00:00:06 → 00:00:09 สวัสดีทุกท่านนะครับยินดีต้อนรับในการ
00:00:09 → 00:00:13 เข้ามาเรียนรู้เอ่อการเยียวยาตัวเองรูป
00:00:13 → 00:00:15 แบบหนึ่งนะครับซึ่งเราตั้งชื่อกิจกรรมนี้
00:00:15 → 00:00:19 ว่าหลังแผ่นดินไหวเรายังไหวกันอยู่ไหมนะ
00:00:19 → 00:00:22 ครับเอ่อด้วยความตระหนักว่าเหตุการณ์ที่
00:00:22 → 00:00:24 เป็นภัยพิบัติหรือเหตุการณ์ที่เป็นเรื่อง
00:00:24 → 00:00:27 สะเทือนใจหรือสะเทือนขวัญเนี่ยระบบร่าง
00:00:27 → 00:00:30 กายของแต่ละคนอาจจะยังคงมีอาการบางอย่าง
00:00:31 → 00:00:34 ที่รบกวนอยู่ได้นะครับดังนั้นพวกเรากลุ่ม
00:00:34 → 00:00:37 นึงนะครับซึ่งอาจจะเรียกก็ได้ว่าเป็นคนทำ
00:00:37 → 00:00:39 งานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์อาจจะเป็นกลุ่ม
00:00:39 → 00:00:41 ที่เรียกว่าเป็นนักจิตบำบัดด้วยนะครับ
00:00:42 → 00:00:45 เอ่อได้รวมตัวกันใช้ชื่อว่ากลุ่มอาสาดูแล
00:00:45 → 00:00:48 ใจหลังภัยพิบัติซึ่งกลุ่มนี้เนี่ยจริงๆ
00:00:48 → 00:00:52 แล้วก็รวมตัวกันจากกลุ่มของคนที่เรียนจิต
00:00:52 → 00:00:55 บำบัดสาขา Brain Spotting นะครับแต่
00:00:55 → 00:00:57 เนื่องจากเรามองเห็นว่าอนาคตภัยพิบัติใน
00:00:57 → 00:00:59 ประเทศจะเกิดขึ้นได้เรื่อย
00:00:59 → 00:01:01 และเราคิดว่าระบบที่เรากำลังจะวางเพื่อ
00:01:01 → 00:01:05 การดูแลนี้เนี่ยจะเปิดรับนักบำบัดหรือคน
00:01:05 → 00:01:09 ทำงานด้านการช่วยเหลือด้านอื่นๆที่
00:01:09 → 00:01:12 ต้องการมาช่วยกันดูแลคนที่ได้รับผลกระทบ
00:01:12 → 00:01:14 ผ่านระบบนี้ก็คือออนไลน์นะครับส่วนระบบใน
00:01:14 → 00:01:17 พื้นที่นี่เรายังไม่เกี่ยวอะไรนะครับเรา
00:01:17 → 00:01:19 ก็เลยตั้งชื่อว่ากลุ่มอาสาดูแลใจหลังภัย
00:01:20 → 00:01:22 พิบัติเมื่อไหร่ก็ตามที่มีเหตุภัยพิบัติ
00:01:22 → 00:01:26 แล้วเราคิดว่ามีพื้นที่ให้เราไปให้บริการ
00:01:26 → 00:01:28 เพื่อนมนุษย์ได้เราก็จะจัดเหมือนอย่างวัน
00:01:28 → 00:01:33 นี้นะครับวันนี้เป็นวันที่ 30 กรกฎาคม 256
00:01:33 → 00:01:37 นะครับ 4 เดือนหลังจากที่มีแผ่นดินไหวที่
00:01:37 → 00:01:39 เกิดขึ้นในประเทศเพื่อนบ้านและสั่น
00:01:39 → 00:01:42 สะเทือนมาถึงประเทศไทยนะครับเราจะจัดเวลา
00:01:42 → 00:01:45 ประมาณ 2 ช่โมงในการทำกิจกรรมร่วมกันนะ
00:01:45 → 00:01:48 ครับซึ่งในเบื้องต้นเนี่ยขอชี้แจงการ
00:01:48 → 00:01:51 เตรียมตัวสำหรับการเข้ากลุ่มย่อยนะครับ
00:01:51 → 00:01:54 สมาชิกทุกคนที่มาเข้าในชั้นเรียนหรือว่า
00:01:54 → 00:01:57 ห้องการเรียนรู้นี้นะครับ
00:01:57 → 00:02:00 เราได้ขอให้ทำแบบประเมินซึ่งเป็นแบบ
00:02:00 → 00:02:03 ประเมินเพื่อดูว่าท่านได้รับผลกระทบจาก
00:02:03 → 00:02:05 เหตุการณ์มากน้อยเพียงใดนะครับถ้าท่านไม่
00:02:05 → 00:02:08 ได้ทำแบบประเมินไม่ต้องกังวลนะครับไม่
00:02:08 → 00:02:11 ต้องทำตอนนี้รอจบแล้วอยากรู้เข้าไปทำนะ
00:02:11 → 00:02:14 ครับแต่ท่านที่ทำแบบประเมินแล้วนะครับ
00:02:14 → 00:02:16 แล้วเราได้ชี้แจงไปแล้วว่าคะแนนของท่าน
00:02:16 → 00:02:20 เนี่ยอยู่ในกลุ่มไหนนะครับเข้ามาแล้วขอ
00:02:20 → 00:02:23 ให้ใส่เลขหน้าชื่อตัวเองนะครับเพราะว่า
00:02:23 → 00:02:25 การจัดกลุ่มนี้เราจะจัดกลุ่มตามระดับ
00:02:25 → 00:02:26 คะแนน
00:02:26 → 00:02:29 เพื่อทำให้กิจกรรมที่เราทำเนี่ยเอ่อตอบ
00:02:29 → 00:02:32 สนองต่อกลุ่มนั้นๆได้ตรงขึ้นนะครับคนที่
00:02:32 → 00:02:36 ไม่ได้ทำก็ไม่ต้องใส่เลขหน้าเดี๋ยวทีมงาน
00:02:36 → 00:02:40 จะจัดให้กับท่านเองนะครับคราวนี้ผมจะใช้
00:02:40 → 00:02:44 เวลาช่วงแรกนี้ประมาณ 40 นาทีนะครับในการ
00:02:44 → 00:02:49 พูดคุยกันโดยก่อนอื่นก็ขอบคุณคนที่เรา
00:02:49 → 00:02:51 เรียกว่า facilitator หรือกระบวนกรนะครับ
00:02:52 → 00:02:55 ในกลุ่มกระบวนกรนี้เนี่ยก็มาด้วยเอ่อเอ่อ
00:02:55 → 00:02:59 คนที่มีเบื้องหลังคือ professional
00:02:59 → 00:03:01 background หรือว่าวุฒการศึกษาหรือการ
00:03:01 → 00:03:04 ปฏิบัติที่หลากหลายมากนะครับเอ่อเดี๋ยว
00:03:04 → 00:03:07 ท่านไปเจอกันในห้อง Facilitator ตอนที่
00:03:07 → 00:03:09 แบ่งกลุ่มย่อยแล้วกันนะครับผมหวังว่าฟาจะ
00:03:09 → 00:03:11 ไม่ว่าอะไรที่ไม่ได้แนะนำส่วนตัวให้ทุกที
00:03:11 → 00:03:14 ละคนนะครับเดี๋ยวตอนท้ายเราจะขอปิดท้าย
00:03:14 → 00:03:18 อีกทีนึงร่วมกันนะครับผมจะเริ่มต้นจากการ
00:03:18 → 00:03:21 ชี้แจงก่อนนะครับว่าในไลฟ์เนี่ยผมได้มี
00:03:21 → 00:03:23 โอกาสพูดไปแล้วทั้งหมด 5 ครั้งหลังเหตุ
00:03:23 → 00:03:26 การณ์แผ่นดินไหวนะครับแต่ในเดือนเมษายน
00:03:26 → 00:03:29 เนี่ยได้พูดถึงงานของปีเตอร์เลวีนและได้
00:03:29 → 00:03:33 พูดถึงความเข้าใจเรื่องของทรัมาหรือบาด
00:03:33 → 00:03:36 แผลทางใจซึ่งจริงๆแล้วทรัมเนี่ยแม้เราจะ
00:03:37 → 00:03:39 เรียกว่าบาดแผลทางใจแต่เรามีหลักฐานเพียง
00:03:39 → 00:03:42 พอที่รู้ว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในระบบ
00:03:42 → 00:03:45 สรีรวิทยาของเราระบบร่างกายของเราและใน
00:03:45 → 00:03:48 สมองของเรานะครับมันหมายถึงอาการรบกวนที่
00:03:48 → 00:03:51 เกิดขึ้นจากการมีประสบการณ์ที่รู้สึกถูก
00:03:51 → 00:03:55 คุกคามชีวิตโดยเฉพาะในขณะขนาดนั้นเรารู้
00:03:55 → 00:03:58 สึกได้ว่าเราสู้ก็ไม่ได้หนีก็ไม่ได้และ
00:03:58 → 00:04:01 เราทำอะไรก็ไม่ได้นะครับปัจจัยนี้คือ
00:04:01 → 00:04:06 ปัจจัยที่ทำให้สภาวะสมองระบบร่างกายจะมี
00:04:06 → 00:04:10 การปรับตัวต่อเหตุการณ์ครั้งนั้นซึ่งก่อ
00:04:10 → 00:04:12 ให้เกิดอาการที่ต่อเนื่องหลังจากเหตุ
00:04:12 → 00:04:16 การณ์จบลงนะครับแต่ละคนจะมีปฏิกิริยาต่อ
00:04:16 → 00:04:19 เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดบาดแผลเนี่ยไม่
00:04:19 → 00:04:21 เท่ากันไม่เหมือนกันด้วยนะครับขึ้นอยู่
00:04:22 → 00:04:25 กับระบบชีวภาพของเค้ากรรมพันธ์หรือ
00:04:25 → 00:04:28 พันธุกรรมของเขาประสบการณ์วัยเด็กหรือ
00:04:28 → 00:04:30 ประวัติที่เขาอาจจะเคยมีทรอม่าจากเรื่อง
00:04:30 → 00:04:34 อื่นตั้งแต่เกิดจนถึงอายุในปัจจุบันนะ
00:04:34 → 00:04:38 ครับหลังจากนั้นวันที่ 13 กรกฎาคมผมได้มี
00:04:38 → 00:04:42 โอกาสพูดถึงความเข้าใจเรื่อง PTSD หลัง
00:04:42 → 00:04:45 ภัยพิบัตินะครับโดยในวันนั้นผมได้อธิบาย
00:04:45 → 00:04:49 ถึงโรคทางจิตเวศที่ชื่อว่า PTSD หรือ Post
00:04:49 → 00:04:51 Traumatic Stress Disorder เนี่ยนะ
00:04:51 → 00:04:54 ครับมีอาการหลักๆอยู่ 3 อาการครับ 1 ก็
00:04:54 → 00:04:59 คือคนที่ผ่านเหตุการณ์นะครับเหตุการณ์ที่
00:04:59 → 00:05:03 สะเทือนคุกคามความรู้สึกปลอดภัยในชีวิต
00:05:03 → 00:05:06 หรือคุกคามชีวิตของเขาเนี่ยอาจจะมี
00:05:06 → 00:05:09 ประสบการณ์เหมือนเขาได้กลับไปมีอาการต่าง
00:05:09 → 00:05:11 ๆหรือประสบการณ์นั้นซ้ำนะครับเช่นอาจจะมี
00:05:11 → 00:05:14 ความจำแทรกเข้ามาเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุ
00:05:14 → 00:05:17 การณ์มีฝันร้ายหรือในกรณีนี้เราอาจจะมี
00:05:17 → 00:05:19 อาการเหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์ตอนแผ่นดิน
