00:00:00 → 00:00:03 อินี่คือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคุณ
00:00:03 → 00:00:09 ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ
00:00:09 → 00:00:13 Android สวัสดีค่ะนี่คืออจิ podcast กับ
00:00:13 → 00:00:16 ช่วงเวลาของรายการโลกซึมเศร้าที่พวกเราจะ
00:00:16 → 00:00:19 พาทุกคนร่วมเดินทางไปในโลกซุมเศร้าค่ะพี่
00:00:19 → 00:00:22 เจนคะช่วงเวลาไหนที่เราอยากได้กำลังใจ
00:00:22 → 00:00:26 เป็นพิเศษก็น่าจะเป็นช่วงที่แบบเราเศร้า
00:00:26 → 00:00:29 มากๆเหมือนเหมือนดีฟมากเหมือนดาวมากเงี้ย
00:00:29 → 00:00:32 ค่ะอืสำหรับมินเองน่าจะเป็นช่วงเวลาที่
00:00:32 → 00:00:34 เราซัฟเฟอร์กับชีวิตช่วงที่เครียดกับ
00:00:34 → 00:00:37 ปัญหาต่างๆจริงๆต้องพูดว่าทุกคนล้วน
00:00:37 → 00:00:40 ต้องการกำลังใจค่ะโดยเฉพาะกับคนที่เป็น
00:00:40 → 00:00:42 โรคซุมเศร้ากำลังใจคงเป็นอีกสิ่งนึงที่
00:00:42 → 00:00:46 สำคัญไม่แพ้ยาเลยใช่มั้ยคะอใช่ค่ะจริงๆ
00:00:46 → 00:00:48 วันนี้พวกเราก็เลยจะมาพูดคุยเกี่ยวกับ
00:00:48 → 00:00:51 กำลังใจกับโลกซุมเศร้าทั้งในพาร์ทของคน
00:00:51 → 00:00:53 ที่เป็นโลคซุมเศร้าแล้วก็พาร์ทของคนรอบ
00:00:53 → 00:00:56 ข้างค่ะพี่เจนอืใช่เลยบินเป็นตัวแทนของคน
00:00:56 → 00:00:58 ที่อยู่ข้างๆคนที่เป็นโลกซุมเศร้าแล้วะ
00:00:58 → 00:01:00 กันแล้วพี่เจนเป็นตัวแทนของคนที่เป็นโรค
00:01:01 → 00:01:03 ซึมเศร้าโอเคอาจจะถ่ายทอดความรู้สึกออกมา
00:01:03 → 00:01:06 ได้ดีมากๆอืก็เลยอยากสอบถามพี่เจนก่อน
00:01:06 → 00:01:09 เบื้องต้นเกี่ยวกับกำลังใจกับโลกซุมเศร้า
00:01:09 → 00:01:12 ค่ะคำถามแรกเลยก็คือตอนนั้นน่ะพี่เจนให้
00:01:12 → 00:01:16 กำลังใจตัวเองยังไงบ้างโหอย่างที่บอกนว่า
00:01:16 → 00:01:19 เคยเป็นโรคซึมเศร้าแล้วเป็นมาประมาณ 2 ปี
00:01:19 → 00:01:22 แล้วเนาะหมายถึงว่าหายใช่ไหมยคะก็รู้สึก
00:01:22 → 00:01:26 ว่าจำภาพชัดๆไม่ค่อยได้ค่ะแต่จำได้เลยว่า
00:01:26 → 00:01:29 มันยากมากกับการที่เราจะให้กำลังใจตัวเรา
00:01:29 → 00:01:32 เองยากจริงๆแบบไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว
00:01:32 → 00:01:36 ก็ไม่รู้ว่ากำลังใจที่ออกมาจากตัวเองมัน
00:01:36 → 00:01:40 มันจะต้องออกมาในรูปแบบไหนอืมเพราะณตอน
00:01:40 → 00:01:43 ที่เศร้าหรือว่าดาวอ่ะมันเหมือนคนอยู่ใน
00:01:43 → 00:01:46 ความมืดประมาณนั้นเลยคือแบบก็อยากนะอยาก
00:01:46 → 00:01:48 ที่จะหายอยากที่จะแบบไม่อยากเศร้าแต่ว่า
00:01:49 → 00:01:51 มันทำไม่ได้มันให้กำลังใจตัวเองณตอนนั้น
00:01:51 → 00:01:55 ไม่ได้เลยแต่ว่าจำได้ว่าสิ่งที่สำคัญที่
00:01:55 → 00:02:00 สุดอย่างแรกที่เราควรจะทำได้นะตอนคือเรา
00:02:00 → 00:02:02 ต้องคิดว่าเราแบบเราอยากหายหรือว่าเราหาย
00:02:02 → 00:02:05 ได้อะไรเงี้ยเออเราอยากกลับไปเป็นเหมือน
00:02:05 → 00:02:08 เดิมนั่นมันก็เรียกว่าเป็นกำลังใจของคน
00:02:08 → 00:02:10 ที่เป็นโรคซึมเศร้านตอนนั้นแล้วอย่างนึง
00:02:10 → 00:02:13 เหมือนเป็นการสร้างแบบความหวังเล็กๆว่า
00:02:13 → 00:02:16 วันนึงเราต้องหายใช่ใช่เพราะว่าณตอนที่
00:02:16 → 00:02:19 เราดาวนะตอนที่เราเศร้ามากอ่ะเราไม่รู้
00:02:19 → 00:02:21 เลยว่าว่ามันจะหายได้ไมอ่ะเพราะว่ามันมัน
00:02:21 → 00:02:23 มืดจริงๆอ่ะสำหรับคนที่เป็นอ่ะมันมันมอง
00:02:23 → 00:02:25 ไม่เห็นจริงๆอ่ะแต่ว่าถ้ามันมีช่วงระยะ
00:02:25 → 00:02:27 เวลานึงที่มันแวบขึ้นมาได้เว่าเราอยากหาย
00:02:27 → 00:02:29 ว่ะเราไม่อยากเป็นแบบนี้แล้วอ่ะที่ว่า
00:02:29 → 00:02:31 อันเนี้ยเป็นเป็นหนึ่งกำลังใจจของตัวเองะ
00:02:31 → 00:02:34 อย่างที่ 2 เลยก็คือเราหายได้เราอยากหาย
00:02:34 → 00:02:36 แล้วเราก็ต้องหายได้เราต้องเชื่อแบบนั้น
00:02:37 → 00:02:40 ว่าเราหายได้ใช่แล้วก็อย่างที่ 3 ก็คือ
00:02:40 → 00:02:43 รู้สึกว่าอาจจะต้องเป็นการที่เราต้องยอม
00:02:43 → 00:02:46 รับความรู้สึกตัวเองให้ได้เออเหมือน
00:02:46 → 00:02:48 เหมือนที่เราชอบพูดกันว่าแบบอบกอดความรู้
00:02:48 → 00:02:51 สึกของตัวเองเพราะว่าเหมือนตอนแรกอ่ะเรา
00:02:51 → 00:02:53 รู้สึกว่าเราอ่ะไม่ยอมรับมันเลยอีความ
00:02:53 → 00:02:55 เศร้าเเราไม่ยอมรับเราอยากวิ่งหนีมันนึก
00:02:55 → 00:02:58 ออกป่ะแต่ว่ามันวิ่งหนีได้จริงๆเพราะว่า
00:02:58 → 00:03:00 เคยลองแล้วมันอยู่กับเราวิ่งหนีไม่ได้
00:03:00 → 00:03:03 จริงๆอืเราเราไม่ชอบเลยเราอยากหนีเพราะ
00:03:03 → 00:03:04 ว่ามันเศร้ามากเลยตอนที่มันวิ่งเข้ามา
00:03:04 → 00:03:08 เนี่ยทรมานมากๆจริงๆแต่พอยอมรับขึ้นมาได้
00:03:08 → 00:03:10 ว่าเออเดี๋ยวมันจะมาเว้ยแล้วมันจะมาแล้ว
00:03:10 → 00:03:12 มันต้องมาแน่ๆแล้วมันจะอยู่มันมันเหมือน
00:03:12 → 00:03:15 มันจะดีขึ้นนิดนึงดีกว่าวิ่งหนีเหมือนว่า
00:03:15 → 00:03:18 เราเรารู้ตัวเองรู้ทันรู้ทันความรู้สึก
00:03:18 → 00:03:19 ตัวเองว่าเดี๋ยวมันจะเกิดความรู้สึกนี้
00:03:19 → 00:03:22 ขึ้นแต่เดี๋ยวมันก็จะหายไปอใช่เดี๋ยว
00:03:22 → 00:03:24 เดี๋ยวมันจะต้องมีช่วงนึงที่มันมันหายไป
00:03:24 → 00:03:26 แต่เดี๋ยวมันก็กลับมาอีกแต่คือมันก็ทรมาน
00:03:27 → 00:03:29 นะแต่ว่าการยอมรับได้ว่ามันจะมาโดยที่ไม่
00:03:29 → 00:03:31 วิ่งหนีมันทรมานน้อยกว่าการที่เราวิ่งหนี
00:03:31 → 00:03:35 มันอืออืก็เลยรู้สึกว่านี่แหละเป็นน่าจะ
00:03:35 → 00:03:38 เป็นการให้กำลังใจตัวเองในรูปแบบของพี่
00:03:38 → 00:03:41 ค่ะเออันดับแรกก็คือเราต้องอยากหายก่อน
00:03:41 → 00:03:45 อยากหายอือฮึ 2 ก็คือเชื่อว่าจะหายได้ใช่
00:03:45 → 00:03:47 สุดท้ายเลยก็คือการยอมรับความรู้สึกตัว
00:03:47 → 00:03:49 เองใช่เพราะว่าการยอมรับอย่างที่บอกว่า
