00:00:00 → 00:00:03 This Is Thai PBS podcast View the
00:00:03 → 00:00:05 world vi The
00:00:05 → 00:00:08 Voice ผลเสียของการกินยามดึกสิ่งแรกเลย
00:00:08 → 00:00:11 ก็คืออาจจะทำให้เรานอนไม่หลับครับพอกิน
00:00:11 → 00:00:14 เสร็จปุ๊บโหอึดอัดนะแล้วอย่าลืมว่าร่าง
00:00:14 → 00:00:17 กายของเราอ่ะมันหลั่งกรดหลังน้ำย่อยแล้ว
00:00:17 → 00:00:20 เรานอนเลยอาจจะนอนไม่หลับระวังเรื่องของ
00:00:21 → 00:00:23 กดไหลย้อนหลังรับประทานอาหารอย่างน้อย
00:00:23 → 00:00:26 เนี่ยต้อง 3 ช่วโมงขึ้นไปและอีกหนึ่ง
00:00:26 → 00:00:29 ปัจจัยสำคัญเลยก็คือเรื่องของโสฮอร์โมน
00:00:29 → 00:00:32 ครับโกสฮอร์โมนเป็นฮอร์โมนช่วยในกระบวน
00:00:32 → 00:00:36 การเผาผลาญช่วยในการสลายไขมันแล้วก็ช่วย
00:00:36 → 00:00:40 ในการฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ต้านความชราอแล้ว
00:00:40 → 00:00:43 ถ้าเกิดว่าเรากินดึกแน่นอนเราก็จะอ้วน
00:00:43 → 00:00:47 ง่ายแก่เร็วเพราะโสฮอร์โมนมันจะไม่
00:00:47 → 00:00:51 หลังฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคไทย
00:00:51 → 00:00:55 ฟังรายการโรงหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพร
00:00:55 → 00:00:57 ค่ะ This Is Toy PBS
00:00:57 → 00:01:00 podcast วันนี้นะคะคุณผู้ฟังคะเราจะมา
00:01:00 → 00:01:03 ติดตามรับฟังนะคะถึงเรื่องของการกินอาหาร
00:01:03 → 00:01:07 ตอนดึกนะคะกินดึกกินยังไงกินให้ดีนะคะ
00:01:07 → 00:01:09 เพราะว่าเรารู้อยู่แล้วว่ากินดึกแล้วไม่
00:01:09 → 00:01:11 ค่อยดีเนาะอ่ะแต่ว่าวันนี้เรามาหาคำตอบ
00:01:11 → 00:01:14 กันกับผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรเอกราชบำรุง
00:01:14 → 00:01:16 พืชจากวิทยาลัยการแพทย์บูรณการ
00:01:16 → 00:01:18 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตค่ะสวัสดีค่ะ
00:01:18 → 00:01:22 อาจารย์คะครับสวัสดีครับผมค่ะเวลาหิวตอน
00:01:22 → 00:01:25 ดึกๆบางทีก็อดใจไม่อยู่ก็รู้แหละว่ากิน
00:01:25 → 00:01:29 ดึกมันก็ไม่ค่อยดีอาจารย์ยิ้มแบบนี้ครับ
00:01:29 → 00:01:32 หมายความว่าคือจริงๆเคยคุยกับอาจารย์นะค
00:01:32 → 00:01:35 คุณผู้ฟังว่าอาจารย์เคยบอกกับสุรีพรไว้
00:01:35 → 00:01:38 บอกว่าหลัง 18:00 นเนี่ยก็ถ้าอยากจะให้
00:01:38 → 00:01:41 หุ่นดีเนไขมันช่องท้องหน้าท้องอะไรเงี้ย
00:01:42 → 00:01:44 ก็อย่าไปกินดึกเอออะไรประมาณนี้แต่มันอ่น
00:01:44 → 00:01:47 ไม่ค่อยได้ค่ะอาจารย์เห็นก่อนอื่นต้องบอก
00:01:47 → 00:01:50 เลยพอเห็นโจทย์มาปุ๊บเอ้ยกินยามดึกกินให้
00:01:50 → 00:01:54 ดีต้องกินอย่างไงใช่มั้ครับอาจารย์บอกเลย
00:01:54 → 00:01:56 ว่าก็ไม่ต้อง
00:01:56 → 00:02:00 กินก็ยังมันคือพยายามแล้วค่ะอาจารย์แต่
00:02:00 → 00:02:04 ว่ามันไม่สามารถชนะเข้าใจากได้ครับอ่า
00:02:04 → 00:02:07 เพราะว่ามันเป็นเป็นธรรมดาของร่างกายของ
00:02:07 → 00:02:10 เราต้องบอกก่อนว่าบางทีความอยากอ่าอ่าที่
00:02:10 → 00:02:13 คุณคุณรีบอกเ้ยความอยากซึ่งความอยากมัก
00:02:13 → 00:02:16 ไม่เคยปราณีใครนะแล้วแม้กระทั่งตัวเราเอง
00:02:16 → 00:02:19 แล้วก็ความหิวค่ะอืของร่างกายของเราเอง
00:02:19 → 00:02:23 ด้วยค่ะที่บางทีเรากินมื้อเย็นได้ไม่เต็ม
00:02:23 → 00:02:26 ที่นะเพราะเราอยากจะควบคุมน้ำหนักอยากจะ
00:02:26 → 00:02:31 หุ่นดีมื้อเย็นกินสลัดเบาๆพอตกช่วง 21:00
00:02:31 → 00:02:34 น 22:00 นยังไม่นอนหิวใช่อันนี้คือโจทย์
00:02:34 → 00:02:36 สำคัญถึงบอกว่าเอ๊ะจะทำยังไงกินน้ำดื่ม
00:02:36 → 00:02:40 น้ำน้ำนะแต่ก็เอาไม่อยู่ใช่ครับอ่าถามว่า
00:02:40 → 00:02:44 เอ้ยพอได้มั้ยได้นะครับอ่าคือโจทย์เนี่ย
00:02:44 → 00:02:48 บอกว่าเอ้ยกินยามดึกต้องกินอย่างไรถ้าจะ
00:02:48 → 00:02:52 ไปแก้ที่ต้นเหตุนะครับก็อย่านอนดึกมันก็
00:02:52 → 00:02:56 จะทำให้เราไม่หิวและไม่กินอ่าแต่ถ้าแก้
00:02:56 → 00:02:59 ที่ต้นเหตุไม่ได้เพราะเราแบบเฮ้ยนอนดึกนะ
00:03:00 → 00:03:03 แล้วเราจะกินค่ะนะก็ควรดื่มแค่น้ำเปล่า
00:03:03 → 00:03:05 แต่ถ้าน้ำเปล่าเอ้าไม่อยู่ท้องอีกอ
00:03:05 → 00:03:09 อาจารย์แบบแล้วมันจะกินอย่างไรนะครับอ่า
00:03:09 → 00:03:13 ซึ่งเราต้องทราบนิดนึงก่อนครับว่าเฮ้ยผล
00:03:13 → 00:03:15 เสียของการกินตอนดึกอ่ะถ้าเราเลือกตัดสิน
00:03:15 → 00:03:17 ใจที่จะกินเนี่ยค่ะเนาะว่าเอ้ยกินยังไง
00:03:18 → 00:03:20 ให้ดีเนี่ยอาจารย์ต้องบอกว่ายังไงอ่ะให้
00:03:20 → 00:03:23 เสียกับสุขภาพน้อยอ่าต้องว่าอย่างนี้ดี
00:03:23 → 00:03:26 กว่านะครับเพราะว่ามันกินยังไงมันก็จะให้
00:03:26 → 00:03:30 ดีกับสุขภาพอ่ะมันก็ไม่ดีอยู่แล้วยังไง
00:03:30 → 00:03:34 ให้ส่งผลกระทบในทางลบต่อสุขภาพน้อยหน่อย
00:03:34 → 00:03:36 ถึงแม้ว่าอาหารที่กินยามดึกเนี่ยเราจะได้
00:03:36 → 00:03:39 เลือกและคาสรรแล้วว่าจะเป็นอาหารที่แบบ
00:03:39 → 00:03:41 เอ้ยไม่มีโทษกับร่างกายเช่นไม่ได้กินไข
00:03:41 → 00:03:43 มันไม่ได้กินของทอดไม่ได้อะไรอย่างงี้ใช่