00:05:19 → 00:05:22 ไหวเช่นที่ส่งมาเป็นตัวอย่างก็คือโครง
00:05:22 → 00:05:26 เครลงมึนหัวทั้งๆที่เราไม่ได้มีสถานการณ์
00:05:26 → 00:05:29 ที่จะทำให้เรามีอาการเช่นนั้นสิ่งเหล่า
00:05:29 → 00:05:32 นี้เป็นอาการของประสบการณ์ซ้ำที่เป็นการ
00:05:32 → 00:05:34 ทำงานอย่างหนึ่งของระบบประสาทหรือระบบ
00:05:34 → 00:05:37 สมองของเรานะครับ 2 ก็คือคนที่มีอาการ
00:05:37 → 00:05:41 จำนวนนึงจะเริ่มมีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงหรือ
00:05:41 → 00:05:43 หลีกหนีสิ่งที่จะกระตุ้นให้นึกถึงเหตุ
00:05:43 → 00:05:46 การณ์หรือมีอาการอย่างข้อหนึ่งนะครับซึ่ง
00:05:46 → 00:05:49 มันจะมีสิ่งเร้าที่ทำให้เราเกิดอาการขึ้น
00:05:49 → 00:05:52 มาได้เช่นสิ่งเร้านี้อาจจะเป็นสิ่งที่
00:05:52 → 00:05:55 กระตุ้นให้ทำให้นึกถึงตอนนั้นเช่นคนที่ไป
00:05:55 → 00:05:59 อยู่ในตึกสูงแล้วมีอาการขนาดอยู่ในตึกสูง
00:05:59 → 00:06:01 พอขึ้นที่สูงตอนหลังก็ยังคงมีอาการมัน
00:06:02 → 00:06:05 เป็นตัวเร้าที่ทำให้มีอาการแล้วพอมีอาการ
00:06:05 → 00:06:07 ก็เลยพยายามหนีก็เลยเป็นเหตุให้คนจำนวน
00:06:07 → 00:06:10 หนึ่งไม่สามารถขึ้นตึกสูงไปที่ทำงานได้นะ
00:06:10 → 00:06:14 ครับหรือเป็นสิ่งเร้าภายในซึ่งส่วนใหญ่จะ
00:06:14 → 00:06:18 เป็นความนึกคิดหรือเป็นความทรงจำบางอย่าง
00:06:18 → 00:06:20 ที่พูดถึงว่ามันแทรกเข้ามานะครับหรือเป็น
00:06:20 → 00:06:24 อารมณ์เช่นเรามีความวิตกกังวลเรื่องอื่น
00:06:24 → 00:06:26 แต่ว่ามันไปปลุกเอาความกังวลตอนที่เรา
00:06:26 → 00:06:29 อยู่ในเหตุการณ์ขึ้นมาและความกังวลนี้ก็
00:06:29 → 00:06:32 นำเราไปเกิดอาการประสบการณ์ซ้ำใหม่ได้นะ
00:06:32 → 00:06:35 ครับอะไรก็ตามที่เป็นความรู้สึกในเวลาที่
00:06:35 → 00:06:38 เกิดเหตุถ้ามีเหตุอื่นที่กระตุ้นที่มี
00:06:38 → 00:06:41 อารมณ์คล้ายๆกันมันจะพาเรากลับไปสู่
00:06:41 → 00:06:43 ประสบการณ์นั้นเหมือนเรากลับเข้าไปอยู่ใน
00:06:43 → 00:06:45 เหตุการณ์นั้นใหม่นะครับตัวอย่างที่ท่าน
00:06:45 → 00:06:50 เคยดูในหนังก็จะเป็นทหารผ่านศึกที่ได้ยิน
00:06:50 → 00:06:52 เสียงประทัด
00:06:52 → 00:06:55 ซึ่งประทัดนี้เป็นสิ่งร้าวภายนอกพอมีสิ่ง
00:06:55 → 00:06:57 ร้าวภายนอกเป็นเสียงประทัดจะพาเขากลับไป
00:06:57 → 00:07:00 มีประสบการณ์ซ้ำเหมือนกลับไปอยู่ในเหตุ
00:07:00 → 00:07:03 การณ์นะครับในกลุ่มนี้ก็มีคนส่งมาว่าเเคย
00:07:03 → 00:07:06 ผ่านเหตุการณ์ในสงครามกลางเมืองในแถบ
00:07:06 → 00:07:09 แอฟริกาซึ่งหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
00:07:09 → 00:07:12 แล้วเนี่ยเวลาเได้ยินเสียงประทัดซึ่งเป็น
00:07:12 → 00:07:14 สิ่งเร้าภายนอกมันจะพาเขกลับไปมี
00:07:14 → 00:07:17 ประสบการณ์ซ้ำซึ่งประสบการณ์นั้นก็มีหลาก
00:07:17 → 00:07:20 หลายนะครับและแน่นอนครับมันก็จะนำให้เกิด
00:07:20 → 00:07:24 การหลีกหนีนะครับส่วนเขาจะหนียังไงอันนี้
00:07:24 → 00:07:27 ก็แล้วแต่ชีวิตแต่ละคนตัวที่ 3 นะครับที่
00:07:27 → 00:07:30 เป็นอาการของ PTSD ก็คือระบบประสาทของคน
00:07:30 → 00:07:34 กลุ่มนี้เนี่ยจะถูกปลุกให้มีความตื่นตัว
00:07:34 → 00:07:37 เขาจะมีความรู้สึกเหมือนยังมีความคุกคาม
00:07:37 → 00:07:39 เป็นอันตรายอยู่อย่างต่อเนื่องทั้งๆที่
00:07:39 → 00:07:43 เหตุการณ์นั้นจบลงแต่ระบบประสาทระบบสมอง
00:07:43 → 00:07:47 ของเค้ายังคงมีความตื่นกลัวและตื่นตัว
00:07:47 → 00:07:49 อยู่นะครับดังนั้นอาการในกลุ่มนี้ที่เจอ
00:07:49 → 00:07:53 ก็จะเป็นอาการของความระแวดระวังตื่นตกใจ
00:07:53 → 00:07:56 ง่ายไม่มีสมาธิอาจจะมีปัญหาการนอนเพราะ
00:07:56 → 00:07:59 เวลาที่เราถูกคุกคามจะเป็นอันตรายเนี่ย
00:07:59 → 00:08:01 มนุษย์เราหลับไม่ได้นะครับเพราะว่ามัน
00:08:01 → 00:08:04 เป็นระบบที่ทำให้เราต้องเอาตัวรอดก่อนอาจ
00:08:04 → 00:08:06 จะมีอารมณ์หงุดง่ายหรือคุมอารมณ์ไม่อยู่
00:08:06 → 00:08:10 เช่นระเบิดอารมณ์นะครับซึ่งนี่ก็เป็นคำ
00:08:10 → 00:08:13 อธิบายในเรื่องของ PTSD ในวันนั้นตัดออก
00:08:13 → 00:08:16 มาให้ดูทวนก่อนที่เราจะพูดคุยกันในวันนี้
00:08:16 → 00:08:19 นะครับสำหรับในวันนี้ก็มีคนส่งประวัติ
00:08:19 → 00:08:23 เข้ามาให้เราได้รับรู้นะครับคนแรกอันนี้
00:08:23 → 00:08:25 เป็นตัวอย่างนะครับคนแรกก็มีอาการมึนหัว
00:08:25 → 00:08:29 ใจสั่นเวลาที่นึกถึงวันแผ่นดินไหวแล้วก็
00:08:29 → 00:08:33 มีอาการกลัวจะล้มนะครับกลัวจะล้มเนี่ยผม
00:08:33 → 00:08:35 ก็เข้าใจว่าเป็นเพราะว่าเมีอาการมึนมึน
00:08:35 → 00:08:39 หัวนะครับงั้นสมาชิกท่านนี้ก็คล้ายกับยัง
00:08:39 → 00:08:42 มีเกณฑ์ข้อหนึ่งอยู่ในนั้นนะครับมีอาการ
00:08:42 → 00:08:45 ประสบการณ์ซ้ำอยู่และยังไม่ได้บอกถึง
00:08:45 → 00:08:48 เกณฑ์ข้อ 2 คือเขาหลีกหนีไม่ได้บอกถึง
00:08:48 → 00:08:51 เกณฑ์ข้อ 3 ชัดแต่อาจจะมีก็คือตรงใจสั่น
00:08:51 → 00:08:53 เนี่ยนะครับบอกไม่ได้ถ้าเใจสั่นอยู่
00:08:53 → 00:08:55 เรื่อยๆเนี่ยอาจจะเป็นระบบประสาทที่มัน
00:08:56 → 00:08:59 ยังทำงานเร่งเครื่องอยู่เนี่ยนะครับคนที่
00:08:59 → 00:09:01 2 บอกว่าบางครั้งยังรู้สึกโครงเครลงอยู่
00:09:01 → 00:09:04 นะครับคนที่ 3 มีอาการเป็นอารมณ์นะครับเ
00:09:04 → 00:09:07 ใช้คำว่ารู้สึกเศร้าใจกับสงสารกับเหตุ
00:09:07 → 00:09:10 การณ์ที่เกิดขึ้นผมเข้าใจว่ามันมีความ
00:09:10 → 00:09:14 สะเทือนใจมีความเศร้าใจมีความสงสารผู้ที่
00:09:14 → 00:09:16 ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์นั้นนะครับแต่
00:09:16 → 00:09:19 ไม่ได้ชัดว่าตัวเเองเนี่ยอาการเหล่านี้ลบ
00:09:19 → 00:09:22 รบกวนแค่ไหนนะครับเอ่อมีคนนึงก็เขียนมา
00:09:22 → 00:09:24 ว่าอยากได้เทคนิคที่ฝึกเองได้อยากได้เปิด
00:09:24 → 00:09:27 ประเมินนะครับซึ่งในวันนี้เนี่ยเราก็จะ
00:09:27 → 00:09:30 เน้นเทคนิคที่ฝึกเองได้แล้วท่านที่เข้ามา
00:09:30 → 00:09:33 ในนี้ก็ได้รับแบบประเมินไปแล้วนะครับท่าน
00:09:33 → 00:09:36 ที่ไม่ได้ทำท่านยังสามารถเข้าไปทำได้นะ
00:09:36 → 00:09:39 ครับแต่มีสมาชิกอยากจะรู้เกี่ยวกับโรคและ
00:09:39 → 00:09:41 วิธีปฏิบัติตัวนะครับไม่แน่ใจว่าท่านหมาย
00:09:41 → 00:09:44 ถึงโรคอะไรนะครับเข้าใจว่าน่าจะเป็นกลุ่ม
00:09:44 → 00:09:47 PTSD ถ้าเข้าใจไม่ผิดแล้วก็มีคนบอกว่าเ
00:09:47 → 00:09:50 ผ่านเหตุเหตุการณ์สงครามกลางเมืองในแถบ
00:09:50 → 00:09:54 แอฟริกาซึ่งลืมยากมาก
00:09:54 → 00:09:58 คำว่าลืมยากมากเนี่ยเข้าใจว่ามันมีความ
00:09:58 → 00:10:01 ทรงจำแทรกเข้ามาในระบบของเค้าซึ่งปกติ
00:10:02 → 00:10:04 แล้วความทรงจำที่แทรกเข้ามาจะเป็นสิ่งที่
00:10:04 → 00:10:08 เราควบคุมไม่ได้นะครับมันมีสิ่งกระตุ้น
00:10:08 → 00:10:11 เช่นเสียงประทัดปุ๊บนะครับมันแทรกเข้ามา
00:10:11 → 00:10:16 เลยแล้วความนึกคิดของเราเนี่ยจะถูกดึง
00:10:16 → 00:10:18 กลับไปเหมือนเรากำลังถูกท่วมด้วยสิ่งที่
00:10:18 → 00:10:20 ไม่เป็นเหตุผลในความรู้สึกของเราเช่นคิด
00:10:20 → 00:10:23 ว่าระเบิดจะลงนะครับซึ่งเป็นประสบการณ์
00:10:23 → 00:10:25 ที่ลำบากนะครับเพราะว่าเราจะรู้สึกว่าเรา
00:10:25 → 00:10:28 ควบคุมตัวเองไม่ได้
