - เป็นไงครับคุณผู้ชมครับ - โอ้โฮ
00:07:32 → 00:07:33 เรียกว่าสมองปรับตัวเร็วมาก
00:07:33 → 00:07:34 [เสียงหัวเราะ]
00:07:34 → 00:07:37 เมื่อกี้มือเดียว มันง่ายไปค่ะ
00:07:37 → 00:07:38 โอ้โฮ
00:07:38 → 00:07:39 ขออีกมือได้ไหมคะ
00:07:39 → 00:07:41 - ทีนี้ขอเพิ่มความยากให้นิดนึงนะคะ - ยังไงครับ
00:07:41 → 00:07:43 ว่าจะต้องเล่นสลับมือ
00:07:43 → 00:07:43 เฮ้ย
00:07:43 → 00:07:44 ซ้าย
00:07:44 → 00:07:45 ขวา
00:07:45 → 00:07:46 ซ้าย
00:07:46 → 00:07:46 ขวา
00:07:47 → 00:07:47 ซ้าย
00:07:47 → 00:07:48 ขวา
00:07:48 → 00:07:48 ซ้าย
00:07:49 → 00:07:50 ลองดูค่ะ
00:07:50 → 00:07:51 ซ้าย
00:07:51 → 00:07:51 ขวา
00:07:51 → 00:07:52 ซ้าย
00:07:52 → 00:07:53 ขวา
00:07:56 → 00:07:57 ซ้าย
00:07:57 → 00:07:58 ขวา
00:07:58 → 00:07:59 ซ้าย
00:07:59 → 00:08:02 - ถูกต้อง - วางช้อนเลยครับ อิ่มแล้ว
00:08:02 → 00:08:05 ทีนี้ลองจังหวะแบบ…ช้า
00:08:06 → 00:08:17 [เสียงเคาะ]
00:08:17 → 00:08:19 ผมเริ่ม…ผมเริ่มงงกับตัวเองแล้ว
00:08:20 → 00:08:22 อันนี้มันพอได้ไหมอาจารย์เมย์
00:08:22 → 00:08:23 [เสียงหัวเราะ]
00:08:23 → 00:08:27 - เห็นไหมคะว่าจังหวะช้าก็ไม่ได้ง่ายเสมอไป - ไม่ได้ง่ายนะ
00:08:27 → 00:08:29 ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เคยทำอะไรแบบนี้ใช่ไหมคะ
00:08:29 → 00:08:30 นั่นน่ะสิ
00:08:30 → 00:08:34 ตอนนี้ก็เป็นความจำระยะสั้นที่สมองส่วนหน้า เขากำลังเรียนรู้อยู่ถูกต้องไหมคะ
00:08:34 → 00:08:35 อ๋อ
00:08:35 → 00:08:36 เป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่
00:08:36 → 00:08:38 สมองเขาเพิ่งเรียนรู้ค่ะ
00:08:38 → 00:08:41 เขาเพิ่งกายบริหารตัวเองออกมา เพื่อจะเรียนรู้สิ่งนี้นั่นเองนะคะ
00:08:41 → 00:08:44 นั่นก็แปลว่าถ้าเราฝึกไปเรื่อย ๆ
00:08:44 → 00:08:47 มันจะทำให้ความทรงจำของเรา ย้ายตำแหน่งอย่างนี้หรือ
00:08:47 → 00:08:48 ถูกต้องค่ะ
00:08:48 → 00:08:52 พอเราทำอะไรจนคุ้นจนชินนะคะ สุดท้ายมันก็จะเป็นอัตโนมัติ
00:08:52 → 00:08:56 เหมือนที่นักดนตรี เขาสามารถที่จะเล่นด้วยกันได้
00:08:56 → 00:08:57 ตีกลองได้หลาย ๆ ชิ้น
00:08:57 → 00:09:01 หรือว่าสามารถที่จะร้องเพลงไปด้วย แล้วก็เล่นกีตาร์ไปด้วยได้
00:09:01 → 00:09:03 สิ่งเหล่านี้ค่ะ ก็อาศัยการฝึกฝน
00:09:03 → 00:09:06 แล้วก็การทำงานของสมอง ที่คุ้นชินทั้งนั้นเลยค่ะ
00:09:06 → 00:09:07 อืม
00:09:07 → 00:09:10 ถามอาจารย์เมย์นิดนึง ทำไมต้องมีการไขว้มือ
00:09:10 → 00:09:12 เพราะว่าการเล่นสองมือค่ะ