00:03:43 → 00:03:46 มั้ยคะแต่ถูกต้องครับผมมันก็ยังส่งผล
00:03:46 → 00:03:48 กระทบอยู่ดีถูกต้องครับผมซึ่งผลเสียของ
00:03:48 → 00:03:51 การกินยามดึกอันนี้อาจจะทำให้คุณผู้ฟัง
00:03:51 → 00:03:56 ได้แบบเอ้ยพอฉันอยากที่จะกินอ่ารู้สึกแบบ
00:03:56 → 00:03:58 เฮ้ยจะกินตอนดึกแล้วนะหิวขึ้นมาหน่อย
00:03:58 → 00:04:00 อันเนี้ยบางทีอาจอาจจะแบบเฮ้ยนึกขึ้นได้
00:04:00 → 00:04:05 อ่ะฉันดื่มน้ำพอแลอแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมัน
00:04:05 → 00:04:07 ก็มีทางเลือกอย่างที่บอกนะครับแต่ก่อนที่
00:04:07 → 00:04:10 จะถึงทางเลือกเนี่ยอยากจะบอกคุณผู้ฟังนิด
00:04:10 → 00:04:12 นึงก่อนครับว่าข้อเสียของการกินตอนดึก
00:04:12 → 00:04:14 เนี่ยมันมีอะไรบ้างเพื่อจะได้แบบเฮ้ยเกิด
00:04:14 → 00:04:17 ความตระหนักขึ้นมาแล้วค่อยไปพิจารณาว่า
00:04:17 → 00:04:20 เอ้ยจะกินดีหรือไม่ดีนะแน่นอนสิ่งแรกเลย
00:04:21 → 00:04:24 ก็คืออาจจะทำให้เรานอนไม่หลับครับเพราะ
00:04:24 → 00:04:26 เรากินเสร็จปุ๊บนอนบางคนกินตอนดึกนี่คือ
00:04:26 → 00:04:30 แบบโอ้โหมันโหยมาทั้งวันใช่ทั้งวันพอกิน
00:04:30 → 00:04:33 เสร็จปุ๊บโหอึดอัดนะแล้วอย่าลืมว่าร่าง
00:04:33 → 00:04:37 กายของเราอ่ะมันหลั่งกรดหลั่งน้ำย่อยนะ
00:04:37 → 00:04:39 มันกำลังทำงานกระบวนการเมตาบอลิซึมต่างๆ
00:04:39 → 00:04:43 กำลังทำงานอือบางทีกินเสร็จปุ๊บโอ้โหมัน
00:04:43 → 00:04:46 อึดอัดอ่ะแล้วเรานอนเลยอาจจะนอนไม่หลับ
00:04:46 → 00:04:52 อ่าอ่า 2 คือระวังเรื่องของกดไหลย้อนอืม
00:04:52 → 00:04:55 อ่าฉะนั้นแล้วเนี่ยหลังรับประทานอาหาร
00:04:55 → 00:04:58 อย่างน้อยเนี่ยต้อง 3 ชัวโมงขึ้นไปโอหใช้
00:04:58 → 00:05:02 เวลาย่อยนานมากใชอแล้วถ้าเกิดเรากินตอน
00:05:02 → 00:05:04 22:00 น 23:00 นโอ้โหจะให้ไปนอน 1:00 น
00:05:04 → 00:05:07 2:00 นั้นแล้วเนี่ยมันก็ต้องระวังเรื่อง
00:05:07 → 00:05:10 ของปัญหากรดไหล่ย้อนและอีกหนึ่งปัจจัย
00:05:10 → 00:05:13 เอ่อสำคัญเลยนะครับของการที่เรากินตอนดึก
00:05:13 → 00:05:15 แล้วส่งผลเสียเนี่ยก็คือเรื่องของโกส
00:05:15 → 00:05:19 ฮอร์โมนครับอืโกธฮอร์โมนเป็นฮอร์โมนแห่ง
00:05:19 → 00:05:21 การเจริญเติบโตถ้าในเด็กใช่มั้ยครับเพราะ
00:05:21 → 00:05:25 ชื่อโกธฮอร์โมนอแต่ถ้าในวัยผู้ใหญ่เนี่ย
00:05:25 → 00:05:28 คือเราก็ไม่ได้โตแล้วนะก็คือจะออกข้างซะ
00:05:28 → 00:05:30 มากกว่า
00:05:30 → 00:05:34 ใช่ช่ในกระบการเผาผาค่ะนะครับช่วยในการ
00:05:34 → 00:05:38 สลายไขมันนะแล้วก็ช่วยในการฟื้นฟูซ่อมแซม
00:05:38 → 00:05:42 เซลล์ต้านความชรานะครับแล้วถ้าเกิดว่าเรา
00:05:43 → 00:05:47 กินดึกค่ะแน่นอนเราก็จะอ้วนง่ายแก่เร็ว
00:05:47 → 00:05:50 เพราะโกสฮอร์โมนมันจะไม่หลัอุยเพราะช่วง
00:05:50 → 00:05:52 ที่มันหลัเนี่ยโกสฮอร์โมนจะหลั่งช่วง
00:05:53 → 00:05:56 22:00 นถึง 2:00 นแต่เรายังกินอยู่เลย
00:05:56 → 00:05:59 ถูกต้องครับมันก็เลยแล้วจะเอาเวลาที่ที่
00:05:59 → 00:06:01 ไหนมาหลัล่ะบางคนบอกอาจารย์เอากินเสร็จ
00:06:01 → 00:06:05 ปุ๊บนอน่ะเที่ยงคืนอืนะอ้าวโกสฮอร์โมนจะ
00:06:05 → 00:06:09 หลั่งได้ในเมื่อเราไม่มีเราท้องว่างครับ
00:06:09 → 00:06:13 อ๋อคือต่อให้เราเอ่อเค้าเรียกอะไรอ่ะคือ
00:06:13 → 00:06:16 มันเป็นอัตโนมัติของร่างกายที่เวลาเรานอน
00:06:16 → 00:06:18 ปุ๊บโรดฮอร์โมนจะรู้หน้าที่ของเคแล้วจะ
00:06:18 → 00:06:20 รู้แล้วว่าเอ้ยช่วง 22:00 นถึง 2:00 น
00:06:20 → 00:06:23 อย่างเงี้ยแต่ว่าอาหารยังอยู่ในกระเพาะ
00:06:23 → 00:06:26 อาหารในทางเดินอาหารของเราโดยเฉพาะพวกน้ำ
00:06:26 → 00:06:31 ตาลพวกแป้งจะยับยั้งการหลังกดฮอร์โมนหุย
00:06:31 → 00:06:34 แล้วเรากินเข้าไปกินเข้าไปตอน 22:00 น
00:06:34 → 00:06:36 อย่างเงี้ยเราไปเอ้ย 22:00 น 2 นนะเราก็
00:06:36 → 00:06:38 บอกว่าเอ้ยเผื่อโกสฮอร์โมนยังหลังเที่ยง
00:06:38 → 00:06:40 คืนแล้วกว่าโสฮอร์โมนจะหลันะครับเราต้อง
00:06:40 → 00:06:43 EP Sleep เราต้องหลับให้ลึกก่อนโอ้โห
00:06:43 → 00:06:45 ถ้าเข้านอน 22:00 น Deep Sleep 23:00 น
00:06:45 → 00:06:47 อ่ะโสฮอร์โมนหลั่งอย่างเงี้ยแต่ 22:00 น
00:06:47 → 00:06:49 23:00 นบางทีเที่ยงคืนคนยังแบบเฮ้ยยัง
00:06:49 → 00:06:53 กินแล้วก็อ้างว่าเอ้ยอันเนี้ยมันเป็น
00:06:53 → 00:06:56 อาหาร Healthy คืออาหารน่ะมันเพื่อสุขภาพ
00:06:56 → 00:07:01 จริงแต่เรากินผิดเวรัมเวลาค่ะอ่ามันก็
00:07:01 → 00:07:04 กลายเป็นแบบว่าเอ้ยมันก็ไม่ตอบโจทย์ใน
00:07:04 → 00:07:06 เรื่องเพื่อสุขภาพได้มันก็เหมือนกับว่า
00:07:06 → 00:07:08 กระเพาะเรายังทำงานอยู่อ่ะกระบวนการใน
00:07:09 → 00:07:11 ร่างกายยังทำงานอยู่ถึงแม้ว่าจะนอนแล้วก็
00:07:11 → 00:07:14 ตามแต่ทีนี้โสฮอร์โมนก็อ้าเธอยังทำงาน
00:07:14 → 00:07:16 อยู่มันยังไม่ใช่ให้ถึงเวลาของฉันไม่ใช่
00:07:16 → 00:07:18 หน้าที่ฉันถูกต้องแล้วอีกหนึกระบวนการที่
00:07:18 → 00:07:21 ถูกรบกวนแน่นอนเนาะเพราะว่ามันจะเกิดขึ้น
