00:00:00 → 00:00:02 วันนี้เราจะคุยกันเรื่องยอดฮิตเหมือนเดิมครับ
00:00:02 → 00:00:03 ก็คือเรื่องของการลดน้ำหนัก
00:00:03 → 00:00:06 5 ความเชื่อผิดๆ ที่จะทำให้ท่าน
00:00:06 → 00:00:09 ไม่สามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จนะครับ
00:00:09 → 00:00:12 เป็นความเชื่อที่แบบเชื่อกันมานาน
00:00:12 → 00:00:16 และมักจะทำให้การลดน้ำหนักมีอุปสรรคมากๆ เลยนะครับ
00:00:24 → 00:00:25 สวัสดีครับ ผมหมอท๊อปนะครับ
00:00:25 → 00:00:27 และนี่คือ DOCTOR TOP Channel
00:00:27 → 00:00:30 รายการสุขภาพที่ทั้งสนุกและมีสาระครับ
00:00:31 → 00:00:34 วันนี้เราจะคุยกันเรื่องยอดฮิตเหมือนเดิมครับ
00:00:34 → 00:00:36 ก็คือเรื่องของการลดน้ำหนัก
00:00:36 → 00:00:39 5 ความเชื่อผิดๆ ที่จะทำให้ท่าน
00:00:39 → 00:00:42 ไม่สามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จนะครับ
00:00:42 → 00:00:45 เป็นความเชื่อที่แบบเชื่อกันมานาน
00:00:45 → 00:00:50 และมักจะทำให้การลดน้ำหนักมีอุปสรรคมากๆ เลย
00:00:50 → 00:00:51 เดี๋ยวเราไปฟังกันครับ
00:00:51 → 00:00:52 ก่อนไปอย่าลืมกด Like กด Share
00:00:52 → 00:00:55 กด Subscribe และกดกระดิ่ง ขอบคุณครับ
00:00:55 → 00:00:57 สำหรับท่านที่มีเวลาน้อยนะครับ
00:00:57 → 00:01:01 ผมขออนุญาตให้ข้ามไปดู 3 นาทีหลัง 3 นาทีสุดท้ายก่อน
00:01:01 → 00:01:04 ผมสรุปให้เรียบร้อย ทั้ง 5 ข้อเลยนะครับ
00:01:04 → 00:01:08 แล้วเมื่อไหร่ที่ท่านมีเวลา อยากให้ช่วยย้อนกลับมาดู
00:01:08 → 00:01:11 กลับมาลงรายละเอียด เพราะว่าจริงๆ แล้วเนี่ย
00:01:11 → 00:01:14 เรื่องของสุขภาพเนี่ยเรามีรายละเอียดปลีกย่อย
00:01:14 → 00:01:18 การฟังเพียงแค่ 3-5 นาที อาจจะได้เพียงคร่าวๆ
00:01:18 → 00:01:20 แต่ถ้าอยากได้ผลสำเร็จ ผลสูงสุด
00:01:20 → 00:01:23 ต้องย้อนกลับมาฟังและให้ครบให้จบครับ
00:01:23 → 00:01:26 สำหรับท่านที่มีเวลาและเตรียมร่างกายเตรียมจิตใจพร้อมแล้ว
00:01:27 → 00:01:28 ไปพร้อมๆ กันเลยครับ
00:01:28 → 00:01:30 สำหรับ 5 ความเชื่อผิดๆ
00:01:30 → 00:01:34 ที่จะทำให้การลดน้ำหนักไม่สำเร็จนั้นมีอะไรบ้าง
00:01:34 → 00:01:37 สำหรับข้อแรกเลย โดดเด่นมากครับ
00:01:37 → 00:01:43 จะผอมได้ต้องงดแป้งเท่านั้น คลาสสิคไหมครับ
00:01:43 → 00:01:46 คือเราก็มักจะได้ยินเรื่องของการทานแป้งให้น้อย
00:01:46 → 00:01:50 เพื่อให้ลดน้ำหนัก เพื่อให้ลดความอ้วน
00:01:50 → 00:01:56 หรือว่าเขาเรียกว่า Low Carb Diet นั่นเองนะครับ
00:01:56 → 00:02:01 คราวนี้ก็กลายเป็นว่าทุกคนก็จะไม่กินแป้งเลยนะครับ
00:02:01 → 00:02:04 ต้องบอกตามตรงว่าการทานแป้งนั้น
00:02:04 → 00:02:09 ทำให้อ้วนถ้าท่านทานมาก แต่ถ้าทำไม่ทันเลยก็ไม่ได้