00:09:12 → 00:09:17 มันจะช่วยเพิ่มสมองส่วนที่เราจะต้องทำงาน สอดประสานร่วมกันของมือทั้งสองข้างนะคะ
00:09:17 → 00:09:18 อืม
00:09:18 → 00:09:21 ก็ยิ่งเพิ่มการออกกำลังกายสมองขึ้นไปอีก
00:09:21 → 00:09:24 อาจารย์เมย์ครับ ทำไมแค่ 4 อย่าง ทำไมไม่เป็นสักแบบ 10 อย่าง
00:09:25 → 00:09:27 - จริง ๆ จะเอา 18 อย่างมาวางเลยก็ได้นะคะ - เอางั้นเลยหรอ
00:09:27 → 00:09:31 แต่ว่าระยะของการใช้สีนี่สะดวกไหมคะ
00:09:31 → 00:09:33 อ๋อ ใช่ ๆ มันไม่ต้องเอื้อมเนอะ
00:09:33 → 00:09:36 ถูกต้อง มันก็มีหลักการในทางดนตรีอยู่เหมือนกัน
00:09:36 → 00:09:38 มันคือ 1 ห้องเพลงนะคะ
00:09:38 → 00:09:42 ถ้าจังหวะง่าย ๆ เลย มันก็มักจะมี 1, 2 หรือ 4 จังหวะ
00:09:42 → 00:09:44 ซึ่งเป็นจังหวะที่เข้าใจง่าย
00:09:44 → 00:09:47 ทีนี้ทำไมถึงต้องใช้อุปกรณ์ที่ต่างกัน ใช่ไหมคะ
00:09:47 → 00:09:48 นั่นน่ะสิครับ
00:09:48 → 00:09:49 ถ้าเสียงเหมือนกันนี่
00:09:49 → 00:09:53 สำหรับคนที่ยังไม่ใช่นักดนตรี หรือการฝึกทักษะใหม่ ๆ จะค่อนข้างยาก
00:09:53 → 00:09:53 อืม
00:09:53 → 00:09:56 เพราะเราจะนับไม่ถูกว่า สรุปว่าเราตีไปจังหวะที่เท่าไรแล้ว
00:09:56 → 00:09:57 เออ จริงด้วย จริงด้วย
00:09:57 → 00:10:01 แต่การที่เราได้ยินเสียงที่มีความแตกต่างกัน
00:10:01 → 00:10:04 การได้เห็นตำแหน่งที่มันวางแตกต่างกัน
00:10:04 → 00:10:06 มันจะทำให้เราเข้าใจง่ายขึ้นว่า
00:10:06 → 00:10:09 เอ๊ะ เมื่อกี้เราปฏิบัติจังหวะ หรือเคาะจังหวะที่เท่าไรแล้ว
00:10:09 → 00:10:10 อืม
00:10:10 → 00:10:13 สิ่งนี้คือสิ่งที่ง่ายสำหรับเริ่มต้น
00:10:13 → 00:10:15 อาจารย์เมย์ อย่างนี้ควรจะฝึกอย่างนี้นานสักเท่าไร
00:10:16 → 00:10:17 เล่นทั้งวันเลยไหม
00:10:17 → 00:10:22 จริง ๆ กิจกรรมนี้ไม่ได้มีระยะเวลาในการกำหนด ว่าจะต้องทำนานเท่าไรนะคะ
00:10:22 → 00:10:25 ขึ้นอยู่กับความสะดวก แล้วก็ความเหนื่อยล้าส่วนบุคคลของเราเลย
00:10:25 → 00:10:29 แต่ถ้าเราอยากที่จะ Challenge ตัวเองเนอะ หรือว่าเป็นการฝึกค่ะ
00:10:29 → 00:10:32 ก็ให้เลือกเป็นเพลง ๆ ดีกว่า
00:10:32 → 00:10:35 เพลงหนึ่ง ความยาวมันก็จะประมาณ 3-5 นาทีใช่ไหมคะ
00:10:35 → 00:10:37 ดังนั้น การฝึกประมาณ 3-5 นาทีต่อครั้งนี่
00:10:37 → 00:10:39 ก็จะช่วยในการเรื่องของเพิ่มสมาธิได้
00:10:39 → 00:10:42 อาจารย์เมย์ เพลงบางเพลงมันมีเนื้อร้องน่ะ
00:10:43 → 00:10:46 บางเพลงก็ไม่มีเนื้อร้อง อันไหนมันจะดีกว่ากันไหม
00:10:46 → 00:10:48 ดี ไม่ดี ต้องดูว่าเพลงนั้นถูกใช้งานอะไรค่ะ
00:10:48 → 00:10:49 ยังไง?