00:07:21 → 00:07:23 ในช่วงที่เราฟาสติ้งในช่วงที่เรานอนแต่
00:07:23 → 00:07:27 แทนที่เราแบบเอ้ยจะจะฟาสติ้งตั้งแต่ 18:00
00:07:27 → 00:07:30 นคือฟาสติ้งคือการที่เราไม่กินออารและค่ะ
00:07:30 → 00:07:32 นะครับตั้งแต่หลัง 18:00 นกลายเป็นเอ้ย
00:07:32 → 00:07:37 เรายังกินนะทำให้กระบวนการออฟีหรือกระบวน
00:07:37 → 00:07:39 การที่เซลล์เนี่ยมันทำความสะอาดภายใน
00:07:40 → 00:07:43 เซลล์มันเองซึ่งกระบวนการเนี้ยเขาเอ่อค้น
00:07:43 → 00:07:45 พบโดยนักวิจัยชาวญี่ปุ่นแล้วได้โนเบลไพส
00:07:45 → 00:07:48 ด้วยนะครับอือ่าว่าเอ้ยมันเป็นกระบวนการ
00:07:48 → 00:07:51 ที่เซลล์เนี่ยมันทำความสะอาดภายในเซลล์
00:07:51 → 00:07:53 หรืออาจารย์เรียกว่าดีท็อกซ์ในระดับเซลล์
00:07:53 → 00:07:57 คือทำความสะอาดสิ่งปฏิกูลมูลฝอยของเสีย
00:07:57 → 00:08:00 หรือโปรตีนที่มันสร้างขึ้นมาผิดรูปผิด
00:08:00 → 00:08:03 ร่างทั้งหลายแหล่ที่ทำให้เราเนี่ยแก่เร็ว
00:08:03 → 00:08:06 เพราะเซลล์มันก็จะเสื่อมแก่ตายอ่าดีไม่ดี
00:08:06 → 00:08:09 อาจจะกายพันแล้วเกิดโรคมะเร็งขึ้นมาอย่าง
00:08:09 → 00:08:12 เงี้ยอูยซึ่งกระบวนการออฟีนี่มันสำคัญแต่
00:08:12 → 00:08:15 ถ้าเรากินดึกปุ๊บอืมันก็เกิดขึ้นไม่ได้
00:08:15 → 00:08:18 และมันก็เกิดขึ้นได้น้อยแล้วเพราะออฟีมัน
00:08:18 → 00:08:22 จะเกิดขึ้นเมื่อเราเนี่ยมีพลังงานเอ่อไม่
00:08:22 → 00:08:26 ได้รับอาหารนะแล้วพลังงานสำรองหรือถัง
00:08:26 → 00:08:29 เก็บแป้งและน้ำตาลของเราเนี่ยนะครับอยู่
00:08:29 → 00:08:33 ที่เอ่อกล้ามเนื้อกับตับเนี่ยมันพร่องลง
00:08:33 → 00:08:36 ค่ะมันก็จะไปเร่งกระบวนการนี้ให้เกิดขึ้น
00:08:36 → 00:08:39 แต่นี่เราไม่อ่ะเราเติมเต็มถังอย่าง
00:08:39 → 00:08:42 เดียวลูกพี่นะฮ 22:00 น 23 นเที่ยงพี่ก็
00:08:42 → 00:08:45 เติมเข้าไปเติมเข้าไปเติมเข้าไปค่ะแล้ว
00:08:45 → 00:08:48 ไอ้ระดับของไกลโคเจนเนี่ยหรือพลังงาน
00:08:48 → 00:08:50 สำรองอาจารย์เรียกว่าแป้งเนี่ยนะที่เก็บ
00:08:50 → 00:08:53 อยู่ในร่างกายของเราเนี่ยมันไม่พร่องลง
00:08:53 → 00:08:57 ค่ะออฟีมันก็จะไม่เกิดเราก็จะแก่เร็วอนะ
00:08:57 → 00:09:01 เกิดโรคเรืรังตามมาเยอะแยะเลยอุยอ่าอัน
00:09:01 → 00:09:06 นี้คือผลเสียของการที่เรากินตอนดึกอืไม่
00:09:06 → 00:09:08 ใช่ว่าแค่กินน้ำตาลแล้วทำให้แก่เร็วนะนี่
00:09:08 → 00:09:11 กินดึกก็ทำให้นอนดึกก็แก่เร็วกกินดนอนดึก
00:09:12 → 00:09:15 เพราะกินดึกมันคือการนอนดึกอ่าใช่ถูกมั้
00:09:15 → 00:09:18 ครับใช่อ่าฉะนั้นแล้วโดนไป 2 2 2 เด้ง
00:09:18 → 00:09:20 เลยนะเพราะกินดึกก็รู้แล้วคำว่าดึกคือ
00:09:21 → 00:09:24 แสดงว่าคุณยังไม่นอนอืน่าแล้วก็แถมยังนอน
00:09:24 → 00:09:27 ดึกอีกต่างหากแล้วทำให้เราเนี่ยอ้วนง่าย
00:09:27 → 00:09:30 แก่เร็วค่ะคออาจารย์แล้วถ้าเกิดสมมุติว่า
00:09:30 → 00:09:34 อ่ะกินดึกคืออ่ะฉันกินมาโดยตลอดแต่ถ้า
00:09:34 → 00:09:36 อยู่ๆมาหยุดเนี่ยมันอาจจะยังไม่ได้แต่ฉัน
00:09:36 → 00:09:39 ก็จะพยายามจะ Healthy ให้มากที่สุดกินดึก
00:09:39 → 00:09:42 แล้วยืดเวลาในการนอนออกไปครับอ่าอาจารย์
00:09:42 → 00:09:44 บอกว่าใช้เวลาย่อยในการย่อยเนี่ย 3
00:09:44 → 00:09:47 ชั่วโมง 3 ช่มไปอย่างน้อยทีนี้อ่ะกินไป
00:09:47 → 00:09:50 เอ้ยไปนอน 2:00 น 3:00 นแทนได้มั้ยอะไร
00:09:50 → 00:09:51 อย่างเงี้ยมันก็ถือว่าเอ้ยฉันก็ได้ย่อย
00:09:52 → 00:09:54 แล้วฉันก็ได้นอนโกดฮอร์โมนก็น่าจะทำงาน
00:09:54 → 00:09:58 ได้ไม่ได้ครับเพราะมันเลยไม่เลยช่วง
00:09:58 → 00:10:02 นาฬิกาชีวิตของร่างกายที่ 22:00 นถึง 2:00
00:10:02 → 00:10:06 นที่โกสฮอร์โมนจะหลังโอ้โหอ่ามันเลยช่วง
00:10:06 → 00:10:08 นั้นไงเพราะช่วงที่มันหลั่งอ่ะเราไปกิน
00:10:08 → 00:10:10 เท่ากับว่าเราไปเบรคโกสฮอร์โมนให้หลั่ง
00:10:10 → 00:10:12 แล้วเราไป
00:10:12 → 00:10:15 เติมถังพลังงานสำรองที่แทนที่ให้มัน
00:10:15 → 00:10:18 ไปเพื่อเร่งกระบวนการออฟีค่ะแล้วมันก็
00:10:18 → 00:10:22 หยุดทั้งโสฮอร์โมนหยุดทั้งออฟีอืร่างกาย
00:10:22 → 00:10:28 ก็เลยอ้วนง่ายและแก่เร็วอ่าแต่ถ้าคุณผู้
00:10:28 → 00:10:32 ฟังอยากที่จะกินก็อย่างน้อย 3 ช่วโมงเพรา
00:10:32 → 00:10:34 งั้นเรารู้แล้วว่าเฮ้ยอยากจะกินแล้วก่อน
00:10:34 → 00:10:37 นอนเรารู้แล้วคืนนี้ต้องนอนดึกฉันต้องนอน
00:10:37 → 00:10:40 เที่ยงคืนอย่างน้อย 20:00 นคุณกินอืไม่
00:10:40 → 00:10:42 เกิน 21:00 นนึกออกมั้ยครับ้าแล้วคุณรู้
00:10:42 → 00:10:45 แล้วว่าคืนนี้ต้องนอนดึกเอ้ยต้องแพลนถ้า
00:10:45 → 00:10:47 งั้นกินให้เบาลงหมายถึงว่าไม่ได้กินใน
00:10:47 → 00:10:51 ปริมาณที่มากเล็กๆน้อยๆนิดๆหน่อยๆผมขึ้น
00:10:51 → 00:10:54 อยู่กับอาหารที่กินและอ่านิดๆหน่อยๆนั่น
00:10:54 → 00:10:57 คืออะไรถ้านิดๆหน่อยๆเอ้ยกินช็อกโกแลตเออ
00:10:57 → 00:11:02 นะนิดๆหน่อยๆกินขนมขนมปังเบอร์เกอรี่อะไร
00:11:02 → 00:11:05 อย่างเงี้ยออก็ไม่ได้ใช่มันก็จะไปยับยั้ง
00:11:05 → 00:11:07 อย่าลืมนะครับว่ามันจะไปยับยั้งโกส