00:03:49 → 00:03:52 ทรมานน้อยกว่าวิ่งหนีออือแต่ก่อนจะไปถึง
00:03:52 → 00:03:54 ขั้นยอมรับได้มันก็ผ่านการเรียนรู้อะไร
00:03:54 → 00:03:57 เหมือนกันเนาะใช่ใช่ใช่โอ๊ยเศร้าอยู่นาน
00:03:57 → 00:04:00 นะคะกว่าจะรู้สึกว่าเออมันมันคงต้องมาแบบ
00:04:00 → 00:04:02 นี้แหละแล้วเดี๋ยวมันจะหายไปอ่ะมันมันคือ
00:04:02 → 00:04:04 ขั้นตอนที่แบบก่อนจะมาถึง process เนี่ย
00:04:04 → 00:04:07 มันคือโอหวิ่งหนีมาแบบทรมานมากๆแล้วอ่ะอ
00:04:07 → 00:04:09 ในตอนนั้นพี่เจนรู้สึกว่าอยากได้กำลังใจ
00:04:09 → 00:04:13 จากคนที่เรารักหรือว่ากับตัวเองมากกว่าคน
00:04:13 → 00:04:15 รักคนรอบข้างเพราะว่าให้กำลังใจตัวเองไม่
00:04:15 → 00:04:20 ได้ค่ะไม่ได้เลยเออแบบไม่รู้ด้วยว่าแบบ
00:04:20 → 00:04:22 ว่าจะโอบกอดตัวเองยังไงแล้วแบบจะจะให้ฆ่า
00:04:23 → 00:04:25 ตัวเองได้ยังไงมันเป็นความรู้สึกนั้นเลย
00:04:25 → 00:04:27 แบบตัวเองก็ไม่มีค่าอะไรเงี้ยพอคนรอบข้าง
00:04:27 → 00:04:30 พยายามให้กำลังใจเรานะด้วยความเข้าเข้าใจ
00:04:30 → 00:04:31 ด้วยการเรียกไปกินข้าวด้วยการแบบเป็นไง
00:04:32 → 00:04:33 บ้างอย่างเงี้ยมันทำให้เรารู้สึกว่าเฮ้ย
00:04:33 → 00:04:36 เราอยากหายเราอยากดีขึ้นเพราะว่าทุกคนจะ
00:04:36 → 00:04:38 ได้ไม่ต้องห่วงเราหรือแบบทุกคนจะได้ไม่
00:04:38 → 00:04:41 ต้องมาเครียดกับความรู้สึกเราอืออไม่ต้อง
00:04:41 → 00:04:44 มาดูแลเราให้เยอะแบบนี้อะไรเงี้ยเออซึ่ง
00:04:44 → 00:04:46 มันเป็นช่วงเวลาที่พอเรามองนนกลับไปก็มัน
00:04:46 → 00:04:49 ก็ aming มากๆเลยนะเพราะเราก็เราก็รู้สึก
00:04:49 → 00:04:52 ว่าเฮ้ยดีเนาะที่พอพอเราให้กำลังใจตัวเอง
00:04:52 → 00:04:55 ไม่ได้แต่ถ้ามีคนให้กำลังใจเราอย่างน้อย
00:04:55 → 00:04:58 มันก็ทำให้เราดีขึ้นมาในอีกสเต็ปนึงหรือ
00:04:58 → 00:05:01 หรือรู้สึกมีพลังขึ้นอือเหมือนคนรอบข้าง
00:05:01 → 00:05:04 พยายามเติมกำลังใจเติมเชื้อเชื้อเพลิงให้
00:05:04 → 00:05:06 เราอ่ะใช่เออเหมือนกันเติมเชื้อเพลิงเลย
00:05:06 → 00:05:09 เพราะว่าเราไม่มีเลยแมแต่เชื้อเพลิงกำลัง
00:05:09 → 00:05:11 ใจตัวเองจากสำหรับพี่อ่ะคือแบบแย่มากอ่ะ
00:05:11 → 00:05:14 เป็นศูญเลยอ่ะเพราะอย่างที่บอกว่าณตอน
00:05:14 → 00:05:16 นั้นมันเศร้าไปหมดคุณค่าในตัวเองก็ไม่มี
00:05:16 → 00:05:18 ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไนะทำไมถึงเกิด
00:05:18 → 00:05:22 เรื่องแบบนี้กับเราทำไมเราต้องมาเศร้า
00:05:22 → 00:05:26 ขนาดนี้อมันเยอะแยะไปหมดค่ะอืแล้วมีช่วง
00:05:26 → 00:05:29 เวลาที่ความคิดลบกับการพยายามให้กำลังใจ
00:05:29 → 00:05:32 ของเราอ่ะมันตีกันมั้ยตีกันอือก็เลยยาก
00:05:32 → 00:05:34 ใช่มั้ยเพราะว่าความคิดลบพยายามจะแทรก
00:05:34 → 00:05:37 ขึ้นมายากใช่อเหมือนแบบเราต้องหายนะหรือ
00:05:38 → 00:05:41 ว่าเราต้องไม่เศร้านะอแต่แบบมันก็จะมี
00:05:41 → 00:05:44 ความรู้สึกเศร้ามากๆหรือแบบยุไม่หายหรอก
00:05:45 → 00:05:47 เงี้ยขึ้นมาอยู่แล้วมันจะหายได้ยังไงอะไร
00:05:47 → 00:05:50 เงี้ยค่ะกันอืพี่เจนมองว่าการให้กำลังใจ
00:05:50 → 00:05:53 ตัวเองสำคัญยังไงบ้างคะสำคัญยังไงบ้างใช่
00:05:53 → 00:05:57 มมันคงเป็นพื้นฐานละมั้งเนาะกับทุกคนไม่
00:05:57 → 00:05:59 ไม่ใช่ว่าแค่กับคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
00:05:59 → 00:06:02 เนาะใช่มันมันเหมือนเป็นพื้นฐานที่น่าจะ
00:06:02 → 00:06:04 ทำให้เราอยากดีขึ้นได้อ่ะอือเมื่อไหร่ที่
00:06:04 → 00:06:07 ให้กำลังใจตัวเองได้ก็คงจะเป็นเรื่องที่
00:06:07 → 00:06:10 ดีอาจจะไม่ต้องมองไปถึงขั้นที่แบบเฮ้ยเรา
00:06:10 → 00:06:13 ดีขึ้นหรือยังหรืออะไรเงี้ยแค่แค่เราอยาก
00:06:13 → 00:06:16 เาเรียกว่าอะไรอยากหายหรอออยากดีขึ้นมัน
00:06:16 → 00:06:18 ก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วมันเหมือนเราก้าวมา
00:06:18 → 00:06:20 อีกสเต็ปนึงแล้วอ่ะเดี๋ยวผ่านวันนี้ไป
00:06:20 → 00:06:21 พรุ่งนี้เราคิดอย่างนี้อีกเดี๋ยวก็ผ่านไป
00:06:21 → 00:06:24 เรื่อยๆใช่เออผ่านไปแต่ละวันแต่ละวันจริง
00:06:24 → 00:06:26 ๆนะตอนที่เรามีกิจกรรมที่เราต้องไปทำแล้ว
00:06:26 → 00:06:28 มันยากเช่นพรุ่งนี้เรามีงานที่ต้องทำแล้ว
00:06:28 → 00:06:30 มันยาก
00:06:30 → 00:06:33 อการเริ่มต้นวันหรือว่าก่อนนอนเราให้
00:06:33 → 00:06:35 กำลังใจตัวเองเรารู้สึกว่าพรุ่งมันมันจะ
00:06:35 → 00:06:38 ดีอ่ะอืใชด้วยการที่แบบเราเรามองว่าตัว
00:06:38 → 00:06:40 เองทำได้อะไรเงี้ยค่ะมิงก็เลยมองว่าการ
00:06:40 → 00:06:43 ให้กำลังใจตัวเองอ่ะมันเหมือนกับการท้า
00:06:43 → 00:06:46 ทายความคิดลบของเรามันจะมีความคิดลบที่
00:06:46 → 00:06:49 ชอบตีในหัวในหัวเราเช่นแบบเรามันทำไม่ได้
00:06:49 → 00:06:51 หรอกมันเราจะทำได้ยังไงมันยากมากเลยนะ
00:06:51 → 00:06:54 อะไรอย่างเงี้ยแล้วก็เป็นการท้าทายความ
00:06:54 → 00:06:56 เชื่อของตัวเราเองที่วงเล็บไว้ด้วยว่ามัน
00:06:56 → 00:06:59 อาจจะผิดอเราอาจจะมีมุมมองที่ผิดต่อตัว
00:06:59 → 00:07:02 เองอย่างเช่นเราไม่มีคุณค่าเราไม่เก่งเลย
00:07:02 → 00:07:05 ทำไมเราอยู่กับสายงานนี้มานานมากเลยทำไม
00:07:05 → 00:07:07 เราถึงไม่เชี่ยวชาญมันสักทีอะไรเงี้ยแต่
00:07:07 → 00:07:09 จริงๆแล้วเราอาจจะเก่งมากกว่าที่คิดการ
00:07:09 → 00:07:11 ให้กำลังใจตัวเองมันเลยเหมือนเป็นการท้า
00:07:11 → 00:07:14 ทายไอ้ความคิดลบของเราเนี่ยแหละอยิ่งกับ
00:07:14 → 00:07:16 คนที่เขากำลังเป็นโลคซึมเศร้าอ่ะค่ะเขา
00:07:16 → 00:07:19 อาจจะมีความเชื่อหลักว่าไม่มีค่าเป็นภาระ
00:07:19 → 00:07:22 การให้กำลังใจตัวเองเป็นเหมือนอาวุธในการ