00:10:28 → 00:10:30 คนที่ 7 ก็เขียนมาว่าเค้าตระหนักว่าเค้า
00:10:30 → 00:10:33 มีความขี้กังวลและอ่อนไหวตามความรู้สึก
00:10:33 → 00:10:36 ของคนอื่นเข้าใจว่ามีอาการนี้ก่อนจะเกิด
00:10:36 → 00:10:40 เหตุหรือนะครับผมเดาว่าน่าจะมีมาก่อนถ้า
00:10:40 → 00:10:43 ใช่ก็คือมันมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับ
00:10:43 → 00:10:46 ท่านก่อนหน้านี้โดยเฉพาะวัยเด็กที่ทำให้
00:10:46 → 00:10:49 เรามีลักษณะเช่นนี้นะครับซึ่งนี้ก็เป็น
00:10:49 → 00:10:52 เอ่อสิ่งที่เราเจอบ่อยว่าอะไรบางอย่างที่
00:10:52 → 00:10:54 เกิดขึ้นในตัวเด็กช่วงที่เรายังช่วยเหลือ
00:10:54 → 00:10:57 ตัวเองได้น้อยเนี่ยมันจะฝังอยู่ในระบบ
00:10:57 → 00:11:00 สมองระบบประสาทของเราได้สุดท้ายนะครับตัว
00:11:00 → 00:11:02 อย่างก็คือ
00:11:02 → 00:11:05 สมาชิกที่บอกว่า
00:11:05 → 00:11:07 รู้สึกเหมือนขังตัวเองอยู่ในความกังวล
00:11:07 → 00:11:10 อยากออกมาแต่ไม่รู้จะออกยังไงนะครับผมก็
00:11:10 → 00:11:14 เดาว่าน่าจะอยู่ในกลุ่มของกลุ่มคนที่ 7
00:11:14 → 00:11:18 เหมือนกันคือมีอาการเรื้อรังแล้วก็เข้ามา
00:11:18 → 00:11:20 โดยหวังว่าอาจจะมีบทเรียนบางอย่างที่เป็น
00:11:20 → 00:11:22 ประโยชน์กับท่าน
00:11:22 → 00:11:25 ซึ่งตอบได้ว่าทักษะที่จะฝึกในวันนี้เป็น
00:11:25 → 00:11:28 ทักษะที่เป็นประโยชน์กับคนที่มีความวิตก
00:11:28 → 00:11:31 กังวลเรื้อรังด้วยนะครับเราได้แจกแบบ
00:11:31 → 00:11:34 ประเมินนะครับไปนะครับและในแบบประเมินนี้
00:11:34 → 00:11:38 เนี่ยเป็นการแปลมานะครับจากฉบับภาษา
00:11:38 → 00:11:41 อังกฤษภาษาอังกฤษเรียกว่า PTSD Checklist
00:11:41 → 00:11:44 for DSM 5 นะครับซึ่งเป็นแบบคัดกรอง
00:11:44 → 00:11:47 สำหรับคนอายุ 18 ปีขึ้นไปทีมงานที่เป็น
00:11:47 → 00:11:51 นักจิตวิทยาคลินิกคนนึงได้ช่วยหามาให้
00:11:51 → 00:11:54 แล้วก็มีการแปลผลนะครับถ้าท่านทำตามนั้น
00:11:54 → 00:11:56 คนที่มีคะแนนสูงก็น่าสงสัยว่าอาจจะเข้า
00:11:57 → 00:12:00 เกณฑ์ PTSD นะครับ
00:12:00 → 00:12:03 แต่ว่าเขาจะแนะนำว่าควรจะไปประเมินเพิ่ม
00:12:03 → 00:12:06 เติมโดยผู้เชี่ยวชาญด้าน PTSD นะครับดัง
00:12:06 → 00:12:09 นั้นวันนี้เราก็จะเตรียมตัวแบบนี้ครับ
00:12:09 → 00:12:11 กิจกรรมวันนี้มีวัตถุประสงค์หลักๆอยู่ 2
00:12:11 → 00:12:15 ข้อเลยนะครับ 1 ก็คือเราจะช่วยฝึกทักษะ
00:12:15 → 00:12:18 ช่วยคลายความตื่นกลัวของสมองและร่างกาย
00:12:18 → 00:12:21 ของท่านซึ่งอาจจะเรียกว่าเป็นทักษะผ่อน
00:12:21 → 00:12:25 คลายก็ได้สร้างความสงบช่วยพักร่างกายก็
00:12:25 → 00:12:28 ได้นะครับภาษาอังกฤษตัวที่อาจจะรวมตรงที่
00:12:28 → 00:12:31 สุดเราอยากจะเรียกเป็นคำรวมๆว่า
00:12:31 → 00:12:33 stabilization technic นะครับซึ่งหมาย
00:12:34 → 00:12:37 ถึงเทคนิคเพื่อช่วยความนิ่งหรือความ
00:12:37 → 00:12:40 เสถียรของระบบประสาทของเราให้ดีขึ้นและ
00:12:40 → 00:12:44 เราจะมีพื้นที่ตอบคำถามข้อสงสัยนะครับโดย
00:12:44 → 00:12:47 เราแบ่งเวลาแบบนี้นะครับเราจะใช้เวลาช่วง
00:12:47 → 00:12:51 แรกบรรยายสั้นซึ่งผมกำลังทำอยู่และเดี๋ยว
00:12:51 → 00:12:53 จะจบแล้วจากหน้านี้นะครับจากนั้นเราจะฝึก
00:12:53 → 00:12:57 ร่วมกันในกลุ่มใหญ่ซึ่งจะมีการฝึกไปด้วย
00:12:57 → 00:13:00 กันจากนั้นเราจะจัดท่านเข้าสู่ห้องย่อย
00:13:00 → 00:13:03 เพื่อได้ฝึกทักษะเป็นหลักในเวลา 50 นาที
00:13:04 → 00:13:07 ร่วมกันและตอบคำถามในกลุ่มย่อยนั้นนะครับ
00:13:07 → 00:13:09 โดยกลุ่มย่อยนั้นเนี่ยเราได้ชี้แจงแล้ว
00:13:09 → 00:13:12 ว่าให้ใส่หมายเลขประจำตัวอย่างไรหรือท่าน
00:13:12 → 00:13:15 ที่ไม่ได้ใส่ทำแบบประเมินไว้ก็ไม่ต้องใส่
00:13:15 → 00:13:17 หมายเลข
00:13:17 → 00:13:19 และช่วงท้ายครับเรามาเจอจะกลับมาเจอกันใน
00:13:19 → 00:13:22 ห้องใหญ่ห้องรวมอีกทีนึงนะครับในห้องรวม
00:13:22 → 00:13:25 นี้นะครับผมอยากให้คนที่เป็น facilitator
00:13:25 → 00:13:28 เนี่ยนะครับซึ่งก็อย่างที่บอกครับเป็นคน
00:13:28 → 00:13:32 ที่เรียนจิตบำบัดมาเป็นคนที่ทำงานที่
00:13:32 → 00:13:35 เกี่ยวข้องกับเพื่อนมนุษย์เอ่อมีทั้งคน
00:13:35 → 00:13:38 ที่อยู่ในสายวิชาชีพโดยตรงทั้งจิตวิทยา
00:13:38 → 00:13:41 คลินิกทั้งจิตแพทย์มีทั้งสายที่ไม่ถึงกับ
00:13:41 → 00:13:45 ตรงคือแพทย์สาขาต่างๆนะครับรวมจนถึงกับคน
00:13:45 → 00:13:49 ที่เอ่ออยู่ในสาขาเกี่ยวเนื่องทางอ้อมๆนะ
00:13:49 → 00:13:52 ครับเดี๋ท่านจะรู้จักพวกเค้าในกลุ่มย่อย
00:13:52 → 00:13:55 แต่ทุกคนเนี่ยเข้ามาเพราะว่า 1 นะครับ
00:13:55 → 00:13:57 กิจกรรมวันนี้ไม่ใช่กิจกรรมบำบัดหรือ
00:13:57 → 00:14:00 เยียวยานะครับกิจกรรมวันนี้เพียงเน้นการ
00:14:00 → 00:14:05 ฝึกทักษะและก็ช่วยตอบคำถามให้ท่านเข้าใจ
00:14:05 → 00:14:07 ซึ่งอาจจะรวมถึงการให้คำแนะนำในแหล่ง
00:14:08 → 00:14:11 ปรึกษาต่อได้ได้เนี่ยนะครับเราก็จะเข้า
00:14:11 → 00:14:14 ทักษะชุดที่ 1 นะครับผมจะฉายหน้าจอสั้นๆ
00:14:14 → 00:14:17 แล้วเดี๋ยวเราจะเจอกันตรงกลางห้องกันนะ
00:14:17 → 00:14:22 ครับเอ่อสไลด์นี้นะครับหลังจากเสร็จแล้ว
00:14:22 → 00:14:27 ผมจะส่งให้กับ Line ของกลุ่มผู้เรียนซึ่ง
00:14:27 → 00:14:29 มาสมัครไว้อยู่ในกลุ่ม Line นะครับท่าน
00:14:29 → 00:14:33 ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่ม Line เอ่อไม่เป็นไร
00:14:33 → 00:14:35 ท่านถ่ายหน้าจอไปแล้วกันเพราะว่าทักษะ
00:14:35 → 00:14:37 เหล่านี้จะมีอยู่ด้วยกัน 5 หน้าเท่านั้น
00:14:37 → 00:14:42 นะครับก็จะถือว่าจบนะครับอันนี้ทักษะหน้า
00:14:42 → 00:14:45 นี้นะครับผมจะเอาหน้าจอจลงแล้วผมจะคุยกับ
00:14:45 → 00:14:48 ท่านนะครับ
00:14:48 → 00:14:53 ก็จะเป็นทักษะชุดที่ 1 นะครับซึ่งตอนนี้
00:14:53 → 00:14:57 ผมจะเอาสปอตไลท์ผมออกนะครับเราจะทำไปด้วย
00:14:57 → 00:14:59 กันนะครับผมหวังว่าท่านจะกำลังนั่งอยู่บน
00:15:00 → 00:15:04 เก้าอี้นะครับแล้วก็ในทักษะนี้เนี่ยเริ่ม
00:15:04 → 00:15:11 ต้นก็คือเราจะเชิญชวนให้ท่านลองสังเกต
00:15:11 → 00:15:17 ด้วยการใส่ใจความรู้สึกของก้นของท่านที่
00:15:17 → 00:15:19 วางอยู่บนเก้าอี้
00:15:19 → 00:15:23 ซึ่งปกติแล้วเราก็นั่งของเราก้นของเราก็
00:15:23 → 00:15:26 วางแบบนั้นแต่ตอนนี้เรากำลังชวนท่านว่า
00:15:26 → 00:15:31 ให้ลองเปิดรับความรู้สึกของก้นที่วางอยู่
00:15:31 → 00:15:33 บนเก้าอี้
00:15:33 → 00:15:37 แล้วลองสังเกตดูว่าท่านรับรู้อะไรได้บ้าง
00:15:37 → 00:15:41 สังเกตดูด้วยว่าเวลาที่เอาใจของเรา
00:15:41 → 00:15:45 ไปกำหนดการรับรู้ที่ก้นที่วางอยู่บน
00:15:45 → 00:15:47 เก้าอี้
00:15:47 → 00:15:50 มันเป็นประสบการณ์ยังไงนะครับซึ่งราย
00:15:50 → 00:15:53 ละเอียดตรงนี้เดี๋ไปคุยกันในกลุ่มย่อยได้
00:15:53 → 00:15:56 ครับ 2 ก็คือลอง
00:15:56 → 00:16:00 รับรู้หลังของท่านที่พิงพนักคนส่วนใหญ่
00:16:00 → 00:16:03 เวลานั่งก็จะใช้หลังพิงพนักนะครับปกติ
00:16:03 → 00:16:07 แล้วเราก็นั่งโดยไม่ได้สังเกตว่า
00:16:07 → 00:16:09 ไอ้หลังที่พิงพนักนี่มันเป็นความรู้สึก
00:16:09 → 00:16:13 ยังไงตอนนี้ก็จะขอเชิญชวนท่านสังเกตความ