00:11:07 → 00:11:10 ฮอร์โมนทำให้เราอ้วนง่ายและแก่เร็วอุย
00:11:10 → 00:11:12 อาจารย์ย้ำคำว่าอ้วนง่ายแก่เร็วเดียวตลอด
00:11:12 → 00:11:15 ถูกต้องครับเพคุณผู้ฟังจะได้แบบเอ้ยฉันจะ
00:11:15 → 00:11:18 กินแล้วเออนึกสักนิดนึงอ่าแล้วแต่จะกิน
00:11:18 → 00:11:22 ยังไงให้มันทำลายสุขภาพให้มันน้อยน้อยลง
00:11:22 → 00:11:24 อืเพราะฉะนั้นสิ่งที่เราคุยกันในวันนี้
00:11:24 → 00:11:26 หัวข้อที่เราแบบบอกคุณผู้ฟังเนี่ยไม่ได้
00:11:27 → 00:11:29 บอกว่าจะมาสนับสนุนถูกต้องเอ้ยอาจารย์บอก
00:11:30 → 00:11:33 ว่ากินดึกได้เพื่อให้สุขภาพดีกินยังไงให้
00:11:33 → 00:11:35 ดีเอ้ยไม่ใช่หมายความว่าอย่างงั้นนะคะแต่
00:11:35 → 00:11:37 ว่าเป็นลักษณะบคือบางคนเนี่ยคือไม่ได้
00:11:37 → 00:11:41 จริงๆค่ะอาจารย์อาจจะด้วยไลฟ์สไตล์ชีวิต
00:11:41 → 00:11:44 หรือว่าอาจจะด้วยเรื่องของเอ่อการงานที่
00:11:44 → 00:11:46 เขาอาจจะเข้างานเป็นกะเราต้องกินเวลาแบบ
00:11:46 → 00:11:48 อย่างงี้เข้าใจเออหรืออะไรอย่าเงี้ยเพราะ
00:11:48 → 00:11:51 ฉะนั้นแต่ว่าก็เอาให้แบบมีปัญหากับสุขภาพ
00:11:51 → 00:11:55 น้อยที่สุดถูกต้องส่งผลกระทบเชิงลบต่อ
00:11:55 → 00:11:57 สุขภาพน้อยที่สุดั้นแล้วก็กินก่อนนอน
00:11:57 → 00:12:01 อย่างน้อย 3 ชั่วโมงและเลือกอาหารอันนี้
00:12:01 → 00:12:04 สำคัญครับให้เลี่ยงอาหารไขมันสูงเพราะ
00:12:04 → 00:12:09 อาหารไขมันสูงย่อยนานค่ะอ่าย่อยยากย่อย
00:12:09 → 00:12:14 นานนะครับไม่ใช่แบบโอ๊จะกินดึกเอไปฟาดหมู
00:12:14 → 00:12:18 กระทะหมูย่างเกาหลีนึกออกมั้ยครับติดมันๆ
00:12:18 → 00:12:21 หมู 3 ชั้นเบคอนชงเนี่ยแหละช่วงเวลากำลัง
00:12:21 → 00:12:24 แบบ Enjoy กบหมูกทะเที่ยงคืนอย่างเงี้ยนะ
00:12:24 → 00:12:27 เพราะว่ามันใช้เวลาในการย่อยนานอย่าง
00:12:27 → 00:12:30 เงี้ยครับอ่าเผ็ดร้อนอย่างเงี้ยก็ไม่ดี
00:12:30 → 00:12:32 อีกเพราะเมตาบอลิซึมขึ้นสูงเดี๋ยวนอนไม่
00:12:32 → 00:12:35 หลับอีกเพราะมันเผาผลาญนึกออกมั้ยครับอ่า
00:12:35 → 00:12:38 มันเผาผลาญเยอะเอมันก็ส่งผลกระทบต่อ
00:12:38 → 00:12:41 คุณภาพการนอนหลับหรือบางทีไปกินเครื่อง
00:12:41 → 00:12:44 ดื่มอะไรที่แบบอ่ะพูดถึงหมูกระทะแล้วต้อง
00:12:44 → 00:12:47 นึกถึงน้ำอัดลมค่ะอ้ามันมีคาเฟอีนแฝง
00:12:47 → 00:12:50 อย่างเงี้ยบางทีเราไม่รู้ไงอ่าแล้วก็
00:12:50 → 00:12:52 เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนแฝงก็ส่งผลทำให้
00:12:52 → 00:12:55 นอนไม่หลับค่ะหรือแม้กระทั่งของหวานขนม
00:12:55 → 00:12:58 หวานทั้งหลายแหล่อันนี้ส่งผลกระทบต่อโกส
00:12:58 → 00:13:01 ฮอร์โมนหมดเลยที่จะหลั่งตอนกลางคืนอือ่า
00:13:01 → 00:13:04 นั้นเราก็ต้องพยายามเรี่ยงอาหารไขมันสูง
00:13:04 → 00:13:07 นะเพราะว่ามันใช้เวลาในการย่อยได้นานนะ
00:13:07 → 00:13:09 ครับเพรางั้นแล้วย่อยนานมันก็ส่งผลกระทบ
00:13:09 → 00:13:12 แล้วว่าโอ้โหกว่าจะย่อยเสร็จกว่าจะได้นอน
00:13:12 → 00:13:16 นะครับอาหารเผ็ดร้อนนะรสจัดทั้งหลายแหล่
00:13:16 → 00:13:19 คาเฟอีนของหวานรวมทั้งแอลกอฮอล์เหล่าสปาย
00:13:19 → 00:13:23 ไวนเบียร์โอ้โหอบางคนดื่มมากช่วงเวลาดึกๆ
00:13:23 → 00:13:27 นี่กำลังบันเทิงใช่มั้ยครับกึม
00:13:27 → 00:13:30 ๆเนี่ยช่วงเวลาที่แบบที่เราต้องนอนแต่เรา
00:13:30 → 00:13:32 ก็สนุกสนานบันเทิงเพราะว่าถือว่าเป็นช่วง
00:13:32 → 00:13:36 เวลาของการพักผ่อนแต่จริงๆแล้วเนี่ยพัก
00:13:36 → 00:13:40 ผ่อนของของของของคุณผู้ฟังบางคนอาจจะแบบ
00:13:40 → 00:13:44 ว่าเอ้าฉันก็ได้ผ่อนคลายจิตต้องแยกจิตกับ
00:13:44 → 00:13:48 กายครับอแต่คุณทำให้กายเนี่ยสตสเออถูกมย
00:13:48 → 00:13:52 เครียดใช่ๆอ่าแต่จิตเนี่ยอาจจะแบบเอ้ยได้
00:13:52 → 00:13:55 ดื่มได้สบายๆอุ๊ยกินขนมหวานคุณลีแฮปปี้
00:13:55 → 00:13:59 มั้ยแฮปปี้แฮปปี้อ่ะกินเบเกอรี่อือี้
00:13:59 → 00:14:00 โดนัทโอโห
00:14:00 → 00:14:05 เจความสุขอจิตมันสุขนะใช่แต่ร่างกายเรา
00:14:05 → 00:14:10 พังอเพราะจิตกับกายมันแยกกันไงค่ะอ่าเรา
00:14:10 → 00:14:15 ก็ต้องพยายามข่่มจิตรักษาจิตนะของเราให้
00:14:15 → 00:14:18 อยู่ในแดนที่มันบวกให้มันแบบเฮ้ยอย่ากิน
00:14:18 → 00:14:21 ที่มันไม่ดีเยอะมากอก็พยายามบอกตัวเอง
00:14:21 → 00:14:24 อยู่มีๆตัวดีกับตัวร้าย
00:14:24 → 00:14:28 อยู่แต่ตัวร้ายชนะเสมอเหมือนหยินกับหยาง
00:14:28 → 00:14:32 ใช่ก็ต้องปรับจูนนะแบบว่าเออต้องต้องต้อง
00:14:32 → 00:14:37 ฝึกจิตฝึกจิตอือไม่แต่อาจารย์ไขมันอาหาร
00:14:37 → 00:14:41 เผ็ดร้อนอาหารที่มีคาเฟอีนหรือแฝงคาเฟอีน
00:14:41 → 00:14:44 อ่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายนี้ขนว
00:14:44 → 00:14:46 ขนมบานทั้งหลายแหล่เบเกอรเบเกอรี่ที่มี
00:14:46 → 00:14:50 น้ำตาลสูงอ่ะพูดง่ายๆว่าไม่ควรกินเลย
00:14:50 → 00:14:53 โอ้โหนึกภาพย้อนแฟลชแบ็คกลับไปครับไม่ได้
00:14:53 → 00:14:57 บ่อยนะคะอาจารย์นานๆทีนึงโอโนานมากแสดง
00:14:58 → 00:15:00 ว่าตั้งแต่ก่อนเข้า