00:02:09 → 00:02:13 ร่างกายของมนุษย์ของเราต้องการสารอาหาร
00:02:13 → 00:02:18 ที่เขาเรียกว่าสมดุลกัน มีแป้งก็คือคาร์โบไฮเดรตใช่ไหมครับ
00:02:18 → 00:02:22 มีเนื้อสัตว์ต่างๆ ก็คือโปรตีน มีไขมันต่างๆ
00:02:22 → 00:02:25 เพียงแต่เราต้องเลือกทาน เลือกกินให้ถูกต้องนะครับ
00:02:25 → 00:02:30 ก็จะทำให้ร่างกายเราเนี่ยสมส่วนสมบูรณ์แล้วก็แข็งแรงนะครับ
00:02:30 → 00:02:33 คราวนี้โดยหลักการแล้วถามว่าลดแป้งลดน้ําหนักลดไหม
00:02:33 → 00:02:37 ผมบอกลดครับ เพียงแต่ว่าเราต้องเลือกให้ถูก
00:02:37 → 00:02:40 อันดับแรก การงดแป้งไปเลยเนี่ย
00:02:40 → 00:02:43 มันจะไม่สามารถทำได้ตลอดชีวิต
00:02:43 → 00:02:45 เมื่อท่านลดน้ำหนักหรืออยากลดความอ้วนเนี่ย
00:02:45 → 00:02:49 สิ่งที่สำคัญคือเราต้องการมีหุ่นและสัดส่วนที่ดี
00:02:49 → 00:02:51 ไปตลอดชีวิตถูกต้องไหมครับ
00:02:51 → 00:02:55 ไม่ใช่แค่เอาเดือนหน้าหรือเอาอีก 3 เดือน เอาอีกปีนึงเลิกและ
00:02:55 → 00:02:56 เราต้องการตลอดชีวิต งั้นถามนิดนึงครับ
00:02:56 → 00:03:00 ท่านสามารถไม่ทานข้าว ไม่ทานเส้น ไม่ทานแป้ง
00:03:00 → 00:03:01 ติดต่อกัน 10 ปี ได้ไหมครับ
00:03:02 → 00:03:03 ยากเนาะ
00:03:03 → 00:03:07 อาจจะมีคนทำได้แต่ไม่ใช่ผมแน่นอน มันยากเกินไป
00:03:07 → 00:03:10 เพราะฉะนั้นผมแนะนำให้ทานแป้งนะครับ
00:03:10 → 00:03:14 เพียงแต่ว่าการทานแป้งนั้นก็ลดปริมาณลงมา
00:03:14 → 00:03:16 และเลือกแป้งที่ถูกต้องนะครับ
00:03:17 → 00:03:19 แป้งต่างๆ หรือคาร์โบไฮเดรตที่ผมแนะนำ
00:03:19 → 00:03:22 ก็จะเป็นกลุ่มแป้งที่ไม่ขัดสีต่างๆ นะครับ
00:03:22 → 00:03:26 เช่น ข้าวก็จะเป็นพวกข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่
00:03:26 → 00:03:31 พวกนี้ก็จะเป็นอะไรที่ทำให้น้ำตาลเราไม่ค่อยสวิงนะครับ
00:03:31 → 00:03:35 ไม่มีการใช้สไปค์กิ้งหรือพุ่งขึ้นของอินซูลินอย่างเร็วเกินไป
00:03:35 → 00:03:38 การพุ่งขึ้นของอินซูลินอย่างเร็วเกินไปทำให้เราอ้วนง่าย
00:03:38 → 00:03:41 ทำให้เราหิวง่าย ทำให้เราหงุดหงิดง่ายนะครับ
00:03:41 → 00:03:43 โอ้โห สาเหตุความอ้วนทั้งนั้นนะครับ
00:03:43 → 00:03:46 เพราะฉะนั้นเนี่ยการทานแป้งที่ไม่ขัดสี
00:03:46 → 00:03:51 เช่น พวกเข้ากล้อง แล้วก็พวกอาจจะเป็นขนมปังโฮลวีต
00:03:51 → 00:03:55 ก็จะทำให้น้ำตาลเราค่อนข้างจะคงที่ อิ่มได้นานนะครับ
00:03:55 → 00:03:58 แล้วก็ได้สุขภาพ ได้กากใย ขับถ่ายคล่อง
00:03:58 → 00:04:02 ลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยเห็นไหมครับ
00:04:02 → 00:04:06 การทานแป้งที่ถูกต้องนั้นเหมาะสมและสมควร
00:04:06 → 00:04:09 ไม่ควรจะงดไปเลย แต่ควรจะลดลงมานะครับ
00:04:09 → 00:04:13 และโปรตีนกับไขมันเนี่ยต้องกินให้ถูกให้พอเหมาะให้เพียงพอ