00:16:14 → 00:16:17 รู้สึกหรือประสบการณ์ของท่านเวลาที่ท่าน
00:16:17 → 00:16:22 วางหลังของท่านพิงอยู่พนักนะครับ
00:16:22 → 00:16:27 จากนั้นลองสังเกตความรู้สึกของท่านที่ฝ่า
00:16:27 → 00:16:32 เท้าที่วางราบไปบนพื้นสังเกตดูว่าเมื่อ
00:16:32 → 00:16:36 เราใส่ใจความรู้สึกของเรา
00:16:36 → 00:16:40 ที่ฝ่าเท้าของเราฝ่าเท้าที่วางราบไปกับ
00:16:40 → 00:16:43 พื้นมันรับรู้อะไรบ้าง
00:16:43 → 00:16:45 ผมจะขยายความให้ฟังดูนะครับว่าท่านจะเปิด
00:16:45 → 00:16:49 รับอะไรได้บ้าง 1 ก็คือฝ่าเท้าที่วางอยู่
00:16:49 → 00:16:51 ที่พื้น
00:16:51 → 00:16:55 ท่านรับรู้น้ำหนักของฝ่าเท้าที่วางลงพื้น
00:16:55 → 00:16:57 อย่างไร
00:16:57 → 00:17:01 ท่านอาจจะรู้สึกได้ว่าในฝ่าเท้าของท่าน
00:17:01 → 00:17:04 ทั้งฝ่าเท้าเนี่ยแต่ละจุดมันลงน้ำหนักไม่
00:17:04 → 00:17:09 เท่ากันบางจุดดูเหมือนมันรับน้ำหนักมาก
00:17:09 → 00:17:12 กว่าบางจุดลองสังเกตดูว่าความรู้สึกในน้ำ
00:17:12 → 00:17:17 หนักของฝ่าเท้าที่วางลงบนพื้นเป็นยังไง
00:17:17 → 00:17:21 จากนั้นลองสังเกตดูว่าฝ่าเท้าของท่านที่
00:17:21 → 00:17:24 วางอยู่บนพื้น
00:17:24 → 00:17:28 มันรับสัมผัสของพื้นผิวอย่างไรนะครับถ้า
00:17:28 → 00:17:31 ท่านไม่ได้ใส่ถุงเท้าไม่ได้ใส่รองเท้า
00:17:31 → 00:17:36 แล้ววางฝ่าเท้าของท่านลมบนพื้นเรียบท่าน
00:17:36 → 00:17:40 รับรู้ได้มว่าพื้นนั้นมีผิวเรียบนะครับ
00:17:40 → 00:17:44 หรือถ้าพื้นนั้นเป็นพรหมท่านรับรู้ได้
00:17:44 → 00:17:47 มั้ยว่ามันมีความนุ่มของพรหมอย่างไรถ้า
00:17:47 → 00:17:51 ท่านใส่ถุงเท้าลองดูว่าท่านรับรู้ประสาท
00:17:51 → 00:17:54 สัมผัสที่ฝ่าเท้าที่ใส่ถุงเท้าที่วางบน
00:17:54 → 00:17:57 พื้นได้มั้ย
00:17:57 → 00:18:01 และท่านรับรู้ได้มยว่า
00:18:01 → 00:18:05 ฝ่าเท้าของท่านกำลังสัมผัสพื้นผิวที่มี
00:18:05 → 00:18:09 อุณหภูมิแบบไหนนะครับมันให้ความรู้สึก
00:18:09 → 00:18:11 เย็น
00:18:11 → 00:18:14 หรือไม่เย็นหรือร้อนหรืออุ่นมันแล้วแต่
00:18:14 → 00:18:17 อุณหภูมิที่พื้นที่ท่านวางอยู่นะครับงั้น
00:18:17 → 00:18:21 ประสาทสัมผัสของเราที่เราวางอยู่บนสิ่ง
00:18:21 → 00:18:25 ต่างๆมันมีรายละเอียดของข้อมูลที่เรา
00:18:25 → 00:18:28 สามารถใส่ใจและเมื่อเราใส่ใจกับประสาท
00:18:28 → 00:18:30 สัมผัส
00:18:30 → 00:18:32 ท่านลองสังเกตดูว่ามันส่งผลกับประสบการณ์
00:18:32 → 00:18:36 ของท่านอย่างไรนะครับอันนี้ในคำบรรยาย
00:18:36 → 00:18:40 ทั้งหมดเป็นกิจกรรมที่ 1 คือกิจกรรมของ
00:18:40 → 00:18:43 การรับรู้ความรู้สึกของตัวเราที่นั่งอยู่
00:18:43 → 00:18:45 บนเก้าอี้นะครับกิจกรรมเหล่านี้ดูเหมือน
00:18:45 → 00:18:48 ไม่มีอะไรนะครับแต่มันสามารถดึงจิตใจของ
00:18:48 → 00:18:52 ท่านที่กำลังมีสิ่งสั่นไหวเนี่ยให้มัน
00:18:52 → 00:18:55 กลับมามีที่พักให้มันนิ่งได้ดีขึ้นซึ่ง
00:18:55 → 00:18:58 เป็นกิจกรรมที่ 1 นะครับ
00:18:59 → 00:19:02 ระหว่างที่มีกิจกรรมนี้นะครับที่ผมจะชี้
00:19:02 → 00:19:07 แจงต่อถ้าท่านไหนมีข้อสงสัยเอ่อ
00:19:07 → 00:19:11 แล้วรู้สึกว่าต้องอยากรู้มากๆให้ให้ชูมือ
00:19:11 → 00:19:14 จะเป็นมือดิจิตัลก็ได้ถ้าท่านทำเป็นถ้า
00:19:14 → 00:19:16 ไม่ได้ก็ชูมือพวกเราจะช่วยกันดูว่าท่านชู
00:19:16 → 00:19:19 มือมนะครับแต่แปลว่าท่านเปิดไมค์เป็นแล้ว
00:19:19 → 00:19:24 คุยเป็นนะครับถ้าไม่ไม่สะดวกรอไปคุยกลุ่ม
00:19:24 → 00:19:27 ย่อยแล้วไปถามกันในกลุ่มย่อยได้นะครับ
00:19:27 → 00:19:30 จากนั้นเราจะมาเข้าสู่กิจกรรมที่ 2 นะ
00:19:30 → 00:19:33 ครับกิจกรรมที่ 2
00:19:33 → 00:19:37 เราเรียกว่าเป็นกิจกรรมการเคาะห์นะครับ
00:19:37 → 00:19:38 เคาะห
00:19:38 → 00:19:44 ร่างกายนะครับซึ่งผมจะสotไลท์ตัวเองให้มี
00:19:44 → 00:19:48 ภาพที่ใหญ่ขึ้นนะครับการข้อร่างกายเนี่ย
00:19:49 → 00:19:51 มีหลักการคล้ายๆกันกับเมื่อกี้นี้นะครับ
00:19:51 → 00:19:54 ก็คือเรากำลังสร้างการรับรู้ขึ้นในร่าง
00:19:54 → 00:19:58 กายของเราวิธีการเคาะก็เริ่มต้นจากการฝ่า
00:19:58 → 00:20:05 มือนึงเคาะอีกฝ่ามือนึงนะครับ
00:20:05 → 00:20:13 แล้วก็หลังมือก็ได้เสร็จแล้วเราก็แค่ไล่
00:20:13 → 00:20:15 ท่านสามารถทำตามไปด้วยกันได้เลยนะครับ
00:20:15 → 00:20:17 สังเกตดูว่าเวลาที่เคาะห์นี่มันเกิด
00:20:18 → 00:20:22 ประสบการณ์ยังไงนะครับ
00:20:22 → 00:20:29 เนาะไล่ไป
00:20:29 → 00:20:32 แน่นอนครับท่านสามารถเคาะทุกส่วนในตัว
00:20:32 → 00:20:36 ท่านซึ่งถ้าท่านเคาะตัวเองไล่จากข้างหน้า
00:20:36 → 00:20:40 ไปที่หน้าขาไปที่แข้งไปที่น่องนะครับแล้ว
00:20:40 → 00:20:43 ถ้าท่านยืนแล้วก็เคาะไล่ไปนะครับจากหลัง
00:20:44 → 00:20:47 ที่ท่านเคาะถึงเป็นก้นไปหลังตอนต้นขาด้าน
00:20:47 → 00:20:50 หลังไปที่น่องแล้วถ้าท่านก้มได้ท่านก็ไป
00:20:50 → 00:20:53 ขะเคาะทีหลังขาดูเนี่ยนะครับมันจะเกิด
00:20:53 → 00:20:56 เป็นประสบการณ์อีกแบบหนึ่งซึ่งผมเชื่อว่า
00:20:56 → 00:21:00 ท่านที่ทำอยู่จะรับรู้ได้ว่ามันกำลัง
00:21:00 → 00:21:02 สร้างประสบการณ์ในร่างกายในอีกรูปแบบ
00:21:02 → 00:21:05 หนึ่งเมื่อเทียบกับบางครั้งที่เรานั่ง
00:21:05 → 00:21:06 อยู่เฉย
00:21:06 → 00:21:09 เราใจเราจะคิดไปโน่นไปนี่เนี่ยการเคาะห์
00:21:09 → 00:21:13 จะสร้างประสบการณ์ใหม่ซึ่ง 2 ตัวอย่างแรก
00:21:13 → 00:21:17 เป็นเหมือนสิ่งที่ดึงตัวเรากลับมาอยู่กับ
00:21:17 → 00:21:22 ตัวเรากลับมารู้เนื้อรู้ตัวกลับมามีสติ
00:21:22 → 00:21:25 อยู่กับปัจจุบันนะครับอันนี้คือกิจกรรม
00:21:25 → 00:21:29 ที่ 2 นะครับในกิจกรรมที่ 3 นะครับเป็น
00:21:29 → 00:21:32 กิจกรรม
00:21:32 → 00:21:35 ของการบีบนวดนะครับบีบนวด
00:21:35 → 00:21:38 บีบนวดยังไงนะครับท่านไม่ต้องรู้ความรู้
00:21:38 → 00:21:41 มากเลยนะครับบีบนวดก็คือบีบนวดคล้ายๆกับ
00:21:41 → 00:21:44 เคาะหเมื่อกี้นี้เลยนะครับเราก็เริ่มต้น
00:21:44 → 00:21:47 จากการนวด
00:21:47 → 00:21:53 นะครับท่านจะทำด้วยความ
00:21:53 → 00:21:55 จะทำด้วยความ
00:21:55 → 00:22:00 ใส่ใจนะครับซึ่งเวลาเรานวดแบบนี้เนี่ยมัน
00:22:00 → 00:22:05 จะมีความรู้สึกที่แขนที่กำลังถูกนวดนวด
00:22:05 → 00:22:09 และแน่นอนว่าเรายังรู้สึกที่แขนที่กำลัง
00:22:09 → 00:22:12 นวดด้วยนะครับแต่เรากำลังใส่ใจฝ่ายที่ถูก
00:22:13 → 00:22:17 นวดมากหน่อยนึงนะครับการบีบนวดนี้จะให้
00:22:17 → 00:22:21 ประสบการณ์ความรู้สึกที่แตกจากการเคาะห์
00:22:21 → 00:22:24 ท่านลองทำดูแล้วลองดูว่าแบบไหนที่มันทำ
00:22:24 → 00:22:27 ให้ท่านกลับมาอยู่กับตัวเองได้ดีขึ้นคำ
00:22:27 → 00:22:31 ว่ากลับมาอยู่กับตัวเองเนี่ยเหมือนกับเรา
00:22:31 → 00:22:34 ที่เมื่อกี้นี้ใช้คำว่ารู้เนื้อรู้ตัวคือ
00:22:34 → 00:22:36 มันเหมือนกับเรากลับมาเชื่อมกลับมารับรู้
00:22:36 → 00:22:39 ตัวเรานะครับ
00:22:39 → 00:22:42 ร่างกายส่วนอื่นท่านนวดโดยเอาใช้ความรู้
00:22:42 → 00:22:44 สึกแล้วกันว่าจะนวดแบบไหนอันนี้คือ
00:22:44 → 00:22:49 กิจกรรมแบบที่ 3 นะครับทวนนะครับเดี๋ยวผม
00:22:49 → 00:22:52 จะฉายขึ้นจอให้ดูว่าเราไปถึงไหนแล้วนะ