00:15:00 → 00:15:04 พรรษามีโมเมนที่แบบว่าอ่ะก็เลี้ยงฉลงฉลอง
00:15:04 → 00:15:07 อะไรอย่างงี้ตามอีเวนต่างๆของที่ทำงานก็
00:15:07 → 00:15:09 จะกินทุกอย่างที่อาจารย์กล่าวมาหมดเลยค่ะ
00:15:10 → 00:15:14 แต่ว่านานๆทีนะได้มั้ยอ่ะอก็ก็ก็ได้ก็ได้
00:15:14 → 00:15:18 นะนานๆทีอาจารย์ก็เป็นอ๋อก็กินเพราะว่า
00:15:18 → 00:15:20 คอนเซปต์อาจารย์เอกราชอยากลืมว่าอยากกิน
00:15:20 → 00:15:22 ต้องได้กินค่ะต้องมีความสุขกับการกินใช่
00:15:22 → 00:15:25 ให้มีความสุขกับการกินแต่อย่าลืมว่าเอ้ย
00:15:25 → 00:15:29 คือสุขกายสบายจิตค่ะนึกออกมั้ยคือจิตอ่ะ
00:15:29 → 00:15:31 มันสบายแต่กายต้องสุขด้วยนะเราอย่าแบบว่า
00:15:31 → 00:15:34 เฮ้ยสะเน้นสบายจิตอย่างเดียวอ้าก็ฉันกิน
00:15:34 → 00:15:37 ขนมหวานฉันกินคุกกี้เบอร์เกอรี่โดนัทเอ้ย
00:15:37 → 00:15:41 มันจิตฉันมีความสุขอ่ะค่ะแต่กายกำลังรับ
00:15:41 → 00:15:45 โทษอยู่อืก็เป็นแล้วสุดท้ายอ่ะจิตจะไม่
00:15:45 → 00:15:50 สุขและค่ะเพราะกายป่วยอืกายไม่สบายมัน
00:15:50 → 00:15:52 เป็นกรรมของกายถูกต้องครับเราถึงบอกให้
00:15:52 → 00:15:56 กินแก้กรรมไงกินแก้กรอันเนี้ยคือสิ่งแรก
00:15:56 → 00:15:59 ต้องเรี่ยงเนาะกับอย่างที่ที่ 2 ก็คือ
00:15:59 → 00:16:01 หลักที่ 2 ถ้ากินตอนดึกเราต้องกินแบบอาจ
00:16:02 → 00:16:04 จะนับแคลอรี่นะให้เหลือให้ถึงก่อนนอน
00:16:04 → 00:16:06 คุณลีนึกออกมั้ยครับว่าวันนึงสมมุติว่า
00:16:06 → 00:16:09 อย่างคุณลีอาจจะกินได้วันนึงประมาณเอ่อ
00:16:09 → 00:16:12 1,600 แคลอรี่หรือ 1,800 แคลอรี่อ่าไม่
00:16:12 → 00:16:15 ได้ใช้พลังงานเยอะสมมุติว่ากินวันละ 1,800
00:16:15 → 00:16:19 ุรีก็ต้องหารสมมุติว่า 3 มื้อใช่่มยค่ะ 3
00:16:19 → 00:16:22 มื้อเช้ากลางวันเย็นมื้อละ 500 แคลอรี่
00:16:22 → 00:16:27 ค่ะเผื่อก๊อกดอนดึกดอนดึกอีก 300 แคว
00:16:27 → 00:16:30 เพื่อให้โทแคลอรี่พลังงานรวมทั้งวันอือ
00:16:30 → 00:16:34 ไม่เกินอ๋ออ่านึกออกใช่มั้ยครับต้องควบ
00:16:34 → 00:16:37 คุมแคลอรี่ควบคุมแคลอรี่ก็คือทั้งวันเลย
00:16:37 → 00:16:40 เผื่อไงไม่ใช่แบบโอไฟฟ้าเต็มที่แล้วเช้า
00:16:40 → 00:16:42 ฉันก็กินเต็มที่กลางวันก็กินเต็มที่เย็น
00:16:42 → 00:16:45 ก็กินเต็มที่พอตกกลางคืนมามันก็จะว
00:16:45 → 00:16:48 แคลอรี่แคลอรี่ทั้งวัน Total แคลอรี่มัน
00:16:48 → 00:16:51 ก็รวมค่ะงั้นถ้าเรารวมๆๆเกินเนี่ยสมมุติ
00:16:51 → 00:16:53 ว่าเกินวันนึงวัน
00:16:53 → 00:16:57 ละ 1,000 แคลอรี่ 7 วันคุณรี 7,000
00:16:57 → 00:17:00 แคลอรี่ที่เกินใช่มั้ยครับค่ะอ่ายิ่งกว่า
00:17:00 → 00:17:03 ประกันชีวิตอีกนะ 20 ปีมีเงินปันผลอันนี้
00:17:04 → 00:17:06 7 วันมีน้ำหนักปันผลให้ 1 กก 7,000
00:17:06 → 00:17:09 แคลอรี่เนี่ยน้ำหนักจะเพิ่มขึ้น 1 1 กล
00:17:09 → 00:17:12 ครับอุ้ยกินเกินวันละ 1,000 อ่ะไม่ไม่
00:17:12 → 00:17:15 ต้องอะไรเยอะหรอกกินเกินวันละ 500 ผ่านไป
00:17:15 → 00:17:19 ครึ่งเดือนอุ้ยน้ำหนักฉันขึ้นมากิโลนึง
00:17:19 → 00:17:23 อย่างเงี้ยมาเร็วมาเร็วครับเมเคมไม่ไม่
00:17:23 → 00:17:26 เร็วเ็เคมไม่เร็วลงเนี่ยลงช้าแบบแต่ขึ้น
00:17:27 → 00:17:29 เนี่ยคุณคุณผู้ฟังสังเกตดูน้ำหนักเราจะ
00:17:29 → 00:17:34 ขึ้นเร็วบางทีเราไปกินเอ่ออะไรอ่ะคุกกี้
00:17:34 → 00:17:38 เอ่อเค้กอ่ะเค้กนี่แคลอรี่สูงนะครับอื
00:17:38 → 00:17:42 ปอนด์นึงเนี่ย 56,000 แคลอรี่เลยค่ะ 7,000
00:17:42 → 00:17:44 แคลอรี่อย่าลืมที่อาจารย์บอกตามทฤษฎี
00:17:44 → 00:17:47 7,000 แคลอรี่น้ำหนักขึ้น 1 กกค่ะอแล้ว
00:17:47 → 00:17:51 กินเค้กไปคนเดียวเพลินๆปอนด์นึงสบายมาก
00:17:51 → 00:17:56 เลยอาจารย์เชื่อวันขึ้นวันรุ่งขึ้นมาช่าง
00:17:56 → 00:17:58 น้ำหนักเออก่อนขึ้นโชค
00:17:58 → 00:18:02 จน้ำหนักโดนชกเองเลยโอหนะน้ำหนักขึ้น
00:18:02 → 00:18:04 อย่างเงี้ยนะเราก็ต้องแพนเรื่องของ
00:18:04 → 00:18:07 แคลอรี่อันนี้ถ้าจะสำหรับคนที่มีพฤติกรรม
00:18:07 → 00:18:10 แบบเ้ยกินดึกค่ะนะเพื่อให้แคลอรี่
00:18:10 → 00:18:12 Distribution หรือการกระจายคแคลอรี่ทั้ง
00:18:12 → 00:18:15 วันเนี่ยเฮ้ยมันเหมาะสมแล้วโทแคลอรี่รวม
00:18:15 → 00:18:18 ทั้งวันเนี่ยมันไม่เกินค่ะแต่ทั้งนี้ทั้ง
00:18:18 → 00:18:20 นั้นมันได้ในเชิงของปริมาณนะครับที่
00:18:20 → 00:18:24 อาจารย์บอกว่าเอ้ยปริมาณก็คือแควไม่เกิน
00:18:24 → 00:18:26 แต่ผส่งผลกระทบต่อคุณภาพและเพราะเราไม่
00:18:27 → 00:18:28 ได้ดูเรื่องของปริมาณอย่าอย่างเดียวแล้ว
00:18:28 → 00:18:31 ทุกวันนี้เราดูเรื่องของเวลาที่เรากินมัน
00:18:31 → 00:18:34 ไม่ใช่ปริมาณอาหารอย่างเดียวแต่มันมีขึ้น
00:18:34 → 00:18:37 อยู่กับเวลาที่กินโอ้โหคุรีเชื่อมั้ยคน
00:18:37 → 00:18:41 ที่ทำไเคยได้ยินใช่มั้ยครับอ่าทำ If ทำไ
00:18:41 → 00:18:45 เนี่ยคือกินจำกัดช่วงเวลาใช่มั้ยอาจจะกิน
00:18:45 → 00:18:47 วันนึง 8 ชั่วโมงไม่กิน่ 16 ช่วโมง 16
00:18:47 → 00:18:50 ชั่วโมแต่อาหารที่เลือกกินน่ะมันมีงาน
00:18:50 → 00:18:53 วิจัยออกมาชัดเจนเลยว่ามันมีผลครับว่า