00:07:22 → 00:07:25 ไปสู้กับความคิดตรงนั้นอืใช่เป็นเหมือน
00:07:25 → 00:07:29 พื้นฐานจริงๆอแต่ว่าก็ยากเหมือนกันยากๆอ
00:07:29 → 00:07:31 กว่าจะไปถึงขั้นที่เราสามารถให้กำลังใจ
00:07:31 → 00:07:34 ตัวเองได้อ่ะเขาต้องต่อสู้กับความรู้สึก
00:07:34 → 00:07:36 ที่มันตีขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ความคิด
00:07:36 → 00:07:39 ลบอีกใช่ใช่แล้วกับบางคนที่เขาต้องพูดว่า
00:07:40 → 00:07:42 ไม่ได้ไม่ได้โชคดีที่จะเกิดมาในครอบครัว
00:07:42 → 00:07:46 ที่เข้าใจอันนี้เขาต้องอือยากแค่ไหนใช่
00:07:46 → 00:07:49 เออเข้าใจนะจุดๆนี้เลยอ่ะแล้วในความรู้
00:07:49 → 00:07:51 สึกอีกความรู้สึกนึงถึงแม้จะมีคนคอยให้
00:07:52 → 00:07:53 กำลังใจแต่เราก็รู้สึกอีกว่าเราเป็นภาระ
00:07:53 → 00:07:57 ของเขาอีกใช่ๆจะแบบส่งผลกระทบ 2 อย่างก็
00:07:57 → 00:08:00 คือให้กำลังใจเยอะรู้สึกดีมากกรู้สึกยิ่ง
00:08:00 → 00:08:02 รู้สึกว่าตัวเองแบบเป็นภาระจังเลยเาต้อง
00:08:02 → 00:08:04 มาทุ่มเทให้เราขนาดนี้ใช่ใช่ค่ะอืแล้วมี
00:08:05 → 00:08:07 ช่วงเวลาไหนมั้ยคะพี่เจนที่ไม่ว่าคนรอบ
00:08:07 → 00:08:09 ข้างจะให้กำลังใจแค่ไหนหรือว่าตัวเอง
00:08:09 → 00:08:11 เนี่ยพยายามจะให้กำลังใจตัวเองแค่ไหนก็
00:08:11 → 00:08:15 ไม่ดีขึ้นเลยโอ้โหมีตลอดอืมโดยเฉพาะใน
00:08:15 → 00:08:19 ช่วงแรกๆที่แบบยังไม่ได้พยายามทำใจยอมรับ
00:08:19 → 00:08:22 ว่าว่าไอ้สิ่งที่เราเป็นมันมันต้องเป็น
00:08:22 → 00:08:24 น่ะรู้สึกว่าโหยิ่งให้กำลังใจตัวเองก็
00:08:24 → 00:08:27 เหมือนยิ่งท้อเลยอ่ะเพราะว่าเหมือนยิ่ง
00:08:27 → 00:08:29 ให้กำลังใจตัวเองแต่ไอ้ฝั่งที่เป็นความ
00:08:29 → 00:08:31 คิดลบเป็นความคิดไม่ดีกับตัวเองไม่เห็น
00:08:31 → 00:08:33 ค่าในตัวเองหรือความเศร้าอ่ะมันก็ดันขึ้น
00:08:33 → 00:08:36 มาเออมันมันก็เลยต่อสู้กันทำให้มันยิ่ง
00:08:36 → 00:08:39 เหนื่อยกว่าเดิมอืมันเป็นความรู้สึกนั้น
00:08:39 → 00:08:42 เลยเวลาที่มีคนมาปรึกษาเราในแอปพลิเคชัน
00:08:42 → 00:08:45 น่ะค่ะเขาก็จะค่อนข้างกังวลว่าถ้าไปหาหมอ
00:08:45 → 00:08:47 เราเป็นโรคซึมเศร้าจะเป็นยังไงคือค่อน
00:08:47 → 00:08:50 ข้างกลัวมันก็เลยเกิดสิ่งที่เรียกว่าช่วง
00:08:50 → 00:08:53 เวลาของการายอ่ะแบบไม่ยอมรับปฏิเสธมันมัน
00:08:53 → 00:08:55 ยิ่งหนักเลยนะมันยิ่งหนักสำหรับการที่เรา
00:08:55 → 00:08:57 จะต้องให้กำลังใจตัวเองว่าเอ้ยเดี๋ยวเรา
00:08:57 → 00:08:59 ก็ผ่านไปเพราะว่าเราก็มีความคิดลึกๆว่า
00:08:59 → 00:09:02 เราไม่อยากเป็นเลยใช่เราไม่อยากเป็นทำไม
00:09:02 → 00:09:06 ต้องเป็นกับเราใช่อืแล้วตอนนั้นน่ะที่
00:09:06 → 00:09:08 หนักๆเลยไม่สามารถแบบไม่สามารถดีขึ้นเลย
00:09:08 → 00:09:11 อ่ะพี่เจนทำยังไงถึงผ่านมาได้คะเออสำหรับ
00:09:11 → 00:09:15 พี่เจนน่ะต้องหาวิธีให้กำลังใจตัวเองอื
00:09:15 → 00:09:18 โดยพึ่งพาคนอื่นอีกเหมือนกันณตอนนั้นใช่ม
00:09:18 → 00:09:20 ใช่เพราะว่ามันก็ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่าที่
00:09:20 → 00:09:21 เราไม่ได้พึ่งพาตัวเองนะแต่พี่เจนก็คือ
00:09:21 → 00:09:24 พึ่งพาแต่คนอื่นตลอดเลยเช่นเออโทรไปหา
00:09:24 → 00:09:28 เพื่อนตลอดเวลาที่ที่คิดแย่ๆหรือว่าร้อง
00:09:28 → 00:09:30 ไห้ตลอดเวลาเพื่อบอกปว่าเนี่ยเออมันแย่
00:09:30 → 00:09:32 มากเลยอะไรเงี้ยเออแล้วคนรอบข้างก็จะแบบ
00:09:32 → 00:09:35 ให้กำลังใจเราอืมันก็เลยผ่านแต่ละช่วงมา
00:09:35 → 00:09:39 ได้เพราะว่าพยายามไม่ไม่อยู่คนคนเดียวไม่
00:09:39 → 00:09:42 ไม่ใช้เวลาอยู่กับตัวเองคนเดียวในช่วงที่
00:09:42 → 00:09:45 ที่มันแย่มากๆเพราะว่าพี่เจินทำไม่ได้อาจ
00:09:45 → 00:09:47 จะมีคนที่ทำได้ก็ได้นะคืออยู่กับตัวเอง
00:09:47 → 00:09:49 ให้กำลังใจตัวเองแล้วผ่านไปได้แต่สำหรับ
00:09:49 → 00:09:52 พี่เจนอ่ะมันทำไม่ได้ก็เลยต้องขอความช่วย
00:09:52 → 00:09:54 เหลือจากคนอื่นมันก็ถือว่าเป็นวิธีเหมือน
00:09:54 → 00:09:57 กันนะมินมองว่าเพราะว่าการที่เลือกที่จะ
00:09:57 → 00:09:59 สื่อสารบอกออกไปมันก็ยากเหมือนกันนะใช่
00:09:59 → 00:10:02 แต่ว่าเราเลือกที่จะบอกคนอื่นระบายร้อง
00:10:02 → 00:10:04 ไห้มินมองว่ามันก็คือเป็นการให้กำลังใจ
00:10:05 → 00:10:07 ตัวเองเหมือนกันร้องไห้ก็ทำให้เรารู้สึก
00:10:07 → 00:10:09 ดีมีคนรับฟังก็ทำให้เรารู้สึกดีเหมือนกัน
00:10:09 → 00:10:12 ใช่ค่ะก็เลยอยากให้พี่เจนลองแชร์วิธี
00:10:12 → 00:10:15 สร้างสร้างพลังแล้วกันสร้างพลังในแต่ละ
00:10:15 → 00:10:18 วันว่าทำยังไงถึงแบบว่าเราจะมีพลังเพื่อ
00:10:19 → 00:10:22 เอาไปต่อสู้กับโลกซุมเศร้าได้อยากจะบอก
00:10:22 → 00:10:25 ก่อนว่าที่มินบอกเมื่อกี้สร้างพลังในแต่
00:10:25 → 00:10:28 ละวันต้องต้องใช้คำนี้จริงๆนะจะไปสร้าง
00:10:28 → 00:10:29 ระยะยาวไม่ได้
00:10:29 → 00:10:34 ใช่ทำสพี่เจเรู้ึกว่ามันยากถ้าจะแบบว่า
00:10:34 → 00:10:37 เดือนนี้ต้องดีขึ้นขอแค่แบบันแต่ละวันพอ
00:10:37 → 00:10:40 จริงๆเพราะว่ามันยากและมันดูไม่มีทางเลย
00:10:40 → 00:10:43 สำหรับพี่เจนจำได้ว่าตอนนั้นมันก็เหมือน
00:10:43 → 00:10:45 จะมีความพยายามอยู่นะไม่รู้ว่าเกิดจากตัว
00:10:45 → 00:10:48 เองหรือคนอื่นด้วยซ้ำแต่คำตอบอาจจะมาจาก
00:10:48 → 00:10:52 คนอื่นมากกว่าอืเพราะว่าคนรอบข้างอ่ะเขา
00:10:52 → 00:10:55 ดูเข้าใจเราเขาดูอยากทำให้เราดีขึ้นและ
00:10:55 → 00:10:58 เหมือนเขาช่วยทุกอย่างตามที่เราร้องขอใช่
00:10:58 → 00:11:01 ไหมมคะเหมือนเหมือนตอนนั้นก็การกินยามัน
00:11:01 → 00:11:04 จะไม่หลับเลยซึ่งช่วงเวลาตอนเย็นน่ะเป็น
00:11:04 → 00:11:07 ช่วงเวลาที่แบบแย่ที่สุดสพี่กินยาแล้วมัน