00:22:52 → 00:22:55 ครับอันนี้คือกิจกรรมชุดที่ 1 กิจกรรมชุด
00:22:55 → 00:22:57 ที่ 1
00:22:57 → 00:23:02 เราเริ่มต้นจากการรับรู้ก้น
00:23:03 → 00:23:07 จากการรับรู้หลังจากการรับรู้ฝ่าเท้าซึ่ง
00:23:07 → 00:23:09 มีรายละเอียด
00:23:09 → 00:23:13 นะครับจากนั้นเราเคาะเบาๆไล่ไปตามส่วน
00:23:13 → 00:23:18 ต่างๆจากนั้นเราบีบนวดไล่ไปตามส่วนต่างๆ
00:23:18 → 00:23:21 กิจกรรมที่ 4 สาธิตไม่ได้นะครับแต่ว่า
00:23:21 → 00:23:24 ท่านสามารถทดลองทำที่บ้านได้ก็คือเปิดฝัก
00:23:24 → 00:23:29 บัวให้แรงพอประมาณแล้วให้น้ำที่พุ่งออกมา
00:23:29 → 00:23:31 นี้ได้ไล่สัมผัสไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย
00:23:32 → 00:23:33 นะครับ
00:23:33 → 00:23:38 ซึ่งในหนังสือของดร.ปีเตอร์เลวเนี่ยเค้า
00:23:38 → 00:23:43 พูดถึงการมีฝักบัวที่แบบมีแรงแบบอ่าแรง
00:23:43 → 00:23:45 เบาแรงเบาสลับกันบ้านผมไม่มีนะครับแต่ผม
00:23:46 → 00:23:48 นึกออกว่าถ้าเรามีฝักบัวแบบนั้นเนี่ยมัน
00:23:48 → 00:23:50 จะเป็นการกระตุ้นผิวกายและความรู้สึกใน
00:23:50 → 00:23:55 ตัวเรานะครับทั้ง 4 ตัวอย่างนี้หลักการ
00:23:55 → 00:23:59 มันมีแค่ว่าเป็นการนำตัวเรากลับมาอยู่กับ
00:23:59 → 00:24:03 ประสบการณ์ในร่างกายแบบง่ายๆซึ่งเป็น
00:24:03 → 00:24:09 เบสิคที่สุดของการจะพาให้ใจของเรากลับมา
00:24:09 → 00:24:11 อยู่กับตัวแล้วก็นิ่งขึ้นได้นะครับซึ่ง
00:24:11 → 00:24:14 แต่ละคนจะมีการตอบสนองต่อแต่ละเทคนิคที่
00:24:14 → 00:24:16 เรากำลังจะเรียนรู้ร่วมกันเนี่ยแตกต่าง
00:24:16 → 00:24:19 กันนะครับส่วนตัวสุดท้ายนะครับในหน้านี้
00:24:19 → 00:24:21 นะครับเอ่อ
00:24:21 → 00:24:26 มันคือการใช้มือ 2 ข้าง
00:24:26 → 00:24:29 วัตถุจากมือซ้ายไปมือขวามือขวาไปมือซ้าย
00:24:29 → 00:24:33 สลับกันนะครับซึ่งการส่งวัตถุนี้ผมยกตัว
00:24:33 → 00:24:36 อย่างนะครับผมกำลังถือไอ้ตลับแอ Airpod
00:24:36 → 00:24:41 นะครับท่านก็
00:24:41 → 00:24:45 ถือไว้แล้วก็ส่งนะครับ
00:24:45 → 00:24:48 ดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ถ้าท่านใส่ใจมันดีๆ
00:24:48 → 00:24:53 นะครับท่านจะรู้ได้ว่ามันกำลังมีส่วนใน
00:24:53 → 00:24:58 การกำหนดความสนใจของท่านและในเวลานี้ท่าน
00:24:58 → 00:25:01 จะพบว่ามันมีประสบการณ์ภายในใจที่แตกต่าง
00:25:01 → 00:25:06 จากถ้าท่านนั่งอยู่เฉยๆนะครับถ้าท่านชอบ
00:25:06 → 00:25:09 เอ่อของอื่นๆที่มีความนุ่มท่านสามารถ
00:25:09 → 00:25:12 เลือกมาได้นะครับจะเป็นวัตถุอะไรก็ได้
00:25:12 → 00:25:16 ยิ่งถ้าเป็นวัตถุนุ่มๆเป็นของที่ท่านถือ
00:25:16 → 00:25:19 แล้วรู้สึกว่ามันมีความหมายก็ได้เช่นผม
00:25:19 → 00:25:23 เคยสาธิตโดยใช้สิ่งที่เป็นเครื่องรางนะ
00:25:23 → 00:25:28 ครับหรือบางคนใช้คริสตัลการส่งซ้ายขวาก็
00:25:28 → 00:25:31 เป็นหนึ่งในกระบวนการนำเรากลับมาอยู่กับ
00:25:31 → 00:25:34 ตัวเองนะครับผมอยากจะชวนทุกท่านอย่านั่ง
00:25:34 → 00:25:36 ดูเฉยนะครับท่านอาจจะคิดว่าท่านจะมาเอา
00:25:36 → 00:25:40 ความรู้ถ้าท่านนั่งดูเฉยๆท่านจะไม่ได้
00:25:40 → 00:25:43 ประสบการณ์การเรียนรู้ที่แท้จริงไม่ได้
00:25:43 → 00:25:46 นั่งฟังและคิดตามนะครับนั่นไม่ใช่การ
00:25:46 → 00:25:48 เรียนรู้ตลอดชีวิตของเราเราเข้าใจว่านั่น
00:25:48 → 00:25:50 คือการเรียนรู้ซึ่งมันไม่ได้เกิดการเรียน
00:25:50 → 00:25:52 รู้ครับถ้าท่านฟังไปเรื่อยๆนะครับนั้นขอ
00:25:52 → 00:25:55 ให้ทำไปด้วยแล้วก็ตอนเข้ากลุ่มย่อยขอให้
00:25:55 → 00:25:58 ท่านฝึกนะครับเพราะถ้าท่านไม่ฝึก
00:25:58 → 00:26:01 ผมไม่อยากบอกว่าท่านอาจจะเสียเวลาเสีย
00:26:01 → 00:26:03 เวลาเปล่าโดยไม่ไม่รู้ตัวนะครับเพงนั้น
00:26:03 → 00:26:06 พยายามทำตามเวลาทำตามเนี่ยใส่ใจกับมันนะ
00:26:06 → 00:26:09 ครับไม่ใช่ทำแบบใจลอยนะครับใส่ใจกับมัน
00:26:09 → 00:26:12 แล้วท่านจะรู้ว่าความสามารถในการจดจ่อของ
00:26:12 → 00:26:17 เราต่อกิจกรรมง่ายๆสามารถดึงตัวเรากลับมา
00:26:17 → 00:26:21 อยู่ในปัจจุบันได้เพราะกระบวนการของการ
00:26:21 → 00:26:24 ที่ใจของเรากลับเข้าไปอยู่ในประสบการณ์
00:26:24 → 00:26:28 ที่เกิดขึ้นในอดีตเนี่ยส่วนนึงมันเป็นการ
00:26:28 → 00:26:30 ทำงานของสมองและระบบประสาทนะครับแต่อีก
00:26:30 → 00:26:33 ส่วนนึงเนี่ยเวลาที่ท่านต้องการดึงตัวเอง
00:26:33 → 00:26:37 กลับมาเนี่ยชุดแรกนี้ก็เป็นชุดง่ายๆที่จะ
00:26:37 → 00:26:40 ดึงท่านกลับมานะครับคราวนี้เรามาเข้าสู่
00:26:40 → 00:26:44 ชุดที่ 2 นะครับในชุดที่ 2 นี้เนี่ย
00:26:44 → 00:26:49 ประกอบไปด้วยทักษะอีก 4 ตัวนะครับซึ่งผม
00:26:49 → 00:26:53 ดูจากเวลาละผมน่าจะทำให้ 3 ตัวนะครับแล้ว
00:26:53 → 00:26:56 ก็ตัวที่ 4 เนี่ยอาจจะลองดูว่ากลุ่มย่อย
00:26:56 → 00:26:58 ทันมนะครับเพราะผมคิดว่าวันนี้อยากให้มี
00:26:58 → 00:27:02 เวลาในกลุ่มย่อยมากเป็นพิเศษนะครับเทคนิค
00:27:02 → 00:27:04 ที่ 1 นะครับเราเรียกว่าเทคนิเทคนิค 5 4
00:27:04 → 00:27:07 3 2 1 นะครับแต่ว่าเวลาทำจริงผมมักจะ
00:27:07 → 00:27:10 ทำ 5 กับ 4 หรืออย่างมากก็ 3 นะครับคือ
00:27:10 → 00:27:14 เราจะดูว่าเราเห็นอะไร 5 อย่างเราได้ยิน
00:27:14 → 00:27:17 อะไร 4 อย่างหรือเราสัมผัสอะไร 3 อย่าง
00:27:17 → 00:27:20 เดี๋ยวจะลองทำกันดูไปด้วยกันนะครับเห็น
00:27:20 → 00:27:23 อะไร 5 อย่างก็คืออย่างนี้ครับท่านลองมอง
00:27:23 → 00:27:27 ไปรอบๆห้องที่ท่านนั่งอยู่แล้วลองดูว่า
00:27:27 → 00:27:30 ท่านเห็นอะไร 5 อย่างนะครับ 5 อย่างนี้
00:27:30 → 00:27:34 อ่ายกตัวอย่างนะครับผมเห็นเอ่อเอ่อ
00:27:34 → 00:27:37 ช่อดอกไม้
00:27:37 → 00:27:41 ผมเห็นพระพุทธรูป
00:27:41 → 00:27:47 ผมเห็นกระติกน้ำร้อนผมเห็นน้ำมันทาผิว
00:27:47 → 00:27:50 ผมเห็นนาฬิกา
00:27:50 → 00:27:54 มันเบสิคมากๆแต่ว่าเครื่องมือตัวนี้สำคัญ
00:27:54 → 00:27:57 เพราะว่ามันเป็นการดึงเรากลับมาใน
00:27:57 → 00:27:59 ปัจจุบันแตกต่างจากเมื่อกี้นี่คือเมื่อ
00:27:59 → 00:28:01 กี้ใช้ความรู้สึกในร่างกายแต่ตัวนี้เรา
00:28:01 → 00:28:06 กำลังใช้ประสาทสัมผัสซึ่งก็คือตาหูจมูก
00:28:06 → 00:28:10 ลิ้นนะครับผิวกาย
00:28:10 → 00:28:12 จากนั้นถ้าลองดูว่าถ้าท่านนั่งนิ่งๆอยู่
00:28:12 → 00:28:16 ในห้องตัวเองณเวลานี้ท่านได้ยินเสียงอะไร
00:28:16 → 00:28:21 บ้าง 4 อย่าง
00:28:21 → 00:28:24 ผมจะเงียบเพื่อให้ท่านลองฟังเสียงในห้อง
00:28:24 → 00:28:27 ท่านดูว่าท่านได้ยินเสียงอะไรบ้าง 4
00:28:27 → 00:28:36 อย่าง
00:28:36 → 00:28:40 ซึ่งหลายครั้งเวลาเราฝึกเราจะพบว่าเมื่อ
00:28:40 → 00:28:44 เราเปิดใจรับฟังเสียงเราจะได้ยินเสียงที่
00:28:44 → 00:28:46 มันอยู่ที่นั่นแต่เราไม่ได้ยินก่อนหน้า
00:28:46 → 00:28:50 นั้นนะครับทดลองดูนะครับอันนี้คือ 54321
00:28:50 → 00:28:52 นะครับ
00:28:52 → 00:28:56 กิจกรรมที่ 2 สำหรับกลุ่มนี้นะครับคือการ
00:28:56 → 00:28:59 ก่อตัวเองแบบที่ 1 โดยการก่อตัวเองนี้นะ
00:29:00 → 00:29:03 ครับข้อความจะเขียนว่ามือขวาวางใต้รักแร้
00:29:03 → 00:29:06 ซ้ายมือซ้ายโอบแขนขวานะครับเดี๋ยวจะลองทำ
00:29:06 → 00:29:10 กันด้วยกันดูการโอบแบบนี้นะครับเอ่อดร.