00:18:53 → 00:18:56 ช่วงที่คุณกินได้อ่ะคุณก็ต้องกิน Healthy
00:18:56 → 00:18:59 Diet ด้วยกินอาหารที่ที่ดีต่อสุขภาพด้วย
00:18:59 → 00:19:03 อ้าวแต่ว่าบางบางตำราและบางคนจะบอกตำราก็
00:19:03 → 00:19:06 ไม่เชิงนะเบอกว่าอเต็มที่ไปเลยใช่เบอกว่า
00:19:06 → 00:19:08 เอ้ยกินได้หมดเลยกลายเป็นว่าเอ้ยผลวิจัย
00:19:08 → 00:19:10 เนี่ยเา้าเจาะโล่งเจาะเลือดดูน้ำหนักอ่ะ
00:19:10 → 00:19:13 มันไม่ได้ผลดีเท่ากับคนที่
00:19:13 → 00:19:17 กินทำจำกัดช่วงเวลาเนี่ยในการกินแล้วกิน
00:19:17 → 00:19:19 เลือกอาหารที่มัน Healthy กับสุขภาพอัน
00:19:19 → 00:19:23 นี้มันจะดีกว่าอืคนที่กินคีโตโลคาบก็
00:19:23 → 00:19:25 เหมือนกันเคยได้ยินใช่มั้ยครับอ่าคีโตเนิ
00:19:25 → 00:19:27 ไดเอดแบบโลคาเหมือนกันว่าเอ้ยจำกัด
00:19:27 → 00:19:29 คาร์โบไฮเดรตค่ะอันนี้งานวิจัยออกมาล่า
00:19:29 → 00:19:33 สุดเลยแบบว่าทุกคนแบบอึ้ยอึ้งเลยว่าเฮ้ย
00:19:33 → 00:19:35 ขนาดจำกัดคาร์โบเดรตนะสมมุติว่าวันนึงอ่ะ
00:19:35 → 00:19:38 กินคาร์โบเดรตได้แค่ 50 กรัมนะยอ่าแต่
00:19:39 → 00:19:41 ชนิดของคาร์โบไฮเดรตที่เขาเลือกต่างกัน
00:19:41 → 00:19:44 กลุ่มนึงกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ใช้
00:19:44 → 00:19:47 เวลาในการย่อยยากหน่อยค่อยๆปลดปล่อย
00:19:47 → 00:19:49 โมเลกุลของน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดอเช่น
00:19:49 → 00:19:55 ข้าวกล้องค่ะอ่ากินเอ่อเผือกกินมันนะกิน
00:19:55 → 00:19:57 พวกคอมเพกคาร์โบไฮเดรตข้าวไรเบอรี่ขนมปัง
00:19:57 → 00:19:58 โฮว
00:19:58 → 00:20:01 กับอีกกล่มนึงเนี่ยคบตเท่ากันนะเพราะเกิน
00:20:01 → 00:20:04 แบบคีนิไดเอ 50 กรัต่อวันเท่ากันแต่เขา
00:20:04 → 00:20:09 กินแบบน้ำหวานน้ำหัลมอฮอ่าข้าวขาวขนมปัง
00:20:09 → 00:20:12 ขาวค่ะกลายเป็นว่าเหมือนกันน่ะปริมาณ
00:20:12 → 00:20:16 คาร์โบเดตเท่ากันแต่คุณภาพต่างกันชนิดของ
00:20:16 → 00:20:19 ดตต่างกันไอ้กลุ่มที่กินคาร์โบเดรตเชิง
00:20:19 → 00:20:21 เดี่ยวเยอะๆเนี่ยกลายเป็นส่งผลเสียน้ำตาล
00:20:21 → 00:20:23 ขึ้นสูงไขมัน
00:20:23 → 00:20:28 สูงทั้งๆที่เฮ้ยมันทฤษฎีเดียวกันเอใช่ใช่
00:20:28 → 00:20:31 นึกออกมั้ยครับแล้วต่อให้เรากินอาหารที่
00:20:31 → 00:20:38 แคลอรี่เท่ากันอค่ะโแต่กินต่างพฤเอ่อต่าง
00:20:38 → 00:20:41 ช่วงเวลากันหรือจำกัดเวลาในการกินต่างกัน
00:20:41 → 00:20:43 ส่งผลกระทบกับสุขภาพต่างกันฟังแบบนี้แล้ว
00:20:43 → 00:20:46 แทบจะไม่อยากกินดึกแล้วค่ะอ่ามันมีความ
00:20:46 → 00:20:51 ลึกซึ้งนะฮแล้วถ้าเราจะกินเนาะก็เลี่ยง
00:20:51 → 00:20:55 อะไรบ้างแพลนเรื่องของการนับเอ่อแคลอรี่
00:20:55 → 00:20:59 ทั้งวันของเรานะครับแล้วก็อาหารนะจำกัด
00:20:59 → 00:21:01 ปริมาณอาหารเลือกอาหารที่ดีหน่อยนะครับ
00:21:01 → 00:21:05 อย่างเช่นเฮ้ยจะกินดึกอาจจะกินนมอ่าแต่
00:21:05 → 00:21:09 ถ้าคนที่มีปัญหาย่อยเอ่อน้ำตาลในนมบัวได้
00:21:09 → 00:21:13 ยากนะนมพืชเยอะแยะเลยตอนนี้นะจะเป็นนม
00:21:13 → 00:21:16 เอ่อถั่วเหลืองอ่านะครับหรือน้ำเต้าหู้ก็
00:21:16 → 00:21:20 ได้นะอาจจะแบบอุ่นร้อนๆนะให้ผ่อนคลายนะ
00:21:21 → 00:21:22 ครับแล้วก็เลือกสูตรที่ไม่มีน้ำตาลไม่
00:21:22 → 00:21:24 เติมน้ำตาลน้ำเต้าหู้เนี่ยจริงๆแล้วเนี่ย
00:21:24 → 00:21:28 มีประโยชน์ตรงที่ว่ามันมีพวกเอ่อ
00:21:28 → 00:21:31 ไฟโตเอสโตรเจนเนาะที่ช่วยในเรื่องของการ
00:21:31 → 00:21:34 ปรับสมดุลฮอร์โมนต่างๆแล้วแต่มันมีกรด
00:21:34 → 00:21:36 อะมิโนตัวนึงที่ชื่อว่าเอ่อฟอสฟาติดิล
00:21:36 → 00:21:40 เซีนตัวนี้ทำให้หลับสบายโออยู่ในนมถั่ว
00:21:40 → 00:21:43 เหลืองอยู่ในน้ำเต้าหู้เ้ยดีจังอันนี้น้ำ
00:21:43 → 00:21:46 เต้าอ่าฟอสฟาติดิลเซอรีนพบมากในถั่ว
00:21:46 → 00:21:49 เหลืองในเต้าหู้พวกนี้แล้วเราดูได้ไม่
00:21:49 → 00:21:52 เติมน้ำตาลครับเพราะเราไม่อยากยับยั้งโท
00:21:52 → 00:21:55 ฮอร์โมนอือ่าเราก็ไม่เติมน้ำตาลนิดนึง
00:21:55 → 00:21:58 หวานน้อยได้มั้ยอ่าให้ประดุดูดน้ำผึ้งหยด
00:21:58 → 00:22:03 เดียวลงไป 3 เกล็ดอลงไปนิดนึงได้เลยหรือ
00:22:03 → 00:22:06 โยเกิร์ตก็ได้อย่างเงี้ยครับกินโยเกิร์ต
00:22:06 → 00:22:10 นะที่ไม่มีน้ำตาลหรือน้ำตาลต่ำค่ะอันนี้
00:22:10 → 00:22:13 ก็จะได้โปรตีนมันก็ช่วยในการคุมหิวได้ค่ะ
00:22:13 → 00:22:16 อ่าได้โปรไบโอติกก็มีผลต่อการปรับสมดุล
00:22:16 → 00:22:18 จุลินทรีย์ที่ลำไส้หรืออาจจะกินผลไม้ที่
00:22:18 → 00:22:22 แคลอรี่ไม่สูงไม่หวานจัดนะเอ่อ 1 ส่วน
00:22:22 → 00:22:25 เงี้ยอยู่ที่ 60 แคลอรี่นะไม่ว่าจะเป็น
00:22:25 → 00:22:29 ฝรั่งอย่างเงี้ยเอ้ยสักลูกนึงอ่าชมพู่กิน
00:22:29 → 00:22:32 ได้ 4 ผลเลยนะ 60 แคลอรี่เนี่ยอ๋อชมพู่ 4
00:22:32 → 00:22:34 ลูกเนี่ยได้ไฟเบอร์เต็มๆได้น้ำอีกก็อาจจะ
00:22:34 → 00:22:36 เ้ยอิ่มช่วยได้แคลอรี่ฉันก็ไม่ต้องมาก
00:22:36 → 00:22:39 เกินนึกออกมั้ยครับแอปเปิลอย่างเงี้ย 1