00:04:13 → 00:04:20 ส่วนแป้งเนี่ยเราก็ลดลงมาทีละนิดๆ จนเราสามารถปรับตัวได้
00:04:20 → 00:04:24 และสามารถที่จะทานแบบนั้นได้ตลอดชีวิตครับ
00:04:24 → 00:04:28 มาต่อกันที่ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 2 ครับ
00:04:28 → 00:04:31 ที่ทำให้ท่านอาจจะลดน้ำหนักได้ลำบากและไม่สำเร็จ
00:04:31 → 00:04:35 นั่นก็คือคือ Low Fat คือสุดยอด Low Fat คือนิพพาน
00:04:35 → 00:04:36 Low Fat คือดีที่สุด
00:04:37 → 00:04:40 ต้องบอกว่า Fat จริงๆ แล้วเป็นสิ่งที่ดีนะครับ
00:04:40 → 00:04:42 เป็นสิ่งที่ดีงามกับร่างกาย
00:04:42 → 00:04:45 ร่างกายเราเนี่ยต้องการ Fat ที่เหมาะสม
00:04:45 → 00:04:48 ไม่ใช่ว่าอยากลดน้ำหนัก ไม่ทานไขมันเลย
00:04:48 → 00:04:50 เลิกทานไขมันไปตลอดชีวิต อย่างนี้ไม่ได้ครับ
00:04:50 → 00:04:54 ร่างกายจะขาดความชุ่มชื้น ขาดสารที่จำเป็น
00:04:54 → 00:04:57 ไม่สามารถดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันได้
00:04:57 → 00:04:58 หรือละลายในน้ำมันได้
00:04:58 → 00:05:01 อันนี้เราจะต้องมีไขมันที่เพียงพอ
00:05:01 → 00:05:05 แต่ไขมันที่ทานเข้าไปนั้น ควรจะเป็นไขมันชนิดดีนั่นเองครับ
00:05:05 → 00:05:08 คราวนี้มีความสำคัญอีกอย่างนิดนึงครับว่า
00:05:08 → 00:05:13 เวลาเราซื้ออาหารที่เราเขียนว่า Low Fat, Fat 0%
00:05:13 → 00:05:15 Fat อะไรต่างๆ นานาเนี่ย
00:05:15 → 00:05:19 พวกนี้บางทีเนี่ยรสชาติเนี่ยมันจะอร่อยน้อยลงกว่าปกตินิดนึง
00:05:19 → 00:05:23 ความมัน ความแบบนุ่มหรืออะไรอย่างเงี้ย
00:05:23 → 00:05:24 มันจะไม่ค่อยเท่าเดิม
00:05:24 → 00:05:27 แล้วเขาก็จะมีการปรุงแต่งเพื่อให้มันอร่อย
00:05:27 → 00:05:29 ก็คือการใส่น้ำตาลนั่นเองครับ
00:05:29 → 00:05:30 เมื่อท่านทาน Low Fat
00:05:31 → 00:05:34 แต่ว่ามีน้ำตาลเข้ามาเสริมแทนเพื่อให้อร่อย
00:05:34 → 00:05:37 แทนที่ท่านจะน้ำหนักลดลงกลับน้ำหนักเพิ่มขึ้น
00:05:37 → 00:05:41 เพราะว่าคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลเนี่ยขึ้นสูงนะครับ
00:05:41 → 00:05:44 และน้ำตาลที่นำมาใส่ก็มักจะเป็นน้ำตาลที่แบบ
00:05:44 → 00:05:47 ทำให้สุขภาพไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นะครับ
00:05:47 → 00:05:53 อันนี้ก็ขอแนะนำว่า Low Fat นั้นก็ โอเค ไม่ได้เลวร้ายอะไร
00:05:53 → 00:05:57 เพียงแต่ว่าต้องระวังว่ามีน้ำตาลเนี่ย
00:05:57 → 00:06:03 แอบแฝงมากับอาหารหรือขนมโลตัสต่างๆ ของท่านหรือเปล่า
00:06:03 → 00:06:08 เพราะบางทีกิน Low Fat แต่ได้น้ำตาลมามากกว่าเดิม 2-3 เท่า
00:06:08 → 00:06:12 อย่างนี้ไม่ได้ สุขภาพแย่ อ้วนกว่าเดิม เบาหวานถามหานะครับ