00:11:07 → 00:11:09 ก็ไม่หลับเลยก็เลยต้องสร้างกำลังใจด้วย
00:11:09 → 00:11:12 การโทบไปหาเพื่อนทุกวันทุกวันเลยตอนกินยา
00:11:12 → 00:11:14 เสร็จมันจะมีช่วงที่ยังไม่หลับก็คุยๆๆคุย
00:11:14 → 00:11:17 นู่นนี่นัให้เพื่อนเล่านี่ให้ฟังให้เราก็
00:11:17 → 00:11:19 เล่านู่นเล่านี่ให้ฟังเพราะถ้าไม่คุยเรา
00:11:19 → 00:11:23 จะดาวมากจะจะโอจะทรมานมากว่ามันรู้สึกยัง
00:11:23 → 00:11:25 ไงก็ไม่รู้ว่ามันมืดจริงๆออันนี้ก็คือ
00:11:26 → 00:11:28 กำลังใจที่ 1 คือขอความช่วยเหลือทุยกับ
00:11:28 → 00:11:31 เพื่อนที่ 2 ก็คือแบบก็รู้สึกว่ามีคน
00:11:31 → 00:11:34 เรียกกินข้าวอือมีคนแบบเออเป็นยังไงมีคน
00:11:34 → 00:11:37 เรียกกินข้าวแบบนอนอยู่ในห้องเฉยๆก็แบบมี
00:11:37 → 00:11:40 คนเปิดมาวันนี้เป็นไงบ้างอะไรเงี้ยมันก็
00:11:40 → 00:11:43 ทำให้รู้สึกว่านี่เป็นเป็นการเป็นพลัง
00:11:43 → 00:11:46 อย่างนึงเหมือนกันที่มันเกิดขึ้นเออมัน
00:11:46 → 00:11:49 เหมือนมีพลังบวกอะไรบางอย่างออกมาจากคน
00:11:49 → 00:11:51 อื่นโดยไม่ได้เกิดจากตัวเราเลยนะเราก็เลย
00:11:51 → 00:11:54 รู้สึกว่าเนี่ยมันคือการสร้างพลังของเรา
00:11:54 → 00:11:57 ซึ่งเราไม่ได้สร้างมันเองแต่ว่าพอย้อนนึก
00:11:57 → 00:11:59 กลับไปมันก็มีอีกช่วงนึงเหมือนกันที่รู้
00:11:59 → 00:12:01 สึกรู้สึกว่ามันเป็นพลังของตัวเราเองอื
00:12:01 → 00:12:06 คือณตอนนั้นน่ะไปหาหมอแล้วก็ตอนขากลับจาก
00:12:06 → 00:12:09 หาหมอเนี่ยมันจะมีสวนสาธารณะส่วนนึงแล้ว
00:12:09 → 00:12:11 มันจะมีปลาอยู่เยอะมากแล้วมันก็เป็นต้น
00:12:11 → 00:12:13 ไม้อะไรเงี้ยแล้วมันก็คือกว้างแต่ละคนก็
00:12:13 → 00:12:15 อยู่แต่ละมุมแต่ละมุมอะไรเงี้ยไม่ค่อยคน
00:12:15 → 00:12:18 ไม่ค่อยแออัดแล้วก็แบบไปยืนให้อาหารปลา
00:12:18 → 00:12:20 แล้วเราก็ตะโกนไว้ว่ากินเลยประมาณอย่าง
00:12:20 → 00:12:24 เงี้ยเออเราก็เลยรู้สึกว่าเออนี่มันก็
00:12:24 → 00:12:26 เป็นกำลังใจที่เราสร้างให้ตัวเองเหมือน
00:12:26 → 00:12:28 กันคือการพาตัวเองออกไปไปทำในสิ่งที่รู้
00:12:28 → 00:12:31 สึกว่ามันดีกับตัวเรามันมัน Connect กับ
00:12:31 → 00:12:35 เราซึ่งตัดสินใจคิดอยู่นานมากเลยนะว่าจะ
00:12:35 → 00:12:37 เลี้ยวเข้าไปดีไมเพราะว่าใจนึงก็แบบอยาก
00:12:37 → 00:12:39 กลับไปนอนเฉยๆอีกใจนึงก็แบบหรือจะเลี้ยว
00:12:39 → 00:12:41 เข้าไปดีอย่างเงี้ยเอออันนี้ก็สร้างให้
00:12:41 → 00:12:45 ตัวเองอย่างนึงแต่อยากจะบอกว่าเราหลายๆคน
00:12:45 → 00:12:48 ก็มีสิ่งที่เรา Connect อ่ะที่ต่างกันมัน
00:12:48 → 00:12:50 อาจจะมีใจนึงที่อยากทำแต่อีกใจนึงก็ก็ไม่
00:12:50 → 00:12:54 อยากทำอึเหมือนมันก็ต้องต่อสู้กันก็เลย
00:12:54 → 00:12:56 รู้สึกว่าเนี่ยแหละกำลังใจจากคนรอบข้าง
00:12:56 → 00:12:58 กลับหาอะไรที่ตัวเอง Connect ด้วยได้ง่าย
00:12:58 → 00:13:02 ๆอ่ะแล้วทำมันมันก็อาจจะจะเป็นพลังให้
00:13:02 → 00:13:05 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็ได้เพราะว่าวิธีสร้าง
00:13:05 → 00:13:07 กำลังใจที่รู้สึกว่ามันจะเป็นพื้นฐานก็
00:13:07 → 00:13:10 คือมองตัวเองในแบบที่ตัวเองเป็นก่อนแล้ว
00:13:10 → 00:13:13 ก็สร้างเา้าเรียกว่าความเชื่อมั่นให้ตัว
00:13:13 → 00:13:15 เองว่าเอ้ยเดี๋ยวฉันก็น่าจะหายได้นะ
00:13:15 → 00:13:17 เดี๋ยวฉันก็น่าจะดีขึ้นได้นะอะไรเงี้ยบอก
00:13:17 → 00:13:20 ตัวเองในทุกๆวันลองนึกถึงตัวเองในอดีตได้
00:13:20 → 00:13:23 มยแบบในอดีตเราเคยเป็นคนที่มั่นใจมาก่อน
00:13:23 → 00:13:25 เราเป็นคนร่าเริงหรืออะไรอย่างเงี้ยอาจจะ
00:13:26 → 00:13:29 ทำให้เรามีความหวังก็ได้ว่าเราจะหายใช่
00:13:29 → 00:13:33 ใช่เพราะตอนที่ที่เราโยนขนมปังออกไปค่ะ
00:13:33 → 00:13:36 แล้วเราก็ร้องขนบนั้นน่ะมันคือเราก่อนที่
00:13:36 → 00:13:39 จะเป็นซึมเศร้ามันคือความร่าเริงแบบนั้น
00:13:39 → 00:13:43 ที่เรามีแบบร่าเริงโยนออกไปเรื่อแต่ณตอน
00:13:43 → 00:13:46 ที่เราเป็นเราก็ยากแหละที่จะทำแต่ว่าเ้ย
00:13:46 → 00:13:49 พ่อลองทำดูมันรู้สึกดีอืใช่เลยมิงอยาก
00:13:49 → 00:13:52 เสริมวิธีเล็กๆที่ทำได้ทุกวันค่ะเป็นบท
00:13:52 → 00:13:54 ความที่พูดถึงวิธีง่ายๆที่จะช่วยให้พ้น
00:13:54 → 00:13:57 จากภาวะซึมเศร้ามีหลายวิธีแต่ว่ามิ้นจะ
00:13:57 → 00:14:00 หยิบยกมาบางวิธีที่นน่าสนใจมากๆนะคะคือ
00:14:00 → 00:14:03 อันแรกเลยคือเขาให้เก็บบันทึกความรู้สึก
00:14:03 → 00:14:05 ตัวเองที่บอกว่าน่าสนใจเพราะว่ามิเริ่มจด
00:14:05 → 00:14:08 บันทึกอารมณ์มาได้เดือนกว่าๆแล้วค่ะมัน
00:14:08 → 00:14:10 ช่วยให้อารมณ์เราดีขึ้นเข้าใจตัวเองมาก
00:14:10 → 00:14:12 ขึ้นและที่สำคัญคือได้ใช้เวลากับอารมณ์
00:14:12 → 00:14:15 ของตัวเองมากขึ้นนะอืโดยเฉพาะกับคนที่
00:14:15 → 00:14:18 เป็นโรคซึมเศร้าเขาอาจจะทำเป็นเข้มแข็ง
00:14:18 → 00:14:20 แล้วก็ซ่อนความรู้สึกต่อหน้าคนอื่นน่ะแต่
00:14:20 → 00:14:23 จริงๆแล้วเราไม่ควรที่จะเก็บอารมณ์ไว้
00:14:23 → 00:14:25 ตลอดเวลาค่ะเพราะอาจจะเกิดผลเสียมากกว่า
00:14:25 → 00:14:29 ผลดีการจดบันทึกเป็นวิธีในการปลดปล่อย
00:14:29 → 00:14:30 แล้วก็เข้าใจความรู้สึกของตัวเองโดยไม่
00:14:30 → 00:14:33 ต้องกังวลว่าคนอื่นจะคิดยังไงคือบางครั้ง
00:14:33 → 00:14:35 อาจจะบางครั้งอาจจะกลัวว่าการที่เราบอก
00:14:35 → 00:14:38 ความรู้สึกออกไปอ่ะจะถูกัโดยคนอื่นหรือ
00:14:38 → 00:14:40 เปล่าอการระบายด้วยการเขียนอ่ะเราไม่ต้อง
00:14:40 → 00:14:43 กังวลว่าใครจะมาเห็นใครจะมาบอกว่าความรู้
00:14:43 → 00:14:46 สึกของเรามันอ่อนแอมากเลยทำไมคิดแบบนี้
00:14:46 → 00:14:50 มันก็ตัดตรงนั้นออกไปได้อืพี่เจนเคยมั้คะ