00:29:10 → 00:29:13 ปีเตอร์วีนมีการพูดไว้ใน YouTube ด้วยนะ
00:29:13 → 00:29:18 ครับมือขวาวางใต้รักแร้ซ้าย
00:29:18 → 00:29:23 มือซ้ายอบต้นแขนขวา
00:29:23 → 00:29:29 ซึ่งเวลาที่มือขวาเราวางอยู่ใต้รักแรซ้าย
00:29:29 → 00:29:34 แล้วเราอยู่กับตัวเองกับความรู้สึกนะครับ
00:29:34 → 00:29:37 เราจะรู้สึกได้ว่ามันรับรู้การเต้นของหัว
00:29:37 → 00:29:41 ใจ
00:29:41 → 00:29:43 แล้วหลายคนเวลากอดแบบนี้เจะรู้สึกเหมือน
00:29:43 → 00:29:46 กับเค้ากอดตัวเองเค้ากำลังใส่ใจตัวเอง
00:29:46 → 00:29:49 ซึ่งบางคน
00:29:49 → 00:29:52 ไม่ค่อยมีโอกาสได้รับการสวมกอดนะครับหรือ
00:29:52 → 00:29:56 บางคนจะรู้สึกว่าเหมือนๆกับมันทำให้เค้า
00:29:56 → 00:30:01 อยู่กับตัวเองได้ปลอบตัวเองนะครับ
00:30:01 → 00:30:03 เราจะปรับปรุงเพิ่มตัวนี้ด้วยก็ได้เช่น
00:30:03 → 00:30:07 บางคนจะรู้สึกว่าถ้าเลูบต้นแขนไปด้วยเค้า
00:30:07 → 00:30:10 จะรู้สึกดีกว่าท่านทดลองดูนะครับไม่
00:30:10 → 00:30:13 จำเป็นต้องเหมือนกันเลยสิ่งสำคัญคือเรา
00:30:13 → 00:30:17 สังเกตประสบการณ์ของเรา
00:30:17 → 00:30:20 แล้วดูว่าแบบไหนที่เรารู้สึกว่ามันช่วยพา
00:30:20 → 00:30:24 ให้ใจเรามันสบายๆและนิ่งหรือสึกได้รับการ
00:30:25 → 00:30:27 ปลอบขวัญปลอบประโลมนะครับเช่นเดียวกันนะ
00:30:27 → 00:30:31 ครับที่มือข้างขวาของท่านท่านอาจจะใช้การ
00:30:31 → 00:30:36 บีบนวดเบาๆไปตามส่วนของร่างกายโดยใช้ความ
00:30:36 → 00:30:38 รู้สึกรู้สึกว่าแบบไหนสบายแล้วพาท่านกลับ
00:30:38 → 00:30:42 มานะครับดังนั้นอันนี้คือการกอดแบบที่ 1
00:30:42 → 00:30:46 มือขวาวางใต้รักแรซ้ายมือซ้ายวางอยู่ต้น
00:30:46 → 00:30:49 แขนแล้วก็จะนวดยังไงก็ได้แล้วแต่เรานะ
00:30:49 → 00:30:52 ครับใช้ความรู้สึกในร่างกายช่วยเป็นตัว
00:30:52 → 00:30:56 ชี้นำว่าณขณะนี้ร่างกายของเราต้องการการ
00:30:56 → 00:31:00 ดูแลยังไงซึ่งจะนวดก็ได้จะรูบก็ได้นะครับ
00:31:00 → 00:31:03 อันนี้คือกอดแบบที่ 1 สังเกตประสบการณ์
00:31:03 → 00:31:07 ตัวเองนะครับเวลาที่ทำแบบนี้ท่านกำลังมี
00:31:07 → 00:31:09 ประสบการณ์ยังไงท่านกำลังรับรู้อะไรได้
00:31:09 → 00:31:11 บ้าง
00:31:11 → 00:31:15 คราวนี้เรามาดูวิธีการกอดแบบที่ 2 นะครับ
00:31:15 → 00:31:17 วิธีกอดแบบที่ 2 เนี่ยนำมาจากสกุลจิต
00:31:17 → 00:31:23 บำบัดที่เรียกว่า EMDR นะครับเค้าตั้ง
00:31:23 → 00:31:25 ชื่อว่า Butterfly Hug นะครับซึ่งใน
00:31:25 → 00:31:29 Butterfly Hug นี่จะมีการกอด 2 แบบ
00:31:29 → 00:31:31 ตัวที่เป็นการกอดเลยก็คือเป็นแบบนี้นะ
00:31:31 → 00:31:37 ครับเราเอามือข้ามมาอยู่ที่ต้นที่ไหล่และ
00:31:37 → 00:31:42 ต้นแขนนะครับแล้วเราจะตบเบาๆสลับข้าง
00:31:42 → 00:31:45 อัตราเร็วในการตบเนี่ยให้ท่านใช้ความรู้
00:31:45 → 00:31:49 สึกของท่านนะครับแล้วก็เวลาที่ท่านตบลงไป
00:31:49 → 00:31:51 เนี่ย
00:31:51 → 00:31:54 ส่วนที่ผมอยากจะเติมให้ก็คือให้ท่านรับ
00:31:54 → 00:31:58 รู้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่มันส่งผ่านเข้ามา
00:31:58 → 00:32:02 ในตัวเรานะครับ
00:32:02 → 00:32:04 ถ้าลองทดสอบ
00:32:04 → 00:32:08 อัตราเร็วดูนะครับว่าท่านชอบแบบไหนนะครับ
00:32:08 → 00:32:11 อันนี้คือแบบที่ 1 นะครับซึ่งผมเคยทดลอง
00:32:11 → 00:32:15 การกอดแบบนี้นะครับกับการกอดแบบนี้ผมพบ
00:32:15 → 00:32:19 ว่านักเรียนแต่ละคนจะชอบไม่เหมือนกันนะ
00:32:19 → 00:32:22 ครับมันไม่มีอะไรผิดถูกกรณีนี้มันเป็นตัว
00:32:22 → 00:32:25 บอกว่าระบบสมองระบบประสาทของเราตอบสนอง
00:32:25 → 00:32:29 ต่อวิธีการนี้เราก็เอาไปใช้นะครับ
00:32:29 → 00:32:32 Butterfly H แบบที่ 2 จะดูเล็กหน่อยนึง
00:32:32 → 00:32:36 นะครับคือเราจะวางมือกางออกนิ้วโป้งมา
00:32:37 → 00:32:46 เกี่ยวกันตรงกลางแล้วเราก็ตบทีละข้าง
00:32:46 → 00:32:50 ซึ่งบางคนจะชอบแบบนี้มากกว่าแต่ว่าท่าน
00:32:50 → 00:32:53 ไม่จำเป็นต้องชอบเหมือนคนอื่นนะครับหัวใจ
00:32:53 → 00:32:55 สำคัญของสิ่งเหล่านี้ก็คือเรากำลังสังเกต
00:32:55 → 00:32:59 การตอบสนองของร่างกายของเรา
00:32:59 → 00:33:01 เพราะระบบสมองและระบบร่างกายของแต่ละคน
00:33:01 → 00:33:03 ไม่เหมือนกันดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้อง
00:33:03 → 00:33:05 อาศัย
00:33:05 → 00:33:09 การตอบสนองของเราเป็นตัวเรียนรู้ตัวเรา
00:33:09 → 00:33:11 เพื่อเราจะได้เลือกวิธีที่เหมาะกับตัวเรา
00:33:11 → 00:33:14 นะครับตอนที่แบ่งกลุ่มท่านสามารถไป
00:33:14 → 00:33:17 อภิปรายไปฝึกต่อได้กับกระบวนการในแต่ละ
00:33:17 → 00:33:20 กลุ่มนั้นนะครับอันนี้คือชุดที่ 2 จบลง
00:33:20 → 00:33:23 แล้วนะครับ
00:33:23 → 00:33:27 ส่วนด้วยข้อไปจำกัดของเวลาผมจะยังไม่ทำ
00:33:27 → 00:33:29 ท่านไปคุยในกลุ่มย่อยอาจจะไม่มีเวลาทำนะ
00:33:30 → 00:33:32 ครับแต่โดยหลักจริงๆไม่ได้ยากอะไรถ้าท่าน
00:33:32 → 00:33:36 ทำชุดถ้าท่านทำชุดนี้ได้นะครับเรื่องก้น
00:33:36 → 00:33:38 เรื่องหลังเรื่องอะไรเนี่ยนะครับท่าน
00:33:38 → 00:33:40 เกือบจะเข้าใจเรื่องบอดี้สแกนไปแล้วชุด
00:33:40 → 00:33:43 ที่ 2 มีเท่านี้นะครับชุดที่ 3 เป็น
00:33:43 → 00:33:45 เรื่องการหายใจละนะครับเดี๋ยวเราจะฝึกการ
00:33:45 → 00:33:49 หายใจกัน 3 แบบนะครับซึ่งจริงๆสูตรการหาย
00:33:49 → 00:33:51 ใจมีหลายสูตรมากนะครับสูตรแรกจะเป็นสูตร
00:33:52 → 00:33:55 315 เดี๋ยวผมจะคุยกันไปตอนเราจะมองหน้า
00:33:55 → 00:33:58 กันแล้วกันเนาะสูตร 2 คือสูตร 448 นะครับ
00:33:58 → 00:34:02 ถ้าท่านเคยฟังในไลฟ์ผมบางทีผมก็พูดถึง 478
00:34:02 → 00:34:05 ตอนผมเรียนชิกงก็เป็น 488 นะครับแล้วก็มี
00:34:06 → 00:34:08 Box Breathing นะครับท่านสามารถค้นได้
00:34:08 → 00:34:11 จาก YouTube ก็จะเป็น 444 นะครับเดี๋ยว
00:34:11 → 00:34:15 เราจะทดสอบ 2 สูตรนี้นะครับจากนั้นก็จะมี
00:34:15 → 00:34:17 สูตรอีกสูตรนึงที่มีชื่อเรียกเฉพาะและมี
00:34:17 → 00:34:20 งานวิจัยเป็นของมันนะครับแต่สูตรนี้จะมี
00:34:20 → 00:34:23 การวางมือที่อกพร้อมกับการหายใจสูตร 55
00:34:23 → 00:34:25 ท่านไม่ต้องจำนะครับเพราะเดี๋ยวผมจะไล่
00:34:25 → 00:34:29 ฝึกไปด้วยกันพร้อมกัน
00:34:29 → 00:34:32 เรามาเริ่มต้นสูตรที่ 1 นะครับสูตรที่ 1
00:34:32 → 00:34:36 เนี่ยเนี่ยสูตร 315 นะครับ 315 ก็คือหาย
00:34:36 → 00:34:41 ใจเข้านับ 1-3 ในใจ
00:34:41 → 00:34:50 กั้นไว้นับ 1 หายใจออกนับ 1-5
00:34:50 → 00:34:53 ถ้าท่านปอดเล็กได้ 4 ก็ 4 ได้ 5 ก็ 5
00:34:54 → 00:34:57 หลักสำคัญก็คือเราใช้ตัวเลขช่วยกำกับและ
00:34:57 → 00:35:02 ระหว่างที่เรานับตัวเลขนี้เนี่ยตัวเลขจะ
00:35:02 → 00:35:06 เป็นความคิดรูปแบบหนึ่งคือเรานับ 1 2 3
00:35:06 → 00:35:09 ในใจเนี่ยทำให้เราคิดอย่างอื่นไม่ได้นะ