00:06:12 → 00:06:15 และยังไม่พอครับ การทาน Low Fat สักพักนึงเนี่ย
00:06:15 → 00:06:22 เราจะรู้สึกว่าแบบ โอเคนะ เราทาน Low Fat แล้วนะ
00:06:22 → 00:06:26 เดี๋ยวอีกพักนึงเราไปกินขนมได้ เพราะว่าเรากินของ Low Fat
00:06:26 → 00:06:30 คือเราต้องไม่หลอกตัวเอง เราต้องดูว่าจริงๆ แล้ว Low Fat นั้น
00:06:30 → 00:06:32 แคลอรี่มันเท่าไหร่ น้ำตาลมันเท่าไหร่นะครับ
00:06:32 → 00:06:35 และได้ประโยชน์เพียงพอไหม ไม่ใช่ว่าเรากิน Low Fat
00:06:35 → 00:06:38 อีกแป๊บนึงเราจะไปกินเค้กอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องนะครับ
00:06:38 → 00:06:43 นี่ก็คือความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 2 ว่า Low Fat คือดีที่สุดครับ
00:06:43 → 00:06:47 มาต่อกันที่ความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 3 กันบ้างครับ
00:06:47 → 00:06:52 น้ำผลไม้ทานได้เท่าไหร่ก็ไม่อั้นครับ
00:06:52 → 00:06:55 ทานได้ไม่อั้น น้ำผลไม้ทานได้ไม่อั้น
00:06:55 → 00:06:57 บอกเลยครับ ไม่ใช่นะ
00:06:57 → 00:06:59 เพราะอะไรครับ เพราะว่าจริงๆ แล้วเนี่ย
00:06:59 → 00:07:04 เราแนะนำให้ทานผักผลไม้เยอะๆ เลยนะครับ
00:07:04 → 00:07:09 ในมื้อหนึ่ง ใน 1 จาน แนะนำให้ทานผักผลไม้ครึ่งจานไปเลย
00:07:09 → 00:07:10 แบ่งให้ครึ่งจานไปเลย
00:07:10 → 00:07:14 โปรตีน 1 ส่วน 4 ของจาน คาร์โบไฮเดรต 1 ส่วน 4 ของจาน
00:07:14 → 00:07:16 ผักผลไม้ครึ่งจานไปเลย
00:07:16 → 00:07:19 แต่ผักผลไม้ที่ผมแนะนำนั้นนะครับ
00:07:19 → 00:07:26 เป็นผักผลไม้ที่ไม่คั้น ไม่ได้ปรุงแต่ง มีกากใยพร้อมสมบูรณ์
00:07:26 → 00:07:27 ต้องบอกงี้ครับ
00:07:27 → 00:07:31 สมมุติเราเทียบกินน้ำส้ม 1 แก้ว น้ำส้มคั้น 1 แก้วเนี่ย
00:07:31 → 00:07:37 อาจจำเป็นที่จำต้องใช้ส้มเนี่ย 10-15 ลูก ในการคั้นนะครับ
00:07:37 → 00:07:40 สิ่งที่เราได้มา ไม่ใช่ได้แค่วิตามินจากส้ม
00:07:40 → 00:07:42 ไม่ใช่แค่ความอร่อยจากส้ม
00:07:42 → 00:07:47 เราได้น้ำตาลมาอีก 20 กรัม หรือ 4 ช้อนชานั่นเองนะครับ
00:07:47 → 00:07:51 ถ้าวันนึงท่านทานน้ำส้มคั้น 3 แก้ว
00:07:51 → 00:07:58 ท่านก็ได้น้ำตาล 60 กรัม ก็คือ 12 ช้อนชา เยอะมากๆ
00:07:58 → 00:08:01 อันตรายมากๆ นะครับ เบาหวานถามหาเลย
00:08:01 → 00:08:07 คือได้วิตามินดีไหม? ดี ผิวพรรณดี แต่ได้น้ำตาลมากเกินไป
00:08:07 → 00:08:10 เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังสำหรับเรื่องของน้ำผลไม้ครับ
00:08:10 → 00:08:13 ทานได้นะครับ พอเพียงนะครับ
00:08:13 → 00:08:16 ผมแนะนำวันละแก้วก็พอสำหรับน้ำผลไม้
00:08:16 → 00:08:18 ผมก็ทานน้ำส้มวันละแก้วทุกวันนะครับ
00:08:18 → 00:08:21 แต่ว่าผลไม้อย่างอื่นที่มีกากใยแนะนำเลย