00:14:50 → 00:14:53 โจดบันทึกใช่มยใช่พี่เจนเคยเป็นทำเป็น
00:14:53 → 00:14:56 โพสต์ของตัวเองเขียนเล่าสตอรี่ของตัวเอง
00:14:56 → 00:14:59 ว่าวันนี้เป็นวันที่เราจะได้เริ่มต้นใหม่
00:14:59 → 00:15:02 ท้องฟ้าสวยโนตตเนื้อมันก็จะเป็นการเขียน
00:15:02 → 00:15:05 ประมาณนี้ค่ะอือันนี้ก็เป็นอีกช่องทางนึง
00:15:05 → 00:15:08 ที่ทำได้เหมือนกันใช่ใช่ประโยชน์ของการจด
00:15:08 → 00:15:10 บันทึกอารมณ์เนี่ยอย่างแรกเลยคือช่วยให้
00:15:10 → 00:15:12 ประมวลผลอารมณ์แล้วก็ความคิดของตัวเองได้
00:15:12 → 00:15:16 2 ทบทวนความจำประสบการณ์ที่ผ่านมาแล้ว
00:15:16 → 00:15:18 อาจจะทำให้เรารู้สาเหตุถึงการเป็นโรคซึม
00:15:18 → 00:15:21 เศร้าก็ได้ 3 ค่ะช่วยให้เราสังเกตตัวเอง
00:15:21 → 00:15:24 วิเคราะห์แล้วก็เข้าใจตัวเองได้มากขึ้น
00:15:24 → 00:15:26 สุดท้ายเลยก็คือมันเป็นกระบวนการที่
00:15:26 → 00:15:29 กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากเอาชนะค่ะ
00:15:29 → 00:15:31 เพราะว่าถ้าเราอ่านแล้วแบบโหอะไรขนาดนั้น
00:15:31 → 00:15:36 นะไม่ได้และมีแรงฮึดขึ้นมาใช่เลยค่ะเห็น
00:15:36 → 00:15:39 ตัวเองในอีกมุมนึงใช่เรารู้สึกว่าเป็นแบบ
00:15:39 → 00:15:42 นี้ไม่ได้แล้วนะอือๆๆยิ่งถ้าเราแบบเขียน
00:15:42 → 00:15:44 มันด้วยตัวเองอ่ะเรารู้สึกว่าอยากจะกลับ
00:15:44 → 00:15:46 ไปอ่านอยู่แล้วเพราะมันเป็นสิ่งที่เรา
00:15:46 → 00:15:49 ถ่ายทอดออกมาก็จะทำให้เราเห็นรายละเอียด
00:15:49 → 00:15:51 มากขึ้นค่ะอเขาก็แนะนำมาว่าจะเริ่มต้น
00:15:51 → 00:15:54 เขียนยังไงอันดับแรกคือเขียนในสิ่งที่ทำ
00:15:54 → 00:15:57 ให้รู้สึกเศร้าค่ะเช่นการสูญเสียหรือว่า
00:15:57 → 00:15:59 ประสบการณ์ชีวิตที่เเจ็บปวดคือเป็นเมน
00:16:00 → 00:16:02 ทราม่าของเราให้ลองเขียนมันลงไปว่าอันไหน
00:16:02 → 00:16:05 ที่เรารู้สึกว่ามันคือแบบยิ่งใหญ่สุดๆเลย
00:16:05 → 00:16:07 2 ในแต่ละวันเนี่ยให้เขียนเกี่ยวกับทุก
00:16:07 → 00:16:09 สิ่งที่อยู่ในใจสิ่งที่ทำให้รำคาญ
00:16:09 → 00:16:13 หงุดหงิดเสียใจหรือว่าความสุขก็เขียนได้ 3
00:16:13 → 00:16:16 ค่ะเมื่อรู้สึกดีขึ้นน่ะเราจะสามารถทบทวน
00:16:16 → 00:16:18 ความคิดแล้วก็ความรู้สึกที่กระตุ้นให้
00:16:18 → 00:16:21 เกิดภาวะซึมเศร้าตั้งแต่แรกได้เลย 4 ค่ะ
00:16:21 → 00:16:23 เมื่อสังเกตเห็นว่าตัวเองอ่ะติดขัดมากรู้
00:16:23 → 00:16:26 สึกมันยากจังให้กลับไปอ่านบันทึกแล้วก็ดู
00:16:26 → 00:16:29 สิ่งที่เราสามารถต่อยอดได้ถึงแม้จะจะไม่
00:16:29 → 00:16:31 ได้ทำให้ความเจ็บปวดเราหายไปในทันทีแต่ก็
00:16:31 → 00:16:33 ช่วยให้เรารับมือกับมันได้ดีที่สุดเท่า
00:16:33 → 00:16:35 ที่จะเป็นไปได้แล้วก็เข้าใจตัวเองมากขึ้น
00:16:35 → 00:16:38 ค่ะสุดท้ายเลยสิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่า
00:16:38 → 00:16:42 การจดบันทึกอ่ะจะดีก็ต่อเมื่อทำเป็นนิสัย
00:16:42 → 00:16:45 ไม่ใช่แค่ในระยะเวลาสั้นๆ 1 อาทิตย์เท่า
00:16:45 → 00:16:47 นั้นค่ะกิจกรรมอื่นๆในชีวิตก็สามารถช่วย
00:16:47 → 00:16:49 เพิ่มกำลังใจได้เช่นเดียวกันอย่างเช่นการ
00:16:49 → 00:16:52 ที่พี่เจนไปให้อาหารปลายอย่างเงี้ยเอ้มิน
00:16:52 → 00:16:53 มองว่ามันก็เป็นการสร้างกำลังใจได้เหมือน
00:16:53 → 00:16:56 กันเช่นการออกกำลังกายอย่างเงี้ยอาจจะ
00:16:56 → 00:16:59 เดินเร็วซัก 15-2 นาทีต่อวัน
00:16:59 → 00:17:01 คนที่เป็นโรซึมเศร้าอาจจะรู้สึกไม่ค่อย
00:17:01 → 00:17:03 อยากเคลื่อนไหวหอยากนอนอย่างเดียวอืไม่
00:17:03 → 00:17:06 ไหวอยากจะทำไม่ไหวจะทำอะไรเลยอ่ะในช่วง
00:17:06 → 00:17:08 แรกๆอาจจะต้องขอให้เพื่อนหรือว่าคนรอบ
00:17:08 → 00:17:11 ข้างอ่ะไปด้วยกันอือหือเพื่อเป็นการแบบ
00:17:11 → 00:17:13 เพิ่มแรงผลักดันค่ะใช่พี่เจไปออกกำลังกาย
00:17:13 → 00:17:16 บ้างมั้ยณตอนนั้นไม่ออกกำลังกายแต่ว่าออก
00:17:16 → 00:17:18 ไปเก็บผักที่สวนอได้เหมือนกันเนาอืใช่ออก
00:17:18 → 00:17:22 ไปรดน้ำต้นไม้เก็บผักที่สวนแล้วก็ตอนที่
00:17:22 → 00:17:25 รดน้ำต้นไม้อ่ะจะร้องเพลงออกมาดังๆการปด
00:17:25 → 00:17:29 ปยอารมใช่เพราะคืออะไรรู้ป่ะตอนเย็นมัน
00:17:29 → 00:17:31 เป็นช่วงเวลาที่หนักที่สุดหนักที่สุดแล้ว
00:17:31 → 00:17:34 ถ้าแบบรดน้ำแล้วแบบเหม่อลอยอ่ะนึกออกป
00:17:34 → 00:17:37 โอ้โหจะยิ่งแย่เลยเราต้องอะไรก็ได้ตะโกน
00:17:37 → 00:17:39 ออกมาอะไรก็ได้ร้องแบบแล้วป้าข้างบ้านก็
00:17:40 → 00:17:43 คือเป็นอะไรเจรแต่แบบไม่สนค่ะเราต้องเรา
00:17:43 → 00:17:45 ต้องแบบอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้เราจมแต่หมาย
00:17:46 → 00:17:49 ถึงว่ากว่าจะมาถึงวันที่ออกมารถน้ำต้นมา
00:17:49 → 00:17:51 เราร้องเพลงได้มันก็ผ่านวันที่แบบทำไม่
00:17:51 → 00:17:53 ได้มาก่อนอข้อ 2 เลยค่ะทานอาหารที่มี
00:17:53 → 00:17:56 ประโยชน์แล้วก็ดื่มน้ำเยอะๆ 3 ก็คือปลด
00:17:56 → 00:17:59 ปล่อยตัวตนอันนี้เหมือนที่พี่เจนบอกเลยก็
00:17:59 → 00:18:01 คือร้องเพลงออกมานะคะคนที่เป็นโรคซุม
00:18:01 → 00:18:03 เศร้าอ่ะด้วยอารมณ์ซึมเศร้าความคิดสร้าง
00:18:03 → 00:18:06 สรรค์หรือว่าความสนุกอาจจะหายไปไม่ได้
00:18:06 → 00:18:08 เป็นเพราะตัวเขาเองนะเป็นเพะโลคเนาะอึลอง
00:18:09 → 00:18:11 ทำกิจกรรมที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์
00:18:11 → 00:18:14 เช่นการระบายสีวาดรูปกิจกรรมแฮนด์เมดหรือ
00:18:14 → 00:18:17 ว่าเล่นดนตรีเล่นกับแมวดูหนังที่ชอบคือ
00:18:17 → 00:18:20 สามารถทำได้แล้วก็ข้อ 4 ค่ะสื่อสารกับคน
00:18:20 → 00:18:22 ที่ไว้ใจเหมือนที่พี่เจเลือกใช้เลยคือทำ
00:18:22 → 00:18:24 บ่อยมากอย่าปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับปัญหา
00:18:24 → 00:18:27 เพียงลำพังมันโอเคที่จะเลือกที่จะระบาย
00:18:27 → 00:18:30 ความคิดแลความรู้ึกรสึกออกไปแต่ว่าเาเน้น
00:18:30 → 00:18:33 ย้ำไว้เลยว่าอย่าพูดถึงปัญหาอย่างเดียว
00:18:33 → 00:18:35 ให้พูดถึงเรื่องดีๆด้วยเพราะว่ามันจะช่วย
00:18:35 → 00:18:37 ให้อารมณ์ดีขึ้นอย่างเช่นวันนี้แบบวันนี้
00:18:37 → 00:18:40 ไปรดน้ำต้นไม้มาด้วยเออมันก็ดูแบบเฮ้ย
00:18:40 → 00:18:42 เป็นกำลังใจให้เราว่าวันนี้เราออกมาได้
00:18:42 → 00:18:46 ไกลขนาดนี้แล้วนะใช่เออแล้วเสริมอีกนิด
00:18:46 → 00:18:50 นึงว่าการที่เราคุยกับคนที่เราไวใจดีแต่
00:18:50 → 00:18:52 ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะเข้าใจนะไวใจได้
00:18:52 → 00:18:54 แต่ว่าเออคนนี้เป็นเพื่อนเราแหละแต่ว่า
00:18:54 → 00:18:56 เพื่อนคนนี้ของเราอาจจะไม่ได้เข้าใจทุก
00:18:57 → 00:18:59 มุมที่เราเล่านะเราก็ต้องเข้าใจเด้วยใช่
00:19:00 → 00:19:03 อืสุดท้ายเลยค่ะคือลองนึกถึงสิ่งดีๆอาการ
00:19:03 → 00:19:06 ซึมเศร้าจะส่งผลต่อการมองเห็นสิ่งต่างๆ
00:19:06 → 00:19:08 เหมือนที่พี่เจนบอกว่ารู้สึกว่าโลกเป็นสี
00:19:08 → 00:19:12 เทาดำมืดมันจะดูหดหูมากในการเปลี่ยนมุม
00:19:12 → 00:19:14 มองเนี้ยให้ลองตั้งเป้าหมายให้ตัวเอง
00:19:14 → 00:19:18 สังเกตเห็นสิ่งดีๆ 3 อย่างในแต่ละวันออาจ
00:19:18 → 00:19:20 จะยากหน่อยสำหรับคนที่เขาแบบรู้สึกว่าเรา
00:19:20 → 00:19:23 จมอยู่กับตัวเองเยอะๆอะไรเงี้ยอแต่ว่าลอง
00:19:23 → 00:19:25 มองออกไปหน่อยว่าวันนี้มีอะไรบ้างที่รู้
00:19:25 → 00:19:27 สึกว่ามันเป็นสิ่งดีๆอาจจะเป็นแค่นกตัว
00:19:27 → 00:19:30 นึงที่มาเกาะที่หน้าต่างห้องแล้วร้องร้อง
00:19:30 → 00:19:34 จิ๊บๆๆๆให้เราฟังอันนี้ก็สามารถใช่อะไรก็
00:19:34 → 00:19:38 ได้เล็กๆน้อยๆอือืวิธีที่พูดไปอาจจะดู
00:19:38 → 00:19:41 ธรรมดามากแต่มินว่ามันเป็นวิธีเล็กๆที่
00:19:41 → 00:19:43 ช่วยได้ค่ะในวันที่เราไม่รู้ว่าเราจะ
00:19:43 → 00:19:45 เริ่มขยับจากตรงไหนอ่ะเหมือนกับว่าทุก
00:19:45 → 00:19:47 อย่างฉุดลังเราให้จมอยู่กับตัวเองลอง
00:19:47 → 00:19:49 เลือกที่จะหันกลับมาดูแลตัวเองก็เป็นจุด
00:19:49 → 00:19:53 เริ่มต้นที่ดีมากๆอืใช่เข้าใจนะว่าแบบวัน
00:19:53 → 00:19:56 นั้นตอนที่เราอยู่ในอารมณ์ซึมเศร้าโรคซึม
00:19:56 → 00:19:58 เศร้าของเราอ่ะไอ้การพูดแบบเมันอาจจะแบบ
00:19:58 → 00:20:01 ดูว่าแบบมันเป็นไปไม่ได้เลยอือซึ่งคนที่
00:20:01 → 00:20:03 เป็นอยู่ตอนนั้นเขาจะรู้สึกงจรงเพราะมัน
00:20:03 → 00:20:06 ยากมากเลยอ่ะเออซึ่งพี่ก็เคยเป็นแบบนั้น
00:20:06 → 00:20:10 ใช่ป่ะก็เลยพูดได้แต่ว่ามันมันต้องมัน
00:20:10 → 00:20:13 ต้องมีสักจุดนึงที่ที่ทำให้เรารู้สึกว่า
00:20:13 → 00:20:16 เฮ้ยมันมันต้องเปลี่ยนไปแล้วอ่ะอืถึงแม้
00:20:16 → 00:20:19 ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยหรือดูว่า
00:20:19 → 00:20:22 มันอาจจะช่วยไม่ได้เลยอ่ะแต่ว่าเอ้ยมัน
00:20:22 → 00:20:24 ต้องเริ่มจากตรงนั้นน่ะค้นหาจากตรงนั้น
00:20:24 → 00:20:29 น่ะมันอาจจะทำให้เราแบบค่อยๆมีทางขึ้นอื
00:20:29 → 00:20:32 มันไม่มันไม่หายในวันเดียวแน่นอนอืใช่มี
00:20:32 → 00:20:34 ชอบที่พี่เจนบอกว่าเราต้องหาอะไรที่รู้
00:20:34 → 00:20:37 สึกว่า Connect กับตัวเองอ่ะอืใช่ต่อให้
00:20:37 → 00:20:40 เราอ่านบทความเยอะแค่ไหนฟังแบบวิธีจากคน
00:20:40 → 00:20:42 อื่นเยอะแค่ไหนสุดท้ายอาจจะไม่เข้ากับเรา
00:20:42 → 00:20:45 เลยอ่ะเราต้องหาว่าอะไรนะที่ Connect เรา
00:20:45 → 00:20:47 แล้วทำให้เรารู้สึกว่าอยากสู้กับมันอาจจะ
00:20:47 → 00:20:50 เป็นกำลังใจของคนอื่นที่มอบให้เราเรารู้
00:20:50 → 00:20:53 สึกว่าตรงนี้แหละที่ทำให้เราอยากหายอใช่
00:20:53 → 00:20:56 คนอื่นอาจจะเป็นน้องแมวที่แบบร้องทุกวัน
00:20:56 → 00:20:58 อะไรอย่างเงี้ยใช่ใช่เออพี่จันจะแทรก
00:20:58 → 00:21:01 เรื่องเล่าไร้สาระนิดนึงให้ฟังแต่มันก็
00:21:01 → 00:21:03 อาจจะไม่ได้ไร้สาระแต่หมายถึงว่าณตอนนั้น
00:21:03 → 00:21:06 น่ะตอนที่เราป่วยอ่ะป้าเรานี่นะคะพาเราไป
00:21:06 → 00:21:10 วัดเลยค่ะเออพาไปบางสกุลเป็นบางสกุลตาย
00:21:10 → 00:21:14 ซึ่งเราก็ณตอนนั้นก็แบบเอี่ยงวะอ่ะคือเรา
00:21:14 → 00:21:16 ไม่ได้อยากไปไหนอยู่แล้วเงี้ยแล้วป้าเรา
00:21:16 → 00:21:19 เอาเราไปแล้วก็แบบไปก็ได้ไปก็ได้ก็ไปลอง
00:21:19 → 00:21:22 ดูซิอะไรอย่างเงี้ยแล้วแบบตอนที่พระสบัด
00:21:22 → 00:21:25 ผ้าใช่ป่ะแล้วก็บอกว่าเกิดใหม่แล้วนะลูก
00:21:25 → 00:21:27 อะไรอย่างเงี้ยเออเราก็แบบอืมันก็ไม่ใช่
00:21:28 → 00:21:30 วิธีที่เราชอบหรอกนะหรือว่าเรารู้สึกว่า
00:21:31 → 00:21:33 เราอินหรอกนะหรือเราอยากทำหรอกนะแต่ว่าพอ
00:21:33 → 00:21:37 ทำแล้วมันอาจจะเป็นกิมมิกอย่างนึงว่าเอ้ย
00:21:37 → 00:21:40 เราเห็นป้าเราพูดเราเห็นคนอื่นที่ห่วงใย
00:21:40 → 00:21:43 เรามากขึ้นมันก็เลยทำให้เรารู้สึกดีขึ้นอ
00:21:43 → 00:21:46 อืู้สึกว่าเอ๊ะหรือว่าจะได้เกิดใหม่จริงๆ
00:21:46 → 00:21:50 นะเออใช่ใช่ค่ะแบบนั้นแหละเออซึ่งซึ่งถ้า
00:21:50 → 00:21:52 เราไม่ออกไปเราอาจจะไม่ได้เห็นมุมๆนี้ก็
00:21:52 → 00:21:55 ได้วันนั้นที่ตัดสินใจไปก็คือตัดสินใจถูก
00:21:55 → 00:21:58 ต้องเออใช่แบบที่พี่เจนบอกไปเลยค่ะมันจะ
00:21:58 → 00:22:00 มีช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่ามันยากที่จะให้
00:22:01 → 00:22:03 กำลังใจตัวเองไม่ว่าเราจะให้กำลังใจตัว
00:22:03 → 00:22:05 เองแค่ไหนหรือคนอื่นจะพูดยังไงก็จะมีช่วง
00:22:05 → 00:22:09 เวลาที่โอมันยากอ่ะรู้สึกว่ายิ่งอยากหาย
00:22:09 → 00:22:11 ยิ่งเหนื่อยค่ะมิก็เลยอยากจะยกเรื่อง