00:22:39 → 00:22:43 ลูกค่ะอ่าก็จะได้พวกเอ่อไฟเบอร์นะพวกเกติ
00:22:43 → 00:22:46 อันนี้ก็มีส่วนช่วยที่ทำให้อิ่มได้นะ
00:22:46 → 00:22:49 ฝรั่งชมพูแอปเปิ้ลหรือบางคนแบบอุยอยากจะ
00:22:49 → 00:22:52 กินให้โปรตีนหน่อยให้มันหนักท้องหน่อยค่ะ
00:22:52 → 00:22:55 นะจริงๆแล้วในหมวดหมู่ของสารอาหารเนี่ย
00:22:55 → 00:22:59 โปรตีนกับไฟเบอร์หรือยอาหารเนี่ยจะช่วย
00:22:59 → 00:23:02 ให้เราอิ่มได้ได้ได้มากได้นานได้หนักท้อง
00:23:02 → 00:23:05 นะแล้วแล้วถ้าจะเลือกโปรตีนนอกเหนือจากนม
00:23:05 → 00:23:08 จากโยเกิร์ตแล้วเนี่ยนะครับก็จะมีพวกไข่
00:23:08 → 00:23:12 ต้มอือ่าทุกวันนี้ร้านสะดวกซื้อก็มี
00:23:12 → 00:23:14 สำเร็จรูปเนาะหารับประทานง่ายถ้าไม่อยาก
00:23:14 → 00:23:16 ตื่นมาต้มไข่ตอนเอ้ยลุกขึ้นมาต้มไข่ตอน
00:23:16 → 00:23:20 ดึกนะอ่าไข่ตุ๋นไข่ตุ๋นอ้าๆอ่าอย่างเงี้ย
00:23:20 → 00:23:22 ครับอันนี้ก็จะมีโปรตีนอยู่สูงแล้ว
00:23:23 → 00:23:26 แคลอรี่เนี่ย 1 ฟองของไข่เนี่ยให้ประมาณ
00:23:26 → 00:23:31 70 แคลอรี่อ่านะแล้วก็ไม่เกินรค่ะสบายๆ
00:23:31 → 00:23:37 นะกินไข่ต้มกินไข่ตุ๋นนะกินฝรั่งกินชมพู่
00:23:37 → 00:23:40 นะแต่บางคนท้องอืดต้องระวังเตือนสำหรับ
00:23:40 → 00:23:42 ผู้สูงอายุบางทีกินฝรั่งแล้วท้องอืดอก็
00:23:42 → 00:23:45 ต้องเลือกอเอ่ออาจจะเป็นชมพู่แทนอะไร
00:23:45 → 00:23:47 อย่างเงี้ยครับอ่าเพราะว่าผู้สูงบางทีมัน
00:23:47 → 00:23:50 จากใยอาหารที่สูงเกินหรือฝรั่งที่มันไม่
00:23:50 → 00:23:53 ได้แบบแก่จัดค่ะอย่างเงี้ยครับเขาก็อาจจะ
00:23:53 → 00:23:57 ทำให้ท้องอืดได้หรือซาลี่ก็ได้ออออ่า
00:23:57 → 00:24:00 อย่างเงี้ยครับแล้วเลือกอาหารที่มันเ้ย
00:24:00 → 00:24:03 มันค่อนข้างที่จะมันค่ะแต่จริงๆแล้วเนี่ย
00:24:03 → 00:24:06 เวลาที่กินอย่างที่บอกมันก็มีผลเนาะก็
00:24:06 → 00:24:09 เลือกอาหารเหล่านี้นะแล้วที่สำคัญคือการ
00:24:09 → 00:24:12 เอ่อเรี่ยงอาหารนะที่อาจารย์บอกไปทั้งหมด
00:24:12 → 00:24:14 ทั้งปวงแนแคลอรี่นะครับแล้วก็เลือกอาหาร
00:24:15 → 00:24:16 ที่มันแบบเฮ้ย Healthy หน่อยไม่ต้องรับ
00:24:16 → 00:24:19 ประทานเยอะค่ะนะเดี๋ยวพุ่งเดี๋ยวก็ตื่นมา
00:24:19 → 00:24:22 กินแล้วนึกออกมครับคอ่าไม่งั้นเนี่ยกิน
00:24:22 → 00:24:28 เยอะเดี๋ยวหลับไม่ตื่นฟื้นไม่มีนะสุขิ
00:24:28 → 00:24:32 แม่ก็คือจริงๆเอาเป็นว่าคุณผู้ฟังฟังแล้ว
00:24:32 → 00:24:35 ก็จะได้ตระหนักนะคะแล้วก็จะได้ระมัดระวัง
00:24:36 → 00:24:38 ตัวเองมาดีที่สุดคือไม่กินแต่จำเป็นที่
00:24:38 → 00:24:40 ต้องกินเนี่ยอาจารย์บอกอย่างนึงคือน้ำก็
00:24:40 → 00:24:44 สำคัญค่ะนะที่เอช่วยได้แต่ไม่อยากให้ดื่ม
00:24:44 → 00:24:46 น้ำเยอะมากอีกเพราะอะไรครับเดี๋ยวเข้า
00:24:46 → 00:24:48 ห้องน้ำตื่นมากลางคืนเข้าห้องน้ำ 2 รอบ 3
00:24:48 → 00:24:51 รอบโดยเฉพาะผู้สูงอายุอ๋อน้ำน้ำน้ำดีนะ
00:24:51 → 00:24:55 อันนี้ฝากคุณผู้ฟังไว้เลยว่าเอ้ยน้ำดีนะ
00:24:55 → 00:24:58 การดื่มน้ำให้เอ่อเพียงพอเนี่ยนะเอาน้ำ
00:24:58 → 00:25:01 หนักตัวคูณด้วย 30 เช่นอาจารย์หนัก 60 ก็
00:25:01 → 00:25:05 1,800 ซีซีนะคูณด้วย 30 นะอันนี้ความ
00:25:05 → 00:25:08 ต้องการน้ำค่ะคิดง่ายๆเนาะมันมีหลายสูตร
00:25:08 → 00:25:10 ง่ายๆว่าเอ้ยประมาณวันละ 2 ลิตรอย่าง
00:25:10 → 00:25:12 เงี้ยแต่เราก็ต้องแพลนให้ดีไม่ใช่ว่า
00:25:12 → 00:25:14 โอ้โหวันนี้ทั้งวันไม่ได้กินน้ำแล้วไปอัด
00:25:14 → 00:25:17 ช่วงกลางคืนก่อนนอนก็ส่งผลต่อคุณภาพการ
00:25:17 → 00:25:19 นอนหลับของเราได้อีกแล้วต้องลุกขึ้นมาก็
00:25:19 → 00:25:22 นอนได้ไม่ดีเพราะว่าอปวดปัสสาวะต้องลุก
00:25:22 → 00:25:26 ขึ้นมาเข้าห้องน้ำอ่านะแล้วก็ต้องแพลนนะ
00:25:26 → 00:25:29 ให้ดีโอก็ต้องจัดสัชีวิตบาานให้ดีนะคะถึง
00:25:29 → 00:25:32 แม้จะดึกก็ูอ่ะกินได้แต่ต้องกินให้ดีแต่
00:25:32 → 00:25:34 ถ้าจะให้ดีกว่านี้คือไม่กินเลยไม่กินเลย
00:25:34 → 00:25:37 ถูกต้องครับผมสรุปกันแบบง่ายๆตรงนี้นะคะ
00:25:37 → 00:25:39 เพื่อสุขภาพของเรานั่นเองขอบคุณอาจารย์
00:25:39 → 00:25:43 เอกราชค่ะสวัสดีค่ะครับเอาล่ะค่ะคุณผู้
00:25:43 → 00:25:45 ฟังหมดเวลาแล้วนะคะพบกันใหม่ครั้งหน้ากับ
00:25:45 → 00:25:47 รายการโรงหมอทางไย PBS podcast ค่ะวัน
00:25:47 → 00:25:51 นี้ลาไปก่อนนะคะสวัสดีค่ะ This Is tha
00:25:51 → 00:25:54 PBS podcast ทำไมก่อนผ่าตัดสัตวแพทย์
00:25:54 → 00:25:56 จำเป็นต้องนำเลือดของสัตว์เลี้ยงไปตรวจผล
00:25:56 → 00:25:58 ก่อนผู้ช่วยศาตราอาจารย์นายสัตวแพทย์ดร
00:25:58 → 00:26:01 รดิ์รุ่งเรืองกิจไกลจากคณะสตวแพทยศาสตร์
00:26:01 → 00:26:04 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาเล่าให้ฟัง
00:26:04 → 00:26:08 ครับในการที่จะต้องทำการผ่าตัดเนี่ยสัตว์
00:26:08 → 00:26:10 เลี้ยงสุนัขแมวจะต้องได้รับการวางยาสลบยา
00:26:11 → 00:26:13 สลบเนี่ยฤทธิ์ของมันช่วยคุมเกี่ยวกับ
00:26:13 → 00:26:16 เรื่องความรู้สึกแล้วก็แล้วก็ความเจ็บปวด