00:08:21 → 00:08:25 เช่น ฝรั่ง หวานน้อย ได้วิตามินซี มีกากใย
00:08:25 → 00:08:29 แอปเปิ้ล ได้กากใย หวานน้อย แคลอรี่ไม่มากนะครับ
00:08:29 → 00:08:30 ชมพู่อย่างนี้นะครับ
00:08:30 → 00:08:33 3 ตัวนี้เขาเรียกสามทหารเสือผมเลย
00:08:33 → 00:08:35 ทานทุกวันนะครับ ทานทุกวัน
00:08:35 → 00:08:37 ก็ลองดูกันครับ ลองเอาไปปรับใช้ดู
00:08:37 → 00:08:40 ท่านไหนใช้ได้ดี ชอบนะครับ คอมเมนต์ลงมา
00:08:40 → 00:08:45 โอเค แฮปปี้ จะได้รู้ว่ามันมีประโยชน์กับคนอื่นจริงๆ ครับ
00:08:45 → 00:08:50 มาต่อกันที่ข้อที่ 4 อดอาหารแล้วจะผอมไวครับ
00:08:50 → 00:08:54 เป็นความเชื่อที่แบบมันเรียกว่าผิดหรือเปล่าเนี่ย
00:08:54 → 00:08:57 คืออดอาหารแล้วผอมไวจริงๆ
00:08:57 → 00:09:00 จริงๆ แล้วมันไม่ผิดแต่มันเป็นสิ่งที่ผิด
00:09:00 → 00:09:02 มันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำครับ
00:09:02 → 00:09:05 เพราะว่าการอดอาหารในช่วงแรกเนี่ยท่านจะผอมครับ
00:09:05 → 00:09:07 ถ้าจะผอมไวเลยล่ะนะครับ
00:09:07 → 00:09:10 อาจจะเดือนนึง อาจจะลด 5 ถึง 10 กิโลได้เลย
00:09:10 → 00:09:15 แต่ว่าร่างกายมนุษย์ของเรามันจะปรับตัวตามการอดอาหารของเรา
00:09:15 → 00:09:17 เมื่อเราอดอาหารสักพักเนี่ยร่างกายจะบอกว่า
00:09:17 → 00:09:19 เฮ้ย มันไม่มีอาหารกินแล้ว
00:09:19 → 00:09:23 ถ้าเรายังต้องการเผาผลาญเขาเรียกพลังงานเท่าเดิมเนี่ย
00:09:24 → 00:09:26 เราตายแน่ ร่างกายจะหยุดเผาผลาญเลย
00:09:26 → 00:09:28 เมื่อร่างกายเผาผลาญปุ๊บ
00:09:28 → 00:09:31 ในขณะที่ท่านอดอาหารเท่าเดิมเลยนะครับ
00:09:31 → 00:09:35 วันนึงกินครึ่งมื้อ กินข้าว 5 คำนะครับ
00:09:36 → 00:09:40 หลังจากนั้นปุ๊บไม่ผอมแล้ว หยุดนิ่ง ร่างกายไม่เผาผลาญและ
00:09:40 → 00:09:43 แล้วระบบเผาผลาญของท่านก็จะพังทลายลงไป
00:09:43 → 00:09:44 สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร
00:09:44 → 00:09:49 ท่านไม่สามารถทานข้าว 5 คำ ทานข้าวครึ่งมื้อไปตลอดชีวิต
00:09:49 → 00:09:52 ท่านก็จะกลับมาทานอีก เพราะท่านหิวถูกต้องไหมครับ
00:09:52 → 00:09:55 พอท่านทานปุ๊บ คราวนี้ร่างกายบอกฉันไม่เผาผลาญและ
00:09:55 → 00:09:59 ฉันเลิกเผาผลาญ ฉันจะเก็บสิ่งที่กินมาไว้ที่ตัวทั้งหมด
00:09:59 → 00:10:02 ท่านก็จะอ้วนซึ่งเขาเรียกว่าโยโย่เอฟเฟคนั่นเอง
00:10:02 → 00:10:06 นี่ก็คืออันตรายมากๆ เลย อันตรายมากๆ นะครับ
00:10:06 → 00:10:08 แล้วก็ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพด้วย
00:10:08 → 00:10:11 เราผอม เราอยากน้ำหนักลด เราอยากให้มันดูดี
00:10:11 → 00:10:15 ให้ดูเขาเรียกดูแข็งแร งไม่ใช่ผอมแบบซีดเซียว
00:10:15 → 00:10:17 ไม่ใช่ผอมแบบไม่มีสุขภาพนะครับ