00:35:09 → 00:35:14 ครับแต่ว่าถ้าท่านฝึกแล้วคล่องท่านไม่
00:35:14 → 00:35:17 จำเป็นต้องนับเลขก็ได้แต่เรากำลังเรียน
00:35:17 → 00:35:21 รู้สัดส่วนของการหายใจ 315 ทำไมหายใจออก
00:35:21 → 00:35:24 ต้องเยาวกว่าหายใจเข้าเพราะมันมีการศึกษา
00:35:24 → 00:35:26 พบว่าในช่วงเวลาหายใจออกเนี่ยมันจะเป็น
00:35:26 → 00:35:29 ช่วงเวลาที่ระบบร่างกายเราจะกระตุ้นระบบ
00:35:29 → 00:35:31 ประสาทใช้ในการพัก
00:35:31 → 00:35:34 ที่เรียกว่าพารซyตินะครับส่วนตอนหายใจ
00:35:34 → 00:35:38 เข้าเนี่ยมันจะกระตุ้นประสาทระบบประสาท
00:35:38 → 00:35:40 ที่เป็นใช้ในการตื่นตัวเพื่อการเตรียมสู้
00:35:40 → 00:35:43 หรือหนีที่เรียกว่าsympathตินะครับเราหาย
00:35:43 → 00:35:47 ใจเข้านับ 1-3 กั้นไม่นับ 1 เพื่อดึงความ
00:35:47 → 00:35:50 รู้ตัวมาหน่อยนึงแล้วหายใจออกนับ 1-4
00:35:50 → 00:35:54 หรือ 5 ตอนนี้ลองทำดูซัก 5-8 ลมหายใจดูนะ
00:35:54 → 00:35:59 ครับลองหายใจสูตร 315 หรือ 314 โดยไม่
00:35:59 → 00:36:05 ต้องเกร็งกับมันจะนับแบบที่รู้ตัว
00:36:05 → 00:36:09 หรือว่าจะปล่อยสบายๆประมาณนี้ก็ได้สังเกต
00:36:09 → 00:36:13 ดูว่าประสบการณ์ของท่านที่หายใจสูตรเนี้ย
00:36:13 → 00:36:17 มันก่อให้เกิดอะไร
00:36:17 → 00:36:20 นะครับจะนับเร็วหรือนับช้าขึ้นอยู่กับ
00:36:20 → 00:36:29 ขนาดปอดของท่าน
00:36:29 → 00:36:31 อันนี้คือสูตรแรกนะครับเดี๋ยวท่านอาจจะ
00:36:31 → 00:36:33 ได้ไปลอง
00:36:33 → 00:36:37 ถ้าลองวันนี้แล้วรู้สึกเหมือนจะชอบไปฝึก
00:36:37 → 00:36:40 ต่อดูถ้าสามารถฝึกจนเป็นนิสัยได้ท่านจะพบ
00:36:40 → 00:36:43 ว่าท่านจะนิ่งขึ้นกว่าเดิมแค่ฝึกหายใจให้
00:36:43 → 00:36:47 ดีทีนี้ท่านอาจจะสงสัยว่า 315 นี่ลมมัน
00:36:47 → 00:36:50 เข้าเท่ากันมั้ปริมาตรอากาศโดยหลักแล้ว
00:36:50 → 00:36:52 ปริมาตรอากาศมันเท่ากันท่านหายใจเข้าไป
00:36:52 → 00:36:56 สมมุติว่า 500 ซีซเนาะท่านก็ต้องหายใจออก
00:36:56 → 00:37:00 500 ซีซมันเข้า 3 ข้าง 1 ออก 5 ก็เพราะ
00:37:00 → 00:37:03 ว่าตอนออกเนี่ยมันจะนานขึ้นแต่ลมออก
00:37:03 → 00:37:06 ปริมาตรของมันเนี่ยมันจะเท่ากันกับ
00:37:06 → 00:37:09 ปริมาตรของอากาศที่เข้าอยู่ดีนะครับแต่
00:37:09 → 00:37:11 ว่ามันไปกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมาทติ
00:37:11 → 00:37:14 ซึ่งช่วยให้เรารู้สึกนิ่งขึ้นนิ่งขึ้นนะ
00:37:14 → 00:37:17 ครับถ้าท่านเอาสูตรนี้ไปผสมกับร่างกายนะ
00:37:17 → 00:37:20 ครับท่านจะพบว่าทุกๆครั้งที่ท่านหายใจจะ
00:37:20 → 00:37:22 ออกไปเรื่อยๆเนี่ยร่างกายท่านจะคลายลงและ
00:37:22 → 00:37:25 นิ่งสงบหรือว่าจมดิ่งได้ดีขึ้นนะครับแต่
00:37:25 → 00:37:30 ตรงนี้จะต้องเป็นการฝึกในขั้นที่สูงต่อไป
00:37:30 → 00:37:33 คราวนี้สูตรที่ 2 ผมเอามาจากเพื่อนในวง
00:37:33 → 00:37:37 เค้าใช้สูตร 448 นะครับสูตรนี้หลักการ
00:37:37 → 00:37:40 เดียวกันนะครับท่านลองทดลองดูว่าเวลาที่
00:37:40 → 00:37:45 ท่านหายใจเข้านับ 1-4 กลั้นไว้นับ 1-4
00:37:45 → 00:37:49 หายใจออกนับ 1-8 เนี่ยมันเกิดอะไรขึ้นใน
00:37:49 → 00:37:51 ประสบการณ์ของท่านนะครับผมจะชูนิ้วแล้วทำ
00:37:51 → 00:38:34 ไปด้วยกันนะครับเริ่มนะ
00:38:34 → 00:38:36 โอเคครับบางคนเนี่ยจะรู้สึกโอ้โหมันนาน
00:38:36 → 00:38:38 มันยากเอ่อมันเป็นเพราะว่าท่านไม่ค่อยได้
00:38:38 → 00:38:41 ฝึกมันนะครับ
00:38:41 → 00:38:45 ให้ปรับตามร่างกายของท่านไม่ต้องทำให้มัน
00:38:45 → 00:38:47 เป๊ะหรือสมบูรณ์แบบ
00:38:47 → 00:38:49 แต่สูตรนี้มันมีความแตกต่างกันกับสูตร
00:38:49 → 00:38:53 เมื่อกี้นี้ก็คือ 1 มันกลั้นยาวขึ้นซึ่ง
00:38:53 → 00:38:56 ท่านอาจจะลองกลั้นเท่าที่ได้ก็ได้นะครับ
00:38:56 → 00:39:01 สมมุติว่าท่านกลั้นได้ประมาณ 4 3 8 ก็
00:39:01 → 00:39:05 ได้ไม่เป็นไร 4 2 8 ก็ได้แต่ท่านค่อยๆ
00:39:05 → 00:39:07 ฝึกดูแล้วท่านจะพบว่าอย่างี้นะครับอันนี้
00:39:07 → 00:39:11 เป็นการรายงานของคนจำนวนมากก็คือช่วงเวลา
00:39:11 → 00:39:14 ที่เรากลั้นหายใจค้างไว้เนี่ยมันเป็นการ
00:39:14 → 00:39:17 ดึงความรู้สึกตัวกลับมาได้ดีมากนะครับมัน
00:39:17 → 00:39:20 เป็นการสร้างความรู้ตัวให้นิ่งลงได้เร็ว
00:39:20 → 00:39:22 มากมันเป็นตัวการจัดการความฟุ้งเครื่อง
00:39:22 → 00:39:26 ซ่านได้ดีมากนะครับอันนั้นให้ไปทดลองแล้ว
00:39:26 → 00:39:29 ว่ามันจะเปลี่ยนไปตามสภาพการฝึกของท่าน
00:39:29 → 00:39:32 ด้วยนะครับเอ่อฝึกยิ่งนานท่านจะพบว่า 1
00:39:32 → 00:39:36 นาทีท่านจะหายใจได้น้อยลงน้อยลงซึ่งมันมี
00:39:36 → 00:39:39 สูตรอย่างหนึ่งว่าอายุมันจะยาวขึ้นตาม
00:39:39 → 00:39:42 จำนวนการหายใจที่น้อยลงต่อนาทีเนี่ยนะ
00:39:42 → 00:39:44 ครับ
00:39:44 → 00:39:47 คราวนี้มาดูสูตรสุดท้ายนะครับคือสูตร mat
00:39:47 → 00:39:50 นะครับ match นี่ก็คือเราจะเอามือมาวาง
00:39:50 → 00:39:54 ไว้ตรงหัวใจของเราแล้วเราจะหายใจเข้าสูตร
00:39:54 → 00:39:59 55 นะครับผมจะสาธิตไปด้วยกันนะครับ
00:40:00 → 00:40:05 เวลาที่วางสูตรารนะครับเราก็ใช้มือของเรา
00:40:05 → 00:40:09 ซ้อนกันแล้ววางตรงหัวใจตรงกางแล้วค่อนไป
00:40:09 → 00:40:12 ทางซ้ายก็ได้แล้วแต่นะครับเอ่อคือหัวใจ
00:40:12 → 00:40:15 เราจริงๆมันอยู่ค่อนซ้ายของตัวเรานะครับ
00:40:15 → 00:40:17 เราจะวางแบบนี้ก็ได้นะครับเราจะรู้สึกได้
00:40:17 → 00:40:21 ถึงการสัมผัสกับหัวใจของเราแล้วเราก็หาย
00:40:21 → 00:40:35 ใจเข้า 5 ออก 5 ลองทำไว้ด้วยกันนะครับ
00:40:35 → 00:40:37 ทำตามอัตราเร็วของท่านดูอีกสัก 2-3 ลมหาย
00:40:37 → 00:41:04 ใจนะครับ
00:41:04 → 00:41:06 เอาล่ะครับได้เวลาฝึกที่น้อยนะครับแต่
00:41:06 → 00:41:09 เดี๋เราจะมีเวลา 50 นาทีในฝึกกลุ่มย่อย
00:41:09 → 00:41:12 เนี่ยฮาร์มก็จะเป็นความพิเศษอีกอย่าง
00:41:12 → 00:41:14 หนึ่งคือท่านจะรู้สึกได้ว่าตอนที่ท่านจับ
00:41:14 → 00:41:17 หัวใจตัวเองเนี่ยมันให้ความรู้สึกพิเศษ
00:41:17 → 00:41:20 แบบหนึ่งละกับการที่ท่านหายใจง่ายๆเข้า 5
00:41:20 → 00:41:23 ออก 5 เนี่ยเดี๋ลองดูนะครับว่าท่านพบว่า
00:41:23 → 00:41:26 แต่ละสูตรแต่ละรูปแบบนี้ต่างกันยังไงแต่
00:41:26 → 00:41:28 ทั้งหมดนี้ในกลุ่มที่ 3 เนี่ยคือการฝึก
00:41:29 → 00:41:32 หายใจนะครับการฝึกหายใจนี้มีลักษณะเด่น
00:41:32 → 00:41:35 พิเศษมากๆอย่างหนึ่งคือท่านฝึกได้ตลอด
00:41:35 → 00:41:38 เวลานึกได้เมื่อไหร่ก็ฝึกฝึกแล้วก็ควรจะ
00:41:38 → 00:41:41 จัดเวลาฝึกกับตัวเองด้วยหมายถึงว่าจัด
00:41:41 → 00:41:43 เวลาว่าโอเคเลยตื่นเช้ามาเราจะหายใจแบบ
00:41:43 → 00:41:47 เนี้ยประมาณซักเอ่อ 20 ลมหายใจนะครับตอน
00:41:47 → 00:41:49 พักเที่ยงเราก็จะจัดเวลาฝึกสักอีก 20 ลม
00:41:49 → 00:41:52 หายใจกินเวลาประมาณ 1 นาทีกว่า 2 นาที
00:41:52 → 00:41:56 เท่านั้นเองและหน้าสุดท้ายที่ผมจะพูดนะ