00:22:11 → 00:22:14 tightness depression ก็คือภาวะเหนื่อย
00:22:14 → 00:22:17 จากโลคซึมเศร้าอืซึ่งไม่แน่ใจว่า EP นี้
00:22:17 → 00:22:20 พี่เจนเคยพูดในเลแชร์ไปหรือเปล่าเคเนาคือ
00:22:20 → 00:22:23 จะมีลักษณะคือเหนื่อยจากการพยายามต่อสู้
00:22:23 → 00:22:26 กับความคิดลบๆทำให้เกิดความรู้สึกว่าไม่
00:22:26 → 00:22:30 มีคุณค่าไม่สำคัญใช่คือโอเคคือเหนื่อย
00:22:30 → 00:22:32 อยู่แล้วแต่ว่าให้ความเหนื่อยเนี่ยมัน
00:22:32 → 00:22:37 เกิดจากภาวะที่มันอยู่ในโลกซึมเศร้าอือื
00:22:37 → 00:22:39 เพราะว่าบางคนอาจจะเป็นมาในระยะเวลาที่
00:22:39 → 00:22:42 นานด้วยใช่ 2 ค่ะเป็นมากกว่าความรู้สึก
00:22:42 → 00:22:45 เหนื่อยทั่วไปเพราะว่าส่งผลกระทบต่อการ
00:22:45 → 00:22:47 ใช้ชีวิตและความสัมพันธ์บางคนอาจจะเลิก
00:22:47 → 00:22:50 กับแฟนเลยอยิ่งทำให้รู้สึกเหนื่อยกว่า
00:22:50 → 00:22:52 เดิม 3 ค่ะไม่ใช่การขี้เกียจหรือว่าเป็น
00:22:52 → 00:22:54 การผลัดวันประกันพุ่งแต่ว่ารู้สึกหมดแรง
00:22:54 → 00:22:58 จูงใจในระดับที่ลึกแล้วก็รุนแรงใช่ตอนก็
00:22:58 → 00:23:00 คิดว่าตัวเองขี้เกียจค่ะหรือว่าเราขี้
00:23:00 → 00:23:03 เกียจนะจริงๆแล้วเราขี้เกียจแต่พออยู่ไป
00:23:03 → 00:23:06 สักพักนึงมันมันมากกว่าขี้เกียจมันแบบมัน
00:23:06 → 00:23:09 ไม่ได้อยากทำไม่อยากทำเลยไม่มีแรงจูงใจใน
00:23:09 → 00:23:11 การทำคือไม่มีเงินก็ได้อ่ะคือแบบหมายถึง
00:23:11 → 00:23:13 ว่าไม่ต้องออกไปทำงานเพื่อเอาเงินมาก็ได้
00:23:13 → 00:23:17 คือแบบไม่คออยู่เฉยๆใช่สุดท้ายเลยค่ะความ
00:23:17 → 00:23:19 รู้สึกเหนื่อยทำให้ผู้ป่วยเนี่ยรู้สึกว่า
00:23:19 → 00:23:22 การหนีจากโรคซึมเศร้าดูไม่มีทางเป็นไปได้
00:23:22 → 00:23:25 เลยคือไม่มีความหวังเลยใช่ใช่เลยอันนี้ก็
00:23:25 → 00:23:27 สามารถเชื่อมโยงกับการให้กำลังใจตัวเอง
00:23:27 → 00:23:31 ได้ว่าบางทำไมให้กำลังใจจตัวเองเท่าไหร่
00:23:31 → 00:23:33 ก็ไม่ดีขึ้นเลยอ่ะอาจจะเกิดจากภาวะ
00:23:33 → 00:23:36 เหนื่อยจากโรคซึมเศร้าค่ะอใช่ค่ะอือนพี่
00:23:36 → 00:23:38 อาจารจะมายกตัวอย่างอาการเหนื่อยจากโรค
00:23:38 → 00:23:41 ซึมเศร้าดูบ้างว่าเอ้ยมันมีอะไรบ้างอย่าง
00:23:41 → 00:23:43 แรกรู้สึกว่าการทำเรื่องเล็กๆอ่ะเป็น
00:23:43 → 00:23:46 เรื่องที่ยากมากเช่นการลุกออกจากเตียงยาก
00:23:46 → 00:23:49 มากจริงๆคือก็นอนเยอะแล้วนะเพราะว่ากินยา
00:23:49 → 00:23:52 นอนหลับแต่ว่าการจะลุกออกไปจากเตียงแค่ไป
00:23:52 → 00:23:56 กินข้าวไปนั่งคุยกับใครสักคนนึงหรือลุกไป
00:23:56 → 00:23:59 ทำงานน่ะมันยากมากจริงๆมันไม่ได้ขี้เกียจ
00:23:59 → 00:24:01 แต่มันมันเหมือนมีอะไรดูดอยู่อมันเหมือน
00:24:01 → 00:24:06 แบบมีกาวมยหนึบๆใช่แบบอืมันก็ตื่นแล้วนะ
00:24:06 → 00:24:08 ไม่ใช่ง่วงนะคะตื่นแล้วนะแต่ว่าไม่ไม่
00:24:08 → 00:24:11 อยากไปก็คือนอนเฉยๆบนเตียงอใช่นอนเหมือ
00:24:11 → 00:24:14 ลอยอย่างที่ 2 ก็คือรู้สึกเหนื่อยกับการ
00:24:14 → 00:24:17 มีชีวิตอยู่แบบรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ใช้
00:24:17 → 00:24:19 ชีวิตอยู่รู้สึกว่าเหมือนเดินทั้งๆที่แบบ
00:24:19 → 00:24:22 ไม่มีเรี่ยวแรงไม่มีอะไรเหมือนขาไปเอง
00:24:22 → 00:24:24 อะไรแบบนี้มั้ยอเหมือนคนหมือลอยเหมือนแบบ
00:24:24 → 00:24:27 คนลอยๆแบบนั้นน่ะค่ะอย่างที่ 3 ก็คือไม่
00:24:27 → 00:24:30 มีความสุขในการทำอะไรเลยแม้แต่สิ่งที่เคย
00:24:30 → 00:24:32 ชอบหรือสิ่งที่เคยทำให้มีความสุขก็ชัดเจน
00:24:32 → 00:24:35 อยู่แล้วชอบดูซีรี่ก็ไม่ชอบดูแล้วเพราะ
00:24:35 → 00:24:37 มันมันไม่มีความสนุกเหลือแล้วอย่างที่ 4
00:24:37 → 00:24:40 ก็คือรู้สึกเหนื่อยที่จะต้องฝืนยิ้มหรือ
00:24:40 → 00:24:42 ว่าแสดงออกอย่างมีความสุขทำให้สุดท้าย
00:24:42 → 00:24:44 แล้วเราก็ไม่อยากเจอผู้คนแล้วอ่ะเพราะว่า
00:24:44 → 00:24:46 การยิ้มการทำว่ามีความสุขของเรามัน
00:24:46 → 00:24:49 เหนื่อยอย่างที่บอกอันเนี้ยจะรู้สึกว่า
00:24:49 → 00:24:52 เราจะเกิดคำถามงงขึ้นว่าเอ้ยทำไมอ่ะเขา
00:24:52 → 00:24:54 ไม่น่าเป็นโรคซึมเศร้าเลยเพราะว่าเ้าดู
00:24:54 → 00:24:56 ยิ้มแย้มแจ่มใสมากอะไรเงี้ยแต่มันก็ไม่
00:24:57 → 00:25:00 ได้การันตีว่าเขาไม่ได้เป็นซึมเศร้านะอ
00:25:00 → 00:25:04 อือเราอาจจะเจอช่วงที่เขาทำใจที่จะออกมา
00:25:04 → 00:25:06 ได้ก็ได้แต่ว่ากลับไปบ้านเขาอาจจะเศร้าก็
00:25:06 → 00:25:09 ได้ใช่เข้าใจเลยว่าเวลาเรานอนเปื่อยๆเป็น
00:25:09 → 00:25:11 ผักอ่ะเราไม่ได้ทำอะไรเลยนะหมายถึงว่าไม่
00:25:11 → 00:25:15 ได้ใช้เรี่ยวแรงอะไรเลยนะแต่ทำไมนะมันถึง
00:25:15 → 00:25:18 ไม่มีแรงจะลุกออกไปไหนเลยออืเป็นคนพลัง
00:25:18 → 00:25:20 งานน้อยซะเลยอ่ะทั้งที่ก่อนหน้านี้พี่เจน
00:25:20 → 00:25:23 เป็นคนพลังงานเยอะมากใช่ใช่ต่อมาเรามาพูด
00:25:23 → 00:25:27 กันถึงพารทของคนที่อยู่ใกล้ๆคนที่ป่วย
00:25:27 → 00:25:29 เป็นโรคซึมเศร้าหรือว่าคนในครอบครัวเป็น
00:25:29 → 00:25:32 โรคซึมเศร้าบ้างดีกว่าว่าเราจะให้กำลังใจ
00:25:32 → 00:25:35 เขายังไงดีอ่ะอืพี่เจนคิดว่าไงคะสำหรับใน
00:25:35 → 00:25:39 มุมมองพี่เจนที่เป็นประสบการณ์ที่ผ่านมา
00:25:39 → 00:25:43 รู้สึกว่าเราให้กำลังใจเขาในแบบที่เรา
00:25:43 → 00:25:48 อยากจะให้เลยเช่นตบไลโทรไปหาทักถามว่า
00:25:48 → 00:25:51 เป็นยังไงบ้างหรือว่าแบบเอาขนมเอาของกิน
00:25:51 → 00:25:54 ไปให้ถึงแม้เขาจะไม่อยากกินก็ตามเงี้ยเออ
00:25:54 → 00:25:57 อย่างน้อยมันทำให้เขารู้สึกว่าเาไม่ได้
00:25:57 → 00:25:59 อยู่คนเดียวอันนี้เป็นพอย์ที่พี่เจนรู้
00:25:59 → 00:26:02 สึกว่ามันสำคัญเพราะว่าหลายๆครั้งเราก็จะ