00:10:17 → 00:10:21 และนี่ก็คือข้อที่ 4 ที่คนมักเข้าใจผิดและเป็นความเชื่อผิดๆ
00:10:21 → 00:10:25 ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและกลับมาอ้วนได้ง่ายครับ
00:10:25 → 00:10:29 สำหรับการอดอาหารอย่างมากเพื่อลดน้ำหนักครับ
00:10:29 → 00:10:31 มาต่อกันที่ข้อที่ 5 ครับ
00:10:32 → 00:10:35 ดูแต่น้ำหนักที่ลดลงนะครับ
00:10:35 → 00:10:39 เชื่อว่าน้ำหนักที่ลดลงนั้นคือสุดยอดคือสิ่งที่เราต้องการ
00:10:39 → 00:10:40 ผมบอกเลยนะว่าผิด
00:10:40 → 00:10:41 ต้องบอกงี้ครับ
00:10:41 → 00:10:44 บางคนเนี่ยน้ำหนักแบบ 70 80 กิโลกรัม
00:10:44 → 00:10:50 แต่ว่าเดินมานี่เอวรูปตัววี กล้ามไหล่เป็นมัดๆ
00:10:51 → 00:10:53 ผู้หญิงเดินมาเอวคอด
00:10:53 → 00:10:58 มาทรงงี้เลย อย่างนี้ดูดี แต่น้ำหนักไม่ได้น้อยนะครับ
00:10:58 → 00:11:01 เพียงแต่ว่าเขามีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายน้อย
00:11:01 → 00:11:03 มีทรวดทรงที่ดีนะครับ
00:11:03 → 00:11:07 เพราะฉะนั้นแล้วจริงๆ เราไม่ได้มองไปที่น้ำหนัก
00:11:07 → 00:11:11 เรามองไปที่รูปร่างโดยรวม สุขภาพโดยรวม
00:11:11 → 00:11:14 เพราะฉะนั้นแล้วเนี่ยน้ำหนักเราก็ดูครับ
00:11:14 → 00:11:18 นานๆ ดู เช่น อาทิตย์นึง ชั่งสักครั้งนึงนะครับ
00:11:18 → 00:11:19 ชั่งทุกวันไม่มีประโยชน์ครับ
00:11:19 → 00:11:23 ถ้าท่านผู้หญิงพอใกล้มีประจำเดือนน้ำหนักก็ขึ้นแล้วใช่ไหม
00:11:23 → 00:11:26 มันก็ชั่งยาก บางวันกินเยอะน้ำหนักก็ขึ้น
00:11:26 → 00:11:29 กินน้ำเยอะน้ำหนักก็ขึ้นและ กินของเค็มน้ำหนักก็ขึ้นและ
00:11:29 → 00:11:34 อย่างนี้ชั่งไปก็ลำบากใจ อาทิตย์นึงชั่งสักครั้งหนึ่ง
00:11:34 → 00:11:39 ก็ดูให้มันเป็นแบบเขาเรียกว่าลดลงทีละนิดอย่างนี้ดีกว่า
00:11:39 → 00:11:42 แต่สิ่งที่อยากให้มาจริงๆ ก็คือเช่น
00:11:42 → 00:11:46 รอบเอว รอบอก รอบแขน รอบขา เป็นต้น
00:11:46 → 00:11:51 แบบนี้เห็นผลชัดเจนและก็ได้ประโยชน์อย่างแท้จริง
00:11:52 → 00:11:54 คราวนี้ผมขออนุญาตสรุปนะครับ
00:11:54 → 00:12:02 สำหรับ 5 ความเชื่อผิดๆ ที่จะทำให้ท่านลดน้ำหนักไม่สำเร็จครับ
00:12:02 → 00:12:06 สำหรับข้อแรก จะผอมได้ต้องงดแป้งเท่านั้น
00:12:06 → 00:12:10 บอกเลยบอกว่าถูกแค่ครึ่งเดียวนะครับ
00:12:10 → 00:12:15 การงดแป้งเนี่ยเป็นแนวทางการลดน้ำหนักที่โอเคไม่ผิดหรอก
00:12:15 → 00:12:17 มันจะมีเทคนิคงี้ครับ
00:12:17 → 00:12:21 เมื่อเรากินโปรตีนเพียงพอแล้ว กิน Fat เพียงพอแล้ว
00:12:22 → 00:12:24 เราก็จะไปลดคาร์โบไฮเดรตลงมาหรือลดแป้งลงมา
00:12:24 → 00:12:27 เพื่อให้น้ำหนักเราลดลงทีละนิดนะครับ
00:12:27 → 00:12:31 แต่การงดแป้งของบางท่านคือไม่กินแป้งเลย
00:12:31 → 00:12:36 ไม่กินแป้งเลยไปตลอดซึ่งมันเป็นไปไม่ได้