00:41:56 → 00:41:58 ครับจะเป็นทักษะชุดที่ 4 ซึ่งมีอยู่
00:41:58 → 00:42:00 เรื่องเดียวเลยนะผมจะอธิบายก่อนนะแล้ว
00:42:00 → 00:42:03 เดี๋ยวทำไปด้วยกันท่านลองทำไปด้วยกัน
00:42:03 → 00:42:05 ระหว่างที่ผมอธิบายแล้วเดี๋จะทำอีกรอบนึง
00:42:05 → 00:42:08 นะครับ 1 ก็ก็คือเวลาที่เรามีความรู้สึก
00:42:08 → 00:42:13 ไม่สบายเช่นท่านนึกถึงความไม่สบายใจหรือ
00:42:13 → 00:42:16 ท่านมีอาการโครงเครลงใจสั่นหรือท่านมี
00:42:16 → 00:42:21 ความวิตกกังวลหรือมีความรู้สึกของความ
00:42:21 → 00:42:25 เศร้าสงสารที่เรานำมาจากสมาชิกเนี่ยนะ
00:42:25 → 00:42:27 ครับ
00:42:27 → 00:42:29 ขอให้เราลองเปิดรับดูว่าในเวลานั้นร่าง
00:42:29 → 00:42:34 กายมีอาการอะไรเกิดขึ้นบ้าง
00:42:34 → 00:42:39 ซึ่งปกติแล้วเราจะมีความคุ้นเคย
00:42:39 → 00:42:43 ในการไปรับรู้ร่างกายที่มีอาการรบกวนเช่น
00:42:43 → 00:42:46 เราไปรับรู้อาการใจสั่นเราไปรับรู้อาการ
00:42:46 → 00:42:50 วิงเวียนมึนหัวนะครับแต่ในครั้งนี้เราจะ
00:42:50 → 00:42:53 ฝึกวิธีใหม่เพิ่มเติมก็คือให้ลองสำรวจ
00:42:53 → 00:42:57 ความรู้สึกไปตามส่วนต่างๆของร่างกายลองหา
00:42:57 → 00:43:01 ตำแหน่งของร่างกายที่ยังนิ่งๆสงบหรือมัน
00:43:01 → 00:43:05 คลายหรือมันสบายได้เนี่ยนะครับนิ่งสงบ
00:43:05 → 00:43:13 ผ่อนคลายหรือสบายๆนะครับนิ่งสงบผ่อนคลาย
00:43:13 → 00:43:16 สบายสบายนะครับหาดูนะครับมันอาจจะไม่ถึง
00:43:16 → 00:43:18 กับสบายๆแต่ว่าอย่างน้อยมันก็นิ่งกว่าที่
00:43:18 → 00:43:22 อื่นถ้าท่านเจอนะครับซึ่งบางทีเจอบางที
00:43:23 → 00:43:27 ไม่เจอนะครับกรณีที่เจอเช่นอาจจะเป็นแถว
00:43:27 → 00:43:31 เอ่อหลายคนก็จะพูดถึงแถวหน้าขายกตัวอย่าง
00:43:31 → 00:43:35 นะครับหรือแถวก้นนะครับ
00:43:35 → 00:43:38 หน้าขาฝ่าเท้า
00:43:38 → 00:43:41 หรือบางคนก็อาจจะไปเจอตรงท้องในบางคนนะ
00:43:41 → 00:43:43 ครับ
00:43:43 → 00:43:48 ถ้าหาไม่เจอนะครับให้สังเกตดูที่บริเวณ
00:43:48 → 00:43:51 ติ่งหู
00:43:51 → 00:43:55 ปลายจมูก
00:43:55 → 00:43:58 ข้อศอก
00:43:59 → 00:44:04 ของที่เป็นพื้นที่แข็งนะครับ
00:44:04 → 00:44:10 หาตำแหน่งของร่างกายที่มันมีความนิ่งสงบ
00:44:11 → 00:44:14 สบายๆที่ไม่สั่นสะเทือนเท่ากับความรู้สึก
00:44:14 → 00:44:17 ของเราในตอนแรกจากนั้นลองถ้าสามารถเอามือ
00:44:17 → 00:44:20 วางได้นะครับถ้ามันเอื้อมถึงลองเอามือไป
00:44:20 → 00:44:24 สัมผัสกับร่างกายบริเวณนั้นสักพักนึง
00:44:24 → 00:44:27 เหมือนเรากำลังเชื่อมต่อกับร่างกายที่ยัง
00:44:27 → 00:44:31 สงบนิ่งแม้เรากำลังจะมีเรื่องกวนหรือร่าง
00:44:31 → 00:44:34 กายกำลังปั่นป่วนเล็กน้อยนั้นนะ
00:44:34 → 00:44:37 จากนั้นก็หายใจสบายๆในสูตรที่ท่านฝึก
00:44:37 → 00:44:40 เมื่อกี้นี่ละชอบแล้วลองจินตนาการเหมือน
00:44:41 → 00:44:43 เรากำลังส่งลมหายใจออกไปยังพื้นที่ร่าง
00:44:43 → 00:44:46 กายบริเวณนั้น
00:44:46 → 00:44:50 ถ้าท่านอยากปิดตาลงท่านก็พลิ้มตาลงแล้ว
00:44:50 → 00:44:54 ปล่อยให้ตาและศีรษะหันไปในทิศทางที่
00:44:54 → 00:44:57 ต้องการนะครับหมายความว่าเราปล่อยมัน
00:44:57 → 00:45:00 อิสระไม่ต้องเกร็งกับหัวของตัวเองนะครับ
00:45:00 → 00:45:03 แล้วอยู่กับประสบการณ์นี้นานเท่าที่
00:45:03 → 00:45:06 ต้องการเช่นอาจจะเป็นเวลา 2-3 นาทีหรือ
00:45:06 → 00:45:11 5-7 นาทีก็ตามเนี่ยนะครับ
00:45:11 → 00:45:14 ในทักษะชุดนี้นะครับมีด้วยกันหลายระดับนะ
00:45:14 → 00:45:17 ครับระดับสำคัญที่สุดก็คือ 1 แทนที่ร่าง
00:45:17 → 00:45:20 กายของท่านมีอะไรบางอย่างปลุกความตื่นตัว
00:45:20 → 00:45:24 ขึ้นมามีอารมณ์บางอย่างมากวนแล้วเนี่ยแทน
00:45:24 → 00:45:26 ที่เราจะเผลอไปอยู่กับอาการที่มันกวนและ
00:45:26 → 00:45:30 ยิ่งมีอารมณ์ถูกกระตุ้นมากขึ้นเราก็เอา
00:45:30 → 00:45:33 ความใส่ใจไปวางในจุดที่นิ่งสักสงบผ่อน
00:45:33 → 00:45:35 คลายที่ดีกว่าอันนี้คือสเต็ปที่ 1 ที่
00:45:35 → 00:45:38 สำคัญมาก
00:45:38 → 00:45:41 สเต็ปที่ 2 ถ้าเรารับรู้มันแล้วเราสามารถ
00:45:41 → 00:45:43 เลือกที่จะเอาฝ่ามือไปวางเพื่อเชื่อมมัน
00:45:43 → 00:45:46 ได้เหมือนกับที่เราเอาฝ่ามือมาวางที่หัว
00:45:46 → 00:45:48 ใจของเรา
00:45:48 → 00:45:50 และสเต็ปที่ 3 คือเราส่งลมหายใจไปด้วยไป
00:45:50 → 00:45:54 เชื่อมนะครับหายใจเข้าทางจมูก
00:45:54 → 00:45:56 ออกจมูกหรือปากก็ได้แต่ให้ทดลองออกทางปาก
00:45:56 → 00:46:01 ดูแล้วส่งไปที่ร่างกายที่สบายหรือนิ่งสงบ
00:46:01 → 00:46:04 นั้นท่านจะพบประสบการณ์คนละแบบกันกับวิธี
00:46:04 → 00:46:08 ที่ท่านทำแบบคุ้นเคยคือปล่อยให้เราไปอยู่
00:46:08 → 00:46:11 กับร่างกายที่ไม่สบายนั้นและสเต็ปที่ท้า
00:46:12 → 00:46:14 ทายที่สุดถ้าท่านทำได้จะดีมากเพราะมัน
00:46:14 → 00:46:18 กำลังแตะไปที่จิตบำบัดแนวเบนสปอตก็คือให้
00:46:18 → 00:46:21 ท่านอยู่กับประสบการณ์นั้นอาจจะหลับพริ้ม
00:46:21 → 00:46:24 ตาแล้วปล่อยให้เราลอยเข้าไปในประสบการณ์
00:46:24 → 00:46:28 ที่เริ่มนิ่งขึ้นนั้นในธรรมชาติ
00:46:28 → 00:46:31 หัวหรือหน้าหรือตาของเราจะหันไปในทิศนึง
00:46:31 → 00:46:35 ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าสู่สภาวะที่พักได้ดี
00:46:35 → 00:46:38 ขึ้นนะครับถ้าท่านไม่ได้รู้สึกว่าท่านหา
00:46:38 → 00:46:41 จุดเจอไม่เป็นไรหาร่างกายที่สบายสัมผัส
00:46:41 → 00:46:44 ด้วยมือส่งลมหายใจแต่ละสเต็ปทำได้แค่ไหน
00:46:44 → 00:46:49 แค่นั้นนะครับอันนี้คือตัวที่เอ่อเป็นตัว
00:46:49 → 00:46:51 ที่ท่านอาจจะต้องเอาเวลาไปฝึกกับตัวเองจน
00:46:51 → 00:46:54 กระทั่งท่านทำได้คล่องนะครับส่วนทักษะชุด
00:46:54 → 00:46:57 ที่ 5 จะไม่มีการสาธิตนะครับผมเดิมผมกะ
00:46:57 → 00:47:00 ว่าเวลาน่าจะไม่พอซึ่งผมก็กะถูกนะครับ
00:47:00 → 00:47:03 ทักษะการที่ 5 นี้เป็นอยู่ในกลุ่มที่
00:47:03 → 00:47:06 เรียกว่าเป็นทักษะการสร้างจินตนาการในรูป
00:47:06 → 00:47:08 แบบต่างๆที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า
00:47:08 → 00:47:11 Visualization นะครับเราอาจจะจินตนาการ
00:47:11 → 00:47:15 พื้นที่ปลอดภัยอาจจะจินตนาการพื้นที่สงบ
00:47:15 → 00:47:18 ผ่อนคลายนะครับหรืออาจจะจินตนาการเป็นแสง
00:47:18 → 00:47:22 สีแล้วแต่ท่านนะครับส่องลงมาจากเบื้องบน
00:47:22 → 00:47:24 มาอาบร่างกายของท่านหรือรายละเอียดของใช้
00:47:24 → 00:47:28 การใช้แสงในอื่นๆก็ตามเนี่ยเทคนิคนี้ผมดู
00:47:29 → 00:47:32 จากเวลาคิดว่าเราไม่มีเวลาฝึก
00:47:32 → 00:47:37 คราวนี้ทักษะทุกข้อ 4 ชุดนะครับ + 1 ที่
00:47:37 → 00:47:41 ไม่ได้ฝึกเนี่ยเดี๋ยวตอนแบ่งกลุ่มย่อยเรา
00:47:41 → 00:47:43 จะเข้าไปฝึกแล้วก็ซ้อมแล้วก็ตอบข้อซักถาม
00:47:43 → 00:47:46 กันโดยเราจะมีเวลาอยู่ในกลุ่มย่อยกัน 50
00:47:46 → 00:47:49 นาทีนะครับ