00:26:02 → 00:26:04 รู้สึกว่าเฮ้ยเราอยู่ตัวคนเดียวบนโลกนี้
00:26:04 → 00:26:08 เราไม่มีคุณค่าเลยอืแต่ถ้าถามถึงความเข้า
00:26:08 → 00:26:12 ใจที่ในฐานะคนที่ไม่ได้เป็นเราต้องเข้าใจ
00:26:12 → 00:26:14 คนที่เป็นมากน้อยแค่ไหนบางทีมีคนโทรมาถาม
00:26:14 → 00:26:16 ก็รู้สึกว่าไอ้คนที่เป็นซึมเศร้าอยากให้
00:26:17 → 00:26:19 เข้าใจณตอนนั้นนะแต่พอมองย้อนกลับไปตรง
00:26:19 → 00:26:22 นี้แล้วอ่ะคนที่เขาจะให้กำลังใจผู้ป่วย
00:26:22 → 00:26:24 ซึมเศร้าอ่ะไม่ต้องเข้าใจมันมากก็ได้แบบ
00:26:24 → 00:26:27 เข้าใจแค่นิดๆหน่อยๆก็พอเพราะอะไรรู้ป่ะ
00:26:27 → 00:26:29 เพราะเราไม่สามารถเข้าใจทุกทั้งหมดทั้ง
00:26:29 → 00:26:32 หมดได้แน่นอนอยู่แล้วและคนที่ตัวเป็นผู้
00:26:32 → 00:26:34 ป่วยเองก็ต้องทำใจไว้ด้วยหรือแบบเข้าใจ
00:26:34 → 00:26:37 ไว้สักนิดนึงว่าเออก็บางวันเราก็ไม่ได้
00:26:37 → 00:26:39 เข้าใจตัวเองเลยเรายังงงว่าทำไมถึงเป็น
00:26:39 → 00:26:42 แบบนี้รู้สึกแบบนี้แล้วคนที่ไม่ได้เป็น
00:26:42 → 00:26:45 เขาจะเข้าใจได้ยังไงแค่เขเข้ามาถามว่า
00:26:45 → 00:26:48 เป็นยังไงหรือว่าทักมาหาอะไรเงี้ยมันก็
00:26:48 → 00:26:52 เป็นเรื่องที่ดีแล้วอืค่ะประมาณนั้นอนึก
00:26:52 → 00:26:55 ถึงเพลงเธอไม่ได้อยู่คนเดียวของ tey bir
00:26:55 → 00:26:58 ค่ะในเพลงเขาจะพูดถึงผู้ป่วยโรคมเช่า
00:26:58 → 00:27:00 เนี่ยแหละอาจจะมีโลกอื่นด้วยเนาะแต่
00:27:00 → 00:27:04 ประมาณว่าให้แบบมาอ่อนแอกับเขาได้ร้องไห้
00:27:04 → 00:27:06 ได้แบบเก่งมากแล้วอะไรอย่างเงี้ยคือเป็น
00:27:06 → 00:27:08 การให้กำลังใจถ้าตอนนี้มีคุณผู้ฟังที่รู้
00:27:08 → 00:27:11 สึกว่าอยากอ่อนแอจังเลยลองไปฟังเพลงนี้ก็
00:27:11 → 00:27:13 ได้อันนี้ไม่ได้ไม่ได้สปอนนะแต่ว่าเออชอบ
00:27:13 → 00:27:17 จริงๆค่ะอือฮึอืแล้วก็มินว่าพอยในการที่
00:27:17 → 00:27:20 เราจะให้กำลังใจเขาอ่ะมีอยู่แค่ 3 อย่าง
00:27:20 → 00:27:22 เท่านั้น 1 คือความเข้าใจแบบที่วิเจนบอก
00:27:22 → 00:27:25 เลยคือไม่ต้องเข้าใจทั้งหมดแต่แค่เราอยาก
00:27:25 → 00:27:28 เข้าใจเอ่ะอยากเข้าใจคนๆนึงว่าเป็นยังไง
00:27:28 → 00:27:31 อือข้อ 2 ค่ะคืออยู่ข้างๆเขออาจจะเป็นแค่
00:27:31 → 00:27:34 การโทรไปถามว่ากินข้าวหรือยังหรือแค่เคาะ
00:27:34 → 00:27:37 ประตูว่าเป็นไงบ้างแค่นั้นสุดท้ายเลยค่ะ
00:27:37 → 00:27:40 ไม่ตัดสินไม่ตัดสินเขาว่าสิ่งที่เขาทำมัน
00:27:40 → 00:27:43 ผิดหรืออ่อนแอใช่เออสำคัญมากๆเลยอ่ะเพราะ
00:27:43 → 00:27:46 ว่าเมื่อไหร่ที่เราเปิดใจที่จะเล่าอะไร
00:27:46 → 00:27:48 ให้ใครฟังแล้วเขายังไม่ทันฟังเราจบแล้ว
00:27:48 → 00:27:51 แบบทำไมถึงคิดแบบนี้คิดแบบนี้มันไม่ดีนะ
00:27:51 → 00:27:54 เพราะว่ามันจะทำให้เธออ่ะเศร้าเออคิดบวก
00:27:54 → 00:27:57 สิคิดในแง่อื่นสิอะไรเงี้ยหรือว่าการที่
00:27:57 → 00:28:01 บอกว่าเอ๊ะทำไมเป็นโรคซึมเศร้าลองไปทำแบบ
00:28:01 → 00:28:03 นั้นแบบนี้ดูดิซึ่งแบบนั้นแบบนี้คือคือ
00:28:03 → 00:28:05 ไม่สมเหตุสมผลอ่ะมันก็ทำให้รู้สึกว่าโอ
00:28:05 → 00:28:08 นี่ยังฟังไม่จบเลยอ่ะตัดสินแล้วอ่ะเออ
00:28:08 → 00:28:10 ทำไมถึงคิดแบบนั้นอะไรเงี้ยมันทำให้เรา
00:28:10 → 00:28:13 รู้สึกแย่ลงยิ่งกว่าเดิมอีกมันอยู่ที่
00:28:13 → 00:28:16 เจตนามากๆเลยว่าเออเจตนาของเราลึกๆคือเรา
00:28:16 → 00:28:18 อยากอยากให้เขารู้สึกดีขึ้นจริงๆแบบที่
00:28:18 → 00:28:21 พี่เจนบอกคือไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกทำแบบ
00:28:21 → 00:28:24 ที่เราอยากจะทำอือด้วยด้วยพอย์ 3 อย่าง
00:28:24 → 00:28:27 อ่ะมินว่ามันก็โอเคแล้วเนาะใช่ค่ะถ้าคุณ
00:28:27 → 00:28:29 ผู้ฟังกำลกำลังเดินอยู่ในโลกซึมเศร้าสิ่ง
00:28:29 → 00:28:32 สำคัญที่สุดคือลองใจดีกับตัวเองเมื่อเจอ
00:28:32 → 00:28:35 กับช่วงเวลาที่ยากลำบากค่ะบอกกับตัวเอง
00:28:35 → 00:28:37 ว่าเราไม่ได้อยู่คนเดียวอดทนกับตัวเองสัก
00:28:37 → 00:28:39 หน่อยเพราะว่าโรคซึมเศร้าต้องใช้เวลาใน
00:28:39 → 00:28:42 การรักษาถ้าผ่าน 1 วันไปได้วันต่อไปต้อง
00:28:42 → 00:28:45 สดใสขึ้นแน่นอนและสำหรับคนที่กำลังมีคน
00:28:45 → 00:28:48 ใกล้ตัวไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพี่น้อง
00:28:48 → 00:28:50 ครอบครัวเป็นโรคซุมเศร้ามินอยากจะบอกว่า
00:28:51 → 00:28:54 กำลังใจสำคัญกับทุกคนโดยเฉพาะกับคนที่เขา
00:28:54 → 00:28:57 ต่อสู้กับโลกซุมเศร้าค่ะมันยากสำหรับเขา
00:28:57 → 00:29:00 มากๆเลยในการก้าผ่านจุดที่ยากขนาดนี้อาจ
00:29:00 → 00:29:03 จะดูเข้าใจยากไปบ้างในบางเรื่องแต่การ
00:29:03 → 00:29:05 พยายามทำความเข้าใจก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจ
00:29:05 → 00:29:09 ให้พวกเขามากๆแล้วค่ะอืใช่เลยค่ะแล้วสิ่ง
00:29:09 → 00:29:12 ที่เจนกับน้องมิ้นพูดก็เป็นประสบการณ์ของ
00:29:12 → 00:29:14 เจนและเป็นมุมมองของเจนเป็นประสบการณ์ของ
00:29:14 → 00:29:16 น้องมิ้นแล้วก็มุมมองของน้องมิ้นเท่านั้น
00:29:16 → 00:29:20 นะคะอืมถ้าทำให้คุณผู้ฟังไม่สบายใจก็ต้อง
00:29:20 → 00:29:24 ขอโทษไว้ณที่นี้ด้วยแต่ก็หวังมากๆว่าการ
00:29:24 → 00:29:27 ทำ Episode นี้ขึ้นมาจะช่วยทำให้คนที่อาจ
00:29:27 → 00:29:31 จะอยู่ในโลกซึมเศร้าเนาะโลกที่แปลว่าโลก
00:29:31 → 00:29:37 World อดีขึ้นมีกำลังใจมีพลังใจมากขึ้น
00:29:37 → 00:29:40 นะค่ะค่ะอืสำหรับ Episode นี้ก็ขอลากันไป
00:29:40 → 00:29:45 ก่อนนะคะสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ All git นี่
00:29:45 → 00:29:48 คือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคุณดาวน์โหลดได้
00:29:48 → 00:29:53 แล้ววันนี้ทั้ง iOS และ Android