00:12:36 → 00:12:40 เราไม่ได้จะลดน้ำหนักแค่ 3 วัน 5 วัน 3 เดือน
00:12:40 → 00:12:42 เราต้องการลดน้ำหนักไปตลอดชีวิต
00:12:42 → 00:12:44 เราต้องการควบคุมน้ำหนัก เราใช้คำนี้
00:12:44 → 00:12:46 ควบคุมน้ำหนักไปตลอดชีวิต
00:12:46 → 00:12:49 เพราะฉะนั้นแล้วเราต้องกินแป้งให้ถูกต้องมากกว่าที่จะไปงดเลย
00:12:49 → 00:12:53 เพราะฉะนั้นผมแนะนำให้กินแป้งในกลุ่มที่ไม่ขัดสีต่างๆ
00:12:53 → 00:12:59 เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอรี่ ขนมปังโฮลวีต
00:12:59 → 00:13:03 พวกนี้อิ่มนาน ลดน้ำหนักได้ดี มีกากใย
00:13:03 → 00:13:06 ลดความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่นะครับ
00:13:06 → 00:13:09 มาดูข้อที่ 2 ความเชื่อผิดๆ นะครับ
00:13:09 → 00:13:12 Low Fat คือดีที่สุดนะครับ
00:13:12 → 00:13:15 ต้องบอกงี้ครับว่าอาหาร Low Fat ต่างๆ เนี่ย
00:13:15 → 00:13:16 มักจะนะครับ ไม่ทุกอัน
00:13:16 → 00:13:19 มักจะแอบผสมน้ำตาลเข้ามาครับ
00:13:19 → 00:13:21 เพราะอะไร เพราะว่า Low Fat มันจืดๆ
00:13:21 → 00:13:24 บางทีมันไม่มัน ไม่นุ่ม มันไม่ค่อยอร่อยอ่ะ
00:13:25 → 00:13:27 ถ้าอยากอร่อยก็ต้องเติมน้ำตาล
00:13:27 → 00:13:31 ท่านลด Fat แต่เพิ่มคาร์โบไฮเดรตหรือเพิ่มน้ำตาลขึ้นมา
00:13:31 → 00:13:35 โอ้โห อย่างนี้อ้วนแบบไม่รู้ตัวเลย
00:13:35 → 00:13:36 แล้วบางทีกิน Low Fat สักพักนึง
00:13:36 → 00:13:39 เราคิดว่าแบบเราคุมน้ำหนักดี ไปกินขนมเพิ่มอีก
00:13:39 → 00:13:43 โอ้โห ผีซ้ำด้ามพลอย ไปกันใหญ่นะ ไปกันใหญ่
00:13:43 → 00:13:45 โอเคครับ มาต่อกันที่ข้อที่ 3 บ้างครับ
00:13:45 → 00:13:49 สำหรับความเชื่อผิดๆ ข้อที่ 3 อันนี้น่ากลัวมากครับ
00:13:49 → 00:13:52 น้ำผลไม้ทานเท่าไหร่ ดื่มเท่าไหร่ก็ได้
00:13:52 → 00:13:54 บอกไม่จริงนะครับ
00:13:54 → 00:13:58 ผมเปรียบเทียบให้เลย น้ำส้มแก้วนึงนะครับ
00:13:58 → 00:14:02 ใช้ส้มประมาณสัก 10-15 ผล 200 cc เนี่ย
00:14:02 → 00:14:08 และได้น้ำตาลทั้งหมด 20 กรัม คือ 4 ช้อนชา ไม่น้อยนะครับ
00:14:08 → 00:14:15 ถ้าวันหนึ่งท่านดื่ม 3 แก้ว ได้น้ำตาลทั้งหมด 12 ช้อนชาหรือ 60 กรัม
00:14:15 → 00:14:17 เยอะมากๆ เบาหวานถามหาเลยนะครับ
00:14:17 → 00:14:20 แทนที่จะได้ประโยชน์กลับได้โทษแทน
00:14:20 → 00:14:22 เพราะฉะนั้นแนะนำเรื่องของน้ำผลไม้
00:14:22 → 00:14:26 น้ำผลไม้ทานได้ดื่มได้ ผมก็ดื่มวันละแก้วก็พอนะครับ
00:14:26 → 00:14:29 และหลังจากนั้นก็ไปเลือกทานผลไม้ที่มีกากใย
00:14:29 → 00:14:34 ที่เป็นผลแล้วก็น้ำตาลต่ำ เช่น ฝรั่ง ชมพู่ แอปเปิ้ล
00:14:34 → 00:14:36 อย่างนี้ก็โอเคครับ
00:14:36 → 00:14:41 มาต่อกันที่ข้อที่ 3 อดอาหารแล้วจะผอมไวนะครับ