00:26:16 → 00:26:19 ดังนั้นเนี่ยมันมีส่วนดีแล้วมันก็มีโอกาส
00:26:19 → 00:26:22 ที่จะเกิดอันตรายได้จากฤทธิ์จากผลข้าง
00:26:22 → 00:26:24 เฮียงของมันเนื่องจากว่ายาสลบเนี่ยมันจะ
00:26:24 → 00:26:27 ทำมีผลเกี่ยวกับเรื่องการกดระบบความรู้
00:26:27 → 00:26:30 สึกสึกกดระบบไหลเวียนเลือดแล้วก็อาจจะกด
00:26:30 → 00:26:33 ระบบไหลเวียนทางเดินหายใจด้วยเพราะฉะนั้น
00:26:33 → 00:26:36 ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการหายใจ
00:26:36 → 00:26:40 จากการเต้นของหัวใจรวมถึงการขับสารยาสลบ
00:26:40 → 00:26:42 เหล่านั้นออกไปจากร่างกายเนี่ยมันมีผลต่อ
00:26:42 → 00:26:44 ตัวสัตว์เลี้ยงโดยตรงที่จะได้รับการวางยา
00:26:44 → 00:26:47 สลบดังนั้นเนี่ยมองจากภายนอกเราอาจจะไม่
00:26:47 → 00:26:50 ทราบเลยว่าสุนัขตัวนี้แข็งแรงดีหรือเปล่า
00:26:50 → 00:26:52 เพราะฉะนั้นการตรวจเลือดเนี่ยมันจะเป็น
00:26:52 → 00:26:54 ตัวบ่งให้เราทราบได้ว่าเราจะประเมินได้
00:26:54 → 00:26:58 ว่าสภาพของสัตว์เหล่านั้นเนี่ยมีความปกติ
00:26:58 → 00:27:02 หรือผิดปกติหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหา
00:27:02 → 00:27:05 หลังจากได้รับการวางยาสลบมากน้อยขนาดไหน
00:27:05 → 00:27:07 เพราะว่าเราไม่สามารถบอกได้เลยจากภายนอก
00:27:07 → 00:27:10 ว่าเอ๊ะบางบางรายเนี่ยสุนัขก็เดินได้ปกติ
00:27:10 → 00:27:13 วิ่งได้ปกติแต่ว่าการทำงานของตับของไต
00:27:13 → 00:27:16 ซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญที่จะขับสารพิษออก
00:27:16 → 00:27:18 จากร่างกายสารเคมีอะไรต่างๆที่ออกจากร่าง
00:27:18 → 00:27:20 กายเนี่ยถ้าเขาเริ่มมีปัญหาแล้วเมื่อได้
00:27:20 → 00:27:23 รับยาหรือสารเคมีต่างๆเข้าไปปุ๊บเนี่ยการ
00:27:23 → 00:27:26 ทำงานของไตอาจจะไม่ได้ปกติเพราะฉะนั้น
00:27:26 → 00:27:29 หลังจากวางยาสลบแล้วอืปัญหาตามมาอาจจะ
00:27:29 → 00:27:31 เกิดขึ้นได้ด้วยครับการตรวจเลือดเนี่ย
00:27:32 → 00:27:35 เป็นการประเมินสภาพว่าสภาพร่างกายของ
00:27:35 → 00:27:38 สัตว์ตัวนั้นมีความพร้อมหรือเหมาะสมเพียง
00:27:38 → 00:27:41 พอที่จะได้รับการวางยาสลบและได้รับการผ่า
00:27:41 → 00:27:43 ตัดดีแล้วหรือยังด้วยครับต้องมองว่าการ
00:27:43 → 00:27:45 ตรวจเลือดขั้นพื้นฐานต้องใช้คำว่าตรวจ
00:27:45 → 00:27:47 เลือดขั้นพื้นฐานเพราะว่ามันจะมีหลาย
00:27:47 → 00:27:49 ระดับมากว่าจำเป็นต้องตรวจฮอร์โมนอะไร
00:27:49 → 00:27:51 หรือเปล่าถ้าเกิดว่าตรวจขั้นพื้นฐานในการ
00:27:51 → 00:27:53 ที่จะประเมินสภาพของร่างกายเนี่ยหลักๆ
00:27:53 → 00:27:56 แล้วเนี่ยครับเราจะเรียกว่าการตรวจนับ
00:27:56 → 00:27:57 เม็ดเลือดแบบสมบูรณ์ที่เรียกเรียกว่า
00:27:57 → 00:28:00 Complete but count หรือ CBC หลายๆคน
00:28:00 → 00:28:02 คงจะคุ้นคำว่า CBC นะครับการการตรวจแบบ
00:28:02 → 00:28:06 เนี้ยเราจะดูชนิดแล้วก็ปริมาณของเม็ด
00:28:06 → 00:28:09 เลือดแต่ละชนิดในร่างกายเช่นเม็ดเลือดแดง
00:28:09 → 00:28:13 ถ้าเม็ดเลือดแดงมีน้อยนั่นแสดงว่ามีปัญหา
00:28:13 → 00:28:15 เรื่องการนำออกซิเจนไปเลี้ยงร่างกายจะมี
00:28:15 → 00:28:18 สภาพของโลหิตจางนะครับถ้ามีต่ำกว่า
00:28:18 → 00:28:21 มาตรฐานนะครับเม็ดเลือดขาวเราก็จะมีจำแนก
00:28:21 → 00:28:23 เม็ดเลือดขาวมีหลายชนิดมีนิวโทรฟิล
00:28:23 → 00:28:27 เบโซฟิลอีโอซิโนฟิลโมโนไซต์อะไรต่างๆเตม
00:28:27 → 00:28:30 ไปหมดซึ่งจำนวนเมดเลือดขาวก็จะเป็นตัวบ่ง
00:28:30 → 00:28:33 ได้ว่ามันมีสภาพของการติดเชื้อการติด
00:28:33 → 00:28:36 เชื้อชนิดไหนอยู่ในร่างกายหรือเปล่าเพราะ
00:28:36 → 00:28:37 ฉะนั้นเนี่ยเรื่องเม็ดเลือดเนี่ยมีความ
00:28:37 → 00:28:41 สำคัญนอกจากนั้นตัวเกล็ดเลือดเกล็ดเลือด
00:28:41 → 00:28:43 เนี่ยมันเป็นตัวที่ทำหน้าที่ทำให้เลือด
00:28:43 → 00:28:46 แข็งตัวหลังจากที่ถ้าเกิดว่ามีการผ่าตัด
00:28:46 → 00:28:49 หรือมีแผลแล้วเนี่ยถ้าเกร็ดเลือดน้อย
00:28:49 → 00:28:52 โอกาสที่เลือดหยุดจะยากกว่าปกติดังนั้น
00:28:52 → 00:28:55 ถึงต้องตรวจสภาพต่างๆเหล่านี้ว่าเม็ดเลือ
00:28:55 → 00:28:58 แดงต่ำกว่าปกติจะมีสภาพโลหิตจางหรือเปล่า
00:28:58 → 00:29:01 เม็ดเลือดขาวมีในปริมาณมากกว่าปกติหรือ
00:29:01 → 00:29:03 ต่ำกว่าปกติมากน้อยแค่ไหนหรือเปล่าเกรด
00:29:03 → 00:29:07 เลือดมีในปริมาณต่ำกว่าปกติถ้าเจอในกรณี
00:29:07 → 00:29:10 แบบนี้ก็จะพยายามบำรุงจนกระทั่งเป็นสภาพ
00:29:10 → 00:29:13 ปกติก่อนแล้วถึงจะทำการผ่า
00:29:13 → 00:29:18 ตัด This Is Toy PBS
00:29:18 → 00:29:21 podcast ติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:29:21 → 00:29:24 แอปพลิเคชันของ Thai PBS podcast
00:29:24 → 00:29:27 spotify South Cloud Google podcast
00:29:27 → 00:29:30 Apple podcast และ YouTube Channel
00:29:30 → 00:29:34 tha PBS podcast Thai PBS podcast
00:29:34 → 00:29:37 View the world via The
00:29:37 → 00:29:46 [เพลง]
00:29:46 → 00:29:49 Voice