00:10:49 → 00:10:52 - อย่างกรณีที่เราเล่นจังหวะแบบนี้ค่ะ - ครับ
00:10:52 → 00:10:55 ถ้าเพลงมีเนื้อร้อง แล้วเพลงนั้นเป็นเพลงที่เราคุ้นเคย
00:10:55 → 00:10:56 แล้วเป็นเพลงที่เราชอบ
00:10:56 → 00:11:00 มันก็จะทำให้เราสนุกขึ้น แล้วก็ทำได้มากขึ้น ทำได้นานขึ้นใช่ไหมคะ
00:11:00 → 00:11:02 เท่ากับเราได้ฝึกสมองมากขึ้น
00:11:02 → 00:11:06 ดังนั้น เพลงที่มีเนื้อร้อง หรือเพลงที่มีทำนองที่เราคุ้นเคยค่ะ
00:11:06 → 00:11:09 มันกระตุ้นให้เราอยากทำในปริมาณที่มากกว่า แล้วก็สนุกกว่า
00:11:09 → 00:11:13 แล้วเพลงที่มีเนื้อร้องนี่ พอมันมีภาษาเข้ามาเกี่ยวข้องใช่ไหมคะ
00:11:13 → 00:11:17 นั่นแปลว่าสมองมันต้องเพิ่มการทำงาน ในการประมวลภาษาถูกไหม
00:11:17 → 00:11:19 แต่สำหรับเพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้องค่ะ
00:11:20 → 00:11:23 การตีความเสียงดนตรีต่าง ๆ มันเป็นประสบการณ์ส่วนบุคคล
00:11:23 → 00:11:28 เคยไหมคะที่ฟังเพลงบรรเลงอะไร แล้วมันเห็นภาพทะเล เห็นภาพภูเขา
00:11:28 → 00:11:29 เคย ๆ
00:11:29 → 00:11:31 นั่นล่ะค่ะ ก็เพราะว่าเพลงที่มันไม่มีเนื้อร้องนี่
00:11:31 → 00:11:35 มันไม่มีข้อจำกัดเรื่องของภาษา เข้ามาเกี่ยวข้องให้เราตีความนะคะ
00:11:35 → 00:11:39 ว่าทำนองในส่วนนี้ จังหวะแบบนี้ เพลงมันสื่อว่าอะไร
00:11:39 → 00:11:42 แต่สมองเรารับรู้ แล้วก็ตีความด้วยประสบการณ์ของเราเอง
00:11:42 → 00:11:45 ผมอยากที่จะให้อาจารย์เมย์ชวนคุณผู้ชมทางบ้าน
00:11:45 → 00:11:49 ได้เห็นถึงความสำคัญหรือประโยชน์ของดนตรี กับสมองของเราครับ
00:11:49 → 00:11:52 ดนตรีนะคะ ไม่ได้มีดีแค่การฟังนะคะ
00:11:52 → 00:11:55 การเล่นดนตรี การออกไปเต้นรำ หรือการฝึกดนตรีนี่
00:11:55 → 00:11:57 ก็ล้วนช่วยพัฒนาสมองนะคะ
00:11:57 → 00:12:01 ยิ่งกว่าการพัฒนาสมอง ก็คือช่วยให้เรามีความสุขกายสบายใจขึ้น
00:12:01 → 00:12:03 แล้วก็สารเคมีต่าง ๆ ที่เกิดจากความสุขนี่แหละ
00:12:03 → 00:12:06 ที่จะช่วยป้องกันสมองของเรา ให้เสื่อมช้าลงนะคะ
00:12:07 → 00:12:09 ยังไงก็ออกไปทำกิจกรรมดนตรีที่เรารักกันนะคะ
00:12:09 → 00:12:18 [เสียงดนตรี]