00:14:41 → 00:14:45 ก็ต้องบอกว่าการอดอาหารจริงๆ แล้วเนี่ยก็ทำให้ผอมไวจริงๆ
00:14:45 → 00:14:47 แต่ก้อกลับมาอ้วนไวมากๆ เลยนะครับ
00:14:48 → 00:14:50 การอดอาหารเนี่ยโดยเฉพาะในช่วงเดือนแรก
00:14:50 → 00:14:51 เราจะเห็นผลแบบสุดยอดเลย
00:14:51 → 00:14:54 ทำให้จิตใจเราแบบกระชุ่มกระชวยมากเลย
00:14:54 → 00:14:57 เพราะว่าท่านจะสูญเสียน้ำออกไปนะครับ
00:14:57 → 00:15:00 พวกน้ำต่างๆ เกลือแร่ต่างๆ สูญเสียออกจากร่างกาย
00:15:00 → 00:15:03 ท่านจะดูผอมแต่ว่าสุขภาพไม่ดี ดูซูบซีบ
00:15:03 → 00:15:05 เหมือนคนป่วย เหมือนคนเป็นโรค
00:15:05 → 00:15:09 และร่างกายก็จะบอกว่าถ้าเราอดอาหารขนาดนี้
00:15:09 → 00:15:14 เราไม่มีพลังงานเข้าไปแล้วเรายังใช้การเผาผลาญเท่าเดิมนะ
00:15:14 → 00:15:16 เราต้องตายแน่ๆ
00:15:16 → 00:15:17 ร่างกายจะบอกเลิกเผาผลาญ
00:15:17 → 00:15:19 ระบบเผาผลาญท่านจะพังเลย
00:15:19 → 00:15:24 พอท่านแบบอดทนไม่ไหวแล้ว ผ่านไป 3 เดือน ท่านไม่ไหวแล้ว
00:15:24 → 00:15:25 ฉันกลับมากินใหม่
00:15:26 → 00:15:29 ร่างกายไม่เผาผลาญแล้วครับ กินเท่าไหร่ก็กองอยู่ที่ตัวท่าน
00:15:29 → 00:15:32 มันก็กลับมาอ้วนเร็ว นั่นเขาเรียกโยโย่เอฟเฟค
00:15:32 → 00:15:34 อันตรายมากๆ นะครับ
00:15:34 → 00:15:37 ต่อมาข้อสุดท้าย ข้อที่ 5 ครับ
00:15:37 → 00:15:43 น้ำหนักที่ลดลงคือสุดยอดคือเป้าหมายสูงสุดนะครับ
00:15:43 → 00:15:44 ต้องบอกงี้ครับว่า
00:15:44 → 00:15:47 เวลาเราอยากจะผอม อยากจะสวย อยากจะหล่อแล้วเนี่ย
00:15:47 → 00:15:50 น้ำหนักไม่ใช่เป้าหมายที่เป็นอันดับ 1
00:15:51 → 00:15:55 บางครั้งเนี่ยคนที่น้ำหนักมากกลับดูหุ่นดีดูทรวดทรงดี
00:15:55 → 00:15:57 เพราะว่ามีมวลกล้ามเนื้อมากมากกว่าไขมัน
00:15:57 → 00:16:01 มีเปอร์เซ็นต์ไขมันนิดเดียวเอง แต่มีมวลกล้ามเนื้อมาก
00:16:01 → 00:16:03 หุ่นกระชับ ทรวดทรงดี ไม่บวมน้ำ
00:16:03 → 00:16:08 เพราะว่าเขาออกกำลังกายอย่างถูกต้อง กินอย่างถูกวิธี
00:16:08 → 00:16:10 ดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี
00:16:10 → 00:16:13 แต่การลดอาหารเพียงอย่างเดียวไม่ออกกำลังกายนะครับ
00:16:13 → 00:16:18 ลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว อาจจะทำให้ท่านผอมลงในช่วงแรก
00:16:18 → 00:16:23 แต่สักพักก็กลับมาอ้วน หุ่นก็ไม่ดี ดูก็ไม่ดีนะครับ
00:16:23 → 00:16:26 เพราะฉะนั้นแล้วอย่าดูที่น้ำหนักเป็นหลัก
00:16:26 → 00:16:29 ดูที่ทรวดทรงเป็นหลัก ดูที่รอบเอวเป็นหลัก
00:16:29 → 00:16:32 รอบอกเป็นหลัก รอบแขนเป็นหลักนะครับ
00:16:32 → 00:16:34 ก็ขอให้ทุกท่านลดความอ้วนสําเร็จ
00:16:34 → 00:16:37 แล้วก็มีหุ่นที่สวยงามสุขภาพที่แข็งแรงทุกคนครับ
00:16:37 → 00:16:38 สวัสดีครับ